• “เมื่อวิศวกรซอฟต์แวร์ถูกขอให้ทำสิ่งผิดกฎหมาย — บทเรียนจาก FTX, Frank และ Pollen ที่อาจช่วยคุณไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ”

    ในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยโค้ดและข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์มักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่เมื่อคำสั่งจากผู้บริหารกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ร่วมกระทำผิด” ได้โดยไม่ตั้งใจ บทความจาก The Pragmatic Engineer ได้รวบรวมกรณีจริง 3 เรื่อง ที่วิศวกรถูกขอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย — และผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    กรณีแรกคือ Nishad Singh จาก FTX ซึ่งในปี 2022 ได้รับรู้ว่า Alameda Research กำลังใช้เงินลูกค้าจาก FTX ไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ เขารู้สึกตกใจและจัดประชุมทันที แต่กลับเลือกที่จะ “อยู่ต่อเพื่อช่วยแก้ไข” แทนที่จะลาออกหรือแจ้งความ สุดท้ายเขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์จากบริษัท และต้องรับโทษทางกฎหมาย แม้จะได้รับการลดโทษเหลือเพียงการควบคุมตัว 3 ปี แต่ก็เป็นบทเรียนที่ชัดเจนว่า “การอยู่ต่อหลังรู้ว่ามีการโกง ไม่ใช่ทางออก”

    กรณีที่สองคือวิศวกรจาก Frank ซึ่งถูก CEO ขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียมกว่า 4.2 ล้านรายเพื่อให้บริษัทดูมีมูลค่ามากขึ้นก่อนขายให้ JPMorgan วิศวกรคนนั้นปฏิเสธทันที และส่งเฉพาะข้อมูลจริงที่มีอยู่ประมาณ 293,000 ราย สุดท้าย CEO ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ส่วนวิศวกรรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา

    กรณีสุดท้ายคือบริษัท Pollen ที่มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อให้บริษัทมีเงินจ่ายเงินเดือน วิศวกรคนหนึ่งยอมทำตามคำสั่ง CEO โดยเขียนสคริปต์เพื่อเรียกเก็บเงินซ้ำ และยอมรับในภายหลังว่า “เป็นการตัดสินใจที่แย่มาก” แม้จะยังไม่มีการตั้งข้อหา แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นคดีฉ้อโกงในอนาคต

    บทเรียนจากทั้งสามกรณีคือ — วิศวกรมีสิทธิ์ปฏิเสธ และควรใช้สิทธินั้นเมื่อพบว่าคำสั่งอาจผิดกฎหมาย เพราะการ “ทำตามคำสั่ง” ไม่ได้ปกป้องคุณจากผลทางกฎหมาย หากสิ่งที่คุณทำกลายเป็นหลักฐานในศาล

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nishad Singh จาก FTX รู้ว่ามีการใช้เงินลูกค้าโดยมิชอบ แต่เลือกอยู่ต่อ
    เขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์หลังรู้เรื่อง และถูกดำเนินคดี
    ศาลลดโทษให้เหลือการควบคุมตัว 3 ปี เพราะเขาให้ความร่วมมือในการสอบสวน
    วิศวกรจาก Frank ถูกขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียม แต่ปฏิเสธทันที
    CEO ของ Frank ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ฐานฉ้อโกง JPMorgan
    ที่ Pollen มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อจ่ายเงินเดือน
    วิศวกรยอมทำตามคำสั่ง CEO และยอมรับภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจผิด
    ยังไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาในกรณีของ Pollen ณ ตุลาคม 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    กฎหมายสหรัฐฯ ให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (whistleblower) สูงถึง 30% ของเงินที่รัฐเรียกคืน
    การลาออกทันทีหลังพบการกระทำผิดอาจช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย
    การรับเงินหรือผลประโยชน์หลังรู้ว่ามีการโกง อาจถูกตีความว่า “ร่วมมือ”
    การบันทึกคำสั่งที่อาจผิดกฎหมาย เช่น อีเมลหรือแชท เป็นหลักฐานสำคัญ
    การปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

    https://blog.pragmaticengineer.com/asked-to-do-something-illegal-at-work/
    ⚖️ “เมื่อวิศวกรซอฟต์แวร์ถูกขอให้ทำสิ่งผิดกฎหมาย — บทเรียนจาก FTX, Frank และ Pollen ที่อาจช่วยคุณไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ” ในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยโค้ดและข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์มักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่เมื่อคำสั่งจากผู้บริหารกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ร่วมกระทำผิด” ได้โดยไม่ตั้งใจ บทความจาก The Pragmatic Engineer ได้รวบรวมกรณีจริง 3 เรื่อง ที่วิศวกรถูกขอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย — และผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กรณีแรกคือ Nishad Singh จาก FTX ซึ่งในปี 2022 ได้รับรู้ว่า Alameda Research กำลังใช้เงินลูกค้าจาก FTX ไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ เขารู้สึกตกใจและจัดประชุมทันที แต่กลับเลือกที่จะ “อยู่ต่อเพื่อช่วยแก้ไข” แทนที่จะลาออกหรือแจ้งความ สุดท้ายเขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์จากบริษัท และต้องรับโทษทางกฎหมาย แม้จะได้รับการลดโทษเหลือเพียงการควบคุมตัว 3 ปี แต่ก็เป็นบทเรียนที่ชัดเจนว่า “การอยู่ต่อหลังรู้ว่ามีการโกง ไม่ใช่ทางออก” กรณีที่สองคือวิศวกรจาก Frank ซึ่งถูก CEO ขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียมกว่า 4.2 ล้านรายเพื่อให้บริษัทดูมีมูลค่ามากขึ้นก่อนขายให้ JPMorgan วิศวกรคนนั้นปฏิเสธทันที และส่งเฉพาะข้อมูลจริงที่มีอยู่ประมาณ 293,000 ราย สุดท้าย CEO ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ส่วนวิศวกรรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา กรณีสุดท้ายคือบริษัท Pollen ที่มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อให้บริษัทมีเงินจ่ายเงินเดือน วิศวกรคนหนึ่งยอมทำตามคำสั่ง CEO โดยเขียนสคริปต์เพื่อเรียกเก็บเงินซ้ำ และยอมรับในภายหลังว่า “เป็นการตัดสินใจที่แย่มาก” แม้จะยังไม่มีการตั้งข้อหา แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นคดีฉ้อโกงในอนาคต บทเรียนจากทั้งสามกรณีคือ — วิศวกรมีสิทธิ์ปฏิเสธ และควรใช้สิทธินั้นเมื่อพบว่าคำสั่งอาจผิดกฎหมาย เพราะการ “ทำตามคำสั่ง” ไม่ได้ปกป้องคุณจากผลทางกฎหมาย หากสิ่งที่คุณทำกลายเป็นหลักฐานในศาล ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nishad Singh จาก FTX รู้ว่ามีการใช้เงินลูกค้าโดยมิชอบ แต่เลือกอยู่ต่อ ➡️ เขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์หลังรู้เรื่อง และถูกดำเนินคดี ➡️ ศาลลดโทษให้เหลือการควบคุมตัว 3 ปี เพราะเขาให้ความร่วมมือในการสอบสวน ➡️ วิศวกรจาก Frank ถูกขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียม แต่ปฏิเสธทันที ➡️ CEO ของ Frank ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ฐานฉ้อโกง JPMorgan ➡️ ที่ Pollen มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อจ่ายเงินเดือน ➡️ วิศวกรยอมทำตามคำสั่ง CEO และยอมรับภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจผิด ➡️ ยังไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาในกรณีของ Pollen ณ ตุลาคม 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ กฎหมายสหรัฐฯ ให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (whistleblower) สูงถึง 30% ของเงินที่รัฐเรียกคืน ➡️ การลาออกทันทีหลังพบการกระทำผิดอาจช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย ➡️ การรับเงินหรือผลประโยชน์หลังรู้ว่ามีการโกง อาจถูกตีความว่า “ร่วมมือ” ➡️ การบันทึกคำสั่งที่อาจผิดกฎหมาย เช่น อีเมลหรือแชท เป็นหลักฐานสำคัญ ➡️ การปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด https://blog.pragmaticengineer.com/asked-to-do-something-illegal-at-work/
    BLOG.PRAGMATICENGINEER.COM
    Asked to do something illegal at work? Here’s what these software engineers did
    At FTX, Frank, and Pollen, software engineers were asked to do something potentially illegal, or to go along with what looked like fraud. They obliged in two out of three cases, landed in hot water, and now face jail time. A reminder why it’s never a good idea to go along with such requests.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก”

    หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร

    หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000

    Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี

    คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร
    เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017
    ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน
    ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK
    Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์
    Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน
    การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน
    คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา
    คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin
    การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา
    การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain
    หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ
    การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง
    การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน
    การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด
    หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    💰 “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก” หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000 Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร ➡️ เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ➡️ ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน ➡️ ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK ➡️ Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์ ➡️ Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน ➡️ การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน ➡️ คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา ➡️ คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin ➡️ การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา ➡️ การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain ➡️ หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ ⛔ การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง ⛔ การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน ⛔ การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด ⛔ หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดสั่งรัฐมนตรียุติธรรรมสหรัฐฯ แพม บอนดี เร่งดำเนินคดีเอาผิดศัตรูทางการเมืองของตัวเองทั้ง อดีตผอ.FBI เจมส์ โคมีย์ อัยการรัฐนิวยอร์กที่เคยเล่นงานบริษัท Trump Organization ในคดีฉ้อโกงธนาคาร และสว.พรรคเดโมแครตที่เดินหน้าการไต่สวนถอดถอนจากตำแหน่งสมัยแรก กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ใช้กระทรวงยุติธรรมที่ต้องเป็นอิสระเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090830

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดสั่งรัฐมนตรียุติธรรรมสหรัฐฯ แพม บอนดี เร่งดำเนินคดีเอาผิดศัตรูทางการเมืองของตัวเองทั้ง อดีตผอ.FBI เจมส์ โคมีย์ อัยการรัฐนิวยอร์กที่เคยเล่นงานบริษัท Trump Organization ในคดีฉ้อโกงธนาคาร และสว.พรรคเดโมแครตที่เดินหน้าการไต่สวนถอดถอนจากตำแหน่งสมัยแรก กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ใช้กระทรวงยุติธรรมที่ต้องเป็นอิสระเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090830 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจจังหวัดกันดาล กัมพูชา บุกรวบ “เลิฟ ริยา” อินฟลูเอนเซอร์-แม่ค้าโลชั่นทางออนไลน์ชื่อดัง คาบ้านพัก คุมตัวไปสอบสวน คาดสาเหตุเพราะเคยวิจารณ์ฮุนเซน หรืออาจโดนคดีฉ้อโกง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077225

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ตำรวจจังหวัดกันดาล กัมพูชา บุกรวบ “เลิฟ ริยา” อินฟลูเอนเซอร์-แม่ค้าโลชั่นทางออนไลน์ชื่อดัง คาบ้านพัก คุมตัวไปสอบสวน คาดสาเหตุเพราะเคยวิจารณ์ฮุนเซน หรืออาจโดนคดีฉ้อโกง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077225 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 671 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: Do Kwon เตรียมรับสารภาพในคดีฉ้อโกงมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์

    Do Kwon ผู้ร่วมก่อตั้ง Terraform Labs และผู้พัฒนาเหรียญ TerraUSD (UST) และ Luna ซึ่งเคยเป็นดาวรุ่งในโลกคริปโต กำลังจะเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเขาเตรียมรับสารภาพในคดีฉ้อโกงที่เกิดจากการล่มสลายของระบบ stablecoin ที่เขาสร้างขึ้นในปี 2022 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนทั่วโลกกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์

    ก่อนหน้านี้ Kwon เคยปฏิเสธข้อกล่าวหา 9 กระทง รวมถึงการฉ้อโกงหลักทรัพย์ ฉ้อโกงสินค้าโภคภัณฑ์ ฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสาร และสมคบคิดฟอกเงิน แต่ล่าสุดศาลแขวงแมนฮัตตันได้รับแจ้งว่าเขาอาจเปลี่ยนคำให้การเป็น “รับสารภาพ” โดยมีการนัดไต่สวนในวันที่ 12 สิงหาคม 2025

    การรับสารภาพครั้งนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการพิจารณาคดีที่อาจนำไปสู่โทษจำคุกสูงสุดถึง 100 ปี และอาจรวมถึงการยอมรับความผิดอย่างเป็นทางการต่อหน้าศาล

    เบื้องหลังของคดีนี้คือการล่มสลายของ TerraUSD ซึ่งเป็น stablecoin แบบอัลกอริธึมที่ไม่ได้มีสินทรัพย์ค้ำประกันจริง ทำให้ระบบพังทลายเมื่อเกิดความผันผวน ส่งผลให้ Luna ซึ่งเป็นเหรียญคู่ขนานสูญมูลค่าอย่างรวดเร็ว และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

    Kwon ถูกจับในมอนเตเนโกรเมื่อปี 2023 ขณะพยายามเดินทางด้วยหนังสือเดินทางปลอม และถูกส่งตัวกลับมายังสหรัฐฯ เพื่อรับการพิจารณาคดี

    Do Kwon เตรียมเปลี่ยนคำให้การเป็น “รับสารภาพ” ในคดีฉ้อโกง
    ศาลนัดไต่สวนวันที่ 12 สิงหาคม 2025 ที่แมนฮัตตัน

    เขาเคยปฏิเสธข้อกล่าวหา 9 กระทง รวมถึงฉ้อโกงและฟอกเงิน
    หากถูกตัดสินผิดทุกข้อหา อาจถูกจำคุกสูงสุด 100 ปี

    คดีเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของ TerraUSD และ Luna ในปี 2022
    สร้างความเสียหายกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์

    TerraUSD เป็น stablecoin แบบอัลกอริธึมที่ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน
    ระบบพังเมื่อเกิดความผันผวน ทำให้ Luna สูญมูลค่า

    Kwon ถูกจับในมอนเตเนโกรและส่งตัวกลับสหรัฐฯ
    หลังพยายามเดินทางด้วยหนังสือเดินทางปลอม

    Terraform และ Kwon ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางแพ่งในปี 2024
    ต้องจ่ายค่าปรับและชดใช้กว่า 4.47 พันล้านดอลลาร์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/12/crypto-exec-do-kwon-charged-with-fraud-expected-to-plead-guilty-
    💸⚖️ เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: Do Kwon เตรียมรับสารภาพในคดีฉ้อโกงมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ Do Kwon ผู้ร่วมก่อตั้ง Terraform Labs และผู้พัฒนาเหรียญ TerraUSD (UST) และ Luna ซึ่งเคยเป็นดาวรุ่งในโลกคริปโต กำลังจะเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเขาเตรียมรับสารภาพในคดีฉ้อโกงที่เกิดจากการล่มสลายของระบบ stablecoin ที่เขาสร้างขึ้นในปี 2022 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนทั่วโลกกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ Kwon เคยปฏิเสธข้อกล่าวหา 9 กระทง รวมถึงการฉ้อโกงหลักทรัพย์ ฉ้อโกงสินค้าโภคภัณฑ์ ฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสาร และสมคบคิดฟอกเงิน แต่ล่าสุดศาลแขวงแมนฮัตตันได้รับแจ้งว่าเขาอาจเปลี่ยนคำให้การเป็น “รับสารภาพ” โดยมีการนัดไต่สวนในวันที่ 12 สิงหาคม 2025 การรับสารภาพครั้งนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการพิจารณาคดีที่อาจนำไปสู่โทษจำคุกสูงสุดถึง 100 ปี และอาจรวมถึงการยอมรับความผิดอย่างเป็นทางการต่อหน้าศาล เบื้องหลังของคดีนี้คือการล่มสลายของ TerraUSD ซึ่งเป็น stablecoin แบบอัลกอริธึมที่ไม่ได้มีสินทรัพย์ค้ำประกันจริง ทำให้ระบบพังทลายเมื่อเกิดความผันผวน ส่งผลให้ Luna ซึ่งเป็นเหรียญคู่ขนานสูญมูลค่าอย่างรวดเร็ว และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง Kwon ถูกจับในมอนเตเนโกรเมื่อปี 2023 ขณะพยายามเดินทางด้วยหนังสือเดินทางปลอม และถูกส่งตัวกลับมายังสหรัฐฯ เพื่อรับการพิจารณาคดี ✅ Do Kwon เตรียมเปลี่ยนคำให้การเป็น “รับสารภาพ” ในคดีฉ้อโกง ➡️ ศาลนัดไต่สวนวันที่ 12 สิงหาคม 2025 ที่แมนฮัตตัน ✅ เขาเคยปฏิเสธข้อกล่าวหา 9 กระทง รวมถึงฉ้อโกงและฟอกเงิน ➡️ หากถูกตัดสินผิดทุกข้อหา อาจถูกจำคุกสูงสุด 100 ปี ✅ คดีเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของ TerraUSD และ Luna ในปี 2022 ➡️ สร้างความเสียหายกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ✅ TerraUSD เป็น stablecoin แบบอัลกอริธึมที่ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ➡️ ระบบพังเมื่อเกิดความผันผวน ทำให้ Luna สูญมูลค่า ✅ Kwon ถูกจับในมอนเตเนโกรและส่งตัวกลับสหรัฐฯ ➡️ หลังพยายามเดินทางด้วยหนังสือเดินทางปลอม ✅ Terraform และ Kwon ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางแพ่งในปี 2024 ➡️ ต้องจ่ายค่าปรับและชดใช้กว่า 4.47 พันล้านดอลลาร์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/12/crypto-exec-do-kwon-charged-with-fraud-expected-to-plead-guilty-
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto exec Do Kwon, charged with fraud, expected to plead guilty
    NEW YORK (Reuters) -Do Kwon, the South Korean cryptocurrency entrepreneur facing U.S. fraud charges over two digital currencies that lost an estimated $40 billion in 2022, is expected to enter a guilty plea, court records showed on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. สั่งยึดและอายัดทรัพย์ "หมอบุญ วนาสิน" คดีฉ้อโกง 362 ล้าน ต่อด้วยคดีดิไอคอน ยึดทรัพย์เพิ่มเติมอีก 568 ล้าน และสั่งให้ทรัพย์สินคดีพนันออนไลน์ 821 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000075343

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. สั่งยึดและอายัดทรัพย์ "หมอบุญ วนาสิน" คดีฉ้อโกง 362 ล้าน ต่อด้วยคดีดิไอคอน ยึดทรัพย์เพิ่มเติมอีก 568 ล้าน และสั่งให้ทรัพย์สินคดีพนันออนไลน์ 821 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000075343 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1171 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ!

    การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก

    สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร

    ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น

    กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก

    น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว

    การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท

    ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่

    #Newskit
    สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ! การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้องดีเอสไอล่ามาเฟียจีน "ตง เกอ" กรรโชกทรัพย์พันล้าน! สมุนยึดโฉนดที่ดิน-โรงแรมหรูกลางกรุงฯ ของเศรษฐีจีนคดีฉ้อโกง ผู้เสียหายร้องขอคืนทรัพย์สิน หวั่นฟอกเงินผ่านนอมินีไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064979

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ร้องดีเอสไอล่ามาเฟียจีน "ตง เกอ" กรรโชกทรัพย์พันล้าน! สมุนยึดโฉนดที่ดิน-โรงแรมหรูกลางกรุงฯ ของเศรษฐีจีนคดีฉ้อโกง ผู้เสียหายร้องขอคืนทรัพย์สิน หวั่นฟอกเงินผ่านนอมินีไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064979 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 869 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานวิ่งเพื่อสุขภาพ เม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท รายได้งามถ้าจับถูกจุด
    .
    งานวิ่ง "Run For Destination 2025" กลายเป็นงานวิ่งทิพย์สุดฉาวในประวัติศาสตร์ ผู้จัดทิ้งนักวิ่งกลางทาง เสี่ยงคดีฉ้อโกง ด่างภาพวงการกีฬาไทย สะเทือนธุรกิจจัดงานวิ่งมูลค่าหลายพันล้านบาทที่กำลังบูม หวั่นกระทบความเชื่อมั่น-ฉุดไทยไกลเป้าหมายสู่เวทีกีฬาโลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052125

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    งานวิ่งเพื่อสุขภาพ เม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท รายได้งามถ้าจับถูกจุด . งานวิ่ง "Run For Destination 2025" กลายเป็นงานวิ่งทิพย์สุดฉาวในประวัติศาสตร์ ผู้จัดทิ้งนักวิ่งกลางทาง เสี่ยงคดีฉ้อโกง ด่างภาพวงการกีฬาไทย สะเทือนธุรกิจจัดงานวิ่งมูลค่าหลายพันล้านบาทที่กำลังบูม หวั่นกระทบความเชื่อมั่น-ฉุดไทยไกลเป้าหมายสู่เวทีกีฬาโลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052125 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 673 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1387 มุมมอง 0 รีวิว
  • SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน

    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin
    SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน
    - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ

    Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย
    - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง

    Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง
    - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด

    คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
    - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

    SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC charges Unicoin and executives for fraud
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) on Wednesday charged cryptocurrency company Unicoin and three of its top executives, including its CEO and Board Chairman Alex Konanykhin, for false and misleading statements that raised more than $100 million from thousands of investors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี
    สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024

    บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024 บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • ศาลอาญาเบิกตัว "ทนายตั้ม" ตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 15 นัด สืบพยานจำเลย 4 นัด เริ่มสืบพยานครั้งแรก 4 มี.ค.ปีหน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039763

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาลอาญาเบิกตัว "ทนายตั้ม" ตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 15 นัด สืบพยานจำเลย 4 นัด เริ่มสืบพยานครั้งแรก 4 มี.ค.ปีหน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039763 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 947 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 933 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำพิเศษธนบุรี รับตัว "ไฮโซเก๊" ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลังจากเหตุตกตึก เฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง

    วันนี้ (10 เม.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการรับตัว นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ "นายฮอต" อ้างตัวเป็นไฮโซสร้างโปรไฟล์หรูดูดี หลอกลวงหญิงสาวหลายราย ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม คุมตัว "นายฮอต" ออกจากโรงพยาบาลไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงปี 64 และมาฝากขังเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรีได้รับตัว นายธัญเทพ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวแต่ได้ปฏิเสธ

    นางกนกวรรณ กล่าวว่า ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำฯ นายธัญเทพ มีประวัติกระโดดจากตึก 3 ชั้น ตามที่ปรากฎตามข่าวและได้รับการรักษามาก่อนเข้าเรือนจำ จึงตรวจพบแผลถลอกเล็กน้อย ได้ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลัง ซึ่งเรือนจำฯ อนุญาตให้นำยามารับประทานตามใบรับรองแพทย์ และตอนนี้เจ้าตัวยังลุกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เนื่องจากแจ้งว่ามีอาการปวดหลังและขาอ่อนแรง โดยเรือนจำฯ จึงนำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่อาคารสถานพยาบาล ชั้น 1 เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และในวันนี้จะส่งพบแพทย์ซึ่งเข้าตรวจในเรือนจำทุกวัน เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลรักษาต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034259

    #MGROnline #ไฮโซเก๊
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำพิเศษธนบุรี รับตัว "ไฮโซเก๊" ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลังจากเหตุตกตึก เฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง • วันนี้ (10 เม.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการรับตัว นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ "นายฮอต" อ้างตัวเป็นไฮโซสร้างโปรไฟล์หรูดูดี หลอกลวงหญิงสาวหลายราย ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม คุมตัว "นายฮอต" ออกจากโรงพยาบาลไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงปี 64 และมาฝากขังเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรีได้รับตัว นายธัญเทพ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวแต่ได้ปฏิเสธ • นางกนกวรรณ กล่าวว่า ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำฯ นายธัญเทพ มีประวัติกระโดดจากตึก 3 ชั้น ตามที่ปรากฎตามข่าวและได้รับการรักษามาก่อนเข้าเรือนจำ จึงตรวจพบแผลถลอกเล็กน้อย ได้ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลัง ซึ่งเรือนจำฯ อนุญาตให้นำยามารับประทานตามใบรับรองแพทย์ และตอนนี้เจ้าตัวยังลุกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เนื่องจากแจ้งว่ามีอาการปวดหลังและขาอ่อนแรง โดยเรือนจำฯ จึงนำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่อาคารสถานพยาบาล ชั้น 1 เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และในวันนี้จะส่งพบแพทย์ซึ่งเข้าตรวจในเรือนจำทุกวัน เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลรักษาต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034259 • #MGROnline #ไฮโซเก๊
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028902
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028902
    Like
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1054 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบเปิดปฏิบัติการ "CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ" รวบบอสจีนหนีคดีฉ้อโกง 1.5 หมื่นล้าน ตั้งแก๊งรับทำบัตรประชาชนปลอมในไทย ซ้ำร่วมมือตำรวจ ตม.อุ้มรีดทรัพย์คนจีนด้วยกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021867

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองปราบเปิดปฏิบัติการ "CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ" รวบบอสจีนหนีคดีฉ้อโกง 1.5 หมื่นล้าน ตั้งแก๊งรับทำบัตรประชาชนปลอมในไทย ซ้ำร่วมมือตำรวจ ตม.อุ้มรีดทรัพย์คนจีนด้วยกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021867 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1469 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน "นารา เครปกะเทย" คดีฉ้อโกงกล่องสุ่ม รับสารภาพลดเหลือ 14 ปี ปรับ 7 หมื่นบาท
    https://www.thai-tai.tv/news/17287/
    ศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน "นารา เครปกะเทย" คดีฉ้อโกงกล่องสุ่ม รับสารภาพลดเหลือ 14 ปี ปรับ 7 หมื่นบาท https://www.thai-tai.tv/news/17287/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกตั้งตัวเป็น อ.สอนดูพระหลัก..ชี้ตำหนิ สารพัด สุดท้ายจบที่พระหลักล้าน ขายหลักพัน หลักหมื่น ..อยากบอกว่าการเล่านิทาน...เวลาท่านจะขายต่อ .ไม่ง่ายเลย...ถ้าราคาสูง เล่านิทานขายไป โดนคดีฉ้อโกงอีก...ถ้าเจ้าทุกข์เอาเรื่อง..กรณีขอคืน แล้วไม่ได้..
    พวกตั้งตัวเป็น อ.สอนดูพระหลัก..ชี้ตำหนิ สารพัด สุดท้ายจบที่พระหลักล้าน ขายหลักพัน หลักหมื่น ..อยากบอกว่าการเล่านิทาน...เวลาท่านจะขายต่อ .ไม่ง่ายเลย...ถ้าราคาสูง เล่านิทานขายไป โดนคดีฉ้อโกงอีก...ถ้าเจ้าทุกข์เอาเรื่อง..กรณีขอคืน แล้วไม่ได้..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • "mRNA ที่รัก"

    "อัยการสั่งฟ้อง'หมอบุญ'กับพวก คดีฉ้อโกง สั่ง DSI ตามจับอายุความ 15 ปี


    https://www.naewna.com/local/861412
    "mRNA ที่รัก" "อัยการสั่งฟ้อง'หมอบุญ'กับพวก คดีฉ้อโกง สั่ง DSI ตามจับอายุความ 15 ปี https://www.naewna.com/local/861412
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนรักหักเหลี่ยม ที่มีแววไปรักกันต่อในซังเต
    ทนายตั้ม กําลังเผชิญวิบากกรรม ถล่มใส่นอกจากถูกอัยการสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว คดีฉ้อโกง พี่อ้อยจตุพร ล่าสุดยังถูกเชือดจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ลงโทษห้ามเป็นทนายความนาน 3 ปี กรณีถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปลับผู้กํากับโจ้ เมื่อปี 2564
    นับเป็นคดีแรกในชีวิตของทนายตั้มที่ถูกสภาทนายความสั่งลงโทษแม้จะเป็นการพิจารณาสอบสวนที่ค่อนข้างล่าช้า แต่ก็ตรงตามสํานวนที่ว่า มาช้าดีกว่าไม่มา
    ก็เป็นไปได้ว่าสภาทนายความซึ่งจะกล้าหือกับทนายตั้ม ก็ตอนทนายตั้มหมดสภาพแล้วอย่างในเวลานี้ หากเขายังคงเป็นทนายเซเลบปาก้าอยู่นอกคุก ทคดีนี้อาจล่าช้าไปถึงไหนต่อไหนแต่พอเริ่มมีคดีแรกก็อาจมีคดีที่สองที่สามตามมา
    ทนายตั้มมีคดีร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความค้างอยู่นับสิบเรื่อง แต่ละเรื่องล้วนเป็นข้อหาหนักสมฐานะของโจรในคาบทนายอย่างทนายตั้มทุกประการ สุดท้ายอาจถึงขั้นถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความตลอดชีวิตได้เลย
    ที่เป็นตลกร้ายก็คือคนที่ร้องเรียนทนายตั้มจนถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนรักหน้ากล้องของทนายตั้มนั่นเอง ทนายจุ๊กกรู เดชา เป็นคนยื่นกรรมการมันยาททนายความให้สอบสวนทนายตั้มคดีโจ้ถุงดํา โดยหลังเกิดคดีนี้ทนายเดชากับทนายตั้มเปิดศึกทางโซเชียลกันอย่างดุเดือด
    เวลานั้นเป็นทนายตั้มที่กล่าวหาทนายเดชาได้คลิปลับถุงดําเป็นคนแรกแต่ไม่ยอมไปแจ้งตํารวจ หรือเอามาเปิดให้สาธารณชนเห็น ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาทนายเดชาจ้องจะตบทรัพย์ผู้กํากับโจ้เพราะได้คลิปก่อนใคร แต่ไม่รีบปล่อย ส่วนทนายตั้มซึ่งได้คลิปทีหลังกลายเป็นคนได้เปิดก่อนโกยคะแนนนิยมไปเต็มๆ
    จากนั้นทั้งคู่ก็ค้าความกันนัวฟ้องกันไปฟ้องกันมาด่ากันไปด่ากันมานายเดชาถึงกับด่าทนายตั้มออกทีวีว่าเป็นหมาขี้เรื้อน
    แต่พอปี 2565สองทนายโซเชียลกลับลํามาจูบปากกัน ยอมถอนฟ้องซึ่งกันและกันจนหมด แต่เรื่องที่ถอนฟ้องไม่ได้ก็คือการไปร้องเรียนกรรมการมันยาททนายความนี่เองเพราะระเบียบของที่นี่ไม่เหมือนศาลถ้าร้องแล้วก็คือร้องเลยถอนคืนไม่ได้ยอมความกันไม่ได้
    สุดท้ายทนายตั้มเลยมาถูกเชือดด้วยน้ํามือของเพื่อนรักเข้าตําราเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #เดชา
    #ทนายตั้ม
    เพื่อนรักหักเหลี่ยม ที่มีแววไปรักกันต่อในซังเต ทนายตั้ม กําลังเผชิญวิบากกรรม ถล่มใส่นอกจากถูกอัยการสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว คดีฉ้อโกง พี่อ้อยจตุพร ล่าสุดยังถูกเชือดจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ลงโทษห้ามเป็นทนายความนาน 3 ปี กรณีถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปลับผู้กํากับโจ้ เมื่อปี 2564 นับเป็นคดีแรกในชีวิตของทนายตั้มที่ถูกสภาทนายความสั่งลงโทษแม้จะเป็นการพิจารณาสอบสวนที่ค่อนข้างล่าช้า แต่ก็ตรงตามสํานวนที่ว่า มาช้าดีกว่าไม่มา ก็เป็นไปได้ว่าสภาทนายความซึ่งจะกล้าหือกับทนายตั้ม ก็ตอนทนายตั้มหมดสภาพแล้วอย่างในเวลานี้ หากเขายังคงเป็นทนายเซเลบปาก้าอยู่นอกคุก ทคดีนี้อาจล่าช้าไปถึงไหนต่อไหนแต่พอเริ่มมีคดีแรกก็อาจมีคดีที่สองที่สามตามมา ทนายตั้มมีคดีร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความค้างอยู่นับสิบเรื่อง แต่ละเรื่องล้วนเป็นข้อหาหนักสมฐานะของโจรในคาบทนายอย่างทนายตั้มทุกประการ สุดท้ายอาจถึงขั้นถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความตลอดชีวิตได้เลย ที่เป็นตลกร้ายก็คือคนที่ร้องเรียนทนายตั้มจนถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนรักหน้ากล้องของทนายตั้มนั่นเอง ทนายจุ๊กกรู เดชา เป็นคนยื่นกรรมการมันยาททนายความให้สอบสวนทนายตั้มคดีโจ้ถุงดํา โดยหลังเกิดคดีนี้ทนายเดชากับทนายตั้มเปิดศึกทางโซเชียลกันอย่างดุเดือด เวลานั้นเป็นทนายตั้มที่กล่าวหาทนายเดชาได้คลิปลับถุงดําเป็นคนแรกแต่ไม่ยอมไปแจ้งตํารวจ หรือเอามาเปิดให้สาธารณชนเห็น ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาทนายเดชาจ้องจะตบทรัพย์ผู้กํากับโจ้เพราะได้คลิปก่อนใคร แต่ไม่รีบปล่อย ส่วนทนายตั้มซึ่งได้คลิปทีหลังกลายเป็นคนได้เปิดก่อนโกยคะแนนนิยมไปเต็มๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ค้าความกันนัวฟ้องกันไปฟ้องกันมาด่ากันไปด่ากันมานายเดชาถึงกับด่าทนายตั้มออกทีวีว่าเป็นหมาขี้เรื้อน แต่พอปี 2565สองทนายโซเชียลกลับลํามาจูบปากกัน ยอมถอนฟ้องซึ่งกันและกันจนหมด แต่เรื่องที่ถอนฟ้องไม่ได้ก็คือการไปร้องเรียนกรรมการมันยาททนายความนี่เองเพราะระเบียบของที่นี่ไม่เหมือนศาลถ้าร้องแล้วก็คือร้องเลยถอนคืนไม่ได้ยอมความกันไม่ได้ สุดท้ายทนายตั้มเลยมาถูกเชือดด้วยน้ํามือของเพื่อนรักเข้าตําราเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ #เดชา #ทนายตั้ม
    Love
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1282 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68

    วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง มาจัดการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk

    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68 วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง มาจัดการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    65
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 4588 มุมมอง 3 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68
    .
    เช้าวันจันทร์ วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดตากของไทย ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง "นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ และผู้บัญชาการหน่วยสอบสวนทางอาญา มาจัดการด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของวาทะซึ่งมีการส่งต่อกันไปทั่วว่า “ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย?” , นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68 . เช้าวันจันทร์ วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดตากของไทย ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง "นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ และผู้บัญชาการหน่วยสอบสวนทางอาญา มาจัดการด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของวาทะซึ่งมีการส่งต่อกันไปทั่วว่า “ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย?” , นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    Like
    Love
    4
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 976 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts