• “ฉีเคอะ” ประกาศ “ก๊วยเจ๋ง” ต้อง “เซียวจ้าน” คนเดียวเท่านั้น !
    ​​
    หลังจากประกาศงานการสร้าง ที่มีแม่ทัพคือ "ฉีเคอะ" ที่นั่งหัวโต๊ะรับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้กำกับระดับตำนานแห่งภาพยนตร์จีน ที่เลื่องชื่อในเรื่องความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ที่ "อุทิศจิตวิญญาณ" แม้จะอายุ 75 แล้ว เขายังคงมีพลังล้นเหลือและมาตรฐานที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉากหรือกระบวนท่าต่อสู้ เขาก็ลงมือทำเองทั้งหมด ขัดเกลาทั้งวันทั้งคืน เพียงเพื่อสร้างภาพยนตร์ "มังกรหยก" ให้เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอย และสิ่งสำคัญที่สุด "ฉีเคอะ" สตีเว่น สปิลเบิร์ก แห่งเมืองจีน ฟันธงก๊วยเจ๋งของเขาต้องเป็น "เซียวจ้าน" เท่านั้น
    ​​
    "เซียวจ้าน" ซุปเปอร์สตาร์ดาราหนุ่มผู้ที่มาพร้อมกับวลีเด็ดติดปาก "ขออีกทีครับ!" ความมุ่งมั่น ความมีวินัย และความใส่ใจในทุกรายละเอียด เซียวจ้านได้พิสูจน์ให้ฉีเคอะเห็นมาตลอดว่าเขาไม่คิดที่จะหยุดอยู่กับที่ เขาพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า! และความพยายามอย่างไม่ย่อท้อนี้เองคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจมหาชนของวงการบันเทิงจีน!

    คำกล่าวของฉีเคอะที่ว่า "โอกาสไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นให้ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องไขว่คว้ามาเอง" ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยเซียวจ้าน ! กับบทบาท "ก๊วยเจ๋ง" จึงเหมาะสมกับเขาอย่างไม่มีข้อกังขา ! เขาได้พิชิตใจฉีเคอะ พิชิตใจทีมงาน และกำลังจะเข้าไปพิชิตใจผู้ชมทั่วโลก !

    จากบทประพันธ์สุดลือลั่นของกิมย้ง ด้วยมหึมาทุนสร้าง 2,000 ล้านบาท
    นี่คือภาพยนตร์มังกรหยกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค
    มหาศึกระหว่างเหล่าจอมยุทธกับทัพใหญ่มองโกล
    ผลงานของผู้กำกับมือเทพ “ฉีเคอะ”

    “เซียวจ้าน” เป็น ก๊วยเจ๋ง ใน
    “The Legend of the Condor Heroes : The Gallants”
    “มังกรหยก จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่”
    ระเบิดพลังยุทธกอบกู้แผ่นดิน
    20 กุมภาพันธ์นี้ ต้องไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

    #มังกรหยกจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ #จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่
    #LegendsofTheCondorHeroes #มังกรหยก2025
    #LegendsoftheCondorHeroesTheGallants
    #มังกรหยกเซียวจ้าน2025 #XiaoZhan
    #XiaoZhan肖战 #เซียวจ้าน #肖战
    #XiaoZhanxGuoJing #มังกรหยก
    #ก๊วยเจ๋ง #กัวจึ้ง #GuoJing
    “ฉีเคอะ” ประกาศ “ก๊วยเจ๋ง” ต้อง “เซียวจ้าน” คนเดียวเท่านั้น ! ​​ หลังจากประกาศงานการสร้าง ที่มีแม่ทัพคือ "ฉีเคอะ" ที่นั่งหัวโต๊ะรับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้กำกับระดับตำนานแห่งภาพยนตร์จีน ที่เลื่องชื่อในเรื่องความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ที่ "อุทิศจิตวิญญาณ" แม้จะอายุ 75 แล้ว เขายังคงมีพลังล้นเหลือและมาตรฐานที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉากหรือกระบวนท่าต่อสู้ เขาก็ลงมือทำเองทั้งหมด ขัดเกลาทั้งวันทั้งคืน เพียงเพื่อสร้างภาพยนตร์ "มังกรหยก" ให้เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอย และสิ่งสำคัญที่สุด "ฉีเคอะ" สตีเว่น สปิลเบิร์ก แห่งเมืองจีน ฟันธงก๊วยเจ๋งของเขาต้องเป็น "เซียวจ้าน" เท่านั้น ​​ "เซียวจ้าน" ซุปเปอร์สตาร์ดาราหนุ่มผู้ที่มาพร้อมกับวลีเด็ดติดปาก "ขออีกทีครับ!" ความมุ่งมั่น ความมีวินัย และความใส่ใจในทุกรายละเอียด เซียวจ้านได้พิสูจน์ให้ฉีเคอะเห็นมาตลอดว่าเขาไม่คิดที่จะหยุดอยู่กับที่ เขาพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า! และความพยายามอย่างไม่ย่อท้อนี้เองคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจมหาชนของวงการบันเทิงจีน! คำกล่าวของฉีเคอะที่ว่า "โอกาสไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นให้ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องไขว่คว้ามาเอง" ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยเซียวจ้าน ! กับบทบาท "ก๊วยเจ๋ง" จึงเหมาะสมกับเขาอย่างไม่มีข้อกังขา ! เขาได้พิชิตใจฉีเคอะ พิชิตใจทีมงาน และกำลังจะเข้าไปพิชิตใจผู้ชมทั่วโลก ! จากบทประพันธ์สุดลือลั่นของกิมย้ง ด้วยมหึมาทุนสร้าง 2,000 ล้านบาท นี่คือภาพยนตร์มังกรหยกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค มหาศึกระหว่างเหล่าจอมยุทธกับทัพใหญ่มองโกล ผลงานของผู้กำกับมือเทพ “ฉีเคอะ” “เซียวจ้าน” เป็น ก๊วยเจ๋ง ใน “The Legend of the Condor Heroes : The Gallants” “มังกรหยก จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่” ระเบิดพลังยุทธกอบกู้แผ่นดิน 20 กุมภาพันธ์นี้ ต้องไปชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น #มังกรหยกจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ #จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ #LegendsofTheCondorHeroes #มังกรหยก2025 #LegendsoftheCondorHeroesTheGallants #มังกรหยกเซียวจ้าน2025 #XiaoZhan #XiaoZhan肖战 #เซียวจ้าน #肖战 #XiaoZhanxGuoJing #มังกรหยก #ก๊วยเจ๋ง #กัวจึ้ง #GuoJing
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • Part 2 : จาก “ไอ้ขี้ยา” ถึง “มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า”
    .
    การฆ่าคนสักคนโดยที่คนเราจะตั้งใจไม่หรือไม่ตั้งใจก็ตาม หากคนผู้นั้นมีจิตสำนึก ชีวิตอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ ที่ชักปืนมายิงเปรี้ยงพลาดเข้ากางหน้าผากโวมเมอร์ ภรรยาโดยพฤตินัยนั้น อย่างแรกที่เขาเลือกที่จะทำคือการโทรหาทนายความหัวหมอคนนั้นอีก ซึ่งแน่นอน เขารอดคุกเป็นครั้งที่ 2 จากการใช้ช่องโหว่ทางจดหมาย แต่ไม่นานเท่าไหร่ ทนายเองก็มีปัญหาส่วนตัวกับกฏหมายบ้านเมือง ทางออกที่ดีที่สุดคือ บิลต้องเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง คราวนี้ต้องไปให้ไกลกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม เขาไปใช้ชีวิตในแถบอเมริกาใต้อยู่ครึ่งปี และกลายเป็นคนแรกในกลุ่มบีทส์ ที่ได้เสพ อายาวัสกาอย่างบ้าคลั่ง ในปี 1953 บิลกลับมาที่แม็กซิโก และ เดินทางออกจากที่นั่น กลับไปที่้ นิวยอร์ค เพื่อพบกับอัลแลน ซึ่งได้แนะนำเส้นสายในวงการโรงพิมพ์ให้เขารู้จัก หนึ่งในนั้นคือ คาร์ล โซโลมอน ซึ่งเป็นบรรณาธิการของ เอสบุ๊ค ผู้รับหนังสือเล่มแรกของบิลตีพิมพ์ออกสู่ตลาดในวงกว้าง "ไอ้ขี้ยา" - Junkie บิลได้เงินจากการขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์เป็นเงิน 800 เหรียญ หนังสือเล่มนี้ "ไอ้ขี้ยา" - Junkie ขายไม่ค่อยดีเท่าไรนักในเวลานั้น เนื่องจากมันเป็นการรวมประสบการณ์ส่วนตัวที่ดิบและเถื่อนของบิลเองในฐานะผู้เสพยาเสพติดหลากหลายชนิด แต่หากมองในมุมมองของโลกบุคปัจจุบันซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 70 ปี หนังสือเล่มนี้เปิดโลกอีกใบของสังคมอเมริกาในยุค mid-century ที่คนภายนอก หรือคนในปัจจุบัน มองว่าทุกอย่างนั้นเป็นระเบียบแบบแผน มีสีสัน มีความล้ำสมัย มีความเป็นอเมริกาน่าแบบไม่ตกยุค "ไอ้ขี้ยา" - Junkie จึงเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในจำนวนที่น้อยมากๆ ที่สะท้อนสังคมอเมริกันในยุคนั้น อย่างลึกซึ้ง
    .
    อันที่จริง บิล ตกหลุมรัก อัลแลน แบบจริงจัง แบบหัวปักหัวปำ โดยออกปากว่าอยากความสัมพันธ์ทางเพศแบบชายรักชายกับเขา แต่เมื่อ อัลแลนปฏิเสธเขา บิลรู้สึกอกหัก และเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งสู่ แทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า เป็นตลาดใหญ่ของ โสเภณีชาย และ ยาเสพติดทุกประเภทในโลก และมันก็ไม่เกินความคาดเดา บิลเสพยาหนักขึ้นอีก ยาที่เขาเลือกใช้บ่อยที่สุดในช่วงนั้นคือ ยูคาโดล ซึ่งก็คือชื่้อทางการตลาดของยาระงับประสาท ออกซิโคโดน นั่นเอง เขาติดแบบงอมแงมซะเขาต้องเลือกที่จะบากหน้ากลับไปหาแม่ ในเดือนกันยายน ปี 1956 เพื่อขอยืมเงิน 500 เหรียญเพื่อไปบำบัด ซึ่งเขาได้พบกับ ดร. จอห์น ยาเบอร์รี่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แพทย์สายบำบัด ที่เก่งที่สุดในโลก โดยให้ อโปมอร์ฟีน กับบิลแทน นั่นก็ทำให้บิลหยุดอาการอยากยา ได้ขณะหนึ่ง แต่ไม่รู้เหตุอันใด บิล รีบเดินทางกลับไปที่แทนเจียร์เลยทันที
    .
    แทนเจียร์ สภาพที่คุ้นเคย สถานที่ที่บิลจัดหาทุกอย่างเพื่อสนองความต้องของตัวเองได้ทุกเวลา บิลเริ่มมีความมุ่งมั่นในการผลิตงานเขียนอย่างจริงๆจังๆ ก็ที่นี่ ที่ผลงานชั้นครูในโลกของวรรณกรรมนอกกระแส "มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า" - Naked Lunch บิลเขียนจดหมายถึงอัลแลนเล่าว่า "นายรู้หรือเปล่า? วิธีเขียนหนังสือยาวๆแบบฉัน ฉันนี่ดูดกัญชาไปเรื่อยๆ พิมพ์ไปด้วยความสูงสุดเท่าที่จะพิมพ์ได้ วันละ หกชั่วโมงติดต่อกันเท่านั้นเป็นเลิกกัน" อันที่จริงแล้วชื่อวรรณกรรมเล่มนี้มาด้วยความบังเอิญสุดๆ คือตอนที่จะให้ชื่อกับวรรณกรรมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ที่บิลนั้นเดินทางไปเยี่ยมพรรคพวกที่ ม.โคลัมเบีย ซึ่งกลุ่มบีทส์ นำโดย แจ็ค กับ อัลแลน จะฝึกวิชาเขียนบทกันอย่างหนักหน่วงมาก โดยจะผลัดกับเขียนเรื่องสั้น เรียกว่า รูทีน และเอาพวกคนในกลุ่มผลัดกันมาเล่นละครแล้วก็วิจารณ์กันเองอย่างดุเดือด อัลแลนอ่านประโยค "ความใคร่อันเปลือยเปล่า" - Naked Lust ผิดเป็น Naked Lunch ซึ่งบิลชื่นชอบคำนี้มาก และจำมาเขียนเป็นชื่อวรรณกรรมของเขาเอง ในปี 1957 แจ็คเดินทางไปแทนเจียร์และพบว่า ต้นฉบับของ Naked Lunch นั้นปลิวกระจายไปทั่วห้อง แจ็คถึงกลับต้องเอามานั่งเรียบเรียงและพิมพ์ดีดลงกระดาษให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม เดือนถัดมา แจ็คก็ยังรู้สึกไม่พอใจ จึงกลับไปที่แทนเจียร์อีกรอบพร้อมกับชายคนรักคนใหม่ของเขา ปีเตอร์ ออลอฟสกี้ และสองคนนี้ก็ไปช่วยกันเรียบเรียงให้ต้นฉบับนี้สมบูรณ์และพร้อมตีพิมพ์ในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่ออัลแลนได้อ่านต้นฉบับถึงกลับเขียนจดหมายไปหา ลูเชี่ยน คารร์ เล่าว่า "ผลงานของบิลนี้โคตรเจ๋ง การที่บิลเขาทุ่มเทกับมันใช้ความรู้และศิลปะในการใช้ภาษาที่เขามี และ ยังมีพวกเราที่มาขัดเกลามันขึ้นอีก!"
    .
    บิลกับอัลแลนเดินทางไปปารีสในเดือนมกราคมปี 1958 และขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์งานชิ้นเอกของเขาให้กับ สำนักพิมพ์โอลิมเปีย และต่อมา ในปี 1962 ผลงานนี้จึงถูกนำเข้ามาตีพิมพ์ในอเมริกาโดย สำนักพิมพ์โกว์ฟ แต่ขายได้ไม่นานก็ถูกสั่งโดยรัฐบาลกลางให้เลิกขายโดยทันทีเนื่องจากมีเนื้อหาที่ลามกหยาบโลนเกินไปสำหรับนักอ่านในอเมริกา กว่าหนังสือเล่มนี้จะได้ขายในตลาดหนังสืออเมริกาก็ปาเข้าไปปี 1966 ซึ่งบิลนั้นยินดีมากที่หนังสือเขาจะไม่ถูกหาว่าเป็นหนังสือต้องห้าม ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเสวนากันโดยสื่อมวลชนถึง คุณค่าและความเป็นวรรณกรรมของหนังสือดังกล่าว นอแมน เมลเลอร์ กล่าวว่า "ก็ด้วยความที่มันสุดขอบในเรื่องเซ็กซ์ ความใคร่ ความกระสันในความรุนแรงแบบน่าสยดสยอง แบบดิบๆ ที่เราเจอได้ในหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมชื่นชม คุณ เบอร์โรส์ มากๆ เพราะเขาเข้าถึงเรื่องอย่างว่าได้ลึกกว่านักเขียนคนใดในโลกตะวันตกในยุคนี้"
    .
    วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ ก็ใช่่จะไม่เจอปัญหาที่ในชีวิตที่ดูเหมือนจะไม่แคร์โลกไม่แคร์สังคมของเขา นั่นก็คือลูกชายเขา - บิลจูเนียร์ นั่นเอง บิลจูเนียร์ติดยาเสพติดอย่างงอมแงม ตามไลฟสไตล์ที่เขาเห็นพ่อ และ แม่ผู้ล่วงลับใช้ชีวิตกันแบบนั้นมาตลอด บิลเดินทางออกจากแทนเจียร์อีกครั้ง มาอเมริกาเพื่อเอาลูกชายตัวเอง เข้าสถานบำบัดเอกชน เล็กซิงตั้น มีเรื่้องเล่าอยู่ว่า วันที่ สองคนเดินทางไปถึง พยาบาลถึงกลับงงและถามว่า "หนึ่งในสองคนนี้ คนไหนกันคะที่จะเข้ารับการบำบัด?" บิลจูเนียร์ มีชีวิตที่น่าสงสาร เป็นโรคไตวาย เปลี่ยนไตใหม่ไปหนึ่งครั้ง และก็จบชีวิตที่แสนสั้นของเขาที่ฟลอริดา บิลจูเนียร์เขียนจดหมายลาพ่อของเขา ลงท้ายจดหมาย "จาก บุตรที่โดนสาปแช่งตั้งแต่เกิดของท่านเอง"
    .
    .
    to be continued...
    .
    .
    Part 2 : จาก “ไอ้ขี้ยา” ถึง “มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า” . การฆ่าคนสักคนโดยที่คนเราจะตั้งใจไม่หรือไม่ตั้งใจก็ตาม หากคนผู้นั้นมีจิตสำนึก ชีวิตอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ ที่ชักปืนมายิงเปรี้ยงพลาดเข้ากางหน้าผากโวมเมอร์ ภรรยาโดยพฤตินัยนั้น อย่างแรกที่เขาเลือกที่จะทำคือการโทรหาทนายความหัวหมอคนนั้นอีก ซึ่งแน่นอน เขารอดคุกเป็นครั้งที่ 2 จากการใช้ช่องโหว่ทางจดหมาย แต่ไม่นานเท่าไหร่ ทนายเองก็มีปัญหาส่วนตัวกับกฏหมายบ้านเมือง ทางออกที่ดีที่สุดคือ บิลต้องเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง คราวนี้ต้องไปให้ไกลกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม เขาไปใช้ชีวิตในแถบอเมริกาใต้อยู่ครึ่งปี และกลายเป็นคนแรกในกลุ่มบีทส์ ที่ได้เสพ อายาวัสกาอย่างบ้าคลั่ง ในปี 1953 บิลกลับมาที่แม็กซิโก และ เดินทางออกจากที่นั่น กลับไปที่้ นิวยอร์ค เพื่อพบกับอัลแลน ซึ่งได้แนะนำเส้นสายในวงการโรงพิมพ์ให้เขารู้จัก หนึ่งในนั้นคือ คาร์ล โซโลมอน ซึ่งเป็นบรรณาธิการของ เอสบุ๊ค ผู้รับหนังสือเล่มแรกของบิลตีพิมพ์ออกสู่ตลาดในวงกว้าง "ไอ้ขี้ยา" - Junkie บิลได้เงินจากการขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์เป็นเงิน 800 เหรียญ หนังสือเล่มนี้ "ไอ้ขี้ยา" - Junkie ขายไม่ค่อยดีเท่าไรนักในเวลานั้น เนื่องจากมันเป็นการรวมประสบการณ์ส่วนตัวที่ดิบและเถื่อนของบิลเองในฐานะผู้เสพยาเสพติดหลากหลายชนิด แต่หากมองในมุมมองของโลกบุคปัจจุบันซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 70 ปี หนังสือเล่มนี้เปิดโลกอีกใบของสังคมอเมริกาในยุค mid-century ที่คนภายนอก หรือคนในปัจจุบัน มองว่าทุกอย่างนั้นเป็นระเบียบแบบแผน มีสีสัน มีความล้ำสมัย มีความเป็นอเมริกาน่าแบบไม่ตกยุค "ไอ้ขี้ยา" - Junkie จึงเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในจำนวนที่น้อยมากๆ ที่สะท้อนสังคมอเมริกันในยุคนั้น อย่างลึกซึ้ง . อันที่จริง บิล ตกหลุมรัก อัลแลน แบบจริงจัง แบบหัวปักหัวปำ โดยออกปากว่าอยากความสัมพันธ์ทางเพศแบบชายรักชายกับเขา แต่เมื่อ อัลแลนปฏิเสธเขา บิลรู้สึกอกหัก และเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งสู่ แทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า เป็นตลาดใหญ่ของ โสเภณีชาย และ ยาเสพติดทุกประเภทในโลก และมันก็ไม่เกินความคาดเดา บิลเสพยาหนักขึ้นอีก ยาที่เขาเลือกใช้บ่อยที่สุดในช่วงนั้นคือ ยูคาโดล ซึ่งก็คือชื่้อทางการตลาดของยาระงับประสาท ออกซิโคโดน นั่นเอง เขาติดแบบงอมแงมซะเขาต้องเลือกที่จะบากหน้ากลับไปหาแม่ ในเดือนกันยายน ปี 1956 เพื่อขอยืมเงิน 500 เหรียญเพื่อไปบำบัด ซึ่งเขาได้พบกับ ดร. จอห์น ยาเบอร์รี่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แพทย์สายบำบัด ที่เก่งที่สุดในโลก โดยให้ อโปมอร์ฟีน กับบิลแทน นั่นก็ทำให้บิลหยุดอาการอยากยา ได้ขณะหนึ่ง แต่ไม่รู้เหตุอันใด บิล รีบเดินทางกลับไปที่แทนเจียร์เลยทันที . แทนเจียร์ สภาพที่คุ้นเคย สถานที่ที่บิลจัดหาทุกอย่างเพื่อสนองความต้องของตัวเองได้ทุกเวลา บิลเริ่มมีความมุ่งมั่นในการผลิตงานเขียนอย่างจริงๆจังๆ ก็ที่นี่ ที่ผลงานชั้นครูในโลกของวรรณกรรมนอกกระแส "มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า" - Naked Lunch บิลเขียนจดหมายถึงอัลแลนเล่าว่า "นายรู้หรือเปล่า? วิธีเขียนหนังสือยาวๆแบบฉัน ฉันนี่ดูดกัญชาไปเรื่อยๆ พิมพ์ไปด้วยความสูงสุดเท่าที่จะพิมพ์ได้ วันละ หกชั่วโมงติดต่อกันเท่านั้นเป็นเลิกกัน" อันที่จริงแล้วชื่อวรรณกรรมเล่มนี้มาด้วยความบังเอิญสุดๆ คือตอนที่จะให้ชื่อกับวรรณกรรมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ที่บิลนั้นเดินทางไปเยี่ยมพรรคพวกที่ ม.โคลัมเบีย ซึ่งกลุ่มบีทส์ นำโดย แจ็ค กับ อัลแลน จะฝึกวิชาเขียนบทกันอย่างหนักหน่วงมาก โดยจะผลัดกับเขียนเรื่องสั้น เรียกว่า รูทีน และเอาพวกคนในกลุ่มผลัดกันมาเล่นละครแล้วก็วิจารณ์กันเองอย่างดุเดือด อัลแลนอ่านประโยค "ความใคร่อันเปลือยเปล่า" - Naked Lust ผิดเป็น Naked Lunch ซึ่งบิลชื่นชอบคำนี้มาก และจำมาเขียนเป็นชื่อวรรณกรรมของเขาเอง ในปี 1957 แจ็คเดินทางไปแทนเจียร์และพบว่า ต้นฉบับของ Naked Lunch นั้นปลิวกระจายไปทั่วห้อง แจ็คถึงกลับต้องเอามานั่งเรียบเรียงและพิมพ์ดีดลงกระดาษให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม เดือนถัดมา แจ็คก็ยังรู้สึกไม่พอใจ จึงกลับไปที่แทนเจียร์อีกรอบพร้อมกับชายคนรักคนใหม่ของเขา ปีเตอร์ ออลอฟสกี้ และสองคนนี้ก็ไปช่วยกันเรียบเรียงให้ต้นฉบับนี้สมบูรณ์และพร้อมตีพิมพ์ในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่ออัลแลนได้อ่านต้นฉบับถึงกลับเขียนจดหมายไปหา ลูเชี่ยน คารร์ เล่าว่า "ผลงานของบิลนี้โคตรเจ๋ง การที่บิลเขาทุ่มเทกับมันใช้ความรู้และศิลปะในการใช้ภาษาที่เขามี และ ยังมีพวกเราที่มาขัดเกลามันขึ้นอีก!" . บิลกับอัลแลนเดินทางไปปารีสในเดือนมกราคมปี 1958 และขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์งานชิ้นเอกของเขาให้กับ สำนักพิมพ์โอลิมเปีย และต่อมา ในปี 1962 ผลงานนี้จึงถูกนำเข้ามาตีพิมพ์ในอเมริกาโดย สำนักพิมพ์โกว์ฟ แต่ขายได้ไม่นานก็ถูกสั่งโดยรัฐบาลกลางให้เลิกขายโดยทันทีเนื่องจากมีเนื้อหาที่ลามกหยาบโลนเกินไปสำหรับนักอ่านในอเมริกา กว่าหนังสือเล่มนี้จะได้ขายในตลาดหนังสืออเมริกาก็ปาเข้าไปปี 1966 ซึ่งบิลนั้นยินดีมากที่หนังสือเขาจะไม่ถูกหาว่าเป็นหนังสือต้องห้าม ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเสวนากันโดยสื่อมวลชนถึง คุณค่าและความเป็นวรรณกรรมของหนังสือดังกล่าว นอแมน เมลเลอร์ กล่าวว่า "ก็ด้วยความที่มันสุดขอบในเรื่องเซ็กซ์ ความใคร่ ความกระสันในความรุนแรงแบบน่าสยดสยอง แบบดิบๆ ที่เราเจอได้ในหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมชื่นชม คุณ เบอร์โรส์ มากๆ เพราะเขาเข้าถึงเรื่องอย่างว่าได้ลึกกว่านักเขียนคนใดในโลกตะวันตกในยุคนี้" . วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ ก็ใช่่จะไม่เจอปัญหาที่ในชีวิตที่ดูเหมือนจะไม่แคร์โลกไม่แคร์สังคมของเขา นั่นก็คือลูกชายเขา - บิลจูเนียร์ นั่นเอง บิลจูเนียร์ติดยาเสพติดอย่างงอมแงม ตามไลฟสไตล์ที่เขาเห็นพ่อ และ แม่ผู้ล่วงลับใช้ชีวิตกันแบบนั้นมาตลอด บิลเดินทางออกจากแทนเจียร์อีกครั้ง มาอเมริกาเพื่อเอาลูกชายตัวเอง เข้าสถานบำบัดเอกชน เล็กซิงตั้น มีเรื่้องเล่าอยู่ว่า วันที่ สองคนเดินทางไปถึง พยาบาลถึงกลับงงและถามว่า "หนึ่งในสองคนนี้ คนไหนกันคะที่จะเข้ารับการบำบัด?" บิลจูเนียร์ มีชีวิตที่น่าสงสาร เป็นโรคไตวาย เปลี่ยนไตใหม่ไปหนึ่งครั้ง และก็จบชีวิตที่แสนสั้นของเขาที่ฟลอริดา บิลจูเนียร์เขียนจดหมายลาพ่อของเขา ลงท้ายจดหมาย "จาก บุตรที่โดนสาปแช่งตั้งแต่เกิดของท่านเอง" . . to be continued... . .
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • พุทธศิลป์หินสลักแท้........อันดากู
    ศิลปะปาละดู........ชัดแท้
    สล่าอินเดียชั้นครู.....เกลาแกะไว้เอย
    กรุพุกามบรรจุแล้.....สื่อไว้ภาษาเตลูกู เจ้าเฮย..
    ........อาจารย์นิคม เทพย์ช่วย........
    พุทธศิลป์หินสลักแท้........อันดากู ศิลปะปาละดู........ชัดแท้ สล่าอินเดียชั้นครู.....เกลาแกะไว้เอย กรุพุกามบรรจุแล้.....สื่อไว้ภาษาเตลูกู เจ้าเฮย.. ........อาจารย์นิคม เทพย์ช่วย........
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน
    ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ
    หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง
    สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม
    ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ
    ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง
    “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)”
    “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป”
    ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)” “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป” ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • #บวชมาแล้ว...ฉันแล้วนอน

    - ให้บิณฑบาตร นั่งซาเล้ง รถเบ็นซ์ เลี้ยงชีพ

    - อยู่ที่วิเวก ไม่คลุกคลี

    - ใช้ชีวิตสันโดษ ขูดเกลากิเลส

    - มุ่งปรารภความเพียรภาวนาเพื่อบรรลุธรรมฯ

    ×ไม่ต้องไปทำเดรัจฉานวิชาเลี้ยงชีพ

    ×ไม่ต้องไปสนใจโลก สนใจพูดคุยกับใคร

    ×ไม่ต้องใช้ชีวิตที่ส่งเสริมกิเลส อย่างโลกๆ

    ×ไม่ต้องมีกิจ ที่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานฯ

    #ทางที่ไม่เนิ่นช้า

    #เต็ม100กับการปฏิบัติ

    #ย่อมประสบความสำเร็จ100 %

    #ธรรมจักษุของนักภาวนา

    https://youtu.be/Lrf1i78JN1M?si=QDMo8uVa-LQ0ikeW

    #จากซาเล้งพ่วงข้าง สู่หนทางพระนิพพาน
    #บวชมาแล้ว...ฉันแล้วนอน - ให้บิณฑบาตร นั่งซาเล้ง รถเบ็นซ์ เลี้ยงชีพ - อยู่ที่วิเวก ไม่คลุกคลี - ใช้ชีวิตสันโดษ ขูดเกลากิเลส - มุ่งปรารภความเพียรภาวนาเพื่อบรรลุธรรมฯ ×ไม่ต้องไปทำเดรัจฉานวิชาเลี้ยงชีพ ×ไม่ต้องไปสนใจโลก สนใจพูดคุยกับใคร ×ไม่ต้องใช้ชีวิตที่ส่งเสริมกิเลส อย่างโลกๆ ×ไม่ต้องมีกิจ ที่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานฯ #ทางที่ไม่เนิ่นช้า #เต็ม100กับการปฏิบัติ #ย่อมประสบความสำเร็จ100 % #ธรรมจักษุของนักภาวนา https://youtu.be/Lrf1i78JN1M?si=QDMo8uVa-LQ0ikeW #จากซาเล้งพ่วงข้าง สู่หนทางพระนิพพาน
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • #บวชมาแล้ว...ฉันแล้วนอน

    - ให้บิณฑบาตร นั่งซาเล้ง รถเบ็นซ์ เลี้ยงชีพ

    - อยู่ที่วิเวก ไม่คลุกคลี

    - ใช้ชีวิตสันโดษ ขูดเกลากิเลส

    - มุ่งปรารภความเพียรภาวนาเพื่อบรรลุธรรมฯ

    ×ไม่ต้องไปทำเดรัจฉานวิชาเลี้ยงชีพ

    ×ไม่ต้องไปสนใจโลก สนใจพูดคุยกับใคร

    ×ไม่ต้องใช้ชีวิตที่ส่งเสริมกิเลส อย่างโลกๆ

    ×ไม่ต้องมีกิจ ที่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานฯ

    #ทางที่ไม่เนิ่นช้า

    #เต็ม100กับการปฏิบัติ

    #ย่อมประสบความสำเร็จ100 %

    #ธรรมจักษุของนักภาวนา

    https://youtu.be/Lrf1i78JN1M?si=QDMo8uVa-LQ0ikeW

    #จากซาเล้งพ่วงข้าง สู่หนทางพระนิพพาน
    #บวชมาแล้ว...ฉันแล้วนอน - ให้บิณฑบาตร นั่งซาเล้ง รถเบ็นซ์ เลี้ยงชีพ - อยู่ที่วิเวก ไม่คลุกคลี - ใช้ชีวิตสันโดษ ขูดเกลากิเลส - มุ่งปรารภความเพียรภาวนาเพื่อบรรลุธรรมฯ ×ไม่ต้องไปทำเดรัจฉานวิชาเลี้ยงชีพ ×ไม่ต้องไปสนใจโลก สนใจพูดคุยกับใคร ×ไม่ต้องใช้ชีวิตที่ส่งเสริมกิเลส อย่างโลกๆ ×ไม่ต้องมีกิจ ที่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานฯ #ทางที่ไม่เนิ่นช้า #เต็ม100กับการปฏิบัติ #ย่อมประสบความสำเร็จ100 % #ธรรมจักษุของนักภาวนา https://youtu.be/Lrf1i78JN1M?si=QDMo8uVa-LQ0ikeW #จากซาเล้งพ่วงข้าง สู่หนทางพระนิพพาน
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • สิ่งยืนยันว่า การศึกษาไม่ช่วยขัดเกลาจิตใจกบ..ฏคนล้มล้าง ก่อกวน ก่อการ ก่อกรรม หลบหนี แล้วโอ้อวด หารู้ไม่ว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์คอยสาปแช่ง และรอวันลงโทษคนหักหลังอย่างมรึง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    สิ่งยืนยันว่า การศึกษาไม่ช่วยขัดเกลาจิตใจกบ..ฏคนล้มล้าง ก่อกวน ก่อการ ก่อกรรม หลบหนี แล้วโอ้อวด หารู้ไม่ว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์คอยสาปแช่ง และรอวันลงโทษคนหักหลังอย่างมรึง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    Sad
    4
    1 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • การ #รักตัวเอง จาก 5 Speakers #เกลา
    🧡 คุณหมอนัท ณัฐพล วาสิกดิลก
    🧡 คุณป้อม หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล
    🧡 คุณรุ้ง ราวรรณ โทนะหงษา
    🧡 คุณนุ่น สินิทธา บุญยศักดิ์
    🧡 คุณแพท รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย
    🎯 https://youtu.be/xUyHBykMCs8
    การ #รักตัวเอง จาก 5 Speakers #เกลา 🧡 คุณหมอนัท ณัฐพล วาสิกดิลก 🧡 คุณป้อม หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล 🧡 คุณรุ้ง ราวรรณ โทนะหงษา 🧡 คุณนุ่น สินิทธา บุญยศักดิ์ 🧡 คุณแพท รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย 🎯 https://youtu.be/xUyHBykMCs8
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • ขัดเกลาจิตตัวเอง อย่าไปมองไปดูจิตคนอื่น เอาให้ตัวดีงาม งามในศิล ความดีต่างๆ ก่อน
    ขัดเกลาจิตตัวเอง อย่าไปมองไปดูจิตคนอื่น เอาให้ตัวดีงาม งามในศิล ความดีต่างๆ ก่อน
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • ... ก็ที่ต้องออกมานั่งเคลียร์เพราะคนไม่เรียนแต่ออกมาทำคอนเทนต์สอนคนไงคะ หารายได้จากพระธรรมคำสอนแถมยังพูดผิดๆถูกๆ เค้าเลยต้องออกมาช่วยเกลาค่ะ....
    ... ก็ที่ต้องออกมานั่งเคลียร์เพราะคนไม่เรียนแต่ออกมาทำคอนเทนต์สอนคนไงคะ หารายได้จากพระธรรมคำสอนแถมยังพูดผิดๆถูกๆ เค้าเลยต้องออกมาช่วยเกลาค่ะ....
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • คติธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    ๑. ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี

    ๒. การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์

    ๓. การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน

    ๔. ถ้าเป็นโลกแล้ว จะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น

    ๕. “โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม”
    เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง... ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง

    ๖. ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน

    ๗. ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต

    ๘. คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร

    ๙. ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนรสแกงส้ม
    ศีล เปรียบได้กับรสเปรี้ยว ความเปรี้ยวทำหน้าที่กัดกร่อนความสกปรกออก ทำนองเดียวกัน ศีลจะช่วยขัดเกลาความหยาบออกจากทางกาย วาจา ใจ
    สมาธิ เปรียบได้กับรสเค็ม เพราะความเค็มช่วยรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสีย สมาธิก็เหมือนกัน สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดีได้
    ปัญญา เปรียบได้กับรสเผ็ด เพราะปัญญามีลักษณะคิด อ่าน ตริตรอง โลดแล่นไป เพื่อขจัดอวิชชาความหลง

    ๑๐. การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย เลยไม่เป็นอีกเหมือนกัน อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกรรมฐานที่ตั้งไว้ ภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กินไป มันก็อิ่มเอง ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไป ก็จะถึงของดีของวิเศษในตัว แล้วเราจะรู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป

    ๑๑. รวยกับซวยมันใกล้กันนะ จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ กลัวคนจะมาจี้มาปล้น หมดไปก็เป็นทุกข์อีก ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอา “ดี” ดีกว่า

    ๑๒. ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา
    ประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่าง
    รับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิของท่านก็เลยกลายเป็นพระธาตุกันหมด

    ๑๓. รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือ
    แพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์

    ๑๔. ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส
    (อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ) แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลง
    แสงสว่าง ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม


    ๑๕. อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ โดยไม่ได้เอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ (หมายถึงอย่าเอาแต่ทำสมาธิโดยไม่พิจารณาธรรม)

    ๑๖. อย่าปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง (หมายถึงไหม้วูบเดียวแล้วก็ดับ กล่าวคือ ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็หยุด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทำ (ปฏิบัติธรรม) ให้สม่ำเสมอให้ได้ทั้งในยามขยันและขี้เกียจ)

    🙏🙏🙏
    คติธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ๑. ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี ๒. การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์ ๓. การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน ๔. ถ้าเป็นโลกแล้ว จะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น ๕. “โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม” เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง... ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง ๖. ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน ๗. ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต ๘. คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร ๙. ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนรสแกงส้ม ศีล เปรียบได้กับรสเปรี้ยว ความเปรี้ยวทำหน้าที่กัดกร่อนความสกปรกออก ทำนองเดียวกัน ศีลจะช่วยขัดเกลาความหยาบออกจากทางกาย วาจา ใจ สมาธิ เปรียบได้กับรสเค็ม เพราะความเค็มช่วยรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสีย สมาธิก็เหมือนกัน สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดีได้ ปัญญา เปรียบได้กับรสเผ็ด เพราะปัญญามีลักษณะคิด อ่าน ตริตรอง โลดแล่นไป เพื่อขจัดอวิชชาความหลง ๑๐. การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย เลยไม่เป็นอีกเหมือนกัน อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกรรมฐานที่ตั้งไว้ ภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กินไป มันก็อิ่มเอง ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไป ก็จะถึงของดีของวิเศษในตัว แล้วเราจะรู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป ๑๑. รวยกับซวยมันใกล้กันนะ จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ กลัวคนจะมาจี้มาปล้น หมดไปก็เป็นทุกข์อีก ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอา “ดี” ดีกว่า ๑๒. ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา ประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่าง รับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิของท่านก็เลยกลายเป็นพระธาตุกันหมด ๑๓. รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือ แพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์ ๑๔. ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส (อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ) แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลง แสงสว่าง ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม ๑๕. อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ โดยไม่ได้เอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ (หมายถึงอย่าเอาแต่ทำสมาธิโดยไม่พิจารณาธรรม) ๑๖. อย่าปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง (หมายถึงไหม้วูบเดียวแล้วก็ดับ กล่าวคือ ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็หยุด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทำ (ปฏิบัติธรรม) ให้สม่ำเสมอให้ได้ทั้งในยามขยันและขี้เกียจ) 🙏🙏🙏
    0 Comments 2 Shares 405 Views 0 Reviews
  • ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้ประกาศตอกย้ำเอาไว้อีกครั้ง ว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” กำลังใกล้นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าว่ากันโดยคำพูดแบบ “คำต่อคำ” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสำนักข่าวต่างๆ ก็คือ... “เรากำลังมีปัญหา ที่ทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลเอาจริงๆ ต่อเหตุการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมกังวลว่าเราอาจต้องจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลที่กำลังเป็นอยู่” หรือถึงขั้นถ้าตัวเองเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา มีแต่ต้อง “ลงมืออย่างเร่งด่วนและด้วยความรวดเร็ว...ถึงจะช่วยปกปักรักษาประเทศอเมริกา ช่วยกอบกู้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียให้พ้นไปจากเงื้อมมือของพรรคการเมืองตรงกันข้าม ด้วยการหยุดสงครามยูเครน ยุติความสับสนอลหม่านในตะวันออกกลาง และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้!!!” นี่...เป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจัง ไปได้ถึงขั้นนั้น...

    เหตุที่ “ทรัมป์บ้า” ต้องนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดจาหาเสียงกันอีกครั้ง แม้ว่าเคยพูดจาทำนองนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน มันออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น...หนังสือพิมพ์ “The Washington Post” เขาได้นำเสนอรายงานข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ว่าประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ได้บอกกับที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ให้ไป “เตือนอิหร่าน” ว่าความพยายามลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” นั้น เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” กับอเมริกา อันอาจถือเป็นการแสดงความห่วงใย ความต้องการปกป้องชาวอเมริกัน แม้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตัวเองก็ตาม แต่ปัญหามีอยู่ว่า...ทำไมการคิดลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มันดันถูกโยงไปยังคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาและพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอล เช่นประเทศอิหร่านจนได้??? ทั้งที่น่าจะเป็น “คนละเรื่อง” แท้ๆ...

    ส่วนที่อาจเกี่ยวข้องอยู่บ้างนิดๆ ก็คือ...กรณีเกิดการลอบสังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน อย่าง “พลเอกQassem Soleimani” เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 อันเป็นช่วงเดียวกับที่ “ทรัมป์บ้า” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจมีส่วนรับทราบ รู้เห็นต่อการกระทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ยากที่จะนำมาเกี่ยวข้องโยงใยกับบรรดา “ผู้ต้องหา” หรือ “มือปืน” ที่พยายามลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” คราวแล้ว คราวเล่า ซึ่งออกจะหนักไปทางพวก “สาวกเดโมแครต” นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับมุสลิม อิสลาม หรือกับอิหร่านด้วยเลย อีกทั้งในคำประกาศแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่านต่อกรณีดังกล่าว ก็ดูจะเน้นหนักไปในทาง “ยุทธศาสตร์” ไม่ได้คิดจะอาศัยเพียงแค่ “ยุทธวิธี” แบบโง่ๆ-ง่ายๆ หรือมุ่งที่คิดจะเสือกไสไล่ส่ง บรรดาทหารอเมริกาทั้งมวลไม่ให้เหลือติดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางแม้แต่รายเดียว...อะไรประมาณนั้น...

    และก็แน่ล่ะว่า...ทางการอิหร่านเขาได้ออกมาปฏิเสธแบบหัวเด็ด-ตีนขาด ต่อ “ข้อกล่าวหา” เรื่องคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาแล้วตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ถูก “ยิงเฉี่ยวหู” เมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kanaani” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย และ “สิ่งที่อิหร่านต้องการก็คือการอาศัยการกระทำที่ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนรู้เห็น รับผิดชอบ การลอบสังหารพลเอกSoleimani” ด้วยเหตุนี้การนำเอาเรื่องการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาเกี่ยวโยงกับอิหร่าน หรือมาใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการ “ประกาศสงคราม” ของอเมริกา มันเลยออกจะคล้ายๆ การประกาศสงครามกับ “ซัดดัม ฮุสเซน” แห่งอิรัก อันเนื่องมาจากมี “อาวุธทำลายล้าง” อยู่ในครอบครอง อะไรทำนองนั้น คือแม้จะมาจาก “การข่าว” ใดๆ ก็เถอะ แต่หนักไปทาง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่หาหลักฐาน-ข้อพิสูจน์ใดๆ แทบไม่ได้ ชนิดเผลอๆ... “ทรัมป์บ้า” อาจต้อง “ตายฟรี” พร้อมๆ กับการเปิดฉากสงครามกับอิหร่าน แบบยิงปืนนัดเดียวนกหล่นลงมาทั้งพวง เอาเลยก็ไม่แน่!!!

    การโยงเอาอิหร่านกับการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” ให้กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง “โจ ซึมเซา” ถึงกับออกมาประกาศว่าเป็นการ “ประกาศสงครามโดยตรงกับอเมริกา” ขณะที่พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลก็กำลังกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแก้แค้น-เอาคืนกับอิหร่านเต็มที โดยหวังจะฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาเข้ามาร่วมรุมถล่มอิหร่านอีกด้วยต่างหาก อันอาจนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเวทีปราศรัยคราวล่าสุด อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยชักจะเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อจนได้...

    เพราะแม้ว่าอเมริกาภายใต้การนำของ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะเรียก พยายามแสดงท่าทีภายนอกว่าไม่อยากเห็นสงครามในตะวันออกกลาง ไม่ว่าอิสราเอลกับฮามาส กับเฮซบอลเลาะห์หรือกับอิหร่านก็ตามที แต่โดยความเคลื่อนไหวลึกๆ ลงไปแล้ว มันออกจะขัดแย้งและสวนทางกับการแสดงออกภายนอกอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าการมุ่ง “เติมเงิน-เติมอาวุธ” ให้กับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลแบบไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แม้บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นร้อยๆ ต่างออกมาตำหนิประณามอิสราเอล คราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าเรื่องการประกาศให้เลขาธิการยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยใคร่ครวญเอาไว้ก่อน รวมทั้งการมุ่งหน้า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะยั้งมือ ฯลฯ แต่บรรดาสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนอิสราเอลแบบ “มากกว่าประธานาธิบดีอเมริกันรายใดเท่าที่เคยมีมา” ดังที่ผู้ประกาศตัวเป็น “Zionist” อย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้ออกมาอวดโชว์คุณสมบัติของตัวเอง เกิดอาการคิดหน้า-คิดหลังต่อการสนับสนุนอิสราเอลแต่อย่างใด แต่กลับพร้อมที่จะกระพือฮือโหม “ไฟสงคราม”

    ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลาง อย่างเป็นระบบและกิจการ...

    ล่าสุด...เห็นว่ากำลังคิดจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” ที่ว่ากันว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากจรวดที่มีความเร็วระดับ Mach 7.5 ไปให้กับอิสราเอล แถม “พลตรีPat Ryder” โฆษกเพนตากอนแสดงท่าทีว่าคิดจะส่งกำลังทหารอเมริกาและอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปในตะวันออกกลาง ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รวมทั้งผู้บัญชาการ “CENTCOM” (The Commander of the US Central Command) “พลเอกMichale Kurilla” ยังอุตส่าห์ถ่อไปถึงประเทศอิสราเอลเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือกับกองทัพอิสราเอลในการวางแผนโจมตีอิหร่านอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจระเบิดเถิดเทิงขึ้นในอีก “ไม่กี่เดือนข้างหน้า” จนส่งผลให้ “ทรัมป์บ้า” อดไม่ได้ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล ขณะปราศรัยหาเสียง ณ เวทีแคลิฟอร์เนีย...

    โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด ของอดีตทูตอินเดีย “M.K. Bhadrakumar” เรื่อง “Russia aligns with Iran, war cloud scatter” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลและถ่ายทอดไปเมื่อวัน-สองวันมานี้ ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเป็นไปได้” ของ “อภิมหาสงคราม” อันเนื่องมาจากการบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่าง “อิหร่าน-รัสเซีย” หรือที่เรียกๆ กันว่า “The Big Treaty” ที่อาจทำให้การโจมตีอิหร่านย่อมหมายถึงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคุณน้ารัสเซียควบคู่ไปด้วย และคงไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่จีนที่นักยุทธศาสตร์การทหารของจีนเขาเคยพูดๆ เอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ว่าจีนพร้อมที่จะปกป้องอิหร่าน...แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ตามที...

    ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้...เลยคงต้องขออนุญาตแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของ “นายRon Paul” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกามาแล้ว 3 ครั้ง ว่าด้วยเรื่อง “American Neocons Get Their Iran War as Congress Sleeps” หรือในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสอเมริกันกำลังนอนหลับคร่อกฟี้ๆ อยู่นั้น พวก “ขวาใหม่” หรือพวก “Neoconservative” ในอเมริกา อันเต็มไปด้วยลูกหลานชาวยิวยุ่มย่ามยั้วเยี้ยไปหมด อีกทั้งยังมีบทบาทอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกันในแทบทุกยุค-ทุกสมัยกำลังประสบความสำเร็จในการฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาต้องเปิดศึกสงครามกับอิหร่านจนได้ โดยย้ำให้เห็นว่า...สงครามเช่นนี้แทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ ต่อชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเหตุเพราะ... “เรา(ชาวอเมริกัน)กำลังเดินละเมอไปสู่สงครามแห่งกลียุค ที่ถูกกล่อมเกลาโดยการโฆษณาของบรรดาสื่อมวลชน อันจะมีผลให้ผู้คนนับพันๆ ล้านต้องประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และผู้บริสุทธิ์อีกมากกว่านั้นจะต้องสูญเสียชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแห่งสงคราม...”

    ในบทความชิ้นนี้ยังได้สรุปไว้ในตอนท้ายอย่างน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ ด้วยข้อความที่ว่า... “มากกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรายังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนแห่งเหตุการณ์ 9/11 เมื่อเราออกไปสร้างความฉิบหายวายวอดให้กับผู้คนนอกประเทศที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเราเลย นั่นก็คือเราได้สร้าง...ศัตรู ผู้ที่คิดจะแก้แค้น-เอาคืน หรือนั่นก็คือเราได้ทำร้ายตัวเราเอง เราสร้างความเสี่ยงให้กับการโต้กลับ ด้วยเหตุนี้...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านและปฏิเสธสงครามที่กำลังใกล้เข้ามา นับตั้งแต่...เดี๋ยวนี้!!!” นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ว่าจะ “ฟัง...แล้วได้ยิน” ต่อคำเตือนของอดีตนักการเมืองรายนี้หรือไม่? อย่างไร? นั่นแล...

    ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100145

    #Thaitimes
    ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้ประกาศตอกย้ำเอาไว้อีกครั้ง ว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” กำลังใกล้นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าว่ากันโดยคำพูดแบบ “คำต่อคำ” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสำนักข่าวต่างๆ ก็คือ... “เรากำลังมีปัญหา ที่ทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลเอาจริงๆ ต่อเหตุการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมกังวลว่าเราอาจต้องจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลที่กำลังเป็นอยู่” หรือถึงขั้นถ้าตัวเองเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา มีแต่ต้อง “ลงมืออย่างเร่งด่วนและด้วยความรวดเร็ว...ถึงจะช่วยปกปักรักษาประเทศอเมริกา ช่วยกอบกู้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียให้พ้นไปจากเงื้อมมือของพรรคการเมืองตรงกันข้าม ด้วยการหยุดสงครามยูเครน ยุติความสับสนอลหม่านในตะวันออกกลาง และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้!!!” นี่...เป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจัง ไปได้ถึงขั้นนั้น... เหตุที่ “ทรัมป์บ้า” ต้องนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดจาหาเสียงกันอีกครั้ง แม้ว่าเคยพูดจาทำนองนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน มันออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น...หนังสือพิมพ์ “The Washington Post” เขาได้นำเสนอรายงานข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ว่าประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ได้บอกกับที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ให้ไป “เตือนอิหร่าน” ว่าความพยายามลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” นั้น เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” กับอเมริกา อันอาจถือเป็นการแสดงความห่วงใย ความต้องการปกป้องชาวอเมริกัน แม้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตัวเองก็ตาม แต่ปัญหามีอยู่ว่า...ทำไมการคิดลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มันดันถูกโยงไปยังคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาและพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอล เช่นประเทศอิหร่านจนได้??? ทั้งที่น่าจะเป็น “คนละเรื่อง” แท้ๆ... ส่วนที่อาจเกี่ยวข้องอยู่บ้างนิดๆ ก็คือ...กรณีเกิดการลอบสังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน อย่าง “พลเอกQassem Soleimani” เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 อันเป็นช่วงเดียวกับที่ “ทรัมป์บ้า” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจมีส่วนรับทราบ รู้เห็นต่อการกระทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ยากที่จะนำมาเกี่ยวข้องโยงใยกับบรรดา “ผู้ต้องหา” หรือ “มือปืน” ที่พยายามลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” คราวแล้ว คราวเล่า ซึ่งออกจะหนักไปทางพวก “สาวกเดโมแครต” นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับมุสลิม อิสลาม หรือกับอิหร่านด้วยเลย อีกทั้งในคำประกาศแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่านต่อกรณีดังกล่าว ก็ดูจะเน้นหนักไปในทาง “ยุทธศาสตร์” ไม่ได้คิดจะอาศัยเพียงแค่ “ยุทธวิธี” แบบโง่ๆ-ง่ายๆ หรือมุ่งที่คิดจะเสือกไสไล่ส่ง บรรดาทหารอเมริกาทั้งมวลไม่ให้เหลือติดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางแม้แต่รายเดียว...อะไรประมาณนั้น... และก็แน่ล่ะว่า...ทางการอิหร่านเขาได้ออกมาปฏิเสธแบบหัวเด็ด-ตีนขาด ต่อ “ข้อกล่าวหา” เรื่องคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาแล้วตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ถูก “ยิงเฉี่ยวหู” เมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kanaani” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย และ “สิ่งที่อิหร่านต้องการก็คือการอาศัยการกระทำที่ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนรู้เห็น รับผิดชอบ การลอบสังหารพลเอกSoleimani” ด้วยเหตุนี้การนำเอาเรื่องการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาเกี่ยวโยงกับอิหร่าน หรือมาใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการ “ประกาศสงคราม” ของอเมริกา มันเลยออกจะคล้ายๆ การประกาศสงครามกับ “ซัดดัม ฮุสเซน” แห่งอิรัก อันเนื่องมาจากมี “อาวุธทำลายล้าง” อยู่ในครอบครอง อะไรทำนองนั้น คือแม้จะมาจาก “การข่าว” ใดๆ ก็เถอะ แต่หนักไปทาง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่หาหลักฐาน-ข้อพิสูจน์ใดๆ แทบไม่ได้ ชนิดเผลอๆ... “ทรัมป์บ้า” อาจต้อง “ตายฟรี” พร้อมๆ กับการเปิดฉากสงครามกับอิหร่าน แบบยิงปืนนัดเดียวนกหล่นลงมาทั้งพวง เอาเลยก็ไม่แน่!!! การโยงเอาอิหร่านกับการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” ให้กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง “โจ ซึมเซา” ถึงกับออกมาประกาศว่าเป็นการ “ประกาศสงครามโดยตรงกับอเมริกา” ขณะที่พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลก็กำลังกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแก้แค้น-เอาคืนกับอิหร่านเต็มที โดยหวังจะฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาเข้ามาร่วมรุมถล่มอิหร่านอีกด้วยต่างหาก อันอาจนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเวทีปราศรัยคราวล่าสุด อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยชักจะเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อจนได้... เพราะแม้ว่าอเมริกาภายใต้การนำของ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะเรียก พยายามแสดงท่าทีภายนอกว่าไม่อยากเห็นสงครามในตะวันออกกลาง ไม่ว่าอิสราเอลกับฮามาส กับเฮซบอลเลาะห์หรือกับอิหร่านก็ตามที แต่โดยความเคลื่อนไหวลึกๆ ลงไปแล้ว มันออกจะขัดแย้งและสวนทางกับการแสดงออกภายนอกอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าการมุ่ง “เติมเงิน-เติมอาวุธ” ให้กับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลแบบไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แม้บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นร้อยๆ ต่างออกมาตำหนิประณามอิสราเอล คราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าเรื่องการประกาศให้เลขาธิการยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยใคร่ครวญเอาไว้ก่อน รวมทั้งการมุ่งหน้า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะยั้งมือ ฯลฯ แต่บรรดาสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนอิสราเอลแบบ “มากกว่าประธานาธิบดีอเมริกันรายใดเท่าที่เคยมีมา” ดังที่ผู้ประกาศตัวเป็น “Zionist” อย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้ออกมาอวดโชว์คุณสมบัติของตัวเอง เกิดอาการคิดหน้า-คิดหลังต่อการสนับสนุนอิสราเอลแต่อย่างใด แต่กลับพร้อมที่จะกระพือฮือโหม “ไฟสงคราม” ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลาง อย่างเป็นระบบและกิจการ... ล่าสุด...เห็นว่ากำลังคิดจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” ที่ว่ากันว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากจรวดที่มีความเร็วระดับ Mach 7.5 ไปให้กับอิสราเอล แถม “พลตรีPat Ryder” โฆษกเพนตากอนแสดงท่าทีว่าคิดจะส่งกำลังทหารอเมริกาและอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปในตะวันออกกลาง ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รวมทั้งผู้บัญชาการ “CENTCOM” (The Commander of the US Central Command) “พลเอกMichale Kurilla” ยังอุตส่าห์ถ่อไปถึงประเทศอิสราเอลเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือกับกองทัพอิสราเอลในการวางแผนโจมตีอิหร่านอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจระเบิดเถิดเทิงขึ้นในอีก “ไม่กี่เดือนข้างหน้า” จนส่งผลให้ “ทรัมป์บ้า” อดไม่ได้ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล ขณะปราศรัยหาเสียง ณ เวทีแคลิฟอร์เนีย... โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด ของอดีตทูตอินเดีย “M.K. Bhadrakumar” เรื่อง “Russia aligns with Iran, war cloud scatter” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลและถ่ายทอดไปเมื่อวัน-สองวันมานี้ ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเป็นไปได้” ของ “อภิมหาสงคราม” อันเนื่องมาจากการบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่าง “อิหร่าน-รัสเซีย” หรือที่เรียกๆ กันว่า “The Big Treaty” ที่อาจทำให้การโจมตีอิหร่านย่อมหมายถึงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคุณน้ารัสเซียควบคู่ไปด้วย และคงไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่จีนที่นักยุทธศาสตร์การทหารของจีนเขาเคยพูดๆ เอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ว่าจีนพร้อมที่จะปกป้องอิหร่าน...แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ตามที... ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้...เลยคงต้องขออนุญาตแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของ “นายRon Paul” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกามาแล้ว 3 ครั้ง ว่าด้วยเรื่อง “American Neocons Get Their Iran War as Congress Sleeps” หรือในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสอเมริกันกำลังนอนหลับคร่อกฟี้ๆ อยู่นั้น พวก “ขวาใหม่” หรือพวก “Neoconservative” ในอเมริกา อันเต็มไปด้วยลูกหลานชาวยิวยุ่มย่ามยั้วเยี้ยไปหมด อีกทั้งยังมีบทบาทอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกันในแทบทุกยุค-ทุกสมัยกำลังประสบความสำเร็จในการฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาต้องเปิดศึกสงครามกับอิหร่านจนได้ โดยย้ำให้เห็นว่า...สงครามเช่นนี้แทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ ต่อชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเหตุเพราะ... “เรา(ชาวอเมริกัน)กำลังเดินละเมอไปสู่สงครามแห่งกลียุค ที่ถูกกล่อมเกลาโดยการโฆษณาของบรรดาสื่อมวลชน อันจะมีผลให้ผู้คนนับพันๆ ล้านต้องประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และผู้บริสุทธิ์อีกมากกว่านั้นจะต้องสูญเสียชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแห่งสงคราม...” ในบทความชิ้นนี้ยังได้สรุปไว้ในตอนท้ายอย่างน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ ด้วยข้อความที่ว่า... “มากกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรายังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนแห่งเหตุการณ์ 9/11 เมื่อเราออกไปสร้างความฉิบหายวายวอดให้กับผู้คนนอกประเทศที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเราเลย นั่นก็คือเราได้สร้าง...ศัตรู ผู้ที่คิดจะแก้แค้น-เอาคืน หรือนั่นก็คือเราได้ทำร้ายตัวเราเอง เราสร้างความเสี่ยงให้กับการโต้กลับ ด้วยเหตุนี้...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านและปฏิเสธสงครามที่กำลังใกล้เข้ามา นับตั้งแต่...เดี๋ยวนี้!!!” นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ว่าจะ “ฟัง...แล้วได้ยิน” ต่อคำเตือนของอดีตนักการเมืองรายนี้หรือไม่? อย่างไร? นั่นแล... ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100145 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อีกไม่เกิน 3 เดือน...สงครามโลกครั้งที่ 3???
    ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องแวะไปดู “เลือกตั้งอเมริกา” ไว้สักหน่อยแล้วล่ะทั่น!!! เพราะไม่เพียงเขาจะเลือกกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (5 พ.ย.) แต่เห็นว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งพรรครีพับลิกัน อย่าง “ทรัมป์บ้า”
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 683 Views 0 Reviews
  • 🇩🇪🇷🇺🚨‼️ โอลาฟ ชอลซ์ กล่าวว่า รัสเซียหยุดส่งพลังงานให้เยอรมนี, ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

    🤣-> นั่นเป็นเรื่องโกหก, เยอรมนีตัดสินใจหยุดนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย🤣

    นอกจากนี้ เขายังกล่าวโทษ อังเกลา แมร์เคิล, ในฐานะผู้นำประเทศก่อนหน้าเขา

    🤣ผู้ชายอ่อนแอ, ไม่สามารถรับผิดชอบได้🤣
    .
    🇩🇪🇷🇺🚨‼️ Olav Scholz says Russia stopped energy deliveries to Germany, what caused problems in the economy and inflation.

    -> That is a lie, Germany decided to stop importing from Russia.

    Further he blames Angela Merkel, as his predecessor.

    Weak man, can’t take responsibility.
    .
    12:13 AM · Oct 17, 2024 · 169.8K Views
    https://x.com/MyLordBebo/status/1846600277694071217
    🇩🇪🇷🇺🚨‼️ โอลาฟ ชอลซ์ กล่าวว่า รัสเซียหยุดส่งพลังงานให้เยอรมนี, ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ 🤣-> นั่นเป็นเรื่องโกหก, เยอรมนีตัดสินใจหยุดนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย🤣 นอกจากนี้ เขายังกล่าวโทษ อังเกลา แมร์เคิล, ในฐานะผู้นำประเทศก่อนหน้าเขา 🤣ผู้ชายอ่อนแอ, ไม่สามารถรับผิดชอบได้🤣 . 🇩🇪🇷🇺🚨‼️ Olav Scholz says Russia stopped energy deliveries to Germany, what caused problems in the economy and inflation. -> That is a lie, Germany decided to stop importing from Russia. Further he blames Angela Merkel, as his predecessor. Weak man, can’t take responsibility. . 12:13 AM · Oct 17, 2024 · 169.8K Views https://x.com/MyLordBebo/status/1846600277694071217
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 256 Views 24 0 Reviews
  • เห้อ นึกว่าวันนี้จะหนักหน่วงกว่าวันก่อนเสียอีกนะครับ แต่หน้าคอมผมยังมีความเพลิดเพลินและชื่นชอบอยู่ ถ้ายังโฟกัสกับงานและเป้าหมายข้างหน้า อย่านึกถึงความหลังเป็นหลักคิด นี่แหละคือมีแต่ทำให้ผมเติบโตและมีการฟูมฟักที่ดียิ่งขึ้นครับ และค่อยๆขัดเกลาจนตัวตนที่ไม่ดีในอดีตไม่เหลือให้คงอยู่ในปัจจุบันครับ เพราะฉะนั้น ควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำต่อไป สู้ๆนะครับผม
    เห้อ นึกว่าวันนี้จะหนักหน่วงกว่าวันก่อนเสียอีกนะครับ แต่หน้าคอมผมยังมีความเพลิดเพลินและชื่นชอบอยู่ ถ้ายังโฟกัสกับงานและเป้าหมายข้างหน้า อย่านึกถึงความหลังเป็นหลักคิด นี่แหละคือมีแต่ทำให้ผมเติบโตและมีการฟูมฟักที่ดียิ่งขึ้นครับ และค่อยๆขัดเกลาจนตัวตนที่ไม่ดีในอดีตไม่เหลือให้คงอยู่ในปัจจุบันครับ เพราะฉะนั้น ควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำต่อไป สู้ๆนะครับผม
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • วันนี้ไม่ได้โพสต์อะไรแบบนี้มานานมากแล้ว เพราะติดดูโซมะ และทำตามโซมะในแบบของผม คือ ขัดเกลาและพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น และอุดช่องว่างไม่ให้ใครมาหาเหตุบีบบังคับให้ทำงานในระบบที่ผมไม่ชอบบรรยากาศโดยรวม ถึงแอร์จะเย็นก็เถอะ อย่าว่าแต่เรียน ป.โท เลย ถ้าระบบงานยังถูกออกแบบมาเพื่อกดดันระดับล่างให้ต้องมาทำงานอย่างหนัก แต่เงินเดือนก็น้อยกว่าการได้ลงมือทำแบบเปล่าประโยชน์ ต้องเป็นระดับล่างทนโดนโยนงาน ถ้าดวงดีได้เลื่อนขั้น นึกโยนงานให้ใครก็ได้ ถ้าดวงไม่ดี ก็ต้องทำงานอยู่ในระดับล่าง เป็นลูกจ้างเงินน้อยไปจนแก่ คิดแล้วไม่อยากจะคิดอีกเลย พูดไปก็เท่านั้น แค่ตอกย้ำว่าไม่ต้องการอยู่ในจุดที่ต่ำจนคนที่ระดับสูงกว่าเหยียบเป็นว่าเล่น
    บางทีอยากดูโซมะให้จบๆตอนไปเลยก็ได้ครับ เพราะแรงกระตุ้นมันมาจากการที่ผมมีความสนใจเรื่องครอบครัวของนาคิริมากขึ้น ครอบครัวของอลิสก็ต่างจากครอบครัวนาคามูระ เอ๊ย นาคิริฝั่งอาซามิและฮาซาฮิ ก็เห็นได้ว่าฝั่งครอบครัวอลิสให้การยอมรับโซมะอย่างท่วมท้น จนได้ทั้ง อลิซ และ คุโรคิบะ เป็น พันธมิตรสำคัญ ของ โซมะ ไปเลย นี่แหละ การผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรูเพิ่ม ต่างจากที่ เอรินะ ถูก พ่อที่ชื่อ อาซามิ ปลูกฝังให้ยึดติดกับอีโก้ อีโก้สูง จนโซมะเข้ามา อีโก้ของเอรินะก็ค่อยๆเจือจางลงจนกินอาหารของโซมะได้อย่างเอร็ดอร่อย จนพูดคำว่า ห่วยแตก ไม่ออกเลยทีเดียวครับ เป็นเพราะเซ็นซาเอม่อนอยู่เบื้องหลังแท้ๆ ดีลกับโจอิจิโร่จนโซมะได้เข้าเรียนโรงเรียนที่พ่ออย่างโจอิจิโร่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวจากที่นั่น
    วันนี้ไม่ได้โพสต์อะไรแบบนี้มานานมากแล้ว เพราะติดดูโซมะ และทำตามโซมะในแบบของผม คือ ขัดเกลาและพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น และอุดช่องว่างไม่ให้ใครมาหาเหตุบีบบังคับให้ทำงานในระบบที่ผมไม่ชอบบรรยากาศโดยรวม ถึงแอร์จะเย็นก็เถอะ อย่าว่าแต่เรียน ป.โท เลย ถ้าระบบงานยังถูกออกแบบมาเพื่อกดดันระดับล่างให้ต้องมาทำงานอย่างหนัก แต่เงินเดือนก็น้อยกว่าการได้ลงมือทำแบบเปล่าประโยชน์ ต้องเป็นระดับล่างทนโดนโยนงาน ถ้าดวงดีได้เลื่อนขั้น นึกโยนงานให้ใครก็ได้ ถ้าดวงไม่ดี ก็ต้องทำงานอยู่ในระดับล่าง เป็นลูกจ้างเงินน้อยไปจนแก่ คิดแล้วไม่อยากจะคิดอีกเลย พูดไปก็เท่านั้น แค่ตอกย้ำว่าไม่ต้องการอยู่ในจุดที่ต่ำจนคนที่ระดับสูงกว่าเหยียบเป็นว่าเล่น บางทีอยากดูโซมะให้จบๆตอนไปเลยก็ได้ครับ เพราะแรงกระตุ้นมันมาจากการที่ผมมีความสนใจเรื่องครอบครัวของนาคิริมากขึ้น ครอบครัวของอลิสก็ต่างจากครอบครัวนาคามูระ เอ๊ย นาคิริฝั่งอาซามิและฮาซาฮิ ก็เห็นได้ว่าฝั่งครอบครัวอลิสให้การยอมรับโซมะอย่างท่วมท้น จนได้ทั้ง อลิซ และ คุโรคิบะ เป็น พันธมิตรสำคัญ ของ โซมะ ไปเลย นี่แหละ การผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรูเพิ่ม ต่างจากที่ เอรินะ ถูก พ่อที่ชื่อ อาซามิ ปลูกฝังให้ยึดติดกับอีโก้ อีโก้สูง จนโซมะเข้ามา อีโก้ของเอรินะก็ค่อยๆเจือจางลงจนกินอาหารของโซมะได้อย่างเอร็ดอร่อย จนพูดคำว่า ห่วยแตก ไม่ออกเลยทีเดียวครับ เป็นเพราะเซ็นซาเอม่อนอยู่เบื้องหลังแท้ๆ ดีลกับโจอิจิโร่จนโซมะได้เข้าเรียนโรงเรียนที่พ่ออย่างโจอิจิโร่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวจากที่นั่น
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • เราโดนหลอกเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน
    รับไม่ได้ข้อไหนก็ข้ามไป มันเป็นแค่ข้อมูลความเชื่อของตัวหมอเองครับ ไม่ดรามานะ จากนั้นลองชม2คลิปแนบท้าย
    1.หลอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง หลอกว่ากระดูกก้นกบเป็นส่วนที่หางหดลดรูป
    2.หลอกว่ายาฉีdยีuไวรัsเป็นวัkซีuดีเพื่อกันแพร่กันติดหรือติดแล้วจะไม่รุนแรง ติดตามข้อมูลได้ที่ rookon.com หรือ stopthaicontrol.com
    https://odysee.com/.../IRREFUTABLE-EVIDENCE-720p-cut-TH2...
    https://atapol616246.substack.com/archive?sort=new
    3.หลอกว่าฟลูออไรด์ดี (Dr.Dean Burk PHD.บอกว่าเป็นสารที่ทำให้คนตายมากที่สุด,เฉพาะปี2006มีผลงานวิจัยความเป็นพิษมากกว่า 180งานวิจัย) https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5390811884335364&id=100002198164704 ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    4.หลอกว่าบอแร็กซ์(หรือน้ำประสานทองซึ่งเคยอยู่ในยาไทย)ว่าอันตรายห้ามใช้ https://www.facebook.com/share/p/15EhwkHkhn/
    https://www.facebook.com/share/p/19iC2PQb5u/
    5.หลอกให้เชื่อฟังและอยู่ในการควบคุมด้วยระบบการศึกษา
    6.หลอกให้คนเชื่อว่าการกินอาหารต้องตามหลัก5หมู่
    7.หลอกให้กินยาที่ไม่ทำให้โรคหายและได้โรคเพิ่ม
    8.หลอกว่าคอเลสเตอรอลอันตรายต้องกลัว ต้องกินยาลด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213748008611115&id=1732997516
    https://www.facebook.com/share/1BBMfj6dem/
    https://www.facebook.com/share/p/18cm1XzbdN/
    9.หลอกให้กินไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธี น้ำมันผลปาล์มผ่านกรรมวิธี เนยขาว มาการีน ครีมเทียม
    10.หลอกให้กินคอลลาเจนเสริมซึ่งมันคือการกินพังผืดไม่จำเป็น
    https://www.tiktok.com/@sesamingan99/video/7179454507674373402?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    11.หลอกให้คนติด HIV จะต้องกินยาต้านไวรัส
    12.หลอกให้กินนมสัตว์(ข้ามสายพันธุ์)
    13.หลังจากวัยทารกก็ยังหลอกให้กินนมสัตว์ไปตลอดชีวิต
    👉วันนี้คุณเลิกนมวัวหรือยัง? โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ
    https://youtu.be/CDIl9ORkPcU
    👉ช่วงคลิปที่ 1ชม.9นาที อันตรายจากนมวัว โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtu.be/DHGPSl2dpPc
    👉คลิป นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เปิดเหตุผลที่ควรหยุดดื่มนมวัว
    https://youtu.be/2gNPslzrJGc
    👉นมวัวดีจริงหรือ
    https://m.youtube.com/watch...
    👉นมวัว ปลอดโรคหรือเพิ่มโรค
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=340898489398513...
    👉จริงหรือ? นมกับความสูง
    https://m.facebook.com/story.php...
    👉จริงหรือ? นมถั่วเหลือง
    https://m.facebook.com/story.php...
    👉จริงหรือ? นมวัวกับฮอร์โมน
    https://m.facebook.com/story.php...
    👉จริงหรือ? นมแพะ
    https://m.facebook.com/photo.php?fbid=529613370527023...
    👉นม (ภาษาต่างประเทศ)
    https://www.naturalchild.org/.../linda_folden_palmer.html
    👉นมวัวกระตุ้นมะเร็ง
    https://vt.tiktok.com/ZS86EmkD6/
    👉3เหตุผลไม่ดีที่อยู่ในนมวัว
    https://www.tiktok.com/@user.../video/7347855645862841601...
    14.เอาเนื้อปลามาแต่งสีหลอกว่าเป็นปูอัด
    15.หลอกว่าเครื่องดื่มที่ใช้สารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาลจะสุขภาพดีปลอดภัย
    16.หลอกให้เราใช้แต่เหตุผลให้เลิกจินตนาการบอกว่าเพ้อเจ้อ (จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)
    17.หลอกให้ใช้ X-Ray(อันตราย),CT-Scan(อันตรายมาก), mammogram(อันตราย)
    18.หลอกให้เรากินยาลดน้ำมูกเมื่อเป็นหวัด
    19.หลอกให้แบ่งคนทั้งโลกออกจากกันด้วยศาสนาเชื้อชาติเป็นประเทศ
    20.หลอกให้เป็นทาสทางการเงิน
    21.หลอกว่าโลกร้อนเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก เป็นที่มาของคาร์บอนเครดิตเพื่อการควบคุมสู่ความเป็นทาส https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7401566566593209&id=100002198164704
    วาระลวง
    โลกร้อน Climate Change คาร์บอนเครดิต สู่การจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในเมือง 15 นาที รถ EV เทคโนโลยี HAARP DEWs
    https://www.facebook.com/share/p/tQzGJLv78MScJzf5/
    👉จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030
    https://www.rookon.com/?p=975
    👉Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง
    https://www.rookon.com/?p=1011
    👉ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา
    https://www.rookon.com/?p=339
    👉บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า
    https://www.rookon.com/?p=1147
    👉ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน)
    👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    https://youtu.be/B8h40dr8uZo?si=z9tRbI89SxKkCS4T
    👉‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’
    https://www.rookon.com/?p=334
    👉เมือง 15 นาที
    https://www.youtube.com/watch?v=AHXDxynhn14
    👉รถ EV
    https://www.youtube.com/live/tbgRSbBt2wQ?si=1GUR5FC_UWajAWwZ
    👉มนุษย์กำลังทำให้โลกร้อนอยู่หรือไม่
    https://youtu.be/Dvtrk2DdE-w?si=tf2huHRYIs-VZJQP
    👉จากสงครามสู่ความยั่งยืน ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ UN Agenda 2030
    https://youtu.be/b7yYtiQ3opk?si=lxhKdKlIn8xQ8JWM
    👉โลกร้อนลวงโลก
    https://www.youtube.com/live/k_XjqL_w-Ts?si=0MIuU-YoyVh96XDM
    https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=bhZ9VkUgZxeYW9B_
    👉sun spot
    https://www.tiktok.com/@adit.../video/7360143566166838529...
    👉นี้คือแผนการสู่ 15 minute city ภายในปี 2035 เราจะหยุดมันได้แน่นอนครับเพราะคนกำลังตื่นมากขึ้น และให้คนรุ่นใหม่มีอิสรภาพแบบเรา
    คลิปนี้พูดถึงความผิดปกติของพฤติกรรมของรัฐและเอกชนเรื่องรถไฟฟ้าครับ
    คลิปเต็ม 13 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3upW6H/
    คลิป ย่อ 6 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3uG2Ht/
    ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm
    https://fb.watch/uY-aBuRhe5/?
    ✍️ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงสู่การเป็นทาส
    https://fb.watch/uWoBMgFtTL/?
    https://www.youtube.com/watch?v=tdKv00CijDE
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM
    ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY
    https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/
    ✍️ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส
    โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง
    ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn
    เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/
    ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย
    https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/
    https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV

    22.หลอกว่าประชากรล้นโลกต้องคุมกำเนิด สะกดจิตให้เราคล้อยตามด้วยข้อมูลเมืองที่แออัด ทั้งๆที่โลกมีพื้นที่มากมายและทรัพยากรเพียงพอแค่ต้องบริหารให้ดี
    ✅การลดประชากรโลก
    ✍️ covid 19 roadmap https://t.me/ThaiPitaksithData/1738
    ✍️ ep6 รู้(ทัน)วาระ เห็นความเชื่อมโยงต่างๆในปัจจุบัน https://rumble.com/v1f2lbl-ep6-the-agenda-know-the...
    ✍️ ep7 จำนวนประชากรที่ลดลง ผลจากความตั้งใจ มิใช่แค่เหตุที่เป็นไปโดยธรรมชาติ
    ตอนที่ 1. https://rumble.com/v1g63xr-ep7-1-the-agenda-.html
    ตอนที่ 2. https://rumble.com/v1gwgj7-ep7-2-the-agenda-.html
    ✍️ แม่ชี มีเรียม พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พระสันตปาปา บิลเกตส์ และการฆาตกรรมหมู่ https://rumble.com/vo2cjl-40420353.html
    ✍️ 10ขั้นตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ https://rumble.com/vt3c98-10-.html
    ✍️ Dr Judy Makovits เปิดโปง Fauci แหล่งที่มาของviรัส ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 https://rumble.com/vo1env-plandemic-dr-judy-makovits-phd...
    ✍️ ดร. คอฟแมน - วัkซีuเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103
    ✍️ ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ ฤดู "ใบไม้ร่วง" คำถามคือ ฤดูนี้จะอยู่นานแค่ไหน? https://rookon.com/read-blog/108
    ✍️ จากบทความ Dr. Robert Malone ผู้คิดค้นเทคโนโลยีวรรคซิu mRNA สรุปความโดย ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ https://fb.watch/9Yfe6YW5dl/
    ✍️ ดร.โรเบิร์ต มาโลน นักวิจัยผู้คิดค้น mRNA ที่ยังไม่สมบูรณ์ ออกมาเปิดเผยความอันตรายของวัkซีu mRNA https://odysee.com/ChildrenVaccinationWarning:b...
    ✍️WHO Treaty https://rookon.com/read-blog/131
    ✍️ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://rookon.com/read-blog/44
    ✍️มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://rookon.com/read-blog/49
    ✍️ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/2/ความจริงของโควิด-19-นพ-อรร/
    ✍️เครือข่าย 5G, คลื่นความถี่ และ โkวิd สิบ9 https://docs.google.com/.../1KMlPrvr0mNSycUKik_p.../edit...
    ✍️โครงการ Neuralink (โดยอีลอน มัสก์) กับมนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 https://docs.google.com/.../1Ey79M2rz.../edit...
    ✍️มนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 โดย Dr.Carrie Madej https://docs.google.com/.../1Bxh5T9mD9K6ZXTYFM4L3.../edit...
    ✍️มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ https://docs.google.com/.../1eWJ4Z552HO6SSrPFuMZw.../edit...
    ✍️ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://rookon.com/read-blog/16
    ✍️David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://rookon.com/read-blog/35
    ✍️ ว๊ากเสร็จก่อนที่โkวิdจะระบาด https://rookon.com/read-blog/12
    ✍️ ผู้อยู่เบื้องหลัง โคขวิดและวอซอลวง https://fb.watch/aGglwXBtl5/
    ✍️ปี 1994 อดีตสายลับอังกฤษ MI6 แฉแผนการลดประชากรโลก 😱 โดยองค์กร Club of Rome https://t.me/awakened_thailand/443
    ✍️การลดประชากรโลก ใช่เรื่องจริงไหม? โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    ✍️ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ โดย อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.tiktok.com/@atap.../video/7414795548814773521...
    👉 อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​ว่าวัคซีนโควิดมันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atap.../video/7414795548814773521...
    👉การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    23.หลอกให้กินอาหารอุตสาหกรรมที่มีสารช่วยให้ตายผ่อนส่ง
    24.หลอกว่ามนุษย์ต่างดาวไร้สาระไม่มีอยู่จริง
    https://youtube.com/@awakenwithnatalie?si=vb9Xs3U3wnUi6p5I
    👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์
    https://www.rookon.com/?p=944
    25.หลอกให้เชื่อว่านิพพานเป็นเรื่องยาก
    26.หลอกให้ถอนฟันคุดออก(กรณีที่ไม่ปวดยังใช้ชีวิตได้)
    27.หลอกให้กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
    28.หลอกว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลก โลกจะแตก
    29.หลอกว่าภัยพิบัติเป็นฝีมือธรรมชาติทั้งหมดแต่มีเทคโนโลยี HARRP อยู่เบื้องหลัง
    👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    30. หลอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกาะฮาวายเป็นไฟป่าทั้งๆที่ใช้เทคโนโลยี DEW
    👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    31.หลอกให้รับวัkซีuกว่า90ชนิด(ในปัจจุบัน)ที่ไม่ได้ผลและอันตราย (ยกเว้นเมื่อหมาบ้ากัดต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า)
    ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    32.หลอกเรื่อง 9-11
    https://www.tiktok.com/@atap.../video/7157577695566597403...
    https://stopthaicontrol.com/.../%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8...
    33.หลอกเรื่องนาซาไปถึงดวงจันทร์และดาวอังคาร
    34.หลอกให้กินกาแฟ
    35.หลอกว่ารถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์ ผลิตออกมาเพื่อรักษ์โลก
    36.หลอกว่าน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน ทำร้ายโลกและกำลังจะหมดไปจากโลก
    37.หลอกให้กินสัตว์ป่วย เช่น เนื้อโกเบ(วัวกล้ามเนื้อฝ่อ,ฟัวกราส์(ไขมันลงตับห่าน) https://youtu.be/CDIl9ORkPcU?si=k497GsmCc5iUeKJg
    38.หลอกว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์
    39.หลอกให้ผ่าตัดไส้ติ่งออกทั้งๆที่ไม่ได้อักเสบเป็นอันตราย
    https://www.facebook.com/share/p/1Ecc91s9Xr/
    40.หลอกว่าถ้าไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน้ำย่อยจะออกมาย่อยกระเพาะ
    41.หลอกว่ากินเค็มจะทำให้ไตเสื่อม แต่การกินสัตว์ต่างหากที่ทำร้ายไต
    42.หลอกว่าเรามี Junk DNA
    43.หลอกให้เชื่อว่ามีนรกสวรรค์เพื่อเป็นกับดักให้อยู่ในโฮโลแกรม
    44.หลอกให้เชื่อว่ารัสเซียรังแกยูเครน
    45.หลอกว่าแว่นกันแดด,ครีมกันแดดดีจำเป็นต้องใช้ (ก่อมะเร็ง)
    46.หลอกว่าตาที่ 3 เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องปฎิบัติอะไรแล้ว เปิดแล้วจะเห็นผี
    47.หลอกให้ใช้ยาอันตรายจัดการโควิด เช่น ฟาวิพิลาเวียร์ โมนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวีย แพคโลวิด ปัดยาดีๆออก เช่น ฟ้าทะลายโจร ไอเวอร์เมคติน ไฮดรอกซีคลอโรควีน CDS บอแรกซ์ และสมุนไพรต่างๆ เป็นต้น
    48.หลอกว่าความฝันคือเรื่องที่เราคิดมากไปเอง
    49.หลอกว่าเสียงที่ได้ยินในหัว เพราะเป็นโรคประสาท ไบโพล่า หรือซึมเศร้า
    50.หลอกเรื่องไวรัส โkวิd19,HIV,H1N1,EBOLA,SWINE FLU,ZIKA,SARS ว่าเกิดจากธรรมชาติ
    51.หลอกเรื่อง ลิเบีย
    52.เรื่อง เปโตรดอลล่าร์
    53.หลอกเรื่องการค้ามนุษย์ /เด็ก ทรมานเพื่อทำสารอดรีโนโครมเป็นเรื่องเหลวไหล
    54.หลอกว่า LGBTQ เกิดจากธรรมชาติอย่างเดียว
    55.หลอกให้มีการจัดลำดับความวิเศษความเคารพนับถือศรัทธาแต่ละจิตวิญญาณ เช่น สัตว์ คน เทพ เทวดา ศาสดา
    56.หลอกให้ผู้หญิงตรวจแมมโมแกรมประจำปีเพื่อจะป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ที่จริงคือจะเป็นมะเร็งจากรังสีไอออไนซ์จากการตรวจ
    57.หลอกว่าการใส่แมสก์ช่วยป้องกันไวรัสได้ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้วยังลดออกซิเจนที่จะเข้าร่างกายลง20-30% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆตัว จาก 200-600 ppm เมื่อใส่แมสจะขึ้นไปเกือบ1หมื่น มีผลทำร้ายร่างกาย
    👉เพื่อสุขภาพของคนไทย หมอฝากทุกท่านแชร์แหล่งข้อมูลครับ
    ✅ศึกษาข้อมูลหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมได้ที่
    1.กลุ่มไลน์ "ความรู้เกี่ยวกับแมสก์ Harmfulmasks"
    https://line.me/.../Nf-CPF...
    2.เทเลแกรม “HarmfulMasks”
    https://t.me/HarmfulMasks
    58.หลอกให้เราใช้ชุดตรวจโควิดลวงโลก ATK,ct PCR
    ✅ PCR และ ATK ลวงโลก
    👉เรื่องราวของ PCR & Atk ep.2 https://rumble.com/v17e5ad-ep-2-pcr-and-atk.html
    👉PCR พลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ https://stopthaicontrol.com/.../pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7.../
    👉 ไม่ควร ตรวจเชื้อวัวขวิด ทุกรูปแบบเพราะเป็น ผลบวกลวง ลองฟัง คลิป นี้ครับ ฟัง นาที ที่ 29 และ นาที ที่ 38 https://rumble.com/vsssso-48372936.html
    👉และนาทีที่ 15 จากคลิปนี้ https://rumble.com/vw404g-q-and-a-with-dr.-atapol-md.cu...
    👉ชุดตรวจ ATK ที่เซ็ทผลไว้แล้ว https://t.me/c/1585233417/1124
    👉คลิป สิ่งตกค้างจากการ Swap
    https://www.facebook.com/groups/426084935837716/permalink/433156291797247/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/956
    👉ภัยจากการ Swap
    https://www.facebook.com/100002198164704/posts/4571056572977570/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4282
    👉กราฟีนอ๊อกไซด์แฝงในปลายไม้สว็อบ https://t.me/ThaiPitaksithData/1689
    👉คำเตือนชุดตรวจโkวิd- มีโซเดียมเอไซด์ซึ่งอาจเป็นพิษหรือถึงตายได้ ข้อมูล CDC เกี่ยวกับโซเดียมเอไซด์ https://emergency.cdc.gov/agent/sodiumazide/basics/facts.asp
    👉พบเชื้อ ไม่ได้แปลว่า ติดเชื้อ โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://vt.tiktok.com/ZSLBRvdNY/
    59.หลอกให้กลัวและเชื่อแต่ข้อเสียของกระท่อม กัญชา กัญชง และเห็ดขี้ควาย
    60.หลอกเราว่าโลกกลม แต่โลกแบน มีโดมและกำแพงน้ำแข็งกั้น

    61.หลอกว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่เนปาล ตรัสรู้และปรินิพพานที่อินเดีย ติดตามข้อมูลได้ที่เพจ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดีย https://www.facebook.com/Thanabodee.Rebirths https://www.youtube.com/@user-sv8tw5sn4b/videos ความจริงคือ พระพุทธเจ้าประสูติที่เมืองผาอัน พม่า
    ตรัสรู้ที่โพธิมณฑลสถาน โคกโพธิ์ชัย ขอนแก่น
    แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อิสิปตนมฤคทายวัน วัดพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย สระบุรี
    ปรินิพพาน : วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี

    บางทีการค้นหาคำตอบก็เสียเวลา แต่ต้องรู้ไว้บ้างเพื่อการไม่ถูกหลอกทางโลกกายภาพ มันเป็นความรู้ภายนอก แต่เพื่อ....การดำเนินชีวิตแบบทันเกมส์ และไม่ประมาท ไม่ให้ถูกหลอกไปผิดทางส่งผลเสียต่อใจกาย

    ควรจัดสรรเวลาฝึกจิตวิญญาณเชื่อมต่อจิตแท้ในตัวตนคือสิ่งที่ควรทำ นั่นคือความรู้จักตัวเอง ความรู้ภายในที่เราสะสมมา ทั้งหมด รอเราอยู่ ทุกอย่างต้องสมดุล

    https://youtu.be/YkyYWVNvz5M
    https://youtu.be/SKcv6GSm2dw
    #เชื่อมต่อกับจิตเดิมแท้หรือคุรุในตัวเราHS
    #ทุกแบบทดสอบมีมาเพื่อฝึกเกลาจิต
    #เราเลือกลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ที่เรากำหนดมาหรือที่ยังทำไม่ผ่าน
    #เก็บไว้เป็นจิ๊กซอร์ส่วนตัวไม่ได้ชวนเชื่อ
    #ตื่นรู้ทางโลกกายภาพและจิตวิญญาณ

    เวชหนุ่ม
    เราโดนหลอกเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน รับไม่ได้ข้อไหนก็ข้ามไป มันเป็นแค่ข้อมูลความเชื่อของตัวหมอเองครับ ไม่ดรามานะ จากนั้นลองชม2คลิปแนบท้าย 1.หลอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง หลอกว่ากระดูกก้นกบเป็นส่วนที่หางหดลดรูป 2.หลอกว่ายาฉีdยีuไวรัsเป็นวัkซีuดีเพื่อกันแพร่กันติดหรือติดแล้วจะไม่รุนแรง ติดตามข้อมูลได้ที่ rookon.com หรือ stopthaicontrol.com https://odysee.com/.../IRREFUTABLE-EVIDENCE-720p-cut-TH2... https://atapol616246.substack.com/archive?sort=new 3.หลอกว่าฟลูออไรด์ดี (Dr.Dean Burk PHD.บอกว่าเป็นสารที่ทำให้คนตายมากที่สุด,เฉพาะปี2006มีผลงานวิจัยความเป็นพิษมากกว่า 180งานวิจัย) https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5390811884335364&id=100002198164704 ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo 4.หลอกว่าบอแร็กซ์(หรือน้ำประสานทองซึ่งเคยอยู่ในยาไทย)ว่าอันตรายห้ามใช้ https://www.facebook.com/share/p/15EhwkHkhn/ https://www.facebook.com/share/p/19iC2PQb5u/ 5.หลอกให้เชื่อฟังและอยู่ในการควบคุมด้วยระบบการศึกษา 6.หลอกให้คนเชื่อว่าการกินอาหารต้องตามหลัก5หมู่ 7.หลอกให้กินยาที่ไม่ทำให้โรคหายและได้โรคเพิ่ม 8.หลอกว่าคอเลสเตอรอลอันตรายต้องกลัว ต้องกินยาลด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213748008611115&id=1732997516 https://www.facebook.com/share/1BBMfj6dem/ https://www.facebook.com/share/p/18cm1XzbdN/ 9.หลอกให้กินไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธี น้ำมันผลปาล์มผ่านกรรมวิธี เนยขาว มาการีน ครีมเทียม 10.หลอกให้กินคอลลาเจนเสริมซึ่งมันคือการกินพังผืดไม่จำเป็น https://www.tiktok.com/@sesamingan99/video/7179454507674373402?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 11.หลอกให้คนติด HIV จะต้องกินยาต้านไวรัส 12.หลอกให้กินนมสัตว์(ข้ามสายพันธุ์) 13.หลังจากวัยทารกก็ยังหลอกให้กินนมสัตว์ไปตลอดชีวิต 👉วันนี้คุณเลิกนมวัวหรือยัง? โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://youtu.be/CDIl9ORkPcU 👉ช่วงคลิปที่ 1ชม.9นาที อันตรายจากนมวัว โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/DHGPSl2dpPc 👉คลิป นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เปิดเหตุผลที่ควรหยุดดื่มนมวัว https://youtu.be/2gNPslzrJGc 👉นมวัวดีจริงหรือ https://m.youtube.com/watch... 👉นมวัว ปลอดโรคหรือเพิ่มโรค https://www.facebook.com/photo.php?fbid=340898489398513... 👉จริงหรือ? นมกับความสูง https://m.facebook.com/story.php... 👉จริงหรือ? นมถั่วเหลือง https://m.facebook.com/story.php... 👉จริงหรือ? นมวัวกับฮอร์โมน https://m.facebook.com/story.php... 👉จริงหรือ? นมแพะ https://m.facebook.com/photo.php?fbid=529613370527023... 👉นม (ภาษาต่างประเทศ) https://www.naturalchild.org/.../linda_folden_palmer.html 👉นมวัวกระตุ้นมะเร็ง https://vt.tiktok.com/ZS86EmkD6/ 👉3เหตุผลไม่ดีที่อยู่ในนมวัว https://www.tiktok.com/@user.../video/7347855645862841601... 14.เอาเนื้อปลามาแต่งสีหลอกว่าเป็นปูอัด 15.หลอกว่าเครื่องดื่มที่ใช้สารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาลจะสุขภาพดีปลอดภัย 16.หลอกให้เราใช้แต่เหตุผลให้เลิกจินตนาการบอกว่าเพ้อเจ้อ (จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์) 17.หลอกให้ใช้ X-Ray(อันตราย),CT-Scan(อันตรายมาก), mammogram(อันตราย) 18.หลอกให้เรากินยาลดน้ำมูกเมื่อเป็นหวัด 19.หลอกให้แบ่งคนทั้งโลกออกจากกันด้วยศาสนาเชื้อชาติเป็นประเทศ 20.หลอกให้เป็นทาสทางการเงิน 21.หลอกว่าโลกร้อนเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก เป็นที่มาของคาร์บอนเครดิตเพื่อการควบคุมสู่ความเป็นทาส https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7401566566593209&id=100002198164704 วาระลวง โลกร้อน Climate Change คาร์บอนเครดิต สู่การจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในเมือง 15 นาที รถ EV เทคโนโลยี HAARP DEWs https://www.facebook.com/share/p/tQzGJLv78MScJzf5/ 👉จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030 https://www.rookon.com/?p=975 👉Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง https://www.rookon.com/?p=1011 👉ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา https://www.rookon.com/?p=339 👉บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า https://www.rookon.com/?p=1147 👉ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน) 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 https://youtu.be/B8h40dr8uZo?si=z9tRbI89SxKkCS4T 👉‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’ https://www.rookon.com/?p=334 👉เมือง 15 นาที https://www.youtube.com/watch?v=AHXDxynhn14 👉รถ EV https://www.youtube.com/live/tbgRSbBt2wQ?si=1GUR5FC_UWajAWwZ 👉มนุษย์กำลังทำให้โลกร้อนอยู่หรือไม่ https://youtu.be/Dvtrk2DdE-w?si=tf2huHRYIs-VZJQP 👉จากสงครามสู่ความยั่งยืน ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ UN Agenda 2030 https://youtu.be/b7yYtiQ3opk?si=lxhKdKlIn8xQ8JWM 👉โลกร้อนลวงโลก https://www.youtube.com/live/k_XjqL_w-Ts?si=0MIuU-YoyVh96XDM https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=bhZ9VkUgZxeYW9B_ 👉sun spot https://www.tiktok.com/@adit.../video/7360143566166838529... 👉นี้คือแผนการสู่ 15 minute city ภายในปี 2035 เราจะหยุดมันได้แน่นอนครับเพราะคนกำลังตื่นมากขึ้น และให้คนรุ่นใหม่มีอิสรภาพแบบเรา คลิปนี้พูดถึงความผิดปกติของพฤติกรรมของรัฐและเอกชนเรื่องรถไฟฟ้าครับ คลิปเต็ม 13 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3upW6H/ คลิป ย่อ 6 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3uG2Ht/ ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm https://fb.watch/uY-aBuRhe5/? ✍️ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงสู่การเป็นทาส https://fb.watch/uWoBMgFtTL/? https://www.youtube.com/watch?v=tdKv00CijDE ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/ ✍️ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/ ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/ https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV 22.หลอกว่าประชากรล้นโลกต้องคุมกำเนิด สะกดจิตให้เราคล้อยตามด้วยข้อมูลเมืองที่แออัด ทั้งๆที่โลกมีพื้นที่มากมายและทรัพยากรเพียงพอแค่ต้องบริหารให้ดี ✅การลดประชากรโลก ✍️ covid 19 roadmap https://t.me/ThaiPitaksithData/1738 ✍️ ep6 รู้(ทัน)วาระ เห็นความเชื่อมโยงต่างๆในปัจจุบัน https://rumble.com/v1f2lbl-ep6-the-agenda-know-the... ✍️ ep7 จำนวนประชากรที่ลดลง ผลจากความตั้งใจ มิใช่แค่เหตุที่เป็นไปโดยธรรมชาติ ตอนที่ 1. https://rumble.com/v1g63xr-ep7-1-the-agenda-.html ตอนที่ 2. https://rumble.com/v1gwgj7-ep7-2-the-agenda-.html ✍️ แม่ชี มีเรียม พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พระสันตปาปา บิลเกตส์ และการฆาตกรรมหมู่ https://rumble.com/vo2cjl-40420353.html ✍️ 10ขั้นตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ https://rumble.com/vt3c98-10-.html ✍️ Dr Judy Makovits เปิดโปง Fauci แหล่งที่มาของviรัส ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 https://rumble.com/vo1env-plandemic-dr-judy-makovits-phd... ✍️ ดร. คอฟแมน - วัkซีuเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103 ✍️ ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ ฤดู "ใบไม้ร่วง" คำถามคือ ฤดูนี้จะอยู่นานแค่ไหน? https://rookon.com/read-blog/108 ✍️ จากบทความ Dr. Robert Malone ผู้คิดค้นเทคโนโลยีวรรคซิu mRNA สรุปความโดย ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ https://fb.watch/9Yfe6YW5dl/ ✍️ ดร.โรเบิร์ต มาโลน นักวิจัยผู้คิดค้น mRNA ที่ยังไม่สมบูรณ์ ออกมาเปิดเผยความอันตรายของวัkซีu mRNA https://odysee.com/ChildrenVaccinationWarning:b... ✍️WHO Treaty https://rookon.com/read-blog/131 ✍️ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://rookon.com/read-blog/44 ✍️มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://rookon.com/read-blog/49 ✍️ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/2/ความจริงของโควิด-19-นพ-อรร/ ✍️เครือข่าย 5G, คลื่นความถี่ และ โkวิd สิบ9 https://docs.google.com/.../1KMlPrvr0mNSycUKik_p.../edit... ✍️โครงการ Neuralink (โดยอีลอน มัสก์) กับมนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 https://docs.google.com/.../1Ey79M2rz.../edit... ✍️มนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 โดย Dr.Carrie Madej https://docs.google.com/.../1Bxh5T9mD9K6ZXTYFM4L3.../edit... ✍️มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ https://docs.google.com/.../1eWJ4Z552HO6SSrPFuMZw.../edit... ✍️ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://rookon.com/read-blog/16 ✍️David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://rookon.com/read-blog/35 ✍️ ว๊ากเสร็จก่อนที่โkวิdจะระบาด https://rookon.com/read-blog/12 ✍️ ผู้อยู่เบื้องหลัง โคขวิดและวอซอลวง https://fb.watch/aGglwXBtl5/ ✍️ปี 1994 อดีตสายลับอังกฤษ MI6 แฉแผนการลดประชากรโลก 😱 โดยองค์กร Club of Rome https://t.me/awakened_thailand/443 ✍️การลดประชากรโลก ใช่เรื่องจริงไหม? โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv ✍️ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ โดย อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.tiktok.com/@atap.../video/7414795548814773521... 👉 อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​ว่าวัคซีนโควิดมันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atap.../video/7414795548814773521... 👉การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv 👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 23.หลอกให้กินอาหารอุตสาหกรรมที่มีสารช่วยให้ตายผ่อนส่ง 24.หลอกว่ามนุษย์ต่างดาวไร้สาระไม่มีอยู่จริง https://youtube.com/@awakenwithnatalie?si=vb9Xs3U3wnUi6p5I 👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์ https://www.rookon.com/?p=944 25.หลอกให้เชื่อว่านิพพานเป็นเรื่องยาก 26.หลอกให้ถอนฟันคุดออก(กรณีที่ไม่ปวดยังใช้ชีวิตได้) 27.หลอกให้กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 28.หลอกว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลก โลกจะแตก 29.หลอกว่าภัยพิบัติเป็นฝีมือธรรมชาติทั้งหมดแต่มีเทคโนโลยี HARRP อยู่เบื้องหลัง 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 30. หลอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกาะฮาวายเป็นไฟป่าทั้งๆที่ใช้เทคโนโลยี DEW 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 31.หลอกให้รับวัkซีuกว่า90ชนิด(ในปัจจุบัน)ที่ไม่ได้ผลและอันตราย (ยกเว้นเมื่อหมาบ้ากัดต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า) ✍️วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็กควรฉีดไหม โดยคุณหมอ เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 32.หลอกเรื่อง 9-11 https://www.tiktok.com/@atap.../video/7157577695566597403... https://stopthaicontrol.com/.../%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8... 33.หลอกเรื่องนาซาไปถึงดวงจันทร์และดาวอังคาร 34.หลอกให้กินกาแฟ 35.หลอกว่ารถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์ ผลิตออกมาเพื่อรักษ์โลก 36.หลอกว่าน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน ทำร้ายโลกและกำลังจะหมดไปจากโลก 37.หลอกให้กินสัตว์ป่วย เช่น เนื้อโกเบ(วัวกล้ามเนื้อฝ่อ,ฟัวกราส์(ไขมันลงตับห่าน) https://youtu.be/CDIl9ORkPcU?si=k497GsmCc5iUeKJg 38.หลอกว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ 39.หลอกให้ผ่าตัดไส้ติ่งออกทั้งๆที่ไม่ได้อักเสบเป็นอันตราย https://www.facebook.com/share/p/1Ecc91s9Xr/ 40.หลอกว่าถ้าไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน้ำย่อยจะออกมาย่อยกระเพาะ 41.หลอกว่ากินเค็มจะทำให้ไตเสื่อม แต่การกินสัตว์ต่างหากที่ทำร้ายไต 42.หลอกว่าเรามี Junk DNA 43.หลอกให้เชื่อว่ามีนรกสวรรค์เพื่อเป็นกับดักให้อยู่ในโฮโลแกรม 44.หลอกให้เชื่อว่ารัสเซียรังแกยูเครน 45.หลอกว่าแว่นกันแดด,ครีมกันแดดดีจำเป็นต้องใช้ (ก่อมะเร็ง) 46.หลอกว่าตาที่ 3 เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องปฎิบัติอะไรแล้ว เปิดแล้วจะเห็นผี 47.หลอกให้ใช้ยาอันตรายจัดการโควิด เช่น ฟาวิพิลาเวียร์ โมนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวีย แพคโลวิด ปัดยาดีๆออก เช่น ฟ้าทะลายโจร ไอเวอร์เมคติน ไฮดรอกซีคลอโรควีน CDS บอแรกซ์ และสมุนไพรต่างๆ เป็นต้น 48.หลอกว่าความฝันคือเรื่องที่เราคิดมากไปเอง 49.หลอกว่าเสียงที่ได้ยินในหัว เพราะเป็นโรคประสาท ไบโพล่า หรือซึมเศร้า 50.หลอกเรื่องไวรัส โkวิd19,HIV,H1N1,EBOLA,SWINE FLU,ZIKA,SARS ว่าเกิดจากธรรมชาติ 51.หลอกเรื่อง ลิเบีย 52.เรื่อง เปโตรดอลล่าร์ 53.หลอกเรื่องการค้ามนุษย์ /เด็ก ทรมานเพื่อทำสารอดรีโนโครมเป็นเรื่องเหลวไหล 54.หลอกว่า LGBTQ เกิดจากธรรมชาติอย่างเดียว 55.หลอกให้มีการจัดลำดับความวิเศษความเคารพนับถือศรัทธาแต่ละจิตวิญญาณ เช่น สัตว์ คน เทพ เทวดา ศาสดา 56.หลอกให้ผู้หญิงตรวจแมมโมแกรมประจำปีเพื่อจะป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ที่จริงคือจะเป็นมะเร็งจากรังสีไอออไนซ์จากการตรวจ 57.หลอกว่าการใส่แมสก์ช่วยป้องกันไวรัสได้ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้วยังลดออกซิเจนที่จะเข้าร่างกายลง20-30% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆตัว จาก 200-600 ppm เมื่อใส่แมสจะขึ้นไปเกือบ1หมื่น มีผลทำร้ายร่างกาย 👉เพื่อสุขภาพของคนไทย หมอฝากทุกท่านแชร์แหล่งข้อมูลครับ ✅ศึกษาข้อมูลหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมได้ที่ 1.กลุ่มไลน์ "ความรู้เกี่ยวกับแมสก์ Harmfulmasks" https://line.me/.../Nf-CPF... 2.เทเลแกรม “HarmfulMasks” https://t.me/HarmfulMasks 58.หลอกให้เราใช้ชุดตรวจโควิดลวงโลก ATK,ct PCR ✅ PCR และ ATK ลวงโลก 👉เรื่องราวของ PCR & Atk ep.2 https://rumble.com/v17e5ad-ep-2-pcr-and-atk.html 👉PCR พลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ https://stopthaicontrol.com/.../pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7.../ 👉 ไม่ควร ตรวจเชื้อวัวขวิด ทุกรูปแบบเพราะเป็น ผลบวกลวง ลองฟัง คลิป นี้ครับ ฟัง นาที ที่ 29 และ นาที ที่ 38 https://rumble.com/vsssso-48372936.html 👉และนาทีที่ 15 จากคลิปนี้ https://rumble.com/vw404g-q-and-a-with-dr.-atapol-md.cu... 👉ชุดตรวจ ATK ที่เซ็ทผลไว้แล้ว https://t.me/c/1585233417/1124 👉คลิป สิ่งตกค้างจากการ Swap https://www.facebook.com/groups/426084935837716/permalink/433156291797247/ https://t.me/ThaiPitaksithData/956 👉ภัยจากการ Swap https://www.facebook.com/100002198164704/posts/4571056572977570/? https://t.me/ThaiPitaksithData/4282 👉กราฟีนอ๊อกไซด์แฝงในปลายไม้สว็อบ https://t.me/ThaiPitaksithData/1689 👉คำเตือนชุดตรวจโkวิd- มีโซเดียมเอไซด์ซึ่งอาจเป็นพิษหรือถึงตายได้ ข้อมูล CDC เกี่ยวกับโซเดียมเอไซด์ https://emergency.cdc.gov/agent/sodiumazide/basics/facts.asp 👉พบเชื้อ ไม่ได้แปลว่า ติดเชื้อ โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://vt.tiktok.com/ZSLBRvdNY/ 59.หลอกให้กลัวและเชื่อแต่ข้อเสียของกระท่อม กัญชา กัญชง และเห็ดขี้ควาย 60.หลอกเราว่าโลกกลม แต่โลกแบน มีโดมและกำแพงน้ำแข็งกั้น 61.หลอกว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่เนปาล ตรัสรู้และปรินิพพานที่อินเดีย ติดตามข้อมูลได้ที่เพจ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดีย https://www.facebook.com/Thanabodee.Rebirths https://www.youtube.com/@user-sv8tw5sn4b/videos ความจริงคือ พระพุทธเจ้าประสูติที่เมืองผาอัน พม่า ตรัสรู้ที่โพธิมณฑลสถาน โคกโพธิ์ชัย ขอนแก่น แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อิสิปตนมฤคทายวัน วัดพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย สระบุรี ปรินิพพาน : วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี บางทีการค้นหาคำตอบก็เสียเวลา แต่ต้องรู้ไว้บ้างเพื่อการไม่ถูกหลอกทางโลกกายภาพ มันเป็นความรู้ภายนอก แต่เพื่อ....การดำเนินชีวิตแบบทันเกมส์ และไม่ประมาท ไม่ให้ถูกหลอกไปผิดทางส่งผลเสียต่อใจกาย ควรจัดสรรเวลาฝึกจิตวิญญาณเชื่อมต่อจิตแท้ในตัวตนคือสิ่งที่ควรทำ นั่นคือความรู้จักตัวเอง ความรู้ภายในที่เราสะสมมา ทั้งหมด รอเราอยู่ ทุกอย่างต้องสมดุล https://youtu.be/YkyYWVNvz5M https://youtu.be/SKcv6GSm2dw #เชื่อมต่อกับจิตเดิมแท้หรือคุรุในตัวเราHS #ทุกแบบทดสอบมีมาเพื่อฝึกเกลาจิต #เราเลือกลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ที่เรากำหนดมาหรือที่ยังทำไม่ผ่าน #เก็บไว้เป็นจิ๊กซอร์ส่วนตัวไม่ได้ชวนเชื่อ #ตื่นรู้ทางโลกกายภาพและจิตวิญญาณ เวชหนุ่ม
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 2433 Views 0 Reviews
  • "ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย: บุคคลผู้พร้อมเห็นธรรม

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงบุคคลประเภทหนึ่งว่าเป็น 'ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย' ซึ่งพร้อมที่จะเห็นธรรมะตามความเป็นจริง คำสอนนี้ให้ข้อคิดอันลึกซึ้งเกี่ยวกับการพัฒนาจิตวิญญาณและการเตรียมพร้อมสู่การรู้แจ้ง

    1. ความพร้อมทางจิตวิญญาณ
    'ธุลีในดวงตา' เปรียบเสมือนสิ่งที่บดบังปัญญาไม่ให้เห็นความจริง ผู้ที่มีธุลีน้อยจึงพร้อมที่จะเข้าถึงสัจธรรมได้ง่ายกว่า

    2. การสั่งสมบุญและปัญญา
    การที่บุคคลจะมีธุลีในดวงตาน้อยได้นั้น เกิดจากการสั่งสมบุญและปัญญามาอย่างยาวนาน ผ่านการศึกษาธรรม ละเว้นความชั่ว และทำความดี

    3. การเจริญสติและวิปัสสนา
    การฝึกสติและพิจารณาความไม่เที่ยงของสังขาร ช่วยขัดเกลาจิตใจให้ปราศจากความเห็นผิด พร้อมที่จะเห็นความจริง

    4. การละทิฏฐิและอวิชชา
    ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย คือผู้ที่ละความเห็นผิดและอวิชชาได้มาก เหลือเพียงเล็กน้อยที่ยังต้องขัดเกลา

    5. ความพร้อมในการรับธรรม
    บุคคลเหล่านี้พร้อมที่จะเข้าใจธรรมะลึกซึ้งได้ง่าย เมื่อได้ฟังธรรมหรือพิจารณาสภาวธรรม

    6. การพัฒนาตนอย่างต่อเนื่อง
    แม้จะเป็นผู้มีธุลีในดวงตาน้อย ก็ยังต้องพัฒนาตนต่อไป เพื่อชำระจิตให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

    7. โอกาสในการบรรลุธรรม
    ผู้มีธุลีในดวงตาน้อยมีโอกาสสูงที่จะบรรลุธรรมในชาตินี้ หากได้พบกับกัลยาณมิตรและได้ฟังธรรมที่ถูกต้อง

    8. การเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น
    บุคคลเหล่านี้สามารถเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นในการปฏิบัติธรรมและพัฒนาจิตใจ

    คำสอนนี้ของพระพุทธเจ้าให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติธรรมว่า ความพยายามในการละชั่ว ทำดี และชำระจิตใจนั้นไม่สูญเปล่า แต่เป็นการสั่งสมความพร้อมที่จะเห็นธรรม แม้เราอาจไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในระดับใด แต่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่องย่อมนำเราเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกขณะ

    ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม พัฒนาจิตใจ และสั่งสมบุญปัญญา เพื่อให้เป็นผู้มีธุลีในดวงตาน้อยลง พร้อมที่จะเห็นธรรมและเข้าถึงความจริงอันประเสริฐ"
    "ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย: บุคคลผู้พร้อมเห็นธรรม พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงบุคคลประเภทหนึ่งว่าเป็น 'ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย' ซึ่งพร้อมที่จะเห็นธรรมะตามความเป็นจริง คำสอนนี้ให้ข้อคิดอันลึกซึ้งเกี่ยวกับการพัฒนาจิตวิญญาณและการเตรียมพร้อมสู่การรู้แจ้ง 1. ความพร้อมทางจิตวิญญาณ 'ธุลีในดวงตา' เปรียบเสมือนสิ่งที่บดบังปัญญาไม่ให้เห็นความจริง ผู้ที่มีธุลีน้อยจึงพร้อมที่จะเข้าถึงสัจธรรมได้ง่ายกว่า 2. การสั่งสมบุญและปัญญา การที่บุคคลจะมีธุลีในดวงตาน้อยได้นั้น เกิดจากการสั่งสมบุญและปัญญามาอย่างยาวนาน ผ่านการศึกษาธรรม ละเว้นความชั่ว และทำความดี 3. การเจริญสติและวิปัสสนา การฝึกสติและพิจารณาความไม่เที่ยงของสังขาร ช่วยขัดเกลาจิตใจให้ปราศจากความเห็นผิด พร้อมที่จะเห็นความจริง 4. การละทิฏฐิและอวิชชา ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย คือผู้ที่ละความเห็นผิดและอวิชชาได้มาก เหลือเพียงเล็กน้อยที่ยังต้องขัดเกลา 5. ความพร้อมในการรับธรรม บุคคลเหล่านี้พร้อมที่จะเข้าใจธรรมะลึกซึ้งได้ง่าย เมื่อได้ฟังธรรมหรือพิจารณาสภาวธรรม 6. การพัฒนาตนอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นผู้มีธุลีในดวงตาน้อย ก็ยังต้องพัฒนาตนต่อไป เพื่อชำระจิตให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น 7. โอกาสในการบรรลุธรรม ผู้มีธุลีในดวงตาน้อยมีโอกาสสูงที่จะบรรลุธรรมในชาตินี้ หากได้พบกับกัลยาณมิตรและได้ฟังธรรมที่ถูกต้อง 8. การเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น บุคคลเหล่านี้สามารถเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นในการปฏิบัติธรรมและพัฒนาจิตใจ คำสอนนี้ของพระพุทธเจ้าให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติธรรมว่า ความพยายามในการละชั่ว ทำดี และชำระจิตใจนั้นไม่สูญเปล่า แต่เป็นการสั่งสมความพร้อมที่จะเห็นธรรม แม้เราอาจไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในระดับใด แต่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่องย่อมนำเราเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกขณะ ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม พัฒนาจิตใจ และสั่งสมบุญปัญญา เพื่อให้เป็นผู้มีธุลีในดวงตาน้อยลง พร้อมที่จะเห็นธรรมและเข้าถึงความจริงอันประเสริฐ"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • ทุกคนจงมีความสุขทำใจให้ว่างเปล่าบริจาคทุกข์พิจารณาตามความเป็นจริง ว่ารักโลภโกรธหลงในกามคุณทั้ง 5 และปฏิฆะคือความไม่พอใจ กระทบกระทั่งในใจ ความโกรธ ความอาฆาตพยาบาทและเบียดเบียน ค่อยๆขัดเกลาให้เบาลงโกรธได้แต่อย่าพยาบาทอาฆาต ปล่อยวางไปเพราะว่าทุกคนก็ต้องตาย คนด่าว่านินทาเราก็ต้องตาย เราด่าว่านินทาเขาเราก็ต้องตายตายหมดไม่มีเหลือ รู้ถึงสกยะทิฐิ รู้ว่าเราตายทุกคนแน่นอน และขันธ์ 5 นั้น ก็ไม่ใช่ตัวตนไม่ใช่ของเราไม่ใช่เป็นเรา จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ สาธุสาธุสาธุ
    ทุกคนจงมีความสุขทำใจให้ว่างเปล่าบริจาคทุกข์พิจารณาตามความเป็นจริง ว่ารักโลภโกรธหลงในกามคุณทั้ง 5 และปฏิฆะคือความไม่พอใจ กระทบกระทั่งในใจ ความโกรธ ความอาฆาตพยาบาทและเบียดเบียน ค่อยๆขัดเกลาให้เบาลงโกรธได้แต่อย่าพยาบาทอาฆาต ปล่อยวางไปเพราะว่าทุกคนก็ต้องตาย คนด่าว่านินทาเราก็ต้องตาย เราด่าว่านินทาเขาเราก็ต้องตายตายหมดไม่มีเหลือ รู้ถึงสกยะทิฐิ รู้ว่าเราตายทุกคนแน่นอน และขันธ์ 5 นั้น ก็ไม่ใช่ตัวตนไม่ใช่ของเราไม่ใช่เป็นเรา จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ สาธุสาธุสาธุ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว

    ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง

    บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย
    หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย)

    นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ

    ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.)
    ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

    ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก

    นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด

    “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา
    นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

    “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่

    ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907

    #ภูหินร่องกล้า
    #พิษณุโลก
    #ท่องเที่ยว

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย) นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.) ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907 #ภูหินร่องกล้า #พิษณุโลก #ท่องเที่ยว ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 725 Views 0 Reviews
  • #เกลานิสัย ตัวเอง เพื่อตัวเอง และคนรอบข้าง
    https://youtu.be/SV59Y-TfFew
    #เกลานิสัย ตัวเอง เพื่อตัวเอง และคนรอบข้าง https://youtu.be/SV59Y-TfFew
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • เดโมแครตสนับสนุนเกินครึ่ง ให้นางกมลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดว่าคณะผู้แทน 3,923 คน หรือคิดเป็น 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดน่าจะลงคะแนนให้เธอ โดยการออกเสียงจะเสร็จสิ้นลงในวันจันทร์นี้ที่ 5 สิงหาคม

    3 สิงหาคม 2567-รายงานข่าว บีบีซี ระบุว่า นางคามาลา แฮร์ริส กำลังจะกลายเป็นหญิงผิวสีและหญิงเอเชียคนแรกที่ได้เป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่คณะกรรมการพรรคเดโมแครต มีประกาศอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า นางคามาลา แฮร์ริส ได้รับเสียงสนับสนุนจากกรรมการพรรคเดโมแครต มากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 2,350 คน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับการเสนอชื่อตัวแทนพรรคในการลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเป็นการออกเสียงแบบออนไลน์ ที่ใช้วิธีเรียกถามกรรมการพรรคทีละคน ซึ่งพรรคเดโมแครตคาดว่าคณะผู้แทน 3,923 คน หรือคิดเป็น 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดน่าจะลงคะแนนให้เธอ โดยการออกเสียงจะเสร็จสิ้นลงในวันจันทร์นี้ที่ 5 สิงหาคม

    ซึ่งหากเธอสามารถเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกัน ได้ เธอจะเกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา

    นางแฮร์ริสก็ได้กล่าวความรู้สึกผ่านทางโทรศัพท์ว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสำหรับสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ พร้อมระบุว่า แม้เส้นทางนี้จะไม่ง่าย แต่พวกเราจะต้องทำมันให้สำเร็จ โดยในสัปดาห์หน้านางแฮร์ริสจะกล่าวตอบรับการเป็นตัวแทนพรรคต่อไป

    ส่วนการประกาศชื่อผู้ที่ได้เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตที่ชิคาโก รวมทั้งจะมีการประกาศชื่อของ ผู้ที่จะสมัครเป็นรองประธานาธิบดี และเริ่มเดินหน้าการลงพื้นที่หาเสียงต่อไป
    ขณะที่ทางด้านทีมงานหาเสียงของทรัมป์และพรรครีพับลิกันบางส่วน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแทนที่นายไบเดน ของนางแฮร์ริส โดยให้เหตุผลว่าเธอคือผู้สมัครจากพรรคใหญ่คนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อโดยไม่ต้องแถลงข่าวหรือสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว บางคนเรียกการแทนที่นี้ว่าเป็น "การรัฐประหาร"

    แต่ทว่า นางแฮร์ริส ยังมีการลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรค โดยมีรายงานว่า นางแฮร์ริสสามารถระดมทุนได้มากกว่า 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งพบว่าผู้บริจาคจำนวนกว่า 2 ใน 3 เป็นผู้บริจาคหน้าใหม่ ที่เพิ่งบริจาคเงินให้แก่พรรคเป็นครั้งแรก และตัวเลขนี้นับว่ามากกว่าจำนวนเงินสนับสนุนที่โดนัลด์ ทรัมป์ทำได้ เมื่อเดือนที่แล้วมากกว่า 2 เท่า และนับเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดในรอบการเลือกตั้งปี 2024

    ที่มา : บีบีซี

    #Thaitimes
    เดโมแครตสนับสนุนเกินครึ่ง ให้นางกมลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดว่าคณะผู้แทน 3,923 คน หรือคิดเป็น 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดน่าจะลงคะแนนให้เธอ โดยการออกเสียงจะเสร็จสิ้นลงในวันจันทร์นี้ที่ 5 สิงหาคม 3 สิงหาคม 2567-รายงานข่าว บีบีซี ระบุว่า นางคามาลา แฮร์ริส กำลังจะกลายเป็นหญิงผิวสีและหญิงเอเชียคนแรกที่ได้เป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่คณะกรรมการพรรคเดโมแครต มีประกาศอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า นางคามาลา แฮร์ริส ได้รับเสียงสนับสนุนจากกรรมการพรรคเดโมแครต มากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 2,350 คน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับการเสนอชื่อตัวแทนพรรคในการลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเป็นการออกเสียงแบบออนไลน์ ที่ใช้วิธีเรียกถามกรรมการพรรคทีละคน ซึ่งพรรคเดโมแครตคาดว่าคณะผู้แทน 3,923 คน หรือคิดเป็น 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดน่าจะลงคะแนนให้เธอ โดยการออกเสียงจะเสร็จสิ้นลงในวันจันทร์นี้ที่ 5 สิงหาคม ซึ่งหากเธอสามารถเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกัน ได้ เธอจะเกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา นางแฮร์ริสก็ได้กล่าวความรู้สึกผ่านทางโทรศัพท์ว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสำหรับสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ พร้อมระบุว่า แม้เส้นทางนี้จะไม่ง่าย แต่พวกเราจะต้องทำมันให้สำเร็จ โดยในสัปดาห์หน้านางแฮร์ริสจะกล่าวตอบรับการเป็นตัวแทนพรรคต่อไป ส่วนการประกาศชื่อผู้ที่ได้เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตที่ชิคาโก รวมทั้งจะมีการประกาศชื่อของ ผู้ที่จะสมัครเป็นรองประธานาธิบดี และเริ่มเดินหน้าการลงพื้นที่หาเสียงต่อไป ขณะที่ทางด้านทีมงานหาเสียงของทรัมป์และพรรครีพับลิกันบางส่วน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแทนที่นายไบเดน ของนางแฮร์ริส โดยให้เหตุผลว่าเธอคือผู้สมัครจากพรรคใหญ่คนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อโดยไม่ต้องแถลงข่าวหรือสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว บางคนเรียกการแทนที่นี้ว่าเป็น "การรัฐประหาร" แต่ทว่า นางแฮร์ริส ยังมีการลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรค โดยมีรายงานว่า นางแฮร์ริสสามารถระดมทุนได้มากกว่า 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งพบว่าผู้บริจาคจำนวนกว่า 2 ใน 3 เป็นผู้บริจาคหน้าใหม่ ที่เพิ่งบริจาคเงินให้แก่พรรคเป็นครั้งแรก และตัวเลขนี้นับว่ามากกว่าจำนวนเงินสนับสนุนที่โดนัลด์ ทรัมป์ทำได้ เมื่อเดือนที่แล้วมากกว่า 2 เท่า และนับเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดในรอบการเลือกตั้งปี 2024 ที่มา : บีบีซี #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 468 Views 0 Reviews
  • ว่าด้วยเรื่องการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา...
    ถ้าได้มีลูกน้องในหลายๆระดับก็จะมีทั้งความสนุก มันส์ ฮา ความเออ ออ ความทุกข์ที่ลูกน้องเราก่อ หรือความเอากลับมาคิดหลังเราตำหนิเขา ว่าแรงไปไหม เขาจะคิดได้ไหม เขาจะมองว่ายังงัย บลาๆๆ
    มีหลายหลายตำราที่ได้ฟังได้อ่านมาในเรื่องการวิเคราะห์ดูลูกน้อง และให้งานแต่ละคนตามความเหมาะสม จากที่เจอมากับการปกครองลูกน้องร้อยกว่าชีวิตตั้งแต่ระดับต้นๆยันระดับจัดการก็จะมี....
    1. ขยัน แต่ไม่ฉลาด เติบโตมาจากความขยัน มาแต่เช้าตรู่ แม้จะทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง แต่ก็ไม่เคยขาด ลา มาสาย ข้อเสียคือมักจะตัดสินใจผิดเสมอ ไปจนถึงสถานการณ์จริงแก้ปัญหาไม่ได้ เน้นใช้งานลูกน้องเป็นหลัก (แม้แต่งานตัวเอง) กลุ่มนี้ต้องมอบหมายงานที่เป็นประจำๆเป็นหลัก หลีกเลี่ยงงานที่ต้องให้วิเคราะห์ ตัดสินใจ หรือโปรเจ็กใหม่ๆ
    2. ฉลาด แต่ขี้เกียจ กลุ่มนี้นี่แค่เกริ่นคร่าวๆให้ฟัง ก็คิดต่อ คิดตามได้เลย พวกเขาจะประยุกต์ และคิดวิธีใหม่ๆได้เสมอ และมักที่จะ get the job done แต่ข้อเสียคือ ไม่ค่อยเล่นเป็นทีม (ต่อให้เป็นระดับหัวหน้าทีมเล้วตาม ก็จะมองที่งานของตัวเองให้รอดก่อน) ขี้เกียจ ขี้เบื่อ ลาบ่อย ถ้าเบื่อมากๆก็จะหรอยไปโน่นนี่นั่น รวมไปถึงมีทัศนคติที่สูง ถ้าจะให้เขาเคารพคุณแบบหัวหน้า คุณก็ต้องพิสูจน์ฝีมือให้เขาดูก่อน ปกป้องสิทธิของตัวเองเป็นหลักก่อนเสมอ กลุ่มนี้จะต้องมอบงานที่ท้าทาย หรือไม่เคยทำมาก่อนในแผนก ไม่ต้องจูงมือให้เขาทำ หรือให้เขาเดินตามทางเรา เขาจะหาทางทำ และไปถึงจุดหมายด้วยตัวเอง แต่พองานเสร็จแล้วคุณจำเป็นต้องมานั่งคุยกับเขาด้วย ว่างานนี้อะไรดีไม่ดี อะไรต้องปรับปรุง เพราะไม่งั้นเขาจะมองว่างานเขาดีเลิศที่หนึ่ง และอย่าไปมอบงานประจำน่าเบื่อๆให้ล่ะ รับรองหรอยไปเดินเล่น หรือนั่งดูซีรีย์ตั้งแต่สามวันแรกแน่นอน
    3. กลุ่มน้ำเต็มแก้วที่จมปลักอยู่กับสิ่งตัวเองคิดว่าเป็น achievement กลุ่มนี้จะมีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เป็นกลุ่มที่มักจะพูดให้คนอื่นฟังว่าเคยทำอะไรมาก่อน งานเก่าประสบความสำเร็จยังไง เคยผ่านงานลำบากขนาดไหน เคยเข้าประชุมประสานงานกับผู้บริหารหรือเจ้าของมาแล้ว บลาๆๆๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีซะทั้งหมด ผมมองว่ากลุ่มนี้เหมือนเตียวหุย มีฝีมือ แต่ประมาท และไม่ค่อยชอบเรียนรู้เพิ่ม สกิลหลักของกลุ่มนี้คือการพูด การเข้าหา และการพรีเซนต์ ถ้าคุณใช้เขาให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกสถานการณ์ เขาจะช่วยประหยัดเวลาคุณในการที่ต้องเข้าไปประชุม หรือจัดการด้วยตัวเองเยอะ แต่ข้อเสียกลุ่มนี้คือ ไม่ชอบ หรือไม่ถนัดการทำ full report หรือ analysis report เลย และอย่าไปยัดเยียดอะไรใหม่ๆให้เขาเรียนรู้ เพราะเขาจะมองว่าสกิลเขามีเพียงพอแล้ว
    4. กลุ่มเพชรในตม คนที่เรามองข้าม อาจจะด้วยความที่เขาเป็นระดับเล็ก ไม่มีโอกาสได้คุยกับเรามากนัก หรือเรามองเลยไป กลุ่มนี้มี potential สูง หรือมี skill ที่ดี แต่อาจไม่ไดโอกาสในการแสดง ซึ่งถ้าขัดเกลา หรือเพิ่มการเรียนรู้ให้เขา เขาจะเป็นหัวหน้าที่ดีในอนาคตเลย การที่เราหยุดคุยกับลูกน้องเราสัก 2-3 นาที และให้ระดับหัวหน้า หรือผู้จัดการ พูดคุยถึงลูกน้องตัวเองก็ทำให้เราได้เพชรในตมเหมือนกันนะครับ

    ขยันและฉลาด หายากมาก
    โง่และขี้เกียจ มีนะแต่ไม่ค่อยปล่อยให้อยู่นาน
    น้ำไม่เต็มแก้ว พูดเก่ง มี achievement ไม่ค่อยเจอ ถ้าเจอมักจะเป็นเพชรในตม เพราะมีความถ่อมตนมากกว่า
    วันนี้นึกออกแค่นี้แหละ ขอบคุณครับ
    ว่าด้วยเรื่องการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา... ถ้าได้มีลูกน้องในหลายๆระดับก็จะมีทั้งความสนุก มันส์ ฮา ความเออ ออ ความทุกข์ที่ลูกน้องเราก่อ หรือความเอากลับมาคิดหลังเราตำหนิเขา ว่าแรงไปไหม เขาจะคิดได้ไหม เขาจะมองว่ายังงัย บลาๆๆ มีหลายหลายตำราที่ได้ฟังได้อ่านมาในเรื่องการวิเคราะห์ดูลูกน้อง และให้งานแต่ละคนตามความเหมาะสม จากที่เจอมากับการปกครองลูกน้องร้อยกว่าชีวิตตั้งแต่ระดับต้นๆยันระดับจัดการก็จะมี.... 1. ขยัน แต่ไม่ฉลาด เติบโตมาจากความขยัน มาแต่เช้าตรู่ แม้จะทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง แต่ก็ไม่เคยขาด ลา มาสาย ข้อเสียคือมักจะตัดสินใจผิดเสมอ ไปจนถึงสถานการณ์จริงแก้ปัญหาไม่ได้ เน้นใช้งานลูกน้องเป็นหลัก (แม้แต่งานตัวเอง) กลุ่มนี้ต้องมอบหมายงานที่เป็นประจำๆเป็นหลัก หลีกเลี่ยงงานที่ต้องให้วิเคราะห์ ตัดสินใจ หรือโปรเจ็กใหม่ๆ 2. ฉลาด แต่ขี้เกียจ กลุ่มนี้นี่แค่เกริ่นคร่าวๆให้ฟัง ก็คิดต่อ คิดตามได้เลย พวกเขาจะประยุกต์ และคิดวิธีใหม่ๆได้เสมอ และมักที่จะ get the job done แต่ข้อเสียคือ ไม่ค่อยเล่นเป็นทีม (ต่อให้เป็นระดับหัวหน้าทีมเล้วตาม ก็จะมองที่งานของตัวเองให้รอดก่อน) ขี้เกียจ ขี้เบื่อ ลาบ่อย ถ้าเบื่อมากๆก็จะหรอยไปโน่นนี่นั่น รวมไปถึงมีทัศนคติที่สูง ถ้าจะให้เขาเคารพคุณแบบหัวหน้า คุณก็ต้องพิสูจน์ฝีมือให้เขาดูก่อน ปกป้องสิทธิของตัวเองเป็นหลักก่อนเสมอ กลุ่มนี้จะต้องมอบงานที่ท้าทาย หรือไม่เคยทำมาก่อนในแผนก ไม่ต้องจูงมือให้เขาทำ หรือให้เขาเดินตามทางเรา เขาจะหาทางทำ และไปถึงจุดหมายด้วยตัวเอง แต่พองานเสร็จแล้วคุณจำเป็นต้องมานั่งคุยกับเขาด้วย ว่างานนี้อะไรดีไม่ดี อะไรต้องปรับปรุง เพราะไม่งั้นเขาจะมองว่างานเขาดีเลิศที่หนึ่ง และอย่าไปมอบงานประจำน่าเบื่อๆให้ล่ะ รับรองหรอยไปเดินเล่น หรือนั่งดูซีรีย์ตั้งแต่สามวันแรกแน่นอน 3. กลุ่มน้ำเต็มแก้วที่จมปลักอยู่กับสิ่งตัวเองคิดว่าเป็น achievement กลุ่มนี้จะมีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เป็นกลุ่มที่มักจะพูดให้คนอื่นฟังว่าเคยทำอะไรมาก่อน งานเก่าประสบความสำเร็จยังไง เคยผ่านงานลำบากขนาดไหน เคยเข้าประชุมประสานงานกับผู้บริหารหรือเจ้าของมาแล้ว บลาๆๆๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีซะทั้งหมด ผมมองว่ากลุ่มนี้เหมือนเตียวหุย มีฝีมือ แต่ประมาท และไม่ค่อยชอบเรียนรู้เพิ่ม สกิลหลักของกลุ่มนี้คือการพูด การเข้าหา และการพรีเซนต์ ถ้าคุณใช้เขาให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกสถานการณ์ เขาจะช่วยประหยัดเวลาคุณในการที่ต้องเข้าไปประชุม หรือจัดการด้วยตัวเองเยอะ แต่ข้อเสียกลุ่มนี้คือ ไม่ชอบ หรือไม่ถนัดการทำ full report หรือ analysis report เลย และอย่าไปยัดเยียดอะไรใหม่ๆให้เขาเรียนรู้ เพราะเขาจะมองว่าสกิลเขามีเพียงพอแล้ว 4. กลุ่มเพชรในตม คนที่เรามองข้าม อาจจะด้วยความที่เขาเป็นระดับเล็ก ไม่มีโอกาสได้คุยกับเรามากนัก หรือเรามองเลยไป กลุ่มนี้มี potential สูง หรือมี skill ที่ดี แต่อาจไม่ไดโอกาสในการแสดง ซึ่งถ้าขัดเกลา หรือเพิ่มการเรียนรู้ให้เขา เขาจะเป็นหัวหน้าที่ดีในอนาคตเลย การที่เราหยุดคุยกับลูกน้องเราสัก 2-3 นาที และให้ระดับหัวหน้า หรือผู้จัดการ พูดคุยถึงลูกน้องตัวเองก็ทำให้เราได้เพชรในตมเหมือนกันนะครับ ขยันและฉลาด หายากมาก โง่และขี้เกียจ มีนะแต่ไม่ค่อยปล่อยให้อยู่นาน น้ำไม่เต็มแก้ว พูดเก่ง มี achievement ไม่ค่อยเจอ ถ้าเจอมักจะเป็นเพชรในตม เพราะมีความถ่อมตนมากกว่า วันนี้นึกออกแค่นี้แหละ ขอบคุณครับ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 539 Views 0 Reviews
  • หอกสุรกาฬ/ ว่านหางช้าง
    ประโยชน์ ยาบำรุงโลหิต ใช้ตำโขลกหรือหั่นเป็นแว่น ๆ ผสมกับสุรารับประทานแก้เลือดตีขึ้นในโรคบาดทะยักปากมดลูกในเรือนไฟ จะดองสุราหรือต้มกินก็ได้ ผู้ที่มีใบหน้าเป็นสิว ฝ้าหน้าตกกระ จะช่วยฟอกโลหิตให้ใบหน้าหายจากสิวฝ้า เกลี้ยงเกลาผิวพรรณผุดผ่อง ยาสำหรับสตรีกินหลังคลอดบุตร ช่วยขับโลหิตเสีย โลหิตเป็นพิษ ตำผสมเหล้า หั่นเป็นแว่น ๆ หรือโขลกกับเหล้าโรง หรือน้ำซาวข้าว หรือต้มดื่ม วันละ 2-3 ครั้ง
    ราก ใช้เป็นยาเบื่อพยาธิและรักษาริดสีดวงงอกได้ดี โดยใช้รากสด 5-10 กรัม นำมาล้างให้สะอาด โขลกให้ละเอียด อาจผสมเหล้าโรง คั้นเอาแต่น้ำจิบ
    -ใบ นำไปอังไฟแล้วบีบเอาน้ำหยอดหู แก้ปวดในหูหรือคั้นเอาน้ำไปทาผมเป็นยาบำรุงรากเส้นผม ทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม
    -ปลูกไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันภัยทั้งมวล
    ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร
    *ขอขอบคุณ
    พฤกษาพรรณบรรณสาร : ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
    🌱🍀🌱🍀🌱🍀🌱🍀🌿☘️🌿☘️
    🌾ภาพ 3 ภาพนี้คือที่ปลูกไว้ที่ชั้นลอยของตึก
    ซึ่งความจริง ความที่เป็นคนบ้าต้นไม้มาแต่เด็ก ก็เลยได้ไปอบรมต้นไม้เป็นยา มากับเขาด้วย และรู้ว่าแต่ละอย่างที่อยากปลูกมันมีสรรพคุณอะไรบ้าง ต้นหางช้าง นี้ก็ได้ไปจิ้มเอาไว้บ้างที่กาญจนบุรี แต่เนื่องจากไปบ้าง ไม่ได้ไปบ้างความคิดที่จะปลูกมันให้เยอะ ๆ ก็เลยแค่แห้งเหี่ยวอยู่แถวนั้น
    ทำไมถึงมาอยู่ในพืชเศรษฐกิจ ก็ได้ไปเจอคนคนนึง เขาไปเช่าที่ดินไว้ปลูกเจ้าว่านนี้อย่างเดียว 3ไร่อยู่แถวนครไชยศรี และตอนนั้นที่กาญจนบุรีก็ไม่มีใครเฝ้า เขาจะขอมาปลูกว่านนี้เพิ่มอีก ก็เลยเห็นว่าหากใครมีช่องทาง มีตลาดก็สามารถทำเงินสร้างรายได้ ได้ทั้งนั้น จริงมั้ยคะ
    ภาพ 3 ภาพนี้หลายปีแล้ว ตอนนี้มันแน่นไปหมด ว่านหางช้างจะว่าง่ายก็ง่าย แต่ใช้เวลาพอสมควร ไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน เขาปลูกไว้ กอเดียวเลย แต่ขอโทษมันใหญ่และสูงมากคือจากลำต้นที่อยู่ในดินของมันจนถึงปลายใบ เท่าเด็ก 5-6 ขวบเลยทีเดียว แต่ละใบของมันนี่เท่าขาเด็กได้ค่ะ แอบเห็นว่ามีผ้าแดงผูกไว้ที่โคนต้นด้วยนะ 😆
    หอกสุรกาฬ/ ว่านหางช้าง ประโยชน์ ยาบำรุงโลหิต ใช้ตำโขลกหรือหั่นเป็นแว่น ๆ ผสมกับสุรารับประทานแก้เลือดตีขึ้นในโรคบาดทะยักปากมดลูกในเรือนไฟ จะดองสุราหรือต้มกินก็ได้ ผู้ที่มีใบหน้าเป็นสิว ฝ้าหน้าตกกระ จะช่วยฟอกโลหิตให้ใบหน้าหายจากสิวฝ้า เกลี้ยงเกลาผิวพรรณผุดผ่อง ยาสำหรับสตรีกินหลังคลอดบุตร ช่วยขับโลหิตเสีย โลหิตเป็นพิษ ตำผสมเหล้า หั่นเป็นแว่น ๆ หรือโขลกกับเหล้าโรง หรือน้ำซาวข้าว หรือต้มดื่ม วันละ 2-3 ครั้ง ราก ใช้เป็นยาเบื่อพยาธิและรักษาริดสีดวงงอกได้ดี โดยใช้รากสด 5-10 กรัม นำมาล้างให้สะอาด โขลกให้ละเอียด อาจผสมเหล้าโรง คั้นเอาแต่น้ำจิบ -ใบ นำไปอังไฟแล้วบีบเอาน้ำหยอดหู แก้ปวดในหูหรือคั้นเอาน้ำไปทาผมเป็นยาบำรุงรากเส้นผม ทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม -ปลูกไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันภัยทั้งมวล ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร *ขอขอบคุณ พฤกษาพรรณบรรณสาร : ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 🌱🍀🌱🍀🌱🍀🌱🍀🌿☘️🌿☘️ 🌾ภาพ 3 ภาพนี้คือที่ปลูกไว้ที่ชั้นลอยของตึก ซึ่งความจริง ความที่เป็นคนบ้าต้นไม้มาแต่เด็ก ก็เลยได้ไปอบรมต้นไม้เป็นยา มากับเขาด้วย และรู้ว่าแต่ละอย่างที่อยากปลูกมันมีสรรพคุณอะไรบ้าง ต้นหางช้าง นี้ก็ได้ไปจิ้มเอาไว้บ้างที่กาญจนบุรี แต่เนื่องจากไปบ้าง ไม่ได้ไปบ้างความคิดที่จะปลูกมันให้เยอะ ๆ ก็เลยแค่แห้งเหี่ยวอยู่แถวนั้น ทำไมถึงมาอยู่ในพืชเศรษฐกิจ ก็ได้ไปเจอคนคนนึง เขาไปเช่าที่ดินไว้ปลูกเจ้าว่านนี้อย่างเดียว 3ไร่อยู่แถวนครไชยศรี และตอนนั้นที่กาญจนบุรีก็ไม่มีใครเฝ้า เขาจะขอมาปลูกว่านนี้เพิ่มอีก ก็เลยเห็นว่าหากใครมีช่องทาง มีตลาดก็สามารถทำเงินสร้างรายได้ ได้ทั้งนั้น จริงมั้ยคะ ภาพ 3 ภาพนี้หลายปีแล้ว ตอนนี้มันแน่นไปหมด ว่านหางช้างจะว่าง่ายก็ง่าย แต่ใช้เวลาพอสมควร ไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน เขาปลูกไว้ กอเดียวเลย แต่ขอโทษมันใหญ่และสูงมากคือจากลำต้นที่อยู่ในดินของมันจนถึงปลายใบ เท่าเด็ก 5-6 ขวบเลยทีเดียว แต่ละใบของมันนี่เท่าขาเด็กได้ค่ะ แอบเห็นว่ามีผ้าแดงผูกไว้ที่โคนต้นด้วยนะ 😆
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 688 Views 0 Reviews