• “ประเสริฐ” อ้าง เลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต เหตุสถานการณ์โลกเปลี่ยน เชื่อประชาชนเข้าใจรัฐบาล
    https://www.thai-tai.tv/news/18825/
    “ประเสริฐ” อ้าง เลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต เหตุสถานการณ์โลกเปลี่ยน เชื่อประชาชนเข้าใจรัฐบาล https://www.thai-tai.tv/news/18825/
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • NT วุ่นสหภาพค้านแหลก AIS ขอซื้อลูกค้ามือถือ-เน็ตบ้าน

    เรื่องวุ่นๆ ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT รัฐวิสาหกิจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เมื่อเว็บไซต์ The Mature ของอดีตนักข่าวไอทีค่ายใหญ่ เผยแพร่หนังสือที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ลงนามเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2568 ถึงกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT ขอซื้อฐานลูกค้ามือถือ รวมทั้งพิจารณาการแก้ไขและยกเลิกสัญญาการให้บริการมือถือบนคลื่น 700 MHz รวมทั้งลูกค้าบรอดแบนด์รายย่อยทั้งหมด โดยขอเช่าใช้และขอสิทธิบริหารโครงข่ายบรอดแบนด์ของ NT ระบุว่า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นโอกาสของ NT ในการสร้างรายได้ที่มั่นคง

    เรื่องนี้ทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT ออกมาคัดค้าน เนื่องจากคลื่นความถี่เป็นทรัพย์สินของชาติ ควรอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ควรให้เอกชนเข้ามาใช้ประโยชน์ รวมถึงข้อเสนอดังกล่าวคล้ายการแปรรูป NT ทางอ้อม อาจส่งผลกระทบต่อพนักงาน NT ทั้งในด้านการจ้างงาน บทบาทหน้าที่ และอนาคตในสายงาน พร้อมเรียกร้องให้ผู้บริหาร NT ไม่สนับสนุนข้อเสนอของเอไอเอส และให้กระทรวงดีอี คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดีอี ยืนยันว่า การเสนอซื้อฐานลูกค้ามือถือและบรอดแบนด์รายย่อย แม้จะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ต้องเปิดกว้างรับข้อเสนอจากทุกราย เพื่อประโยชน์สูงสุดของ NT และยังต้องรับผิดชอบพนักงาน NT ที่จะถูกโอนย้ายไปด้วย ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้และมีหลายปัจจัยต้องพิจารณา ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบอร์ด NT และยังต้องดูผลประกอบการของธุรกิจบรอดแบนด์ จึงยังจะไม่ได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้

    ขณะที่เอไอเอสทำหนังสือชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลงหรือความคืบหน้าใดๆ โดยหากมีพัฒนาการที่สำคัญ บริษัทจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป ส่วนแหล่งข่าวจาก กสทช. กล่าวกับเว็บไซต์ MGR Online ว่า ลูกค้ามือถือ-บรอดแบนด์ซื้อขายกันไม่ได้ ต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้า จะบังคับให้ย้ายหรือโอนย้ายโดยไม่แจ้งลูกค้าไม่ได้ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดกรณีแบบนี้มาก่อน

    ปัจจุบัน NT มีลูกค้าบรอดแบนด์รายย่อยประมาณ 2 ล้านราย ฐานลูกค้ามือถือ NT Mobile ที่มาจาก TOT Mobile เดิม ราว 3 แสนราย ที่ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2100 และ 2300 MHz. จะหมดอายุในวันที่ 3 ส.ค.นี้ และ My by NT ที่มาจาก CAT Telecom เดิมบนคลื่นความถี่ 700 MHz. ราว 2.17 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระบบเติมเงิน

    #Newskit
    NT วุ่นสหภาพค้านแหลก AIS ขอซื้อลูกค้ามือถือ-เน็ตบ้าน เรื่องวุ่นๆ ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT รัฐวิสาหกิจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เมื่อเว็บไซต์ The Mature ของอดีตนักข่าวไอทีค่ายใหญ่ เผยแพร่หนังสือที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ลงนามเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2568 ถึงกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT ขอซื้อฐานลูกค้ามือถือ รวมทั้งพิจารณาการแก้ไขและยกเลิกสัญญาการให้บริการมือถือบนคลื่น 700 MHz รวมทั้งลูกค้าบรอดแบนด์รายย่อยทั้งหมด โดยขอเช่าใช้และขอสิทธิบริหารโครงข่ายบรอดแบนด์ของ NT ระบุว่า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นโอกาสของ NT ในการสร้างรายได้ที่มั่นคง เรื่องนี้ทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT ออกมาคัดค้าน เนื่องจากคลื่นความถี่เป็นทรัพย์สินของชาติ ควรอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ควรให้เอกชนเข้ามาใช้ประโยชน์ รวมถึงข้อเสนอดังกล่าวคล้ายการแปรรูป NT ทางอ้อม อาจส่งผลกระทบต่อพนักงาน NT ทั้งในด้านการจ้างงาน บทบาทหน้าที่ และอนาคตในสายงาน พร้อมเรียกร้องให้ผู้บริหาร NT ไม่สนับสนุนข้อเสนอของเอไอเอส และให้กระทรวงดีอี คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดีอี ยืนยันว่า การเสนอซื้อฐานลูกค้ามือถือและบรอดแบนด์รายย่อย แม้จะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ต้องเปิดกว้างรับข้อเสนอจากทุกราย เพื่อประโยชน์สูงสุดของ NT และยังต้องรับผิดชอบพนักงาน NT ที่จะถูกโอนย้ายไปด้วย ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้และมีหลายปัจจัยต้องพิจารณา ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบอร์ด NT และยังต้องดูผลประกอบการของธุรกิจบรอดแบนด์ จึงยังจะไม่ได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ ขณะที่เอไอเอสทำหนังสือชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลงหรือความคืบหน้าใดๆ โดยหากมีพัฒนาการที่สำคัญ บริษัทจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป ส่วนแหล่งข่าวจาก กสทช. กล่าวกับเว็บไซต์ MGR Online ว่า ลูกค้ามือถือ-บรอดแบนด์ซื้อขายกันไม่ได้ ต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้า จะบังคับให้ย้ายหรือโอนย้ายโดยไม่แจ้งลูกค้าไม่ได้ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดกรณีแบบนี้มาก่อน ปัจจุบัน NT มีลูกค้าบรอดแบนด์รายย่อยประมาณ 2 ล้านราย ฐานลูกค้ามือถือ NT Mobile ที่มาจาก TOT Mobile เดิม ราว 3 แสนราย ที่ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2100 และ 2300 MHz. จะหมดอายุในวันที่ 3 ส.ค.นี้ และ My by NT ที่มาจาก CAT Telecom เดิมบนคลื่นความถี่ 700 MHz. ราว 2.17 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระบบเติมเงิน #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • รมต.สำนักนายกฯ ชี้ หากชะลอ ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ผิดนโยบายแถลงสภาฯ เหตุทำแล้วไม่ใช่ไม่ทำเลย ด้านประเสริฐ โยนคลังแจง ระบบแจกเงินหมื่น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046719

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รมต.สำนักนายกฯ ชี้ หากชะลอ ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ผิดนโยบายแถลงสภาฯ เหตุทำแล้วไม่ใช่ไม่ทำเลย ด้านประเสริฐ โยนคลังแจง ระบบแจกเงินหมื่น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046719 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 400 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงศึกษาอุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ
    สัทธรรมลำดับที่ : 236
    ชื่อบทธรรม :- อุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=236
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ
    ภิกษุ ท. ! ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! #ตัณหา นี้ใด ที่ทำให้มีการเกิดอีก อันประกอบด้วยความกำหนัด
    เพราะอำนาจแห่งความเพลิน ซึ่งมีปกติทำให้เพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ,
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ตณฺหา+โปโนพฺภวิกา+นนฺทิราคสหคตา
    ได้แก่
    ตัณหาในกาม
    ตัณหาในความมีความเป็น
    ตัณหาในความไม่มีไม่เป็น ;
    นี้เรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/422/1680.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/422/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๔/๑๖๘๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=236
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=16&id=236
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=16
    ลำดับสาธยายธรรม : 16 ฟังสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_16.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาอุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ สัทธรรมลำดับที่ : 236 ชื่อบทธรรม :- อุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=236 เนื้อความทั้งหมด :- --อุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ ภิกษุ ท. ! ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! #ตัณหา นี้ใด ที่ทำให้มีการเกิดอีก อันประกอบด้วยความกำหนัด เพราะอำนาจแห่งความเพลิน ซึ่งมีปกติทำให้เพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ, http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ตณฺหา+โปโนพฺภวิกา+นนฺทิราคสหคตา ได้แก่ ตัณหาในกาม ตัณหาในความมีความเป็น ตัณหาในความไม่มีไม่เป็น ; นี้เรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/422/1680. http://etipitaka.com/read/thai/19/422/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๔/๑๖๘๐. http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=236 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=16&id=236 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=16 ลำดับสาธยายธรรม : 16 ฟังสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_16.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศ ๓
    -นิทเทศ ๓ ว่าด้วยหลักเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับความทุกข์ จบ ภาค ๑ ว่าด้วยทุกขอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์ จบ คำชี้ชวนวิงวอน ____________ ภิกษุ ท. ! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์.” เทสิตํ โว มยา นิพฺพานํ เทสิโต นิพฺพานคามิมคฺโค นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้ ; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย. (มหาวาร.สํ. - สฬา.สํ.) ภาค ๒ ว่าด้วย สมุทยอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐ คือเหตุให้เกิดทุกข์ ภาค ๒ มีเรื่อง :- นิทเทศ ๔ ว่าด้วยลักษณะแห่งตัณหา ๔๑ เรื่อง นิทเทศ ๕ ว่าด้วยที่เกิดและการเกิดแห่งตัณหา ๕ เรื่อง นิทเทศ ๖ ว่าด้วยอาการที่ตัณหาทำให้เกิดทุกข์ ๓๑ เรื่อง นิทเทศ ๗ ว่าด้วยทิฎฐิที่เกี่ยวกับตัณหา ๘ เรื่อง นิทเทศ ๘ ว่าด้วยกิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย ๑๕ เรื่อง อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาค ๒ ว่าด้วย สมุทยอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ (มี ๓ นิทเทศ) __________ อุทเทศแห่งสมุทยอริยสัจ ภิกษุ ท. ! ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหานี้ใด ที่ทำให้มีการเกิดอีก อันประกอบด้วยความกำหนัด เพราะอำนาจแห่งความเพลิน ซึ่งมีปกติทำให้เพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ, ได้แก่ ตัณหาในกาม ตัณหาในความมีความเป็น ตัณหาในความไม่มีไม่เป็น ; นี้เรียกว่า ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์.
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • เมื่อเดือนที่แล้วผมเขียนเรื่อง "'ฮวงจุ้ย'ไม่ได้ทำให้ตึก สตง. พัง เพราะการมี'คุณธรรม'ต่างหากที่เหนือกว่าพลังใดๆ" แก่นสารของบทความนั้นก็คือ ฮวงจุ้ยไม่ใช่ที่สุดแห่งอำนาจ แต่พลังคุณธรรมต่างหากที่เหนือกว่า ดังคำกล่าวว่า "หนึ่งคือคุณธรรม สองคือชะตา สามคือฮวงจุ้ย" (一德,二命,三风水)" นั่นคือ ถ้าคนมีคุณธรรมก็ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดิน เพราะคุณธรรมสามารถเปลี่ยน "สถานที่ร้าย" หรือ ชะตาร้าย" ให้กลายเป็น "สิ่งดีในชีวิต" หรือ "ชีวิตที่ดี" ได้

    มีตัวอย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้เขียนถึงแต่สะท้อนหลักการนี้ได้ดี คือ ชีวิตของ ฟ่านจ้งเยียน (范仲淹) ขุนนางผู้ลือนามในสมัยราชวงศ์ซ่ง

    ฟ่านจ้งเยียน กำพร้าพ่อแต่เด็ก อยู่อย่างยากจน ต้องอาศัยวัดเป็นที่อ่านหนังสือ ในเวลานั้น เขาไม่มีอะไรกินเลยตอนที่เรียนหนังสือได้แต่ต้มโจ๊กกินทุกวัน แถมยังแบ่งโจ๊กในชามออกเป็น 4 ช่องและกินทีละช่องในแต่ละวัน

    แม้จะยากไร้ขนาดนี้ แต่ก็อดทนฟันฝ่าจนสอบได้เป็นข้าราชการ ได้รับการอบรมสั่งสอนจากมารดาให้คำนึงถึงประชาชนเป็นอันดับแรก และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ เมื่อได้เป็นอัครมหาเสนาบดีก็ใช้เงินเดือนของตนเลี้ยงดูครอบครัวมากกว่า 300 ครอบครัวตลอดชีวิตของเขา แม้เงินเดือนอัครมหาเสนาบดีจะมากโข แม้นเมื่อนำไปเลี้ยงคนอื่นเป็นร้อยครอบครัว จนตระกูลฟ่านไม่พอกิน แต่คนในครอบครัวก็ยินดีทำตามปณิธานของเขา

    ทั้งหมดนี้เพราะคำสั่งสอนของมารดาฟ่านจ้งเยียน และฟ่านจ้งเยียนสั่งสอนบุตรของตน

    เมื่อแม่ของเขาจากโลกนี้ไป ก็ต้องเลือก "ฮวงจุ้ย" เพื่อทำ "ฮวงซุ้ย" แต่ที่ที่เขามีนั้นไม่ดีเอาเลย อาจารย์ฮวงจุ้ยบอกกับฟ่านจ้งเยียนว่า “ที่ดินนี้หากทำสุสานจะทำให้สิ้นวงศ์ตระกูล หากฝังแม่ของท่านไว้ที่นี่จะส่งผลเสียต่อท่าน ท่านจะไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุล จึงควรย้ายไปอยู่ที่อื่นเถอะ”

    ถ้าเป็นคนอื่นคงจะรีบย้ายสุสานแทบไม่ทัน แต่ฟ่านจ้งเยียนกลับยืนยันว่า “เราจะยึดผืนดินนี้ไว้ แล้วฝังแม่ข้าที่นี่เลย เพราะหากเป็นผืนดินที่จะทำให้สูญสิ้นวงศ์สกุล ข้าไม่ควรปล่อยให้คนอื่นต้องประสบกับโชคร้ายเช่นนี้ ข้าอยากแบกรับมันเองมากกว่า ถ้าชะตาของข้าถูกกำหนดไม่ให้มีลูกหลาน การย้ายหลุมศพจะมีประโยชน์อะไร”

    แต่ปรากฎว่าผลของมันตรงกันข้าม

    ฟ่านจ้งเยียนกลับได้ลูกชายถึง 4 คน ทั้งหมดมีปัญญาเฉลียวฉลาดและมีความสามารถมาก สามารถสอบเป็นขุนนาง ไต่เต้าเป็นอัครมหาเสนาบดี มหาเสนาบดี และเสนาบดี เหลนของตระกูลฟ่านล้วนเป็นปราชญ์และขุนนาง

    รวมแล้วตระกูลฟ่านมีลูกหลานสืบสกุลไม่ขาดสายยาวนานถึง 800 ปี ไม่ขาดตอนจนถึงทุกวันนี้ แถมยังมีอนุชนที่เป็นขุนนาง นักปราชญ์ ราชบัณฑิตอีกมากมาย

    นี่เป็นเพราะคุณธรรมของ ฟ่านจิ้งเยียน ที่ทำให้ "เรื่องร้าย" กลายเป็น "เรื่องดีหลายเท่าทวีคูณ"

    ต่อมา ฟ่านจ้งเยียนเป็นเจ้าเมืองซูโจวแล้วได้ที่ดินผืนหนึ่งในหนานหยวน ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยแนะนำให้เขาสร้างบ้านที่นี่ โดยพยากรณ์ว่าลูกหลานของฟ่านจ้งเยียนจะสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงและเป็นข้าราชการได้หลายชั่วอายุคน

    ฟ่านจ้งเยียนได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้สึกยินดี แทนที่จะสั่งให้สร้างบ้านตรงนั้นเขากลับกล่าวว่า "จะให้ครอบครัวของเราเท่านั้นที่จะร่ำรวยและมีเกียรติยศอยู่ครอบครัวเดียวได้อย่างไร ทำไมไม่สร้างโรงเรียนที่นี่และให้เด็กๆ ในบริเวณใกล้เคียงมาเรียนหนังสือ คนอื่นๆ จะได้ร่ำรวยและมีเกียรติกันเยอะๆ ไม่ดีกว่าหรือ?"

    ฟ่านจ้งเยียนจึงสละฮวงจุ้ยอันประเสริฐแล้วสร้างโรงเรียนขึ้นทันที หลังจากนั้นที่นี่ก็กลายเป็นสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ ในช่วงเกือบพันปีที่ผ่านมา มีบัณฑิตระดับจิ้นซื่อ (ผู้ผ่านการเข้าสอบในสนามสอบระดับพระนคร) เกือบ 400 คนและจอหงวน (ผู้สอบได้อันดับ 1 ในสนามสอบระดับพระนคร) มากกว่า 80 คน

    เราไม่รู้ว่าเพราะฮวงจุ้ยประเสริฐหรือไม่ โรงเรียนแห่งนี้จึงผลิตยอดคนออกมามากมาย หรือไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะพลังคุณธรรมและความฝันอันยิ่งใหญ่ของฟ่านจ้งเยียนมากกว่า

    เมื่อฟ่านจ้งเยียนเสียชีวิตครอบครัวของเขาไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายในงานศพด้วยซ้ำ เนื่องจากฟ่านจ้งเยียนบริจาคเงินทั้งหมดของตนให้กับผู้อื่นไม่หยุดหย่อน

    แต่ปรากฏว่าความยากกลายเป็นสิ่งชั่วคราวหากมีผู้มีคุณธรรมคอยค้ำชูดวงชะตาของตระกูลอยู่ คงเพราะบารมีของฟ่านจ้งเยียนคนในตระกูลฟ่านกลายเป็นขุนนางเรื่อยมา หรือไม่ก็เป็นบัณฑิตผู้มีชื่อเสียง กล่าวกันว่ารับราชการมารุ่นต่อรุ่นจนกระทั่งถึงยุคสาธารณรัฐจีนด้วยซ้ำ

    ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าการที่เขาเลือกฮวงจุ้ยอัปมงคลเพื่อรับผลร้ายแทนประชาชน ไม่เพียงฮวงจุ้ยจะทำอะไรไม่ได้ แต่พลังคุณธรรมของเขายังเปลี่ยนสถานที่อันเลวร้ายกลายเป็นสถานที่เป็นมงคล ทำให้ตระกูลฟ่านรุ่งเรืองไม่ขาดสาย

    ในขณะที่ความใจกว้างของเขาที่อุทิศฮวงจุ้ยอันประเสริฐให้เป็นโรงเรียนสาธารณะ ก็ทำให้ซูโจวผลิตบัณฑิตได้มากมาย แถมโรงเรียนแห่งนั้นก็ยังเจริญรุ่งเรืองไม่ขาดสายด้วย เพราะเปิดดำเนินการสอนลูกหลานชาวซูโจวมาจนถึงทุกวันนี้!

    Kornkit Disthan
    เมื่อเดือนที่แล้วผมเขียนเรื่อง "'ฮวงจุ้ย'ไม่ได้ทำให้ตึก สตง. พัง เพราะการมี'คุณธรรม'ต่างหากที่เหนือกว่าพลังใดๆ" แก่นสารของบทความนั้นก็คือ ฮวงจุ้ยไม่ใช่ที่สุดแห่งอำนาจ แต่พลังคุณธรรมต่างหากที่เหนือกว่า ดังคำกล่าวว่า "หนึ่งคือคุณธรรม สองคือชะตา สามคือฮวงจุ้ย" (一德,二命,三风水)" นั่นคือ ถ้าคนมีคุณธรรมก็ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดิน เพราะคุณธรรมสามารถเปลี่ยน "สถานที่ร้าย" หรือ ชะตาร้าย" ให้กลายเป็น "สิ่งดีในชีวิต" หรือ "ชีวิตที่ดี" ได้ มีตัวอย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้เขียนถึงแต่สะท้อนหลักการนี้ได้ดี คือ ชีวิตของ ฟ่านจ้งเยียน (范仲淹) ขุนนางผู้ลือนามในสมัยราชวงศ์ซ่ง ฟ่านจ้งเยียน กำพร้าพ่อแต่เด็ก อยู่อย่างยากจน ต้องอาศัยวัดเป็นที่อ่านหนังสือ ในเวลานั้น เขาไม่มีอะไรกินเลยตอนที่เรียนหนังสือได้แต่ต้มโจ๊กกินทุกวัน แถมยังแบ่งโจ๊กในชามออกเป็น 4 ช่องและกินทีละช่องในแต่ละวัน แม้จะยากไร้ขนาดนี้ แต่ก็อดทนฟันฝ่าจนสอบได้เป็นข้าราชการ ได้รับการอบรมสั่งสอนจากมารดาให้คำนึงถึงประชาชนเป็นอันดับแรก และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ เมื่อได้เป็นอัครมหาเสนาบดีก็ใช้เงินเดือนของตนเลี้ยงดูครอบครัวมากกว่า 300 ครอบครัวตลอดชีวิตของเขา แม้เงินเดือนอัครมหาเสนาบดีจะมากโข แม้นเมื่อนำไปเลี้ยงคนอื่นเป็นร้อยครอบครัว จนตระกูลฟ่านไม่พอกิน แต่คนในครอบครัวก็ยินดีทำตามปณิธานของเขา ทั้งหมดนี้เพราะคำสั่งสอนของมารดาฟ่านจ้งเยียน และฟ่านจ้งเยียนสั่งสอนบุตรของตน เมื่อแม่ของเขาจากโลกนี้ไป ก็ต้องเลือก "ฮวงจุ้ย" เพื่อทำ "ฮวงซุ้ย" แต่ที่ที่เขามีนั้นไม่ดีเอาเลย อาจารย์ฮวงจุ้ยบอกกับฟ่านจ้งเยียนว่า “ที่ดินนี้หากทำสุสานจะทำให้สิ้นวงศ์ตระกูล หากฝังแม่ของท่านไว้ที่นี่จะส่งผลเสียต่อท่าน ท่านจะไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุล จึงควรย้ายไปอยู่ที่อื่นเถอะ” ถ้าเป็นคนอื่นคงจะรีบย้ายสุสานแทบไม่ทัน แต่ฟ่านจ้งเยียนกลับยืนยันว่า “เราจะยึดผืนดินนี้ไว้ แล้วฝังแม่ข้าที่นี่เลย เพราะหากเป็นผืนดินที่จะทำให้สูญสิ้นวงศ์สกุล ข้าไม่ควรปล่อยให้คนอื่นต้องประสบกับโชคร้ายเช่นนี้ ข้าอยากแบกรับมันเองมากกว่า ถ้าชะตาของข้าถูกกำหนดไม่ให้มีลูกหลาน การย้ายหลุมศพจะมีประโยชน์อะไร” แต่ปรากฎว่าผลของมันตรงกันข้าม ฟ่านจ้งเยียนกลับได้ลูกชายถึง 4 คน ทั้งหมดมีปัญญาเฉลียวฉลาดและมีความสามารถมาก สามารถสอบเป็นขุนนาง ไต่เต้าเป็นอัครมหาเสนาบดี มหาเสนาบดี และเสนาบดี เหลนของตระกูลฟ่านล้วนเป็นปราชญ์และขุนนาง รวมแล้วตระกูลฟ่านมีลูกหลานสืบสกุลไม่ขาดสายยาวนานถึง 800 ปี ไม่ขาดตอนจนถึงทุกวันนี้ แถมยังมีอนุชนที่เป็นขุนนาง นักปราชญ์ ราชบัณฑิตอีกมากมาย นี่เป็นเพราะคุณธรรมของ ฟ่านจิ้งเยียน ที่ทำให้ "เรื่องร้าย" กลายเป็น "เรื่องดีหลายเท่าทวีคูณ" ต่อมา ฟ่านจ้งเยียนเป็นเจ้าเมืองซูโจวแล้วได้ที่ดินผืนหนึ่งในหนานหยวน ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยแนะนำให้เขาสร้างบ้านที่นี่ โดยพยากรณ์ว่าลูกหลานของฟ่านจ้งเยียนจะสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงและเป็นข้าราชการได้หลายชั่วอายุคน ฟ่านจ้งเยียนได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้สึกยินดี แทนที่จะสั่งให้สร้างบ้านตรงนั้นเขากลับกล่าวว่า "จะให้ครอบครัวของเราเท่านั้นที่จะร่ำรวยและมีเกียรติยศอยู่ครอบครัวเดียวได้อย่างไร ทำไมไม่สร้างโรงเรียนที่นี่และให้เด็กๆ ในบริเวณใกล้เคียงมาเรียนหนังสือ คนอื่นๆ จะได้ร่ำรวยและมีเกียรติกันเยอะๆ ไม่ดีกว่าหรือ?" ฟ่านจ้งเยียนจึงสละฮวงจุ้ยอันประเสริฐแล้วสร้างโรงเรียนขึ้นทันที หลังจากนั้นที่นี่ก็กลายเป็นสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ ในช่วงเกือบพันปีที่ผ่านมา มีบัณฑิตระดับจิ้นซื่อ (ผู้ผ่านการเข้าสอบในสนามสอบระดับพระนคร) เกือบ 400 คนและจอหงวน (ผู้สอบได้อันดับ 1 ในสนามสอบระดับพระนคร) มากกว่า 80 คน เราไม่รู้ว่าเพราะฮวงจุ้ยประเสริฐหรือไม่ โรงเรียนแห่งนี้จึงผลิตยอดคนออกมามากมาย หรือไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะพลังคุณธรรมและความฝันอันยิ่งใหญ่ของฟ่านจ้งเยียนมากกว่า เมื่อฟ่านจ้งเยียนเสียชีวิตครอบครัวของเขาไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายในงานศพด้วยซ้ำ เนื่องจากฟ่านจ้งเยียนบริจาคเงินทั้งหมดของตนให้กับผู้อื่นไม่หยุดหย่อน แต่ปรากฏว่าความยากกลายเป็นสิ่งชั่วคราวหากมีผู้มีคุณธรรมคอยค้ำชูดวงชะตาของตระกูลอยู่ คงเพราะบารมีของฟ่านจ้งเยียนคนในตระกูลฟ่านกลายเป็นขุนนางเรื่อยมา หรือไม่ก็เป็นบัณฑิตผู้มีชื่อเสียง กล่าวกันว่ารับราชการมารุ่นต่อรุ่นจนกระทั่งถึงยุคสาธารณรัฐจีนด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าการที่เขาเลือกฮวงจุ้ยอัปมงคลเพื่อรับผลร้ายแทนประชาชน ไม่เพียงฮวงจุ้ยจะทำอะไรไม่ได้ แต่พลังคุณธรรมของเขายังเปลี่ยนสถานที่อันเลวร้ายกลายเป็นสถานที่เป็นมงคล ทำให้ตระกูลฟ่านรุ่งเรืองไม่ขาดสาย ในขณะที่ความใจกว้างของเขาที่อุทิศฮวงจุ้ยอันประเสริฐให้เป็นโรงเรียนสาธารณะ ก็ทำให้ซูโจวผลิตบัณฑิตได้มากมาย แถมโรงเรียนแห่งนั้นก็ยังเจริญรุ่งเรืองไม่ขาดสายด้วย เพราะเปิดดำเนินการสอนลูกหลานชาวซูโจวมาจนถึงทุกวันนี้! Kornkit Disthan
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • เพียรกำหนดดู
    รู้ตามความจริง
    เป็นธรรมทุกสิ่ง
    ให้จริงหนึ่งเดียว

    ธรรมจริงใจจริง
    พึ่งพิงเด็ดเดี่ยว
    เข้ากันเกาะเกี่ยว
    เคี่ยวเข็ญให้จริง

    จริงธรรมประเสริฐ
    เลิศเลองามยิ่ง
    หนทางความจริง
    ทิ้งทุกข์ห่างไกล

    มีธรรมศีลอยู่
    รู้คุณมุ่งหมาย
    คุมคุ้มครองได้
    ให้ธรรมจริงใจ

    ธรรมจริงใจจริง
    ยิ่งใหญ๋ทุกข์ไกล
    เพียรสติได้
    ใช้ปัญญาธรรม

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรืองสวัสดีมงคลชัย
    เพียรกำหนดดู รู้ตามความจริง เป็นธรรมทุกสิ่ง ให้จริงหนึ่งเดียว ธรรมจริงใจจริง พึ่งพิงเด็ดเดี่ยว เข้ากันเกาะเกี่ยว เคี่ยวเข็ญให้จริง จริงธรรมประเสริฐ เลิศเลองามยิ่ง หนทางความจริง ทิ้งทุกข์ห่างไกล มีธรรมศีลอยู่ รู้คุณมุ่งหมาย คุมคุ้มครองได้ ให้ธรรมจริงใจ ธรรมจริงใจจริง ยิ่งใหญ๋ทุกข์ไกล เพียรสติได้ ใช้ปัญญาธรรม ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรืองสวัสดีมงคลชัย
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • เสพติดอำนาจ
    ลาภวาสนา
    ขาดหลักเมตตา
    พาสู่ทางมาร

    ยิ่งยึดยิ่งรุก
    ทุกข์รุมไม่ผ่าน
    จิตใฝ่ต่ำพาล
    การงานไร้ค่า

    ความจริงประเสริฐ
    เปิดดูนำพา
    ไร้บ่วงมายา
    พาทางสายกลาง

    สติตั้งมั่น
    ปัญญาสว่าง
    จิตได้หนทาง
    สว่างธรรมดี

    ดีให้ชำนาญ
    วาสนามี
    ธรรมบำเพ็ญดี
    มีบารมี

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมีชัย

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    เสพติดอำนาจ ลาภวาสนา ขาดหลักเมตตา พาสู่ทางมาร ยิ่งยึดยิ่งรุก ทุกข์รุมไม่ผ่าน จิตใฝ่ต่ำพาล การงานไร้ค่า ความจริงประเสริฐ เปิดดูนำพา ไร้บ่วงมายา พาทางสายกลาง สติตั้งมั่น ปัญญาสว่าง จิตได้หนทาง สว่างธรรมดี ดีให้ชำนาญ วาสนามี ธรรมบำเพ็ญดี มีบารมี ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมีชัย นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • เกิดแก่ตายว่ายไปมา
    รู้รักษาพาชีวี
    คุณศีลธรรมนำความดีทุกข์ชีวีมีเหตุอยู่

    ป่วยกายได้ให้รักษา
    ป่วยใจมาพาให้รู้
    ทุกข์กายใจได้สมสู่
    เหตุนี้รู้สู้ดับไป

    เหตุนี้มีจึงมีเหตุ
    ได้ดับเหตุเหตุดับได้
    เหตุทุกข์ดับกลับสบาย
    กรรมอาศัยให้เถิด

    พระพุทโธโคจรอยู่
    ธรรมจริงดูรู้ก่อเกิด
    ยิ่งรู้จริงยิ่งประเสริฐ
    หยุดเตลิดเกิดแก่ตาย

    กายแต่ดับกลับพบจิต
    ยังสถิตมิสูญหาย
    วิบากกรรมนำเวียนว่าย
    ทุกข์ห่างไกลได้ธรรมพา

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย
    เกิดแก่ตายว่ายไปมา รู้รักษาพาชีวี คุณศีลธรรมนำความดีทุกข์ชีวีมีเหตุอยู่ ป่วยกายได้ให้รักษา ป่วยใจมาพาให้รู้ ทุกข์กายใจได้สมสู่ เหตุนี้รู้สู้ดับไป เหตุนี้มีจึงมีเหตุ ได้ดับเหตุเหตุดับได้ เหตุทุกข์ดับกลับสบาย กรรมอาศัยให้เถิด พระพุทโธโคจรอยู่ ธรรมจริงดูรู้ก่อเกิด ยิ่งรู้จริงยิ่งประเสริฐ หยุดเตลิดเกิดแก่ตาย กายแต่ดับกลับพบจิต ยังสถิตมิสูญหาย วิบากกรรมนำเวียนว่าย ทุกข์ห่างไกลได้ธรรมพา ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • ปลดล็อกวันนี้ ตามข้อเสนอของ คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ให้สนับสนุนส่งเสริมปีเที่ยวไทยเปิดให้ขายได้บางพื้นที่ใน 5 วันหยุดพิเศษ เน้น 5 กลุ่มสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ โรงแรม สนามบินอินเตอร์ สถานบริการ ย่านธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว

    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เมื่อเดือนมีนาคม 2568 เห็นชอบ ให้ผ่อนคลายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บางพื้นที่ในวันหยุดพิเศษ 5 วันทางศาสนา ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติได้สรุปผลการพิจารณาในทุกมิติเพื่อดูความเหมาะสมกับโลกปัจุบัน และที่ประชุมได้เห็นชอบให้ผ่อนคลายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจากนั้นจะเป็นขั้นตอนในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ดังกล่าวหน้าที่1 เล่มที่ 142 ตอน189 ง ในวันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2568 ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2567 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ โดยประกาศดังกล่าวฉบับนี้ ยังห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางศาสนา 5 วัน เป็นการทั่วไปแต่ยกเว้นอนุญาตให้ขายได้เฉพาะ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000043483

    #MGROnline #เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    ปลดล็อกวันนี้ ตามข้อเสนอของ คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ให้สนับสนุนส่งเสริมปีเที่ยวไทยเปิดให้ขายได้บางพื้นที่ใน 5 วันหยุดพิเศษ เน้น 5 กลุ่มสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ โรงแรม สนามบินอินเตอร์ สถานบริการ ย่านธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว • นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เมื่อเดือนมีนาคม 2568 เห็นชอบ ให้ผ่อนคลายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บางพื้นที่ในวันหยุดพิเศษ 5 วันทางศาสนา ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติได้สรุปผลการพิจารณาในทุกมิติเพื่อดูความเหมาะสมกับโลกปัจุบัน และที่ประชุมได้เห็นชอบให้ผ่อนคลายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจากนั้นจะเป็นขั้นตอนในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ดังกล่าวหน้าที่1 เล่มที่ 142 ตอน189 ง ในวันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2568 ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2567 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ โดยประกาศดังกล่าวฉบับนี้ ยังห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางศาสนา 5 วัน เป็นการทั่วไปแต่ยกเว้นอนุญาตให้ขายได้เฉพาะ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000043483 • #MGROnline #เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • กองประกวดนางสาวไทยนครราชสีมา ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน “โครงการคัดกรองพาหะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA) “เด็กโคราชสุขภาพดี ปลอดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง” จังหวัดนครราชสีมาและ แถลงข่าวพิธีมอบมงกุฎพร้อมทั้งสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับนางสาวไทยนครราชสีมา และ นางสาวไทยสระบุรีประจำปี 2568 ” ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น.ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช
    โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เป็นประธานในพิธี มอบมงกุฎและสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับ “เจเล่”-น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา และ “แคท”-น.ส.พนิดา ตั้งตระกูลเจริญ เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดสระบุรี เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์อันโดดเด่นเมืองโคราช สะท้อนความสง่างามในทุกมิติ ก้าวสู่เวทีระดับประเทศในการประกวด นางสาวไทย ประจำปี 2568 ซึ่งจะประกวดรอบชิงชนะเลิศ Final Competition นางสาวไทย ประจำปี 2568 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน
    ทั้งนี้ ผู้กองแคท อาทิตยา เบ็ญจะปัก รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2567 และนางสาวไทยนครราชสีมา 2567 ได้อำลาตำแหน่งอันทรงคุณค่าอย่างเป็นทางการพร้อมจัดเสวนา โครงการที่จะเกิดขึ้นเพื่อน้องๆ โรคแขนขาอ่อนแรงโรงพยาบาลลมหาราชนครราชสีมา โครงการผู้ว่าพานับคาร์บ เพื่อลดโรค NCDs (โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง) และโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน TO BE NUMBER ONE (TO BE IDOL) และโครงการการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในเด็กและเยาวชน โดย ร้อยตำรวจเอกหญิงอาทิตยา เบ็ญจะปัก นางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการเดินแบบผ้าไทย สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” สัมภาษณ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าไหมโคราช “ศักดิ์ศรีไหมไทย”
    ภายในงานได้มีแขกรับเชิญพิเศษ “แอน-แอนโทเนีย โพซิ้ว” 1st runner up Miss Universe 2023 | Miss Universe Thailand 2023 | ประธานมูลนิธิ Little Steps พร้อมด้วย แม่ปุ้ย-น.ส.ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้จัดกองประกวด TPN และแขกผู้มีเกียรติ อาทิ ดร.นก ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทยประจำปี 2541,ฟ็อก ปรเมษฐ์ มั่นยืน 3rd Runner up Mister Global Thailand 2024 และ สุ สุรชยา ใจหมั่น 1st Runner up UIU 2024 ที่ให้เกียรติมาร่วมอยู่ในช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งนึง อีกทั้งผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ น.ส.ชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ให้การต้อนรับเหล่าแฟนนางงามที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
    กองประกวดนางสาวไทยนครราชสีมา ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน “โครงการคัดกรองพาหะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA) “เด็กโคราชสุขภาพดี ปลอดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง” จังหวัดนครราชสีมาและ แถลงข่าวพิธีมอบมงกุฎพร้อมทั้งสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับนางสาวไทยนครราชสีมา และ นางสาวไทยสระบุรีประจำปี 2568 ” ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น.ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เป็นประธานในพิธี มอบมงกุฎและสายสะพายอย่างเป็นทางการให้กับ “เจเล่”-น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา และ “แคท”-น.ส.พนิดา ตั้งตระกูลเจริญ เป็นตัวแทนนางสาวไทยจังหวัดสระบุรี เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์อันโดดเด่นเมืองโคราช สะท้อนความสง่างามในทุกมิติ ก้าวสู่เวทีระดับประเทศในการประกวด นางสาวไทย ประจำปี 2568 ซึ่งจะประกวดรอบชิงชนะเลิศ Final Competition นางสาวไทย ประจำปี 2568 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ทั้งนี้ ผู้กองแคท อาทิตยา เบ็ญจะปัก รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2567 และนางสาวไทยนครราชสีมา 2567 ได้อำลาตำแหน่งอันทรงคุณค่าอย่างเป็นทางการพร้อมจัดเสวนา โครงการที่จะเกิดขึ้นเพื่อน้องๆ โรคแขนขาอ่อนแรงโรงพยาบาลลมหาราชนครราชสีมา โครงการผู้ว่าพานับคาร์บ เพื่อลดโรค NCDs (โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง) และโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน TO BE NUMBER ONE (TO BE IDOL) และโครงการการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในเด็กและเยาวชน โดย ร้อยตำรวจเอกหญิงอาทิตยา เบ็ญจะปัก นางสาวไทยจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการเดินแบบผ้าไทย สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” สัมภาษณ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าไหมโคราช “ศักดิ์ศรีไหมไทย” ภายในงานได้มีแขกรับเชิญพิเศษ “แอน-แอนโทเนีย โพซิ้ว” 1st runner up Miss Universe 2023 | Miss Universe Thailand 2023 | ประธานมูลนิธิ Little Steps พร้อมด้วย แม่ปุ้ย-น.ส.ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้จัดกองประกวด TPN และแขกผู้มีเกียรติ อาทิ ดร.นก ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทยประจำปี 2541,ฟ็อก ปรเมษฐ์ มั่นยืน 3rd Runner up Mister Global Thailand 2024 และ สุ สุรชยา ใจหมั่น 1st Runner up UIU 2024 ที่ให้เกียรติมาร่วมอยู่ในช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งนึง อีกทั้งผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ น.ส.ชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ให้การต้อนรับเหล่าแฟนนางงามที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
    0 Comments 0 Shares 446 Views 0 Reviews
  • รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โคราช ติดตามแผนพัฒนาจังหวัดและการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล
    .
    วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ปัญหาภัยแล้ง และการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา และการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีม โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รายงานโครงการที่จังหวัดนครราชสีมา เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี
    .
    ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 4 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 27,803,425 บาท ประกอบด้วย
    1.โครงการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตถนนสาย แยก ทล.2-บ้านซัยตะเคียน ม.13 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 13,520,000 บาท
    2.โครงการผันน้ำผิวดินจากอ่างขุนนิยมเข้าบ่อกักเก็บน้ำหมู่บ้านภายในตำบลหนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,400,000 บาท
    3.โครงการ 1 ตำบล 1 แปลง ต้นแบบการบริหารจัดการโรคใบด่างมันสำปะหลัง จ.นครราชสีมา วงเงิน 6,883,425 บาท และ
    4.โครงการปรับปรุงถนนซ่อมสร้างผิวแอสฟัลต์คอนกรีต สายบ้านหนองม่วง ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระยะทาง 0.725 กม. วงเงิน 3,000,000 บาท
    .
    นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานแผนงานตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าในการดำเนินงาน KORAT MICE CITY และมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572 ความคืบหน้าการดำเนินงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ความคืบหน้าการพัฒนา ท่าเรือบกโคราช การบริหารจัดการท่าอากาศยานนครราชสีมา และความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้าง SKY WALK เพื่อส่งเสริมให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรรมชาติ ต่อไป
    รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โคราช ติดตามแผนพัฒนาจังหวัดและการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล . วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ปัญหาภัยแล้ง และการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา และการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีม โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รายงานโครงการที่จังหวัดนครราชสีมา เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี . ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 4 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 27,803,425 บาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตถนนสาย แยก ทล.2-บ้านซัยตะเคียน ม.13 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 13,520,000 บาท 2.โครงการผันน้ำผิวดินจากอ่างขุนนิยมเข้าบ่อกักเก็บน้ำหมู่บ้านภายในตำบลหนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,400,000 บาท 3.โครงการ 1 ตำบล 1 แปลง ต้นแบบการบริหารจัดการโรคใบด่างมันสำปะหลัง จ.นครราชสีมา วงเงิน 6,883,425 บาท และ 4.โครงการปรับปรุงถนนซ่อมสร้างผิวแอสฟัลต์คอนกรีต สายบ้านหนองม่วง ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระยะทาง 0.725 กม. วงเงิน 3,000,000 บาท . นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานแผนงานตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าในการดำเนินงาน KORAT MICE CITY และมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572 ความคืบหน้าการดำเนินงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ความคืบหน้าการพัฒนา ท่าเรือบกโคราช การบริหารจัดการท่าอากาศยานนครราชสีมา และความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้าง SKY WALK เพื่อส่งเสริมให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรรมชาติ ต่อไป
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • “รองนายกฯ ประเสริฐ” ห่วงใยชาวโคราช

    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำ ในพื้นจังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง เน้นย้ำหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยล่วงหน้า
    .
    สทนช. ชี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือ 16% แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ยังมีน้ำมากกว่า 30% พร้อมรับข้อสั่งการรองนายกฯ เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงของจังหวัดนครราชสีมาและวางแผนป้องกันบรรเทาอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง
    “รองนายกฯ ประเสริฐ” ห่วงใยชาวโคราช นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำ ในพื้นจังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง เน้นย้ำหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยล่วงหน้า . สทนช. ชี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือ 16% แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ยังมีน้ำมากกว่า 30% พร้อมรับข้อสั่งการรองนายกฯ เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงของจังหวัดนครราชสีมาและวางแผนป้องกันบรรเทาอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • " ขอให้พี่น้องชาวโคราชมั่นใจ มีน้ำประปาใช้แน่นอน รัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ "
    .
    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี
    ตรวจราชการจังหวัดนครราชสีมา 3 พฤษภาคม 2568
    #ประเสริฐจันทรรวงทอง #นครราชสีมา #โคราช
    " ขอให้พี่น้องชาวโคราชมั่นใจ มีน้ำประปาใช้แน่นอน รัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ " . นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ตรวจราชการจังหวัดนครราชสีมา 3 พฤษภาคม 2568 #ประเสริฐจันทรรวงทอง #นครราชสีมา #โคราช
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • “รองนายกฯ ประเสริฐ” ห่วงใยชาวโคราช ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำตะคอง
    เน้นย้ำหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยล่วงหน้า

    สทนช. ชี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือ 16% แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง
    ยังมีน้ำมากกว่า 30% พร้อมรับข้อสั่งการรองนายกฯ เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงของจังหวัดนครราชสีมาและวางแผนป้องกันบรรเทาอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง

    วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13 ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยในช่วงเช้า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้งของอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตามนโยบายที่สำคัญ
    ของรัฐบาล โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงาน
    ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    ในการนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้รายงานสถานการณ์น้ำและการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา

    จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้หน่วยงาน
    ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ให้ สทนช. ประสานจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมแผนป้องกันสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบางทั้งอุทกภัยและภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง และเมื่อเกิดเหตุต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด และให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำต้นทุนของ
    อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน อ่างเก็บน้ำลำแซะ และวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอกับความต้องการ โดยให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก พร้อมทั้งให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำ
    ลำตะคองที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญของจังหวัด รวมถึงให้จังหวัดนครราชสีมา กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
    เร่งซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ และเพื่อให้จังหวัดนครราชสีมามีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลและจัดทำแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีความจำเป็น เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป

    ด้านเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สทนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด โดยภาพรวมพบว่า ปริมาตรน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 2567 ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด 4,959 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม 429.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 32% ของความจุเก็บกัก (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาตรน้ำ 65.63 ล้าน ลบ.ม. (42% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำมูลบน
    มีปริมาตรน้ำ 52.77 ล้าน ลบ.ม. (37% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำลำแซะ มีปริมาตรน้ำ 107.91 ล้าน ลบ.ม. (39% ของความจุเก็บกัก) และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง แม้ว่าปัจจุบันจะมีปริมาตรน้ำเพียง 50.14 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 16% ของความจุเก็บกัก แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดและรณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดในทุกภาคส่วน โดยที่ผ่านมาหน่วยงานได้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) เมื่อคราวลงพื้นที่ในเดือนพฤศจิกายน 2567 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการในวันนี้อย่างเคร่งครัด
    เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง รวมถึงป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้
    “รองนายกฯ ประเสริฐ” ห่วงใยชาวโคราช ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำตะคอง เน้นย้ำหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยล่วงหน้า สทนช. ชี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือ 16% แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ยังมีน้ำมากกว่า 30% พร้อมรับข้อสั่งการรองนายกฯ เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงของจังหวัดนครราชสีมาและวางแผนป้องกันบรรเทาอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13 ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยในช่วงเช้า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้งของอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตามนโยบายที่สำคัญ ของรัฐบาล โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงาน ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ในการนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้รายงานสถานการณ์น้ำและการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ให้ สทนช. ประสานจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมแผนป้องกันสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบางทั้งอุทกภัยและภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง และเมื่อเกิดเหตุต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด และให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำต้นทุนของ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน อ่างเก็บน้ำลำแซะ และวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอกับความต้องการ โดยให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก พร้อมทั้งให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำ ลำตะคองที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญของจังหวัด รวมถึงให้จังหวัดนครราชสีมา กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ และเพื่อให้จังหวัดนครราชสีมามีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลและจัดทำแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีความจำเป็น เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป ด้านเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สทนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด โดยภาพรวมพบว่า ปริมาตรน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 2567 ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด 4,959 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม 429.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 32% ของความจุเก็บกัก (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาตรน้ำ 65.63 ล้าน ลบ.ม. (42% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำมูลบน มีปริมาตรน้ำ 52.77 ล้าน ลบ.ม. (37% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำลำแซะ มีปริมาตรน้ำ 107.91 ล้าน ลบ.ม. (39% ของความจุเก็บกัก) และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง แม้ว่าปัจจุบันจะมีปริมาตรน้ำเพียง 50.14 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 16% ของความจุเก็บกัก แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดและรณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดในทุกภาคส่วน โดยที่ผ่านมาหน่วยงานได้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) เมื่อคราวลงพื้นที่ในเดือนพฤศจิกายน 2567 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการในวันนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง รวมถึงป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 0 Reviews
  • “รองนายกฯ ประเสริฐ” ห่วงใยชาวโคราช ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำตะคอง
    เน้นย้ำหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยล่วงหน้า

    สทนช. ชี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือ 16% แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง
    ยังมีน้ำมากกว่า 30% พร้อมรับข้อสั่งการรองนายกฯ เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงของจังหวัดนครราชสีมาและวางแผนป้องกันบรรเทาอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง

    วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13 ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยในช่วงเช้า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้งของอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตามนโยบายที่สำคัญ
    ของรัฐบาล โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงาน
    ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    ในการนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้รายงานสถานการณ์น้ำและการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา

    จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้หน่วยงาน
    ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ให้ สทนช. ประสานจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมแผนป้องกันสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบางทั้งอุทกภัยและภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง และเมื่อเกิดเหตุต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด และให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำต้นทุนของ
    อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน อ่างเก็บน้ำลำแซะ และวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอกับความต้องการ โดยให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก พร้อมทั้งให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำ
    ลำตะคองที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญของจังหวัด รวมถึงให้จังหวัดนครราชสีมา กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
    เร่งซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ และเพื่อให้จังหวัดนครราชสีมามีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลและจัดทำแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีความจำเป็น เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป

    ด้านเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สทนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด โดยภาพรวมพบว่า ปริมาตรน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 2567 ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด 4,959 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม 429.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 32% ของความจุเก็บกัก (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาตรน้ำ 65.63 ล้าน ลบ.ม. (42% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำมูลบน
    มีปริมาตรน้ำ 52.77 ล้าน ลบ.ม. (37% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำลำแซะ มีปริมาตรน้ำ 107.91 ล้าน ลบ.ม. (39% ของความจุเก็บกัก) และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง แม้ว่าปัจจุบันจะมีปริมาตรน้ำเพียง 50.14 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 16% ของความจุเก็บกัก แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดและรณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดในทุกภาคส่วน โดยที่ผ่านมาหน่วยงานได้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) เมื่อคราวลงพื้นที่ในเดือนพฤศจิกายน 2567 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการในวันนี้อย่างเคร่งครัด
    เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง รวมถึงป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้

    สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
    3 พฤษภาคม 2568
    “รองนายกฯ ประเสริฐ” ห่วงใยชาวโคราช ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำตะคอง เน้นย้ำหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยล่วงหน้า สทนช. ชี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเหลือ 16% แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ยังมีน้ำมากกว่า 30% พร้อมรับข้อสั่งการรองนายกฯ เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงของจังหวัดนครราชสีมาและวางแผนป้องกันบรรเทาอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13 ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยในช่วงเช้า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้งของอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตามนโยบายที่สำคัญ ของรัฐบาล โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงาน ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ในการนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้รายงานสถานการณ์น้ำและการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ให้ สทนช. ประสานจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมแผนป้องกันสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบางทั้งอุทกภัยและภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง และเมื่อเกิดเหตุต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด และให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำต้นทุนของ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน อ่างเก็บน้ำลำแซะ และวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอกับความต้องการ โดยให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก พร้อมทั้งให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำ ลำตะคองที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญของจังหวัด รวมถึงให้จังหวัดนครราชสีมา กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ และเพื่อให้จังหวัดนครราชสีมามีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลและจัดทำแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีความจำเป็น เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป ด้านเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สทนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด โดยภาพรวมพบว่า ปริมาตรน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 2567 ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด 4,959 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม 429.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 32% ของความจุเก็บกัก (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาตรน้ำ 65.63 ล้าน ลบ.ม. (42% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำมูลบน มีปริมาตรน้ำ 52.77 ล้าน ลบ.ม. (37% ของความจุเก็บกัก) อ่างเก็บน้ำลำแซะ มีปริมาตรน้ำ 107.91 ล้าน ลบ.ม. (39% ของความจุเก็บกัก) และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง แม้ว่าปัจจุบันจะมีปริมาตรน้ำเพียง 50.14 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 16% ของความจุเก็บกัก แต่ยังเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดและรณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดในทุกภาคส่วน โดยที่ผ่านมาหน่วยงานได้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) เมื่อคราวลงพื้นที่ในเดือนพฤศจิกายน 2567 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการในวันนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง รวมถึงป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยตลอดช่วงฤดูฝนนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 3 พฤษภาคม 2568
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5)
    .................
    มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด
    .................
    สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี

    สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ

    สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป
    .................
    แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ

    ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น

    ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก

    2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก

    3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

    4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก

    5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

    6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ
    คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่

    .................
    เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี

    1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย
    2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ
    3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน
    4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน
    5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย
    6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ

    สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ

    เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)”
    .................

    ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย

    น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา

    ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย

    เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก
    .................

    มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน

    การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป

    แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5) ................. มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด ................. สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป ................. แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก 2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก 3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก 5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง 6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่ ................. เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี 1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย 2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ 3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน 4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน 5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย 6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)” ................. ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก ................. มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป
    0 Comments 0 Shares 736 Views 0 Reviews
  • ความดีทำได้
    ได้ละความชั่ว
    กิเลสหมองมัว
    พัวพันด้วยธรรม

    ความจริงธรรมแท้
    แค่พาดื่มด่ำ
    สติตอกย้ำ
    นำธรรมวิจัย

    เพียรเห็นความจริง
    ยิ่งพาเข้าใจ
    ปีติก็ได้
    กายใจสงบ

    สติไม่หลุด
    อุเบกขาพบ
    งานนอกในครบ
    จบลงที่ใจ

    ธรรมจริงประเสริฐ
    เลิศคุณได้ไว้
    เข้ากับใจได้
    ให้เจริญธรรม

    อิทังเม ญาตินังโหตุ สุขตาโหนตุ ญาตะโย
    ขอบุญนี้จงสำเร็จ

    ขอพบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง รวยทรัพย์นอกใน

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    ความดีทำได้ ได้ละความชั่ว กิเลสหมองมัว พัวพันด้วยธรรม ความจริงธรรมแท้ แค่พาดื่มด่ำ สติตอกย้ำ นำธรรมวิจัย เพียรเห็นความจริง ยิ่งพาเข้าใจ ปีติก็ได้ กายใจสงบ สติไม่หลุด อุเบกขาพบ งานนอกในครบ จบลงที่ใจ ธรรมจริงประเสริฐ เลิศคุณได้ไว้ เข้ากับใจได้ ให้เจริญธรรม อิทังเม ญาตินังโหตุ สุขตาโหนตุ ญาตะโย ขอบุญนี้จงสำเร็จ ขอพบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง รวยทรัพย์นอกใน นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • อยู่ดีมีสุข
    ทุกข์มีไม่ดี
    กิเลสอัปรีย์
    ศีลธรรมช่วยได้

    สตินำพา
    สมาธิไว้
    การงานใช้ได้
    ให้ใช้ปัญญา

    โลกเกลื่อนทุกข์ภัย
    ทำใจรักษา
    มีธรรมศรัทธา
    พาเพียรเข้าไว้

    ระงับกิเลส
    เหตุชั่วละได้
    วางถูกที่หมาย
    ให้ทางประเสริฐ

    หนทางสายกลาง
    ทางธรรมนำเถิด
    ให้จิตประเสริฐ
    เกิดกำลังใจ

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง รวยทรัพย์ในนอก มงคลสวัสดี

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    อยู่ดีมีสุข ทุกข์มีไม่ดี กิเลสอัปรีย์ ศีลธรรมช่วยได้ สตินำพา สมาธิไว้ การงานใช้ได้ ให้ใช้ปัญญา โลกเกลื่อนทุกข์ภัย ทำใจรักษา มีธรรมศรัทธา พาเพียรเข้าไว้ ระงับกิเลส เหตุชั่วละได้ วางถูกที่หมาย ให้ทางประเสริฐ หนทางสายกลาง ทางธรรมนำเถิด ให้จิตประเสริฐ เกิดกำลังใจ ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง รวยทรัพย์ในนอก มงคลสวัสดี นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวและลูกชายของตากับยายกระบะคู่กรณี “พีช” รับมอบรถกระบะมือสอง มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมมอเตอร์ไซค์ จาก “บิ๊ก สระแก้ว” รวมถึงเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และแฟนคลับ รวม 5 แสนบาท

    วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ร้าน Davin Cafe นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของตากับยาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยวอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะของตากับยายบนทางด่วน ได้เดินทางมารับรถกะบะ อีซูซุ แค็บ Calendar ปี 2022 สีบรอนซ์ ราคา 600,000 บาท มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ 110i 2025 สีน้ำ-ขาว ราคา 47,000 บาท รวมถึงอาหารทั้งหมูยอ ข้าวสารจากทางครอบครัวของนายอรรถวัฒน์ ตังคะประเสริฐ หรือบิ๊ก สระแก้ว และนายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานบริษัท ดีที่สุดคาร์แอนเซอวิส ฮอนด้าประสิทธิ์ระแก้ว(2554) ปตท. เฮียพลสั่งลุยซ้อน้องจัดเต็ม มั่งมีศรีสุข

    กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศตามหาซื้อรถให้กับทางคุณตาคุณยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเสนอเข้ามา ซึ่งทางคุณบิ๊กมีการเสนอรถฟอร์จูนเนอร์มาให้กับครอบครัวคุณตาคุณยายด้วย ยอมรับว่า ตนเองตกใจเป็นอย่างมากเพราะฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ราคา 1 ล้านกว่าบาท จึงได้มีการไปปรึกษาคุณตาคุณยาย แต่ทั้งสองคนไม่กล้ารับ เพราะอยากจะได้รถที่เป็นกระบะแคปเหมือนเดิม และไม่ได้หวังว่าจะต้องได้รถมือหนึ่ง ซึ่งคุณตาคุณยายทำให้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ช่วยโอกาสอยากจะได้อะไรเป็นสุรต่านร่ำรวย กลับทำให้รู้สึกสงสารคุณตาคุณยายมากกว่าเดิม

    จึงจำเป็นที่จะต้องหาดูรถ ให้คุณตาคุณยายใหม่ จนคุณบิ๊กเสนอรถเข้ามาดูใหม่ เป็นรถกระบะแคปปี 2022 เลขกิโลนั้นไม่ได้เยอะมาก ซึ่งทางคุณบิ๊กนั้นต้องการที่จะช่วยจริงๆ ได้มีการลากจากจังหวัดสระแก้วมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบให้กับคุณตาคุณยาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039217

    #MGROnline #กันจอมพลัง
    “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวและลูกชายของตากับยายกระบะคู่กรณี “พีช” รับมอบรถกระบะมือสอง มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมมอเตอร์ไซค์ จาก “บิ๊ก สระแก้ว” รวมถึงเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และแฟนคลับ รวม 5 แสนบาท • วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ร้าน Davin Cafe นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของตากับยาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยวอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะของตากับยายบนทางด่วน ได้เดินทางมารับรถกะบะ อีซูซุ แค็บ Calendar ปี 2022 สีบรอนซ์ ราคา 600,000 บาท มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ 110i 2025 สีน้ำ-ขาว ราคา 47,000 บาท รวมถึงอาหารทั้งหมูยอ ข้าวสารจากทางครอบครัวของนายอรรถวัฒน์ ตังคะประเสริฐ หรือบิ๊ก สระแก้ว และนายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานบริษัท ดีที่สุดคาร์แอนเซอวิส ฮอนด้าประสิทธิ์ระแก้ว(2554) ปตท. เฮียพลสั่งลุยซ้อน้องจัดเต็ม มั่งมีศรีสุข • กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศตามหาซื้อรถให้กับทางคุณตาคุณยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเสนอเข้ามา ซึ่งทางคุณบิ๊กมีการเสนอรถฟอร์จูนเนอร์มาให้กับครอบครัวคุณตาคุณยายด้วย ยอมรับว่า ตนเองตกใจเป็นอย่างมากเพราะฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ราคา 1 ล้านกว่าบาท จึงได้มีการไปปรึกษาคุณตาคุณยาย แต่ทั้งสองคนไม่กล้ารับ เพราะอยากจะได้รถที่เป็นกระบะแคปเหมือนเดิม และไม่ได้หวังว่าจะต้องได้รถมือหนึ่ง ซึ่งคุณตาคุณยายทำให้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ช่วยโอกาสอยากจะได้อะไรเป็นสุรต่านร่ำรวย กลับทำให้รู้สึกสงสารคุณตาคุณยายมากกว่าเดิม • จึงจำเป็นที่จะต้องหาดูรถ ให้คุณตาคุณยายใหม่ จนคุณบิ๊กเสนอรถเข้ามาดูใหม่ เป็นรถกระบะแคปปี 2022 เลขกิโลนั้นไม่ได้เยอะมาก ซึ่งทางคุณบิ๊กนั้นต้องการที่จะช่วยจริงๆ ได้มีการลากจากจังหวัดสระแก้วมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบให้กับคุณตาคุณยาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039217 • #MGROnline #กันจอมพลัง
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 Reviews
  • บินเล็กตกทะเลหัวหิน ตำรวจพลีชีพ 5 นาย เร่งยื้อชีวิตนักบิน "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" เครื่องใหม่ลำแรกของรุ่น เพิ่งประจำการ ตร. แค่ 4 ปี 🚨✈️

    ความสูญเสียกลางภารกิจที่ไม่มีวันลืม วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 ช่วงเช้า 08.15 น. 🌅 ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุการณ์สลดใจ เครื่องบินเล็ก DHC-6 Twin Otter หมายเลข 36964 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเล ขณะกำลังทำภารกิจทดสอบการบิน 🌊

    โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นาย 😢 เหลือเพียง ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส และยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในโรงพยาบาลหัวหิน

    ลำดับเหตุการณ์ เครื่องตกกลางภารกิจทดสอบการบิน 🚁 เหตุเกิดเช้าวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 08.15 น. ที่ชายหาดเบบิ้แกรนด์ ใกล้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บนเครื่องมีทั้งหมด 6 นาย ได้แก่...

    พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
    พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
    ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
    จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต

    ส่วน ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน รอดชีวิต บาดเจ็บสาหัส

    🆘 การช่วยเหลือเกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องตก โดยมีการปฏิบัติการกู้ชีพ จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ อย่างทันท่วงที

    สภาพเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ซ่อมบำรุง-ทดสอบ-แต่ตกสู่โศกนาฏกรรม ⚙️ การซ่อมบำรุงก่อนบิน

    🔧 เครื่องบินลำนี้ เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงเพียง 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ
    🔍 มีการทดสอบภาคพื้นดินอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ

    ภารกิจในวันเกิดเหตุ ทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมฝึกกระโดดร่ม ตรวจสอบสภาพอากาศ และสภาวะแวดล้อม ช่วงเวลาขึ้นบินประมาณ 1 นาที เครื่องเกิดเสียการทรงตัว ก่อนตกลงทะเล

    ⛅ สภาพอากาศในวันนั้น มีลมอ่อนถึงปานกลาง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือไม่

    ข้อมูลเครื่องบิน DHC-6-400 Twin Otter หมายเลข 36964 📚✈️ ผู้ผลิตคืออ Viking Air Ltd. 🇨🇦 เข้าประจำการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 หมายเลขเครื่อง MSN 964 ทะเบียนเดิมในแคนาดาคือ C-FMVQ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องบินลำนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน โดยสายการบิน หรือหน่วยงานอื่นใด ถือเป็นเครื่องบินใหม่ ที่ยังไม่เคยประจำการที่ไหนมาก่อน

    ลักษณะการใช้งาน เครื่องลำเลียงทางยุทธวิธี เช่น ฝึกกระโดดร่ม ลาดตระเวนชายแดน ส่งกลับสายการแพทย์ 🚑

    สเปกทางเทคนิค ความยาว 15.77 เมตร ช่วงปีก 19.81 เมตร ความสูง 5.94 เมตร น้ำหนักเปล่า 3,380 กก. น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) 5,670 กก. ความเร็วเดินทาง 338 กม./ชม. พิสัยการบิน1,427 กม. เพดานบิน 25,000 ฟุต ระบบขับเคลื่อน 2 × Pratt & Whitney PT6A-34 (750 SHP/ข้าง)

    🛬 ด้วยคุณสมบัติการขึ้น-ลงระยะสั้น (STOL) ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ เหมาะสมกับภารกิจ ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างมาก

    จุดเด่น ข้อจำกัดของ DHC-6-400 Twin Otter 🔥

    จุดเด่น 👍
    ✅ ขึ้นลงได้ในพื้นที่สั้น ดิน หญ้า หิมะ หรือน้ำ
    ✅ ทนทานสูง ซ่อมบำรุงง่าย
    ✅ ระบบ Glass Cockpit ทันสมัย
    ✅ รองรับภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่พลเรือนไปจนถึงทหาร

    ข้อจำกัด 👎
    ⚠️ ไม่มีระบบความดันภายในห้องโดยสาร
    ⚠️ เสียงเครื่องยนต์ดังมาก
    ⚠️ ระบบตรวจจับสภาพอากาศพื้นฐาน อาจไม่เพียงพอในสภาพอากาศเลวร้าย
    ⚠️ ไม่มีระบบ Fly-by-wire หรือ Auto-throttle ช่วยนักบิน
    ⚠️ โครงสร้างหลักพัฒนาจากแบบดั้งเดิม (1960s)

    ✨ แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ในแง่ความแข็งแกร่ง DHC-6-400 ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินลำเลียง ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด

    การช่วยเหลือ ภารกิจหลังอุบัติเหตุ 🚑🤝 หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ดำเนินการค้นหาและกู้ชีพทันที ร.ต.อ.จตุรงค์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวหิน และยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ 🎖️

    👩‍⚕️ การสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเน้นการเก็บข้อมูลจากกล่องดำ (Black Box) พยานแวดล้อม ข้อมูลสภาพเครื่องบิน และสภาพอากาศวันเกิดเหตุ

    โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ บทเรียนเพื่ออนาคต 🕊️ เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศอย่างแท้จริง 🇹🇭 ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่าย หันมาใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัย ในการบินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น

    ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกนาย และขอให้ "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ❤️‍🩹

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252128 เม.ย. 2568

    🌟 #อุบัติเหตุเครื่องบิน #หัวหิน #ตำรวจไทย #เครื่องบินตก #DHC6TwinOtter #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #รำลึกผู้เสียชีวิต #ภารกิจตำรวจ #ข่าวด่วน #ข่าวประจวบคีรีขันธ์
    บินเล็กตกทะเลหัวหิน ตำรวจพลีชีพ 5 นาย เร่งยื้อชีวิตนักบิน "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" เครื่องใหม่ลำแรกของรุ่น เพิ่งประจำการ ตร. แค่ 4 ปี 🚨✈️ ความสูญเสียกลางภารกิจที่ไม่มีวันลืม วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 ช่วงเช้า 08.15 น. 🌅 ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุการณ์สลดใจ เครื่องบินเล็ก DHC-6 Twin Otter หมายเลข 36964 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเล ขณะกำลังทำภารกิจทดสอบการบิน 🌊 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นาย 😢 เหลือเพียง ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส และยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในโรงพยาบาลหัวหิน ลำดับเหตุการณ์ เครื่องตกกลางภารกิจทดสอบการบิน 🚁 เหตุเกิดเช้าวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 08.15 น. ที่ชายหาดเบบิ้แกรนด์ ใกล้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บนเครื่องมีทั้งหมด 6 นาย ได้แก่... พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต ส่วน ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน รอดชีวิต บาดเจ็บสาหัส 🆘 การช่วยเหลือเกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องตก โดยมีการปฏิบัติการกู้ชีพ จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ อย่างทันท่วงที สภาพเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ซ่อมบำรุง-ทดสอบ-แต่ตกสู่โศกนาฏกรรม ⚙️ การซ่อมบำรุงก่อนบิน 🔧 เครื่องบินลำนี้ เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงเพียง 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ 🔍 มีการทดสอบภาคพื้นดินอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ภารกิจในวันเกิดเหตุ ทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมฝึกกระโดดร่ม ตรวจสอบสภาพอากาศ และสภาวะแวดล้อม ช่วงเวลาขึ้นบินประมาณ 1 นาที เครื่องเกิดเสียการทรงตัว ก่อนตกลงทะเล ⛅ สภาพอากาศในวันนั้น มีลมอ่อนถึงปานกลาง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือไม่ ข้อมูลเครื่องบิน DHC-6-400 Twin Otter หมายเลข 36964 📚✈️ ผู้ผลิตคืออ Viking Air Ltd. 🇨🇦 เข้าประจำการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 หมายเลขเครื่อง MSN 964 ทะเบียนเดิมในแคนาดาคือ C-FMVQ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องบินลำนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน โดยสายการบิน หรือหน่วยงานอื่นใด ถือเป็นเครื่องบินใหม่ ที่ยังไม่เคยประจำการที่ไหนมาก่อน ลักษณะการใช้งาน เครื่องลำเลียงทางยุทธวิธี เช่น ฝึกกระโดดร่ม ลาดตระเวนชายแดน ส่งกลับสายการแพทย์ 🚑 สเปกทางเทคนิค ความยาว 15.77 เมตร ช่วงปีก 19.81 เมตร ความสูง 5.94 เมตร น้ำหนักเปล่า 3,380 กก. น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) 5,670 กก. ความเร็วเดินทาง 338 กม./ชม. พิสัยการบิน1,427 กม. เพดานบิน 25,000 ฟุต ระบบขับเคลื่อน 2 × Pratt & Whitney PT6A-34 (750 SHP/ข้าง) 🛬 ด้วยคุณสมบัติการขึ้น-ลงระยะสั้น (STOL) ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ เหมาะสมกับภารกิจ ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างมาก จุดเด่น ข้อจำกัดของ DHC-6-400 Twin Otter 🔥 จุดเด่น 👍 ✅ ขึ้นลงได้ในพื้นที่สั้น ดิน หญ้า หิมะ หรือน้ำ ✅ ทนทานสูง ซ่อมบำรุงง่าย ✅ ระบบ Glass Cockpit ทันสมัย ✅ รองรับภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่พลเรือนไปจนถึงทหาร ข้อจำกัด 👎 ⚠️ ไม่มีระบบความดันภายในห้องโดยสาร ⚠️ เสียงเครื่องยนต์ดังมาก ⚠️ ระบบตรวจจับสภาพอากาศพื้นฐาน อาจไม่เพียงพอในสภาพอากาศเลวร้าย ⚠️ ไม่มีระบบ Fly-by-wire หรือ Auto-throttle ช่วยนักบิน ⚠️ โครงสร้างหลักพัฒนาจากแบบดั้งเดิม (1960s) ✨ แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ในแง่ความแข็งแกร่ง DHC-6-400 ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินลำเลียง ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด การช่วยเหลือ ภารกิจหลังอุบัติเหตุ 🚑🤝 หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ดำเนินการค้นหาและกู้ชีพทันที ร.ต.อ.จตุรงค์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวหิน และยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ 🎖️ 👩‍⚕️ การสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเน้นการเก็บข้อมูลจากกล่องดำ (Black Box) พยานแวดล้อม ข้อมูลสภาพเครื่องบิน และสภาพอากาศวันเกิดเหตุ โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ บทเรียนเพื่ออนาคต 🕊️ เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศอย่างแท้จริง 🇹🇭 ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่าย หันมาใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัย ในการบินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกนาย และขอให้ "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ❤️‍🩹 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252128 เม.ย. 2568 🌟 #อุบัติเหตุเครื่องบิน #หัวหิน #ตำรวจไทย #เครื่องบินตก #DHC6TwinOtter #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #รำลึกผู้เสียชีวิต #ภารกิจตำรวจ #ข่าวด่วน #ข่าวประจวบคีรีขันธ์
    0 Comments 0 Shares 494 Views 0 Reviews
  • ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยครับ

    เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม
    อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย
    วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน
    6 นาย คือ
    1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
    2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
    3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
    4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
    5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด
    ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้

    *********************************************
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
    ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยครับ เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน 6 นาย คือ 1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต 2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต 3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา 4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต 5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต 6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ********************************************* สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 23-4-68
    .
    วันนี้คุณสนธิจะมาพูดถึงคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีเปลี่ยนความเร็วรถของ "บอส" วรยุทธ อยู่วิทยา ที่นายวรยุทธขับรถสปอร์ตหรู เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555 และเบื้องหน้าเบื้องหลัง รวมถึง ข้อความจากบันทึกความเห็นแย้งคำพิพากษาของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่มีนัยยะสำคัญมาก นอกจากนี้คุณสนธิยังจะมี "ประเด็น" ฝากไปถึงทีมทนาย และผู้บริหารของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล ที่ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=1MqZerj4jHg
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SonthiTalk #บอสอยู่วิทยา #ซินเคอหยวน
    สนธิเล่าเรื่อง 23-4-68 . วันนี้คุณสนธิจะมาพูดถึงคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีเปลี่ยนความเร็วรถของ "บอส" วรยุทธ อยู่วิทยา ที่นายวรยุทธขับรถสปอร์ตหรู เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555 และเบื้องหน้าเบื้องหลัง รวมถึง ข้อความจากบันทึกความเห็นแย้งคำพิพากษาของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่มีนัยยะสำคัญมาก นอกจากนี้คุณสนธิยังจะมี "ประเด็น" ฝากไปถึงทีมทนาย และผู้บริหารของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล ที่ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=1MqZerj4jHg . #สนธิเล่าเรื่อง #SonthiTalk #บอสอยู่วิทยา #ซินเคอหยวน
    Like
    2
    3 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • จำคุก "เนตร" ช่วย "บอส" เปลี่ยนหลักฐานพ้นผิด : [NEWS UPDATE]
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษา คดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุดกับพวกรวม 8 คน เป็นจำเลย ในความผิดร่วมกันเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหา เพื่อให้พ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง กรณีขับรถสปอร์ตหรูปอร์เช่ เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ย.2555 โดยศาลพิพากษาจำคุก นายชัยณรงค์ เเสงทองอร่าม 2 ปี กับ นายเนตร นาคสุข 3 ปี มีความผิด ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 6 คน ให้ยกฟ้อง ออกหมายขังระหว่างอุทธรณ์


    ใช้กฎหมายฟันพวกหัวหมอ

    เครื่องทดสอบระดับสากล

    สหรัฐเบรกเจรจาไทย

    เยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม 781 ล้าน
    จำคุก "เนตร" ช่วย "บอส" เปลี่ยนหลักฐานพ้นผิด : [NEWS UPDATE] ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษา คดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุดกับพวกรวม 8 คน เป็นจำเลย ในความผิดร่วมกันเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหา เพื่อให้พ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง กรณีขับรถสปอร์ตหรูปอร์เช่ เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ย.2555 โดยศาลพิพากษาจำคุก นายชัยณรงค์ เเสงทองอร่าม 2 ปี กับ นายเนตร นาคสุข 3 ปี มีความผิด ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 6 คน ให้ยกฟ้อง ออกหมายขังระหว่างอุทธรณ์ ใช้กฎหมายฟันพวกหัวหมอ เครื่องทดสอบระดับสากล สหรัฐเบรกเจรจาไทย เยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม 781 ล้าน
    Like
    Angry
    4
    0 Comments 1 Shares 694 Views 24 0 Reviews
  • คือจะเอาตัวอย่างความสำเร็จจากตัวอย่างรุ่นน้องมาให้ผมดูเพื่ออะไร คือคนรอบข้างใช้วิธีนี้ทำให้ผมดูแย่ แต่คนรอบข้างพยายามบีบทุกวิถีทางเพื่อให้ผมได้ดีในแบบที่เขาต้องการ แต่สำหรับผมมองว่าได้ดีสำหรับเขาคือได้ดีที่ไม่เหมาะสมเท่าได้ดีจากการแสวงหาค้นหาตัวตน คือจะให้ผมได้ดีด้วยการล้วงลูกลูกชาย ผมเป็นลูกชายที่แย่ที่สุด ทะลุถุงยางมาเกิด
    ปกติผมเห็นเพื่อนพ้องน้องพี่คนรู้จักคนเคยสนิทประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตัวเองเลือกผมก็ยินดี ไม่ใช่ผมไม่สนใจและยี้เลย แต่ผมรู้สึกว่าการที่เป็นลูกชายที่โดนล้วงลูกไม่ให้ผมได้ดีในแบบของผม คือได้ดีในแบบของผม คือผมเสียคนเพราะระบบโลกาภิวัฒน์โลกภายนอกในสายตาคนรอบข้าง เป็นห่วงผมเข้าใจ แต่เป็นห่วงเกินไปไหม ตามคนรอบข้างจนผมเสียตัวตนไปมากขนาดไหน ผมก็ยังบาดลึกอยู่ แต่ถ้าจะเพิ่มความมูเตลู นับถืออีกศาสนามากกว่าศาสนาตามบัตรประชาชนอย่าเอาผมไปตามด้วย ผมขอนับถือแค่ศาสนาบนบัตรประชาชนก็พอแล้ว เพราะเรียบง่าย ไม่มีอะไรยากเลย หลักธรรมเข้าใจง่าย ไม่ต้องนับถือองค์เทพให้รู้สึกหนักใจกับการที่ต้องทำตามข้อปฏิบัติอย่างกับเข้ารีตเดียรถีย์หรือลัทธิศาสนาอื่นๆ ผมเจ็บปวดกับการถูกปลูกฝังให้ให้ความสนใจในการบูชาในองค์เทพและเข้ารีตศาสนาอื่นมากกว่าศาสนาพุทธในบัตรประชาชน ตอนนี้ผมเลิกคิดแบบนี้นานแล้ว แต่ทำตามคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประเสริฐพอแล้ว
    คือจะเอาตัวอย่างความสำเร็จจากตัวอย่างรุ่นน้องมาให้ผมดูเพื่ออะไร คือคนรอบข้างใช้วิธีนี้ทำให้ผมดูแย่ แต่คนรอบข้างพยายามบีบทุกวิถีทางเพื่อให้ผมได้ดีในแบบที่เขาต้องการ แต่สำหรับผมมองว่าได้ดีสำหรับเขาคือได้ดีที่ไม่เหมาะสมเท่าได้ดีจากการแสวงหาค้นหาตัวตน คือจะให้ผมได้ดีด้วยการล้วงลูกลูกชาย ผมเป็นลูกชายที่แย่ที่สุด ทะลุถุงยางมาเกิด ปกติผมเห็นเพื่อนพ้องน้องพี่คนรู้จักคนเคยสนิทประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตัวเองเลือกผมก็ยินดี ไม่ใช่ผมไม่สนใจและยี้เลย แต่ผมรู้สึกว่าการที่เป็นลูกชายที่โดนล้วงลูกไม่ให้ผมได้ดีในแบบของผม คือได้ดีในแบบของผม คือผมเสียคนเพราะระบบโลกาภิวัฒน์โลกภายนอกในสายตาคนรอบข้าง เป็นห่วงผมเข้าใจ แต่เป็นห่วงเกินไปไหม ตามคนรอบข้างจนผมเสียตัวตนไปมากขนาดไหน ผมก็ยังบาดลึกอยู่ แต่ถ้าจะเพิ่มความมูเตลู นับถืออีกศาสนามากกว่าศาสนาตามบัตรประชาชนอย่าเอาผมไปตามด้วย ผมขอนับถือแค่ศาสนาบนบัตรประชาชนก็พอแล้ว เพราะเรียบง่าย ไม่มีอะไรยากเลย หลักธรรมเข้าใจง่าย ไม่ต้องนับถือองค์เทพให้รู้สึกหนักใจกับการที่ต้องทำตามข้อปฏิบัติอย่างกับเข้ารีตเดียรถีย์หรือลัทธิศาสนาอื่นๆ ผมเจ็บปวดกับการถูกปลูกฝังให้ให้ความสนใจในการบูชาในองค์เทพและเข้ารีตศาสนาอื่นมากกว่าศาสนาพุทธในบัตรประชาชน ตอนนี้ผมเลิกคิดแบบนี้นานแล้ว แต่ทำตามคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประเสริฐพอแล้ว
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    สัทธรรมลำดับที่ : 967
    ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    (พระอานนท์ได้เห็นชาณุสโสณีพราหมณ์ นั่งรถขาวเทียมด้วยม้าขาวเครื่องประดับประดาทุกส่วนขาว ถือพัดวาลวีชนีขาว จนกระทั่งประชาชนเห็นแล้วร้องว่า พรหมยาน ว่าลักษณะแห่งพรหมยาน, ดังนี้แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามว่า :- )​
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้องค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาค อาจจะบัญญัติพรหมยานขึ้น ในธรรมวินัยนี้ ได้หรือไม่หนอ ?”
    --อาจซิ อานนท์ ! คำว่า พรหมยาน นั้น เป็นอธิวจนะ (คำแทนชื่อ)
    http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=อธิวจนํ
    แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง;
    เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.
    --อานนท์ ! สัมมาทิฏฐิ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน.
    +--สัมมาสังกัปปะ ....
    +--สัมมาวาจา ....
    +--สัมมากัมมันตะ ....
    +--สัมมาอาชีวะ ....
    +--สัมมาวายามะ ....
    +--สัมมาสติ ....
    +--สัมมาสมาธิ ....
    อันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน.
    --อานนท์ ! พึงทราบโดยปริยายนี้แล ว่าคำว่า
    พรหมยาน นั้นเป็น อธิวจนะแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง ;
    เรียกว่า #พรหมยาน บ้าง #ธรรมยาน บ้าง #อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/7/?keywords=สงฺคามวิชโย

    (ผู้ศึกษาพึงทราบว่า คำว่า พรหมยาน เป็นคำสูงสุดในฝ่ายศาสนาพราหมณ์
    พระอานนท์อยากจะมีคำเช่นนั้นในพระพุทธศาสนานี้บ้าง จึงทูลถาม;
    แต่พระองค์ตรัสตอบอย่างธัมมาธิษฐาน ระบุเอาอัฏฐังคิกมรรคเป็นพรหมยาน,
    และแถมยังมีคำว่า ธรรมยาน และอนุตตรสังคามวิชัย อีกด้วย.
    เราเห็นว่า คำว่า ธรรมยาน สำคัญกว่า จึงยกเอามาเป็นชื่อแห่งหัวข้อนี้.
    อนึ่ง อัฏฐังคิกมรรคนี้ จำแนกความหมายได้หลายอย่าง เช่น
    จำแนกเป็น วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามี
    ดังในหัวข้อ ที่จัด อัฏฐังคิกมรรคเป็นกัลยาณมิตร เป็นต้น บ้าง, และ
    ในหัวข้อทรงจำแนกเป็น ราค - โทส - โมหวินย - ปริโยสานบ้าง,
    ในหัวข้อว่า “อัฏฐังคิกมรรคชนิดที่เจริญแล้ว ทำกิจแห่งอริยสัจสี่พร้อมกันไปในตัว” เป็นต้น
    ทรงจำแนกว่า อมโตคธ อมตปรายน อมตปริโยสาน บ้าง,
    นิพฺพานนินฺน นิพฺพานโปณ นิพฺพานปพฺภาร บ้าง
    )

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/4-5/13-23.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/4/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๖-๗/๑๓-๒๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=967
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ สัทธรรมลำดับที่ : 967 ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967 เนื้อความทั้งหมด :- --อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ (พระอานนท์ได้เห็นชาณุสโสณีพราหมณ์ นั่งรถขาวเทียมด้วยม้าขาวเครื่องประดับประดาทุกส่วนขาว ถือพัดวาลวีชนีขาว จนกระทั่งประชาชนเห็นแล้วร้องว่า พรหมยาน ว่าลักษณะแห่งพรหมยาน, ดังนี้แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามว่า :- )​ --“ข้าแต่พระองค์ผู้องค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาค อาจจะบัญญัติพรหมยานขึ้น ในธรรมวินัยนี้ ได้หรือไม่หนอ ?” --อาจซิ อานนท์ ! คำว่า พรหมยาน นั้น เป็นอธิวจนะ (คำแทนชื่อ) http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=อธิวจนํ แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง; เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง. --อานนท์ ! สัมมาทิฏฐิ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. +--สัมมาสังกัปปะ .... +--สัมมาวาจา .... +--สัมมากัมมันตะ .... +--สัมมาอาชีวะ .... +--สัมมาวายามะ .... +--สัมมาสติ .... +--สัมมาสมาธิ .... อันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. --อานนท์ ! พึงทราบโดยปริยายนี้แล ว่าคำว่า พรหมยาน นั้นเป็น อธิวจนะแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง ; เรียกว่า #พรหมยาน บ้าง #ธรรมยาน บ้าง #อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.- http://etipitaka.com/read/pali/19/7/?keywords=สงฺคามวิชโย (ผู้ศึกษาพึงทราบว่า คำว่า พรหมยาน เป็นคำสูงสุดในฝ่ายศาสนาพราหมณ์ พระอานนท์อยากจะมีคำเช่นนั้นในพระพุทธศาสนานี้บ้าง จึงทูลถาม; แต่พระองค์ตรัสตอบอย่างธัมมาธิษฐาน ระบุเอาอัฏฐังคิกมรรคเป็นพรหมยาน, และแถมยังมีคำว่า ธรรมยาน และอนุตตรสังคามวิชัย อีกด้วย. เราเห็นว่า คำว่า ธรรมยาน สำคัญกว่า จึงยกเอามาเป็นชื่อแห่งหัวข้อนี้. อนึ่ง อัฏฐังคิกมรรคนี้ จำแนกความหมายได้หลายอย่าง เช่น จำแนกเป็น วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามี ดังในหัวข้อ ที่จัด อัฏฐังคิกมรรคเป็นกัลยาณมิตร เป็นต้น บ้าง, และ ในหัวข้อทรงจำแนกเป็น ราค - โทส - โมหวินย - ปริโยสานบ้าง, ในหัวข้อว่า “อัฏฐังคิกมรรคชนิดที่เจริญแล้ว ทำกิจแห่งอริยสัจสี่พร้อมกันไปในตัว” เป็นต้น ทรงจำแนกว่า อมโตคธ อมตปรายน อมตปริโยสาน บ้าง, นิพฺพานนินฺน นิพฺพานโปณ นิพฺพานปพฺภาร บ้าง ) #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/4-5/13-23. http://etipitaka.com/read/thai/19/4/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๖-๗/๑๓-๒๓. http://etipitaka.com/read/pali/19/6/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=967 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=967 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ
    -[ในสูตรอื่น (๑๙/๓๐/๑๐๕) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมัญญะ. ในสูตรอื่น (๑๙/๓๑/๑๑๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมจริยะ. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๖๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมัตตะ. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า กุสลธัมม. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๖๗) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมาปฏิปทา. ในสูตรอื่น (๑๙/๒๐/๙๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมาปฏิปัตติ. ในสูตรอื่น (๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า มัชฌิมาปฏิปทา. ในสูตรอื่น (๑๔/๕๒๔/๘๒๙) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สมถะและวิปัสสนา]. อัฏฐังคิกมรรคในฐานะแห่งธัมมยานอันประเสริฐ (พระอานนท์ได้เห็นชาณุสโสณีพราหมณ์ นั่งรถขาวเทียมด้วยม้าขาวเครื่องประดับประดาทุกส่วนขาว ถือพัดวาลวีชนีขาว จนกระทั่งประชาชนเห็นแล้วร้องว่า พรหมยาน ว่าลักษณะแห่งพรหมยาน, ดังนี้แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามว่า :-) “ข้าแต่พระองค์ผู้องค์ผู้เจริญ ! พระผู้มีพระภาค อาจจะบัญญัติพรหมยานขึ้น ในธรรมวินัยนี้ ได้หรือไม่หนอ ?” อาจซิ อานนท์ ! คำว่า พรหมยาน นั้น เป็นอธิวจนะ (คำแทนชื่อ) แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง; เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง. อานนท์ ! สัมมาทิฏฐิ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. สัมมาสังกัปปะ .... สัมมาวาจา .... สัมมากัมมันตะ .... สัมมาอาชีวะ .... สัมมาวายามะ .... สัมมาสติ .... สัมมาสมาธิ .... อันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว เป็นธรรมมีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน มีการออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน. อานนท์ ! พึงทราบโดยปริยายนี้แล ว่าคำว่า พรหมยาน นั้นเป็น อธิวจนะแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคนี้เอง ; เรียกว่า พรหมยาน บ้าง ธรรมยาน บ้าง อนุตตรสังคามวิชัย บ้าง.
    0 Comments 0 Shares 373 Views 0 Reviews
More Results