• จากเสื่อจริงสู่สนามเสมือน – VR Taekwondo กำลังเติบโตในมาเลเซีย

    ในงานสาธิตที่มหาวิทยาลัย APU กรุงกัวลาลัมเปอร์ นักกีฬา taekwondo ใช้ VR headset, motion sensors และ joysticks เพื่อแข่งขันกันในสนามเสมือนจริง โดยระบบจะคำนวณคะแนนจากการเตะที่แม่นยำและรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นสามารถฝึกและแข่งขันโดยไม่ต้องเสี่ยงบาดเจ็บจากการปะทะจริง

    การแข่งขันและการยอมรับ
    Master Tony Lee ผู้ฝึกสอนทีมชาติมาเลเซียเผยว่า VR Taekwondo เริ่มได้รับความนิยมในสโมสรท้องถิ่นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และมีนักกีฬามาเลเซียติดอันดับ 4 ในการแข่งขัน World Taekwondo Virtual Championships ที่สิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีการจัด การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 19 ทีม โดยนักกีฬามาเลเซียสามารถคว้าเหรียญทองในประเภท Young Adult

    เทคโนโลยีและการฝึกซ้อม
    ระบบ VR Taekwondo ใช้ซอฟต์แวร์ VTKD ที่พัฒนาโดย World Taekwondo และบริษัท Refract Technologies จากสิงคโปร์ อุปกรณ์ประกอบด้วย node ติดตามการเคลื่อนไหว 5 จุดบนร่างกาย และต้องใช้ WiFi 6 เพื่อให้การเล่นราบรื่น ผู้ฝึกสอนย้ำว่าการแข่งขัน VR ไม่ได้แทนที่การฝึกจริง แต่ช่วยเสริมด้านความแม่นยำ, stamina และการวิเคราะห์ฟอร์มของนักกีฬา

    อนาคตของ VR Taekwondo
    สมาคม Taekwondo Malaysia และกระทรวงเยาวชนและกีฬาเตรียมส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน VR ระดับนานาชาติในปี 2026 ที่เกาหลีใต้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องค่าอุปกรณ์ที่สูง (ประมาณ RM15,000–30,000 ต่อชุด) แต่ผู้ฝึกสอนเชื่อว่า VR จะเป็น เครื่องมือเสริมการฝึกซ้อม และช่วยดึงดูดเยาวชนรุ่นใหม่เข้าสู่กีฬา taekwondo

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเกิดขึ้นของ VR Taekwondo
    ใช้ VR headset และ motion sensors แทนการปะทะจริง
    ลดความเสี่ยงบาดเจ็บและเปิดโอกาสให้เด็กเข้าร่วมมากขึ้น

    การแข่งขันและความสำเร็จ
    นักกีฬามาเลเซียติดอันดับ 4 ใน World Taekwondo Virtual Championships
    การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยมีผู้เข้าร่วม 19 ทีม

    เทคโนโลยีที่ใช้
    ซอฟต์แวร์ VTKD พัฒนาโดย World Taekwondo และ Refract Technologies
    ใช้ node 5 จุดและ WiFi 6 เพื่อความแม่นยำ

    อนาคตและการสนับสนุน
    Taekwondo Malaysia และกระทรวงเยาวชนเตรียมส่งนักกีฬาไปแข่งที่เกาหลีใต้ปี 2026
    ค่าอุปกรณ์สูง แต่ช่วยเสริมการฝึกและดึงดูดเยาวชน

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ค่าอุปกรณ์สูง RM15,000–30,000 อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง
    VR ไม่สามารถแทนที่การฝึกจริงด้านการสัมผัสและแรงปะทะ
    ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้การแข่งขันสะดุด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/15/from-traditional-mats-to-virtual-arenas-the-rise-of-vr-taekwondo-in-malaysia
    🥋 จากเสื่อจริงสู่สนามเสมือน – VR Taekwondo กำลังเติบโตในมาเลเซีย ในงานสาธิตที่มหาวิทยาลัย APU กรุงกัวลาลัมเปอร์ นักกีฬา taekwondo ใช้ VR headset, motion sensors และ joysticks เพื่อแข่งขันกันในสนามเสมือนจริง โดยระบบจะคำนวณคะแนนจากการเตะที่แม่นยำและรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นสามารถฝึกและแข่งขันโดยไม่ต้องเสี่ยงบาดเจ็บจากการปะทะจริง 🎮 การแข่งขันและการยอมรับ Master Tony Lee ผู้ฝึกสอนทีมชาติมาเลเซียเผยว่า VR Taekwondo เริ่มได้รับความนิยมในสโมสรท้องถิ่นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และมีนักกีฬามาเลเซียติดอันดับ 4 ในการแข่งขัน World Taekwondo Virtual Championships ที่สิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีการจัด การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 19 ทีม โดยนักกีฬามาเลเซียสามารถคว้าเหรียญทองในประเภท Young Adult ⚡ เทคโนโลยีและการฝึกซ้อม ระบบ VR Taekwondo ใช้ซอฟต์แวร์ VTKD ที่พัฒนาโดย World Taekwondo และบริษัท Refract Technologies จากสิงคโปร์ อุปกรณ์ประกอบด้วย node ติดตามการเคลื่อนไหว 5 จุดบนร่างกาย และต้องใช้ WiFi 6 เพื่อให้การเล่นราบรื่น ผู้ฝึกสอนย้ำว่าการแข่งขัน VR ไม่ได้แทนที่การฝึกจริง แต่ช่วยเสริมด้านความแม่นยำ, stamina และการวิเคราะห์ฟอร์มของนักกีฬา 🚀 อนาคตของ VR Taekwondo สมาคม Taekwondo Malaysia และกระทรวงเยาวชนและกีฬาเตรียมส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน VR ระดับนานาชาติในปี 2026 ที่เกาหลีใต้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องค่าอุปกรณ์ที่สูง (ประมาณ RM15,000–30,000 ต่อชุด) แต่ผู้ฝึกสอนเชื่อว่า VR จะเป็น เครื่องมือเสริมการฝึกซ้อม และช่วยดึงดูดเยาวชนรุ่นใหม่เข้าสู่กีฬา taekwondo 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเกิดขึ้นของ VR Taekwondo ➡️ ใช้ VR headset และ motion sensors แทนการปะทะจริง ➡️ ลดความเสี่ยงบาดเจ็บและเปิดโอกาสให้เด็กเข้าร่วมมากขึ้น ✅ การแข่งขันและความสำเร็จ ➡️ นักกีฬามาเลเซียติดอันดับ 4 ใน World Taekwondo Virtual Championships ➡️ การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยมีผู้เข้าร่วม 19 ทีม ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ ➡️ ซอฟต์แวร์ VTKD พัฒนาโดย World Taekwondo และ Refract Technologies ➡️ ใช้ node 5 จุดและ WiFi 6 เพื่อความแม่นยำ ✅ อนาคตและการสนับสนุน ➡️ Taekwondo Malaysia และกระทรวงเยาวชนเตรียมส่งนักกีฬาไปแข่งที่เกาหลีใต้ปี 2026 ➡️ ค่าอุปกรณ์สูง แต่ช่วยเสริมการฝึกและดึงดูดเยาวชน ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ค่าอุปกรณ์สูง RM15,000–30,000 อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง ⛔ VR ไม่สามารถแทนที่การฝึกจริงด้านการสัมผัสและแรงปะทะ ⛔ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้การแข่งขันสะดุด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/15/from-traditional-mats-to-virtual-arenas-the-rise-of-vr-taekwondo-in-malaysia
    WWW.THESTAR.COM.MY
    From traditional mats to virtual arenas: The rise of VR taekwondo in Malaysia
    Malaysia's taekwondo scene is going virtual, with opponents sparring in the digital realm using VR headsets.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • วาดฝันนั่งรถไฟ คุนหมิง-สิงคโปร์

    การเปิดเดินรถไฟ ETS ตั้งแต่สถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถึงสถานี JB Sentral รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย แม้จะไม่มีขบวนรถสายยาวจากสถานีปาดังเบซาร์ ชายแดนไทย-มาเลเซีย แต่คนที่วาดฝันว่าจะนั่งรถไฟจากคุนหมิง ประเทศจีน ไปประเทศสิงคโปร์ย่อมไม่ไกลเกินฝัน แต่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า เมื่อลองร่างโปรแกรมการเดินทางคร่าวๆ ผลออกมาดังนี้

    วันที่ 1 ออกจากสถานีรถไฟคุนหมิงใต้ (Kunmingnan) ด้วยรถไฟ EMU ขบวนที่ D87 เวลา 08.08 น. (ตามเวลาประเทศจีน) ตามกำหนดจะถึงสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 16.44 น. (ตามเวลาประเทศลาว) แต่อาจมีขบวนรถล่าช้า ถึงปลายทางประมาณ 17.00 น.

    จากนั้นมี 2 ตัวเลือก คือ 1. ใช้บริการรถรับจ้างไปสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ต่อขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์-กรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากสถานีเวลา 18.25 น. ถึงปลายทาง 07.30 น. หรือ 2. ต่อรถประจำทางหรือรถรับจ้างไปสะพานมิตรภาพ เข้าประเทศไทยไปสถานีหนองคาย ต่อขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคาที่ 26 หนองคาย-กรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากสถานีเวลา 19.40 น. ถึงปลายทาง 05.30 น.

    วันที่ 2 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มี 2 ตัวเลือก คือ 1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 กรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเวลา 16.10 น. ถึงปลายทางสถานีปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย 08.05 น. แต่อาจมีขบวนรถล่าช้า ถึงปลายทางประมาณ 09.00 น. (หรือ 10.00 น. ตามเวลามาเลเซีย) หรือ 2. ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ที่ 31 กรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมทางหาดใหญ่ ออกจากสถานีเวลา 16.50 น. ถึงปลายทาง 07.05 น. แต่อาจมีขบวนรถล่าช้า ถึงปลายทางประมาณ 08.00 น. แล้วต่อขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 947 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเวลา 08.55 น. ถึงปลายทาง 09.40 น. (หรือ 10.40 น. ตามเวลามาเลเซีย)

    จากนั้นต่อรถไฟ ETS ไปยังปลายทาง KL Sentral อ้างอิงตารางเดินรถวันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป (ตามเวลามาเลเซีย) มีให้เลือกได้แก่ 1. ขบวน EG9449 ออกจากสถานีเวลา 12.05 น. ถึง KL Sentral ประมาณ 17.50 น. (ถึงปลายทางสถานีเซกามัตประมาณ 20.36 น.) หรือ 2. ขบวน EX9209 ออกจากสถานีเวลา 13.50 น. ถึงปลายทางประมาณ 18.40 น. และ 3. ขบวน EP9233 ออกจากสถานีเวลา 17.00 น. ถึงปลายทางประมาณ 22.45 น. ค้างที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 1 คืน

    วันที่ 3 ออกจากสถานี KL Sentral ด้วยรถไฟ ETS ขบวน EP9523 ออกจากสถานีเวลา 07.55 น. ถึงปลายทางสถานี JB Sentral รัฐยะโฮร์ ประมาณ 12.15 น. ต่อรถไฟ Shuttle Tebrau ไปสถานีวู้ดแลนด์ ประเทศสิงคโปร์ ขบวน ST79 ออกจากสถานีเวลา 12.45 น. หรือขบวน ST81 ออกจากสถานีเวลา 14.00 น. ใช้เวลา 5 นาที

    #Newskit
    วาดฝันนั่งรถไฟ คุนหมิง-สิงคโปร์ การเปิดเดินรถไฟ ETS ตั้งแต่สถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถึงสถานี JB Sentral รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย แม้จะไม่มีขบวนรถสายยาวจากสถานีปาดังเบซาร์ ชายแดนไทย-มาเลเซีย แต่คนที่วาดฝันว่าจะนั่งรถไฟจากคุนหมิง ประเทศจีน ไปประเทศสิงคโปร์ย่อมไม่ไกลเกินฝัน แต่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า เมื่อลองร่างโปรแกรมการเดินทางคร่าวๆ ผลออกมาดังนี้ วันที่ 1 ออกจากสถานีรถไฟคุนหมิงใต้ (Kunmingnan) ด้วยรถไฟ EMU ขบวนที่ D87 เวลา 08.08 น. (ตามเวลาประเทศจีน) ตามกำหนดจะถึงสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 16.44 น. (ตามเวลาประเทศลาว) แต่อาจมีขบวนรถล่าช้า ถึงปลายทางประมาณ 17.00 น. จากนั้นมี 2 ตัวเลือก คือ 1. ใช้บริการรถรับจ้างไปสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ต่อขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์-กรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากสถานีเวลา 18.25 น. ถึงปลายทาง 07.30 น. หรือ 2. ต่อรถประจำทางหรือรถรับจ้างไปสะพานมิตรภาพ เข้าประเทศไทยไปสถานีหนองคาย ต่อขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคาที่ 26 หนองคาย-กรุงเทพอภิวัฒน์ ออกจากสถานีเวลา 19.40 น. ถึงปลายทาง 05.30 น. วันที่ 2 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มี 2 ตัวเลือก คือ 1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 กรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเวลา 16.10 น. ถึงปลายทางสถานีปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย 08.05 น. แต่อาจมีขบวนรถล่าช้า ถึงปลายทางประมาณ 09.00 น. (หรือ 10.00 น. ตามเวลามาเลเซีย) หรือ 2. ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ที่ 31 กรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมทางหาดใหญ่ ออกจากสถานีเวลา 16.50 น. ถึงปลายทาง 07.05 น. แต่อาจมีขบวนรถล่าช้า ถึงปลายทางประมาณ 08.00 น. แล้วต่อขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 947 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเวลา 08.55 น. ถึงปลายทาง 09.40 น. (หรือ 10.40 น. ตามเวลามาเลเซีย) จากนั้นต่อรถไฟ ETS ไปยังปลายทาง KL Sentral อ้างอิงตารางเดินรถวันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป (ตามเวลามาเลเซีย) มีให้เลือกได้แก่ 1. ขบวน EG9449 ออกจากสถานีเวลา 12.05 น. ถึง KL Sentral ประมาณ 17.50 น. (ถึงปลายทางสถานีเซกามัตประมาณ 20.36 น.) หรือ 2. ขบวน EX9209 ออกจากสถานีเวลา 13.50 น. ถึงปลายทางประมาณ 18.40 น. และ 3. ขบวน EP9233 ออกจากสถานีเวลา 17.00 น. ถึงปลายทางประมาณ 22.45 น. ค้างที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 1 คืน วันที่ 3 ออกจากสถานี KL Sentral ด้วยรถไฟ ETS ขบวน EP9523 ออกจากสถานีเวลา 07.55 น. ถึงปลายทางสถานี JB Sentral รัฐยะโฮร์ ประมาณ 12.15 น. ต่อรถไฟ Shuttle Tebrau ไปสถานีวู้ดแลนด์ ประเทศสิงคโปร์ ขบวน ST79 ออกจากสถานีเวลา 12.45 น. หรือขบวน ST81 ออกจากสถานีเวลา 14.00 น. ใช้เวลา 5 นาที #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดตำนาน 18 ปีมาสวิง สู่แอร์บอร์เนียวรัฐซาราวัก

    สายการบินน้องใหม่ของมาเลเซียที่ชื่อว่า แอร์บอร์เนียว (Air Borneo) จะเริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารผ่านเว็บไซต์ในวันที่ 10 ธ.ค. 2568 ก่อนทำการบินครั้งแรกในวันที่ 14 ม.ค. 2569 หลังรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวัก ซื้อกิจการสายการบินมาสวิง (MASWings) จากกลุ่มมาเลเซีย เอวิเอชัน กรุ๊ป (MAG) เจ้าของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) มาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568

    โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เที่ยวบินทั้งหมดของมาสวิงจะให้บริการโดยแอร์บอร์เนียว ภายหลังโอนสิทธิ์การบริหารให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวัก ระหว่างนี้ การซื้อตั๋วใหม่สำหรับการเดินทางถึงวันที่ 13 ม.ค. 2569 ยังคงซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ของมาสวิง หลังจากนั้นวันที่ 14 ม.ค. 2569 สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้บนเว็บไซต์และคอลเซ็นเตอร์ของแอร์บอร์เนียว

    ส่วนโปรแกรมสะสมคะแนนเอนริช พอยต์ (Enrich Points) จะไม่สามารถสะสมหรือแลกใช้ได้กับเที่ยวบินของแอร์บอร์เนียวได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มาเลเซียแอร์ไลน์ยังมีเที่ยวบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังปลายทางบนเกาะบอร์เนียว ได้แก่ กูชิ่ง ซิบู บินตูลู มิริ ลาบวน โกตากินาบาลู ซันดากัน ตาเวา รวมถึงสายการบินไฟร์ฟลาย (Firefly) มีเส้นทางไปกูชิ่่ง ซิบู โกตากินาบาลู ตาเวา

    สำหรับมาสวิง เป็นสายการบินชุมชนระดับภูมิภาคสำหรับรัฐซาบาห์และซาราวักในมาเลเซียตะวันออก บนเกาะบอร์เนียว เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2550 เน้นเส้นทางไปยังพื้นที่ชนบท (RAS) ภายในรัฐซาบาห์และรัฐซาราวักเป็นหลัก โดยมีศูนย์กลางการบินหลัก (Hub) ที่โกตากินาบาลู มิริ และฮับรองที่กูชิ่ง ไปยังจุดหมายปลายทางหลัก รวม 23 แห่ง ใช้เครื่องบิน ATR72-500 มี 68 ที่นั่ง จำนวน 8 ลำ และ VIKING DHC-6-400 มี 19 ที่นั่ง จำนวน 6 ลำ ใช้สำหรับบริการการบินในชนบท โดยได้รับเงินอุดหนุนประจำปีจากรัฐบาลกลาง

    รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวัก ภายใต้การนำของนายอาบัง โจฮาริ โอเปง มุขมนตรีรัฐซาราวัก ได้ซื้อกิจการสายการบินมาสวิง เพื่อจัดตั้งสายการบินบูทีคแอร์ไลน์ (Boutique Airline) ที่ภาครัฐเป็นเจ้าของ กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น และผลักดันให้รัฐซาราวักเป็นศูนย์กลางการบินบนเกาะบอร์เนียว ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวมาเลย์เมล์ (MalayMail) ของรายงานว่า แอร์บอร์เนียวมีแผนจะเปิดเส้นทางบินไปยังประเทศสิงคโปร์ และเกาะเชจูในเกาหลีใต้

    อนึ่ง รัฐซาราวัก มีเมืองหลักคือกูชิ่ง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยเครื่องบินประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวซึ่งเป็นแผ่นดินรวมกัน 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน

    #Newskit
    ปิดตำนาน 18 ปีมาสวิง สู่แอร์บอร์เนียวรัฐซาราวัก สายการบินน้องใหม่ของมาเลเซียที่ชื่อว่า แอร์บอร์เนียว (Air Borneo) จะเริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารผ่านเว็บไซต์ในวันที่ 10 ธ.ค. 2568 ก่อนทำการบินครั้งแรกในวันที่ 14 ม.ค. 2569 หลังรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวัก ซื้อกิจการสายการบินมาสวิง (MASWings) จากกลุ่มมาเลเซีย เอวิเอชัน กรุ๊ป (MAG) เจ้าของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) มาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เที่ยวบินทั้งหมดของมาสวิงจะให้บริการโดยแอร์บอร์เนียว ภายหลังโอนสิทธิ์การบริหารให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวัก ระหว่างนี้ การซื้อตั๋วใหม่สำหรับการเดินทางถึงวันที่ 13 ม.ค. 2569 ยังคงซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ของมาสวิง หลังจากนั้นวันที่ 14 ม.ค. 2569 สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้บนเว็บไซต์และคอลเซ็นเตอร์ของแอร์บอร์เนียว ส่วนโปรแกรมสะสมคะแนนเอนริช พอยต์ (Enrich Points) จะไม่สามารถสะสมหรือแลกใช้ได้กับเที่ยวบินของแอร์บอร์เนียวได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มาเลเซียแอร์ไลน์ยังมีเที่ยวบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังปลายทางบนเกาะบอร์เนียว ได้แก่ กูชิ่ง ซิบู บินตูลู มิริ ลาบวน โกตากินาบาลู ซันดากัน ตาเวา รวมถึงสายการบินไฟร์ฟลาย (Firefly) มีเส้นทางไปกูชิ่่ง ซิบู โกตากินาบาลู ตาเวา สำหรับมาสวิง เป็นสายการบินชุมชนระดับภูมิภาคสำหรับรัฐซาบาห์และซาราวักในมาเลเซียตะวันออก บนเกาะบอร์เนียว เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2550 เน้นเส้นทางไปยังพื้นที่ชนบท (RAS) ภายในรัฐซาบาห์และรัฐซาราวักเป็นหลัก โดยมีศูนย์กลางการบินหลัก (Hub) ที่โกตากินาบาลู มิริ และฮับรองที่กูชิ่ง ไปยังจุดหมายปลายทางหลัก รวม 23 แห่ง ใช้เครื่องบิน ATR72-500 มี 68 ที่นั่ง จำนวน 8 ลำ และ VIKING DHC-6-400 มี 19 ที่นั่ง จำนวน 6 ลำ ใช้สำหรับบริการการบินในชนบท โดยได้รับเงินอุดหนุนประจำปีจากรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวัก ภายใต้การนำของนายอาบัง โจฮาริ โอเปง มุขมนตรีรัฐซาราวัก ได้ซื้อกิจการสายการบินมาสวิง เพื่อจัดตั้งสายการบินบูทีคแอร์ไลน์ (Boutique Airline) ที่ภาครัฐเป็นเจ้าของ กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น และผลักดันให้รัฐซาราวักเป็นศูนย์กลางการบินบนเกาะบอร์เนียว ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวมาเลย์เมล์ (MalayMail) ของรายงานว่า แอร์บอร์เนียวมีแผนจะเปิดเส้นทางบินไปยังประเทศสิงคโปร์ และเกาะเชจูในเกาหลีใต้ อนึ่ง รัฐซาราวัก มีเมืองหลักคือกูชิ่ง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยเครื่องบินประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวซึ่งเป็นแผ่นดินรวมกัน 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ้นสุดการรอคอย รถไฟ KL-ยะโฮร์บาห์รู

    การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย เตรียมเปิดให้บริการรถไฟ ETS จากสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถึงสถานี JB Sentral รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังโครงการรถไฟทางคู่ติดตั้งระบบไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู ระยะทาง 192 กิโลเมตร พร้อมปรับปรุงสถานีรถไฟ 11 แห่งแล้วเสร็จตามแผน โดย KTMB จะทยอยเปิดให้บริการตามลำดับ เริ่มจากภาคใต้ก่อนเชื่อมสู่เส้นทาง ETS เต็มรูปแบบ

    สำหรับตั๋วโดยสาร สามารถซื้อได้ผ่านแอป KITS Style ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และเว็บไซต์ online.ktmb.com.my ครอบคลุมช่วงเดินทางล่วงหน้าตั้งแต่ 12 ธ.ค. 2568 ถึงเดือน พ.ค. 2569 โดยเส้นทาง KL Sentral ถึง JB Sentral ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ได้แก่ รอบเช้า เฉพาะวันที่ 12-31 ธ.ค. 2568 ออกเวลา 07.45 น. ถึงปลายทาง 12.05 น. ส่วนวันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ออกเวลา 07.55 น. ถึงปลายทาง 12.15 น. และรอบเย็น ออกเวลา 17.35 น. ถึงปลายทาง 21.55 น.

    ส่วนเส้นทาง JB Sentral ถึง KL Sentral ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ได้แก่ รอบเช้า ออกเวลา 08.40 น. ถึงปลายทางเวลา 13.00 น. และรอบเย็น ออกเวลา 16.20 น. ถึงปลายทางเวลา 20.40 น. โดยแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาตั๋วโดยสารเต็ม และให้มาถึงชานชาลาผู้โดยสารขาออกอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเวลาเดินทาง เพราะประตูจะปิด 5 นาทีก่อนออกจากสถานี

    นายอาหมัด นิซาม บิน โมฮาเหม็ด อามิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTM Berhad กล่าวว่า การเปิดให้บริการรถไฟ ETS ชาวรัฐยะโฮร์สามารถตรงไปยังสถานี KL Sentral ก่อนเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในภาคเหนือและชายฝั่งตะวันออก นอกจากจะอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางในชีวิตประจำวันแล้ว ยังสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของรัฐยะโฮร์ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงชาวสิงคโปร์ ให้เดินทางมายังมาเลเซียด้วยบริการรถไฟมากขึ้น

    อนึ่ง สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ (ชายแดนไทย-มาเลเซีย) เนื่องจากยังไม่มีการเดินรถไปถึงสถานี JB Sentral จึงต้องลงรถที่สถานี KL Sentral ก่อน แล้วต่อรถไฟอีกขบวนหนึ่ง ซึ่งจากตารางเดินรถใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 จากสถานีปาดังเบซาร์ สามารถใช้ขบวนรถเที่ยวแรก ออกเวลา 07.20 น. ถึงสถานี KL Sentral เวลา 12.45 น. (เผื่อกรณีขบวนรถล่าช้า) แล้วต่อด้วยรถไฟเที่ยวเวลา 17.35 น. ไปปลายทาง JB Sentral

    ส่วนเที่ยวกลับจาก JB Sentral แนะนำว่าอาจต้องค้างคืนที่กัวลาลัมเปอร์ 1 คืน แล้วต่อรถไฟ ETS เช้าวันถัดไปเพื่อไปสถานีปาดังเบซาร์ กลับสู่ประเทศไทย

    #Newskit
    สิ้นสุดการรอคอย รถไฟ KL-ยะโฮร์บาห์รู การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย เตรียมเปิดให้บริการรถไฟ ETS จากสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถึงสถานี JB Sentral รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังโครงการรถไฟทางคู่ติดตั้งระบบไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู ระยะทาง 192 กิโลเมตร พร้อมปรับปรุงสถานีรถไฟ 11 แห่งแล้วเสร็จตามแผน โดย KTMB จะทยอยเปิดให้บริการตามลำดับ เริ่มจากภาคใต้ก่อนเชื่อมสู่เส้นทาง ETS เต็มรูปแบบ สำหรับตั๋วโดยสาร สามารถซื้อได้ผ่านแอป KITS Style ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และเว็บไซต์ online.ktmb.com.my ครอบคลุมช่วงเดินทางล่วงหน้าตั้งแต่ 12 ธ.ค. 2568 ถึงเดือน พ.ค. 2569 โดยเส้นทาง KL Sentral ถึง JB Sentral ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ได้แก่ รอบเช้า เฉพาะวันที่ 12-31 ธ.ค. 2568 ออกเวลา 07.45 น. ถึงปลายทาง 12.05 น. ส่วนวันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ออกเวลา 07.55 น. ถึงปลายทาง 12.15 น. และรอบเย็น ออกเวลา 17.35 น. ถึงปลายทาง 21.55 น. ส่วนเส้นทาง JB Sentral ถึง KL Sentral ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ได้แก่ รอบเช้า ออกเวลา 08.40 น. ถึงปลายทางเวลา 13.00 น. และรอบเย็น ออกเวลา 16.20 น. ถึงปลายทางเวลา 20.40 น. โดยแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาตั๋วโดยสารเต็ม และให้มาถึงชานชาลาผู้โดยสารขาออกอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเวลาเดินทาง เพราะประตูจะปิด 5 นาทีก่อนออกจากสถานี นายอาหมัด นิซาม บิน โมฮาเหม็ด อามิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTM Berhad กล่าวว่า การเปิดให้บริการรถไฟ ETS ชาวรัฐยะโฮร์สามารถตรงไปยังสถานี KL Sentral ก่อนเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในภาคเหนือและชายฝั่งตะวันออก นอกจากจะอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางในชีวิตประจำวันแล้ว ยังสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของรัฐยะโฮร์ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงชาวสิงคโปร์ ให้เดินทางมายังมาเลเซียด้วยบริการรถไฟมากขึ้น อนึ่ง สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ (ชายแดนไทย-มาเลเซีย) เนื่องจากยังไม่มีการเดินรถไปถึงสถานี JB Sentral จึงต้องลงรถที่สถานี KL Sentral ก่อน แล้วต่อรถไฟอีกขบวนหนึ่ง ซึ่งจากตารางเดินรถใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 จากสถานีปาดังเบซาร์ สามารถใช้ขบวนรถเที่ยวแรก ออกเวลา 07.20 น. ถึงสถานี KL Sentral เวลา 12.45 น. (เผื่อกรณีขบวนรถล่าช้า) แล้วต่อด้วยรถไฟเที่ยวเวลา 17.35 น. ไปปลายทาง JB Sentral ส่วนเที่ยวกลับจาก JB Sentral แนะนำว่าอาจต้องค้างคืนที่กัวลาลัมเปอร์ 1 คืน แล้วต่อรถไฟ ETS เช้าวันถัดไปเพื่อไปสถานีปาดังเบซาร์ กลับสู่ประเทศไทย #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขึ้นภาษีสนามบิน ระวังนักท่องเที่ยวหนี

    ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เห็นชอบปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge หรือ PSC) หรือ ภาษีสนามบิน สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ แก่ท่าอากาศยานหลัก 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ เชียงราย และภูเก็ต จาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท หรือเพิ่มขึ้น 390 บาทต่อคน

    ที่ประชุมเห็นว่า หลายประเทศปรับเพิ่มค่า PSC เพื่อพัฒนาสนามบินให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ คาดว่ารายได้เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี จะใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณหรือภาระหนี้สาธารณะ

    นับจากนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะทำงานร่วมกัน จัดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนเสนอ รมว.คมนาคมอนุมัติ และแจ้งประชาชนล่วงหน้า 4 เดือน ก่อนเริ่มจัดเก็บในอัตราใหม่

    ก่อนหน้านี้สมาคมสายการบินประเทศไทย เสนอขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการบิน ทั้งค่าบริการการเดินอากาศ (ANSC) และค่า PSC ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว เพิ่มความถี่เที่ยวบิน และกระจายรายได้สู่ภูมิภาค พร้อมกับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น และโครงการซื้อบัตรโดยสารระหว่างประเทศ ฟรีภายในประเทศแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

    ในภูมิภาคอาเซียน ท่าอากาศยานชางฮีของสิงคโปร์ ประกาศปรับค่า PSC ล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2569-2573 ตั้งแต่ 65.2 ถึง 79.2 เหรียญสิงคโปร์ (1,600 ถึง 1,945 บาท) แต่ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา ของอินโดนีเซีย ยังคิคค่า PSC เพียง 177,600 รูเปียห์ (339 บาท) ส่วนท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย คิดค่า PSC แยกกันระหว่างสายการบินฟลูเซอร์วิส (KLIA1) 73 ริงกิต (565 บาท) และสายการบินโลว์คอสต์ (KLIA2) 50 ริงกิต (387 บาท) เท่านั้น

    บนโซเชียลฯ วิจารณ์ว่าท่าอากาศยานหลักทั้ง 6 แห่งยังให้บริการบกพร่อง โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ห้องน้ำบริเวณประตูขึ้นเครื่อง (GATE) ไม่เพียงพอ สภาพเก่า มีกลิ่นเหม็น เก้าอี้นั่งไม่สบาย จุดชาร์จแบตเตอรี่มีน้อย ไวไฟฟรีมีจำกัดเวลา หากค่าตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง

    ในปีงบประมาณ 2568 ท่าอากาศยานหลักของ AOT ทั้ง 6 แห่ง มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ 444,944 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 76,636,387 คน

    #Newskit
    ขึ้นภาษีสนามบิน ระวังนักท่องเที่ยวหนี ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เห็นชอบปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge หรือ PSC) หรือ ภาษีสนามบิน สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ แก่ท่าอากาศยานหลัก 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ เชียงราย และภูเก็ต จาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท หรือเพิ่มขึ้น 390 บาทต่อคน ที่ประชุมเห็นว่า หลายประเทศปรับเพิ่มค่า PSC เพื่อพัฒนาสนามบินให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ คาดว่ารายได้เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี จะใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณหรือภาระหนี้สาธารณะ นับจากนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะทำงานร่วมกัน จัดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนเสนอ รมว.คมนาคมอนุมัติ และแจ้งประชาชนล่วงหน้า 4 เดือน ก่อนเริ่มจัดเก็บในอัตราใหม่ ก่อนหน้านี้สมาคมสายการบินประเทศไทย เสนอขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการบิน ทั้งค่าบริการการเดินอากาศ (ANSC) และค่า PSC ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว เพิ่มความถี่เที่ยวบิน และกระจายรายได้สู่ภูมิภาค พร้อมกับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น และโครงการซื้อบัตรโดยสารระหว่างประเทศ ฟรีภายในประเทศแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในภูมิภาคอาเซียน ท่าอากาศยานชางฮีของสิงคโปร์ ประกาศปรับค่า PSC ล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2569-2573 ตั้งแต่ 65.2 ถึง 79.2 เหรียญสิงคโปร์ (1,600 ถึง 1,945 บาท) แต่ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา ของอินโดนีเซีย ยังคิคค่า PSC เพียง 177,600 รูเปียห์ (339 บาท) ส่วนท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย คิดค่า PSC แยกกันระหว่างสายการบินฟลูเซอร์วิส (KLIA1) 73 ริงกิต (565 บาท) และสายการบินโลว์คอสต์ (KLIA2) 50 ริงกิต (387 บาท) เท่านั้น บนโซเชียลฯ วิจารณ์ว่าท่าอากาศยานหลักทั้ง 6 แห่งยังให้บริการบกพร่อง โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ห้องน้ำบริเวณประตูขึ้นเครื่อง (GATE) ไม่เพียงพอ สภาพเก่า มีกลิ่นเหม็น เก้าอี้นั่งไม่สบาย จุดชาร์จแบตเตอรี่มีน้อย ไวไฟฟรีมีจำกัดเวลา หากค่าตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ในปีงบประมาณ 2568 ท่าอากาศยานหลักของ AOT ทั้ง 6 แห่ง มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ 444,944 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 76,636,387 คน #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียนับหนึ่งอีกครั้ง ค้นหาเที่ยวบินปริศนา MH370

    กระทรวงคมนาคมมาเลเซียประกาศว่า ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 จะเริ่มต้นใหม่ โดยบริษัท โอเชียน อินฟินิตี (Ocean Infinity) ภายในวันที่ 30 ธ.ค. ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียยังคงมั่นคงในความพยายามในการหาคําตอบ และแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด

    ถ้อยแถลงของกระทรวงฯ ระบุว่า บริษัท โอเชียน อินฟินิตี ได้ยืนยันต่อรัฐบาลมาเลเซียว่า จะเริ่มดำเนินการค้นหาใต้ทะเลอีกครั้งเป็นเวลา 55 วัน โดยจะดำเนินการเป็นระยะ มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่ได้รับการประเมินว่ามีโอกาสสูงสุดที่จะระบุตำแหน่งของเครื่องบินได้ ตามข้อตกลงการให้บริการที่ลงนามระหว่างกัน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเสียงวิจารณ์จากชาวมาเลเซีย ทั้งเห็นด้วยในการค้นหา เพราะต้องการคำตอบที่สมเหตุสมผลถึงสาเหตุที่เครื่องบินหายไป บ้างก็ไม่เห็นด้วยหากต้องใช้เงินภาษีประชาชน แนะว่าให้นำเงินจำนวนมหาศาลไปช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ยากลำบากดีกว่า ถึงกระนั้น ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับบริษัทเอกชนมีเงื่อนไขก็คือ รัฐบาลจะจ่ายเงินหากพบชิ้นส่วนเครื่องบินเท่านั้น

    หากค้นพบซากเครื่องบิน รัฐบาลมาเลเซียจะต้องจ่ายเงินให้บริษัทเอกชนดังกล่าว 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2,230 ล้านบาท)

    เครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 ออกจากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557 มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้โดยสาร 227 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และลูกเรือ 12 คน รวม 239 คน แต่ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังออกจากสนามบินต้นทาง

    ตามรายงานการสอบสวน 495 หน้า ระบุว่า ระบบควบคุมของเครื่องบิน อาจถูกบังคับให้ออกนอกเส้นทางโดยเจตนา แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบ และยังไม่ได้สรุปผลว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะขึ้นอยู่กับการค้นพบซากเครื่องบิน

    แม้จะมีปฎิบัติการค้นหาร่วมกันทั้งมาเลเซีย ออสเตรเลีย และจีน แต่ก็ยังไม่พบซากเครื่องบิน มีเพียงค้นพบชิ้นส่วนเครื่องบินเล็กๆ ที่เชื่อว่ามาจากเครื่องบินลำดังกล่าวตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงประเทศโมซัมบิก มาดากัสการ์ และเกาะเรอูนียงของฝรั่งเศส

    กรณีนี้นอกจากจะเกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายแล้ว ยังเป็นบาดแผลทางจิตใจให้กับครอบครัวผู้สูญหาย ซึ่งเรียกร้องให้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ บริษัทโบอิ้ง บริษัทโรลส์รอยซ์ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ และบริษัทประกันภัยอลิอันซ์จ่ายเงินเยียวยา

    #Newskit
    มาเลเซียนับหนึ่งอีกครั้ง ค้นหาเที่ยวบินปริศนา MH370 กระทรวงคมนาคมมาเลเซียประกาศว่า ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 จะเริ่มต้นใหม่ โดยบริษัท โอเชียน อินฟินิตี (Ocean Infinity) ภายในวันที่ 30 ธ.ค. ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียยังคงมั่นคงในความพยายามในการหาคําตอบ และแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ถ้อยแถลงของกระทรวงฯ ระบุว่า บริษัท โอเชียน อินฟินิตี ได้ยืนยันต่อรัฐบาลมาเลเซียว่า จะเริ่มดำเนินการค้นหาใต้ทะเลอีกครั้งเป็นเวลา 55 วัน โดยจะดำเนินการเป็นระยะ มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่ได้รับการประเมินว่ามีโอกาสสูงสุดที่จะระบุตำแหน่งของเครื่องบินได้ ตามข้อตกลงการให้บริการที่ลงนามระหว่างกัน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเสียงวิจารณ์จากชาวมาเลเซีย ทั้งเห็นด้วยในการค้นหา เพราะต้องการคำตอบที่สมเหตุสมผลถึงสาเหตุที่เครื่องบินหายไป บ้างก็ไม่เห็นด้วยหากต้องใช้เงินภาษีประชาชน แนะว่าให้นำเงินจำนวนมหาศาลไปช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ยากลำบากดีกว่า ถึงกระนั้น ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับบริษัทเอกชนมีเงื่อนไขก็คือ รัฐบาลจะจ่ายเงินหากพบชิ้นส่วนเครื่องบินเท่านั้น หากค้นพบซากเครื่องบิน รัฐบาลมาเลเซียจะต้องจ่ายเงินให้บริษัทเอกชนดังกล่าว 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2,230 ล้านบาท) เครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 ออกจากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557 มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้โดยสาร 227 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และลูกเรือ 12 คน รวม 239 คน แต่ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังออกจากสนามบินต้นทาง ตามรายงานการสอบสวน 495 หน้า ระบุว่า ระบบควบคุมของเครื่องบิน อาจถูกบังคับให้ออกนอกเส้นทางโดยเจตนา แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบ และยังไม่ได้สรุปผลว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะขึ้นอยู่กับการค้นพบซากเครื่องบิน แม้จะมีปฎิบัติการค้นหาร่วมกันทั้งมาเลเซีย ออสเตรเลีย และจีน แต่ก็ยังไม่พบซากเครื่องบิน มีเพียงค้นพบชิ้นส่วนเครื่องบินเล็กๆ ที่เชื่อว่ามาจากเครื่องบินลำดังกล่าวตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงประเทศโมซัมบิก มาดากัสการ์ และเกาะเรอูนียงของฝรั่งเศส กรณีนี้นอกจากจะเกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายแล้ว ยังเป็นบาดแผลทางจิตใจให้กับครอบครัวผู้สูญหาย ซึ่งเรียกร้องให้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ บริษัทโบอิ้ง บริษัทโรลส์รอยซ์ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ และบริษัทประกันภัยอลิอันซ์จ่ายเงินเยียวยา #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ

    การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม

    อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว

    ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

    การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)

    #Newskit
    มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 525 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูลล่มเพราะระบบทำความเย็นเสีย

    เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน CME ต้องหยุดการซื้อขายทั่วโลก เนื่องจาก ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne เกิดความขัดข้อง ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ประมวลผลการซื้อขายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทีมวิศวกรและผู้รับเหมาถูกเรียกเข้ามาแก้ไขทันที โดยมีการรีสตาร์ทเครื่องทำความเย็นบางส่วนและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราวเพื่อพยายามฟื้นฟูระบบ

    ผลกระทบต่อการซื้อขายทั่วโลก
    CME เป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการซื้อขายตั้งแต่สินค้าเกษตร พลังงาน ดัชนีหุ้น ไปจนถึงคริปโตและอัตราดอกเบี้ย การหยุดชะงักครั้งนี้จึงส่งผลกระทบไปถึง ลอนดอน กัวลาลัมเปอร์ และยุโรป โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรและรีโปในยุโรปที่ต้องหยุดทำการ ขณะที่ BrokerTec US และ EU สามารถกลับมาเปิดได้บางส่วน แต่ระบบอื่น ๆ ยังคงหยุดอยู่

    เวลาและความรุนแรงของเหตุการณ์
    เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ผลกระทบในตลาดสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัด แต่ในตลาดเอเชียและยุโรปกลับได้รับผลกระทบหนักกว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการซื้อขายหนาแน่น เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึง ความเสี่ยงของการพึ่งพาระบบเดียว ในการขับเคลื่อนธุรกรรมระดับโลกที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์

    ความหมายต่ออนาคตของโครงสร้างพื้นฐานการเงิน
    การหยุดชะงักครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดของ CME และเป็นสัญญาณเตือนว่าการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและพลังงานมีความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก การลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินต้องให้ความสำคัญมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สาเหตุของการหยุดชะงัก
    ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne ขัดข้อง
    ทีมวิศวกรต้องรีสตาร์ทและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราว

    ผลกระทบต่อการซื้อขาย
    ตลาดอนุพันธ์ CME ครอบคลุมการซื้อขายทั่วโลก
    ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบหนักที่สุด

    เวลาและความรุนแรง
    เกิดขึ้นเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ตลาดสหรัฐฯ กระทบจำกัด
    ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบมากกว่า

    ความหมายต่ออนาคต
    สะท้อนความเสี่ยงจากการพึ่งพาระบบเดียว
    จำเป็นต้องลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยง

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    การหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐาน IT สามารถกระทบเศรษฐกิจโลกทันที
    ตลาดการเงินต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อป้องกันการล่มซ้ำอีกครั้ง

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/data-center-cooling-issue-halts-worlds-largest-derivatives-exchange-cme-trading-shutdown-ripples-across-malaysia-uk-and-eu-markets
    🌡️ ศูนย์ข้อมูลล่มเพราะระบบทำความเย็นเสีย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน CME ต้องหยุดการซื้อขายทั่วโลก เนื่องจาก ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne เกิดความขัดข้อง ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ประมวลผลการซื้อขายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทีมวิศวกรและผู้รับเหมาถูกเรียกเข้ามาแก้ไขทันที โดยมีการรีสตาร์ทเครื่องทำความเย็นบางส่วนและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราวเพื่อพยายามฟื้นฟูระบบ 💹 ผลกระทบต่อการซื้อขายทั่วโลก CME เป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการซื้อขายตั้งแต่สินค้าเกษตร พลังงาน ดัชนีหุ้น ไปจนถึงคริปโตและอัตราดอกเบี้ย การหยุดชะงักครั้งนี้จึงส่งผลกระทบไปถึง ลอนดอน กัวลาลัมเปอร์ และยุโรป โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรและรีโปในยุโรปที่ต้องหยุดทำการ ขณะที่ BrokerTec US และ EU สามารถกลับมาเปิดได้บางส่วน แต่ระบบอื่น ๆ ยังคงหยุดอยู่ 🕒 เวลาและความรุนแรงของเหตุการณ์ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ผลกระทบในตลาดสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัด แต่ในตลาดเอเชียและยุโรปกลับได้รับผลกระทบหนักกว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการซื้อขายหนาแน่น เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึง ความเสี่ยงของการพึ่งพาระบบเดียว ในการขับเคลื่อนธุรกรรมระดับโลกที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ 🌍 ความหมายต่ออนาคตของโครงสร้างพื้นฐานการเงิน การหยุดชะงักครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดของ CME และเป็นสัญญาณเตือนว่าการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและพลังงานมีความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก การลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินต้องให้ความสำคัญมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สาเหตุของการหยุดชะงัก ➡️ ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne ขัดข้อง ➡️ ทีมวิศวกรต้องรีสตาร์ทและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราว ✅ ผลกระทบต่อการซื้อขาย ➡️ ตลาดอนุพันธ์ CME ครอบคลุมการซื้อขายทั่วโลก ➡️ ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบหนักที่สุด ✅ เวลาและความรุนแรง ➡️ เกิดขึ้นเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ตลาดสหรัฐฯ กระทบจำกัด ➡️ ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบมากกว่า ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ สะท้อนความเสี่ยงจากการพึ่งพาระบบเดียว ➡️ จำเป็นต้องลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยง ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ การหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐาน IT สามารถกระทบเศรษฐกิจโลกทันที ⛔ ตลาดการเงินต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อป้องกันการล่มซ้ำอีกครั้ง https://www.tomshardware.com/desktops/servers/data-center-cooling-issue-halts-worlds-largest-derivatives-exchange-cme-trading-shutdown-ripples-across-malaysia-uk-and-eu-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 ธ.ค. เปิดรถไฟ ETS3 ยะโฮร์บาห์รู-กัวลาลัมเปอร์

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 พ.ย.) นายแอนโธนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่า บริการรถไฟ ETS3 ระหว่างสถานียะโฮร์บาห์รู รัฐยะโฮร์ กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย จะเริ่มให้บริการในวันที่ 12 ธ.ค. โดยสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอิบราฮิมแห่งมาเลเซีย จะเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิด ที่เมืองยะโฮร์บาห์รู ในวันที่ 11 ธ.ค. ก่อนที่จะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวันถัดไป เบื้องต้นจะให้บริการเส้นทาง JB Sentral ถึง KL Sentral เป็นหลัก ส่วนเส้นทางไปยังสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) และ ปาดังเบซาร์ (Padang Besar) มีกำหนดให้บริการในระยะต่อไป

    ด้านการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ชี้แจงว่า กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับบริการรถไฟ ETS3 โดยได้เตรียมกำหนดเวลาเดินรถ ระบบตั๋วโดยสาร และการจัดสรรพนักงานให้บริการในเส้นทางดังกล่าวแล้ว แต่ยังคงรอการอนุมัติขั้นตอนสุดท้ายจากหน่วยงานขนส่งสาธารณะทางบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ขณะที่ขบวนรถไฟ ETS3 รุ่นใหม่ล่าสุด 4 ขบวน จากทั้งหมด 10 ขบวน ผ่านการตรวจสอบรายละเอียดขั้นสุดท้าย (PCA) ซึ่งได้รับการรับรองและพร้อมใช้งานแล้ว เริ่มต้นจะให้บริการเส้นทาง JB Sentral ถึง KL Sentral รวม 4 เที่ยวต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มความถี่ในการเดินทางควบคู่ไปกับการส่งมอบขบวนรถไฟเพิ่มเติม

    ส่วนเส้นทาง JB Sentral มุ่งหน้าไปยังรัฐทางเหนือ จะดำเนินการเป็นขั้นตอนตามความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ข้อกำหนดด้านการจัดตารางเวลาเดินรถ และความพร้อมของสินทรัพย์ในการดำเนินงาน

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) นายโมฮัมหมัด ฟาซลี โมฮัมหมัด ซัลเลห์ ประธานคณะกรรมการด้านงานก่อสร้าง ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานและการสื่อสารของรัฐยะโฮร์ กล่าวต่อสภานิติบัญญัติของรัฐยะโฮร์ ว่า โครงการรถไฟทางคู่ติดระบบไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร มูลค่า 8,900 ล้านริงกิต (ประมาณ 70,000 ล้านบาท) ที่รอคอยกันมายาวนาน มีความคืบหน้าไปแล้ว 99.94% และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นเดือน พ.ย.

    โครงการนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2559 ผ่านเมืองเซกามัต คลวง กูไล และยะโฮร์บาห์รู โดยงานโยธาในขั้นสุดท้ายกำลังดำเนินการอยู่ ก่อนที่เส้นทางรถไฟจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ซึ่งรูปแบบการให้บริการรถไฟ ETS จะให้บริการวันละ 12 เที่ยว ภายใต้ตารางเดินรถเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยเส้นทางยะโฮร์บาห์รู-กัวลาลัมเปอร์ 8 เที่ยวต่อวัน เส้นทางยะโฮร์บาห์รู-ปาดังเบซาร์ 2 เที่ยวต่อวัน และเส้นทางยะโฮร์บาห์รู-บัตเตอร์เวอร์ธ 2 เที่ยวต่อวัน

    #Newskit
    12 ธ.ค. เปิดรถไฟ ETS3 ยะโฮร์บาห์รู-กัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 พ.ย.) นายแอนโธนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่า บริการรถไฟ ETS3 ระหว่างสถานียะโฮร์บาห์รู รัฐยะโฮร์ กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย จะเริ่มให้บริการในวันที่ 12 ธ.ค. โดยสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอิบราฮิมแห่งมาเลเซีย จะเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิด ที่เมืองยะโฮร์บาห์รู ในวันที่ 11 ธ.ค. ก่อนที่จะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวันถัดไป เบื้องต้นจะให้บริการเส้นทาง JB Sentral ถึง KL Sentral เป็นหลัก ส่วนเส้นทางไปยังสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) และ ปาดังเบซาร์ (Padang Besar) มีกำหนดให้บริการในระยะต่อไป ด้านการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ชี้แจงว่า กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับบริการรถไฟ ETS3 โดยได้เตรียมกำหนดเวลาเดินรถ ระบบตั๋วโดยสาร และการจัดสรรพนักงานให้บริการในเส้นทางดังกล่าวแล้ว แต่ยังคงรอการอนุมัติขั้นตอนสุดท้ายจากหน่วยงานขนส่งสาธารณะทางบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ขณะที่ขบวนรถไฟ ETS3 รุ่นใหม่ล่าสุด 4 ขบวน จากทั้งหมด 10 ขบวน ผ่านการตรวจสอบรายละเอียดขั้นสุดท้าย (PCA) ซึ่งได้รับการรับรองและพร้อมใช้งานแล้ว เริ่มต้นจะให้บริการเส้นทาง JB Sentral ถึง KL Sentral รวม 4 เที่ยวต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มความถี่ในการเดินทางควบคู่ไปกับการส่งมอบขบวนรถไฟเพิ่มเติม ส่วนเส้นทาง JB Sentral มุ่งหน้าไปยังรัฐทางเหนือ จะดำเนินการเป็นขั้นตอนตามความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ข้อกำหนดด้านการจัดตารางเวลาเดินรถ และความพร้อมของสินทรัพย์ในการดำเนินงาน ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) นายโมฮัมหมัด ฟาซลี โมฮัมหมัด ซัลเลห์ ประธานคณะกรรมการด้านงานก่อสร้าง ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานและการสื่อสารของรัฐยะโฮร์ กล่าวต่อสภานิติบัญญัติของรัฐยะโฮร์ ว่า โครงการรถไฟทางคู่ติดระบบไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร มูลค่า 8,900 ล้านริงกิต (ประมาณ 70,000 ล้านบาท) ที่รอคอยกันมายาวนาน มีความคืบหน้าไปแล้ว 99.94% และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นเดือน พ.ย. โครงการนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2559 ผ่านเมืองเซกามัต คลวง กูไล และยะโฮร์บาห์รู โดยงานโยธาในขั้นสุดท้ายกำลังดำเนินการอยู่ ก่อนที่เส้นทางรถไฟจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ซึ่งรูปแบบการให้บริการรถไฟ ETS จะให้บริการวันละ 12 เที่ยว ภายใต้ตารางเดินรถเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยเส้นทางยะโฮร์บาห์รู-กัวลาลัมเปอร์ 8 เที่ยวต่อวัน เส้นทางยะโฮร์บาห์รู-ปาดังเบซาร์ 2 เที่ยวต่อวัน และเส้นทางยะโฮร์บาห์รู-บัตเตอร์เวอร์ธ 2 เที่ยวต่อวัน #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยผิดหวัง สหรัฐฯ ระงับเจรจาภาษีการค้า , เหตุบีบไทยต้องทำตามปฏิญญาสันติภาพกับกัมพูชาก่อน

    โฆษก กต.เผย รองผู้แทนการค้าสหรัฐแจ้งขอ “ระงับเจรจาภาษีชั่วคราว” จนกว่าไทยจะกลับมาปฏิบัติตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ฝ่ายไทยย้ำผิดหวังที่นำประเด็นภาษีมาผูกกับปัญหาความมั่นคง ชี้นายกฯ ได้โทรแจง “ทรัมป์” แล้ว และได้รับความเข้าใจ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109255

    #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #สหรัฐอเมริกา #เจรจาการค้า #ภาษีนำเข้า #ความมั่นคงชายแดน #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์ #ASEAN #newsupdate
    ไทยผิดหวัง สหรัฐฯ ระงับเจรจาภาษีการค้า , เหตุบีบไทยต้องทำตามปฏิญญาสันติภาพกับกัมพูชาก่อน • โฆษก กต.เผย รองผู้แทนการค้าสหรัฐแจ้งขอ “ระงับเจรจาภาษีชั่วคราว” จนกว่าไทยจะกลับมาปฏิบัติตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ฝ่ายไทยย้ำผิดหวังที่นำประเด็นภาษีมาผูกกับปัญหาความมั่นคง ชี้นายกฯ ได้โทรแจง “ทรัมป์” แล้ว และได้รับความเข้าใจ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109255 • #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #สหรัฐอเมริกา #เจรจาการค้า #ภาษีนำเข้า #ความมั่นคงชายแดน #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์ #ASEAN #newsupdate
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 596 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียยืนยัน ไทย-BRN พร้อมเดินหน้า "พูดคุยเพื่อสันติสุขฯ" มุ่งจัดประชุมคณะเทคนิคเดือนธันวาคม
    https://www.thai-tai.tv/news/22385/
    .
    #ไทยไท #พูดคุยเพื่อสันติสุข #BRN #มาเลเซีย #ชายแดนใต้ #กัวลาลัมเปอร์
    มาเลเซียยืนยัน ไทย-BRN พร้อมเดินหน้า "พูดคุยเพื่อสันติสุขฯ" มุ่งจัดประชุมคณะเทคนิคเดือนธันวาคม https://www.thai-tai.tv/news/22385/ . #ไทยไท #พูดคุยเพื่อสันติสุข #BRN #มาเลเซีย #ชายแดนใต้ #กัวลาลัมเปอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ อนุทิน โพสต์รับสาย "ทรัมป์-อันวาร์" ลั่นไทยระงับปฏิญญา จนกว่ากัมพูชาจะ "ยอมรับผิดและขอโทษ" ยืนยันข้อมูล AOT ต่อทรัมป์ ชี้ทุ่นระเบิด 4 ทุ่นเป็น "ของใหม่" ที่ลอบวางหลังลงนามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์
    https://www.thai-tai.tv/news/22383/
    .
    #ไทยไท #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์อิบราฮิม #ระงับปฏิญญา #ทุ่นระเบิดใหม่ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

    นายกฯ อนุทิน โพสต์รับสาย "ทรัมป์-อันวาร์" ลั่นไทยระงับปฏิญญา จนกว่ากัมพูชาจะ "ยอมรับผิดและขอโทษ" ยืนยันข้อมูล AOT ต่อทรัมป์ ชี้ทุ่นระเบิด 4 ทุ่นเป็น "ของใหม่" ที่ลอบวางหลังลงนามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ https://www.thai-tai.tv/news/22383/ . #ไทยไท #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์อิบราฮิม #ระงับปฏิญญา #ทุ่นระเบิดใหม่ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อนุทิน” เผยผลคุย “ทรัมป์-อันวาร์” ย้ำไทยระงับปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ไว้ก่อน , ชี้ต้องให้กัมพูชายอมรับผิด–ขอโทษทางการ ปมวางทุ่นระเบิดทำทหารไทยบาดเจ็บสูญเสียขา

    นายกฯ อนุทินเผยผลการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย ย้ำไทยระงับการดำเนินการตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ หลังพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ในฝั่งไทยจนทหารบาดเจ็บ ขอสองชาติเป็นพยานกดดันกัมพูชาต้องยอมรับผิดและแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109215

    #News1live #News1 #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์ #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #ทุ่นระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #กัมพูชา #ไทยกัมพูชา #newsupdate
    “อนุทิน” เผยผลคุย “ทรัมป์-อันวาร์” ย้ำไทยระงับปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ไว้ก่อน , ชี้ต้องให้กัมพูชายอมรับผิด–ขอโทษทางการ ปมวางทุ่นระเบิดทำทหารไทยบาดเจ็บสูญเสียขา • นายกฯ อนุทินเผยผลการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย ย้ำไทยระงับการดำเนินการตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ หลังพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ในฝั่งไทยจนทหารบาดเจ็บ ขอสองชาติเป็นพยานกดดันกัมพูชาต้องยอมรับผิดและแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109215 • #News1live #News1 #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์ #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #ทุ่นระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #กัมพูชา #ไทยกัมพูชา #newsupdate
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวเผย “ทรัมป์” โทรหาทั้งไทย–กัมพูชา , เดินหน้ากลางไกล่เกลี่ยเหตุปะทะชายแดนรอบใหม่
    .
    ทำเนียบขาวระบุ ทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือผู้นำทั้งสองประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ หลังเกิดเหตุปะทะใหม่ และไทยประกาศระงับใช่ข้อตกลงชั่วคราวจากเหตุทหารเหยียบกับระเบิด
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109109
    .
    #News1live #News1 #ทรัมป์ #ทำเนียบขาว #ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุทิน #ฮุนมาเนต #การทูต #สันติภาพ #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate
    ทำเนียบขาวเผย “ทรัมป์” โทรหาทั้งไทย–กัมพูชา , เดินหน้ากลางไกล่เกลี่ยเหตุปะทะชายแดนรอบใหม่ . ทำเนียบขาวระบุ ทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือผู้นำทั้งสองประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ หลังเกิดเหตุปะทะใหม่ และไทยประกาศระงับใช่ข้อตกลงชั่วคราวจากเหตุทหารเหยียบกับระเบิด . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109109 . #News1live #News1 #ทรัมป์ #ทำเนียบขาว #ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุทิน #ฮุนมาเนต #การทูต #สันติภาพ #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุน มาเนต” โทรคุย “ทรัมป์” , อ้างยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์–ขอไม่ให้เกิดการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา
    .
    ฮุน มาเนต เผยได้โทรหารือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อพูดคุยสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมย้ำว่ากัมพูชาปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ และต้องการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ขณะที่ทรัมป์ระบุจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะขึ้นอีก
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109144
    .
    #News1live #News1 #ฮุนมาเนต #ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคงชายแดน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate
    “ฮุน มาเนต” โทรคุย “ทรัมป์” , อ้างยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์–ขอไม่ให้เกิดการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา . ฮุน มาเนต เผยได้โทรหารือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อพูดคุยสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมย้ำว่ากัมพูชาปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ และต้องการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ขณะที่ทรัมป์ระบุจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะขึ้นอีก . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109144 . #News1live #News1 #ฮุนมาเนต #ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคงชายแดน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate
    Angry
    Like
    Haha
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอมโทรคุย! อันวาร์ยกหูคุยทรัมป์ พร้อมจัดเจรจาไทย–กัมพูชา , อ้างสองฝ่ายถอนทหารตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์
    .
    อันวาร์ อิบราฮิม เผยโทรหารือโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันมาเลเซียพร้อมเดินหน้าการทูตแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมระบุว่าทั้งสองชาติได้ถอนกำลังแล้วตามข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ และยินดีกับบทบาททรัมป์ที่ประสานผู้นำทั้งสองฝ่ายให้สถานการณ์คลี่คลาย
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109098
    .
    #News1live #News1 #อันวาร์ #ทรัมป์ #ไทยกัมพูชา #ความมั่นคงชายแดน #อาเซียน #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate
    จอมโทรคุย! อันวาร์ยกหูคุยทรัมป์ พร้อมจัดเจรจาไทย–กัมพูชา , อ้างสองฝ่ายถอนทหารตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ . อันวาร์ อิบราฮิม เผยโทรหารือโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันมาเลเซียพร้อมเดินหน้าการทูตแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมระบุว่าทั้งสองชาติได้ถอนกำลังแล้วตามข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ และยินดีกับบทบาททรัมป์ที่ประสานผู้นำทั้งสองฝ่ายให้สถานการณ์คลี่คลาย . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109098 . #News1live #News1 #อันวาร์ #ทรัมป์ #ไทยกัมพูชา #ความมั่นคงชายแดน #อาเซียน #ข่าวต่างประเทศ #newsupdate
    Angry
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตรอง ผอ.ข่าวกรอง ตั้งคำถาม ปราสาทตาควายจะได้คืนไหม ชี้ไทยมี 2 ทางเลือก สู้รบ หรือ เจรจาไลดาร์
    https://www.thai-tai.tv/news/22208/
    .
    #ไทยไท #ปราสาทตาควาย #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เจรจาชายแดน #นันทิวัฒน์สมารถ #ไลดาร์
    อดีตรอง ผอ.ข่าวกรอง ตั้งคำถาม ปราสาทตาควายจะได้คืนไหม ชี้ไทยมี 2 ทางเลือก สู้รบ หรือ เจรจาไลดาร์ https://www.thai-tai.tv/news/22208/ . #ไทยไท #ปราสาทตาควาย #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เจรจาชายแดน #นันทิวัฒน์สมารถ #ไลดาร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • Namewee แร็ปเปอร์มาเลย์ฯ ถูกกล่าวหาคดียาเสพติด

    กลายเป็นข่าวดังในมาเลเซียและเอเชีย เมื่อ เนมวี (Namewee) หรือนายวี เหมิง จือ (Wee Meng Chee) แร็ปเปอร์ นักร้อง และนักแสดงชาวมาเลเซียวัย 41 ปี ถูกตั้งข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติด ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นิวสเตรทไทมส์ (NST) เปิดเผยว่า ดาโต๊ะ ฟาดิล มาร์ซุส ผู้บัญชาการตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ ยืนยันว่าเจ้าตัวถูกจับกุมเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ต.ค. ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากการตรวจค้นพบยาเม็ด 9 เม็ด ซึ่งสงสัยว่าเป็นยาอี (Ecstasy) นอกจากนี้ ผลตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายวี พบสารแอมเฟตามีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และ THC

    เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวีถูกตั้งข้อหา 2 ข้อหา ภายใต้พระราชบัญญัติยาเสพติดอันตราย ว่าด้วยการครอบครองและการเสพยาเสพติดของมาเลเซีย โดยมาตรา 39A(1) โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี และโบยไม่เกิน 9 ครั้ง หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด ส่วนมาตรา 15(1)(a) ว่าด้วยการเสพยาเสพติด กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายวีให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัว โดยมีผู้ค้ำประกันหนึ่งรายต่อหนึ่งข้อหา ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 4,000 ริงกิตต่อข้อหา รวม 8,000 ริงกิต (ประมาณ 62,000 บาท) และนัดฟังการพิจารณาคดีในวันที่ 18 ธ.ค.

    ด้านเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่าไม่ได้เสพและครอบครองยาเสพติด อย่างมากก็แค่ดื่มสุราบ่อยเท่านั้น รอให้รายงานของตำรวจออกมาก็จะรู้ความจริง คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือน ที่ยังไม่ตอบก่อนหน้านี้เพราะคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาตนยังถูกแบล็กเมล์ พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงการเสียชีวิตของอินฟลูเอนเซอร์สาวแนวเซ็กซี่ Nurse Goddess (เทพธิดาพยาบาล) คือ น.ส.ไอริส เซียะ (Iris Hsieh) ชาวไต้หวันวัย 31 ปี ที่เสียชีวิตในโรงแรมเดียวกันนี้ ว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และตำหนิว่ารถพยาบาลมาช้าเกือบ 1 ชั่วโมงอีกด้วย

    สำหรับเนมวี เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองมัวร์ รัฐยะโฮร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการสื่อสารมวลชน ที่มหาวิทยาลัยหมิงชวน ไต้หวัน มีชื่อเสียงในไทยจากเพลง Thai Love Song และ Thai Cha Cha ฟีเจอริ่งกับ บี้ เดอะสกา (นายกฤษณ์ บุญญะรัง) เผยแพร่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาเคยมีข้อกล่าวหาเรื่องมิวสิควิดีโอเพลง Oh My God ถูกวิจารณ์ว่าดูหมิ่นความอ่อนไหวทางศาสนา และการออกเพลง Fragile ล้อเลียนชาตินิยมจีนและประเด็นทางการเมืองละเอียดอ่อน กลายเป็นเพลงต้องห้ามในจีน

    #Newskit
    Namewee แร็ปเปอร์มาเลย์ฯ ถูกกล่าวหาคดียาเสพติด กลายเป็นข่าวดังในมาเลเซียและเอเชีย เมื่อ เนมวี (Namewee) หรือนายวี เหมิง จือ (Wee Meng Chee) แร็ปเปอร์ นักร้อง และนักแสดงชาวมาเลเซียวัย 41 ปี ถูกตั้งข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติด ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นิวสเตรทไทมส์ (NST) เปิดเผยว่า ดาโต๊ะ ฟาดิล มาร์ซุส ผู้บัญชาการตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ ยืนยันว่าเจ้าตัวถูกจับกุมเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ต.ค. ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากการตรวจค้นพบยาเม็ด 9 เม็ด ซึ่งสงสัยว่าเป็นยาอี (Ecstasy) นอกจากนี้ ผลตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายวี พบสารแอมเฟตามีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และ THC เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวีถูกตั้งข้อหา 2 ข้อหา ภายใต้พระราชบัญญัติยาเสพติดอันตราย ว่าด้วยการครอบครองและการเสพยาเสพติดของมาเลเซีย โดยมาตรา 39A(1) โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี และโบยไม่เกิน 9 ครั้ง หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด ส่วนมาตรา 15(1)(a) ว่าด้วยการเสพยาเสพติด กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายวีให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัว โดยมีผู้ค้ำประกันหนึ่งรายต่อหนึ่งข้อหา ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 4,000 ริงกิตต่อข้อหา รวม 8,000 ริงกิต (ประมาณ 62,000 บาท) และนัดฟังการพิจารณาคดีในวันที่ 18 ธ.ค. ด้านเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่าไม่ได้เสพและครอบครองยาเสพติด อย่างมากก็แค่ดื่มสุราบ่อยเท่านั้น รอให้รายงานของตำรวจออกมาก็จะรู้ความจริง คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือน ที่ยังไม่ตอบก่อนหน้านี้เพราะคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาตนยังถูกแบล็กเมล์ พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงการเสียชีวิตของอินฟลูเอนเซอร์สาวแนวเซ็กซี่ Nurse Goddess (เทพธิดาพยาบาล) คือ น.ส.ไอริส เซียะ (Iris Hsieh) ชาวไต้หวันวัย 31 ปี ที่เสียชีวิตในโรงแรมเดียวกันนี้ ว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และตำหนิว่ารถพยาบาลมาช้าเกือบ 1 ชั่วโมงอีกด้วย สำหรับเนมวี เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองมัวร์ รัฐยะโฮร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการสื่อสารมวลชน ที่มหาวิทยาลัยหมิงชวน ไต้หวัน มีชื่อเสียงในไทยจากเพลง Thai Love Song และ Thai Cha Cha ฟีเจอริ่งกับ บี้ เดอะสกา (นายกฤษณ์ บุญญะรัง) เผยแพร่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาเคยมีข้อกล่าวหาเรื่องมิวสิควิดีโอเพลง Oh My God ถูกวิจารณ์ว่าดูหมิ่นความอ่อนไหวทางศาสนา และการออกเพลง Fragile ล้อเลียนชาตินิยมจีนและประเด็นทางการเมืองละเอียดอ่อน กลายเป็นเพลงต้องห้ามในจีน #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มาเลเซียผลักดันอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงสู่ไซเบอร์สเปซ”

    ที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 กลายเป็นเวทีสำคัญที่มาเลเซียใช้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลไปสู่โลกไซเบอร์

    รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย นายโมฮัมหมัด คาเลด นอร์ดิน กล่าวเปิดประชุมว่า “ภัยคุกคามในยุคนี้ไม่จำกัดแค่พรมแดนหรือภูมิประเทศอีกต่อไป” พร้อมเตือนว่า การโจมตีทางไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ล้มรัฐบาล และสร้างความปั่นป่วนในสังคมได้ไม่แพ้ภัยทางทะเล

    การประชุมครั้งนี้ยังมีการหารือร่วมกับประเทศคู่เจรจา เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมด้วย

    นอกจากนี้ มาเลเซียยังเสนอให้จัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนเพื่อช่วยเหลือไทยและกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดน และย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการผลักดันสันติภาพในเมียนมา ซึ่งยังเผชิญกับวิกฤติหลังรัฐประหารในปี 2021

    ในมุมที่น่าสนใจเพิ่มเติม โลกไซเบอร์กลายเป็นสนามรบใหม่ที่ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน และการโจมตีไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร แต่ใช้ “ข้อมูล” และ “ช่องโหว่” เป็นอาวุธ การร่วมมือระดับภูมิภาคจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI และ IoT ทำให้ระบบต่างๆ เชื่อมโยงกันมากขึ้น

    มาเลเซียเสนอขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลสู่ไซเบอร์
    ภัยไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานและเสถียรภาพของประเทศ
    การโจมตีทางไซเบอร์มีผลกระทบเทียบเท่าการรุกรานทางทหาร
    มาเลเซียชี้ว่า “ภัยคุกคามวันนี้ไร้พรมแดน”

    การประชุมมีประเทศคู่เจรจาเข้าร่วมหลายชาติ
    สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย
    รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมประชุมโดยตรง

    มาเลเซียเสนอจัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนช่วยไทย-กัมพูชา
    เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ
    ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการรับรองโดยผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย

    อาเซียนยังคงผลักดันสันติภาพในเมียนมา
    เรียกร้องให้เมียนมากลับสู่แนวทางตามฉันทามติ 5 ข้อ
    ผู้นำทหารเมียนมายังถูกกีดกันจากการประชุมอาเซียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/malaysia-urges-asean-to-expand-defense-cooperation-in-cyberspace
    🛡️ “มาเลเซียผลักดันอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงสู่ไซเบอร์สเปซ” ที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 กลายเป็นเวทีสำคัญที่มาเลเซียใช้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลไปสู่โลกไซเบอร์ รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย นายโมฮัมหมัด คาเลด นอร์ดิน กล่าวเปิดประชุมว่า “ภัยคุกคามในยุคนี้ไม่จำกัดแค่พรมแดนหรือภูมิประเทศอีกต่อไป” พร้อมเตือนว่า การโจมตีทางไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ล้มรัฐบาล และสร้างความปั่นป่วนในสังคมได้ไม่แพ้ภัยทางทะเล การประชุมครั้งนี้ยังมีการหารือร่วมกับประเทศคู่เจรจา เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ มาเลเซียยังเสนอให้จัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนเพื่อช่วยเหลือไทยและกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดน และย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการผลักดันสันติภาพในเมียนมา ซึ่งยังเผชิญกับวิกฤติหลังรัฐประหารในปี 2021 ในมุมที่น่าสนใจเพิ่มเติม โลกไซเบอร์กลายเป็นสนามรบใหม่ที่ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน และการโจมตีไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร แต่ใช้ “ข้อมูล” และ “ช่องโหว่” เป็นอาวุธ การร่วมมือระดับภูมิภาคจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI และ IoT ทำให้ระบบต่างๆ เชื่อมโยงกันมากขึ้น ✅ มาเลเซียเสนอขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทะเลสู่ไซเบอร์ ➡️ ภัยไซเบอร์สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานและเสถียรภาพของประเทศ ➡️ การโจมตีทางไซเบอร์มีผลกระทบเทียบเท่าการรุกรานทางทหาร ➡️ มาเลเซียชี้ว่า “ภัยคุกคามวันนี้ไร้พรมแดน” ✅ การประชุมมีประเทศคู่เจรจาเข้าร่วมหลายชาติ ➡️ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ➡️ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมประชุมโดยตรง ✅ มาเลเซียเสนอจัดตั้งทีมสังเกตการณ์อาเซียนช่วยไทย-กัมพูชา ➡️ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ ➡️ ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการรับรองโดยผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย ✅ อาเซียนยังคงผลักดันสันติภาพในเมียนมา ➡️ เรียกร้องให้เมียนมากลับสู่แนวทางตามฉันทามติ 5 ข้อ ➡️ ผู้นำทหารเมียนมายังถูกกีดกันจากการประชุมอาเซียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/malaysia-urges-asean-to-expand-defense-cooperation-in-cyberspace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Malaysia urges Asean to expand defense cooperation in cyberspace
    Malaysia called on Oct 31 for fellow members of the Association of South-East Asian Nations to extend their security partnerships from the high seas to cyberspace at an annual meeting of the bloc's defense ministers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่หยุดเอ่ยปากชมความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต่อบทบาทของกัวลาลัมเปอร์ ที่นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพประวัติศาสตร์ระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเบอร์นามา สื่อมวลชนมาเลเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103516

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire


    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังไม่หยุดเอ่ยปากชมความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต่อบทบาทของกัวลาลัมเปอร์ ที่นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพประวัติศาสตร์ระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเบอร์นามา สื่อมวลชนมาเลเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103516 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 815 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองหัวหน้า พปชร. หวั่น MOU แรร์เอิร์ธ เปิดช่องสหรัฐฯ แทรกแซงข้อมูลทรัพยากร ส่อ "เลือกข้าง" มหาอำนาจ
    https://www.thai-tai.tv/news/22101/
    .
    #ไทยไท #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #MOUแร่หายาก #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เลือกข้าง #ภูมิรัฐศาสตร์ #สแกมเมอร์

    รองหัวหน้า พปชร. หวั่น MOU แรร์เอิร์ธ เปิดช่องสหรัฐฯ แทรกแซงข้อมูลทรัพยากร ส่อ "เลือกข้าง" มหาอำนาจ https://www.thai-tai.tv/news/22101/ . #ไทยไท #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #MOUแร่หายาก #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #เลือกข้าง #ภูมิรัฐศาสตร์ #สแกมเมอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกรัฐบาลเผยสาระสำคัญของ "Joint Declaration" ที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อยุติความตึงเครียดชายแดนอย่างถาวร โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน และลดการยั่วยุ ก่อนที่ไทยจะพิจารณา "ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการ" และดำเนินการ "ปล่อยเชลยศึกชาวกัมพูชา" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102355

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โฆษกรัฐบาลเผยสาระสำคัญของ "Joint Declaration" ที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อยุติความตึงเครียดชายแดนอย่างถาวร โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน และลดการยั่วยุ ก่อนที่ไทยจะพิจารณา "ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการ" และดำเนินการ "ปล่อยเชลยศึกชาวกัมพูชา" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102355 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียดายโอกาส ..

    “อนุทิน” บินถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ ก่อนลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา พบ “โดนัลด์ ทรัมป์” พรุ่งนี้ https://share.google/ZLL8aWiPZV3DrWKo3
    เสียดายโอกาส .. “อนุทิน” บินถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ ก่อนลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา พบ “โดนัลด์ ทรัมป์” พรุ่งนี้ https://share.google/ZLL8aWiPZV3DrWKo3
    SHARE.GOOGLE
    “อนุทิน” บินถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ ก่อนลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา พบ “โดนัลด์ ทรัมป์” พรุ่งนี้
    นายกฯ อนุทิน พร้อมคณะ ออกเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ เพื่อร่วมพิธีลงนามสันติภาพกับพูชา วันพรุ่งนี้ พร้อมพบปะโดนัลด์ ทรัมป์ และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จภารกิจวันนี้ (วันที่ 25 ตุลาคม 2568) เวลา 16.00
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อนุทิน" พร้อมคณะ ออกเดินทางไปมาเลเซียถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ เพื่อร่วมพิธีลงนามสันติภาพกับพูชา วันพรุ่งนี้ พร้อมพบปะโดนัลด์ ทรัมป์ และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จภารกิจ นายกฯ เผยออกบินเย็นนี้ หลังสหรัฐฯ ตอบรับเงื่อนเวลาเลื่อนการลงนามมาเป็นช่วงเช้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101940

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    "อนุทิน" พร้อมคณะ ออกเดินทางไปมาเลเซียถึงกัวลาลัมเปอร์เย็นนี้ เพื่อร่วมพิธีลงนามสันติภาพกับพูชา วันพรุ่งนี้ พร้อมพบปะโดนัลด์ ทรัมป์ และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จภารกิจ นายกฯ เผยออกบินเย็นนี้ หลังสหรัฐฯ ตอบรับเงื่อนเวลาเลื่อนการลงนามมาเป็นช่วงเช้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101940 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เผยวงประชุม JBC หารือเขตแดน ปมสร้างรั้วบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วเป็นหลัก เร่งแก้ TOR ใช้เทคโนโลยีไลดาร์ทำแผนที่ทางอากาศ ด้านโฆษกกลาโหมเผยประชุม GBC ที่กัวลาลัมเปอร์ 23 ต.ค. กำหนดแผนถอนอาวุธหนักให้รัดกุม มาเลย์-สหรัฐฯ เป็นสักขีพยาน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100170

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เผยวงประชุม JBC หารือเขตแดน ปมสร้างรั้วบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วเป็นหลัก เร่งแก้ TOR ใช้เทคโนโลยีไลดาร์ทำแผนที่ทางอากาศ ด้านโฆษกกลาโหมเผยประชุม GBC ที่กัวลาลัมเปอร์ 23 ต.ค. กำหนดแผนถอนอาวุธหนักให้รัดกุม มาเลย์-สหรัฐฯ เป็นสักขีพยาน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100170 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts