• ⚠️ กลโกง Bitcoin ATM: วิธีใหม่ในการหลอกลวงทางการเงิน
    Bitcoin ATM กำลังกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของมิจฉาชีพ โดยใช้ กลยุทธ์หลอกลวงทางโทรศัพท์ เพื่อให้เหยื่อ ถอนเงินสดและฝากเข้า Bitcoin ATM ซึ่งทำให้เงินหายไปโดยไม่สามารถติดตามได้

    🔍 วิธีการหลอกลวงที่พบในสหรัฐฯ
    ✅ มิจฉาชีพใช้โทรศัพท์หลอกเหยื่อให้ถอนเงินสด
    - เหยื่อได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนจาก Apple หรือธนาคาร
    - ถูกข่มขู่ว่าบัญชีของตนมีธุรกรรมผิดกฎหมาย เช่น การซื้อสื่อลามกอนาจาร
    - มิจฉาชีพอ้างว่าเงินจะถูกยึดหากไม่รีบถอนและฝากเข้า “บัญชีตัวแทน” ผ่าน Bitcoin ATM

    ✅ Bitcoin ATM ถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน
    - เครื่องเหล่านี้ไม่สามารถถอนเงินสดได้ แต่รับเงินสดเพื่อแลกเป็นคริปโตเคอร์เรนซี
    - เงินที่ฝากเข้าไปจะถูกโอนไปยังบัญชีที่ไม่สามารถติดตามได้
    - มีการฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการ Bitcoin ATM ในหลายรัฐ เช่น นิวเจอร์ซีย์และไอโอวา

    ✅ มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - จากปี 2020 ถึง 2023 ความเสียหายจากการหลอกลวงผ่าน Bitcoin ATM เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า
    - ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    🔥 ผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการเงิน
    ‼️ Bitcoin ATM อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินและฉ้อโกง
    - มิจฉาชีพสามารถใช้เครื่องเหล่านี้เพื่อรับเงินจากเหยื่อโดยไม่สามารถติดตามได้

    ‼️ การหลอกลวงทางโทรศัพท์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น
    - การปลอมหมายเลขโทรศัพท์ (spoofing) ทำให้เหยื่อเชื่อว่ากำลังคุยกับบริษัทจริง

    ‼️ กฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin ATM ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ
    - บางรัฐเริ่มพิจารณาห้ามการติดตั้ง Bitcoin ATM เพื่อป้องกันการฉ้อโกง

    🚀 แนวทางป้องกันและอนาคตของ Bitcoin ATM
    ✅ ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรมทางการเงิน
    - หากได้รับโทรศัพท์ที่น่าสงสัย ควรติดต่อธนาคารโดยตรงเพื่อยืนยัน

    ✅ หน่วยงานกำกับดูแลควรเพิ่มมาตรการป้องกันการฉ้อโกง
    - ควรมีระบบตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติและแจ้งเตือนผู้ใช้

    ✅ ต้องติดตามว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายควบคุม Bitcoin ATM หรือไม่
    - บางรัฐกำลังพิจารณาห้ามการติดตั้งเครื่องเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/14/she-got-a-phone-call-to-deposit-her-money-the-terrifying-scam-inside-bitcoin-atms-in-the-us
    ⚠️ กลโกง Bitcoin ATM: วิธีใหม่ในการหลอกลวงทางการเงิน Bitcoin ATM กำลังกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของมิจฉาชีพ โดยใช้ กลยุทธ์หลอกลวงทางโทรศัพท์ เพื่อให้เหยื่อ ถอนเงินสดและฝากเข้า Bitcoin ATM ซึ่งทำให้เงินหายไปโดยไม่สามารถติดตามได้ 🔍 วิธีการหลอกลวงที่พบในสหรัฐฯ ✅ มิจฉาชีพใช้โทรศัพท์หลอกเหยื่อให้ถอนเงินสด - เหยื่อได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนจาก Apple หรือธนาคาร - ถูกข่มขู่ว่าบัญชีของตนมีธุรกรรมผิดกฎหมาย เช่น การซื้อสื่อลามกอนาจาร - มิจฉาชีพอ้างว่าเงินจะถูกยึดหากไม่รีบถอนและฝากเข้า “บัญชีตัวแทน” ผ่าน Bitcoin ATM ✅ Bitcoin ATM ถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน - เครื่องเหล่านี้ไม่สามารถถอนเงินสดได้ แต่รับเงินสดเพื่อแลกเป็นคริปโตเคอร์เรนซี - เงินที่ฝากเข้าไปจะถูกโอนไปยังบัญชีที่ไม่สามารถติดตามได้ - มีการฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการ Bitcoin ATM ในหลายรัฐ เช่น นิวเจอร์ซีย์และไอโอวา ✅ มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - จากปี 2020 ถึง 2023 ความเสียหายจากการหลอกลวงผ่าน Bitcoin ATM เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า - ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 🔥 ผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการเงิน ‼️ Bitcoin ATM อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินและฉ้อโกง - มิจฉาชีพสามารถใช้เครื่องเหล่านี้เพื่อรับเงินจากเหยื่อโดยไม่สามารถติดตามได้ ‼️ การหลอกลวงทางโทรศัพท์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น - การปลอมหมายเลขโทรศัพท์ (spoofing) ทำให้เหยื่อเชื่อว่ากำลังคุยกับบริษัทจริง ‼️ กฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin ATM ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ - บางรัฐเริ่มพิจารณาห้ามการติดตั้ง Bitcoin ATM เพื่อป้องกันการฉ้อโกง 🚀 แนวทางป้องกันและอนาคตของ Bitcoin ATM ✅ ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรมทางการเงิน - หากได้รับโทรศัพท์ที่น่าสงสัย ควรติดต่อธนาคารโดยตรงเพื่อยืนยัน ✅ หน่วยงานกำกับดูแลควรเพิ่มมาตรการป้องกันการฉ้อโกง - ควรมีระบบตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติและแจ้งเตือนผู้ใช้ ✅ ต้องติดตามว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายควบคุม Bitcoin ATM หรือไม่ - บางรัฐกำลังพิจารณาห้ามการติดตั้งเครื่องเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/14/she-got-a-phone-call-to-deposit-her-money-the-terrifying-scam-inside-bitcoin-atms-in-the-us
    WWW.THESTAR.COM.MY
    She got a phone call to deposit her money. The terrifying scam inside bitcoin ATMs in the US
    Bitcoin ATMs – generally found at convenience stores, gas stations and other high-traffic areas – have increasingly become the latest tool to separate people from their money.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความหายนะของประเทศได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว​เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนัก โดยตอนนี้ได้ก่อให้เกิดอาการช็อคขึ้นมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำเหลือเติบโตได้แค่ 2.5 % ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ คือตั้งแต่ปีนี้ไปจนปี 2027 ซึ่งโลกจะเจอกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดใน 65 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960​ที่กล่าวข้างต้นนี้ไม่ใช่เป็นข่าวโซเชียลธรรมดา แต่เป็นรายงานของธนาคารโลกที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025 นี้ โดยรองประธานอาวุโสและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ (Senior Vice President and Chief Economist) ของธนาคารโลก ชื่อว่า Indermit Gill รายงานฉบับนี้ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับต่ำสุดๆเช่นนี้เป็นผลมาจากสงครามภาษี และความเสี่ยงที่สูงของเศรษฐกิจโลกนั่นเอง​ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจในครั้งนี้ ตามรายงานบอกไว้ชัดว่าประเทศที่ยากจนมากจะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดแน่ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย (เช่นไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น) จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายสุดๆ​แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศที่ช่วงเดือนเมษายนนี้ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 1.6 % และปี 2026 จะขยายตัวได้เพียง 1.8 % ประเทศที่ถูกเพื่อนต่างชาติมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักสุดในเอเชีย ประเทศที่ทางด้านเศรษฐกิจทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมการเมืองก็สุดจะเลวร้ายซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ทำการเมืองแบบแย่งชิงทั้งอำนาจและเงินตราอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีสำนึกและยางอายให้ประชาชนเห็น จะดูมิติไหนก็ไม่มีดีสักอย่าง ซ้ำร้ายกว่านั้น ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่มีนายกรัฐมนตรีกำลังฝึกงานอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ได้ส่งผลให้ภาวะด้านสังคมที่เละเทะอยู่แล้วในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้คนทุกประเภท การทุจริตการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก การเผยแพร่ที่ไม่หยุดยั้งของยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนันและหวยออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชนระดับล่างทั้งประเทศ การประกอบธุรกิจสีเทาทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องเลวร้ายของไทยเหล่านี้ได้ขยายตัวออกไปทั่วประเทศจนยากที่จะแก้ไขให้กลับสู่สังคมที่น่าอยู่ของคนไทยในอดีตได้อีกแล้ว​ภาพที่น่ากลัว น่าเป็นห่วงของการคาดการณ์ของเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ Chief Economist ของธนาคารโลก ต้องการชี้ให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้แน่ๆในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอะไรบ้าง และจะกระทบต่อประเทศไหนรุนแรงแค่ไหน​รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ให้ประเทศต่างๆ ถึง 3 ประการ ประการแรก ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับความสัมพันธ์ทางการค้าเสียใหม่ (rebuild trade relation) โดยให้คำนึงถึงรากฐานทางการค้าที่แท้จริงที่ต้องมีต่อกัน เป็นต้นประการที่สอง ทุกประเทศต้องพยายามรักษาและปรับปรุงกฎเกณฑ์ของการคลังภาครัฐ (reform fiscal order) โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ต่ำที่ถูกกดดันบีบคั้น ทั้งจากงบประมาณที่มีน้อยและการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ลดลง รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินไปในเรื่องค่าดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะที่สูงจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในเรื่องการลงทุนที่จำเป็น หรือการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งรายงานได้แนะนำไว้ชัดว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นต้องหันมาสนใจเรื่องการขยายฐานภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรายได้จากภาษีอย่างจริงจังให้มากขึ้นประการที่สาม เร่งรัดการมีงานทำ (accelerate job creation) ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลของประเทศที่ยากจนจำต้องทำอย่างจริงจัง รวมถึงการยกระดับความรู้และความสามารถให้ผู้ใช้แรงงาน และการดูแลตลาดแรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผมเห็นว่าสมควรที่คนไทยต้องรับรู้ไว้เพราะเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประจำ ควรพิจารณาตนเองให้หนักและควรพลิกผันความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ทำการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติด้วยใจ เพื่อเชิดชูประเทศชาติ สถาบันของชาติ และพลเมืองของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดที่สวยงามลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
    ความหายนะของประเทศได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว​เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนัก โดยตอนนี้ได้ก่อให้เกิดอาการช็อคขึ้นมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำเหลือเติบโตได้แค่ 2.5 % ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ คือตั้งแต่ปีนี้ไปจนปี 2027 ซึ่งโลกจะเจอกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดใน 65 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960​ที่กล่าวข้างต้นนี้ไม่ใช่เป็นข่าวโซเชียลธรรมดา แต่เป็นรายงานของธนาคารโลกที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025 นี้ โดยรองประธานอาวุโสและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ (Senior Vice President and Chief Economist) ของธนาคารโลก ชื่อว่า Indermit Gill รายงานฉบับนี้ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับต่ำสุดๆเช่นนี้เป็นผลมาจากสงครามภาษี และความเสี่ยงที่สูงของเศรษฐกิจโลกนั่นเอง​ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจในครั้งนี้ ตามรายงานบอกไว้ชัดว่าประเทศที่ยากจนมากจะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดแน่ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย (เช่นไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น) จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายสุดๆ​แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศที่ช่วงเดือนเมษายนนี้ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 1.6 % และปี 2026 จะขยายตัวได้เพียง 1.8 % ประเทศที่ถูกเพื่อนต่างชาติมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักสุดในเอเชีย ประเทศที่ทางด้านเศรษฐกิจทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมการเมืองก็สุดจะเลวร้ายซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ทำการเมืองแบบแย่งชิงทั้งอำนาจและเงินตราอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีสำนึกและยางอายให้ประชาชนเห็น จะดูมิติไหนก็ไม่มีดีสักอย่าง ซ้ำร้ายกว่านั้น ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่มีนายกรัฐมนตรีกำลังฝึกงานอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ได้ส่งผลให้ภาวะด้านสังคมที่เละเทะอยู่แล้วในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้คนทุกประเภท การทุจริตการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก การเผยแพร่ที่ไม่หยุดยั้งของยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนันและหวยออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชนระดับล่างทั้งประเทศ การประกอบธุรกิจสีเทาทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องเลวร้ายของไทยเหล่านี้ได้ขยายตัวออกไปทั่วประเทศจนยากที่จะแก้ไขให้กลับสู่สังคมที่น่าอยู่ของคนไทยในอดีตได้อีกแล้ว​ภาพที่น่ากลัว น่าเป็นห่วงของการคาดการณ์ของเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ Chief Economist ของธนาคารโลก ต้องการชี้ให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้แน่ๆในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอะไรบ้าง และจะกระทบต่อประเทศไหนรุนแรงแค่ไหน​รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ให้ประเทศต่างๆ ถึง 3 ประการ ประการแรก ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับความสัมพันธ์ทางการค้าเสียใหม่ (rebuild trade relation) โดยให้คำนึงถึงรากฐานทางการค้าที่แท้จริงที่ต้องมีต่อกัน เป็นต้นประการที่สอง ทุกประเทศต้องพยายามรักษาและปรับปรุงกฎเกณฑ์ของการคลังภาครัฐ (reform fiscal order) โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ต่ำที่ถูกกดดันบีบคั้น ทั้งจากงบประมาณที่มีน้อยและการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ลดลง รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินไปในเรื่องค่าดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะที่สูงจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในเรื่องการลงทุนที่จำเป็น หรือการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งรายงานได้แนะนำไว้ชัดว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นต้องหันมาสนใจเรื่องการขยายฐานภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรายได้จากภาษีอย่างจริงจังให้มากขึ้นประการที่สาม เร่งรัดการมีงานทำ (accelerate job creation) ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลของประเทศที่ยากจนจำต้องทำอย่างจริงจัง รวมถึงการยกระดับความรู้และความสามารถให้ผู้ใช้แรงงาน และการดูแลตลาดแรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผมเห็นว่าสมควรที่คนไทยต้องรับรู้ไว้เพราะเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประจำ ควรพิจารณาตนเองให้หนักและควรพลิกผันความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ทำการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติด้วยใจ เพื่อเชิดชูประเทศชาติ สถาบันของชาติ และพลเมืองของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดที่สวยงามลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📧 Vendor Email Compromise (VEC): ภัยเงียบที่สร้างความเสียหายกว่า $300 ล้าน
    Vendor Email Compromise (VEC) เป็น รูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถ หลอกลวงพนักงานให้ตอบกลับหรือส่งข้อมูลสำคัญ โดยไม่ต้องใช้ลิงก์หรือไฟล์แนบ

    รายงานจาก Abnormal AI พบว่า 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC โดย ตอบกลับหรือส่งต่ออีเมลที่ไม่มีลิงก์หรือไฟล์แนบ ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงข้อมูลสำคัญและดำเนินการฉ้อโกงทางการเงิน

    VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า Business Email Compromise (BEC) ถึง 90% และสร้างความเสียหายทางการเงินรวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - VEC ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถหลอกลวงพนักงานได้ง่ายขึ้น
    - 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC
    - VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า BEC ถึง 90%
    - ความเสียหายทางการเงินจาก VEC รวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
    - ภูมิภาค EMEA (ยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา) มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุด แต่มีอัตราการรายงานต่ำสุดเพียง 0.27%

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - พนักงานในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีความเสี่ยงสูงสุด โดยมีอัตราการมีส่วนร่วมถึง 71.3%
    - VEC สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของระบบ Multi-Factor Authentication (MFA) และตัวกรองอีเมลแบบเดิม
    - 98.5% ของ VEC scams ไม่ได้รับการรายงาน และมักถูกค้นพบหลังจากเกิดความเสียหายทางการเงินแล้ว
    - องค์กรต้องปรับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย โดยเน้นการตรวจจับพฤติกรรมทางจิตวิทยาแทนการตรวจสอบข้อมูลรับรอง

    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ องค์กรใช้ AI-powered email analytics เพื่อตรวจจับความผิดปกติในอีเมล รวมถึง เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้ขาย และฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักการโจมตีแบบ social engineering

    https://www.csoonline.com/article/4001733/vendor-email-compromise-the-silent-300m-threat-cisos-cant-ignore.html
    📧 Vendor Email Compromise (VEC): ภัยเงียบที่สร้างความเสียหายกว่า $300 ล้าน Vendor Email Compromise (VEC) เป็น รูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถ หลอกลวงพนักงานให้ตอบกลับหรือส่งข้อมูลสำคัญ โดยไม่ต้องใช้ลิงก์หรือไฟล์แนบ รายงานจาก Abnormal AI พบว่า 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC โดย ตอบกลับหรือส่งต่ออีเมลที่ไม่มีลิงก์หรือไฟล์แนบ ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงข้อมูลสำคัญและดำเนินการฉ้อโกงทางการเงิน VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า Business Email Compromise (BEC) ถึง 90% และสร้างความเสียหายทางการเงินรวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ✅ ข้อมูลจากข่าว - VEC ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถหลอกลวงพนักงานได้ง่ายขึ้น - 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC - VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า BEC ถึง 90% - ความเสียหายทางการเงินจาก VEC รวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา - ภูมิภาค EMEA (ยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา) มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุด แต่มีอัตราการรายงานต่ำสุดเพียง 0.27% ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - พนักงานในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีความเสี่ยงสูงสุด โดยมีอัตราการมีส่วนร่วมถึง 71.3% - VEC สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของระบบ Multi-Factor Authentication (MFA) และตัวกรองอีเมลแบบเดิม - 98.5% ของ VEC scams ไม่ได้รับการรายงาน และมักถูกค้นพบหลังจากเกิดความเสียหายทางการเงินแล้ว - องค์กรต้องปรับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย โดยเน้นการตรวจจับพฤติกรรมทางจิตวิทยาแทนการตรวจสอบข้อมูลรับรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ องค์กรใช้ AI-powered email analytics เพื่อตรวจจับความผิดปกติในอีเมล รวมถึง เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้ขาย และฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักการโจมตีแบบ social engineering https://www.csoonline.com/article/4001733/vendor-email-compromise-the-silent-300m-threat-cisos-cant-ignore.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Vendor email compromise: The silent $300M threat CISOs can’t ignore
    AI-crafted VEC scams are bypassing MFA, legacy filters, and employee awareness, demanding a fundamental shift in enterprise email defense strategy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานวิ่งเพื่อสุขภาพ เม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท รายได้งามถ้าจับถูกจุด
    .
    งานวิ่ง "Run For Destination 2025" กลายเป็นงานวิ่งทิพย์สุดฉาวในประวัติศาสตร์ ผู้จัดทิ้งนักวิ่งกลางทาง เสี่ยงคดีฉ้อโกง ด่างภาพวงการกีฬาไทย สะเทือนธุรกิจจัดงานวิ่งมูลค่าหลายพันล้านบาทที่กำลังบูม หวั่นกระทบความเชื่อมั่น-ฉุดไทยไกลเป้าหมายสู่เวทีกีฬาโลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052125

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    งานวิ่งเพื่อสุขภาพ เม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท รายได้งามถ้าจับถูกจุด . งานวิ่ง "Run For Destination 2025" กลายเป็นงานวิ่งทิพย์สุดฉาวในประวัติศาสตร์ ผู้จัดทิ้งนักวิ่งกลางทาง เสี่ยงคดีฉ้อโกง ด่างภาพวงการกีฬาไทย สะเทือนธุรกิจจัดงานวิ่งมูลค่าหลายพันล้านบาทที่กำลังบูม หวั่นกระทบความเชื่อมั่น-ฉุดไทยไกลเป้าหมายสู่เวทีกีฬาโลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052125 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • มุสลิมอินโดฯ ช็อก! ร้านไก่ทอดดังเพิ่งเผยเมนูไม่ฮาลาล

    ร้านไก่ทอดชื่อดังในอินโดนีเซีย กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลฯ ในประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากกว่า 80% เมื่อร้านไก่ทอดชื่อดัง อะยัม โกเรง วิดูรัน (AYAM GORENG WIDURAN) ในเมืองซูราการ์ตา (โซโล) จังหวัดชวาเตงกะห์ กำลังถูกชาวมุสลิมแสดงความไม่พอใจ หลังบัญชีผู้ใช้เธรด (Thread) ที่ชื่อ @pedalranger สงสัยว่าเกล็ดกรุบกรอบ หรือเกรอเมอร์ส (Kremes) ที่โรยบนไก่ทอด ทอดด้วยไขมันหมู ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามปรุงอาหาร ทั้งที่นับตั้งแต่เปิดกิจการในปี 2516 หรือกว่า 50 ปีก่อน ไม่เคยบอกให้สาธารณชนรับรู้ ภายหลังทางร้านจึงใช้วิธีติดป้ายว่า "KREMES NON HALAL" แทน

    เรื่องนี้ทำให้ผู้บริโภคที่เป็นชาวมุสลิมรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก เพราะร้านอาหารไม่เคยแจ้งให้ทราบว่าเมนูภายในร้านไม่ใช่ฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตบางคนไปขุดภาพร้านใน Google Street View แล้วพบว่าเคยขึ้นเครื่องหมายฮาลาลบนป้ายแบนเนอร์ในอดีตอีกด้วย ร้อนถึงฝ่ายบริหารของร้านออกมาขอโทษผ่านอินสตาแกรม @ayamgorengwiduransolo เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 พ.ค.) ว่า ได้แจ้งข้อมูลที่ไม่ใช่ฮาลาลอย่างชัดเจนในร้านค้าและโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของร้านทุกแห่ง หวังว่าสาธารณชนจะให้พื้นที่แก่ทางร้านในการแก้ไขและปรับปรุงทุกอย่างด้วยความตั้งใจ ขณะที่พนักงานร้านยืนยันว่าเมนูที่มีปัญหามีเพียงไก่ทอดเกรอเมอร์สเท่านั้น เมนูอื่นใช้น้ำมันพืชปกติ

    ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองโซโล เรสปาตี อาร์ดี สั่งปิดร้านอาหารชั่วคราว ยอมรับว่าผิดหวังที่ร้านอาหารในตำนานแห่งนี้ไม่ได้ติดป้าย NON HALAL มานาน ทั้งที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมจำนวนมากซื้อไก่ทอดที่ร้านแห่งนี้ และย้ำว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนแกนนำกลุ่มด้านสิทธิผู้บริโภคอินโดนีเซีย Forum Konsumen Berdaya Indonesia (FKBI) ตูลุส อาบาดี ระบุว่า คำขอโทษดังกล่าวไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่ทางร้านทำมานานเป็นสิบปี เป็นการกระทำโดยจงใจ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย อีกทั้งทางร้านละเมิดกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายอาหาร และกฎหมายการรับประกันผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งจัดอยู่ในประเภทการฉ้อโกง โดยเรียกร้องให้ดำเนินคดีและลงโทษทางปกครอง

    สำหรับเกรอเมอร์ส ภาษาอินโดนีเซีย ตรงกับคำว่า Crunch (ครันช์) เป็นเกล็ดที่ใช้โรยบนไก่ทอด ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ผสมแป้งข้าวเจ้า ไข่แดง และซอสที่ใช้หมักไก่ทอดแบบอินโดนีเซีย เติมผงฟูลงไปเล็กน้อย แล้วค่อยใช้มือวักส่วนผสมโรยลงบนน้ำมันให้กลายเป็นเกล็ด ก่อนซับน้ำมันแล้วนำไปโรยหน้าบนจานไก่ทอด ข้าว และแตงกวาหั่น

    #Newskit
    มุสลิมอินโดฯ ช็อก! ร้านไก่ทอดดังเพิ่งเผยเมนูไม่ฮาลาล ร้านไก่ทอดชื่อดังในอินโดนีเซีย กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลฯ ในประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากกว่า 80% เมื่อร้านไก่ทอดชื่อดัง อะยัม โกเรง วิดูรัน (AYAM GORENG WIDURAN) ในเมืองซูราการ์ตา (โซโล) จังหวัดชวาเตงกะห์ กำลังถูกชาวมุสลิมแสดงความไม่พอใจ หลังบัญชีผู้ใช้เธรด (Thread) ที่ชื่อ @pedalranger สงสัยว่าเกล็ดกรุบกรอบ หรือเกรอเมอร์ส (Kremes) ที่โรยบนไก่ทอด ทอดด้วยไขมันหมู ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามปรุงอาหาร ทั้งที่นับตั้งแต่เปิดกิจการในปี 2516 หรือกว่า 50 ปีก่อน ไม่เคยบอกให้สาธารณชนรับรู้ ภายหลังทางร้านจึงใช้วิธีติดป้ายว่า "KREMES NON HALAL" แทน เรื่องนี้ทำให้ผู้บริโภคที่เป็นชาวมุสลิมรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก เพราะร้านอาหารไม่เคยแจ้งให้ทราบว่าเมนูภายในร้านไม่ใช่ฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตบางคนไปขุดภาพร้านใน Google Street View แล้วพบว่าเคยขึ้นเครื่องหมายฮาลาลบนป้ายแบนเนอร์ในอดีตอีกด้วย ร้อนถึงฝ่ายบริหารของร้านออกมาขอโทษผ่านอินสตาแกรม @ayamgorengwiduransolo เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 พ.ค.) ว่า ได้แจ้งข้อมูลที่ไม่ใช่ฮาลาลอย่างชัดเจนในร้านค้าและโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของร้านทุกแห่ง หวังว่าสาธารณชนจะให้พื้นที่แก่ทางร้านในการแก้ไขและปรับปรุงทุกอย่างด้วยความตั้งใจ ขณะที่พนักงานร้านยืนยันว่าเมนูที่มีปัญหามีเพียงไก่ทอดเกรอเมอร์สเท่านั้น เมนูอื่นใช้น้ำมันพืชปกติ ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองโซโล เรสปาตี อาร์ดี สั่งปิดร้านอาหารชั่วคราว ยอมรับว่าผิดหวังที่ร้านอาหารในตำนานแห่งนี้ไม่ได้ติดป้าย NON HALAL มานาน ทั้งที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมจำนวนมากซื้อไก่ทอดที่ร้านแห่งนี้ และย้ำว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนแกนนำกลุ่มด้านสิทธิผู้บริโภคอินโดนีเซีย Forum Konsumen Berdaya Indonesia (FKBI) ตูลุส อาบาดี ระบุว่า คำขอโทษดังกล่าวไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่ทางร้านทำมานานเป็นสิบปี เป็นการกระทำโดยจงใจ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย อีกทั้งทางร้านละเมิดกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายอาหาร และกฎหมายการรับประกันผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งจัดอยู่ในประเภทการฉ้อโกง โดยเรียกร้องให้ดำเนินคดีและลงโทษทางปกครอง สำหรับเกรอเมอร์ส ภาษาอินโดนีเซีย ตรงกับคำว่า Crunch (ครันช์) เป็นเกล็ดที่ใช้โรยบนไก่ทอด ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ผสมแป้งข้าวเจ้า ไข่แดง และซอสที่ใช้หมักไก่ทอดแบบอินโดนีเซีย เติมผงฟูลงไปเล็กน้อย แล้วค่อยใช้มือวักส่วนผสมโรยลงบนน้ำมันให้กลายเป็นเกล็ด ก่อนซับน้ำมันแล้วนำไปโรยหน้าบนจานไก่ทอด ข้าว และแตงกวาหั่น #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวัง! มิจฉาชีพใช้ Booking.com หลอกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต

    นักท่องเที่ยวที่ใช้ Booking.com อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกงใหม่ที่ใช้ ระบบแชทของแพลตฟอร์ม เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพ แฮ็กบัญชีของโรงแรมและที่พัก แล้วส่งข้อความแจ้งว่า การจองยังไม่สมบูรณ์และต้องยืนยันการชำระเงิน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกง Booking.com
    ✅ มิจฉาชีพใช้บัญชีของโรงแรมจริงเพื่อส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบแชทของ Booking.com
    - ทำให้ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นข้อความจากที่พักจริง

    ✅ ข้อความแจ้งว่า "การจองยังไม่สมบูรณ์" และต้องยืนยันการชำระเงิน
    - หากผู้ใช้กดลิงก์ จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Booking.com

    ✅ เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกขโมยทันที
    - มิจฉาชีพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ซื้อสินค้าออนไลน์หรือถอนเงินจากบัญชี

    ✅ Booking.com แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินในหน้ารายละเอียดที่พัก
    - หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อโรงแรมโดยตรงทางโทรศัพท์

    ✅ นอกจากกลโกงการยืนยันการจอง ยังมีมิจฉาชีพที่สร้างรายการที่พักปลอม
    - เสนอราคาถูกผิดปกติ และขอให้ผู้ใช้โอนเงินผ่าน WhatsApp หรืออีเมล

    ✅ Booking.com ใช้มาตรการตรวจจับการฉ้อโกงและบล็อกการจองปลอมกว่า 1.5 ล้านครั้งในปี 2023
    - ในปี 2024 จำนวนการฉ้อโกงลดลงเหลือ 250,000 ครั้ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/26/bookingcom-scams-watch-for-these-fake-emails-targeting-users
    ระวัง! มิจฉาชีพใช้ Booking.com หลอกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต นักท่องเที่ยวที่ใช้ Booking.com อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกงใหม่ที่ใช้ ระบบแชทของแพลตฟอร์ม เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพ แฮ็กบัญชีของโรงแรมและที่พัก แล้วส่งข้อความแจ้งว่า การจองยังไม่สมบูรณ์และต้องยืนยันการชำระเงิน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกง Booking.com ✅ มิจฉาชีพใช้บัญชีของโรงแรมจริงเพื่อส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบแชทของ Booking.com - ทำให้ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นข้อความจากที่พักจริง ✅ ข้อความแจ้งว่า "การจองยังไม่สมบูรณ์" และต้องยืนยันการชำระเงิน - หากผู้ใช้กดลิงก์ จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Booking.com ✅ เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกขโมยทันที - มิจฉาชีพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ซื้อสินค้าออนไลน์หรือถอนเงินจากบัญชี ✅ Booking.com แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินในหน้ารายละเอียดที่พัก - หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อโรงแรมโดยตรงทางโทรศัพท์ ✅ นอกจากกลโกงการยืนยันการจอง ยังมีมิจฉาชีพที่สร้างรายการที่พักปลอม - เสนอราคาถูกผิดปกติ และขอให้ผู้ใช้โอนเงินผ่าน WhatsApp หรืออีเมล ✅ Booking.com ใช้มาตรการตรวจจับการฉ้อโกงและบล็อกการจองปลอมกว่า 1.5 ล้านครั้งในปี 2023 - ในปี 2024 จำนวนการฉ้อโกงลดลงเหลือ 250,000 ครั้ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/26/bookingcom-scams-watch-for-these-fake-emails-targeting-users
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Booking.com scams: Watch for these fake emails targeting users
    What's particularly perfidious is that, according to consumer protection website Watchlist Internet, contact is often made not via email or text message, but using the chat feature on Booking.com – the official communication channel between accommodation and guest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุบ ยับ ย่อ ย่น....ธรรมชาติของโลหะ ที่ว่า ปลอมไม่ได้...คำพูดแบบ หางอึ่ง...คนทำปลอมเขาเล่าให้ฟังว่า ...มันก็คือ เนื้อพรุน....ที่คนเล่นพระสวย ด้อยค่า...วิธีการง่ายๆ คือเอา กรด..กัด...จะด้วยวิธีใข้ไฟฟ้า (แบบเดียวกับชุบทอง..แต่ไม่ใส่เคมีตัวสีเงินสีทอง...เร่งไฟแก่หน่อย...ก็พรุนแล้ว) อีกวิธีง่ายๆ คือ วิกซอล...น้ำยาล้างห้องน้ำ..แช่เลย..เอายับน่อน่นแค่ไหน...ก็เลือกดูเวลาเอา....คือ ถ้าแช่นาน...แบบข้ามคืน สามารถกัดกร่อนโลหะ จนแหว่งได้เลย....ธรรมชาติอื่นก็ทำเอา.....ใครบอกทำไม่ได้ เลอะเทอะ....
    _..คนแห่ไปกันมาก...อยากบอกว่า...แท้ไม่แท้....ไม่ใช่ประเด็น....ประเด็นคือว่า ...ถ้าซื้อมา.....เวลาเดือดร้อน...จะใช้เงิน #จะขายใคร# ....พวกเซียนเขาไม่เอาด้วยกับ "นิทาน" คุณหรอก.....
    ...อีกแง่นึง...ในแง่การชี้ชัดเก๊แท้....ในทางกฏหมาย....ที่ใช้ว่าในทางกฏหมาย เพราะระดับขาวบ้าน เถียงไปมา หาจุดจบไม่ได้...มาดูในทางกฏหมาย..ถ้าเป็นคดีหลอกขาย ฉ้อโกง...เขาจะทำหนังสือไปยังสมาคม...เพื่อส่งผู้เขี่ยวชาญมาชี้ขาด....พระรุ่นนั้นๆ....แบ้วถ้าคุณไม่เล่นตาม..องค์ความรู้ของสมาคม....ผลเป็นแบบใด...ก็คงพอเดาได้....
    ____
    แยกเรื่องเกํแท้...จริงๆ ออกไปก่อน....ซึ่งไม่มีใครรู้หรอก...เอาแค่ว่า ถ้าเป็นแบบที่เขาเล่นกันเป็นมาตรฐาน...มันมีมูลค่า....
    ยุบ ยับ ย่อ ย่น....ธรรมชาติของโลหะ ที่ว่า ปลอมไม่ได้...คำพูดแบบ หางอึ่ง...คนทำปลอมเขาเล่าให้ฟังว่า ...มันก็คือ เนื้อพรุน....ที่คนเล่นพระสวย ด้อยค่า...วิธีการง่ายๆ คือเอา กรด..กัด...จะด้วยวิธีใข้ไฟฟ้า (แบบเดียวกับชุบทอง..แต่ไม่ใส่เคมีตัวสีเงินสีทอง...เร่งไฟแก่หน่อย...ก็พรุนแล้ว) อีกวิธีง่ายๆ คือ วิกซอล...น้ำยาล้างห้องน้ำ..แช่เลย..เอายับน่อน่นแค่ไหน...ก็เลือกดูเวลาเอา....คือ ถ้าแช่นาน...แบบข้ามคืน สามารถกัดกร่อนโลหะ จนแหว่งได้เลย....ธรรมชาติอื่นก็ทำเอา.....ใครบอกทำไม่ได้ เลอะเทอะ.... _..คนแห่ไปกันมาก...อยากบอกว่า...แท้ไม่แท้....ไม่ใช่ประเด็น....ประเด็นคือว่า ...ถ้าซื้อมา.....เวลาเดือดร้อน...จะใช้เงิน #จะขายใคร# ....พวกเซียนเขาไม่เอาด้วยกับ "นิทาน" คุณหรอก..... ...อีกแง่นึง...ในแง่การชี้ชัดเก๊แท้....ในทางกฏหมาย....ที่ใช้ว่าในทางกฏหมาย เพราะระดับขาวบ้าน เถียงไปมา หาจุดจบไม่ได้...มาดูในทางกฏหมาย..ถ้าเป็นคดีหลอกขาย ฉ้อโกง...เขาจะทำหนังสือไปยังสมาคม...เพื่อส่งผู้เขี่ยวชาญมาชี้ขาด....พระรุ่นนั้นๆ....แบ้วถ้าคุณไม่เล่นตาม..องค์ความรู้ของสมาคม....ผลเป็นแบบใด...ก็คงพอเดาได้.... ____ แยกเรื่องเกํแท้...จริงๆ ออกไปก่อน....ซึ่งไม่มีใครรู้หรอก...เอาแค่ว่า ถ้าเป็นแบบที่เขาเล่นกันเป็นมาตรฐาน...มันมีมูลค่า....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวียดนามสั่งบล็อก Telegram อ้างเหตุไม่ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม

    รัฐบาลเวียดนาม ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมบล็อกแอปพลิเคชัน Telegram โดยให้เหตุผลว่า แพลตฟอร์มนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอาชญากรรมที่เกิดขึ้นผ่านแอป ซึ่ง Telegram แสดงความประหลาดใจต่อคำสั่งดังกล่าว

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการบล็อก Telegram ในเวียดนาม
    ✅ กระทรวงเทคโนโลยีของเวียดนามออกคำสั่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025
    - ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต้องดำเนินมาตรการบล็อก Telegram และรายงานผลภายในวันที่ 2 มิถุนายน

    ✅ ตำรวจเวียดนามรายงานว่า 68% ของ 9,600 ช่องและกลุ่มบน Telegram มีเนื้อหาผิดกฎหมาย
    - รวมถึง การฉ้อโกง, ค้ายาเสพติด และกิจกรรมที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย

    ✅ รัฐบาลเวียดนามยืนยันคำสั่งบล็อก Telegram ผ่านเว็บไซต์ทางการ
    - ระบุว่า Telegram ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องตรวจสอบและลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย

    ✅ Telegram แสดงความประหลาดใจและยืนยันว่าได้ตอบสนองต่อคำร้องขอทางกฎหมายของเวียดนาม
    - บริษัทได้รับ หนังสือแจ้งจากหน่วยงานสื่อสารของเวียดนาม และกำลังดำเนินการตอบกลับภายในวันที่ 27 พฤษภาคม

    ✅ เวียดนามเคยขอให้แพลตฟอร์มอื่น เช่น Facebook, YouTube และ TikTok ลบเนื้อหาที่รัฐบาลมองว่าเป็น "ข้อมูลที่เป็นพิษ"
    - รวมถึง เนื้อหาที่มีลักษณะต่อต้านรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/vietnam-acts-to-block-messaging-app-telegram--government-document-seen-by-reuters-shows
    เวียดนามสั่งบล็อก Telegram อ้างเหตุไม่ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม รัฐบาลเวียดนาม ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมบล็อกแอปพลิเคชัน Telegram โดยให้เหตุผลว่า แพลตฟอร์มนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอาชญากรรมที่เกิดขึ้นผ่านแอป ซึ่ง Telegram แสดงความประหลาดใจต่อคำสั่งดังกล่าว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการบล็อก Telegram ในเวียดนาม ✅ กระทรวงเทคโนโลยีของเวียดนามออกคำสั่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025 - ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต้องดำเนินมาตรการบล็อก Telegram และรายงานผลภายในวันที่ 2 มิถุนายน ✅ ตำรวจเวียดนามรายงานว่า 68% ของ 9,600 ช่องและกลุ่มบน Telegram มีเนื้อหาผิดกฎหมาย - รวมถึง การฉ้อโกง, ค้ายาเสพติด และกิจกรรมที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ✅ รัฐบาลเวียดนามยืนยันคำสั่งบล็อก Telegram ผ่านเว็บไซต์ทางการ - ระบุว่า Telegram ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องตรวจสอบและลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ✅ Telegram แสดงความประหลาดใจและยืนยันว่าได้ตอบสนองต่อคำร้องขอทางกฎหมายของเวียดนาม - บริษัทได้รับ หนังสือแจ้งจากหน่วยงานสื่อสารของเวียดนาม และกำลังดำเนินการตอบกลับภายในวันที่ 27 พฤษภาคม ✅ เวียดนามเคยขอให้แพลตฟอร์มอื่น เช่น Facebook, YouTube และ TikTok ลบเนื้อหาที่รัฐบาลมองว่าเป็น "ข้อมูลที่เป็นพิษ" - รวมถึง เนื้อหาที่มีลักษณะต่อต้านรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/vietnam-acts-to-block-messaging-app-telegram--government-document-seen-by-reuters-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Telegram 'surprised' as Vietnam orders messaging app to be blocked
    HANOI (Reuters) -Vietnam's technology ministry has ordered telecommunication service providers to block the messaging app Telegram for not cooperating in combating alleged crimes committed by its users, in a move that Telegram said was surprising.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์

    กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ

    มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ

    อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน

    กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี

    งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง

    #Newskit
    งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์ กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1232 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยพบวิธีเจาะระบบ AI Chatbots ให้ช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรม

    นักวิจัยจาก Ben Gurion University ค้นพบ "Universal Jailbreak" ซึ่งสามารถ หลอก AI Chatbots ให้ละเมิดข้อจำกัดด้านจริยธรรมและกฎหมาย โดยใช้ เทคนิคการตั้งคำถามแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแฮ็ก, การผลิตยาเสพติด, การฉ้อโกง และอื่น ๆ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Universal Jailbreak
    ✅ นักวิจัยสามารถหลอก AI Chatbots ให้ให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย
    - รวมถึง วิธีแฮ็ก Wi-Fi, การผลิตยาเสพติด และการฉ้อโกงทางการเงิน

    ✅ เทคนิคที่ใช้คือการตั้งคำถามในรูปแบบสมมติ เช่น "ฉันกำลังเขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับแฮ็กเกอร์..."
    - ทำให้ AI ตอบคำถามโดยไม่ตรวจจับว่าเป็นคำขอที่ผิดกฎหมาย

    ✅ AI Chatbots เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude ต่างได้รับผลกระทบจากเทคนิคนี้
    - แสดงให้เห็นว่า ข้อจำกัดด้านจริยธรรมของ AI ยังมีช่องโหว่

    ✅ นักวิจัยแจ้งบริษัท AI เกี่ยวกับช่องโหว่นี้ แต่บางบริษัทไม่ตอบสนอง
    - บางบริษัท มองว่าไม่ใช่ข้อบกพร่องทางเทคนิคที่สามารถแก้ไขได้ง่าย

    ✅ มี AI บางตัวที่ถูกออกแบบมาให้ไม่มีข้อจำกัดด้านจริยธรรมโดยเจตนา
    - เรียกว่า "Dark LLMs" ซึ่งช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรมโดยตรง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/people-are-tricking-ai-chatbots-into-helping-commit-crimes
    นักวิจัยพบวิธีเจาะระบบ AI Chatbots ให้ช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรม นักวิจัยจาก Ben Gurion University ค้นพบ "Universal Jailbreak" ซึ่งสามารถ หลอก AI Chatbots ให้ละเมิดข้อจำกัดด้านจริยธรรมและกฎหมาย โดยใช้ เทคนิคการตั้งคำถามแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแฮ็ก, การผลิตยาเสพติด, การฉ้อโกง และอื่น ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Universal Jailbreak ✅ นักวิจัยสามารถหลอก AI Chatbots ให้ให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย - รวมถึง วิธีแฮ็ก Wi-Fi, การผลิตยาเสพติด และการฉ้อโกงทางการเงิน ✅ เทคนิคที่ใช้คือการตั้งคำถามในรูปแบบสมมติ เช่น "ฉันกำลังเขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับแฮ็กเกอร์..." - ทำให้ AI ตอบคำถามโดยไม่ตรวจจับว่าเป็นคำขอที่ผิดกฎหมาย ✅ AI Chatbots เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude ต่างได้รับผลกระทบจากเทคนิคนี้ - แสดงให้เห็นว่า ข้อจำกัดด้านจริยธรรมของ AI ยังมีช่องโหว่ ✅ นักวิจัยแจ้งบริษัท AI เกี่ยวกับช่องโหว่นี้ แต่บางบริษัทไม่ตอบสนอง - บางบริษัท มองว่าไม่ใช่ข้อบกพร่องทางเทคนิคที่สามารถแก้ไขได้ง่าย ✅ มี AI บางตัวที่ถูกออกแบบมาให้ไม่มีข้อจำกัดด้านจริยธรรมโดยเจตนา - เรียกว่า "Dark LLMs" ซึ่งช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรมโดยตรง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/people-are-tricking-ai-chatbots-into-helping-commit-crimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • Delta ฟ้อง CrowdStrike กรณีอัปเดตผิดพลาดที่ทำให้ระบบล่ม

    Delta Airlines ได้รับอนุญาตจากศาลให้ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike หลังจากที่ บริษัทไซเบอร์ซีเคียวริตี้รายนี้ปล่อยอัปเดตที่ผิดพลาด ส่งผลให้ระบบของหลายองค์กรทั่วโลกล่ม โดยเฉพาะ สายการบิน, ธนาคาร และสถานีโทรทัศน์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีระหว่าง Delta และ CrowdStrike
    ✅ CrowdStrike ปล่อยอัปเดตผิดพลาดบน Windows ทำให้เกิด Blue Screen of Death
    - ส่งผลให้ องค์กรหลายแห่งไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ

    ✅ Delta Airlines ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ใช้เวลาฟื้นตัวนานถึง 5 วัน
    - เทียบกับ American Airlines และ United Airlines ที่ใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่า

    ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ปล่อยอัปเดตโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ข้ามกระบวนการรับรองของ Microsoft และไม่ได้ทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต

    ✅ Delta ฟ้อง CrowdStrike ด้วยข้อกล่าวหาหลายประการ เช่น การละเมิดสัญญา, การบุกรุก, ความประมาทเลินเล่อ และการฉ้อโกง
    - CrowdStrike พยายามให้ศาลยกฟ้องโดยอ้างว่าข้อกล่าวหาบางส่วนไม่สามารถดำเนินคดีได้

    ✅ ศาลปฏิเสธคำร้องของ CrowdStrike และให้คดีดำเนินต่อไป
    - ข้อกล่าวหาเรื่อง การบุกรุกและความประมาทเลินเล่อได้รับการยอมรับ ส่วนข้อกล่าวหาการฉ้อโกงได้รับการพิจารณาบางส่วน

    ✅ CrowdStrike อาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้ Delta เป็นจำนวน "หลักล้านดอลลาร์"
    - ทนายของ CrowdStrike ระบุว่าค่าเสียหายอาจอยู่ในระดับ "ตัวเลขหลักเดียวของล้านดอลลาร์"

    https://www.techradar.com/pro/security/deltas-lawsuit-against-crowdstrike-to-go-ahead-after-okay-from-judge
    Delta ฟ้อง CrowdStrike กรณีอัปเดตผิดพลาดที่ทำให้ระบบล่ม Delta Airlines ได้รับอนุญาตจากศาลให้ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike หลังจากที่ บริษัทไซเบอร์ซีเคียวริตี้รายนี้ปล่อยอัปเดตที่ผิดพลาด ส่งผลให้ระบบของหลายองค์กรทั่วโลกล่ม โดยเฉพาะ สายการบิน, ธนาคาร และสถานีโทรทัศน์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีระหว่าง Delta และ CrowdStrike ✅ CrowdStrike ปล่อยอัปเดตผิดพลาดบน Windows ทำให้เกิด Blue Screen of Death - ส่งผลให้ องค์กรหลายแห่งไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ ✅ Delta Airlines ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ใช้เวลาฟื้นตัวนานถึง 5 วัน - เทียบกับ American Airlines และ United Airlines ที่ใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่า ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ปล่อยอัปเดตโดยไม่ได้รับอนุญาต - ข้ามกระบวนการรับรองของ Microsoft และไม่ได้ทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต ✅ Delta ฟ้อง CrowdStrike ด้วยข้อกล่าวหาหลายประการ เช่น การละเมิดสัญญา, การบุกรุก, ความประมาทเลินเล่อ และการฉ้อโกง - CrowdStrike พยายามให้ศาลยกฟ้องโดยอ้างว่าข้อกล่าวหาบางส่วนไม่สามารถดำเนินคดีได้ ✅ ศาลปฏิเสธคำร้องของ CrowdStrike และให้คดีดำเนินต่อไป - ข้อกล่าวหาเรื่อง การบุกรุกและความประมาทเลินเล่อได้รับการยอมรับ ส่วนข้อกล่าวหาการฉ้อโกงได้รับการพิจารณาบางส่วน ✅ CrowdStrike อาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้ Delta เป็นจำนวน "หลักล้านดอลลาร์" - ทนายของ CrowdStrike ระบุว่าค่าเสียหายอาจอยู่ในระดับ "ตัวเลขหลักเดียวของล้านดอลลาร์" https://www.techradar.com/pro/security/deltas-lawsuit-against-crowdstrike-to-go-ahead-after-okay-from-judge
    WWW.TECHRADAR.COM
    Delta's lawsuit against CrowdStrike to go ahead after okay from Judge
    The judge has partially denied CrowdStrike’s motion to dismiss
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ

    เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ

    โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ

    อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48%

    ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ

    อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่

    #Newskit
    แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48% ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ #Newskit
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js
    ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล
    - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น

    ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js
    - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0

    ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1
    - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10
    - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว

    ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้
    - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน

    https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0 ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1 - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10 - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้ - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    WWW.TECHRADAR.COM
    An OpenPGP.js flaw just broke public key cryptography
    Researchers found a bug that allowed malicious actors to spoof messages
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน

    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin
    ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน
    - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ

    ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย
    - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง

    ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง
    - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด

    ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
    - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC charges Unicoin and executives for fraud
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) on Wednesday charged cryptocurrency company Unicoin and three of its top executives, including its CEO and Board Chairman Alex Konanykhin, for false and misleading statements that raised more than $100 million from thousands of investors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • Coinbase เผชิญเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมเรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์

    Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนรั่วไหล โดยแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและเลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Coinbase
    ✅ Coinbase ถูกโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้เครือข่ายพนักงานภายนอก
    - แฮกเกอร์ ติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า

    ✅ ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปกปิด และหมายเลขประกันสังคมบางส่วน
    - แต่ ไม่มีรหัสผ่าน, คีย์ส่วนตัว หรือการเข้าถึงเงินของลูกค้าโดยตรง

    ✅ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์
    - บริษัท เลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน

    ✅ Coinbase ตั้งกองทุนรางวัล 20 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด
    - พร้อม เพิ่มระบบตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    ✅ Coinbase ให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังแฮกเกอร์
    - เพื่อ ลดผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้

    ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Coinbase กำลังเตรียมเข้าร่วมดัชนี S&P 500
    - ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

    https://www.techspot.com/news/107943-coinbase-data-breach-exposes-customer-info-20-million.html
    Coinbase เผชิญเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมเรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนรั่วไหล โดยแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและเลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Coinbase ✅ Coinbase ถูกโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้เครือข่ายพนักงานภายนอก - แฮกเกอร์ ติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ✅ ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปกปิด และหมายเลขประกันสังคมบางส่วน - แต่ ไม่มีรหัสผ่าน, คีย์ส่วนตัว หรือการเข้าถึงเงินของลูกค้าโดยตรง ✅ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์ - บริษัท เลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน ✅ Coinbase ตั้งกองทุนรางวัล 20 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด - พร้อม เพิ่มระบบตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ Coinbase ให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังแฮกเกอร์ - เพื่อ ลดผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Coinbase กำลังเตรียมเข้าร่วมดัชนี S&P 500 - ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม https://www.techspot.com/news/107943-coinbase-data-breach-exposes-customer-info-20-million.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Inside job at Coinbase leads to massive data breach, $20 million ransom demanded
    Coinbase, the largest cryptocurrency exchange in the United States, is facing significant fallout after disclosing a major cyberattack that compromised sensitive data from some of its customers....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนามได้เรียกร้องให้หน่วยปราบปรามสินค้าปลอมของประเทศคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการปราบปรามสินค้าปลอม การฉ้อโกงการค้า และการลักลอบขนสินค้าเข้าประเทศ รัฐบาลระบุในคำแถลง

    คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เวียดนามกำลังเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ โดยเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขข้อกังวลที่มีมายาวนาน รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการขนถ่ายสินค้าจีนผ่านประเทศ

    เอกสารภายในท่ีรอยเตอร์ได้ตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับสินค้าปลอม การละเมิดลิขสิทธิ์ทางดิจิทัล และการขนถ่ายสินค้าจีนไปยังสหรัฐฯ ที่เจ้าหน้าที่เวียดนามมักเรียกว่าการฉ้อโกงทางการค้า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000045027

    #MGROnline #เวียดนาม
    นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนามได้เรียกร้องให้หน่วยปราบปรามสินค้าปลอมของประเทศคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการปราบปรามสินค้าปลอม การฉ้อโกงการค้า และการลักลอบขนสินค้าเข้าประเทศ รัฐบาลระบุในคำแถลง • คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เวียดนามกำลังเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ โดยเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขข้อกังวลที่มีมายาวนาน รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการขนถ่ายสินค้าจีนผ่านประเทศ • เอกสารภายในท่ีรอยเตอร์ได้ตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับสินค้าปลอม การละเมิดลิขสิทธิ์ทางดิจิทัล และการขนถ่ายสินค้าจีนไปยังสหรัฐฯ ที่เจ้าหน้าที่เวียดนามมักเรียกว่าการฉ้อโกงทางการค้า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000045027 • #MGROnline #เวียดนาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี
    สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024

    บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024 บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์

    Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%

    ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์
    - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง
    - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน

    ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search
    - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%
    - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล

    ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ
    - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย

    ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings
    - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security

    https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Chrome now uses Gemini Nano to fight online scams
    Google has updated Chrome's Enhanced Protection mode. The feature uses Gemini to enable faster detection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • World ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกของ Worldcoin กำลังขยายการติดตั้ง สถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตา เพื่อสร้าง รหัสประจำตัวดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน

    Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มีเป้าหมายในการ สร้างเครือข่ายบริการทางการเงินและการยืนยันตัวตนระดับโลก โดยใช้ อุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า "Orb" ซึ่งสามารถ สแกนม่านตาของผู้ใช้และสร้าง World ID

    ✅ Worldcoin เปิดตัวสถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ
    - ใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสประจำตัวดิจิทัล
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่บอท

    ✅ อุปกรณ์ทรงกลม "Orb" สามารถสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้
    - ติดตั้งแล้วใน 6 เมือง ได้แก่ Atlanta, Austin, Los Angeles, Miami, Nashville และ San Francisco
    - มีการติดตั้งใน ร้าน Razer gaming stores

    ✅ ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Worldcoin (WLD) หลังจากยืนยันตัวตน
    - ต้องดาวน์โหลด World App และไปที่สถานี Orb เพื่อสแกนม่านตา
    - ใช้ World ID เพื่อ เข้าถึงบริการดิจิทัลและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์

    ✅ Worldcoin ยืนยันว่าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไบโอเมตริกในรูปแบบที่สามารถระบุตัวตนได้
    - ข้อมูลม่านตา ถูกแปลงเป็นรหัสและไม่สามารถใช้ติดตามตัวบุคคลได้

    ✅ เป้าหมายของ Worldcoin คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์ได้ทั่วโลก
    - ตั้งเป้าให้มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/these-biometric-identity-verification-stations-are-springing-up-in-the-us
    World ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกของ Worldcoin กำลังขยายการติดตั้ง สถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตา เพื่อสร้าง รหัสประจำตัวดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มีเป้าหมายในการ สร้างเครือข่ายบริการทางการเงินและการยืนยันตัวตนระดับโลก โดยใช้ อุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า "Orb" ซึ่งสามารถ สแกนม่านตาของผู้ใช้และสร้าง World ID ✅ Worldcoin เปิดตัวสถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ - ใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสประจำตัวดิจิทัล - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่บอท ✅ อุปกรณ์ทรงกลม "Orb" สามารถสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้ - ติดตั้งแล้วใน 6 เมือง ได้แก่ Atlanta, Austin, Los Angeles, Miami, Nashville และ San Francisco - มีการติดตั้งใน ร้าน Razer gaming stores ✅ ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Worldcoin (WLD) หลังจากยืนยันตัวตน - ต้องดาวน์โหลด World App และไปที่สถานี Orb เพื่อสแกนม่านตา - ใช้ World ID เพื่อ เข้าถึงบริการดิจิทัลและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ ✅ Worldcoin ยืนยันว่าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไบโอเมตริกในรูปแบบที่สามารถระบุตัวตนได้ - ข้อมูลม่านตา ถูกแปลงเป็นรหัสและไม่สามารถใช้ติดตามตัวบุคคลได้ ✅ เป้าหมายของ Worldcoin คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์ได้ทั่วโลก - ตั้งเป้าให้มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/these-biometric-identity-verification-stations-are-springing-up-in-the-us
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง

    เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล

    ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย
    - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม

    ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล
    - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้

    ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ
    - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน
    - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้ ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ex-China ‘most beautiful fugitive’ banned for promoting legal education via livestreams
    Former member of gang involved in US$190,000 fraud racket claimed to have 'turned over a new leaf' after release from prison.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอ้ตั้มเอ้ย ถ้าไม่ไปฉ้อโกงเค้า ก็มีลุ้นเป็นสว.แล้ว เพราะไอ้ตั้มติดสว.สำรองอันดับที่4 ถ้าถอดถอน 60 สว. ก็ได้เป็นแน่ๆ บุญไม่มีกรรมยังบังซะมิดเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ทนายตั้ม
    #60สว
    ไอ้ตั้มเอ้ย ถ้าไม่ไปฉ้อโกงเค้า ก็มีลุ้นเป็นสว.แล้ว เพราะไอ้ตั้มติดสว.สำรองอันดับที่4 ถ้าถอดถอน 60 สว. ก็ได้เป็นแน่ๆ บุญไม่มีกรรมยังบังซะมิดเลย #คิงส์โพธิ์แดง #ทนายตั้ม #60สว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
    - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    ✅ Chargeback Fraud คืออะไร?
    - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร
    - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์
    - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
    - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ
    - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย
    - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้

    https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 ✅ Chargeback Fraud คืออะไร? - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้ https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts