• กลายเป็นประเด็นร้อนข้ามประเทศ เมื่อ “ฮุนเซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์คลิป “หลวงตาสุจ” ออกมาชี้แจงกรณีคลิปอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้ช่วยทำวิดีโอเจรจาหยุดยิงกับไทย โดยยืนยันเป็น “คลิปปลอม” ถูกคนไทยตัดต่อกลั่นแกล้ง พร้อมประกาศความภักดีต่อกัมพูชาแบบสุดทาง ย้ำไม่มีวันหักหลังแผ่นดินเขมร
    .
    เพจเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุนเซน โพสต์วิดีโอความยาวราว 5 นาที เมื่อเวลา 19.13 น. วันที่ 23 ธ.ค. โดยระบุว่าเป็นคำชี้แจงของ พระมหานรินธร ปสนังโน หรือ “หลวงตาสุจ” ต่อกรณีคลิปเสียง–คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางทำคลิปเจรจายุติการสู้รบกับไทย
    .
    ในคลิปชี้แจง หลวงตาสุจย้ำหลายครั้งถึงความจงรักภักดีต่อกัมพูชา ระบุว่า “ถวายชีวิตให้แผ่นดินเขมรแล้ว” ไม่มีวันคิดร้ายหรือหักหลังประเทศ พร้อมอ้างว่าคลิปก่อนหน้านี้เป็นการตัดต่อจากฝั่งไทย เพื่อใส่ร้ายให้ตนอยู่ในกัมพูชาไม่ได้ และขอความเมตตาจากประชาชนรวมถึงคณะสงฆ์กัมพูชา อย่ามองตนในแง่ร้าย
    .
    การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคลิปสนทนาระหว่างหลวงตาสุจกับพระในประเทศไทยแพร่สะพัดในโซเชียล ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถานการณ์ทหารกัมพูชาขาดเสบียง อ่อนแรง และอ้างว่ามีการร้องขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงกับฝ่ายไทย
    .
    เป็นที่น่าสังเกตว่า คลิปคำชี้แจงนี้ถูกโพสต์โดยนายฮุนเซนด้วยตัวเองโดยตรง ไม่ได้แชร์จากแหล่งอื่น ท่ามกลางกระแสตั้งคำถามว่า เป็นการ “สั่งการให้แก้ข่าว” เพื่อสยบข้อครหาภายในประเทศหรือไม่ หลังมีกระแสชาวเน็ตกัมพูชาบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า หลวงตาสุจอาจเป็นตัวแปรทางการเมืองหรือความมั่นคง
    .
    ก่อนหน้านี้ หลวงตาสุจเป็นพระชาวไทยที่ถูกขับออกจากวัดใน จ.บุรีรัมย์ จากกรณีสร้างความแตกแยก และได้ย้ายไปพำนักในกัมพูชา พร้อมประกาศไม่กลับประเทศไทยอีก โดยได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการจากผู้นำกัมพูชาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
    .
    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123833
    .
    #News1live #News1 #หลวงตาสุจ #ฮุนเซน #ข่าวชายแดน #สงครามข่าวสาร #การเมืองกัมพูชา #ข่าวต่างประเทศ
    กลายเป็นประเด็นร้อนข้ามประเทศ เมื่อ “ฮุนเซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์คลิป “หลวงตาสุจ” ออกมาชี้แจงกรณีคลิปอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้ช่วยทำวิดีโอเจรจาหยุดยิงกับไทย โดยยืนยันเป็น “คลิปปลอม” ถูกคนไทยตัดต่อกลั่นแกล้ง พร้อมประกาศความภักดีต่อกัมพูชาแบบสุดทาง ย้ำไม่มีวันหักหลังแผ่นดินเขมร . เพจเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุนเซน โพสต์วิดีโอความยาวราว 5 นาที เมื่อเวลา 19.13 น. วันที่ 23 ธ.ค. โดยระบุว่าเป็นคำชี้แจงของ พระมหานรินธร ปสนังโน หรือ “หลวงตาสุจ” ต่อกรณีคลิปเสียง–คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางทำคลิปเจรจายุติการสู้รบกับไทย . ในคลิปชี้แจง หลวงตาสุจย้ำหลายครั้งถึงความจงรักภักดีต่อกัมพูชา ระบุว่า “ถวายชีวิตให้แผ่นดินเขมรแล้ว” ไม่มีวันคิดร้ายหรือหักหลังประเทศ พร้อมอ้างว่าคลิปก่อนหน้านี้เป็นการตัดต่อจากฝั่งไทย เพื่อใส่ร้ายให้ตนอยู่ในกัมพูชาไม่ได้ และขอความเมตตาจากประชาชนรวมถึงคณะสงฆ์กัมพูชา อย่ามองตนในแง่ร้าย . การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคลิปสนทนาระหว่างหลวงตาสุจกับพระในประเทศไทยแพร่สะพัดในโซเชียล ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถานการณ์ทหารกัมพูชาขาดเสบียง อ่อนแรง และอ้างว่ามีการร้องขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงกับฝ่ายไทย . เป็นที่น่าสังเกตว่า คลิปคำชี้แจงนี้ถูกโพสต์โดยนายฮุนเซนด้วยตัวเองโดยตรง ไม่ได้แชร์จากแหล่งอื่น ท่ามกลางกระแสตั้งคำถามว่า เป็นการ “สั่งการให้แก้ข่าว” เพื่อสยบข้อครหาภายในประเทศหรือไม่ หลังมีกระแสชาวเน็ตกัมพูชาบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า หลวงตาสุจอาจเป็นตัวแปรทางการเมืองหรือความมั่นคง . ก่อนหน้านี้ หลวงตาสุจเป็นพระชาวไทยที่ถูกขับออกจากวัดใน จ.บุรีรัมย์ จากกรณีสร้างความแตกแยก และได้ย้ายไปพำนักในกัมพูชา พร้อมประกาศไม่กลับประเทศไทยอีก โดยได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการจากผู้นำกัมพูชาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา . อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123833 . #News1live #News1 #หลวงตาสุจ #ฮุนเซน #ข่าวชายแดน #สงครามข่าวสาร #การเมืองกัมพูชา #ข่าวต่างประเทศ
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 1 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาออกโรงแถลง ย้ำจุดยืนต้องการ “หยุดยิงทันที” เพื่อยุติความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าการทูตทุกช่องทาง เปิดรับการไกล่เกลี่ยจากประเทศที่สาม อ้างกัมพูชาตอบรับข้อเสนอหยุดยิงมาแล้วหลายครั้ง แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ
    .
    สื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย
    .
    นายปรัก สุคน ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะทางอาวุธที่ยังดำเนินอยู่ จุดยืนของกัมพูชาคือการยุติการสู้รบทันที และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของประชาชน รวมถึงการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาย้ำว่า กัมพูชามุ่งใช้แนวทางการทูตเป็นหลัก ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากประเทศที่สามหรือกลไกระหว่างประเทศในการเข้ามาไกล่เกลี่ย หากจะช่วยนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติ
    .
    พร้อมกันนี้ นายปรัก สุคน อ้างว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอให้มีการหยุดยิงแล้ว 3 ครั้ง รวมถึงข้อเสนอจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับทั้งหมด แต่ฝ่ายไทยยังไม่เห็นชอบ
    .
    ทั้งนี้ กัมพูชาได้เสนอแนวทาง 3 ประการต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้แก่
    1. ให้มีการหยุดการสู้รบทันที
    2. ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนกลับไปยังที่ตั้งเดิม
    3. แก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
    .
    โดยอ้างว่า ที่ประชุมอาเซียนได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและเดินหน้าเจรจา พร้อมเห็นชอบให้มีการจัดการประชุมระหว่างกองทัพกัมพูชา–ไทย ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123817
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #อาเซียน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ
    รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาออกโรงแถลง ย้ำจุดยืนต้องการ “หยุดยิงทันที” เพื่อยุติความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าการทูตทุกช่องทาง เปิดรับการไกล่เกลี่ยจากประเทศที่สาม อ้างกัมพูชาตอบรับข้อเสนอหยุดยิงมาแล้วหลายครั้ง แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ . สื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย . นายปรัก สุคน ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะทางอาวุธที่ยังดำเนินอยู่ จุดยืนของกัมพูชาคือการยุติการสู้รบทันที และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของประชาชน รวมถึงการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน . รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาย้ำว่า กัมพูชามุ่งใช้แนวทางการทูตเป็นหลัก ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากประเทศที่สามหรือกลไกระหว่างประเทศในการเข้ามาไกล่เกลี่ย หากจะช่วยนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติ . พร้อมกันนี้ นายปรัก สุคน อ้างว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอให้มีการหยุดยิงแล้ว 3 ครั้ง รวมถึงข้อเสนอจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับทั้งหมด แต่ฝ่ายไทยยังไม่เห็นชอบ . ทั้งนี้ กัมพูชาได้เสนอแนวทาง 3 ประการต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้แก่ 1. ให้มีการหยุดการสู้รบทันที 2. ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนกลับไปยังที่ตั้งเดิม 3. แก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี . โดยอ้างว่า ที่ประชุมอาเซียนได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและเดินหน้าเจรจา พร้อมเห็นชอบให้มีการจัดการประชุมระหว่างกองทัพกัมพูชา–ไทย ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123817 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #อาเซียน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 5 (จบ)
    สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง
    ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร
    และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ
    ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย
    เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด
    แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย
    ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน
    ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย
    แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน
    ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่
    กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้
    เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ
    นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด
    ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ
    โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย
    คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม
    บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์
    แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด
    ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ
    นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์
    ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat
    ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด
    ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย
    เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย
    ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก
    กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่
    คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา
    ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น
    อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ
    สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่
    ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา
    สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ
    รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ
    ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป
    ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ
    เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ
    อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก
    หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย
    หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป
    แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก
    แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง
    ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ
    ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย
    แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน
    ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง
    ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน
    เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว
    จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR
    หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ
    ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ
    แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 5 (จบ) สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่ กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้ เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์ แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์ ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่ คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่ ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 4
    อเมริกากำลังคิดอะไรอยู่ หรืออเมริกา รออะไร
    อเมริกาน่าจะกำลัง “ทำความเข้าใจ หรือทำความรู้จัก” กับศักยภาพกองทัพของรัสเซียของจริง จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากกระดาษรายงาน ของเหล่านักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือถังความคิด รายใดรายหนึ่ง
    เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 2 เดือนหลังจากเฝ้าดูลีลาของรัสเซียในตะวันออกกลาง นาย Richard N Haass ประธานถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา The Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะที่เชื่อกันว่า น่าจะเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรีตัวจริง ก็ลงมือเขียนรายงาน ชื่อ “Testing Putin in Syria ”
    ท่านประธานถังขยะ สรุปว่า ชัดเจนว่าการเข้าไปในตะวันออกกลางของปูติน เหมือนไปต่อท่อหายใจให้กับอัสสาดของซีเรีย แต่ขณะเดียวกัน ปูตินก็ใช้โอกาสนี้ บอกให้โลกรู้ว่า รัสเซียยังอยู่นะ และอยู่แบบแข็งแรงด้วย เป็นการเบี่ยงเบน จากความจริงว่า เศรษฐกิจในบ้านรัสเซียกำลังหดเหี่ยว และเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องยูเครนไปด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในรัสเซียนั่นแหละ
    มีหลายคนเป็นห่วงว่า การที่รัสเซียเข้าไปในซีเรีย ไม่ใช่จะทำให้ อัสสาดเผด็จการจอมโหดแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกไอซิสโตขึ้นอีกด้วย เพราะการที่รัสเซียมุ่งหน้าแต่จะทำลายศัตรูของอัสสาด เท่ากับเปิดโอกาส ให้ไอซิสขยายพันธ์ง่ายขึ้นอีกด้วย
    นอกจากนี้ยังมีผู้ห่วงว่า รัสเซีย จะเป็นคนเริ่มสงครามเย็นในตะวันออกกลาง ด้วยการปิดล้อม ประเทศที่อยู่คนละฝ่ายกับอัสสาด แต่ท่านประธานถังขยะ บอกว่า ลืมไปได้เลย รัสเซียไม่มีปัญญารับมือกับการเปิดศึกหลายด้านหรอก เพราะนโยบายต่างประเทศแบบนั้น มันมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งสภาพทางเศรษฐกิจ กับสภาพกองทัพของรัสเซีย ไม่เอื้อให้รัสเซียเล่นได้ขนาดนั้น และก็ไม่แน่ว่า ชาวรัสเซียจะสนับสนุนปูติน ให้ทำเช่นนั้นด้วย
    ก็เหลือแต่ว่าปูติน ยังอยากจะเพลินกับการปกครอง แบบรวบอำนาจของตน ไปอีกนานไหมล่ะ ทุกอย่างมันมีขอบเขต และมีราคาทั้งสิ้น และปูตินอย่าลืมว่า เมื่อไอซิสแข็งแรงขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นนักรบพลีชีพ ไปก่อระเบิดในมอสโคว์แน่นอน (ขณะที่เขียนนี่ มอสโคว์ยังไม่มีระเบิดพลีชีพ แต่เครื่องบินโดยสารของรัสเซียโดนมือมืดสอยร่วงไปแล้ว นับว่าท่านประธานถังขยะ อ่านเกมขาด.!?)
    ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ปูตินคิดเรื่องซีเรีย ถึงขนาดไหน ถึงขนาดจะเอาอัสสาดไว้ ไม่ว่าต้วเองจะฉิบหายแค่ไหนอย่างนั้นหรือ หรือเอาแค่ว่า รัสเซียก็สามารถมีส่วน ในการจัดการตะวันออกกลางด้วย โดยไม่ต้องเอาเรื่องอัสสาดมาเกี่ยว
    ประธานถังขยะ แนะนำว่า ระหว่างที่ท่าทีของรัสเซียยังไม่ชัดเจน อเมริกาเอง ควรเลือกดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไป ทางหนึ่งคือ จัดการดุลยอำนาจในบริเวณซีเรียเสียใหม่ ด้วยการสนับสนุนชาวเคิร์ด กับพวกสุนนี่บางกลุ่มเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าถล่มไอซิสจากทางอากาศต่อไป เหมือนเดิมอีกเหมือนกัน
    ขณะเดียวกัน ก็พยายามดำเนินการทางการทูต เพื่อนำไปสู่ “การแบ่งซีเรีย” !!!!
    โดยแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆ และแยกการปกครอง ของแต่ละส่วนออกจากกัน น่าจะเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าอเมริกา หรือใคร ก็คงไม่ได้สนใจจริงจังใช่ไหม ที่จะรักษารัฐบาลของซีเรีย ที่มีอำนาจควบคุมซีเรียทั้งหมดหรอก
    และด้วยการดำเนินการอย่างนี้ อเมริกาก็สามารถที่จะให้รัสเซีย และแม้แต่ อิหร่าน ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่ง (เค๊ก) ซีเรียด้วยกัน แบบนี้ ปูตินก็น่าจะพอใจ เพราะได้หน้ากำลังดี คุ้มกับราคาที่เสียไปในการเข้ามาในซีเรีย
    …ดูเหมือน บทความนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง ระหว่างที่ท่านหัวหน้าใบตองแห้งกำลังนั่งกัดเล็บ อยู่ในมุมมืดของห้องทำงานที่ทำเนียบขาว รอผลสรุปจากพวกลูกกระเป๋ง ก่อนจะวางยุทธศาสตร์ หาทางเดินให้ตัวเอง….
    แต่ผมขอเพิ่มสักหน่อยว่า บทความของท่านประธานถังขยะ นี่มันยั่วยวน กวนส้นจริงๆ ส่อสันดานอเมริกาของแท้อย่างชัดเจน ทั้งดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่มีใครเก่งวิเศษเท่ามึง ที่ดีแต่ปาก แต่ จริงๆก็ขี้ขลาดเอาตัวรอด งก และยังหน้าด้าน เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งลางแพ้รออยู่ข้างหน้า … มึงคิดได้ยังไง อยู่ดีๆจะเสนอแบ่งประเทศเขา….. เราต้องจำวิธีคิดแบบนี้ของไอ้ใบตองแห้งให้ดีๆ นะครับ
    เห็นการวิเคราะห์ของฝั่งวอชิงตันแล้ว คราวนี้ลองไปฟัง การวิเคราะห์ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกกันบ้างครับ
    2 วัน ก่อนหน้าที่เรื่อง คุณจีนนี่ จะออกมาเป็นข่าว ถังขยะความคิดของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ Chatham House คู่แฝดของ CFR ก็ออกบทความเหมือนกัน ชื่อ Putin’s Gamble in Syria เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สรุปว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมัยสหภาพโซเวียต หรือเป็นรัสเซียใหม่ ยังไม่เคยมีก้าวไหนของรัสเซียที่ท้าทาย เท่ากับการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของนายปูตินครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เวลาที่รัสเซียมีกิจกรรมนอกพื้นที่ตัวเอง ก็มักจะเกี่ยวข้องโดยตรง กับเรื่องของรัสเซียเอง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น
    เมื่อวันที่นายปูติน บินไปนิวยอร์ค เพื่อพบหน้ากับนายโอบามา ในการประชุมใหญ่ของสหประชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูติน พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันนั้น กองทัพของรัสเซีย เครื่องบินรบ รวมทั้งนาวิกโยธินของรัสเซีย และเรือบรรทุกครื่องบิน Moskva ทั้งหมด ได้ไปประจำการณ์อยู่ที่ท่าเรือ Latakia/Tartous ที่อยู่ทางเหนือของซีเรีย เรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อปูติน
    พบกับโอบามา เขาก็คงจะบอกกับโอบามา ว่ารัสเซียจะใช้ของที่เอาไปอยู่ตรงนั้นอย่างไร และจริงๆ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฝูงบิน Sukhoi ของรัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ al-Rakaa แล้ว รวมทั้งโจมตีกลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อเมริกาและพวก ที่นำโดยซาอุดิอารเบีย และตุรกี เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย
    การจู่โจมของรัสเซีย นับเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะปูตินจะพารัสเซียเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปูตินยังมียุทธศาสตร์ ในขณะที่โอบามาเอง กำลังนั่งมึนหาทางไปไม่เจอ แต่ปูตินเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองจะต้องอยู่ตรงนั้น เมื่อวันตัดสินชะตาของซีเรียเกิดขึ้น แต่โอบามา ยังคงนั่งเงียบอยู่
    ผลกระทบในตะวันออกกลาง จากการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของรัสเซีย มีสูงยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างฝ่ายสุนนี่ที่ต่อต้านอัสสาด (ซาอุดิอารเบีย การ์ตา ตุรกี) กับฝ่ายรัสเซีย ที่สนับสนุน อัสสาด รวมทั้งความไม่เด็ดขาดของโอบามา เมื่อเทียบกับปูติน
    ถังขยะของชาวเกาะบอกว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอีก 2 รายการ คือ สัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ ที่ดูเหมือนนับวันจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่อิทธิพลของอเมริกา ที่มีต่ออียิปต์ดูเหมือนจะจางลง (มิน่า เครื่องบินรัสเซีย ถึงต้องถูกสอยร่วงที่อียิปต์ เดี๋ยวจะใกล้ชิดกันมากไป..)
    แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู บินไปหา ปูติน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยการแจ้งล่วงหน้าเพียง 24 ชั่วโมง
    หนังสือพิมพ์ Haaretz ซึ่งเป็นสื่อมีเสียงดังมากในอิสราเอล สรุปการเดินทางไปมอสโคว์ของเนทันยาฮูว่า “เป็นการแสดงให้เห็นว่า อำนาจของอเมริกาในตะวันออกกลาง เป็นอดีตไปเสียแล้ว…”
    ถังของชาวเกาะ สรุปส่งท้ายว่า โอกาสที่อเมริกา จะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม มีแค่ทางเดียว คือ อเมริกาต้องเคลื่อนตัวเองเข้ามาในตะวันออกกลางเสียใหม่ และอย่างรวดเร็ว และจัดการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรีย
    เป็นถังขยะแฝดกันก็จริง และทุกทีก็มักจะวิเคราะห์แบบประสานเสียงกัน โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงด่ารัสเซีย เอ แต่ทำไมเรื่องรัสเซียอุ้มซีเรียคราวนี้ คู่แฝดเหมือนแตกเสียงกัน แต่จะถึงกับแตกคอกันหรือไม่… ดูไปก่อนนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    6 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 4 อเมริกากำลังคิดอะไรอยู่ หรืออเมริกา รออะไร อเมริกาน่าจะกำลัง “ทำความเข้าใจ หรือทำความรู้จัก” กับศักยภาพกองทัพของรัสเซียของจริง จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากกระดาษรายงาน ของเหล่านักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือถังความคิด รายใดรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 2 เดือนหลังจากเฝ้าดูลีลาของรัสเซียในตะวันออกกลาง นาย Richard N Haass ประธานถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา The Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะที่เชื่อกันว่า น่าจะเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรีตัวจริง ก็ลงมือเขียนรายงาน ชื่อ “Testing Putin in Syria ” ท่านประธานถังขยะ สรุปว่า ชัดเจนว่าการเข้าไปในตะวันออกกลางของปูติน เหมือนไปต่อท่อหายใจให้กับอัสสาดของซีเรีย แต่ขณะเดียวกัน ปูตินก็ใช้โอกาสนี้ บอกให้โลกรู้ว่า รัสเซียยังอยู่นะ และอยู่แบบแข็งแรงด้วย เป็นการเบี่ยงเบน จากความจริงว่า เศรษฐกิจในบ้านรัสเซียกำลังหดเหี่ยว และเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องยูเครนไปด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในรัสเซียนั่นแหละ มีหลายคนเป็นห่วงว่า การที่รัสเซียเข้าไปในซีเรีย ไม่ใช่จะทำให้ อัสสาดเผด็จการจอมโหดแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกไอซิสโตขึ้นอีกด้วย เพราะการที่รัสเซียมุ่งหน้าแต่จะทำลายศัตรูของอัสสาด เท่ากับเปิดโอกาส ให้ไอซิสขยายพันธ์ง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ห่วงว่า รัสเซีย จะเป็นคนเริ่มสงครามเย็นในตะวันออกกลาง ด้วยการปิดล้อม ประเทศที่อยู่คนละฝ่ายกับอัสสาด แต่ท่านประธานถังขยะ บอกว่า ลืมไปได้เลย รัสเซียไม่มีปัญญารับมือกับการเปิดศึกหลายด้านหรอก เพราะนโยบายต่างประเทศแบบนั้น มันมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งสภาพทางเศรษฐกิจ กับสภาพกองทัพของรัสเซีย ไม่เอื้อให้รัสเซียเล่นได้ขนาดนั้น และก็ไม่แน่ว่า ชาวรัสเซียจะสนับสนุนปูติน ให้ทำเช่นนั้นด้วย ก็เหลือแต่ว่าปูติน ยังอยากจะเพลินกับการปกครอง แบบรวบอำนาจของตน ไปอีกนานไหมล่ะ ทุกอย่างมันมีขอบเขต และมีราคาทั้งสิ้น และปูตินอย่าลืมว่า เมื่อไอซิสแข็งแรงขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นนักรบพลีชีพ ไปก่อระเบิดในมอสโคว์แน่นอน (ขณะที่เขียนนี่ มอสโคว์ยังไม่มีระเบิดพลีชีพ แต่เครื่องบินโดยสารของรัสเซียโดนมือมืดสอยร่วงไปแล้ว นับว่าท่านประธานถังขยะ อ่านเกมขาด.!?) ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ปูตินคิดเรื่องซีเรีย ถึงขนาดไหน ถึงขนาดจะเอาอัสสาดไว้ ไม่ว่าต้วเองจะฉิบหายแค่ไหนอย่างนั้นหรือ หรือเอาแค่ว่า รัสเซียก็สามารถมีส่วน ในการจัดการตะวันออกกลางด้วย โดยไม่ต้องเอาเรื่องอัสสาดมาเกี่ยว ประธานถังขยะ แนะนำว่า ระหว่างที่ท่าทีของรัสเซียยังไม่ชัดเจน อเมริกาเอง ควรเลือกดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไป ทางหนึ่งคือ จัดการดุลยอำนาจในบริเวณซีเรียเสียใหม่ ด้วยการสนับสนุนชาวเคิร์ด กับพวกสุนนี่บางกลุ่มเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าถล่มไอซิสจากทางอากาศต่อไป เหมือนเดิมอีกเหมือนกัน ขณะเดียวกัน ก็พยายามดำเนินการทางการทูต เพื่อนำไปสู่ “การแบ่งซีเรีย” !!!! โดยแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆ และแยกการปกครอง ของแต่ละส่วนออกจากกัน น่าจะเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าอเมริกา หรือใคร ก็คงไม่ได้สนใจจริงจังใช่ไหม ที่จะรักษารัฐบาลของซีเรีย ที่มีอำนาจควบคุมซีเรียทั้งหมดหรอก และด้วยการดำเนินการอย่างนี้ อเมริกาก็สามารถที่จะให้รัสเซีย และแม้แต่ อิหร่าน ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่ง (เค๊ก) ซีเรียด้วยกัน แบบนี้ ปูตินก็น่าจะพอใจ เพราะได้หน้ากำลังดี คุ้มกับราคาที่เสียไปในการเข้ามาในซีเรีย …ดูเหมือน บทความนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง ระหว่างที่ท่านหัวหน้าใบตองแห้งกำลังนั่งกัดเล็บ อยู่ในมุมมืดของห้องทำงานที่ทำเนียบขาว รอผลสรุปจากพวกลูกกระเป๋ง ก่อนจะวางยุทธศาสตร์ หาทางเดินให้ตัวเอง…. แต่ผมขอเพิ่มสักหน่อยว่า บทความของท่านประธานถังขยะ นี่มันยั่วยวน กวนส้นจริงๆ ส่อสันดานอเมริกาของแท้อย่างชัดเจน ทั้งดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่มีใครเก่งวิเศษเท่ามึง ที่ดีแต่ปาก แต่ จริงๆก็ขี้ขลาดเอาตัวรอด งก และยังหน้าด้าน เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งลางแพ้รออยู่ข้างหน้า … มึงคิดได้ยังไง อยู่ดีๆจะเสนอแบ่งประเทศเขา….. เราต้องจำวิธีคิดแบบนี้ของไอ้ใบตองแห้งให้ดีๆ นะครับ เห็นการวิเคราะห์ของฝั่งวอชิงตันแล้ว คราวนี้ลองไปฟัง การวิเคราะห์ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกกันบ้างครับ 2 วัน ก่อนหน้าที่เรื่อง คุณจีนนี่ จะออกมาเป็นข่าว ถังขยะความคิดของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ Chatham House คู่แฝดของ CFR ก็ออกบทความเหมือนกัน ชื่อ Putin’s Gamble in Syria เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.2015 สรุปว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมัยสหภาพโซเวียต หรือเป็นรัสเซียใหม่ ยังไม่เคยมีก้าวไหนของรัสเซียที่ท้าทาย เท่ากับการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของนายปูตินครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เวลาที่รัสเซียมีกิจกรรมนอกพื้นที่ตัวเอง ก็มักจะเกี่ยวข้องโดยตรง กับเรื่องของรัสเซียเอง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น เมื่อวันที่นายปูติน บินไปนิวยอร์ค เพื่อพบหน้ากับนายโอบามา ในการประชุมใหญ่ของสหประชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูติน พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันนั้น กองทัพของรัสเซีย เครื่องบินรบ รวมทั้งนาวิกโยธินของรัสเซีย และเรือบรรทุกครื่องบิน Moskva ทั้งหมด ได้ไปประจำการณ์อยู่ที่ท่าเรือ Latakia/Tartous ที่อยู่ทางเหนือของซีเรีย เรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อปูติน พบกับโอบามา เขาก็คงจะบอกกับโอบามา ว่ารัสเซียจะใช้ของที่เอาไปอยู่ตรงนั้นอย่างไร และจริงๆ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฝูงบิน Sukhoi ของรัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ al-Rakaa แล้ว รวมทั้งโจมตีกลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อเมริกาและพวก ที่นำโดยซาอุดิอารเบีย และตุรกี เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย การจู่โจมของรัสเซีย นับเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะปูตินจะพารัสเซียเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปูตินยังมียุทธศาสตร์ ในขณะที่โอบามาเอง กำลังนั่งมึนหาทางไปไม่เจอ แต่ปูตินเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองจะต้องอยู่ตรงนั้น เมื่อวันตัดสินชะตาของซีเรียเกิดขึ้น แต่โอบามา ยังคงนั่งเงียบอยู่ ผลกระทบในตะวันออกกลาง จากการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของรัสเซีย มีสูงยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างฝ่ายสุนนี่ที่ต่อต้านอัสสาด (ซาอุดิอารเบีย การ์ตา ตุรกี) กับฝ่ายรัสเซีย ที่สนับสนุน อัสสาด รวมทั้งความไม่เด็ดขาดของโอบามา เมื่อเทียบกับปูติน ถังขยะของชาวเกาะบอกว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอีก 2 รายการ คือ สัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ ที่ดูเหมือนนับวันจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่อิทธิพลของอเมริกา ที่มีต่ออียิปต์ดูเหมือนจะจางลง (มิน่า เครื่องบินรัสเซีย ถึงต้องถูกสอยร่วงที่อียิปต์ เดี๋ยวจะใกล้ชิดกันมากไป..) แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู บินไปหา ปูติน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยการแจ้งล่วงหน้าเพียง 24 ชั่วโมง หนังสือพิมพ์ Haaretz ซึ่งเป็นสื่อมีเสียงดังมากในอิสราเอล สรุปการเดินทางไปมอสโคว์ของเนทันยาฮูว่า “เป็นการแสดงให้เห็นว่า อำนาจของอเมริกาในตะวันออกกลาง เป็นอดีตไปเสียแล้ว…” ถังของชาวเกาะ สรุปส่งท้ายว่า โอกาสที่อเมริกา จะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม มีแค่ทางเดียว คือ อเมริกาต้องเคลื่อนตัวเองเข้ามาในตะวันออกกลางเสียใหม่ และอย่างรวดเร็ว และจัดการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรีย เป็นถังขยะแฝดกันก็จริง และทุกทีก็มักจะวิเคราะห์แบบประสานเสียงกัน โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงด่ารัสเซีย เอ แต่ทำไมเรื่องรัสเซียอุ้มซีเรียคราวนี้ คู่แฝดเหมือนแตกเสียงกัน แต่จะถึงกับแตกคอกันหรือไม่… ดูไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 6 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • Queen Of The World (2025/129)

    หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2(ต่อไปจะเขียนว่า ควีนฯ) ยังมีชีวิตอยู่ (พระองค์ท่านสวรรคตเมื่อวันที่ 8/9/2022)

    เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าชื่อหนังสือ Queen Of The World ค่อนข้างจะสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียนเลย

    ถ้าหากต้องการอ่านชีวประวัติของควีนฯ เกิดที่ไหน นิสัยเป็นแบบไหน การเรียน ความรัก ฯลฯ ไม่สามารถหาอ่านได้ในเล่มนี้แน่นอน แต่เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โดยเน้นเฉพาะการไปเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ รวมไปถึงการรับรองแขกบ้านแขกเมือง เรื่องนี้ผู้เขียนเน้นย้ำเลยว่านี่คือ “Solf Power” ของประเทศอังกฤษ

    แน่นอนว่าด้วยการที่ควีนฯ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดมาตั้งแต่อายุ 26ปี จึงได้มีการไปเยี่ยมเยียนประเทศรอบโลก ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหนามาตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งที่อังกฤษเกือบล้มลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชาของอังกฤษในขณะนั้นและเป็นพระบิดาของควีนฯ สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดมากและเสียพระทัย ควีนฯจึงต้องมารับตำแหน่งประมุขสูงสุดทั้งๆที่อายุเพียง26ปี แต่งงานได้ไม่นาน และมีลูกอายุน้อย

    หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ควีนฯยังต้องประสบพบเจอกับปัญหาแต่ขอแยกเป็นอิสระของประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพ ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับโดมิโนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องๆไปเรื่อยๆ จนทั่งเข้าสู่ภาวะเป็นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ประเทศที่สร้างความกังวลกับควีนฯ ได้แก่สองประเทศใหญ่คือ อินเดีย และประเทศแอฟริกาใต้

    ในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆกับควีนฯ ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งประเทศอเมริกา ประเทศในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งควีนฯได้ไปเสด็จเยือนมาทั้งหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าใจมากๆคือ เรื่องของเรือยอร์ชพระที่นั่งบริทานเนียของควีนฯ เรือบริทาเนียใช้ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นที่พักส่วนพระองค์ขณะไปเยือนต่างประเทศ เป็นภัตรคารรับรองประมุขของประเทศนั้นๆ และยังเป็นสถานที่เจรจาทางการเมืองอีกด้วย เรือบริทาเนียก็เปรียบเสมือนประเทศราชของควีนฯเคลื่อนที่ได้

    ท้ายเล่มผู้เขียนเพิ่มเติมเรื่องราวของพระกรณียกิจของ พระสวามีดยุคฟิลิป , เจ้าฟ้าชายชาลส์(กษัตริย์ชาลส์ที่ 3) , เจ้าหญิงไดอานา , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรู , เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมไปถึงรุ่นหลานของควีนฯ คือเจ้าชายวิลลียมและเจ้าชายแฮรี่อีกด้วย

    #QueenOfTheWorld #รีวิวหนังสือ
    Queen Of The World (2025/129) หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2(ต่อไปจะเขียนว่า ควีนฯ) ยังมีชีวิตอยู่ (พระองค์ท่านสวรรคตเมื่อวันที่ 8/9/2022) เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าชื่อหนังสือ Queen Of The World ค่อนข้างจะสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียนเลย ถ้าหากต้องการอ่านชีวประวัติของควีนฯ เกิดที่ไหน นิสัยเป็นแบบไหน การเรียน ความรัก ฯลฯ ไม่สามารถหาอ่านได้ในเล่มนี้แน่นอน แต่เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โดยเน้นเฉพาะการไปเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ รวมไปถึงการรับรองแขกบ้านแขกเมือง เรื่องนี้ผู้เขียนเน้นย้ำเลยว่านี่คือ “Solf Power” ของประเทศอังกฤษ แน่นอนว่าด้วยการที่ควีนฯ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดมาตั้งแต่อายุ 26ปี จึงได้มีการไปเยี่ยมเยียนประเทศรอบโลก ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหนามาตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งที่อังกฤษเกือบล้มลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชาของอังกฤษในขณะนั้นและเป็นพระบิดาของควีนฯ สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดมากและเสียพระทัย ควีนฯจึงต้องมารับตำแหน่งประมุขสูงสุดทั้งๆที่อายุเพียง26ปี แต่งงานได้ไม่นาน และมีลูกอายุน้อย หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ควีนฯยังต้องประสบพบเจอกับปัญหาแต่ขอแยกเป็นอิสระของประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพ ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับโดมิโนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องๆไปเรื่อยๆ จนทั่งเข้าสู่ภาวะเป็นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ประเทศที่สร้างความกังวลกับควีนฯ ได้แก่สองประเทศใหญ่คือ อินเดีย และประเทศแอฟริกาใต้ ในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆกับควีนฯ ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งประเทศอเมริกา ประเทศในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งควีนฯได้ไปเสด็จเยือนมาทั้งหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าใจมากๆคือ เรื่องของเรือยอร์ชพระที่นั่งบริทานเนียของควีนฯ เรือบริทาเนียใช้ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นที่พักส่วนพระองค์ขณะไปเยือนต่างประเทศ เป็นภัตรคารรับรองประมุขของประเทศนั้นๆ และยังเป็นสถานที่เจรจาทางการเมืองอีกด้วย เรือบริทาเนียก็เปรียบเสมือนประเทศราชของควีนฯเคลื่อนที่ได้ ท้ายเล่มผู้เขียนเพิ่มเติมเรื่องราวของพระกรณียกิจของ พระสวามีดยุคฟิลิป , เจ้าฟ้าชายชาลส์(กษัตริย์ชาลส์ที่ 3) , เจ้าหญิงไดอานา , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรู , เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมไปถึงรุ่นหลานของควีนฯ คือเจ้าชายวิลลียมและเจ้าชายแฮรี่อีกด้วย #QueenOfTheWorld #รีวิวหนังสือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ข่าวเด่นต่างประเทศปี 2025 : คนเคาะข่าว 22-12-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=swA8syWDGU8
    10 ข่าวเด่นต่างประเทศปี 2025 : คนเคาะข่าว 22-12-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ . https://www.youtube.com/watch?v=swA8syWDGU8
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline

    Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น
    ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน
    รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ
    https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk

    ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click
    การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด
    https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools

    AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok
    AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก
    https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs

    ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware
    แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร
    https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection

    Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน
    Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ
    https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools

    110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ
    Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส
    https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy

    Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้
    แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต
    รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข
    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows

    HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน
    https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api

    Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI
    Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม
    https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses

    Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google
    บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง
    https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot

    Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง
    Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด
    https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o

    The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด
    คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
    https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader

    Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ
    ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal

    OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์
    OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
    https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone

    n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว
    แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน
    https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access

    Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี
    แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline 🧩 Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 🕶️ Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ 🔗 https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk 📱 ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools 🎭 AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs 🧪 ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร 🔗 https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection 🐾 Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ 🔗 https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools 🕵️‍♀️ 110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส 🔗 https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy 🧩 Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้ แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 📡 Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข 🔗 https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows 🖥️ HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api 🕶️ Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม 🔗 https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses 🐺 Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง 🔗 https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot ⚡ Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o 🕵️‍♂️ The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ 🔗 https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal 🤖 OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์ OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone ⚠️ n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access 🔐 Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • Biren เปิดตัว IPO ในฮ่องกง — มังกรตัวใหม่ในศึกชิงบัลลังก์ AI GPU จาก Nvidia

    Biren Intelligent Technology ผู้ผลิต GPU ชั้นนำของจีนเริ่มกระบวนการ bookbuilding สำหรับการเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 4.85 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิต GPU จากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าจดทะเบียนในฮ่องกง และสะท้อนความเร่งรีบของบริษัทจีนที่ต้องการเงินทุนเพื่อเร่งพัฒนา AI accelerators ท่ามกลางความต้องการมหาศาลจากตลาดโลก

    การเข้าตลาดของ Biren เกิดขึ้นในช่วงที่สตาร์ทอัพ GPU จีนกำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดย Moore Threads และ MetaX ต่างสร้างสถิติราคาหุ้นพุ่งขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันแรกของการซื้อขาย ทำให้ทั้งสามบริษัท รวมถึง Enflame ถูกเรียกว่า “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีน ซึ่งต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือท้าทายความเป็นเจ้าตลาดของ Nvidia ในตลาด AI accelerator

    แม้ Biren จะเริ่มมีรายได้จากโซลูชันคอมพิวติ้งอัจฉริยะตั้งแต่ปี 2023 แต่บริษัทก็ยังขาดทุนอย่างหนัก โดยขาดทุนเกือบ 9 พันล้านหยวนในครึ่งแรกของปี 2025 จากการลงทุนด้าน R&D และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Biren ยังได้รับผลกระทบจากการถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศได้ยากขึ้น และต้องหันมาพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น

    การเข้าตลาดครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การระดมทุน แต่เป็นการประกาศจุดยืนของจีนในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก โดย Biren, MiniMax, Zhipu และบริษัท AI อื่นๆ ต่างเร่งเข้าตลาดเพื่อเสริมทุนและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง ในขณะที่การแข่งขันด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ภายในจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Biren เปิดตัว IPO มูลค่าสูงสุด 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    เป็นผู้ผลิต GPU จีนรายแรกที่เข้าตลาดฮ่องกง
    เสนอขายหุ้น 247.7 ล้านหุ้น ราคา 17–19.60 ดอลลาร์ฮ่องกง

    กระแส “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีนกำลังมาแรง
    Moore Threads และ MetaX ทำราคาหุ้นพุ่งหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
    ทั้งหมดมีเป้าหมายท้าทาย Nvidia ในตลาด AI accelerator

    Biren มีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ยังขาดทุนหนัก
    รายได้ปี 2023 อยู่ที่ 336.8 ล้านหยวน
    ขาดทุนครึ่งแรกปี 2025 เกือบ 9 พันล้านหยวนจากการลงทุน R&D

    ความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการเมืองและซัพพลายเชน
    ถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยากขึ้น
    ต้องพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งยังไม่สมบูรณ์

    การแข่งขันในตลาด AI จีนกำลังรุนแรงขึ้น
    MiniMax และ Zhipu ก็เตรียมเข้าตลาดเช่นกัน
    บริษัทต้องเร่งพัฒนาเพื่อไม่ให้ตามหลังคู่แข่งทั้งในและนอกประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/biren-kicks-off-hong-kong-ipo
    🐉 Biren เปิดตัว IPO ในฮ่องกง — มังกรตัวใหม่ในศึกชิงบัลลังก์ AI GPU จาก Nvidia Biren Intelligent Technology ผู้ผลิต GPU ชั้นนำของจีนเริ่มกระบวนการ bookbuilding สำหรับการเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 4.85 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิต GPU จากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าจดทะเบียนในฮ่องกง และสะท้อนความเร่งรีบของบริษัทจีนที่ต้องการเงินทุนเพื่อเร่งพัฒนา AI accelerators ท่ามกลางความต้องการมหาศาลจากตลาดโลก การเข้าตลาดของ Biren เกิดขึ้นในช่วงที่สตาร์ทอัพ GPU จีนกำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดย Moore Threads และ MetaX ต่างสร้างสถิติราคาหุ้นพุ่งขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันแรกของการซื้อขาย ทำให้ทั้งสามบริษัท รวมถึง Enflame ถูกเรียกว่า “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีน ซึ่งต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือท้าทายความเป็นเจ้าตลาดของ Nvidia ในตลาด AI accelerator แม้ Biren จะเริ่มมีรายได้จากโซลูชันคอมพิวติ้งอัจฉริยะตั้งแต่ปี 2023 แต่บริษัทก็ยังขาดทุนอย่างหนัก โดยขาดทุนเกือบ 9 พันล้านหยวนในครึ่งแรกของปี 2025 จากการลงทุนด้าน R&D และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Biren ยังได้รับผลกระทบจากการถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศได้ยากขึ้น และต้องหันมาพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น การเข้าตลาดครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การระดมทุน แต่เป็นการประกาศจุดยืนของจีนในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก โดย Biren, MiniMax, Zhipu และบริษัท AI อื่นๆ ต่างเร่งเข้าตลาดเพื่อเสริมทุนและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง ในขณะที่การแข่งขันด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ภายในจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Biren เปิดตัว IPO มูลค่าสูงสุด 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ➡️ เป็นผู้ผลิต GPU จีนรายแรกที่เข้าตลาดฮ่องกง ➡️ เสนอขายหุ้น 247.7 ล้านหุ้น ราคา 17–19.60 ดอลลาร์ฮ่องกง ✅ กระแส “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีนกำลังมาแรง ➡️ Moore Threads และ MetaX ทำราคาหุ้นพุ่งหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ➡️ ทั้งหมดมีเป้าหมายท้าทาย Nvidia ในตลาด AI accelerator ✅ Biren มีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ยังขาดทุนหนัก ➡️ รายได้ปี 2023 อยู่ที่ 336.8 ล้านหยวน ➡️ ขาดทุนครึ่งแรกปี 2025 เกือบ 9 พันล้านหยวนจากการลงทุน R&D ‼️ ความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการเมืองและซัพพลายเชน ⛔ ถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยากขึ้น ⛔ ต้องพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ ‼️ การแข่งขันในตลาด AI จีนกำลังรุนแรงขึ้น ⛔ MiniMax และ Zhipu ก็เตรียมเข้าตลาดเช่นกัน ⛔ บริษัทต้องเร่งพัฒนาเพื่อไม่ให้ตามหลังคู่แข่งทั้งในและนอกประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/biren-kicks-off-hong-kong-ipo
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China's premier GPU maker Biren kicks off Hong Kong IPO — GPU startups vying for Nvidia's crown race to fund AI chip development
    Shanghai-based Biren is targeting up to US$624 million in what would be the first Hong Kong listing by a mainland GPU developer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นอีกครั้งที่อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงยุติการสู้รบรอบ 2 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามคราวนี้ วอชิงตัน ได้ส่งเสียงเพิ่มเติมเข้ามา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ถอนอาวุธหนักและหยุดวางทุ่นระเบิด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของไทยมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนการปะทะรอบ 2 และปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เต็มรูปแบบ
    .
    "เรายินดีที่พวกผู้นำอาเซียน กำลังมารวมตัวกันในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทย ยึดถือพันธสัญญาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อยุติความขัดแย้ง" ทอมมี พิกกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว
    .
    เสียงเรียกร้องครั้งใหม่นี้ มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
    .
    นายสีหศักดิ์​พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำก่อนออกเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ ว่าการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ในการกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด
    .
    กระทรวงการต่างประเทศของไทยเน้นย้ำจุดยืน 2 ข้อ ก็คือ 1 กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริง อย่างต่อเนื่องและมีการสังเกตการณ์ และ3.ฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง
    .
    เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลอเมริกา คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อยุติการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา
    .
    ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อ้างความสำเร็จในการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงก่อนหน้านี้ และจัดให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาอยู่ในรายชื่อสงครามที่เขาอ้างว่า "ได้รับการแก้ไขแล้ว"
    .
    "ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามแล้ว" รูบิโอ กล่าว "ปัจจุบันคำมั่นสัญญาเหล่านั้นไม่ได้รับการปฏิบัติตาม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกัน ดังนั้น ภารกิจในตอนนี้คือการนำพวกเขากลับมาเจรจากันอีกครั้ง"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123011

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เป็นอีกครั้งที่อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงยุติการสู้รบรอบ 2 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามคราวนี้ วอชิงตัน ได้ส่งเสียงเพิ่มเติมเข้ามา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ถอนอาวุธหนักและหยุดวางทุ่นระเบิด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของไทยมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนการปะทะรอบ 2 และปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เต็มรูปแบบ . "เรายินดีที่พวกผู้นำอาเซียน กำลังมารวมตัวกันในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทย ยึดถือพันธสัญญาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อยุติความขัดแย้ง" ทอมมี พิกกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว . เสียงเรียกร้องครั้งใหม่นี้ มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย . นายสีหศักดิ์​พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำก่อนออกเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ ว่าการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ในการกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด . กระทรวงการต่างประเทศของไทยเน้นย้ำจุดยืน 2 ข้อ ก็คือ 1 กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริง อย่างต่อเนื่องและมีการสังเกตการณ์ และ3.ฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง . เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลอเมริกา คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อยุติการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา . ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อ้างความสำเร็จในการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงก่อนหน้านี้ และจัดให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาอยู่ในรายชื่อสงครามที่เขาอ้างว่า "ได้รับการแก้ไขแล้ว" . "ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามแล้ว" รูบิโอ กล่าว "ปัจจุบันคำมั่นสัญญาเหล่านั้นไม่ได้รับการปฏิบัติตาม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกัน ดังนั้น ภารกิจในตอนนี้คือการนำพวกเขากลับมาเจรจากันอีกครั้ง" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123011 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tencent ใช้ “ช่องโหว่การเช่าเซิร์ฟเวอร์” เพื่อเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 แม้ถูกสหรัฐแบน

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Tencent สามารถเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐ โดยอาศัย “ช่องโหว่การเช่า (rental loophole)” ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนที่ยังสามารถซื้อและให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปต้องห้ามได้

    แม้สหรัฐจะห้ามไม่ให้ NVIDIA ส่งออกชิประดับสูง เช่น H100, H200, B100 และ B200 ไปยังจีนโดยตรง แต่กฎไม่ได้ห้ามบริษัทจีนจากการ เช่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปเหล่านี้จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ นี่คือช่องว่างที่ Tencent ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

    รายงานชี้ว่า Tencent ได้เข้าถึง B200 ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรป ซึ่งยังสามารถซื้อชิป Blackwell ได้ตามปกติ และให้บริการเช่า GPU cluster แบบ remote access ทำให้ Tencent สามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องนำฮาร์ดแวร์เข้าประเทศจีนโดยตรง

    นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของ “AI export control cat‑and‑mouse game” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อบริษัทจีนใช้วิธีเช่า GPU cluster ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ขณะที่สหรัฐพยายามปิดช่องโหว่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้น
    Tencent เข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ผ่านการเช่าเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ
    แม้สหรัฐแบนการส่งออก แต่กฎไม่ได้ห้ามการ “เช่า” GPU cluster
    ผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรปยังสามารถซื้อและให้เช่า B200 ได้

    ทำไมช่องโหว่นี้ถึงเกิดขึ้น
    Export control ของสหรัฐเน้น “การส่งออกฮาร์ดแวร์” ไม่ใช่ “การเข้าถึงระยะไกล”
    บริษัทจีนสามารถใช้บริการคลาวด์นอกประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
    NVIDIA ไม่สามารถควบคุมการใช้งานชิปหลังจากขายให้ผู้ให้บริการคลาวด์แล้ว

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    บริษัทจีนยังสามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้แม้ถูกแบน
    ผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนได้ประโยชน์จากดีมานด์ GPU ที่สูงขึ้น
    สหรัฐอาจต้องออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้

    บริบทเชิงภูมิรัฐศาสตร์
    การแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐ–จีนกำลังย้ายจาก “ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ “การควบคุมการเข้าถึง”
    ช่องโหว่การเช่าอาจกลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับนโยบายในปี 2026
    NVIDIA อยู่ในตำแหน่งลำบาก เพราะต้องขายชิปให้ได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎสหรัฐ

    https://wccftech.com/china-tencent-gains-access-to-nvidia-blackwell-ai-chips-by-leveraging-the-rental-loophole/
    🧩 Tencent ใช้ “ช่องโหว่การเช่าเซิร์ฟเวอร์” เพื่อเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 แม้ถูกสหรัฐแบน รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Tencent สามารถเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐ โดยอาศัย “ช่องโหว่การเช่า (rental loophole)” ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนที่ยังสามารถซื้อและให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปต้องห้ามได้ แม้สหรัฐจะห้ามไม่ให้ NVIDIA ส่งออกชิประดับสูง เช่น H100, H200, B100 และ B200 ไปยังจีนโดยตรง แต่กฎไม่ได้ห้ามบริษัทจีนจากการ เช่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปเหล่านี้จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ นี่คือช่องว่างที่ Tencent ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ รายงานชี้ว่า Tencent ได้เข้าถึง B200 ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรป ซึ่งยังสามารถซื้อชิป Blackwell ได้ตามปกติ และให้บริการเช่า GPU cluster แบบ remote access ทำให้ Tencent สามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องนำฮาร์ดแวร์เข้าประเทศจีนโดยตรง นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของ “AI export control cat‑and‑mouse game” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อบริษัทจีนใช้วิธีเช่า GPU cluster ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ขณะที่สหรัฐพยายามปิดช่องโหว่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้น ➡️ Tencent เข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ผ่านการเช่าเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ ➡️ แม้สหรัฐแบนการส่งออก แต่กฎไม่ได้ห้ามการ “เช่า” GPU cluster ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรปยังสามารถซื้อและให้เช่า B200 ได้ ✅ ทำไมช่องโหว่นี้ถึงเกิดขึ้น ➡️ Export control ของสหรัฐเน้น “การส่งออกฮาร์ดแวร์” ไม่ใช่ “การเข้าถึงระยะไกล” ➡️ บริษัทจีนสามารถใช้บริการคลาวด์นอกประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ➡️ NVIDIA ไม่สามารถควบคุมการใช้งานชิปหลังจากขายให้ผู้ให้บริการคลาวด์แล้ว ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ บริษัทจีนยังสามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้แม้ถูกแบน ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนได้ประโยชน์จากดีมานด์ GPU ที่สูงขึ้น ➡️ สหรัฐอาจต้องออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้ ✅ บริบทเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ การแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐ–จีนกำลังย้ายจาก “ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ “การควบคุมการเข้าถึง” ➡️ ช่องโหว่การเช่าอาจกลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับนโยบายในปี 2026 ➡️ NVIDIA อยู่ในตำแหน่งลำบาก เพราะต้องขายชิปให้ได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎสหรัฐ https://wccftech.com/china-tencent-gains-access-to-nvidia-blackwell-ai-chips-by-leveraging-the-rental-loophole/
    WCCFTECH.COM
    China's Tencent Gains Access to the "Banned" NVIDIA's Blackwell B200 AI Chips by Leveraging the Rental Loophole in U.S. Export Controls
    While Blackwell is banned from being exported to China, domestic AI giants have found their workarounds to access NVIDIA's latest technology.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • โค้งสุดท้ายมาเลเซีย ไกล่เกลี่ยไทย-กัมพูชา

    ในวันที่ 22 ธ.ค. มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นชอบร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมาเลเซีย ก่อนหมดวาระและส่งต่อหน้าที่ประธานอาเซียน ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2569

    ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์โทรศัพท์ไปยังนายอนุทิน และนายฮุน มาเนต ก่อนที่จะกล่าวว่า ขอย้ำถึงความสําคัญสําหรับกัมพูชาและประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญาและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมดังกล่าวเป็นรูปแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย แก้ไขความต่างได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน

    อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 ไปยังเป้าหมายพลเรือนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เสียชีวิต 12 ราย ถึงบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก่อนหน้านี้นายอันวาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิง และลงนามปฎิญญาสันติภาพ โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสักขีพยาน แต่กัมพูชายังคงลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและพิการ กลายเป็นการปะทะรอบสองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. แม้นายอันวาร์จะประกาศให้หยุดยิง โดยมีนายฮุน มาเนตตอบรับ แต่เมื่อถึงเวลากลับยังมีการปะทะอยู่ นายอันวาร์หน้าแตกมาแล้วถึงสองครั้ง พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่าการเข้าแทรกแซงเหมาะสมหรือไม่

    หลังพ้นจากตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ทิศทางการเมืองของรัฐบาลนายอันวาร์ จะกลับไปสู่ความสนใจการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการปฎิรูปการเมือง และการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 16 (General Election หรือ GE16) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 2571 ซึ่งนายอันวาร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปยังเหลืออีกนาน ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ก่อนหน้านี้กลุ่มการเมืองปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) ของนายอันวาร์ พ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับรัฐแบบยับเยินที่รัฐซาบาห์ และในปี 2569 กำลังจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์

    #Newskit
    โค้งสุดท้ายมาเลเซีย ไกล่เกลี่ยไทย-กัมพูชา ในวันที่ 22 ธ.ค. มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นชอบร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมาเลเซีย ก่อนหมดวาระและส่งต่อหน้าที่ประธานอาเซียน ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2569 ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์โทรศัพท์ไปยังนายอนุทิน และนายฮุน มาเนต ก่อนที่จะกล่าวว่า ขอย้ำถึงความสําคัญสําหรับกัมพูชาและประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญาและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมดังกล่าวเป็นรูปแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย แก้ไขความต่างได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 ไปยังเป้าหมายพลเรือนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เสียชีวิต 12 ราย ถึงบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก่อนหน้านี้นายอันวาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิง และลงนามปฎิญญาสันติภาพ โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสักขีพยาน แต่กัมพูชายังคงลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและพิการ กลายเป็นการปะทะรอบสองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. แม้นายอันวาร์จะประกาศให้หยุดยิง โดยมีนายฮุน มาเนตตอบรับ แต่เมื่อถึงเวลากลับยังมีการปะทะอยู่ นายอันวาร์หน้าแตกมาแล้วถึงสองครั้ง พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่าการเข้าแทรกแซงเหมาะสมหรือไม่ หลังพ้นจากตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ทิศทางการเมืองของรัฐบาลนายอันวาร์ จะกลับไปสู่ความสนใจการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการปฎิรูปการเมือง และการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 16 (General Election หรือ GE16) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 2571 ซึ่งนายอันวาร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปยังเหลืออีกนาน ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ก่อนหน้านี้กลุ่มการเมืองปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) ของนายอันวาร์ พ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับรัฐแบบยับเยินที่รัฐซาบาห์ และในปี 2569 กำลังจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง แตกคอ แตกคอ
    “แตกคอ แตกคอก”
    ตอน 1
    กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว
    เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ
    ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก
    ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย
    ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก
    แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง
    ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน
    เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล…
    อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน
    แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย
    และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน
    ###############
ตอน 2
    เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ
    โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน
    โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ
    แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้
    เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม
    จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน
    และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ
    แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว
    ###############
ตอน 3
    ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย
    สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง
    การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว…
    หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!!
    แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่
    การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย
    เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย
    แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก
    การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว
    …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้)
    ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน
    โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง….
    ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    เรื่อง แตกคอ แตกคอ “แตกคอ แตกคอก” ตอน 1 กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล… อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน ###############
ตอน 2 เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้ เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว ###############
ตอน 3 ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว… หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!! แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่ การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้) ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง…. ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อพูดถึงคำว่า "นรก" คนไทยส่วนใหญ่อาจนึกถึงเรื่องราวทางศาสนา ภาพของไฟลุกท่วม ดวงวิญญาณรับกรรม และยมบาลตัดสินโทษ
    .
    แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเมืองที่มีชื่อว่า "Hell" (เฮลล์) หรือก็คือ "นรก" อยู่จริง! และไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยความหดหู่หรือความทุกข์ทรมาน แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมถนนที่เต็มไปด้วยความขบขันและไอเดียสุดแหวกแนว
    .
    เมืองนรกแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวผ่านมาแวะถ่ายรูป เล่นมุก และซื้อของที่ระลึกแบบสุดกวน ความพิเศษของมันคือ แม้ว่าชื่อจะดูดุดันและฟังดูเหมือนเรื่องของศาสนา แต่แท้จริงแล้ว เมืองนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปลุกจิตสำนึกทางศาสนาแต่อย่างใด แต่มันเกิดจากความขี้เล่นของชายชราคนหนึ่ง
    .
    อ่าน "Hell, Michigan: เมืองนรกที่มีจริงในอเมริกา หรือแค่เรื่องขำขัน?" ได้ที่
    https://www.keangun.com/article/11943
    #บทความ
    #ท่องเที่ยว
    #ความรู้
    #เที่ยวต่างประเทศ
    #Michigan
    #Hell
    #นิตยสาร
    #เขียนกันดอทคอม
    #Keangun
    เมื่อพูดถึงคำว่า "นรก" คนไทยส่วนใหญ่อาจนึกถึงเรื่องราวทางศาสนา ภาพของไฟลุกท่วม ดวงวิญญาณรับกรรม และยมบาลตัดสินโทษ . แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเมืองที่มีชื่อว่า "Hell" (เฮลล์) หรือก็คือ "นรก" อยู่จริง! และไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยความหดหู่หรือความทุกข์ทรมาน แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมถนนที่เต็มไปด้วยความขบขันและไอเดียสุดแหวกแนว . เมืองนรกแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวผ่านมาแวะถ่ายรูป เล่นมุก และซื้อของที่ระลึกแบบสุดกวน ความพิเศษของมันคือ แม้ว่าชื่อจะดูดุดันและฟังดูเหมือนเรื่องของศาสนา แต่แท้จริงแล้ว เมืองนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปลุกจิตสำนึกทางศาสนาแต่อย่างใด แต่มันเกิดจากความขี้เล่นของชายชราคนหนึ่ง . อ่าน "Hell, Michigan: เมืองนรกที่มีจริงในอเมริกา หรือแค่เรื่องขำขัน?" ได้ที่ https://www.keangun.com/article/11943 #บทความ #ท่องเที่ยว #ความรู้ #เที่ยวต่างประเทศ #Michigan #Hell #นิตยสาร #เขียนกันดอทคอม #Keangun
    WWW.KEANGUN.COM
    Hell, Michigan: เมืองนรกที่มีจริงในอเมริกา หรือแค่เรื่องขำขัน?
    เมื่อพูดถึงคำว่า "นรก" คนไทยส่วนใหญ่อาจนึกถึงเรื่องราวทางศาสนา ภาพของไฟลุกท่วม ดวงวิญญาณรับกรรม และยมบาลตัดสินโทษ แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเมืองที่มีชื่อว่า "Hell" (เฮลล์) หรือก็คือ "นรก" อยู่จริง!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง
    .
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน
    .
    การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601
    .
    #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด . อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน . การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601 . #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุสะเทือนขวัญกลางกรุงไทเป คนร้ายใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายประชาชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย
    .
    ก่อนถูกตำรวจไล่ล่ากดดันอย่างหนัก คนร้ายพลัดตกจากอาคารเสียชีวิตในเวลาต่อมา
    .
    นายกฯ ไต้หวันเผย ผู้ก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมและหมายจับค้างอยู่ เร่งสอบแรงจูงใจและความเกี่ยวข้องทั้งหมด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122492
    .
    #News1live #News1 #ไทเป #ข่าวต่างประเทศ #เหตุระทึก
    เกิดเหตุสะเทือนขวัญกลางกรุงไทเป คนร้ายใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายประชาชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย . ก่อนถูกตำรวจไล่ล่ากดดันอย่างหนัก คนร้ายพลัดตกจากอาคารเสียชีวิตในเวลาต่อมา . นายกฯ ไต้หวันเผย ผู้ก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมและหมายจับค้างอยู่ เร่งสอบแรงจูงใจและความเกี่ยวข้องทั้งหมด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122492 . #News1live #News1 #ไทเป #ข่าวต่างประเทศ #เหตุระทึก
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันพิจารณากฎ N-2 สำหรับการส่งออก

    รัฐบาลไต้หวันกังวลว่าการขยายโรงงานของ TSMC ในสหรัฐฯ อาจทำให้ความเป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศลดลง จึงเสนอ N-2 rule ที่อนุญาตให้ส่งออกเฉพาะเทคโนโลยีที่ล้าหลังจากระดับสูงสุดในประเทศอย่างน้อยสองเจเนอเรชัน เดิมทีใช้กฎ N-1 ที่อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชัน

    ผลกระทบต่อการขยายโรงงานในสหรัฐฯ
    หากกฎใหม่ถูกบังคับใช้ โรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในรัฐแอริโซนา ซึ่งปัจจุบันผลิตชิปที่ระดับ N4/N5 จะยังสอดคล้องกับกฎ แต่เมื่อโรงงานเฟส 2 เริ่มผลิตที่ระดับ N3 ในปี 2027 อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เพราะ N3 ถือว่าล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชันจาก N2 ที่จะผลิตในไต้หวัน

    มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    การจำกัดการส่งออกนี้สะท้อนถึงความพยายามของไต้หวันในการรักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีและป้องกันการสูญเสียทรัพยากรบุคคลด้าน R&D ไปต่างประเทศ รัฐบาลยังเน้นว่าบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของทรัพย์สินทางปัญญา

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    แม้กฎนี้จะช่วยรักษาความเป็นผู้นำของไต้หวัน แต่ก็อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว และกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีล่าสุดในตลาดโลก

    สรุปเป็นหัวข้อ
    กฎ N-2 ที่เสนอโดยไต้หวัน
    อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังอย่างน้อย 2 เจเนอเรชัน
    เดิมใช้กฎ N-1 ที่ล้าหลังเพียง 1 เจเนอเรชัน

    ผลกระทบต่อโรงงานในสหรัฐฯ
    Fab 21 เฟส 1 (N4/N5) ยังสอดคล้องกับกฎ
    Fab 21 เฟส 2 (N3) ในปี 2027 อาจไม่สอดคล้อง

    มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    รักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีของไต้หวัน
    ควบคุมบุคลากร R&D และป้องกันการรั่วไหลของ IP

    คำเตือนและความท้าทาย
    อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว
    กระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ
    สร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-considers-tsmc-export-ban-that-would-prevent-manufacturing-its-newest-chip-nodes-in-u-s-limit-exports-to-two-generations-behind-leading-edge-nodes-could-slow-down-u-s-expansion
    🏭 ไต้หวันพิจารณากฎ N-2 สำหรับการส่งออก รัฐบาลไต้หวันกังวลว่าการขยายโรงงานของ TSMC ในสหรัฐฯ อาจทำให้ความเป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศลดลง จึงเสนอ N-2 rule ที่อนุญาตให้ส่งออกเฉพาะเทคโนโลยีที่ล้าหลังจากระดับสูงสุดในประเทศอย่างน้อยสองเจเนอเรชัน เดิมทีใช้กฎ N-1 ที่อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชัน ⚡ ผลกระทบต่อการขยายโรงงานในสหรัฐฯ หากกฎใหม่ถูกบังคับใช้ โรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในรัฐแอริโซนา ซึ่งปัจจุบันผลิตชิปที่ระดับ N4/N5 จะยังสอดคล้องกับกฎ แต่เมื่อโรงงานเฟส 2 เริ่มผลิตที่ระดับ N3 ในปี 2027 อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เพราะ N3 ถือว่าล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชันจาก N2 ที่จะผลิตในไต้หวัน 🌐 มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ การจำกัดการส่งออกนี้สะท้อนถึงความพยายามของไต้หวันในการรักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีและป้องกันการสูญเสียทรัพยากรบุคคลด้าน R&D ไปต่างประเทศ รัฐบาลยังเน้นว่าบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของทรัพย์สินทางปัญญา ⚠️ ข้อควรระวังและความท้าทาย แม้กฎนี้จะช่วยรักษาความเป็นผู้นำของไต้หวัน แต่ก็อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว และกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีล่าสุดในตลาดโลก 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ กฎ N-2 ที่เสนอโดยไต้หวัน ➡️ อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังอย่างน้อย 2 เจเนอเรชัน ➡️ เดิมใช้กฎ N-1 ที่ล้าหลังเพียง 1 เจเนอเรชัน ✅ ผลกระทบต่อโรงงานในสหรัฐฯ ➡️ Fab 21 เฟส 1 (N4/N5) ยังสอดคล้องกับกฎ ➡️ Fab 21 เฟส 2 (N3) ในปี 2027 อาจไม่สอดคล้อง ✅ มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ ➡️ รักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีของไต้หวัน ➡️ ควบคุมบุคลากร R&D และป้องกันการรั่วไหลของ IP ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว ⛔ กระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ ⛔ สร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตร https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-considers-tsmc-export-ban-that-would-prevent-manufacturing-its-newest-chip-nodes-in-u-s-limit-exports-to-two-generations-behind-leading-edge-nodes-could-slow-down-u-s-expansion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 1

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย ( มี 5 ตอน)
    ตอนสุดท้าย 1
    ตกลงข่าวเรื่องกษัตริย์ซาลมานป่วยหนัก รวมทั้งข่าวปฏิวัติในซาอุดิอารเบีย ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ มันเป็นข่าวลือ ข่าวลวง โดยใคร และ หวังผลอะไร
    ข่าวที่ว่ากษัตริย์ป่วยหนัก ถึงขนาดไม่รู้ตัว ความจำเสื่อม ทำร้ายตัวเอง จนต้องเอาเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาล น่าจะเป็นข่าวลือแบบโคมลอย จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ต่อทั้งตัวกษัตริย์เอง ราชวงศ์ และประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะจริงๆแล้ว เมื่อ 2 วันนี้เอง มีข่าวว่ากษัตริย์ซาลมานเพิ่งพูดโทรศัพท์กับคุณพี่ปูตินของรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องซีเรีย และอื่นๆ
    ใครล่ะ ที่จะได้ประโยชน์จากข่าวลือทำนองนี้ ก็เป็นได้ทั้งจากภายในซาอุเอง จากฝ่ายที่เสียประโยชน์เสียอำนาจ ที่มีตั้งแต่พวกราชวงศ์ด้วยกัน และ ไม่ใช่พวกราชวงศ์ แต่เคยมีอำนาจและเสียอำนาจ จากคำสั่งของกษัตริย์ซาลมาน ที่เปลี่ยนแปลงผู้มีหน้าที่สำคัญหลายคน ทั้งในเดือนมกราคม และเดือนเมษายน
    ส่วนจากภายนอกประเทศ อเมริกาคงไม่แคล้วตกเป็นจำเลย ตัวการให้ปล่อยข่าว เพราะสื่อที่ลงข่าวลือ รายแรกคืออิสราเอล ตามมาด้วยสื่อในตะวันออกกลางและสื่ออังกฤษ ก็เป็นพรรคพวกของของอเมริการะดับชั้นต่างๆ ทั้งนั้น
    ถ้าอเมริกาให้ปล่อยข่าวลือ หรือข่าวลวงนี้ แปลว่า อเมริกาต้องมีความไม่พอใจหรือ ต้องการกดดัน ซาอุดิอารเบีย ถ้าพิจารณาจาก บทความของคุณซีไอเอเขี้ยวยาวแล้ว คงพอเห็นอาการเฟืองขัดเกลียวบิ่น ระหว่างซาอุดิ อารเบียกับอเมริกา ค่อนข้างชัดเจน แม้คำชม หรือคำบอกเล่า ก็ยังมีการแฝงหลายนัย เกินกว่าที่จะแปลว่า เขารักกันจริง คงเป็นแค่ ยังทิ้งกันไม่ได้มากกว่า
    และถ้ามีความไม่พอใจ อเมริกาไม่พอใจซาอุดิอารเบีย เกี่ยวกับการเรื่องราชวงศ์ หรือไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน หรืออเมริกาไม่พอใจ ทั้ง 2 เรื่อง
    คงต้องทำความเข้าใจ กับวิธีการคิดของอเมริกาเสียก่อน อเมริกาไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงในซาอุดิอารเบียว่า จะดีหรือไม่ดีกับซาอุดิอารเบียอย่างไร อเมริกามองกลับทางว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น กระทบกับผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ อย่างไร มากกว่า และด้วยความคิดอย่างนี้ อเมริกาจึงให้ความ “สนใจ” กับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับราชวงศ์ ซาอุดิอารเบียในระดับสูงมาก เพราะราชวงศ์ซาอูด คือ “อำนาจ” ของซาอุดิอารเบีย และอเมริกา กับซาอุดิอารเบีย ก็มีเรื่องเกี่ยวพันกันมากมาย การเปลี่ยนแปลงของ “อำนาจ” ในซาอุดิอารเบีย จึงอาจจะกระทบกับอเมริกามาก มันไม่ใช่เรื่องอเมริกา ชอบ ไม่ชอบใคร
    จะว่าไป อเมริกาก็สนใจมองความเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “อำนาจ” ของทุกประเทศ ในวิธีคิดอย่างนี้แหละ สนใจมากน้อย ก็แล้วแต่ “ประโยชน์” ที่อเมริกาจะได้จะเสียในประเทศนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และถ้าเราไม่ทำความเข้าใจในความคิดนี้ หรือ “สันดาน” ที่แท้จริงของอเมริกาว่าเป็นอย่างนี้ เราก็คงจะสับสน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของอเมริกา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นมาเกี่ยวกับบ้านเรา และเราสับสนในพฤติกรรมและสันดานของอเมริกาแล้ว เราก็ไม่แคล้ว ที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือ ถูกใช้เป็นพรมเช็ดเท้าของอเมริกา อย่างที่เป็นๆกัน
    เริ่มที่ผู้ปกครองคนใหม่ของซาอุดิอารเบีย ไม่ว่าบทความจะเขียนโดยใคร จากถังขยะความคิด หรือหน่วยงานใดของรัฐบาลอเมริกัน สิ่งที่สรุปได้ คือ อเมริกาอยากรู้ว่า จะพูดกับคนที่มาใหม่รู้เรื่องไหม คนมาใหม่ เชื่อฟังอเมริกาแค่ไหน นโยบายใหม่ของคนใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของอเมริกาไหม หรือเอาให้ชัดๆ อเมริกา จะ “สั่ง” หรือ “กำกับ” คนปกครองใหม่ ได้มากน้อยแค่ไหน
    เมื่อขึ้นครองราชย์ในเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานอายุ 79 ปีแล้ว อเมริกาจึงมองไปที่มงกุฏราชกุมาร อันดับ 1 และอันดับ 2 กับตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ที่คุมความมั่นคง และผู้ที่คุมนโยบายน้ำมันของซาอุดิอารเบีย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกา ทั้งในซาอุดิอารเบีย และในอเมริกาเองด้วย (หมายเหตุ: ตามธรรมเนียม กษัตริย์ซาอุดิอารเบียจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง)
    สำหรับเจ้าชายมุคริน อายุ 70 ปี มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 อเมริกาคุ้นเคยดี และเห็นว่า “คุย” กันได้ น่าจะมีแนวคิดปฏิรูป ตามที่อเมริกาต้องการ
    มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 เจ้าชาย บิน นาเยฟ อายุ 55 ปี อเมริกาก็คุ้นเคยอีก แม้จะไม่ชอบพ่อ แต่คิดว่า คุยกับลูกได้
    รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียงด้านความมั่นคง ที่กษัตริย์ซาลมาน แต่งตั้งให้ลูกชาย คือ เจ้าชาย บิน ซาลมาน คุมด้านความมั่นคง อเมริกาบอก เป็นไก่อ่อน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อเมริกาก็ยังไม่ขยับอะไร เพราะอาจสั่งไก่อ่อนซ้ายหัน ขวาหันง่ายดี
    กษัตริย์ใหม่ครองราชย์ยังไม่ถึง 3 เดือนดี ปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.2015 ซาอุดิอารเบีย ก็สั่งรวมพล พรรคพวก มีอียิปต์ มอรอคโค จอร์แดน อามิเรต คูเวต การ์ตา บาห์เรน รวมไปถึงซูดาน เพื่อโจมตีพวกฮูตติ ที่ยึดครองเยเมนได้ จากสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาปีกว่า และไล่รัฐบาลเยเมน ที่ซาอุสนับสนุนกระเจิงออกไป
    ซาอุดิอารเบีย ยอมให้พวกฮูตติครอบครองเยเมนไม่ได้ เพราะพวกฮูตตินี้ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่แข่งสำคัญของซาอุดิ และเยเมนก็อยู่ติดกับซาอุดิอารเบีย ขนาดมองเห็นขนจมูกกัน วันที่ 26 มีนาคม ซาอุอารเบีย จึงสั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศของฮูตติ ที่เมือง Taiz และเมือง Sa’dah
    การยิงจรวดถล่มเยเมน รายการดังกล่าว อเมริการู้เรื่องดี เพราะเป็นคนให้ข้อมูลข่าวกรอง และบอกสภาพพื้นที่แก่ซาอุดิอารเบีย อย่างนี้น่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องพูด เพราะพวกราชวงศ์ซาอูดบอกแล้วว่า ยังไม่อยากเป็นเหมือนควีนเอลิ ซาเบธของอังกฤษ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เป็นไร มีน้ำมันแยะแบบนี้ จะทำอะไรก็ได้ อเมริกาไม่สั่งคว่ำบาตร ไม่ตัดสัมพันธ์ ไม่เดินสายให้นานาชาติช่วยกันด่า แน่นอน รักกันฉิบหายเลย
    คุณทหารช่วยจำไว้นะครับ เคลื่อนทัพคราวหน้า อย่าทำแค่ปฏิวัติ ปิดช่องแคบมะละกามันด้วยเลย หมดเรื่อง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 1 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย ( มี 5 ตอน) ตอนสุดท้าย 1 ตกลงข่าวเรื่องกษัตริย์ซาลมานป่วยหนัก รวมทั้งข่าวปฏิวัติในซาอุดิอารเบีย ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ มันเป็นข่าวลือ ข่าวลวง โดยใคร และ หวังผลอะไร ข่าวที่ว่ากษัตริย์ป่วยหนัก ถึงขนาดไม่รู้ตัว ความจำเสื่อม ทำร้ายตัวเอง จนต้องเอาเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาล น่าจะเป็นข่าวลือแบบโคมลอย จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ต่อทั้งตัวกษัตริย์เอง ราชวงศ์ และประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะจริงๆแล้ว เมื่อ 2 วันนี้เอง มีข่าวว่ากษัตริย์ซาลมานเพิ่งพูดโทรศัพท์กับคุณพี่ปูตินของรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องซีเรีย และอื่นๆ ใครล่ะ ที่จะได้ประโยชน์จากข่าวลือทำนองนี้ ก็เป็นได้ทั้งจากภายในซาอุเอง จากฝ่ายที่เสียประโยชน์เสียอำนาจ ที่มีตั้งแต่พวกราชวงศ์ด้วยกัน และ ไม่ใช่พวกราชวงศ์ แต่เคยมีอำนาจและเสียอำนาจ จากคำสั่งของกษัตริย์ซาลมาน ที่เปลี่ยนแปลงผู้มีหน้าที่สำคัญหลายคน ทั้งในเดือนมกราคม และเดือนเมษายน ส่วนจากภายนอกประเทศ อเมริกาคงไม่แคล้วตกเป็นจำเลย ตัวการให้ปล่อยข่าว เพราะสื่อที่ลงข่าวลือ รายแรกคืออิสราเอล ตามมาด้วยสื่อในตะวันออกกลางและสื่ออังกฤษ ก็เป็นพรรคพวกของของอเมริการะดับชั้นต่างๆ ทั้งนั้น ถ้าอเมริกาให้ปล่อยข่าวลือ หรือข่าวลวงนี้ แปลว่า อเมริกาต้องมีความไม่พอใจหรือ ต้องการกดดัน ซาอุดิอารเบีย ถ้าพิจารณาจาก บทความของคุณซีไอเอเขี้ยวยาวแล้ว คงพอเห็นอาการเฟืองขัดเกลียวบิ่น ระหว่างซาอุดิ อารเบียกับอเมริกา ค่อนข้างชัดเจน แม้คำชม หรือคำบอกเล่า ก็ยังมีการแฝงหลายนัย เกินกว่าที่จะแปลว่า เขารักกันจริง คงเป็นแค่ ยังทิ้งกันไม่ได้มากกว่า และถ้ามีความไม่พอใจ อเมริกาไม่พอใจซาอุดิอารเบีย เกี่ยวกับการเรื่องราชวงศ์ หรือไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน หรืออเมริกาไม่พอใจ ทั้ง 2 เรื่อง คงต้องทำความเข้าใจ กับวิธีการคิดของอเมริกาเสียก่อน อเมริกาไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงในซาอุดิอารเบียว่า จะดีหรือไม่ดีกับซาอุดิอารเบียอย่างไร อเมริกามองกลับทางว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น กระทบกับผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ อย่างไร มากกว่า และด้วยความคิดอย่างนี้ อเมริกาจึงให้ความ “สนใจ” กับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับราชวงศ์ ซาอุดิอารเบียในระดับสูงมาก เพราะราชวงศ์ซาอูด คือ “อำนาจ” ของซาอุดิอารเบีย และอเมริกา กับซาอุดิอารเบีย ก็มีเรื่องเกี่ยวพันกันมากมาย การเปลี่ยนแปลงของ “อำนาจ” ในซาอุดิอารเบีย จึงอาจจะกระทบกับอเมริกามาก มันไม่ใช่เรื่องอเมริกา ชอบ ไม่ชอบใคร จะว่าไป อเมริกาก็สนใจมองความเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “อำนาจ” ของทุกประเทศ ในวิธีคิดอย่างนี้แหละ สนใจมากน้อย ก็แล้วแต่ “ประโยชน์” ที่อเมริกาจะได้จะเสียในประเทศนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และถ้าเราไม่ทำความเข้าใจในความคิดนี้ หรือ “สันดาน” ที่แท้จริงของอเมริกาว่าเป็นอย่างนี้ เราก็คงจะสับสน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของอเมริกา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นมาเกี่ยวกับบ้านเรา และเราสับสนในพฤติกรรมและสันดานของอเมริกาแล้ว เราก็ไม่แคล้ว ที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือ ถูกใช้เป็นพรมเช็ดเท้าของอเมริกา อย่างที่เป็นๆกัน เริ่มที่ผู้ปกครองคนใหม่ของซาอุดิอารเบีย ไม่ว่าบทความจะเขียนโดยใคร จากถังขยะความคิด หรือหน่วยงานใดของรัฐบาลอเมริกัน สิ่งที่สรุปได้ คือ อเมริกาอยากรู้ว่า จะพูดกับคนที่มาใหม่รู้เรื่องไหม คนมาใหม่ เชื่อฟังอเมริกาแค่ไหน นโยบายใหม่ของคนใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของอเมริกาไหม หรือเอาให้ชัดๆ อเมริกา จะ “สั่ง” หรือ “กำกับ” คนปกครองใหม่ ได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อขึ้นครองราชย์ในเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานอายุ 79 ปีแล้ว อเมริกาจึงมองไปที่มงกุฏราชกุมาร อันดับ 1 และอันดับ 2 กับตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ที่คุมความมั่นคง และผู้ที่คุมนโยบายน้ำมันของซาอุดิอารเบีย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกา ทั้งในซาอุดิอารเบีย และในอเมริกาเองด้วย (หมายเหตุ: ตามธรรมเนียม กษัตริย์ซาอุดิอารเบียจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง) สำหรับเจ้าชายมุคริน อายุ 70 ปี มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 อเมริกาคุ้นเคยดี และเห็นว่า “คุย” กันได้ น่าจะมีแนวคิดปฏิรูป ตามที่อเมริกาต้องการ มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 เจ้าชาย บิน นาเยฟ อายุ 55 ปี อเมริกาก็คุ้นเคยอีก แม้จะไม่ชอบพ่อ แต่คิดว่า คุยกับลูกได้ รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียงด้านความมั่นคง ที่กษัตริย์ซาลมาน แต่งตั้งให้ลูกชาย คือ เจ้าชาย บิน ซาลมาน คุมด้านความมั่นคง อเมริกาบอก เป็นไก่อ่อน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อเมริกาก็ยังไม่ขยับอะไร เพราะอาจสั่งไก่อ่อนซ้ายหัน ขวาหันง่ายดี กษัตริย์ใหม่ครองราชย์ยังไม่ถึง 3 เดือนดี ปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.2015 ซาอุดิอารเบีย ก็สั่งรวมพล พรรคพวก มีอียิปต์ มอรอคโค จอร์แดน อามิเรต คูเวต การ์ตา บาห์เรน รวมไปถึงซูดาน เพื่อโจมตีพวกฮูตติ ที่ยึดครองเยเมนได้ จากสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาปีกว่า และไล่รัฐบาลเยเมน ที่ซาอุสนับสนุนกระเจิงออกไป ซาอุดิอารเบีย ยอมให้พวกฮูตติครอบครองเยเมนไม่ได้ เพราะพวกฮูตตินี้ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่แข่งสำคัญของซาอุดิ และเยเมนก็อยู่ติดกับซาอุดิอารเบีย ขนาดมองเห็นขนจมูกกัน วันที่ 26 มีนาคม ซาอุอารเบีย จึงสั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศของฮูตติ ที่เมือง Taiz และเมือง Sa’dah การยิงจรวดถล่มเยเมน รายการดังกล่าว อเมริการู้เรื่องดี เพราะเป็นคนให้ข้อมูลข่าวกรอง และบอกสภาพพื้นที่แก่ซาอุดิอารเบีย อย่างนี้น่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องพูด เพราะพวกราชวงศ์ซาอูดบอกแล้วว่า ยังไม่อยากเป็นเหมือนควีนเอลิ ซาเบธของอังกฤษ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เป็นไร มีน้ำมันแยะแบบนี้ จะทำอะไรก็ได้ อเมริกาไม่สั่งคว่ำบาตร ไม่ตัดสัมพันธ์ ไม่เดินสายให้นานาชาติช่วยกันด่า แน่นอน รักกันฉิบหายเลย คุณทหารช่วยจำไว้นะครับ เคลื่อนทัพคราวหน้า อย่าทำแค่ปฏิวัติ ปิดช่องแคบมะละกามันด้วยเลย หมดเรื่อง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : สนธิเปิดหลักฐาน โดรนในสงครามไทย-เขมร เป็นเทคฯจากต่างประเทศ100%

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #โดรน #โดรนปริศนา #เปิดหลักฐาน
    Newsstory : สนธิเปิดหลักฐาน โดรนในสงครามไทย-เขมร เป็นเทคฯจากต่างประเทศ100% #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โดรน #โดรนปริศนา #เปิดหลักฐาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Texas Instruments เปิดโรงงานใหม่ ผลิตชิปวันละหลายสิบล้าน

    Texas Instruments (TI) ประกาศเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร แห่งใหม่ที่เมือง Sherman รัฐเท็กซัส หลังจากลงทุนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่แห่งที่ TI วางแผนสร้างเพื่อเสริมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โรงงานแรก (SM1) เริ่มเดินเครื่องแล้ว และพร้อมส่งมอบชิปให้ลูกค้าในตลาดทันที

    โรงงาน SM1 จะเน้นผลิตชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ และระบบพลังงานในศูนย์ข้อมูล ไม่ได้มุ่งผลิตชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเหมือน Intel หรือ TSMC แต่จะเน้นตลาดที่ต้องการความเสถียรและการผลิตในปริมาณมหาศาล ซึ่ง TI มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท

    การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Made in USA” เพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ TI คาดว่าโรงงานทั้งสี่แห่งใน Sherman จะสร้างงานโดยตรงกว่า 3,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน TI ก็ทยอยปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มิลลิเมตร เพื่อปรับสมดุลกำลังการผลิตไปสู่มาตรฐานใหม่

    นอกจากการเพิ่มกำลังผลิตแล้ว TI ยังเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น การลดการใช้พลังงานขณะสแตนด์บาย การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และการลดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เพื่อให้ชิปที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การลงทุนครั้งใหญ่ของ TI
    มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 4 แห่งที่ Sherman, Texas

    โรงงาน SM1 เริ่มผลิตแล้ว
    เน้นชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น รถยนต์และศูนย์ข้อมูล

    ผลกระทบต่อการจ้างงาน
    คาดว่าจะสร้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่งในพื้นที่

    การปรับสมดุลกำลังการผลิต
    ปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มม. เพื่อย้ายไปสู่มาตรฐาน 300 มม.

    การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน
    ลดการใช้พลังงานสแตนด์บาย เพิ่มความหนาแน่น และลด EMI

    คำเตือนด้านการแข่งขันและห่วงโซ่อุปทาน
    TI ไม่ได้ผลิตชิปขั้นสูงสำหรับ AI หรือ HPC อาจเสียเปรียบในตลาดประสิทธิภาพสูง
    แม้จะช่วยเสริมความมั่นคง แต่การลงทุนมหาศาลยังเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/new-texas-instruments-fab-will-pump-out-tens-of-millions-of-chips-per-day-first-300mm-fab-starts-production-after-usd60-billion-investment
    🏭 Texas Instruments เปิดโรงงานใหม่ ผลิตชิปวันละหลายสิบล้าน Texas Instruments (TI) ประกาศเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร แห่งใหม่ที่เมือง Sherman รัฐเท็กซัส หลังจากลงทุนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่แห่งที่ TI วางแผนสร้างเพื่อเสริมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โรงงานแรก (SM1) เริ่มเดินเครื่องแล้ว และพร้อมส่งมอบชิปให้ลูกค้าในตลาดทันที โรงงาน SM1 จะเน้นผลิตชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ และระบบพลังงานในศูนย์ข้อมูล ไม่ได้มุ่งผลิตชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเหมือน Intel หรือ TSMC แต่จะเน้นตลาดที่ต้องการความเสถียรและการผลิตในปริมาณมหาศาล ซึ่ง TI มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Made in USA” เพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ TI คาดว่าโรงงานทั้งสี่แห่งใน Sherman จะสร้างงานโดยตรงกว่า 3,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน TI ก็ทยอยปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มิลลิเมตร เพื่อปรับสมดุลกำลังการผลิตไปสู่มาตรฐานใหม่ นอกจากการเพิ่มกำลังผลิตแล้ว TI ยังเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น การลดการใช้พลังงานขณะสแตนด์บาย การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และการลดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เพื่อให้ชิปที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ของ TI ➡️ มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 4 แห่งที่ Sherman, Texas ✅ โรงงาน SM1 เริ่มผลิตแล้ว ➡️ เน้นชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น รถยนต์และศูนย์ข้อมูล ✅ ผลกระทบต่อการจ้างงาน ➡️ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่งในพื้นที่ ✅ การปรับสมดุลกำลังการผลิต ➡️ ปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มม. เพื่อย้ายไปสู่มาตรฐาน 300 มม. ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน ➡️ ลดการใช้พลังงานสแตนด์บาย เพิ่มความหนาแน่น และลด EMI ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขันและห่วงโซ่อุปทาน ⛔ TI ไม่ได้ผลิตชิปขั้นสูงสำหรับ AI หรือ HPC อาจเสียเปรียบในตลาดประสิทธิภาพสูง ⛔ แม้จะช่วยเสริมความมั่นคง แต่การลงทุนมหาศาลยังเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/new-texas-instruments-fab-will-pump-out-tens-of-millions-of-chips-per-day-first-300mm-fab-starts-production-after-usd60-billion-investment
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag

    Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที

    Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้

    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การตรวจจับด้วย Keystroke Lag
    พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ

    จำนวนความพยายามแฝงตัว
    Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส

    เป้าหมายของการแฝงตัว
    เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง
    ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว

    คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร
    การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด
    พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    🛡️ Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การตรวจจับด้วย Keystroke Lag ➡️ พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ ✅ จำนวนความพยายามแฝงตัว ➡️ Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส ✅ เป้าหมายของการแฝงตัว ➡️ เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม ✅ การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง ➡️ ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร ⛔ การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ⛔ พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8
    “ข่าวลือ ข่าวลวง”

    ตอน 8

    เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว

    อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป

    เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย

    แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้….

    เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย

    สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน

    เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด

    สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ

    แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ

    อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน

    การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ

    ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง

    …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก…
    และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว

    และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย

    สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย

    การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง…

    อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง….

    นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน

    และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ

    …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ

    ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น…

    ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน
    ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป…

    ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 8 เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้…. เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก… และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง… อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง…. นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น… ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป… ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตาบทบาทจีนต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนเตรียมส่งทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียเดินทางไปกัมพูชาและไทยในวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อไกล่เกลี่ยความตึงเครียด
    .
    จีนระบุว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านและมิตรของทั้งสองฝ่าย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดน และได้พยายามส่งเสริมการเจรจาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ทั้งไทยและกัมพูชาเดินหน้าเข้าหากัน และฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็ว
    .
    ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ยังคงดำเนินอยู่ ขณะที่จีนย้ำว่าความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศกับทั้งสองชาติในอดีต ไม่ได้มุ่งเป้าไปยังประเทศที่สาม และไม่เกี่ยวข้องกับการปะทะในปัจจุบัน
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121658
    .
    #News1live #News1 #จีน #ทูตพิเศษจีน #ไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #การทูต #สันติภาพ #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    จับตาบทบาทจีนต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนเตรียมส่งทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียเดินทางไปกัมพูชาและไทยในวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อไกล่เกลี่ยความตึงเครียด . จีนระบุว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านและมิตรของทั้งสองฝ่าย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดน และได้พยายามส่งเสริมการเจรจาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ทั้งไทยและกัมพูชาเดินหน้าเข้าหากัน และฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็ว . ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ยังคงดำเนินอยู่ ขณะที่จีนย้ำว่าความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศกับทั้งสองชาติในอดีต ไม่ได้มุ่งเป้าไปยังประเทศที่สาม และไม่เกี่ยวข้องกับการปะทะในปัจจุบัน . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121658 . #News1live #News1 #จีน #ทูตพิเศษจีน #ไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #การทูต #สันติภาพ #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า ไทยและกัมพูชาตอบรับเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษ วันที่ 22 ธันวาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน
    .
    ผู้นำมาเลเซียอ้างว่าการนัดประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรายงานสถานการณ์และขอแรงสนับสนุนในการโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายลดความก้าวร้าว
    .
    อันวาร์ระบุว่า เป้าหมายของการหารือคือการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึก และยุติความตึงเครียดโดยเร็ว พร้อมย้ำมาเลเซียทำหน้าที่ประสาน ไม่ได้สั่งการประเทศสมาชิกอาเซียน
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121656
    .
    #News1live #News1 #อาเซียน #อันวาร์ #ทรัมป์ #ไทยกัมพูชา #ประชุมอาเซียน #การทูต #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า ไทยและกัมพูชาตอบรับเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษ วันที่ 22 ธันวาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน . ผู้นำมาเลเซียอ้างว่าการนัดประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรายงานสถานการณ์และขอแรงสนับสนุนในการโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายลดความก้าวร้าว . อันวาร์ระบุว่า เป้าหมายของการหารือคือการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึก และยุติความตึงเครียดโดยเร็ว พร้อมย้ำมาเลเซียทำหน้าที่ประสาน ไม่ได้สั่งการประเทศสมาชิกอาเซียน . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121656 . #News1live #News1 #อาเซียน #อันวาร์ #ทรัมป์ #ไทยกัมพูชา #ประชุมอาเซียน #การทูต #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Haha
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขยายมาตรการแบนการเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพิ่มอีก 7 ประเทศ รวมถึงลาวและซีเรีย ตลอดจนผู้ถือพาสปอร์ตปาเลสไตน์ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง และการป้องกันภัยคุกคามต่อสังคมอเมริกัน
    .
    ทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายสกัดนักเดินทางจากประเทศที่ถูกมองว่าเป็นความเสี่ยง หลังทรัมป์ใช้ท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นต่อปัญหาคนเข้าเมือง พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯต้องปกป้องเสถียรภาพของประเทศ
    .
    นอกจากลาว ประเทศที่ถูกแบนเพิ่มเติมยังรวมถึงชาติยากจนในแอฟริกาหลายประเทศ ขณะที่บางชาติถูกจำกัดการเดินทางเพียงบางส่วน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121228
    .
    #News1live #News1 #ทรัมป์ #แบนเดินทาง #สหรัฐ #ลาว #ปาเลสไตน์ #การเมืองโลก #ข่าวต่างประเทศ
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขยายมาตรการแบนการเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพิ่มอีก 7 ประเทศ รวมถึงลาวและซีเรีย ตลอดจนผู้ถือพาสปอร์ตปาเลสไตน์ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง และการป้องกันภัยคุกคามต่อสังคมอเมริกัน . ทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายสกัดนักเดินทางจากประเทศที่ถูกมองว่าเป็นความเสี่ยง หลังทรัมป์ใช้ท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นต่อปัญหาคนเข้าเมือง พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯต้องปกป้องเสถียรภาพของประเทศ . นอกจากลาว ประเทศที่ถูกแบนเพิ่มเติมยังรวมถึงชาติยากจนในแอฟริกาหลายประเทศ ขณะที่บางชาติถูกจำกัดการเดินทางเพียงบางส่วน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121228 . #News1live #News1 #ทรัมป์ #แบนเดินทาง #สหรัฐ #ลาว #ปาเลสไตน์ #การเมืองโลก #ข่าวต่างประเทศ
    Like
    Haha
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts