• บขส.เปิดเส้นทางสนามบิน ไปหัวหิน-พัทยา

    ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. จะเปิดให้บริการรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างรถโดยสารสาธารณะกับท่าอากาศยาน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่

    1. ท่าอากาศยานดอนเมือง-พัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 162 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 155 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง

    2. ท่าอากาศยานดอนเมือง-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 216 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที เฉพาะเที่ยวไป รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ และสถานีเดินรถหัวหิน

    3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 122 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง

    สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถ และจองตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th

    • จากสนามบินดอนเมือง เลือกจังหวัด "กรุงเทพมหานคร" เลือกต้นทาง "ท่าอากาศยานดอนเมือง"

    • จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกจังหวัด "สมุทรปราการ" เลือกต้นทาง "สุวรรณภูมิ(สนามบิน)021344099"

    • จากพัทยา เลือกจังหวัด "ชลบุรี" เลือกต้นทาง "พัทยา(กลาง) 038231142"

    • จากหัวหิน เลือกจังหวัด "ประจวบคีรีขันธ์" เลือกต้นทาง "หัวหิน032-511230"

    จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะอยู่ที่อาคาร Service Hall ชั้น 1 ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของสนามบินดอนเมือง

    จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ประตู 8 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0-2134-4099

    จุดขึ้นรถที่เมืองพัทยา เที่ยวกลับ อยู่ที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือและแยกพัทยากลาง โทร. 0-3823-1142

    จุดขึ้นรถที่หัวหิน เที่ยวกลับ มี 2 จุด ได้แก่ สถานีเดินรถหัวหิน ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกพุทธไชโย ซอยหัวหิน 91 ห่างจากสวนน้ำวานา นาวา ประมาณ 1 กิโลเมตร โทร. 0-3251-1230 และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์

    การเปิดเส้นทางเดินรถดังกล่าว ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ สามารถต่อรถทัวร์ไปหัวหินและพัทยาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นรถที่หมอชิต 2 อีกต่อไป รวมทั้งจากหัวหินไปดอนเมือง และจากพัทยาไปดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิโดยตรง ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น

    สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ บขส. โทร. 0-2936-3660 หรือไลน์ @TCL99

    #Newskit
    บขส.เปิดเส้นทางสนามบิน ไปหัวหิน-พัทยา ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. จะเปิดให้บริการรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างรถโดยสารสาธารณะกับท่าอากาศยาน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. ท่าอากาศยานดอนเมือง-พัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 162 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 155 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง 2. ท่าอากาศยานดอนเมือง-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 216 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที เฉพาะเที่ยวไป รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ และสถานีเดินรถหัวหิน 3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 122 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถ และจองตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th • จากสนามบินดอนเมือง เลือกจังหวัด "กรุงเทพมหานคร" เลือกต้นทาง "ท่าอากาศยานดอนเมือง" • จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกจังหวัด "สมุทรปราการ" เลือกต้นทาง "สุวรรณภูมิ(สนามบิน)021344099" • จากพัทยา เลือกจังหวัด "ชลบุรี" เลือกต้นทาง "พัทยา(กลาง) 038231142" • จากหัวหิน เลือกจังหวัด "ประจวบคีรีขันธ์" เลือกต้นทาง "หัวหิน032-511230" จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะอยู่ที่อาคาร Service Hall ชั้น 1 ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของสนามบินดอนเมือง จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ประตู 8 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0-2134-4099 จุดขึ้นรถที่เมืองพัทยา เที่ยวกลับ อยู่ที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือและแยกพัทยากลาง โทร. 0-3823-1142 จุดขึ้นรถที่หัวหิน เที่ยวกลับ มี 2 จุด ได้แก่ สถานีเดินรถหัวหิน ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกพุทธไชโย ซอยหัวหิน 91 ห่างจากสวนน้ำวานา นาวา ประมาณ 1 กิโลเมตร โทร. 0-3251-1230 และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ การเปิดเส้นทางเดินรถดังกล่าว ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ สามารถต่อรถทัวร์ไปหัวหินและพัทยาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นรถที่หมอชิต 2 อีกต่อไป รวมทั้งจากหัวหินไปดอนเมือง และจากพัทยาไปดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิโดยตรง ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ บขส. โทร. 0-2936-3660 หรือไลน์ @TCL99 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOTO GP ไปต่อหรือพอแค่นี้?

    การออกมาเปิดเผยของนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่ารัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย หลังจัดการแข่งขันมา 7 ปีติดต่อกัยในนามรัฐบาล และจะไม่ต่อสัญญาอีก ก่อให้เกิดปฎิริยาต่อรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในวันต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอตัวเลข เพื่อพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ยืนยันว่าหากเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนหมู่มากก็คงต้องทำต่อ

    ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เรื่องไม่ต่อสัญญาไม่เป็นความจริง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งทางดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ชื่นชมประเทศไทย ส่วนรัฐบาลก็อยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ ที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว กกท. จะนำสถิติตัวเลขต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้นำเสนอกับทางรัฐบาล และยังกล่าวอีกว่า หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่ ถ้าไทยไม่ตัดสินใจ ก็มีหลายประเทศรออยู่ ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ดอร์น่าก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่นๆ แทน

    ทั้งนี้ การแข่งขันโมโตจีพีในปีนี้ทุบสถิติมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมสูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานสูงขึ้น 12% และการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 52,000 คน สูงขึ้นประมาณ 38% ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา

    สำหรับการแข่งขันโมโตจีพีที่จังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 หลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบประมาณจัดการแข่งขัน เมื่อปี 2560 ตามที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาในขณะนั้น เป็นผู้เสนอ ตามนโยบายการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) และต้องการผลักดันนโยบายนี้ให้มากขึ้น โดยรัฐบาลจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันปีละ 100 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ระหว่างปี 2561-2563 และมีภาคเอกชนระดมทุนในการดำเนินการทั้งหมด โดยนายเนวินในฐานะประธานสนาม สนับสนุนให้ใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งขันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    ต่อมาในปี 2563 ครม. มีมติเห็นชอบต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพีออกไปอีก 5 ปี ระหว่างปี 2564-2569 โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณค่าลิขสิทธิ์ 50% ส่วนที่เหลือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์ จะหาผู้สนับสนุนในประเทศไทย

    #Newskit
    MOTO GP ไปต่อหรือพอแค่นี้? การออกมาเปิดเผยของนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่ารัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย หลังจัดการแข่งขันมา 7 ปีติดต่อกัยในนามรัฐบาล และจะไม่ต่อสัญญาอีก ก่อให้เกิดปฎิริยาต่อรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในวันต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอตัวเลข เพื่อพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ยืนยันว่าหากเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนหมู่มากก็คงต้องทำต่อ ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เรื่องไม่ต่อสัญญาไม่เป็นความจริง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งทางดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ชื่นชมประเทศไทย ส่วนรัฐบาลก็อยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ ที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว กกท. จะนำสถิติตัวเลขต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้นำเสนอกับทางรัฐบาล และยังกล่าวอีกว่า หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่ ถ้าไทยไม่ตัดสินใจ ก็มีหลายประเทศรออยู่ ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ดอร์น่าก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่นๆ แทน ทั้งนี้ การแข่งขันโมโตจีพีในปีนี้ทุบสถิติมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมสูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานสูงขึ้น 12% และการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 52,000 คน สูงขึ้นประมาณ 38% ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา สำหรับการแข่งขันโมโตจีพีที่จังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 หลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบประมาณจัดการแข่งขัน เมื่อปี 2560 ตามที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาในขณะนั้น เป็นผู้เสนอ ตามนโยบายการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) และต้องการผลักดันนโยบายนี้ให้มากขึ้น โดยรัฐบาลจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันปีละ 100 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ระหว่างปี 2561-2563 และมีภาคเอกชนระดมทุนในการดำเนินการทั้งหมด โดยนายเนวินในฐานะประธานสนาม สนับสนุนให้ใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งขันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ต่อมาในปี 2563 ครม. มีมติเห็นชอบต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพีออกไปอีก 5 ปี ระหว่างปี 2564-2569 โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณค่าลิขสิทธิ์ 50% ส่วนที่เหลือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์ จะหาผู้สนับสนุนในประเทศไทย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค
    .
    ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า...
    .
    1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง
    .
    2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว
    .
    3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้
    .
    4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น
    .
    ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต
    ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
    .
    5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก
    .
    จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว
    .
    6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง
    ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่
    .
    เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ
    .
    การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง
    .
    อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น
    .
    ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ!
    .
    จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค . ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า... . 1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง . 2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว . 3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้ . 4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น . ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น . 5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก . จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว . 6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่ . เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ . การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง . อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น . ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ! .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสมเด็จหลังยันต์จม วัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง ปี2513
    พระสมเด็จหลังยันต์จม วัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง ปี2513 //พระดี พิธีดี ปีลึก // พระสถาพสวยมากก คมชัด พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !!##

    ** พุทธคุณทางเมตตามหานิยม อุดมลาภ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหาอุด ช่วยให้ประสบความสำเร็จในอาชีพหน้าที่การงาน คุ้มครองและส่งเสริมให้ประสบผลสำเร็จ ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง >>

    ** พระสมเด็จหลังยันต์จม วัดศีลขันธาราม อ่างทอง ปี2513 จัดสร้างโดย พระอาจารย์สนิท เจ้าอาวาสวัดศีลขันธาราม ด้านหลังเป็นยันต์จมและมีการฝังผง ใช้ผงพุทธคุณที่ผ่านการอธิษฐานจิตของท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นมวลสารหลัก โดยท่านเจ้าคุณสนิท เกิดและอุปสมบทที่จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นท่านได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพ โดยมีท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ธัมมวิตกโก เป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น ท่านเจ้าคุณสนิทมีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นอย่างมาก และท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์เป็นเวลาทั้งสิ้น 11 พรรษาจากนั้นท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ให้ท่านไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศีลขันธ์ ซึ่งขณะนั้นวัดศีลขันธ์ ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ละท่านเจ้าคุณสนิท จึงต้องเร่งหาทุนทรัพย์เพื่อมาทำนุบำรุงเสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัด รวมทั้งก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ >>

    ** พระสถาพสวยมากก คมชัด พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสมเด็จหลังยันต์จม วัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง ปี2513 พระสมเด็จหลังยันต์จม วัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง ปี2513 //พระดี พิธีดี ปีลึก // พระสถาพสวยมากก คมชัด พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !!## ** พุทธคุณทางเมตตามหานิยม อุดมลาภ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหาอุด ช่วยให้ประสบความสำเร็จในอาชีพหน้าที่การงาน คุ้มครองและส่งเสริมให้ประสบผลสำเร็จ ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง >> ** พระสมเด็จหลังยันต์จม วัดศีลขันธาราม อ่างทอง ปี2513 จัดสร้างโดย พระอาจารย์สนิท เจ้าอาวาสวัดศีลขันธาราม ด้านหลังเป็นยันต์จมและมีการฝังผง ใช้ผงพุทธคุณที่ผ่านการอธิษฐานจิตของท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นมวลสารหลัก โดยท่านเจ้าคุณสนิท เกิดและอุปสมบทที่จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นท่านได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพ โดยมีท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ธัมมวิตกโก เป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น ท่านเจ้าคุณสนิทมีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นอย่างมาก และท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์เป็นเวลาทั้งสิ้น 11 พรรษาจากนั้นท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ให้ท่านไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศีลขันธ์ ซึ่งขณะนั้นวัดศีลขันธ์ ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ละท่านเจ้าคุณสนิท จึงต้องเร่งหาทุนทรัพย์เพื่อมาทำนุบำรุงเสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัด รวมทั้งก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ >> ** พระสถาพสวยมากก คมชัด พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพทองธารกล่าว "อย่าท้อใจ" GDP ไทยรั้งท้ายอาเซียน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการโอกาสไทยกับนายกแพทองธาร ทางช่อง NBT เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ในตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไทยไม่โตและรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน เจ้าตัวชี้แจงว่าไตรมาส 4/2567 ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 3.2% รวมทั้งปีอยู่ที่ 2.5% เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

    น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า จะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตอนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน เป็นนายกฯ เกือบ 6 เดือน ดูเรื่องงบประมาณค่อนข้างจำกัด งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี

    "จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย"

    น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ตนต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ยืนยันว่าทุกจังหวัดรัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น แปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น ให้ประเทศอื่นได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ตนอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด คิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนร่ำรวย จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ

    “ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน”

    ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าปี 2568 จีดีพีโต 2.8% รวมมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทแล้ว แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม (6.4%) ฟิลิปปินส์ (6%) และกัมพูชา (6%) แต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าโลก หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจโตถึง 3-3.5% ต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและเร่งกระจายเงินลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม

    #Newskit
    แพทองธารกล่าว "อย่าท้อใจ" GDP ไทยรั้งท้ายอาเซียน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการโอกาสไทยกับนายกแพทองธาร ทางช่อง NBT เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ในตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไทยไม่โตและรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน เจ้าตัวชี้แจงว่าไตรมาส 4/2567 ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 3.2% รวมทั้งปีอยู่ที่ 2.5% เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า จะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตอนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน เป็นนายกฯ เกือบ 6 เดือน ดูเรื่องงบประมาณค่อนข้างจำกัด งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี "จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย" น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ตนต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ยืนยันว่าทุกจังหวัดรัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น แปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น ให้ประเทศอื่นได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ตนอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด คิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนร่ำรวย จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ “ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าปี 2568 จีดีพีโต 2.8% รวมมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทแล้ว แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม (6.4%) ฟิลิปปินส์ (6%) และกัมพูชา (6%) แต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าโลก หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจโตถึง 3-3.5% ต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและเร่งกระจายเงินลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจท่องเที่ยวบุกรวบ หนุ่มไนจีเรียนักค้าโคเคน รายใหญ่ ในพื้นที่เกาะพะงัน ยึดของกลาง มูลค่า 2 แสนบาท สอบปากคำ รับว่าส่งขายอีกหลายจังหวัดในภาคใต้โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000020378

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจท่องเที่ยวบุกรวบ หนุ่มไนจีเรียนักค้าโคเคน รายใหญ่ ในพื้นที่เกาะพะงัน ยึดของกลาง มูลค่า 2 แสนบาท สอบปากคำ รับว่าส่งขายอีกหลายจังหวัดในภาคใต้โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000020378 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญไพรีพินาศ รุ่นแรก หลวงปู่มีชัย กามฉินโท ปี2548
    เหรียญไพรีพินาศ รุ่นแรก หลวงปู่มีชัย กามฉินโท เขาหิมพานคีรี ปี2548 //พระดี ป้องกันศาสตราวุธทั้งปวง พระมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พระขนาดเล็ก ไม่ค่อยเจอแล้วครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามาก จะไว้บูชาเอง หรือให้ลูกหลานคล้องคอบูชาก็ดีเยี่ยมครับ !! เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ >>

    ** พุทธคุณป้องกันศาสตราวุธทั้งปวง มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน ป้องกันภัย โชคลาภ เมตตา รำ่รวย เจริญรุ่งเรือง เรียกทรัพย์ เก็บทรัพย์ ค้าขายดี

    ** หลวงปู่มีชัย กามฉินโท สุดยอดพระประสบการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาทั้งในไทยและหลายประเทศ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน เชคโกสโลวเกีย.. จึงมีลูกศิษย์มากมาย เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ... สายวิชาหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่มียันต์ขุมทรัพย์เรียกทรัพย์ที่เป็นหนึ่งเดียวต่อๆไปจะเป็นตำนาน แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเกจิแบบนี้อยู่อีก หายาก >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญไพรีพินาศ รุ่นแรก หลวงปู่มีชัย กามฉินโท ปี2548 เหรียญไพรีพินาศ รุ่นแรก หลวงปู่มีชัย กามฉินโท เขาหิมพานคีรี ปี2548 //พระดี ป้องกันศาสตราวุธทั้งปวง พระมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พระขนาดเล็ก ไม่ค่อยเจอแล้วครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามาก จะไว้บูชาเอง หรือให้ลูกหลานคล้องคอบูชาก็ดีเยี่ยมครับ !! เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ >> ** พุทธคุณป้องกันศาสตราวุธทั้งปวง มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน ป้องกันภัย โชคลาภ เมตตา รำ่รวย เจริญรุ่งเรือง เรียกทรัพย์ เก็บทรัพย์ ค้าขายดี ** หลวงปู่มีชัย กามฉินโท สุดยอดพระประสบการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาทั้งในไทยและหลายประเทศ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน เชคโกสโลวเกีย.. จึงมีลูกศิษย์มากมาย เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ... สายวิชาหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่มียันต์ขุมทรัพย์เรียกทรัพย์ที่เป็นหนึ่งเดียวต่อๆไปจะเป็นตำนาน แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเกจิแบบนี้อยู่อีก หายาก >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชื่อหลุดว่อนเน็ต! ถูกดีเอสไอเรียกสอบปม “ฮั้วเลือก สว.” เป็นโหวตเตอร์นับพันราย แหล่งข่าวยันตรงเกือบ 100% พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกด้วย

    วันที่ (2 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีสอบฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ล่าสุด มีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างว่าเป็นรายชื่อของผู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมเรียกสอบ ซึ่งเป็นเอกสารจำนวนกว่า 5 หน้ากระดาษมากกว่า 1,000 รายชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สมัคร สว. บรรดาโหวตเตอร์ในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท เชียงราย ตรัง ตราด นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พังงา พิจิตร เพชรบุรี ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ยะลา ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุทัยธานี และอุบลราชธานี

    แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า จากตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว พบว่า รายชื่อส่วนใหญ่จากเอกสารที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น ตรงกับที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกมาสอบเกือบ 100% แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกที่ไม่ใช่เฉพาะโหวตเตอร์มาสอบด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000020319

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    ชื่อหลุดว่อนเน็ต! ถูกดีเอสไอเรียกสอบปม “ฮั้วเลือก สว.” เป็นโหวตเตอร์นับพันราย แหล่งข่าวยันตรงเกือบ 100% พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกด้วย • วันที่ (2 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีสอบฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ล่าสุด มีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างว่าเป็นรายชื่อของผู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมเรียกสอบ ซึ่งเป็นเอกสารจำนวนกว่า 5 หน้ากระดาษมากกว่า 1,000 รายชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สมัคร สว. บรรดาโหวตเตอร์ในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท เชียงราย ตรัง ตราด นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พังงา พิจิตร เพชรบุรี ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ยะลา ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุทัยธานี และอุบลราชธานี • แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า จากตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว พบว่า รายชื่อส่วนใหญ่จากเอกสารที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น ตรงกับที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกมาสอบเกือบ 100% แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกที่ไม่ใช่เฉพาะโหวตเตอร์มาสอบด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000020319 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว จังหวัดเชียงใหม่ หลังว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตน ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา

    วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊กเพจ The Buddh เผยแพร่คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 02/2568 เรื่อง ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) จากตําแหน่งเจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว และเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยปรากฏว่า พระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) อายุ 35 พรรษา 15 เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว ตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และดํารงตําแหน่งเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน ได้กระทําการอันเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ด้วยการว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตนซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คําสั่ง ข้อบังคับ และประกาศของมหาเถรสมาคม อีกทั้งยังเป็นการทุจริตในการสอบบาลีสนามหลวง อันเป็นกิจการสําาคัญของคณะสงฆ์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000020289

    #MGROnline #เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ #ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ #เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว #จังหวัดเชียงใหม่
    เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว จังหวัดเชียงใหม่ หลังว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตน ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา • วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊กเพจ The Buddh เผยแพร่คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 02/2568 เรื่อง ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) จากตําแหน่งเจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว และเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยปรากฏว่า พระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) อายุ 35 พรรษา 15 เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว ตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และดํารงตําแหน่งเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน ได้กระทําการอันเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ด้วยการว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตนซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คําสั่ง ข้อบังคับ และประกาศของมหาเถรสมาคม อีกทั้งยังเป็นการทุจริตในการสอบบาลีสนามหลวง อันเป็นกิจการสําาคัญของคณะสงฆ์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000020289 • #MGROnline #เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ #ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ #เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว #จังหวัดเชียงใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/3/68

    “เสียงสวรรค์” ช่วงเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.1993 แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากกระหน่ำโทรไปตลอดคืน พ่อของทารกน้อยรีบแนะนำตัวก่อนจะแจ้งอาการของทารกน้อยให้ฟังด้วยความร้อนรน แพทย์หญิงวันดี ได้ถามกลับว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” พ่อรีบตอบกลับไปว่า “ผมโทรมาจากกำแพงเพชร

    ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพจะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมง จากกำแพงเพชรเข้าไปที่ จ.พิษณุโลก เพื่อรับลูกและจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยวถึงจะไปถึงกรุงเทพ” แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า “คุณไม่ต้องมาเด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงาน ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต

    รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก” จากนั้นได้เริ่มบอก “สูตรอาหารผสม” และวิธีการรักษาเบื้องต้น ให้กับพ่อของทารกน้อยจดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน๊ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋าอย่างประณีต ก่อนจะโดดงาน รีบออกจากไซส์งานขึ้นรถเมล์มุ่งหน้ากลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที

    “ปาฏิหาริย์ยามบ่าย” เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ รีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดี แกะออกก่อนนำใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอในทันที แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกยังคงสภาพไม่สิ้นใจ “เหมือนจะได้ผล”

    พ่อจดทุกอากับกริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซส์งานเพื่อโทรศัพท์หาหมอ การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัดเพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้นทุก 7 โมงเช้า ของทุกวัน “ตลอด 3 เดือน”แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างาน รอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อตามติดรักษาอาการและปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนเด็กทารกน้อย “ฟื้นชีพ” ดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง หายเป็นปกติในที่สุด

    ่“สายสุดท้าย” ปลายเดือนมกราคม ค.ศ.1994 พ่อรายงานอาการของทารกน้อยให้หมอวันดีฟังอย่างเช่นทุกๆวัน ก่อนเสียงปลายสายของหมอตอบกลับ “ยินดีด้วยนะลูกคุณหายแล้ว” ภาพไซส์งานเบื้องหน้าพ่อของทารกน้อยขาวโพลนทันใด เสียงเงียบก็เข้าครอบคลุมสายโทรศัพท์ทั้งสองฝ่าย เข้าสู่อารมณ์เอ่อล้นที่ยากจะพรรณนา แม้สัมผัสได้แต่เพียงเสียงปลายสาย แต่ภาพมรสุมกว่า 3 เดือนไล่ย้อนไปเป็นฉากๆ จนปากพูดอะไรไม่ออก “ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไง” ไม่เพียงไม่รู้จัก ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า และหมอท่านนี้ก็ไม่ได้แม้แต่ผลตอบแทนใดๆ แล้วจากไปด้วยคำทิ้งท้ายสั้นๆ “ดูแลลูกให้ดี ขอให้โตมาเป็นเด็กดีนะ ขอให้โชคดี”และสายก็ถูกตัดไป แต่เสียงยังตราตรึงใจ ไม่รู้ลืมไปตลอดกาล

    “กระดาษโน้ตความทรงจำ” รายละเอียดการรักษาพ่อยังคงเก็บไว้ในกล่องเป็นอย่างดีจนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน จนเด็กทารกน้อยคนนั้นเติบโตขึ้นย่างเข้าวัย 32 ปี ระหว่างกลับไปเยี่ยมพ่อของเขาในช่วงวันหยุด ก่อนจะสะดุดสายตากับกล่องพิลึกพิลั่นในห้องของพ่อ

    เปิดออกมาดูพบกระดาษโน้ตเก่าๆหลายแผ่นชวนฉงนใจ “พ่อ..พวกนี่คืออะไร” หลังพ่อได้เห็นกระดาษโน้ตเก่าความทรงจำในอดีตพรั่งพรูก่อนเริ่มเล่าเรื่องราวอันสุดมหัศจรรย์กับการชุบชีวิตทารกน้อย ผ่านสายโทรศัพท์ของหมอเทวดาท่านหนึ่ง “หมอวันดี โรงพยาบาลรามา” พ่อเอ่ยชื่อก่อนทิ้งท้าย “ตอนนี้อยู่ไหนแล้วพ่อไม่รู้นะ น่าจะอายุมากแล้ว” จะทันไหมนะ ทารกน้อยในวัยหนุ่มครุ่นคิดในใจ

    “ตามหาผู้มีพระคุณ” ทารกน้อยในวัยหนุ่มออกตามหาหมอวันดีที่โรงพยาบาลรามาฯ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าท่านได้เกษียณไม่ได้มาทำงานเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว

    เขาออกตระเวนถามหาบ้าน จนมาถึงหน้าบ้านเก่าๆ สุดสมถะ บรรยากาศเงียบสงบ

    “มีใครอยู่ไหมครับ” หลังสิ้นเสียงเรียก หญิงชราเดินออกมาจากประตูบ้านด้วยใบหน้าสงสัย “มาหาใครคะ” น้ำเสียงอันแสนเมตตาขยับเข้ามาใกล้ๆ ครั้งได้สบตาทำให้ทารกน้อยในวัยหนุ่มเข่าทรุดติดพื้น ก้มลงกราบโดยอัตโนมัติ ก่อนบอกกับหมอที่อยู่ในอาการงุนงงว่า “ไม่รู้หมอจะจำผมได้ไหม ผมคือเด็กที่หมอช่วยชีวิตผ่านโทรศัพท์เมื่อ 32 ปีก่อน พ่อผมเล่าให้ฟังตอนผมไปเจอกระดาษโน๊ตอันนี้ ที่ท่านบอกสูตรผสมกับวิธีการรักษาให้พ่อผม ทำให้ผมรอดตาย”

    หมอวันดีหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนกล่าวว่า “นี่มันสูตรของฉันจริงๆ ด้วย ขอให้มีความสุขความเจริญนะ แล้วตอนนี้หนูเป็นอะไร” ทารกน้อยในวัยหนุ่มกล่าวตอบ “ผมเป็นตำรวจอยู่นครบาลครับ” ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสืบนครบาลตัวเก่งให้กับหมอวันดีโดยไม่ลังเล “เสื้อนี้มีค่าสำหรับผมมากครับ ผมขอให้หมอไว้นะครับ ถ้าไม่มีหมอผมคงตายไปแล้ว”

    เรื่องเล่าของทารกน้อยจากแดนไกลคนนี้ ปัจจุบันคือ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ “สารวัตรแจ๊ะ” สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ที่เกิดมาพร้อมอาการป่วยออดๆ แอดๆ และแพทย์ใน จ.พิษณุโลก วินิจฉัยว่าเป็นโรค “โรต้าไวรัส” แต่การรักษาไม่ดีขึ้นจนสภาพร่างกายลีบแห้งใกล้เสียชีวิต แท้จริงเป็นโรคอุจจาระร่วงจากสารอาหารที่เข้มข้นในลำไส้ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยนั้น

    สารวัตรแจ๊ะ ได้รับการรักษาจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.วันดี วราวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคนี้โดยตรง “ผ่านทางโทรศัพท์” โดยได้รักษาด้วยการให้สูตรอาหารผสมที่มีส่วนผสมของเกลือแกงและน้ำตาลทราย จนทำให้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์เมื่อปี 1993...!!!

    Cr : line
    :ภาพจากgoogle
    2/3/68 “เสียงสวรรค์” ช่วงเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.1993 แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากกระหน่ำโทรไปตลอดคืน พ่อของทารกน้อยรีบแนะนำตัวก่อนจะแจ้งอาการของทารกน้อยให้ฟังด้วยความร้อนรน แพทย์หญิงวันดี ได้ถามกลับว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” พ่อรีบตอบกลับไปว่า “ผมโทรมาจากกำแพงเพชร ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพจะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมง จากกำแพงเพชรเข้าไปที่ จ.พิษณุโลก เพื่อรับลูกและจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยวถึงจะไปถึงกรุงเทพ” แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า “คุณไม่ต้องมาเด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงาน ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก” จากนั้นได้เริ่มบอก “สูตรอาหารผสม” และวิธีการรักษาเบื้องต้น ให้กับพ่อของทารกน้อยจดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน๊ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋าอย่างประณีต ก่อนจะโดดงาน รีบออกจากไซส์งานขึ้นรถเมล์มุ่งหน้ากลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที “ปาฏิหาริย์ยามบ่าย” เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ รีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดี แกะออกก่อนนำใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอในทันที แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกยังคงสภาพไม่สิ้นใจ “เหมือนจะได้ผล” พ่อจดทุกอากับกริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซส์งานเพื่อโทรศัพท์หาหมอ การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัดเพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้นทุก 7 โมงเช้า ของทุกวัน “ตลอด 3 เดือน”แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างาน รอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อตามติดรักษาอาการและปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนเด็กทารกน้อย “ฟื้นชีพ” ดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง หายเป็นปกติในที่สุด ่“สายสุดท้าย” ปลายเดือนมกราคม ค.ศ.1994 พ่อรายงานอาการของทารกน้อยให้หมอวันดีฟังอย่างเช่นทุกๆวัน ก่อนเสียงปลายสายของหมอตอบกลับ “ยินดีด้วยนะลูกคุณหายแล้ว” ภาพไซส์งานเบื้องหน้าพ่อของทารกน้อยขาวโพลนทันใด เสียงเงียบก็เข้าครอบคลุมสายโทรศัพท์ทั้งสองฝ่าย เข้าสู่อารมณ์เอ่อล้นที่ยากจะพรรณนา แม้สัมผัสได้แต่เพียงเสียงปลายสาย แต่ภาพมรสุมกว่า 3 เดือนไล่ย้อนไปเป็นฉากๆ จนปากพูดอะไรไม่ออก “ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไง” ไม่เพียงไม่รู้จัก ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า และหมอท่านนี้ก็ไม่ได้แม้แต่ผลตอบแทนใดๆ แล้วจากไปด้วยคำทิ้งท้ายสั้นๆ “ดูแลลูกให้ดี ขอให้โตมาเป็นเด็กดีนะ ขอให้โชคดี”และสายก็ถูกตัดไป แต่เสียงยังตราตรึงใจ ไม่รู้ลืมไปตลอดกาล “กระดาษโน้ตความทรงจำ” รายละเอียดการรักษาพ่อยังคงเก็บไว้ในกล่องเป็นอย่างดีจนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน จนเด็กทารกน้อยคนนั้นเติบโตขึ้นย่างเข้าวัย 32 ปี ระหว่างกลับไปเยี่ยมพ่อของเขาในช่วงวันหยุด ก่อนจะสะดุดสายตากับกล่องพิลึกพิลั่นในห้องของพ่อ เปิดออกมาดูพบกระดาษโน้ตเก่าๆหลายแผ่นชวนฉงนใจ “พ่อ..พวกนี่คืออะไร” หลังพ่อได้เห็นกระดาษโน้ตเก่าความทรงจำในอดีตพรั่งพรูก่อนเริ่มเล่าเรื่องราวอันสุดมหัศจรรย์กับการชุบชีวิตทารกน้อย ผ่านสายโทรศัพท์ของหมอเทวดาท่านหนึ่ง “หมอวันดี โรงพยาบาลรามา” พ่อเอ่ยชื่อก่อนทิ้งท้าย “ตอนนี้อยู่ไหนแล้วพ่อไม่รู้นะ น่าจะอายุมากแล้ว” จะทันไหมนะ ทารกน้อยในวัยหนุ่มครุ่นคิดในใจ “ตามหาผู้มีพระคุณ” ทารกน้อยในวัยหนุ่มออกตามหาหมอวันดีที่โรงพยาบาลรามาฯ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าท่านได้เกษียณไม่ได้มาทำงานเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เขาออกตระเวนถามหาบ้าน จนมาถึงหน้าบ้านเก่าๆ สุดสมถะ บรรยากาศเงียบสงบ “มีใครอยู่ไหมครับ” หลังสิ้นเสียงเรียก หญิงชราเดินออกมาจากประตูบ้านด้วยใบหน้าสงสัย “มาหาใครคะ” น้ำเสียงอันแสนเมตตาขยับเข้ามาใกล้ๆ ครั้งได้สบตาทำให้ทารกน้อยในวัยหนุ่มเข่าทรุดติดพื้น ก้มลงกราบโดยอัตโนมัติ ก่อนบอกกับหมอที่อยู่ในอาการงุนงงว่า “ไม่รู้หมอจะจำผมได้ไหม ผมคือเด็กที่หมอช่วยชีวิตผ่านโทรศัพท์เมื่อ 32 ปีก่อน พ่อผมเล่าให้ฟังตอนผมไปเจอกระดาษโน๊ตอันนี้ ที่ท่านบอกสูตรผสมกับวิธีการรักษาให้พ่อผม ทำให้ผมรอดตาย” หมอวันดีหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนกล่าวว่า “นี่มันสูตรของฉันจริงๆ ด้วย ขอให้มีความสุขความเจริญนะ แล้วตอนนี้หนูเป็นอะไร” ทารกน้อยในวัยหนุ่มกล่าวตอบ “ผมเป็นตำรวจอยู่นครบาลครับ” ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสืบนครบาลตัวเก่งให้กับหมอวันดีโดยไม่ลังเล “เสื้อนี้มีค่าสำหรับผมมากครับ ผมขอให้หมอไว้นะครับ ถ้าไม่มีหมอผมคงตายไปแล้ว” เรื่องเล่าของทารกน้อยจากแดนไกลคนนี้ ปัจจุบันคือ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ “สารวัตรแจ๊ะ” สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ที่เกิดมาพร้อมอาการป่วยออดๆ แอดๆ และแพทย์ใน จ.พิษณุโลก วินิจฉัยว่าเป็นโรค “โรต้าไวรัส” แต่การรักษาไม่ดีขึ้นจนสภาพร่างกายลีบแห้งใกล้เสียชีวิต แท้จริงเป็นโรคอุจจาระร่วงจากสารอาหารที่เข้มข้นในลำไส้ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยนั้น สารวัตรแจ๊ะ ได้รับการรักษาจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.วันดี วราวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคนี้โดยตรง “ผ่านทางโทรศัพท์” โดยได้รักษาด้วยการให้สูตรอาหารผสมที่มีส่วนผสมของเกลือแกงและน้ำตาลทราย จนทำให้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์เมื่อปี 1993...!!! Cr : line :ภาพจากgoogle
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมไม่เคยลืม“ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ”คนทำชั่วลอบยิงผมแล้วหนีไปอยู่เขมร ผมรอ15ปีเต็มๆ .เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยลืม ให้ผมตายไป ผมก็ยังจะไม่ลืม แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 15 ปีแล้วก็ตาม อีกเดือนกว่าๆ จะครบรอบ16ปีวันที่ 17 เมษายน 2552 ของการลอบสังหารผมบริเวณใกล้ๆ สี่แยกบางขุนพรหม ระหว่างเดินทางไปจัดรายการ Good Morning Thailand ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ที่ถนนพระอาทิตย์แล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปีกว่าแล้ว แต่เหตุการณ์ยังเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่เลย.ผู้ต้องหาลอบยิงผมนั้นมีอยู่ 3 คน จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2556 และ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือนายอรรถพล ปาทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าว กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการดักฟังโทรศัพท์อย่างมาก อดีตเคยเป็นคนขับรถของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ครั้งเป็นผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อย กองบังคับการกรมรบพิเศษ ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี.ล่าสุด มีความคืบหน้าเรื่องหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยิงผม คือ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือชื่อ นายอรรถพล ปาทาน จากแหล่งข่าวที่ผมมีอยู่ในประเทศกัมพูชา เขาบอกว่าเขาเพิ่งเจอมือปืนที่ยิงผมเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เขาระบุว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศกัมพูชาเป็นสิบปีแล้ว เปลี่ยนชื่อตัวเองว่า "ฉัตร" มีบัตรประชาชนเป็นพลเมืองกัมพูชาไปแล้ว มีครอบครัว มีภรรยาเป็นชาวกัมพูชา มีลูกด้วยกันแต่เลิกรากันไปแล้ว และส่งเสียเงินมาเลี้ยงดูลูกเมียที่อยู่ฝั่งไทย ฐานะการเงินของ ส.ต.ท.วรวุฒิ ในปัจจุบันถือว่าใช้ได้ เพราะทำงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอยู่ประเทศกัมพูชา มีรถราใช้ เป็นรถยนต์อีซูซุ รุ่น MUX ตอนนี้เห็นว่ารับงานก่อสร้างต่อเติมอยู่ที่กาสิโนฝั่งปอยเปต ของคุณวัฒนา อัศวเหม ที่โดนไฟไหม้ใหญ่ไปเมื่อปลายปี 2565 สายสืบผมเก็บข้อมูลเชิงลึกเห็นว่า มีนายทุนที่เป็นคนไทย มีแบ็กคอยดูแลอยู่ ชื่อ เสี่ยพัฒน์ เป็นเจ้าของโรงงานผลิตน้ำตาลในไทย คอยให้ความช่วยเหลือ เมื่อมกราคม 2568 ปีใหม่ที่ผ่านมา ส.ต.ท.วรวุฒิ บ่นอิจฉาเพื่อนๆว่าได้กลับบ้านเกิด ส่วนตัวคุณไม่มีปัญญาที่จะกลับบ้านเหมือนคนอื่นเขา เบอร์โทรศัพท์ที่ลงด้วยเลขหมาย 197 เป็นของคุณใช่ไหม ตอบผมหน่อย รอรับสายผมนะ ผมรอคุณมา 15 ปีเต็มๆ ผมอยากจะทราบว่านายคุณให้ค่าหัวผมเท่าไรวะ คุณถึงรับงานมายิงผม .ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมจะต้องร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐบาลทุกๆ รัฐบาล คือเรื่องความเป็นธรรมของการดำเนินคดีกับคนที่ลอบฆ่าผม ซึ่งผมรู้ว่าใครเป็นคนลงมือและใครเป็นคนสั่ง ผมก็จะทำเรื่องร้องเรียนไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้หมายจับนี้เป็นคนที่ยิงผม และผมมีหลักฐานชัดเจนว่าหลบอยู่ที่กัมพูชา ไม่ทราบว่าท่านนายกรัฐมนตรีท่านจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป.คนๆนี้มีหมายจับอยู่แล้ว เวรกรรมตามทันจริงๆ จากนี้ไปเขาคงไม่มีความสุขถ้ายังมีชีวิตอยู่ เพราะว่าผมรู้ตัวตน รู้แหล่งที่อยู่เขาเรียบร้อยแล้ว เชื่อผมสิ คนทำชั่วหนีไม่พ้นหรอก ในที่สุดจะต้องโดนเวรกรรมลงโทษ ช้าหรือเร็วเท่านั้น "สวัสดีคุณฉัตร" คุณฉัตรครับ ผมยังไม่ลืมคุณ.เผอิญมีตำรวจที่ให้สัมภาษณ์เรื่องผมโดนยิงกับ หนุ่ม คงกระพัน ทำเป็นรู้เรื่องดี คุยโวโอ้อวดแล้วบอกว่าเป็นคนทำคดีนี้เอง รู้ทุกอย่างนั้น ก็เป็นคนที่ติดตามคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ตำรวจคนนี้ชื่อเล่นว่า "ยาว" พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ อดีตเคยเป็นสืบนครบาล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 แต่ชอบมีคนอวยว่าเป็นเชอร์ล็อกโฮล์มของเมืองไทย ส่วนตัวเองก็อวดอ้างว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ และเผอิญว่าลูกเขยของ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ ชื่ออะไร รู้ไหมท่านผู้ชม ? ชื่อว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ นายปอ หนึ่งในจำเลยคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโมนั่นเอง เผอิญเห็นคุยนักคุยหนาว่าคุณทำคดีที่ลอบยิงผม รู้ทุกเรื่อง แล้วก็เคยบอกว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ น่าเสียดายที่คุณเกษียณอายุไปนานแล้ว 13-14 ปี ไม่อย่างนั้นผมก็อยากให้ไปตามเรื่องให้ผมหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่มีวันจะลืม
    ผมไม่เคยลืม“ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ”คนทำชั่วลอบยิงผมแล้วหนีไปอยู่เขมร ผมรอ15ปีเต็มๆ .เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยลืม ให้ผมตายไป ผมก็ยังจะไม่ลืม แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 15 ปีแล้วก็ตาม อีกเดือนกว่าๆ จะครบรอบ16ปีวันที่ 17 เมษายน 2552 ของการลอบสังหารผมบริเวณใกล้ๆ สี่แยกบางขุนพรหม ระหว่างเดินทางไปจัดรายการ Good Morning Thailand ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ที่ถนนพระอาทิตย์แล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปีกว่าแล้ว แต่เหตุการณ์ยังเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่เลย.ผู้ต้องหาลอบยิงผมนั้นมีอยู่ 3 คน จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2556 และ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือนายอรรถพล ปาทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าว กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการดักฟังโทรศัพท์อย่างมาก อดีตเคยเป็นคนขับรถของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ครั้งเป็นผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อย กองบังคับการกรมรบพิเศษ ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี.ล่าสุด มีความคืบหน้าเรื่องหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยิงผม คือ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือชื่อ นายอรรถพล ปาทาน จากแหล่งข่าวที่ผมมีอยู่ในประเทศกัมพูชา เขาบอกว่าเขาเพิ่งเจอมือปืนที่ยิงผมเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เขาระบุว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศกัมพูชาเป็นสิบปีแล้ว เปลี่ยนชื่อตัวเองว่า "ฉัตร" มีบัตรประชาชนเป็นพลเมืองกัมพูชาไปแล้ว มีครอบครัว มีภรรยาเป็นชาวกัมพูชา มีลูกด้วยกันแต่เลิกรากันไปแล้ว และส่งเสียเงินมาเลี้ยงดูลูกเมียที่อยู่ฝั่งไทย ฐานะการเงินของ ส.ต.ท.วรวุฒิ ในปัจจุบันถือว่าใช้ได้ เพราะทำงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอยู่ประเทศกัมพูชา มีรถราใช้ เป็นรถยนต์อีซูซุ รุ่น MUX ตอนนี้เห็นว่ารับงานก่อสร้างต่อเติมอยู่ที่กาสิโนฝั่งปอยเปต ของคุณวัฒนา อัศวเหม ที่โดนไฟไหม้ใหญ่ไปเมื่อปลายปี 2565 สายสืบผมเก็บข้อมูลเชิงลึกเห็นว่า มีนายทุนที่เป็นคนไทย มีแบ็กคอยดูแลอยู่ ชื่อ เสี่ยพัฒน์ เป็นเจ้าของโรงงานผลิตน้ำตาลในไทย คอยให้ความช่วยเหลือ เมื่อมกราคม 2568 ปีใหม่ที่ผ่านมา ส.ต.ท.วรวุฒิ บ่นอิจฉาเพื่อนๆว่าได้กลับบ้านเกิด ส่วนตัวคุณไม่มีปัญญาที่จะกลับบ้านเหมือนคนอื่นเขา เบอร์โทรศัพท์ที่ลงด้วยเลขหมาย 197 เป็นของคุณใช่ไหม ตอบผมหน่อย รอรับสายผมนะ ผมรอคุณมา 15 ปีเต็มๆ ผมอยากจะทราบว่านายคุณให้ค่าหัวผมเท่าไรวะ คุณถึงรับงานมายิงผม .ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมจะต้องร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐบาลทุกๆ รัฐบาล คือเรื่องความเป็นธรรมของการดำเนินคดีกับคนที่ลอบฆ่าผม ซึ่งผมรู้ว่าใครเป็นคนลงมือและใครเป็นคนสั่ง ผมก็จะทำเรื่องร้องเรียนไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้หมายจับนี้เป็นคนที่ยิงผม และผมมีหลักฐานชัดเจนว่าหลบอยู่ที่กัมพูชา ไม่ทราบว่าท่านนายกรัฐมนตรีท่านจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป.คนๆนี้มีหมายจับอยู่แล้ว เวรกรรมตามทันจริงๆ จากนี้ไปเขาคงไม่มีความสุขถ้ายังมีชีวิตอยู่ เพราะว่าผมรู้ตัวตน รู้แหล่งที่อยู่เขาเรียบร้อยแล้ว เชื่อผมสิ คนทำชั่วหนีไม่พ้นหรอก ในที่สุดจะต้องโดนเวรกรรมลงโทษ ช้าหรือเร็วเท่านั้น "สวัสดีคุณฉัตร" คุณฉัตรครับ ผมยังไม่ลืมคุณ.เผอิญมีตำรวจที่ให้สัมภาษณ์เรื่องผมโดนยิงกับ หนุ่ม คงกระพัน ทำเป็นรู้เรื่องดี คุยโวโอ้อวดแล้วบอกว่าเป็นคนทำคดีนี้เอง รู้ทุกอย่างนั้น ก็เป็นคนที่ติดตามคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ตำรวจคนนี้ชื่อเล่นว่า "ยาว" พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ อดีตเคยเป็นสืบนครบาล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 แต่ชอบมีคนอวยว่าเป็นเชอร์ล็อกโฮล์มของเมืองไทย ส่วนตัวเองก็อวดอ้างว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ และเผอิญว่าลูกเขยของ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ ชื่ออะไร รู้ไหมท่านผู้ชม ? ชื่อว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ นายปอ หนึ่งในจำเลยคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโมนั่นเอง เผอิญเห็นคุยนักคุยหนาว่าคุณทำคดีที่ลอบยิงผม รู้ทุกเรื่อง แล้วก็เคยบอกว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ น่าเสียดายที่คุณเกษียณอายุไปนานแล้ว 13-14 ปี ไม่อย่างนั้นผมก็อยากให้ไปตามเรื่องให้ผมหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่มีวันจะลืม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2541
    เหรียญหยดน้ำหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2541 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวปลุกเสก ร่วมกับเกจิสายใต้หลายท่าน //พระสถาพสวยมาก สถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเด่นทาง เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งคงกระพันชาตรี โด่งดังไปทั่วประเทศ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ดีนัก. เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >>

    ** พระดีพิธิใหญ่ อ.นอง วัดทรายขาว เป็นประธานในพิธีปลุกเสก ร่วมกับเกจิสายใต้หลายท่าน ปลุกเสก 2 วัด 2 วาระ ปลุกเสก วัดทรายขาว, วัดช้างให้ มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8.พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา ร่วมปลุกเสก >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2541 เหรียญหยดน้ำหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2541 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวปลุกเสก ร่วมกับเกจิสายใต้หลายท่าน //พระสถาพสวยมาก สถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเด่นทาง เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งคงกระพันชาตรี โด่งดังไปทั่วประเทศ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ดีนัก. เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >> ** พระดีพิธิใหญ่ อ.นอง วัดทรายขาว เป็นประธานในพิธีปลุกเสก ร่วมกับเกจิสายใต้หลายท่าน ปลุกเสก 2 วัด 2 วาระ ปลุกเสก วัดทรายขาว, วัดช้างให้ มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8.พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา ร่วมปลุกเสก >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ที่ผ่านมาอะใช่
    เรื่องโดนอิเหม็นตะหวาดบ้าง
    เรื่องอิเหม็นตะคอกบ้าง
    นอยทีหายไปซักแว๊บนึง
    แล้วพอสะกดจิตตัวเองได้ก็กลับมาใหม่
    แต่รอบนี้ไม่ใช่ รอบนี้อะนะ
    ด้วยความสนุกสนานในกะลา
    ฟ๊องคนโน้น ฟ๊องคนนี้ ด้วยลายเซ็นของอิเหม็น
    พอฟ๊องเข้าจริงๆ แม่มมมลืมไป ลืมตัว
    ว่าตัวมันเองต้องอยู่ในประเทศไทยเหมือนกัน
    แล้วพยายามอ้าง ดิ้นว่า ตัวเองไม่เหี่ยว เอ้ย ไม่เกี่ยว
    แต่คนที่ไม่ชอบมันเป็นพยานเพียบบบบ
    จะอยู่ยังไง ทั้งวงการข่าว ทั้งวงการบันเทิง
    อย่างบอส ณวัฒน์ มีสแกรนมีแทบทุกจังหวัด
    อยู่ยังไงได้ก่อน ปิดยูซแม่มมมเลย
    ความป๊อดมาเต็ม ความบันเทิงเยือนถึงหน้าบ้าน
    แล้วคนที่มันปั่นจนฟ๊องแต่ละคน
    เค้าเตรียมฟ๊องกลับทุกราย ยายน้องเหม็นก็จะบันเทิง
    ตัวมันเองก็ยิ่งบันเทิง
    กรูเคยเตือนเมิงแล้ว ไปบ๊าให้เงียบๆ
    เxือกบ๊าแบบเล่นใหญ่ ไม่รอด รอบนี้
    เมิงเจอคนดังรวมตัวจัดคอมโบ้ให้เมิงแน่นวล
    สนธิงี้ ณวัฒน์งี้ อัมรินทร์งี้
    เอาสมองหรือซ๊งทรีนคิด เอาจริง
    ทุ๊ย!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #ที่ผ่านมาอะใช่ เรื่องโดนอิเหม็นตะหวาดบ้าง เรื่องอิเหม็นตะคอกบ้าง นอยทีหายไปซักแว๊บนึง แล้วพอสะกดจิตตัวเองได้ก็กลับมาใหม่ แต่รอบนี้ไม่ใช่ รอบนี้อะนะ ด้วยความสนุกสนานในกะลา ฟ๊องคนโน้น ฟ๊องคนนี้ ด้วยลายเซ็นของอิเหม็น พอฟ๊องเข้าจริงๆ แม่มมมลืมไป ลืมตัว ว่าตัวมันเองต้องอยู่ในประเทศไทยเหมือนกัน แล้วพยายามอ้าง ดิ้นว่า ตัวเองไม่เหี่ยว เอ้ย ไม่เกี่ยว แต่คนที่ไม่ชอบมันเป็นพยานเพียบบบบ จะอยู่ยังไง ทั้งวงการข่าว ทั้งวงการบันเทิง อย่างบอส ณวัฒน์ มีสแกรนมีแทบทุกจังหวัด อยู่ยังไงได้ก่อน ปิดยูซแม่มมมเลย ความป๊อดมาเต็ม ความบันเทิงเยือนถึงหน้าบ้าน แล้วคนที่มันปั่นจนฟ๊องแต่ละคน เค้าเตรียมฟ๊องกลับทุกราย ยายน้องเหม็นก็จะบันเทิง ตัวมันเองก็ยิ่งบันเทิง กรูเคยเตือนเมิงแล้ว ไปบ๊าให้เงียบๆ เxือกบ๊าแบบเล่นใหญ่ ไม่รอด รอบนี้ เมิงเจอคนดังรวมตัวจัดคอมโบ้ให้เมิงแน่นวล สนธิงี้ ณวัฒน์งี้ อัมรินทร์งี้ เอาสมองหรือซ๊งทรีนคิด เอาจริง ทุ๊ย! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨พระผง #วัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาเล็กจัดสร้างระหว่างปีพ.ศ.2514-2516 โดยตามประวัติหลวงตาเหลือ วัดพลับเป็นผู้รวบรวมผงโดยส่วนใหญ่มาจากเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผงเก่าตั้งแต่ต้นสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วนำผงแป้งเหล่านี้มาปั้นเป็นแท่งและลบให้เป็นผงวิเศษทั้งห้า เมื่อจัดสร้างพระแล้วเสร็จได้นำไปขอให้ #หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีปลุกเสกให้อย่างเข้มขลังตลอดไตรมาส ด้านพุทธคุณจึงเป็นที่ยอมรับว่าเด่นดีทางด้านเมตตามหานิยมยิ่งนัก
    ✨พระผง #วัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาเล็กจัดสร้างระหว่างปีพ.ศ.2514-2516 โดยตามประวัติหลวงตาเหลือ วัดพลับเป็นผู้รวบรวมผงโดยส่วนใหญ่มาจากเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผงเก่าตั้งแต่ต้นสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วนำผงแป้งเหล่านี้มาปั้นเป็นแท่งและลบให้เป็นผงวิเศษทั้งห้า เมื่อจัดสร้างพระแล้วเสร็จได้นำไปขอให้ #หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีปลุกเสกให้อย่างเข้มขลังตลอดไตรมาส ด้านพุทธคุณจึงเป็นที่ยอมรับว่าเด่นดีทางด้านเมตตามหานิยมยิ่งนัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวบมาดามบอสเต๋ ปิดตำนานซิมเคโฟร์

    การจับกุม น.ส.เริงฤดี ลักษณะหุต หรือบอสเต๋ อายุ 45 ปี กรรมการบริษัท ปันสุข 555 จำกัด และ น.ส.พรพิมล สีลาดเลา อายุ 30 ปี กรรมการบริษัท เคโฟร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด หลานสาว น.ส.เริงฤดี ของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 24 ก.พ. 2568 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน 413 รายการ มีทั้งตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข 258 ตู้ รถยนต์ 11 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องประดับ ที่ดินปราจีนบุรี 4 แปลง รวมมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ถือเป็นการปิดฉากอีกหนึ่งธุรกิจเครือข่ายต่อจากดิไอคอนกรุ๊ป

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2567 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร นำผู้เสียหาย 8 คน แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ปคบ. ว่าถูกชักชวนหลอกลงทุนซิมการ์ดและตู้เติมเงิน 5,000 บาท จะได้ผลตอบแทน 3 เท่าภายใน 500 วัน และอ้างว่าได้รับอนุญาตจาก กสทช. ปรากฎว่าไม่ได้รับผลตอบแทนมา 2 เดือน เมื่อทวงถามก็ถูกข่มขู่ว่าจะแจ้งความกลับ ต่อมามีผู้เสียหายร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. รวม 61 ราย มูลค่าความเสียหาย 27,557,701 บาท

    สืบสวนพบว่าผู้ต้องหาชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนซิมเคโฟร์ ซึ่งเช่าโครงข่ายเสมือน (MVNO) จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข เสนอแพ็คเกจลงทุน 50,000 บาท รับผลตอบแทนสูงสุด 150,000 บาท ภายใน 500 วัน และขยายตัวแทนจำหน่ายไปยังจังหวัดต่างๆ จัดการอบรมสัมมนาชักชวนร่วมลงทุน โดยจะได้รับส่วนแบ่งสูงสุดถึง 50% ของค่าสมัคร อีกทั้งธุรกิจตู้เติมเงินเคธี่ปันสุขไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบเงินหมุนเวียนในบัญชีบริษัทกว่า 400 ล้านบาท และมีการยักย้ายถ่ายโอนแปรสภาพเงินเป็นทรัพย์สินต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    ด้านสำนักงาน กสทช. เตรียมนำเรื่องนี้ไปหารือเพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ พร้อมหารือกับ NT ให้ออกมาตรการเยียวยาผู้ใช้งานซิมเคโฟร์ 40,000 รายอีกด้วย

    สำหรับซิมเคโฟร์เปิดตัวเมื่อเดือน เม.ย. 2566 ก่อนเปิดตัวตู้เติมเงินเคธี่ปันสุขเมื่อต้นปี 2567 ต่อมาสำนักงาน กสทช. ได้รับการร้องเรียนว่ามีการชักชวนลงทุนให้ผลตอบแทนสูง อ้างว่าได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. จึงสั่งยุติการขายหรือแจกซิมมือถือ นอกจากนี้ยังพบว่าได้รับการจัดสรรเลขหมาย 331,000 เลขหมาย แต่ใช้งานจริงเพียง 46,000 เลขหมาย เติมเงินเฉลี่ยเพียงเลขหมายละ 38 บาท สอดคล้องกับที่แจ้งว่ามีรายได้ประมาณปีละ 5 ล้านบาท และจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปีละ 7,000 บาท

    #Newskit
    รวบมาดามบอสเต๋ ปิดตำนานซิมเคโฟร์ การจับกุม น.ส.เริงฤดี ลักษณะหุต หรือบอสเต๋ อายุ 45 ปี กรรมการบริษัท ปันสุข 555 จำกัด และ น.ส.พรพิมล สีลาดเลา อายุ 30 ปี กรรมการบริษัท เคโฟร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด หลานสาว น.ส.เริงฤดี ของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 24 ก.พ. 2568 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน 413 รายการ มีทั้งตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข 258 ตู้ รถยนต์ 11 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องประดับ ที่ดินปราจีนบุรี 4 แปลง รวมมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ถือเป็นการปิดฉากอีกหนึ่งธุรกิจเครือข่ายต่อจากดิไอคอนกรุ๊ป ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2567 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร นำผู้เสียหาย 8 คน แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ปคบ. ว่าถูกชักชวนหลอกลงทุนซิมการ์ดและตู้เติมเงิน 5,000 บาท จะได้ผลตอบแทน 3 เท่าภายใน 500 วัน และอ้างว่าได้รับอนุญาตจาก กสทช. ปรากฎว่าไม่ได้รับผลตอบแทนมา 2 เดือน เมื่อทวงถามก็ถูกข่มขู่ว่าจะแจ้งความกลับ ต่อมามีผู้เสียหายร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. รวม 61 ราย มูลค่าความเสียหาย 27,557,701 บาท สืบสวนพบว่าผู้ต้องหาชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนซิมเคโฟร์ ซึ่งเช่าโครงข่ายเสมือน (MVNO) จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข เสนอแพ็คเกจลงทุน 50,000 บาท รับผลตอบแทนสูงสุด 150,000 บาท ภายใน 500 วัน และขยายตัวแทนจำหน่ายไปยังจังหวัดต่างๆ จัดการอบรมสัมมนาชักชวนร่วมลงทุน โดยจะได้รับส่วนแบ่งสูงสุดถึง 50% ของค่าสมัคร อีกทั้งธุรกิจตู้เติมเงินเคธี่ปันสุขไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบเงินหมุนเวียนในบัญชีบริษัทกว่า 400 ล้านบาท และมีการยักย้ายถ่ายโอนแปรสภาพเงินเป็นทรัพย์สินต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ด้านสำนักงาน กสทช. เตรียมนำเรื่องนี้ไปหารือเพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ พร้อมหารือกับ NT ให้ออกมาตรการเยียวยาผู้ใช้งานซิมเคโฟร์ 40,000 รายอีกด้วย สำหรับซิมเคโฟร์เปิดตัวเมื่อเดือน เม.ย. 2566 ก่อนเปิดตัวตู้เติมเงินเคธี่ปันสุขเมื่อต้นปี 2567 ต่อมาสำนักงาน กสทช. ได้รับการร้องเรียนว่ามีการชักชวนลงทุนให้ผลตอบแทนสูง อ้างว่าได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. จึงสั่งยุติการขายหรือแจกซิมมือถือ นอกจากนี้ยังพบว่าได้รับการจัดสรรเลขหมาย 331,000 เลขหมาย แต่ใช้งานจริงเพียง 46,000 เลขหมาย เติมเงินเฉลี่ยเพียงเลขหมายละ 38 บาท สอดคล้องกับที่แจ้งว่ามีรายได้ประมาณปีละ 5 ล้านบาท และจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปีละ 7,000 บาท #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • Idemitsu Kosan บริษัทน้ำมันอันดับสองของญี่ปุ่น วางแผนจะสร้างโรงงานผลิตลิเทียมซัลไฟด์ (Lithium Sulphide) ขนาดใหญ่ที่โรงกลั่นน้ำมันในจังหวัดชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Idemitsu และ Toyota เพื่อการค้าแบตเตอรี่รุ่นถัดไปและสนับสนุนเป้าหมายของ Toyota ในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่สถานะของแข็งภายในปี 2027-2028 โดยแบตเตอรี่ Solid-State นี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น มีระยะเวลาใช้งานยาวนานขึ้น และมีการชาร์จไฟที่เร็วกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดิม

    Idemitsu วางแผนจะสร้างโรงงานใหม่ภายในเดือนมิถุนายน 2027 ด้วยงบประมาณประมาณ 21.3 พันล้านเยน (ประมาณ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งโรงงานนี้จะมีความสามารถในการผลิตลิเทียมซัลไฟด์จำนวน 1,000 เมตริกตันต่อปี เพียงพอสำหรับแบตเตอรี่สถานะของแข็งของรถยนต์ไฟฟ้า 50,000-60,000 คัน

    Tetsuji Mishina เจ้าหน้าที่บริหารของ Idemitsu กล่าวว่าบริษัทกำลังพิจารณาการลงทุนในโรงงานนำร่องขนาดใหญ่สำหรับอิเล็กโทรไลต์แข็ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแบตเตอรี่ Solid-State และคาดว่าจะตัดสินใจในปีงบประมาณ 2025

    นอกจากนี้ Idemitsu ยังมองหาการจัดหาลิเทียมที่มั่นคงจากแหล่งในออสเตรเลียและแหล่งอื่น ๆ ทั่วโลก Mishina ยังกล่าวว่า "ความท้าทายสำคัญในการยอมรับแบตเตอรี่ Solid-State ทั่วโลกคือการลดต้นทุนของอิเล็กโทรไลต์แข็ง"

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/27/japan039s-idemitsu-to-build-lithium-sulphide-plant-to-help-support-toyota039s-ev-plans
    Idemitsu Kosan บริษัทน้ำมันอันดับสองของญี่ปุ่น วางแผนจะสร้างโรงงานผลิตลิเทียมซัลไฟด์ (Lithium Sulphide) ขนาดใหญ่ที่โรงกลั่นน้ำมันในจังหวัดชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Idemitsu และ Toyota เพื่อการค้าแบตเตอรี่รุ่นถัดไปและสนับสนุนเป้าหมายของ Toyota ในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่สถานะของแข็งภายในปี 2027-2028 โดยแบตเตอรี่ Solid-State นี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น มีระยะเวลาใช้งานยาวนานขึ้น และมีการชาร์จไฟที่เร็วกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดิม Idemitsu วางแผนจะสร้างโรงงานใหม่ภายในเดือนมิถุนายน 2027 ด้วยงบประมาณประมาณ 21.3 พันล้านเยน (ประมาณ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งโรงงานนี้จะมีความสามารถในการผลิตลิเทียมซัลไฟด์จำนวน 1,000 เมตริกตันต่อปี เพียงพอสำหรับแบตเตอรี่สถานะของแข็งของรถยนต์ไฟฟ้า 50,000-60,000 คัน Tetsuji Mishina เจ้าหน้าที่บริหารของ Idemitsu กล่าวว่าบริษัทกำลังพิจารณาการลงทุนในโรงงานนำร่องขนาดใหญ่สำหรับอิเล็กโทรไลต์แข็ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแบตเตอรี่ Solid-State และคาดว่าจะตัดสินใจในปีงบประมาณ 2025 นอกจากนี้ Idemitsu ยังมองหาการจัดหาลิเทียมที่มั่นคงจากแหล่งในออสเตรเลียและแหล่งอื่น ๆ ทั่วโลก Mishina ยังกล่าวว่า "ความท้าทายสำคัญในการยอมรับแบตเตอรี่ Solid-State ทั่วโลกคือการลดต้นทุนของอิเล็กโทรไลต์แข็ง" https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/27/japan039s-idemitsu-to-build-lithium-sulphide-plant-to-help-support-toyota039s-ev-plans
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Japan's Idemitsu to build lithium sulphide plant to help support Toyota's EV plans
    ANEGASAKI, Japan (Reuters) - Japan's No.2 oil refiner, Idemitsu Kosan plans to build a large-scale plant for lithium sulphide, a key material for all-solid-state batteries, at its Chiba refinery, near Tokyo, the company said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อหลวงพ่อทวด รุ่นเพชรพนมวัง ถ้ำเพชรพนมวัง จ.สุราษฎร์ธานี ปี2539
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด เนื้อทองเหลือง รุ่นเพชรพนมวัง ถ้ำเพชรพนมวัง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวปลุกเสกกับคณาจารย์ที่เก่งๆ ในยุคนั้น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงพ่อทวดเพชรพนมวัง วัดเพชรพนมวัง สุราษฎร์ธานี ปี 2539 ปลุกเสกโดยอาจารย์นอง วัดทรายขาวกับคณาจารย์ที่เก่งๆ ในยุคนั้น ปัจจุบันพระเครื่องปู่ทวด ที่ทันอาจารย์นองเสกนั้น ราคาขยับไปแรงมาก ส่วนที่ท่านสร้างให้ไว้กับวัดอื่นๆ ก็ล้วนขยับตามไปแล้ว แต่ที่น่าจับตามองก็ปู่ทวดเพชรพนมวัง วัดเพชรพนมวัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะเนื้อโลหะผสม กำลังมีการซุ่มเก็บเงียบ เนื่องจากพุทธศิลป์ และพิธี รวมทั้งทันอาจารย์เสกด้วย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด รุ่นเพชรพนมวัง ถ้ำเพชรพนมวัง จ.สุราษฎร์ธานี ปี2539 รูปหล่อหลวงพ่อทวด เนื้อทองเหลือง รุ่นเพชรพนมวัง ถ้ำเพชรพนมวัง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวปลุกเสกกับคณาจารย์ที่เก่งๆ ในยุคนั้น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงพ่อทวดเพชรพนมวัง วัดเพชรพนมวัง สุราษฎร์ธานี ปี 2539 ปลุกเสกโดยอาจารย์นอง วัดทรายขาวกับคณาจารย์ที่เก่งๆ ในยุคนั้น ปัจจุบันพระเครื่องปู่ทวด ที่ทันอาจารย์นองเสกนั้น ราคาขยับไปแรงมาก ส่วนที่ท่านสร้างให้ไว้กับวัดอื่นๆ ก็ล้วนขยับตามไปแล้ว แต่ที่น่าจับตามองก็ปู่ทวดเพชรพนมวัง วัดเพชรพนมวัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะเนื้อโลหะผสม กำลังมีการซุ่มเก็บเงียบ เนื่องจากพุทธศิลป์ และพิธี รวมทั้งทันอาจารย์เสกด้วย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์5 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์5 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ปี2554 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง มีประสบการณ์สูง // พระสถาพสวยมาก เลียมกรอบพร้อมใช้ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม คงกระพัน และแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง โชคลาภค้าขาย บารมี เรียกทรัพย์ เสริมดวง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย >>

    ** หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นเสาร์ 5 วัดพระมหาธาตุวรวิหาร นครศรีธรรมราช ปี 2554 จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณไมตรี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีฯ สร้างถูกต้องตามตำรับศรีวิชัยทุกประการ และที่สำคัญจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระธาตุ ในวันเสาร์ 5 ซึ่งถือว่าเป็นวันแรง แน่นอนว่าในวันเสาร์ห้า มักจะมีพิธีพุทธาภิเษกออกมาจากแทบทุกสำนัก แต่บางรุ่นดูฤกษ์ดูยามไม่ดีติดพิษครุฑ หากสนใจเรื่องพิษครุฑคืออะไรลองค้นกูเกิ้ลดู แต่พิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้เลือกปลุกเสกในช่วงบ่ายแก่ๆ ไม่เน้นว่าต้องสะดวกสบายต่อผู้มาร่วมพิธี แต่เน้นฤกษ์ยามที่ดีตามตำรับโบราณ บวกกับความแรงของวันเสาร์ห้าซึ่งเป็นวันแรง สำหรับฏกษ์ที่เลือกมาปลุกเสกพระเครื่องรุ่นนี้ >>

    ** พระสถาพสวยมาก เลียมกรอบพร้อมใช้ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์5 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์5 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ปี2554 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง มีประสบการณ์สูง // พระสถาพสวยมาก เลียมกรอบพร้อมใช้ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม คงกระพัน และแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง โชคลาภค้าขาย บารมี เรียกทรัพย์ เสริมดวง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย >> ** หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นเสาร์ 5 วัดพระมหาธาตุวรวิหาร นครศรีธรรมราช ปี 2554 จัดสร้างโดยท่านเจ้าคุณไมตรี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีฯ สร้างถูกต้องตามตำรับศรีวิชัยทุกประการ และที่สำคัญจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระธาตุ ในวันเสาร์ 5 ซึ่งถือว่าเป็นวันแรง แน่นอนว่าในวันเสาร์ห้า มักจะมีพิธีพุทธาภิเษกออกมาจากแทบทุกสำนัก แต่บางรุ่นดูฤกษ์ดูยามไม่ดีติดพิษครุฑ หากสนใจเรื่องพิษครุฑคืออะไรลองค้นกูเกิ้ลดู แต่พิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้เลือกปลุกเสกในช่วงบ่ายแก่ๆ ไม่เน้นว่าต้องสะดวกสบายต่อผู้มาร่วมพิธี แต่เน้นฤกษ์ยามที่ดีตามตำรับโบราณ บวกกับความแรงของวันเสาร์ห้าซึ่งเป็นวันแรง สำหรับฏกษ์ที่เลือกมาปลุกเสกพระเครื่องรุ่นนี้ >> ** พระสถาพสวยมาก เลียมกรอบพร้อมใช้ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลรุกคืบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กัดไม่ปล่อย “ไม่จบ ไม่เลิก” เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตร-ประมง คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน

    📅 มติประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ทั้งเรื่องราคาสินค้าเกษตร การเยียวยาอุตสาหกรรมประมง และการคุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน โดยเน้นนโยบาย "กัดไม่ปล่อย ไม่จบ ไม่เลิก" เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

    ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ “ไม่จบ ไม่เลิก” สองกระทรวงหลักร่วมรับผิดชอบ
    การระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหนัก รัฐบาลจึงดำเนินมาตรการเข้มข้น โดยมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปราม

    กระทรวงกลาโหม ปิดช่องทางข้ามแดน ตัดเส้นทางเครือข่ายอาชญากรรม
    🔹 Seal ชายแดน 14 จังหวัด เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียงอาชญากรข้ามชาติ
    🔹 กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ การค้ามนุษย์ ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่บริเวณชายแดน
    🔹 ดำเนินมาตรการ "ตัดไฟ ตัดทางน้ำมัน" เพื่อทำลายโครงสร้างสนับสนุน ของเครือข่ายมิจฉาชีพ
    🔹 ประสานงานกับประเทศปลายทาง เช่น จีนและเมียนมา เพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
    🔹 คุมเข้มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบการทุจริต ดำเนินการลงโทษทันที

    กระทรวงดิจิทัลฯ ปิดช่องทางสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
    🔸 รื้อถอนเสาสัญญาณใกล้ชายแดน โดยปรับลดความสูง ความแรงของสัญญาณ และควบคุมทิศทางของคลื่นความถี่
    🔸 ตัดสัญญาณซิมบ็อกซ์ที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดการโทรศัพท์หลอกลวงจากต่างประเทศ
    🔸 คัดกรองเบอร์โทรต้องสงสัย (Cleansing System) ปิดกั้นหมายเลข ที่มีแนวโน้มใช้ในทางมิชอบ

    🛡️ เป้าหมายคือ การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้หมดสิ้นจากประเทศไทย!

    แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
    เศรษฐกิจภาคเกษตร เป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทย แต่ราคาพืชผลยังคงผันผวน รัฐบาลจึงเร่งดำเนินมาตรการระยะสั้น และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

    มาตรการเร่งด่วน
    ✔️ ตรึงราคาข้าวเปลือก, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, ปาล์มน้ำมัน และยางพารา
    ✔️ อุดหนุนเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ
    ✔️ ควบคุมต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และค่าแรง

    มาตรการระยะยาว
    🌱 พัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ และความต้องการของตลาด
    📡 นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) มาช่วยเพิ่มผลผลิต
    📊 เชื่อมโยงข้อมูลตลาดล่วงหน้า (Agri-Market Intelligence) เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ

    👩‍🌾 เกษตรกรไทยต้องมีรายได้ที่มั่นคง และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้!

    แก้ปัญหาวิกฤติอุตสาหกรรมประมง เร่งจ่ายเงินเยียวยา
    อุตสาหกรรมประมงของไทย ได้รับผลกระทบหนักจากนโยบาย "นำเรือออกนอกระบบ" เพื่อลดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ทำให้เจ้าของเรือจำนวนมาก ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา

    แนวทางการช่วยเหลือ
    ✅ กรมประมง และกระทรวงเกษตรฯ เร่งจ่ายเงินเยียวยา ให้เจ้าของเรือที่ได้รับผลกระทบ
    ✅ เสนอที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม
    ✅ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมประมง ให้สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล โดยไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ

    🎣 รัฐบาลยืนยันว่า ประมงไทยจะต้องอยู่รอด และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้!

    คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ปรับกฎหมายให้รัดกุมขึ้น
    ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า กำลังระบาดในกลุ่มเยาวชนอย่างหนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และการเสพติดในระยะยาว รัฐบาลจึงเร่งหามาตรการควบคุมอย่างจริงจัง

    มาตรการเร่งด่วน
    🚫 ปรับแก้ข้อกฎหมาย เพื่อให้การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
    🚫 เพิ่มโทษสำหรับการนำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต
    🚫 คุมเข้มโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้า

    มาตรการให้ความรู้เยาวชน
    📢 จัดแคมเปญให้ความรู้ เรื่องอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน
    📢 สร้างระบบแจ้งเบาะแส เพื่อให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง

    🚭 รัฐบาลมุ่งมั่นปกป้องสุขภาพเยาวชนไทย จากภัยของบุหรี่ไฟฟ้า!

    เดินหน้าปฏิบัติการ กัดไม่ปล่อย! การประชุม ครม. ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการทำงาน ที่จริงจังของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ

    ✅ กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำลายเครือข่ายอาชญากรรม
    ✅ ตรึงราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
    ✅ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมง ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
    ✅ คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ป้องกันภัยสุขภาพและการเสพติด

    🏛️ รัฐบาลยืนยัน! จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และไม่ยอมแพ้จนกว่าจะเห็นผล!

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262122 ก.พ. 2568

    📌 #รัฐบาลไทย #ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ราคาสินค้าเกษตร #ปัญหาประมง #บุหรี่ไฟฟ้า #ปกป้องเยาวชน #นโยบายรัฐ #ครม2568 #เกษตรกรไทย #หยุดแก๊งมิจฉาชีพ
    รัฐบาลรุกคืบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กัดไม่ปล่อย “ไม่จบ ไม่เลิก” เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตร-ประมง คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน 📅 มติประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ทั้งเรื่องราคาสินค้าเกษตร การเยียวยาอุตสาหกรรมประมง และการคุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน โดยเน้นนโยบาย "กัดไม่ปล่อย ไม่จบ ไม่เลิก" เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ “ไม่จบ ไม่เลิก” สองกระทรวงหลักร่วมรับผิดชอบ การระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหนัก รัฐบาลจึงดำเนินมาตรการเข้มข้น โดยมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปราม กระทรวงกลาโหม ปิดช่องทางข้ามแดน ตัดเส้นทางเครือข่ายอาชญากรรม 🔹 Seal ชายแดน 14 จังหวัด เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียงอาชญากรข้ามชาติ 🔹 กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ การค้ามนุษย์ ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่บริเวณชายแดน 🔹 ดำเนินมาตรการ "ตัดไฟ ตัดทางน้ำมัน" เพื่อทำลายโครงสร้างสนับสนุน ของเครือข่ายมิจฉาชีพ 🔹 ประสานงานกับประเทศปลายทาง เช่น จีนและเมียนมา เพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 🔹 คุมเข้มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบการทุจริต ดำเนินการลงโทษทันที กระทรวงดิจิทัลฯ ปิดช่องทางสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 🔸 รื้อถอนเสาสัญญาณใกล้ชายแดน โดยปรับลดความสูง ความแรงของสัญญาณ และควบคุมทิศทางของคลื่นความถี่ 🔸 ตัดสัญญาณซิมบ็อกซ์ที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดการโทรศัพท์หลอกลวงจากต่างประเทศ 🔸 คัดกรองเบอร์โทรต้องสงสัย (Cleansing System) ปิดกั้นหมายเลข ที่มีแนวโน้มใช้ในทางมิชอบ 🛡️ เป้าหมายคือ การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้หมดสิ้นจากประเทศไทย! แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร เศรษฐกิจภาคเกษตร เป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทย แต่ราคาพืชผลยังคงผันผวน รัฐบาลจึงเร่งดำเนินมาตรการระยะสั้น และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร มาตรการเร่งด่วน ✔️ ตรึงราคาข้าวเปลือก, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ✔️ อุดหนุนเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ ✔️ ควบคุมต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และค่าแรง มาตรการระยะยาว 🌱 พัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ และความต้องการของตลาด 📡 นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) มาช่วยเพิ่มผลผลิต 📊 เชื่อมโยงข้อมูลตลาดล่วงหน้า (Agri-Market Intelligence) เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ 👩‍🌾 เกษตรกรไทยต้องมีรายได้ที่มั่นคง และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้! แก้ปัญหาวิกฤติอุตสาหกรรมประมง เร่งจ่ายเงินเยียวยา อุตสาหกรรมประมงของไทย ได้รับผลกระทบหนักจากนโยบาย "นำเรือออกนอกระบบ" เพื่อลดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ทำให้เจ้าของเรือจำนวนมาก ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา แนวทางการช่วยเหลือ ✅ กรมประมง และกระทรวงเกษตรฯ เร่งจ่ายเงินเยียวยา ให้เจ้าของเรือที่ได้รับผลกระทบ ✅ เสนอที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ✅ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมประมง ให้สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล โดยไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ 🎣 รัฐบาลยืนยันว่า ประมงไทยจะต้องอยู่รอด และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้! คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ปรับกฎหมายให้รัดกุมขึ้น ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า กำลังระบาดในกลุ่มเยาวชนอย่างหนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และการเสพติดในระยะยาว รัฐบาลจึงเร่งหามาตรการควบคุมอย่างจริงจัง มาตรการเร่งด่วน 🚫 ปรับแก้ข้อกฎหมาย เพื่อให้การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายชัดเจนยิ่งขึ้น 🚫 เพิ่มโทษสำหรับการนำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต 🚫 คุมเข้มโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้า มาตรการให้ความรู้เยาวชน 📢 จัดแคมเปญให้ความรู้ เรื่องอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน 📢 สร้างระบบแจ้งเบาะแส เพื่อให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง 🚭 รัฐบาลมุ่งมั่นปกป้องสุขภาพเยาวชนไทย จากภัยของบุหรี่ไฟฟ้า! เดินหน้าปฏิบัติการ กัดไม่ปล่อย! การประชุม ครม. ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการทำงาน ที่จริงจังของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ✅ กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำลายเครือข่ายอาชญากรรม ✅ ตรึงราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ✅ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมง ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ✅ คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ป้องกันภัยสุขภาพและการเสพติด 🏛️ รัฐบาลยืนยัน! จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และไม่ยอมแพ้จนกว่าจะเห็นผล! ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262122 ก.พ. 2568 📌 #รัฐบาลไทย #ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ราคาสินค้าเกษตร #ปัญหาประมง #บุหรี่ไฟฟ้า #ปกป้องเยาวชน #นโยบายรัฐ #ครม2568 #เกษตรกรไทย #หยุดแก๊งมิจฉาชีพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • โศกนาฏกรรมบัสดูงานเทศบาลพรเจริญ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน เสียชีวิต 18 ศพ เจ็บ 23 ราย สูญหาย 1 คน

    เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 03.30 น. เมื่อรถบัสสองชั้น นำคณะดูงานจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วง กม. 210+500 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

    เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 16 ศพ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอีก 2 ศพ รวมเป็น 18 ศพ บาดเจ็บอีก 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากลมเบรกหมด และคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง

    🚍 เจ้าหน้าที่พบรถบัส 2 ชั้น ยี่ห้อสแกนเนีย หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ พลิกคะแคงอยู่นอกแบริเออร์ ในที่เกิดอุบัติเหตุ หลังคารถถูกเปิดออก สภาพพังยับเยิน

    🔴 ผู้โดยสารกระเด็นออกจากตัวรถ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั่งชั้นสอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย

    ⚰️ มีการยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด 18 ศพ ซึ่งประกอบด้วยชาย 2 ราย และหญิง 16 ราย

    1. น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร
    2. น.ส. ปภัสสร ทองปาน
    3. น.ส. พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร
    4. น.ส. ทองอินทร์ จันทรอ่อน
    5. น.ส. อภิญญา บุตรวัง
    6. นางเลียว ไชยเสนา
    7. น.ส. สุจิตตรา วิเศษทรัพย์
    8. น.ส. บัวเงิน สุดาบุตร
    9. นางมะโยลี วงศ์สุภา
    10. นางสมบุญ ธิพัน
    11. นางสมหวัง พรหมพิทักษ์
    12. นางประหยัด เสียงล้ำ
    13. นางทองใบ สอนเชียงคำ
    14. น.ส.ฤานรินทร์ จ่าพบ
    15. นางราตรี ลบพันธ์ทอง
    16. นางสาวพิมพ์กานต์ พินทะเนาว์ หรือนางสาวนวลศรี พินทะเนาว์
    17. นายบุญโฮม จันทร์อ่อน
    18. นายทองใส พรมเลิศ เสียชีวิตที่ รพ.กบินทร์บุรี

    🚑 ผู้บาดเจ็บ 23 ราย
    แบ่งเป็น ชาย 9 ราย หญิง 14 ราย โดยมีอาการแตกต่างกัน บางรายมีแผลฉีกขาด ศีรษะแตก อาการปวดหลัง และจุกหน้าอก 🚨
    1. น.ส. จริญา เสนา อายุ 36 ปี
    2. นายนาวิน ชูปัญญา อายุ 50 ปี
    3. นายอดุลย์ มณทางาม อายุ 40 ปี
    4. นายประสงค์ ปัตภัย อายุ 60 ปี
    5. นายอมร เพญจันทร์ อายุ 67 ปี
    6. นายไอ่คำ แก้วกันหา อายุ 67 ปี
    7. นางดรุณี ศรีษะ อายุ 25 ปี
    8. นางทองคำ สมคำภิ อายุ 67 ปี
    9. นางบุญปั่น สมคำภิ อายุ 64 ปี
    10. นายสมควร พาพิจิตร อายุ 54 ปี
    11. นางปราณี แสนอุบล อายุ 67 ปี
    12. นางลำภู ศรีบุญเรือง อายุ 50 ปี
    13. นางประเทียน พรมโคตร อายุ 67 ปี
    14. นางทองยุ่น พลขำ อายุ 62 ปี
    15. นางเขมจิรา อยู่คำพันธ์
    16. นางอนงค์เยาว์ ศรีสุพรรณ อายุ 68 ปี
    17. นายพงษ์กร คำภูแสน อายุ 41 ปี
    18. นางบุญทัน ชาตรี อายุ 67 ปี
    19. น.ส. เครือวรรณ ฤทธิ์ดู อายุ 62 ปี
    20. นางดอกรักษ์ พรมนาค อายุ 68 ปี
    21. นางเด่น ปะโพทิง อายุ 67 ปี
    22. นายอนุพงศ์ พรมอินทร์ อายุ 49 ปี
    23. นายนาถวัฒน์ บริหาร อายุ 24 ปี

    และนางทองใบ สอนเชียงคำ อยู่ระหว่างการค้นหา

    สาเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุ
    จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ารถบัสคันนี้เป็นคณะดูงานใน “โครงการพัฒนาศักยภาพ และศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะหมู่บ้าน” เดินทางจากจังหวัดบึงกาฬ ไปยังจังหวัดระยอง

    🛑 สาเหตุที่เป็นไปได้
    ✅ ลมเบรกหมด ทำให้คนขับไม่สามารถควบคุมรถได้
    ✅ ไม่ชินเส้นทาง ถนนเส้นนี้เป็นทางลงเขายาวกว่า 6 กิโลเมตร ต้องใช้ความระมัดระวังสูง
    ✅ ไม่จอดพักที่จุดพักรถ ปกติรถขนาดใหญ่ ต้องจอดเช็คเบรกที่จุดพักผางาม ก่อนลงเขา แต่รถบัสคันนี้ไม่ได้แวะพัก

    🚑 การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
    หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และรถพยาบาลจากหลายหน่วยงาน ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
    🏥 โรงพยาบาลที่รับรักษา
    ✅ โรงพยาบาลนาดี
    ✅ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี
    ✅ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทับลาน

    💰 ความคุ้มครองจากประกันภัย
    🚍 รถบัสคันนี้ทำประกันไว้กับ บริษัทมิตรแท้ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
    💵 วงเงินคุ้มครอง:
    ประกันภาคสมัครใจ จ่ายสูงสุด 500,000 บาท ต่อราย วงเงินคุ้มครองรวม 10 ล้านบาท ต่อครั้ง

    ⚠️ หากยอดผู้เสียชีวิตเกิน 20 ราย จะต้องมีการพิจารณาวงเงินค่าสินไหมเพิ่มเติม

    เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุบัติเหตุรุนแรงที่สุดบนเส้นทางนี้ ในรอบหลายปี ซึ่งมีข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับรถบัสที่ต้องใช้เส้นทางลงเขา

    ✅ จุดพักรถผางาม ต้องบังคับให้รถโดยสารทุกคันจอดพัก เพื่อตรวจเช็คเบรก
    ✅ การอบรมคนขับ คนขับรถโดยสาร ควรมีความคุ้นเคยกับเส้นทางก่อนเดินทาง
    ✅ การบังคับใช้กฎหมาย ควรมีมาตรการตรวจสอบความพร้อมของรถ และคนขับก่อนออกเดินทาง

    อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรม ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน

    💔 เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็น ในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยบนถนน โดยเฉพาะการตรวจเช็คสภาพรถ การกำหนดจุดพักรถที่บังคับใช้จริง และการอบรมคนขับ ให้มีความชำนาญเส้นทาง

    📢 ขอให้ผู้โดยสารทุกคนเดินทางปลอดภัยเสมอ และอย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ของรถโดยสารที่เดินทาง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262115 ก.พ. 2568

    📌 #อุบัติเหตุ #รถบัสคว่ำ #เขาศาลปู่โทน #ข่าวด่วน #บึงกาฬ #ปราจีนบุรี #อุบัติเหตุทางถนน #ปลอดภัยไว้ก่อน #ข่าววันนี้
    โศกนาฏกรรมบัสดูงานเทศบาลพรเจริญ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน เสียชีวิต 18 ศพ เจ็บ 23 ราย สูญหาย 1 คน เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 03.30 น. เมื่อรถบัสสองชั้น นำคณะดูงานจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วง กม. 210+500 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 16 ศพ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอีก 2 ศพ รวมเป็น 18 ศพ บาดเจ็บอีก 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากลมเบรกหมด และคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง 🚍 เจ้าหน้าที่พบรถบัส 2 ชั้น ยี่ห้อสแกนเนีย หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ พลิกคะแคงอยู่นอกแบริเออร์ ในที่เกิดอุบัติเหตุ หลังคารถถูกเปิดออก สภาพพังยับเยิน 🔴 ผู้โดยสารกระเด็นออกจากตัวรถ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั่งชั้นสอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย ⚰️ มีการยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด 18 ศพ ซึ่งประกอบด้วยชาย 2 ราย และหญิง 16 ราย 1. น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร 2. น.ส. ปภัสสร ทองปาน 3. น.ส. พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร 4. น.ส. ทองอินทร์ จันทรอ่อน 5. น.ส. อภิญญา บุตรวัง 6. นางเลียว ไชยเสนา 7. น.ส. สุจิตตรา วิเศษทรัพย์ 8. น.ส. บัวเงิน สุดาบุตร 9. นางมะโยลี วงศ์สุภา 10. นางสมบุญ ธิพัน 11. นางสมหวัง พรหมพิทักษ์ 12. นางประหยัด เสียงล้ำ 13. นางทองใบ สอนเชียงคำ 14. น.ส.ฤานรินทร์ จ่าพบ 15. นางราตรี ลบพันธ์ทอง 16. นางสาวพิมพ์กานต์ พินทะเนาว์ หรือนางสาวนวลศรี พินทะเนาว์ 17. นายบุญโฮม จันทร์อ่อน 18. นายทองใส พรมเลิศ เสียชีวิตที่ รพ.กบินทร์บุรี 🚑 ผู้บาดเจ็บ 23 ราย แบ่งเป็น ชาย 9 ราย หญิง 14 ราย โดยมีอาการแตกต่างกัน บางรายมีแผลฉีกขาด ศีรษะแตก อาการปวดหลัง และจุกหน้าอก 🚨 1. น.ส. จริญา เสนา อายุ 36 ปี 2. นายนาวิน ชูปัญญา อายุ 50 ปี 3. นายอดุลย์ มณทางาม อายุ 40 ปี 4. นายประสงค์ ปัตภัย อายุ 60 ปี 5. นายอมร เพญจันทร์ อายุ 67 ปี 6. นายไอ่คำ แก้วกันหา อายุ 67 ปี 7. นางดรุณี ศรีษะ อายุ 25 ปี 8. นางทองคำ สมคำภิ อายุ 67 ปี 9. นางบุญปั่น สมคำภิ อายุ 64 ปี 10. นายสมควร พาพิจิตร อายุ 54 ปี 11. นางปราณี แสนอุบล อายุ 67 ปี 12. นางลำภู ศรีบุญเรือง อายุ 50 ปี 13. นางประเทียน พรมโคตร อายุ 67 ปี 14. นางทองยุ่น พลขำ อายุ 62 ปี 15. นางเขมจิรา อยู่คำพันธ์ 16. นางอนงค์เยาว์ ศรีสุพรรณ อายุ 68 ปี 17. นายพงษ์กร คำภูแสน อายุ 41 ปี 18. นางบุญทัน ชาตรี อายุ 67 ปี 19. น.ส. เครือวรรณ ฤทธิ์ดู อายุ 62 ปี 20. นางดอกรักษ์ พรมนาค อายุ 68 ปี 21. นางเด่น ปะโพทิง อายุ 67 ปี 22. นายอนุพงศ์ พรมอินทร์ อายุ 49 ปี 23. นายนาถวัฒน์ บริหาร อายุ 24 ปี และนางทองใบ สอนเชียงคำ อยู่ระหว่างการค้นหา สาเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุ จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ารถบัสคันนี้เป็นคณะดูงานใน “โครงการพัฒนาศักยภาพ และศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะหมู่บ้าน” เดินทางจากจังหวัดบึงกาฬ ไปยังจังหวัดระยอง 🛑 สาเหตุที่เป็นไปได้ ✅ ลมเบรกหมด ทำให้คนขับไม่สามารถควบคุมรถได้ ✅ ไม่ชินเส้นทาง ถนนเส้นนี้เป็นทางลงเขายาวกว่า 6 กิโลเมตร ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ✅ ไม่จอดพักที่จุดพักรถ ปกติรถขนาดใหญ่ ต้องจอดเช็คเบรกที่จุดพักผางาม ก่อนลงเขา แต่รถบัสคันนี้ไม่ได้แวะพัก 🚑 การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และรถพยาบาลจากหลายหน่วยงาน ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 🏥 โรงพยาบาลที่รับรักษา ✅ โรงพยาบาลนาดี ✅ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ✅ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทับลาน 💰 ความคุ้มครองจากประกันภัย 🚍 รถบัสคันนี้ทำประกันไว้กับ บริษัทมิตรแท้ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) 💵 วงเงินคุ้มครอง: ประกันภาคสมัครใจ จ่ายสูงสุด 500,000 บาท ต่อราย วงเงินคุ้มครองรวม 10 ล้านบาท ต่อครั้ง ⚠️ หากยอดผู้เสียชีวิตเกิน 20 ราย จะต้องมีการพิจารณาวงเงินค่าสินไหมเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุบัติเหตุรุนแรงที่สุดบนเส้นทางนี้ ในรอบหลายปี ซึ่งมีข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับรถบัสที่ต้องใช้เส้นทางลงเขา ✅ จุดพักรถผางาม ต้องบังคับให้รถโดยสารทุกคันจอดพัก เพื่อตรวจเช็คเบรก ✅ การอบรมคนขับ คนขับรถโดยสาร ควรมีความคุ้นเคยกับเส้นทางก่อนเดินทาง ✅ การบังคับใช้กฎหมาย ควรมีมาตรการตรวจสอบความพร้อมของรถ และคนขับก่อนออกเดินทาง อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรม ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 23 ราย และยังมีผู้สูญหาย 1 คน 💔 เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็น ในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยบนถนน โดยเฉพาะการตรวจเช็คสภาพรถ การกำหนดจุดพักรถที่บังคับใช้จริง และการอบรมคนขับ ให้มีความชำนาญเส้นทาง 📢 ขอให้ผู้โดยสารทุกคนเดินทางปลอดภัยเสมอ และอย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ของรถโดยสารที่เดินทาง ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262115 ก.พ. 2568 📌 #อุบัติเหตุ #รถบัสคว่ำ #เขาศาลปู่โทน #ข่าวด่วน #บึงกาฬ #ปราจีนบุรี #อุบัติเหตุทางถนน #ปลอดภัยไว้ก่อน #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • MotoGP 2025 เตรียมเปิดฉาก สนามแรก "ไทย จีพี 2025" บรรยากาศภายในสนามและในจังหวัดบุรีรัมย์สุดคึกคัก “นักบิดดาวดัง” สำรวจแทร็ก ก่อนลุยศึกโค้งสำคัญลุ้นแชมป์โลก
    MotoGP 2025 เตรียมเปิดฉาก สนามแรก "ไทย จีพี 2025" บรรยากาศภายในสนามและในจังหวัดบุรีรัมย์สุดคึกคัก “นักบิดดาวดัง” สำรวจแทร็ก ก่อนลุยศึกโค้งสำคัญลุ้นแชมป์โลก
    Like
    Love
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 997 มุมมอง 71 0 รีวิว
  • มท.2 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุรถบัสโดยสารเดินทางศึกษาดูงานของจังหวัดบึงกาฬ เสียหลักพลิกค่ำ ถนน 304 กม. 210+500 (ขาเข้า) ทางลงเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1276378203960041
    มท.2 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุรถบัสโดยสารเดินทางศึกษาดูงานของจังหวัดบึงกาฬ เสียหลักพลิกค่ำ ถนน 304 กม. 210+500 (ขาเข้า) ทางลงเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1276378203960041
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราจีนบุรี – เจ้าของรถทัวร์คณะศึกษาดูงาน จ.บึงกาฬ ประสบเหตุพลิกคว่ำบริเวณทางโค้งลงเขาศาลปู่โทน ยันเบรกลมหมดจริงขณะวิ่งลงเขาสู่พื้นที่ราบทำรถพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 19 ราย ขณะบาดเจ็บรวม 31 ราย ญาติเริ่มทยอยเดินทางรับศพกลับบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด

    จากเหตุการณ์รถทัวร์โดยสารคณะศึกษาดูงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำช่วงทางลงเขาศาลปู่โทน หลัก กม.ที่ 210 ถนนสาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บในขณะนี้มากกว่า 31 ราย และมีเสียชีวิตล่าสุดที่จำนวน 19 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ ( 26 ก.พ.) นั้น

    ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนาดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาในห้องฉุกเฉิน และเริ่มมีญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทยอยเดินทางเข้ารับศพท่ามกลางความโศกเศร้า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000019024

    #MGROnline #ปราจีนบุรี #เจ้าของรถทัวร์ #คณะศึกษาดูงาน #บึงกาฬ #ประสบเหตุพลิกคว่ำ #เขาศาลปู่โทน
    ปราจีนบุรี – เจ้าของรถทัวร์คณะศึกษาดูงาน จ.บึงกาฬ ประสบเหตุพลิกคว่ำบริเวณทางโค้งลงเขาศาลปู่โทน ยันเบรกลมหมดจริงขณะวิ่งลงเขาสู่พื้นที่ราบทำรถพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 19 ราย ขณะบาดเจ็บรวม 31 ราย ญาติเริ่มทยอยเดินทางรับศพกลับบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด • จากเหตุการณ์รถทัวร์โดยสารคณะศึกษาดูงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำช่วงทางลงเขาศาลปู่โทน หลัก กม.ที่ 210 ถนนสาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บในขณะนี้มากกว่า 31 ราย และมีเสียชีวิตล่าสุดที่จำนวน 19 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ ( 26 ก.พ.) นั้น • ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนาดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาในห้องฉุกเฉิน และเริ่มมีญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทยอยเดินทางเข้ารับศพท่ามกลางความโศกเศร้า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000019024 • #MGROnline #ปราจีนบุรี #เจ้าของรถทัวร์ #คณะศึกษาดูงาน #บึงกาฬ #ประสบเหตุพลิกคว่ำ #เขาศาลปู่โทน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26/2/68

    สวัสดีครับ

    มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กรับบริจาคหนังสือทุกประเภท สำหรับเด็ก เยาวชน คนพิการ คนไร้ที่พึ่ง ผู้สูงอายุ พ่อในคุก แม่ในคุก ลูกในคุก ลูกในครรภ์และลูกที่บ้าน

    ถ้าเป็นหนังสือเรียน ขอรับบริจาคหนังสือหลักสูตรปัจจุบัน ไม่รับหนังสือเรียนหลักสูตรเก่า และแบบฝึกใช้งานแล้วครับ

    บริจาคหนังสือได้ที่..
    มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก (สำนักงานเฉพาะกิจ)
    7 ซอยไทยานนท์ 11 ถนนสนามบินน้ำ (นนทบุรี 46)
    ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
    ผู้ประสานงาน :
    คุณสุพรรณี มิ่งรักธรรม
    โทร. 083-299-5755

    ขอบพระคุณมากครับ
    26/2/68 สวัสดีครับ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กรับบริจาคหนังสือทุกประเภท สำหรับเด็ก เยาวชน คนพิการ คนไร้ที่พึ่ง ผู้สูงอายุ พ่อในคุก แม่ในคุก ลูกในคุก ลูกในครรภ์และลูกที่บ้าน ถ้าเป็นหนังสือเรียน ขอรับบริจาคหนังสือหลักสูตรปัจจุบัน ไม่รับหนังสือเรียนหลักสูตรเก่า และแบบฝึกใช้งานแล้วครับ บริจาคหนังสือได้ที่.. มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก (สำนักงานเฉพาะกิจ) 7 ซอยไทยานนท์ 11 ถนนสนามบินน้ำ (นนทบุรี 46) ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 ผู้ประสานงาน : คุณสุพรรณี มิ่งรักธรรม โทร. 083-299-5755 ขอบพระคุณมากครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣ประชาสัมพันธ์บริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่📣
    📍ณ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
    📅วันที่ 7 มีนาคม 2568
    เพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง

    💡มีบริการตรวจอยู่ 3 บริการด้วยกัน💡
    1. ตรวจสมรรถภาพของหลอดเลือดแดงส่วนบนและส่วนปลาย (Ankle Brachial Index: ABI, Arterial Stiffness Index: ASI)
    📌สามารถตรวจความอุดตันตีบตันและความยืดหยุ่นของหลอดเลือดแดง โดย ASI จะตรวจหลอดเลือดแดงส่วนบนที่ส่งเลือดไปเลี้ยงยังอวัยวะสำคัญของร่างกาย เช่น หัวใจและสมอง ในขณะที่ ABI จะตรวจหลอดเลือดแดงส่วนปลาย เช่น มือและเท้า
    2. ตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density: BMD)
    3. ตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition)
    *** บริการตรวจข้างต้นผู้รับบริการ ไม่ต้องอดน้ำหรืออาหาร ก่อนเข้ารับบริการนะคะ ***
    ทางเรายินดีให้บริการตรวจร่วมกับโรงพยาบาลและคลินิคที่ไม่มีเครื่องมือแพทย์ อีกทั้งยังมีบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ถึงหน้าบ้าน สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สะดวกเข้ารับบริการ ณ โรงพยาบาลหรือคลินิก🚑❤️
    ✨สนใจตรวจ หรือจองคิวเพื่อเข้ารับบริการ✨
    สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่👉🏻Inbox
    📲ไลน์: https://lin.ee/FTA3ojJ
    📞โทร: 02-994-1977 (Call Center)
    📞โทร: 095-492-2826 (Admin)
    .
    #BMD #ASI #ABI #BMD #WWC #KSY #สุขภาพ #เพื่อสุขภาพ #ตรวจสุขภาพ #ตรวจสุขภาพประจำ
    📣ประชาสัมพันธ์บริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่📣 📍ณ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย 📅วันที่ 7 มีนาคม 2568 เพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง 💡มีบริการตรวจอยู่ 3 บริการด้วยกัน💡 1. ตรวจสมรรถภาพของหลอดเลือดแดงส่วนบนและส่วนปลาย (Ankle Brachial Index: ABI, Arterial Stiffness Index: ASI) 📌สามารถตรวจความอุดตันตีบตันและความยืดหยุ่นของหลอดเลือดแดง โดย ASI จะตรวจหลอดเลือดแดงส่วนบนที่ส่งเลือดไปเลี้ยงยังอวัยวะสำคัญของร่างกาย เช่น หัวใจและสมอง ในขณะที่ ABI จะตรวจหลอดเลือดแดงส่วนปลาย เช่น มือและเท้า 2. ตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density: BMD) 3. ตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) *** บริการตรวจข้างต้นผู้รับบริการ ไม่ต้องอดน้ำหรืออาหาร ก่อนเข้ารับบริการนะคะ *** ทางเรายินดีให้บริการตรวจร่วมกับโรงพยาบาลและคลินิคที่ไม่มีเครื่องมือแพทย์ อีกทั้งยังมีบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ถึงหน้าบ้าน สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สะดวกเข้ารับบริการ ณ โรงพยาบาลหรือคลินิก🚑❤️ ✨สนใจตรวจ หรือจองคิวเพื่อเข้ารับบริการ✨ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่👉🏻Inbox 📲ไลน์: https://lin.ee/FTA3ojJ 📞โทร: 02-994-1977 (Call Center) 📞โทร: 095-492-2826 (Admin) . #BMD #ASI #ABI #BMD #WWC #KSY #สุขภาพ #เพื่อสุขภาพ #ตรวจสุขภาพ #ตรวจสุขภาพประจำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts