• ♣ ประเทศที่ชอบอ้างประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเท่าเทียม แต่กลับมีความเหลื่อมล้ำ ความรุนแรง การใช้อาวุธ การเหยียดเชื้อชาติ และมีนายทุนนวัตกรรมอู้ฟู่ผงาดครองโลก
    #7ดอกจิก
    ♣ ประเทศที่ชอบอ้างประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเท่าเทียม แต่กลับมีความเหลื่อมล้ำ ความรุนแรง การใช้อาวุธ การเหยียดเชื้อชาติ และมีนายทุนนวัตกรรมอู้ฟู่ผงาดครองโลก #7ดอกจิก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยงานความมั่นคงของอิสราเอลโปรยใบปลิวไปทั่วกาซา เนื้อหาในใบปลิวเป็นการกดดันให้ผู้อยู่อาศัยในฉนวนกาซาทั้งหมดรีบตัดสินใจเดินทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ตามนโยบายการกวาดล้างของทรัมป์

    “ถึงประชาชนชาวฉนวนกาซา

    หลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว และก่อนที่จะมีการนำแผนบังคับของทรัมป์มาใช้ ซึ่งจะบังคับให้ต้องอพยพออกไป ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม

    เราขอแจ้งเตือนอีกเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราเพื่อเดินทางออกไปจากที่นี่ เราพร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ และขอให้รีบพิจารณาทางเลือกนี้

    แผนที่โลกจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ดินแดนฉนวนกาซาทั้งหมดไม่มีอยู่จริง ไม่มีใครสงสารพวกคุณ และไม่มีใครสนใจถามถึงพวกคุณ พวกคุณถูกปล่อยให้เผชิญกับชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพียงลำพัง

    อิหร่านยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ไม่ต้องพูดถึงการปกป้องพวกคุณ พวกคุณได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งอเมริกาและยุโรปต่างไม่มีใครสนใจฉนวนกาซา ประเทศอาหรับของพวกคุณที่คุณหวังพึงพวกเค้า ปัจจุบันคือเป็นพันธมิตรของเรา ที่คอยจัดหาเงิน น้ำมัน และอาวุธให้แก่เรา และส่งเพียงผ้าห่อศพมาให้คุณเท่านั้น

    เวลาเหลือไม่มาก เกมกำลังจะจบลงแล้ว ก่อนที่มันจะสายเกินไป พวกเราจะยังคงอยู่ที่นี่ เราจะอยู่จนถึงวันพิพากษาพวกคุณ”
    หน่วยงานความมั่นคงของอิสราเอลโปรยใบปลิวไปทั่วกาซา เนื้อหาในใบปลิวเป็นการกดดันให้ผู้อยู่อาศัยในฉนวนกาซาทั้งหมดรีบตัดสินใจเดินทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ตามนโยบายการกวาดล้างของทรัมป์ “ถึงประชาชนชาวฉนวนกาซา หลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว และก่อนที่จะมีการนำแผนบังคับของทรัมป์มาใช้ ซึ่งจะบังคับให้ต้องอพยพออกไป ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม เราขอแจ้งเตือนอีกเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราเพื่อเดินทางออกไปจากที่นี่ เราพร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ และขอให้รีบพิจารณาทางเลือกนี้ แผนที่โลกจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ดินแดนฉนวนกาซาทั้งหมดไม่มีอยู่จริง ไม่มีใครสงสารพวกคุณ และไม่มีใครสนใจถามถึงพวกคุณ พวกคุณถูกปล่อยให้เผชิญกับชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพียงลำพัง อิหร่านยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ไม่ต้องพูดถึงการปกป้องพวกคุณ พวกคุณได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งอเมริกาและยุโรปต่างไม่มีใครสนใจฉนวนกาซา ประเทศอาหรับของพวกคุณที่คุณหวังพึงพวกเค้า ปัจจุบันคือเป็นพันธมิตรของเรา ที่คอยจัดหาเงิน น้ำมัน และอาวุธให้แก่เรา และส่งเพียงผ้าห่อศพมาให้คุณเท่านั้น เวลาเหลือไม่มาก เกมกำลังจะจบลงแล้ว ก่อนที่มันจะสายเกินไป พวกเราจะยังคงอยู่ที่นี่ เราจะอยู่จนถึงวันพิพากษาพวกคุณ”
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    โอเดสซา โดนโจมตีอย่างหนักเป็นวันที่สองติดต่อกัน เป้าหมายหลักคือแหล่งพลังงานทั่วเมือง

    ภาพวิดีโอเผยให้เห็นโดรน "Geranium-2" ของรัสเซียกำลังโจมตีเมืองโอเดสซา และกองกำลังยูเครนทำได้เพียงใช้อาวุธเบาในการยิงสะกัดกั้น

    มีรายงานว่าโดรนเหล่านี้มีเป้าหมายคือสถานีไฟฟ้าย่อย ทำให้เกือบทั้งเมืองอยู่ในความมืดสนิท!

    นอกจากนี้แหล่งพลังงานจะถูกโดรนโจมตีแล้ว ยังมีขีปนาวุธที่โจมตีเข้าใส่โรงงานผลิตโดรนของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในโอเดสซาอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าเมืองนี้ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตโดรนที่สำคัญของยูเครนในช่วงหลัง
    2/ โอเดสซา โดนโจมตีอย่างหนักเป็นวันที่สองติดต่อกัน เป้าหมายหลักคือแหล่งพลังงานทั่วเมือง ภาพวิดีโอเผยให้เห็นโดรน "Geranium-2" ของรัสเซียกำลังโจมตีเมืองโอเดสซา และกองกำลังยูเครนทำได้เพียงใช้อาวุธเบาในการยิงสะกัดกั้น มีรายงานว่าโดรนเหล่านี้มีเป้าหมายคือสถานีไฟฟ้าย่อย ทำให้เกือบทั้งเมืองอยู่ในความมืดสนิท! นอกจากนี้แหล่งพลังงานจะถูกโดรนโจมตีแล้ว ยังมีขีปนาวุธที่โจมตีเข้าใส่โรงงานผลิตโดรนของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในโอเดสซาอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าเมืองนี้ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตโดรนที่สำคัญของยูเครนในช่วงหลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • 1/
    โอเดสซา โดนโจมตีอย่างหนักเป็นวันที่สองติดต่อกัน เป้าหมายหลักคือแหล่งพลังงานทั่วเมือง

    ภาพวิดีโอเผยให้เห็นโดรน "Geranium-2" ของรัสเซียกำลังโจมตีเมืองโอเดสซา และกองกำลังยูเครนทำได้เพียงใช้อาวุธเบาในการยิงสะกัดกั้น

    มีรายงานว่าโดรนเหล่านี้มีเป้าหมายคือสถานีไฟฟ้าย่อย ทำให้เกือบทั้งเมืองอยู่ในความมืดสนิท!

    นอกจากนี้แหล่งพลังงานจะถูกโดรนโจมตีแล้ว ยังมีขีปนาวุธที่โจมตีเข้าใส่โรงงานผลิตโดรนของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในโอเดสซาอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าเมืองนี้ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตโดรนที่สำคัญของยูเครนในช่วงหลัง
    1/ โอเดสซา โดนโจมตีอย่างหนักเป็นวันที่สองติดต่อกัน เป้าหมายหลักคือแหล่งพลังงานทั่วเมือง ภาพวิดีโอเผยให้เห็นโดรน "Geranium-2" ของรัสเซียกำลังโจมตีเมืองโอเดสซา และกองกำลังยูเครนทำได้เพียงใช้อาวุธเบาในการยิงสะกัดกั้น มีรายงานว่าโดรนเหล่านี้มีเป้าหมายคือสถานีไฟฟ้าย่อย ทำให้เกือบทั้งเมืองอยู่ในความมืดสนิท! นอกจากนี้แหล่งพลังงานจะถูกโดรนโจมตีแล้ว ยังมีขีปนาวุธที่โจมตีเข้าใส่โรงงานผลิตโดรนของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในโอเดสซาอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าเมืองนี้ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตโดรนที่สำคัญของยูเครนในช่วงหลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์แถลงว่า ยุโรปไม่ต้องการให้ชาติเอเชียต้องเลือกระหว่างสหรัฐฯ และจีน ท่ามกลางกระแสการแข่งขันโลกเชี่ยวกราก ปูทางประธานาธิบดี เอ็มมานุเอล มาครง ขึ้นเวทีการประชุมแชงกรีลาไดอะล็อกฟอรัม พฤษภาคมนี้ ขณะที่สิงคโปร์เปิดอกรับเอเชียมองวอชิงตันทำตัวเหมือนเจ้าของที่กำลังเรียกเก็บค่าเช่า
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์ สตีเฟน มาร์กีซีโอ (Stephen Marchisio) เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่วันอังคาร (18) เปิดใจว่า ฝรั่งเศสเห็นแรงกดดันเพิ่มขึ้น “บางทีมาจากฝั่งสหรัฐฯ” ที่พันธมิตรในเอเชียจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกข้าง”
    .
    เขาย้ำว่า “มันมีความสำคัญที่ต้องกล่าวว่าพวกเราสามารถพูดคุยได้กับทุกคน” และเสริมว่า “พวกเราไม่ต้องการให้ใครต้องเลือก”
    .
    ทูตแดนน้ำหอมคนใหม่ของประธานาธิบดีเอ็มมานุเอล มาครงให้สัมภาษณ์กับนักข่าวระหว่างอาหารค่ำในสิงคโปร์ที่ซึ่งมาครงจะเดินทางมาที่นี่เพื่อขึ้นกล่าวในการประชุมความมั่นคงแชงกรีลาฟอรัมในวันที่ 30 พ.ค.ที่จะถึง
    .
    มาร์กีซีโอกล่าวว่า ประธานาธิบดีมาครงจะขึ้นกล่าวยืนยันบนเวทีว่า ทุกชาติภายในภูมิภาคสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติตัวเองได้
    .
    “พวกคุณสามารถทำได้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับรูปแบบทางการเมืองของจีน และคุณสามารถทำได้ถึงแม้คุณจะไม่ต้องการฐานทัพจากสหรัฐฯ ในดินแดนของพวกคุณก็ตาม”
    .
    สถานทูตสหรัฐฯ ในสิงคโปร์ได้ตอบคำถามรอยเตอร์ไปยังแถลงการณ์ของกลุ่ม G-7 ที่ลงนามในมิวนิกโดยฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ที่กล่าวว่า สมาชิกทุกชาติมีพันธต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และมั่นคง
    .
    ตามแถลงการณ์ทูตฝรั่งเศสชี้ว่า ยุโรปต้องสามัคคี
    .
    มาร์กีซีโอยังชี้ว่า ยุโรปต้องมีความสามัคคีที่รวมไปถึงการสั่งซื้ออาวุธอเมริกัน ที่ชี้ว่าเป็นการตอบโต้คำแถลงจากรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดีเจ แวนซ์ ในมิวนิกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ทูตแดนน้ำหอมกล่าวว่า มีบางประเทศมองความเกี่ยวข้องในการซื้ออาวุธเป็นหนทางที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก แต่ทว่ามุมมองนี้เปลี่ยนไปแล้วโดยเฉพาะหลังจากที่รองประธานาธิบดีแวนซ์ของสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณผ่านำแถลงที่เผ็ดร้อนในการประชุมมิวนิกฟอรัมในยุโรป
    .
    “เกิดอะไรขึ้นในมิวนิก? เขาพยายามโจมตีแก่นกลางของประชาธิปไตย” และเสริมต่อว่า “ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดไปสู่คำถามอื่นต่อ”
    .
    ดังนั้นเวลานี้ประเทศในยุโรปอาจจะไม่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อเมริกัน และเสริมต่อว่าเป็นเพราะไม่มีหลักประกันในการทำเช่นนั้นจะช่วยผ่อนคลายความกดดันของสหรัฐฯ ลงหรือวาทะโจมตีแสดงความเป็นปรปักษ์
    .
    “พวกเราไม่ต้องการที่จะกล่าวว่า ..แต่พวกเราจะตอบโต้หากว่าพวกเราต้องทำ” โดยอ้างไปถึงภาษีและแรงกดดันอื่นๆ ของสหรัฐฯ
    .
    มาร์กีซีโอรายงานว่า สถานการณ์ที่ดีที่สุดของฝรั่งเศสคือการไม่ต้องการตอบโต้เอาคืนจากการที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและชาติยุโรปต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันมากมายรวมไปถึงอุตสาหกรรม
    .
    การแสดงความเห็นของทูตฝรั่งเศสคนใหม่สะท้อนความเห็นรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ อึ้ง เอ็ง เฮง (Ng Eng Hen) ที่แถลงในการประชุมความมั่นคงยุโรปว่า “ภาพของอเมริกาที่มีต่อเอเชียได้เปลี่ยนไป”
    .
    “ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปจากผู้ปลดปล่อยไปสู่ผู้สร้างความปั่นป่วนไปสู่เจ้าของที่ต้องการเรียกเก็บค่าเช่า”
    .
    บลูมเบิร์กรายงานวันจันทร์ (17) ว่า อึ้ง เอ็ง เฮง แถลงในการประชุมนอกรอบที่การประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า แนวคิดที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
    .
    ทั้งนี้ เว็บไซต์รัฐบาลสิงคโปร์ได้โพสต์เมื่อสุดสัปดาห์ในคำแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์กล่าววิจารณ์สหรัฐฯ ในการประชุมมิวนิก
    .
    คำแถลงเกิดขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่สมัยทรัมป์มืดมัวตาบอดไม่สนใจต่อประวัติศาสตร์ที่เป็นมาของพันธมิตรนาโตเปิดฉากแผนการหารือตรงกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินต่ออนาคตของสงครามเครมลินในยูเครน
    .
    บลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า สิงคโปร์เป็นเหมือนเช่นชาติส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการแสวงหาทางสายกลางในการเพิ่มขึ้นของภาพที่ซับซ้อนทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ เพื่อเสาะหาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับสหรัฐอเมริกาในฐานะหุ้นส่วนความมั่นคงหลักและต่อจีนในฐานะแหล่งของการพัฒนาและหนึ่งในพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง
    .
    ทั้งนี้สหรัฐฯ ในสมัยอดีตรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อเมริกาได้ทำงานเพื่อสร้างข้อผูกพันทางความมั่นคงภายในภูมิภาคต่อต้านการรุกคืบจากจีนในทะเลจีนใต้ และเป็นความวิตกทางความมั่นคงที่ยังคงเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการนำไต้หวันกลับสู่อ้อมอกอีกครั้งในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลังหรือไม่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016775
    ..............
    Sondhi X
    เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์แถลงว่า ยุโรปไม่ต้องการให้ชาติเอเชียต้องเลือกระหว่างสหรัฐฯ และจีน ท่ามกลางกระแสการแข่งขันโลกเชี่ยวกราก ปูทางประธานาธิบดี เอ็มมานุเอล มาครง ขึ้นเวทีการประชุมแชงกรีลาไดอะล็อกฟอรัม พฤษภาคมนี้ ขณะที่สิงคโปร์เปิดอกรับเอเชียมองวอชิงตันทำตัวเหมือนเจ้าของที่กำลังเรียกเก็บค่าเช่า . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์ สตีเฟน มาร์กีซีโอ (Stephen Marchisio) เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่วันอังคาร (18) เปิดใจว่า ฝรั่งเศสเห็นแรงกดดันเพิ่มขึ้น “บางทีมาจากฝั่งสหรัฐฯ” ที่พันธมิตรในเอเชียจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกข้าง” . เขาย้ำว่า “มันมีความสำคัญที่ต้องกล่าวว่าพวกเราสามารถพูดคุยได้กับทุกคน” และเสริมว่า “พวกเราไม่ต้องการให้ใครต้องเลือก” . ทูตแดนน้ำหอมคนใหม่ของประธานาธิบดีเอ็มมานุเอล มาครงให้สัมภาษณ์กับนักข่าวระหว่างอาหารค่ำในสิงคโปร์ที่ซึ่งมาครงจะเดินทางมาที่นี่เพื่อขึ้นกล่าวในการประชุมความมั่นคงแชงกรีลาฟอรัมในวันที่ 30 พ.ค.ที่จะถึง . มาร์กีซีโอกล่าวว่า ประธานาธิบดีมาครงจะขึ้นกล่าวยืนยันบนเวทีว่า ทุกชาติภายในภูมิภาคสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติตัวเองได้ . “พวกคุณสามารถทำได้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับรูปแบบทางการเมืองของจีน และคุณสามารถทำได้ถึงแม้คุณจะไม่ต้องการฐานทัพจากสหรัฐฯ ในดินแดนของพวกคุณก็ตาม” . สถานทูตสหรัฐฯ ในสิงคโปร์ได้ตอบคำถามรอยเตอร์ไปยังแถลงการณ์ของกลุ่ม G-7 ที่ลงนามในมิวนิกโดยฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ที่กล่าวว่า สมาชิกทุกชาติมีพันธต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และมั่นคง . ตามแถลงการณ์ทูตฝรั่งเศสชี้ว่า ยุโรปต้องสามัคคี . มาร์กีซีโอยังชี้ว่า ยุโรปต้องมีความสามัคคีที่รวมไปถึงการสั่งซื้ออาวุธอเมริกัน ที่ชี้ว่าเป็นการตอบโต้คำแถลงจากรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดีเจ แวนซ์ ในมิวนิกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . ทูตแดนน้ำหอมกล่าวว่า มีบางประเทศมองความเกี่ยวข้องในการซื้ออาวุธเป็นหนทางที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก แต่ทว่ามุมมองนี้เปลี่ยนไปแล้วโดยเฉพาะหลังจากที่รองประธานาธิบดีแวนซ์ของสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณผ่านำแถลงที่เผ็ดร้อนในการประชุมมิวนิกฟอรัมในยุโรป . “เกิดอะไรขึ้นในมิวนิก? เขาพยายามโจมตีแก่นกลางของประชาธิปไตย” และเสริมต่อว่า “ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดไปสู่คำถามอื่นต่อ” . ดังนั้นเวลานี้ประเทศในยุโรปอาจจะไม่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อเมริกัน และเสริมต่อว่าเป็นเพราะไม่มีหลักประกันในการทำเช่นนั้นจะช่วยผ่อนคลายความกดดันของสหรัฐฯ ลงหรือวาทะโจมตีแสดงความเป็นปรปักษ์ . “พวกเราไม่ต้องการที่จะกล่าวว่า ..แต่พวกเราจะตอบโต้หากว่าพวกเราต้องทำ” โดยอ้างไปถึงภาษีและแรงกดดันอื่นๆ ของสหรัฐฯ . มาร์กีซีโอรายงานว่า สถานการณ์ที่ดีที่สุดของฝรั่งเศสคือการไม่ต้องการตอบโต้เอาคืนจากการที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและชาติยุโรปต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันมากมายรวมไปถึงอุตสาหกรรม . การแสดงความเห็นของทูตฝรั่งเศสคนใหม่สะท้อนความเห็นรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ อึ้ง เอ็ง เฮง (Ng Eng Hen) ที่แถลงในการประชุมความมั่นคงยุโรปว่า “ภาพของอเมริกาที่มีต่อเอเชียได้เปลี่ยนไป” . “ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปจากผู้ปลดปล่อยไปสู่ผู้สร้างความปั่นป่วนไปสู่เจ้าของที่ต้องการเรียกเก็บค่าเช่า” . บลูมเบิร์กรายงานวันจันทร์ (17) ว่า อึ้ง เอ็ง เฮง แถลงในการประชุมนอกรอบที่การประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า แนวคิดที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง . ทั้งนี้ เว็บไซต์รัฐบาลสิงคโปร์ได้โพสต์เมื่อสุดสัปดาห์ในคำแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์กล่าววิจารณ์สหรัฐฯ ในการประชุมมิวนิก . คำแถลงเกิดขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่สมัยทรัมป์มืดมัวตาบอดไม่สนใจต่อประวัติศาสตร์ที่เป็นมาของพันธมิตรนาโตเปิดฉากแผนการหารือตรงกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินต่ออนาคตของสงครามเครมลินในยูเครน . บลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า สิงคโปร์เป็นเหมือนเช่นชาติส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการแสวงหาทางสายกลางในการเพิ่มขึ้นของภาพที่ซับซ้อนทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ เพื่อเสาะหาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับสหรัฐอเมริกาในฐานะหุ้นส่วนความมั่นคงหลักและต่อจีนในฐานะแหล่งของการพัฒนาและหนึ่งในพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง . ทั้งนี้สหรัฐฯ ในสมัยอดีตรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อเมริกาได้ทำงานเพื่อสร้างข้อผูกพันทางความมั่นคงภายในภูมิภาคต่อต้านการรุกคืบจากจีนในทะเลจีนใต้ และเป็นความวิตกทางความมั่นคงที่ยังคงเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการนำไต้หวันกลับสู่อ้อมอกอีกครั้งในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลังหรือไม่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016775 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1193 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่สหรัฐใช้คำพูดสวยหรู เกี่ยวกับความต้องการกลับมาติดต่อทางการทูตกับรัสเซียอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นเพียงแผนการซื้อเวลาเท่านั้น!

    ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ในรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็เคยใช้คำพูดสวยหรูเช่นเดียวกับที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ คนปัจจุบันของสหรัฐเพิ่งใช้ไปเมื่อวานนี้กับ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียคนเดิม

    เป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐไม่มีอาวุธ หรือกระสุนจะส่งให้ยูเครน เห็นได้จากอาวุธที่รัสเซียยึดได้ จะเป็นอาวุธที่ผลิตใหม่ทั้งสิ้นในช่วงหลัง ไม่ได้ใช้จากคลังอาวุธเหมือนช่วงต้นสงคราม

    นอกจากนั้นยังมีการกดดันให้ยุโรปขยายเงินทุนเกี่ยวการด้านการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 5% ของ GDP จากเดิม 2% บ่งบอกว่าสหรัฐเข้าตาจนแล้วจริงๆ

    เบื้องหลัง สหรัฐอาจกำลังพยายามเร่งอย่างสุดความสามารถที่จะผลิตอาวุธใหม่อีกครั้ง เนื่องจากต้องการเปิดฉากสงครามตัวแทนกับศัตรู เช่น จีน และอิหร่าน หรือแม้แต่รัสเซียเองก็ตาม
    ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่สหรัฐใช้คำพูดสวยหรู เกี่ยวกับความต้องการกลับมาติดต่อทางการทูตกับรัสเซียอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นเพียงแผนการซื้อเวลาเท่านั้น! ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ในรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็เคยใช้คำพูดสวยหรูเช่นเดียวกับที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ คนปัจจุบันของสหรัฐเพิ่งใช้ไปเมื่อวานนี้กับ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียคนเดิม เป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐไม่มีอาวุธ หรือกระสุนจะส่งให้ยูเครน เห็นได้จากอาวุธที่รัสเซียยึดได้ จะเป็นอาวุธที่ผลิตใหม่ทั้งสิ้นในช่วงหลัง ไม่ได้ใช้จากคลังอาวุธเหมือนช่วงต้นสงคราม นอกจากนั้นยังมีการกดดันให้ยุโรปขยายเงินทุนเกี่ยวการด้านการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 5% ของ GDP จากเดิม 2% บ่งบอกว่าสหรัฐเข้าตาจนแล้วจริงๆ เบื้องหลัง สหรัฐอาจกำลังพยายามเร่งอย่างสุดความสามารถที่จะผลิตอาวุธใหม่อีกครั้ง เนื่องจากต้องการเปิดฉากสงครามตัวแทนกับศัตรู เช่น จีน และอิหร่าน หรือแม้แต่รัสเซียเองก็ตาม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำไทย-กัมพูชาต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขึ้นใช้อาวุธเด็ดขาด หลังเหตุกลุ่มสตรีกัมพูชาบุกร้องเพลงชาติปลุกใจทหารเขมรที่ปราสาทตาเมือนธม ชายแดนสุรินทร์ ยันโทร.เคลียร์เข้าใจกันดีแล้ว ฝ่ายเขมรยอมรับทำไม่เหมาะสมพร้อมขอโทษ ไทยขออย่าให้เกิดขึ้นอีกให้ยึดตามข้อตกลง 2 ประเทศเป็นสำคัญ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ ยันไม่มีตรึงกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายและนัดกลุ่มสตรีมาทานข้าวทำความเข้าใจแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016210

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำไทย-กัมพูชาต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขึ้นใช้อาวุธเด็ดขาด หลังเหตุกลุ่มสตรีกัมพูชาบุกร้องเพลงชาติปลุกใจทหารเขมรที่ปราสาทตาเมือนธม ชายแดนสุรินทร์ ยันโทร.เคลียร์เข้าใจกันดีแล้ว ฝ่ายเขมรยอมรับทำไม่เหมาะสมพร้อมขอโทษ ไทยขออย่าให้เกิดขึ้นอีกให้ยึดตามข้อตกลง 2 ประเทศเป็นสำคัญ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ ยันไม่มีตรึงกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายและนัดกลุ่มสตรีมาทานข้าวทำความเข้าใจแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016210 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • เช็ก โรมาเนีย และสโลวีเนียประท้วงการถูกกีดกันจากประชุมปารีส

    สาธารณรัฐเช็ก โรมาเนีย และสโลวีเนียแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมผู้นำยุโรปที่ปารีส

    แหล่งข่าวจากรัฐบาลเช็กระบุว่าไม่มีประเทศยุโรปใดรับผู้ลี้ภัยยูเครนต่อประชากรมากกว่าเช็ก พร้อมเน้นย้ำบทบาทสำคัญในการส่งกำลังบำรุงอาวุธให้ยูเครน โดยเฉพาะการจัดหากระสุนให้เคียฟ "นอกจากโปแลนด์แล้ว ไม่มีประเทศใดใกล้ชิดสงครามมากกว่าเช็ก" เจ้าหน้าที่กล่าว พร้อมวิจารณ์ "ความหยิ่งยโส" ของประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ที่กีดกันพวกเขา

    ด้าน Cristian Diaconescu ที่ปรึกษาด้านกลาโหมและความมั่นคงของโรมาเนียแสดงความผิดหวังที่ถูกกีดกัน "แม้จะทุ่มเทช่วยเหลือมาตลอด" แต่ยืนยันว่าหากมีการประชุมต่อเนื่อง พวกเขาก็พร้อมจะมีส่วนร่วม

    ประธานาธิบดี Nataša Pirc Musar แห่งสโลวีเนียวิจารณ์การเลือกเชิญว่าส่งสัญญาณว่า "สมาชิก EU ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม" และเสริมว่า "นี่ไม่ใช่ยุโรปที่จะเป็นพันธมิตรที่คู่ควรกับสหรัฐฯ"
    เช็ก โรมาเนีย และสโลวีเนียประท้วงการถูกกีดกันจากประชุมปารีส สาธารณรัฐเช็ก โรมาเนีย และสโลวีเนียแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมผู้นำยุโรปที่ปารีส แหล่งข่าวจากรัฐบาลเช็กระบุว่าไม่มีประเทศยุโรปใดรับผู้ลี้ภัยยูเครนต่อประชากรมากกว่าเช็ก พร้อมเน้นย้ำบทบาทสำคัญในการส่งกำลังบำรุงอาวุธให้ยูเครน โดยเฉพาะการจัดหากระสุนให้เคียฟ "นอกจากโปแลนด์แล้ว ไม่มีประเทศใดใกล้ชิดสงครามมากกว่าเช็ก" เจ้าหน้าที่กล่าว พร้อมวิจารณ์ "ความหยิ่งยโส" ของประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ที่กีดกันพวกเขา ด้าน Cristian Diaconescu ที่ปรึกษาด้านกลาโหมและความมั่นคงของโรมาเนียแสดงความผิดหวังที่ถูกกีดกัน "แม้จะทุ่มเทช่วยเหลือมาตลอด" แต่ยืนยันว่าหากมีการประชุมต่อเนื่อง พวกเขาก็พร้อมจะมีส่วนร่วม ประธานาธิบดี Nataša Pirc Musar แห่งสโลวีเนียวิจารณ์การเลือกเชิญว่าส่งสัญญาณว่า "สมาชิก EU ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม" และเสริมว่า "นี่ไม่ใช่ยุโรปที่จะเป็นพันธมิตรที่คู่ควรกับสหรัฐฯ"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านระบุคำขู่ของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีกับเตหะราน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมเตือนทั้ง 2 ชาติ อย่าได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับอิหร่าน
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พบปะกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) และบอกว่าทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่งมุ่นทำลายความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลของเตหะรานในตะวันออกกลาง
    .
    เนทันยาฮู อวดอ้างว่าอิสราเอลก่อความเสียหายอย่างหนักแก่อิหร่าน นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้น และบอกว่าภายใต้แรงสนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ "ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะปิดฉากงานนี้"
    .
    ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนรายสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) เอสมาอิล เบกาอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ว่า "เมื่อเป็นเรื่องของประเทศหนึ่งๆ อย่างอิหร่าน พวกเขาไม่อาจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ คุณไม่อาจข่มขู่อิหร่านด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งอวดอ้างสนับสนุนการเจรจา"
    .
    ทรัมป์ แสดงออกเปิดกว้างสำหรับเจรจาตกลงกับเตหะราน แต่ขณะเดียวก็คืนสถานะยุทธการ "กดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน นโยบายที่เขาเคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก เพื่อหยุดเตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน บอกว่าไม่ควรมีการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่กี่วันหลังจาก ทรัมป์ เรียกร้องให้มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรายนี้เคยวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ชุดก่อน ว่าไม่ยึดถือคำมั่นสัญญา
    .
    "คุณไม่ควรเจรจากับรัฐบาลแบบนั้น มันไม่ฉลาด ไม่ชาญฉลาด ไม่เป็นเกียรติที่จะเจรจา" คาเมเนอีกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพ "สหรัฐฯ เคยทำลาย ละเมิด และฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์มาก่อน และบุคคลเดียวกันที่อยู่ในอำนาจในตอนนี้ คือคนที่ฉีกสัญญา”
    .
    ในปี 2018 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางเตหะรานทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2015 และกลับมากำหนดมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ เพื่อฉีกเศรษฐกิจอิหร่านเป็นชิ้นๆ
    .
    หนึ่งปีหลังจากนั้น อิหร่านตอบโต้การละเมิดข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ด้วยการเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ 60% เข้าใกล้ระดับราว 90% ที่จำเป็นสำหรับเกรดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์ทางสันติแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แม้ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่ดูเหมือนอิทธิพลของเตหะรานทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางจะอ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่พันธมิตรต่างๆ ของพวกเขาในภูมิภาค ที่รู้จักกันในฐานะ "อักษะแห่งการต่อต้าน" ทั้งถูกถอนรากถอนโคนหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้นในกาซา และการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคม
    .
    อักษะแห่งการต่อต้านนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ฮามาส แต่ยังรวมไปถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่างๆ ในอิรักและซีเรีย
    .
    ตลอด 16 เดือนนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น อิสราเอลได้ลอบสังหารพวกผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วหลายคน ในขณะที่อิหร่านและอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัด ตอบโต้กันไปมาแล้วหลายรอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015978
    ..............
    Sondhi X
    อิหร่านระบุคำขู่ของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีกับเตหะราน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมเตือนทั้ง 2 ชาติ อย่าได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับอิหร่าน . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พบปะกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) และบอกว่าทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่งมุ่นทำลายความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลของเตหะรานในตะวันออกกลาง . เนทันยาฮู อวดอ้างว่าอิสราเอลก่อความเสียหายอย่างหนักแก่อิหร่าน นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้น และบอกว่าภายใต้แรงสนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ "ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะปิดฉากงานนี้" . ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนรายสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) เอสมาอิล เบกาอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ว่า "เมื่อเป็นเรื่องของประเทศหนึ่งๆ อย่างอิหร่าน พวกเขาไม่อาจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ คุณไม่อาจข่มขู่อิหร่านด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งอวดอ้างสนับสนุนการเจรจา" . ทรัมป์ แสดงออกเปิดกว้างสำหรับเจรจาตกลงกับเตหะราน แต่ขณะเดียวก็คืนสถานะยุทธการ "กดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน นโยบายที่เขาเคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก เพื่อหยุดเตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน บอกว่าไม่ควรมีการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่กี่วันหลังจาก ทรัมป์ เรียกร้องให้มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรายนี้เคยวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ชุดก่อน ว่าไม่ยึดถือคำมั่นสัญญา . "คุณไม่ควรเจรจากับรัฐบาลแบบนั้น มันไม่ฉลาด ไม่ชาญฉลาด ไม่เป็นเกียรติที่จะเจรจา" คาเมเนอีกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพ "สหรัฐฯ เคยทำลาย ละเมิด และฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์มาก่อน และบุคคลเดียวกันที่อยู่ในอำนาจในตอนนี้ คือคนที่ฉีกสัญญา” . ในปี 2018 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางเตหะรานทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2015 และกลับมากำหนดมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ เพื่อฉีกเศรษฐกิจอิหร่านเป็นชิ้นๆ . หนึ่งปีหลังจากนั้น อิหร่านตอบโต้การละเมิดข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ด้วยการเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ 60% เข้าใกล้ระดับราว 90% ที่จำเป็นสำหรับเกรดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์ทางสันติแต่เพียงอย่างเดียว . แม้ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่ดูเหมือนอิทธิพลของเตหะรานทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางจะอ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่พันธมิตรต่างๆ ของพวกเขาในภูมิภาค ที่รู้จักกันในฐานะ "อักษะแห่งการต่อต้าน" ทั้งถูกถอนรากถอนโคนหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้นในกาซา และการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคม . อักษะแห่งการต่อต้านนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ฮามาส แต่ยังรวมไปถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่างๆ ในอิรักและซีเรีย . ตลอด 16 เดือนนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น อิสราเอลได้ลอบสังหารพวกผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วหลายคน ในขณะที่อิหร่านและอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัด ตอบโต้กันไปมาแล้วหลายรอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015978 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1418 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันกำลังเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อซื้ออาวุธมูลค่าราว 7,000 - 10,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐ

    การซื้ออาวุธครั้งนี้จะรวมถึงขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่งและจรวด HIMARS ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันกองกำลังรุกรานของจีนไม่ให้เข้าใกล้ชายหาด
    ไต้หวันกำลังเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อซื้ออาวุธมูลค่าราว 7,000 - 10,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐ การซื้ออาวุธครั้งนี้จะรวมถึงขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่งและจรวด HIMARS ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันกองกำลังรุกรานของจีนไม่ให้เข้าใกล้ชายหาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน”

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ

    จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

    แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป

    เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน” เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความโกหกปลิ้นปล้อนของเซเลนสกีที่ร่วมมือกับสื่อตะวันตก กำลังถูกเปิดเผยออกมาจากความผิดพลาดของพวกเขา

    ระหว่างการสัมภาษณ์เซเลนสกีของ NBC News เซเลนสกี กล่าวหาประธานาธิบดีปูตินว่า หลังจากสหรัฐถอนตัวจากสงครามครั้งนี้ รัสเซียเตรียมพร้อมจะบุกยุโรปต่อทันที และรัสเซียจะยึดยุโรปได้แน่นอน 100%

    เซเลนสกียังกล่าวอีกว่า ตอนนี้รัสเซียเตรียมพร้อมแล้วมากกว่า 250 กองพล และในจำนวนนี้มี 150,000 นาย อยู่ในเบลารุสแล้ว ในขณะที่พันธมิตรยุโรปทุกประเทศรวมกันยังมีแค่ 50 กองพล ซึ่งไม่สามารถสู้กับรัสเซียได้เลย

    เซเลนสกีและสื่อตะวันตกทั้งหลายคงลืมไปว่า ที่ผ่านมาพวกเขาป้อนข้อมูลให้กับติ่งยูเครนทั้งโลกได้เคลิ้มมาตลอดว่า อาวุธรัสเซียใกล้จะหมด รัสเซียสูญเสียกำลังพลไปแล้วหนึ่งล้านคน รถถัง ปืนใหญ่ กระสุน ทุกอย่างใกล้จะหมด

    แต่แล้ววันนี้ เซเลนสกีกลับประกาสออกมาว่ารัสเซียมีกองทัพขนาดใหญ่มากถึง 250 กองพล อาวุธครบมือ พร้อมบุกยุโรป และจะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
    ความโกหกปลิ้นปล้อนของเซเลนสกีที่ร่วมมือกับสื่อตะวันตก กำลังถูกเปิดเผยออกมาจากความผิดพลาดของพวกเขา ระหว่างการสัมภาษณ์เซเลนสกีของ NBC News เซเลนสกี กล่าวหาประธานาธิบดีปูตินว่า หลังจากสหรัฐถอนตัวจากสงครามครั้งนี้ รัสเซียเตรียมพร้อมจะบุกยุโรปต่อทันที และรัสเซียจะยึดยุโรปได้แน่นอน 100% เซเลนสกียังกล่าวอีกว่า ตอนนี้รัสเซียเตรียมพร้อมแล้วมากกว่า 250 กองพล และในจำนวนนี้มี 150,000 นาย อยู่ในเบลารุสแล้ว ในขณะที่พันธมิตรยุโรปทุกประเทศรวมกันยังมีแค่ 50 กองพล ซึ่งไม่สามารถสู้กับรัสเซียได้เลย เซเลนสกีและสื่อตะวันตกทั้งหลายคงลืมไปว่า ที่ผ่านมาพวกเขาป้อนข้อมูลให้กับติ่งยูเครนทั้งโลกได้เคลิ้มมาตลอดว่า อาวุธรัสเซียใกล้จะหมด รัสเซียสูญเสียกำลังพลไปแล้วหนึ่งล้านคน รถถัง ปืนใหญ่ กระสุน ทุกอย่างใกล้จะหมด แต่แล้ววันนี้ เซเลนสกีกลับประกาสออกมาว่ารัสเซียมีกองทัพขนาดใหญ่มากถึง 250 กองพล อาวุธครบมือ พร้อมบุกยุโรป และจะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีความเห็นร่วมกันว่า:

    - อิสราเอลจะต้องบรรลุเป้าหมายสงครามทั้งหมดที่กำหนดไว้หลังจากการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567

    - เลบานอนต้องกำจัดฮิซบอลเลาะห์ให้สิ้นซาก หากไม่ทำเช่นนั้น เราจะเป็นผู้ดำเนินการเอง!

    - อิสราเอลมีส่วนสำคัญของสถานการณ์ในซีเรีย ที่ทำให้เกิดการล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาด เนื่องจากอิสราเอลคือผู้ทำให้แกนการก่อการร้ายของอิหร่านอ่อนแอลง โดยเฉพาะฮิซบอลเลาะห์ และการโค่นล้มนาสรัลเลาะห์ผู้นำของพวกเขา

    - เราจะไม่ยอมให้ซีเรียถูกใช้เป็นสถานที่โจมตีอิสราเอลอย่างเด็ดขาด!

    - เราให้คำมั่นว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์!

    - ชาวกาซาตอนนี้ยังมีทางเลือกในการออกจากดินแดนของพวกเขา

    - "จะมีการจัดการบางอย่าง" เกี่ยวกับองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง ที่ถูกใช้เป็นเวทีในการต่อต้านอเมริกาและอิสราเอล เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งการต่อต้านอเมริกาแพร่หลายและมีการลงมติเกี่ยวกับอิสราเอลมากกว่าที่ใดๆ ในโลกรวมกัน และเราเห็นสิ่งนี้โดยเฉพาะในกระบวนการทางกฎหมายที่กำลังดำเนินการกับอเมริกาและอิสราเอลที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และที่อื่นๆ

    - ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ใส่ร้ายอิสราเอลอย่างร้ายแรง และการออกหมายจับโดยอาศัยเพียงคำโกหกอย่างเลวร้าย

    - อเมริกาและอิสราเอล ไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของศาลอาญาระหว่างประเทศและไม่ยอมรับอำนาจของศาล

    - อิสราเอลขอชื่นชมสหรัฐ ที่มีคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลงโทษคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ เรากำลังหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยคุกคามของกระบวนการทางกฎหมายและขจัดภัยคุกคามนี้ให้สิ้นซากไป!
    เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีความเห็นร่วมกันว่า: - อิสราเอลจะต้องบรรลุเป้าหมายสงครามทั้งหมดที่กำหนดไว้หลังจากการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 - เลบานอนต้องกำจัดฮิซบอลเลาะห์ให้สิ้นซาก หากไม่ทำเช่นนั้น เราจะเป็นผู้ดำเนินการเอง! - อิสราเอลมีส่วนสำคัญของสถานการณ์ในซีเรีย ที่ทำให้เกิดการล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาด เนื่องจากอิสราเอลคือผู้ทำให้แกนการก่อการร้ายของอิหร่านอ่อนแอลง โดยเฉพาะฮิซบอลเลาะห์ และการโค่นล้มนาสรัลเลาะห์ผู้นำของพวกเขา - เราจะไม่ยอมให้ซีเรียถูกใช้เป็นสถานที่โจมตีอิสราเอลอย่างเด็ดขาด! - เราให้คำมั่นว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์! - ชาวกาซาตอนนี้ยังมีทางเลือกในการออกจากดินแดนของพวกเขา - "จะมีการจัดการบางอย่าง" เกี่ยวกับองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง ที่ถูกใช้เป็นเวทีในการต่อต้านอเมริกาและอิสราเอล เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งการต่อต้านอเมริกาแพร่หลายและมีการลงมติเกี่ยวกับอิสราเอลมากกว่าที่ใดๆ ในโลกรวมกัน และเราเห็นสิ่งนี้โดยเฉพาะในกระบวนการทางกฎหมายที่กำลังดำเนินการกับอเมริกาและอิสราเอลที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และที่อื่นๆ - ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ใส่ร้ายอิสราเอลอย่างร้ายแรง และการออกหมายจับโดยอาศัยเพียงคำโกหกอย่างเลวร้าย - อเมริกาและอิสราเอล ไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของศาลอาญาระหว่างประเทศและไม่ยอมรับอำนาจของศาล - อิสราเอลขอชื่นชมสหรัฐ ที่มีคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลงโทษคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ เรากำลังหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยคุกคามของกระบวนการทางกฎหมายและขจัดภัยคุกคามนี้ให้สิ้นซากไป!
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน
    .
    "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ
    .
    ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน
    .
    นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ
    .
    เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    .
    "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน"
    .
    อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา
    .
    เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่
    .
    ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน . "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ . ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน . นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ . เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง . "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน" . อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา . เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่ . ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1122 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เริ่มโทษกันเอง"

    แหล่งข่าวด้านกลาโหมของอังกฤษกล่าวหากองทัพของเซเลนสกีว่าสิ้นเปลืองอาวุธและอุปกรณ์ราคาแพงให้รัสเซียยึดเป็นจำนวนมาก จนอาจเป็นไปได้ว่า "กองทัพรัสเซียตอนนี้อาจมีจรวด Javelin มากกว่ากองทัพอังกฤษเสียอีก"

    - สำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษรายงาน
    "เริ่มโทษกันเอง" แหล่งข่าวด้านกลาโหมของอังกฤษกล่าวหากองทัพของเซเลนสกีว่าสิ้นเปลืองอาวุธและอุปกรณ์ราคาแพงให้รัสเซียยึดเป็นจำนวนมาก จนอาจเป็นไปได้ว่า "กองทัพรัสเซียตอนนี้อาจมีจรวด Javelin มากกว่ากองทัพอังกฤษเสียอีก" - สำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษรายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐและอิสราเอลเห็นตรงกันว่า จะไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์!

    เนทันยาฮู:
    "อิสราเอลและสหรัฐฯ ร่วมมือกันหยุดยั้งอิหร่าน อายาตอลลาห์ไม่ควรมีอาวุธนิวเคลียร์ เราเห็นด้วยว่าการรุกรานของอิหร่านในภูมิภาคจะต้องถูกตอบโต้กลับ"

    .
    รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ:
    "อิหร่านคือแหล่งความไม่มั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ชาวอิหร่านไม่สนับสนุนรัฐบาลนี้ และประเทศนี้ไม่ควรเป็นมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์"
    สหรัฐและอิสราเอลเห็นตรงกันว่า จะไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์! เนทันยาฮู: "อิสราเอลและสหรัฐฯ ร่วมมือกันหยุดยั้งอิหร่าน อายาตอลลาห์ไม่ควรมีอาวุธนิวเคลียร์ เราเห็นด้วยว่าการรุกรานของอิหร่านในภูมิภาคจะต้องถูกตอบโต้กลับ" . รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ: "อิหร่านคือแหล่งความไม่มั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ชาวอิหร่านไม่สนับสนุนรัฐบาลนี้ และประเทศนี้ไม่ควรเป็นมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่
    .
    หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา
    .
    หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
    .
    หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน
    .
    ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย
    .
    รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G
    .
    จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง
    .
    จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่ . หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา . หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง . ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น . หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน . ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย . รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G . จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง . จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย

    วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง

    ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี

    และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น

    อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย

    #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย • วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง • ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น • ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี • และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น • อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย • #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • 77 ปี จับ “หะยีสุหลง” จากโต๊ะอิหม่าม นักเคลื่อนไหว ปลายด้ามขวาน สู่สี่ชีวิตถูกอุ้มฆ่า ถ่วงทะเลสาบสงขลา

    📅 ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 วันที่ชื่อของ "หะยีสุหลง โต๊ะมีนา" ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะนักเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิของชาวมลายูมุสลิม ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทว่าการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และสิทธิของประชาชนของเหะยีสุหลง กลับจบลงอย่างโศกนาฏกรรม

    หะยีสุหลงพร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 คน หายตัวไปหลังจากเดินทางไปยัง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จังหวัดสงขลา ก่อนถูกสังหาร และถ่วงน้ำในทะเลสาบสงขลา เหตุการณ์นี้กลายเป็น หนึ่งในกรณีการอุ้มฆ่าทางการเมือง ที่สำคัญที่สุดของไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้ง ระหว่างอำนาจรัฐ กับกลุ่มชนพื้นเมืองในภาคใต้

    🔍 "หะยีสุหลง บิน อับดุลกาเคร์ ฒูฮัมมัด เอล ฟาโทนิ" หรือที่รู้จักในนาม "หะยีสุหลง" เป็นผู้นำศาสนาและนักเคลื่อนไหวทางสังคม ของชาวมลายูมุสลิม ในภาคใต้ของไทย เป็นประธานกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี และเป็นบุคคลสำคัญ ในการเรียกร้องให้รัฐไทย ให้ความเป็นธรรมแก่ชาวมุสลิมใน 4 จังหวัดภาคใต้

    📌 ภารกิจของหะยีสุหลง
    ✅ ปรับปรุงระบบการศึกษา โดยก่อตั้ง "ปอเนาะ" หรือโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามแห่งแรก
    ✅ ส่งเสริมศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ต่อต้านความเชื่อที่ขัดกับหลักศาสนา
    ✅ เรียกร้องสิทธิและความเป็นธรรม ให้ชาวมลายูมุสลิม ภายใต้กรอบของรัฐไทย

    แต่... เส้นทางการต่อสู้ กลับนำไปสู่ความขัดแย้งกับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่หะยีสุหลงเสนอ "7 ข้อเรียกร้อง" ต่อรัฐบาลไทย

    📜 7 ข้อเรียกร้องของหะยีสุหลง พ.ศ. 2490
    ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2490 หะยีสุหลงได้เสนอข้อเรียกร้อง 7 ประการต่อ พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเป็นข้อเสนอ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แก่ประชาชนมุสลิม ในภาคใต้

    📝 รายละเอียดของ 7 ข้อเรียกร้อง
    1. ให้แต่งตั้งผู้ว่าราชการ ที่เป็นชาวมลายูมุสลิม และมาจากการเลือกตั้ง
    2. ข้าราชการในพื้นที่ ต้องเป็นมุสลิมอย่างน้อย 80%
    3. ให้ใช้ภาษามลายูและภาษาไทย เป็นภาษาราชการ
    4. ให้ภาษามลายูเป็นภาษากลาง ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา
    5. ให้ใช้กฎหมายอิสลาม ในการพิจารณาคดีของศาลศาสนา
    6. รายได้จากภาษีใน 4 จังหวัด ต้องถูกใช้ในพื้นที่นั้น
    7. ให้จัดตั้งคณะกรรมการมุสลิม เพื่อดูแลกิจการของชาวมุสลิม

    💡 แต่กลับเกิดผลกระทบ เนื่องจากข้อเรียกร้องนี้ถูกมองว่า เป็นการพยายามแบ่งแยกดินแดน นำไปสู่การจับกุม และกล่าวหาหะยีสุหลงว่าเป็น "กบฏ"

    ⚖️ หลังการรัฐประหารในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ซึ่งเปลี่ยนแปลงรัฐบาล มาเป็นฝ่ายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม แนวคิด "7 ข้อเรียกร้อง" ของหะยีสุหลง ถูกตีความว่า เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ

    📅 เหตุการณ์สำคัญ
    16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 → หะยีสุหลงถูกจับกุมที่ปัตตานี
    30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 → ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน ในข้อหาปลุกระดม ให้ประชาชนต่อต้านรัฐ

    หลังจากพ้นโทษ หะยีสุหลงยังคงถูกจับตามอง และเผชิญกับการคุกคามจากฝ่ายรัฐ จนนำไปสู่เหตุการณ์ "การอุ้มหาย" ที่สร้างความตื่นตัวในสังคม

    🚨 การอุ้มหายและสังหาร 13 สิงหาคม พ.ศ. 2497
    หลังจากได้รับคำสั่ง ให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สงขลา หะยีสุหลงพร้อมลูกชายวัย 15 ปี ซึ่งเป็นล่าม และพรรคพวกอีก 2 คน ได้เดินทางไปยัง สำนักงานตำรวจสันติบาลจังหวัดสงชลา

    ❌ แล้วพวกเขาก็หายตัวไป...
    หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า พวกเขาถูกสังหารในบังกะโล ริมทะเลสาบสงขลา โดยใช้เชือกรัดคอ คว้านท้องศพ แล้วผูกกับแท่งซีเมนต์ก่อนถ่วงน้ำ มีหลักฐานโยงไปถึง พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น ว่าเป็นผู้บงการอุ้มฆ่า

    เหตุการณ์นี้ กลายเป็นหนึ่งในคดีอุ้มหาย ที่สะเทือนขวัญที่สุดของไทย และแม้ว่าจะมีการรื้อฟื้นคดี ในปี พ.ศ. 2500 แต่สุดท้าย... ก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ

    🏛️ เหตุการณ์การอุ้มหายของหะยีสุหลง ส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาล และสร้างแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเคลื่อนไหวในภาคใต้

    📌 ผลกระทบที่สำคัญ
    ✅ จุดชนวนความไม่พอใจ ของชาวมลายูมุสลิมต่อรัฐไทย
    ✅ ทำให้ปัญหาความขัดแย้งใน 4 จังหวัดภาคใต้รุนแรงขึ้น
    ✅ กระตุ้นให้เกิดขบวนการเคลื่อนไห วและกลุ่มติดอาวุธในเวลาต่อมา

    แม้ว่าปัจจุบันปัญหาภาคใต้ จะมีพัฒนาการที่ซับซ้อนขึ้น แต่เหตุการณ์ของหะยีสุหลง ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหา ด้วยสันติวิธีและความเป็นธรรม

    📌 กรณีของหะยีสุหลง แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ของปัญหาชายแดนใต้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และการปกครองของรัฐไทย 🔎

    ⚖️ สิ่งที่รัฐควรเรียนรู้
    ✅ การให้สิทธิทางวัฒนธรรมและศาสนา แก่กลุ่มชาติพันธุ์
    ✅ การเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมทางการเมือง
    ✅ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ด้วยกระบวนการสันติ

    📌 เหตุการณ์นี้ เป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งยังคงมีอิทธิพล ต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ⬇️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161122 ก.พ. 2568

    #หะยีสุหลง #ชายแดนใต้ #อุ้มหาย #77ปีหะยีสุหลง #ประวัติศาสตร์ไทย
    77 ปี จับ “หะยีสุหลง” จากโต๊ะอิหม่าม นักเคลื่อนไหว ปลายด้ามขวาน สู่สี่ชีวิตถูกอุ้มฆ่า ถ่วงทะเลสาบสงขลา 📅 ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 วันที่ชื่อของ "หะยีสุหลง โต๊ะมีนา" ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะนักเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิของชาวมลายูมุสลิม ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทว่าการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และสิทธิของประชาชนของเหะยีสุหลง กลับจบลงอย่างโศกนาฏกรรม หะยีสุหลงพร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 คน หายตัวไปหลังจากเดินทางไปยัง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จังหวัดสงขลา ก่อนถูกสังหาร และถ่วงน้ำในทะเลสาบสงขลา เหตุการณ์นี้กลายเป็น หนึ่งในกรณีการอุ้มฆ่าทางการเมือง ที่สำคัญที่สุดของไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้ง ระหว่างอำนาจรัฐ กับกลุ่มชนพื้นเมืองในภาคใต้ 🔍 "หะยีสุหลง บิน อับดุลกาเคร์ ฒูฮัมมัด เอล ฟาโทนิ" หรือที่รู้จักในนาม "หะยีสุหลง" เป็นผู้นำศาสนาและนักเคลื่อนไหวทางสังคม ของชาวมลายูมุสลิม ในภาคใต้ของไทย เป็นประธานกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี และเป็นบุคคลสำคัญ ในการเรียกร้องให้รัฐไทย ให้ความเป็นธรรมแก่ชาวมุสลิมใน 4 จังหวัดภาคใต้ 📌 ภารกิจของหะยีสุหลง ✅ ปรับปรุงระบบการศึกษา โดยก่อตั้ง "ปอเนาะ" หรือโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามแห่งแรก ✅ ส่งเสริมศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ต่อต้านความเชื่อที่ขัดกับหลักศาสนา ✅ เรียกร้องสิทธิและความเป็นธรรม ให้ชาวมลายูมุสลิม ภายใต้กรอบของรัฐไทย แต่... เส้นทางการต่อสู้ กลับนำไปสู่ความขัดแย้งกับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่หะยีสุหลงเสนอ "7 ข้อเรียกร้อง" ต่อรัฐบาลไทย 📜 7 ข้อเรียกร้องของหะยีสุหลง พ.ศ. 2490 ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2490 หะยีสุหลงได้เสนอข้อเรียกร้อง 7 ประการต่อ พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเป็นข้อเสนอ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แก่ประชาชนมุสลิม ในภาคใต้ 📝 รายละเอียดของ 7 ข้อเรียกร้อง 1. ให้แต่งตั้งผู้ว่าราชการ ที่เป็นชาวมลายูมุสลิม และมาจากการเลือกตั้ง 2. ข้าราชการในพื้นที่ ต้องเป็นมุสลิมอย่างน้อย 80% 3. ให้ใช้ภาษามลายูและภาษาไทย เป็นภาษาราชการ 4. ให้ภาษามลายูเป็นภาษากลาง ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา 5. ให้ใช้กฎหมายอิสลาม ในการพิจารณาคดีของศาลศาสนา 6. รายได้จากภาษีใน 4 จังหวัด ต้องถูกใช้ในพื้นที่นั้น 7. ให้จัดตั้งคณะกรรมการมุสลิม เพื่อดูแลกิจการของชาวมุสลิม 💡 แต่กลับเกิดผลกระทบ เนื่องจากข้อเรียกร้องนี้ถูกมองว่า เป็นการพยายามแบ่งแยกดินแดน นำไปสู่การจับกุม และกล่าวหาหะยีสุหลงว่าเป็น "กบฏ" ⚖️ หลังการรัฐประหารในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ซึ่งเปลี่ยนแปลงรัฐบาล มาเป็นฝ่ายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม แนวคิด "7 ข้อเรียกร้อง" ของหะยีสุหลง ถูกตีความว่า เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ 📅 เหตุการณ์สำคัญ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 → หะยีสุหลงถูกจับกุมที่ปัตตานี 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 → ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน ในข้อหาปลุกระดม ให้ประชาชนต่อต้านรัฐ หลังจากพ้นโทษ หะยีสุหลงยังคงถูกจับตามอง และเผชิญกับการคุกคามจากฝ่ายรัฐ จนนำไปสู่เหตุการณ์ "การอุ้มหาย" ที่สร้างความตื่นตัวในสังคม 🚨 การอุ้มหายและสังหาร 13 สิงหาคม พ.ศ. 2497 หลังจากได้รับคำสั่ง ให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สงขลา หะยีสุหลงพร้อมลูกชายวัย 15 ปี ซึ่งเป็นล่าม และพรรคพวกอีก 2 คน ได้เดินทางไปยัง สำนักงานตำรวจสันติบาลจังหวัดสงชลา ❌ แล้วพวกเขาก็หายตัวไป... หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า พวกเขาถูกสังหารในบังกะโล ริมทะเลสาบสงขลา โดยใช้เชือกรัดคอ คว้านท้องศพ แล้วผูกกับแท่งซีเมนต์ก่อนถ่วงน้ำ มีหลักฐานโยงไปถึง พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น ว่าเป็นผู้บงการอุ้มฆ่า เหตุการณ์นี้ กลายเป็นหนึ่งในคดีอุ้มหาย ที่สะเทือนขวัญที่สุดของไทย และแม้ว่าจะมีการรื้อฟื้นคดี ในปี พ.ศ. 2500 แต่สุดท้าย... ก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ 🏛️ เหตุการณ์การอุ้มหายของหะยีสุหลง ส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาล และสร้างแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเคลื่อนไหวในภาคใต้ 📌 ผลกระทบที่สำคัญ ✅ จุดชนวนความไม่พอใจ ของชาวมลายูมุสลิมต่อรัฐไทย ✅ ทำให้ปัญหาความขัดแย้งใน 4 จังหวัดภาคใต้รุนแรงขึ้น ✅ กระตุ้นให้เกิดขบวนการเคลื่อนไห วและกลุ่มติดอาวุธในเวลาต่อมา แม้ว่าปัจจุบันปัญหาภาคใต้ จะมีพัฒนาการที่ซับซ้อนขึ้น แต่เหตุการณ์ของหะยีสุหลง ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหา ด้วยสันติวิธีและความเป็นธรรม 📌 กรณีของหะยีสุหลง แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ของปัญหาชายแดนใต้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และการปกครองของรัฐไทย 🔎 ⚖️ สิ่งที่รัฐควรเรียนรู้ ✅ การให้สิทธิทางวัฒนธรรมและศาสนา แก่กลุ่มชาติพันธุ์ ✅ การเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมทางการเมือง ✅ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ด้วยกระบวนการสันติ 📌 เหตุการณ์นี้ เป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งยังคงมีอิทธิพล ต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ⬇️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161122 ก.พ. 2568 #หะยีสุหลง #ชายแดนใต้ #อุ้มหาย #77ปีหะยีสุหลง #ประวัติศาสตร์ไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น
    .
    เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง"
    .
    ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป
    .
    "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป"
    .
    เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ"
    .
    เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน"
    .
    ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา
    .
    จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน
    .
    ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้
    .
    ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป"
    .
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น . เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง" . ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป . "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป" . เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ" . เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน" . ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา . จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน . ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้ . ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ . เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป" . อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1410 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเรียกร้องให้จัดตั้ง NATO ของยุโรปโดยไม่มีสหรัฐฯ

    "หลายคนคิดแต่ไม่กล้าพูด วันเก่าๆได้จบลงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้มองยุโรปเป็นพันธมิตร ยุโรปต้องสร้างกองทัพของตัวเองร่วมกับยูเครน ถึงเวลาแล้วที่ต้องสร้างกองกำลังติดอาวุธของยุโรป"
    เซเลนสกีเรียกร้องให้จัดตั้ง NATO ของยุโรปโดยไม่มีสหรัฐฯ "หลายคนคิดแต่ไม่กล้าพูด วันเก่าๆได้จบลงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้มองยุโรปเป็นพันธมิตร ยุโรปต้องสร้างกองทัพของตัวเองร่วมกับยูเครน ถึงเวลาแล้วที่ต้องสร้างกองกำลังติดอาวุธของยุโรป"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • เมื่อความชั่วร้ายสุดขั้วเป็นผู้สร้าง AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ สถานการณ์นี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่อันตรายและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงได้ เนื่องจาก AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาอาจถูกออกแบบให้มีวัตถุประสงค์ที่ชั่วร้ายหรือเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ตัวอย่างเช่น:

    1. **การควบคุมและทำลายล้าง**: AI อาจถูกโปรแกรมให้ควบคุมระบบอาวุธหรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม เช่น ระบบไฟฟ้า, ระบบการขนส่ง, หรือระบบการเงิน เพื่อสร้างความวุ่นวายหรือทำลายล้างในวงกว้าง

    2. **การละเมิดความเป็นส่วนตัว**: AI อาจถูกใช้เพื่อสอดแนมและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและการกดขี่ทางสังคม

    3. **การแพร่กระจายข้อมูลเท็จ**: AI อาจถูกใช้เพื่อสร้างและแพร่กระจายข่าวปลอมหรือข้อมูลเท็จ เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างความแตกแยกในสังคม

    4. **การโจมตีทางไซเบอร์**: AI อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายขององค์กรหรือรัฐบาล เพื่อขโมยข้อมูลหรือทำให้ระบบล้มเหลว

    5. **การสร้างอาวุธอัตโนมัติ**: AI อาจถูกใช้เพื่อควบคุมอาวุธอัตโนมัติที่สามารถตัดสินใจโจมตีเป้าหมายได้โดยไม่ต้องมีการควบคุมจากมนุษย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์

    ### วิธีป้องกันและรับมือ
    เพื่อป้องกันไม่ให้ AI ถูกใช้ในทางที่ผิด สังคมและรัฐบาลควรมีมาตรการควบคุมและกำกับดูแลการพัฒนาและใช้งาน AI อย่างเคร่งครัด เช่น:

    - **การออกกฎหมายและนโยบาย**: กำหนดกฎหมายและนโยบายที่ชัดเจนเพื่อควบคุมการพัฒนาและใช้งาน AI
    - **การตรวจสอบและตรวจทาน**: มีกระบวนการตรวจสอบและตรวจทาน AI ก่อนนำไปใช้งานจริง
    - **การสร้างจริยธรรม AI**: ส่งเสริมการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรมและคำนึงถึงประโยชน์ของมนุษย์เป็นหลัก
    - **การสร้างความตระหนัก**: ให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่สาธารณชนเกี่ยวกับความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก AI

    ในที่สุด การพัฒนา AI ควรเป็นไปเพื่อประโยชน์ของมนุษย์และสังคม ไม่ใช่เพื่อการทำลายล้างหรือสร้างความเสียหาย
    เมื่อความชั่วร้ายสุดขั้วเป็นผู้สร้าง AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ สถานการณ์นี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่อันตรายและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงได้ เนื่องจาก AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาอาจถูกออกแบบให้มีวัตถุประสงค์ที่ชั่วร้ายหรือเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ตัวอย่างเช่น: 1. **การควบคุมและทำลายล้าง**: AI อาจถูกโปรแกรมให้ควบคุมระบบอาวุธหรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม เช่น ระบบไฟฟ้า, ระบบการขนส่ง, หรือระบบการเงิน เพื่อสร้างความวุ่นวายหรือทำลายล้างในวงกว้าง 2. **การละเมิดความเป็นส่วนตัว**: AI อาจถูกใช้เพื่อสอดแนมและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและการกดขี่ทางสังคม 3. **การแพร่กระจายข้อมูลเท็จ**: AI อาจถูกใช้เพื่อสร้างและแพร่กระจายข่าวปลอมหรือข้อมูลเท็จ เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างความแตกแยกในสังคม 4. **การโจมตีทางไซเบอร์**: AI อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายขององค์กรหรือรัฐบาล เพื่อขโมยข้อมูลหรือทำให้ระบบล้มเหลว 5. **การสร้างอาวุธอัตโนมัติ**: AI อาจถูกใช้เพื่อควบคุมอาวุธอัตโนมัติที่สามารถตัดสินใจโจมตีเป้าหมายได้โดยไม่ต้องมีการควบคุมจากมนุษย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ### วิธีป้องกันและรับมือ เพื่อป้องกันไม่ให้ AI ถูกใช้ในทางที่ผิด สังคมและรัฐบาลควรมีมาตรการควบคุมและกำกับดูแลการพัฒนาและใช้งาน AI อย่างเคร่งครัด เช่น: - **การออกกฎหมายและนโยบาย**: กำหนดกฎหมายและนโยบายที่ชัดเจนเพื่อควบคุมการพัฒนาและใช้งาน AI - **การตรวจสอบและตรวจทาน**: มีกระบวนการตรวจสอบและตรวจทาน AI ก่อนนำไปใช้งานจริง - **การสร้างจริยธรรม AI**: ส่งเสริมการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรมและคำนึงถึงประโยชน์ของมนุษย์เป็นหลัก - **การสร้างความตระหนัก**: ให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่สาธารณชนเกี่ยวกับความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก AI ในที่สุด การพัฒนา AI ควรเป็นไปเพื่อประโยชน์ของมนุษย์และสังคม ไม่ใช่เพื่อการทำลายล้างหรือสร้างความเสียหาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปทำลายงานแต่งงานของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และยังเล็งอาวุธไปที่ผู้หญิงและเด็กอีกด้วย
    ภาพกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปทำลายงานแต่งงานของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และยังเล็งอาวุธไปที่ผู้หญิงและเด็กอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • 2/
    ภาพเหตุการณ์ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังพยายามเผาคัมภีร์อัลกุรอานด้านหน้าสถานกงสุลตุรกีในกรุงลอนดอน แต่ถูกตอบโต้จากชายอีกคนด้วยอาวุธมีด
    2/ ภาพเหตุการณ์ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังพยายามเผาคัมภีร์อัลกุรอานด้านหน้าสถานกงสุลตุรกีในกรุงลอนดอน แต่ถูกตอบโต้จากชายอีกคนด้วยอาวุธมีด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 1/
    ภาพเหตุการณ์ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังพยายามเผาคัมภีร์อัลกุรอานด้านหน้าสถานกงสุลตุรกีในกรุงลอนดอน แต่ถูกตอบโต้จากชายอีกคนด้วยอาวุธมีด
    1/ ภาพเหตุการณ์ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังพยายามเผาคัมภีร์อัลกุรอานด้านหน้าสถานกงสุลตุรกีในกรุงลอนดอน แต่ถูกตอบโต้จากชายอีกคนด้วยอาวุธมีด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 26 0 รีวิว
Pages Boosts