• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(11ส.ค.) ประจำการทหารและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง เข้าควบคุมอาชญากรรมรุนแรงในกรุงวอชิงตัน ในความพยายามตอกย้ำคำอวดอ้างว่าตนเองในฐานะประธานาธิบดีผู้รักษาความสงบเรียบร้อย ด้วยปฏิบัติการปราบปรามที่เขาบ่งชี้ว่าอาจมีการขยายขอบเขตสู่เมืองหลักอื่นๆของอเมริกาด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076367

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(11ส.ค.) ประจำการทหารและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง เข้าควบคุมอาชญากรรมรุนแรงในกรุงวอชิงตัน ในความพยายามตอกย้ำคำอวดอ้างว่าตนเองในฐานะประธานาธิบดีผู้รักษาความสงบเรียบร้อย ด้วยปฏิบัติการปราบปรามที่เขาบ่งชี้ว่าอาจมีการขยายขอบเขตสู่เมืองหลักอื่นๆของอเมริกาด้วย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076367 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 672 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาเปิดปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กำจัดอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ทางออนไลน์ที่หยั่งรากลึกในประเทศและการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตามล่าสุดชาแนลนิวส์เอเชียเผยแพร่รายงานในวันอาทิตย์(10ก.ย.) ระบุปฏิบัติการดังกล่าวกลับไม่มีการแตะต้องตัวการใหญ่ๆแต่อย่างใด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076355

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาเปิดปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กำจัดอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ทางออนไลน์ที่หยั่งรากลึกในประเทศและการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตามล่าสุดชาแนลนิวส์เอเชียเผยแพร่รายงานในวันอาทิตย์(10ก.ย.) ระบุปฏิบัติการดังกล่าวกลับไม่มีการแตะต้องตัวการใหญ่ๆแต่อย่างใด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076355 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 657 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีปลอดภัยและจำเป็นจริงหรือ?
    ก่อนคิดจะไปรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ควรอ่านข้อมูลต่อไปนี้ก่อน
    การระบาดของไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจาก "วัคซีน" โควิดของแอสตร้าเซนเนก้า
    https://www.naturalnews.com/2022-07-19-hepatitis-children-direct-result-astrazeneca-covid-vaccine.html

    คลิป ดร. มิโคลาจ ราเซก กล่าวว่า ADE อาจทำให้เกิด 'โรคตับอักเสบปริศนา' ในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด
    https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/52986
    ______________________________
    ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี นั่นเป็นเรื่องที่ยาว ฉันจะพูดสั้นๆ โรคตับอักเสบบี คือการติดเชื้อที่แพร่ระบาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้หญิงจำนวนมากเป็นโรคตับอักเสบบี

    มันคือ… มันเป็นสองสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

    1) แม่ไม่มีโรคตับอักเสบบี แต่พวกเขา (วงการยา) ต้องการให้วัคซีนแก่ทารก เพราะพวกเขาคิดว่า ทารกจะติดเชื้อจากที่ไหนสักแห่ง นั่นไม่ใช่เรื่องดีที่จะทำ อันที่จริงฉันพูดตั้งแต่วัคซีนออกมาในปี 1991 ฉันพูดว่าถ้าฉันรวย และไม่มีอะไรทำ ฉันจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อพยายามกำจัดวัคซีนตัวนี้ เพราะมันเป็นพิษ มันสร้างความเสียหาย และไม่จำเป็นเลย

    2) ทีนี้ถ้าแม่เป็นโรคตับอักเสบบี มีข้อสันนิษฐานว่า ทารกจะติดเชื่อจากแม่โดยอัตโนมัติ ผ่านรก และทารกจะติดเชื้อตับอักเสบบีออกมา และผลการวิจัยพบว่า นั้นไม่เป็นความจริง อันที่จริง รกจะช่วยปกป้องทารก จากการติดโรคตับอักเสบบี ดังนั้นพวกเขาต้องการให้ลูกน้อยของคุณ เข้ารับการรักษาครั้งใหญ่โดยใช้ แอนติบอดี Hep B Ig (โกลบูลินภูมิคุ้มกันโรคตับอักเสบบี) ซึ่งพวกเขาเรียกว่า (HBIG) [Hep B Ig ( Hepatitis B immune globulin) antibody (HBIG) ] และพวกเขาทำสิ่งต่างๆ มากมายกับเด็กๆ เหล่านั้น

    หากแม่ของพวกเขา ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีล่วงหน้า นั่นเป็นเรื่องยาว ฉันไม่อยากใช้เวลาที่เหลือคุยแต่เรื่องนี้ แต่ถ้าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ‘ไม่เป็น’ ตับอักเสบบี ลูกของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นตับอักเสบบี โรคตับอักเสบบี เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ติดต่อทางอากาศ มันไม่แพร่เชื้อทางน้ำลาย หรือผ่านการใช้แปรงสีฟันร่วมกัน แม้ว่าพวกเขาจะบอกคุณแบบนั้นก็ตาม มันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือ ใช้เข็มที่ปนเปื้อนร่วมกัน และฉันไม่คิดว่าทารกแรกเกิดของคุณ จะทำอะไรพวกนั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่วัคซีนที่จำเป็น

    ดร. เทนเพนนีใช้เวลามากกว่า 24 ปีในการวิจัย บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยท่านแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีนในเด็ก

    อ่านบทสนทนาที่ถอดเสียงและแปลไทยจากคลิปที่นี้ --> https://www.rookon.com/?p=1112
    ______________________________
    โรคตับอักเสบในเด็ก สมมติฐานจนถึงปัจจุบัน:
    1. เด็กได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยา ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าร่วมการทดลองในวัยเด็ก หรือจากการข้ามช่วงอายุอย่างเป็นทางการ
    2. เด็กได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยาของแม่ ซึ่งความเป็นพิษจะถ่ายทอดผ่านน้ำนม
    3. การติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว ครู หรือผู้ดูแล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้น้ำร่วมกัน การหายใจออก ฯลฯ
    4. เด็กได้รับสารให้ความหวานเทียมที่เป็นพิษในปริมาณมาก เช่น แอสปาร์แตม
    5. ตารางการฉีดวัคซีนในวัยเด็กทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาอ่อนแอลง นำไปสู่โรคตับอักเสบ
    6. โรคตับอักเสบเป็นผลมาจากภาวะพร่องออกซิเจนจากการสวมหน้ากากอนามัย (https://t.me/robinmg/19155)

    เราไม่นับรวมเด็กที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และไม่สวมหน้ากากที่อาศัยอยู่และดูแลโดยผู้ที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และในที่นี้เราต้องชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนในวัยเด็กอื่นๆ รวมถึงจำนวนมหาศาลของวัคซีนเหล่านั้น อาจก่อให้เกิดโรคตับอักเสบอันเป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง โอกาสเกิดจะน้อยมาก

    ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนคือโรคตับอักเสบในวัยเด็กในชุมชนที่ไม่ยอมให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนตามตารางการฉีดวัคซีนหรือขั้นตอนการสวมหน้ากากที่เข้มงวด ซึ่งแน่นอนว่าเด็กเหล่านี้มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคตับอักเสบ

    สรุป: เกือบจะแน่นอนว่าเป็น "วัคซีน" แม้ว่าจะมาจากน้ำนมแม่ การหลั่งน้ำนม หรือความเป็นพิษจาก "วัคซีน" อื่นๆ ในวัยเด็กที่ผสมกัน ซึ่งรุนแรงขึ้นจากภาวะขาดออกซิเจนเนื่องจากการสวมหน้ากาก
    https://t.me/robinmg/19154
    ______________________________
    MMR (Measles,Mumps and Rubella) = วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน
    HepB = วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี

    วัคซีนมีความเสี่ยงต่อโรค MMR HepB ที่อาจเชื่อมโยงกับออทิซึม โรคจิต CFS โรคลูปัส...

    ดร. จูดี้ มิโควิทซ์

    "ถ้าพวกเขาให้ MMR กับเด็กผิวสี ที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบ พวกเขาจะมีโอกาสสูงกว่าสี่เท่า ได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นโรคออทิซึม โรคสมาธิสั้น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคทางจิตเวช โรค MECFS โรคลูปัส เป็นโรคในเด็กผู้หญิง และพวกเขาจะเป็นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และ MECFS ก็คือ Myalgic Encephalomyelitis หรือ Chronic Fatigue Syndrome และแน่นอนว่า มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 70 ในช่วงแผนการระบาดของโรคเอดส์ครั้งแรก ปริญญาเอกของดิฉัน ได้รับการปกป้องหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น คือวันที่ 14 พฤศจิกายน 1991 ดิฉันได้ปกป้องปริญญาเอกของดิฉัน ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ที่ GWU ซึ่งระบุว่า HIV ไม่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ หากคุณรักษาระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของคุณไว้
    มี HIV แต่ถูกฉีดเข้าในวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี.."

    รับชมตอนเต็มในรายการ Alpha Warrior:
    https://t.me/dr_judymikovitss
    ______________________________
    เปิดโปง แฉความเชื่อมโยง ระหว่างวัคซีนกับมะเร็ง :

    “วัคซีนรีคอมบิแนนท์ทั้งหมด [Hib (Haemophilus influenzae ชนิด b), ตับอักเสบ B, HPV (Human papillomavirus), ไอกรน (ส่วนหนึ่งของวัคซีนรวม DTaP), โรคปอดบวม, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, โรคงูสวัด] มีสารเสริมฤทธิ์ ที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทน การถ่ายโอนยีน โดยนำ DNA พลาสมิดที่ปนเปื้อน เข้าสู่เซลล์ของผู้รับผลิตภัณฑ์ พลาสมิดที่ถ่ายโอนยีน สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้

    ปัญหาการถ่ายโอน DNA พลาสมิดนี้ เป็นที่รู้จักอย่างน้อยตั้งแต่ปี 1999

    ต้องใช้เวลาถึง 25 ปี โรคระบาดที่ถูกสร้างขึ้น นักข่าวผู้กล้าหาญ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นต่าง และการประชุมสภา ที่อีกฟากหนึ่งของโลก12 เพื่อเปิดเผยเรื่องนี้

    บริษัทเภสัชกรรม ทราบเกี่ยวกับปัญหานี้ และพยายามปราบปราม เช่นเดียวกับหน่วยงานต่างๆ มากมายที่พยายามล้อเลียน ข่มขู่ และ คุกคามนักวิทยาศาสตร์ ที่พยายามส่งสัญญาณเตือน มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา"

    ดร. อาห์ ข่าน ไซเอ็ด

    https://www.arkmedic.info/p/would-you-like-plasmids-with-that
    ______________________________
    RFK Jr. ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 1999 ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ พยายามหาคำตอบว่า "วัคซีนที่มีสารปรอทเป็นส่วนประกอบนั้น ทำให้เกิดโรคออทิซึมหรือไม่ ?"

    เขาเล่าว่า CDC ได้ทำการศึกษาวัคซีนหนึ่งชนิด คือ วัคซีนตับอักเสบบี และพบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยอ้างอิงถึงความเสี่ยงสัมพัทธ์ (relative risk) ว่า การสูบบุหรี่หนึ่งซองต่อวัน เป็นเวลา 20 ปี มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดที่ระดับ 10 แต่ความเสี่ยงจากการได้รับวัคซีนตับอักเสบบี แล้วจะเป็นออทิสติก อยู่ที่ 11.35 ซึ่งสูงกว่าความเสี่ยง ที่บุหรี่ทำให้เกิดมะเร็ง !!

    RFK Jr. กล่าวว่า เมื่อ CDC รู้ข้อมูลนี้ พวกเขาตกใจมาก และจัดการประชุมลับขึ้น โดยมีการเชิญผู้เกี่ยวข้อง 52 คนเข้าร่วม รวมถึงผู้แทนจากบริษัทวัคซีนใหญ่ๆ และผู้แทนหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO), CDC, FDA, NIH, และ HHS การประชุมนี้ใช้เวลาสองวัน

    เขายังเปิดเผยว่า มีการบันทึกการประชุมครั้งนั้นไว้ และเขาได้ คำถอดเทปบันทึกการประชุมดังกล่าว มาในปี 2005 เขาบอกว่าข้อมูลในนั้นน่าสะพรึงกลัว และเปรียบเสมือนฝันร้าย

    RFK Jr. กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแล ความปลอดภัยของวัคซีนเหล่านั้น ซึ่งควรจะทำหน้าที่ปกป้องประชาชน กลับดูข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และบอกว่า "มันชัดเจนแล้ว เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดออทิซึม"

    RFK Jr: In 1999, the CDC wanted to find out "if these mercury vaccines are causing autism".

    "So they looked at one vaccine, the hepatitis B vaccine... and here's what they found: The relative risk of smoking a pack of cigarettes a day for 20 years and lung cancer is 10. This was 11.35. They knew."

    "They pushed the panic button and they had a secret meeting... They had a two day meeting with 52 individuals, including all the major vaccine companies, regulatory agencies that administer vaccines, WHO, CDC, FDA, NIH, HHS."

    "And somebody recorded that meeting... I got a hold of the transcripts in 2005, and it is horrific. It's a nightmare."

    "These regulators who are supposed to be protecting us... they're looking at the science and they are saying: It's bulletproof. We are causing autism."
    https://x.com/wideawake_media/status/1895795237487784385?t=lhpV-aFAn4SXWPzjT6tonA&s=19
    ______________________________
    "#Covidvaccination can elicit a distinct T cell-dominant immune-mediated hepatitis with a unique pathomechanism associated with vaccination induced antigen-specific tissue-resident immunity requiring systemic immunosuppression."
    https://sciencedirect.com/science/article/pii/S0168827822002343
    #วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี #hepatitis
    วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีปลอดภัยและจำเป็นจริงหรือ? ก่อนคิดจะไปรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ควรอ่านข้อมูลต่อไปนี้ก่อน ✍️การระบาดของไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจาก "วัคซีน" โควิดของแอสตร้าเซนเนก้า https://www.naturalnews.com/2022-07-19-hepatitis-children-direct-result-astrazeneca-covid-vaccine.html ✍️ คลิป ดร. มิโคลาจ ราเซก กล่าวว่า ADE อาจทำให้เกิด 'โรคตับอักเสบปริศนา' ในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/52986 ______________________________ ✍️ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี นั่นเป็นเรื่องที่ยาว ฉันจะพูดสั้นๆ โรคตับอักเสบบี คือการติดเชื้อที่แพร่ระบาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้หญิงจำนวนมากเป็นโรคตับอักเสบบี มันคือ… มันเป็นสองสถานการณ์ที่แตกต่างกัน 1) แม่ไม่มีโรคตับอักเสบบี แต่พวกเขา (วงการยา) ต้องการให้วัคซีนแก่ทารก เพราะพวกเขาคิดว่า ทารกจะติดเชื้อจากที่ไหนสักแห่ง นั่นไม่ใช่เรื่องดีที่จะทำ อันที่จริงฉันพูดตั้งแต่วัคซีนออกมาในปี 1991 ฉันพูดว่าถ้าฉันรวย และไม่มีอะไรทำ ฉันจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อพยายามกำจัดวัคซีนตัวนี้ เพราะมันเป็นพิษ มันสร้างความเสียหาย และไม่จำเป็นเลย 2) ทีนี้ถ้าแม่เป็นโรคตับอักเสบบี มีข้อสันนิษฐานว่า ทารกจะติดเชื่อจากแม่โดยอัตโนมัติ ผ่านรก และทารกจะติดเชื้อตับอักเสบบีออกมา และผลการวิจัยพบว่า นั้นไม่เป็นความจริง อันที่จริง รกจะช่วยปกป้องทารก จากการติดโรคตับอักเสบบี ดังนั้นพวกเขาต้องการให้ลูกน้อยของคุณ เข้ารับการรักษาครั้งใหญ่โดยใช้ แอนติบอดี Hep B Ig (โกลบูลินภูมิคุ้มกันโรคตับอักเสบบี) ซึ่งพวกเขาเรียกว่า (HBIG) [Hep B Ig ( Hepatitis B immune globulin) antibody (HBIG) ] และพวกเขาทำสิ่งต่างๆ มากมายกับเด็กๆ เหล่านั้น หากแม่ของพวกเขา ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีล่วงหน้า นั่นเป็นเรื่องยาว ฉันไม่อยากใช้เวลาที่เหลือคุยแต่เรื่องนี้ แต่ถ้าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ‘ไม่เป็น’ ตับอักเสบบี ลูกของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นตับอักเสบบี โรคตับอักเสบบี เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ติดต่อทางอากาศ มันไม่แพร่เชื้อทางน้ำลาย หรือผ่านการใช้แปรงสีฟันร่วมกัน แม้ว่าพวกเขาจะบอกคุณแบบนั้นก็ตาม มันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือ ใช้เข็มที่ปนเปื้อนร่วมกัน และฉันไม่คิดว่าทารกแรกเกิดของคุณ จะทำอะไรพวกนั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่วัคซีนที่จำเป็น ดร. เทนเพนนีใช้เวลามากกว่า 24 ปีในการวิจัย บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยท่านแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีนในเด็ก อ่านบทสนทนาที่ถอดเสียงและแปลไทยจากคลิปที่นี้ --> https://www.rookon.com/?p=1112 ______________________________ ✍️โรคตับอักเสบในเด็ก สมมติฐานจนถึงปัจจุบัน: 1. เด็กได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยา ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าร่วมการทดลองในวัยเด็ก หรือจากการข้ามช่วงอายุอย่างเป็นทางการ 2. เด็กได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยาของแม่ ซึ่งความเป็นพิษจะถ่ายทอดผ่านน้ำนม 3. การติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว ครู หรือผู้ดูแล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้น้ำร่วมกัน การหายใจออก ฯลฯ 4. เด็กได้รับสารให้ความหวานเทียมที่เป็นพิษในปริมาณมาก เช่น แอสปาร์แตม 5. ตารางการฉีดวัคซีนในวัยเด็กทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาอ่อนแอลง นำไปสู่โรคตับอักเสบ 6. โรคตับอักเสบเป็นผลมาจากภาวะพร่องออกซิเจนจากการสวมหน้ากากอนามัย (https://t.me/robinmg/19155) เราไม่นับรวมเด็กที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และไม่สวมหน้ากากที่อาศัยอยู่และดูแลโดยผู้ที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และในที่นี้เราต้องชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนในวัยเด็กอื่นๆ รวมถึงจำนวนมหาศาลของวัคซีนเหล่านั้น อาจก่อให้เกิดโรคตับอักเสบอันเป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง โอกาสเกิดจะน้อยมาก ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนคือโรคตับอักเสบในวัยเด็กในชุมชนที่ไม่ยอมให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนตามตารางการฉีดวัคซีนหรือขั้นตอนการสวมหน้ากากที่เข้มงวด ซึ่งแน่นอนว่าเด็กเหล่านี้มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคตับอักเสบ สรุป: เกือบจะแน่นอนว่าเป็น "วัคซีน" แม้ว่าจะมาจากน้ำนมแม่ การหลั่งน้ำนม หรือความเป็นพิษจาก "วัคซีน" อื่นๆ ในวัยเด็กที่ผสมกัน ซึ่งรุนแรงขึ้นจากภาวะขาดออกซิเจนเนื่องจากการสวมหน้ากาก https://t.me/robinmg/19154 ______________________________ ✍️MMR (Measles,Mumps and Rubella) = วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน HepB = วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี วัคซีนมีความเสี่ยงต่อโรค MMR HepB ที่อาจเชื่อมโยงกับออทิซึม โรคจิต CFS โรคลูปัส... ดร. จูดี้ มิโควิทซ์ "ถ้าพวกเขาให้ MMR กับเด็กผิวสี ที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบ พวกเขาจะมีโอกาสสูงกว่าสี่เท่า ได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นโรคออทิซึม โรคสมาธิสั้น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคทางจิตเวช โรค MECFS โรคลูปัส เป็นโรคในเด็กผู้หญิง และพวกเขาจะเป็นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และ MECFS ก็คือ Myalgic Encephalomyelitis หรือ Chronic Fatigue Syndrome และแน่นอนว่า มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 70 ในช่วงแผนการระบาดของโรคเอดส์ครั้งแรก ปริญญาเอกของดิฉัน ได้รับการปกป้องหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น คือวันที่ 14 พฤศจิกายน 1991 ดิฉันได้ปกป้องปริญญาเอกของดิฉัน ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ที่ GWU ซึ่งระบุว่า HIV ไม่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ หากคุณรักษาระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของคุณไว้ มี HIV แต่ถูกฉีดเข้าในวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี.." รับชมตอนเต็มในรายการ Alpha Warrior: https://t.me/dr_judymikovitss ______________________________ ✍️เปิดโปง แฉความเชื่อมโยง ระหว่างวัคซีนกับมะเร็ง 😱 : “วัคซีนรีคอมบิแนนท์ทั้งหมด [Hib (Haemophilus influenzae ชนิด b), ตับอักเสบ B, HPV (Human papillomavirus), ไอกรน (ส่วนหนึ่งของวัคซีนรวม DTaP), โรคปอดบวม, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, โรคงูสวัด] มีสารเสริมฤทธิ์ ที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทน การถ่ายโอนยีน โดยนำ DNA พลาสมิดที่ปนเปื้อน เข้าสู่เซลล์ของผู้รับผลิตภัณฑ์ พลาสมิดที่ถ่ายโอนยีน สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ 😱 ปัญหาการถ่ายโอน DNA พลาสมิดนี้ เป็นที่รู้จักอย่างน้อยตั้งแต่ปี 1999 ต้องใช้เวลาถึง 25 ปี โรคระบาดที่ถูกสร้างขึ้น นักข่าวผู้กล้าหาญ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นต่าง และการประชุมสภา ที่อีกฟากหนึ่งของโลก12 เพื่อเปิดเผยเรื่องนี้ บริษัทเภสัชกรรม ทราบเกี่ยวกับปัญหานี้ และพยายามปราบปราม เช่นเดียวกับหน่วยงานต่างๆ มากมายที่พยายามล้อเลียน ข่มขู่ และ คุกคามนักวิทยาศาสตร์ ที่พยายามส่งสัญญาณเตือน มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา" ดร. อาห์ ข่าน ไซเอ็ด https://www.arkmedic.info/p/would-you-like-plasmids-with-that ______________________________ ✍️RFK Jr. ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 1999 ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ พยายามหาคำตอบว่า "วัคซีนที่มีสารปรอทเป็นส่วนประกอบนั้น ทำให้เกิดโรคออทิซึมหรือไม่ ?" เขาเล่าว่า CDC ได้ทำการศึกษาวัคซีนหนึ่งชนิด คือ วัคซีนตับอักเสบบี และพบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยอ้างอิงถึงความเสี่ยงสัมพัทธ์ (relative risk) ว่า การสูบบุหรี่หนึ่งซองต่อวัน เป็นเวลา 20 ปี มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดที่ระดับ 10 แต่ความเสี่ยงจากการได้รับวัคซีนตับอักเสบบี แล้วจะเป็นออทิสติก อยู่ที่ 11.35 ซึ่งสูงกว่าความเสี่ยง ที่บุหรี่ทำให้เกิดมะเร็ง !! RFK Jr. กล่าวว่า เมื่อ CDC รู้ข้อมูลนี้ พวกเขาตกใจมาก และจัดการประชุมลับขึ้น โดยมีการเชิญผู้เกี่ยวข้อง 52 คนเข้าร่วม รวมถึงผู้แทนจากบริษัทวัคซีนใหญ่ๆ และผู้แทนหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO), CDC, FDA, NIH, และ HHS การประชุมนี้ใช้เวลาสองวัน เขายังเปิดเผยว่า มีการบันทึกการประชุมครั้งนั้นไว้ และเขาได้ คำถอดเทปบันทึกการประชุมดังกล่าว มาในปี 2005 เขาบอกว่าข้อมูลในนั้นน่าสะพรึงกลัว และเปรียบเสมือนฝันร้าย RFK Jr. กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแล ความปลอดภัยของวัคซีนเหล่านั้น ซึ่งควรจะทำหน้าที่ปกป้องประชาชน กลับดูข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และบอกว่า "มันชัดเจนแล้ว เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดออทิซึม" RFK Jr: In 1999, the CDC wanted to find out "if these mercury vaccines are causing autism". "So they looked at one vaccine, the hepatitis B vaccine... and here's what they found: The relative risk of smoking a pack of cigarettes a day for 20 years and lung cancer is 10. This was 11.35. They knew." "They pushed the panic button and they had a secret meeting... They had a two day meeting with 52 individuals, including all the major vaccine companies, regulatory agencies that administer vaccines, WHO, CDC, FDA, NIH, HHS." "And somebody recorded that meeting... I got a hold of the transcripts in 2005, and it is horrific. It's a nightmare." "These regulators who are supposed to be protecting us... they're looking at the science and they are saying: It's bulletproof. We are causing autism." https://x.com/wideawake_media/status/1895795237487784385?t=lhpV-aFAn4SXWPzjT6tonA&s=19 ______________________________ ✍️"#Covidvaccination can elicit a distinct T cell-dominant immune-mediated hepatitis with a unique pathomechanism associated with vaccination induced antigen-specific tissue-resident immunity requiring systemic immunosuppression." https://sciencedirect.com/science/article/pii/S0168827822002343 #วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี #hepatitis
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลจีบีซีหยุดยิง-ไม่ยั่วยุ กัมพูชาไม่ตอบรับกู้ระเบิด : [THE MESSAGE]
    พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรมว.กลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน คือ 1.ยึดมั่นการหยุดยิงอย่างเคร่งครัดครอบคลุมอาวุธทุกประเภท ไม่เสริมกำลังเพิ่ม 2.มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ละเมิดการหยุดยิง 3.หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุ ทั้งทางทหารและการให้ข้อมูลบิดเบือน ข่าวเท็จ 4.ปฏิบัติตามกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เก็บร่างผู้เสียชีวิตส่งกลับประเทศ ประกอบพิธีอย่างมีเกียรติ 5.ใช้กลไกทวีภาคีแก้ปัญหา โดยจะประชุม RBC ภายในสองสัปดาห์ และประชุม GBC ในอีก 1 เดือน เพื่อติดตามผลประชุมครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ยังหยิบยก 2 ประเด็นสำคัญ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังไม่ตอบรับ คือ 1.เก็บกู้ทุ่นระเบิด และ 2.ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาค ย้ำ สิ่งที่หารือจะเกิดผลเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของสองฝ่าย ยืนยัน ไทยยึดมั่นให้ความร่วมมือ เป็นเพื่อนบ้านที่ดี หวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะปฏิบัติเช่นเดียวกัน
    ผลจีบีซีหยุดยิง-ไม่ยั่วยุ กัมพูชาไม่ตอบรับกู้ระเบิด : [THE MESSAGE] พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรมว.กลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน คือ 1.ยึดมั่นการหยุดยิงอย่างเคร่งครัดครอบคลุมอาวุธทุกประเภท ไม่เสริมกำลังเพิ่ม 2.มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ละเมิดการหยุดยิง 3.หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุ ทั้งทางทหารและการให้ข้อมูลบิดเบือน ข่าวเท็จ 4.ปฏิบัติตามกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เก็บร่างผู้เสียชีวิตส่งกลับประเทศ ประกอบพิธีอย่างมีเกียรติ 5.ใช้กลไกทวีภาคีแก้ปัญหา โดยจะประชุม RBC ภายในสองสัปดาห์ และประชุม GBC ในอีก 1 เดือน เพื่อติดตามผลประชุมครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ยังหยิบยก 2 ประเด็นสำคัญ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังไม่ตอบรับ คือ 1.เก็บกู้ทุ่นระเบิด และ 2.ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาค ย้ำ สิ่งที่หารือจะเกิดผลเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของสองฝ่าย ยืนยัน ไทยยึดมั่นให้ความร่วมมือ เป็นเพื่อนบ้านที่ดี หวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะปฏิบัติเช่นเดียวกัน
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

    พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

    พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ

    1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

    2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

    พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย

    "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"

    "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ 1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย 2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม" "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ FBI ปิดบัญชี Chaos ด้วย Bitcoin

    ในเดือนเมษายน 2025 FBI Dallas ได้ยึด Bitcoin จำนวน 20.2891382 BTC จากกระเป๋าเงินดิจิทัลของสมาชิกกลุ่ม Chaos ransomware ที่ใช้ชื่อว่า “Hors” ซึ่งเชื่อมโยงกับการโจมตีไซเบอร์และเรียกค่าไถ่จากเหยื่อในรัฐเท็กซัสและพื้นที่อื่น ๆ

    Chaos เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ RaaS (Ransomware-as-a-Service) ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยเชื่อว่าเป็นการรวมตัวของอดีตสมาชิกกลุ่ม BlackSuit ซึ่งถูกปราบปรามโดยปฏิบัติการระหว่างประเทศชื่อ “Operation Checkmate”

    กลุ่ม Chaos ใช้เทคนิคการโจมตีแบบ double extortion คือการเข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อและขโมยข้อมูลเพื่อข่มขู่เปิดเผยหากไม่จ่ายค่าไถ่ โดยเรียกเงินสูงถึง $300,000 ต่อราย และใช้วิธีหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ให้เหยื่อเปิด Microsoft Quick Assist เพื่อให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบ

    FBI Dallas ยึด Bitcoin มูลค่ากว่า $2.4 ล้านจากสมาชิกกลุ่ม Chaos
    ยึดจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของ “Hors” ผู้ต้องสงสัยโจมตีไซเบอร์ในเท็กซัส
    ยื่นคำร้องขอยึดทรัพย์แบบพลเรือนเพื่อโอนเข้ารัฐบาลสหรัฐฯ

    Chaos ransomware เป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นหลัง BlackSuit ถูกปราบปราม
    มีลักษณะการโจมตีคล้าย BlackSuit เช่น การเข้ารหัสไฟล์และข่มขู่เปิดเผยข้อมูล
    ใช้ชื่อ “.chaos” เป็นนามสกุลไฟล์ที่ถูกเข้ารหัส และ “readme.chaos.txt” เป็นโน้ตเรียกค่าไถ่

    ใช้เทคนิคหลอกลวงผ่านโทรศัพท์และซอฟต์แวร์ช่วยเหลือระยะไกล
    หลอกเหยื่อให้เปิด Microsoft Quick Assist เพื่อให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบ
    ใช้เครื่องมือ RMM เช่น AnyDesk และ ScreenConnect เพื่อคงการเข้าถึง

    หากเหยื่อจ่ายเงิน จะได้รับ decryptor และรายงานช่องโหว่ของระบบ
    สัญญาว่าจะลบข้อมูลที่ขโมยไปและไม่โจมตีซ้ำ
    หากไม่จ่าย จะถูกข่มขู่ด้วยการเปิดเผยข้อมูลและโจมตี DDoS

    Chaos สามารถโจมตีระบบ Windows, Linux, ESXi และ NAS ได้
    ใช้การเข้ารหัสแบบ selective encryption เพื่อเพิ่มความเร็ว
    มีระบบป้องกันการวิเคราะห์และหลบเลี่ยง sandbox/debugger

    การใช้เครื่องมือช่วยเหลือระยะไกลอาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบ
    Microsoft Quick Assist ถูกใช้เป็นช่องทางหลักในการหลอกเหยื่อ
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบตัวตนผู้ขอความช่วยเหลือก่อนให้สิทธิ์เข้าถึง

    การไม่จ่ายค่าไถ่อาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลและโจมตีเพิ่มเติม
    Chaos ข่มขู่จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและโจมตี DDoS
    ส่งผลต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นขององค์กร

    การใช้สกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถปกปิดตัวตนได้เสมอไป
    FBI สามารถติดตามและยึด Bitcoin ผ่านการวิเคราะห์บล็อกเชน
    การใช้ crypto ไม่ได้หมายถึงความปลอดภัยจากการถูกจับกุม

    กลุ่มแรนซัมแวร์มีแนวโน้มเปลี่ยนชื่อและกลับมาใหม่หลังถูกปราบปราม
    Chaos อาจเป็นการรีแบรนด์จาก BlackSuit ซึ่งเดิมคือ Royal และ Conti
    การปราบปรามต้องต่อเนื่องและครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการเงิน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/fbi-seizes-usd2-4-million-in-bitcoin-from-member-of-recently-ascendant-chaos-ransomware-group
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ FBI ปิดบัญชี Chaos ด้วย Bitcoin ในเดือนเมษายน 2025 FBI Dallas ได้ยึด Bitcoin จำนวน 20.2891382 BTC จากกระเป๋าเงินดิจิทัลของสมาชิกกลุ่ม Chaos ransomware ที่ใช้ชื่อว่า “Hors” ซึ่งเชื่อมโยงกับการโจมตีไซเบอร์และเรียกค่าไถ่จากเหยื่อในรัฐเท็กซัสและพื้นที่อื่น ๆ Chaos เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ RaaS (Ransomware-as-a-Service) ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยเชื่อว่าเป็นการรวมตัวของอดีตสมาชิกกลุ่ม BlackSuit ซึ่งถูกปราบปรามโดยปฏิบัติการระหว่างประเทศชื่อ “Operation Checkmate” กลุ่ม Chaos ใช้เทคนิคการโจมตีแบบ double extortion คือการเข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อและขโมยข้อมูลเพื่อข่มขู่เปิดเผยหากไม่จ่ายค่าไถ่ โดยเรียกเงินสูงถึง $300,000 ต่อราย และใช้วิธีหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ให้เหยื่อเปิด Microsoft Quick Assist เพื่อให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบ ✅ FBI Dallas ยึด Bitcoin มูลค่ากว่า $2.4 ล้านจากสมาชิกกลุ่ม Chaos ➡️ ยึดจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของ “Hors” ผู้ต้องสงสัยโจมตีไซเบอร์ในเท็กซัส ➡️ ยื่นคำร้องขอยึดทรัพย์แบบพลเรือนเพื่อโอนเข้ารัฐบาลสหรัฐฯ ✅ Chaos ransomware เป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นหลัง BlackSuit ถูกปราบปราม ➡️ มีลักษณะการโจมตีคล้าย BlackSuit เช่น การเข้ารหัสไฟล์และข่มขู่เปิดเผยข้อมูล ➡️ ใช้ชื่อ “.chaos” เป็นนามสกุลไฟล์ที่ถูกเข้ารหัส และ “readme.chaos.txt” เป็นโน้ตเรียกค่าไถ่ ✅ ใช้เทคนิคหลอกลวงผ่านโทรศัพท์และซอฟต์แวร์ช่วยเหลือระยะไกล ➡️ หลอกเหยื่อให้เปิด Microsoft Quick Assist เพื่อให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบ ➡️ ใช้เครื่องมือ RMM เช่น AnyDesk และ ScreenConnect เพื่อคงการเข้าถึง ✅ หากเหยื่อจ่ายเงิน จะได้รับ decryptor และรายงานช่องโหว่ของระบบ ➡️ สัญญาว่าจะลบข้อมูลที่ขโมยไปและไม่โจมตีซ้ำ ➡️ หากไม่จ่าย จะถูกข่มขู่ด้วยการเปิดเผยข้อมูลและโจมตี DDoS ✅ Chaos สามารถโจมตีระบบ Windows, Linux, ESXi และ NAS ได้ ➡️ ใช้การเข้ารหัสแบบ selective encryption เพื่อเพิ่มความเร็ว ➡️ มีระบบป้องกันการวิเคราะห์และหลบเลี่ยง sandbox/debugger ‼️ การใช้เครื่องมือช่วยเหลือระยะไกลอาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบ ⛔ Microsoft Quick Assist ถูกใช้เป็นช่องทางหลักในการหลอกเหยื่อ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบตัวตนผู้ขอความช่วยเหลือก่อนให้สิทธิ์เข้าถึง ‼️ การไม่จ่ายค่าไถ่อาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลและโจมตีเพิ่มเติม ⛔ Chaos ข่มขู่จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและโจมตี DDoS ⛔ ส่งผลต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นขององค์กร ‼️ การใช้สกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถปกปิดตัวตนได้เสมอไป ⛔ FBI สามารถติดตามและยึด Bitcoin ผ่านการวิเคราะห์บล็อกเชน ⛔ การใช้ crypto ไม่ได้หมายถึงความปลอดภัยจากการถูกจับกุม ‼️ กลุ่มแรนซัมแวร์มีแนวโน้มเปลี่ยนชื่อและกลับมาใหม่หลังถูกปราบปราม ⛔ Chaos อาจเป็นการรีแบรนด์จาก BlackSuit ซึ่งเดิมคือ Royal และ Conti ⛔ การปราบปรามต้องต่อเนื่องและครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการเงิน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/fbi-seizes-usd2-4-million-in-bitcoin-from-member-of-recently-ascendant-chaos-ransomware-group
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พ่อนายกฯ" ให้โอวาทพรรคร่วมรัฐบาล บอกบ้านเมืองเสียหายไปมากบริหารผิดพลาด-ระบบราชการที่เติบโต
    https://www.thai-tai.tv/news/20452/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #แพทองธาร #พรรคเพื่อไทย #พรรคร่วมรัฐบาล #สามัคคีประเทศไทย #ปราบปรามยาเสพติด #กัญชาเสรี #การเมืองไทย #เศรษฐกิจ #บริหารประเทศ
    "พ่อนายกฯ" ให้โอวาทพรรคร่วมรัฐบาล บอกบ้านเมืองเสียหายไปมากบริหารผิดพลาด-ระบบราชการที่เติบโต https://www.thai-tai.tv/news/20452/ . #ทักษิณชินวัตร #แพทองธาร #พรรคเพื่อไทย #พรรคร่วมรัฐบาล #สามัคคีประเทศไทย #ปราบปรามยาเสพติด #กัญชาเสรี #การเมืองไทย #เศรษฐกิจ #บริหารประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครสวรรค์ - ตำรวจสอบสวนกลางตามค้นตู้เซฟ “ทิดสฤษดิ์” ถึงกุฏิเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ขยายผลสอบเส้นเงินวัด..พบโฉนดสีกาเศรษฐินีอสังหาฯ อยู่ในตู้ด้วย พระเลขาฯ รับคุ้นชื่อแต่ไม่รู้ที่มาโฉนดโผล่กุฏิ

    ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสเพิ่งลาสิกขา หลังถูกร้องเรียนพัวพันสีกาและเงินวัดจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ก.ค. 68) พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนที่กลับจากการตรวจสอบพื้นที่พุทธอุทยานจังหวัดนครสวรรค์ ได้เข้าสอบสวนพยานเพิ่มเติมภายในวัดนครสวรรค์ โดยเฉพาะกลุ่มไวยาวัจกร เพื่อขยายผลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเงินวัดและการบริหารจัดการที่ผ่านมา

    จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบ “ตู้เซฟขนาดใหญ่” บนกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส โดยอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปเป็นตัวแทนร่วมสังเกตการณ์จำนวน 5 คน ซึ่งเมื่อเปิดตู้เซฟออกมาพบเอกสารบางส่วน เงินสดธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 3 ปึก และพบ “โฉนดที่ดิน” ซึ่งระบุชื่อ นางสาวภูธินี กวินพิศาล เป็นเจ้าของอยู่ในตู้เซฟด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000069044

    #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์
    นครสวรรค์ - ตำรวจสอบสวนกลางตามค้นตู้เซฟ “ทิดสฤษดิ์” ถึงกุฏิเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ขยายผลสอบเส้นเงินวัด..พบโฉนดสีกาเศรษฐินีอสังหาฯ อยู่ในตู้ด้วย พระเลขาฯ รับคุ้นชื่อแต่ไม่รู้ที่มาโฉนดโผล่กุฏิ • ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสเพิ่งลาสิกขา หลังถูกร้องเรียนพัวพันสีกาและเงินวัดจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ก.ค. 68) พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนที่กลับจากการตรวจสอบพื้นที่พุทธอุทยานจังหวัดนครสวรรค์ ได้เข้าสอบสวนพยานเพิ่มเติมภายในวัดนครสวรรค์ โดยเฉพาะกลุ่มไวยาวัจกร เพื่อขยายผลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเงินวัดและการบริหารจัดการที่ผ่านมา • จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบ “ตู้เซฟขนาดใหญ่” บนกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส โดยอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปเป็นตัวแทนร่วมสังเกตการณ์จำนวน 5 คน ซึ่งเมื่อเปิดตู้เซฟออกมาพบเอกสารบางส่วน เงินสดธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 3 ปึก และพบ “โฉนดที่ดิน” ซึ่งระบุชื่อ นางสาวภูธินี กวินพิศาล เป็นเจ้าของอยู่ในตู้เซฟด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000069044 • #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตาชายแดนเดือด! ทบ.ชี้แจงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาแก่ผู้บังคับหน่วย ย้ำป้องกันข้อมูลบิดเบือนสู่สังคม
    https://www.thai-tai.tv/news/20446/
    .
    #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #ยาเสพติด #สกัดกั้นยาเสพติด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย #ความมั่นคง #สวัสดิการกำลังพล #พลเอกพนา #พลตรีวินธัย

    จับตาชายแดนเดือด! ทบ.ชี้แจงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาแก่ผู้บังคับหน่วย ย้ำป้องกันข้อมูลบิดเบือนสู่สังคม https://www.thai-tai.tv/news/20446/ . #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #ยาเสพติด #สกัดกั้นยาเสพติด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย #ความมั่นคง #สวัสดิการกำลังพล #พลเอกพนา #พลตรีวินธัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอง ผบช.ก.เผยพบทองคำบางส่วนแล้ว หลังถูกซักหนัก เจ้าอาวาสวัดม่วงอ้างหลง ๆ ลืมๆ เร่งตรวจสอบทุกบัญชีรายได้ไหลเข้าวัด

    วันนี้ ( 21 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี “พระราชวัชรพัฒนาทร” หรือ ”เจ้าคุณณรงค์“ เจ้าอาวาสวัดม่วง แจ้งความถูกคนร้ายลักเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำหนัก 250 บาทว่าเรื่องนี้ค่อนข้างอลเวง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ บก.ปปป.ซักถามเจ้าอาวาสหนักเข้าล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าท่านหลง ๆ ลืม ๆ และเริ่มจำได้บ้างแล้วว่าเจอทองบางส่วน แต่จำนวนเท่าไหร่ยังไม่ได้รับรายงาน ยืนยันเจ้าอาวาสไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทิ้งเรื่องวัดม่วง เพราะเป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา เหตุจากมีเงินเกินตัว และมีหลายบัญชีที่ยังไม่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบทุกบัญชี ทุกรายได้ที่เข้ามาในวัด ตลอดจนเส้นเงินที่ไหลเข้ามาว่ามาจากไหน อย่างไร และเจ้าอาวาสบริหารเงินอย่างไร เพราะที่วัด ไวยาวัจกรไม่ได้มีอำนาจบริหารเงิน ดังนั้นเจ้าอาวาสต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068587

    #Thaitimes #MGROnline #เจ้าอาวาสวัดม่วง
    รอง ผบช.ก.เผยพบทองคำบางส่วนแล้ว หลังถูกซักหนัก เจ้าอาวาสวัดม่วงอ้างหลง ๆ ลืมๆ เร่งตรวจสอบทุกบัญชีรายได้ไหลเข้าวัด • วันนี้ ( 21 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี “พระราชวัชรพัฒนาทร” หรือ ”เจ้าคุณณรงค์“ เจ้าอาวาสวัดม่วง แจ้งความถูกคนร้ายลักเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำหนัก 250 บาทว่าเรื่องนี้ค่อนข้างอลเวง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ บก.ปปป.ซักถามเจ้าอาวาสหนักเข้าล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าท่านหลง ๆ ลืม ๆ และเริ่มจำได้บ้างแล้วว่าเจอทองบางส่วน แต่จำนวนเท่าไหร่ยังไม่ได้รับรายงาน ยืนยันเจ้าอาวาสไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์ • พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทิ้งเรื่องวัดม่วง เพราะเป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา เหตุจากมีเงินเกินตัว และมีหลายบัญชีที่ยังไม่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบทุกบัญชี ทุกรายได้ที่เข้ามาในวัด ตลอดจนเส้นเงินที่ไหลเข้ามาว่ามาจากไหน อย่างไร และเจ้าอาวาสบริหารเงินอย่างไร เพราะที่วัด ไวยาวัจกรไม่ได้มีอำนาจบริหารเงิน ดังนั้นเจ้าอาวาสต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068587 • #Thaitimes #MGROnline #เจ้าอาวาสวัดม่วง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๒รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้

    วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า ในส่วนของการตรวจสอบความผิดอาญาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ขณะนี้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และในวันนี้มีการจัดกำลังลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานและโครงการอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาที่ บก.ปปป. ครั้งหนึ่งแล้วในการก่อสร้างอุทยานมีการระดมทุนหลายร้อยล้าน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเงินจากวัดส่วนกลางอีก ซึ่งมีการร้องเรียนว่าใช้เงินมหาศาลมาก่อสร้างนาน 10 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังพบว่ามีเส้นเงินสามารถจะไปซื้อที่ดินแจกให้หมอดูได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ และมีบ้านขนาดใหญ่, รถและทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ตำรวจยังเห็นข้อมูลไม่หมดขอเวลาได้ทำงานก่อน เพราะยังมีบัญชีพระลูกวัดโอนให้อีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068580

    #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์ #สองสีกา
    ๒รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้ • วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า ในส่วนของการตรวจสอบความผิดอาญาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ขณะนี้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และในวันนี้มีการจัดกำลังลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน • พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานและโครงการอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาที่ บก.ปปป. ครั้งหนึ่งแล้วในการก่อสร้างอุทยานมีการระดมทุนหลายร้อยล้าน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเงินจากวัดส่วนกลางอีก ซึ่งมีการร้องเรียนว่าใช้เงินมหาศาลมาก่อสร้างนาน 10 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังพบว่ามีเส้นเงินสามารถจะไปซื้อที่ดินแจกให้หมอดูได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ และมีบ้านขนาดใหญ่, รถและทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ตำรวจยังเห็นข้อมูลไม่หมดขอเวลาได้ทำงานก่อน เพราะยังมีบัญชีพระลูกวัดโอนให้อีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068580 • #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์ #สองสีกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ภูมิธรรม' ประกาศสงครามยาเสพติด ยก 'ทักษิณ' ต้นแบบ ลั่น! พร้อมย้ายข้าราชการเอี่ยวส่วยทันที
    https://www.thai-tai.tv/news/20411/
    .
    #ยาเสพติด #ภูมิธรรม #กระทรวงมหาดไทย #ปราบปรามยาเสพติด #คอร์รัปชัน #วาระชาติ #ทักษิณโมเดล #แพทองธาร #เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวยาเสพติด #ความมั่นคง

    'ภูมิธรรม' ประกาศสงครามยาเสพติด ยก 'ทักษิณ' ต้นแบบ ลั่น! พร้อมย้ายข้าราชการเอี่ยวส่วยทันที https://www.thai-tai.tv/news/20411/ . #ยาเสพติด #ภูมิธรรม #กระทรวงมหาดไทย #ปราบปรามยาเสพติด #คอร์รัปชัน #วาระชาติ #ทักษิณโมเดล #แพทองธาร #เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวยาเสพติด #ความมั่นคง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!!

    “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป

    ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕

    จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้

    แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก

    ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก

    รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก

    ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป
    หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี

    เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย

    เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท

    แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง

    การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!! “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕ จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้ แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อเขมรวอนชาวโลกอย่าตัดสินกัมพูชาจากปัญหาในอดีตว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ ขอให้ดูการกระทำปัจจุบันและวิสัยทัศน์ในอนาคตของรัฐบาล ยันมุ่งมั่นกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์จริงจัง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ กัมพูชาไม่ใช่ปัญหาแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระดับโลก

    ภายหลังจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีการจับกุมแก๊งอชญากรรมออนไลน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ในกรุงพนมเปญ เมืองสีหนุวิลล์ เมืองปอยเปต จังหวัดกระแจะ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดกัมปงสปือ เป็นต้น ล่าสุด วันนี้(18 ก.ค.) สำนักข่าว Khmer Times เผยแพร่รายงานพิเศษในหัวข้อ “สงครามอันไม่หยุดยั้งของกัมพูชาต่อการฉ้อโกงออนไลน์: จากวิกฤตชาติสู่ความรับผิดชอบระดับโลก” มีใจความว่า ปัจจุบันกัมพูชากำลังมุ่งมั่นและเป็นกำลังสำคัญระดับแนวหน้าของการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก ในยุคที่กลุ่มอาชญากรใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบาง ฟอกเงินจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย และลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน รัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำอันเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ริเริ่มการรณรงค์อย่างไม่ลดละและต่อเนื่องเพื่อกำจัดภัยร้ายนี้ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา

    นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองชั่วคราว แต่เป็นการระดมกำลังจากรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งได้รับการประสานงาน การบังคับบัญชา และการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000067683

    #Thaitimes #MGROnline #ศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา
    สื่อเขมรวอนชาวโลกอย่าตัดสินกัมพูชาจากปัญหาในอดีตว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ ขอให้ดูการกระทำปัจจุบันและวิสัยทัศน์ในอนาคตของรัฐบาล ยันมุ่งมั่นกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์จริงจัง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ กัมพูชาไม่ใช่ปัญหาแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระดับโลก • ภายหลังจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีการจับกุมแก๊งอชญากรรมออนไลน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ในกรุงพนมเปญ เมืองสีหนุวิลล์ เมืองปอยเปต จังหวัดกระแจะ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดกัมปงสปือ เป็นต้น ล่าสุด วันนี้(18 ก.ค.) สำนักข่าว Khmer Times เผยแพร่รายงานพิเศษในหัวข้อ “สงครามอันไม่หยุดยั้งของกัมพูชาต่อการฉ้อโกงออนไลน์: จากวิกฤตชาติสู่ความรับผิดชอบระดับโลก” มีใจความว่า ปัจจุบันกัมพูชากำลังมุ่งมั่นและเป็นกำลังสำคัญระดับแนวหน้าของการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก ในยุคที่กลุ่มอาชญากรใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบาง ฟอกเงินจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย และลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน รัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำอันเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ริเริ่มการรณรงค์อย่างไม่ลดละและต่อเนื่องเพื่อกำจัดภัยร้ายนี้ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา • นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองชั่วคราว แต่เป็นการระดมกำลังจากรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งได้รับการประสานงาน การบังคับบัญชา และการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000067683 • #Thaitimes #MGROnline #ศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ เผยสถานการณ์ภาพรวมจุดผ่านแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียกร้องกัมพูชาประสานเวลาเปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาคจากการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล ยืนยัน กต.ไม่นิ่งนอนใจ รอผลตรวจสอบจากกองทัพ หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมส่งหนังสือประท้วงตามกลไกทวิภาคีและช่องทางที่เหมาะสม

    วันนี้(18 ก.ค.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ด้านการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาการเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะข้ามแดน และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันทั้งสองประเทศ หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวตามที่ได้มีการประกาศไว้ ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการจริงจังของฝ่ายกัมพูชา ว่าจะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อมีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067650

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ เผยสถานการณ์ภาพรวมจุดผ่านแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียกร้องกัมพูชาประสานเวลาเปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาคจากการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล ยืนยัน กต.ไม่นิ่งนอนใจ รอผลตรวจสอบจากกองทัพ หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมส่งหนังสือประท้วงตามกลไกทวิภาคีและช่องทางที่เหมาะสม • วันนี้(18 ก.ค.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ด้านการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาการเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะข้ามแดน และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันทั้งสองประเทศ หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวตามที่ได้มีการประกาศไว้ ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการจริงจังของฝ่ายกัมพูชา ว่าจะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อมีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067650 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 430 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเป็นพิธี? 'ฮุน มาเนต' สั่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำชับทุกหน่วยงานร่วมมือ หากปล่อยปละละเลยโดนย้าย-ไล่ออกแน่
    https://www.thai-tai.tv/news/20317/
    .
    #กัมพูชา #ฮุนมาเนต #อาชญากรรมออนไลน์ #แก๊งสแกมเมอร์ #ปราบปราม #ควบคุมชายแดน #ต่างชาติผิดกฎหมาย #คาสิโน #การทุจริตไซเบอร์ #เข้มงวดข้าราชการ
    พอเป็นพิธี? 'ฮุน มาเนต' สั่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำชับทุกหน่วยงานร่วมมือ หากปล่อยปละละเลยโดนย้าย-ไล่ออกแน่ https://www.thai-tai.tv/news/20317/ . #กัมพูชา #ฮุนมาเนต #อาชญากรรมออนไลน์ #แก๊งสแกมเมอร์ #ปราบปราม #ควบคุมชายแดน #ต่างชาติผิดกฎหมาย #คาสิโน #การทุจริตไซเบอร์ #เข้มงวดข้าราชการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ!

    การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก

    สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร

    ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น

    กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก

    น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว

    การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท

    ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่

    #Newskit
    สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ! การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 701 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ร่ำไห้ ถูกซักปม "สีกากอล์ฟ" - รอง ผบช.ก.เผยพระบางรูปหัวหมอตั้งทนายสู้อ้างคลิปตัดต่อ ลั่นหากรูปไหนดื้อจะไล่เก็บให้จบ

    วันนี้ (12 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำ "ทิดแหล่" หรืออดีตพระครูสิริวิริยธาดา อดีต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีการกอล์ฟว่าการสอบปากคำในวันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ตำรวจเข้าใจในพฤติกรรมที่ทำให้พระตกเป็นเหยื่อของสีกากอล์ฟ และเรื่องเงินก็ให้การสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจได้มา แต่เดี๋ยวให้ท่านได้กลับไปตั้งสติก่อน แล้วจะนัดหมายมาให้ปากคำอีกที ส่วนพฤติการณ์ที่ท่านตกเป็นเหยื่อ ก็แล้วแต่ความประสงค์ของท่านว่าจะให้การกับตำรวจในรายละเอียดอีกครั้งหรือไม่ทางเราไม่ได้บังคับ

    รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้ได้ไปหารือกับสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารนั้น ก็เพื่อให้พระชั้นผู้ใหญ่ได้มีส่วนร่วมจัดการกับปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้ให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องไปสึกแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายรูปที่ยังไม่สึก บางรูปปล่อยข่าวว่าสึกแต่ก็ยังไม่ได้สึก ตำรวจจึงได้ประสานทั้ง 2 นิกาย คือ มหานิกาย และธรรมยุต เพื่อส่งพยานหลักฐานให้ไปดำเนินการทางวินัยกับพระเหล่านี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065644

    #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ร่ำไห้ ถูกซักปม "สีกากอล์ฟ" - รอง ผบช.ก.เผยพระบางรูปหัวหมอตั้งทนายสู้อ้างคลิปตัดต่อ ลั่นหากรูปไหนดื้อจะไล่เก็บให้จบ • วันนี้ (12 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำ "ทิดแหล่" หรืออดีตพระครูสิริวิริยธาดา อดีต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีการกอล์ฟว่าการสอบปากคำในวันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ตำรวจเข้าใจในพฤติกรรมที่ทำให้พระตกเป็นเหยื่อของสีกากอล์ฟ และเรื่องเงินก็ให้การสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจได้มา แต่เดี๋ยวให้ท่านได้กลับไปตั้งสติก่อน แล้วจะนัดหมายมาให้ปากคำอีกที ส่วนพฤติการณ์ที่ท่านตกเป็นเหยื่อ ก็แล้วแต่ความประสงค์ของท่านว่าจะให้การกับตำรวจในรายละเอียดอีกครั้งหรือไม่ทางเราไม่ได้บังคับ • รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้ได้ไปหารือกับสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารนั้น ก็เพื่อให้พระชั้นผู้ใหญ่ได้มีส่วนร่วมจัดการกับปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้ให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องไปสึกแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายรูปที่ยังไม่สึก บางรูปปล่อยข่าวว่าสึกแต่ก็ยังไม่ได้สึก ตำรวจจึงได้ประสานทั้ง 2 นิกาย คือ มหานิกาย และธรรมยุต เพื่อส่งพยานหลักฐานให้ไปดำเนินการทางวินัยกับพระเหล่านี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065644 • #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.129 : Scambodia เชื้อชั่วไม่ยอมตาย?
    .
    ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่า หลายเดือนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่า บรรดาแก๊งคอลเซนเตอร์จะสงบไปพักหนึ่ง หลังจากถูกปราบปรามอย่างหนัก...แต่ว่า ตอนนี้ ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า สถิติการแจ้งความคดีหลอกลวงทางโทรคมนาคม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ เราจะมาหาคำตอบกันครับว่า ทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงฆ่าไม่ตาย ปราบไม่สิ้น ขบวนการอาชญากรรมหลอกลวงยังวนเวียนอยู่ในเมียนมา ไทย และกัมพูชา ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=NuFhZse7NNw
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #สแกมเมอร์ #Scambodia
    บูรพาไม่แพ้ Ep.129 : Scambodia เชื้อชั่วไม่ยอมตาย? . ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่า หลายเดือนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่า บรรดาแก๊งคอลเซนเตอร์จะสงบไปพักหนึ่ง หลังจากถูกปราบปรามอย่างหนัก...แต่ว่า ตอนนี้ ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า สถิติการแจ้งความคดีหลอกลวงทางโทรคมนาคม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ เราจะมาหาคำตอบกันครับว่า ทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงฆ่าไม่ตาย ปราบไม่สิ้น ขบวนการอาชญากรรมหลอกลวงยังวนเวียนอยู่ในเมียนมา ไทย และกัมพูชา ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=NuFhZse7NNw . #บูรพาไม่แพ้ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #สแกมเมอร์ #Scambodia
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร แอบย่องเงียบเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ปปป. ชี้แจงปมสัมพันธ์ฉาว "สีกากอล์ฟ" ด้านเจ้าตัวปัดตอบคำถามสื่อ

    วันนี้ (12 ก.ค.) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 12.10 น. อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกากอล์ฟ

    สำหรับการเดินทางเข้าพบตำรวจในวันนี้ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา เป็นการปรากฎตัวครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว โดยเจ้าตัวมาชุดเสื้อโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ก่อนเดินขึ้นอาคารเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065587

    #Thaitimes #MGROnline #อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร #อดีตพระครูสิริวิริยธาดา #ผู้ช่วยเจ้าอาวาส #วัดโสธรวรารามวรวิหาร
    อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร แอบย่องเงียบเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ปปป. ชี้แจงปมสัมพันธ์ฉาว "สีกากอล์ฟ" ด้านเจ้าตัวปัดตอบคำถามสื่อ • วันนี้ (12 ก.ค.) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 12.10 น. อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกากอล์ฟ • สำหรับการเดินทางเข้าพบตำรวจในวันนี้ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา เป็นการปรากฎตัวครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว โดยเจ้าตัวมาชุดเสื้อโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ก่อนเดินขึ้นอาคารเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065587 • #Thaitimes #MGROnline #อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร #อดีตพระครูสิริวิริยธาดา #ผู้ช่วยเจ้าอาวาส #วัดโสธรวรารามวรวิหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเสนอตัวเป็นกลาง ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเน้นย้ำปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/20205/
    .
    #จีน #ไทย #กัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #หวังอี้ #มาริษเสงี่ยมพงษ์ #ปรักสุคน #อาเซียน #อาชญากรรมข้ามชาติ #พนันออนไลน์
    จีนเสนอตัวเป็นกลาง ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเน้นย้ำปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ https://www.thai-tai.tv/news/20205/ . #จีน #ไทย #กัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #หวังอี้ #มาริษเสงี่ยมพงษ์ #ปรักสุคน #อาเซียน #อาชญากรรมข้ามชาติ #พนันออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปสำนวนเอาผิด"ฮุนเซน"ลุ้นหมายจับ-หมายแดง : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1(ผบก.สอท.1) เผยความคืบหน้ากรณี นายสมคิด เชื้อคง แจ้งความเอาผิดนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ขณะนี้สามารถสรุปสำนวนได้แล้ว โดยจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หากมีการเอาผิดจะออกหมายจับและประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อออกหมายแดงต่อไป

    -อายัดทรัพย์"ก๊ก อาน"พันล้าน

    -เงินร้อยล้านโยงแก๊งรีดหัวคิว

    -ภาษีทุบ 47 อุตสาหกรรม

    -เตือนฝนตกหนัก-สะสม
    สรุปสำนวนเอาผิด"ฮุนเซน"ลุ้นหมายจับ-หมายแดง : [NEWS UPDATE] พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1(ผบก.สอท.1) เผยความคืบหน้ากรณี นายสมคิด เชื้อคง แจ้งความเอาผิดนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ขณะนี้สามารถสรุปสำนวนได้แล้ว โดยจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หากมีการเอาผิดจะออกหมายจับและประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อออกหมายแดงต่อไป -อายัดทรัพย์"ก๊ก อาน"พันล้าน -เงินร้อยล้านโยงแก๊งรีดหัวคิว -ภาษีทุบ 47 อุตสาหกรรม -เตือนฝนตกหนัก-สะสม
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 724 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน
    https://www.thai-tai.tv/news/20186/
    .
    #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ค้ามนุษย์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ตำรวจไทย #UNODC #อินเตอร์โพล #เมียนมา #กัมพูชา #ลาว #ข่าวอาชญากรรม #ประเทศไทย #อายัดทรัพย์ #ก๊กอาน
    อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน https://www.thai-tai.tv/news/20186/ . #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ค้ามนุษย์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ตำรวจไทย #UNODC #อินเตอร์โพล #เมียนมา #กัมพูชา #ลาว #ข่าวอาชญากรรม #ประเทศไทย #อายัดทรัพย์ #ก๊กอาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts