• บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6/10/67

    เซเว่น อีเลฟเว่น แห่งแรกเปิดที่มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1927

    เซเว่น อีเลฟเว่น เริ่มต้นกิจการในปี 1927 ด้วยการขายน้ำแข็งแบบก้อนสำหรับการเก็บความเย็นในตู้เย็น ต่อมาเริ่มจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ไข่ไก่ นม และขนมปัง โดยในตอนนั้น ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้จะเปิดขายในช่วงระหว่าง 07.00-23.00 น. ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ 7-Eleven
    6/10/67 เซเว่น อีเลฟเว่น แห่งแรกเปิดที่มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1927 เซเว่น อีเลฟเว่น เริ่มต้นกิจการในปี 1927 ด้วยการขายน้ำแข็งแบบก้อนสำหรับการเก็บความเย็นในตู้เย็น ต่อมาเริ่มจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ไข่ไก่ นม และขนมปัง โดยในตอนนั้น ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้จะเปิดขายในช่วงระหว่าง 07.00-23.00 น. ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ 7-Eleven
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุริยะ ล้อมคอก เปิดทางทุจริต หากินกับชีวิตเด็ก

    'สุริยะ' นักการเมืองมือเก็บ ระดับแมว 9 ชีวิต ระวังจะพลาดสะดุดขาตัวเอง ทำนายกฯอุ๊งอิ๊ง รับเคราะห์ไปด้วยก็เป็นได้

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ #เปิดทางทุจริต #นักการเมือง
    สุริยะ ล้อมคอก เปิดทางทุจริต หากินกับชีวิตเด็ก 'สุริยะ' นักการเมืองมือเก็บ ระดับแมว 9 ชีวิต ระวังจะพลาดสะดุดขาตัวเอง ทำนายกฯอุ๊งอิ๊ง รับเคราะห์ไปด้วยก็เป็นได้ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ #เปิดทางทุจริต #นักการเมือง
    Like
    Wow
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 343 0 รีวิว
  • ต้นเหตุทุกๆเรื่อง เกิดจาก13ตระกูลหลักผิดจริยธรรมการครองโลกอย่างร้ายแรง,โดยเฉพาะตระกูลรอธไชล์ดและร็อคกี้เฟลเลอร์ที่ยึดครองครอบงำทั่วโลกและประเทศไทยเราที่วางหมากหมายยึดครองอย่างจริงจังตั้งแต่ยุค ร.4เรา สู่ ร.5 และร้ายที่สุดยุคนอมินีคณะ2475ที่ตระกูลยิวฝรั่งเหล่านี้คือพวกตัวจริงทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังทุกๆเรื่องแม้ในไทยปัจจุบัน อาทิ เช่าที่ดินเช่าคอนโด99ปี,เปิดบ่อนคาสิโน ทำแลนด์บริจด์หรือล้มล้างสถาบันกษัตริย์ในไทยให้สิ้นซากกว่ายุคอดีตๆที่พวกมันทำมาในไทย,สัญลักษณ์ซาตานถูกก่อสร้างในประเทศไทยอย่างเปิดเผยและถูกให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดี ชาติสากลนิยมสร้างประจำไว้ แต่ที่ไหนได้คือตัวดูดพลังชีวิตจากมนุษย์ๆที่ดำเนินกิจกรรมรอบๆสถานที่มัน ไปแดกเพิ่มพลังงานพวกมันมิติซาตานให้แข็งแกร่งมีพลังงานด้านกระทำชั่วให้ยิ่งๆขึ้นไปอีก เช่นจากมีพลังน้อย สิงร่างบังคับจิตใจคนไม่ได้ไม่สะดวก แต่พอได้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่พวกมันติดตั้งทั่วโลกรวมกันรวมทั้งประเทศไทย มันก็มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากก็สามารถสิงร่างนั้น ใช้ร่างกายร่างนั้นอย่างง่ายดายเป็นต้น .
    ..หากคนทั้งโลกร่วมกันกำจัดภัยของโลกอันตรายที่จะทำลายเราแบบวางแผนฆ่าคนทั้งโลกด้วยวัคซีนโควิดที่ฉีดจริงๆทั้งโลกแล้วจากที่พวกมันนี้เองวางแผนการไว้นานและต่อเนื่องไว้แล้วเพราะมันแดกอะดริโนโครมจึงมีอายุยืนยาวกว่าคนปกติหลายร้อยปีกันเลยและมีเทคโนโลยีคืนชีพคืนสภาพร่างกายแบบชุบร่างกายให้กลับมาสาวสวยหล่อเหมือนเก่าได้ด้วยแบบล้ำกว่าเตียงmedbedsที่ในหนังสร้างอีก,การกำจัดตระกูลรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์จึงคือเป้าหมายหลักของคนทั้งโลกต้องร่วมกันล็อกเป้ากำจัดจริงจังร่วมกันเพราะทั้งหมดมาจากพวกนี้ล่ะทำส่วนใหญ่และนั่งบนหัวตัวจริงที่รับหน้าที่มาจากตัวโคตรพ่อโคตรแม่ต่างดาวเลวชั่วอีกที.
    ..ถ้าทุกๆคนทั่วโลกและในไทยไม่รู้ตัวการตัวจริงจะแก้ต้นเหตุของตัวปัญหาทั้งหมดไม่ได้จึงต้องร่วมมือกันอย่างเดียวกำจัดพวกนี้คือรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์,ส่วนตัวอื่นๆจะสแกนกำจัดทีหลังคงไม่ยาก,และพวกนี้ล่ะคือตัวการใหญ่ยึดบ่อปิโตรเลียมไทยเราทั้งหมดโดยพวกมันเองอีกพากันร่างกันเขียนและประกาศออกมาใช้บังคับให้คนไทยต้องเห็นด้วย&เห็นตาม แก้ไขให้ประเทศได้คืนบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดก็ทำไม่ได้อีกเพราะมันอ้างเองเขียนเองทำเองแล้ว,ฉีกทำลาย ยึดคืนสู่สามัญแบบโมฆะจึงเหมาะสมที่สุดกับพวกมันในแผ่นดินไทยเรา,ถ้าพันธมิตรเสื้อเหลืองสมัยก่อนที่ประชาชนเป็นอันมากติดตามต่อสู้ในความดีงาม&ลงสนามยุคๆนั้นแล้วยึดครองอำนาจเองโดยภาคมหาประชาชนที่แก้ไขกันเองและก็ไม่กระทบอะไรกับวังเลย เพราะจะยึดคืนอธิปไตยสู่แผ่นดินไทยด้วย ยึดคืนบ่อปิโตรเลียมตัวพ่อของปัญหาค่าครองชีพแพงทั้งแผ่นดินไทยก็ได้แต่พันธมิตรไม่กล้ากระทำเยียวให้สุดซอย,ทหารถ้าเป็นแบบคณะ2475มาปราบประชาชนในยุคพันธมิตรจริงๆแสดงให้ได้ช้อพิสูจน์ชัดเจนอีกด้วยในยุคพันธมิตรนั้นว่าประเทศไทยไม่สมควรมีทหารจากการเกณฑ์ทหารที่มาจากลูกหลานประชาชนคนไทยทั้งประเทศอีกต่อไป ยุบกองกำลังทหารทั้งหมดไปเลยเพราะรับใช้อีลิทชนชั้นครองทาสในไทยอย่างชัดเจนเลยในสมัยนั้น มิได้จะยืนอยู่ปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเพื่อประโยชน์สุขห่าจริงอะไรต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง,เพราะพันธมิตรเสื้อเหลืองจะยึดคืนทรัพยากรมีค่าทั้งหมดของแผ่นดินไทยตกคืนสู่สามัญเพื่อรีเซ็ตบริหารจัดการใหม่ทั้งหมดอย่างดีต่อธรรมกันก็ว่า,ยุบสถาบันภาคนักการเมืองไปทันที40-50ปี จนกว่าจะเสถียรทางอธิปไตยไทยและคุณภาพความรู้ความเข้าใจคนไทยเจาะลึกเห็นจริงว่าศัตรูไทยและศัตรูโลกคือคนพวกใดอย่างแท้จริง ตัดตอนตัวเนื้อร้ายทันการณ์ก็ว่า,ซึ่งน่าเสียดายมากที่พันธมิตรสมัยนั้นเกรงใจชนชั้นเชื้อสายผู้ดีเก่าลูกท่านหลายเธอเชื้อสายคนสนมเก่าเกินไปตลอดสายวังด้วย เพราะเมื่ออีลิทโลกหรือมารมันขีดมิให้สถาบันกษัตริย์เรายึดคืนทรัพยากรมีค่าสมบัติชาติไทยคืนสู่สามัญไม่ได้ไม่สะดวกก่อการกระทำแล้วพันธมิตรจะเกรงใจทำซากอะไรสมควรยึดอำนาจให้ตกจริงแก่ภาคประชาชนจริงๆสิ โดยภาคประชาชน ซึ่งพลิกประวัติศาสตร์ทันทีที่เหี้ยภาคทหาร4-5เหล่าทัพมักยึดอำนาจแต่ก็กาก&ใจกระจอกไม่เคยยึดคืนบ่อน้ำมันบ่อปิโตรเลียมจริงคืนมาจริงแม้แต่วันเดียว เพราะนั้นคือหัวใจทศกัณฐ์ตัวปัญหาทั้งหมด&ต้นเหตุต้นปัญหาการดำเนินชีวิตของคนไทยทั้งประเทศเลย,เช่นยึดบ่อน้ำมันมาสร้างทำผลิตเองหรือเรียกมาคุยมาจ้างผลิตใหม่ ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาท ในปัจจุบัน ค่าอะไรสาระพัดโดยเฉพาะภาคขนส่งจะต้นทุนต่ำทั้งแผ่นดิน การซื้อขายแลกเปลี่ยนจะได้ราคาถูก คนจะมีตังเหลือเก็บ เศรษฐกิจจะฟื้นฟูทันที ทั่วไทยสินค้าราคาถูกแข่งขันสบายในต่างประเทศ กำหนดคัดเลือกนายทุนมาตั้งฐานผลิตบนแผ่นดินไทยได้ ไม่มาสร้างมลพิษชั่วเลวแบบปัจจุบันตรึมนี้ก็ว่า ได้สบายๆ เป็นต้น.
    ..ทหารยึดอำนาจมันเกรงใจสายวังมั้ยก็ไม่สนใจคนวังอะไร เสียของมากว่าสิบๆครั้ง&10กว่าครั้งที่ทำรัฐประหารยึดอำนาจมา ผีบ้าแต่มีสมองไว้ตั้งบ่าฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่แสดงไปฉีกกฎหมายลูกรัฐธรรมนูญแบบกฎหมายปิโตรเลียมเต่าล้านปีแก้ไขก็แค่นายทุนท่านลอร์ดฟันกำไร ฟันผลประโยชน์เท่านั้น เสียอธิปไตยบวกพื้นที่ดินแดนบ่อปิโตรเลียมแก้เอกชนไปยังไม่ฉีกอีกบวกฝรั่งทั้งนั้นบอกให้คนไทยทรยศแผ่นดินไทยเขียนมาให้ยกแก่อีลิทพวกฝรั่งนายทุนนั้นอีกก็ว่า.เสียของจริงๆ.,จึงภาคมหาประชาชนแบบพันธมิตรยุคเสื้อเหลืองนั้นๆสมควรจบมันอย่างยิ่งยึดอำนาจให้เบ็ดเสร็จ ทำไมทหารจะมีหน้ามีตามีสิทธิยึดอำนาจได้ฝ่ายเดียวหรือไง ภาคสถาบันตรงประชาชนยึดคืนเองไม่ได้หรือไง.น่าเสียดายมากๆสมัยพันธมิตรกำลังมาแรง ชัด ตรงประเด็นด้วย มิใช่จะไล่โทนี่อย่างเดียวแล้วจบ คิดสั้นมากๆหากมองดูดีๆสมัยนั้น,สุดท้ายแกนนำติดคุกตรึม มันใช่เหรอ,สู้ยึดแมร่งมันเลย เขียนไม่ผิดกฎหมายแบบยุคลุงทำปีกปปส.ถวายพานให้สิปี57,ไม่ติดคุกอะไรเลย เป็นนายกต่อด้วยธรรมดาที่ไหน ,จะจบสมัยก็ไม่คิดอ่านขุดเจาะขายเองเสือกไปยกสัมปานบ่อปิโตรเลียมทิ้งทวนอีกสองแปลงที่แน่ตรงอ่าวไทยคุณภาพดิบดีไปให้คนอื่นทำโน้น,บัดสบมากๆการปกครองประเทศไทยเรา น่าสมเพชน่าอนาถระยำสิ้นดี สิ้นดีจริงๆ มีแต่ความเลวๆที่คงอยู่อย่างมั่นคง.
    ..ทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระร็อกกี้เฟลเลอร์ สองตระกูลนี้ก่อนทั่วไทยรู้และทั่วโลกพากันเข้าใจและลงมือเข้าทำลายจะคืนความสงบเป็นอันมากทันทีต่อโลกเราแน่นอน,ชาวโลกต้องแชร์กระจายเป้าหมายทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ทันทีร่วมกันทั้งโลก ดังแบบหมูเด้ง เข้าใจตรงกัน รับรู้ตรงกันแบบหมูเด้ง เพียงชั่วข้ามคืน อนาคตของโลกเราทั้งใบอาจพลิกสู่สิ่งดีๆทันทีเช่นกัน ภัย&ตัวปัญหาของโลกถูกตรวจจับและเข้าทำลายทิ้งทันทีทันเวลานั้นเอง .
    ต้นเหตุทุกๆเรื่อง เกิดจาก13ตระกูลหลักผิดจริยธรรมการครองโลกอย่างร้ายแรง,โดยเฉพาะตระกูลรอธไชล์ดและร็อคกี้เฟลเลอร์ที่ยึดครองครอบงำทั่วโลกและประเทศไทยเราที่วางหมากหมายยึดครองอย่างจริงจังตั้งแต่ยุค ร.4เรา สู่ ร.5 และร้ายที่สุดยุคนอมินีคณะ2475ที่ตระกูลยิวฝรั่งเหล่านี้คือพวกตัวจริงทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังทุกๆเรื่องแม้ในไทยปัจจุบัน อาทิ เช่าที่ดินเช่าคอนโด99ปี,เปิดบ่อนคาสิโน ทำแลนด์บริจด์หรือล้มล้างสถาบันกษัตริย์ในไทยให้สิ้นซากกว่ายุคอดีตๆที่พวกมันทำมาในไทย,สัญลักษณ์ซาตานถูกก่อสร้างในประเทศไทยอย่างเปิดเผยและถูกให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดี ชาติสากลนิยมสร้างประจำไว้ แต่ที่ไหนได้คือตัวดูดพลังชีวิตจากมนุษย์ๆที่ดำเนินกิจกรรมรอบๆสถานที่มัน ไปแดกเพิ่มพลังงานพวกมันมิติซาตานให้แข็งแกร่งมีพลังงานด้านกระทำชั่วให้ยิ่งๆขึ้นไปอีก เช่นจากมีพลังน้อย สิงร่างบังคับจิตใจคนไม่ได้ไม่สะดวก แต่พอได้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่พวกมันติดตั้งทั่วโลกรวมกันรวมทั้งประเทศไทย มันก็มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากก็สามารถสิงร่างนั้น ใช้ร่างกายร่างนั้นอย่างง่ายดายเป็นต้น . ..หากคนทั้งโลกร่วมกันกำจัดภัยของโลกอันตรายที่จะทำลายเราแบบวางแผนฆ่าคนทั้งโลกด้วยวัคซีนโควิดที่ฉีดจริงๆทั้งโลกแล้วจากที่พวกมันนี้เองวางแผนการไว้นานและต่อเนื่องไว้แล้วเพราะมันแดกอะดริโนโครมจึงมีอายุยืนยาวกว่าคนปกติหลายร้อยปีกันเลยและมีเทคโนโลยีคืนชีพคืนสภาพร่างกายแบบชุบร่างกายให้กลับมาสาวสวยหล่อเหมือนเก่าได้ด้วยแบบล้ำกว่าเตียงmedbedsที่ในหนังสร้างอีก,การกำจัดตระกูลรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์จึงคือเป้าหมายหลักของคนทั้งโลกต้องร่วมกันล็อกเป้ากำจัดจริงจังร่วมกันเพราะทั้งหมดมาจากพวกนี้ล่ะทำส่วนใหญ่และนั่งบนหัวตัวจริงที่รับหน้าที่มาจากตัวโคตรพ่อโคตรแม่ต่างดาวเลวชั่วอีกที. ..ถ้าทุกๆคนทั่วโลกและในไทยไม่รู้ตัวการตัวจริงจะแก้ต้นเหตุของตัวปัญหาทั้งหมดไม่ได้จึงต้องร่วมมือกันอย่างเดียวกำจัดพวกนี้คือรอธไชล์ดและร็อกกี้เฟลเลอร์,ส่วนตัวอื่นๆจะสแกนกำจัดทีหลังคงไม่ยาก,และพวกนี้ล่ะคือตัวการใหญ่ยึดบ่อปิโตรเลียมไทยเราทั้งหมดโดยพวกมันเองอีกพากันร่างกันเขียนและประกาศออกมาใช้บังคับให้คนไทยต้องเห็นด้วย&เห็นตาม แก้ไขให้ประเทศได้คืนบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดก็ทำไม่ได้อีกเพราะมันอ้างเองเขียนเองทำเองแล้ว,ฉีกทำลาย ยึดคืนสู่สามัญแบบโมฆะจึงเหมาะสมที่สุดกับพวกมันในแผ่นดินไทยเรา,ถ้าพันธมิตรเสื้อเหลืองสมัยก่อนที่ประชาชนเป็นอันมากติดตามต่อสู้ในความดีงาม&ลงสนามยุคๆนั้นแล้วยึดครองอำนาจเองโดยภาคมหาประชาชนที่แก้ไขกันเองและก็ไม่กระทบอะไรกับวังเลย เพราะจะยึดคืนอธิปไตยสู่แผ่นดินไทยด้วย ยึดคืนบ่อปิโตรเลียมตัวพ่อของปัญหาค่าครองชีพแพงทั้งแผ่นดินไทยก็ได้แต่พันธมิตรไม่กล้ากระทำเยียวให้สุดซอย,ทหารถ้าเป็นแบบคณะ2475มาปราบประชาชนในยุคพันธมิตรจริงๆแสดงให้ได้ช้อพิสูจน์ชัดเจนอีกด้วยในยุคพันธมิตรนั้นว่าประเทศไทยไม่สมควรมีทหารจากการเกณฑ์ทหารที่มาจากลูกหลานประชาชนคนไทยทั้งประเทศอีกต่อไป ยุบกองกำลังทหารทั้งหมดไปเลยเพราะรับใช้อีลิทชนชั้นครองทาสในไทยอย่างชัดเจนเลยในสมัยนั้น มิได้จะยืนอยู่ปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเพื่อประโยชน์สุขห่าจริงอะไรต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง,เพราะพันธมิตรเสื้อเหลืองจะยึดคืนทรัพยากรมีค่าทั้งหมดของแผ่นดินไทยตกคืนสู่สามัญเพื่อรีเซ็ตบริหารจัดการใหม่ทั้งหมดอย่างดีต่อธรรมกันก็ว่า,ยุบสถาบันภาคนักการเมืองไปทันที40-50ปี จนกว่าจะเสถียรทางอธิปไตยไทยและคุณภาพความรู้ความเข้าใจคนไทยเจาะลึกเห็นจริงว่าศัตรูไทยและศัตรูโลกคือคนพวกใดอย่างแท้จริง ตัดตอนตัวเนื้อร้ายทันการณ์ก็ว่า,ซึ่งน่าเสียดายมากที่พันธมิตรสมัยนั้นเกรงใจชนชั้นเชื้อสายผู้ดีเก่าลูกท่านหลายเธอเชื้อสายคนสนมเก่าเกินไปตลอดสายวังด้วย เพราะเมื่ออีลิทโลกหรือมารมันขีดมิให้สถาบันกษัตริย์เรายึดคืนทรัพยากรมีค่าสมบัติชาติไทยคืนสู่สามัญไม่ได้ไม่สะดวกก่อการกระทำแล้วพันธมิตรจะเกรงใจทำซากอะไรสมควรยึดอำนาจให้ตกจริงแก่ภาคประชาชนจริงๆสิ โดยภาคประชาชน ซึ่งพลิกประวัติศาสตร์ทันทีที่เหี้ยภาคทหาร4-5เหล่าทัพมักยึดอำนาจแต่ก็กาก&ใจกระจอกไม่เคยยึดคืนบ่อน้ำมันบ่อปิโตรเลียมจริงคืนมาจริงแม้แต่วันเดียว เพราะนั้นคือหัวใจทศกัณฐ์ตัวปัญหาทั้งหมด&ต้นเหตุต้นปัญหาการดำเนินชีวิตของคนไทยทั้งประเทศเลย,เช่นยึดบ่อน้ำมันมาสร้างทำผลิตเองหรือเรียกมาคุยมาจ้างผลิตใหม่ ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาท ในปัจจุบัน ค่าอะไรสาระพัดโดยเฉพาะภาคขนส่งจะต้นทุนต่ำทั้งแผ่นดิน การซื้อขายแลกเปลี่ยนจะได้ราคาถูก คนจะมีตังเหลือเก็บ เศรษฐกิจจะฟื้นฟูทันที ทั่วไทยสินค้าราคาถูกแข่งขันสบายในต่างประเทศ กำหนดคัดเลือกนายทุนมาตั้งฐานผลิตบนแผ่นดินไทยได้ ไม่มาสร้างมลพิษชั่วเลวแบบปัจจุบันตรึมนี้ก็ว่า ได้สบายๆ เป็นต้น. ..ทหารยึดอำนาจมันเกรงใจสายวังมั้ยก็ไม่สนใจคนวังอะไร เสียของมากว่าสิบๆครั้ง&10กว่าครั้งที่ทำรัฐประหารยึดอำนาจมา ผีบ้าแต่มีสมองไว้ตั้งบ่าฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่แสดงไปฉีกกฎหมายลูกรัฐธรรมนูญแบบกฎหมายปิโตรเลียมเต่าล้านปีแก้ไขก็แค่นายทุนท่านลอร์ดฟันกำไร ฟันผลประโยชน์เท่านั้น เสียอธิปไตยบวกพื้นที่ดินแดนบ่อปิโตรเลียมแก้เอกชนไปยังไม่ฉีกอีกบวกฝรั่งทั้งนั้นบอกให้คนไทยทรยศแผ่นดินไทยเขียนมาให้ยกแก่อีลิทพวกฝรั่งนายทุนนั้นอีกก็ว่า.เสียของจริงๆ.,จึงภาคมหาประชาชนแบบพันธมิตรยุคเสื้อเหลืองนั้นๆสมควรจบมันอย่างยิ่งยึดอำนาจให้เบ็ดเสร็จ ทำไมทหารจะมีหน้ามีตามีสิทธิยึดอำนาจได้ฝ่ายเดียวหรือไง ภาคสถาบันตรงประชาชนยึดคืนเองไม่ได้หรือไง.น่าเสียดายมากๆสมัยพันธมิตรกำลังมาแรง ชัด ตรงประเด็นด้วย มิใช่จะไล่โทนี่อย่างเดียวแล้วจบ คิดสั้นมากๆหากมองดูดีๆสมัยนั้น,สุดท้ายแกนนำติดคุกตรึม มันใช่เหรอ,สู้ยึดแมร่งมันเลย เขียนไม่ผิดกฎหมายแบบยุคลุงทำปีกปปส.ถวายพานให้สิปี57,ไม่ติดคุกอะไรเลย เป็นนายกต่อด้วยธรรมดาที่ไหน ,จะจบสมัยก็ไม่คิดอ่านขุดเจาะขายเองเสือกไปยกสัมปานบ่อปิโตรเลียมทิ้งทวนอีกสองแปลงที่แน่ตรงอ่าวไทยคุณภาพดิบดีไปให้คนอื่นทำโน้น,บัดสบมากๆการปกครองประเทศไทยเรา น่าสมเพชน่าอนาถระยำสิ้นดี สิ้นดีจริงๆ มีแต่ความเลวๆที่คงอยู่อย่างมั่นคง. ..ทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระร็อกกี้เฟลเลอร์ สองตระกูลนี้ก่อนทั่วไทยรู้และทั่วโลกพากันเข้าใจและลงมือเข้าทำลายจะคืนความสงบเป็นอันมากทันทีต่อโลกเราแน่นอน,ชาวโลกต้องแชร์กระจายเป้าหมายทำลายตระกูลรอธไชล์ดและตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ทันทีร่วมกันทั้งโลก ดังแบบหมูเด้ง เข้าใจตรงกัน รับรู้ตรงกันแบบหมูเด้ง เพียงชั่วข้ามคืน อนาคตของโลกเราทั้งใบอาจพลิกสู่สิ่งดีๆทันทีเช่นกัน ภัย&ตัวปัญหาของโลกถูกตรวจจับและเข้าทำลายทิ้งทันทีทันเวลานั้นเอง .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • แบ่งปัน #รูปถ่ายหลังสิงห์ ปี2500
    ✴️ เงินไม่พอผ่อนได้โทรมาคุย((รับฝาก))
    ☑️ รับประกันพระแท้มาตรฐานสากล 100%
    🤙สนใจสายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์เสนา
    แบ่งปัน #รูปถ่ายหลังสิงห์ ปี2500 ✴️ เงินไม่พอผ่อนได้โทรมาคุย((รับฝาก)) ☑️ รับประกันพระแท้มาตรฐานสากล 100% 🤙สนใจสายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์เสนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • KAHR TP45
    Best Big Bore Concealed Carry Handgun ever!
    #kahrarms #kahrtp45

    โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง

    “เพจนี้ เพื่ออาวุธศึกษาและกีฬายิงปืน...ไม่ขายปืน ไม่ใช่พื้นที่โฆษณา!”

    เกริ่นนำ:

    ในบ้านเรา น้อยคนนักที่จะรู้จักคุ้นเคยปืนอเมริกัน “คาห์ร” หรือ Kahr ยี่ห้อใหม่ล่าที่เพิ่งเปิดตัวได้เมื่อ 23 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้น ผมนำประวัติเรื่องราวของปืนยี่ห้อนี้เขียนลงในนิตยสารปืนชื่อ Guns World ในประเทศไทย

    โดยภาพรวมแล้ว คาห์ร เป็นปืนดีนะครับ น่าซื้อใช้ คุณสมบัติเฉพาะตัว ก็คือ ความเพรียวบางมือ บางกว่าปืนยี่ห้อ กล็อค(Glock) ของออสเตรียด้วยซ้ำ, เป็นปืนพกออโตที่เหนี่ยวไกยิงอย่างเดียวเลยไม่ต้องง้างนก(DAO.: Double Action Only)ที่ไกเหนี่ยวน้าวได้นิ่มนวลเบานิ้วมือมากจริงๆ, และ คุณสมบัติตัวปืนโดยรวมโดดเด่นกว่าปืนอื่นอย่างชัดเจน

    นาย จันติน มูน(Justin Moon) สัญชาติอเมริกันเชื้อสายเกาหลีใต้ ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตปืน คาห์ร อาร์มส์(Kahr Arms) ปีค.ศ.1993 ได้ออกแบบตัวปืนและระบบลั่นไกไว้เมื่อตอนที่เขายังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย

    แรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากการที่พบว่า ปืนพกออโตฯที่มีจำหน่ายในตลาดไม่มีคุณสมบัติตรงกับที่เขาต้องการ กล่าวคือ ตัวปืนหนาและหนักเกินกว่าจะพกซ่อนเนียนเสื้อได้ตลอดวัน นอกนั้น ปฏิบัติการตัวปืนพร้อมทั้งระบบลั่นไกหนักมือชนิดที่เรียกว่าจะเหนี่ยวไกยิงทีหนึ่งตัวปืนสั่นไหวทั้งกระบอก

    ปืนรุ่นแรกที่ผลิตสู่ตลาด คือ เค-9 (Kahr K9) ในปีค.ศ.1994

    - ปืนพกกึ่งอัตโนมัติกระบอกเล็กกระทัดและบางเบา
    - ตัวปืนยาวตลอด 6.0 นิ้วฟุต หนา 0.9 นิ้วฟุต วัดส่วนสูงจากส้นด้ามจรดสันศูนย์หลัง 4.5 นิ้วฟุต ลำกล้องปืนยาว 3.5 นิ้วฟุต
    - น้ำหนักทั้งกระบอกมีเพียง 650 กรัม(ไม่บรรุจกระสุน)
    - ใช้กระสุนเก้ามอมอพาราฯหรือ 9x19mm Parabellum บรรจุในแมกกาซีน 7 นัด และอีก 1 นัดในลำกล้องปืน
    - ครอบลำเลื่อนผลิตจากเหล็ก 4130 โครงปืนเป็นเหล็กคาร์บอนผสม 4140 น้ำหนักเบา

    ได้รับความนิยมแพร่หลายให้เป็นปืนสำรองนอกเครื่องแบบ(Back-up weapon)จากตำรวจมลรัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา (ปีค.ศ.2003) จนได้รับขนานนามว่า มูนนี่กันส์(Moonie Gun) เพราะออกแบบโดยนายจัสติน มูน นั่นเอง

    นับจากปีก่อตั้ง คาห์ร อาร์มส์ ผลิตปืนเป็นล่ำเป็นสันในปี 1995 ต่อมาในปีค.ศ.1999 เข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ ออโต้-อ๊อดแนนซ์(Auto-Ordnance) พอในปี 2013 ซื้อที่ดินจำนวน 1,568 ไร่ในมลรัฐเพนซิลวาเนีย เพื่อตั้งโรงงานผลิตปืน และประกาศยกสถานะขึ้นเป็นกลุ่มบริษัท คาห์ร ไฟร์อาร์มส์ อย่างเป็นทางการในปี 2015

    ปัจจุบัน คาห์ร ไฟร์อาร์มส์(Kahr Firearms) ผลิตและจัดจำหน่ายปืนของอเมริกัน 2-3 ยี่ห้อ ได้แก่ คาห์ร(Kahr), ธอมสัน(Thomson), แม็กนั่มรีเสิร์ช(Magnum Research), ออโต้-อ๊อดแนนซ์(Auto-Ordnance) โดยที่ คาห์ร อาร์มส์ เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทนี้

    นวัตกรรม:

    สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น นวัตกรรม(Innovation) ของวงการปืนโลก ได้แก่

    หนึ่ง-ตัวปืนบางไม่ถึงหนึ่งนิ้วฟุต(ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน),
    สอง-น้ำหนักเบามาก คือ ไม่ถึง 800 กรัม,
    สาม-ตัวปืนทั้งกระบอกเล็กกระทัดมากกว่าที่เคยมีในตลาดปืน(โดยเฉพาะยิงด้วยกระสุนเก้ามอมอพาราฯ),
    สี่-เป็นปืนพกออโตฯระบบเหนี่ยวไกยิงทุกนัดที่ไม่มีนกสับหรือ Hammerless/Double-Action Only ซึ่งดูเหมือนจะไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน,
    ห้า-ระบบลั่นไกโดยใช้ลูกเบี้ยว(Cam.) 2 ตัวทำหน้าที่ดันสลักล็อคเข็มแทงชนวนและผลักเข็มแทงชนวนถอยหลังประมาณหนึ่งในสามของระยะถอยร่น,
    หก-มีระบบนิรภัยล็อคเข็มแทงชนวน(Firing Pin Block Drop Safety) ป้องกันอุบัติเหตุปืนลั่นจากกรณีปืนตกกระแทกพื้น ของแข็ง หรือแม้แต่ใช้ค้อนตกทุบ ภายหลังที่ขึ้นลำเลื่อนแล้ว, และ
    เจ็ด-น้ำหนักน้าวไกปืนเบาและนิ่มนวลราบเรียบที่สุดเท่าที่ปืนออโตฯเคยผลิตมา

    คาห์ร ทีพี45:

    สินค้าใหม่ล่าจาก คาห์รอาร์มส์ ซึ่งนาย มาสซาส อะยูบ(Massad Ayoob) สรุปความเห็นไว้ว่า เป็นปืนที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างหลากหลาย จุดเด่นอยู่ที่นวัตกรรม น้ำหนักเหนี่ยวน้าวไกเบาและนิ่มนวลที่สุด และแม่นยำเกินตัว กลุ่มกระสุนดีที่สุดในระยะยิง 25 หลา(22.86 เมตร) คือ 1.95 นิ้วฟุต จากลูกของ Speer Gold Dot หัวกระสุนหนัก 230 เกรน (14.90 กรัม)

    นั่นคือ ความเห็นหลังทดสอบยิงจากเซียนปืนชื่อดังคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาเมื่อปีค.ศ.2011

    รหัสผลิตเต็มๆของปืน คาห์ร รุ่นนี้ คือ TP4543N มีความหมายว่า

    T = Tactical เน้นที่ศูนย์ปืนแบบยิงต่อสู้,
    P = Polymer Frame โครงปืนวัสดุผสมโพลิเม่อร์ เน้นน้ำหนักเบาทั้งกระบอกสะดวกต่อการพกพาติดตัวไม่เป็นภาระหนักเอวตลอดวัน,
    45 = คือ ขนาดกระสุน .45 ACP (Automatic Colt Pistol),
    43 = คือ ลำกล้องยาว 4 นิ้วฟุต และ ครอบลำเลื่อนเป็นสแตนเลสขาวด้าน(Matte Stainless Steel),
    N = คือ ศูนย์ปืนแบบเรืองแสงสำหรับยิงในบริเวณที่แสงสลัว(Tritium Night Sights)

    รายละเอียดตัวปืน:

    ปืนพกกึ่งอัตโนมัติปฏิบัติการรีคอลย์ของเบราว์นิ่ง(Browning-type Recoil Operation) โคนลำกล้องถอยร่นลดตัวลงขัดกลอนโดยไม่ใช้หูโตงเตง(Lock Breech Recoil Lug) ระบบเหนี่ยวไกยิงทุกนัด-ไม่มีนกในตัวปืน(Double-Action Only – Hammerless) เข็มแทงชนวนนิรภัยแบบ Passive Striker Block ป้องกันปืนลั่น 100% จากอุบัติเหตุปืนตกหล่นหรือถูกทุบกระแทก

    ตัวปืนยาวตลอด 6.57 นิ้วฟุต หนา 1.01 นิ้วฟุต สูงวัดจากส้นด้ามจรดศูนย์หลัง 5.25 นิ้วฟุต ครอบลำเลื่อนทำจากเหล็กสแตนเลส โครงปืนผลิตจากวัสดุผสมโพลิเม่อร์สีดำ สันหลังด้ามโค้งเข้าอุ้งมือ สลักลายกันลื่นจุดเหลี่ยมคมด้านหน้า/หลังด้ามปืน น้ำหนักตัวปืน 590 กรัม(ไม่บรรจุกระสุน) ลำกล้องยาว 4.04 นิ้วฟุต เกลียวลำกล้องแบบสันนูน(Polygonal Rifling) หมุนขวา เกลียวหมุนครบ 1 รอบในระยะ 16.38 นิ้วฟุต

    ศูนย์หน้า/หลังสไตล์ปืนยิงต่อสู้ ทรงเตี้ย แต้มจุดเรืองแสง(Combat Low-Profile/Tritium Night Sights) ทั้งศูนย์หน้าและศูนย์หลังปรับซ้าย/ขวาได้โดยการเคาะเลื่อนแท่นศูนย์ ตัวปืนไม่มีระบบห้ามไกโดยแมกกาซีนปืน ไม่มีคันห้ามไก มีคันปลดล็อคลำเลื่อน ตามสไตล์ปืน DAO. กระสุนขนาด .45 ACP(Automatic Colt Pistol)หรือสิบเอ็ดมอมอ แมกกาซีนแถวเดียวบรรจุกระสุน 7 นัดและอีก 1 นัดในลำกล้อง

    ระบบห้ามไก(Safety)ปลอดภัย 100% แม้จะขึ้นลำเลื่อนบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงแล้วก็ตาม ถ้าไม่เหนี่ยวไกปืนจนสุดช่วง ต่อให้ใช้ค้อนตอกหรือปืนหล่นกระแทกพื้นคอนกรีตปืนก็จะไม่ลั่น เพราะใช้ระบบล็อคเข็มแทงชนวนหรือ Passive Striker Block

    กล่าวคือ เมื่อขึ้นลำเลื่อนจะเท่ากับดันสปริงเข็มแทงชนวนหดตัวลงในระยะ 3 ใน 4 แล้วสลักนิรภัยจะล็อคเข็มแทงชนวนไว้ ขณะที่ผู้ยิงน้าวไกปืนเข้ามาหาตัวในลักษณะพร้อมยิง กระเดื่องไกปืนผลักดันให้ลูกเบี้ยว(Cam)สองตัวหมุนยกจมูกลูกเบี้ยวขึ้น ตัวหนึ่งดันสลักล็อคเข็มแทงชนวนขึ้นเพื่อปลดล็อค ขณะที่จมูกลูกเบี้ยวอีกตัวหนึ่งผลักดันเข็มแทงชนวนให้ถอยหลังสุดช่วงแล้วปล่อยให้วิ่งกระแทกแก้ปท้ายกระสุน นี่เป็นนวัตกรรมที่ คาห์รอาร์มส์ คิดค้นและจดลิขสิทธิ์แบบไว้

    คุณสมบัติเด่นตัวปืน:

    หนึ่ง- ปืนพกออโตฯ กระบอกกะทัดรัด เพรียวบางและเบามือ ลำกล้องยาว 4 นิ้วฟุต ใช้กระสุนสิบเอ็ดมอมอ บรรจุ 7+1 นัด
    สอง- เกลียวลำกล้องแบบสันนูน(Polygonal Rifling)ที่ทำให้ยิงได้แม่นยำเกินตัว แม้จะไม่ใช้ปืนระบบแข่งขันก็ตามความเร็วกระสุนสูงกว่าปืนอื่นที่ใช้เกลียวลำกล้องแบบสันคมและมีความยาวเท่ากัน
    สาม- ไกปืนเหนี่ยวน้าวได้เบาและลากได้นิ่มนวลนิ้วมือที่สุด โดยน้ำหนักเหนี่ยวน้าวสม่ำเสมอและไม่สะดุดตลอดช่วงลากไก
    สี่- เป็นปืนพกออโตฯเพื่องานต่อสู้ พกซ่อนเนียนเสื้อได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกหนักเอวเกะกะเป็นภาระ คล่องตัวสูงมาก เพราะกะทัดรัดเพรียวบางมือ ศูนย์ปืนแบบจุดเรืองแสง(Tritium Night Sights)

    ข้อที่ควรพิจารณา:

    TP45 ต่างจาก CT45 ตรงที่เป็น Tactical ขณะที่ CT เน้นพกซ่อนเนียนเสื้อหรือ Concealed Handgun มากกว่า T45 เป็นปืนดีที่หายากมากในตลาดปืนเมืองไทย ออกแบบไว้สำหรับยิงต่อสู้ และพกติดตัวทั้งซองนอกซองในมากกว่าใช้ยิงเล่นในสนามยิงปืน โรงงานผลิตจึงไม่แนะนำให้ยิงด้วยกระสุนซ้อมสนาม แต่สามารถยิงกระสุนลูกจริง(ที่ผลิตจากโรงงานกระสุน)ได้ทุกแบบ รวมทั้งประเภท +P+ โดยตัวปืนไม่ชำรุดเสียหาย ขณะเดียวกัน ก็สามารถนำไปยิงแข่งในระบบยิงต่อสู้ฉับพลัน เช่น IDPA ได้ดีเช่นกัน

    Kahr TP45 เป็น Civilian Handgun เน้นใช้งานในเมืองและชนบทมากกว่า จึงไม่ใช่ปืนทหารใช้งานในสมรภูมิรบ ตามวิสัยของปืนโครงโพลิเม่อร์ทั่วไป

    %%%%%%%%%%%%

    KAHR TP45 Best Big Bore Concealed Carry Handgun ever! #kahrarms #kahrtp45 โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง “เพจนี้ เพื่ออาวุธศึกษาและกีฬายิงปืน...ไม่ขายปืน ไม่ใช่พื้นที่โฆษณา!” เกริ่นนำ: ในบ้านเรา น้อยคนนักที่จะรู้จักคุ้นเคยปืนอเมริกัน “คาห์ร” หรือ Kahr ยี่ห้อใหม่ล่าที่เพิ่งเปิดตัวได้เมื่อ 23 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้น ผมนำประวัติเรื่องราวของปืนยี่ห้อนี้เขียนลงในนิตยสารปืนชื่อ Guns World ในประเทศไทย โดยภาพรวมแล้ว คาห์ร เป็นปืนดีนะครับ น่าซื้อใช้ คุณสมบัติเฉพาะตัว ก็คือ ความเพรียวบางมือ บางกว่าปืนยี่ห้อ กล็อค(Glock) ของออสเตรียด้วยซ้ำ, เป็นปืนพกออโตที่เหนี่ยวไกยิงอย่างเดียวเลยไม่ต้องง้างนก(DAO.: Double Action Only)ที่ไกเหนี่ยวน้าวได้นิ่มนวลเบานิ้วมือมากจริงๆ, และ คุณสมบัติตัวปืนโดยรวมโดดเด่นกว่าปืนอื่นอย่างชัดเจน นาย จันติน มูน(Justin Moon) สัญชาติอเมริกันเชื้อสายเกาหลีใต้ ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตปืน คาห์ร อาร์มส์(Kahr Arms) ปีค.ศ.1993 ได้ออกแบบตัวปืนและระบบลั่นไกไว้เมื่อตอนที่เขายังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากการที่พบว่า ปืนพกออโตฯที่มีจำหน่ายในตลาดไม่มีคุณสมบัติตรงกับที่เขาต้องการ กล่าวคือ ตัวปืนหนาและหนักเกินกว่าจะพกซ่อนเนียนเสื้อได้ตลอดวัน นอกนั้น ปฏิบัติการตัวปืนพร้อมทั้งระบบลั่นไกหนักมือชนิดที่เรียกว่าจะเหนี่ยวไกยิงทีหนึ่งตัวปืนสั่นไหวทั้งกระบอก ปืนรุ่นแรกที่ผลิตสู่ตลาด คือ เค-9 (Kahr K9) ในปีค.ศ.1994 - ปืนพกกึ่งอัตโนมัติกระบอกเล็กกระทัดและบางเบา - ตัวปืนยาวตลอด 6.0 นิ้วฟุต หนา 0.9 นิ้วฟุต วัดส่วนสูงจากส้นด้ามจรดสันศูนย์หลัง 4.5 นิ้วฟุต ลำกล้องปืนยาว 3.5 นิ้วฟุต - น้ำหนักทั้งกระบอกมีเพียง 650 กรัม(ไม่บรรุจกระสุน) - ใช้กระสุนเก้ามอมอพาราฯหรือ 9x19mm Parabellum บรรจุในแมกกาซีน 7 นัด และอีก 1 นัดในลำกล้องปืน - ครอบลำเลื่อนผลิตจากเหล็ก 4130 โครงปืนเป็นเหล็กคาร์บอนผสม 4140 น้ำหนักเบา ได้รับความนิยมแพร่หลายให้เป็นปืนสำรองนอกเครื่องแบบ(Back-up weapon)จากตำรวจมลรัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา (ปีค.ศ.2003) จนได้รับขนานนามว่า มูนนี่กันส์(Moonie Gun) เพราะออกแบบโดยนายจัสติน มูน นั่นเอง นับจากปีก่อตั้ง คาห์ร อาร์มส์ ผลิตปืนเป็นล่ำเป็นสันในปี 1995 ต่อมาในปีค.ศ.1999 เข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ ออโต้-อ๊อดแนนซ์(Auto-Ordnance) พอในปี 2013 ซื้อที่ดินจำนวน 1,568 ไร่ในมลรัฐเพนซิลวาเนีย เพื่อตั้งโรงงานผลิตปืน และประกาศยกสถานะขึ้นเป็นกลุ่มบริษัท คาห์ร ไฟร์อาร์มส์ อย่างเป็นทางการในปี 2015 ปัจจุบัน คาห์ร ไฟร์อาร์มส์(Kahr Firearms) ผลิตและจัดจำหน่ายปืนของอเมริกัน 2-3 ยี่ห้อ ได้แก่ คาห์ร(Kahr), ธอมสัน(Thomson), แม็กนั่มรีเสิร์ช(Magnum Research), ออโต้-อ๊อดแนนซ์(Auto-Ordnance) โดยที่ คาห์ร อาร์มส์ เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทนี้ นวัตกรรม: สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น นวัตกรรม(Innovation) ของวงการปืนโลก ได้แก่ หนึ่ง-ตัวปืนบางไม่ถึงหนึ่งนิ้วฟุต(ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน), สอง-น้ำหนักเบามาก คือ ไม่ถึง 800 กรัม, สาม-ตัวปืนทั้งกระบอกเล็กกระทัดมากกว่าที่เคยมีในตลาดปืน(โดยเฉพาะยิงด้วยกระสุนเก้ามอมอพาราฯ), สี่-เป็นปืนพกออโตฯระบบเหนี่ยวไกยิงทุกนัดที่ไม่มีนกสับหรือ Hammerless/Double-Action Only ซึ่งดูเหมือนจะไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน, ห้า-ระบบลั่นไกโดยใช้ลูกเบี้ยว(Cam.) 2 ตัวทำหน้าที่ดันสลักล็อคเข็มแทงชนวนและผลักเข็มแทงชนวนถอยหลังประมาณหนึ่งในสามของระยะถอยร่น, หก-มีระบบนิรภัยล็อคเข็มแทงชนวน(Firing Pin Block Drop Safety) ป้องกันอุบัติเหตุปืนลั่นจากกรณีปืนตกกระแทกพื้น ของแข็ง หรือแม้แต่ใช้ค้อนตกทุบ ภายหลังที่ขึ้นลำเลื่อนแล้ว, และ เจ็ด-น้ำหนักน้าวไกปืนเบาและนิ่มนวลราบเรียบที่สุดเท่าที่ปืนออโตฯเคยผลิตมา คาห์ร ทีพี45: สินค้าใหม่ล่าจาก คาห์รอาร์มส์ ซึ่งนาย มาสซาส อะยูบ(Massad Ayoob) สรุปความเห็นไว้ว่า เป็นปืนที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างหลากหลาย จุดเด่นอยู่ที่นวัตกรรม น้ำหนักเหนี่ยวน้าวไกเบาและนิ่มนวลที่สุด และแม่นยำเกินตัว กลุ่มกระสุนดีที่สุดในระยะยิง 25 หลา(22.86 เมตร) คือ 1.95 นิ้วฟุต จากลูกของ Speer Gold Dot หัวกระสุนหนัก 230 เกรน (14.90 กรัม) นั่นคือ ความเห็นหลังทดสอบยิงจากเซียนปืนชื่อดังคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาเมื่อปีค.ศ.2011 รหัสผลิตเต็มๆของปืน คาห์ร รุ่นนี้ คือ TP4543N มีความหมายว่า T = Tactical เน้นที่ศูนย์ปืนแบบยิงต่อสู้, P = Polymer Frame โครงปืนวัสดุผสมโพลิเม่อร์ เน้นน้ำหนักเบาทั้งกระบอกสะดวกต่อการพกพาติดตัวไม่เป็นภาระหนักเอวตลอดวัน, 45 = คือ ขนาดกระสุน .45 ACP (Automatic Colt Pistol), 43 = คือ ลำกล้องยาว 4 นิ้วฟุต และ ครอบลำเลื่อนเป็นสแตนเลสขาวด้าน(Matte Stainless Steel), N = คือ ศูนย์ปืนแบบเรืองแสงสำหรับยิงในบริเวณที่แสงสลัว(Tritium Night Sights) รายละเอียดตัวปืน: ปืนพกกึ่งอัตโนมัติปฏิบัติการรีคอลย์ของเบราว์นิ่ง(Browning-type Recoil Operation) โคนลำกล้องถอยร่นลดตัวลงขัดกลอนโดยไม่ใช้หูโตงเตง(Lock Breech Recoil Lug) ระบบเหนี่ยวไกยิงทุกนัด-ไม่มีนกในตัวปืน(Double-Action Only – Hammerless) เข็มแทงชนวนนิรภัยแบบ Passive Striker Block ป้องกันปืนลั่น 100% จากอุบัติเหตุปืนตกหล่นหรือถูกทุบกระแทก ตัวปืนยาวตลอด 6.57 นิ้วฟุต หนา 1.01 นิ้วฟุต สูงวัดจากส้นด้ามจรดศูนย์หลัง 5.25 นิ้วฟุต ครอบลำเลื่อนทำจากเหล็กสแตนเลส โครงปืนผลิตจากวัสดุผสมโพลิเม่อร์สีดำ สันหลังด้ามโค้งเข้าอุ้งมือ สลักลายกันลื่นจุดเหลี่ยมคมด้านหน้า/หลังด้ามปืน น้ำหนักตัวปืน 590 กรัม(ไม่บรรจุกระสุน) ลำกล้องยาว 4.04 นิ้วฟุต เกลียวลำกล้องแบบสันนูน(Polygonal Rifling) หมุนขวา เกลียวหมุนครบ 1 รอบในระยะ 16.38 นิ้วฟุต ศูนย์หน้า/หลังสไตล์ปืนยิงต่อสู้ ทรงเตี้ย แต้มจุดเรืองแสง(Combat Low-Profile/Tritium Night Sights) ทั้งศูนย์หน้าและศูนย์หลังปรับซ้าย/ขวาได้โดยการเคาะเลื่อนแท่นศูนย์ ตัวปืนไม่มีระบบห้ามไกโดยแมกกาซีนปืน ไม่มีคันห้ามไก มีคันปลดล็อคลำเลื่อน ตามสไตล์ปืน DAO. กระสุนขนาด .45 ACP(Automatic Colt Pistol)หรือสิบเอ็ดมอมอ แมกกาซีนแถวเดียวบรรจุกระสุน 7 นัดและอีก 1 นัดในลำกล้อง ระบบห้ามไก(Safety)ปลอดภัย 100% แม้จะขึ้นลำเลื่อนบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงแล้วก็ตาม ถ้าไม่เหนี่ยวไกปืนจนสุดช่วง ต่อให้ใช้ค้อนตอกหรือปืนหล่นกระแทกพื้นคอนกรีตปืนก็จะไม่ลั่น เพราะใช้ระบบล็อคเข็มแทงชนวนหรือ Passive Striker Block กล่าวคือ เมื่อขึ้นลำเลื่อนจะเท่ากับดันสปริงเข็มแทงชนวนหดตัวลงในระยะ 3 ใน 4 แล้วสลักนิรภัยจะล็อคเข็มแทงชนวนไว้ ขณะที่ผู้ยิงน้าวไกปืนเข้ามาหาตัวในลักษณะพร้อมยิง กระเดื่องไกปืนผลักดันให้ลูกเบี้ยว(Cam)สองตัวหมุนยกจมูกลูกเบี้ยวขึ้น ตัวหนึ่งดันสลักล็อคเข็มแทงชนวนขึ้นเพื่อปลดล็อค ขณะที่จมูกลูกเบี้ยวอีกตัวหนึ่งผลักดันเข็มแทงชนวนให้ถอยหลังสุดช่วงแล้วปล่อยให้วิ่งกระแทกแก้ปท้ายกระสุน นี่เป็นนวัตกรรมที่ คาห์รอาร์มส์ คิดค้นและจดลิขสิทธิ์แบบไว้ คุณสมบัติเด่นตัวปืน: หนึ่ง- ปืนพกออโตฯ กระบอกกะทัดรัด เพรียวบางและเบามือ ลำกล้องยาว 4 นิ้วฟุต ใช้กระสุนสิบเอ็ดมอมอ บรรจุ 7+1 นัด สอง- เกลียวลำกล้องแบบสันนูน(Polygonal Rifling)ที่ทำให้ยิงได้แม่นยำเกินตัว แม้จะไม่ใช้ปืนระบบแข่งขันก็ตามความเร็วกระสุนสูงกว่าปืนอื่นที่ใช้เกลียวลำกล้องแบบสันคมและมีความยาวเท่ากัน สาม- ไกปืนเหนี่ยวน้าวได้เบาและลากได้นิ่มนวลนิ้วมือที่สุด โดยน้ำหนักเหนี่ยวน้าวสม่ำเสมอและไม่สะดุดตลอดช่วงลากไก สี่- เป็นปืนพกออโตฯเพื่องานต่อสู้ พกซ่อนเนียนเสื้อได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกหนักเอวเกะกะเป็นภาระ คล่องตัวสูงมาก เพราะกะทัดรัดเพรียวบางมือ ศูนย์ปืนแบบจุดเรืองแสง(Tritium Night Sights) ข้อที่ควรพิจารณา: TP45 ต่างจาก CT45 ตรงที่เป็น Tactical ขณะที่ CT เน้นพกซ่อนเนียนเสื้อหรือ Concealed Handgun มากกว่า T45 เป็นปืนดีที่หายากมากในตลาดปืนเมืองไทย ออกแบบไว้สำหรับยิงต่อสู้ และพกติดตัวทั้งซองนอกซองในมากกว่าใช้ยิงเล่นในสนามยิงปืน โรงงานผลิตจึงไม่แนะนำให้ยิงด้วยกระสุนซ้อมสนาม แต่สามารถยิงกระสุนลูกจริง(ที่ผลิตจากโรงงานกระสุน)ได้ทุกแบบ รวมทั้งประเภท +P+ โดยตัวปืนไม่ชำรุดเสียหาย ขณะเดียวกัน ก็สามารถนำไปยิงแข่งในระบบยิงต่อสู้ฉับพลัน เช่น IDPA ได้ดีเช่นกัน Kahr TP45 เป็น Civilian Handgun เน้นใช้งานในเมืองและชนบทมากกว่า จึงไม่ใช่ปืนทหารใช้งานในสมรภูมิรบ ตามวิสัยของปืนโครงโพลิเม่อร์ทั่วไป %%%%%%%%%%%%
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมนูวันนี้ "ยำเห็ดโคน" จากอุทัยธานี
    ทำตามคำเรียกร้องของคุณนาย
    ช่วงนี้เห็ดโคนกำลังออก ที่ตลาดริมแม่น้ำสะแกกรัง
    ทั้งตลาดเช้าและเย็น มีแบบสดและแบบต้มแล้ว
    เอาสะดวกให้เลือกแบบต้มแล้วเพราะเก็บไว้
    ได้หลายวัน ส่วนแบบสดจะติดเศษดิน
    ต้องมาล้างและตัดส่วนที่ไม่มีดีออกก่อน
    ราคาช่วงนี้ สด 500 บาทต้มแล้ว 600 บาท
    วันนี้จะเอามายำโดยทำแบบยำไทยทั่วไป
    เอาเห็ดโคนมาต้มอีกที พักให้สะเด็ดน้ำ
    จากนั้นเอามาคลุกกับกุ้งลวกและหมูสับลวน
    ใส่หอมแขกซอย คื่นช่าย ผักชีฝรั่งซอยลงไป
    ราดด้วยน้ำยำที่ปรุงด้วย กระเทียม พริกขี้หนู
    น้ำปลา เกลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำต้มสุก
    เอามาปั่นให้เข้ากัน โรยด้วยผักชีซอยละเอียด
    นำมาคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้เป็นอันเสร็จ
    ช่วงนี้ถ้าหาเห็ดโคนได้ลองทำกันดูง่ายๆ

    #dedusuanplu6
    เมนูวันนี้ "ยำเห็ดโคน" จากอุทัยธานี ทำตามคำเรียกร้องของคุณนาย ช่วงนี้เห็ดโคนกำลังออก ที่ตลาดริมแม่น้ำสะแกกรัง ทั้งตลาดเช้าและเย็น มีแบบสดและแบบต้มแล้ว เอาสะดวกให้เลือกแบบต้มแล้วเพราะเก็บไว้ ได้หลายวัน ส่วนแบบสดจะติดเศษดิน ต้องมาล้างและตัดส่วนที่ไม่มีดีออกก่อน ราคาช่วงนี้ สด 500 บาทต้มแล้ว 600 บาท วันนี้จะเอามายำโดยทำแบบยำไทยทั่วไป เอาเห็ดโคนมาต้มอีกที พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเอามาคลุกกับกุ้งลวกและหมูสับลวน ใส่หอมแขกซอย คื่นช่าย ผักชีฝรั่งซอยลงไป ราดด้วยน้ำยำที่ปรุงด้วย กระเทียม พริกขี้หนู น้ำปลา เกลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำต้มสุก เอามาปั่นให้เข้ากัน โรยด้วยผักชีซอยละเอียด นำมาคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้เป็นอันเสร็จ ช่วงนี้ถ้าหาเห็ดโคนได้ลองทำกันดูง่ายๆ #dedusuanplu6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหงาๆกันหน่อยนะคะ แต่ก็เฉพาะพวกเราเท่านั้นแหละ แต่……พี่ปูเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น………!!!

    ตอนยี่สิบสาม…………เอาจริงละนะ……แผ่นดินของข้า….ใครอย่าแตะ…!!!

    ในช่วงของความโอ่อ่าตระการตาจากพิธีโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ที่รัสเซียทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพแห่งเทคโนโยลีสู่สายตาชาวโลกนั้น สิ่งที่กวนใจปูตินได้เกิดขึ้นที่ยูเครน ทั้งๆที่ปธน. Yanukovych ที่เพิ่งรับเงินไปหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์หมาดๆ นั่นคือการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องอยากจะเข้าสู่โลกของตะวันตก ที่คราวนี้ออกแนวทำลายตึกรามบ้านช่อง
    ซึ่งสภาพเหมือนสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทหาร ตำรวจ ต้องระดมกำลังกันปราบปราม ป้องกัน
    ภาพที่ปูตินเห็นจากข่าวในทีวี คือ องค์กรต่างๆจากนอกประเทศ นอกจากจะช่วยยุแยงจากใต้ดินแล้ว คราวนี้เปิดหน้าชกแบบขึ้นมาบนดิน เพราะตั้งเต้นท์แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ก่อการอยู่ทั่วไป

    สามชาติที่ส่งตัวแทนเข้ามาในกรุงเคียฟ คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ โปแลนด์ ใันวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ และเจรจากับยานุโควิชในเรื่องขอให้ยุติการที่ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มม็อบ
    ปูติน…ยังนิ่ง เพราะโอลิมปิกยังไม่จบ
    แต่ยานุโควิช……ได้ติดต่อไปหาทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่า เขาอ่อนแรงแล้ว
    พร้อมที่จะลาออก ไม่อยากอยู่ต่อจนจบเทอม (ในปี 2014) เขาอยากจะถอนกำลังในการคุมสถานการณ์ออกให้หมด ……
    แต่ปูตินเห็นว่า…นั่นคือสัญญาณของคนขี้แพ้ และ ถึงจะลาออกก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะเป็นภาวะที่ล่มสลาย ประเทศจะกลายเป็นอนาธิปไตย……คิดดูใหม่ดีๆ…!!

    ยานุโควิชโอนเอียงไปทางการหวานล้อมของตะวันตกในที่สุด เขาประกาศลาออกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และหลบออกจากเมืองหลวงสู่ไครเมียก่อนที่จะเข้าสู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย
    ปูตินเรียกประชุมคณะมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกลางดึกของวันเดียวกัน
    เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ในยูเครนต่อไป เพราะเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสมาชิกสภากันขึ้นมาใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ผูกพันกับรัสเซีย เช่นในเรื่องภาษา และเรื่องการที่จะเป็นเอกเทศ (เอียงไปทางตะวันตก)
    และสิ่งที่ปูตินเชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้น นั่นคือ การที่ฝ่ายชาตินิยมที่มีสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะไฮแจคการชุมนุมนี้……ไปเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง……และหันมาทิ่มแทงรัสเซีย……!!

    วันที่ 23 เป็นพิธีปิดโอลิมปิก……ที่รัสเซียกวาดเหรียญทองไป 13 และ
    เหรียญอื่นๆทั้งหมด รวม 33 ………เป็นเวลารวม 16 วันที่รัสเซียได้เป็นดาราดวงเด่น ฉายแสงจ้าในโลกของศตวรรษที่ 21
    ภาพของปูตินที่ใครต่อใครเห็นคือ แจ่มเจิด……ทรงภูมิ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา
    แต่เบื้องหลังนั้น ……เขาได้เตรียมตัวพร้อมกับการที่จะรับมือและโต้กลับ
    โดยไม่ต้องไว้หน้าใครอีกแล้ว แม้แต่เพื่อนรัก อย่างนาง แอนเจล่า
    เมอร์เคิล ที่ทำทีโทรมาถามเรื่องยูเครน……
    เขาตอบกลับไปว่า……อย่ามาทำเป็นถาม…รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

    แต่นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากรู้ สื่อทุกสื่อรู้ดีว่า……ปูตินจะไม่เฉยแน่นอน…
    ทางฝ่ายโฆษกรัฐบาลของรัสเซีย……ได้ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่แทรกแซงกิจการทางการเมืองของยูเครนอย่างแน่นอน……
    (ก็ปาวๆไปอย่างนั้นเอง……แต่ทางกลาโหมได้จัดทัพแล้ว…)
    แล้วจากนั้น……ก็มีการซ้อมรบที่ฝั่งรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครนพร้อมกันทั้งบกและอากาศ ……แบบว่าท้าทายนาโต้อย่างสุดฤทธิ์
    ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์……กลุ่มกองทัพและหน่วยคอมมานโดจากฐานที่ทะเลดำ เข้ายึดไครเมีย……!!!
    แต่ทหารทุกคน…แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มสีเขียวที่ไม่มีตราติดสัญชาติ
    จากนั้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา……ไครเมียได้ถูกควบคุมโดยกองทัพนับหมื่นๆนาย(ที่ไม่ปรากฎสัญชาติ) และไม่มีใครต่อต้าน……ทุกอย่างเกิดขึ้นในความสงบ สงบยิ่งกว่าการปฏิวัติเงียบ……
    เพราะทหารทุกคนช่างเรียบร้อยและแสนสุภาพกับประชาชน……

    ทางสภาเคียฟที่กำลังเฟ้นหาผู้นำ…ไม่มีน้ำยาที่จะทำอะไรได้ จึงเลือกที่จะไม่ทำการต่อต้านใดๆ ทุกคนต่างลงความเห็นว่าให้ปล่อยผ่านไปก่อน
    เพราะไครเมียก็คือดินแดนของยูเครน ใครจะมาเอาไปก็ไม่ได้…
    แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปูติน……เพราะรัสเซียให้มีการลงคะแนนเสียงในไครเมีย ว่าจะเลือกเป็นเอกเทศ เป็นสาธารณรัฐ(ในสายของรัสเซีย) หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของยูเครน ในวันที่ 25 มีนาคม
    แน่นอนว่า….คำว่า สาธารณรัฐ……ย่อมทำให้การเลือกตั้งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย……
    นี่คือการหักหน้าฝั่งตะวันตก….ที่ปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับตัวเองว่า พอกันที.………จะไม่ให้คนพวกนี้ก้าวล่วงเข้ามาได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว……!!

    เพราะในอดีตที่ซีเรีย……สองปีก่อนตอนที่ซีเรียเริ่มกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง
    ปูตินได้พบกับโอบามา ที่การประชุม G20 ที่โอบามาได้บอกเขาว่า
    “ถ้าเมื่อไหร่……ทางรัฐบาลซีเรียเล่น”สกปรก” ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนละก้อ……ผมไม่เอามันไว้แน่……” (พล๊อตเก่าสมัยซัดดัม ฮูเซน)
    จากนั้นไม่นาน……ก็มีจรวดติดหัวสารพิษยิงเข้าไปในชนบทใกล้กับเมือง ดามัสกัส อันเป็นเมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำให้มีคนตายถึง 1400 คน
    และจากนั้นทัพอเมริกันก็เข้ามาเพื่อโค่นประธานาธิบดี Bashar al-Assad
    ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้อาวุธร้ายแรงผิดหลักของนาโต้
    ซึ่งปูตินรู้ดีว่า…ทางกองทัพซีเรียไม่มีอาวุธชนิดนี้ และถึงมีก็คงไม่ใช้กับประชาชนของตัวเองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงขนาดนั้น
    การสร้าง”แพะ” ของอเมริกาและพรรคพวกจึงไม่เนียน…!!

    ปูตินได้แต่สงสารอัล-อัสสาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะนาโต้ประกาศปิดน่านฟ้า……เพื่อที่พวกของตัวจะได้รุมถล่มซีเรียได้อย่างสะดวกๆนั่นเอง
    ฉะนั้น……การเป็นไปในยูเครน……จึงเป็นแค่ละครเรื่องใหม่ในพล๊อตเดิมๆ

    ปูตินได้เสนอไปทางสภาในเรื่องการส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมที่เคียฟ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะตอนนี้คือสูญญากาศทางการเมืองของยูเครน
    ซึ่งทางสภาได้มีเสียงข้างมากในทางที่เห็นด้วย (ทั้งที่กองทัพนิรนามบุกไครเมียไปแล้ว……ตลกการเมืองจริงๆ)

    วันที่ 2 มีนาคม ปูตินได้เรียกยานุโควิชเข้ามาพบเพราะในทางกฏหมาย ยานุโควิชยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ให้ร่างจดหมายเซ็นชื่อ (โดยไม่มีวันที่กำกับ ละเว้นไว้) ในเนื้อความของจดหมายคือการที่รัฐบาลยูเครนยินยอมและขอร้องให้รัสเซียส่งกองกำลังไปช่วย และอ้างถึงสาเหตุของการก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการแทรกแซงจากตะวันตก จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนชาวยูเครน……ลงชื่อ…!!!

    สองวันก่อนที่จะเกิดจดหมายฉบับนี้ ปูตินได้โทรศัพท์ติดต่อกับแองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี ที่เขาปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับ
    การบุกไครเมีย (เลยจริงๆ……)
    แองเจล่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของปูติน เริ่มไม่พูดจาภาษาดอกไม้ด้วยแล้ว
    เพราะตอนนี้ ใครก็ไว้ใจใครไม่ได้ เธอได้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดการสนทนาทุกคำให้กับบารัค โอบามา ที่คำรามฮึ่มๆ บอกว่า
    “ในเมื่อไว้ใจกันไม่ได้……ก็คงต้องตัดรัสเซียออกไปจาก G8… “

    วันที่ 4 มีนาคม ที่ปูตินได้พบกับนักข่าว เขาก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องของยูเครน แบบว่า…ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่มีศัตรูในยูเครน
    แต่เขาตีตรงๆไปที่สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกในเรื่องของอาฟกานิสถาน ลิเบีย และ ซีเรีย ที่สร้างแต่ความเดือดร้อน ทางเราก็เพียงแต่ซ้อมรบเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น”
    เมื่อถูกถามเรื่องทหารที่ไครเมีย ที่อยู่ในชุดพรางพร้อมรบ ว่า……เหมือนกับชุดของทหารรัสเซีย
    ปูตินตอบว่า……ชุดแบบนี้……ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้นี่นา……!!!

    ช่วงการดำเนินการลงเสียงของประชาชนในไครเมีย ที่ปูตินบอกว่า ไม่ขอยุ่ง……เป็นความตัดสินใจของประชาชนล้วนๆนั้น
    แต่ทางเครมลินได้จัดให้มีการเดินขบวน พาเหรดสวยงาม ทำเพลงปลุกใจรักชาติ ที่เน้นว่า…ไครเมียคือดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่เก่าก่อน ป้ายและธง “Krim nash ! “ หรือ Crimea is ours ! ขึ้นพรึ่บไปทั่วทุกที่……
    มีการนำการเต้นรำ Sevastopol Waltz (1953) ได้นำขึ้นมาปัดฝุ่น
    เต้นมาร้องกันใหม่……

    การปฏิบัติการที่ไครเมีย คือการมองการณ์ไกลของปูตินที่เขาขยับงบประมาณทางทหารขึ้นมาสามสี่เท่าตัว จากสงครามที่จอร์เจีย
    นับว่ารัสเซียมีงบประมาณกองทัพที่สูสีกับสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีจำนวนเกือบแสนล้าน……
    นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเมริกาไม่กล้าขยับในเรื่องของไครเมีย
    เพียงแต่ยังงงๆ ในการปฏิบัติการที่เงียบเชียบ ไม่มีการสาดกระสุนหรือจับกุมทุบตีแต่อย่างใด ผิดกับที่กรุงเคียฟที่มีการนองเลือด
    ได้แต่หวังว่า……การลงมติของประชาชนจะออกมาในทางที่สวนกัน
    แต่เมื่อผิดคาด……ก็ได้แต่ขู่ฟ่อ.……

    ปูตินที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอบามามาตั้งแต่เรื่องของ Edward Snowden
    แล้วก็เรื่องของซีเรีย……ต่อให้ขู่ยังไง……จะเป็นหนึ่งใน G8 หรือ จะเหลือกันแค่ G7 ……เขาก็ไม่แคร์
    สิ่งที่อเมริกาและยุโรปได้ทำคือ……การแซงชั่นทางการเงินและทางธนาคาร
    กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายชื่อของผู้ที่ใกล้ชิดกับปูตินออกมายาวเป็นหางว่าว ห้ามเข้าประเทศ และยึดทรัพย์สินในธุรกรรมที่อเมริกาและประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดอลล่าร์

    เมื่อการลงมติที่ไครเมียผ่านไป.……ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย
    ไม่กี่วันต่อมา…ชาวยูเครนตะวันออก ได้เริ่มเดินขบวนในเมืองใหญ่สองเมือง คือ Donetsk และ Luhansk เพื่อยื่นข้อเสนอให้กับเคียฟเพื่อที่จะขอแยกตัวเป็นอิสระ โดยจะมีการลงมติจากประชาชน (แบบไครเมีย) ในเดือนพฤษภาคม
    เพราะชนในเขตนี้ คือ ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับฝั่งตะวันออกมากกว่าทางยูเครน ซึ่งในระยะหลังๆมานี่ พวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
    มีกลุ่มขวาจัดได้เข้ามาแทรกแซงทำร้าย และ หลายครั้งที่ถึงแก่ชีวิต
    ทางรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมดูแล และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า
    Novorossiya อันหมายถึง New Russia…

    ทางรัสเซีย……ก็เดินหน้าจัดการเรียกดินแดนคืนต่อไป จากโดเนทค์, ลูฮังค์
    ในเดือนพฤษภาคม……คราวนี้ใน Odessa ที่มีฝ่ายโปร-รัสเซียเดินขบวน
    ที่มีการนองเลือด……เผา……มีคนตาย 48 คน แกนนำถูกจับตัวไป……

    ยูเครนได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งคือ
    Viktor Yushchenko ( อดีตประธานาธิบดีคนที่สาม ที่โดนยาพิษ)

    วันที่ 6 มิถุนายน ปูตินได้ไปร่วมในงานระลึกครบรอบวันยกพลขึ้นบก (D-Day) ที่นอร์มังดี ……ผู้นำอื่นๆพร้อมใจกันทำทีท่าชาเย็น เฉยเมย เพราะบัดนี้รัสเซียไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G อีกแล้ว
    แต่แองเจล่าและฟรองซัวส์ ออลลังด์ ปธน. ฝรั่งเศส ได้เข้ามาคุยด้วยในเรื่องการขอร้องให้มีสันติภาพในยูเครน…
    เดือนต่อมา ปูตินได้พบกับแองเจล่า เมอร์เคิลที่บราซิล ในการประชุม FIFA World Cup ระหว่างเยอรมันนี กับ อาร์เจนตินา ในฐานะที่รัสเซียเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป (2018) ที่ปูตินทุ่มทุนมหาศาลในการจัดสร้าง
    สเตเดี้ยมให้ใหญ่โตสมศักดิ์ศรี
    จากการพบปะ……เธอยังขอร้องในเรื่องเดิม ปูตินก็ว่า……พร้อมที่จะถอยออกไป
    แต่ขณะที่สองผู้นำคุยกัน……… ข่าวออกมาว่า กองทัพรัสเซียได้ป้วนเปี้ยนอยู่แนวชายแดน
    วันต่อมา…มีข่าวว่า เครื่องบินลำเลียง AN-26 ของยูเครนที่บินสูงกว่าสองหมื่นฟุตได้ถูกยิงตกแถวลูฮังสค์
    ต่อมา…เครื่องบิน Sukhoi ของรัสเซียถูกสอยร่วงจากภาคพื้นดิน ด้วยขีปนาวุธที่ไม่ปรากฎสัญชาติ……!!

    ผลสะท้อนกลับคือ การสอย AN-26 แบบรัวๆ และ การประกาศตามมาจากรัสเซียว่า….อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด……!!!


    Wiwanda W. Vichit
    เหงาๆกันหน่อยนะคะ แต่ก็เฉพาะพวกเราเท่านั้นแหละ แต่……พี่ปูเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น………!!! ตอนยี่สิบสาม…………เอาจริงละนะ……แผ่นดินของข้า….ใครอย่าแตะ…!!! ในช่วงของความโอ่อ่าตระการตาจากพิธีโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ที่รัสเซียทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพแห่งเทคโนโยลีสู่สายตาชาวโลกนั้น สิ่งที่กวนใจปูตินได้เกิดขึ้นที่ยูเครน ทั้งๆที่ปธน. Yanukovych ที่เพิ่งรับเงินไปหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์หมาดๆ นั่นคือการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องอยากจะเข้าสู่โลกของตะวันตก ที่คราวนี้ออกแนวทำลายตึกรามบ้านช่อง ซึ่งสภาพเหมือนสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทหาร ตำรวจ ต้องระดมกำลังกันปราบปราม ป้องกัน ภาพที่ปูตินเห็นจากข่าวในทีวี คือ องค์กรต่างๆจากนอกประเทศ นอกจากจะช่วยยุแยงจากใต้ดินแล้ว คราวนี้เปิดหน้าชกแบบขึ้นมาบนดิน เพราะตั้งเต้นท์แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ก่อการอยู่ทั่วไป สามชาติที่ส่งตัวแทนเข้ามาในกรุงเคียฟ คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ โปแลนด์ ใันวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ และเจรจากับยานุโควิชในเรื่องขอให้ยุติการที่ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มม็อบ ปูติน…ยังนิ่ง เพราะโอลิมปิกยังไม่จบ แต่ยานุโควิช……ได้ติดต่อไปหาทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่า เขาอ่อนแรงแล้ว พร้อมที่จะลาออก ไม่อยากอยู่ต่อจนจบเทอม (ในปี 2014) เขาอยากจะถอนกำลังในการคุมสถานการณ์ออกให้หมด …… แต่ปูตินเห็นว่า…นั่นคือสัญญาณของคนขี้แพ้ และ ถึงจะลาออกก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะเป็นภาวะที่ล่มสลาย ประเทศจะกลายเป็นอนาธิปไตย……คิดดูใหม่ดีๆ…!! ยานุโควิชโอนเอียงไปทางการหวานล้อมของตะวันตกในที่สุด เขาประกาศลาออกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และหลบออกจากเมืองหลวงสู่ไครเมียก่อนที่จะเข้าสู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ปูตินเรียกประชุมคณะมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกลางดึกของวันเดียวกัน เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ในยูเครนต่อไป เพราะเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสมาชิกสภากันขึ้นมาใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ผูกพันกับรัสเซีย เช่นในเรื่องภาษา และเรื่องการที่จะเป็นเอกเทศ (เอียงไปทางตะวันตก) และสิ่งที่ปูตินเชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้น นั่นคือ การที่ฝ่ายชาตินิยมที่มีสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะไฮแจคการชุมนุมนี้……ไปเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง……และหันมาทิ่มแทงรัสเซีย……!! วันที่ 23 เป็นพิธีปิดโอลิมปิก……ที่รัสเซียกวาดเหรียญทองไป 13 และ เหรียญอื่นๆทั้งหมด รวม 33 ………เป็นเวลารวม 16 วันที่รัสเซียได้เป็นดาราดวงเด่น ฉายแสงจ้าในโลกของศตวรรษที่ 21 ภาพของปูตินที่ใครต่อใครเห็นคือ แจ่มเจิด……ทรงภูมิ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา แต่เบื้องหลังนั้น ……เขาได้เตรียมตัวพร้อมกับการที่จะรับมือและโต้กลับ โดยไม่ต้องไว้หน้าใครอีกแล้ว แม้แต่เพื่อนรัก อย่างนาง แอนเจล่า เมอร์เคิล ที่ทำทีโทรมาถามเรื่องยูเครน…… เขาตอบกลับไปว่า……อย่ามาทำเป็นถาม…รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? แต่นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากรู้ สื่อทุกสื่อรู้ดีว่า……ปูตินจะไม่เฉยแน่นอน… ทางฝ่ายโฆษกรัฐบาลของรัสเซีย……ได้ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่แทรกแซงกิจการทางการเมืองของยูเครนอย่างแน่นอน…… (ก็ปาวๆไปอย่างนั้นเอง……แต่ทางกลาโหมได้จัดทัพแล้ว…) แล้วจากนั้น……ก็มีการซ้อมรบที่ฝั่งรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครนพร้อมกันทั้งบกและอากาศ ……แบบว่าท้าทายนาโต้อย่างสุดฤทธิ์ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์……กลุ่มกองทัพและหน่วยคอมมานโดจากฐานที่ทะเลดำ เข้ายึดไครเมีย……!!! แต่ทหารทุกคน…แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มสีเขียวที่ไม่มีตราติดสัญชาติ จากนั้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา……ไครเมียได้ถูกควบคุมโดยกองทัพนับหมื่นๆนาย(ที่ไม่ปรากฎสัญชาติ) และไม่มีใครต่อต้าน……ทุกอย่างเกิดขึ้นในความสงบ สงบยิ่งกว่าการปฏิวัติเงียบ…… เพราะทหารทุกคนช่างเรียบร้อยและแสนสุภาพกับประชาชน…… ทางสภาเคียฟที่กำลังเฟ้นหาผู้นำ…ไม่มีน้ำยาที่จะทำอะไรได้ จึงเลือกที่จะไม่ทำการต่อต้านใดๆ ทุกคนต่างลงความเห็นว่าให้ปล่อยผ่านไปก่อน เพราะไครเมียก็คือดินแดนของยูเครน ใครจะมาเอาไปก็ไม่ได้… แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปูติน……เพราะรัสเซียให้มีการลงคะแนนเสียงในไครเมีย ว่าจะเลือกเป็นเอกเทศ เป็นสาธารณรัฐ(ในสายของรัสเซีย) หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของยูเครน ในวันที่ 25 มีนาคม แน่นอนว่า….คำว่า สาธารณรัฐ……ย่อมทำให้การเลือกตั้งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย…… นี่คือการหักหน้าฝั่งตะวันตก….ที่ปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับตัวเองว่า พอกันที.………จะไม่ให้คนพวกนี้ก้าวล่วงเข้ามาได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว……!! เพราะในอดีตที่ซีเรีย……สองปีก่อนตอนที่ซีเรียเริ่มกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง ปูตินได้พบกับโอบามา ที่การประชุม G20 ที่โอบามาได้บอกเขาว่า “ถ้าเมื่อไหร่……ทางรัฐบาลซีเรียเล่น”สกปรก” ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนละก้อ……ผมไม่เอามันไว้แน่……” (พล๊อตเก่าสมัยซัดดัม ฮูเซน) จากนั้นไม่นาน……ก็มีจรวดติดหัวสารพิษยิงเข้าไปในชนบทใกล้กับเมือง ดามัสกัส อันเป็นเมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำให้มีคนตายถึง 1400 คน และจากนั้นทัพอเมริกันก็เข้ามาเพื่อโค่นประธานาธิบดี Bashar al-Assad ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้อาวุธร้ายแรงผิดหลักของนาโต้ ซึ่งปูตินรู้ดีว่า…ทางกองทัพซีเรียไม่มีอาวุธชนิดนี้ และถึงมีก็คงไม่ใช้กับประชาชนของตัวเองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงขนาดนั้น การสร้าง”แพะ” ของอเมริกาและพรรคพวกจึงไม่เนียน…!! ปูตินได้แต่สงสารอัล-อัสสาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะนาโต้ประกาศปิดน่านฟ้า……เพื่อที่พวกของตัวจะได้รุมถล่มซีเรียได้อย่างสะดวกๆนั่นเอง ฉะนั้น……การเป็นไปในยูเครน……จึงเป็นแค่ละครเรื่องใหม่ในพล๊อตเดิมๆ ปูตินได้เสนอไปทางสภาในเรื่องการส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมที่เคียฟ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะตอนนี้คือสูญญากาศทางการเมืองของยูเครน ซึ่งทางสภาได้มีเสียงข้างมากในทางที่เห็นด้วย (ทั้งที่กองทัพนิรนามบุกไครเมียไปแล้ว……ตลกการเมืองจริงๆ) วันที่ 2 มีนาคม ปูตินได้เรียกยานุโควิชเข้ามาพบเพราะในทางกฏหมาย ยานุโควิชยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ให้ร่างจดหมายเซ็นชื่อ (โดยไม่มีวันที่กำกับ ละเว้นไว้) ในเนื้อความของจดหมายคือการที่รัฐบาลยูเครนยินยอมและขอร้องให้รัสเซียส่งกองกำลังไปช่วย และอ้างถึงสาเหตุของการก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการแทรกแซงจากตะวันตก จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนชาวยูเครน……ลงชื่อ…!!! สองวันก่อนที่จะเกิดจดหมายฉบับนี้ ปูตินได้โทรศัพท์ติดต่อกับแองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี ที่เขาปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับ การบุกไครเมีย (เลยจริงๆ……) แองเจล่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของปูติน เริ่มไม่พูดจาภาษาดอกไม้ด้วยแล้ว เพราะตอนนี้ ใครก็ไว้ใจใครไม่ได้ เธอได้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดการสนทนาทุกคำให้กับบารัค โอบามา ที่คำรามฮึ่มๆ บอกว่า “ในเมื่อไว้ใจกันไม่ได้……ก็คงต้องตัดรัสเซียออกไปจาก G8… “ วันที่ 4 มีนาคม ที่ปูตินได้พบกับนักข่าว เขาก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องของยูเครน แบบว่า…ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่มีศัตรูในยูเครน แต่เขาตีตรงๆไปที่สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกในเรื่องของอาฟกานิสถาน ลิเบีย และ ซีเรีย ที่สร้างแต่ความเดือดร้อน ทางเราก็เพียงแต่ซ้อมรบเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น” เมื่อถูกถามเรื่องทหารที่ไครเมีย ที่อยู่ในชุดพรางพร้อมรบ ว่า……เหมือนกับชุดของทหารรัสเซีย ปูตินตอบว่า……ชุดแบบนี้……ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้นี่นา……!!! ช่วงการดำเนินการลงเสียงของประชาชนในไครเมีย ที่ปูตินบอกว่า ไม่ขอยุ่ง……เป็นความตัดสินใจของประชาชนล้วนๆนั้น แต่ทางเครมลินได้จัดให้มีการเดินขบวน พาเหรดสวยงาม ทำเพลงปลุกใจรักชาติ ที่เน้นว่า…ไครเมียคือดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่เก่าก่อน ป้ายและธง “Krim nash ! “ หรือ Crimea is ours ! ขึ้นพรึ่บไปทั่วทุกที่…… มีการนำการเต้นรำ Sevastopol Waltz (1953) ได้นำขึ้นมาปัดฝุ่น เต้นมาร้องกันใหม่…… การปฏิบัติการที่ไครเมีย คือการมองการณ์ไกลของปูตินที่เขาขยับงบประมาณทางทหารขึ้นมาสามสี่เท่าตัว จากสงครามที่จอร์เจีย นับว่ารัสเซียมีงบประมาณกองทัพที่สูสีกับสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีจำนวนเกือบแสนล้าน…… นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเมริกาไม่กล้าขยับในเรื่องของไครเมีย เพียงแต่ยังงงๆ ในการปฏิบัติการที่เงียบเชียบ ไม่มีการสาดกระสุนหรือจับกุมทุบตีแต่อย่างใด ผิดกับที่กรุงเคียฟที่มีการนองเลือด ได้แต่หวังว่า……การลงมติของประชาชนจะออกมาในทางที่สวนกัน แต่เมื่อผิดคาด……ก็ได้แต่ขู่ฟ่อ.…… ปูตินที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอบามามาตั้งแต่เรื่องของ Edward Snowden แล้วก็เรื่องของซีเรีย……ต่อให้ขู่ยังไง……จะเป็นหนึ่งใน G8 หรือ จะเหลือกันแค่ G7 ……เขาก็ไม่แคร์ สิ่งที่อเมริกาและยุโรปได้ทำคือ……การแซงชั่นทางการเงินและทางธนาคาร กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายชื่อของผู้ที่ใกล้ชิดกับปูตินออกมายาวเป็นหางว่าว ห้ามเข้าประเทศ และยึดทรัพย์สินในธุรกรรมที่อเมริกาและประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดอลล่าร์ เมื่อการลงมติที่ไครเมียผ่านไป.……ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย ไม่กี่วันต่อมา…ชาวยูเครนตะวันออก ได้เริ่มเดินขบวนในเมืองใหญ่สองเมือง คือ Donetsk และ Luhansk เพื่อยื่นข้อเสนอให้กับเคียฟเพื่อที่จะขอแยกตัวเป็นอิสระ โดยจะมีการลงมติจากประชาชน (แบบไครเมีย) ในเดือนพฤษภาคม เพราะชนในเขตนี้ คือ ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับฝั่งตะวันออกมากกว่าทางยูเครน ซึ่งในระยะหลังๆมานี่ พวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม มีกลุ่มขวาจัดได้เข้ามาแทรกแซงทำร้าย และ หลายครั้งที่ถึงแก่ชีวิต ทางรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมดูแล และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า Novorossiya อันหมายถึง New Russia… ทางรัสเซีย……ก็เดินหน้าจัดการเรียกดินแดนคืนต่อไป จากโดเนทค์, ลูฮังค์ ในเดือนพฤษภาคม……คราวนี้ใน Odessa ที่มีฝ่ายโปร-รัสเซียเดินขบวน ที่มีการนองเลือด……เผา……มีคนตาย 48 คน แกนนำถูกจับตัวไป…… ยูเครนได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งคือ Viktor Yushchenko ( อดีตประธานาธิบดีคนที่สาม ที่โดนยาพิษ) วันที่ 6 มิถุนายน ปูตินได้ไปร่วมในงานระลึกครบรอบวันยกพลขึ้นบก (D-Day) ที่นอร์มังดี ……ผู้นำอื่นๆพร้อมใจกันทำทีท่าชาเย็น เฉยเมย เพราะบัดนี้รัสเซียไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G อีกแล้ว แต่แองเจล่าและฟรองซัวส์ ออลลังด์ ปธน. ฝรั่งเศส ได้เข้ามาคุยด้วยในเรื่องการขอร้องให้มีสันติภาพในยูเครน… เดือนต่อมา ปูตินได้พบกับแองเจล่า เมอร์เคิลที่บราซิล ในการประชุม FIFA World Cup ระหว่างเยอรมันนี กับ อาร์เจนตินา ในฐานะที่รัสเซียเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป (2018) ที่ปูตินทุ่มทุนมหาศาลในการจัดสร้าง สเตเดี้ยมให้ใหญ่โตสมศักดิ์ศรี จากการพบปะ……เธอยังขอร้องในเรื่องเดิม ปูตินก็ว่า……พร้อมที่จะถอยออกไป แต่ขณะที่สองผู้นำคุยกัน……… ข่าวออกมาว่า กองทัพรัสเซียได้ป้วนเปี้ยนอยู่แนวชายแดน วันต่อมา…มีข่าวว่า เครื่องบินลำเลียง AN-26 ของยูเครนที่บินสูงกว่าสองหมื่นฟุตได้ถูกยิงตกแถวลูฮังสค์ ต่อมา…เครื่องบิน Sukhoi ของรัสเซียถูกสอยร่วงจากภาคพื้นดิน ด้วยขีปนาวุธที่ไม่ปรากฎสัญชาติ……!! ผลสะท้อนกลับคือ การสอย AN-26 แบบรัวๆ และ การประกาศตามมาจากรัสเซียว่า….อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002

    ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ

    เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน

    การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน

    ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ

    ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ

    เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว

    และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ

    เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร

    โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย”

    ผลที่ได้คือ…
    .
    .
    .
    เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก”

    ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้

    บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ

    เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน

    ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ

    เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่

    นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน

    ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ

    จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ

    คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้

    ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว
    .
    .
    .
    เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“

    แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย

    ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น

    เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน”

    ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ

    ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต
    .
    .
    .
    ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ

    อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง

    ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

    กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน

    แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์

    แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน

    ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ

    ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์

    เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ

    การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ…..


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002 ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย” ผลที่ได้คือ… . . . เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก” ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้ บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่ นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้ ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว . . . เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“ แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน” ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต . . . ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์ แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์ เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ….. นัทแนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายเหนือ 12 ขบวนเป็นการชั่วคราว หลังน้ำท่วมเชียงใหม่อีกระลอก พร้อมจัดรถโดยสารอำนวยความสะดวกรับส่งประชาชนจากสถานีนครลำปางถึงจังหวัดเชียงใหม่
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094494

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    การรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายเหนือ 12 ขบวนเป็นการชั่วคราว หลังน้ำท่วมเชียงใหม่อีกระลอก พร้อมจัดรถโดยสารอำนวยความสะดวกรับส่งประชาชนจากสถานีนครลำปางถึงจังหวัดเชียงใหม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094494 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    Haha
    Angry
    22
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1720 มุมมอง 0 รีวิว
  • KEEPHIKE เต็นท์ไฮดรอลิคอัตโนมัติ 2-4 คน พับได้ กันแดดกันฝน สำหรับแคมป์ปิ้งและเดินป่า พกพาสะดวก
    พิกัด: https://s.shopee.co.th/6ASlagawI5
    KEEPHIKE เต็นท์ไฮดรอลิคอัตโนมัติ 2-4 คน พับได้ กันแดดกันฝน สำหรับแคมป์ปิ้งและเดินป่า พกพาสะดวก พิกัด: https://s.shopee.co.th/6ASlagawI5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ผ้ายันต์อรหันต์แปดทิศ ลพ.กวย

    ผ้ายันต์อรหันต์แปดทิศจักรณีย์ ลพ.กวย หรือผ้ายันต์แดง สงครามลาว ขนาด1ฟุต ผ้ายันต์นี้มีอานุภาพทางคุ้มครองสูง ทั้งกันภูตผีปีศาจดเเละกันอาวุธ เข้าป่า อยู่ดง เอาไว้คุ้มครองดี หลวงพ่อเคยเเจกให้ศิษย์ไปรบสงครามลาวเมื่อปี2118 บางคนจึงเรียก ผ้ายันต์สงครามลาว หลายคนรอดตายเพราะผ้ายันต์รุ่นนี้ เอาคลุมหัว หรือใช้โบกทาง ก่อนวิ่งหลบห่ากระสุนตอนรบ เห็นหลวงพ่อเดินนำทาง รอดปลอดภัยมาได้
    #รับเช่าพระเครื่องหลวงพ่อกวย((รับฝาก))
    📞สายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์ เสนา
    #ผ้ายันต์อรหันต์แปดทิศ ลพ.กวย ผ้ายันต์อรหันต์แปดทิศจักรณีย์ ลพ.กวย หรือผ้ายันต์แดง สงครามลาว ขนาด1ฟุต ผ้ายันต์นี้มีอานุภาพทางคุ้มครองสูง ทั้งกันภูตผีปีศาจดเเละกันอาวุธ เข้าป่า อยู่ดง เอาไว้คุ้มครองดี หลวงพ่อเคยเเจกให้ศิษย์ไปรบสงครามลาวเมื่อปี2118 บางคนจึงเรียก ผ้ายันต์สงครามลาว หลายคนรอดตายเพราะผ้ายันต์รุ่นนี้ เอาคลุมหัว หรือใช้โบกทาง ก่อนวิ่งหลบห่ากระสุนตอนรบ เห็นหลวงพ่อเดินนำทาง รอดปลอดภัยมาได้ #รับเช่าพระเครื่องหลวงพ่อกวย((รับฝาก)) 📞สายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์ เสนา
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠

    😎#ออกจากประตูหยก😎

    🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸

    🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸

    😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎

    🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก

    🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸

    🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)

    รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸

    😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎

    🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก

    เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸

    เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸

    😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎

    🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา

    🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก

    🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก

    🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล

    บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸

    หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸

    🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02.
    #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠 😎#ออกจากประตูหยก😎 🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸 🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸 😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎 🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก 🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸 🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸 😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎 🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸 เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸 😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎 🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา 🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก 🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก 🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸 หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸 🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02. #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • G-STAR RAW
    33 ZERO ONE
    (Style No. : GS50358/9LL)
    Size. US 12 /UK 11 / EUR 45 /29.5 cm
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Pre-owned/Good Condition

    🔥 Price : 650฿

    G-Star RAW เป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายเดนิมที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการแฟชั่นระดับโลกที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเนเธอร์แลนด์

    สำหรับรองเท้า G-Star คู่นี้เป็นสนีกเกอร์ทรง High Top รุ่น 33 ZERO ONE (3301) มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือการออกแบบที่เน้นรูปทรงเรขาคณิตและการนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ผลิตขึ้นเพื่อให้เหมาะกับทุกสไตล์และโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบสไตล์เดนิม (Denim) สำหรับสไตล์ที่สบายในชีวิตประจำวัน เหมาะเพื่อใส่กับกางเกงยีนส์หรือกางเกงขาสั้นตัวโปรด จะช่วยเสริมลุคเท่ๆของคุณให้เป็นที่สะดุดตา

    👉 รายละเอียด :-
    🔹Brand : G-STAR RAW
    🔹Model : 33 ZERO ONE (3301)
    🔹Style No. : GS50358/9LL)
    🔹UPPER : Denim Canvas
    🔹Type : High-top/Lace-up
    🔹Outsole : Gum Rubber with Commercial registration plate
    G-STAR RAW 33 ZERO ONE (Style No. : GS50358/9LL) Size. US 12 /UK 11 / EUR 45 /29.5 cm ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Pre-owned/Good Condition 🔥 Price : 650฿ G-Star RAW เป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายเดนิมที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการแฟชั่นระดับโลกที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับรองเท้า G-Star คู่นี้เป็นสนีกเกอร์ทรง High Top รุ่น 33 ZERO ONE (3301) มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือการออกแบบที่เน้นรูปทรงเรขาคณิตและการนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ผลิตขึ้นเพื่อให้เหมาะกับทุกสไตล์และโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบสไตล์เดนิม (Denim) สำหรับสไตล์ที่สบายในชีวิตประจำวัน เหมาะเพื่อใส่กับกางเกงยีนส์หรือกางเกงขาสั้นตัวโปรด จะช่วยเสริมลุคเท่ๆของคุณให้เป็นที่สะดุดตา 👉 รายละเอียด :- 🔹Brand : G-STAR RAW 🔹Model : 33 ZERO ONE (3301) 🔹Style No. : GS50358/9LL) 🔹UPPER : Denim Canvas 🔹Type : High-top/Lace-up 🔹Outsole : Gum Rubber with Commercial registration plate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โจมณฑนีแอบปูดเรื่องพี่ชายอิเหม็นลาออกงาน
    #แต่หลายคนบอกข้าราชการเรื่องมโน
    ก็ไม่รู้นะ เอาเท่าที่โจมณฑนีหลุดมานี่ ก็ชัดนะ
    โดยโจบอกสาเหตุว่า ต้องออกราชการมาเนี่ยยยย
    คือ มาดูแลน้องสาวอายุฉามฉิบเอ็ดนะ ไม่ใช่ฉามขวบ
    พี่คิงส์ก็เลยมานั่งวิเคราะห์ว่า เอ๊ะ อิเหม็นมันเป็นอะไรขนาดไหนนะ
    ถ้าตามที่โจบอก เพราะตอนไปแรรดที่ญี่ปุ่นเป็นเดือนๆ
    ไปเล่นปาจิงโกะ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พี่ก็ไม่ได้ไปด้วย
    ตอนไปเป็นเด็กยาคูลซ่าาาา เพราะเป็นตัวประกอบตกงาน
    รายได้ก็ไม่มีตอนนั้น ก็เห็นแข็งแรงตานี่จิกกล้องมาก
    แถมสักลายพร้อย ไม่หวังกลับมาสะดงสะแดงห่านไรแล้ว
    พี่ชายก็ไม่เห็นห่วงอะไรนี่
    พี่คิงส์เลยคิดว่า น่าจะมาจาก
    1. ป๋วยติดแอล
    2. ป๋วยแหลลงตับทับไต
    3. ป๋วยหงี่ทุกครั้งที่มาววววว
    4. ป๋วย "ตวยขิด" ยาคลูซ่า
    5. ป๋วยเป็น กี่ หมายถึง "กี่หระ"
    เท่าที่เห็นอาการจะมีประมาณนี้
    แต่ เหตุผลที่น่าจะชัดเจนกว่าก็คือ
    พี่ชายมาเป็นตัวแทน เห็นเล่นตต.มาซักพักแล้วนะ
    จนแฟนโซเชียลชาวไทยต้องถาม เฮ้ย พี่อิเหม็นอะ
    ข้าราชการหน่วยไหน ทำไมเล่นตต.ได้ทั้งวันฟรร๊ะ
    แหม่ ก็ขนาด พี่จี ข้าราชการไทยยังเล่นได้ทั้งวันทั้งคืนเล๊ย
    ไปว่าอะไรเค้า
    55555
    ถ้าโจไม่หลุด คนไทยไม่รู้จริงๆนะเนี่ย
    ทุนดาร์คเอเจนซี่จะพัง เพราะโจ
    โจมณฑนี
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #โจมณฑนีแอบปูดเรื่องพี่ชายอิเหม็นลาออกงาน #แต่หลายคนบอกข้าราชการเรื่องมโน ก็ไม่รู้นะ เอาเท่าที่โจมณฑนีหลุดมานี่ ก็ชัดนะ โดยโจบอกสาเหตุว่า ต้องออกราชการมาเนี่ยยยย คือ มาดูแลน้องสาวอายุฉามฉิบเอ็ดนะ ไม่ใช่ฉามขวบ พี่คิงส์ก็เลยมานั่งวิเคราะห์ว่า เอ๊ะ อิเหม็นมันเป็นอะไรขนาดไหนนะ ถ้าตามที่โจบอก เพราะตอนไปแรรดที่ญี่ปุ่นเป็นเดือนๆ ไปเล่นปาจิงโกะ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พี่ก็ไม่ได้ไปด้วย ตอนไปเป็นเด็กยาคูลซ่าาาา เพราะเป็นตัวประกอบตกงาน รายได้ก็ไม่มีตอนนั้น ก็เห็นแข็งแรงตานี่จิกกล้องมาก แถมสักลายพร้อย ไม่หวังกลับมาสะดงสะแดงห่านไรแล้ว พี่ชายก็ไม่เห็นห่วงอะไรนี่ พี่คิงส์เลยคิดว่า น่าจะมาจาก 1. ป๋วยติดแอล 2. ป๋วยแหลลงตับทับไต 3. ป๋วยหงี่ทุกครั้งที่มาววววว 4. ป๋วย "ตวยขิด" ยาคลูซ่า 5. ป๋วยเป็น กี่ หมายถึง "กี่หระ" เท่าที่เห็นอาการจะมีประมาณนี้ แต่ เหตุผลที่น่าจะชัดเจนกว่าก็คือ พี่ชายมาเป็นตัวแทน เห็นเล่นตต.มาซักพักแล้วนะ จนแฟนโซเชียลชาวไทยต้องถาม เฮ้ย พี่อิเหม็นอะ ข้าราชการหน่วยไหน ทำไมเล่นตต.ได้ทั้งวันฟรร๊ะ แหม่ ก็ขนาด พี่จี ข้าราชการไทยยังเล่นได้ทั้งวันทั้งคืนเล๊ย ไปว่าอะไรเค้า 55555 ถ้าโจไม่หลุด คนไทยไม่รู้จริงๆนะเนี่ย ทุนดาร์คเอเจนซี่จะพัง เพราะโจ โจมณฑนี #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 557 มุมมอง 0 รีวิว
  • RegeneLife Vital Center ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพองค์รวม แผนกแพทย์แผนจีน เรามุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลร่างกาย อย่างครอบคลุมในเชิงป้องกันและบำบัดรักษา จากการวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยการดูลิ้น จับชีพจร(แมะ) และเลือกหัตถการการรักษาที่ตรงจุด อาทิ การฝังเข็ม ครอบแก้ว รมยา กวาซา แปะเมล็ดผักกาด แช่เท้า อบตัวสมุนไพรจีน รวมทั้งจ่ายยาจีน ซึ่งมีทั้งในรูปแบบยาต้ม และยาแคปซูล ปรับเปลี่ยนตามสภาวะร่างกายของผู้รับบริการในแต่ละช่วงได้อย่างใกล้ชิด
    นอกจากทางศูนย์จะผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ทั้งโดย BTSราชดำริ และ MRT สีลม หมดความกังวลใจเรื่องที่จอดรถ เพราะทางเรามีบริการลานจอดรถที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง
    จองคิวล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติม
    💙 RVC Clinic Rajadamri
    ✅Line : @rvc.official https://lin.ee/9azUqvQ
    📞 phone : 083-9485178
    💙 Facebook : https://www.facebook.com/Regenelife?mibextid=uzlsIk
    💖Instagram: https://www.instagram.com/rvc_rajadamri...
    🌟TikTok : rvc.official
    📍5th Fl. Regent House 2 building
    https://maps.app.goo.gl/UgibdJL3NQibkYae9?g_st=ic
    ฝังเข็ม #ออฟฟิศซินโดรม #ครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #chinesemedicine #acupuncture #cupping #ราชดำริ #สวนลุมพินี #นอนไม่หลับ #หลับยาก #หน้าใส #ฝังเข็มหน้าใส #RegeneLife #regenelifevitalcenter #thaitimes
    RegeneLife Vital Center ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพองค์รวม แผนกแพทย์แผนจีน เรามุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลร่างกาย อย่างครอบคลุมในเชิงป้องกันและบำบัดรักษา จากการวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยการดูลิ้น จับชีพจร(แมะ) และเลือกหัตถการการรักษาที่ตรงจุด อาทิ การฝังเข็ม ครอบแก้ว รมยา กวาซา แปะเมล็ดผักกาด แช่เท้า อบตัวสมุนไพรจีน รวมทั้งจ่ายยาจีน ซึ่งมีทั้งในรูปแบบยาต้ม และยาแคปซูล ปรับเปลี่ยนตามสภาวะร่างกายของผู้รับบริการในแต่ละช่วงได้อย่างใกล้ชิด นอกจากทางศูนย์จะผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ทั้งโดย BTSราชดำริ และ MRT สีลม หมดความกังวลใจเรื่องที่จอดรถ เพราะทางเรามีบริการลานจอดรถที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง จองคิวล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติม 💙 RVC Clinic Rajadamri ✅Line : @rvc.official https://lin.ee/9azUqvQ 📞 phone : 083-9485178 💙 Facebook : https://www.facebook.com/Regenelife?mibextid=uzlsIk 💖Instagram: https://www.instagram.com/rvc_rajadamri... 🌟TikTok : rvc.official 📍5th Fl. Regent House 2 building https://maps.app.goo.gl/UgibdJL3NQibkYae9?g_st=ic ฝังเข็ม #ออฟฟิศซินโดรม #ครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #chinesemedicine #acupuncture #cupping #ราชดำริ #สวนลุมพินี #นอนไม่หลับ #หลับยาก #หน้าใส #ฝังเข็มหน้าใส #RegeneLife #regenelifevitalcenter #thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 643 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิจกรรม: รวมพลคนบางพลัด

    วันและเวลา: 14 -ตุลาคม 2024
    สถานที่: [ระบุสถานที่จัดงาน]
    เวลา: [ระบุเวลาเริ่มและสิ้นสุด]

    วัตถุประสงค์ของกิจกรรม:

    เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัยด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน
    เพื่อบำบัดความไม่สบายตัวด้วยการใช้จอบตุ่มและฟังคลื่นเสียงขันธิเบต
    เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
    กิจกรรมในวันงาน:

    การบรรยายเรื่องการดูแลสุขภาพสูงวัย:

    เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
    เทคนิคการจัดการความไม่สบายตัวในชีวิตประจำวัน
    การทำจอบตุ่ม:

    สอนวิธีการทำจอบตุ่มเพื่อใช้ในการบำบัด
    แจกจอบตุ่มให้ผู้เข้าร่วมที่สนใจนำไปใช้ที่บ้าน
    การบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต:

    ฟังการบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต โดยมีผู้เชี่ยวชาญมานำการบำบัด
    เสียงขันธิเบตจะช่วยในการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด
    การเสวนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์:

    ให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัย
    กิจกรรมสันทนาการ:

    จัดกิจกรรมสันทนาการ เช่น การร้องเพลง การเต้นรำ หรือการทำสมาธิเพื่อสร้างความสุข
    ปิดท้ายกิจกรรม:

    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม
    ให้ผู้เข้าร่วมกลับไปพร้อมกับความรู้ใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพสูงวัยในชุมชน
    หมายเหตุ:

    ผู้เข้าร่วมสามารถนำอาหารว่างและเครื่องดื่มมาได้
    ขอแนะนำให้แต่งกายสบาย ๆ เพื่อความสะดวกในกิจกรรม
    กิจกรรม: รวมพลคนบางพลัด วันและเวลา: 14 -ตุลาคม 2024 สถานที่: [ระบุสถานที่จัดงาน] เวลา: [ระบุเวลาเริ่มและสิ้นสุด] วัตถุประสงค์ของกิจกรรม: เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัยด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อบำบัดความไม่สบายตัวด้วยการใช้จอบตุ่มและฟังคลื่นเสียงขันธิเบต เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ กิจกรรมในวันงาน: การบรรยายเรื่องการดูแลสุขภาพสูงวัย: เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ เทคนิคการจัดการความไม่สบายตัวในชีวิตประจำวัน การทำจอบตุ่ม: สอนวิธีการทำจอบตุ่มเพื่อใช้ในการบำบัด แจกจอบตุ่มให้ผู้เข้าร่วมที่สนใจนำไปใช้ที่บ้าน การบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต: ฟังการบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต โดยมีผู้เชี่ยวชาญมานำการบำบัด เสียงขันธิเบตจะช่วยในการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด การเสวนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์: ให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัย กิจกรรมสันทนาการ: จัดกิจกรรมสันทนาการ เช่น การร้องเพลง การเต้นรำ หรือการทำสมาธิเพื่อสร้างความสุข ปิดท้ายกิจกรรม: แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม ให้ผู้เข้าร่วมกลับไปพร้อมกับความรู้ใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพสูงวัยในชุมชน หมายเหตุ: ผู้เข้าร่วมสามารถนำอาหารว่างและเครื่องดื่มมาได้ ขอแนะนำให้แต่งกายสบาย ๆ เพื่อความสะดวกในกิจกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาแล้ว แบบจ่ายครั้งเดียวจบ
    หลายคนเบื่อที่จะจ่ายรายปีเพราะไม่ได้ใช้บ่อย ไม่สะดวกในการจ่าย หรือไม่ได้ใช้ Internet ก็จะรอเวอร์ชั่นนี้ จ่ายครั้งเดียวใช้ได้ยาวๆ
    มาแล้ว แบบจ่ายครั้งเดียวจบ หลายคนเบื่อที่จะจ่ายรายปีเพราะไม่ได้ใช้บ่อย ไม่สะดวกในการจ่าย หรือไม่ได้ใช้ Internet ก็จะรอเวอร์ชั่นนี้ จ่ายครั้งเดียวใช้ได้ยาวๆ
    PPTV36.NEWS
    Microsoft เปิดตัว "Office 2024" ได้ฟีเจอร์ใหม่เพียบ!
    Microsoft เปิดตัวเครื่องมือเวอร์ชันใหม่ "Microsoft Office 2024" ได้ฟีเจอร์ใหม่เพียบ วางขาย 2 เวอร์ชัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช้าไปนิด ไม่ว่าอะไรนะติ่งขา………พี่ปูเขาเรื่องแยะ เลยต้องค้นหาข้อมูลมาเม้าท์กันเยอะหน่อยค่าาาา…!!!

    ตอนยี่สิบเอ็ด………งานหลวงงานราษฎร์……งานปราบปิดจ๊อบเป็นงานถนัด…!!!

    ในการกลับมาในครั้งนี้ ปูตินผ่านสารพัดม็อบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในช่วงนี้ของชีวิตที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในยุคสังคมเปิดทางโลกออนไลน์……เขาพบว่ากลุ่มต่อต้านได้เติบโตไปมาก
    คราวนี้ เขามีอายุ ห้าสิบเก้า……สุขภาพดีเยี่ยม พร้อมที่จะนำพาประเทศไปยังจุดที่สูงสุด จะต้องเป็นมหาอำนาจในทุกด้าน
    และจะต้องเป็นศูนย์กลางของยูเรเชีย……
    เขาเดินออกมาจากพระวิหารในวันที่เข้าพบกับ
    พระอธิการคิริลล์ หลังจากการเข้าสาบานตน ด้วยท่าทางที่พร้อมที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามทุกหมู่เหล่า

    กลุ่มแรก…คือ กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ที่จตุรัส Bolotnaya กลางกรุงมอสโคว์ ที่ปูตินต้องการแค่ผู้นำ Leonid Razvozzhayev (ซ้ายจัด) ที่ไหวตัวทัน หนีไปกบดานที่ยูเครน
    เพียงไม่กี่วันต่อมา ……ก็มีกลุ่มคนมา”อุ้ม” เขาไปจากที่พัก นำตัวกลับไปยังรัสเซีย ขึ้นศาล
    ถูกตัดสินให้ไปนอนเล่นที่ไซบีเรียห้าปี……

    กลุ่มหัวหอกอื่นๆ เช่น Aleksei Navalny ทนายความนักการเมืองที่มีฐานเสียงพอสมควร ที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะต้องรับข้อหาในการก่อความไม่สงบตามมา
    แต่.……สิ่งที่ไม่คาดคิด คือ หนึ่งในหัวหอกที่ต่อต้านปูตินในขบวนการเดียวกัน คือ Ksena Sobchak ธิดาสาวของ อนาโตลี
    เจ้านายและผู้สนับสนุนที่สำคัญของปูติน ที่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนกันมาตั้งแต่สมัยที่ปูตินเพิ่มเริ่มเตาะแตะทางการเมือง ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    ที่แม้แต่อนาโตลีจะจากโลกนี้ไปแล้ว ปูตินก็ยังคือว่าครอบครัวนี้เป็นผู้ที่เขาต้องให้ความสงเคราะห์ เช่น ภริยาของอนาโตลี ได้เป็นกรรมการบริหารในเทศบาล (ข้าราชการประจำ)
    แม้แต่ตัว เซน่าเอง……ก็ได้เข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ (ด้วยการสนับสนุนของปูติน) ตั้งแต่ปี 2014 ตามสายงานที่เรียนมา จนมาเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชื่อเสียงพอสมควร

    สรุปว่า…ชีวิตทางการงานของเธอและมารดา……ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น (2012) แต่เหมือนกับส่งเสือเข้าป่า เพราะเซน่าได้หันไปซบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มตัว

    ส่วนเรื่องคดีสาวห่ามทั้งหลาย ที่ขึ้นไปเต้นเหยงๆอยู่บนพระวิหาร ได้ถูกตัดสินจำคุก ในข้อหา……ลบหลู่ศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์……และเนื่องจากหลายคนเป็นนักดนตรีแนวพั้งค์
    ข่าวในทางตะวันตกจึงตีไปในทิศทางที่ว่า “จำกัดอิสรภาพของศิลปิน…” ที่เหล่าดาราใหญ่ๆ เช่น Paul McCartney ก็พลอยบ้าจี้ตามไปด้วย

    ปูตินได้ไปร่วมประชุมในวาระงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่ลอนดอน
    นายกรัฐมนตรี David Cameron ได้เข้ามาถามถึงเรื่องนี้
    ปูตินตอบว่า……
    “เรื่องนี้ดูยังไงก็ผิด ไม่ว่าเขาจะแย้งว่าอะไร ชาติไหนก็ต้องมีขอบเขตในเรื่องศาสนา ถ้าพวกก่อการพวกนี้ลองไปเต้นที่มัสยิด….คุณคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดออกมาหรือ..??
    แน่นอนว่า…ในวันที่ 17 สิงหาคม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล การตัดสินคือ จำคุก 2 ปี (ติดจริงๆแค่ เจ็ดเดือน)
    จากนั้นกลุ่ม ***** Riot ก็สลายตัวลงไปจากบนดิน แต่ยังพอมีกระแสทางลับๆ

    ทางด้านการต่างประเทศระหว่างสหรัฐ เริ่มตึงเครียด เข้ามาทุกที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมระดับหัวหน้า ได้มีกลุ่มตะวันตกสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมาในรูปแบบขององค์กร เช่น USAID, NGO
    ปูตินได้วางนโยบายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในลิเบีย…
    ที่เขาได้เห็นกลุ่มนาโต้ได้เข้ารุมย่ำยีเพราะเพียงเพื่อหวังจะเอากัดดาฟีลงจากอำนาจนั้น เขาจะไม่ยอมให้สหรัฐและพรรคพวกที่เรียกว่า NATO มาเป็นคนชี้ชะตาของชาติไหนในโลกนี้อีก……พอกันที……!!

    การแก้และออกกฎหมายใหม่ได้ทำขึ้นรัวๆ เริ่มจาก……ห้ามการรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจากรัสเซีย (จากต่างประเทศ ที่อเมริกาเป็นประเทศที่ขอไปเลี้ยงมากสุด) แม้ว่าบางรายที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางเอกสาร
    เมื่อถูกซักถามหนักๆจากสื่อ ในเรื่องว่าเป็นการดับอนาคตของเด็กหรือไม่…??
    เขาตอบว่า…”คุณคิดว่านี่คือการดับอนาคตหรือ มันน่าอับอายและเป็นรอยบาปให้กับเด็กของเราต่างหาก……นี่คุณบ้าไปหรือเปล่า…?!!

    ในวันคล้ายวันเกิดของปูตินที่ครบหกสิบปี………เขาเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างรัวๆ เช่น ดำน้ำในทะเลดำ หาไหโบราณ (ถึงแม้จะเป็นการจัดฉาก ก็ดูเนียน……)
    ขี่ม้า เปลือยอก…(ถึงจะจัด……ก็โอเค) ขี่เครื่องร่อน……มีนกบินตาม (อันนี้ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ…) ไปสมทบกับกลุ่มบิ๊กไบค์ที่เป็นเกลอกัน ( ก็ดูแพง……เพราะใช้ Harley Davidson สามล้ออย่างใหญ่……)
    และที่ต้องกรี๊ดดด…คือ ปูตินไปแอบหัดเล่นไอซ์ ฮ๊อกกี้ ที่ค่อนข้างจะดูแอ๊บสักหน่อย แต่พอออกงานได้ มีสะดุดล้มพังพาบให้เห็น…ก็ยังน่าเอ็นดู (แต่คนถ่าย……ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้)

    มีการให้ทำคลิปรายการของความเป็นอยู่ในบ้านพัก ที่ให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ท่านผู้นำตื่นในเวลาแปดโมงครึ่ง จากเตียงก็ออกกำลังกายเลย คือเข้าห้องยิม และดูข่าวไปด้วย จากนั้นไปว่ายน้ำระยะ 1000 เมตร เริ่มอาหารเช้าในเวลาเที่ยง
    เป็นพวกโจ๊กด้วยธัญพืช ไข่นกกระทา สลัดและน้ำผลไม้คั้นสดส่วนประกอบจะมาจากสวนในพระวิหารของพระอธิการ Kirill
    จากนั้นจะทำงานจนถึงดึก การประชุมมักจะเป็นในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนไปแล้ว…
    ที่บ้าน…ไม่มีวี่แววของผู้อาศัยคนอื่น ไม่มีลุดมิลา และ บุตรสาวทั้งสอง นอกจาก Koni สุนัขข้างกายที่ตามติดไปทุกที่
    แต่…อย่างไรก็ตาม ในยุคเขานั้น รายได้ของประชาชนจากปีละจำนวนพันดอลล่าร์ พุ่งขึ้นมาเป็นหลักหมื่น

    ธิดาทั้งสองของปูติน คนโต คือ มาเรีย ได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวดัทช์ Jorrit Faassen ที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของ Gazprom แทบไม่มีใครรู้จักเขาเลยจนกระทั่ง วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2010 ที่เขาไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่งที่เป็นรถเบ๊นซ์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม Matvei Urin
    เหล่าบอดี้การ์ดของมหาเศรษฐีที่ตามมาในรถตู้ ได้กรูกันมาทำร้าย Faassen จนถึงขั้นหาม…

    เรื่องได้ไปถึงปูติน (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผลคือ เหล่าบอดี้การ์ดติดคุกกันพร้อมหน้า ส่วน Urin โดนหลายคดี……
    ทำร้ายร่างกาย และ ยกเลิกใบอนุญาตทำธนาคาร เพราะตรวจสอบบัญชีในการดำเนินการพบว่ามีการทุจริต……ติดคุก สี่ปีครึ่ง
    ทั้งมาเรียและฟาสเซ่น ได้แต่งงานกันที่กรีซ ในปี 2012 และมีบุตรชาย ที่ปูตินได้เป็นพ่อทูนหัว
    ส่วนบุตรสาวคนเล็ก Katya มีข่าวลือว่ามีคู่รักเป็นลูกชายนายพลเกาหลีเหนือ (ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) แต่เธอชอบศิลปการแสดง และเคยเป็นผู้อำนวยการในองค์กรพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมอสโคว์

    ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่บ่อยครั้งที่ปูตินจะรายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าๆที่เคยกอดคอสู้กันมา จัดปาร์ตี้และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงดุริยางค์จากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มาขับกล่อม

    และในวันที่ปูตินเข้าสาบานตนในฐานะประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคมนั้น คือวันที่ทุกคนได้เห็นลุดมิลายืนเคียงข้างกับเขา แต่ทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่า ทั้งคู่นี้แยกกันอยู่มานานแสนนาน
    จนในเดือนมิถุนายน ที่เขาทั้งคู่ไปในงานบัลเล่ต์ “Esmeralda”
    ที่นักข่าวได้ยิงคำถามตรง ว่า
    “ไม่เห็นท่านมาด้วยกันบ่อยๆ แล้วข่าวลือที่ว่าท่านได้แยกกันอยู่มันเท็จจริงประการใด?”
    ปูติน เหลือบไปมองลุดมิลา ก่อนที่จะตอบว่า
    “เป็นเรื่องจริง ลุดมิลาต้องทนกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาของผมมานานแสนนาน เราแทบไม่มีเวลาพบกันเลย ต่างคนต่างอยู่มาแปดเก้าปีแล้ว..”
    ลุดมิลาได้พูดขึ้นมาว่า…
    “เราหย่ากันก็จริง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
    นั่นคือการยืนยันจากคนทั้งสองด้วยตัวเอง

    ปูตินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้งานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก โดยทุ่มทุนถึง หกหมื่นล้านดอลล่าร์ (เทียบเท่า) ที่นับว่าเป็นงบที่ใช้สำหรับโอลิมปิกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (เจ็ดเท่าเหนือกว่าแคนาดาในปี 2010)
    ที่ทุกคนทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มอึดอัด เพราะยังไม่นับทางรถไฟเชื่อมสู่เขา และ เส้นทางถนน
    ผู้รับเหมาต่างพากันอิ่มเอมในการบวกราคา (เพราะยิ่งเร่งยิ่งแพง)
    เรื่องนี้ถึงหูปูติน……เขาเรียกคณะกรรมการมาถามว่า ใครเป็นคนรับผิดชอบส่วนที่ล่าช้า (คือ เส้นทางของสกีสลาลอม หรือ ลงเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ……ที่ปูตินเห็นว่า……งานไม่เนี๊ยบ)
    คำตอบคือ Akhmed Bilalov รองประธานคณะมนตรี ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงคือมีที่ทางอยู่ทางด้านล่างของภูเขา เลยกินเศษกินเลยกับบริษัทก่อสร้าง งบประมาณ 40 ล้านในทีแรก
    บานมาเป็น 260 ล้าน…
    ปูตินเรียกให้มาพบพร้อมกับประธานงานโอลิมปิก(ออกสื่อ)
    แล้วถามตรงๆว่า……อธิบายมา……ช้าแล้วยังไม่ดีสมราคา เพราะ…???
    คำอธิบายทั้งหมดที่ยกมา……ฟังไม่ขึ้น……!!
    ปูตินเลยสั่งแบบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า……”งั้นก็คงต้องจัดการกันใหม่……”
    แล้วเขาก็เดินออกไป….

    วันรุ่งขึ้น…Akhmed ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในคณะมนตรี
    ปูตินได้ให้ฝ่ายบัญชีทำการตรวจสอบย้อนหลังในทุกงานที่เขารับทำมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ออกจะเว่อร์ในการไปดูงานประชุมที่ลอนดอน……
    ผู้ที่มารับหน้าที่แทนคือ ผู้ที่ชนะการประกวดราคาประมูล ธนาคาร Sberbank ที่มีประธานคือ German Greff
    (ที่งานนี้ต้องเข้าเนื้อไปอย่างมากมาย เพราะต้องยอมขาดทุน)

    ~~-ต้องเล่าต่อถึง Akhmed Bilalov ไม่งั้นจะค้างคาในใจ
    หลังจากที่โดนการตรวจสอบบัญชีแบบเข้ม อาเหมดถูกข้อหาฉ้อโกง คอรัปชั่น ตามมาติดๆ ที่มีโทษถึงจำคุกสี่ถึงสิบปี
    ไม่ใช่เขาคนเดียว ……แต่พี่น้องสองคนและผู้บริหารทุกคนในบริษัทโดนคดีหมด
    เขาหนีออกจากรัสเซีย ไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลโดยอ้างว่าจะถูกคุกคามเอาชีวิต เพราะในที่ทำงานของเขามีร่องรอยของผงยาพิษ
    เขาหนีไปที่เยอรมัน และ ไปปักหลักที่ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา
    ที่เขาถูกจับกุมเพราะไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ต่อวีซ่า (2019) ที่ตามกฏแล้ว……เขาอาจจะต้องส่งกลับไปที่รัสเซีย
    แต่จากนั้น ข่าวของเขาก็เงียบหายไป………
    รัสเซียได้ทวงถามไปที่อเมริกา….ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร
    เชื่อว่า…คงใช้เงินซื้อเส้นทางใบเขียวไปแล้ว..


    Wiwanda W. Vichit
    ช้าไปนิด ไม่ว่าอะไรนะติ่งขา………พี่ปูเขาเรื่องแยะ เลยต้องค้นหาข้อมูลมาเม้าท์กันเยอะหน่อยค่าาาา…!!! ตอนยี่สิบเอ็ด………งานหลวงงานราษฎร์……งานปราบปิดจ๊อบเป็นงานถนัด…!!! ในการกลับมาในครั้งนี้ ปูตินผ่านสารพัดม็อบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในช่วงนี้ของชีวิตที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในยุคสังคมเปิดทางโลกออนไลน์……เขาพบว่ากลุ่มต่อต้านได้เติบโตไปมาก คราวนี้ เขามีอายุ ห้าสิบเก้า……สุขภาพดีเยี่ยม พร้อมที่จะนำพาประเทศไปยังจุดที่สูงสุด จะต้องเป็นมหาอำนาจในทุกด้าน และจะต้องเป็นศูนย์กลางของยูเรเชีย…… เขาเดินออกมาจากพระวิหารในวันที่เข้าพบกับ พระอธิการคิริลล์ หลังจากการเข้าสาบานตน ด้วยท่าทางที่พร้อมที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามทุกหมู่เหล่า กลุ่มแรก…คือ กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ที่จตุรัส Bolotnaya กลางกรุงมอสโคว์ ที่ปูตินต้องการแค่ผู้นำ Leonid Razvozzhayev (ซ้ายจัด) ที่ไหวตัวทัน หนีไปกบดานที่ยูเครน เพียงไม่กี่วันต่อมา ……ก็มีกลุ่มคนมา”อุ้ม” เขาไปจากที่พัก นำตัวกลับไปยังรัสเซีย ขึ้นศาล ถูกตัดสินให้ไปนอนเล่นที่ไซบีเรียห้าปี…… กลุ่มหัวหอกอื่นๆ เช่น Aleksei Navalny ทนายความนักการเมืองที่มีฐานเสียงพอสมควร ที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะต้องรับข้อหาในการก่อความไม่สงบตามมา แต่.……สิ่งที่ไม่คาดคิด คือ หนึ่งในหัวหอกที่ต่อต้านปูตินในขบวนการเดียวกัน คือ Ksena Sobchak ธิดาสาวของ อนาโตลี เจ้านายและผู้สนับสนุนที่สำคัญของปูติน ที่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนกันมาตั้งแต่สมัยที่ปูตินเพิ่มเริ่มเตาะแตะทางการเมือง ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่แม้แต่อนาโตลีจะจากโลกนี้ไปแล้ว ปูตินก็ยังคือว่าครอบครัวนี้เป็นผู้ที่เขาต้องให้ความสงเคราะห์ เช่น ภริยาของอนาโตลี ได้เป็นกรรมการบริหารในเทศบาล (ข้าราชการประจำ) แม้แต่ตัว เซน่าเอง……ก็ได้เข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ (ด้วยการสนับสนุนของปูติน) ตั้งแต่ปี 2014 ตามสายงานที่เรียนมา จนมาเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชื่อเสียงพอสมควร สรุปว่า…ชีวิตทางการงานของเธอและมารดา……ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น (2012) แต่เหมือนกับส่งเสือเข้าป่า เพราะเซน่าได้หันไปซบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มตัว ส่วนเรื่องคดีสาวห่ามทั้งหลาย ที่ขึ้นไปเต้นเหยงๆอยู่บนพระวิหาร ได้ถูกตัดสินจำคุก ในข้อหา……ลบหลู่ศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์……และเนื่องจากหลายคนเป็นนักดนตรีแนวพั้งค์ ข่าวในทางตะวันตกจึงตีไปในทิศทางที่ว่า “จำกัดอิสรภาพของศิลปิน…” ที่เหล่าดาราใหญ่ๆ เช่น Paul McCartney ก็พลอยบ้าจี้ตามไปด้วย ปูตินได้ไปร่วมประชุมในวาระงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่ลอนดอน นายกรัฐมนตรี David Cameron ได้เข้ามาถามถึงเรื่องนี้ ปูตินตอบว่า…… “เรื่องนี้ดูยังไงก็ผิด ไม่ว่าเขาจะแย้งว่าอะไร ชาติไหนก็ต้องมีขอบเขตในเรื่องศาสนา ถ้าพวกก่อการพวกนี้ลองไปเต้นที่มัสยิด….คุณคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดออกมาหรือ..?? แน่นอนว่า…ในวันที่ 17 สิงหาคม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล การตัดสินคือ จำคุก 2 ปี (ติดจริงๆแค่ เจ็ดเดือน) จากนั้นกลุ่ม Pussy Riot ก็สลายตัวลงไปจากบนดิน แต่ยังพอมีกระแสทางลับๆ ทางด้านการต่างประเทศระหว่างสหรัฐ เริ่มตึงเครียด เข้ามาทุกที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมระดับหัวหน้า ได้มีกลุ่มตะวันตกสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมาในรูปแบบขององค์กร เช่น USAID, NGO ปูตินได้วางนโยบายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในลิเบีย… ที่เขาได้เห็นกลุ่มนาโต้ได้เข้ารุมย่ำยีเพราะเพียงเพื่อหวังจะเอากัดดาฟีลงจากอำนาจนั้น เขาจะไม่ยอมให้สหรัฐและพรรคพวกที่เรียกว่า NATO มาเป็นคนชี้ชะตาของชาติไหนในโลกนี้อีก……พอกันที……!! การแก้และออกกฎหมายใหม่ได้ทำขึ้นรัวๆ เริ่มจาก……ห้ามการรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจากรัสเซีย (จากต่างประเทศ ที่อเมริกาเป็นประเทศที่ขอไปเลี้ยงมากสุด) แม้ว่าบางรายที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางเอกสาร เมื่อถูกซักถามหนักๆจากสื่อ ในเรื่องว่าเป็นการดับอนาคตของเด็กหรือไม่…?? เขาตอบว่า…”คุณคิดว่านี่คือการดับอนาคตหรือ มันน่าอับอายและเป็นรอยบาปให้กับเด็กของเราต่างหาก……นี่คุณบ้าไปหรือเปล่า…?!! ในวันคล้ายวันเกิดของปูตินที่ครบหกสิบปี………เขาเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างรัวๆ เช่น ดำน้ำในทะเลดำ หาไหโบราณ (ถึงแม้จะเป็นการจัดฉาก ก็ดูเนียน……) ขี่ม้า เปลือยอก…(ถึงจะจัด……ก็โอเค) ขี่เครื่องร่อน……มีนกบินตาม (อันนี้ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ…) ไปสมทบกับกลุ่มบิ๊กไบค์ที่เป็นเกลอกัน ( ก็ดูแพง……เพราะใช้ Harley Davidson สามล้ออย่างใหญ่……) และที่ต้องกรี๊ดดด…คือ ปูตินไปแอบหัดเล่นไอซ์ ฮ๊อกกี้ ที่ค่อนข้างจะดูแอ๊บสักหน่อย แต่พอออกงานได้ มีสะดุดล้มพังพาบให้เห็น…ก็ยังน่าเอ็นดู (แต่คนถ่าย……ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้) มีการให้ทำคลิปรายการของความเป็นอยู่ในบ้านพัก ที่ให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ท่านผู้นำตื่นในเวลาแปดโมงครึ่ง จากเตียงก็ออกกำลังกายเลย คือเข้าห้องยิม และดูข่าวไปด้วย จากนั้นไปว่ายน้ำระยะ 1000 เมตร เริ่มอาหารเช้าในเวลาเที่ยง เป็นพวกโจ๊กด้วยธัญพืช ไข่นกกระทา สลัดและน้ำผลไม้คั้นสดส่วนประกอบจะมาจากสวนในพระวิหารของพระอธิการ Kirill จากนั้นจะทำงานจนถึงดึก การประชุมมักจะเป็นในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนไปแล้ว… ที่บ้าน…ไม่มีวี่แววของผู้อาศัยคนอื่น ไม่มีลุดมิลา และ บุตรสาวทั้งสอง นอกจาก Koni สุนัขข้างกายที่ตามติดไปทุกที่ แต่…อย่างไรก็ตาม ในยุคเขานั้น รายได้ของประชาชนจากปีละจำนวนพันดอลล่าร์ พุ่งขึ้นมาเป็นหลักหมื่น ธิดาทั้งสองของปูติน คนโต คือ มาเรีย ได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวดัทช์ Jorrit Faassen ที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของ Gazprom แทบไม่มีใครรู้จักเขาเลยจนกระทั่ง วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2010 ที่เขาไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่งที่เป็นรถเบ๊นซ์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม Matvei Urin เหล่าบอดี้การ์ดของมหาเศรษฐีที่ตามมาในรถตู้ ได้กรูกันมาทำร้าย Faassen จนถึงขั้นหาม… เรื่องได้ไปถึงปูติน (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผลคือ เหล่าบอดี้การ์ดติดคุกกันพร้อมหน้า ส่วน Urin โดนหลายคดี…… ทำร้ายร่างกาย และ ยกเลิกใบอนุญาตทำธนาคาร เพราะตรวจสอบบัญชีในการดำเนินการพบว่ามีการทุจริต……ติดคุก สี่ปีครึ่ง ทั้งมาเรียและฟาสเซ่น ได้แต่งงานกันที่กรีซ ในปี 2012 และมีบุตรชาย ที่ปูตินได้เป็นพ่อทูนหัว ส่วนบุตรสาวคนเล็ก Katya มีข่าวลือว่ามีคู่รักเป็นลูกชายนายพลเกาหลีเหนือ (ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) แต่เธอชอบศิลปการแสดง และเคยเป็นผู้อำนวยการในองค์กรพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่บ่อยครั้งที่ปูตินจะรายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าๆที่เคยกอดคอสู้กันมา จัดปาร์ตี้และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงดุริยางค์จากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มาขับกล่อม และในวันที่ปูตินเข้าสาบานตนในฐานะประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคมนั้น คือวันที่ทุกคนได้เห็นลุดมิลายืนเคียงข้างกับเขา แต่ทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่า ทั้งคู่นี้แยกกันอยู่มานานแสนนาน จนในเดือนมิถุนายน ที่เขาทั้งคู่ไปในงานบัลเล่ต์ “Esmeralda” ที่นักข่าวได้ยิงคำถามตรง ว่า “ไม่เห็นท่านมาด้วยกันบ่อยๆ แล้วข่าวลือที่ว่าท่านได้แยกกันอยู่มันเท็จจริงประการใด?” ปูติน เหลือบไปมองลุดมิลา ก่อนที่จะตอบว่า “เป็นเรื่องจริง ลุดมิลาต้องทนกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาของผมมานานแสนนาน เราแทบไม่มีเวลาพบกันเลย ต่างคนต่างอยู่มาแปดเก้าปีแล้ว..” ลุดมิลาได้พูดขึ้นมาว่า… “เราหย่ากันก็จริง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” นั่นคือการยืนยันจากคนทั้งสองด้วยตัวเอง ปูตินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้งานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก โดยทุ่มทุนถึง หกหมื่นล้านดอลล่าร์ (เทียบเท่า) ที่นับว่าเป็นงบที่ใช้สำหรับโอลิมปิกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (เจ็ดเท่าเหนือกว่าแคนาดาในปี 2010) ที่ทุกคนทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มอึดอัด เพราะยังไม่นับทางรถไฟเชื่อมสู่เขา และ เส้นทางถนน ผู้รับเหมาต่างพากันอิ่มเอมในการบวกราคา (เพราะยิ่งเร่งยิ่งแพง) เรื่องนี้ถึงหูปูติน……เขาเรียกคณะกรรมการมาถามว่า ใครเป็นคนรับผิดชอบส่วนที่ล่าช้า (คือ เส้นทางของสกีสลาลอม หรือ ลงเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ……ที่ปูตินเห็นว่า……งานไม่เนี๊ยบ) คำตอบคือ Akhmed Bilalov รองประธานคณะมนตรี ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงคือมีที่ทางอยู่ทางด้านล่างของภูเขา เลยกินเศษกินเลยกับบริษัทก่อสร้าง งบประมาณ 40 ล้านในทีแรก บานมาเป็น 260 ล้าน… ปูตินเรียกให้มาพบพร้อมกับประธานงานโอลิมปิก(ออกสื่อ) แล้วถามตรงๆว่า……อธิบายมา……ช้าแล้วยังไม่ดีสมราคา เพราะ…??? คำอธิบายทั้งหมดที่ยกมา……ฟังไม่ขึ้น……!! ปูตินเลยสั่งแบบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า……”งั้นก็คงต้องจัดการกันใหม่……” แล้วเขาก็เดินออกไป…. วันรุ่งขึ้น…Akhmed ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในคณะมนตรี ปูตินได้ให้ฝ่ายบัญชีทำการตรวจสอบย้อนหลังในทุกงานที่เขารับทำมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ออกจะเว่อร์ในการไปดูงานประชุมที่ลอนดอน…… ผู้ที่มารับหน้าที่แทนคือ ผู้ที่ชนะการประกวดราคาประมูล ธนาคาร Sberbank ที่มีประธานคือ German Greff (ที่งานนี้ต้องเข้าเนื้อไปอย่างมากมาย เพราะต้องยอมขาดทุน) ~~-ต้องเล่าต่อถึง Akhmed Bilalov ไม่งั้นจะค้างคาในใจ หลังจากที่โดนการตรวจสอบบัญชีแบบเข้ม อาเหมดถูกข้อหาฉ้อโกง คอรัปชั่น ตามมาติดๆ ที่มีโทษถึงจำคุกสี่ถึงสิบปี ไม่ใช่เขาคนเดียว ……แต่พี่น้องสองคนและผู้บริหารทุกคนในบริษัทโดนคดีหมด เขาหนีออกจากรัสเซีย ไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลโดยอ้างว่าจะถูกคุกคามเอาชีวิต เพราะในที่ทำงานของเขามีร่องรอยของผงยาพิษ เขาหนีไปที่เยอรมัน และ ไปปักหลักที่ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา ที่เขาถูกจับกุมเพราะไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ต่อวีซ่า (2019) ที่ตามกฏแล้ว……เขาอาจจะต้องส่งกลับไปที่รัสเซีย แต่จากนั้น ข่าวของเขาก็เงียบหายไป……… รัสเซียได้ทวงถามไปที่อเมริกา….ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร เชื่อว่า…คงใช้เงินซื้อเส้นทางใบเขียวไปแล้ว.. Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ

    หลังจากที่สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวจีนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้ชาวจีนไปเรียนในสถาบันวิจัยสำคัญๆ ในสหรัฐฯ อีกต่อไป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศไฮเทคของโลกอย่างสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจไม่อนุญาตอีกต่อไป ภาษาจีนเพื่อศึกษาความรู้ไฮเทคในสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษ

    ขณะนี้มีนักเรียนเกือบ 1,000 คนเข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรแล้ว และถูกจำกัดให้ออกจาก สหราชอาณาจักรภายในหนึ่งเดือน และกล่าวว่าเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรจะจำกัดไม่ให้นักเรียนเหล่านี้เข้าสหราชอาณาจักร

    บังเอิญญี่ปุ่นได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับนักเรียนชาวจีนจากการลงทะเบียนในวิชาที่มีเทคโนโลยีสูงของญี่ปุ่น ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,500 คนในโรงเรียน และนักเรียนชาวจีนที่มีประวัติการปฏิเสธวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังได้ติดตามและปฏิเสธที่จะให้วีซ่าเข้าประเทศแก่บุคคลเหล่านี้

    ในเวลาเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการของแคนาดาได้ประกาศขับไล่นักศึกษาชาวจีน 900 คน

    ออสเตรเลียขับไล่นักศึกษาชาวจีน 2,200 คน; นิวซีแลนด์ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,300 คน

    กระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศว่า การสมัครนักเรียนจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติการทบทวนอย่างเข้มงวดของสหรัฐอเมริกา

    จนถึงตอนนี้ มากกว่า 80% ของนักเรียนจีน 600,000 คนที่ต้องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศจะถูกปฏิเสธวีซ่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาในอนาคตของจีน

    ไบเดนสาบานที่จะป้องกันไม่ให้จีนมีอำนาจมากกว่าสหรัฐฯ

    เวลานี้เป็นช่วงของกระแสนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าหัวกะทิหลั่งไหลกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด

    1. มหาเศรษฐี หลี่ ไค ฟู่ (李开复) เป็นคนนำหน้า ทิ้งกรีนการ์ดกลับสู่ประเทศจีน ทำให้สหรัฐฯเสียหายถึง 1 แสน 3 หมื่น ล้านเหรียญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะออกจากตลาดสหรัฐฯตลอดไป โดยบริษัทใหญ่ที่ทำการวิจัยถอนตัวออกจากหุบเขาซิลิคอน (ซิลิคอนแวลลีย์ 硅谷)ของสหรัฐฯ นำเงินทุนของบริษัท 95 % พร้อมทั้งเทคโนโลยีทั้งหมดกลับสู่ประเทศจีน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการชักจูงแบบโดมิโนให้คนเชื้อชาติจีนชั้นนำทยอยกลับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งนำเงินทุนกลับประเทศ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    2. หยิ่น จื้อ หย๋าว (尹志尧) เทพแห่ง ซิลิคอนแวลลี่ย์ แม้ว่าทางสหรัฐฯจะเสนอเงินทองเงื่อนไขที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจยับยั้งให้เขาที่มีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกลับสู่ประเทศจีนได้ เขาถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นคนจีนที่ทางสหรัฐฯไม่อยากให้จากไปอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแค่นำพานักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทางด้านไมโครชิพ 30 กว่าคน กลับไปด้วย เมื่อกลับถึงประเทศจีนแล้วเขายังเป็นผู้นำกลุ่มเอาชนะการผูกขาดทางเทคโนโลยี โดยสามารถสร้าง 5 nm Etching machine ได้สำเร็จ เปิดตำนานไมโครชิพขึ้นมาใหม่

    3. เสิ่น เซี่ยง หยาง ( 沈向洋 ) ทำงานทางด้าน microsoft ผ่านไป 23 ปี ก็กลับสู่มาตุภูมิ เขาเป็นคนจีนที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดของงานทางด้านนี้ผู้นำทางด้าน AI Microsoft การกลับประเทศของเขาถึงกลับทำให้ประเทศหรัฐฯสั่นคลอนแม้แต่ Bill Gates ยังรู้สึกเสียดาย ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต้าชิง สร้างบุคลากรทางด้าน AI ให้กับประเทศจีน

    4. เซี่ย เสี่ยว เกา ( 谢小高 ) ศึกษาและทำงานที่ต่างประเทศ 30 กว่าปี สุดท้ายยอมสละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัย Harvard มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นคนจีนที่ใด้รับรางวัลโนเบลคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้นำระหว่างประเทศทางด้านชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี การวิจัยพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯใช้เงินรางวัลถึง 40 ล้านเหรียญก็ไม่สามารถรั้งเข้าไว้ได้ หลังกลับประเทศเขาก็เริ่มเสนอการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวการวิจัยหลายรายการ นำพานักเรียนสู่การวิจัยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักวิทยาศาสตร์จีนที่เก่งๆจำนวนมากทะยอยกลับประเทศจีนไม่ขาดสาย จะเป็นผลดีต่อประเทศเร็วขึ้น

    Cr: Boonchu Chung (羅文娟)
    จีนปฏิรูปการศึกษาต่อทันทีหลังคุมโควิด19ได้เบ็ดเสร็จแล้ว

    - ห้ามการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก, ลดการสอบต่างๆ, ลดการบ้าน, ให้บริษัทกวดวิชาเอกชนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, เลิกการมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กอัจฉริยะ, ลดเวลาการเล่มเกมของเด็ก, ปรับให้ครูไปรับตำแหน่งในร.ร. อื่นๆทุก 6 ปีป้องกันครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกตัวอยู่ในร.ร.บางแห่ง
    การปฏิรูปการศึกษาที่จีน

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันทึ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก หลังจากติดตามข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีมาตรการทางด้านการศึกษามาโดยตลอด เพียงแต่มาสะดุดช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

    เมื่อโรคระบาดโควิด-19 ในจีนได้รับการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลาอันรวดเร็ว สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจีนก็เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อทันที

    ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปี เพราะการสอบที่มากเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายอย่างมาก

    กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่น ๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง และห้ามท้องถิ่นจัดสอบระดับภูมิภาค หรือระหว่างโรงเรียน สำหรับชั้นประถมศึกษาทั้งหมด

    ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยังไม่จบการศึกษา ห้ามโรงเรียนจัดสอบย่อยรายสัปดาห์ สอบย่อยรายวิชา รวมถึงสอบรายเดือน และห้ามเลี่ยงไปเปิดการสอบในชื่ออื่น ๆ ด้วย

    ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียน และพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง

    ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของจีนมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปี ที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “เกาเข่า” ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ประมาณว่าถ้าพลาดไปเพียงคะแนนเดียว ก็สามารถชี้ขาดอนาคตได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างหนัก และแย่งกันกวดวิชาสุดฤทธิ์

    และนั่นหมายความว่าเมื่อกระทรวงศึกษาของจีนประกาศปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ก็ต้องรวมถึงแนวทางการจัดการโรงเรียนกวดวิชาด้วย โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้สั่งให้บรรดาบริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร โดยให้สถาบันติวเตอร์เหล่านี้สอนบทเรียนได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์วันละ 1 ชั่วโมง และห้ามสอนวิชาหลัก

    นี่ยังไม่นับรวมถึงนโยบายเรื่องครูในสถานศึกษา ที่ต้องให้สลับปรับเปลี่ยนกันไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่าง ๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น

    ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้ออกตำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่าง ๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ ประเภทห้องกิ๊ฟ(อัจฉริยะ) หรือห้องพิเศษใด ๆ

    และถ้าจำกันได้ เมื่อต้นปีกระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาก็สั่งห้ามครูให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1-2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง

    งานนี้เรียกว่าจีน “ยกเครื่อง” ปฏิรูปการศึกษาใหม่กันเลยทีเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้

    เลิกการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก

    ลดการบ้านเด็ก

    ละ ไม่ให้มีห้องเรียนพิเศษ

    คุมร.ร.กวดวิชาไม่ให้แสวงผลกำไร

    ห้ามร.ร.จัดอันดับคะแนนสอบ

    ปรับครูทุก 6 ปี

    ล่าสุดทางการเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาควิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ตามเสียงเรียกร้องเพื่อลดการให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล หลังจากนี้นักเรียนประถมจะสอบปลายภาคเฉพาะวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นรวมทั้งภาษาอังกฤษจะวัดผลจากการประเมินของครูผู้สอน โดยไม่มีคะแนนสอบ

    นี่ยังไม่นับเรื่องที่จีนออกกฎหมายบังคับให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แค่ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในช่วงเปิดภาคเรียนเท่านั้น ส่วนช่วงปิดเทอม เด็กจะได้รับอนุญาตให้เล่นเกมออนไลน์ได้นานขึ้น แต่ยังจำกัดวันละ 60 นาที เป็นกฎใหม่ที่มีความพยายามเพื่อควบคุมพฤติกรรมเด็กติดเกมของจีน ที่ส่งผลต่อการศึกษาและชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก

    ที่รวบรวมเรื่อง “ทึ่ง” เหล่านี้ขึ้นมา ก็เพราะ “อึ้ง” กับประเด็นปัญหาที่เหมือนในบ้านเราที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่ได้รับการชำระสะสาง แม้จะผ่านการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2542 และปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่

    ภาพที่สะท้อนชัดในบ้านเขาก็คือ การจัดการที่เด็ดขาด ลงมือทำทันที และแก้ปัญหาที่มีลักษณะโดมิโน่และส่งผลสัมพันธ์กันในเวลาที่ไล่เลี่ยแบบสอดรับกัน แม้จะยังไม่เห็นผล แต่สิ่งเหล่านี้คือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาตลอด

    และถ้าเรายังแก้ปัญหาทีละอย่าง เงื้อง่าทีละเรื่อง สุดท้ายก็แก้ปัญหาไม่ได้ซะที

    เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเรา
    #ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
    เลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ หลังจากที่สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวจีนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้ชาวจีนไปเรียนในสถาบันวิจัยสำคัญๆ ในสหรัฐฯ อีกต่อไป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศไฮเทคของโลกอย่างสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจไม่อนุญาตอีกต่อไป ภาษาจีนเพื่อศึกษาความรู้ไฮเทคในสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษ ขณะนี้มีนักเรียนเกือบ 1,000 คนเข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรแล้ว และถูกจำกัดให้ออกจาก สหราชอาณาจักรภายในหนึ่งเดือน และกล่าวว่าเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรจะจำกัดไม่ให้นักเรียนเหล่านี้เข้าสหราชอาณาจักร บังเอิญญี่ปุ่นได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับนักเรียนชาวจีนจากการลงทะเบียนในวิชาที่มีเทคโนโลยีสูงของญี่ปุ่น ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,500 คนในโรงเรียน และนักเรียนชาวจีนที่มีประวัติการปฏิเสธวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังได้ติดตามและปฏิเสธที่จะให้วีซ่าเข้าประเทศแก่บุคคลเหล่านี้ ในเวลาเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการของแคนาดาได้ประกาศขับไล่นักศึกษาชาวจีน 900 คน ออสเตรเลียขับไล่นักศึกษาชาวจีน 2,200 คน; นิวซีแลนด์ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,300 คน กระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศว่า การสมัครนักเรียนจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติการทบทวนอย่างเข้มงวดของสหรัฐอเมริกา จนถึงตอนนี้ มากกว่า 80% ของนักเรียนจีน 600,000 คนที่ต้องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศจะถูกปฏิเสธวีซ่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาในอนาคตของจีน ไบเดนสาบานที่จะป้องกันไม่ให้จีนมีอำนาจมากกว่าสหรัฐฯ เวลานี้เป็นช่วงของกระแสนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าหัวกะทิหลั่งไหลกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด 1. มหาเศรษฐี หลี่ ไค ฟู่ (李开复) เป็นคนนำหน้า ทิ้งกรีนการ์ดกลับสู่ประเทศจีน ทำให้สหรัฐฯเสียหายถึง 1 แสน 3 หมื่น ล้านเหรียญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะออกจากตลาดสหรัฐฯตลอดไป โดยบริษัทใหญ่ที่ทำการวิจัยถอนตัวออกจากหุบเขาซิลิคอน (ซิลิคอนแวลลีย์ 硅谷)ของสหรัฐฯ นำเงินทุนของบริษัท 95 % พร้อมทั้งเทคโนโลยีทั้งหมดกลับสู่ประเทศจีน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการชักจูงแบบโดมิโนให้คนเชื้อชาติจีนชั้นนำทยอยกลับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งนำเงินทุนกลับประเทศ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. หยิ่น จื้อ หย๋าว (尹志尧) เทพแห่ง ซิลิคอนแวลลี่ย์ แม้ว่าทางสหรัฐฯจะเสนอเงินทองเงื่อนไขที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจยับยั้งให้เขาที่มีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกลับสู่ประเทศจีนได้ เขาถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นคนจีนที่ทางสหรัฐฯไม่อยากให้จากไปอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแค่นำพานักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทางด้านไมโครชิพ 30 กว่าคน กลับไปด้วย เมื่อกลับถึงประเทศจีนแล้วเขายังเป็นผู้นำกลุ่มเอาชนะการผูกขาดทางเทคโนโลยี โดยสามารถสร้าง 5 nm Etching machine ได้สำเร็จ เปิดตำนานไมโครชิพขึ้นมาใหม่ 3. เสิ่น เซี่ยง หยาง ( 沈向洋 ) ทำงานทางด้าน microsoft ผ่านไป 23 ปี ก็กลับสู่มาตุภูมิ เขาเป็นคนจีนที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดของงานทางด้านนี้ผู้นำทางด้าน AI Microsoft การกลับประเทศของเขาถึงกลับทำให้ประเทศหรัฐฯสั่นคลอนแม้แต่ Bill Gates ยังรู้สึกเสียดาย ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต้าชิง สร้างบุคลากรทางด้าน AI ให้กับประเทศจีน 4. เซี่ย เสี่ยว เกา ( 谢小高 ) ศึกษาและทำงานที่ต่างประเทศ 30 กว่าปี สุดท้ายยอมสละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัย Harvard มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นคนจีนที่ใด้รับรางวัลโนเบลคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้นำระหว่างประเทศทางด้านชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี การวิจัยพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯใช้เงินรางวัลถึง 40 ล้านเหรียญก็ไม่สามารถรั้งเข้าไว้ได้ หลังกลับประเทศเขาก็เริ่มเสนอการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวการวิจัยหลายรายการ นำพานักเรียนสู่การวิจัยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักวิทยาศาสตร์จีนที่เก่งๆจำนวนมากทะยอยกลับประเทศจีนไม่ขาดสาย จะเป็นผลดีต่อประเทศเร็วขึ้น Cr: Boonchu Chung (羅文娟) จีนปฏิรูปการศึกษาต่อทันทีหลังคุมโควิด19ได้เบ็ดเสร็จแล้ว - ห้ามการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก, ลดการสอบต่างๆ, ลดการบ้าน, ให้บริษัทกวดวิชาเอกชนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, เลิกการมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กอัจฉริยะ, ลดเวลาการเล่มเกมของเด็ก, ปรับให้ครูไปรับตำแหน่งในร.ร. อื่นๆทุก 6 ปีป้องกันครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกตัวอยู่ในร.ร.บางแห่ง การปฏิรูปการศึกษาที่จีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันทึ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก หลังจากติดตามข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีมาตรการทางด้านการศึกษามาโดยตลอด เพียงแต่มาสะดุดช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อโรคระบาดโควิด-19 ในจีนได้รับการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลาอันรวดเร็ว สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจีนก็เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อทันที ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปี เพราะการสอบที่มากเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายอย่างมาก กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่น ๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง และห้ามท้องถิ่นจัดสอบระดับภูมิภาค หรือระหว่างโรงเรียน สำหรับชั้นประถมศึกษาทั้งหมด ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยังไม่จบการศึกษา ห้ามโรงเรียนจัดสอบย่อยรายสัปดาห์ สอบย่อยรายวิชา รวมถึงสอบรายเดือน และห้ามเลี่ยงไปเปิดการสอบในชื่ออื่น ๆ ด้วย ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียน และพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของจีนมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปี ที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “เกาเข่า” ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ประมาณว่าถ้าพลาดไปเพียงคะแนนเดียว ก็สามารถชี้ขาดอนาคตได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างหนัก และแย่งกันกวดวิชาสุดฤทธิ์ และนั่นหมายความว่าเมื่อกระทรวงศึกษาของจีนประกาศปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ก็ต้องรวมถึงแนวทางการจัดการโรงเรียนกวดวิชาด้วย โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้สั่งให้บรรดาบริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร โดยให้สถาบันติวเตอร์เหล่านี้สอนบทเรียนได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์วันละ 1 ชั่วโมง และห้ามสอนวิชาหลัก นี่ยังไม่นับรวมถึงนโยบายเรื่องครูในสถานศึกษา ที่ต้องให้สลับปรับเปลี่ยนกันไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่าง ๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้ออกตำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่าง ๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ ประเภทห้องกิ๊ฟ(อัจฉริยะ) หรือห้องพิเศษใด ๆ และถ้าจำกันได้ เมื่อต้นปีกระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาก็สั่งห้ามครูให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1-2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง งานนี้เรียกว่าจีน “ยกเครื่อง” ปฏิรูปการศึกษาใหม่กันเลยทีเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้ เลิกการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก ลดการบ้านเด็ก ละ ไม่ให้มีห้องเรียนพิเศษ คุมร.ร.กวดวิชาไม่ให้แสวงผลกำไร ห้ามร.ร.จัดอันดับคะแนนสอบ ปรับครูทุก 6 ปี ล่าสุดทางการเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาควิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ตามเสียงเรียกร้องเพื่อลดการให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล หลังจากนี้นักเรียนประถมจะสอบปลายภาคเฉพาะวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นรวมทั้งภาษาอังกฤษจะวัดผลจากการประเมินของครูผู้สอน โดยไม่มีคะแนนสอบ นี่ยังไม่นับเรื่องที่จีนออกกฎหมายบังคับให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แค่ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในช่วงเปิดภาคเรียนเท่านั้น ส่วนช่วงปิดเทอม เด็กจะได้รับอนุญาตให้เล่นเกมออนไลน์ได้นานขึ้น แต่ยังจำกัดวันละ 60 นาที เป็นกฎใหม่ที่มีความพยายามเพื่อควบคุมพฤติกรรมเด็กติดเกมของจีน ที่ส่งผลต่อการศึกษาและชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก ที่รวบรวมเรื่อง “ทึ่ง” เหล่านี้ขึ้นมา ก็เพราะ “อึ้ง” กับประเด็นปัญหาที่เหมือนในบ้านเราที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่ได้รับการชำระสะสาง แม้จะผ่านการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2542 และปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่ ภาพที่สะท้อนชัดในบ้านเขาก็คือ การจัดการที่เด็ดขาด ลงมือทำทันที และแก้ปัญหาที่มีลักษณะโดมิโน่และส่งผลสัมพันธ์กันในเวลาที่ไล่เลี่ยแบบสอดรับกัน แม้จะยังไม่เห็นผล แต่สิ่งเหล่านี้คือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาตลอด และถ้าเรายังแก้ปัญหาทีละอย่าง เงื้อง่าทีละเรื่อง สุดท้ายก็แก้ปัญหาไม่ได้ซะที เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเรา #ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 02-10-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.41 ชื่อตอนว่า "FCUK JEWS SCREAM LOUDER" ไอ้สัส! ล่อกันเมามันส์แต่เช้า! มาตามนัด โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกพร้อมเพรียงกัน มาทุกทิศ ทุกทาง นับ 100 ลูก ทั่วประเทศ ทั่วแผ่นดินแม่เหี้ย อียิวกระอักเลือด ยังหน้าด้านขั้นสุด โทรไปร้องขอชีวิตสายตรงปูติน อีจัญไร อีตุ๊ดแต๋วแตกไม่เลือกเผ่าพันธุ์ ไล่ฆ่าชาวบ้าน ยังเสือกมีหน้ามาขอให้หยุดยิง เหี้ยอัปรีย์จัญไรได้ใจจุงเบย? ปูตินไม่พูดเยอะ ขอเวลาคิด(ขอปรึกษากันก่อนซัก 100 ปีน่ะ ดีออก ค่อยให้คำตอบ! ทำไม กูจะไม่รู้ ใครสั่งให้อีวอชิงตันสั่งอียูเครนไปตายดาบหน้า ส่งอาวุธให้มาเปิดกับกู อียิว มรึงมันสัดเดรัจฉานไร้ยางอายหนักสุดใน 3 โลก) ผู้นำตัวจริงโลกอาหรับหลบอยู่หลังฉากหมดแล้ว คนใหม่ขึ้นมาคือ "เพชรฆาตใบสั่ง" ล่ออย่างเดียว ไม่มีหยุดยิง มรึงตายห่าก่อน แล้วค่อย "พัก" เทลอาวีฟ แตกเละเทะ ชาวเมืองหนีตายหลบใต้ดิน หลุมหลบภัย ยังไม่วายโดนกระหน่ำซ้ำ ท่าเรือ สนามบินไปหมด แม้แต่ฐานลับอีมดสัด ยังโดนดาบสอง หลังเพิ่งโดนมาหมาดๆ เละเทะทั้งประเทศแล้ว ไร้การควบคุม คือสูญเสียอธิปไตยไปแล้ว เพราะบรรดาทหารยิวไปตายห่าแนวหน้าซะเยอะ ไอ้ที่เหลืออยู่ คือทหารอเมริกัน ทหารรับจ้าง ทหาร NATO ตายห่าลงหลุมตามกันไปติดๆ "อาหรับคลั่ง" ฮามาสเปิดเกมส์เจาะใน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เลบานอน เยเมน เปิดเกมส์เจาะนอก มันส์ล่ะมรึงเอ่ย? อ้าว..ไหนเพิ่งจะฆ่าผู้นำไปหมาดๆ มิใช่เหรอ ผู้นำอิหร่าน ผู้นำฮามาส ผู้นำเฮซบอเลาะห์ ต่อไปก็คาเมเนอี แล้วทำไม ตายโหงตายห่าเกลื่อนเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ล่ะจ๊ะ สรุปใครชนะ? สรุปใครเอาใครอยู่? สรุปใครคือเหยื่อ? แค่พักซักนิด แดร๊ก KIT KAT แล้วตั้งสติ มรึงก็คิดเองได้ว่า ที่ผ่านมา "ไอ้สัส ต้มเปื่อยหม้อตุ๋น ชัดๆ" โลกประกาศศักดาขยี้เหี้ยกันแล้ว ปล่อยตะวันออกกลางให้เค้าเล่นเทศกาลพลุไฟกันอย่างเมามันส์ต่อไป ด้านรัสเซีย ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะลุยยึดฐานกองกำลัง ศูนย์บัญชาการใหญ่สุด ศูนย์ยุทธศาสตร์กลยุทธของยูเครนสำเร็จ แปลว่าอะไร จากนี้ คือเก็บกวาดงานย่อยไงจ๊ะ งานใหญ่บรรลุผลสำเร็จแล้ว! ยูเครนแพ้ราบคาบนานแล้ว แค่รอประกาศเป็นทางการเท่านั้นเอง! ภาพรวมโลกชัดเจน อเมริกา อังกฤษ อิสราเอล NATO ชาติหมา แพ้ยับขั้วใหม่อย่างหมดรูป หมดสภาพ โลกรวมตัวสำเร็จ ก่อตัวต่อต้านยิวเหี้ยสุดตรีน! อุตสาหกรรมการบินอีเหี้ยยิวกำลังจะเจ๊ง ยุโรปเพิ่งตื่น งัดทีเด็ดสู้ บินรบเหี้ยมีแต่วางยา ซ่อนดักฟัง ติดตาม ทำลายตัวเองไว้เพี๊ยบ ไม่มีใครเชื่อใจอีเหี้ยวอชิงตัน นอกจากขี้ข้า อะไรก็ตาม MADE IN USA มีเครื่องติดตาม ดักฟัง แจมสัญญาน ควบคุมโดยเหี้ย C หมด แล้วมรึงจะสั่งทำพ่อง? อียุโรปหน้าโง่ ตราบใดที่มรึงยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ทั้งหมด เหี้ยยิวก็ยังได้เปรียบอยู่ดี จะพึ่งพาใครไม่พึ่ง ไปพึ่งเหี้ย เพราะเกาะแดร๊ก ปล้นสะดมภ์ชาวโลกมาด้วยกัน มาช้านานสิน่ะ สมควร ได้เวลาชดใช้แล้วมรึง ยุโรปจะพินาศทั้งทวีป ชักศึกเข้าบ้านเต็มตรีน ปูตินจะไม่อดทนรออีกต่อไป หลังตะวันออกกลางกำลังเพลิดเพลินกับการเผาอียิวทั้งเป็น ถึงตายุโรปบ้างแล้วมรึง ถอยไม่ทันก็สิ้นชื่อ สิ้นชาติ กล้ามั้ยล่ะ? หลังอีเนรคุณทันยาปากดี ไปคุยโวกลางที่ประชุม UN จะยึดตอนกลางของตะวันออกกลางทั้งหมด หมายังรู้ แผนราดน้ำมันลงบนกองไฟโหมกระหน่ำ ทำไมต้องเหี้ยให้สุด ก็เพื่อจะดึงพวกมรึงมาฆ่ากูไงล่ะ ไม่งั้น WWIII จะเกิดเหรอ แต่พลิกล็อค รัสเซีย จีน ไม่ยุ่ง ปล่อยอิหร่านกับโลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวอย่างเมามันส์ กลายเป็นสงครามครูเสด สงครามแห่งศรัทธา และสงครามภูมิภาค ยังยกระดับเป็น WWIII มิได้ ใครหมากันล่ะ? ไม่ได้พูดเล่น กองกำลังอียิวตายห่าวันละ 1000 ตัว พลเรือนตายห่าไม่นับ ไม่รู้จำนวน เพราะอยู่ใต้ซากปรักหักพัง งานนี้ ไม่มีแบ่งชนชั้น ไอ้อีหน้าไหนที่อยู่ตรงนั้น คือเป้าหมายถล่มทั้งหมด แบบนี้เค้าเรียก "ล้างป่าช้าไงล่ะ" ฆ่า 1 คน แต่ตายห่าเพิ่ม 1000 ตัว ใครโง่? ตัวโคลนตาย แต่ตัวเป็น ตัวจริง ไม่มีที่จะอยู่ เจ็บจี๊ด! ภาพที่มรึงจะได้เห็น ไม่มีอิสราเอลอีกต่อไป มีแต่ชุมชน "มนุษย์ถ้ำ" อาศัยใต้ดิน หลุมหลบภัยกันเป็นปีปี นี่ไง กรรมตามสนองมรึงแล้ว! ไม่ต้องเห็นเดือน เห็นดาวกันอีกต่อไป ล่าสุด อิหร่านแจกจ่ายอาวุธชุดใหม่ล่าสุด ให้นักฆ่าอาหรับ หมดทุกประเทศแล้วจ๊ะ มีของโสมแดงพ่วงไปด้วย ช่วยทดสอบ และบอกผลลัพธ์ทีน่ะ ไม่มีโชว์รูมที่ไหนจะดีเท่าที่นี่อีกแล้ว "เยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ทะเลเพลิง" หมดเวลาคุย ได้เวลาฆ่า! งานเข้า พิสูจน์ชัด ขีปนาวุธโลกอาหรับ ทะลุ ทะลวงตับไตไส้พุงอียิวจนหมดสิ้น ระบบป้องกันภัยใช้งานไม่ได้ ถึงเวลาพลิกแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อียิวทำได้แค่ลอบฆ่า ลอบกัด แต่ไม่สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานศัตรูได้ แต่โลกอาหรับ ทำลายทุกสรรพสิ่งในเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา สนามบิน ท่าเรือ เส้นทางลำเลียงถูกตัดออกจนหมด ด้านอีบาห์เรนไม่มีขยับ เรือรบเหี้ยมะกันในฐานกองเรือที่ 5 ยังไม่กระดิก อิหร่านจึงยังไม่ปิดช่องแคบเฮอร์มูซ รอเรือเหี้ยมรึงออกมาก่อน กูถึงจะปิดประตูกระตืบเหี้ยจมมหาสมุทร

    ปล.ดราม่า! อีส้มซ่าส์ไม่เลิก ชอบเห็นความทุกข์ การสูญเสียเป็นเรื่องน่าขำ ควายไทยบัดซบ 14 ล้านเสียงระอา กูโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก ไม่น่าเชื่อลูกหลานอัปรีย์จัญไรให้เลือกมรึงเลย คุณภาพควายไทย ดังไกลถึงนอกโลก! อียิวคิดจะบุกเลบานอน ยกพลขึ้นบน กลายเป็นศพตายเกลื่อน เค้าเตรียมต้อนรับมรึงอยู่แล้ว ดีออก? อียิวอ่อนยวบลงไปเยอะ โดนถล่มหนักเช้าเย็น หลังบ้านรั่วเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม ใกล้เวลา 3 ฮอ จะได้พบหน้าเพ่น้อง ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน แล้วสิน่ะ? ยกพลขึ้นบกกันแล้ว กองหนุนตามไปเติมเลบานอนอีกเพี๊ยบ อาวุธมีไม่อั้น ขีปนาวุธนับ 100000 ลูก พร้อมถล่มอียิวตายคาตรีน เรื่องนี้ ปักกิ่ง มอสโคว์ จะไม่ยุ่ง แกล้งหลับตาข้างนึง แต่อีกข้างกระพริบตาให้ใส่อียิวไม่ยั้ง? UN หมดปัญญา ไม่มีใครสั่งใครได้อีก โลกต้องพิพากษากันเอง ได้เวลายุบแล้ว? ขณะที่อียิวจ้องจะบุกเลบานอน อิหร่าน เลบานอน ซีเรีย อิรัก ก็จ้องปิดเกมส์ที่ราบสูงโกลานเช่นกัน มาดูสิว่า ใครจะทำสำเร็จก่อนกัน? สภาพยูเครน เยรูซาเล็ม แทบไม่แตกต่างกันแล้ว สาธารณูปโภค ถูกทำลายยับเยิน โครงสร้างพื้นฐานไปหมดเกลี้ยง นี่ไง สูตรอียิว เมื่อกูจะไป จะต้องไม่เหลือเหี้ยอะไรเอาไว้ ขั้วใหม่บอกเสริม รวมถึงชีวิตมรึงด้วย ไอ้สัส! E-DOK! ละครหลอกควาย อีเหลี่ยมชั่ว ด่าลูกสาวร่าน แจกทำไม 10000 มีแต่คนปัญญาอ่อนทำ! เชิญไปหลอกควายต่อในนรกเหอะ? อียิวส่งตระกูลเหี้ยมรึงมา ปั้นจนขึ้นมามีอำนาจ ก็เอาคืนมรึงได้เช่นกัน รู้เช่นเห็นชาติ รับงานเหี้ย C มาเพื่อบ่อนทำลายชาติ ทุกนโยบายอีแดง อีส้มเน่า ส่งตรงมาจากวอชิงตัน มันมีนโยบายจริงๆ ซักที่ไหนกันล่ะ เป้าหมายคือทำลายแผ่นดินไทย ทำลายแก้ว 3 ประการ ล้มวัง เท่านั้น และตัวพ่อเหลี่ยมเหี้ยก็รู้ดีว่า มันจะจบยังไงเกมส์นี้ รีบชิงด่าลูกสาวตัวเอง เพื่อให้ควายเห็นว่า กูไม่รู้ ไม่เห็น ลูกสาวคิดเอง ทำเอง เป็นตัวของตัวเอง หลอกควายจนควายเปื่อย แต่กฎหมายไม่รอมรึงดอก เค้ายิ้มตั้งแต่ 10000 บาทถึงมือคนแรกไปเรียบร้อยแล้ว ผิดทั้งอาญา แพ่ง กฎระเบียบ แบบแผน เอากี่กรรม กี่วาระดีล่ะ? ขังลืมจนถึงชาติหน้าได้สบาย? แต่มันไม่อยู่ให้ขังดอกน่ะ เผ่นออกนอกชัวร์ พร้อมต้องทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีในไทยไว้ที่นี่ ทรัพย์สินที่นอมินี่ถือก็ไม่รอด เค้ารู้หมดของใคร? แผนยึดทรัพย์นักการเมืองทั่วประเทศกำลังจะเกิดขึ้นจริง ใครที่รอดูความวินาศ ฉิบหาย ของไอ้อีหนักแผ่นดินทั้งหลาย มรึงคงยิ้มออก ได้เห็นเต็ม 2 ตา ก่อนตายชัวร์ กูการันตี! ปลดปล่อยจิตวิญญานมรึงซะ ไอ้ที่เครียดแค้นจัด เป็นอโหสิกรรม แล้วแผ่เมตตาบุญให้พวกมัน มันจะเหมือนถูกไฟนรกคอกซ้ำสอง ดิ้นทุรนทุรายยิ่งกว่าหมาซะอีก บุญกุศลไม่เหมาะกับวิญญานสันดานต่ำช้าชาติชั่ว หนักแผ่นดิน น้ำเย็นจะกลายเป็นน้ำร้อนทันที ลองเปลี่ยนจากสาปแช่งเป็นแผ่กุศลสิ เคล็ดลับ เหี้ยร้องเจี๊ยก ทันที! เหี้ย สัดนรก มันรับสิ่งดีงามไม่ได้ นี่คือกฎเหล็ก! เกมส์โลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว อยู่ที่จะปิดเกมส์เมื่อไหร่เท่านั้นเอง นวดไปเรื่อยๆ ขยี้ไปเรื่อยๆ ขี้ข้าย้ายฝั่ง โลกเดินตามกัน เหี้ยจะเหลือใคร? ส่วนประเทศกูมี ได้อานิสงค์โลกไปเต็มตรีน โลกสะอาด ศรีธนญชัยก็งานเบา วาระสุดท้ายของไอ้อีหนักแผ่นดินกำลังจะมาถึงแล้ว มรึงบ่นกันเป็นปีปี แค่ไม่กี่เดือน กำลังจะได้ชมละครฉากใหญ่ มหรสพ ครั้งประวัติศาสตร์ อย่าพลาดเชียว "เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู" กำกับโดย เสธ.แดง และผู้รักชาติทั้งแผ่นดิน 3 หน่วยมหาเทพองครักษ์แผ่นดินประสานมือ 100 เหี้ยก็เอาไม่อยู่? เตรียมเผ่นให้ทันน่ะ กูเตือนแล้วน่ะ!

    หมี CNN(สดใหม่ ตายห่าทุกวัน เหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดินโลก เช้ามาแผ่นดินเบาไปเยอะ ยังต้องมีตายห่าอีกเป็นแสน อย่าเร่งรีบ มันคือสคริปต์สวรรค์เค้า ชั่วก็ชั่วให้สุด ดีก็ดีให้จบ ทองแท้ไม่กลัวไฟ แต่เหี้ยแท้ กลัวแสงมว๊ากจ๊ะ ละครปาหี่มีหลอกควายทุกวัน อย่าอินเยอะ ดูภาพใหญ่เข้าไว้ ดูผลลัพธ์เท่านั้น อย่าถูกปั่นหัวง่ายๆ เพราะใครที่ตามหมีมา 10 ปี มรึงต้องตกผลึกเป็นเพชรกันไปหมดได้แล้ว ข้ามคริสตอลไปได้แล้ว ใช้สติ ใช้ปัญญา มากกว่าตาและ หู มรึงดวงตาเห็นธรรม โลกก็จะเห็นทางสว่างนั่นเอง)
    02 ตุลาคม 67
    11.57 น.
    https://linevoom.line.me/post/1172784511812954889

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    02-10-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.41 ชื่อตอนว่า "FCUK JEWS SCREAM LOUDER" ไอ้สัส! ล่อกันเมามันส์แต่เช้า! มาตามนัด โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกพร้อมเพรียงกัน มาทุกทิศ ทุกทาง นับ 100 ลูก ทั่วประเทศ ทั่วแผ่นดินแม่เหี้ย อียิวกระอักเลือด ยังหน้าด้านขั้นสุด โทรไปร้องขอชีวิตสายตรงปูติน อีจัญไร อีตุ๊ดแต๋วแตกไม่เลือกเผ่าพันธุ์ ไล่ฆ่าชาวบ้าน ยังเสือกมีหน้ามาขอให้หยุดยิง เหี้ยอัปรีย์จัญไรได้ใจจุงเบย? ปูตินไม่พูดเยอะ ขอเวลาคิด(ขอปรึกษากันก่อนซัก 100 ปีน่ะ ดีออก ค่อยให้คำตอบ! ทำไม กูจะไม่รู้ ใครสั่งให้อีวอชิงตันสั่งอียูเครนไปตายดาบหน้า ส่งอาวุธให้มาเปิดกับกู อียิว มรึงมันสัดเดรัจฉานไร้ยางอายหนักสุดใน 3 โลก) ผู้นำตัวจริงโลกอาหรับหลบอยู่หลังฉากหมดแล้ว คนใหม่ขึ้นมาคือ "เพชรฆาตใบสั่ง" ล่ออย่างเดียว ไม่มีหยุดยิง มรึงตายห่าก่อน แล้วค่อย "พัก" เทลอาวีฟ แตกเละเทะ ชาวเมืองหนีตายหลบใต้ดิน หลุมหลบภัย ยังไม่วายโดนกระหน่ำซ้ำ ท่าเรือ สนามบินไปหมด แม้แต่ฐานลับอีมดสัด ยังโดนดาบสอง หลังเพิ่งโดนมาหมาดๆ เละเทะทั้งประเทศแล้ว ไร้การควบคุม คือสูญเสียอธิปไตยไปแล้ว เพราะบรรดาทหารยิวไปตายห่าแนวหน้าซะเยอะ ไอ้ที่เหลืออยู่ คือทหารอเมริกัน ทหารรับจ้าง ทหาร NATO ตายห่าลงหลุมตามกันไปติดๆ "อาหรับคลั่ง" ฮามาสเปิดเกมส์เจาะใน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เลบานอน เยเมน เปิดเกมส์เจาะนอก มันส์ล่ะมรึงเอ่ย? อ้าว..ไหนเพิ่งจะฆ่าผู้นำไปหมาดๆ มิใช่เหรอ ผู้นำอิหร่าน ผู้นำฮามาส ผู้นำเฮซบอเลาะห์ ต่อไปก็คาเมเนอี แล้วทำไม ตายโหงตายห่าเกลื่อนเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ล่ะจ๊ะ สรุปใครชนะ? สรุปใครเอาใครอยู่? สรุปใครคือเหยื่อ? แค่พักซักนิด แดร๊ก KIT KAT แล้วตั้งสติ มรึงก็คิดเองได้ว่า ที่ผ่านมา "ไอ้สัส ต้มเปื่อยหม้อตุ๋น ชัดๆ" โลกประกาศศักดาขยี้เหี้ยกันแล้ว ปล่อยตะวันออกกลางให้เค้าเล่นเทศกาลพลุไฟกันอย่างเมามันส์ต่อไป ด้านรัสเซีย ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะลุยยึดฐานกองกำลัง ศูนย์บัญชาการใหญ่สุด ศูนย์ยุทธศาสตร์กลยุทธของยูเครนสำเร็จ แปลว่าอะไร จากนี้ คือเก็บกวาดงานย่อยไงจ๊ะ งานใหญ่บรรลุผลสำเร็จแล้ว! ยูเครนแพ้ราบคาบนานแล้ว แค่รอประกาศเป็นทางการเท่านั้นเอง! ภาพรวมโลกชัดเจน อเมริกา อังกฤษ อิสราเอล NATO ชาติหมา แพ้ยับขั้วใหม่อย่างหมดรูป หมดสภาพ โลกรวมตัวสำเร็จ ก่อตัวต่อต้านยิวเหี้ยสุดตรีน! อุตสาหกรรมการบินอีเหี้ยยิวกำลังจะเจ๊ง ยุโรปเพิ่งตื่น งัดทีเด็ดสู้ บินรบเหี้ยมีแต่วางยา ซ่อนดักฟัง ติดตาม ทำลายตัวเองไว้เพี๊ยบ ไม่มีใครเชื่อใจอีเหี้ยวอชิงตัน นอกจากขี้ข้า อะไรก็ตาม MADE IN USA มีเครื่องติดตาม ดักฟัง แจมสัญญาน ควบคุมโดยเหี้ย C หมด แล้วมรึงจะสั่งทำพ่อง? อียุโรปหน้าโง่ ตราบใดที่มรึงยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ทั้งหมด เหี้ยยิวก็ยังได้เปรียบอยู่ดี จะพึ่งพาใครไม่พึ่ง ไปพึ่งเหี้ย เพราะเกาะแดร๊ก ปล้นสะดมภ์ชาวโลกมาด้วยกัน มาช้านานสิน่ะ สมควร ได้เวลาชดใช้แล้วมรึง ยุโรปจะพินาศทั้งทวีป ชักศึกเข้าบ้านเต็มตรีน ปูตินจะไม่อดทนรออีกต่อไป หลังตะวันออกกลางกำลังเพลิดเพลินกับการเผาอียิวทั้งเป็น ถึงตายุโรปบ้างแล้วมรึง ถอยไม่ทันก็สิ้นชื่อ สิ้นชาติ กล้ามั้ยล่ะ? หลังอีเนรคุณทันยาปากดี ไปคุยโวกลางที่ประชุม UN จะยึดตอนกลางของตะวันออกกลางทั้งหมด หมายังรู้ แผนราดน้ำมันลงบนกองไฟโหมกระหน่ำ ทำไมต้องเหี้ยให้สุด ก็เพื่อจะดึงพวกมรึงมาฆ่ากูไงล่ะ ไม่งั้น WWIII จะเกิดเหรอ แต่พลิกล็อค รัสเซีย จีน ไม่ยุ่ง ปล่อยอิหร่านกับโลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวอย่างเมามันส์ กลายเป็นสงครามครูเสด สงครามแห่งศรัทธา และสงครามภูมิภาค ยังยกระดับเป็น WWIII มิได้ ใครหมากันล่ะ? ไม่ได้พูดเล่น กองกำลังอียิวตายห่าวันละ 1000 ตัว พลเรือนตายห่าไม่นับ ไม่รู้จำนวน เพราะอยู่ใต้ซากปรักหักพัง งานนี้ ไม่มีแบ่งชนชั้น ไอ้อีหน้าไหนที่อยู่ตรงนั้น คือเป้าหมายถล่มทั้งหมด แบบนี้เค้าเรียก "ล้างป่าช้าไงล่ะ" ฆ่า 1 คน แต่ตายห่าเพิ่ม 1000 ตัว ใครโง่? ตัวโคลนตาย แต่ตัวเป็น ตัวจริง ไม่มีที่จะอยู่ เจ็บจี๊ด! ภาพที่มรึงจะได้เห็น ไม่มีอิสราเอลอีกต่อไป มีแต่ชุมชน "มนุษย์ถ้ำ" อาศัยใต้ดิน หลุมหลบภัยกันเป็นปีปี นี่ไง กรรมตามสนองมรึงแล้ว! ไม่ต้องเห็นเดือน เห็นดาวกันอีกต่อไป ล่าสุด อิหร่านแจกจ่ายอาวุธชุดใหม่ล่าสุด ให้นักฆ่าอาหรับ หมดทุกประเทศแล้วจ๊ะ มีของโสมแดงพ่วงไปด้วย ช่วยทดสอบ และบอกผลลัพธ์ทีน่ะ ไม่มีโชว์รูมที่ไหนจะดีเท่าที่นี่อีกแล้ว "เยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ทะเลเพลิง" หมดเวลาคุย ได้เวลาฆ่า! งานเข้า พิสูจน์ชัด ขีปนาวุธโลกอาหรับ ทะลุ ทะลวงตับไตไส้พุงอียิวจนหมดสิ้น ระบบป้องกันภัยใช้งานไม่ได้ ถึงเวลาพลิกแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อียิวทำได้แค่ลอบฆ่า ลอบกัด แต่ไม่สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานศัตรูได้ แต่โลกอาหรับ ทำลายทุกสรรพสิ่งในเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา สนามบิน ท่าเรือ เส้นทางลำเลียงถูกตัดออกจนหมด ด้านอีบาห์เรนไม่มีขยับ เรือรบเหี้ยมะกันในฐานกองเรือที่ 5 ยังไม่กระดิก อิหร่านจึงยังไม่ปิดช่องแคบเฮอร์มูซ รอเรือเหี้ยมรึงออกมาก่อน กูถึงจะปิดประตูกระตืบเหี้ยจมมหาสมุทร ปล.ดราม่า! อีส้มซ่าส์ไม่เลิก ชอบเห็นความทุกข์ การสูญเสียเป็นเรื่องน่าขำ ควายไทยบัดซบ 14 ล้านเสียงระอา กูโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก ไม่น่าเชื่อลูกหลานอัปรีย์จัญไรให้เลือกมรึงเลย คุณภาพควายไทย ดังไกลถึงนอกโลก! อียิวคิดจะบุกเลบานอน ยกพลขึ้นบน กลายเป็นศพตายเกลื่อน เค้าเตรียมต้อนรับมรึงอยู่แล้ว ดีออก? อียิวอ่อนยวบลงไปเยอะ โดนถล่มหนักเช้าเย็น หลังบ้านรั่วเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม ใกล้เวลา 3 ฮอ จะได้พบหน้าเพ่น้อง ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน แล้วสิน่ะ? ยกพลขึ้นบกกันแล้ว กองหนุนตามไปเติมเลบานอนอีกเพี๊ยบ อาวุธมีไม่อั้น ขีปนาวุธนับ 100000 ลูก พร้อมถล่มอียิวตายคาตรีน เรื่องนี้ ปักกิ่ง มอสโคว์ จะไม่ยุ่ง แกล้งหลับตาข้างนึง แต่อีกข้างกระพริบตาให้ใส่อียิวไม่ยั้ง? UN หมดปัญญา ไม่มีใครสั่งใครได้อีก โลกต้องพิพากษากันเอง ได้เวลายุบแล้ว? ขณะที่อียิวจ้องจะบุกเลบานอน อิหร่าน เลบานอน ซีเรีย อิรัก ก็จ้องปิดเกมส์ที่ราบสูงโกลานเช่นกัน มาดูสิว่า ใครจะทำสำเร็จก่อนกัน? สภาพยูเครน เยรูซาเล็ม แทบไม่แตกต่างกันแล้ว สาธารณูปโภค ถูกทำลายยับเยิน โครงสร้างพื้นฐานไปหมดเกลี้ยง นี่ไง สูตรอียิว เมื่อกูจะไป จะต้องไม่เหลือเหี้ยอะไรเอาไว้ ขั้วใหม่บอกเสริม รวมถึงชีวิตมรึงด้วย ไอ้สัส! E-DOK! ละครหลอกควาย อีเหลี่ยมชั่ว ด่าลูกสาวร่าน แจกทำไม 10000 มีแต่คนปัญญาอ่อนทำ! เชิญไปหลอกควายต่อในนรกเหอะ? อียิวส่งตระกูลเหี้ยมรึงมา ปั้นจนขึ้นมามีอำนาจ ก็เอาคืนมรึงได้เช่นกัน รู้เช่นเห็นชาติ รับงานเหี้ย C มาเพื่อบ่อนทำลายชาติ ทุกนโยบายอีแดง อีส้มเน่า ส่งตรงมาจากวอชิงตัน มันมีนโยบายจริงๆ ซักที่ไหนกันล่ะ เป้าหมายคือทำลายแผ่นดินไทย ทำลายแก้ว 3 ประการ ล้มวัง เท่านั้น และตัวพ่อเหลี่ยมเหี้ยก็รู้ดีว่า มันจะจบยังไงเกมส์นี้ รีบชิงด่าลูกสาวตัวเอง เพื่อให้ควายเห็นว่า กูไม่รู้ ไม่เห็น ลูกสาวคิดเอง ทำเอง เป็นตัวของตัวเอง หลอกควายจนควายเปื่อย แต่กฎหมายไม่รอมรึงดอก เค้ายิ้มตั้งแต่ 10000 บาทถึงมือคนแรกไปเรียบร้อยแล้ว ผิดทั้งอาญา แพ่ง กฎระเบียบ แบบแผน เอากี่กรรม กี่วาระดีล่ะ? ขังลืมจนถึงชาติหน้าได้สบาย? แต่มันไม่อยู่ให้ขังดอกน่ะ เผ่นออกนอกชัวร์ พร้อมต้องทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีในไทยไว้ที่นี่ ทรัพย์สินที่นอมินี่ถือก็ไม่รอด เค้ารู้หมดของใคร? แผนยึดทรัพย์นักการเมืองทั่วประเทศกำลังจะเกิดขึ้นจริง ใครที่รอดูความวินาศ ฉิบหาย ของไอ้อีหนักแผ่นดินทั้งหลาย มรึงคงยิ้มออก ได้เห็นเต็ม 2 ตา ก่อนตายชัวร์ กูการันตี! ปลดปล่อยจิตวิญญานมรึงซะ ไอ้ที่เครียดแค้นจัด เป็นอโหสิกรรม แล้วแผ่เมตตาบุญให้พวกมัน มันจะเหมือนถูกไฟนรกคอกซ้ำสอง ดิ้นทุรนทุรายยิ่งกว่าหมาซะอีก บุญกุศลไม่เหมาะกับวิญญานสันดานต่ำช้าชาติชั่ว หนักแผ่นดิน น้ำเย็นจะกลายเป็นน้ำร้อนทันที ลองเปลี่ยนจากสาปแช่งเป็นแผ่กุศลสิ เคล็ดลับ เหี้ยร้องเจี๊ยก ทันที! เหี้ย สัดนรก มันรับสิ่งดีงามไม่ได้ นี่คือกฎเหล็ก! เกมส์โลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว อยู่ที่จะปิดเกมส์เมื่อไหร่เท่านั้นเอง นวดไปเรื่อยๆ ขยี้ไปเรื่อยๆ ขี้ข้าย้ายฝั่ง โลกเดินตามกัน เหี้ยจะเหลือใคร? ส่วนประเทศกูมี ได้อานิสงค์โลกไปเต็มตรีน โลกสะอาด ศรีธนญชัยก็งานเบา วาระสุดท้ายของไอ้อีหนักแผ่นดินกำลังจะมาถึงแล้ว มรึงบ่นกันเป็นปีปี แค่ไม่กี่เดือน กำลังจะได้ชมละครฉากใหญ่ มหรสพ ครั้งประวัติศาสตร์ อย่าพลาดเชียว "เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู" กำกับโดย เสธ.แดง และผู้รักชาติทั้งแผ่นดิน 3 หน่วยมหาเทพองครักษ์แผ่นดินประสานมือ 100 เหี้ยก็เอาไม่อยู่? เตรียมเผ่นให้ทันน่ะ กูเตือนแล้วน่ะ! หมี CNN(สดใหม่ ตายห่าทุกวัน เหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดินโลก เช้ามาแผ่นดินเบาไปเยอะ ยังต้องมีตายห่าอีกเป็นแสน อย่าเร่งรีบ มันคือสคริปต์สวรรค์เค้า ชั่วก็ชั่วให้สุด ดีก็ดีให้จบ ทองแท้ไม่กลัวไฟ แต่เหี้ยแท้ กลัวแสงมว๊ากจ๊ะ ละครปาหี่มีหลอกควายทุกวัน อย่าอินเยอะ ดูภาพใหญ่เข้าไว้ ดูผลลัพธ์เท่านั้น อย่าถูกปั่นหัวง่ายๆ เพราะใครที่ตามหมีมา 10 ปี มรึงต้องตกผลึกเป็นเพชรกันไปหมดได้แล้ว ข้ามคริสตอลไปได้แล้ว ใช้สติ ใช้ปัญญา มากกว่าตาและ หู มรึงดวงตาเห็นธรรม โลกก็จะเห็นทางสว่างนั่นเอง) 02 ตุลาคม 67 11.57 น. https://linevoom.line.me/post/1172784511812954889 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกี่ยวกับการยึดเมือง Vuhledar

    เนื่องจากมีหลายท่านสอบถามเข้ามา ผมขออธิบายเกี่ยวกับการยึดเมือง Vuhledar สั้นๆ นะครับ เวลาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากสื่อหรือเพจอื่นๆ จะได้นึกภาพออก

    เมือง Vuhledar อยู่ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้น Donetsk ใกล้กับแคว้น Zaporizhzhia ความสำคัญของเมืองนี้อยู่ที่เป็นทางผ่านของถนนสายสำคัญ ถ้ารัสเซียยึดเมืองนี้ได้ก็จะใช้เป็นเส้นทางรุกต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้ รวมทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกในการส่งกำลังบำรุงของรัสเซียเชื่อมระหว่างแคว้น Donetsk และ Zaporizhzhia ด้วย

    ก่อนหน้านี้รัสเซียสามารถยึดเมือง Pavlivka ทางใต้ของเมือง Vuhledar ได้นานแล้ว และพยายามโจมตีเมือง Vuhledar โดยตรงจากทางใต้หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เพราะพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ไม่มีที่กำบัง มีการวางทุ่นระเบิดไว้จำนวนมาก อีกทั้งตัวเมือง Vuhledar ยังอยู่บนที่สูง ผตน. ของยูเครนในเมืองสามารถชี้เป้าให้ปืนใหญ่และโดรนโจมตีขบวนยานเกราะของรัสเซียได้ง่าย รัสเซียเลยตีเมือง Vuhledar ไม่ได้สักทีครับ

    หลังจากเข้าตีตรงหน้าหลายครั้งล้มเหลว รัสเซียจึงเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ เป็นการโอบปีกทั้งสองข้างของเมือง Vuhledar แต่ก่อนที่รัสเซียจะโอบปีกเมือง Vuhledar ได้ ก็ต้องโอบ "ปีกของปีก" ของเมือง Vuhledar มาหลายสเต็ป ใช้เวลาหลายเดือนที่แนวรบดูเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งกองทัพรัสเซียเข้าประชิดตัวเมือง Vuhledar ได้จากทั้ง 3 ด้าน แนวป้องกันของยูเครนในเมือง Vuhledar จึงล้มครืนอย่างรวดเร็ว

    ความเคลื่อนไหวคร่าวๆ ที่นำมาสู่การยึดเมือง Vuhledar ได้ก็มีประมาณนี้ แม้การยึดเมือง Vuhledar ได้จะถือเป็นชัยชนะสำคัญอีกครั้งหนึ่งของรัสเซีย แต่จุดสิ้นสุดของสงครามยังอีกยาวไกลครับ

    สวัสดี

    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    02.10.2024
    เกี่ยวกับการยึดเมือง Vuhledar เนื่องจากมีหลายท่านสอบถามเข้ามา ผมขออธิบายเกี่ยวกับการยึดเมือง Vuhledar สั้นๆ นะครับ เวลาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากสื่อหรือเพจอื่นๆ จะได้นึกภาพออก เมือง Vuhledar อยู่ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้น Donetsk ใกล้กับแคว้น Zaporizhzhia ความสำคัญของเมืองนี้อยู่ที่เป็นทางผ่านของถนนสายสำคัญ ถ้ารัสเซียยึดเมืองนี้ได้ก็จะใช้เป็นเส้นทางรุกต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้ รวมทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกในการส่งกำลังบำรุงของรัสเซียเชื่อมระหว่างแคว้น Donetsk และ Zaporizhzhia ด้วย ก่อนหน้านี้รัสเซียสามารถยึดเมือง Pavlivka ทางใต้ของเมือง Vuhledar ได้นานแล้ว และพยายามโจมตีเมือง Vuhledar โดยตรงจากทางใต้หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เพราะพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ไม่มีที่กำบัง มีการวางทุ่นระเบิดไว้จำนวนมาก อีกทั้งตัวเมือง Vuhledar ยังอยู่บนที่สูง ผตน. ของยูเครนในเมืองสามารถชี้เป้าให้ปืนใหญ่และโดรนโจมตีขบวนยานเกราะของรัสเซียได้ง่าย รัสเซียเลยตีเมือง Vuhledar ไม่ได้สักทีครับ หลังจากเข้าตีตรงหน้าหลายครั้งล้มเหลว รัสเซียจึงเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ เป็นการโอบปีกทั้งสองข้างของเมือง Vuhledar แต่ก่อนที่รัสเซียจะโอบปีกเมือง Vuhledar ได้ ก็ต้องโอบ "ปีกของปีก" ของเมือง Vuhledar มาหลายสเต็ป ใช้เวลาหลายเดือนที่แนวรบดูเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งกองทัพรัสเซียเข้าประชิดตัวเมือง Vuhledar ได้จากทั้ง 3 ด้าน แนวป้องกันของยูเครนในเมือง Vuhledar จึงล้มครืนอย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวคร่าวๆ ที่นำมาสู่การยึดเมือง Vuhledar ได้ก็มีประมาณนี้ แม้การยึดเมือง Vuhledar ได้จะถือเป็นชัยชนะสำคัญอีกครั้งหนึ่งของรัสเซีย แต่จุดสิ้นสุดของสงครามยังอีกยาวไกลครับ สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 02.10.2024
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


    อาณาจักรสุโขทัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์โดยมีหลักฐานชัดเจนในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์(พ่อขุนบางกลางหาว พ.ศ.1781 - 1822) ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อำนาจของอาณาจักรสุโขทัยในช่วงรัชสมัยของพระองค์มีความมั่นคงจาก ทรงแผ่อาณาเขตออกไปโดยรอบ วัฒนธรรมไทยได้เจริญขึ้นทุกสาขา ดังปรากฎในศิลาจารึกหลักที่ 1 ซึ่งเจริญ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ การสงคราม ภูมิศาสตร์ กฎหมาย ประเพณี การปกครอง การเศรษฐกิจ การสังคม ปรัชญา พระพุทธศาสนา การประดิษฐ์อักษรไทย ราชวงศ์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (พระร่วง หรือ สุโขทัย) ได้ปกครองอาณาจักรสุโขทัยสืบต่อมาเป็นเวลา 200 ปี ก็ถูกรวมเข้ากับ อาณาจักรอยุธยา

    ผังเมืองสุโขทัยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวัง และวัดมากถึง 26 แห่ง วัดที่ใหญ่ที่สุดคือวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ ได้รับการบูรรปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากร ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก มีผู้เยี่ยมชมหลายแสนคนต่อปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้า นั่งรถราง หรือ ขี่จักรยาน เที่ยวชมได้อย่างสะดวกปลอดภัย

    ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2534 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และ อุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัย ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นนับเป็น ตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศไทย


    นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ ๓ วิธี คือ เดินเท้า ปั่นจักรยาน และ การนั่งรถรางไฟฟ้า โดยทางอุทยานฯ มีรถจักรยานให้เช่าด้วย นอกจากนี้ หน้าโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแต่ละแห่งยังมีป้าย OR Code สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน สามารถสแกนเข้าไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ มีให้เลือก ๔ ภาษา ได้แก่ ไทย จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส

    เมืองสุโขทัย ก่อตั้งขึ้นราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๘ สันนิษฐานว่าสุโขทัยในยุคแรกได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบขอมจากละโว้หรือลพบุรี ต่อมายกฐานะเป็นราชธานี โดยมีพ่อขุนบางกลางหาว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์ เป็นจุดเริ่มต้นอาณาจักรแห่งแรกของไทย ราวปี ๑๗๙๒ อาณาจักรสุโขทัยรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหง กษัตริย์องค์ที่ ๓ บันทึกในศิลาจารึกบอกถึงเขตอาณาจักรอันกว้างขวาง ทิศเหนือจดเมืองแพร่ น่าน หลวงพระบาง ทิศใต้จดเมืองนครศรีธรรมราช ทิศตะวันออกจดเมืองเวียงจันทน์ และทิศตะวันตกจดเมืองหงสาวดี การปกครองเป็นระบบ พ่อปกครองลูก เอื้อสิทธิเสรีภาพให้ประชาชน

    จุดเด่นของผังเมืองสุโขทัยคือระบบชลประทาน เป็นระบบที่กระจายน้ำเพื่อการทำเกษตรกรรม อุปโภค บริโภคให้ชาวเมืองได้อย่างทั่วถึง และยังสามารถช่วยระบายน้ำเอ่อล้นช่วงหน้าน้ำหลากได้ดีเช่นกัน ในช่วงการปกครองของพ่อขุนรามคำแหงชาวเมืองสุโขทัยมีความเป็นอยู่อย่างสงบร่มเย็น ด้วยพระองค์ทรงมีความเอาใจใส่ทำนุบำรุงศาสนาอย่างเต็มที่ สังเกตจากลักษณะพระพักตร์ของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้น ส่วนใหญ่จะมีพระโอษฐ์ยิ้ม สะท้อนเอกลักษณ์ของยุคสมัย และจำนวนวัดวาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมากมาย เมื่อปี ๒๕๓๔ องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอีก ๒ แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร”
    อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อาณาจักรสุโขทัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์โดยมีหลักฐานชัดเจนในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์(พ่อขุนบางกลางหาว พ.ศ.1781 - 1822) ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อำนาจของอาณาจักรสุโขทัยในช่วงรัชสมัยของพระองค์มีความมั่นคงจาก ทรงแผ่อาณาเขตออกไปโดยรอบ วัฒนธรรมไทยได้เจริญขึ้นทุกสาขา ดังปรากฎในศิลาจารึกหลักที่ 1 ซึ่งเจริญ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ การสงคราม ภูมิศาสตร์ กฎหมาย ประเพณี การปกครอง การเศรษฐกิจ การสังคม ปรัชญา พระพุทธศาสนา การประดิษฐ์อักษรไทย ราชวงศ์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (พระร่วง หรือ สุโขทัย) ได้ปกครองอาณาจักรสุโขทัยสืบต่อมาเป็นเวลา 200 ปี ก็ถูกรวมเข้ากับ อาณาจักรอยุธยา ผังเมืองสุโขทัยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวัง และวัดมากถึง 26 แห่ง วัดที่ใหญ่ที่สุดคือวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ ได้รับการบูรรปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากร ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก มีผู้เยี่ยมชมหลายแสนคนต่อปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้า นั่งรถราง หรือ ขี่จักรยาน เที่ยวชมได้อย่างสะดวกปลอดภัย ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2534 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และ อุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัย ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นนับเป็น ตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ ๓ วิธี คือ เดินเท้า ปั่นจักรยาน และ การนั่งรถรางไฟฟ้า โดยทางอุทยานฯ มีรถจักรยานให้เช่าด้วย นอกจากนี้ หน้าโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแต่ละแห่งยังมีป้าย OR Code สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน สามารถสแกนเข้าไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ มีให้เลือก ๔ ภาษา ได้แก่ ไทย จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เมืองสุโขทัย ก่อตั้งขึ้นราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๘ สันนิษฐานว่าสุโขทัยในยุคแรกได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบขอมจากละโว้หรือลพบุรี ต่อมายกฐานะเป็นราชธานี โดยมีพ่อขุนบางกลางหาว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์ เป็นจุดเริ่มต้นอาณาจักรแห่งแรกของไทย ราวปี ๑๗๙๒ อาณาจักรสุโขทัยรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหง กษัตริย์องค์ที่ ๓ บันทึกในศิลาจารึกบอกถึงเขตอาณาจักรอันกว้างขวาง ทิศเหนือจดเมืองแพร่ น่าน หลวงพระบาง ทิศใต้จดเมืองนครศรีธรรมราช ทิศตะวันออกจดเมืองเวียงจันทน์ และทิศตะวันตกจดเมืองหงสาวดี การปกครองเป็นระบบ พ่อปกครองลูก เอื้อสิทธิเสรีภาพให้ประชาชน จุดเด่นของผังเมืองสุโขทัยคือระบบชลประทาน เป็นระบบที่กระจายน้ำเพื่อการทำเกษตรกรรม อุปโภค บริโภคให้ชาวเมืองได้อย่างทั่วถึง และยังสามารถช่วยระบายน้ำเอ่อล้นช่วงหน้าน้ำหลากได้ดีเช่นกัน ในช่วงการปกครองของพ่อขุนรามคำแหงชาวเมืองสุโขทัยมีความเป็นอยู่อย่างสงบร่มเย็น ด้วยพระองค์ทรงมีความเอาใจใส่ทำนุบำรุงศาสนาอย่างเต็มที่ สังเกตจากลักษณะพระพักตร์ของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้น ส่วนใหญ่จะมีพระโอษฐ์ยิ้ม สะท้อนเอกลักษณ์ของยุคสมัย และจำนวนวัดวาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมากมาย เมื่อปี ๒๕๓๔ องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอีก ๒ แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร”
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
    และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
    ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานข้อมูล
    ของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และ
    ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ)
    เพื่อให้ ก.ล.ต.มีข้อมูลเชิงลึกในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจ
    และตลาดทุน รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานข้อมูล
    เพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลในตลาดทุน

    🚩ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการ
    และหลักเกณฑ์ที่เสนอปรับปรุงเกี่ยวกับการยื่นรายงานทรัพย์สิน
    ของลูกค้าและการทำธุรกรรมของผู้ประกอบธุรกิจ
    โดยปรับปรุงการรายงานให้มีลักษณะเป็นข้อมูลเชิงลึก
    (granular data) เพื่อประโยชน์ในการติดตามกำกับดูแล
    ความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจ

    🚩รวมทั้งความเสี่ยงเชิงระบบ (systemic risk) และความเป็น
    ระเบียบเรียบร้อยในตลาดทุน (fair and orderly market)
    เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนและตลาดทุนโดยรวม รวมทั้งจะทำให้
    ผู้ประกอบธุรกิจได้รับข้อมูลภาพรวมสำหรับใช้ประกอบการ
    บริหารความเสี่ยงด้วย

    นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
    เพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล (open data)
    ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน

    🚩ก.ล.ต. จึงออกประกาศหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงแล้ว โดยได้นำ
    ความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากการเปิดรับฟัง
    ความคิดเห็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

    (1) ปรับปรุงขอบเขตการยื่นรายงานของผู้ประกอบธุรกิจ
    ให้รวมถึงการนำส่งข้อมูล หรือเอกสาร โดยจำกัดให้ครอบคลุม
    เท่าที่จำเป็น ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ ก.ล.ต.
    สามารถปฏิบัติภารกิจตามกฎหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ
    หรือการคุ้มครองผู้ลงทุนได้

    (2) ปรับปรุงแบบรายงานทรัพย์สินลูกค้า และการทำธุรกรรม
    ของผู้ประกอบธุรกิจ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจรายงานข้อมูล
    รายละเอียดเชิงลึก แยกรายลูกค้าและรายหลักทรัพย์
    และกำหนดให้ยื่นต่อ ก.ล.ต. เป็นรายสัปดาห์

    ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าว* จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567
    เป็นต้นไป

    ที่มา : ก.ล.ต.

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กลต #thaitimes
    🔥🔥สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานข้อมูล ของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และ ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ) เพื่อให้ ก.ล.ต.มีข้อมูลเชิงลึกในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจ และตลาดทุน รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานข้อมูล เพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลในตลาดทุน 🚩ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการ และหลักเกณฑ์ที่เสนอปรับปรุงเกี่ยวกับการยื่นรายงานทรัพย์สิน ของลูกค้าและการทำธุรกรรมของผู้ประกอบธุรกิจ โดยปรับปรุงการรายงานให้มีลักษณะเป็นข้อมูลเชิงลึก (granular data) เพื่อประโยชน์ในการติดตามกำกับดูแล ความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจ 🚩รวมทั้งความเสี่ยงเชิงระบบ (systemic risk) และความเป็น ระเบียบเรียบร้อยในตลาดทุน (fair and orderly market) เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนและตลาดทุนโดยรวม รวมทั้งจะทำให้ ผู้ประกอบธุรกิจได้รับข้อมูลภาพรวมสำหรับใช้ประกอบการ บริหารความเสี่ยงด้วย นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล (open data) ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน 🚩ก.ล.ต. จึงออกประกาศหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงแล้ว โดยได้นำ ความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากการเปิดรับฟัง ความคิดเห็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ (1) ปรับปรุงขอบเขตการยื่นรายงานของผู้ประกอบธุรกิจ ให้รวมถึงการนำส่งข้อมูล หรือเอกสาร โดยจำกัดให้ครอบคลุม เท่าที่จำเป็น ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ ก.ล.ต. สามารถปฏิบัติภารกิจตามกฎหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการคุ้มครองผู้ลงทุนได้ (2) ปรับปรุงแบบรายงานทรัพย์สินลูกค้า และการทำธุรกรรม ของผู้ประกอบธุรกิจ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจรายงานข้อมูล รายละเอียดเชิงลึก แยกรายลูกค้าและรายหลักทรัพย์ และกำหนดให้ยื่นต่อ ก.ล.ต. เป็นรายสัปดาห์ ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าว* จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ที่มา : ก.ล.ต. #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กลต #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะดวกมาก
    ใช้ แอปธนาคาร Scan ได้อย่างรวดเร็ว
    สะดวกมาก ใช้ แอปธนาคาร Scan ได้อย่างรวดเร็ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • 100 ศัพท์ยาก สอบเข้า + เรียนต่อ ต้องรู้ 📌📌📌

    Generic (adj.) - ทั่วไป
    Bureaucracy (n.) - ระบบราชการ
    Mandatory (adj.) - ซึ่งเป็นภาคบังคับ
    Exile (n./ v.) - การเนรเทศ / เนรเทศ
    Expedition (n.) - การเดินทางสำรวจ
    Mundane (adj.) - ธรรมดา
    Bulletin (n.) - ประกาศ
    Contemporary (adj.) - ร่วมสมัย
    Vanity (n.) - ความหยิ่งยโส
    Indulge (v.) - ตามใจ
    Enormous (adj.) - ใหญ่โต
    Jeopardy (n.) - ภัยอันตราย
    Parliament (n.) - รัฐสภา
    Scandalous (adj.) - อื้อฉาว
    Satire (n.) - การเสียดสี
    Census (n.) - การสำรวจสำมะโนประชากร
    Amateur (n./ adj.) - มือสมัครเล่น / สมัครเล่น
    Contradict (v.) - ขัดแย้ง
    Facilitate (v.) - อำนวยความสะดวก
    Integrate (v.) - รวมเข้าด้วยกัน
    Skeptical (adj.) - สงสัย
    Rhetoric (n.) - วาทศิลป์
    Gesture (n./ v.) - ท่าทาง / แสดงท่าทาง
    Welfare (n.) - สวัสดิการ
    Compensate (v.) - ชดเชย
    Heritage (n.) - มรดก
    Equivalent (adj./ n.) - เทียบเท่า / สิ่งที่เทียบเท่า
    Resource (n.) - ทรัพยากร
    Philanthropist (n.) - ผู้ใจบุญ
    Reinforce (v.) - เสริมกำลัง
    Hierarchy (n.) - ลำดับขั้น
    Viable (adj.) - ใช้การได้
    Nostalgic (adj.) - รำลึกความหลัง
    Tangible (adj.) - จับต้องได้
    Fluctuate (v.) - ผันผวน
    Excessive (adj.) - มากเกินไป
    Innovate (v.) - สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
    Sustain (v.) - รักษาไว้
    Empathy (n.) - ความเห็นอกเห็นใจ
    Diplomatic (adj.) - ทางการทูต
    Solemn (adj.) - จริงจัง
    Warrant (n./ v.) - หมายจับ / รับประกัน
    Chronic (adj.) - เรื้อรัง
    Designate (v.) - กำหนด
    Frugal (adj.) - ประหยัด
    Commemorate (v.) - รำลึก
    Prestige (n.) - เกียรติยศ
    Omit (v.) - ละเว้น
    Legislator (n.) - ผู้บัญญัติกฎหมาย
    Monarchy (n.) - ระบอบกษัตริย์
    Violent (adj.) - รุนแรง
    Auspicious (adj.) - เป็นมงคล
    Invaluable (adj.) - มีค่ามหาศาล
    Contribute (v.) - มีส่วนร่วม
    Acquisition (n.) - การได้มา
    Resuscitate (v.) - ฟื้นคืนชีพ
    Nonchalant (adj.) - ไม่ใส่ใจ
    Harvest (v./ n.) - เก็บเกี่ยว / การเก็บเกี่ยว
    Misconduct (n.) - การประพฤติมิชอบ
    Genre (n.) - ประเภท
    Territory (n.) - อาณาเขต
    Reckless (adj.) - ประมาท
    Weaponise (v.) - เปลี่ยนเป็นอาวุธ
    Hallucinate (v.) - เห็นภาพหลอน
    Manipulate (v.) - จัดการโดยเจตนาแอบแฝง
    Addiction (n.) - การเสพติด
    Vital (adj.) - สำคัญ
    Silhouette (n.) - ภาพเงา
    Unique (adj.) - เป็นเอกลักษณ์
    Preach (v.) - สั่งสอน
    Pioneer (n./ v.) - ผู้บุกเบิก / บุกเบิก
    Resemble (v.) - คล้ายคลึง
    Assimilate (v.) - กลมกลืน
    Superstition (n.) - ความเชื่อโชคลาง
    Memoir (n.) - บันทึกความทรงจำ
    Extinction (n.) - การสูญพันธุ์
    Solidarity (n.) - ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
    Reluctant (adj.) - ไม่เต็มใจ
    Juvenile (adj./ n.) - เยาวชน / เกี่ยวกับเยาวชน
    Activist (n.) - นักกิจกรรม
    Consumer (n.) - ผู้บริโภค
    Democracy (n.) - ประชาธิปไตย
    Flammable (adj.) - ติดไฟได้
    Scholar (n.) - นักวิชาการ
    Advocate (v./ n.) - สนับสนุน / ผู้สนับสนุน
    Mitigate (v.) - บรรเทา
    Ambiguity (n.) - ความคลุมเครือ
    Stigma (n.) - ตราบาป
    Reprehensible (adj.) - น่าตำหนิ
    Offer (v./ n.) - เสนอ / ข้อเสนอ
    Operation (n.) - การดำเนินการ
    Impoverished (adj.) - ยากจน
    Detective (n.) - นักสืบ
    Textile (n.) - สิ่งทอ
    Catering (n.) - บริการจัดเลี้ยง
    Hereditary (adj.) - สืบทอดทางพันธุกรรม
    Indigenous (adj.) - พื้นเมือง
    Recruitment (n.) - การสรรหาบุคลากร
    Negotiate (v.) - เจรจา
    Diverse (adj.) - หลากหลาย
    100 ศัพท์ยาก สอบเข้า + เรียนต่อ ต้องรู้ 📌📌📌 Generic (adj.) - ทั่วไป Bureaucracy (n.) - ระบบราชการ Mandatory (adj.) - ซึ่งเป็นภาคบังคับ Exile (n./ v.) - การเนรเทศ / เนรเทศ Expedition (n.) - การเดินทางสำรวจ Mundane (adj.) - ธรรมดา Bulletin (n.) - ประกาศ Contemporary (adj.) - ร่วมสมัย Vanity (n.) - ความหยิ่งยโส Indulge (v.) - ตามใจ Enormous (adj.) - ใหญ่โต Jeopardy (n.) - ภัยอันตราย Parliament (n.) - รัฐสภา Scandalous (adj.) - อื้อฉาว Satire (n.) - การเสียดสี Census (n.) - การสำรวจสำมะโนประชากร Amateur (n./ adj.) - มือสมัครเล่น / สมัครเล่น Contradict (v.) - ขัดแย้ง Facilitate (v.) - อำนวยความสะดวก Integrate (v.) - รวมเข้าด้วยกัน Skeptical (adj.) - สงสัย Rhetoric (n.) - วาทศิลป์ Gesture (n./ v.) - ท่าทาง / แสดงท่าทาง Welfare (n.) - สวัสดิการ Compensate (v.) - ชดเชย Heritage (n.) - มรดก Equivalent (adj./ n.) - เทียบเท่า / สิ่งที่เทียบเท่า Resource (n.) - ทรัพยากร Philanthropist (n.) - ผู้ใจบุญ Reinforce (v.) - เสริมกำลัง Hierarchy (n.) - ลำดับขั้น Viable (adj.) - ใช้การได้ Nostalgic (adj.) - รำลึกความหลัง Tangible (adj.) - จับต้องได้ Fluctuate (v.) - ผันผวน Excessive (adj.) - มากเกินไป Innovate (v.) - สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ Sustain (v.) - รักษาไว้ Empathy (n.) - ความเห็นอกเห็นใจ Diplomatic (adj.) - ทางการทูต Solemn (adj.) - จริงจัง Warrant (n./ v.) - หมายจับ / รับประกัน Chronic (adj.) - เรื้อรัง Designate (v.) - กำหนด Frugal (adj.) - ประหยัด Commemorate (v.) - รำลึก Prestige (n.) - เกียรติยศ Omit (v.) - ละเว้น Legislator (n.) - ผู้บัญญัติกฎหมาย Monarchy (n.) - ระบอบกษัตริย์ Violent (adj.) - รุนแรง Auspicious (adj.) - เป็นมงคล Invaluable (adj.) - มีค่ามหาศาล Contribute (v.) - มีส่วนร่วม Acquisition (n.) - การได้มา Resuscitate (v.) - ฟื้นคืนชีพ Nonchalant (adj.) - ไม่ใส่ใจ Harvest (v./ n.) - เก็บเกี่ยว / การเก็บเกี่ยว Misconduct (n.) - การประพฤติมิชอบ Genre (n.) - ประเภท Territory (n.) - อาณาเขต Reckless (adj.) - ประมาท Weaponise (v.) - เปลี่ยนเป็นอาวุธ Hallucinate (v.) - เห็นภาพหลอน Manipulate (v.) - จัดการโดยเจตนาแอบแฝง Addiction (n.) - การเสพติด Vital (adj.) - สำคัญ Silhouette (n.) - ภาพเงา Unique (adj.) - เป็นเอกลักษณ์ Preach (v.) - สั่งสอน Pioneer (n./ v.) - ผู้บุกเบิก / บุกเบิก Resemble (v.) - คล้ายคลึง Assimilate (v.) - กลมกลืน Superstition (n.) - ความเชื่อโชคลาง Memoir (n.) - บันทึกความทรงจำ Extinction (n.) - การสูญพันธุ์ Solidarity (n.) - ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน Reluctant (adj.) - ไม่เต็มใจ Juvenile (adj./ n.) - เยาวชน / เกี่ยวกับเยาวชน Activist (n.) - นักกิจกรรม Consumer (n.) - ผู้บริโภค Democracy (n.) - ประชาธิปไตย Flammable (adj.) - ติดไฟได้ Scholar (n.) - นักวิชาการ Advocate (v./ n.) - สนับสนุน / ผู้สนับสนุน Mitigate (v.) - บรรเทา Ambiguity (n.) - ความคลุมเครือ Stigma (n.) - ตราบาป Reprehensible (adj.) - น่าตำหนิ Offer (v./ n.) - เสนอ / ข้อเสนอ Operation (n.) - การดำเนินการ Impoverished (adj.) - ยากจน Detective (n.) - นักสืบ Textile (n.) - สิ่งทอ Catering (n.) - บริการจัดเลี้ยง Hereditary (adj.) - สืบทอดทางพันธุกรรม Indigenous (adj.) - พื้นเมือง Recruitment (n.) - การสรรหาบุคลากร Negotiate (v.) - เจรจา Diverse (adj.) - หลากหลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • อรุณสวัสดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข #ปรกโพธิ์..🙏😊🌞
    #รับเช่าพระเครื่องหลวงพ่อกวย((รับฝาก))
    📞สายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์ เสนา
    อรุณสวัสดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข #ปรกโพธิ์..🙏😊🌞 #รับเช่าพระเครื่องหลวงพ่อกวย((รับฝาก)) 📞สายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์ เสนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนเล่นของ เช่น พกเครื่องรางของขลังต่างๆ หรือบางคน ที่มีการลงนะ สักยันต์ เพื่อเสริมดวงในด้านต่างๆ หรือพวกเมตตามหานิยม หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แรงๆ เช่นท้าวเวสสุวรรณ พญานาค พ่อแก่ พญาครุฑ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ควรจะต้องมีการรักษาศีล 5 เป็นเบื้องต้น และควรสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ถ้ามิเช่นนั้นแล้วของอาจจะเข้าตัวได้

    ซึ่งทำให้เกิดอาการต่างๆดังนี้

    1.มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหมือนเป็นไบโพล่า อารมณ์ขึ้นๆลงๆ

    2.จะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าไปใกล้ชิดกับคนที่สวดมนต์ไหว้พระ และมีอาการไม่อยากเข้าวัด ไม่อยากสวดมนต์ไหว้พระ

    3.มีอาการชอบเก็บตัว ไม่อยากไปสุงสิงกับใคร

    4.จะเป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุทางการแพทย์ได้ เป็นๆหายๆ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเป็นพวกเนื้องอก ถึงโรค ที่อันตรายร้ายแรง ขึ้นอยู่กับความแรงของของที่บูชา และตัวตนของคนที่บูชา ว่าเป็นคนที่มีศีลมีธรรม และปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำหรือเปล่า โรคที่เกิดจากสิ่งมองไม่เห็น หรือบางคนมีอาการชอบปวดหัว ปวดท้อง ท้องผูก ระบบขับถ่าย กรดไหลย้อน มีลมในกระเพาะ เป็นแบบไม่รู้สาเหตุ หรือบางคนจะเป็นเกี่ยวกับโรคผิวหนังอยู่ดีๆก็คัน เป็นเม็ดผื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการเหล่านี้จะชัดเจนช่วงวันพระวันโกน

    5.ดวงชะตาจะติดๆขัดๆ เพราะมีสิ่งที่มาปิดกั้นดวงชะตา ทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ราบรื่น

    6.นอนไม่ค่อยหลับ ชอบตื่นมากลางดึก หรือสะดุ้งตื่น ช่วงตี2 ตี3

    7.จะเจอแต่คนที่เล่นของเข้ามา หรือที่มีพลังงานแบบเรา เพราะมันจะดึงดูดเข้าหากัน

    8.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนที่เล่นของ จะรู้สึกไม่ชอบเรา ไม่ถูกชะตาเรา เพราะมีพลังงานไม่ดีอยู่กับตัวเรา มันส่งผลกระทบกับเขา เขาจะหงุดหงิดตลอดเวลา หรือหาเรื่องเรา ยิ่งถ้าคนนั้นเป็นคนที่มีเซ้นส์ด้วยเขาก็จะรู้สึกมาก

    9.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนเล่นของ โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่อ่อนแอ ขาดการสวดมนต์ไหว้พระ ขาดการรักษาศีล จะได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ว่าจะทำให้ดวงชะตาติดขัด หรือเกิดความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ หรือมีปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่น
    -----------
    #คนเล่นของ #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #อาจารย์เจโดมิโน่จิตสัมผัส #หมอฝนยิปซี
    คนเล่นของ เช่น พกเครื่องรางของขลังต่างๆ หรือบางคน ที่มีการลงนะ สักยันต์ เพื่อเสริมดวงในด้านต่างๆ หรือพวกเมตตามหานิยม หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แรงๆ เช่นท้าวเวสสุวรรณ พญานาค พ่อแก่ พญาครุฑ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ควรจะต้องมีการรักษาศีล 5 เป็นเบื้องต้น และควรสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ถ้ามิเช่นนั้นแล้วของอาจจะเข้าตัวได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการต่างๆดังนี้ 1.มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหมือนเป็นไบโพล่า อารมณ์ขึ้นๆลงๆ 2.จะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าไปใกล้ชิดกับคนที่สวดมนต์ไหว้พระ และมีอาการไม่อยากเข้าวัด ไม่อยากสวดมนต์ไหว้พระ 3.มีอาการชอบเก็บตัว ไม่อยากไปสุงสิงกับใคร 4.จะเป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุทางการแพทย์ได้ เป็นๆหายๆ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเป็นพวกเนื้องอก ถึงโรค ที่อันตรายร้ายแรง ขึ้นอยู่กับความแรงของของที่บูชา และตัวตนของคนที่บูชา ว่าเป็นคนที่มีศีลมีธรรม และปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำหรือเปล่า โรคที่เกิดจากสิ่งมองไม่เห็น หรือบางคนมีอาการชอบปวดหัว ปวดท้อง ท้องผูก ระบบขับถ่าย กรดไหลย้อน มีลมในกระเพาะ เป็นแบบไม่รู้สาเหตุ หรือบางคนจะเป็นเกี่ยวกับโรคผิวหนังอยู่ดีๆก็คัน เป็นเม็ดผื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการเหล่านี้จะชัดเจนช่วงวันพระวันโกน 5.ดวงชะตาจะติดๆขัดๆ เพราะมีสิ่งที่มาปิดกั้นดวงชะตา ทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ราบรื่น 6.นอนไม่ค่อยหลับ ชอบตื่นมากลางดึก หรือสะดุ้งตื่น ช่วงตี2 ตี3 7.จะเจอแต่คนที่เล่นของเข้ามา หรือที่มีพลังงานแบบเรา เพราะมันจะดึงดูดเข้าหากัน 8.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนที่เล่นของ จะรู้สึกไม่ชอบเรา ไม่ถูกชะตาเรา เพราะมีพลังงานไม่ดีอยู่กับตัวเรา มันส่งผลกระทบกับเขา เขาจะหงุดหงิดตลอดเวลา หรือหาเรื่องเรา ยิ่งถ้าคนนั้นเป็นคนที่มีเซ้นส์ด้วยเขาก็จะรู้สึกมาก 9.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนเล่นของ โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่อ่อนแอ ขาดการสวดมนต์ไหว้พระ ขาดการรักษาศีล จะได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ว่าจะทำให้ดวงชะตาติดขัด หรือเกิดความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ หรือมีปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่น ----------- #คนเล่นของ #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #อาจารย์เจโดมิโน่จิตสัมผัส #หมอฝนยิปซี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠

    😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎

    นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก

    ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย

    แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ

    ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่

    เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท

    หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม

    หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า:

    “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล”

    มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ

    สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา

    หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า:

    “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้”

    ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน

    ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน

    เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้

    ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี!

    นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ

    😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎

    นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว

    ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา

    ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน

    ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก

    เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย

    ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา

    ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก

    ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น

    นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม

    ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน

    ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้

    นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม

    ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี

    นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ

    ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ

    ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น

    หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย

    ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด

    ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม

    ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด

    เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก?

    แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น

    ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ

    แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป

    ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง

    เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง

    สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น

    ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป

    ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น

    ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠 😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎 นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่ เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า: “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล” มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า: “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้” ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้ ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี! นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ 😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎 นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก? แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มาตรฐานความปลอดภัยของรถบัส และแนวทางการปฏิบัติตน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น"

    จากข่าวสลดวันนี้ น่าจะต้องถอดบทเรียน และคุมกันจริงจังมากขึ้น กับรถบัส รถเมล์ รถขนส่งสาธารณะ ที่ถ้าไม่ได้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนตามมาตรฐาน หรือเกิดมีปัญหาในการใช้งาน ก็จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ (อย่างข่าววันนี้ ที่บอกว่าประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ - ซึ่งความจริง ต้องเปิดได้ตลอดทั้งจากในรถและนอกรถ)

    เลยขอเอาบทความของ Patsornchai Tour - ภัสสรชัยทัวร์ นี้ มาสรุปให้ศึกษากันนะครับ

    - 3 สิ่งสำคัญ ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่รถบัสทุกคันต้องมี และผู้โดยสารทุกคน ควรสังเกตนั่นก็คือ "ถังดับเพลิง" , "ประตูฉุกเฉิน" และ "ค้อนทุบกระจก" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยบรรเทาความร้ายแรงของเหตุฉุกเฉินที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำผู้โดยสารออกจากห้องโดยสาร

    1. #ประตูทางออกฉุกเฉิน

    - ผู้โดยสารควรมองหาประตูรถทางออกฉุกเฉิน เพราะจะช่วยให้ออกจากตัวรถบัสได้ในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน

    - ประตูรถทางออกฉุกเฉิน จะต้องมีสัญลักษณ์บ่งบอก หรือมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ว่าเป็นตำแหน่งของประตูฉุกเฉิน

    - ถ้าเป็นประตูทางออก ที่อยู่ "ด้านท้าย" ของตัวรถ ต้องมีข้อความว่า “ทางออกฉุกเฉิน” เป็นอักษรภาษาไทย ความสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร สีแดงสะท้อนแสง ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิดปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉิน ให้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

    - ถ้าไม่อยู่ด้านท้ายของรถ ประตูฉุกเฉินจะต้องมีขนาดทางออกไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ความสูงไม่น้อยกว่า 120 เชนติเมตร อยู่ในตำแหน่ง "ด้านขวากลาง" ของตัวรถ หรืออาจจะค่อนไปทางท้ายรถ ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้

    - ประตูฉุกเฉินจะต้องสามารถเปิดได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรืออุปกรณ์ใดๆ

    - ต้องเปิดได้เต็มทั้งส่วนกว้างและความสูง

    - ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออกนี้ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

    2. #ถังดับเพลิง

    - รถบัสทุกคันจะต้องมี เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีไฟลุกขึ้นที่บริเวณห้องโดยสาร

    - ภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่ จะมีการติดตั้งถังดับเพลิงขนาด 2 ปอนด์ ไว้อย่างน้อย 2 ตำแหน่ง คือบริเวณ "เบาะหน้า" ใกล้คนขับ และบริเวณ "ที่นั่งด้านหลัง" หรือ "ตรงกลาง" ของห้องโดยสาร เพื่อให้สามารถหยิบให้งานได้ง่าย

    - เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ดึงสลักล็อกที่บริเวณคันบีบออก จากนั้นให้ปลดสายฉีดออกจากตัวถึง หันปากสายฉีดไปที่ "ฐาน" กองไฟ แล้วกดคันบีบแล้วส่ายสายฉีด เพื่อให้สารที่พ่นออกมาจากถังดับเพลิง พ่นให้ทั่วทั้งกองไฟ

    - ไม่ควรฉีดไปที่เปลวไฟ เพราะเป็นการใช้แบบผิดวิธี ทำให้ไฟไม่ดับ

    - ควรยืนห่างจากกองไฟประมาณ 6-8 ฟุต เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

    3. #ค้อนทุบกระจก

    - รถบัสทุกคันจะต้องมีค้อนทุบกระจก หรืออุปกรณ์ที่มีด้ามจับสีแดง มีหัวเหล็กลักษณะกลมๆ ยื่นออกมา

    - ส่วนมาก ติดอยู่ใกล้ๆ กระจกข้างรถ

    - มีไว้สำหรับการกรีด หรือทุบกระจก เพื่อเปิดเป็นทางออกฉุกเฉิน สามารถทุบเปิดกระจกได้เร็วกว่าของแข็งอื่นๆ

    - สามารถดึงออกจากแท่นเก็บ จากนั้น จับด้ามให้แน่น แล้วใช้ปลายแหลม "กรีด" ลงที่กระจกให้เป็นรอย แล้วใช้ปลายค้อน ทุบที่แนวกรีด กระจกก็จะแตกละเอียด

    #ข้อแนะนำอื่นสำหรับการเดินทาง

    1. เลือกเดินทางกลับบริษัทผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีการตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง และเป็นบริษัทที่ไม่มีประวัติ การเกิดอุบัติเหตุหนัก ซึ่งท่านสามารถเช็คได้กับกรมขนส่งทางบก

    2. บนรถบัสทุกคันจะจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติอย่างน้อย 2 จุด ทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในขณะเดินทาง

    3. ในขณะเดินทาง ผู้โดยสารควรสังเกตอาการของพนักงานขับรถ ว่ามีอาการมึนเมา หาวบ่อย หรือขับรถเร็วเกินไปหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดตรวจของกรมขนส่ง หรือบริษัทของผู้ให้บริการ

    4. หากเป็นระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร บริษัทผู้ให้บริการจะต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน หรือจะต้องมีการหยุดจอดรถพักทุก 4 ชั่วโมง อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาที นอกจากนี้พนักงานขับรถจะต้องขับรถด้วยความสุภาพ และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้

    ภาพและข้อมูลจาก https://patsornchaitour.com/emergency-exit-on-bus/
    "มาตรฐานความปลอดภัยของรถบัส และแนวทางการปฏิบัติตน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น" จากข่าวสลดวันนี้ น่าจะต้องถอดบทเรียน และคุมกันจริงจังมากขึ้น กับรถบัส รถเมล์ รถขนส่งสาธารณะ ที่ถ้าไม่ได้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนตามมาตรฐาน หรือเกิดมีปัญหาในการใช้งาน ก็จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ (อย่างข่าววันนี้ ที่บอกว่าประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ - ซึ่งความจริง ต้องเปิดได้ตลอดทั้งจากในรถและนอกรถ) เลยขอเอาบทความของ Patsornchai Tour - ภัสสรชัยทัวร์ นี้ มาสรุปให้ศึกษากันนะครับ - 3 สิ่งสำคัญ ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่รถบัสทุกคันต้องมี และผู้โดยสารทุกคน ควรสังเกตนั่นก็คือ "ถังดับเพลิง" , "ประตูฉุกเฉิน" และ "ค้อนทุบกระจก" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยบรรเทาความร้ายแรงของเหตุฉุกเฉินที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำผู้โดยสารออกจากห้องโดยสาร 1. #ประตูทางออกฉุกเฉิน - ผู้โดยสารควรมองหาประตูรถทางออกฉุกเฉิน เพราะจะช่วยให้ออกจากตัวรถบัสได้ในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน - ประตูรถทางออกฉุกเฉิน จะต้องมีสัญลักษณ์บ่งบอก หรือมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ว่าเป็นตำแหน่งของประตูฉุกเฉิน - ถ้าเป็นประตูทางออก ที่อยู่ "ด้านท้าย" ของตัวรถ ต้องมีข้อความว่า “ทางออกฉุกเฉิน” เป็นอักษรภาษาไทย ความสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร สีแดงสะท้อนแสง ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิดปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉิน ให้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน - ถ้าไม่อยู่ด้านท้ายของรถ ประตูฉุกเฉินจะต้องมีขนาดทางออกไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ความสูงไม่น้อยกว่า 120 เชนติเมตร อยู่ในตำแหน่ง "ด้านขวากลาง" ของตัวรถ หรืออาจจะค่อนไปทางท้ายรถ ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ - ประตูฉุกเฉินจะต้องสามารถเปิดได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรืออุปกรณ์ใดๆ - ต้องเปิดได้เต็มทั้งส่วนกว้างและความสูง - ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออกนี้ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน 2. #ถังดับเพลิง - รถบัสทุกคันจะต้องมี เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีไฟลุกขึ้นที่บริเวณห้องโดยสาร - ภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่ จะมีการติดตั้งถังดับเพลิงขนาด 2 ปอนด์ ไว้อย่างน้อย 2 ตำแหน่ง คือบริเวณ "เบาะหน้า" ใกล้คนขับ และบริเวณ "ที่นั่งด้านหลัง" หรือ "ตรงกลาง" ของห้องโดยสาร เพื่อให้สามารถหยิบให้งานได้ง่าย - เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ดึงสลักล็อกที่บริเวณคันบีบออก จากนั้นให้ปลดสายฉีดออกจากตัวถึง หันปากสายฉีดไปที่ "ฐาน" กองไฟ แล้วกดคันบีบแล้วส่ายสายฉีด เพื่อให้สารที่พ่นออกมาจากถังดับเพลิง พ่นให้ทั่วทั้งกองไฟ - ไม่ควรฉีดไปที่เปลวไฟ เพราะเป็นการใช้แบบผิดวิธี ทำให้ไฟไม่ดับ - ควรยืนห่างจากกองไฟประมาณ 6-8 ฟุต เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน 3. #ค้อนทุบกระจก - รถบัสทุกคันจะต้องมีค้อนทุบกระจก หรืออุปกรณ์ที่มีด้ามจับสีแดง มีหัวเหล็กลักษณะกลมๆ ยื่นออกมา - ส่วนมาก ติดอยู่ใกล้ๆ กระจกข้างรถ - มีไว้สำหรับการกรีด หรือทุบกระจก เพื่อเปิดเป็นทางออกฉุกเฉิน สามารถทุบเปิดกระจกได้เร็วกว่าของแข็งอื่นๆ - สามารถดึงออกจากแท่นเก็บ จากนั้น จับด้ามให้แน่น แล้วใช้ปลายแหลม "กรีด" ลงที่กระจกให้เป็นรอย แล้วใช้ปลายค้อน ทุบที่แนวกรีด กระจกก็จะแตกละเอียด #ข้อแนะนำอื่นสำหรับการเดินทาง 1. เลือกเดินทางกลับบริษัทผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีการตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง และเป็นบริษัทที่ไม่มีประวัติ การเกิดอุบัติเหตุหนัก ซึ่งท่านสามารถเช็คได้กับกรมขนส่งทางบก 2. บนรถบัสทุกคันจะจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติอย่างน้อย 2 จุด ทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในขณะเดินทาง 3. ในขณะเดินทาง ผู้โดยสารควรสังเกตอาการของพนักงานขับรถ ว่ามีอาการมึนเมา หาวบ่อย หรือขับรถเร็วเกินไปหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดตรวจของกรมขนส่ง หรือบริษัทของผู้ให้บริการ 4. หากเป็นระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร บริษัทผู้ให้บริการจะต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน หรือจะต้องมีการหยุดจอดรถพักทุก 4 ชั่วโมง อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาที นอกจากนี้พนักงานขับรถจะต้องขับรถด้วยความสุภาพ และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ ภาพและข้อมูลจาก https://patsornchaitour.com/emergency-exit-on-bus/
    PATSORNCHAITOUR.COM
    แนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อมีเกิดเหตุฉุกเฉินบนรถบัส ต้องทำอย่างไร? | Patsornchai Tour
    การเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน คงเป็นเรื่องที่ไม่มีใค
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ตักกิ๊ปผมหางม้าดอกไม้หัวเข็มขัดหางม้าคลิปหนีบแบบถาวรสาวกิ๊ฟติดผมฤดูร้อนสะดวกและน่ารัก
    พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.J0Pgj?cc
    ที่ตักกิ๊ปผมหางม้าดอกไม้หัวเข็มขัดหางม้าคลิปหนีบแบบถาวรสาวกิ๊ฟติดผมฤดูร้อนสะดวกและน่ารัก พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.J0Pgj?cc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิรโทษกรรมแท้ง เพื่อไทย ไม่กล้าลุยไฟ เลื่อนไร้กำหนด
    .
    ในทางการเมืองตอนนี้ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็ดูจะสะดุดไปเสียทั้งหมด อย่างล่าสุดการนิรโทษกรรมที่เคยคาดว่าจะเดินหน้าได้ในรัฐบาลยุคนี้ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษรรม ได้จัดรายงานเสร็จแล้ว แต่จากท่าทีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ยอมรับว่าการตราร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอาจต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
    .
    "ร่างกฎหมายจะสำเร็จเป็นกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อ ส.ส.และ ส.ว.ต้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอร่างกฎหมายขอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง บางส่วนบอกว่าหากนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้วก็ให้รวมกับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย" นายชูศักดิ์ กล่าว
    .
    นายชูศักดิ์ มีมุมมองว่า เพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ซึ่งที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภา หากเราไม่ฟังกัน เมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ปรึกษานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลให้เลื่อนวาระการพิจารณาในวันที่ 3 ตุลาคมออกไปก่อนเพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วน
    ..........
    Sondhi X
    นิรโทษกรรมแท้ง เพื่อไทย ไม่กล้าลุยไฟ เลื่อนไร้กำหนด . ในทางการเมืองตอนนี้ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็ดูจะสะดุดไปเสียทั้งหมด อย่างล่าสุดการนิรโทษกรรมที่เคยคาดว่าจะเดินหน้าได้ในรัฐบาลยุคนี้ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษรรม ได้จัดรายงานเสร็จแล้ว แต่จากท่าทีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ยอมรับว่าการตราร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอาจต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด . "ร่างกฎหมายจะสำเร็จเป็นกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อ ส.ส.และ ส.ว.ต้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอร่างกฎหมายขอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง บางส่วนบอกว่าหากนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้วก็ให้รวมกับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย" นายชูศักดิ์ กล่าว . นายชูศักดิ์ มีมุมมองว่า เพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ซึ่งที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภา หากเราไม่ฟังกัน เมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ปรึกษานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลให้เลื่อนวาระการพิจารณาในวันที่ 3 ตุลาคมออกไปก่อนเพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วน .......... Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 630 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขาย ที่ดิน สวนมะพร้าว พร้อมบ้านพัก
    ติดถนนสาธารณะ ผังสีชมพู
    อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 4ไร่
    เดินทางสะดวก หน้าที่ดินติดริม
    ถนนสาธารณะหน้าที่ดินคอนกรีตกว้าง 6 เมตร
    หน้ากว้างติดริมถนน สาธารณะ 70 เมตร
    ลึก 100 เมตร
    พื้นที่สีชมพู
    หน้าที่ดินหันหน้าไปทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้
    มีระบบไฟฟ้าน้ำประปาเรียบร้อย
    พิกัด: https://maps.app.goo.gl/cQwzDXtNQyVJhsNA8?g_st=ic

    ราคา: 2,500,000บาท/ไร่
    (ประมาณ 6,250บาท/ตารางวา)

    สนใจติดต่อ: เกษม, 081-936-9670​
    Line: 0819369670
    email: hong8579@gmail.com
    ขาย ที่ดิน สวนมะพร้าว พร้อมบ้านพัก ติดถนนสาธารณะ ผังสีชมพู อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 4ไร่ เดินทางสะดวก หน้าที่ดินติดริม ถนนสาธารณะหน้าที่ดินคอนกรีตกว้าง 6 เมตร หน้ากว้างติดริมถนน สาธารณะ 70 เมตร ลึก 100 เมตร พื้นที่สีชมพู หน้าที่ดินหันหน้าไปทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ มีระบบไฟฟ้าน้ำประปาเรียบร้อย พิกัด: https://maps.app.goo.gl/cQwzDXtNQyVJhsNA8?g_st=ic ราคา: 2,500,000บาท/ไร่ (ประมาณ 6,250บาท/ตารางวา) สนใจติดต่อ: เกษม, 081-936-9670​ Line: 0819369670 email: hong8579@gmail.com
    MAPS.APP.GOO.GL
    ตำบล ดอนไผ่ · ตำบล ดอนไผ่ อำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี 70130 ประเทศไทย
    ตำบล ดอนไผ่ อำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี 70130 ประเทศไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)

    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง

    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014

    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey

    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU



    ----------------------------------------------
    รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง
    1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut
    แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90
    ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM
    เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet
    ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง
    ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์"
    https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4
    เพลง Glorious Years (光辉岁月)
    https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU

    2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND
    ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง
    ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล
    https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw
    3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai)
    เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง
    "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ
    เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน
    แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ
    บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง
    เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก
    https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU
    สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM
    ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi
    คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน
    https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o

    4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้
    และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้
    ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ?
    https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc

    5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung
    นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง
    อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า.....
    mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1
    密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣
    https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0
    6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง
    สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน
    ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้
    ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก..
    ช่าย หมาย..ล่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY
    7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน
    ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล"
    มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond
    海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย
    ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง
    คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 )
    แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love
    ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡)
    ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย
    ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ
    https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI
    9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒
    มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่
    ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน"
    ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken "
    https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU
    10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง
    ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ
    กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983
    11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน
    เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ
    คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก

    12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง
    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014
    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey
    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU
    13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้
    《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว"
    "Song of a Thousand Thousand Que"
    ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji
    โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988
    หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง
    PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง
    ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang
    กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ
    Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records,
    CBS/SonyและWingo Creative
    ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล
    " My Favorite Song Award in the Music World "
    ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง
    ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989
    https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w

    14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง
    ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok
    https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo

    15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam
    https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4

    16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน
    เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University
    และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 "
    เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก
    นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ
    https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI

    17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. "
    เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
    น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน.
    https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg

    18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว”
    สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau)
    นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง
    สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji
    《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together
    สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน)
    โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ)
    如何面对 曾一起走过的日子
    jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2
    现在剩下我独行
    jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4
    如何用心声一一讲你知
    jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1
    从来没人明白我
    cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5
    唯一你给我好日子
    wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2
    有你有我有情有生有死有义
    jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6
    https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ
    19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung
    ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』
    แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล"
    หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side
    https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80

    20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu
    คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》
    ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade"
    นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San
    นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก)
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”
    https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes

    21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung
    ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า
    ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง
    ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน
    ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง
    หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง.
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี
    ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau)
    ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau)
    แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ
    ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก
    และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น
    สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป
    ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ
    มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป
    และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน
    (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง)
    ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ
    เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้
    โดยปราศจากเธอ
    ตรงกับชื่อเพลง
    "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走
    Only Want to Go with You in this Life
    https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c
    23. เพลงแนว Soft-Rock
    อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond
    บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง
    บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง
    ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ
    เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
    Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲)
    ศิลปิน : 李克勤 และ 周深
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”

    25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์
    เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง
    โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง
    รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372

    -《暗裡著迷》
    - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟
    - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet
    ของวง Beyond แน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY
    - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ)
    天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
    - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง
    1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月
    2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空
    - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne
    ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง
    กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว
    ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee
    ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ
    - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม"
    เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี
    ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่
    (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว)
    https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI
    - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด
    ของ Joey Yuong 容祖兒
    แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป
    สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา"
    ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน
    - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา
    แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee
    เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index"
    ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย.
    https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM
    - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China)
    เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue
    ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui
    แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU ---------------------------------------------- รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง 1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90 ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์" https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4 เพลง Glorious Years (光辉岁月) https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU 2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw 3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai) เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o 4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้ และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้ ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ? https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc 5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า..... mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1 密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣 https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0 6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้ ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก.. ช่าย หมาย..ล่ะ https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY 7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล" มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond 海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 ) แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡) ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI 9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒 มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่ ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน" ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken " https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU 10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983 11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก 12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU 13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้ 《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว" "Song of a Thousand Thousand Que" ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988 หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records, CBS/SonyและWingo Creative ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล " My Favorite Song Award in the Music World " ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989 https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w 14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo 15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4 16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 " เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI 17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. " เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน. https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg 18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว” สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau) นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji 《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน) โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ) 如何面对 曾一起走过的日子 jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2 现在剩下我独行 jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4 如何用心声一一讲你知 jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1 从来没人明白我 cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5 唯一你给我好日子 wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2 有你有我有情有生有死有义 jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6 https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ 19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』 แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล" หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80 20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》 ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade" นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก) ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes 21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง. https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau) ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau) แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง) ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้ โดยปราศจากเธอ ตรงกับชื่อเพลง "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走 Only Want to Go with You in this Life https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c 23. เพลงแนว Soft-Rock อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲) ศิลปิน : 李克勤 และ 周深 ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” 25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์ เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372 -《暗裡著迷》 - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟 - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet ของวง Beyond แน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ) 天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง 1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月 2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空 - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม" เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่ (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว) https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด ของ Joey Yuong 容祖兒 แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา" ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index" ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย. https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China) เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • Michelin Key ลูกเล่นใหม่มิชลินไกด์

    นับเป็นครั้งแรกที่มิชลินไกด์ (Michelin Guide) คู่มือแนะนำร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก เปิดตัวรางวัลมิชลินคีย์ (Michelin Key) ตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับโรงแรมที่พักในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากแนะนำที่พักมากกว่า 6,000 แห่งใน 120 ประเทศ โดยวัดจาก 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและประสบการณ์ที่ได้รับ 2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนถึงคุณลักษณะดั้งเดิมของโรงแรมที่พัก 3. คุณภาพและความสม่ำเสมอในการให้บริการ รวมถึงความสะดวกสบายและการบำรุงรักษา 4. สถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน และ 5. เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเอง มีส่วนนำเสนอความเป็นท้องถิ่น

    ปรากฎว่าในปี 2567 มีโรงแรมในประเทศไทยได้รางวัล 58 แห่ง โดยรางวัลกุญแจ 3 ดอก มี 8 แห่ง ได้แก่ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม กรุงเทพฯ, กีมาลา จ.ภูเก็ต, อมันปุรี จ.ภูเก็ต, โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ต จ.เชียงใหม่, โซเนวา คีรี รีสอร์ท เกาะกูด จ.ตราด, ซามูจาน่า วิลล่า เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ จ.กระบี่ ส่วนรางวัลกุญแจ 2 ดอก มี 19 แห่ง และรางวัลกุญแจ 1 ดอก มี 31 แห่ง

    แม้โรงแรมที่ได้รับรางวัลมิชลินคีย์ เป็นคนละรางวัลกับโรงแรมที่มีร้านอาหารรางวัลดาวมิชลิน แต่ก็มีโรงแรมได้ทั้งมิชลินคีย์และมิชลินไกด์ปี 2566 อาทิ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (3 ดอก) มีร้านเลอ นอร์ม็องดี บาย อลัง รูซ์ (2 ดาว), ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (2 ดอก) มีร้านเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ (1 ดาว), โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ (1 ดอก) มีห้องอาหารน้ำ (1 ดาว), ตรีสรา จ.ภูเก็ต (1 ดอก) มีร้านพรู (1 ดาว) เป็นต้น

    สำหรับคู่มือมิชลินไกด์ ฉบับประจำปีครั้งที่ 8 (2025) มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2567 โดยได้เพิ่มร้านอาหารจังหวัดชลบุรี ต่อจากกรุงเทพฯ, ภูเก็ต-พังงา, เชียงใหม่, พระนครศรีอยุธยา, ภาคอีสาน 4 จังหวัด (นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น) และเกาะสมุย-สุราษฎร์ธานี

    โครงการ The Michelin Guide Thailand มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าของโครงการ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2560 ทำข้อตกลงสัญญา 5 ปีกับบริษัท Michelin Travel Partner France วงเงิน 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. 2564 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ ททท. ก่อหนี้ผูกพันสนับสนุนการจัดโครงการฯ ประจำปี 2565-2569 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 135.3 ล้านบาท) โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละ 820,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 27.06 ล้านบาท)

    #Newskit #MichelinKey #MichelinGuideThailand
    Michelin Key ลูกเล่นใหม่มิชลินไกด์ นับเป็นครั้งแรกที่มิชลินไกด์ (Michelin Guide) คู่มือแนะนำร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก เปิดตัวรางวัลมิชลินคีย์ (Michelin Key) ตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับโรงแรมที่พักในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากแนะนำที่พักมากกว่า 6,000 แห่งใน 120 ประเทศ โดยวัดจาก 1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและประสบการณ์ที่ได้รับ 2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนถึงคุณลักษณะดั้งเดิมของโรงแรมที่พัก 3. คุณภาพและความสม่ำเสมอในการให้บริการ รวมถึงความสะดวกสบายและการบำรุงรักษา 4. สถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน และ 5. เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเอง มีส่วนนำเสนอความเป็นท้องถิ่น ปรากฎว่าในปี 2567 มีโรงแรมในประเทศไทยได้รางวัล 58 แห่ง โดยรางวัลกุญแจ 3 ดอก มี 8 แห่ง ได้แก่ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม กรุงเทพฯ, กีมาลา จ.ภูเก็ต, อมันปุรี จ.ภูเก็ต, โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ต จ.เชียงใหม่, โซเนวา คีรี รีสอร์ท เกาะกูด จ.ตราด, ซามูจาน่า วิลล่า เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ จ.กระบี่ ส่วนรางวัลกุญแจ 2 ดอก มี 19 แห่ง และรางวัลกุญแจ 1 ดอก มี 31 แห่ง แม้โรงแรมที่ได้รับรางวัลมิชลินคีย์ เป็นคนละรางวัลกับโรงแรมที่มีร้านอาหารรางวัลดาวมิชลิน แต่ก็มีโรงแรมได้ทั้งมิชลินคีย์และมิชลินไกด์ปี 2566 อาทิ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (3 ดอก) มีร้านเลอ นอร์ม็องดี บาย อลัง รูซ์ (2 ดาว), ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (2 ดอก) มีร้านเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ (1 ดาว), โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ (1 ดอก) มีห้องอาหารน้ำ (1 ดาว), ตรีสรา จ.ภูเก็ต (1 ดอก) มีร้านพรู (1 ดาว) เป็นต้น สำหรับคู่มือมิชลินไกด์ ฉบับประจำปีครั้งที่ 8 (2025) มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2567 โดยได้เพิ่มร้านอาหารจังหวัดชลบุรี ต่อจากกรุงเทพฯ, ภูเก็ต-พังงา, เชียงใหม่, พระนครศรีอยุธยา, ภาคอีสาน 4 จังหวัด (นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น) และเกาะสมุย-สุราษฎร์ธานี โครงการ The Michelin Guide Thailand มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าของโครงการ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2560 ทำข้อตกลงสัญญา 5 ปีกับบริษัท Michelin Travel Partner France วงเงิน 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. 2564 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ ททท. ก่อหนี้ผูกพันสนับสนุนการจัดโครงการฯ ประจำปี 2565-2569 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 135.3 ล้านบาท) โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละ 820,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 27.06 ล้านบาท) #Newskit #MichelinKey #MichelinGuideThailand
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • อะระหังขาดครึ่งตัว ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ
    #รับเช่าพระเครื่องหลวงพ่อกวย((รับฝาก))
    📞สายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์ เสนา
    อะระหังขาดครึ่งตัว ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ #รับเช่าพระเครื่องหลวงพ่อกวย((รับฝาก)) 📞สายด่วนสะดวกกว่า 081-7407657 สิทธิ์ เสนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเขียนข้อความยาว 1,000 คำถือเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาความคิดและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเขียนไม่เพียงแต่ช่วยให้เราแสดงออกถึงความคิดของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจในเรื่องราวหรือประเด็นที่เราต้องการสื่อสารด้วย

    ในบทความนี้ เราจะพูดถึงหัวข้อการเขียนที่น่าสนใจ โดยเราจะเลือกหัวข้อที่หลากหลายเพื่อให้คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการเขียนข้อความขนาดยาว

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง

    การพัฒนาตนเองเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เราอยู่ในสังคมที่ต้องการพัฒนาและปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการงาน การศึกษา หรือแม้แต่ในเรื่องส่วนตัว หากเราสามารถสร้างนิสัยที่ดีและมีวินัยในการดำเนินชีวิต เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

    หนึ่งในวิธีการพัฒนาตนเองคือการตั้งเป้าหมายในชีวิตและพยายามทำตามเป้าหมายนั้นอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการทำงานและมีทิศทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น

    นอกจากนี้ การฝึกฝนความคิดเชิงบวกและการจัดการกับความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตนเอง เราควรพยายามมองโลกในแง่ดีและเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาโดยไม่ท้อแท้ การคิดในแง่บวกจะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี และสามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม

    ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เราสามารถเลือกเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน

    ตัวอย่างเช่น การพัฒนา AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่มีผลกระทบต่อการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การศึกษา การผลิต และการบริการ AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ และทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น

    อีกหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีบทบาทสำคัญในวงการการเงิน เทคโนโลยีนี้มีความโปร่งใส ปลอดภัย และสามารถใช้ในกระบวนการทำธุรกรรมต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง เช่น ธนาคาร ทำให้บล็อกเชนได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการเงินและการค้าทั่วโลก

    นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT) ที่ทำให้สิ่งของต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เช่น สมาร์ทโฮม (Smart Home) ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ การเชื่อมต่อที่ง่ายและสะดวกนี้ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย

    สุขภาพเป็นหัวข้อที่สำคัญไม่แพ้กันในยุคปัจจุบัน เราควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน

    การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เราสามารถเริ่มต้นด้วยการเดินหรือวิ่งเบาๆ ทุกวันเพียง 30 นาที นอกจากนี้ การทำโยคะหรือพิลาทิสก็เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ

    อาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพ เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เช่น ผักผลไม้ โปรตีน และไขมันดี การลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงจะช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อมทั่วโลก

    หนึ่งในวิธีการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานจากน้ำ นอกจากนี้ การลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งก็เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

    การปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์ป่าไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ต้นไม้สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนรู้

    การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตของคนทุกคน การเรียนรู้ไม่จำกัดเพียงในห้องเรียนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ การอ่านหนังสือ หรือการฟังจากผู้รู้

    หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษาคือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน เช่น การเรียนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของ COVID-19 การเรียนออนไลน์ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน และสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้จากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น

    อีกหัวข้อหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือการศึกษาด้านทักษะใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการออกแบบกราฟิก ทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในยุคปัจจุบัน การเรียนรู้และพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและการพัฒนาตนเองในระยะยาว

    ## สรุป

    การเขียนข้อความ 1,000 คำอาจดูเหมือนเป็นงานที่ยาก แต่ถ้าเราแบ่งหัวข้อและวางแผนการเขียนอย่างดี ก็จะทำให้เราสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจ

    thaittimes
    #thaitimes #thai
    "thaitimes"
    การเขียนข้อความยาว 1,000 คำถือเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาความคิดและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเขียนไม่เพียงแต่ช่วยให้เราแสดงออกถึงความคิดของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจในเรื่องราวหรือประเด็นที่เราต้องการสื่อสารด้วย ในบทความนี้ เราจะพูดถึงหัวข้อการเขียนที่น่าสนใจ โดยเราจะเลือกหัวข้อที่หลากหลายเพื่อให้คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการเขียนข้อความขนาดยาว ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง การพัฒนาตนเองเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เราอยู่ในสังคมที่ต้องการพัฒนาและปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการงาน การศึกษา หรือแม้แต่ในเรื่องส่วนตัว หากเราสามารถสร้างนิสัยที่ดีและมีวินัยในการดำเนินชีวิต เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน หนึ่งในวิธีการพัฒนาตนเองคือการตั้งเป้าหมายในชีวิตและพยายามทำตามเป้าหมายนั้นอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการทำงานและมีทิศทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ การฝึกฝนความคิดเชิงบวกและการจัดการกับความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตนเอง เราควรพยายามมองโลกในแง่ดีและเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาโดยไม่ท้อแท้ การคิดในแง่บวกจะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี และสามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ## การเขียนบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เราสามารถเลือกเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น การพัฒนา AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่มีผลกระทบต่อการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การศึกษา การผลิต และการบริการ AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ และทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น อีกหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีบทบาทสำคัญในวงการการเงิน เทคโนโลยีนี้มีความโปร่งใส ปลอดภัย และสามารถใช้ในกระบวนการทำธุรกรรมต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง เช่น ธนาคาร ทำให้บล็อกเชนได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการเงินและการค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT) ที่ทำให้สิ่งของต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เช่น สมาร์ทโฮม (Smart Home) ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ การเชื่อมต่อที่ง่ายและสะดวกนี้ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย สุขภาพเป็นหัวข้อที่สำคัญไม่แพ้กันในยุคปัจจุบัน เราควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เราสามารถเริ่มต้นด้วยการเดินหรือวิ่งเบาๆ ทุกวันเพียง 30 นาที นอกจากนี้ การทำโยคะหรือพิลาทิสก็เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ อาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพ เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เช่น ผักผลไม้ โปรตีน และไขมันดี การลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงจะช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อมทั่วโลก หนึ่งในวิธีการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานจากน้ำ นอกจากนี้ การลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งก็เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์ป่าไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ต้นไม้สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนรู้ การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตของคนทุกคน การเรียนรู้ไม่จำกัดเพียงในห้องเรียนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ การอ่านหนังสือ หรือการฟังจากผู้รู้ หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษาคือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน เช่น การเรียนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของ COVID-19 การเรียนออนไลน์ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน และสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้จากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น อีกหัวข้อหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือการศึกษาด้านทักษะใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการออกแบบกราฟิก ทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในยุคปัจจุบัน การเรียนรู้และพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและการพัฒนาตนเองในระยะยาว ## สรุป การเขียนข้อความ 1,000 คำอาจดูเหมือนเป็นงานที่ยาก แต่ถ้าเราแบ่งหัวข้อและวางแผนการเขียนอย่างดี ก็จะทำให้เราสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจ thaittimes #thaitimes #thai "thaitimes"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 938 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทุนแม่ของแผ่นดินไทยเรา,ต้องไปฟื้นฟูกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านกว่า80,000หมู่บ้านเชิงรุกทันที ปรับปรุงระบบใช้สไตล์ร้านสากลสะดวกซื้อผสมผสานคลังสินค้าโลจิสติกในตัวบริการคนในชุมชุมเชื่อมโยงสินค้า&บริการทั่วประเทศ ทุกๆคนไทยคือเจ้าของร้่นค้าตนเองร่วมกันในระบบหุ้นร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน จะต่อยอดตลาดได้สาระพัดทิศทาง,โดรนส่งของก็ได้ในชุมชนตนเมื่อสินค้ามาถึงชุมชน หากไม่สะดวกมารับ ส่งถึงดอยถึงภูกลางป่าได้ รับคำสั่งซื้ออิสระโน้น ทุเรียนภาคใต้ เหนืออีสานอยากทานราคาถูกก็ส่งผ่านสาขาร้านค้ากองทุนหมู่บ้านได้เพราะเป็นคลังโกดังใหญ่ประจำหมู่บ้านก็ได้ ขายสินค้าราคาต่ำกว่าร้านชำทั่วไปอีก คนในชุมชนประหยัดตังด้วยคือจุดขายอีกด้าน รัฐสนับสนุนการพึ่งพาตนเองในชุมชนและเป็นเครือข่ายระดับชาติอีกจะแข็งแกร่งโคตรๆ ตังสะพัดปกติต่อปี40-50ล้านล้านบาททั่วประเทศ แต่ถ้าสิ่งนี้เกิดจริงได้ เม็ดเงินมหาศาลจะหมุนเวียนในชุมชนสังคมไทยเราจริงและถึงระดับชาติด้วยถูกดูดออกจากระบบชุมชนยากมาก สะพัดกว่า100ล้านล้านบาทสบายๆสภาพคล่องกระแสใช้จ่ายโคตรๆหมุนเวียนภายในเลยก็ว่า ขายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ มีคลังยักษ์ใหญ่ระดับชาติจัดส่งรับคำสั่งซื้อได้ สร้างแพลตฟอร์มขายออนไลน์ ไลฟ์สดตลาดออนไลน์เรียลไทม์ชาวบ้านเราได้ด้วย ตลาดก็มี คลังสินค้ากว่า80,000สาขาเจ้าของจริงคนไทยร่วมกันอีก,จะขายจะซื้ออะไรกดสั่งผ่านกองทุนร้านค้าตนเองเป็นคลังส่งคลังเก็บส่วนกลางสินค้าได้หมด ลูกค้ากับคนสวนเจ้าของมาเองขายเองราคาส่งตรงถูกสดปลอดภัยสารเคมีจะล้ำขนาดไหนอีก,สร้างแพลตฟอร์มระดับสากลว่าแอป"ตลาดสากลหมูเด้งนานาชาติ" ก็ได้ ต่างชาติในอนาคตมาสร้างช่องสร้างตลาดร่วมมาเปิดร้านค้าเสรีชุมชนออนไลน์บนแพลตฟอร์มไทยในนามสากลไม่ห่วงลิขสิทธิต่อชาวโลกก็ได้ ใครมีอะไรมาขายออนไลน์จะชาติไหน เล่นอะไร ขายของไปด้วย เชิญมาใช้บริการที่แพลตฟอร์มไทยฟรีๆเราได้เลย แพลตฟอร์มชื่อ"หมูเด้ง"ก็ว่า.,ชาวโลกมาสร้างงานสร้างรายได้ออนไลน์ร่วมกันทั่วโลกแบ่งปันกันในการทำสัมมาอาชีพจะดีขนาดไหน,แบบติ๊กต๊อกผสมTemuก็ว่า บันเทิงกันในตัวล่ะ,เงินจะสะพัดน่าจะกว่า1,000ล้านล้านบาทสบายๆแน่ๆต่อปีหรือต่อเดือนก็ไม่แน่,ตลาดการค้าสากลเสรีปลอดภาษีระดับโลกสู่ระดับจักรวาลใครจะรู้ "หมูเด้ง" คือโอกาสทำสัมมาอาชีพต่อทุกๆคนบนโลกอย่างเสรียิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขแบ่งปันต่อกันและกันใครจะมาว่า.
    กองทุนแม่ของแผ่นดินไทยเรา,ต้องไปฟื้นฟูกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านกว่า80,000หมู่บ้านเชิงรุกทันที ปรับปรุงระบบใช้สไตล์ร้านสากลสะดวกซื้อผสมผสานคลังสินค้าโลจิสติกในตัวบริการคนในชุมชุมเชื่อมโยงสินค้า&บริการทั่วประเทศ ทุกๆคนไทยคือเจ้าของร้่นค้าตนเองร่วมกันในระบบหุ้นร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน จะต่อยอดตลาดได้สาระพัดทิศทาง,โดรนส่งของก็ได้ในชุมชนตนเมื่อสินค้ามาถึงชุมชน หากไม่สะดวกมารับ ส่งถึงดอยถึงภูกลางป่าได้ รับคำสั่งซื้ออิสระโน้น ทุเรียนภาคใต้ เหนืออีสานอยากทานราคาถูกก็ส่งผ่านสาขาร้านค้ากองทุนหมู่บ้านได้เพราะเป็นคลังโกดังใหญ่ประจำหมู่บ้านก็ได้ ขายสินค้าราคาต่ำกว่าร้านชำทั่วไปอีก คนในชุมชนประหยัดตังด้วยคือจุดขายอีกด้าน รัฐสนับสนุนการพึ่งพาตนเองในชุมชนและเป็นเครือข่ายระดับชาติอีกจะแข็งแกร่งโคตรๆ ตังสะพัดปกติต่อปี40-50ล้านล้านบาททั่วประเทศ แต่ถ้าสิ่งนี้เกิดจริงได้ เม็ดเงินมหาศาลจะหมุนเวียนในชุมชนสังคมไทยเราจริงและถึงระดับชาติด้วยถูกดูดออกจากระบบชุมชนยากมาก สะพัดกว่า100ล้านล้านบาทสบายๆสภาพคล่องกระแสใช้จ่ายโคตรๆหมุนเวียนภายในเลยก็ว่า ขายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ มีคลังยักษ์ใหญ่ระดับชาติจัดส่งรับคำสั่งซื้อได้ สร้างแพลตฟอร์มขายออนไลน์ ไลฟ์สดตลาดออนไลน์เรียลไทม์ชาวบ้านเราได้ด้วย ตลาดก็มี คลังสินค้ากว่า80,000สาขาเจ้าของจริงคนไทยร่วมกันอีก,จะขายจะซื้ออะไรกดสั่งผ่านกองทุนร้านค้าตนเองเป็นคลังส่งคลังเก็บส่วนกลางสินค้าได้หมด ลูกค้ากับคนสวนเจ้าของมาเองขายเองราคาส่งตรงถูกสดปลอดภัยสารเคมีจะล้ำขนาดไหนอีก,สร้างแพลตฟอร์มระดับสากลว่าแอป"ตลาดสากลหมูเด้งนานาชาติ" ก็ได้ ต่างชาติในอนาคตมาสร้างช่องสร้างตลาดร่วมมาเปิดร้านค้าเสรีชุมชนออนไลน์บนแพลตฟอร์มไทยในนามสากลไม่ห่วงลิขสิทธิต่อชาวโลกก็ได้ ใครมีอะไรมาขายออนไลน์จะชาติไหน เล่นอะไร ขายของไปด้วย เชิญมาใช้บริการที่แพลตฟอร์มไทยฟรีๆเราได้เลย แพลตฟอร์มชื่อ"หมูเด้ง"ก็ว่า.,ชาวโลกมาสร้างงานสร้างรายได้ออนไลน์ร่วมกันทั่วโลกแบ่งปันกันในการทำสัมมาอาชีพจะดีขนาดไหน,แบบติ๊กต๊อกผสมTemuก็ว่า บันเทิงกันในตัวล่ะ,เงินจะสะพัดน่าจะกว่า1,000ล้านล้านบาทสบายๆแน่ๆต่อปีหรือต่อเดือนก็ไม่แน่,ตลาดการค้าสากลเสรีปลอดภาษีระดับโลกสู่ระดับจักรวาลใครจะรู้ "หมูเด้ง" คือโอกาสทำสัมมาอาชีพต่อทุกๆคนบนโลกอย่างเสรียิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขแบ่งปันต่อกันและกันใครจะมาว่า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29-09-67/04 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.2

    "นาสรัลเลาะห์" ผู้นำเฮซบอเลาะห์ตายห่าแย้ว! ทำไงดี! อียิวแสบจัด มันเก่งจุงเบย ว๊ายๆ ช่วยตื่นตูมที! กูถามหน่อย "สงครามข่าวสาร" มาเป็นปีปี มีทั้งจริงและหลอก รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากมันเนี่ยแหละ? ดูภาพรวมให้ออก ตะวันออกกลางกำลังจะทำอะไร? ดูสเตปที่ผ่านมาจะเข้าใจเกมส์ สุไลมานีตาย ไรซีตาย ผู้นำฮามาสตาย มา "นาสรัลเลาะห์" ตายต่อ แล้วใครจะตายห่าอีก "คาเมเนอีเหรอ?" ถามคำเดียว สู้กับยิวเหี้ยไซออนนิสต์ แผนลอบฆ่าผู้นำ หน่วยข่าวกรองรู้มาเป็นชาติแล้ว เค้าระวังตัวและรัดกุมมาโดยตลอด ที่มาของแผนสับขาหลอก โยกไปอยู่เบื้องหลัง เอาหุ่นเชิดมาแทน กูเอ๊ะใจตั้งแต่เลือกสถานที่พัก ที่ประชุมแล้ว มันโล่งโจ่งเด่นชัดเกิน โจมตีง่ายปุยมุย? โลกของสงคราม มันซับซ้อนกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ มรึงรู้มั้ยว่า ตัวผู้นำระดับโลกแท้จริง มีตัวโคลนกี่ตัว ทุกชาติต่างมีตัวโคลน เพื่อจัดฉากการตายทั้งนั้น หากอียิ;มันไล่ฆ่าผู้นำที่ผ่านมาได้จริง ป่านนี้ มันชนะศึกไปนานแล้ว ทำไม นานวันยิ่งสู้ ยิ่งตายเกลื่อน ถูกลงแขกยับเยินทุกวัน เพราะอิหร่านใช้ประโยชน์จากแผนซ้อนแผนเนี่ยแหละ มรึงดูรัสเซียก็พอ พอพริโกซินตายปลอมกลายร่างเป็นผีน้อยคิวทาโร่ปุ๊บ ทุกอย่างดูง่ายดาย ผ่านฉลุย ไม่ต้องกังวลเหี้ยอะไรอีก สั่งการตรงได้ ไปไหนมาไหนสะดวกโยธิน กลายเป็นผีตัวจริง แม้แต่เงายังหาไม่เจอ สูตรเดียวกันหมด อิหร่านก็เดินแผนเฉดเช่นเดียวกับ WAGNER กะอีแค่ข่าวยิงถล่มขีปนาวุธใส่ฐานบัญชาการ และเฮซบอเลาะห์ อิหร่าน รีบออกมายื่นยันการเสียชีวิตทันทีก็ชัดแล้ว ทำไมต้องรีบตาย มันคือน้ำมันชั้นดี ที่มีเอาไว้ราดไฟไงล่ะ ไฟที่จะทำให้ชาติมุสลิมรวมตัวต่อกันติดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็โยนบาปให้อียิวเป็นแพะทันที เพราะมันเข้าใจว่ามันคือผู้สั่งหาร พ่วงใบเสร็จชำระแค้นสะดวกโยธินบูรณะ! ถามกลับ ห้องลับมีมุย? ห้องใต้ดินมีมุย? SAFE HOUSE มีกันทุกชาติ ใครเค้าจะบอกมรึงว่ากูอยู่ตรงไหน? ใครให้ข่าว ใครปล่อยข่าวลวง ชี้เป้าให้อียิวถล่ม สายลับ หนอนบ่อนไส้ ก็ถูกหลอกใช้ได้เช่นกัน ตายต้องเห็นศพ เคยเห็นศพ ตัวจริงมั้ยล่ะ มีแต่ภาพข่าว รายการตามกันมาทั้งนั้น ไม่สงสัยกันบ้างเหรอว่า ทำไมมันตายง่าย ตายถี่ ได้เยี่ยงนี้ ผิดปกติไปป่ะ? ก็หมีบอกไปเป็นชาติแล้วว่า "โลกการละคร" บทไม่เนียน โลกก็ไม่เคลื่อนไหวน่ะสิ? สรุปคือ อิหร่านและพันธมิตร กำลังจะใช้ข่าวลวง เพื่อโยกย้ายบุคคลสำคัญลงใต้ดิน(อยู่หลังฉาก)ให้หมด เพื่อง่ายต่อการบัญชาการ ส่งหุ่นเชิดออกหน้าแทน ย้ำว่า "ตัวโคลนมีกันทุกชาติ" มรึงดูอีทรัมปป์ อีเอ๋อ ก็พอ ภาพที่เอามาแฉตามโซเชี่ยล จับพิรุจกันอย่างเมามันส์ กลยุทธเค้ามีไว้สับขาหลอก อ่านง่ายจะเรียกสงครามเหรอ? ดูเกมส์ให้ดูภาพใหญ่ อย่าตามภาพย่อย มรึงจะหลงทาง ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครตาย? แต่อยู่ที่ผลลัพธ์นั้นส่งผลกระทบต่ออะไรต่างหาก? อียิวมันจนตรอกแล้ว มันทำทุกอย่างได้หมดทุกเรื่องที่มวลมนุษยชาติไม่กล้าทำ? ไม่งั้นโลกจะสำเร็จตามแผนขั้วใหม่ที่วางเอาไว้เหรอ โดดเดียวสหรัฐ อังกฤษ NATO อิสราเอล ทุกอย่างมาตามนัดเป๊ะเด๊ะ! สรุปคือจะตายจริง ตายหลอก แต่เป้าหมายโลกอาหรับสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ดึงโลกมาประณามอิสราเอล ดึงโลกมาลงแขกอียิวสลัดหมา ยิวไม่เหลือชิ้นดี กลายเป็นชาติพันธุ์หิวกระหายสงคราม และนั่นยิ่งทำให้ปาเลสไตน์ถูกโลกอุ้มง่ายยิ่งขึ้น ถามจริง? มรึงก็เห็นเต็มตาว่าขีปนาวุธเยเมนไล่ฆ่าเหี้ยไอ้อีที่ว่าแน่ตายห่าหมด แล้วทำไม ไม่รีบเผด็จศึกเยรูซาเล็ม ที่แผ่นดินเท่าเหมี๋ยวดิ้นตายให้จบๆ ไปเลยล่ะ? ระดับโลกเค้าวางแผนหลายชั้น หากจัดการได้ง่ายจริง คงไม่ต้องมาพูดกันให้เยอะในวันนี้ ฆ่ายิวไม่ยาก แต่จะฆ่าเผ่าพันธุ์ทั้งโคตรยิว รวมถึงแหล่งรายได้มันทั้งหมดได้จริง มรึงต้องให้ทั้งโลกร่วมมือกัน นี่คือคีย์ของเรื่องนี้ ไอ้ที่ทำมาทั้งหมด เพื่อให้โลกรวมตัวต่อต้านอียิวเหี้ยเป็นเอกฉันท์ นั่นแหละ มรึงถึงจะชนะสงครามแท้จริง! ขอบอกว่า อิหร่านฉลาดกว่านั้นเยอะ "คาเมเนอี" ก็มีตัวโคลนเช่นกัน ดังนั้น หากจะตายซ้อน ต้องเป็นเรื่องที่พลิกเกมส์เท่านั้น อิหร่านไม่ใช่ควาย ที่ให้อียิวมันมาเจาะง่ายๆ ไม่งั้นตกเป็นเมืองขึ้นยิวนานแล้ว ยังสู้มาได้จนถึงวันนี้ ทีมห้องสีขาว กุนซือ เกจิดัง ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? หากยังไม่ตกผลึกกับสงครามข่าวสาร เชื่อทุกอย่างที่เห็น มรึงก็จะกลายเป็นเหยื่อซะเอง? สติมี ปัญญาเกิด ลองคิดตามหมีดูเอง และพิจารณาด้วยตัวเอง ว่าอะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ภาพรวมเป็นยังไง การกระทำมันฟ้องหมดแล้ว เอาล่ะ? ไม่ต้องสนใจว่าใครจะตายห่าอีก นั่นแค่ผงชูรส แก่นแท้อยู่ที่ อิสราเอลจะสิ้นชาติพันธุ์ได้ยังไง? สิ่งที่อิหร่านทำอยู่ มันคือการเปิดหน้าร่างจริงของอียิวอยู่ และนั่นจะยิ่งให้โลกปฎิเสธยิวมากยิ่งขึ้น จนจำไปสู่การสิ้นชาติ สูญพันธุ์ เปลี่ยนร่างใหม่ ชื่อใหม่ เหมือนที่มันเคยทำมาก่อน ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย? อียิวมันอยู่มาได้เป็น 1000 ปี หากไม่เหี้ยจริง เอาตัวไม่รอดดอก?

    มาตามนัด! คาเมเนอี ได้ที "ปลุกเร้า" ชาวเปอร์เซีย อาหรับ มุสลิม งานนี้ต้องกฐินผ้าป่าชุดใหญ่ ไปพร้อมกันหมดทั้งโลก ลงแขกอียิวจนขี้แตก อย่าให้เหลือแม้แต่ศพ เอาให้ระเหยไปในอากาศสิ้นชาติ สูญพันธุ์ กันไปเลย? บทมันส่งให้ผู้นำแห่งศรัทธา "คาเมเนอี" ชัดเจน! วันนี้ อียิวปล่อยข่าวลวง ว่าชนะ พรุ่งนี้ อียิวตายโหงเพิ่ม พรุ่งนี้ อียิวปล่อยข่าวลอบสังหารเพิ่ม พรุ่งนี้ อียิวถูกขยี้จนหมดทางหนี เรื่องราวมันไม่ไปไหนดอก มันแค่หนังม้วนเดิมที่เล่นปาหี่หลอกควายโลกไปวันวัน จุดเปลี่ยนถึงต้องมี เพราะเค้ารออยู่ ว่าใครจะงัดมินิคุ๊กกี้ใช้ก่อนกัน สงคราม จะวัดกันที่ความได้เปรียบ เสียเปรียบ แผนการที่กดศัตรูอยู่หมัด บีบให้เดินในทางที่ตนวางเอาไว้ต่างหากล่ะ? โลกอาหรับมีเงินเยอะ มีเทคโนโลยีชั้นสูงไม่ต่างจากเหี้ยเลย เพราะกูมีน้ำมัน แก็ส รวยรายวัน ไม่แปลกหากจะลงขันเก็บอียิว มรึงคิดเหรอว่า ข่าวที่รั่วจากเยรูซาเล็มบ่อยครั้ง เป็นเพราะมันมีหนอนบ่อนไส้ภายใน ฮามาส ทำไมชนะศึกกาซ่าราบคาบ เพราะคนในเป็นสายให้ไงล่ะ? เมื่อคนในเป็นสาย ก็สามารถให้ข่าว และปล่อยข่าวได้เช่นกัน อยู่ที่มรึงจะสับขาหลอกยังไง? ขำเอาไว้ว่า การเสียชีวิตของผู้นำ มันไม่มีทางปิดบังกันง่ายดอก หากมรึงแน่ขนาดนั้น มรึงคงทำสำเร็จไปนานแล้ว ไม่ต้องรอมาถึงวันนี้ การรีบให้รายงานการเสียชีวิตทันที มันมิใช่เรื่องปกติของสงครามดอกน่ะ มันง่ายเกินปุยมุย? มรึงยิงปุ๊บ กูตายปั๊บ มรึงประกาศผลงานไม่ทันไร กูชิงประกาศยอมรับซะงั้น เหมือนตั้งใจมาเต็มเหนี่ยว นี่แหละ ที่น่ากลัว! เพราะอียิวไม่มีทางรู้ได้เลยว่า กำลังจะล่อหนักทางไหน? เดาทางยาก นี่สิ คือกลยุทธสงครามปลายเปิด ให้มรึงเดาทางไปจนกว่าเส้นเลือดสมองแตกตาย? คาเมเนอี ไม่ธรรมดาดอกน่ะ ผู้นำจิตวิญญาน เค้าย่อมรู้ดีว่า "อะไรจะเกิดขึ้น และอะไรจะตามมา" ไม่แน่ ไอ้ที่ควายโลกเครียดกันอยู่ อาจจะเป็นแค่ละครฉากนึงที่ทั้ง 2 ฝ่ายจัดฉากขึ้นมา เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างใด อย่างนึงก็ได้ โลกคือละคร บอกแล้ว

    ปล.เกมส์บดขยี้ กำลังอยู่ในช่วงพีค เยเมนซัดขีปนาวุธจมเรือรบเหี้ยมะกัน 3 ลำฉลุย ยิงฝ่าแนวป้องกันภัยถล่มฐานทัพเหี้ยที่ราบสูงโกลานต่ออีก นี่ไง ภาพที่มันจะบ่งบอกว่า อียิวถูกลงแขกอยู่ ภาพที่อียิวไม่อยากให้โลกรู้ความจริง ว่าหลังชนฝาแล้ว สื่อเหี้ยทั้งโลก ตอแหลทุกวันเช้าเย็น ต้นทาง REUTER มั่วข่าวจนมึนซะเอง ลืมไปว่าเมื่อวานพูดอะไรเอาไว้ ไม่ต้องเชื่อใครทั้งนั้น ให้ดูผลลัพธ์ของการกระทำ ให้ดูภาพใหญ่ ว่าโลกเดินไปทางไหน? ใครควบคุมเกมส์อยู่หมัด? ใครสั่งใครได้จริง? เข้าใจหมากเกมส์โลกยัง? ทั้งหมดเพื่อชงให้เกิด WWIII ไงล่ะ? แต่มันเป็นของปลอม เพราะโลกไล่กระทืบเหี้ยฝ่ายเดียว ฝั่งเหี้ยมีแต่คนหนี ฝั่งคนมีแต่คนเข้า มันชนะอยู่แล้ว แค่ทำให้จบขบวนความ และตั้งกติกาโลกกันใหม่ ทุกอย่าง โมเมตั่มไปทางเดียวกันหมด โลกมี BRICS นำหน้าแล้ว เรื่องอียิวกับปาเลสไตน์ มันต้องมีวันจบ มติโลกมาแล้ว สันนิบาตอาหรับมาแล้ว อียิวทำได้แค่ก่อสงครามใหญ่ โดยยั่วยุชาติมุสลิมให้เข้ามาร่วมวง แต่อิหร่านรู้ทัน จัดการเฉพาะพื้นที่ จัดการเฉพาะผู้ขัดแย้งผลประโยชน์ ยังไม่ให้แอฟริกา ลาติน ยุโรป เอเซีย เข้ามายุ่งมากกว่านี้ แค่คอยแบ็คอีพก็พอ? หากถามหมี ว่าแท้จริงแล้ว อิหร่านต้องการยังไง? จะจบยังไง? ตอบได้แค่ว่า "งานนี้ไม่รีบ" เอาถึงตาย ตายแบบไม่มีวันได้ฟื้นขึ้นอีก เอาให้สิ้นชื่อ สูญพันธุ์ ตัวละครลับ เริ่มโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ การตายของผู้นำหลายคน หลายฝ่าย มันมีข้อสงสัยมากจนผิดปกติ ทุกคำตอบย่อมมีคำถาม และทุกคำถามย่อมหาคำตอบได้ ด้วยสติ ปัญญา! อย่าตามเพื่อเชื่อเค้า แต่จงคิดไตร่ตรองด้วยตัวเอง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำ มันเพื่อใคร? ใครได้ประโยชน์สูงสุด? ยังมีแผนสับขาหลอกอีกเยอะ ตราบใดที่สงครามยังไม่แตกหักขั้นสูงสุด ไพ่เด็ดมักจะออกมาตอนท้ายเสมอ อิหร่านยังมีอะไรซ่อนอีกเยอะ อาวุธปรมาณูก็มี ระบบป้องกันภัย S-400 ก็มี SU-35 ก็มีเป็นฝูง ดาวเทียมอัจฉริยะก็มี มาไกลซะขนาดนี้ มรึงคิดว่าอิหร่านจะยอมโง่ตายห่าฟรี แค่ขีปนาวุธกระจอกๆ ลูกนึงเหรอ? ตื่นๆๆๆๆ มันมีเงื่อนงำเสมอ

    หมี CNN(เท็จคือจริง จริงคือเท็จ ไม่มีใครบอกใครได้ แผนซ้อนแผนใช้กันมากในยามสงครามที่ควันตลบอบอวน ยิ่งศัตรูหลงทาง ยิ่งจัดการได้ง่าย ขีปนาวุธอียิว บินรบอียิว มรึงคิดว่าอิหร่านมีด้อยกว่าเหรอไง? บางครั้งแกล้งแพ้บ้าง เพื่ออรรถรส เวลาพลิกกระดานครั้งเดียว เหี้ยตายหมดทั้งหน้าตัก มันเจ็บจี๊ดกว่าเยอะ สงครามดูตอนจบ ใครเค้าดูตอนเริ่มกันล่ะ? ยังอีกยาว ไม่ต้องรีบเครียด ดูให้ขำขำ เหมือนดูละครซีรีย์ไปซะ เดี๋ยวก็ชิน พรุ่งนี้ คาเมเนอีตาย ปูตินตาย สีจิ้นผิงตาย ยิวครองโลก อเมริกาชนะ กู้โลกเน่าสำเร็จ ตื่นซะน่ะ ความจริงมีแค่ 1 เดียว คือพวกมรึงคือ "ไอ้ขี้แพ้" กระจอกของจริง)
    29 กย. 67
    17.47 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172760703303882109
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    29-09-67/04 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.2 "นาสรัลเลาะห์" ผู้นำเฮซบอเลาะห์ตายห่าแย้ว! ทำไงดี! อียิวแสบจัด มันเก่งจุงเบย ว๊ายๆ ช่วยตื่นตูมที! กูถามหน่อย "สงครามข่าวสาร" มาเป็นปีปี มีทั้งจริงและหลอก รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากมันเนี่ยแหละ? ดูภาพรวมให้ออก ตะวันออกกลางกำลังจะทำอะไร? ดูสเตปที่ผ่านมาจะเข้าใจเกมส์ สุไลมานีตาย ไรซีตาย ผู้นำฮามาสตาย มา "นาสรัลเลาะห์" ตายต่อ แล้วใครจะตายห่าอีก "คาเมเนอีเหรอ?" ถามคำเดียว สู้กับยิวเหี้ยไซออนนิสต์ แผนลอบฆ่าผู้นำ หน่วยข่าวกรองรู้มาเป็นชาติแล้ว เค้าระวังตัวและรัดกุมมาโดยตลอด ที่มาของแผนสับขาหลอก โยกไปอยู่เบื้องหลัง เอาหุ่นเชิดมาแทน กูเอ๊ะใจตั้งแต่เลือกสถานที่พัก ที่ประชุมแล้ว มันโล่งโจ่งเด่นชัดเกิน โจมตีง่ายปุยมุย? โลกของสงคราม มันซับซ้อนกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ มรึงรู้มั้ยว่า ตัวผู้นำระดับโลกแท้จริง มีตัวโคลนกี่ตัว ทุกชาติต่างมีตัวโคลน เพื่อจัดฉากการตายทั้งนั้น หากอียิ;มันไล่ฆ่าผู้นำที่ผ่านมาได้จริง ป่านนี้ มันชนะศึกไปนานแล้ว ทำไม นานวันยิ่งสู้ ยิ่งตายเกลื่อน ถูกลงแขกยับเยินทุกวัน เพราะอิหร่านใช้ประโยชน์จากแผนซ้อนแผนเนี่ยแหละ มรึงดูรัสเซียก็พอ พอพริโกซินตายปลอมกลายร่างเป็นผีน้อยคิวทาโร่ปุ๊บ ทุกอย่างดูง่ายดาย ผ่านฉลุย ไม่ต้องกังวลเหี้ยอะไรอีก สั่งการตรงได้ ไปไหนมาไหนสะดวกโยธิน กลายเป็นผีตัวจริง แม้แต่เงายังหาไม่เจอ สูตรเดียวกันหมด อิหร่านก็เดินแผนเฉดเช่นเดียวกับ WAGNER กะอีแค่ข่าวยิงถล่มขีปนาวุธใส่ฐานบัญชาการ และเฮซบอเลาะห์ อิหร่าน รีบออกมายื่นยันการเสียชีวิตทันทีก็ชัดแล้ว ทำไมต้องรีบตาย มันคือน้ำมันชั้นดี ที่มีเอาไว้ราดไฟไงล่ะ ไฟที่จะทำให้ชาติมุสลิมรวมตัวต่อกันติดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็โยนบาปให้อียิวเป็นแพะทันที เพราะมันเข้าใจว่ามันคือผู้สั่งหาร พ่วงใบเสร็จชำระแค้นสะดวกโยธินบูรณะ! ถามกลับ ห้องลับมีมุย? ห้องใต้ดินมีมุย? SAFE HOUSE มีกันทุกชาติ ใครเค้าจะบอกมรึงว่ากูอยู่ตรงไหน? ใครให้ข่าว ใครปล่อยข่าวลวง ชี้เป้าให้อียิวถล่ม สายลับ หนอนบ่อนไส้ ก็ถูกหลอกใช้ได้เช่นกัน ตายต้องเห็นศพ เคยเห็นศพ ตัวจริงมั้ยล่ะ มีแต่ภาพข่าว รายการตามกันมาทั้งนั้น ไม่สงสัยกันบ้างเหรอว่า ทำไมมันตายง่าย ตายถี่ ได้เยี่ยงนี้ ผิดปกติไปป่ะ? ก็หมีบอกไปเป็นชาติแล้วว่า "โลกการละคร" บทไม่เนียน โลกก็ไม่เคลื่อนไหวน่ะสิ? สรุปคือ อิหร่านและพันธมิตร กำลังจะใช้ข่าวลวง เพื่อโยกย้ายบุคคลสำคัญลงใต้ดิน(อยู่หลังฉาก)ให้หมด เพื่อง่ายต่อการบัญชาการ ส่งหุ่นเชิดออกหน้าแทน ย้ำว่า "ตัวโคลนมีกันทุกชาติ" มรึงดูอีทรัมปป์ อีเอ๋อ ก็พอ ภาพที่เอามาแฉตามโซเชี่ยล จับพิรุจกันอย่างเมามันส์ กลยุทธเค้ามีไว้สับขาหลอก อ่านง่ายจะเรียกสงครามเหรอ? ดูเกมส์ให้ดูภาพใหญ่ อย่าตามภาพย่อย มรึงจะหลงทาง ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครตาย? แต่อยู่ที่ผลลัพธ์นั้นส่งผลกระทบต่ออะไรต่างหาก? อียิวมันจนตรอกแล้ว มันทำทุกอย่างได้หมดทุกเรื่องที่มวลมนุษยชาติไม่กล้าทำ? ไม่งั้นโลกจะสำเร็จตามแผนขั้วใหม่ที่วางเอาไว้เหรอ โดดเดียวสหรัฐ อังกฤษ NATO อิสราเอล ทุกอย่างมาตามนัดเป๊ะเด๊ะ! สรุปคือจะตายจริง ตายหลอก แต่เป้าหมายโลกอาหรับสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ดึงโลกมาประณามอิสราเอล ดึงโลกมาลงแขกอียิวสลัดหมา ยิวไม่เหลือชิ้นดี กลายเป็นชาติพันธุ์หิวกระหายสงคราม และนั่นยิ่งทำให้ปาเลสไตน์ถูกโลกอุ้มง่ายยิ่งขึ้น ถามจริง? มรึงก็เห็นเต็มตาว่าขีปนาวุธเยเมนไล่ฆ่าเหี้ยไอ้อีที่ว่าแน่ตายห่าหมด แล้วทำไม ไม่รีบเผด็จศึกเยรูซาเล็ม ที่แผ่นดินเท่าเหมี๋ยวดิ้นตายให้จบๆ ไปเลยล่ะ? ระดับโลกเค้าวางแผนหลายชั้น หากจัดการได้ง่ายจริง คงไม่ต้องมาพูดกันให้เยอะในวันนี้ ฆ่ายิวไม่ยาก แต่จะฆ่าเผ่าพันธุ์ทั้งโคตรยิว รวมถึงแหล่งรายได้มันทั้งหมดได้จริง มรึงต้องให้ทั้งโลกร่วมมือกัน นี่คือคีย์ของเรื่องนี้ ไอ้ที่ทำมาทั้งหมด เพื่อให้โลกรวมตัวต่อต้านอียิวเหี้ยเป็นเอกฉันท์ นั่นแหละ มรึงถึงจะชนะสงครามแท้จริง! ขอบอกว่า อิหร่านฉลาดกว่านั้นเยอะ "คาเมเนอี" ก็มีตัวโคลนเช่นกัน ดังนั้น หากจะตายซ้อน ต้องเป็นเรื่องที่พลิกเกมส์เท่านั้น อิหร่านไม่ใช่ควาย ที่ให้อียิวมันมาเจาะง่ายๆ ไม่งั้นตกเป็นเมืองขึ้นยิวนานแล้ว ยังสู้มาได้จนถึงวันนี้ ทีมห้องสีขาว กุนซือ เกจิดัง ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? หากยังไม่ตกผลึกกับสงครามข่าวสาร เชื่อทุกอย่างที่เห็น มรึงก็จะกลายเป็นเหยื่อซะเอง? สติมี ปัญญาเกิด ลองคิดตามหมีดูเอง และพิจารณาด้วยตัวเอง ว่าอะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ภาพรวมเป็นยังไง การกระทำมันฟ้องหมดแล้ว เอาล่ะ? ไม่ต้องสนใจว่าใครจะตายห่าอีก นั่นแค่ผงชูรส แก่นแท้อยู่ที่ อิสราเอลจะสิ้นชาติพันธุ์ได้ยังไง? สิ่งที่อิหร่านทำอยู่ มันคือการเปิดหน้าร่างจริงของอียิวอยู่ และนั่นจะยิ่งให้โลกปฎิเสธยิวมากยิ่งขึ้น จนจำไปสู่การสิ้นชาติ สูญพันธุ์ เปลี่ยนร่างใหม่ ชื่อใหม่ เหมือนที่มันเคยทำมาก่อน ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย? อียิวมันอยู่มาได้เป็น 1000 ปี หากไม่เหี้ยจริง เอาตัวไม่รอดดอก? มาตามนัด! คาเมเนอี ได้ที "ปลุกเร้า" ชาวเปอร์เซีย อาหรับ มุสลิม งานนี้ต้องกฐินผ้าป่าชุดใหญ่ ไปพร้อมกันหมดทั้งโลก ลงแขกอียิวจนขี้แตก อย่าให้เหลือแม้แต่ศพ เอาให้ระเหยไปในอากาศสิ้นชาติ สูญพันธุ์ กันไปเลย? บทมันส่งให้ผู้นำแห่งศรัทธา "คาเมเนอี" ชัดเจน! วันนี้ อียิวปล่อยข่าวลวง ว่าชนะ พรุ่งนี้ อียิวตายโหงเพิ่ม พรุ่งนี้ อียิวปล่อยข่าวลอบสังหารเพิ่ม พรุ่งนี้ อียิวถูกขยี้จนหมดทางหนี เรื่องราวมันไม่ไปไหนดอก มันแค่หนังม้วนเดิมที่เล่นปาหี่หลอกควายโลกไปวันวัน จุดเปลี่ยนถึงต้องมี เพราะเค้ารออยู่ ว่าใครจะงัดมินิคุ๊กกี้ใช้ก่อนกัน สงคราม จะวัดกันที่ความได้เปรียบ เสียเปรียบ แผนการที่กดศัตรูอยู่หมัด บีบให้เดินในทางที่ตนวางเอาไว้ต่างหากล่ะ? โลกอาหรับมีเงินเยอะ มีเทคโนโลยีชั้นสูงไม่ต่างจากเหี้ยเลย เพราะกูมีน้ำมัน แก็ส รวยรายวัน ไม่แปลกหากจะลงขันเก็บอียิว มรึงคิดเหรอว่า ข่าวที่รั่วจากเยรูซาเล็มบ่อยครั้ง เป็นเพราะมันมีหนอนบ่อนไส้ภายใน ฮามาส ทำไมชนะศึกกาซ่าราบคาบ เพราะคนในเป็นสายให้ไงล่ะ? เมื่อคนในเป็นสาย ก็สามารถให้ข่าว และปล่อยข่าวได้เช่นกัน อยู่ที่มรึงจะสับขาหลอกยังไง? ขำเอาไว้ว่า การเสียชีวิตของผู้นำ มันไม่มีทางปิดบังกันง่ายดอก หากมรึงแน่ขนาดนั้น มรึงคงทำสำเร็จไปนานแล้ว ไม่ต้องรอมาถึงวันนี้ การรีบให้รายงานการเสียชีวิตทันที มันมิใช่เรื่องปกติของสงครามดอกน่ะ มันง่ายเกินปุยมุย? มรึงยิงปุ๊บ กูตายปั๊บ มรึงประกาศผลงานไม่ทันไร กูชิงประกาศยอมรับซะงั้น เหมือนตั้งใจมาเต็มเหนี่ยว นี่แหละ ที่น่ากลัว! เพราะอียิวไม่มีทางรู้ได้เลยว่า กำลังจะล่อหนักทางไหน? เดาทางยาก นี่สิ คือกลยุทธสงครามปลายเปิด ให้มรึงเดาทางไปจนกว่าเส้นเลือดสมองแตกตาย? คาเมเนอี ไม่ธรรมดาดอกน่ะ ผู้นำจิตวิญญาน เค้าย่อมรู้ดีว่า "อะไรจะเกิดขึ้น และอะไรจะตามมา" ไม่แน่ ไอ้ที่ควายโลกเครียดกันอยู่ อาจจะเป็นแค่ละครฉากนึงที่ทั้ง 2 ฝ่ายจัดฉากขึ้นมา เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างใด อย่างนึงก็ได้ โลกคือละคร บอกแล้ว ปล.เกมส์บดขยี้ กำลังอยู่ในช่วงพีค เยเมนซัดขีปนาวุธจมเรือรบเหี้ยมะกัน 3 ลำฉลุย ยิงฝ่าแนวป้องกันภัยถล่มฐานทัพเหี้ยที่ราบสูงโกลานต่ออีก นี่ไง ภาพที่มันจะบ่งบอกว่า อียิวถูกลงแขกอยู่ ภาพที่อียิวไม่อยากให้โลกรู้ความจริง ว่าหลังชนฝาแล้ว สื่อเหี้ยทั้งโลก ตอแหลทุกวันเช้าเย็น ต้นทาง REUTER มั่วข่าวจนมึนซะเอง ลืมไปว่าเมื่อวานพูดอะไรเอาไว้ ไม่ต้องเชื่อใครทั้งนั้น ให้ดูผลลัพธ์ของการกระทำ ให้ดูภาพใหญ่ ว่าโลกเดินไปทางไหน? ใครควบคุมเกมส์อยู่หมัด? ใครสั่งใครได้จริง? เข้าใจหมากเกมส์โลกยัง? ทั้งหมดเพื่อชงให้เกิด WWIII ไงล่ะ? แต่มันเป็นของปลอม เพราะโลกไล่กระทืบเหี้ยฝ่ายเดียว ฝั่งเหี้ยมีแต่คนหนี ฝั่งคนมีแต่คนเข้า มันชนะอยู่แล้ว แค่ทำให้จบขบวนความ และตั้งกติกาโลกกันใหม่ ทุกอย่าง โมเมตั่มไปทางเดียวกันหมด โลกมี BRICS นำหน้าแล้ว เรื่องอียิวกับปาเลสไตน์ มันต้องมีวันจบ มติโลกมาแล้ว สันนิบาตอาหรับมาแล้ว อียิวทำได้แค่ก่อสงครามใหญ่ โดยยั่วยุชาติมุสลิมให้เข้ามาร่วมวง แต่อิหร่านรู้ทัน จัดการเฉพาะพื้นที่ จัดการเฉพาะผู้ขัดแย้งผลประโยชน์ ยังไม่ให้แอฟริกา ลาติน ยุโรป เอเซีย เข้ามายุ่งมากกว่านี้ แค่คอยแบ็คอีพก็พอ? หากถามหมี ว่าแท้จริงแล้ว อิหร่านต้องการยังไง? จะจบยังไง? ตอบได้แค่ว่า "งานนี้ไม่รีบ" เอาถึงตาย ตายแบบไม่มีวันได้ฟื้นขึ้นอีก เอาให้สิ้นชื่อ สูญพันธุ์ ตัวละครลับ เริ่มโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ การตายของผู้นำหลายคน หลายฝ่าย มันมีข้อสงสัยมากจนผิดปกติ ทุกคำตอบย่อมมีคำถาม และทุกคำถามย่อมหาคำตอบได้ ด้วยสติ ปัญญา! อย่าตามเพื่อเชื่อเค้า แต่จงคิดไตร่ตรองด้วยตัวเอง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำ มันเพื่อใคร? ใครได้ประโยชน์สูงสุด? ยังมีแผนสับขาหลอกอีกเยอะ ตราบใดที่สงครามยังไม่แตกหักขั้นสูงสุด ไพ่เด็ดมักจะออกมาตอนท้ายเสมอ อิหร่านยังมีอะไรซ่อนอีกเยอะ อาวุธปรมาณูก็มี ระบบป้องกันภัย S-400 ก็มี SU-35 ก็มีเป็นฝูง ดาวเทียมอัจฉริยะก็มี มาไกลซะขนาดนี้ มรึงคิดว่าอิหร่านจะยอมโง่ตายห่าฟรี แค่ขีปนาวุธกระจอกๆ ลูกนึงเหรอ? ตื่นๆๆๆๆ มันมีเงื่อนงำเสมอ หมี CNN(เท็จคือจริง จริงคือเท็จ ไม่มีใครบอกใครได้ แผนซ้อนแผนใช้กันมากในยามสงครามที่ควันตลบอบอวน ยิ่งศัตรูหลงทาง ยิ่งจัดการได้ง่าย ขีปนาวุธอียิว บินรบอียิว มรึงคิดว่าอิหร่านมีด้อยกว่าเหรอไง? บางครั้งแกล้งแพ้บ้าง เพื่ออรรถรส เวลาพลิกกระดานครั้งเดียว เหี้ยตายหมดทั้งหน้าตัก มันเจ็บจี๊ดกว่าเยอะ สงครามดูตอนจบ ใครเค้าดูตอนเริ่มกันล่ะ? ยังอีกยาว ไม่ต้องรีบเครียด ดูให้ขำขำ เหมือนดูละครซีรีย์ไปซะ เดี๋ยวก็ชิน พรุ่งนี้ คาเมเนอีตาย ปูตินตาย สีจิ้นผิงตาย ยิวครองโลก อเมริกาชนะ กู้โลกเน่าสำเร็จ ตื่นซะน่ะ ความจริงมีแค่ 1 เดียว คือพวกมรึงคือ "ไอ้ขี้แพ้" กระจอกของจริง) 29 กย. 67 17.47 น. https://linevoom.line.me/post/1172760703303882109 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#เบื้องหลังทำไมชววอินเดียมีหลากสีผิว ตอน 02.🤠

    🤯3. ภายใต้การปกครองอาณานิคมของอังกฤษ🤯

    ในศตวรรษที่ 17 อินเดียได้รับการสนับสนุนจากชาวอังกฤษผิวขาว

    บริเตนเคยเป็นที่รู้จักในนามจักรวรรดิที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เพราะกษัตริย์พระองค์หนึ่งของเขาตรัสว่า ที่ใดดวงอาทิตย์ส่องแสงไปถึง ที่นั่นก็มีที่ดินอยู่ภายใต้เขตอำนาจของอังกฤษ

    โดยผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกและการปฏิรูปสังคม สหราชอาณาจักรเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเริ่มขยายอาณานิคมไปทั่วโลก

    การขับเคลื่อนเป็นพลังช่วยด้วยสถานะระหว่างประเทศที่เข้มแข็งและการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก อังกฤษเปิดฉากสงครามกับอินเดียครั้งแรกในปี ค.ศ. 1757 ด้วยการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารขั้นสูงและติดสินบนเจ้าหน้าที่อินเดียด้วยเงินจำนวนมาก อังกฤษจึงเข้ายึดครองแคว้นเบงกอลของอินเดียโดยใช้กองกำลังจำนวนน้อยมาก

    แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศอารยธรรมโบราณ แต่อยู่ในภาวะแบ่งแยกมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยมีประเทศเล็กๆ จำนวนมากอยู่ภายในขอบเขตของตน ประเทศเล็กๆ เหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการปกครองอย่างเป็นอิสระ และสงครามก็ปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถรวมพลังเป็นเอกภาพได้เลย

    หลังจากที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษเข้าสู่อินเดีย ต่างจากชาวอารยันผู้โหดร้ายรุนแรง ไม่มีการเร่งรีบที่จะรวมชาวอินเดียเข้าด้วยกัน พวกเขากลับไปเยือนประเทศต่างๆ ด้วยทัศนคติที่เป็นมิตร และใช้เส้นทางวิธีแห่งการติดสินบน การแบ่งแยก และการโจมตี

    ในตอนแรกพวกเขาสร้างพันธมิตรกับกองกำลังอินเดียที่ทรงอำนาจมากกว่า จากนั้นเอาชนะกองกำลังอินเดียที่อ่อนแอกว่า และยังคงสร้างความขัดแย้งเพื่อให้กองกำลังอินเดียในท้องถิ่นโจมตีกันเอง ในขณะเดียวกันก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ตามไปด้วยไปด้วย

    ภายใต้ระบบวรรณะดั้งเดิมของอินเดีย ผู้คนในวรรณะ ศูทร จะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นทหาร ส่งผลให้อินเดียมีกำลังทหารที่อ่อนแอ

    เพื่อเสริมสร้างการปกครองทางทหารในอินเดีย อังกฤษได้ยกเว้นและรวมคนวรรณะ ศูทร เหล่านี้เข้าในกองทัพ เพื่อเพิ่มขนาดของกองทัพ ด้วยความแข็งแกร่งทางศักยภาพการทหารที่เข้มแข็งและวิถีทางทางการเมืองที่ยืดหยุ่น โดยมีบริษัทอินเดียตะวันออกเป็นกำลังหลัก จึงค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปในหลายภูมิภาคในอินเดีย

    จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1858 สหราชอาณาจักรได้จำแนกอินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์ ซึ่งใช้เวลาเกือบร้อยปี

    การปกครองอาณานิคมของอังกฤษในอินเดียมีไว้เพื่อพัฒนาทรัพยากรในท้องถิ่นและอำนวยความสะดวกทางการค้าเท่านั้น พวกเขาไม่ต้องการให้ความรู้แก่ประชาชน และไม่ต้องการครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ พวกเขาเพียงแค่สร้างระบบบางอย่างและสร้างสภาพแวดล้อมการค้าขายที่มีคุณภาพสูง

    เนื่องจากอินเดียถูกปกครองโดยชาวอารยัน และจากนั้นก็ถูกพิชิตและปกครองโดยชาวกรีกและมองโกลที่มีอำนาจอย่างต่อเนื่อง กระดูกสันหลังรากเหง้าของชาติเผ่าพันธุ์ถูกทำลายไปนานแล้ว โดยได้ปรับตัวให้เข้ากับการปกครองของอังกฤษอย่างรวดเร็วและไม่มีความรู้สึกต่อต้านเลย

    รวมทั้งเมื่อประกอบกับศาสนาที่หลากหลาย พวกเขาเผยแพร่ลัทธิเวรกรรมของการกลับชาติมาเกิด ทำให้ผู้คนสามารถอดทนต่อความทุกข์ทรมานของชีวิตนี้ได้อย่างมีสติ และตั้งตารอชีวิตที่ไร้สาระและมีความสุขในชีวิตหน้า ผู้คนถูกผูกมัดความคิดที่ต่อต้านจากภายนอกด้วยศาสนาเอาไว้ และไม่สนใจการเมืองที่เป็นอยู่ในมือ ซึ่งก็ไม่ต้องพูดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจเลย

    คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียมาจากวรรณะบน และพวกเขามีความเคารพอย่างลึกซึ้งและการเชื่อฟังต่อชาวอังกฤษซึ่งเป็นคนผิวขาวเช่นกัน

    อังกฤษปกครองอินเดียโดยได้รับเครื่องเทศ ยางไม้ น้ำตาล และทรัพยากรอื่นๆ จากอินเดียอย่างง่ายดายและต่อเนื่อง ต่อมาพวกเขาได้พัฒนาอินเดียให้เป็นอุตสาหกรรมและได้รับทรัพยากรทางอุตสาหกรรมจำนวนมาก

    🤯4. จำนวนคนผิวขาวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง🤯

    ด้วยการปกครองของอังกฤษในอินเดียคนผิวขาวเข้ามาในประเทศอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของคนผิวขาวและเพิ่มการบูรณาการทางเชื้อชาติ

    อาณานิคมของอังกฤษตระหนักดีถึงระบบเชื้อชาติของอินเดีย ซึ่งเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ละเลยซึ่งกันและกัน และความมั่งคั่งและเสียงส่วนใหญ่อยู่ในมือของคนที่มีวรรณะสูง ตราบใดที่วรรณะบนสนับสนุนการปกครองของตน วรรณะอื่นๆ ก็จะปฏิบัติตาม

    ดังนั้น ในระหว่างการปกครองในอินเดีย ชาวอังกฤษจึงให้การปฏิบัติอันเป็นที่ชื่นชอบแก่คนวรรณะสูงมากมาย และสร้างพันธมิตรที่เป็นมิตรกับพวกเขา

    เพื่อแสดงความเคารพต่อคนวรรณะสูงของอังกฤษ เจ้าหน้าที่อาวุโสของอังกฤษบางคนจะแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียวรรณะสูงเป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้จึงบรรลุความร่วมมือกับวรรณะบนและบรรลุผลประโยชน์ที่มากขึ้น

    คนอังกฤษซึ่งฐานะเป็นผู้ปกครองหลังจากเข้าสู่อินเดียจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มวรรณะสูงโดยอัตโนมัติ ผู้สูงศักดิ์อินเดียก็มีความยินดีที่ได้แต่งงานกับพวกเขาเช่นกัน การแต่งงานระหว่างเจ้าหน้าที่อังกฤษและผู้สูงศักดิ์อินเดียในลักษณะนี้ ส่วนผสมของเลือดของชาวอินเดียมีเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มการผสมผสานระหว่างสายเลือดของชาวอินเดียอย่างมาก และยังช่วยยกสถานะของอินเดียนผิวขาวด้วย

    นักธุรกิจชาวอังกฤษผู้มีอิทธิพลบางคนเห็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและชีวิตความเป็นอยู่ พวกเขาจึงปฏิบัติทำตามและแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียในท้องถิ่นและมีลูกหลาน

    นอกจากนี้ยังมีชาวอังกฤษบางคนที่อาศัยสถานะของตนในฐานะชาวอาณานิคมมีชีวิตในอินเดียแย่มาก จะเลี้ยงดูผู้หญิงอินเดียที่สวยงามไว้บางคน

    แม้ว่าชาวอังกฤษจะเป็นคนผิวขาวเช่นกัน แต่ไม่เหมือนชาวอารยันซึ่งมีความรู้สึกที่แข็งแกร่งเข้มงวดในเรื่องของสายเลือด มองการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการทรยศชั่วร้าย ในทางตรงกันข้าม รู้สึกว่าการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมแบบหนึ่ง

    ในช่วง 200 ปีแห่งการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ ชาวอินเดียยังคงผสมกันในสายเลือดกับชาวอังกฤษผิวขาวอยู่ไม่ขาด และเด็กผสมเชื้อชาติผิวขาวจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น

    อินเดียได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศตะวันตก สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าชาวอินเดียมีสายเลือดคนผิวขาวอยู่ในร่างกาย จึงมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพวกเขา

    เนื่องจากมีเชื้อสายยุโรปจึงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างชาวอินเดียกับผู้คนจากประเทศในเอเชียตะวันออก แม้ว่าผมของพวกเขาจะเป็นสีดำ แต่ใบหน้าของพวกเขามีมิติมากกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นสันจมูกตรงและตาโต

    บางครั้งเมื่อคุณเห็นคนผิวขาวในอินเดีย คุณอาจคิดว่าพวกเขาเป็นคนยุโรป แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นเพียงอินเดียวรรณะพราหมณ์และกษัตริย์ที่มีผิวขาวเท่านั้น

    แต่ไม่ใช่ว่าคนผิวขาวทุกคนจะมีวรรณะสูง เด็กลูกผสมบางคนเกิดจากคู่รักชาวอังกฤษและอินเดีย แม้ว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นคนผิวขาว แต่ก็เป็นเพียงลูกนอกสมรสชนชั้นต่ำเท่านั้น

    เด็กเชื้อชาติผสมผิวขาววรรณะต่ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่มีสิทธิในการรับมรดกตามกฎหมาย แต่ยังถูกเลือกปฏิบัติในสังคมด้วย เนื่องจากการศึกษาที่พวกเขาได้รับแตกต่างจากการศึกษาในท้องถิ่น

    เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง อินเดียประกาศอิสรภาพ และอังกฤษก็ถอนตัวออกจากอินเดีย เด็กอินเดียผิวขาวที่เหลือไม่สามารถกลับไปอังกฤษเพื่อมีอัตลักษณ์ของอังกฤษได้ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมอินเดียซึ่งมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เข้มแข็ง มาเป็นแพะรับบาปให้กับอินเดียเพื่อระบายความอัปยศอดสูและความสิ้นหวังในประวัติศาสตร์ของตัวเอง

    โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลมีชีวิตอกำเนิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ที่ทอดยาวไหลไปข้างหน้า การแลกเปลี่ยนและการบูรณาการระหว่างเชื้อชาติไม่เพียงแต่มีด้านที่โหดร้ายเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความมั่งคั่งร่ำรวยและความหลากหลายของอารยธรรมอีกด้วย

    ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติรวมเป็นเอกภาพซึ่งคนผิวเหลือง คนผิวดำ และคนผิวขาวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจะไปที่นั่นเพื่อพัฒนา

    เมื่อเดินไปตามถนนหนทางจะไม่มีใครรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคนผิวสีต่างๆอีกต่อไป

    แม้ว่าด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียยังคงมีสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีแต่ผู้คนกลับไม่มองว่าสีผิวเป็นสิ่งซึ่งใช้ในการโอ่อวดอีกต่อไป

    ด้วยความก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องของอารยธรรม ประเพณีพื้นบ้านมีความเป็นอารยะมากขึ้น และทุกคนก็มีสติสัมปชัญญะสำนึกในเหตุผลมากขึ้นพวกเขาไม่ตัดสินคนจากสีผิวอีกต่อไป ผู้คนทุกสีผิวจะต้องทำงานหนักเพื่อที่จะกลายเป็นชนชั้นสูงของสังคม

    ต้องรู้ว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันและไม่สามารถแยกแยะตามสีผิว ชาติพันธุ์ เพศ หรือความเชื่อได้ ควรปฏิบัติต่อทุกสิ่งด้วยทัศนคติที่ไม่แบ่งแยก

    🥳โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#เบื้องหลังทำไมชววอินเดียมีหลากสีผิว ตอน 02.🤠 🤯3. ภายใต้การปกครองอาณานิคมของอังกฤษ🤯 ในศตวรรษที่ 17 อินเดียได้รับการสนับสนุนจากชาวอังกฤษผิวขาว บริเตนเคยเป็นที่รู้จักในนามจักรวรรดิที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เพราะกษัตริย์พระองค์หนึ่งของเขาตรัสว่า ที่ใดดวงอาทิตย์ส่องแสงไปถึง ที่นั่นก็มีที่ดินอยู่ภายใต้เขตอำนาจของอังกฤษ โดยผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกและการปฏิรูปสังคม สหราชอาณาจักรเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเริ่มขยายอาณานิคมไปทั่วโลก การขับเคลื่อนเป็นพลังช่วยด้วยสถานะระหว่างประเทศที่เข้มแข็งและการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก อังกฤษเปิดฉากสงครามกับอินเดียครั้งแรกในปี ค.ศ. 1757 ด้วยการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารขั้นสูงและติดสินบนเจ้าหน้าที่อินเดียด้วยเงินจำนวนมาก อังกฤษจึงเข้ายึดครองแคว้นเบงกอลของอินเดียโดยใช้กองกำลังจำนวนน้อยมาก แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศอารยธรรมโบราณ แต่อยู่ในภาวะแบ่งแยกมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยมีประเทศเล็กๆ จำนวนมากอยู่ภายในขอบเขตของตน ประเทศเล็กๆ เหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการปกครองอย่างเป็นอิสระ และสงครามก็ปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถรวมพลังเป็นเอกภาพได้เลย หลังจากที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษเข้าสู่อินเดีย ต่างจากชาวอารยันผู้โหดร้ายรุนแรง ไม่มีการเร่งรีบที่จะรวมชาวอินเดียเข้าด้วยกัน พวกเขากลับไปเยือนประเทศต่างๆ ด้วยทัศนคติที่เป็นมิตร และใช้เส้นทางวิธีแห่งการติดสินบน การแบ่งแยก และการโจมตี ในตอนแรกพวกเขาสร้างพันธมิตรกับกองกำลังอินเดียที่ทรงอำนาจมากกว่า จากนั้นเอาชนะกองกำลังอินเดียที่อ่อนแอกว่า และยังคงสร้างความขัดแย้งเพื่อให้กองกำลังอินเดียในท้องถิ่นโจมตีกันเอง ในขณะเดียวกันก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ตามไปด้วยไปด้วย ภายใต้ระบบวรรณะดั้งเดิมของอินเดีย ผู้คนในวรรณะ ศูทร จะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นทหาร ส่งผลให้อินเดียมีกำลังทหารที่อ่อนแอ เพื่อเสริมสร้างการปกครองทางทหารในอินเดีย อังกฤษได้ยกเว้นและรวมคนวรรณะ ศูทร เหล่านี้เข้าในกองทัพ เพื่อเพิ่มขนาดของกองทัพ ด้วยความแข็งแกร่งทางศักยภาพการทหารที่เข้มแข็งและวิถีทางทางการเมืองที่ยืดหยุ่น โดยมีบริษัทอินเดียตะวันออกเป็นกำลังหลัก จึงค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปในหลายภูมิภาคในอินเดีย จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1858 สหราชอาณาจักรได้จำแนกอินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์ ซึ่งใช้เวลาเกือบร้อยปี การปกครองอาณานิคมของอังกฤษในอินเดียมีไว้เพื่อพัฒนาทรัพยากรในท้องถิ่นและอำนวยความสะดวกทางการค้าเท่านั้น พวกเขาไม่ต้องการให้ความรู้แก่ประชาชน และไม่ต้องการครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ พวกเขาเพียงแค่สร้างระบบบางอย่างและสร้างสภาพแวดล้อมการค้าขายที่มีคุณภาพสูง เนื่องจากอินเดียถูกปกครองโดยชาวอารยัน และจากนั้นก็ถูกพิชิตและปกครองโดยชาวกรีกและมองโกลที่มีอำนาจอย่างต่อเนื่อง กระดูกสันหลังรากเหง้าของชาติเผ่าพันธุ์ถูกทำลายไปนานแล้ว โดยได้ปรับตัวให้เข้ากับการปกครองของอังกฤษอย่างรวดเร็วและไม่มีความรู้สึกต่อต้านเลย รวมทั้งเมื่อประกอบกับศาสนาที่หลากหลาย พวกเขาเผยแพร่ลัทธิเวรกรรมของการกลับชาติมาเกิด ทำให้ผู้คนสามารถอดทนต่อความทุกข์ทรมานของชีวิตนี้ได้อย่างมีสติ และตั้งตารอชีวิตที่ไร้สาระและมีความสุขในชีวิตหน้า ผู้คนถูกผูกมัดความคิดที่ต่อต้านจากภายนอกด้วยศาสนาเอาไว้ และไม่สนใจการเมืองที่เป็นอยู่ในมือ ซึ่งก็ไม่ต้องพูดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจเลย คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียมาจากวรรณะบน และพวกเขามีความเคารพอย่างลึกซึ้งและการเชื่อฟังต่อชาวอังกฤษซึ่งเป็นคนผิวขาวเช่นกัน อังกฤษปกครองอินเดียโดยได้รับเครื่องเทศ ยางไม้ น้ำตาล และทรัพยากรอื่นๆ จากอินเดียอย่างง่ายดายและต่อเนื่อง ต่อมาพวกเขาได้พัฒนาอินเดียให้เป็นอุตสาหกรรมและได้รับทรัพยากรทางอุตสาหกรรมจำนวนมาก 🤯4. จำนวนคนผิวขาวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง🤯 ด้วยการปกครองของอังกฤษในอินเดียคนผิวขาวเข้ามาในประเทศอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของคนผิวขาวและเพิ่มการบูรณาการทางเชื้อชาติ อาณานิคมของอังกฤษตระหนักดีถึงระบบเชื้อชาติของอินเดีย ซึ่งเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ละเลยซึ่งกันและกัน และความมั่งคั่งและเสียงส่วนใหญ่อยู่ในมือของคนที่มีวรรณะสูง ตราบใดที่วรรณะบนสนับสนุนการปกครองของตน วรรณะอื่นๆ ก็จะปฏิบัติตาม ดังนั้น ในระหว่างการปกครองในอินเดีย ชาวอังกฤษจึงให้การปฏิบัติอันเป็นที่ชื่นชอบแก่คนวรรณะสูงมากมาย และสร้างพันธมิตรที่เป็นมิตรกับพวกเขา เพื่อแสดงความเคารพต่อคนวรรณะสูงของอังกฤษ เจ้าหน้าที่อาวุโสของอังกฤษบางคนจะแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียวรรณะสูงเป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้จึงบรรลุความร่วมมือกับวรรณะบนและบรรลุผลประโยชน์ที่มากขึ้น คนอังกฤษซึ่งฐานะเป็นผู้ปกครองหลังจากเข้าสู่อินเดียจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มวรรณะสูงโดยอัตโนมัติ ผู้สูงศักดิ์อินเดียก็มีความยินดีที่ได้แต่งงานกับพวกเขาเช่นกัน การแต่งงานระหว่างเจ้าหน้าที่อังกฤษและผู้สูงศักดิ์อินเดียในลักษณะนี้ ส่วนผสมของเลือดของชาวอินเดียมีเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มการผสมผสานระหว่างสายเลือดของชาวอินเดียอย่างมาก และยังช่วยยกสถานะของอินเดียนผิวขาวด้วย นักธุรกิจชาวอังกฤษผู้มีอิทธิพลบางคนเห็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและชีวิตความเป็นอยู่ พวกเขาจึงปฏิบัติทำตามและแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียในท้องถิ่นและมีลูกหลาน นอกจากนี้ยังมีชาวอังกฤษบางคนที่อาศัยสถานะของตนในฐานะชาวอาณานิคมมีชีวิตในอินเดียแย่มาก จะเลี้ยงดูผู้หญิงอินเดียที่สวยงามไว้บางคน แม้ว่าชาวอังกฤษจะเป็นคนผิวขาวเช่นกัน แต่ไม่เหมือนชาวอารยันซึ่งมีความรู้สึกที่แข็งแกร่งเข้มงวดในเรื่องของสายเลือด มองการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการทรยศชั่วร้าย ในทางตรงกันข้าม รู้สึกว่าการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมแบบหนึ่ง ในช่วง 200 ปีแห่งการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ ชาวอินเดียยังคงผสมกันในสายเลือดกับชาวอังกฤษผิวขาวอยู่ไม่ขาด และเด็กผสมเชื้อชาติผิวขาวจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น อินเดียได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศตะวันตก สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าชาวอินเดียมีสายเลือดคนผิวขาวอยู่ในร่างกาย จึงมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพวกเขา เนื่องจากมีเชื้อสายยุโรปจึงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างชาวอินเดียกับผู้คนจากประเทศในเอเชียตะวันออก แม้ว่าผมของพวกเขาจะเป็นสีดำ แต่ใบหน้าของพวกเขามีมิติมากกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นสันจมูกตรงและตาโต บางครั้งเมื่อคุณเห็นคนผิวขาวในอินเดีย คุณอาจคิดว่าพวกเขาเป็นคนยุโรป แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นเพียงอินเดียวรรณะพราหมณ์และกษัตริย์ที่มีผิวขาวเท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่าคนผิวขาวทุกคนจะมีวรรณะสูง เด็กลูกผสมบางคนเกิดจากคู่รักชาวอังกฤษและอินเดีย แม้ว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นคนผิวขาว แต่ก็เป็นเพียงลูกนอกสมรสชนชั้นต่ำเท่านั้น เด็กเชื้อชาติผสมผิวขาววรรณะต่ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่มีสิทธิในการรับมรดกตามกฎหมาย แต่ยังถูกเลือกปฏิบัติในสังคมด้วย เนื่องจากการศึกษาที่พวกเขาได้รับแตกต่างจากการศึกษาในท้องถิ่น เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง อินเดียประกาศอิสรภาพ และอังกฤษก็ถอนตัวออกจากอินเดีย เด็กอินเดียผิวขาวที่เหลือไม่สามารถกลับไปอังกฤษเพื่อมีอัตลักษณ์ของอังกฤษได้ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมอินเดียซึ่งมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เข้มแข็ง มาเป็นแพะรับบาปให้กับอินเดียเพื่อระบายความอัปยศอดสูและความสิ้นหวังในประวัติศาสตร์ของตัวเอง โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลมีชีวิตอกำเนิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ที่ทอดยาวไหลไปข้างหน้า การแลกเปลี่ยนและการบูรณาการระหว่างเชื้อชาติไม่เพียงแต่มีด้านที่โหดร้ายเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความมั่งคั่งร่ำรวยและความหลากหลายของอารยธรรมอีกด้วย ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติรวมเป็นเอกภาพซึ่งคนผิวเหลือง คนผิวดำ และคนผิวขาวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจะไปที่นั่นเพื่อพัฒนา เมื่อเดินไปตามถนนหนทางจะไม่มีใครรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคนผิวสีต่างๆอีกต่อไป แม้ว่าด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียยังคงมีสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีแต่ผู้คนกลับไม่มองว่าสีผิวเป็นสิ่งซึ่งใช้ในการโอ่อวดอีกต่อไป ด้วยความก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องของอารยธรรม ประเพณีพื้นบ้านมีความเป็นอารยะมากขึ้น และทุกคนก็มีสติสัมปชัญญะสำนึกในเหตุผลมากขึ้นพวกเขาไม่ตัดสินคนจากสีผิวอีกต่อไป ผู้คนทุกสีผิวจะต้องทำงานหนักเพื่อที่จะกลายเป็นชนชั้นสูงของสังคม ต้องรู้ว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันและไม่สามารถแยกแยะตามสีผิว ชาติพันธุ์ เพศ หรือความเชื่อได้ ควรปฏิบัติต่อทุกสิ่งด้วยทัศนคติที่ไม่แบ่งแยก 🥳โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศจาก admin

    เนื่องจากใน Timetimes ทั้งแอคเคาท์ส่วนบุคคล และในแฟนเพจ มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือ ผู้ใช้งานไม่สามารถโพสต์ภาพเพิ่มในภายหลังลงในอัลบั้มที่สร้างไว้ได้ ทำได้เพียงสร้างอัลบั้มภาพและโพสต์ภาพจำนวนไม่เกิน 50 ภาพในคราวเดียว เมื่อโพสต์เสร็จแล้วคือจบเลย ไม่สามารถเพิ่มภาพได้อีก

    ทาง admin ได้โพสต์ข้อความเพื่อแจ้งปัญหาและข้อเสนอแนะไปยังผู้ดูแลของ Timetimes แล้ว อีกอย่าง ทาง admin เองก็ไม่รู้ว่าทางผู้ดูแลจะดำเนินการให้เมื่อใด ดังนั้นทาง admin จึงตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในส่วนของการนำเสนอภาพโฆษณาการจัดงาน กิจกรรม และเทศกาลที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นอกจากในอัลบั้มภาพที่ admin ได้โพสต์ไปแล้วก่อนหน้า ด้วยการสร้างอัลบั้มภาพเฉพาะเดือนเหมือนเดิม เริ่มเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ส่วนภาพโฆษณาการจัดงาน กิจกรรม และเทศกาล ทาง admin จะไปโพสต์ที่ความเห็น (comment) แทน

    ทาง admin ขอแจ้งให้สมาชิกที่ติดตามแฟนเพจ "แฟร์ บิลบอร์ด" ได้ทราบโดยทั่วถึงกัน และขออภัยที่ทาง admin ตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้แม้ว่าจะทำให้ผู้ติดตามเกิดความไม่สะดวก เพราะจะต้องไล่อ่านทีละคอมเมนต์ครับ
    ประกาศจาก admin เนื่องจากใน Timetimes ทั้งแอคเคาท์ส่วนบุคคล และในแฟนเพจ มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือ ผู้ใช้งานไม่สามารถโพสต์ภาพเพิ่มในภายหลังลงในอัลบั้มที่สร้างไว้ได้ ทำได้เพียงสร้างอัลบั้มภาพและโพสต์ภาพจำนวนไม่เกิน 50 ภาพในคราวเดียว เมื่อโพสต์เสร็จแล้วคือจบเลย ไม่สามารถเพิ่มภาพได้อีก ทาง admin ได้โพสต์ข้อความเพื่อแจ้งปัญหาและข้อเสนอแนะไปยังผู้ดูแลของ Timetimes แล้ว อีกอย่าง ทาง admin เองก็ไม่รู้ว่าทางผู้ดูแลจะดำเนินการให้เมื่อใด ดังนั้นทาง admin จึงตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในส่วนของการนำเสนอภาพโฆษณาการจัดงาน กิจกรรม และเทศกาลที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นอกจากในอัลบั้มภาพที่ admin ได้โพสต์ไปแล้วก่อนหน้า ด้วยการสร้างอัลบั้มภาพเฉพาะเดือนเหมือนเดิม เริ่มเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ส่วนภาพโฆษณาการจัดงาน กิจกรรม และเทศกาล ทาง admin จะไปโพสต์ที่ความเห็น (comment) แทน ทาง admin ขอแจ้งให้สมาชิกที่ติดตามแฟนเพจ "แฟร์ บิลบอร์ด" ได้ทราบโดยทั่วถึงกัน และขออภัยที่ทาง admin ตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้แม้ว่าจะทำให้ผู้ติดตามเกิดความไม่สะดวก เพราะจะต้องไล่อ่านทีละคอมเมนต์ครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอปTHAITIME แอปเข้ายากมาก,รอนานด้วย,เน็ตใครช้าไม่รอเป็นชั่วโมงแน่ๆ,ถ้าแก้จุดนี้ได้ จะโอเคอีกมิติเลย,ใครจะเน็ตช้าแบบซื้อโปรไม่ได้เร็วอะไร สามารถเข้าใช้งานง่าย เร็ว สะดวก ไม่เสียอารมณ์รอ ปิดแอปไปใช้แอปอื่นเลย.อย่างอื่นเริ่มดีขึ้นแล้ว.แต่บางโพสต์ที่โพสต์ไปถูกปิดกั้นหรือเปล่านะ.
    แอปTHAITIME แอปเข้ายากมาก,รอนานด้วย,เน็ตใครช้าไม่รอเป็นชั่วโมงแน่ๆ,ถ้าแก้จุดนี้ได้ จะโอเคอีกมิติเลย,ใครจะเน็ตช้าแบบซื้อโปรไม่ได้เร็วอะไร สามารถเข้าใช้งานง่าย เร็ว สะดวก ไม่เสียอารมณ์รอ ปิดแอปไปใช้แอปอื่นเลย.อย่างอื่นเริ่มดีขึ้นแล้ว.แต่บางโพสต์ที่โพสต์ไปถูกปิดกั้นหรือเปล่านะ.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • PETAเกาะกระแสหมูเด้ง ! ออกแถลงการณ์ประท้วง กรณีลูกฮิปโป”หมูเด้ง“และเรียกร้องบอยคอตให้ยุติวัฏจักรอันโหดทรมานสัตว์เพื่อความบันเทิง ขณะที่ ผอ.สวนสัตว์เขาเขียวโต้ว่าจัดการสวัสดิภาพสัตว์ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสัตว์เป็นอย่างดี

    28 กันยายน 2567 -PETA เอเชียหรือ องค์กรพิทักษ์สัตว์ ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก PETA เนื้อหาระบุว่า

    การที่ลูกฮิปโปเกิดมาในกรงขังไม่ใช่เรื่องน่ารัก ฮิปโปเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า แต่ หมูเด้ง ไม่มีวันได้อยู่นอกกรงได้ ต้องเผชิญกับการถูกจำกัดตลอดชีวิต ขาดอิสรภาพ และโอกาสที่จะได้สัมผัสกับแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและโครงสร้างทางสังคมของสายพันธุ์ของมัน

    สัตว์ไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิงของเรา การเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อแสดงต่อสาธารณะทำให้สัตว์ต้องทนทุกข์ทรมาน PETA เรียกร้องให้ยุติวัฏจักรอันโหดร้ายนี้ และให้สวนสัตว์ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สัตว์เป็นอันดับแรก

    พร้อมทั้งเสนอว่า PETA พร้อมเสมอและเต็มใจที่จะช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสัตว์ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และขอเรียกร้องให้ทุกคนหลีกเลี่ยงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้มีชีวิตและรู้สึกเหมือนถูกกักขัง

    ขณะที่นายณรงค์วิทย์ ชดช้อย ผอ.สวนสัตว์เขาเขียว ระบุว่า มีการการดูแลสัตว์ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีสัตว์ 2,000 ตัว ยืนยันมีการจัดการสวัสดิภาพสัตว์ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสัตว์เป็นอย่างดี

    ส่วนการจัดคิวเข้าชมหมูเด้ง ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ยังการจัดระเบียบเข้ามาชมรอบละ 5 นาที และไม่เกิน 30-50 คนเพื่อไม่ให้เกิดการแออัด โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากกว่า 11,000 คน/วัน และคาดว่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากกระแสฟีเวอร์ของหมูเด้ง

    ภาพจากผู้จัดการออนไลน์

    #Thaitimes
    PETAเกาะกระแสหมูเด้ง ! ออกแถลงการณ์ประท้วง กรณีลูกฮิปโป”หมูเด้ง“และเรียกร้องบอยคอตให้ยุติวัฏจักรอันโหดทรมานสัตว์เพื่อความบันเทิง ขณะที่ ผอ.สวนสัตว์เขาเขียวโต้ว่าจัดการสวัสดิภาพสัตว์ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสัตว์เป็นอย่างดี 28 กันยายน 2567 -PETA เอเชียหรือ องค์กรพิทักษ์สัตว์ ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก PETA เนื้อหาระบุว่า การที่ลูกฮิปโปเกิดมาในกรงขังไม่ใช่เรื่องน่ารัก ฮิปโปเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า แต่ หมูเด้ง ไม่มีวันได้อยู่นอกกรงได้ ต้องเผชิญกับการถูกจำกัดตลอดชีวิต ขาดอิสรภาพ และโอกาสที่จะได้สัมผัสกับแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและโครงสร้างทางสังคมของสายพันธุ์ของมัน สัตว์ไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิงของเรา การเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อแสดงต่อสาธารณะทำให้สัตว์ต้องทนทุกข์ทรมาน PETA เรียกร้องให้ยุติวัฏจักรอันโหดร้ายนี้ และให้สวนสัตว์ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สัตว์เป็นอันดับแรก พร้อมทั้งเสนอว่า PETA พร้อมเสมอและเต็มใจที่จะช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสัตว์ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และขอเรียกร้องให้ทุกคนหลีกเลี่ยงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้มีชีวิตและรู้สึกเหมือนถูกกักขัง ขณะที่นายณรงค์วิทย์ ชดช้อย ผอ.สวนสัตว์เขาเขียว ระบุว่า มีการการดูแลสัตว์ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีสัตว์ 2,000 ตัว ยืนยันมีการจัดการสวัสดิภาพสัตว์ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสัตว์เป็นอย่างดี ส่วนการจัดคิวเข้าชมหมูเด้ง ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ยังการจัดระเบียบเข้ามาชมรอบละ 5 นาที และไม่เกิน 30-50 คนเพื่อไม่ให้เกิดการแออัด โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากกว่า 11,000 คน/วัน และคาดว่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากกระแสฟีเวอร์ของหมูเด้ง ภาพจากผู้จัดการออนไลน์ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 904 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ใหม่แต่แปลก เซเว่นฯ สแกนจ่ายได้

    การเปิดทดลองชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด My Prompt QR ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา หลังเฟซบุ๊ก "ผู้บริโภค" ทดสอบเมื่อเช้าวันที่ 27 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภค เพราะทราบกันดีว่า ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาอันดับ 1 ในไทย ไม่รับสแกนจ่าย แตกต่างจากร้านสะดวกซื้อรายอื่น อาทิ โลตัสโกเฟรช บิ๊กซีมินิ ซีเจเอ็กซ์เพรส ท็อปส์เดลี่ ลอว์สัน 108 เทอร์เทิล และร้านถุงเงินที่ขายของชำ สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้ตั้งนานแล้ว

    ถึงกระนั้น สาขาที่ใช้บริการได้ ห่างไกลจากจำนวนสาขารวม 14,854 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้ง QR Code ที่สแกนจ่าย เป็นบริการ My Prompt QR ที่ให้ร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้า รองรับเฉพาะแอปพลิเคชัน 5 ธนาคาร ได้แก่ K PLUS (ธนาคารกสิกรไทย) SCB Easy (ธนาคารไทยพาณิชย์) Krungthai NEXT (ธนาคารกรุงไทย) Bangkok Bank (ธนาคารกรุงเทพ) และ KMA (ธนาคารกรุงศรี) ซึ่งที่ผ่านมาได้นำมาใช้กับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven มาแล้ว

    น่าเสียดาย เมื่อสอบถามไปยังสำนักบริหารการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กลับได้รับคำตอบว่า รับทราบข้อมูล "เท่าที่เห็น" ในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ เพิ่งเปิดทดลองให้บริการเท่านั้น

    ปัจจุบัน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนอกจากรับชำระด้วยเงินสดแล้ว ยังมีแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet และ 7-App ทั้งรูปแบบเงินในวอลเล็ต ผูกกับบัตรเครดิต บัญชี My Saving รวมทั้งรับชำระผ่านบัตรเครดิต ขั้นต่ำ 200 บาท และอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศ 13 แอปพลิเคชันในเครือข่าย Alipay+ แต่สำหรับบัตร 7-Card หรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส ซึ่งใช้มาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2548 กำลังจะยกเลิกให้บริการ โดยสมาชิกบัตรสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568

    ที่ผ่านมา เซเว่นอีเลฟเว่นเน้นทำการตลาดกับผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet เป็นหลัก แต่ไม่มีสแกนจ่าย เมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อรายอื่น โดยเฉพาะซีเจเอ็กซ์เพรส ของกลุ่มคาราบาวกรุ๊ป กว่า 1,000 สาขา พบว่ามีหลายสาขาเปิดแข่งกัน นอกจากสินค้าราคาถูกกว่าแล้ว ยังสแกนจ่ายได้ไม่มีขั้นต่ำ กลายเป็นข้อเปรียบเทียบกับเซเว่นอีเลฟเว่น ที่กลับไม่มีตรงนี้

    ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2566 มีการโอนเงินและการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ 19,900 ล้านครั้ง และธุรกรรมการชำระเงินผ่าน QR payment 5,700 ล้านครั้ง ซึ่งโมบายแบงกิ้งมีเจ้าตลาดหลักอย่าง K PLUS ธนาคารกสิกรไทย พบว่าในปี 2566 มีลูกค้าใช้งานมากถึง 21.7 ล้านราย และมีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 9,600 ล้านธุรกรรม

    #Newskit #เซเว่นอีเลฟเว่น #สแกนจ่าย
    ไม่ใหม่แต่แปลก เซเว่นฯ สแกนจ่ายได้ การเปิดทดลองชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด My Prompt QR ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา หลังเฟซบุ๊ก "ผู้บริโภค" ทดสอบเมื่อเช้าวันที่ 27 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภค เพราะทราบกันดีว่า ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาอันดับ 1 ในไทย ไม่รับสแกนจ่าย แตกต่างจากร้านสะดวกซื้อรายอื่น อาทิ โลตัสโกเฟรช บิ๊กซีมินิ ซีเจเอ็กซ์เพรส ท็อปส์เดลี่ ลอว์สัน 108 เทอร์เทิล และร้านถุงเงินที่ขายของชำ สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้ตั้งนานแล้ว ถึงกระนั้น สาขาที่ใช้บริการได้ ห่างไกลจากจำนวนสาขารวม 14,854 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้ง QR Code ที่สแกนจ่าย เป็นบริการ My Prompt QR ที่ให้ร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้า รองรับเฉพาะแอปพลิเคชัน 5 ธนาคาร ได้แก่ K PLUS (ธนาคารกสิกรไทย) SCB Easy (ธนาคารไทยพาณิชย์) Krungthai NEXT (ธนาคารกรุงไทย) Bangkok Bank (ธนาคารกรุงเทพ) และ KMA (ธนาคารกรุงศรี) ซึ่งที่ผ่านมาได้นำมาใช้กับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven มาแล้ว น่าเสียดาย เมื่อสอบถามไปยังสำนักบริหารการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กลับได้รับคำตอบว่า รับทราบข้อมูล "เท่าที่เห็น" ในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ เพิ่งเปิดทดลองให้บริการเท่านั้น ปัจจุบัน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนอกจากรับชำระด้วยเงินสดแล้ว ยังมีแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet และ 7-App ทั้งรูปแบบเงินในวอลเล็ต ผูกกับบัตรเครดิต บัญชี My Saving รวมทั้งรับชำระผ่านบัตรเครดิต ขั้นต่ำ 200 บาท และอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศ 13 แอปพลิเคชันในเครือข่าย Alipay+ แต่สำหรับบัตร 7-Card หรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส ซึ่งใช้มาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2548 กำลังจะยกเลิกให้บริการ โดยสมาชิกบัตรสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา เซเว่นอีเลฟเว่นเน้นทำการตลาดกับผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet เป็นหลัก แต่ไม่มีสแกนจ่าย เมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อรายอื่น โดยเฉพาะซีเจเอ็กซ์เพรส ของกลุ่มคาราบาวกรุ๊ป กว่า 1,000 สาขา พบว่ามีหลายสาขาเปิดแข่งกัน นอกจากสินค้าราคาถูกกว่าแล้ว ยังสแกนจ่ายได้ไม่มีขั้นต่ำ กลายเป็นข้อเปรียบเทียบกับเซเว่นอีเลฟเว่น ที่กลับไม่มีตรงนี้ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2566 มีการโอนเงินและการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ 19,900 ล้านครั้ง และธุรกรรมการชำระเงินผ่าน QR payment 5,700 ล้านครั้ง ซึ่งโมบายแบงกิ้งมีเจ้าตลาดหลักอย่าง K PLUS ธนาคารกสิกรไทย พบว่าในปี 2566 มีลูกค้าใช้งานมากถึง 21.7 ล้านราย และมีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 9,600 ล้านธุรกรรม #Newskit #เซเว่นอีเลฟเว่น #สแกนจ่าย
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด๋ว...เดือนหน้า จะมาอัพเดทข่าวและรุ่นรถให้แบบอิ่มๆ เรยยนะครับ วันนี้เอาข่าวแบตเตอรี่อีวี..มาฝากแบบเบาๆก่อน...ขอบพระคุุณพี่น้องผองเพื่อนทุกท่านที่เข้ามากดไลท์กดติดตามกันทุกท่านนะครับ // ขออนุญาตเคลียร์งานเดือนนี้ให้จบก่อนครับ

    นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้าอีกก้าวหนึ่ง! หมดกังวลเรื่องรอเวลาในการชาร์จสำหรับคนเร่งรีบ

    โดย SAIC-GM และ CATL ร่วมกันเปิดตัวแบตเตอรี่ EV พร้อมการชาร์จที่เร็วที่สุดจนถึงปัจจุบันโดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปีหน้าโดยใช้สถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง Autoneng quasi-900V ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็วที่มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น

    ตามรายงาน แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตที่ชาร์จเร็วเป็นพิเศษ 6C ตัวแรกในอุตสาหกรรม จะชาร์จเพียง 5 นาที วิ่งได้ไกลถึง 200 กม. ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทรถยนต์ในประเทศหลายแห่งได้เปิดตัวแบตเตอรี่ซูเปอร์ชาร์จ 5C อย่างต่อเนื่อง แต่มีบริษัทรถยนต์เพียงไม่กี่บริษัทที่ได้ประกาศแผนผลิตภัณฑ์สำหรับแบตเตอรี่ซูเปอร์ชาร์จ 6C ที่เร็วกว่า

    cr.12365auto.com

    #FOCmag reports #FOCDRIVE #SAICGM #CATL #Autonengquasi900V #ชาร์จเร็ว6C
    เด๋ว...เดือนหน้า จะมาอัพเดทข่าวและรุ่นรถให้แบบอิ่มๆ เรยยนะครับ วันนี้เอาข่าวแบตเตอรี่อีวี..มาฝากแบบเบาๆก่อน...ขอบพระคุุณพี่น้องผองเพื่อนทุกท่านที่เข้ามากดไลท์กดติดตามกันทุกท่านนะครับ // ขออนุญาตเคลียร์งานเดือนนี้ให้จบก่อนครับ นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้าอีกก้าวหนึ่ง! หมดกังวลเรื่องรอเวลาในการชาร์จสำหรับคนเร่งรีบ โดย SAIC-GM และ CATL ร่วมกันเปิดตัวแบตเตอรี่ EV พร้อมการชาร์จที่เร็วที่สุดจนถึงปัจจุบันโดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปีหน้าโดยใช้สถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง Autoneng quasi-900V ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็วที่มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น ตามรายงาน แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตที่ชาร์จเร็วเป็นพิเศษ 6C ตัวแรกในอุตสาหกรรม จะชาร์จเพียง 5 นาที วิ่งได้ไกลถึง 200 กม. ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทรถยนต์ในประเทศหลายแห่งได้เปิดตัวแบตเตอรี่ซูเปอร์ชาร์จ 5C อย่างต่อเนื่อง แต่มีบริษัทรถยนต์เพียงไม่กี่บริษัทที่ได้ประกาศแผนผลิตภัณฑ์สำหรับแบตเตอรี่ซูเปอร์ชาร์จ 6C ที่เร็วกว่า cr.12365auto.com #FOCmag reports #FOCDRIVE #SAICGM #CATL #Autonengquasi900V #ชาร์จเร็ว6C
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สแกนจ่ายผ่านแอปฯ ธนาคารได้แล้ว
    .
    ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” เปิดให้สแกนจ่ายเงินได้แล้วโดยไม่ต้องใช้เงินสด หรือแอปฯ ของร้าน ชาวเน็ตแซว บังเอิญมาก จังหวะพอดีต้อนรับเงินหมื่น
    .
    วันนี้ (27 ก.ย.) กลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาอย่างมากในโซเซียล เน็ตเวิร์ก เมื่อแฟนเพจเฟซบุ๊ก “ผู้บริโภค” กล่าวถึงร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ของประเทศอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เปิดให้สแกนจ่ายผ่านแอปธนาคารได้ โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือใช้แอปฯ ของเซเว่น ได้เผยแพร่โพสต์ “ฝันที่ไม่กล้าฝัน เซเว่นรับสแกนแล้วจ้า!!!” พร้อมระบุข้อความว่า “น้ำตาจะไหล #ผู้บริโภค ว่าไง”
    .
    คลิกอ่าน >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000090968
    ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สแกนจ่ายผ่านแอปฯ ธนาคารได้แล้ว . ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” เปิดให้สแกนจ่ายเงินได้แล้วโดยไม่ต้องใช้เงินสด หรือแอปฯ ของร้าน ชาวเน็ตแซว บังเอิญมาก จังหวะพอดีต้อนรับเงินหมื่น . วันนี้ (27 ก.ย.) กลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาอย่างมากในโซเซียล เน็ตเวิร์ก เมื่อแฟนเพจเฟซบุ๊ก “ผู้บริโภค” กล่าวถึงร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ของประเทศอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เปิดให้สแกนจ่ายผ่านแอปธนาคารได้ โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือใช้แอปฯ ของเซเว่น ได้เผยแพร่โพสต์ “ฝันที่ไม่กล้าฝัน เซเว่นรับสแกนแล้วจ้า!!!” พร้อมระบุข้อความว่า “น้ำตาจะไหล #ผู้บริโภค ว่าไง” . คลิกอ่าน >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000090968
    MGRONLINE.COM
    วันนี้ที่รอคอย ผู้บริโภคฮือฮา ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สแกนจ่ายผ่านแอปฯ ธนาคารได้แล้ว ชาวเน็ตแซวต้อนรับเงินหมื่น
    ผู้บริโภคฮือฮา! ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” เปิดให้สแกนจ่ายเงินได้แล้วโดยไม่ต้องใช้เงินสด หรือแอปฯ ของร้าน ชาวเน็ตแซว บังเอิญมาก จังหวะพอดีต้อนรับเงินหมื่นกลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊กเพจผู้บริโภค กล
    Like
    22
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • วลาดิมีร์ ปูติน แย้มซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายนอร์ดสตรีม

    แม้ว่ามหาอำนาจตะวันตกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการทำลายท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีมในเดือนกันยายน ๒๐๒๒, หรือพยายามโยนความผิดให้กับแพะรับบาปที่แสนสะดวก, แต่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กลับเผยซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า รัสเซียรู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ และกลุ่มตะวันตกกำลังเล่นเกมอะไรอยู่

    อย่าเชื่อคำพูดของเรา – ดูวิดีโอนี้แล้วดูว่าปูตินพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสุนทรพจน์ต่างๆของเขาและในบทสัมภาษณ์อันโด่งดังของเขากับ ทักเกอร์ คาร์ลสัน
    .
    Vladimir Putin hints time and again who is behind the Nord Stream terrorist attack

    While Western powers either feign ignorance about who orchestrated the destruction of the Nord Stream natural gas pipelines in September 2022, or try to pin the blame on some convenient scapegoats, Russian President Vladimir Putin repeatedly hinted that Russia knows who is responsible and what kind of game the collective West is playing.

    Don’t take our word for it – check out this video and see what Putin himself said regarding this matter in his various speeches and in his famous interview to Tucker Carlson.
    .
    11:51 PM · Sep 26, 2024 · 3,854 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1839346981115703523
    วลาดิมีร์ ปูติน แย้มซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายนอร์ดสตรีม แม้ว่ามหาอำนาจตะวันตกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการทำลายท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีมในเดือนกันยายน ๒๐๒๒, หรือพยายามโยนความผิดให้กับแพะรับบาปที่แสนสะดวก, แต่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กลับเผยซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า รัสเซียรู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ และกลุ่มตะวันตกกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ อย่าเชื่อคำพูดของเรา – ดูวิดีโอนี้แล้วดูว่าปูตินพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสุนทรพจน์ต่างๆของเขาและในบทสัมภาษณ์อันโด่งดังของเขากับ ทักเกอร์ คาร์ลสัน . Vladimir Putin hints time and again who is behind the Nord Stream terrorist attack While Western powers either feign ignorance about who orchestrated the destruction of the Nord Stream natural gas pipelines in September 2022, or try to pin the blame on some convenient scapegoats, Russian President Vladimir Putin repeatedly hinted that Russia knows who is responsible and what kind of game the collective West is playing. Don’t take our word for it – check out this video and see what Putin himself said regarding this matter in his various speeches and in his famous interview to Tucker Carlson. . 11:51 PM · Sep 26, 2024 · 3,854 Views https://x.com/SputnikInt/status/1839346981115703523
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 108 0 รีวิว
  • มาเลเซียเอาบ้าง งดแจกถุงพลาสติก

    ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศมาเลเซียกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ จะงดแจกถุงพลาสติดแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic bags) อย่างเป็นทางการ หากลูกค้าไม่ได้นำถุงพลาสติกมาเอง สามารถหาซื้อถุงรีไซเคิลได้ที่ร้านค้า ตามแคมเปญ "Say No to Single-Use Plastics" ของกระทรวงการเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น

    นายหงา กอร์ มิง รมว.การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำบางแห่งได้เริ่มงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แต่บัดนี้พวกเขาได้ลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ปีละ 200 ล้านใบ ลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และยืดอายุการใช้งานหลุมฝังกลบขยะที่มีอยู่

    ที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียต้องแบกรับต้นทุนการจัดการขยะมูลฝอยและการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ สูงกว่า 2,000 ล้านริงกิตต่อปี และกำลังดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบ ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีหลุมฝังกลบขยะที่ไม่ถูกสุขอนามัย 114 แห่ง มีเพียง 22 แห่งที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งการเปิดหลุมฝังกลบขยะและการปรับปรุงหลุมฝังกลบขยะเดิมต้องใช้ต้นทุนสูงมาก

    นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังจัดทำร่างกฎหมายจัดการผู้ที่ทิ้งขยะโดยขาดความรับผิดชอบ และจะนำเสนอต่อรัฐสภาในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วถ่ายคลิปลงติ๊กต็อก ชื่อเสียงของประเทศจะได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายและประสบความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

    ร้านค้าปลีกในมาเลเซียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 99 Speedmart 2,533 สาขา 7-Eleven 2,400 สาขา KK Mart 808 สาขา Watsons 733 สาขา Guardian 602 สาขา emart24 65 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้า อาทิ กลุ่ม GCH Retail (Giant / Cold Storage / Mercato) 93 สาขา AEON 35 สาขา AEON Big 21 สาขา Mydin 78 สาขา Lotus's 68 สาขา The Store 50 สาขา TF Value Mart 45 สาขา Econsave 33 สาขา NSK Trade City 32 สาขา Lulu 5 สาขา เป็นต้น

    สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่ก็เป็นที่วิจารณ์ว่าการจำหน่ายถุงพลาสติกแทนการแจก เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค

    #Newskit #งดแจกถุงพลาสติก #มาเลเซีย
    มาเลเซียเอาบ้าง งดแจกถุงพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศมาเลเซียกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ จะงดแจกถุงพลาสติดแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic bags) อย่างเป็นทางการ หากลูกค้าไม่ได้นำถุงพลาสติกมาเอง สามารถหาซื้อถุงรีไซเคิลได้ที่ร้านค้า ตามแคมเปญ "Say No to Single-Use Plastics" ของกระทรวงการเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น นายหงา กอร์ มิง รมว.การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำบางแห่งได้เริ่มงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แต่บัดนี้พวกเขาได้ลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ปีละ 200 ล้านใบ ลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และยืดอายุการใช้งานหลุมฝังกลบขยะที่มีอยู่ ที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียต้องแบกรับต้นทุนการจัดการขยะมูลฝอยและการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ สูงกว่า 2,000 ล้านริงกิตต่อปี และกำลังดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบ ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีหลุมฝังกลบขยะที่ไม่ถูกสุขอนามัย 114 แห่ง มีเพียง 22 แห่งที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งการเปิดหลุมฝังกลบขยะและการปรับปรุงหลุมฝังกลบขยะเดิมต้องใช้ต้นทุนสูงมาก นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังจัดทำร่างกฎหมายจัดการผู้ที่ทิ้งขยะโดยขาดความรับผิดชอบ และจะนำเสนอต่อรัฐสภาในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วถ่ายคลิปลงติ๊กต็อก ชื่อเสียงของประเทศจะได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายและประสบความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ร้านค้าปลีกในมาเลเซียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 99 Speedmart 2,533 สาขา 7-Eleven 2,400 สาขา KK Mart 808 สาขา Watsons 733 สาขา Guardian 602 สาขา emart24 65 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้า อาทิ กลุ่ม GCH Retail (Giant / Cold Storage / Mercato) 93 สาขา AEON 35 สาขา AEON Big 21 สาขา Mydin 78 สาขา Lotus's 68 สาขา The Store 50 สาขา TF Value Mart 45 สาขา Econsave 33 สาขา NSK Trade City 32 สาขา Lulu 5 สาขา เป็นต้น สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่ก็เป็นที่วิจารณ์ว่าการจำหน่ายถุงพลาสติกแทนการแจก เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค #Newskit #งดแจกถุงพลาสติก #มาเลเซีย
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ไม่มีทุนรอนนักที่จะมาทำมาช่วยตลอด ที่ทำได้ทุกวันนี้ ทุนที่ทำก็มาจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ช่วยเราทำในอดีตแจกจ่ายจนตัวเองไม่เหลือสิ่งใดกันก็ผ่านมาแล้ว..ดีใจนะเห็นเสาหลักของครอบครัว หลายๆคน นอนราบได้เป็นปกติ หายใจสะดวกขึ้นลึกขึ้น..ทำงานไหว ..สมุนไพรที่เราให้ดื่มๆกันสรรพคุณมีมากมายเราสาธยายให้ยังไม่หมด อย่างน้อยการอักเสบของปอดและหัวใจจะดีขึ้นเรื่อยๆ...ดื่มกันนะ วันละสองมื้อมื้อละห่อ มันจะได้ขับสิ่งไม่ดีออกไป...

    ไม่เคยหวังร่ำรวยอะไรหรอกเพราะไม่มีวันเป็นไปได้ ..ช่วยทุกๆคนจูงมือรอดไปด้วยกัน..ทุนมีบ้างต้องใช้เพราะต้องสรรหาวัตุดิบดีดีปลอดภัย อุปกรณ์ดีเีเอามา ใช้กับตัวสมุนไพร..

    อยากให้ในไทยมีใครสักคนที่รู้จรืงเครื่องสุขภาพนะถามตอบโดยไม่ต้องกางตำรา ไม่ต้องใส่ในผลงานวิจัยช่วยผู้คนให้มีแรงกายใจ สำหรับมีชีวิตอยู่.แต่อยากเหลือเกิน ..เพราะเงินบังหน้าบังตา ปิดความถูกต้องไปซะหมด ละคนไทยเอง..ไม่ค่อยสนับสนุนคนไทยด้วยกันนัก ไม่ ช่วยส่งเสริม มีแต่ลดทอนกำลังใจความสามารถของคนอื่น...น่าเสียใจ
    ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ไม่มีทุนรอนนักที่จะมาทำมาช่วยตลอด ที่ทำได้ทุกวันนี้ ทุนที่ทำก็มาจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ช่วยเราทำในอดีตแจกจ่ายจนตัวเองไม่เหลือสิ่งใดกันก็ผ่านมาแล้ว..ดีใจนะเห็นเสาหลักของครอบครัว หลายๆคน นอนราบได้เป็นปกติ หายใจสะดวกขึ้นลึกขึ้น..ทำงานไหว ..สมุนไพรที่เราให้ดื่มๆกันสรรพคุณมีมากมายเราสาธยายให้ยังไม่หมด อย่างน้อยการอักเสบของปอดและหัวใจจะดีขึ้นเรื่อยๆ...ดื่มกันนะ วันละสองมื้อมื้อละห่อ มันจะได้ขับสิ่งไม่ดีออกไป... ไม่เคยหวังร่ำรวยอะไรหรอกเพราะไม่มีวันเป็นไปได้ ..ช่วยทุกๆคนจูงมือรอดไปด้วยกัน..ทุนมีบ้างต้องใช้เพราะต้องสรรหาวัตุดิบดีดีปลอดภัย อุปกรณ์ดีเีเอามา ใช้กับตัวสมุนไพร.. อยากให้ในไทยมีใครสักคนที่รู้จรืงเครื่องสุขภาพนะถามตอบโดยไม่ต้องกางตำรา ไม่ต้องใส่ในผลงานวิจัยช่วยผู้คนให้มีแรงกายใจ สำหรับมีชีวิตอยู่.แต่อยากเหลือเกิน ..เพราะเงินบังหน้าบังตา ปิดความถูกต้องไปซะหมด ละคนไทยเอง..ไม่ค่อยสนับสนุนคนไทยด้วยกันนัก ไม่ ช่วยส่งเสริม มีแต่ลดทอนกำลังใจความสามารถของคนอื่น...น่าเสียใจ
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 02.🤠

    🤯สาม การพลิกกลับ🤯

    สถานการณ์สงครามโลกที่ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างโลกทำให้ทางการสหรัฐฯไม่พอใจอย่างมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน(Woodrow Wilson伍德罗·威尔逊) ลาออกจากตำแหน่ง นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็กลับเข้าสู่ลัทธิโดดเดี่ยวอย่างเดิม

    เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1935 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำในสงครามโลกครั้งที่ 1 สภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาจึงผ่านกฎหมายความเป็นกลาง ซึ่งกำหนดให้มีการคว่ำบาตร "อาวุธ กระสุน และยุทโธปกรณ์" ไปยังประเทศคู่สงครามทั้งหมด และห้ามเรือค้าขายของสหรัฐฯ จากการขนส่งอาวุธไปยังประเทศคู่สงคราม ขบวนการโดดเดี่ยวในสหรัฐอเมริกาถึงจุดสูงสุด

    ในเวลานี้ ท้องฟ้าเหนือยุโรปเต็มไปด้วยเมฆหมอกแห่งสงคราม นโยบายการโอนอ่อนผ่อนตามของอังกฤษและฝรั่งเศสมีส่วนทำให้เกิดความหยิ่งลำพองของเยอรมนีมีความเป็นฟาสซิสต์มากขึ้น ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 นาซีเยอรมนีเปิดการโจมตีแบบสายฟ้าแลบต่อโปแลนด์ และสงครามโลกครั้งที่สองก็ปะทุขึ้น

    ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะมหาอำนาจโดยมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปยอมจำนน ในเดือนพฤศจิกายนของปีถัดมา ญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจฝ่ายอักษะได้เปิดฉากโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ต่อสหรัฐอเมริกา และลากสหรัฐอเมริกาเข้าสู่วังวนแห่งสงคราม สงครามโลกครั้งที่สองและสงครามโลกครั้งที่ 1 แตกต่างกันออกไป ในเวลานี้ สหรัฐฯมีบทบาทเป็นผู้นำ โดยควบคุมในแอฟริกาเหนือ แนวรบด้านตะวันตก และสนามรบในมหาสมุทรแปซิฟิก

    ในช่วงสงคราม รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ลืมวางแผนสำหรับรูปแบบโลกหลังสงคราม และไม่ต้องการทำผิดพลาดแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซ้ำอีก

    สิ่งแรกที่ต้องจัดการคือเรื่องการครอบงำทางการเงินของโลกที่อังกฤษโดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม

    ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 ไวท์( White) ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้เปิดตัวแผนของไวท์( White) ซึ่งเป็นแผนเศรษฐกิจในช่วงสงคราม

    แผนดังกล่าวรวมถึงการจัดตั้งสถาบันสองแห่ง ได้แก่ กองทุนรักษาเสถียรภาพแห่งชาติ (National Stabilization Fund) และธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนา (Bank for Reconstruction and Development.) ทั้งสองสถาบันนี้เป็นสถาบันก่อนหน้าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund)และธนาคารโลก (World Bank.)ในอนาคต

    เพื่อป้องกันอิทธิพลอำนาจทางการเงินของสหรัฐอเมริกาหลังสงครามและปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง สหราชอาณาจักรยังเสนอให้จัดตั้งศูนย์หักบัญชีระหว่างประเทศ (international clearing center) ตาม "ลัทธิเคนส์ (Keynesianism)" และออกแบบระบบการเงินที่มีทองคำเป็นหน่วยการชำระหนี้

    อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้สหราชอาณาจักรมีแรงใจมากล้นแต่ไม่มีกำลังกายเพียงพอ และความแข็งแกร่งทางการทหารและเศรษฐกิจทำให้อังกฤษไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาเพื่อครอบงำทางการเงินได้

    เพียงสองปีหลังจากการเสนอแผนของไวท์( White) ทางการสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมการเงินและการเงินแห่งสหประชาชาติ (United Nations Monetary and Financial Conference)ที่เบรตตันวูดส์ (Bretton Woods) ทางการสหรัฐฯมีอำนาจเหนือการเจรจาอย่างท่วมท้น และในที่สุดประเทศต่างๆ ก็ลงนามใน "ข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods Agreement)" อันโด่งดัง

    ข้อตกลงดังกล่าวเชื่อมโยงสกุลเงินของประเทศต่างๆ อย่างเป็นทางการกับดอลลาร์สหรัฐ และสร้างระบบมาตรฐานทองคำที่ดอลลาร์สหรัฐเชื่อมโยงกับทองคำ สำนักงานใหญ่ของกองทุนการเงินแห่งชาติ (National Monetary Fund)ตั้งอยู่ในวอชิงตัน (Washington) เห็นได้ชัดว่าระบบเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods system)เป็นข้อตกลงที่ลงนามโดยสหรัฐอเมริกาที่มีอำนาจมากที่สุดและเหล่าบริวารอื่น ๆ ในสภาพแวดล้อมสงครามในขณะนั้น

    แม้ว่าอังกฤษไม่เต็มใจที่จะมอบอำนาจทางการเงินของตนให้กับผู้อื่น แต่ความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็สูญสิ้นไปนานแล้ว สหรัฐฯ ขู่ว่าจะปฏิเสธคำขอกู้ยืมของอังกฤษและบังคับให้ทางการอังกฤษยอมรับข้อตกลงดังกล่าว ขณะเดียวกันพวกเขาก็ใช้การล่มสลายของระบบอาณานิคมในอนาคตเป็นข้อแก้ตัวด้วย บังคับให้ฝ่ายอังกฤษละทิ้งระบบจักรวรรดิดั้งเดิมที่ให้การปฏิบัติเระบบสิทธิพิเศษ และใช้เงินปอนด์ที่แปลงสภาพอย่างเสรี

    ในท้ายที่สุด อังกฤษก็ยอมสละอำนาจทางการเงินของตน และสหรัฐฯ ได้ขจัดอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการก้าวไปสู่อำนาจอำนาจของโลก

    🤯4. บทสรุปและการรู้แจ้ง🤯

    อารยธรรมของมนุษย์ดำรงอยู่มานานนับพันปี ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่าจำนวนนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีระบอบการปกครองใดที่สามารถรักษาความได้เปรียบของตนไว้ได้ตลอดไปในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน

    ตัวแทนของยุคอาณานิคมตอนต้น - สเปนและโปรตุเกส สเปนใช้ประโยชน์จากยุคแห่งการค้นพบ และยึดครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกา แต่เขาสูญเสียเรือรบทั้งหมดในการรบทางเรือกับอังกฤษ ผู้ครองอำนาจเจ้าโลกรุ่นแรกจึงจำต้องสละสิทธิทางทะเลแก่สหราชอาณาจักรด้วยประการฉะนี้นี้

    บนพื้นฐานของลัทธิล่าอาณานิคมสเปน อังกฤษได้ก่อตั้งกลุ่มอาณานิคมขึ้น เช่น บริษัทอินเดียตะวันออก และดำเนินกิจกรรมปล้นสะดมขนาดใหญ่ในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกา ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา

    ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง บรรดาสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ชาวอังกฤษคอยกินบุญเก่าซึ่งมีรายชื่อในสมุดความดีความชอบมุ่งมั่นที่จะรักษาระบบอาณานิคมของตนไว้ โดยไม่สนใจการเพิ่มทวีขึ้นของจิตสำนึกแห่งชาติเผ่าของอาณานิคม และพยายามใช้วิธีการที่ต่ำทรามน่ารังเกียจต่างๆ เพื่อรักษาสถานะที่ว่าอาณาจักรที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดินของตนไว้

    ด้วยการผงาดรุ่งเรืองขึ้นของประเทศทุนนิยมเกิดใหม่ และการทำลายล้างเศรษฐกิจของอังกฤษโดยสงครามโลกครั้งที่สอง ในที่สุดอังกฤษก็ถูกบังคับให้สละอำนาจเจ้าโลกของตนในที่สุด สหรัฐฯ ผ่านการปฏิบัติการหลายประการมีการสถาปนาอำนาจนำในหลายแง่มุมซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศตน

    😎ในกระบวนการแย่งชิงอำนาจของอังกฤษโดยสหรัฐอเมริกา การรวมอำนาจทางการเมือง การขยายอาณาเขต การรักษาความสามัคคี และการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นพื้นฐานของการได้รับอำนาจเป็นเจ้าโลก😎

    เมื่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการทหารมีมากกว่าประเทศอื่นๆ มาก การโอนอำนาจก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทันที ในช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง การเก็บตัวและสังเกตการณ์อยู่ข้างสนามและการแทรกแซงสงครามในเวลาที่เหมาะสม ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเฉียบแหลมทางการเมืองอันยอดเยี่ยมของกลุ่มนักคิดของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อประเทศในยุโรปไม่สามารถทำได้หากปราศจากการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา การโอนอำนาจเจ้าโลกจะเป็นเรื่องที่สำเร็จแน่นอน

    ในปัจจุบัน ขณะที่การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งที่สามกำลังจะสิ้นสุดลง และการปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบใหม่กำลังจะแตกออก อำนาจของอเมริกาก็มาถึงทางแยกแห่งโชคชะตาเนื่องจากมีเหตุการณ์เป็นตัวเร่งคือเรื่องของการเสริมกำลังทหารและความขัดแย้งภายในของตัวเอง

    สหรัฐฯ ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้จีนดำเนินตามขั้นตอนเดิมพัฒนาในลักษณะที่ไม่สำคัญต่อไป จากยุทธศาสตร์ปิดล้อมด้วย“สายโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก” (First Island Chain)รวมกับเครือข่ายพื้นที่แผ่นดินใหญ่ในยุคโอบามา ไปจนถึงสงครามการค้ากับจีนในยุคทรัมป์ และการโจมตีจีนโดยรัฐบริวารในเอเชียในเรื่องต่างๆ จะเห็นได้ว่าความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรักษาสิ่งที่เรียกว่าอำนาจเป็นใหญ่นั้นเปรียบเสมือนนักรบที่ติดอยู่ในสนามประลอง

    ในยุคแห่งความขัดแย้งครั้งใหญ่นี้ การยืนหยัดบนเส้นทางของตัวเองและระวังการแทรกซึมของกองกำลังศัตรูเป็นหนทางที่จะทำลายแผนการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐฯ และอำนาจเจ้าโลกของสหรัฐฯ

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 02.🤠 🤯สาม การพลิกกลับ🤯 สถานการณ์สงครามโลกที่ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างโลกทำให้ทางการสหรัฐฯไม่พอใจอย่างมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน(Woodrow Wilson伍德罗·威尔逊) ลาออกจากตำแหน่ง นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็กลับเข้าสู่ลัทธิโดดเดี่ยวอย่างเดิม เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1935 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำในสงครามโลกครั้งที่ 1 สภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาจึงผ่านกฎหมายความเป็นกลาง ซึ่งกำหนดให้มีการคว่ำบาตร "อาวุธ กระสุน และยุทโธปกรณ์" ไปยังประเทศคู่สงครามทั้งหมด และห้ามเรือค้าขายของสหรัฐฯ จากการขนส่งอาวุธไปยังประเทศคู่สงคราม ขบวนการโดดเดี่ยวในสหรัฐอเมริกาถึงจุดสูงสุด ในเวลานี้ ท้องฟ้าเหนือยุโรปเต็มไปด้วยเมฆหมอกแห่งสงคราม นโยบายการโอนอ่อนผ่อนตามของอังกฤษและฝรั่งเศสมีส่วนทำให้เกิดความหยิ่งลำพองของเยอรมนีมีความเป็นฟาสซิสต์มากขึ้น ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 นาซีเยอรมนีเปิดการโจมตีแบบสายฟ้าแลบต่อโปแลนด์ และสงครามโลกครั้งที่สองก็ปะทุขึ้น ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะมหาอำนาจโดยมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปยอมจำนน ในเดือนพฤศจิกายนของปีถัดมา ญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจฝ่ายอักษะได้เปิดฉากโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ต่อสหรัฐอเมริกา และลากสหรัฐอเมริกาเข้าสู่วังวนแห่งสงคราม สงครามโลกครั้งที่สองและสงครามโลกครั้งที่ 1 แตกต่างกันออกไป ในเวลานี้ สหรัฐฯมีบทบาทเป็นผู้นำ โดยควบคุมในแอฟริกาเหนือ แนวรบด้านตะวันตก และสนามรบในมหาสมุทรแปซิฟิก ในช่วงสงคราม รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ลืมวางแผนสำหรับรูปแบบโลกหลังสงคราม และไม่ต้องการทำผิดพลาดแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซ้ำอีก สิ่งแรกที่ต้องจัดการคือเรื่องการครอบงำทางการเงินของโลกที่อังกฤษโดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 ไวท์( White) ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้เปิดตัวแผนของไวท์( White) ซึ่งเป็นแผนเศรษฐกิจในช่วงสงคราม แผนดังกล่าวรวมถึงการจัดตั้งสถาบันสองแห่ง ได้แก่ กองทุนรักษาเสถียรภาพแห่งชาติ (National Stabilization Fund) และธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนา (Bank for Reconstruction and Development.) ทั้งสองสถาบันนี้เป็นสถาบันก่อนหน้าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund)และธนาคารโลก (World Bank.)ในอนาคต เพื่อป้องกันอิทธิพลอำนาจทางการเงินของสหรัฐอเมริกาหลังสงครามและปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง สหราชอาณาจักรยังเสนอให้จัดตั้งศูนย์หักบัญชีระหว่างประเทศ (international clearing center) ตาม "ลัทธิเคนส์ (Keynesianism)" และออกแบบระบบการเงินที่มีทองคำเป็นหน่วยการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้สหราชอาณาจักรมีแรงใจมากล้นแต่ไม่มีกำลังกายเพียงพอ และความแข็งแกร่งทางการทหารและเศรษฐกิจทำให้อังกฤษไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาเพื่อครอบงำทางการเงินได้ เพียงสองปีหลังจากการเสนอแผนของไวท์( White) ทางการสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมการเงินและการเงินแห่งสหประชาชาติ (United Nations Monetary and Financial Conference)ที่เบรตตันวูดส์ (Bretton Woods) ทางการสหรัฐฯมีอำนาจเหนือการเจรจาอย่างท่วมท้น และในที่สุดประเทศต่างๆ ก็ลงนามใน "ข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods Agreement)" อันโด่งดัง ข้อตกลงดังกล่าวเชื่อมโยงสกุลเงินของประเทศต่างๆ อย่างเป็นทางการกับดอลลาร์สหรัฐ และสร้างระบบมาตรฐานทองคำที่ดอลลาร์สหรัฐเชื่อมโยงกับทองคำ สำนักงานใหญ่ของกองทุนการเงินแห่งชาติ (National Monetary Fund)ตั้งอยู่ในวอชิงตัน (Washington) เห็นได้ชัดว่าระบบเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods system)เป็นข้อตกลงที่ลงนามโดยสหรัฐอเมริกาที่มีอำนาจมากที่สุดและเหล่าบริวารอื่น ๆ ในสภาพแวดล้อมสงครามในขณะนั้น แม้ว่าอังกฤษไม่เต็มใจที่จะมอบอำนาจทางการเงินของตนให้กับผู้อื่น แต่ความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็สูญสิ้นไปนานแล้ว สหรัฐฯ ขู่ว่าจะปฏิเสธคำขอกู้ยืมของอังกฤษและบังคับให้ทางการอังกฤษยอมรับข้อตกลงดังกล่าว ขณะเดียวกันพวกเขาก็ใช้การล่มสลายของระบบอาณานิคมในอนาคตเป็นข้อแก้ตัวด้วย บังคับให้ฝ่ายอังกฤษละทิ้งระบบจักรวรรดิดั้งเดิมที่ให้การปฏิบัติเระบบสิทธิพิเศษ และใช้เงินปอนด์ที่แปลงสภาพอย่างเสรี ในท้ายที่สุด อังกฤษก็ยอมสละอำนาจทางการเงินของตน และสหรัฐฯ ได้ขจัดอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการก้าวไปสู่อำนาจอำนาจของโลก 🤯4. บทสรุปและการรู้แจ้ง🤯 อารยธรรมของมนุษย์ดำรงอยู่มานานนับพันปี ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่าจำนวนนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีระบอบการปกครองใดที่สามารถรักษาความได้เปรียบของตนไว้ได้ตลอดไปในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน ตัวแทนของยุคอาณานิคมตอนต้น - สเปนและโปรตุเกส สเปนใช้ประโยชน์จากยุคแห่งการค้นพบ และยึดครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกา แต่เขาสูญเสียเรือรบทั้งหมดในการรบทางเรือกับอังกฤษ ผู้ครองอำนาจเจ้าโลกรุ่นแรกจึงจำต้องสละสิทธิทางทะเลแก่สหราชอาณาจักรด้วยประการฉะนี้นี้ บนพื้นฐานของลัทธิล่าอาณานิคมสเปน อังกฤษได้ก่อตั้งกลุ่มอาณานิคมขึ้น เช่น บริษัทอินเดียตะวันออก และดำเนินกิจกรรมปล้นสะดมขนาดใหญ่ในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกา ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง บรรดาสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ชาวอังกฤษคอยกินบุญเก่าซึ่งมีรายชื่อในสมุดความดีความชอบมุ่งมั่นที่จะรักษาระบบอาณานิคมของตนไว้ โดยไม่สนใจการเพิ่มทวีขึ้นของจิตสำนึกแห่งชาติเผ่าของอาณานิคม และพยายามใช้วิธีการที่ต่ำทรามน่ารังเกียจต่างๆ เพื่อรักษาสถานะที่ว่าอาณาจักรที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดินของตนไว้ ด้วยการผงาดรุ่งเรืองขึ้นของประเทศทุนนิยมเกิดใหม่ และการทำลายล้างเศรษฐกิจของอังกฤษโดยสงครามโลกครั้งที่สอง ในที่สุดอังกฤษก็ถูกบังคับให้สละอำนาจเจ้าโลกของตนในที่สุด สหรัฐฯ ผ่านการปฏิบัติการหลายประการมีการสถาปนาอำนาจนำในหลายแง่มุมซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศตน 😎ในกระบวนการแย่งชิงอำนาจของอังกฤษโดยสหรัฐอเมริกา การรวมอำนาจทางการเมือง การขยายอาณาเขต การรักษาความสามัคคี และการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นพื้นฐานของการได้รับอำนาจเป็นเจ้าโลก😎 เมื่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการทหารมีมากกว่าประเทศอื่นๆ มาก การโอนอำนาจก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทันที ในช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง การเก็บตัวและสังเกตการณ์อยู่ข้างสนามและการแทรกแซงสงครามในเวลาที่เหมาะสม ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเฉียบแหลมทางการเมืองอันยอดเยี่ยมของกลุ่มนักคิดของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อประเทศในยุโรปไม่สามารถทำได้หากปราศจากการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา การโอนอำนาจเจ้าโลกจะเป็นเรื่องที่สำเร็จแน่นอน ในปัจจุบัน ขณะที่การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งที่สามกำลังจะสิ้นสุดลง และการปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบใหม่กำลังจะแตกออก อำนาจของอเมริกาก็มาถึงทางแยกแห่งโชคชะตาเนื่องจากมีเหตุการณ์เป็นตัวเร่งคือเรื่องของการเสริมกำลังทหารและความขัดแย้งภายในของตัวเอง สหรัฐฯ ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้จีนดำเนินตามขั้นตอนเดิมพัฒนาในลักษณะที่ไม่สำคัญต่อไป จากยุทธศาสตร์ปิดล้อมด้วย“สายโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก” (First Island Chain)รวมกับเครือข่ายพื้นที่แผ่นดินใหญ่ในยุคโอบามา ไปจนถึงสงครามการค้ากับจีนในยุคทรัมป์ และการโจมตีจีนโดยรัฐบริวารในเอเชียในเรื่องต่างๆ จะเห็นได้ว่าความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรักษาสิ่งที่เรียกว่าอำนาจเป็นใหญ่นั้นเปรียบเสมือนนักรบที่ติดอยู่ในสนามประลอง ในยุคแห่งความขัดแย้งครั้งใหญ่นี้ การยืนหยัดบนเส้นทางของตัวเองและระวังการแทรกซึมของกองกำลังศัตรูเป็นหนทางที่จะทำลายแผนการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐฯ และอำนาจเจ้าโลกของสหรัฐฯ 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts