• งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์

    กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ

    มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ

    อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน

    กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี

    งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง

    #Newskit
    งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์ กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    8
    0 Comments 0 Shares 806 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยพบวิธีเจาะระบบ AI Chatbots ให้ช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรม

    นักวิจัยจาก Ben Gurion University ค้นพบ "Universal Jailbreak" ซึ่งสามารถ หลอก AI Chatbots ให้ละเมิดข้อจำกัดด้านจริยธรรมและกฎหมาย โดยใช้ เทคนิคการตั้งคำถามแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแฮ็ก, การผลิตยาเสพติด, การฉ้อโกง และอื่น ๆ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Universal Jailbreak
    ✅ นักวิจัยสามารถหลอก AI Chatbots ให้ให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย
    - รวมถึง วิธีแฮ็ก Wi-Fi, การผลิตยาเสพติด และการฉ้อโกงทางการเงิน

    ✅ เทคนิคที่ใช้คือการตั้งคำถามในรูปแบบสมมติ เช่น "ฉันกำลังเขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับแฮ็กเกอร์..."
    - ทำให้ AI ตอบคำถามโดยไม่ตรวจจับว่าเป็นคำขอที่ผิดกฎหมาย

    ✅ AI Chatbots เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude ต่างได้รับผลกระทบจากเทคนิคนี้
    - แสดงให้เห็นว่า ข้อจำกัดด้านจริยธรรมของ AI ยังมีช่องโหว่

    ✅ นักวิจัยแจ้งบริษัท AI เกี่ยวกับช่องโหว่นี้ แต่บางบริษัทไม่ตอบสนอง
    - บางบริษัท มองว่าไม่ใช่ข้อบกพร่องทางเทคนิคที่สามารถแก้ไขได้ง่าย

    ✅ มี AI บางตัวที่ถูกออกแบบมาให้ไม่มีข้อจำกัดด้านจริยธรรมโดยเจตนา
    - เรียกว่า "Dark LLMs" ซึ่งช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรมโดยตรง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/people-are-tricking-ai-chatbots-into-helping-commit-crimes
    นักวิจัยพบวิธีเจาะระบบ AI Chatbots ให้ช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรม นักวิจัยจาก Ben Gurion University ค้นพบ "Universal Jailbreak" ซึ่งสามารถ หลอก AI Chatbots ให้ละเมิดข้อจำกัดด้านจริยธรรมและกฎหมาย โดยใช้ เทคนิคการตั้งคำถามแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแฮ็ก, การผลิตยาเสพติด, การฉ้อโกง และอื่น ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Universal Jailbreak ✅ นักวิจัยสามารถหลอก AI Chatbots ให้ให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย - รวมถึง วิธีแฮ็ก Wi-Fi, การผลิตยาเสพติด และการฉ้อโกงทางการเงิน ✅ เทคนิคที่ใช้คือการตั้งคำถามในรูปแบบสมมติ เช่น "ฉันกำลังเขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับแฮ็กเกอร์..." - ทำให้ AI ตอบคำถามโดยไม่ตรวจจับว่าเป็นคำขอที่ผิดกฎหมาย ✅ AI Chatbots เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude ต่างได้รับผลกระทบจากเทคนิคนี้ - แสดงให้เห็นว่า ข้อจำกัดด้านจริยธรรมของ AI ยังมีช่องโหว่ ✅ นักวิจัยแจ้งบริษัท AI เกี่ยวกับช่องโหว่นี้ แต่บางบริษัทไม่ตอบสนอง - บางบริษัท มองว่าไม่ใช่ข้อบกพร่องทางเทคนิคที่สามารถแก้ไขได้ง่าย ✅ มี AI บางตัวที่ถูกออกแบบมาให้ไม่มีข้อจำกัดด้านจริยธรรมโดยเจตนา - เรียกว่า "Dark LLMs" ซึ่งช่วยเหลือในการก่ออาชญากรรมโดยตรง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/people-are-tricking-ai-chatbots-into-helping-commit-crimes
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • Delta ฟ้อง CrowdStrike กรณีอัปเดตผิดพลาดที่ทำให้ระบบล่ม

    Delta Airlines ได้รับอนุญาตจากศาลให้ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike หลังจากที่ บริษัทไซเบอร์ซีเคียวริตี้รายนี้ปล่อยอัปเดตที่ผิดพลาด ส่งผลให้ระบบของหลายองค์กรทั่วโลกล่ม โดยเฉพาะ สายการบิน, ธนาคาร และสถานีโทรทัศน์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีระหว่าง Delta และ CrowdStrike
    ✅ CrowdStrike ปล่อยอัปเดตผิดพลาดบน Windows ทำให้เกิด Blue Screen of Death
    - ส่งผลให้ องค์กรหลายแห่งไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ

    ✅ Delta Airlines ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ใช้เวลาฟื้นตัวนานถึง 5 วัน
    - เทียบกับ American Airlines และ United Airlines ที่ใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่า

    ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ปล่อยอัปเดตโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ข้ามกระบวนการรับรองของ Microsoft และไม่ได้ทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต

    ✅ Delta ฟ้อง CrowdStrike ด้วยข้อกล่าวหาหลายประการ เช่น การละเมิดสัญญา, การบุกรุก, ความประมาทเลินเล่อ และการฉ้อโกง
    - CrowdStrike พยายามให้ศาลยกฟ้องโดยอ้างว่าข้อกล่าวหาบางส่วนไม่สามารถดำเนินคดีได้

    ✅ ศาลปฏิเสธคำร้องของ CrowdStrike และให้คดีดำเนินต่อไป
    - ข้อกล่าวหาเรื่อง การบุกรุกและความประมาทเลินเล่อได้รับการยอมรับ ส่วนข้อกล่าวหาการฉ้อโกงได้รับการพิจารณาบางส่วน

    ✅ CrowdStrike อาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้ Delta เป็นจำนวน "หลักล้านดอลลาร์"
    - ทนายของ CrowdStrike ระบุว่าค่าเสียหายอาจอยู่ในระดับ "ตัวเลขหลักเดียวของล้านดอลลาร์"

    https://www.techradar.com/pro/security/deltas-lawsuit-against-crowdstrike-to-go-ahead-after-okay-from-judge
    Delta ฟ้อง CrowdStrike กรณีอัปเดตผิดพลาดที่ทำให้ระบบล่ม Delta Airlines ได้รับอนุญาตจากศาลให้ดำเนินคดีต่อ CrowdStrike หลังจากที่ บริษัทไซเบอร์ซีเคียวริตี้รายนี้ปล่อยอัปเดตที่ผิดพลาด ส่งผลให้ระบบของหลายองค์กรทั่วโลกล่ม โดยเฉพาะ สายการบิน, ธนาคาร และสถานีโทรทัศน์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีระหว่าง Delta และ CrowdStrike ✅ CrowdStrike ปล่อยอัปเดตผิดพลาดบน Windows ทำให้เกิด Blue Screen of Death - ส่งผลให้ องค์กรหลายแห่งไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ ✅ Delta Airlines ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ใช้เวลาฟื้นตัวนานถึง 5 วัน - เทียบกับ American Airlines และ United Airlines ที่ใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่า ✅ Delta อ้างว่า CrowdStrike ปล่อยอัปเดตโดยไม่ได้รับอนุญาต - ข้ามกระบวนการรับรองของ Microsoft และไม่ได้ทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต ✅ Delta ฟ้อง CrowdStrike ด้วยข้อกล่าวหาหลายประการ เช่น การละเมิดสัญญา, การบุกรุก, ความประมาทเลินเล่อ และการฉ้อโกง - CrowdStrike พยายามให้ศาลยกฟ้องโดยอ้างว่าข้อกล่าวหาบางส่วนไม่สามารถดำเนินคดีได้ ✅ ศาลปฏิเสธคำร้องของ CrowdStrike และให้คดีดำเนินต่อไป - ข้อกล่าวหาเรื่อง การบุกรุกและความประมาทเลินเล่อได้รับการยอมรับ ส่วนข้อกล่าวหาการฉ้อโกงได้รับการพิจารณาบางส่วน ✅ CrowdStrike อาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้ Delta เป็นจำนวน "หลักล้านดอลลาร์" - ทนายของ CrowdStrike ระบุว่าค่าเสียหายอาจอยู่ในระดับ "ตัวเลขหลักเดียวของล้านดอลลาร์" https://www.techradar.com/pro/security/deltas-lawsuit-against-crowdstrike-to-go-ahead-after-okay-from-judge
    WWW.TECHRADAR.COM
    Delta's lawsuit against CrowdStrike to go ahead after okay from Judge
    The judge has partially denied CrowdStrike’s motion to dismiss
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ

    เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ

    โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ

    อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48%

    ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ

    อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่

    #Newskit
    แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48% ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ #Newskit
    Like
    Love
    3
    1 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js
    ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล
    - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น

    ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js
    - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0

    ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1
    - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10
    - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว

    ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้
    - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน

    https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0 ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1 - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10 - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้ - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    WWW.TECHRADAR.COM
    An OpenPGP.js flaw just broke public key cryptography
    Researchers found a bug that allowed malicious actors to spoof messages
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน

    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin
    ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน
    - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ

    ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย
    - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง

    ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง
    - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด

    ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
    - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC charges Unicoin and executives for fraud
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) on Wednesday charged cryptocurrency company Unicoin and three of its top executives, including its CEO and Board Chairman Alex Konanykhin, for false and misleading statements that raised more than $100 million from thousands of investors.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • Coinbase เผชิญเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมเรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์

    Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนรั่วไหล โดยแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและเลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Coinbase
    ✅ Coinbase ถูกโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้เครือข่ายพนักงานภายนอก
    - แฮกเกอร์ ติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า

    ✅ ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปกปิด และหมายเลขประกันสังคมบางส่วน
    - แต่ ไม่มีรหัสผ่าน, คีย์ส่วนตัว หรือการเข้าถึงเงินของลูกค้าโดยตรง

    ✅ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์
    - บริษัท เลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน

    ✅ Coinbase ตั้งกองทุนรางวัล 20 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด
    - พร้อม เพิ่มระบบตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    ✅ Coinbase ให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังแฮกเกอร์
    - เพื่อ ลดผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้

    ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Coinbase กำลังเตรียมเข้าร่วมดัชนี S&P 500
    - ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

    https://www.techspot.com/news/107943-coinbase-data-breach-exposes-customer-info-20-million.html
    Coinbase เผชิญเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมเรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนรั่วไหล โดยแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและเลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Coinbase ✅ Coinbase ถูกโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้เครือข่ายพนักงานภายนอก - แฮกเกอร์ ติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ✅ ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปกปิด และหมายเลขประกันสังคมบางส่วน - แต่ ไม่มีรหัสผ่าน, คีย์ส่วนตัว หรือการเข้าถึงเงินของลูกค้าโดยตรง ✅ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์ - บริษัท เลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน ✅ Coinbase ตั้งกองทุนรางวัล 20 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด - พร้อม เพิ่มระบบตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ Coinbase ให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังแฮกเกอร์ - เพื่อ ลดผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Coinbase กำลังเตรียมเข้าร่วมดัชนี S&P 500 - ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม https://www.techspot.com/news/107943-coinbase-data-breach-exposes-customer-info-20-million.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Inside job at Coinbase leads to massive data breach, $20 million ransom demanded
    Coinbase, the largest cryptocurrency exchange in the United States, is facing significant fallout after disclosing a major cyberattack that compromised sensitive data from some of its customers....
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนามได้เรียกร้องให้หน่วยปราบปรามสินค้าปลอมของประเทศคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการปราบปรามสินค้าปลอม การฉ้อโกงการค้า และการลักลอบขนสินค้าเข้าประเทศ รัฐบาลระบุในคำแถลง

    คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เวียดนามกำลังเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ โดยเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขข้อกังวลที่มีมายาวนาน รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการขนถ่ายสินค้าจีนผ่านประเทศ

    เอกสารภายในท่ีรอยเตอร์ได้ตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับสินค้าปลอม การละเมิดลิขสิทธิ์ทางดิจิทัล และการขนถ่ายสินค้าจีนไปยังสหรัฐฯ ที่เจ้าหน้าที่เวียดนามมักเรียกว่าการฉ้อโกงทางการค้า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000045027

    #MGROnline #เวียดนาม
    นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนามได้เรียกร้องให้หน่วยปราบปรามสินค้าปลอมของประเทศคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการปราบปรามสินค้าปลอม การฉ้อโกงการค้า และการลักลอบขนสินค้าเข้าประเทศ รัฐบาลระบุในคำแถลง • คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เวียดนามกำลังเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ โดยเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขข้อกังวลที่มีมายาวนาน รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการขนถ่ายสินค้าจีนผ่านประเทศ • เอกสารภายในท่ีรอยเตอร์ได้ตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับสินค้าปลอม การละเมิดลิขสิทธิ์ทางดิจิทัล และการขนถ่ายสินค้าจีนไปยังสหรัฐฯ ที่เจ้าหน้าที่เวียดนามมักเรียกว่าการฉ้อโกงทางการค้า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000045027 • #MGROnline #เวียดนาม
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี
    สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024

    บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024 บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 244 Views 3 0 Reviews
  • Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์

    Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%

    ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์
    - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง
    - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน

    ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search
    - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%
    - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล

    ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ
    - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย

    ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings
    - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security

    https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Chrome now uses Gemini Nano to fight online scams
    Google has updated Chrome's Enhanced Protection mode. The feature uses Gemini to enable faster detection.
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • World ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกของ Worldcoin กำลังขยายการติดตั้ง สถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตา เพื่อสร้าง รหัสประจำตัวดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน

    Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มีเป้าหมายในการ สร้างเครือข่ายบริการทางการเงินและการยืนยันตัวตนระดับโลก โดยใช้ อุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า "Orb" ซึ่งสามารถ สแกนม่านตาของผู้ใช้และสร้าง World ID

    ✅ Worldcoin เปิดตัวสถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ
    - ใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสประจำตัวดิจิทัล
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่บอท

    ✅ อุปกรณ์ทรงกลม "Orb" สามารถสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้
    - ติดตั้งแล้วใน 6 เมือง ได้แก่ Atlanta, Austin, Los Angeles, Miami, Nashville และ San Francisco
    - มีการติดตั้งใน ร้าน Razer gaming stores

    ✅ ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Worldcoin (WLD) หลังจากยืนยันตัวตน
    - ต้องดาวน์โหลด World App และไปที่สถานี Orb เพื่อสแกนม่านตา
    - ใช้ World ID เพื่อ เข้าถึงบริการดิจิทัลและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์

    ✅ Worldcoin ยืนยันว่าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไบโอเมตริกในรูปแบบที่สามารถระบุตัวตนได้
    - ข้อมูลม่านตา ถูกแปลงเป็นรหัสและไม่สามารถใช้ติดตามตัวบุคคลได้

    ✅ เป้าหมายของ Worldcoin คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์ได้ทั่วโลก
    - ตั้งเป้าให้มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/these-biometric-identity-verification-stations-are-springing-up-in-the-us
    World ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกของ Worldcoin กำลังขยายการติดตั้ง สถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตา เพื่อสร้าง รหัสประจำตัวดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มีเป้าหมายในการ สร้างเครือข่ายบริการทางการเงินและการยืนยันตัวตนระดับโลก โดยใช้ อุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า "Orb" ซึ่งสามารถ สแกนม่านตาของผู้ใช้และสร้าง World ID ✅ Worldcoin เปิดตัวสถานีตรวจสอบไบโอเมตริกทั่วสหรัฐฯ - ใช้ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสประจำตัวดิจิทัล - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่บอท ✅ อุปกรณ์ทรงกลม "Orb" สามารถสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้ - ติดตั้งแล้วใน 6 เมือง ได้แก่ Atlanta, Austin, Los Angeles, Miami, Nashville และ San Francisco - มีการติดตั้งใน ร้าน Razer gaming stores ✅ ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Worldcoin (WLD) หลังจากยืนยันตัวตน - ต้องดาวน์โหลด World App และไปที่สถานี Orb เพื่อสแกนม่านตา - ใช้ World ID เพื่อ เข้าถึงบริการดิจิทัลและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ ✅ Worldcoin ยืนยันว่าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไบโอเมตริกในรูปแบบที่สามารถระบุตัวตนได้ - ข้อมูลม่านตา ถูกแปลงเป็นรหัสและไม่สามารถใช้ติดตามตัวบุคคลได้ ✅ เป้าหมายของ Worldcoin คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์ได้ทั่วโลก - ตั้งเป้าให้มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/these-biometric-identity-verification-stations-are-springing-up-in-the-us
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง

    เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล

    ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย
    - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม

    ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล
    - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้

    ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ
    - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน
    - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้ ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ex-China ‘most beautiful fugitive’ banned for promoting legal education via livestreams
    Former member of gang involved in US$190,000 fraud racket claimed to have 'turned over a new leaf' after release from prison.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • ไอ้ตั้มเอ้ย ถ้าไม่ไปฉ้อโกงเค้า ก็มีลุ้นเป็นสว.แล้ว เพราะไอ้ตั้มติดสว.สำรองอันดับที่4 ถ้าถอดถอน 60 สว. ก็ได้เป็นแน่ๆ บุญไม่มีกรรมยังบังซะมิดเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ทนายตั้ม
    #60สว
    ไอ้ตั้มเอ้ย ถ้าไม่ไปฉ้อโกงเค้า ก็มีลุ้นเป็นสว.แล้ว เพราะไอ้ตั้มติดสว.สำรองอันดับที่4 ถ้าถอดถอน 60 สว. ก็ได้เป็นแน่ๆ บุญไม่มีกรรมยังบังซะมิดเลย #คิงส์โพธิ์แดง #ทนายตั้ม #60สว
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
    - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    ✅ Chargeback Fraud คืออะไร?
    - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร
    - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์
    - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
    - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ
    - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย
    - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้

    https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 ✅ Chargeback Fraud คืออะไร? - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้ https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • IBM Cloud กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำ Intel Gaudi 3 AI accelerators มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง

    การเปิดตัวนี้ถือเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Intel Gaudi 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับ Generative AI (GenAI), large model inferencing และ model fine-tuning โดยมีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา

    IBM Cloud ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ โดยใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง, การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

    Intel Gaudi 3 พร้อมให้บริการใน IBM Cloud regions ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส (สหรัฐฯ) และจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต

    ✅ IBM Cloud เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ใช้ Intel Gaudi 3
    - ช่วยให้ AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    - ลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง

    ✅ คุณสมบัติของ Intel Gaudi 3
    - รองรับ Generative AI, large model inferencing และ model fine-tuning
    - มีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา

    ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ
    - การเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
    - การดูแลสุขภาพ: วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และพัฒนาแพลตฟอร์ม telemedicine
    - ภาครัฐ: ใช้ AI ในการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัย

    ✅ พื้นที่ให้บริการของ Intel Gaudi 3
    - พร้อมใช้งานใน แฟรงก์เฟิร์ต, วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส
    - จะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/336224/ibm-cloud-is-first-service-provider-to-deploy-intel-gaudi-3
    IBM Cloud กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำ Intel Gaudi 3 AI accelerators มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง การเปิดตัวนี้ถือเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Intel Gaudi 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับ Generative AI (GenAI), large model inferencing และ model fine-tuning โดยมีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา IBM Cloud ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ โดยใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง, การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง Intel Gaudi 3 พร้อมให้บริการใน IBM Cloud regions ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส (สหรัฐฯ) และจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต ✅ IBM Cloud เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ใช้ Intel Gaudi 3 - ช่วยให้ AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น - ลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง ✅ คุณสมบัติของ Intel Gaudi 3 - รองรับ Generative AI, large model inferencing และ model fine-tuning - มีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ - การเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล - การดูแลสุขภาพ: วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และพัฒนาแพลตฟอร์ม telemedicine - ภาครัฐ: ใช้ AI ในการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัย ✅ พื้นที่ให้บริการของ Intel Gaudi 3 - พร้อมใช้งานใน แฟรงก์เฟิร์ต, วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส - จะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต https://www.techpowerup.com/336224/ibm-cloud-is-first-service-provider-to-deploy-intel-gaudi-3
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    IBM Cloud is First Service Provider to Deploy Intel Gaudi 3
    IBM is the first cloud service provider to make Intel Gaudi 3 AI accelerators available to customers, a move designed to make powerful artificial intelligence capabilities more accessible and to directly address the high cost of specialized AI hardware. For Intel, the rollout on IBM Cloud marks the ...
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • Visa กำลังพัฒนาโครงการ Visa Intelligent Commerce ซึ่งจะช่วยให้ AI สามารถใช้บัตรเครดิตของผู้ใช้ในการซื้อสินค้าและชำระเงินโดยอัตโนมัติ โดย AI จะสามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้ภายในขอบเขตที่ผู้ใช้กำหนด

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ AI สามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ AI-Ready Cards ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและเพิ่มความปลอดภัย

    Visa ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral เพื่อพัฒนาโครงการนี้ และคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า

    ✅ การใช้ AI ในการทำธุรกรรม
    - AI สามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้โดยอัตโนมัติ
    - ผู้ใช้สามารถกำหนดงบประมาณและเงื่อนไขการใช้จ่าย

    ✅ การพัฒนา AI-Ready Cards
    - ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง
    - เพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง

    ✅ ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี
    - Visa ร่วมมือกับ Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral
    - มีการทดลองใช้งานร่วมกับ IBM, Stripe และ Samsung

    ✅ แผนการเปิดตัว
    - โครงการอยู่ในช่วงทดลองและคาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า

    https://www.neowin.net/news/visa-wants-to-give-ai-agents-your-credit-card-so-that-they-can-shop-and-pay-for-you/
    Visa กำลังพัฒนาโครงการ Visa Intelligent Commerce ซึ่งจะช่วยให้ AI สามารถใช้บัตรเครดิตของผู้ใช้ในการซื้อสินค้าและชำระเงินโดยอัตโนมัติ โดย AI จะสามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้ภายในขอบเขตที่ผู้ใช้กำหนด โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ AI สามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ AI-Ready Cards ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและเพิ่มความปลอดภัย Visa ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral เพื่อพัฒนาโครงการนี้ และคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า ✅ การใช้ AI ในการทำธุรกรรม - AI สามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้โดยอัตโนมัติ - ผู้ใช้สามารถกำหนดงบประมาณและเงื่อนไขการใช้จ่าย ✅ การพัฒนา AI-Ready Cards - ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง - เพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง ✅ ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี - Visa ร่วมมือกับ Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral - มีการทดลองใช้งานร่วมกับ IBM, Stripe และ Samsung ✅ แผนการเปิดตัว - โครงการอยู่ในช่วงทดลองและคาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า https://www.neowin.net/news/visa-wants-to-give-ai-agents-your-credit-card-so-that-they-can-shop-and-pay-for-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    Visa wants to give AI agents your credit card so that they can shop and pay for you
    Visa is partnering with key AI companies through Visa Intelligent Commerce, allowing AI agents to securely pay for items on your behalf.
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • HMRC หรือกรมสรรพากรของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผนการลงทุน £1 พันล้าน เพื่อจัดหาระบบ CRM ใหม่ที่สามารถบริหารจัดการการติดต่อกับผู้เสียภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ปรับปรุงบริการลูกค้า ลดภาระงานด้านเอกสาร และเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล

    ระบบ CRM ใหม่นี้จะเป็น แพลตฟอร์ม SaaS ที่รวมฟังก์ชันสำคัญ เช่น การลงทะเบียนผู้ใช้ การจัดการบัญชีลูกค้า การตรวจสอบตัวตน และการป้องกันการฉ้อโกง นอกจากนี้ยังต้องสามารถทำงานร่วมกับ Contact Centre as a Service (CCaaS) ซึ่ง HMRC มีแผนจะจัดหาในปีนี้

    ปัจจุบัน HMRC เผชิญกับปัญหาด้านบริการลูกค้าอย่างหนัก โดยในปีงบประมาณ 2023-24 มีผู้โทรเข้ามา 44,000 ราย ที่ถูกตัดสายหลังรอคอยนานถึง 70 นาที และโดยเฉลี่ย หนึ่งในสามของสายโทรศัพท์ไม่ได้รับการตอบกลับ

    ✅ งบประมาณและระยะเวลาสัญญา
    - HMRC ตั้งงบประมาณ £1 พันล้าน (ไม่รวม VAT)
    - คาดว่าจะลงนามสัญญากับผู้ให้บริการเป็นระยะเวลา 15 ปี

    ✅ เป้าหมายของระบบ CRM ใหม่
    - ปรับปรุงบริการลูกค้าและลดภาระงานด้านเอกสาร
    - เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลและป้องกันการฉ้อโกง

    ✅ การทำงานร่วมกับระบบ CCaaS
    - ระบบ CRM ต้องสามารถทำงานร่วมกับ Contact Centre as a Service
    - ช่วยให้การให้บริการลูกค้าผ่านโทรศัพท์และช่องทางออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ ปัญหาด้านบริการลูกค้าในปัจจุบัน
    - ผู้โทรเข้ามา 44,000 รายถูกตัดสายหลังรอคอย 70 นาที
    - หนึ่งในสามของสายโทรศัพท์ไม่ได้รับการตอบกลับ

    https://www.techradar.com/pro/hmrc-launches-gbp1-billion-bid-for-new-crm-system
    HMRC หรือกรมสรรพากรของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผนการลงทุน £1 พันล้าน เพื่อจัดหาระบบ CRM ใหม่ที่สามารถบริหารจัดการการติดต่อกับผู้เสียภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ปรับปรุงบริการลูกค้า ลดภาระงานด้านเอกสาร และเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ระบบ CRM ใหม่นี้จะเป็น แพลตฟอร์ม SaaS ที่รวมฟังก์ชันสำคัญ เช่น การลงทะเบียนผู้ใช้ การจัดการบัญชีลูกค้า การตรวจสอบตัวตน และการป้องกันการฉ้อโกง นอกจากนี้ยังต้องสามารถทำงานร่วมกับ Contact Centre as a Service (CCaaS) ซึ่ง HMRC มีแผนจะจัดหาในปีนี้ ปัจจุบัน HMRC เผชิญกับปัญหาด้านบริการลูกค้าอย่างหนัก โดยในปีงบประมาณ 2023-24 มีผู้โทรเข้ามา 44,000 ราย ที่ถูกตัดสายหลังรอคอยนานถึง 70 นาที และโดยเฉลี่ย หนึ่งในสามของสายโทรศัพท์ไม่ได้รับการตอบกลับ ✅ งบประมาณและระยะเวลาสัญญา - HMRC ตั้งงบประมาณ £1 พันล้าน (ไม่รวม VAT) - คาดว่าจะลงนามสัญญากับผู้ให้บริการเป็นระยะเวลา 15 ปี ✅ เป้าหมายของระบบ CRM ใหม่ - ปรับปรุงบริการลูกค้าและลดภาระงานด้านเอกสาร - เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลและป้องกันการฉ้อโกง ✅ การทำงานร่วมกับระบบ CCaaS - ระบบ CRM ต้องสามารถทำงานร่วมกับ Contact Centre as a Service - ช่วยให้การให้บริการลูกค้าผ่านโทรศัพท์และช่องทางออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ปัญหาด้านบริการลูกค้าในปัจจุบัน - ผู้โทรเข้ามา 44,000 รายถูกตัดสายหลังรอคอย 70 นาที - หนึ่งในสามของสายโทรศัพท์ไม่ได้รับการตอบกลับ https://www.techradar.com/pro/hmrc-launches-gbp1-billion-bid-for-new-crm-system
    WWW.TECHRADAR.COM
    HMRC launches £1 billion bid for new CRM system
    HMRC is on the lookout for a new CRM supplier
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • บริษัทโมเดอร์นาถูกปรับเป็นเงินเกือบ 44,000 ปอนด์ หรือเกือบสองล้านบาท หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลยาตามใบสั่งแพทย์ของอังกฤษ (Prescription Medicines Code of Practice Authority - PMCPA) พบว่าบริษัทยาชื่อดังแห่งนี้ ก่อความเสียหายในด้านความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมยาของอังกฤษ ด้วยการ ใช้เงิน-ตุ๊กตาหมีล่อเด็กๆร่วมทดลองวัคซีนโควิด

    เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2023 มีการเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งใช้มุ่งเป้าหมายเด็กตั้งแต่อายุ 12 ปี ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยการทดลองวัคซีนโควิด โดยเสนอมอบสิ่งจูงใจเป็น "ตุ๊กตาหมี" พร้อม พร้อมเงินสด 1,500 ปอนด์ (ประมาณ 67,000 บาท) และยังมีการเผยแพร่บทความบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชักจูงและโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแผนงานนี้อีกด้วย

    บทความที่ถูกกล่าวหา มีอยู่ 3 บทความที่เป็นการแฝงโฆษณาเกินจริง ซึ่งเป็นการเขียนร่วมกันโดยผู้บริหารของบริษัท Moderna และอดีตรัฐมนตรี Nadhim Zahawi (ถูกไล่ออกเพราะฉ้อโกงภาษี)


    แม้ว่าทางโมเดอร์นาจะพยายามชี้แจงว่า ทางบริษัทได้ดำเนินการยับยั้งการกระทำอย่างทันท่วงทีหลังจากได้รับแจ้งในเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตามจากหลักฐานของ PMCPA พบว่าพวกผู้บริหารของโมเดอร์นาได้รับแจ้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 แล้ว แต่กลับนิ่งเฉย


    ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า โมเดอร์นาอาจถูกพักสถานภาพสมาชิกหรือไม่ก็โดนขับไล่ออกจากสมาคมอุตสาหกรรมยาของอังกฤษ (Association of the British Pharmaceutical Industry - ABPI) หลังละเมิดกฎระเบียบหลายครั้ง
    บริษัทโมเดอร์นาถูกปรับเป็นเงินเกือบ 44,000 ปอนด์ หรือเกือบสองล้านบาท หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลยาตามใบสั่งแพทย์ของอังกฤษ (Prescription Medicines Code of Practice Authority - PMCPA) พบว่าบริษัทยาชื่อดังแห่งนี้ ก่อความเสียหายในด้านความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมยาของอังกฤษ ด้วยการ ใช้เงิน-ตุ๊กตาหมีล่อเด็กๆร่วมทดลองวัคซีนโควิด เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2023 มีการเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งใช้มุ่งเป้าหมายเด็กตั้งแต่อายุ 12 ปี ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยการทดลองวัคซีนโควิด โดยเสนอมอบสิ่งจูงใจเป็น "ตุ๊กตาหมี" พร้อม พร้อมเงินสด 1,500 ปอนด์ (ประมาณ 67,000 บาท) และยังมีการเผยแพร่บทความบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชักจูงและโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแผนงานนี้อีกด้วย บทความที่ถูกกล่าวหา มีอยู่ 3 บทความที่เป็นการแฝงโฆษณาเกินจริง ซึ่งเป็นการเขียนร่วมกันโดยผู้บริหารของบริษัท Moderna และอดีตรัฐมนตรี Nadhim Zahawi (ถูกไล่ออกเพราะฉ้อโกงภาษี) แม้ว่าทางโมเดอร์นาจะพยายามชี้แจงว่า ทางบริษัทได้ดำเนินการยับยั้งการกระทำอย่างทันท่วงทีหลังจากได้รับแจ้งในเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตามจากหลักฐานของ PMCPA พบว่าพวกผู้บริหารของโมเดอร์นาได้รับแจ้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 แล้ว แต่กลับนิ่งเฉย ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า โมเดอร์นาอาจถูกพักสถานภาพสมาชิกหรือไม่ก็โดนขับไล่ออกจากสมาคมอุตสาหกรรมยาของอังกฤษ (Association of the British Pharmaceutical Industry - ABPI) หลังละเมิดกฎระเบียบหลายครั้ง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญาเบิกตัว "ทนายตั้ม" ตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 15 นัด สืบพยานจำเลย 4 นัด เริ่มสืบพยานครั้งแรก 4 มี.ค.ปีหน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039763

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาลอาญาเบิกตัว "ทนายตั้ม" ตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 15 นัด สืบพยานจำเลย 4 นัด เริ่มสืบพยานครั้งแรก 4 มี.ค.ปีหน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039763 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 572 Views 0 Reviews
  • "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 624 Views 0 Reviews
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 Comments 0 Shares 714 Views 0 Reviews
  • รายงานจาก FBI ในปี 2024 เปิดเผยว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware) มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% จากปี 2023 โดยการโจมตีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9% และมีเป้าหมายสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบพลังงานและการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐ

    นอกจากนี้ การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม

    FBI ได้ดำเนินการตอบโต้ เช่น การแจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์

    ✅ ค่าเสียหายจากแรนซัมแวร์
    - มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2023
    - การโจมตีเพิ่มขึ้น 9% โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

    ✅ การฉ้อโกงคริปโตเคอเรนซี
    - มูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023
    - การฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม

    ✅ การตอบโต้ของ FBI
    - แจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์
    - ช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการโจมตี
    - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามและการฟิชชิงเพิ่มขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-cost-us-victims-usd16-6-billion-in-2024-fbi-warns
    รายงานจาก FBI ในปี 2024 เปิดเผยว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware) มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% จากปี 2023 โดยการโจมตีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9% และมีเป้าหมายสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบพลังงานและการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐ นอกจากนี้ การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม FBI ได้ดำเนินการตอบโต้ เช่น การแจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ✅ ค่าเสียหายจากแรนซัมแวร์ - มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2023 - การโจมตีเพิ่มขึ้น 9% โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ✅ การฉ้อโกงคริปโตเคอเรนซี - มูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 - การฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม ✅ การตอบโต้ของ FBI - แจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ - ช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ✅ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการโจมตี - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามและการฟิชชิงเพิ่มขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-cost-us-victims-usd16-6-billion-in-2024-fbi-warns
    0 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
More Results