• ตอน 1 :

    กำเนิดจิ๊กโก๋

    เรารู้จักบ้านเมืองเราแค่ไหน เคย ถามตัวเองกันบ้างไหมครับ

    แล้วเคยมีเวลานึกสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมบ้านเมืองเราถึงเละขนาดนี้ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษาและสังคม

    เรารู้จักบ้านเมืองของเรา แบบมักง่าย รู้จักผ่านมุมมอง และความคิดของสื่อ ทั้งสื่อไทย และสื่อเทศ และสื่อส่วนใหญ่ ก็ให้ข้อมูลข่าวสาร แบบฟอกย้อม จะโดยตั้งใจเพราะมีใบสั่ง หรือเพราะสมรรถนะของสื่อส่วนใหญ่ ต่ำถึงต่ำมาก แทบทั้งนั้น

    ข้อมูลอีกหลายส่วน ก็มาจากนักวิชาการ ที่ไม่ต่างกับสื่อ ถ้าไม่ขายตัว ก็อธิบายแบบท่องจำ จอแคบ จอแบนไม่มีมิติ มองมุมเดียว เพราะมันง่ายดี

    แล้วเราจะได้ความรู้ ความเข้าใจแบบไหนกัน นี่ยังไม่นับข้อมูลที่เกิดจาก การตอแหลของนักการเมือง และบรรดาข้าราชการ ที่ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง

    ซึ่งขอใช้คำว่า บัดซบ จึงจะตรงกับพฤติกรรม

    ตัวเราเองก็เลยติดนิสัย ที่จะมองอะไรแบบมักง่าย

    เมื่อเราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ก็ไม่มีความเข้าใจจริง แล้วจะหาทางออก จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ยิ่งแก้ก็เลยยิ่งพันยุ่งเละเทะ เหมือนลิงแก้แห

    ทำไมเราไม่มาทำความเข้าใจ ทำความรู้จักบ้านเมืองของเราอย่างจริงจังก่อน ด้วยการศึกษาขวนขวายด้วยตัวเอง ไม่ใช่ใช้แค่ตาดูหูฟังเอาจากสื่อจอแบน คำโกหกนักการเมืองหรือนักวิชาการ ประเภทมีความรู้เกินๆ ขาดๆ

    จะเข้าใจปัจจุบัน ก็ต้องรู้จักอดีตหรือประวัติศาสตร์ก่อน ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่า ต้นไม้ต้นไหนออกลูกเป็นพิษ

    แล้วก็อย่าทำตัวเป็นม้าแข่ง มองเห็นแต่ลู่วิ่งข้างหน้า หัดมองรอบตัว รู้จักเพื่อนบ้าน รู้จักโลกบ้าง ไม่ใช่จะมีแต่เธอ ฉัน ลูกเรา น้องหมา และน้ำเน่าในทีวี กับจิ้มข้อความไร้สาระ ส่งกันไปมาตามหน้าจอ ประเภท ส่ง 10 คน จะมีโชค

    ก่อนอื่นควรรู้จักโลกกว้างเสียก่อน ประเทศไทยไม่ใช่ตั้งอยู่โดด ๆ ประเทศเดียวเรามีเพื่อนบ้านร่วมทวีป ร่วมโลกอีกแยะ เรารู้จักเพื่อนร่วมโลก หรือ เพื่อนบ้านเราแค่ไหนกัน

    จะอยู่บ้านให้สบายใจ มันก็ควรจะรู้จักเสียหน่อยว่า ใครเป็นใครในซอย มีจิ๊กโก๋๋ยืนกร่าง เบ่งกล้ามอยู่ปากซอยหรือเปล่า ถ้ามีต้องรู้ว่ามันเป็นใคร ฝีไม้ลายมือขนาดไหน ของจริง หรือ ราคาคุย

    งั้นเรามาเริ่มต้น ด้วยการรู้จักจิ๊กโก๋๋ปากซอยกันซะหน่อยดีไหม รู้จักแล้ว จะได้รู้ว่าเราจะอยู่ในซอยนี้แบบไหน อยู่แบบตัวห่อหน้าเหี่ยว หรือ อยู่อย่างสบายใจ นี่บ้านกูนะ จะคบกับชาวซอยด้วยกันอย่าง ไร และแสดงท่าที หรือจัดการอย่างไรดีกับเจ้าจิ๊กโก๋๋ปากซอย

    และจะอ่านนิทานนี้ให้สนุก จะรู้จักโลกกว้าง ต้องรู้จักคาถาการครองโลก

    “อำนาจ คือ ทุน” และ “ทุน คือ อำนาจ”

    จำให้แม่น มันจะทำให้เราเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้

    ประเทศนี้ และทั้งหลาย ทั้งปวง ที่อยู่รอบตัวเราง่ายขึ้น

    สงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ที่เขาเขียนให้เราเรียน สมัยเป็นนักเรียน เขาก็เขียนให้เราเข้าใจไปว่า มันเป็นเรื่องของการต้องการแผ่อำนาจของประเทศผู้รุกราน และประเทศผู้ถูกรุกรานก็จ๋อยสิ จำเป็นต้องสู้ หรือเข้าสู่สงครามกับเขาไปด้วย เพื่อเอาตัวรอด เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศตน

    แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นอย่างนั้นแน่หรือ กลับไปอ่านคาถาครองโลกข้างต้นสัก 10 เที่ยว แล้วอ่านนิทานนี้ต่อ อาจจะรู้จักประวัติศาสตร์ ในมุมมองใหม่

    สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1934) จบเอาปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมเวลา 6ปี ตลอดเวลาการสู้รบ เขาใช้ทวีปยุโรปและเอเซียเป็นสนามประลองกำลัง พอเสร็จสงคราม ฝ่ายผู้แพ้สงครามเช่น เยอรมันและญี่ปุ่น ก็ถูกน็อกคาสนามบอบช้ำฉิบหาย ตามประสาผู้แพ้ ส่วนฝ่ายสัมพันธ มิตรผู้ชนะสงครามเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป รัสเซีย และแม้แต่จีน ก็ใช่ว่าจะไม่ยับไม่เยิน แต่ละรายดูไม่จืดเชียว ยืนพิงเชือกเกือบนับ 10 เกือบทั้งนั้น ….มีแต่อเมริกาเท่านั้นแหละ ที่โดนแค่สอยคาง เรือรบล่มไม่กี่ลำ ที่เพิร์ล ฮาเบอร์ (Pearl Harbor) ฮาวาย ส่วนบ้านตัวที่ทวีปอเมริกาปลอดภัยดี ไม่มีบุบไม่มีย่น… แค่นี้ทำเป็นยั๊วะ ถือโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่น เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร (โอกาสทองมา แล้ว) เมื่อชนะสงครามอเมริกาจึงสถาปนาตนเองเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอย เป็นพี่เบิ้มดูแลโลกทั้งใบ นั่นไงมาแล้ว … จิ๊กโก๋๋ปากซอย!

    หลังจากการทำสงครามโลก เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก็ตกต่ำล่มจม ความแตกต่างทางสังคมเห็นชัดขึ้น เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนชัดเจน ไม่ต้องเอาแว่นมาขยาย ระบอบคอมมิวนิสต์ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น ในบริเวณแถวรัสเซียและยุโรปตะวันออก เมื่อปี พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947)

    อเมริกาในฐานะพี่เบิ้ม จึงกำหนดยุทธศาสตร์ปิดล้อม (Containment) ขึ้นมาและประกาศเป็นนโยบาย

    เรียกว่า Truman Doctrine โดยประธานาธิบดีแฮรี่ เอส ทรูแมน (Harry S Truman) (ดื้อ เหี้ยม!)

    เป้าหมายของยุทธศาสตร์นี้ หลักใหญ่มีแค่ 2 เรื่อง คือสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับอเมริกาและพวก กับกีดกันไม่ให้สหภาพโซเวียตมีโอกาสยื่นหน้า เข้ามาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก นี่ล่ะธาตุแท้อเมริกา ร่วมรบด้วยกันมาดีๆ พอถึงเวลาไม่เป็นประชาธิปไตยตามแบบที่ตัวเองต้องการ ก็ออกอาการเหม็นหน้า อย่าเข้ามาใกล้นะ เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเขาติดโรคหมด

    Truman Doctrine นี้ อเมริกาจะใช้คนเดียวก็กลัวเหงา เลยจับประเทศแถวยุโรปมาเข้าร่วมโดย จัดตั้งเป็นองค์กรนาโต (NATO) ขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 28 ประเทศ กลุ่มประเทศที่ก่อตั้งและ/หรือเป็นประเทศหลักมี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ไอซแลนด์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ กรีซ ตุรกี และเยอรมัน อเมริกาใช้นาโตเป็นขนมล่อยุโรปให้ผูกติดอยู่กับอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้

    เริ่มเห็นฝีมือการแบ่งขนม แบ่งค่ายของอเมริกาหรือยัง

    สูตรยอดนิยมของอเมริกา ที่ใช้มาตลอดคือ ล่อให้เหยื่อมารวมตัวกัน (อยู่ในคอก) ก่อนจะได้ดูแลง่าย จำไว้ให้ดี

    ด้านหนึ่ง อเมริกาจะออกหน้า สนับสนุนให้มีการรวมตัวของประชาชาติในเรื่องต่างๆ แต่อีกด้านอเมริกาก็จะสร้างเรื่อง โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้การรวมตัวนั้นมีปัญหา และแตกแยกกันเอง แข่งขันกันเอง ทะเลาะกันเอง เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทของพี่เบิ้ม ให้เป็นที่พึ่งพาขึ้นไปเรื่อยๆ (ต้นตำรับ value added! หรือจะเรียกให้ชัดคือ สร้างภาพ) ลองสังเกตดู

    พร้อมกับการเขยิบฐานะตัวเป็นพี่เบิ้ม อเมริกา ก็เริ่มทำตัวเป็นนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ แทนนักล่ารุ่นเก่าที่กำลังนอนเลียแผล

    ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นักล่าอาณานิคมตัวใหญ่แชมป์เก่าคือ อังกฤษ กร่างถึงขนาดประกาศว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกที่จักรภพอังกฤษ ตามมาติดๆคือ ฝรั่งเศส คู่แค้นของไทย กะจะเขมือบไทยมาตลอด วางแผนมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ แต่ที่อุกอาจสามานย์ ทำให้ไทยเจ็บช้ำจนกรมหลวงชุมพรฯ ต้องสักไว้ก็คือเหตุการณ์ ร.ศ.112 ในสมัยล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 หวังว่ายังคงจำกันได้ หรือรู้จักแต่ ม112

    นักล่า ที่มาเงียบๆ คอยเสียบ คอยเสี้ยม แล้วหยิบชิ้นปลามันคือ ฮอลันดา แต่นักล่า รุ่นเก๋าจริงๆ ต้องยกให้ สเปนและโปรตุเกศ แผนลึก อดทน และใจเย็น

    นักล่ายุคใหม่ ไม่ต้องการครอบครองดินแดน แบบนักล่ารุ่นเก่า แต่ต้องการกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์เช่นน้ำมัน และแร่ธาตุสารพัด ของประเทศที่อุดมทรัพยากร แต่ด้อยปัญญา ของประเทศที่ยังไม่พัฒนา โดยเฉพาะในแถบอาเซีย และตะวันออกกลางที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ในขณะที่แถวยุโรปเริ่มร่อยหรอ ส่วนอเมริกานั้นยังมีอยู่แยะ แต่งุบงิบแอบเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้

    อย่าเข้าใจผิดว่าการล่าอาณานิคมยุคใหม่ จะใช้วิธียกทัพจับศึก ยึดดินแดนกันอย่างเมื่อก่อน รุ่นใหม่ ยุคใหม่นี่เขาทำกันเนียน

    ส่วนเครื่องมือในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ เขาใช้ตามคาถายอดนิยม

    อำนาจ คือ ทุน และทุน คือ อำนาจ …

    ยังไม่เข้าใจใช่ไหม งั้นต้องอ่านต่อไป

    รบชนะมาหมาดๆ อำนาจล้นฟ้า บีบให้โลกยกย่องเป็นพี่เบิ้ม จะปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปได้ยังไง พี่เบิ้มก็ต้องรีบเหยียด (มือยาวๆ อ้อมไปทั้งโลก โดยใช้วิธีการทั้งหลอก ทั้งล่อ เอาทุนนิยมมาล่อ เอาทุนเสรีมาจูง ให้ทุนมันเคลื่อนไหวอย่างเสรี ไม่มีอะไรมากักไง ไร้พรมแดนไงไม่ดีหรือ นายทุนก็ถลารับ แบบนี้มันก็ล้อมโลกได้โดยไม่รู้ตัวกัน คำว่าโลกาภิวัฒน์จึงเกิดขึ้น ชอบใช้กันนัก รู้ให้ทันแล้วกันว่าโลกาภิวัตน์ คืออะไร และเพื่อใคร

    ทุนนิยมเสรี มันเดินไปเองได้ที่ไหน ก็ต้องหาเครื่องมือให้ทุนมันเดินไปทั่วโลกได้ง่ายๆ เนียนๆ ดังนั้นหน่วย งานระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ (UN) ธนาคารโลก (World Bank) IMF WTO ฯลฯ และเหล่าบรรษัทข้ามชาติ ด้านการเงิน การค้า การอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้น หน่วยงานต่างๆ ดังกล่าว มีพี่เบิ้มและพวก เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้กำกับทั้งนั้น รู้กันไหม

    สหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) จากแนวคิดของผู้ชนะสงครามคือ พี่เบิ้มและอังกฤษคู่หู คือ มีคณะมนตรีถาวร 5 ประเทศ ไม่บอกก็น่าจะเดาออกนะ ว่าใครบ้าง ก็ผู้ชนะสงคราม นั่นแหละคือ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน (เห็นรายชื่ออย่างนี้ อย่าเพิ่งแปลกใจ ตอนนั้น พี่เบิ้มเขายังวุ่นอยู่กับสร้างบทให้ตัวเองเป็นใหญ่ เลยยังไม่มีเวลา ไปไล่บี้ว่าที่คู่แข่งของตัว)

    ผู้ควักกระเป๋าจ่ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานของ UN ก็คือสมาชิก คงพอเดากันได้ว่าใครจ่ายเงินสนับสนุนUN สูงสุด ไม่น่าตอบผิดนะ ก็พี่เบิ้มอเมริกานั่นไง ไม่งั้นจะได้ตำแหน่งเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอยเหรอ

    ธนาคารโลก (World Bank) ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับ IMF (International Monetary Fund) ในปี พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) แน่นอน ก็จากแนวคิดของพี่เบิ้ม อเมริกาและอังกฤษอีกนั่นแหละ สำนักงานใหญ่ขอทั้ง 2 องค์กร ตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดี ซี ของพี่เบิ้ม เงินสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากประเทศสมาชิก แต่ผู้ที่ควักกระเป๋าหนักที่สุดก็ เหมือนเดิมคือ พี่เบิ้ม อเมริกา คิดกันต่อแล้วกันอย่างนี้ แปลว่า พี่เบิ้มใจดีชะมัดหรือพี่เบิ้มกำลังท่องคาถา อำนาจ คือ ทุน ทุน คือ อำนาจ…. ลงทุนจิ๊บจ๊อย เดี๋ยวก็ได้คืนทั้งโลก 555

    ไปเปิดอากู (Google) ดู แล้วกัน ประธานธนาคารโลกตั้งกะก่อตั้ง (ค.ศ.1946) มาจนถึงปัจจุบัน (ค.ศ.2016) เป็นคนสัญชาติอเมริกันทั้งหมด …อาจมีคนโวย ไม่ใช่นะ คนสุดท้าย เจ้าจิม ยอง คิม (Jim Yong Kim) เป็นเกาหลีต่างหาก …เป็นเกาหลีแต่ถือสัญชาติอเมริกันครับผม …อืม เริ่มเห็นภาพลางๆ บ้างหรือยัง ครับ

    อันที่จริงระบบทุนนิยมมีมานานแล้วนะ แต่การขยายตัวทำได้ช้า เพราะต้องพึ่งการคมนาคมและการสื่อสาร ดังนั้นทุนนิยมยุคโบราณจึงเดินทางโดยเรือ รถไฟ ม้า อูฐ และนกพิราบ (ฮา!) ก็ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องบิน โทรเลข โทรศัพท์ มือถือ ดาวเทียม Swift 3จี 4จี Wi-Fi ฯลฯ อะไรนี่นะ

    ทุนนิยมโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขตดินแดน แต่ขึ้นกับศูนย์อำนาจในแต่ละช่วงเวลานั้น เช่น ฮอลันดาเป็นศูนย์ กลางของทุนนิยม สมัยศตวรรษที่ 17 ก็เล่นล่าตั้งกะอินโดนีเซียยันไปถึงอาฟริกา ต่อมาศูนย์อำนาจก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ เจ้าของคำกร่างว่า พระอาทิตย์ไม่ตกดินที่อังกฤษ จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เบิ้มอเมริกา ถึงได้ขึ้นแท่นเป็น นัมเบอร์วัน ของศูนย์อำนาจ ไชโย! ตาไอแล้ว

    อเมริกา คิดเรื่องระบบทุนนิยมและกลไก ที่จะทำให้ตนเป็นศูนย์อำนาจ มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

    แต่โอกาสยังไม่อำนวย หวยมาตกก็ตอนศูนย์อำนาจเก่าๆ พากันฉิบหาย หงายท้องหมด หลังสงคราม โลกครั้งที่ 2 นี่แหละ อเมริกาถึงเสนอแผนจัดโครงสร้างระเบียบโลกเสียใหม่ (New World Order) โดยเน้นที่พลังทุนนิยม ก็เป็นเศรษฐีนี่ มีปัญหาไหม ไม่นิยมทุนแล้วจะให้นิยมอะไร

    …อย่าลืมคาถา ทุน คือ อำนาจ อำนาจ คือ ทุน ง่ายๆ ตรงไปตรงมา

    ไม่ว่าจะเรียก New World Order หรือ Pax Americana หรือคำอะไรให้มันดูหรูหราเข้าใจยากจริงๆ แล้วมันก็คือแผนการล่าอาณานิคมยุคใหม่นั่นเอง โดยใช้ระบบทุนนิยม นำหน้าในการล่า เดี๋ยวก็มาถึงทุนนิยมสามานย์น่าใจเย็นไว้โยม

    ทุนจะมีก็ต้องค้าขาย เงินไม่ได้ตกลงมาจากฟ้าเหมือนฝนนะ จะค้าขายก็ต้องมีสินค้า สินค้ามาจากไหน มาจากการผลิต การผลิตต้องมีอะไรเป็นปัจจัย ต้องมีวัตถุดิบซีจ้ะ วัตถุดิบมาจากไหน ก็มาจากทรัพยากร ทรัพยากรมาจากไหน ก็ปล้นหรือต้มเขาเอาซีวุ้ย แหม กว่าจะโยงมาถึงคนเล่านิทานเกือบเป็นลม

    ดังนั้นนักสำรวจทรัพย์ของผู้อื่น ในคราบผู้เชี่ยวชาญ จึงเดินกันว่อน วิ่งกันพล่าน อุ๊ย ประเทศนี้ไอจองนะ ไอจะไปดูเอง เขาน่าสงสารนะ เห็นมีแต่ช้างเดินเต็มป่า วัวควายเต็มทุ่งนา

    ปี ค.ศ.1946 สงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกหมาดๆ อเมริกาส่งผู้เชี่ยวชาญ มาทำการสำรวจสถานะของประเทศไทยและสรุปว่า ไทยแลนด์ เป็นประเทศที่ยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจดียิ่ง อย่างเหลือเชื่อ (อย่างเหลือเชื่อนี่ ผมเติมเองครับ เพราะอ่านแล้วเหลือเชื่อ นี่ขนาดบริหารกันไปแดกกันไป ยังแกร่งอย่างนี้เลยนะ ถ้าตั้งอกตั้งใจบริหาร แม่อีหนูเอ๊ย ลูกหลานเราคงเรียนฟรี ถนนคงปูด้วยทองคำ อย่างที่ ท่านอจ.ศึกฤทธิ์ว่าไว้จริงๆ นะ)

    รายงานฉบับดังกล่าว ทำให้อเมริกาน้ำลายเยิ้มเมื่อมองประเทศไทย ไม่ต่างกับที่โอบามา มองคุณนายเอ๋อเมื่อตอนมาสำรวจประเทศไทย เมื่อปลายปี พ.ศ.2555 นั่นแหละ

    แล้วทำอย่างไร อเมริกาถึงจะได้กินอาหารจานอร่อยชื่อ ไทยแลนด์ แดนสวรรค์ สยามเมืองยิ้ม

    ไม่ยาก อเมริกาใหญ่ผงาดมาขนาดนี้ ไม่ใช่ทำเป็นแค่ขี้ม้าไล่ยิงอินเดียนแดงออกจากถิ่นเก่าของเขานะวุ้ย

    คนเล่านิทาน
    ตอน 1 : กำเนิดจิ๊กโก๋ เรารู้จักบ้านเมืองเราแค่ไหน เคย ถามตัวเองกันบ้างไหมครับ แล้วเคยมีเวลานึกสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมบ้านเมืองเราถึงเละขนาดนี้ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษาและสังคม เรารู้จักบ้านเมืองของเรา แบบมักง่าย รู้จักผ่านมุมมอง และความคิดของสื่อ ทั้งสื่อไทย และสื่อเทศ และสื่อส่วนใหญ่ ก็ให้ข้อมูลข่าวสาร แบบฟอกย้อม จะโดยตั้งใจเพราะมีใบสั่ง หรือเพราะสมรรถนะของสื่อส่วนใหญ่ ต่ำถึงต่ำมาก แทบทั้งนั้น ข้อมูลอีกหลายส่วน ก็มาจากนักวิชาการ ที่ไม่ต่างกับสื่อ ถ้าไม่ขายตัว ก็อธิบายแบบท่องจำ จอแคบ จอแบนไม่มีมิติ มองมุมเดียว เพราะมันง่ายดี แล้วเราจะได้ความรู้ ความเข้าใจแบบไหนกัน นี่ยังไม่นับข้อมูลที่เกิดจาก การตอแหลของนักการเมือง และบรรดาข้าราชการ ที่ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง ซึ่งขอใช้คำว่า บัดซบ จึงจะตรงกับพฤติกรรม ตัวเราเองก็เลยติดนิสัย ที่จะมองอะไรแบบมักง่าย เมื่อเราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ก็ไม่มีความเข้าใจจริง แล้วจะหาทางออก จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ยิ่งแก้ก็เลยยิ่งพันยุ่งเละเทะ เหมือนลิงแก้แห ทำไมเราไม่มาทำความเข้าใจ ทำความรู้จักบ้านเมืองของเราอย่างจริงจังก่อน ด้วยการศึกษาขวนขวายด้วยตัวเอง ไม่ใช่ใช้แค่ตาดูหูฟังเอาจากสื่อจอแบน คำโกหกนักการเมืองหรือนักวิชาการ ประเภทมีความรู้เกินๆ ขาดๆ จะเข้าใจปัจจุบัน ก็ต้องรู้จักอดีตหรือประวัติศาสตร์ก่อน ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่า ต้นไม้ต้นไหนออกลูกเป็นพิษ แล้วก็อย่าทำตัวเป็นม้าแข่ง มองเห็นแต่ลู่วิ่งข้างหน้า หัดมองรอบตัว รู้จักเพื่อนบ้าน รู้จักโลกบ้าง ไม่ใช่จะมีแต่เธอ ฉัน ลูกเรา น้องหมา และน้ำเน่าในทีวี กับจิ้มข้อความไร้สาระ ส่งกันไปมาตามหน้าจอ ประเภท ส่ง 10 คน จะมีโชค ก่อนอื่นควรรู้จักโลกกว้างเสียก่อน ประเทศไทยไม่ใช่ตั้งอยู่โดด ๆ ประเทศเดียวเรามีเพื่อนบ้านร่วมทวีป ร่วมโลกอีกแยะ เรารู้จักเพื่อนร่วมโลก หรือ เพื่อนบ้านเราแค่ไหนกัน จะอยู่บ้านให้สบายใจ มันก็ควรจะรู้จักเสียหน่อยว่า ใครเป็นใครในซอย มีจิ๊กโก๋๋ยืนกร่าง เบ่งกล้ามอยู่ปากซอยหรือเปล่า ถ้ามีต้องรู้ว่ามันเป็นใคร ฝีไม้ลายมือขนาดไหน ของจริง หรือ ราคาคุย งั้นเรามาเริ่มต้น ด้วยการรู้จักจิ๊กโก๋๋ปากซอยกันซะหน่อยดีไหม รู้จักแล้ว จะได้รู้ว่าเราจะอยู่ในซอยนี้แบบไหน อยู่แบบตัวห่อหน้าเหี่ยว หรือ อยู่อย่างสบายใจ นี่บ้านกูนะ จะคบกับชาวซอยด้วยกันอย่าง ไร และแสดงท่าที หรือจัดการอย่างไรดีกับเจ้าจิ๊กโก๋๋ปากซอย และจะอ่านนิทานนี้ให้สนุก จะรู้จักโลกกว้าง ต้องรู้จักคาถาการครองโลก “อำนาจ คือ ทุน” และ “ทุน คือ อำนาจ” จำให้แม่น มันจะทำให้เราเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ ประเทศนี้ และทั้งหลาย ทั้งปวง ที่อยู่รอบตัวเราง่ายขึ้น สงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ที่เขาเขียนให้เราเรียน สมัยเป็นนักเรียน เขาก็เขียนให้เราเข้าใจไปว่า มันเป็นเรื่องของการต้องการแผ่อำนาจของประเทศผู้รุกราน และประเทศผู้ถูกรุกรานก็จ๋อยสิ จำเป็นต้องสู้ หรือเข้าสู่สงครามกับเขาไปด้วย เพื่อเอาตัวรอด เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศตน แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นอย่างนั้นแน่หรือ กลับไปอ่านคาถาครองโลกข้างต้นสัก 10 เที่ยว แล้วอ่านนิทานนี้ต่อ อาจจะรู้จักประวัติศาสตร์ ในมุมมองใหม่ สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1934) จบเอาปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมเวลา 6ปี ตลอดเวลาการสู้รบ เขาใช้ทวีปยุโรปและเอเซียเป็นสนามประลองกำลัง พอเสร็จสงคราม ฝ่ายผู้แพ้สงครามเช่น เยอรมันและญี่ปุ่น ก็ถูกน็อกคาสนามบอบช้ำฉิบหาย ตามประสาผู้แพ้ ส่วนฝ่ายสัมพันธ มิตรผู้ชนะสงครามเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป รัสเซีย และแม้แต่จีน ก็ใช่ว่าจะไม่ยับไม่เยิน แต่ละรายดูไม่จืดเชียว ยืนพิงเชือกเกือบนับ 10 เกือบทั้งนั้น ….มีแต่อเมริกาเท่านั้นแหละ ที่โดนแค่สอยคาง เรือรบล่มไม่กี่ลำ ที่เพิร์ล ฮาเบอร์ (Pearl Harbor) ฮาวาย ส่วนบ้านตัวที่ทวีปอเมริกาปลอดภัยดี ไม่มีบุบไม่มีย่น… แค่นี้ทำเป็นยั๊วะ ถือโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่น เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร (โอกาสทองมา แล้ว) เมื่อชนะสงครามอเมริกาจึงสถาปนาตนเองเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอย เป็นพี่เบิ้มดูแลโลกทั้งใบ นั่นไงมาแล้ว … จิ๊กโก๋๋ปากซอย! หลังจากการทำสงครามโลก เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก็ตกต่ำล่มจม ความแตกต่างทางสังคมเห็นชัดขึ้น เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนชัดเจน ไม่ต้องเอาแว่นมาขยาย ระบอบคอมมิวนิสต์ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น ในบริเวณแถวรัสเซียและยุโรปตะวันออก เมื่อปี พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) อเมริกาในฐานะพี่เบิ้ม จึงกำหนดยุทธศาสตร์ปิดล้อม (Containment) ขึ้นมาและประกาศเป็นนโยบาย เรียกว่า Truman Doctrine โดยประธานาธิบดีแฮรี่ เอส ทรูแมน (Harry S Truman) (ดื้อ เหี้ยม!) เป้าหมายของยุทธศาสตร์นี้ หลักใหญ่มีแค่ 2 เรื่อง คือสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับอเมริกาและพวก กับกีดกันไม่ให้สหภาพโซเวียตมีโอกาสยื่นหน้า เข้ามาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก นี่ล่ะธาตุแท้อเมริกา ร่วมรบด้วยกันมาดีๆ พอถึงเวลาไม่เป็นประชาธิปไตยตามแบบที่ตัวเองต้องการ ก็ออกอาการเหม็นหน้า อย่าเข้ามาใกล้นะ เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเขาติดโรคหมด Truman Doctrine นี้ อเมริกาจะใช้คนเดียวก็กลัวเหงา เลยจับประเทศแถวยุโรปมาเข้าร่วมโดย จัดตั้งเป็นองค์กรนาโต (NATO) ขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 28 ประเทศ กลุ่มประเทศที่ก่อตั้งและ/หรือเป็นประเทศหลักมี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ไอซแลนด์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ กรีซ ตุรกี และเยอรมัน อเมริกาใช้นาโตเป็นขนมล่อยุโรปให้ผูกติดอยู่กับอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้ เริ่มเห็นฝีมือการแบ่งขนม แบ่งค่ายของอเมริกาหรือยัง สูตรยอดนิยมของอเมริกา ที่ใช้มาตลอดคือ ล่อให้เหยื่อมารวมตัวกัน (อยู่ในคอก) ก่อนจะได้ดูแลง่าย จำไว้ให้ดี ด้านหนึ่ง อเมริกาจะออกหน้า สนับสนุนให้มีการรวมตัวของประชาชาติในเรื่องต่างๆ แต่อีกด้านอเมริกาก็จะสร้างเรื่อง โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้การรวมตัวนั้นมีปัญหา และแตกแยกกันเอง แข่งขันกันเอง ทะเลาะกันเอง เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทของพี่เบิ้ม ให้เป็นที่พึ่งพาขึ้นไปเรื่อยๆ (ต้นตำรับ value added! หรือจะเรียกให้ชัดคือ สร้างภาพ) ลองสังเกตดู พร้อมกับการเขยิบฐานะตัวเป็นพี่เบิ้ม อเมริกา ก็เริ่มทำตัวเป็นนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ แทนนักล่ารุ่นเก่าที่กำลังนอนเลียแผล ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นักล่าอาณานิคมตัวใหญ่แชมป์เก่าคือ อังกฤษ กร่างถึงขนาดประกาศว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกที่จักรภพอังกฤษ ตามมาติดๆคือ ฝรั่งเศส คู่แค้นของไทย กะจะเขมือบไทยมาตลอด วางแผนมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ แต่ที่อุกอาจสามานย์ ทำให้ไทยเจ็บช้ำจนกรมหลวงชุมพรฯ ต้องสักไว้ก็คือเหตุการณ์ ร.ศ.112 ในสมัยล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 หวังว่ายังคงจำกันได้ หรือรู้จักแต่ ม112 นักล่า ที่มาเงียบๆ คอยเสียบ คอยเสี้ยม แล้วหยิบชิ้นปลามันคือ ฮอลันดา แต่นักล่า รุ่นเก๋าจริงๆ ต้องยกให้ สเปนและโปรตุเกศ แผนลึก อดทน และใจเย็น นักล่ายุคใหม่ ไม่ต้องการครอบครองดินแดน แบบนักล่ารุ่นเก่า แต่ต้องการกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์เช่นน้ำมัน และแร่ธาตุสารพัด ของประเทศที่อุดมทรัพยากร แต่ด้อยปัญญา ของประเทศที่ยังไม่พัฒนา โดยเฉพาะในแถบอาเซีย และตะวันออกกลางที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ในขณะที่แถวยุโรปเริ่มร่อยหรอ ส่วนอเมริกานั้นยังมีอยู่แยะ แต่งุบงิบแอบเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้ อย่าเข้าใจผิดว่าการล่าอาณานิคมยุคใหม่ จะใช้วิธียกทัพจับศึก ยึดดินแดนกันอย่างเมื่อก่อน รุ่นใหม่ ยุคใหม่นี่เขาทำกันเนียน ส่วนเครื่องมือในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ เขาใช้ตามคาถายอดนิยม อำนาจ คือ ทุน และทุน คือ อำนาจ … ยังไม่เข้าใจใช่ไหม งั้นต้องอ่านต่อไป รบชนะมาหมาดๆ อำนาจล้นฟ้า บีบให้โลกยกย่องเป็นพี่เบิ้ม จะปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปได้ยังไง พี่เบิ้มก็ต้องรีบเหยียด (มือยาวๆ อ้อมไปทั้งโลก โดยใช้วิธีการทั้งหลอก ทั้งล่อ เอาทุนนิยมมาล่อ เอาทุนเสรีมาจูง ให้ทุนมันเคลื่อนไหวอย่างเสรี ไม่มีอะไรมากักไง ไร้พรมแดนไงไม่ดีหรือ นายทุนก็ถลารับ แบบนี้มันก็ล้อมโลกได้โดยไม่รู้ตัวกัน คำว่าโลกาภิวัฒน์จึงเกิดขึ้น ชอบใช้กันนัก รู้ให้ทันแล้วกันว่าโลกาภิวัตน์ คืออะไร และเพื่อใคร ทุนนิยมเสรี มันเดินไปเองได้ที่ไหน ก็ต้องหาเครื่องมือให้ทุนมันเดินไปทั่วโลกได้ง่ายๆ เนียนๆ ดังนั้นหน่วย งานระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ (UN) ธนาคารโลก (World Bank) IMF WTO ฯลฯ และเหล่าบรรษัทข้ามชาติ ด้านการเงิน การค้า การอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้น หน่วยงานต่างๆ ดังกล่าว มีพี่เบิ้มและพวก เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้กำกับทั้งนั้น รู้กันไหม สหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) จากแนวคิดของผู้ชนะสงครามคือ พี่เบิ้มและอังกฤษคู่หู คือ มีคณะมนตรีถาวร 5 ประเทศ ไม่บอกก็น่าจะเดาออกนะ ว่าใครบ้าง ก็ผู้ชนะสงคราม นั่นแหละคือ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน (เห็นรายชื่ออย่างนี้ อย่าเพิ่งแปลกใจ ตอนนั้น พี่เบิ้มเขายังวุ่นอยู่กับสร้างบทให้ตัวเองเป็นใหญ่ เลยยังไม่มีเวลา ไปไล่บี้ว่าที่คู่แข่งของตัว) ผู้ควักกระเป๋าจ่ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานของ UN ก็คือสมาชิก คงพอเดากันได้ว่าใครจ่ายเงินสนับสนุนUN สูงสุด ไม่น่าตอบผิดนะ ก็พี่เบิ้มอเมริกานั่นไง ไม่งั้นจะได้ตำแหน่งเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอยเหรอ ธนาคารโลก (World Bank) ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับ IMF (International Monetary Fund) ในปี พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) แน่นอน ก็จากแนวคิดของพี่เบิ้ม อเมริกาและอังกฤษอีกนั่นแหละ สำนักงานใหญ่ขอทั้ง 2 องค์กร ตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดี ซี ของพี่เบิ้ม เงินสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากประเทศสมาชิก แต่ผู้ที่ควักกระเป๋าหนักที่สุดก็ เหมือนเดิมคือ พี่เบิ้ม อเมริกา คิดกันต่อแล้วกันอย่างนี้ แปลว่า พี่เบิ้มใจดีชะมัดหรือพี่เบิ้มกำลังท่องคาถา อำนาจ คือ ทุน ทุน คือ อำนาจ…. ลงทุนจิ๊บจ๊อย เดี๋ยวก็ได้คืนทั้งโลก 555 ไปเปิดอากู (Google) ดู แล้วกัน ประธานธนาคารโลกตั้งกะก่อตั้ง (ค.ศ.1946) มาจนถึงปัจจุบัน (ค.ศ.2016) เป็นคนสัญชาติอเมริกันทั้งหมด …อาจมีคนโวย ไม่ใช่นะ คนสุดท้าย เจ้าจิม ยอง คิม (Jim Yong Kim) เป็นเกาหลีต่างหาก …เป็นเกาหลีแต่ถือสัญชาติอเมริกันครับผม …อืม เริ่มเห็นภาพลางๆ บ้างหรือยัง ครับ อันที่จริงระบบทุนนิยมมีมานานแล้วนะ แต่การขยายตัวทำได้ช้า เพราะต้องพึ่งการคมนาคมและการสื่อสาร ดังนั้นทุนนิยมยุคโบราณจึงเดินทางโดยเรือ รถไฟ ม้า อูฐ และนกพิราบ (ฮา!) ก็ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องบิน โทรเลข โทรศัพท์ มือถือ ดาวเทียม Swift 3จี 4จี Wi-Fi ฯลฯ อะไรนี่นะ ทุนนิยมโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขตดินแดน แต่ขึ้นกับศูนย์อำนาจในแต่ละช่วงเวลานั้น เช่น ฮอลันดาเป็นศูนย์ กลางของทุนนิยม สมัยศตวรรษที่ 17 ก็เล่นล่าตั้งกะอินโดนีเซียยันไปถึงอาฟริกา ต่อมาศูนย์อำนาจก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ เจ้าของคำกร่างว่า พระอาทิตย์ไม่ตกดินที่อังกฤษ จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เบิ้มอเมริกา ถึงได้ขึ้นแท่นเป็น นัมเบอร์วัน ของศูนย์อำนาจ ไชโย! ตาไอแล้ว อเมริกา คิดเรื่องระบบทุนนิยมและกลไก ที่จะทำให้ตนเป็นศูนย์อำนาจ มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่โอกาสยังไม่อำนวย หวยมาตกก็ตอนศูนย์อำนาจเก่าๆ พากันฉิบหาย หงายท้องหมด หลังสงคราม โลกครั้งที่ 2 นี่แหละ อเมริกาถึงเสนอแผนจัดโครงสร้างระเบียบโลกเสียใหม่ (New World Order) โดยเน้นที่พลังทุนนิยม ก็เป็นเศรษฐีนี่ มีปัญหาไหม ไม่นิยมทุนแล้วจะให้นิยมอะไร …อย่าลืมคาถา ทุน คือ อำนาจ อำนาจ คือ ทุน ง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเรียก New World Order หรือ Pax Americana หรือคำอะไรให้มันดูหรูหราเข้าใจยากจริงๆ แล้วมันก็คือแผนการล่าอาณานิคมยุคใหม่นั่นเอง โดยใช้ระบบทุนนิยม นำหน้าในการล่า เดี๋ยวก็มาถึงทุนนิยมสามานย์น่าใจเย็นไว้โยม ทุนจะมีก็ต้องค้าขาย เงินไม่ได้ตกลงมาจากฟ้าเหมือนฝนนะ จะค้าขายก็ต้องมีสินค้า สินค้ามาจากไหน มาจากการผลิต การผลิตต้องมีอะไรเป็นปัจจัย ต้องมีวัตถุดิบซีจ้ะ วัตถุดิบมาจากไหน ก็มาจากทรัพยากร ทรัพยากรมาจากไหน ก็ปล้นหรือต้มเขาเอาซีวุ้ย แหม กว่าจะโยงมาถึงคนเล่านิทานเกือบเป็นลม ดังนั้นนักสำรวจทรัพย์ของผู้อื่น ในคราบผู้เชี่ยวชาญ จึงเดินกันว่อน วิ่งกันพล่าน อุ๊ย ประเทศนี้ไอจองนะ ไอจะไปดูเอง เขาน่าสงสารนะ เห็นมีแต่ช้างเดินเต็มป่า วัวควายเต็มทุ่งนา ปี ค.ศ.1946 สงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกหมาดๆ อเมริกาส่งผู้เชี่ยวชาญ มาทำการสำรวจสถานะของประเทศไทยและสรุปว่า ไทยแลนด์ เป็นประเทศที่ยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจดียิ่ง อย่างเหลือเชื่อ (อย่างเหลือเชื่อนี่ ผมเติมเองครับ เพราะอ่านแล้วเหลือเชื่อ นี่ขนาดบริหารกันไปแดกกันไป ยังแกร่งอย่างนี้เลยนะ ถ้าตั้งอกตั้งใจบริหาร แม่อีหนูเอ๊ย ลูกหลานเราคงเรียนฟรี ถนนคงปูด้วยทองคำ อย่างที่ ท่านอจ.ศึกฤทธิ์ว่าไว้จริงๆ นะ) รายงานฉบับดังกล่าว ทำให้อเมริกาน้ำลายเยิ้มเมื่อมองประเทศไทย ไม่ต่างกับที่โอบามา มองคุณนายเอ๋อเมื่อตอนมาสำรวจประเทศไทย เมื่อปลายปี พ.ศ.2555 นั่นแหละ แล้วทำอย่างไร อเมริกาถึงจะได้กินอาหารจานอร่อยชื่อ ไทยแลนด์ แดนสวรรค์ สยามเมืองยิ้ม ไม่ยาก อเมริกาใหญ่ผงาดมาขนาดนี้ ไม่ใช่ทำเป็นแค่ขี้ม้าไล่ยิงอินเดียนแดงออกจากถิ่นเก่าของเขานะวุ้ย คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ทิดสฤษดิ์' ไม่แค่ผิดวินัยสงฆ์ ตร.เตรียมสอบเส้นทางการเงินโยงทุจริต พบทรัพย์สินเศรษฐีนีพุ่ง-สัมพันธ์แนบแน่น 15 ปี
    https://www.thai-tai.tv/news/20414/
    .
    #ทิดสฤษดิ์ #วัดนครสวรรค์ #ทุจริตเงินวัด #ผิดวินัยสงฆ์ #คดีอาญา #สัมพันธ์ฉาว #แชตหลุด #ทุจริตพุทธอุทยาน #พระนอกรีต #ข่าวฉาววงการสงฆ์

    'ทิดสฤษดิ์' ไม่แค่ผิดวินัยสงฆ์ ตร.เตรียมสอบเส้นทางการเงินโยงทุจริต พบทรัพย์สินเศรษฐีนีพุ่ง-สัมพันธ์แนบแน่น 15 ปี https://www.thai-tai.tv/news/20414/ . #ทิดสฤษดิ์ #วัดนครสวรรค์ #ทุจริตเงินวัด #ผิดวินัยสงฆ์ #คดีอาญา #สัมพันธ์ฉาว #แชตหลุด #ทุจริตพุทธอุทยาน #พระนอกรีต #ข่าวฉาววงการสงฆ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นายกฯพระราชทานทางพิเศษจริงๆจึงพอจะสามารถทันทีลงหน้างานทำงานทำความสะอาดสิ่งไม่ดีต่างๆที่เกิดบน ปะปนคนไทยบนแผ่นดินไทยได้และทำจริงมันง่ายนิดเดียว และสะอาดอย่างรวดเร็วด้วย,ต่างชาติที่เข้ามาอยู่บนแผ่นดินไทยจะจีนเทา แขกเทา ฝรั่งเทา หรือใครๆเทาๆหรือมาจากการเขียนกฎหมายที่ปัญญาอ่อนสอดไส้หมายทำลายความมั่นคงในวิถีชีวิตคนไทย,สัมมาอาชีพทำตังทำรายได้ให้คนไทยยืนด้วยขาตนเองได้ มาแย่งชิงคนไทยบนแผ่นดินไทย มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินอพยพสร้างบ้านเมืองกลืนกินประชาชนคนไทย เป็นต้น เหล่านี้สามารถโมฆะเก็บกวาดฉีกทิ้งแล้วทำเพื่อลูกหลานประชาชนคนไทยให้ถูกทางได้อย่างปกติแบะง่ายดายได้ในการบริหารจัดการของนายกฯพระราชทานเราแน่นอน,
    ..อย่าปล่อยให้เนินนานอีกเลย สงครามโลกยุคนี้คือตังหรือวลีคำว่าเศรษฐกิจนั้นล่ะ,ทำเศรษฐีนี้ล่ะใครรวยใครมีตังกว่าก็อยู่ในระบบทาสตังปลอดภัย เศรษฐกิจ&วิถีคนมีตัง สงครามวิถีคนมีตัง สงครามโลกห้ามยากจนก็ว่า ไม่มีตังต่างชาติต่างๆมันยกทัพมาตีเอาที่ดินตีเอาแผ่นดินไทยใช้ตังซื้อทั้งแผ่นดินไทยทางตรงและซื้อทางอ้อมแบบผ่านนอมินีคนทรยศในประเทศไทย ซื้อผ่านตลาดเงินตลาดทุน ซื้อที่ดินผ่านกิจการบริษัทต่างๆเพราะกิจการบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าของที่ดินตั้งบนแผ่นดินไทยทุกๆรายแน่นอน,ถีบคนไทยในบริษัทนั่นๆออก นำคนต่างชาติตนมาเป็นนอมินีลับๆไม่เปิดเผยเพื่อครอบงำบริหารจัดการได้หมด,ตลอดซื้อเจ้าหน้าที่ไทยคนข้าราชการไทยที่สามารถทรยศระบบได้ด้วยตังด้วยได้,คนข้าราชการเหล่านีัสามารถไม่กระทำหน้าที่ปกติได้,เมื่อไม่ปกติคือไม่ซื่อสัตย์ทันทีนั้นเองจะซื่อสัตย์ต่อต่างชาติที่ซื่อตัวด้วยตังทันที,นายกฯพระราชทานเห็นชัดแจ้งได้หมดล่ะ กวาดล้างพวกนี้ทั้งวงการก็สะดวกและง่ายแน่นอน จะวงการทหารตำรวจตัวแรกในการจัดการก็ง่ายๆเช่นกัน
    ..นายกฯพระราชทานจึงต้องรีบมาทำงานเพื่อชาติไทยเราทันทีเพราะนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งล้มเหลวแล้วเปรียบคือเป็นภัยต่อบ้านนี้แล้ว ผีบ้าไม่รู้จะจุดเผาบ้านด้วยไฟตอนไหน,ไหม้หมดบ้านนั้นเอง กำลังเริ่มจุดทั่วบ้านแล้วด้วย พาข้างๆบ้านมาร่วมจุดร่วมมาเผาบ้านตนเองด้วยมันผีบ้าขนาดไหนล่ะ.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/GknGVmyPVzY?si=cNQzMSkyvUBXNkxh
    ..นายกฯพระราชทานทางพิเศษจริงๆจึงพอจะสามารถทันทีลงหน้างานทำงานทำความสะอาดสิ่งไม่ดีต่างๆที่เกิดบน ปะปนคนไทยบนแผ่นดินไทยได้และทำจริงมันง่ายนิดเดียว และสะอาดอย่างรวดเร็วด้วย,ต่างชาติที่เข้ามาอยู่บนแผ่นดินไทยจะจีนเทา แขกเทา ฝรั่งเทา หรือใครๆเทาๆหรือมาจากการเขียนกฎหมายที่ปัญญาอ่อนสอดไส้หมายทำลายความมั่นคงในวิถีชีวิตคนไทย,สัมมาอาชีพทำตังทำรายได้ให้คนไทยยืนด้วยขาตนเองได้ มาแย่งชิงคนไทยบนแผ่นดินไทย มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินอพยพสร้างบ้านเมืองกลืนกินประชาชนคนไทย เป็นต้น เหล่านี้สามารถโมฆะเก็บกวาดฉีกทิ้งแล้วทำเพื่อลูกหลานประชาชนคนไทยให้ถูกทางได้อย่างปกติแบะง่ายดายได้ในการบริหารจัดการของนายกฯพระราชทานเราแน่นอน, ..อย่าปล่อยให้เนินนานอีกเลย สงครามโลกยุคนี้คือตังหรือวลีคำว่าเศรษฐกิจนั้นล่ะ,ทำเศรษฐีนี้ล่ะใครรวยใครมีตังกว่าก็อยู่ในระบบทาสตังปลอดภัย เศรษฐกิจ&วิถีคนมีตัง สงครามวิถีคนมีตัง สงครามโลกห้ามยากจนก็ว่า ไม่มีตังต่างชาติต่างๆมันยกทัพมาตีเอาที่ดินตีเอาแผ่นดินไทยใช้ตังซื้อทั้งแผ่นดินไทยทางตรงและซื้อทางอ้อมแบบผ่านนอมินีคนทรยศในประเทศไทย ซื้อผ่านตลาดเงินตลาดทุน ซื้อที่ดินผ่านกิจการบริษัทต่างๆเพราะกิจการบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าของที่ดินตั้งบนแผ่นดินไทยทุกๆรายแน่นอน,ถีบคนไทยในบริษัทนั่นๆออก นำคนต่างชาติตนมาเป็นนอมินีลับๆไม่เปิดเผยเพื่อครอบงำบริหารจัดการได้หมด,ตลอดซื้อเจ้าหน้าที่ไทยคนข้าราชการไทยที่สามารถทรยศระบบได้ด้วยตังด้วยได้,คนข้าราชการเหล่านีัสามารถไม่กระทำหน้าที่ปกติได้,เมื่อไม่ปกติคือไม่ซื่อสัตย์ทันทีนั้นเองจะซื่อสัตย์ต่อต่างชาติที่ซื่อตัวด้วยตังทันที,นายกฯพระราชทานเห็นชัดแจ้งได้หมดล่ะ กวาดล้างพวกนี้ทั้งวงการก็สะดวกและง่ายแน่นอน จะวงการทหารตำรวจตัวแรกในการจัดการก็ง่ายๆเช่นกัน ..นายกฯพระราชทานจึงต้องรีบมาทำงานเพื่อชาติไทยเราทันทีเพราะนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งล้มเหลวแล้วเปรียบคือเป็นภัยต่อบ้านนี้แล้ว ผีบ้าไม่รู้จะจุดเผาบ้านด้วยไฟตอนไหน,ไหม้หมดบ้านนั้นเอง กำลังเริ่มจุดทั่วบ้านแล้วด้วย พาข้างๆบ้านมาร่วมจุดร่วมมาเผาบ้านตนเองด้วยมันผีบ้าขนาดไหนล่ะ. .. ..https://youtube.com/shorts/GknGVmyPVzY?si=cNQzMSkyvUBXNkxh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานคดี"ทนายตั้ม" ฉ้อโกงเจ๊อ้อย ไป 28 เม.ย.นี้ เหตุมีเอกสารเยอะ 9,000 กว่าหน้า ด้านทนายความระบุ จำเลยทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ขอสู้คดีในชั้นศาล

    วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลนัดตรวจหลักฐานครั้งแรก คดีหมายเลขดำอทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา พี่สาวภรรยากับพวกรวม 7 คนเป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง ฟอกเงิน ฯ หลอกลวงน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เศรษฐีนีชาวไทย ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ รถเบนซ์หรู มูลค่า 111 ล้านบาท

    ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลย จำนวน 4 คน มาจากเรือนจำ ประกอบด้วย ทนายตั้ม เมีย สุนืสา กับแฟน ส่วนพี่สาวเมียทนายตั้ม กับ 2 จนท.สาวโชว์รูมรถเบนซ์ได้ประกันตัวระหว่างสู้คดี

    โดยวันนี้ งมีทนายความ ของนายษิทรา และ จำเลย ร่วม รวมถึงทนายความของฝั่งน.ส.จตุพร มาร่วมกำหนดบัญชีพยาน ในการตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ ด้วย และมีญาติของจำเลย มาร่วมฟังการพิจารณาคดี ด้วยเช่นกัน รวมทั้ง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด มาให้กำลังใจทนายตั้ม ด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000023001

    #MGROnline #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #เจ๊อ้อย
    ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานคดี"ทนายตั้ม" ฉ้อโกงเจ๊อ้อย ไป 28 เม.ย.นี้ เหตุมีเอกสารเยอะ 9,000 กว่าหน้า ด้านทนายความระบุ จำเลยทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ขอสู้คดีในชั้นศาล • วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลนัดตรวจหลักฐานครั้งแรก คดีหมายเลขดำอทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา พี่สาวภรรยากับพวกรวม 7 คนเป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง ฟอกเงิน ฯ หลอกลวงน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เศรษฐีนีชาวไทย ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ รถเบนซ์หรู มูลค่า 111 ล้านบาท • ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลย จำนวน 4 คน มาจากเรือนจำ ประกอบด้วย ทนายตั้ม เมีย สุนืสา กับแฟน ส่วนพี่สาวเมียทนายตั้ม กับ 2 จนท.สาวโชว์รูมรถเบนซ์ได้ประกันตัวระหว่างสู้คดี • โดยวันนี้ งมีทนายความ ของนายษิทรา และ จำเลย ร่วม รวมถึงทนายความของฝั่งน.ส.จตุพร มาร่วมกำหนดบัญชีพยาน ในการตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ ด้วย และมีญาติของจำเลย มาร่วมฟังการพิจารณาคดี ด้วยเช่นกัน รวมทั้ง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด มาให้กำลังใจทนายตั้ม ด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000023001 • #MGROnline #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #เจ๊อ้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1028 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024 THAILAND VIRAL CALENDAR

    วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา

    มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ

    กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ

    มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

    เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ

    พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย

    มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก

    กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว

    สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน

    กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ

    ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด

    พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน

    ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง

    #Newskit
    2024 THAILAND VIRAL CALENDAR วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง #Newskit
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2743 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจือง หมี ลาน ประธานบริษัท Van Thinh  เศรษฐีนี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วัย 68 ปีของเวียดนาม ถูกศาลปฏิเสธคำอุทธรณ์ในคดีอยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ  และยังคงยืนโทษประหารชีวิต ดังนั้นในเวลานี้ ทางรอดเพียงทางเดียวของเธอคือการหาเงินมาจ่ายคืนรัฐ เพราะตามกฎหมายเวียดนาม เธอยังคงมีโอกาสลดโทษประหารชีวิตลงได้ หากสามารถชดใช้เงินจำนวน 75% ของที่เธอฉ้อโกงไป ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยศาลจะลดโทษให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตแทนเว็บไซต์ของรัฐบาลระบุว่า ลานถูกกล่าวหาว่าจัดทำเอกสารขอสินเชื่อปลอมเพื่อถอนเงินจากธนาคาร Saigon Commercial Bank ที่เธอถือหุ้นมากกว่า 90% ของธนาคาร “ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2561 ถึงวันที่ 7 ต.ค. 2565 เจือง หมี ลาน ได้ออกคำสั่งให้ทำใบสมัครขอสินเชื่อปลอม 916 รายการ ที่จัดสรรเงินไปมากกว่า 204 ล้านล้านด่ง (12,500 ล้านดอลลาร์) จากธนาคาร Saigon Commercial Bank” รายงานระบุนอกจากเจือง หมี ลาน แล้ว ยังมีผู้ต้องหาอีก 85 ราย รวมถึงอดีตเจ้าหน้าธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนมูลค่า 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกพิจารณาคดีที่ศาลในนครโฮจิมินห์ด้วยเช่นกันทั้งนี้ มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกไปนั้นเทียบเท่าประมาณ 3% ของจีดีพีของเวียดนามในปี 2565 ซึ่งทำให้คดีนี้เป็นหนึ่งในอาชญากรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศบริษัท Van Thinh Phat ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 โดยเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และอพาร์ทเม้นต์หรู และยังลงทุนในบริการทางการเงินอีกด้วยเวียดนามดำเนินการปราบปรามเจ้าหน้าที่ทุจริตคอร์รัปชั่น และสมาชิกของกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการกวาดล้างดังกล่าวถูกผลักดันโดยเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ในเดือนก่อนยังเรียกร้องให้ดำเนินการกวาดล้างให้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2564 มีผู้ถูกฟ้องมากกว่า 3,500 คน ในคดีรับสินบนมากกว่า 1,300 คดี 
    เจือง หมี ลาน ประธานบริษัท Van Thinh  เศรษฐีนี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วัย 68 ปีของเวียดนาม ถูกศาลปฏิเสธคำอุทธรณ์ในคดีอยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ  และยังคงยืนโทษประหารชีวิต ดังนั้นในเวลานี้ ทางรอดเพียงทางเดียวของเธอคือการหาเงินมาจ่ายคืนรัฐ เพราะตามกฎหมายเวียดนาม เธอยังคงมีโอกาสลดโทษประหารชีวิตลงได้ หากสามารถชดใช้เงินจำนวน 75% ของที่เธอฉ้อโกงไป ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยศาลจะลดโทษให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตแทนเว็บไซต์ของรัฐบาลระบุว่า ลานถูกกล่าวหาว่าจัดทำเอกสารขอสินเชื่อปลอมเพื่อถอนเงินจากธนาคาร Saigon Commercial Bank ที่เธอถือหุ้นมากกว่า 90% ของธนาคาร “ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2561 ถึงวันที่ 7 ต.ค. 2565 เจือง หมี ลาน ได้ออกคำสั่งให้ทำใบสมัครขอสินเชื่อปลอม 916 รายการ ที่จัดสรรเงินไปมากกว่า 204 ล้านล้านด่ง (12,500 ล้านดอลลาร์) จากธนาคาร Saigon Commercial Bank” รายงานระบุนอกจากเจือง หมี ลาน แล้ว ยังมีผู้ต้องหาอีก 85 ราย รวมถึงอดีตเจ้าหน้าธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนมูลค่า 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกพิจารณาคดีที่ศาลในนครโฮจิมินห์ด้วยเช่นกันทั้งนี้ มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกไปนั้นเทียบเท่าประมาณ 3% ของจีดีพีของเวียดนามในปี 2565 ซึ่งทำให้คดีนี้เป็นหนึ่งในอาชญากรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศบริษัท Van Thinh Phat ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 โดยเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และอพาร์ทเม้นต์หรู และยังลงทุนในบริการทางการเงินอีกด้วยเวียดนามดำเนินการปราบปรามเจ้าหน้าที่ทุจริตคอร์รัปชั่น และสมาชิกของกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการกวาดล้างดังกล่าวถูกผลักดันโดยเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ในเดือนก่อนยังเรียกร้องให้ดำเนินการกวาดล้างให้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2564 มีผู้ถูกฟ้องมากกว่า 3,500 คน ในคดีรับสินบนมากกว่า 1,300 คดี 
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความน่าสนใจของ TNN World คอลัมน์Editor’s Pick: ประวัติศาสตร์ “อภัยโทษ” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯการอภัยโทษไม่ใช่เรื่องผิด เป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่นี่คือการอภัยโทษ “ลูกชาย” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา .. แล้วที่ผ่านมา ผู้นำคนก่อน ๆ ของสหรัฐฯ เคยใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ใครแล้วบ้าง? และมีใครที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวแบบนี้อีกหรือไม่? มาค่อย ๆ ย้อนกลับไปทีละคน ◾️◾️◾️โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตั้งแต่ โดนัลด์​ ทรัมป์​ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ​ ที่ออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างหนัก ว่าการอภัยโทษให้ลูกชาย “ฮันเตอร์ ไบเดน”​ นั้น บิดเบือนความยุติธรรมแต่ทรัมป์ก็อภัยโทษให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว ตั้งแต่อดีตผู้ช่วยส่วนตัว มาจนถึงล่าสุด ที่ประกาศอภัยโทษให้กับ “ชาลส์ คุชเนอร์” บิดาของจาเร็ด คุชเนอร์​ สามีของอิวางกา ทรัมป์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ดองของเขานั่นเอง จากคดีทุจริต เลี่ยงภาษี 16 กระทง และอื่น ๆ อีก - อีกทั้งล่าสุด ยังแต่ตั้ง ชาลส์ คุชเนอร์คนนี้ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ​ ประจำฝรั่งเศสอีกด้วยมีดองเป็นประธานาธิบดี..​ก็ดีเช่นนี้เอง◾️◾️◾️ บารัค โอบามาบารัค โอบามา ผู้นำผิวสีรายนี้ ไม่ได้มีการอภัยโทษที่อื้อฉาวมากนัก โดยหนึ่งในคนที่เป็นประเด็นที่สุด คือ “เชลซี แมนนิ่ง” อดีตทหารเมริกัน ที่แฉข้อมูลและเอกสารลับให้กับเว็ปไซต์จอมแฉ WikiLeaks ◾️◾️◾️ บิล คลินตันถัดมา บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ผู้เป็นทั้งที่รัก และที่ชัง ของชาวอเมริกัน ที่ใช้อำนาจอภัยโทษให้กับสามีของเศรษฐีนีผู้บริจาครายใหญ่ให้กับพรรค อย่าง “มาร์ก ริช” นักการเงินดัง ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี - เรื่องนี้ถูกแฉ จากการที่สำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ตรวจค้นอีเมล์ของฮิลลารี คลินตัน สมัยที่เธอชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วัน - จึงเป็นเรื่องอื้อฉาวว่า .. อภัยโทษให้มาร์ก ริช เพราะหวังเงินบริจาคนับล้านเข้าพรรคระหว่างหาเสียงหรือไม่?อีกทั้ง บิล คลินตัน ยังอภัยโทษให้กับพี่ชายร่วมสายเลือดอย่าง “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคมคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี 2001 ด้วย ประโยชน์ แลกประโยชน์ ก็เช่นนี้เอง◾️◾️◾️ แอนดรูว์ จอห์นสันหรือหากย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคสงครามกลางเมือง กรณีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่พยายามจะรวมประเทศหลังสงครามอันยาวนาน จึงออกคำสั่งนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ ให้กับเจ้าหน้าที่ และทหารฝ่ายสมาพันธรัฐ ราว 12,600 นาย ที่กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก ◾️◾️◾️ ริชาร์ด นิกสัน - เจอรัลด์ ฟอร์ดส่วนกรณีสุดอื้อฉาวทางการเมืองของสหรัฐฯ อย่างคดีวอเตอร์เกตส์ ที่เป็นการลักลอบโจรกรรมสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่อาคารวอเตอร์เกตคอมเพลกซ์ ในกรุงวอชิงตันดีซี .. และผลการตรวจสอบพบว่า “ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน” มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นำมาสู่การยอมลาออกของเขาในที่สุด และเป็นการลาออกครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯก่อนที่ประธานาธิบดีคนต่อมา อย่าง “เจอรัลด์ ฟอร์ด” จะใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับ “ริชาร์ด นิกสัน” ทั้งหมด เมื่อปี 1974 - ซึ่งแม้ประชาชนจะกังวลต่อการอภัยโทษครั้งนี้ แต่ฟอร์ดยืนยันว่า นี่คือผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศ - และคาดว่า ผลของการอภัยโทษครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ฟอร์ดพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้กับ “จิมมี่ คาร์เตอร์” ในอีก 2 ปีถัดมา (1976)◾️◾️◾️ จิมมี่ คาร์เตอร์จิมมี่ คาร์เตอร์​ เองก็ถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จากการอภัยโทษให้กับผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารไปร่วมในสงครามเวียดนามหลายแสนคน ตั้งแต่วันที่ 2 ของการรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาหาเสียงเอาไว้อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ​ แต่ก็มีกระแสเรียกร้องว่า ประธานาธิบดีไม่ควรจะมีอำนาจชนิดนี้ เพราะมันจะเป็นผลทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม—————ภาพ: Reutersอ้างอิง: https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/controversial-presidential-pardons-biden-trump-b2657552.htmlhttps://news.sky.com/story/what-is-the-us-presidential-pardon-and-when-has-it-been-used-13265442#TNNWorldNews #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ #นิรโทษกรรม #สหรัฐ #การเมือง #ประวัติศาสตร์ #ไบเดน————ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNNได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originalsที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals
    บทความน่าสนใจของ TNN World คอลัมน์Editor’s Pick: ประวัติศาสตร์ “อภัยโทษ” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯการอภัยโทษไม่ใช่เรื่องผิด เป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่นี่คือการอภัยโทษ “ลูกชาย” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา .. แล้วที่ผ่านมา ผู้นำคนก่อน ๆ ของสหรัฐฯ เคยใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ใครแล้วบ้าง? และมีใครที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวแบบนี้อีกหรือไม่? มาค่อย ๆ ย้อนกลับไปทีละคน ◾️◾️◾️🔴โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตั้งแต่ โดนัลด์​ ทรัมป์​ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ​ ที่ออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างหนัก ว่าการอภัยโทษให้ลูกชาย “ฮันเตอร์ ไบเดน”​ นั้น บิดเบือนความยุติธรรมแต่ทรัมป์ก็อภัยโทษให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว ตั้งแต่อดีตผู้ช่วยส่วนตัว มาจนถึงล่าสุด ที่ประกาศอภัยโทษให้กับ “ชาลส์ คุชเนอร์” บิดาของจาเร็ด คุชเนอร์​ สามีของอิวางกา ทรัมป์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ดองของเขานั่นเอง จากคดีทุจริต เลี่ยงภาษี 16 กระทง และอื่น ๆ อีก - อีกทั้งล่าสุด ยังแต่ตั้ง ชาลส์ คุชเนอร์คนนี้ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ​ ประจำฝรั่งเศสอีกด้วยมีดองเป็นประธานาธิบดี..​ก็ดีเช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 บารัค โอบามาบารัค โอบามา ผู้นำผิวสีรายนี้ ไม่ได้มีการอภัยโทษที่อื้อฉาวมากนัก โดยหนึ่งในคนที่เป็นประเด็นที่สุด คือ “เชลซี แมนนิ่ง” อดีตทหารเมริกัน ที่แฉข้อมูลและเอกสารลับให้กับเว็ปไซต์จอมแฉ WikiLeaks ◾️◾️◾️🔴 บิล คลินตันถัดมา บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ผู้เป็นทั้งที่รัก และที่ชัง ของชาวอเมริกัน ที่ใช้อำนาจอภัยโทษให้กับสามีของเศรษฐีนีผู้บริจาครายใหญ่ให้กับพรรค อย่าง “มาร์ก ริช” นักการเงินดัง ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี - เรื่องนี้ถูกแฉ จากการที่สำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ตรวจค้นอีเมล์ของฮิลลารี คลินตัน สมัยที่เธอชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วัน - จึงเป็นเรื่องอื้อฉาวว่า .. อภัยโทษให้มาร์ก ริช เพราะหวังเงินบริจาคนับล้านเข้าพรรคระหว่างหาเสียงหรือไม่?อีกทั้ง บิล คลินตัน ยังอภัยโทษให้กับพี่ชายร่วมสายเลือดอย่าง “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคมคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี 2001 ด้วย ประโยชน์ แลกประโยชน์ ก็เช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 แอนดรูว์ จอห์นสันหรือหากย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคสงครามกลางเมือง กรณีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่พยายามจะรวมประเทศหลังสงครามอันยาวนาน จึงออกคำสั่งนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ ให้กับเจ้าหน้าที่ และทหารฝ่ายสมาพันธรัฐ ราว 12,600 นาย ที่กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก ◾️◾️◾️🔴 ริชาร์ด นิกสัน - เจอรัลด์ ฟอร์ดส่วนกรณีสุดอื้อฉาวทางการเมืองของสหรัฐฯ อย่างคดีวอเตอร์เกตส์ ที่เป็นการลักลอบโจรกรรมสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่อาคารวอเตอร์เกตคอมเพลกซ์ ในกรุงวอชิงตันดีซี .. และผลการตรวจสอบพบว่า “ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน” มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นำมาสู่การยอมลาออกของเขาในที่สุด และเป็นการลาออกครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯก่อนที่ประธานาธิบดีคนต่อมา อย่าง “เจอรัลด์ ฟอร์ด” จะใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับ “ริชาร์ด นิกสัน” ทั้งหมด เมื่อปี 1974 - ซึ่งแม้ประชาชนจะกังวลต่อการอภัยโทษครั้งนี้ แต่ฟอร์ดยืนยันว่า นี่คือผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศ - และคาดว่า ผลของการอภัยโทษครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ฟอร์ดพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้กับ “จิมมี่ คาร์เตอร์” ในอีก 2 ปีถัดมา (1976)◾️◾️◾️🔴 จิมมี่ คาร์เตอร์จิมมี่ คาร์เตอร์​ เองก็ถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จากการอภัยโทษให้กับผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารไปร่วมในสงครามเวียดนามหลายแสนคน ตั้งแต่วันที่ 2 ของการรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาหาเสียงเอาไว้อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ​ แต่ก็มีกระแสเรียกร้องว่า ประธานาธิบดีไม่ควรจะมีอำนาจชนิดนี้ เพราะมันจะเป็นผลทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม—————ภาพ: Reutersอ้างอิง: https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/controversial-presidential-pardons-biden-trump-b2657552.htmlhttps://news.sky.com/story/what-is-the-us-presidential-pardon-and-when-has-it-been-used-13265442#TNNWorldNews #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ #นิรโทษกรรม #สหรัฐ #การเมือง #ประวัติศาสตร์ #ไบเดน————📲ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNNได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originalsที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1206 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลาปรับสื่อ กรองสันด..านแขก ก่อนออกรายการ
    จากคดีทนายตั้มนายสิทธา เบี้ยบังเกิด ที่สังคมกําลังสนใจว่าจะจบลงอย่างไรเพราะมีการแจ้งความเอาผิดเพิ่มอีกสามคดี คือคดีหลอกลวงได้เงินไปสามสิบเก้าล้านบาท คดีอมเงินซื้อรถเบนซ์และ คดีเงินค่าออกแบบโรงแรมเก้าล้านบาทของพี่อ้อย
    สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่มองข้ามคือการสร้างฮีโร่โดยกลุ่มเครือข่ายสื่อ รายการต่างๆ อย่าลืมว่าทนายตั้มเป็นฝ่ายออกตัวปูดเรื่องเงิน 71ล้าน ขึ้นมาเองกลางรายการโหนกระแสว่าได้มาโดยเสน่หารับด้วยอาการตกใจของหนุ่มกรรชัยซึ่ งจนบัดนี้ก็ยังมีคนสงสัยอยู่ดีว่าหนุ่มและตั้มตกใจจริง หรือว่ารู้กัน
    แม้ว่าหนุ่มกรรชัยจะยืนยันไปแล้วด้วยเกียรติของพิธีกรใหญ่ว่าเขาไม่รู้จริงๆว่าทนายตั้มจับโผงเรื่องนี้ขึ้นมา ทุกวันนี้สื่อเครือข่ายมีอิทธิพลในการชักจูงความคิดคนย้อนไปตั้งแต่เรื่องลุงพลจากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นผู้ต้องสงสาร
    แล้วสื่อก็รุมปั้นจนลุงพลกลายเป็นซุปตาร์ไปเลย จากชาวไร่จนๆเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐีในเวลาอันสั้นแต่สุดท้ายลุงพลกลับถูกศาลลงโทษจําคุกนานถึง20 ปี
    การปั้นฮีโร่กันแบบลวกลวกไม่ดูตาม้าตาเรืออีกบทบาทสื่อซึ่งกําลังถูกสังคมตั้งคําถามคือการปั้นซุปเปอร์ฮีโร่หน้าจอออกมาแสดงตัวเป็นคนดีกอบกู้สังคมเลวร้ายไปไปมาๆกลุ่มคนที่ยึดหน้าจอเป็นซุปเปอร์ฮีโร่พวกนี้กลับดีแตกกันทีละคน 2 คนตัวอย่างชัดเจนสุดก็คือทนายตั้มทนายต้มซึ่งถูกพีอ้อย จตุพรเศรษฐีนีใจดีแจ้งจับฉ้อโกงรวมมูลค่าความเสียหายเกิน 100,000,000 ส่งผลให้เกิดภาวะน้ําลดตอผุดบันไดเหยื่อเก่าเก่าออกมาแสดงตัวแฉวีรกรรมสารพัดอย่างของทนายตั้มจนกลายเป็นทนายต้มแม้แต่จังหวะฟอกขาวตัวเองทนายตั้มก็วิ่งไปหารายการเรตติ้งสูงอย่างโหนกระแสและรายการคนดังนั่งเคลียร์เพื่อชิงเคลียร์ตัวเองว่ารวยจากเสน่หา
    เรียกว่าทนายตั้มใช้สื่อเครือข่ายอย่างคุ้มค่าทั้งสร้างตัวตนให้เป็นคนดังทั้งฟอกขาวตัวเองยามไปก่อเรื่องเลวร้าย
    สื่อทีวีทั้งหลายจะรับรู้ถึงความผิดพลาดหรือไม่ เมื่อบรรดาเด็กปั้นผลผลิตจากหน้าจอทั้งหลายเนื้อแท้ดันไม่ได้ดีพร้อม อาจถึงเวลาต้องกลั่นกรองคนให้ละเอียดกว่านี้แค่เน้นเอามัน มันไม่พอ
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ถึงเวลาปรับสื่อ กรองสันด..านแขก ก่อนออกรายการ จากคดีทนายตั้มนายสิทธา เบี้ยบังเกิด ที่สังคมกําลังสนใจว่าจะจบลงอย่างไรเพราะมีการแจ้งความเอาผิดเพิ่มอีกสามคดี คือคดีหลอกลวงได้เงินไปสามสิบเก้าล้านบาท คดีอมเงินซื้อรถเบนซ์และ คดีเงินค่าออกแบบโรงแรมเก้าล้านบาทของพี่อ้อย สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่มองข้ามคือการสร้างฮีโร่โดยกลุ่มเครือข่ายสื่อ รายการต่างๆ อย่าลืมว่าทนายตั้มเป็นฝ่ายออกตัวปูดเรื่องเงิน 71ล้าน ขึ้นมาเองกลางรายการโหนกระแสว่าได้มาโดยเสน่หารับด้วยอาการตกใจของหนุ่มกรรชัยซึ่ งจนบัดนี้ก็ยังมีคนสงสัยอยู่ดีว่าหนุ่มและตั้มตกใจจริง หรือว่ารู้กัน แม้ว่าหนุ่มกรรชัยจะยืนยันไปแล้วด้วยเกียรติของพิธีกรใหญ่ว่าเขาไม่รู้จริงๆว่าทนายตั้มจับโผงเรื่องนี้ขึ้นมา ทุกวันนี้สื่อเครือข่ายมีอิทธิพลในการชักจูงความคิดคนย้อนไปตั้งแต่เรื่องลุงพลจากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นผู้ต้องสงสาร แล้วสื่อก็รุมปั้นจนลุงพลกลายเป็นซุปตาร์ไปเลย จากชาวไร่จนๆเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐีในเวลาอันสั้นแต่สุดท้ายลุงพลกลับถูกศาลลงโทษจําคุกนานถึง20 ปี การปั้นฮีโร่กันแบบลวกลวกไม่ดูตาม้าตาเรืออีกบทบาทสื่อซึ่งกําลังถูกสังคมตั้งคําถามคือการปั้นซุปเปอร์ฮีโร่หน้าจอออกมาแสดงตัวเป็นคนดีกอบกู้สังคมเลวร้ายไปไปมาๆกลุ่มคนที่ยึดหน้าจอเป็นซุปเปอร์ฮีโร่พวกนี้กลับดีแตกกันทีละคน 2 คนตัวอย่างชัดเจนสุดก็คือทนายตั้มทนายต้มซึ่งถูกพีอ้อย จตุพรเศรษฐีนีใจดีแจ้งจับฉ้อโกงรวมมูลค่าความเสียหายเกิน 100,000,000 ส่งผลให้เกิดภาวะน้ําลดตอผุดบันไดเหยื่อเก่าเก่าออกมาแสดงตัวแฉวีรกรรมสารพัดอย่างของทนายตั้มจนกลายเป็นทนายต้มแม้แต่จังหวะฟอกขาวตัวเองทนายตั้มก็วิ่งไปหารายการเรตติ้งสูงอย่างโหนกระแสและรายการคนดังนั่งเคลียร์เพื่อชิงเคลียร์ตัวเองว่ารวยจากเสน่หา เรียกว่าทนายตั้มใช้สื่อเครือข่ายอย่างคุ้มค่าทั้งสร้างตัวตนให้เป็นคนดังทั้งฟอกขาวตัวเองยามไปก่อเรื่องเลวร้าย สื่อทีวีทั้งหลายจะรับรู้ถึงความผิดพลาดหรือไม่ เมื่อบรรดาเด็กปั้นผลผลิตจากหน้าจอทั้งหลายเนื้อแท้ดันไม่ได้ดีพร้อม อาจถึงเวลาต้องกลั่นกรองคนให้ละเอียดกว่านี้แค่เน้นเอามัน มันไม่พอ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1242 มุมมอง 1 รีวิว
  • โบราณไม่ได้ว่าไว้ คนล้ม กระทืบซ้ำเลย
    น้ำลดตอผุดสภาวะนี้กําลังเกิดขึ้นกับชีวิตทนายตั้มนายสิทรา เบี้ยบังเกิด หลังโดนอ้อยจตุพร เศรษฐีนีหมื่นล้านแจ้งจับคดีฉ้อโกงและยังจะได้แถมอีกคดีในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กรณีผู้ออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งเรื่องเจ๊อ้อยถูกหวยได้เงินมาหมื่นล้านบาททําให้ครอบครัวเขาเดือดร้อนกระแสสังคมรุมถล่มทนายตั้มเหมือนพายุอุกกาบาตพัดถล่มหัวหมา
    โลกโซเชียลจากการเปลี่ยนชื่อเขาจากทนายตั้มเป็นทนายต้ม จังหวะนี้เองบรรดาเจ้ากรรมนายเวรเก่าเก่าของทนายตั้มก็เฮโลออกมาเปิดโปงความเน่าใน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทนายตั้มเคยกระทําไว้กับพวกเขาเริ่มจากคนบนเรือคดีแตงโมคือไฮโซ ปอออกมาพบสื่อในฐานะผู้ประสบภัยจากทนายความโดยระบุว่า
    ทนายตั้มเป็นศาลตั้งต้นของจริง ที่ทําให้ชีวิตเขาและคนบนเรือทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัสเมื่อมีการนัดพบกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์และอีกฝ่ายทนายตั้ม ปรากฏว่าทนายตั้มพอฟังเรื่องราวของแตงโมตกเรือแล้ว
    เสนอแนวทางเอาตัวรอดให้ทั้งสองคนว่าต้องสร้างสตอรี่ให้มีคนผิด ซึ่งคนคนนั้นก็คือแซนด์ ซึ่งอยู่ท้ายเรือใกล้ชิดวินาทีที่แตงโมตกเรือมากกว่าใคร ว่าแล้วทนายตั้มก็เรียกค่าทําคดีสูงลิบซึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์ตปฏิเสธไป
    เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคือรับไม่ได้กับการสร้างสตอรี่เพื่อโยนคุกให้เพื่อนดื้อๆพอไฮโซปอล์เปิดประเด็นนี้ แซนก็บุกมาที่กองปราบประกาศว่ามาจองกระถินทนายตั้มเพราะเธอเกือบต้องติดคุกติดตารางไปคนเดียว ด้วยการชี้แนะของทนายตั้มซึ่งแซนด์ แทบไม่มีที่ยืนในสังคมพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ
    ตอนนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันบังเกิดขึ้นกับชีวิตของทนายตั้มบ้างแล้วโดนทัวร์ลงอย่างหนักหน่วง ด้วยดีกรีรุนแรงไม่แพ้กันในส่วนของเจ๊อ้อย จตุพรยังคงสาวไส้เล่ห์เหลี่ยมของทนายตั้มออกมาทีละขด
    โดยเฉพาะเรื่องการแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองใหญ่ที่จะให้โควต้าหวยรัฐบาลถึงขั้นพาคุณอ้อยบินไปพบถึงฮ่องกง เพื่อสร้างเครดิตให้หลงเชื่อนักการเมืองคนนั้นก็คือเสียหนูอนุทินชาญวีรกูล
    ซึ่งเสียหนูก็ยอมรับว่าเจอกับทนายตั้มจริงแต่เจอโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายอะไรกันแจงว่าตัวเองไม่มีทางไปให้โควต้าหวยใครได้ เพราะตอนเจอกันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยดอกนี้คือเสี่ยหนูลอยแพทนายตั้มไปแบบไม่มีเยื่อใย
    เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยหนูก็เคยใช้บริการทนายตั้มให้ออกมาสู้กับชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ซึ่งผลก็คือทนายตั้มพ่ายแพ้ในสนามโซเชียลจนหลบหน้าหายไปพักใหญ่ ตอนนี้คิงส์โพดำคิดว่า ตั๊มเอ้ย หายหน้าหายตาไปจากโลกเลยก็ได้เด้อ ยาวๆโลด ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    โบราณไม่ได้ว่าไว้ คนล้ม กระทืบซ้ำเลย น้ำลดตอผุดสภาวะนี้กําลังเกิดขึ้นกับชีวิตทนายตั้มนายสิทรา เบี้ยบังเกิด หลังโดนอ้อยจตุพร เศรษฐีนีหมื่นล้านแจ้งจับคดีฉ้อโกงและยังจะได้แถมอีกคดีในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กรณีผู้ออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งเรื่องเจ๊อ้อยถูกหวยได้เงินมาหมื่นล้านบาททําให้ครอบครัวเขาเดือดร้อนกระแสสังคมรุมถล่มทนายตั้มเหมือนพายุอุกกาบาตพัดถล่มหัวหมา โลกโซเชียลจากการเปลี่ยนชื่อเขาจากทนายตั้มเป็นทนายต้ม จังหวะนี้เองบรรดาเจ้ากรรมนายเวรเก่าเก่าของทนายตั้มก็เฮโลออกมาเปิดโปงความเน่าใน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทนายตั้มเคยกระทําไว้กับพวกเขาเริ่มจากคนบนเรือคดีแตงโมคือไฮโซ ปอออกมาพบสื่อในฐานะผู้ประสบภัยจากทนายความโดยระบุว่า ทนายตั้มเป็นศาลตั้งต้นของจริง ที่ทําให้ชีวิตเขาและคนบนเรือทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัสเมื่อมีการนัดพบกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์และอีกฝ่ายทนายตั้ม ปรากฏว่าทนายตั้มพอฟังเรื่องราวของแตงโมตกเรือแล้ว เสนอแนวทางเอาตัวรอดให้ทั้งสองคนว่าต้องสร้างสตอรี่ให้มีคนผิด ซึ่งคนคนนั้นก็คือแซนด์ ซึ่งอยู่ท้ายเรือใกล้ชิดวินาทีที่แตงโมตกเรือมากกว่าใคร ว่าแล้วทนายตั้มก็เรียกค่าทําคดีสูงลิบซึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์ตปฏิเสธไป เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคือรับไม่ได้กับการสร้างสตอรี่เพื่อโยนคุกให้เพื่อนดื้อๆพอไฮโซปอล์เปิดประเด็นนี้ แซนก็บุกมาที่กองปราบประกาศว่ามาจองกระถินทนายตั้มเพราะเธอเกือบต้องติดคุกติดตารางไปคนเดียว ด้วยการชี้แนะของทนายตั้มซึ่งแซนด์ แทบไม่มีที่ยืนในสังคมพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันบังเกิดขึ้นกับชีวิตของทนายตั้มบ้างแล้วโดนทัวร์ลงอย่างหนักหน่วง ด้วยดีกรีรุนแรงไม่แพ้กันในส่วนของเจ๊อ้อย จตุพรยังคงสาวไส้เล่ห์เหลี่ยมของทนายตั้มออกมาทีละขด โดยเฉพาะเรื่องการแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองใหญ่ที่จะให้โควต้าหวยรัฐบาลถึงขั้นพาคุณอ้อยบินไปพบถึงฮ่องกง เพื่อสร้างเครดิตให้หลงเชื่อนักการเมืองคนนั้นก็คือเสียหนูอนุทินชาญวีรกูล ซึ่งเสียหนูก็ยอมรับว่าเจอกับทนายตั้มจริงแต่เจอโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายอะไรกันแจงว่าตัวเองไม่มีทางไปให้โควต้าหวยใครได้ เพราะตอนเจอกันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยดอกนี้คือเสี่ยหนูลอยแพทนายตั้มไปแบบไม่มีเยื่อใย เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยหนูก็เคยใช้บริการทนายตั้มให้ออกมาสู้กับชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ซึ่งผลก็คือทนายตั้มพ่ายแพ้ในสนามโซเชียลจนหลบหน้าหายไปพักใหญ่ ตอนนี้คิงส์โพดำคิดว่า ตั๊มเอ้ย หายหน้าหายตาไปจากโลกเลยก็ได้เด้อ ยาวๆโลด ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1228 มุมมอง 0 รีวิว
  • พี่อ้อย-ทนายตั้ม จากคนสนิทถึงจุดแตกหัก (รวมทุก EP 1-4) [Exclusive for Sondhi talk]

    สรุปทุก EP (EP1-4) จากจุดเริ่มต้น เศรษฐีนีใจดีแต่โชคร้ายเจอทนายตั้ม
    แต่ยังไม่จบ!!! ทีเด็ดเก็บไว้อีกเยอะ รอติดตาม

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #ทนายต้ม #เสน่หาจริงไหมจากใจพี่อ้อย
    พี่อ้อย-ทนายตั้ม จากคนสนิทถึงจุดแตกหัก (รวมทุก EP 1-4) [Exclusive for Sondhi talk] สรุปทุก EP (EP1-4) จากจุดเริ่มต้น เศรษฐีนีใจดีแต่โชคร้ายเจอทนายตั้ม แต่ยังไม่จบ!!! ทีเด็ดเก็บไว้อีกเยอะ รอติดตาม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #ทนายต้ม #เสน่หาจริงไหมจากใจพี่อ้อย
    Like
    Love
    Yay
    Haha
    Wow
    Sad
    69
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 6007 มุมมอง 2766 0 รีวิว
  • สนธิคุยอะไรกับพี่อ้อย [Exclusive for Sondhi talk]

    เปิดใจพี่อ้อย เศรษฐีนีใจดีแต่โชคร้ายเจอทนายเลว สัมภาษณ์พิเศษ โดยสนธิ ลิ้มทองกุล
    สนธิคุยอะไรกับพี่อ้อย [Exclusive for Sondhi talk] เปิดใจพี่อ้อย เศรษฐีนีใจดีแต่โชคร้ายเจอทนายเลว สัมภาษณ์พิเศษ โดยสนธิ ลิ้มทองกุล
    Like
    Love
    Yay
    Wow
    94
    4 ความคิดเห็น 8 การแบ่งปัน 5279 มุมมอง 3039 2 รีวิว
  • เลขานุการส่วนตัวของคุณอ้อย เศรษฐีนี ยืนยันไม่ได้ยุยงปลุกปั่นให้แตกกันกับทนายตั้ม ย้ำทำตามหน้าที่ ตามคำสั่ง ทวงถามเล่มทะเบียนรถเบนซ์ เปิดใจเจอทนายดังโกรธ ปัดให้เช็กอินก่อน ไม่อยากร่วมเฟรมไปเที่ยวฟินแลนด์ ต้องยอมทิ้งตั๋วกลับปากช่อง พอคุณอ้อยร้องไห้เสียใจเท่านั้นแหละ เมียทนายตั้มส่งข้อความขอโทษรัวๆ แต่เผยสายไปแล้ว ไม่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000104260

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เลขานุการส่วนตัวของคุณอ้อย เศรษฐีนี ยืนยันไม่ได้ยุยงปลุกปั่นให้แตกกันกับทนายตั้ม ย้ำทำตามหน้าที่ ตามคำสั่ง ทวงถามเล่มทะเบียนรถเบนซ์ เปิดใจเจอทนายดังโกรธ ปัดให้เช็กอินก่อน ไม่อยากร่วมเฟรมไปเที่ยวฟินแลนด์ ต้องยอมทิ้งตั๋วกลับปากช่อง พอคุณอ้อยร้องไห้เสียใจเท่านั้นแหละ เมียทนายตั้มส่งข้อความขอโทษรัวๆ แต่เผยสายไปแล้ว ไม่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000104260 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    27
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3365 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถลกหนังหน้า เนื้อในทนายตั้ม : [Exclusive for Sondhi talk](EP2)

    ตั้ม แผนสูง ขอ "ลูกของตั้ม" เป็นบุตรบุญธรรมเศรษฐีนี แต่โชคดีลูกแท้ๆเค้าไม่ยอมรับ
    ถลกหนังหน้า เนื้อในทนายตั้ม : [Exclusive for Sondhi talk](EP2) ตั้ม แผนสูง ขอ "ลูกของตั้ม" เป็นบุตรบุญธรรมเศรษฐีนี แต่โชคดีลูกแท้ๆเค้าไม่ยอมรับ
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    65
    4 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 4724 มุมมอง 2623 0 รีวิว
  • ข้อมูลที่สนธิลิ้มทองกุลเปิดโปงพฤติกรรมของทนายตั้ม นายสิทธา เบี้ยบังเกิด ตอกย้ําว่าอ้อยจตุพร ที่โอนเงินสองล้านยูโรหรือเจ็ดสิบเอ็ดล้านบาทเข้าบัญชีชื่อสิทธ์ธาเบี้ยบังเกิด ไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หายอย่างที่ทนายตั้มอ้าง และในเมื่อทนายตั้ม อมเงินก้อนนี้ไปโดยไม่ยอมคืนให้เจ้าของก็เท่ากับมีภาระต้องเสียภาษีอีกมหาศาล
    ถึงขั้นนายสนธิ ท้า ถ้าทนายตั้มมีหลักฐานการจ่ายภาษีจะยอมกราบตีนและไหนๆทนายตั้มอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง สนธิ ลิ้มทองกุลก็จะยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษี จากรายได้ก้อนนี้ด้วย จัดหนักให้สุดซอยแบบเดียวกับที่เคยจัดให้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ตอนที่เปิดศึกกันครั้งที่ผ่านมา หลังรายการจบลงสื่อต่างๆก็นําไปรายงานข่าวกันอย่างคึกคัก แหกพฤติกรรมฉ้อโกงเงิน ไปจากเศรษฐีนีใจบุญที่เคยให้ความรักความเมตตากับทนายตั้มอย่างจริงใจ
    ชาวเน็ตมีความเห็นตรงกันมากว่า เป็นไปไม่ได้หรือไม่เชื่อที่ใครจะให้เงิน71 ล้านด้วยความเสน่หากับคนที่ไม่ใช่ญาติรวมถึงตรรกะว่า ถ้าอ้อย จตุพรให้ด้วยความเสน่หาจริงแล้วจะมาแจ้งจับทนายตั้มทําไม งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุลชนะขาด เครดิตความน่าเชื่อถือต่างกันลิบลับในด้านคดีความ ต้องบอกว่าทนายตั้มงานนี้เหนื่อยแน่เพราะสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งให้โอนคดีจาก สภ ปากช่อง มายังกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากทนายตั้มใช้วิธีดักคอว่าพลตํารวจตรีจรูญ เกียรติปานแก้ว เหมือนเป็นคู่กรณีกลายๆจะมาคุมสํานวน
    สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงไม่เปิดช่องทางให้ทนายตั้มใช้ประเด็นนี้มาต่อสู้คดี จึงมอบหมายให้บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับผิดชอบซึ่งตามประวัติบิ๊กหมูเป็นถึงผู้การกองปราบมาก่อน ลีลาก็ถึงลูกถึงคน ไม่กลัวใครหน้าไหนเหมือนกัน ในสถานการณ์ที่เห็นว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ํา ทนายตั้มเลยยกเลิกเกมที่จะไปแจ้งจับใครต่อใครเปลี่ยนวิธีจะไปขอเจรจากับเจ้าของเงินแทน แต่โชคร้ายที่ออกแนวหลอกลวงมันรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีจะยอมให้อภัยจึงจัดการปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทนายตั้มไม่สามารถติดต่อคุณอ้อยได้แล้ว
    การเปิดศึกกับสนธิ ลิ้มทองกุลและการไปบี้เอาเงินจากบอสพอล ทนายตั้มใช้วิธีการอ้างถึงรายการโหนกระแสเหมือนๆกัน เล่นเอาหนุ่มกรรชัยสุดทนพูดตําหนิทนายตั้มตรงๆ ว่าอย่าลากชื่อรายการไปเกี่ยวข้องและหนุ่มกรรชัยต้องรีบโทรเคลียร์กับสนธิลิ้มทองกุลว่ารายการโหนกระแสไม่ได้ตั้งใจจะฟอกขาวให้ทนายตั้ม ซึ่งต่างเข้าใจกันด้วยดี ดูเหลี่ยมไหนทนายตั้มก็รอดยากผู้คนกําลังรุมประณามลามปามไปถึงสังคมทนาย คิงส์ดำบอกเลยว่า ตั้มเอ้ย ซ้อมกินฉี่ไว้ล่วงหน้าได้เลย
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #สนธิลิ้มทองกุล
    #ทนายตั้ม
    ข้อมูลที่สนธิลิ้มทองกุลเปิดโปงพฤติกรรมของทนายตั้ม นายสิทธา เบี้ยบังเกิด ตอกย้ําว่าอ้อยจตุพร ที่โอนเงินสองล้านยูโรหรือเจ็ดสิบเอ็ดล้านบาทเข้าบัญชีชื่อสิทธ์ธาเบี้ยบังเกิด ไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หายอย่างที่ทนายตั้มอ้าง และในเมื่อทนายตั้ม อมเงินก้อนนี้ไปโดยไม่ยอมคืนให้เจ้าของก็เท่ากับมีภาระต้องเสียภาษีอีกมหาศาล ถึงขั้นนายสนธิ ท้า ถ้าทนายตั้มมีหลักฐานการจ่ายภาษีจะยอมกราบตีนและไหนๆทนายตั้มอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง สนธิ ลิ้มทองกุลก็จะยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษี จากรายได้ก้อนนี้ด้วย จัดหนักให้สุดซอยแบบเดียวกับที่เคยจัดให้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ตอนที่เปิดศึกกันครั้งที่ผ่านมา หลังรายการจบลงสื่อต่างๆก็นําไปรายงานข่าวกันอย่างคึกคัก แหกพฤติกรรมฉ้อโกงเงิน ไปจากเศรษฐีนีใจบุญที่เคยให้ความรักความเมตตากับทนายตั้มอย่างจริงใจ ชาวเน็ตมีความเห็นตรงกันมากว่า เป็นไปไม่ได้หรือไม่เชื่อที่ใครจะให้เงิน71 ล้านด้วยความเสน่หากับคนที่ไม่ใช่ญาติรวมถึงตรรกะว่า ถ้าอ้อย จตุพรให้ด้วยความเสน่หาจริงแล้วจะมาแจ้งจับทนายตั้มทําไม งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุลชนะขาด เครดิตความน่าเชื่อถือต่างกันลิบลับในด้านคดีความ ต้องบอกว่าทนายตั้มงานนี้เหนื่อยแน่เพราะสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งให้โอนคดีจาก สภ ปากช่อง มายังกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากทนายตั้มใช้วิธีดักคอว่าพลตํารวจตรีจรูญ เกียรติปานแก้ว เหมือนเป็นคู่กรณีกลายๆจะมาคุมสํานวน สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงไม่เปิดช่องทางให้ทนายตั้มใช้ประเด็นนี้มาต่อสู้คดี จึงมอบหมายให้บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับผิดชอบซึ่งตามประวัติบิ๊กหมูเป็นถึงผู้การกองปราบมาก่อน ลีลาก็ถึงลูกถึงคน ไม่กลัวใครหน้าไหนเหมือนกัน ในสถานการณ์ที่เห็นว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ํา ทนายตั้มเลยยกเลิกเกมที่จะไปแจ้งจับใครต่อใครเปลี่ยนวิธีจะไปขอเจรจากับเจ้าของเงินแทน แต่โชคร้ายที่ออกแนวหลอกลวงมันรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีจะยอมให้อภัยจึงจัดการปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทนายตั้มไม่สามารถติดต่อคุณอ้อยได้แล้ว การเปิดศึกกับสนธิ ลิ้มทองกุลและการไปบี้เอาเงินจากบอสพอล ทนายตั้มใช้วิธีการอ้างถึงรายการโหนกระแสเหมือนๆกัน เล่นเอาหนุ่มกรรชัยสุดทนพูดตําหนิทนายตั้มตรงๆ ว่าอย่าลากชื่อรายการไปเกี่ยวข้องและหนุ่มกรรชัยต้องรีบโทรเคลียร์กับสนธิลิ้มทองกุลว่ารายการโหนกระแสไม่ได้ตั้งใจจะฟอกขาวให้ทนายตั้ม ซึ่งต่างเข้าใจกันด้วยดี ดูเหลี่ยมไหนทนายตั้มก็รอดยากผู้คนกําลังรุมประณามลามปามไปถึงสังคมทนาย คิงส์ดำบอกเลยว่า ตั้มเอ้ย ซ้อมกินฉี่ไว้ล่วงหน้าได้เลย #คิงส์โพธิ์ดำ #สนธิลิ้มทองกุล #ทนายตั้ม
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตุยคาแก้วฉี่แน่! "เจ้อ้อย" เตรียมแฉ "ทนายตั้ม" โดนโกงจริงเกือบ 100 ล้าน! 26/10/67 #เจ้อ้อย #ทนายตั้ม #เศรษฐีนี #คดีฉ้อโกงประชาชน
    ตุยคาแก้วฉี่แน่! "เจ้อ้อย" เตรียมแฉ "ทนายตั้ม" โดนโกงจริงเกือบ 100 ล้าน! 26/10/67 #เจ้อ้อย #ทนายตั้ม #เศรษฐีนี #คดีฉ้อโกงประชาชน
    Like
    Haha
    Wow
    Love
    Yay
    27
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 2303 มุมมอง 789 0 รีวิว
  • "พี่อ้อย" เศรษฐีนีหมื่นล้านเตรียมเข้าให้ปากคำตำรวจกองปราบเอาผิด "ทนายตั้ม" โกง 71 ล้านบาท ด้านทนายผู้เสียหายยันมีหลักฐานเอาผิดทนายคนดังได้แน่นอน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000103213

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "พี่อ้อย" เศรษฐีนีหมื่นล้านเตรียมเข้าให้ปากคำตำรวจกองปราบเอาผิด "ทนายตั้ม" โกง 71 ล้านบาท ด้านทนายผู้เสียหายยันมีหลักฐานเอาผิดทนายคนดังได้แน่นอน อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000103213 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    Angry
    38
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3582 มุมมอง 2 รีวิว