• พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : MGR PHOTO
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : MGR PHOTO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระราชินี ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เสมอทีมจีน ในการแข่งขันนัดกระชับมิตร
    เมื่อเวลา 18.26 น. วันที่ 6 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
    ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย
    กระทั่งเวลา 19.34 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ประเทศไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทีมนักกีฬาไทยทำคะแนนขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน และตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันต่อสู้ทำคะแนนอย่างดุเดือด
    เมื่อจบเกมแรกทีมไทยเป็นฝ่ายทำคะแนนขึ้นนำทีมจีนด้วย คะแนน 6:2 ส่วนเกมที่ 2 ทั้ง 2 ทีมต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้เกมแรก ต่างฝ่ายต่างขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างสูสี ทีมจีนเริ่มทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาและเฉือนเอาชนะทีมไทยไปได้ด้วยคะแนน 4:3
    ต่อมากรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันเกมที่ 3 อันเป็นเกมสุดท้ายทั้ง 2 ทีมต่างสู้ไม่ถอยโดยเฉพาะทีมไทยที่มี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นแรงกำลังพระราชหฤทัยอันสำคัญ จึงทำให้ทั้งทีมไทยและทีมจีนต่างผลัดกันทำคะแนนอย่างเต็มกำลัง
    จบปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมทำคะแนนเสมอกันที่ 6:6 สรุปผลการแข่งขันทั้ง 3 เกม ทีมไทยและทีมจีน เสมอกันด้วยคะแนน 6:2 ,4:3 และ 6:6
    #ทรงพระเจริญ

    ที่มา : @เดินตามพ่อ
    https://www.facebook.com/share/vbHWKX5itUPaVQCs/
    พระราชินี ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เสมอทีมจีน ในการแข่งขันนัดกระชับมิตร เมื่อเวลา 18.26 น. วันที่ 6 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย กระทั่งเวลา 19.34 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ประเทศไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทีมนักกีฬาไทยทำคะแนนขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน และตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันต่อสู้ทำคะแนนอย่างดุเดือด เมื่อจบเกมแรกทีมไทยเป็นฝ่ายทำคะแนนขึ้นนำทีมจีนด้วย คะแนน 6:2 ส่วนเกมที่ 2 ทั้ง 2 ทีมต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้เกมแรก ต่างฝ่ายต่างขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างสูสี ทีมจีนเริ่มทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาและเฉือนเอาชนะทีมไทยไปได้ด้วยคะแนน 4:3 ต่อมากรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันเกมที่ 3 อันเป็นเกมสุดท้ายทั้ง 2 ทีมต่างสู้ไม่ถอยโดยเฉพาะทีมไทยที่มี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นแรงกำลังพระราชหฤทัยอันสำคัญ จึงทำให้ทั้งทีมไทยและทีมจีนต่างผลัดกันทำคะแนนอย่างเต็มกำลัง จบปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมทำคะแนนเสมอกันที่ 6:6 สรุปผลการแข่งขันทั้ง 3 เกม ทีมไทยและทีมจีน เสมอกันด้วยคะแนน 6:2 ,4:3 และ 6:6 #ทรงพระเจริญ ที่มา : @เดินตามพ่อ https://www.facebook.com/share/vbHWKX5itUPaVQCs/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลโลก
    รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 คือ พญาอินทรีย์เอง...
    **************
    โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์
    มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!!
    นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้
    นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ

    - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ ราล์ฟ บาร์ริก
    - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ
    ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า
    - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่า ตัวไวรัสเองแท้จริงแล้ว คือ อาวุธชีวภาพ?

    **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า

    - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล
    ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก

    ค้างคาวเข้าไปเพิ่ม

    ความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย
    - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก
    ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพ ที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด
    ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่

    มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม
    ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่า วัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆ กับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่า มีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น
    *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้
    - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า
    ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมาก ที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น.
    >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง
    **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi"
    >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้ มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK
    *** คนในครอบครัวก็มีหลายคน ที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19
    ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว
    หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา"
    ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา
    เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ

    >>># ”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่า อเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า”
    >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทน อย่างน่ารังเกลียดที่สุด
    ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น
    ***ยังมีข้อน่าสงสัย ที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร
    *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015
    - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป
    อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!!
    - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก
    ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว
    - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขา คือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19
    >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจ เพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก***
    >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!!

    **Ny Ny*
    ขอบคุณข้อมูลจาก

    นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    ศาลโลก รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19 ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 คือ พญาอินทรีย์เอง... ************** โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่า ตัวไวรัสเองแท้จริงแล้ว คือ อาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก ค้างคาวเข้าไปเพิ่ม ความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพ ที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่า วัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆ กับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่า มีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้ - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมาก ที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น. >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้ มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคน ที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ >>># ”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่า อเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทน อย่างน่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัย ที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขา คือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19 >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจ เพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! **Ny Ny* ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง ทอดพระเนตร พระราชินี ทรงร่วมแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย

    วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗) เวลา ๑๘.๒๖ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทือนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายหานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หม่อมหลวงกฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแข็งแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการ และคณะทำงาน ฯ เฝ้า ฯ รับเสด็จ

    ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย

    การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ตามลำดับ

    จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยกราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้แทนจากสมาคมฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ นายลุค ทาร์ดิฟ ประธานสหพันธ์ International Ice Hockey Federation (IHF) ทูลเกล้า ฯ ถวายโล่สัญลักษณ์ทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์ ฯ พร้อมใบประกาศ (IIHF Women's Global Ambassador) แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

    โดยสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เป็นทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิง(Women’s Global Ambassador) คนแรกของสหพันธ์ ด้วยพระปรีชาสามารถด้านกีฬาไอซ์ฮอกกี้อันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาปวงพสกนิกรชาวไทยและทั่วโลก เมื่อครั้งโดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงเปิด ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ไอซ์ ฮอกกี้ อารีนา เชียงใหม่ (Thailand International Ice Hockey Arena Chiangmai) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันในนัดเปิดสนามในครั้งนั้นด้วย ทรงสร้างความประทับใจและทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาหญิงจำนวนมาก และทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักกีฬาในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก

    ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแสดงโชว์ในการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย

    จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นฉลองพระองค์นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมราชอาณาจักรไทย เพื่อทรงร่วมแข่งขันกับทีมนักกีฬาฮอกกี้สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน ๓ Period ซึ่งระหว่างที่ทรงแข่งขันอยู่ในสนามนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงทุ่มเทพระวรกายในการแข่งขันอย่างเต็มพระกำลัง โดยเกมการแข่งขันของทั้งสองทีม ดำเนินไปอย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างเข้มข้นจนจบการแข่งขัน

    ประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญและทรงตั้งพระราชหฤทัยในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานให้ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินเยือนและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสองประเทศในโอกาสต่างๆ ดังต่อไปนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายไฉ เจ๋อหมิน เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยคนแรก เข้าเฝ้าฯถวายสาส์นตราตั้ง ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๙

    เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนจีนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน

    วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน โดยนายว่าน หลี่ รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดพิธีต้อนรับณ จัตุรัสด้านตะวันออก ของมหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง และวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับ นาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วยคู่สมรส เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย– แปซิฟิก หรือ เอเปค (Asia – Pacific Economic Cooperation : APEC) ครั้งที่ ๒๙ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น

    การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena ในครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และในโอกาสครบ ๗๕ ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทั้งสองประเทศได้กระชับสัมพันธไมตรีที่ดี ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันนำไปสู่ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในทุกระดับ เพื่อประโยชน์สุขของราษฎรทั้งสองประเทศสืบไป

    #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
    #การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตร
    #สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน

    ที่มา : @พระลาน
    https://www.facebook.com/share/2aTmWcVP1wpm3egn/
    ในหลวง ทอดพระเนตร พระราชินี ทรงร่วมแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗) เวลา ๑๘.๒๖ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทือนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายหานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หม่อมหลวงกฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแข็งแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการ และคณะทำงาน ฯ เฝ้า ฯ รับเสด็จ ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ตามลำดับ จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยกราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้แทนจากสมาคมฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ นายลุค ทาร์ดิฟ ประธานสหพันธ์ International Ice Hockey Federation (IHF) ทูลเกล้า ฯ ถวายโล่สัญลักษณ์ทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์ ฯ พร้อมใบประกาศ (IIHF Women's Global Ambassador) แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี โดยสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เป็นทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิง(Women’s Global Ambassador) คนแรกของสหพันธ์ ด้วยพระปรีชาสามารถด้านกีฬาไอซ์ฮอกกี้อันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาปวงพสกนิกรชาวไทยและทั่วโลก เมื่อครั้งโดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงเปิด ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ไอซ์ ฮอกกี้ อารีนา เชียงใหม่ (Thailand International Ice Hockey Arena Chiangmai) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันในนัดเปิดสนามในครั้งนั้นด้วย ทรงสร้างความประทับใจและทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาหญิงจำนวนมาก และทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักกีฬาในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแสดงโชว์ในการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นฉลองพระองค์นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมราชอาณาจักรไทย เพื่อทรงร่วมแข่งขันกับทีมนักกีฬาฮอกกี้สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน ๓ Period ซึ่งระหว่างที่ทรงแข่งขันอยู่ในสนามนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงทุ่มเทพระวรกายในการแข่งขันอย่างเต็มพระกำลัง โดยเกมการแข่งขันของทั้งสองทีม ดำเนินไปอย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างเข้มข้นจนจบการแข่งขัน ประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญและทรงตั้งพระราชหฤทัยในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานให้ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินเยือนและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสองประเทศในโอกาสต่างๆ ดังต่อไปนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายไฉ เจ๋อหมิน เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยคนแรก เข้าเฝ้าฯถวายสาส์นตราตั้ง ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๙ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนจีนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน โดยนายว่าน หลี่ รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดพิธีต้อนรับณ จัตุรัสด้านตะวันออก ของมหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง และวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับ นาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วยคู่สมรส เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย– แปซิฟิก หรือ เอเปค (Asia – Pacific Economic Cooperation : APEC) ครั้งที่ ๒๙ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena ในครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และในโอกาสครบ ๗๕ ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทั้งสองประเทศได้กระชับสัมพันธไมตรีที่ดี ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันนำไปสู่ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในทุกระดับ เพื่อประโยชน์สุขของราษฎรทั้งสองประเทศสืบไป #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด #การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตร #สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน ที่มา : @พระลาน https://www.facebook.com/share/2aTmWcVP1wpm3egn/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#เรื่องเล่าของสองเพื่อนร่วมชั้นเรียนแต่ต่างอุดมการณ์🤠

    ปัจจุบันไต้หวันกลายเป็นความเจ็บปวดในใจคนจีน และสหรัฐฯ มักใช้ไต้หวันเพื่อยั่วยุจีน จุดประสงค์ของสหรัฐฯนั้นชัดเจน นั่นคือเพื่อยั่วยุกระตุ้นให้จีนดำเนินการด้วยวิธีรุนแรง หลังจากนั้นแล้วขัดขวางก่อกวนยุทธศาสตร์ของจีน ซึ่งจะทำให้จีนอ่อนแอลงอีก ดังนั้นปัญหาไต้หวันถึงจุดที่ต้องแก้ไข หากไม่ได้รับการแก้ไข สหรัฐฯ จะยังคงเล่นเกมไพ่ไต้หวัน พวกเขายังจะสนับสนุนกองกำลัง "ปลดปล่อยเอกราชของไต้หวัน" ให้ก่อปัญหาอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะตกอยู่ในสภาพถูกกระทำขณะทำการแก้ไขปัญหา

    ในความเป็นจริงแล้ว ประเด็นของไต้หวันมีขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 เติ้งกง(邓公)ได้ส่งเสริมนำการแก้ปัญหาของไต้หวันมาดำเนินการ น่าเสียดายที่มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป และการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公)

    🥳หนึ่ง🥳

    เพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公) คือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทั้งสองเรียนในชั้นเรียนเดียวกันที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น(Sun Yat-sen University中山大学)ในสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ถึง ค.ศ. 1927

    ในปี ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาที่สหภาพโซเวียต ส่วนเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาต่อต่างประเทศอาจกล่าวได้ว่าเขาถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น หรืออาจจะว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)หวังว่าลูกชายของเขาไปที่สหภาพโซเวียตเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่แท้จริงกลับมา

    เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ชื่อรอง เจี้ยนเฟิง(建丰) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นชื่อบรรพบุรุษของเขา และยังเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเขาด้วย เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิดที่เมืองเฟิงฮว่า(奉化)เจ้อเจียง(浙江)เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1910 เขาเป็นบุตรชายคนโตของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)และเหมา ฝูเหมย(毛福梅)ภรรยาคนแรกของเขา หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิด เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ก็ทำงานหนักนอกบ้านตลอด ดังนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงเติบโตมากับแม่และยายของเขา สิ่งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ค่อนข้างขี้ขลาด ตามที่ครูผู้สอนหนังสือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวไว้ ตอนนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีอะไรนิดหน่อยมักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นี่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของครอบครัวที่ไม่มีผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ในบ้าน

    ในปีค.ศ. 1924 เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ส่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปโรงเรียนมัธยมต้นเซี่ยงไฮ้ผู่ตง(浦东) ในเวลานี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 14 ปีเป็นผู้ใหญ่มาก ในปี ค.ศ. 1925 หลังจากการสังหารหมู่30 พฤษภาคม(五卅惨案) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 15 ปีก็เข้าร่วมในการประท้วงด้วยความรักชาติด้วย แต่หลังจากที่ทางโรงเรียนค้นพบ เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากในความผิดว่า "ความคิดที่เป็นอันตรายและพฤติกรรมเบี่ยงเบน"

    หลังจากถูกไล่ออกจากโรงเรียน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจไปศึกษาต่อต่างประเทศ เขาจึงไปปักกิ่งเพื่อเรียนภาษาต่างประเทศ ในช่วงเวลานี้ เขาถูกจำคุกเป็นเวลาสองสัปดาห์เนื่องจากการเข้าร่วมขบวนการนักเรียนต่อต้านขุนศึกเป่ยหยาง(北洋)

    ขณะอยู่ในปักกิ่ง เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้พบกับหลี่ ต้าเจวา(李大钊) และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ เขาชื่นชมความรู้และความเชื่อของหลี่ ต้าเจวา(李大钊) ต่อมา หลี่ ต้าเจวา(李大钊)ได้แนะนำชาวโซเวียตจำนวนมากให้รู้จักกับ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)

    เกี่ยวกับประสบการณ์นี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เล่าในภายหลังว่า:

    “เป่ยผิง(北平)เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และพรรคคอมมิวนิสต์(共產黨) ในใจของฉันก็สับสนกับสภาพแวดล้อมนี้ และเปลี่ยนแผนการเรียนในฝรั่งเศสเดิมอย่างสิ้นเชิง”

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจศึกษาต่อในสหภาพโซเวียต ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มาถึงสหภาพโซเวียต ในเวลานั้น มีบุตรของเจ้านายใหญ่หลายคน เช่น เซ่าจวื่อกาง(邵志刚)ลูกชาย ของเซ่า ลี่จวื๋อ(邵力子), เฝิงหงกั๋ว(冯洪国)ลูกชายของ เฝิง อวิ้เสียง(冯玉祥) พร้อมกับลูกสาว เฝิงฝูเหนิ่ง(冯弗能) และ อวิ้ ซิ่วจวือ(于秀芝) ลูกสาวของ อวิ้โย่วเยิ่น(于右任) รวมถึง จาง ซีย่วน(张锡媛) ภรรยาคนแรกของ เติ้งกง(邓公), หวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ

    ระหว่างทางไปสหภาพโซเวียต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้อ่านหนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ "ABC of Communism" หนังสือเล่มนี้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)

    ปีที่สองก็คือปี ค.ศ.1926 ในชั้นเรียนของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีนักเรียนที่ย้ายมาจากปารีส ประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่ง เขาคือเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平) ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)ชื่อเติ้ง ซีเสียน(邓希贤) เติ้งกง(邓公)มีอายุมากกว่าเจียงจิงกัว 5 ปี และยังมีชื่อภาษารัสเซียว่า "อีวาน เชโกวิช(Ivan Shegovich)"

    ในความประทับใจของ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เติ้งกง(邓公)เป็นคนร่าเริงมาก สามารถพูดได้ดีบนเวที และมีทักษะในการจัดองค์กรที่แข็งแกร่ง ในเวลานั้นเพื่อนร่วมชั้นของเขาตั้งฉายาให้เขาว่า "ปืนใหญ่เหล็กน้อย(小钢炮)"

    เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ากันได้ดี และทั้งสองคนรูปร่างไม่สูงนักเช่นกัน ทั้งสองมักจะเดินคุยกันริมแม่น้ำมอสโก ดังนั้น เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีมากอีกด้วย

    ในปี ค.ศ. 1927 เติ้งกง(邓公)ได้รับมอบหมายจากองค์กรให้กลับไปทำงานที่ประเทศจีน และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ยังคงศึกษาต่อในสหภาพโซเวียตในเวลานี้ เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ได้เปิดฉากเหตุการณ์ต่อต้านการปฏิวัติ "4.12"(“4.12”反革命事件) และสังหารหมู่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จำนวนมาก ในฐานะบุตรชายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงถูกสหภาพโซเวียตตั้งคำถาม และหวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ ก็ไม่ชอบเช่นกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปทำงานในโรงงานและแต่งงานกับหญิงชาวโซเวียต จนกระทั่งถึงหลังสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ด้วยการประสานงานของ โจวกง(周公)ถึงทำให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)สามารถเดินทางกลับประเทศจีนได้

    🥳สอง🥳

    หลังจากที่เติ้งกง(邓公)เดินทางกลับจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1927 จนกระทั่งมีการสถาปนาจีนใหม่ เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ไม่มีทางอื่นที่จะเลือกเดินอีกต่อไป ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีชื่อเสียงของกองทัพของหลิว(刘)และเติ้ง(邓) เขาถูกมองว่าเป็นเสี้ยนหนามในฝ่ายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มานานแล้ว และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ละทิ้งความเชื่ออุดมการณ์แบบคอมมิวนิสต์ของเขาด้วย ได้ตัดสินใจที่จะทำตามพ่อซึ่งเป็นผู้นำของเขาและเตรียมพร้อมที่จะรับช่วงต่อ

    หลังจากที่เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)พ่ายแพ้และถอยไปไต้หวันแล้ว เขาก็เริ่มติดต่อกับกลุ่มรัฐมนตรีผู้มีประสบการณ์ซึ่งเคยเป็นลูกน้องของเขา จุดประสงค์ของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ในการทำเช่นนี้คือปูทางเพื่อให้เชียงจิงกัวสามารถสืบทอดตำแหน่งได้ ท้ายที่สุดแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ยังไม่กล้าส่งสัญญาณออกไปว่าให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ามารับหน้าที่สืบทอดแทน เขายังต้องคำนึงถึงหน้าตาความรู้สึกของรัฐมนตรีเก่าผู้มีประสบการณ์บางคนด้วย หากลูกชายเข้ามารับช่วงต่อ หลี่จงเหริน(李宗仁)จะไม่เต็มใจอย่างแน่นอน แม้ว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)จะไม่ทำอย่างนี้ ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมก็สามารถเห็นได้

    หลังจากที่ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มาถึงไต้หวัน เมื่ออำนาจของเขาก็มั่นคงขึ้นแล้วหลังจากดูแลจัดการรัฐมนตรีคนเก่าของเขา และเขาก็เริ่มปล่อยมือให้ลูกชายทำงาน หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นเป็นประธานฝ่ายบริหาร สร้างไต้หวันตามแนวทางการปกครองของเขา ขณะนั้นไต้หวันมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง และเจี่ยงน้อย(小蒋)ก็ทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างหนึ่ง นั่นคือการพัฒนาบริษัทผลิตชิป แม้จะมีราคาแพงสูงมาก แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง

    ภายใต้การปกครองของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ไต้หวันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และในช่วงทศวรรษ 1980 ไต้หวันก็กลายเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย

    แต่หลังจากที่พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋)เข้าบริหารปกครองไต้หวัน ก็เป็นตอนที่ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)มอบอำนาจเกือบทั้งหมดให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ด้วยมีบางอย่างเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)กลับมาอีกครั้ง นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของประธานเหมา(毛)

    หลังจากที่เติ้งกง(邓公)กลับคืนสู่รัฐบาลกลาง โจวกง(周公)ก็มอบงานการต่างประเทศจำนวนมากให้กับเติ้งกง(邓公) จากนั้นเติ้งกง(邓公)ก็ประกาศบางอย่างต่อสาธารณะ:

    เตรียมหารือปัญหาการรวมตัวกับไทเป(台北)โดยตรง

    สมาชิกก๊กมิ่นตั๋ง(国民党)บางคนในแผ่นดินใหญ่ยังสื่อสารส่งข้อความถึงพ่อลูกครอบครัวตระกูลเจี่ยง(蒋)ผ่านช่องทางสาธารณะหรือส่วนตัว เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งล้มป่วยอยู่นั้นก็ไม่มีแรงจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ซึ่งได้รับอำนาจเต็มในเวลานี้แล้ว ก็ยังเพิกเฉยไม่แยแสต่อความคิดริเริ่มของเติ้งกง(邓公)

    ในปีค.ศ. 1975 ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)เสียชีวิต และหยาน เจียก้าน(严家淦) เข้ามารับช่วงต่อ สามปีต่อมา หยาน เจียก้าน(严家淦)ได้มอบอำนาจคืนโดยอัตโนมัติ วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)และเจี่ยงน้อย(小蒋)ไม่คาดคิด

    ในปีค.ศ. 1972 พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋) ไม่ทราบเกี่ยวกับการเยือนจีนของริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon理查德·尼克松) เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งโกรธมากจนสาปแช่ง นิกสัน(Nixon尼克松)ว่า “ไม่ใช่สิ่งของ” และแม้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็มี "แวดวงสนับสนุนไต้หวัน(亲台圈子)" ในสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่อสหรัฐอเมริกาโดย จิมมี คาร์เตอร์(Jimmy Carter吉米·卡特) และเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)หารือกันเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ยังคงถูกเก็บซ่อนไว้ในความมืด

    เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1978 สิบสองชั่วโมงก่อนการประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ลีโอนาร์ด ไซด์มาน อังเกอร์ (Leonard Seidman Unger安克志)ซึ่งขณะนั้นเป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในไต้หวัน ได้รับโทรศัพท์ลับจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยขอให้เขาโทรหา ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)เลขาของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในตอนเช้า

    อังเกอร์ (Unger安克志)บอก ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)ว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องพบ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตื่นขึ้นมากลางดึกและได้พบอังเกอร์ (Unger安克志)จึงเพิ่งทราบข่าวการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

    อังเกอร์ (Unger安克志)บอกกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ว่าอย่าให้ข่าวนี้รั่วไหลสู่โลกภายนอกก่อน 8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)โกรธมาก เขาไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีวิธีใดที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ แน่นอนว่าหลังจากมีข่าวตลาดหุ้นไทเป(台北)ก็ร่วงลง 10%

    นี่เป็นการแข่งขันประลองฝีมือครั้งแรกระหว่างเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในฐานะเพื่อนร่วมชั้น

    🥳สาม🥳

    เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1979 จอมพล สวีเซี่ยงเฉียน(徐向前)ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นกล่าว:

    ยุติการยิงปืนใหญ่โจมตีจินเหมิน(金门)อย่างเป็นทางการ

    ในวันนี้ สภาประชาชนแห่งชาติ(全国人大)ยังได้ออก "ข้อความถึงเพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน(告台湾同胞书)" และเหลียว เฉิงจือ(廖承志)ซึ่งรับผิดชอบกิจการไต้หวัน ก็เผยแพร่จดหมายถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ต่อสาธารณะด้วย: เสนอความร่วมมือครั้งที่สามระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และ พรรคคอมมิวนิสต์(共產黨)

    ถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)รู้สึกอ่อนไหวต่อความคิดริเริ่มด้านสันติภาพของเติ้งกง(邓公)มาก เขาปฏิเสธการเยือนไต้หวันของเหลียว เฉิงจือ(廖承志) แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมข้ามช่องแคบ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไต้หวัน การแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ในปีค.ศ. 1981 เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)ได้อนุญาตให้ ซีโข่ว(溪口) เจ้อเจียง(浙江)ปรับปรุงที่พักอาศัยเดิมของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) และสุสานของมาดาม เหมา (毛)ซึ่งเป็นยายของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ว่ากันว่าทั้ง เติ้งกง(邓公)และ เหลียว เฉิงจือ(廖承志)รู้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นลูกกตัญญู ภาพถ่ายสิ่งต่างๆที่ได้รับการซ่อมแซมได้ถูกส่งไปยังเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)อย่างรวดเร็ว

    หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เห็นรูปถ่ายเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อสาธารณะ แต่เขาคงจะรู้สึกอะไรบางอย่างในใจ

    หลังจากนั้นไม่นาน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เชื่อว่าถึงเวลาสำหรับการเจรจาแล้ว เขาจึงค้นเลือกหาคนกลาง และคนกลางคนนี้คือ ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀) เขาคิดว่าลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)ทำหน้าที่เป็นคนกลางน่าจะเหมาะสมกว่า

    ในปีค.ศ. 1981 เติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) เยือนสิงคโปร์เพื่อตรวจสอบประสบการณ์ของสิงคโปร์ในด้านการปกครองระดับชาติ

    ในปีค.ศ. 1983 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวกับลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เป็นการส่วนตัวว่า:

    ภายใต้การปฏิรูปและการทูตเชิงปฏิบัติของเติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) แผ่นดินใหญ่จะแข็งแกร่งขึ้น “หากแผ่นดินใหญ่และไต้หวันรวมกัน อนาคตของจีนจะมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน”

    หลังจากนั้นจีนและอังกฤษบรรลุข้อตกลงในการคืนฮ่องกง ในปี ค.ศ. 1986 ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เดินทางไปไต้หวันอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวว่า: เขาจะเปลี่ยนแปลงไต้หวัน แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเจาะจงว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นเช่นไร

    ในปี ค.ศ. 1987 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในไต้หวัน พรรคก๊กมินตั๋ง(国民党)นอกเหนือจากการยกเลิกคำสั่งห้ามพรรคและการห้ามหนังสือพิมพ์แล้ว ยังอนุญาตให้ผู้คนเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ได้ แต่เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1988 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการป่วย

    หลังจากข่าวการเสียชีวิตของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปถึงปักกิ่ง เติ้งกง(邓公)ก็จัดการประชุมระดับสูงทันที หลังจากได้ฟังรายงานเกี่ยวกับการทำงานเรื่องไต้หวันแล้ว เขาเชื่อว่าการรวมชาติเป็นเรื่องใหญ่สำคัญ เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จากไป การรวมชาติอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ยากลำบาก เขาคร่ำครวญ: "เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตายเร็วเกินไป"

    เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นี้ เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้เผชิญหน้ากันสองครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ในสหภาพโซเวียต ทั้งสองมีความเชื่อร่วมกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทรยศต่อศรัทธาและติดตามเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) จนกระทั่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสู่อำนาจที่ทั้งสองได้พบกัน แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พบกันมาห้าสิบหรือหกสิบปีแล้ว แต่ทั้งสองก็คิดถึงประเด็นการรวมชาติ

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#เรื่องเล่าของสองเพื่อนร่วมชั้นเรียนแต่ต่างอุดมการณ์🤠 ปัจจุบันไต้หวันกลายเป็นความเจ็บปวดในใจคนจีน และสหรัฐฯ มักใช้ไต้หวันเพื่อยั่วยุจีน จุดประสงค์ของสหรัฐฯนั้นชัดเจน นั่นคือเพื่อยั่วยุกระตุ้นให้จีนดำเนินการด้วยวิธีรุนแรง หลังจากนั้นแล้วขัดขวางก่อกวนยุทธศาสตร์ของจีน ซึ่งจะทำให้จีนอ่อนแอลงอีก ดังนั้นปัญหาไต้หวันถึงจุดที่ต้องแก้ไข หากไม่ได้รับการแก้ไข สหรัฐฯ จะยังคงเล่นเกมไพ่ไต้หวัน พวกเขายังจะสนับสนุนกองกำลัง "ปลดปล่อยเอกราชของไต้หวัน" ให้ก่อปัญหาอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะตกอยู่ในสภาพถูกกระทำขณะทำการแก้ไขปัญหา ในความเป็นจริงแล้ว ประเด็นของไต้หวันมีขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 เติ้งกง(邓公)ได้ส่งเสริมนำการแก้ปัญหาของไต้หวันมาดำเนินการ น่าเสียดายที่มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป และการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公) 🥳หนึ่ง🥳 เพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公) คือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทั้งสองเรียนในชั้นเรียนเดียวกันที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น(Sun Yat-sen University中山大学)ในสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ถึง ค.ศ. 1927 ในปี ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาที่สหภาพโซเวียต ส่วนเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาต่อต่างประเทศอาจกล่าวได้ว่าเขาถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น หรืออาจจะว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)หวังว่าลูกชายของเขาไปที่สหภาพโซเวียตเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่แท้จริงกลับมา เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ชื่อรอง เจี้ยนเฟิง(建丰) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นชื่อบรรพบุรุษของเขา และยังเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเขาด้วย เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิดที่เมืองเฟิงฮว่า(奉化)เจ้อเจียง(浙江)เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1910 เขาเป็นบุตรชายคนโตของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)และเหมา ฝูเหมย(毛福梅)ภรรยาคนแรกของเขา หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิด เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ก็ทำงานหนักนอกบ้านตลอด ดังนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงเติบโตมากับแม่และยายของเขา สิ่งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ค่อนข้างขี้ขลาด ตามที่ครูผู้สอนหนังสือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวไว้ ตอนนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีอะไรนิดหน่อยมักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นี่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของครอบครัวที่ไม่มีผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ในบ้าน ในปีค.ศ. 1924 เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ส่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปโรงเรียนมัธยมต้นเซี่ยงไฮ้ผู่ตง(浦东) ในเวลานี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 14 ปีเป็นผู้ใหญ่มาก ในปี ค.ศ. 1925 หลังจากการสังหารหมู่30 พฤษภาคม(五卅惨案) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 15 ปีก็เข้าร่วมในการประท้วงด้วยความรักชาติด้วย แต่หลังจากที่ทางโรงเรียนค้นพบ เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากในความผิดว่า "ความคิดที่เป็นอันตรายและพฤติกรรมเบี่ยงเบน" หลังจากถูกไล่ออกจากโรงเรียน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจไปศึกษาต่อต่างประเทศ เขาจึงไปปักกิ่งเพื่อเรียนภาษาต่างประเทศ ในช่วงเวลานี้ เขาถูกจำคุกเป็นเวลาสองสัปดาห์เนื่องจากการเข้าร่วมขบวนการนักเรียนต่อต้านขุนศึกเป่ยหยาง(北洋) ขณะอยู่ในปักกิ่ง เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้พบกับหลี่ ต้าเจวา(李大钊) และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ เขาชื่นชมความรู้และความเชื่อของหลี่ ต้าเจวา(李大钊) ต่อมา หลี่ ต้าเจวา(李大钊)ได้แนะนำชาวโซเวียตจำนวนมากให้รู้จักกับ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เกี่ยวกับประสบการณ์นี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เล่าในภายหลังว่า: “เป่ยผิง(北平)เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และพรรคคอมมิวนิสต์(共產黨) ในใจของฉันก็สับสนกับสภาพแวดล้อมนี้ และเปลี่ยนแผนการเรียนในฝรั่งเศสเดิมอย่างสิ้นเชิง” การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจศึกษาต่อในสหภาพโซเวียต ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มาถึงสหภาพโซเวียต ในเวลานั้น มีบุตรของเจ้านายใหญ่หลายคน เช่น เซ่าจวื่อกาง(邵志刚)ลูกชาย ของเซ่า ลี่จวื๋อ(邵力子), เฝิงหงกั๋ว(冯洪国)ลูกชายของ เฝิง อวิ้เสียง(冯玉祥) พร้อมกับลูกสาว เฝิงฝูเหนิ่ง(冯弗能) และ อวิ้ ซิ่วจวือ(于秀芝) ลูกสาวของ อวิ้โย่วเยิ่น(于右任) รวมถึง จาง ซีย่วน(张锡媛) ภรรยาคนแรกของ เติ้งกง(邓公), หวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ ระหว่างทางไปสหภาพโซเวียต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้อ่านหนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ "ABC of Communism" หนังสือเล่มนี้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ปีที่สองก็คือปี ค.ศ.1926 ในชั้นเรียนของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีนักเรียนที่ย้ายมาจากปารีส ประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่ง เขาคือเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平) ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)ชื่อเติ้ง ซีเสียน(邓希贤) เติ้งกง(邓公)มีอายุมากกว่าเจียงจิงกัว 5 ปี และยังมีชื่อภาษารัสเซียว่า "อีวาน เชโกวิช(Ivan Shegovich)" ในความประทับใจของ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เติ้งกง(邓公)เป็นคนร่าเริงมาก สามารถพูดได้ดีบนเวที และมีทักษะในการจัดองค์กรที่แข็งแกร่ง ในเวลานั้นเพื่อนร่วมชั้นของเขาตั้งฉายาให้เขาว่า "ปืนใหญ่เหล็กน้อย(小钢炮)" เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ากันได้ดี และทั้งสองคนรูปร่างไม่สูงนักเช่นกัน ทั้งสองมักจะเดินคุยกันริมแม่น้ำมอสโก ดังนั้น เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีมากอีกด้วย ในปี ค.ศ. 1927 เติ้งกง(邓公)ได้รับมอบหมายจากองค์กรให้กลับไปทำงานที่ประเทศจีน และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ยังคงศึกษาต่อในสหภาพโซเวียตในเวลานี้ เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ได้เปิดฉากเหตุการณ์ต่อต้านการปฏิวัติ "4.12"(“4.12”反革命事件) และสังหารหมู่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จำนวนมาก ในฐานะบุตรชายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงถูกสหภาพโซเวียตตั้งคำถาม และหวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ ก็ไม่ชอบเช่นกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปทำงานในโรงงานและแต่งงานกับหญิงชาวโซเวียต จนกระทั่งถึงหลังสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ด้วยการประสานงานของ โจวกง(周公)ถึงทำให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)สามารถเดินทางกลับประเทศจีนได้ 🥳สอง🥳 หลังจากที่เติ้งกง(邓公)เดินทางกลับจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1927 จนกระทั่งมีการสถาปนาจีนใหม่ เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ไม่มีทางอื่นที่จะเลือกเดินอีกต่อไป ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีชื่อเสียงของกองทัพของหลิว(刘)และเติ้ง(邓) เขาถูกมองว่าเป็นเสี้ยนหนามในฝ่ายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มานานแล้ว และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ละทิ้งความเชื่ออุดมการณ์แบบคอมมิวนิสต์ของเขาด้วย ได้ตัดสินใจที่จะทำตามพ่อซึ่งเป็นผู้นำของเขาและเตรียมพร้อมที่จะรับช่วงต่อ หลังจากที่เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)พ่ายแพ้และถอยไปไต้หวันแล้ว เขาก็เริ่มติดต่อกับกลุ่มรัฐมนตรีผู้มีประสบการณ์ซึ่งเคยเป็นลูกน้องของเขา จุดประสงค์ของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ในการทำเช่นนี้คือปูทางเพื่อให้เชียงจิงกัวสามารถสืบทอดตำแหน่งได้ ท้ายที่สุดแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ยังไม่กล้าส่งสัญญาณออกไปว่าให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ามารับหน้าที่สืบทอดแทน เขายังต้องคำนึงถึงหน้าตาความรู้สึกของรัฐมนตรีเก่าผู้มีประสบการณ์บางคนด้วย หากลูกชายเข้ามารับช่วงต่อ หลี่จงเหริน(李宗仁)จะไม่เต็มใจอย่างแน่นอน แม้ว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)จะไม่ทำอย่างนี้ ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมก็สามารถเห็นได้ หลังจากที่ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มาถึงไต้หวัน เมื่ออำนาจของเขาก็มั่นคงขึ้นแล้วหลังจากดูแลจัดการรัฐมนตรีคนเก่าของเขา และเขาก็เริ่มปล่อยมือให้ลูกชายทำงาน หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นเป็นประธานฝ่ายบริหาร สร้างไต้หวันตามแนวทางการปกครองของเขา ขณะนั้นไต้หวันมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง และเจี่ยงน้อย(小蒋)ก็ทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างหนึ่ง นั่นคือการพัฒนาบริษัทผลิตชิป แม้จะมีราคาแพงสูงมาก แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง ภายใต้การปกครองของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ไต้หวันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และในช่วงทศวรรษ 1980 ไต้หวันก็กลายเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย แต่หลังจากที่พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋)เข้าบริหารปกครองไต้หวัน ก็เป็นตอนที่ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)มอบอำนาจเกือบทั้งหมดให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ด้วยมีบางอย่างเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)กลับมาอีกครั้ง นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของประธานเหมา(毛) หลังจากที่เติ้งกง(邓公)กลับคืนสู่รัฐบาลกลาง โจวกง(周公)ก็มอบงานการต่างประเทศจำนวนมากให้กับเติ้งกง(邓公) จากนั้นเติ้งกง(邓公)ก็ประกาศบางอย่างต่อสาธารณะ: เตรียมหารือปัญหาการรวมตัวกับไทเป(台北)โดยตรง สมาชิกก๊กมิ่นตั๋ง(国民党)บางคนในแผ่นดินใหญ่ยังสื่อสารส่งข้อความถึงพ่อลูกครอบครัวตระกูลเจี่ยง(蒋)ผ่านช่องทางสาธารณะหรือส่วนตัว เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งล้มป่วยอยู่นั้นก็ไม่มีแรงจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ซึ่งได้รับอำนาจเต็มในเวลานี้แล้ว ก็ยังเพิกเฉยไม่แยแสต่อความคิดริเริ่มของเติ้งกง(邓公) ในปีค.ศ. 1975 ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)เสียชีวิต และหยาน เจียก้าน(严家淦) เข้ามารับช่วงต่อ สามปีต่อมา หยาน เจียก้าน(严家淦)ได้มอบอำนาจคืนโดยอัตโนมัติ วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)และเจี่ยงน้อย(小蒋)ไม่คาดคิด ในปีค.ศ. 1972 พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋) ไม่ทราบเกี่ยวกับการเยือนจีนของริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon理查德·尼克松) เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งโกรธมากจนสาปแช่ง นิกสัน(Nixon尼克松)ว่า “ไม่ใช่สิ่งของ” และแม้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็มี "แวดวงสนับสนุนไต้หวัน(亲台圈子)" ในสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่อสหรัฐอเมริกาโดย จิมมี คาร์เตอร์(Jimmy Carter吉米·卡特) และเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)หารือกันเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ยังคงถูกเก็บซ่อนไว้ในความมืด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1978 สิบสองชั่วโมงก่อนการประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ลีโอนาร์ด ไซด์มาน อังเกอร์ (Leonard Seidman Unger安克志)ซึ่งขณะนั้นเป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในไต้หวัน ได้รับโทรศัพท์ลับจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยขอให้เขาโทรหา ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)เลขาของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในตอนเช้า อังเกอร์ (Unger安克志)บอก ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)ว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องพบ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตื่นขึ้นมากลางดึกและได้พบอังเกอร์ (Unger安克志)จึงเพิ่งทราบข่าวการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อังเกอร์ (Unger安克志)บอกกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ว่าอย่าให้ข่าวนี้รั่วไหลสู่โลกภายนอกก่อน 8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)โกรธมาก เขาไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีวิธีใดที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ แน่นอนว่าหลังจากมีข่าวตลาดหุ้นไทเป(台北)ก็ร่วงลง 10% นี่เป็นการแข่งขันประลองฝีมือครั้งแรกระหว่างเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในฐานะเพื่อนร่วมชั้น 🥳สาม🥳 เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1979 จอมพล สวีเซี่ยงเฉียน(徐向前)ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นกล่าว: ยุติการยิงปืนใหญ่โจมตีจินเหมิน(金门)อย่างเป็นทางการ ในวันนี้ สภาประชาชนแห่งชาติ(全国人大)ยังได้ออก "ข้อความถึงเพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน(告台湾同胞书)" และเหลียว เฉิงจือ(廖承志)ซึ่งรับผิดชอบกิจการไต้หวัน ก็เผยแพร่จดหมายถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ต่อสาธารณะด้วย: เสนอความร่วมมือครั้งที่สามระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และ พรรคคอมมิวนิสต์(共產黨) ถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)รู้สึกอ่อนไหวต่อความคิดริเริ่มด้านสันติภาพของเติ้งกง(邓公)มาก เขาปฏิเสธการเยือนไต้หวันของเหลียว เฉิงจือ(廖承志) แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมข้ามช่องแคบ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไต้หวัน การแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในปีค.ศ. 1981 เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)ได้อนุญาตให้ ซีโข่ว(溪口) เจ้อเจียง(浙江)ปรับปรุงที่พักอาศัยเดิมของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) และสุสานของมาดาม เหมา (毛)ซึ่งเป็นยายของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ว่ากันว่าทั้ง เติ้งกง(邓公)และ เหลียว เฉิงจือ(廖承志)รู้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นลูกกตัญญู ภาพถ่ายสิ่งต่างๆที่ได้รับการซ่อมแซมได้ถูกส่งไปยังเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เห็นรูปถ่ายเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อสาธารณะ แต่เขาคงจะรู้สึกอะไรบางอย่างในใจ หลังจากนั้นไม่นาน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เชื่อว่าถึงเวลาสำหรับการเจรจาแล้ว เขาจึงค้นเลือกหาคนกลาง และคนกลางคนนี้คือ ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀) เขาคิดว่าลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)ทำหน้าที่เป็นคนกลางน่าจะเหมาะสมกว่า ในปีค.ศ. 1981 เติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) เยือนสิงคโปร์เพื่อตรวจสอบประสบการณ์ของสิงคโปร์ในด้านการปกครองระดับชาติ ในปีค.ศ. 1983 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวกับลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เป็นการส่วนตัวว่า: ภายใต้การปฏิรูปและการทูตเชิงปฏิบัติของเติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) แผ่นดินใหญ่จะแข็งแกร่งขึ้น “หากแผ่นดินใหญ่และไต้หวันรวมกัน อนาคตของจีนจะมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน” หลังจากนั้นจีนและอังกฤษบรรลุข้อตกลงในการคืนฮ่องกง ในปี ค.ศ. 1986 ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เดินทางไปไต้หวันอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวว่า: เขาจะเปลี่ยนแปลงไต้หวัน แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเจาะจงว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นเช่นไร ในปี ค.ศ. 1987 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในไต้หวัน พรรคก๊กมินตั๋ง(国民党)นอกเหนือจากการยกเลิกคำสั่งห้ามพรรคและการห้ามหนังสือพิมพ์แล้ว ยังอนุญาตให้ผู้คนเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ได้ แต่เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1988 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการป่วย หลังจากข่าวการเสียชีวิตของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปถึงปักกิ่ง เติ้งกง(邓公)ก็จัดการประชุมระดับสูงทันที หลังจากได้ฟังรายงานเกี่ยวกับการทำงานเรื่องไต้หวันแล้ว เขาเชื่อว่าการรวมชาติเป็นเรื่องใหญ่สำคัญ เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จากไป การรวมชาติอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ยากลำบาก เขาคร่ำครวญ: "เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตายเร็วเกินไป" เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นี้ เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้เผชิญหน้ากันสองครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ในสหภาพโซเวียต ทั้งสองมีความเชื่อร่วมกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทรยศต่อศรัทธาและติดตามเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) จนกระทั่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสู่อำนาจที่ทั้งสองได้พบกัน แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พบกันมาห้าสิบหรือหกสิบปีแล้ว แต่ทั้งสองก็คิดถึงประเด็นการรวมชาติ 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแข่งขันการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรไทย-จีน
    ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกันมาอย่างยาวนาน

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB: สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์
    ขอเชิญประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแข่งขันการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรไทย-จีน ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกันมาอย่างยาวนาน #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB: สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์
    Love
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • BREAKING! อาร์เน่อ ยืนยันแล้วว่า อลิสซอน เบ็คเกอร์ จะไม่ลงเล่นในเดือนตุลาคม และอาจไปจนกว่าจะถึงช่วงเบรกการแข่งขันสัปดาห์ทีมชาติเดือนพฤศจิกายนอีกด้วย:

    "แน่นอนว่า มันน่าเสียดายมกที่ อาลี จะไม่อยู่ในทีมของเราอีกต่อไปในเกมที่เหลือจากนี้ หลังจากเห็นเขาเดินออกจากสนามไป"

    [Source: TNT Sports]
    BREAKING! อาร์เน่อ ยืนยันแล้วว่า อลิสซอน เบ็คเกอร์ จะไม่ลงเล่นในเดือนตุลาคม และอาจไปจนกว่าจะถึงช่วงเบรกการแข่งขันสัปดาห์ทีมชาติเดือนพฤศจิกายนอีกด้วย: "แน่นอนว่า มันน่าเสียดายมกที่ อาลี จะไม่อยู่ในทีมของเราอีกต่อไปในเกมที่เหลือจากนี้ หลังจากเห็นเขาเดินออกจากสนามไป" [Source: TNT Sports]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทีม Project S ที่ชนะเลิศ 🥇 ในการแข่งขัน FortuneTown 𝗖𝗼𝘃𝗲𝗿 𝗗𝗮𝗻𝗰𝗲 รุ่น Junior (อายุ 7-15 ปี)

    รวมทั้งทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกทีม
    🥈#babyblackcat
    🥉#jikasooo
    🥉U-Girls Junior (Upperhand Studio)
    🥉Upper Gals (Upperhand Studio)

    #FortuneTownCoverDance #CoverDance #Dance #ugirlsjunior #uppergals #สยามเด็กเล่น #FortuneEventSpace
    #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทีม Project S ที่ชนะเลิศ 🥇 ในการแข่งขัน FortuneTown 𝗖𝗼𝘃𝗲𝗿 𝗗𝗮𝗻𝗰𝗲 รุ่น Junior (อายุ 7-15 ปี) รวมทั้งทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกทีม 🥈#babyblackcat 🥉#jikasooo 🥉U-Girls Junior (Upperhand Studio) 🥉Upper Gals (Upperhand Studio) #FortuneTownCoverDance #CoverDance #Dance #ugirlsjunior #uppergals #สยามเด็กเล่น #FortuneEventSpace #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 287 0 รีวิว
  • วิพากษ์หนังสือ “ในนามความมั่นคงภายในฯ” (1)

    หลังจากได้อ่านหนังสือ ในนามความมั่นคงภายในฯ ซึ่งเขียนโดยอาจารย์พวงทอง ภวัครพันธุ์ แล้ว ขออนุญาตใช้เสรีภาพทางวิชาการ วิพากษ์หนังสือเล่มนี้นะครับ

    ประเด็นแรกต้องกล่าวถึงคือ แนวคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากที่อ่านนั้น อาจารย์พวงทองไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีใดเป็นรายทฤษฎีโดยเฉพาะ ต้องแกะจากเนื้อหา ส่วนที่อาจารย์พวงทองได้กล่าวถึงในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ นั้นได้เอ่ยถึงเพียงแค่ทฤษฎี Civil Control ในสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น [1]

    จากที่แกะจากเนื้อหาจะเห็นร่องรอยแนวคิดหลักสำคัญแนวคิดแรก คือ แนวคิดเรื่องชุมชนจินตกรรมของเบเนดิกซ์ แอนเดอร์สัน ซึ่งส่งต่ออิทธิพลแนวคิดให้กับปัญญาชนไทยอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์, ธงชัย วินิจจะกูล รวมถึง เกษียรเตชะพีระ จนก่อเกิดเป็นงานเขียนซึ่งเกษียรได้ระบุว่าประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาแนวคิดชุมชนจินตกรรมหลายเล่ม[2] เล่มที่น่าสนใจคืองาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พวงทอง และคณะ

    แนวความคิดชุมชนจินตกรรม คือ “ความเป็นชาติ และชาตินิยมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์เฉพาะทางวัตนธรรมอย่างหนึ่ง”[3] ซึ่งนักวิชาการไทยนำมาต่อยอดว่ากระบวนการสร้างชาตินั้นใช้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างชาติ

    ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎอยู่ในวลี อุดมการณ์ราชาชาตินิยม ซึ่งปรากฎอยู่หลายต่อหลายครั้งในหนังสือ รวมทั้งประโยคที่ว่า “แม้ว่าชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมจะเชื่อมั่นในวิธีการครอบงำเชิงอุดมการณ์ที่พวกเขาดำเนินมาเกินศตวรรษ”[4]

    ธงชัยได้เขียนไว้ในหนังสือออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทยว่า “...ประวัติศาตร์แบบราชาชาตินิยมที่แพร่หลายครอบงำสังคมไทย หรือเป็น ขนบ (Convention) ของความรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในยุคปัจจุบัน มิใช่การไต่สวนค้นคว้าเพื่ออธิบายอดีตหรือปัจจุบันอย่างรอบคอบ แต่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังความเชื่อและศรัทธาชุดหนึ่งที่ไม่พึงสงสัย และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก [5]

    ร่องรอยอิทธิพลแนวคิดชุมชนจินตกรรมอีกประการคือ จากหนังสือชาติไทย, เมืองไทย,แบบเรียน และอนุสาวรีย์ มีประเด็นหนึ่งที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของหนังสือ อ.พวงทองก็คือ นิธิ ได้กล่าวไว้ว่า “ชนชั้นนำทางอำนาจมีความชอบธรรมจะดำรงฐานะนั้นอยู่ได้ก็เพื่อปกป้องชาติจากศัตรู เมื่อใดที่หาศัตรูให้แก่ชาติไม่ได้ ชนชั้นนำก็หาเหตุผลที่จะดำรงสถานะนั้นไว้ได้ยากขึ้น”[6]

    ส่วน อ.พวงทอง นั้นได้กล่าวว่า “ไม่ใช่การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศหรอก แต่คือภารกิจการป้องกันความมั่นคงภายในประเทศต่างหากที่เป็นสารัตถะ เป็นเหตุผลของการดำรงอยู่ (raison d'être) ของกองทัพไทย” [7]

    จากอิทธิพลแนวคิดของ นิธิ ได้ทำให้ อ.พวงทองได้สรุปในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคอมมิวนิสต์ เพื่อ พคท.พ่ายแพ้ลงแล้ว กอ.รมน. ก็ควรถูกยกเลิกไปด้วย แต่กองทัพและชนชั้นนำจารีตกลับช่วยกันสร้างสภาวะยกเว้นใหม่ๆขึ้นมา สร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา และผลักดันกฏหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจกับ กอ.รมน.มากขึ้น”[8]

    ทฤษฎีที่สองที่พบจากหนังสือเล่มนี้ คือ ทฤษฎีวิพากษ์ (Critical Theory) ซึ่งธงชัย วินิจจะกูลได้เขียนไว้ว่า เขาได้รับอิทธิพลของทฤษฎีวิพากษ์ยุคหลังมาร์กซ์ (post-Marxist critical theories) ซึ่งเป็นกลุ่มความคิดที่ท้าทายขนบที่สุด และตนมีประสบการณ์กับความโหดร้ายของประวัติศาตร์ตามขนบราชาชาตินิยม จึงตั้งความปราถนาที่จะรื้อสร้างประวัติศาสตร์ไทยกันใหม่ [9]

    งานที่ธงชัยพยายามท้าทายรื้อประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมแบ่งเป็น 3 ประเภท อย่างแรกได้แก่ หนังสือ Siam Mapped อย่างที่สองรวมอยู่ในหนังสือ “โฉมหน้าราชาชาตินิยม” และอย่างที่สาม คือบทความที่แนะนำวิธีวิทยาและแนวคิดต่างๆที่ท้าทายประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม [10]

    จำกันได้มั้ยครับใครคือผู้แปลหนังสือเรื่อง Siam Mapped จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงมีคำว่า “ราชาชาตินิยม” ปรากฎอยู่หลายที่ในหนังสือในนามความมั่นคงฯ

    แต่ในฐานะที่งานเรื่องนี้ เป็นงานวิจัยด้านความมั่นคง เราคงไม่สามารถมองโลกด้วยแว่นชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้นครับ

    ทฤษฎี หรือ แนวคิดที่ควรศึกษาแต่ว่าขาดหายไป มีอยู่หลายแนวคิด เช่น

    แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม (Comprehensive Security) เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตมุมมองด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมมากกว่ามิติทางการทหาร แต่ยังรวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง [11]

    โดย Richard H. Ullman (1983) ในปี 1983 เป็นคนแรก ๆ ที่กล่าวถึงการขยายขอบเขตของความท้าทายด้านความมั่นคงออกไปจากภัยคุกคามทางทหาร ในบทความวิชาการที่ชื่อว่า “Redefining Security” [12]

    แนวคิดนี้แทบจะเป็นแนวคิดหลักในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจากวารสารมุมมองด้านความมั่นคง[13] จะพบแนวคิด Comprehensive Security เยอะมาก

    หาก อ.พวงทองศึกษาเรื่องนี้สักนิดคงไม่สรุปว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา เพราะแนวคิดภัยคุกคามที่ว่านี้ Richard H. Ullman เป็นคนแรกๆที่นำเสนอครับ

    นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นการแข่งขันกันของจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญเช่น ความโกลาหลที่ควบคุมได้ (Controlled Chaos) ซึ่งถูกพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น RAND Corporation ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไม่เสถียรหรือความวุ่นวายในระบบสังคมและการเมืองของประเทศเป้าหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมผลลัพธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงประกอบด้วย การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) สื่อมวลชนที่เป็นอิสระ และการให้ทุนวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ ซึ่งการให้ทุนนี้มักมุ่งสร้างเนื้อหาที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในห้วงการปฏิวัติสี และที่รัสเซีย [14]

    อีกทั้งการปฏิบัติการในพื้นที่สีเทาของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแนวคิดนี้ เนื่องจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯมีภารกิจในการค้ำยันบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่คล้อยตามนโยบายสหรัฐฯ แต่จะโค่นบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่ไม่สนับสนุนนโยบาย ซึ่งจากเดิมนั้นจะสนับสนุนกองโจรเป็นหลักในการเคลื่อนไหวล้มล้าง แต่หลังจากการปฏิวัติบูลโดเซอร์ สหรัฐฯได้หันมาสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแทน เนื่องจากได้ผลและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า[15]

    หากศึกษาแนวคิดเหล่านี้จะเห็นภาพของการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อเข้ามาบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศ การตีความข้อมูลเท่าที่มีแล้วสรุปผลว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา นั้นย่อมเป็นการตีความที่ไม่ได้สำรวจจากมุมมองที่หลากหลาย แต่เป็นการตีความจากมุมมองชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้น

    การตีความข้อมูลนั้นเป็นเสรีของนักวิจัยก็จริง แต่ก่อนจะตีความ นักวิจัยควรสำรวจข้อมูลที่มี ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง

    งานวิจัยชิ้นนี้ที่เสนอยุบกอ.รมน.โดยไม่ได้ศึกษาทฤษฎีความมั่นคงอย่างรอบด้าน ก็คล้ายกับคนที่เสนอให้เลิกดื่มกาแฟ โดยฉายภาพให้เห็นเฉพาะข้อเสียของกาแฟ แต่ไม่กล่าวถึงข้อดี

    งานชิ้นนี้จึงไม่ต่างไปจากการผลิตซ้ำอุดมการณ์ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ กับ ธงชัย วินิจจะกูลสักเท่าไหร่

    ยังมีอีกหลายประเด็นเอาไว้ว่ากันต่อในโพสหน้าครับ

    ---

    อ้างอิง

    [1] พวงทอง ภวัครพันธุ์ VS กอ.รมน. เผชิญหน้า ถกปมหนังสือ ในนามของความมั่นคงภายใน, Matichon TV, (นาทีที่ 17:50), https://youtu.be/W2fQ0NrKoqA?si=SgJpjHhEliaNz8vH (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [2] เกษียร เตชะพีระ, จินตนากรรมที่แปลกแยกจากชุมชน (2), มติชนสุดสัปดาห์, 14 ธันวาคม 2566, https://www.matichonweekly.com/column/article_730383 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [3] Benedict Anderson, Imagined Communities, London, Verso, 1983, หน้า 13. อ้างถึงใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 40.

    [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2567), หน้า 199.

    [5] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2562), หน้า 5.

    [6] นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 149.

    [7] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย, หน้า 14.

    [8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 220.

    [9] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย, หน้า 8.

    [10] เรื่องเดียวกัน, หน้า 10.

    [11] ดวงมน สุขสมาน, "แนวทางการสร้างความมั่นคงของไทยต่อกลุ่มประเทศ CLMV," วารสารมุมมองความมั่นคง, ฉบับที่ 14 (ตุลาคม 2566-มกราคม 2567), หน้า 30, https://www.nsc.go.th/wp-content/uploads/Journal/article-01403.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [12] จารุพล เรืองสุวรรณ, ทบทวนแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงของโลก สิ่งที่ไทยควรตระหนักและเตรียมการรับมือ, สถาบันวิจัยดิเรก ชัยนาม, 2 มิถุนายน 2564, http://www.polsci.tu.ac.th/direk/view.aspx?id=505&Keyword=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [13] ศึกษาวารสารมุมมองความมั่นคงได้ที่ https://www.nsc.go.th/ebook-%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%87/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [14] A.S. Brychkov and G.A. Nikonorov, "Color Revolutions," Journal of the Academy of Military Science (Russia), แปลโดย Boris Vainer, https://www.armyupress.army.mil/Portals/7/Hot%20Spots/Documents/Russia/Color-Revolutions-Brychkov-Nikonorov.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [15] Joseph L. Votel, Charles T. Cleveland, Charles T. Connett, and Will Irwin, "Unconventional Warfare in the Gray Zone," Joint Force Quarterly, NDU Press, ฉบับที่ 80, ไตรมาสที่ 1 ปี 2016, หน้า 101-109, https://ndupress.ndu.edu/JFQ/Joint-Force-Quarterly-80/article/643108/unconventional-warfare-in-the-gray-zone/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    ---


    ต. ตุลยากร
    วิพากษ์หนังสือ “ในนามความมั่นคงภายในฯ” (1) หลังจากได้อ่านหนังสือ ในนามความมั่นคงภายในฯ ซึ่งเขียนโดยอาจารย์พวงทอง ภวัครพันธุ์ แล้ว ขออนุญาตใช้เสรีภาพทางวิชาการ วิพากษ์หนังสือเล่มนี้นะครับ ประเด็นแรกต้องกล่าวถึงคือ แนวคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากที่อ่านนั้น อาจารย์พวงทองไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีใดเป็นรายทฤษฎีโดยเฉพาะ ต้องแกะจากเนื้อหา ส่วนที่อาจารย์พวงทองได้กล่าวถึงในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ นั้นได้เอ่ยถึงเพียงแค่ทฤษฎี Civil Control ในสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น [1] จากที่แกะจากเนื้อหาจะเห็นร่องรอยแนวคิดหลักสำคัญแนวคิดแรก คือ แนวคิดเรื่องชุมชนจินตกรรมของเบเนดิกซ์ แอนเดอร์สัน ซึ่งส่งต่ออิทธิพลแนวคิดให้กับปัญญาชนไทยอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์, ธงชัย วินิจจะกูล รวมถึง เกษียรเตชะพีระ จนก่อเกิดเป็นงานเขียนซึ่งเกษียรได้ระบุว่าประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาแนวคิดชุมชนจินตกรรมหลายเล่ม[2] เล่มที่น่าสนใจคืองาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พวงทอง และคณะ แนวความคิดชุมชนจินตกรรม คือ “ความเป็นชาติ และชาตินิยมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์เฉพาะทางวัตนธรรมอย่างหนึ่ง”[3] ซึ่งนักวิชาการไทยนำมาต่อยอดว่ากระบวนการสร้างชาตินั้นใช้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างชาติ ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎอยู่ในวลี อุดมการณ์ราชาชาตินิยม ซึ่งปรากฎอยู่หลายต่อหลายครั้งในหนังสือ รวมทั้งประโยคที่ว่า “แม้ว่าชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมจะเชื่อมั่นในวิธีการครอบงำเชิงอุดมการณ์ที่พวกเขาดำเนินมาเกินศตวรรษ”[4] ธงชัยได้เขียนไว้ในหนังสือออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทยว่า “...ประวัติศาตร์แบบราชาชาตินิยมที่แพร่หลายครอบงำสังคมไทย หรือเป็น ขนบ (Convention) ของความรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในยุคปัจจุบัน มิใช่การไต่สวนค้นคว้าเพื่ออธิบายอดีตหรือปัจจุบันอย่างรอบคอบ แต่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังความเชื่อและศรัทธาชุดหนึ่งที่ไม่พึงสงสัย และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก [5] ร่องรอยอิทธิพลแนวคิดชุมชนจินตกรรมอีกประการคือ จากหนังสือชาติไทย, เมืองไทย,แบบเรียน และอนุสาวรีย์ มีประเด็นหนึ่งที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของหนังสือ อ.พวงทองก็คือ นิธิ ได้กล่าวไว้ว่า “ชนชั้นนำทางอำนาจมีความชอบธรรมจะดำรงฐานะนั้นอยู่ได้ก็เพื่อปกป้องชาติจากศัตรู เมื่อใดที่หาศัตรูให้แก่ชาติไม่ได้ ชนชั้นนำก็หาเหตุผลที่จะดำรงสถานะนั้นไว้ได้ยากขึ้น”[6] ส่วน อ.พวงทอง นั้นได้กล่าวว่า “ไม่ใช่การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศหรอก แต่คือภารกิจการป้องกันความมั่นคงภายในประเทศต่างหากที่เป็นสารัตถะ เป็นเหตุผลของการดำรงอยู่ (raison d'être) ของกองทัพไทย” [7] จากอิทธิพลแนวคิดของ นิธิ ได้ทำให้ อ.พวงทองได้สรุปในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคอมมิวนิสต์ เพื่อ พคท.พ่ายแพ้ลงแล้ว กอ.รมน. ก็ควรถูกยกเลิกไปด้วย แต่กองทัพและชนชั้นนำจารีตกลับช่วยกันสร้างสภาวะยกเว้นใหม่ๆขึ้นมา สร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา และผลักดันกฏหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจกับ กอ.รมน.มากขึ้น”[8] ทฤษฎีที่สองที่พบจากหนังสือเล่มนี้ คือ ทฤษฎีวิพากษ์ (Critical Theory) ซึ่งธงชัย วินิจจะกูลได้เขียนไว้ว่า เขาได้รับอิทธิพลของทฤษฎีวิพากษ์ยุคหลังมาร์กซ์ (post-Marxist critical theories) ซึ่งเป็นกลุ่มความคิดที่ท้าทายขนบที่สุด และตนมีประสบการณ์กับความโหดร้ายของประวัติศาตร์ตามขนบราชาชาตินิยม จึงตั้งความปราถนาที่จะรื้อสร้างประวัติศาสตร์ไทยกันใหม่ [9] งานที่ธงชัยพยายามท้าทายรื้อประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมแบ่งเป็น 3 ประเภท อย่างแรกได้แก่ หนังสือ Siam Mapped อย่างที่สองรวมอยู่ในหนังสือ “โฉมหน้าราชาชาตินิยม” และอย่างที่สาม คือบทความที่แนะนำวิธีวิทยาและแนวคิดต่างๆที่ท้าทายประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม [10] จำกันได้มั้ยครับใครคือผู้แปลหนังสือเรื่อง Siam Mapped จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงมีคำว่า “ราชาชาตินิยม” ปรากฎอยู่หลายที่ในหนังสือในนามความมั่นคงฯ แต่ในฐานะที่งานเรื่องนี้ เป็นงานวิจัยด้านความมั่นคง เราคงไม่สามารถมองโลกด้วยแว่นชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้นครับ ทฤษฎี หรือ แนวคิดที่ควรศึกษาแต่ว่าขาดหายไป มีอยู่หลายแนวคิด เช่น แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม (Comprehensive Security) เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตมุมมองด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมมากกว่ามิติทางการทหาร แต่ยังรวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง [11] โดย Richard H. Ullman (1983) ในปี 1983 เป็นคนแรก ๆ ที่กล่าวถึงการขยายขอบเขตของความท้าทายด้านความมั่นคงออกไปจากภัยคุกคามทางทหาร ในบทความวิชาการที่ชื่อว่า “Redefining Security” [12] แนวคิดนี้แทบจะเป็นแนวคิดหลักในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจากวารสารมุมมองด้านความมั่นคง[13] จะพบแนวคิด Comprehensive Security เยอะมาก หาก อ.พวงทองศึกษาเรื่องนี้สักนิดคงไม่สรุปว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา เพราะแนวคิดภัยคุกคามที่ว่านี้ Richard H. Ullman เป็นคนแรกๆที่นำเสนอครับ นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นการแข่งขันกันของจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญเช่น ความโกลาหลที่ควบคุมได้ (Controlled Chaos) ซึ่งถูกพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น RAND Corporation ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไม่เสถียรหรือความวุ่นวายในระบบสังคมและการเมืองของประเทศเป้าหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมผลลัพธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงประกอบด้วย การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) สื่อมวลชนที่เป็นอิสระ และการให้ทุนวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ ซึ่งการให้ทุนนี้มักมุ่งสร้างเนื้อหาที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในห้วงการปฏิวัติสี และที่รัสเซีย [14] อีกทั้งการปฏิบัติการในพื้นที่สีเทาของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแนวคิดนี้ เนื่องจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯมีภารกิจในการค้ำยันบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่คล้อยตามนโยบายสหรัฐฯ แต่จะโค่นบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่ไม่สนับสนุนนโยบาย ซึ่งจากเดิมนั้นจะสนับสนุนกองโจรเป็นหลักในการเคลื่อนไหวล้มล้าง แต่หลังจากการปฏิวัติบูลโดเซอร์ สหรัฐฯได้หันมาสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแทน เนื่องจากได้ผลและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า[15] หากศึกษาแนวคิดเหล่านี้จะเห็นภาพของการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อเข้ามาบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศ การตีความข้อมูลเท่าที่มีแล้วสรุปผลว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา นั้นย่อมเป็นการตีความที่ไม่ได้สำรวจจากมุมมองที่หลากหลาย แต่เป็นการตีความจากมุมมองชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้น การตีความข้อมูลนั้นเป็นเสรีของนักวิจัยก็จริง แต่ก่อนจะตีความ นักวิจัยควรสำรวจข้อมูลที่มี ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง งานวิจัยชิ้นนี้ที่เสนอยุบกอ.รมน.โดยไม่ได้ศึกษาทฤษฎีความมั่นคงอย่างรอบด้าน ก็คล้ายกับคนที่เสนอให้เลิกดื่มกาแฟ โดยฉายภาพให้เห็นเฉพาะข้อเสียของกาแฟ แต่ไม่กล่าวถึงข้อดี งานชิ้นนี้จึงไม่ต่างไปจากการผลิตซ้ำอุดมการณ์ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ กับ ธงชัย วินิจจะกูลสักเท่าไหร่ ยังมีอีกหลายประเด็นเอาไว้ว่ากันต่อในโพสหน้าครับ --- อ้างอิง [1] พวงทอง ภวัครพันธุ์ VS กอ.รมน. เผชิญหน้า ถกปมหนังสือ ในนามของความมั่นคงภายใน, Matichon TV, (นาทีที่ 17:50), https://youtu.be/W2fQ0NrKoqA?si=SgJpjHhEliaNz8vH (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [2] เกษียร เตชะพีระ, จินตนากรรมที่แปลกแยกจากชุมชน (2), มติชนสุดสัปดาห์, 14 ธันวาคม 2566, https://www.matichonweekly.com/column/article_730383 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [3] Benedict Anderson, Imagined Communities, London, Verso, 1983, หน้า 13. อ้างถึงใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 40. [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2567), หน้า 199. [5] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2562), หน้า 5. [6] นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 149. [7] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย, หน้า 14. [8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 220. [9] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย, หน้า 8. [10] เรื่องเดียวกัน, หน้า 10. [11] ดวงมน สุขสมาน, "แนวทางการสร้างความมั่นคงของไทยต่อกลุ่มประเทศ CLMV," วารสารมุมมองความมั่นคง, ฉบับที่ 14 (ตุลาคม 2566-มกราคม 2567), หน้า 30, https://www.nsc.go.th/wp-content/uploads/Journal/article-01403.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [12] จารุพล เรืองสุวรรณ, ทบทวนแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงของโลก สิ่งที่ไทยควรตระหนักและเตรียมการรับมือ, สถาบันวิจัยดิเรก ชัยนาม, 2 มิถุนายน 2564, http://www.polsci.tu.ac.th/direk/view.aspx?id=505&Keyword=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [13] ศึกษาวารสารมุมมองความมั่นคงได้ที่ https://www.nsc.go.th/ebook-%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%87/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [14] A.S. Brychkov and G.A. Nikonorov, "Color Revolutions," Journal of the Academy of Military Science (Russia), แปลโดย Boris Vainer, https://www.armyupress.army.mil/Portals/7/Hot%20Spots/Documents/Russia/Color-Revolutions-Brychkov-Nikonorov.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [15] Joseph L. Votel, Charles T. Cleveland, Charles T. Connett, and Will Irwin, "Unconventional Warfare in the Gray Zone," Joint Force Quarterly, NDU Press, ฉบับที่ 80, ไตรมาสที่ 1 ปี 2016, หน้า 101-109, https://ndupress.ndu.edu/JFQ/Joint-Force-Quarterly-80/article/643108/unconventional-warfare-in-the-gray-zone/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). --- ต. ตุลยากร
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ปัญหาที่โจจะเป็นต้นเหตุให้ทุกอย่างพัง
    #เพราะโจมณฑนีปากสว่าง
    หยุดพูดหยุดพิมพ์ไม่ได้ ทำให้ข้อมูลหลายๆอย่าง
    ก็หลุดจากปากโจ หรือไม่ก็คนที่เป็นเครือข่ายที่เปิดหน้า
    และโจไม่เคยหยุด แสดงออกถึงการแซะ การแขวะ
    ย้ำคำที่โจบอกว่า เป็นข้อเขียนอมตะ
    ว่าทุกอย่าง ซึ่งหมายถึง เอเจนซี่ ขบวนการฟอก กลุ่มเงินดาร์ค
    จะพังเพราะอินังโจนี่แหละ
    มันโต้ทุกคอมเม้นที่พิมพ์ไปทางบวกถึงแน๊กชาลี
    อิโจม.ต้น อิ สก็อยไร้การศึกษา อิ ศ.ดร.มโน อิฟาย
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #ปัญหาที่โจจะเป็นต้นเหตุให้ทุกอย่างพัง #เพราะโจมณฑนีปากสว่าง หยุดพูดหยุดพิมพ์ไม่ได้ ทำให้ข้อมูลหลายๆอย่าง ก็หลุดจากปากโจ หรือไม่ก็คนที่เป็นเครือข่ายที่เปิดหน้า และโจไม่เคยหยุด แสดงออกถึงการแซะ การแขวะ ย้ำคำที่โจบอกว่า เป็นข้อเขียนอมตะ ว่าทุกอย่าง ซึ่งหมายถึง เอเจนซี่ ขบวนการฟอก กลุ่มเงินดาร์ค จะพังเพราะอินังโจนี่แหละ มันโต้ทุกคอมเม้นที่พิมพ์ไปทางบวกถึงแน๊กชาลี อิโจม.ต้น อิ สก็อยไร้การศึกษา อิ ศ.ดร.มโน อิฟาย #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 602 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่วมส่งกำลังใจ💜

    พระราชินีสุทิดา ทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงคนแรกของสหพันธ์ จะทรงเข้าร่วมการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งในนามทีมชาติไทย ในงานสานสัมพันธ์ ไทย-จีน ในวันที่ 6 ตุลาคม 2567

    💜ทรงพระเจริญ💜

    @ประวัติศาสตร์ ราชวงศ์จักรี

    https://www.facebook.com/share/Pxxixa6pS2usjxyy/?mibextid=xfxF2i
    ร่วมส่งกำลังใจ💜 พระราชินีสุทิดา ทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงคนแรกของสหพันธ์ จะทรงเข้าร่วมการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งในนามทีมชาติไทย ในงานสานสัมพันธ์ ไทย-จีน ในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 💜ทรงพระเจริญ💜 @ประวัติศาสตร์ ราชวงศ์จักรี https://www.facebook.com/share/Pxxixa6pS2usjxyy/?mibextid=xfxF2i
    Love
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ

    หลังจากที่สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวจีนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้ชาวจีนไปเรียนในสถาบันวิจัยสำคัญๆ ในสหรัฐฯ อีกต่อไป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศไฮเทคของโลกอย่างสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจไม่อนุญาตอีกต่อไป ภาษาจีนเพื่อศึกษาความรู้ไฮเทคในสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษ

    ขณะนี้มีนักเรียนเกือบ 1,000 คนเข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรแล้ว และถูกจำกัดให้ออกจาก สหราชอาณาจักรภายในหนึ่งเดือน และกล่าวว่าเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรจะจำกัดไม่ให้นักเรียนเหล่านี้เข้าสหราชอาณาจักร

    บังเอิญญี่ปุ่นได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับนักเรียนชาวจีนจากการลงทะเบียนในวิชาที่มีเทคโนโลยีสูงของญี่ปุ่น ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,500 คนในโรงเรียน และนักเรียนชาวจีนที่มีประวัติการปฏิเสธวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังได้ติดตามและปฏิเสธที่จะให้วีซ่าเข้าประเทศแก่บุคคลเหล่านี้

    ในเวลาเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการของแคนาดาได้ประกาศขับไล่นักศึกษาชาวจีน 900 คน

    ออสเตรเลียขับไล่นักศึกษาชาวจีน 2,200 คน; นิวซีแลนด์ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,300 คน

    กระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศว่า การสมัครนักเรียนจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติการทบทวนอย่างเข้มงวดของสหรัฐอเมริกา

    จนถึงตอนนี้ มากกว่า 80% ของนักเรียนจีน 600,000 คนที่ต้องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศจะถูกปฏิเสธวีซ่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาในอนาคตของจีน

    ไบเดนสาบานที่จะป้องกันไม่ให้จีนมีอำนาจมากกว่าสหรัฐฯ

    เวลานี้เป็นช่วงของกระแสนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าหัวกะทิหลั่งไหลกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด

    1. มหาเศรษฐี หลี่ ไค ฟู่ (李开复) เป็นคนนำหน้า ทิ้งกรีนการ์ดกลับสู่ประเทศจีน ทำให้สหรัฐฯเสียหายถึง 1 แสน 3 หมื่น ล้านเหรียญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะออกจากตลาดสหรัฐฯตลอดไป โดยบริษัทใหญ่ที่ทำการวิจัยถอนตัวออกจากหุบเขาซิลิคอน (ซิลิคอนแวลลีย์ 硅谷)ของสหรัฐฯ นำเงินทุนของบริษัท 95 % พร้อมทั้งเทคโนโลยีทั้งหมดกลับสู่ประเทศจีน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการชักจูงแบบโดมิโนให้คนเชื้อชาติจีนชั้นนำทยอยกลับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งนำเงินทุนกลับประเทศ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    2. หยิ่น จื้อ หย๋าว (尹志尧) เทพแห่ง ซิลิคอนแวลลี่ย์ แม้ว่าทางสหรัฐฯจะเสนอเงินทองเงื่อนไขที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจยับยั้งให้เขาที่มีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกลับสู่ประเทศจีนได้ เขาถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นคนจีนที่ทางสหรัฐฯไม่อยากให้จากไปอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแค่นำพานักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทางด้านไมโครชิพ 30 กว่าคน กลับไปด้วย เมื่อกลับถึงประเทศจีนแล้วเขายังเป็นผู้นำกลุ่มเอาชนะการผูกขาดทางเทคโนโลยี โดยสามารถสร้าง 5 nm Etching machine ได้สำเร็จ เปิดตำนานไมโครชิพขึ้นมาใหม่

    3. เสิ่น เซี่ยง หยาง ( 沈向洋 ) ทำงานทางด้าน microsoft ผ่านไป 23 ปี ก็กลับสู่มาตุภูมิ เขาเป็นคนจีนที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดของงานทางด้านนี้ผู้นำทางด้าน AI Microsoft การกลับประเทศของเขาถึงกลับทำให้ประเทศหรัฐฯสั่นคลอนแม้แต่ Bill Gates ยังรู้สึกเสียดาย ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต้าชิง สร้างบุคลากรทางด้าน AI ให้กับประเทศจีน

    4. เซี่ย เสี่ยว เกา ( 谢小高 ) ศึกษาและทำงานที่ต่างประเทศ 30 กว่าปี สุดท้ายยอมสละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัย Harvard มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นคนจีนที่ใด้รับรางวัลโนเบลคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้นำระหว่างประเทศทางด้านชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี การวิจัยพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯใช้เงินรางวัลถึง 40 ล้านเหรียญก็ไม่สามารถรั้งเข้าไว้ได้ หลังกลับประเทศเขาก็เริ่มเสนอการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวการวิจัยหลายรายการ นำพานักเรียนสู่การวิจัยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักวิทยาศาสตร์จีนที่เก่งๆจำนวนมากทะยอยกลับประเทศจีนไม่ขาดสาย จะเป็นผลดีต่อประเทศเร็วขึ้น

    Cr: Boonchu Chung (羅文娟)
    จีนปฏิรูปการศึกษาต่อทันทีหลังคุมโควิด19ได้เบ็ดเสร็จแล้ว

    - ห้ามการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก, ลดการสอบต่างๆ, ลดการบ้าน, ให้บริษัทกวดวิชาเอกชนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, เลิกการมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กอัจฉริยะ, ลดเวลาการเล่มเกมของเด็ก, ปรับให้ครูไปรับตำแหน่งในร.ร. อื่นๆทุก 6 ปีป้องกันครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกตัวอยู่ในร.ร.บางแห่ง
    การปฏิรูปการศึกษาที่จีน

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันทึ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก หลังจากติดตามข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีมาตรการทางด้านการศึกษามาโดยตลอด เพียงแต่มาสะดุดช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

    เมื่อโรคระบาดโควิด-19 ในจีนได้รับการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลาอันรวดเร็ว สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจีนก็เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อทันที

    ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปี เพราะการสอบที่มากเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายอย่างมาก

    กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่น ๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง และห้ามท้องถิ่นจัดสอบระดับภูมิภาค หรือระหว่างโรงเรียน สำหรับชั้นประถมศึกษาทั้งหมด

    ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยังไม่จบการศึกษา ห้ามโรงเรียนจัดสอบย่อยรายสัปดาห์ สอบย่อยรายวิชา รวมถึงสอบรายเดือน และห้ามเลี่ยงไปเปิดการสอบในชื่ออื่น ๆ ด้วย

    ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียน และพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง

    ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของจีนมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปี ที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “เกาเข่า” ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ประมาณว่าถ้าพลาดไปเพียงคะแนนเดียว ก็สามารถชี้ขาดอนาคตได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างหนัก และแย่งกันกวดวิชาสุดฤทธิ์

    และนั่นหมายความว่าเมื่อกระทรวงศึกษาของจีนประกาศปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ก็ต้องรวมถึงแนวทางการจัดการโรงเรียนกวดวิชาด้วย โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้สั่งให้บรรดาบริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร โดยให้สถาบันติวเตอร์เหล่านี้สอนบทเรียนได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์วันละ 1 ชั่วโมง และห้ามสอนวิชาหลัก

    นี่ยังไม่นับรวมถึงนโยบายเรื่องครูในสถานศึกษา ที่ต้องให้สลับปรับเปลี่ยนกันไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่าง ๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น

    ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้ออกตำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่าง ๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ ประเภทห้องกิ๊ฟ(อัจฉริยะ) หรือห้องพิเศษใด ๆ

    และถ้าจำกันได้ เมื่อต้นปีกระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาก็สั่งห้ามครูให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1-2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง

    งานนี้เรียกว่าจีน “ยกเครื่อง” ปฏิรูปการศึกษาใหม่กันเลยทีเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้

    เลิกการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก

    ลดการบ้านเด็ก

    ละ ไม่ให้มีห้องเรียนพิเศษ

    คุมร.ร.กวดวิชาไม่ให้แสวงผลกำไร

    ห้ามร.ร.จัดอันดับคะแนนสอบ

    ปรับครูทุก 6 ปี

    ล่าสุดทางการเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาควิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ตามเสียงเรียกร้องเพื่อลดการให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล หลังจากนี้นักเรียนประถมจะสอบปลายภาคเฉพาะวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นรวมทั้งภาษาอังกฤษจะวัดผลจากการประเมินของครูผู้สอน โดยไม่มีคะแนนสอบ

    นี่ยังไม่นับเรื่องที่จีนออกกฎหมายบังคับให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แค่ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในช่วงเปิดภาคเรียนเท่านั้น ส่วนช่วงปิดเทอม เด็กจะได้รับอนุญาตให้เล่นเกมออนไลน์ได้นานขึ้น แต่ยังจำกัดวันละ 60 นาที เป็นกฎใหม่ที่มีความพยายามเพื่อควบคุมพฤติกรรมเด็กติดเกมของจีน ที่ส่งผลต่อการศึกษาและชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก

    ที่รวบรวมเรื่อง “ทึ่ง” เหล่านี้ขึ้นมา ก็เพราะ “อึ้ง” กับประเด็นปัญหาที่เหมือนในบ้านเราที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่ได้รับการชำระสะสาง แม้จะผ่านการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2542 และปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่

    ภาพที่สะท้อนชัดในบ้านเขาก็คือ การจัดการที่เด็ดขาด ลงมือทำทันที และแก้ปัญหาที่มีลักษณะโดมิโน่และส่งผลสัมพันธ์กันในเวลาที่ไล่เลี่ยแบบสอดรับกัน แม้จะยังไม่เห็นผล แต่สิ่งเหล่านี้คือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาตลอด

    และถ้าเรายังแก้ปัญหาทีละอย่าง เงื้อง่าทีละเรื่อง สุดท้ายก็แก้ปัญหาไม่ได้ซะที

    เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเรา
    #ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
    เลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ หลังจากที่สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวจีนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้ชาวจีนไปเรียนในสถาบันวิจัยสำคัญๆ ในสหรัฐฯ อีกต่อไป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศไฮเทคของโลกอย่างสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจไม่อนุญาตอีกต่อไป ภาษาจีนเพื่อศึกษาความรู้ไฮเทคในสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษ ขณะนี้มีนักเรียนเกือบ 1,000 คนเข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรแล้ว และถูกจำกัดให้ออกจาก สหราชอาณาจักรภายในหนึ่งเดือน และกล่าวว่าเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรจะจำกัดไม่ให้นักเรียนเหล่านี้เข้าสหราชอาณาจักร บังเอิญญี่ปุ่นได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับนักเรียนชาวจีนจากการลงทะเบียนในวิชาที่มีเทคโนโลยีสูงของญี่ปุ่น ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,500 คนในโรงเรียน และนักเรียนชาวจีนที่มีประวัติการปฏิเสธวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังได้ติดตามและปฏิเสธที่จะให้วีซ่าเข้าประเทศแก่บุคคลเหล่านี้ ในเวลาเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการของแคนาดาได้ประกาศขับไล่นักศึกษาชาวจีน 900 คน ออสเตรเลียขับไล่นักศึกษาชาวจีน 2,200 คน; นิวซีแลนด์ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,300 คน กระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศว่า การสมัครนักเรียนจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติการทบทวนอย่างเข้มงวดของสหรัฐอเมริกา จนถึงตอนนี้ มากกว่า 80% ของนักเรียนจีน 600,000 คนที่ต้องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศจะถูกปฏิเสธวีซ่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาในอนาคตของจีน ไบเดนสาบานที่จะป้องกันไม่ให้จีนมีอำนาจมากกว่าสหรัฐฯ เวลานี้เป็นช่วงของกระแสนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าหัวกะทิหลั่งไหลกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด 1. มหาเศรษฐี หลี่ ไค ฟู่ (李开复) เป็นคนนำหน้า ทิ้งกรีนการ์ดกลับสู่ประเทศจีน ทำให้สหรัฐฯเสียหายถึง 1 แสน 3 หมื่น ล้านเหรียญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะออกจากตลาดสหรัฐฯตลอดไป โดยบริษัทใหญ่ที่ทำการวิจัยถอนตัวออกจากหุบเขาซิลิคอน (ซิลิคอนแวลลีย์ 硅谷)ของสหรัฐฯ นำเงินทุนของบริษัท 95 % พร้อมทั้งเทคโนโลยีทั้งหมดกลับสู่ประเทศจีน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการชักจูงแบบโดมิโนให้คนเชื้อชาติจีนชั้นนำทยอยกลับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งนำเงินทุนกลับประเทศ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. หยิ่น จื้อ หย๋าว (尹志尧) เทพแห่ง ซิลิคอนแวลลี่ย์ แม้ว่าทางสหรัฐฯจะเสนอเงินทองเงื่อนไขที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจยับยั้งให้เขาที่มีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกลับสู่ประเทศจีนได้ เขาถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นคนจีนที่ทางสหรัฐฯไม่อยากให้จากไปอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแค่นำพานักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทางด้านไมโครชิพ 30 กว่าคน กลับไปด้วย เมื่อกลับถึงประเทศจีนแล้วเขายังเป็นผู้นำกลุ่มเอาชนะการผูกขาดทางเทคโนโลยี โดยสามารถสร้าง 5 nm Etching machine ได้สำเร็จ เปิดตำนานไมโครชิพขึ้นมาใหม่ 3. เสิ่น เซี่ยง หยาง ( 沈向洋 ) ทำงานทางด้าน microsoft ผ่านไป 23 ปี ก็กลับสู่มาตุภูมิ เขาเป็นคนจีนที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดของงานทางด้านนี้ผู้นำทางด้าน AI Microsoft การกลับประเทศของเขาถึงกลับทำให้ประเทศหรัฐฯสั่นคลอนแม้แต่ Bill Gates ยังรู้สึกเสียดาย ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต้าชิง สร้างบุคลากรทางด้าน AI ให้กับประเทศจีน 4. เซี่ย เสี่ยว เกา ( 谢小高 ) ศึกษาและทำงานที่ต่างประเทศ 30 กว่าปี สุดท้ายยอมสละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัย Harvard มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นคนจีนที่ใด้รับรางวัลโนเบลคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้นำระหว่างประเทศทางด้านชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี การวิจัยพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯใช้เงินรางวัลถึง 40 ล้านเหรียญก็ไม่สามารถรั้งเข้าไว้ได้ หลังกลับประเทศเขาก็เริ่มเสนอการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวการวิจัยหลายรายการ นำพานักเรียนสู่การวิจัยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักวิทยาศาสตร์จีนที่เก่งๆจำนวนมากทะยอยกลับประเทศจีนไม่ขาดสาย จะเป็นผลดีต่อประเทศเร็วขึ้น Cr: Boonchu Chung (羅文娟) จีนปฏิรูปการศึกษาต่อทันทีหลังคุมโควิด19ได้เบ็ดเสร็จแล้ว - ห้ามการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก, ลดการสอบต่างๆ, ลดการบ้าน, ให้บริษัทกวดวิชาเอกชนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, เลิกการมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กอัจฉริยะ, ลดเวลาการเล่มเกมของเด็ก, ปรับให้ครูไปรับตำแหน่งในร.ร. อื่นๆทุก 6 ปีป้องกันครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกตัวอยู่ในร.ร.บางแห่ง การปฏิรูปการศึกษาที่จีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันทึ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก หลังจากติดตามข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีมาตรการทางด้านการศึกษามาโดยตลอด เพียงแต่มาสะดุดช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อโรคระบาดโควิด-19 ในจีนได้รับการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลาอันรวดเร็ว สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจีนก็เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อทันที ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปี เพราะการสอบที่มากเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายอย่างมาก กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่น ๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง และห้ามท้องถิ่นจัดสอบระดับภูมิภาค หรือระหว่างโรงเรียน สำหรับชั้นประถมศึกษาทั้งหมด ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยังไม่จบการศึกษา ห้ามโรงเรียนจัดสอบย่อยรายสัปดาห์ สอบย่อยรายวิชา รวมถึงสอบรายเดือน และห้ามเลี่ยงไปเปิดการสอบในชื่ออื่น ๆ ด้วย ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียน และพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของจีนมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปี ที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “เกาเข่า” ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ประมาณว่าถ้าพลาดไปเพียงคะแนนเดียว ก็สามารถชี้ขาดอนาคตได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างหนัก และแย่งกันกวดวิชาสุดฤทธิ์ และนั่นหมายความว่าเมื่อกระทรวงศึกษาของจีนประกาศปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ก็ต้องรวมถึงแนวทางการจัดการโรงเรียนกวดวิชาด้วย โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้สั่งให้บรรดาบริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร โดยให้สถาบันติวเตอร์เหล่านี้สอนบทเรียนได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์วันละ 1 ชั่วโมง และห้ามสอนวิชาหลัก นี่ยังไม่นับรวมถึงนโยบายเรื่องครูในสถานศึกษา ที่ต้องให้สลับปรับเปลี่ยนกันไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่าง ๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้ออกตำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่าง ๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ ประเภทห้องกิ๊ฟ(อัจฉริยะ) หรือห้องพิเศษใด ๆ และถ้าจำกันได้ เมื่อต้นปีกระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาก็สั่งห้ามครูให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1-2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง งานนี้เรียกว่าจีน “ยกเครื่อง” ปฏิรูปการศึกษาใหม่กันเลยทีเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้ เลิกการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก ลดการบ้านเด็ก ละ ไม่ให้มีห้องเรียนพิเศษ คุมร.ร.กวดวิชาไม่ให้แสวงผลกำไร ห้ามร.ร.จัดอันดับคะแนนสอบ ปรับครูทุก 6 ปี ล่าสุดทางการเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาควิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ตามเสียงเรียกร้องเพื่อลดการให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล หลังจากนี้นักเรียนประถมจะสอบปลายภาคเฉพาะวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นรวมทั้งภาษาอังกฤษจะวัดผลจากการประเมินของครูผู้สอน โดยไม่มีคะแนนสอบ นี่ยังไม่นับเรื่องที่จีนออกกฎหมายบังคับให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แค่ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในช่วงเปิดภาคเรียนเท่านั้น ส่วนช่วงปิดเทอม เด็กจะได้รับอนุญาตให้เล่นเกมออนไลน์ได้นานขึ้น แต่ยังจำกัดวันละ 60 นาที เป็นกฎใหม่ที่มีความพยายามเพื่อควบคุมพฤติกรรมเด็กติดเกมของจีน ที่ส่งผลต่อการศึกษาและชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก ที่รวบรวมเรื่อง “ทึ่ง” เหล่านี้ขึ้นมา ก็เพราะ “อึ้ง” กับประเด็นปัญหาที่เหมือนในบ้านเราที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่ได้รับการชำระสะสาง แม้จะผ่านการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2542 และปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่ ภาพที่สะท้อนชัดในบ้านเขาก็คือ การจัดการที่เด็ดขาด ลงมือทำทันที และแก้ปัญหาที่มีลักษณะโดมิโน่และส่งผลสัมพันธ์กันในเวลาที่ไล่เลี่ยแบบสอดรับกัน แม้จะยังไม่เห็นผล แต่สิ่งเหล่านี้คือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาตลอด และถ้าเรายังแก้ปัญหาทีละอย่าง เงื้อง่าทีละเรื่อง สุดท้ายก็แก้ปัญหาไม่ได้ซะที เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเรา #ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • โหราศาสตร์ธุรกิจ (Business Astrology) เครื่องมือวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม! 🚀✨

    คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ “โหราศาสตร์ธุรกิจ” หรือไม่? 🤔 ไม่ใช่แค่การทำนายอนาคตหรืออ่านดวงชะตา แต่เป็นศาสตร์ที่สามารถช่วยวางแผนกลยุทธ์การทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🌟 เพราะโหราศาสตร์ธุรกิจ (Business Astrology) จะนำข้อมูลการเคลื่อนที่ของดวงดาวและจักรราศีมาวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแม้แต่การเลือกหุ้นส่วนทางธุรกิจ 📊

    ประโยชน์ของโหราศาสตร์ธุรกิจ 🔍💡

    1️⃣ วางแผนกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ 🗓️: การใช้โหราศาสตร์ช่วยในการระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน การเปิดตัวสินค้า หรือการขยายตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ 💼

    2️⃣ เข้าใจลักษณะของธุรกิจได้ลึกซึ้ง 🔎: โหราศาสตร์สามารถช่วยวิเคราะห์ศักยภาพ จุดแข็ง และจุดอ่อนของธุรกิจได้ โดยการพิจารณาตำแหน่งของดาวในดวงชะตาธุรกิจ ทำให้ผู้บริหารสามารถวางแผนการบริหารงานได้อย่างเหมาะสม 💪

    3️⃣ ปรับปรุงความสัมพันธ์และการเจรจาต่อรอง 💬: การใช้โหราศาสตร์ในการทำความเข้าใจลักษณะนิสัยของหุ้นส่วน พนักงาน หรือแม้แต่ลูกค้า จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ 👫

    4️⃣ ช่วยในการจัดการความเสี่ยง ⚠️: ด้วยการวิเคราะห์จากการโคจรของดาวที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ เช่น ดาวเสาร์ที่มักบ่งบอกถึงข้อจำกัด หรือดาวมฤตยูที่แสดงถึงความไม่แน่นอน การเตรียมตัวและการวางแผนรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ จึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📉

    การประยุกต์ใช้โหราศาสตร์กับการทำธุรกิจ ✨

    โหราศาสตร์ธุรกิจสามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการ เลือกวันเวลาที่เหมาะสม สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ การวางแผนทางการเงิน หรือแม้กระทั่งการจัดการกับสถานการณ์วิกฤติ 💥 เช่น หากธุรกิจอยู่ในช่วงที่ดาวมฤตยูทำมุมกระทบกับดวงชะตา ควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนลดต้นทุน การเก็บเงินสดสำรอง หรือการมองหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น 📈

    นอกจากนี้ การทำความเข้าใจดวงชะตาของทีมงานและคู่ค้าทางธุรกิจ ก็สามารถช่วยในการเลือกคนเข้ามาร่วมงานที่เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น 👥 เช่น หากต้องการหุ้นส่วนที่มีความมั่นคงและเข้าใจในความเสี่ยง ควรพิจารณาผู้ที่มีดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ในราศีมังกรหรือพฤษภ ซึ่งจะมีลักษณะของความอดทนและการวางแผนระยะยาว 💼

    ทำไมโหราศาสตร์ธุรกิจถึงได้รับความนิยม? 🔥

    ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น การวางแผนกลยุทธ์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หลายบริษัทเริ่มมองหาเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจ เช่น การใช้โหราศาสตร์ในการดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม การสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับคู่ค้า และการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น 🌐

    สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะนำโหราศาสตร์มาประยุกต์ใช้ การทำความเข้าใจพื้นฐานของดวงดาวและความหมายของจักรราศี รวมถึงการวิเคราะห์ดวงชะตาธุรกิจ (Business Horoscope) จะช่วยให้เห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโอกาสที่ควรคว้า หรืออุปสรรคที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ 🔮

    สรุป: โหราศาสตร์ธุรกิจคืออะไร? 📌

    โหราศาสตร์ธุรกิจ (Business Astrology) ไม่ใช่แค่เรื่องของความเชื่อ แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจและวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้การเคลื่อนที่ของดวงดาวมาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ตลาด ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน 🌠

    #โหราศาสตร์ธุรกิจ #BusinessAstrology #การวางแผนกลยุทธ์ #ดวงชะตาธุรกิจ #ธุรกิจเติบโต #ความสำเร็จ #กลยุทธ์การตลาด #การบริหารธุรกิจ #การวางแผนธุรกิจ
    โหราศาสตร์ธุรกิจ (Business Astrology) เครื่องมือวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม! 🚀✨ คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ “โหราศาสตร์ธุรกิจ” หรือไม่? 🤔 ไม่ใช่แค่การทำนายอนาคตหรืออ่านดวงชะตา แต่เป็นศาสตร์ที่สามารถช่วยวางแผนกลยุทธ์การทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🌟 เพราะโหราศาสตร์ธุรกิจ (Business Astrology) จะนำข้อมูลการเคลื่อนที่ของดวงดาวและจักรราศีมาวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแม้แต่การเลือกหุ้นส่วนทางธุรกิจ 📊 ประโยชน์ของโหราศาสตร์ธุรกิจ 🔍💡 1️⃣ วางแผนกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ 🗓️: การใช้โหราศาสตร์ช่วยในการระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน การเปิดตัวสินค้า หรือการขยายตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ 💼 2️⃣ เข้าใจลักษณะของธุรกิจได้ลึกซึ้ง 🔎: โหราศาสตร์สามารถช่วยวิเคราะห์ศักยภาพ จุดแข็ง และจุดอ่อนของธุรกิจได้ โดยการพิจารณาตำแหน่งของดาวในดวงชะตาธุรกิจ ทำให้ผู้บริหารสามารถวางแผนการบริหารงานได้อย่างเหมาะสม 💪 3️⃣ ปรับปรุงความสัมพันธ์และการเจรจาต่อรอง 💬: การใช้โหราศาสตร์ในการทำความเข้าใจลักษณะนิสัยของหุ้นส่วน พนักงาน หรือแม้แต่ลูกค้า จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ 👫 4️⃣ ช่วยในการจัดการความเสี่ยง ⚠️: ด้วยการวิเคราะห์จากการโคจรของดาวที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ เช่น ดาวเสาร์ที่มักบ่งบอกถึงข้อจำกัด หรือดาวมฤตยูที่แสดงถึงความไม่แน่นอน การเตรียมตัวและการวางแผนรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ จึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📉 การประยุกต์ใช้โหราศาสตร์กับการทำธุรกิจ ✨ โหราศาสตร์ธุรกิจสามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการ เลือกวันเวลาที่เหมาะสม สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ การวางแผนทางการเงิน หรือแม้กระทั่งการจัดการกับสถานการณ์วิกฤติ 💥 เช่น หากธุรกิจอยู่ในช่วงที่ดาวมฤตยูทำมุมกระทบกับดวงชะตา ควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนลดต้นทุน การเก็บเงินสดสำรอง หรือการมองหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น 📈 นอกจากนี้ การทำความเข้าใจดวงชะตาของทีมงานและคู่ค้าทางธุรกิจ ก็สามารถช่วยในการเลือกคนเข้ามาร่วมงานที่เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น 👥 เช่น หากต้องการหุ้นส่วนที่มีความมั่นคงและเข้าใจในความเสี่ยง ควรพิจารณาผู้ที่มีดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ในราศีมังกรหรือพฤษภ ซึ่งจะมีลักษณะของความอดทนและการวางแผนระยะยาว 💼 ทำไมโหราศาสตร์ธุรกิจถึงได้รับความนิยม? 🔥 ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น การวางแผนกลยุทธ์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หลายบริษัทเริ่มมองหาเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจ เช่น การใช้โหราศาสตร์ในการดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม การสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับคู่ค้า และการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น 🌐 สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะนำโหราศาสตร์มาประยุกต์ใช้ การทำความเข้าใจพื้นฐานของดวงดาวและความหมายของจักรราศี รวมถึงการวิเคราะห์ดวงชะตาธุรกิจ (Business Horoscope) จะช่วยให้เห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโอกาสที่ควรคว้า หรืออุปสรรคที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ 🔮 สรุป: โหราศาสตร์ธุรกิจคืออะไร? 📌 โหราศาสตร์ธุรกิจ (Business Astrology) ไม่ใช่แค่เรื่องของความเชื่อ แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจและวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้การเคลื่อนที่ของดวงดาวมาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ตลาด ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน 🌠 #โหราศาสตร์ธุรกิจ #BusinessAstrology #การวางแผนกลยุทธ์ #ดวงชะตาธุรกิจ #ธุรกิจเติบโต #ความสำเร็จ #กลยุทธ์การตลาด #การบริหารธุรกิจ #การวางแผนธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแชร์บทความที่คิดว่ามีประโยชน์
    จากเพื่อนผม นพ.จรูญ ปิรยะวราภรณ์ครับ

    _“ความปลอดภัย 🧯 และธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ 🚌”
    _ คู่มือการคัดเลือกรถโดยสารประจำทางของสสส
    “ และภาคีเครือข่าย

    ความปลอดภัย 🧯
    และ ธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ 🚌

    . . .

    หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า หนึ่งในธุรกิจที่มีกำแพงการแข่งขัน (Barrier of Entry) สูงที่สุดในสหรัฐ คือธุรกิจ “รถโรงเรียน”

    ปัจจุบันมีเด็กกว่า 26 ล้านคนในสหรัฐและแคนาดา ใช้รถโรงเรียนกว่า 5 แสนคัน แต่ส่วนใหญ่ ถูกบริหารโดย 3 บริษัทแค่นั้น (Oligopoly) คือ Blue Bird, Thomas และ IC

    เงินรายได้ส่วนหนึ่ง มาจากการสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งทำให้รถโรงเรียน ต้องผ่านข้อบังคับที่เข้มข้นมากมาย และต้องมีการออกแบบพิเศษ ที่ "ปลอดภัยสูงกว่า" รถโดยสารปกติ เช่น

    . . .

    1/ การออกแบบ

    - ตัวถังสีเหลืองเฉพาะ "National School Bus Glossy Yellow" เพื่อให้แยกแยะได้ชัดเจน มองเห็นได้ง่าย ในทุกสภาพอากาศ

    - มีแขนหยุดและไฟกระพริบ ใช้แจ้งให้ผู้ขับขี่อื่นๆหยุดรถ เมื่อเด็กๆ กำลังเดินขึ้นหรือลง

    - มีพนักพิงสูงและการแบ่งพื้นที่ ป้องกันเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เรียกว่า “Compartmentalization"

    - รถสมัยใหม่ มีระบบติดตาม GPS ผ่านแอปพลิเคชัน และแจ้งเตือนผู้ปกครอง เมื่อรถใกล้ถึงจุดรับส่ง

    - มีกล้อง เพื่อตรวจตราติดตามพฤติกรรม ของนักเรียนและคนขับ และช่วยสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    . . .

    2/ การป้องกันไฟไหม้ 🧯

    - ภายในใช้วัสดุกันไฟ เพื่อชะลอการแพร่กระจายของไฟ

    - มีระบบดับไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันการลุกไหม้ของถังน้ำมันเชื้อเพลิง

    - ติดตั้งทางออกฉุกเฉินหลายแห่ง เช่น ประตูหลัง ช่องหลังคา และหน้าต่างด้านข้าง เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถออกจากรถได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน

    . . .

    3/ ข้อบังคับ

    - มีมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ (FMVSS) ที่เฉพาะเจาะจง เช่น การป้องกันการชน มาตรฐานการเบรก และความแข็งแรงของโครงสร้าง ซึ่งเข้มงวดกว่า และถูกตรวจสอบบ่อยครั้งกว่ารถโดยสารปกติ

    - มีการฝึกอบรมคนขับอย่างละเอียด วิธีการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ต้องมีใบขับขี่เชิงพาณิชย์พิเศษ

    . . .

    4/ การใช้พลังงานสะอาด

    เพิ่งเริ่มสนับสนุนอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2021 โดยรัฐบาลสนับสนุนงบถึง $5b ใน 5 ปี ในการทยอยเปลี่ยนรถโรงเรียนให้เป็น Zero-emission เพื่อลดการปล่อยมลพิษ ลดเสียงรบกวน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ซึ่งรถโรงเรียน ที่ส่วนมาก มีเวลาและเส้นทางการวิ่งที่แน่นอน และเวลาจอดพักนานกว่าปกติ จึงเหมาะกับการใช้งานรถไฟฟ้ามาก

    . . .

    ด้วยมาตราฐานสูง และการตรวจสอบที่เข้มงวดที่สุด ในรอบเกือบ 100 ปี ธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ จึงมีเพียงผู้เล่นเพียงไม่กี่ราย ที่ผ่านคุณสมบัติ

    ซึ่งไม่ว่ารายไหน สิ่งสำคัญที่สุดอันดับหนึ่ง คือ ความปลอดภัยของเด็กนักเรียนครับ

    “For school bus business, safety is always the number one priority”

    #MoneyDisruptor
    ขอแชร์บทความที่คิดว่ามีประโยชน์ จากเพื่อนผม นพ.จรูญ ปิรยะวราภรณ์ครับ _“ความปลอดภัย 🧯 และธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ 🚌” _ คู่มือการคัดเลือกรถโดยสารประจำทางของสสส “ และภาคีเครือข่าย ความปลอดภัย 🧯 และ ธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ 🚌 . . . หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า หนึ่งในธุรกิจที่มีกำแพงการแข่งขัน (Barrier of Entry) สูงที่สุดในสหรัฐ คือธุรกิจ “รถโรงเรียน” ปัจจุบันมีเด็กกว่า 26 ล้านคนในสหรัฐและแคนาดา ใช้รถโรงเรียนกว่า 5 แสนคัน แต่ส่วนใหญ่ ถูกบริหารโดย 3 บริษัทแค่นั้น (Oligopoly) คือ Blue Bird, Thomas และ IC เงินรายได้ส่วนหนึ่ง มาจากการสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งทำให้รถโรงเรียน ต้องผ่านข้อบังคับที่เข้มข้นมากมาย และต้องมีการออกแบบพิเศษ ที่ "ปลอดภัยสูงกว่า" รถโดยสารปกติ เช่น . . . 1/ การออกแบบ - ตัวถังสีเหลืองเฉพาะ "National School Bus Glossy Yellow" เพื่อให้แยกแยะได้ชัดเจน มองเห็นได้ง่าย ในทุกสภาพอากาศ - มีแขนหยุดและไฟกระพริบ ใช้แจ้งให้ผู้ขับขี่อื่นๆหยุดรถ เมื่อเด็กๆ กำลังเดินขึ้นหรือลง - มีพนักพิงสูงและการแบ่งพื้นที่ ป้องกันเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เรียกว่า “Compartmentalization" - รถสมัยใหม่ มีระบบติดตาม GPS ผ่านแอปพลิเคชัน และแจ้งเตือนผู้ปกครอง เมื่อรถใกล้ถึงจุดรับส่ง - มีกล้อง เพื่อตรวจตราติดตามพฤติกรรม ของนักเรียนและคนขับ และช่วยสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น . . . 2/ การป้องกันไฟไหม้ 🧯 - ภายในใช้วัสดุกันไฟ เพื่อชะลอการแพร่กระจายของไฟ - มีระบบดับไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันการลุกไหม้ของถังน้ำมันเชื้อเพลิง - ติดตั้งทางออกฉุกเฉินหลายแห่ง เช่น ประตูหลัง ช่องหลังคา และหน้าต่างด้านข้าง เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถออกจากรถได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน . . . 3/ ข้อบังคับ - มีมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ (FMVSS) ที่เฉพาะเจาะจง เช่น การป้องกันการชน มาตรฐานการเบรก และความแข็งแรงของโครงสร้าง ซึ่งเข้มงวดกว่า และถูกตรวจสอบบ่อยครั้งกว่ารถโดยสารปกติ - มีการฝึกอบรมคนขับอย่างละเอียด วิธีการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ต้องมีใบขับขี่เชิงพาณิชย์พิเศษ . . . 4/ การใช้พลังงานสะอาด เพิ่งเริ่มสนับสนุนอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2021 โดยรัฐบาลสนับสนุนงบถึง $5b ใน 5 ปี ในการทยอยเปลี่ยนรถโรงเรียนให้เป็น Zero-emission เพื่อลดการปล่อยมลพิษ ลดเสียงรบกวน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรถโรงเรียน ที่ส่วนมาก มีเวลาและเส้นทางการวิ่งที่แน่นอน และเวลาจอดพักนานกว่าปกติ จึงเหมาะกับการใช้งานรถไฟฟ้ามาก . . . ด้วยมาตราฐานสูง และการตรวจสอบที่เข้มงวดที่สุด ในรอบเกือบ 100 ปี ธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ จึงมีเพียงผู้เล่นเพียงไม่กี่ราย ที่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งไม่ว่ารายไหน สิ่งสำคัญที่สุดอันดับหนึ่ง คือ ความปลอดภัยของเด็กนักเรียนครับ “For school bus business, safety is always the number one priority” #MoneyDisruptor
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ความท้าทายของการส่งออกข้าวไทย
    เมื่อผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก คือ อินเดีย
    ได้กลับมาเปิดเสรี การส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศอีกครั้ง
    หลังจากหยุดพักการส่งออกข้าว
    ตั้งแต่ กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา

    🚩ส่งผลให้แนวโน้มของราคาข้าวในตลาดโลก
    มีโอกาสปรับตัวลดลง
    จากผลผลิตข้าวในตลาดที่มากยิ่งขึ้น

    🚩นักวิชาการแนะ รัฐบาล ให้เพิ่มการยกระดับ
    ในการปรับปรุงคุณภาพข้าวในประเทศ
    เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขั้นในตลาดโลก

    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกข้าวไทย
    #thaitimes
    💥💥ความท้าทายของการส่งออกข้าวไทย เมื่อผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก คือ อินเดีย ได้กลับมาเปิดเสรี การส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากหยุดพักการส่งออกข้าว ตั้งแต่ กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา 🚩ส่งผลให้แนวโน้มของราคาข้าวในตลาดโลก มีโอกาสปรับตัวลดลง จากผลผลิตข้าวในตลาดที่มากยิ่งขึ้น 🚩นักวิชาการแนะ รัฐบาล ให้เพิ่มการยกระดับ ในการปรับปรุงคุณภาพข้าวในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขั้นในตลาดโลก ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกข้าวไทย #thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดาราประเภทจมไม่ลงหาทางออกหาทางรอดแบบลงเหว
    ท้าวความนิดนึงสำหรับแฟนเพจที่ติดตามข่าวไม่ปะติดปะต่อ
    ปัจจุบัน ฝั่งยุโรป เอเชีย เช่นจีน ไต้หวัน และตะวันออกลาง
    กลุ่มฟอก ได้ใช้ระบบในตต. ในการทำเงินดาร์คให้เป็นข่าวมาระยะเวลาพอสมควร ผ่านการพีเค บิ๊กแม็ต หากอยากรู้รายะละเอียดวิธีการรบกวนแฟนเพจย้อนกลับไปอ่านโพสก่อนๆหน้า
    ดังนั้น จากปรากฏการแน๊กชาลีกามิจ ทำให้ขบวนการฟอกขาว ได้มาใช้บริการ ผ่านการติดต่อเอเจนซี่ทุนดาร์คกิมจิ ที่ร่วมงานกับเจ้าพ่อเว็บ888 ซักฟอกได้มหาศาลในช่วยแปดเดือนที่ผ่านมา
    ทำให้เกิดการสร้างความยั่งยืน โดยจะใช้ประเทศไทย
    เป็นศูนย์กลางการฟอกของทั่วโลก
    การจัดพีเค บิ๊กแม็ตเท่านั้น เป็นเงื่อนไข
    ที่จะทำให้กระบวนการฟอกเกิดขึ้นได้
    เพื่ออ้างว่าได้รับรายได้มาจากของขวัญในการแข่งขัน
    ที่จะไม่ผิดจากความเป็นธรรมชาติ
    มีองค์ประกอบสำคัญคือ
    1. ตัวแสดง ต้องมี 2 ฝั่ง ที่มีความนิยม ที่จะสร้างสตอรี่ และดันให้ดังก่อน แล้วจึงมีการจัดตารางในการทำบิ๊กแม๊ต ผ่านการโปรโมท
    2. คนดู ที่ต้องมีปริมาณมากพอ ที่จะมีการส่งของขวัญอย่างเอิกเกริก
    โดยตามข้อที่ 2 นี้ วิธีการที่จะยั่งยืนคือ ใช้ยูซตต. ที่ถูกสร้างขึ้น แทนคนจริง เพื่อไม่ต้องโฆมาก เสียงบประมาณแบบในปัจจุบัน และดันยูซผีเข้าไปวิวดูทั้งสองฝ่าย และเริ่มโยนของขวัญจากงบมหาศาล ตั้งแต่ 5 - 20% แต่จะถอดเหรียญตต.ออกมา 100 % ทั้งจำนวนคน และจำนวนเหรียญ และความยิ่งใหญ่ของบิ๊กแม๊ต ดูสมดุล ก็ถอนออกมาแล้วชำระภาษี ก็จะได้เงินที่สะอาดบริสุทธิ์
    ในส่วนของตัวแสดง ทางกลุ่มดาร์คเห็นแล้วว่า แน๊กชาลี เป็นผู้ทำปรากฏการ
    แต่แน๊ก ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสิ่งใดที่จะทำให้คนไทยต้องเสียเงินมากๆ
    แน๊ก จึงกลายเป็นเป้า ที่ทุนดาร์คต้องใช้ระบบยูซผี เข้าไปเล่นช่องให้ปลิว แบบที่แน๊กช่องแท้โดนจนปลิว ถ้าเล่นแน๊กได้ ก็เล่นช่องที่เป็นด้อมของแน๊กได้ ตอนนี้ต่างทะยอยปลิวกันวันละเป็นสิบที่
    แล้วเหตุการณ์จะดำเนินอย่างไรต่อ
    ต่อไป ก็คือการช็อปคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วที่ไม่ต้องปั้นอะไรมาก
    ตอนแรก จะใช้ ตต.เกอร์ แต่ ตต.เกอร์หลายคนก็ยังเยาว์ และมีความรู้สึกยุ่งยาก เพราะต้องติดสัญญาสารพัดสี่ห้าปี และมีผปค ต้องเข้ามาช่วยดูอีก ซึ่งกลุ่มนี้ก็กลัวจะหลุด
    และในจังหวะที่วงการละครไทย กำลังดิ่ง ทำให้นักแสดงหลายคน ค่ายหลายๆ ต้องปิดตัวลงอย่างน่าเสียดาย เพราะการดิสรับของโซเชียล ที่ทำให้ทีวีไทยที่อยู่ได้ด้วยโฆ ไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะบริษัทต่างๆ ก็หันมาในสนามADโซเชียล เพราะเห็นผลกว่าในงบที่เท่ากัน
    ดาราส่วนหนึ่ง เป็นคนที่มีนิสายเก็บออม หรือสร้างธุรกิจไว้รองรับ ก็อยู่ได้อย่างสบาย แต่ดาราอีกจำนวนไม่น้อย ที่ติดหล่มจมไม่ลง ต้องแสวงหารายได้ทางอื่น โดยบางคนรู้ แต่บางคนไม่รู้ตัว ว่ารายได้อันมากมาย มาจากกลุ่มทุนดาร์คข้ามชาติ
    ข้อมูลที่พี่คิงส์มี ก็ทำให้ตกใจ ที่ดาราที่ดูใสสะอาดหลายคน ได้รับการติดต่อการช็อป จากเอเจนซี่หลายสำนักที่มาเปิดในไทย ต่างเสนอค่าตอบแทนให้ชนิดที่อยู่ได้ และมากกว่าการแสดงละครหลายเท่า ซึ่งแน่นอน สิ่งนี้คนที่จมไม่ลง ยังรักชีวิตที่สุขสบาย ย่อมตาโต และพร้อมโผเข้าใส่ และดาราบางราย คิดการใหญ่ ไปดิลทุนดาร์คยังต่างประเทศ อยากเปิดเอเจนซี่ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าตนเอง อยู่ในระบบอยู่แล้วในตต. มีผู้ติดตามเท่านั้นเท่านี้ และมีตัวเด่นๆที่รู้จัก และสามารถติดต่อคนในวงการเข้ามาในระบบนี้ ก็มีการเจรจาต่อรอง
    ซึ่งพี่คิงส์เคยบอกแล้วว่า กรณีที่มีการส่งค่าตอบแทนผ่านระบบของกลุ่มทุนดาร์ค มันจะผ่านบัญชีที่ตัวมัน ปลอดภัย แต่ไม่มีความจำเป็น ที่กลุ่มทุนดาร์คจะเซฟผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งวันหนึ่ง เส้นเงินจะเข้ามาถึงบรรดาดาราไทยที่หลงผิด แต่ก็มีอีกหลายคน พลาด เพียงเพราะคิดว่ามันคือธุรกิจใหม่ นำชื่อเสียงและความสามารถของตัวเอง เปลี่ยนเป็นรายได้ ผ่านเอเจนซี่ ที่จะคอยผลักดันให้เป็นดาวในโลกตต. ทั้งชือเสียง ทั้งรายได้ ทุกอย่างมันดูดีไปหมด อย่างน่าแปลกใจ
    โพสนี้ พี่คิงส์ขอส่งสัญญาณไปถึงดาราที่ยังไม่พลาดพลั้ง ให้ทบทวนในสิ่งที่พี่คิงส์แจ้ง แล้วลองตัดสินใจให้ดีว่า อยากเป็นเหมือนหลายๆคน ที่ถูกโยงเรื่องการฟอก และต้องจบไปตารางหรือเปล่า
    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เงินสุจริต อาจต้องแลกด้วยความยากลำบาก
    แต่มันมีค่า มีศิริมงคล แต่เมื่อไหร่ที่เงินดาร์คคือรายได้หลักของคน ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว มันมีวันเริ่ม ที่ดูสวยงาม แต่วันจบของมัน ไม่เคยสวยงามซักราย
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ดาราประเภทจมไม่ลงหาทางออกหาทางรอดแบบลงเหว ท้าวความนิดนึงสำหรับแฟนเพจที่ติดตามข่าวไม่ปะติดปะต่อ ปัจจุบัน ฝั่งยุโรป เอเชีย เช่นจีน ไต้หวัน และตะวันออกลาง กลุ่มฟอก ได้ใช้ระบบในตต. ในการทำเงินดาร์คให้เป็นข่าวมาระยะเวลาพอสมควร ผ่านการพีเค บิ๊กแม็ต หากอยากรู้รายะละเอียดวิธีการรบกวนแฟนเพจย้อนกลับไปอ่านโพสก่อนๆหน้า ดังนั้น จากปรากฏการแน๊กชาลีกามิจ ทำให้ขบวนการฟอกขาว ได้มาใช้บริการ ผ่านการติดต่อเอเจนซี่ทุนดาร์คกิมจิ ที่ร่วมงานกับเจ้าพ่อเว็บ888 ซักฟอกได้มหาศาลในช่วยแปดเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดการสร้างความยั่งยืน โดยจะใช้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการฟอกของทั่วโลก การจัดพีเค บิ๊กแม็ตเท่านั้น เป็นเงื่อนไข ที่จะทำให้กระบวนการฟอกเกิดขึ้นได้ เพื่ออ้างว่าได้รับรายได้มาจากของขวัญในการแข่งขัน ที่จะไม่ผิดจากความเป็นธรรมชาติ มีองค์ประกอบสำคัญคือ 1. ตัวแสดง ต้องมี 2 ฝั่ง ที่มีความนิยม ที่จะสร้างสตอรี่ และดันให้ดังก่อน แล้วจึงมีการจัดตารางในการทำบิ๊กแม๊ต ผ่านการโปรโมท 2. คนดู ที่ต้องมีปริมาณมากพอ ที่จะมีการส่งของขวัญอย่างเอิกเกริก โดยตามข้อที่ 2 นี้ วิธีการที่จะยั่งยืนคือ ใช้ยูซตต. ที่ถูกสร้างขึ้น แทนคนจริง เพื่อไม่ต้องโฆมาก เสียงบประมาณแบบในปัจจุบัน และดันยูซผีเข้าไปวิวดูทั้งสองฝ่าย และเริ่มโยนของขวัญจากงบมหาศาล ตั้งแต่ 5 - 20% แต่จะถอดเหรียญตต.ออกมา 100 % ทั้งจำนวนคน และจำนวนเหรียญ และความยิ่งใหญ่ของบิ๊กแม๊ต ดูสมดุล ก็ถอนออกมาแล้วชำระภาษี ก็จะได้เงินที่สะอาดบริสุทธิ์ ในส่วนของตัวแสดง ทางกลุ่มดาร์คเห็นแล้วว่า แน๊กชาลี เป็นผู้ทำปรากฏการ แต่แน๊ก ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสิ่งใดที่จะทำให้คนไทยต้องเสียเงินมากๆ แน๊ก จึงกลายเป็นเป้า ที่ทุนดาร์คต้องใช้ระบบยูซผี เข้าไปเล่นช่องให้ปลิว แบบที่แน๊กช่องแท้โดนจนปลิว ถ้าเล่นแน๊กได้ ก็เล่นช่องที่เป็นด้อมของแน๊กได้ ตอนนี้ต่างทะยอยปลิวกันวันละเป็นสิบที่ แล้วเหตุการณ์จะดำเนินอย่างไรต่อ ต่อไป ก็คือการช็อปคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วที่ไม่ต้องปั้นอะไรมาก ตอนแรก จะใช้ ตต.เกอร์ แต่ ตต.เกอร์หลายคนก็ยังเยาว์ และมีความรู้สึกยุ่งยาก เพราะต้องติดสัญญาสารพัดสี่ห้าปี และมีผปค ต้องเข้ามาช่วยดูอีก ซึ่งกลุ่มนี้ก็กลัวจะหลุด และในจังหวะที่วงการละครไทย กำลังดิ่ง ทำให้นักแสดงหลายคน ค่ายหลายๆ ต้องปิดตัวลงอย่างน่าเสียดาย เพราะการดิสรับของโซเชียล ที่ทำให้ทีวีไทยที่อยู่ได้ด้วยโฆ ไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะบริษัทต่างๆ ก็หันมาในสนามADโซเชียล เพราะเห็นผลกว่าในงบที่เท่ากัน ดาราส่วนหนึ่ง เป็นคนที่มีนิสายเก็บออม หรือสร้างธุรกิจไว้รองรับ ก็อยู่ได้อย่างสบาย แต่ดาราอีกจำนวนไม่น้อย ที่ติดหล่มจมไม่ลง ต้องแสวงหารายได้ทางอื่น โดยบางคนรู้ แต่บางคนไม่รู้ตัว ว่ารายได้อันมากมาย มาจากกลุ่มทุนดาร์คข้ามชาติ ข้อมูลที่พี่คิงส์มี ก็ทำให้ตกใจ ที่ดาราที่ดูใสสะอาดหลายคน ได้รับการติดต่อการช็อป จากเอเจนซี่หลายสำนักที่มาเปิดในไทย ต่างเสนอค่าตอบแทนให้ชนิดที่อยู่ได้ และมากกว่าการแสดงละครหลายเท่า ซึ่งแน่นอน สิ่งนี้คนที่จมไม่ลง ยังรักชีวิตที่สุขสบาย ย่อมตาโต และพร้อมโผเข้าใส่ และดาราบางราย คิดการใหญ่ ไปดิลทุนดาร์คยังต่างประเทศ อยากเปิดเอเจนซี่ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าตนเอง อยู่ในระบบอยู่แล้วในตต. มีผู้ติดตามเท่านั้นเท่านี้ และมีตัวเด่นๆที่รู้จัก และสามารถติดต่อคนในวงการเข้ามาในระบบนี้ ก็มีการเจรจาต่อรอง ซึ่งพี่คิงส์เคยบอกแล้วว่า กรณีที่มีการส่งค่าตอบแทนผ่านระบบของกลุ่มทุนดาร์ค มันจะผ่านบัญชีที่ตัวมัน ปลอดภัย แต่ไม่มีความจำเป็น ที่กลุ่มทุนดาร์คจะเซฟผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งวันหนึ่ง เส้นเงินจะเข้ามาถึงบรรดาดาราไทยที่หลงผิด แต่ก็มีอีกหลายคน พลาด เพียงเพราะคิดว่ามันคือธุรกิจใหม่ นำชื่อเสียงและความสามารถของตัวเอง เปลี่ยนเป็นรายได้ ผ่านเอเจนซี่ ที่จะคอยผลักดันให้เป็นดาวในโลกตต. ทั้งชือเสียง ทั้งรายได้ ทุกอย่างมันดูดีไปหมด อย่างน่าแปลกใจ โพสนี้ พี่คิงส์ขอส่งสัญญาณไปถึงดาราที่ยังไม่พลาดพลั้ง ให้ทบทวนในสิ่งที่พี่คิงส์แจ้ง แล้วลองตัดสินใจให้ดีว่า อยากเป็นเหมือนหลายๆคน ที่ถูกโยงเรื่องการฟอก และต้องจบไปตารางหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เงินสุจริต อาจต้องแลกด้วยความยากลำบาก แต่มันมีค่า มีศิริมงคล แต่เมื่อไหร่ที่เงินดาร์คคือรายได้หลักของคน ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว มันมีวันเริ่ม ที่ดูสวยงาม แต่วันจบของมัน ไม่เคยสวยงามซักราย #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 849 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เปลี่ยนใจเพราะไปสัญญากับแฟนเพจ
    #ครบ1500ไลค์ก็จัดไป
    นิทาน ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่
    ตอน เปิดวังศรีธัญญ่ากับเทพหมา888
    กลางครั้งหนึ่ง ที่ไม่ย้อนในสามอีพีที่ผ่านมา
    วันนี้ เราไปเปิดวังศรีธัญญ่าที่ปัจุบัน เป็นที่รู้กันว่า มีเทพแม่เลี้ยงเดี่ยว
    ที่ไม่มีที่พึ่งพาทางใจอยู่ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็น
    หวังคำมโน จากเฒ่าจีมันทโน เพื่อชะโลมใจ โดยยอมแลกด้วย
    ด้วยพรที่มีแบบหมดหน้าตัก
    แต่ เทพตัวผู้ก็มี เช่น ไอ่ปี๋หน้าเห็ด ที่หลุดเข้าไปได้เพราะความกาก ความต่ำ เฒ่าจีมันทโน ดึงไปท่ามกลางเทพเป๋าหนัก เพื่อเป็นลูกมือในการทำอะไรก็ตามที่มันมีความเสี่ยง เพราะคนอย่างปี๋ พี่เหือ ทำได้ทุกอย่าง
    แต่วันนี้ เราจะพุ่งเป้ามาดูตัวละครลับ แต่เป็นตัวสำคัญในนิทานเรื่องนี้
    ที่ยังไม่มีใครเปิด แต่พี่คิงส์เปิดก่อนเลยไม่รอ เพราะตอนนี้ เทพตนนี้ใช้ทรัพยากรที่มี เล่นงานเพื่อนชาวนา ถึงกับบ้านปลิวไปหลายหลัง
    ขอให้แฟนเพจทุกท่าน ทำความรู้จักกับ เทพหมา888 เทพหมา เป็นการจำแลงกายมา จริงๆก็ไม่ได้อินอะไรกับบทบาทของอินังงูเหม็น แต่นี่คือช่องทางในการเปลี่ยนกงเต็กจากโลกแห่งความมืด ให้กลายเป็นเงินจริงในโลกมนุษย์
    -เทพหมา888 ก็คือมารหมา888 แค่เข้ามาฝังในวังศรีธัญญ่า เออ ออ ไปตามประสา และยังมีร่างทรงกองกอย ไว้ส่งของขวัญหนักๆ แบบไม่เปิดหน้า ในระหว่างการแข่งขันของนังงูพิษ
    -มารหมา888 เป็นเจ้าพ่อ ของโลกแห่งความมืด มีมารสีกากีอยู่เบื้องหลัง จึงรอดมาได้ถึงวันนี้ แต่ปัญหาก็คือ กงเต็กที่มี มันเอาออกมาไม่ได้ มีเป็นแสนล้าน ก็เหมือนไม่มี และช่วงที่ผ่านมา มีการสืบเส้นทางของกงเต็กหนักมาก ทำให้หลายธุรกิจที่สั่งให้ผีดิบเมืองมนุษ์ทำ เช่น การขายเกวียนมือสอง การซื้อวัง แม้กระทั่ง กลุ่มซุปเปอร์เกวียน ต้องเทกันจ้าระหวั่น เพื่อดึงเข้าสู่ระบบกงเต็กคืน ไม่งั้นบังลัย
    -เทพหมา888 ถึงจะยิ่งใหญ่ในโลกแห่งความมืด แต่ก็ยังมีจักรวาลแห่งความมืด ที่ยิ่งใหญ่กว่า โดยจักรวาลแห่งความมืด คือเจ้าของตัวจริงของวังศรีธัญญ่า โดยมีการสร้างบ้านหลังหนึ่ง ชื่อ เอเจนซ่า ไว้รวบรวมคนแบบ งูเหม็น เอาไว้สร้างการแข่งขัน เพื่อให้ ทั้งโลกและจักรวาลแห่งความมืด ใช้แทรกกงเต็กเข้าระบบ และเปลี่ยนเป็นเงินของโลกมนุษย์ให้สะอาด
    -มารหมา888 จึงวางโปรเจคใหญ่ ด้วยการเพิ่มปริมาณทรัพยากร ด้วยทุนทรัพย์ที่มหาศาลจากจักรวาลแห่งความมืด ระดมมารทั่วจักรวาลมาทำงานใหญ่ มีทั้งเครื่องมือเทพ ไว้สร้างผีกองกอย ได้จำนวนมหาศาล ไว้ปั่นป่วนทั้งภพเทพ และภพมนุษย์
    -ช่วงนี้ บ้านคนดีๆถูกพายุผี พัดบ้านปลิวไปทีละหลังสองหลัง
    โดยมี จีมันทโน นังเฒ่า สร้างวาทะกรรมว่า เพื่อนชาวนาหน้าหล่อ สงบปากสงบคำ ก็เพราะตาสว่าง แต่เบื้องหลัง ใช้ไอ่ปี๋หน้าเห็ด บัญชาการชั้นรอง ปักเป้านำผีนรกเป็นฝูงราว 500-2000 ตัว เข้าปะทะบ้านคนดีๆพร้อมกัน บ้านจึงปลิวไปอย่างน่าเสียดาย
    แต่ เรื่องนี้ ได้ถึงเง็กเซียน และได้ส่งทหารสวรรค์ เข้ามาตรวจสอบ
    แต่ความพยามอย่างไม่ลดละ ของจักรวาลแห่งความมืด มันก็อัดฉีดเต็มกำลัง เพราะทั้งทวีปมนุษย์สีขาว สีเหลือง สีดำ หรือหน้าคมเข้ม ต่างก็รู้แผนของโลกแห่งความมืด และขับไล่ออกจากดินแดน
    ดังนั้น โลกแห่งความอิสระนี่แหละ ที่เป็นเป้าหมาย
    เพราะเต็มไปด้วยจองหงวน และผู้มีอำนาจที่ช่อฉล
    พร้อมเปิดทางให้โลกและจักรวาลแห่งความมืด ได้ความง่ายดายในทุกแผน
    แต่ก็ยังมีจองหงวน และจอมยุทธทั่วหล้า ที่พร้อมจะยืนหยัด
    ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือชาวนาหน้าหล่อ 1 คนอีกต่อไป
    แต่มันคือการยืนหยัดเพื่อรักษาพิภพนี้
    เพราะเมื่อใด ที่โลกแห่งความอิสระ ถูกครอบด้วยวิถีมาร
    จากจักรวาลแห่งความมืด นั่นหมายถึงเราจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไป
    จากจุดที่เคยอยู่กันอย่างผาสุขอีกเลย
    และนี่คือ อีพี 4
    ทั้งๆที่พี่คิงส์เอง ก็คิดว่าจะไม่ทำแล้ว อยากชนตรงๆ
    แต่มองดูสัญญา ที่ให้ไว้กับแฟนเพจ ก็ต้องทำ
    ไหนๆก็ทำแล้ว เพจคิงส์โพธิ์แดง
    ก็จะเปิดทั้งความจริงแบบตรงๆ
    และมีนิทานสนุกๆที่ไม่ได้อ้างอิงกับคนจริงๆ
    ไว้ให้แฟนเพจได้อ่านกัน
    ส่วนไอ่เฒ่าผู้คลั่งรักที่ฟันหน้าหายหมดแล้ว
    ปล่อยมันให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ
    ระดับลิ่วล้อกากๆ ละไว้ก่อน ให้มันเพ้อไปว่ายิงแอดเป็นแล้ว
    ช่วงนี้ของเล่นหัวเท่านั้น รอติดตามอีพีห้าต่อไป
    เดี๋ยวหัวค่ำ จะทำเป็นนิทานเสียง ให้แฟนเพจที่ไม่ชอบอ่านยาวๆได้ฟังกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เปลี่ยนใจเพราะไปสัญญากับแฟนเพจ #ครบ1500ไลค์ก็จัดไป นิทาน ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่ ตอน เปิดวังศรีธัญญ่ากับเทพหมา888 กลางครั้งหนึ่ง ที่ไม่ย้อนในสามอีพีที่ผ่านมา วันนี้ เราไปเปิดวังศรีธัญญ่าที่ปัจุบัน เป็นที่รู้กันว่า มีเทพแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ไม่มีที่พึ่งพาทางใจอยู่ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็น หวังคำมโน จากเฒ่าจีมันทโน เพื่อชะโลมใจ โดยยอมแลกด้วย ด้วยพรที่มีแบบหมดหน้าตัก แต่ เทพตัวผู้ก็มี เช่น ไอ่ปี๋หน้าเห็ด ที่หลุดเข้าไปได้เพราะความกาก ความต่ำ เฒ่าจีมันทโน ดึงไปท่ามกลางเทพเป๋าหนัก เพื่อเป็นลูกมือในการทำอะไรก็ตามที่มันมีความเสี่ยง เพราะคนอย่างปี๋ พี่เหือ ทำได้ทุกอย่าง แต่วันนี้ เราจะพุ่งเป้ามาดูตัวละครลับ แต่เป็นตัวสำคัญในนิทานเรื่องนี้ ที่ยังไม่มีใครเปิด แต่พี่คิงส์เปิดก่อนเลยไม่รอ เพราะตอนนี้ เทพตนนี้ใช้ทรัพยากรที่มี เล่นงานเพื่อนชาวนา ถึงกับบ้านปลิวไปหลายหลัง ขอให้แฟนเพจทุกท่าน ทำความรู้จักกับ เทพหมา888 เทพหมา เป็นการจำแลงกายมา จริงๆก็ไม่ได้อินอะไรกับบทบาทของอินังงูเหม็น แต่นี่คือช่องทางในการเปลี่ยนกงเต็กจากโลกแห่งความมืด ให้กลายเป็นเงินจริงในโลกมนุษย์ -เทพหมา888 ก็คือมารหมา888 แค่เข้ามาฝังในวังศรีธัญญ่า เออ ออ ไปตามประสา และยังมีร่างทรงกองกอย ไว้ส่งของขวัญหนักๆ แบบไม่เปิดหน้า ในระหว่างการแข่งขันของนังงูพิษ -มารหมา888 เป็นเจ้าพ่อ ของโลกแห่งความมืด มีมารสีกากีอยู่เบื้องหลัง จึงรอดมาได้ถึงวันนี้ แต่ปัญหาก็คือ กงเต็กที่มี มันเอาออกมาไม่ได้ มีเป็นแสนล้าน ก็เหมือนไม่มี และช่วงที่ผ่านมา มีการสืบเส้นทางของกงเต็กหนักมาก ทำให้หลายธุรกิจที่สั่งให้ผีดิบเมืองมนุษ์ทำ เช่น การขายเกวียนมือสอง การซื้อวัง แม้กระทั่ง กลุ่มซุปเปอร์เกวียน ต้องเทกันจ้าระหวั่น เพื่อดึงเข้าสู่ระบบกงเต็กคืน ไม่งั้นบังลัย -เทพหมา888 ถึงจะยิ่งใหญ่ในโลกแห่งความมืด แต่ก็ยังมีจักรวาลแห่งความมืด ที่ยิ่งใหญ่กว่า โดยจักรวาลแห่งความมืด คือเจ้าของตัวจริงของวังศรีธัญญ่า โดยมีการสร้างบ้านหลังหนึ่ง ชื่อ เอเจนซ่า ไว้รวบรวมคนแบบ งูเหม็น เอาไว้สร้างการแข่งขัน เพื่อให้ ทั้งโลกและจักรวาลแห่งความมืด ใช้แทรกกงเต็กเข้าระบบ และเปลี่ยนเป็นเงินของโลกมนุษย์ให้สะอาด -มารหมา888 จึงวางโปรเจคใหญ่ ด้วยการเพิ่มปริมาณทรัพยากร ด้วยทุนทรัพย์ที่มหาศาลจากจักรวาลแห่งความมืด ระดมมารทั่วจักรวาลมาทำงานใหญ่ มีทั้งเครื่องมือเทพ ไว้สร้างผีกองกอย ได้จำนวนมหาศาล ไว้ปั่นป่วนทั้งภพเทพ และภพมนุษย์ -ช่วงนี้ บ้านคนดีๆถูกพายุผี พัดบ้านปลิวไปทีละหลังสองหลัง โดยมี จีมันทโน นังเฒ่า สร้างวาทะกรรมว่า เพื่อนชาวนาหน้าหล่อ สงบปากสงบคำ ก็เพราะตาสว่าง แต่เบื้องหลัง ใช้ไอ่ปี๋หน้าเห็ด บัญชาการชั้นรอง ปักเป้านำผีนรกเป็นฝูงราว 500-2000 ตัว เข้าปะทะบ้านคนดีๆพร้อมกัน บ้านจึงปลิวไปอย่างน่าเสียดาย แต่ เรื่องนี้ ได้ถึงเง็กเซียน และได้ส่งทหารสวรรค์ เข้ามาตรวจสอบ แต่ความพยามอย่างไม่ลดละ ของจักรวาลแห่งความมืด มันก็อัดฉีดเต็มกำลัง เพราะทั้งทวีปมนุษย์สีขาว สีเหลือง สีดำ หรือหน้าคมเข้ม ต่างก็รู้แผนของโลกแห่งความมืด และขับไล่ออกจากดินแดน ดังนั้น โลกแห่งความอิสระนี่แหละ ที่เป็นเป้าหมาย เพราะเต็มไปด้วยจองหงวน และผู้มีอำนาจที่ช่อฉล พร้อมเปิดทางให้โลกและจักรวาลแห่งความมืด ได้ความง่ายดายในทุกแผน แต่ก็ยังมีจองหงวน และจอมยุทธทั่วหล้า ที่พร้อมจะยืนหยัด ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือชาวนาหน้าหล่อ 1 คนอีกต่อไป แต่มันคือการยืนหยัดเพื่อรักษาพิภพนี้ เพราะเมื่อใด ที่โลกแห่งความอิสระ ถูกครอบด้วยวิถีมาร จากจักรวาลแห่งความมืด นั่นหมายถึงเราจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไป จากจุดที่เคยอยู่กันอย่างผาสุขอีกเลย และนี่คือ อีพี 4 ทั้งๆที่พี่คิงส์เอง ก็คิดว่าจะไม่ทำแล้ว อยากชนตรงๆ แต่มองดูสัญญา ที่ให้ไว้กับแฟนเพจ ก็ต้องทำ ไหนๆก็ทำแล้ว เพจคิงส์โพธิ์แดง ก็จะเปิดทั้งความจริงแบบตรงๆ และมีนิทานสนุกๆที่ไม่ได้อ้างอิงกับคนจริงๆ ไว้ให้แฟนเพจได้อ่านกัน ส่วนไอ่เฒ่าผู้คลั่งรักที่ฟันหน้าหายหมดแล้ว ปล่อยมันให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ ระดับลิ่วล้อกากๆ ละไว้ก่อน ให้มันเพ้อไปว่ายิงแอดเป็นแล้ว ช่วงนี้ของเล่นหัวเท่านั้น รอติดตามอีพีห้าต่อไป เดี๋ยวหัวค่ำ จะทำเป็นนิทานเสียง ให้แฟนเพจที่ไม่ชอบอ่านยาวๆได้ฟังกัน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 913 มุมมอง 0 รีวิว
  • เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)

    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง

    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014

    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey

    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU



    ----------------------------------------------
    รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง
    1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut
    แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90
    ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM
    เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet
    ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง
    ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์"
    https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4
    เพลง Glorious Years (光辉岁月)
    https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU

    2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND
    ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง
    ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล
    https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw
    3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai)
    เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง
    "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ
    เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน
    แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ
    บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง
    เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก
    https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU
    สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM
    ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi
    คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน
    https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o

    4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้
    และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้
    ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ?
    https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc

    5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung
    นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง
    อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า.....
    mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1
    密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣
    https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0
    6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง
    สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน
    ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้
    ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก..
    ช่าย หมาย..ล่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY
    7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน
    ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล"
    มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond
    海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย
    ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง
    คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 )
    แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love
    ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡)
    ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย
    ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ
    https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI
    9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒
    มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่
    ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน"
    ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken "
    https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU
    10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง
    ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ
    กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983
    11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน
    เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ
    คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก

    12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง
    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014
    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey
    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU
    13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้
    《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว"
    "Song of a Thousand Thousand Que"
    ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji
    โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988
    หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง
    PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง
    ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang
    กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ
    Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records,
    CBS/SonyและWingo Creative
    ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล
    " My Favorite Song Award in the Music World "
    ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง
    ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989
    https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w

    14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง
    ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok
    https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo

    15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam
    https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4

    16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน
    เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University
    และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 "
    เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก
    นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ
    https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI

    17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. "
    เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
    น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน.
    https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg

    18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว”
    สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau)
    นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง
    สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji
    《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together
    สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน)
    โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ)
    如何面对 曾一起走过的日子
    jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2
    现在剩下我独行
    jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4
    如何用心声一一讲你知
    jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1
    从来没人明白我
    cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5
    唯一你给我好日子
    wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2
    有你有我有情有生有死有义
    jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6
    https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ
    19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung
    ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』
    แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล"
    หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side
    https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80

    20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu
    คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》
    ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade"
    นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San
    นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก)
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”
    https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes

    21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung
    ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า
    ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง
    ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน
    ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง
    หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง.
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี
    ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau)
    ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau)
    แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ
    ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก
    และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น
    สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป
    ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ
    มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป
    และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน
    (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง)
    ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ
    เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้
    โดยปราศจากเธอ
    ตรงกับชื่อเพลง
    "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走
    Only Want to Go with You in this Life
    https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c
    23. เพลงแนว Soft-Rock
    อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond
    บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง
    บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง
    ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ
    เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
    Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲)
    ศิลปิน : 李克勤 และ 周深
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”

    25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์
    เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง
    โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง
    รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372

    -《暗裡著迷》
    - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟
    - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet
    ของวง Beyond แน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY
    - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ)
    天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
    - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง
    1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月
    2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空
    - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne
    ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง
    กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว
    ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee
    ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ
    - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม"
    เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี
    ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่
    (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว)
    https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI
    - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด
    ของ Joey Yuong 容祖兒
    แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป
    สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา"
    ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน
    - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา
    แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee
    เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index"
    ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย.
    https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM
    - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China)
    เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue
    ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui
    แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU ---------------------------------------------- รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง 1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90 ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์" https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4 เพลง Glorious Years (光辉岁月) https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU 2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw 3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai) เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o 4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้ และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้ ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ? https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc 5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า..... mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1 密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣 https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0 6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้ ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก.. ช่าย หมาย..ล่ะ https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY 7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล" มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond 海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 ) แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡) ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI 9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒 มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่ ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน" ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken " https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU 10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983 11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก 12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU 13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้ 《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว" "Song of a Thousand Thousand Que" ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988 หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records, CBS/SonyและWingo Creative ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล " My Favorite Song Award in the Music World " ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989 https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w 14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo 15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4 16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 " เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI 17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. " เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน. https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg 18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว” สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau) นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji 《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน) โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ) 如何面对 曾一起走过的日子 jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2 现在剩下我独行 jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4 如何用心声一一讲你知 jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1 从来没人明白我 cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5 唯一你给我好日子 wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2 有你有我有情有生有死有义 jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6 https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ 19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』 แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล" หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80 20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》 ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade" นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก) ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes 21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง. https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau) ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau) แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง) ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้ โดยปราศจากเธอ ตรงกับชื่อเพลง "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走 Only Want to Go with You in this Life https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c 23. เพลงแนว Soft-Rock อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲) ศิลปิน : 李克勤 และ 周深 ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” 25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์ เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372 -《暗裡著迷》 - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟 - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet ของวง Beyond แน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ) 天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง 1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月 2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空 - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม" เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่ (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว) https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด ของ Joey Yuong 容祖兒 แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา" ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index" ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย. https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China) เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • สู้เต็มที่แล้วไม่มีอะไรต้องเสียใจ! ฟุตซอลทีมชาติไทยพ่ายฝรั่งเศส 2-5 ในศึกการแข่งขันฟุตซอลโลก2024 สร้างประวัติศาสตร์ไม่สำเร็จเข้าแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้จะเสียดาย แต่ไม่เสียใจเลย เห็นแล้วว่าทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ ผลัดกันบุกผลัดกันรับ ไม่มีใครพับสนามบุกใคร แต่เกมการเล่นของฝรั่งเศสคมกว่าและนายด่านฝรั่งเศสทำหน้าที่ได้เหนียวจริง

    ชมคลิปไฮไลท์เกมการแข่งขันฟุตซอลไทยโลก 2024 ระหว่างทีมชาติไทย-ฝรั่งเศส https://youtu.be/V-H3h8DxE5M?si=oZrSvmMKy13H8f-S

    #Thaitimes
    สู้เต็มที่แล้วไม่มีอะไรต้องเสียใจ! ฟุตซอลทีมชาติไทยพ่ายฝรั่งเศส 2-5 ในศึกการแข่งขันฟุตซอลโลก2024 สร้างประวัติศาสตร์ไม่สำเร็จเข้าแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้จะเสียดาย แต่ไม่เสียใจเลย เห็นแล้วว่าทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ ผลัดกันบุกผลัดกันรับ ไม่มีใครพับสนามบุกใคร แต่เกมการเล่นของฝรั่งเศสคมกว่าและนายด่านฝรั่งเศสทำหน้าที่ได้เหนียวจริง ชมคลิปไฮไลท์เกมการแข่งขันฟุตซอลไทยโลก 2024 ระหว่างทีมชาติไทย-ฝรั่งเศส https://youtu.be/V-H3h8DxE5M?si=oZrSvmMKy13H8f-S #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 778 มุมมอง 1 รีวิว
  • #นิทานเรื่องชาวนากับงูเห่าเหม็นจอมหงี่
    นิทานเรื่องนี้ มิได้ทำการอ้างอิงจากเนื้อหาที่ไม่จริง
    เรื่องนี้ ขอเอาแค่พอสรุปเนื้อหา เพราะแฟนเพจบ่นมาเยอะว่า อ่านแล้วตาลาย
    รับรองว่าโพสนี้สั้นๆครับ เอาแค่พอเข้าใจ ไม่เกิน 1000 บรรทัด
    เรามาเริ่มกันเลย
    -กลางครั้งหนึ่ง ประมาณต้นปีนี้ มีชาวนาผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง เป็นชาวนาหน้ามน ที่มีออร่ามาก หญิงสาวในหมู่บ้านต่างหมายปอง เพราะชาวนาคนนี้ ครบเครื่อง ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมมีชื่อเสียงดังไกลข้ามหมู่บ้าน
    -วันหนึ่ง ชาวนา สนุกกับการทำนาแนวใหม่ ด้วยการชวนชาวนาด้วยกัน มาร่วมการแข่งขัน พาแฟนๆมาช่วยกันรุมปลูกข้าว ใครปักข้าวได้มากกว่าคนนั้นชนะ แต่ชาวนา ก็ชวนสนุกๆหอมปากหอมคอ ได้มิตรภาพ ได้เฮฮา
    -ระหว่างนั้น ที่ชาวนารูปหล่อกำลังสนุกสนาน ก็หันไปเจอ สิ่งมีชีวิตที่หน้าตาคล้ายคน หัวเป็นงู แต่ตัวเป็นเฮี้ย ลักษณะเป็นตัวเมีย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งก็กำลังพยายามทำนาแนวใหม่แบบชาวหนาสุดหล่อ แต่ก็แสดงความสำออย อ้างว่าตัวเองน่าสงสาร และกำลังรู้สึกหนาวว ชาวนาหนุ่มจึงตัดสินใจ ชวนเพื่อนๆที่กำลังสนุกสนานในพื้นนาของตัวเอง กับการแข่งขันปลูกข้าว ให้มาช่วย นังงูที่นาผืนนี้
    -นังงูดีใจ ตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เพราะไม่เคยคิดว่า จะสามารถต้มคนได้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ จึงเริ่มออกอุบาย แปลงกายใส่หน้ากาก ว่าตัวเองนั้นคือคน ที่เป็นยายโกะที่น่ารัก ทั้งๆที่นังงู อายุมากกว่า 1000 ปีแล้ว และกรำศึกมาโชกโชน
    -ชาวนาเห็นว่า นังงูเหม็น น่าสงสาร และโดนมนต์ดำของนังงูไปชั่วขณะหนึ่ง จนพลาดนำนังงูเข้ามาในบ้าน แต่ลักษณะของนังงู มีความผิดปกตินับร้อยๆเรื่อง
    นังงูเหม็น เป็นลำยอง ทุกครั้งที่สโหลสะเหล จะมีอาการหงี่อย่างแรง เรียกว่า ขาดของไม่ได้ และมีหลายครั้งที่นังงู พยายามจะทำตัวเป็นนังงูขย่มตอ แต่ชาวนาหน้าหล่อกลับปัดป้อง ด้วยเพราะคุณธรรมของชาวนา และความซกมกของนังงู ทำให้ชาวนายังรอดปลอดภัย
    -มันจึงเกิดเรื่องขึ้น นั่งงูไม่ได้หยำเปย์แค่บางวัน แต่หยำเปย์เป็นลำยองทุกคืน ในเหยือกเยติที่เห็นนั้นน่ะ ไม่ใช่น้ำ มันเป็นแอล ในเมื่อชาวนาไม่สนอง ก็ต้องหาทางออก
    โดยแทบทุกคืน ช่วงเวลาประมาณตีสอง โดยเฉพาะวันที่แสงจันทราสาดส่อง ความหงี่จะเพิ่มเป็นทวีคุณ งูเหม็นจึงโทรเรียก ชายที่มาจากดินแดนมนุษย์งูเหมือนกัน ที่เรียกว่า เพื่อน ที่เป็นคนชวนให้นังงู รู้จักการทำนาแนวใหม่
    -ชาวนา รู้ และเห็นทุกอย่าง และห้าม ไม่ให้ทำแบบนี้ พยายามจะปรับให้นังงู ให้ดีขึ้น แต่นังงูกลับไม่ใยดี เพราะความหงี่บังตา เพื่อนชายนังงูจะมารับออกไปทุกตีสอง
    และแล้ว เพื่อนพ้องท้องก็เริ่มชนกัน แต่ไม่ได้นับว่าเป็นผัวเมียกัน เพราะตัวจริงที่เลี้ยงดูงู ก็มีอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนพ้อท้องชนเกิน มันก็เหมือนเวลาหิวข้าว หิวก็กินกัน อิ่มก็แยกกัน แล้วก็เอามาส่งที่บ้านชาวนา ในเวลา 6 โมงเช้า
    -นอกจากความหงี่ขั้นสุดแล้ว ด้วยความที่นังงู มาโปรยเสน่ห์ และใช้มนต์ดำบดบัง นังงูไม่เคยรักชาวนาเลย แม้แต่วินาทีเดียว เพราะชาวนาทั้งสะอาดเกินไป เนี๊ยบเกินไป เป็นคนดีเกินไป อย่างนังงู ผัวตัวจริงต้องลักษณะดิบๆ และซาล่าดิส
    -ดังนั้นระยะเวลากว่า7 เดือน ที่ชาวนาต้องทนอยู่กับนังงู ทุกครั้งที่นังงูถูกขัดใจ จะกระโดดกัดชาวนา หรือเอาขาหน้าหยุมหัวชาวนา หรือเอาขาหน้าบักๆๆๆๆตามร่างกายของชาวนาหนุ่ม จนตัวมีแต่รอยฟกช้ำ คอสตูมและช่างแต่หน้าของชาวนา ต่างเป็นพยายานเรื่องนี้ได้
    แฟนเพจครับ เรื่องที่นำเสนอนี้ เป็นเพียง 1 ใน 1000 ของเนื้อหาทั้งหมด
    ขออนุญาตทะยอยเล่าให้ทุกท่านได้อ่าน ในโอกาสต่อไป
    ถือว่า เป็น EP.1 ของนิทานเรื่อง ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่นะครับนะ
    ไม่ไหวฟังแฟนเพจบ่นว่าพิมพ์ยาวเกินไป
    นี่ก็ตัดให้สั้นๆ จะได้อ่านกันง่ายๆแล้ว
    คิดว่าแฟนเพจคงพอใจนะครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #นิทานเรื่องชาวนากับงูเห่าเหม็นจอมหงี่ นิทานเรื่องนี้ มิได้ทำการอ้างอิงจากเนื้อหาที่ไม่จริง เรื่องนี้ ขอเอาแค่พอสรุปเนื้อหา เพราะแฟนเพจบ่นมาเยอะว่า อ่านแล้วตาลาย รับรองว่าโพสนี้สั้นๆครับ เอาแค่พอเข้าใจ ไม่เกิน 1000 บรรทัด เรามาเริ่มกันเลย -กลางครั้งหนึ่ง ประมาณต้นปีนี้ มีชาวนาผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง เป็นชาวนาหน้ามน ที่มีออร่ามาก หญิงสาวในหมู่บ้านต่างหมายปอง เพราะชาวนาคนนี้ ครบเครื่อง ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมมีชื่อเสียงดังไกลข้ามหมู่บ้าน -วันหนึ่ง ชาวนา สนุกกับการทำนาแนวใหม่ ด้วยการชวนชาวนาด้วยกัน มาร่วมการแข่งขัน พาแฟนๆมาช่วยกันรุมปลูกข้าว ใครปักข้าวได้มากกว่าคนนั้นชนะ แต่ชาวนา ก็ชวนสนุกๆหอมปากหอมคอ ได้มิตรภาพ ได้เฮฮา -ระหว่างนั้น ที่ชาวนารูปหล่อกำลังสนุกสนาน ก็หันไปเจอ สิ่งมีชีวิตที่หน้าตาคล้ายคน หัวเป็นงู แต่ตัวเป็นเฮี้ย ลักษณะเป็นตัวเมีย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งก็กำลังพยายามทำนาแนวใหม่แบบชาวหนาสุดหล่อ แต่ก็แสดงความสำออย อ้างว่าตัวเองน่าสงสาร และกำลังรู้สึกหนาวว ชาวนาหนุ่มจึงตัดสินใจ ชวนเพื่อนๆที่กำลังสนุกสนานในพื้นนาของตัวเอง กับการแข่งขันปลูกข้าว ให้มาช่วย นังงูที่นาผืนนี้ -นังงูดีใจ ตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เพราะไม่เคยคิดว่า จะสามารถต้มคนได้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ จึงเริ่มออกอุบาย แปลงกายใส่หน้ากาก ว่าตัวเองนั้นคือคน ที่เป็นยายโกะที่น่ารัก ทั้งๆที่นังงู อายุมากกว่า 1000 ปีแล้ว และกรำศึกมาโชกโชน -ชาวนาเห็นว่า นังงูเหม็น น่าสงสาร และโดนมนต์ดำของนังงูไปชั่วขณะหนึ่ง จนพลาดนำนังงูเข้ามาในบ้าน แต่ลักษณะของนังงู มีความผิดปกตินับร้อยๆเรื่อง นังงูเหม็น เป็นลำยอง ทุกครั้งที่สโหลสะเหล จะมีอาการหงี่อย่างแรง เรียกว่า ขาดของไม่ได้ และมีหลายครั้งที่นังงู พยายามจะทำตัวเป็นนังงูขย่มตอ แต่ชาวนาหน้าหล่อกลับปัดป้อง ด้วยเพราะคุณธรรมของชาวนา และความซกมกของนังงู ทำให้ชาวนายังรอดปลอดภัย -มันจึงเกิดเรื่องขึ้น นั่งงูไม่ได้หยำเปย์แค่บางวัน แต่หยำเปย์เป็นลำยองทุกคืน ในเหยือกเยติที่เห็นนั้นน่ะ ไม่ใช่น้ำ มันเป็นแอล ในเมื่อชาวนาไม่สนอง ก็ต้องหาทางออก โดยแทบทุกคืน ช่วงเวลาประมาณตีสอง โดยเฉพาะวันที่แสงจันทราสาดส่อง ความหงี่จะเพิ่มเป็นทวีคุณ งูเหม็นจึงโทรเรียก ชายที่มาจากดินแดนมนุษย์งูเหมือนกัน ที่เรียกว่า เพื่อน ที่เป็นคนชวนให้นังงู รู้จักการทำนาแนวใหม่ -ชาวนา รู้ และเห็นทุกอย่าง และห้าม ไม่ให้ทำแบบนี้ พยายามจะปรับให้นังงู ให้ดีขึ้น แต่นังงูกลับไม่ใยดี เพราะความหงี่บังตา เพื่อนชายนังงูจะมารับออกไปทุกตีสอง และแล้ว เพื่อนพ้องท้องก็เริ่มชนกัน แต่ไม่ได้นับว่าเป็นผัวเมียกัน เพราะตัวจริงที่เลี้ยงดูงู ก็มีอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนพ้อท้องชนเกิน มันก็เหมือนเวลาหิวข้าว หิวก็กินกัน อิ่มก็แยกกัน แล้วก็เอามาส่งที่บ้านชาวนา ในเวลา 6 โมงเช้า -นอกจากความหงี่ขั้นสุดแล้ว ด้วยความที่นังงู มาโปรยเสน่ห์ และใช้มนต์ดำบดบัง นังงูไม่เคยรักชาวนาเลย แม้แต่วินาทีเดียว เพราะชาวนาทั้งสะอาดเกินไป เนี๊ยบเกินไป เป็นคนดีเกินไป อย่างนังงู ผัวตัวจริงต้องลักษณะดิบๆ และซาล่าดิส -ดังนั้นระยะเวลากว่า7 เดือน ที่ชาวนาต้องทนอยู่กับนังงู ทุกครั้งที่นังงูถูกขัดใจ จะกระโดดกัดชาวนา หรือเอาขาหน้าหยุมหัวชาวนา หรือเอาขาหน้าบักๆๆๆๆตามร่างกายของชาวนาหนุ่ม จนตัวมีแต่รอยฟกช้ำ คอสตูมและช่างแต่หน้าของชาวนา ต่างเป็นพยายานเรื่องนี้ได้ แฟนเพจครับ เรื่องที่นำเสนอนี้ เป็นเพียง 1 ใน 1000 ของเนื้อหาทั้งหมด ขออนุญาตทะยอยเล่าให้ทุกท่านได้อ่าน ในโอกาสต่อไป ถือว่า เป็น EP.1 ของนิทานเรื่อง ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่นะครับนะ ไม่ไหวฟังแฟนเพจบ่นว่าพิมพ์ยาวเกินไป นี่ก็ตัดให้สั้นๆ จะได้อ่านกันง่ายๆแล้ว คิดว่าแฟนเพจคงพอใจนะครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1080 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะเทือนนักวิ่งที่ฝันจะวิ่งมาราธอนที่เก่าแก่ที่สุดของโลก Boston Marathon 2025 ครั้งที่ 129 ที่ตั้งเกณฑ์กติกายากกว่าที่เคยเป็น ตัดรอบที่ 6.51 นาที

    เว็บไซต์runnersworld.com ระบุว่า หลังจาก Boston Athletic Association (BAA) เปิดรับสมัครนักวิ่งแข่งขันบอสตันมาราธอนปี 2025 ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ B.A.A. ที่ชื่อว่า Athletes' Village ตั้งแต่ ช่วงเวลาวันที่ 1 กันยายน 2023 จนถึงวันที่ 13 กันยายน 2024 มีจำนวนผู้สมัคร 36,393 ราย

    ปรากฏมีนักวิ่งไม่ผ่าน BQ - Boston Qualifier มีคนทำไม่ถึงเกณฑ์จำนวนมาก 12,324 คน ส่วนผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันบอสตันมาราธอนจำนวน 24,069 คน ประกอบด้วยนักวิ่งชาย 13,740 คน ,นักวิ่งหญิง 10,260 คน และนักวิ่งไม่ระบุเพศ 69 คน

    ด้วยเหตุที่มีจำนวนนักวิ่งจำนวนมากเป็นประวัติการณ์สำหรับการแข่งขันบอสตันมาราธอน ในปี 2025 ทาง BAA จึงได้ประกาศกติกายากขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายนว่า จะมีมาตรฐานการคัดเลือกที่เข้มงวดขึ้นยากกว่าที่เคย นักวิ่งจะต้องเร็วกว่าเวลาที่ผ่านเกณฑ์สำหรับกลุ่มอายุและเพศของตน 6:51 นาทีเพื่อรับหมายเลขแข่งขัน ตามข้อมูลของสมาคมนักกีฬาบอสตัน (BAA)

    “กีฬามาราธอนกำลังทำลายสถิติทั้งในแง่ของการมีส่วนร่วมและความเร็ว” แจ็ก เฟลมมิง ซีอีโอของ BAA กล่าวในแถลงการณ์ “น่าเสียดายที่เราไม่สามารถรับนักกีฬาทุกคนลงสนามได้ แม้ว่าเราจะต้องการแสดงความชื่นชม ขอบคุณ และปรบมือให้กับทุกคนที่มีเป้าหมายที่จะเป็นส่วนหนึ่งของงานในปี 2025 ก็ตาม”

    สำหรับเวลาตัดรอบ 6:51 นาทีถือเป็นเวลาตัดรอบที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน ยกเว้นการแข่งขันในปี 2021 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนตุลาคม โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันลดลงเหลือ 20,000 คน การแข่งขันครั้งนั้นมีเวลาตัดรอบ 7:47 นาที

    บอสตันเริ่มใช้เกณฑ์ตัดสินสำหรับการแข่งขันในปี 2014 สำหรับการแข่งขันในปี 2014 ถึง 2019 เกณฑ์ตัดสินมีตั้งแต่ต่ำสุดที่ 1:02 นาทีสำหรับการแข่งขันในปี 2015 ไปจนถึงสูงสุดที่ 4:52 นาทีสำหรับการแข่งขันในปี 2019 ในเดือนกันยายน 2018 BAA ประกาศว่าจะเพิ่มมาตรฐานการคัดเลือกทั้งหมดขึ้นอีก 5 นาที

    การปรับเวลาคัดเลือกดังกล่าวทำให้จำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นชั่วขณะหนึ่ง สำหรับการแข่งขันในปี 2020 (ซึ่งท้ายที่สุดถูกยกเลิกเนื่องจาก COVID) นักวิ่งต้องทำเวลาให้เร็วกว่าเวลาที่คัดเลือก 1:39 นาที

    หลังจากที่ไม่มีกำหนดเวลาตัดรอบการแข่งขันถึงสองปีสำหรับการแข่งขันในปี 2022 และ 2023 ซึ่งโอกาสในการแข่งขันรอบคัดเลือกมีน้อยท่ามกลางการระบาดใหญ่ ความต้องการตำแหน่งบนเส้นสตาร์ทก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ในปี 2024 เวลาตัดรอบคือ 5:29 นาที และนักวิ่งมากกว่า 11,000 คนสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแต่ไม่ได้รับเลือก

    ขอบคุณเพจ Running Insider สำหรับภาพเหรียญBoston Marathon

    #Thaitimes
    สะเทือนนักวิ่งที่ฝันจะวิ่งมาราธอนที่เก่าแก่ที่สุดของโลก Boston Marathon 2025 ครั้งที่ 129 ที่ตั้งเกณฑ์กติกายากกว่าที่เคยเป็น ตัดรอบที่ 6.51 นาที เว็บไซต์runnersworld.com ระบุว่า หลังจาก Boston Athletic Association (BAA) เปิดรับสมัครนักวิ่งแข่งขันบอสตันมาราธอนปี 2025 ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ B.A.A. ที่ชื่อว่า Athletes' Village ตั้งแต่ ช่วงเวลาวันที่ 1 กันยายน 2023 จนถึงวันที่ 13 กันยายน 2024 มีจำนวนผู้สมัคร 36,393 ราย ปรากฏมีนักวิ่งไม่ผ่าน BQ - Boston Qualifier มีคนทำไม่ถึงเกณฑ์จำนวนมาก 12,324 คน ส่วนผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันบอสตันมาราธอนจำนวน 24,069 คน ประกอบด้วยนักวิ่งชาย 13,740 คน ,นักวิ่งหญิง 10,260 คน และนักวิ่งไม่ระบุเพศ 69 คน ด้วยเหตุที่มีจำนวนนักวิ่งจำนวนมากเป็นประวัติการณ์สำหรับการแข่งขันบอสตันมาราธอน ในปี 2025 ทาง BAA จึงได้ประกาศกติกายากขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายนว่า จะมีมาตรฐานการคัดเลือกที่เข้มงวดขึ้นยากกว่าที่เคย นักวิ่งจะต้องเร็วกว่าเวลาที่ผ่านเกณฑ์สำหรับกลุ่มอายุและเพศของตน 6:51 นาทีเพื่อรับหมายเลขแข่งขัน ตามข้อมูลของสมาคมนักกีฬาบอสตัน (BAA) “กีฬามาราธอนกำลังทำลายสถิติทั้งในแง่ของการมีส่วนร่วมและความเร็ว” แจ็ก เฟลมมิง ซีอีโอของ BAA กล่าวในแถลงการณ์ “น่าเสียดายที่เราไม่สามารถรับนักกีฬาทุกคนลงสนามได้ แม้ว่าเราจะต้องการแสดงความชื่นชม ขอบคุณ และปรบมือให้กับทุกคนที่มีเป้าหมายที่จะเป็นส่วนหนึ่งของงานในปี 2025 ก็ตาม” สำหรับเวลาตัดรอบ 6:51 นาทีถือเป็นเวลาตัดรอบที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน ยกเว้นการแข่งขันในปี 2021 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนตุลาคม โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันลดลงเหลือ 20,000 คน การแข่งขันครั้งนั้นมีเวลาตัดรอบ 7:47 นาที บอสตันเริ่มใช้เกณฑ์ตัดสินสำหรับการแข่งขันในปี 2014 สำหรับการแข่งขันในปี 2014 ถึง 2019 เกณฑ์ตัดสินมีตั้งแต่ต่ำสุดที่ 1:02 นาทีสำหรับการแข่งขันในปี 2015 ไปจนถึงสูงสุดที่ 4:52 นาทีสำหรับการแข่งขันในปี 2019 ในเดือนกันยายน 2018 BAA ประกาศว่าจะเพิ่มมาตรฐานการคัดเลือกทั้งหมดขึ้นอีก 5 นาที การปรับเวลาคัดเลือกดังกล่าวทำให้จำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นชั่วขณะหนึ่ง สำหรับการแข่งขันในปี 2020 (ซึ่งท้ายที่สุดถูกยกเลิกเนื่องจาก COVID) นักวิ่งต้องทำเวลาให้เร็วกว่าเวลาที่คัดเลือก 1:39 นาที หลังจากที่ไม่มีกำหนดเวลาตัดรอบการแข่งขันถึงสองปีสำหรับการแข่งขันในปี 2022 และ 2023 ซึ่งโอกาสในการแข่งขันรอบคัดเลือกมีน้อยท่ามกลางการระบาดใหญ่ ความต้องการตำแหน่งบนเส้นสตาร์ทก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ในปี 2024 เวลาตัดรอบคือ 5:29 นาที และนักวิ่งมากกว่า 11,000 คนสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแต่ไม่ได้รับเลือก ขอบคุณเพจ Running Insider สำหรับภาพเหรียญBoston Marathon #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#สหรัฐฯค่อยๆเข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 01.🤠

    ตั้งแต่สมัยโบราณมา การถ่ายโอนและการส่งมอบอำนาจจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายนั้นจะมาพร้อมกับสงครามที่ดุเดือดเสมอ ตัวอย่างเช่น การต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทะเลระหว่างอังกฤษและสเปน และการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทวีประหว่างจักรวรรดิเยอรมันและจักรวรรดิไรช์ที่ 3 ของฝรั่งเศส

    อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนแปลงอำนาจเจ้าโลกและในการถ่ายโอนอำนาจครั้งล่าสุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ กล่าวคือ การถ่ายโอนอำนาจระหว่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดขึ้นในความขัดแย้งโดยตรงขนาดใหญ่ ยกเว้นสงครามระดับภูมิภาคขนาดเล็กระหว่างทั้งสองประเทศ และการส่งมอบอย่างสันติก็บรรลุผลสำเร็จในระดับหนึ่ง

    😎แล้วสหรัฐฯ เข้ามาแทนที่อังกฤษในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของโลกโดยวิธีใด และสิ่งนี้มีผลกระทบอย่างไรต่อการสลายอำนาจนำ?😎

    🤯หนึ่ง จุดเริ่มต้นของอำนาจครอบงำของอังกฤษและความเสื่อมถอย🤯

    ในปีค.ศ. 1815 นโปเลียนพ่ายแพ้ต่อพันธมิตรของยุโรปซึ่งนำโดยนายพลเวลลิงตัน(Wellington)แห่งอังกฤษที่วอเตอร์ลู(Waterloo) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อังกฤษได้ขจัดอุปสรรคทั้งหมดในทวีปยุโรปและทั่วโลก

    ในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 19 อำนาจของอังกฤษถึงจุดสูงสุด ซึ่งเห็นได้จากการตระหนักถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับสูงในบริเตนและการขยายอาณานิคมขนาดใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษ

    😎สิ่งที่เรียกว่าอำนาจนำของอังกฤษคือสันติภาพภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ ความได้เปรียบประการแรกที่เกิดจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้สหราชอาณาจักรมีบทบาทในการลดมิติในสงคราม โดยมีรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอำนาจทางเรือ เป็นการรับประกันที่มั่นคงสำหรับอำนาจเจ้าโลกของอังกฤษ😎

    😎หน่วยงานของจักรวรรดิได้นำประเด็นสำคัญสามประการมาใช้: นโยบายการตรวจสอบและถ่วงดุลของยุโรป การขยายอาณานิคม และความเหนือกว่าทางเรือ ในที่สุดก็กลายเป็นอาณาจักรที่อยู่ยงคงกระพันซึ่งดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน😎

    ด้วยการพัฒนาด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จที่เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปัจจุบันขององค์กรได้อีกต่อไป และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองก็เกิดขึ้น คราวนี้พระเจ้าไม่ทรงโปรดปรานเช้าช้างสหราชอาณาจักร แต่ทรงนำการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองให้เกิดขึ้นในโลก โดยมอบให้กับเยอรมนีในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร

    อาศัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้สร้างแบบจำลองของอเมริกันและแบบของเยอรมันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รัฐบาลของทั้งสองประเทศพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมอย่างแข็งขัน และสร้างพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพื่อแข่งขันกับอังกฤษเพื่อชิงอำนาจ

    😎อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโมเดลมีความแตกต่างกันในนโยบายต่างประเทศ คนเยอรมันกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของอำนาจทางทะเล เพื่อทำลายการปิดล้อมทางเรือของอังกฤษ กองทัพเรือเยอรมันจึงเปิดการแข่งขันด้านอาวุธทางเรือกับอังกฤษ😎

    😎สหรัฐอเมริกาอยู่ในทวีปอเมริกาและไม่มีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงเท่ากับเยอรมนี นอกจากนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่เต็มใจที่จะทำสงครามกับอังกฤษอีกเช่นกัน เมื่อเทียบผลประโยชน์กับอำนาจเจ้าโลก ทางการสหรัฐฯ จึงสนใจเปิดสวนหลังบ้านในอเมริกาเป็นของตนเองเพื่อแสวงผลประโยชน์มากขึ้น😎

    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่แท้จริงคืออังกฤษสูญเสียความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในการรักษาอำนาจอำนาจเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 เยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้แซงหน้าอังกฤษอย่างต่อเนื่องในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งยังเป็นการวางรากฐานทางเศรษฐกิจสำหรับการถ่ายโอนอำนาจในอนาคตด้วย

    🤯สอง ทางตัน🤯

    ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลก ในแง่ของการทหาร แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่อันดับหนึ่งของโลก แต่ก็ได้เอาชนะสเปนผู้เป็นอาณานิคมเก่าในสงครามสเปน-อเมริกา

    ชัยชนะในสงครามสเปน-อเมริกาทำให้ทางการสหรัฐฯ มั่นใจ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการทูตทั้งหมด อดีตยุทธศาสตร์แผ่นดินใหญ่ของอเมริกาและนโยบายความเป็นกลางในกิจการระหว่างประเทศไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาของสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป และลัทธิเจ้าโลกก็ค่อยๆผงาดสูงขึ้น

    ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากภายในประเทศมีการแพร่หลายลัทธิโดดเดี่ยวอย่างมาก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงแสดงจุดยืนที่เป็นกลางทันที

    อย่างไรก็ตาม สงครามในยุโรปไม่ได้ปล่อยให้สหรัฐอเมริกาอยู่ตามลำพัง การห้ามการค้าของประเทศต่างๆ และการโจมตีตามอำเภอใจต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงต่อสหรัฐอเมริกา

    ประธานาธิบดีวิลสัน (Wilson)ของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นตระหนักว่าสหรัฐอเมริกาไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของยุโรปได้หากปราศจากการแทรกแซงในสนามรบของยุโรป และพฤติกรรมซึ่งดูแล้วชวนทำให้เกิดความสิ้นหวังของทางการเยอรมันได้เร่งการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในสงครามให้เร็วขึ้น

    ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สกัดกั้นจดหมายลับสุดยอดที่ส่งจากเยอรมนีไปยังเม็กซิโก เนื้อหาของจดหมายประกอบด้วยเรื่องราวยุทธศาสตร์ระดับโลกในอนาคตของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงแผนการจัดวางกำลังในอเมริกาเพื่อช่วยเม็กซิโกฟื้นฟูดินแดนที่ถูกผนวกโดยสหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผย ความคิดเห็นของสาธารณชนในสหรัฐอเมริกาก็เกิดความโกลาหล และกลุ่มซึ่งแต่เดิมมีความคิดนโยบายโดดเดี่ยวไม่เข้ากับฝ่ายใดก็เริ่มโน้มเข้าหาฝ่ายต้องการทำสงครามมากขึ้น

    เมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1917 รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติการทำสงครามกับเยอรมนี แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะชนะ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของทางการสหรัฐฯ และแผนสำหรับระเบียบโลกใหม่ล้มเหลว และอำนาจนำแบบดั้งเดิมยังคงยึดครองอย่างมั่นคงโดยกลุ่มประเทศอาณานิคมเก่า

    🤯โปรดติดตามบทความ#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? ตอน 02. ที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สหรัฐฯค่อยๆเข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 01.🤠 ตั้งแต่สมัยโบราณมา การถ่ายโอนและการส่งมอบอำนาจจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายนั้นจะมาพร้อมกับสงครามที่ดุเดือดเสมอ ตัวอย่างเช่น การต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทะเลระหว่างอังกฤษและสเปน และการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทวีประหว่างจักรวรรดิเยอรมันและจักรวรรดิไรช์ที่ 3 ของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนแปลงอำนาจเจ้าโลกและในการถ่ายโอนอำนาจครั้งล่าสุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ กล่าวคือ การถ่ายโอนอำนาจระหว่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดขึ้นในความขัดแย้งโดยตรงขนาดใหญ่ ยกเว้นสงครามระดับภูมิภาคขนาดเล็กระหว่างทั้งสองประเทศ และการส่งมอบอย่างสันติก็บรรลุผลสำเร็จในระดับหนึ่ง 😎แล้วสหรัฐฯ เข้ามาแทนที่อังกฤษในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของโลกโดยวิธีใด และสิ่งนี้มีผลกระทบอย่างไรต่อการสลายอำนาจนำ?😎 🤯หนึ่ง จุดเริ่มต้นของอำนาจครอบงำของอังกฤษและความเสื่อมถอย🤯 ในปีค.ศ. 1815 นโปเลียนพ่ายแพ้ต่อพันธมิตรของยุโรปซึ่งนำโดยนายพลเวลลิงตัน(Wellington)แห่งอังกฤษที่วอเตอร์ลู(Waterloo) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อังกฤษได้ขจัดอุปสรรคทั้งหมดในทวีปยุโรปและทั่วโลก ในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 19 อำนาจของอังกฤษถึงจุดสูงสุด ซึ่งเห็นได้จากการตระหนักถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับสูงในบริเตนและการขยายอาณานิคมขนาดใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษ 😎สิ่งที่เรียกว่าอำนาจนำของอังกฤษคือสันติภาพภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ ความได้เปรียบประการแรกที่เกิดจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้สหราชอาณาจักรมีบทบาทในการลดมิติในสงคราม โดยมีรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอำนาจทางเรือ เป็นการรับประกันที่มั่นคงสำหรับอำนาจเจ้าโลกของอังกฤษ😎 😎หน่วยงานของจักรวรรดิได้นำประเด็นสำคัญสามประการมาใช้: นโยบายการตรวจสอบและถ่วงดุลของยุโรป การขยายอาณานิคม และความเหนือกว่าทางเรือ ในที่สุดก็กลายเป็นอาณาจักรที่อยู่ยงคงกระพันซึ่งดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน😎 ด้วยการพัฒนาด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จที่เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปัจจุบันขององค์กรได้อีกต่อไป และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองก็เกิดขึ้น คราวนี้พระเจ้าไม่ทรงโปรดปรานเช้าช้างสหราชอาณาจักร แต่ทรงนำการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองให้เกิดขึ้นในโลก โดยมอบให้กับเยอรมนีในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร อาศัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้สร้างแบบจำลองของอเมริกันและแบบของเยอรมันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รัฐบาลของทั้งสองประเทศพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมอย่างแข็งขัน และสร้างพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพื่อแข่งขันกับอังกฤษเพื่อชิงอำนาจ 😎อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโมเดลมีความแตกต่างกันในนโยบายต่างประเทศ คนเยอรมันกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของอำนาจทางทะเล เพื่อทำลายการปิดล้อมทางเรือของอังกฤษ กองทัพเรือเยอรมันจึงเปิดการแข่งขันด้านอาวุธทางเรือกับอังกฤษ😎 😎สหรัฐอเมริกาอยู่ในทวีปอเมริกาและไม่มีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงเท่ากับเยอรมนี นอกจากนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่เต็มใจที่จะทำสงครามกับอังกฤษอีกเช่นกัน เมื่อเทียบผลประโยชน์กับอำนาจเจ้าโลก ทางการสหรัฐฯ จึงสนใจเปิดสวนหลังบ้านในอเมริกาเป็นของตนเองเพื่อแสวงผลประโยชน์มากขึ้น😎 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่แท้จริงคืออังกฤษสูญเสียความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในการรักษาอำนาจอำนาจเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 เยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้แซงหน้าอังกฤษอย่างต่อเนื่องในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งยังเป็นการวางรากฐานทางเศรษฐกิจสำหรับการถ่ายโอนอำนาจในอนาคตด้วย 🤯สอง ทางตัน🤯 ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลก ในแง่ของการทหาร แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่อันดับหนึ่งของโลก แต่ก็ได้เอาชนะสเปนผู้เป็นอาณานิคมเก่าในสงครามสเปน-อเมริกา ชัยชนะในสงครามสเปน-อเมริกาทำให้ทางการสหรัฐฯ มั่นใจ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการทูตทั้งหมด อดีตยุทธศาสตร์แผ่นดินใหญ่ของอเมริกาและนโยบายความเป็นกลางในกิจการระหว่างประเทศไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาของสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป และลัทธิเจ้าโลกก็ค่อยๆผงาดสูงขึ้น ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากภายในประเทศมีการแพร่หลายลัทธิโดดเดี่ยวอย่างมาก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงแสดงจุดยืนที่เป็นกลางทันที อย่างไรก็ตาม สงครามในยุโรปไม่ได้ปล่อยให้สหรัฐอเมริกาอยู่ตามลำพัง การห้ามการค้าของประเทศต่างๆ และการโจมตีตามอำเภอใจต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงต่อสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีวิลสัน (Wilson)ของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นตระหนักว่าสหรัฐอเมริกาไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของยุโรปได้หากปราศจากการแทรกแซงในสนามรบของยุโรป และพฤติกรรมซึ่งดูแล้วชวนทำให้เกิดความสิ้นหวังของทางการเยอรมันได้เร่งการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในสงครามให้เร็วขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สกัดกั้นจดหมายลับสุดยอดที่ส่งจากเยอรมนีไปยังเม็กซิโก เนื้อหาของจดหมายประกอบด้วยเรื่องราวยุทธศาสตร์ระดับโลกในอนาคตของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงแผนการจัดวางกำลังในอเมริกาเพื่อช่วยเม็กซิโกฟื้นฟูดินแดนที่ถูกผนวกโดยสหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผย ความคิดเห็นของสาธารณชนในสหรัฐอเมริกาก็เกิดความโกลาหล และกลุ่มซึ่งแต่เดิมมีความคิดนโยบายโดดเดี่ยวไม่เข้ากับฝ่ายใดก็เริ่มโน้มเข้าหาฝ่ายต้องการทำสงครามมากขึ้น เมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1917 รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติการทำสงครามกับเยอรมนี แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะชนะ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของทางการสหรัฐฯ และแผนสำหรับระเบียบโลกใหม่ล้มเหลว และอำนาจนำแบบดั้งเดิมยังคงยึดครองอย่างมั่นคงโดยกลุ่มประเทศอาณานิคมเก่า 🤯โปรดติดตามบทความ#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? ตอน 02. ที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 19 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 32.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
    ได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก ต่อภาคธุรกิจไทย
    โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และ การส่งออก
    ซึ่งเป็นอีก 2 ฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนอัตราการเติบโต
    ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย นอกเหนือจาก ภาคการผลิต
    และ การบริโภคภายในประเทศ และ การใช้จ่ายภาครัฐ

    🚩โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น
    ทุก 1% จะมีผลกระทบต่อรายได้ผู้ส่งออกประมาณ 100,000 ล้านบาท
    ที่ต้องหายไป จากการลดกำลังการซื้อ หรือ ชะลอการซื้อลง
    คิดเป็น 0.5% ของ Nominal GDP

    🚩ยังไม่รวมกับภาคการท่องเที่ยว ที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
    อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอย
    ภายในประเทศไทย ที่อาจจะมีจำนวนลดลง และไม่ได้ตามเป้าหมาย

    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 19 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 32.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก ต่อภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และ การส่งออก ซึ่งเป็นอีก 2 ฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนอัตราการเติบโต ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย นอกเหนือจาก ภาคการผลิต และ การบริโภคภายในประเทศ และ การใช้จ่ายภาครัฐ 🚩โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ทุก 1% จะมีผลกระทบต่อรายได้ผู้ส่งออกประมาณ 100,000 ล้านบาท ที่ต้องหายไป จากการลดกำลังการซื้อ หรือ ชะลอการซื้อลง คิดเป็น 0.5% ของ Nominal GDP 🚩ยังไม่รวมกับภาคการท่องเที่ยว ที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอย ภายในประเทศไทย ที่อาจจะมีจำนวนลดลง และไม่ได้ตามเป้าหมาย ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 707 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥โลกทั้งใบเสี่ยงสูญเสีย จากการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน
    ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ เป็นมหาอำนาจ
    และอิทธิพลในระดับโลก

    จุดแข็งเฉพาะตัวของสหรัฐอเมริกาคือกำลังทหารที่แข็งแกร่ง
    และความเต็มใจที่จะให้การรับประกันความปลอดภัยแก่พันธมิตร
    สหรัฐฯ มีข้อตกลงการป้องกันร่วมกันกับ 56 ประเทศทั่วโลก ในยุโรป
    เอเชีย และอเมริกา นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือทางทหาร
    ที่สำคัญแก่ประเทศอื่นๆ เช่น อิสราเอลและยูเครนซึ่งไม่ได้เป็น
    พันธมิตรตามสนธิสัญญาอย่างเป็นทางการ

    ในทางตรงกันข้าม จีนมีสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันกับประเทศเดียว
    คือเกาหลีเหนือ ซึ่งต่างจากสหรัฐอเมริกา จีนยังมีข้อพิพาทเรื่อง
    ดินแดนกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ ซึ่งมักจะผลักดันให้ประเทศเหล่านี้
    หันไปหาสหรัฐอเมริกา

    จุดแข็งของจีนคือความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
    ปัจจุบันมี 128 ประเทศที่ทำการค้ากับจีนมากกว่ากับสหรัฐฯ
    ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนใช้เงินไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
    ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในกว่า 140 ประเทศ
    ส่งผลให้จีนกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก และ
    เป็นมหาอำนาจทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    ผลลัพธ์ดังกล่าวจัดแสดงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง
    ในอินโดนีเซีย ท่าเรือและสะพานในแอฟริกา หรือทางหลวง
    ระหว่างทวีปที่ข้ามเอเชียกลาง

    แต่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    ก็ยังมีข้อเสียมากมายเช่นกัน

    การค้าคุ้มครองและการแยกตัวของเศรษฐกิจโลกในที่สุด
    จะส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกคน
    การแข่งขันอาวุธครั้งใหม่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร
    และเพิ่มความเสี่ยงของสงครามหายนะขึ้นครั้งใหญ่ในโลก

    การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังทำให้โอกาส
    ที่ทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับโลก
    ที่คุกคามทุกคน เช่น ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีการควบคุม
    และภาวะโลกร้อนที่ไร้การควบคุม น้อยลงไปมาก

    ที่มา : cna

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    🔥🔥โลกทั้งใบเสี่ยงสูญเสีย จากการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ เป็นมหาอำนาจ และอิทธิพลในระดับโลก จุดแข็งเฉพาะตัวของสหรัฐอเมริกาคือกำลังทหารที่แข็งแกร่ง และความเต็มใจที่จะให้การรับประกันความปลอดภัยแก่พันธมิตร สหรัฐฯ มีข้อตกลงการป้องกันร่วมกันกับ 56 ประเทศทั่วโลก ในยุโรป เอเชีย และอเมริกา นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือทางทหาร ที่สำคัญแก่ประเทศอื่นๆ เช่น อิสราเอลและยูเครนซึ่งไม่ได้เป็น พันธมิตรตามสนธิสัญญาอย่างเป็นทางการ ในทางตรงกันข้าม จีนมีสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันกับประเทศเดียว คือเกาหลีเหนือ ซึ่งต่างจากสหรัฐอเมริกา จีนยังมีข้อพิพาทเรื่อง ดินแดนกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ ซึ่งมักจะผลักดันให้ประเทศเหล่านี้ หันไปหาสหรัฐอเมริกา จุดแข็งของจีนคือความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ปัจจุบันมี 128 ประเทศที่ทำการค้ากับจีนมากกว่ากับสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนใช้เงินไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในกว่า 140 ประเทศ ส่งผลให้จีนกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก และ เป็นมหาอำนาจทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลลัพธ์ดังกล่าวจัดแสดงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง ในอินโดนีเซีย ท่าเรือและสะพานในแอฟริกา หรือทางหลวง ระหว่างทวีปที่ข้ามเอเชียกลาง แต่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน ก็ยังมีข้อเสียมากมายเช่นกัน การค้าคุ้มครองและการแยกตัวของเศรษฐกิจโลกในที่สุด จะส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกคน การแข่งขันอาวุธครั้งใหม่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร และเพิ่มความเสี่ยงของสงครามหายนะขึ้นครั้งใหญ่ในโลก การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังทำให้โอกาส ที่ทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับโลก ที่คุกคามทุกคน เช่น ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีการควบคุม และภาวะโลกร้อนที่ไร้การควบคุม น้อยลงไปมาก ที่มา : cna #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1572 มุมมอง 0 รีวิว
  • found & found โออาร์จับธุรกิจความงาม

    ในขณะที่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ตัดสินใจปิดตัวร้านไก่ทอด เท็กซัส ชิคเก้น (Texas Chicken) หนึ่งในธุรกิจนอนออยล์ที่ขณะนี้มีไม่ถึง 100 สาขา ในวันที่ 30 ก.ย. 2567 ที่จะถึงนี้ อีกด้านหนึ่ง หันมาจับธุรกิจไลฟ์สไตล์ ด้วยการเปิดร้านฟาวด์ แอนด์ ฟาวด์ (found & found) ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม สาขาแรกที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร B เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ตามมาด้วยสาขาพีทีที สเตชั่น สายไหม 56 เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2567 ต่อด้วยสาขาพีทีที สเตชั่น บรมราชชนนี 97 และสาขาล่าสุด โออาร์ สเปซ รามคำแหง 129

    ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด หรือ ORHW มีพันธมิตรหลักได้แก่ สุกิ โฮลดิ้งส์ (Suki Holdings) จากญี่ปุ่น และ คอนวี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (Konvy International) เจ้าของร้านขายเครื่องสำอางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมี นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศรีจันทร์สหโอสถ เจ้าของแบรนด์ SRICHAND เป็นกรรมการบริษัทอีกด้วย มีแผนเปิดให้บริการ 10 สาขาภายในปี 2567 และขยายเป็น 500 สาขาภายในปี 2573 เน้นไปที่พีทีที สเตชั่น และคอมมูนิตี้มอลล์

    สำหรับร้านฟาวด์ แอนด์ ฟาวด์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจากประเทศไทย รวมทั้งนำเข้าจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อาทิ เครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารเสริม และวิตามิน จัดวางสินค้าตามการดูแลผิว 5 ขั้นตอน ได้แก่ การทำความสะอาดผิว (Cleanse) การเตรียมผิว (Prep) การบำรุงผิว (Treat) การเติมผิวให้ชุ่มชื้น (Moisturize) และการป้องกันผิว (Protect) พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม หรือ บีเอ (Beauty Advisor) ให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์

    ส่วนสมาชิกบลูพลัส (blueplus+) ที่มีมากกว่า 8 ล้านราย สามารถสมัครสมาชิกผ่านไลน์ @foundnfound ของทางร้าน แล้วเชื่อมต่อระบบสมาชิกเพื่อสะสมคะแนนผ่านการแจ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ ยอดซื้อทุก 25 บาทรับคะแนนสะสม 1 คะแนน และคะแนนสะสมบลูพลัสทุก 100 คะแนน มีมูลค่าแทนส่วนลดเงินสด 20 บาท นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษในแอปพลิเคชัน xplORe อีกด้วย

    ปัจจุบันการแข่งขันร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงามมีวัตสัน (Watsons) เป็นเจ้าตลาดในไทยด้วยจำนวนกว่า 700 สาขา ตามมาด้วยบู๊ทส์ (Boots) ราว 280 สาขา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มค้าปลีกชิงส่วนแบ่งตลาด อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล มีร้านมัทสึคิโยะ (Matsukiyo) และแผนกลุกส์ (LOOKS) ในท็อปส์ เครือสหพัฒน์มีร้านซูรูฮะ (Tsuruha) และซีเจ เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป มีร้านเครื่องสำอางไนน์บิวตี้ (NINE Beauty) เป็นต้น

    #Newskit #foundnfound #OR
    found & found โออาร์จับธุรกิจความงาม ในขณะที่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ตัดสินใจปิดตัวร้านไก่ทอด เท็กซัส ชิคเก้น (Texas Chicken) หนึ่งในธุรกิจนอนออยล์ที่ขณะนี้มีไม่ถึง 100 สาขา ในวันที่ 30 ก.ย. 2567 ที่จะถึงนี้ อีกด้านหนึ่ง หันมาจับธุรกิจไลฟ์สไตล์ ด้วยการเปิดร้านฟาวด์ แอนด์ ฟาวด์ (found & found) ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม สาขาแรกที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร B เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ตามมาด้วยสาขาพีทีที สเตชั่น สายไหม 56 เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2567 ต่อด้วยสาขาพีทีที สเตชั่น บรมราชชนนี 97 และสาขาล่าสุด โออาร์ สเปซ รามคำแหง 129 ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด หรือ ORHW มีพันธมิตรหลักได้แก่ สุกิ โฮลดิ้งส์ (Suki Holdings) จากญี่ปุ่น และ คอนวี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (Konvy International) เจ้าของร้านขายเครื่องสำอางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมี นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศรีจันทร์สหโอสถ เจ้าของแบรนด์ SRICHAND เป็นกรรมการบริษัทอีกด้วย มีแผนเปิดให้บริการ 10 สาขาภายในปี 2567 และขยายเป็น 500 สาขาภายในปี 2573 เน้นไปที่พีทีที สเตชั่น และคอมมูนิตี้มอลล์ สำหรับร้านฟาวด์ แอนด์ ฟาวด์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจากประเทศไทย รวมทั้งนำเข้าจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อาทิ เครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารเสริม และวิตามิน จัดวางสินค้าตามการดูแลผิว 5 ขั้นตอน ได้แก่ การทำความสะอาดผิว (Cleanse) การเตรียมผิว (Prep) การบำรุงผิว (Treat) การเติมผิวให้ชุ่มชื้น (Moisturize) และการป้องกันผิว (Protect) พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม หรือ บีเอ (Beauty Advisor) ให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ ส่วนสมาชิกบลูพลัส (blueplus+) ที่มีมากกว่า 8 ล้านราย สามารถสมัครสมาชิกผ่านไลน์ @foundnfound ของทางร้าน แล้วเชื่อมต่อระบบสมาชิกเพื่อสะสมคะแนนผ่านการแจ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ ยอดซื้อทุก 25 บาทรับคะแนนสะสม 1 คะแนน และคะแนนสะสมบลูพลัสทุก 100 คะแนน มีมูลค่าแทนส่วนลดเงินสด 20 บาท นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษในแอปพลิเคชัน xplORe อีกด้วย ปัจจุบันการแข่งขันร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงามมีวัตสัน (Watsons) เป็นเจ้าตลาดในไทยด้วยจำนวนกว่า 700 สาขา ตามมาด้วยบู๊ทส์ (Boots) ราว 280 สาขา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มค้าปลีกชิงส่วนแบ่งตลาด อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล มีร้านมัทสึคิโยะ (Matsukiyo) และแผนกลุกส์ (LOOKS) ในท็อปส์ เครือสหพัฒน์มีร้านซูรูฮะ (Tsuruha) และซีเจ เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป มีร้านเครื่องสำอางไนน์บิวตี้ (NINE Beauty) เป็นต้น #Newskit #foundnfound #OR
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • อะไรอยู่ในวัคซีน???
    สารกราฟีนออกไซด์และอนุภาคนาโนโลหะ
    สามารถผ่านเข้าไปในร่างกายหรือผ่านสิ่งกีดขวาง
    ทางสรีรวิทยาได้ เช่น สิ่งกีดขวางระหว่างเลือด
    กับอากาศ สิ่งกีดขวางระหว่างเลือดกับอัณฑะ
    สิ่งกีดขวางระหว่างเลือดกับสมอง และ
    สิ่งกีดขวางระหว่างเลือดกับรก....
    ช่วงเวลาหลายเดือนหลังการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    การขนส่งอนุภาคนาโนมากถึง 75% และ
    สารส่วนใหญ่จะถูกขนส่งไปทั่วร่างกายเข้าสู่
    ระบบเลือด สมอง และอวัยวะอื่นๆ​ ทั่วร่างกาย
    ผลข้างเคียงที่เป็นพิษของกราฟีนออกไซด์ได้แก่
    กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ​ เยื่อหุ้ม​หัวใจ​อักเสบ​
    เยื่อหุ้มสมองอักเสบ​ ตับอักเสบ​ ตับอ่อนอักเสบ
    ปอดบวม​ ปอดอักเสบ​ การแข็งตัวของเลือด
    ลิ่มเลือด​อุดตัน​ และภาวะเลือดไหลไม่หยุด
    #Bioweapon
    #Vaccine​Injuries
    #Vaccine​Genocide
    #VaccineDeath
    #VaccineSideEffect
    #Pfizer
    #pfizervaccine
    #moderna
    #BillGates
    #joebiden
    #obama
    #kamalaharris
    #globalists
    #zionist
    #Rothchild
    #illuminati
    #freemasons
    #DeepState
    #Agenda2030
    #DepopulationAgenda
    #สงครามชีวภาพ
    #อาวุธ​ชีวภาพ
    #ลดประชากร​โลก
    📣✨เข้าร่วมกลุ่มไลน์​โอเพ่น​แชท​ 👇✨
    📌กลุ่มตื่นเถิด​ชาวไทย
    📌กลุ่มเอาชีวิต​รอดจากวัคซีน​มรณะ
    📌กลุ่มล้างพิษ​วัคซีน​คือ​ทางรอด​💛CDS​ THERAPY​
    อะไรอยู่ในวัคซีน??? สารกราฟีนออกไซด์และอนุภาคนาโนโลหะ สามารถผ่านเข้าไปในร่างกายหรือผ่านสิ่งกีดขวาง ทางสรีรวิทยาได้ เช่น สิ่งกีดขวางระหว่างเลือด กับอากาศ สิ่งกีดขวางระหว่างเลือดกับอัณฑะ สิ่งกีดขวางระหว่างเลือดกับสมอง และ สิ่งกีดขวางระหว่างเลือดกับรก.... ช่วงเวลาหลายเดือนหลังการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ การขนส่งอนุภาคนาโนมากถึง 75% และ สารส่วนใหญ่จะถูกขนส่งไปทั่วร่างกายเข้าสู่ ระบบเลือด สมอง และอวัยวะอื่นๆ​ ทั่วร่างกาย ผลข้างเคียงที่เป็นพิษของกราฟีนออกไซด์ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ​ เยื่อหุ้ม​หัวใจ​อักเสบ​ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ​ ตับอักเสบ​ ตับอ่อนอักเสบ ปอดบวม​ ปอดอักเสบ​ การแข็งตัวของเลือด ลิ่มเลือด​อุดตัน​ และภาวะเลือดไหลไม่หยุด #Bioweapon​ #Vaccine​Injuries #Vaccine​Genocide #VaccineDeath #VaccineSideEffect #Pfizer​ #pfizervaccine​ #moderna​ #BillGates​ #joebiden​ #obama​ #kamalaharris​ #globalists​ #zionist​ #Rothchild​ #illuminati​ #freemasons​ #DeepState #Agenda2030​ #DepopulationAgenda​ #สงครามชีวภาพ #อาวุธ​ชีวภาพ #ลดประชากร​โลก 📣✨เข้าร่วมกลุ่มไลน์​โอเพ่น​แชท​ 👇✨ 📌กลุ่มตื่นเถิด​ชาวไทย 📌กลุ่มเอาชีวิต​รอดจากวัคซีน​มรณะ 📌กลุ่มล้างพิษ​วัคซีน​คือ​ทางรอด​💛CDS​ THERAPY​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 191 0 รีวิว
  • ข้อคิดเห็นใดของเลขาธิการนาโต้ สตอลเทนเบิร์ก จะถูกจดจำบ้าง?

    เลขาธิการนาโต้ เยนส์ สตอลเทนเบิร์ก จะส่งมอบอำนาจให้กับ มาร์ก รุตเต้ อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ ๑ ตุลาคม

    สปุตนิกได้เล่าถึงคำพูดที่น่าจดจำบางส่วนของสตอลเทนเบิร์กที่กล่าวระหว่างดำรงตำแหน่งนาโต้:

    ◻️ ชัยชนะของรัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน "จะไม่เพียงแต่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของชาวยูเครนเท่านั้น, แต่ยังเป็นความพ่ายแพ้และอันตรายสำหรับเราทุกคนด้วย," สตอลเทนเบิร์ก เน้นย้ำในเดือนตุลาคม ๒๐๒๒ คำแถลงดังกล่าวอาจถือเป็นการยอมรับความจริงที่ว่านาโต้กำลังสู้รบในยูเครน, ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวในขณะนั้น

    ◻️ สตอลเทนเบิร์ก เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการกล่าวว่า การสนับสนุนยูเครน "ไม่ใช่การกุศล, แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของเราเอง,"

    ◻️ หัวหน้า NATO เรียกร้องให้พันธมิตรปล่อยให้เคียฟใช้อาวุธระยะไกลจากชาติตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย "ก่อนหน้านี้ เขาได้กำหนดเส้นแบ่งไว้หลายเส้นโดย [ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย] และเขาไม่ได้เพิ่มระดับความรุนแรง," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าว

    ◻️ สโตลเทนเบิร์กปฏิเสธที่จะยอมรับว่ายูเครนได้ประสานงานการโจมตีพื้นที่ชายแดนรัสเซียที่เมืองเคิร์สก์กับตัวแทนจากชาติตะวันตก "ในเรื่องนี้, นาโต้ไม่ได้มีบทบาทใดๆ," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเยอรมนี

    ◻️ สโตลเทนเบิร์กกล่าวหาอย่างโด่งดังว่ารัสเซีย "พยายามแทรกแซงและทำลายความไว้วางใจของสถาบันประชาธิปไตยในประเทศพันธมิตรนาโตหลายแห่งและที่อื่นๆ" ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์การศึกษากลยุทธ์ในนิวซีแลนด์ในปี ๒๐๑๙ 🤣ในความเป็นจริง, สหรัฐฯและนาโตต่างก็อวดอ้างประวัติการทำสงครามที่ไร้เหตุผลและนองเลือด🤣

    ◻️ คาบสมุทรไครเมียได้กลับมารวมกับรัสเซียอีกครั้งอันเป็นผลจาก "การแข่งขันของมหาอำนาจ," ที่เพิ่มขึ้น สโตลเทนเบิร์กกล่าว 📌ในทางปฏิบัติ, ไครเมียลงคะแนนเสียงเพื่อกลับเข้าร่วมกับรัสเซียในการลงประชามติในปี ๒๐๑๔ หลังจากการรัฐประหารที่สหรัฐฯยุยงให้โค่นล้มรัฐบาลเคียฟที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความขัดแย้งในยูเครน📌

    ◻️ สโตลเทนเบิร์กย้ำว่า "ประตูของนาโตเปิดอยู่ ยูเครนจะเข้าร่วม," ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เบอร์ลินเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน
    .
    What remarks will NATO’s outgoing chief Stoltenberg be remembered for?

    NATO Secretary General Jens Stoltenberg is to hand over the reins to former Dutch Prime Minister Mark Rutte on October 1.

    Sputnik has recalled some of the memorable remarks Stoltenberg made during his NATO stint:

    ◻️ Russia’s victory in the Ukraine conflict would be “not only a big defeat for Ukrainians, but it will be a defeat and dangerous for all of us," Stoltenberg stressed in October 2022. The statement could be considered recognition of the fact that NATO is fighting in Ukraine, Kremlin spokesman Dmitry Peskov said at the time.

    ◻️ Supporting Ukraine “is not a charity, it is an investment in our own security," Stoltenberg started out 2024 by saying.

    ◻️ The NATO chief egged on allies to let Kiev use long-range Western weapons to strike deep inside Russia. "There have been many red lines declared by him [Russia’s President Vladimir Putin] before, and he has not escalated," Stoltenberg told reporters.

    ◻️ Stoltenberg refused to admit that Ukraine had coordinated its attack on the Russian border region of Kursk with its Western proxies. "In this respect, NATO played no role," Stoltenberg said in a German media interview.

    ◻️ Stoltenberg famously accused Russia of "trying to meddle in and undermining the trust of democratic institutions in several NATO allied countries and also elsewhere” during a speech at the Center for Strategic Studies in New Zealand in 2019. In fact, the US and NATO boast a track record of senseless and bloody wars.

    ◻️ The Crimean Peninsula was reunited with Russia as a result of increased "great power competition," Stoltenberg said. In effect, Crimea voted to rejoin Russia in a 2014 referendum after a US-instigated coup ousted the legitimate Kiev government and became a catalyst for the Ukraine conflagration.

    ◻️ Stoltenberg doubled down on the fact that “NATO’s door is open. Ukraine will join,” during a speech in Berlin on September 19.
    .
    1:31 AM · Sep 21, 2024 · 3,210 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1837197843531968526
    ข้อคิดเห็นใดของเลขาธิการนาโต้ สตอลเทนเบิร์ก จะถูกจดจำบ้าง? เลขาธิการนาโต้ เยนส์ สตอลเทนเบิร์ก จะส่งมอบอำนาจให้กับ มาร์ก รุตเต้ อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ ๑ ตุลาคม สปุตนิกได้เล่าถึงคำพูดที่น่าจดจำบางส่วนของสตอลเทนเบิร์กที่กล่าวระหว่างดำรงตำแหน่งนาโต้: ◻️ ชัยชนะของรัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน "จะไม่เพียงแต่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของชาวยูเครนเท่านั้น, แต่ยังเป็นความพ่ายแพ้และอันตรายสำหรับเราทุกคนด้วย," สตอลเทนเบิร์ก เน้นย้ำในเดือนตุลาคม ๒๐๒๒ คำแถลงดังกล่าวอาจถือเป็นการยอมรับความจริงที่ว่านาโต้กำลังสู้รบในยูเครน, ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวในขณะนั้น ◻️ สตอลเทนเบิร์ก เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการกล่าวว่า การสนับสนุนยูเครน "ไม่ใช่การกุศล, แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของเราเอง," ◻️ หัวหน้า NATO เรียกร้องให้พันธมิตรปล่อยให้เคียฟใช้อาวุธระยะไกลจากชาติตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย "ก่อนหน้านี้ เขาได้กำหนดเส้นแบ่งไว้หลายเส้นโดย [ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย] และเขาไม่ได้เพิ่มระดับความรุนแรง," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าว ◻️ สโตลเทนเบิร์กปฏิเสธที่จะยอมรับว่ายูเครนได้ประสานงานการโจมตีพื้นที่ชายแดนรัสเซียที่เมืองเคิร์สก์กับตัวแทนจากชาติตะวันตก "ในเรื่องนี้, นาโต้ไม่ได้มีบทบาทใดๆ," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเยอรมนี ◻️ สโตลเทนเบิร์กกล่าวหาอย่างโด่งดังว่ารัสเซีย "พยายามแทรกแซงและทำลายความไว้วางใจของสถาบันประชาธิปไตยในประเทศพันธมิตรนาโตหลายแห่งและที่อื่นๆ" ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์การศึกษากลยุทธ์ในนิวซีแลนด์ในปี ๒๐๑๙ 🤣ในความเป็นจริง, สหรัฐฯและนาโตต่างก็อวดอ้างประวัติการทำสงครามที่ไร้เหตุผลและนองเลือด🤣 ◻️ คาบสมุทรไครเมียได้กลับมารวมกับรัสเซียอีกครั้งอันเป็นผลจาก "การแข่งขันของมหาอำนาจ," ที่เพิ่มขึ้น สโตลเทนเบิร์กกล่าว 📌ในทางปฏิบัติ, ไครเมียลงคะแนนเสียงเพื่อกลับเข้าร่วมกับรัสเซียในการลงประชามติในปี ๒๐๑๔ หลังจากการรัฐประหารที่สหรัฐฯยุยงให้โค่นล้มรัฐบาลเคียฟที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความขัดแย้งในยูเครน📌 ◻️ สโตลเทนเบิร์กย้ำว่า "ประตูของนาโตเปิดอยู่ ยูเครนจะเข้าร่วม," ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เบอร์ลินเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน . What remarks will NATO’s outgoing chief Stoltenberg be remembered for? NATO Secretary General Jens Stoltenberg is to hand over the reins to former Dutch Prime Minister Mark Rutte on October 1. Sputnik has recalled some of the memorable remarks Stoltenberg made during his NATO stint: ◻️ Russia’s victory in the Ukraine conflict would be “not only a big defeat for Ukrainians, but it will be a defeat and dangerous for all of us," Stoltenberg stressed in October 2022. The statement could be considered recognition of the fact that NATO is fighting in Ukraine, Kremlin spokesman Dmitry Peskov said at the time. ◻️ Supporting Ukraine “is not a charity, it is an investment in our own security," Stoltenberg started out 2024 by saying. ◻️ The NATO chief egged on allies to let Kiev use long-range Western weapons to strike deep inside Russia. "There have been many red lines declared by him [Russia’s President Vladimir Putin] before, and he has not escalated," Stoltenberg told reporters. ◻️ Stoltenberg refused to admit that Ukraine had coordinated its attack on the Russian border region of Kursk with its Western proxies. "In this respect, NATO played no role," Stoltenberg said in a German media interview. ◻️ Stoltenberg famously accused Russia of "trying to meddle in and undermining the trust of democratic institutions in several NATO allied countries and also elsewhere” during a speech at the Center for Strategic Studies in New Zealand in 2019. In fact, the US and NATO boast a track record of senseless and bloody wars. ◻️ The Crimean Peninsula was reunited with Russia as a result of increased "great power competition," Stoltenberg said. In effect, Crimea voted to rejoin Russia in a 2014 referendum after a US-instigated coup ousted the legitimate Kiev government and became a catalyst for the Ukraine conflagration. ◻️ Stoltenberg doubled down on the fact that “NATO’s door is open. Ukraine will join,” during a speech in Berlin on September 19. . 1:31 AM · Sep 21, 2024 · 3,210 Views https://x.com/SputnikInt/status/1837197843531968526
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 931 มุมมอง 176 0 รีวิว
  • 20 กันยายน 2567 -Highlight จากงาน BOT Symposium 2024 | หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow

    ช่วงหนึ่ง ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกว่า ธปท.ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม Fed โดยย้ำว่า นโยบายการเงินในประเทศ ยังอิงอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก

    รายงานจากเพจ Today Biznews เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตอบกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ว่า Fed ลดดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 เบสิสพอยท์ (bps) สำหรับ Fed ถือว่าไม่น้อย

    แต่ในแง่ผลกระทบ มองว่า ตลาดรับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนไปแล้วระดับหนึ่ง

    ส่วนช่องทางที่กระทบเศรษฐกิจไทย หลักๆ คือ กระทบตลาดเงินและค่าเงิน ในแง่ผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็มีบ้าง

    แต่โดยรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้มากมายขนาดนั้น เพราะเราเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งระบบแบงก์เป็นส่วนใหญ่ ช่องที่เห็นที่กระทบเยอะคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

    อีกอย่างที่ซ้ำเติมคือราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ส่วนหนึ่งก็มาจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งค่าเงินไทยมีความสัมพันธ์ (Correlation) กับทองค่อนข้างสูง สูงกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค

    ส่วนผลในแง่เศรษฐกิจหลัง Fed ลดดอกเบี้ย สะท้อนว่า Fed ให้ความสำคัญกับ Soft Landing หรือให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เทียบกับความเป็นห่วงในด้านเงินเฟ้อ

    ซึ่งในแง่เศรษฐกิจ อาจจะทำให้ไทยสบายใจขึ้นได้หน่อยว่า โอกาส Soft Landing ในสหรัฐจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

    ‘นี่ (การลดดอกเบี้ยของ Fed) ก็เหมือนการซื้อประกัน Make Sure ว่าโอกาสเกิด Hard Landing ให้มันน้อยๆ’

    [ นโยบายอิงกับปัจจัยในประเทศ ]

    ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเรา ผู้ว่าฯ บอกว่า นโยบายการเงินของไทย เน้นเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก (ที่แบงก์ชาติบอกอยู่เสมอ) คือ

    1. เศรษฐกิจ: การเติบโตว่าจะเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่
    2. เงินเฟ้อ: เงินเฟ้อของเราจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อหรือไม่
    3. เสถียรภาพทางด้านการเงิน: ซึ่งช่วงหลังให้ความสำคัญ

    ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้ภาพการประเมินแตกต่างจากที่มองเอาไว้ ทั้งเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มีแต่เสถียรภาพทางด้านการเงิน เริ่มเห็นความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) เพิ่มสูงขึ้นเยอะ

    แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตอนที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งจะกระทบภาพรวม และมีนัยต่อประเด็นข้างต้น ทำให้ต้องคำนึงถึง

    ‘การที่เราย้ำว่า เรา Outlook Dependent เป็นการตัดสินใจ หรือกรอบความคิดที่เหมาะสมแล้ว และถูกต้อง เพราะเราเห็นแล้วว่าที่อื่นที่เน้น Data Dependent มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ’

    ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ตอนนี้ยังประชุมตามเดิม (รอบหน้า 16 ต.ค. 2567) ถ้าต้องมีการประชุมเพิ่มเติมพิเศษก็มีได้

    [ ดอกเบี้ยลด หนี้ไม่ลด ]

    เมื่อถามถึงความคาดหวังให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อลดหนี้ครัวเรือน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อธิบายว่า สำหรับตัวบน (หนี้) มี 2 ส่วน คือ ผลต่อหนี้เก่า ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ย จะทำให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายบนหนี้เก่าลดลง ส่วนหนี้ใหม่ คำถามคือ ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วทำให้สินเชื่อโตเร็วขึ้น ตัวหนี้โดยรวมมันก็จะเพิ่มขึ้น

    ซึ่งการดูตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ส่วน แต่ยังไงแบงก์ชาติก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีโตพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะในแง่ของเสถียรภาพมันคงไม่เหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะให้มันลงเร็ว ลงแรง จนเกินไป เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจ

    ต้องบอกว่า ภาระหนี้เป็นอะไรที่แบงก์ชาติเป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาหนี้ แต่อยากฝากไว้ว่า การลดดอกเบี้ย ผลที่ส่งต่อภาระหนี้มันก็ไม่ได้เต็มที่

    หนี้ของเราสัดส่วนไม่น้อยไม่ได้เป็นหนี้ Floating แต่เป็น Fixed Rate และ Fixed Installment พวกนี้ภาระหนี้ไม่ได้ลด ในแง่ที่ต้องจ่ายรายเดือน เพราะฉะนั้น จะไปคาดหวังให้ดอกเบี้ยลงปุ๊ปและภาระหนี้ทุกคนลด ก็ไม่ใช่

    ‘เรื่องของ Fed มันไม่ใช่ว่า Fed ลดแล้วเราต้องลด แต่การที่ Fed ลด อย่างที่บอก มันก็กระทบปัจจัยหลายอย่าง กระทบเรื่องของภาพรวมอะไรต่างๆ กระทบตัวแปรต่างๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย’

    ผู้ว่าฯ อธิบายอีกว่า เราไม่เหมือนประเทศที่ fix ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง ที่ fix ค่าเงินกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เขาก็ต้องลดดอกเบี้ยไปโดยปริยาย แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น

    [ เงินไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ]

    ส่วนผลกระทบต่อค่าเงินบาท แน่นอนว่าแบงก์ชาติไม่ได้อยากเห็นค่าเงินที่ผันผวนขนาดนี้ และค่าความผันผวน (Volatility) ของเราก็สูง และการแข็งค่า โดยเฉพาะช่วงหลัง ก็เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว

    ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) บาทแข็งค่าไป 2.4% แต่ก็ยังมีประเทศที่แข็งค่ามากกว่าเรา เช่น มาเลเซีย ที่ช่วงหลังแข็งค่าค่อนข้างเยอะ

    สำหรับการประเมิน แบงก์ชาติจะดูว่าที่มาของการแข็งค่าคืออะไร 1. ถ้ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหรือเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเคสนี้มาจากเรื่องดอลลาร์อ่อนค่าและ Fed ลดดอกเบี้ย ก็เป็นการปรับตามกลไกตลาด

    แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ 2. การเคลื่อนไหวที่เร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยเชิงพื้นฐาน เช่น กระแสเงินที่มาจากการเก็งกำไร (Speculated Flow) หรือเงินร้อน (Hot Money) ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรและทำให้ความผันผวนเกิดขึ้น โดยที่ไม่สะท้อนเรื่องของพื้นฐาน อันนี้แบงก์ชาติจะ sensitive กว่า

    ซึ่งภาพรวมของเงินทุนในช่วงหลัง การไหลออกน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ (ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น) โดยปีก่อน (2566) เงินทุนไหลออก 9,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 แสนล้านบาท)

    ส่วนปีนี้ (2567) YTD อยู่ที่ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ช่วงหลังเห็นการไหลเข้าค่อนข้างเยอะ จากปัจจัยของโลกและปัจจัยแวดล้อมของเรา เช่น ความชัดเจนด้านการเมือง

    ที่มา https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/news-and-media/speeches/speechgov_20sep2024.pdf
    ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/_z66w8oG260?si=v16T3b9bMjKajLvF

    #Thaitimes
    20 กันยายน 2567 -Highlight จากงาน BOT Symposium 2024 | หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow ช่วงหนึ่ง ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกว่า ธปท.ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม Fed โดยย้ำว่า นโยบายการเงินในประเทศ ยังอิงอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก รายงานจากเพจ Today Biznews เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตอบกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ว่า Fed ลดดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 เบสิสพอยท์ (bps) สำหรับ Fed ถือว่าไม่น้อย แต่ในแง่ผลกระทบ มองว่า ตลาดรับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนไปแล้วระดับหนึ่ง ส่วนช่องทางที่กระทบเศรษฐกิจไทย หลักๆ คือ กระทบตลาดเงินและค่าเงิน ในแง่ผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็มีบ้าง แต่โดยรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้มากมายขนาดนั้น เพราะเราเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งระบบแบงก์เป็นส่วนใหญ่ ช่องที่เห็นที่กระทบเยอะคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ อีกอย่างที่ซ้ำเติมคือราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ส่วนหนึ่งก็มาจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งค่าเงินไทยมีความสัมพันธ์ (Correlation) กับทองค่อนข้างสูง สูงกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ส่วนผลในแง่เศรษฐกิจหลัง Fed ลดดอกเบี้ย สะท้อนว่า Fed ให้ความสำคัญกับ Soft Landing หรือให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เทียบกับความเป็นห่วงในด้านเงินเฟ้อ ซึ่งในแง่เศรษฐกิจ อาจจะทำให้ไทยสบายใจขึ้นได้หน่อยว่า โอกาส Soft Landing ในสหรัฐจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ‘นี่ (การลดดอกเบี้ยของ Fed) ก็เหมือนการซื้อประกัน Make Sure ว่าโอกาสเกิด Hard Landing ให้มันน้อยๆ’ [ นโยบายอิงกับปัจจัยในประเทศ ] ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเรา ผู้ว่าฯ บอกว่า นโยบายการเงินของไทย เน้นเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก (ที่แบงก์ชาติบอกอยู่เสมอ) คือ 1. เศรษฐกิจ: การเติบโตว่าจะเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่ 2. เงินเฟ้อ: เงินเฟ้อของเราจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อหรือไม่ 3. เสถียรภาพทางด้านการเงิน: ซึ่งช่วงหลังให้ความสำคัญ ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้ภาพการประเมินแตกต่างจากที่มองเอาไว้ ทั้งเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มีแต่เสถียรภาพทางด้านการเงิน เริ่มเห็นความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) เพิ่มสูงขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตอนที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งจะกระทบภาพรวม และมีนัยต่อประเด็นข้างต้น ทำให้ต้องคำนึงถึง ‘การที่เราย้ำว่า เรา Outlook Dependent เป็นการตัดสินใจ หรือกรอบความคิดที่เหมาะสมแล้ว และถูกต้อง เพราะเราเห็นแล้วว่าที่อื่นที่เน้น Data Dependent มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ’ ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ตอนนี้ยังประชุมตามเดิม (รอบหน้า 16 ต.ค. 2567) ถ้าต้องมีการประชุมเพิ่มเติมพิเศษก็มีได้ [ ดอกเบี้ยลด หนี้ไม่ลด ] เมื่อถามถึงความคาดหวังให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อลดหนี้ครัวเรือน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อธิบายว่า สำหรับตัวบน (หนี้) มี 2 ส่วน คือ ผลต่อหนี้เก่า ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ย จะทำให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายบนหนี้เก่าลดลง ส่วนหนี้ใหม่ คำถามคือ ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วทำให้สินเชื่อโตเร็วขึ้น ตัวหนี้โดยรวมมันก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งการดูตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ส่วน แต่ยังไงแบงก์ชาติก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีโตพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะในแง่ของเสถียรภาพมันคงไม่เหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะให้มันลงเร็ว ลงแรง จนเกินไป เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจ ต้องบอกว่า ภาระหนี้เป็นอะไรที่แบงก์ชาติเป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาหนี้ แต่อยากฝากไว้ว่า การลดดอกเบี้ย ผลที่ส่งต่อภาระหนี้มันก็ไม่ได้เต็มที่ หนี้ของเราสัดส่วนไม่น้อยไม่ได้เป็นหนี้ Floating แต่เป็น Fixed Rate และ Fixed Installment พวกนี้ภาระหนี้ไม่ได้ลด ในแง่ที่ต้องจ่ายรายเดือน เพราะฉะนั้น จะไปคาดหวังให้ดอกเบี้ยลงปุ๊ปและภาระหนี้ทุกคนลด ก็ไม่ใช่ ‘เรื่องของ Fed มันไม่ใช่ว่า Fed ลดแล้วเราต้องลด แต่การที่ Fed ลด อย่างที่บอก มันก็กระทบปัจจัยหลายอย่าง กระทบเรื่องของภาพรวมอะไรต่างๆ กระทบตัวแปรต่างๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย’ ผู้ว่าฯ อธิบายอีกว่า เราไม่เหมือนประเทศที่ fix ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง ที่ fix ค่าเงินกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เขาก็ต้องลดดอกเบี้ยไปโดยปริยาย แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น [ เงินไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ] ส่วนผลกระทบต่อค่าเงินบาท แน่นอนว่าแบงก์ชาติไม่ได้อยากเห็นค่าเงินที่ผันผวนขนาดนี้ และค่าความผันผวน (Volatility) ของเราก็สูง และการแข็งค่า โดยเฉพาะช่วงหลัง ก็เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) บาทแข็งค่าไป 2.4% แต่ก็ยังมีประเทศที่แข็งค่ามากกว่าเรา เช่น มาเลเซีย ที่ช่วงหลังแข็งค่าค่อนข้างเยอะ สำหรับการประเมิน แบงก์ชาติจะดูว่าที่มาของการแข็งค่าคืออะไร 1. ถ้ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหรือเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเคสนี้มาจากเรื่องดอลลาร์อ่อนค่าและ Fed ลดดอกเบี้ย ก็เป็นการปรับตามกลไกตลาด แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ 2. การเคลื่อนไหวที่เร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยเชิงพื้นฐาน เช่น กระแสเงินที่มาจากการเก็งกำไร (Speculated Flow) หรือเงินร้อน (Hot Money) ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรและทำให้ความผันผวนเกิดขึ้น โดยที่ไม่สะท้อนเรื่องของพื้นฐาน อันนี้แบงก์ชาติจะ sensitive กว่า ซึ่งภาพรวมของเงินทุนในช่วงหลัง การไหลออกน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ (ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น) โดยปีก่อน (2566) เงินทุนไหลออก 9,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 แสนล้านบาท) ส่วนปีนี้ (2567) YTD อยู่ที่ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ช่วงหลังเห็นการไหลเข้าค่อนข้างเยอะ จากปัจจัยของโลกและปัจจัยแวดล้อมของเรา เช่น ความชัดเจนด้านการเมือง ที่มา https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/news-and-media/speeches/speechgov_20sep2024.pdf ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/_z66w8oG260?si=v16T3b9bMjKajLvF #Thaitimes
    Like
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1880 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราชตฤณมัยสมาคมฯเดินหน้าสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2แสนล้าน ภายใต้ชื่อโครงการ "The Royal Siam Haven" หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้

    19 กันยายน 2567-รายงานข่าวไทยพีบีเอสระบุว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้

    ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน

    ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้

    พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอก

    “เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอกเพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน”

    ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร

    เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป
    ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้และอายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี

    นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้

    ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

    นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน

    #Thaitimes
    ราชตฤณมัยสมาคมฯเดินหน้าสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2แสนล้าน ภายใต้ชื่อโครงการ "The Royal Siam Haven" หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ 19 กันยายน 2567-รายงานข่าวไทยพีบีเอสระบุว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้ พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอก “เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอกเพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน” ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้และอายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้ ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1957 มุมมอง 0 รีวิว
  • เก่งสุดๆ“ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ฟอร์มสดชนะ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พรุ่งนี้ไปเจอ กินติ้ง นักแบดอินโดนีเวีย ในศึกการแข่งขัน China Open 2024

    คำสัมภาษณ์ วิว กุลวุฒิ หลังเกม เอาชนะ Brian Yang 2เซ็ต คะแนน 21-18,21-9 เขากล่าวว่า
    “วันนี้เป็นวันที่ดี และเป็นวันที่มีแผนที่ดี ผมคิดว่า ผมควบคุมลูกแบดได้ดีกว่าวันแรก และมันควบคุมยากมาก เมื่อแข่งในสนามที่มีลม มันยากมากที่จะเล่น

    แต่ผมคิดว่าวันนี้...มันโอเคสำหรับผม ถ้าผมคิดไปล่วงหน้าก่อน จะเกิดความกดดันมากในเกมเพราะฉะนั้นเวลาผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผมสามารถเล่นได้ดี เพราะถ้าผมคิดมาก ผมจะไม่มีสมาธิ ควบคุมอะไรไม่ได้เลย

    ผมพยายามอย่างสุดความสามารถ
    เพราะหลังจากโอลิมปิกเกมส์ ไม่มีเวลาฝึกซ้อมเลย มีอีเว้นท์เยอะมาก

    ผมมาทัวร์นาเมนต์นี้เพื่อเรียนรู้เป็นนักกีฬา Top Player และถ้าผมแพ้ มันโอเค เพราะผมแค่เป็นนักกีฬาเท่านั้น ไม่ใช่ Top Player
    ผมต้องเรียนรู้อีกมากกับนักกีฬาชั้นนำ และการแข่งทัวร์นาเมนต์ต่างๆ

    ขอบคุณมากๆ
    มีแฟนชาวจีนมากมาย
    ผมมีความสุขมาก และรักพวกเขา และเจอกันพรุ่งนี้ครับ”

    ที่มา : https://youtu.be/_qW4IUqL1wY?si=O3Nne2xUh6Y2sK1T

    #Thaitimes
    เก่งสุดๆ“ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ฟอร์มสดชนะ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พรุ่งนี้ไปเจอ กินติ้ง นักแบดอินโดนีเวีย ในศึกการแข่งขัน China Open 2024 คำสัมภาษณ์ วิว กุลวุฒิ หลังเกม เอาชนะ Brian Yang 2เซ็ต คะแนน 21-18,21-9 เขากล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ดี และเป็นวันที่มีแผนที่ดี ผมคิดว่า ผมควบคุมลูกแบดได้ดีกว่าวันแรก และมันควบคุมยากมาก เมื่อแข่งในสนามที่มีลม มันยากมากที่จะเล่น แต่ผมคิดว่าวันนี้...มันโอเคสำหรับผม ถ้าผมคิดไปล่วงหน้าก่อน จะเกิดความกดดันมากในเกมเพราะฉะนั้นเวลาผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผมสามารถเล่นได้ดี เพราะถ้าผมคิดมาก ผมจะไม่มีสมาธิ ควบคุมอะไรไม่ได้เลย ผมพยายามอย่างสุดความสามารถ เพราะหลังจากโอลิมปิกเกมส์ ไม่มีเวลาฝึกซ้อมเลย มีอีเว้นท์เยอะมาก ผมมาทัวร์นาเมนต์นี้เพื่อเรียนรู้เป็นนักกีฬา Top Player และถ้าผมแพ้ มันโอเค เพราะผมแค่เป็นนักกีฬาเท่านั้น ไม่ใช่ Top Player ผมต้องเรียนรู้อีกมากกับนักกีฬาชั้นนำ และการแข่งทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ขอบคุณมากๆ มีแฟนชาวจีนมากมาย ผมมีความสุขมาก และรักพวกเขา และเจอกันพรุ่งนี้ครับ” ที่มา : https://youtu.be/_qW4IUqL1wY?si=O3Nne2xUh6Y2sK1T #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1375 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องจริงเมกายืนยันแล้ว
    เมกายืนยันตามนี้
    "ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐยูทาห์ มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อ T.. .. T.. ... เกี่ยวกับฟีเจอร์ T.. .. T.. .. LIVE (pk) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการทำกิจกรรมผิ..กฎห..าย เช่น ก..รค้า..นุษย์ การขาย..าเ..พติ.. และการฟ-อ-ก-เ-งิ-น ผ่านการใช้สกุลเงินดิจิทัลในแอป ในเดือนมิถุนายน 2024 อัยการสูงสุดของรัฐยูทาห์ได้ยื่นฟ้-อ-ง T..T.. โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ใช้กลวิธีเพื่อห..อกล..งผู้ใช้ให้ทำธุรกรรมผ่านแอป ซึ่งส่งผลให้เกิดการฟ-อ-ก-เ-งิ-น และ T..T..k ยังได้รับประโยชน์จากการเก็บค่าคอมมิ..ชั่นจำนวนมากจากแต่ละธุรกรรมอีกด้วย​"
    ------------------------------------------------------
    "เรียน ปปง. เพจคิงส์โพธิ์แดงพบว่า จีกามิน ชาวเกาหลี เอเจนซี่และพวก ซึ่งนำโดยชาวไทย นางมณฑนี (โจ) ตันติสุข มีพฤติกรรมการ ฟ-อ-กเงิน และหรือร่วมขบวนการ การฟ-อ-ก เงินระดับนานาชาติ ด้วยรูปแบบการ ไลฟ์สตรีม และการ pk โดยมีความผิดปกติที่ทางเพจได้มีการจับพิรุธมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว รวมถึงมีขบวนการในการสร้างยูซเซอร์ที่ไม่ใช่บุคคลจริง เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในทุกแพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างเช่น การสร้างยูซเซอร์อย่างไม่ถูกต้อง เข้าไปในแพลตฟอร์มท-วิ-ต เ-ต-อ-ร์ สร้างแฮชแท็คเพื่อสร้างเทรนที่ไม่เป็นจริง ว่า เซฟกามิน โดยมีความผิดปกติที่ไม่มีการสร้างแคมเปญ แต่กลับมียูซเซอร์ จำนวนไม่ต่ำกว่าสองหมื่น มาทำการพิมพ์แฮชแท็ค# พร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย โดยมุ่งหวังให้สำนักข่าวในประเทศไทย ได้ทำข่าว นำเสนอเนื้อหาในแบบที่ตนเองได้สร้างขึ้นซึ่งเป็นการนำข้อความอันเป็นเ-ท็-จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นยังมีการใช้ยูซเซอร์ปลอมในการคอมเม้น โดยมีเนื้อหา ในการให้ร้าย ดารานักแสดงชาวไทย ชื่อชาลี ปอทเจส ซึ่งเป็นการหมิ่น ทำให้เ-สื่-อ-มเสียชื่อเสียง
    -นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า นางมณฑนี (โจ) ตันติสุข ได้สร้างกลุ่มในแอพพลิเคชั่น ชื่อกลุ่ม Discord ชื่อย่อว่า DC มีพฤติกรรมในการสร้างอุปทานหมู่ ปั้นแต่งวาทะกรรม เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว เข้าใจว่านักแสดงชายคนดังกล่าว มีความป่-ว-ย ทางจิตประสาท และสร้างอคติ จนนำไปสู่การคุ-กค-า-ม นักแสดงชาย ไปถึงครอบครัว นอกจากนั้น นาง นางมณฑนี (โจ) ตันติสุข ยังใช้กลุ่มในแอพพลิเคชั่นดังกล่าว-ล่-อล-ว-ง โดยการให้สมาชิกที่เป็นคนไทย จ่ายเงินเพื่อซื้อเหรียญในแอพพลิคเชั่นทิ๊กท็อก ให้กับการไลฟ์สตรีมที่เรียกว่า การแข่งขัน PK ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อหลายครอบครัว นอกจากนั้นทางเพจยังพบอีกว่า กลุ่มเงินสีเ-ท-า ได้ใช้ช่องทางดังกล่าวนี้ในการฟ-อ-ก-เ-งิ-น ด้วยการสอดไส้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่มีการ pk ที่เป็นแม็ตที่ผ่านการโปรโมท เช่น ป้ายสนามบิน และมีผู้เข้าชมจำนวนมากๆ กลุ่มฟ-อ-ก-เ-งิ-น ข้ามชาติจะส่งของขวัญประมาณ 5% ของจำนวนเงินที่ใส่ไปในระบบ เมื่อเปลี่ยนเป็นเหรียญจะไม่สามารถทราบที่มาของแหล่งเงินได้ อีก 95% ก็จะนำเหรียญที่ใส่เข้าไปทำการถอนออก และตกแต่งบัญชี เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรายได้จากของขวัญในแอพพลิเคชั่น และทำการเสียภ-า-ษี ทำให้กลายเป็นเงินสะอาด
    -เพจคิงส์โพธิ์แดง จึงใคร่ขอความกรุณา ปปง. เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของนาง จีกามิน ชาวเกาหลี และพวก เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ปลอดภัยจากขบวนการข้ามชาตินี้ด้วย เนื่องจากขณะนี้ มีเอเจนซี่ข้ามชาติ ได้เริ่มเข้ามาวางเครือข่ายในประเทศไทย เพื่อเป็นแหล่ง ฟ-อ-กเ-งิ-น จากนานาชาติ
    ด้วยความเคารพอย่างสูง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน - ปปง.
    มีอ้างอิงข้อมูลการตัดสินจากสหรัฐใต้โพส
    #เรื่องจริงเมกายืนยันแล้ว เมกายืนยันตามนี้ "ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐยูทาห์ มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อ T.. .. T.. ... เกี่ยวกับฟีเจอร์ T.. .. T.. .. LIVE (pk) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการทำกิจกรรมผิ..กฎห..าย เช่น ก..รค้า..นุษย์ การขาย..าเ..พติ.. และการฟ-อ-ก-เ-งิ-น ผ่านการใช้สกุลเงินดิจิทัลในแอป ในเดือนมิถุนายน 2024 อัยการสูงสุดของรัฐยูทาห์ได้ยื่นฟ้-อ-ง T..T.. โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ใช้กลวิธีเพื่อห..อกล..งผู้ใช้ให้ทำธุรกรรมผ่านแอป ซึ่งส่งผลให้เกิดการฟ-อ-ก-เ-งิ-น และ T..T..k ยังได้รับประโยชน์จากการเก็บค่าคอมมิ..ชั่นจำนวนมากจากแต่ละธุรกรรมอีกด้วย​" ------------------------------------------------------ "เรียน ปปง. เพจคิงส์โพธิ์แดงพบว่า จีกามิน ชาวเกาหลี เอเจนซี่และพวก ซึ่งนำโดยชาวไทย นางมณฑนี (โจ) ตันติสุข มีพฤติกรรมการ ฟ-อ-กเงิน และหรือร่วมขบวนการ การฟ-อ-ก เงินระดับนานาชาติ ด้วยรูปแบบการ ไลฟ์สตรีม และการ pk โดยมีความผิดปกติที่ทางเพจได้มีการจับพิรุธมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว รวมถึงมีขบวนการในการสร้างยูซเซอร์ที่ไม่ใช่บุคคลจริง เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในทุกแพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างเช่น การสร้างยูซเซอร์อย่างไม่ถูกต้อง เข้าไปในแพลตฟอร์มท-วิ-ต เ-ต-อ-ร์ สร้างแฮชแท็คเพื่อสร้างเทรนที่ไม่เป็นจริง ว่า เซฟกามิน โดยมีความผิดปกติที่ไม่มีการสร้างแคมเปญ แต่กลับมียูซเซอร์ จำนวนไม่ต่ำกว่าสองหมื่น มาทำการพิมพ์แฮชแท็ค# พร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย โดยมุ่งหวังให้สำนักข่าวในประเทศไทย ได้ทำข่าว นำเสนอเนื้อหาในแบบที่ตนเองได้สร้างขึ้นซึ่งเป็นการนำข้อความอันเป็นเ-ท็-จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นยังมีการใช้ยูซเซอร์ปลอมในการคอมเม้น โดยมีเนื้อหา ในการให้ร้าย ดารานักแสดงชาวไทย ชื่อชาลี ปอทเจส ซึ่งเป็นการหมิ่น ทำให้เ-สื่-อ-มเสียชื่อเสียง -นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า นางมณฑนี (โจ) ตันติสุข ได้สร้างกลุ่มในแอพพลิเคชั่น ชื่อกลุ่ม Discord ชื่อย่อว่า DC มีพฤติกรรมในการสร้างอุปทานหมู่ ปั้นแต่งวาทะกรรม เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว เข้าใจว่านักแสดงชายคนดังกล่าว มีความป่-ว-ย ทางจิตประสาท และสร้างอคติ จนนำไปสู่การคุ-กค-า-ม นักแสดงชาย ไปถึงครอบครัว นอกจากนั้น นาง นางมณฑนี (โจ) ตันติสุข ยังใช้กลุ่มในแอพพลิเคชั่นดังกล่าว-ล่-อล-ว-ง โดยการให้สมาชิกที่เป็นคนไทย จ่ายเงินเพื่อซื้อเหรียญในแอพพลิคเชั่นทิ๊กท็อก ให้กับการไลฟ์สตรีมที่เรียกว่า การแข่งขัน PK ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อหลายครอบครัว นอกจากนั้นทางเพจยังพบอีกว่า กลุ่มเงินสีเ-ท-า ได้ใช้ช่องทางดังกล่าวนี้ในการฟ-อ-ก-เ-งิ-น ด้วยการสอดไส้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่มีการ pk ที่เป็นแม็ตที่ผ่านการโปรโมท เช่น ป้ายสนามบิน และมีผู้เข้าชมจำนวนมากๆ กลุ่มฟ-อ-ก-เ-งิ-น ข้ามชาติจะส่งของขวัญประมาณ 5% ของจำนวนเงินที่ใส่ไปในระบบ เมื่อเปลี่ยนเป็นเหรียญจะไม่สามารถทราบที่มาของแหล่งเงินได้ อีก 95% ก็จะนำเหรียญที่ใส่เข้าไปทำการถอนออก และตกแต่งบัญชี เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรายได้จากของขวัญในแอพพลิเคชั่น และทำการเสียภ-า-ษี ทำให้กลายเป็นเงินสะอาด -เพจคิงส์โพธิ์แดง จึงใคร่ขอความกรุณา ปปง. เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของนาง จีกามิน ชาวเกาหลี และพวก เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ปลอดภัยจากขบวนการข้ามชาตินี้ด้วย เนื่องจากขณะนี้ มีเอเจนซี่ข้ามชาติ ได้เริ่มเข้ามาวางเครือข่ายในประเทศไทย เพื่อเป็นแหล่ง ฟ-อ-กเ-งิ-น จากนานาชาติ ด้วยความเคารพอย่างสูง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน - ปปง. มีอ้างอิงข้อมูลการตัดสินจากสหรัฐใต้โพส
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2433 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไชโย! วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลก ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 ชนะ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 34 ของโลกจากไต้หวัน 2-1 เกม 20-22 , 21-14 และ 21-15 "วิว" ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดาในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายนนี้

    การแข่งขันแบดมินตันรายการ วิคเตอร์ ไชน่า โอเพ่น 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 2,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 66,000,000 บาท ที่เมืองฉางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน

    เมื่อวันอังคารที่ 17 ก.ย.67 ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันในรอบแรกประเภทชายเดี่ยว รอบแรก "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลก ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 พบกับ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 34 ของโลกจากไต้หวัน เกมนี้ วิว กุลวุฒิ ต้องออกแรงเหนื่อยถึง 3 เกม ก่อนจะแซงกลับมาเอาชนะไปแบบหวุดหวิด 2-1 เกม 20-22 , 21-14 และ 21-15 "วิว" กุลวุฒิ ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา

    https://youtu.be/rWfqa8eP_xc

    #Thaitimes
    ไชโย! วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลก ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 ชนะ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 34 ของโลกจากไต้หวัน 2-1 เกม 20-22 , 21-14 และ 21-15 "วิว" ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดาในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายนนี้ การแข่งขันแบดมินตันรายการ วิคเตอร์ ไชน่า โอเพ่น 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 2,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 66,000,000 บาท ที่เมืองฉางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันอังคารที่ 17 ก.ย.67 ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันในรอบแรกประเภทชายเดี่ยว รอบแรก "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลก ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 พบกับ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 34 ของโลกจากไต้หวัน เกมนี้ วิว กุลวุฒิ ต้องออกแรงเหนื่อยถึง 3 เกม ก่อนจะแซงกลับมาเอาชนะไปแบบหวุดหวิด 2-1 เกม 20-22 , 21-14 และ 21-15 "วิว" กุลวุฒิ ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา https://youtu.be/rWfqa8eP_xc #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 961 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กลุ่มเงินดาร์คซักอบรีดเงินผ่านPKและแอพตต.อย่างไร
    เป็นข้อมูลเชิงลึกที่มาแบบไม่รู้ตัว
    โดยมีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ได้เข้ามาอธิบายวิธีการ
    จากที่มีคนถามว่าถ้าส่งติ๊กเกอร์โดนหักจะคุ้มเหรอ
    และนี่คือคำตอบ
    "บิ๊กแมต​ ทุกเดือนเลย"
    "เงินดาร์คแลกเป็นเหรียญ​สามารถ​โอนเข้าบัญชี​ให้กัน​ได้เลยทันที..
    ไม่ต้องแลกเป็นของขวัญให้เสียส่วนต่าง.
    แล้วบริษัท​ก็ไปแต่งบัญชี​เอาว่าได้เหรียญจากการแข่งขัน.!!
    ชึ่งระดับกามิจเขาไม่ตรวจหลอกเพราะคนดูนางเยอะระดับหลายหมื่น.. ขอบคุณ​คิงโพธิ์แดง​ ทีทำให้เราเข้าใจ​ สิ่งที่ชาลีพยายามบอกอ้อมๆ​ ว่าบิ๊กแมต​ไม่เป็นธรรม​ชาติ​ แบบนี้เอง"
    จึงไม่แปลกใจ ว่าทำไม โจ ถึงไม่ต้องทำงานทำการ
    และมีงบ จัดทัพในการตอบโต้เรื่องนี้
    อย่างไม่สนใจวิธีการ ทั้งยูซผี และสร้างกลุ่มไอโอ
    ในการแก้เกมส์ได้ทุกวัน
    ฝากบอก โจ มณฑานีด้วยว่า
    โจ เงินบาป มันจะเผาตัวเองในที่สุดนะ
    รอรับ กรรมทำงาน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #กลุ่มเงินดาร์คซักอบรีดเงินผ่านPKและแอพตต.อย่างไร เป็นข้อมูลเชิงลึกที่มาแบบไม่รู้ตัว โดยมีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ได้เข้ามาอธิบายวิธีการ จากที่มีคนถามว่าถ้าส่งติ๊กเกอร์โดนหักจะคุ้มเหรอ และนี่คือคำตอบ "บิ๊กแมต​ ทุกเดือนเลย" "เงินดาร์คแลกเป็นเหรียญ​สามารถ​โอนเข้าบัญชี​ให้กัน​ได้เลยทันที.. ไม่ต้องแลกเป็นของขวัญให้เสียส่วนต่าง. แล้วบริษัท​ก็ไปแต่งบัญชี​เอาว่าได้เหรียญจากการแข่งขัน.!! ชึ่งระดับกามิจเขาไม่ตรวจหลอกเพราะคนดูนางเยอะระดับหลายหมื่น.. ขอบคุณ​คิงโพธิ์แดง​ ทีทำให้เราเข้าใจ​ สิ่งที่ชาลีพยายามบอกอ้อมๆ​ ว่าบิ๊กแมต​ไม่เป็นธรรม​ชาติ​ แบบนี้เอง" จึงไม่แปลกใจ ว่าทำไม โจ ถึงไม่ต้องทำงานทำการ และมีงบ จัดทัพในการตอบโต้เรื่องนี้ อย่างไม่สนใจวิธีการ ทั้งยูซผี และสร้างกลุ่มไอโอ ในการแก้เกมส์ได้ทุกวัน ฝากบอก โจ มณฑานีด้วยว่า โจ เงินบาป มันจะเผาตัวเองในที่สุดนะ รอรับ กรรมทำงาน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแสดงความยินดี กับน้องๆ และคุณครู โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ และโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จำนวน 14 ทีม ที่ได้รับรางวัล
    จากการแข่งขัน Coding War สมรภูมิประชันไอเดียโค้ดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมมอบรางวัลอุปกรณ์ดิจิทัลและทุนการศึกษา มูลค่ารวมกว่า 1.7 ล้านบาท

    ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย พื้นที่ที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้ค้นพบศักยภาพของตนเอง เชื่อมั่นว่าความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้จากเวทีนี้จะช่วยพัฒนาและต่อยอดอาชีพน้องๆ ต่อไปในอนาคต

    ติดตามรายละเอียด ได้ที่ www.depa.or.th , www.codingforbetterlife.com และเพจเฟซบุ๊ก CodingThailand by depa และ depa Thailand

    #depaThailand #CodingThailand #CodingforBetterLife #Coding #สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #DigitalThailand #อาสาพาสุข #สยามโสภา #สยามเด็กเล่น #siamplayground #thaitimes
    #thaitimesเยาวชน
    ขอแสดงความยินดี กับน้องๆ และคุณครู โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ และโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จำนวน 14 ทีม ที่ได้รับรางวัล จากการแข่งขัน Coding War สมรภูมิประชันไอเดียโค้ดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมมอบรางวัลอุปกรณ์ดิจิทัลและทุนการศึกษา มูลค่ารวมกว่า 1.7 ล้านบาท ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย พื้นที่ที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้ค้นพบศักยภาพของตนเอง เชื่อมั่นว่าความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้จากเวทีนี้จะช่วยพัฒนาและต่อยอดอาชีพน้องๆ ต่อไปในอนาคต ติดตามรายละเอียด ได้ที่ www.depa.or.th , www.codingforbetterlife.com และเพจเฟซบุ๊ก CodingThailand by depa และ depa Thailand #depaThailand #CodingThailand #CodingforBetterLife #Coding #สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #DigitalThailand #อาสาพาสุข #สยามโสภา #สยามเด็กเล่น #siamplayground #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 203 0 รีวิว
  • ไปรยา จันต๊ะวงค์
    ทีม 3D : Do Done Did
    จาก โรงเรียนปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน
    ผลงาน Pulmowave Pro อุปกรณ์วินิจฉัยความผิดปกติจากเสียงปอด

    การแข่งขัน Coding War สมรภูมิประชันไอเดียโค้ดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย

    #codingwar #showcase
    #depaThailand #CodingThailand #CodingforBetterLife #Coding #สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #DigitalThailand #อาสาพาสุข #สยามโสภา #สยามเด็กเล่น #siamplayground #เด็กมีแวว #thaitimesเยาวชน
    ไปรยา จันต๊ะวงค์ ทีม 3D : Do Done Did จาก โรงเรียนปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน ผลงาน Pulmowave Pro อุปกรณ์วินิจฉัยความผิดปกติจากเสียงปอด การแข่งขัน Coding War สมรภูมิประชันไอเดียโค้ดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #codingwar #showcase #depaThailand #CodingThailand #CodingforBetterLife #Coding #สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #DigitalThailand #อาสาพาสุข #สยามโสภา #สยามเด็กเล่น #siamplayground #เด็กมีแวว #thaitimesเยาวชน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 897 มุมมอง 112 0 รีวิว
  • ไปรยา จันต๊ะวงค์
    ทีม 3D : Do Done Did
    จาก โรงเรียนปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน
    ผลงาน Pulmowave Pro อุปกรณ์วินิจฉัยความผิดปกติจากเสียงปอด

    การแข่งขัน Coding War สมรภูมิประชันไอเดียโค้ดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย

    #codingwar #showcase
    #depaThailand #CodingThailand #CodingforBetterLife #Coding #สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #DigitalThailand #อาสาพาสุข #สยามโสภา #สยามเด็กเล่น #siamplayground #เด็กมีแวว #thaitimes
    ไปรยา จันต๊ะวงค์ ทีม 3D : Do Done Did จาก โรงเรียนปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน ผลงาน Pulmowave Pro อุปกรณ์วินิจฉัยความผิดปกติจากเสียงปอด การแข่งขัน Coding War สมรภูมิประชันไอเดียโค้ดดิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #codingwar #showcase #depaThailand #CodingThailand #CodingforBetterLife #Coding #สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย #DigitalThailand #อาสาพาสุข #สยามโสภา #สยามเด็กเล่น #siamplayground #เด็กมีแวว #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 130 0 รีวิว
  • ภาพบรรยากาศ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือ Puerto Portals เกาะมายอร์กา เพื่อทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ รายการ Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week TP 52 Super Series 2024 เพื่อเก็บคะแนน Race ที่ 9-10 เป็นวันสุดท้าย
    ภาพบรรยากาศ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือ Puerto Portals เกาะมายอร์กา เพื่อทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ รายการ Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week TP 52 Super Series 2024 เพื่อเก็บคะแนน Race ที่ 9-10 เป็นวันสุดท้าย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • BEARPAW
    SUEDE ANKLE BOOTS
    (American Footwear Brands)
    Size. EUR 39 /25 cm

    🔥Price : 750฿

    👉 เรื่องราว :-
    BEARPAW เป็นแบรนด์รองเท้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ ก่อตั้งโดย Tom Romeo ในปี 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของรองเท้าลำลองโดยใช้หนังแกะเพื่อสร้างรองเท้าที่สะดวกสบายและมีสไตล์ ในกลุ่มตลาดรองเท้าที่มีการแข่งขันสูงที่สุดกลุ่มหนึ่ง โดยมี UGG Australia และ EMU Australia เป็นคู่แข่งหลักในการผลิตรองเท้าหนังแกะ Bearpaw ได้เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มด้วยการมอบความสะดวกสบายและความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความแตกต่าง ร้านค้าปลีก Bearpaw แห่งแรกเปิดในเมือง Citrus Heights รัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2554 ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ของแบรนด์

    ในปี 2018 แบรนด์เริ่มผลิตรองเท้าบูทวีแกน (ไม่ใช่หนังแกะ) โดยเฉพาะหนังกลับไมโครซูเอดวีแกน (โพลีเอสเตอร์) ซับในด้วยโพลีเอสเตอร์ผสม และพื้นรองเท้ายางชั้นนอก

    ในเดือนมิถุนายน 2561 Bearpaw ได้เข้าซื้อกิจการ Flip Flop Shops ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ Cherokee Inc. เป็นเจ้าของ

    สินค้า
    สินค้าซิกเนเจอร์ของ Bearpaw คือรองเท้าบูทหนังแกะ ซึ่งมีหลายสไตล์และหลายสี แบรนด์ยังผลิตรองเท้าเดินป่า รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ และเครื่องประดับสำหรับบุรุษ สตรี และเด็ก
    BEARPAW SUEDE ANKLE BOOTS (American Footwear Brands) Size. EUR 39 /25 cm 🔥Price : 750฿ 👉 เรื่องราว :- BEARPAW เป็นแบรนด์รองเท้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ ก่อตั้งโดย Tom Romeo ในปี 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของรองเท้าลำลองโดยใช้หนังแกะเพื่อสร้างรองเท้าที่สะดวกสบายและมีสไตล์ ในกลุ่มตลาดรองเท้าที่มีการแข่งขันสูงที่สุดกลุ่มหนึ่ง โดยมี UGG Australia และ EMU Australia เป็นคู่แข่งหลักในการผลิตรองเท้าหนังแกะ Bearpaw ได้เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มด้วยการมอบความสะดวกสบายและความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความแตกต่าง ร้านค้าปลีก Bearpaw แห่งแรกเปิดในเมือง Citrus Heights รัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2554 ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ของแบรนด์ ในปี 2018 แบรนด์เริ่มผลิตรองเท้าบูทวีแกน (ไม่ใช่หนังแกะ) โดยเฉพาะหนังกลับไมโครซูเอดวีแกน (โพลีเอสเตอร์) ซับในด้วยโพลีเอสเตอร์ผสม และพื้นรองเท้ายางชั้นนอก ในเดือนมิถุนายน 2561 Bearpaw ได้เข้าซื้อกิจการ Flip Flop Shops ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ Cherokee Inc. เป็นเจ้าของ สินค้า สินค้าซิกเนเจอร์ของ Bearpaw คือรองเท้าบูทหนังแกะ ซึ่งมีหลายสไตล์และหลายสี แบรนด์ยังผลิตรองเท้าเดินป่า รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ และเครื่องประดับสำหรับบุรุษ สตรี และเด็ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศใต้

    เดือนนี้ เพราะจะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเข้ามาอย่างมากมาย จึงเหมาะสำหรับการเริ่มต้นประกอบธุรกิจกิจการใหม่ๆจะโชคดี ธุรกิจจะมีชื่อเสียงก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์หรือประดับยนต์จะเจริญรุ่งเรือง แต่การประชุมพบปะตกลงเจรจาทำสัญญาต่างๆกลับมีโอกาสจะไม่สำเร็จลงตัว ควรถนอมน้ำใจกันไว้เพื่อภายภาคหน้าเพราะมีเกณฑ์จะเกิดการแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์อย่างรุนแรง เกิดศัตรูคู่แข่งทั้งภายในและภายนอกที่ทำงาน อีกทั้งจะเกิดเรื่องชู้สาวให้วุ่นวายจนขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันเป็นเหตุให้ขัดแย้งแตกแยกเกิดการปะทะอารมณ์ต่อกันให้บานปลาย ระวังภัยอันเกิดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อุบัติภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือภัยอุบัติเหตุจากของมีคม มีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาพยาบาล
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศใต้ เดือนนี้ เพราะจะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเข้ามาอย่างมากมาย จึงเหมาะสำหรับการเริ่มต้นประกอบธุรกิจกิจการใหม่ๆจะโชคดี ธุรกิจจะมีชื่อเสียงก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์หรือประดับยนต์จะเจริญรุ่งเรือง แต่การประชุมพบปะตกลงเจรจาทำสัญญาต่างๆกลับมีโอกาสจะไม่สำเร็จลงตัว ควรถนอมน้ำใจกันไว้เพื่อภายภาคหน้าเพราะมีเกณฑ์จะเกิดการแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์อย่างรุนแรง เกิดศัตรูคู่แข่งทั้งภายในและภายนอกที่ทำงาน อีกทั้งจะเกิดเรื่องชู้สาวให้วุ่นวายจนขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันเป็นเหตุให้ขัดแย้งแตกแยกเกิดการปะทะอารมณ์ต่อกันให้บานปลาย ระวังภัยอันเกิดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อุบัติภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือภัยอุบัติเหตุจากของมีคม มีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาพยาบาล ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC คาดการณ์การเติบโต
    ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย ปี 2567 และ 2568
    อยู่ที่ 2.5% และ 2.6%
    ระบุ การท่องเที่ยวคือเครื่องยนต์เพียงหนึ่งเดียว
    ที่เหลืออยู่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในปีนี้

    และในภาคธุรกิจของไทยต้องเผชิญ กับความท้าทาย
    ที่สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่

    🚩1. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์สันดาป ที่อาจสูญเสีย
    กำลังการผลิตไปกว่า 40% ถ้าหากไม่ปรับตัวไปตาม
    เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภค ปัจจุบัน

    🚩2. ผู้ประกอบการ SME เผชิญแรงกดดัน จากกำลังซื้อ
    ภายในประเทศที่เปราะบาง อีกทั้ง การตีตลาด
    จากสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ
    รวมทั้งกระบวนการผลิต และการตลาดที่ล้าสมัย

    🚩ดังนั้นควรผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
    เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถต่อลมหายใจต่อไปได้
    และควรผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตอย่างยั่งยืน
    ด้วยการยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาว

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #จีดีพีไทย #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC คาดการณ์การเติบโต ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย ปี 2567 และ 2568 อยู่ที่ 2.5% และ 2.6% ระบุ การท่องเที่ยวคือเครื่องยนต์เพียงหนึ่งเดียว ที่เหลืออยู่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ และในภาคธุรกิจของไทยต้องเผชิญ กับความท้าทาย ที่สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่ 🚩1. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์สันดาป ที่อาจสูญเสีย กำลังการผลิตไปกว่า 40% ถ้าหากไม่ปรับตัวไปตาม เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภค ปัจจุบัน 🚩2. ผู้ประกอบการ SME เผชิญแรงกดดัน จากกำลังซื้อ ภายในประเทศที่เปราะบาง อีกทั้ง การตีตลาด จากสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ รวมทั้งกระบวนการผลิต และการตลาดที่ล้าสมัย 🚩ดังนั้นควรผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถต่อลมหายใจต่อไปได้ และควรผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาว ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #จีดีพีไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1042 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย"
    .
    มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี
    .
    สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก
    .
    เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้
    .
    ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว
    .
    ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่”
    .
    ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน
    .
    ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป
    .
    แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" . มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี . สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก . เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้ . ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว . ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่” . ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน . ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป . แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง . ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่วมเฟ้นหาตัวแทนชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี
    ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ โดยหัวข้อการแข่งขัน คือ Earth Allies
    การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย มีทีมเข้าร่วมกว่า 270 ทีม หรือกว่า 1,500 คน พร้อมทั้งผู้ปกครองเข้าเชียร์บุตรหลานรวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,300 คนต่อวัน ทีมที่เข้าแข่งขันมาจากหลายจังหวัด ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 102 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 80 ทีม และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 72 ทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อทำภารกิจที่กำหนดในสนาม ผู้ชนะการแข่งขันฯ ลำดับที่ 1 – 3 ของแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ในลำดับต่อไป
    สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2024: World Robot Olympiad 2024) ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ฯ และเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี
    ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแข่งขันการเขียนโปรแกรม และ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา"
    คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับ ว่า "ในนาม ผู้บริหาร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในวันนี้
    การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2567 ในฐานะของผู้ร่วมจัดงาน และผู้ร่วมสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในปีนี้ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 254 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน และขอต้อนรับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน และผู้ปกครอง อาจารย์ ที่ได้พาน้องๆ มาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้
    สุดท้ายนี้ ในนาม ผู้บริหาร เดอะมอลล์โคราช ขอขอบพระคุณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จะได้รับเกียรติในการจัดงาน ครั้งต่อๆ ไป"
    ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก
    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
    ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ประจำประเทศไทย
    นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา
    นายธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา
    ดร.ยุทธกร ฤทธิ์ไธสง รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการคลัง พัสดุและกายภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
    อ.ดร.ศิริ สาระเขตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
    ผศ.ดร.จงกล ศรีธร หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
    คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ ผู้เข้าแข่งขัน และสื่อมวลชนทุกท่าน
    ร่วมเฟ้นหาตัวแทนชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ โดยหัวข้อการแข่งขัน คือ Earth Allies การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย มีทีมเข้าร่วมกว่า 270 ทีม หรือกว่า 1,500 คน พร้อมทั้งผู้ปกครองเข้าเชียร์บุตรหลานรวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,300 คนต่อวัน ทีมที่เข้าแข่งขันมาจากหลายจังหวัด ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 102 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 80 ทีม และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 72 ทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อทำภารกิจที่กำหนดในสนาม ผู้ชนะการแข่งขันฯ ลำดับที่ 1 – 3 ของแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ในลำดับต่อไป สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2024: World Robot Olympiad 2024) ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ฯ และเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแข่งขันการเขียนโปรแกรม และ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา" คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับ ว่า "ในนาม ผู้บริหาร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในวันนี้ การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2567 ในฐานะของผู้ร่วมจัดงาน และผู้ร่วมสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในปีนี้ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 254 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน และขอต้อนรับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน และผู้ปกครอง อาจารย์ ที่ได้พาน้องๆ มาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ สุดท้ายนี้ ในนาม ผู้บริหาร เดอะมอลล์โคราช ขอขอบพระคุณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จะได้รับเกียรติในการจัดงาน ครั้งต่อๆ ไป" ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ประจำประเทศไทย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา ดร.ยุทธกร ฤทธิ์ไธสง รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการคลัง พัสดุและกายภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.ดร.ศิริ สาระเขตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ผศ.ดร.จงกล ศรีธร หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ ผู้เข้าแข่งขัน และสื่อมวลชนทุกท่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ซูเปอร์สตาร์" ผู้ติดดิน เดินเสิร์ฟแตงโมให้แฟนคลับที่มาเฝ้าหน้าบ้าน
    .
    เฉวียน หงฉาน (全红婵) สาวน้อยมหัศจรรย์ นักกระโดดน้ำชาวจีน ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกหลังคว้า 2 เหรียญทองจากการแข่งขันกระโดดน้ำหญิง แพลตฟอร์ม 10 เมตร ด้วยคะแนนเต็มสิบ และการแข่งขันกระโดดน้ำหญิง ประเภทซิงโครไนซ์ แพลตฟอร์ม 10 เมตร ในปารีสโอลิมปิก 2024 ครั้งล่าสุด
    .
    ล่าสุดเธอกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่และครอบครัวที่จ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ชาวบ้านร้านช่องที่ได้ข่าวก็มามุงอยู่หน้าบ้านหลายร้อยคน จนเจ้าตัวกลัวคุณลุงคุณป้า พี่ ๆ น้อง ๆ จะรู้สึกเหนื่อยอ่อน จึงหั่นแตงโม ออกมาเดินเสิร์ฟด้วยตัวเอง
    .
    Cr : FB 中国新闻社
    "ซูเปอร์สตาร์" ผู้ติดดิน เดินเสิร์ฟแตงโมให้แฟนคลับที่มาเฝ้าหน้าบ้าน . เฉวียน หงฉาน (全红婵) สาวน้อยมหัศจรรย์ นักกระโดดน้ำชาวจีน ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกหลังคว้า 2 เหรียญทองจากการแข่งขันกระโดดน้ำหญิง แพลตฟอร์ม 10 เมตร ด้วยคะแนนเต็มสิบ และการแข่งขันกระโดดน้ำหญิง ประเภทซิงโครไนซ์ แพลตฟอร์ม 10 เมตร ในปารีสโอลิมปิก 2024 ครั้งล่าสุด . ล่าสุดเธอกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่และครอบครัวที่จ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ชาวบ้านร้านช่องที่ได้ข่าวก็มามุงอยู่หน้าบ้านหลายร้อยคน จนเจ้าตัวกลัวคุณลุงคุณป้า พี่ ๆ น้อง ๆ จะรู้สึกเหนื่อยอ่อน จึงหั่นแตงโม ออกมาเดินเสิร์ฟด้วยตัวเอง . Cr : FB 中国新闻社
    Like
    Love
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 256 0 รีวิว


  • หมายเลข 3

    : หมายถึง ความกล้าหาญ ความขยัน เชื่อมั่นตนเองสูง สติปัญญาว่องไว ชอบการแข่งขัน รักพวกพ้อง นักรบ และชอบการต่อสู้ ความท้าทายทุกรูปแบบ
    แทน ดาวอังคาร
    หมายเลข 3 : หมายถึง ความกล้าหาญ ความขยัน เชื่อมั่นตนเองสูง สติปัญญาว่องไว ชอบการแข่งขัน รักพวกพ้อง นักรบ และชอบการต่อสู้ ความท้าทายทุกรูปแบบ แทน ดาวอังคาร
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ติ่งพี่ปู……….เชิญทางนี้ค่าาาา……………!!!!

    ตอนสอง………นักศึกษาชั้นดี…ที่…เข้าตาแมวมอง KGB…!!!

    ชีวิตในมหาวิทยาลัยในระยะแรกๆของปูติน เขาค่อนข้างที่จะเป็นเด็กเรียน ไม่เน้นกิจกรรมอื่น นอกจากยังอยู่ในทีมยูโดที่ฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ ทางมหาวิทยาลัยได้เสนอให้เขาเป็นหนึ่งในทีมของมหาวิทยาลัย แต่เขาปฏิเสธ เพราะความผูกพันที่มีกับโค้ชคนเก่า
    ความเป็นดาวยูโด ได้นำพาเขาเข้าสู่การแข่งขันในระดับแคว้น

    ในปี 1972 มาเรียโชคดี ได้ถูกรางวัลล๊อตเตอรี่ เป็นรถยนตร์ Zaporozhets คันกระทัดรัด ที่เธอสามารถขายต่อด้วยราคาถึง
    3,500 รูเบิ้ล แต่ความรักลูกมีเหนืออื่นใด เธอไม่ขาย…
    ยกให้กับปูตินเอาไว้ใช้……
    ในยุคนั้น……คนธรรมดาก็หายากที่จะมีรถยนตร์ใช้ แต่นักศึกษาหน้าใหม่ปูติน……ขับรถปร๋อไปปร๋อมา……
    จัดว่าโก้มาก…มีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปโน่นมานี่
    และการขับนั้นก็ไม่ธรรมดา……ห้าวไปตามประสาหนุ่มวัยรุ่น
    หากแต่ความเป็นอยู่ยังเหมือนเดิม ในห้องชุดในอาคารสงเคราะห์ที่ต้องแบ่งครึ่งกับเพื่อนบ้าน
    เขาไม่เคยมีห้องนอนส่วนตัว นอกจากการกั้นม่านมุมหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ส่วนตัว

    ภายในปี 1973 เขาได้เดินทางไปแข่งยูโดที่ Moldova, Georgia, Komi และไปใช้ชีวิตช่วงปิดภาคในแค้มป์ที่ Abkhazia (Georgia)
    ในเวลาว่าง ก็ไปรับทำงานพิเศษรับจ้างตัดต้นไม้ เพื่อหาสตังค์ไปซื้อเสื้อกันหนาวอย่างดีที่สามารถใช้ได้นานถึงสิบปีอัฟ

    การใช้ชีวิตกับเพื่อนก็เป็นไปตามวัยที่อยากผจญโลก เขาและเพื่อนๆได้ไปล่องเรือมุ่งหน้าสู่ Odessa ด้วยเงินที่มีเพียงน้อยนิด กับอาหารกระป๋องจำนวนไม่มาก นอนตากแดดตากลม ล่องเรือดูดาวอยู่สองวันสองคืน

    สี่ปีในมหาวิทยาลัย ที่วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่เขาไม่รู้จักมาก่อน ไม่มีการแนะนำตัวเอง แต่บอกสั้นๆว่า
    “ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกับนายเรื่องงานที่จะต้องมอบหมายให้ทำแล้ว……ไปพบกับเราได้ที่ห้องรับรองที่คณะฯ”
    ปูตินไปตามนัด……เขารอประมาณยี่สิบนาที จนแทบจะแน่ใจว่าโดนหลอก เตรียมตัวกลับ
    จึงปรากฏร่างของชายผู้หนึ่ง…ที่มีท่าทางสุภาพ ขอโทษขอโพยในการล่าช้า ………
    สิ่งที่เขาได้คุยกันนั้น คือ เรื่อง”งาน” ที่ทางราชการได้เฝ้าดูพฤติกรรมของเขามาโดยตลอด และพร้อมที่จะมอบหมายให้
    แต่.…ขั้นตอนต่อไป คือการที่จะต้องไปสัมภาษณ์บิดา มารดา
    รวมทั้งสาวประวัติส่วนตัว ส่วนครอบครัวยาวขึ้นไปสามสี่ชั้น

    ในเดือนมกราคม 1975 เจ้าหน้าที่วัยกลางคน ชื่อว่า Dmitry Gantserov ได้พบกับ Vladimir และ Maria ที่บ้านเป็นการส่วนตัว
    ในการพูดคุย…สังเกตได้ว่า วลาดิเมียร์ผู้พ่อมีความปลาบปลื้มและภูมิใจในตัวบุตรชายมาก เพราะในครอบครัวไม่เคยมีใครได้ร่ำเรียนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
    เมื่อทั้งพ่อและแม่ได้รับการอธิบายถึงเนื้องานและหน้าที่ที่ปูตินน้อยจะได้รับ……
    ผู้พ่อ…ได้หลุดปากเอ่ยเอื้อนความในใจถึงความรักที่มีต่อบุตรชายให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้ว่า
    “ท่านครับ โวโลเดียร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมและภรรยา เขาคือความหวังเดียวที่เรามี ท่านคงทราบแล้วว่า
    เราเคยมีบุตรชายมาก่อนสองคน ที่มาเสียชีวิตเมื่อายุเพียงไม่กี่ขวบ จากการปิดล้อมของเลนินกราด จนเมื่อหมดสงคราม เราได้พยายามมีลูกสืบทอด และ ก็ได้เขามา เราไม่มีความหวังอื่นใดในอนาคตของเราอีกแล้ว นอกจากจะฝากความหวังไว้
    ที่เขาคนเดียว……ผมขอฝากโวโลเดียร์ไว้ในความเมตตาของท่าน……”

    โวโลเดียร์ หรือ ปูตินน้อย ก็เหมือนจะเตรียมตัวกับงานของ KGB มาดี เพราะเขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบุหรี่ (เพราะวินัยของนักยูโด) และไม่ใช่อันธพาล (เพราะยังไม่มีโอกาส)
    ไม่เคยประวัติเสียใดๆมาก่อนทั้งในรัสเซีย หรือ นอกเขต(พ่อดุซะขนาดนั้น…)
    เขารู้ดีว่า หน้าที่การทำงานในหน่วยสืบราชการลับนั้น ไม่ใช่ว่ารายได้ดี แต่มันคือหน้าที่ของประชาชนผู้ที่ได้รับเลือกขึ้นมา
    เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับชาติ

    ในกลางฤดูร้อนของปี 1975 วลาดิเมียร์ ปูติน ได้เข้ารับปริญญา ในตอนนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศว่า เขาจะต้องไปสอบเอาตั๋วทนาย
    แต่มีเสียงขัดขึ้นมาจากชายคนหนึ่ง ว่า…… คนนี้ไม่ต้อง……
    เพราะมีงานอื่นให้ทำรออยู่แล้ว……

    นั่นคือคำประกาศิต……จากนั้นปูตินได้ก้าวเข้าไปเป็นข้าราชการในหน่วยของ KGB ตามที่สายลับประจำมหาวิทยาลัยได้ตามเฝ้าดูเขาอยู่นานแล้ว
    ปูตินดีใจสุดขีด……เขารีบไปสะกิดเพื่อนรัก Viktor Borisenko
    ให้รีบขึ้นรถ แล้วขับพาไปร้านอาหารเจ้าประจำ และสั่งเหล้าหวานมาจิบคนละแก้ว
    วิคเตอร์……รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นปูตินดื่มเหล้า……
    และมารู้ทีหลัง หลังจากเวลาที่ผ่านไปนานมาก ว่า
    นั่นคือสิ่งที่ปูตินได้เลี้ยงฉลองให้กับหน้าที่การงานใหม่ ที่เพิ่งได้รับมอบหมาย…

    ในช่วงที่ปูตินได้เข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานนั้น KGB เป็นองค์กรใหญ่มาก เพราะมีทั้งสายใน-นอกประเทศ , หน่วยประจำเส้นชายแดน ศุลกากร, หน่วยรบพิเศษเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำ, สื่อสาร เจาะโค้ดลับ ดักฟังโทรศัพท์ แถมมีหน่วยสืบสายลับซ้อนสายลับกันเองอีกด้วย……
    หน้าที่แรกขอบเขาคือการทำหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับหัวหน้าหน่วยฝ่ายบุคคล ประจำที่สำนักงานใหญ่ในเลนินกราด
    ที่เป็นที่เดียวกับที่เขาเคยเดินเบ๋อบ๋าเข้าไปสมัครเมื่อหลายปีก่อน

    แต่ในคราวนี้ ในวัยเพียง 23 ปี เขาคือหนุ่มน้อยเจ้าหน้าที่ KGB
    ตัวจริง ไม่ใช่ฝันลมๆแล้วๆอย่างแต่ก่อน
    และรายล้อมรอบตัวเขา คือ เหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เก่าแก่ขนาดจดจำเรื่องคุกที่ไซบีเรีย สมัยสตาลินได้นั่นแหละ
    หน้าที่จริงๆของปูติน คือ รับคำสั่ง และ ต้องหูไว ตาไว
    ในตึกหนึ่งของสำนักงาน ที่ติดกับคลอง Okhta ออกสู่แม่น้ำ Neva มีสภาพเป็นโรงเรียน “ยุทธการเรือดำน้ำ” ที่เหล่านักเรียนนายเรือจะต้องมาอยู่ประจำฝึกร่างกาย เรียนวิชาเฉพาะ นานถึงหกเดือนโดยไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกเลย

    สองปีผ่านไปในการทำงานด้านเอกสาร พ่อของเขาได้เกษียณจากงานประจำ (รถไฟ) และได้รับที่อยู่ใหม่ เป็นอาคารสงเคราะห์เช่นเดิม หากแต่ย้ายไปที่ Avtovo ที่อยู่ทางใต้ของเลนินกราด แต่คราวนี้ เป็นห้องที่ใหญ่กว่าเดิม และปูตินได้มีห้องเป็นส่วนตัวในครั้งแรกในชีวิต
    ในย่านที่อยู่อาศัย ค่อนข้างหนาแน่น แม้แต่เจ้าหน้าที่ KGB อย่างปูตินก็ไม่มีสิทธิพิเศษแต่อย่างใด
    สิทธิอย่างเดียวที่เขามี คือ สามารถต่อรอง ทอนอำนาจกับตำรวจได้ในแทบทุกกรณี……และทางองค์กรจะเข้ามาดูแลให้ทั้งหมด……

    เมื่อมีเวลา มีเงินเดือนใช้ ไปโน่นมานี่สะดวกเพราะมีรถใช้
    เพื่อนฝูงเยอะ พ่อไม่คุมเข้มอย่างแต่ก่อน
    งานปะทะกับจิ๊กโก๋ตามสี่แยกก็มีตามมา เช่นครั้งหนึ่งเขาไปกับเพื่อนรัก Sergei Roldugin**
    เหตุเกิดคือ การที่อันธพาลคนหนึ่งทำทีว่ามาไถเงินซื้อบุหรี่ ท่าท่าไม่ดี ปูตินเริ่มก่อน เข้าชาร์ทก่อนจับทุ่มลงไปนอนกลางถนน……
    ทั้งกลุ่มได้เข้ามาหมายรุม ……แต่ ปูตินชี้ไปที่รถ บอกว่า เพื่อนกูเป็นตำรวจ……!!
    ทั้งหมดจึงกระเจิงหายไป
    พอขึ้นรถได้…เซอร์เกปากคอสั่น……บอกว่า
    “เมริงง……กูเป็นนักดนตรีนะ ไม่ใช่ตำรวจ……”

    ตอนนั้นเซอร์เกเองก็ไม่เคยรู้ว่าเพื่อที่คบกันมานานนมนั้น ทำงานทำการอะไร แต่ท้าทายได้ในทุกองค์กร เช่นพาเขาเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามต่างๆได้ เช่นชั้นในของในพระวิหารสำคัญ หรือ ที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง และทุกครั้งปูตินจะแนะนำว่าเขาเป็นหมอบ้าง ตำรวจบ้าง……
    จนในที่สุด ปูตินได้บอกกับเขาตามตรงว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศ ที่เซอร์เกเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเป็นงานอะไร
    ปูตินตอบว่า……ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย เอาเป็นว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการอ่านมนุษย์ก็แล้วกัน…แต่ถ้าไปอยู่ในภาวะที่เลี่ยงการปะทะไม่ได้……เราจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่คอยให้เสียเวลา……”

    ปี 1979 ปูตินได้รับยศเป็นร้อยเอก และได้ถูกส่งไปยัง Felix Dzerzhinsky (เทียบเท่าโรงเรียนเสธ. KGB ) ที่กรุงมอสโคว์
    ที่จะฝึกให้เขาเป็น มนุษย์ผู้มี a warm heart, a cool head and clean hands (หมายถึง ใจแน่ว , สตินิ่ง, มือปฏิบัติการที่ไร้ร่องรอย…)
    พอจบจากหลักสูตรนี้ เขาถูกส่งตัวกลับไปยังเลนินกราด
    เพื่อรับหน้าที่ในด้านการต่างประเทศ คือ สืบหาสายลับที่มาจากต่างแดน เพราะโซเวียตได้เปิดฉากสงครามกับอัฟกานิสถานในตอนปลายปี ที่โซเวียตสนับสนุนรัฐบาลโปรคอมมิวนิสต์ในกรุง Kabul
    (หมายเหตุ รัสเซียได้เสียทหารไปเป็นจำนวนมากในสงครามครั้งนี้…)

    พอเริ่มปี 1980 ที่โรนัล รีแกน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สงครามเย็นเริ่มตึงเครียด มีการพูดถึงระเบิดนิวเคลียร์
    โซเวียตมีการตรียมตัวกดปุ่ม ในโค้ดปฏิบัติการว่า RYAN
    ที่เหล่าสายลับทั้งหลายในโลก……ทุกฝ่ายต่างทำงานกันอย่างเต็มสตรีม……
    ปูตินเริ่มอึดอัด เพราะ เขามีอายุ 28 และยังเป็นโสด ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคที่จะก้าวโตต่อไปในหน้าที่การงาน สำหรับการที่จะไปประจำอยู่ต่างประเทศ (ตามเจตนารมณ์ดั้งเดิม)
    เขาจัดว่าเป็นคนหน้าตาใช้ได้ ฉลาดเฉลียว แต่เรื่องผู้หญิง
    เขากลายเป็นคนไม่ประสีประสา จีบไม่เป็นบางครั้งเข้าขั้นพูดตะกุกตะกัก ติดอ่าง……
    ในช่วงท้ายๆในมหาวิทยาลัย เขามีเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า
    Ludmila Khmarina (คนละคนกับลุดมิลาภริยาที่แต่งงาน) ที่เป็นน้องสาวของเพื่อนรัก ที่เขาได้ขอหมั้น และถึงขั้นที่ไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส
    ครอบครัวเจ้าสาวไปเตรียมตัดชุดแต่งงาน ตัดสูท เตรียมแหวน

    แต่ในที่สุด ปูตินขอยกเลิกงานทั้งหมด โดยเขาให้เหตุผลว่า
    “เลิกกันตอนนี้ดีกว่า ที่เราทั้งคู่จะต้องทนอยู่ด้วยกันไปในอนาคต..”

    ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริง เพราะปูตินไม่เคยปริปากบอกใคร แต่……เชื่อว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายชายเพราะเขายังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของฝ่ายหญิงอย่างไม่เปลี่ยนแปลง..!!!!

    ** Sergei Roldugin เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของปูติน จนถึงทุกวันนี้ เขาเป็นทั้งเพื่อน พ่อสื่อ และพ่อทูนหัวให้กับธิดาของปูติน ฐานะของเขาจากนักดนตรีสีเซลโล่ ปัจจุบันคือ อภิมหาเศรษฐีเข้าขั้นพันล้านคนหนึ่ง

    Wiwanda W. Vichit
    ติ่งพี่ปู……….เชิญทางนี้ค่าาาา……………!!!! ตอนสอง………นักศึกษาชั้นดี…ที่…เข้าตาแมวมอง KGB…!!! ชีวิตในมหาวิทยาลัยในระยะแรกๆของปูติน เขาค่อนข้างที่จะเป็นเด็กเรียน ไม่เน้นกิจกรรมอื่น นอกจากยังอยู่ในทีมยูโดที่ฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ ทางมหาวิทยาลัยได้เสนอให้เขาเป็นหนึ่งในทีมของมหาวิทยาลัย แต่เขาปฏิเสธ เพราะความผูกพันที่มีกับโค้ชคนเก่า ความเป็นดาวยูโด ได้นำพาเขาเข้าสู่การแข่งขันในระดับแคว้น ในปี 1972 มาเรียโชคดี ได้ถูกรางวัลล๊อตเตอรี่ เป็นรถยนตร์ Zaporozhets คันกระทัดรัด ที่เธอสามารถขายต่อด้วยราคาถึง 3,500 รูเบิ้ล แต่ความรักลูกมีเหนืออื่นใด เธอไม่ขาย… ยกให้กับปูตินเอาไว้ใช้…… ในยุคนั้น……คนธรรมดาก็หายากที่จะมีรถยนตร์ใช้ แต่นักศึกษาหน้าใหม่ปูติน……ขับรถปร๋อไปปร๋อมา…… จัดว่าโก้มาก…มีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปโน่นมานี่ และการขับนั้นก็ไม่ธรรมดา……ห้าวไปตามประสาหนุ่มวัยรุ่น หากแต่ความเป็นอยู่ยังเหมือนเดิม ในห้องชุดในอาคารสงเคราะห์ที่ต้องแบ่งครึ่งกับเพื่อนบ้าน เขาไม่เคยมีห้องนอนส่วนตัว นอกจากการกั้นม่านมุมหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ส่วนตัว ภายในปี 1973 เขาได้เดินทางไปแข่งยูโดที่ Moldova, Georgia, Komi และไปใช้ชีวิตช่วงปิดภาคในแค้มป์ที่ Abkhazia (Georgia) ในเวลาว่าง ก็ไปรับทำงานพิเศษรับจ้างตัดต้นไม้ เพื่อหาสตังค์ไปซื้อเสื้อกันหนาวอย่างดีที่สามารถใช้ได้นานถึงสิบปีอัฟ การใช้ชีวิตกับเพื่อนก็เป็นไปตามวัยที่อยากผจญโลก เขาและเพื่อนๆได้ไปล่องเรือมุ่งหน้าสู่ Odessa ด้วยเงินที่มีเพียงน้อยนิด กับอาหารกระป๋องจำนวนไม่มาก นอนตากแดดตากลม ล่องเรือดูดาวอยู่สองวันสองคืน สี่ปีในมหาวิทยาลัย ที่วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่เขาไม่รู้จักมาก่อน ไม่มีการแนะนำตัวเอง แต่บอกสั้นๆว่า “ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกับนายเรื่องงานที่จะต้องมอบหมายให้ทำแล้ว……ไปพบกับเราได้ที่ห้องรับรองที่คณะฯ” ปูตินไปตามนัด……เขารอประมาณยี่สิบนาที จนแทบจะแน่ใจว่าโดนหลอก เตรียมตัวกลับ จึงปรากฏร่างของชายผู้หนึ่ง…ที่มีท่าทางสุภาพ ขอโทษขอโพยในการล่าช้า ……… สิ่งที่เขาได้คุยกันนั้น คือ เรื่อง”งาน” ที่ทางราชการได้เฝ้าดูพฤติกรรมของเขามาโดยตลอด และพร้อมที่จะมอบหมายให้ แต่.…ขั้นตอนต่อไป คือการที่จะต้องไปสัมภาษณ์บิดา มารดา รวมทั้งสาวประวัติส่วนตัว ส่วนครอบครัวยาวขึ้นไปสามสี่ชั้น ในเดือนมกราคม 1975 เจ้าหน้าที่วัยกลางคน ชื่อว่า Dmitry Gantserov ได้พบกับ Vladimir และ Maria ที่บ้านเป็นการส่วนตัว ในการพูดคุย…สังเกตได้ว่า วลาดิเมียร์ผู้พ่อมีความปลาบปลื้มและภูมิใจในตัวบุตรชายมาก เพราะในครอบครัวไม่เคยมีใครได้ร่ำเรียนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย เมื่อทั้งพ่อและแม่ได้รับการอธิบายถึงเนื้องานและหน้าที่ที่ปูตินน้อยจะได้รับ…… ผู้พ่อ…ได้หลุดปากเอ่ยเอื้อนความในใจถึงความรักที่มีต่อบุตรชายให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้ว่า “ท่านครับ โวโลเดียร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมและภรรยา เขาคือความหวังเดียวที่เรามี ท่านคงทราบแล้วว่า เราเคยมีบุตรชายมาก่อนสองคน ที่มาเสียชีวิตเมื่อายุเพียงไม่กี่ขวบ จากการปิดล้อมของเลนินกราด จนเมื่อหมดสงคราม เราได้พยายามมีลูกสืบทอด และ ก็ได้เขามา เราไม่มีความหวังอื่นใดในอนาคตของเราอีกแล้ว นอกจากจะฝากความหวังไว้ ที่เขาคนเดียว……ผมขอฝากโวโลเดียร์ไว้ในความเมตตาของท่าน……” โวโลเดียร์ หรือ ปูตินน้อย ก็เหมือนจะเตรียมตัวกับงานของ KGB มาดี เพราะเขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบุหรี่ (เพราะวินัยของนักยูโด) และไม่ใช่อันธพาล (เพราะยังไม่มีโอกาส) ไม่เคยประวัติเสียใดๆมาก่อนทั้งในรัสเซีย หรือ นอกเขต(พ่อดุซะขนาดนั้น…) เขารู้ดีว่า หน้าที่การทำงานในหน่วยสืบราชการลับนั้น ไม่ใช่ว่ารายได้ดี แต่มันคือหน้าที่ของประชาชนผู้ที่ได้รับเลือกขึ้นมา เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับชาติ ในกลางฤดูร้อนของปี 1975 วลาดิเมียร์ ปูติน ได้เข้ารับปริญญา ในตอนนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศว่า เขาจะต้องไปสอบเอาตั๋วทนาย แต่มีเสียงขัดขึ้นมาจากชายคนหนึ่ง ว่า…… คนนี้ไม่ต้อง…… เพราะมีงานอื่นให้ทำรออยู่แล้ว…… นั่นคือคำประกาศิต……จากนั้นปูตินได้ก้าวเข้าไปเป็นข้าราชการในหน่วยของ KGB ตามที่สายลับประจำมหาวิทยาลัยได้ตามเฝ้าดูเขาอยู่นานแล้ว ปูตินดีใจสุดขีด……เขารีบไปสะกิดเพื่อนรัก Viktor Borisenko ให้รีบขึ้นรถ แล้วขับพาไปร้านอาหารเจ้าประจำ และสั่งเหล้าหวานมาจิบคนละแก้ว วิคเตอร์……รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นปูตินดื่มเหล้า…… และมารู้ทีหลัง หลังจากเวลาที่ผ่านไปนานมาก ว่า นั่นคือสิ่งที่ปูตินได้เลี้ยงฉลองให้กับหน้าที่การงานใหม่ ที่เพิ่งได้รับมอบหมาย… ในช่วงที่ปูตินได้เข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานนั้น KGB เป็นองค์กรใหญ่มาก เพราะมีทั้งสายใน-นอกประเทศ , หน่วยประจำเส้นชายแดน ศุลกากร, หน่วยรบพิเศษเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำ, สื่อสาร เจาะโค้ดลับ ดักฟังโทรศัพท์ แถมมีหน่วยสืบสายลับซ้อนสายลับกันเองอีกด้วย…… หน้าที่แรกขอบเขาคือการทำหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับหัวหน้าหน่วยฝ่ายบุคคล ประจำที่สำนักงานใหญ่ในเลนินกราด ที่เป็นที่เดียวกับที่เขาเคยเดินเบ๋อบ๋าเข้าไปสมัครเมื่อหลายปีก่อน แต่ในคราวนี้ ในวัยเพียง 23 ปี เขาคือหนุ่มน้อยเจ้าหน้าที่ KGB ตัวจริง ไม่ใช่ฝันลมๆแล้วๆอย่างแต่ก่อน และรายล้อมรอบตัวเขา คือ เหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เก่าแก่ขนาดจดจำเรื่องคุกที่ไซบีเรีย สมัยสตาลินได้นั่นแหละ หน้าที่จริงๆของปูติน คือ รับคำสั่ง และ ต้องหูไว ตาไว ในตึกหนึ่งของสำนักงาน ที่ติดกับคลอง Okhta ออกสู่แม่น้ำ Neva มีสภาพเป็นโรงเรียน “ยุทธการเรือดำน้ำ” ที่เหล่านักเรียนนายเรือจะต้องมาอยู่ประจำฝึกร่างกาย เรียนวิชาเฉพาะ นานถึงหกเดือนโดยไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอกเลย สองปีผ่านไปในการทำงานด้านเอกสาร พ่อของเขาได้เกษียณจากงานประจำ (รถไฟ) และได้รับที่อยู่ใหม่ เป็นอาคารสงเคราะห์เช่นเดิม หากแต่ย้ายไปที่ Avtovo ที่อยู่ทางใต้ของเลนินกราด แต่คราวนี้ เป็นห้องที่ใหญ่กว่าเดิม และปูตินได้มีห้องเป็นส่วนตัวในครั้งแรกในชีวิต ในย่านที่อยู่อาศัย ค่อนข้างหนาแน่น แม้แต่เจ้าหน้าที่ KGB อย่างปูตินก็ไม่มีสิทธิพิเศษแต่อย่างใด สิทธิอย่างเดียวที่เขามี คือ สามารถต่อรอง ทอนอำนาจกับตำรวจได้ในแทบทุกกรณี……และทางองค์กรจะเข้ามาดูแลให้ทั้งหมด…… เมื่อมีเวลา มีเงินเดือนใช้ ไปโน่นมานี่สะดวกเพราะมีรถใช้ เพื่อนฝูงเยอะ พ่อไม่คุมเข้มอย่างแต่ก่อน งานปะทะกับจิ๊กโก๋ตามสี่แยกก็มีตามมา เช่นครั้งหนึ่งเขาไปกับเพื่อนรัก Sergei Roldugin** เหตุเกิดคือ การที่อันธพาลคนหนึ่งทำทีว่ามาไถเงินซื้อบุหรี่ ท่าท่าไม่ดี ปูตินเริ่มก่อน เข้าชาร์ทก่อนจับทุ่มลงไปนอนกลางถนน…… ทั้งกลุ่มได้เข้ามาหมายรุม ……แต่ ปูตินชี้ไปที่รถ บอกว่า เพื่อนกูเป็นตำรวจ……!! ทั้งหมดจึงกระเจิงหายไป พอขึ้นรถได้…เซอร์เกปากคอสั่น……บอกว่า “เมริงง……กูเป็นนักดนตรีนะ ไม่ใช่ตำรวจ……” ตอนนั้นเซอร์เกเองก็ไม่เคยรู้ว่าเพื่อที่คบกันมานานนมนั้น ทำงานทำการอะไร แต่ท้าทายได้ในทุกองค์กร เช่นพาเขาเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามต่างๆได้ เช่นชั้นในของในพระวิหารสำคัญ หรือ ที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง และทุกครั้งปูตินจะแนะนำว่าเขาเป็นหมอบ้าง ตำรวจบ้าง…… จนในที่สุด ปูตินได้บอกกับเขาตามตรงว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศ ที่เซอร์เกเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเป็นงานอะไร ปูตินตอบว่า……ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย เอาเป็นว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการอ่านมนุษย์ก็แล้วกัน…แต่ถ้าไปอยู่ในภาวะที่เลี่ยงการปะทะไม่ได้……เราจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่คอยให้เสียเวลา……” ปี 1979 ปูตินได้รับยศเป็นร้อยเอก และได้ถูกส่งไปยัง Felix Dzerzhinsky (เทียบเท่าโรงเรียนเสธ. KGB ) ที่กรุงมอสโคว์ ที่จะฝึกให้เขาเป็น มนุษย์ผู้มี a warm heart, a cool head and clean hands (หมายถึง ใจแน่ว , สตินิ่ง, มือปฏิบัติการที่ไร้ร่องรอย…) พอจบจากหลักสูตรนี้ เขาถูกส่งตัวกลับไปยังเลนินกราด เพื่อรับหน้าที่ในด้านการต่างประเทศ คือ สืบหาสายลับที่มาจากต่างแดน เพราะโซเวียตได้เปิดฉากสงครามกับอัฟกานิสถานในตอนปลายปี ที่โซเวียตสนับสนุนรัฐบาลโปรคอมมิวนิสต์ในกรุง Kabul (หมายเหตุ รัสเซียได้เสียทหารไปเป็นจำนวนมากในสงครามครั้งนี้…) พอเริ่มปี 1980 ที่โรนัล รีแกน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สงครามเย็นเริ่มตึงเครียด มีการพูดถึงระเบิดนิวเคลียร์ โซเวียตมีการตรียมตัวกดปุ่ม ในโค้ดปฏิบัติการว่า RYAN ที่เหล่าสายลับทั้งหลายในโลก……ทุกฝ่ายต่างทำงานกันอย่างเต็มสตรีม…… ปูตินเริ่มอึดอัด เพราะ เขามีอายุ 28 และยังเป็นโสด ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคที่จะก้าวโตต่อไปในหน้าที่การงาน สำหรับการที่จะไปประจำอยู่ต่างประเทศ (ตามเจตนารมณ์ดั้งเดิม) เขาจัดว่าเป็นคนหน้าตาใช้ได้ ฉลาดเฉลียว แต่เรื่องผู้หญิง เขากลายเป็นคนไม่ประสีประสา จีบไม่เป็นบางครั้งเข้าขั้นพูดตะกุกตะกัก ติดอ่าง…… ในช่วงท้ายๆในมหาวิทยาลัย เขามีเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า Ludmila Khmarina (คนละคนกับลุดมิลาภริยาที่แต่งงาน) ที่เป็นน้องสาวของเพื่อนรัก ที่เขาได้ขอหมั้น และถึงขั้นที่ไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส ครอบครัวเจ้าสาวไปเตรียมตัดชุดแต่งงาน ตัดสูท เตรียมแหวน แต่ในที่สุด ปูตินขอยกเลิกงานทั้งหมด โดยเขาให้เหตุผลว่า “เลิกกันตอนนี้ดีกว่า ที่เราทั้งคู่จะต้องทนอยู่ด้วยกันไปในอนาคต..” ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริง เพราะปูตินไม่เคยปริปากบอกใคร แต่……เชื่อว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายชายเพราะเขายังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของฝ่ายหญิงอย่างไม่เปลี่ยนแปลง..!!!! ** Sergei Roldugin เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของปูติน จนถึงทุกวันนี้ เขาเป็นทั้งเพื่อน พ่อสื่อ และพ่อทูนหัวให้กับธิดาของปูติน ฐานะของเขาจากนักดนตรีสีเซลโล่ ปัจจุบันคือ อภิมหาเศรษฐีเข้าขั้นพันล้านคนหนึ่ง Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 561 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA, MI6เตือนว่าจีนรัสเซียเป็นภัยต่อระเบียบโลก 9/9/2024

    หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอเมริกาและอังกฤษอย่าง CIA และ MI6 กล่าวอ้างในบทบรรณาธิการร่วมที่ตีพิมพ์โดย Financial Times เมื่อวันเสาร์ว่า ระเบียบโลกกำลังถูกคุกคามจากรัฐต่างๆ

    ในบทความดังกล่าว บิล เบิร์นส์ และ ริชาร์ด มัวร์ ให้คำมั่นว่า วอชิงตันและลอนดอนจะทำงานควบคู่กันเพื่อรักษาสถานะเดิมในโลกที่เทคโนโลยีได้เร่งให้แนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์เร่งตัวขึ้นอย่างมาก

    หลังจากความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และความสัมพันธ์ที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วกับตะวันตก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะความเป็นจ้าวโลกของสหรัฐฯได้สิ้นสุดลงแล้ว และโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่การระบอบมหาอำนาจหลายขั้ว

    ในบทบรรณาธิการ เบิร์นส์และมัวร์ตั้งข้อสังเกตว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระเบียบโลกระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นระบบที่สมดุลซึ่งนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพในระดับหนึ่ง และเสริมสร้างมาตรฐานการครองชีพ โอกาส และความเจริญรุ่งเรืองที่สูงขึ้นตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามในรูปแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่สงครามเย็น"

    “วันนี้ เราร่วมมือกันในระบบระหว่างประเทศที่มีการแข่งขันกัน ซึ่งทั้งสองประเทศของเรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” หัวหน้าสายลับระดับสูงทั้งสองเขียนไว้

    บทความดังกล่าวเน้นย้ำถึง “รัสเซียที่กล้าแสดงออก” ในบริบทของความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งทั้ง CIA และ MI6 “มองเห็น… ว่ากำลังจะเกิดขึ้น” หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองระบุว่าการสู้รบได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของเทคโนโลยีในสงครามสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบไร้คนควบคุมและการลาดตระเวนผ่านดาวเทียม

    นอกจากนี้ เบิร์นส์และมัวร์ยังกล่าวหาว่ามอสโกว่า “มีแคมเปญที่จะบ่อนทำลายทั่วทั้งยุโรป” ตลอดจนเผยแพร่ “คำโกหกและข้อมูลบิดเบือนที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างเรา”

    อย่างไรก็ตาม ตามบทบรรณาธิการ ในสายตาของ CIA และ MI6 “ความท้าทายด้านข่าวกรองและภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21” คือ “การเติบโตของจีน” หน่วยงานทั้งสองได้ปรับกระบวนการของตนใหม่เพื่อ “สะท้อนถึงลำดับความสำคัญนั้น” แล้ว

    โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SPIEF) เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า “เรากำลังพูดถึงแนวคิดพหุศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนจากบรรทัดฐานเดิม และเราเห็นการต่อต้านอย่างสิ้นหวังของชาติตะวันตกโดยรวม... พวกเขาเห็นบรรทัดฐานนี้แตกต่างออกไป โดยมองว่าเป็นอำนาจเหนือกว่าผู้อื่นของพวกเขาเอง เป็นระเบียบโลกที่มีพื้นฐานอยู่บนกฎเดียว พวกเขาต้องครอบงำเหมือนเช่นก่อน และทุกคนต้องทำเฉพาะสิ่งที่มหาอำนาจที่มีอำนาจเหนือกว่าอนุญาตให้พวกเขาทำได้”

    นักการทูตคนดังกล่าวยืนกรานว่าวาทะกรรมของชาติตะวันตกไม่ได้เป็นที่ยอมรับโดยประเทศใหญ่ในโลก ซึ่งน้อมรับแนวคิดของอำนาจหลายขั้ว
    ซาคาโรวาเน้นย้ำในขณะนั้นว่า “เราไม่ควรลืมว่าชาติตะวันตกโดยรวมเป็นชนกลุ่มน้อย”


    CIA, MI6เตือนว่าจีนรัสเซียเป็นภัยต่อระเบียบโลก 9/9/2024 หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอเมริกาและอังกฤษอย่าง CIA และ MI6 กล่าวอ้างในบทบรรณาธิการร่วมที่ตีพิมพ์โดย Financial Times เมื่อวันเสาร์ว่า ระเบียบโลกกำลังถูกคุกคามจากรัฐต่างๆ ในบทความดังกล่าว บิล เบิร์นส์ และ ริชาร์ด มัวร์ ให้คำมั่นว่า วอชิงตันและลอนดอนจะทำงานควบคู่กันเพื่อรักษาสถานะเดิมในโลกที่เทคโนโลยีได้เร่งให้แนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์เร่งตัวขึ้นอย่างมาก หลังจากความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และความสัมพันธ์ที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วกับตะวันตก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะความเป็นจ้าวโลกของสหรัฐฯได้สิ้นสุดลงแล้ว และโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่การระบอบมหาอำนาจหลายขั้ว ในบทบรรณาธิการ เบิร์นส์และมัวร์ตั้งข้อสังเกตว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระเบียบโลกระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นระบบที่สมดุลซึ่งนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพในระดับหนึ่ง และเสริมสร้างมาตรฐานการครองชีพ โอกาส และความเจริญรุ่งเรืองที่สูงขึ้นตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามในรูปแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่สงครามเย็น" “วันนี้ เราร่วมมือกันในระบบระหว่างประเทศที่มีการแข่งขันกัน ซึ่งทั้งสองประเทศของเรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” หัวหน้าสายลับระดับสูงทั้งสองเขียนไว้ บทความดังกล่าวเน้นย้ำถึง “รัสเซียที่กล้าแสดงออก” ในบริบทของความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งทั้ง CIA และ MI6 “มองเห็น… ว่ากำลังจะเกิดขึ้น” หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองระบุว่าการสู้รบได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของเทคโนโลยีในสงครามสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบไร้คนควบคุมและการลาดตระเวนผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ เบิร์นส์และมัวร์ยังกล่าวหาว่ามอสโกว่า “มีแคมเปญที่จะบ่อนทำลายทั่วทั้งยุโรป” ตลอดจนเผยแพร่ “คำโกหกและข้อมูลบิดเบือนที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างเรา” อย่างไรก็ตาม ตามบทบรรณาธิการ ในสายตาของ CIA และ MI6 “ความท้าทายด้านข่าวกรองและภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21” คือ “การเติบโตของจีน” หน่วยงานทั้งสองได้ปรับกระบวนการของตนใหม่เพื่อ “สะท้อนถึงลำดับความสำคัญนั้น” แล้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SPIEF) เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า “เรากำลังพูดถึงแนวคิดพหุศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนจากบรรทัดฐานเดิม และเราเห็นการต่อต้านอย่างสิ้นหวังของชาติตะวันตกโดยรวม... พวกเขาเห็นบรรทัดฐานนี้แตกต่างออกไป โดยมองว่าเป็นอำนาจเหนือกว่าผู้อื่นของพวกเขาเอง เป็นระเบียบโลกที่มีพื้นฐานอยู่บนกฎเดียว พวกเขาต้องครอบงำเหมือนเช่นก่อน และทุกคนต้องทำเฉพาะสิ่งที่มหาอำนาจที่มีอำนาจเหนือกว่าอนุญาตให้พวกเขาทำได้” นักการทูตคนดังกล่าวยืนกรานว่าวาทะกรรมของชาติตะวันตกไม่ได้เป็นที่ยอมรับโดยประเทศใหญ่ในโลก ซึ่งน้อมรับแนวคิดของอำนาจหลายขั้ว ซาคาโรวาเน้นย้ำในขณะนั้นว่า “เราไม่ควรลืมว่าชาติตะวันตกโดยรวมเป็นชนกลุ่มน้อย”
    Like
    Haha
    29
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1886 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุเกิด ณ การแข่งขันแบดมินตัน
    รายการ Taipei Open 2024 ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
    1
    เป็นการพบกันระหว่าง
    โจวเทียนเฉิน จากไต้หวัน (มือวางอันดับ 9 ของโลก)
    (คนไทยเรียก อาโจว)
    และ
    น้องบอส ศรัณย์ แจ่มศรี ของไทยเรา สังกัดบ้านทองหยอด
    (มือวางอันดับ 135 ของโลก)
    .
    2
    ในช่วงเกมที่ 2
    ระหว่างที่ทั้งคู่แข่งกันอย่างดุเดือด
    มีอยู่ลูกหนึ่งที่อาโจวตีออก
    แล้วน้องบอสสัมผัสได้ว่าลูกโดนตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะออก
    แต่กรรมการไม่เห็นครับ
    .
    ซึ่งถ้าปล่อยเงียบไว้
    แต้มย่อมเป็นของน้องบอส
    .
    3
    ต้องจินตนาการนิด
    ว่ามันเป็นการแข่งขันแบดมินตันระดับโลก
    ที่มีรางวัล และชื่อเสียงประเทศเป็นเดิมพัน
    ไม่เหมือนไปตีเล่นตามก๊วนหลังเลิกงานนะครับ
    .
    ฉะนั้น ทุกคนที่เข้าร่วมย่อม "อยากชนะ" แบบสุด ๆ
    และทุกแต้มมันมีความหมายมาก ๆ
    .
    ถ้าเจอกรณีแบบนี้
    นักกีฬาบางคนจึงปล่อยเงียบ เพราะเขาถือว่า
    มันเป็นเรื่องของโชค
    ซึ่งอาจเกิดกับคู่แข่งได้เหมือนกัน
    .
    3
    ทว่า สิ่งที่น้องบอสทำคือ
    เดินไปบอกกรรมการว่าลูกโดนตัวเขาก่อน
    แต้มนั้นจึงกลายเป็นของอาโจว
    .
    สุดท้าย
    ใน match นั้น อาโจว ชนะ น้องบอส ไป 2 เกมรวด
    และหลังจบเกม
    ภาพที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นครับ
    .
    อาโจวขอแลกเสื้อกับน้องบอส
    ถ่ายรูปร่วมกัน
    และแชร์เรื่องราวนี้ผ่าน IG ส่วนตัว
    .
    4
    ผมแปลแบบเข้าใจง่ายนะ
    "บนคอร์ตวันนี้ เราทั้งคู่คือ "ผู้ชนะ" ใน match นี้ครับ
    ในช่วงเกม 2
    คู่แข่งของผม ศรัณย์ แจ่มศรี จากประเทศไทย
    เดินไปแจ้งกรรมการว่าลูกแบดสัมผัสร่างกายของเขา
    ทำให้ผมได้แต้มนั้นมา"
    .
    "ผมเชื่อว่า ความสัตย์ซื่อถือมั่นในคุณธรรม อยู่เหนือชัยชนะทั้งปวง
    และวันนี้ ศรัณย์ได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาผ่านความซื่อสัตย์ของเขา
    เขาไม่เพียงแต่ชนะใจพวกเรา
    แต่จิตใจที่น่ายกย่องของเขา ยังเป็นเกียรติแก่ทีมโค้ชที่สอนเขามาอย่างดี"
    .
    5
    น้องบอสได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬา
    ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้คู่แข่ง
    แต่ยังเป็น Soft Power ให้ประเทศไทยเราด้วย
    .
    และอาโจวก็แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติ เคารพนับถือคู่แข่ง
    แม้ตัวเองจะเป็นมือที่เหนือกว่า
    .
    ซึ่งผมว่า ในระยะยาว การกระทำเหล่านี้
    มันมีคุณค่ามากกว่าชัยชนะในเกมอีกครับ
    งดงามมาก ๆ จริง ๆ
    .
    6
    เรื่องราวนี้กำลังให้บทเรียนผมว่า
    "อย่ายึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จ
    จนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่น"
    .
    ในโลกแห่งทุนนิยม
    ที่ทุกคนต่างแข่งขัน ไม่ว่าจะกีฬา ธุรกิจ ฐานะ ชื่อเสียง เกียรติยศ
    มันเป็นเรื่องง่ายครับที่จะหมกมุ่นในชัยชนะหรือความสำเร็จ
    จนอาจเผลอเล่นไม่ซื่อ ทำผิดต่อตัวเองและผู้อื่น
    เพราะบรรยากาศมันพาไป
    .
    7
    แต่ท้ายที่สุด
    เราต่างรู้ว่า ต่อให้ได้มันมา ถ้าใช้วิธีที่ไม่โปร่งใส
    หรือเอาเปรียบใคร
    เราก็ไม่ภูมิใจกับมันอยู่ดีครับ
    .
    เพราะนั่นเป็นแค่เกมย่อย ๆ ในชีวิต
    ที่ต่อให้เราชนะสักกี่ครั้ง มันก็แค่เกม
    และอย่าลืมว่าพอจบเกมเหล่านั้น (เลิกงาน, กลับบ้าน, พักผ่อน ฯลฯ)
    เราจะไม่ใช่ หัวหน้า ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้ยิ่งใหญ่จากไหนแล้วนะ
    แต่เป็นแค่ "มนุษย์" ธรรมดา ๆ คนหนึ่งนี่แหละ
    .
    8
    มนุษย์ที่…
    อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี
    อยากมีคนรักและห่วงใย
    อยากมอบสิ่งดี ๆ ให้ใคร ๆ เพื่อเติมเต็มหัวใจ
    ต่อให้ยากดีมีจนแค่ไหน
    ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้
    .
    ดังนั้น
    อย่ามัวแต่ยึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จ
    จนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่นเลยนะครับ
    .
    ซื่อสัตย์ในคุณธรรมที่ตัวเองยึดถือ
    ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ ให้เกียรติ
    และมอบสิ่งดี ๆ ให้กันและกัน
    เหมือนที่น้องบอส และอาโจว แสดงให้เราเห็นกันครับ
    .
    นั่นอาจเป็นความหมาย
    และความสุขในชีวิตเราก็เป็นได้
    .
    และนี่คือบทเรียนที่ผมตกผลึกได้
    หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
    .
    #pump #ตกผลึก #badminton

    Cr.: เนื้อความมาจากเพจนี้
    เผื่อใครอยากไปตามต้นฉบับ

    https://www.facebook.com/share/p/4Wq3PwYpYSVYc8Hq/?mibextid=WC7FNe
    เหตุเกิด ณ การแข่งขันแบดมินตัน รายการ Taipei Open 2024 ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก 1 เป็นการพบกันระหว่าง โจวเทียนเฉิน จากไต้หวัน (มือวางอันดับ 9 ของโลก) (คนไทยเรียก อาโจว) และ น้องบอส ศรัณย์ แจ่มศรี ของไทยเรา สังกัดบ้านทองหยอด (มือวางอันดับ 135 ของโลก) . 2 ในช่วงเกมที่ 2 ระหว่างที่ทั้งคู่แข่งกันอย่างดุเดือด มีอยู่ลูกหนึ่งที่อาโจวตีออก แล้วน้องบอสสัมผัสได้ว่าลูกโดนตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะออก แต่กรรมการไม่เห็นครับ . ซึ่งถ้าปล่อยเงียบไว้ แต้มย่อมเป็นของน้องบอส . 3 ต้องจินตนาการนิด ว่ามันเป็นการแข่งขันแบดมินตันระดับโลก ที่มีรางวัล และชื่อเสียงประเทศเป็นเดิมพัน ไม่เหมือนไปตีเล่นตามก๊วนหลังเลิกงานนะครับ . ฉะนั้น ทุกคนที่เข้าร่วมย่อม "อยากชนะ" แบบสุด ๆ และทุกแต้มมันมีความหมายมาก ๆ . ถ้าเจอกรณีแบบนี้ นักกีฬาบางคนจึงปล่อยเงียบ เพราะเขาถือว่า มันเป็นเรื่องของโชค ซึ่งอาจเกิดกับคู่แข่งได้เหมือนกัน . 3 ทว่า สิ่งที่น้องบอสทำคือ เดินไปบอกกรรมการว่าลูกโดนตัวเขาก่อน แต้มนั้นจึงกลายเป็นของอาโจว . สุดท้าย ใน match นั้น อาโจว ชนะ น้องบอส ไป 2 เกมรวด และหลังจบเกม ภาพที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นครับ . อาโจวขอแลกเสื้อกับน้องบอส ถ่ายรูปร่วมกัน และแชร์เรื่องราวนี้ผ่าน IG ส่วนตัว . 4 ผมแปลแบบเข้าใจง่ายนะ "บนคอร์ตวันนี้ เราทั้งคู่คือ "ผู้ชนะ" ใน match นี้ครับ ในช่วงเกม 2 คู่แข่งของผม ศรัณย์ แจ่มศรี จากประเทศไทย เดินไปแจ้งกรรมการว่าลูกแบดสัมผัสร่างกายของเขา ทำให้ผมได้แต้มนั้นมา" . "ผมเชื่อว่า ความสัตย์ซื่อถือมั่นในคุณธรรม อยู่เหนือชัยชนะทั้งปวง และวันนี้ ศรัณย์ได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาผ่านความซื่อสัตย์ของเขา เขาไม่เพียงแต่ชนะใจพวกเรา แต่จิตใจที่น่ายกย่องของเขา ยังเป็นเกียรติแก่ทีมโค้ชที่สอนเขามาอย่างดี" . 5 น้องบอสได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬา ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้คู่แข่ง แต่ยังเป็น Soft Power ให้ประเทศไทยเราด้วย . และอาโจวก็แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติ เคารพนับถือคู่แข่ง แม้ตัวเองจะเป็นมือที่เหนือกว่า . ซึ่งผมว่า ในระยะยาว การกระทำเหล่านี้ มันมีคุณค่ามากกว่าชัยชนะในเกมอีกครับ งดงามมาก ๆ จริง ๆ . 6 เรื่องราวนี้กำลังให้บทเรียนผมว่า "อย่ายึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จ จนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่น" . ในโลกแห่งทุนนิยม ที่ทุกคนต่างแข่งขัน ไม่ว่าจะกีฬา ธุรกิจ ฐานะ ชื่อเสียง เกียรติยศ มันเป็นเรื่องง่ายครับที่จะหมกมุ่นในชัยชนะหรือความสำเร็จ จนอาจเผลอเล่นไม่ซื่อ ทำผิดต่อตัวเองและผู้อื่น เพราะบรรยากาศมันพาไป . 7 แต่ท้ายที่สุด เราต่างรู้ว่า ต่อให้ได้มันมา ถ้าใช้วิธีที่ไม่โปร่งใส หรือเอาเปรียบใคร เราก็ไม่ภูมิใจกับมันอยู่ดีครับ . เพราะนั่นเป็นแค่เกมย่อย ๆ ในชีวิต ที่ต่อให้เราชนะสักกี่ครั้ง มันก็แค่เกม และอย่าลืมว่าพอจบเกมเหล่านั้น (เลิกงาน, กลับบ้าน, พักผ่อน ฯลฯ) เราจะไม่ใช่ หัวหน้า ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้ยิ่งใหญ่จากไหนแล้วนะ แต่เป็นแค่ "มนุษย์" ธรรมดา ๆ คนหนึ่งนี่แหละ . 8 มนุษย์ที่… อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี อยากมีคนรักและห่วงใย อยากมอบสิ่งดี ๆ ให้ใคร ๆ เพื่อเติมเต็มหัวใจ ต่อให้ยากดีมีจนแค่ไหน ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้ . ดังนั้น อย่ามัวแต่ยึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จ จนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่นเลยนะครับ . ซื่อสัตย์ในคุณธรรมที่ตัวเองยึดถือ ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ ให้เกียรติ และมอบสิ่งดี ๆ ให้กันและกัน เหมือนที่น้องบอส และอาโจว แสดงให้เราเห็นกันครับ . นั่นอาจเป็นความหมาย และความสุขในชีวิตเราก็เป็นได้ . และนี่คือบทเรียนที่ผมตกผลึกได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ . #pump #ตกผลึก #badminton Cr.: เนื้อความมาจากเพจนี้ เผื่อใครอยากไปตามต้นฉบับ https://www.facebook.com/share/p/4Wq3PwYpYSVYc8Hq/?mibextid=WC7FNe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC
    เผยแพร่ข้อมูล SME ไทย กำลังเผชิญ
    กับความท้าทาย 4 ด้าน ได้แก่

    🚩1. มุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME
    ของไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับต่ำ
    ความกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง
    กอปรกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
    ทำให้ SME ไทย มีมุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ
    อยู่ในระดับต่ำ

    นอกจากนี้ เรายังเริ่มเห็นสัญญาณความกังวลใจ
    ต่อปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์
    ที่สูญเสียความสามารถทางการแข่งขันให้กับสินค้านำเข้า

    ทั้งนี้การเรียกคืนความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าธุรกิจ SME
    ควรเริ่มจากการเพิ่มบทบาทของภาครัฐและภาคการเงิน
    ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้จ่าย
    และท่องเที่ยว เร่ง/เพิ่มการลงทุนภาครัฐ ลดความเข้มงวด
    การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงิน
    ที่ผ่อนคลายลง ขณะที่ในระยะยาว ควรมีมาตรการสนับสนุน
    การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ
    ควบคู่กับการส่งเสริมการส่งออกเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรม
    การผลิต เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ

    🚩2. การดำเนินธุรกิจ SME ไทย กำลังเผชิญ
    กับความท้าทายรอบด้าน
    จากต้นทุนการผลิต/การดำเนินงานสูงและผันผวน
    กอปรกับปัญหากลยุทธ์การตลาดและกระบวนการผลิตล้าสมัย
    ทำให้การดำเนินธุรกิจของ SME ไทย กำลังเผชิญความท้าทาย

    อีกทั้ง ยังขาดความสามารถในการรักษาฐานลูกค้า เพราะเผชิญ
    กับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง จากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ

    อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในแต่ละขนาดวิสาหกิจมีการรับมือ
    กับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน
    โดยธุรกิจขนาดย่อม (Micro) จะเน้นมาตรการลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก
    ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางส่วนใหญ่จะหันมายกระดับธุรกิจ
    ผ่านการพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต และการตลาดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

    🚩3. SME ไทย เริ่มหันมาให้ความสำคัญ กับการยกระดับ
    ศักยภาพธุรกิจในระยะยาว
    โดย SME ไทย จะเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน
    การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และการพัฒนาสินค้า
    และบริการให้มีคุณภาพสูง ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจเหล่านี้
    เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาด้านต้นทุน ความล้าสมัย
    ของกระบวนการทำงาน และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรอบด้าน
    ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมที่มีความตื่นตัวมากที่สุด คือ กลุ่มผู้ผลิตอาหาร
    และเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

    ทั้งนี้แหล่งเงินทุนหลักสำหรับธุรกิจ SME ยังคงพึ่งพาสินเชื่อ
    จากสถาบันการเงินเป็นหลัก จะมีเพียงวิสาหกิจขนาดย่อม (Micro)
    ที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุน จากกำไรสะสมของธุรกิจ
    และทรัพย์สินของผู้ประกอบการ เนื่องจากส่วนใหญ่เผชิญปัญหา
    ความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์
    เพราะขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และการจัดทำบัญชียังไม่เป็นระบบ

    🚩4. SME มีมุมมองเชิงบวก และ กำลังเตรียมพร้อมรับมือ
    กับกระแส ESG
    SME ไทยส่วนใหญ่ได้กำหนดแผนการดำเนินงานภายใต้เป้าหมาย
    ความยั่งยืนแล้ว ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างในอุตฯ ปั๊มน้ำมัน จำหน่ายเคมีภัณฑ์
    รับเหมาและขายวัสดุก่อสร้าง นับว่าตื่นตัวกับกระแสดังกล่าวมากที่สุด
    โดยการปรับตัวจะเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

    ทั้งนี้การปรับตัวของ SME ให้สอดรับกับกระแส ESG จำเป็นต้องอาศัย
    โครงการจัดอบรมให้ความรู้ และโครงการมีที่ปรึกษาที่กระจายตัว
    อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดย่อมและธุรกิจ
    ในจังหวัดเมืองรอง ยังเข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือเหล่านี้
    ได้ค่อนข้างจำกัด จนมีส่วนทำให้การปรับตัวทำได้ค่อนข้างยาก
    และมีต้นทุนสูง

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SME #เอสเอมอี #SCBEIC
    #ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC เผยแพร่ข้อมูล SME ไทย กำลังเผชิญ กับความท้าทาย 4 ด้าน ได้แก่ 🚩1. มุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME ของไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับต่ำ ความกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง กอปรกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ SME ไทย มีมุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ เรายังเริ่มเห็นสัญญาณความกังวลใจ ต่อปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ที่สูญเสียความสามารถทางการแข่งขันให้กับสินค้านำเข้า ทั้งนี้การเรียกคืนความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าธุรกิจ SME ควรเริ่มจากการเพิ่มบทบาทของภาครัฐและภาคการเงิน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้จ่าย และท่องเที่ยว เร่ง/เพิ่มการลงทุนภาครัฐ ลดความเข้มงวด การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงิน ที่ผ่อนคลายลง ขณะที่ในระยะยาว ควรมีมาตรการสนับสนุน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการส่งเสริมการส่งออกเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรม การผลิต เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ 🚩2. การดำเนินธุรกิจ SME ไทย กำลังเผชิญ กับความท้าทายรอบด้าน จากต้นทุนการผลิต/การดำเนินงานสูงและผันผวน กอปรกับปัญหากลยุทธ์การตลาดและกระบวนการผลิตล้าสมัย ทำให้การดำเนินธุรกิจของ SME ไทย กำลังเผชิญความท้าทาย อีกทั้ง ยังขาดความสามารถในการรักษาฐานลูกค้า เพราะเผชิญ กับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง จากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในแต่ละขนาดวิสาหกิจมีการรับมือ กับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยธุรกิจขนาดย่อม (Micro) จะเน้นมาตรการลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางส่วนใหญ่จะหันมายกระดับธุรกิจ ผ่านการพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต และการตลาดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น 🚩3. SME ไทย เริ่มหันมาให้ความสำคัญ กับการยกระดับ ศักยภาพธุรกิจในระยะยาว โดย SME ไทย จะเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และการพัฒนาสินค้า และบริการให้มีคุณภาพสูง ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจเหล่านี้ เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาด้านต้นทุน ความล้าสมัย ของกระบวนการทำงาน และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรอบด้าน ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมที่มีความตื่นตัวมากที่สุด คือ กลุ่มผู้ผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ทั้งนี้แหล่งเงินทุนหลักสำหรับธุรกิจ SME ยังคงพึ่งพาสินเชื่อ จากสถาบันการเงินเป็นหลัก จะมีเพียงวิสาหกิจขนาดย่อม (Micro) ที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุน จากกำไรสะสมของธุรกิจ และทรัพย์สินของผู้ประกอบการ เนื่องจากส่วนใหญ่เผชิญปัญหา ความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ เพราะขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และการจัดทำบัญชียังไม่เป็นระบบ 🚩4. SME มีมุมมองเชิงบวก และ กำลังเตรียมพร้อมรับมือ กับกระแส ESG SME ไทยส่วนใหญ่ได้กำหนดแผนการดำเนินงานภายใต้เป้าหมาย ความยั่งยืนแล้ว ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างในอุตฯ ปั๊มน้ำมัน จำหน่ายเคมีภัณฑ์ รับเหมาและขายวัสดุก่อสร้าง นับว่าตื่นตัวกับกระแสดังกล่าวมากที่สุด โดยการปรับตัวจะเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทั้งนี้การปรับตัวของ SME ให้สอดรับกับกระแส ESG จำเป็นต้องอาศัย โครงการจัดอบรมให้ความรู้ และโครงการมีที่ปรึกษาที่กระจายตัว อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดย่อมและธุรกิจ ในจังหวัดเมืองรอง ยังเข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือเหล่านี้ ได้ค่อนข้างจำกัด จนมีส่วนทำให้การปรับตัวทำได้ค่อนข้างยาก และมีต้นทุนสูง #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SME #เอสเอมอี #SCBEIC #ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 812 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลาก่อนกาดสวนแก้ว ประกาศขาย 3 พันล้าน

    ทำเอาชาวเชียงใหม่ใจหายซ้ำสอง หลังธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศขายอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว อดีตศูนย์การค้าเก่าแก่สูง 10 ชั้น บนเนื้อที่ 27 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา ริมถนนห้วยแก้ว เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ในราคา 3,000 ล้านบาท หลังศูนย์การค้าฯ ปิดให้บริการชั่วคราวเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา แต่ที่สุดแล้วกลายเป็นการปิดถาวร เป็นที่น่าเสียดายแก่ชาวเชียงใหม่ยุค 80 และ 90 ที่เคยมีประสบการณ์กับสถานที่แห่งนี้

    อุทยานการค้ากาดสวนแก้ว เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2535 ก่อตั้งโดย ร.ต.ท.สุชัย เก่งการค้า อดีตสถาปนิกกรมตำรวจ ที่ผันตัวมาเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยด้านข้างยังมีโรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว สูง 13 ชั้น ขนาด 420 ห้อง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ตัวอาคารก่อด้วยอิฐสีน้ำตาลเข้ม บุผนังด้านนอกอาคารทั้งหลัง จุดเด่นคือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาแรกในต่างจังหวัด โรงภาพยนตร์วิสต้า ขนาด 7 โรง และโรงละครกาดเธียเตอร์ ชั้น 5 ความจุ 1,500 ที่นั่ง

    แม้จะเป็นศูนย์การค้ายอดนิยมของคนเชียงใหม่ยุคนั้น แต่ด้วยการแข่งขันธุรกิจค้าปลีกที่สูงขึ้น กลุ่มทุนจากส่วนกลาง อาทิ เซ็นทรัลพัฒนา เปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ บริเวณสี่แยกศาลเด็ก เพิ่มเติมจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต รวมทั้งกลุ่มเอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น เปิดศูนย์การค้าเม-ญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ บริเวณสี่แยกรินคำ ไม่นับรวมห้างค้าปลีก คอมมูนิตีมอลล์จำนวนมาก แม้กาดสวนแก้วพยายามรีโนเวตให้ทันสมัย แต่ไม่อาจต้านทานได้

    อีกทั้งสถานการณ์โควิด 19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 ไม่มีนักท่องเที่ยว แม้จะช่วยลดค่าเช่า ค่าบริการ ผ่อนผันร้านค้าทุกวิถีทาง พร้อมกับปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่เนื่องจากการระบาดยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง อีกทั้งภาครัฐไม่มีนโยบายผ่อนปรนหรือช่วยเหลืออีกต่อไป จึงจำเป็นต้องปิดศูนย์การค้าฯ ชั่วคราว แต่ในที่สุดก็กลายเป็นการปิดถาวร

    อนึ่ง ก่อนหน้านี้กรมบังคับคดีเพิ่งประกาศจำหน่ายทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ รีสอร์ตมอลล์ 24 แปลง เนื้อที่ประมาณ 54 ไร่ บริเวณแยกต่างระดับดอนจั่น ถนนวงแหวนรอบสอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 10 กิโลเมตร กำหนดราคาประเมิน 2,058 ล้านบาท จำหน่ายครั้งแรก 21 ต.ค. 2567 หลังศูนย์การค้าฯ ประกาศปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 และศาลล้มละลายกลาง พิพากษาให้ บริษัท อีซีซี เชียงใหม่ โครงการ 1 จำกัด ล้มละลายเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566

    #Newskit #กาดสวนแก้ว #เชียงใหม่
    ลาก่อนกาดสวนแก้ว ประกาศขาย 3 พันล้าน ทำเอาชาวเชียงใหม่ใจหายซ้ำสอง หลังธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศขายอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว อดีตศูนย์การค้าเก่าแก่สูง 10 ชั้น บนเนื้อที่ 27 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา ริมถนนห้วยแก้ว เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ในราคา 3,000 ล้านบาท หลังศูนย์การค้าฯ ปิดให้บริการชั่วคราวเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา แต่ที่สุดแล้วกลายเป็นการปิดถาวร เป็นที่น่าเสียดายแก่ชาวเชียงใหม่ยุค 80 และ 90 ที่เคยมีประสบการณ์กับสถานที่แห่งนี้ อุทยานการค้ากาดสวนแก้ว เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2535 ก่อตั้งโดย ร.ต.ท.สุชัย เก่งการค้า อดีตสถาปนิกกรมตำรวจ ที่ผันตัวมาเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยด้านข้างยังมีโรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว สูง 13 ชั้น ขนาด 420 ห้อง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ตัวอาคารก่อด้วยอิฐสีน้ำตาลเข้ม บุผนังด้านนอกอาคารทั้งหลัง จุดเด่นคือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาแรกในต่างจังหวัด โรงภาพยนตร์วิสต้า ขนาด 7 โรง และโรงละครกาดเธียเตอร์ ชั้น 5 ความจุ 1,500 ที่นั่ง แม้จะเป็นศูนย์การค้ายอดนิยมของคนเชียงใหม่ยุคนั้น แต่ด้วยการแข่งขันธุรกิจค้าปลีกที่สูงขึ้น กลุ่มทุนจากส่วนกลาง อาทิ เซ็นทรัลพัฒนา เปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ บริเวณสี่แยกศาลเด็ก เพิ่มเติมจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต รวมทั้งกลุ่มเอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น เปิดศูนย์การค้าเม-ญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ บริเวณสี่แยกรินคำ ไม่นับรวมห้างค้าปลีก คอมมูนิตีมอลล์จำนวนมาก แม้กาดสวนแก้วพยายามรีโนเวตให้ทันสมัย แต่ไม่อาจต้านทานได้ อีกทั้งสถานการณ์โควิด 19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 ไม่มีนักท่องเที่ยว แม้จะช่วยลดค่าเช่า ค่าบริการ ผ่อนผันร้านค้าทุกวิถีทาง พร้อมกับปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่เนื่องจากการระบาดยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง อีกทั้งภาครัฐไม่มีนโยบายผ่อนปรนหรือช่วยเหลืออีกต่อไป จึงจำเป็นต้องปิดศูนย์การค้าฯ ชั่วคราว แต่ในที่สุดก็กลายเป็นการปิดถาวร อนึ่ง ก่อนหน้านี้กรมบังคับคดีเพิ่งประกาศจำหน่ายทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ รีสอร์ตมอลล์ 24 แปลง เนื้อที่ประมาณ 54 ไร่ บริเวณแยกต่างระดับดอนจั่น ถนนวงแหวนรอบสอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 10 กิโลเมตร กำหนดราคาประเมิน 2,058 ล้านบาท จำหน่ายครั้งแรก 21 ต.ค. 2567 หลังศูนย์การค้าฯ ประกาศปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 และศาลล้มละลายกลาง พิพากษาให้ บริษัท อีซีซี เชียงใหม่ โครงการ 1 จำกัด ล้มละลายเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566 #Newskit #กาดสวนแก้ว #เชียงใหม่
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 838 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 กันยายน2567- บัญชีทางการของ “ปารีสเกมส์” (@Paris2024) ได้โพสต์คลิปลีลาการเชียร์นักกีฬาของท้าวดักแด้ พร้อมระบุว่า “Gold medal for him 🇹🇭🥇📹 #Paris2024” ซึ่งท้าวดักแด้ ได้ไปคอมเมนต์ขอบคุณด้วย

    สำหรับ ท้าวดักแด้ หรือ นายไทยแลนด์ คำทอง (ชื่อเดิม บัญชา คำทอง) เป็นนักแสดงตลก มีชื่อเสียงมาจากโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว ทั้งยังเคยเป็นนักแสดงสมทบในละครพื้นบ้านเรื่อง เทพสามฤดู รับบท “มาตุลี” เริ่มเชียร์แมตช์แรกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ จ.เชียงใหม่ โดยตอนนั้นใส่ชุดตะกั่วจนเป็นที่รู้จัก และเริ่มนำเชียร์มาเรื่อยๆ ทุกประเภทกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ ซึ่งได้นำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำเชียร์กีฬาสีที่โรงเรียนมาใช้ รวมถึงเป็นคนมีใจรักกีฬามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว นี่คือแฟนบอลชาวไทย ที่แสดงให้เห็นความคลั่งไคล้ในการเชียร์ทีมชาติไทย

    https://x.com/paris2024/status/1831400381471191160?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA

    #Thaitimes
    5 กันยายน2567- บัญชีทางการของ “ปารีสเกมส์” (@Paris2024) ได้โพสต์คลิปลีลาการเชียร์นักกีฬาของท้าวดักแด้ พร้อมระบุว่า “Gold medal for him 🇹🇭🥇📹 #Paris2024” ซึ่งท้าวดักแด้ ได้ไปคอมเมนต์ขอบคุณด้วย สำหรับ ท้าวดักแด้ หรือ นายไทยแลนด์ คำทอง (ชื่อเดิม บัญชา คำทอง) เป็นนักแสดงตลก มีชื่อเสียงมาจากโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว ทั้งยังเคยเป็นนักแสดงสมทบในละครพื้นบ้านเรื่อง เทพสามฤดู รับบท “มาตุลี” เริ่มเชียร์แมตช์แรกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ จ.เชียงใหม่ โดยตอนนั้นใส่ชุดตะกั่วจนเป็นที่รู้จัก และเริ่มนำเชียร์มาเรื่อยๆ ทุกประเภทกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ ซึ่งได้นำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำเชียร์กีฬาสีที่โรงเรียนมาใช้ รวมถึงเป็นคนมีใจรักกีฬามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว นี่คือแฟนบอลชาวไทย ที่แสดงให้เห็นความคลั่งไคล้ในการเชียร์ทีมชาติไทย https://x.com/paris2024/status/1831400381471191160?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA #Thaitimes
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 786 มุมมอง 1 รีวิว
Pages Boosts