• ทนายตั้ม หลังหัก พี่สาวเมีย เผยความลับเกลี้ยง
    ทนายตั้ม โจ๊ก กลุ่ม 999 แก๊งสีเทาธุรกิจเว็บพนัน และคดีคริปโตฯ 39ล้าน กําลังเป็นคดีสําคัญที่สุดในบรรดาคดีฉ้อโกงที่ทนายตั้มตกเป็นผู้ต้องหา นอกจากเป็นคดีที่ลากคอสองสมุนของทนายตั้มคือนุกับสาให้ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยแล้วมันยังส่อเขาจะลุกลามบานปลาย นําทางกองปราบปรามให้เจาะลึกเข้าไปในองค์กรซ่อนเงื่อนของทนายตั้ม
    อย่างตอนนี้ดาว พี่สาวของเดือนเมีย ทนายตั้มก็เปิดปากให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากหลังจากถูกกองปราบเชิญตัวมาสอบเค้น ดาวยอมชี้เบาะแสที่ซ่อนกระเป๋าสีชมพูซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าหลายๆใบที่ใช้ขนเงินกองใหญ่หลายสิบล้านที่ถอนมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งที่ซ่อนก็ดันเป็นบ้านเก่าของทนายตั้มเองที่ย่านพุทธมณฑลยิ่งมัดตัวทนายตั้มอีกเปราะเพราะกระเป๋าสีชมพูแป๊ดขนาดนั้น จําได้ง่าย
    ดาว พี่เมียของทนายตั้ม ยังถูกตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนเข้ามาถึงห้าสิบล้านบาททั้งที่สถานะจริงจริงของ ดาวคือ คนใช้ เป็นแค่คนเลี้ยงลูกให้กับน้องสาวคือเดือน เมียของทนายตั้ม ไม่มีศักยภาพที่จะทํารายได้มหาศาลขนาดนั้นด้วยตัวเอง เท่ากับว่าบัญชีธนาคารของเดือนถูกใครบางคนเอามาใช้เป็นบัญชีม้า สําหรับพักเงินสกปรก อย่างเป็นล่ําเป็นสัน
    สาวบ้านๆอย่างดาวไม่เก๋าพอที่จะกล้าโกหกพนักงานสอบสวนกองปราบ จึงเปิดปากซัดทอด ซึ่งช่วยให้ดาวมีโอกาสจะได้รับการกันตัวเป็นพยาน
    เมื่อกองปราบสืบประวัติของนุ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีโกง 39ล้านก็พบว่ามีสายสัมพันธ์โยงใยไปถึงเจ้าพ่อเว็บพนันคนดังที่ชื่อ ทท ซึ่ง ทท เป็นคนที่ชอบทะเบียนรถที่มีแต่เลข9 เช่นเดียวกับ นุ สา และ ตั้ม แสดงความเป็นแก๊งเดียวกันผ่านทะเบียนรถ
    ย้อนไปถึงข้อมูลลับของจอมแฉ อย่างในชูวิทย์กมลวิศิษฏ์ ที่โพสต์ไว้เมื่อปี2566 ก็ระบุว่า ทนายตั้มทําธุรกิจเว็บพนันเฮงเกม โดยร่วมกับ อู๋เจ้าหน้าที่ dsiตัวเตี้ยๆและมีเทพจอเป็นแบ็คอีกที ณ เวลานั้นยังเป็น รอง ผบ ตร บิ๊กโจ๊กตกเป็นผู้ต้องหาคดีรับสวยและฟอกเงินเว็บพนันมินนี่และบีเอ็นเคมาสเตอร์ ใกล้จะโดนสํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดการทางวินัยร้ายแรงระดับไล่ออกไปเลยทีเดียว
    สรุปว่า จริงๆแล้ว ทนายตั้ม ไม่ได้เพิ่งรวยจากเงินที่ฉ้อโกงพี่อ้อยมาอย่างเดียว แต่มีรายได้จากทางอื่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งไม่น่าจะใช่รายได้จากสิทราลอว์เฟิม เพราะตั้งแต่เปิดบริษัทมาจนบัดนี้ผลดําเนินการยังติดลบขาดทุนอยู่เลย
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทนายตั้ม หลังหัก พี่สาวเมีย เผยความลับเกลี้ยง ทนายตั้ม โจ๊ก กลุ่ม 999 แก๊งสีเทาธุรกิจเว็บพนัน และคดีคริปโตฯ 39ล้าน กําลังเป็นคดีสําคัญที่สุดในบรรดาคดีฉ้อโกงที่ทนายตั้มตกเป็นผู้ต้องหา นอกจากเป็นคดีที่ลากคอสองสมุนของทนายตั้มคือนุกับสาให้ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยแล้วมันยังส่อเขาจะลุกลามบานปลาย นําทางกองปราบปรามให้เจาะลึกเข้าไปในองค์กรซ่อนเงื่อนของทนายตั้ม อย่างตอนนี้ดาว พี่สาวของเดือนเมีย ทนายตั้มก็เปิดปากให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากหลังจากถูกกองปราบเชิญตัวมาสอบเค้น ดาวยอมชี้เบาะแสที่ซ่อนกระเป๋าสีชมพูซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าหลายๆใบที่ใช้ขนเงินกองใหญ่หลายสิบล้านที่ถอนมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งที่ซ่อนก็ดันเป็นบ้านเก่าของทนายตั้มเองที่ย่านพุทธมณฑลยิ่งมัดตัวทนายตั้มอีกเปราะเพราะกระเป๋าสีชมพูแป๊ดขนาดนั้น จําได้ง่าย ดาว พี่เมียของทนายตั้ม ยังถูกตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนเข้ามาถึงห้าสิบล้านบาททั้งที่สถานะจริงจริงของ ดาวคือ คนใช้ เป็นแค่คนเลี้ยงลูกให้กับน้องสาวคือเดือน เมียของทนายตั้ม ไม่มีศักยภาพที่จะทํารายได้มหาศาลขนาดนั้นด้วยตัวเอง เท่ากับว่าบัญชีธนาคารของเดือนถูกใครบางคนเอามาใช้เป็นบัญชีม้า สําหรับพักเงินสกปรก อย่างเป็นล่ําเป็นสัน สาวบ้านๆอย่างดาวไม่เก๋าพอที่จะกล้าโกหกพนักงานสอบสวนกองปราบ จึงเปิดปากซัดทอด ซึ่งช่วยให้ดาวมีโอกาสจะได้รับการกันตัวเป็นพยาน เมื่อกองปราบสืบประวัติของนุ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีโกง 39ล้านก็พบว่ามีสายสัมพันธ์โยงใยไปถึงเจ้าพ่อเว็บพนันคนดังที่ชื่อ ทท ซึ่ง ทท เป็นคนที่ชอบทะเบียนรถที่มีแต่เลข9 เช่นเดียวกับ นุ สา และ ตั้ม แสดงความเป็นแก๊งเดียวกันผ่านทะเบียนรถ ย้อนไปถึงข้อมูลลับของจอมแฉ อย่างในชูวิทย์กมลวิศิษฏ์ ที่โพสต์ไว้เมื่อปี2566 ก็ระบุว่า ทนายตั้มทําธุรกิจเว็บพนันเฮงเกม โดยร่วมกับ อู๋เจ้าหน้าที่ dsiตัวเตี้ยๆและมีเทพจอเป็นแบ็คอีกที ณ เวลานั้นยังเป็น รอง ผบ ตร บิ๊กโจ๊กตกเป็นผู้ต้องหาคดีรับสวยและฟอกเงินเว็บพนันมินนี่และบีเอ็นเคมาสเตอร์ ใกล้จะโดนสํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดการทางวินัยร้ายแรงระดับไล่ออกไปเลยทีเดียว สรุปว่า จริงๆแล้ว ทนายตั้ม ไม่ได้เพิ่งรวยจากเงินที่ฉ้อโกงพี่อ้อยมาอย่างเดียว แต่มีรายได้จากทางอื่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งไม่น่าจะใช่รายได้จากสิทราลอว์เฟิม เพราะตั้งแต่เปิดบริษัทมาจนบัดนี้ผลดําเนินการยังติดลบขาดทุนอยู่เลย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมียโจ๊ก” ชิงมอบตัว หลังศาลอนุมัติหมายจับ ร่วมกันลักทรัพย์-บุกรุกเคหะสถาน
    .
    วันนี้ (24 ต.ค.) ศาลอาญาพระโขนง อนุมัติออกหมายจับที่ จ.717/2567 ให้จับกุมนางศิรินัดดา หักพาล อายุ 50 ปี ภรรยา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน และร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน ตามที่ พ.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้ส่งหมายจับถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จับตัวมาดำเนินคดี โดยมีอายุความ 10 ปี
    .
    ล่าสุดเมื่อเวลา 14.50 น. นางศิรินัดดาเข้ามอบตัวที่ สน.พระโขนงแล้ว หลังศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายจับไม่นานนัก เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เป็นเรื่องจริง ถ้าเกิดว่าอะไรที่เสียหายขอให้เป็นเรื่องของทนายความ เมื่อนักข่าวถามเรื่องคีย์การ์ดขโมยไปจริงหรือไม่ นางศิรินัดดาไม่ตอบ เมื่อถามว่าคีย์การ์ดได้มาอย่างไร ก็ตอบว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เมื่อถามว่า ยืนยันว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นางศิรินัดดา ตอบว่า ค่ะ เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้มีการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้เสียหายหรือไม่ นางศิรินัดดา ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่าได้ขโมยของหรือไม่ ก็กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทนายความ ถามว่าคืนนั้นทำไมต้องเข้าไปที่คอนโดเขา ถามว่าถุงกระสอบที่เขากล่าวอ้างเป็นถุงอะไร เจ้าตัวไม่ตอบ ก่อนเข้าพบตำรวจ
    .
    สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. นางศิรินัดดาบุกเข้าไปในห้องพักของคอนโดมิเนียม กรีนคอนโด ในซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ก่อนที่ผู้เสียหายเป็นอาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2567 ว่าทรัพย์สินเป็นทองคำน้ำหนัก 120 บาท มูลค่า 5 ล้านบาทหายไป แม้ผู้เสียหายพยายามทวงถามเพื่อขอคืนทรัพย์สิน แต่นางศิรินัดดาไม่ยอมพูดคุยด้วย ตัดการติดต่อทุกช่องทาง และเมื่อสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กลับอ้างว่าเป็นเรื่องของภรรยา ตัวเองไม่ขอรับรู้ จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พระโขนงทันที
    .
    นอกจากนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายยังไปออกรายการโทรทัศน์ แฉว่ามีภรรยานายตำรวจใหญ่รายหนึ่ง แย่งสามีของตน โดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นถึงภรรยานายตำรวจใหญ่ กำลังมีเพศสัมพันธ์กับสามีของผู้เสียหาย เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. รับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อีกทั้งยังมีการซุกทรัพย์สินใส่ถุงกระสอบ 5 ถุง มาฝากไว้ที่ห้อง รวมทั้งฉวยโอกาสหยิบคีย์การ์ดไปด้วย สามารถเข้า-ออกคอนโดมิเนียมได้ตามอำเภอใจ และในทางสืบสวนของตำรวจพบว่าเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า เครือข่ายการพนันของนายตำรวจใหญ่ มาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟให้ห้องพักดังกล่าวอีกด้วย
    ..............
    Sondhi X
    “เมียโจ๊ก” ชิงมอบตัว หลังศาลอนุมัติหมายจับ ร่วมกันลักทรัพย์-บุกรุกเคหะสถาน . วันนี้ (24 ต.ค.) ศาลอาญาพระโขนง อนุมัติออกหมายจับที่ จ.717/2567 ให้จับกุมนางศิรินัดดา หักพาล อายุ 50 ปี ภรรยา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน และร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน ตามที่ พ.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้ส่งหมายจับถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จับตัวมาดำเนินคดี โดยมีอายุความ 10 ปี . ล่าสุดเมื่อเวลา 14.50 น. นางศิรินัดดาเข้ามอบตัวที่ สน.พระโขนงแล้ว หลังศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายจับไม่นานนัก เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เป็นเรื่องจริง ถ้าเกิดว่าอะไรที่เสียหายขอให้เป็นเรื่องของทนายความ เมื่อนักข่าวถามเรื่องคีย์การ์ดขโมยไปจริงหรือไม่ นางศิรินัดดาไม่ตอบ เมื่อถามว่าคีย์การ์ดได้มาอย่างไร ก็ตอบว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เมื่อถามว่า ยืนยันว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นางศิรินัดดา ตอบว่า ค่ะ เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้มีการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้เสียหายหรือไม่ นางศิรินัดดา ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่าได้ขโมยของหรือไม่ ก็กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทนายความ ถามว่าคืนนั้นทำไมต้องเข้าไปที่คอนโดเขา ถามว่าถุงกระสอบที่เขากล่าวอ้างเป็นถุงอะไร เจ้าตัวไม่ตอบ ก่อนเข้าพบตำรวจ . สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. นางศิรินัดดาบุกเข้าไปในห้องพักของคอนโดมิเนียม กรีนคอนโด ในซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ก่อนที่ผู้เสียหายเป็นอาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2567 ว่าทรัพย์สินเป็นทองคำน้ำหนัก 120 บาท มูลค่า 5 ล้านบาทหายไป แม้ผู้เสียหายพยายามทวงถามเพื่อขอคืนทรัพย์สิน แต่นางศิรินัดดาไม่ยอมพูดคุยด้วย ตัดการติดต่อทุกช่องทาง และเมื่อสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กลับอ้างว่าเป็นเรื่องของภรรยา ตัวเองไม่ขอรับรู้ จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พระโขนงทันที . นอกจากนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายยังไปออกรายการโทรทัศน์ แฉว่ามีภรรยานายตำรวจใหญ่รายหนึ่ง แย่งสามีของตน โดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นถึงภรรยานายตำรวจใหญ่ กำลังมีเพศสัมพันธ์กับสามีของผู้เสียหาย เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. รับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อีกทั้งยังมีการซุกทรัพย์สินใส่ถุงกระสอบ 5 ถุง มาฝากไว้ที่ห้อง รวมทั้งฉวยโอกาสหยิบคีย์การ์ดไปด้วย สามารถเข้า-ออกคอนโดมิเนียมได้ตามอำเภอใจ และในทางสืบสวนของตำรวจพบว่าเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า เครือข่ายการพนันของนายตำรวจใหญ่ มาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟให้ห้องพักดังกล่าวอีกด้วย .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1055 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง
    //////

    ข่าวล่าสุดวันนี้

    "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง"

    ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว)

    เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ...

    ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ

    ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน

    ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน

    ........

    จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่?

    ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ

    อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย

    ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี

    "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน

    วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก

    แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ...
    เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว

    ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด

    โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล
    เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด

    เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน

    เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ

    ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว

    บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น
    จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด

    ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง

    คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน

    "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น"

    การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้

    ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก

    จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว

    เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ

    เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น

    นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว

    โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ

    ~ สุวินัย ภรณวลัย
    Suvinai Pornavalai
    สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง ////// ข่าวล่าสุดวันนี้ "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง" ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว) เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ... ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน ........ จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่? ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ... เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น" การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้ ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ ~ สุวินัย ภรณวลัย Suvinai Pornavalai
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิจารณ์วิเคราะห์น่าสนใจจากเพจเฟซบุ๊ก“ลุงชูเต่า นั่งรถบางคัน”เกี่ยวกับประเด็นร้อน เรื่องการที่ The Icon ใช้สกุลเงินดิจิตอล เช่น USDT ไปให้พวกเทวดานั้น หลายคนที่ไม่ได้เล่นใน Defi ระดับลึกมากอาจไม่เข้าใจทั้งหมดว่ามันจะตามยากถึงยากที่สุด บางทีอาจอยู่ในระดับที่ตามไม่ได้มาจากสาเหตุใดกันบ้าง ไหนว่าโปร่งใส ตรวจสอบได้

    เริ่มแรกเอาแบบระดับใน Exchange ก่อน

    1.คำว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มันคือ การบอกว่า มีการโอนเงินนี้จริงนะ สำเร็จเรียบร้อย จากกระเป๋าต้นทางไปกระเป๋าปลายทาง แต่มันไม่ได้บอกว่ากระเป๋านี้คือใคร ???

    2.การ KYC ของ Exchange พอจะช่วยได้ระบุได้ว่า wallet ที่ถ้าเค้าโอนมาเข้า Exchange แต่ถ้าผมเป็นพวกรับเงินเทา เงินมืด ผมก็คงไม่เลือกเสี่ยงโอนมาในที่ๆระบุตัวตนผมได้หรอก

    3.การโอนไขว้ไปมาระหว่าง Exchange ระดับเบอร์ต้นๆกับปลายๆ ก็ทำให้ยากต่อการขอข้อมูลระบุตัวตน โอนเข้าไปโอนออกมาอีก wallet ฟอก wallet ผ่าน Exchange นี้ไม่นับเข้าเป็น USDT ออกมาเป็น USDC , เข้าเป็น USDT เชน ETH ออกมาเป็น USDT เชน OP

    4.บัญชีที่เปิดใช้ใน Exchange ก็ไม่รู้ว่าเป็นแค่บัญชีม้าระดับไหน เผลอๆเป็นคนตายแล้วอีกต่างหาก

    ถัดมาถ้าเป็นระดับ Defi ละ
    1.เลือกใช้ Bridge อาจแปลงจาก USDT เชน OP ไปเป็น Sui คือแปลงแบบ swap ซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญหนึ่งไปเป็นอีกเหรียญหนึ่ง

    2.ใช้พวกเชน Privacy อันนี้จะเป็นเชนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ถูกออกแบบมาให้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ข้อมูลธุรกรรมและผู้ใช้งานจะไม่ถูกเปิดเผยให้บุคคลภายนอกเห็น การติดตามก็เป็นไปไม่ได้เลย ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นจึงไม่รู้ลึกมาก แต่คิดว่าไม่ได้รับความนิยมเท่าไร เนื่องจากสุดท้ายมันก็ต้องโอนไปขายบน Exchange อยู่ดี แล้วมันก็พอมองออกว่าใครใช้น่าจะไม่เทาก็มืดอยู่

    3.ข้อนี้จะน่ากลัวสุด อยู่ในระดับสิ้นหวังกันไปเลย คือ ใช้ ทอร์นาโด หมุนปั่น
    หลักการมันคือ การที่เค้าเอา USDT ไปแปลงเป็น ETH ก่อน ถัดจากนั้นเค้าก็จะเอาไปฝากในแพทฟอร์มปั่น โดยมันจะมีการให้ฝากเป็นจำนวนคงที่ เช่น 1 ETH , 10 ETH , 100 ETH ถ้าเรามีอยู่ 549 ETH ก็ค่อยๆซอยไม้ฝากเข้าไป ซึ่งสมมติพอฝากเข้าไป 100 ETH แล้ว เราก็จะได้เลขรหัสเหมือนตั๋วสัญญาแลกเงิน เพื่อนำมาขึ้นเงิน 99 ETH (1 ETH ค่า Fees) อาจฝากวันนี้แต่อีก 3 ปีข้างหน้าค่อยมาเอาก็ได้ ใครที่พอมองภาพออกจะเห็นได้ว่าแล้วถ้ามีคนมาใช้งานแพทฟอร์มนี้เป็นร้อยๆคนต่อวันละ จะเกิดอะไรขึ้น มันก็คือการฟอกจนไม่รู้ว่าเงิน USDT ที่มีปัญหาจากคดีนี้ไปอยู่ที่ wallet ไหนแล้ว มันคือการตัดเส้นทาง wallet แรกเริ่มเดิมทีออกจากการติดตามไปเลย เช่น เราอาจตามคดี The Icon นี้ แต่เห็น wallet อีกเจ้าเพิ่งถอน 99 ETH จากระบบไป เค้าเอาไปขายบน Exchange แต่จริงๆแล้วอาจเป็นเงินค้ายาของประเทศอื่นซักที่ ไปติดตามก็ดันไม่ใช่คดีเราอีก สารพัดจะปัญหาในการสืบสวน ถัดมาสิ่งที่เป็นปัญหายังไม่จบ ใช่ว่าคนที่ฝาก ETH เข้าไปจะมีแต่พวกเงินมืด มันก็คือคนธรรมดาอย่างพวกเรานี้ละฝากเข้าไปช่วยระบบอีก เพราะมันได้ค่า Fees ที่เกิดขึ้นจากการปั่นในแต่ละครั้งด้วย จับคนพวกนี้ไปก็เหมือนคนธรรมดา จริงๆน่าจะจับข้อหาช่วยฟอกเงินแต่มันคนประเทศไหนอีกละ ผมว่านะถ้าเค้าเอาไปปั่น ยอมได้เลย เสียเวลาตาม ขนาดเป็นคดีระดับโลก มีคนทั้งโลกช่วยตามโอกาสตามได้อาจไม่ 0% แต่ต่ำ 1%

    สรุปก็คือ ถ้าพวกเทวดหรือแก๊ง call ใช้เงินดิจิตอลในการหลบ ความเป็นไปได้ที่จะติดตามเงินต่อจากนี้มันยากมากๆ ถ้าจะทำการแก้มันต้องเป็นวาระระดับโลก แล้วผมก็คิดว่าพวกนั้นน่าจะมีความรู้หรือเส้นทางการหลบ สูงกว่าที่ผมรู้ไปอีก

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/iDUmRiSSPwHgEret/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    บทวิจารณ์วิเคราะห์น่าสนใจจากเพจเฟซบุ๊ก“ลุงชูเต่า นั่งรถบางคัน”เกี่ยวกับประเด็นร้อน เรื่องการที่ The Icon ใช้สกุลเงินดิจิตอล เช่น USDT ไปให้พวกเทวดานั้น หลายคนที่ไม่ได้เล่นใน Defi ระดับลึกมากอาจไม่เข้าใจทั้งหมดว่ามันจะตามยากถึงยากที่สุด บางทีอาจอยู่ในระดับที่ตามไม่ได้มาจากสาเหตุใดกันบ้าง ไหนว่าโปร่งใส ตรวจสอบได้ เริ่มแรกเอาแบบระดับใน Exchange ก่อน 1.คำว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มันคือ การบอกว่า มีการโอนเงินนี้จริงนะ สำเร็จเรียบร้อย จากกระเป๋าต้นทางไปกระเป๋าปลายทาง แต่มันไม่ได้บอกว่ากระเป๋านี้คือใคร ??? 2.การ KYC ของ Exchange พอจะช่วยได้ระบุได้ว่า wallet ที่ถ้าเค้าโอนมาเข้า Exchange แต่ถ้าผมเป็นพวกรับเงินเทา เงินมืด ผมก็คงไม่เลือกเสี่ยงโอนมาในที่ๆระบุตัวตนผมได้หรอก 3.การโอนไขว้ไปมาระหว่าง Exchange ระดับเบอร์ต้นๆกับปลายๆ ก็ทำให้ยากต่อการขอข้อมูลระบุตัวตน โอนเข้าไปโอนออกมาอีก wallet ฟอก wallet ผ่าน Exchange นี้ไม่นับเข้าเป็น USDT ออกมาเป็น USDC , เข้าเป็น USDT เชน ETH ออกมาเป็น USDT เชน OP 4.บัญชีที่เปิดใช้ใน Exchange ก็ไม่รู้ว่าเป็นแค่บัญชีม้าระดับไหน เผลอๆเป็นคนตายแล้วอีกต่างหาก ถัดมาถ้าเป็นระดับ Defi ละ 1.เลือกใช้ Bridge อาจแปลงจาก USDT เชน OP ไปเป็น Sui คือแปลงแบบ swap ซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญหนึ่งไปเป็นอีกเหรียญหนึ่ง 2.ใช้พวกเชน Privacy อันนี้จะเป็นเชนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ถูกออกแบบมาให้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ข้อมูลธุรกรรมและผู้ใช้งานจะไม่ถูกเปิดเผยให้บุคคลภายนอกเห็น การติดตามก็เป็นไปไม่ได้เลย ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นจึงไม่รู้ลึกมาก แต่คิดว่าไม่ได้รับความนิยมเท่าไร เนื่องจากสุดท้ายมันก็ต้องโอนไปขายบน Exchange อยู่ดี แล้วมันก็พอมองออกว่าใครใช้น่าจะไม่เทาก็มืดอยู่ 3.ข้อนี้จะน่ากลัวสุด อยู่ในระดับสิ้นหวังกันไปเลย คือ ใช้ ทอร์นาโด หมุนปั่น หลักการมันคือ การที่เค้าเอา USDT ไปแปลงเป็น ETH ก่อน ถัดจากนั้นเค้าก็จะเอาไปฝากในแพทฟอร์มปั่น โดยมันจะมีการให้ฝากเป็นจำนวนคงที่ เช่น 1 ETH , 10 ETH , 100 ETH ถ้าเรามีอยู่ 549 ETH ก็ค่อยๆซอยไม้ฝากเข้าไป ซึ่งสมมติพอฝากเข้าไป 100 ETH แล้ว เราก็จะได้เลขรหัสเหมือนตั๋วสัญญาแลกเงิน เพื่อนำมาขึ้นเงิน 99 ETH (1 ETH ค่า Fees) อาจฝากวันนี้แต่อีก 3 ปีข้างหน้าค่อยมาเอาก็ได้ ใครที่พอมองภาพออกจะเห็นได้ว่าแล้วถ้ามีคนมาใช้งานแพทฟอร์มนี้เป็นร้อยๆคนต่อวันละ จะเกิดอะไรขึ้น มันก็คือการฟอกจนไม่รู้ว่าเงิน USDT ที่มีปัญหาจากคดีนี้ไปอยู่ที่ wallet ไหนแล้ว มันคือการตัดเส้นทาง wallet แรกเริ่มเดิมทีออกจากการติดตามไปเลย เช่น เราอาจตามคดี The Icon นี้ แต่เห็น wallet อีกเจ้าเพิ่งถอน 99 ETH จากระบบไป เค้าเอาไปขายบน Exchange แต่จริงๆแล้วอาจเป็นเงินค้ายาของประเทศอื่นซักที่ ไปติดตามก็ดันไม่ใช่คดีเราอีก สารพัดจะปัญหาในการสืบสวน ถัดมาสิ่งที่เป็นปัญหายังไม่จบ ใช่ว่าคนที่ฝาก ETH เข้าไปจะมีแต่พวกเงินมืด มันก็คือคนธรรมดาอย่างพวกเรานี้ละฝากเข้าไปช่วยระบบอีก เพราะมันได้ค่า Fees ที่เกิดขึ้นจากการปั่นในแต่ละครั้งด้วย จับคนพวกนี้ไปก็เหมือนคนธรรมดา จริงๆน่าจะจับข้อหาช่วยฟอกเงินแต่มันคนประเทศไหนอีกละ ผมว่านะถ้าเค้าเอาไปปั่น ยอมได้เลย เสียเวลาตาม ขนาดเป็นคดีระดับโลก มีคนทั้งโลกช่วยตามโอกาสตามได้อาจไม่ 0% แต่ต่ำ 1% สรุปก็คือ ถ้าพวกเทวดหรือแก๊ง call ใช้เงินดิจิตอลในการหลบ ความเป็นไปได้ที่จะติดตามเงินต่อจากนี้มันยากมากๆ ถ้าจะทำการแก้มันต้องเป็นวาระระดับโลก แล้วผมก็คิดว่าพวกนั้นน่าจะมีความรู้หรือเส้นทางการหลบ สูงกว่าที่ผมรู้ไปอีก ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/iDUmRiSSPwHgEret/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 543 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ณฐพร โตประยูร' ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 'รังสิมันต์ โรม' ใช้อำนาจ กมธ.ล้วงลูกคดี 'ทุน มิน หลัด'

    9 ตุลาคม 2567 - รายงานข่าวไทยโพสต์ระบุว่า นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยใช้สถานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ก้าวก่าย แทรกแซงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากส่วนราชการ อ้างวาระประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน และการใช้บัญชีม้าในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยนำคดีของ นายทุน มิน หลัดที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องมาพิจารณา รวม 3 ครั้ง คือ วันที่ 29 ส.ค. 2567 วันที่ 11 ก.ย. 2567 และวันที่ 3 ต.ค. 2567 เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ในการต่อสู้คดีที่ถูกนายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา ฟ้องหมิ่นประมาทจำนวน 3 คดี ค่าเสียหายรวม 140 ล้านบาท

    นายณฐพร กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน เพราะหากนายรังสิมันต์จะหาข้อเท็จจริงต้องทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คือ ต้องมีหนังสือถึงรัฐมนตรีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งข้อเท็จจริงให้ นอกจากนี้ยังเรียกให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุม ทั้ง ๆ ที่นายอุปกิต ฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ ต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 และคดียังอยู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ดังนั้นข้อมูลจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ จึงเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นกลาง และทำให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ รู้ข้อมูลเชิงลับ ในการสอบหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการ ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ฯ และ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่ได้วางมาตรการป้องกันการใช้อำนาจของคณะกรรมาธิการอีกด้วย

    “ในเนื้อหาการประชุมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า นายรังสิมันต์ มิได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เช่น ต้องการให้ดำเนินคดีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สายที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และยังให้ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยไปหาแนวทางยกเลิกสัญญาระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินระบุ

    https://www.thaipost.net/x-cite-news/670670/

    #Thaitimes
    'ณฐพร โตประยูร' ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 'รังสิมันต์ โรม' ใช้อำนาจ กมธ.ล้วงลูกคดี 'ทุน มิน หลัด' 9 ตุลาคม 2567 - รายงานข่าวไทยโพสต์ระบุว่า นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยใช้สถานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ก้าวก่าย แทรกแซงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากส่วนราชการ อ้างวาระประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน และการใช้บัญชีม้าในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยนำคดีของ นายทุน มิน หลัดที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องมาพิจารณา รวม 3 ครั้ง คือ วันที่ 29 ส.ค. 2567 วันที่ 11 ก.ย. 2567 และวันที่ 3 ต.ค. 2567 เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ในการต่อสู้คดีที่ถูกนายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา ฟ้องหมิ่นประมาทจำนวน 3 คดี ค่าเสียหายรวม 140 ล้านบาท นายณฐพร กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน เพราะหากนายรังสิมันต์จะหาข้อเท็จจริงต้องทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คือ ต้องมีหนังสือถึงรัฐมนตรีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งข้อเท็จจริงให้ นอกจากนี้ยังเรียกให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุม ทั้ง ๆ ที่นายอุปกิต ฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ ต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 และคดียังอยู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ดังนั้นข้อมูลจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ จึงเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นกลาง และทำให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ รู้ข้อมูลเชิงลับ ในการสอบหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการ ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ฯ และ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่ได้วางมาตรการป้องกันการใช้อำนาจของคณะกรรมาธิการอีกด้วย “ในเนื้อหาการประชุมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า นายรังสิมันต์ มิได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เช่น ต้องการให้ดำเนินคดีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สายที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และยังให้ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยไปหาแนวทางยกเลิกสัญญาระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินระบุ https://www.thaipost.net/x-cite-news/670670/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    'ณฐพร' ร้องสอบจริยธรรม 'ทั่นโรม' ใช้อำนาจล้วงลูกคดี!
    'ณฐพร' ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 'รังสิมันต์ โรม' ใช้อำนาจ กมธ.ล้วงลูกคดี 'ทุน มิน หลัด'
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปปง.มีคำสั่งยึดทรัพย์ นายสฤษฎ์ อดุลย์พิจิตร กับพวก กลุ่มบัญชีม้าเอี่ยวนายทุนจีนสร้างคฤหาสน์หรู ย่านสนามบินน้ำ รวม 52 รายการ “ที่ดิน-ห้องชุด-บัญชีเงินฝาก” มูลค่า 2,561 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094667

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปปง.มีคำสั่งยึดทรัพย์ นายสฤษฎ์ อดุลย์พิจิตร กับพวก กลุ่มบัญชีม้าเอี่ยวนายทุนจีนสร้างคฤหาสน์หรู ย่านสนามบินน้ำ รวม 52 รายการ “ที่ดิน-ห้องชุด-บัญชีเงินฝาก” มูลค่า 2,561 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094667 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    34
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2869 มุมมอง 1 รีวิว
  • #เดอะลู๊ค Lucabet

    ล่าสุด..แหล่งข่าวแจ้งมาว่าคดีของเดอะลู๊ค-ป้ายแพง-หลวงดีด จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง เราก็รอดูกันต่อไปว่าผลจะออกมาอย่างไร

    ep.นี้จะเอาแช็ตที่ทีมงานเราล่อซื้อคนในทีมงานของเดอะลู๊คมาให้อ่านเล่นกัน

    แช็ตสนทนาชุดนี้ทีมงานคุยกับคนของเดอะลู๊คตอนปลายปี 2565

    ทีมงานเจรจาล่อซื้อได้บัญชีม้าที่รับโอนเงินมา 1 บัญชี (ส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว)

    โฆษณาเว็บพนันที่มักจะขายขิงด้วยตรรกะที่ว่า..“เป็นเว็บตรงจากต่างประเทศ ระบบฝากถอนเงินอัตโนมัติ”

    เว็บตรงจากต่างประเทศ“ไม่มีอยู่จริง” ทุกเว็บล้วนเช่าสิทธิ์มาจากต่างประเทศ มีหลายสิทธิ์และ % ต่างกัน

    -company
    -shareholder
    -masteragent
    -agent
    -member

    👆สิทธิ์จะมีประมาณนี้

    ส่วนระบบฝากถอนเงินออโต้..มีอยู่จริง

    อ้าว.! ระบบการฝาก-ถอนเงินทุกบาท มันเป็นเรื่องของธนาคารนี่ แล้วเว็บพนันมันเอาระบบมาใช้ได้อย่างไร.?

    มีใครเคยรู้สึก เอ๊ะ ในใจกันบ้างไหมครับ.?

    ถ้าคนในธนาคารไม่ร่วมมือกับคนทำเว็บพนันระบบการฝากถอนออโต้ของเว็บพนันจะมีความเป็นไปได้แค่ 1 ข้อที่จะทำได้คือ..
    👉ใช้โปรแกรมเมอร์แกะเข้าไปใน app ธนาคาร

    เราเห็นโฆษณาฝากถอนออโต้ครั้งแรก เราเอ๊ะทันทีเพราะนี่มันเรื่องใหญ่ระดับประเทศเลยนะ เราจึงให้ทีมงานล่อซื้อจากแก๊ง..#เดอะลู๊ค

    พวกเราไล่ตามรอยไปจนรู้ว่า“คนในธนาคารไม่ต้องมีส่วนรู้เห็น”กับพวกทำเว็บพนัน พวกมันก็ทำกันได้อย่างงายดาย

    โปรแกรมเมอร์เว็บพนันจะใช้หลักการ reverse enging กันแทบทุกเว็บ

    เพื่อแกะเข้าไปใน app ของธนาคารเพื่อเอาเส้น api มาทำเป็นหน้าเว็บ สามารถฝาก-ถอนผ่านหน้าเว็บได้ โดยไม่ต้องผ่าน app ของธนาคาร

    ตอนหน้าจะเล่าให้อ่านเรื่องระบบฝาก-ถอนออโต้ของแก๊งตัวตึงบ่อนลอยฟ้า #เดอะลู๊ค มีหลักการแกะหน้าธนาคารมาได้อย่างไร

    จะดีลกับเดอะลู๊ค ก็ลองอ่านค่าใช้จ่ายในแช็ตดูให้จบ แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรตราคาขยับไปกี่บาทแล้ว

    รู้ยัง.? ระบบ sms2pro กับ host2pro ก็เป็นของเดอะลู๊คเขานะฮะ แล้วพวกท่านจะสั่งไม่ฟ้องตัวอันตรายระดับประเทศอย่าง #เดอะลู๊ค Lucabet จริงๆอ่ะ.?

    #อย่าให้ความโลภครอบงำเจ้าได้ จงคิดถึงบุตรหลานของท่านที่อยู่ในประเทศอเมริกาให้เยอะๆ นะครับท่าน

    @เล้ง โอภาสี
    #เดอะลู๊ค Lucabet ล่าสุด..แหล่งข่าวแจ้งมาว่าคดีของเดอะลู๊ค-ป้ายแพง-หลวงดีด จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง เราก็รอดูกันต่อไปว่าผลจะออกมาอย่างไร ep.นี้จะเอาแช็ตที่ทีมงานเราล่อซื้อคนในทีมงานของเดอะลู๊คมาให้อ่านเล่นกัน แช็ตสนทนาชุดนี้ทีมงานคุยกับคนของเดอะลู๊คตอนปลายปี 2565 ทีมงานเจรจาล่อซื้อได้บัญชีม้าที่รับโอนเงินมา 1 บัญชี (ส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว) โฆษณาเว็บพนันที่มักจะขายขิงด้วยตรรกะที่ว่า..“เป็นเว็บตรงจากต่างประเทศ ระบบฝากถอนเงินอัตโนมัติ” เว็บตรงจากต่างประเทศ“ไม่มีอยู่จริง” ทุกเว็บล้วนเช่าสิทธิ์มาจากต่างประเทศ มีหลายสิทธิ์และ % ต่างกัน -company -shareholder -masteragent -agent -member 👆สิทธิ์จะมีประมาณนี้ ส่วนระบบฝากถอนเงินออโต้..มีอยู่จริง อ้าว.! ระบบการฝาก-ถอนเงินทุกบาท มันเป็นเรื่องของธนาคารนี่ แล้วเว็บพนันมันเอาระบบมาใช้ได้อย่างไร.? มีใครเคยรู้สึก เอ๊ะ ในใจกันบ้างไหมครับ.? ถ้าคนในธนาคารไม่ร่วมมือกับคนทำเว็บพนันระบบการฝากถอนออโต้ของเว็บพนันจะมีความเป็นไปได้แค่ 1 ข้อที่จะทำได้คือ.. 👉ใช้โปรแกรมเมอร์แกะเข้าไปใน app ธนาคาร เราเห็นโฆษณาฝากถอนออโต้ครั้งแรก เราเอ๊ะทันทีเพราะนี่มันเรื่องใหญ่ระดับประเทศเลยนะ เราจึงให้ทีมงานล่อซื้อจากแก๊ง..#เดอะลู๊ค พวกเราไล่ตามรอยไปจนรู้ว่า“คนในธนาคารไม่ต้องมีส่วนรู้เห็น”กับพวกทำเว็บพนัน พวกมันก็ทำกันได้อย่างงายดาย โปรแกรมเมอร์เว็บพนันจะใช้หลักการ reverse enging กันแทบทุกเว็บ เพื่อแกะเข้าไปใน app ของธนาคารเพื่อเอาเส้น api มาทำเป็นหน้าเว็บ สามารถฝาก-ถอนผ่านหน้าเว็บได้ โดยไม่ต้องผ่าน app ของธนาคาร ตอนหน้าจะเล่าให้อ่านเรื่องระบบฝาก-ถอนออโต้ของแก๊งตัวตึงบ่อนลอยฟ้า #เดอะลู๊ค มีหลักการแกะหน้าธนาคารมาได้อย่างไร จะดีลกับเดอะลู๊ค ก็ลองอ่านค่าใช้จ่ายในแช็ตดูให้จบ แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรตราคาขยับไปกี่บาทแล้ว รู้ยัง.? ระบบ sms2pro กับ host2pro ก็เป็นของเดอะลู๊คเขานะฮะ แล้วพวกท่านจะสั่งไม่ฟ้องตัวอันตรายระดับประเทศอย่าง #เดอะลู๊ค Lucabet จริงๆอ่ะ.? #อย่าให้ความโลภครอบงำเจ้าได้ จงคิดถึงบุตรหลานของท่านที่อยู่ในประเทศอเมริกาให้เยอะๆ นะครับท่าน @เล้ง โอภาสี
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีแสกนเฟสมิจฉาชีพเบื้องต้น
    1. เข้าหน้า Time line ของเขา ดูการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ถ้าไม่มีเลย หรือล๊อกโปรไฟล์ ควรตั้งข้อระวัง
    2. เครื่องหมายแว่นขยายค้นหา พิมพ์ชื่อเขาลงไป โพสที่เขาโพสในที่ต่างๆจะขึ้นมาแสดง
    3. รูป ชื่อ โปรไฟล์ เป็นแนวตัดพ้อแนวเพ้อๆ วัยรุ่นชอบใช้ชื่อแนวนี้
    4. เมื่อได้เลขบัญชีและชื่อ ค้นหาในGoogle. สักนิด ว่ามีคนประจานไหม?
    5. ให้วางสิิ่งของที่เราจะซื้อคู่กระดาษ เขียนชื่อเรา วันที่ เวลา หรืออะไรก็ได้ เพื่อยืนยันว่ามีของจริง.
    6. การถ่ายรูปคู่บัตรแทบไม่มีประโยชน์ โจรมันไม่กลัวหรอก เพราะความเป็นจริง คดีแบบนี้มีกี่หมื่นกี่แสนคดี ตร. เอากำลังที่ไหนมาทำ.และบัญชีที่เราโอนไปมันผูกพันธ์อยู่แล้ว
    แต่ส่วนมากตามเจอก็เป็นบัญชีม้า ที่ถูกจ้างมาเปิดบัญชี
    7.เมืื่อเราส่งที่อยู่ให้แล้ว ให้เขียนชื่อลงบนกล่อง และถ่ายคู่สินค้าก่อนทำการแพ็ค
    8.ขอกำหนดเวลาส่งที่แน่นอน วันใด เวลาไหน พร้อมเลขจัดส่ง tracking
    9. เก็บปลายทางก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ขนส่งเอกชน ยังไม่ขานรับนโยบายของ สคบ. ยังคงต้องจ่ายเงินก่อนรับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาส่งอะไรมา ก้อนหิน หรืออะไร.
    10. การขอเครดิตไม่ช่วยอะไร ถ้าเขามีทีมงานมาให้เครดิตสัก 10 คน คุณจะรู้ไหม?

    #ep 2 จะเขียนเรื่อง เพจโกง ต่อ ในส่วนนี้เป็นเรื่องของบุคคล.
    วิธีแสกนเฟสมิจฉาชีพเบื้องต้น 1. เข้าหน้า Time line ของเขา ดูการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ถ้าไม่มีเลย หรือล๊อกโปรไฟล์ ควรตั้งข้อระวัง 2. เครื่องหมายแว่นขยายค้นหา พิมพ์ชื่อเขาลงไป โพสที่เขาโพสในที่ต่างๆจะขึ้นมาแสดง 3. รูป ชื่อ โปรไฟล์ เป็นแนวตัดพ้อแนวเพ้อๆ วัยรุ่นชอบใช้ชื่อแนวนี้ 4. เมื่อได้เลขบัญชีและชื่อ ค้นหาในGoogle. สักนิด ว่ามีคนประจานไหม? 5. ให้วางสิิ่งของที่เราจะซื้อคู่กระดาษ เขียนชื่อเรา วันที่ เวลา หรืออะไรก็ได้ เพื่อยืนยันว่ามีของจริง. 6. การถ่ายรูปคู่บัตรแทบไม่มีประโยชน์ โจรมันไม่กลัวหรอก เพราะความเป็นจริง คดีแบบนี้มีกี่หมื่นกี่แสนคดี ตร. เอากำลังที่ไหนมาทำ.และบัญชีที่เราโอนไปมันผูกพันธ์อยู่แล้ว แต่ส่วนมากตามเจอก็เป็นบัญชีม้า ที่ถูกจ้างมาเปิดบัญชี 7.เมืื่อเราส่งที่อยู่ให้แล้ว ให้เขียนชื่อลงบนกล่อง และถ่ายคู่สินค้าก่อนทำการแพ็ค 8.ขอกำหนดเวลาส่งที่แน่นอน วันใด เวลาไหน พร้อมเลขจัดส่ง tracking 9. เก็บปลายทางก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ขนส่งเอกชน ยังไม่ขานรับนโยบายของ สคบ. ยังคงต้องจ่ายเงินก่อนรับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาส่งอะไรมา ก้อนหิน หรืออะไร. 10. การขอเครดิตไม่ช่วยอะไร ถ้าเขามีทีมงานมาให้เครดิตสัก 10 คน คุณจะรู้ไหม? #ep 2 จะเขียนเรื่อง เพจโกง ต่อ ในส่วนนี้เป็นเรื่องของบุคคล.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล็อกบัญชี ฟีเจอร์สำหรับนักออม

    ภัยทุจริตทางการเงิน จากการหลอกลวงทางออนไลน์ในปัจจุบัน นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาและยกระดับมาตรการจัดการ เช่น การกวาดล้างบัญชีม้าในระบบ ด้วยการจัดการทุกบัญชีในทุกธนาคารของเจ้าของบัญชีต้องสงสัย และการเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีพฤติกรรมผิดปกติแล้ว ธนาคารบางแห่งก็เริ่มมีระบบจัดการความปลอดภัยทางบัญชี เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชี

    เริ่มจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกฟีเจอร์ Lock & Unlock สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงกิ้งจากธนาคารกรุงเทพ โดยลูกค้าบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ และกระแสรายวัน บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) สามารถกด "ล็อกการโอน / เติม / จ่าย ผ่านแอป" เพื้อป้องกันไม่ให้สามารถโอนเงิน เติมเงิน หรือจ่ายเงิน ออกจากบัญชีที่ล็อกไว้ได้ แก้ปัญหากรณีที่มิจฉาชีพใช้แอปฯ ดูดเงินเก็บข้อมูลรหัส PIN

    ถ้าล็อกบัญชีแล้ว แม้ว่ามิจฉาชีพจะรู้รหัส PIN ก็ไม่สามารถผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีได้ ลูกค้าต้องปลดล็อกด้วยการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้า แต่ธุรกรรมขาเข้ายังสามารถทำได้ เช่น การรับเงินเข้าบัญชี การรับเงินด้วยคิวอาร์โค้ด การฝากเงินเข้าบัญชีที่ตู้อัตโนมัติหรือสาขา

    ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการล็อกบัญชีเงินฝาก UOB Money Lock สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันสำหรับบุคคลธรรมดาได้ทุกประเภท เมื่อล็อกบัญชีแล้วจะไม่สามารถโอนเงินออกผ่านช่องทางออนไลน์ ลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ สามารถถอนหรือโอนเงินได้ผ่านช่องทางสาขา หรือใช้บัตรเดบิต แต่ยังคงรับเงินเข้าได้ตามปกติ และสามารถขอปลดล็อกด้วยตนเองโดยการยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารยูโอบีเท่านั้น

    สามารถสมัครบริการได้ด้วยตนเองที่สาขาธนาคารยูโอบี บริการ Live Chat บนแอปพลิเคชัน UOB TMRW หรือศูนย์บริการลูกค้ายูโอบี โทร. 0-2285-1555 แต่การขอยกเลิกบริการต้องติดต่อสาขาของธนาคารด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของบัญชี โดยจะจะดำเนินการภายในสิ้นวันทำการถัดไป ไม่รวมวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดทำการของธนาคาร

    นอกจากนี้ ยังมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีฟีเจอร์ล็อกบัญชี ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับคนที่เเยกบัญชีเงินออมหรือคนที่มีบัญชีสำหรับเอาไว้เก็บเงินอย่างเดียว บัญชีที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆและไม่ต้องการทำธุรกรรมออนไลน์หรือที่ตู้ ATM หรือผูกบัตร Travel card กับบัญชีนั้นๆ ป้องกันการโอนเงินออกโดยถูกหลอกอีกด้วย

    #Newskit #ล็อกบัญชี #LockAccount
    ล็อกบัญชี ฟีเจอร์สำหรับนักออม ภัยทุจริตทางการเงิน จากการหลอกลวงทางออนไลน์ในปัจจุบัน นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาและยกระดับมาตรการจัดการ เช่น การกวาดล้างบัญชีม้าในระบบ ด้วยการจัดการทุกบัญชีในทุกธนาคารของเจ้าของบัญชีต้องสงสัย และการเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีพฤติกรรมผิดปกติแล้ว ธนาคารบางแห่งก็เริ่มมีระบบจัดการความปลอดภัยทางบัญชี เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชี เริ่มจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกฟีเจอร์ Lock & Unlock สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงกิ้งจากธนาคารกรุงเทพ โดยลูกค้าบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ และกระแสรายวัน บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) สามารถกด "ล็อกการโอน / เติม / จ่าย ผ่านแอป" เพื้อป้องกันไม่ให้สามารถโอนเงิน เติมเงิน หรือจ่ายเงิน ออกจากบัญชีที่ล็อกไว้ได้ แก้ปัญหากรณีที่มิจฉาชีพใช้แอปฯ ดูดเงินเก็บข้อมูลรหัส PIN ถ้าล็อกบัญชีแล้ว แม้ว่ามิจฉาชีพจะรู้รหัส PIN ก็ไม่สามารถผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีได้ ลูกค้าต้องปลดล็อกด้วยการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้า แต่ธุรกรรมขาเข้ายังสามารถทำได้ เช่น การรับเงินเข้าบัญชี การรับเงินด้วยคิวอาร์โค้ด การฝากเงินเข้าบัญชีที่ตู้อัตโนมัติหรือสาขา ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการล็อกบัญชีเงินฝาก UOB Money Lock สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันสำหรับบุคคลธรรมดาได้ทุกประเภท เมื่อล็อกบัญชีแล้วจะไม่สามารถโอนเงินออกผ่านช่องทางออนไลน์ ลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ สามารถถอนหรือโอนเงินได้ผ่านช่องทางสาขา หรือใช้บัตรเดบิต แต่ยังคงรับเงินเข้าได้ตามปกติ และสามารถขอปลดล็อกด้วยตนเองโดยการยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารยูโอบีเท่านั้น สามารถสมัครบริการได้ด้วยตนเองที่สาขาธนาคารยูโอบี บริการ Live Chat บนแอปพลิเคชัน UOB TMRW หรือศูนย์บริการลูกค้ายูโอบี โทร. 0-2285-1555 แต่การขอยกเลิกบริการต้องติดต่อสาขาของธนาคารด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของบัญชี โดยจะจะดำเนินการภายในสิ้นวันทำการถัดไป ไม่รวมวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดทำการของธนาคาร นอกจากนี้ ยังมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีฟีเจอร์ล็อกบัญชี ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับคนที่เเยกบัญชีเงินออมหรือคนที่มีบัญชีสำหรับเอาไว้เก็บเงินอย่างเดียว บัญชีที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆและไม่ต้องการทำธุรกรรมออนไลน์หรือที่ตู้ ATM หรือผูกบัตร Travel card กับบัญชีนั้นๆ ป้องกันการโอนเงินออกโดยถูกหลอกอีกด้วย #Newskit #ล็อกบัญชี #LockAccount
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 902 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เดอะลู๊ค Lucabet

    ล่าสุด..แหล่งข่าวแจ้งมาว่าคดีของเดอะลู๊ค-ป้ายแพง-หลวงดีด จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง เราก็รอดูกันต่อไปว่าผลจะออกมาอย่างไร

    ep.นี้จะเอาแช็ตที่ทีมงานเราล่อซื้อคนในทีมงานของเดอะลู๊คมาให้อ่านเล่นกัน

    แช็ตสนทนาชุดนี้ทีมงานคุยกับคนของเดอะลู๊คตอนปลายปี 2565

    ทีมงานเจรจาล่อซื้อได้บัญชีม้าที่รับโอนเงินมา 1 บัญชี (ส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว)

    โฆษณาเว็บพนันที่มักจะขายขิงด้วยตรรกะที่ว่า..“เป็นเว็บตรงจากต่างประเทศ ระบบฝากถอนเงินอัตโนมัติ”

    เว็บตรงจากต่างประเทศ“ไม่มีอยู่จริง” ทุกเว็บล้วนเช่าสิทธิ์มาจากต่างประเทศ มีหลายสิทธิ์และ % ต่างกัน

    -company
    -shareholder
    -masteragent
    -agent
    -member

    👆สิทธิ์จะมีประมาณนี้

    ส่วนระบบฝากถอนเงินออโต้..มีอยู่จริง

    อ้าว.! ระบบการฝาก-ถอนเงินทุกบาท มันเป็นเรื่องของธนาคารนี่ แล้วเว็บพนันมันเอาระบบมาใช้ได้อย่างไร.?

    มีใครเคยรู้สึก เอ๊ะ ในใจกันบ้างไหมครับ.?

    ถ้าคนในธนาคารไม่ร่วมมือกับคนทำเว็บพนันระบบการฝากถอนออโต้ของเว็บพนันจะมีความเป็นไปได้แค่ 1 ข้อที่จะทำได้คือ..
    👉ใช้โปรแกรมเมอร์แกะเข้าไปใน app ธนาคาร

    เราเห็นโฆษณาฝากถอนออโต้ครั้งแรก เราเอ๊ะทันทีเพราะนี่มันเรื่องใหญ่ระดับประเทศเลยนะ เราจึงให้ทีมงานล่อซื้อจากแก๊ง..#เดอะลู๊ค

    พวกเราไล่ตามรอยไปจนรู้ว่า“คนในธนาคารไม่ต้องมีส่วนรู้เห็น”กับพวกทำเว็บพนัน พวกมันก็ทำกันได้อย่างงายดาย

    โปรแกรมเมอร์เว็บพนันจะใช้หลักการ reverse enging กันแทบทุกเว็บ

    เพื่อแกะเข้าไปใน app ของธนาคารเพื่อเอาเส้น api มาทำเป็นหน้าเว็บ สามารถฝาก-ถอนผ่านหน้าเว็บได้ โดยไม่ต้องผ่าน app ของธนาคาร

    ตอนหน้าจะเล่าให้อ่านเรื่องระบบฝาก-ถอนออโต้ของแก๊งตัวตึงบ่อนลอยฟ้า #เดอะลู๊ค มีหลักการแกะหน้าธนาคารมาได้อย่างไร

    จะดีลกับเดอะลู๊ค ก็ลองอ่านค่าใช้จ่ายในแช็ตดูให้จบ แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรตราคาขยับไปกี่บาทแล้ว

    รู้ยัง.? ระบบ sms2pro กับ host2pro ก็เป็นของเดอะลู๊คเขานะฮะ แล้วพวกท่านจะสั่งไม่ฟ้องตัวอันตรายระดับประเทศอย่าง #เดอะลู๊ค Lucabet จริงๆอ่ะ.?

    #อย่าให้ความโลภครอบงำเจ้าได้ จงคิดถึงบุตรหลานของท่านที่อยู่ในประเทศอเมริกาให้เยอะๆ นะครับท่าน

    @เล้ง โอภาสี
    #เดอะลู๊ค Lucabet ล่าสุด..แหล่งข่าวแจ้งมาว่าคดีของเดอะลู๊ค-ป้ายแพง-หลวงดีด จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง เราก็รอดูกันต่อไปว่าผลจะออกมาอย่างไร ep.นี้จะเอาแช็ตที่ทีมงานเราล่อซื้อคนในทีมงานของเดอะลู๊คมาให้อ่านเล่นกัน แช็ตสนทนาชุดนี้ทีมงานคุยกับคนของเดอะลู๊คตอนปลายปี 2565 ทีมงานเจรจาล่อซื้อได้บัญชีม้าที่รับโอนเงินมา 1 บัญชี (ส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว) โฆษณาเว็บพนันที่มักจะขายขิงด้วยตรรกะที่ว่า..“เป็นเว็บตรงจากต่างประเทศ ระบบฝากถอนเงินอัตโนมัติ” เว็บตรงจากต่างประเทศ“ไม่มีอยู่จริง” ทุกเว็บล้วนเช่าสิทธิ์มาจากต่างประเทศ มีหลายสิทธิ์และ % ต่างกัน -company -shareholder -masteragent -agent -member 👆สิทธิ์จะมีประมาณนี้ ส่วนระบบฝากถอนเงินออโต้..มีอยู่จริง อ้าว.! ระบบการฝาก-ถอนเงินทุกบาท มันเป็นเรื่องของธนาคารนี่ แล้วเว็บพนันมันเอาระบบมาใช้ได้อย่างไร.? มีใครเคยรู้สึก เอ๊ะ ในใจกันบ้างไหมครับ.? ถ้าคนในธนาคารไม่ร่วมมือกับคนทำเว็บพนันระบบการฝากถอนออโต้ของเว็บพนันจะมีความเป็นไปได้แค่ 1 ข้อที่จะทำได้คือ.. 👉ใช้โปรแกรมเมอร์แกะเข้าไปใน app ธนาคาร เราเห็นโฆษณาฝากถอนออโต้ครั้งแรก เราเอ๊ะทันทีเพราะนี่มันเรื่องใหญ่ระดับประเทศเลยนะ เราจึงให้ทีมงานล่อซื้อจากแก๊ง..#เดอะลู๊ค พวกเราไล่ตามรอยไปจนรู้ว่า“คนในธนาคารไม่ต้องมีส่วนรู้เห็น”กับพวกทำเว็บพนัน พวกมันก็ทำกันได้อย่างงายดาย โปรแกรมเมอร์เว็บพนันจะใช้หลักการ reverse enging กันแทบทุกเว็บ เพื่อแกะเข้าไปใน app ของธนาคารเพื่อเอาเส้น api มาทำเป็นหน้าเว็บ สามารถฝาก-ถอนผ่านหน้าเว็บได้ โดยไม่ต้องผ่าน app ของธนาคาร ตอนหน้าจะเล่าให้อ่านเรื่องระบบฝาก-ถอนออโต้ของแก๊งตัวตึงบ่อนลอยฟ้า #เดอะลู๊ค มีหลักการแกะหน้าธนาคารมาได้อย่างไร จะดีลกับเดอะลู๊ค ก็ลองอ่านค่าใช้จ่ายในแช็ตดูให้จบ แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรตราคาขยับไปกี่บาทแล้ว รู้ยัง.? ระบบ sms2pro กับ host2pro ก็เป็นของเดอะลู๊คเขานะฮะ แล้วพวกท่านจะสั่งไม่ฟ้องตัวอันตรายระดับประเทศอย่าง #เดอะลู๊ค Lucabet จริงๆอ่ะ.? #อย่าให้ความโลภครอบงำเจ้าได้ จงคิดถึงบุตรหลานของท่านที่อยู่ในประเทศอเมริกาให้เยอะๆ นะครับท่าน @เล้ง โอภาสี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังธนาคารไทย ใช้'CFR'สกัดบัญชีม้า

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารทุกแห่งใช้ระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย พัฒนาโดย บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (ITMX) ระบบนี้จะให้ธนาคารที่เป็นสมาชิกของ ITMX นำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัย เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น เป็นมาตรฐานเดียวกัน

    เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ หรือธนาคารตรวจจับได้ว่ามีบัญชีต้องสงสัย จากเดิมระงับเฉพาะธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน เปลี่ยนเป็น "ระงับทุกธนาคาร" ภายใต้ชื่อบัญชีและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน โดยจะเห็นผลเมื่อคนที่เคย "ขายบัญชีม้า" ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรม เมื่อเข้าสู่ระบบ Mobile Banking จะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้

    ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคาร เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และจะต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ จะดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน

    นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธนาคารได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    อนึ่ง การเปิดหรือขายให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า ให้เช่าหรือให้ยืมใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในทางทุจริตและการทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    #Newskit #CFR #บัญชีม้า
    เบื้องหลังธนาคารไทย ใช้'CFR'สกัดบัญชีม้า นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารทุกแห่งใช้ระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย พัฒนาโดย บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (ITMX) ระบบนี้จะให้ธนาคารที่เป็นสมาชิกของ ITMX นำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัย เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น เป็นมาตรฐานเดียวกัน เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ หรือธนาคารตรวจจับได้ว่ามีบัญชีต้องสงสัย จากเดิมระงับเฉพาะธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน เปลี่ยนเป็น "ระงับทุกธนาคาร" ภายใต้ชื่อบัญชีและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน โดยจะเห็นผลเมื่อคนที่เคย "ขายบัญชีม้า" ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรม เมื่อเข้าสู่ระบบ Mobile Banking จะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้ ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคาร เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และจะต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ จะดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธนาคารได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อนึ่ง การเปิดหรือขายให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า ให้เช่าหรือให้ยืมใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในทางทุจริตและการทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ #Newskit #CFR #บัญชีม้า
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 824 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โจ๊ก” จอมย้อนแย้ง ปากก็บอกไม่ใช่สายมู แค่ชอบทำบุญ แต่ล่าสุดไปเปลี่ยนชื่อเป็น “สุรเชชษฐ์” เติม ช.เข้าไปอีกตัวเพื่อเสริมดวง เพราะช้างเป็นสัตว์มงคล แถมยังแต่งองค์ทรงเครื่องนั่งหลังช้าง เข้าร่วมพิธีแห่เจ้าเข้าเวียง ในพิธีไหว้ครูโนราห์ จ.พัทลุง ท่ามกลางเสียงตำหนิติเตียนว่ากระทำมิบังควร ซ้ำรอยกรณีรับเงินบัญชีม้าบริจาคในงานกฐินพระราชทานที่อยุธยา แล้วออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อตัวเอง
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000061990

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “โจ๊ก” จอมย้อนแย้ง ปากก็บอกไม่ใช่สายมู แค่ชอบทำบุญ แต่ล่าสุดไปเปลี่ยนชื่อเป็น “สุรเชชษฐ์” เติม ช.เข้าไปอีกตัวเพื่อเสริมดวง เพราะช้างเป็นสัตว์มงคล แถมยังแต่งองค์ทรงเครื่องนั่งหลังช้าง เข้าร่วมพิธีแห่เจ้าเข้าเวียง ในพิธีไหว้ครูโนราห์ จ.พัทลุง ท่ามกลางเสียงตำหนิติเตียนว่ากระทำมิบังควร ซ้ำรอยกรณีรับเงินบัญชีม้าบริจาคในงานกฐินพระราชทานที่อยุธยา แล้วออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อตัวเอง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000061990 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    Sad
    15
    3 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1869 มุมมอง 0 รีวิว