• ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนไม่พอดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียจริงหรือ?

    ในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมองหาผู้รับผิดชอบในการดับไฟป่า และมีการกล่าวโทษว่าโมเดล AI อย่าง ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนทำให้น้ำไม่พอดับไฟป่า โดยมีการรณรงค์ให้ชาวแคลิฟอร์เนียหยุดใช้งาน ChatGPT เพื่อประหยัดน้ำ

    การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูงและต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอให้ ChatGPT เขียนอีเมล 1 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี ChatGPT จะใช้น้ำ 27 ลิตร และหากชาวอเมริกัน 1 ใน 10 คน หรือ 16 ล้านคนทำเช่นเดียวกันนี้ จะต้องใช้น้ำมากกว่า 435 ล้านลิตร

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำในเขตเมืองออกความเห็นว่า การใช้น้ำของ AI ไม่ใช่ตัวการทำให้มีน้ำไม่พอดับไฟ แต่เป็นเพราะระบบน้ำที่มีอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือภัยพิบัติระดับนี้ เหตุไฟไหม้ป่าลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และพื้นที่เสียหายกว่า 40,000 เอเคอร์

    ChatGPT รวมถึงโมเดล AI อื่นๆ มีรอยเท้าคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าและลุกลามรวดเร็วเมื่อผนวกกับลมแรง

    การใช้น้ำของ ChatGPT และโมเดล AI อื่นๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟป่าและน้ำไม่พอดับไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หรือการใช้เทคโนโลยีการหล่อเย็นแบบจุ่ม (immersion cooling) อาจช่วยลดการใช้น้ำได้

    ในขณะที่นักรณรงค์บนโซเชียลมีเดียบอกว่า หากอยากประหยัดน้ำจริง หยุดใช้ ChatGPT คงไม่พอ คงต้องหยุดใช้โมเดล AI อื่นๆ ด้วย เช่น Claude, Grok, Gemini, Copilot, Midjourney, Leonardo, DALL-E, Firefly, ElevenLabs, Shortwave, Runway, Mem, Suno, Jasper, Notion, Bard, Alphacode, MetaAI, Wordtune และ Stable Diffusion

    การจัดการน้ำในแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติระดับใหญ่เช่นนี้

    ขอบคุณบทความจากเวบ Thairath ครับ

    https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/105099
    ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนไม่พอดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียจริงหรือ? ในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมองหาผู้รับผิดชอบในการดับไฟป่า และมีการกล่าวโทษว่าโมเดล AI อย่าง ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนทำให้น้ำไม่พอดับไฟป่า โดยมีการรณรงค์ให้ชาวแคลิฟอร์เนียหยุดใช้งาน ChatGPT เพื่อประหยัดน้ำ การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูงและต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอให้ ChatGPT เขียนอีเมล 1 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี ChatGPT จะใช้น้ำ 27 ลิตร และหากชาวอเมริกัน 1 ใน 10 คน หรือ 16 ล้านคนทำเช่นเดียวกันนี้ จะต้องใช้น้ำมากกว่า 435 ล้านลิตร อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำในเขตเมืองออกความเห็นว่า การใช้น้ำของ AI ไม่ใช่ตัวการทำให้มีน้ำไม่พอดับไฟ แต่เป็นเพราะระบบน้ำที่มีอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือภัยพิบัติระดับนี้ เหตุไฟไหม้ป่าลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และพื้นที่เสียหายกว่า 40,000 เอเคอร์ ChatGPT รวมถึงโมเดล AI อื่นๆ มีรอยเท้าคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าและลุกลามรวดเร็วเมื่อผนวกกับลมแรง การใช้น้ำของ ChatGPT และโมเดล AI อื่นๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟป่าและน้ำไม่พอดับไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หรือการใช้เทคโนโลยีการหล่อเย็นแบบจุ่ม (immersion cooling) อาจช่วยลดการใช้น้ำได้ ในขณะที่นักรณรงค์บนโซเชียลมีเดียบอกว่า หากอยากประหยัดน้ำจริง หยุดใช้ ChatGPT คงไม่พอ คงต้องหยุดใช้โมเดล AI อื่นๆ ด้วย เช่น Claude, Grok, Gemini, Copilot, Midjourney, Leonardo, DALL-E, Firefly, ElevenLabs, Shortwave, Runway, Mem, Suno, Jasper, Notion, Bard, Alphacode, MetaAI, Wordtune และ Stable Diffusion การจัดการน้ำในแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติระดับใหญ่เช่นนี้ ขอบคุณบทความจากเวบ Thairath ครับ https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/105099
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • 04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน?

    พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว
    พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม
    พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก
    พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น
    พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง
    พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว
    พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน
    พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา
    พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย
    พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน
    พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้
    พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า
    พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย
    พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน
    พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง
    พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง
    พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
    พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ
    พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย
    พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก
    พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง
    พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
    พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ
    พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย
    พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น

    มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!

    หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์)
    04 เม.ย. 62
    16.53 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?”

    ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ

    ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์

    ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง

    ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม

    … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม )

    ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน

    ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” )

    ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน? พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้ พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย! หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์) 04 เม.ย. 62 16.53 น. ------------------------------------------------------------------------— Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?” ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์ ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม ) ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” ) ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goldman Sachs ได้ออกมาคาดการณ์ว่า Tesla จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับธุรกิจ Robotaxi ในครึ่งหลังของปี 2026 โดยจะใช้การช่วยเหลือจากระยะไกลและการกำหนดขอบเขตการทำงาน (Geofencing) การช่วยเหลือจากระยะไกล (Remote Assistance) หมายถึงการใช้มนุษย์ช่วยในการควบคุมหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบขับขี่อัตโนมัติของรถยนต์ เช่น การช่วยเหลือในการตัดสินใจเมื่อระบบขับขี่อัตโนมัติไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหรือปลอดภัยในบางสถานการณ์ ซึ่งเป็นแนวทางที่คล้ายกับที่ใช้โดย Robotaxi ของคู่แข่งในปัจจุบัน

    Mark Delaney นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้กล่าวถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบขับขี่อัตโนมัติ (FSD) รุ่นที่ 13 ของ Tesla ว่ามีการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ โดยอ้างอิงจากการทดสอบล่าสุด ข้อมูลจากผู้ใช้ และการรีวิวจากบุคคลที่สาม อย่างไรก็ตาม Tesla ยังคงตามหลัง Waymo ซึ่งมีการให้บริการ Robotaxi บนเส้นทางที่กำหนดขอบเขตการทำงานอย่างเข้มงวด

    Delaney ยังระบุว่า FSD ของ Tesla ยังต้องการการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถขับขี่ได้โดยไม่ต้องใช้สายตาในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น บนทางหลวงในสภาพอากาศที่ดี หรือการขับขี่ในระดับ 3 ของการขับขี่อัตโนมัติ

    Goldman Sachs คาดว่า Tesla จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับธุรกิจ Robotaxi ในครึ่งหลังของปี 2026 โดยใช้การช่วยเหลือจากระยะไกลและการกำหนดขอบเขตการทำงาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางเทคนิคของซอฟต์แวร์ FSD ของ Tesla แม้ว่าจะจำกัดอัตราการขยายตัวในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

    นอกจากนี้ Morgan Stanley นักวิเคราะห์ Adam Jonas ได้เพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของ Tesla จาก $400 เป็น $430 แต่ยังคงไม่คาดหวังว่าจะมีการใช้งาน Robotaxi อย่างมีนัยสำคัญจนถึงปี 2032

    https://wccftech.com/goldman-sachs-tesla-robotaxi-business-to-begin-commercial-operations-in-2h26-will-use-remote-assistance-and-geofencing/
    Goldman Sachs ได้ออกมาคาดการณ์ว่า Tesla จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับธุรกิจ Robotaxi ในครึ่งหลังของปี 2026 โดยจะใช้การช่วยเหลือจากระยะไกลและการกำหนดขอบเขตการทำงาน (Geofencing) การช่วยเหลือจากระยะไกล (Remote Assistance) หมายถึงการใช้มนุษย์ช่วยในการควบคุมหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบขับขี่อัตโนมัติของรถยนต์ เช่น การช่วยเหลือในการตัดสินใจเมื่อระบบขับขี่อัตโนมัติไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหรือปลอดภัยในบางสถานการณ์ ซึ่งเป็นแนวทางที่คล้ายกับที่ใช้โดย Robotaxi ของคู่แข่งในปัจจุบัน Mark Delaney นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้กล่าวถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบขับขี่อัตโนมัติ (FSD) รุ่นที่ 13 ของ Tesla ว่ามีการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ โดยอ้างอิงจากการทดสอบล่าสุด ข้อมูลจากผู้ใช้ และการรีวิวจากบุคคลที่สาม อย่างไรก็ตาม Tesla ยังคงตามหลัง Waymo ซึ่งมีการให้บริการ Robotaxi บนเส้นทางที่กำหนดขอบเขตการทำงานอย่างเข้มงวด Delaney ยังระบุว่า FSD ของ Tesla ยังต้องการการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถขับขี่ได้โดยไม่ต้องใช้สายตาในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น บนทางหลวงในสภาพอากาศที่ดี หรือการขับขี่ในระดับ 3 ของการขับขี่อัตโนมัติ Goldman Sachs คาดว่า Tesla จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับธุรกิจ Robotaxi ในครึ่งหลังของปี 2026 โดยใช้การช่วยเหลือจากระยะไกลและการกำหนดขอบเขตการทำงาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางเทคนิคของซอฟต์แวร์ FSD ของ Tesla แม้ว่าจะจำกัดอัตราการขยายตัวในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้ Morgan Stanley นักวิเคราะห์ Adam Jonas ได้เพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของ Tesla จาก $400 เป็น $430 แต่ยังคงไม่คาดหวังว่าจะมีการใช้งาน Robotaxi อย่างมีนัยสำคัญจนถึงปี 2032 https://wccftech.com/goldman-sachs-tesla-robotaxi-business-to-begin-commercial-operations-in-2h26-will-use-remote-assistance-and-geofencing/
    WCCFTECH.COM
    Goldman Sachs: "Tesla's Robotaxi Business To Begin Commercial Operations In 2H26," Will "Use Remote Assistance And Geofencing"
    Goldman Sachs analyst Mark Delaney touts the "meaningfully improved" performance of the just-released version 13 of Tesla's FSD.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงใหม่-"ดอยอินทนนท์"แช่แข็ง!ยอดหญ้าต่ำกว่าจุดเยือกแข็งต่อเนื่อง ล่าสุดติดลบ 1.7องศาเซลเซียส ทำเกิด "เหมยขาบ"ติดต่อกันเป็นวันที่5 แล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงคึกคักท้าลมหนาวต่ำสุด 3 องศาเซลเซียส

    รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เช้าวันนี้ (15 ม.ค. 68) สภาพอากาศที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงหนาวเย็นจัดต่อเนื่อง พร้อมทั้งเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือ "เหมยขาบ"ขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่5 และนับเป็นครั้งที่19 ของฤดูหนาวปีนี้ โดยพบน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นที่บริเวณกิ่วแม่ปานและยอดดอย ความตื่นเต้นดีใจให้กับนักท่องเที่ยว ที่ต่างพากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างประทับใจ

    ทั้งนี้อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ วัดได้ 3 องศาเซลเซียส ที่กิ่วแม่ปาน ซึ่งยอดหญ้าวัดอุณหภูมิได้ติดลบ 1.7 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณยอดดอยวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 5 องศาเซลเซียส และยอดหญ้าวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ติดลบ 0.9 องศาเซลเซียส

    สำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั้น ช่วงเช้าวันนี้พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงต่างพากันท้าลมหนาวชมธรรมชาติกันอย่างคึกคัก แต่ไม่มากเท่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยสถิตินักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 68 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,273 คน แบ่งเป็น คนไทย 2,817 คน ชาวต่างชาติ 1,456 คน ยานพาหนะ 1,140 คัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000004326

    #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์ #อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
    เชียงใหม่-"ดอยอินทนนท์"แช่แข็ง!ยอดหญ้าต่ำกว่าจุดเยือกแข็งต่อเนื่อง ล่าสุดติดลบ 1.7องศาเซลเซียส ทำเกิด "เหมยขาบ"ติดต่อกันเป็นวันที่5 แล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงคึกคักท้าลมหนาวต่ำสุด 3 องศาเซลเซียส • รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เช้าวันนี้ (15 ม.ค. 68) สภาพอากาศที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงหนาวเย็นจัดต่อเนื่อง พร้อมทั้งเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือ "เหมยขาบ"ขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่5 และนับเป็นครั้งที่19 ของฤดูหนาวปีนี้ โดยพบน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นที่บริเวณกิ่วแม่ปานและยอดดอย ความตื่นเต้นดีใจให้กับนักท่องเที่ยว ที่ต่างพากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างประทับใจ • ทั้งนี้อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ วัดได้ 3 องศาเซลเซียส ที่กิ่วแม่ปาน ซึ่งยอดหญ้าวัดอุณหภูมิได้ติดลบ 1.7 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณยอดดอยวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 5 องศาเซลเซียส และยอดหญ้าวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ติดลบ 0.9 องศาเซลเซียส • สำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั้น ช่วงเช้าวันนี้พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงต่างพากันท้าลมหนาวชมธรรมชาติกันอย่างคึกคัก แต่ไม่มากเท่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยสถิตินักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 68 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,273 คน แบ่งเป็น คนไทย 2,817 คน ชาวต่างชาติ 1,456 คน ยานพาหนะ 1,140 คัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000004326 • #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์ #อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงระดมกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนหลายพันหลัง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คนและสูญหายอย่างน้อย 16 คนในย่านเทศมณฑลลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ของสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ท่ามกลางคำเตือนที่ว่าว่า สภาพอากาศอันตรายที่เอื้ออำนวยให้ไฟป่าลุกลามจะหวนกลับมาถึงช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยจะอันตรายอย่างยิ่งในวันอังคาร (14) ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ไฟป่าครั้งนี้อาจเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
    .
    สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ออกคำเตือนในวันอาทิตย์ (12) ว่า สภาพอากาศอันตรายจะหวนกลับมาและคงอยู่จนถึงวันพุธ (15) โดยมีความเร็วลมคงที่ที่ 80 กม./ชม. และความเร็วลมสูงสุด 113 กม./ชม. แต่จะอันตรายที่สุดในวันอังคาร
    .
    ริช ธอมป์สัน นักอุตุนิยมวิทยาของเอ็นดับเบิลยูเอส กล่าวในการประชุมชุมชนเมื่อคืนวันเสาร์ (11) ว่า ลอสแองเจลิสจะเผชิญกับลมซานตาแอนา ที่มีกำลังแรงมาก ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ประกอบกับใบไม้ใบหญ้าแห้งมาก ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ไฟป่าลุกลามแรงขึ้น
    .
    อย่างไรก็ดี แอนโทนี ซี. มาร์โรน หัวหน้าแผนกดับเพลิงเทศมณฑลลอสแองเจลิส แถลงว่า มีรถบรรทุกน้ำมาเพิ่มอีก 70 คันเพื่อเตรียมรับมือลมกรรโชกแรงระลอกใหม่ และเสริมว่า การใช้เครื่องบินโปรยสารหน่วงไฟเมื่อวันอาทิตย์จะช่วยสร้างแนวป้องกันไฟบริเวณไหล่เขา
    .
    ลมซานตาแอน าที่โหมกระหน่ำรุนแรงถูกระบุว่า เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไฟป่าที่ปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ซึ่งเผาผลาญย่านต่างๆ ทั่วเมืองลอสแองเจลิสที่ไม่มีฝนตกหนักมากว่า 8 เดือน
    .
    โรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลลอสแองเจลิส แถลงว่า มีประชาชน 12 คนสูญหายในเขตที่เกิดไฟป่าอีตันไฟร์ และ 4 คนในเขตไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ และอาจมีรายงานผู้สูญหายเพิ่มอีกนับสิบในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบว่า ผู้สูญหายบางคนอาจอยู่ในรายชื่อผู้เสียชีวิตหรือไม่
    .
    สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งหมด 24 คน และเจ้าหน้าที่คาดว่า ตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันขณะที่ทีมค้นหาพร้อมสุนัขกู้ภัยที่เน้นดมกลิ่นทำการค้นหาอย่างเป็นระบบในย่านต่างๆ ซึ่งถูกไฟเผาเผลาญ
    .
    นอกจากนั้นยังมีการออกคำเตือนว่า เถ้าถ่านจากไฟป่าอาจมีสารตะกั่ว สารหนู แร่ใยหิน และวัสดุอันตรายอื่นๆ ปะปนอยู่ รวมทั้งมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการปล้นชิง โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า จับกุมผู้กระทำผิดได้เพิ่มขึ้น
    .
    สำนักงานป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) แถลงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า ไฟป่าพาลิเซดส์ อีตัน เคนเนธ และเฮิร์สต์ เผาผลาญพื้นที่รวม 160 ตารางกิโลเมตร หรือกว้างกว่าพื้นที่นครซานฟรานซิสโกเสียอีก ขณะที่ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงในพาลิเซดส์ไฟร์ได้ 11%, อีตันไฟร์ 27%
    .
    เจ้าหน้าที่จากแคลิฟอร์เนียและอีก 8 รัฐเป็นส่วนหนึ่งของทีมรับมือไฟป่าที่รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิงเกือบ 1,400 เครื่อง เครื่องบิน 84 ลำ และบุคลากรกว่า 14,000 คน โดยรวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเม็กซิโกที่เพิ่งเดินทางมาสมทบช่วยเหลือ
    .
    ไฟป่าที่ปะทุขึ้นในวันอังคาร (7 ม.ค.) ทางด้านเหนือของตัวเมืองแอลเอขณะนี้เผาผลาญสิ่งปลูกสร้างไปแล้วกว่า 12,000 หลัง การประเมินเบื้องต้นของแอกคิวเวธเตอร์ระบุว่า ภัยพิบัตินี้อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ 135,000-150,000 ล้านดอลลาร์
    .
    เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุระหว่างให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซีที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า นี่อาจเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
    .
    นอกจากนั้นเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) นิวซัมยังสั่งให้ตรวจสอบว่า เหตุใดน้ำจึงหมดจากอ่างเก็บน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำได้ 440 ล้านลิตร และหัวดับเพลิงบางแห่งจึงไม่มีน้ำ
    .
    คริสติน โครว์ลีย์ หัวหน้าแผนกดับเพลิงเมืองแอลเอ กล่าวหาว่า ผู้นำของแอลเอไม่จัดสรรงบประมาณให้หน่วยดับเพลิงเพียงพอ และยังวิจารณ์สถานการณ์ที่หน่วยดับเพลิงไม่มีน้ำมาใช้ดับไฟป่า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003914
    ..............
    Sondhi X
    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงระดมกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนหลายพันหลัง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คนและสูญหายอย่างน้อย 16 คนในย่านเทศมณฑลลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ของสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ท่ามกลางคำเตือนที่ว่าว่า สภาพอากาศอันตรายที่เอื้ออำนวยให้ไฟป่าลุกลามจะหวนกลับมาถึงช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยจะอันตรายอย่างยิ่งในวันอังคาร (14) ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ไฟป่าครั้งนี้อาจเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา . สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ออกคำเตือนในวันอาทิตย์ (12) ว่า สภาพอากาศอันตรายจะหวนกลับมาและคงอยู่จนถึงวันพุธ (15) โดยมีความเร็วลมคงที่ที่ 80 กม./ชม. และความเร็วลมสูงสุด 113 กม./ชม. แต่จะอันตรายที่สุดในวันอังคาร . ริช ธอมป์สัน นักอุตุนิยมวิทยาของเอ็นดับเบิลยูเอส กล่าวในการประชุมชุมชนเมื่อคืนวันเสาร์ (11) ว่า ลอสแองเจลิสจะเผชิญกับลมซานตาแอนา ที่มีกำลังแรงมาก ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ประกอบกับใบไม้ใบหญ้าแห้งมาก ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ไฟป่าลุกลามแรงขึ้น . อย่างไรก็ดี แอนโทนี ซี. มาร์โรน หัวหน้าแผนกดับเพลิงเทศมณฑลลอสแองเจลิส แถลงว่า มีรถบรรทุกน้ำมาเพิ่มอีก 70 คันเพื่อเตรียมรับมือลมกรรโชกแรงระลอกใหม่ และเสริมว่า การใช้เครื่องบินโปรยสารหน่วงไฟเมื่อวันอาทิตย์จะช่วยสร้างแนวป้องกันไฟบริเวณไหล่เขา . ลมซานตาแอน าที่โหมกระหน่ำรุนแรงถูกระบุว่า เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไฟป่าที่ปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ซึ่งเผาผลาญย่านต่างๆ ทั่วเมืองลอสแองเจลิสที่ไม่มีฝนตกหนักมากว่า 8 เดือน . โรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลลอสแองเจลิส แถลงว่า มีประชาชน 12 คนสูญหายในเขตที่เกิดไฟป่าอีตันไฟร์ และ 4 คนในเขตไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ และอาจมีรายงานผู้สูญหายเพิ่มอีกนับสิบในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบว่า ผู้สูญหายบางคนอาจอยู่ในรายชื่อผู้เสียชีวิตหรือไม่ . สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งหมด 24 คน และเจ้าหน้าที่คาดว่า ตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันขณะที่ทีมค้นหาพร้อมสุนัขกู้ภัยที่เน้นดมกลิ่นทำการค้นหาอย่างเป็นระบบในย่านต่างๆ ซึ่งถูกไฟเผาเผลาญ . นอกจากนั้นยังมีการออกคำเตือนว่า เถ้าถ่านจากไฟป่าอาจมีสารตะกั่ว สารหนู แร่ใยหิน และวัสดุอันตรายอื่นๆ ปะปนอยู่ รวมทั้งมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการปล้นชิง โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า จับกุมผู้กระทำผิดได้เพิ่มขึ้น . สำนักงานป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) แถลงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า ไฟป่าพาลิเซดส์ อีตัน เคนเนธ และเฮิร์สต์ เผาผลาญพื้นที่รวม 160 ตารางกิโลเมตร หรือกว้างกว่าพื้นที่นครซานฟรานซิสโกเสียอีก ขณะที่ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงในพาลิเซดส์ไฟร์ได้ 11%, อีตันไฟร์ 27% . เจ้าหน้าที่จากแคลิฟอร์เนียและอีก 8 รัฐเป็นส่วนหนึ่งของทีมรับมือไฟป่าที่รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิงเกือบ 1,400 เครื่อง เครื่องบิน 84 ลำ และบุคลากรกว่า 14,000 คน โดยรวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเม็กซิโกที่เพิ่งเดินทางมาสมทบช่วยเหลือ . ไฟป่าที่ปะทุขึ้นในวันอังคาร (7 ม.ค.) ทางด้านเหนือของตัวเมืองแอลเอขณะนี้เผาผลาญสิ่งปลูกสร้างไปแล้วกว่า 12,000 หลัง การประเมินเบื้องต้นของแอกคิวเวธเตอร์ระบุว่า ภัยพิบัตินี้อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ 135,000-150,000 ล้านดอลลาร์ . เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุระหว่างให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซีที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า นี่อาจเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา . นอกจากนั้นเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) นิวซัมยังสั่งให้ตรวจสอบว่า เหตุใดน้ำจึงหมดจากอ่างเก็บน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำได้ 440 ล้านลิตร และหัวดับเพลิงบางแห่งจึงไม่มีน้ำ . คริสติน โครว์ลีย์ หัวหน้าแผนกดับเพลิงเมืองแอลเอ กล่าวหาว่า ผู้นำของแอลเอไม่จัดสรรงบประมาณให้หน่วยดับเพลิงเพียงพอ และยังวิจารณ์สถานการณ์ที่หน่วยดับเพลิงไม่มีน้ำมาใช้ดับไฟป่า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003914 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1114 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มีรายงานการแจ้งเตือนประชาชนราว 10 ล้านคนให้เตรียมตัวอพยพ"

    เนื่องจากสภาพอากาศที่มีลมแรงถึง 70 ไมล์ต่อชั่วโมงในซานตาแอนาเตรียมกลับมามีกำลังแรงอีกครั้งในวันนี้ ทำให้ประชากรทั้งเทศมณฑลลอสแองเจลิส 10 ล้านคนต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพื่อเตรียมอพยพออกจากพื้นที่

    เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมรับมือกับสิ่งที่เรียกว่า "สถานการณ์อันตรายเป็นพิเศษ" (particularly dangerous situation)

    ไฟป่าได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 24 ราย ทำลายอาคารบ้านเรือนไป 12,300 หลัง และประชาชน 100,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

    ไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) ได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 37 ตารางไมล์ (ควบคุมได้เพียง 14%) ขณะที่ไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) ซึ่งมีขนาดพื้นที่เกือบเท่ากับแมนฮัตตัน ควบคุมได้ 33%

    นิวซัม ผู้ว่าการรัฐฯกล่าวว่า เหตุการณ์นี้อาจถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยประเมินความเสียหายไว้สูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์

    ด้วยลมแรงที่เตรียมโหมกระหน่ำไฟ การต่อสู้ยังไม่จบสิ้น
    "มีรายงานการแจ้งเตือนประชาชนราว 10 ล้านคนให้เตรียมตัวอพยพ" เนื่องจากสภาพอากาศที่มีลมแรงถึง 70 ไมล์ต่อชั่วโมงในซานตาแอนาเตรียมกลับมามีกำลังแรงอีกครั้งในวันนี้ ทำให้ประชากรทั้งเทศมณฑลลอสแองเจลิส 10 ล้านคนต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพื่อเตรียมอพยพออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมรับมือกับสิ่งที่เรียกว่า "สถานการณ์อันตรายเป็นพิเศษ" (particularly dangerous situation) ไฟป่าได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 24 ราย ทำลายอาคารบ้านเรือนไป 12,300 หลัง และประชาชน 100,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) ได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 37 ตารางไมล์ (ควบคุมได้เพียง 14%) ขณะที่ไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) ซึ่งมีขนาดพื้นที่เกือบเท่ากับแมนฮัตตัน ควบคุมได้ 33% นิวซัม ผู้ว่าการรัฐฯกล่าวว่า เหตุการณ์นี้อาจถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยประเมินความเสียหายไว้สูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยลมแรงที่เตรียมโหมกระหน่ำไฟ การต่อสู้ยังไม่จบสิ้น
    Like
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาคารนี้ยืนเด่น รอดจากไฟไหม้ป่า ครั้งใหญ่ ที่ L.A. มาได้อย่างไร ?
    เพราะเขาสร้างด้วยวัสดุกันไฟ ไม่ใช่อาคารไม้ทั่วไป?
    เมื่อครั้งแผ่นดินไหวใหญ่ใน ซีเรีย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็มีอาคารหนึ่งยืนเด่น ไม่พังทะลายลงมาเหมือนอาคารรอบๆ
    อาคารนี้คืออาคารขององค์กรวิศวกรรม แห่งประเทศตุรกี
    ครั้งนั้น ชัดเจนว่าเป็นเพราะเป็นอาคารที่ออกแบบ ก่อสร้างถูกต้องตามมาตราฐาน วิศวกรรม อย่างแน่นอน
    ส่วนอาคารที่ไฟไม่ไหม้ ที่ริมหาดมาลิบู L.A. นี้ เป็น 1 หลังที่รอดจากบ้านจำนวนนับหมื่นหลัง ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญไปหมด
    อาคารนี้เป็นคฤหาสน์ที่พักชายทะเล ของ นักธุรกิจใหญ่ อเมริกันชื่อนาย David Steiner
    เหตุใดจึงไม่ไหม้ไฟ ฟังจากคำให้สัมภาษณ์ของเขา ต่อหนังสือพิมพ์ NewYork Post ดังนี้:
    เขาบอกว่า จริงๆแล้วเขาไม่เคยคิดจะสร้างอาคารเพื่อกันไฟไหม้แต่อย่างใด เพราะไม่มีวี่แววว่าไฟป่าจะสามารถลุกลามลงมาถึงพื้นที่ริมชายหาดได้ !
    แต่เขาต้องการสร้างอาคารที่มั่นคงแข็งแรง สามารถทนแผ่นดินไหวในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ บ้านของเขาเจาะเสาเข็มลึกลงเต็มที่  เขาได้กล่าวขอบคุณผู้ออกแบบ ( สถาปนิกและวิศวกร) ที่ยังได้ เพิ่มเติมความแข็งแรงให้บ้านของเขาโดยมีผนังก่ออิฐฉาบปูน และผนังหินก่อ ทั้งสองด้านข้างและด้านหลังอาคาร หลังคาก็เป็นหลังคาคอนกรีตซึ่งทำให้ไฟไม่สามารถไหม้ลงมาได้ นอกจากนี้ผนังต่างๆยังเสริมด้วย ฉนวนกันความร้อน ทุกๆด้าน นี่ก็ช่วยกันความร้อนจากไฟรอบๆไม่เข้ามาจุดไฟให้ลุกไหม้ข้าวของในอาคารได้
    ตอนนี้ บ้านของเขาได้ชื่อเรียกกันว่าเป็น บ้านมหัศจรรย์ของ สเตนเนอร์ ( David Steiner's $9 million Malibu mansion miraculously survived.)
    ความเห็นส่วนตัวผม เห็นว่า นอกจากสภาพอากาศที่แห้งจัด ความชื้นมีเพียง 10 %เทียบกับกทม. ที่มีความชื้นสูงถึง80-90% บวกกับลมที่พัดโหมแรงถึง 160 กม/ชม. แล้ว วัสดุก่อสร้างบ้านเดี่ยวของคนอเมริกันเกือบทั้งประเทศ นิยมบ้านที่ทำด้วยผนังไม้ หลังคาโครงไม้ ปูด้วยไม้อัดแล้วปูทับด้วยแผ่นยางกันน้ำ ปุด้วยแผ่นหลังคาชิงเกิลชิ้นเล็กๆ ( Shingle) เมื่อมีไฟไหม้จะลามต่อๆกันไปรวดเร็ว ง่ายกว่าบ้านผนังฉาบปูน มาก

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/15gCqaodV2/?mibextid=wwXIfr
    อาคารนี้ยืนเด่น รอดจากไฟไหม้ป่า ครั้งใหญ่ ที่ L.A. มาได้อย่างไร ? เพราะเขาสร้างด้วยวัสดุกันไฟ ไม่ใช่อาคารไม้ทั่วไป? เมื่อครั้งแผ่นดินไหวใหญ่ใน ซีเรีย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็มีอาคารหนึ่งยืนเด่น ไม่พังทะลายลงมาเหมือนอาคารรอบๆ อาคารนี้คืออาคารขององค์กรวิศวกรรม แห่งประเทศตุรกี ครั้งนั้น ชัดเจนว่าเป็นเพราะเป็นอาคารที่ออกแบบ ก่อสร้างถูกต้องตามมาตราฐาน วิศวกรรม อย่างแน่นอน ส่วนอาคารที่ไฟไม่ไหม้ ที่ริมหาดมาลิบู L.A. นี้ เป็น 1 หลังที่รอดจากบ้านจำนวนนับหมื่นหลัง ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญไปหมด อาคารนี้เป็นคฤหาสน์ที่พักชายทะเล ของ นักธุรกิจใหญ่ อเมริกันชื่อนาย David Steiner เหตุใดจึงไม่ไหม้ไฟ ฟังจากคำให้สัมภาษณ์ของเขา ต่อหนังสือพิมพ์ NewYork Post ดังนี้: เขาบอกว่า จริงๆแล้วเขาไม่เคยคิดจะสร้างอาคารเพื่อกันไฟไหม้แต่อย่างใด เพราะไม่มีวี่แววว่าไฟป่าจะสามารถลุกลามลงมาถึงพื้นที่ริมชายหาดได้ ! แต่เขาต้องการสร้างอาคารที่มั่นคงแข็งแรง สามารถทนแผ่นดินไหวในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ บ้านของเขาเจาะเสาเข็มลึกลงเต็มที่  เขาได้กล่าวขอบคุณผู้ออกแบบ ( สถาปนิกและวิศวกร) ที่ยังได้ เพิ่มเติมความแข็งแรงให้บ้านของเขาโดยมีผนังก่ออิฐฉาบปูน และผนังหินก่อ ทั้งสองด้านข้างและด้านหลังอาคาร หลังคาก็เป็นหลังคาคอนกรีตซึ่งทำให้ไฟไม่สามารถไหม้ลงมาได้ นอกจากนี้ผนังต่างๆยังเสริมด้วย ฉนวนกันความร้อน ทุกๆด้าน นี่ก็ช่วยกันความร้อนจากไฟรอบๆไม่เข้ามาจุดไฟให้ลุกไหม้ข้าวของในอาคารได้ ตอนนี้ บ้านของเขาได้ชื่อเรียกกันว่าเป็น บ้านมหัศจรรย์ของ สเตนเนอร์ ( David Steiner's $9 million Malibu mansion miraculously survived.) ความเห็นส่วนตัวผม เห็นว่า นอกจากสภาพอากาศที่แห้งจัด ความชื้นมีเพียง 10 %เทียบกับกทม. ที่มีความชื้นสูงถึง80-90% บวกกับลมที่พัดโหมแรงถึง 160 กม/ชม. แล้ว วัสดุก่อสร้างบ้านเดี่ยวของคนอเมริกันเกือบทั้งประเทศ นิยมบ้านที่ทำด้วยผนังไม้ หลังคาโครงไม้ ปูด้วยไม้อัดแล้วปูทับด้วยแผ่นยางกันน้ำ ปุด้วยแผ่นหลังคาชิงเกิลชิ้นเล็กๆ ( Shingle) เมื่อมีไฟไหม้จะลามต่อๆกันไปรวดเร็ว ง่ายกว่าบ้านผนังฉาบปูน มาก ที่มา https://www.facebook.com/share/p/15gCqaodV2/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลอสแองเจลีสส่งเครื่องบินพ่นน้ำและสารหน่วงไฟเข้าดับไฟป่าบนภูเขาเพื่อสกัดไม่ให้พาลิเซดส์ไฟร์ลามไปยังด้านตะวันออก ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับไฟป่าบรรลัยกัลป์ท่ามกลางลมกรรโชกที่มีความเร็วสูงสุด 112.6 กม./ชม.ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวท่ามกลางการปล้นจี้และแอบพกพาอาวุธ
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่า ช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ลุกลามครอบคลุมพื้นที่อีก 404 เฮกตาร์ และเผาผลาญบ้านเรือนจำนวนมาก ท็อดด์ ฮอปกินส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) แถลงเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ว่า สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ได้ 11% และมีพื้นที่ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญรวมกว่า 8,900 เฮกตาร์
    .
    ฮอปกินส์แจงว่า พาลิเซดส์ไฟน์ลามไปยังย่านแมนเดวิลล์แคนยอน และอาจเข้าสู่เบรนต์วูด ซึ่งเป็นย่านที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าเซเลบ รวมถึงซาน เฟอร์นันโด แวลลีย์ อีกทั้งมุ่งหน้าไปยังทางหลวงหลัก 405 ที่เชื่อมด้านเหนือกับด้านใต้ของเขตแคลิฟอร์เนียใต้
    .
    ขณะเดียวกัน บริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่า ลมซานตาแอนาจะทวีกำลังแรงยิ่งขึ้นในช่วงคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ในเทศมนฑลต่างๆ ของเมืองลอสแองเจลีสและเวนจูรา และระหว่างคืนวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคาร (13-14 ม.ค.) โดยมีความเร็วลมคงที่ที่ 48 กม./ชม. และความเร็วลมสูงสุด 112.6 กม./ชม.
    .
    โรส ชอนเฟลด์ นักอุตุนิยมวิทยาของเอ็นดับเบิลยูเอส ระบุว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดไฟป่าจะยังคงอยู่ต่อไปตลอดวันพุธ (15 ม.ค.) ก่อนลดลงสู่ระดับปานกลางในวันพฤหัสฯ (16 ม.ค.)
    .
    ทางด้านโรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลลอสแองเจลีส เผยว่า จนถึงวันเสาร์คำสั่งอพยพครอบคลุมประชาชน 153,000 คน และสิ่งปลูกสร้าง 57,000 หลังอยู่ในความเสี่ยง โดยอาจมีการอพยพคนเพิ่มอีก 166,000 คน
    .
    อย่างไรก็ดี สตีเวน พาวเวลล์ ซีอีโอเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย เอดิสันเผยว่า จำนวนลูกค้าที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ลดจากกว่า 500,000 รายในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านั้น อยู่ที่ราว 50,000 รายเมื่อวันเสาร์ และไม่มีหลักฐานว่า อุปกรณ์ของเอดิสันทำให้เกิดไฟป่าเฮิร์สต์ไฟร์ซึ่งกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุอยู่
    .
    ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเร่งต่อสู้กับไฟป่าที่โหมกระพือขึ้นในหลายๆ จุดทั่วลอสแองเจลิสในขณะนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่บางส่วนเพื่ออัปเดตสถานการณ์ รวมทั้งฟังบรรยายสรุปจากผู้ช่วยอาวุโสเกี่ยวกับการจัดส่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางไปยังลอสแองเจลีส
    .
    การประกาศภัยพิบัติใหญ่ของไบเดนทำให้รัฐบาลกลางสามารถจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยและเปิดทางให้สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินกลาง (ฟีมา) ให้การสนับสนุนการดำเนินการเหล่านี้ ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่การให้เงินช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้าน การให้เงินชดเชยสำหรับการสูญเสียอาหารหรือยาที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน
    .
    ทั้งนี้ ไฟป่าร้ายแรงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 6 จุดทั่วเทศมณฑลลอสแองเจลีสตั้งแต่วันอังคาร (7 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ลอสแองเจลีสนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และคาดว่า มีผู้สูญหาย 13 คน สร้างความเสียหายหรือทำลายสิ่งปลูกสร้าง 12,000 หลัง นอกจากนั้น ยังคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าไปตรวจค้นในบ้านแต่ละหลัง
    .
    ก่อนที่ไฟป่าจะปะทุระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายงานความคืบหน้าในการควบคุมไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์และอีตันไฟร์ที่เชิงเขาทางตะวันออกของเมือง หลังจากที่ไฟลุกลามเกินความควบคุมนานหลายวันก่อนหน้านั้น โดยในวันเสาร์สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ 11% และอีตันไฟร์ 15% ไฟป่าทั้งสองจุดนี้เผาผลาญพื้นที่ 14,500 เฮกตาร์ หรือ 2.5 เท่าของพื้นที่ทั้งหมดของแมนฮัตตัน
    .
    7 มลรัฐที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงรัฐบาลกลาง แคนาดา และเม็กซิโกจัดส่งความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปยังแคลิฟอร์เนียอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มทีมดับเพลิงทางอากาศทำการพ่นน้ำและสารหน่วงไฟบนภูเขาที่ไฟไหม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินรีบเร่งจัดการแนวควบคุมไฟ
    .
    นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการเคอร์ฟิว ขณะที่มีการจับกุมและตั้งข้อหาลักทรัพย์ ปล้น และครอบครองอาวุธปืนที่ซุกซ่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003508
    ..............
    Sondhi X
    ลอสแองเจลีสส่งเครื่องบินพ่นน้ำและสารหน่วงไฟเข้าดับไฟป่าบนภูเขาเพื่อสกัดไม่ให้พาลิเซดส์ไฟร์ลามไปยังด้านตะวันออก ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับไฟป่าบรรลัยกัลป์ท่ามกลางลมกรรโชกที่มีความเร็วสูงสุด 112.6 กม./ชม.ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวท่ามกลางการปล้นจี้และแอบพกพาอาวุธ . เจ้าหน้าที่เผยว่า ช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ลุกลามครอบคลุมพื้นที่อีก 404 เฮกตาร์ และเผาผลาญบ้านเรือนจำนวนมาก ท็อดด์ ฮอปกินส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) แถลงเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ว่า สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ได้ 11% และมีพื้นที่ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญรวมกว่า 8,900 เฮกตาร์ . ฮอปกินส์แจงว่า พาลิเซดส์ไฟน์ลามไปยังย่านแมนเดวิลล์แคนยอน และอาจเข้าสู่เบรนต์วูด ซึ่งเป็นย่านที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าเซเลบ รวมถึงซาน เฟอร์นันโด แวลลีย์ อีกทั้งมุ่งหน้าไปยังทางหลวงหลัก 405 ที่เชื่อมด้านเหนือกับด้านใต้ของเขตแคลิฟอร์เนียใต้ . ขณะเดียวกัน บริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่า ลมซานตาแอนาจะทวีกำลังแรงยิ่งขึ้นในช่วงคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ในเทศมนฑลต่างๆ ของเมืองลอสแองเจลีสและเวนจูรา และระหว่างคืนวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคาร (13-14 ม.ค.) โดยมีความเร็วลมคงที่ที่ 48 กม./ชม. และความเร็วลมสูงสุด 112.6 กม./ชม. . โรส ชอนเฟลด์ นักอุตุนิยมวิทยาของเอ็นดับเบิลยูเอส ระบุว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดไฟป่าจะยังคงอยู่ต่อไปตลอดวันพุธ (15 ม.ค.) ก่อนลดลงสู่ระดับปานกลางในวันพฤหัสฯ (16 ม.ค.) . ทางด้านโรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลลอสแองเจลีส เผยว่า จนถึงวันเสาร์คำสั่งอพยพครอบคลุมประชาชน 153,000 คน และสิ่งปลูกสร้าง 57,000 หลังอยู่ในความเสี่ยง โดยอาจมีการอพยพคนเพิ่มอีก 166,000 คน . อย่างไรก็ดี สตีเวน พาวเวลล์ ซีอีโอเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย เอดิสันเผยว่า จำนวนลูกค้าที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ลดจากกว่า 500,000 รายในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านั้น อยู่ที่ราว 50,000 รายเมื่อวันเสาร์ และไม่มีหลักฐานว่า อุปกรณ์ของเอดิสันทำให้เกิดไฟป่าเฮิร์สต์ไฟร์ซึ่งกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุอยู่ . ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเร่งต่อสู้กับไฟป่าที่โหมกระพือขึ้นในหลายๆ จุดทั่วลอสแองเจลิสในขณะนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่บางส่วนเพื่ออัปเดตสถานการณ์ รวมทั้งฟังบรรยายสรุปจากผู้ช่วยอาวุโสเกี่ยวกับการจัดส่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางไปยังลอสแองเจลีส . การประกาศภัยพิบัติใหญ่ของไบเดนทำให้รัฐบาลกลางสามารถจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยและเปิดทางให้สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินกลาง (ฟีมา) ให้การสนับสนุนการดำเนินการเหล่านี้ ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่การให้เงินช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้าน การให้เงินชดเชยสำหรับการสูญเสียอาหารหรือยาที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน . ทั้งนี้ ไฟป่าร้ายแรงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 6 จุดทั่วเทศมณฑลลอสแองเจลีสตั้งแต่วันอังคาร (7 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ลอสแองเจลีสนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และคาดว่า มีผู้สูญหาย 13 คน สร้างความเสียหายหรือทำลายสิ่งปลูกสร้าง 12,000 หลัง นอกจากนั้น ยังคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าไปตรวจค้นในบ้านแต่ละหลัง . ก่อนที่ไฟป่าจะปะทุระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายงานความคืบหน้าในการควบคุมไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์และอีตันไฟร์ที่เชิงเขาทางตะวันออกของเมือง หลังจากที่ไฟลุกลามเกินความควบคุมนานหลายวันก่อนหน้านั้น โดยในวันเสาร์สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ 11% และอีตันไฟร์ 15% ไฟป่าทั้งสองจุดนี้เผาผลาญพื้นที่ 14,500 เฮกตาร์ หรือ 2.5 เท่าของพื้นที่ทั้งหมดของแมนฮัตตัน . 7 มลรัฐที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงรัฐบาลกลาง แคนาดา และเม็กซิโกจัดส่งความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปยังแคลิฟอร์เนียอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มทีมดับเพลิงทางอากาศทำการพ่นน้ำและสารหน่วงไฟบนภูเขาที่ไฟไหม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินรีบเร่งจัดการแนวควบคุมไฟ . นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการเคอร์ฟิว ขณะที่มีการจับกุมและตั้งข้อหาลักทรัพย์ ปล้น และครอบครองอาวุธปืนที่ซุกซ่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003508 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 951 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คือ การเปลี่ยนแปลงการกระจายทางสถิติของรูปแบบสภาพอากาศเมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นกินเวลานาน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเฉลี่ย หรือความแปรผันของเวลาของสภาพอากาศเกี่ยวกับภาวะเฉลี่ยที่กินเวลานาน ..
    คำอธิบาย
    หนาวสุดในรอบ 40 ปี เจาะลึกปี68 ไทยเสี่ยง
    ภัยพิบัติรุนแรง / TNN ข่าวเที่ยง / 12-1-68
    ไม่มี
    วิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศของ
    ไทยในปี 2568 มีอะไรที่เราต้องเตรี
    ยมรับมือที่อาจเสี่ยงเผชิญกับภัย
    พิบัติรุนแรง รวมถึงผลกระทบจากสภาพอากาศทั่วโลกกับ รอง
    ศาสตราจารย์ ดร. เสรี ศุภราทิตย์ ผู้
    อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิ
    อากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัย
    รังสิต
    cr:TNN
    https://youtu.be/DNdGfCGqozk?si=ck_7SuxZe9Aebcsi
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คือ การเปลี่ยนแปลงการกระจายทางสถิติของรูปแบบสภาพอากาศเมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นกินเวลานาน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเฉลี่ย หรือความแปรผันของเวลาของสภาพอากาศเกี่ยวกับภาวะเฉลี่ยที่กินเวลานาน .. คำอธิบาย หนาวสุดในรอบ 40 ปี เจาะลึกปี68 ไทยเสี่ยง ภัยพิบัติรุนแรง / TNN ข่าวเที่ยง / 12-1-68 ไม่มี วิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศของ ไทยในปี 2568 มีอะไรที่เราต้องเตรี ยมรับมือที่อาจเสี่ยงเผชิญกับภัย พิบัติรุนแรง รวมถึงผลกระทบจากสภาพอากาศทั่วโลกกับ รอง ศาสตราจารย์ ดร. เสรี ศุภราทิตย์ ผู้ อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิ อากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัย รังสิต cr:TNN https://youtu.be/DNdGfCGqozk?si=ck_7SuxZe9Aebcsi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลางหรือใหญ่ ไม่ใช่แค่ว่าเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนจึงต้องหันมาสนใจ แต่อีกปัจจัยที่สำคัญคือ
    "เดี๋ยวนี้ลูกค้าก็เลือกผู้ประกอบการที่มีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน"
    ....
    ศิษย์เกษตรเราเป็นภาคธุรกิจบริการด้านการตัดแต่งต้นไม้และตัดหญ้า เราแจ้งกับลูกค้าเสมอว่าเรามีบริการขนย้ายเศษกิ่งไม้เหล่านั้นมาทำการหมัก เพื่อลดการเผาขยะเหล่านี้ จริงอยู่ว่าการหมักย่อยสลายก็เกิดแก๊ส แต่มันก็เกิดผลเสียน้อยกว่าการเผาแน่นอน^^
    มันถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลางหรือใหญ่ ไม่ใช่แค่ว่าเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนจึงต้องหันมาสนใจ แต่อีกปัจจัยที่สำคัญคือ "เดี๋ยวนี้ลูกค้าก็เลือกผู้ประกอบการที่มีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน" .... ศิษย์เกษตรเราเป็นภาคธุรกิจบริการด้านการตัดแต่งต้นไม้และตัดหญ้า เราแจ้งกับลูกค้าเสมอว่าเรามีบริการขนย้ายเศษกิ่งไม้เหล่านั้นมาทำการหมัก เพื่อลดการเผาขยะเหล่านี้ จริงอยู่ว่าการหมักย่อยสลายก็เกิดแก๊ส แต่มันก็เกิดผลเสียน้อยกว่าการเผาแน่นอน^^
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • แก้ชง...ถูกเวลา ถูกองค์

    ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่า วันขึ้นปีใหม่เปรียบเสมือนเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ หากได้ริเริ่ม กระทำสิ่งมงคลแก่ชีวิตย่อมเสริมส่งชะตาของตนได้ตลอดทั้งปี ดั่งเช่น การไหว้แก้ชงในช่วงต้นปีจะช่วยปัดเป่าเคราะห์ร้ายภัยเวรของตนได้ อีกทั้งยังช่วยประทานพรความสุขสิริมงคลแก่ชีวิตให้ไม่ตกต่ำย่ำแย่สาหัสจนเกินไป โดยไม่เคยรับรู้เลยว่าวันเริ่มต้นปีใหม่ทางโหราศาสตร์จีนที่แท้จริงนั้นคือวันใด บ้างก็เข้าใจว่าเป็นวันที่ 1 มกราคมของทุกปี บ้างก็คิดว่าเป็นวัน 初一 (ชิวอิก)ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความเข้าใจเหล่านั้นค่อนข้างจะคลาดเคลื่อนเป็นอันมาก เพราะหากแก้ชงผิดช่วงห้วงเวลาย่อมส่งผลกระทบต่อการไหว้ให้ถูกต้องถูกองค์ต่อองค์เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท๊ส่วยเอี๊ย) ประจำปีใหม่นั้นๆไปด้วย
    โหราศาสตร์จีนโบราณจะประกอบด้วยฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว โดยจะเริ่มฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นแห่งฤดูกาลประมาณช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆปีตามที่ชาวจีนเรียกสาร์ทๆนี้ว่า สาร์ท "立春"(หลิบชุน) เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการผลัดเปลี่ยนนักษัตรประจำปีในแต่ละปี

    ประเทศจีนเป็นประเทศเกษตรกรรมมาแต่เก่าก่อน ฤดูใบไม้ผลิจึงเปรียบเสมือนธาตุไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งการก่อเกิดของมวลสรรพสิ่ง ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะแก่การเพาะปลูกส่งผลให้เกิดผลิตผลเป็นจำนวนมาก ญาติพี่น้องลูกหลานที่อยู่ต่างถิ่นจะเดินทางกลับมาช่วยกันหว่านไถเพาะปลูก จึงถือโอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการผลัดเปลี่ยนนักษัตรประจำปี ซึ่งในปีพ.ศ.2568 นี้จะตรงกับวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น. ถึงจะนับได้ว่าเข้าสู่ปีมะเส็งไม้乙巳(อิกจี๋) ธาตุไฟ เต็มตัวอย่างแท้จริง

    สำหรับท่านที่แก้ชงก่อนหน้าสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วควรกลับไปแก้ชงอีกครั้ง หลังวันและเวลาดังกล่าว เพื่อแสดงตนเป็นลูกหลานพร้อมขอขมาและกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าเฝ้าดูแลดวงชะตา“太歲爺”(ไท๊ส่วยเอี๊ย) ประจำปีจร 2568 มะเส็งไม้“乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ที่มีพระนามว่า“吳遂大星軍”(โง้วซุ้ยไต่แชกุง) จึงจะแก้ชงได้ถูกต้องถูกองค์
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    แก้ชง...ถูกเวลา ถูกองค์ ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่า วันขึ้นปีใหม่เปรียบเสมือนเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ หากได้ริเริ่ม กระทำสิ่งมงคลแก่ชีวิตย่อมเสริมส่งชะตาของตนได้ตลอดทั้งปี ดั่งเช่น การไหว้แก้ชงในช่วงต้นปีจะช่วยปัดเป่าเคราะห์ร้ายภัยเวรของตนได้ อีกทั้งยังช่วยประทานพรความสุขสิริมงคลแก่ชีวิตให้ไม่ตกต่ำย่ำแย่สาหัสจนเกินไป โดยไม่เคยรับรู้เลยว่าวันเริ่มต้นปีใหม่ทางโหราศาสตร์จีนที่แท้จริงนั้นคือวันใด บ้างก็เข้าใจว่าเป็นวันที่ 1 มกราคมของทุกปี บ้างก็คิดว่าเป็นวัน 初一 (ชิวอิก)ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความเข้าใจเหล่านั้นค่อนข้างจะคลาดเคลื่อนเป็นอันมาก เพราะหากแก้ชงผิดช่วงห้วงเวลาย่อมส่งผลกระทบต่อการไหว้ให้ถูกต้องถูกองค์ต่อองค์เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท๊ส่วยเอี๊ย) ประจำปีใหม่นั้นๆไปด้วย โหราศาสตร์จีนโบราณจะประกอบด้วยฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว โดยจะเริ่มฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นแห่งฤดูกาลประมาณช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆปีตามที่ชาวจีนเรียกสาร์ทๆนี้ว่า สาร์ท "立春"(หลิบชุน) เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการผลัดเปลี่ยนนักษัตรประจำปีในแต่ละปี ประเทศจีนเป็นประเทศเกษตรกรรมมาแต่เก่าก่อน ฤดูใบไม้ผลิจึงเปรียบเสมือนธาตุไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งการก่อเกิดของมวลสรรพสิ่ง ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะแก่การเพาะปลูกส่งผลให้เกิดผลิตผลเป็นจำนวนมาก ญาติพี่น้องลูกหลานที่อยู่ต่างถิ่นจะเดินทางกลับมาช่วยกันหว่านไถเพาะปลูก จึงถือโอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการผลัดเปลี่ยนนักษัตรประจำปี ซึ่งในปีพ.ศ.2568 นี้จะตรงกับวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น. ถึงจะนับได้ว่าเข้าสู่ปีมะเส็งไม้乙巳(อิกจี๋) ธาตุไฟ เต็มตัวอย่างแท้จริง สำหรับท่านที่แก้ชงก่อนหน้าสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วควรกลับไปแก้ชงอีกครั้ง หลังวันและเวลาดังกล่าว เพื่อแสดงตนเป็นลูกหลานพร้อมขอขมาและกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าเฝ้าดูแลดวงชะตา“太歲爺”(ไท๊ส่วยเอี๊ย) ประจำปีจร 2568 มะเส็งไม้“乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ที่มีพระนามว่า“吳遂大星軍”(โง้วซุ้ยไต่แชกุง) จึงจะแก้ชงได้ถูกต้องถูกองค์ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    มีการพบเห็น "พายุทอร์นาโดไฟ" (Fire tornadoes) ในลอสแองเจลิส

    เป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก จากข้อมูลพบว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อความร้อนที่รุนแรงจากไฟป่าก่อให้เกิดลมร้อนที่หมุนวนขึ้นผสมกับเปลวไฟ รวมทั้งเถ้าถ่าน และเศษซากต่างๆ

    พายุทอร์นาโดไฟสามารถสูงได้หลายร้อยฟุตและเคลื่อนที่อย่างคาดเดาไม่ได้ ทำให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งและควบคุมได้ยาก

    สภาพไฟป่าที่รุนแรง ลมแรง และสภาพอากาศแห้งแล้งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดไฟ
    2/ มีการพบเห็น "พายุทอร์นาโดไฟ" (Fire tornadoes) ในลอสแองเจลิส เป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก จากข้อมูลพบว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อความร้อนที่รุนแรงจากไฟป่าก่อให้เกิดลมร้อนที่หมุนวนขึ้นผสมกับเปลวไฟ รวมทั้งเถ้าถ่าน และเศษซากต่างๆ พายุทอร์นาโดไฟสามารถสูงได้หลายร้อยฟุตและเคลื่อนที่อย่างคาดเดาไม่ได้ ทำให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งและควบคุมได้ยาก สภาพไฟป่าที่รุนแรง ลมแรง และสภาพอากาศแห้งแล้งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดไฟ
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • 1/
    มีการพบเห็น "พายุทอร์นาโดไฟ" (Fire tornadoes) ในลอสแองเจลิส

    เป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก จากข้อมูลพบว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อความร้อนที่รุนแรงจากไฟป่าก่อให้เกิดลมร้อนที่หมุนวนขึ้นผสมกับเปลวไฟ รวมทั้งเถ้าถ่าน และเศษซากต่างๆ

    พายุทอร์นาโดไฟสามารถสูงได้หลายร้อยฟุตและเคลื่อนที่อย่างคาดเดาไม่ได้ ทำให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งและควบคุมได้ยาก

    สภาพไฟป่าที่รุนแรง ลมแรง และสภาพอากาศแห้งแล้งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดไฟ
    1/ มีการพบเห็น "พายุทอร์นาโดไฟ" (Fire tornadoes) ในลอสแองเจลิส เป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก จากข้อมูลพบว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อความร้อนที่รุนแรงจากไฟป่าก่อให้เกิดลมร้อนที่หมุนวนขึ้นผสมกับเปลวไฟ รวมทั้งเถ้าถ่าน และเศษซากต่างๆ พายุทอร์นาโดไฟสามารถสูงได้หลายร้อยฟุตและเคลื่อนที่อย่างคาดเดาไม่ได้ ทำให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งและควบคุมได้ยาก สภาพไฟป่าที่รุนแรง ลมแรง และสภาพอากาศแห้งแล้งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดไฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจ การค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจา เพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับจนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง

    เสริมความมงคล : ตั้งพัดลมทรงสูง
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจ การค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจา เพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับจนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง เสริมความมงคล : ตั้งพัดลมทรงสูง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    4/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    3/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    2/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    1/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • จีนระบุในวันพุธ (8 ม.ค.) สามารถช่วยผู้ประสบภัยกว่า 400 คนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวในทิเบตเมื่อวันอังคาร (7) โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงกำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายไม่ทราบจำนวนท่ามกลางสภาพอากาศติดลบ 18 องศาเซลเซียส

    พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 6.8 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าวันอังคาร และถือเป็นธรณีพิโรธครั้งรุนแรงที่สุดในบริเวณดังกล่าวในรอบหลายปีที่ผ่านมา อยู่ที่อำเภอติงกริ จังหวัดซีกัตเซ ของเขตปกครองตนเองทิเบต โดยอยู่ห่างจากด้านเหนือของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกประมาณ 80 กิโลเมตร ขณะที่ซีกัตเซ ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพุทธนิกายทิเบต เนื่องจากเมืองซีกัตเซถือเป็นที่ประทับของปันเจนลามะ หนึ่งในพระลามะผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของศาสนาพุทธนิกายทิเบต โดยเป็นรองเฉพาะองค์ทะไลลามะเท่านั้น

    จากการที่แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 24 ชั่วโมง ย่อมหมายความว่าผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังต้องผจญค่ำคืนที่อุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งมาแล้ว 1 คืน และเพิ่มความกดดันสำหรับพวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ต้องรีบเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่ประสบภัยซึ่งเป็นเขตเขาสูง และมีความกว้างขวางพอๆ กับอาณาเขตประเทศกัมพูชา

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ท่ามกลางอุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวที่ลดลงถึงระดับ -18 องศาเซลเซียสในช่วงคืนวันอังคาร ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังหรือกระทั่งผู้ซึ่งต้องหลบภัยอยู่นอกอาคารบ้านเรือน มีความเสี่ยงเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำกว่าปกติอย่างรวดเร็ว และอาจอยู่รอดได้เพียง 5-10 ชั่วโมงแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ

    ภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) เผยให้เห็นสมาชิกครอบครัวเบียดกันอยู่ในเต็นท์สีน้ำเงินและเขียวที่ทหารและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์รีบไปติดตั้งให้ในชุมชนรอบๆ พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยที่ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมาอีกหลายร้อยระลอก

    ในวันพุธ ซีซีทีวียังคงรายงานตัวเลขเดิมซึ่งอัปเดตตั้งแต่ตอนดึกวันอังคารที่ว่า ในทิเบตมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 126 คน และบาดเจ็บ 188 คน ขณะที่รายงานจากพวกเพื่อนบ้านอย่างเนปาลและประเทศใกล้เคียง ถึงแม้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนขณะเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทว่ายังไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิต

    จากการวิเคราะห์ของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ ความรุนแรงของแผ่นดินไหวในทิเบตคราวนี้ ทำให้พื้นดินรอบๆ พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวยุบตัวลงถึง 1.6 เมตรในระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร

    ด้านสื่อของทางการจีนรายงานว่า บริเวณโดยรอบของพื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ในสภาพเสียหายหนัก จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า บ้านเรือน 3,609 หลังพังทลายในเมืองซีกัตเซ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ 800,000 คน และเวลานี้ทางการจีนจัดส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 14,000 คนไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว

    ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแถลงวันพุธ (8 ) ว่า ผู้ประสบภัยกว่า 46,500 คนถูกนำไปยังที่พักใหม่ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยว 484 คนในติงกริที่ได้รับการนำส่งอย่างปลอดภัยไปยังเมืองซีกัตเซ

    ทั้งนี้ พื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งครอบคลุมถึงทิเบต ที่มีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองระดับมณฑลของแดนมังกร รวมทั้งเนปาล และตอนเหนือของอินเดีย เป็นพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากการแปรสัณฐานของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและยูเรเซียที่มาบรรจบกัน

    รายงานระบุว่า จนถึงเที่ยงวันพุธ มีอาฟเตอร์ช็อก เกิดขึ้น 646 ครั้งในบริเวณรอบๆ พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยครั้งรุนแรงที่สุดอยู่ในระดับ 4.4

    ข้อมูลจากสำนักงานแผ่นดินไหวท้องถิ่นระบุว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหว 29 ครั้ง วัดความแรงได้ระดับ 3 ขึ้นไปภายในรัศมี 200 กิโลเมตรรอบพื้นท่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคาร

    เหมิง ฮุ่ย รองหัวหน้าสำนักงานแผ่นดินไหวทิเบต แถลงว่า จากการวิเคราะห์พบว่า อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5-6 ในบริเวณเดียวกันนี้ในอนาคต

    แผ่นดินไหวในทิเบตเมื่อวันอังคารถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในจีนนับจากปี 2023 ที่เกิดแผ่นดินไหวความแรง 6.2 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 149 คนในพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

    ปี 2008 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ในเสฉวน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70,000 คน ถือเป็นแผ่นดินไหวในจีนที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับจากเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองถังชานในปี 1976 ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 242,000 คน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002350
    ..............
    Sondhi X
    จีนระบุในวันพุธ (8 ม.ค.) สามารถช่วยผู้ประสบภัยกว่า 400 คนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวในทิเบตเมื่อวันอังคาร (7) โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงกำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายไม่ทราบจำนวนท่ามกลางสภาพอากาศติดลบ 18 องศาเซลเซียส พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 6.8 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าวันอังคาร และถือเป็นธรณีพิโรธครั้งรุนแรงที่สุดในบริเวณดังกล่าวในรอบหลายปีที่ผ่านมา อยู่ที่อำเภอติงกริ จังหวัดซีกัตเซ ของเขตปกครองตนเองทิเบต โดยอยู่ห่างจากด้านเหนือของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกประมาณ 80 กิโลเมตร ขณะที่ซีกัตเซ ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพุทธนิกายทิเบต เนื่องจากเมืองซีกัตเซถือเป็นที่ประทับของปันเจนลามะ หนึ่งในพระลามะผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของศาสนาพุทธนิกายทิเบต โดยเป็นรองเฉพาะองค์ทะไลลามะเท่านั้น จากการที่แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 24 ชั่วโมง ย่อมหมายความว่าผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังต้องผจญค่ำคืนที่อุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งมาแล้ว 1 คืน และเพิ่มความกดดันสำหรับพวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ต้องรีบเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่ประสบภัยซึ่งเป็นเขตเขาสูง และมีความกว้างขวางพอๆ กับอาณาเขตประเทศกัมพูชา ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ท่ามกลางอุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวที่ลดลงถึงระดับ -18 องศาเซลเซียสในช่วงคืนวันอังคาร ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังหรือกระทั่งผู้ซึ่งต้องหลบภัยอยู่นอกอาคารบ้านเรือน มีความเสี่ยงเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำกว่าปกติอย่างรวดเร็ว และอาจอยู่รอดได้เพียง 5-10 ชั่วโมงแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ ภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) เผยให้เห็นสมาชิกครอบครัวเบียดกันอยู่ในเต็นท์สีน้ำเงินและเขียวที่ทหารและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์รีบไปติดตั้งให้ในชุมชนรอบๆ พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยที่ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมาอีกหลายร้อยระลอก ในวันพุธ ซีซีทีวียังคงรายงานตัวเลขเดิมซึ่งอัปเดตตั้งแต่ตอนดึกวันอังคารที่ว่า ในทิเบตมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 126 คน และบาดเจ็บ 188 คน ขณะที่รายงานจากพวกเพื่อนบ้านอย่างเนปาลและประเทศใกล้เคียง ถึงแม้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนขณะเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทว่ายังไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิต จากการวิเคราะห์ของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ ความรุนแรงของแผ่นดินไหวในทิเบตคราวนี้ ทำให้พื้นดินรอบๆ พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวยุบตัวลงถึง 1.6 เมตรในระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ด้านสื่อของทางการจีนรายงานว่า บริเวณโดยรอบของพื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ในสภาพเสียหายหนัก จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า บ้านเรือน 3,609 หลังพังทลายในเมืองซีกัตเซ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ 800,000 คน และเวลานี้ทางการจีนจัดส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 14,000 คนไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแถลงวันพุธ (8 ) ว่า ผู้ประสบภัยกว่า 46,500 คนถูกนำไปยังที่พักใหม่ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยว 484 คนในติงกริที่ได้รับการนำส่งอย่างปลอดภัยไปยังเมืองซีกัตเซ ทั้งนี้ พื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งครอบคลุมถึงทิเบต ที่มีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองระดับมณฑลของแดนมังกร รวมทั้งเนปาล และตอนเหนือของอินเดีย เป็นพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากการแปรสัณฐานของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและยูเรเซียที่มาบรรจบกัน รายงานระบุว่า จนถึงเที่ยงวันพุธ มีอาฟเตอร์ช็อก เกิดขึ้น 646 ครั้งในบริเวณรอบๆ พื้นที่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยครั้งรุนแรงที่สุดอยู่ในระดับ 4.4 ข้อมูลจากสำนักงานแผ่นดินไหวท้องถิ่นระบุว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหว 29 ครั้ง วัดความแรงได้ระดับ 3 ขึ้นไปภายในรัศมี 200 กิโลเมตรรอบพื้นท่เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคาร เหมิง ฮุ่ย รองหัวหน้าสำนักงานแผ่นดินไหวทิเบต แถลงว่า จากการวิเคราะห์พบว่า อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5-6 ในบริเวณเดียวกันนี้ในอนาคต แผ่นดินไหวในทิเบตเมื่อวันอังคารถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในจีนนับจากปี 2023 ที่เกิดแผ่นดินไหวความแรง 6.2 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 149 คนในพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ปี 2008 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ในเสฉวน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70,000 คน ถือเป็นแผ่นดินไหวในจีนที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับจากเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองถังชานในปี 1976 ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 242,000 คน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002350 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอาละสิ!!"

    ปริมาณก๊าซสำรองในยุโรปลดลงอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็นที่ทำให้ความต้องการใช้ความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    ปริมาณก๊าซสำรองลดลงมากถึง 25% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี การหมดลงอย่างรวดเร็วของปริมาณก๊าซสำรองอาจทำให้การเติมเต็มก๊าซก่อนถึงฤดูร้อนครั้งหน้าทำได้ยากขึ้น และส่งผลกระทบต่อราคาในระยะสั้น

    Bloomberg รายงาน

    จะเห็นได้ว่าสื่อตะวันตกหลายแห่งพยายามนำเสนอรายงานปริมาณก๊าซสำรองที่ลดต่ำลง เพื่อพยายามกดดันประเทศยุโรปให้เร่งเติมก๊าซจากสหรัฐเข้าคลังสำรอง
    "เอาละสิ!!" ปริมาณก๊าซสำรองในยุโรปลดลงอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็นที่ทำให้ความต้องการใช้ความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ปริมาณก๊าซสำรองลดลงมากถึง 25% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี การหมดลงอย่างรวดเร็วของปริมาณก๊าซสำรองอาจทำให้การเติมเต็มก๊าซก่อนถึงฤดูร้อนครั้งหน้าทำได้ยากขึ้น และส่งผลกระทบต่อราคาในระยะสั้น Bloomberg รายงาน จะเห็นได้ว่าสื่อตะวันตกหลายแห่งพยายามนำเสนอรายงานปริมาณก๊าซสำรองที่ลดต่ำลง เพื่อพยายามกดดันประเทศยุโรปให้เร่งเติมก๊าซจากสหรัฐเข้าคลังสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (5 ม.ค.) เพจ “รศ.ดร. เสรี ศุภราทิตย์” หรือ ผู้อำนวยการ ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “#สวัสดีหลังปีใหม่สภาพอากาศหนาวเย็นช่วงแรก 5-6-7 มกราคมนี้ มาแล้วครับหนาวจริงหนาวจังหนาวแรกปีใหม่ระหว่าง 5-7 มกราคม โดยจะหนาวสุดในวันที่ 6 มกราคมนี้ครับ อุณหภูมิจะลดลงไปอีก 2-3℃ อุณหภูมิต่ำสุด กทม. และปริมณฑลอาจจะลงไปถึง 15℃ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12℃ความหนาวเย็นจะอยู่กับเราจนถึงประมาณวันที่ 20 มกราคม จะเริ่มอุ่นขึ้น
    วันนี้ (5 ม.ค.) เพจ “รศ.ดร. เสรี ศุภราทิตย์” หรือ ผู้อำนวยการ ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “#สวัสดีหลังปีใหม่สภาพอากาศหนาวเย็นช่วงแรก 5-6-7 มกราคมนี้ มาแล้วครับหนาวจริงหนาวจังหนาวแรกปีใหม่ระหว่าง 5-7 มกราคม โดยจะหนาวสุดในวันที่ 6 มกราคมนี้ครับ อุณหภูมิจะลดลงไปอีก 2-3℃ อุณหภูมิต่ำสุด กทม. และปริมณฑลอาจจะลงไปถึง 15℃ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12℃ความหนาวเย็นจะอยู่กับเราจนถึงประมาณวันที่ 20 มกราคม จะเริ่มอุ่นขึ้น
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นครปฐม ใกล้จะบานแล้ว สำหรับปี 2568 คาดการณ์ว่าดอกบานจะ 3 ช่วง ช่วงที่ 1 : บานประปรายระหว่างวันที่ 24-29 ก.พ.2568ช่วงที่ 2 : บานเยอะถ่ายรูปสวยระหว่างวันที่3-9 มี.ค. 2568ช่วงที่ 3 : บานสะพรั่งสวยสุดๆระหว่างวันที่ 10-16 มี.ค.2568ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน จะออกดอกปีละครั้งในช่วงกลางถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนมีนาคม (บางปีอาจมีหลงมาออกดอกในช่วงเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้น ๆ) และจะมีช่วงเวลาออกดอกเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่แนะนำในการมาถ่ายรูปคือช่วงเช้า (ไม่เกิน 10.30 นี่.) และช่วงเย็น (ไม่เกิน 18.30 น.)
    ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นครปฐม ใกล้จะบานแล้ว สำหรับปี 2568 คาดการณ์ว่าดอกบานจะ 3 ช่วง ช่วงที่ 1 : บานประปรายระหว่างวันที่ 24-29 ก.พ.2568ช่วงที่ 2 : บานเยอะถ่ายรูปสวยระหว่างวันที่3-9 มี.ค. 2568ช่วงที่ 3 : บานสะพรั่งสวยสุดๆระหว่างวันที่ 10-16 มี.ค.2568ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน จะออกดอกปีละครั้งในช่วงกลางถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนมีนาคม (บางปีอาจมีหลงมาออกดอกในช่วงเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้น ๆ) และจะมีช่วงเวลาออกดอกเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่แนะนำในการมาถ่ายรูปคือช่วงเช้า (ไม่เกิน 10.30 นี่.) และช่วงเย็น (ไม่เกิน 18.30 น.)
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาฬิกาบอกสภาพอากาศอัจฉริยะนาฬิกาตั้งโต๊ะตั้งโต๊ะประดับด้วยบิตคอยน์โปร่งแสงสถานีสภาพอากาศ Wifi
    พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.t35L2?cc
    นาฬิกาบอกสภาพอากาศอัจฉริยะนาฬิกาตั้งโต๊ะตั้งโต๊ะประดับด้วยบิตคอยน์โปร่งแสงสถานีสภาพอากาศ Wifi พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.t35L2?cc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเอาชนะ Starlink ด้วยการส่งสัญญาณเลเซอร์ภาคพื้นดินในอวกาศ 100 GBPS ที่เร็วกว่าถึง 10 เท่า

    บริษัท Chang Guang Satellite Technology ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มดาวเทียม Jilin-1 ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว โดยรายงานระบุว่า Jilin-1 เป็นเครือข่ายดาวเทียมสำรวจระยะไกลเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ⬇️
    -
    เทคโนโลยีดาวเทียม Chuang Guang เป็นรัฐวิสาหกิจที่บริหารจัดการโดยรัฐบาลมณฑลจี๋หลินและสถาบันออปติก กลศาสตร์ประณีต และฟิสิกส์ฉางชุน
    -
    ข้อมูลดังกล่าวถูกส่งระหว่างสถานีภาคพื้นดินที่ใช้รถบรรทุกเคลื่อนที่กับกลุ่มดาวเทียม 1 ใน 117 ดวงที่อยู่ในวงโคจรของโลก
    -
    “Starlink ของมัสก์ได้เปิดเผยระบบสื่อสารระหว่างดาวเทียมด้วยเลเซอร์แล้ว แต่ยังไม่ได้นำระบบสื่อสารเลเซอร์จากดาวเทียมสู่พื้นดินมาใช้ เราคิดว่าพวกเขาน่าจะมีเทคโนโลยีดังกล่าว แต่เราได้เริ่มใช้งานในระดับใหญ่แล้ว” หวัง หางหาง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสถานีภาคพื้นดินสำหรับการสื่อสารด้วยเลเซอร์ของบริษัทกล่าว
    -
    บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งหน่วยสื่อสารเลเซอร์เหล่านี้ไปยังดาวเทียมทั้งหมดในกลุ่มดาวเทียม Jilin-1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะเชื่อมต่อเครือข่ายดาวเทียม 300 ดวงภายในปี 2020
    -
    ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ดาวเทียมจึงมีความชาญฉลาดและดีขึ้นในการรวบรวมข้อมูลรายละเอียด อย่างไรก็ตาม การส่งข้อมูลทั้งหมดกลับมายังโลกโดยใช้วิธีดั้งเดิมกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ
    -
    การสื่อสารผ่านดาวเทียม โดยเฉพาะการสื่อสารด้วยเลเซอร์ ถือเป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและคุ้มราคา ด้วยเหตุนี้ บริษัท Chang Guang จึงตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเลเซอร์ในปี 2020
    -
    ชางกวงได้พัฒนาเทอร์มินัลการสื่อสารด้วยเลเซอร์ขนาดกะทัดรัด ซึ่งมีขนาดประมาณกระเป๋าเป้ และสามารถส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมและจากอวกาศกลับมายังโลกได้ เทอร์มินัลขั้นสูงนี้ถูกติดตั้งไว้ในเพย์โหลดของดาวเทียม (กำหนดเป็น Jilin-1 02A02) ซึ่งปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อเดือนมิถุนายน 2023
    -
    เนื่องจากสถานีภาคพื้นดินติดตั้งบนยานพาหนะ จึงสามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศเลวร้ายและความปั่นป่วน ทำให้การส่งข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจะมีการจัดตั้งสถานีรับสัญญาณหลายแห่งทั่วประเทศจีนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูลภาพจากการสำรวจระยะไกล
    -
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเลเซอร์ความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว ทั้งสำหรับการส่งข้อมูลจากอวกาศสู่พื้นดินและระหว่างดาวเทียม ตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้ ระบบดังกล่าวสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ 10 Gbps จากอวกาศสู่โลกในเดือนตุลาคม 2023
    -
    ความสำเร็จล่าสุดนี้ที่อัตราการส่งข้อมูล 100Gbps ถือว่าเทียบเท่ากับการส่งภาพยนตร์ความยาวเต็มเรื่อง 10 เรื่องภายใน "วินาทีเดียว"
    -
    การพัฒนาระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์จากดาวเทียมสู่พื้นดินนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านอวกาศของจีนได้อย่างมาก และจะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของดาวเทียมที่ดีขึ้น รวมถึงระบบนำทาง อินเทอร์เน็ต 6G และการสำรวจระยะไกล
    -
    ที่มา: จีนเอาชนะ Starklink ด้วยการส่งสัญญาณเลเซอร์ภาคพื้นดิน-อวกาศความเร็ว 100 Gbps ที่เร็วกว่าถึง 10 เท่า - InterestingEngineering
    จีนเอาชนะ Starlink ด้วยการส่งสัญญาณเลเซอร์ภาคพื้นดินในอวกาศ 100 GBPS ที่เร็วกว่าถึง 10 เท่า บริษัท Chang Guang Satellite Technology ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มดาวเทียม Jilin-1 ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว โดยรายงานระบุว่า Jilin-1 เป็นเครือข่ายดาวเทียมสำรวจระยะไกลเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ⬇️ - เทคโนโลยีดาวเทียม Chuang Guang เป็นรัฐวิสาหกิจที่บริหารจัดการโดยรัฐบาลมณฑลจี๋หลินและสถาบันออปติก กลศาสตร์ประณีต และฟิสิกส์ฉางชุน - ข้อมูลดังกล่าวถูกส่งระหว่างสถานีภาคพื้นดินที่ใช้รถบรรทุกเคลื่อนที่กับกลุ่มดาวเทียม 1 ใน 117 ดวงที่อยู่ในวงโคจรของโลก - “Starlink ของมัสก์ได้เปิดเผยระบบสื่อสารระหว่างดาวเทียมด้วยเลเซอร์แล้ว แต่ยังไม่ได้นำระบบสื่อสารเลเซอร์จากดาวเทียมสู่พื้นดินมาใช้ เราคิดว่าพวกเขาน่าจะมีเทคโนโลยีดังกล่าว แต่เราได้เริ่มใช้งานในระดับใหญ่แล้ว” หวัง หางหาง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสถานีภาคพื้นดินสำหรับการสื่อสารด้วยเลเซอร์ของบริษัทกล่าว - บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งหน่วยสื่อสารเลเซอร์เหล่านี้ไปยังดาวเทียมทั้งหมดในกลุ่มดาวเทียม Jilin-1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะเชื่อมต่อเครือข่ายดาวเทียม 300 ดวงภายในปี 2020 - ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ดาวเทียมจึงมีความชาญฉลาดและดีขึ้นในการรวบรวมข้อมูลรายละเอียด อย่างไรก็ตาม การส่งข้อมูลทั้งหมดกลับมายังโลกโดยใช้วิธีดั้งเดิมกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ - การสื่อสารผ่านดาวเทียม โดยเฉพาะการสื่อสารด้วยเลเซอร์ ถือเป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและคุ้มราคา ด้วยเหตุนี้ บริษัท Chang Guang จึงตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเลเซอร์ในปี 2020 - ชางกวงได้พัฒนาเทอร์มินัลการสื่อสารด้วยเลเซอร์ขนาดกะทัดรัด ซึ่งมีขนาดประมาณกระเป๋าเป้ และสามารถส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมและจากอวกาศกลับมายังโลกได้ เทอร์มินัลขั้นสูงนี้ถูกติดตั้งไว้ในเพย์โหลดของดาวเทียม (กำหนดเป็น Jilin-1 02A02) ซึ่งปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 - เนื่องจากสถานีภาคพื้นดินติดตั้งบนยานพาหนะ จึงสามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศเลวร้ายและความปั่นป่วน ทำให้การส่งข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจะมีการจัดตั้งสถานีรับสัญญาณหลายแห่งทั่วประเทศจีนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูลภาพจากการสำรวจระยะไกล - ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเลเซอร์ความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว ทั้งสำหรับการส่งข้อมูลจากอวกาศสู่พื้นดินและระหว่างดาวเทียม ตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้ ระบบดังกล่าวสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ 10 Gbps จากอวกาศสู่โลกในเดือนตุลาคม 2023 - ความสำเร็จล่าสุดนี้ที่อัตราการส่งข้อมูล 100Gbps ถือว่าเทียบเท่ากับการส่งภาพยนตร์ความยาวเต็มเรื่อง 10 เรื่องภายใน "วินาทีเดียว" - การพัฒนาระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์จากดาวเทียมสู่พื้นดินนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านอวกาศของจีนได้อย่างมาก และจะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของดาวเทียมที่ดีขึ้น รวมถึงระบบนำทาง อินเทอร์เน็ต 6G และการสำรวจระยะไกล - ที่มา: จีนเอาชนะ Starklink ด้วยการส่งสัญญาณเลเซอร์ภาคพื้นดิน-อวกาศความเร็ว 100 Gbps ที่เร็วกว่าถึง 10 เท่า - InterestingEngineering
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าของยุโรปพุ่งสูงถึง 51 ยูโรต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง(megawatt-hour) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 หลังจากยูเครนไม่ยอมขยายสัญญาการขนส่งก๊าซจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรป

    นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวปริมาณก๊าซในคลังที่ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 และสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ในบางส่วนของยุโรปอาจส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น แม้ว่ายุโรปจะมีก๊าซเพียงพอสำหรับฤดูหนาวนี้ แต่การเติมก๊าซสำรองในฤดูกาลหน้าอาจมีต้นทุนที่สูงขึ้น

    การนำเข้าก๊าซจะมีราคาแพงสำหรับประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีส่วนเพิ่มแรงกดดันเพิ่มขึ้น
    ราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าของยุโรปพุ่งสูงถึง 51 ยูโรต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง(megawatt-hour) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 หลังจากยูเครนไม่ยอมขยายสัญญาการขนส่งก๊าซจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรป นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวปริมาณก๊าซในคลังที่ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 และสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ในบางส่วนของยุโรปอาจส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น แม้ว่ายุโรปจะมีก๊าซเพียงพอสำหรับฤดูหนาวนี้ แต่การเติมก๊าซสำรองในฤดูกาลหน้าอาจมีต้นทุนที่สูงขึ้น การนำเข้าก๊าซจะมีราคาแพงสำหรับประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีส่วนเพิ่มแรงกดดันเพิ่มขึ้น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts