• คิงส์โพธิ์ดำ ep.3 โลกที่บิดเบี้ยว ต้นอ้อเป็นหนึ่งรีเทิร์น
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง
    คิงส์โพธิ์ดำ ep.3 โลกที่บิดเบี้ยว ต้นอ้อเป็นหนึ่งรีเทิร์น #คิงส์โพธิ์ดำ #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • #หนุ่มลั่นตรงส่งสารถึงกันต์
    จริงอย่างที่มดดำเคยกล่าวไว้
    มีปัญหากับใครก็ได้ อย่ามีปัญหากับหนุ่ม กรรไกร
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #หนุ่มลั่นตรงส่งสารถึงกันต์ จริงอย่างที่มดดำเคยกล่าวไว้ มีปัญหากับใครก็ได้ อย่ามีปัญหากับหนุ่ม กรรไกร #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊ย!! ตร.จ่อเรียก ดาราทั้งหลาย ดิไอคอน ใกล้เกมส์
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    อุ๊ย!! ตร.จ่อเรียก ดาราทั้งหลาย ดิไอคอน ใกล้เกมส์ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊ย สคบ.แจง ที่เคยไม่รับแจ้งกรณีดิไอคอน แต่ในโหนกระแสมีข้อมูลใหม่ ตอนนี้รับแจ้งแล้ว
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    อุ๊ย สคบ.แจง ที่เคยไม่รับแจ้งกรณีดิไอคอน แต่ในโหนกระแสมีข้อมูลใหม่ ตอนนี้รับแจ้งแล้ว #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ใครเทก่อนคนนั้นรอด
    จากที่เพจคิงส์โพธิ์ดำ ได้โพสไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
    ว่าหงายการ์ดว่าตนเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ ทุกครั้งที่ระบบเครือข่ายลูกโซ่เกมส์
    เป็นสิ่งที่ดารา นักแสดง ที่เข้าร่วมแสดงตัวเป็นบอส
    เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในธุรกิจไดเรค ให้แฟนคลับดารา
    มีความรู้สึกเชื่อถือ ที่เกิดจากความไว้ใจ
    แต่เมื่อเกิดความเสียหาย ดารา นักแสดง นักร้อง
    ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ ก็จะออกตัวทันทีว่า ที่จริงแล้ว
    ตนเอง ก็เป็นเพียงนักแสดงที่ถูกจ้างมาแสดง
    เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์เท่านั้น อย่างกรณีสดๆร้อนๆก่อนหน้านี้
    คือ นักร้องลูกทุ่ง ฝน ธนสุนธร กับสบู่ปลดหนี้
    ตอนนี้ เรื่องราวก็ยังไม่สะเด็ดน้ำเลย
    แต่ ดิไอคอน ถือว่า เป็นองค์กร และระบบที่ใหญ่กว่ามาก
    และมีดารานักแสดงจำนวนมาก ระดับแถวหน้าทั้งนั้น
    เบอร์ต้นของฟรีทีวี ที่ยิ่งทำให้ผู้คน มั่นอกมั่นใจ
    ว่าตนเอง จะสามารถระบายสินค้าตามคำกล่อมของเหล่าบรรดาอัพไลน์ได้
    แต่ หลังจากที่ดิไอคอน มีอาการเซๆ จากผู้เสียหายที่ออกมาเปิดหน้าชน คนแรกที่ออกตัวแรงก่อนใคร คือแซม ยุรนันท์ ดาราเก่า ที่ยังมีงานแสดงต่อเนื่อง ได้ให้สัมภาษณ์และใช้การหงายการ์ดทันที ว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซนเตอร์
    แต่บทการแสดงของหนึ่งในตัวแสดงหลักอีกหนึ่งท่านคือ มิน หรือ มิน พีชญา ที่มีบทพูดที่ยืนยันว่า ตนเอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์
    แต่ตนเองคือ บอส นั่นคือความอิ๊บอ๋าย ที่กลายเป็นดิจิตอลฟรุทปริ๊นส์
    ยากที่จะลบออกจากระบบโซเชียล
    ก็ไม่รู้ว่าจะแสดงความยินดี หรือแสดงความเสียใจ กับตำแหน่งอันทรงคุณค่านี้ "บอสมิน"
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ใครเทก่อนคนนั้นรอด จากที่เพจคิงส์โพธิ์ดำ ได้โพสไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ว่าหงายการ์ดว่าตนเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ ทุกครั้งที่ระบบเครือข่ายลูกโซ่เกมส์ เป็นสิ่งที่ดารา นักแสดง ที่เข้าร่วมแสดงตัวเป็นบอส เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในธุรกิจไดเรค ให้แฟนคลับดารา มีความรู้สึกเชื่อถือ ที่เกิดจากความไว้ใจ แต่เมื่อเกิดความเสียหาย ดารา นักแสดง นักร้อง ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ ก็จะออกตัวทันทีว่า ที่จริงแล้ว ตนเอง ก็เป็นเพียงนักแสดงที่ถูกจ้างมาแสดง เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์เท่านั้น อย่างกรณีสดๆร้อนๆก่อนหน้านี้ คือ นักร้องลูกทุ่ง ฝน ธนสุนธร กับสบู่ปลดหนี้ ตอนนี้ เรื่องราวก็ยังไม่สะเด็ดน้ำเลย แต่ ดิไอคอน ถือว่า เป็นองค์กร และระบบที่ใหญ่กว่ามาก และมีดารานักแสดงจำนวนมาก ระดับแถวหน้าทั้งนั้น เบอร์ต้นของฟรีทีวี ที่ยิ่งทำให้ผู้คน มั่นอกมั่นใจ ว่าตนเอง จะสามารถระบายสินค้าตามคำกล่อมของเหล่าบรรดาอัพไลน์ได้ แต่ หลังจากที่ดิไอคอน มีอาการเซๆ จากผู้เสียหายที่ออกมาเปิดหน้าชน คนแรกที่ออกตัวแรงก่อนใคร คือแซม ยุรนันท์ ดาราเก่า ที่ยังมีงานแสดงต่อเนื่อง ได้ให้สัมภาษณ์และใช้การหงายการ์ดทันที ว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซนเตอร์ แต่บทการแสดงของหนึ่งในตัวแสดงหลักอีกหนึ่งท่านคือ มิน หรือ มิน พีชญา ที่มีบทพูดที่ยืนยันว่า ตนเอง ไม่ได้เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์ แต่ตนเองคือ บอส นั่นคือความอิ๊บอ๋าย ที่กลายเป็นดิจิตอลฟรุทปริ๊นส์ ยากที่จะลบออกจากระบบโซเชียล ก็ไม่รู้ว่าจะแสดงความยินดี หรือแสดงความเสียใจ กับตำแหน่งอันทรงคุณค่านี้ "บอสมิน" #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • พี่แซมออกตัวแล้ว 1 พี่เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ไม่ใช่บอสนะฮะ
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    พี่แซมออกตัวแล้ว 1 พี่เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ไม่ใช่บอสนะฮะ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จับอาการทักษิณกับข่าวลือยุบพรรค
    เป็นที่น่าจับตาการอาการแปลกๆ หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ตั้งแต่บุตรสาวอดีตนช.ทักษิณ ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย
    ทักษิณ แสดงอาการไม่กลัวใคร ตัดสัมพันธ์วงษ์สุวรรณ และการรวมเสียงพรรคร่วมตั้งรัฐบาลได้ผ่านฉลุย รวมถึงการแสดงความเก๋า แก้เกมส์การเมืองจนลุงป้อมไปไม่เป็น สร้างสถานการณ์จนทำให้เสี่ยแป้งต้องตัดลุงอย่างไม่ใยดี
    -แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวลือสะพัด กับการหายหน้าไปจากพื้นที่สื่อของทักษิณ ไปไกลกระทั่งลือว่าทักษิณหลบไปเป็นคนต่างด้าว ณ ต่างแดน แต่ก็มีการสยบข่าวลือ ด้วยการเข้าพบของเสี่ยหนู และเนวิน จนเปิดวาทะกรรม ไม่เคยพูดคำว่า "จบแล้วครับนาย" โดยอนุทินยังเน้นหน้าลอยๆให้สัมภาษณ์ว่า ลูกน้องจะไปพูดแบบนี้กับเจ้านายตัวเองได้อย่างไร แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังไม่เห็นเงาทักษิณออกมาให้เห็นหน้าซึ่งผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งสำหรับคนชื่อทักษิณชินวัตร
    -มีข่าวที่ไม่ใช่ข่าวลือชุดต่อมา ว่าทักษิณ ได้ทำการขอนุญาตออกนอกประเทศ 2 วาระ ที่แรกคือ ประเทศอินโดยนีเซีย และวาระที่สองคือสหรัฐ ซึ่งวงการข่าวสารก็จะรับรู้ว่า การขอออกนอกประเทศของทักษิณ ส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับข่าววงใน ที่พบว่ามีความเสี่ยง มีความไม่แน่นอน ที่ควรจะออกไปตั้งหลักนอกประเทศก่อน
    -จึงเกิดคำถามว่า เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ทักษิณ ต้องหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในเกมส์นี้ได้บ้าง ก็พบว่า
    1. กรณี ป๋วยทิพย์ จากชั้น 14 มาถึงการแสดงออกถึงร่างกายที่แข็งแรงดุจพญาช้างสาร โดยไม่แคร์ผู้รับรอง ตั้งแต่ราชทัณฑ์ รพ.ตร. แพทย์ และทุกคนในกระบวนการที่ช่วยให้ทักษิณ ไม่ต้องเดินเข้าประตูตารางแม้แต่นาทีเดียว และยังเฉิดฉายแสดงบารมีอย่างไม่หวั่นเกรงสายตาของคนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณในอดีต
    2. กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ กับแผ่นดินธรณีสงฆ์ ที่แม้มีการให้สัมภาษณ์จากนักกฏหมายหลายคนจะออกมาในแนวทางที่ว่า เรื่องนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลแน่นอนก็ตาม และผู้ร้องก็ถูกด้อยค่าต่างๆนาๆก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการ กลไกการทำงานเพื่อแสวงหาความจริงกลับพบปัจจัยที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะเข้าสู่การพิจารณา
    3. กรณีบ้านจันทร์ส่องหล้า กับการเอ่ยถึงคลิปเสียง หรือคลิปภาพ ที่เห็นการบัญชาการของทักษิณ ที่มีต่อพรรคร่วม รวมถึงการใช้อำนาจในการสั่งการพรรคร่วม ไปทำสัญญาใจในการสนับสนุนบุตรสาวให้ได้ตำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง แต่ภาพข่าวที่ออกมาก็ยังค้านสายตาประชาชนทั้งประเทศ และตัวนายทักษิณ ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์เย้ยอีกว่า ไม่ได้ครอบงำ แต่ตนเองครอบครอง เพราะเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ซ้ำยังมีการแต่งตั้ง ผู้มีพระคุณต่อทักษิณ ได้เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งสำคัญอย่างมากมาย โดยล่าสุด คือตำแหน่งที่ปรึกษานายก ที่มีจำนวนมากเท่ากับทีมฟุตซอล อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งหมดล้วนมีประวัติศาสตร์ในการรับใช้นายใหญ่ ที่ชื่อทักษิณทั้งสิ้น
    คิงส์โพธิ์ดำ จึงนำข้อมูลต่างๆมานำเสนอไว้ เพื่อหากเกิดเหตุทักษิณหายตัวไปจริงๆวันใด จะได้ทราบที่มาที่ไป ว่ามีอาการใดที่ผิดสังเกตุ กับข่าวความเคลื่อนไหวของทักษิณ ณ วันนี้
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #จับอาการทักษิณกับข่าวลือยุบพรรค เป็นที่น่าจับตาการอาการแปลกๆ หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่บุตรสาวอดีตนช.ทักษิณ ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย ทักษิณ แสดงอาการไม่กลัวใคร ตัดสัมพันธ์วงษ์สุวรรณ และการรวมเสียงพรรคร่วมตั้งรัฐบาลได้ผ่านฉลุย รวมถึงการแสดงความเก๋า แก้เกมส์การเมืองจนลุงป้อมไปไม่เป็น สร้างสถานการณ์จนทำให้เสี่ยแป้งต้องตัดลุงอย่างไม่ใยดี -แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวลือสะพัด กับการหายหน้าไปจากพื้นที่สื่อของทักษิณ ไปไกลกระทั่งลือว่าทักษิณหลบไปเป็นคนต่างด้าว ณ ต่างแดน แต่ก็มีการสยบข่าวลือ ด้วยการเข้าพบของเสี่ยหนู และเนวิน จนเปิดวาทะกรรม ไม่เคยพูดคำว่า "จบแล้วครับนาย" โดยอนุทินยังเน้นหน้าลอยๆให้สัมภาษณ์ว่า ลูกน้องจะไปพูดแบบนี้กับเจ้านายตัวเองได้อย่างไร แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังไม่เห็นเงาทักษิณออกมาให้เห็นหน้าซึ่งผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งสำหรับคนชื่อทักษิณชินวัตร -มีข่าวที่ไม่ใช่ข่าวลือชุดต่อมา ว่าทักษิณ ได้ทำการขอนุญาตออกนอกประเทศ 2 วาระ ที่แรกคือ ประเทศอินโดยนีเซีย และวาระที่สองคือสหรัฐ ซึ่งวงการข่าวสารก็จะรับรู้ว่า การขอออกนอกประเทศของทักษิณ ส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับข่าววงใน ที่พบว่ามีความเสี่ยง มีความไม่แน่นอน ที่ควรจะออกไปตั้งหลักนอกประเทศก่อน -จึงเกิดคำถามว่า เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ทักษิณ ต้องหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในเกมส์นี้ได้บ้าง ก็พบว่า 1. กรณี ป๋วยทิพย์ จากชั้น 14 มาถึงการแสดงออกถึงร่างกายที่แข็งแรงดุจพญาช้างสาร โดยไม่แคร์ผู้รับรอง ตั้งแต่ราชทัณฑ์ รพ.ตร. แพทย์ และทุกคนในกระบวนการที่ช่วยให้ทักษิณ ไม่ต้องเดินเข้าประตูตารางแม้แต่นาทีเดียว และยังเฉิดฉายแสดงบารมีอย่างไม่หวั่นเกรงสายตาของคนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณในอดีต 2. กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ กับแผ่นดินธรณีสงฆ์ ที่แม้มีการให้สัมภาษณ์จากนักกฏหมายหลายคนจะออกมาในแนวทางที่ว่า เรื่องนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลแน่นอนก็ตาม และผู้ร้องก็ถูกด้อยค่าต่างๆนาๆก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการ กลไกการทำงานเพื่อแสวงหาความจริงกลับพบปัจจัยที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะเข้าสู่การพิจารณา 3. กรณีบ้านจันทร์ส่องหล้า กับการเอ่ยถึงคลิปเสียง หรือคลิปภาพ ที่เห็นการบัญชาการของทักษิณ ที่มีต่อพรรคร่วม รวมถึงการใช้อำนาจในการสั่งการพรรคร่วม ไปทำสัญญาใจในการสนับสนุนบุตรสาวให้ได้ตำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง แต่ภาพข่าวที่ออกมาก็ยังค้านสายตาประชาชนทั้งประเทศ และตัวนายทักษิณ ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์เย้ยอีกว่า ไม่ได้ครอบงำ แต่ตนเองครอบครอง เพราะเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ซ้ำยังมีการแต่งตั้ง ผู้มีพระคุณต่อทักษิณ ได้เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งสำคัญอย่างมากมาย โดยล่าสุด คือตำแหน่งที่ปรึกษานายก ที่มีจำนวนมากเท่ากับทีมฟุตซอล อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งหมดล้วนมีประวัติศาสตร์ในการรับใช้นายใหญ่ ที่ชื่อทักษิณทั้งสิ้น คิงส์โพธิ์ดำ จึงนำข้อมูลต่างๆมานำเสนอไว้ เพื่อหากเกิดเหตุทักษิณหายตัวไปจริงๆวันใด จะได้ทราบที่มาที่ไป ว่ามีอาการใดที่ผิดสังเกตุ กับข่าวความเคลื่อนไหวของทักษิณ ณ วันนี้ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮะ อะไรนะ ลือว่า! พิธีกรดังอักษรย่อ ก. โดนปลดฟ้าแลบแปล๊บๆ เหตุวงลูกโซ่ดิไอคลอนแคลน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ฮะ อะไรนะ ลือว่า! พิธีกรดังอักษรย่อ ก. โดนปลดฟ้าแลบแปล๊บๆ เหตุวงลูกโซ่ดิไอคลอนแคลน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกโซ่ ดาราที่ลูกข่ายเรียกว่าบอส ถ้าเกมส์จะหงายการ์ด ฉันนั้นเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ทันที!!
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ลูกโซ่ ดาราที่ลูกข่ายเรียกว่าบอส ถ้าเกมส์จะหงายการ์ด ฉันนั้นเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ทันที!! #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ต้นอ้อเป็นหนึ่งรีเทิร์น
    จากวีรสตรี สู่การเป็นกาลกิณี ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง จากอดีตตัวตึงพรรคสีส้ม สู่ลุคจิตอาสา
    เกาะหนุ่มกรรชัย จนเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กับภารกิจล้มลัตติ๊เชี่อมจิตเชื่อมใจ
    แต่กลับพบวีรกรรมสุดแสบ ทั้งการใช้วุฒิการศึกษาที่ไม่มีอยู่จริง ปริญญาตึกแถว แถมอ้างว่าดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
    อย่างไม่มีความละอาย โดยวีรกรรมนี้ได้รับการยืนยันจากปลดกระทรวงศึกษาธิการ ชัดเจน ฟันธง
    และยังต่ออีกยาวๆด้วยการทำอาชีพที่แสนซับซ้อน ทั้งจำหน่ายวุฒิ ที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย เป็นคดีอาญา ทั้งเรื่องฉ้อโกง แต่ก็ต้องยอมรับในความเป็นนักขาย ทั้งตำแหน่ง แม้กระทั่งที่จอดรถ ในสภา ขอให้บอก ต้นอ้อจัดการได้หมด ถ้าเงินถึงอ้อก็พึ่งได้
    -แต่ความไม่ธรรมดา ทั้งที่คดียังอยู่คาศาล ต้นอ้อกลับได้รับเชิญ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ไปเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง “จะสร้างจิตอาสาได้อย่างไร” โอ้ว มาย ก๊อดดด เป็นที่กังขา ถึงการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัยของรัฐ ที่ใช้มาตรฐานใดในการพิจารณา คัดคนเข้าไปให้ความรู้กับนักศึกษา เป็นภาพที่ปรากฏต่อสายตาประชาชน ชาวไทย ที่ต้องอึ้งกันไปทั้งแผ่นดิน
    และนี่ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่โลกมีความบิดเบี้ยว อาจมองภาพเพียงฉาบฉวย แค่หน้าตาที่ผ่านการใช้แอพ จากเหี่ยวๆเป็นเปรี้ยวปริ๊ดปร๊าด ก็ไม่เป็นที่แปลกใจ ขนาด นช.กลับมาถึงแผ่นดินไทย ลงจากตึกรพ.ตร.ชั้น 14 บินไปเชียงใหม่ ยังมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ไปร่วมต้อนรับ ทั้งๆที่ในเวลานั้น ยังคงมีสถานการณ์เป็น นช.เต็มตัว
    หน้าตา ชื่อเสียง อำนาจ กลายเป็นสิ่งหอมหวนของกลุ่มคนที่ไร้ศักดิ์ศรี จนบางคนถึงขั้นคลานเข่าเข้ากราบนักโทษก็ยังมีให้เห็น
    นับประสาอะไร กับคนอย่างต้นอ้อ ที่มีวีรกรรม มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังต้องรอรับความยุติธรรมจากระบบตุลาการ แต่กลับได้รับเชิญให้ไปบรรยายในมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่เรียกว่าราชภัฏสถาบันที่ผลิตครู บ่มเพาะเยาวชนของชาติสู่การพัฒนาประเทศในรุ่นต่อๆไป บัลลัยไส้จริงๆ
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ต้นอ้อเป็นหนึ่งรีเทิร์น จากวีรสตรี สู่การเป็นกาลกิณี ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง จากอดีตตัวตึงพรรคสีส้ม สู่ลุคจิตอาสา เกาะหนุ่มกรรชัย จนเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กับภารกิจล้มลัตติ๊เชี่อมจิตเชื่อมใจ แต่กลับพบวีรกรรมสุดแสบ ทั้งการใช้วุฒิการศึกษาที่ไม่มีอยู่จริง ปริญญาตึกแถว แถมอ้างว่าดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง อย่างไม่มีความละอาย โดยวีรกรรมนี้ได้รับการยืนยันจากปลดกระทรวงศึกษาธิการ ชัดเจน ฟันธง และยังต่ออีกยาวๆด้วยการทำอาชีพที่แสนซับซ้อน ทั้งจำหน่ายวุฒิ ที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย เป็นคดีอาญา ทั้งเรื่องฉ้อโกง แต่ก็ต้องยอมรับในความเป็นนักขาย ทั้งตำแหน่ง แม้กระทั่งที่จอดรถ ในสภา ขอให้บอก ต้นอ้อจัดการได้หมด ถ้าเงินถึงอ้อก็พึ่งได้ -แต่ความไม่ธรรมดา ทั้งที่คดียังอยู่คาศาล ต้นอ้อกลับได้รับเชิญ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ไปเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง “จะสร้างจิตอาสาได้อย่างไร” โอ้ว มาย ก๊อดดด เป็นที่กังขา ถึงการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัยของรัฐ ที่ใช้มาตรฐานใดในการพิจารณา คัดคนเข้าไปให้ความรู้กับนักศึกษา เป็นภาพที่ปรากฏต่อสายตาประชาชน ชาวไทย ที่ต้องอึ้งกันไปทั้งแผ่นดิน และนี่ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่โลกมีความบิดเบี้ยว อาจมองภาพเพียงฉาบฉวย แค่หน้าตาที่ผ่านการใช้แอพ จากเหี่ยวๆเป็นเปรี้ยวปริ๊ดปร๊าด ก็ไม่เป็นที่แปลกใจ ขนาด นช.กลับมาถึงแผ่นดินไทย ลงจากตึกรพ.ตร.ชั้น 14 บินไปเชียงใหม่ ยังมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ไปร่วมต้อนรับ ทั้งๆที่ในเวลานั้น ยังคงมีสถานการณ์เป็น นช.เต็มตัว หน้าตา ชื่อเสียง อำนาจ กลายเป็นสิ่งหอมหวนของกลุ่มคนที่ไร้ศักดิ์ศรี จนบางคนถึงขั้นคลานเข่าเข้ากราบนักโทษก็ยังมีให้เห็น นับประสาอะไร กับคนอย่างต้นอ้อ ที่มีวีรกรรม มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังต้องรอรับความยุติธรรมจากระบบตุลาการ แต่กลับได้รับเชิญให้ไปบรรยายในมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่เรียกว่าราชภัฏสถาบันที่ผลิตครู บ่มเพาะเยาวชนของชาติสู่การพัฒนาประเทศในรุ่นต่อๆไป บัลลัยไส้จริงๆ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ป้ามลปิษ กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
    ความอิ๊บอ๋ายกำลังจะบังเกิด
    ปกติ คิงส์โพธิ์ดำ จะไม่ขวางความเจริญก้าวหน้าของใคร แต่ ป้ามลปิษนี่ รับไม่ล่ายเจงๆ
    มาดูวีรกรรมของป้า แล้วค่อยตอบพี่คิงส์ว่า ไหวมั๊ย
    - ป้าสมัยดำรงค์ตำแหน่งที่มีอำนาจในกลต. ถูกร้องเรียนว่าปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่อยู่ในหลักธรรมภิบาล ทำให้พนักงานที่มีความสามารถ จำใจลาออกเป็นจำนวนมาก ถึง200 คน และที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าทำงานให้รอดไปวันๆ
    วีรกรรมที่สอง
    - ยัยป้า แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผลการประเมินระดับต่ำ จนทำให้เกิดค่านิยมใหม่ โดยใครที่อยากได้ตำแหน่งหลังเกษียณเพียงแค่ทำดีกับอินังป้า ก็ได้ตำแหน่งเติบโต
    - ยายป้า แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา มีมากกว่า 10 ตำแหน่ง และเงินเดือนสูงหลักแสนไม่มีขอบเขตงานที่ชัดเจนและบรรดาที่ปรึกษา ทำหน้าที่เกินขอบเขต โดยการให้เข้ามาตัดสินใจและร่วมแคนดิเดตกับบอร์ดบริหารปัจจุบัน ทำให้การทำงานยากขึ้นและประสิทธิภาพลดลง
    - พนักงานคนใดที่ทำให้ ป้ามลปิ๊ษไม่พอใจ จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ โยกย้าย มากสุดถึงขั้นสอบสวน
    - ยัง ยังไม่พอ บุคคลใดที่ไม่ยอมให้นังป้าต่อวาระตำแหน่งได้โดยอัติโนมัติ ป้าจะกลั่นแกล้งเกลียดชังอย่างหนัก จนทนไม่ไหวแพ้บายไปเอง
    - และยายป้ายังไม่สนใจเวล่ำเวลา ชอบตั้งคำถาม สั่งงานผ่านทางออนไลน์และไม่พิจารณาความเหมาะสมของเวลา และต้องการคำตอบทันที ทำให้พนักงานหวาดกลัว และสละเวลาส่วนตัวมาตอบคำถามโดยไม่สมัครใจ ถึงขั้นเคยสั่งให้ผู้บริหาร ชี้แจงว่า เวลา6โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นคือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน เช๊ดดดด
    - งานไหนที่อิป้าได้รับมอบหมายแต่ไม่เสร็จ ป้า จะโบ้ยไปที่ ผู้บริหารชุดเก่า ซึ่งอิป้า ทำงานมาถึงปีที่ 4 ก็ยังคงพูดเหมือนเดิม
    - ยายป้ามลปิษ มีปัญหา เรื่องงบประมาณ จ่ายเงินเดือนที่ปรึกษาหลักแสน และมีการตั้งงบประมาณพานักข่าวเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ หลักล้านบาท และจ้างพนักงานชั่วคราว 100 คน งบ 20 ล้านบาท เพียงเพื่อเอาหน้าและสร้างบารมี
    - ยังไม่พอ ป้ายังข่มขู่บอร์ดบริหาร และพนักงาน โดยป้าขอดูคะแนนการประเมินของตัวเอง จากบอร์ดแต่ละคน หากบอร์ดคนใดให้คะแนนต่ำ ก็โดนเล่นเป็นรายตัว
    - อิป้าไม่ยอมที่จะให้ใครมีผลงานเด่นกว่าตัวเอง แต่ขณะอิป้าติดมือถือหนักมาก แม้กระทั่งขณะประชุมบอร์ดบริหาร หากใครตั้งคำถามแล้วอิป้าตอบไม่ได้ จะเหวี่ยงวีนทันที
    - ที่ถึงกับช็อตฟิวพี่คิงส์คือ ยายป้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารในกลต. แต่ดันขาดความรู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่เข้าใจตลาดลงทุนเชิงลึก ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงของตลาดทุนกับการเงิน และเมื่อถูกถามคำถามและตอบไม่ได้ จะโทษคนรองข้างทั้งหมด หรืออ้างว่า ไม่ต้องการให้คำตอบ
    โอ้ว มาย ก๊อด คนแบบนี้หรือ ที่จะได้รับการเชิดชู ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน หน่วยงานอันทรงเกียรติ กำลังจะมีบุคคลมาบริหารอันเป็นที่น่ารังเกียจในเชิงประจักษ์ จะสร้างความด่างพร้อยให้กับหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา อย่างน่าเสียดาย
    คงต้องให้รัฐบาล กลับไปหาข้อมูล เพื่อทบทวนพิจารณาใหม่อีกครั้ง หรือหาใครที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้วจริงหรือ สำหรับการดำรงค์ตำแหน่งอันทรงเกียรติ และมีการเชื่อมโยงกับประชาชน ฝากให้คิดและพิจารณา เพราะที่น่าอัวคือปัจจุบันแกดำรงค์ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อูยยยย เสียวซี๊ดดดดด
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ป้ามลปิษ กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ความอิ๊บอ๋ายกำลังจะบังเกิด ปกติ คิงส์โพธิ์ดำ จะไม่ขวางความเจริญก้าวหน้าของใคร แต่ ป้ามลปิษนี่ รับไม่ล่ายเจงๆ มาดูวีรกรรมของป้า แล้วค่อยตอบพี่คิงส์ว่า ไหวมั๊ย - ป้าสมัยดำรงค์ตำแหน่งที่มีอำนาจในกลต. ถูกร้องเรียนว่าปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่อยู่ในหลักธรรมภิบาล ทำให้พนักงานที่มีความสามารถ จำใจลาออกเป็นจำนวนมาก ถึง200 คน และที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าทำงานให้รอดไปวันๆ วีรกรรมที่สอง - ยัยป้า แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผลการประเมินระดับต่ำ จนทำให้เกิดค่านิยมใหม่ โดยใครที่อยากได้ตำแหน่งหลังเกษียณเพียงแค่ทำดีกับอินังป้า ก็ได้ตำแหน่งเติบโต - ยายป้า แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา มีมากกว่า 10 ตำแหน่ง และเงินเดือนสูงหลักแสนไม่มีขอบเขตงานที่ชัดเจนและบรรดาที่ปรึกษา ทำหน้าที่เกินขอบเขต โดยการให้เข้ามาตัดสินใจและร่วมแคนดิเดตกับบอร์ดบริหารปัจจุบัน ทำให้การทำงานยากขึ้นและประสิทธิภาพลดลง - พนักงานคนใดที่ทำให้ ป้ามลปิ๊ษไม่พอใจ จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ โยกย้าย มากสุดถึงขั้นสอบสวน - ยัง ยังไม่พอ บุคคลใดที่ไม่ยอมให้นังป้าต่อวาระตำแหน่งได้โดยอัติโนมัติ ป้าจะกลั่นแกล้งเกลียดชังอย่างหนัก จนทนไม่ไหวแพ้บายไปเอง - และยายป้ายังไม่สนใจเวล่ำเวลา ชอบตั้งคำถาม สั่งงานผ่านทางออนไลน์และไม่พิจารณาความเหมาะสมของเวลา และต้องการคำตอบทันที ทำให้พนักงานหวาดกลัว และสละเวลาส่วนตัวมาตอบคำถามโดยไม่สมัครใจ ถึงขั้นเคยสั่งให้ผู้บริหาร ชี้แจงว่า เวลา6โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นคือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน เช๊ดดดด - งานไหนที่อิป้าได้รับมอบหมายแต่ไม่เสร็จ ป้า จะโบ้ยไปที่ ผู้บริหารชุดเก่า ซึ่งอิป้า ทำงานมาถึงปีที่ 4 ก็ยังคงพูดเหมือนเดิม - ยายป้ามลปิษ มีปัญหา เรื่องงบประมาณ จ่ายเงินเดือนที่ปรึกษาหลักแสน และมีการตั้งงบประมาณพานักข่าวเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ หลักล้านบาท และจ้างพนักงานชั่วคราว 100 คน งบ 20 ล้านบาท เพียงเพื่อเอาหน้าและสร้างบารมี - ยังไม่พอ ป้ายังข่มขู่บอร์ดบริหาร และพนักงาน โดยป้าขอดูคะแนนการประเมินของตัวเอง จากบอร์ดแต่ละคน หากบอร์ดคนใดให้คะแนนต่ำ ก็โดนเล่นเป็นรายตัว - อิป้าไม่ยอมที่จะให้ใครมีผลงานเด่นกว่าตัวเอง แต่ขณะอิป้าติดมือถือหนักมาก แม้กระทั่งขณะประชุมบอร์ดบริหาร หากใครตั้งคำถามแล้วอิป้าตอบไม่ได้ จะเหวี่ยงวีนทันที - ที่ถึงกับช็อตฟิวพี่คิงส์คือ ยายป้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารในกลต. แต่ดันขาดความรู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่เข้าใจตลาดลงทุนเชิงลึก ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงของตลาดทุนกับการเงิน และเมื่อถูกถามคำถามและตอบไม่ได้ จะโทษคนรองข้างทั้งหมด หรืออ้างว่า ไม่ต้องการให้คำตอบ โอ้ว มาย ก๊อด คนแบบนี้หรือ ที่จะได้รับการเชิดชู ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน หน่วยงานอันทรงเกียรติ กำลังจะมีบุคคลมาบริหารอันเป็นที่น่ารังเกียจในเชิงประจักษ์ จะสร้างความด่างพร้อยให้กับหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา อย่างน่าเสียดาย คงต้องให้รัฐบาล กลับไปหาข้อมูล เพื่อทบทวนพิจารณาใหม่อีกครั้ง หรือหาใครที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้วจริงหรือ สำหรับการดำรงค์ตำแหน่งอันทรงเกียรติ และมีการเชื่อมโยงกับประชาชน ฝากให้คิดและพิจารณา เพราะที่น่าอัวคือปัจจุบันแกดำรงค์ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อูยยยย เสียวซี๊ดดดดด #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จำตัวละครตัวนี้ให้ได้
    "เม่นดำ"
    ถ้าล้มไม่ได้ ประเทศไทยอิ๊บอ๊ายแน่นอน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #จำตัวละครตัวนี้ให้ได้ "เม่นดำ" ถ้าล้มไม่ได้ ประเทศไทยอิ๊บอ๊ายแน่นอน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ได้เวลาล้างบางสตม
    โจ๊ก แม้จะกลายเป็นข้าวต้มเละ จากแมวเก้าชีวิต แต่ใช้ไปหมดไม่เหลือ สิ้นภาพการกลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ใฝ่ฝัน แม้จะมีพ่อบุญธรรม อย่างเสรีพิสทธิ์ ช่วยปูทาง พาลัดเลาะกฏกติกา เลี่ยงอย่างไร ก็ไม่สามารถกู้ลมหายใจในวงการสีกากีของโจ๊ก กลับมาได้
    แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ยังไม่จางหาย ที่คล้ายกับเป็นทายาทอสูร หากย้อนกลับไป สมัยโจ๊ก เรืองอำนาจ ได้ใช้หน่วยงาน สตม.ในการเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ทั้งจากการรีดทรัพย์จากกลุ่มทุนจีน และแรงงานที่เป็นต่างด้าว ที่เป็นกลุ่มที่อยู่ในกำกับดูแลของสตม. เอื้อให้ต่างด้าว อยู่ในประเทศไทย อย่างไม่ถูกต้อง เป็นปฐมบทแห่งความร่ำรวย ที่โจ๊กสร้างแบบแผนไว้อย่างมั่นคง
    แม้โจ๊กจากไปแบบไม่หวนกลับ ผู้รับช่วงต่อ ชื่อในวงการตร. เรียกว่า แม่นดำ ซึงถามถึงความซั่วก็กินกันไม่ลงกับโจ๊กเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกเหนือจากการเรียกรับเก็บแบบรายเดือน กับต่างด้าวที่ไม่ได้ขออนุญาต เดือนละ 500 ต่อหัว ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนในปัจจุบัน หรือถ้าขาดการต่อการขออนุญาตที่เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย กลุ่มนี้ หลายพันบ.ต่อหัวต่อเดือน ซึ่งยอดรวมมหาศาลนี้ ก็ยังไม่ทำให้เม่นดำอิ่มได้
    ยังคงดำเนินต่อ ไปยังส่วยบ่ออน สถานบันเทิง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองเลยแม้แต่น้อย
    ปัจจุบัน เม่นดำ มีความทะเยอทะยาน วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่งในระดับ ผู้บัญชาการ สตม. เพราะยังเชื่อว่าเส้นสายที่โจ๊กได้วางไว้ ตนจะสามารถเข้ามาแทนได้อย่างเต็มรูปแบบ บ้างก็อ้างว่า แม่นดำ เป็นเด็กในคาถาของลุง ส่วนลุงไหน ไม่รู้ว ไม่รู้วจริงๆ
    คิงส์โพธิ์ดำ พินิจพิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะถึงเวลาอันสมควร ในการล้างบางกลุ่มอำนาจ ที่มีบริบทเป็นทายาทอสูร ต่อจากโจ๊ก มิเช่นนั้น คนไทย ก็ไม่ต่างจากการหนี้เสือ ปะตะกวด เจ้าของกิจการแทนที่จะได้การอำนวยความสะดวก จากสตม. ให้แรงงานของตนสามารถนำเข้าสู่ระบบ ให้ถูกต้อง กลับกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาวะถูกรีด ไถ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่รวมถึง สวัสดภาพของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนต่างด้าวที่ไม่มีประวัติใดๆ แต่อยู่ได้จากการจ่ายส่วย ทำให้ต้องถามถึงความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว
    เป็นโจทย์สำคัญ ให้รัฐบาลอิ๊ง 1 โดยเฉพาะ เสี่ยหนู มท.1 ที่มีความตั้งใจจริงในการล้างบาง ความตำบอลที่เกิดขึ้นในสตม.หรือไม่
    เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนไทย จะต้องพบกับแม่นดำแทนมารดำ ที่พร้อมต้อนรับเงินสีเทา และแผ่ขยายอำนาจจนสะเทือนทั้งประเทศยิ่งกว่าสุรเชษฐ์ หักพาลก็เป็นได้
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ได้เวลาล้างบางสตม โจ๊ก แม้จะกลายเป็นข้าวต้มเละ จากแมวเก้าชีวิต แต่ใช้ไปหมดไม่เหลือ สิ้นภาพการกลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ใฝ่ฝัน แม้จะมีพ่อบุญธรรม อย่างเสรีพิสทธิ์ ช่วยปูทาง พาลัดเลาะกฏกติกา เลี่ยงอย่างไร ก็ไม่สามารถกู้ลมหายใจในวงการสีกากีของโจ๊ก กลับมาได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ยังไม่จางหาย ที่คล้ายกับเป็นทายาทอสูร หากย้อนกลับไป สมัยโจ๊ก เรืองอำนาจ ได้ใช้หน่วยงาน สตม.ในการเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ทั้งจากการรีดทรัพย์จากกลุ่มทุนจีน และแรงงานที่เป็นต่างด้าว ที่เป็นกลุ่มที่อยู่ในกำกับดูแลของสตม. เอื้อให้ต่างด้าว อยู่ในประเทศไทย อย่างไม่ถูกต้อง เป็นปฐมบทแห่งความร่ำรวย ที่โจ๊กสร้างแบบแผนไว้อย่างมั่นคง แม้โจ๊กจากไปแบบไม่หวนกลับ ผู้รับช่วงต่อ ชื่อในวงการตร. เรียกว่า แม่นดำ ซึงถามถึงความซั่วก็กินกันไม่ลงกับโจ๊กเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกเหนือจากการเรียกรับเก็บแบบรายเดือน กับต่างด้าวที่ไม่ได้ขออนุญาต เดือนละ 500 ต่อหัว ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนในปัจจุบัน หรือถ้าขาดการต่อการขออนุญาตที่เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย กลุ่มนี้ หลายพันบ.ต่อหัวต่อเดือน ซึ่งยอดรวมมหาศาลนี้ ก็ยังไม่ทำให้เม่นดำอิ่มได้ ยังคงดำเนินต่อ ไปยังส่วยบ่ออน สถานบันเทิง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองเลยแม้แต่น้อย ปัจจุบัน เม่นดำ มีความทะเยอทะยาน วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่งในระดับ ผู้บัญชาการ สตม. เพราะยังเชื่อว่าเส้นสายที่โจ๊กได้วางไว้ ตนจะสามารถเข้ามาแทนได้อย่างเต็มรูปแบบ บ้างก็อ้างว่า แม่นดำ เป็นเด็กในคาถาของลุง ส่วนลุงไหน ไม่รู้ว ไม่รู้วจริงๆ คิงส์โพธิ์ดำ พินิจพิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะถึงเวลาอันสมควร ในการล้างบางกลุ่มอำนาจ ที่มีบริบทเป็นทายาทอสูร ต่อจากโจ๊ก มิเช่นนั้น คนไทย ก็ไม่ต่างจากการหนี้เสือ ปะตะกวด เจ้าของกิจการแทนที่จะได้การอำนวยความสะดวก จากสตม. ให้แรงงานของตนสามารถนำเข้าสู่ระบบ ให้ถูกต้อง กลับกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาวะถูกรีด ไถ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่รวมถึง สวัสดภาพของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนต่างด้าวที่ไม่มีประวัติใดๆ แต่อยู่ได้จากการจ่ายส่วย ทำให้ต้องถามถึงความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว เป็นโจทย์สำคัญ ให้รัฐบาลอิ๊ง 1 โดยเฉพาะ เสี่ยหนู มท.1 ที่มีความตั้งใจจริงในการล้างบาง ความตำบอลที่เกิดขึ้นในสตม.หรือไม่ เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนไทย จะต้องพบกับแม่นดำแทนมารดำ ที่พร้อมต้อนรับเงินสีเทา และแผ่ขยายอำนาจจนสะเทือนทั้งประเทศยิ่งกว่าสุรเชษฐ์ หักพาลก็เป็นได้ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ถ้าจะเรียกดิไอค่อนเป็นแชลูกโซ่
    ก็ต้องยอมรับว่า เป็นแชลูกโว่ที่ไซต์บิ๊กเบิ้ม
    ที่มีดาราและผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
    การเปิดเรื่องนี้ ต้องสะเทือนถึงดาราเบอร์ต้นหลายคน
    จะสุดที่ตรงไหน จะหยุดที่ตรงไหน
    เรื่องนี้ น่าติดตามจริงๆ
    พี่หนุ่ม จะไหวมั๊ยนะ
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ถ้าจะเรียกดิไอค่อนเป็นแชลูกโซ่ ก็ต้องยอมรับว่า เป็นแชลูกโว่ที่ไซต์บิ๊กเบิ้ม ที่มีดาราและผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด การเปิดเรื่องนี้ ต้องสะเทือนถึงดาราเบอร์ต้นหลายคน จะสุดที่ตรงไหน จะหยุดที่ตรงไหน เรื่องนี้ น่าติดตามจริงๆ พี่หนุ่ม จะไหวมั๊ยนะ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เพื่อนรักหักเหลี่ยมโโฉดด
    การมาของเต้น กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
    แม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความเท่ห์ไม่น้อย
    แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล
    เราย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 วันที่พรรคเพื่อไทย
    ลงชิงสส.ทั่วประเทศ โดยเต้น ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการปราศรัยทั่วประเทศ มีทั้งการสาปส่งสองลุง ไปถึงการไล่หนักอนุทินแห่งภูมิใจไทย
    กับยุทการ ไล่หนูตีงูวววเห่า ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับที่สอง รองจากพรรคส้มเน่า โดยส้มเน่าไม่มีใครคบ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมัวแต่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับมุกเดิมๆ คือการลดทอนพระราชอำนาจ ทั้งๆที่ประชาชน ยังสามารถป้องกันเกียรติตนเองได้เมื่อถูกหมิ่น แต่กลับดึงดันให้สถาบันถูกให้ร้ายได้ โดยไม่ให้เกิดโทษกับผู้กระทำการ
    -นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งขั้วอำนาจ เพื่อไทย และสองลุง ซึ่งนอกจากหมอชลน่าน ที่ต้องยอมเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเข้าแลก ยอมออกจากตำแหน่ง เต้นก็ถือว่า ปราศรัยแบบไม่เกรงใจลุงและอาหนูเลย ก็เป็นอันต้องลาจาก ไร้ตำแหน่ง จนน้ำตาคลอ ลั่นว่า จบแล้วกับเพื่อไทย
    -แต่ด้วยชีวิตที่อยู่ได้ ด้วยพื้นที่เวที กับการมีแสงทางการเมือง เต้นตัดสินใจนานแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกเศรษฐาว่า อยากกลับมาช่วยเพื่อไทย ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะรู้สึกเดียวดายเมื่อไม่มีแสงไฟสาดส่อง
    -เมื่อนายใหญ่กลับมา เต้น จึงได้ขอพื้นที่สื่อ ว่าตนเองพร้อมรับข้าวน่าวววมาใช้ในร้าน มั่นใจอาหย่อยแดรกด้าย ซึ่งก็ได้ใจนายใหญ่ไปไม่น้อย เพื่อปูทางให้นายเก่า นั่นคือยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่ประเทศไทย
    -ทักษิณเอง ก็ชอบที่จะตอบแทนบุญคุณคนที่เคยถวายตัวช่วยเหลือตน แต่มีนัยทางการเมือง ต้องสมเหตุสมผล จึงได้ดัน เต้น เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลลูกสาว
    ซึ่ง ที่มาก็คือ ดึงเต้นปะทะตู่จตุพร
    เพราะตั้งแต่ก่อนที่โทนี่จะกลับมา จนถึงปัจจุบัน ตู่จตุพรและทนายนกเขา มีการรุกไล่โทนี่ และรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ความผิดปกติในชั้น 14 ซึ่งหลายวาระ ก็ทำเอาโทนี่เซ แซดๆๆๆ ไปเหมือนกัน
    -ดังนั้น เรื่องการปะทะฝึปาก เรียกว่า ต่างรู้มือกัน ก็จะเป็นใครไม่ได้ นั่นก็คือ เต้น ณัฐวุฒินี่แหละ ที่จะทำให้ตู่ต้องเสียเวลาในการแก้เกมส์ ลดทอนเวลาในการรุกไล่รัฐบาล
    -เพราะการบ่มเพาะข้อมูล และการรวมพลังกับผู้ที่มองเห็นจุดปัญหาที่เกิดจากทักษิณเอง ก็ดูจะมีปริมาณมากขึ้น ยังไม่รวมถึงสนธิลิ้มทองกุล ที่เอ่ยเปรยๆว่า จะมีการลงถนน ซึ่งโทนี่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ว่ามันพังทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นสมัยตนเอง สมัยสมชาย สมัย สมัคร หรือแม้กระทั่งสมัยน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ต่างจบทางการเมืองจากการลงถนนของประชาชนทั้งสิ้น
    -ดังนั้นในภาวะนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องให้เต้น เข้ามาขวางตู่ไว้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าเต้นเอง จะมีภาพจำระหว่างนักข่าว ที่ไม่สามารถตอบคำถามกรณีจำนำข้าวได้ และรัฐมนตรีบุญทรง ที่นั่้งอยู่ข้างๆเต้นในวันนั้นตอนนี้ก็ยังอยู่ในซักเต แต่ด้วยความหน้าาาด้าน หน้าาาาทน ก็อยากจะกลับมา ให้ทำอะไรก็ต้องทำ
    -แต่เต้น ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังห่างกับตู่อยู่หลายขุม และถือว่า ตู่ จตุพร ก็ได้ต้อนรับน้องใหม่ น้องเต้น ด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้เต้นต้องสะดุ้ง นั่นคือ เงินบริจาค ราวๆ 42 ล.บ อยู่ที่ไหน ในสมัยการชุมนุม นปช. ซึ่งตู่ ยังระบุอีกว่า ทั้งก่อนและหลังการชุมนุมในวันนั้น เต้นนี่แหละใช้จ่ายโดยไม่เคยชี้แจง และยอดสุดท้ายคือ 42 ล.บ มันอยู่ตรงไหน
    -ซึ่งแม้กระทั่งวันนี้ เต้นเอง ก็ยังไม่มีการตอบคำถามนี้แต่อย่างใด หรือการลงทุนธุรกิจและร้านอาหารของเต้นที่บ้านเกิด จะมาจากเงินบริจาคนปช. ณ วันนั้น ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่เต้น ต้องอธิบาย ให้สังคม โดยเฉพาะชาว นปช. เสื้อแดง ได้รับรู้ โดยเร็ว มิเช่นนั้น เต้น อาจได้เป็นที่ปรึกษานายกเพียงแค่ในนาม แต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเพื่อไทย
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #เพื่อนรักหักเหลี่ยมโโฉดด การมาของเต้น กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความเท่ห์ไม่น้อย แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล เราย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 วันที่พรรคเพื่อไทย ลงชิงสส.ทั่วประเทศ โดยเต้น ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการปราศรัยทั่วประเทศ มีทั้งการสาปส่งสองลุง ไปถึงการไล่หนักอนุทินแห่งภูมิใจไทย กับยุทการ ไล่หนูตีงูวววเห่า ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับที่สอง รองจากพรรคส้มเน่า โดยส้มเน่าไม่มีใครคบ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมัวแต่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับมุกเดิมๆ คือการลดทอนพระราชอำนาจ ทั้งๆที่ประชาชน ยังสามารถป้องกันเกียรติตนเองได้เมื่อถูกหมิ่น แต่กลับดึงดันให้สถาบันถูกให้ร้ายได้ โดยไม่ให้เกิดโทษกับผู้กระทำการ -นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งขั้วอำนาจ เพื่อไทย และสองลุง ซึ่งนอกจากหมอชลน่าน ที่ต้องยอมเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเข้าแลก ยอมออกจากตำแหน่ง เต้นก็ถือว่า ปราศรัยแบบไม่เกรงใจลุงและอาหนูเลย ก็เป็นอันต้องลาจาก ไร้ตำแหน่ง จนน้ำตาคลอ ลั่นว่า จบแล้วกับเพื่อไทย -แต่ด้วยชีวิตที่อยู่ได้ ด้วยพื้นที่เวที กับการมีแสงทางการเมือง เต้นตัดสินใจนานแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกเศรษฐาว่า อยากกลับมาช่วยเพื่อไทย ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะรู้สึกเดียวดายเมื่อไม่มีแสงไฟสาดส่อง -เมื่อนายใหญ่กลับมา เต้น จึงได้ขอพื้นที่สื่อ ว่าตนเองพร้อมรับข้าวน่าวววมาใช้ในร้าน มั่นใจอาหย่อยแดรกด้าย ซึ่งก็ได้ใจนายใหญ่ไปไม่น้อย เพื่อปูทางให้นายเก่า นั่นคือยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่ประเทศไทย -ทักษิณเอง ก็ชอบที่จะตอบแทนบุญคุณคนที่เคยถวายตัวช่วยเหลือตน แต่มีนัยทางการเมือง ต้องสมเหตุสมผล จึงได้ดัน เต้น เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลลูกสาว ซึ่ง ที่มาก็คือ ดึงเต้นปะทะตู่จตุพร เพราะตั้งแต่ก่อนที่โทนี่จะกลับมา จนถึงปัจจุบัน ตู่จตุพรและทนายนกเขา มีการรุกไล่โทนี่ และรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ความผิดปกติในชั้น 14 ซึ่งหลายวาระ ก็ทำเอาโทนี่เซ แซดๆๆๆ ไปเหมือนกัน -ดังนั้น เรื่องการปะทะฝึปาก เรียกว่า ต่างรู้มือกัน ก็จะเป็นใครไม่ได้ นั่นก็คือ เต้น ณัฐวุฒินี่แหละ ที่จะทำให้ตู่ต้องเสียเวลาในการแก้เกมส์ ลดทอนเวลาในการรุกไล่รัฐบาล -เพราะการบ่มเพาะข้อมูล และการรวมพลังกับผู้ที่มองเห็นจุดปัญหาที่เกิดจากทักษิณเอง ก็ดูจะมีปริมาณมากขึ้น ยังไม่รวมถึงสนธิลิ้มทองกุล ที่เอ่ยเปรยๆว่า จะมีการลงถนน ซึ่งโทนี่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ว่ามันพังทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นสมัยตนเอง สมัยสมชาย สมัย สมัคร หรือแม้กระทั่งสมัยน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ต่างจบทางการเมืองจากการลงถนนของประชาชนทั้งสิ้น -ดังนั้นในภาวะนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องให้เต้น เข้ามาขวางตู่ไว้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าเต้นเอง จะมีภาพจำระหว่างนักข่าว ที่ไม่สามารถตอบคำถามกรณีจำนำข้าวได้ และรัฐมนตรีบุญทรง ที่นั่้งอยู่ข้างๆเต้นในวันนั้นตอนนี้ก็ยังอยู่ในซักเต แต่ด้วยความหน้าาาด้าน หน้าาาาทน ก็อยากจะกลับมา ให้ทำอะไรก็ต้องทำ -แต่เต้น ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังห่างกับตู่อยู่หลายขุม และถือว่า ตู่ จตุพร ก็ได้ต้อนรับน้องใหม่ น้องเต้น ด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้เต้นต้องสะดุ้ง นั่นคือ เงินบริจาค ราวๆ 42 ล.บ อยู่ที่ไหน ในสมัยการชุมนุม นปช. ซึ่งตู่ ยังระบุอีกว่า ทั้งก่อนและหลังการชุมนุมในวันนั้น เต้นนี่แหละใช้จ่ายโดยไม่เคยชี้แจง และยอดสุดท้ายคือ 42 ล.บ มันอยู่ตรงไหน -ซึ่งแม้กระทั่งวันนี้ เต้นเอง ก็ยังไม่มีการตอบคำถามนี้แต่อย่างใด หรือการลงทุนธุรกิจและร้านอาหารของเต้นที่บ้านเกิด จะมาจากเงินบริจาคนปช. ณ วันนั้น ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่เต้น ต้องอธิบาย ให้สังคม โดยเฉพาะชาว นปช. เสื้อแดง ได้รับรู้ โดยเร็ว มิเช่นนั้น เต้น อาจได้เป็นที่ปรึกษานายกเพียงแค่ในนาม แต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเพื่อไทย #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดิไอคอน
    กับความลับอันดำมืดที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน
    ด้วยพรีเซ็นเตอร์ระดับแนวหน้า นักแสดงดารานักร้องกับทุกวงการ
    การทำงานแบบดาวกระจาย สร้างความหวังให้กับคนที่ไม่มีทางออก
    อยากได้โอกาสใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งระบบเครือข่าย
    ที่เหมือนขูดโลหิตจากตัวปู ที่ไม่มีที่จะให้
    ด้วยการโปรว่า มีคอซสอนทำตาหลาดออไนลน์
    ทำให้มีคนหลงตามเข้าไป แต่ถูกปิดท้ายด้วยการชวนเข้าเครือข่าย
    พวกนี้ ทำกันเป็นจริงเป็นจังมาก แต่ ของไม่แท้ก็คือของไม่แท้
    งบดุลจากกำไรปีละพันกว่าล้าน จากยอดขายสี่พันกว่าล้าน
    ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหน่วยล้านเท่านั้น
    คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว ที่หลงเข้าสู่วงการ
    ถูกชวนเข้ามาดูความสำเร็จจัดงานอลังการ แต่ต้องมีตั๋วเข้า
    ใช้เบี้ยงหลักหมื่น เอาง่ายๆ แค่ค่าจัดก็กำำไรแล้ว
    แล้วก็ทำเสมือนลัทติ๊ พูดเหมือนๆกัน เป็นเหมือนการซะกดจิต
    ไม่มีตังค์ลงทุน ก็ต้องไปหยิบยืม หรือต้องไปกู๊หนี้ยืมสินมา
    ด้วยองค์ประกอบแห่งแสงสีเสียง และมีตัวแม่ทีมที่พูดเก่งมาก
    พูดซ้ำๆ เป็นกลุ่มย่อย โดยใช้การประชุมกลุ่ม
    เวลาโปรว่ามีคอสสอนออนไลน์ ก็จะ 99 บ อะไรแบบนี้
    และในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม๊าคอยนำทางให้สมาชิกใหม่
    รู้ว่าต้องพูดอะไร ทำอะไร
    เรื่องนี้ แฟนคลับพี่หนุ่ม ได้ส่งกำลังใจ
    พร้อมข้อมูลแบบนัวๆ เพื่อให้เครือข่ายนี้ได้รับการเปิดหน้า
    ซึ่งที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังอีกคน ชื่อย่อ ก. ก็ออกหน้าเต็มตัว
    และเป็นไอค่อนของความสำเร็จ โดยคนที่ไม่สำเร็จ
    ด้วยขาดพื้นฐานด้านคอนเนคชั่น ตามไอค่อน และไอดอล
    ก็เป็นอันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆกัน ถ้าพี่หนุ่ม เดินเครื่องเรื่องนี้
    ก็ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบ กับพิธีกรชื่อ ก. อย่างแน่นอน
    คงต้องตามเรื่องนี้กันอีกยาวๆ ระหว่าง บรรดาแม่ทีม หน้าม๊า
    กับผู้ที่เดือดรอ้น ใครจะมีประมาณและพละกำลังที่มากกว่ากัน
    พี่คิงส์โพธิ์ดำรู้อย่างเดียวว่า เวลานี พิธีกรชื่อดัง ชื่อย่อ ก.
    ก็กำลังหนาวๆร้อนๆเช่นกัน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ดิไอคอน กับความลับอันดำมืดที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน ด้วยพรีเซ็นเตอร์ระดับแนวหน้า นักแสดงดารานักร้องกับทุกวงการ การทำงานแบบดาวกระจาย สร้างความหวังให้กับคนที่ไม่มีทางออก อยากได้โอกาสใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งระบบเครือข่าย ที่เหมือนขูดโลหิตจากตัวปู ที่ไม่มีที่จะให้ ด้วยการโปรว่า มีคอซสอนทำตาหลาดออไนลน์ ทำให้มีคนหลงตามเข้าไป แต่ถูกปิดท้ายด้วยการชวนเข้าเครือข่าย พวกนี้ ทำกันเป็นจริงเป็นจังมาก แต่ ของไม่แท้ก็คือของไม่แท้ งบดุลจากกำไรปีละพันกว่าล้าน จากยอดขายสี่พันกว่าล้าน ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหน่วยล้านเท่านั้น คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว ที่หลงเข้าสู่วงการ ถูกชวนเข้ามาดูความสำเร็จจัดงานอลังการ แต่ต้องมีตั๋วเข้า ใช้เบี้ยงหลักหมื่น เอาง่ายๆ แค่ค่าจัดก็กำำไรแล้ว แล้วก็ทำเสมือนลัทติ๊ พูดเหมือนๆกัน เป็นเหมือนการซะกดจิต ไม่มีตังค์ลงทุน ก็ต้องไปหยิบยืม หรือต้องไปกู๊หนี้ยืมสินมา ด้วยองค์ประกอบแห่งแสงสีเสียง และมีตัวแม่ทีมที่พูดเก่งมาก พูดซ้ำๆ เป็นกลุ่มย่อย โดยใช้การประชุมกลุ่ม เวลาโปรว่ามีคอสสอนออนไลน์ ก็จะ 99 บ อะไรแบบนี้ และในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม๊าคอยนำทางให้สมาชิกใหม่ รู้ว่าต้องพูดอะไร ทำอะไร เรื่องนี้ แฟนคลับพี่หนุ่ม ได้ส่งกำลังใจ พร้อมข้อมูลแบบนัวๆ เพื่อให้เครือข่ายนี้ได้รับการเปิดหน้า ซึ่งที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังอีกคน ชื่อย่อ ก. ก็ออกหน้าเต็มตัว และเป็นไอค่อนของความสำเร็จ โดยคนที่ไม่สำเร็จ ด้วยขาดพื้นฐานด้านคอนเนคชั่น ตามไอค่อน และไอดอล ก็เป็นอันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆกัน ถ้าพี่หนุ่ม เดินเครื่องเรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบ กับพิธีกรชื่อ ก. อย่างแน่นอน คงต้องตามเรื่องนี้กันอีกยาวๆ ระหว่าง บรรดาแม่ทีม หน้าม๊า กับผู้ที่เดือดรอ้น ใครจะมีประมาณและพละกำลังที่มากกว่ากัน พี่คิงส์โพธิ์ดำรู้อย่างเดียวว่า เวลานี พิธีกรชื่อดัง ชื่อย่อ ก. ก็กำลังหนาวๆร้อนๆเช่นกัน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิงส์โพธิ์ดำ ep.2 จับอาการทักษิณ ข่าวลือยุบพรรค
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ทักษิณ
    #จับสังเกต
    คิงส์โพธิ์ดำ ep.2 จับอาการทักษิณ ข่าวลือยุบพรรค #คิงส์โพธิ์ดำ #ทักษิณ #จับสังเกต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • คิงส์โพธิ์ดำ ep.1เปิดหน้าป้ามลปิ๊ด จะไปเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ป้ามลปิ๊ด
    คิงส์โพธิ์ดำ ep.1เปิดหน้าป้ามลปิ๊ด จะไปเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา #คิงส์โพธิ์ดำ #ป้ามลปิ๊ด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • #ได้เวลาล้างบางสตม
    โจ๊ก แม้จะกลายเป็นข้าวต้มเละ จากแมวเก้าชีวิต แต่ใช้ไปหมดไม่เหลือ สิ้นภาพการกลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ใฝ่ฝัน แม้จะมีพ่อบุญธรรม อย่างเสรีพิสทธิ์ ช่วยปูทาง พาลัดเลาะกฏกติกา เลี่ยงอย่างไร ก็ไม่สามารถกู้ลมหายใจในวงการสีกากีของโจ๊ก กลับมาได้
    แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ยังไม่จางหาย ที่คล้ายกับเป็นทายาทอสูร หากย้อนกลับไป สมัยโจ๊ก เรืองอำนาจ ได้ใช้หน่วยงาน สตม.ในการเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ทั้งจากการรีดทรัพย์จากกลุ่มทุนจีน และแรงงานที่เป็นต่างด้าว ที่เป็นกลุ่มที่อยู่ในกำกับดูแลของสตม. เอื้อให้ต่างด้าว อยู่ในประเทศไทย อย่างไม่ถูกต้อง เป็นปฐมบทแห่งความร่ำรวย ที่โจ๊กสร้างแบบแผนไว้อย่างมั่นคง
    แม้โจ๊กจากไปแบบไม่หวนกลับ ผู้รับช่วงต่อ ชื่อในวงการตร. เรียกว่า เม่นดำ ซึงถามถึงความซั่วก็กินกันไม่ลงกับโจ๊กเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกเหนือจากการเรียกรับเก็บแบบรายเดือน กับต่างด้าวที่ไม่ได้ขออนุญาต เดือนละ 500 ต่อหัว ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนในปัจจุบัน หรือถ้าขาดการต่อการขออนุญาตที่เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย กลุ่มนี้ หลายพันบ.ต่อหัวต่อเดือน ซึ่งยอดรวมมหาศาลนี้ ก็ยังไม่ทำให้เม่นดำอิ่มได้
    ยังคงดำเนินต่อ ไปยังส่วยบ่ออน สถานบันเทิง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองเลยแม้แต่น้อย
    ปัจจุบัน เม่นดำ มีความทะเยอทะยาน วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่งในระดับ ผู้บัญชาการ สตม. เพราะยังเชื่อว่าเส้นสายที่โจ๊กได้วางไว้ ตนจะสามารถเข้ามาแทนได้อย่างเต็มรูปแบบ บ้างก็อ้างว่า เม่นดำ เป็นเด็กในคาถาของลุง ส่วนลุงไหน ไม่รู้ว ไม่รู้วจริงๆ
    คิงส์โพธิ์ดำ พินิจพิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะถึงเวลาอันสมควร ในการล้างบางกลุ่มอำนาจ ที่มีบริบทเป็นทายาทอสูร ต่อจากโจ๊ก มิเช่นนั้น คนไทย ก็ไม่ต่างจากการหนีเสือ ปะตะกวด เจ้าของกิจการแทนที่จะได้การอำนวยความสะดวก จากสตม. ให้แรงงานของตนสามารถนำเข้าสู่ระบบ ให้ถูกต้อง กลับกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาวะถูกรีด ไถ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่รวมถึง สวัสดภาพของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนต่างด้าวที่ไม่มีประวัติใดๆ แต่อยู่ได้จากการจ่ายส่วย ทำให้ต้องถามถึงความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว
    เป็นโจทย์สำคัญ ให้รัฐบาลอิ๊ง 1 โดยเฉพาะ เสี่ยหนู มท.1 ที่มีความตั้งใจจริงในการล้างบาง ความตำบอลที่เกิดขึ้นในสตม.หรือไม่
    เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนไทย จะต้องพบกับเม่นดำแทนมารดำ ที่พร้อมต้อนรับเงินสีเทา และแผ่ขยายอำนาจจนสะเทือนทั้งประเทศยิ่งกว่าสุรเชษฐ์ หักพาลก็เป็นได้
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ได้เวลาล้างบางสตม โจ๊ก แม้จะกลายเป็นข้าวต้มเละ จากแมวเก้าชีวิต แต่ใช้ไปหมดไม่เหลือ สิ้นภาพการกลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ใฝ่ฝัน แม้จะมีพ่อบุญธรรม อย่างเสรีพิสทธิ์ ช่วยปูทาง พาลัดเลาะกฏกติกา เลี่ยงอย่างไร ก็ไม่สามารถกู้ลมหายใจในวงการสีกากีของโจ๊ก กลับมาได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ยังไม่จางหาย ที่คล้ายกับเป็นทายาทอสูร หากย้อนกลับไป สมัยโจ๊ก เรืองอำนาจ ได้ใช้หน่วยงาน สตม.ในการเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ทั้งจากการรีดทรัพย์จากกลุ่มทุนจีน และแรงงานที่เป็นต่างด้าว ที่เป็นกลุ่มที่อยู่ในกำกับดูแลของสตม. เอื้อให้ต่างด้าว อยู่ในประเทศไทย อย่างไม่ถูกต้อง เป็นปฐมบทแห่งความร่ำรวย ที่โจ๊กสร้างแบบแผนไว้อย่างมั่นคง แม้โจ๊กจากไปแบบไม่หวนกลับ ผู้รับช่วงต่อ ชื่อในวงการตร. เรียกว่า เม่นดำ ซึงถามถึงความซั่วก็กินกันไม่ลงกับโจ๊กเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกเหนือจากการเรียกรับเก็บแบบรายเดือน กับต่างด้าวที่ไม่ได้ขออนุญาต เดือนละ 500 ต่อหัว ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนในปัจจุบัน หรือถ้าขาดการต่อการขออนุญาตที่เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย กลุ่มนี้ หลายพันบ.ต่อหัวต่อเดือน ซึ่งยอดรวมมหาศาลนี้ ก็ยังไม่ทำให้เม่นดำอิ่มได้ ยังคงดำเนินต่อ ไปยังส่วยบ่ออน สถานบันเทิง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองเลยแม้แต่น้อย ปัจจุบัน เม่นดำ มีความทะเยอทะยาน วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่งในระดับ ผู้บัญชาการ สตม. เพราะยังเชื่อว่าเส้นสายที่โจ๊กได้วางไว้ ตนจะสามารถเข้ามาแทนได้อย่างเต็มรูปแบบ บ้างก็อ้างว่า เม่นดำ เป็นเด็กในคาถาของลุง ส่วนลุงไหน ไม่รู้ว ไม่รู้วจริงๆ คิงส์โพธิ์ดำ พินิจพิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะถึงเวลาอันสมควร ในการล้างบางกลุ่มอำนาจ ที่มีบริบทเป็นทายาทอสูร ต่อจากโจ๊ก มิเช่นนั้น คนไทย ก็ไม่ต่างจากการหนีเสือ ปะตะกวด เจ้าของกิจการแทนที่จะได้การอำนวยความสะดวก จากสตม. ให้แรงงานของตนสามารถนำเข้าสู่ระบบ ให้ถูกต้อง กลับกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาวะถูกรีด ไถ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่รวมถึง สวัสดภาพของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนต่างด้าวที่ไม่มีประวัติใดๆ แต่อยู่ได้จากการจ่ายส่วย ทำให้ต้องถามถึงความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว เป็นโจทย์สำคัญ ให้รัฐบาลอิ๊ง 1 โดยเฉพาะ เสี่ยหนู มท.1 ที่มีความตั้งใจจริงในการล้างบาง ความตำบอลที่เกิดขึ้นในสตม.หรือไม่ เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนไทย จะต้องพบกับเม่นดำแทนมารดำ ที่พร้อมต้อนรับเงินสีเทา และแผ่ขยายอำนาจจนสะเทือนทั้งประเทศยิ่งกว่าสุรเชษฐ์ หักพาลก็เป็นได้ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เพจคิงส์โพธิ์ดำข่าวซีฟลึกสุด
    ทำเพื่อข่าวเอ็กคลูซีฟ ฟันธงแบบตรงไปตรงมา
    การเมืองและการเปิดข้อมูลผู้มีอำนาจ
    ที่จะไม่มีการลงเรื่องกามิจและส่วนควบที่เกี่ยวข้อง
    ถ้าต้องการข่าวซีฟต้องคิงส์โพธิ์ดำ
    แปะว๊าปใต้โพส
    เร้าใจแน่นนอน ใครที่เคยตามเพจคิงส์ตั้งแต่ยุคแรก
    ความบันเทิงกำลังจะกลับมา พสุธาจะสั่นสะเทือน
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #เพจคิงส์โพธิ์ดำข่าวซีฟลึกสุด ทำเพื่อข่าวเอ็กคลูซีฟ ฟันธงแบบตรงไปตรงมา การเมืองและการเปิดข้อมูลผู้มีอำนาจ ที่จะไม่มีการลงเรื่องกามิจและส่วนควบที่เกี่ยวข้อง ถ้าต้องการข่าวซีฟต้องคิงส์โพธิ์ดำ แปะว๊าปใต้โพส เร้าใจแน่นนอน ใครที่เคยตามเพจคิงส์ตั้งแต่ยุคแรก ความบันเทิงกำลังจะกลับมา พสุธาจะสั่นสะเทือน #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว