• บทสรุปคดีแพทองธาร ขาดความรอบคอบ เสื่อมเกียรติภูมิชาติ

    วันศุกร์แห่งชาติ 29 ส.ค.2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลง ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

    เริ่มต้นที่ข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ศาลเห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะไม่ได้ตอบรับข้อเสนอจากนายฮุน เซน ไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่เปิดด่านชายแดน จึงแสดงออกว่าไม่นิ่งเฉย รักษาผลประโยชน์ชาติและความสงบสุขของประเทศ

    แต่ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ศาลเห็นว่านายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล มี 2 สถานะ คือ ประชาชนที่มีเสรีภาพ และการเป็นนายกฯ ที่ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเหนือประโยชน์ส่วนตน รวมถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิประเทศ แม้จะสนทนากันส่วนตัว แต่เรื่องการเปิดด่านเป็นความมั่นคงประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

    ส่วนที่กล่าวถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลบ) อ้างว่าใช้เทคนิคการเจรจา แก้ปัญหาออกจากตัวบุคคลเพื่อลดความตึงเครียด ศาลเห็นว่าเป็นการแสดงความอ่อนแอทางการเมือง เป็นช่องให้กัมพูชาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ แม้จะใช้เทคนิคใดก็ต้องปฏิบัติตามกรอบรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจด้วยความรอบคอบ คำนึงกรอบจริยธรรม ไม่ใช่เจรจาตามอำเภอใจ ยิ่งเมื่อเลือกใช้วิธีนี้ต้องใช้ความรับผิดชอบและความรอบคอบ

    ส่วนถ้อยคำที่ขอความเห็นใจจากนายฮุน เซน (เห็นใจหลานหน่อย จะเอาอะไรขอให้บอก) ศาลเห็นว่าเป็นไปเพื่อลดการวิพากษ์วิจารณ์ มุ่งหวังเพียงคะแนนนิยมโดยไม่ได้ดูสถานการณ์ความมั่นคง ทำให้เกิดความสงสัยว่าจะทำตามที่กัมพูชาร้องขอเพราะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แม้จะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชุดเล็กภายหลัง แต่ไม่ได้ชี้แจงเรื่องคลิปเสียง จึงเห็นว่าไม่ใช่เทคนิคการเจรจาแต่ขาดความรอบคอบไม่ระมัดระวัง

    แม้ น.ส.แพทองธารจะระบุว่าเป็นการเจรจาส่วนตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง แต่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์นายกฯ ทำให้สาธารณชนเคลือบแคลงสงสัยว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาหรือไม่ เกิดความเสียหายร้ายแรง เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ยึดความถูกต้องชอบธรรม ดังนั้น จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ขาดคุณสมบัติ ความเป็นรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ (1 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ให้อยู่รักษาการจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

    #Newskit
    บทสรุปคดีแพทองธาร ขาดความรอบคอบ เสื่อมเกียรติภูมิชาติ วันศุกร์แห่งชาติ 29 ส.ค.2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลง ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เริ่มต้นที่ข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ศาลเห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะไม่ได้ตอบรับข้อเสนอจากนายฮุน เซน ไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่เปิดด่านชายแดน จึงแสดงออกว่าไม่นิ่งเฉย รักษาผลประโยชน์ชาติและความสงบสุขของประเทศ แต่ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ศาลเห็นว่านายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล มี 2 สถานะ คือ ประชาชนที่มีเสรีภาพ และการเป็นนายกฯ ที่ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเหนือประโยชน์ส่วนตน รวมถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิประเทศ แม้จะสนทนากันส่วนตัว แต่เรื่องการเปิดด่านเป็นความมั่นคงประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่วนที่กล่าวถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลบ) อ้างว่าใช้เทคนิคการเจรจา แก้ปัญหาออกจากตัวบุคคลเพื่อลดความตึงเครียด ศาลเห็นว่าเป็นการแสดงความอ่อนแอทางการเมือง เป็นช่องให้กัมพูชาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ แม้จะใช้เทคนิคใดก็ต้องปฏิบัติตามกรอบรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจด้วยความรอบคอบ คำนึงกรอบจริยธรรม ไม่ใช่เจรจาตามอำเภอใจ ยิ่งเมื่อเลือกใช้วิธีนี้ต้องใช้ความรับผิดชอบและความรอบคอบ ส่วนถ้อยคำที่ขอความเห็นใจจากนายฮุน เซน (เห็นใจหลานหน่อย จะเอาอะไรขอให้บอก) ศาลเห็นว่าเป็นไปเพื่อลดการวิพากษ์วิจารณ์ มุ่งหวังเพียงคะแนนนิยมโดยไม่ได้ดูสถานการณ์ความมั่นคง ทำให้เกิดความสงสัยว่าจะทำตามที่กัมพูชาร้องขอเพราะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แม้จะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชุดเล็กภายหลัง แต่ไม่ได้ชี้แจงเรื่องคลิปเสียง จึงเห็นว่าไม่ใช่เทคนิคการเจรจาแต่ขาดความรอบคอบไม่ระมัดระวัง แม้ น.ส.แพทองธารจะระบุว่าเป็นการเจรจาส่วนตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง แต่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์นายกฯ ทำให้สาธารณชนเคลือบแคลงสงสัยว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาหรือไม่ เกิดความเสียหายร้ายแรง เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ยึดความถูกต้องชอบธรรม ดังนั้น จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ขาดคุณสมบัติ ความเป็นรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ (1 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ให้อยู่รักษาการจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนักกว่า 3 คดีนายก คลิปลุงผิดชัดหลายข้อ : [NEWS UPDATE]

    นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อให้การตรงไปตรงมา คลิปนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย การเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal บันทึกเทป ไม่โทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงชัดเจนว่าผิดจริยธรรมข้าราชการการเมืองหลายข้อ แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก คดีนี้หนักมาก เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง

    -ห้ามเผยแพร่คำไต่สวน

    -ทหารเขมรเหยียบระเบิดเอง

    -ปรับเกณฑ์สงครามภัยใหม่

    -สส.ทำงานหนักแทบไม่กินข้าว
    หนักกว่า 3 คดีนายก คลิปลุงผิดชัดหลายข้อ : [NEWS UPDATE] นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อให้การตรงไปตรงมา คลิปนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย การเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal บันทึกเทป ไม่โทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงชัดเจนว่าผิดจริยธรรมข้าราชการการเมืองหลายข้อ แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก คดีนี้หนักมาก เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง -ห้ามเผยแพร่คำไต่สวน -ทหารเขมรเหยียบระเบิดเอง -ปรับเกณฑ์สงครามภัยใหม่ -สส.ทำงานหนักแทบไม่กินข้าว
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เดินทางเข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อว่าทั้งผู้ถูกร้องและพยาน ให้การตรงไปตรงมา คลิปดังกล่าวทำให้เกิดข้อพิพาทโจมตีไปมาระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย โดยในการเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal ชัดเจนว่าบันทึกเทป กลั่นกรองจากหน่วยงานความมั่นคง มีคนของรัฐนั่งอยู่ด้วย ไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงเกิดข้อผิดพลาด นำไปสู่การยื่นผิดจริยธรรมร้ายแรง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ในประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองผิดหลายข้อ หากลาออกก่อนศาลจะจำหน่ายคดี ท่านก็จะปลอดภัย มีเวลาตัดสินใจอีก 7 วัน ก่อนถึง 29 ส.ค. นี้ เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง คดีนี้หนักมาก แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก
    นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เดินทางเข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อว่าทั้งผู้ถูกร้องและพยาน ให้การตรงไปตรงมา คลิปดังกล่าวทำให้เกิดข้อพิพาทโจมตีไปมาระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย โดยในการเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal ชัดเจนว่าบันทึกเทป กลั่นกรองจากหน่วยงานความมั่นคง มีคนของรัฐนั่งอยู่ด้วย ไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงเกิดข้อผิดพลาด นำไปสู่การยื่นผิดจริยธรรมร้ายแรง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ในประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองผิดหลายข้อ หากลาออกก่อนศาลจะจำหน่ายคดี ท่านก็จะปลอดภัย มีเวลาตัดสินใจอีก 7 วัน ก่อนถึง 29 ส.ค. นี้ เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง คดีนี้หนักมาก แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 514 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เปิดทางฟ้องกัมพูชา อาชญากรสงคราม : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีเสียงเรียกร้องให้ฟ้องกัมพูชากับศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC) ในข้อหาอาชญากรสงคราม การฟ้องร้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเงื่อนไข เป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ร่วมกันพิจารณา หากทำได้ก็ต้องทำ แต่ตอนนี้เราเริ่มตรงนี้ ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ โดยดูความเสียหายที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่มี ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาชดเชยพิเศษให้บางกลุ่ม ได้สั่งการไปแล้ว ต้องระมัดระวังว่าจะมีผลผูกพันอะไร การเยียวยาเพิ่มต้องหาจุดที่เหมาะสม ซึ่งกำลังพิจารณา
    เปิดทางฟ้องกัมพูชา อาชญากรสงคราม : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีเสียงเรียกร้องให้ฟ้องกัมพูชากับศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC) ในข้อหาอาชญากรสงคราม การฟ้องร้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเงื่อนไข เป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ร่วมกันพิจารณา หากทำได้ก็ต้องทำ แต่ตอนนี้เราเริ่มตรงนี้ ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ โดยดูความเสียหายที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่มี ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาชดเชยพิเศษให้บางกลุ่ม ได้สั่งการไปแล้ว ต้องระมัดระวังว่าจะมีผลผูกพันอะไร การเยียวยาเพิ่มต้องหาจุดที่เหมาะสม ซึ่งกำลังพิจารณา
    Like
    Haha
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1)
    เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก
    หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ
    การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย
    – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
    – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่
    – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ
    เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา
    เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม
    เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร
    ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!)
    อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1) เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่ – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!) อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลอย่าประท้วงทุ่นระเบิดด้วยเศษกระดาษ

    ร่วมสนทนา
    - พล.ท.ดร.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
    - ปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย

    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #กัมพูชา #ไทย #รัฐบาลไทย #ทรัมป์ #ฮุนเซน #คนเคาะข่าว #news1

    https://www.youtube.com/watch?v=OHS4j6x4418
    รัฐบาลอย่าประท้วงทุ่นระเบิดด้วยเศษกระดาษ ร่วมสนทนา - พล.ท.ดร.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ - ปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #กัมพูชา #ไทย #รัฐบาลไทย #ทรัมป์ #ฮุนเซน #คนเคาะข่าว #news1 https://www.youtube.com/watch?v=OHS4j6x4418
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ชื่อเท่ แต่ มีอำนาจ จริง หรือ ไม่...??? ##
    ..
    ..
    พระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 คืออะไร ทำไมแชร์กันว่อนช่วงนี้...???
    .
    พยายามอธิบายให้ได้เนื้อหาแบบไม่ยาวมากเกินไปคือ...
    .
    หลักใหญ่ใจความ พรบ.นี้ ได้มีการจัดตั้ง ศูนย์อำนายการผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ขึ้นมา
    .
    ซึ่งอำนาจและหน้าที่หลักของ "นปท." คือ
    .
    1.กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานด้านความมั่นคงทางทะเล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและแผนระดับชาติที่เกี่ยวข้อง
    .
    2.ให้คำแนะนำ ปรึกษา และสนับสนุนการดำเนินงาน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น ศรชล. และอื่น ๆ)
    .
    3.ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ในด้านต่าง ๆ และ เสนอรายงานผลต่อ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรี
    .
    4.นอกจากนี้ นปท. ยังมีอำนาจ เรียกประชุมร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อจำเป็น เพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ชาติ(ประชุม ถก แลกเปลี่ยน ในเชิงเสนอแนะ)
    ....
    ....
    สุดท้าย จะเห็นได้ว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทาง ซึ่งชื่อเท่มาก ไม่มีอะไร มากไปกว่า...
    .
    หน่วยงานหนึ่ง ที่มีหน้าที่ ดำเนินการต่างๆ ให้สอดคล้องกับ นโยบายของนักการเมืองเบื้องบน และหรือ กระทรวงการต่างประเทศ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    .
    ทำได้แค่ เสนอข้อมูล ให้คำแนะนำ ติดตาม-ประเมินผล แค่นั้น
    .
    ไม่ได้มีหน้าที่ คาน หรือ คัดง้าง ไม่มีกฎหมายข้อให้ให้อำนาจ ในการโต้แย้ง ยับยั้ง หาก รัฐบาล หรือ กระทรวงการต่างประเทศกระทำผิด ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ ผลประโยชน์ของประเทศชาติแต่อย่างใด...!!!
    .
    พูดง่ายๆ คือ หน่วยงานปฏิบัติการ ตามคำสั่ง ตามนโยบายของ รัฐบาล...
    .
    อำนาจที่มี ไม่ได้เท่เหมือนชื่อ...!!!
    .
    หาก นักการเมืองขายชาติ ก็โต้แย้ง คัดค้าน ทำอะไรไม่ได้...!!!
    ....
    ....
    ผมคิดว่าตัวเองพอเข้าใจที่มาที่ไปของ การเขียนโพสเรื่องนี้ครับ...
    .
    อย่าอวยกันขนาดนั้นเลยครับ ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงด้วย...!!!
    .
    ไม่งั้น "ทีมอวย" จะต่างอะไรกับ มาลี และ ฮุนเซน หล่ะครับ...???
    .

    ....
    ....
    ถ้าอยากสกัด เขมร จริง ยกเลิก MOU43-MOU44-JC44 คือทางออกครับ
    .
    https://www.naewna.com/politic/906142?fbclid=IwQ0xDSwMI-ZNjbGNrAwakRmV4dG4DYWVtAjEwAGJyaWQRMU44ZFlpaFRqMHhOT3c1bDkBHnHzvN8SfGcG8c7FdtCH44q4c5JWQHQkycw28_tsv4u0cdPKWRSRc7qd4fsM_aem_pRLgNZlXgTqmABx0ecgerw
    ## ชื่อเท่ แต่ มีอำนาจ จริง หรือ ไม่...??? ## .. .. พระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 คืออะไร ทำไมแชร์กันว่อนช่วงนี้...??? . พยายามอธิบายให้ได้เนื้อหาแบบไม่ยาวมากเกินไปคือ... . หลักใหญ่ใจความ พรบ.นี้ ได้มีการจัดตั้ง ศูนย์อำนายการผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ขึ้นมา . ซึ่งอำนาจและหน้าที่หลักของ "นปท." คือ . 1.กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานด้านความมั่นคงทางทะเล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและแผนระดับชาติที่เกี่ยวข้อง . 2.ให้คำแนะนำ ปรึกษา และสนับสนุนการดำเนินงาน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น ศรชล. และอื่น ๆ) . 3.ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ในด้านต่าง ๆ และ เสนอรายงานผลต่อ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรี . 4.นอกจากนี้ นปท. ยังมีอำนาจ เรียกประชุมร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อจำเป็น เพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ชาติ(ประชุม ถก แลกเปลี่ยน ในเชิงเสนอแนะ) .... .... สุดท้าย จะเห็นได้ว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทาง ซึ่งชื่อเท่มาก ไม่มีอะไร มากไปกว่า... . หน่วยงานหนึ่ง ที่มีหน้าที่ ดำเนินการต่างๆ ให้สอดคล้องกับ นโยบายของนักการเมืองเบื้องบน และหรือ กระทรวงการต่างประเทศ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง . ทำได้แค่ เสนอข้อมูล ให้คำแนะนำ ติดตาม-ประเมินผล แค่นั้น . ไม่ได้มีหน้าที่ คาน หรือ คัดง้าง ไม่มีกฎหมายข้อให้ให้อำนาจ ในการโต้แย้ง ยับยั้ง หาก รัฐบาล หรือ กระทรวงการต่างประเทศกระทำผิด ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ ผลประโยชน์ของประเทศชาติแต่อย่างใด...!!! . พูดง่ายๆ คือ หน่วยงานปฏิบัติการ ตามคำสั่ง ตามนโยบายของ รัฐบาล... . อำนาจที่มี ไม่ได้เท่เหมือนชื่อ...!!! . หาก นักการเมืองขายชาติ ก็โต้แย้ง คัดค้าน ทำอะไรไม่ได้...!!! .... .... ผมคิดว่าตัวเองพอเข้าใจที่มาที่ไปของ การเขียนโพสเรื่องนี้ครับ... . อย่าอวยกันขนาดนั้นเลยครับ ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงด้วย...!!! . ไม่งั้น "ทีมอวย" จะต่างอะไรกับ มาลี และ ฮุนเซน หล่ะครับ...??? . 😓😓😓😓😓😓😓😓 .... .... ถ้าอยากสกัด เขมร จริง ยกเลิก MOU43-MOU44-JC44 คือทางออกครับ . https://www.naewna.com/politic/906142?fbclid=IwQ0xDSwMI-ZNjbGNrAwakRmV4dG4DYWVtAjEwAGJyaWQRMU44ZFlpaFRqMHhOT3c1bDkBHnHzvN8SfGcG8c7FdtCH44q4c5JWQHQkycw28_tsv4u0cdPKWRSRc7qd4fsM_aem_pRLgNZlXgTqmABx0ecgerw
    WWW.NAEWNA.COM
    ‘เสธ.นิด’เปิดอีกความจริง!‘บิ๊กตู่’คลอดกฎหมาย สกัดเขมือบทรัพยากรทางทะเล ด้วย MOU 44
    ‘เสธ.นิด’เปิดอีกความจริง!‘บิ๊กตู่’คลอดกฎหมาย สกัดเขมือบทรัพยากรทางทะเล ด้วย MOU 44
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟ้องอาญา-แพ่งกัมพูชา รุกรานอธิปไตยไทย : [NEWS UPDATE]
    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งดำเนินคดีกรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธรุกรานอธิปไตยไทย จนเกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กำลังพลและทางราชการจำนวนมาก ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทั้งทางอาญาและแพ่ง จนถึงระดับโลก โดยดำเนินคดีกับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องเร็วที่สุด มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นหน่วยงานหลัก หารือกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เช่น กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งฟ้องร้องคดีอาญาเรียกค่าเสียหายจากผู้สั่งการ และให้เก็บกู้วัตถุระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามา ซึ่งยังมีเหลือในชุมชน เผย พบโดรนบินเข้ามามากผิดปกติ ขอให้เร่งบังคับใช้กฎหมายกับผู้ทำผิดทันที


    เฟกนิวส์ไทยวางแผนสังหาร

    รับไม่ได้น่าเกลียดมาก

    เครือข่ายสู้สงครามการค้า

    เร่งสำรวจผลกระทบภาษี
    ฟ้องอาญา-แพ่งกัมพูชา รุกรานอธิปไตยไทย : [NEWS UPDATE] นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งดำเนินคดีกรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธรุกรานอธิปไตยไทย จนเกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กำลังพลและทางราชการจำนวนมาก ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทั้งทางอาญาและแพ่ง จนถึงระดับโลก โดยดำเนินคดีกับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องเร็วที่สุด มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นหน่วยงานหลัก หารือกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เช่น กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งฟ้องร้องคดีอาญาเรียกค่าเสียหายจากผู้สั่งการ และให้เก็บกู้วัตถุระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามา ซึ่งยังมีเหลือในชุมชน เผย พบโดรนบินเข้ามามากผิดปกติ ขอให้เร่งบังคับใช้กฎหมายกับผู้ทำผิดทันที เฟกนิวส์ไทยวางแผนสังหาร รับไม่ได้น่าเกลียดมาก เครือข่ายสู้สงครามการค้า เร่งสำรวจผลกระทบภาษี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน

    การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ:
    1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย:
    เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา
    ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก)
    ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 
    ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
    ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ)
    ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ)
    ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี)
    ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด)
    ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.)
    ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ

    2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ: 👉1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย: 🔘เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา 🔘ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก) 🔘ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย  🔘ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 🔘ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ) 🔘ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ) 🔘ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี) 🔘ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด) 🔘ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.) 🔘ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 🔘ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ 👉2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" แถลงด่วน! ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 11 รายจากจรวดกัมพูชาถล่มพลเรือน เผย กต. แจ้ง UN แล้ว เตรียมมาตรการโต้กลับ
    https://www.thai-tai.tv/news/20507/
    .
    #ภูมิธรรมเวชยชัย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ผู้เสียชีวิต #พลเรือนบาดเจ็บ #กัมพูชายิงก่อน #ลดระดับทางการทูต #สภาความมั่นคงแห่งชาติ #กระทรวงการต่างประเทศ #UN #ปกป้องอธิปไตย
    "ภูมิธรรม" แถลงด่วน! ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 11 รายจากจรวดกัมพูชาถล่มพลเรือน เผย กต. แจ้ง UN แล้ว เตรียมมาตรการโต้กลับ https://www.thai-tai.tv/news/20507/ . #ภูมิธรรมเวชยชัย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ผู้เสียชีวิต #พลเรือนบาดเจ็บ #กัมพูชายิงก่อน #ลดระดับทางการทูต #สภาความมั่นคงแห่งชาติ #กระทรวงการต่างประเทศ #UN #ปกป้องอธิปไตย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ภูมิธรรม” ยันแค่เสียงปืนลั่น ยังไม่ถึงขั้นปะทะ เรียกถกด่วน สมช. บ่ายนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/20478/
    .
    #ภูมิธรรมเวชยชัย #ปะทะชายแดน #ปราสาทตาเมือนธม #สุรินทร์ #สภาความมั่นคงแห่งชาติ #ข่าวปลอม #ความมั่นคงระหว่างประเทศ #ชายแดนไทยกัมพูชา #สงบสติอารมณ์ #ปกป้องอธิปไตย

    “ภูมิธรรม” ยันแค่เสียงปืนลั่น ยังไม่ถึงขั้นปะทะ เรียกถกด่วน สมช. บ่ายนี้ https://www.thai-tai.tv/news/20478/ . #ภูมิธรรมเวชยชัย #ปะทะชายแดน #ปราสาทตาเมือนธม #สุรินทร์ #สภาความมั่นคงแห่งชาติ #ข่าวปลอม #ความมั่นคงระหว่างประเทศ #ชายแดนไทยกัมพูชา #สงบสติอารมณ์ #ปกป้องอธิปไตย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนได้เห็นวิดีโอนี้แล้ว ในช่วงวันที่ 3 ของสงครามอิสราเอล-อิหร่าน จากการทิ้งระเบิด "Bunker Buster" ซึ่งเป็นระเบิดที่รุนแรงที่สุด ที่อิสราเอลมีครอบครอง แต่ในขณะนั้นยังไม่มีใครทราบว่าเป้าหมายคืออะไร

    สำนักข่าวฟาร์ส เพิ่งเปิดเผยข้อมูลว่า นี่เป็นระเบิดที่กองกำลังอิสราเอลใช้เพื่อสังหารสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน ที่หลบอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินของกรุงเตหะราน

    ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคน รวมถึงประธานาธิบดีเปเซชเคียน (ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา) สามารถรอดพ้นจากความตาย และหลบหนีออกมาได้ทางประตูฉุกเฉินได้สำเร็จ

    คาดว่าสายลับของอิสราเอลที่แฝงตัวอยู่ในอิหร่าน เป็นผู้เปิดเผยสถานที่ลับแห่งนี้
    หลายคนได้เห็นวิดีโอนี้แล้ว ในช่วงวันที่ 3 ของสงครามอิสราเอล-อิหร่าน จากการทิ้งระเบิด "Bunker Buster" ซึ่งเป็นระเบิดที่รุนแรงที่สุด ที่อิสราเอลมีครอบครอง แต่ในขณะนั้นยังไม่มีใครทราบว่าเป้าหมายคืออะไร สำนักข่าวฟาร์ส เพิ่งเปิดเผยข้อมูลว่า นี่เป็นระเบิดที่กองกำลังอิสราเอลใช้เพื่อสังหารสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน ที่หลบอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินของกรุงเตหะราน ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคน รวมถึงประธานาธิบดีเปเซชเคียน (ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา) สามารถรอดพ้นจากความตาย และหลบหนีออกมาได้ทางประตูฉุกเฉินได้สำเร็จ คาดว่าสายลับของอิสราเอลที่แฝงตัวอยู่ในอิหร่าน เป็นผู้เปิดเผยสถานที่ลับแห่งนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กินรวบกุมอำนาจ หน่วยงานความมั่นคง : [NEWS UPDATE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงกลาโหม 2.กระทรวงการต่างประเทศ 3.กระทรวงมหาดไทย 4.กระทรวงยุติธรรม 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ 7.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ 8.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 9.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ 10.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้

    -ถอยวาระร้อน

    -สอบพยานฟอกเงิน สว.เพิ่ม

    -เตือนภัย 33 จังหวัด

    -ไม่ต้องพึ่งศาลโลก
    กินรวบกุมอำนาจ หน่วยงานความมั่นคง : [NEWS UPDATE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงกลาโหม 2.กระทรวงการต่างประเทศ 3.กระทรวงมหาดไทย 4.กระทรวงยุติธรรม 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ 7.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ 8.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 9.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ 10.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ -ถอยวาระร้อน -สอบพยานฟอกเงิน สว.เพิ่ม -เตือนภัย 33 จังหวัด -ไม่ต้องพึ่งศาลโลก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 744 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตามที่เกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้กับราชอาณาจักรกัมพูชาจำนวน 8 จุดซื้อขายไฟฟ้านั้น สถานะปัจจุบัน (26 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น.) PEA ยังมิได้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ราชอาณาจักรกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้จากข้อมูล
    การตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าตามจุดซื้อขายทั้ง 8 จุด นั้น ราชอาณาจักรกัมพูชา มิได้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าจาก PEA โดยมีหน่วยการใช้ไฟฟ้าเป็น 0 ทั้ง 8 จุดซื้อขายไฟฟ้า ดังนี้

    1.เทศบาลบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอปอยเปตจังหวัดบันเตียเมียนเจย วงจรที่ 1 และ วงจรที่ 2
    2. อำเภอกาบเชิง (ช่องจอม) จังหวัดสุรินทร์ → บ้านโอเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย
    3. บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด → บ้านหาดทรายยาว จังหวัดเกาะกง
    4. บ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → อำเภอพนมปรึก จังหวัดพระตะบอง
    5. บ้านสวนส้ม อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → บ้านโอลั๊ว อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง
    6. บ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว → อำเภอสำเภาลูน จังหวัดพระตะบอง
    7. บ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี → อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง
    8. บ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอมาลัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย

    สำหรับเงื่อนไขการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PEA สามารถดำเนินการได้ดังนี้
    1. คู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือตัวแทนรัฐ (สถานทูตกัมพูชา รัฐกัมพูชา) ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและงดจำหน่ายไฟฟ้า
    2. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสือแจ้ง PEAให้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
    3. ไม่ดำเนินการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เช่น ไม่ชำระค่าไฟฟ้าภายในเวลาที่กำหนด หรือ หลักประกันการใช้ไฟฟ้าไม่ครบถ้วน เป็นต้น
    ตามที่เกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้กับราชอาณาจักรกัมพูชาจำนวน 8 จุดซื้อขายไฟฟ้านั้น สถานะปัจจุบัน (26 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น.) PEA ยังมิได้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ราชอาณาจักรกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้จากข้อมูล การตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าตามจุดซื้อขายทั้ง 8 จุด นั้น ราชอาณาจักรกัมพูชา มิได้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าจาก PEA โดยมีหน่วยการใช้ไฟฟ้าเป็น 0 ทั้ง 8 จุดซื้อขายไฟฟ้า ดังนี้ 1.เทศบาลบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอปอยเปตจังหวัดบันเตียเมียนเจย วงจรที่ 1 และ วงจรที่ 2 2. อำเภอกาบเชิง (ช่องจอม) จังหวัดสุรินทร์ → บ้านโอเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย 3. บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด → บ้านหาดทรายยาว จังหวัดเกาะกง 4. บ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → อำเภอพนมปรึก จังหวัดพระตะบอง 5. บ้านสวนส้ม อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → บ้านโอลั๊ว อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง 6. บ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว → อำเภอสำเภาลูน จังหวัดพระตะบอง 7. บ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี → อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง 8. บ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอมาลัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย สำหรับเงื่อนไขการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PEA สามารถดำเนินการได้ดังนี้ 1. คู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือตัวแทนรัฐ (สถานทูตกัมพูชา รัฐกัมพูชา) ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและงดจำหน่ายไฟฟ้า 2. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสือแจ้ง PEAให้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 3. ไม่ดำเนินการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เช่น ไม่ชำระค่าไฟฟ้าภายในเวลาที่กำหนด หรือ หลักประกันการใช้ไฟฟ้าไม่ครบถ้วน เป็นต้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต:

    แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council):

    ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน

    ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง

    ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้

    ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่

    “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต: แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council): ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่ “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาความมั่นคงแห่งชาติอิหร่านออกแถลงการณ์ โจมตีฐานทัพสหรัฐเท่านั้น และจะไม่สร้างภัยคุกคามต่อประชาชนชาวกาตาร์ที่ซึ่งเป็นพี่น้องกับอิหร่าน:

    : เราโจมตีฐานทัพอากาศอัลอูเดดของสหรัฐฯ ในกาตาร์ด้วยขีปนาวุธ 6 ลูก เนื่องจากฐานทัพดังกล่าวโจมตีฐานทัพนิวเคลียร์ด้วยระเบิด 6 ลูก เป้าหมายคือฐานทัพอากาศอัลอูเดด ไม่ใช่กาตาร์ ซึ่งถือเป็นมิตรของอิหร่าน”
    สภาความมั่นคงแห่งชาติอิหร่านออกแถลงการณ์ โจมตีฐานทัพสหรัฐเท่านั้น และจะไม่สร้างภัยคุกคามต่อประชาชนชาวกาตาร์ที่ซึ่งเป็นพี่น้องกับอิหร่าน: : เราโจมตีฐานทัพอากาศอัลอูเดดของสหรัฐฯ ในกาตาร์ด้วยขีปนาวุธ 6 ลูก เนื่องจากฐานทัพดังกล่าวโจมตีฐานทัพนิวเคลียร์ด้วยระเบิด 6 ลูก เป้าหมายคือฐานทัพอากาศอัลอูเดด ไม่ใช่กาตาร์ ซึ่งถือเป็นมิตรของอิหร่าน”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • เวลานี้สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านจะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ว่าจะเลือกปิดช่องแคบฮอร์มุซ ตอบโต้ปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ของสหรัฐฯหรือไม่ หลังจากมีรายงานว่ารัฐสภาของประเทศได้ยกมือสนับสนุนมาตรการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวเพรส ทีวี ของอิหร่าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058745

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เวลานี้สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านจะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ว่าจะเลือกปิดช่องแคบฮอร์มุซ ตอบโต้ปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ของสหรัฐฯหรือไม่ หลังจากมีรายงานว่ารัฐสภาของประเทศได้ยกมือสนับสนุนมาตรการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวเพรส ทีวี ของอิหร่าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058745 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 933 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอของทรัมป์ ก่อนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน:

    ทรัมป์กำลังเดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อหารือเรื่องโจมตีอิหร่าน ผู้อำนวยการซีไอเอและเจ้าหน้าที่มอสสาด โจห์ แรตคลิฟฟ์ ก็เข้าร่วมด้วย
    ภาพวิดีโอของทรัมป์ ก่อนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน: ทรัมป์กำลังเดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อหารือเรื่องโจมตีอิหร่าน ผู้อำนวยการซีไอเอและเจ้าหน้าที่มอสสาด โจห์ แรตคลิฟฟ์ ก็เข้าร่วมด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • โลกกำลังจับตาดูผลลัพธ์!!!

    ขณะนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังอยู่ในห้องสถานการณ์ (Situation Room) ของทำเนียบขาว เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามอิหร่าน-อิสราเอลกับทีมงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของเขา ตามรายงานของ Axios
    โลกกำลังจับตาดูผลลัพธ์!!! ขณะนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังอยู่ในห้องสถานการณ์ (Situation Room) ของทำเนียบขาว เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามอิหร่าน-อิสราเอลกับทีมงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของเขา ตามรายงานของ Axios
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวชื่อดังของอิหร่าน Khayal Muazzin อธิบายสถานการณ์ภายในอิหร่านในช่วงวันแรกที่ถูกโจมตีจากอิสราเอล และประเด็นด้านความมั่นคงของอิหร่าน:

    ช่วง 30 ชั่วโมงที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองของอิหร่านสามารถระบุรูปแบบการโจมตีของหน่วยข่าวกรอง Mossad ได้แล้ว ทำให้แกะรอยย้อนกลับไปตามเบาะแสต่างๆ จนสามารถค้นพบโรงงานใต้ดินหลายแห่งที่แอบลักลอบสร้างโดรนโจมตีภายในเตหะราน

    โดรนโจมตีที่หน่วยข่าวกรองอิหร่านค้นพบเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 80% หากเทียบกับจำนวนโดรนที่ระบอบไซออนิสต์ใช้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีใครตรวจเจอมาก่อน และตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทำไมการโจมตีของอิสราเอลถึงรุนแรงและสร้างความเสียหายได้มาก เพราะการโจมตีมาจากภายในดินแดนของเราเอง

    การที่เตหะรานและอิสฟาฮานถูกโจมตีอย่างแสนสาหัส เป็นผลมาจากโดรนในโรงงานลับเหล่านี้ ตามข้อมูลล่าสุด 90% ของการทำลายล้างไม่เกี่ยวข้องกับการรุกรานจากภายนอก แต่เป็นการปฏิบัติการที่จัดขึ้นจากดินแดนของประเทศเราเอง อิสราเอลสามารถเจาะลึกได้โดยใช้ช่องทางข่าวกรองและการสนับสนุนจากภายใน แต่ตอนนี้ขั้นตอนการเปิดโปงและการชำระล้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่มีการตรวจตราในระดับที่เข้มงวด และสามารถจับกุมกลุ่มก่อวินาศกรรมของอิสราเอลมากมาย รวมทั้งเข้าทลายโรงงานผลิต นั่นทำให้ระดับอันตรายลดลงอย่างรวดเร็วจากการโจมตีภายใน จากการคาดการณ์เชื่อว่าลดลงอย่างน้อย 80%

    หลายคนถามว่าทำไม Kermanshah และ Tabriz (คลังขีปนาวุธใต้ดินขนาดใหญ่) ถึงตกเป็นเป้าหมายโจมตีซ้ำหลายครั้ง คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะยังมีคนในรัฐบาลที่เชื่อในคำพูดรับประกันของสหรัฐฯ ว่าจะไม่ทำอะไรพวกเรา ภาพลวงตาของความปลอดภัยเหล่านั้นกลายเป็นโศกนาฏกรรมบนดินแดนของเรา

    สำหรับพลังของกองทัพอากาศอิสราเอลนั้นถือถูกนำเสนอเกินจริงไปมาก หลังจากระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงเครื่องบินรบขั้นสูงหลายลำตกทางตะวันตกของประเทศ เครื่องบิน F-35 ก็ไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่น่านฟ้าของอิหร่านอีกต่อไป พวกเขาเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีทั้งหมดเป็นดำเนินการโดยระบบดาวเทียมและการประสานงานกับตัวแทนในพื้นที่ หรือผ่านช่องทางการก่อวินาศกรรมภายในประเทศ

    การเสียชีวิตของผู้บัญชาการ IRGC ไม่ใช่การแสดงความแข็งแกร่งของศัตรู แต่เป็นผลจากความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยภายในของเราเอง คุณไม่สามารถโทษศัตรูได้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นผลมาจากข้อบกพร่องภายในของเรา ด้วยเหตุนี้เองที่ทพให้อิหร่านต้องดำเนินการด้วยความอดกลั้นและระมัดระวัง เป้าหมายหลักในช่วงแรกของเราคือการกำจัดโรงงานภายในเพื่อหยุดยั้งการโจมตีทั้งหมด

    ช่วงเวลายากลำบากนั้นผ่านไปแล้ว อิสราเอลไม่ได้มีไพ่เด็ดอีกต่อไป และถึงคราวที่อิหร่านจะต้องพูดในภาษาที่ศัตรูเข้าใจจริงๆ อิสราเอลกลัวการเผชิญหน้าอย่างเปิดเผย และเราสามารถเห็นได้แล้วว่าพวกเขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดอย่างไร เพราะตระหนักดีว่าสิ่งที่ตนมีคือเวลา และเวลากำลังขัดขวางพวกเขา

    การเป็นผู้นำปฏิบัติการตอบโต้ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในมือของสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว แต่เป็นการตัดสินใจจากสำนักงานใหญ่ของผู้นำสูงสุดและกองบัญชาการทหาร สงครามกำลังดำเนินไปอย่างเลือดเย็นและไม่มีการประนีประนอม อิหร่านมีคลังขีปนาวุธซ่อนอยู่ใต้ดินลึกมากๆ และยังไม่เคยถูกโจมตีจากศัตรูแม้แต่ครั้งเดียว

    ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า อิสราเอลเป็นผู้เริ่ม แต่อิหร่านจะทำให้มันจบลง
    นักข่าวชื่อดังของอิหร่าน Khayal Muazzin อธิบายสถานการณ์ภายในอิหร่านในช่วงวันแรกที่ถูกโจมตีจากอิสราเอล และประเด็นด้านความมั่นคงของอิหร่าน: 🟢 ช่วง 30 ชั่วโมงที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองของอิหร่านสามารถระบุรูปแบบการโจมตีของหน่วยข่าวกรอง Mossad ได้แล้ว ทำให้แกะรอยย้อนกลับไปตามเบาะแสต่างๆ จนสามารถค้นพบโรงงานใต้ดินหลายแห่งที่แอบลักลอบสร้างโดรนโจมตีภายในเตหะราน 🟢 โดรนโจมตีที่หน่วยข่าวกรองอิหร่านค้นพบเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 80% หากเทียบกับจำนวนโดรนที่ระบอบไซออนิสต์ใช้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีใครตรวจเจอมาก่อน และตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทำไมการโจมตีของอิสราเอลถึงรุนแรงและสร้างความเสียหายได้มาก เพราะการโจมตีมาจากภายในดินแดนของเราเอง 🟢 การที่เตหะรานและอิสฟาฮานถูกโจมตีอย่างแสนสาหัส เป็นผลมาจากโดรนในโรงงานลับเหล่านี้ ตามข้อมูลล่าสุด 90% ของการทำลายล้างไม่เกี่ยวข้องกับการรุกรานจากภายนอก แต่เป็นการปฏิบัติการที่จัดขึ้นจากดินแดนของประเทศเราเอง อิสราเอลสามารถเจาะลึกได้โดยใช้ช่องทางข่าวกรองและการสนับสนุนจากภายใน แต่ตอนนี้ขั้นตอนการเปิดโปงและการชำระล้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่มีการตรวจตราในระดับที่เข้มงวด และสามารถจับกุมกลุ่มก่อวินาศกรรมของอิสราเอลมากมาย รวมทั้งเข้าทลายโรงงานผลิต นั่นทำให้ระดับอันตรายลดลงอย่างรวดเร็วจากการโจมตีภายใน จากการคาดการณ์เชื่อว่าลดลงอย่างน้อย 80% 🟢 หลายคนถามว่าทำไม Kermanshah และ Tabriz (คลังขีปนาวุธใต้ดินขนาดใหญ่) ถึงตกเป็นเป้าหมายโจมตีซ้ำหลายครั้ง คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะยังมีคนในรัฐบาลที่เชื่อในคำพูดรับประกันของสหรัฐฯ ว่าจะไม่ทำอะไรพวกเรา ภาพลวงตาของความปลอดภัยเหล่านั้นกลายเป็นโศกนาฏกรรมบนดินแดนของเรา 🟢 สำหรับพลังของกองทัพอากาศอิสราเอลนั้นถือถูกนำเสนอเกินจริงไปมาก หลังจากระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงเครื่องบินรบขั้นสูงหลายลำตกทางตะวันตกของประเทศ เครื่องบิน F-35 ก็ไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่น่านฟ้าของอิหร่านอีกต่อไป พวกเขาเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีทั้งหมดเป็นดำเนินการโดยระบบดาวเทียมและการประสานงานกับตัวแทนในพื้นที่ หรือผ่านช่องทางการก่อวินาศกรรมภายในประเทศ 🟢 การเสียชีวิตของผู้บัญชาการ IRGC ไม่ใช่การแสดงความแข็งแกร่งของศัตรู แต่เป็นผลจากความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยภายในของเราเอง คุณไม่สามารถโทษศัตรูได้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นผลมาจากข้อบกพร่องภายในของเรา ด้วยเหตุนี้เองที่ทพให้อิหร่านต้องดำเนินการด้วยความอดกลั้นและระมัดระวัง เป้าหมายหลักในช่วงแรกของเราคือการกำจัดโรงงานภายในเพื่อหยุดยั้งการโจมตีทั้งหมด 🟢 ช่วงเวลายากลำบากนั้นผ่านไปแล้ว อิสราเอลไม่ได้มีไพ่เด็ดอีกต่อไป และถึงคราวที่อิหร่านจะต้องพูดในภาษาที่ศัตรูเข้าใจจริงๆ อิสราเอลกลัวการเผชิญหน้าอย่างเปิดเผย และเราสามารถเห็นได้แล้วว่าพวกเขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดอย่างไร เพราะตระหนักดีว่าสิ่งที่ตนมีคือเวลา และเวลากำลังขัดขวางพวกเขา 🟢 การเป็นผู้นำปฏิบัติการตอบโต้ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในมือของสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว แต่เป็นการตัดสินใจจากสำนักงานใหญ่ของผู้นำสูงสุดและกองบัญชาการทหาร สงครามกำลังดำเนินไปอย่างเลือดเย็นและไม่มีการประนีประนอม อิหร่านมีคลังขีปนาวุธซ่อนอยู่ใต้ดินลึกมากๆ และยังไม่เคยถูกโจมตีจากศัตรูแม้แต่ครั้งเดียว 🟢 ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า อิสราเอลเป็นผู้เริ่ม แต่อิหร่านจะทำให้มันจบลง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน

    ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้

    นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย

    สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง

    ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา

    #Newskit
    ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้ นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา หากกัมพูชายกระดับ ให้กองทัพประสานเตรียมพร้อมรับมือ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งกองทัพยืนยันว่า พร้อมรักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศและบูรณภาพเหนือดินแดน ส่วนเสียงให้ปิดด่าน เตรียมพร้อมหมดแล้ว ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดสงคราม แต่ทหารมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย เราไม่รับอำนาจศาลโลก ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีท่าทีนอบน้อมกับกัมพูชา อย่าบอกว่าเป็นข้าของเขา ไม่จริง ในทางการทูตบอกว่าใช้ได้แล้ว เรื่องนี้ใหญ่ระดับประเทศ ถ้าจุกจิกกับเรื่องเล็กๆ เรื่องใหญ่จะเสีย กลายเป็นความขัดแย้ง

    -ประเมินหน้างานก่อนปะทะ
    -ตชด.พร้อมเต็มอัตรา
    -กัมพูชาปฏิเสธคำขอไทย
    -สหรัฐตอบรับเจรจา
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา หากกัมพูชายกระดับ ให้กองทัพประสานเตรียมพร้อมรับมือ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งกองทัพยืนยันว่า พร้อมรักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศและบูรณภาพเหนือดินแดน ส่วนเสียงให้ปิดด่าน เตรียมพร้อมหมดแล้ว ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดสงคราม แต่ทหารมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย เราไม่รับอำนาจศาลโลก ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีท่าทีนอบน้อมกับกัมพูชา อย่าบอกว่าเป็นข้าของเขา ไม่จริง ในทางการทูตบอกว่าใช้ได้แล้ว เรื่องนี้ใหญ่ระดับประเทศ ถ้าจุกจิกกับเรื่องเล็กๆ เรื่องใหญ่จะเสีย กลายเป็นความขัดแย้ง -ประเมินหน้างานก่อนปะทะ -ตชด.พร้อมเต็มอัตรา -กัมพูชาปฏิเสธคำขอไทย -สหรัฐตอบรับเจรจา
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 600 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • ไม่ใช่ข้ากัมพูชา ยึดสันติ-เลี่ยงสงคราม : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ปัญหาความมันคงชายแดนไทย-กัมพูชา หากฝ่ายกัมพูชายกระดับปัญหา ให้กองทัพประสานกเตรียมพร้อมรับมือ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนเสียงให้ปิดด่าน เตรียมพร้อมหมดแล้ว รอให้เกิดสถานการณ์ก่อน ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดสงคราม แต่ทหารมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และเราไม่รับอำนาจศาลโลก ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีท่าทีนอบน้อมกับกัมพูชา อย่าบอกว่าเป็นข้าของเขา ไม่จริง ในทางการทูตบอกว่าใช้ได้แล้ว เรื่องนี้ใหญ่ระดับประเทศ ถ้าจุกจิกกับเรื่องเล็กๆ เรื่องใหญ่จะเสีย กลายเป็นความขัดแย้ง
    ไม่ใช่ข้ากัมพูชา ยึดสันติ-เลี่ยงสงคราม : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ปัญหาความมันคงชายแดนไทย-กัมพูชา หากฝ่ายกัมพูชายกระดับปัญหา ให้กองทัพประสานกเตรียมพร้อมรับมือ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนเสียงให้ปิดด่าน เตรียมพร้อมหมดแล้ว รอให้เกิดสถานการณ์ก่อน ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดสงคราม แต่ทหารมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และเราไม่รับอำนาจศาลโลก ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีท่าทีนอบน้อมกับกัมพูชา อย่าบอกว่าเป็นข้าของเขา ไม่จริง ในทางการทูตบอกว่าใช้ได้แล้ว เรื่องนี้ใหญ่ระดับประเทศ ถ้าจุกจิกกับเรื่องเล็กๆ เรื่องใหญ่จะเสีย กลายเป็นความขัดแย้ง
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพราง ต้องใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย. นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่ขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องพิจารณาจากแผนที่ ยอมรับ ทหารอึดอัดต่อสถานการณ์ แต่ทุกฝ่ายเข้าใจดีว่านี่คือยุทธศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจกระทบเอกราชชาติไทย

    -ฉุนถูกจี้ถามกัมพูชาล้ำแดน
    -ไล่กวดภาพ AI
    -แก๊งศูนย์เหรียญตั้งฟรีโซน
    -สารพัดปัญหาเศรษฐกิจไทย
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพราง ต้องใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย. นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่ขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องพิจารณาจากแผนที่ ยอมรับ ทหารอึดอัดต่อสถานการณ์ แต่ทุกฝ่ายเข้าใจดีว่านี่คือยุทธศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจกระทบเอกราชชาติไทย -ฉุนถูกจี้ถามกัมพูชาล้ำแดน -ไล่กวดภาพ AI -แก๊งศูนย์เหรียญตั้งฟรีโซน -สารพัดปัญหาเศรษฐกิจไทย
    Like
    Haha
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 763 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน รอหลักฐานกัมพูชาล้ำแดน : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพรางใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าหลงเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาเคลื่อนกำลังล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ประเมินสถานการณ์รายวันรอบด้าน
    ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน รอหลักฐานกัมพูชาล้ำแดน : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพรางใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าหลงเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาเคลื่อนกำลังล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ประเมินสถานการณ์รายวันรอบด้าน
    Haha
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 619 มุมมอง 24 0 รีวิว
Pages Boosts