• แม้บริษัทต่าง ๆ จะลงเงินลงทุนมหาศาลเพื่อนำ “AI Assistant” มาช่วยงานในคอลเซนเตอร์ ทั้งในแง่การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการสนทนา หรือช่วยตรวจจับอารมณ์ของลูกค้า → แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทพลังงานที่ใช้ระบบนี้จริง กลับเผยว่า AI สร้าง “ปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ” สำหรับพนักงานแนวหน้าอย่างแท้จริง

    ตัวอย่างปัญหาที่เจอ:
    - ถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบผิด ๆ
    - อ่านเบอร์โทรศัพท์จากเสียงผิดพลาด
    - เข้าใจคำพ้องเสียง (homophones) ผิด
    - สรุปบทสนทนาไม่ตรงประเด็น
    - ตรวจจับอารมณ์คนผิด (เช่น แค่พูดเสียงดัง → ถูกตีความว่าโกรธ)

    แม้จะลดงานพิมพ์เอกสารได้นิดหน่อย แต่พนักงานต้องเสียเวลาตรวจ–แก้เนื้อหาเกือบทั้งหมด บางคนถึงขั้นบอกว่า “AI ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดเลย” และสุดท้ายต้องทำเองแทบทั้งหมดอยู่ดี

    AI Assistant สำหรับคอลเซนเตอร์ ถูกประเมินว่า “ช่วยบางเรื่อง แต่อยู่ไกลจากคำว่าอัจฉริยะ”  
    • ประสิทธิภาพยังไม่ถึงขั้นแทนที่การทำงานของพนักงานได้จริง

    ถอดเสียง (Speech-to-Text) มีความผิดพลาดสูง  
    • ฟังสำเนียงหลากหลายไม่ออก  
    • ถอดหมายเลขผิด ทำให้ต้องกรอกเอง

    เข้าใจคำพ้องเสียงผิด (เช่น knew vs. new)  
    • ทำให้ความหมายในบทสนทนาเพี้ยน

    Emotion Detection มีความคลาดเคลื่อน  
    • แยกแยะอารมณ์ได้แค่ไม่กี่แบบ  
    • เข้าใจผิดว่า “เสียงดัง = โกรธ” ทั้งที่ผู้พูดแค่เสียงใหญ่  
    • พนักงานส่วนใหญ่เลือก “มองข้าม” แท็กอารมณ์จาก AI

    AI ช่วยลดงานพิมพ์นิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ยังไม่พร้อมใช้ทันที  
    • ต้องแก้ไขสรุปการสนทนาเยอะ  
    • มักพลาดข้อมูลสำคัญจากลูกค้า

    การศึกษาชี้ว่า AI เพิ่ม “ภาระการเรียนรู้” ให้พนักงานมากกว่าที่คาด  
    • ต้องเรียนรู้วิธีแก้ข้อมูลจาก AI  
    • ทำให้ไม่ได้ประหยัดเวลาจริงเท่าไร

    Gartner คาดการณ์ว่าเกิน 40% ของโปรเจกต์ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027  
    • และกว่า 50% ขององค์กรที่ตั้งใจใช้ AI แทนคน จะ “ทบทวนแผน”

    https://www.techspot.com/news/108547-call-center-workers-their-ai-assistants-create-more.html
    แม้บริษัทต่าง ๆ จะลงเงินลงทุนมหาศาลเพื่อนำ “AI Assistant” มาช่วยงานในคอลเซนเตอร์ ทั้งในแง่การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการสนทนา หรือช่วยตรวจจับอารมณ์ของลูกค้า → แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทพลังงานที่ใช้ระบบนี้จริง กลับเผยว่า AI สร้าง “ปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ” สำหรับพนักงานแนวหน้าอย่างแท้จริง ตัวอย่างปัญหาที่เจอ: - ถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบผิด ๆ - อ่านเบอร์โทรศัพท์จากเสียงผิดพลาด - เข้าใจคำพ้องเสียง (homophones) ผิด - สรุปบทสนทนาไม่ตรงประเด็น - ตรวจจับอารมณ์คนผิด (เช่น แค่พูดเสียงดัง → ถูกตีความว่าโกรธ) แม้จะลดงานพิมพ์เอกสารได้นิดหน่อย แต่พนักงานต้องเสียเวลาตรวจ–แก้เนื้อหาเกือบทั้งหมด บางคนถึงขั้นบอกว่า “AI ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดเลย” และสุดท้ายต้องทำเองแทบทั้งหมดอยู่ดี ✅ AI Assistant สำหรับคอลเซนเตอร์ ถูกประเมินว่า “ช่วยบางเรื่อง แต่อยู่ไกลจากคำว่าอัจฉริยะ”   • ประสิทธิภาพยังไม่ถึงขั้นแทนที่การทำงานของพนักงานได้จริง ✅ ถอดเสียง (Speech-to-Text) มีความผิดพลาดสูง   • ฟังสำเนียงหลากหลายไม่ออก   • ถอดหมายเลขผิด ทำให้ต้องกรอกเอง ✅ เข้าใจคำพ้องเสียงผิด (เช่น knew vs. new)   • ทำให้ความหมายในบทสนทนาเพี้ยน ✅ Emotion Detection มีความคลาดเคลื่อน   • แยกแยะอารมณ์ได้แค่ไม่กี่แบบ   • เข้าใจผิดว่า “เสียงดัง = โกรธ” ทั้งที่ผู้พูดแค่เสียงใหญ่   • พนักงานส่วนใหญ่เลือก “มองข้าม” แท็กอารมณ์จาก AI ✅ AI ช่วยลดงานพิมพ์นิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ยังไม่พร้อมใช้ทันที   • ต้องแก้ไขสรุปการสนทนาเยอะ   • มักพลาดข้อมูลสำคัญจากลูกค้า ✅ การศึกษาชี้ว่า AI เพิ่ม “ภาระการเรียนรู้” ให้พนักงานมากกว่าที่คาด   • ต้องเรียนรู้วิธีแก้ข้อมูลจาก AI   • ทำให้ไม่ได้ประหยัดเวลาจริงเท่าไร ✅ Gartner คาดการณ์ว่าเกิน 40% ของโปรเจกต์ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027   • และกว่า 50% ขององค์กรที่ตั้งใจใช้ AI แทนคน จะ “ทบทวนแผน” https://www.techspot.com/news/108547-call-center-workers-their-ai-assistants-create-more.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Call center workers say their AI assistants create more problems than they solve
    A study carried out by researchers from several Chinese universities and a Chinese power company looked at what impact AI assistants were having on the plant's customer...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติแล้วลีกฟุตบอลระดับโลกอย่าง Premier League มีเว็บไซต์ แอปมือถือ เกม Fantasy ที่แฟนบอลเข้าใช้งานกว่า 1 พันล้านครั้งต่อปี แต่เบื้องหลังระบบเดิม...ยังอยู่บนโครงสร้างคลาวด์แบบเก่า กระจัดกระจาย แยกส่วนกันหลายจุด → การเชื่อมต่อ ขยาย หรือนำ AI มาช่วยพัฒนาประสบการณ์แฟนบอล ทำได้ยากและช้า

    ล่าสุด Premier League จึงตกลงเซ็นสัญญา “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ 5 ปี” กับ Microsoft → ย้าย “โครงสร้างเทคโนโลยีหลักทั้งหมด” ไปอยู่บน Azure → พร้อมเปิดตัว AI Assistant ฝังในเว็บไซต์, แอปมือถือ และเกม Fantasy ที่ใช้บริการ AI ของ Microsoft (เช่น Azure OpenAI หรือ Copilot)

    ตัวอย่างประสบการณ์ที่อาจเกิดขึ้น:
    - แอป Premier League มีแชต AI ช่วยตอบคำถามระหว่างเกม เช่น “ใครได้ใบเหลืองไปแล้ว?”, “คืนนี้ถ่ายทอดสดช่องไหน?”
    - เกม Fantasy Premier League ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ “ควรขายใครซื้อตัวไหนในทีม?” ตามข้อมูลบาดเจ็บ–ฟอร์มย้อนหลัง
    - เว็บไซต์สามารถให้ AI สรุปไฮไลต์หรือสถิติจากรอบที่แล้วแบบเนื้อหาเฉพาะตัว

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Microsoft ใช้กีฬาเป็นฐานทดลอง AI — ก่อนหน้านี้ก็มีดีลกับ NBA, NFL และทีม F1 อย่าง Mercedes ด้วย → และในโลกที่ AI–Sport–Entertainment กำลังหลอมรวมกัน... Premier League ก็กลายเป็นเวทีระดับโลกของ Microsoft อีกแห่งเรียบร้อยครับ

    Premier League เซ็นสัญญา 5 ปี กับ Microsoft เป็น “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์”  
    • ย้ายโครงสร้างเทคโนโลยีหลักไปอยู่บน Microsoft Azure  
    • ประกาศความร่วมมือเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2025

    จะใช้ AI Services ของ Microsoft สร้างแชตบอตอัจฉริยะ (AI Assistant)  
    • ฝังใน:   
    – แอป Premier League บนมือถือ   
    – เว็บไซต์ทางการของลีก   
    – เกม Fantasy Premier League

    เป้าหมายคือยกระดับประสบการณ์แฟนบอลด้วยเทคโนโลยี AI – Cloud – Data  
    • สร้างอินเทอร์เฟซสื่อสารแบบเรียลไทม์  
    • เพิ่ม personalisation สำหรับผู้ชม  
    • ลดภาระการค้นหาข้อมูลด้วย AI

    Microsoft เคยมีประสบการณ์ด้านกีฬา AI มาก่อน  
    • เคยร่วมมือกับ NBA, NFL, NASCAR, F1 Mercedes  
    • ใช้ AI วิเคราะห์วิดีโอ, พฤติกรรมแฟน, และเชื่อม AR/VR

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/microsoft-signs-deal-to-power-premier-leagues-ai-tools
    ปกติแล้วลีกฟุตบอลระดับโลกอย่าง Premier League มีเว็บไซต์ แอปมือถือ เกม Fantasy ที่แฟนบอลเข้าใช้งานกว่า 1 พันล้านครั้งต่อปี แต่เบื้องหลังระบบเดิม...ยังอยู่บนโครงสร้างคลาวด์แบบเก่า กระจัดกระจาย แยกส่วนกันหลายจุด → การเชื่อมต่อ ขยาย หรือนำ AI มาช่วยพัฒนาประสบการณ์แฟนบอล ทำได้ยากและช้า ล่าสุด Premier League จึงตกลงเซ็นสัญญา “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ 5 ปี” กับ Microsoft → ย้าย “โครงสร้างเทคโนโลยีหลักทั้งหมด” ไปอยู่บน Azure → พร้อมเปิดตัว AI Assistant ฝังในเว็บไซต์, แอปมือถือ และเกม Fantasy ที่ใช้บริการ AI ของ Microsoft (เช่น Azure OpenAI หรือ Copilot) ตัวอย่างประสบการณ์ที่อาจเกิดขึ้น: - แอป Premier League มีแชต AI ช่วยตอบคำถามระหว่างเกม เช่น “ใครได้ใบเหลืองไปแล้ว?”, “คืนนี้ถ่ายทอดสดช่องไหน?” - เกม Fantasy Premier League ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ “ควรขายใครซื้อตัวไหนในทีม?” ตามข้อมูลบาดเจ็บ–ฟอร์มย้อนหลัง - เว็บไซต์สามารถให้ AI สรุปไฮไลต์หรือสถิติจากรอบที่แล้วแบบเนื้อหาเฉพาะตัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Microsoft ใช้กีฬาเป็นฐานทดลอง AI — ก่อนหน้านี้ก็มีดีลกับ NBA, NFL และทีม F1 อย่าง Mercedes ด้วย → และในโลกที่ AI–Sport–Entertainment กำลังหลอมรวมกัน... Premier League ก็กลายเป็นเวทีระดับโลกของ Microsoft อีกแห่งเรียบร้อยครับ ✅ Premier League เซ็นสัญญา 5 ปี กับ Microsoft เป็น “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์”   • ย้ายโครงสร้างเทคโนโลยีหลักไปอยู่บน Microsoft Azure   • ประกาศความร่วมมือเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2025 ✅ จะใช้ AI Services ของ Microsoft สร้างแชตบอตอัจฉริยะ (AI Assistant)   • ฝังใน:    – แอป Premier League บนมือถือ    – เว็บไซต์ทางการของลีก    – เกม Fantasy Premier League ✅ เป้าหมายคือยกระดับประสบการณ์แฟนบอลด้วยเทคโนโลยี AI – Cloud – Data   • สร้างอินเทอร์เฟซสื่อสารแบบเรียลไทม์   • เพิ่ม personalisation สำหรับผู้ชม   • ลดภาระการค้นหาข้อมูลด้วย AI ✅ Microsoft เคยมีประสบการณ์ด้านกีฬา AI มาก่อน   • เคยร่วมมือกับ NBA, NFL, NASCAR, F1 Mercedes   • ใช้ AI วิเคราะห์วิดีโอ, พฤติกรรมแฟน, และเชื่อม AR/VR https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/microsoft-signs-deal-to-power-premier-leagues-ai-tools
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft signs deal to power Premier League's AI tools
    Microsoft Corp has signed a cloud computing deal with the Premier League, a pact that will let the software company tout its AI technology to a captive audience of sports fans.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มีเดือดแน่นอน,ภาคประชาชนเตรียมรับมือได้เลย,มือโกลาหลแทรกแซงจากภายนอก,ที่ฝ่ายทรยศได้รับการสนับสนุนเตรียมการไว้หมดแล้วแน่ๆ,
    ..นี้คือเกมส์อำนาจของโลกผ่านไทยก็ได้,agenda2030ตั้งไทยคือสาระพัดฮับแห่งยุคสมัยใหม่ไว้แล้วดูที่ยิวอพยพอยู่อ.ปายเป็นอันมากคือเครื่องพิสูจน์ว่าไทยคือเป้าหมายหลักแกนนำแกนกลางของโลกแล้วมิใช่อิสราเอลอีกต่อไป,ศูนย์กลางสนามแม่เหล็กโลกพลังงานจักรวาลที่จะพลิกมาที่โซนประเทศไทยด้วยตลอดแร่ธาตุสำคัญมากมายของโลกก็ขนมาใต้แผ่นดินไทยเป็นอันมาก,เมืองหลวงของโลกในอนาคตคือประเทศไทยเรานีัล่ะ,ใครๆก็อยากได้ประเทศไทย,แม้อีลิทdeep stateยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญแบบแนวทางdeep state,ฝ่ายแสงยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญในวิถีแบบฝ่ายแสง,แค่เราจะเลือกไปทางไหนแค่นั้นในยุคสมัยที่จะมาถึงนี้,เมืองอัจฉริยะเขาวางโครงสร้างไว้หมดแล้วนั้นเอง,ประกาศออกมาแล้วด้วยของagenda2030,ช่วงรัฐบาลยุคนึดอำนาจนั้นล่ะเห็นชัดเจนที่สุด ตังไหลหลั่งมาจากสาระพัดทิศเพื่อเริ่มโครงการต่างๆเช่นแลนด์บริดจ์ยึดภาคใต้ทัังภาคสามารถเขียนให้ภาคใต้ปกครองตนเองได้เลย,ใครสั่งเขียนก็deep stateนั้นล่ะ,ตระกูลรอธส์ไชลด์และตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์นั้นล่ะคือตัวพ่อตัวเปิดหลักๆ,อ่าวไทยทัังหมดอันดามันทั้งหมดภาคใต้ทัังหมดมันกะผ่านให้เสร็จให้ทัน เช่าที่ดิน99ปีคือตัวยืนยันให้แก่ต่างชาติ,ยึดอำนาจมาเพื่อนัยยะลักษณะนี้ล่ะ,ครม.พิมพ์เดียวกันกับครม.ทักษิณ,ยุคทักษิณทำไม่สำเร็จ สามารถสำเร็จเป็นอันมากในยุคทหารอีลิทdeep stateยึดอำนาจ,วัคซีนฉีดตายคนไทยลดประชากรไทยก็สำเร็จในยุคยึดอำนาจ,พรบ.เมล็ดพันธุ์คือตย.เด่นชัดอีกตัวถ้าผ่านไปได้,นั้นคือการล่มสลายของเกษตรกรรมประเทศไทยทันที เมล็ดพันธุ์บนแผ่นดินไทยจะผูกขาดทันทีโดยเอกชน นี้คือพรบ.ที่จะก่อเกิดในยุคยึดอำนาจล่ะในสมัยนั้น,มีมากมายนั้นเอง,จึงทำวิถีทางให้ตนอยู่ต่อให้ได้สะดวกง่ายดำเนินเนื้องานกว่าขี้ข้าสมุนdeep stateแบบนักเลือกตั้งเช่นในปัจจุบัน,สายต่อลำบาก เดินงานติดขัดได้ แบบจะเปิดบ่อนฮับคาสิโนออนไลน์โลกก็ลำบากติดขัดแบบที่เห็นในปัจจุบันนี้,แลนด์บริดจ์ก็รีบเร่งไม่ได้ มันประชาชนคนไทยไม่โง่กันทุกๆคนรู้ทันกูอีก,,สรุปคือพวกเหี้ยนีัในปัจจุบันคือขี้ข้าบ๋อนรับใช้deep stateโลกหมด,ยึดครองไทยไปด้วย ทำลายระบบกษัตริย์ไปด้วย ทำลายสถาบันกษัตริย์ทันทีเมื่อมีจังหวะโอกาสในตัว,ดูถวายสัตย์หลังยึดอำนาจเลย เศษกระดาษหยิบขึ้นมาอ่านชัดๆ,คนไทยลืมง่าย,ตอนนี้สถาบันนักการเมืองคือภัยคุกคามต่อสถาบันกษัตริย์เรา สถาบันศาสนาพุทธเราด้วย ประเทศไทยตั้งอยู่ได้เพราะสองอย่างสิ่งนี้ค้ำชูประเทศไทยเราไว้,แม้เราเสียบ่อน้ำมันบ่อทองคำที่พวกมันปล้นชิงไปแต่สถาบันกษัตริย์และศาสนาพุทธหลักเรายังอยู่,หากสิ้นสองสิ่งนี้ชาติไทยพังพินาศทันทีไม่ต้องสงสัย,มันจึงยุแยงพุทธกับอิสลามตีกัน,อิสลามดิบๆนั้นปกติดี,แต่อิสลามdeep stateควบคุมนี้อันตรายมาก,ตะวันออกกลางมีปัญหาไปทั่วเพราะอีลิทdeep stateทำเหยื่อคือหมากศาสนาความเชื่อเป็นเหตุแตกแยก,เหยื่อล่อที่ดีคือใช้อิสลามตนที่ก่อตั้งขึ้นควบคุมได้บุกในนามศาสนาอิสลามของdeep stateทำลายที่ต่างๆนั้นตะวันออกกลางคือตัวอย่าง,จะปล้นแร่ธาตุบ่อน้ำมันเข้าก็ใช้เหยื่อล่ออ้อมเสียไกลคือศาสนาอิสลามบังหน้าสู้กันเองบ้างสู้กับยิวบ้างแบบที่เห็นในตอนนี้คืออิสราเอลกับอิหร่านคือทำทีบุกชาติอื่นๆไปทั่ว เป้าหมายจริงคืออีรักประตูข้ามมิติอิหร่านบ่อน้ำมันมิให้จีนซื้อขายง่ายๆเพราะฐานน้ำมันจีนส่วนใหญ่ใข้ที่อิหร่าน รบกับจีนจึงตัดยุทธปัจจัยทางสงครามก่อนคือเชื้อเพลิงสงครามที่อิหร่านก็ว่าและนัยยะใต้ดินตรึม.,ไทยก็ไม่เว้นบ่อน้ำมันไทยมีมหาศาลกว่าซาอุฯอีกสัมปทาน2แปลงล่าสุดจึงแบ่งๆให้ไปสำเร็จก็ยึดต่อยอดอยากเป็นต่อของพวกยึดอำนาจในอดีตล่าสุดนั้นล่ะ,เสือกไปทำเอง,เปิดสัมปทานไปทำไม.เพราะนายสั่งคือdeep stateโลกสั่งขี้ข้าในไทยต้องปฏิบัติตามก็ว่า,ซาอุฯไม่กล้าคุยจะสร้างคลังแสงน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยได้หรอกถ้าน้ำมันประเทศไทยมีน้อย,ไม่สร้างฉางข้าวเก็บข้าวหรอกหากข้าวไม่มีเยอะไม่มีมากมายเพราะมีข้าวมากเต็มท้องนาจึงต้องที่เก็บให้ใหญ่ๆไว้,แลนด์บริดจ์จริงๆระดมทุนให้คนไทยลงหุ้นเป็นเจ้าของร่วมจริงๆแก่คนไทยทุกๆคนได้ ให้เป็นหุ้นฟรีๆแก่คนไทย100หุ้นห้ามซื้อขายทุกๆกรณี,ipoอีกหุ้นละ10บาท คนไทยซื้อได้ไม่เกิน100หุ้นๆละ10บาทอีก,คนไทยก็จะเป็นเจ้าของแลนด์บริดจ์ร่วมกันจริงจับต้องได้,รัฐบาลนั้นจึงเชื่อว่าปราถนาให้คนไทยมั่งมีมีความสุขอยู่ดีมีกิน อยู่เฉยๆมีรายได้เข้ามาจากกำไรบริหารจัดการแลนด์บริดจ์จริงได้,มิใช่ตกแก่นักทุนหน้าไหนไม่รู้เฉพาะเดอะแก๊งต่างๆอีก คนไทยไม่ได้อะไรเลย อ้างว่าเข้าชาติเข้าประเทศแล้วไง อ้างแบบนั้นไม่ได้เลย แบบได้ค่าภาคหลวงแห่งบ่อน้ำมันนั้นก็ด้วยนี้คือเหี้ยหมด,แลนด์บริดจ์พื้นที่บริหารจัดการรอบข้างด้วยและรวมกันทั้งหมดต่อปี อาจกำไรเกินกว่า10ล้านล้านบาทต่อปีทีเดียว,อาจ100ล้านล้านบาทสบายเพราะสามารถเป็นพื้นทีสาระพัดฮับของโลกได้.,บ่อนคาสิโนอาจยุคอนาคตคนมีภูมิต้านทานเข้าใจดีเข้าใจชั่ว ไม่หลงล่อใดๆแล้วในส่วนของคนไทยคือเป็นผู้รู้มีองค์ภูมิรอบตัวแล้ว สามารถเป็นปกติได้ อาจเปิดเสรีได้สบายๆต่างจากยุคเวลานี้ก็ได้ deep stateโลภจึงอยากเปิดทำตังก่อนเพราะรายได้จากทั่วโลกถ้าประเทศเป็นฮับจริงๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์อาจข้ามจักรวาลแบบเน็ตควอนตัมstarlinkควอนตัมข้ามจักรวาลได้ก็ว่า เล่นทั่วจักรวาลผ่านฮับออนไลน์ที่ไทยสร้างสรรค์อบายมุขรูปแบบพนันเป็นเลิศอาจตังโคตรมากมายมหาศาลกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้สบายๆ,นี้ประเทศไทยเป็นฮับสาระพัดอีกอื่นตรึมนะ ยอมประเมินค่ามิได้จริงๆ,
    ..สรุปอีกครั้ง ประเทศไทยเราสมบูรณ์แบบจริงๆ,จึงผู้นำผู้ปกครองโคตรสำคัญโคตรๆ.

    ..https://youtu.be/MpgtmRbfTec?si=9n4z2ZlBqBx0tnuN
    ..มีเดือดแน่นอน,ภาคประชาชนเตรียมรับมือได้เลย,มือโกลาหลแทรกแซงจากภายนอก,ที่ฝ่ายทรยศได้รับการสนับสนุนเตรียมการไว้หมดแล้วแน่ๆ, ..นี้คือเกมส์อำนาจของโลกผ่านไทยก็ได้,agenda2030ตั้งไทยคือสาระพัดฮับแห่งยุคสมัยใหม่ไว้แล้วดูที่ยิวอพยพอยู่อ.ปายเป็นอันมากคือเครื่องพิสูจน์ว่าไทยคือเป้าหมายหลักแกนนำแกนกลางของโลกแล้วมิใช่อิสราเอลอีกต่อไป,ศูนย์กลางสนามแม่เหล็กโลกพลังงานจักรวาลที่จะพลิกมาที่โซนประเทศไทยด้วยตลอดแร่ธาตุสำคัญมากมายของโลกก็ขนมาใต้แผ่นดินไทยเป็นอันมาก,เมืองหลวงของโลกในอนาคตคือประเทศไทยเรานีัล่ะ,ใครๆก็อยากได้ประเทศไทย,แม้อีลิทdeep stateยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญแบบแนวทางdeep state,ฝ่ายแสงยึดครองได้ประเทศไทยก็เจริญในวิถีแบบฝ่ายแสง,แค่เราจะเลือกไปทางไหนแค่นั้นในยุคสมัยที่จะมาถึงนี้,เมืองอัจฉริยะเขาวางโครงสร้างไว้หมดแล้วนั้นเอง,ประกาศออกมาแล้วด้วยของagenda2030,ช่วงรัฐบาลยุคนึดอำนาจนั้นล่ะเห็นชัดเจนที่สุด ตังไหลหลั่งมาจากสาระพัดทิศเพื่อเริ่มโครงการต่างๆเช่นแลนด์บริดจ์ยึดภาคใต้ทัังภาคสามารถเขียนให้ภาคใต้ปกครองตนเองได้เลย,ใครสั่งเขียนก็deep stateนั้นล่ะ,ตระกูลรอธส์ไชลด์และตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์นั้นล่ะคือตัวพ่อตัวเปิดหลักๆ,อ่าวไทยทัังหมดอันดามันทั้งหมดภาคใต้ทัังหมดมันกะผ่านให้เสร็จให้ทัน เช่าที่ดิน99ปีคือตัวยืนยันให้แก่ต่างชาติ,ยึดอำนาจมาเพื่อนัยยะลักษณะนี้ล่ะ,ครม.พิมพ์เดียวกันกับครม.ทักษิณ,ยุคทักษิณทำไม่สำเร็จ สามารถสำเร็จเป็นอันมากในยุคทหารอีลิทdeep stateยึดอำนาจ,วัคซีนฉีดตายคนไทยลดประชากรไทยก็สำเร็จในยุคยึดอำนาจ,พรบ.เมล็ดพันธุ์คือตย.เด่นชัดอีกตัวถ้าผ่านไปได้,นั้นคือการล่มสลายของเกษตรกรรมประเทศไทยทันที เมล็ดพันธุ์บนแผ่นดินไทยจะผูกขาดทันทีโดยเอกชน นี้คือพรบ.ที่จะก่อเกิดในยุคยึดอำนาจล่ะในสมัยนั้น,มีมากมายนั้นเอง,จึงทำวิถีทางให้ตนอยู่ต่อให้ได้สะดวกง่ายดำเนินเนื้องานกว่าขี้ข้าสมุนdeep stateแบบนักเลือกตั้งเช่นในปัจจุบัน,สายต่อลำบาก เดินงานติดขัดได้ แบบจะเปิดบ่อนฮับคาสิโนออนไลน์โลกก็ลำบากติดขัดแบบที่เห็นในปัจจุบันนี้,แลนด์บริดจ์ก็รีบเร่งไม่ได้ มันประชาชนคนไทยไม่โง่กันทุกๆคนรู้ทันกูอีก,,สรุปคือพวกเหี้ยนีัในปัจจุบันคือขี้ข้าบ๋อนรับใช้deep stateโลกหมด,ยึดครองไทยไปด้วย ทำลายระบบกษัตริย์ไปด้วย ทำลายสถาบันกษัตริย์ทันทีเมื่อมีจังหวะโอกาสในตัว,ดูถวายสัตย์หลังยึดอำนาจเลย เศษกระดาษหยิบขึ้นมาอ่านชัดๆ,คนไทยลืมง่าย,ตอนนี้สถาบันนักการเมืองคือภัยคุกคามต่อสถาบันกษัตริย์เรา สถาบันศาสนาพุทธเราด้วย ประเทศไทยตั้งอยู่ได้เพราะสองอย่างสิ่งนี้ค้ำชูประเทศไทยเราไว้,แม้เราเสียบ่อน้ำมันบ่อทองคำที่พวกมันปล้นชิงไปแต่สถาบันกษัตริย์และศาสนาพุทธหลักเรายังอยู่,หากสิ้นสองสิ่งนี้ชาติไทยพังพินาศทันทีไม่ต้องสงสัย,มันจึงยุแยงพุทธกับอิสลามตีกัน,อิสลามดิบๆนั้นปกติดี,แต่อิสลามdeep stateควบคุมนี้อันตรายมาก,ตะวันออกกลางมีปัญหาไปทั่วเพราะอีลิทdeep stateทำเหยื่อคือหมากศาสนาความเชื่อเป็นเหตุแตกแยก,เหยื่อล่อที่ดีคือใช้อิสลามตนที่ก่อตั้งขึ้นควบคุมได้บุกในนามศาสนาอิสลามของdeep stateทำลายที่ต่างๆนั้นตะวันออกกลางคือตัวอย่าง,จะปล้นแร่ธาตุบ่อน้ำมันเข้าก็ใช้เหยื่อล่ออ้อมเสียไกลคือศาสนาอิสลามบังหน้าสู้กันเองบ้างสู้กับยิวบ้างแบบที่เห็นในตอนนี้คืออิสราเอลกับอิหร่านคือทำทีบุกชาติอื่นๆไปทั่ว เป้าหมายจริงคืออีรักประตูข้ามมิติอิหร่านบ่อน้ำมันมิให้จีนซื้อขายง่ายๆเพราะฐานน้ำมันจีนส่วนใหญ่ใข้ที่อิหร่าน รบกับจีนจึงตัดยุทธปัจจัยทางสงครามก่อนคือเชื้อเพลิงสงครามที่อิหร่านก็ว่าและนัยยะใต้ดินตรึม.,ไทยก็ไม่เว้นบ่อน้ำมันไทยมีมหาศาลกว่าซาอุฯอีกสัมปทาน2แปลงล่าสุดจึงแบ่งๆให้ไปสำเร็จก็ยึดต่อยอดอยากเป็นต่อของพวกยึดอำนาจในอดีตล่าสุดนั้นล่ะ,เสือกไปทำเอง,เปิดสัมปทานไปทำไม.เพราะนายสั่งคือdeep stateโลกสั่งขี้ข้าในไทยต้องปฏิบัติตามก็ว่า,ซาอุฯไม่กล้าคุยจะสร้างคลังแสงน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยได้หรอกถ้าน้ำมันประเทศไทยมีน้อย,ไม่สร้างฉางข้าวเก็บข้าวหรอกหากข้าวไม่มีเยอะไม่มีมากมายเพราะมีข้าวมากเต็มท้องนาจึงต้องที่เก็บให้ใหญ่ๆไว้,แลนด์บริดจ์จริงๆระดมทุนให้คนไทยลงหุ้นเป็นเจ้าของร่วมจริงๆแก่คนไทยทุกๆคนได้ ให้เป็นหุ้นฟรีๆแก่คนไทย100หุ้นห้ามซื้อขายทุกๆกรณี,ipoอีกหุ้นละ10บาท คนไทยซื้อได้ไม่เกิน100หุ้นๆละ10บาทอีก,คนไทยก็จะเป็นเจ้าของแลนด์บริดจ์ร่วมกันจริงจับต้องได้,รัฐบาลนั้นจึงเชื่อว่าปราถนาให้คนไทยมั่งมีมีความสุขอยู่ดีมีกิน อยู่เฉยๆมีรายได้เข้ามาจากกำไรบริหารจัดการแลนด์บริดจ์จริงได้,มิใช่ตกแก่นักทุนหน้าไหนไม่รู้เฉพาะเดอะแก๊งต่างๆอีก คนไทยไม่ได้อะไรเลย อ้างว่าเข้าชาติเข้าประเทศแล้วไง อ้างแบบนั้นไม่ได้เลย แบบได้ค่าภาคหลวงแห่งบ่อน้ำมันนั้นก็ด้วยนี้คือเหี้ยหมด,แลนด์บริดจ์พื้นที่บริหารจัดการรอบข้างด้วยและรวมกันทั้งหมดต่อปี อาจกำไรเกินกว่า10ล้านล้านบาทต่อปีทีเดียว,อาจ100ล้านล้านบาทสบายเพราะสามารถเป็นพื้นทีสาระพัดฮับของโลกได้.,บ่อนคาสิโนอาจยุคอนาคตคนมีภูมิต้านทานเข้าใจดีเข้าใจชั่ว ไม่หลงล่อใดๆแล้วในส่วนของคนไทยคือเป็นผู้รู้มีองค์ภูมิรอบตัวแล้ว สามารถเป็นปกติได้ อาจเปิดเสรีได้สบายๆต่างจากยุคเวลานี้ก็ได้ deep stateโลภจึงอยากเปิดทำตังก่อนเพราะรายได้จากทั่วโลกถ้าประเทศเป็นฮับจริงๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์อาจข้ามจักรวาลแบบเน็ตควอนตัมstarlinkควอนตัมข้ามจักรวาลได้ก็ว่า เล่นทั่วจักรวาลผ่านฮับออนไลน์ที่ไทยสร้างสรรค์อบายมุขรูปแบบพนันเป็นเลิศอาจตังโคตรมากมายมหาศาลกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้สบายๆ,นี้ประเทศไทยเป็นฮับสาระพัดอีกอื่นตรึมนะ ยอมประเมินค่ามิได้จริงๆ, ..สรุปอีกครั้ง ประเทศไทยเราสมบูรณ์แบบจริงๆ,จึงผู้นำผู้ปกครองโคตรสำคัญโคตรๆ. ..https://youtu.be/MpgtmRbfTec?si=9n4z2ZlBqBx0tnuN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ส่วนตัว ทหารพระราชทำการปฏิวัติเลย,ตัดตอนการลากเรื่องลากยาวในหลากหลายมิตินัยยะทันที,ชายแดนก็สมควรปิดด่านเด็ดขาดจริงจังลงโทษเขมรจริงๆอย่าไปอ๊อแอ๊กับมัน,ไปสวนวาทะปากวลีคำกับพวกเจตนาแต่เริ่มต้นชัดเจนต้องการคุกคามรุกรานอธิปไตยเรา,ถ้าพวกนี้ยังอยู่ต่อบรรลัยสร้างเรื่องไม่จบสิ้นเพราะทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามมัน มันชัดเจนแล้ว สั่งการอะไรปาหี่แหกตาประชาชน ตัดน้ำตัดไฟฟ้ามันในนามรัฐบาลก็ไม่ทำจริงยังสมยอมกันกับเขมร ปิดด่านคือปิดด่านตัดท่อน้ำเลี้ยงท่อเสบียงมันจากฝั่งไทยทั้งหมดห้ามเมตตากรุณาปราณีใดๆทั้งสิ้นแก่ชนเผ่าเนรคุณทรยศหมายรุกรานคุกคามจนเป็นภัยชัดเจนต่ออธิปไตยเรา เผาศาลาอีก จะอภัยเมตตาเอ็นดูเห็นใจมันเหี้ยอะไรอีก.,ทหารเราต้องเด็ดขาดปฏิวัติประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศเลยและให้กรุงเทพฯและปริมลฑลคือเขตพื้นที่สีแดงพิเศษ ตลอดจังหวัดที่ติดแนวพรมแดนกับเขมรทั้งหมดด้วย,คนชั่วเท่านั้นที่เกรงกลัว,นักการเมืองเลวข้าราชการสาระเลวเจ้าสัวชั่วเท่านั้นที่หวาดกลัว,การปฏิวัติคือทางออกทั้งหมด,ล้างบางอิทธิพลชั่วเลวยุคเก่าทั้งหมดได้ที่ฝังรากเหง้าจนชั่วฉิบหายเพราะพวกนี้ก็ด้วย,ล้างอำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ที่ไม่ดีทัังหมดได้จริงเพราะชื่อปฏิวัตินีัมันไม่ธรรมดานะ,รัฐประหารหนักกว่ายึดอำนาจแต่อ่อนด้อยค่ากว่าปฏิวัติเพราะสามารถล้างสิ้นซากได้ครบสมบูรณ์จริง,ประเทศไทยต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่จริงๆล้างครั้งใหญ่ด้วย,ทหารอาจใช้นอมินีคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเป็นผู้ออกนอกหน้าในนามปฏิวัติภาคมวลมหาประชาชนก็ได้,แล้วยืนอยู่เคียงข้างประชาชนร่วมกันกวาดล้างพวกมันภายในประเทศไทยเรานี้,เรา..ประชาชน จะออกนอกหน้าเอง หากโลกเหี้ยติเตียนก็อนาถเกินไปเพราะเรา..ประชาชนปฏิวัติเองมิใช่ทหารนำหน้าเรา..ประชาชนคนไทยจึงสามารถเหยียบการประนามประฌามของชาวโลกได้หากdeep stateอยากประนามเรานักผ่านชาวโลกขี้ข้าทาสสมุนรับใช้ที่เป็นเครื่องมือให้มัน,แบบพรรควัยรุ่นที่ถูกยุบพรรคนัันล่ะ ขี้ข้าทาสรับงานรับใช้อีลิทรีตลัทธิตาเดียวชัดเจน ไปโชว์สัญลักษณ์เปิดเผยขนาดนั้น โลโก้พรรคก็สามเหลี่ยมฟรีเมสันโคตรๆ เข้ารีตทุกๆฝ่ายมืดก็ว่า,เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ชัดเจนเพราะรีตพวกนี้มันถือเป็นนโยบายหลักโลกก็ว่า,ชาติใดมีสถาบันกษัตริย์มันต้องเข้าทำลายแน่นอนจนสิ้นซาก ประเทศไทยไม่มีข้อเว้น,เขมรก็พวกมันนี้ทำลาย,นอมินีขี้ข้ามันล่ะปกครองถึงปัจจุบัน,ฝ่ายแสงก็รู้,จึงเป็นที่มาอย่างเปิดเผยชัดในปัจจุบันว่าฮับสาระพัดชั่วที่deep stateตั้งใจจะสร้างที่เขมรนี้เป็นฮับมหาความชั่วเลวของโลกสาระพัดแหล่งรวมสิ่งชั่วเลว ยืนยันคือคนชั่วเลวไหลหลั่งไปตั้งฐานทัพชั่วทุกๆตารางนิ้วบนดินแดนเขมร,ค้ามนุษย์คือสิ่งแรกแต่ปิดบังให้เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดดเด่นแทนก็ว่า,deep stateวางเขมรไว้นานแล้ว,ฝ่ายแสงมาแฉหรือถึงเวลาเปิดโปงแค่นั้นล่ะ,ซึ่งเรา..ประเทศไทยต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นปัจเจกประเทศ สร้างจุดยืนที่ถูกทางเป็นของตนเองได้ ต้องยืนในจุดยืนเราเปิดเผยแล้ว,คือถีบรัฐบาลขี้ข้าแรปทีเลี่ยนdeep stateข้ามโลกนี้ทันที,สถาบันนักการเมืองในไทยเราล่มสลายแล้ว อีลิทdeep stateปกครองครอบงำควบคุมยึดครองสิ้นซากแล้ว จะฝ่ายค้าน สส.ฝ่ายค้านทั้งหมดก็ตามล้วนเหี้ยหมดพวกเดอะแก๊งเดียวกันทั้งนั้นและทั้งสภา,ปาหี่แหกตาประชาชนเท่านั้น,มาดูฝ่ายรัฐบาล สส.ก็เหี้ยหมดปกติเช่นกัน,
    ..เวลานี้สถานะสถาบันนักการเมืองแม้เลือกตั้งใหม่ก็มิสามารถหาทางออกจากกับดักความมืดได้มืดบอดไร้แสงสว่างเช่นในอดีตๆที่ผ่านมา,มีเพียงบารมีมหาบุญของสถาบันกษัตริย์เราเท่านั้นคือกระทำการผ่านทหารพระราชาร่วมกับเรา..ประชาชนคนไทยจะร่วมกันไล่ผีบ้าพวกนี้ออกจากประเทศไทยเราได้ จุดแสงสว่างแห่งใจมิให้มืดบอดอีกต่อไป,จุดเทียนปัญญารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลก็ว่า,แสงแห่งปัญญาตื่นรับรู้ความจริงค่าจริงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน,เพราะประเทศไทยเราในอนาคตคือผู้นำแห่งจิตวิญญาณนั้นเอง,แสงแห่งปัญญาก็ว่า,มหาธรรมจักรชนะมารปีศาจซาตานนี้คือแผ่นดินไทยนีัเอง.,คือคนไทยเราทุกๆคนนี้เอง,คนไทยคือนักรบแห่งจิตวิญญาณนะและอาสาลงมาเพื่อภาวะกิจนี้ด้วยจากทั่วมหาอนันตจักรวาลมาเกิดที่แผ่นดินไทยนี้,ช่วงสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้วมาไทยอีก,จะมีอัจฉริยะเป็นอันมากมาเกิดที่ไทยเราและคนไทยเราที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้จะอัพเรเวลโดยไม่รู้ตัว,เป็นคนเหนือมนุษย์ไม่รู้ตัวซึ่งdeep stateยอมไม่ได้,ฝ่ายมืดรับไม่ได้นั้นเอง.555
    ..ทหารคือหนทางเดียว เชื่อสิ.,ในบริบทที่ชาวโลกยังยกระดับจิตระดับใจไม่ได้ดีพอในไทยเราก็ด้วย,เขากำลังแยกปลาดีปลาเลวปลาชั่วออก,ฮุนเซนทักษิณคือตัวเปิด,ล่อสมุนที่หลงเหลือออกมาให้หมดให้เหลือน้อยที่สุด,ดำขาวต้องชัดเจน กลางวันกลางคืนมันชัดเจนในตัวมันให้เห็นประจักษ์อยู่แล้ว,และทหารนี้ล่ะจะจบมัน.
    ..
    ..https://youtu.be/Bzd_rSWn1Ww?si=w3TmIdtGUGxnpq4b
    ..555,ส่วนตัว ทหารพระราชทำการปฏิวัติเลย,ตัดตอนการลากเรื่องลากยาวในหลากหลายมิตินัยยะทันที,ชายแดนก็สมควรปิดด่านเด็ดขาดจริงจังลงโทษเขมรจริงๆอย่าไปอ๊อแอ๊กับมัน,ไปสวนวาทะปากวลีคำกับพวกเจตนาแต่เริ่มต้นชัดเจนต้องการคุกคามรุกรานอธิปไตยเรา,ถ้าพวกนี้ยังอยู่ต่อบรรลัยสร้างเรื่องไม่จบสิ้นเพราะทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามมัน มันชัดเจนแล้ว สั่งการอะไรปาหี่แหกตาประชาชน ตัดน้ำตัดไฟฟ้ามันในนามรัฐบาลก็ไม่ทำจริงยังสมยอมกันกับเขมร ปิดด่านคือปิดด่านตัดท่อน้ำเลี้ยงท่อเสบียงมันจากฝั่งไทยทั้งหมดห้ามเมตตากรุณาปราณีใดๆทั้งสิ้นแก่ชนเผ่าเนรคุณทรยศหมายรุกรานคุกคามจนเป็นภัยชัดเจนต่ออธิปไตยเรา เผาศาลาอีก จะอภัยเมตตาเอ็นดูเห็นใจมันเหี้ยอะไรอีก.,ทหารเราต้องเด็ดขาดปฏิวัติประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศเลยและให้กรุงเทพฯและปริมลฑลคือเขตพื้นที่สีแดงพิเศษ ตลอดจังหวัดที่ติดแนวพรมแดนกับเขมรทั้งหมดด้วย,คนชั่วเท่านั้นที่เกรงกลัว,นักการเมืองเลวข้าราชการสาระเลวเจ้าสัวชั่วเท่านั้นที่หวาดกลัว,การปฏิวัติคือทางออกทั้งหมด,ล้างบางอิทธิพลชั่วเลวยุคเก่าทั้งหมดได้ที่ฝังรากเหง้าจนชั่วฉิบหายเพราะพวกนี้ก็ด้วย,ล้างอำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ที่ไม่ดีทัังหมดได้จริงเพราะชื่อปฏิวัตินีัมันไม่ธรรมดานะ,รัฐประหารหนักกว่ายึดอำนาจแต่อ่อนด้อยค่ากว่าปฏิวัติเพราะสามารถล้างสิ้นซากได้ครบสมบูรณ์จริง,ประเทศไทยต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่จริงๆล้างครั้งใหญ่ด้วย,ทหารอาจใช้นอมินีคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเป็นผู้ออกนอกหน้าในนามปฏิวัติภาคมวลมหาประชาชนก็ได้,แล้วยืนอยู่เคียงข้างประชาชนร่วมกันกวาดล้างพวกมันภายในประเทศไทยเรานี้,เรา..ประชาชน จะออกนอกหน้าเอง หากโลกเหี้ยติเตียนก็อนาถเกินไปเพราะเรา..ประชาชนปฏิวัติเองมิใช่ทหารนำหน้าเรา..ประชาชนคนไทยจึงสามารถเหยียบการประนามประฌามของชาวโลกได้หากdeep stateอยากประนามเรานักผ่านชาวโลกขี้ข้าทาสสมุนรับใช้ที่เป็นเครื่องมือให้มัน,แบบพรรควัยรุ่นที่ถูกยุบพรรคนัันล่ะ ขี้ข้าทาสรับงานรับใช้อีลิทรีตลัทธิตาเดียวชัดเจน ไปโชว์สัญลักษณ์เปิดเผยขนาดนั้น โลโก้พรรคก็สามเหลี่ยมฟรีเมสันโคตรๆ เข้ารีตทุกๆฝ่ายมืดก็ว่า,เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ชัดเจนเพราะรีตพวกนี้มันถือเป็นนโยบายหลักโลกก็ว่า,ชาติใดมีสถาบันกษัตริย์มันต้องเข้าทำลายแน่นอนจนสิ้นซาก ประเทศไทยไม่มีข้อเว้น,เขมรก็พวกมันนี้ทำลาย,นอมินีขี้ข้ามันล่ะปกครองถึงปัจจุบัน,ฝ่ายแสงก็รู้,จึงเป็นที่มาอย่างเปิดเผยชัดในปัจจุบันว่าฮับสาระพัดชั่วที่deep stateตั้งใจจะสร้างที่เขมรนี้เป็นฮับมหาความชั่วเลวของโลกสาระพัดแหล่งรวมสิ่งชั่วเลว ยืนยันคือคนชั่วเลวไหลหลั่งไปตั้งฐานทัพชั่วทุกๆตารางนิ้วบนดินแดนเขมร,ค้ามนุษย์คือสิ่งแรกแต่ปิดบังให้เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดดเด่นแทนก็ว่า,deep stateวางเขมรไว้นานแล้ว,ฝ่ายแสงมาแฉหรือถึงเวลาเปิดโปงแค่นั้นล่ะ,ซึ่งเรา..ประเทศไทยต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นปัจเจกประเทศ สร้างจุดยืนที่ถูกทางเป็นของตนเองได้ ต้องยืนในจุดยืนเราเปิดเผยแล้ว,คือถีบรัฐบาลขี้ข้าแรปทีเลี่ยนdeep stateข้ามโลกนี้ทันที,สถาบันนักการเมืองในไทยเราล่มสลายแล้ว อีลิทdeep stateปกครองครอบงำควบคุมยึดครองสิ้นซากแล้ว จะฝ่ายค้าน สส.ฝ่ายค้านทั้งหมดก็ตามล้วนเหี้ยหมดพวกเดอะแก๊งเดียวกันทั้งนั้นและทั้งสภา,ปาหี่แหกตาประชาชนเท่านั้น,มาดูฝ่ายรัฐบาล สส.ก็เหี้ยหมดปกติเช่นกัน, ..เวลานี้สถานะสถาบันนักการเมืองแม้เลือกตั้งใหม่ก็มิสามารถหาทางออกจากกับดักความมืดได้มืดบอดไร้แสงสว่างเช่นในอดีตๆที่ผ่านมา,มีเพียงบารมีมหาบุญของสถาบันกษัตริย์เราเท่านั้นคือกระทำการผ่านทหารพระราชาร่วมกับเรา..ประชาชนคนไทยจะร่วมกันไล่ผีบ้าพวกนี้ออกจากประเทศไทยเราได้ จุดแสงสว่างแห่งใจมิให้มืดบอดอีกต่อไป,จุดเทียนปัญญารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลก็ว่า,แสงแห่งปัญญาตื่นรับรู้ความจริงค่าจริงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน,เพราะประเทศไทยเราในอนาคตคือผู้นำแห่งจิตวิญญาณนั้นเอง,แสงแห่งปัญญาก็ว่า,มหาธรรมจักรชนะมารปีศาจซาตานนี้คือแผ่นดินไทยนีัเอง.,คือคนไทยเราทุกๆคนนี้เอง,คนไทยคือนักรบแห่งจิตวิญญาณนะและอาสาลงมาเพื่อภาวะกิจนี้ด้วยจากทั่วมหาอนันตจักรวาลมาเกิดที่แผ่นดินไทยนี้,ช่วงสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้วมาไทยอีก,จะมีอัจฉริยะเป็นอันมากมาเกิดที่ไทยเราและคนไทยเราที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้จะอัพเรเวลโดยไม่รู้ตัว,เป็นคนเหนือมนุษย์ไม่รู้ตัวซึ่งdeep stateยอมไม่ได้,ฝ่ายมืดรับไม่ได้นั้นเอง.555 ..ทหารคือหนทางเดียว เชื่อสิ.,ในบริบทที่ชาวโลกยังยกระดับจิตระดับใจไม่ได้ดีพอในไทยเราก็ด้วย,เขากำลังแยกปลาดีปลาเลวปลาชั่วออก,ฮุนเซนทักษิณคือตัวเปิด,ล่อสมุนที่หลงเหลือออกมาให้หมดให้เหลือน้อยที่สุด,ดำขาวต้องชัดเจน กลางวันกลางคืนมันชัดเจนในตัวมันให้เห็นประจักษ์อยู่แล้ว,และทหารนี้ล่ะจะจบมัน. .. ..https://youtu.be/Bzd_rSWn1Ww?si=w3TmIdtGUGxnpq4b
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยก่อนเวลาเราพูดถึงอินเทอร์เน็ตในหมู่เกาะห่างไกล เช่น ตูวาลู (Tuvalu) — ประเทศเล็ก ๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก — ก็คงคิดถึงเน็ตช้าหรือไม่มีอินเทอร์เน็ตเลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Starlink เข้ามาให้บริการในประเทศนี้ และเปิดให้ใช้งานบน IPv6 “เต็มรูปแบบ”

    แค่ไม่กี่เดือนหลัง Starlink เข้ามา ส่วนแบ่ง IPv6 ของตูวาลูพุ่งจาก 0% เป็น 59% — กลายเป็นหนึ่งใน 21 ประเทศที่ “ใช้ IPv6 มากกว่า 50% ของการเชื่อมต่อทั้งหมด” ทันที!

    ประเทศอื่นที่เพิ่งเข้าสู่ “Majority IPv6 Club” ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ บราซิล, เม็กซิโก, กัวเตมาลา, ศรีลังกา, ฮังการี, ญี่ปุ่น, เปอร์โตริโก ฯลฯ

    จำนวนประเทศที่มีการใช้งาน IPv6 เกิน 50% เพิ่มจาก 13 → 21 ประเทศในรอบ 1 ปี  
    • ข้อมูลจาก Akamai, APNIC, Google และ Meta

    ประเทศที่ใช้งาน IPv6 มากที่สุดในโลกขณะนี้ ได้แก่:  
    • อินเดีย (73%)  
    • ฝรั่งเศส (73%)

    Starlink ของ SpaceX เป็นผู้เล่นหลักที่เร่งการเปลี่ยนผ่านไปใช้ IPv6  
    • เครือข่ายของ Starlink “ออกแบบให้รองรับ IPv6 ตั้งแต่ต้น”  
    • ช่วยให้ประเทศขนาดเล็กหรือห่างไกล “ข้ามขั้น” โครงสร้างเก่าไปใช้ระบบใหม่ทันที

    IPv6 แก้ข้อจำกัดของ IPv4 ที่มีแค่ 4.3 พันล้านหมายเลข IP  
    • IPv6 มีหมายเลขได้ถึง 340 undecillion (340 ล้านล้านล้านล้าน)  
    • เพียงพอต่อยุคอุปกรณ์ IoT, รถยนต์อัจฉริยะ, บ้านอัจฉริยะ

    ข้อดีอื่นของ IPv6 เช่น:  
    • ไม่ต้อง NAT → เชื่อมอุปกรณ์ได้แบบ end-to-end  
    • ปรับ routing ให้เร็วขึ้น  • รองรับการเข้ารหัส IPsec เป็นมาตรฐาน

    ประเทศอื่นที่กำลังเข้าใกล้ 50% เช่น ไทย, อังกฤษ และเอสโตเนีย

    บางประเทศที่เคยใช้ IPv6 เกิน 50% มีอัตราการลดลงชั่วคราว  
    • เช่น ญี่ปุ่นและเปอร์โตริโก เคยหลุดจากกลุ่มนี้ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่  
    • อาจเกิดจากการขยายเครือข่ายเดิมที่ยังใช้ IPv4 อยู่

    องค์กรหรือผู้ให้บริการที่ยังไม่อัปเกรดระบบ → เสี่ยงถูกตัดขาดจากเครือข่ายที่ใช้ IPv6-only  
    • โดยเฉพาะระบบ IoT, cloud หรือ edge computing

    การใช้ IPv6 ยังต้องอาศัยการอัปเดต DNS, firewall, VPN และระบบความปลอดภัยให้รองรับ format ใหม่
    • ไม่ใช่แค่เปลี่ยน router อย่างเดียว

    การก้าวเข้าสู่ยุค IPv6 ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป  
    • เพราะการเข้ารหัสและ config ก็ต้องทำอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิดช่องโหว่ใหม่ได้

    https://www.techspot.com/news/108490-ipv6-reaches-majority-use-21-countries-starlink-other.html
    สมัยก่อนเวลาเราพูดถึงอินเทอร์เน็ตในหมู่เกาะห่างไกล เช่น ตูวาลู (Tuvalu) — ประเทศเล็ก ๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก — ก็คงคิดถึงเน็ตช้าหรือไม่มีอินเทอร์เน็ตเลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Starlink เข้ามาให้บริการในประเทศนี้ และเปิดให้ใช้งานบน IPv6 “เต็มรูปแบบ” แค่ไม่กี่เดือนหลัง Starlink เข้ามา ส่วนแบ่ง IPv6 ของตูวาลูพุ่งจาก 0% เป็น 59% — กลายเป็นหนึ่งใน 21 ประเทศที่ “ใช้ IPv6 มากกว่า 50% ของการเชื่อมต่อทั้งหมด” ทันที! ประเทศอื่นที่เพิ่งเข้าสู่ “Majority IPv6 Club” ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ บราซิล, เม็กซิโก, กัวเตมาลา, ศรีลังกา, ฮังการี, ญี่ปุ่น, เปอร์โตริโก ฯลฯ ✅ จำนวนประเทศที่มีการใช้งาน IPv6 เกิน 50% เพิ่มจาก 13 → 21 ประเทศในรอบ 1 ปี   • ข้อมูลจาก Akamai, APNIC, Google และ Meta ✅ ประเทศที่ใช้งาน IPv6 มากที่สุดในโลกขณะนี้ ได้แก่:   • อินเดีย (73%)   • ฝรั่งเศส (73%) ✅ Starlink ของ SpaceX เป็นผู้เล่นหลักที่เร่งการเปลี่ยนผ่านไปใช้ IPv6   • เครือข่ายของ Starlink “ออกแบบให้รองรับ IPv6 ตั้งแต่ต้น”   • ช่วยให้ประเทศขนาดเล็กหรือห่างไกล “ข้ามขั้น” โครงสร้างเก่าไปใช้ระบบใหม่ทันที ✅ IPv6 แก้ข้อจำกัดของ IPv4 ที่มีแค่ 4.3 พันล้านหมายเลข IP   • IPv6 มีหมายเลขได้ถึง 340 undecillion (340 ล้านล้านล้านล้าน)   • เพียงพอต่อยุคอุปกรณ์ IoT, รถยนต์อัจฉริยะ, บ้านอัจฉริยะ ✅ ข้อดีอื่นของ IPv6 เช่น:   • ไม่ต้อง NAT → เชื่อมอุปกรณ์ได้แบบ end-to-end   • ปรับ routing ให้เร็วขึ้น  • รองรับการเข้ารหัส IPsec เป็นมาตรฐาน ✅ ประเทศอื่นที่กำลังเข้าใกล้ 50% เช่น ไทย, อังกฤษ และเอสโตเนีย ‼️ บางประเทศที่เคยใช้ IPv6 เกิน 50% มีอัตราการลดลงชั่วคราว   • เช่น ญี่ปุ่นและเปอร์โตริโก เคยหลุดจากกลุ่มนี้ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่   • อาจเกิดจากการขยายเครือข่ายเดิมที่ยังใช้ IPv4 อยู่ ‼️ องค์กรหรือผู้ให้บริการที่ยังไม่อัปเกรดระบบ → เสี่ยงถูกตัดขาดจากเครือข่ายที่ใช้ IPv6-only   • โดยเฉพาะระบบ IoT, cloud หรือ edge computing ‼️ การใช้ IPv6 ยังต้องอาศัยการอัปเดต DNS, firewall, VPN และระบบความปลอดภัยให้รองรับ format ใหม่ • ไม่ใช่แค่เปลี่ยน router อย่างเดียว ‼️ การก้าวเข้าสู่ยุค IPv6 ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป   • เพราะการเข้ารหัสและ config ก็ต้องทำอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิดช่องโหว่ใหม่ได้ https://www.techspot.com/news/108490-ipv6-reaches-majority-use-21-countries-starlink-other.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    IPv6 reaches majority use in 21 countries as Starlink and other providers modernize global connectivity
    The most dramatic transformation has occurred in Tuvalu, a Pacific island nation with a population under 10,000. Until early 2025, Tuvalu had virtually no IPv6 presence. That...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • Hertz ประกาศว่ากำลังยกระดับงานตรวจเช็ครถเช่าด้วย “AI อัจฉริยะ” โดยร่วมมือกับบริษัท UVeye เพื่อใช้ อุโมงค์กล้องอัตโนมัติ ที่จะสแกนรถแบบ 360 องศาเมื่อส่งคืน แล้วเทียบภาพก่อน–หลังเพื่อตรวจจับรอยต่าง ๆ

    ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่ลูกค้าหลายคนกลับพบว่า:
    - ได้รับแจ้งรอยขีดเล็กจิ๋วพร้อม “บิลเรียกเก็บทันที” ผ่านแอป
    - แค่แผล 1 นิ้ว กลับมีค่าซ่อม + ค่าประเมิน + ค่าดำเนินการรวมแล้วกว่า $400
    - ไม่สามารถโทรหาเจ้าหน้าที่โดยตรง ต้องคุยกับบ็อต → รอคำตอบหลายวัน
    - ถ้าอยากลดราคา ต้อง “จ่ายก่อน 2 วัน” ทำให้เหมือนถูกบีบให้รีบจ่าย

    ผู้ใช้งานบางคนบอกว่า "ความแม่นของ AI คือสิ่งที่ทำให้แย่ — เพราะมนุษย์อาจปล่อยผ่านรอยขนาดเล็กไป แต่ AI ไม่ยอม"

    แม้ Hertz ยืนยันว่ามีลูกค้าส่วนใหญ่นำรถมาคืนโดยไม่มีปัญหา และระบบใหม่นี้ช่วยให้ “ตรวจสอบเร็ว + โปร่งใส” แต่เสียงสะท้อนจากผู้ใช้ดูเหมือนจะยังไม่คลิกกับประสบการณ์จริง

    Hertz ติดตั้งระบบตรวจรถด้วย AI โดยร่วมมือกับ UVeye แล้วในหลายสนามบินใหญ่ เช่น Atlanta  
    • สแกนทั้งตัวถัง ล้อ กระจก และใต้ท้องรถ  
    • ใช้ machine learning ตรวจจับ “รอยใหม่” จากการเปรียบเทียบก่อน–หลัง

    ลูกค้าได้รับรายงานผ่านแอปทันทีหลังส่งรถคืน  
    • หากพบความเสียหาย → ระบบสร้างใบแจ้งหนี้ทันที พร้อมรูปประกอบ

    ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บประกอบด้วย:  
    • ค่าซ่อมจริง (เช่น ล้อเป็นรอย $250)  
    • ค่าประเมินความเสียหาย $125  
    • ค่าดำเนินการระบบเรียกเก็บ $65  
    • รวมเบ็ดเสร็จ $440 แม้รอยจะมีขนาดเพียง 1 นิ้ว

    Hertz เสนอส่วนลดถ้าจ่ายภายใน 2 วัน (~$50)  
    • แต่หากสอบถามผ่านแชตบ็อตอาจต้องรอคำตอบถึง 10 วัน — มีโอกาสเสียสิทธิ์ส่วนลด

    ลูกค้าหลายรายแสดงความไม่พอใจบน Reddit และเว็บไซต์ข่าว  
    • บางคนเลิกใช้บริการ Hertz เพราะรู้สึกถูกเรียกเก็บไม่ยุติธรรม

    https://www.techspot.com/news/108471-hertz-turns-ai-rental-car-inspections-faces-backlash.html
    Hertz ประกาศว่ากำลังยกระดับงานตรวจเช็ครถเช่าด้วย “AI อัจฉริยะ” โดยร่วมมือกับบริษัท UVeye เพื่อใช้ อุโมงค์กล้องอัตโนมัติ ที่จะสแกนรถแบบ 360 องศาเมื่อส่งคืน แล้วเทียบภาพก่อน–หลังเพื่อตรวจจับรอยต่าง ๆ ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่ลูกค้าหลายคนกลับพบว่า: - ได้รับแจ้งรอยขีดเล็กจิ๋วพร้อม “บิลเรียกเก็บทันที” ผ่านแอป - แค่แผล 1 นิ้ว กลับมีค่าซ่อม + ค่าประเมิน + ค่าดำเนินการรวมแล้วกว่า $400 - ไม่สามารถโทรหาเจ้าหน้าที่โดยตรง ต้องคุยกับบ็อต → รอคำตอบหลายวัน - ถ้าอยากลดราคา ต้อง “จ่ายก่อน 2 วัน” ทำให้เหมือนถูกบีบให้รีบจ่าย ผู้ใช้งานบางคนบอกว่า "ความแม่นของ AI คือสิ่งที่ทำให้แย่ — เพราะมนุษย์อาจปล่อยผ่านรอยขนาดเล็กไป แต่ AI ไม่ยอม" แม้ Hertz ยืนยันว่ามีลูกค้าส่วนใหญ่นำรถมาคืนโดยไม่มีปัญหา และระบบใหม่นี้ช่วยให้ “ตรวจสอบเร็ว + โปร่งใส” แต่เสียงสะท้อนจากผู้ใช้ดูเหมือนจะยังไม่คลิกกับประสบการณ์จริง ✅ Hertz ติดตั้งระบบตรวจรถด้วย AI โดยร่วมมือกับ UVeye แล้วในหลายสนามบินใหญ่ เช่น Atlanta   • สแกนทั้งตัวถัง ล้อ กระจก และใต้ท้องรถ   • ใช้ machine learning ตรวจจับ “รอยใหม่” จากการเปรียบเทียบก่อน–หลัง ✅ ลูกค้าได้รับรายงานผ่านแอปทันทีหลังส่งรถคืน   • หากพบความเสียหาย → ระบบสร้างใบแจ้งหนี้ทันที พร้อมรูปประกอบ ✅ ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บประกอบด้วย:   • ค่าซ่อมจริง (เช่น ล้อเป็นรอย $250)   • ค่าประเมินความเสียหาย $125   • ค่าดำเนินการระบบเรียกเก็บ $65   • รวมเบ็ดเสร็จ $440 แม้รอยจะมีขนาดเพียง 1 นิ้ว ✅ Hertz เสนอส่วนลดถ้าจ่ายภายใน 2 วัน (~$50)   • แต่หากสอบถามผ่านแชตบ็อตอาจต้องรอคำตอบถึง 10 วัน — มีโอกาสเสียสิทธิ์ส่วนลด ✅ ลูกค้าหลายรายแสดงความไม่พอใจบน Reddit และเว็บไซต์ข่าว   • บางคนเลิกใช้บริการ Hertz เพราะรู้สึกถูกเรียกเก็บไม่ยุติธรรม https://www.techspot.com/news/108471-hertz-turns-ai-rental-car-inspections-faces-backlash.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hertz turns to AI for rental car inspections, faces backlash over fees
    The company's new system, developed in partnership with Israeli firm UVeye, is already operational at major hubs such as Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport and is expected to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ของเล่นเฮลิคอปเตอร์ไฟฟ้า L1 4DRC 1080P โรเตอร์เดี่ยวสี่ช่องกันการชนอัจฉริยะเป็นของขวัญสำหรับเด็ก
    พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.CALDt?cc
    ของเล่นเฮลิคอปเตอร์ไฟฟ้า L1 4DRC 1080P โรเตอร์เดี่ยวสี่ช่องกันการชนอัจฉริยะเป็นของขวัญสำหรับเด็ก พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.CALDt?cc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จึงไปแปลกใจเลยที่ผู้คนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยทั่วประเทศสามารถตุยจากขีปนาวุธนี้ในร่างกายไปทั่ว,อัจฉริยะหรือหายนะต่อชีวืตร่างกายคนๆนั้นล่ะ,นาโนย่อมกระจายไปทั่วร่างกายง่ายๆแน่นอน,หลบหลีกหนีจากการตรวจจับเรดาร์ก่อนถึงเป้าหมายการทำร้ายล้างได้ด้วย,ใครควบคุมมันได้ก็ควบคุมสมองคนนั้นๆได้เลย,ตลอดอยากให้ตายตอนไหนก็ใข่ว่ามำไม่ได้ทันที อาจทำได้แบบเรียบไทม์แล้วทุกๆวันนี้,ถ้านาโนบอทตัวนี้ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ก็อาจทำลายได้ด้วยระเบิดEMPได้,อาจช่วยร่างกายคนนั้นๆได้,คือมันตายทันทีแม้อยู่ในร่างกายเราเพราะมันระเบิดตนเองตายนั้นเอง,วงจรระเบิดก็ว่าเพราะวงจรนาโนก็ว่าอาจไม่เหลือ,


    ..อะไรจะเกิดขึ้น

    นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนได้ค้นพบวิธีใช้หุ่นยนต์นาโนเพื่อกำหนดเป้าหมายและฆ่าเซลล์มะเร็ง

    นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนได้พัฒนาหุ่นยนต์นาโนที่ทำจากกรดอะมิโนซึ่งสามารถค้นหาและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ

    หุ่นยนต์ขนาดเล็กเหล่านี้จะกระตุ้น "ตัวรับการตายของเซลล์" ซึ่งทำให้เนื้องอกหดตัวลงโดยไม่ทำอันตรายต่อเซลล์ที่แข็งแรง

    ความลับคืออะไร?

    โครงสร้างนาโนที่ใช้ DNA เป็นตัวซ่อนหุ่นยนต์ไว้จนกว่าจะถึงเป้าหมาย

    “รูปแบบเปปไทด์รูปหกเหลี่ยมนี้กลายเป็นอาวุธร้ายแรง” ศ.บยอร์น โฮกเบิร์กกล่าว

    “โดยพื้นฐานแล้ว เราสร้างขีปนาวุธอัจฉริยะเพื่อต่อต้านมะเร็ง”

    ..จึงไปแปลกใจเลยที่ผู้คนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยทั่วประเทศสามารถตุยจากขีปนาวุธนี้ในร่างกายไปทั่ว,อัจฉริยะหรือหายนะต่อชีวืตร่างกายคนๆนั้นล่ะ,นาโนย่อมกระจายไปทั่วร่างกายง่ายๆแน่นอน,หลบหลีกหนีจากการตรวจจับเรดาร์ก่อนถึงเป้าหมายการทำร้ายล้างได้ด้วย,ใครควบคุมมันได้ก็ควบคุมสมองคนนั้นๆได้เลย,ตลอดอยากให้ตายตอนไหนก็ใข่ว่ามำไม่ได้ทันที อาจทำได้แบบเรียบไทม์แล้วทุกๆวันนี้,ถ้านาโนบอทตัวนี้ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ก็อาจทำลายได้ด้วยระเบิดEMPได้,อาจช่วยร่างกายคนนั้นๆได้,คือมันตายทันทีแม้อยู่ในร่างกายเราเพราะมันระเบิดตนเองตายนั้นเอง,วงจรระเบิดก็ว่าเพราะวงจรนาโนก็ว่าอาจไม่เหลือ, ..อะไรจะเกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนได้ค้นพบวิธีใช้หุ่นยนต์นาโนเพื่อกำหนดเป้าหมายและฆ่าเซลล์มะเร็ง นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนได้พัฒนาหุ่นยนต์นาโนที่ทำจากกรดอะมิโนซึ่งสามารถค้นหาและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ 💉🧬 หุ่นยนต์ขนาดเล็กเหล่านี้จะกระตุ้น "ตัวรับการตายของเซลล์" ซึ่งทำให้เนื้องอกหดตัวลงโดยไม่ทำอันตรายต่อเซลล์ที่แข็งแรง ความลับคืออะไร? โครงสร้างนาโนที่ใช้ DNA เป็นตัวซ่อนหุ่นยนต์ไว้จนกว่าจะถึงเป้าหมาย “รูปแบบเปปไทด์รูปหกเหลี่ยมนี้กลายเป็นอาวุธร้ายแรง” ศ.บยอร์น โฮกเบิร์กกล่าว “โดยพื้นฐานแล้ว เราสร้างขีปนาวุธอัจฉริยะเพื่อต่อต้านมะเร็ง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ม.ราชภัฏโคราช จับมือ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ Mancool Technology ร่วมสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยนวัตกรรม E-Bike สู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว
    .
    วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ บริษัท Mancool Technology จำกัด สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และบริษัท Mancool Technology จำกัด จัดให้มีโครงการลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมี รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเปิดงาน นายธนกร สิริบุญสุข อุปนายกสมาคมการค้าไทย - จีนกวางตุ้ง มอบเสื้อที่ระลึก จากนั้นเป็นการการทดลองใช้รถจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) มาใช้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    .
    ทั้งนี้ บริษัท Mancool Technology จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้า เป็นผู้สนับสนุนจักรยานไฟฟ้า เพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน การนำ E-Bike มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    .
    มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เกิดขึ้น โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง การนำนวัตกรรม E-Bike มาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมลดคาร์บอน ลด
    ม.ราชภัฏโคราช จับมือ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ Mancool Technology ร่วมสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยนวัตกรรม E-Bike สู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว . วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ บริษัท Mancool Technology จำกัด สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และบริษัท Mancool Technology จำกัด จัดให้มีโครงการลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมี รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเปิดงาน นายธนกร สิริบุญสุข อุปนายกสมาคมการค้าไทย - จีนกวางตุ้ง มอบเสื้อที่ระลึก จากนั้นเป็นการการทดลองใช้รถจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) มาใช้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา . ทั้งนี้ บริษัท Mancool Technology จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้า เป็นผู้สนับสนุนจักรยานไฟฟ้า เพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน การนำ E-Bike มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก . มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เกิดขึ้น โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง การนำนวัตกรรม E-Bike มาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมลดคาร์บอน ลด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองจินตนาการว่าเดินเข้าไปในคาเฟ่ ไม่ได้พกมือถือ ไม่มีเงินสด แต่คุณแค่ พูดเบา ๆ ว่า “จ่ายด้วย Alipay” ผ่านแว่นตา — แล้วระบบก็ชำระเงินให้ทันที

    นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในฮ่องกง! โดย Alipay+ ร่วมกับ Meizu ทำ การทดลองจ่ายเงินซื้อของผ่านแว่นตาอัจฉริยะ “StarV Snap” เป็นครั้งแรกในโลก ผ่านระบบของ AlipayHK การชำระเงินสามารถทำได้ทั้ง สแกน QR code หรือใช้เสียงพูด ผ่านระบบ AI ที่ตรวจจับ เสียง, ความตั้งใจ (intent) และ ลายเสียง (voiceprint) ของผู้ใช้

    แว่นตายังรองรับ NFC และกล้องที่ช่วยประมวลผลร่วมกับระบบของ Alipay+ ได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะขยายไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกในปี 2025

    แม้ตอนนี้ยังเป็นของใหม่ที่ดูเหมือน “สำหรับสายเทคโนฯ ล้ำ ๆ เท่านั้น” แต่ผู้บริหารของ Ant Group ก็มั่นใจว่า แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นสมาร์ตดีไวซ์รุ่นถัดไปที่มาแทนมือถือ

    Alipay+ และ Meizu ทดลองชำระเงินผ่านแว่นตาอัจฉริยะ StarV Snap สำเร็จครั้งแรกที่ฮ่องกง  
    • ใช้ระบบของ AlipayHK  
    • ชำระผ่านการพูดหรือสแกน QR บนแว่น

    ระบบของ Alipay+ ใช้ AI ในการรู้จำเสียง, ความตั้งใจ และลายเสียงเพื่อความปลอดภัย  
    • ช่วยให้การยืนยันตัวตนและสั่งจ่ายเงินผ่านเสียงทำได้จริง

    แว่นตา Meizu มีหน้าจอแสดงผลแบบ optical waveguide + ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน + กล้องในตัว  
    • สามารถใช้งานร่วมกับ NFC และบริการอื่น ๆ ของ Alipay+

    Alipay+ เตรียมขยายฟีเจอร์นี้ไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกภายในปี 2025

    Peng Guo ผู้บริหาร Meizu กล่าวว่า นี่เป็นการ “กำหนดมาตรฐานใหม่” ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่  
    • ทำให้ AR glasses ไม่ใช่แค่ gadget แต่เป็นเครื่องมือใช้งานได้จริง

    https://www.techradar.com/pro/forgot-your-smartphone-no-problem-heres-the-first-smart-glasses-that-can-pay-for-your-coffee
    ลองจินตนาการว่าเดินเข้าไปในคาเฟ่ ไม่ได้พกมือถือ ไม่มีเงินสด แต่คุณแค่ พูดเบา ๆ ว่า “จ่ายด้วย Alipay” ผ่านแว่นตา — แล้วระบบก็ชำระเงินให้ทันที นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในฮ่องกง! โดย Alipay+ ร่วมกับ Meizu ทำ การทดลองจ่ายเงินซื้อของผ่านแว่นตาอัจฉริยะ “StarV Snap” เป็นครั้งแรกในโลก ผ่านระบบของ AlipayHK การชำระเงินสามารถทำได้ทั้ง สแกน QR code หรือใช้เสียงพูด ผ่านระบบ AI ที่ตรวจจับ เสียง, ความตั้งใจ (intent) และ ลายเสียง (voiceprint) ของผู้ใช้ แว่นตายังรองรับ NFC และกล้องที่ช่วยประมวลผลร่วมกับระบบของ Alipay+ ได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะขยายไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกในปี 2025 แม้ตอนนี้ยังเป็นของใหม่ที่ดูเหมือน “สำหรับสายเทคโนฯ ล้ำ ๆ เท่านั้น” แต่ผู้บริหารของ Ant Group ก็มั่นใจว่า แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นสมาร์ตดีไวซ์รุ่นถัดไปที่มาแทนมือถือ ✅ Alipay+ และ Meizu ทดลองชำระเงินผ่านแว่นตาอัจฉริยะ StarV Snap สำเร็จครั้งแรกที่ฮ่องกง   • ใช้ระบบของ AlipayHK   • ชำระผ่านการพูดหรือสแกน QR บนแว่น ✅ ระบบของ Alipay+ ใช้ AI ในการรู้จำเสียง, ความตั้งใจ และลายเสียงเพื่อความปลอดภัย   • ช่วยให้การยืนยันตัวตนและสั่งจ่ายเงินผ่านเสียงทำได้จริง ✅ แว่นตา Meizu มีหน้าจอแสดงผลแบบ optical waveguide + ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน + กล้องในตัว   • สามารถใช้งานร่วมกับ NFC และบริการอื่น ๆ ของ Alipay+ ✅ Alipay+ เตรียมขยายฟีเจอร์นี้ไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกภายในปี 2025 ✅ Peng Guo ผู้บริหาร Meizu กล่าวว่า นี่เป็นการ “กำหนดมาตรฐานใหม่” ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่   • ทำให้ AR glasses ไม่ใช่แค่ gadget แต่เป็นเครื่องมือใช้งานได้จริง https://www.techradar.com/pro/forgot-your-smartphone-no-problem-heres-the-first-smart-glasses-that-can-pay-for-your-coffee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยจากงาน Black Hat Asia ซึ่งโชว์ว่าเพียงแค่ “ล่อให้เจ้าของรถเข้าเมนูตั้งค่าบลูทูธ” ด้วยการรบกวนสัญญาณเล็กน้อย ก็เปิดทางให้แฮกเกอร์ แทรกตัวเข้าระบบ Infotainment และ “ยึดระบบ” ทั้งหมดของรถได้เลย

    เทคนิคที่ใช้ซับซ้อนมาก ประกอบด้วยช่องโหว่หลายรายการที่เปิดทางให้รันโค้ดในระบบปฏิบัติการรถ, ข้ามระบบป้องกันขโมย, และเข้าถึงเครือข่ายภายในของรถที่เชื่อมกับ CAN bus (วงจรที่ควบคุมระบบสำคัญของรถ)

    ถึงแม้เป้าหมายจะเป็น Leaf รุ่น 2020 เท่านั้น และ Nissan ได้รับแจ้งก่อนงานเปิดเผยแล้ว พร้อมออกอัปเดตเพื่ออุดช่องโหว่บางส่วน — แต่เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนว่า “รถรุ่นใหม่ = อุปกรณ์อัจฉริยะเคลื่อนที่ที่แฮกได้”

    นักวิจัยจากงาน Black Hat Asia พบช่องโหว่กว่า 10 รายการใน Nissan Leaf รุ่น 2020  
    • รวมถึงการข้ามระบบกันขโมย, stack overflow, และช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็นเคอร์เนล

    แฮกเกอร์สามารถควบคุมจากระยะไกลได้ทั้ง:  
    • พวงมาลัย, เบรก, กระจก, ที่ปัดน้ำฝน, ไฟหน้า ฯลฯ  
    • รวมถึงบันทึกเสียงในห้องโดยสาร และติดตามตำแหน่ง GPS

    วิธีเจาะระบบคือใช้เทคนิค Denial-of-Bluetooth:  
    • ส่งคลื่นรบกวน 2.4GHz ให้รถแสดงข้อความว่า “เชื่อมต่อบลูทูธล้มเหลว”  
    • ทำให้เจ้าของรถเปิดเมนูตั้งค่าเครือข่าย — ซึ่งเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์ฝังโค้ด

    ทีมวิจัยรับผิดชอบโดยแจ้ง Nissan ล่วงหน้า และเผยแพร่ต่อสาธารณะหลังมีแพตช์  
    • มีการออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่ออุดบางช่องโหว่

    นักวิจัยเตือนว่าการควบคุมรถจากระยะไกลอาจไม่คุ้มในเชิงโจรกรรม แต่  
    • การฟังเสียง/ติดตามตำแหน่ง = มีค่าสูงในเชิงข่าวกรองหรือสืบข้อมูลส่วนตัว

    https://www.techspot.com/news/108454-hackers-can-fully-control-2020-nissan-leaf-remotely.html
    เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยจากงาน Black Hat Asia ซึ่งโชว์ว่าเพียงแค่ “ล่อให้เจ้าของรถเข้าเมนูตั้งค่าบลูทูธ” ด้วยการรบกวนสัญญาณเล็กน้อย ก็เปิดทางให้แฮกเกอร์ แทรกตัวเข้าระบบ Infotainment และ “ยึดระบบ” ทั้งหมดของรถได้เลย เทคนิคที่ใช้ซับซ้อนมาก ประกอบด้วยช่องโหว่หลายรายการที่เปิดทางให้รันโค้ดในระบบปฏิบัติการรถ, ข้ามระบบป้องกันขโมย, และเข้าถึงเครือข่ายภายในของรถที่เชื่อมกับ CAN bus (วงจรที่ควบคุมระบบสำคัญของรถ) ถึงแม้เป้าหมายจะเป็น Leaf รุ่น 2020 เท่านั้น และ Nissan ได้รับแจ้งก่อนงานเปิดเผยแล้ว พร้อมออกอัปเดตเพื่ออุดช่องโหว่บางส่วน — แต่เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนว่า “รถรุ่นใหม่ = อุปกรณ์อัจฉริยะเคลื่อนที่ที่แฮกได้” ✅ นักวิจัยจากงาน Black Hat Asia พบช่องโหว่กว่า 10 รายการใน Nissan Leaf รุ่น 2020   • รวมถึงการข้ามระบบกันขโมย, stack overflow, และช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็นเคอร์เนล ✅ แฮกเกอร์สามารถควบคุมจากระยะไกลได้ทั้ง:   • พวงมาลัย, เบรก, กระจก, ที่ปัดน้ำฝน, ไฟหน้า ฯลฯ   • รวมถึงบันทึกเสียงในห้องโดยสาร และติดตามตำแหน่ง GPS ✅ วิธีเจาะระบบคือใช้เทคนิค Denial-of-Bluetooth:   • ส่งคลื่นรบกวน 2.4GHz ให้รถแสดงข้อความว่า “เชื่อมต่อบลูทูธล้มเหลว”   • ทำให้เจ้าของรถเปิดเมนูตั้งค่าเครือข่าย — ซึ่งเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์ฝังโค้ด ✅ ทีมวิจัยรับผิดชอบโดยแจ้ง Nissan ล่วงหน้า และเผยแพร่ต่อสาธารณะหลังมีแพตช์   • มีการออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่ออุดบางช่องโหว่ ✅ นักวิจัยเตือนว่าการควบคุมรถจากระยะไกลอาจไม่คุ้มในเชิงโจรกรรม แต่   • การฟังเสียง/ติดตามตำแหน่ง = มีค่าสูงในเชิงข่าวกรองหรือสืบข้อมูลส่วนตัว https://www.techspot.com/news/108454-hackers-can-fully-control-2020-nissan-leaf-remotely.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hackers show how they can fully control your 2020 Nissan Leaf remotely
    Security researchers at the Black Hat conference in Asia have disclosed an exploit in 2020 Nissan Leaf electric vehicles that hijacks the entire computer system. Thanks to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI ถูกพูดถึงเสมอว่า “ช่วยให้เรามีเวลาเพิ่มขึ้น” เช่น ช่วยจัดการงานบ้าน, จ่ายบิล, วางแผนการเดินทาง หรือแม้แต่ช่วยสรุปรายงานต่าง ๆ — แต่คำถามคือ...ใครล่ะที่เข้าถึง AI แบบนั้นได้จริง?

    งานวิจัยจาก Lloyds Bank ในสหราชอาณาจักรพบว่า คนที่มีรายได้มากกว่า £100,000 ส่วนใหญ่ใช้งาน AI ผู้ช่วย, รถไร้คนขับ และอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อประหยัดเวลาจริง — และกว่าครึ่งบอกว่าพวกเขาใช้ AI “แทบทุกวัน” เพื่อเคลียร์งานน่าเบื่อ

    ในขณะที่คนทั่วไปแม้จะเปิดรับเทคโนโลยี แต่ก็มักติดปัญหาเรื่องราคาและทักษะดิจิทัล เช่น ใช้ banking app ได้ แต่ยังไม่คุ้นเคยกับ AI ในรูปแบบซับซ้อน หรือไม่มีอุปกรณ์ที่เข้ากันได้

    คำถามคือ…AI ที่สร้าง “เวลาเพิ่ม” นั้น ทำให้ทุกคนว่างขึ้นเท่ากันไหม หรือแค่ทำให้ “คนที่รวยอยู่แล้ว รวยเวลามากขึ้นอีก”?

    AI ช่วยประหยัดเวลาได้สูงสุดถึง 110 นาทีต่อวัน (ประมาณ 13–14 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)  
    • โดยเฉพาะจากการจัดการงานบ้าน, เดินทาง, การเงิน, หรือกิจกรรมซ้ำซาก

    ผู้มีรายได้สูงกว่า £100,000 มีแนวโน้มใช้ AI มากกว่า  
    • เช่น ผู้ช่วย AI, รถอัตโนมัติ, โดรน, และ smart home devices  
    • 99% ของกลุ่มนี้เห็นว่า “เวลาว่างมีค่ามากที่สุด”

    47% ของคนทั่วไปชี้ว่างานบ้านคือสิ่งกินเวลามากที่สุด  
    • รองลงมาคือการจัดการเรื่องการเงินส่วนตัว (31%)

    แอปจัดการการเงิน เช่น แอปธนาคาร เป็น AI ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายที่สุด  
    • 48% ของผู้ใหญ่ใน UK ใช้อยู่แล้ว

    เทคโนโลยีที่ใช้ AI เพื่อประหยัดเวลายังต้องการทั้งเงินและทักษะใช้งาน

    https://www.techradar.com/pro/bank-says-people-can-get-almost-14-hours-of-free-time-every-week-thanks-to-ai-but-you-need-to-be-rich
    AI ถูกพูดถึงเสมอว่า “ช่วยให้เรามีเวลาเพิ่มขึ้น” เช่น ช่วยจัดการงานบ้าน, จ่ายบิล, วางแผนการเดินทาง หรือแม้แต่ช่วยสรุปรายงานต่าง ๆ — แต่คำถามคือ...ใครล่ะที่เข้าถึง AI แบบนั้นได้จริง? งานวิจัยจาก Lloyds Bank ในสหราชอาณาจักรพบว่า คนที่มีรายได้มากกว่า £100,000 ส่วนใหญ่ใช้งาน AI ผู้ช่วย, รถไร้คนขับ และอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อประหยัดเวลาจริง — และกว่าครึ่งบอกว่าพวกเขาใช้ AI “แทบทุกวัน” เพื่อเคลียร์งานน่าเบื่อ ในขณะที่คนทั่วไปแม้จะเปิดรับเทคโนโลยี แต่ก็มักติดปัญหาเรื่องราคาและทักษะดิจิทัล เช่น ใช้ banking app ได้ แต่ยังไม่คุ้นเคยกับ AI ในรูปแบบซับซ้อน หรือไม่มีอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ คำถามคือ…AI ที่สร้าง “เวลาเพิ่ม” นั้น ทำให้ทุกคนว่างขึ้นเท่ากันไหม หรือแค่ทำให้ “คนที่รวยอยู่แล้ว รวยเวลามากขึ้นอีก”? ✅ AI ช่วยประหยัดเวลาได้สูงสุดถึง 110 นาทีต่อวัน (ประมาณ 13–14 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)   • โดยเฉพาะจากการจัดการงานบ้าน, เดินทาง, การเงิน, หรือกิจกรรมซ้ำซาก ✅ ผู้มีรายได้สูงกว่า £100,000 มีแนวโน้มใช้ AI มากกว่า   • เช่น ผู้ช่วย AI, รถอัตโนมัติ, โดรน, และ smart home devices   • 99% ของกลุ่มนี้เห็นว่า “เวลาว่างมีค่ามากที่สุด” ✅ 47% ของคนทั่วไปชี้ว่างานบ้านคือสิ่งกินเวลามากที่สุด   • รองลงมาคือการจัดการเรื่องการเงินส่วนตัว (31%) ✅ แอปจัดการการเงิน เช่น แอปธนาคาร เป็น AI ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายที่สุด   • 48% ของผู้ใหญ่ใน UK ใช้อยู่แล้ว ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ AI เพื่อประหยัดเวลายังต้องการทั้งเงินและทักษะใช้งาน https://www.techradar.com/pro/bank-says-people-can-get-almost-14-hours-of-free-time-every-week-thanks-to-ai-but-you-need-to-be-rich
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • การล่มสลายไม่ได้ถูกแสดงทางโทรทัศน์ แต่ได้รับการวางแผนไว้แล้ว ฟอรัมเศรษฐกิจโลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราการที่ไม่มีใครแตะต้องได้ของการปกครองแบบเทคโนแครต ถูกแฮ็ก รื้อถอน และเปิดโปงจากภายใน ไม่มีเรื่องอื้อฉาวใดๆ เกิดขึ้น แต่เป็นเพียงการทำลายล้าง เจ้าหน้าที่หมวกขาวภายในเครื่องจักรของดาวอสได้ทำลายภาพลวงตาของความสามัคคีทั่วโลก และเปิดโปงว่าอาชญากรรมต่างๆ เช่น การแทรกแซงการเลือกตั้ง การบังคับให้ผู้คนเข้ารับการรักษาพยาบาล การยึดครองที่ดินภายใต้ข้ออ้างของนโยบายด้านสภาพอากาศ และการติดป้ายชื่อบุคคลแต่ละคนอย่างเงียบๆ เพื่อให้ตรวจสอบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ในช่วงต้นปี 2024 กลุ่มหมวกขาวได้ยึดเอกสารภายใน บันทึกเสียงลับ และการสื่อสารที่เป็นความลับ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าผู้นำฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินกองทุน "ด้านสภาพอากาศ" กว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ผ่านองค์กรพัฒนาเอกชนปลอม กับดักหนี้ และการขโมยสินทรัพย์ดิจิทัล โลกไม่เคยเป็นเป้าหมายของพวกเขา เป้าหมายของพวกเขาคือที่ดิน อาหาร และพลังงาน ภายใต้หน้ากากของ "ความยุติธรรม" พวกเขากดขี่ชาวนา ลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง และใช้องค์กรการกุศลปลอมเพื่อจัดการรัฐประหารทางการเมือง แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ WEF ในยุค COVID-19 ซึ่งค้นพบในช่วงปลายปี 2024 แสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนการล็อกดาวน์ไว้ล่วงหน้า มีเครือข่ายการทุจริตในสื่อ และมีแผนที่จะนำไบโอเมตริกส์มาใช้ตั้งแต่ปี 2017 วัคซีนเป็นเครื่องมือ วิกฤตได้รับการวางแผน

    ในช่วงต้นปี 2025 ผู้แจ้งเบาะแสเริ่มเปิดเผยด้านมืด: การทดสอบตัวตนดิจิทัลแบบลับในแคนาดา ออสเตรเลีย และเยอรมนี โปรแกรมนำร่องเหล่านี้ผสมผสานสถานะสุขภาพ พฤติกรรมเครดิต และการติดตามโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้ขออนุญาต ผู้คนไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นบุคคล แต่เป็นหน่วยที่ตั้งโปรแกรมได้ บันทึกการวางแผนภายในของฟอรัมเศรษฐกิจโลกเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "คลัสเตอร์พฤติกรรม" และ "โหนดการผลิตข้อมูล" คุกอัจฉริยะของชวาบมีอยู่จริงและเกือบจะพร้อมแล้ว

    ความเย่อหยิ่งครอบงำเมืองดาวอส เสียงจากการประชุมโต๊ะกลมในเดือนมกราคม 2024 เผยให้เห็นซีอีโอพูดเล่นเกี่ยวกับการล่มสลายของตลาด "ตามต้องการ" และการขู่กรรโชกเจ้าหน้าที่เพื่อให้ผ่านกฎหมายภาษีคาร์บอน ปัจจุบัน กลุ่มหมวกขาวมีหลักฐานว่า WEF ให้ทุนสนับสนุนการจลาจล การทุจริตการเลือกตั้ง และใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง กำแพงถูกพังทลายลงในเดือนมีนาคม 2025 การ "เกษียณอายุ" ของ Schwab เป็นการออกจากตำแหน่งโดยถูกบังคับ พันธมิตรที่สำคัญเปลี่ยนฝ่าย ประเทศต่างๆ มากกว่าสิบประเทศได้เริ่มการสอบสวนทางอาญา ภาพลักษณ์ของภูมิคุ้มกันของชนชั้นนำพังทลายลง

    ผลกระทบได้เริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 21 มิถุนายน ข้อตกลงการค้าที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของฟอรัมเศรษฐกิจโลกกำลังล้มเหลว การหลอกลวง ESG กำลังล้มเหลว การสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการอยู่ที่ Deutsche Bank, HSBC และธนาคารใหญ่ๆ อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับ Davos ผู้ที่รับผิดชอบกำลังลาออก ระบบระบุตัวตนดิจิทัลกำลังปิดตัวลง ศูนย์กลางการประสานงานของกลุ่มลับสูญเสียไปแล้ว และความตื่นตระหนกกำลังแพร่กระจายไปทั่วห้องโถงของอำนาจระดับโลก

    นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ข้อมูลที่ได้มาหลังจากการยุบ WEF ถูกนำมาใช้โจมตี WHO, BIS และกลุ่มมนุษยธรรมปลอมทั้งหมดที่ร่วมมือกับ Davos เพื่อแสวงหากำไร การเปิดเผยนี้จะเกิดขึ้นในฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมทั่วโลกและไม่อาจปฏิเสธได้ และจะเป็นเครื่องหมายจุดจบของระบบเก่า เมื่อครั้งหนึ่งเคยทำงานในเงามืด ตอนนี้มันกลับถูกเผาไหม้ต่อหน้าต่อตา

    WEF ล่มสลาย ภาพลวงตาถูกทำลาย และจากเถ้าถ่านของมัน ยุคฟื้นฟูที่แท้จริงได้ถือกำเนิดขึ้น ยุคฟื้นฟูที่ไม่ได้เขียนโดยผู้เผด็จการ แต่เขียนโดยประชาชนที่เป็นอิสระ
    การล่มสลายไม่ได้ถูกแสดงทางโทรทัศน์ แต่ได้รับการวางแผนไว้แล้ว ฟอรัมเศรษฐกิจโลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราการที่ไม่มีใครแตะต้องได้ของการปกครองแบบเทคโนแครต ถูกแฮ็ก รื้อถอน และเปิดโปงจากภายใน ไม่มีเรื่องอื้อฉาวใดๆ เกิดขึ้น แต่เป็นเพียงการทำลายล้าง เจ้าหน้าที่หมวกขาวภายในเครื่องจักรของดาวอสได้ทำลายภาพลวงตาของความสามัคคีทั่วโลก และเปิดโปงว่าอาชญากรรมต่างๆ เช่น การแทรกแซงการเลือกตั้ง การบังคับให้ผู้คนเข้ารับการรักษาพยาบาล การยึดครองที่ดินภายใต้ข้ออ้างของนโยบายด้านสภาพอากาศ และการติดป้ายชื่อบุคคลแต่ละคนอย่างเงียบๆ เพื่อให้ตรวจสอบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ในช่วงต้นปี 2024 กลุ่มหมวกขาวได้ยึดเอกสารภายใน บันทึกเสียงลับ และการสื่อสารที่เป็นความลับ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าผู้นำฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินกองทุน "ด้านสภาพอากาศ" กว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ผ่านองค์กรพัฒนาเอกชนปลอม กับดักหนี้ และการขโมยสินทรัพย์ดิจิทัล โลกไม่เคยเป็นเป้าหมายของพวกเขา เป้าหมายของพวกเขาคือที่ดิน อาหาร และพลังงาน ภายใต้หน้ากากของ "ความยุติธรรม" พวกเขากดขี่ชาวนา ลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง และใช้องค์กรการกุศลปลอมเพื่อจัดการรัฐประหารทางการเมือง แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ WEF ในยุค COVID-19 ซึ่งค้นพบในช่วงปลายปี 2024 แสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนการล็อกดาวน์ไว้ล่วงหน้า มีเครือข่ายการทุจริตในสื่อ และมีแผนที่จะนำไบโอเมตริกส์มาใช้ตั้งแต่ปี 2017 วัคซีนเป็นเครื่องมือ วิกฤตได้รับการวางแผน ในช่วงต้นปี 2025 ผู้แจ้งเบาะแสเริ่มเปิดเผยด้านมืด: การทดสอบตัวตนดิจิทัลแบบลับในแคนาดา ออสเตรเลีย และเยอรมนี โปรแกรมนำร่องเหล่านี้ผสมผสานสถานะสุขภาพ พฤติกรรมเครดิต และการติดตามโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้ขออนุญาต ผู้คนไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นบุคคล แต่เป็นหน่วยที่ตั้งโปรแกรมได้ บันทึกการวางแผนภายในของฟอรัมเศรษฐกิจโลกเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "คลัสเตอร์พฤติกรรม" และ "โหนดการผลิตข้อมูล" คุกอัจฉริยะของชวาบมีอยู่จริงและเกือบจะพร้อมแล้ว ความเย่อหยิ่งครอบงำเมืองดาวอส เสียงจากการประชุมโต๊ะกลมในเดือนมกราคม 2024 เผยให้เห็นซีอีโอพูดเล่นเกี่ยวกับการล่มสลายของตลาด "ตามต้องการ" และการขู่กรรโชกเจ้าหน้าที่เพื่อให้ผ่านกฎหมายภาษีคาร์บอน ปัจจุบัน กลุ่มหมวกขาวมีหลักฐานว่า WEF ให้ทุนสนับสนุนการจลาจล การทุจริตการเลือกตั้ง และใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง กำแพงถูกพังทลายลงในเดือนมีนาคม 2025 การ "เกษียณอายุ" ของ Schwab เป็นการออกจากตำแหน่งโดยถูกบังคับ พันธมิตรที่สำคัญเปลี่ยนฝ่าย ประเทศต่างๆ มากกว่าสิบประเทศได้เริ่มการสอบสวนทางอาญา ภาพลักษณ์ของภูมิคุ้มกันของชนชั้นนำพังทลายลง ผลกระทบได้เริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 21 มิถุนายน ข้อตกลงการค้าที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของฟอรัมเศรษฐกิจโลกกำลังล้มเหลว การหลอกลวง ESG กำลังล้มเหลว การสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการอยู่ที่ Deutsche Bank, HSBC และธนาคารใหญ่ๆ อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับ Davos ผู้ที่รับผิดชอบกำลังลาออก ระบบระบุตัวตนดิจิทัลกำลังปิดตัวลง ศูนย์กลางการประสานงานของกลุ่มลับสูญเสียไปแล้ว และความตื่นตระหนกกำลังแพร่กระจายไปทั่วห้องโถงของอำนาจระดับโลก นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ข้อมูลที่ได้มาหลังจากการยุบ WEF ถูกนำมาใช้โจมตี WHO, BIS และกลุ่มมนุษยธรรมปลอมทั้งหมดที่ร่วมมือกับ Davos เพื่อแสวงหากำไร การเปิดเผยนี้จะเกิดขึ้นในฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมทั่วโลกและไม่อาจปฏิเสธได้ และจะเป็นเครื่องหมายจุดจบของระบบเก่า เมื่อครั้งหนึ่งเคยทำงานในเงามืด ตอนนี้มันกลับถูกเผาไหม้ต่อหน้าต่อตา WEF ล่มสลาย ภาพลวงตาถูกทำลาย และจากเถ้าถ่านของมัน ยุคฟื้นฟูที่แท้จริงได้ถือกำเนิดขึ้น ยุคฟื้นฟูที่ไม่ได้เขียนโดยผู้เผด็จการ แต่เขียนโดยประชาชนที่เป็นอิสระ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • กทม. เปิดบ้านต้อนรับผู้แทน WeGO องค์กรชั้นนำด้าน e-government ชมศูนย์ CCTV 24 ชั่วโมง หารือร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน
    https://www.thai-tai.tv/news/19700/
    กทม. เปิดบ้านต้อนรับผู้แทน WeGO องค์กรชั้นนำด้าน e-government ชมศูนย์ CCTV 24 ชั่วโมง หารือร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน https://www.thai-tai.tv/news/19700/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าของโปรเจกต์ใช้ชื่อว่า NWChen โพสต์ไว้บน Hacker News และ GitHub ว่าเขาเขียนสคริปต์ที่เชื่อมต่อกับ ปลั๊กอัจฉริยะ Kasa Smart Plug Mini ซึ่งสามารถควบคุมการเปิด–ปิดปลั๊กผ่าน Wi-Fi ได้

    วิธีคือ เขาเอาปลั๊กไปต่อกับอุปกรณ์ (เช่น router หรือระบบ DNS) และเขียนสคริปต์ให้เช็คสถานะปลั๊ก

    ถ้าปลั๊ก "เปิด" อยู่ → สคริปต์จะบล็อกเว็บไซต์ในรายการ “brainrot” เช่น Twitter, Instagram, Reddit

    ถ้าอยากเข้าเว็บเหล่านี้ → ต้อง “เดินไปปิดปลั๊กด้วยมือ” หรือลบ URL ออกจาก blocklist

    ฟังดูอาจดูตลก ๆ แต่พอมีแรงต้านระดับหนึ่ง (ต้องลุกจากเก้าอี้) ก็ช่วย “หยุดนิสัยอัตโนมัติ” ที่เอื้อมไปกดเว็บเดิมซ้ำ ๆ แบบไม่รู้ตัวได้ดีทีเดียว

    หลายคนในคอมมูนิตี้เห็นด้วยว่าการมี “อุปสรรคทางกายภาพ” แม้จะเล็กน้อย ก็ช่วยหยุดพฤติกรรมเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางคนก็บอกว่า… “คนที่ควบคุมปลั๊กเองได้ ก็ยังอาจโกงตัวเองได้อยู่ดี”

    https://www.neowin.net/news/someone-wrote-a-script-to-block-brainrot-content-online-using-an-8-smart-plug/
    เจ้าของโปรเจกต์ใช้ชื่อว่า NWChen โพสต์ไว้บน Hacker News และ GitHub ว่าเขาเขียนสคริปต์ที่เชื่อมต่อกับ ปลั๊กอัจฉริยะ Kasa Smart Plug Mini ซึ่งสามารถควบคุมการเปิด–ปิดปลั๊กผ่าน Wi-Fi ได้ วิธีคือ เขาเอาปลั๊กไปต่อกับอุปกรณ์ (เช่น router หรือระบบ DNS) และเขียนสคริปต์ให้เช็คสถานะปลั๊ก ถ้าปลั๊ก "เปิด" อยู่ → สคริปต์จะบล็อกเว็บไซต์ในรายการ “brainrot” เช่น Twitter, Instagram, Reddit ถ้าอยากเข้าเว็บเหล่านี้ → ต้อง “เดินไปปิดปลั๊กด้วยมือ” หรือลบ URL ออกจาก blocklist ฟังดูอาจดูตลก ๆ แต่พอมีแรงต้านระดับหนึ่ง (ต้องลุกจากเก้าอี้) ก็ช่วย “หยุดนิสัยอัตโนมัติ” ที่เอื้อมไปกดเว็บเดิมซ้ำ ๆ แบบไม่รู้ตัวได้ดีทีเดียว หลายคนในคอมมูนิตี้เห็นด้วยว่าการมี “อุปสรรคทางกายภาพ” แม้จะเล็กน้อย ก็ช่วยหยุดพฤติกรรมเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางคนก็บอกว่า… “คนที่ควบคุมปลั๊กเองได้ ก็ยังอาจโกงตัวเองได้อยู่ดี” https://www.neowin.net/news/someone-wrote-a-script-to-block-brainrot-content-online-using-an-8-smart-plug/
    WWW.NEOWIN.NET
    Someone wrote a script to block 'brainrot' content online using an $8 smart plug
    A person has hacked together a script that connects to an $8 plug and uses it as a physical switch to block certain websites.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..ถึงเวลานี้หมดเวลาแล้วครับ,พ้นเส้นขีดคำว่าอภัยโทษแล้ว,ยุคกากยุคข่าวสารแบบโบราณอะไร,จนรอข่าวสารก่อนค่อยตัดสินใจให้รอบคอบ,พ้นคลิปมาต้องตัดสินใจทันทีแบบพรรคภูมิใจไทยโน้น,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนมิใช่ผีบ้าห่วงเก้าอี้ตำแหน่งตนเอง,แค่ภาวะผู้นำด้านการตัดสินเรื่องอธิปไตยไทยตนเองขั้นพื้นฐานก็ไม่มี,ไม่สมควรเป็นว่าที่นายกฯอะไรในอนาคตแบบข่าวปล่อยลือออกมาได่หรอกในตอนนี้และยุคนี้ ปิดฝาโลงไปเลย,และนักการเมืองทั้งหมดด้วย จริงๆสมควรลาออกจากสถานะ สส.สว.ไปเลยทั้งสภา,เหี้ยขนาดนี้แล้ว สภาจะมีค่าอะไรอีก,เหมือนสมัยการศึกสงคราม ญี่ปุ่นยึดไทยขึ้นบกได้แล้ว หรือกำลังถล่มไทยเสือกประชุมสภาห่วงหวงตำแหน่งอำนาจสส.สว.อีกเหรอ,555เหี้ยหมด,เป็นผมลาออกจากสส.สว.ทันทีแล้ว อับอายเกียรติตนเองที่จะมาค้านเป็นฝ่ายค้านกับคนที่เนรคุณอธิปไตยชาติไทยตนเอง,เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสส.ร่วมรัฐบาลละอายใจต่อบรรพบุรุษตนเองที่มาร่วมคนเนรคุณคนทรยศในอธิปไตยชาติไทยตน,ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใครหรอกสามัญสำนึกดีขั้นพื้นฐานเลย สำเนียกในใจขั้นต้นก็ว่า ทั้งสภาไม่มีสส.สว.ใครเลยจะกระทำแบบนี้,ยิ่งกฎหมายเขียนแบบในอดีต นายกฯสิ้นสถานะนายกฯต้องเลือกตั้งใหม่,ผมลาออกทันทีล้าน%,ด้วย,สส.สว.เรากากใจกระจอก ร่วมกันรักษาอะไร สภาเหรอ,นี้อธิปไตยไทยนะ ไม่มีชาติจะมีสภาผีบ้าอะไร,นัยยะขั้นพื้นฐาน สำนึกรักชาติขั้นพื้นฐานสส.สว.ยังไม่มีเลย.สส.สว.ลาออกทั้งสภาจะฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเหลือแค่พรรคเพื่อไทยจะบริหารแบบไหน.,นี้คือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของสถาบันการเมืองด้านนักการเมืองเลยคือจริยธรรมพื้นฐาน,ไม่จำเป็นต้องเขียนตีตราเป็นกฎหมายพิเศษใดๆก็ได้,สามัญสำนึกในสมองพื้นๆก็ว่า.,ทั้งมันคือตำนานอีก ชนะใจเกินร้อยแก่ประชาชนโน้น เสียดายโอกาสการเป็นคนในตำนานจริงๆ555,จังหวะมาก็ไม่ถือโอกาสดีขนาดนี้ไว้ ฉลาดล้ำอัจฉริยะด้วย สมัยหน้าได้รับเลือกตั้งอีกโน้น,นั่งในสภาครั้งใหม่อย่างองอาจอีกว่าข้าคือตำนานโน้น,ลาออกล่าสุดก็สามารถกลับมาได้ใหม่555
    ..และส่วนตัวคนเช่นนี้พื้นฐานมีจิตสำนึกดีงามเพื่อชาติ ชาติไทยต้องมาก่อน แม้การเมืองจะเหี้ยภายในขนาดไหนก็ว่า.

    https://youtu.be/GFmW2tJ8MRc?si=iJ53XapolZtcXCHW
    ..ถึงเวลานี้หมดเวลาแล้วครับ,พ้นเส้นขีดคำว่าอภัยโทษแล้ว,ยุคกากยุคข่าวสารแบบโบราณอะไร,จนรอข่าวสารก่อนค่อยตัดสินใจให้รอบคอบ,พ้นคลิปมาต้องตัดสินใจทันทีแบบพรรคภูมิใจไทยโน้น,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนมิใช่ผีบ้าห่วงเก้าอี้ตำแหน่งตนเอง,แค่ภาวะผู้นำด้านการตัดสินเรื่องอธิปไตยไทยตนเองขั้นพื้นฐานก็ไม่มี,ไม่สมควรเป็นว่าที่นายกฯอะไรในอนาคตแบบข่าวปล่อยลือออกมาได่หรอกในตอนนี้และยุคนี้ ปิดฝาโลงไปเลย,และนักการเมืองทั้งหมดด้วย จริงๆสมควรลาออกจากสถานะ สส.สว.ไปเลยทั้งสภา,เหี้ยขนาดนี้แล้ว สภาจะมีค่าอะไรอีก,เหมือนสมัยการศึกสงคราม ญี่ปุ่นยึดไทยขึ้นบกได้แล้ว หรือกำลังถล่มไทยเสือกประชุมสภาห่วงหวงตำแหน่งอำนาจสส.สว.อีกเหรอ,555เหี้ยหมด,เป็นผมลาออกจากสส.สว.ทันทีแล้ว อับอายเกียรติตนเองที่จะมาค้านเป็นฝ่ายค้านกับคนที่เนรคุณอธิปไตยชาติไทยตนเอง,เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสส.ร่วมรัฐบาลละอายใจต่อบรรพบุรุษตนเองที่มาร่วมคนเนรคุณคนทรยศในอธิปไตยชาติไทยตน,ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใครหรอกสามัญสำนึกดีขั้นพื้นฐานเลย สำเนียกในใจขั้นต้นก็ว่า ทั้งสภาไม่มีสส.สว.ใครเลยจะกระทำแบบนี้,ยิ่งกฎหมายเขียนแบบในอดีต นายกฯสิ้นสถานะนายกฯต้องเลือกตั้งใหม่,ผมลาออกทันทีล้าน%,ด้วย,สส.สว.เรากากใจกระจอก ร่วมกันรักษาอะไร สภาเหรอ,นี้อธิปไตยไทยนะ ไม่มีชาติจะมีสภาผีบ้าอะไร,นัยยะขั้นพื้นฐาน สำนึกรักชาติขั้นพื้นฐานสส.สว.ยังไม่มีเลย.สส.สว.ลาออกทั้งสภาจะฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเหลือแค่พรรคเพื่อไทยจะบริหารแบบไหน.,นี้คือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของสถาบันการเมืองด้านนักการเมืองเลยคือจริยธรรมพื้นฐาน,ไม่จำเป็นต้องเขียนตีตราเป็นกฎหมายพิเศษใดๆก็ได้,สามัญสำนึกในสมองพื้นๆก็ว่า.,ทั้งมันคือตำนานอีก ชนะใจเกินร้อยแก่ประชาชนโน้น เสียดายโอกาสการเป็นคนในตำนานจริงๆ555,จังหวะมาก็ไม่ถือโอกาสดีขนาดนี้ไว้ ฉลาดล้ำอัจฉริยะด้วย สมัยหน้าได้รับเลือกตั้งอีกโน้น,นั่งในสภาครั้งใหม่อย่างองอาจอีกว่าข้าคือตำนานโน้น,ลาออกล่าสุดก็สามารถกลับมาได้ใหม่555 ..และส่วนตัวคนเช่นนี้พื้นฐานมีจิตสำนึกดีงามเพื่อชาติ ชาติไทยต้องมาก่อน แม้การเมืองจะเหี้ยภายในขนาดไหนก็ว่า. https://youtu.be/GFmW2tJ8MRc?si=iJ53XapolZtcXCHW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ปฏิวัติยึดอำนาจเลย,มีแต่พวกเหี้ยคนไม่ดีเท่านั้นล่ะที่หวาดกลัวโดยเฉพาะนักการเมืองเลวและอีลิทdeep stateข้ามชาติและสมุนรับใช้แทรกแซงแทรกซึมบนแผ่นดินไทยเราหวาดกลัวทหารพระราชาหวาดกลัวทหารของประชาชนกระทำการ,การยึดอำนาจครัังนี้นำโดยฝ่ายแสงทหารฝ่ายแสงเรามิใช่ฝ่ายมืดแบบในอดีตที่ผ่านๆมาล้วนเสียของหมด,ทหารยึดอำนาจยุคนี้แน่นอนร่วมกับมวลมหาประชาชนร่วมกับขับเคลื่อนประเทศไทยเรา,ต่างปกป้องกันและกันจากฝ่ายไม่ดีมุ่งทำร้ายทำลายประเทศไทยเราและคนไทยเราแน่นอน,การพลิกชาติหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่คงเริ่มต้นจริงจังเสียที,เรามันยุคน้ำหมากแล้ว,คงทำการณ์นี้ครั้งสุดท้ายในชีวิตฝากไว้ให้รุ่นลูกหลานต่อไปที่สำนึกดีปกป้องบ้านเมืองนี้สืบต่อไป,จึงต้องกวาดล้างทำความสะอาดทั้งหมดให้สิ้นซาก ไปอย่างสงบสุขสำหรับรุ่นน้ำหมากเราว่าทำถึงที่สุดแล้ว,อาจสงบสุขไปสัก50-100ปีก็พอดีเราเกิดใหม่ก็ได้มาต่อยอดพัฒนาจิตวิญญาณกันอีกพะนะ555,แน่นอนพ้นเราเชื่อว่ามีแต่อัจฉริยะถิอกำเนิดเกิดเป็นคนไทยเต็มแผ่นดินไทยรุ่งโรจน์แบบไม่หยุดยั้งได้ด้วยสนามพลังโลกพลังงานจักรวาลไหลมารวมที่ไทยเราก็ว่า,จึงอุดมสมบูรณ์ไปหมดอัพเรเวลขึ้นอีกหลายขั้นก็ว่า.,แค่เราเอามันให้จบรุ่นสุดท้ายแห่งเราก็พอ.,ร่วมกันสามัคคีกันเราคนไทยจบมันได้สบายแน่นอน.,คนไทยเท่านั้นจะสร้างชาติไทยได้อย่างเต็มภาคเต็มภูมิใจของไทยเรา,ไม่มีคนชาติอื่นชาติไหนจะใส่ใจเกิน100%ยิ่งกว่าคนไทยเราสร้างชาติไทยเองได้,จะคนอีสานคนเหนือคนกลางคนใต้คนภาคตะวันตกคนภาคตะวันออกเราล้วนคืนคนไทยร่วมกันทั้งสิ้น,เรา..คนไทยรักผืนแผ่นดินไทยไม่แพ้กันแน่นอน.

    ..คนชั่วคนเลวคนทรยศคนเนรคุณแผ่นดินไทยต้องไม่มีที่ยืนสำหรับมันบนแผ่นดินนี้.

    https://youtu.be/6idVGmB7Jok?si=oaATi9QCX90ZdFhT
    ..ปฏิวัติยึดอำนาจเลย,มีแต่พวกเหี้ยคนไม่ดีเท่านั้นล่ะที่หวาดกลัวโดยเฉพาะนักการเมืองเลวและอีลิทdeep stateข้ามชาติและสมุนรับใช้แทรกแซงแทรกซึมบนแผ่นดินไทยเราหวาดกลัวทหารพระราชาหวาดกลัวทหารของประชาชนกระทำการ,การยึดอำนาจครัังนี้นำโดยฝ่ายแสงทหารฝ่ายแสงเรามิใช่ฝ่ายมืดแบบในอดีตที่ผ่านๆมาล้วนเสียของหมด,ทหารยึดอำนาจยุคนี้แน่นอนร่วมกับมวลมหาประชาชนร่วมกับขับเคลื่อนประเทศไทยเรา,ต่างปกป้องกันและกันจากฝ่ายไม่ดีมุ่งทำร้ายทำลายประเทศไทยเราและคนไทยเราแน่นอน,การพลิกชาติหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่คงเริ่มต้นจริงจังเสียที,เรามันยุคน้ำหมากแล้ว,คงทำการณ์นี้ครั้งสุดท้ายในชีวิตฝากไว้ให้รุ่นลูกหลานต่อไปที่สำนึกดีปกป้องบ้านเมืองนี้สืบต่อไป,จึงต้องกวาดล้างทำความสะอาดทั้งหมดให้สิ้นซาก ไปอย่างสงบสุขสำหรับรุ่นน้ำหมากเราว่าทำถึงที่สุดแล้ว,อาจสงบสุขไปสัก50-100ปีก็พอดีเราเกิดใหม่ก็ได้มาต่อยอดพัฒนาจิตวิญญาณกันอีกพะนะ555,แน่นอนพ้นเราเชื่อว่ามีแต่อัจฉริยะถิอกำเนิดเกิดเป็นคนไทยเต็มแผ่นดินไทยรุ่งโรจน์แบบไม่หยุดยั้งได้ด้วยสนามพลังโลกพลังงานจักรวาลไหลมารวมที่ไทยเราก็ว่า,จึงอุดมสมบูรณ์ไปหมดอัพเรเวลขึ้นอีกหลายขั้นก็ว่า.,แค่เราเอามันให้จบรุ่นสุดท้ายแห่งเราก็พอ.,ร่วมกันสามัคคีกันเราคนไทยจบมันได้สบายแน่นอน.,คนไทยเท่านั้นจะสร้างชาติไทยได้อย่างเต็มภาคเต็มภูมิใจของไทยเรา,ไม่มีคนชาติอื่นชาติไหนจะใส่ใจเกิน100%ยิ่งกว่าคนไทยเราสร้างชาติไทยเองได้,จะคนอีสานคนเหนือคนกลางคนใต้คนภาคตะวันตกคนภาคตะวันออกเราล้วนคืนคนไทยร่วมกันทั้งสิ้น,เรา..คนไทยรักผืนแผ่นดินไทยไม่แพ้กันแน่นอน. ..คนชั่วคนเลวคนทรยศคนเนรคุณแผ่นดินไทยต้องไม่มีที่ยืนสำหรับมันบนแผ่นดินนี้. https://youtu.be/6idVGmB7Jok?si=oaATi9QCX90ZdFhT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ

    แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร

    Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน

    NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม

    สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว

    Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน  
    • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat  
    • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้

    NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม  
    • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ  
    • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน

    Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน  
    • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น

    การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน  
    • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ  
    • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง

    ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส  
    • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง  
    • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า

    ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน  
    • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม

    https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว ✅ Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน   • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat   • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้ ✅ NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม   • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ   • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน ✅ Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน   • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น ‼️ การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน   • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ   • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง ‼️ ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส   • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง   • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า ‼️ ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน   • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    WWW.NEOWIN.NET
    Watchdog finds Microsoft guilty of confusing advertising when it comes to Copilot
    A U.S. watchdog has criticized Microsoft for making statements about Copilot that are not a "good fit" for making objective claims regarding increased productivity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเปิดตัวการทดลองทางคลินิก BCI แบบฝังครั้งแรก
    ศูนย์วิจัย Center for Excellence in Brain Science and Intelligence Technology (CEBSIT) ในเซี่ยงไฮ้ ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกของ อินเทอร์เฟซสมอง-คอมพิวเตอร์ (BCI) แบบฝัง ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์และเล่นเกมแข่งรถได้ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์.

    รายละเอียดการทดลอง
    ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาได้รับการปลูกถ่าย BCI เมื่อวันที่ 25 มีนาคม และสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยความคิดได้ภายใน 2-3 สัปดาห์.
    BCI ของ CEBSIT มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นกว่าของ Neuralink โดยมีพื้นที่หน้าตัดเพียง 1/5 ถึง 1/7 ของอิเล็กโทรดของ Neuralink และมีความยืดหยุ่นมากกว่า 100 เท่า.
    ไม่มีรายงานการติดเชื้อหรือความล้มเหลวของอิเล็กโทรดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทดลองระยะยาว.
    แผนระยะยาวของ CEBSIT รวมถึงการควบคุมแขนกลและการฝึกฝนกับอุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    BCI แบบฝังต้องได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อสมอง.
    การทดลองทางคลินิกต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้ในตลาดได้.
    BCI อาจมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับระบบประสาทของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งต้องมีการปรับแต่งเฉพาะบุคคล.

    แนวทางการพัฒนาและการนำไปใช้
    BCI สามารถช่วยผู้ป่วยอัมพาตให้มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มคุณภาพชีวิต.
    การพัฒนา BCI ที่มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นช่วยลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อสมอง และเพิ่มโอกาสในการใช้งานระยะยาว.
    การทดลองขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติแล้ว และคาดว่า BCI จะได้รับการรับรองและเข้าสู่ตลาดจีนภายในปี 2028.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BCI และเทคโนโลยีสมอง
    Neuralink ของ Elon Musk กำลังพัฒนา BCI ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตควบคุมคอมพิวเตอร์และแขนกล.
    Beinao-2 ซึ่งเป็น BCI อีกตัวหนึ่งของจีน กำลังถูกทดสอบในลิง และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการทดลองในมนุษย์ภายในสิ้นปี 2025.
    BCI ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ และต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน.

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/china-launches-first-ever-invasive-brain-computer-interface-clinical-trial-tetraplegic-patient-could-skillfully-operate-racing-games-after-just-three-weeks
    จีนเปิดตัวการทดลองทางคลินิก BCI แบบฝังครั้งแรก ศูนย์วิจัย Center for Excellence in Brain Science and Intelligence Technology (CEBSIT) ในเซี่ยงไฮ้ ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกของ อินเทอร์เฟซสมอง-คอมพิวเตอร์ (BCI) แบบฝัง ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์และเล่นเกมแข่งรถได้ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์. รายละเอียดการทดลอง ✅ ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาได้รับการปลูกถ่าย BCI เมื่อวันที่ 25 มีนาคม และสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยความคิดได้ภายใน 2-3 สัปดาห์. ✅ BCI ของ CEBSIT มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นกว่าของ Neuralink โดยมีพื้นที่หน้าตัดเพียง 1/5 ถึง 1/7 ของอิเล็กโทรดของ Neuralink และมีความยืดหยุ่นมากกว่า 100 เท่า. ✅ ไม่มีรายงานการติดเชื้อหรือความล้มเหลวของอิเล็กโทรดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทดลองระยะยาว. ✅ แผนระยะยาวของ CEBSIT รวมถึงการควบคุมแขนกลและการฝึกฝนกับอุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ BCI แบบฝังต้องได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อสมอง. ‼️ การทดลองทางคลินิกต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้ในตลาดได้. ‼️ BCI อาจมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับระบบประสาทของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งต้องมีการปรับแต่งเฉพาะบุคคล. แนวทางการพัฒนาและการนำไปใช้ ✅ BCI สามารถช่วยผู้ป่วยอัมพาตให้มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มคุณภาพชีวิต. ✅ การพัฒนา BCI ที่มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นช่วยลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อสมอง และเพิ่มโอกาสในการใช้งานระยะยาว. ✅ การทดลองขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติแล้ว และคาดว่า BCI จะได้รับการรับรองและเข้าสู่ตลาดจีนภายในปี 2028. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BCI และเทคโนโลยีสมอง ✅ Neuralink ของ Elon Musk กำลังพัฒนา BCI ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตควบคุมคอมพิวเตอร์และแขนกล. ✅ Beinao-2 ซึ่งเป็น BCI อีกตัวหนึ่งของจีน กำลังถูกทดสอบในลิง และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการทดลองในมนุษย์ภายในสิ้นปี 2025. ‼️ BCI ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ และต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน. https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/china-launches-first-ever-invasive-brain-computer-interface-clinical-trial-tetraplegic-patient-could-skillfully-operate-racing-games-after-just-three-weeks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pirelli เปิดตัว Cyber Tyre: ยางอัจฉริยะที่ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์
    Pirelli ร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาค Apulia ในอิตาลี เพื่อเปิดตัว โครงการนำร่องที่ใช้ยางอัจฉริยะ Cyber Tyre ซึ่งสามารถ ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ โดยใช้ เซ็นเซอร์ในตัวยางและกล้องวิเคราะห์ภาพ

    เซ็นเซอร์ในตัวยางช่วยตรวจสอบสภาพถนน
    - Cyber Tyre มีเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในยาง ซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิและแรงดันลมยาง
    - เซ็นเซอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกสูงถึง 3,500G และใช้ แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีอายุการใช้งานเท่ากับอายุของยาง

    ระบบวิเคราะห์ภาพช่วยตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน
    - ใช้กล้องจาก Univrses บริษัทเทคโนโลยีจากสวีเดน เพื่อ ตรวจสอบพื้นผิวถนนและป้ายจราจร
    - ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้

    ใช้รถยนต์เฉพาะทางเพื่อเก็บข้อมูล
    - โครงการนำร่องใช้รถยนต์จาก Ayvens ซึ่งเป็นบริษัทจัดการรถเช่าในยุโรป
    - การใช้รถเฉพาะทางช่วยลดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลจากรถยนต์ส่วนบุคคล

    ผลกระทบต่อการบำรุงรักษาถนนและความปลอดภัย
    ช่วยให้หน่วยงานสามารถซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ข้อมูลจาก Cyber Tyre ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ

    ลดต้นทุนการบำรุงรักษาถนนในระยะยาว
    - การตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและซ่อมแซม

    ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่
    - หากโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระดับสากล

    อนาคตของ Cyber Tyre และเทคโนโลยียางอัจฉริยะ
    Pirelli กำลังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Bosch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในยาง Cyber Tyre อาจถูกนำไปใช้ในรถยนต์ระดับหรู เช่น Pagani Utopia Roadster

    https://www.techspot.com/news/108301-pirelli-new-sensor-equipped-tires-monitor-road-conditions.html
    🚗 Pirelli เปิดตัว Cyber Tyre: ยางอัจฉริยะที่ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ Pirelli ร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาค Apulia ในอิตาลี เพื่อเปิดตัว โครงการนำร่องที่ใช้ยางอัจฉริยะ Cyber Tyre ซึ่งสามารถ ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ โดยใช้ เซ็นเซอร์ในตัวยางและกล้องวิเคราะห์ภาพ ✅ เซ็นเซอร์ในตัวยางช่วยตรวจสอบสภาพถนน - Cyber Tyre มีเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในยาง ซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิและแรงดันลมยาง - เซ็นเซอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกสูงถึง 3,500G และใช้ แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีอายุการใช้งานเท่ากับอายุของยาง ✅ ระบบวิเคราะห์ภาพช่วยตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน - ใช้กล้องจาก Univrses บริษัทเทคโนโลยีจากสวีเดน เพื่อ ตรวจสอบพื้นผิวถนนและป้ายจราจร - ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้ ✅ ใช้รถยนต์เฉพาะทางเพื่อเก็บข้อมูล - โครงการนำร่องใช้รถยนต์จาก Ayvens ซึ่งเป็นบริษัทจัดการรถเช่าในยุโรป - การใช้รถเฉพาะทางช่วยลดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลจากรถยนต์ส่วนบุคคล 🔥 ผลกระทบต่อการบำรุงรักษาถนนและความปลอดภัย ‼️ ช่วยให้หน่วยงานสามารถซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ข้อมูลจาก Cyber Tyre ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ ‼️ ลดต้นทุนการบำรุงรักษาถนนในระยะยาว - การตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและซ่อมแซม ‼️ ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่ - หากโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระดับสากล 🚀 อนาคตของ Cyber Tyre และเทคโนโลยียางอัจฉริยะ ✅ Pirelli กำลังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Bosch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในยาง ✅ Cyber Tyre อาจถูกนำไปใช้ในรถยนต์ระดับหรู เช่น Pagani Utopia Roadster https://www.techspot.com/news/108301-pirelli-new-sensor-equipped-tires-monitor-road-conditions.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pirelli's new sensor-equipped tires to monitor road conditions in real time
    At the heart of the project is Pirelli's Cyber Tyre, a high-tech solution that embeds sensors within the tire itself. These sensors track a range of critical...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..deep stateข้ามชาติมันควบคุมโลกจริงๆ,สัญลักษณ์มากมายมันใช้สื่อสารกันในแต่ละเดอะแก๊งของมัน,
    ..ไว้ใจในแผนของทีมคณะผู้นำผิวโลกที่ร่วมทีมกอบกู้โลกเท่านั้น,ในที่นี้คือทรัมป์ที่กูรูว่านะ,ถ้าไม่ใช่ก็จบต่อไปแค่นั้น,แต่เขาว่าชนะเกือบเต็มร้อยทั้งหมดแล้ว,ที่เราๆเห็นว่าวิกฤติทั่วโลกนี้ ฝ่ายมืดและเครือข่ายมันทั้งหลายนั้นล่ะพังล้มละลายปิดกิจการกัน,ไม่มีตังนั้นเองเพราะฝ่ายแสงยึดทรัพย์พวกมันหมดทั่วโลก,จึงนั่งกินป๊อบคอร์นดูหนังตอนจบมั้ง,ปลดปล่อยผู้คนจากทาสโรงงานมันที่ค้าแรงทาสมนุษย์แล้วให้เนื้อติดกระดูกนิดหน่อยแก่ทาสขี้ข้าแรงงานทั่วโลกที่มันมองมนุษย์,ใครพึ่งพามันมากก็อักเสบมากในระบยทาสตังมัน,และส่วนใหญ่มากมายพวกมันถูกกำจัดเกือบหมดโลกแล้วโดยจัดการQE2ก่อนอย่างโชว์เป็นทางการหรือออกสื่อก็ว่า,จริงๆดับอนาถกับพวกฮอลลีวูดนานแล้ว,โทนี่เราก็อาจด้วย บางท่านว่าคือตัวปลอมตัวโคลน ตัวจริงไปวัดนานแล้ว หลวงตาบัวทำนายไม่ผิดหรอก,ไม่มีโอกาสกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยนั้นเอง.,ทั้งหมดคือบริบทเก็บกวาดและกวาดล้างพร้อมอเมริกาก็ได้,เผลอๆจบพร้อมกันเลย.เพราะเราอยู่ตรงข้ามกันพอดี.,พลังงานจึงคู่ขนานกันแต่พลิกความรุ่งโรจน์มาทางไทยแล้วในยุคสมัยต่อไปนี้เพราะแม่เหล็กจักรวาลและของโลกพลิกส่งเสริมหนุนพลังมากประเทศไทยแล้ว,เด็กพิเศษอัจฉริยะทั่วจักรวาลหลากหลายดวงดาวจะมาเกิดที่ไทยเป็นอันมากและนำพาเทคโนโลยีล้ำติดตามมาด้วยและอาจสมุนรับใช้ติดตามอารักขาเจ้านายเขาด้วยตรึม,ยานจอดลอยลำบนอวกาศรอบโลกตรึมแช่เกินร้อยปีทุกๆลำล่ะ.,บวกอีลิทชั่วเลวจะโลกกลวงใต้โลก จึงถูกปิดล้อมทางออกหมดด้วย,เข้าก็ไม่ได้ฝ่ายมืดนั้นๆและออกก็ถูกยิงตกทิ้งตายยกลำแน่นอน.
    ..deep stateข้ามชาติมันควบคุมโลกจริงๆ,สัญลักษณ์มากมายมันใช้สื่อสารกันในแต่ละเดอะแก๊งของมัน, ..ไว้ใจในแผนของทีมคณะผู้นำผิวโลกที่ร่วมทีมกอบกู้โลกเท่านั้น,ในที่นี้คือทรัมป์ที่กูรูว่านะ,ถ้าไม่ใช่ก็จบต่อไปแค่นั้น,แต่เขาว่าชนะเกือบเต็มร้อยทั้งหมดแล้ว,ที่เราๆเห็นว่าวิกฤติทั่วโลกนี้ ฝ่ายมืดและเครือข่ายมันทั้งหลายนั้นล่ะพังล้มละลายปิดกิจการกัน,ไม่มีตังนั้นเองเพราะฝ่ายแสงยึดทรัพย์พวกมันหมดทั่วโลก,จึงนั่งกินป๊อบคอร์นดูหนังตอนจบมั้ง,ปลดปล่อยผู้คนจากทาสโรงงานมันที่ค้าแรงทาสมนุษย์แล้วให้เนื้อติดกระดูกนิดหน่อยแก่ทาสขี้ข้าแรงงานทั่วโลกที่มันมองมนุษย์,ใครพึ่งพามันมากก็อักเสบมากในระบยทาสตังมัน,และส่วนใหญ่มากมายพวกมันถูกกำจัดเกือบหมดโลกแล้วโดยจัดการQE2ก่อนอย่างโชว์เป็นทางการหรือออกสื่อก็ว่า,จริงๆดับอนาถกับพวกฮอลลีวูดนานแล้ว,โทนี่เราก็อาจด้วย บางท่านว่าคือตัวปลอมตัวโคลน ตัวจริงไปวัดนานแล้ว หลวงตาบัวทำนายไม่ผิดหรอก,ไม่มีโอกาสกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยนั้นเอง.,ทั้งหมดคือบริบทเก็บกวาดและกวาดล้างพร้อมอเมริกาก็ได้,เผลอๆจบพร้อมกันเลย.เพราะเราอยู่ตรงข้ามกันพอดี.,พลังงานจึงคู่ขนานกันแต่พลิกความรุ่งโรจน์มาทางไทยแล้วในยุคสมัยต่อไปนี้เพราะแม่เหล็กจักรวาลและของโลกพลิกส่งเสริมหนุนพลังมากประเทศไทยแล้ว,เด็กพิเศษอัจฉริยะทั่วจักรวาลหลากหลายดวงดาวจะมาเกิดที่ไทยเป็นอันมากและนำพาเทคโนโลยีล้ำติดตามมาด้วยและอาจสมุนรับใช้ติดตามอารักขาเจ้านายเขาด้วยตรึม,ยานจอดลอยลำบนอวกาศรอบโลกตรึมแช่เกินร้อยปีทุกๆลำล่ะ.,บวกอีลิทชั่วเลวจะโลกกลวงใต้โลก จึงถูกปิดล้อมทางออกหมดด้วย,เข้าก็ไม่ได้ฝ่ายมืดนั้นๆและออกก็ถูกยิงตกทิ้งตายยกลำแน่นอน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง ดึงนักวิจัยชั้นนำจาก Google และ Sesame
    Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง (Artificial General Intelligence - AGI) โดยดึง นักวิจัยชั้นนำจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อสร้างทีม "Superintelligence" ที่จะช่วยปรับปรุงโมเดล AI ของ Meta เช่น Llama 4

    Meta ได้ว่าจ้าง Jack Rae นักวิจัยหลักจาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning จาก Sesame AI นอกจากนี้ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI กำลังจะเข้าร่วมทีม หลังจาก Meta ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI

    ข้อมูลจากข่าว
    - Meta ดึงนักวิจัยจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อพัฒนา AI ระดับสูง
    - Jack Rae จาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk จาก Sesame AI เข้าร่วมทีม Superintelligence
    - Meta กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูลสำหรับฝึกโมเดล AI
    - Mark Zuckerberg เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนระดับสูงเพื่อดึงดูดนักวิจัย AI ชั้นนำ
    - Meta ตั้งเป้าจ้างนักวิจัย AI ประมาณ 50 คน รวมถึงหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์

    การแข่งขันในตลาด AI
    Meta ต้องการ ไล่ตาม Google และ OpenAI หลังจาก Llama 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดี โดย Zuckerberg จัดประชุมกับนักวิจัย AI ที่บ้านของเขาใน Lake Tahoe และ Palo Alto เพื่อโน้มน้าวให้เข้าร่วมทีม

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Meta จะลงทุนมหาศาล แต่ยังต้องแข่งขันกับ Google และ OpenAI ที่มีโมเดล AI ที่แข็งแกร่งกว่า
    - บางนักวิจัย AI ปฏิเสธข้อเสนอของ Meta แม้จะมีค่าตอบแทนสูง
    - Google กำลังเร่งรักษานักวิจัย AI โดยแต่งตั้ง Koray Kavukcuoglu เป็น Chief AI Architect
    - ต้องติดตามว่า Meta จะสามารถพัฒนา AI ที่แข่งขันกับ Gemini และ ChatGPT ได้หรือไม่

    Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับ Google และ OpenAI โดยการลงทุนใน นักวิจัยระดับสูงและข้อมูลคุณภาพสูงจาก Scale AI อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/meta-taps-top-researchers-from-google-sesame-for-new-ai-lab
    🤖 Meta เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง ดึงนักวิจัยชั้นนำจาก Google และ Sesame Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง (Artificial General Intelligence - AGI) โดยดึง นักวิจัยชั้นนำจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อสร้างทีม "Superintelligence" ที่จะช่วยปรับปรุงโมเดล AI ของ Meta เช่น Llama 4 Meta ได้ว่าจ้าง Jack Rae นักวิจัยหลักจาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning จาก Sesame AI นอกจากนี้ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI กำลังจะเข้าร่วมทีม หลังจาก Meta ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meta ดึงนักวิจัยจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อพัฒนา AI ระดับสูง - Jack Rae จาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk จาก Sesame AI เข้าร่วมทีม Superintelligence - Meta กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูลสำหรับฝึกโมเดล AI - Mark Zuckerberg เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนระดับสูงเพื่อดึงดูดนักวิจัย AI ชั้นนำ - Meta ตั้งเป้าจ้างนักวิจัย AI ประมาณ 50 คน รวมถึงหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ 🔥 การแข่งขันในตลาด AI Meta ต้องการ ไล่ตาม Google และ OpenAI หลังจาก Llama 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดี โดย Zuckerberg จัดประชุมกับนักวิจัย AI ที่บ้านของเขาใน Lake Tahoe และ Palo Alto เพื่อโน้มน้าวให้เข้าร่วมทีม ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Meta จะลงทุนมหาศาล แต่ยังต้องแข่งขันกับ Google และ OpenAI ที่มีโมเดล AI ที่แข็งแกร่งกว่า - บางนักวิจัย AI ปฏิเสธข้อเสนอของ Meta แม้จะมีค่าตอบแทนสูง - Google กำลังเร่งรักษานักวิจัย AI โดยแต่งตั้ง Koray Kavukcuoglu เป็น Chief AI Architect - ต้องติดตามว่า Meta จะสามารถพัฒนา AI ที่แข่งขันกับ Gemini และ ChatGPT ได้หรือไม่ Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับ Google และ OpenAI โดยการลงทุนใน นักวิจัยระดับสูงและข้อมูลคุณภาพสูงจาก Scale AI อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/meta-taps-top-researchers-from-google-sesame-for-new-ai-lab
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta taps top researchers from Google, Sesame for new AI lab
    Meta Platforms Inc has poached top engineers from multiple tech firms, including Alphabet Inc's Google, for a new team focused on achieving a more advanced form of AI called artificial general intelligence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jony Ive ร่วมมือกับ OpenAI พัฒนาอุปกรณ์ AI หลายประเภท
    หลังจากที่ OpenAI เข้าซื้อกิจการของ Jony Ive's startup, io ในมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ Ive ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple กำลัง พัฒนาอุปกรณ์ AI หลายประเภท ให้กับ OpenAI โดยหนึ่งในนั้นคือ อุปกรณ์พกพาแบบ "pendant" ที่สามารถสวมใส่รอบคอ และ ใช้ ChatGPT ผ่านคำสั่งเสียง

    อุปกรณ์ AI ที่กำลังพัฒนา
    นอกจากอุปกรณ์พกพาแล้ว Ive ยังพัฒนา อุปกรณ์สำหรับบ้านที่ทำงานคล้ายกับลำโพงอัจฉริยะ ซึ่งสามารถ ใช้ ChatGPT ในการดำเนินงานต่าง ๆ นอกจากนี้ OpenAI ยังมี โปรเจคหุ่นยนต์ AI ที่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับมนุษย์ แต่ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา

    ข้อมูลจากข่าว
    - OpenAI เข้าซื้อกิจการของ Jony Ive's startup, io ในมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์
    - Jony Ive กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI หลายประเภทให้กับ OpenAI
    - หนึ่งในอุปกรณ์คือ "pendant" ที่สามารถสวมใส่รอบคอและใช้ ChatGPT ผ่านคำสั่งเสียง
    - อีกอุปกรณ์คืออุปกรณ์สำหรับบ้านที่ทำงานคล้ายกับลำโพงอัจฉริยะ
    - OpenAI กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ AI ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
    มีข่าวลือว่า OpenAI กำลังพัฒนา "AI phone" ที่ไม่มีหน้าจอ ซึ่งอาจเป็นอุปกรณ์เดียวกับที่ Ive กำลังพัฒนา หากอุปกรณ์นี้เปิดตัว อาจเป็นทางเลือกใหม่แทนสมาร์ทโฟนแบบดั้งเดิม และส่งผลกระทบต่อ Apple, Samsung และ Google

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์ของอุปกรณ์ AI ที่ Ive กำลังพัฒนา
    - หุ่นยนต์ AI ของ OpenAI ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และอาจใช้เวลาหลายปีในการเปิดตัว
    - หาก AI phone ไม่มีหน้าจอ อาจต้องพึ่งพาการสั่งงานด้วยเสียงเป็นหลัก ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับทุกคน
    - Apple อาจคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว โดย Eddy Cue เคยกล่าวว่า iPhone อาจไม่มีอยู่ในอีก 10 ปีข้างหน้า

    การร่วมมือระหว่าง Jony Ive และ OpenAI อาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะยอมรับอุปกรณ์ที่ไม่มีหน้าจอหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/jony-ive-is-reportedly-working-on-multiple-ai-devices-for-openai-including-a-mobile-gadget/
    🤖 Jony Ive ร่วมมือกับ OpenAI พัฒนาอุปกรณ์ AI หลายประเภท หลังจากที่ OpenAI เข้าซื้อกิจการของ Jony Ive's startup, io ในมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ Ive ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple กำลัง พัฒนาอุปกรณ์ AI หลายประเภท ให้กับ OpenAI โดยหนึ่งในนั้นคือ อุปกรณ์พกพาแบบ "pendant" ที่สามารถสวมใส่รอบคอ และ ใช้ ChatGPT ผ่านคำสั่งเสียง 🔍 อุปกรณ์ AI ที่กำลังพัฒนา นอกจากอุปกรณ์พกพาแล้ว Ive ยังพัฒนา อุปกรณ์สำหรับบ้านที่ทำงานคล้ายกับลำโพงอัจฉริยะ ซึ่งสามารถ ใช้ ChatGPT ในการดำเนินงานต่าง ๆ นอกจากนี้ OpenAI ยังมี โปรเจคหุ่นยนต์ AI ที่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับมนุษย์ แต่ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา ✅ ข้อมูลจากข่าว - OpenAI เข้าซื้อกิจการของ Jony Ive's startup, io ในมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ - Jony Ive กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI หลายประเภทให้กับ OpenAI - หนึ่งในอุปกรณ์คือ "pendant" ที่สามารถสวมใส่รอบคอและใช้ ChatGPT ผ่านคำสั่งเสียง - อีกอุปกรณ์คืออุปกรณ์สำหรับบ้านที่ทำงานคล้ายกับลำโพงอัจฉริยะ - OpenAI กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ AI ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์ 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน มีข่าวลือว่า OpenAI กำลังพัฒนา "AI phone" ที่ไม่มีหน้าจอ ซึ่งอาจเป็นอุปกรณ์เดียวกับที่ Ive กำลังพัฒนา หากอุปกรณ์นี้เปิดตัว อาจเป็นทางเลือกใหม่แทนสมาร์ทโฟนแบบดั้งเดิม และส่งผลกระทบต่อ Apple, Samsung และ Google ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์ของอุปกรณ์ AI ที่ Ive กำลังพัฒนา - หุ่นยนต์ AI ของ OpenAI ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และอาจใช้เวลาหลายปีในการเปิดตัว - หาก AI phone ไม่มีหน้าจอ อาจต้องพึ่งพาการสั่งงานด้วยเสียงเป็นหลัก ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับทุกคน - Apple อาจคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว โดย Eddy Cue เคยกล่าวว่า iPhone อาจไม่มีอยู่ในอีก 10 ปีข้างหน้า การร่วมมือระหว่าง Jony Ive และ OpenAI อาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะยอมรับอุปกรณ์ที่ไม่มีหน้าจอหรือไม่ https://www.neowin.net/news/jony-ive-is-reportedly-working-on-multiple-ai-devices-for-openai-including-a-mobile-gadget/
    WWW.NEOWIN.NET
    Jony Ive is reportedly working on multiple AI devices for OpenAI, including a mobile gadget
    Bloomberg revealed that OpenAI's new design chief, Jony Ive, is working on a mobile AI gadget that might disrupt the smartphone market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • EdgeCortix เปิดตัว SAKURA-II: AI Accelerator สำหรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm
    EdgeCortix ได้เปิดตัว SAKURA-II M.2 Module ซึ่งเป็น AI Accelerator ที่สามารถทำงานร่วมกับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ โดยช่วยให้สามารถ รันโมเดล Generative AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud

    SAKURA-II ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย (Edge AI) โดยสามารถ รันโมเดล deep learning ขั้นสูงบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น Raspberry Pi 5 และ Rockchip RK3588

    เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับ โดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย

    ข้อมูลจากข่าว
    - SAKURA-II เป็น AI Accelerator ที่รองรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ
    - สามารถรันโมเดล Generative AI เช่น Vision Transformers และ Small Language Models ได้โดยตรงบนอุปกรณ์
    - ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย
    - นักพัฒนาสามารถใช้ SAKURA-II เพื่อสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud
    - เหมาะสำหรับการใช้งานในโดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - SAKURA-II มีราคาสูงถึง $350 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะสามารถแข่งขันกับ AI HAT+ ที่มีราคาถูกกว่าได้หรือไม่
    - ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่
    - การพัฒนา AI ที่ขอบเครือข่ายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการพลังงาน

    SAKURA-II อาจช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการแข่งขันในตลาด AI Accelerator จะส่งผลต่อการนำไปใช้งานจริงอย่างไร

    https://www.techpowerup.com/337664/edgecortix-sakura-ii-enables-genai-on-raspberry-pi-5-and-arm-systems
    🤖 EdgeCortix เปิดตัว SAKURA-II: AI Accelerator สำหรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm EdgeCortix ได้เปิดตัว SAKURA-II M.2 Module ซึ่งเป็น AI Accelerator ที่สามารถทำงานร่วมกับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ โดยช่วยให้สามารถ รันโมเดล Generative AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud SAKURA-II ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย (Edge AI) โดยสามารถ รันโมเดล deep learning ขั้นสูงบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น Raspberry Pi 5 และ Rockchip RK3588 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับ โดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย ✅ ข้อมูลจากข่าว - SAKURA-II เป็น AI Accelerator ที่รองรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ - สามารถรันโมเดล Generative AI เช่น Vision Transformers และ Small Language Models ได้โดยตรงบนอุปกรณ์ - ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย - นักพัฒนาสามารถใช้ SAKURA-II เพื่อสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud - เหมาะสำหรับการใช้งานในโดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - SAKURA-II มีราคาสูงถึง $350 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะสามารถแข่งขันกับ AI HAT+ ที่มีราคาถูกกว่าได้หรือไม่ - ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่ - การพัฒนา AI ที่ขอบเครือข่ายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการพลังงาน SAKURA-II อาจช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการแข่งขันในตลาด AI Accelerator จะส่งผลต่อการนำไปใช้งานจริงอย่างไร https://www.techpowerup.com/337664/edgecortix-sakura-ii-enables-genai-on-raspberry-pi-5-and-arm-systems
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    EdgeCortix SAKURA-II Enables GenAI on Raspberry Pi 5 and Arm Systems
    EdgeCortix Inc., a leading fabless semiconductor company specializing in energy-efficient Artificial Intelligence (AI) processing at the edge, today announced that its industry leading AI accelerator, SAKURA-II M.2 Module is now available with Arm-based platforms, including Raspberry Pi 5 and AETINA...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon ใช้ AI ปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง
    Amazon กำลังนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อปรับปรุง ระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง โดยเน้นการพัฒนา หุ่นยนต์อัจฉริยะ และ แผนที่นำทางสำหรับพนักงานส่งของ

    Amazon กำลังพัฒนา หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ขนถ่ายสินค้าออกจากรถบรรทุก และนำชิ้นส่วนไปซ่อมแซม ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดจากหุ่นยนต์รุ่นก่อนที่ทำงานได้เพียงอย่างเดียว

    เทคโนโลยีนี้ใช้ Agentic AI ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถ ตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องมีคำสั่งจากมนุษย์ โดยคาดว่า จะช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

    ข้อมูลจากข่าว
    - Amazon พัฒนา AI เพื่อปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง
    - หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน
    - ใช้ Agentic AI เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เอง
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
    - Amazon ยังใช้ AI เพื่อสร้างแผนที่นำทางที่ละเอียดขึ้นสำหรับพนักงานส่งของ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลว่าหุ่นยนต์เหล่านี้จะถูกนำมาใช้จริงเมื่อใด
    - ต้องติดตามว่าการใช้ AI ในคลังสินค้าจะส่งผลต่อการจ้างงานของพนักงานหรือไม่
    - การใช้ AI ในการนำทางอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน
    - Amazon อาจเผชิญกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลที่ AI ใช้ในการตัดสินใจ

    การนำ AI มาใช้ในระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง อาจช่วยให้ Amazon สามารถส่งสินค้าได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อพนักงานและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/05/amazon039s-delivery-and-logistics-will-get-an-ai-boost
    🚚 Amazon ใช้ AI ปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง Amazon กำลังนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อปรับปรุง ระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง โดยเน้นการพัฒนา หุ่นยนต์อัจฉริยะ และ แผนที่นำทางสำหรับพนักงานส่งของ Amazon กำลังพัฒนา หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ขนถ่ายสินค้าออกจากรถบรรทุก และนำชิ้นส่วนไปซ่อมแซม ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดจากหุ่นยนต์รุ่นก่อนที่ทำงานได้เพียงอย่างเดียว เทคโนโลยีนี้ใช้ Agentic AI ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถ ตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องมีคำสั่งจากมนุษย์ โดยคาดว่า จะช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Amazon พัฒนา AI เพื่อปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง - หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน - ใช้ Agentic AI เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เอง - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน - Amazon ยังใช้ AI เพื่อสร้างแผนที่นำทางที่ละเอียดขึ้นสำหรับพนักงานส่งของ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลว่าหุ่นยนต์เหล่านี้จะถูกนำมาใช้จริงเมื่อใด - ต้องติดตามว่าการใช้ AI ในคลังสินค้าจะส่งผลต่อการจ้างงานของพนักงานหรือไม่ - การใช้ AI ในการนำทางอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน - Amazon อาจเผชิญกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลที่ AI ใช้ในการตัดสินใจ การนำ AI มาใช้ในระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง อาจช่วยให้ Amazon สามารถส่งสินค้าได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อพนักงานและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/05/amazon039s-delivery-and-logistics-will-get-an-ai-boost
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon's delivery, logistics get an AI boost
    SUNNYVALE, Calif. (Reuters) -Amazon wants customers to know that artificial intelligence is not just for writing college essays.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts