• Hot มากกก … แรงส์กว่านี้ก็ไฟลุกแล้วหล่ะค่ะ…กระพงทุบปรุงรส ลูกค้าชมทุกราย …ต้องลองค่ะ…รับรองติดใจ…ไปดูคอมเมนท์ได้เลยค่าาาาา⭕️ ต้องขอโทษลูกค้าก่อนเลยว่า สั่งไปทานแล้วอร่อยจนหยุดไม่ได้จริงๆ.... นี่เลยมาลองทานและอัดคลิปรีวิวรสชาติปลากระพงทุบให้ลูกค้าดูว่า อร่อยจึ้ง อร่อยดีย์ อร่อยเกิ๊นน .. คือ เหมาะกับการทานกับข้าวต้มมากนะคะ หรือจะทานเล่นก็ดีงาม .. อันนี้คือเนื้อปลา 100% ไม่มีแป้งเด้ออออปลากระพงทุบ ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ปลากระพงทุบ ใน Shopeehttps://th.shp.ee/TJpZ2pJเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลากระพง #อาหารทะเลแห้ง #ปลากระพงทุบ #กุนเชียงปลา
    Hot มากกก … แรงส์กว่านี้ก็ไฟลุกแล้วหล่ะค่ะ…กระพงทุบปรุงรส ลูกค้าชมทุกราย …ต้องลองค่ะ…รับรองติดใจ…ไปดูคอมเมนท์ได้เลยค่าาาาา♨️⭕️ ต้องขอโทษลูกค้าก่อนเลยว่า สั่งไปทานแล้วอร่อยจนหยุดไม่ได้จริงๆ.... นี่เลยมาลองทานและอัดคลิปรีวิวรสชาติปลากระพงทุบให้ลูกค้าดูว่า อร่อยจึ้ง อร่อยดีย์ อร่อยเกิ๊นน .. คือ เหมาะกับการทานกับข้าวต้มมากนะคะ หรือจะทานเล่นก็ดีงาม .. อันนี้คือเนื้อปลา 100% ไม่มีแป้งเด้ออออปลากระพงทุบ 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ปลากระพงทุบ 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/TJpZ2pJเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลากระพง #อาหารทะเลแห้ง #ปลากระพงทุบ #กุนเชียงปลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อการรีวิวโค้ดแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ – และความพยายามสร้างเครื่องมือใหม่ก็ยังไม่ง่าย

    หลายคนที่เขียนโค้ดคงคุ้นเคยกับการรีวิวโค้ดผ่าน GitHub ซึ่งแม้จะสะดวก แต่ก็มีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง “stacked pull requests” และ “interdiff reviews” ที่ GitHub ยังรองรับได้ไม่ดีนัก

    Matklad จาก TigerBeetle จึงทดลองสร้างเครื่องมือใหม่ชื่อว่า git-review โดยมีแนวคิดว่า “การรีวิวโค้ดควรเป็น commit หนึ่งที่อยู่บน branch ของ PR” ซึ่ง reviewer และ author สามารถแก้ไขร่วมกันได้ โดยใช้ inline comment ในโค้ดจริงแทนการพิมพ์ใน browser

    แนวคิดนี้ช่วยให้การรีวิวโค้ดมีบริบทมากขึ้น เช่น reviewer สามารถรันเทสต์, ลอง refactor, หรือใช้ code completion ได้ทันทีใน editor ของตัวเอง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีการแก้ไขโค้ดระหว่างรีวิว เพราะ comment ที่อยู่ใน commit อาจขัดแย้งกับโค้ดใหม่ ทำให้เกิด conflict และต้องใช้ git push --force-with-lease ซึ่งเพิ่มความยุ่งยาก

    สุดท้าย แม้แนวคิดจะดี แต่ git-review ก็ถูก “พักไว้ก่อน” เพราะความซับซ้อนเกินกว่าที่จะควบคุมได้ใน 500 บรรทัดของโค้ดต้นแบบ

    อย่างไรก็ตาม Matklad เชื่อว่าอนาคตของ code review อาจเปลี่ยนไป หาก Git รองรับ “Change-Id” แบบ Gerrit ซึ่งจะช่วยให้ track การเปลี่ยนแปลงของ commit ได้ดีขึ้น และอาจเปิดทางให้รีวิวแบบ interdiff กลายเป็นมาตรฐานใหม่

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    GitHub มีข้อจำกัดในการรองรับ stacked pull requests และ interdiff reviews
    git-review ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดลองแนวคิดใหม่ในการรีวิวโค้ด
    แนวคิดคือการใช้ commit เดียวบน PR branch เพื่อเก็บ comment รีวิว
    Reviewer สามารถใช้ editor ของตัวเองในการรันเทสต์และ refactor ได้ทันที
    การรีวิวแบบนี้ช่วยให้มีบริบทมากกว่าการดู diff ผ่าน browser
    ปัญหาเกิดเมื่อมีการแก้ไขโค้ดระหว่างรีวิว ทำให้ comment เกิด conflict
    ต้องใช้ git push --force-with-lease ซึ่งเพิ่มความยุ่งยาก
    git-review ถูกพักไว้เพราะความซับซ้อนเกินกว่าที่ควบคุมได้
    Matklad หวังว่า Git จะรองรับ Change-Id เพื่อช่วยให้ interdiff review เป็นไปได้
    เขาเชื่อว่าการรีวิวโค้ดควรอยู่ใน repository ไม่ใช่ในระบบ web-based

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gerrit และ Fossil เป็นระบบที่เก็บสถานะรีวิวไว้ใน repository
    เครื่องมืออย่าง git-appraise, git-bug, และ prr พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีต่าง ๆ
    Jane Street ใช้ระบบรีวิวภายในที่ไม่พึ่งพา web interface และมีประสิทธิภาพสูง
    ในปี 2025 เครื่องมือรีวิวโค้ดที่ได้รับความนิยมยังคงเป็น GitHub Pull Requests, Gerrit, และ Phabricator
    DevOps และ Agile ทำให้ความต้องการรีวิวโค้ดแบบ real-time และ contextual เพิ่มขึ้น

    https://tigerbeetle.com/blog/2025-08-04-code-review-can-be-better/
    🎙️ เมื่อการรีวิวโค้ดแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ – และความพยายามสร้างเครื่องมือใหม่ก็ยังไม่ง่าย หลายคนที่เขียนโค้ดคงคุ้นเคยกับการรีวิวโค้ดผ่าน GitHub ซึ่งแม้จะสะดวก แต่ก็มีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง “stacked pull requests” และ “interdiff reviews” ที่ GitHub ยังรองรับได้ไม่ดีนัก Matklad จาก TigerBeetle จึงทดลองสร้างเครื่องมือใหม่ชื่อว่า git-review โดยมีแนวคิดว่า “การรีวิวโค้ดควรเป็น commit หนึ่งที่อยู่บน branch ของ PR” ซึ่ง reviewer และ author สามารถแก้ไขร่วมกันได้ โดยใช้ inline comment ในโค้ดจริงแทนการพิมพ์ใน browser แนวคิดนี้ช่วยให้การรีวิวโค้ดมีบริบทมากขึ้น เช่น reviewer สามารถรันเทสต์, ลอง refactor, หรือใช้ code completion ได้ทันทีใน editor ของตัวเอง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีการแก้ไขโค้ดระหว่างรีวิว เพราะ comment ที่อยู่ใน commit อาจขัดแย้งกับโค้ดใหม่ ทำให้เกิด conflict และต้องใช้ git push --force-with-lease ซึ่งเพิ่มความยุ่งยาก สุดท้าย แม้แนวคิดจะดี แต่ git-review ก็ถูก “พักไว้ก่อน” เพราะความซับซ้อนเกินกว่าที่จะควบคุมได้ใน 500 บรรทัดของโค้ดต้นแบบ อย่างไรก็ตาม Matklad เชื่อว่าอนาคตของ code review อาจเปลี่ยนไป หาก Git รองรับ “Change-Id” แบบ Gerrit ซึ่งจะช่วยให้ track การเปลี่ยนแปลงของ commit ได้ดีขึ้น และอาจเปิดทางให้รีวิวแบบ interdiff กลายเป็นมาตรฐานใหม่ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ GitHub มีข้อจำกัดในการรองรับ stacked pull requests และ interdiff reviews ➡️ git-review ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดลองแนวคิดใหม่ในการรีวิวโค้ด ➡️ แนวคิดคือการใช้ commit เดียวบน PR branch เพื่อเก็บ comment รีวิว ➡️ Reviewer สามารถใช้ editor ของตัวเองในการรันเทสต์และ refactor ได้ทันที ➡️ การรีวิวแบบนี้ช่วยให้มีบริบทมากกว่าการดู diff ผ่าน browser ➡️ ปัญหาเกิดเมื่อมีการแก้ไขโค้ดระหว่างรีวิว ทำให้ comment เกิด conflict ➡️ ต้องใช้ git push --force-with-lease ซึ่งเพิ่มความยุ่งยาก ➡️ git-review ถูกพักไว้เพราะความซับซ้อนเกินกว่าที่ควบคุมได้ ➡️ Matklad หวังว่า Git จะรองรับ Change-Id เพื่อช่วยให้ interdiff review เป็นไปได้ ➡️ เขาเชื่อว่าการรีวิวโค้ดควรอยู่ใน repository ไม่ใช่ในระบบ web-based ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gerrit และ Fossil เป็นระบบที่เก็บสถานะรีวิวไว้ใน repository ➡️ เครื่องมืออย่าง git-appraise, git-bug, และ prr พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีต่าง ๆ ➡️ Jane Street ใช้ระบบรีวิวภายในที่ไม่พึ่งพา web interface และมีประสิทธิภาพสูง ➡️ ในปี 2025 เครื่องมือรีวิวโค้ดที่ได้รับความนิยมยังคงเป็น GitHub Pull Requests, Gerrit, และ Phabricator ➡️ DevOps และ Agile ทำให้ความต้องการรีวิวโค้ดแบบ real-time และ contextual เพิ่มขึ้น https://tigerbeetle.com/blog/2025-08-04-code-review-can-be-better/
    TIGERBEETLE.COM
    Code Review Can Be Better
    Insights, updates, and technical deep dives on building a high-performance financial transactions database.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Excel เปลี่ยนโฉม – เมื่อ AI เข้าไปอยู่ในทุกเซลล์ด้วยฟังก์ชัน =COPILOT()

    ลองจินตนาการว่าแทนที่จะต้องเขียนสูตรยาว ๆ หรือใช้ฟังก์ชันซับซ้อนใน Excel คุณสามารถพิมพ์ประโยคธรรมดา เช่น “สรุปความคิดเห็นของลูกค้าในเซลล์ A2” แล้ว Excel จะจัดการให้คุณทันที นั่นคือสิ่งที่ Microsoft กำลังทำกับฟังก์ชันใหม่ชื่อว่า =COPILOT()

    ฟังก์ชันนี้ฝังอยู่ในเซลล์ Excel โดยตรง ไม่ใช่แค่แถบด้านข้างหรือปลั๊กอินอีกต่อไป ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่งเป็นภาษาธรรมชาติ พร้อมระบุช่วงเซลล์ที่ต้องการให้ AI วิเคราะห์ แล้วผลลัพธ์จะเปลี่ยนตามข้อมูลต้นทางแบบเรียลไทม์

    ตัวอย่างการใช้งานมีตั้งแต่การสรุปความคิดเห็นของลูกค้า การจัดหมวดหมู่ข้อมูล การสร้างตาราง ไปจนถึงการแสดงอีโมจิประกอบความรู้สึก ฟังก์ชันนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับสูตร Excel เดิม เช่น IF, SWITCH, LAMBDA และ WRAPROWS ได้อย่างลื่นไหล

    แม้จะยังอยู่ในช่วงเบต้า และจำกัดเฉพาะผู้ใช้ Microsoft 365 Copilot บน Windows และ Mac แต่ Microsoft มีแผนจะขยายไปยัง Excel เวอร์ชันเว็บในเร็ว ๆ นี้

    ข้อมูลในข่าว
    Microsoft เปิดตัวฟังก์ชันใหม่ใน Excel ชื่อว่า =COPILOT()
    ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่งเป็นภาษาธรรมชาติในเซลล์ Excel ได้โดยตรง
    ฟังก์ชันสามารถสรุปข้อมูล จัดหมวดหมู่ และสร้างตารางจากข้อมูลในชีต
    ทำงานร่วมกับสูตร Excel เดิม เช่น IF, SWITCH, LAMBDA และ WRAPROWS
    ผลลัพธ์เปลี่ยนตามข้อมูลต้นทางแบบอัตโนมัติ
    ใช้ได้กับ Excel บน Windows (เวอร์ชัน 2509+) และ Mac (เวอร์ชัน 16.101+)
    รองรับสูงสุด 100 ครั้งต่อ 10 นาที และ 300 ครั้งต่อชั่วโมง
    ข้อมูลที่ใช้ในฟังก์ชันจะไม่ถูกนำไปฝึกโมเดล AI
    ฟังก์ชันนี้มาแทน LABS.GENERATIVEAI ที่เคยทดลองในปี 2023

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GPT-4.1-mini เป็นโมเดลที่ใช้ใน Excel Copilot เพื่อความเร็วและความแม่นยำ
    การฝัง AI ในเซลล์ Excel เป็นการเปลี่ยนแนวคิดจาก “ผู้ช่วย” เป็น “ผู้ร่วมงาน”
    ฟังก์ชันนี้ช่วยลดภาระการเขียนสูตรซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    สามารถใช้ในการวิเคราะห์ความรู้สึกของข้อความ เช่น รีวิวสินค้า
    การใช้ AI ใน Excel ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่
    Microsoft มีแผนจะเพิ่มการเชื่อมต่อกับข้อมูลภายนอก เช่น เว็บหรือฐานข้อมูลองค์กรในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/no-escape-from-ai-now-microsoft-is-shoving-copilot-into-every-excel-cell
    🧠 Excel เปลี่ยนโฉม – เมื่อ AI เข้าไปอยู่ในทุกเซลล์ด้วยฟังก์ชัน =COPILOT() ลองจินตนาการว่าแทนที่จะต้องเขียนสูตรยาว ๆ หรือใช้ฟังก์ชันซับซ้อนใน Excel คุณสามารถพิมพ์ประโยคธรรมดา เช่น “สรุปความคิดเห็นของลูกค้าในเซลล์ A2” แล้ว Excel จะจัดการให้คุณทันที นั่นคือสิ่งที่ Microsoft กำลังทำกับฟังก์ชันใหม่ชื่อว่า =COPILOT() ฟังก์ชันนี้ฝังอยู่ในเซลล์ Excel โดยตรง ไม่ใช่แค่แถบด้านข้างหรือปลั๊กอินอีกต่อไป ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่งเป็นภาษาธรรมชาติ พร้อมระบุช่วงเซลล์ที่ต้องการให้ AI วิเคราะห์ แล้วผลลัพธ์จะเปลี่ยนตามข้อมูลต้นทางแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างการใช้งานมีตั้งแต่การสรุปความคิดเห็นของลูกค้า การจัดหมวดหมู่ข้อมูล การสร้างตาราง ไปจนถึงการแสดงอีโมจิประกอบความรู้สึก ฟังก์ชันนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับสูตร Excel เดิม เช่น IF, SWITCH, LAMBDA และ WRAPROWS ได้อย่างลื่นไหล แม้จะยังอยู่ในช่วงเบต้า และจำกัดเฉพาะผู้ใช้ Microsoft 365 Copilot บน Windows และ Mac แต่ Microsoft มีแผนจะขยายไปยัง Excel เวอร์ชันเว็บในเร็ว ๆ นี้ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Microsoft เปิดตัวฟังก์ชันใหม่ใน Excel ชื่อว่า =COPILOT() ➡️ ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่งเป็นภาษาธรรมชาติในเซลล์ Excel ได้โดยตรง ➡️ ฟังก์ชันสามารถสรุปข้อมูล จัดหมวดหมู่ และสร้างตารางจากข้อมูลในชีต ➡️ ทำงานร่วมกับสูตร Excel เดิม เช่น IF, SWITCH, LAMBDA และ WRAPROWS ➡️ ผลลัพธ์เปลี่ยนตามข้อมูลต้นทางแบบอัตโนมัติ ➡️ ใช้ได้กับ Excel บน Windows (เวอร์ชัน 2509+) และ Mac (เวอร์ชัน 16.101+) ➡️ รองรับสูงสุด 100 ครั้งต่อ 10 นาที และ 300 ครั้งต่อชั่วโมง ➡️ ข้อมูลที่ใช้ในฟังก์ชันจะไม่ถูกนำไปฝึกโมเดล AI ➡️ ฟังก์ชันนี้มาแทน LABS.GENERATIVEAI ที่เคยทดลองในปี 2023 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GPT-4.1-mini เป็นโมเดลที่ใช้ใน Excel Copilot เพื่อความเร็วและความแม่นยำ ➡️ การฝัง AI ในเซลล์ Excel เป็นการเปลี่ยนแนวคิดจาก “ผู้ช่วย” เป็น “ผู้ร่วมงาน” ➡️ ฟังก์ชันนี้ช่วยลดภาระการเขียนสูตรซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ สามารถใช้ในการวิเคราะห์ความรู้สึกของข้อความ เช่น รีวิวสินค้า ➡️ การใช้ AI ใน Excel ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ➡️ Microsoft มีแผนจะเพิ่มการเชื่อมต่อกับข้อมูลภายนอก เช่น เว็บหรือฐานข้อมูลองค์กรในอนาคต https://www.techradar.com/pro/no-escape-from-ai-now-microsoft-is-shoving-copilot-into-every-excel-cell
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 อัปเดตล่าสุดอาจทำให้ SSD หายไปจากระบบ: ปัญหาที่ผู้ใช้ต้องระวัง

    หลังจาก Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5063878 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ผู้ใช้หลายรายเริ่มรายงานว่า SSD ของตนหายไปจากระบบปฏิบัติการหลังจากถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น การอัปเดตเกม Cyberpunk 2077 หรือ Honkai: Star Rail ที่มีขนาดไฟล์เกิน 50GB

    อาการที่พบคือ SSD จะหายไปจากระบบทันทีหลังการเขียนข้อมูลจำนวนมาก และแม้จะรีสตาร์ทเครื่องแล้ว SSD จะกลับมา แต่ปัญหานี้ก็เกิดซ้ำเมื่อมีการเขียนข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญหายของไฟล์หรือความเสียหายของระบบไฟล์

    จากการทดสอบโดยผู้ใช้และนักรีวิว พบว่า SSD ที่ใช้คอนโทรลเลอร์ Phison และไม่มี DRAM cache มีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะรุ่นเหล่านั้น เพราะ SSD จากหลายแบรนด์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

    แม้ Microsoft ยังไม่ออกแถลงการณ์หรือแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่บนระบบที่ติดตั้งอัปเดตนี้ และควรสำรองข้อมูลไว้เสมอ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ปัญหานี้คล้ายกับบั๊ก HMB ที่เคยเกิดกับ WD SN770 ในปี 2024
    SSD ที่มี DRAM cache เช่น Samsung 990 Pro, Seagate FireCuda 530 ไม่พบปัญหา
    ผู้ใช้สามารถถอนการติดตั้งอัปเดต KB5063878 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
    องค์กรที่ใช้ WSUS/SCCM พบปัญหา error code 0x80240069 จากอัปเดตนี้
    การเขียนข้อมูลแบบ sequential ต่อเนื่องอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดบั๊ก
    ผู้ใช้ควรรายงานปัญหาผ่าน Microsoft Feedback Hub เพื่อช่วยเร่งการแก้ไข

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/latest-windows-11-security-patch-might-be-breaking-ssds-under-heavy-workloads-users-report-disappearing-drives-following-file-transfers-including-some-that-cannot-be-recovered-after-a-reboot
    🧨 Windows 11 อัปเดตล่าสุดอาจทำให้ SSD หายไปจากระบบ: ปัญหาที่ผู้ใช้ต้องระวัง หลังจาก Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5063878 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ผู้ใช้หลายรายเริ่มรายงานว่า SSD ของตนหายไปจากระบบปฏิบัติการหลังจากถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น การอัปเดตเกม Cyberpunk 2077 หรือ Honkai: Star Rail ที่มีขนาดไฟล์เกิน 50GB อาการที่พบคือ SSD จะหายไปจากระบบทันทีหลังการเขียนข้อมูลจำนวนมาก และแม้จะรีสตาร์ทเครื่องแล้ว SSD จะกลับมา แต่ปัญหานี้ก็เกิดซ้ำเมื่อมีการเขียนข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญหายของไฟล์หรือความเสียหายของระบบไฟล์ จากการทดสอบโดยผู้ใช้และนักรีวิว พบว่า SSD ที่ใช้คอนโทรลเลอร์ Phison และไม่มี DRAM cache มีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะรุ่นเหล่านั้น เพราะ SSD จากหลายแบรนด์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Microsoft ยังไม่ออกแถลงการณ์หรือแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่บนระบบที่ติดตั้งอัปเดตนี้ และควรสำรองข้อมูลไว้เสมอ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ปัญหานี้คล้ายกับบั๊ก HMB ที่เคยเกิดกับ WD SN770 ในปี 2024 ➡️ SSD ที่มี DRAM cache เช่น Samsung 990 Pro, Seagate FireCuda 530 ไม่พบปัญหา ➡️ ผู้ใช้สามารถถอนการติดตั้งอัปเดต KB5063878 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ➡️ องค์กรที่ใช้ WSUS/SCCM พบปัญหา error code 0x80240069 จากอัปเดตนี้ ➡️ การเขียนข้อมูลแบบ sequential ต่อเนื่องอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดบั๊ก ➡️ ผู้ใช้ควรรายงานปัญหาผ่าน Microsoft Feedback Hub เพื่อช่วยเร่งการแก้ไข https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/latest-windows-11-security-patch-might-be-breaking-ssds-under-heavy-workloads-users-report-disappearing-drives-following-file-transfers-including-some-that-cannot-be-recovered-after-a-reboot
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ TikTok กลายเป็นห้างสรรพสินค้า: พลังของวิดีโอสั้นที่เปลี่ยนใจผู้ซื้อ

    ลองนึกภาพว่าเราเลื่อนดู TikTok แล้วเจอคนธรรมดารีวิวสบู่ล้างหน้าแบบบ้าน ๆ ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่แบรนด์ดัง แต่พูดจริง ใช้จริง และดูน่าเชื่อถือ—คุณอาจจะซื้อทันทีโดยไม่รู้ตัว

    จากผลสำรวจของ Omnisend พบว่า 66% ของผู้บริโภคเชื่อถือคำแนะนำจากผู้ใช้ทั่วไปบนโซเชียลมีเดีย มากกว่าคำแนะนำจากดาราหรืออินฟลูเอนเซอร์ เพราะคนดังมักได้รับค่าจ้างจากแบรนด์

    วิดีโอที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือคลิปสั้น 10–15 วินาที ที่ถ่ายแบบไม่เป็นทางการ พูดจากมุมมองส่วนตัว เหมือนเพื่อนแนะนำเพื่อน ไม่ใช่โฆษณา

    นอกจากนี้ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้โซเชียลมีเดียในการ “หาข้อมูลก่อนซื้อ” โดยให้ความสำคัญกับรีวิวที่ได้รับการยืนยัน และคอมเมนต์จากผู้ใช้จริง

    แม้ TikTok จะไม่ได้รับเครดิตตรง ๆ ว่าเป็นตัวกระตุ้นยอดขาย แต่การเห็นสินค้าซ้ำ ๆ บนแพลตฟอร์มนี้ทำให้ผู้บริโภค “จำ” และ “เชื่อ” เมื่อเห็นสินค้านั้นในช่องทางอื่น

    พฤติกรรมผู้บริโภคยุคโซเชียล
    66% เชื่อคำแนะนำจากผู้ใช้ทั่วไปมากกว่าคนดัง
    70% ใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลก่อนซื้อ
    45% มีแนวโน้มซื้อสินค้าที่กำลังเป็นกระแสบนแพลตฟอร์ม

    ประสิทธิภาพของวิดีโอสั้น
    วิดีโอ 10–15 วินาทีแบบไม่เป็นทางการให้ผลดีที่สุด
    การพูดจากมุมมองส่วนตัวสร้างความน่าเชื่อถือ
    การเห็นสินค้าซ้ำ ๆ บนแพลตฟอร์มช่วยกระตุ้นการจดจำ

    ความเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การตลาด
    TikTok กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจซื้อ
    แบรนด์ต้องปรับตัวจากการใช้คนดัง มาใช้ผู้ใช้จริง
    การสร้างคอนเทนต์ที่ “ดูจริง” สำคัญกว่าความสวยงาม

    ข้อมูลเสริมจากวงการ e-commerce
    Shoppable Videos ช่วยลดขั้นตอนจากการดูไปสู่การซื้อ
    82% ของผู้ชมตัดสินใจซื้อหลังดูวิดีโอสินค้า
    Instagram มีผู้ใช้ที่ช้อปผ่านแพลตฟอร์มเกือบครึ่งหนึ่งทุกสัปดาห์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/these-kinds-of-social-media-videos-are-most-likely-to-convert-shoppers
    🧠 เมื่อ TikTok กลายเป็นห้างสรรพสินค้า: พลังของวิดีโอสั้นที่เปลี่ยนใจผู้ซื้อ ลองนึกภาพว่าเราเลื่อนดู TikTok แล้วเจอคนธรรมดารีวิวสบู่ล้างหน้าแบบบ้าน ๆ ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่แบรนด์ดัง แต่พูดจริง ใช้จริง และดูน่าเชื่อถือ—คุณอาจจะซื้อทันทีโดยไม่รู้ตัว จากผลสำรวจของ Omnisend พบว่า 66% ของผู้บริโภคเชื่อถือคำแนะนำจากผู้ใช้ทั่วไปบนโซเชียลมีเดีย มากกว่าคำแนะนำจากดาราหรืออินฟลูเอนเซอร์ เพราะคนดังมักได้รับค่าจ้างจากแบรนด์ วิดีโอที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือคลิปสั้น 10–15 วินาที ที่ถ่ายแบบไม่เป็นทางการ พูดจากมุมมองส่วนตัว เหมือนเพื่อนแนะนำเพื่อน ไม่ใช่โฆษณา นอกจากนี้ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้โซเชียลมีเดียในการ “หาข้อมูลก่อนซื้อ” โดยให้ความสำคัญกับรีวิวที่ได้รับการยืนยัน และคอมเมนต์จากผู้ใช้จริง แม้ TikTok จะไม่ได้รับเครดิตตรง ๆ ว่าเป็นตัวกระตุ้นยอดขาย แต่การเห็นสินค้าซ้ำ ๆ บนแพลตฟอร์มนี้ทำให้ผู้บริโภค “จำ” และ “เชื่อ” เมื่อเห็นสินค้านั้นในช่องทางอื่น ✅ พฤติกรรมผู้บริโภคยุคโซเชียล ➡️ 66% เชื่อคำแนะนำจากผู้ใช้ทั่วไปมากกว่าคนดัง ➡️ 70% ใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลก่อนซื้อ ➡️ 45% มีแนวโน้มซื้อสินค้าที่กำลังเป็นกระแสบนแพลตฟอร์ม ✅ ประสิทธิภาพของวิดีโอสั้น ➡️ วิดีโอ 10–15 วินาทีแบบไม่เป็นทางการให้ผลดีที่สุด ➡️ การพูดจากมุมมองส่วนตัวสร้างความน่าเชื่อถือ ➡️ การเห็นสินค้าซ้ำ ๆ บนแพลตฟอร์มช่วยกระตุ้นการจดจำ ✅ ความเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การตลาด ➡️ TikTok กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจซื้อ ➡️ แบรนด์ต้องปรับตัวจากการใช้คนดัง มาใช้ผู้ใช้จริง ➡️ การสร้างคอนเทนต์ที่ “ดูจริง” สำคัญกว่าความสวยงาม ✅ ข้อมูลเสริมจากวงการ e-commerce ➡️ Shoppable Videos ช่วยลดขั้นตอนจากการดูไปสู่การซื้อ ➡️ 82% ของผู้ชมตัดสินใจซื้อหลังดูวิดีโอสินค้า ➡️ Instagram มีผู้ใช้ที่ช้อปผ่านแพลตฟอร์มเกือบครึ่งหนึ่งทุกสัปดาห์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/these-kinds-of-social-media-videos-are-most-likely-to-convert-shoppers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    These kinds of social media videos are most likely to convert shoppers
    Many people don't trust influencer and celebrity product recommendations, a survey says.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทุบ" ทุกความหิวให้แตกกระจาย ปลากระพงทุบ กรอบนอก หอมใน เคี้ยวเพลินทุกคำ อร่อยแบบไม่ต้องง้อร้านอาหาร ส่งเร็ว สดใหม่ ถึงมือแน่นอน ทักเลย ของดีไม่รอใคร!⭕️ ต้องขอโทษลูกค้าก่อนเลยว่า สั่งไปทานแล้วอร่อยจนหยุดไม่ได้ .... นี่เลยมาลองทานและอัดคลิปรีวิวรสชาติปลากระพงทุบให้ลูกค้าดูว่า อร่อยจึ้ง อร่อยดีย์ อร่อยเกิ๊นน .. คือ เหมาะกับการทานกับข้าวต้มมากนะคะ หรือจะทานเล่นก็ดีงาม .. อันนี้คือเนื้อปลา 100% ไม่มีแป้งเด้ออออปลากระพงทุบ ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ปลากระพงทุบ ใน Shopeehttps://th.shp.ee/TJpZ2pJเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง#ปลากระพงทุบ #ทุบความหิว #ปลากระพง #อาหารทะเลแห้ง #ของกินเล่น #ของฝากทะเล #อาหารทะเลกรอบ #ของอร่อยบอกต่อ #กินเพลิน #สแน็คเพื่อสุขภาพ #SeafoodLover #FishSnack #กินแล้วติดใจ
    💥 "ทุบ" ทุกความหิวให้แตกกระจาย🐟 ปลากระพงทุบ กรอบนอก หอมใน เคี้ยวเพลินทุกคำ⚡ อร่อยแบบไม่ต้องง้อร้านอาหาร📦 ส่งเร็ว สดใหม่ ถึงมือแน่นอน📲 ทักเลย ของดีไม่รอใคร!♨️⭕️ ต้องขอโทษลูกค้าก่อนเลยว่า สั่งไปทานแล้วอร่อยจนหยุดไม่ได้ .... นี่เลยมาลองทานและอัดคลิปรีวิวรสชาติปลากระพงทุบให้ลูกค้าดูว่า อร่อยจึ้ง อร่อยดีย์ อร่อยเกิ๊นน .. คือ เหมาะกับการทานกับข้าวต้มมากนะคะ หรือจะทานเล่นก็ดีงาม .. อันนี้คือเนื้อปลา 100% ไม่มีแป้งเด้ออออปลากระพงทุบ 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ปลากระพงทุบ 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/TJpZ2pJเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง#ปลากระพงทุบ #ทุบความหิว #ปลากระพง #อาหารทะเลแห้ง #ของกินเล่น #ของฝากทะเล #อาหารทะเลกรอบ #ของอร่อยบอกต่อ #กินเพลิน #สแน็คเพื่อสุขภาพ #SeafoodLover #FishSnack #กินแล้วติดใจ 🐟💙✨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโต๊ะทดสอบ: der8enchtable โต๊ะทดสอบสุดล้ำที่รวมพลังงาน ความเย็น และการเชื่อมต่อไว้ในแผ่นเดียว

    ถ้าคุณเป็นสายฮาร์ดแวร์ที่ชอบทดสอบอุปกรณ์ เปลี่ยนเมนบอร์ดบ่อย ๆ หรือทำงานรีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โต๊ะทดสอบแบบเปิด (open bench table) คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ และล่าสุด Thermal Grizzly ร่วมกับ Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs ได้เปิดตัว der8enchtable — โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพที่ไม่ใช่แค่โครงเหล็กวางเมนบอร์ด แต่เป็นแผ่น PCB ที่มีระบบควบคุมพัดลม ปั๊มน้ำ พอร์ตเก็บข้อมูล และไฟ RGB ในตัว

    der8enchtable เปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2025 และคว้ารางวัลด้านการออกแบบทันที จุดเด่นคือการรวมพอร์ต SATA, USB, microSD, พัดลม และปั๊มน้ำไว้ในแผ่น PCB เดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถ hot-swap อุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องต่อสายเข้ากับเมนบอร์ดโดยตรง

    โต๊ะนี้มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน (Fan Zones) และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน (Pump Zone) โดยแต่ละโซนมีหัวต่อ 4-pin ที่จ่ายไฟได้ถึง 3A พร้อมฟิวส์แยก และสามารถควบคุมความเร็วได้แบบอิสระ หรือส่งต่อให้เมนบอร์ดควบคุมก็ได้

    นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB Type-A และ Type-C, ช่องเสียบ microSD สำหรับโหลด OS หรือ BIOS, จุดติดตั้ง SSD ขนาด 2.5 นิ้ว และไฟ RGB ที่ควบคุมผ่านเมนบอร์ดหรือคอนโทรลเลอร์แยก โต๊ะนี้ยังสามารถปรับขนาดให้รองรับ ATX, mATX และ Mini-ITX ได้ และมีโครงแบบโมดูลาร์ที่ติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้ตามต้องการ

    Thermal Grizzly เปิดตัว der8enchtable โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพ
    พัฒนาโดย Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs

    โต๊ะใช้ PCB เป็นฐานหลักที่รวมพอร์ตและระบบควบคุมไว้ในแผ่นเดียว
    มีพอร์ต SATA, USB, microSD, และไฟ RGB ในตัว

    มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน
    แต่ละหัวต่อจ่ายไฟได้ 3A พร้อมฟิวส์แยก และควบคุมความเร็วได้

    รองรับการติดตั้ง SSD 2.5 นิ้ว 2 ลูก และ microSD ได้ 4 ช่อง
    เหมาะสำหรับโหลด OS, BIOS หรือไฟล์ทดสอบ

    มีพอร์ต USB Type-A 4 ช่อง และ Type-C 2 ช่อง
    ใช้พลังงานจาก PCIe 6-pin และเชื่อมต่อเมนบอร์ดผ่าน USB header

    รองรับเมนบอร์ด ATX, mATX, Mini-ITX และติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้
    มีสาย Velcro สำหรับจัดการสายไฟ และไฟ RGB ควบคุมผ่าน 3-pin header

    ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $268.98 พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
    รวมสาย, ขาตั้ง, อุปกรณ์ติดตั้ง และประแจ Allen

    der8enchtable ได้รับรางวัล Best of Computex 2025 จาก TechPowerUp
    เพราะรวมฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับนักทดสอบไว้ในอุปกรณ์เดียว

    โต๊ะนี้ช่วยลดเวลาการเปลี่ยนเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ
    โดยไม่ต้องถอดสายหรือติดตั้งใหม่ทุกครั้ง

    เหมาะสำหรับนักรีวิว, นักโอเวอร์คล็อก, และผู้พัฒนาไดรเวอร์หรือ BIOS
    เพราะสามารถทดสอบหลายระบบได้อย่างรวดเร็ว

    การใช้ PCB เป็นฐานช่วยให้การจัดการพลังงานและความเย็นมีประสิทธิภาพ
    โดยไม่ต้องพึ่งพาเคสหรือระบบแยก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-grizzly-and-der8auer-launch-the-der8enchtable-enthusiast-test-bench-boasts-an-open-design-integrated-pcb-for-storage-and-cooling
    🧪🛠️ เรื่องเล่าจากโต๊ะทดสอบ: der8enchtable โต๊ะทดสอบสุดล้ำที่รวมพลังงาน ความเย็น และการเชื่อมต่อไว้ในแผ่นเดียว ถ้าคุณเป็นสายฮาร์ดแวร์ที่ชอบทดสอบอุปกรณ์ เปลี่ยนเมนบอร์ดบ่อย ๆ หรือทำงานรีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โต๊ะทดสอบแบบเปิด (open bench table) คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ และล่าสุด Thermal Grizzly ร่วมกับ Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs ได้เปิดตัว der8enchtable — โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพที่ไม่ใช่แค่โครงเหล็กวางเมนบอร์ด แต่เป็นแผ่น PCB ที่มีระบบควบคุมพัดลม ปั๊มน้ำ พอร์ตเก็บข้อมูล และไฟ RGB ในตัว der8enchtable เปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2025 และคว้ารางวัลด้านการออกแบบทันที จุดเด่นคือการรวมพอร์ต SATA, USB, microSD, พัดลม และปั๊มน้ำไว้ในแผ่น PCB เดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถ hot-swap อุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องต่อสายเข้ากับเมนบอร์ดโดยตรง โต๊ะนี้มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน (Fan Zones) และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน (Pump Zone) โดยแต่ละโซนมีหัวต่อ 4-pin ที่จ่ายไฟได้ถึง 3A พร้อมฟิวส์แยก และสามารถควบคุมความเร็วได้แบบอิสระ หรือส่งต่อให้เมนบอร์ดควบคุมก็ได้ นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB Type-A และ Type-C, ช่องเสียบ microSD สำหรับโหลด OS หรือ BIOS, จุดติดตั้ง SSD ขนาด 2.5 นิ้ว และไฟ RGB ที่ควบคุมผ่านเมนบอร์ดหรือคอนโทรลเลอร์แยก โต๊ะนี้ยังสามารถปรับขนาดให้รองรับ ATX, mATX และ Mini-ITX ได้ และมีโครงแบบโมดูลาร์ที่ติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้ตามต้องการ ✅ Thermal Grizzly เปิดตัว der8enchtable โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพ ➡️ พัฒนาโดย Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs ✅ โต๊ะใช้ PCB เป็นฐานหลักที่รวมพอร์ตและระบบควบคุมไว้ในแผ่นเดียว ➡️ มีพอร์ต SATA, USB, microSD, และไฟ RGB ในตัว ✅ มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน ➡️ แต่ละหัวต่อจ่ายไฟได้ 3A พร้อมฟิวส์แยก และควบคุมความเร็วได้ ✅ รองรับการติดตั้ง SSD 2.5 นิ้ว 2 ลูก และ microSD ได้ 4 ช่อง ➡️ เหมาะสำหรับโหลด OS, BIOS หรือไฟล์ทดสอบ ✅ มีพอร์ต USB Type-A 4 ช่อง และ Type-C 2 ช่อง ➡️ ใช้พลังงานจาก PCIe 6-pin และเชื่อมต่อเมนบอร์ดผ่าน USB header ✅ รองรับเมนบอร์ด ATX, mATX, Mini-ITX และติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้ ➡️ มีสาย Velcro สำหรับจัดการสายไฟ และไฟ RGB ควบคุมผ่าน 3-pin header ✅ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $268.98 พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ➡️ รวมสาย, ขาตั้ง, อุปกรณ์ติดตั้ง และประแจ Allen ✅ der8enchtable ได้รับรางวัล Best of Computex 2025 จาก TechPowerUp ➡️ เพราะรวมฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับนักทดสอบไว้ในอุปกรณ์เดียว ✅ โต๊ะนี้ช่วยลดเวลาการเปลี่ยนเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ➡️ โดยไม่ต้องถอดสายหรือติดตั้งใหม่ทุกครั้ง ✅ เหมาะสำหรับนักรีวิว, นักโอเวอร์คล็อก, และผู้พัฒนาไดรเวอร์หรือ BIOS ➡️ เพราะสามารถทดสอบหลายระบบได้อย่างรวดเร็ว ✅ การใช้ PCB เป็นฐานช่วยให้การจัดการพลังงานและความเย็นมีประสิทธิภาพ ➡️ โดยไม่ต้องพึ่งพาเคสหรือระบบแยก https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-grizzly-and-der8auer-launch-the-der8enchtable-enthusiast-test-bench-boasts-an-open-design-integrated-pcb-for-storage-and-cooling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากหน้าบ้าน: เมื่อกล่องปริศนาอาจเป็นกับดักไซเบอร์จาก QR Code

    ลองจินตนาการว่าคุณกลับบ้านมาแล้วพบกล่องพัสดุวางอยู่หน้าประตู โดยไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใครในบ้านสั่งของนั้น แต่บนกล่องกลับมี QR code ขนาดใหญ่พร้อมข้อความเชิญชวนให้สแกนเพื่อ “ยืนยันการรับสินค้า” หรือ “รับส่วนลดพิเศษ” — นี่คือรูปแบบใหม่ของกลโกงที่ FBI เตือนว่าอันตรายมาก

    กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ผู้ขายออนไลน์ส่งสินค้าราคาถูกไปยังที่อยู่สุ่ม แล้วใช้ชื่อผู้รับในการเขียนรีวิวปลอมเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่เวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า “quishing” นั้นร้ายแรงกว่า เพราะ QR code บนกล่องสามารถพาคุณไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลส่วนตัว หรือแย่กว่านั้น — ติดตั้งมัลแวร์ลงในมือถือของคุณทันทีที่สแกน

    FBI ระบุว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สงสัยอะไรและสแกน QR code ทันที กล่องเหล่านี้มักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของผู้รับ และเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม ผู้ใช้จะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรืออนุญาตให้เข้าถึงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว

    FBI เตือนประชาชนเกี่ยวกับกลโกงใหม่ที่ใช้ QR code บนพัสดุที่ไม่ได้สั่ง
    เรียกว่า “quishing” เป็นการหลอกให้สแกน QR เพื่อขโมยข้อมูล

    กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ใช้ชื่อผู้รับในการรีวิวปลอม
    แต่เวอร์ชันใหม่มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและการเงิน

    เมื่อสแกน QR code อาจถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลบัตรเครดิต
    หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในมือถือทันที

    กล่องมักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับสแกนด้วยความสงสัย
    เป็นเทคนิคจิตวิทยาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวง

    FBI แนะนำให้รายงานเหตุการณ์เหล่านี้ผ่านเว็บไซต์ IC3.gov
    พร้อมตรวจสอบบัญชีออนไลน์และขอรายงานเครดิตฟรีจาก Experian, Equifax, TransUnion

    QR code เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในร้านอาหาร การตลาด และการชำระเงิน
    ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยและไม่ระวังเมื่อเห็น QR code บนกล่องพัสดุ

    การสแกน QR code เปรียบเสมือนการคลิกลิงก์ โดยไม่สามารถเห็น URL ล่วงหน้า
    ต่างจากลิงก์ที่สามารถตรวจสอบปลายทางก่อนคลิก

    โทรศัพท์มือถือมักไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์เท่ากับคอมพิวเตอร์
    ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของกลโกงแบบ quishing

    66% ของผู้ใช้เคยสแกน QR code เพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย
    เพิ่มความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/fbi-warning-danger-could-be-arriving-at-your-door-in-an-unlikely-package
    📦📲 เรื่องเล่าจากหน้าบ้าน: เมื่อกล่องปริศนาอาจเป็นกับดักไซเบอร์จาก QR Code ลองจินตนาการว่าคุณกลับบ้านมาแล้วพบกล่องพัสดุวางอยู่หน้าประตู โดยไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใครในบ้านสั่งของนั้น แต่บนกล่องกลับมี QR code ขนาดใหญ่พร้อมข้อความเชิญชวนให้สแกนเพื่อ “ยืนยันการรับสินค้า” หรือ “รับส่วนลดพิเศษ” — นี่คือรูปแบบใหม่ของกลโกงที่ FBI เตือนว่าอันตรายมาก กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ผู้ขายออนไลน์ส่งสินค้าราคาถูกไปยังที่อยู่สุ่ม แล้วใช้ชื่อผู้รับในการเขียนรีวิวปลอมเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่เวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า “quishing” นั้นร้ายแรงกว่า เพราะ QR code บนกล่องสามารถพาคุณไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลส่วนตัว หรือแย่กว่านั้น — ติดตั้งมัลแวร์ลงในมือถือของคุณทันทีที่สแกน FBI ระบุว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สงสัยอะไรและสแกน QR code ทันที กล่องเหล่านี้มักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของผู้รับ และเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม ผู้ใช้จะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรืออนุญาตให้เข้าถึงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว ✅ FBI เตือนประชาชนเกี่ยวกับกลโกงใหม่ที่ใช้ QR code บนพัสดุที่ไม่ได้สั่ง ➡️ เรียกว่า “quishing” เป็นการหลอกให้สแกน QR เพื่อขโมยข้อมูล ✅ กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ใช้ชื่อผู้รับในการรีวิวปลอม ➡️ แต่เวอร์ชันใหม่มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและการเงิน ✅ เมื่อสแกน QR code อาจถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลบัตรเครดิต ➡️ หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในมือถือทันที ✅ กล่องมักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับสแกนด้วยความสงสัย ➡️ เป็นเทคนิคจิตวิทยาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวง ✅ FBI แนะนำให้รายงานเหตุการณ์เหล่านี้ผ่านเว็บไซต์ IC3.gov ➡️ พร้อมตรวจสอบบัญชีออนไลน์และขอรายงานเครดิตฟรีจาก Experian, Equifax, TransUnion ✅ QR code เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในร้านอาหาร การตลาด และการชำระเงิน ➡️ ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยและไม่ระวังเมื่อเห็น QR code บนกล่องพัสดุ ✅ การสแกน QR code เปรียบเสมือนการคลิกลิงก์ โดยไม่สามารถเห็น URL ล่วงหน้า ➡️ ต่างจากลิงก์ที่สามารถตรวจสอบปลายทางก่อนคลิก ✅ โทรศัพท์มือถือมักไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์เท่ากับคอมพิวเตอร์ ➡️ ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของกลโกงแบบ quishing ✅ 66% ของผู้ใช้เคยสแกน QR code เพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย ➡️ เพิ่มความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/fbi-warning-danger-could-be-arriving-at-your-door-in-an-unlikely-package
    WWW.THESTAR.COM.MY
    FBI warning: Danger could be arriving at your door in an unlikely package
    Scanning a bogus QR code can give scammers access to your contacts or send you to a fake payment portal.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: GreedyBear กับแผนโจรกรรมคริปโตระดับอุตสาหกรรม

    ในโลกที่คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ล่าสุดมีการเปิดโปงแคมเปญชื่อว่า “GreedyBear” ซึ่งขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีโจมตีแบบสามชั้นที่ซับซ้อนและอันตราย

    กลุ่มนี้เริ่มจากการสร้างส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ โดยปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus และ Rabby Wallet พวกเขาใช้เทคนิค “Extension Hollowing” คืออัปโหลดส่วนขยายที่ดูปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อ ไอคอน และฝังโค้ดอันตรายเข้าไปภายหลัง โดยยังคงรีวิวดี ๆ ไว้เหมือนเดิม

    นอกจากนั้น GreedyBear ยังปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน โดยมีทั้ง credential stealers และ ransomware ที่ล็อกไฟล์และเรียกค่าไถ่เป็นคริปโต และสุดท้ายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือเครื่องมือซ่อมกระเป๋า เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ

    ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว (IP: 185.208.156.66) ซึ่งทำให้การจัดการแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานว่าใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตีและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว

    GreedyBear เป็นแคมเปญอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $1 ล้าน
    ใช้วิธีโจมตีหลายรูปแบบพร้อมกัน

    มีส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ
    ปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus

    ใช้เทคนิค Extension Hollowing เพื่อหลบการตรวจสอบ
    อัปโหลดส่วนขยายปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอันตราย

    ปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน
    มีทั้ง LummaStealer และ Luca Stealer ที่เน้นขโมยข้อมูลคริปโต

    สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือซ่อมกระเป๋า
    หลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase และ private key

    ทุกการโจมตีเชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์เดียว (185.208.156.66)
    ใช้เป็นศูนย์กลางควบคุมและเก็บข้อมูล

    มีการใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตี
    ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้รวดเร็วและหลบหลีกการป้องกัน

    Extension Hollowing เป็นเทคนิคที่เริ่มใช้ในมัลแวร์ระดับองค์กร
    เคยพบในแคมเปญโจมตีของกลุ่ม APT เช่น Lazarus

    Mozilla มีระบบตรวจสอบส่วนขยาย แต่ยังไม่สามารถกันการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้
    ผู้ใช้ต้องตรวจสอบผู้พัฒนาและรีวิวอย่างละเอียด

    การใช้ AI ในการสร้างมัลแวร์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น
    ทำให้การตรวจจับด้วย signature-based antivirus ไม่เพียงพอ

    การโจมตีแบบหลายชั้น (multi-vector attack) เป็นแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์
    เน้นการหลอกลวงจากหลายช่องทางพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ

    https://hackread.com/greedybear-fake-crypto-wallet-extensions-firefox-marketplace/
    🕵️‍♂️💰 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: GreedyBear กับแผนโจรกรรมคริปโตระดับอุตสาหกรรม ในโลกที่คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ล่าสุดมีการเปิดโปงแคมเปญชื่อว่า “GreedyBear” ซึ่งขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีโจมตีแบบสามชั้นที่ซับซ้อนและอันตราย กลุ่มนี้เริ่มจากการสร้างส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ โดยปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus และ Rabby Wallet พวกเขาใช้เทคนิค “Extension Hollowing” คืออัปโหลดส่วนขยายที่ดูปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อ ไอคอน และฝังโค้ดอันตรายเข้าไปภายหลัง โดยยังคงรีวิวดี ๆ ไว้เหมือนเดิม นอกจากนั้น GreedyBear ยังปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน โดยมีทั้ง credential stealers และ ransomware ที่ล็อกไฟล์และเรียกค่าไถ่เป็นคริปโต และสุดท้ายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือเครื่องมือซ่อมกระเป๋า เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว (IP: 185.208.156.66) ซึ่งทำให้การจัดการแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานว่าใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตีและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว ✅ GreedyBear เป็นแคมเปญอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $1 ล้าน ➡️ ใช้วิธีโจมตีหลายรูปแบบพร้อมกัน ✅ มีส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ ➡️ ปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus ✅ ใช้เทคนิค Extension Hollowing เพื่อหลบการตรวจสอบ ➡️ อัปโหลดส่วนขยายปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอันตราย ✅ ปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน ➡️ มีทั้ง LummaStealer และ Luca Stealer ที่เน้นขโมยข้อมูลคริปโต ✅ สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือซ่อมกระเป๋า ➡️ หลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase และ private key ✅ ทุกการโจมตีเชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์เดียว (185.208.156.66) ➡️ ใช้เป็นศูนย์กลางควบคุมและเก็บข้อมูล ✅ มีการใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตี ➡️ ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้รวดเร็วและหลบหลีกการป้องกัน ✅ Extension Hollowing เป็นเทคนิคที่เริ่มใช้ในมัลแวร์ระดับองค์กร ➡️ เคยพบในแคมเปญโจมตีของกลุ่ม APT เช่น Lazarus ✅ Mozilla มีระบบตรวจสอบส่วนขยาย แต่ยังไม่สามารถกันการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้ ➡️ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบผู้พัฒนาและรีวิวอย่างละเอียด ✅ การใช้ AI ในการสร้างมัลแวร์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ➡️ ทำให้การตรวจจับด้วย signature-based antivirus ไม่เพียงพอ ✅ การโจมตีแบบหลายชั้น (multi-vector attack) เป็นแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์ ➡️ เน้นการหลอกลวงจากหลายช่องทางพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ https://hackread.com/greedybear-fake-crypto-wallet-extensions-firefox-marketplace/
    HACKREAD.COM
    GreedyBear: 40 Fake Crypto Wallet Extensions Found on Firefox Marketplace
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลก AI: Ollama Turbo – ปลดล็อกพลังโมเดลใหญ่ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์

    ในยุคที่โมเดล AI ขนาดใหญ่กลายเป็นหัวใจของงานวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างเนื้อหาอัจฉริยะ “Ollama Turbo” ได้เปิดตัวเป็นบริการใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันโมเดลโอเพ่นซอร์สขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่ทรงพลัง

    Ollama Turbo ใช้ฮาร์ดแวร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ในสหรัฐอเมริกาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลโมเดล เช่น gpt-oss-20b และ gpt-oss-120b ซึ่งปกติแล้วไม่สามารถรันได้บน GPU ทั่วไปที่มีอยู่ในเครื่องผู้ใช้ทั่วไป

    ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Turbo ผ่านแอป Ollama, CLI, API รวมถึงไลบรารีภาษา Python และ JavaScript โดยไม่ต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของเครื่องผู้ใช้ได้อีกด้วย

    Ollama Turbo คือบริการรันโมเดล AI ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์
    ช่วยให้รันโมเดลขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้ GPU ส่วนตัว

    รองรับโมเดล gpt-oss-20b และ gpt-oss-120b ในช่วงพรีวิว
    เป็นโมเดลโอเพ่นซอร์สที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน

    ใช้งานได้ผ่านแอป Ollama, CLI, API และไลบรารีภาษา Python/JavaScript
    รองรับการพัฒนาและใช้งานในหลายแพลตฟอร์ม

    ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
    ช่วยควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของระบบ

    Ollama ไม่เก็บข้อมูลหรือคำถามที่ผู้ใช้ส่งผ่าน Turbo
    เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้

    Turbo มีข้อจำกัดการใช้งานรายชั่วโมงและรายวัน
    เพื่อป้องกันการใช้งานเกินขีดความสามารถของระบบ

    Ollama รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เช่น Linux, macOS และ Windows (ผ่าน WSL2)
    Linux มีการรองรับดีที่สุดและสามารถตรวจจับ GPU อัตโนมัติ

    การใช้ GPU ช่วยเพิ่มความเร็วในการ inference ได้ถึง 2 เท่า
    NVIDIA CUDA และ AMD ROCm เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับ

    สำหรับผู้ใช้ทั่วไป RTX 3060 และ RX 6700 XT เป็นตัวเลือกที่ดี
    เหมาะกับการรันโมเดลขนาดกลางถึงใหญ่ในเครื่องส่วนตัว

    RAM ที่แนะนำคือ 16GB ขึ้นไป และ SSD สำหรับโหลดโมเดลเร็วขึ้น
    โมเดลขนาด 30B+ อาจต้องใช้ RAM 32GB ขึ้นไป

    https://ollama.com/turbo
    ⚡🧠 เรื่องเล่าจากโลก AI: Ollama Turbo – ปลดล็อกพลังโมเดลใหญ่ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ ในยุคที่โมเดล AI ขนาดใหญ่กลายเป็นหัวใจของงานวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างเนื้อหาอัจฉริยะ “Ollama Turbo” ได้เปิดตัวเป็นบริการใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันโมเดลโอเพ่นซอร์สขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่ทรงพลัง Ollama Turbo ใช้ฮาร์ดแวร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ในสหรัฐอเมริกาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลโมเดล เช่น gpt-oss-20b และ gpt-oss-120b ซึ่งปกติแล้วไม่สามารถรันได้บน GPU ทั่วไปที่มีอยู่ในเครื่องผู้ใช้ทั่วไป ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Turbo ผ่านแอป Ollama, CLI, API รวมถึงไลบรารีภาษา Python และ JavaScript โดยไม่ต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของเครื่องผู้ใช้ได้อีกด้วย ✅ Ollama Turbo คือบริการรันโมเดล AI ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ ➡️ ช่วยให้รันโมเดลขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้ GPU ส่วนตัว ✅ รองรับโมเดล gpt-oss-20b และ gpt-oss-120b ในช่วงพรีวิว ➡️ เป็นโมเดลโอเพ่นซอร์สที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน ✅ ใช้งานได้ผ่านแอป Ollama, CLI, API และไลบรารีภาษา Python/JavaScript ➡️ รองรับการพัฒนาและใช้งานในหลายแพลตฟอร์ม ✅ ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ➡️ ช่วยควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของระบบ ✅ Ollama ไม่เก็บข้อมูลหรือคำถามที่ผู้ใช้ส่งผ่าน Turbo ➡️ เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ ✅ Turbo มีข้อจำกัดการใช้งานรายชั่วโมงและรายวัน ➡️ เพื่อป้องกันการใช้งานเกินขีดความสามารถของระบบ ✅ Ollama รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เช่น Linux, macOS และ Windows (ผ่าน WSL2) ➡️ Linux มีการรองรับดีที่สุดและสามารถตรวจจับ GPU อัตโนมัติ ✅ การใช้ GPU ช่วยเพิ่มความเร็วในการ inference ได้ถึง 2 เท่า ➡️ NVIDIA CUDA และ AMD ROCm เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับ ✅ สำหรับผู้ใช้ทั่วไป RTX 3060 และ RX 6700 XT เป็นตัวเลือกที่ดี ➡️ เหมาะกับการรันโมเดลขนาดกลางถึงใหญ่ในเครื่องส่วนตัว ✅ RAM ที่แนะนำคือ 16GB ขึ้นไป และ SSD สำหรับโหลดโมเดลเร็วขึ้น ➡️ โมเดลขนาด 30B+ อาจต้องใช้ RAM 32GB ขึ้นไป https://ollama.com/turbo
    OLLAMA.COM
    Ollama
    Get up and running with large language models.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมต้อง "Gripen"

    เครื่องบิน JAS Gripen ได้รับการรีวิวจริงไปแล้วครั้งแรกในโลกโดยประเทศไทยของเรานี่เอง รีวิวใส่กัมพูชาชนิดที่ว่า โลกเห็นแล้วต้องชื่นชมในศักยภาพ

    หลายคนรู้จัก F-16 ได้ยินชื่อนี้มานานหลายสิบปี แต่เพิ่งมาได้ยินชื่อ Gripen เมื่อไม่นานมานี้ และทำไมเราถึงใช้ Gripen ในภารกิจนี้ และวางแผนจะนำมาทดแทน F-16 มันดีกว่ายังไง?
    .
    ประวัติของ Gripen
    ประเทศสวีเดนคือผู้ให้กำเนิด Gripen ซึ่งถูกพัฒนามาจากปลายยุค 1970 หลังจากกองทัพอากาศสวีเดินเล็งเห็นว่า เครื่องบินรบรุ่นเก่าของสวีเดินเริ่มล้าสมัย สวีเดินจึงคิดผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ "ขึ้นมาเอง" เพราะไม่อยากพึ่งพาประเทศอื่นมากเกินไป ด้วยการก่อตั้งโครงการ "JAS" ในปี 1979
    โครงการ JAS มาจากคำว่า J = (Jakt) ยัคต์ แปลว่า ขับไล่ A= (Attack) แอทแทค แปลว่าโจมตี และ S = Spaning (สแปนนิ่ง) แปลว่า ลาดตระเวน คือแนวคิดที่จะพัฒนาเครื่องบินรบล้ำสมัยล้ำยุค ที่ใช้เครื่องบินเพียง 1 ลำ แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้ง 3 แบบในลำเดียว เที่ยวเดียวได้

    ปี 1982 บริษัท SAAB ได้รับหน้าที่พัฒนาโครางการนี้ แต่เนื่องจากโปรเจคนี้ใหญ่มา และต้องการความเป็น "ที่สุด" จึงได้ระดมสมองร่วมกับอีกหลายบริษัท เข้ามาดูแลความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่ บริษัท Ericsson เข้ามาช่วยพัฒนาระบบเรดาห์และการบิน บริษัท Volvo Aero เข้ามาช่วยปรับแต่งเครื่องยนตร์ และบริษัท FFV มาดูเรื่องระบบอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหาร
    ปี 1988 เครื่องต้นแบบลำแรกสำเร็จ แต่เมื่อบินทดสอบกลับไม่สำเร็จจนพังไป หลังจากทดลองจนเสร็จสมบูรณ์แบบ Gripen ลำแรกก็พร้อมประจำการได้ในปี 1996
    .
    ความสามารถอันเป็นที่สุดของ Gripen
    ทำหน้าที่ได้ถึง 3 หน้าที่ใน 1 ลำ
    1. เป็นเครื่องบินขับไล่ - ต่อสู้เครื่องบินศัตรูจากกลางอากาศได้
    2. เป็นเครื่องบินโจมตี - โจมตีภาคพื้นดิน ฐานทัพ บังเกอร์ รถถัง
    3. เป็นเครื่องบินลาดตระเวณ สอดแนม - บินไปถ่ยาภาพและสอดแนมตำแหน่งศัตรูได้
    .
    * ปกติเครื่องบินรบ 1 หน้าที่จะแยกเป็น 1 ลำไป แต่ Gripen สามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง เป็น Swing-Role อย่างเช่น ลาดตระเวณอยู่ แต่เจอศัตรู ก็เปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ทางอากาศได้ และสลับไปสอดแนมต่อก็ยังได้ในการบินเที่ยวเดียว หรือจะสลับทำทั้ง 3 หน้าที่คือไปสอดแนม โจมตีศัตรูบนอากาศ และพื้นดินก็ยังได้
    .
    มีระบบ "TIDLS" อันทันสมัย สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกัน ทุกลำเหมือนมี "ตาเดียวกัน" ทำให้ทุกลำโจมตีได้ร่วมกัน เช่น ลำนี้ตรวจเจอศัตรูแต่มุมยิงไม่ได้ ก็ให้อีกลำยิงแทน และตรวจจับศัตรูได้หลากหลายเป้าหมาย แม้ในสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นมีหมอก มีพายุ มีฝุ่น
    .
    มีระบบ EW คือระบบป้องกันตัวเอง สามารถรู้ได้ว่าเรดาห์ศัตรูตรวจเจอก็จะแจ้งเตือน หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยมิซไซล์ ก็จะแจ้งเตือน มีการยิงเป้าหลอก แท่งความร้อนหลอกมิซไซล์ รวมถึงมีระบบส่งคลื่นสัญญาณรบกวน ทั้งหมดนี้ ยังสามารถเชื่อมระบบการโจมตีร่วมกับกองทัพเรือและกองทัพบกได้ด้วย
    .
    มีระบบ AI ช่วยการตัดสินใจให้นักบิน เพราะเวลารบ นักบินต้องตัดสินใจรวดเร็วมากในขณะที่ยังต้องควบคุมการบินและวิเคราะห์การรบ แต่ Gripen มี Mission Computer ที่จะรวบรวมระบบจากทุกลำมาตัดสินใจการรบแทนให้ มันวิเคราะห์สถานการณ์แบบ Realime ได้ เช่น จะเลือกล็อคเป้าเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดให้โจมตีก่อน มีหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงถึงการโจมตี เส้นทางการหลบหนี ตำแหน่งของเพื่อนร่วมฝูง ทำให้นักบินเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก Gripen คิดให้หมดและคิดเป็นทีม
    .
    Gripen มีความยืดหยุ่นที่จะ Upgrade เครื่องได้หลากหลาย ทำให้ไม่ตกยุค สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ได้ตลอด เช่น อัพเกรดให้เชื่อมต่อกับเรือรบในระบบอื่นได้ มีระบบฝึกการบินภายในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องบินขึ้น ไม่ต้องไปซื้อระบบจำลองการบินเพิ่ม สแกนตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเองได้ อะไรมีปัญหา อะไหล่ชิ้นไหนใกล้เสื่อม จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
    .
    Gripen มีความพร้อมรบ ต้องการพื้นที่ลงจอดได้แม้แต่ถนนยาวไม่ถึ่งกิโล สามารถออกรบซ้ำได้ภายใน 10 นาที เพราะเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธได้แบบสั้นๆ (ใช้คนติดตั้งได้แค่ 5 คน) ต้นทุนการบินต่อชั่วโมงก็ต่ำ เทียบกับ F-16 แล้ว ถูกกว่าเกือบครึ่ง
    .
    ณ ปัจจุบัน Gripen มีอยู่ที่ประเทศสวีเดนผู้ให้กำเนิด ทั้งหมด 156 ลำ รองมาคือบราซิล 36 ลำ แอฟริกาใต้ 26 ลำ ฮังการีและเช็ค 14 ลำ และต่อไป เราจะมีเป็นลำดับที่ 5 คือ 12 ลำ และเราคือประเทศแรกของโลกที่ได้นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริง!
    .
    Gripen ของกองทัพอากาศไทย ปี 2008-2010 เราจัดซื้อ Gripen ทั้งหมดแล้ว 12 ลำ แต่เราได้ดีลจากบริษัท SAAB ด้วยการเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานให้ ซึ่งมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังจะมาลงทุนผลิตอะไหล่เพื่อขายให้กับประเทศอื่นได้ด้วย เราจึงได้ทั้งการลงทุน ความรู้ การจ้างงาน ซึ่งนับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท
    .
    ปี 2025 เราได้ทำการจัดซื้อล็อตใหม่ ซึ่งจะทยอยซื้อ ทยอยส่งมอบ เสร็จสิ้นในปี 2034 ทำให้ในปีนั้น เราจะมีฝูงบิน Gripen ถึง 24 ลำด้วยกัน!!!

    .
    CR:กองทัพอากาศไทยเครื่องบินขับไล่ Jas-39 Saab Gripen ทำการลงจอดและบินขึ้นจากถนนทางหลวงหมายเลข 4287 จังหวัดสงขลา 27 กุมภาพันธ์ 2568
    #RTAF
    🇹🇭ทำไมต้อง "Gripen" 🇸🇪 เครื่องบิน JAS Gripen ได้รับการรีวิวจริงไปแล้วครั้งแรกในโลกโดยประเทศไทยของเรานี่เอง รีวิวใส่กัมพูชาชนิดที่ว่า โลกเห็นแล้วต้องชื่นชมในศักยภาพ หลายคนรู้จัก F-16 ได้ยินชื่อนี้มานานหลายสิบปี แต่เพิ่งมาได้ยินชื่อ Gripen เมื่อไม่นานมานี้ และทำไมเราถึงใช้ Gripen ในภารกิจนี้ และวางแผนจะนำมาทดแทน F-16 มันดีกว่ายังไง? . 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ประวัติของ Gripen ประเทศสวีเดนคือผู้ให้กำเนิด Gripen ซึ่งถูกพัฒนามาจากปลายยุค 1970 หลังจากกองทัพอากาศสวีเดินเล็งเห็นว่า เครื่องบินรบรุ่นเก่าของสวีเดินเริ่มล้าสมัย สวีเดินจึงคิดผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ "ขึ้นมาเอง" เพราะไม่อยากพึ่งพาประเทศอื่นมากเกินไป ด้วยการก่อตั้งโครงการ "JAS" ในปี 1979 โครงการ JAS มาจากคำว่า J = (Jakt) ยัคต์ แปลว่า ขับไล่ A= (Attack) แอทแทค แปลว่าโจมตี และ S = Spaning (สแปนนิ่ง) แปลว่า ลาดตระเวน คือแนวคิดที่จะพัฒนาเครื่องบินรบล้ำสมัยล้ำยุค ที่ใช้เครื่องบินเพียง 1 ลำ แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้ง 3 แบบในลำเดียว เที่ยวเดียวได้ ปี 1982 บริษัท SAAB ได้รับหน้าที่พัฒนาโครางการนี้ แต่เนื่องจากโปรเจคนี้ใหญ่มา และต้องการความเป็น "ที่สุด" จึงได้ระดมสมองร่วมกับอีกหลายบริษัท เข้ามาดูแลความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่ บริษัท Ericsson เข้ามาช่วยพัฒนาระบบเรดาห์และการบิน บริษัท Volvo Aero เข้ามาช่วยปรับแต่งเครื่องยนตร์ และบริษัท FFV มาดูเรื่องระบบอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหาร ปี 1988 เครื่องต้นแบบลำแรกสำเร็จ แต่เมื่อบินทดสอบกลับไม่สำเร็จจนพังไป หลังจากทดลองจนเสร็จสมบูรณ์แบบ Gripen ลำแรกก็พร้อมประจำการได้ในปี 1996 . 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ความสามารถอันเป็นที่สุดของ Gripen 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ทำหน้าที่ได้ถึง 3 หน้าที่ใน 1 ลำ 1. เป็นเครื่องบินขับไล่ - ต่อสู้เครื่องบินศัตรูจากกลางอากาศได้ 2. เป็นเครื่องบินโจมตี - โจมตีภาคพื้นดิน ฐานทัพ บังเกอร์ รถถัง 3. เป็นเครื่องบินลาดตระเวณ สอดแนม - บินไปถ่ยาภาพและสอดแนมตำแหน่งศัตรูได้ . * ปกติเครื่องบินรบ 1 หน้าที่จะแยกเป็น 1 ลำไป แต่ Gripen สามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง เป็น Swing-Role อย่างเช่น ลาดตระเวณอยู่ แต่เจอศัตรู ก็เปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ทางอากาศได้ และสลับไปสอดแนมต่อก็ยังได้ในการบินเที่ยวเดียว หรือจะสลับทำทั้ง 3 หน้าที่คือไปสอดแนม โจมตีศัตรูบนอากาศ และพื้นดินก็ยังได้ . 🇸🇪 มีระบบ "TIDLS" อันทันสมัย สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกัน ทุกลำเหมือนมี "ตาเดียวกัน" ทำให้ทุกลำโจมตีได้ร่วมกัน เช่น ลำนี้ตรวจเจอศัตรูแต่มุมยิงไม่ได้ ก็ให้อีกลำยิงแทน และตรวจจับศัตรูได้หลากหลายเป้าหมาย แม้ในสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นมีหมอก มีพายุ มีฝุ่น . 🇸🇪 มีระบบ EW คือระบบป้องกันตัวเอง สามารถรู้ได้ว่าเรดาห์ศัตรูตรวจเจอก็จะแจ้งเตือน หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยมิซไซล์ ก็จะแจ้งเตือน มีการยิงเป้าหลอก แท่งความร้อนหลอกมิซไซล์ รวมถึงมีระบบส่งคลื่นสัญญาณรบกวน ทั้งหมดนี้ ยังสามารถเชื่อมระบบการโจมตีร่วมกับกองทัพเรือและกองทัพบกได้ด้วย . 🇸🇪 มีระบบ AI ช่วยการตัดสินใจให้นักบิน เพราะเวลารบ นักบินต้องตัดสินใจรวดเร็วมากในขณะที่ยังต้องควบคุมการบินและวิเคราะห์การรบ แต่ Gripen มี Mission Computer ที่จะรวบรวมระบบจากทุกลำมาตัดสินใจการรบแทนให้ มันวิเคราะห์สถานการณ์แบบ Realime ได้ เช่น จะเลือกล็อคเป้าเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดให้โจมตีก่อน มีหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงถึงการโจมตี เส้นทางการหลบหนี ตำแหน่งของเพื่อนร่วมฝูง ทำให้นักบินเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก Gripen คิดให้หมดและคิดเป็นทีม . 🇸🇪 Gripen มีความยืดหยุ่นที่จะ Upgrade เครื่องได้หลากหลาย ทำให้ไม่ตกยุค สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ได้ตลอด เช่น อัพเกรดให้เชื่อมต่อกับเรือรบในระบบอื่นได้ มีระบบฝึกการบินภายในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องบินขึ้น ไม่ต้องไปซื้อระบบจำลองการบินเพิ่ม สแกนตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเองได้ อะไรมีปัญหา อะไหล่ชิ้นไหนใกล้เสื่อม จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน . 🇸🇪 Gripen มีความพร้อมรบ ต้องการพื้นที่ลงจอดได้แม้แต่ถนนยาวไม่ถึ่งกิโล สามารถออกรบซ้ำได้ภายใน 10 นาที เพราะเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธได้แบบสั้นๆ (ใช้คนติดตั้งได้แค่ 5 คน) ต้นทุนการบินต่อชั่วโมงก็ต่ำ เทียบกับ F-16 แล้ว ถูกกว่าเกือบครึ่ง . 🇸🇪 ณ ปัจจุบัน Gripen มีอยู่ที่ประเทศสวีเดนผู้ให้กำเนิด ทั้งหมด 156 ลำ รองมาคือบราซิล 36 ลำ แอฟริกาใต้ 26 ลำ ฮังการีและเช็ค 14 ลำ และต่อไป เราจะมีเป็นลำดับที่ 5 คือ 12 ลำ และเราคือประเทศแรกของโลกที่ได้นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริง! . 🇸🇪 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ปี 2008-2010 เราจัดซื้อ Gripen ทั้งหมดแล้ว 12 ลำ แต่เราได้ดีลจากบริษัท SAAB ด้วยการเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานให้ ซึ่งมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังจะมาลงทุนผลิตอะไหล่เพื่อขายให้กับประเทศอื่นได้ด้วย เราจึงได้ทั้งการลงทุน ความรู้ การจ้างงาน ซึ่งนับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท . 🇸🇪 ปี 2025 เราได้ทำการจัดซื้อล็อตใหม่ ซึ่งจะทยอยซื้อ ทยอยส่งมอบ เสร็จสิ้นในปี 2034 ทำให้ในปีนั้น เราจะมีฝูงบิน Gripen ถึง 24 ลำด้วยกัน!!! . CR:กองทัพอากาศไทยเครื่องบินขับไล่ Jas-39 Saab Gripen ทำการลงจอดและบินขึ้นจากถนนทางหลวงหมายเลข 4287 จังหวัดสงขลา 27 กุมภาพันธ์ 2568 #RTAF
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: JSCEAL มัลแวร์ที่ซ่อนตัวในโฆษณาแอปคริปโตปลอม—ขโมยทุกอย่างตั้งแต่รหัสผ่านถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล

    ตั้งแต่ต้นปี 2024 แฮกเกอร์เริ่มใช้แคมเปญมัลแวร์ชื่อ JSCEAL โดยปล่อยโฆษณาปลอมกว่า 35,000 รายการบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปเทรดคริปโตปลอมที่ดูเหมือนของจริง เช่น Binance, MetaMask, Kraken และ TradingView

    เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ และถูกหลอกให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งที่มีใบรับรองดิจิทัลจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่เบื้องหลังคือมัลแวร์ JSCEAL ที่ใช้เทคนิค “compiled JavaScript” ผ่าน Node.js เพื่อหลบการตรวจจับจากระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไป

    มัลแวร์นี้สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลาย เช่น รหัสผ่าน, คุกกี้เบราว์เซอร์, seed phrase, ข้อมูลบัญชี Telegram และแม้แต่ดัดแปลง extension อย่าง MetaMask เพื่อขโมยเงินแบบเรียลไทม์

    JSCEAL เป็นมัลแวร์ที่ใช้ compiled JavaScript ผ่าน Node.js เพื่อหลบการตรวจจับ
    ใช้เทคนิค obfuscation และ anti-analysis ทำให้ระบบทั่วไปตรวจไม่พบ
    มี detection rate ต่ำมาก แม้จะถูกส่งไปยัง VirusTotal หลายร้อยครั้ง

    แคมเปญนี้ใช้โฆษณาปลอมกว่า 35,000 รายการในครึ่งแรกของปี 2025
    โฆษณาแอบอ้างเป็นแอปเทรดคริปโตชื่อดัง
    มีผู้เห็นโฆษณาใน EU กว่า 3.5 ล้านคน และทั่วโลกเกิน 10 ล้านคน

    เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนของจริง
    เว็บไซต์มี JavaScript ที่สื่อสารกับ installer ผ่าน localhost
    เปิดเว็บจริงของแอปเพื่อหลอกว่า “ติดตั้งสำเร็จ” ขณะมัลแวร์ทำงานเบื้องหลัง

    มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลาย
    รหัสผ่าน, คุกกี้, seed phrase, ข้อมูลเครือข่าย, และบัญชี Telegram
    ดัดแปลง extension อย่าง MetaMask เพื่อขโมยเงินโดยตรง

    การติดตั้งมัลแวร์ต้องใช้ทั้งเว็บไซต์และ installer ทำงานพร้อมกัน
    หากส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ทำงาน การติดตั้งจะล้มเหลว
    ทำให้การวิเคราะห์และตรวจจับทำได้ยากมาก

    JSCEAL เป็นหนึ่งในมัลแวร์ที่ใช้ compiled V8 JavaScript อย่างมีประสิทธิภาพ
    เป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยให้ซ่อนโค้ดได้ดี
    ทำให้การวิเคราะห์แบบ static แทบเป็นไปไม่ได้

    Compiled JavaScript (JSC) เป็นฟีเจอร์ของ V8 engine ที่ช่วยให้โค้ดถูกแปลงเป็น bytecode
    ทำให้โค้ดถูกซ่อนไว้จากการวิเคราะห์แบบ static
    เป็นเทคนิคที่เริ่มถูกใช้มากขึ้นในมัลแวร์ยุคใหม่

    Node.js เป็น environment ที่ถูกใช้ในหลายระบบอย่างถูกต้อง แต่ถูกแฮกเกอร์นำมาใช้รันมัลแวร์
    ทำให้มัลแวร์ดูเหมือนเป็นโปรแกรมปกติ
    ช่วยให้หลบการตรวจจับจาก antivirus ได้ง่ายขึ้น

    ผู้ใช้คริปโตควรใช้ hardware wallet และไม่เปิดเผย seed phrase กับใครเด็ดขาด
    seed phrase คือกุญแจหลักของกระเป๋าเงิน
    การใช้ hardware wallet ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์ได้มาก

    ควรติดตั้งแอปคริปโตจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น App Store หรือ Google Play
    ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาและรีวิวก่อนดาวน์โหลด
    หลีกเลี่ยงการติดตั้งจากลิงก์ในโฆษณาหรือเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก

    https://hackread.com/jsceal-malware-targets-millions-fake-crypto-app-ads/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: JSCEAL มัลแวร์ที่ซ่อนตัวในโฆษณาแอปคริปโตปลอม—ขโมยทุกอย่างตั้งแต่รหัสผ่านถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล ตั้งแต่ต้นปี 2024 แฮกเกอร์เริ่มใช้แคมเปญมัลแวร์ชื่อ JSCEAL โดยปล่อยโฆษณาปลอมกว่า 35,000 รายการบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปเทรดคริปโตปลอมที่ดูเหมือนของจริง เช่น Binance, MetaMask, Kraken และ TradingView เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ และถูกหลอกให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งที่มีใบรับรองดิจิทัลจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่เบื้องหลังคือมัลแวร์ JSCEAL ที่ใช้เทคนิค “compiled JavaScript” ผ่าน Node.js เพื่อหลบการตรวจจับจากระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไป มัลแวร์นี้สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลาย เช่น รหัสผ่าน, คุกกี้เบราว์เซอร์, seed phrase, ข้อมูลบัญชี Telegram และแม้แต่ดัดแปลง extension อย่าง MetaMask เพื่อขโมยเงินแบบเรียลไทม์ ✅ JSCEAL เป็นมัลแวร์ที่ใช้ compiled JavaScript ผ่าน Node.js เพื่อหลบการตรวจจับ ➡️ ใช้เทคนิค obfuscation และ anti-analysis ทำให้ระบบทั่วไปตรวจไม่พบ ➡️ มี detection rate ต่ำมาก แม้จะถูกส่งไปยัง VirusTotal หลายร้อยครั้ง ✅ แคมเปญนี้ใช้โฆษณาปลอมกว่า 35,000 รายการในครึ่งแรกของปี 2025 ➡️ โฆษณาแอบอ้างเป็นแอปเทรดคริปโตชื่อดัง ➡️ มีผู้เห็นโฆษณาใน EU กว่า 3.5 ล้านคน และทั่วโลกเกิน 10 ล้านคน ✅ เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนของจริง ➡️ เว็บไซต์มี JavaScript ที่สื่อสารกับ installer ผ่าน localhost ➡️ เปิดเว็บจริงของแอปเพื่อหลอกว่า “ติดตั้งสำเร็จ” ขณะมัลแวร์ทำงานเบื้องหลัง ✅ มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลาย ➡️ รหัสผ่าน, คุกกี้, seed phrase, ข้อมูลเครือข่าย, และบัญชี Telegram ➡️ ดัดแปลง extension อย่าง MetaMask เพื่อขโมยเงินโดยตรง ✅ การติดตั้งมัลแวร์ต้องใช้ทั้งเว็บไซต์และ installer ทำงานพร้อมกัน ➡️ หากส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ทำงาน การติดตั้งจะล้มเหลว ➡️ ทำให้การวิเคราะห์และตรวจจับทำได้ยากมาก ✅ JSCEAL เป็นหนึ่งในมัลแวร์ที่ใช้ compiled V8 JavaScript อย่างมีประสิทธิภาพ ➡️ เป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยให้ซ่อนโค้ดได้ดี ➡️ ทำให้การวิเคราะห์แบบ static แทบเป็นไปไม่ได้ ✅ Compiled JavaScript (JSC) เป็นฟีเจอร์ของ V8 engine ที่ช่วยให้โค้ดถูกแปลงเป็น bytecode ➡️ ทำให้โค้ดถูกซ่อนไว้จากการวิเคราะห์แบบ static ➡️ เป็นเทคนิคที่เริ่มถูกใช้มากขึ้นในมัลแวร์ยุคใหม่ ✅ Node.js เป็น environment ที่ถูกใช้ในหลายระบบอย่างถูกต้อง แต่ถูกแฮกเกอร์นำมาใช้รันมัลแวร์ ➡️ ทำให้มัลแวร์ดูเหมือนเป็นโปรแกรมปกติ ➡️ ช่วยให้หลบการตรวจจับจาก antivirus ได้ง่ายขึ้น ✅ ผู้ใช้คริปโตควรใช้ hardware wallet และไม่เปิดเผย seed phrase กับใครเด็ดขาด ➡️ seed phrase คือกุญแจหลักของกระเป๋าเงิน ➡️ การใช้ hardware wallet ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์ได้มาก ✅ ควรติดตั้งแอปคริปโตจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น App Store หรือ Google Play ➡️ ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาและรีวิวก่อนดาวน์โหลด ➡️ หลีกเลี่ยงการติดตั้งจากลิงก์ในโฆษณาหรือเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก https://hackread.com/jsceal-malware-targets-millions-fake-crypto-app-ads/
    HACKREAD.COM
    New JSCEAL Malware Targets Millions via Fake Crypto App Ads
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ไต้หวัน #ไทจง จากคุณบุญสมนะคะ เมื่อวันที่ 25-28 ก.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ
    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ

    ทุกภาพคือกำลังใจสำคัญของพวกเราค่ะ
    ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะ
    แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า

    Travel License: 11/11450
    โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    #ขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจ #ทีมงานมีความสุขเสมอ #eTravelWay #รีวิวจากผู้เดินทาง #กำลังใจในการทำงาน #เที่ยวกับเราไม่ผิดหวัง

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395
    💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ไต้หวัน #ไทจง จากคุณบุญสมนะคะ😍 เมื่อวันที่ 25-28 ก.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 📸 ทุกภาพคือกำลังใจสำคัญของพวกเราค่ะ ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะ 🌈✨ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า 💼✈️ ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น #ขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจ #ทีมงานมีความสุขเสมอ #eTravelWay #รีวิวจากผู้เดินทาง #กำลังใจในการทำงาน #เที่ยวกับเราไม่ผิดหวัง 💙 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ไต้หวัน #ไทจง จากคุณบุญสมนะคะ เมื่อวันที่ 25-28 ก.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ
    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ

    ทุกภาพคือกำลังใจสำคัญของพวกเราค่ะ
    ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะ
    แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า

    Travel License: 11/11450
    โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    #ขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจ #ทีมงานมีความสุขเสมอ #eTravelWay #รีวิวจากผู้เดินทาง #กำลังใจในการทำงาน #เที่ยวกับเราไม่ผิดหวัง

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ไต้หวัน #ไทจง จากคุณบุญสมนะคะ😍 เมื่อวันที่ 25-28 ก.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 📸 ทุกภาพคือกำลังใจสำคัญของพวกเราค่ะ ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะ 🌈✨ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า 💼✈️ ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น #ขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจ #ทีมงานมีความสุขเสมอ #eTravelWay #รีวิวจากผู้เดินทาง #กำลังใจในการทำงาน #เที่ยวกับเราไม่ผิดหวัง 💙 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ เขมรปั่นข่าวปลอมระงับขายกริพเพน ส่วนหุ้นบริษัทผู้ผลิตพุ่งหลังไทยรีวิวคุณภาพเป็นเจ้าแรก ทรงนี้มีแต่จะเพิ่มจำนวนฝูงบินนะเหม
    #7ดอกจิก
    ♣ เขมรปั่นข่าวปลอมระงับขายกริพเพน ส่วนหุ้นบริษัทผู้ผลิตพุ่งหลังไทยรีวิวคุณภาพเป็นเจ้าแรก ทรงนี้มีแต่จะเพิ่มจำนวนฝูงบินนะเหม #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากแดนมังกร: เมื่อ “TrueGPU” จุดไฟความหวังให้จีนเป็นเจ้าตลาดกราฟิก

    ในเดือนกรกฎาคม 2025 บริษัท Lisuan Technology จากจีนได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นแรกของตนเอง—Lisuan 7G106 และ 7G105—ที่ใช้สถาปัตยกรรม “TrueGPU” ซึ่งออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยทีมงานอดีตวิศวกรจาก Silicon Valley

    GPU ทั้งสองรุ่นผลิตบนเทคโนโลยี 6nm ของ TSMC และมีเป้าหมายชัดเจน: แข่งกับ NVIDIA RTX 4060 ในตลาดกลาง โดย 7G106 เน้นเกม ส่วน 7G105 เน้นงาน AI และองค์กร

    ที่น่าทึ่งคือ แม้จะเป็นรุ่นแรก แต่สามารถรันเกมระดับ AAA อย่าง Black Myth: Wukong และ Shadow of the Tomb Raider ที่ 4K High ได้เกิน 70 FPS! และยังมีฟีเจอร์ล้ำๆ อย่างการเรนเดอร์แบบ out-of-order, การจัดการงานแบบ multitasking 48 งานพร้อมกัน และระบบอัปสเกลภาพ NRSS ที่ตั้งใจชนกับ DLSS และ FSR

    Lisuan เปิดตัว GPU รุ่นแรกของจีนที่ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU
    ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm ของ TSMC
    ออกแบบ instruction set, compute core และ software stack เองทั้งหมด

    Lisuan 7G106 (เกมมิ่ง) และ 7G105 (มืออาชีพ/AI) มีสเปกใกล้เคียงกัน
    FP32 throughput สูงสุด 24 TFLOP/s
    ใช้ GDDR6 ขนาด 12 GB และ 24 GB (ECC) ตามลำดับ
    รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6, OpenCL 3.0

    รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสวิดีโอระดับ 8K
    Decode AV1 และ HEVC ได้ถึง 8K60
    Encode HEVC ที่ 8K30 และ AV1 ที่ 4K30

    รองรับการใช้งานแบบ virtual GPU ได้ถึง 16 หน่วย
    เหมาะกับงาน cloud gaming, metaverse, robotics และ AI ขนาดใหญ่
    ใช้พลังงานประมาณ 225W ด้วยหัวต่อ PCIe 8-pin

    ผลทดสอบเบื้องต้นเทียบเคียง RTX 4060 ได้อย่างสูสี
    3DMark Fire Strike: 26,800 คะแนน
    Geekbench 6 OpenCL: 111,290 คะแนน (สูงกว่า RTX 4060 ประมาณ 10%)

    เกมดังรันได้ลื่นไหลในระดับ 4K High settings
    Black Myth: Wukong และ Wuchang: Fallen Feathers เกิน 70 FPS
    Shadow of the Tomb Raider เกิน 80 FPS

    เริ่มผลิตจริงกันยายน 2025 หลังจากทดลองในเดือนสิงหาคม
    ยังไม่ประกาศราคาหรือความเร็วสัญญาณนาฬิกา
    เน้นตลาดจีนเป็นหลักเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ

    ยังไม่มีการทดสอบจากผู้ผลิตอิสระเพื่อยืนยันประสิทธิภาพจริง
    ผลทดสอบทั้งหมดมาจากบริษัท Lisuan เอง
    ต้องรอการรีวิวจากสื่อและผู้ใช้งานจริงเพื่อความน่าเชื่อถือ

    ยังไม่รองรับ ray tracing แม้จะใช้ DirectX 12
    ไม่มี DirectX 12 Ultimate
    อาจไม่เหมาะกับเกมที่เน้นกราฟิกแสงเงาขั้นสูง

    ยังไม่มี HDMI output บนการ์ดรุ่นนี้
    ใช้ DisplayPort 1.4 ทั้งหมด
    อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการต่อกับทีวีหรือจอ HDMI

    ยังไม่ประกาศราคาขายและรุ่นย่อย (SKU)
    อาจมีความเสี่ยงด้านความพร้อมของตลาด
    ต้องจับตาว่าจะสามารถแข่งขันด้านราคากับแบรนด์ระดับโลกได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/china-advances-toward-tech-independence-with-new-homegrown-6nm-gaming-and-ai-gpus-lisuan-7g106-runs-chinese-aaa-titles-at-4k-over-70-fps-and-matches-rtx-4060-in-synthetic-benchmarks
    🎮 เรื่องเล่าจากแดนมังกร: เมื่อ “TrueGPU” จุดไฟความหวังให้จีนเป็นเจ้าตลาดกราฟิก ในเดือนกรกฎาคม 2025 บริษัท Lisuan Technology จากจีนได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นแรกของตนเอง—Lisuan 7G106 และ 7G105—ที่ใช้สถาปัตยกรรม “TrueGPU” ซึ่งออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยทีมงานอดีตวิศวกรจาก Silicon Valley GPU ทั้งสองรุ่นผลิตบนเทคโนโลยี 6nm ของ TSMC และมีเป้าหมายชัดเจน: แข่งกับ NVIDIA RTX 4060 ในตลาดกลาง โดย 7G106 เน้นเกม ส่วน 7G105 เน้นงาน AI และองค์กร ที่น่าทึ่งคือ แม้จะเป็นรุ่นแรก แต่สามารถรันเกมระดับ AAA อย่าง Black Myth: Wukong และ Shadow of the Tomb Raider ที่ 4K High ได้เกิน 70 FPS! และยังมีฟีเจอร์ล้ำๆ อย่างการเรนเดอร์แบบ out-of-order, การจัดการงานแบบ multitasking 48 งานพร้อมกัน และระบบอัปสเกลภาพ NRSS ที่ตั้งใจชนกับ DLSS และ FSR ✅ Lisuan เปิดตัว GPU รุ่นแรกของจีนที่ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ➡️ ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm ของ TSMC ➡️ ออกแบบ instruction set, compute core และ software stack เองทั้งหมด ✅ Lisuan 7G106 (เกมมิ่ง) และ 7G105 (มืออาชีพ/AI) มีสเปกใกล้เคียงกัน ➡️ FP32 throughput สูงสุด 24 TFLOP/s ➡️ ใช้ GDDR6 ขนาด 12 GB และ 24 GB (ECC) ตามลำดับ ➡️ รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6, OpenCL 3.0 ✅ รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสวิดีโอระดับ 8K ➡️ Decode AV1 และ HEVC ได้ถึง 8K60 ➡️ Encode HEVC ที่ 8K30 และ AV1 ที่ 4K30 ✅ รองรับการใช้งานแบบ virtual GPU ได้ถึง 16 หน่วย ➡️ เหมาะกับงาน cloud gaming, metaverse, robotics และ AI ขนาดใหญ่ ➡️ ใช้พลังงานประมาณ 225W ด้วยหัวต่อ PCIe 8-pin ✅ ผลทดสอบเบื้องต้นเทียบเคียง RTX 4060 ได้อย่างสูสี ➡️ 3DMark Fire Strike: 26,800 คะแนน ➡️ Geekbench 6 OpenCL: 111,290 คะแนน (สูงกว่า RTX 4060 ประมาณ 10%) ✅ เกมดังรันได้ลื่นไหลในระดับ 4K High settings ➡️ Black Myth: Wukong และ Wuchang: Fallen Feathers เกิน 70 FPS ➡️ Shadow of the Tomb Raider เกิน 80 FPS ✅ เริ่มผลิตจริงกันยายน 2025 หลังจากทดลองในเดือนสิงหาคม ➡️ ยังไม่ประกาศราคาหรือความเร็วสัญญาณนาฬิกา ➡️ เน้นตลาดจีนเป็นหลักเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจากผู้ผลิตอิสระเพื่อยืนยันประสิทธิภาพจริง ⛔ ผลทดสอบทั้งหมดมาจากบริษัท Lisuan เอง ⛔ ต้องรอการรีวิวจากสื่อและผู้ใช้งานจริงเพื่อความน่าเชื่อถือ ‼️ ยังไม่รองรับ ray tracing แม้จะใช้ DirectX 12 ⛔ ไม่มี DirectX 12 Ultimate ⛔ อาจไม่เหมาะกับเกมที่เน้นกราฟิกแสงเงาขั้นสูง ‼️ ยังไม่มี HDMI output บนการ์ดรุ่นนี้ ⛔ ใช้ DisplayPort 1.4 ทั้งหมด ⛔ อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการต่อกับทีวีหรือจอ HDMI ‼️ ยังไม่ประกาศราคาขายและรุ่นย่อย (SKU) ⛔ อาจมีความเสี่ยงด้านความพร้อมของตลาด ⛔ ต้องจับตาว่าจะสามารถแข่งขันด้านราคากับแบรนด์ระดับโลกได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/china-advances-toward-tech-independence-with-new-homegrown-6nm-gaming-and-ai-gpus-lisuan-7g106-runs-chinese-aaa-titles-at-4k-over-70-fps-and-matches-rtx-4060-in-synthetic-benchmarks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เกมเอาชีวิตรอดที่ “ขโมยชีวิตดิจิทัล” ของคุณ

    ลองจินตนาการว่าคุณโหลดเกมเอาชีวิตรอดชื่อ Chemia จาก Steam เพื่อเล่นในช่วง Early Access แต่แทนที่จะได้สนุกกับการสร้างฐานและฝ่าฟันภัยพิบัติ คุณกลับโดนขโมยข้อมูลส่วนตัวและคริปโตแบบไม่รู้ตัว — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง!

    บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Prodaft เปิดเผยว่าเกม Chemia ถูกฝังมัลแวร์ 3 สายพันธุ์ ได้แก่:
    - Fickle Stealer: ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, password manager และ crypto wallet
    - Vidar Stealer: มัลแวร์แบบบริการ (Malware-as-a-Service) ที่เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดีย
    - HijackLoader: ตัวโหลดมัลแวร์ที่สามารถติดตั้งภัยคุกคามอื่นในอนาคต

    เกมนี้ถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam ซึ่งต้องขอสิทธิ์เข้าถึงก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบของแพลตฟอร์ม

    เกม Chemia ถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์
    ฝังมัลแวร์ 3 ชนิด: Fickle Stealer, Vidar Stealer, HijackLoader
    มัลแวร์ทำงานเมื่อผู้ใช้เปิดเกม โดยรันควบคู่กับแอปพลิเคชันจริง

    มัลแวร์แต่ละตัวมีหน้าที่เฉพาะ
    Fickle Stealer: ใช้ PowerShell ขโมยข้อมูลระบบและไฟล์สำคัญ
    Vidar Stealer: เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อส่งข้อมูล
    HijackLoader: ใช้ติดตั้งมัลแวร์อื่นในอนาคต

    เกมถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam
    ต้องขอสิทธิ์ก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย
    ไม่มีรีวิวหรือข้อมูลจากนักพัฒนาอื่น ทำให้ตรวจสอบยาก

    นักพัฒนา Aether Forge Studios ไม่มีตัวตนชัดเจน
    ไม่มีเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับเกม
    อาจเป็นบัญชีปลอมที่ใช้หลอกลวงผู้ใช้

    Prodaft เผยว่าแฮกเกอร์ชื่อ EncryptHub อยู่เบื้องหลัง
    เคยมีประวัติการโจมตีแบบ spear-phishing ตั้งแต่ปี 2024
    แชร์ Indicators of Compromise (IOCs) บน GitHub เพื่อช่วยตรวจสอบ

    เกมบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ก็อาจไม่ปลอดภัย
    Steam ไม่สามารถตรวจสอบมัลแวร์ในทุกเกมได้ทันที
    ผู้ใช้มักเชื่อว่าการโหลดจาก Steam คือ “ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ”

    มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้ทันทีที่เปิดเกม
    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงรหัสผ่าน, session token, และ crypto wallet
    อาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินและการขโมยตัวตน

    ระบบ Early Access และ Playtest อาจถูกใช้เป็นช่องทางโจมตี
    เกมที่ยังไม่เปิดตัวเต็มรูปแบบอาจไม่มีการตรวจสอบเข้มงวด
    แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการฝังโค้ดอันตราย

    ผู้ใช้ที่เคยเล่น Chemia ควรตรวจสอบระบบทันที
    ลบเกมออกจากเครื่อง
    สแกนมัลแวร์เต็มระบบ
    เปลี่ยนรหัสผ่านทุกบัญชีที่เคยล็อกอินระหว่างเล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-plants-three-strains-of-malware-in-a-steam-early-access-game-called-chemia-security-company-found-crypto-jacking-infostealers-and-a-backdoor-to-install-yet-more-malware-in-the-future
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เกมเอาชีวิตรอดที่ “ขโมยชีวิตดิจิทัล” ของคุณ ลองจินตนาการว่าคุณโหลดเกมเอาชีวิตรอดชื่อ Chemia จาก Steam เพื่อเล่นในช่วง Early Access แต่แทนที่จะได้สนุกกับการสร้างฐานและฝ่าฟันภัยพิบัติ คุณกลับโดนขโมยข้อมูลส่วนตัวและคริปโตแบบไม่รู้ตัว — นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง! บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Prodaft เปิดเผยว่าเกม Chemia ถูกฝังมัลแวร์ 3 สายพันธุ์ ได้แก่: - Fickle Stealer: ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, password manager และ crypto wallet - Vidar Stealer: มัลแวร์แบบบริการ (Malware-as-a-Service) ที่เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดีย - HijackLoader: ตัวโหลดมัลแวร์ที่สามารถติดตั้งภัยคุกคามอื่นในอนาคต เกมนี้ถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam ซึ่งต้องขอสิทธิ์เข้าถึงก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบของแพลตฟอร์ม ✅ เกม Chemia ถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์ ➡️ ฝังมัลแวร์ 3 ชนิด: Fickle Stealer, Vidar Stealer, HijackLoader ➡️ มัลแวร์ทำงานเมื่อผู้ใช้เปิดเกม โดยรันควบคู่กับแอปพลิเคชันจริง ✅ มัลแวร์แต่ละตัวมีหน้าที่เฉพาะ ➡️ Fickle Stealer: ใช้ PowerShell ขโมยข้อมูลระบบและไฟล์สำคัญ ➡️ Vidar Stealer: เชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อส่งข้อมูล ➡️ HijackLoader: ใช้ติดตั้งมัลแวร์อื่นในอนาคต ✅ เกมถูกแจกผ่านระบบ Playtest ของ Steam ➡️ ต้องขอสิทธิ์ก่อนเล่น ทำให้ดูเหมือนปลอดภัย ➡️ ไม่มีรีวิวหรือข้อมูลจากนักพัฒนาอื่น ทำให้ตรวจสอบยาก ✅ นักพัฒนา Aether Forge Studios ไม่มีตัวตนชัดเจน ➡️ ไม่มีเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับเกม ➡️ อาจเป็นบัญชีปลอมที่ใช้หลอกลวงผู้ใช้ ✅ Prodaft เผยว่าแฮกเกอร์ชื่อ EncryptHub อยู่เบื้องหลัง ➡️ เคยมีประวัติการโจมตีแบบ spear-phishing ตั้งแต่ปี 2024 ➡️ แชร์ Indicators of Compromise (IOCs) บน GitHub เพื่อช่วยตรวจสอบ ‼️ เกมบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ก็อาจไม่ปลอดภัย ⛔ Steam ไม่สามารถตรวจสอบมัลแวร์ในทุกเกมได้ทันที ⛔ ผู้ใช้มักเชื่อว่าการโหลดจาก Steam คือ “ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ” ‼️ มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้ทันทีที่เปิดเกม ⛔ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงรหัสผ่าน, session token, และ crypto wallet ⛔ อาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินและการขโมยตัวตน ‼️ ระบบ Early Access และ Playtest อาจถูกใช้เป็นช่องทางโจมตี ⛔ เกมที่ยังไม่เปิดตัวเต็มรูปแบบอาจไม่มีการตรวจสอบเข้มงวด ⛔ แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการฝังโค้ดอันตราย ‼️ ผู้ใช้ที่เคยเล่น Chemia ควรตรวจสอบระบบทันที ⛔ ลบเกมออกจากเครื่อง ⛔ สแกนมัลแวร์เต็มระบบ ⛔ เปลี่ยนรหัสผ่านทุกบัญชีที่เคยล็อกอินระหว่างเล่นเกม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-plants-three-strains-of-malware-in-a-steam-early-access-game-called-chemia-security-company-found-crypto-jacking-infostealers-and-a-backdoor-to-install-yet-more-malware-in-the-future
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเบราว์เซอร์ที่คิดแทนเรา: เมื่อหน้าจอเว็บมี AI ช่วยตลอดทาง

    Dia ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ทั่วไปอย่าง Chrome หรือ Safari — แต่เป็นเบราว์เซอร์ที่มีช่องแชต AI อยู่เคียงข้างหน้าต่างเว็บแบบ in-app โดยกด shortcut (Command+E) เพื่อเรียกกล่องคำถามขึ้นมาข้างหน้าเว็บ

    ตัวอย่างจากผู้ใช้:
    - อ่านข่าวน้ำท่วมในเท็กซัส → พิมพ์ถาม AI เพื่อขอสรุปและแหล่งข้อมูลเพิ่ม
    - ดูวิดีโอรีวิวอุปกรณ์ Jump Starter → ให้ AI ดึง transcript มาสรุปข้อเด่นโดยไม่ต้องดูเอง
    - เขียนบน Google Docs → ถาม AI ว่าใช้คำว่า “on the cusp” ถูกไหม แล้วรับคำตอบทันที

    ที่สำคัญ Dia เลือก “โมเดล AI ที่เหมาะที่สุด” ให้แบบอัตโนมัติ เช่นถามเรื่องโค้ด → ใช้ Claude Sonnet / ถามเรื่องภาษา → ใช้ GPT จาก OpenAI โดยไม่ต้องเลือกเอง

    สัปดาห์เดียวกันนี้ Perplexity ก็เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Comet และมีรายงานว่า OpenAI เตรียมออกเบราว์เซอร์ AI เช่นกัน แปลว่า “ยุคเบราว์เซอร์ฉลาด” กำลังมาเร็วมาก

    Dia เป็นเบราว์เซอร์ใหม่ที่รวมแชตบอท AI เข้ากับหน้าเว็บโดยตรง
    กด Command+E เพื่อเปิดหน้าต่าง AI เคียงข้างหน้าเว็บ

    Dia ดึงคำตอบจากหลายโมเดล AI เช่น ChatGPT, Gemini, Claude โดยเลือกให้ผู้ใช้อัตโนมัติ
    เช่นใช้ Claude ถามเรื่องโค้ด, ใช้ GPT ถามเรื่องภาษา

    ตัวเบราว์เซอร์สามารถสรุปวิดีโอ, ข่าว, และช่วยพิสูจน์อักษรได้ทันทีจากหน้าเว็บ
    ไม่ต้องเปิดแอป AI แยกหรือก็อปปี้เนื้อหาไปใส่ทีละขั้น

    Dia ยังไม่เปิดตัวทั่วไป แต่ให้ทดลองฟรีบน Mac แบบเชิญเท่านั้น
    จะเปิดแพ็กเกจ subscription เริ่มต้น $5/เดือนในอีกไม่กี่สัปดาห์

    เบราว์เซอร์ AI จาก Perplexity (Comet) และ OpenAI ก็ถูกพูดถึงในช่วงเวลาเดียวกัน
    แสดงถึงการแข่งขันในตลาด AI-powered browser กำลังร้อนแรง

    Google และ Apple ก็เริ่มใส่ฟีเจอร์ AI เล็ก ๆ เช่นการสรุปบทความใน Chrome และ Safari
    แต่ยังไม่ถึงระดับการรวม chatbot แบบ Dia

    นักลงทุนคาดว่า AI browser จะเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” ของการใช้งาน generative AI ในชีวิตประจำวัน
    แทนที่การใช้แบบเดิมที่ต้องเปิดแอป AI แยก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/23/is-ai-the-future-of-web-browsing
    🎙️ เรื่องเล่าจากเบราว์เซอร์ที่คิดแทนเรา: เมื่อหน้าจอเว็บมี AI ช่วยตลอดทาง Dia ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ทั่วไปอย่าง Chrome หรือ Safari — แต่เป็นเบราว์เซอร์ที่มีช่องแชต AI อยู่เคียงข้างหน้าต่างเว็บแบบ in-app โดยกด shortcut (Command+E) เพื่อเรียกกล่องคำถามขึ้นมาข้างหน้าเว็บ ตัวอย่างจากผู้ใช้: - อ่านข่าวน้ำท่วมในเท็กซัส → พิมพ์ถาม AI เพื่อขอสรุปและแหล่งข้อมูลเพิ่ม - ดูวิดีโอรีวิวอุปกรณ์ Jump Starter → ให้ AI ดึง transcript มาสรุปข้อเด่นโดยไม่ต้องดูเอง - เขียนบน Google Docs → ถาม AI ว่าใช้คำว่า “on the cusp” ถูกไหม แล้วรับคำตอบทันที ที่สำคัญ Dia เลือก “โมเดล AI ที่เหมาะที่สุด” ให้แบบอัตโนมัติ เช่นถามเรื่องโค้ด → ใช้ Claude Sonnet / ถามเรื่องภาษา → ใช้ GPT จาก OpenAI โดยไม่ต้องเลือกเอง สัปดาห์เดียวกันนี้ Perplexity ก็เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Comet และมีรายงานว่า OpenAI เตรียมออกเบราว์เซอร์ AI เช่นกัน แปลว่า “ยุคเบราว์เซอร์ฉลาด” กำลังมาเร็วมาก ✅ Dia เป็นเบราว์เซอร์ใหม่ที่รวมแชตบอท AI เข้ากับหน้าเว็บโดยตรง ➡️ กด Command+E เพื่อเปิดหน้าต่าง AI เคียงข้างหน้าเว็บ ✅ Dia ดึงคำตอบจากหลายโมเดล AI เช่น ChatGPT, Gemini, Claude โดยเลือกให้ผู้ใช้อัตโนมัติ ➡️ เช่นใช้ Claude ถามเรื่องโค้ด, ใช้ GPT ถามเรื่องภาษา ✅ ตัวเบราว์เซอร์สามารถสรุปวิดีโอ, ข่าว, และช่วยพิสูจน์อักษรได้ทันทีจากหน้าเว็บ ➡️ ไม่ต้องเปิดแอป AI แยกหรือก็อปปี้เนื้อหาไปใส่ทีละขั้น ✅ Dia ยังไม่เปิดตัวทั่วไป แต่ให้ทดลองฟรีบน Mac แบบเชิญเท่านั้น ➡️ จะเปิดแพ็กเกจ subscription เริ่มต้น $5/เดือนในอีกไม่กี่สัปดาห์ ✅ เบราว์เซอร์ AI จาก Perplexity (Comet) และ OpenAI ก็ถูกพูดถึงในช่วงเวลาเดียวกัน ➡️ แสดงถึงการแข่งขันในตลาด AI-powered browser กำลังร้อนแรง ✅ Google และ Apple ก็เริ่มใส่ฟีเจอร์ AI เล็ก ๆ เช่นการสรุปบทความใน Chrome และ Safari ➡️ แต่ยังไม่ถึงระดับการรวม chatbot แบบ Dia ✅ นักลงทุนคาดว่า AI browser จะเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” ของการใช้งาน generative AI ในชีวิตประจำวัน ➡️ แทนที่การใช้แบบเดิมที่ต้องเปิดแอป AI แยก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/23/is-ai-the-future-of-web-browsing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Is AI the future of web browsing?
    A test of the app Dia illustrates that the humble web browser may be the path to making artificial intelligence more natural to use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • TasteAtlas เจ้าเก่า จัดอันดับ 50 ไส้กรอกที่ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่ามีไส้กรอกจากไทย 2 เมนูติดอันดับด้วย คือ "ไส้กรอกอีสาน" ในอันดับที่ 23 และ "ไส้อั่ว" ในอันดับที่ 49

    TasteAtlas เว็บไซต์รวบรวมสูตรอาหารและรีวิวจากนักวิจารณ์อาหารทั่วโลก ได้จัดอันดับ "50 Best Cooked Sausages" ซึ่งเพิ่งประกาศการจัดอันดับเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000068719

    #Thaitimes #MGROnline #TasteAtlas #ไส้กรอกอีสาน #ไส้อั่ว
    TasteAtlas เจ้าเก่า จัดอันดับ 50 ไส้กรอกที่ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่ามีไส้กรอกจากไทย 2 เมนูติดอันดับด้วย คือ "ไส้กรอกอีสาน" ในอันดับที่ 23 และ "ไส้อั่ว" ในอันดับที่ 49 • TasteAtlas เว็บไซต์รวบรวมสูตรอาหารและรีวิวจากนักวิจารณ์อาหารทั่วโลก ได้จัดอันดับ "50 Best Cooked Sausages" ซึ่งเพิ่งประกาศการจัดอันดับเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000068719 • #Thaitimes #MGROnline #TasteAtlas #ไส้กรอกอีสาน #ไส้อั่ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณจะเป็นมือที่เท่าไหร่ของใครไม่รู้ แต่เป็นมือ1 ของผม #momone #หนึ่งเม้าท์บ้านๆ #หนึ่งรีวิว #หนึ่งชอบเที่ยว #หนึ่งขอเม้าท์ #หนึ่งบอกข่าว #หนึ่งเตือนภัย #ฉันคือฉันเองแม่1 #madam1
    คุณจะเป็นมือที่เท่าไหร่ของใครไม่รู้ แต่เป็นมือ1 ของผม #momone #หนึ่งเม้าท์บ้านๆ #หนึ่งรีวิว #หนึ่งชอบเที่ยว #หนึ่งขอเม้าท์ #หนึ่งบอกข่าว #หนึ่งเตือนภัย #ฉันคือฉันเองแม่1 #madam1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • บรรดาบักหล้าทั้งหลาย #momone #หนึ่งเม้าท์บ้านๆ #หนึ่งรีวิว #หนึ่งชอบเที่ยว #หนึ่งขอเม้าท์ #หนึ่งบอกข่าว #หนึ่งเตือนภัย #ฉันคือฉันเองแม่1 #madam1
    บรรดาบักหล้าทั้งหลาย #momone #หนึ่งเม้าท์บ้านๆ #หนึ่งรีวิว #หนึ่งชอบเที่ยว #หนึ่งขอเม้าท์ #หนึ่งบอกข่าว #หนึ่งเตือนภัย #ฉันคือฉันเองแม่1 #madam1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกรีโทรเกม: รีวิวเครื่องเกมพกพาอาจพาเข้าคุก?

    Francesco Salicini เจ้าของช่อง YouTube “Once Were Nerd” ที่มีผู้ติดตามกว่า 50,000 คน ถูกหน่วยอาชญากรรมเศรษฐกิจของตำรวจอิตาลีบุกค้นบ้านเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025 และยึดเครื่องเกมพกพา 30 เครื่องจากแบรนด์ TrimUI, Powkiddy และ Anbernic ซึ่งมาพร้อม microSD ที่มี ROM เกมละเมิดลิขสิทธิ์ติดตั้งไว้

    ตำรวจยังยึดโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาไปด้วย (และคืนในเดือนมิถุนายน) โดยอ้างว่าเขาได้ละเมิดมาตรา 171 ของกฎหมายอิตาลี ซึ่งห้ามการส่งเสริมเนื้อหาที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะเกมจาก Sony และ Nintendo

    แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Sony หรือ Nintendo เป็นผู้ร้องเรียนโดยตรงหรือไม่ แต่ในอิตาลี ตำรวจสามารถดำเนินคดีโดยไม่ต้องเปิดเผยผู้กล่าวหา

    Salicini ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้โปรโมตหรือขายเครื่องเหล่านี้ และไม่ได้รับสปอนเซอร์หรือใส่ลิงก์พันธมิตรในวิดีโอ เขาได้ว่าจ้างทนายความและเปิดแคมเปญ GoFundMe เพื่อขอรับบริจาคช่วยค่าดำเนินคดี

    https://www.techspot.com/news/108709-youtuber-raided-italian-police-reviewing-handhelds-preloaded-roms.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกรีโทรเกม: รีวิวเครื่องเกมพกพาอาจพาเข้าคุก? Francesco Salicini เจ้าของช่อง YouTube “Once Were Nerd” ที่มีผู้ติดตามกว่า 50,000 คน ถูกหน่วยอาชญากรรมเศรษฐกิจของตำรวจอิตาลีบุกค้นบ้านเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025 และยึดเครื่องเกมพกพา 30 เครื่องจากแบรนด์ TrimUI, Powkiddy และ Anbernic ซึ่งมาพร้อม microSD ที่มี ROM เกมละเมิดลิขสิทธิ์ติดตั้งไว้ ตำรวจยังยึดโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาไปด้วย (และคืนในเดือนมิถุนายน) โดยอ้างว่าเขาได้ละเมิดมาตรา 171 ของกฎหมายอิตาลี ซึ่งห้ามการส่งเสริมเนื้อหาที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะเกมจาก Sony และ Nintendo แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Sony หรือ Nintendo เป็นผู้ร้องเรียนโดยตรงหรือไม่ แต่ในอิตาลี ตำรวจสามารถดำเนินคดีโดยไม่ต้องเปิดเผยผู้กล่าวหา Salicini ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้โปรโมตหรือขายเครื่องเหล่านี้ และไม่ได้รับสปอนเซอร์หรือใส่ลิงก์พันธมิตรในวิดีโอ เขาได้ว่าจ้างทนายความและเปิดแคมเปญ GoFundMe เพื่อขอรับบริจาคช่วยค่าดำเนินคดี https://www.techspot.com/news/108709-youtuber-raided-italian-police-reviewing-handhelds-preloaded-roms.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    YouTuber raided by Italian police for reviewing handhelds with preloaded ROMs
    In a video titled "They Reported Me," Salicini alleges that the Economic and Financial Crimes unit of the Italian police raided his home on April 15 and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกนักพัฒนา: Kiro จาก AWS—AI IDE ที่จะเปลี่ยน “vibe coding” ให้กลายเป็น “viable code”

    Amazon Web Services (AWS) เปิดตัว “Kiro” ซึ่งเป็น IDE (Integrated Development Environment) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ “agentic” หรือกึ่งอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยนักพัฒนาเปลี่ยนจากการเขียนโค้ดแบบ “vibe coding” (เขียนตามความรู้สึกหรือสั่ง AI แบบคลุมเครือ) ไปสู่การพัฒนาแบบมีโครงสร้างจริงจัง

    Kiro ไม่ใช่แค่ช่วยเขียนโค้ด แต่ยังสามารถ:
    - สร้างและอัปเดตแผนงานโปรเจกต์
    - สร้างเอกสารเทคนิคและ blueprint
    - ตรวจสอบความสอดคล้องของโค้ด
    - เชื่อมต่อกับเครื่องมือเฉพาะผ่าน Model Context Protocol (MCP)
    - ใช้ “agentic chat” สำหรับงานโค้ดเฉพาะกิจ

    Kiro ยังมีระบบ “steering rules” เพื่อกำหนดพฤติกรรมของ AI ในโปรเจกต์ และสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ดเพื่อป้องกันความไม่สอดคล้อง

    ในช่วงพรีวิว Kiro เปิดให้ใช้ฟรี โดยมีแผนเปิดตัว 3 ระดับ:
    - ฟรี: 50 agent interactions/เดือน
    - Pro: $19/ผู้ใช้/เดือน สำหรับ 1,000 interactions
    - Pro+: $39/ผู้ใช้/เดือน สำหรับ 3,000 interactions

    AWS เปิดตัว Kiro ซึ่งเป็น AI IDE แบบ agentic
    ช่วยเปลี่ยนจาก “vibe coding” เป็น “viable code”

    Kiro สามารถสร้างและอัปเดตแผนงานและเอกสารเทคนิคอัตโนมัติ
    ลดภาระงานที่ไม่ใช่การเขียนโค้ดโดยตรง

    รองรับ Model Context Protocol (MCP) สำหรับเชื่อมต่อเครื่องมือเฉพาะ
    เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานร่วมกับระบบอื่น

    มีระบบ “steering rules” เพื่อควบคุมพฤติกรรมของ AI
    ป้องกันการเบี่ยงเบนจากเป้าหมายของโปรเจกต์

    มีฟีเจอร์ agentic chat สำหรับงานโค้ดเฉพาะกิจ
    ช่วยแก้ปัญหาแบบ ad-hoc ได้รวดเร็ว

    Kiro เปิดให้ใช้งานฟรีในช่วงพรีวิว
    เตรียมเปิดตัว 3 ระดับการใช้งานในอนาคต

    “vibe coding” อาจนำไปสู่โค้ดที่ไม่สอดคล้องหรือไม่ปลอดภัย
    หากไม่มีการตรวจสอบหรือโครงสร้างที่ชัดเจน

    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความเข้าใจของนักพัฒนาในระบบที่สร้างขึ้น
    โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องการรักษาความรู้ภายใน

    Kiro ยังอยู่ในช่วงพรีวิว อาจมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์หรือความเสถียร
    ไม่เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการความมั่นคงสูงในตอนนี้

    การใช้ AI ในการจัดการโค้ดอาจต้องปรับกระบวนการทำงานของทีม
    โดยเฉพาะในทีมที่ยังไม่คุ้นเคยกับแนวคิด agentic development


    https://www.techradar.com/pro/aws-launches-kiro-an-agentic-ai-ide-to-end-the-chaos-of-vibe-coding
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกนักพัฒนา: Kiro จาก AWS—AI IDE ที่จะเปลี่ยน “vibe coding” ให้กลายเป็น “viable code” Amazon Web Services (AWS) เปิดตัว “Kiro” ซึ่งเป็น IDE (Integrated Development Environment) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ “agentic” หรือกึ่งอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยนักพัฒนาเปลี่ยนจากการเขียนโค้ดแบบ “vibe coding” (เขียนตามความรู้สึกหรือสั่ง AI แบบคลุมเครือ) ไปสู่การพัฒนาแบบมีโครงสร้างจริงจัง Kiro ไม่ใช่แค่ช่วยเขียนโค้ด แต่ยังสามารถ: - สร้างและอัปเดตแผนงานโปรเจกต์ - สร้างเอกสารเทคนิคและ blueprint - ตรวจสอบความสอดคล้องของโค้ด - เชื่อมต่อกับเครื่องมือเฉพาะผ่าน Model Context Protocol (MCP) - ใช้ “agentic chat” สำหรับงานโค้ดเฉพาะกิจ Kiro ยังมีระบบ “steering rules” เพื่อกำหนดพฤติกรรมของ AI ในโปรเจกต์ และสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ดเพื่อป้องกันความไม่สอดคล้อง ในช่วงพรีวิว Kiro เปิดให้ใช้ฟรี โดยมีแผนเปิดตัว 3 ระดับ: - ฟรี: 50 agent interactions/เดือน - Pro: $19/ผู้ใช้/เดือน สำหรับ 1,000 interactions - Pro+: $39/ผู้ใช้/เดือน สำหรับ 3,000 interactions ✅ AWS เปิดตัว Kiro ซึ่งเป็น AI IDE แบบ agentic ➡️ ช่วยเปลี่ยนจาก “vibe coding” เป็น “viable code” ✅ Kiro สามารถสร้างและอัปเดตแผนงานและเอกสารเทคนิคอัตโนมัติ ➡️ ลดภาระงานที่ไม่ใช่การเขียนโค้ดโดยตรง ✅ รองรับ Model Context Protocol (MCP) สำหรับเชื่อมต่อเครื่องมือเฉพาะ ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานร่วมกับระบบอื่น ✅ มีระบบ “steering rules” เพื่อควบคุมพฤติกรรมของ AI ➡️ ป้องกันการเบี่ยงเบนจากเป้าหมายของโปรเจกต์ ✅ มีฟีเจอร์ agentic chat สำหรับงานโค้ดเฉพาะกิจ ➡️ ช่วยแก้ปัญหาแบบ ad-hoc ได้รวดเร็ว ✅ Kiro เปิดให้ใช้งานฟรีในช่วงพรีวิว ➡️ เตรียมเปิดตัว 3 ระดับการใช้งานในอนาคต ‼️ “vibe coding” อาจนำไปสู่โค้ดที่ไม่สอดคล้องหรือไม่ปลอดภัย ⛔ หากไม่มีการตรวจสอบหรือโครงสร้างที่ชัดเจน ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความเข้าใจของนักพัฒนาในระบบที่สร้างขึ้น ⛔ โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องการรักษาความรู้ภายใน ‼️ Kiro ยังอยู่ในช่วงพรีวิว อาจมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์หรือความเสถียร ⛔ ไม่เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการความมั่นคงสูงในตอนนี้ ‼️ การใช้ AI ในการจัดการโค้ดอาจต้องปรับกระบวนการทำงานของทีม ⛔ โดยเฉพาะในทีมที่ยังไม่คุ้นเคยกับแนวคิด agentic development https://www.techradar.com/pro/aws-launches-kiro-an-agentic-ai-ide-to-end-the-chaos-of-vibe-coding
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • #momone #หนึ่งเม้าท์บ้านๆ #หนึ่งรีวิว #หนึ่งชอบเที่ยว #หนึ่งขอเม้าท์ #หนึ่งบอกข่าว #หนึ่งเตือนภัย #ฉันคือฉันเองแม่1 #madam1
    #momone #หนึ่งเม้าท์บ้านๆ #หนึ่งรีวิว #หนึ่งชอบเที่ยว #หนึ่งขอเม้าท์ #หนึ่งบอกข่าว #หนึ่งเตือนภัย #ฉันคือฉันเองแม่1 #madam1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หอยลายอบกรอบ Spicy เผ็ดนัวถึงใจ เคี้ยวเพลินแบบหยุดไม่ได้! ขายดีทุกวัน! ส่งจริง ส่งไว คุณภาพคัดเน้น ๆกินเล่นก็ดี กินกับข้าวก็เด็ด จิ้มซอสเพิ่มคือฟิน~ อย่าลืมกดติดตามร้านไว้นะคะ จะได้ไม่พลาดของกินเด็ดๆ แบบนี้อีก #หอยลายอบกรอบ #เผ็ดนัว #ของกินเล่น #ร้านเด็ด #ของดีบอกต่อ #ของกินTikTok #ShopeeSale #รีวิวแน่นร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าหอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน Shopee https://th.shp.ee/sic8iXLเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    🔥 หอยลายอบกรอบ Spicy เผ็ดนัวถึงใจ เคี้ยวเพลินแบบหยุดไม่ได้!📦 ขายดีทุกวัน! ส่งจริง ส่งไว คุณภาพคัดเน้น ๆ📍กินเล่นก็ดี กินกับข้าวก็เด็ด จิ้มซอสเพิ่มคือฟิน~💬 อย่าลืมกดติดตามร้านไว้นะคะ จะได้ไม่พลาดของกินเด็ดๆ แบบนี้อีก 🛒#หอยลายอบกรอบ #เผ็ดนัว #ของกินเล่น #ร้านเด็ด #ของดีบอกต่อ #ของกินTikTok #ShopeeSale #รีวิวแน่น😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าหอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ 🐟🐠 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/sic8iXLเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 675 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts