• ชป.เร่งตรวจสอบ หลังเกิดแผ่นดินไหวพม่า ยืนยันไม่กระทบเขื่อนกรมชลประทาน

    กรมชลประทาน เร่งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนกรมชลประทาน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันที่ 28 มี.ค. 68 โดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ซึ่งมีผลต่อประเทศไทย นั้น จากการตรวจวัดค่าอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว)ที่วัดได้ที่เขื่อนของกรมชลประทาน พบว่ามีค่าที่ตรวจวัดได้อยู่ระหว่าง 0.00505 -0.01647g ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวไม่เกินค่าตามมาตราฐานการออกแบบของกรมชลประทานและตามหลักการขององค์กรเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (ICOLD) กำหนดไ้ว้เพื่อรองรับอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว) คือไม่เกิน 0.2 g ดั้งนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน

    ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ออกแบบเขื่อนทุกแห่ง ให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวไว้ด้วยค่าที่สูงสุดของความเสี่ยงในพื้นที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุดที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น รวมทั้งแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเขื่อน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา

    อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมชลประทาน ได้สั่งการให้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังและ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029988

    #MGROnline #เขื่อน #กรมชลประทาน #แผ่นดินไหว
    ชป.เร่งตรวจสอบ หลังเกิดแผ่นดินไหวพม่า ยืนยันไม่กระทบเขื่อนกรมชลประทาน • กรมชลประทาน เร่งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนกรมชลประทาน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันที่ 28 มี.ค. 68 โดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ซึ่งมีผลต่อประเทศไทย นั้น จากการตรวจวัดค่าอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว)ที่วัดได้ที่เขื่อนของกรมชลประทาน พบว่ามีค่าที่ตรวจวัดได้อยู่ระหว่าง 0.00505 -0.01647g ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวไม่เกินค่าตามมาตราฐานการออกแบบของกรมชลประทานและตามหลักการขององค์กรเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (ICOLD) กำหนดไ้ว้เพื่อรองรับอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว) คือไม่เกิน 0.2 g ดั้งนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน • ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ออกแบบเขื่อนทุกแห่ง ให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวไว้ด้วยค่าที่สูงสุดของความเสี่ยงในพื้นที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุดที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น รวมทั้งแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเขื่อน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา • อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมชลประทาน ได้สั่งการให้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังและ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029988 • #MGROnline #เขื่อน #กรมชลประทาน #แผ่นดินไหว
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • #ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบบ้านไฟไหม้เงินหาย 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยา พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจ ชี้สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบเส้นเงิน 6.5 ล้านที่ยึดมาพัวพันบัญชีม้าหรือฟอกเงิน

    จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเพลิงลุกไหม้ห้องนอนชั้นล่างได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้สงบลง เจ้าของบ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อ้างว่าได้นำเงินสด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย เก็บไว้ในห้องนอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. ภายในรถพบเงินสด จำนวน 6.5 ล้านบาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบ

    ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านพักที่เกิดเพลิงไหม้ ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุในจุดที่มีข้อสงสัย และสรุปคดี โดยพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ มีรถจยย. และกล่องพัสดุวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นทางครอบครัวน.ส.นิตยา กลับมาที่บ้านหลังจากเกิดเหตุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021019

    #MGROnline #ไฟไหม้ #เงินหาย #10ล้านบาท
    #ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบบ้านไฟไหม้เงินหาย 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยา พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจ ชี้สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบเส้นเงิน 6.5 ล้านที่ยึดมาพัวพันบัญชีม้าหรือฟอกเงิน • จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเพลิงลุกไหม้ห้องนอนชั้นล่างได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้สงบลง เจ้าของบ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อ้างว่าได้นำเงินสด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย เก็บไว้ในห้องนอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. ภายในรถพบเงินสด จำนวน 6.5 ล้านบาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบ • ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านพักที่เกิดเพลิงไหม้ ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุในจุดที่มีข้อสงสัย และสรุปคดี โดยพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ มีรถจยย. และกล่องพัสดุวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นทางครอบครัวน.ส.นิตยา กลับมาที่บ้านหลังจากเกิดเหตุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021019 • #MGROnline #ไฟไหม้ #เงินหาย #10ล้านบาท
    0 Comments 0 Shares 415 Views 0 Reviews
  • "ดีเอสไอ" ลงเรือเก็บหลักฐานคดี "แตงโม" สำรวจ 8 จุดสงสัย “อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” แฉเครือข่ายยาเสพติด เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดเป็นฆาตกรรม

    วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 8.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัย 8 จุด หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ โดยมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน

    นายอัจฉริยะ เผยว่า ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์ที่กู้คืนได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และยังต้องตรวจสอบว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่ส่งให้ตำรวจหรือไม่ โดยหลักฐานที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ซึ่งส่งไปยังบังแจ็คที่สหรัฐฯ อาจมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง และพบว่าผู้เขียนที่อยู่บนกล่องไม่ใช่นางภนิดา นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบโทรศัพท์ที่ตำรวจคืนให้มารดาว่าเป็นเครื่องเดิมหรือไม่ โดยผลตรวจ DNA จะออกภายในสัปดาห์นี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015651

    #MGROnline #ดีเอสไอ #คดีแตงโม

    "ดีเอสไอ" ลงเรือเก็บหลักฐานคดี "แตงโม" สำรวจ 8 จุดสงสัย “อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” แฉเครือข่ายยาเสพติด เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดเป็นฆาตกรรม • วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 8.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัย 8 จุด หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ โดยมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน • นายอัจฉริยะ เผยว่า ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์ที่กู้คืนได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และยังต้องตรวจสอบว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่ส่งให้ตำรวจหรือไม่ โดยหลักฐานที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ซึ่งส่งไปยังบังแจ็คที่สหรัฐฯ อาจมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง และพบว่าผู้เขียนที่อยู่บนกล่องไม่ใช่นางภนิดา นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบโทรศัพท์ที่ตำรวจคืนให้มารดาว่าเป็นเครื่องเดิมหรือไม่ โดยผลตรวจ DNA จะออกภายในสัปดาห์นี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015651 • #MGROnline #ดีเอสไอ #คดีแตงโม
    0 Comments 0 Shares 527 Views 0 Reviews
  • "ปานเทพ-อัจฉริยะ" เผยปมมือถือแตงโมถูกโคลนนิ่ง ชี้เครื่องที่ถูกส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกาไม่ใช่เครื่องต้นฉบับ รับบางจุดมีการเปลี่ยน แต่สามารถกู้ภาพคืนมาได้ 18 ก.พ.เปิดหลักฐานเด็ด

    วันนี้( 17 ก.พ.)ที่บ้านเรือเล็ก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ปฏิบัติการตรวจจุดเกิดเหตุในคดี “แตงโม นิดา” โดยจะทำการล่องเรือไปยัง 8 จุดที่สำคัญและน่าสนใจในคดี เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ รวมทั้งสิ้น 40 คนที่จะลงเรือในครั้งนี้ โดยวันนี้มี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน

    นายอัจฉริยะกล่าวว่า ข้อมูลในโทรศัพท์เป็นของจริง แต่อีกหนึ่งเครื่องไม่ใช่ของจริง คือเครื่องที่ส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกา ไม่ใช่ต้นฉบับ โดยคนที่ส่งไปเป็นอดีตนักการเมืองที่ร่วมกับคุณแม่ของแตงโม และยังได้ข้อมูลอีกว่า อดีตนักการเมืองคนดังกล่าว ได้ส่งผ้าขาวของแตงโมไปให้บังเเจ็คด้วย โดยยังบอกให้บังแจ็คส่งผ้าขาวกลับมาให้กับแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รวมถึงมีการกระตุ้นให้บังแจ็คไลฟ์สดเกี่ยวกับผ้าขาวที่ได้รับไปด้วย

    นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า โทรศัพท์ที่ส่งให้บังแจ็คมีการโคลนนิ่งเหมือนโทรศัพท์ต้นฉบับ และไม่มีใครรู้ว่าถูกสลับเครื่องตอนไหน แต่รู้ว่ามีจุดเปลี่ยนหลายจุดตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ซึ่งในที่สุดก็ต้องทำการสืบหาความจริงจนได้ เพราะเขาลืมไป 1 ข้อว่า แม้จะลบข้อมูลในโทรศัพท์ไปแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือการกู้ Gmail และเข้าไปใน iCloud เพื่อกู้ข้อมูลได้สำเร็จ ทำให้ภาพที่หายไปกลับคืนมาได้ ซึ่งเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลถูกต้องกับความเป็นจริง แต่โทรศัพท์ถูกสลับเครื่อง

    นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.) นายปานเทพจะมีการเปิดหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า เป็นการฆาตกรรม รวมถึงได้รู้ถึงวิธีการว่าโหดเหี้ยมขนาดไหน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015688

    #MGROnline #ปานเทพ #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #โคลนนิ่ง
    "ปานเทพ-อัจฉริยะ" เผยปมมือถือแตงโมถูกโคลนนิ่ง ชี้เครื่องที่ถูกส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกาไม่ใช่เครื่องต้นฉบับ รับบางจุดมีการเปลี่ยน แต่สามารถกู้ภาพคืนมาได้ 18 ก.พ.เปิดหลักฐานเด็ด • วันนี้( 17 ก.พ.)ที่บ้านเรือเล็ก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ปฏิบัติการตรวจจุดเกิดเหตุในคดี “แตงโม นิดา” โดยจะทำการล่องเรือไปยัง 8 จุดที่สำคัญและน่าสนใจในคดี เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ รวมทั้งสิ้น 40 คนที่จะลงเรือในครั้งนี้ โดยวันนี้มี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน • นายอัจฉริยะกล่าวว่า ข้อมูลในโทรศัพท์เป็นของจริง แต่อีกหนึ่งเครื่องไม่ใช่ของจริง คือเครื่องที่ส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกา ไม่ใช่ต้นฉบับ โดยคนที่ส่งไปเป็นอดีตนักการเมืองที่ร่วมกับคุณแม่ของแตงโม และยังได้ข้อมูลอีกว่า อดีตนักการเมืองคนดังกล่าว ได้ส่งผ้าขาวของแตงโมไปให้บังเเจ็คด้วย โดยยังบอกให้บังแจ็คส่งผ้าขาวกลับมาให้กับแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รวมถึงมีการกระตุ้นให้บังแจ็คไลฟ์สดเกี่ยวกับผ้าขาวที่ได้รับไปด้วย • นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า โทรศัพท์ที่ส่งให้บังแจ็คมีการโคลนนิ่งเหมือนโทรศัพท์ต้นฉบับ และไม่มีใครรู้ว่าถูกสลับเครื่องตอนไหน แต่รู้ว่ามีจุดเปลี่ยนหลายจุดตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ซึ่งในที่สุดก็ต้องทำการสืบหาความจริงจนได้ เพราะเขาลืมไป 1 ข้อว่า แม้จะลบข้อมูลในโทรศัพท์ไปแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือการกู้ Gmail และเข้าไปใน iCloud เพื่อกู้ข้อมูลได้สำเร็จ ทำให้ภาพที่หายไปกลับคืนมาได้ ซึ่งเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลถูกต้องกับความเป็นจริง แต่โทรศัพท์ถูกสลับเครื่อง • นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.) นายปานเทพจะมีการเปิดหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า เป็นการฆาตกรรม รวมถึงได้รู้ถึงวิธีการว่าโหดเหี้ยมขนาดไหน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015688 • #MGROnline #ปานเทพ #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #โคลนนิ่ง
    0 Comments 0 Shares 506 Views 0 Reviews
  • ตร.ฝากขังผัวโหดยิงเมียดับปมมีชู้ กล่าวทิ้งท้าย เป็นห่วงลูกฝากผู้ใหญ่ดูแลต่อ สอบประวัติพบเคยต้องโทษคดียาเสพติดหลายคดี

    จากกรณี เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุสามีใช้อาวุธปืนยิงภรรยาภายในบ้านพักในหมู่บ้านมิตรประชา ซอย 29 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 1 นัด เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญนำตัวส่งโรงพยาบาลกรมชลประทาน แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา

    สภาพที่เกิดเหตุและผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในห้องนอนพบศพนางดุษฎี เรียงภวา อายุ 38 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนเตียง มีบาดแผลจากกระสุนปืนกล็อก ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ศีรษะ และมีเลือดออกบริเวณจมูกและปาก ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายพลชัย เรียงภวาอายุ 42 ปี สามีของผู้เสียชีวิต นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณหน้าบ้าน

    ล่าสุดเมื่อเวลา 24 ธ.ค.67 เวลา 09.30 น. ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร.ต.ท.สุรชัย วงศ์คันโซ รองสว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ได้คุมตัวนายพลชัย เรียงภวา อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุ ฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000123388

    #MGROnline #ยิงภรรยา
    ตร.ฝากขังผัวโหดยิงเมียดับปมมีชู้ กล่าวทิ้งท้าย เป็นห่วงลูกฝากผู้ใหญ่ดูแลต่อ สอบประวัติพบเคยต้องโทษคดียาเสพติดหลายคดี • จากกรณี เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุสามีใช้อาวุธปืนยิงภรรยาภายในบ้านพักในหมู่บ้านมิตรประชา ซอย 29 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 1 นัด เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญนำตัวส่งโรงพยาบาลกรมชลประทาน แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา • สภาพที่เกิดเหตุและผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในห้องนอนพบศพนางดุษฎี เรียงภวา อายุ 38 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนเตียง มีบาดแผลจากกระสุนปืนกล็อก ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ศีรษะ และมีเลือดออกบริเวณจมูกและปาก ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายพลชัย เรียงภวาอายุ 42 ปี สามีของผู้เสียชีวิต นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณหน้าบ้าน • ล่าสุดเมื่อเวลา 24 ธ.ค.67 เวลา 09.30 น. ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร.ต.ท.สุรชัย วงศ์คันโซ รองสว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ได้คุมตัวนายพลชัย เรียงภวา อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุ ฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000123388 • #MGROnline #ยิงภรรยา
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 Reviews
  • คลอง ร.๑ น้ำพระทัยในหลวง ร.๙ หาดใหญ่ผ่อนหนักเป็นเบา

    อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พื้นที่เศรษฐกิจหลักของภาคใต้ เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2543 คลองอู่ตะเภาไหลลงพื้นที่มากถึง 751 ลบ.ม.ต่อวินาที มากกว่าศักยภาพระบายน้ำได้เพียง 461 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลทำให้น้ำท่วมฉับพลัน กระจายไปยัง 16 อำเภอในจังหวัดสงขลา เสียชีวิต 32 ราย บาดเจ็บ 382 คน ราษฎรเดือดร้อน 552,579 คน 130,117 ครัวเรือน พื้นที่เศรษฐกิจทั้งตลาดกิมหยง สันติสุข ตลาดพลาซา โรงแรมและสถานบริการเสียหาย 77 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายด้านธุรกิจเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งจังหวัดกว่า 10,000 ล้านบาท

    ปี 2567 น้ำจากคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำภูมินารถดำริ หรือคลอง ร.1 เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่หาดใหญ่ใน ซึ่งเป็นโซนชั้นนอก เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ก่อนกลับสู่สภาวะปกติเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.แต่โซนเศรษฐกิจชั้นในหรือโซนไข่แดงนั้นปลอดภัย น้ำไม่ท่วม เพราะโครงการตามพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผ่อนหนักเป็นเบา

    สทท.สงขลา รายงานว่า ประชาชนชาวหาดใหญ่เปิดเผยว่า แม้ในพื้นที่เขตหาดใหญ่ในจะเป็นพื้นที่รับน้ำจากคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 ที่เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชน แต่ความเสียหายลดลงกว่าปี 2543 เพราะหลังจากคลอง ร.1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากรองรับน้ำได้มากขึ้นหลายเท่าแล้ว ยังทำให้พื้นที่โซนไข่แดงปลอดภัยจากน้ำท่วม

    คลอง ร.1 ก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำรัส ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2531 ความว่า "การแก้ไขและบรรเทาน้ำท่วมที่ควรพิจารณาดำเนินการ น่าจะได้แก่การขุดคลองระบายน้ำขนาดใหญ่ ให้ทำหน้าที่แบ่งน้ำจากคลองอู่ตะเภาหรือช่วยรับน้ำที่ไหลลงมาท่วมตัวอำเภอหาดใหญ่ ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว"

    หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ปี 2543 กรมชลประทานจึงได้ผลักดันโครงการคลอง ร.1 ท้องคลองกว้าง 24 เมตร ยาว 21.34 กิโลเมตร แล้วเสร็จในปี 2550 ระบายน้ำได้สูงสุด 465 ลบ.ม. ต่อวินาที ต่อมาได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ขยายคลองให้กว้าง 70-100 เมตร ลึก 7 เมตร ก่อสร้างประตูระบายน้ำหน้าควน 2 และประตูระบายน้ำบางหยี พร้อมสถานีสูบน้ำบางหยี เริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2558 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเป็นแหล่งสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้อีกประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม.

    พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ "คลองภูมินาถดำริ" เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2559 พสกนิกรชาวนครหาดใหญ่น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

    #Newskit
    คลอง ร.๑ น้ำพระทัยในหลวง ร.๙ หาดใหญ่ผ่อนหนักเป็นเบา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พื้นที่เศรษฐกิจหลักของภาคใต้ เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2543 คลองอู่ตะเภาไหลลงพื้นที่มากถึง 751 ลบ.ม.ต่อวินาที มากกว่าศักยภาพระบายน้ำได้เพียง 461 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลทำให้น้ำท่วมฉับพลัน กระจายไปยัง 16 อำเภอในจังหวัดสงขลา เสียชีวิต 32 ราย บาดเจ็บ 382 คน ราษฎรเดือดร้อน 552,579 คน 130,117 ครัวเรือน พื้นที่เศรษฐกิจทั้งตลาดกิมหยง สันติสุข ตลาดพลาซา โรงแรมและสถานบริการเสียหาย 77 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายด้านธุรกิจเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งจังหวัดกว่า 10,000 ล้านบาท ปี 2567 น้ำจากคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำภูมินารถดำริ หรือคลอง ร.1 เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่หาดใหญ่ใน ซึ่งเป็นโซนชั้นนอก เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ก่อนกลับสู่สภาวะปกติเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.แต่โซนเศรษฐกิจชั้นในหรือโซนไข่แดงนั้นปลอดภัย น้ำไม่ท่วม เพราะโครงการตามพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผ่อนหนักเป็นเบา สทท.สงขลา รายงานว่า ประชาชนชาวหาดใหญ่เปิดเผยว่า แม้ในพื้นที่เขตหาดใหญ่ในจะเป็นพื้นที่รับน้ำจากคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 ที่เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชน แต่ความเสียหายลดลงกว่าปี 2543 เพราะหลังจากคลอง ร.1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากรองรับน้ำได้มากขึ้นหลายเท่าแล้ว ยังทำให้พื้นที่โซนไข่แดงปลอดภัยจากน้ำท่วม คลอง ร.1 ก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำรัส ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2531 ความว่า "การแก้ไขและบรรเทาน้ำท่วมที่ควรพิจารณาดำเนินการ น่าจะได้แก่การขุดคลองระบายน้ำขนาดใหญ่ ให้ทำหน้าที่แบ่งน้ำจากคลองอู่ตะเภาหรือช่วยรับน้ำที่ไหลลงมาท่วมตัวอำเภอหาดใหญ่ ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว" หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ปี 2543 กรมชลประทานจึงได้ผลักดันโครงการคลอง ร.1 ท้องคลองกว้าง 24 เมตร ยาว 21.34 กิโลเมตร แล้วเสร็จในปี 2550 ระบายน้ำได้สูงสุด 465 ลบ.ม. ต่อวินาที ต่อมาได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ขยายคลองให้กว้าง 70-100 เมตร ลึก 7 เมตร ก่อสร้างประตูระบายน้ำหน้าควน 2 และประตูระบายน้ำบางหยี พร้อมสถานีสูบน้ำบางหยี เริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2558 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเป็นแหล่งสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้อีกประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม. พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ "คลองภูมินาถดำริ" เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2559 พสกนิกรชาวนครหาดใหญ่น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ #Newskit
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 737 Views 0 Reviews
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕✨

    เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านวังทองหมู่ที่ ๙ ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูดินด่าง มีสภาพพื้นที่ทุรกันดาร ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่อ้อย และรับจ้าง เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพันชาดน้อยเพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านวังทองที่ขาดแคลนน้ำ ตามที่กรมชลประทานได้พิจารณาโครงการเพื่อก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำไว้ช่วยเหลือพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ พร้อมระบบส่งน้ำแก่ราษฎร ในการนี้ทรง มีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนตามความเหมาะสมทั้งเรื่องแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรและน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค

    cr : สยามรัฐออนไลน์
    #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #23พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕✨ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านวังทองหมู่ที่ ๙ ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูดินด่าง มีสภาพพื้นที่ทุรกันดาร ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่อ้อย และรับจ้าง เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพันชาดน้อยเพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านวังทองที่ขาดแคลนน้ำ ตามที่กรมชลประทานได้พิจารณาโครงการเพื่อก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำไว้ช่วยเหลือพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ พร้อมระบบส่งน้ำแก่ราษฎร ในการนี้ทรง มีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนตามความเหมาะสมทั้งเรื่องแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรและน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค cr : สยามรัฐออนไลน์ #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #23พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 938 Views 0 Reviews
  • บิ๊กโจ๊ก ยังรุกหนัก ตามจี้นายกฯอุ๊งอิ๊ง สอบ ขรก.เอี่ยวเว็บพนัน
    .
    แม้ว่าในปีนี้จะเป็นในรอบหลายปีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผบ.ตร. หลุดวงจรอำนาจ ไม่ได้มีชื่อเป็นแคนดิเดทผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ปรากฎว่ายังมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ได้มีคำสั่งนายกฯที่ 306 / 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียน
    .
    โดยในหนังสือดังกล่าวมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า "ด้วยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้มีหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 21 สิงหาคม ปรากฎมีการพาดพิงข้าราชการหลายประเภท ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ภายใต้หลักธรรมาภิบาลความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงมีคำสั่งให้คณกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามเรื่องร้องเรียน ประกอบด้วย 1.นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ประธานกรรมการ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ผู้แทนกรมชลประทาน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรรมการ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการ"
    .
    "คณะกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
    .
    จากนั้นปรากฎว่าในวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอสำเนาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและอ้างพยานบุคคลให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมืองและพนักงานส่วนท้องถิ่น
    .
    โดยเนื้อความของหนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ข้าพเจ้ากราบเรียนนายกฯ ขอให้พิจารณาดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ช้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่น กรณีพบพยานหลักฐานมีการพาดพิงบุคคลจำนวนหลายรายว่ามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งต่อมาข้าพเจ้ามีหนังสือขอให้นายกฯเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยและอาญากับบุคคลที่ถูกพาดพิง รวมทั้งขอให้นายกฯเป็นผู้พิจารณาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่ปรากฎว่าสำนักเลขาธิการนายกฯได้มีหนังสือนำกราบเรียนนายกฯพิจารณาแล้ว มีบัญชาให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณา พร้อมทั้งได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการดำเนินการที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อันเป็นเอกสารไม่เกี่ยวกบการวินิจฉัยพิจารณา โดยข้าพเจ้าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกกล่าวหาในเรื่องเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องโปร่งใสในการดำเนินการของนายกฯ ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ ดังนี้
    .
    1.ขอสำเนาคำสั่งนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนลงวันที่ 5 กันยายน โดยลบ ตัดทอนหรือทำด้วยประการอื่นใดมิให้ปรากฎชื่อบุคคลที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียนั้น
    .
    2.ขออ้างพันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นพยานบุคคลเพื่อให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่นตามคำสั่งสำนักนายกฯ เนื่องมาจากเป็นผู้ได้รับข้อมูลการเดินบัญชีของบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ามีความสัมพันธ์กับนางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเว็บพนันออนไลน์อย่างไร จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    บิ๊กโจ๊ก ยังรุกหนัก ตามจี้นายกฯอุ๊งอิ๊ง สอบ ขรก.เอี่ยวเว็บพนัน . แม้ว่าในปีนี้จะเป็นในรอบหลายปีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผบ.ตร. หลุดวงจรอำนาจ ไม่ได้มีชื่อเป็นแคนดิเดทผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ปรากฎว่ายังมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ได้มีคำสั่งนายกฯที่ 306 / 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียน . โดยในหนังสือดังกล่าวมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า "ด้วยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้มีหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 21 สิงหาคม ปรากฎมีการพาดพิงข้าราชการหลายประเภท ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ภายใต้หลักธรรมาภิบาลความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงมีคำสั่งให้คณกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามเรื่องร้องเรียน ประกอบด้วย 1.นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ประธานกรรมการ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ผู้แทนกรมชลประทาน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรรมการ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการ" . "คณะกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว . จากนั้นปรากฎว่าในวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอสำเนาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและอ้างพยานบุคคลให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมืองและพนักงานส่วนท้องถิ่น . โดยเนื้อความของหนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ข้าพเจ้ากราบเรียนนายกฯ ขอให้พิจารณาดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ช้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่น กรณีพบพยานหลักฐานมีการพาดพิงบุคคลจำนวนหลายรายว่ามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งต่อมาข้าพเจ้ามีหนังสือขอให้นายกฯเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยและอาญากับบุคคลที่ถูกพาดพิง รวมทั้งขอให้นายกฯเป็นผู้พิจารณาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่ปรากฎว่าสำนักเลขาธิการนายกฯได้มีหนังสือนำกราบเรียนนายกฯพิจารณาแล้ว มีบัญชาให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณา พร้อมทั้งได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการดำเนินการที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อันเป็นเอกสารไม่เกี่ยวกบการวินิจฉัยพิจารณา โดยข้าพเจ้าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกกล่าวหาในเรื่องเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องโปร่งใสในการดำเนินการของนายกฯ ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ ดังนี้ . 1.ขอสำเนาคำสั่งนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนลงวันที่ 5 กันยายน โดยลบ ตัดทอนหรือทำด้วยประการอื่นใดมิให้ปรากฎชื่อบุคคลที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียนั้น . 2.ขออ้างพันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นพยานบุคคลเพื่อให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่นตามคำสั่งสำนักนายกฯ เนื่องมาจากเป็นผู้ได้รับข้อมูลการเดินบัญชีของบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ามีความสัมพันธ์กับนางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเว็บพนันออนไลน์อย่างไร จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    9
    0 Comments 0 Shares 1268 Views 0 Reviews
  • กรมชลประทานปรับลดการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095033

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กรมชลประทานปรับลดการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095033 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    47
    0 Comments 0 Shares 2483 Views 0 Reviews
  • กรมชลประทานเตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเตรียมรับสถานการณ์น้ำ หลังปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงลุ่มเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอีกระลอก จาก 1,500 เป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนจะสูงขึ้นอีก 1.50 เมตร กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

    26 กันยายน 2567- รายงานข่าวผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 25 กันยายน 2567 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้น และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

    เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่ทางตอนบนที่ไหลลงลุ่มเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานคาดการณ์ว่า ใน 1-7 วันข้างหน้า ในวันที่ 28 กันยายน 2567 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ประมาณ 2,000-2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับปริมาณน้ำ Sideflow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

    จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยกตัวสูงขึ้นมีปริมาณ 2,350 ลูกบาศก์เมตรวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีก 1 เมตร ถึง 1.50 เมตร และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน

    สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา วันนี้ เมื่อเวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ 1,846 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท มีปริมาณ 1,976 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำระบายท้ายเขื่อน 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นจากเมื่อวาน 22 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.63 เมตร(รทก) ระดับน้ำท้ายเขื่อน ที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นจากเมื่อวาน 72 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 12.82 เมตร(รทก) ต่ำกว่าตลิ่ง 3.52 เมตร

    ที่มา https://mgronline.com/local/detail/9670000090419?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2hmO9YVc6I4FiREnxOwnu7nxk9Np7TEoraa3ZmNf8t5So9DHNnOJRiKDc_aem_1j7Z3amKzwY5KhzYdXgZmQ#m1jac2ecpip0z6v17x

    #Thaitimes
    กรมชลประทานเตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเตรียมรับสถานการณ์น้ำ หลังปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงลุ่มเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอีกระลอก จาก 1,500 เป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนจะสูงขึ้นอีก 1.50 เมตร กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ 26 กันยายน 2567- รายงานข่าวผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 25 กันยายน 2567 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้น และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่ทางตอนบนที่ไหลลงลุ่มเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานคาดการณ์ว่า ใน 1-7 วันข้างหน้า ในวันที่ 28 กันยายน 2567 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ประมาณ 2,000-2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับปริมาณน้ำ Sideflow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยกตัวสูงขึ้นมีปริมาณ 2,350 ลูกบาศก์เมตรวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีก 1 เมตร ถึง 1.50 เมตร และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา วันนี้ เมื่อเวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ 1,846 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท มีปริมาณ 1,976 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำระบายท้ายเขื่อน 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นจากเมื่อวาน 22 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.63 เมตร(รทก) ระดับน้ำท้ายเขื่อน ที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นจากเมื่อวาน 72 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 12.82 เมตร(รทก) ต่ำกว่าตลิ่ง 3.52 เมตร ที่มา https://mgronline.com/local/detail/9670000090419?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2hmO9YVc6I4FiREnxOwnu7nxk9Np7TEoraa3ZmNf8t5So9DHNnOJRiKDc_aem_1j7Z3amKzwY5KhzYdXgZmQ#m1jac2ecpip0z6v17x #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 1089 Views 0 Reviews
  • 🔻สส.ฉัตร สุภัทรวณิชย์ อภิปรายหารือประธานสภา 11 กย. 67

    1. บ่อขยะ - รถเครื่องจักรไถกลบขยะ เมืองโคราช :
    เร่งแก้ไขปัญหารถเครื่องจักร รถแทรคเตอร์, แทคโคร, รถน้ำ ทั้ง 3 คันที่ใช้ในบ่อขยะ ซึ่งเทศบาลนคร นครราชสีมา ดูแลรับผิดชอบอยู่ ใช้งานมานานกว่า 20 ปีและชำรุดพังหมดแล้ว ปัจจุบันใช้รถนอก 2 คัน แต่ตกบ่อขยะไปแล้ว 1 ยังกู้ขึ้นมาจากบ่อไม่ได้ เหลือเพียงคันเดียวที่เจ้าของขับเองโดยไม่มีประสบการณ์ ไม่ชำนาญการปรับเกลี่ยขยะ ขอให้ ทน.นม. เร่งพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาโดยด่วน

    2. การก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ ลำตะคอง : ภูมิทัศน์ที่ต้องการ "คลองชองเกยซอน" ปัจจุบันแปรเป็น คลองชอง "เก๊" ซอน การก่อสร้างคลุมเครือตั้งแต่ต้น ชาวบ้านถามหาการทำประชาพิจารณ์, การขออนุญาตกรมเจ้าท่า / กรมชลประทาน จวบจนปัจจุบันการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ยืดเยื้อเรื้อรังเกินจากระยะเวลาที่ติดป้ายเอาไว้ คนโคราชกังวลช่วงนี้ฝนตกหนักเรื่อยๆ เกรงกีดขวางทางระบายน้ำ โครงการนี้ทำให้ลำน้ำแแคบ ตื้นเขิน สร้างเสร็จแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบดูแลในอนาคต

    3. ฟุตบาท : การก่อสร้างซ่อมแซมฟุตบาท ทุบของเก่าแล้วสร้างของใหม่ทับ เป็นเหตุให้การระบายน้ำในเมืองติดขัดหรือไม่ ? มีการเปิดฝาท่อ - หลุม ขนาดใหญ่โดยมีเพียงเชือกมากั้นล้อมเอาไว้ กลัวว่าจะทำให้เด็กนักเรียน ชาวบ้าน เดินตกท่อได้

    4. ร้านค้า ตึกแถว อาคารในเมืองที่ปิด - หยุดกิจการ ในตัวเมืองโคราชจำนวนมาก หลายแห่งปิดประตูทางเข้าไว้ เมื่อฝนตกเกิดน้ำท่วมขัง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และทำให้ภูมิทัศน์เมืองไม่สวยงาม ไม่มีระเบียบ ขอให้ทางเทศบาลประสานเจ้าของอาคารแก้ไขปัญหาโดยด่วน

    5. เมื่อคืนมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกิดน้ำท่วมหนักฉับพลันในหลายพื้นที่ หลายอำเภอ ขอหารือให้ทุกหน่วยงานของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายโดยด่วน
    🔻สส.ฉัตร สุภัทรวณิชย์ อภิปรายหารือประธานสภา 11 กย. 67 1. บ่อขยะ - รถเครื่องจักรไถกลบขยะ เมืองโคราช : เร่งแก้ไขปัญหารถเครื่องจักร รถแทรคเตอร์, แทคโคร, รถน้ำ ทั้ง 3 คันที่ใช้ในบ่อขยะ ซึ่งเทศบาลนคร นครราชสีมา ดูแลรับผิดชอบอยู่ ใช้งานมานานกว่า 20 ปีและชำรุดพังหมดแล้ว ปัจจุบันใช้รถนอก 2 คัน แต่ตกบ่อขยะไปแล้ว 1 ยังกู้ขึ้นมาจากบ่อไม่ได้ เหลือเพียงคันเดียวที่เจ้าของขับเองโดยไม่มีประสบการณ์ ไม่ชำนาญการปรับเกลี่ยขยะ ขอให้ ทน.นม. เร่งพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาโดยด่วน 2. การก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ ลำตะคอง : ภูมิทัศน์ที่ต้องการ "คลองชองเกยซอน" ปัจจุบันแปรเป็น คลองชอง "เก๊" ซอน การก่อสร้างคลุมเครือตั้งแต่ต้น ชาวบ้านถามหาการทำประชาพิจารณ์, การขออนุญาตกรมเจ้าท่า / กรมชลประทาน จวบจนปัจจุบันการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ยืดเยื้อเรื้อรังเกินจากระยะเวลาที่ติดป้ายเอาไว้ คนโคราชกังวลช่วงนี้ฝนตกหนักเรื่อยๆ เกรงกีดขวางทางระบายน้ำ โครงการนี้ทำให้ลำน้ำแแคบ ตื้นเขิน สร้างเสร็จแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบดูแลในอนาคต 3. ฟุตบาท : การก่อสร้างซ่อมแซมฟุตบาท ทุบของเก่าแล้วสร้างของใหม่ทับ เป็นเหตุให้การระบายน้ำในเมืองติดขัดหรือไม่ ? มีการเปิดฝาท่อ - หลุม ขนาดใหญ่โดยมีเพียงเชือกมากั้นล้อมเอาไว้ กลัวว่าจะทำให้เด็กนักเรียน ชาวบ้าน เดินตกท่อได้ 4. ร้านค้า ตึกแถว อาคารในเมืองที่ปิด - หยุดกิจการ ในตัวเมืองโคราชจำนวนมาก หลายแห่งปิดประตูทางเข้าไว้ เมื่อฝนตกเกิดน้ำท่วมขัง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และทำให้ภูมิทัศน์เมืองไม่สวยงาม ไม่มีระเบียบ ขอให้ทางเทศบาลประสานเจ้าของอาคารแก้ไขปัญหาโดยด่วน 5. เมื่อคืนมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกิดน้ำท่วมหนักฉับพลันในหลายพื้นที่ หลายอำเภอ ขอหารือให้ทุกหน่วยงานของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายโดยด่วน
    0 Comments 0 Shares 643 Views 20 0 Reviews