• Apple แซะประเทศชาวบ้านดีนัก สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ ยอดขายหัวเหว่ยและเสี่ยวมี่ที่อินโดนีเซียพุ่งพรวดรัวๆๆแน่นอน ส่วนตัวผมไม่อยากจะซื้อ Apple มาใช้ไม่ว่าจะแบบไหน ส่วนตัวผมมีซัมซุงเครื่องนึง อีกเครื่องจะรอเก็บเงินซื้อหัวเหว่ยสักหมื่นสองหมื่นก็ต้องสู้ชีวิตสู้งานกันต่อไป สู้ถูกทางดีที่สุดและมั่นคงที่สุดกับตัวเราแล้วครับ
    Apple แซะประเทศชาวบ้านดีนัก สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ ยอดขายหัวเหว่ยและเสี่ยวมี่ที่อินโดนีเซียพุ่งพรวดรัวๆๆแน่นอน ส่วนตัวผมไม่อยากจะซื้อ Apple มาใช้ไม่ว่าจะแบบไหน ส่วนตัวผมมีซัมซุงเครื่องนึง อีกเครื่องจะรอเก็บเงินซื้อหัวเหว่ยสักหมื่นสองหมื่นก็ต้องสู้ชีวิตสู้งานกันต่อไป สู้ถูกทางดีที่สุดและมั่นคงที่สุดกับตัวเราแล้วครับ
    อินโดห้ามขาย iPhone 16 อยากใช้ต้องนำเข้าเอง (04/11/67) #news1 #อินโดห้ามขายiPhone16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 731 0 รีวิว
  • Higher Self คืออะไร
    Higher Self หรือ "ตัวตนสูงสุด" เป็นแนวคิดที่อยู่ในศาสนาและปรัชญาหลายแขนง มักหมายถึงสภาวะที่สูงกว่าของจิตวิญญาณหรือจิตใจ ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกับความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของตัวเราเอง เป็นสภาวะที่เราสามารถเข้าถึงสติปัญญา ความรัก และความสงบภายในได้มากขึ้น

    การทำงานของ Higher Self
    การเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ: Higher Self มีบทบาทสำคัญในการช่วยเราค้นพบและเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเราเอง ซึ่งอาจจะเป็นการรับรู้ถึงเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง หรือความหมายของการดำรงอยู่

    การแนะนำและนำทาง: Higher Self สามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำทางหรือที่ปรึกษาที่มีความรู้และปัญญา ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น โดยไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์หรือความกลัว

    การพัฒนาและเติบโตส่วนบุคคล: การทำงานกับ Higher Self ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ เช่น การควบคุมอารมณ์ การเพิ่มความมั่นใจในตนเอง และการฝึกฝนความเมตตาและการให้อภัย

    การสร้างความสมดุลและความสงบภายใน: Higher Self ช่วยสร้างความสมดุลในชีวิตประจำวัน โดยทำให้เรามีความสงบสุขมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับความเครียดหรือสถานการณ์ที่ท้าทาย

    การเชื่อมต่อกับผู้อื่น: เมื่อเราเชื่อมต่อกับ Higher Self เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายกับผู้อื่นได้ดีขึ้น โดยสามารถเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้มากขึ้น

    วิธีการเชื่อมต่อกับ Higher Self
    การทำสมาธิ: การทำสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและเปิดรับการเชื่อมต่อกับ Higher Self ได้ง่ายขึ้น

    การฝึกจิตวิญญาณ: การฝึกฝนจิตวิญญาณ เช่น การสวดมนต์ การฝึกโยคะ หรือการปฏิบัติธรรม สามารถช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อ

    การเขียนบันทึก: การเขียนบันทึกเป็นวิธีการสะท้อนความคิดและอารมณ์ ซึ่งช่วยให้เราค้นพบและเข้าใจตัวเองในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

    การทำงานกับ Higher Self เป็นการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดของการค้นพบและพัฒนาตนเอง ซึ่งสามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีความหมายและสมดุลมากขึ้น
    #ใช้ใจนำทาง #higherself #พัฒนาจิต
    #การเดินทางภายใน
    Higher Self คืออะไร Higher Self หรือ "ตัวตนสูงสุด" เป็นแนวคิดที่อยู่ในศาสนาและปรัชญาหลายแขนง มักหมายถึงสภาวะที่สูงกว่าของจิตวิญญาณหรือจิตใจ ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกับความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของตัวเราเอง เป็นสภาวะที่เราสามารถเข้าถึงสติปัญญา ความรัก และความสงบภายในได้มากขึ้น การทำงานของ Higher Self การเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ: Higher Self มีบทบาทสำคัญในการช่วยเราค้นพบและเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเราเอง ซึ่งอาจจะเป็นการรับรู้ถึงเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง หรือความหมายของการดำรงอยู่ การแนะนำและนำทาง: Higher Self สามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำทางหรือที่ปรึกษาที่มีความรู้และปัญญา ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น โดยไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์หรือความกลัว การพัฒนาและเติบโตส่วนบุคคล: การทำงานกับ Higher Self ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ เช่น การควบคุมอารมณ์ การเพิ่มความมั่นใจในตนเอง และการฝึกฝนความเมตตาและการให้อภัย การสร้างความสมดุลและความสงบภายใน: Higher Self ช่วยสร้างความสมดุลในชีวิตประจำวัน โดยทำให้เรามีความสงบสุขมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับความเครียดหรือสถานการณ์ที่ท้าทาย การเชื่อมต่อกับผู้อื่น: เมื่อเราเชื่อมต่อกับ Higher Self เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายกับผู้อื่นได้ดีขึ้น โดยสามารถเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้มากขึ้น วิธีการเชื่อมต่อกับ Higher Self การทำสมาธิ: การทำสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและเปิดรับการเชื่อมต่อกับ Higher Self ได้ง่ายขึ้น การฝึกจิตวิญญาณ: การฝึกฝนจิตวิญญาณ เช่น การสวดมนต์ การฝึกโยคะ หรือการปฏิบัติธรรม สามารถช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อ การเขียนบันทึก: การเขียนบันทึกเป็นวิธีการสะท้อนความคิดและอารมณ์ ซึ่งช่วยให้เราค้นพบและเข้าใจตัวเองในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การทำงานกับ Higher Self เป็นการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดของการค้นพบและพัฒนาตนเอง ซึ่งสามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีความหมายและสมดุลมากขึ้น #ใช้ใจนำทาง #higherself #พัฒนาจิต #การเดินทางภายใน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เข้าถึงธรรมคือผู้เข้าถึงธรรมดา

    ธรรมขั้นสูงสุดนั้นมิได้อยู่ที่ไหน หากอยู่ในความธรรมดาสามัญ เพราะธรรมดาสามัญนั้นเอง

    ผู้เข้าถึงธรรมคือผู้เข้าถึงธรรมดา
    กลมกลืนกับธรรมดา
    ไม่ขัดขืนโต้แย้งกับธรรมดา
    ทั้งไม่ผลักไสหรือยึดติดธรรมดา

    เพราะธรรมดานั้นไม่มีบวกหรือลบ สูงหรือต่ำ น่ายินดีหรือไม่น่ายินดี หากเป็นใจเราต่างหากที่ไปกำหนดหมายหรือให้ค่าเอาเอง

    อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางโลกที่เร่งรีบอึกทึก และถูกปรุงแต่งจนพอกหนาด้วยสมมติและมายา บางครั้งเราจำเป็นต้องหลีกเร้นไปยังที่ที่สงบสงัดและปลอดโปร่งจากภารกิจ เพื่อมีเวลาพินิจจิตใจของตน จนหยั่งเห็นธรรมะหรือธรรมดาท่ามกลางความผันผวนของความรู้สึกนึกคิด ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างกลมกลืน และเป็นมิตรกับธรรมดามากขึ้น

    แต่ในที่สุดแล้ว เราจำเป็นต้องกลับมาสู่โลกกว้างและชีวิตที่เป็นจริง ต้องเกี่ยวข้องกับงานการและผู้คน เผชิญกับความแปรปรวนของสรรพสิ่งรอบตัว พบกับความสมหวังและไม่สมหวัง จนบางครั้งเราอดไม่ได้ที่จะคิดหัวนกลับไปสู่สำนักปฏิบัติอันสงบสงัด หรือไม่ก็อยากจะเก็บตัวอยู่ในห้องพระเพื่อเจริญสมาธิภาวนานานเท่านาน แต่ใช่หรือไม่ว่าในชั่วขณะนั้น เรากำลังคิดหันหลังให้กับธรรมะที่อยู่ท่ามกลางความธรรมดาสามัญ

    ชีวิตที่นั่งหรือเดินภาวนาทั้งวันเป็นชีวิตที่ไม่ธรรมดาสามัญ แม้จะจำเป็น แต่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ตลอด เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องพร้อมกลับมาสู่ชีวิตธรรมดาสามัญ ซึ่งมีภารกิจและความรับผิดชอบที่ต้องใส่ใจ

    แต่งานการใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม แท้จริงเป็นอุปกรณ์แห่งการเข้าถึงธรรมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เมื่อพระรูปหนึ่งขอร้องให้อาจารย์สอนธรรม ท่านกลับถามว่า เธอฉันภัตตาหารเช้าเสร็จแล้วหรือ เมื่อศิษย์ตอบว่า ฉันเสร็จแล้ว ท่านกลับตอบว่า งั้นเธอก็กลับไปล้างจานได้แล้ว

    การปฏิบัติธรรมในสำนักอันสงบสงัด เปรียบไปก็ไม่ต่างจากการฝึกซ้อมของนักกีฬา แต่การฝึกซ้อมจะมีประโยชน์อะไรหากไม่ลงไปสู่สนามจริง นักกีฬาย่อมไม่กลัวสนามจริงฉันใด นักปฏิบัติธรรมก็ไม่พรั่นพรึงโลกกว้างและชีวิตจริงฉันนั้น

    จะว่าไปแล้ว โลกว้างและชีวิตจริงนั่นแหละคือสถานที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิบัติธรรม เพราะความเป็นจริงโดยเฉพาะความทุกข์คือครูที่ฉลาดทีสุดในการเคี่ยวเข็ญเราให้เข้าถึงธรรมและธรรมดา

    การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงคือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความพลัดพราก ความสูญเสีย และความไม่สมหวังอย่างไม่เป็นทุกข์ สามารถเข้าถึงความสงบเย็นได้ ท่ามกลางความผันผวนของโลกและชีวิต อีกทั้งยังสามารถเอื้อเฟื้อเกื้อกูลและเป็นมิตรกับผู้อื่นได้ โดยไม่แบ่งแยกหรือเลือกที่รักมักที่ชัง ทั้งหมดนี้เราสามารถเรียนรู้ได้จากชีวิตสามัญที่มีทั้งสุขและทุกข์ มีทั้งมิตรและศัตรู มีทั้งสมหวังและไม่สมหวัง

    พระไพศาล วิสาโล

    🙏🙏🙏
    ผู้เข้าถึงธรรมคือผู้เข้าถึงธรรมดา ธรรมขั้นสูงสุดนั้นมิได้อยู่ที่ไหน หากอยู่ในความธรรมดาสามัญ เพราะธรรมดาสามัญนั้นเอง ผู้เข้าถึงธรรมคือผู้เข้าถึงธรรมดา กลมกลืนกับธรรมดา ไม่ขัดขืนโต้แย้งกับธรรมดา ทั้งไม่ผลักไสหรือยึดติดธรรมดา เพราะธรรมดานั้นไม่มีบวกหรือลบ สูงหรือต่ำ น่ายินดีหรือไม่น่ายินดี หากเป็นใจเราต่างหากที่ไปกำหนดหมายหรือให้ค่าเอาเอง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางโลกที่เร่งรีบอึกทึก และถูกปรุงแต่งจนพอกหนาด้วยสมมติและมายา บางครั้งเราจำเป็นต้องหลีกเร้นไปยังที่ที่สงบสงัดและปลอดโปร่งจากภารกิจ เพื่อมีเวลาพินิจจิตใจของตน จนหยั่งเห็นธรรมะหรือธรรมดาท่ามกลางความผันผวนของความรู้สึกนึกคิด ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างกลมกลืน และเป็นมิตรกับธรรมดามากขึ้น แต่ในที่สุดแล้ว เราจำเป็นต้องกลับมาสู่โลกกว้างและชีวิตที่เป็นจริง ต้องเกี่ยวข้องกับงานการและผู้คน เผชิญกับความแปรปรวนของสรรพสิ่งรอบตัว พบกับความสมหวังและไม่สมหวัง จนบางครั้งเราอดไม่ได้ที่จะคิดหัวนกลับไปสู่สำนักปฏิบัติอันสงบสงัด หรือไม่ก็อยากจะเก็บตัวอยู่ในห้องพระเพื่อเจริญสมาธิภาวนานานเท่านาน แต่ใช่หรือไม่ว่าในชั่วขณะนั้น เรากำลังคิดหันหลังให้กับธรรมะที่อยู่ท่ามกลางความธรรมดาสามัญ ชีวิตที่นั่งหรือเดินภาวนาทั้งวันเป็นชีวิตที่ไม่ธรรมดาสามัญ แม้จะจำเป็น แต่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ตลอด เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องพร้อมกลับมาสู่ชีวิตธรรมดาสามัญ ซึ่งมีภารกิจและความรับผิดชอบที่ต้องใส่ใจ แต่งานการใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม แท้จริงเป็นอุปกรณ์แห่งการเข้าถึงธรรมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เมื่อพระรูปหนึ่งขอร้องให้อาจารย์สอนธรรม ท่านกลับถามว่า เธอฉันภัตตาหารเช้าเสร็จแล้วหรือ เมื่อศิษย์ตอบว่า ฉันเสร็จแล้ว ท่านกลับตอบว่า งั้นเธอก็กลับไปล้างจานได้แล้ว การปฏิบัติธรรมในสำนักอันสงบสงัด เปรียบไปก็ไม่ต่างจากการฝึกซ้อมของนักกีฬา แต่การฝึกซ้อมจะมีประโยชน์อะไรหากไม่ลงไปสู่สนามจริง นักกีฬาย่อมไม่กลัวสนามจริงฉันใด นักปฏิบัติธรรมก็ไม่พรั่นพรึงโลกกว้างและชีวิตจริงฉันนั้น จะว่าไปแล้ว โลกว้างและชีวิตจริงนั่นแหละคือสถานที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิบัติธรรม เพราะความเป็นจริงโดยเฉพาะความทุกข์คือครูที่ฉลาดทีสุดในการเคี่ยวเข็ญเราให้เข้าถึงธรรมและธรรมดา การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงคือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความพลัดพราก ความสูญเสีย และความไม่สมหวังอย่างไม่เป็นทุกข์ สามารถเข้าถึงความสงบเย็นได้ ท่ามกลางความผันผวนของโลกและชีวิต อีกทั้งยังสามารถเอื้อเฟื้อเกื้อกูลและเป็นมิตรกับผู้อื่นได้ โดยไม่แบ่งแยกหรือเลือกที่รักมักที่ชัง ทั้งหมดนี้เราสามารถเรียนรู้ได้จากชีวิตสามัญที่มีทั้งสุขและทุกข์ มีทั้งมิตรและศัตรู มีทั้งสมหวังและไม่สมหวัง พระไพศาล วิสาโล 🙏🙏🙏
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความดีไม่เคยไปไหน ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ยากดีมีจน ขี้เหร่ไม่สวย ไม่เก่งไม่ดัง หรือว่าอะไรก็ตามแต่ ความดีจะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอๆ ไม่มีวันทอดทิ้งเรา คอยอวยชัยให้พรแก่เรา ให้เราได้มีความโชคดีและมีความสุขอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจงอย่าได้ทิ้งความดี คอยหมั่นเพียรพยายามทำความดีไป แล้วผลแห่งความดีจะคอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเราตลอดไปเองเนาะ ขอให้คนที่อ่านข้อความนี้ จงโชคดีและมีความสุข สู้ชีวิตเข้านะ ขอขอบคุณคุณที่เข้าใจในตัวของผมบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ เพราะผมเป็นคนจริงจังจริงใจกับคุณ...
    ความดีไม่เคยไปไหน ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ยากดีมีจน ขี้เหร่ไม่สวย ไม่เก่งไม่ดัง หรือว่าอะไรก็ตามแต่ ความดีจะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอๆ ไม่มีวันทอดทิ้งเรา คอยอวยชัยให้พรแก่เรา ให้เราได้มีความโชคดีและมีความสุขอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจงอย่าได้ทิ้งความดี คอยหมั่นเพียรพยายามทำความดีไป แล้วผลแห่งความดีจะคอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเราตลอดไปเองเนาะ ขอให้คนที่อ่านข้อความนี้ จงโชคดีและมีความสุข สู้ชีวิตเข้านะ ขอขอบคุณคุณที่เข้าใจในตัวของผมบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ เพราะผมเป็นคนจริงจังจริงใจกับคุณ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ปราย พันแสง

    เมื่อคืนดูคลิปบอสเล่านิทานเรื่อง“มดไต่แก้ว”แล้วนอนไม่หลับเอาเลย ยอมรับว่าเล่าเก่งโคตร

    ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม
    จึงมีเหยื่อมากมายนัก
    ก็มันชวนเคลิ้มซะขนาดนี้

    🌻

    นานมาแล้ว สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเคยบอกว่า "The most powerful person in the world is the storyteller.“ คนที่ทรงพลังที่สุดในโลกคือนักเล่าเรื่อง จอบส์ฟันธงไว้อย่างนั้น

    เขาบอกว่า“นักเล่าเรื่อง” หรือคนที่เล่าเรื่องเป็น(storyteller) จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยม และระเบียบวาระต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้กับผู้คนทั้งเจเนอเรชั่น อาจจะกล่าวได้ว่า นักเล่าเรื่องเก่งๆ นั้นสามารถกำหนดเทรนด์หรือทิศทางของสังคมได้

    ส่วนที่จอบส์ไม่ได้บอกไว้ก็คือ นักเล่าเรื่องเก่งๆ หลายคน สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความฉิบหายระดับหมื่นล้านแสนล้านได้ด้วย

    สิ่งที่ปรากฏต่อสังคมไทยในวันนี้
    มันอาจเป็นประจักษ์พยานด้านมืด
    ของ storyteller อย่างชัดๆ

    🌻

    “มดไต่แก้ว” เป็นเรื่องเล่าง่ายๆ เกี่ยวกับมดที่พยายามป่ายปีนออกไปให้พ้นแก้ว มดบางตัวปีนไปจนอยู่ในจุดสูงที่สุดของปากแก้ว แต่แล้วก็ตกลงมา

    บอสบอกไว้คมเฉียบว่า ”การตกลงมาจากจุดสูงสุดอย่างนั้น มันทำให้เจ็บที่สุด ทำให้มีมดบางตัวยอมแพั แต่ก็ยังมีมดบางตัวสู้ต่อ จนได้รับอิสรภาพในที่สุด“

    เคลิ้มมั้ยล่ะ ^__^

    🌻

    เอาจริง จากอาชีพอ่านๆ เขียนๆ เรื่องเล่าประเภทนี้ไม่ได้กินเราหรอก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลี อีกทั้งยังต้องอยู่ในสถานะลูกข่ายที่ต้องไล่ล่าทำยอดขาย พลังของเรื่องเล่าแบบนี้มันพุ่งปรี๊ดทะลุปม กระแทกต่อมได้ตรงจุด จึงไม่น่าแปลกใจถ้ามันจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งตรึงใจ

    เราเองฟังเรื่องมดไต่แก้วนี้กลับไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้มีใครเคยฟังมั้ย เป็นนิทานเรื่องกบกระโดด เรื่องมีอยู่ว่า มีกบตัวหนึ่งพยายามปีนออกจากบ่อลึก ทุกครั้งที่มันพยายามกระโดด เพื่อนๆ กบจะพากันตะโกนห้ามว่า "เลิกเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!"

    ทว่ากบตัวนั้นไม่ยอมแพ้ สุดท้ายในการกระโดดครั้งที่ 99 มันก็กระโดดออกจากบ่อได้สำเร็จ แต่ความจริงของเรื่องนี้คือ กบตัวนี้หูหนวก มันเลยไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากเพื่อนๆ เลยสักนิดเดียว

    ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับผู้เสียหายมากมาย
    ที่ไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย
    เหมือนกบหูหนวก

    🌻

    คดีบอสๆ นี้ เราว่านิทานเรื่องมดไต่แก้วนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรารู้สึกเองว่ามันทรงพลังแห่ง storytelling จริงๆ น่าจะเป็นนิทานเรื่องจริงที่แชร์กันเยอะๆ วันนี้ ที่เป็นคลิปเล่าเรื่องบอสพอลพาผู้ชมกลับไปทัวร์สลัมคลองเตยบ้านเกิด พาไปชมแฟลตเก่าชั้นสองห้อง 16 ที่เคยเติบโตมา

    แคปชั่นตรึงใจ “ผมไม่เคยลืม...ว่าผมเติบโตมาจากที่ไหน ชุมชนแออัด หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "สลัม"ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยังเริ่มต้นสร้างชีวิต”

    “20 ปีที่แล้ว กับภาพในวันนี้ ทุกอย่างมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่ามันหยุดเวลาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง มันคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งคน ที่ชีวิตไม่พร้อม แต่มีความฝัน ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิตทุก ๆ ท่านครับ“

    คลิปถ่ายสวย ไม่เวอร์
    ภาพดี เสียงดี เล่าเรื่องดี
    นักแสดง(บอสพอล)แอ๊คติ้งเป็นธรรมชาติ
    ไม่มีตรงไหนชวนแหวะ
    หรือชวนเอ๊ะเลย

    ยิ่งตอนโทรคุยกับแม่หน้าแฟลตเก่า พูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอร่อยที่ยังขายอยู่นั่นก็ดูจะเป็นซีนที่น่าจดจำมากทีเดียว คือถ้าไม่ติดเรื่องข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเนี่ย อยากเชิญคนทำคลิปนี้ไปสร้างหนังไทยเลย อยากดู

    ในคลิปนี้ บอสยืนพูดหน้าแฟลตที่สกปรกรุงรังว่า ตอนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งนี้ ชีวิตวัยนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าอยากดูแลแม่ให้มีความสุขเท่านั้น ตรงนี้เชื่อว่าเอฟซีอาจน้ำตาร่วง

    อีกทั้งน้ำเสียงของแม่ปลายสาย ก็ร่าเริงมีความสุข กับการพูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่เคยกินสมัยอยู่สลัม สื่อให้เห็นว่าเมื่อก้าวพ้นความยากจนไปแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ในสลัมธรรมดาก็ยังงดงามขึ้นมาได้

    ทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนลื่นไหล เป็นคลิปฟิลลิ่ง Nostalgia การรำลึกความหลังยากแค้นของเศรษฐีหมื่นล้านที่สุดละเมียดจริงแท้

    ใครไม่เคลิ้มให้มันรูัไป

    ยอดขายระเบิดเถิดเทิงหมื่นล้านแสนล้าน ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุคๆ แน่นอน มันผ่านการเล่าเรื่องที่คัดเค้นมาแล้วอย่างประณีต เพื่อพิชิตใจมหาชนคนสามัญที่คุ้นเคยชมชอบกับเรื่องดรามาชนิดซึมเข้ากระดูกดำแบบไทยๆ เราอย่างเหมาะเหม็ง

    ดูคลิปนี้แล้วยิ่งไม่แปลกใจเลยสักนิด
    ว่าทำไมลูกข่ายหอบเงินมาประเคนให้
    เป็นหลักหมื่นแสนล้าน

    🌻

    เอาจริง เรื่องเล่าตรึงใจระคายต่อมพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก มันเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่มีใช้กันนานแล้วในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงหลอกลวงต้มตุ๋น ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลทำลายสถิติได้ทุกยุคสมัย

    เรื่องเล่ากระตุ้นต่อมที่ชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย ก็คงจะเป็นนิทานเรื่อง“ปลาทอง" ในคดีฉ้อฉลของเบอร์นี แมดอฟฟ์ในอเมริกา ที่น่าจะอื้อฉาวพอๆ กับคดีดิ ไอคอน ในเมืองไทยตอนนี้ก็ว่าได้

    สมัยนั้น เบอร์นี แมดอฟฟ์ ก็มักจะชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบการลงทุนกับการให้อาหารปลาทอง โดยบอกว่าต้องให้อาหารสม่ำเสมอ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง

    เขาใช้เรื่องนี้อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่ "สม่ำเสมอ" ของเขา ซึ่งในความเป็นจริงคือแผนการณ์หลอกลวงแบบพอนซี (Ponzi scheme- คล้ายแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่มีสินค้า ใช้วิธีเอาเงินคนใหม่ไปจ่ายให้คนเก่าวนไปเรื่อยๆ )

    พอนซีของแมดอล์ฟฟ์มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แมดอล์ฟฟ์ใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาทองเพื่อสื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขานั้น "สม่ำเสมอ" และ "ปลอดภัย" เขาอ้างว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่และน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีกลยุทธ์ที่มั่นคง

    ในความเป็นจริง แมดอล์ฟฟ์ไม่ได้นำเงินของลูกค้าไปลงทุนเลยสักนิด เขาใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของแผนพอนซี ผลตอบแทน "สม่ำเสมอ" ที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่เขาสร้างขึ้นมาเอง

    แผนฉ้อโกงนี้ดำเนินมานานหลายทศวรรษก่อนจะถูกเปิดโปงในปี 2008 มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงบุคคลทั่วไป องค์กรการกุศล และสถาบันการเงิน

    ปัจจุบันแมดอล์ฟฟ์ถูกจับกุม
    และถูกตัดสินจำคุก 150 ปี

    🌻

    นอกจากนิทานปลาทองของแมดอล์ฟฟ์ ยังมีนิทานอีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “ช้างล่ามโซ่” ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของบริษัท One Coin

    One Coin เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) แต่ในความเป็นจริงเป็นแผนหลอกลวงแบบพีระมิด (pyramid scheme) ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ต้มตุ๋น

    รูจา อิกนาโตวา (Ruja Ignatova) ผู้ก่อตั้ง One Coin
    เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองรูส ประเทศบัลแกเรีย ย้ายไปเยอรมนีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนซ์ ประเทศเยอรมนี เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในปี 2014 เธอก่อตั้งบริษัท One Coin ซึ่งอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่

    บริษัท One Coin เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2016 เริ่มมีการสงสัยและตรวจสอบ One Coin ว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่

    วันที่ 25 ตุลาคม 2017 รูจาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากบินจากโซเฟียไปยังเอเธนส์ ในปี 2019 เธอถูกฟ้องในสหรัฐอเมริกาในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน

    🌻

    ในการหลอกล่อเหยื่อมาลงทุน รูจา อิกนาโตวา มักใช้นิทานเรื่องช้างล่ามโซ่ในการปราศรัยบ่อยครั้ง

    เธอเปรียบเทียบว่าคนทั่วไปเหมือนช้างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ทางการเงิน ไม่กล้าที่จะหลุดพ้น เธอชี้ให้เห็นว่า One Coin คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ "ตัดโซ่" และเป็นอิสระทางการเงิน

    นิทานเรื่องนี้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าตนกำลัง "ติดกับดัก" ทางการเงิน สร้างความรู้สึกว่า One Coin เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางการเงิน สร้างแรงจูงใจให้คนกล้าที่จะ "ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ" และเข้าร่วมโครงการ

    ในความเป็นจริง One Coin ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลจริง ไม่มีบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง เป็นระบบพีระมิดที่สร้างรายได้จากการรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินหรือแลกเปลี่ยน One Coin เป็นเงินจริงได้

    One Coin มีผู้เสียหายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน ความเสียหายทางการเงินประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รูจา อิกนาโตวา ได้รับฉายาว่า “ราชินีคริปโต” หรือ Cryptoqueen เธอหายตัวไปในปี 2017 ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของ FBI

    ปัจจุบัน เธอกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย​​​​​​​​​​​​​​​​จนทุกวันนี้

    🌻

    จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่าอย่าง "ช้างล่ามโซ่" ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรระวังโครงการที่สัญญาว่าจะทำให้รวยอย่างรวดเร็วหรือหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินอย่างง่ายดาย

    คดีนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าที่สร้างแรงบันดาลใจสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนักเช่น cryptocurrency

    🌻

    ยังมีนิทานประเภทสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายหลายเรื่อง ที่มักนำมาใช้ในบริบทการฉ้อโกงลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิทานเรื่อง“มีดเหลาดินสอ”ที่หลายคนอาจจะคุ้น พวกคอร์สอบรมต่างๆ จะเอามาเล่าบ่อย

    เรื่องราวมีอยู่ว่า ดินสอบ่นว่าเจ็บเมื่อถูกเหลา แต่มีดเหลาบอกว่า "การเจ็บนี้จะทำให้เธอแหลมคมและเขียนได้ดีขึ้น“ นิทานเรื่องนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แง่คิดเรื่องความอดทนต่อความยากลำบากที่อาจทำให้เราได้เติบโตและพัฒนา

    🌻

    "นิทานเรื่องช้างและเชือกเส้นเล็ก"

    เรื่องมีอยู่ว่าในคณะละครสัตว์ มีช้างตัวใหญ่ถูกล่ามด้วยเชือกเส้นเล็กๆ เด็กน้อยสงสัยว่าทำไมช้างไม่ดึงเชือกให้ขาด คนเลี้ยงช้างอธิบายว่า ตั้งแต่ช้างยังเล็ก มันถูกล่ามด้วยโซ่ใหญ่ที่ไม่สามารถหลุดได้ ช้างจึงเชื่อว่าตัวเองไม่มีทางหลุดจากการล่าม แม้โตแล้วก็ยังคิดเช่นนั้น

    🌻

    "นิทานเรื่องหินสลักและค้อน"

    เรื่องราวของช่างแกะสลักกำลังทำงานบนหินก้อนใหญ่ เขาตีค้อนลงบนหินครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เห็นผล คนผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมแพ้ ในที่สุด หลังจากตีค้อนครั้งที่ 101 หินก็แตกออกตามที่เขาต้องการ ช่างแกะสลักอธิบายว่า "ไม่ใช่การตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้หินแตก แต่มันเป็นผลรวมของการตีทุกครั้งที่ผ่านมา"

    🌻

    นิทานเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อสื่อถึงความอดทน การไม่ยอมแพ้ และการเอาชนะข้อจำกัดทางความคิด

    นิทานไม่ได้มีพิษภัยในตัวมันเอง มันเป็นเรื่องเล่าแสนวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจได้จริง แต่เมื่อมีการนำมาใช้ในบริบทของการลงทุนหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การตีความและการนำไปใช้ กลับเป็นสิ่งที่ต้องระวัง

    บางครั้งนิทานเหล่านี้
    มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าเหตุผล
    อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์
    ในบริบทของธุรกิจที่น่าสงสัย
    อาจใช้เพื่อกดดัน
    ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ควร

    การยอมรับความจริง
    เลิกทนและถอยออกมา
    ก็อาจเป็นการตัดสินใจ
    ที่ชาญฉลาดได้เช่นกัน

    🌻

    “ในยุคข้อมูลข่าวสาร ความจริงกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องเล่าหรือเรื่องราวที่สร้างขึ้น (narratives)”

    ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ เขียนไว้ในหนังสือ"21 Lessons for the 21st Century"เมื่อหลายปีมาแล้ว (21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต, ดร. นำชัย ชีววิวรรธน์ , สำนักพิมพ์ยิปซี)

    ฮาราริอธิบายว่าผู้คนมักเชื่อในเรื่องราวที่สอดคล้องกับความเชื่อและอัตลักษณ์ของตน มากกว่าข้อเท็จจริงที่อาจขัดแย้งกับความเชื่อนั้น และชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่ให้ความหมายและอธิบายโลกรอบตัว เขาบอกว่า“เรื่องเล่าเหล่านี้มีพลังมากกว่าข้อเท็จจริงเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณของมนุษย์”

    ฮาราริเตือนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI และ Big Data สามารถใช้ในการสร้างและเผยแพร่เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างคลิปเรื่องเล่าสารพัดที่ผลิตออกมาชักจูงใจคน) เขาชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์มนุษย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

    การให้ความสำคัญกับ“อารมณ์”มากกว่า“ความจริง”อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการประชาธิปไตยและการตัดสินใจที่สำคัญ เขาเตือนว่าสังคมอาจถูกชี้นำด้วยการปลุกเร้าอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผลและข้อมูล

    ในอนาคต ทักษะทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์อาจมีความสำคัญมากกว่าความรู้ทางเทคนิค เขาแนะนำว่าระบบการศึกษาควรปรับตัวเพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับโลกที่อารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทสำคัญ

    ฮาราริเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักและเข้าใจตนเอง รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ได้อย่างถ่องแท้ เขาบอกว่า“การเข้าใจตนเองจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการกระตุ้นทางอารมณ์ได้ดีขึ้น”

    ผู้เขียน "21 Lessons for the 21st Century" ไม่ได้บอกว่า แนวโน้มนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่สำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การเมือง และการพัฒนาตนเอง

    เพื่อรักษาสมดุล
    ระหว่างอารมณ์และเหตุผล
    ในยุคสมัยปัจจุบัน
    ที่“อารมณ์”อาจมีอิทธิพล
    มากขึ้นเรื่อยๆ​​​​​​​​​​​​​​​​

    🌻

    จากข่าวสารประเด็นร้อนแรงในประเทศไทยวันนี้ เราก็ได้เห็นการใช้ Storytelling ในทางที่ผิดหลายเรื่อง

    เรื่องเล่าถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างภาพลวงตา มุ่งเน้นการกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการให้ข้อมูลที่เป็นจริง

    นิทานเหล่านี้สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จและความมั่งคั่ง ทำให้คนมองข้ามความเสี่ยงและความเป็นจริงของสถานการณ์

    เรื่องเล่าที่น่าประทับใจอาจทำให้ผู้ฟังลดการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ ผู้คนอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของ“อารมณ์” มากกว่า“ความจริง” อย่างที่ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ กล่าวไว้ไม่มีผิด

    Storytelling : นิทานหรือเรื่องเล่าที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว แม้กับคนแปลกหน้า ในกรณีของการหลอกลวง Storytelling ถูกใช้เพื่อลดความระแวดระวังของเหยื่อ เรื่องเล่าที่สวยงามอาจถูกใช้เพื่อปิดบังความจริงที่น่าเป็นห่วงหรือรายละเอียดที่สำคัญ

    ในกรณีของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM นิทาน เรื่องเล่า หรือ Storytelling ทั้งหลาย อาจถูกใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่กดดันให้สมาชิกไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญกับความล้มเหลว

    เรื่องเล่าเหล่านี้
    มักเล็งเป้าไปที่ความฝัน
    และความหวังของผู้คน
    ทำให้เหยื่ออ่อนไหวและเปราะบาง
    ทำให้ง่ายที่จะหลอกลวง

    🌻

    นิทาน เรื่องเล่า Storytelling ทั้งหลาย มันไม่ได้เลวร้ายในตัวมันเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้

    ในด้านบวก Storytelling สามารถใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สอน และสื่อสารความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สิ่งสำคัญที่คนเรายุคนี้ต้องรับมือ
    คือต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
    และการรู้เท่าทันสื่อของตัวเอง
    เพื่อแยกแยะให้ออก
    ระหว่างการใช้ Storytelling
    ในทางที่สร้างสรรค์
    หรือการใช้เพื่อหลอกลวง

    🌻

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/sg5pYj1hseTp1QGK/?mibextid=CTbP7

    #Thaitimes
    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ปราย พันแสง เมื่อคืนดูคลิปบอสเล่านิทานเรื่อง“มดไต่แก้ว”แล้วนอนไม่หลับเอาเลย ยอมรับว่าเล่าเก่งโคตร ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม จึงมีเหยื่อมากมายนัก ก็มันชวนเคลิ้มซะขนาดนี้ 🌻 นานมาแล้ว สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเคยบอกว่า "The most powerful person in the world is the storyteller.“ คนที่ทรงพลังที่สุดในโลกคือนักเล่าเรื่อง จอบส์ฟันธงไว้อย่างนั้น เขาบอกว่า“นักเล่าเรื่อง” หรือคนที่เล่าเรื่องเป็น(storyteller) จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยม และระเบียบวาระต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้กับผู้คนทั้งเจเนอเรชั่น อาจจะกล่าวได้ว่า นักเล่าเรื่องเก่งๆ นั้นสามารถกำหนดเทรนด์หรือทิศทางของสังคมได้ ส่วนที่จอบส์ไม่ได้บอกไว้ก็คือ นักเล่าเรื่องเก่งๆ หลายคน สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความฉิบหายระดับหมื่นล้านแสนล้านได้ด้วย สิ่งที่ปรากฏต่อสังคมไทยในวันนี้ มันอาจเป็นประจักษ์พยานด้านมืด ของ storyteller อย่างชัดๆ 🌻 “มดไต่แก้ว” เป็นเรื่องเล่าง่ายๆ เกี่ยวกับมดที่พยายามป่ายปีนออกไปให้พ้นแก้ว มดบางตัวปีนไปจนอยู่ในจุดสูงที่สุดของปากแก้ว แต่แล้วก็ตกลงมา บอสบอกไว้คมเฉียบว่า ”การตกลงมาจากจุดสูงสุดอย่างนั้น มันทำให้เจ็บที่สุด ทำให้มีมดบางตัวยอมแพั แต่ก็ยังมีมดบางตัวสู้ต่อ จนได้รับอิสรภาพในที่สุด“ เคลิ้มมั้ยล่ะ ^__^ 🌻 เอาจริง จากอาชีพอ่านๆ เขียนๆ เรื่องเล่าประเภทนี้ไม่ได้กินเราหรอก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลี อีกทั้งยังต้องอยู่ในสถานะลูกข่ายที่ต้องไล่ล่าทำยอดขาย พลังของเรื่องเล่าแบบนี้มันพุ่งปรี๊ดทะลุปม กระแทกต่อมได้ตรงจุด จึงไม่น่าแปลกใจถ้ามันจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งตรึงใจ เราเองฟังเรื่องมดไต่แก้วนี้กลับไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้มีใครเคยฟังมั้ย เป็นนิทานเรื่องกบกระโดด เรื่องมีอยู่ว่า มีกบตัวหนึ่งพยายามปีนออกจากบ่อลึก ทุกครั้งที่มันพยายามกระโดด เพื่อนๆ กบจะพากันตะโกนห้ามว่า "เลิกเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!" ทว่ากบตัวนั้นไม่ยอมแพ้ สุดท้ายในการกระโดดครั้งที่ 99 มันก็กระโดดออกจากบ่อได้สำเร็จ แต่ความจริงของเรื่องนี้คือ กบตัวนี้หูหนวก มันเลยไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากเพื่อนๆ เลยสักนิดเดียว ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับผู้เสียหายมากมาย ที่ไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย เหมือนกบหูหนวก 🌻 คดีบอสๆ นี้ เราว่านิทานเรื่องมดไต่แก้วนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรารู้สึกเองว่ามันทรงพลังแห่ง storytelling จริงๆ น่าจะเป็นนิทานเรื่องจริงที่แชร์กันเยอะๆ วันนี้ ที่เป็นคลิปเล่าเรื่องบอสพอลพาผู้ชมกลับไปทัวร์สลัมคลองเตยบ้านเกิด พาไปชมแฟลตเก่าชั้นสองห้อง 16 ที่เคยเติบโตมา แคปชั่นตรึงใจ “ผมไม่เคยลืม...ว่าผมเติบโตมาจากที่ไหน ชุมชนแออัด หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "สลัม"ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยังเริ่มต้นสร้างชีวิต” “20 ปีที่แล้ว กับภาพในวันนี้ ทุกอย่างมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่ามันหยุดเวลาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง มันคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งคน ที่ชีวิตไม่พร้อม แต่มีความฝัน ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิตทุก ๆ ท่านครับ“ คลิปถ่ายสวย ไม่เวอร์ ภาพดี เสียงดี เล่าเรื่องดี นักแสดง(บอสพอล)แอ๊คติ้งเป็นธรรมชาติ ไม่มีตรงไหนชวนแหวะ หรือชวนเอ๊ะเลย ยิ่งตอนโทรคุยกับแม่หน้าแฟลตเก่า พูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอร่อยที่ยังขายอยู่นั่นก็ดูจะเป็นซีนที่น่าจดจำมากทีเดียว คือถ้าไม่ติดเรื่องข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเนี่ย อยากเชิญคนทำคลิปนี้ไปสร้างหนังไทยเลย อยากดู ในคลิปนี้ บอสยืนพูดหน้าแฟลตที่สกปรกรุงรังว่า ตอนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งนี้ ชีวิตวัยนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าอยากดูแลแม่ให้มีความสุขเท่านั้น ตรงนี้เชื่อว่าเอฟซีอาจน้ำตาร่วง อีกทั้งน้ำเสียงของแม่ปลายสาย ก็ร่าเริงมีความสุข กับการพูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่เคยกินสมัยอยู่สลัม สื่อให้เห็นว่าเมื่อก้าวพ้นความยากจนไปแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ในสลัมธรรมดาก็ยังงดงามขึ้นมาได้ ทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนลื่นไหล เป็นคลิปฟิลลิ่ง Nostalgia การรำลึกความหลังยากแค้นของเศรษฐีหมื่นล้านที่สุดละเมียดจริงแท้ ใครไม่เคลิ้มให้มันรูัไป ยอดขายระเบิดเถิดเทิงหมื่นล้านแสนล้าน ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุคๆ แน่นอน มันผ่านการเล่าเรื่องที่คัดเค้นมาแล้วอย่างประณีต เพื่อพิชิตใจมหาชนคนสามัญที่คุ้นเคยชมชอบกับเรื่องดรามาชนิดซึมเข้ากระดูกดำแบบไทยๆ เราอย่างเหมาะเหม็ง ดูคลิปนี้แล้วยิ่งไม่แปลกใจเลยสักนิด ว่าทำไมลูกข่ายหอบเงินมาประเคนให้ เป็นหลักหมื่นแสนล้าน 🌻 เอาจริง เรื่องเล่าตรึงใจระคายต่อมพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก มันเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่มีใช้กันนานแล้วในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงหลอกลวงต้มตุ๋น ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลทำลายสถิติได้ทุกยุคสมัย เรื่องเล่ากระตุ้นต่อมที่ชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย ก็คงจะเป็นนิทานเรื่อง“ปลาทอง" ในคดีฉ้อฉลของเบอร์นี แมดอฟฟ์ในอเมริกา ที่น่าจะอื้อฉาวพอๆ กับคดีดิ ไอคอน ในเมืองไทยตอนนี้ก็ว่าได้ สมัยนั้น เบอร์นี แมดอฟฟ์ ก็มักจะชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบการลงทุนกับการให้อาหารปลาทอง โดยบอกว่าต้องให้อาหารสม่ำเสมอ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง เขาใช้เรื่องนี้อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่ "สม่ำเสมอ" ของเขา ซึ่งในความเป็นจริงคือแผนการณ์หลอกลวงแบบพอนซี (Ponzi scheme- คล้ายแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่มีสินค้า ใช้วิธีเอาเงินคนใหม่ไปจ่ายให้คนเก่าวนไปเรื่อยๆ ) พอนซีของแมดอล์ฟฟ์มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แมดอล์ฟฟ์ใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาทองเพื่อสื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขานั้น "สม่ำเสมอ" และ "ปลอดภัย" เขาอ้างว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่และน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีกลยุทธ์ที่มั่นคง ในความเป็นจริง แมดอล์ฟฟ์ไม่ได้นำเงินของลูกค้าไปลงทุนเลยสักนิด เขาใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของแผนพอนซี ผลตอบแทน "สม่ำเสมอ" ที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่เขาสร้างขึ้นมาเอง แผนฉ้อโกงนี้ดำเนินมานานหลายทศวรรษก่อนจะถูกเปิดโปงในปี 2008 มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงบุคคลทั่วไป องค์กรการกุศล และสถาบันการเงิน ปัจจุบันแมดอล์ฟฟ์ถูกจับกุม และถูกตัดสินจำคุก 150 ปี 🌻 นอกจากนิทานปลาทองของแมดอล์ฟฟ์ ยังมีนิทานอีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “ช้างล่ามโซ่” ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของบริษัท One Coin One Coin เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) แต่ในความเป็นจริงเป็นแผนหลอกลวงแบบพีระมิด (pyramid scheme) ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ต้มตุ๋น รูจา อิกนาโตวา (Ruja Ignatova) ผู้ก่อตั้ง One Coin เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองรูส ประเทศบัลแกเรีย ย้ายไปเยอรมนีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนซ์ ประเทศเยอรมนี เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในปี 2014 เธอก่อตั้งบริษัท One Coin ซึ่งอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่ บริษัท One Coin เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2016 เริ่มมีการสงสัยและตรวจสอบ One Coin ว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่ วันที่ 25 ตุลาคม 2017 รูจาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากบินจากโซเฟียไปยังเอเธนส์ ในปี 2019 เธอถูกฟ้องในสหรัฐอเมริกาในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน 🌻 ในการหลอกล่อเหยื่อมาลงทุน รูจา อิกนาโตวา มักใช้นิทานเรื่องช้างล่ามโซ่ในการปราศรัยบ่อยครั้ง เธอเปรียบเทียบว่าคนทั่วไปเหมือนช้างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ทางการเงิน ไม่กล้าที่จะหลุดพ้น เธอชี้ให้เห็นว่า One Coin คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ "ตัดโซ่" และเป็นอิสระทางการเงิน นิทานเรื่องนี้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าตนกำลัง "ติดกับดัก" ทางการเงิน สร้างความรู้สึกว่า One Coin เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางการเงิน สร้างแรงจูงใจให้คนกล้าที่จะ "ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ" และเข้าร่วมโครงการ ในความเป็นจริง One Coin ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลจริง ไม่มีบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง เป็นระบบพีระมิดที่สร้างรายได้จากการรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินหรือแลกเปลี่ยน One Coin เป็นเงินจริงได้ One Coin มีผู้เสียหายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน ความเสียหายทางการเงินประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รูจา อิกนาโตวา ได้รับฉายาว่า “ราชินีคริปโต” หรือ Cryptoqueen เธอหายตัวไปในปี 2017 ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของ FBI ปัจจุบัน เธอกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย​​​​​​​​​​​​​​​​จนทุกวันนี้ 🌻 จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่าอย่าง "ช้างล่ามโซ่" ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรระวังโครงการที่สัญญาว่าจะทำให้รวยอย่างรวดเร็วหรือหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินอย่างง่ายดาย คดีนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าที่สร้างแรงบันดาลใจสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนักเช่น cryptocurrency 🌻 ยังมีนิทานประเภทสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายหลายเรื่อง ที่มักนำมาใช้ในบริบทการฉ้อโกงลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิทานเรื่อง“มีดเหลาดินสอ”ที่หลายคนอาจจะคุ้น พวกคอร์สอบรมต่างๆ จะเอามาเล่าบ่อย เรื่องราวมีอยู่ว่า ดินสอบ่นว่าเจ็บเมื่อถูกเหลา แต่มีดเหลาบอกว่า "การเจ็บนี้จะทำให้เธอแหลมคมและเขียนได้ดีขึ้น“ นิทานเรื่องนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แง่คิดเรื่องความอดทนต่อความยากลำบากที่อาจทำให้เราได้เติบโตและพัฒนา 🌻 "นิทานเรื่องช้างและเชือกเส้นเล็ก" เรื่องมีอยู่ว่าในคณะละครสัตว์ มีช้างตัวใหญ่ถูกล่ามด้วยเชือกเส้นเล็กๆ เด็กน้อยสงสัยว่าทำไมช้างไม่ดึงเชือกให้ขาด คนเลี้ยงช้างอธิบายว่า ตั้งแต่ช้างยังเล็ก มันถูกล่ามด้วยโซ่ใหญ่ที่ไม่สามารถหลุดได้ ช้างจึงเชื่อว่าตัวเองไม่มีทางหลุดจากการล่าม แม้โตแล้วก็ยังคิดเช่นนั้น 🌻 "นิทานเรื่องหินสลักและค้อน" เรื่องราวของช่างแกะสลักกำลังทำงานบนหินก้อนใหญ่ เขาตีค้อนลงบนหินครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เห็นผล คนผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมแพ้ ในที่สุด หลังจากตีค้อนครั้งที่ 101 หินก็แตกออกตามที่เขาต้องการ ช่างแกะสลักอธิบายว่า "ไม่ใช่การตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้หินแตก แต่มันเป็นผลรวมของการตีทุกครั้งที่ผ่านมา" 🌻 นิทานเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อสื่อถึงความอดทน การไม่ยอมแพ้ และการเอาชนะข้อจำกัดทางความคิด นิทานไม่ได้มีพิษภัยในตัวมันเอง มันเป็นเรื่องเล่าแสนวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจได้จริง แต่เมื่อมีการนำมาใช้ในบริบทของการลงทุนหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การตีความและการนำไปใช้ กลับเป็นสิ่งที่ต้องระวัง บางครั้งนิทานเหล่านี้ มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าเหตุผล อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์ ในบริบทของธุรกิจที่น่าสงสัย อาจใช้เพื่อกดดัน ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ควร การยอมรับความจริง เลิกทนและถอยออกมา ก็อาจเป็นการตัดสินใจ ที่ชาญฉลาดได้เช่นกัน 🌻 “ในยุคข้อมูลข่าวสาร ความจริงกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องเล่าหรือเรื่องราวที่สร้างขึ้น (narratives)” ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ เขียนไว้ในหนังสือ"21 Lessons for the 21st Century"เมื่อหลายปีมาแล้ว (21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต, ดร. นำชัย ชีววิวรรธน์ , สำนักพิมพ์ยิปซี) ฮาราริอธิบายว่าผู้คนมักเชื่อในเรื่องราวที่สอดคล้องกับความเชื่อและอัตลักษณ์ของตน มากกว่าข้อเท็จจริงที่อาจขัดแย้งกับความเชื่อนั้น และชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่ให้ความหมายและอธิบายโลกรอบตัว เขาบอกว่า“เรื่องเล่าเหล่านี้มีพลังมากกว่าข้อเท็จจริงเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณของมนุษย์” ฮาราริเตือนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI และ Big Data สามารถใช้ในการสร้างและเผยแพร่เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างคลิปเรื่องเล่าสารพัดที่ผลิตออกมาชักจูงใจคน) เขาชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์มนุษย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การให้ความสำคัญกับ“อารมณ์”มากกว่า“ความจริง”อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการประชาธิปไตยและการตัดสินใจที่สำคัญ เขาเตือนว่าสังคมอาจถูกชี้นำด้วยการปลุกเร้าอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผลและข้อมูล ในอนาคต ทักษะทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์อาจมีความสำคัญมากกว่าความรู้ทางเทคนิค เขาแนะนำว่าระบบการศึกษาควรปรับตัวเพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับโลกที่อารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทสำคัญ ฮาราริเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักและเข้าใจตนเอง รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ได้อย่างถ่องแท้ เขาบอกว่า“การเข้าใจตนเองจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการกระตุ้นทางอารมณ์ได้ดีขึ้น” ผู้เขียน "21 Lessons for the 21st Century" ไม่ได้บอกว่า แนวโน้มนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่สำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การเมือง และการพัฒนาตนเอง เพื่อรักษาสมดุล ระหว่างอารมณ์และเหตุผล ในยุคสมัยปัจจุบัน ที่“อารมณ์”อาจมีอิทธิพล มากขึ้นเรื่อยๆ​​​​​​​​​​​​​​​​ 🌻 จากข่าวสารประเด็นร้อนแรงในประเทศไทยวันนี้ เราก็ได้เห็นการใช้ Storytelling ในทางที่ผิดหลายเรื่อง เรื่องเล่าถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างภาพลวงตา มุ่งเน้นการกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการให้ข้อมูลที่เป็นจริง นิทานเหล่านี้สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จและความมั่งคั่ง ทำให้คนมองข้ามความเสี่ยงและความเป็นจริงของสถานการณ์ เรื่องเล่าที่น่าประทับใจอาจทำให้ผู้ฟังลดการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ ผู้คนอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของ“อารมณ์” มากกว่า“ความจริง” อย่างที่ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ กล่าวไว้ไม่มีผิด Storytelling : นิทานหรือเรื่องเล่าที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว แม้กับคนแปลกหน้า ในกรณีของการหลอกลวง Storytelling ถูกใช้เพื่อลดความระแวดระวังของเหยื่อ เรื่องเล่าที่สวยงามอาจถูกใช้เพื่อปิดบังความจริงที่น่าเป็นห่วงหรือรายละเอียดที่สำคัญ ในกรณีของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM นิทาน เรื่องเล่า หรือ Storytelling ทั้งหลาย อาจถูกใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่กดดันให้สมาชิกไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญกับความล้มเหลว เรื่องเล่าเหล่านี้ มักเล็งเป้าไปที่ความฝัน และความหวังของผู้คน ทำให้เหยื่ออ่อนไหวและเปราะบาง ทำให้ง่ายที่จะหลอกลวง 🌻 นิทาน เรื่องเล่า Storytelling ทั้งหลาย มันไม่ได้เลวร้ายในตัวมันเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ในด้านบวก Storytelling สามารถใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สอน และสื่อสารความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่คนเรายุคนี้ต้องรับมือ คือต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันสื่อของตัวเอง เพื่อแยกแยะให้ออก ระหว่างการใช้ Storytelling ในทางที่สร้างสรรค์ หรือการใช้เพื่อหลอกลวง 🌻 ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/sg5pYj1hseTp1QGK/?mibextid=CTbP7 #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25-09-67/04 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 42 ชื่อตอน "D-DAY NO MORE WAIT LONGER" อเมริกันห้าวเป้ง สั่งบุกแล้วเฟ้ย! มาตามนัด มาตามแผน พรมแดนเลบานอน-อิสราเอล ปะทะดุเดือด ซีเรียกวักมือเพ่น้องชาวเลบานอนตามพรมแดน อพยพมาได้เลย พร้อมรับไม่อั้น! อีเหี้ยขี้ข้ามะกันส่ง 5000 แต่ซีเรียส่ง 20000 อิรักส่งอีก 20000 ยกพลขึ้นบกแล้วจ๊ะ ไม่วัดให้ตายกันไปข้าง เหี้ยคงนอนตายตาไม่หลับ! สุดท้าย อิหร่านวางแผนมาดี มองขาด ขี้ข้าเหี้ยยิวต้องบูชายันต์ตัวเอง ทหารสหรัฐตัวเป็นๆ กำลังจะกลายเป็นเป้าขีปนาวุธให้ถล่มเล่น เมื่อติดบ่วงสงครามครูเสด เยรูซาเล็ม ทหารประจำการสหรัฐทั่วโลกถูกเรียกใช้บริการ แห่มาตายห่าเป็นหมู่คณะในตะวันออกกลางเพี๊ยบ หลังเพิ่งจะตายห่าไปเป็นหมื่นในศึกยูเครน พิการอีกหลายหมื่น ดอกนี้ ไปไม่สุด หากมรึงแน่จริง ยกมาให้หมดทั้งวอชิงตันสิฟ่ะ ใครก็ดูออก? ห่วงหลังบ้านเหรอจ๊ะ ยังไงก็ไม่รอดดอก! ขณะที่มรึงมั่วแต่ไปเป็นเป้าล่อให้ 3 ฮอ และพันธมิตรโลกอาหรับลงแขก แผ่นดินอเมริกาก็ยังระอุเดือดภายในอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิเดือดปรอทแตกเข้าไปอีก ยามเมื่อเรือรบ เรือดำน้ำ พาเหรดกันเข้ามาเยี่ยมเยียนหลังบ้านมรึง ภาพมันชัด ภาพมันฟ้อง ซ้อมรบเสร็จไม่ได้กลับบ้านน่ะจ๊ะ นอนอาบแดดแถวลาตินเพี๊ยบ ไม่ต้องนับหมู่เกาะแคริบเบี้ยนเลย ที่รัสเซียแอบไปซุกอาวุธลับไว้เยอะ ไซเรนดังเมื่อไหร่ โผล่มาแล้วมรึงจะช็อค! สรุปโลกล้อมเหี้ยเข้าให้! โดมิโน่ แอฟเฟคตามมาทันที ฐานทัพเรือสหรัฐ กองเรือที่ 5 ในบาห์เรน ถูกจับตายแล้วจ๊ะ อิหร่านเตรียมปิดช่องแคบเฮอร์มูซ ทันที ที่มรึงเคลื่อนกำลังออกมาช่วย ใครจะตายห่าก่อนกันล่ะ? ดอกนี้ สาแก่ใจอีช้อยยิ่งนัก เหี้ยอูฐ จำต้องโชว์ผลงาน จะมานอนตีกินต่อไปไม่ได้ เมื่ออิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน ปาเลสไตน์ เปิดหน้าแลกอียิวเหี้ย โดยมีเหี้ยมะกันตามเข้ามาเล่นในเกมส์นี้ ซาอุจำเป็นต้องส่งทหาร และความช่วยเหลือตามมติสันนิบาตอาหรับ ปิดกั้นไม่ให้กองกำลังต่างชาติ เข้ามาในพื้นที่ หรือให้ใช้ฐานในแผ่นดินซาอุ นั่นคือการวัดใจ MBS พูดชัด เมื่อเทดอลล่าร์ เมื่อจับมือปูตินแล้ว ถึงเวลาก็ต้องแสดงความกล้าหาญ จงรักภักดีต่อกลุ่มเช่นกัน อีซาอุ ไม่ได้มาตัวเดียว จะมากับเป็นโขยง เพื่อรักษาพื้นที่ตะวันออกกลางไม่ให้ศึกลามกระจายไปทั่ว ก่อความเสียหายได้ พูดง่ายๆ คือ เชิญฆ่ากันในดินแดนอิสราเอลเท่านั้น มรึงอย่าล้ำเส้น ใครโผล่หัวออกมา กูตามเชือดทันที! เมื่อกองเรือรบสหรัฐ เข้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ไม่ได้ บีบให้ต้องใช้ลูกยาวช่วยเข้าสกัด คำถามคือ มรึงเหลือกี่ลูก ลูกนึงราคาเท่าไหร่ แล้วอีกฝ่ายมีเป็นล้านลูก ราคาถูกกว่ามรึงเยอะ แถมแม่นยำกว่าเหี้ยๆ ยิ่งทำให้คลังแสงสหรัฐเกลี้ยงก็งานนี้ แล้วใครล่ะ กำลังรอยกพลขึ้นบกยึดวอชิงตันตามคุณยายละม่อม เพราะมรึงไม่เหลือเหี้ยอะไรจะสกัดได้อีกแล้ว ทุกอย่างมันมาตามสเตป แผนรีดอาวุธ เขี้ยวเล็บเหี้ย ถังแตกมาชัวร์ ขี้แตกมาแน่! อย่าลืมว่า ทันที ที่ 3 ฮอ จับมือกองกำลังยกพลขึ้นบกได้เมื่อไหร่ จุดจบเยรูซาเล็มมาทันที เพราะมรึงจะไม่สามารถควบคุมพื้นที่อะไรได้อีกแล้ว ทุกพื้นที่กลายเป็นสมรภูมิรบเต็มอัตราศึก ยังไม่นับชาติมุสลิมทั้งโลกที่อาสาจะส่งกองกำลังเข้ามาเต็มไม่อั้น หวังได้กระทืบอียิวซักครั้งก่อนตาย ทั้งแอฟริกา ทั้งอัฟกานิสถาน รอไฟเขียวอยู่ ศึกนี้ อียิวจะลากอเมริกันมาตายห่าเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ดอลล่าร์เกิดที่นี่ แล้วกำลังจะตายห่าที่นี่เช่นกัน! หันไปทะเลจีนใต้ ไอ้สัส! จีนจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ ท้าทายเหี้ย กวักมือเรียก อย่าลีลาเยอะ เข้ามาตายคาตรีนกูซะที อย่าให้รอนาน เรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำ เรือรบนับ 100 ลำ โชว์แสนยานุภาพจนเหี้ยเยี่ยวแตก อยากจะเปิดศึกหลายด้านมิใช่เหรอ? ช่วยตอบคำถามทีว่า มรึงสู้กับอิหร่าน เค้ามีโลกมุสลิม สันนิบาตอาหรับ ลงแขกมรึง มรึงสู้กับจีน เค้ามีกองเรือรบนับร้อย พันธมิตรนับสิบ รอสอยมรึงเช้าเย็น มรึงจะลุยรัสเซีย ใช้ยูเครนเป็นสนามรบ แพ้ยับ ตายห่าคาที่ ทั้ง NATO 40 ชาติหมา ยังเอารัสเซียไม่อยู่ แพ้ราบคาบ แล้วมรึงยังจะเหลือเหี้ยอะไรมางัดกับทั้งโลกไหว ดูความจริง ดูสิ่งที่จะเป็นไปได้ อย่ามโน? เอาตามจริง รัสเซีย จีน เค้าจะเก็บมรึงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ใช้เวงลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ใช้เวลาทำให้ขี้ข้ามรึงย้ายขั้ว ใช้เวลาทำให้โลกประจักษ์ว่า "ตัวเหี้ยหน้าตามันเป็นยังไง" ใช้เวลาทำให้เศรษฐกิจพวกมรึงเจ๊ง พังยับเยิน ใช้เวลาทำให้โลกรวมตัวต่อกันติดเร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อสุกงอม ก็ถึงเวลา "เด็ดผล" และนี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดในพศ.นี้ จีน โสมแดง ยังไม่ได้ออกโรงเลยน่ะ มรึงก็แพ้ราบคาบหมดเกลี้ยงทั้งยุทธวิธี และการทหาร อย่าให้ต้องออก เพราะออกมาแล้ว มันต้องจบที่วอชิงตันเท่านั้น ธงโสมแดง จะปักอยู่บนตึกทำเนียบขาว ให้ควายโลกรู้เต็มตา โลกฮอลีวู๊ดที่มรึงดู กับโลกความเป็นจริง แม่งคนละเรื่อง! สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล NATO กระจอกกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ หลอกควายได้ แต่หลอกความจริงไม่ได้ ว่ามรึงมัน "อ่อนหัด" กระดูกคนละเบอร์ ขั้วใหม่เค้ามาพร้อม มาแรง มาเต็มพิกัด โลกถึงได้เดินตามอยู่ทุกวันนี้ ประเด็น "ไต้หวัน" กลายเป็นแค่น้ำจิ้มทันที ยามเมื่อจีน ปักธงไว้ที่อเมริกาสำเร็จ! ถามประชาชนชาติตะวันตกทั้งหลาย "มรึงยอมโง่ ยอมตายห่าฟรีมั้ย?" สงครามมรึงเหรอ? สงครามที่มรึงก่อเองเหรอ? ทั้งหมด เป็นเพราะนักการเมืองขี้ข้ายิว สนองตัณหาให้ยิว โดยเอาพวกมรึงที่หน้าโง่เลือกเหี้ยเข้ามา พาพวกมรึงไปตายห่าทั้งโคตร สิ้นชาติ สูญพันธุ์ เชิญแดร๊กปชต.กันให้อร่อยในขุมนรกน่ะจ๊ะ อีเอ๋อ ทิ้งทวน ก่อนตกเก้าอี้ เตรียมสั่งแบนรถ EV จีน ทั้งหมด เข้าทางตรีนจีนทันที เพราะอะไร? มรึงแบนเค้าได้ เค้าก็แบนมรึงกลับได้ แล้วอะไรขายดีในจีนล่ะ ก็อีเทสล่า ของอีลอน มัสก์ไง? EV จีนไม่ได้ขายอเมริกาไม่ตาย เพราะทั้งโลกต้องการสูง แต่อีเทสล่าไม่ได้ขายในจีน ตายคาตรีนทันที! ทั้งหมด เป็นแผนอีพรรคลา โยนขี้ให้รัฐบาลใหม่สานต่อ ไม่รู้ยังจะมีรัฐบาลใหม่เหลือต่อไปมั้ย? อเมริกาอาจแตกไปซะก่อนน่ะสิ สงครามหน้ามืดที่มรึงกำลังจะเปิดกับตะวันออกกลางเพื่อช่วยอียิวเหี้ยนายใหญ่ กำลังจะทำให้ระบบทั้งหมดที่มรึงเคยมี จะหายสาบสูญไปทันที เพราะทั้งโลกเค้าจะแบนมรึงหมดแล้ว ไม่ส่ง ไม่ขาย ไม่รับดอลล่าร์ ใครฉิบหายก่อนล่ะ? ส่วนอีทรัมปป์ถูกอียิวเหี้ยไซออนนิสต์หมายหัว เป็นขี้ข้ากู เสือกริจะขึ้นมาเทียบชั้นกู ใครทำให้มรึงเปลี่ยนไป? ก็แสงไงล่ะ?

    ปล.มันส์ล่ะมรึง? อีแดงเสียวตูด หาช่องหลบกฎหมาย เอาเงินโปรยแจกควาย หวังซื้อคะแนนเสียงกลับมา ฝ่ายกฎหมาย ตาวิเศษ จ้องทุกดอก เอาทุกเม็ด ยังไงก็ไม่รอด? ยิ่งดิ้น ยิ่งต่างกรรม ต่างวาระ ผูกกันจนชาติหน้าไม่พอขัง แจกเลยวันนี้ แจกจริงซักที คนรอเชือดกระดิกตรีนรอนานแล้วน่ะ ลงชื่อถ่วงเวลาทำไม? ไม่ว่าจะพลิกลิ้น ดิ้นไปทางไหน สุดท้ายก็หนีความจริงไม่พ้น เงินเอามาจากไหน? ใช้ผิดวัตถุประสงค์ ใช้ผิดกฎระเบียบการคลัง ใช้เพื่อหาเสียง ใช้เพื่อบ่อนทำลายชาติ แค่ดันทุรังจะเอาให้ผ่าน จะเอาให้ได้ เที่ยวประกาศลงชื่อ ลงทะเบียน ยังไม่ผ่านประชุมสภา ยังไม่ผ่านมือศาล เข้าข่ายอะไรเอ่ย? ควายรอคอยด้วยความหวัง 10000 ไม่มา ระวังจะกลายเป็นโดมิโน แอฟเฟค สาปแช่งทั้งแผ่นดินกลับน่ะ เตือนแล้ว! ประชากรควายไทยวันวันตั้งหน้าจะแบมือขอเศษเงินท่าเดียว แค่มรึงคิดจะทำมาหาแดร๊กจริงจัง ไม่ขี้เกียจ และสู้ชีวิต ดำรงตนในความพอเพียง มรึงแทบจะไม่ต้องแบมือขอใครแดร๊กได้สบาย สันดาน เอาแต่ได้ คิดแค่ตัวเอง ควายก็คือควาย! ล่าสุด จีนประกาศหนุนเลบานอนแล้ว เพราะรู้ดีว่า เหี้ยมันแพ้ชัวร์ แล้วจะหันหัวเรือเข้าแปซิฟิคแน่ ดังนั้น ต้องล่อตั้งแต่หัวขบวน จีน รัสเซีย อิหร่าน หนุนใคร ไม่มีคำว่า "แพ้" ชนะเห็นๆ ชนะแบเบอร์ มรึงดูเยเมน เป็นตัวอย่าง NATO เสียหมาทั้งคณะเพราะใคร? อีไก่งวงซ่าส์! งวดนี้ ขอร่วมวงกระทืบเหี้ยด้วย ในฐานะชาติมสุลิม ซัดเหี้ยมะกัน ปากเจรจาสันติภาพ แต่เสือกส่งอาวุธให้ยิว ส่งกองกำลังเสริมเข้าไป นี่มันตั้งใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชัดเจน ก็ดี "นัดล้างตาโลก" ใครเกลียดไอ้อีพวกชาติชั่ว อยากจะไล่ฆ่าล้างโคตรเหี้ยให้หมดโลก ก็ขอเชิญมาที่เยรูซาเล็มได้เลยจ๊ะ เดี๋ยวมรึงได้เห็นฤทธิ์กองกำลังเติร์ก ขุนศึกออตโตมานแน่ ทะเลดำ ช่องแคบบอสฟอรัส ไอ้อีหน้าไหนก็ผ่านไม่ได้ หากกูไม่ปลื้ม รัสเซียสั่งปิดตายไปแล้ว เรือรบเหี้ยไม่กล้าเข้ามาในรัศมีขีปนาวุธร่อน ดูเกมส์โลกตอนนี้ยิ่งชัด เหี้ยเทหมดหน้าตัก แก้ผ้าล่อนจ้อน เหี้ยแท้ ตัวจริง เสียงจริง เอาให้โลกสุมหัวกันเข้ามา จะเปลี่ยนโลก ไม่สูญเสียก็ไม่มีวันเปลี่ยน ด้านอาเซียนพร้อมรับมือ ใครเป็นใคร ขั้วไหน ตอนนี้ต้องเลือกให้ชัดเจน ปากบอกเป็นกลาง แต่การกระทำมันชัดไปนานแล้วว่า อยู่ฝ่ายไหน? มีแค่ 2 ฝ่าย ฝ่ายโลก กับฝ่ายเหี้ย แม้แต่เกมส์ในบ้านศรีธนญชัยก็เช่นกัน เหี้ยสั่งลุย เร่งเครื่องเต็มกำลัง บีบให้อีแดงที่มีแผลเวอะหวะ เตรียมต้องบูชายันต์ตายห่ายกแก๊งค์เหี้ย แพแตกชัวร์

    หมี CNN(ระฆังดังแล้ว สัญญานชัดเจน ROUND 1 เหี้ยกล้าบุก ก็ต้องกล้าตาย สันนิบาตอาหรับจะล้างอสรพิษ ใครอีแอบ ใครหนอนบ่อนไส้ ถึงเวลาเดี๋ยวรู้ ชาติอาหรับมติเดียว ใครยังจะแถต่อ ถีบส่งทันที วัดใจอีซาอุ UAE ถึงเวลากล้าจับปืนฆ่ายิวมุย? แต่ขั้วใหม่เค้าไม่รอมรึงแล้วน่ะ ใส่หมดแม็ก ตายคาที่เกลื่อน อะไรที่ไม่เคยเห็น จะได้เห็น ย้ายขั้ว ย้ายข้างกันเมามันส์ ไม่มีใครอยากจะยืนอยู่ข้างผู้แพ้ดอกน่ะ สัจธรรมโลก เพราะนี่คือ "มนุษย์")
    25 กย. 67
    14.49 น.
    https://linevoom.line.me/post/1172725073690929512
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    25-09-67/04 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 42 ชื่อตอน "D-DAY NO MORE WAIT LONGER" อเมริกันห้าวเป้ง สั่งบุกแล้วเฟ้ย! มาตามนัด มาตามแผน พรมแดนเลบานอน-อิสราเอล ปะทะดุเดือด ซีเรียกวักมือเพ่น้องชาวเลบานอนตามพรมแดน อพยพมาได้เลย พร้อมรับไม่อั้น! อีเหี้ยขี้ข้ามะกันส่ง 5000 แต่ซีเรียส่ง 20000 อิรักส่งอีก 20000 ยกพลขึ้นบกแล้วจ๊ะ ไม่วัดให้ตายกันไปข้าง เหี้ยคงนอนตายตาไม่หลับ! สุดท้าย อิหร่านวางแผนมาดี มองขาด ขี้ข้าเหี้ยยิวต้องบูชายันต์ตัวเอง ทหารสหรัฐตัวเป็นๆ กำลังจะกลายเป็นเป้าขีปนาวุธให้ถล่มเล่น เมื่อติดบ่วงสงครามครูเสด เยรูซาเล็ม ทหารประจำการสหรัฐทั่วโลกถูกเรียกใช้บริการ แห่มาตายห่าเป็นหมู่คณะในตะวันออกกลางเพี๊ยบ หลังเพิ่งจะตายห่าไปเป็นหมื่นในศึกยูเครน พิการอีกหลายหมื่น ดอกนี้ ไปไม่สุด หากมรึงแน่จริง ยกมาให้หมดทั้งวอชิงตันสิฟ่ะ ใครก็ดูออก? ห่วงหลังบ้านเหรอจ๊ะ ยังไงก็ไม่รอดดอก! ขณะที่มรึงมั่วแต่ไปเป็นเป้าล่อให้ 3 ฮอ และพันธมิตรโลกอาหรับลงแขก แผ่นดินอเมริกาก็ยังระอุเดือดภายในอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิเดือดปรอทแตกเข้าไปอีก ยามเมื่อเรือรบ เรือดำน้ำ พาเหรดกันเข้ามาเยี่ยมเยียนหลังบ้านมรึง ภาพมันชัด ภาพมันฟ้อง ซ้อมรบเสร็จไม่ได้กลับบ้านน่ะจ๊ะ นอนอาบแดดแถวลาตินเพี๊ยบ ไม่ต้องนับหมู่เกาะแคริบเบี้ยนเลย ที่รัสเซียแอบไปซุกอาวุธลับไว้เยอะ ไซเรนดังเมื่อไหร่ โผล่มาแล้วมรึงจะช็อค! สรุปโลกล้อมเหี้ยเข้าให้! โดมิโน่ แอฟเฟคตามมาทันที ฐานทัพเรือสหรัฐ กองเรือที่ 5 ในบาห์เรน ถูกจับตายแล้วจ๊ะ อิหร่านเตรียมปิดช่องแคบเฮอร์มูซ ทันที ที่มรึงเคลื่อนกำลังออกมาช่วย ใครจะตายห่าก่อนกันล่ะ? ดอกนี้ สาแก่ใจอีช้อยยิ่งนัก เหี้ยอูฐ จำต้องโชว์ผลงาน จะมานอนตีกินต่อไปไม่ได้ เมื่ออิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน ปาเลสไตน์ เปิดหน้าแลกอียิวเหี้ย โดยมีเหี้ยมะกันตามเข้ามาเล่นในเกมส์นี้ ซาอุจำเป็นต้องส่งทหาร และความช่วยเหลือตามมติสันนิบาตอาหรับ ปิดกั้นไม่ให้กองกำลังต่างชาติ เข้ามาในพื้นที่ หรือให้ใช้ฐานในแผ่นดินซาอุ นั่นคือการวัดใจ MBS พูดชัด เมื่อเทดอลล่าร์ เมื่อจับมือปูตินแล้ว ถึงเวลาก็ต้องแสดงความกล้าหาญ จงรักภักดีต่อกลุ่มเช่นกัน อีซาอุ ไม่ได้มาตัวเดียว จะมากับเป็นโขยง เพื่อรักษาพื้นที่ตะวันออกกลางไม่ให้ศึกลามกระจายไปทั่ว ก่อความเสียหายได้ พูดง่ายๆ คือ เชิญฆ่ากันในดินแดนอิสราเอลเท่านั้น มรึงอย่าล้ำเส้น ใครโผล่หัวออกมา กูตามเชือดทันที! เมื่อกองเรือรบสหรัฐ เข้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ไม่ได้ บีบให้ต้องใช้ลูกยาวช่วยเข้าสกัด คำถามคือ มรึงเหลือกี่ลูก ลูกนึงราคาเท่าไหร่ แล้วอีกฝ่ายมีเป็นล้านลูก ราคาถูกกว่ามรึงเยอะ แถมแม่นยำกว่าเหี้ยๆ ยิ่งทำให้คลังแสงสหรัฐเกลี้ยงก็งานนี้ แล้วใครล่ะ กำลังรอยกพลขึ้นบกยึดวอชิงตันตามคุณยายละม่อม เพราะมรึงไม่เหลือเหี้ยอะไรจะสกัดได้อีกแล้ว ทุกอย่างมันมาตามสเตป แผนรีดอาวุธ เขี้ยวเล็บเหี้ย ถังแตกมาชัวร์ ขี้แตกมาแน่! อย่าลืมว่า ทันที ที่ 3 ฮอ จับมือกองกำลังยกพลขึ้นบกได้เมื่อไหร่ จุดจบเยรูซาเล็มมาทันที เพราะมรึงจะไม่สามารถควบคุมพื้นที่อะไรได้อีกแล้ว ทุกพื้นที่กลายเป็นสมรภูมิรบเต็มอัตราศึก ยังไม่นับชาติมุสลิมทั้งโลกที่อาสาจะส่งกองกำลังเข้ามาเต็มไม่อั้น หวังได้กระทืบอียิวซักครั้งก่อนตาย ทั้งแอฟริกา ทั้งอัฟกานิสถาน รอไฟเขียวอยู่ ศึกนี้ อียิวจะลากอเมริกันมาตายห่าเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ดอลล่าร์เกิดที่นี่ แล้วกำลังจะตายห่าที่นี่เช่นกัน! หันไปทะเลจีนใต้ ไอ้สัส! จีนจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ ท้าทายเหี้ย กวักมือเรียก อย่าลีลาเยอะ เข้ามาตายคาตรีนกูซะที อย่าให้รอนาน เรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำ เรือรบนับ 100 ลำ โชว์แสนยานุภาพจนเหี้ยเยี่ยวแตก อยากจะเปิดศึกหลายด้านมิใช่เหรอ? ช่วยตอบคำถามทีว่า มรึงสู้กับอิหร่าน เค้ามีโลกมุสลิม สันนิบาตอาหรับ ลงแขกมรึง มรึงสู้กับจีน เค้ามีกองเรือรบนับร้อย พันธมิตรนับสิบ รอสอยมรึงเช้าเย็น มรึงจะลุยรัสเซีย ใช้ยูเครนเป็นสนามรบ แพ้ยับ ตายห่าคาที่ ทั้ง NATO 40 ชาติหมา ยังเอารัสเซียไม่อยู่ แพ้ราบคาบ แล้วมรึงยังจะเหลือเหี้ยอะไรมางัดกับทั้งโลกไหว ดูความจริง ดูสิ่งที่จะเป็นไปได้ อย่ามโน? เอาตามจริง รัสเซีย จีน เค้าจะเก็บมรึงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ใช้เวงลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ใช้เวลาทำให้ขี้ข้ามรึงย้ายขั้ว ใช้เวลาทำให้โลกประจักษ์ว่า "ตัวเหี้ยหน้าตามันเป็นยังไง" ใช้เวลาทำให้เศรษฐกิจพวกมรึงเจ๊ง พังยับเยิน ใช้เวลาทำให้โลกรวมตัวต่อกันติดเร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อสุกงอม ก็ถึงเวลา "เด็ดผล" และนี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดในพศ.นี้ จีน โสมแดง ยังไม่ได้ออกโรงเลยน่ะ มรึงก็แพ้ราบคาบหมดเกลี้ยงทั้งยุทธวิธี และการทหาร อย่าให้ต้องออก เพราะออกมาแล้ว มันต้องจบที่วอชิงตันเท่านั้น ธงโสมแดง จะปักอยู่บนตึกทำเนียบขาว ให้ควายโลกรู้เต็มตา โลกฮอลีวู๊ดที่มรึงดู กับโลกความเป็นจริง แม่งคนละเรื่อง! สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล NATO กระจอกกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ หลอกควายได้ แต่หลอกความจริงไม่ได้ ว่ามรึงมัน "อ่อนหัด" กระดูกคนละเบอร์ ขั้วใหม่เค้ามาพร้อม มาแรง มาเต็มพิกัด โลกถึงได้เดินตามอยู่ทุกวันนี้ ประเด็น "ไต้หวัน" กลายเป็นแค่น้ำจิ้มทันที ยามเมื่อจีน ปักธงไว้ที่อเมริกาสำเร็จ! ถามประชาชนชาติตะวันตกทั้งหลาย "มรึงยอมโง่ ยอมตายห่าฟรีมั้ย?" สงครามมรึงเหรอ? สงครามที่มรึงก่อเองเหรอ? ทั้งหมด เป็นเพราะนักการเมืองขี้ข้ายิว สนองตัณหาให้ยิว โดยเอาพวกมรึงที่หน้าโง่เลือกเหี้ยเข้ามา พาพวกมรึงไปตายห่าทั้งโคตร สิ้นชาติ สูญพันธุ์ เชิญแดร๊กปชต.กันให้อร่อยในขุมนรกน่ะจ๊ะ อีเอ๋อ ทิ้งทวน ก่อนตกเก้าอี้ เตรียมสั่งแบนรถ EV จีน ทั้งหมด เข้าทางตรีนจีนทันที เพราะอะไร? มรึงแบนเค้าได้ เค้าก็แบนมรึงกลับได้ แล้วอะไรขายดีในจีนล่ะ ก็อีเทสล่า ของอีลอน มัสก์ไง? EV จีนไม่ได้ขายอเมริกาไม่ตาย เพราะทั้งโลกต้องการสูง แต่อีเทสล่าไม่ได้ขายในจีน ตายคาตรีนทันที! ทั้งหมด เป็นแผนอีพรรคลา โยนขี้ให้รัฐบาลใหม่สานต่อ ไม่รู้ยังจะมีรัฐบาลใหม่เหลือต่อไปมั้ย? อเมริกาอาจแตกไปซะก่อนน่ะสิ สงครามหน้ามืดที่มรึงกำลังจะเปิดกับตะวันออกกลางเพื่อช่วยอียิวเหี้ยนายใหญ่ กำลังจะทำให้ระบบทั้งหมดที่มรึงเคยมี จะหายสาบสูญไปทันที เพราะทั้งโลกเค้าจะแบนมรึงหมดแล้ว ไม่ส่ง ไม่ขาย ไม่รับดอลล่าร์ ใครฉิบหายก่อนล่ะ? ส่วนอีทรัมปป์ถูกอียิวเหี้ยไซออนนิสต์หมายหัว เป็นขี้ข้ากู เสือกริจะขึ้นมาเทียบชั้นกู ใครทำให้มรึงเปลี่ยนไป? ก็แสงไงล่ะ? ปล.มันส์ล่ะมรึง? อีแดงเสียวตูด หาช่องหลบกฎหมาย เอาเงินโปรยแจกควาย หวังซื้อคะแนนเสียงกลับมา ฝ่ายกฎหมาย ตาวิเศษ จ้องทุกดอก เอาทุกเม็ด ยังไงก็ไม่รอด? ยิ่งดิ้น ยิ่งต่างกรรม ต่างวาระ ผูกกันจนชาติหน้าไม่พอขัง แจกเลยวันนี้ แจกจริงซักที คนรอเชือดกระดิกตรีนรอนานแล้วน่ะ ลงชื่อถ่วงเวลาทำไม? ไม่ว่าจะพลิกลิ้น ดิ้นไปทางไหน สุดท้ายก็หนีความจริงไม่พ้น เงินเอามาจากไหน? ใช้ผิดวัตถุประสงค์ ใช้ผิดกฎระเบียบการคลัง ใช้เพื่อหาเสียง ใช้เพื่อบ่อนทำลายชาติ แค่ดันทุรังจะเอาให้ผ่าน จะเอาให้ได้ เที่ยวประกาศลงชื่อ ลงทะเบียน ยังไม่ผ่านประชุมสภา ยังไม่ผ่านมือศาล เข้าข่ายอะไรเอ่ย? ควายรอคอยด้วยความหวัง 10000 ไม่มา ระวังจะกลายเป็นโดมิโน แอฟเฟค สาปแช่งทั้งแผ่นดินกลับน่ะ เตือนแล้ว! ประชากรควายไทยวันวันตั้งหน้าจะแบมือขอเศษเงินท่าเดียว แค่มรึงคิดจะทำมาหาแดร๊กจริงจัง ไม่ขี้เกียจ และสู้ชีวิต ดำรงตนในความพอเพียง มรึงแทบจะไม่ต้องแบมือขอใครแดร๊กได้สบาย สันดาน เอาแต่ได้ คิดแค่ตัวเอง ควายก็คือควาย! ล่าสุด จีนประกาศหนุนเลบานอนแล้ว เพราะรู้ดีว่า เหี้ยมันแพ้ชัวร์ แล้วจะหันหัวเรือเข้าแปซิฟิคแน่ ดังนั้น ต้องล่อตั้งแต่หัวขบวน จีน รัสเซีย อิหร่าน หนุนใคร ไม่มีคำว่า "แพ้" ชนะเห็นๆ ชนะแบเบอร์ มรึงดูเยเมน เป็นตัวอย่าง NATO เสียหมาทั้งคณะเพราะใคร? อีไก่งวงซ่าส์! งวดนี้ ขอร่วมวงกระทืบเหี้ยด้วย ในฐานะชาติมสุลิม ซัดเหี้ยมะกัน ปากเจรจาสันติภาพ แต่เสือกส่งอาวุธให้ยิว ส่งกองกำลังเสริมเข้าไป นี่มันตั้งใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชัดเจน ก็ดี "นัดล้างตาโลก" ใครเกลียดไอ้อีพวกชาติชั่ว อยากจะไล่ฆ่าล้างโคตรเหี้ยให้หมดโลก ก็ขอเชิญมาที่เยรูซาเล็มได้เลยจ๊ะ เดี๋ยวมรึงได้เห็นฤทธิ์กองกำลังเติร์ก ขุนศึกออตโตมานแน่ ทะเลดำ ช่องแคบบอสฟอรัส ไอ้อีหน้าไหนก็ผ่านไม่ได้ หากกูไม่ปลื้ม รัสเซียสั่งปิดตายไปแล้ว เรือรบเหี้ยไม่กล้าเข้ามาในรัศมีขีปนาวุธร่อน ดูเกมส์โลกตอนนี้ยิ่งชัด เหี้ยเทหมดหน้าตัก แก้ผ้าล่อนจ้อน เหี้ยแท้ ตัวจริง เสียงจริง เอาให้โลกสุมหัวกันเข้ามา จะเปลี่ยนโลก ไม่สูญเสียก็ไม่มีวันเปลี่ยน ด้านอาเซียนพร้อมรับมือ ใครเป็นใคร ขั้วไหน ตอนนี้ต้องเลือกให้ชัดเจน ปากบอกเป็นกลาง แต่การกระทำมันชัดไปนานแล้วว่า อยู่ฝ่ายไหน? มีแค่ 2 ฝ่าย ฝ่ายโลก กับฝ่ายเหี้ย แม้แต่เกมส์ในบ้านศรีธนญชัยก็เช่นกัน เหี้ยสั่งลุย เร่งเครื่องเต็มกำลัง บีบให้อีแดงที่มีแผลเวอะหวะ เตรียมต้องบูชายันต์ตายห่ายกแก๊งค์เหี้ย แพแตกชัวร์ หมี CNN(ระฆังดังแล้ว สัญญานชัดเจน ROUND 1 เหี้ยกล้าบุก ก็ต้องกล้าตาย สันนิบาตอาหรับจะล้างอสรพิษ ใครอีแอบ ใครหนอนบ่อนไส้ ถึงเวลาเดี๋ยวรู้ ชาติอาหรับมติเดียว ใครยังจะแถต่อ ถีบส่งทันที วัดใจอีซาอุ UAE ถึงเวลากล้าจับปืนฆ่ายิวมุย? แต่ขั้วใหม่เค้าไม่รอมรึงแล้วน่ะ ใส่หมดแม็ก ตายคาที่เกลื่อน อะไรที่ไม่เคยเห็น จะได้เห็น ย้ายขั้ว ย้ายข้างกันเมามันส์ ไม่มีใครอยากจะยืนอยู่ข้างผู้แพ้ดอกน่ะ สัจธรรมโลก เพราะนี่คือ "มนุษย์") 25 กย. 67 14.49 น. https://linevoom.line.me/post/1172725073690929512 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิดถึงพ่อหลวง พระองค์ท่านที่อยู่บนสรวงสวรรค์ หลายปีแล้วที่ท่านสวรรคต แต่ทุกวันนี้ก็ยังใจหาย ร้องไห้อยู่ทุกวัน เมื่อเห็นรูปภาพท่าน ยังคงทำใจยากให้ยอมรับไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามต่อไป อยู่อย่างมีความหวัง เจ็บปวดบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ก็ยังคงต้องสู้ชีวิตต่อไป เผื่อท่าน ที่เป็นเหมือนกับแสงสว่างแรงบันดาลใจในชีวิตของผู้คนที่รักและคิดถึงท่านอยู่เสมอๆตลอดเวลา
    คิดถึงพ่อหลวง พระองค์ท่านที่อยู่บนสรวงสวรรค์ หลายปีแล้วที่ท่านสวรรคต แต่ทุกวันนี้ก็ยังใจหาย ร้องไห้อยู่ทุกวัน เมื่อเห็นรูปภาพท่าน ยังคงทำใจยากให้ยอมรับไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามต่อไป อยู่อย่างมีความหวัง เจ็บปวดบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ก็ยังคงต้องสู้ชีวิตต่อไป เผื่อท่าน ที่เป็นเหมือนกับแสงสว่างแรงบันดาลใจในชีวิตของผู้คนที่รักและคิดถึงท่านอยู่เสมอๆตลอดเวลา
    Love
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้พ่อไม่รัก รีบตีจาก ไม่เป็นไร "แม่และตายาย" พร้อมสู้ดูแลหนูเอง! #สู้เพื่อลูก #สู้เพื่อหลาน #พิการ #สู้ชีวิต #แรงบันดาลใจ #เทรนด์วันนี้ #ฅนจริงใจไม่ท้อ
    แม้พ่อไม่รัก รีบตีจาก ไม่เป็นไร "แม่และตายาย" พร้อมสู้ดูแลหนูเอง! #สู้เพื่อลูก #สู้เพื่อหลาน #พิการ #สู้ชีวิต #แรงบันดาลใจ #เทรนด์วันนี้ #ฅนจริงใจไม่ท้อ
    Like
    Love
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 380 0 รีวิว
  • ฆ่าลูกไม่ลง! แม้รู้ว่าลูกจะเกิดมาพิการ ไม่ขอยุติการตั้งครรภ์ ทั้งแม่และตายายทุ่มเทดูแลหลานอย่างสุดกำลัง ถึงขั้นยอมออกจากงานประจำ-อดมื้อกินมื้อ พร้อมสู้เพื่อลูกอิ่ม!

    “ตอนช่วงประมาณ 8 เดือนกว่าเกือบ 9 เดือน ใกล้จะคลอดแล้ว หมอตรวจเจอความผิดปกติที่ศีรษะของน้อง มันไม่โตตามเกณฑ์ เหมือนมีน้ำ รักษาไม่ได้เลย ตอนนั้นยังไม่เจอความผิดปกติของขานะ เจอแค่หัวของน้อง หมอก็บอกว่า ยุติการตั้งครรภ์ไหม ก็ถามว่าทำยังไง คือเข้าไปตัดชิ้นส่วนของน้อง ทั้งๆ ที่น้องยังหายใจอยู่ พอได้ยิน หนูก็ช็อกแล้ว ทำใจไม่ได้”

    ไม่ใช่แค่ “ส้มแป้น” คณิศร แสงอุไร ผู้เป็นแม่ที่รับไม่ได้หากต้องยุติการตั้งครรภ์ แต่ตากับยายก็รู้สึกไม่ต่างกัน และไม่อยากสร้างบาปด้วยการจบชีวิตหลาน อยากให้หลานได้มีโอกาสลืมตาดูโลก “ให้เขาออกมาดีกว่า เพราะไหนๆ เขาก็อยากจะเกิดแล้ว ถ้าเกิดมาผิดรูปผิดร่างหรือจะเป็นยังไงก็หลานเรา เลือดเนื้อเชื้อไขของเรา เราก็บอกเขาเลยว่า เราขอไม่ยุติการตั้งครรภ์”

    ขณะที่ตาและยายพร้อมช่วยดูแลหลานพิการที่จะเกิดมา แต่ผู้เป็นพ่อที่ทำให้ลูกเกิด กลับทอดทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเพียงเพราะคำว่าพิการ “วันที่รู้ช่วงใกล้คลอดว่า น้องไม่สมประกอบ น้องมีความผิดปกติ ก็โทรไปบอกเขาก่อน เขาก็รับรู้เรื่อง ..วันต่อมา เราก็โทรไปอีก ไม่รับสาย ..ตั้งแต่ที่ยังไม่คลอดจนคลอด ก็ติดต่อไม่ได้เลย หลังจากที่รู้ว่าลูกสาวของเราพิการ”

    ปัจจุบัน “น้องบุญรักษา” อายุ 6 ขวบ มีภาวะหัวโตหรือที่เรียกว่า เด็กหัวบาตร และแขนขาพิการผิดรูป นั่งไม่ได้ ขับถ่ายเองไม่ได้ ซึ่งผู้เป็นแม่และตายายไม่เคยคิดเสียใจกับสภาพที่น้องเป็น แต่ภูมิใจด้วยซ้ำที่ได้มีโอกาสดูแลน้อง

    “(ถาม-ตอนเห็นหน้าน้องหลังคลอด คุณตารู้สึกยังไงบ้าง?) ไม่รู้สึกเสียใจ ยังไงก็เป็นหลานของเรา เราภูมิใจที่เขาเกิดมา และเลือกครอบครัวของเราที่จะเป็นผู้ดูแลเขา เราต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดในชีวิตหนึ่งที่เขาอยู่กับเรา ไม่ว่าจะสั้นหรือน้อย ตรงนี้เราก็ทุ่มเทให้กับเขา”

    ความพิการและเจ็บป่วยของน้องบุญรักษาทำให้น้องต้องเข้า-ออก รพ.บ่อยๆ บางครั้งต้องอยู่ รพ.นานนับเดือน จึงส่งผลให้แม่ และตากับยาย ต้องทยอยลาออกจากงานประจำ เพื่อดูแลน้องบุญรักษา “ตอนนั้นยายทำงานร้านยาเป็นผู้ช่วยเภสัช เขาจ้างเราคนเดียว เราก็ผลัดกันลากับเจ้าส้มไปเฝ้าหลาน ทางเภสัชก็สงสารและเข้าใจ แต่ร้านเขาก็ต้องเปิดทุกวัน เราก็ขอลาออกก่อนแล้วกัน เพื่อให้ส้มยังทำงานได้ แต่สุดท้ายร่างกายเรามันก็รับไม่ไหว เพราะเป็นเนื้องอกและความดันด้วย ก็ต้องดึงเจ้าส้มมาเฝ้าอีก เพราะน้องอยู่ในห้องวิกฤต”

    “ก่อนคลอด หนูทำงานร้านเบอเกอร์ พอลาคลอด แล้วรู้ว่าลูกพิการ ช่วงนั้นน้องบุญรักษาต้องอยู่ที่ รพ. เกือบ 1 เดือนเต็มๆ แล้วลูกผิดปกติ เราเลยต้องขอลาออก”

    “ตอนแรกพ่อทำงานบริษัทอยู่ พอหลานเราต้องไป รพ.บ่อย เราต้องหยุดงานบ่อย ทางบริษัทก็ตำหนิ เราก็ออกจากงานมาดูแลหลาน แล้วก็ไปเช่าแท็กซี่มาขับเพื่อพยุงไปก่อน เพราะมันเป็นพาหนะในการพาหลานเดินทางไป รพ.ด้วย”

    ไม่ใช่แค่รายได้หดหายหลังออกจากงานประจำทั้ง 3 คน แต่วิกฤตใหญ่ที่ตามมาคือบ้านถูกยึด เพราะส่งไม่ไหว “ช่วงนั้นแย่ บ้านโดนยึด โชคดีมีเพื่อนของยายเขาให้มาอยู่ที่นวนคร เป็นบ้านที่ไม่มีใครอยู่ เขาเลยให้ครอบครัวหนูไปอยู่ฟรีๆ ให้เราจ่ายแค่ค่าไฟค่าน้ำเอง ก็ขอขอบพระคุณเพื่อนยายมากที่ช่วยเหลือ ถ้าไม่มีเพื่อนยาย ครอบครัวหนูคงต้องไปพึ่งวัด”

    ปัจจุบันส้มแป้นกับลูกๆ และตายายย้ายมาอยู่ที่ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยเธอช่วยตาหารายได้ด้วยการขายของออนไลน์ เช่น ขนมอบกรอบ และไส้กรอกอีสาน ซึ่งไส้กรอกอีสานทำเองทุกขั้นตอน หลังได้สูตรจากผู้ใจบุญ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรายได้จากการขายของออนไลน์และขับแท็กซี่ของตา ยังไม่ค่อยครอบคลุมรายจ่ายของครอบครัว แม้อาศัยเบี้ยคนชราของยาย และเบี้ยพิการของน้องบุญรักษาแล้วก็ตาม

    “ตอนนี้รายได้จากการขายของยังพอบรรเทาด้วยการซื้อนม ซื้อแพมเพิสของน้องไปได้ ส่วนตัวของหนู ตา ยาย ไม่เป็นไร อดมื้อกินมื้อได้..”

    ขณะที่ตา ยอมรับว่า “รายได้จากการวิ่งแท็กซี่บางทีชักหน้าไม่ถึงหลัง เราก็ติดค่าเช่าไว้ก่อน เราก็เอาเงินตรงนั้นมาหมุนในครอบครัวก่อน ..(ถาม-รายจ่ายหลักๆ ตอนนี้มีอะไรบ้าง?) ค่าบ้านค่าน้ำไฟ ค่าน้องต้นน้ำไปโรงเรียน ค่านม ค่าแพมเพิส และพวกยูนิซัน (ถาม-โห แสดงว่าน่าจะเกิดปัญหาขัดสนไหม?) ขัดสนแน่นอนเลย”

    ด้านน้องต้นน้ำ พี่สาวของน้องบุญรักษา ซึ่งเป็นเด็กเรียนดี ยอมรับว่า เข้าใจดีถึงความยากลำบากของครอบครัว “(ถาม-หนูเข้าใจความลำบากไหมมันเป็นยังไง?) บางทีก็ไม่มีตังค์ไปโรงเรียน (ถาม-ตอนนี้ต้นน้ำเรียนอยู่ชั้นไหน?) ป.5 (ถาม-ได้เกรดเท่าไหร่?) เกรด 4 (โห แล้วตอนนี้หนูเริ่มมีความฝัน โตขึ้นอยากเป็นอะไร เคยคิดไว้หรือยัง?) เป็นหมอ (ถาม-ทำไมล่ะ?) จะได้รักษาน้อง”

    ขณะที่ยาย แม้ปัจจุบันจะมีเนื้องอกที่บริเวณหลังหลายจุด แต่ก็ไม่ยอมไปหาหมอเพื่อตรวจรักษา เพราะอยากประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อให้หลานกินอิ่มมากกว่า

    ทุกคนสู้สุดตัว เพื่อน้องบุญรักษา ไม่ใช่แค่เรื่องกิน แต่รวมถึงเรื่องนอน เพราะหมอเคยบอกว่า น้องบุญรักษาสามารถเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ทุกคนจึงพร้อมอดหลับอดนอนเพื่อน้อง “(ถาม-กลางคืนไม่มีใครได้นอนพร้อมกัน?) ไม่มี แบ่งกันหลับ เพราะน้องพร้อมที่จะชักตลอดเวลา พอเขาชักขึ้นมา เราต้องช่วยกันเลย...”

    หวังให้ลูกมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุด!

    “ทุกๆ วัน แม่จะบอกน้องบุญรักษาอยู่กับแม่ก่อนนะ เพราะหมอบอกว่า น้องพร้อมไปได้ทุกเมื่อเลย เราต้องคอยดูน้องทุกวันทุกวินาทีว่า น้องยังหายใจไหม น้องเป็นอะไรไหม คือพยายามให้เขาอยู่สู้กับแม่ให้ถึงที่สุด แต่ถ้าตอนไหนที่หนูไม่ไหวแล้ว ก็ขอให้หนูไปแบบไม่เจ็บไม่ปวด ไปแบบสบาย อย่าทรมานนะลูก ให้หนูไปตอนที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่กับตายายนะ”

    6 ปีแล้วที่น้องบุญรักษาเกิดมาพร้อมกับความพิการ แม้น้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่น้องคงรับรู้ได้ว่าทุกคนรักและห่วงน้องมากแค่ไหน หากน้องพูดได้ น้องคงอยากขอบคุณแม่ ตา และยายที่ตัดสินใจไม่ยุติการตั้งครรภ์ในวันนั้น

    ติดตามเรื่องราวความรักความทุ่มเทของแม่และตายายที่มีต่อน้องบุญรักษาได้
    ในรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “บุญรักษานะลูก”
    วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 เวลา 9.00-9.30 น.
    ทางสถานีโทรทัศน์ News1 (IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211)

    และเฟซบุ๊ก / ยูทูบ / ติ๊กต็อก : ฅนจริงใจไม่ท้อ

    (หากท่านใดต้องการอุดหนุนขนมอบกรอบและไส้กรอกอีสานของส้มแป้น เพื่อให้มีทุนดูแลรักษาพยาบาลลูก ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก ต้นน้ำ บุญรักษา หรือโทรไปได้ที่ 099-278-3163 หากต้องการช่วยเหลือ โอนไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.คณิศร แสงอุไร เลขที่บัญชี 108-0-71624-6)

    #สู้ชีวิต #สู้เพื่อลูก #รักไม่มีเงื่อนไข #พิการ #สู้เพื่อหลาน
    ฆ่าลูกไม่ลง! แม้รู้ว่าลูกจะเกิดมาพิการ ไม่ขอยุติการตั้งครรภ์ ทั้งแม่และตายายทุ่มเทดูแลหลานอย่างสุดกำลัง ถึงขั้นยอมออกจากงานประจำ-อดมื้อกินมื้อ พร้อมสู้เพื่อลูกอิ่ม! “ตอนช่วงประมาณ 8 เดือนกว่าเกือบ 9 เดือน ใกล้จะคลอดแล้ว หมอตรวจเจอความผิดปกติที่ศีรษะของน้อง มันไม่โตตามเกณฑ์ เหมือนมีน้ำ รักษาไม่ได้เลย ตอนนั้นยังไม่เจอความผิดปกติของขานะ เจอแค่หัวของน้อง หมอก็บอกว่า ยุติการตั้งครรภ์ไหม ก็ถามว่าทำยังไง คือเข้าไปตัดชิ้นส่วนของน้อง ทั้งๆ ที่น้องยังหายใจอยู่ พอได้ยิน หนูก็ช็อกแล้ว ทำใจไม่ได้” ไม่ใช่แค่ “ส้มแป้น” คณิศร แสงอุไร ผู้เป็นแม่ที่รับไม่ได้หากต้องยุติการตั้งครรภ์ แต่ตากับยายก็รู้สึกไม่ต่างกัน และไม่อยากสร้างบาปด้วยการจบชีวิตหลาน อยากให้หลานได้มีโอกาสลืมตาดูโลก “ให้เขาออกมาดีกว่า เพราะไหนๆ เขาก็อยากจะเกิดแล้ว ถ้าเกิดมาผิดรูปผิดร่างหรือจะเป็นยังไงก็หลานเรา เลือดเนื้อเชื้อไขของเรา เราก็บอกเขาเลยว่า เราขอไม่ยุติการตั้งครรภ์” ขณะที่ตาและยายพร้อมช่วยดูแลหลานพิการที่จะเกิดมา แต่ผู้เป็นพ่อที่ทำให้ลูกเกิด กลับทอดทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเพียงเพราะคำว่าพิการ “วันที่รู้ช่วงใกล้คลอดว่า น้องไม่สมประกอบ น้องมีความผิดปกติ ก็โทรไปบอกเขาก่อน เขาก็รับรู้เรื่อง ..วันต่อมา เราก็โทรไปอีก ไม่รับสาย ..ตั้งแต่ที่ยังไม่คลอดจนคลอด ก็ติดต่อไม่ได้เลย หลังจากที่รู้ว่าลูกสาวของเราพิการ” ปัจจุบัน “น้องบุญรักษา” อายุ 6 ขวบ มีภาวะหัวโตหรือที่เรียกว่า เด็กหัวบาตร และแขนขาพิการผิดรูป นั่งไม่ได้ ขับถ่ายเองไม่ได้ ซึ่งผู้เป็นแม่และตายายไม่เคยคิดเสียใจกับสภาพที่น้องเป็น แต่ภูมิใจด้วยซ้ำที่ได้มีโอกาสดูแลน้อง “(ถาม-ตอนเห็นหน้าน้องหลังคลอด คุณตารู้สึกยังไงบ้าง?) ไม่รู้สึกเสียใจ ยังไงก็เป็นหลานของเรา เราภูมิใจที่เขาเกิดมา และเลือกครอบครัวของเราที่จะเป็นผู้ดูแลเขา เราต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดในชีวิตหนึ่งที่เขาอยู่กับเรา ไม่ว่าจะสั้นหรือน้อย ตรงนี้เราก็ทุ่มเทให้กับเขา” ความพิการและเจ็บป่วยของน้องบุญรักษาทำให้น้องต้องเข้า-ออก รพ.บ่อยๆ บางครั้งต้องอยู่ รพ.นานนับเดือน จึงส่งผลให้แม่ และตากับยาย ต้องทยอยลาออกจากงานประจำ เพื่อดูแลน้องบุญรักษา “ตอนนั้นยายทำงานร้านยาเป็นผู้ช่วยเภสัช เขาจ้างเราคนเดียว เราก็ผลัดกันลากับเจ้าส้มไปเฝ้าหลาน ทางเภสัชก็สงสารและเข้าใจ แต่ร้านเขาก็ต้องเปิดทุกวัน เราก็ขอลาออกก่อนแล้วกัน เพื่อให้ส้มยังทำงานได้ แต่สุดท้ายร่างกายเรามันก็รับไม่ไหว เพราะเป็นเนื้องอกและความดันด้วย ก็ต้องดึงเจ้าส้มมาเฝ้าอีก เพราะน้องอยู่ในห้องวิกฤต” “ก่อนคลอด หนูทำงานร้านเบอเกอร์ พอลาคลอด แล้วรู้ว่าลูกพิการ ช่วงนั้นน้องบุญรักษาต้องอยู่ที่ รพ. เกือบ 1 เดือนเต็มๆ แล้วลูกผิดปกติ เราเลยต้องขอลาออก” “ตอนแรกพ่อทำงานบริษัทอยู่ พอหลานเราต้องไป รพ.บ่อย เราต้องหยุดงานบ่อย ทางบริษัทก็ตำหนิ เราก็ออกจากงานมาดูแลหลาน แล้วก็ไปเช่าแท็กซี่มาขับเพื่อพยุงไปก่อน เพราะมันเป็นพาหนะในการพาหลานเดินทางไป รพ.ด้วย” ไม่ใช่แค่รายได้หดหายหลังออกจากงานประจำทั้ง 3 คน แต่วิกฤตใหญ่ที่ตามมาคือบ้านถูกยึด เพราะส่งไม่ไหว “ช่วงนั้นแย่ บ้านโดนยึด โชคดีมีเพื่อนของยายเขาให้มาอยู่ที่นวนคร เป็นบ้านที่ไม่มีใครอยู่ เขาเลยให้ครอบครัวหนูไปอยู่ฟรีๆ ให้เราจ่ายแค่ค่าไฟค่าน้ำเอง ก็ขอขอบพระคุณเพื่อนยายมากที่ช่วยเหลือ ถ้าไม่มีเพื่อนยาย ครอบครัวหนูคงต้องไปพึ่งวัด” ปัจจุบันส้มแป้นกับลูกๆ และตายายย้ายมาอยู่ที่ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยเธอช่วยตาหารายได้ด้วยการขายของออนไลน์ เช่น ขนมอบกรอบ และไส้กรอกอีสาน ซึ่งไส้กรอกอีสานทำเองทุกขั้นตอน หลังได้สูตรจากผู้ใจบุญ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรายได้จากการขายของออนไลน์และขับแท็กซี่ของตา ยังไม่ค่อยครอบคลุมรายจ่ายของครอบครัว แม้อาศัยเบี้ยคนชราของยาย และเบี้ยพิการของน้องบุญรักษาแล้วก็ตาม “ตอนนี้รายได้จากการขายของยังพอบรรเทาด้วยการซื้อนม ซื้อแพมเพิสของน้องไปได้ ส่วนตัวของหนู ตา ยาย ไม่เป็นไร อดมื้อกินมื้อได้..” ขณะที่ตา ยอมรับว่า “รายได้จากการวิ่งแท็กซี่บางทีชักหน้าไม่ถึงหลัง เราก็ติดค่าเช่าไว้ก่อน เราก็เอาเงินตรงนั้นมาหมุนในครอบครัวก่อน ..(ถาม-รายจ่ายหลักๆ ตอนนี้มีอะไรบ้าง?) ค่าบ้านค่าน้ำไฟ ค่าน้องต้นน้ำไปโรงเรียน ค่านม ค่าแพมเพิส และพวกยูนิซัน (ถาม-โห แสดงว่าน่าจะเกิดปัญหาขัดสนไหม?) ขัดสนแน่นอนเลย” ด้านน้องต้นน้ำ พี่สาวของน้องบุญรักษา ซึ่งเป็นเด็กเรียนดี ยอมรับว่า เข้าใจดีถึงความยากลำบากของครอบครัว “(ถาม-หนูเข้าใจความลำบากไหมมันเป็นยังไง?) บางทีก็ไม่มีตังค์ไปโรงเรียน (ถาม-ตอนนี้ต้นน้ำเรียนอยู่ชั้นไหน?) ป.5 (ถาม-ได้เกรดเท่าไหร่?) เกรด 4 (โห แล้วตอนนี้หนูเริ่มมีความฝัน โตขึ้นอยากเป็นอะไร เคยคิดไว้หรือยัง?) เป็นหมอ (ถาม-ทำไมล่ะ?) จะได้รักษาน้อง” ขณะที่ยาย แม้ปัจจุบันจะมีเนื้องอกที่บริเวณหลังหลายจุด แต่ก็ไม่ยอมไปหาหมอเพื่อตรวจรักษา เพราะอยากประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อให้หลานกินอิ่มมากกว่า ทุกคนสู้สุดตัว เพื่อน้องบุญรักษา ไม่ใช่แค่เรื่องกิน แต่รวมถึงเรื่องนอน เพราะหมอเคยบอกว่า น้องบุญรักษาสามารถเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ทุกคนจึงพร้อมอดหลับอดนอนเพื่อน้อง “(ถาม-กลางคืนไม่มีใครได้นอนพร้อมกัน?) ไม่มี แบ่งกันหลับ เพราะน้องพร้อมที่จะชักตลอดเวลา พอเขาชักขึ้นมา เราต้องช่วยกันเลย...” หวังให้ลูกมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุด! “ทุกๆ วัน แม่จะบอกน้องบุญรักษาอยู่กับแม่ก่อนนะ เพราะหมอบอกว่า น้องพร้อมไปได้ทุกเมื่อเลย เราต้องคอยดูน้องทุกวันทุกวินาทีว่า น้องยังหายใจไหม น้องเป็นอะไรไหม คือพยายามให้เขาอยู่สู้กับแม่ให้ถึงที่สุด แต่ถ้าตอนไหนที่หนูไม่ไหวแล้ว ก็ขอให้หนูไปแบบไม่เจ็บไม่ปวด ไปแบบสบาย อย่าทรมานนะลูก ให้หนูไปตอนที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่กับตายายนะ” 6 ปีแล้วที่น้องบุญรักษาเกิดมาพร้อมกับความพิการ แม้น้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่น้องคงรับรู้ได้ว่าทุกคนรักและห่วงน้องมากแค่ไหน หากน้องพูดได้ น้องคงอยากขอบคุณแม่ ตา และยายที่ตัดสินใจไม่ยุติการตั้งครรภ์ในวันนั้น ติดตามเรื่องราวความรักความทุ่มเทของแม่และตายายที่มีต่อน้องบุญรักษาได้ ในรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “บุญรักษานะลูก” วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 เวลา 9.00-9.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ News1 (IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211) และเฟซบุ๊ก / ยูทูบ / ติ๊กต็อก : ฅนจริงใจไม่ท้อ (หากท่านใดต้องการอุดหนุนขนมอบกรอบและไส้กรอกอีสานของส้มแป้น เพื่อให้มีทุนดูแลรักษาพยาบาลลูก ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก ต้นน้ำ บุญรักษา หรือโทรไปได้ที่ 099-278-3163 หากต้องการช่วยเหลือ โอนไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.คณิศร แสงอุไร เลขที่บัญชี 108-0-71624-6) #สู้ชีวิต #สู้เพื่อลูก #รักไม่มีเงื่อนไข #พิการ #สู้เพื่อหลาน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 835 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เพื่อน

    เพื่อนที่ควรจะรักษามิตรภาพไว้ให้ยาวนานที่สุด คือเพื่อนประเภทที่เมื่อคุณอยู่กับเขาแล้ว เขาคนนั้นทำให้คุณรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความกล้าหาญ ที่กระตุ้นอยากให้เราทำความดีให้ได้อย่างเขาบ้าง แม้อดีตเราอาจเคยชั่วมาแล้วมากกว่าดี เพื่อนที่สามารถทำให้คุณรู้สึกมีพลังที่จะสู้ชีวิตต่อไป เพื่อนที่ทำให้คุณได้รู้ว่าในโลกใบนี้ ยังเหลือคนพันธุ์หายากที่ควรอนุรักษ์ไว้อยู่อีก แม้นจะน้อยนิดก็ตามที เพื่อนที่เลือกจะพูดตามความจริงกับคุณโดยตรง แม้นความจริงนั้นอาจจะฟังไม่เข้าหูคุณในตอนแรก แต่จะส่งผลดีกับคุณในบั้นปลาย เพื่อนที่ไม่กลัวว่าคุณจะโกรธ หรือเกลียด และเข้าใจเขาผิด ขอเพียงแค่ได้ช่วยคุณให้ตื่นจากความหลงผิด. เพื่อนที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่งนั้น เราช่างโชคดีนักที่ได้คนอย่างเขามาเป็นเพื่อน

    อย่ามัวมองหาว่าคุณมีเพื่อนเช่นว่ามานี้สักคนหรือไม่ แต่ให้ลองสำรวจตนเองว่าเรามีคุณสมบัติเหล่านี้บ้างไหมจะดีกว่า

    การหาเพื่อนสักคนให้ได้ดังที่ข้าพเจ้ากล่าวมาข้างต้นทั้งหมดว่ายากมากแล้ว แต่การพยายามทำตนเองให้มีคุณสมบัติของเพื่อนที่ดียังยากยิ่งกว่า

    เพราะเพื่อนแท้ มีค่ากว่าอัญมณีใดๆในโลกา

    สำหรับคนที่พบแล้ว ขอให้รักษาของมีค่าไว้ให้ดี ส่วนคนที่ยังหาไม่พบก็ไม่เป็นไร ขอให้ทำตนเองให้มีค่าพอที่จะเป็นเพื่อนแท้ของคนอื่นแล้วกัน สักวันเมื่อคุณทำสำเร็จ เท่ากับว่าคุณไม่ต้องไปค้นหาอัญมณีหายากที่อื่นอีก เพราะคุณเองที่กลายเป็นอัญมณีไป

    #ข้อคิด
    #บทความ
    #สหาย
    #เพื่อนยาก
    #มิตรแท้
    #thaitimes
    #เพื่อน เพื่อนที่ควรจะรักษามิตรภาพไว้ให้ยาวนานที่สุด คือเพื่อนประเภทที่เมื่อคุณอยู่กับเขาแล้ว เขาคนนั้นทำให้คุณรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความกล้าหาญ ที่กระตุ้นอยากให้เราทำความดีให้ได้อย่างเขาบ้าง แม้อดีตเราอาจเคยชั่วมาแล้วมากกว่าดี เพื่อนที่สามารถทำให้คุณรู้สึกมีพลังที่จะสู้ชีวิตต่อไป เพื่อนที่ทำให้คุณได้รู้ว่าในโลกใบนี้ ยังเหลือคนพันธุ์หายากที่ควรอนุรักษ์ไว้อยู่อีก แม้นจะน้อยนิดก็ตามที เพื่อนที่เลือกจะพูดตามความจริงกับคุณโดยตรง แม้นความจริงนั้นอาจจะฟังไม่เข้าหูคุณในตอนแรก แต่จะส่งผลดีกับคุณในบั้นปลาย เพื่อนที่ไม่กลัวว่าคุณจะโกรธ หรือเกลียด และเข้าใจเขาผิด ขอเพียงแค่ได้ช่วยคุณให้ตื่นจากความหลงผิด. เพื่อนที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่งนั้น เราช่างโชคดีนักที่ได้คนอย่างเขามาเป็นเพื่อน อย่ามัวมองหาว่าคุณมีเพื่อนเช่นว่ามานี้สักคนหรือไม่ แต่ให้ลองสำรวจตนเองว่าเรามีคุณสมบัติเหล่านี้บ้างไหมจะดีกว่า การหาเพื่อนสักคนให้ได้ดังที่ข้าพเจ้ากล่าวมาข้างต้นทั้งหมดว่ายากมากแล้ว แต่การพยายามทำตนเองให้มีคุณสมบัติของเพื่อนที่ดียังยากยิ่งกว่า เพราะเพื่อนแท้ มีค่ากว่าอัญมณีใดๆในโลกา สำหรับคนที่พบแล้ว ขอให้รักษาของมีค่าไว้ให้ดี ส่วนคนที่ยังหาไม่พบก็ไม่เป็นไร ขอให้ทำตนเองให้มีค่าพอที่จะเป็นเพื่อนแท้ของคนอื่นแล้วกัน สักวันเมื่อคุณทำสำเร็จ เท่ากับว่าคุณไม่ต้องไปค้นหาอัญมณีหายากที่อื่นอีก เพราะคุณเองที่กลายเป็นอัญมณีไป #ข้อคิด #บทความ #สหาย #เพื่อนยาก #มิตรแท้ #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 793 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นที่มีชื่อเสียงของ Morpheus ใน The Matrix เกี่ยวกับยาสีน้ําเงินและยาสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของทางเลือกที่ลึกซึ้งและลึกซึ้งกว่าที่แต่ละบุคคลเผชิญในชีวิต - ทางเลือกระหว่างความไม่รู้ที่สะดวกสบายกับความจริงที่ไม่สงบบ่อยครั้ง เมื่อ Morpheus เสนอทางเลือกระหว่างยาสีน้ําเงินและยาสีแดง เขาไม่ได้เป็นเพียงการเสนอวัตถุที่ง่าย ๆ สองอย่าง แต่สองเส้นทางของการดํารงอยู่ที่แตกต่างกันอย่างรุนแรง
    คําของมอร์เฟียสเกี่ยวกับยาสีน้ําเงิน
    Morpheus กล่าวกับ Neo:
    "คุณกินยาสีฟ้า - เรื่องจบลง คุณตื่นขึ้นมาบนเตียงของคุณและเชื่อในสิ่งที่คุณต้องการเชื่อ คุณกินยาสีแดง - คุณอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ และฉันแสดงให้คุณเห็นว่ารูกระต่ายนั้นลึกแค่ไหน "
    ช่วงเวลานี้เป็นสิ่งสําคัญเพราะมันครอบคลุมแก่นแท้ของสภาพมนุษย์: ทางเลือกระหว่างที่เหลืออยู่ภายในขอบเขตของโลกมายา สิ่งหนึ่งที่สะดวกสบาย คุ้นเคย และดูเหมือนปลอดภัย หรือกล้าที่จะร่วมทุนกับสิ่งที่ไม่รู้จัก ที่ซึ่งความจริงไม่ว่ารุนแรงหรือท้าทายรอคอย
    ความสําคัญที่ลึกซึ้งของยาสีน้ําเงิน
    ยาสีน้ําเงินเป็นสัญลักษณ์ของทางเลือกที่จะยังคงอยู่ในเมทริกซ์ของภาพลวงตา — การสร้างการโกหก ความจริงครึ่งหนึ่ง และการหลอกลวงที่สร้างความรู้สึกผิด ๆ ของความปลอดภัย ผู้ที่เลือกยาสีน้ําเงินด้วยความเต็มใจยอมรับความเป็นจริงที่นําเสนอต่อพวกเขา ชอบความสบายของความไม่รู้มากกว่าความไม่สบายที่อาจเกิดขึ้นจากความจริง ยาสีน้ําเงินแสดงถึง:
    ความสบายเหนือความจริง: ยาสีน้ําเงินมอบชีวิตที่ปราศจากความเจ็บปวดจากการตั้งคําถามที่ท้าทายสถานะ มันช่วยให้คนเราอาศัยอยู่ในฟองสบู่ต่อไป ซึ่งความจริงที่ยากลําบากจะถูกหลีกเลี่ยง และความเป็นจริงที่น่าอึดอัดจะถูกยกเลิก มันเป็นเส้นทางที่ง่ายกว่า หนึ่งที่ลดความไม่เข้าใจทางความคิดและบุคคลสามารถอยู่ในสถานะของความไม่รู้ตัวอย่างมีความสุข
    การส่งภาพลวงตา: การกินยาสีน้ําเงินเป็นรูปแบบของการยอมแพ้ เป็นการยอมรับของคําบอกเล่าที่ถูกบังคับโดยกองกําลังภายนอก ไม่ว่าจะเป็นบรรทัดฐานทางสังคม อิทธิพลทางสื่อ หรือวาระทางการเมือง มันหมายถึงการละทิ้งความเป็นอิสระของตนเองและเป็นการส่งไปยังการควบคุมของผู้ที่สร้างภาพลวงตา
    การปฏิเสธการเจริญเติบโต: การเลือกยาสีน้ําเงินเป็นการปฏิเสธการเจริญเติบโตส่วนบุคคลและทางจิตวิญญาณ การเติบโตมักจะผ่านการเผชิญหน้ากับความท้าทาย ผ่านการตั้งคําถามกับโลกรอบตัวเรา และผ่านการกอดสิ่งที่ไม่รู้จัก ยาสีน้ําเงินในทางตรงกันข้ามคือการปฏิเสธการเดินทางนี้ - การปฏิเสธที่จะเติบโตเพื่อพัฒนาและแสวงหาความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการดํารงอยู่
    ความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้จัก: การตัดสินใจที่จะกินยาสีน้ําเงินมักถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว - ความกลัวในสิ่งที่อยู่เหนือม่านแห่งภาพลวงตา ความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่อาจจะรุนแรง ไม่ให้อภัย หรือแตกต่างอย่างลึกซึ้งกับคําเล่าที่แสนสบายที่ถูกสร้างขึ้น ความกลัวนี้ทําให้คนเป็นอัมพาต ทําให้พวกเขาถูกขังไว้ในสถานะของความพอใจ
    ผู้ที่เลือกยาสีน้ําเงิน
    บุคคลที่เลือกเม็ดสีฟ้ามักจะเป็นคนที่พอใจกับระดับพื้นผิวของชีวิต พวกเขาอาจกลัวการหยุดชะงักของมุมมองโลกของพวกเขาหรือผลกระทบของการท้าทายความเชื่ออย่างลึกซึ้ง บุคคลเหล่านี้อาจ:
    ยึดมั่นกับความคุ้นเคย: พวกเขาถูกดึงดูดไปสู่ความปลอดภัยของสิ่งที่เป็นที่รู้จัก สิ่งที่คาดเดาได้ พวกเขาชอบความสะดวกสบายในการทํากิจวัตรประจําวันและความมั่นใจในการตรวจสอบสังคมมากกว่าความไม่แน่นอนที่มาพร้อมกับการตั้งคําถามถึงธรรมชาติของความเป็นจริง
    หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ: ยาสีน้ําเงินแสดงถึงการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับความรู้ การที่จะมองโลกที่แท้จริงนั้นต้องมีการกระทํา มันต้องการการตอบสนอง ผู้ที่เลือกยาสีน้ําเงินมักจะไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบนี้ แต่ชอบที่จะยังคงสังเกตการณ์ชีวิตอย่างต่อเนื่อง
    ใช้ชีวิตภายในขอบเขต: ผู้กินยาสีน้ําเงินอาศัยอยู่ในขอบเขตของระบบ ยอมรับข้อจํากัดที่กําหนดไว้กับพวกเขา พวกเขาไม่พยายามที่จะข้ามขอบเขตเหล่านี้ และพวกเขาไม่ต้องการที่จะสํารวจสิ่งที่อยู่เกินกว่านั้น ชีวิตของพวกเขาเป็นลักษณะที่สอดคล้องและยึดมั่นในคําเล่าที่ถูกกําหนดไว้
    ปฏิเสธการเรียกสู่การตื่นรู้: ทางเลือกของยาสีน้ําเงินคือการปฏิเสธการเรียกให้ตื่นรู้ มันเป็นการปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการเดินทางของการค้นพบตัวเอง เพื่อสํารวจความลึกลับที่ลึกซึ้งของชีวิต และเพื่อแสวงหาความจริงที่สูงขึ้น มันคือการปฏิเสธการแสวงหาทางจิตวิญญาณที่นําไปสู่การตรัสรู้
    ผลกระทบที่ลึกซึ้ง
    ทางเลือกระหว่างยาสีน้ําเงินและยาสีแดงไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดในนิยาย แต่เป็นคําอุปมาสําหรับทางเลือกที่เราทุกคนต้องเผชิญในชีวิตของเรา เราเลือกที่จะนอนหลับ ยอมรับคําโกหกที่ปลอบโยนที่เราได้รับอาหาร หรือเราตื่นขึ้นมาในบางครั้งที่รุนแรง แต่ยังปลดปล่อยความจริง?
    ในปรัชญา Hermetic ทางเลือกนี้เป็นการตัดสินใจที่จะยังคงผูกพันกับโลกของวัตถุ ด้วยภาพลวงตาและสิ่งรบกวน หรือเพื่อแสวงหาความจริงของพระเจ้าซึ่งอยู่เหนือความคลุมหน้าของรูปลักษณ์ ยาสีน้ําเงินคือหนทางแห่งความไม่รู้ นําไปสู่ชีวิตที่อาศัยอยู่บนพื้นผิว ที่ซึ่งคนเราถูกควบคุมโดยพลังภายนอก และไม่เคยรู้จักตัวเองหรือโลกอย่างแท้จริง
    สําหรับคนที่เลือกเม็ดสีฟ้า ชีวิตอาจจะดูง่ายขึ้น แต่มันคือชีวิตที่อยู่ในเงา ชีวิตที่แสงแห่งความเข้าใจที่แท้จริงไม่เคยแทรกซึม มันเป็นชีวิตของการเดินละเมอตลอดกาล ที่ซึ่งความลึกลับที่ลึกซึ้งของการดํารงอยู่ตลอดไป และที่ที่ที่วิญญาณยังคงติดอยู่ในคุกของเมทริกซ์
    สรุปแล้ว ยาสีน้ําเงินแสดงถึงมากกว่าทางเลือกง่าย ๆ — มันเป็นสัญลักษณ์ของการตัดสินใจที่จะยังคงอยู่ในความมืดมิด เพื่อยอมรับภาพลวงตา และปฏิเสธความจริงอันลึกซึ้งที่อยู่เหนือไป เป็นการตัดสินใจที่หลายคนตัดสินใจ ไม่ว่าจะด้วยสติ หรือ ขาดสติ ทุกวัน แต่สําหรับผู้ที่กล้าที่จะกินยาแดง ผู้ที่เลือกที่จะตื่นรู้และมองโลกอย่างแท้จริง เส้นทางแห่งการค้นพบและการปลดปล่อยที่ลึกซึ้งรออยู่ ทางเลือกเป็นของเราเสมอ และในทางเลือกนั้นมีอํานาจที่จะสร้างความเป็นจริงของเรา
    เส้นที่มีชื่อเสียงของ Morpheus ใน The Matrix เกี่ยวกับยาสีน้ําเงินและยาสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของทางเลือกที่ลึกซึ้งและลึกซึ้งกว่าที่แต่ละบุคคลเผชิญในชีวิต - ทางเลือกระหว่างความไม่รู้ที่สะดวกสบายกับความจริงที่ไม่สงบบ่อยครั้ง เมื่อ Morpheus เสนอทางเลือกระหว่างยาสีน้ําเงินและยาสีแดง เขาไม่ได้เป็นเพียงการเสนอวัตถุที่ง่าย ๆ สองอย่าง แต่สองเส้นทางของการดํารงอยู่ที่แตกต่างกันอย่างรุนแรง คําของมอร์เฟียสเกี่ยวกับยาสีน้ําเงิน Morpheus กล่าวกับ Neo: "คุณกินยาสีฟ้า - เรื่องจบลง คุณตื่นขึ้นมาบนเตียงของคุณและเชื่อในสิ่งที่คุณต้องการเชื่อ คุณกินยาสีแดง - คุณอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ และฉันแสดงให้คุณเห็นว่ารูกระต่ายนั้นลึกแค่ไหน " ช่วงเวลานี้เป็นสิ่งสําคัญเพราะมันครอบคลุมแก่นแท้ของสภาพมนุษย์: ทางเลือกระหว่างที่เหลืออยู่ภายในขอบเขตของโลกมายา สิ่งหนึ่งที่สะดวกสบาย คุ้นเคย และดูเหมือนปลอดภัย หรือกล้าที่จะร่วมทุนกับสิ่งที่ไม่รู้จัก ที่ซึ่งความจริงไม่ว่ารุนแรงหรือท้าทายรอคอย ความสําคัญที่ลึกซึ้งของยาสีน้ําเงิน ยาสีน้ําเงินเป็นสัญลักษณ์ของทางเลือกที่จะยังคงอยู่ในเมทริกซ์ของภาพลวงตา — การสร้างการโกหก ความจริงครึ่งหนึ่ง และการหลอกลวงที่สร้างความรู้สึกผิด ๆ ของความปลอดภัย ผู้ที่เลือกยาสีน้ําเงินด้วยความเต็มใจยอมรับความเป็นจริงที่นําเสนอต่อพวกเขา ชอบความสบายของความไม่รู้มากกว่าความไม่สบายที่อาจเกิดขึ้นจากความจริง ยาสีน้ําเงินแสดงถึง: ความสบายเหนือความจริง: ยาสีน้ําเงินมอบชีวิตที่ปราศจากความเจ็บปวดจากการตั้งคําถามที่ท้าทายสถานะ มันช่วยให้คนเราอาศัยอยู่ในฟองสบู่ต่อไป ซึ่งความจริงที่ยากลําบากจะถูกหลีกเลี่ยง และความเป็นจริงที่น่าอึดอัดจะถูกยกเลิก มันเป็นเส้นทางที่ง่ายกว่า หนึ่งที่ลดความไม่เข้าใจทางความคิดและบุคคลสามารถอยู่ในสถานะของความไม่รู้ตัวอย่างมีความสุข การส่งภาพลวงตา: การกินยาสีน้ําเงินเป็นรูปแบบของการยอมแพ้ เป็นการยอมรับของคําบอกเล่าที่ถูกบังคับโดยกองกําลังภายนอก ไม่ว่าจะเป็นบรรทัดฐานทางสังคม อิทธิพลทางสื่อ หรือวาระทางการเมือง มันหมายถึงการละทิ้งความเป็นอิสระของตนเองและเป็นการส่งไปยังการควบคุมของผู้ที่สร้างภาพลวงตา การปฏิเสธการเจริญเติบโต: การเลือกยาสีน้ําเงินเป็นการปฏิเสธการเจริญเติบโตส่วนบุคคลและทางจิตวิญญาณ การเติบโตมักจะผ่านการเผชิญหน้ากับความท้าทาย ผ่านการตั้งคําถามกับโลกรอบตัวเรา และผ่านการกอดสิ่งที่ไม่รู้จัก ยาสีน้ําเงินในทางตรงกันข้ามคือการปฏิเสธการเดินทางนี้ - การปฏิเสธที่จะเติบโตเพื่อพัฒนาและแสวงหาความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการดํารงอยู่ ความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้จัก: การตัดสินใจที่จะกินยาสีน้ําเงินมักถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว - ความกลัวในสิ่งที่อยู่เหนือม่านแห่งภาพลวงตา ความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่อาจจะรุนแรง ไม่ให้อภัย หรือแตกต่างอย่างลึกซึ้งกับคําเล่าที่แสนสบายที่ถูกสร้างขึ้น ความกลัวนี้ทําให้คนเป็นอัมพาต ทําให้พวกเขาถูกขังไว้ในสถานะของความพอใจ ผู้ที่เลือกยาสีน้ําเงิน บุคคลที่เลือกเม็ดสีฟ้ามักจะเป็นคนที่พอใจกับระดับพื้นผิวของชีวิต พวกเขาอาจกลัวการหยุดชะงักของมุมมองโลกของพวกเขาหรือผลกระทบของการท้าทายความเชื่ออย่างลึกซึ้ง บุคคลเหล่านี้อาจ: ยึดมั่นกับความคุ้นเคย: พวกเขาถูกดึงดูดไปสู่ความปลอดภัยของสิ่งที่เป็นที่รู้จัก สิ่งที่คาดเดาได้ พวกเขาชอบความสะดวกสบายในการทํากิจวัตรประจําวันและความมั่นใจในการตรวจสอบสังคมมากกว่าความไม่แน่นอนที่มาพร้อมกับการตั้งคําถามถึงธรรมชาติของความเป็นจริง หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ: ยาสีน้ําเงินแสดงถึงการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับความรู้ การที่จะมองโลกที่แท้จริงนั้นต้องมีการกระทํา มันต้องการการตอบสนอง ผู้ที่เลือกยาสีน้ําเงินมักจะไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบนี้ แต่ชอบที่จะยังคงสังเกตการณ์ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตภายในขอบเขต: ผู้กินยาสีน้ําเงินอาศัยอยู่ในขอบเขตของระบบ ยอมรับข้อจํากัดที่กําหนดไว้กับพวกเขา พวกเขาไม่พยายามที่จะข้ามขอบเขตเหล่านี้ และพวกเขาไม่ต้องการที่จะสํารวจสิ่งที่อยู่เกินกว่านั้น ชีวิตของพวกเขาเป็นลักษณะที่สอดคล้องและยึดมั่นในคําเล่าที่ถูกกําหนดไว้ ปฏิเสธการเรียกสู่การตื่นรู้: ทางเลือกของยาสีน้ําเงินคือการปฏิเสธการเรียกให้ตื่นรู้ มันเป็นการปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการเดินทางของการค้นพบตัวเอง เพื่อสํารวจความลึกลับที่ลึกซึ้งของชีวิต และเพื่อแสวงหาความจริงที่สูงขึ้น มันคือการปฏิเสธการแสวงหาทางจิตวิญญาณที่นําไปสู่การตรัสรู้ ผลกระทบที่ลึกซึ้ง ทางเลือกระหว่างยาสีน้ําเงินและยาสีแดงไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดในนิยาย แต่เป็นคําอุปมาสําหรับทางเลือกที่เราทุกคนต้องเผชิญในชีวิตของเรา เราเลือกที่จะนอนหลับ ยอมรับคําโกหกที่ปลอบโยนที่เราได้รับอาหาร หรือเราตื่นขึ้นมาในบางครั้งที่รุนแรง แต่ยังปลดปล่อยความจริง? ในปรัชญา Hermetic ทางเลือกนี้เป็นการตัดสินใจที่จะยังคงผูกพันกับโลกของวัตถุ ด้วยภาพลวงตาและสิ่งรบกวน หรือเพื่อแสวงหาความจริงของพระเจ้าซึ่งอยู่เหนือความคลุมหน้าของรูปลักษณ์ ยาสีน้ําเงินคือหนทางแห่งความไม่รู้ นําไปสู่ชีวิตที่อาศัยอยู่บนพื้นผิว ที่ซึ่งคนเราถูกควบคุมโดยพลังภายนอก และไม่เคยรู้จักตัวเองหรือโลกอย่างแท้จริง สําหรับคนที่เลือกเม็ดสีฟ้า ชีวิตอาจจะดูง่ายขึ้น แต่มันคือชีวิตที่อยู่ในเงา ชีวิตที่แสงแห่งความเข้าใจที่แท้จริงไม่เคยแทรกซึม มันเป็นชีวิตของการเดินละเมอตลอดกาล ที่ซึ่งความลึกลับที่ลึกซึ้งของการดํารงอยู่ตลอดไป และที่ที่ที่วิญญาณยังคงติดอยู่ในคุกของเมทริกซ์ สรุปแล้ว ยาสีน้ําเงินแสดงถึงมากกว่าทางเลือกง่าย ๆ — มันเป็นสัญลักษณ์ของการตัดสินใจที่จะยังคงอยู่ในความมืดมิด เพื่อยอมรับภาพลวงตา และปฏิเสธความจริงอันลึกซึ้งที่อยู่เหนือไป เป็นการตัดสินใจที่หลายคนตัดสินใจ ไม่ว่าจะด้วยสติ หรือ ขาดสติ ทุกวัน แต่สําหรับผู้ที่กล้าที่จะกินยาแดง ผู้ที่เลือกที่จะตื่นรู้และมองโลกอย่างแท้จริง เส้นทางแห่งการค้นพบและการปลดปล่อยที่ลึกซึ้งรออยู่ ทางเลือกเป็นของเราเสมอ และในทางเลือกนั้นมีอํานาจที่จะสร้างความเป็นจริงของเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆☆☆ ราชาแห่งครุฑ ☆☆☆

    พญาครุฑอาจารย์วราห์ รุ่น ที่ระลึกกฐินพระราชทาน ปี 2565 เนื้อทองทิพย์ มาพร้อมกรอบพุทธศิลป์ชุบทองสุดงดงาม เลี่ยมสวยพร้อมขึ้นคอ ที่สุดของความมงคลสายครุฑจากอาจารย์วราห์ ที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศ

    การบูชาพญาครุฑ ช่วยเสริมมงคลมากมายหลายประการ ตามความเชื่อทางโบราณ

    1.เป็นมหาอํานาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอํานาจอันเฉียบขาด
    2.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสยได้ทั้งปวง ภูติผีปีศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
    3.เป็นสื่อนําความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
    4.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
    5.เป็นเมตตามหานิยม
    6.นําความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
    7.ทํามาค้าขายดี เป็นสื่อนําโชคลาภนานาประการ
    8.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษ ไม่กล้ากลํากายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด

    ※ บูชาsาคาพิเศษ ... สบายกระเป๋า ชุดเดียว จบ

    💰 ปกติ 4 , 5 O O บ.
    💵 บูชาราคาถูกกว่าจอง เพียง 2 , 6 O O บ.
    🛎 ลดพิเศษเพื่อปีมังกรทอง
    🚛 จัดส่งฟรี EMS

    ✦ สุนทรียภาพคือชีวิต Aesthetics is Life ✦
    Aesthetics Arts ... ✆ 095 116 5955
    ศิลปะมงคลเพื่อสุนทรียภาพ Aesthetics Arts

    ♛ FB: TheAestheticsArts
    ♛ Line: @Aesthetics.Arts
    ♛ IG: TheAestheticsArts
    ♛ Twitter: @Aesthetics168
    ♛ Tiktok: @TheAestheticsArts

    ถ้าคุณยังไม่ได้ติดตามเราทาง Line Shop อาจพลาดศิลปะมงคลราคาพิเศษ แวะ
    👉 https://shop.line.me/@aesthetics.arts

    หรือช๊อปออนไลน์กับ Aesthetics Arts ได้ที่
    👉 Lazada: https://s.lazada.co.th/s.cE1Uk
    👉 Shopee: https://shopee.co.th/udomsabk

    #AestheticsArts #ศิลปะมงคลเพื่อสุนทรียภาพ
    #สำเร็จ #มงคล #วัตถุมงคล #พระเครื่อง #Amulet #เมตตา #บารมี #งานศิลปะ #ศิลปะมงคล #เมตตา #บารมี #พระเครื่อง #วัตถุมงคล #ร่ำรวย #รวย #โชคลาภ #สิริมงคล #มูเตลูเสริมดวง #สายมูเตไม่ควรพลาด #สิริมงคล #โชคลาภเงินทอง #พระแท้ #เครื่องรางของขลังง #ครุฑอาจารย์วราห์
    ☆☆☆ ราชาแห่งครุฑ ☆☆☆ พญาครุฑอาจารย์วราห์ รุ่น ที่ระลึกกฐินพระราชทาน ปี 2565 เนื้อทองทิพย์ มาพร้อมกรอบพุทธศิลป์ชุบทองสุดงดงาม เลี่ยมสวยพร้อมขึ้นคอ ที่สุดของความมงคลสายครุฑจากอาจารย์วราห์ ที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศ การบูชาพญาครุฑ ช่วยเสริมมงคลมากมายหลายประการ ตามความเชื่อทางโบราณ 1.เป็นมหาอํานาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอํานาจอันเฉียบขาด 2.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสยได้ทั้งปวง ภูติผีปีศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ 3.เป็นสื่อนําความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน 4.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน 5.เป็นเมตตามหานิยม 6.นําความร่มเย็นเป็นสุขมาให้ 7.ทํามาค้าขายดี เป็นสื่อนําโชคลาภนานาประการ 8.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษ ไม่กล้ากลํากายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด ※ บูชาsาคาพิเศษ ... สบายกระเป๋า ชุดเดียว จบ 💰 ปกติ 4 , 5 O O บ. 💵 บูชาราคาถูกกว่าจอง เพียง 2 , 6 O O บ. 🛎 ลดพิเศษเพื่อปีมังกรทอง 🚛 จัดส่งฟรี EMS ✦ สุนทรียภาพคือชีวิต Aesthetics is Life ✦ Aesthetics Arts ... ✆ 095 116 5955 ศิลปะมงคลเพื่อสุนทรียภาพ Aesthetics Arts ♛ FB: TheAestheticsArts ♛ Line: @Aesthetics.Arts ♛ IG: TheAestheticsArts ♛ Twitter: @Aesthetics168 ♛ Tiktok: @TheAestheticsArts ถ้าคุณยังไม่ได้ติดตามเราทาง Line Shop อาจพลาดศิลปะมงคลราคาพิเศษ แวะ 👉 https://shop.line.me/@aesthetics.arts หรือช๊อปออนไลน์กับ Aesthetics Arts ได้ที่ 👉 Lazada: https://s.lazada.co.th/s.cE1Uk 👉 Shopee: https://shopee.co.th/udomsabk #AestheticsArts #ศิลปะมงคลเพื่อสุนทรียภาพ #สำเร็จ #มงคล #วัตถุมงคล #พระเครื่อง #Amulet #เมตตา #บารมี #งานศิลปะ #ศิลปะมงคล #เมตตา #บารมี #พระเครื่อง #วัตถุมงคล #ร่ำรวย #รวย #โชคลาภ #สิริมงคล #มูเตลูเสริมดวง #สายมูเตไม่ควรพลาด #สิริมงคล #โชคลาภเงินทอง #พระแท้ #เครื่องรางของขลังง #ครุฑอาจารย์วราห์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พิธานายกว่าวพบสัจจะธรรม
    พี่คิงส์ฯเคยลั่นไว้แล้วว่านับจากนี้
    ว่าว พิธาคิโอ จะกลายเป็นคนที่ถูกลืม
    นี่ผ่านไปแค่สองสามวันหลังถูกตัดสิทธิ์
    นายทุนหัวทองไม่ให้ราคาอีกแล้ว
    เพราะนกจากถูกตัดสิทธิ์ 10 ปี
    และยังมีดดีย์ 44 สส. แถมมีหนี้ส่วนตัวที่เกี่ยวพันธิ์กับบริษัทครอบครัวอีก 800 กว่าล้านที่บริษัทน้ำมันรำข้าวถูกฟ้องล้มละลาย
    ฝรั่งเห็นแล้ว อายไม่ไหวแล่ววว
    เท้งเต้ง เป็นเพื่อนสายตรงธนาธรผู้นำเผ่าส้มตัวจริง
    วันนี้เป็นวันแรกที่พิธาเพิ่งสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังถูกลืม
    นี่แหละว่าว รสชาดของชีวิต
    อย่างที่เอ็งว่าแหละ เกิดมาคนเดียว ไปคนเดียว
    เมกาไม่อยากลงทุนกะเอ็งแล้ว ก็ต้องกลับไปสู่ชีวิตต่อ
    ไปทำหน้าที่พ่อ รักลูกแค่ปาก รักลูกเพื่อการเมือง
    มันานแล้วนะ กลับไปดูแลลูกจริงๆจังๆซักที
    เชื่อกรู ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #นายกว่าว
    #พิธานายกว่าวพบสัจจะธรรม พี่คิงส์ฯเคยลั่นไว้แล้วว่านับจากนี้ ว่าว พิธาคิโอ จะกลายเป็นคนที่ถูกลืม นี่ผ่านไปแค่สองสามวันหลังถูกตัดสิทธิ์ นายทุนหัวทองไม่ให้ราคาอีกแล้ว เพราะนกจากถูกตัดสิทธิ์ 10 ปี และยังมีดดีย์ 44 สส. แถมมีหนี้ส่วนตัวที่เกี่ยวพันธิ์กับบริษัทครอบครัวอีก 800 กว่าล้านที่บริษัทน้ำมันรำข้าวถูกฟ้องล้มละลาย ฝรั่งเห็นแล้ว อายไม่ไหวแล่ววว เท้งเต้ง เป็นเพื่อนสายตรงธนาธรผู้นำเผ่าส้มตัวจริง วันนี้เป็นวันแรกที่พิธาเพิ่งสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังถูกลืม นี่แหละว่าว รสชาดของชีวิต อย่างที่เอ็งว่าแหละ เกิดมาคนเดียว ไปคนเดียว เมกาไม่อยากลงทุนกะเอ็งแล้ว ก็ต้องกลับไปสู่ชีวิตต่อ ไปทำหน้าที่พ่อ รักลูกแค่ปาก รักลูกเพื่อการเมือง มันานแล้วนะ กลับไปดูแลลูกจริงๆจังๆซักที เชื่อกรู ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #นายกว่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 ล้านเสียงแห่งความฝัน
    อันดับ 1 ของโพลมโน
    หรือจะสู้ชีวิตจริงที่ต้องเจอ
    แพ้ทุกสนาม ทำใจให้ได้ก่อนพรรคถูกยุบ
    ไอโอปั่นไม่ขึ้น ไลฟ์แถลงคนดูหลักร้อย
    โหวตอะไรก็แพ้
    ที่เหลือไว้แค่ความทรงจำ ที่คนไทยไม่ลืม
    ว่าในอดีตเคยมีพรรคใจต่ำที่ต้องการล้มสถาบันกษัตริย์ที่คนไทยรัก
    และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะลบชื่อพรรคทรามนี้ด้วยเสียงของประชาชน
    คนไทย ก็แค่อยากลองของใหม่ แต่หางโผล่เค้าก็ผลักไส
    ดูผลคะแนนเลือกตั้ง อบจ. แพ้กันเป็นแสนคะแนน
    หนำมั๊ยพวกเมิง ไม่มีคนไทยที่ไหน เค้าอยากให้ลูกตัวเองขายกีเสรี
    ไม่มีใครอยากให้หลานตัวเองถ่ายเอวีถูกกฏหมาย
    ไม่มีใครอยากให้ลูกไม่กตัญญูตามที่ก้าวไกลปั่นหัว เยาวชน
    ไม่มีใครอยากยกประเทศไทยให้เมกา ด้วยการล้มสถาบัน
    พวกคอมมิว นิส หลงยุค
    ปรีดีย์ก่อนจากไป ยังออกมาขอโทษและรู้สึกผิดพลาดกับสิ่งทีทำไป
    แต่พวกเอ็งก็เอามาแสวงหาประโยชน์เพียงเพื่อหวังให้ร้ายสถาบัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    14 ล้านเสียงแห่งความฝัน อันดับ 1 ของโพลมโน หรือจะสู้ชีวิตจริงที่ต้องเจอ แพ้ทุกสนาม ทำใจให้ได้ก่อนพรรคถูกยุบ ไอโอปั่นไม่ขึ้น ไลฟ์แถลงคนดูหลักร้อย โหวตอะไรก็แพ้ ที่เหลือไว้แค่ความทรงจำ ที่คนไทยไม่ลืม ว่าในอดีตเคยมีพรรคใจต่ำที่ต้องการล้มสถาบันกษัตริย์ที่คนไทยรัก และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะลบชื่อพรรคทรามนี้ด้วยเสียงของประชาชน คนไทย ก็แค่อยากลองของใหม่ แต่หางโผล่เค้าก็ผลักไส ดูผลคะแนนเลือกตั้ง อบจ. แพ้กันเป็นแสนคะแนน หนำมั๊ยพวกเมิง ไม่มีคนไทยที่ไหน เค้าอยากให้ลูกตัวเองขายกีเสรี ไม่มีใครอยากให้หลานตัวเองถ่ายเอวีถูกกฏหมาย ไม่มีใครอยากให้ลูกไม่กตัญญูตามที่ก้าวไกลปั่นหัว เยาวชน ไม่มีใครอยากยกประเทศไทยให้เมกา ด้วยการล้มสถาบัน พวกคอมมิว นิส หลงยุค ปรีดีย์ก่อนจากไป ยังออกมาขอโทษและรู้สึกผิดพลาดกับสิ่งทีทำไป แต่พวกเอ็งก็เอามาแสวงหาประโยชน์เพียงเพื่อหวังให้ร้ายสถาบัน #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว