• อดีตรอง ผอ.ข่าวกรอง ตั้งคำถาม ปราสาทตาควายจะได้คืนไหม ชี้ไทยมี 2 ทางเลือก สู้รบ หรือ เจรจาไลดาร์
    https://www.thai-tai.tv/news/22208/
    .
    #ไทยไท #ปราสาทตาควาย #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เจรจาชายแดน #นันทิวัฒน์สมารถ #ไลดาร์
    อดีตรอง ผอ.ข่าวกรอง ตั้งคำถาม ปราสาทตาควายจะได้คืนไหม ชี้ไทยมี 2 ทางเลือก สู้รบ หรือ เจรจาไลดาร์ https://www.thai-tai.tv/news/22208/ . #ไทยไท #ปราสาทตาควาย #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เจรจาชายแดน #นันทิวัฒน์สมารถ #ไลดาร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • Namewee แร็ปเปอร์มาเลย์ฯ ถูกกล่าวหาคดียาเสพติด

    กลายเป็นข่าวดังในมาเลเซียและเอเชีย เมื่อ เนมวี (Namewee) หรือนายวี เหมิง จือ (Wee Meng Chee) แร็ปเปอร์ นักร้อง และนักแสดงชาวมาเลเซียวัย 41 ปี ถูกตั้งข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติด ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นิวสเตรทไทมส์ (NST) เปิดเผยว่า ดาโต๊ะ ฟาดิล มาร์ซุส ผู้บัญชาการตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ ยืนยันว่าเจ้าตัวถูกจับกุมเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ต.ค. ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากการตรวจค้นพบยาเม็ด 9 เม็ด ซึ่งสงสัยว่าเป็นยาอี (Ecstasy) นอกจากนี้ ผลตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายวี พบสารแอมเฟตามีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และ THC

    เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวีถูกตั้งข้อหา 2 ข้อหา ภายใต้พระราชบัญญัติยาเสพติดอันตราย ว่าด้วยการครอบครองและการเสพยาเสพติดของมาเลเซีย โดยมาตรา 39A(1) โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี และโบยไม่เกิน 9 ครั้ง หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด ส่วนมาตรา 15(1)(a) ว่าด้วยการเสพยาเสพติด กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายวีให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัว โดยมีผู้ค้ำประกันหนึ่งรายต่อหนึ่งข้อหา ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 4,000 ริงกิตต่อข้อหา รวม 8,000 ริงกิต (ประมาณ 62,000 บาท) และนัดฟังการพิจารณาคดีในวันที่ 18 ธ.ค.

    ด้านเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่าไม่ได้เสพและครอบครองยาเสพติด อย่างมากก็แค่ดื่มสุราบ่อยเท่านั้น รอให้รายงานของตำรวจออกมาก็จะรู้ความจริง คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือน ที่ยังไม่ตอบก่อนหน้านี้เพราะคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาตนยังถูกแบล็กเมล์ พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงการเสียชีวิตของอินฟลูเอนเซอร์สาวแนวเซ็กซี่ Nurse Goddess (เทพธิดาพยาบาล) คือ น.ส.ไอริส เซียะ (Iris Hsieh) ชาวไต้หวันวัย 31 ปี ที่เสียชีวิตในโรงแรมเดียวกันนี้ ว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และตำหนิว่ารถพยาบาลมาช้าเกือบ 1 ชั่วโมงอีกด้วย

    สำหรับเนมวี เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองมัวร์ รัฐยะโฮร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการสื่อสารมวลชน ที่มหาวิทยาลัยหมิงชวน ไต้หวัน มีชื่อเสียงในไทยจากเพลง Thai Love Song และ Thai Cha Cha ฟีเจอริ่งกับ บี้ เดอะสกา (นายกฤษณ์ บุญญะรัง) เผยแพร่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาเคยมีข้อกล่าวหาเรื่องมิวสิควิดีโอเพลง Oh My God ถูกวิจารณ์ว่าดูหมิ่นความอ่อนไหวทางศาสนา และการออกเพลง Fragile ล้อเลียนชาตินิยมจีนและประเด็นทางการเมืองละเอียดอ่อน กลายเป็นเพลงต้องห้ามในจีน

    #Newskit
    Namewee แร็ปเปอร์มาเลย์ฯ ถูกกล่าวหาคดียาเสพติด กลายเป็นข่าวดังในมาเลเซียและเอเชีย เมื่อ เนมวี (Namewee) หรือนายวี เหมิง จือ (Wee Meng Chee) แร็ปเปอร์ นักร้อง และนักแสดงชาวมาเลเซียวัย 41 ปี ถูกตั้งข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติด ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นิวสเตรทไทมส์ (NST) เปิดเผยว่า ดาโต๊ะ ฟาดิล มาร์ซุส ผู้บัญชาการตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ ยืนยันว่าเจ้าตัวถูกจับกุมเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ต.ค. ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากการตรวจค้นพบยาเม็ด 9 เม็ด ซึ่งสงสัยว่าเป็นยาอี (Ecstasy) นอกจากนี้ ผลตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายวี พบสารแอมเฟตามีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และ THC เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวีถูกตั้งข้อหา 2 ข้อหา ภายใต้พระราชบัญญัติยาเสพติดอันตราย ว่าด้วยการครอบครองและการเสพยาเสพติดของมาเลเซีย โดยมาตรา 39A(1) โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี และโบยไม่เกิน 9 ครั้ง หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด ส่วนมาตรา 15(1)(a) ว่าด้วยการเสพยาเสพติด กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายวีให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัว โดยมีผู้ค้ำประกันหนึ่งรายต่อหนึ่งข้อหา ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 4,000 ริงกิตต่อข้อหา รวม 8,000 ริงกิต (ประมาณ 62,000 บาท) และนัดฟังการพิจารณาคดีในวันที่ 18 ธ.ค. ด้านเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่าไม่ได้เสพและครอบครองยาเสพติด อย่างมากก็แค่ดื่มสุราบ่อยเท่านั้น รอให้รายงานของตำรวจออกมาก็จะรู้ความจริง คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือน ที่ยังไม่ตอบก่อนหน้านี้เพราะคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาตนยังถูกแบล็กเมล์ พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงการเสียชีวิตของอินฟลูเอนเซอร์สาวแนวเซ็กซี่ Nurse Goddess (เทพธิดาพยาบาล) คือ น.ส.ไอริส เซียะ (Iris Hsieh) ชาวไต้หวันวัย 31 ปี ที่เสียชีวิตในโรงแรมเดียวกันนี้ ว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และตำหนิว่ารถพยาบาลมาช้าเกือบ 1 ชั่วโมงอีกด้วย สำหรับเนมวี เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองมัวร์ รัฐยะโฮร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการสื่อสารมวลชน ที่มหาวิทยาลัยหมิงชวน ไต้หวัน มีชื่อเสียงในไทยจากเพลง Thai Love Song และ Thai Cha Cha ฟีเจอริ่งกับ บี้ เดอะสกา (นายกฤษณ์ บุญญะรัง) เผยแพร่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาเคยมีข้อกล่าวหาเรื่องมิวสิควิดีโอเพลง Oh My God ถูกวิจารณ์ว่าดูหมิ่นความอ่อนไหวทางศาสนา และการออกเพลง Fragile ล้อเลียนชาตินิยมจีนและประเด็นทางการเมืองละเอียดอ่อน กลายเป็นเพลงต้องห้ามในจีน #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มาเลเซียผลักดันอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงสู่ไซเบอร์สเปซ”

    ที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 กลายเป็นเวทีสำคัญที่มาเลเซียใช้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลไปสู่โลกไซเบอร์

    รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย นายโมฮัมหมัด คาเลด นอร์ดิน กล่าวเปิดประชุมว่า “ภัยคุกคามในยุคนี้ไม่จำกัดแค่พรมแดนหรือภูมิประเทศอีกต่อไป” พร้อมเตือนว่า การโจมตีทางไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ล้มรัฐบาล และสร้างความปั่นป่วนในสังคมได้ไม่แพ้ภัยทางทะเล

    การประชุมครั้งนี้ยังมีการหารือร่วมกับประเทศคู่เจรจา เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมด้วย

    นอกจากนี้ มาเลเซียยังเสนอให้จัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนเพื่อช่วยเหลือไทยและกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดน และย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการผลักดันสันติภาพในเมียนมา ซึ่งยังเผชิญกับวิกฤติหลังรัฐประหารในปี 2021

    ในมุมที่น่าสนใจเพิ่มเติม โลกไซเบอร์กลายเป็นสนามรบใหม่ที่ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน และการโจมตีไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร แต่ใช้ “ข้อมูล” และ “ช่องโหว่” เป็นอาวุธ การร่วมมือระดับภูมิภาคจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI และ IoT ทำให้ระบบต่างๆ เชื่อมโยงกันมากขึ้น

    มาเลเซียเสนอขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลสู่ไซเบอร์
    ภัยไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานและเสถียรภาพของประเทศ
    การโจมตีทางไซเบอร์มีผลกระทบเทียบเท่าการรุกรานทางทหาร
    มาเลเซียชี้ว่า “ภัยคุกคามวันนี้ไร้พรมแดน”

    การประชุมมีประเทศคู่เจรจาเข้าร่วมหลายชาติ
    สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย
    รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมประชุมโดยตรง

    มาเลเซียเสนอจัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนช่วยไทย-กัมพูชา
    เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ
    ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการรับรองโดยผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย

    อาเซียนยังคงผลักดันสันติภาพในเมียนมา
    เรียกร้องให้เมียนมากลับสู่แนวทางตามฉันทามติ 5 ข้อ
    ผู้นำทหารเมียนมายังถูกกีดกันจากการประชุมอาเซียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/malaysia-urges-asean-to-expand-defense-cooperation-in-cyberspace
    🛡️ “มาเลเซียผลักดันอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงสู่ไซเบอร์สเปซ” ที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 กลายเป็นเวทีสำคัญที่มาเลเซียใช้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลไปสู่โลกไซเบอร์ รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย นายโมฮัมหมัด คาเลด นอร์ดิน กล่าวเปิดประชุมว่า “ภัยคุกคามในยุคนี้ไม่จำกัดแค่พรมแดนหรือภูมิประเทศอีกต่อไป” พร้อมเตือนว่า การโจมตีทางไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ล้มรัฐบาล และสร้างความปั่นป่วนในสังคมได้ไม่แพ้ภัยทางทะเล การประชุมครั้งนี้ยังมีการหารือร่วมกับประเทศคู่เจรจา เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ มาเลเซียยังเสนอให้จัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนเพื่อช่วยเหลือไทยและกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดน และย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการผลักดันสันติภาพในเมียนมา ซึ่งยังเผชิญกับวิกฤติหลังรัฐประหารในปี 2021 ในมุมที่น่าสนใจเพิ่มเติม โลกไซเบอร์กลายเป็นสนามรบใหม่ที่ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน และการโจมตีไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร แต่ใช้ “ข้อมูล” และ “ช่องโหว่” เป็นอาวุธ การร่วมมือระดับภูมิภาคจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI และ IoT ทำให้ระบบต่างๆ เชื่อมโยงกันมากขึ้น ✅ มาเลเซียเสนอขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลสู่ไซเบอร์ ➡️ ภัยไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานและเสถียรภาพของประเทศ ➡️ การโจมตีทางไซเบอร์มีผลกระทบเทียบเท่าการรุกรานทางทหาร ➡️ มาเลเซียชี้ว่า “ภัยคุกคามวันนี้ไร้พรมแดน” ✅ การประชุมมีประเทศคู่เจรจาเข้าร่วมหลายชาติ ➡️ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ➡️ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมประชุมโดยตรง ✅ มาเลเซียเสนอจัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนช่วยไทย-กัมพูชา ➡️ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ ➡️ ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการรับรองโดยผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย ✅ อาเซียนยังคงผลักดันสันติภาพในเมียนมา ➡️ เรียกร้องให้เมียนมากลับสู่แนวทางตามฉันทามติ 5 ข้อ ➡️ ผู้นำทหารเมียนมายังถูกกีดกันจากการประชุมอาเซียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/malaysia-urges-asean-to-expand-defense-cooperation-in-cyberspace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Malaysia urges Asean to expand defense cooperation in cyberspace
    Malaysia called on Oct 31 for fellow members of the Association of South-East Asian Nations to extend their security partnerships from the high seas to cyberspace at an annual meeting of the bloc's defense ministers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่หยุดเอ่ยปากชมความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต่อบทบาทของกัวลาลัมเปอร์ ที่นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพประวัติศาสตร์ระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเบอร์นามา สื่อมวลชนมาเลเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103516

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire


    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่หยุดเอ่ยปากชมความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต่อบทบาทของกัวลาลัมเปอร์ ที่นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพประวัติศาสตร์ระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเบอร์นามา สื่อมวลชนมาเลเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103516 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองหัวหน้า พปชร. หวั่น MOU แรร์เอิร์ธ เปิดช่องสหรัฐฯ แทรกแซงข้อมูลทรัพยากร ส่อ "เลือกข้าง" มหาอำนาจ
    https://www.thai-tai.tv/news/22101/
    .
    #ไทยไท #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #MOUแร่หายาก #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เลือกข้าง #ภูมิรัฐศาสตร์ #สแกมเมอร์

    รองหัวหน้า พปชร. หวั่น MOU แรร์เอิร์ธ เปิดช่องสหรัฐฯ แทรกแซงข้อมูลทรัพยากร ส่อ "เลือกข้าง" มหาอำนาจ https://www.thai-tai.tv/news/22101/ . #ไทยไท #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #MOUแร่หายาก #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เลือกข้าง #ภูมิรัฐศาสตร์ #สแกมเมอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกรัฐบาลเผยสาระสำคัญของ "Joint Declaration" ที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อยุติความตึงเครียดชายแดนอย่างถาวร โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน และลดการยั่วยุ ก่อนที่ไทยจะพิจารณา "ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการ" และดำเนินการ "ปล่อยเชลยศึกชาวกัมพูชา" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102355

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โฆษกรัฐบาลเผยสาระสำคัญของ "Joint Declaration" ที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อยุติความตึงเครียดชายแดนอย่างถาวร โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน และลดการยั่วยุ ก่อนที่ไทยจะพิจารณา "ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการ" และดำเนินการ "ปล่อยเชลยศึกชาวกัมพูชา" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102355 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียดายโอกาส ..

    “อนุทิน” บินถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ ก่อนลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา พบ “โดนัลด์ ทรัมป์” พรุ่งนี้ https://share.google/ZLL8aWiPZV3DrWKo3
    เสียดายโอกาส .. “อนุทิน” บินถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ ก่อนลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา พบ “โดนัลด์ ทรัมป์” พรุ่งนี้ https://share.google/ZLL8aWiPZV3DrWKo3
    SHARE.GOOGLE
    “อนุทิน” บินถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ ก่อนลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา พบ “โดนัลด์ ทรัมป์” พรุ่งนี้
    นายกฯ อนุทิน พร้อมคณะ ออกเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ เพื่อร่วมพิธีลงนามสันติภาพกับพูชา วันพรุ่งนี้ พร้อมพบปะโดนัลด์ ทรัมป์ และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จภารกิจวันนี้ (วันที่ 25 ตุลาคม 2568) เวลา 16.00
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อนุทิน" พร้อมคณะ ออกเดินทางไปมาเลเซียถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ เพื่อร่วมพิธีลงนามสันติภาพกับพูชา วันพรุ่งนี้ พร้อมพบปะโดนัลด์ ทรัมป์ และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จภารกิจ นายกฯ เผยออกบินเย็นนี้ หลังสหรัฐฯ ตอบรับเงื่อนเวลาเลื่อนการลงนามมาเป็นช่วงเช้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101940

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    "อนุทิน" พร้อมคณะ ออกเดินทางไปมาเลเซียถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ เพื่อร่วมพิธีลงนามสันติภาพกับพูชา วันพรุ่งนี้ พร้อมพบปะโดนัลด์ ทรัมป์ และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จภารกิจ นายกฯ เผยออกบินเย็นนี้ หลังสหรัฐฯ ตอบรับเงื่อนเวลาเลื่อนการลงนามมาเป็นช่วงเช้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101940 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เผยวงประชุม JBC หารือเขตแดน ปมสร้างรั้วบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วเป็นหลัก เร่งแก้ TOR ใช้เทคโนโลยีไลดาร์ทำแผนที่ทางอากาศ ด้านโฆษกกลาโหมเผยประชุม GBC ที่กัวลาลัมเปอร์ 23 ต.ค. กำหนดแผนถอนอาวุธหนักให้รัดกุม มาเลย์-สหรัฐฯ เป็นสักขีพยาน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100170

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เผยวงประชุม JBC หารือเขตแดน ปมสร้างรั้วบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วเป็นหลัก เร่งแก้ TOR ใช้เทคโนโลยีไลดาร์ทำแผนที่ทางอากาศ ด้านโฆษกกลาโหมเผยประชุม GBC ที่กัวลาลัมเปอร์ 23 ต.ค. กำหนดแผนถอนอาวุธหนักให้รัดกุม มาเลย์-สหรัฐฯ เป็นสักขีพยาน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100170 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจรจารักษาอธิปไตย กังวลหลายเรื่องสำคัญ : [NEWS UPDATE]
    นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ เผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปหารือกับประเทศมาเลเซีย ต่อการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไป ยังมีอีก 2 ประเด็นที่จะไปพูดคุยเพิ่ม คาดว่าจะเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันที่ 17 ต.ค. นี้ ไม่กังวล
    กัมพูชาจะไปร้องศาลโลก กรณีไทยฉายภาพยนตร์ เปิดเสียงหลอนในพื้นที่บ้านหนองจาน แต่กังวลใน 4-5 เรื่อง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่าเป็นเรื่องสําคัญ ถ้าเราจะเดินหน้าความสัมพันธ์ ตอนนี้การเจรจากําลังเดินหน้าเรื่องอธิปไตย เราต้องมุ่งมั่นรักษา


    ขอคนไทยมั่นใจแม่ทัพใหม่

    เข็นเศรษฐกิจแข่งเวลา 4 เดือน

    งบประมาณปี 2570 ส่อล่าช้า

    สอบชุดปฏิบัติการพิเศษดีอี
    เจรจารักษาอธิปไตย กังวลหลายเรื่องสำคัญ : [NEWS UPDATE] นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ เผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปหารือกับประเทศมาเลเซีย ต่อการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไป ยังมีอีก 2 ประเด็นที่จะไปพูดคุยเพิ่ม คาดว่าจะเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันที่ 17 ต.ค. นี้ ไม่กังวล กัมพูชาจะไปร้องศาลโลก กรณีไทยฉายภาพยนตร์ เปิดเสียงหลอนในพื้นที่บ้านหนองจาน แต่กังวลใน 4-5 เรื่อง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่าเป็นเรื่องสําคัญ ถ้าเราจะเดินหน้าความสัมพันธ์ ตอนนี้การเจรจากําลังเดินหน้าเรื่องอธิปไตย เราต้องมุ่งมั่นรักษา ขอคนไทยมั่นใจแม่ทัพใหม่ เข็นเศรษฐกิจแข่งเวลา 4 เดือน งบประมาณปี 2570 ส่อล่าช้า สอบชุดปฏิบัติการพิเศษดีอี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • การเข้าร่วมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ณ ที่ประชุมอาเซียน ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ในปลายเดือนนี้ คาดหมายว่าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อเขาได้นั่งเป็นประธาน "พิธีข้อตกลงสันติภาพ" ระว่างกัมพูชาและไทย โดยปราศจากการมีส่วนร่วมของจีน ตามรายงานของคิริโพสต์ สื่อมวลชนเขมรที่อ้างอิงจากเว็บไซต์ข่าวโพลิติโกอีกที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000096099

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    การเข้าร่วมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ณ ที่ประชุมอาเซียน ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ในปลายเดือนนี้ คาดหมายว่าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อเขาได้นั่งเป็นประธาน "พิธีข้อตกลงสันติภาพ" ระว่างกัมพูชาและไทย โดยปราศจากการมีส่วนร่วมของจีน ตามรายงานของคิริโพสต์ สื่อมวลชนเขมรที่อ้างอิงจากเว็บไซต์ข่าวโพลิติโกอีกที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000096099 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 471 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 แพ็คเกจเรือสำราญ Genting Dream, Cruise Only 4 วัน 3 คืน

    🗓 เดินทาง : กรกฏาคม 2568-เมษายน 2569

    เส้นทาง : สิงคโปร์ - ปีนัง - มะละกา (กัวลาลัมเปอร์) - สิงคโปร์ 3 คืน // สิงคโปร์ - ปีนัง - พอร์ทคลัง (กัวลาลัมเปอร์) - สิงคโปร์ 3 คืน

    ราคาเริ่มต้น : ฿9,900

    ห้องพัก 3 คืนบนเรือสำราญ
    อาหารครบทุกมื้อบนเรือ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ)
    กิจกรรมและความบันเทิงบนเรือสำราญ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : DREP-4D3N-SIN-SIN-2604071
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e8d25e

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือGentingDream #DreamCruise #Resortworldcruise #Singapore #Malaysia #Zipline #Penang #Melaka #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    🛳 แพ็คเกจเรือสำราญ Genting Dream, Cruise Only 4 วัน 3 คืน 🗓 เดินทาง : กรกฏาคม 2568-เมษายน 2569 📍 เส้นทาง : สิงคโปร์ - ปีนัง - มะละกา (กัวลาลัมเปอร์) - สิงคโปร์ 3 คืน // สิงคโปร์ - ปีนัง - พอร์ทคลัง (กัวลาลัมเปอร์) - สิงคโปร์ 3 คืน 💰 ราคาเริ่มต้น : ฿9,900 ✅ ห้องพัก 3 คืนบนเรือสำราญ ✅ อาหารครบทุกมื้อบนเรือ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ) ✅ กิจกรรมและความบันเทิงบนเรือสำราญ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : DREP-4D3N-SIN-SIN-2604071 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e8d25e ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือGentingDream #DreamCruise #Resortworldcruise #Singapore #Malaysia #Zipline #Penang #Melaka #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมไหม? รถไฟ My Sawasdee กัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี

    เมื่อวันก่อน การรถไฟมาเลเซีย (KTMB) ทดลองเดินรถจากสถานีกลาง KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้า ก่อนจะขยายบริการขบวนรถไฟพิเศษ มายสวัสดี (My Sawasdee) มายังปลายทางดังกล่าว โดยนับตั้งแต่เปิดการเดินรถไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกวันหยุดยาวของมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางด้วยตัวเอง และบริษัทนำเที่ยวใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

    สืบเนื่องมาจากการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟมาเลเซีย (KTMB) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งที่ 42 ที่เมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 หนึ่งในนั้นคือเห็นชอบให้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟท่องเที่ยว My Sawasdee จากมาเลเซียมาไทย ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว การขยายเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น

    โดยปกติแล้วขบวนรถไฟ My Sawasdee ออกจากสถานี KL Sentral เวลา 22.30 น. ถึงปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 08.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หากเดินทางต่อไปยังปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 294 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วที่สุด 4-5 ชั่วโมง มีรายงานว่าตามกำหนดจะถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 15.20 น. แต่จากการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบว่าถึงปลายทางเวลา 17.02 น. จึงต้องรอให้การรถไฟมาเลเซียพิจารณาความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง

    จุดหมายปลายทางยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคือเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะสมุย ต้องใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ไปยังท่าเรือดอนสัก 2 ชั่วโมง ต่อเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุยอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทนำเที่ยวอาจต้องพิจารณาจัดโปรแกรมทัวร์ภายในเวลา 4 วัน 3 คืน เพราะเท่ากับกินเวลาแล้ว 1 วัน

    อีกด้านหนึ่ง เริ่มมีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในมาเลเซีย เสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา 5 วัน 4 คืนด้วยรถไฟในปี 2569 แล้ว แต่เดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วต่อรถบัสไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากเดิมเสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังหาดใหญ่และปัตตานี 4 วัน 3 คืน สนนราคาคนละ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,200 บาท) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทัวร์ไปกรุงเทพฯ 5 วัน 4 คืน, ไปกาญจนบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,300 ริงกิต (ประมาณ 17,500 บาท) และไปเขาใหญ่กับลพบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,200 ริงกิต (ประมาณ 16,750 บาท) ในช่วงปลายปี 2569 อีกด้วย

    #Newskit
    พร้อมไหม? รถไฟ My Sawasdee กัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี เมื่อวันก่อน การรถไฟมาเลเซีย (KTMB) ทดลองเดินรถจากสถานีกลาง KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้า ก่อนจะขยายบริการขบวนรถไฟพิเศษ มายสวัสดี (My Sawasdee) มายังปลายทางดังกล่าว โดยนับตั้งแต่เปิดการเดินรถไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกวันหยุดยาวของมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางด้วยตัวเอง และบริษัทนำเที่ยวใช้บริการอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟมาเลเซีย (KTMB) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งที่ 42 ที่เมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 หนึ่งในนั้นคือเห็นชอบให้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟท่องเที่ยว My Sawasdee จากมาเลเซียมาไทย ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว การขยายเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น โดยปกติแล้วขบวนรถไฟ My Sawasdee ออกจากสถานี KL Sentral เวลา 22.30 น. ถึงปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 08.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หากเดินทางต่อไปยังปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 294 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วที่สุด 4-5 ชั่วโมง มีรายงานว่าตามกำหนดจะถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 15.20 น. แต่จากการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบว่าถึงปลายทางเวลา 17.02 น. จึงต้องรอให้การรถไฟมาเลเซียพิจารณาความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง จุดหมายปลายทางยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคือเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะสมุย ต้องใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ไปยังท่าเรือดอนสัก 2 ชั่วโมง ต่อเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุยอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทนำเที่ยวอาจต้องพิจารณาจัดโปรแกรมทัวร์ภายในเวลา 4 วัน 3 คืน เพราะเท่ากับกินเวลาแล้ว 1 วัน อีกด้านหนึ่ง เริ่มมีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในมาเลเซีย เสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา 5 วัน 4 คืนด้วยรถไฟในปี 2569 แล้ว แต่เดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วต่อรถบัสไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากเดิมเสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังหาดใหญ่และปัตตานี 4 วัน 3 คืน สนนราคาคนละ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,200 บาท) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทัวร์ไปกรุงเทพฯ 5 วัน 4 คืน, ไปกาญจนบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,300 ริงกิต (ประมาณ 17,500 บาท) และไปเขาใหญ่กับลพบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,200 ริงกิต (ประมาณ 16,750 บาท) ในช่วงปลายปี 2569 อีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิจารณ์สนั่นโลโก้ Maybank บนตึก Merdeka 118

    แม้ว่าโลโก้เมย์แบงก์ (Maybank) ธนาคารอันดับหนึ่งของมาเลเซีย กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในเมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เพราะสาขาที่ปิดถาวรบนถนนจาลันพันตาย (Jalan Pantai) กลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับอาคาร์เมอร์เดก้า 118 (Merdeka 118) ความสูง 118 ชั้น 678.9 เมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูจะไม่สบอารมณ์กับชาวมาเลเซียเท่าไหร่นัก

    บนสื่อโซเชียลฯ ในมาเลเซียวิจารณ์กรณีที่กลุ่มเมย์แบงก์ ซึ่งเป็นผู้เช่าหลักติดโลโก้ Maybank เป็นตัวอักษรสีเหลืองบนยอดตึกของอาคารดังกล่าว โดยมองว่าอาจทำให้เสียภาพลักษณ์และไม่สะท้อนความหมายของอาคารดังกล่าว ทั้งที่อาคารดังกล่าวออกแบบเป็นสัญลักษณ์ที่นายตุนกู อับดุล ระฮ์มัน (Tunku Abdul Rahman) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนแรก กำลังยื่นมือออกไปขณะอ่านคำประกาศอิสรภาพ ว่า "เมอร์เดก้า" แปลว่าอิสรภาพ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2500 ที่สนามกีฬาเมอร์เดก้า

    ชาวเน็ตมาเลเซียเกรงว่าในไม่ช้าผู้คนจะจดจำอาคาร Merdeka 118 ในชื่อ Maybank Tower แทน ถ้าเปรียบเทียบกับอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) ทางบริษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย ก็ไม่ได้ใส่โลโก้ของตน ทั้งที่เป็นเจ้าของอาคารที่แท้จริง โดยเห็นว่าหากไม่มีโลโก้ Maybank อาคารดังกล่าวจะดูปกติเรียบร้อยกว่านี้

    ก่อนหน้านี้ กลุ่มเมย์แบงก์ตัดสินใจเช่าอาคารเมอร์เดก้า 118 กับบริษัท เปอร์โมดาลัน เนชันแนล เบอร์ฮัด (Permodalan Nasional Berhad หรือ PNB) เจ้าของอาคารดังกล่าว จำนวน 33 ชั้น 650,000 ตารางฟุต รวมระยะเวลา 21 ปี พร้อมย้ายสำนักงานใหญ่ จากเดิมอาคารเมย์แบงก์บนถนนตุน ราซัค (Tun Razak) และธุรกิจในเครือ เช่น เมย์แบงก์ อิสลาม, เมย์แบงก์ อินเวสเมนท์ แบงก์ และเมย์แบงก์ แอสเซท แมเนจเมนท์ มารวมกันที่นี่ คาดว่าจะรองรับพนักงานประมาณ 5,900 คน อีกทั้งได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อและติดป้ายบนอาคาร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บนอาคารสูงระดับโลก คาดว่าจะทยอยย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2569

    อนึ่ง กลุ่มเมย์แบงก์ประกอบธุรกิจการเงินใน 18 ประเทศ ประกอบด้วยธนาคาร 8 ประเทศ (ธนาคารตามหลักศาสนาอิสลาม 4 ประเทศ) การลงทุน 16 ประเทศ ประกันภัยและตะกาฟุล 5 ประเทศ ในประเทศไทยประกอบธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ โดยซื้อกิจการจากกิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงค์โปร์ เมื่อปี 2554 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์

    #Newskit
    วิจารณ์สนั่นโลโก้ Maybank บนตึก Merdeka 118 แม้ว่าโลโก้เมย์แบงก์ (Maybank) ธนาคารอันดับหนึ่งของมาเลเซีย กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในเมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เพราะสาขาที่ปิดถาวรบนถนนจาลันพันตาย (Jalan Pantai) กลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับอาคาร์เมอร์เดก้า 118 (Merdeka 118) ความสูง 118 ชั้น 678.9 เมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูจะไม่สบอารมณ์กับชาวมาเลเซียเท่าไหร่นัก บนสื่อโซเชียลฯ ในมาเลเซียวิจารณ์กรณีที่กลุ่มเมย์แบงก์ ซึ่งเป็นผู้เช่าหลักติดโลโก้ Maybank เป็นตัวอักษรสีเหลืองบนยอดตึกของอาคารดังกล่าว โดยมองว่าอาจทำให้เสียภาพลักษณ์และไม่สะท้อนความหมายของอาคารดังกล่าว ทั้งที่อาคารดังกล่าวออกแบบเป็นสัญลักษณ์ที่นายตุนกู อับดุล ระฮ์มัน (Tunku Abdul Rahman) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนแรก กำลังยื่นมือออกไปขณะอ่านคำประกาศอิสรภาพ ว่า "เมอร์เดก้า" แปลว่าอิสรภาพ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2500 ที่สนามกีฬาเมอร์เดก้า ชาวเน็ตมาเลเซียเกรงว่าในไม่ช้าผู้คนจะจดจำอาคาร Merdeka 118 ในชื่อ Maybank Tower แทน ถ้าเปรียบเทียบกับอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) ทางบริษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย ก็ไม่ได้ใส่โลโก้ของตน ทั้งที่เป็นเจ้าของอาคารที่แท้จริง โดยเห็นว่าหากไม่มีโลโก้ Maybank อาคารดังกล่าวจะดูปกติเรียบร้อยกว่านี้ ก่อนหน้านี้ กลุ่มเมย์แบงก์ตัดสินใจเช่าอาคารเมอร์เดก้า 118 กับบริษัท เปอร์โมดาลัน เนชันแนล เบอร์ฮัด (Permodalan Nasional Berhad หรือ PNB) เจ้าของอาคารดังกล่าว จำนวน 33 ชั้น 650,000 ตารางฟุต รวมระยะเวลา 21 ปี พร้อมย้ายสำนักงานใหญ่ จากเดิมอาคารเมย์แบงก์บนถนนตุน ราซัค (Tun Razak) และธุรกิจในเครือ เช่น เมย์แบงก์ อิสลาม, เมย์แบงก์ อินเวสเมนท์ แบงก์ และเมย์แบงก์ แอสเซท แมเนจเมนท์ มารวมกันที่นี่ คาดว่าจะรองรับพนักงานประมาณ 5,900 คน อีกทั้งได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อและติดป้ายบนอาคาร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บนอาคารสูงระดับโลก คาดว่าจะทยอยย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2569 อนึ่ง กลุ่มเมย์แบงก์ประกอบธุรกิจการเงินใน 18 ประเทศ ประกอบด้วยธนาคาร 8 ประเทศ (ธนาคารตามหลักศาสนาอิสลาม 4 ประเทศ) การลงทุน 16 ประเทศ ประกันภัยและตะกาฟุล 5 ประเทศ ในประเทศไทยประกอบธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ โดยซื้อกิจการจากกิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงค์โปร์ เมื่อปี 2554 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 9
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 9
    นาย Kenneth ถูกกระทรวงต่างประเทศ ส่งกลับมาทำการสำรวจเมืองไทยรอบใหญ่อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1950 นาย Kenneth เล่าว่าเป็นปีที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำพิธีอภิเศกสมรสกับสมเด็จพระราชินี และทำพิธีขึ้นครองราชย์ ทางอเมริกาเตรียมของขวัญที่จะถวายสำหรับพระราชพิธีอภิเศก เป็นแก้วเป่าของ Steuben ซึ่งมีชื่อมาก แต่นาย Kenneth ในฐานะเคยอยู่เมืองไทยมานาน และอ้างว่าเคยรู้จักและเคยพบพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง ก็รีบเสนอหน้าแนะนำไปยังประธานาธิบดี ให้รัฐบาลอเมริกันจัดการเปลี่ยนของขวัญ เขาบอกว่าในหลวงทรงเป็นนักดนตรีแจ๊ส และโปรดฟังเพลง ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ก็เริ่มมาจากดนตรี ดังนั้นน่าจะถวายของขวัญเป็นอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี
    ในที่สุดนาย Kenneth ก็จัดการให้รัฐบาลอเมริกันถวายเครื่องเล่นแผ่นเสียง รวมทั้งแผ่นเสียงของ Gershwin ครบชุด เขาอ้างว่าทรงโปรดมาก และเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่ทรงนำไปยังวังไกลกังวล หลังจากทรงทำพิธีอภิเศกสมรสแล้ว (ไม่รู้นาย Kenneth รู้ได้อย่างไร!? แต่อย่างน้อย การแนะนำเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า การอยู่ใกล้ เข้ามาคลุกคลีในประเทศ ทำให้นักล่ารู้จักหลายอย่างเกี่ยวสมันน้อย ดีกว่ามองจากทางไกลหรืออ่านแต่รายงาน)
    ในการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ นาย Kenneth ได้ถือโอกาสจัดการตัวเองให้ได้พบกับจอมพลสฤษดิ์ เขาบอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องเมืองไทยต้องอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย และต้องรู้จักอ่าน “ระหว่างบันทัด” ให้เป็น จึงจะรู้ว่าคนไทยพูดเรื่องอะไรกันบ้าง อะไรเป็นข่าวในตอนนั้น ด้วยวิธีนี้ ทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับจอมพลสฤษดิ์ในหลายมุม ตอนนั้นจอมพลสฤษดิ์ยังเป็นเพียงนายทหารระดับนายพล คุมกองทัพภาค 1 ในกรุงเทพฯ แต่เขาเห็นว่าแล้วว่าจะมีอนาคตไกล เขาจึงขอให้ฑูต Stanton ช่วยนัดให้เขาพบกับจอมพลสฤษดิ์ ฑูตบอกว่าไม่ได้หรอก ต้องผ่านฑูตทหารอีกที แล้วฑูตทหารก็จะถามว่าไปพบทำไม นาย Kenneth จึงบอกว่าไม่เป็นไร เขานัดเองก็ได้ แล้วเขาก็ให้เพื่อนคนไทยนัดให้
    เพื่อนไปแจ้งสฤษดิ์ สฤษดิ์ถามกลับว่าจะมาพบทำไม เขาไม่พูดภาษาอังกฤษ (I don’t speak English) นาย Kenneth ให้เพื่อนตอบกลับไปว่า เขาก็ไม่พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน (I don’t speak English either !) คำตอบนี้ทำให้สฤษดิ์ขำ และสนใจนาย Kenneth ขึ้นมา จึงยอมรับนัด ปรากฎว่าเมื่อทั้ง 2 พบกันก็ถูกชะตากัน และคุยกันเป็นภาษาไทย สฤษดิ์ถามว่านาย Kenneth สนใจอะไรเขา นาย Kenneth บอกว่า เขาเชื่อว่าวันหนึ่งสฤษดิ์จะเป็นบุคคลสำคัญมากในวงการเมืองของประเทศไทย สฤษดิ์ถามว่า ฉันจะต้องไปรบกับใครหรือ นาย Kenneth บอกไม่ใช่รบแบบทหาร แต่รบในทางการเมืองละก้อใช่ สฤษดิ์ถามว่าคุณรู้ได้ยังไงนาย Kenneth บอกเขาอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย ซึ่งมีบทความมากมายและถ้ารู้จักวิธีอ่าน ก็จะได้ข้อมูลอย่างนึกไม่ถึง สฤษดิ์ตอบว่าใช่ ใช่แล้ว ! หลังจากนั้นทั้ง 2 คน ก็กลายเป็นเพื่อนกัน และเป็นเพื่อนชนิดที่ไว้ใจกัน
    หลังจากพบกับสฤษดิ์ นาย Kenneth เดินทางไปพบกับอดีตจักรพรรดิ์เบาได๋ (Baodai) ของเวียตนาม ซึ่งหนีลุงโฮมาอยู่ทางใต้ของเวียตนาม เบาได๋เชื่อว่าวันหนึ่งฝรั่งเศสจะคืนเอกราชให้เวียตนาม เบาได๋ขอให้อเมริกาช่วยจัดการให้ฝรั่งเศสออกไปจากเวียตนาม และช่วยให้เขากลับมามีอำนาจในเวียตนามต่อไป แล้วเขาจะให้ความร่วมมืออย่างดีกับอเมริกา นาย Kenneth เห็นว่า เบาได๋เป็นคนอ่อนแอ และไม่น่าที่จะรักษาเวียตนามไว้ได้
    จากเวียตนามเขาเดินทางต่อไปพบเจ้านโรดมสีหนุที่เขมร ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่ได้อิสรภาพจากฝรั่งเศส ฝรั่งเศสตั้งให้เจ้านโรดมเป็นกษัตริย์ ตั้งแต่ยังเด็กโดยหวังจะให้เป็น หุ่นชักของฝรั่งเศส นาย Kenneth บอก เจ้าสีหนุเป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์ ลื่นไหล ลดเลี้ยวเก่งมาก เขาคิดว่าฝรั่งเศส (รวมทั้งอเมริกาด้วย) คงจะชักหุ่นชื่อสีหนุนี้ยาก
    ต่อจากเขมร นาย Kenneth ก็ไปลาว เขาไปพบรัฐบาลลาวที่เวียงจันทร์ หลังจากนั้นก็ไปพบกษัตริย์ลาวที่หลวงพระบาง ตอนแรกเจ้าลาวก็ทำตัวเกร็งกับนาย Kenneth ฝ่ายหนึ่งพูดฝรั่งเศษ อีกฝ่ายพูดอังกฤษกันจนเมื่อยมือ จนนาย Kenneth พูดภาษาไทยด้วย เจ้าลาวก็ดีใจ ได้พูดลาวโดยนาย Kenneth ก็อ้างว่าเข้าใจ หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็สื่อสารกันได้ (หมายเหตุ คนเล่านิทาน : กษัตริย์ลาวที่นาย Kenneth ไปพบน่าจะเป็นเจ้าสุวรรณภูมา เพราะนาย Kenneth บอกว่าภายหลัง กษัตริย์ลาวองค์นี้ถูกพวกคอมมิวนิสต์จับได้และปฏิบัติต่อพระองค์แย่มาก ในที่สุดก็สวรรคตในค่ายกักกันของคอมมิวนิสต์)
    จากลาว นาย Kenneth กลับมาเมืองไทยและเดินทางลงใต้ไปสิงค์โปร์และกัวลาลัมเปอร์ เสร็จแล้วก็ข้ามไปยังจาร์กาต้า เพื่อพบนายพลซูการ์โน เขาเจอลูกเล่นสาระพัดจากนักการเมือง และทหารที่จาร์กาต้า รวมทั้งถูกลองดี เช่น เครื่องบินที่เขาจะต้องใช้บินกลับมาสิงค์โปร์ ถูกดูดเอาน้ำมันออกจนเกลี้ยงถัง นาย Kenneth “รู้จัก” คนอินโดนีเซียจากประสบการณ์ของจริง !

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 9 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 9 นาย Kenneth ถูกกระทรวงต่างประเทศ ส่งกลับมาทำการสำรวจเมืองไทยรอบใหญ่อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1950 นาย Kenneth เล่าว่าเป็นปีที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำพิธีอภิเศกสมรสกับสมเด็จพระราชินี และทำพิธีขึ้นครองราชย์ ทางอเมริกาเตรียมของขวัญที่จะถวายสำหรับพระราชพิธีอภิเศก เป็นแก้วเป่าของ Steuben ซึ่งมีชื่อมาก แต่นาย Kenneth ในฐานะเคยอยู่เมืองไทยมานาน และอ้างว่าเคยรู้จักและเคยพบพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง ก็รีบเสนอหน้าแนะนำไปยังประธานาธิบดี ให้รัฐบาลอเมริกันจัดการเปลี่ยนของขวัญ เขาบอกว่าในหลวงทรงเป็นนักดนตรีแจ๊ส และโปรดฟังเพลง ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ก็เริ่มมาจากดนตรี ดังนั้นน่าจะถวายของขวัญเป็นอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี ในที่สุดนาย Kenneth ก็จัดการให้รัฐบาลอเมริกันถวายเครื่องเล่นแผ่นเสียง รวมทั้งแผ่นเสียงของ Gershwin ครบชุด เขาอ้างว่าทรงโปรดมาก และเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่ทรงนำไปยังวังไกลกังวล หลังจากทรงทำพิธีอภิเศกสมรสแล้ว (ไม่รู้นาย Kenneth รู้ได้อย่างไร!? แต่อย่างน้อย การแนะนำเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า การอยู่ใกล้ เข้ามาคลุกคลีในประเทศ ทำให้นักล่ารู้จักหลายอย่างเกี่ยวสมันน้อย ดีกว่ามองจากทางไกลหรืออ่านแต่รายงาน) ในการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ นาย Kenneth ได้ถือโอกาสจัดการตัวเองให้ได้พบกับจอมพลสฤษดิ์ เขาบอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องเมืองไทยต้องอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย และต้องรู้จักอ่าน “ระหว่างบันทัด” ให้เป็น จึงจะรู้ว่าคนไทยพูดเรื่องอะไรกันบ้าง อะไรเป็นข่าวในตอนนั้น ด้วยวิธีนี้ ทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับจอมพลสฤษดิ์ในหลายมุม ตอนนั้นจอมพลสฤษดิ์ยังเป็นเพียงนายทหารระดับนายพล คุมกองทัพภาค 1 ในกรุงเทพฯ แต่เขาเห็นว่าแล้วว่าจะมีอนาคตไกล เขาจึงขอให้ฑูต Stanton ช่วยนัดให้เขาพบกับจอมพลสฤษดิ์ ฑูตบอกว่าไม่ได้หรอก ต้องผ่านฑูตทหารอีกที แล้วฑูตทหารก็จะถามว่าไปพบทำไม นาย Kenneth จึงบอกว่าไม่เป็นไร เขานัดเองก็ได้ แล้วเขาก็ให้เพื่อนคนไทยนัดให้ เพื่อนไปแจ้งสฤษดิ์ สฤษดิ์ถามกลับว่าจะมาพบทำไม เขาไม่พูดภาษาอังกฤษ (I don’t speak English) นาย Kenneth ให้เพื่อนตอบกลับไปว่า เขาก็ไม่พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน (I don’t speak English either !) คำตอบนี้ทำให้สฤษดิ์ขำ และสนใจนาย Kenneth ขึ้นมา จึงยอมรับนัด ปรากฎว่าเมื่อทั้ง 2 พบกันก็ถูกชะตากัน และคุยกันเป็นภาษาไทย สฤษดิ์ถามว่านาย Kenneth สนใจอะไรเขา นาย Kenneth บอกว่า เขาเชื่อว่าวันหนึ่งสฤษดิ์จะเป็นบุคคลสำคัญมากในวงการเมืองของประเทศไทย สฤษดิ์ถามว่า ฉันจะต้องไปรบกับใครหรือ นาย Kenneth บอกไม่ใช่รบแบบทหาร แต่รบในทางการเมืองละก้อใช่ สฤษดิ์ถามว่าคุณรู้ได้ยังไงนาย Kenneth บอกเขาอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย ซึ่งมีบทความมากมายและถ้ารู้จักวิธีอ่าน ก็จะได้ข้อมูลอย่างนึกไม่ถึง สฤษดิ์ตอบว่าใช่ ใช่แล้ว ! หลังจากนั้นทั้ง 2 คน ก็กลายเป็นเพื่อนกัน และเป็นเพื่อนชนิดที่ไว้ใจกัน หลังจากพบกับสฤษดิ์ นาย Kenneth เดินทางไปพบกับอดีตจักรพรรดิ์เบาได๋ (Baodai) ของเวียตนาม ซึ่งหนีลุงโฮมาอยู่ทางใต้ของเวียตนาม เบาได๋เชื่อว่าวันหนึ่งฝรั่งเศสจะคืนเอกราชให้เวียตนาม เบาได๋ขอให้อเมริกาช่วยจัดการให้ฝรั่งเศสออกไปจากเวียตนาม และช่วยให้เขากลับมามีอำนาจในเวียตนามต่อไป แล้วเขาจะให้ความร่วมมืออย่างดีกับอเมริกา นาย Kenneth เห็นว่า เบาได๋เป็นคนอ่อนแอ และไม่น่าที่จะรักษาเวียตนามไว้ได้ จากเวียตนามเขาเดินทางต่อไปพบเจ้านโรดมสีหนุที่เขมร ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่ได้อิสรภาพจากฝรั่งเศส ฝรั่งเศสตั้งให้เจ้านโรดมเป็นกษัตริย์ ตั้งแต่ยังเด็กโดยหวังจะให้เป็น หุ่นชักของฝรั่งเศส นาย Kenneth บอก เจ้าสีหนุเป็นคนฉลาด เจ้าเล่ห์ ลื่นไหล ลดเลี้ยวเก่งมาก เขาคิดว่าฝรั่งเศส (รวมทั้งอเมริกาด้วย) คงจะชักหุ่นชื่อสีหนุนี้ยาก ต่อจากเขมร นาย Kenneth ก็ไปลาว เขาไปพบรัฐบาลลาวที่เวียงจันทร์ หลังจากนั้นก็ไปพบกษัตริย์ลาวที่หลวงพระบาง ตอนแรกเจ้าลาวก็ทำตัวเกร็งกับนาย Kenneth ฝ่ายหนึ่งพูดฝรั่งเศษ อีกฝ่ายพูดอังกฤษกันจนเมื่อยมือ จนนาย Kenneth พูดภาษาไทยด้วย เจ้าลาวก็ดีใจ ได้พูดลาวโดยนาย Kenneth ก็อ้างว่าเข้าใจ หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็สื่อสารกันได้ (หมายเหตุ คนเล่านิทาน : กษัตริย์ลาวที่นาย Kenneth ไปพบน่าจะเป็นเจ้าสุวรรณภูมา เพราะนาย Kenneth บอกว่าภายหลัง กษัตริย์ลาวองค์นี้ถูกพวกคอมมิวนิสต์จับได้และปฏิบัติต่อพระองค์แย่มาก ในที่สุดก็สวรรคตในค่ายกักกันของคอมมิวนิสต์) จากลาว นาย Kenneth กลับมาเมืองไทยและเดินทางลงใต้ไปสิงค์โปร์และกัวลาลัมเปอร์ เสร็จแล้วก็ข้ามไปยังจาร์กาต้า เพื่อพบนายพลซูการ์โน เขาเจอลูกเล่นสาระพัดจากนักการเมือง และทหารที่จาร์กาต้า รวมทั้งถูกลองดี เช่น เครื่องบินที่เขาจะต้องใช้บินกลับมาสิงค์โปร์ ถูกดูดเอาน้ำมันออกจนเกลี้ยงถัง นาย Kenneth “รู้จัก” คนอินโดนีเซียจากประสบการณ์ของจริง ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปอยเปตไม่หลับใหล แม้ไทยจะปิดด่าน

    ข่าวคราวที่สร้างความสับสน เมื่อจู่ๆ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดสระแก้ว ประชาสัมพันธ์ว่า "หลังจากวันที่ 29 ส.ค.เป็นต้นไป จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะเปิดให้บริการคนไทยและคนกัมพูชา เพื่อเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนา ทุกวันพุธและทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 16.00 น. เริ่มวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค.68 เป็นต้นไป สำหรับจุดผ่านแดนอื่นๆ ยังไม่เปิดให้บริการ" กลายเป็นที่วิจารณ์จำนวนมาก ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

    เมื่อนักข่าวสอบถาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมช.กลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปรากฎว่าไม่ใช่คำสั่งของ ศบ.ทก. แต่เป็นตำรวจ ตม. อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาไม่เกี่ยวข้อง ที่สุดแล้ว ตม.สระแก้วจึงชี้แจงว่า เป็นการอนุโลมให้คนไทยที่ยังตกค้าง และคนกัมพูชาที่จะกลับประเทศเป็นวันสุดท้าย โดยมีเอกสารถูกต้องเท่านั้น ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ยืนยันว่าทุกจุดผ่านแดนฯ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงปิดเช่นเดิม แต่ความสงสัยจากสังคมยังไม่หมดไป เพราะประกาศก่อนหน้านี้ เหมือนจะให้เปิดด่านทุกวันพุธและอาทิตย์

    แหล่งข่าวจากสื่อมวลชนรายหนึ่ง (ขอสงวนนามเพื่อความปลอดภัย) กล่าวกับ Newskit ว่า ปัจจุบันแม้ด่านพรมแดนบ้านคลองลึกจะปิดไม่ให้เข้า-ออกประเทศ แต่บ่อนกาสิโนในฝั่งเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย จำนวน 17 แห่ง ปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการอยู่ นักเสี่ยงโชคจากทุกสารทิศต้องเดินทางไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ อีกทั้งยังมีประชากรแฝง ที่เป็นนักเสี่ยงโชคจากจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ อาศัยอยู่ในปอยเปตประมาณ 2 แสนคน และยังคงใช้ไฟฟ้าบางส่วนจากไทย มีเสาส่งไฟฟ้าบริเวณบ้านป่าไร่ ซื้อขายกันระหว่างเอกชนกับเอกชน

    แหล่งข่าวยังส่งภาพที่แสดงให้เห็นว่าอาคารสูงซึ่งเป็นโรงแรมและบ่อนกาสิโนยังเปิดไฟสว่างไสว หนึ่งในนั้นคือตีก Crown Casino ที่ตั้งประชิดด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต สามารถมองเห็นได้จากตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทย

    สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) อยู่ห่างจากด่านปอยเปต 196 กิโลเมตร มีเที่ยวบินขาเข้าต่อสัปดาห์ จากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ 24 เที่ยวบิน ดอนเมือง 14 เที่ยวบิน จากเวียดนาม โฮจิมินห์ 21 เที่ยวบิน ฮานอย 13 เที่ยวบิน ดานัง 7 เที่ยวบิน จากสิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และคุนหมิง ประเทศจีน 7 เที่ยวบิน ส่วนเที่ยวบินในประเทศ มีพนมเปญ 13 เที่ยวบิน และสีหนุวิลล์ 7 เที่ยวบิน

    #Newskit
    ปอยเปตไม่หลับใหล แม้ไทยจะปิดด่าน ข่าวคราวที่สร้างความสับสน เมื่อจู่ๆ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดสระแก้ว ประชาสัมพันธ์ว่า "หลังจากวันที่ 29 ส.ค.เป็นต้นไป จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะเปิดให้บริการคนไทยและคนกัมพูชา เพื่อเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนา ทุกวันพุธและทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 16.00 น. เริ่มวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค.68 เป็นต้นไป สำหรับจุดผ่านแดนอื่นๆ ยังไม่เปิดให้บริการ" กลายเป็นที่วิจารณ์จำนวนมาก ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อนักข่าวสอบถาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมช.กลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปรากฎว่าไม่ใช่คำสั่งของ ศบ.ทก. แต่เป็นตำรวจ ตม. อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาไม่เกี่ยวข้อง ที่สุดแล้ว ตม.สระแก้วจึงชี้แจงว่า เป็นการอนุโลมให้คนไทยที่ยังตกค้าง และคนกัมพูชาที่จะกลับประเทศเป็นวันสุดท้าย โดยมีเอกสารถูกต้องเท่านั้น ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ยืนยันว่าทุกจุดผ่านแดนฯ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงปิดเช่นเดิม แต่ความสงสัยจากสังคมยังไม่หมดไป เพราะประกาศก่อนหน้านี้ เหมือนจะให้เปิดด่านทุกวันพุธและอาทิตย์ แหล่งข่าวจากสื่อมวลชนรายหนึ่ง (ขอสงวนนามเพื่อความปลอดภัย) กล่าวกับ Newskit ว่า ปัจจุบันแม้ด่านพรมแดนบ้านคลองลึกจะปิดไม่ให้เข้า-ออกประเทศ แต่บ่อนกาสิโนในฝั่งเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย จำนวน 17 แห่ง ปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการอยู่ นักเสี่ยงโชคจากทุกสารทิศต้องเดินทางไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ อีกทั้งยังมีประชากรแฝง ที่เป็นนักเสี่ยงโชคจากจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ อาศัยอยู่ในปอยเปตประมาณ 2 แสนคน และยังคงใช้ไฟฟ้าบางส่วนจากไทย มีเสาส่งไฟฟ้าบริเวณบ้านป่าไร่ ซื้อขายกันระหว่างเอกชนกับเอกชน แหล่งข่าวยังส่งภาพที่แสดงให้เห็นว่าอาคารสูงซึ่งเป็นโรงแรมและบ่อนกาสิโนยังเปิดไฟสว่างไสว หนึ่งในนั้นคือตีก Crown Casino ที่ตั้งประชิดด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต สามารถมองเห็นได้จากตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทย สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) อยู่ห่างจากด่านปอยเปต 196 กิโลเมตร มีเที่ยวบินขาเข้าต่อสัปดาห์ จากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ 24 เที่ยวบิน ดอนเมือง 14 เที่ยวบิน จากเวียดนาม โฮจิมินห์ 21 เที่ยวบิน ฮานอย 13 เที่ยวบิน ดานัง 7 เที่ยวบิน จากสิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และคุนหมิง ประเทศจีน 7 เที่ยวบิน ส่วนเที่ยวบินในประเทศ มีพนมเปญ 13 เที่ยวบิน และสีหนุวิลล์ 7 เที่ยวบิน #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 634 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟฟ้า LRT สายแรกในปีนัง ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง 68%

    โครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายมูเทียรา (LRT Mutiara Line) สายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นที่วิจารณ์ว่าต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 68% เมื่อนายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวต่อที่ประชุมสรุปแผนพัฒนามาเลเซียฉบับที่ 13 เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่า ต้นทุนโครงการจะถูกจำกัดไว้ที่ราว 16,000-17,000 ล้านริงกิต ไม่ใช่ 10,000 ล้านริงกิต ตามที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยประกาศไว้ในงบประมาณปี 2024 โดยให้เหตุผลว่าขณะนั้นคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าการบริหารจัดการโครงการ และการประเมินทางวิศวกรรม

    ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. MRT Corp ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลกลางมาเลเซียให้เป็นผู้พัฒนาโครงการชี้แจงว่า เดิมโครงการ Penang LRT สายบายัน เลปาส (Bayan Lepas) เส้นทางเกาะซิลิคอน (Silicon Island) ถึงคอมตาร์ (Komtar) เมื่อปี 2559 ประเมินไว้ที่ 10,000 ล้านริงกิต แต่ได้ขยายเส้นทางจากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านริงกิต อีกทั้งอ้างอิงจากข้อมูลตลาดในปี 2567 จำเป็นต้องปรับปรุงงบประมาณ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น และงานก่อสร้างเพิ่มเติม ที่แมคคัลลัมและเกาะซิลิคอน

    แต่รัฐบาลได้มอบหมายให้ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ต่ำกว่า จากการประกวดราคา โดยสัญญาที่ 1 งานโยธาช่วงเกาะซิลิคอนถึงคอมตาร์ ระยะทาง 24 กิโลเมตร บริษัท เอสอาร์เอส คอนซอร์เตียม เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้ปรับลดมูลค่าสัญญาจาก 8,310 ล้านริงกิต เหลือ 7,930 ล้านริงกิต ซึ่งงบประมาณ 16,800 ล้านริงกิตยังรวมถึงค่าเวนคืนที่ดิน ประเมินไว้ที่ 2 พันล้านริงกิต ส่วนที่เหลือครอบคลุมสัญญาที่ 2 งานโยธาช่วงสถานีแมคคัลลัมถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล ศูนย์ซ่อมบำรุงที่สุไหงนิบง (Sungai Nibong) และสัญญาที่ 3 เหมาจ้างทำระบบรถไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ ยืนยันว่าไม่ใช่ควบคุมงบประมาณไม่ได้ แต่สะท้อนสภาพตลาดปัจจุบัน

    โครงการ LRT Mutiara Line มีระยะทาง 29.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานียกระดับ 21 สถานี มีสะพานข้ามทะเลความยาว 5 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังกับฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ใช้เวลาเดินทาง 49 นาที เริ่มต้นที่สถานี PSR-A (โครงการถมทะเลปีนังตอนใต้ เกาะ A) ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (PEN) เขตอุตสาหกรรมเสรีบายันเลปาส อาคารคอมตาร์ และสถานีปีนังเซ็นทรัล ที่เชื่อมต่อรถทัวร์ รถไฟ ETS ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรถไฟ KTM Komuter ไปปาดังเบซาร์ และอิโปห์ โดยมีเป้าหมายเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.2574

    #Newskit
    รถไฟฟ้า LRT สายแรกในปีนัง ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง 68% โครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายมูเทียรา (LRT Mutiara Line) สายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นที่วิจารณ์ว่าต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 68% เมื่อนายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวต่อที่ประชุมสรุปแผนพัฒนามาเลเซียฉบับที่ 13 เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่า ต้นทุนโครงการจะถูกจำกัดไว้ที่ราว 16,000-17,000 ล้านริงกิต ไม่ใช่ 10,000 ล้านริงกิต ตามที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยประกาศไว้ในงบประมาณปี 2024 โดยให้เหตุผลว่าขณะนั้นคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าการบริหารจัดการโครงการ และการประเมินทางวิศวกรรม ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. MRT Corp ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลกลางมาเลเซียให้เป็นผู้พัฒนาโครงการชี้แจงว่า เดิมโครงการ Penang LRT สายบายัน เลปาส (Bayan Lepas) เส้นทางเกาะซิลิคอน (Silicon Island) ถึงคอมตาร์ (Komtar) เมื่อปี 2559 ประเมินไว้ที่ 10,000 ล้านริงกิต แต่ได้ขยายเส้นทางจากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านริงกิต อีกทั้งอ้างอิงจากข้อมูลตลาดในปี 2567 จำเป็นต้องปรับปรุงงบประมาณ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น และงานก่อสร้างเพิ่มเติม ที่แมคคัลลัมและเกาะซิลิคอน แต่รัฐบาลได้มอบหมายให้ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ต่ำกว่า จากการประกวดราคา โดยสัญญาที่ 1 งานโยธาช่วงเกาะซิลิคอนถึงคอมตาร์ ระยะทาง 24 กิโลเมตร บริษัท เอสอาร์เอส คอนซอร์เตียม เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้ปรับลดมูลค่าสัญญาจาก 8,310 ล้านริงกิต เหลือ 7,930 ล้านริงกิต ซึ่งงบประมาณ 16,800 ล้านริงกิตยังรวมถึงค่าเวนคืนที่ดิน ประเมินไว้ที่ 2 พันล้านริงกิต ส่วนที่เหลือครอบคลุมสัญญาที่ 2 งานโยธาช่วงสถานีแมคคัลลัมถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล ศูนย์ซ่อมบำรุงที่สุไหงนิบง (Sungai Nibong) และสัญญาที่ 3 เหมาจ้างทำระบบรถไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ ยืนยันว่าไม่ใช่ควบคุมงบประมาณไม่ได้ แต่สะท้อนสภาพตลาดปัจจุบัน โครงการ LRT Mutiara Line มีระยะทาง 29.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานียกระดับ 21 สถานี มีสะพานข้ามทะเลความยาว 5 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังกับฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ใช้เวลาเดินทาง 49 นาที เริ่มต้นที่สถานี PSR-A (โครงการถมทะเลปีนังตอนใต้ เกาะ A) ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (PEN) เขตอุตสาหกรรมเสรีบายันเลปาส อาคารคอมตาร์ และสถานีปีนังเซ็นทรัล ที่เชื่อมต่อรถทัวร์ รถไฟ ETS ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรถไฟ KTM Komuter ไปปาดังเบซาร์ และอิโปห์ โดยมีเป้าหมายเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.2574 #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลย์เปิดเดินรถไฟ ETS3 เคแอลเซ็นทรัล-คลวง

    สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอิบราฮิมแห่งมาเลเซีย ทรงประกอบพิธีเปิดบริการรถไฟด่วนพิเศษ ETS รุ่นที่ 3 (ETS3) เมื่อวันที่ 23 ส.ค. และทรงขับรถไฟขบวนใหม่จากสถานีกัวลาลัมเปอร์ไปยังสถานีคลวง (Kluang) รัฐยะโฮร์ ระยะทาง 285 กิโลเมตร นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของระบบรางในมาเลเซีย นอกจากเป็นการเดินขบวนรถไฟรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว ยังเป็นการเปิดเส้นทางเดินรถเพิ่มเติม ตามโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร หลังขยายการเดินรถไฟ ETS ไปยังปลายทางสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ยังเสด็จฯ เปิดสวนสาธารณะ ลามัน เรล มาห์โกตา (Laman Rel Mahkota) ความยาว 2.8 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้สถานีคลวง ก่อสร้างขึ้นบนทางรถไฟเดิม ขนานไปกับทางรถไฟยกระดับ โดยนำส่วนประกอบทางรถไฟเก่ามาปรับใช้และผสานเข้ากับสวนสาธารณะ เช่น ป้ายบอกทางดั้งเดิมของสถานี รางรถไฟและชานชาลาเก่า ที่พักรถไฟ ไปจนถึงสะพานคนเดินอันเป็นเอกลักษณ์ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.

    การเปิดเส้นทางเดินรถไฟครั้งนี้ ไม่ได้ขยายบริการรถไฟจากสถานีปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส และสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ รัฐปีนัง ที่มีอยู่เดิม ซึ่งปัจจุบันให้บริการถึงสถานีปลายทางเซกามัต รัฐยะโฮร์ แต่เป็นการเดินรถขบวนใหม่ ระหว่างสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) กรุงกัวลาลัมเปอร์ กับสถานีคลวง ด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เที่ยวไป ขบวนที่ EP9511 ออกจากสถานีเคแอล เซ็นทรัล 07.45 น. ถึงสถานีคลวง 11.18 น. เที่ยวกลับ ขบวนที่ EP9514 ออกจากสถานีคลวง 17.13 น. ถึงสถานีเคแอล เซ็นทรัล 20.40 น. ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 90-162 ริงกิต (696-1,252 บาท) เปิดสำรองที่นั่งแล้วผ่านแอปฯ KITS Style และเว็บไซต์ online.ktmb.com.my และให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.เป็นต้นไป

    สำหรับโครงการ EDTP ช่วงที่เหลือจากสถานีคลวง ถึงสถานีเจบีเซ็นทรัล (JB Sentral) ระยะทาง 87 กิโลเมตร แม้จะยังไม่มีกำหนดเปิดให้บริการ แต่นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า รถไฟ ETS3 จำนวน 2 ชุด อยู่ระหว่างทดสอบทางเทคนิค หากประสบความสำเร็จคาดว่าจะเริ่มให้บริการในเดือนนี้ ส่วนที่เหลืออีก 8 ชุดกำลังประกอบที่โรงงาน CRRC Rolling Stock Centre ในเมืองบาตูกาจาห์ รัฐเปรัก หากครบทั้ง 10 ขบวนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในต้นปี 2569

    #Newskit
    มาเลย์เปิดเดินรถไฟ ETS3 เคแอลเซ็นทรัล-คลวง สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอิบราฮิมแห่งมาเลเซีย ทรงประกอบพิธีเปิดบริการรถไฟด่วนพิเศษ ETS รุ่นที่ 3 (ETS3) เมื่อวันที่ 23 ส.ค. และทรงขับรถไฟขบวนใหม่จากสถานีกัวลาลัมเปอร์ไปยังสถานีคลวง (Kluang) รัฐยะโฮร์ ระยะทาง 285 กิโลเมตร นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของระบบรางในมาเลเซีย นอกจากเป็นการเดินขบวนรถไฟรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว ยังเป็นการเปิดเส้นทางเดินรถเพิ่มเติม ตามโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร หลังขยายการเดินรถไฟ ETS ไปยังปลายทางสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ยังเสด็จฯ เปิดสวนสาธารณะ ลามัน เรล มาห์โกตา (Laman Rel Mahkota) ความยาว 2.8 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้สถานีคลวง ก่อสร้างขึ้นบนทางรถไฟเดิม ขนานไปกับทางรถไฟยกระดับ โดยนำส่วนประกอบทางรถไฟเก่ามาปรับใช้และผสานเข้ากับสวนสาธารณะ เช่น ป้ายบอกทางดั้งเดิมของสถานี รางรถไฟและชานชาลาเก่า ที่พักรถไฟ ไปจนถึงสะพานคนเดินอันเป็นเอกลักษณ์ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. การเปิดเส้นทางเดินรถไฟครั้งนี้ ไม่ได้ขยายบริการรถไฟจากสถานีปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส และสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ รัฐปีนัง ที่มีอยู่เดิม ซึ่งปัจจุบันให้บริการถึงสถานีปลายทางเซกามัต รัฐยะโฮร์ แต่เป็นการเดินรถขบวนใหม่ ระหว่างสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) กรุงกัวลาลัมเปอร์ กับสถานีคลวง ด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เที่ยวไป ขบวนที่ EP9511 ออกจากสถานีเคแอล เซ็นทรัล 07.45 น. ถึงสถานีคลวง 11.18 น. เที่ยวกลับ ขบวนที่ EP9514 ออกจากสถานีคลวง 17.13 น. ถึงสถานีเคแอล เซ็นทรัล 20.40 น. ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 90-162 ริงกิต (696-1,252 บาท) เปิดสำรองที่นั่งแล้วผ่านแอปฯ KITS Style และเว็บไซต์ online.ktmb.com.my และให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.เป็นต้นไป สำหรับโครงการ EDTP ช่วงที่เหลือจากสถานีคลวง ถึงสถานีเจบีเซ็นทรัล (JB Sentral) ระยะทาง 87 กิโลเมตร แม้จะยังไม่มีกำหนดเปิดให้บริการ แต่นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า รถไฟ ETS3 จำนวน 2 ชุด อยู่ระหว่างทดสอบทางเทคนิค หากประสบความสำเร็จคาดว่าจะเริ่มให้บริการในเดือนนี้ ส่วนที่เหลืออีก 8 ชุดกำลังประกอบที่โรงงาน CRRC Rolling Stock Centre ในเมืองบาตูกาจาห์ รัฐเปรัก หากครบทั้ง 10 ขบวนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในต้นปี 2569 #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อฮาร์ดดิสก์ปลอมทะลักตลาดโลก – และมาเลเซียกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการหลอกลวง

    กลางเดือนสิงหาคม 2025 หน่วยงานในมาเลเซียร่วมกับทีมความปลอดภัยของ Seagate ได้บุกจับโกดังใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปลอมแปลงฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค โดยพบฮาร์ดดิสก์ปลอมเกือบ 700 ลูกจาก Seagate, Western Digital และ Toshiba

    กลุ่มผู้ปลอมแปลงนำฮาร์ดดิสก์เก่าจากตลาดมือสอง—บางลูกมีอายุเกิน 10 ปี—มาล้างข้อมูล SMART (Self-Monitoring, Analysis, and Reporting Technology) เพื่อซ่อนอายุและการใช้งาน จากนั้นติดฉลากใหม่และขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee และ Lazada โดยอ้างว่าเป็นฮาร์ดดิสก์ใหม่สำหรับระบบ surveillance หรือ NAS

    ที่น่าตกใจคือฮาร์ดดิสก์จำนวนมากมาจากจีน ซึ่งเคยใช้ในการขุดเหรียญ Chia ที่อาศัยการเขียนข้อมูลลงดิสก์อย่างหนัก เมื่อการขุดไม่คุ้มค่าอีกต่อไป ฮาร์ดแวร์เหล่านี้จึงถูกขายต่อและกลายเป็นวัตถุดิบของการปลอมแปลง

    แม้ Seagate จะเริ่มเข้มงวดกับโปรแกรมคู่ค้า และใช้ระบบ Global Trade Screening เพื่อป้องกันการซื้อจากบริษัทที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง แต่การกระจายสินค้าปลอมยังคงเกิดขึ้นใน Amazon และแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยไม่มีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    มาเลเซียบุกจับโกดังปลอมฮาร์ดดิสก์ใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์
    พบฮาร์ดดิสก์ปลอมเกือบ 700 ลูกจาก Seagate, WD และ Toshiba
    ฮาร์ดดิสก์ถูกล้างข้อมูล SMART และติดฉลากใหม่เพื่อขายเป็นของใหม่
    ขายผ่าน Shopee และ Lazada โดยอ้างว่าเป็นฮาร์ดดิสก์ surveillance หรือ NAS
    ฮาร์ดดิสก์จำนวนมากมาจากจีน ซึ่งเคยใช้ขุดเหรียญ Chia
    การขุด Chia ทำให้ฮาร์ดดิสก์เสื่อมเร็ว แต่ยังถูกนำกลับมาขาย
    Seagate เริ่มใช้ระบบ Global Trade Screening เพื่อคัดกรองคู่ค้า
    มีการปลอมฮาร์ดดิสก์ UnionSine ขายบน Amazon โดยไม่มีการควบคุม
    ผู้ปลอมแปลงสามารถสร้างรายได้หลายพันดอลลาร์ต่อเดือนจากการขายเหล่านี้
    การปลอมแปลงรวมถึงการอัปเกรดฮาร์ดดิสก์เก่าให้ดูเหมือนรุ่นใหม่ความจุสูง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ฮาร์ดดิสก์ปลอมบางลูกมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี แต่ถูกขายเป็นของใหม่
    การล้าง SMART ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถตรวจสอบอายุหรือการใช้งานจริงได้
    Amazon และแพลตฟอร์มใหญ่ยังไม่มีระบบตรวจสอบสินค้าปลอมที่มีประสิทธิภาพ
    การปลอมแปลงฮาร์ดดิสก์ surveillance มีความเสี่ยงสูงต่อข้อมูลที่ต้องการความเสถียร
    Heise.de ประเมินว่ามีฮาร์ดดิสก์กว่า 1 ล้านลูกถูกปลดจากเครือข่าย Chia และเข้าสู่ตลาดมือสอง

    https://www.techradar.com/pro/major-raid-targets-counterfeit-fake-hdds-from-seagate-wd-and-toshiba-in-malaysia-but-is-it-too-little-too-late
    🎙️ เมื่อฮาร์ดดิสก์ปลอมทะลักตลาดโลก – และมาเลเซียกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการหลอกลวง กลางเดือนสิงหาคม 2025 หน่วยงานในมาเลเซียร่วมกับทีมความปลอดภัยของ Seagate ได้บุกจับโกดังใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปลอมแปลงฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค โดยพบฮาร์ดดิสก์ปลอมเกือบ 700 ลูกจาก Seagate, Western Digital และ Toshiba กลุ่มผู้ปลอมแปลงนำฮาร์ดดิสก์เก่าจากตลาดมือสอง—บางลูกมีอายุเกิน 10 ปี—มาล้างข้อมูล SMART (Self-Monitoring, Analysis, and Reporting Technology) เพื่อซ่อนอายุและการใช้งาน จากนั้นติดฉลากใหม่และขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee และ Lazada โดยอ้างว่าเป็นฮาร์ดดิสก์ใหม่สำหรับระบบ surveillance หรือ NAS ที่น่าตกใจคือฮาร์ดดิสก์จำนวนมากมาจากจีน ซึ่งเคยใช้ในการขุดเหรียญ Chia ที่อาศัยการเขียนข้อมูลลงดิสก์อย่างหนัก เมื่อการขุดไม่คุ้มค่าอีกต่อไป ฮาร์ดแวร์เหล่านี้จึงถูกขายต่อและกลายเป็นวัตถุดิบของการปลอมแปลง แม้ Seagate จะเริ่มเข้มงวดกับโปรแกรมคู่ค้า และใช้ระบบ Global Trade Screening เพื่อป้องกันการซื้อจากบริษัทที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง แต่การกระจายสินค้าปลอมยังคงเกิดขึ้นใน Amazon และแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยไม่มีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ มาเลเซียบุกจับโกดังปลอมฮาร์ดดิสก์ใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ ➡️ พบฮาร์ดดิสก์ปลอมเกือบ 700 ลูกจาก Seagate, WD และ Toshiba ➡️ ฮาร์ดดิสก์ถูกล้างข้อมูล SMART และติดฉลากใหม่เพื่อขายเป็นของใหม่ ➡️ ขายผ่าน Shopee และ Lazada โดยอ้างว่าเป็นฮาร์ดดิสก์ surveillance หรือ NAS ➡️ ฮาร์ดดิสก์จำนวนมากมาจากจีน ซึ่งเคยใช้ขุดเหรียญ Chia ➡️ การขุด Chia ทำให้ฮาร์ดดิสก์เสื่อมเร็ว แต่ยังถูกนำกลับมาขาย ➡️ Seagate เริ่มใช้ระบบ Global Trade Screening เพื่อคัดกรองคู่ค้า ➡️ มีการปลอมฮาร์ดดิสก์ UnionSine ขายบน Amazon โดยไม่มีการควบคุม ➡️ ผู้ปลอมแปลงสามารถสร้างรายได้หลายพันดอลลาร์ต่อเดือนจากการขายเหล่านี้ ➡️ การปลอมแปลงรวมถึงการอัปเกรดฮาร์ดดิสก์เก่าให้ดูเหมือนรุ่นใหม่ความจุสูง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ฮาร์ดดิสก์ปลอมบางลูกมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี แต่ถูกขายเป็นของใหม่ ➡️ การล้าง SMART ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถตรวจสอบอายุหรือการใช้งานจริงได้ ➡️ Amazon และแพลตฟอร์มใหญ่ยังไม่มีระบบตรวจสอบสินค้าปลอมที่มีประสิทธิภาพ ➡️ การปลอมแปลงฮาร์ดดิสก์ surveillance มีความเสี่ยงสูงต่อข้อมูลที่ต้องการความเสถียร ➡️ Heise.de ประเมินว่ามีฮาร์ดดิสก์กว่า 1 ล้านลูกถูกปลดจากเครือข่าย Chia และเข้าสู่ตลาดมือสอง https://www.techradar.com/pro/major-raid-targets-counterfeit-fake-hdds-from-seagate-wd-and-toshiba-in-malaysia-but-is-it-too-little-too-late
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อฮาร์ดดิสก์ปลอมกลายเป็นภัยเงียบ: ปฏิบัติการบุกจับโรงงานรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที

    เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Seagate พบความผิดปกติในราคาฮาร์ดดิสก์บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada ซึ่งมีการขายรุ่น IronWolf Pro ขนาด 16TB ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถึง 70% จึงเริ่มสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่มาเลเซีย

    ผลคือการบุกจับโรงงานลับนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนพฤษภาคม 2025 พบฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจาก Seagate, Western Digital และ Toshiba โดยมีการลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่ พร้อมรีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากให้เป็นรุ่นระดับสูง เช่น Barracuda ถูกแปลงเป็น IronWolf หรือ SkyHawk

    ฮาร์ดดิสก์เหล่านี้ส่วนใหญ่เคยถูกใช้ในการขุดเหรียญ Chia จากจีน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อย่างหนัก ก่อนจะถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลงเป็นของใหม่

    Seagate จึงปรับนโยบายใหม่ โดยบังคับให้ตัวแทนจำหน่ายต้องซื้อสินค้าจากช่องทางที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น พร้อมใช้ระบบ Global Trade Screening (GTS) เพื่อคัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง

    การสืบสวนและจับกุม
    Seagate พบราคาฮาร์ดดิสก์ผิดปกติบน Shopee และ Lazada
    ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียบุกจับโรงงานนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์
    ยึดฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจากหลายแบรนด์

    วิธีการปลอมแปลง
    ลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่
    รีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากเป็นรุ่นระดับสูง
    ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด

    ที่มาของฮาร์ดดิสก์มือสอง
    ส่วนใหญ่เคยใช้ขุดเหรียญ Chia จากจีน
    ถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลง
    ประเมินว่ามีฮาร์ดดิสก์จาก Chia กว่า 1 ล้านลูกในตลาด

    มาตรการของ Seagate
    ปรับนโยบายให้ซื้อขายผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
    ใช้ระบบ GTS คัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง
    ตรวจสอบเฟิร์มแวร์เพื่อหาการปลอมแปลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-spins-up-a-raid-on-a-counterfeit-hard-drive-workshop-authorities-read-criminals-writes-while-they-spill-the-beans
    🧠 เมื่อฮาร์ดดิสก์ปลอมกลายเป็นภัยเงียบ: ปฏิบัติการบุกจับโรงงานรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Seagate พบความผิดปกติในราคาฮาร์ดดิสก์บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada ซึ่งมีการขายรุ่น IronWolf Pro ขนาด 16TB ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถึง 70% จึงเริ่มสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่มาเลเซีย ผลคือการบุกจับโรงงานลับนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนพฤษภาคม 2025 พบฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจาก Seagate, Western Digital และ Toshiba โดยมีการลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่ พร้อมรีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากให้เป็นรุ่นระดับสูง เช่น Barracuda ถูกแปลงเป็น IronWolf หรือ SkyHawk ฮาร์ดดิสก์เหล่านี้ส่วนใหญ่เคยถูกใช้ในการขุดเหรียญ Chia จากจีน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อย่างหนัก ก่อนจะถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลงเป็นของใหม่ Seagate จึงปรับนโยบายใหม่ โดยบังคับให้ตัวแทนจำหน่ายต้องซื้อสินค้าจากช่องทางที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น พร้อมใช้ระบบ Global Trade Screening (GTS) เพื่อคัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง ✅ การสืบสวนและจับกุม ➡️ Seagate พบราคาฮาร์ดดิสก์ผิดปกติบน Shopee และ Lazada ➡️ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียบุกจับโรงงานนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ ➡️ ยึดฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจากหลายแบรนด์ ✅ วิธีการปลอมแปลง ➡️ ลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่ ➡️ รีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากเป็นรุ่นระดับสูง ➡️ ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ✅ ที่มาของฮาร์ดดิสก์มือสอง ➡️ ส่วนใหญ่เคยใช้ขุดเหรียญ Chia จากจีน ➡️ ถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลง ➡️ ประเมินว่ามีฮาร์ดดิสก์จาก Chia กว่า 1 ล้านลูกในตลาด ✅ มาตรการของ Seagate ➡️ ปรับนโยบายให้ซื้อขายผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ➡️ ใช้ระบบ GTS คัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง ➡️ ตรวจสอบเฟิร์มแวร์เพื่อหาการปลอมแปลง https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-spins-up-a-raid-on-a-counterfeit-hard-drive-workshop-authorities-read-criminals-writes-while-they-spill-the-beans
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดเมืองแปลกปอนตินัค แอร์เอเชียบินตรงจากเคแอล-กูชิง

    หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปนาน ในที่สุดสายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย (AK) เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ จากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) และท่าอากาศยานกูชิง (KCH) รัฐซาราวัก ไปยังปลายทางเมืองปอนตินัค (Pontinak หรือ PNK) เมืองหลวงของจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยมาเลเซียมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียมาเยือนมาเลเซีย 4.3 ล้านคนในปี 2568 สอดรับกับปีแห่งการท่องเที่ยวมาเลเซีย Visit Malaysia 2026 และรัฐซาราวักตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 5 ล้านคนภายในสิ้นปี

    ในทางกลับกัน ยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวหลัก มาเยือนอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 16 ล้านคน รวมทั้งส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ชาวจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกของอินโดนีเซีย ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจ การท่องเที่ยวพักผ่อน และบริการทางการแพทย์ในรัฐซาราวักและกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง ซึ่งเที่ยวบินปอนตินัค-กูชิง ใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาที เมื่อเทียบกับเดินทางด้วยรถบัสที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และเที่ยวบินปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ บินตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนเที่ยวบินที่กรุงจาการ์ตา

    เที่ยวบินปลายทางปอนตินัค เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่

    กัวลาลัมเปอร์-ปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ เฉพาะวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

    AK492 ออกจากกัวลาลัมเปอร์ 11.15 น. ถึงปอนตินัค 12.05 น.
    AK491 ออกจากปอนตินัค 12.30 น. ถึงกัวลาลัมเปอร์ 15.10 น.

    กูชิง-ปอนตินัค-กูชิง วันละ 2 เที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที

    AK1781 ออกจากกูชิง 09.05 น. ถึงปอนตินัค 08.55 น.
    AK1783 ออกจากกูชิง 19.20 น. ถึงปอนตินัค 19.05 น.
    AK1782 ออกจากปอนตินัค 09.20 น. ถึงกูชิง 11.05 น.
    AK1784 ออกจากปอนตินัค 19.30 น. ถึงกูชิง 21.15 น.

    (เวลามาเลเซียเร็วกว่าเวลาอินโดนีเซีย 1 ชั่วโมง)

    สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองปอนตินัค ได้แก่ มัสยิดมูจาฮีดีน (Mujahidin Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก, อนุสาวรีย์เส้นศูนย์สูตร (Equator Monument) เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร ที่แบ่งโลกออกเป็นซีกเหนือและซีกใต้พอดี นอกจากนี้ยังมีเทศกาลเมอเรียมการ์บิต (Meriam Karbit) ประเพณีดั้งเดิมของชาวมลายู จัดขึ้นในช่วงวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน หรือวันอีดิลฟิฏร์

    #Newskit
    เปิดเมืองแปลกปอนตินัค แอร์เอเชียบินตรงจากเคแอล-กูชิง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปนาน ในที่สุดสายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย (AK) เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ จากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) และท่าอากาศยานกูชิง (KCH) รัฐซาราวัก ไปยังปลายทางเมืองปอนตินัค (Pontinak หรือ PNK) เมืองหลวงของจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยมาเลเซียมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียมาเยือนมาเลเซีย 4.3 ล้านคนในปี 2568 สอดรับกับปีแห่งการท่องเที่ยวมาเลเซีย Visit Malaysia 2026 และรัฐซาราวักตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 5 ล้านคนภายในสิ้นปี ในทางกลับกัน ยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวหลัก มาเยือนอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 16 ล้านคน รวมทั้งส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ชาวจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกของอินโดนีเซีย ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจ การท่องเที่ยวพักผ่อน และบริการทางการแพทย์ในรัฐซาราวักและกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง ซึ่งเที่ยวบินปอนตินัค-กูชิง ใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาที เมื่อเทียบกับเดินทางด้วยรถบัสที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และเที่ยวบินปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ บินตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนเที่ยวบินที่กรุงจาการ์ตา เที่ยวบินปลายทางปอนตินัค เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์-ปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ เฉพาะวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง AK492 ออกจากกัวลาลัมเปอร์ 11.15 น. ถึงปอนตินัค 12.05 น. AK491 ออกจากปอนตินัค 12.30 น. ถึงกัวลาลัมเปอร์ 15.10 น. กูชิง-ปอนตินัค-กูชิง วันละ 2 เที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที AK1781 ออกจากกูชิง 09.05 น. ถึงปอนตินัค 08.55 น. AK1783 ออกจากกูชิง 19.20 น. ถึงปอนตินัค 19.05 น. AK1782 ออกจากปอนตินัค 09.20 น. ถึงกูชิง 11.05 น. AK1784 ออกจากปอนตินัค 19.30 น. ถึงกูชิง 21.15 น. (เวลามาเลเซียเร็วกว่าเวลาอินโดนีเซีย 1 ชั่วโมง) สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองปอนตินัค ได้แก่ มัสยิดมูจาฮีดีน (Mujahidin Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก, อนุสาวรีย์เส้นศูนย์สูตร (Equator Monument) เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร ที่แบ่งโลกออกเป็นซีกเหนือและซีกใต้พอดี นอกจากนี้ยังมีเทศกาลเมอเรียมการ์บิต (Meriam Karbit) ประเพณีดั้งเดิมของชาวมลายู จัดขึ้นในช่วงวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน หรือวันอีดิลฟิฏร์ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

    ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง

    ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น

    #Newskit
    จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 แพ็คเกจล่องเรือสำราญ Genting Dream, Cruise Only 3 วัน 2 คืน

    เส้นทาง : สิงคโปร์ - มะละกา (กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย) - สิงคโปร์

    เดินทาง กรกฏาคม 2568 - เมษายน 2569

    ราคาเริ่มต้น : 6,100 บาท/ท่าน

    ห้องพักบนเรือสําราญ 2 คืน
    อาหารบนเรือสําราญ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ)
    กิจกรรมและความบันเทิงบนเรือสําราญ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : DREP-3D2N-SIN-SIN-2604121
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e71bb3

    ดูเรือ Dream Cruises ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e3821e

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #เรือDreamCruises #เรือGentingDream #DreamCruise #MarinaBay #Singapore #Melaka #Dutchsquare #Masjid #Malaysia #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ข่าวอัพเดต #เที่ยว
    🛳 แพ็คเกจล่องเรือสำราญ Genting Dream, Cruise Only 3 วัน 2 คืน 📍 เส้นทาง : สิงคโปร์ - มะละกา (กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย) - สิงคโปร์ 💬 เดินทาง กรกฏาคม 2568 - เมษายน 2569 💸 ราคาเริ่มต้น : 6,100 บาท/ท่าน ✅ ห้องพักบนเรือสําราญ 2 คืน ✅ อาหารบนเรือสําราญ (ยกเว้นห้องอาหารพิเศษ) ✅ กิจกรรมและความบันเทิงบนเรือสําราญ รหัสแพคเกจทัวร์ : DREP-3D2N-SIN-SIN-2604121 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e71bb3 ดูเรือ Dream Cruises ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e3821e ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือDreamCruises #เรือGentingDream #DreamCruise #MarinaBay #Singapore #Melaka #Dutchsquare #Masjid #Malaysia #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ข่าวอัพเดต #เที่ยว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 695 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้องเพลงรอรถไฟ ETS ไปยะโฮร์ ระบบไฟฟ้า-อาณัติสัญญาณยังไม่เสร็จ

    ความหวังที่อยากจะนั่งรถไฟ ETS แบบสบายๆ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปเมืองยะโฮร์บาห์รู เพื่อต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ อาจจะเป็นไปได้ยากในปีนี้ เมื่อหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ (The Star) ไปสำรวจโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร พบว่าการก่อสร้างระบบไฟฟ้าและระบบอาณัติสัญญาณยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะช่วงระหว่างสถานีกลวง (Kluang) ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) ระยะทางราว 100 กิโลเมตร

    ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวไว้เมื่อต้นปี 2568 ว่าบริการรถไฟ ETS จากสถานีเกมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบิลัน ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จะพร้อมให้บริการในเดือน ส.ค.2568 แต่หลังจากเปิดให้บริการช่วงสั้นๆ ไปยังสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) พบว่ายังไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟ ETS ขาล่องไปยังเมืองทางตอนใต้ใดๆ อีกทั้ง KTMB ยังประกาศระงับการจำหน่ายตั๋วรถไฟหลังเดือน ธ.ค. 2568 จากปกติสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ถึง 6 เดือน

    นายยูสลิซาร์ ดาวูด (Yuslizar Daud) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรถไฟของมาเลเซีย กล่าวว่า กระบวนการในการติดตั้งและทดสอบระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลานาน ทั้งการร้อยสายอุปกรณ์สายส่งไฟฟ้าเหนือหัว (OHLE) การดึงสาย การปรับราง การจ่ายไฟ การทดสอบก่อนการใช้งาน และการทดสอบเสมือนจริง (Test & Commissioning) จะใช้เวลานานพอสมควร จากนั้นตรวจสอบขั้นสุดท้ายโดยสํานักงานคณะกรรมการขนส่งทางบกแห่งชาติมาเลเซีย (APAD) ก่อนที่จะได้รับอนุญาต แต่จากภาพที่ผู้สื่อข่าว The Star นำมาแสดงไม่เห็นว่าจะมีความพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.2568

    เข้าใจว่า KTM Berhad กำลังพยายามเร่งเปิดให้บริการจากสถานีเซกามัต ไปยังสถานีกลวง ระยะทาง 90 กิโลเมตรภายในไตรมาสนี้ แม้ดูเหมือนว่า KTM Berhad จะยังไม่ยื่นคำขออนุญาตไปยัง APAD ก็ตาม ขณะเดียวกันยังต้องทดสอบขบวนรถไฟ ETS ชุดใหม่ (ETS 3) ที่นำเข้าจากประเทศจีน ต้องผ่านการทดสอบเดินรถโดยปราศจากข้อบกพร่อง (FFR) อย่างน้อย 8,000 กิโลเมตร ก่อนนำไปให้บริการเชิงพาณิชย์ คาดว่าหาก APAD อนุมัติให้เปิดการเดินรถถึงสถานีกลวง อาจต้องใช้รถไฟ ETS ชุดเก่าไปพลางก่อน ถึงกระนั้นยังต้องรอคำตอบอย่างเป็นทางการจาก KTM Berhad และกระทรวงคมนาคมมาเลเซียอีกครั้ง

    #Newskit
    ร้องเพลงรอรถไฟ ETS ไปยะโฮร์ ระบบไฟฟ้า-อาณัติสัญญาณยังไม่เสร็จ ความหวังที่อยากจะนั่งรถไฟ ETS แบบสบายๆ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปเมืองยะโฮร์บาห์รู เพื่อต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ อาจจะเป็นไปได้ยากในปีนี้ เมื่อหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ (The Star) ไปสำรวจโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร พบว่าการก่อสร้างระบบไฟฟ้าและระบบอาณัติสัญญาณยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะช่วงระหว่างสถานีกลวง (Kluang) ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) ระยะทางราว 100 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวไว้เมื่อต้นปี 2568 ว่าบริการรถไฟ ETS จากสถานีเกมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบิลัน ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จะพร้อมให้บริการในเดือน ส.ค.2568 แต่หลังจากเปิดให้บริการช่วงสั้นๆ ไปยังสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) พบว่ายังไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟ ETS ขาล่องไปยังเมืองทางตอนใต้ใดๆ อีกทั้ง KTMB ยังประกาศระงับการจำหน่ายตั๋วรถไฟหลังเดือน ธ.ค. 2568 จากปกติสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ถึง 6 เดือน นายยูสลิซาร์ ดาวูด (Yuslizar Daud) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรถไฟของมาเลเซีย กล่าวว่า กระบวนการในการติดตั้งและทดสอบระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลานาน ทั้งการร้อยสายอุปกรณ์สายส่งไฟฟ้าเหนือหัว (OHLE) การดึงสาย การปรับราง การจ่ายไฟ การทดสอบก่อนการใช้งาน และการทดสอบเสมือนจริง (Test & Commissioning) จะใช้เวลานานพอสมควร จากนั้นตรวจสอบขั้นสุดท้ายโดยสํานักงานคณะกรรมการขนส่งทางบกแห่งชาติมาเลเซีย (APAD) ก่อนที่จะได้รับอนุญาต แต่จากภาพที่ผู้สื่อข่าว The Star นำมาแสดงไม่เห็นว่าจะมีความพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.2568 เข้าใจว่า KTM Berhad กำลังพยายามเร่งเปิดให้บริการจากสถานีเซกามัต ไปยังสถานีกลวง ระยะทาง 90 กิโลเมตรภายในไตรมาสนี้ แม้ดูเหมือนว่า KTM Berhad จะยังไม่ยื่นคำขออนุญาตไปยัง APAD ก็ตาม ขณะเดียวกันยังต้องทดสอบขบวนรถไฟ ETS ชุดใหม่ (ETS 3) ที่นำเข้าจากประเทศจีน ต้องผ่านการทดสอบเดินรถโดยปราศจากข้อบกพร่อง (FFR) อย่างน้อย 8,000 กิโลเมตร ก่อนนำไปให้บริการเชิงพาณิชย์ คาดว่าหาก APAD อนุมัติให้เปิดการเดินรถถึงสถานีกลวง อาจต้องใช้รถไฟ ETS ชุดเก่าไปพลางก่อน ถึงกระนั้นยังต้องรอคำตอบอย่างเป็นทางการจาก KTM Berhad และกระทรวงคมนาคมมาเลเซียอีกครั้ง #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 28-7-68
    .
    เช้าวันมหามงคล 28 กรกฎาคม 2568 หลังจากรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์แล้ว คุณสนธิมาอัพเดตถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชา ซึ่ง ณ วันนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ โดยมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาพยายามยื่นมือเข้ามาแทรกแซง โดยช่วงบ่ายวันนี้นายภูมิธรรม กับ นายฮุน มาเนต กำลังจะไปพูดคุยกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียโดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนเป็นตัวกลาง ... แต่เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร และคุณสนธิมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร โปรดติดตาม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=pi149AX6gms
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา
    สนธิเล่าเรื่อง 28-7-68 . เช้าวันมหามงคล 28 กรกฎาคม 2568 หลังจากรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์แล้ว คุณสนธิมาอัพเดตถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชา ซึ่ง ณ วันนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ โดยมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาพยายามยื่นมือเข้ามาแทรกแซง โดยช่วงบ่ายวันนี้นายภูมิธรรม กับ นายฮุน มาเนต กำลังจะไปพูดคุยกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียโดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนเป็นตัวกลาง ... แต่เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร และคุณสนธิมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร โปรดติดตาม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=pi149AX6gms . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts