• อาคารกระทรวงยุติธรรมของอิหร่านถูกโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอล
    อาคารกระทรวงยุติธรรมของอิหร่านถูกโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าขณะนี้ลอสแองเจลิส ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของต่างชาติ และสั่งให้ฝ่ายบริหารผ่าน รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ คริสตี้ โนเอม และรมว.กลาโหม พีท เฮกเซธ ระงับความไม่สงบที่เกิดขึ้นและปลดปล่อยเมืองด้วยวิธีการใดๆ ที่จำเป็น

    ข้าพเจ้าขอสั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ คริสตี้ โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พีท เฮกเซธ และอัยการสูงสุด (รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม) แพม บอนดี ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปลดปล่อยลอสแองเจลิสจากการรุกรานของผู้อพยพ และยุติการจลาจลของผู้อพยพ นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา
    ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าขณะนี้ลอสแองเจลิส ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของต่างชาติ และสั่งให้ฝ่ายบริหารผ่าน รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ คริสตี้ โนเอม และรมว.กลาโหม พีท เฮกเซธ ระงับความไม่สงบที่เกิดขึ้นและปลดปล่อยเมืองด้วยวิธีการใดๆ ที่จำเป็น ข้าพเจ้าขอสั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ คริสตี้ โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พีท เฮกเซธ และอัยการสูงสุด (รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม) แพม บอนดี ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปลดปล่อยลอสแองเจลิสจากการรุกรานของผู้อพยพ และยุติการจลาจลของผู้อพยพ นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI
    ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

    Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร
    - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้
    - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้
    - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
    - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini
    - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม

    คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้ - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้ - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Judge in Google case questions future of search amid rise of AI
    WASHINGTON (Reuters) -A judge asked the U.S. Department of Justice on Friday how much room there would be for new search engines to emerge given the rise of artificial intelligence, as antitrust enforcers press for Alphabet's Google to take dramatic measures to restore competition in online search.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความยุติธรรมมีจริงกี่ % ทุกประเทศบนโลกตั้งกระทรวงยุติธรรม แต่มันยุติธรรมกับคนมีเงินมีอำนาจมากกว่าคนจน
    ความยุติธรรมมีจริงกี่ % ทุกประเทศบนโลกตั้งกระทรวงยุติธรรม แต่มันยุติธรรมกับคนมีเงินมีอำนาจมากกว่าคนจน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำทีมปฏิบัติการระดับโลก ปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ที่ติดไวรัสกว่า 394,000 เครื่อง

    Microsoft ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ซึ่งเป็น มัลแวร์ประเภท Infostealer ที่ขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจ โดยมี ผู้ใช้กว่า 394,000 รายได้รับผลกระทบในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปิดเครือข่าย Lumma Stealer
    ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ประสบความสำเร็จในการรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma Stealer
    - ปิดกั้น 2,300 โดเมนที่ใช้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน

    ✅ มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกใช้เพื่อขโมยรหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต และกระเป๋าเงินคริปโต
    - รวมถึง การโจมตีบริการสำคัญและการขโมยเอกสารจากเครื่องที่ติดไวรัส

    ✅ Microsoft ทำงานร่วมกับศาลรัฐบาลกลางในจอร์เจีย, กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ, Europol และศูนย์ควบคุมอาชญากรรมไซเบอร์ของญี่ปุ่น
    - เพื่อ รื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma และป้องกันการแพร่กระจายเพิ่มเติม

    ✅ มัลแวร์ LummaC2 ถูกขายในตลาดมืดตั้งแต่ปี 2022 และพัฒนาให้มีฟีเจอร์ขั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    - สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, ค้นหากระเป๋าเงินคริปโต และเจาะระบบ VPN

    ✅ มัลแวร์แพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่ง, โฆษณาอันตราย และเว็บไซต์ที่ถูกแฮก
    - รวมถึง การใช้ Captcha ปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์

    https://www.techspot.com/news/108028-microsoft-led-massive-international-operation-against-notorious-lumma.html
    Microsoft นำทีมปฏิบัติการระดับโลก ปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ที่ติดไวรัสกว่า 394,000 เครื่อง Microsoft ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ซึ่งเป็น มัลแวร์ประเภท Infostealer ที่ขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจ โดยมี ผู้ใช้กว่า 394,000 รายได้รับผลกระทบในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปิดเครือข่าย Lumma Stealer ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ประสบความสำเร็จในการรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma Stealer - ปิดกั้น 2,300 โดเมนที่ใช้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน ✅ มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกใช้เพื่อขโมยรหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต และกระเป๋าเงินคริปโต - รวมถึง การโจมตีบริการสำคัญและการขโมยเอกสารจากเครื่องที่ติดไวรัส ✅ Microsoft ทำงานร่วมกับศาลรัฐบาลกลางในจอร์เจีย, กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ, Europol และศูนย์ควบคุมอาชญากรรมไซเบอร์ของญี่ปุ่น - เพื่อ รื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma และป้องกันการแพร่กระจายเพิ่มเติม ✅ มัลแวร์ LummaC2 ถูกขายในตลาดมืดตั้งแต่ปี 2022 และพัฒนาให้มีฟีเจอร์ขั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ - สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, ค้นหากระเป๋าเงินคริปโต และเจาะระบบ VPN ✅ มัลแวร์แพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่ง, โฆษณาอันตราย และเว็บไซต์ที่ถูกแฮก - รวมถึง การใช้ Captcha ปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์ https://www.techspot.com/news/108028-microsoft-led-massive-international-operation-against-notorious-lumma.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Global crackdown led by Microsoft shuts down Lumma Stealer malware infecting 394,000 PCs
    Microsoft says its Digital Crimes Unit (DCU) successfully disrupted the server infrastructure behind Lumma Stealer, a malware-as-a-service (MaaS) operation that infected hundreds of thousands of Windows PCs....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer มัลแวร์ขโมยข้อมูล

    Microsoft ประกาศดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลจาก Windows กว่า 400,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยมัลแวร์นี้สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโต

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Lumma Stealer และการดำเนินการของ Microsoft
    ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ยื่นฟ้อง Lumma Stealer ในศาลสหรัฐฯ
    - ศาลแขวงสหรัฐฯ เขต Northern District of Georgia ออกคำสั่งให้ระงับและบล็อกโดเมนที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์นี้

    ✅ Lumma Stealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงินคริปโต
    - รวมถึง ติดตั้งมัลแวร์อื่น ๆ บนเครื่องที่ติดเชื้อ

    ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยึดโดเมนอินเทอร์เน็ต 5 แห่งที่ใช้ในการดำเนินการของ LummaC2
    - FBI สำนักงาน Dallas กำลังสืบสวนคดีนี้

    ✅ Microsoft ระบุว่าการเติบโตของ Lumma Stealer สะท้อนถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมไซเบอร์
    - เน้นย้ำถึง ความจำเป็นในการป้องกันหลายชั้นและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม

    ‼️ ผู้ใช้ควรตรวจสอบระบบของตนเพื่อป้องกันการติดมัลแวร์ Lumma Stealer
    - ควร อัปเดตซอฟต์แวร์และใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/microsoft-files-legal-action-against-information-stealing-malware-lumma-stealer
    Microsoft ดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer มัลแวร์ขโมยข้อมูล Microsoft ประกาศดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลจาก Windows กว่า 400,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยมัลแวร์นี้สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Lumma Stealer และการดำเนินการของ Microsoft ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ยื่นฟ้อง Lumma Stealer ในศาลสหรัฐฯ - ศาลแขวงสหรัฐฯ เขต Northern District of Georgia ออกคำสั่งให้ระงับและบล็อกโดเมนที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์นี้ ✅ Lumma Stealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงินคริปโต - รวมถึง ติดตั้งมัลแวร์อื่น ๆ บนเครื่องที่ติดเชื้อ ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยึดโดเมนอินเทอร์เน็ต 5 แห่งที่ใช้ในการดำเนินการของ LummaC2 - FBI สำนักงาน Dallas กำลังสืบสวนคดีนี้ ✅ Microsoft ระบุว่าการเติบโตของ Lumma Stealer สะท้อนถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมไซเบอร์ - เน้นย้ำถึง ความจำเป็นในการป้องกันหลายชั้นและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม ‼️ ผู้ใช้ควรตรวจสอบระบบของตนเพื่อป้องกันการติดมัลแวร์ Lumma Stealer - ควร อัปเดตซอฟต์แวร์และใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/microsoft-files-legal-action-against-information-stealing-malware-lumma-stealer
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft files legal action against information-stealing malware Lumma Stealer
    (Reuters) -Microsoft said on Wednesday its Digital Crimes Unit (DCU) filed a legal action against Lumma Stealer last week, after it found nearly 400,000 Windows computers globally infected by the information-stealing malware in the past two months.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ( DSI ) กระทรวงยุติธรรมส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคงซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก
    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ( DSI ) กระทรวงยุติธรรมส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคงซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.ยธ.เปิดใจเคารพศาล รธน.หลังถูกสั่งห้ามคุม DSI มองเป็นบวกทุกฝ่าย สบายใจเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. ไม่กระทบสอบสวน แจง รมต.แทรกแซงไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมทำหนังสือแจง เมินโต้วุฒิฯจวกกเฬวราก คาด “ภูมิธรรม” คุมแทน ไร้กังวลปรับ ครม. ปัดน้ำเงินชนะแดง

    วันนี้ (14 พ.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเฉพาะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่ยื่นโดยประธานวุฒิสภาเรื่องการทำคดีพิเศษว่าด้วยการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือคดีฮั้ว สว. ว่า เราต้องเคารพในคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและขอสงวนไม่พูดในรายละเอียด โดยส่วนตัวมองว่าคำสั่งดังกล่าวส่งผลในทางบวก เพราะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจในเรื่องกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. รวมทั้งมองว่ายิ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านนิติธรรมและความโปร่งใส

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000045101

    #MGROnline #ทวีสอดส่อง #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
    รมว.ยธ.เปิดใจเคารพศาล รธน.หลังถูกสั่งห้ามคุม DSI มองเป็นบวกทุกฝ่าย สบายใจเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. ไม่กระทบสอบสวน แจง รมต.แทรกแซงไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมทำหนังสือแจง เมินโต้วุฒิฯจวกกเฬวราก คาด “ภูมิธรรม” คุมแทน ไร้กังวลปรับ ครม. ปัดน้ำเงินชนะแดง • วันนี้ (14 พ.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเฉพาะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่ยื่นโดยประธานวุฒิสภาเรื่องการทำคดีพิเศษว่าด้วยการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือคดีฮั้ว สว. ว่า เราต้องเคารพในคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและขอสงวนไม่พูดในรายละเอียด โดยส่วนตัวมองว่าคำสั่งดังกล่าวส่งผลในทางบวก เพราะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจในเรื่องกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. รวมทั้งมองว่ายิ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านนิติธรรมและความโปร่งใส • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000045101 • #MGROnline #ทวีสอดส่อง #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรธน.ตีตกคำร้องสว.สำรอง ขอสอบปม 92 สว.ยื่น ป.ป.ช.สอบ "ทวี-ภูมิธรรม" เหตุไม่เข้าหลักเกณฑ์ พร้อมไม่รับคำร้องอดีตผู้สมัคร สว.ขอสั่งให้การเลือกเป็นโมฆะ

    วันนี้ (14พ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาใน 2 คดีที่เกี่ยวกับการร้องเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)คือคดีที่ พล.ต.ท คำรบ ปัญญาแก้ว และคณะสว.สำรอง ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 92 คน ผู้ถูกร้อง ได้ร่วมกันลงลายมือชื่อ และยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาขอให้ส่งคำร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้พิจารณาไต่สวนและดำเนินการกับพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จากเหตุเสนอเรื่องการขออนุมัติให้การดำเนินคดีความผิดฐานอั้งยี่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นสิทธิพิเศษ อีกทั้งการเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากเป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งของการเป็นสมาชิกวุฒิสภากระทำการอันมีลักษณะต้องห้ามเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองในการปฏิบัติราชการหรือดำเนินการในหน้าที่ประจำของข้าราชการหรือของหน่วยงานราชการ ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (1)

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000044970

    #MGROnline #ทวี #ภูมิธรรม #สมาชิกวุฒิสภา
    ศาลรธน.ตีตกคำร้องสว.สำรอง ขอสอบปม 92 สว.ยื่น ป.ป.ช.สอบ "ทวี-ภูมิธรรม" เหตุไม่เข้าหลักเกณฑ์ พร้อมไม่รับคำร้องอดีตผู้สมัคร สว.ขอสั่งให้การเลือกเป็นโมฆะ • วันนี้ (14พ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาใน 2 คดีที่เกี่ยวกับการร้องเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)คือคดีที่ พล.ต.ท คำรบ ปัญญาแก้ว และคณะสว.สำรอง ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 92 คน ผู้ถูกร้อง ได้ร่วมกันลงลายมือชื่อ และยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาขอให้ส่งคำร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้พิจารณาไต่สวนและดำเนินการกับพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จากเหตุเสนอเรื่องการขออนุมัติให้การดำเนินคดีความผิดฐานอั้งยี่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นสิทธิพิเศษ อีกทั้งการเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากเป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งของการเป็นสมาชิกวุฒิสภากระทำการอันมีลักษณะต้องห้ามเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองในการปฏิบัติราชการหรือดำเนินการในหน้าที่ประจำของข้าราชการหรือของหน่วยงานราชการ ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (1) • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000044970 • #MGROnline #ทวี #ภูมิธรรม #สมาชิกวุฒิสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับกุมผู้ต้องสงสัยในแอฟริกาตะวันตกเกี่ยวกับคดีแบล็กเมล์ออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของวัยรุ่นในแคลิฟอร์เนีย

    สามปีหลังจากการเสียชีวิตของ Ryan Last วัยรุ่นอายุ 17 ปีในแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่สืบสวนของสหรัฐฯ ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 4 คนในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเกี่ยวข้องกับ แผนการแบล็กเมล์ทางออนไลน์ระดับนานาชาติ (International Sextortion Scheme) โดยผู้ต้องสงสัยเหล่านี้จะถูกดำเนินคดีในประเทศของตน เนื่องจาก Cote d’Ivoire ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ✅ Ryan Last เสียชีวิตในปี 2022 หลังจากตกเป็นเหยื่อของการแบล็กเมล์ทางออนไลน์
    - คดีนี้นำไปสู่ การสืบสวนระดับนานาชาติที่ยาวนาน

    ✅ ผู้ต้องสงสัย 4 คนถูกจับกุมในแอฟริกาตะวันตก และจะถูกดำเนินคดีในประเทศของตน
    - เนื่องจาก Cote d’Ivoire ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ✅ ผู้ต้องสงสัยคนที่ 5 ถูกจับกุมในลอสแอนเจลิสในปี 2022 และถูกตัดสินจำคุก 1 ปีครึ่ง
    - ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน แบล็กเมล์ทางออนไลน์

    ✅ คดีนี้เน้นให้เห็นถึงอันตรายของการแบล็กเมล์ทางออนไลน์และผลกระทบต่อเหยื่อ
    - โดยเฉพาะ วัยรุ่นที่อาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์

    ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายอาชญากรรมนี้
    - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/13/four-men-arrested-in-west-africa-for-extortion-scheme-linked-to-california-teen039s-suicide
    จับกุมผู้ต้องสงสัยในแอฟริกาตะวันตกเกี่ยวกับคดีแบล็กเมล์ออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของวัยรุ่นในแคลิฟอร์เนีย สามปีหลังจากการเสียชีวิตของ Ryan Last วัยรุ่นอายุ 17 ปีในแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่สืบสวนของสหรัฐฯ ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 4 คนในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเกี่ยวข้องกับ แผนการแบล็กเมล์ทางออนไลน์ระดับนานาชาติ (International Sextortion Scheme) โดยผู้ต้องสงสัยเหล่านี้จะถูกดำเนินคดีในประเทศของตน เนื่องจาก Cote d’Ivoire ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ✅ Ryan Last เสียชีวิตในปี 2022 หลังจากตกเป็นเหยื่อของการแบล็กเมล์ทางออนไลน์ - คดีนี้นำไปสู่ การสืบสวนระดับนานาชาติที่ยาวนาน ✅ ผู้ต้องสงสัย 4 คนถูกจับกุมในแอฟริกาตะวันตก และจะถูกดำเนินคดีในประเทศของตน - เนื่องจาก Cote d’Ivoire ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ✅ ผู้ต้องสงสัยคนที่ 5 ถูกจับกุมในลอสแอนเจลิสในปี 2022 และถูกตัดสินจำคุก 1 ปีครึ่ง - ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน แบล็กเมล์ทางออนไลน์ ✅ คดีนี้เน้นให้เห็นถึงอันตรายของการแบล็กเมล์ทางออนไลน์และผลกระทบต่อเหยื่อ - โดยเฉพาะ วัยรุ่นที่อาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายอาชญากรรมนี้ - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/13/four-men-arrested-in-west-africa-for-extortion-scheme-linked-to-california-teen039s-suicide
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Four men arrested in West Africa for extortion scheme linked to California teen's suicide
    Three years after a California teenager died by suicide, four men in West Africa have been arrested on suspicion of participating in "international sextortion scheme," according to federal investigators.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา

    “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา”
    .

    เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ"

    เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

    ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน

    เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก

    ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz)

    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o

    ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา” . เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ" เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz) รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยืนยันว่าต้องการ แยกธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อลดการผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล โดยศาลได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้

    DOJ กำลังผลักดันให้ Google ขายธุรกิจโฆษณาบางส่วน เช่น Ad Exchange และ Publisher Ad Server เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตลาดโฆษณาออนไลน์ หลังจากที่ศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด

    Google คัดค้านแผนการแยกธุรกิจ โดยระบุว่าการบังคับขายธุรกิจโฆษณา อาจเป็นไปไม่ได้และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ Google ยังเสนอทางเลือกอื่น เช่น การแบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ และ การยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม

    ✅ DOJ ต้องการแยกธุรกิจโฆษณาของ Google
    - ศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายน
    - DOJ ต้องการให้ Google ขายธุรกิจ Ad Exchange และ Publisher Ad Server

    ✅ เหตุผลในการดำเนินคดี
    - ศาลพบว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด
    - การผูกขาดของ Google ส่งผลกระทบต่อผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้บริโภค

    ✅ ข้อเสนอของ Google เพื่อลดผลกระทบ
    - Google เสนอให้ แบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์
    - ยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม เช่น Unified Pricing

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล
    - หาก DOJ ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ ตลาดโฆษณามีการแข่งขันมากขึ้น
    - Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

    https://www.techspot.com/news/107784-doj-confirms-wants-break-up-google-advertising-tech.html
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยืนยันว่าต้องการ แยกธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อลดการผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล โดยศาลได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้ DOJ กำลังผลักดันให้ Google ขายธุรกิจโฆษณาบางส่วน เช่น Ad Exchange และ Publisher Ad Server เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตลาดโฆษณาออนไลน์ หลังจากที่ศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด Google คัดค้านแผนการแยกธุรกิจ โดยระบุว่าการบังคับขายธุรกิจโฆษณา อาจเป็นไปไม่ได้และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ Google ยังเสนอทางเลือกอื่น เช่น การแบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ และ การยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม ✅ DOJ ต้องการแยกธุรกิจโฆษณาของ Google - ศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายน - DOJ ต้องการให้ Google ขายธุรกิจ Ad Exchange และ Publisher Ad Server ✅ เหตุผลในการดำเนินคดี - ศาลพบว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด - การผูกขาดของ Google ส่งผลกระทบต่อผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้บริโภค ✅ ข้อเสนอของ Google เพื่อลดผลกระทบ - Google เสนอให้ แบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ - ยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม เช่น Unified Pricing ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล - หาก DOJ ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ ตลาดโฆษณามีการแข่งขันมากขึ้น - Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด https://www.techspot.com/news/107784-doj-confirms-wants-break-up-google-advertising-tech.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DOJ confirms it wants to break up Google's advertising tech monopoly
    The US Department of Justice has confirmed its intention to pursue a breakup of Google's advertising technology business, escalating the stakes in a high-profile antitrust battle. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta, Spotify, Garmin, Match Group และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience เพื่อท้าทาย การผูกขาดของ Apple และ Google ในตลาดแอปมือถือ

    กลุ่มพันธมิตรนี้มีเป้าหมายหลักในการ ผลักดันให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์มีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเริ่มจากการเรียกร้องให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้แทนที่จะผลักภาระให้กับนักพัฒนาแอป ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐยูทาห์เคยออกกฎหมายบังคับใช้แล้ว

    นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรยังสนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ต่อ Apple และ Google และเรียกร้องให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์ หยุดการเลือกปฏิบัติต่อแอปของคู่แข่ง และเปิดทางให้ผู้พัฒนาแอปสามารถใช้ระบบชำระเงินทางเลือกได้

    ✅ การจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience
    - นำโดย Meta, Spotify, Garmin และ Match Group
    - มีเป้าหมายเพื่อ ท้าทายการผูกขาดของ Apple และ Google

    ✅ ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มพันธมิตร
    - ผลักดันให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้
    - สนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
    - เรียกร้องให้ แพลตฟอร์มแอปสโตร์เปิดทางให้ผู้พัฒนาใช้ระบบชำระเงินทางเลือก

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอปมือถือ
    - หากข้อเรียกร้องได้รับการตอบรับ อาจทำให้ นักพัฒนาแอปมีอิสระมากขึ้น
    - อาจส่งผลให้ ค่าธรรมเนียมแอปสโตร์ลดลง

    ✅ การสนับสนุนจากภาครัฐและศาล
    - ศาลสหรัฐฯ เพิ่งตัดสินให้ Apple ต้องเปิดทางให้แอปสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้
    - กลุ่มพันธมิตรหวังว่า แรงกดดันจากหลายฝ่ายจะช่วยเปลี่ยนแปลงตลาดแอปมือถือ

    https://www.techspot.com/news/107765-meta-spotify-others-form-coalition-challenge-applegoogle-duopoly.html
    Meta, Spotify, Garmin, Match Group และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience เพื่อท้าทาย การผูกขาดของ Apple และ Google ในตลาดแอปมือถือ กลุ่มพันธมิตรนี้มีเป้าหมายหลักในการ ผลักดันให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์มีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเริ่มจากการเรียกร้องให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้แทนที่จะผลักภาระให้กับนักพัฒนาแอป ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐยูทาห์เคยออกกฎหมายบังคับใช้แล้ว นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรยังสนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ต่อ Apple และ Google และเรียกร้องให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์ หยุดการเลือกปฏิบัติต่อแอปของคู่แข่ง และเปิดทางให้ผู้พัฒนาแอปสามารถใช้ระบบชำระเงินทางเลือกได้ ✅ การจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience - นำโดย Meta, Spotify, Garmin และ Match Group - มีเป้าหมายเพื่อ ท้าทายการผูกขาดของ Apple และ Google ✅ ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มพันธมิตร - ผลักดันให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้ - สนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ - เรียกร้องให้ แพลตฟอร์มแอปสโตร์เปิดทางให้ผู้พัฒนาใช้ระบบชำระเงินทางเลือก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอปมือถือ - หากข้อเรียกร้องได้รับการตอบรับ อาจทำให้ นักพัฒนาแอปมีอิสระมากขึ้น - อาจส่งผลให้ ค่าธรรมเนียมแอปสโตร์ลดลง ✅ การสนับสนุนจากภาครัฐและศาล - ศาลสหรัฐฯ เพิ่งตัดสินให้ Apple ต้องเปิดทางให้แอปสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้ - กลุ่มพันธมิตรหวังว่า แรงกดดันจากหลายฝ่ายจะช่วยเปลี่ยนแปลงตลาดแอปมือถือ https://www.techspot.com/news/107765-meta-spotify-others-form-coalition-challenge-applegoogle-duopoly.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta, Spotify, and others unite to challenge the Apple-Google app store duopoly
    Meta, Spotify, Garmin, Match Group, and others have joined forces to form a lobbying partnership targeting the control Apple and Google exert over their mobile app ecosystems....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีต่อต้านการผูกขาดเกี่ยวกับตลาดการค้นหาออนไลน์ โดย DOJ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Google รวมถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี

    Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ให้การในศาลว่า การบังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง อาจทำให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน R&D ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองทศวรรษ

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google หยุดจ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น และยังมีข้อเสนอให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่ง OpenAI, Perplexity และ Yahoo ได้แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Google Chrome ได้ให้การในศาลเพื่อปกป้องการเป็นเจ้าของ Chrome โดยระบุว่า Google เป็นบริษัทเดียวที่สามารถดำเนินการ Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google

    ✅ ข้อกล่าวหาจาก DOJ
    - DOJ กล่าวหา Google ว่าผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์
    - ศาลรับรองข้อกล่าวหาในปี 2024

    ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอโดย DOJ
    - บังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง
    - หยุดจ่ายเงินให้ Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome

    ✅ การตอบสนองของ Google
    - Sundar Pichai ระบุว่าการแชร์ข้อมูลจะทำให้ Google สูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
    - Parisa Tabriz ให้การว่าฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Chrome ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google

    ✅ ผู้สนใจซื้อ Chrome
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/sundar-pichai-warns-proposed-remedies-by-doj-could-kill-googles-rd-and-innovation/
    Google กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีต่อต้านการผูกขาดเกี่ยวกับตลาดการค้นหาออนไลน์ โดย DOJ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Google รวมถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ให้การในศาลว่า การบังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง อาจทำให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน R&D ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองทศวรรษ นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google หยุดจ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น และยังมีข้อเสนอให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่ง OpenAI, Perplexity และ Yahoo ได้แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Google Chrome ได้ให้การในศาลเพื่อปกป้องการเป็นเจ้าของ Chrome โดยระบุว่า Google เป็นบริษัทเดียวที่สามารถดำเนินการ Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google ✅ ข้อกล่าวหาจาก DOJ - DOJ กล่าวหา Google ว่าผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ - ศาลรับรองข้อกล่าวหาในปี 2024 ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอโดย DOJ - บังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง - หยุดจ่ายเงินให้ Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ✅ การตอบสนองของ Google - Sundar Pichai ระบุว่าการแชร์ข้อมูลจะทำให้ Google สูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม - Parisa Tabriz ให้การว่าฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Chrome ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google ✅ ผู้สนใจซื้อ Chrome - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/sundar-pichai-warns-proposed-remedies-by-doj-could-kill-googles-rd-and-innovation/
    WWW.NEOWIN.NET
    Sundar Pichai warns proposed remedies by DOJ could kill Google's R&D and innovation
    Google's CEO believes the DOJ demands, including sharing search data with rival companies, could stifle Google's innovation and harm its R&D efforts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple

    ✅ การตัดสินใจของ DOJ
    - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด
    - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง

    ✅ การให้การของ Parisa Tabriz
    - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google
    - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    ✅ ผลกระทบต่อ Chrome
    - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google
    - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple ✅ การตัดสินใจของ DOJ - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง ✅ การให้การของ Parisa Tabriz - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 ✅ ผลกระทบต่อ Chrome - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chrome general manager tells Judge that only Google can run Chrome
    The General Manager of Google Chrome testified in court and insisted on the company's unmatched ability to run the Chrome browser.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ทักษิณ' ลุ้นระทึกศาลฎีกา ยิ้มสู้ปล่อยวางทุกอย่าง ให้กระบวนการทำงาน
    .
    วันที่ 30 เมษายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง มาฟังคำสั่งในคำร้องที่ก่อนหน้านี้นายชาญชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม2568 เพื่อขอให้ศาลฎีกาฯไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039314

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    'ทักษิณ' ลุ้นระทึกศาลฎีกา ยิ้มสู้ปล่อยวางทุกอย่าง ให้กระบวนการทำงาน . วันที่ 30 เมษายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง มาฟังคำสั่งในคำร้องที่ก่อนหน้านี้นายชาญชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม2568 เพื่อขอให้ศาลฎีกาฯไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039314 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1090 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 เมษายน 2568- รัฐบาลทรัมป์กลับลำ ยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯเผยแพร่วันที่ 25 เมษายน 2025 เวลา 11:23 น. (EDT)หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากศาลและถูกออกคำสั่งระงับซ้ำแล้วซ้ำเล่า รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระงับเนื่องจากข้อกฎหมายเล็กน้อยที่มักถูกเพิกเฉยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ยื่นเรื่องกลับคำตัดสินต่อศาลรัฐบาลกลางเมื่อวันศุกร์ โดยชี้แจงว่าจะคืนสถานะการลงทะเบียนวีซ่านักเรียนให้กับนักศึกษาต่างชาติหลายพันคนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการกระทำผิดเพียงเล็กน้อยหรือเป็นกรณีที่ไม่ควรมีผลต่อสถานะการศึกษาการระงับวีซ่าครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้นักเรียนหลายพันคนตกอยู่ในความวิตกกังวลว่าจะสูญเสียสถานะผู้อยู่อาศัยตามกฎหมาย และเสี่ยงถูกเนรเทศออกนอกประเทศอย่างกะทันหัน หลายคนที่ยื่นฟ้องต่อศาลระบุว่า สถาบันของตนได้ระงับสิทธิ์ในการเข้าชั้นเรียนหรือทำวิจัย แม้จะใกล้ถึงกำหนดสำเร็จการศึกษาเพียงไม่กี่สัปดาห์ศาลหลายแห่งมองว่าการระงับสถานะวีซ่าเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และได้ออกคำสั่งชั่วคราวเพื่อปกป้องสิทธิของนักศึกษา ส่งผลให้รัฐบาลต้องพิจารณาถอยกลับจากมาตรการดังกล่าวในที่สุด
    25 เมษายน 2568- รัฐบาลทรัมป์กลับลำ ยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯเผยแพร่วันที่ 25 เมษายน 2025 เวลา 11:23 น. (EDT)หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากศาลและถูกออกคำสั่งระงับซ้ำแล้วซ้ำเล่า รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระงับเนื่องจากข้อกฎหมายเล็กน้อยที่มักถูกเพิกเฉยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ยื่นเรื่องกลับคำตัดสินต่อศาลรัฐบาลกลางเมื่อวันศุกร์ โดยชี้แจงว่าจะคืนสถานะการลงทะเบียนวีซ่านักเรียนให้กับนักศึกษาต่างชาติหลายพันคนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการกระทำผิดเพียงเล็กน้อยหรือเป็นกรณีที่ไม่ควรมีผลต่อสถานะการศึกษาการระงับวีซ่าครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้นักเรียนหลายพันคนตกอยู่ในความวิตกกังวลว่าจะสูญเสียสถานะผู้อยู่อาศัยตามกฎหมาย และเสี่ยงถูกเนรเทศออกนอกประเทศอย่างกะทันหัน หลายคนที่ยื่นฟ้องต่อศาลระบุว่า สถาบันของตนได้ระงับสิทธิ์ในการเข้าชั้นเรียนหรือทำวิจัย แม้จะใกล้ถึงกำหนดสำเร็จการศึกษาเพียงไม่กี่สัปดาห์ศาลหลายแห่งมองว่าการระงับสถานะวีซ่าเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และได้ออกคำสั่งชั่วคราวเพื่อปกป้องสิทธิของนักศึกษา ส่งผลให้รัฐบาลต้องพิจารณาถอยกลับจากมาตรการดังกล่าวในที่สุด
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • TP-Link ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เราเตอร์ยอดนิยมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการสอบสวนด้านการผูกขาดและความมั่นคงแห่งชาติจากกระทรวงยุติธรรม (DoJ) และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ โดยการสอบสวนนี้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link และความเชื่อมโยงกับจีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคง

    TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่งเพื่อครองตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบัน TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดถึง 65% และ 12 ใน 20 รุ่นที่ขายดีที่สุดบน Amazon เป็นของ TP-Link นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเราเตอร์ TP-Link ที่เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์

    ในปี 2024 TP-Link USA ได้ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนเพื่อสร้าง TP-Link Systems Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย โดยมีเป้าหมายเพื่อแยกโครงสร้างการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลยังคงตรวจสอบว่าโครงสร้างใหม่นี้สามารถป้องกันการแทรกแซงจากจีนได้จริงหรือไม่

    ✅ การสอบสวนด้านการผูกขาด
    - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สอบสวนกลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link
    - TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่ง

    ✅ ความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สอบสวนความเชื่อมโยงของ TP-Link กับจีน
    - เราเตอร์ TP-Link เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ การปรับโครงสร้างองค์กร
    - TP-Link USA ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนในปี 2024
    - โครงสร้างใหม่มีเป้าหมายเพื่อแยกการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน

    ✅ ผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาด
    - TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ถึง 65%

    https://www.techspot.com/news/107682-tp-link-router-pricing-china-ties-under-us.html
    TP-Link ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เราเตอร์ยอดนิยมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการสอบสวนด้านการผูกขาดและความมั่นคงแห่งชาติจากกระทรวงยุติธรรม (DoJ) และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ โดยการสอบสวนนี้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link และความเชื่อมโยงกับจีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคง TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่งเพื่อครองตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบัน TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดถึง 65% และ 12 ใน 20 รุ่นที่ขายดีที่สุดบน Amazon เป็นของ TP-Link นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเราเตอร์ TP-Link ที่เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์ ในปี 2024 TP-Link USA ได้ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนเพื่อสร้าง TP-Link Systems Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย โดยมีเป้าหมายเพื่อแยกโครงสร้างการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลยังคงตรวจสอบว่าโครงสร้างใหม่นี้สามารถป้องกันการแทรกแซงจากจีนได้จริงหรือไม่ ✅ การสอบสวนด้านการผูกขาด - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สอบสวนกลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link - TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่ง ✅ ความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สอบสวนความเชื่อมโยงของ TP-Link กับจีน - เราเตอร์ TP-Link เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ การปรับโครงสร้างองค์กร - TP-Link USA ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนในปี 2024 - โครงสร้างใหม่มีเป้าหมายเพื่อแยกการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน ✅ ผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาด - TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ถึง 65% https://www.techspot.com/news/107682-tp-link-router-pricing-china-ties-under-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TP-Link's router pricing and China ties under US government investigation
    The affordability of TP-Link's routers is part of what makes them so popular. Prosecutors at the DoJ are examining whether the company engaged in predatory pricing to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการประเมินมูลค่าของเบราว์เซอร์ Google Chrome ซึ่งถูกคาดการณ์ว่ามีมูลค่าสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์ โดย Gabriel Weinberg CEO ของ DuckDuckGo ในระหว่างการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการผูกขาดของ Google โดย Weinberg ระบุว่ามูลค่าดังกล่าวเป็นการคำนวณเบื้องต้นจากฐานผู้ใช้งานและการเข้าถึงทั่วโลกของ Chrome ซึ่งสูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ โดย Bloomberg

    การพิจารณาคดีนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาดของ Google ในตลาดการค้นหา โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และกลุ่มรัฐต่างๆ กำลังพิจารณาให้ Google ขาย Chrome เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในตลาด

    นอกจากนี้ OpenAI และ Perplexity ยังแสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย โดย OpenAI มองว่าการรวม Chrome กับเทคโนโลยี AI จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและเน้น AI สำหรับผู้ใช้งาน

    ✅ การประเมินมูลค่า Chrome
    - Gabriel Weinberg CEO ของ DuckDuckGo ประเมินมูลค่า Chrome ที่ 50 พันล้านดอลลาร์
    - การประเมินนี้สูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 20 พันล้านดอลลาร์

    ✅ การพิจารณาคดีเกี่ยวกับการผูกขาดของ Google
    - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พิจารณาให้ Google ขาย Chrome เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในตลาด
    - การพิจารณาคดีนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาดในตลาดการค้นหา

    ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น
    - OpenAI และ Perplexity แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย
    - OpenAI มองว่าการรวม Chrome กับเทคโนโลยี AI จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและเน้น AI

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการค้นหาและโฆษณาดิจิทัล
    - การขาย Chrome อาจส่งผลต่อความสมดุลของอำนาจในตลาดการค้นหาและโฆษณาดิจิทัล

    https://www.techspot.com/news/107677-chrome-worth-around-50-billion-duckduckgo-ceo-guesstimates.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงการประเมินมูลค่าของเบราว์เซอร์ Google Chrome ซึ่งถูกคาดการณ์ว่ามีมูลค่าสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์ โดย Gabriel Weinberg CEO ของ DuckDuckGo ในระหว่างการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการผูกขาดของ Google โดย Weinberg ระบุว่ามูลค่าดังกล่าวเป็นการคำนวณเบื้องต้นจากฐานผู้ใช้งานและการเข้าถึงทั่วโลกของ Chrome ซึ่งสูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ โดย Bloomberg การพิจารณาคดีนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาดของ Google ในตลาดการค้นหา โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และกลุ่มรัฐต่างๆ กำลังพิจารณาให้ Google ขาย Chrome เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในตลาด นอกจากนี้ OpenAI และ Perplexity ยังแสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย โดย OpenAI มองว่าการรวม Chrome กับเทคโนโลยี AI จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและเน้น AI สำหรับผู้ใช้งาน ✅ การประเมินมูลค่า Chrome - Gabriel Weinberg CEO ของ DuckDuckGo ประเมินมูลค่า Chrome ที่ 50 พันล้านดอลลาร์ - การประเมินนี้สูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ ✅ การพิจารณาคดีเกี่ยวกับการผูกขาดของ Google - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พิจารณาให้ Google ขาย Chrome เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในตลาด - การพิจารณาคดีนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาดในตลาดการค้นหา ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น - OpenAI และ Perplexity แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย - OpenAI มองว่าการรวม Chrome กับเทคโนโลยี AI จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและเน้น AI ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการค้นหาและโฆษณาดิจิทัล - การขาย Chrome อาจส่งผลต่อความสมดุลของอำนาจในตลาดการค้นหาและโฆษณาดิจิทัล https://www.techspot.com/news/107677-chrome-worth-around-50-billion-duckduckgo-ceo-guesstimates.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Chrome is worth around $50 billion, DuckDuckGo CEO guesstimates
    Weinberg described his estimate as a "back-of-the-envelope" calculation, based on Chrome's vast user base and global reach – a figure that far exceeds previous estimates, such as...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้แสดงความสนใจที่จะซื้อ Google Chrome หากศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ บังคับให้ Google ขาย Chrome ออกไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ที่กำลังดำเนินอยู่ในสหรัฐฯ การตัดสินใจนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดย OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI เป็นหลัก

    ✅ OpenAI สนใจซื้อ Google Chrome หากศาลบังคับให้ขาย
    - Nick Turley จากทีม ChatGPT ของ OpenAI ยืนยันความสนใจนี้ในศาล
    - OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI

    ✅ คดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ของ Google
    - ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google ผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ในปี 2024
    - ข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมรวมถึงการบังคับให้ Google ขาย Chrome

    ✅ OpenAI เผชิญความท้าทายในการเข้าถึงผู้ใช้งาน Android
    - Google ใช้ความได้เปรียบจากการควบคุมระบบปฏิบัติการ Android เพื่อผลักดันแอปของตนเอง
    - OpenAI พยายามเจรจากับ Samsung แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี
    - การขาย Chrome อาจช่วยเพิ่มการแข่งขันและลดอำนาจของ Google

    https://www.neowin.net/news/openai-rubs-salt-in-googles-wound-says-it-wants-chrome-if-googles-forced-to-sell/
    OpenAI ได้แสดงความสนใจที่จะซื้อ Google Chrome หากศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ บังคับให้ Google ขาย Chrome ออกไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ที่กำลังดำเนินอยู่ในสหรัฐฯ การตัดสินใจนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดย OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI เป็นหลัก ✅ OpenAI สนใจซื้อ Google Chrome หากศาลบังคับให้ขาย - Nick Turley จากทีม ChatGPT ของ OpenAI ยืนยันความสนใจนี้ในศาล - OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI ✅ คดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ของ Google - ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google ผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ในปี 2024 - ข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมรวมถึงการบังคับให้ Google ขาย Chrome ✅ OpenAI เผชิญความท้าทายในการเข้าถึงผู้ใช้งาน Android - Google ใช้ความได้เปรียบจากการควบคุมระบบปฏิบัติการ Android เพื่อผลักดันแอปของตนเอง - OpenAI พยายามเจรจากับ Samsung แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี - การขาย Chrome อาจช่วยเพิ่มการแข่งขันและลดอำนาจของ Google https://www.neowin.net/news/openai-rubs-salt-in-googles-wound-says-it-wants-chrome-if-googles-forced-to-sell/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI rubs salt in Google's wound, says it wants Chrome if Google's forced to sell
    As Google faces antitrust pressure, OpenAI, now a top competitor, has signaled interest in taking over Chrome.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลในคดีผูกขาดที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง โดยศาลตัดสินว่า Google มีความผิดในการ "ครอบครองและรักษาอำนาจผูกขาดในตลาดโฆษณาออนไลน์" ซึ่งรวมถึง Publisher Ad Servers และ Ad Exchanges แม้ว่าศาลจะตัดสินว่าบางส่วนของการดำเนินการของ Google ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย แต่ก็มีการระบุว่าการใช้เครื่องมือ Publisher ของ Google นั้นละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด

    ✅ ศาลตัดสินว่า Google มีความผิดในบางส่วนของคดีผูกขาด
    - ศาลระบุว่า Google ใช้เครื่องมือ Publisher เพื่อ กีดกันคู่แข่งในตลาดโฆษณาออนไลน์
    - อย่างไรก็ตาม ศาลตัดสินว่า การเข้าซื้อกิจการ DoubleClick และ AdMeld ของ Google ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย

    ✅ กระทรวงยุติธรรมเรียกร้องให้ Google ขายธุรกิจบางส่วน
    - กระทรวงฯ เสนอว่า Google ควรขาย Google Ad Manager ซึ่งรวมถึง Publisher Ad Server และ Ad Exchange

    ✅ Google ยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน
    - บริษัทระบุว่าคำตัดสินของศาลมีทั้งส่วนที่เป็นประโยชน์และส่วนที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อ Google

    ✅ Publisher Ad Servers และ Ad Exchanges มีบทบาทสำคัญในตลาดโฆษณาออนไลน์
    - Publisher Ad Servers ช่วยเว็บไซต์ในการจัดการพื้นที่โฆษณา
    - Ad Exchanges ช่วยให้ผู้เผยแพร่เนื้อหาออนไลน์สามารถขายโฆษณาได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/google-to-appeal-against-part-of-us-court039s-decision-in-monopoly-case
    Google ได้ประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลในคดีผูกขาดที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง โดยศาลตัดสินว่า Google มีความผิดในการ "ครอบครองและรักษาอำนาจผูกขาดในตลาดโฆษณาออนไลน์" ซึ่งรวมถึง Publisher Ad Servers และ Ad Exchanges แม้ว่าศาลจะตัดสินว่าบางส่วนของการดำเนินการของ Google ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย แต่ก็มีการระบุว่าการใช้เครื่องมือ Publisher ของ Google นั้นละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ✅ ศาลตัดสินว่า Google มีความผิดในบางส่วนของคดีผูกขาด - ศาลระบุว่า Google ใช้เครื่องมือ Publisher เพื่อ กีดกันคู่แข่งในตลาดโฆษณาออนไลน์ - อย่างไรก็ตาม ศาลตัดสินว่า การเข้าซื้อกิจการ DoubleClick และ AdMeld ของ Google ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย ✅ กระทรวงยุติธรรมเรียกร้องให้ Google ขายธุรกิจบางส่วน - กระทรวงฯ เสนอว่า Google ควรขาย Google Ad Manager ซึ่งรวมถึง Publisher Ad Server และ Ad Exchange ✅ Google ยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน - บริษัทระบุว่าคำตัดสินของศาลมีทั้งส่วนที่เป็นประโยชน์และส่วนที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อ Google ✅ Publisher Ad Servers และ Ad Exchanges มีบทบาทสำคัญในตลาดโฆษณาออนไลน์ - Publisher Ad Servers ช่วยเว็บไซต์ในการจัดการพื้นที่โฆษณา - Ad Exchanges ช่วยให้ผู้เผยแพร่เนื้อหาออนไลน์สามารถขายโฆษณาได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/google-to-appeal-against-part-of-us-court039s-decision-in-monopoly-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google to appeal against part of US court's decision in monopoly case
    (Reuters) -Alphabet's Google plans to appeal against the "adverse" portion of the court decision in the U.S. Department of Justice's monopoly case against the technology giant.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม รวมถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน

    ✅ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา
    - คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Google Network ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาซื้อพื้นที่โฆษณาแบบประมูล
    - อัยการระบุว่า Google ใช้อำนาจเหนือเทคโนโลยีโฆษณาเพื่อกำจัดคู่แข่ง ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้เผยแพร่โฆษณา เช่น สำนักข่าว

    ✅ Google อ้างว่าการแข่งขันของตนเป็นผลจากเทคโนโลยีที่เหนือกว่า
    - Google ระบุว่า บริษัทสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพราะมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า
    - อย่างไรก็ตาม ศาลไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งนี้

    ✅ ธุรกิจโฆษณาของ Google มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
    - รายได้จากโฆษณาคิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งหมดของ Alphabet
    - Google Network คิดเป็น 8.7% ของรายได้ทั้งหมด

    ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อาจสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน
    - หน่วยงานกำกับดูแลต้องพิจารณาว่า Google ควรขายแพลตฟอร์ม Google Ad Manager หรือไม่
    - Google เคยเสนอขาย Advertising Exchange เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด แต่ผู้เผยแพร่โฆษณาปฏิเสธข้อเสนอ

    ✅ Google เตรียมอุทธรณ์คำตัดสิน
    - กระบวนการทางกฎหมายอาจใช้เวลาหลายปี หากไม่มีการตกลงกันระหว่าง Google และรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/explainer-what-does-ruling-on-google039s-illegal-ad-tech-monopoly-mean
    คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม รวมถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน ✅ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google มีการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในเทคโนโลยีโฆษณา - คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Google Network ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาซื้อพื้นที่โฆษณาแบบประมูล - อัยการระบุว่า Google ใช้อำนาจเหนือเทคโนโลยีโฆษณาเพื่อกำจัดคู่แข่ง ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้เผยแพร่โฆษณา เช่น สำนักข่าว ✅ Google อ้างว่าการแข่งขันของตนเป็นผลจากเทคโนโลยีที่เหนือกว่า - Google ระบุว่า บริษัทสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพราะมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า - อย่างไรก็ตาม ศาลไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งนี้ ✅ ธุรกิจโฆษณาของ Google มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท - รายได้จากโฆษณาคิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งหมดของ Alphabet - Google Network คิดเป็น 8.7% ของรายได้ทั้งหมด ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อาจสั่งให้ Google แยกธุรกิจโฆษณาออกจากกัน - หน่วยงานกำกับดูแลต้องพิจารณาว่า Google ควรขายแพลตฟอร์ม Google Ad Manager หรือไม่ - Google เคยเสนอขาย Advertising Exchange เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด แต่ผู้เผยแพร่โฆษณาปฏิเสธข้อเสนอ ✅ Google เตรียมอุทธรณ์คำตัดสิน - กระบวนการทางกฎหมายอาจใช้เวลาหลายปี หากไม่มีการตกลงกันระหว่าง Google และรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/explainer-what-does-ruling-on-google039s-illegal-ad-tech-monopoly-mean
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Explainer-What does ruling on Google's illegal ad tech monopoly mean?
    SAN FRANCISCO (Reuters) -A U.S. judge's ruling that Google has illegal monopolies in ad technology sets up the possibility of U.S. prosecutors seeking a breakup. Here's what the case involves and what Google owner Alphabet faces from here.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นได้ออกคำสั่ง "หยุดและยุติ" ต่อ Google โดยกล่าวหาว่าบริษัทละเมิดกฎหมาย ต่อต้านการผูกขาด ด้วยการบังคับให้ เครื่องมือค้นหาของ Google เป็นค่าเริ่มต้นในสมาร์ทโฟน Android

    ✅ ญี่ปุ่นกล่าวหา Google ว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
    - คณะกรรมการการค้าแห่งญี่ปุ่น (JFTC) ระบุว่า Google ใช้อำนาจตลาดเพื่อให้ เครื่องมือค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้นใน Android
    - คำสั่ง "หยุดและยุติ" เป็นมาตรการที่ใช้เพื่อบังคับให้บริษัทหยุดพฤติกรรมที่อาจเป็นการผูกขาด

    ✅ กรณีนี้คล้ายกับคดีในสหรัฐฯ และยุโรป
    - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังดำเนินคดีเกี่ยวกับ การครอบงำตลาดของ Google
    - ในยุโรป Google เคยถูกปรับ 4.34 พันล้านยูโร ในปี 2018 เนื่องจากข้อจำกัดเกี่ยวกับ Android

    ✅ การสอบสวนของญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ปี 2023
    - ญี่ปุ่นได้ปรึกษากับประเทศอื่นที่มีคดีเกี่ยวกับ Google ก่อนออกคำสั่งนี้
    - Google Japan แสดงความผิดหวังต่อคำสั่งดังกล่าว และอ้างว่าบริษัทมีส่วนช่วยพัฒนาเทคโนโลยีในญี่ปุ่น

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในญี่ปุ่น
    - หาก Google ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบาย อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและนักพัฒนาแอป
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ การตั้งค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหาใน Android

    ℹ️ ความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด
    - คดีในสหรัฐฯ และยุโรปใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการ
    - ญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลานานในการบังคับใช้คำสั่งนี้

    ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
    - หลายประเทศกำลังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ บริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจตลาดสูง
    - อาจมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมพฤติกรรมของบริษัทเหล่านี้

    https://www.neowin.net/news/japan-hits-google-with-anti-monopoly-accusations-over-android-phones/
    ญี่ปุ่นได้ออกคำสั่ง "หยุดและยุติ" ต่อ Google โดยกล่าวหาว่าบริษัทละเมิดกฎหมาย ต่อต้านการผูกขาด ด้วยการบังคับให้ เครื่องมือค้นหาของ Google เป็นค่าเริ่มต้นในสมาร์ทโฟน Android ✅ ญี่ปุ่นกล่าวหา Google ว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด - คณะกรรมการการค้าแห่งญี่ปุ่น (JFTC) ระบุว่า Google ใช้อำนาจตลาดเพื่อให้ เครื่องมือค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้นใน Android - คำสั่ง "หยุดและยุติ" เป็นมาตรการที่ใช้เพื่อบังคับให้บริษัทหยุดพฤติกรรมที่อาจเป็นการผูกขาด ✅ กรณีนี้คล้ายกับคดีในสหรัฐฯ และยุโรป - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังดำเนินคดีเกี่ยวกับ การครอบงำตลาดของ Google - ในยุโรป Google เคยถูกปรับ 4.34 พันล้านยูโร ในปี 2018 เนื่องจากข้อจำกัดเกี่ยวกับ Android ✅ การสอบสวนของญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ปี 2023 - ญี่ปุ่นได้ปรึกษากับประเทศอื่นที่มีคดีเกี่ยวกับ Google ก่อนออกคำสั่งนี้ - Google Japan แสดงความผิดหวังต่อคำสั่งดังกล่าว และอ้างว่าบริษัทมีส่วนช่วยพัฒนาเทคโนโลยีในญี่ปุ่น ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในญี่ปุ่น - หาก Google ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบาย อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและนักพัฒนาแอป - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ การตั้งค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหาใน Android ℹ️ ความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด - คดีในสหรัฐฯ และยุโรปใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการ - ญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลานานในการบังคับใช้คำสั่งนี้ ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ - หลายประเทศกำลังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ บริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจตลาดสูง - อาจมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมพฤติกรรมของบริษัทเหล่านี้ https://www.neowin.net/news/japan-hits-google-with-anti-monopoly-accusations-over-android-phones/
    WWW.NEOWIN.NET
    Japan hits Google with anti-monopoly accusations over Android phones
    Japan has slapped Google with an antitrust order over Android phones, accusing it of shutting out rivals in the search market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts