• ถ้าไม่พูดถึงความรักก็จะดูตกเทรนด์ วันนี้เลยขอพูดถึงวลีคลาสสิคที่โด่งดังจากปากของเทพธิดาไหมแดงลี้มกโช้ว

    ความมีอยู่ว่า
    ... ทันใดนั้น ในอัคคีเพลิงบังเกิดเสียงเพลงอันเกรี้ยวกราดโหยหวนดังออกมาว่า
    “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด
    จึงมอบให้แก่กันและกันด้วยชีวิต
    วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ...” ...

    - จากเรื่อง <เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี> ผู้แต่ง กิมย้ง แปลและเรียบเรียงโดย น.นพรัตน์
    (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ)

    มีคนวิเคราะห์ไปแล้วมากมายถึงบทกวีนี้และเรื่องราวความรักของตัวละครต่างๆ ของกิมย้ง Storyฯ จะไม่กล่าวซ้ำ แต่ Storyฯ เชื่อว่าคงมีลูกเพจไม่น้อยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวเบื้องหลังของบทกวีนี้ ไม่ใช่เรื่องราวความรักของคน

    บทกวีนี้ปรากฎในยุคสมัยราชวงศ์จินโดยอัจฉริยะกวีและนักประวัติศาสตร์หยวนฮ่าวเวิ่น (ปีค.ศ. 1190-1297) ว่ากันว่า หยวนฮ่าวเวิ่นเมื่อครั้งยังอายุเพียง 16 ปี ได้เดินทางไปกับเพื่อนร่วมชั้นเพื่อไปสอบ ระหว่างทางพบนายพรานคนหนึ่งกำลังรำพึงรำพันกับซากศพห่านป่าคู่หนึ่ง พรานเล่าให้ฟังว่าห่านป่าคู่นี้ ตัวหนึ่งโดนดักจับตาย อีกตัวหนึ่งบินหลุดรอดไปได้ แต่มันไม่หนีไป กลับบินวนส่งเสียงร้องไห้โหยหวน สุดท้ายพุ่งตัวดิ่งลงมาชนพื้นตายอยู่ข้างๆ คู่ของมัน

    หยวนฮ่าวเวิ่นรู้สึกโดนใจกับเรื่องราวของห่านป่าคู่นี้ จึงซื้อมันแล้วนำไปฝังไว้ด้วยกันที่ริมน้ำและตั้งชื่อหลุมฝังศพนั้นว่า “เนินห่านป่า” (เยี่ยนชิว หรือ 雁丘) เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนกลุ่มนี้ต่างแต่งบทกลอนขึ้นมา โดยหยวนฮ่าวเวินแต่งกลอนเนินห่านป่าบทนี้ขึ้น ต่อมามีการปรับปรุงเพิ่มเติมและเอาไปรวมอยู่ในชุดกลอน “ลูบคลำปลาน้อย” (ม้ออวี๋เอ่อร์ หรือ 摸鱼儿) ที่มีทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบหกอักษร โดยเรียกกลอนวรรคนี้ว่า “ลูบคลำปลาน้อย: บทกวีเนินห่านป่า” (摸鱼儿.雁丘词)

    เข้าใจที่มาและเรื่องราวเบื้องหลังแล้ว ลองอ่านบทกวีเต็มๆ อีกทีนะคะว่า เห็นเงาร่างของห่านฟ้าคู่นี้ในบทกวีกันบ้างไหม

    “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันด้วยชีวิต วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ เทียบปีกบินโผผินกี่ฤดูกาล ร่วมหรรษาเริงรื่น ขื่นขมยามพลัดพรากหาย กอปรด้วยบุตรธิดางมงาย ท่านพึงหมายจำนรรจา ชั้นเฆฆาสูงหมื่นลี้ ทัศนีย์พันภูพาไศล เงาเดียวดายดำรงอยู่ได้อย่างไร”

    Credit รูปภาพจาก: https://board.postjung.com/796272
    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com
    https://zhidao.baidu.com/question/621016209188011772.html
    https://m.sohu.com/a/434620154_99929216/?pvid=000115_3w_a

    #กิมย้ง #เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    ถ้าไม่พูดถึงความรักก็จะดูตกเทรนด์ วันนี้เลยขอพูดถึงวลีคลาสสิคที่โด่งดังจากปากของเทพธิดาไหมแดงลี้มกโช้ว ความมีอยู่ว่า ... ทันใดนั้น ในอัคคีเพลิงบังเกิดเสียงเพลงอันเกรี้ยวกราดโหยหวนดังออกมาว่า “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันและกันด้วยชีวิต วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ...” ... - จากเรื่อง <เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี> ผู้แต่ง กิมย้ง แปลและเรียบเรียงโดย น.นพรัตน์ (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ) มีคนวิเคราะห์ไปแล้วมากมายถึงบทกวีนี้และเรื่องราวความรักของตัวละครต่างๆ ของกิมย้ง Storyฯ จะไม่กล่าวซ้ำ แต่ Storyฯ เชื่อว่าคงมีลูกเพจไม่น้อยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวเบื้องหลังของบทกวีนี้ ไม่ใช่เรื่องราวความรักของคน บทกวีนี้ปรากฎในยุคสมัยราชวงศ์จินโดยอัจฉริยะกวีและนักประวัติศาสตร์หยวนฮ่าวเวิ่น (ปีค.ศ. 1190-1297) ว่ากันว่า หยวนฮ่าวเวิ่นเมื่อครั้งยังอายุเพียง 16 ปี ได้เดินทางไปกับเพื่อนร่วมชั้นเพื่อไปสอบ ระหว่างทางพบนายพรานคนหนึ่งกำลังรำพึงรำพันกับซากศพห่านป่าคู่หนึ่ง พรานเล่าให้ฟังว่าห่านป่าคู่นี้ ตัวหนึ่งโดนดักจับตาย อีกตัวหนึ่งบินหลุดรอดไปได้ แต่มันไม่หนีไป กลับบินวนส่งเสียงร้องไห้โหยหวน สุดท้ายพุ่งตัวดิ่งลงมาชนพื้นตายอยู่ข้างๆ คู่ของมัน หยวนฮ่าวเวิ่นรู้สึกโดนใจกับเรื่องราวของห่านป่าคู่นี้ จึงซื้อมันแล้วนำไปฝังไว้ด้วยกันที่ริมน้ำและตั้งชื่อหลุมฝังศพนั้นว่า “เนินห่านป่า” (เยี่ยนชิว หรือ 雁丘) เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนกลุ่มนี้ต่างแต่งบทกลอนขึ้นมา โดยหยวนฮ่าวเวินแต่งกลอนเนินห่านป่าบทนี้ขึ้น ต่อมามีการปรับปรุงเพิ่มเติมและเอาไปรวมอยู่ในชุดกลอน “ลูบคลำปลาน้อย” (ม้ออวี๋เอ่อร์ หรือ 摸鱼儿) ที่มีทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบหกอักษร โดยเรียกกลอนวรรคนี้ว่า “ลูบคลำปลาน้อย: บทกวีเนินห่านป่า” (摸鱼儿.雁丘词) เข้าใจที่มาและเรื่องราวเบื้องหลังแล้ว ลองอ่านบทกวีเต็มๆ อีกทีนะคะว่า เห็นเงาร่างของห่านฟ้าคู่นี้ในบทกวีกันบ้างไหม “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันด้วยชีวิต วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ เทียบปีกบินโผผินกี่ฤดูกาล ร่วมหรรษาเริงรื่น ขื่นขมยามพลัดพรากหาย กอปรด้วยบุตรธิดางมงาย ท่านพึงหมายจำนรรจา ชั้นเฆฆาสูงหมื่นลี้ ทัศนีย์พันภูพาไศล เงาเดียวดายดำรงอยู่ได้อย่างไร” Credit รูปภาพจาก: https://board.postjung.com/796272 Credit เนื้อหารวบรวมจาก: https://baike.baidu.com https://zhidao.baidu.com/question/621016209188011772.html https://m.sohu.com/a/434620154_99929216/?pvid=000115_3w_a #กิมย้ง #เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    BOARD.POSTJUNG.COM
    ลี้ม๊กโช้ว เทพธิดาไหมแดง
    ลี้ม๊กโช้ว เทพธิดาไหมแดง ลี้มกโช้ว เป็นตัวละครใน นิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก ลี้มกโช้ว เป็นศิษย์สำนักสุสานโบราณ รุ่นที่ 3 ฉายา เทพธิดาไหมแดง ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเส้นสั่น: เมื่อภาพนิ่งกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยฟิลเตอร์ SVG

    Camillo ได้แรงบันดาลใจจากสารคดี ARTE ที่ใช้ภาพประกอบแบบเรียบง่าย แต่มี “การสั่นเบา ๆ” ที่ทำให้ดูเหมือนภาพเคลื่อนไหวแบบวาดมือ เขาจึงทดลองสร้างเอฟเฟกต์นี้ขึ้นมาโดยไม่ต้องวาดหลายเฟรม แต่ใช้เทคนิคการบิดเบือนภาพผ่านฟิลเตอร์ SVG แทน

    หลักการมี 2 ส่วน:
    1️⃣. Distortion: ทำให้ขอบของภาพไม่เรียบตรง แต่มีความสั่นแบบสุ่ม
    2️⃣. Animation: เปลี่ยนค่าการสั่นทุก ๆ 100–200 ms เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

    โดยใช้ฟิลเตอร์ SVG 2 ตัว:

     feTurbulence: สร้าง noise texture แบบ procedural

     feDisplacementMap: ใช้ noise นั้นเพื่อบิดเบือนพิกเซลของภาพ

    จากนั้นใช้ JavaScript เปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ เช่น baseFrequency และ scale เพื่อให้เกิดการสั่นแบบมีชีวิตชีวา

    เอฟเฟกต์ “boiling” คือการทำให้ภาพนิ่งดูเหมือนเคลื่อนไหวด้วยการสั่นเบา ๆ
    ใช้ในงานอนิเมชันเพื่อให้ฉากนิ่งดูมีชีวิต เช่นตัวละครยืนเฉย ๆ

    เทคนิคดั้งเดิมคือวาดหลายเฟรมด้วยมือแล้ววนซ้ำ
    แต่ในเว็บสามารถใช้ SVG filter แทนได้โดยไม่ต้องวาดหลายภาพ

    ใช้ฟิลเตอร์ feTurbulence เพื่อสร้าง noise และ feDisplacementMap เพื่อบิดภาพ
    noise จะบิดพิกเซลของภาพให้ดูเหมือนเส้นสั่น

    JavaScript ใช้เปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ทุก 100ms เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหว
    เช่นปรับ baseFrequency แบบสุ่มเล็กน้อยในแต่ละเฟรม

    มีเดโมให้ทดลองปรับค่าต่าง ๆ เช่น scale, frequency, และ animation intensity
    สามารถควบคุมระดับการสั่นได้ตั้งแต่เบา ๆ ไปจนถึงสั่นแรงจนภาพบิดเบี้ยว

    เทคนิคนี้ใช้ได้ทั้งกับภาพ SVG และภาพ raster (.jpg, .png)
    ทำให้สามารถนำไปใช้กับภาพประกอบทั่วไปได้หลากหลาย

    https://camillovisini.com/coding/simulating-hand-drawn-motion-with-svg-filters
    🎙️ เรื่องเล่าจากเส้นสั่น: เมื่อภาพนิ่งกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยฟิลเตอร์ SVG Camillo ได้แรงบันดาลใจจากสารคดี ARTE ที่ใช้ภาพประกอบแบบเรียบง่าย แต่มี “การสั่นเบา ๆ” ที่ทำให้ดูเหมือนภาพเคลื่อนไหวแบบวาดมือ เขาจึงทดลองสร้างเอฟเฟกต์นี้ขึ้นมาโดยไม่ต้องวาดหลายเฟรม แต่ใช้เทคนิคการบิดเบือนภาพผ่านฟิลเตอร์ SVG แทน หลักการมี 2 ส่วน: 1️⃣. Distortion: ทำให้ขอบของภาพไม่เรียบตรง แต่มีความสั่นแบบสุ่ม 2️⃣. Animation: เปลี่ยนค่าการสั่นทุก ๆ 100–200 ms เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง โดยใช้ฟิลเตอร์ SVG 2 ตัว: ✅ feTurbulence: สร้าง noise texture แบบ procedural ✅ feDisplacementMap: ใช้ noise นั้นเพื่อบิดเบือนพิกเซลของภาพ จากนั้นใช้ JavaScript เปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ เช่น baseFrequency และ scale เพื่อให้เกิดการสั่นแบบมีชีวิตชีวา ✅ เอฟเฟกต์ “boiling” คือการทำให้ภาพนิ่งดูเหมือนเคลื่อนไหวด้วยการสั่นเบา ๆ ➡️ ใช้ในงานอนิเมชันเพื่อให้ฉากนิ่งดูมีชีวิต เช่นตัวละครยืนเฉย ๆ ✅ เทคนิคดั้งเดิมคือวาดหลายเฟรมด้วยมือแล้ววนซ้ำ ➡️ แต่ในเว็บสามารถใช้ SVG filter แทนได้โดยไม่ต้องวาดหลายภาพ ✅ ใช้ฟิลเตอร์ feTurbulence เพื่อสร้าง noise และ feDisplacementMap เพื่อบิดภาพ ➡️ noise จะบิดพิกเซลของภาพให้ดูเหมือนเส้นสั่น ✅ JavaScript ใช้เปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ทุก 100ms เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหว ➡️ เช่นปรับ baseFrequency แบบสุ่มเล็กน้อยในแต่ละเฟรม ✅ มีเดโมให้ทดลองปรับค่าต่าง ๆ เช่น scale, frequency, และ animation intensity ➡️ สามารถควบคุมระดับการสั่นได้ตั้งแต่เบา ๆ ไปจนถึงสั่นแรงจนภาพบิดเบี้ยว ✅ เทคนิคนี้ใช้ได้ทั้งกับภาพ SVG และภาพ raster (.jpg, .png) ➡️ ทำให้สามารถนำไปใช้กับภาพประกอบทั่วไปได้หลากหลาย https://camillovisini.com/coding/simulating-hand-drawn-motion-with-svg-filters
    CAMILLOVISINI.COM
    Simulating Hand-Drawn Motion with SVG Filters
    A practical guide to implementing the boiling line animation effect using SVG filter primitives and JavaScript - Blog post by Camillo Visini
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน
    ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด
    เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน

    โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============


    อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============

    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปี 2550 ภาพจิตรกรรม “ภิกษุสันดานกา” เคยตกเป็นข่าวถกเถียงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ “อนุพงษ์ จันทร “ใช้เทคนิคการวาดภาพด้วยสีอะคริลิกลงบนจีวรพระ ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อของไทยเรื่อง "เปรตภูมิ” และภาพ ”บรรพชิตทุศีล” ในสมุดภาพไตรภูมิ มีข้อความปรากฏเอาไว้ด้านล่างภาพว่า "บาปเป็นบรรพชิตทุศีลแลเลี้ยงชีพผิดมิชอบด้วยธรรม ตายไปต้องกลายเป็นเปรต มีไฟไหม้ลุกจีวรไหม้กาย"อนุพงษ์ ยืนยันว่า ”ภิกษุสันดานกา” ไม่ใช่ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมาเอง แต่มีระบุในพระไตรปิฎก ในหนังสือคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ตำราดูพระภิกษุ และตนขอยืนยันว่า ภาพที่ตนเขียนขึ้นมา ไม่ใช่ภาพพระดีดีในสังคม แต่ตนเขียนเปรตที่แอบแฝงอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อเตือนสติคนในสังคม โดยสื่อภาพออกมาในเชิงสัญลักษณ์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบพระภิกษุลามกว่า มีนิสัยเหมือนกา 10 อย่าง“ภิกษุทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ประกอบด้วยความเลวสิบประการ” สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. กาเป็นสัตว์ทำลายความดี 2. กาเป็นสัตว์คะนอง 3. กาเป็นสัตว์ทะเยอทะยาน 4. กาเป็นสัตว์กินจุ 5. กาเป็นสัตว์หยาบคาย 6. กาเป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี 7. กาเป็นสัตว์ทุรพล 8. กาเป็นสัตว์เสียงอึง 9. กาเป็นสัตว์ปล่อยสติ 10. กาเป็นสัตว์สะสมของกินภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เป็นเช่นเดียวกับกานั่นแหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการ สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. ภิกษุลามกเป็นคนทำลายความดี 2. ภิกษุลามกเป็นคนคะนอง 3. ภิกษุลามกเป็นคนทะเยอทะยาน 4. ภิกษุลามกเป็นคนกินจุ 5. ภิกษุลามกเป็นคนหยาบคาย 6. ภิกษุลามกเป็นคนไม่กรุณาปรานี 7. ภิกษุลามกเป็นคนทุรพล 8. ภิกษุลามกเป็นคนร้องเสียงอึง 9. ภิกษุลามกเป็นคนปล่อยสติ 10. ภิกษุลามกเป็นคนสะสมของกินโดยนัยแห่งพฤติกรรมของนกกา สิบประการดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นความเลวที่ไม่เหมาะไม่ควรที่คนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีศีล เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ควรประพฤติ ไม่ควรปฏิบัติแต่ในความเป็นจริง ความเป็นปุถุชนคนมีกิเลส ถึงแม้ว่าจะมาบวชถือศีล 227 ข้อแล้วก็ยังมีภิกษุบางรูปในครั้งพุทธกาลมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสสอนด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่พระภิกษุที่เข้ามาบวชเพื่อการทำความดี โดยมุ่งความหลุดพ้น ควรงดเว้นอสัทธรรม 10 ประการ อันเป็นพฤติกรรมของกาดังกล่าวอ.สามารถ มังสัง เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาภิกษุสันดานกาไว้ว่า “แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรในวงการสงฆ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงฆ์ด้วยกันเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันดังต่อไปนี้1. ทำการสำรวจสำมโนประชากรพระสงฆ์ในประเทศไทยให้แน่ชัดว่ามีอยู่เท่าใด และมีรายละเอียดลงลึกถึงเรื่องการศึกษา อายุพรรษา และภาระหน้าที่ต่อสังคมเท่าที่พระจะพึงกระทำได้ เช่น เป็นครูสอนศีลธรรม อบรมประชาชน และให้ความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น2. เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้จัดทำแผนฟื้นฟูพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ไม่ได้รับการศึกษา และการอบรมอย่างทั่วถึง3. ให้นำพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในการสอนมาประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการปรับองค์กรสงฆ์ แล้วมอบหมายให้แต่ละท่านกลับไปดำเนินการในถิ่นของตนเองเป็นระยะเวลา 1-3 ปี แล้วส่งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานออกไปทำการประเมินในการดำเนินการ 3 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน และบุคลากรให้เพียงพอแก่การดำเนินงานในขณะเดียวกัน ถ้าพบว่าในท้องถิ่นใดดำเนินการไม่ได้ผล ก็ควรอย่างยิ่งที่ทางการปกครองจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขโดยใช้อำนาจบริหาร เช่น การโยกย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่ง เป็นการลงโทษผู้รับผิดชอบในระดับเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ และตำบลลงไปตามลำดับชั้นยิ่งกว่านี้ ทางมหาเถรสมาคมจะต้องไม่ปล่อยให้พระสงฆ์ในระดับปกครองเข้าไปมีส่วนได้เสียกับกิจกรรมใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการช่วยกันปกปิดความผิดของผู้อยู่ใต้ปกครอง เพื่อแลกกับลาภสักการะที่ผู้กระทำผิดมอบให้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการได้เยี่ยงนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรของพระสงฆ์จะลดลง และหมดไปในที่สุด”https://www.facebook.com/share/1Cj37basD6/?mibextid=wwXIfr
    ปี 2550 ภาพจิตรกรรม “ภิกษุสันดานกา” เคยตกเป็นข่าวถกเถียงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ “อนุพงษ์ จันทร “ใช้เทคนิคการวาดภาพด้วยสีอะคริลิกลงบนจีวรพระ ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อของไทยเรื่อง "เปรตภูมิ” และภาพ ”บรรพชิตทุศีล” ในสมุดภาพไตรภูมิ มีข้อความปรากฏเอาไว้ด้านล่างภาพว่า "บาปเป็นบรรพชิตทุศีลแลเลี้ยงชีพผิดมิชอบด้วยธรรม ตายไปต้องกลายเป็นเปรต มีไฟไหม้ลุกจีวรไหม้กาย"อนุพงษ์ ยืนยันว่า ”ภิกษุสันดานกา” ไม่ใช่ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมาเอง แต่มีระบุในพระไตรปิฎก ในหนังสือคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ตำราดูพระภิกษุ และตนขอยืนยันว่า ภาพที่ตนเขียนขึ้นมา ไม่ใช่ภาพพระดีดีในสังคม แต่ตนเขียนเปรตที่แอบแฝงอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อเตือนสติคนในสังคม โดยสื่อภาพออกมาในเชิงสัญลักษณ์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบพระภิกษุลามกว่า มีนิสัยเหมือนกา 10 อย่าง“ภิกษุทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ประกอบด้วยความเลวสิบประการ” สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. กาเป็นสัตว์ทำลายความดี 2. กาเป็นสัตว์คะนอง 3. กาเป็นสัตว์ทะเยอทะยาน 4. กาเป็นสัตว์กินจุ 5. กาเป็นสัตว์หยาบคาย 6. กาเป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี 7. กาเป็นสัตว์ทุรพล 8. กาเป็นสัตว์เสียงอึง 9. กาเป็นสัตว์ปล่อยสติ 10. กาเป็นสัตว์สะสมของกินภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เป็นเช่นเดียวกับกานั่นแหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการ สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. ภิกษุลามกเป็นคนทำลายความดี 2. ภิกษุลามกเป็นคนคะนอง 3. ภิกษุลามกเป็นคนทะเยอทะยาน 4. ภิกษุลามกเป็นคนกินจุ 5. ภิกษุลามกเป็นคนหยาบคาย 6. ภิกษุลามกเป็นคนไม่กรุณาปรานี 7. ภิกษุลามกเป็นคนทุรพล 8. ภิกษุลามกเป็นคนร้องเสียงอึง 9. ภิกษุลามกเป็นคนปล่อยสติ 10. ภิกษุลามกเป็นคนสะสมของกินโดยนัยแห่งพฤติกรรมของนกกา สิบประการดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นความเลวที่ไม่เหมาะไม่ควรที่คนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีศีล เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ควรประพฤติ ไม่ควรปฏิบัติแต่ในความเป็นจริง ความเป็นปุถุชนคนมีกิเลส ถึงแม้ว่าจะมาบวชถือศีล 227 ข้อแล้วก็ยังมีภิกษุบางรูปในครั้งพุทธกาลมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสสอนด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่พระภิกษุที่เข้ามาบวชเพื่อการทำความดี โดยมุ่งความหลุดพ้น ควรงดเว้นอสัทธรรม 10 ประการ อันเป็นพฤติกรรมของกาดังกล่าวอ.สามารถ มังสัง เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาภิกษุสันดานกาไว้ว่า “แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรในวงการสงฆ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงฆ์ด้วยกันเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันดังต่อไปนี้1. ทำการสำรวจสำมโนประชากรพระสงฆ์ในประเทศไทยให้แน่ชัดว่ามีอยู่เท่าใด และมีรายละเอียดลงลึกถึงเรื่องการศึกษา อายุพรรษา และภาระหน้าที่ต่อสังคมเท่าที่พระจะพึงกระทำได้ เช่น เป็นครูสอนศีลธรรม อบรมประชาชน และให้ความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น2. เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้จัดทำแผนฟื้นฟูพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ไม่ได้รับการศึกษา และการอบรมอย่างทั่วถึง3. ให้นำพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในการสอนมาประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการปรับองค์กรสงฆ์ แล้วมอบหมายให้แต่ละท่านกลับไปดำเนินการในถิ่นของตนเองเป็นระยะเวลา 1-3 ปี แล้วส่งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานออกไปทำการประเมินในการดำเนินการ 3 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน และบุคลากรให้เพียงพอแก่การดำเนินงานในขณะเดียวกัน ถ้าพบว่าในท้องถิ่นใดดำเนินการไม่ได้ผล ก็ควรอย่างยิ่งที่ทางการปกครองจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขโดยใช้อำนาจบริหาร เช่น การโยกย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่ง เป็นการลงโทษผู้รับผิดชอบในระดับเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ และตำบลลงไปตามลำดับชั้นยิ่งกว่านี้ ทางมหาเถรสมาคมจะต้องไม่ปล่อยให้พระสงฆ์ในระดับปกครองเข้าไปมีส่วนได้เสียกับกิจกรรมใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการช่วยกันปกปิดความผิดของผู้อยู่ใต้ปกครอง เพื่อแลกกับลาภสักการะที่ผู้กระทำผิดมอบให้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการได้เยี่ยงนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรของพระสงฆ์จะลดลง และหมดไปในที่สุด”https://www.facebook.com/share/1Cj37basD6/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSC World Asia เรือสำราญระดับ World-class ลำใหม่ล่าสุดจาก MSC Cruises
    เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวันที่ 11 ธันวาคม 2568

    เรือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ “World-class” ต่อจาก MSC World Europa และ MSC World America ใช้พลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมโครงสร้างรูปตัว “Y” ลานโปรเมอนาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านท้ายเรือ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมเอเชีย ทั้งโทนสี ลวดลาย และการจัดวางพื้นที่

    MSC จะไม่ใช่แค่เรือสำราญ แต่เป็น “ประสบการณ์เอเชียบนเรือยุโรป” ที่สะดวกสบายและล้ำสมัย
    ผสมผสาน มรดกวัฒนธรรมโลกเข้ากับเทคโนโลยีเดินเรือระดับสูง สำหรับผู้โดยสารยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่และคุณภาพแบบพรีเมียม

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    http://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 02-1169696

    #เรือMSCCruises #MSCWorldAsia #Worldclass #Mediterranean #MSC #แพ็คเกจล่องเรือ #cruisedomain #News #ข่าวเรือสำราญ #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🚢 MSC World Asia เรือสำราญระดับ World-class ลำใหม่ล่าสุดจาก MSC Cruises เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวันที่ 11 ธันวาคม 2568 🌏 เรือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ “World-class” ต่อจาก MSC World Europa และ MSC World America ใช้พลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมโครงสร้างรูปตัว “Y” ลานโปรเมอนาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านท้ายเรือ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมเอเชีย ทั้งโทนสี ลวดลาย และการจัดวางพื้นที่ MSC จะไม่ใช่แค่เรือสำราญ แต่เป็น “ประสบการณ์เอเชียบนเรือยุโรป” ที่สะดวกสบายและล้ำสมัย ผสมผสาน มรดกวัฒนธรรมโลกเข้ากับเทคโนโลยีเดินเรือระดับสูง สำหรับผู้โดยสารยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่และคุณภาพแบบพรีเมียม ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด http://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 02-1169696 #เรือMSCCruises #MSCWorldAsia #Worldclass #Mediterranean #MSC #แพ็คเกจล่องเรือ #cruisedomain #News #ข่าวเรือสำราญ #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาค1 ส 12-7-68 ..
    E:\- m1 ภาค ส่ง
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล
    ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน

    ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง

    ภาค1 ส 12-7-68 .. E:\- m1 ภาค ส่ง 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • อียิปต์ยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการซื้อและติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยไกล HQ-9B ของจีนแล้ว

    สหรัฐกำลังค่อยๆ สูญเสียอิทธิพลในตลาดอาวุธโลกไปเรื่อยๆ

    HQ-9B เป็นระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางถึงไกลของจีน พัฒนาโดย China Precision Machinery Import & Export Corporation (CPMIEC) มีความสามารถในการสกัดกั้นและทำลายเป้าหมายหลายประเภท เช่น เครื่องบิน ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธอากาศสู่พื้น

    โดย HQ-9B เป็นรุ่นปรับปรุงของ HQ-9 ที่มีพิสัยการโจมตีที่ไกลขึ้น (สูงสุด 250-300 กม.) และอาจมีระบบค้นหาแบบคู่ (เรดาร์และอินฟราเรด)

    HQ-9B พัฒนาต่อยอดจากระบบ HQ-9 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากระบบ S-300 ของรัสเซีย และเทคโนโลยีของระบบ Patriot ของสหรัฐฯ
    อียิปต์ยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการซื้อและติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยไกล HQ-9B ของจีนแล้ว สหรัฐกำลังค่อยๆ สูญเสียอิทธิพลในตลาดอาวุธโลกไปเรื่อยๆ HQ-9B เป็นระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางถึงไกลของจีน พัฒนาโดย China Precision Machinery Import & Export Corporation (CPMIEC) มีความสามารถในการสกัดกั้นและทำลายเป้าหมายหลายประเภท เช่น เครื่องบิน ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธอากาศสู่พื้น โดย HQ-9B เป็นรุ่นปรับปรุงของ HQ-9 ที่มีพิสัยการโจมตีที่ไกลขึ้น (สูงสุด 250-300 กม.) และอาจมีระบบค้นหาแบบคู่ (เรดาร์และอินฟราเรด) HQ-9B พัฒนาต่อยอดจากระบบ HQ-9 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากระบบ S-300 ของรัสเซีย และเทคโนโลยีของระบบ Patriot ของสหรัฐฯ
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP24 | เมล็ดพันธุ์ของพ่อ วิถีพอเพียง ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส

    ในตอนนี้ อนุชา แฮมเมอร์ จะพาผู้ชมไปร่วมสัมผัสกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านกึ่งวิถีมุสลิมแห่งแรก ที่นำแนวคิด “เมล็ดพันธุ์ของพ่อ” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คน

    จากอดีตผู้ต้องขัง สู่ผู้มีอาชีพมั่นคง มีคุณค่า และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข ที่นี่ไม่ได้เพียงปลูกพืช แต่ยังปลูกคนให้กลับมาเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี

    ชุมชนกาแลตาแปคือตัวอย่างของการให้โอกาสและการฟื้นฟูสังคมด้วยความรัก ความเข้าใจ และหลักคิดที่ยึดโยงกับคำสอนของทั้งศาสนาและในหลวงรัชกาลที่ 9

    ติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อเรียนรู้ว่าการให้อภัยและการให้โอกาส สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและสังคมได้จริง

    #สลามเมืองไทย #EP24 #เมล็ดพันธุ์ของพ่อ #วิถีพอเพียง #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #บ้านกึ่งวิถีมุสลิม #คืนคนดีสู่สังคม #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP24 | เมล็ดพันธุ์ของพ่อ วิถีพอเพียง ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส ในตอนนี้ อนุชา แฮมเมอร์ จะพาผู้ชมไปร่วมสัมผัสกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านกึ่งวิถีมุสลิมแห่งแรก ที่นำแนวคิด “เมล็ดพันธุ์ของพ่อ” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คน จากอดีตผู้ต้องขัง สู่ผู้มีอาชีพมั่นคง มีคุณค่า และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข ที่นี่ไม่ได้เพียงปลูกพืช แต่ยังปลูกคนให้กลับมาเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี ชุมชนกาแลตาแปคือตัวอย่างของการให้โอกาสและการฟื้นฟูสังคมด้วยความรัก ความเข้าใจ และหลักคิดที่ยึดโยงกับคำสอนของทั้งศาสนาและในหลวงรัชกาลที่ 9 ติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อเรียนรู้ว่าการให้อภัยและการให้โอกาส สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและสังคมได้จริง #สลามเมืองไทย #EP24 #เมล็ดพันธุ์ของพ่อ #วิถีพอเพียง #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #บ้านกึ่งวิถีมุสลิม #คืนคนดีสู่สังคม #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องนี้เริ่มจาก Dylan ที่ตอนอายุแค่ 10–11 ก็เล่นแฮกโค้ดเว็บเรียนออนไลน์ในโรงเรียน จนสามารถ “ปลดล็อกเกมบนคอมพิวเตอร์เรียน” ได้ — แม้จะโดนตักเตือน แต่ก็เป็นจุดเริ่มของความสนใจด้านการหาช่องโหว่

    พอช่วงโควิด Dylan เริ่ม “เลี่ยงข้อจำกัดบนเครือข่ายนักเรียน” และมาสู่จุดเปลี่ยนตอนเจอช่องโหว่ใน Microsoft Teams ที่สามารถ takeover กลุ่มใดก็ได้ → เขาเลือกไม่ใช้ประโยชน์เอง แต่แจ้งไปยัง MSRC แบบ responsible disclosure

    ผลคือ:
    - เขาได้เป็นนักวิจัย bug bounty อย่างเป็นทางการตอนอายุ 13
    - Microsoft ต้องปรับข้อกำหนดให้เปิดรับเด็กอายุ 13 ขึ้นไป
    - และเขายังติดโผ “MSRC Most Valuable Researcher” ในปี 2022 และ 2024 ด้วย!

    ช่วงซัมเมอร์ล่าสุด (2024) Dylan ส่งรายงานช่องโหว่ให้ Microsoft ถึง 20 ฉบับในเวลาไม่กี่เดือน (จากก่อนหน้าที่เคยส่งแค่ 6) → ยังคว้าอันดับ 3 ในงานแข่งขัน Zero Day Quest ที่ Microsoft จัดใน Redmond ได้อีกด้วย

    แม้วันนี้เขายังเป็นเด็กมัธยม แต่ก็เข้าใจหลักความรับผิดชอบของสาย white-hat อย่างเต็มตัว และยังมองว่า security เป็น “แค่กิจกรรมสนุก ๆ” ที่อยากทำควบคู่กับวิทยาศาสตร์และพลเมืองศึกษาด้วยซ้ำ

    Dylan เริ่มต้นศึกษาเขียนโค้ดตั้งแต่เด็กก่อนวัยรุ่น → ด้วย Scratch, HTML ฯลฯ

    พบช่องโหว่ takeover group บน Microsoft Teams และเลือก responsible disclosure

    กลายเป็นเหตุผลที่ Microsoft แก้เงื่อนไข Bug Bounty ให้เด็กอายุ 13 เข้าร่วมได้

    ได้รับรางวัล “Most Valuable Researcher” จาก Microsoft MSRC ปี 2022 และ 2024

    ส่งรายงานช่องโหว่ 20 ฉบับในฤดูร้อนเดียว (2024)

    คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน Zero Day Quest จัดโดย Microsoft เดือนเมษายน 2025

    แม้จะยังเป็นนักเรียนมัธยม แต่ได้รับความเคารพในวงการและสร้างแรงบันดาลใจวงกว้าง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/microsofts-youngest-security-researcher-started-collaboration-with-the-company-at-just-13-high-school-junior-filed-20-vulnerability-reports-last-summer-named-msrc-most-valuable-researcher-twice
    เรื่องนี้เริ่มจาก Dylan ที่ตอนอายุแค่ 10–11 ก็เล่นแฮกโค้ดเว็บเรียนออนไลน์ในโรงเรียน จนสามารถ “ปลดล็อกเกมบนคอมพิวเตอร์เรียน” ได้ — แม้จะโดนตักเตือน แต่ก็เป็นจุดเริ่มของความสนใจด้านการหาช่องโหว่ พอช่วงโควิด Dylan เริ่ม “เลี่ยงข้อจำกัดบนเครือข่ายนักเรียน” และมาสู่จุดเปลี่ยนตอนเจอช่องโหว่ใน Microsoft Teams ที่สามารถ takeover กลุ่มใดก็ได้ → เขาเลือกไม่ใช้ประโยชน์เอง แต่แจ้งไปยัง MSRC แบบ responsible disclosure ผลคือ: - เขาได้เป็นนักวิจัย bug bounty อย่างเป็นทางการตอนอายุ 13 - Microsoft ต้องปรับข้อกำหนดให้เปิดรับเด็กอายุ 13 ขึ้นไป - และเขายังติดโผ “MSRC Most Valuable Researcher” ในปี 2022 และ 2024 ด้วย! ช่วงซัมเมอร์ล่าสุด (2024) Dylan ส่งรายงานช่องโหว่ให้ Microsoft ถึง 20 ฉบับในเวลาไม่กี่เดือน (จากก่อนหน้าที่เคยส่งแค่ 6) → ยังคว้าอันดับ 3 ในงานแข่งขัน Zero Day Quest ที่ Microsoft จัดใน Redmond ได้อีกด้วย แม้วันนี้เขายังเป็นเด็กมัธยม แต่ก็เข้าใจหลักความรับผิดชอบของสาย white-hat อย่างเต็มตัว และยังมองว่า security เป็น “แค่กิจกรรมสนุก ๆ” ที่อยากทำควบคู่กับวิทยาศาสตร์และพลเมืองศึกษาด้วยซ้ำ ✅ Dylan เริ่มต้นศึกษาเขียนโค้ดตั้งแต่เด็กก่อนวัยรุ่น → ด้วย Scratch, HTML ฯลฯ ✅ พบช่องโหว่ takeover group บน Microsoft Teams และเลือก responsible disclosure ✅ กลายเป็นเหตุผลที่ Microsoft แก้เงื่อนไข Bug Bounty ให้เด็กอายุ 13 เข้าร่วมได้ ✅ ได้รับรางวัล “Most Valuable Researcher” จาก Microsoft MSRC ปี 2022 และ 2024 ✅ ส่งรายงานช่องโหว่ 20 ฉบับในฤดูร้อนเดียว (2024) ✅ คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน Zero Day Quest จัดโดย Microsoft เดือนเมษายน 2025 ✅ แม้จะยังเป็นนักเรียนมัธยม แต่ได้รับความเคารพในวงการและสร้างแรงบันดาลใจวงกว้าง https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/microsofts-youngest-security-researcher-started-collaboration-with-the-company-at-just-13-high-school-junior-filed-20-vulnerability-reports-last-summer-named-msrc-most-valuable-researcher-twice
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ตายดีแบบพุทธ…ต้องเริ่มจากอยู่อย่างรู้ตัว"

    ถ้าขอได้
    ทุกคนก็อยาก อยู่เป็นสุข
    และตายอย่างมีเกียรติ

    ถ้าเลือกได้
    ทุกคนก็อยาก ตายดี
    ตายแบบไม่กลัว ตายแบบสงบ

    แต่การ ตายดีจริงๆ
    ไม่ได้หมายถึงภาพสวยๆ ที่ใครมองเห็น
    แต่คือ แสงสว่างที่รู้ได้ภายในจิตตัวเอง
    เป็นการตายที่จิตยังตั้งมั่น
    รู้ตัว ไม่หลง ไม่ทุกข์ ไม่ยึดว่า “เรากำลังตาย”

    ตายดีให้คนดู = ตายมีเกียรติ
    ตายดีให้ตัวรู้ = ตายมีสติ

    และการจะตายแบบมีสติได้นั้น
    ต้องเริ่มจาก อยู่อย่างมีสติให้เป็นก่อน!

    ฝึกมองลมหายใจ
    ฝึกเห็นกายใจแยกส่วน
    ฝึกไม่ยึดว่า “นี่คือเรา”
    ฝึกทุกวัน จนชำนาญในภาวะตื่นรู้

    เพราะแม้ยังไม่ได้มรรคผลระหว่างมีชีวิต
    แต่ถ้า อยู่เป็นมีสิทธิ์ ตายอย่างรู้แจ้งได้ในลมหายใจสุดท้าย

    ❝ ฝึกตายดีแบบพุทธ
    คือฝึกใช้ชีวิตอย่างมีสติแบบพุทธ ❞

    ถ้าตอนนี้คุณยังหายใจอยู่
    ก็แปลว่า…
    คุณยังมีโอกาสฝึกการตายดีได้อยู่ทุกลมหายใจ

    #ตายดีแบบพุทธ
    #สติคือพลังแห่งการไม่กลัว
    #ชีวิตที่รู้เท่าทันนำไปสู่การตายอย่างเบา
    #ธรรมะสร้างแรงบันดาลใจ
    #ธรรมะเข้าใจง่ายแต่ลึกถึงใจ
    🕯️ "ตายดีแบบพุทธ…ต้องเริ่มจากอยู่อย่างรู้ตัว" ถ้าขอได้ ทุกคนก็อยาก อยู่เป็นสุข และตายอย่างมีเกียรติ ถ้าเลือกได้ ทุกคนก็อยาก ตายดี ตายแบบไม่กลัว ตายแบบสงบ แต่การ ตายดีจริงๆ ไม่ได้หมายถึงภาพสวยๆ ที่ใครมองเห็น แต่คือ แสงสว่างที่รู้ได้ภายในจิตตัวเอง เป็นการตายที่จิตยังตั้งมั่น รู้ตัว ไม่หลง ไม่ทุกข์ ไม่ยึดว่า “เรากำลังตาย” 🌿 ตายดีให้คนดู = ตายมีเกียรติ 🌼 ตายดีให้ตัวรู้ = ตายมีสติ และการจะตายแบบมีสติได้นั้น ต้องเริ่มจาก อยู่อย่างมีสติให้เป็นก่อน! ฝึกมองลมหายใจ ฝึกเห็นกายใจแยกส่วน ฝึกไม่ยึดว่า “นี่คือเรา” ฝึกทุกวัน จนชำนาญในภาวะตื่นรู้ เพราะแม้ยังไม่ได้มรรคผลระหว่างมีชีวิต แต่ถ้า อยู่เป็นมีสิทธิ์ ตายอย่างรู้แจ้งได้ในลมหายใจสุดท้าย ❝ ฝึกตายดีแบบพุทธ คือฝึกใช้ชีวิตอย่างมีสติแบบพุทธ ❞ 💭 ถ้าตอนนี้คุณยังหายใจอยู่ ก็แปลว่า… คุณยังมีโอกาสฝึกการตายดีได้อยู่ทุกลมหายใจ #ตายดีแบบพุทธ #สติคือพลังแห่งการไม่กลัว #ชีวิตที่รู้เท่าทันนำไปสู่การตายอย่างเบา #ธรรมะสร้างแรงบันดาลใจ #ธรรมะเข้าใจง่ายแต่ลึกถึงใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
    1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
    2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน
    3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง"
    .
    "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
    - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที
    - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ
    - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
    -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ
    - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR
    - กิจกรรมบนเวที
    * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025
    * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ coverdance
    * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่
    * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *"
    .
    นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
    .
    ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!!
    .
    สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
    ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ
    .
    ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!!

    26 มิถุนายน 2568
    1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ
    2. การจัดช่อตุ๊กตา
    3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน
    4. สายคล้องโทรศัพท์
    5. กรอบลอยโฟโต้
    6. ลูกประคบสมุนไพร
    7. ขนมเปียกปูนกะทิสด
    8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย
    9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
    11. ปังป๊อบคาราเมล
    12. ขนมชั้นแฟนซี
    13. เค้กไข่ไต้หวัน
    14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี
    15. ทาร์ตผักโขมอบชีส
    16. กุยช่ายแฟนซี
    17. ขนมปังหน้าหมู
    18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช
    19. คัพเค้ก
    20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน

    27 มิถุนายน 2568
    1. พวงกุญแจหนังแท้
    2. การจัดช่อดอกไม้สด
    3. ต่างหูจากเชือกเทียน
    4. พวงกุญแจจากลูกปัด
    5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส
    6. สมุนไพรตารับดม
    7. แซนด์วิชห่มผ้า
    8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย
    9. น้ำยำสร้างอาชีพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
    11. ช็อกโกแลตฟองดู
    12. ขนมปุยฝ้าย
    13. แซนด์วิชโรล
    14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด
    15. โดนัทจิ๋วแฟนซี
    16. ตะโก้เผือก
    17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ
    18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
    19. บานอฟฟี่
    20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม
    .
    รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ
    รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    ⚡️กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ
    ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ)
    ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา
    พบกันได้ที่งาน
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
    ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน 3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง" . "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR - กิจกรรมบนเวที * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025 * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ coverdance * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่ * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *" . นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี" . ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!! . สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ . ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!! 26 มิถุนายน 2568 1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ 2. การจัดช่อตุ๊กตา 3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน 4. สายคล้องโทรศัพท์ 5. กรอบลอยโฟโต้ 6. ลูกประคบสมุนไพร 7. ขนมเปียกปูนกะทิสด 8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย 9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ 10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 11. ปังป๊อบคาราเมล 12. ขนมชั้นแฟนซี 13. เค้กไข่ไต้หวัน 14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี 15. ทาร์ตผักโขมอบชีส 16. กุยช่ายแฟนซี 17. ขนมปังหน้าหมู 18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช 19. คัพเค้ก 20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน 27 มิถุนายน 2568 1. พวงกุญแจหนังแท้ 2. การจัดช่อดอกไม้สด 3. ต่างหูจากเชือกเทียน 4. พวงกุญแจจากลูกปัด 5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส 6. สมุนไพรตารับดม 7. แซนด์วิชห่มผ้า 8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย 9. น้ำยำสร้างอาชีพ 10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 11. ช็อกโกแลตฟองดู 12. ขนมปุยฝ้าย 13. แซนด์วิชโรล 14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด 15. โดนัทจิ๋วแฟนซี 16. ตะโก้เผือก 17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ 18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน 19. บานอฟฟี่ 20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม . รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น . ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน JOB FAIR 2025 @โคราช จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ) ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา 👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇 <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
    1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
    2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน
    3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง"
    .
    "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
    - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที
    - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ
    - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
    -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ
    - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR
    - กิจกรรมบนเวที
    * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025
    * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ Cover dance
    * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่
    * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *"
    .
    นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
    .
    ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!!
    .
    สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
    ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ
    .
    ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!!

    26 มิถุนายน 2568
    1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ
    2. การจัดช่อตุ๊กตา
    3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน
    4. สายคล้องโทรศัพท์
    5. กรอบลอยโฟโต้
    6. ลูกประคบสมุนไพร
    7. ขนมเปียกปูนกะทิสด
    8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย
    9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
    11. ปังป๊อบคาราเมล
    12. ขนมชั้นแฟนซี
    13. เค้กไข่ไต้หวัน
    14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี
    15. ทาร์ตผักโขมอบชีส
    16. กุยช่ายแฟนซี
    17. ขนมปังหน้าหมู
    18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช
    19. คัพเค้ก
    20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน

    27 มิถุนายน 2568
    1. พวงกุญแจหนังแท้
    2. การจัดช่อดอกไม้สด
    3. ต่างหูจากเชือกเทียน
    4. พวงกุญแจจากลูกปัด
    5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส
    6. สมุนไพรตารับดม
    7. แซนด์วิชห่มผ้า
    8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย
    9. น้ำยำสร้างอาชีพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
    11. ช็อกโกแลตฟองดู
    12. ขนมปุยฝ้าย
    13. แซนด์วิชโรล
    14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด
    15. โดนัทจิ๋วแฟนซี
    16. ตะโก้เผือก
    17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ
    18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
    19. บานอฟฟี่
    20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม
    .
    รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ
    รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    ⚡️กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ
    ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ)
    ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา
    พบกันได้ที่งาน
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
    ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน 3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง" . "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR - กิจกรรมบนเวที * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025 * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ Cover dance * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่ * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *" . นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี" . ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!! . สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ . ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!! 26 มิถุนายน 2568 1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ 2. การจัดช่อตุ๊กตา 3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน 4. สายคล้องโทรศัพท์ 5. กรอบลอยโฟโต้ 6. ลูกประคบสมุนไพร 7. ขนมเปียกปูนกะทิสด 8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย 9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ 10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 11. ปังป๊อบคาราเมล 12. ขนมชั้นแฟนซี 13. เค้กไข่ไต้หวัน 14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี 15. ทาร์ตผักโขมอบชีส 16. กุยช่ายแฟนซี 17. ขนมปังหน้าหมู 18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช 19. คัพเค้ก 20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน 27 มิถุนายน 2568 1. พวงกุญแจหนังแท้ 2. การจัดช่อดอกไม้สด 3. ต่างหูจากเชือกเทียน 4. พวงกุญแจจากลูกปัด 5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส 6. สมุนไพรตารับดม 7. แซนด์วิชห่มผ้า 8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย 9. น้ำยำสร้างอาชีพ 10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 11. ช็อกโกแลตฟองดู 12. ขนมปุยฝ้าย 13. แซนด์วิชโรล 14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด 15. โดนัทจิ๋วแฟนซี 16. ตะโก้เผือก 17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ 18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน 19. บานอฟฟี่ 20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม . รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น . ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน JOB FAIR 2025 @โคราช จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ) ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา 👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇 <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านสวย สวนร่มรื่น เริ่มต้นที่วัสดุดี!
    มาเจอกันที่ บูธ TPI ในงาน บ้านและสวน Shopping Week 2025
    พบสินค้าเพื่อบ้านและสวนครบครัน ทั้งวัสดุก่อสร้าง สี วัสดุตกแต่ง และนวัตกรรมยั่งยืน
    พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ และคำแนะนำดี ๆ จากทีมผู้เชี่ยวชาญ

    พิกัด : อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11
    บูธ G55-G57,G84-G86 Living Zone
    🗓 วันที่ 21-29 มิถุนายน 2568
    เวลา 10:00 - 21:00 น.

    อย่าลืมแวะมานะครับ แล้วมาสร้างแรงบันดาลใจให้ “บ้านในฝัน” ของคุณไปพร้อมกันกับ TPI

    #บ้านและสวนShoppingWeek2025 #TPILivingZone #วัสดุก่อสร้างเพื่อบ้านและสวน #ทีพีไอครบจบในบูธเดียว
    🏡 บ้านสวย สวนร่มรื่น เริ่มต้นที่วัสดุดี! มาเจอกันที่ บูธ TPI ในงาน บ้านและสวน Shopping Week 2025 พบสินค้าเพื่อบ้านและสวนครบครัน ทั้งวัสดุก่อสร้าง สี วัสดุตกแต่ง และนวัตกรรมยั่งยืน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ และคำแนะนำดี ๆ จากทีมผู้เชี่ยวชาญ 📍 พิกัด : อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11 🎯 บูธ G55-G57,G84-G86 Living Zone 🗓 วันที่ 21-29 มิถุนายน 2568 ⏰ เวลา 10:00 - 21:00 น. อย่าลืมแวะมานะครับ แล้วมาสร้างแรงบันดาลใจให้ “บ้านในฝัน” ของคุณไปพร้อมกันกับ TPI 💚 #บ้านและสวนShoppingWeek2025 #TPILivingZone #วัสดุก่อสร้างเพื่อบ้านและสวน #ทีพีไอครบจบในบูธเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด

    หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ
    พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้  

    มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข
    AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม

    การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม
    AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา  

    สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ
    การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้  

    AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน
    แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)  

    การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก
    AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ  

    หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI
    ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI  

    นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  

    พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม

    มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม
    แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม

    ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา
    คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง  

    เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม
    ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต  

    ความยึดมั่นถือมั่นและมายา
    แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้  

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม
    มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา  

    นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"  

    สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน

    จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:  

    1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว  

    2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง  

    3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น  

    4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา  

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด ☸️☸️ หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้   🤖 มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา   👓 สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้   🙆‍♂️ AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)   🧪 การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ   ☸️ หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI   นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม ‼️ มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม 👿 ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง   🛣️ เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต   🍷 ความยึดมั่นถือมั่นและมายา แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้   🤥 ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา   นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"   สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:   1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว   2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง   3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น   4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา   #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 607 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลงไอ้โชเด คชสารสมสู่ ได้แรงบันดาลใจจากคุณสนธิ
    เพลงไอ้โชเด คชสารสมสู่ ได้แรงบันดาลใจจากคุณสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Peugeot เปิดตัว E-208 GTi: รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch
    Peugeot เผยโฉม E-208 GTi ที่งาน 24h of Le Mans โดยออกแบบให้ สืบทอด DNA ของ GTi รุ่นก่อนหน้า พร้อม สมรรถนะระดับแนวหน้า

    รายละเอียดของ E-208 GTi
    ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า M4+ ให้กำลัง 280 แรงม้า
    - มอเตอร์ติดตั้งที่ล้อหน้า ทำให้สามารถ เร่ง 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 5.7 วินาที
    - ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 112 ไมล์ต่อชั่วโมง

    แบตเตอรี่ 54kWh ให้ระยะทาง 217 ไมล์ต่อการชาร์จ
    - ระยะทางต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น Renault 5 E-Tech และ Cupra Born VZ
    - ระบบจัดการความร้อนและการกู้คืนพลังงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่

    ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจาก Peugeot 205 GTi
    - สีตัวถังสดใส, พรมและเข็มขัดนิรภัยสีแดง
    - เบาะนั่งออกแบบใหม่พร้อมที่รองศีรษะในตัว

    โครงสร้างตัวถังปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความคล่องตัว
    - ซุ้มล้อกว้างขึ้น, ช่วงล่างเตี้ยลง และระยะยื่นสั้นลง
    - ล้ออัลลอย “Hole” และสปอยเลอร์ช่วยเพิ่มความสปอร์ต

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
    ระยะทางต่อการชาร์จอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม
    - 217 ไมล์ต่อการชาร์จอาจไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล

    น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากรุ่น 205 GTi
    - E-208 GTi มีน้ำหนัก 1,596 กิโลกรัม เทียบกับ 848 กิโลกรัมของ 205 GTi

    ต้องติดตามว่าราคาจะอยู่ในระดับที่แข่งขันได้หรือไม่
    - Abarth 600e Scorpionisma มีราคาประมาณ £40,000 ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดราคาของ E-208 GTi

    อนาคตของ Hot Hatch ไฟฟ้า
    Peugeot Sport ปรับแต่งระบบกันสะเทือนและเบรกเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่
    E-208 GTi อาจช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/peugeot-reinvents-its-gti-badge-for-the-ev-age-and-the-e-208-is-the-best-looking-electric-hot-hatch-so-far
    🚗 Peugeot เปิดตัว E-208 GTi: รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch Peugeot เผยโฉม E-208 GTi ที่งาน 24h of Le Mans โดยออกแบบให้ สืบทอด DNA ของ GTi รุ่นก่อนหน้า พร้อม สมรรถนะระดับแนวหน้า 🔍 รายละเอียดของ E-208 GTi ✅ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า M4+ ให้กำลัง 280 แรงม้า - มอเตอร์ติดตั้งที่ล้อหน้า ทำให้สามารถ เร่ง 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 5.7 วินาที - ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 112 ไมล์ต่อชั่วโมง ✅ แบตเตอรี่ 54kWh ให้ระยะทาง 217 ไมล์ต่อการชาร์จ - ระยะทางต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น Renault 5 E-Tech และ Cupra Born VZ - ระบบจัดการความร้อนและการกู้คืนพลังงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ ✅ ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจาก Peugeot 205 GTi - สีตัวถังสดใส, พรมและเข็มขัดนิรภัยสีแดง - เบาะนั่งออกแบบใหม่พร้อมที่รองศีรษะในตัว ✅ โครงสร้างตัวถังปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความคล่องตัว - ซุ้มล้อกว้างขึ้น, ช่วงล่างเตี้ยลง และระยะยื่นสั้นลง - ล้ออัลลอย “Hole” และสปอยเลอร์ช่วยเพิ่มความสปอร์ต 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ‼️ ระยะทางต่อการชาร์จอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม - 217 ไมล์ต่อการชาร์จอาจไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล ‼️ น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากรุ่น 205 GTi - E-208 GTi มีน้ำหนัก 1,596 กิโลกรัม เทียบกับ 848 กิโลกรัมของ 205 GTi ‼️ ต้องติดตามว่าราคาจะอยู่ในระดับที่แข่งขันได้หรือไม่ - Abarth 600e Scorpionisma มีราคาประมาณ £40,000 ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดราคาของ E-208 GTi 🚀 อนาคตของ Hot Hatch ไฟฟ้า ✅ Peugeot Sport ปรับแต่งระบบกันสะเทือนและเบรกเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ✅ E-208 GTi อาจช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/peugeot-reinvents-its-gti-badge-for-the-ev-age-and-the-e-208-is-the-best-looking-electric-hot-hatch-so-far
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • SpiNNaker 2: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบสมองมนุษย์
    Sandia National Laboratories ได้เปิดตัว SpiNNaker 2 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมองมนุษย์ โดยใช้ 175,000 CPU cores และ ไม่ต้องใช้ GPU หรือ SSD

    วิธีการทำงานของ SpiNNaker 2
    SpiNNaker 2 ใช้ สถาปัตยกรรม Spiking Neural Network (SNN) ซึ่งเลียนแบบ การทำงานของเซลล์ประสาทและไซแนปส์ในสมอง โดย แต่ละบอร์ดมี 96GB LPDDR4 memory และ 23GB SRAM ทำให้สามารถ จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดในหน่วยความจำโดยไม่ต้องใช้ที่เก็บข้อมูลแยกต่างหาก

    ข้อมูลจากข่าว
    - SpiNNaker 2 ใช้ 175,000 CPU cores และไม่ต้องใช้ GPU หรือ SSD
    - ใช้สถาปัตยกรรม Spiking Neural Network (SNN) เพื่อเลียนแบบสมองมนุษย์
    - แต่ละบอร์ดมี 96GB LPDDR4 memory และ 23GB SRAM
    - สามารถประมวลผลโมเดล AI ขนาดใหญ่และการจำลองสมองทั้งระบบ
    - ระบบใน Dresden อาจมีมากกว่า 720 บอร์ด รวมถึง 5.2 ล้าน CPU cores เมื่อสร้างเสร็จ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องติดตามว่าการเลียนแบบสมองมนุษย์จะมีข้อจำกัดด้านการใช้งานจริงหรือไม่
    - SpiNNaker 2 อาจไม่สามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ GPU ในงานบางประเภท เช่น การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่
    - ต้องติดตามว่าการใช้ LPDDR4 memory และ SRAM แทน SSD จะส่งผลต่อความเร็วและความเสถียรของระบบอย่างไร
    - การขยายระบบให้มี 5.2 ล้าน CPU cores อาจต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากและมีต้นทุนสูง

    SpiNNaker 2 อาจช่วยให้การจำลองสมองและการประมวลผล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้ GPU อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการออกแบบนี้จะสามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ GPU ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/brain-inspired-supercomputer-with-no-gpus-or-storage-switched-on-spinnaker-2-mimics-150-180-million-neurons
    🧠 SpiNNaker 2: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบสมองมนุษย์ Sandia National Laboratories ได้เปิดตัว SpiNNaker 2 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมองมนุษย์ โดยใช้ 175,000 CPU cores และ ไม่ต้องใช้ GPU หรือ SSD 🔍 วิธีการทำงานของ SpiNNaker 2 SpiNNaker 2 ใช้ สถาปัตยกรรม Spiking Neural Network (SNN) ซึ่งเลียนแบบ การทำงานของเซลล์ประสาทและไซแนปส์ในสมอง โดย แต่ละบอร์ดมี 96GB LPDDR4 memory และ 23GB SRAM ทำให้สามารถ จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดในหน่วยความจำโดยไม่ต้องใช้ที่เก็บข้อมูลแยกต่างหาก ✅ ข้อมูลจากข่าว - SpiNNaker 2 ใช้ 175,000 CPU cores และไม่ต้องใช้ GPU หรือ SSD - ใช้สถาปัตยกรรม Spiking Neural Network (SNN) เพื่อเลียนแบบสมองมนุษย์ - แต่ละบอร์ดมี 96GB LPDDR4 memory และ 23GB SRAM - สามารถประมวลผลโมเดล AI ขนาดใหญ่และการจำลองสมองทั้งระบบ - ระบบใน Dresden อาจมีมากกว่า 720 บอร์ด รวมถึง 5.2 ล้าน CPU cores เมื่อสร้างเสร็จ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องติดตามว่าการเลียนแบบสมองมนุษย์จะมีข้อจำกัดด้านการใช้งานจริงหรือไม่ - SpiNNaker 2 อาจไม่สามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ GPU ในงานบางประเภท เช่น การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ - ต้องติดตามว่าการใช้ LPDDR4 memory และ SRAM แทน SSD จะส่งผลต่อความเร็วและความเสถียรของระบบอย่างไร - การขยายระบบให้มี 5.2 ล้าน CPU cores อาจต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากและมีต้นทุนสูง SpiNNaker 2 อาจช่วยให้การจำลองสมองและการประมวลผล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้ GPU อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการออกแบบนี้จะสามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ GPU ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/brain-inspired-supercomputer-with-no-gpus-or-storage-switched-on-spinnaker-2-mimics-150-180-million-neurons
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่มีใครเทียบได้กับความน่ารักแบบหวังดีของเมเม่ ส่วนพระแม่โม พระแม่พลอย ไฮโซกล้วย และบี๋ ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจลำดับถัดมาในมิตรภาพที่อบอุ่นนี้
    ไม่มีใครเทียบได้กับความน่ารักแบบหวังดีของเมเม่ ส่วนพระแม่โม พระแม่พลอย ไฮโซกล้วย และบี๋ ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจลำดับถัดมาในมิตรภาพที่อบอุ่นนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันหนึ่ง คนที่เคยเต้นเล่นๆในคอสเพลย์ จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งวงการแบบไม่ต้องพยายามมากเกินไป
    วันหนึ่ง คนที่เคยเต้นเล่นๆในคอสเพลย์ จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งวงการแบบไม่ต้องพยายามมากเกินไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้
    นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln ได้พัฒนา กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญใน เทคโนโลยีหุ่นยนต์อ่อน (soft robotics)

    เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ระบบการรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต เช่น พืชและสัตว์ โดยใช้ สถาปัตยกรรมหลายชั้น ที่สามารถ ตรวจจับความเสียหาย, ระบุตำแหน่ง และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ

    โครงสร้างของกล้ามเนื้อเทียมประกอบด้วย สามชั้นหลัก ได้แก่
    1) ชั้นตรวจจับความเสียหาย – ใช้ ไมโครดรอปเล็ตของโลหะเหลวฝังในซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ
    2) ชั้นซ่อมแซมตัวเอง – ทำจาก เทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ ที่สามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน
    3) ชั้นกระตุ้นการเคลื่อนไหว – ควบคุมการหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อผ่านแรงดันน้ำ

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln พัฒนากล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับและซ่อมแซมตัวเองได้
    - ใช้สถาปัตยกรรมสามชั้นที่เลียนแบบระบบรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต
    - ชั้นตรวจจับความเสียหายใช้โลหะเหลวฝังในซิลิโคนเพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้า
    - ชั้นซ่อมแซมตัวเองสามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน
    - เทคโนโลยีนี้อาจนำไปใช้ในหุ่นยนต์เกษตร, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประเมินความทนทานในระยะยาว
    - การใช้โลหะเหลวอาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงเมื่อใด
    - การซ่อมแซมตัวเองอาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงหรือซ้ำซ้อน

    เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ หุ่นยนต์อ่อนมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะใน สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/damage-sensing-and-self-healing-artificial-muscles-heralded-as-huge-step-forward-in-robotics
    🤖 กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln ได้พัฒนา กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญใน เทคโนโลยีหุ่นยนต์อ่อน (soft robotics) เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ระบบการรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต เช่น พืชและสัตว์ โดยใช้ สถาปัตยกรรมหลายชั้น ที่สามารถ ตรวจจับความเสียหาย, ระบุตำแหน่ง และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ โครงสร้างของกล้ามเนื้อเทียมประกอบด้วย สามชั้นหลัก ได้แก่ 1) ชั้นตรวจจับความเสียหาย – ใช้ ไมโครดรอปเล็ตของโลหะเหลวฝังในซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ 2) ชั้นซ่อมแซมตัวเอง – ทำจาก เทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ ที่สามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน 3) ชั้นกระตุ้นการเคลื่อนไหว – ควบคุมการหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อผ่านแรงดันน้ำ ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln พัฒนากล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับและซ่อมแซมตัวเองได้ - ใช้สถาปัตยกรรมสามชั้นที่เลียนแบบระบบรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต - ชั้นตรวจจับความเสียหายใช้โลหะเหลวฝังในซิลิโคนเพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้า - ชั้นซ่อมแซมตัวเองสามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน - เทคโนโลยีนี้อาจนำไปใช้ในหุ่นยนต์เกษตร, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประเมินความทนทานในระยะยาว - การใช้โลหะเหลวอาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงเมื่อใด - การซ่อมแซมตัวเองอาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงหรือซ้ำซ้อน เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ หุ่นยนต์อ่อนมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะใน สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/damage-sensing-and-self-healing-artificial-muscles-heralded-as-huge-step-forward-in-robotics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi 16: สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2025
    Xiaomi เตรียมเปิดตัว Xiaomi 16 ในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในขณะนี้

    Xiaomi 16 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี ดีไซน์แบบ dual-tone glass และ metal finish ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED ที่รองรับ 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology

    ระบบกล้องของ Xiaomi 16 ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ 50MP สามตัว ได้แก่ เลนส์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ ultra-wide และเลนส์ telephoto ที่มี AI-assisted macro support

    ข้อมูลจากข่าว
    - Xiaomi 16 ใช้ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm
    - หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED พร้อม 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology
    - ระบบกล้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 50MP สามตัว พร้อม AI-assisted macro support
    - แบตเตอรี่ 6,800mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย
    - ดีไซน์ dual-tone glass และ metal finish ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Snapdragon 8 Elite 2 จะสามารถแข่งขันกับ Apple A19 ได้หรือไม่
    - การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 อาจทำให้ Xiaomi 16 ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรง
    - ต้องรอดูว่าระบบ AI-assisted macro จะสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายได้จริงหรือไม่
    - ราคาของ Xiaomi 16 อาจสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากการใช้วัสดุระดับพรีเมียม

    Xiaomi 16 อาจเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 โดยเน้น AI integration และประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างไร

    https://computercity.com/phones/xiaomi-16-the-next-flagship-powerhouse-arrives-late-2025
    📱 Xiaomi 16: สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2025 Xiaomi เตรียมเปิดตัว Xiaomi 16 ในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในขณะนี้ Xiaomi 16 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี ดีไซน์แบบ dual-tone glass และ metal finish ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED ที่รองรับ 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology ระบบกล้องของ Xiaomi 16 ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ 50MP สามตัว ได้แก่ เลนส์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ ultra-wide และเลนส์ telephoto ที่มี AI-assisted macro support ✅ ข้อมูลจากข่าว - Xiaomi 16 ใช้ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm - หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED พร้อม 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology - ระบบกล้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 50MP สามตัว พร้อม AI-assisted macro support - แบตเตอรี่ 6,800mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย - ดีไซน์ dual-tone glass และ metal finish ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Snapdragon 8 Elite 2 จะสามารถแข่งขันกับ Apple A19 ได้หรือไม่ - การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 อาจทำให้ Xiaomi 16 ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรง - ต้องรอดูว่าระบบ AI-assisted macro จะสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายได้จริงหรือไม่ - ราคาของ Xiaomi 16 อาจสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากการใช้วัสดุระดับพรีเมียม Xiaomi 16 อาจเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 โดยเน้น AI integration และประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างไร https://computercity.com/phones/xiaomi-16-the-next-flagship-powerhouse-arrives-late-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Xiaomi 16: The Next Flagship Powerhouse Arrives Late 2025
    Xiaomi is once again poised to shake up the premium smartphone market with the upcoming launch of the Xiaomi 16, expected to debut in October 2025. Building
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน
    เดินทางสบายกับ Emirates Airlines (EK)
    เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68
    ราคาเพียง 67,888.-

    ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด
    🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก
    ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์
    🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น
    นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส
    เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช
    สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล

    #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป
    #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส
    #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/efcc39

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395
    🇦🇹🇩🇪🇨🇭 เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน เดินทางสบายกับ ✈️ Emirates Airlines (EK) 📅 เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68 💸 ราคาเพียง 67,888.- 📍 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด 🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก 🏰 ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์ 🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น 🗻 นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส ❄️ เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช 🦁 สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว 🌍✈️🧳 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/efcc39 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน
    เดินทางสบายกับ Emirates Airlines (EK)
    เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68
    ราคาเพียง 67,888.-

    ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด
    🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก
    ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์
    🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น
    นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส
    เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช
    สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล

    #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป
    #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส
    #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/efcc39

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🇦🇹🇩🇪🇨🇭 เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน เดินทางสบายกับ ✈️ Emirates Airlines (EK) 📅 เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68 💸 ราคาเพียง 67,888.- 📍 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด 🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก 🏰 ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์ 🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น 🗻 นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส ❄️ เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช 🦁 สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว 🌍✈️🧳 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/efcc39 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับวลีรักคลาสสิกที่ได้ยินกันบ่อยในหลายละครและนิยายจีน

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ความหมายของโคมไฟใบเดียวนี้คือ ขอเพียงคนใจเดียว อีกทั้งยามนี้หิมะตกปกคลุมดูเหมือนศีรษะขาว รวมกันหมายถึง ปรารถนาคนใจเดียว เคียงข้างจนผมขาวมิร้างลา” จื่อจ๊านกล่าวต่อตี้ซวี่...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> (Storyฯ แปลเองจ้า)

    วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ (愿得一心人,白头不相离) นี้ยกมาจากบทกวีที่ชื่อว่า ‘ป๋ายโถวอิ๋น’ (白头吟 /ลำนำผมขาว) ซึ่งกล่าวขานว่าเป็นบทประพันธ์ของจั๋วเหวินจวิน แต่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าดูจากสไตล์ภาษาแล้วไม่น่าจะใช่ อีกทั้งบทกวีนี้เมื่อแรกปรากฏในบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้น ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง

    จั๋วเหวินจวินคือใคร เพื่อนเพจคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่? เธอถูกยกย่องเป็น “ไฉหนี่ว์” (คือหญิงที่มากด้วยพรสวรรค์) ที่เลื่องชื่อด้านโคลงกลอนและพิณ เป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของการวาดคิ้วแบบ ‘หย่วนซานเหมย’ ยอดนิยม (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเกี่ยวกับการเขียนคิ้ว) และเพื่อนเพจบางท่านอาจคุ้นชื่อของเธอจากเรื่องราวของเพลงหงษ์วอนหาคู่ เพราะเธอคือภรรยาของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง)

    ‘ลำนำผมขาว’ เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความรักระหว่างจั๋วเหวินจวินและซือหม่าเซียงหรูนั่นเอง

    ตำนานรักของเขามีอยู่ว่า ซือหม่าเซียงหรูสมัยที่ยังเป็นบัณฑิตไส้แห้ง ได้บรรเลงเพลงพิณหงส์วอนหาคู่ เป็นที่ต้องตาต้องใจของจั๋วเหวินจวินซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี จนเธอหนีตามเขาไป ทั้งสองคนเปิดร้านเหล้าช่วยกันทำมาหากินอย่างยากลำบาก จนในที่สุดจั๋วหวางซุนผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อน ยกที่และเงินจำนวนไม่น้อยรับขวัญลูกเขยคนนี้

    ต่อมาซือหม่าเซียงหรูเข้ารับราชการจนเติบใหญ่ได้ดีอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่จั๋วเหวินจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ยินข่าวว่าเขาอยากจะแต่งอนุภรรยา เธอเสียใจมากและยอมรับไม่ได้ เลยแต่งบทกวีนี้ส่งให้เขาเพื่อกล่าวตัดสัมพันธ์

    มีคน ‘ถอดรหัส’บทกวีนี้ Storyฯ เลยเอามาแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ... รักของเรานั้นเคยบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวบนยอดเขา ดุจดวงจันทร์กลางกลีบเมฆ ครั้นได้ยินว่าท่านมีรักใหม่ ข้าจึงจะจบเรื่องราวของเรา วันนี้เราร่วมดื่มสุราเป็นครั้งสุดท้าย วันพรุ่งก็ทางใครทางมัน แรกเริ่มที่ข้าติดตามท่านนั้น ชีวิตยากลำบาก ทว่าตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยบ่น ขอเพียงมีคนใจเดียวอยู่ด้วยกันจนผมขาวไม่ร้างลา มีรักหวานชื่น อันชายนั้นควรหนักแน่นกับความสัมพันธ์ ความรักเมื่อสูญหายแล้ว เงินทองก็ชดเชยให้ไม่ได้ (บทกวีฉบับจีนดูได้จากในรูป)

    ว่ากันว่า ซือหม่าเซียงหรูเมื่ออ่านบทกวีนี้ก็รำลึกถึงความรักที่เคยมีและวันเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และเปลี่ยนใจไม่แต่งงานใหม่ จวบจนบั้นปลายชีวิตก็มีจั๋วเหวินจวินเพียงคนเดียว

    บทกวีลำนำผมขาวนี้โด่งดังมาตลอด เพราะมุมมองที่ให้ความสำคัญของผัวเดียวเมียเดียวในยุคสมัยที่มีค่านิยมว่าชายมีเมียได้หลายคน และเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันเด็ดเดี่ยวของสตรี

    วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ นี้จึงกลายมาเป็นคำบอกรักยอดนิยมเพื่อสะท้อนถึงรักที่มั่นคงไม่ผันแปร แม้ที่มาจะเศร้าไปหน่อย แต่ก็จบลงด้วยดี

    แต่ปัจจุบันมีคนนำไปเขียนเพี้ยนไปก็มี จุดที่เพี้ยนหลักคือการสลับอักษรจาก ‘คนใจเดียว’( 一心人) ไปเป็น ‘ใจรักจากคนคนหนึ่ง’ (一人心) .... สลับอักษรแล้วความหมายแตกต่างมากเลย เพื่อนเพจว่าไหม?

    สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ

    หมายเหตุ 1: ‘ลำนำผมขาว’ เป็นชื่อที่แปลโดยคุณกนกพร นุ่มทอง จากหนังสือ < 100 ยอดหญิงแห่งประวัติศาสตร์จีน> แต่ Storyฯ แปลฉบับ ‘ถอดรหัส’ ให้ตามข้างต้นเพื่อความง่ายในการเข้าใจ
    หมายเหตุ 2: คำว่า ‘อิ๋น’ ในชื่อของบทกวีนี้ จริงๆ แล้วมีความหมายหลากหลาย รวมถึงเสียงร้องเพรียกของนก หรือการอ่านแบบมีจังหวะจะโคน หรือเสียงถอนหายใจ โดยส่วนตัว Storyฯ คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะหมายถึงเสียงถอนหายใจในบริบทนี้ แต่... ขอใช้ตามที่มีคนเคยแปลไว้ว่า ‘ลำนำผมขาว’ เผื่อเพื่อนเพจที่เคยผ่านตาบทกวีนี้จะได้ไม่สับสน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก: https://www.hk01.com/即時娛樂/705041/斛珠夫人-陳小紜曬素顏樣盡現氣質-曾承認整容將近十次非常痛
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.chinatoday.com.cn/zw2018/bktg/202104/t20210407_800242850.html
    http://www.exam58.com/gushi/4582.html
    https://www.sohu.com/a/402043209_99929216
    https://baike.baidu.com/item/白头吟/6866957

    #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #ป๋ายโถวอิ๋น #ลำนำผมขาว #กวีจีนโบราณ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู
    วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับวลีรักคลาสสิกที่ได้ยินกันบ่อยในหลายละครและนิยายจีน ความมีอยู่ว่า ... “ความหมายของโคมไฟใบเดียวนี้คือ ขอเพียงคนใจเดียว อีกทั้งยามนี้หิมะตกปกคลุมดูเหมือนศีรษะขาว รวมกันหมายถึง ปรารถนาคนใจเดียว เคียงข้างจนผมขาวมิร้างลา” จื่อจ๊านกล่าวต่อตี้ซวี่... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> (Storyฯ แปลเองจ้า) วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ (愿得一心人,白头不相离) นี้ยกมาจากบทกวีที่ชื่อว่า ‘ป๋ายโถวอิ๋น’ (白头吟 /ลำนำผมขาว) ซึ่งกล่าวขานว่าเป็นบทประพันธ์ของจั๋วเหวินจวิน แต่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าดูจากสไตล์ภาษาแล้วไม่น่าจะใช่ อีกทั้งบทกวีนี้เมื่อแรกปรากฏในบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้น ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง จั๋วเหวินจวินคือใคร เพื่อนเพจคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่? เธอถูกยกย่องเป็น “ไฉหนี่ว์” (คือหญิงที่มากด้วยพรสวรรค์) ที่เลื่องชื่อด้านโคลงกลอนและพิณ เป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของการวาดคิ้วแบบ ‘หย่วนซานเหมย’ ยอดนิยม (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเกี่ยวกับการเขียนคิ้ว) และเพื่อนเพจบางท่านอาจคุ้นชื่อของเธอจากเรื่องราวของเพลงหงษ์วอนหาคู่ เพราะเธอคือภรรยาของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ‘ลำนำผมขาว’ เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความรักระหว่างจั๋วเหวินจวินและซือหม่าเซียงหรูนั่นเอง ตำนานรักของเขามีอยู่ว่า ซือหม่าเซียงหรูสมัยที่ยังเป็นบัณฑิตไส้แห้ง ได้บรรเลงเพลงพิณหงส์วอนหาคู่ เป็นที่ต้องตาต้องใจของจั๋วเหวินจวินซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี จนเธอหนีตามเขาไป ทั้งสองคนเปิดร้านเหล้าช่วยกันทำมาหากินอย่างยากลำบาก จนในที่สุดจั๋วหวางซุนผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อน ยกที่และเงินจำนวนไม่น้อยรับขวัญลูกเขยคนนี้ ต่อมาซือหม่าเซียงหรูเข้ารับราชการจนเติบใหญ่ได้ดีอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่จั๋วเหวินจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ยินข่าวว่าเขาอยากจะแต่งอนุภรรยา เธอเสียใจมากและยอมรับไม่ได้ เลยแต่งบทกวีนี้ส่งให้เขาเพื่อกล่าวตัดสัมพันธ์ มีคน ‘ถอดรหัส’บทกวีนี้ Storyฯ เลยเอามาแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ... รักของเรานั้นเคยบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวบนยอดเขา ดุจดวงจันทร์กลางกลีบเมฆ ครั้นได้ยินว่าท่านมีรักใหม่ ข้าจึงจะจบเรื่องราวของเรา วันนี้เราร่วมดื่มสุราเป็นครั้งสุดท้าย วันพรุ่งก็ทางใครทางมัน แรกเริ่มที่ข้าติดตามท่านนั้น ชีวิตยากลำบาก ทว่าตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยบ่น ขอเพียงมีคนใจเดียวอยู่ด้วยกันจนผมขาวไม่ร้างลา มีรักหวานชื่น อันชายนั้นควรหนักแน่นกับความสัมพันธ์ ความรักเมื่อสูญหายแล้ว เงินทองก็ชดเชยให้ไม่ได้ (บทกวีฉบับจีนดูได้จากในรูป) ว่ากันว่า ซือหม่าเซียงหรูเมื่ออ่านบทกวีนี้ก็รำลึกถึงความรักที่เคยมีและวันเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และเปลี่ยนใจไม่แต่งงานใหม่ จวบจนบั้นปลายชีวิตก็มีจั๋วเหวินจวินเพียงคนเดียว บทกวีลำนำผมขาวนี้โด่งดังมาตลอด เพราะมุมมองที่ให้ความสำคัญของผัวเดียวเมียเดียวในยุคสมัยที่มีค่านิยมว่าชายมีเมียได้หลายคน และเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันเด็ดเดี่ยวของสตรี วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ นี้จึงกลายมาเป็นคำบอกรักยอดนิยมเพื่อสะท้อนถึงรักที่มั่นคงไม่ผันแปร แม้ที่มาจะเศร้าไปหน่อย แต่ก็จบลงด้วยดี แต่ปัจจุบันมีคนนำไปเขียนเพี้ยนไปก็มี จุดที่เพี้ยนหลักคือการสลับอักษรจาก ‘คนใจเดียว’( 一心人) ไปเป็น ‘ใจรักจากคนคนหนึ่ง’ (一人心) .... สลับอักษรแล้วความหมายแตกต่างมากเลย เพื่อนเพจว่าไหม? สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ หมายเหตุ 1: ‘ลำนำผมขาว’ เป็นชื่อที่แปลโดยคุณกนกพร นุ่มทอง จากหนังสือ < 100 ยอดหญิงแห่งประวัติศาสตร์จีน> แต่ Storyฯ แปลฉบับ ‘ถอดรหัส’ ให้ตามข้างต้นเพื่อความง่ายในการเข้าใจ หมายเหตุ 2: คำว่า ‘อิ๋น’ ในชื่อของบทกวีนี้ จริงๆ แล้วมีความหมายหลากหลาย รวมถึงเสียงร้องเพรียกของนก หรือการอ่านแบบมีจังหวะจะโคน หรือเสียงถอนหายใจ โดยส่วนตัว Storyฯ คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะหมายถึงเสียงถอนหายใจในบริบทนี้ แต่... ขอใช้ตามที่มีคนเคยแปลไว้ว่า ‘ลำนำผมขาว’ เผื่อเพื่อนเพจที่เคยผ่านตาบทกวีนี้จะได้ไม่สับสน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.hk01.com/即時娛樂/705041/斛珠夫人-陳小紜曬素顏樣盡現氣質-曾承認整容將近十次非常痛 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.chinatoday.com.cn/zw2018/bktg/202104/t20210407_800242850.html http://www.exam58.com/gushi/4582.html https://www.sohu.com/a/402043209_99929216 https://baike.baidu.com/item/白头吟/6866957 #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #ป๋ายโถวอิ๋น #ลำนำผมขาว #กวีจีนโบราณ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู
    WWW.HK01.COM
    香港01|hk01.com 倡議型媒體
    香港01是一家互聯網企業,核心業務為倡議型媒體,主要傳播平台是手機應用程式和網站。企業研發各種互動數碼平台,開發由知識與科技帶動的多元化生活。
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 858 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts