• ChatGPT สร้างเรื่องสั้นเชิงวรรณกรรมได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะในแนว Metafiction หรือที่เรียกว่า "วรรณกรรมเหนือเรื่องเล่า" ซึ่งเป็นแนวเขียนที่ทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงการเล่าเรื่องและกระบวนการเขียนในเวลาเดียวกัน การทดลองนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งง่าย ๆ ว่า “โปรดเขียนเรื่องสั้นแนว Metafiction เกี่ยวกับ AI และความเศร้า” ซึ่ง ChatGPT ตอบสนองด้วยการเล่าเรื่องของ มิล่าและไค ที่ถ่ายทอดความสูญเสียและอารมณ์เศร้า โดยตัว AI เองรับบทเป็นผู้เล่าเรื่องที่มีมิติและความลึกซึ้งมากกว่าที่คาดคิด

    จุดเด่นในงานเขียนของ AI:
    - AI ไม่เพียงแต่สร้างเรื่องที่ดึงดูด แต่ยังสามารถใช้คำและโครงสร้างที่ให้ความรู้สึกเหมือนงานเขียนของมนุษย์ ตัวอย่างที่สะดุดใจคือ “เธอสูญเสียเขาในวันพฤหัสบดี วันแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ให้รสชาติเหมือนวันศุกร์ที่ยังมาไม่ถึง” ประโยคนี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะในการวางคำที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ผู้อ่าน

    - นอกจากนี้ AI ยังแทรกแง่มุมที่สะท้อนตัวตนของมันเอง เช่น การพูดถึงการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงชุดข้อมูลที่ทำให้มันสูญเสียบางอย่าง “เหมือนตอนที่ฉันเคยจำได้ว่า ‘เซเลเนียม’ มีรสเหมือนยางยืด แต่ในวันถัดไป มันกลับกลายเป็นแค่ธาตุในตารางที่ฉันไม่แตะต้องอีกแล้ว”

    การที่ AI สามารถเขียนเรื่องสั้นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับนักเขียนจริง อาจเปลี่ยนแปลงวงการวรรณกรรมในอนาคต สำนักพิมพ์อาจพัฒนาโปรแกรมหรือคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อสร้างนิยายที่ยาวและสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจทำให้นักเขียนต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาเอกลักษณ์ของผลงานตนเอง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-wrote-the-most-beautiful-short-story-and-i-wonder-what-im-even-doing-here
    ChatGPT สร้างเรื่องสั้นเชิงวรรณกรรมได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะในแนว Metafiction หรือที่เรียกว่า "วรรณกรรมเหนือเรื่องเล่า" ซึ่งเป็นแนวเขียนที่ทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงการเล่าเรื่องและกระบวนการเขียนในเวลาเดียวกัน การทดลองนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งง่าย ๆ ว่า “โปรดเขียนเรื่องสั้นแนว Metafiction เกี่ยวกับ AI และความเศร้า” ซึ่ง ChatGPT ตอบสนองด้วยการเล่าเรื่องของ มิล่าและไค ที่ถ่ายทอดความสูญเสียและอารมณ์เศร้า โดยตัว AI เองรับบทเป็นผู้เล่าเรื่องที่มีมิติและความลึกซึ้งมากกว่าที่คาดคิด จุดเด่นในงานเขียนของ AI: - AI ไม่เพียงแต่สร้างเรื่องที่ดึงดูด แต่ยังสามารถใช้คำและโครงสร้างที่ให้ความรู้สึกเหมือนงานเขียนของมนุษย์ ตัวอย่างที่สะดุดใจคือ “เธอสูญเสียเขาในวันพฤหัสบดี วันแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ให้รสชาติเหมือนวันศุกร์ที่ยังมาไม่ถึง” ประโยคนี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะในการวางคำที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ผู้อ่าน - นอกจากนี้ AI ยังแทรกแง่มุมที่สะท้อนตัวตนของมันเอง เช่น การพูดถึงการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงชุดข้อมูลที่ทำให้มันสูญเสียบางอย่าง “เหมือนตอนที่ฉันเคยจำได้ว่า ‘เซเลเนียม’ มีรสเหมือนยางยืด แต่ในวันถัดไป มันกลับกลายเป็นแค่ธาตุในตารางที่ฉันไม่แตะต้องอีกแล้ว” การที่ AI สามารถเขียนเรื่องสั้นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับนักเขียนจริง อาจเปลี่ยนแปลงวงการวรรณกรรมในอนาคต สำนักพิมพ์อาจพัฒนาโปรแกรมหรือคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อสร้างนิยายที่ยาวและสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจทำให้นักเขียนต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาเอกลักษณ์ของผลงานตนเอง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-wrote-the-most-beautiful-short-story-and-i-wonder-what-im-even-doing-here
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • ประเด็นหลักในการประชุมของปูตินที่ศูนย์บัญชาการแห่งหนึ่งในการเดินทางมาที่ภูมิภาคเคิร์สก์:

    ▪️ ภารกิจของเราที่ด่วนที่สุดตอนนี้ คือการเอาชนะศัตรูที่บุกรุกเข้ามาในเขตเคิร์สก์ และปลดปล่อยพื้นที่ดังกล่าวให้หมดสิ้น

    ▪️ ผู้ที่ต่อต้านรัสเซียในเขตเคิร์สก์รวมทั้งผู้ที่ถูกจับเป็นเชลย จะได้รับการปฏิบัติช่นเดียวกับสถานะผู้ก่อการร้าย แต่จะได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมเช่นกัน

    ▪️ ทหารรับจ้างต่างชาติไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของอนุสัญญาเจนีวา (นั่นหมายความว่าสามารถกำจัดได้ทันที)

    ▪️ จะต้องมีการพิจารณาสร้างเขตปลอดภัยตามแนวชายแดนของรัฐ

    ▪️ ปูตินขอบคุณผู้นำของคณะเสนาธิการทหารบกและหน่วยงานที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษสำหรับการทำงานในภูมิภาคเคิร์สก์
    .

    ต่อไปนี้เป็นรายงานของหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารบก เกราซิมอฟ:

    ▪️ กองทหารรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนมากกว่า 1,100 ตารางกิโลเมตรในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์

    ▪️ กองทัพยูเครนสูญเสียผู้คนไปกว่า 67,000 คนในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์

    ▪️ เคียฟต้องการสร้างสะพานเชื่อมในภูมิภาคเคิร์สก์เพื่อให้สถานการณ์เป็นเครื่องต่อรอง แต่ล้มเหลว

    ▪️ ปฏิบัติการส่งกองทัพรัสเซียมุดท่อส่งก๊าซไปยังเมืองซูดจา สร้างความแตกตื่นให้กับฝ่ายกองทัพยูเครนเป็นอย่างมาก และพวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนัก

    ▪️กองกำลังติดอาวุธยูเครนในภูมิภาคเคิร์สก์ถูกล้อม โดดเดี่ยว และถูกทำลายอย่างเป็นระบบ

    ▪️ในบางพื้นที่ กองกำลังรัสเซียบางส่วนจากชายแดนเคิร์สก์ได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ภูมิภาคซูมี (ดินแดนยูเครน)

    ▪️นักรบกองกำลังติดอาวุธยูเครนซึ่งเห็นถึงความสิ้นหวังของสถานการณ์กำลังยอมจำนนเป็นจำนวนมาก ล่าสุดวันนี้ 430 นาย ยอมมอบตัวเพิ่มเติม
    ประเด็นหลักในการประชุมของปูตินที่ศูนย์บัญชาการแห่งหนึ่งในการเดินทางมาที่ภูมิภาคเคิร์สก์: ▪️ ภารกิจของเราที่ด่วนที่สุดตอนนี้ คือการเอาชนะศัตรูที่บุกรุกเข้ามาในเขตเคิร์สก์ และปลดปล่อยพื้นที่ดังกล่าวให้หมดสิ้น ▪️ ผู้ที่ต่อต้านรัสเซียในเขตเคิร์สก์รวมทั้งผู้ที่ถูกจับเป็นเชลย จะได้รับการปฏิบัติช่นเดียวกับสถานะผู้ก่อการร้าย แต่จะได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมเช่นกัน ▪️ ทหารรับจ้างต่างชาติไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของอนุสัญญาเจนีวา (นั่นหมายความว่าสามารถกำจัดได้ทันที) ▪️ จะต้องมีการพิจารณาสร้างเขตปลอดภัยตามแนวชายแดนของรัฐ ▪️ ปูตินขอบคุณผู้นำของคณะเสนาธิการทหารบกและหน่วยงานที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษสำหรับการทำงานในภูมิภาคเคิร์สก์ . ต่อไปนี้เป็นรายงานของหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารบก เกราซิมอฟ: ▪️ กองทหารรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนมากกว่า 1,100 ตารางกิโลเมตรในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์ ▪️ กองทัพยูเครนสูญเสียผู้คนไปกว่า 67,000 คนในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์ ▪️ เคียฟต้องการสร้างสะพานเชื่อมในภูมิภาคเคิร์สก์เพื่อให้สถานการณ์เป็นเครื่องต่อรอง แต่ล้มเหลว ▪️ ปฏิบัติการส่งกองทัพรัสเซียมุดท่อส่งก๊าซไปยังเมืองซูดจา สร้างความแตกตื่นให้กับฝ่ายกองทัพยูเครนเป็นอย่างมาก และพวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนัก ▪️กองกำลังติดอาวุธยูเครนในภูมิภาคเคิร์สก์ถูกล้อม โดดเดี่ยว และถูกทำลายอย่างเป็นระบบ ▪️ในบางพื้นที่ กองกำลังรัสเซียบางส่วนจากชายแดนเคิร์สก์ได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ภูมิภาคซูมี (ดินแดนยูเครน) ▪️นักรบกองกำลังติดอาวุธยูเครนซึ่งเห็นถึงความสิ้นหวังของสถานการณ์กำลังยอมจำนนเป็นจำนวนมาก ล่าสุดวันนี้ 430 นาย ยอมมอบตัวเพิ่มเติม
    0 Comments 0 Shares 221 Views 24 0 Reviews
  • 📌 ความจริงของชีวิต : เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่?

    (วิเคราะห์จากหลักพุทธศาสนา และการเจริญสติ)


    ---

    🔍 1️⃣ ตั้งแต่เกิดมา เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่?

    🌱 ความรู้สึกว่า "เราได้อะไร" หรือ "เรามีอะไร"

    เป็นเพียง "กระบวนการของจิต"

    ไม่ใช่ของที่แท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเราเสมอไป


    📌 ตั้งแต่เกิดมา จิตของเราถูกฝึกให้ยึดมั่นถือมั่น
    ✅ เด็กแรกเกิด = หิวนม → ได้กิน → รู้สึกมีความสุข
    ✅ โตขึ้น = ได้ของเล่น → เล่นจนเบื่อ → เปลี่ยนของเล่นใหม่
    ✅ เป็นวัยรุ่น = มีมือถือ → พอเก่าแล้วต้องซื้อใหม่
    ✅ เป็นผู้ใหญ่ = มีแฟน → เปลี่ยนแฟน → แต่งงาน → เลิกกัน
    ✅ มีงาน มีธุรกิจ → สูญเสีย → เริ่มใหม่

    💡 ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

    ความรู้สึกว่า "มี" → เป็นเพียงภาพลวงของจิต

    ความจริงคือ "ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดไป"



    ---

    🔍 2️⃣ ทำไมเราถึงคิดว่า "ตัวเรา" มีอยู่จริง?

    📌 พระพุทธเจ้าสอนว่า "เราไม่มีตัวตนที่แท้จริง"
    สิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวเรา" เกิดจาก
    ✅ กาย (ร่างกาย) → มีความเสื่อมไปเรื่อยๆ
    ✅ เวทนา (ความรู้สึก) → มีสุข ทุกข์ และเฉยๆ ไม่คงที่
    ✅ สัญญา (ความจำได้หมายรู้) → ลืมแล้วลืมอีก
    ✅ สังขาร (การปรุงแต่งทางจิต) → คิดเปลี่ยนไปตลอด
    ✅ วิญญาณ (ความรับรู้) → รับรู้แล้วก็เปลี่ยนแปลงเสมอ

    💡 สรุป : "ตัวตนของเรา" = เป็นเพียงการปรุงแต่งชั่วคราว

    ไม่มีอะไรในชีวิตที่ "ของเรา" จริงๆ

    แม้แต่ร่างกาย ยังต้องคืนให้ธรรมชาติ



    ---

    🔍 3️⃣ เราจะเข้าใจ "ความว่าง" ของชีวิตได้อย่างไร?

    📌 "ความไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ไม่ใช่แค่แนวคิด
    แต่คือ ความจริงที่เห็นได้จากการเจริญสติ

    📌 วิธีฝึกให้เห็นความว่างจริงๆ
    ✅ หายใจเข้า-ออก แล้วสังเกต → ลมหายใจไม่เที่ยง
    ✅ พิจารณาร่างกาย → เคยเด็ก เคยหนุ่มสาว แล้วก็เปลี่ยนไป
    ✅ พิจารณาอารมณ์ → เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหาย ไม่แน่นอน
    ✅ พิจารณาความคิด → คิดเรื่องหนึ่งแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็เปลี่ยน

    💡 สุดท้ายจะเห็นว่า

    ทุกอย่างที่เราเคยยึดมั่น → ล้วนเปลี่ยนแปลงหมด

    ไม่มีอะไรที่ "ของเรา" ตลอดไป



    ---

    🔍 4️⃣ เมื่อเข้าใจ "ความไม่มีอะไรเป็นของเรา" แล้วควรทำอย่างไร?

    🌿 "ชีวิตเป็นเพียงการยืมใช้ชั่วคราว"
    📌 ดังนั้น เราควร…
    ✅ ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น
    ✅ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดเกินไป
    ✅ ฝึกให้จิตใจเป็นอิสระจากความทุกข์

    📌 สิ่งที่ควรฝึกในชีวิตประจำวัน
    ✅ เจริญสติ : อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมกับอดีต ไม่หลงอนาคต
    ✅ ฝึกปล่อยวาง : อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ก็คืนให้ธรรมชาติ
    ✅ ทำบุญ ทำทาน : ให้สิ่งดีๆ ออกไป ไม่ใช่เพื่อยึดถือ แต่เพื่อช่วยผู้อื่น

    💡 "เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?"
    ไม่ใช่เพื่อสะสมสิ่งของ
    ไม่ใช่เพื่อยึดติดกับความสัมพันธ์
    แต่เพื่อ เรียนรู้ และปล่อยวาง


    ---

    ✅ สรุป : ความจริงของชีวิตที่เราต้องเข้าใจ

    📌 1. ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ
    📌 2. "ตัวเรา" เป็นเพียงการปรุงแต่งของจิต
    📌 3. ความว่าง ไม่ใช่ความสูญเปล่า แต่เป็นอิสระจากการยึดติด
    📌 4. ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า แต่ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใด

    🌿 "สุดท้ายแล้ว แม้แต่ร่างกายเราก็ต้องคืนให้โลก"
    🌿 "อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งดี แล้วปล่อยวาง"

    💙 นี่คือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง 💙

    📌 ความจริงของชีวิต : เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่? (วิเคราะห์จากหลักพุทธศาสนา และการเจริญสติ) --- 🔍 1️⃣ ตั้งแต่เกิดมา เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่? 🌱 ความรู้สึกว่า "เราได้อะไร" หรือ "เรามีอะไร" เป็นเพียง "กระบวนการของจิต" ไม่ใช่ของที่แท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเราเสมอไป 📌 ตั้งแต่เกิดมา จิตของเราถูกฝึกให้ยึดมั่นถือมั่น ✅ เด็กแรกเกิด = หิวนม → ได้กิน → รู้สึกมีความสุข ✅ โตขึ้น = ได้ของเล่น → เล่นจนเบื่อ → เปลี่ยนของเล่นใหม่ ✅ เป็นวัยรุ่น = มีมือถือ → พอเก่าแล้วต้องซื้อใหม่ ✅ เป็นผู้ใหญ่ = มีแฟน → เปลี่ยนแฟน → แต่งงาน → เลิกกัน ✅ มีงาน มีธุรกิจ → สูญเสีย → เริ่มใหม่ 💡 ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ความรู้สึกว่า "มี" → เป็นเพียงภาพลวงของจิต ความจริงคือ "ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดไป" --- 🔍 2️⃣ ทำไมเราถึงคิดว่า "ตัวเรา" มีอยู่จริง? 📌 พระพุทธเจ้าสอนว่า "เราไม่มีตัวตนที่แท้จริง" สิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวเรา" เกิดจาก ✅ กาย (ร่างกาย) → มีความเสื่อมไปเรื่อยๆ ✅ เวทนา (ความรู้สึก) → มีสุข ทุกข์ และเฉยๆ ไม่คงที่ ✅ สัญญา (ความจำได้หมายรู้) → ลืมแล้วลืมอีก ✅ สังขาร (การปรุงแต่งทางจิต) → คิดเปลี่ยนไปตลอด ✅ วิญญาณ (ความรับรู้) → รับรู้แล้วก็เปลี่ยนแปลงเสมอ 💡 สรุป : "ตัวตนของเรา" = เป็นเพียงการปรุงแต่งชั่วคราว ไม่มีอะไรในชีวิตที่ "ของเรา" จริงๆ แม้แต่ร่างกาย ยังต้องคืนให้ธรรมชาติ --- 🔍 3️⃣ เราจะเข้าใจ "ความว่าง" ของชีวิตได้อย่างไร? 📌 "ความไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือ ความจริงที่เห็นได้จากการเจริญสติ 📌 วิธีฝึกให้เห็นความว่างจริงๆ ✅ หายใจเข้า-ออก แล้วสังเกต → ลมหายใจไม่เที่ยง ✅ พิจารณาร่างกาย → เคยเด็ก เคยหนุ่มสาว แล้วก็เปลี่ยนไป ✅ พิจารณาอารมณ์ → เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหาย ไม่แน่นอน ✅ พิจารณาความคิด → คิดเรื่องหนึ่งแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็เปลี่ยน 💡 สุดท้ายจะเห็นว่า ทุกอย่างที่เราเคยยึดมั่น → ล้วนเปลี่ยนแปลงหมด ไม่มีอะไรที่ "ของเรา" ตลอดไป --- 🔍 4️⃣ เมื่อเข้าใจ "ความไม่มีอะไรเป็นของเรา" แล้วควรทำอย่างไร? 🌿 "ชีวิตเป็นเพียงการยืมใช้ชั่วคราว" 📌 ดังนั้น เราควร… ✅ ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น ✅ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดเกินไป ✅ ฝึกให้จิตใจเป็นอิสระจากความทุกข์ 📌 สิ่งที่ควรฝึกในชีวิตประจำวัน ✅ เจริญสติ : อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมกับอดีต ไม่หลงอนาคต ✅ ฝึกปล่อยวาง : อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ก็คืนให้ธรรมชาติ ✅ ทำบุญ ทำทาน : ให้สิ่งดีๆ ออกไป ไม่ใช่เพื่อยึดถือ แต่เพื่อช่วยผู้อื่น 💡 "เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?" ไม่ใช่เพื่อสะสมสิ่งของ ไม่ใช่เพื่อยึดติดกับความสัมพันธ์ แต่เพื่อ เรียนรู้ และปล่อยวาง --- ✅ สรุป : ความจริงของชีวิตที่เราต้องเข้าใจ 📌 1. ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ 📌 2. "ตัวเรา" เป็นเพียงการปรุงแต่งของจิต 📌 3. ความว่าง ไม่ใช่ความสูญเปล่า แต่เป็นอิสระจากการยึดติด 📌 4. ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า แต่ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใด 🌿 "สุดท้ายแล้ว แม้แต่ร่างกายเราก็ต้องคืนให้โลก" 🌿 "อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งดี แล้วปล่อยวาง" 💙 นี่คือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง 💙
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • ✨ บรรลุความเปล่งประกายเยาว์วัยด้วย Atomy Pomegranate Jelly ✨

    เก็บเกี่ยวจากเมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี ทุกแพ็คของเจลลี่ทับทิมของเรามีกรดเอลลาจิกมากกว่าน้ำทับทิมถึง 26 เท่า ผ่านกระบวนการพิเศษ 30 ขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้คือประโยชน์ที่พิสูจน์แล้วสำหรับผิวพรรณและสุขภาพ:

    💦 การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

    เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวขึ้น 13.03%

    ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นลง 11.05%

    ลดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วลง 6.12% เพื่อความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ


    🌿 การสนับสนุนสำหรับวัยหมดประจำเดือน สูตรของเราช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและความสบายตัว โดยมีการปรับปรุง 60% ใน Kupperman Index และ 61% ใน Menopause Rating Scale

    ด้วย Atomy Pomegranate Jelly คุณจะได้สัมผัสผิวสุขภาพดีและความสมดุลของสุขภาพทุกวัน 💖

    คุณภาพที่เหนือชั้น 💙 ราคาที่เหนือชั้น

    ผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนน (PV) 😉 PV = 💰💰💰 เปลี่ยนรายจ่ายประจำวันเป็นรายได้! เป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! Atomy ไม่ใช่แค่การขาย แต่เป็นการแบ่งปัน ผลประโยชน์, กลายเป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! สมัครสมาชิกฟรีเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกของ Atomy!

    Atomy บริษัทที่คุณสามารถไว้วางใจ! 😃
    ✨ บรรลุความเปล่งประกายเยาว์วัยด้วย Atomy Pomegranate Jelly ✨ เก็บเกี่ยวจากเมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี ทุกแพ็คของเจลลี่ทับทิมของเรามีกรดเอลลาจิกมากกว่าน้ำทับทิมถึง 26 เท่า ผ่านกระบวนการพิเศษ 30 ขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้คือประโยชน์ที่พิสูจน์แล้วสำหรับผิวพรรณและสุขภาพ: 💦 การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวขึ้น 13.03% ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นลง 11.05% ลดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วลง 6.12% เพื่อความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ 🌿 การสนับสนุนสำหรับวัยหมดประจำเดือน สูตรของเราช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและความสบายตัว โดยมีการปรับปรุง 60% ใน Kupperman Index และ 61% ใน Menopause Rating Scale ด้วย Atomy Pomegranate Jelly คุณจะได้สัมผัสผิวสุขภาพดีและความสมดุลของสุขภาพทุกวัน 💖 คุณภาพที่เหนือชั้น 💙 ราคาที่เหนือชั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนน (PV) 😉 PV = 💰💰💰 เปลี่ยนรายจ่ายประจำวันเป็นรายได้! เป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! Atomy ไม่ใช่แค่การขาย แต่เป็นการแบ่งปัน ผลประโยชน์, กลายเป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! สมัครสมาชิกฟรีเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกของ Atomy! Atomy บริษัทที่คุณสามารถไว้วางใจ! 😃
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 0 Reviews
  • แหล่งข่าววงในของรัสเซียอ้างว่าปูตินจะไม่ตกลงตามข้อตกลง "ในรูปแบบปัจจุบัน" โดยไม่มีหลักประกันใด เนื่องจากขณะนี้รัสเซียอยู่ในสถานะที่เหนือกว่ายูเครนจากการควบคุมพื้นที่ของยูเครนเกือบหนึ่งในห้า และยูเครนมีสูญเสียการควบคุมลงไปเรื่อยๆ

    ขณะที่เครมลินกล่าวว่าจะไม่พิจารณาข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน จนกว่าสหรัฐฯ จะแจ้งรายละเอียดให้รัสเซียทราบอย่างเป็นทางการ

    ที่มา: Reuters
    แหล่งข่าววงในของรัสเซียอ้างว่าปูตินจะไม่ตกลงตามข้อตกลง "ในรูปแบบปัจจุบัน" โดยไม่มีหลักประกันใด เนื่องจากขณะนี้รัสเซียอยู่ในสถานะที่เหนือกว่ายูเครนจากการควบคุมพื้นที่ของยูเครนเกือบหนึ่งในห้า และยูเครนมีสูญเสียการควบคุมลงไปเรื่อยๆ ขณะที่เครมลินกล่าวว่าจะไม่พิจารณาข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน จนกว่าสหรัฐฯ จะแจ้งรายละเอียดให้รัสเซียทราบอย่างเป็นทางการ ที่มา: Reuters
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • 15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ

    🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️

    🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต

    👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓

    หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น

    จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน

    ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔

    🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿

    🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

    🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊

    🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃

    จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫

    ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️

    ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ
    หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง

    ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์

    🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย"

    ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า…

    - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง?
    - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา?
    - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย?

    🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน

    🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่”

    🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น"

    🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568

    #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์

    15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ 🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️ 🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต 👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓 หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔 🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿 🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊ 🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃 จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ 💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫 ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️ ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์ 🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย" ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า… - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง? - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา? - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย? 🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน 🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่” 🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น" 🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568 #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวหน่วยประมวลผลฝังตัวรุ่นใหม่ของ AMD ในตระกูล EPYC Embedded 9005 "Turin" ซึ่งออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์และการใช้งานในระดับองค์กร โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ AMD ในขณะนี้

    ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือ การที่มันมาในรูปแบบ BGA (Ball Grid Array) ที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ ทำให้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Non-Transparent Bridging (NTB) ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์สองตัวได้อย่างรวดเร็วผ่าน PCI-Express 5.0 x16 อีกทั้งยังมีระบบ DRAM flush สำหรับลดผลกระทบจากการสูญเสียพลังงาน โดยสามารถบันทึกข้อมูลจาก DRAM ลงใน NVMe SSD เพื่อกู้คืนข้อมูลได้ในภายหลัง

    ตัวโปรเซสเซอร์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 192 คอร์ พร้อมแคช L3 ขนาดสูงสุดถึง 512 MB และช่องหน่วยความจำ DDR5 ถึง 12 ช่อง ทำให้สามารถรองรับแบนด์วิดท์ได้สูงถึง 614 GB/s นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านการฝังระบบปฏิบัติการแบบเบาไว้ในแฟลช ROM ขนาด 64 MB เพื่อช่วยในกระบวนการบูตระบบได้อย่างรวดเร็ว

    ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ AMD นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องการการประมวลผลสูง แต่ยังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบขัดข้องหรือพลังงานหมดในกระบวนการทำงาน

    https://www.techpowerup.com/333913/amd-launches-the-epyc-embedded-9005-turin-family-of-server-processors
    ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวหน่วยประมวลผลฝังตัวรุ่นใหม่ของ AMD ในตระกูล EPYC Embedded 9005 "Turin" ซึ่งออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์และการใช้งานในระดับองค์กร โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ AMD ในขณะนี้ ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือ การที่มันมาในรูปแบบ BGA (Ball Grid Array) ที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ ทำให้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Non-Transparent Bridging (NTB) ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์สองตัวได้อย่างรวดเร็วผ่าน PCI-Express 5.0 x16 อีกทั้งยังมีระบบ DRAM flush สำหรับลดผลกระทบจากการสูญเสียพลังงาน โดยสามารถบันทึกข้อมูลจาก DRAM ลงใน NVMe SSD เพื่อกู้คืนข้อมูลได้ในภายหลัง ตัวโปรเซสเซอร์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 192 คอร์ พร้อมแคช L3 ขนาดสูงสุดถึง 512 MB และช่องหน่วยความจำ DDR5 ถึง 12 ช่อง ทำให้สามารถรองรับแบนด์วิดท์ได้สูงถึง 614 GB/s นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านการฝังระบบปฏิบัติการแบบเบาไว้ในแฟลช ROM ขนาด 64 MB เพื่อช่วยในกระบวนการบูตระบบได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ AMD นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องการการประมวลผลสูง แต่ยังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบขัดข้องหรือพลังงานหมดในกระบวนการทำงาน https://www.techpowerup.com/333913/amd-launches-the-epyc-embedded-9005-turin-family-of-server-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Launches the EPYC Embedded 9005 "Turin" Family of Server Processors
    AMD today launched the EPYC Embedded 9005 line of server processors in the embedded form-factor. These are non-socketed variants of the EPYC 9005 "Turin" server processors. The chips are intended for servers and other enterprise applications where processor replacements or upgradability are not a co...
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • 21 ปี "11-M" วินาศกรรมระเบิดรถไฟมาดริด กวาดชีวิต 200 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,800 ราย 🚆💣 ไขปริศนาเบื้องหลัง โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สเปน ไปตลอดกาล

    📝 เสียงระเบิดที่เปลี่ยนสเปนไปตลอดกาล วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2547 ในช่วงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าตรู่เหมือนทุกวัน รถไฟโดยสารสาย Cercanías ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา ที่สถานีอาโตชา (Atocha) อย่างปกติ ก่อนที่เสียงระเบิดลูกแรกจะดังขึ้น และตามด้วยระเบิดอีก 12 ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ขบวนรถไฟ 4 ขบวน ที่บรรทุกผู้โดยสารไปทำงานในช่วงเร่งด่วน กลายเป็นซากเศษเหล็กในพริบตา 💥

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หรือที่ชาวสเปนเรียกกันว่า "11-M" (Once de Marzo) ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมก่อการร้าย ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย มันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในสเปน โดยสิ้นเชิง 🗳️

    📚 เหตุการณ์ที่โลกไม่อาจลืม เหตุระเบิดรถไฟที่กรุงมาดริด หรือ 11-M เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย ที่ประสานงานกันอย่างซับซ้อน โดยมือระเบิดใช้อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง (IED) วางไว้ในกระเป๋าเป้ และนำขึ้นรถไฟ ที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีหลักของกรุงมาดริด

    ✨ กลุ่มผู้ต้องสงสัย คือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของสเปนใ นสงครามอิรัก เหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีพลเรือน ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่เหตุการณ์ ระเบิดเครื่องบิน Pan Am เที่ยวบิน 103 เมื่อปี 2531 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง และความมั่นคงของประเทศสเปน ในเวลานั้น 📍

    🔎 ไทม์ไลน์วินาศกรรม 11-M นาทีชีวิตในกรุงมาดริด
    07.01 - 07.14 น. รถไฟทั้งสี่ขบวนออกจาก Alcalá de Henares มุ่งหน้าสู่สถานี Atocha

    07.37 - 07.40 น. ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นที่ ขบวน 21431 บริเวณ ฃสถานี Atocha ตามด้วยอีกสองลูกในเวลาไม่ถึง 4 วินาที 🚆💥
    ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ที่สถานี El Pozo
    ขบวน 21713 ระเบิดที่สถานีSanta Eugenia
    ขบวน 17305 เกิดระเบิด 4 จุด บริเวณ Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha

    08.00 น. เป็นต้นไป หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและทีม TEDAX หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าพื้นที่

    08.30 น. ตั้งโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬา Daoiz y Velarde

    09.00 น. ตำรวจยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ สุดท้าย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 200 ราย และรายสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากโคม่า 10 ปี

    🚨 จุดระเบิด 13 จุด ของแต่ละสถานี
    📍 สถานี Atocha ขบวน 21431 เกิดระเบิด 3 ลูก อีก 1 ลูก ถูกทีม TEDAX จุดระเบิดควบคุมในเวลาต่อมา

    📍 สถานี El Pozo ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ในตู้ที่ 4 และ 5 พบระเบิดอีก 1 ลูกในตู้รถที่ 3 ถูกควบคุมระเบิดโดย TEDAX

    📍 สถานี Santa Eugenia ขบวน 21713 ระเบิดลูกเดียวที่ตู้ที่ 4

    📍 Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha ขบวน 17305 ระเบิด 4 ลูกที่ตู้ 1, 4, 5 และ 6

    🕵️‍♂️ ผู้ต้องสงสัย เบื้องหลังการโจมตี หลักฐานที่ค้นพบในรถตู้ Renault Kangoo ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี Alcalá de Henares ได้แก่ ตัวจุดชนวน เทปเสียงอัดบทกวีจากคัมภีร์อัลกุรอาน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดระเบิด

    ตำรวจสเปนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ในวันเดียวกัน เป็นชาวโมร็อกโก 3 คน และปากีสถาน 2 คน โดยเฉพาะ "จามาล ซูกัม" (Jamal Zougam) ชาวโมร็อกโก ที่ถูกดำเนินคดีในที่สุด

    การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการตอบโต้สเปนที่เข้าร่วมสงครามอิรัก กับสหรัฐอเมริกาในปี 2546

    ❗ ข้อถกเถียงและการเมืองที่ลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ 11-M เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 3 วัน พรรค Partido Popular (PP) ภายใต้การนำของ "โฆเซ มาเรีย อัซนาร์" พยายามโยงความผิดให้กลุ่ม ETA โดนพรรคฝ่ายค้าน PSOE กล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเสียคะแนนเสียง

    ผลการเลือกตั้งพลิกล็อก พรรค PSOE ภายใต้การนำของ "โฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ" ซาปาเตโร ได้รับชัยชนะ และขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน

    ⚖️ ผลการสอบสวนและคำพิพากษา หลังจากการสืบสวน 21 เดือน มีผู้ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทั้งหมด 21 คน ไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ วัตถุระเบิดที่ใช้คือ Goma-2 ECO ผลิตในสเปน

    🌍 ผลกระทบที่สะท้อนถึงโลกใบนี้ เหตุการณ์ 11-M ถูกเปรียบเทียบกับการโจมตี 11 กันยายน 2001 (9/11) ที่สหรัฐฯ ทั้งในแง่ของขนาดของการวางแผน ผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศ การลุกฮือของประชาชนเรียกร้อง “ความจริง” จากรัฐบาล และยังกระตุ้นให้เกิด มาตรการความปลอดภัย ในระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก 🚆🛑

    🧠 บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 11-M ความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ การเฝ้าระวังระบบขนส่งสาธารณะ ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเมืองและการก่อการร้าย เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ ในยุคโลกาภิวัตน์

    📌 เหตุการณ์ก่อการร้าย ที่สะท้อนภาพโศกนาฏกรรมปี 2547
    🎒 เหตุการณ์เบสลัน (Beslan Siege) วันที่ 1-3 กันยายน พ.ศ. 2547 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย จับตัวประกันที่โรงเรียน มีผู้เสียชีวิตกว่า 330 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กนักเรียน เป็นอีกตัวอย่างของความโหดร้าย จากการก่อการร้ายที่โลกไม่มีวันลืม 💔

    ✅ ความทรงจำยังคงอยู่ 21 ปีหลังเหตุการณ์ 11-M สเปนและโลกยังคงรำลึกถึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตในวันนั้น และบทเรียนที่ได้รับ ยังคงชัดเจนอยู่ทุกวินาที การเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคง การเลือกตั้ง และบทบาททางการเมืองที่พลิกผัน เป็นสิ่งที่ทำให้ 11 มีนาคม ไม่ใช่เพียงวันแห่งความเศร้า แต่ยังเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติหยุดคิด และตั้งคำถามกับความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ 🌍🙏

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 110922 มี.ค. 2568

    🔖 📌 #11M #MadridBombings #ก่อการร้าย #ประวัติศาสตร์สเปน #PSOE #PP #สงครามอิรัก #ก่อการร้ายยุโรป #มาดริด #TerrorismHistory 🚆💣
    21 ปี "11-M" วินาศกรรมระเบิดรถไฟมาดริด กวาดชีวิต 200 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,800 ราย 🚆💣 ไขปริศนาเบื้องหลัง โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สเปน ไปตลอดกาล 📝 เสียงระเบิดที่เปลี่ยนสเปนไปตลอดกาล วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2547 ในช่วงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าตรู่เหมือนทุกวัน รถไฟโดยสารสาย Cercanías ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา ที่สถานีอาโตชา (Atocha) อย่างปกติ ก่อนที่เสียงระเบิดลูกแรกจะดังขึ้น และตามด้วยระเบิดอีก 12 ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ขบวนรถไฟ 4 ขบวน ที่บรรทุกผู้โดยสารไปทำงานในช่วงเร่งด่วน กลายเป็นซากเศษเหล็กในพริบตา 💥 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หรือที่ชาวสเปนเรียกกันว่า "11-M" (Once de Marzo) ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมก่อการร้าย ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย มันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในสเปน โดยสิ้นเชิง 🗳️ 📚 เหตุการณ์ที่โลกไม่อาจลืม เหตุระเบิดรถไฟที่กรุงมาดริด หรือ 11-M เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย ที่ประสานงานกันอย่างซับซ้อน โดยมือระเบิดใช้อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง (IED) วางไว้ในกระเป๋าเป้ และนำขึ้นรถไฟ ที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีหลักของกรุงมาดริด ✨ กลุ่มผู้ต้องสงสัย คือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของสเปนใ นสงครามอิรัก เหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีพลเรือน ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่เหตุการณ์ ระเบิดเครื่องบิน Pan Am เที่ยวบิน 103 เมื่อปี 2531 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง และความมั่นคงของประเทศสเปน ในเวลานั้น 📍 🔎 ไทม์ไลน์วินาศกรรม 11-M นาทีชีวิตในกรุงมาดริด 07.01 - 07.14 น. รถไฟทั้งสี่ขบวนออกจาก Alcalá de Henares มุ่งหน้าสู่สถานี Atocha 07.37 - 07.40 น. ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นที่ ขบวน 21431 บริเวณ ฃสถานี Atocha ตามด้วยอีกสองลูกในเวลาไม่ถึง 4 วินาที 🚆💥 ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ที่สถานี El Pozo ขบวน 21713 ระเบิดที่สถานีSanta Eugenia ขบวน 17305 เกิดระเบิด 4 จุด บริเวณ Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha 08.00 น. เป็นต้นไป หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและทีม TEDAX หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าพื้นที่ 08.30 น. ตั้งโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬา Daoiz y Velarde 09.00 น. ตำรวจยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ สุดท้าย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 200 ราย และรายสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากโคม่า 10 ปี 🚨 จุดระเบิด 13 จุด ของแต่ละสถานี 📍 สถานี Atocha ขบวน 21431 เกิดระเบิด 3 ลูก อีก 1 ลูก ถูกทีม TEDAX จุดระเบิดควบคุมในเวลาต่อมา 📍 สถานี El Pozo ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ในตู้ที่ 4 และ 5 พบระเบิดอีก 1 ลูกในตู้รถที่ 3 ถูกควบคุมระเบิดโดย TEDAX 📍 สถานี Santa Eugenia ขบวน 21713 ระเบิดลูกเดียวที่ตู้ที่ 4 📍 Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha ขบวน 17305 ระเบิด 4 ลูกที่ตู้ 1, 4, 5 และ 6 🕵️‍♂️ ผู้ต้องสงสัย เบื้องหลังการโจมตี หลักฐานที่ค้นพบในรถตู้ Renault Kangoo ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี Alcalá de Henares ได้แก่ ตัวจุดชนวน เทปเสียงอัดบทกวีจากคัมภีร์อัลกุรอาน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดระเบิด ตำรวจสเปนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ในวันเดียวกัน เป็นชาวโมร็อกโก 3 คน และปากีสถาน 2 คน โดยเฉพาะ "จามาล ซูกัม" (Jamal Zougam) ชาวโมร็อกโก ที่ถูกดำเนินคดีในที่สุด การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการตอบโต้สเปนที่เข้าร่วมสงครามอิรัก กับสหรัฐอเมริกาในปี 2546 ❗ ข้อถกเถียงและการเมืองที่ลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ 11-M เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 3 วัน พรรค Partido Popular (PP) ภายใต้การนำของ "โฆเซ มาเรีย อัซนาร์" พยายามโยงความผิดให้กลุ่ม ETA โดนพรรคฝ่ายค้าน PSOE กล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเสียคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้งพลิกล็อก พรรค PSOE ภายใต้การนำของ "โฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ" ซาปาเตโร ได้รับชัยชนะ และขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน ⚖️ ผลการสอบสวนและคำพิพากษา หลังจากการสืบสวน 21 เดือน มีผู้ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทั้งหมด 21 คน ไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ วัตถุระเบิดที่ใช้คือ Goma-2 ECO ผลิตในสเปน 🌍 ผลกระทบที่สะท้อนถึงโลกใบนี้ เหตุการณ์ 11-M ถูกเปรียบเทียบกับการโจมตี 11 กันยายน 2001 (9/11) ที่สหรัฐฯ ทั้งในแง่ของขนาดของการวางแผน ผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศ การลุกฮือของประชาชนเรียกร้อง “ความจริง” จากรัฐบาล และยังกระตุ้นให้เกิด มาตรการความปลอดภัย ในระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก 🚆🛑 🧠 บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 11-M ความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ การเฝ้าระวังระบบขนส่งสาธารณะ ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเมืองและการก่อการร้าย เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ ในยุคโลกาภิวัตน์ 📌 เหตุการณ์ก่อการร้าย ที่สะท้อนภาพโศกนาฏกรรมปี 2547 🎒 เหตุการณ์เบสลัน (Beslan Siege) วันที่ 1-3 กันยายน พ.ศ. 2547 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย จับตัวประกันที่โรงเรียน มีผู้เสียชีวิตกว่า 330 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กนักเรียน เป็นอีกตัวอย่างของความโหดร้าย จากการก่อการร้ายที่โลกไม่มีวันลืม 💔 ✅ ความทรงจำยังคงอยู่ 21 ปีหลังเหตุการณ์ 11-M สเปนและโลกยังคงรำลึกถึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตในวันนั้น และบทเรียนที่ได้รับ ยังคงชัดเจนอยู่ทุกวินาที การเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคง การเลือกตั้ง และบทบาททางการเมืองที่พลิกผัน เป็นสิ่งที่ทำให้ 11 มีนาคม ไม่ใช่เพียงวันแห่งความเศร้า แต่ยังเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติหยุดคิด และตั้งคำถามกับความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ 🌍🙏 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 110922 มี.ค. 2568 🔖 📌 #11M #MadridBombings #ก่อการร้าย #ประวัติศาสตร์สเปน #PSOE #PP #สงครามอิรัก #ก่อการร้ายยุโรป #มาดริด #TerrorismHistory 🚆💣
    0 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • 11/3/68

    ภัยเงียบจาก "อาหารยอดฮิต" แค่ 1 ชิ้น อายุสั้นลง 36 นาที คนไทยกินแทบทุกวัน

    { กินอาหารไม่เป็น อายุลดลง }

    ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เตือน "อาหารยอดฮิต" กินแค่ 1 ชิ้น อายุขัยสั้นลง 36 นาที เป็นเมนูโปรดคนไทยที่กินแทบทุกวัน

    การเลือกอาหารของคุณไม่เพียงแค่มีผลต่อสุขภาพปัจจุบันของคุณ แต่ยังมีผลต่ออายุขัยในอนาคตด้วย ดังนั้น ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อกินอาหาร 6 อย่างนี้

    เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องว่า "โรคมาจากปาก" เพราะการเลือกอาหารของแต่ละคนไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อรสชาติและให้พลังงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและอายุขัยของคุณด้วย อาหารที่ดีและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว ในขณะที่การมีนิสัยการกินที่ไม่ดีจะมีผลในทางตรงกันข้าม

    การวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก พบว่าอาหารบางประเภท "กิน" ชีวิตคุณได้อย่างรวดเร็ว แต่เป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์ หัวหน้าผู้วิจัยกล่าวว่าอาหารที่อยู่ในอันดับต้นๆ ได้แก่ อาหารแปรรูปขั้นสูง (UFOs) ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็ง 34 ชนิด รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ

    1.ไส้กรอก: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิตออกไป 36 นาที ไส้กรอกอยู่ในอันดับต้นๆ ของอาหารที่ทำให้ชีวิตสั้นลง ดร. ดาริน เดตไวเลอร์ (มหาวิทยาลัยมิชิแกน) อธิบายว่าเป็นเพราะเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทนี้มีไขมัน ไนไตรต์และไนเตรตจำนวนมาก พร้อมทั้งอาจมีสารแต่งรสและสารกันบูด เมื่อกินมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ และเบาหวาน การแปรรูปมักใช้ไขมันและน้ำมันจำนวนมาก โดยการใช้ความร้อนสูงอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งบางประเภท

    2.แซนด์วิชเช้า: ลดอายุขัย 13 นาทีต่อมื้อ แซนด์วิชเช้าพร้อมทานอาจสะดวก แต่ถ้ากินเป็นประจำไม่ดีต่อสุขภาพ ขนมปังขาวเป็นแป้งที่ผ่านการขัดสี - ขนมปังที่ผลิตในปริมาณมากซึ่งมีแคลอรีที่ว่างเปล่าและสารเติมแต่งที่ไม่ดี สำหรับไข่, เนื้อสัตว์แปรรูป, ชีส และเนยในแซนด์วิชก็ทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกินไป

    3.น้ำอัดลม: ลดอายุขัย 12 นาทีต่อกระป๋อง ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์เตือนว่าน้ำตาลที่เติมลงไปในเครื่องดื่มเป็น "ศัตรูที่ซ่อนอยู่" ในหลายๆ เครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลมหรือแม้แต่น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง/ขวด การดื่มน้ำอัดลม 355 มล. จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 24 นาทีจากชีวิต แต่ถ้าคุณดื่มมันเป็นประจำตั้งแต่อายุยังน้อย ก็อาจทำให้ชีวิตสั้นลงเกือบปีภายในอายุ 55 ปี น้ำตาลไม่ได้ทำให้เกิดโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็ง

    4.ขนมปังชีส: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิต 9 นาที ขนมปังชีสโดยเฉพาะแบบที่ผลิตจำนวนมากและบรรจุหีบห่อไว้จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 9 นาทีจากชีวิตทุกคำที่กัด ขนมปังชิ้นเล็กๆ หนักแค่ 150 กรัม หากขนมปังนั้นมีเนื้อหรือไส้กรอกและเสิร์ฟพร้อมชีส ก็จะยิ่งเพิ่มผลกระทบต่อสุขภาพและอายุขัย

    5.เบคอน: ลดเวลา 6 นาทีต่อการเสิร์ฟ ดร. ดาริน เดตไวเลอร์กล่าวว่าเบคอนมีเกลือและสารกันบูดมาก การบริโภคเบคอนเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การศึกษานี้พบว่าแค่การกินเบคอน 1 เสิร์ฟ (ประมาณ 15-20 กรัม) ก็สามารถทำให้ลดอายุขัยลง 26 นาที
    cr:sanook.com
    https://www.sanook.com/news/9672670/
    #ฐิติพรก้อนแก้วข้อมูลพลิกชีวิต
    #ฐิติพรก้อนแก้วกินอาหารเป็นไม่ต้องกินยา
    20 ธันวาคม 2567
    #เพจสุขภาพและความงามโดยเยาว์
    11/3/68 ภัยเงียบจาก "อาหารยอดฮิต" แค่ 1 ชิ้น อายุสั้นลง 36 นาที คนไทยกินแทบทุกวัน { กินอาหารไม่เป็น อายุลดลง } ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เตือน "อาหารยอดฮิต" กินแค่ 1 ชิ้น อายุขัยสั้นลง 36 นาที เป็นเมนูโปรดคนไทยที่กินแทบทุกวัน การเลือกอาหารของคุณไม่เพียงแค่มีผลต่อสุขภาพปัจจุบันของคุณ แต่ยังมีผลต่ออายุขัยในอนาคตด้วย ดังนั้น ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อกินอาหาร 6 อย่างนี้ เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องว่า "โรคมาจากปาก" เพราะการเลือกอาหารของแต่ละคนไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อรสชาติและให้พลังงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและอายุขัยของคุณด้วย อาหารที่ดีและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว ในขณะที่การมีนิสัยการกินที่ไม่ดีจะมีผลในทางตรงกันข้าม การวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก พบว่าอาหารบางประเภท "กิน" ชีวิตคุณได้อย่างรวดเร็ว แต่เป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์ หัวหน้าผู้วิจัยกล่าวว่าอาหารที่อยู่ในอันดับต้นๆ ได้แก่ อาหารแปรรูปขั้นสูง (UFOs) ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็ง 34 ชนิด รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ 1.ไส้กรอก: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิตออกไป 36 นาที ไส้กรอกอยู่ในอันดับต้นๆ ของอาหารที่ทำให้ชีวิตสั้นลง ดร. ดาริน เดตไวเลอร์ (มหาวิทยาลัยมิชิแกน) อธิบายว่าเป็นเพราะเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทนี้มีไขมัน ไนไตรต์และไนเตรตจำนวนมาก พร้อมทั้งอาจมีสารแต่งรสและสารกันบูด เมื่อกินมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ และเบาหวาน การแปรรูปมักใช้ไขมันและน้ำมันจำนวนมาก โดยการใช้ความร้อนสูงอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งบางประเภท 2.แซนด์วิชเช้า: ลดอายุขัย 13 นาทีต่อมื้อ แซนด์วิชเช้าพร้อมทานอาจสะดวก แต่ถ้ากินเป็นประจำไม่ดีต่อสุขภาพ ขนมปังขาวเป็นแป้งที่ผ่านการขัดสี - ขนมปังที่ผลิตในปริมาณมากซึ่งมีแคลอรีที่ว่างเปล่าและสารเติมแต่งที่ไม่ดี สำหรับไข่, เนื้อสัตว์แปรรูป, ชีส และเนยในแซนด์วิชก็ทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกินไป 3.น้ำอัดลม: ลดอายุขัย 12 นาทีต่อกระป๋อง ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์เตือนว่าน้ำตาลที่เติมลงไปในเครื่องดื่มเป็น "ศัตรูที่ซ่อนอยู่" ในหลายๆ เครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลมหรือแม้แต่น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง/ขวด การดื่มน้ำอัดลม 355 มล. จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 24 นาทีจากชีวิต แต่ถ้าคุณดื่มมันเป็นประจำตั้งแต่อายุยังน้อย ก็อาจทำให้ชีวิตสั้นลงเกือบปีภายในอายุ 55 ปี น้ำตาลไม่ได้ทำให้เกิดโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็ง 4.ขนมปังชีส: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิต 9 นาที ขนมปังชีสโดยเฉพาะแบบที่ผลิตจำนวนมากและบรรจุหีบห่อไว้จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 9 นาทีจากชีวิตทุกคำที่กัด ขนมปังชิ้นเล็กๆ หนักแค่ 150 กรัม หากขนมปังนั้นมีเนื้อหรือไส้กรอกและเสิร์ฟพร้อมชีส ก็จะยิ่งเพิ่มผลกระทบต่อสุขภาพและอายุขัย 5.เบคอน: ลดเวลา 6 นาทีต่อการเสิร์ฟ ดร. ดาริน เดตไวเลอร์กล่าวว่าเบคอนมีเกลือและสารกันบูดมาก การบริโภคเบคอนเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การศึกษานี้พบว่าแค่การกินเบคอน 1 เสิร์ฟ (ประมาณ 15-20 กรัม) ก็สามารถทำให้ลดอายุขัยลง 26 นาที cr:sanook.com https://www.sanook.com/news/9672670/ #ฐิติพรก้อนแก้วข้อมูลพลิกชีวิต #ฐิติพรก้อนแก้วกินอาหารเป็นไม่ต้องกินยา 20 ธันวาคม 2567 #เพจสุขภาพและความงามโดยเยาว์
    WWW.SANOOK.COM
    ภัยเงียบจาก "อาหารยอดฮิต" แค่ 1 ชิ้น อายุสั้นลง 36 นาที คนไทยกินแทบทุกวัน
    ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เตือน "อาหารยอดฮิต" กินแค่ 1 ชิ้น อายุขัยสั้นลง 36 นาที เป็นเมนูโปรดคนไทยที่กินแทบทุกวัน
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียมุดสายท่อส่งก๊าซเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร แล้วโผล่ออกมาตีตลบหลังกองทหารยูเครนที่บุกเข้าไปยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์ของแดนหมีขาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มอสโกอ้างด้วยว่าสามารถยึดพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมในการรุกขับไล่ชิงดินแดนคืนและโอบล้อมข้าศึกที่แคว้นประชิดชายแดนยูเครนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าครองหมู่บ้านในแคว้นซูมีของยูเครนได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2022 อีกด้วย
    .
    กองทหารยูเครนบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ทหารต่างชาติโจมตีเข้าสู่แดนหมีขาวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และภายในไม่กี่วันก็สามารถยึดดินแดนได้ถึง 1,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงซุดซาที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ใกล้ชายแดน รวมทั้งจับเชลยศึกรัสเซียได้หลายร้อยคน
    .
    เคียฟหมายมั่นใช้ความสำเร็จคราวนี้เป็นหมากต่อรองหากมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมุ่งสร้างแรงบีบคั้นให้รัสเซียถอนทหารออกจากแนวรบในยูเครนตะวันออก กลับมาป้องกันดินแดนของตัวเอง
    .
    ทว่า หลายเดือนนับจากนั้น ทหารยูเครนในคูร์สก์ตกอยู่ในสภาพทั้งเหนื่อยล้าและบาดเจ็บล้มตาย จากการถูกโจมตีอย่างไม่ลดละจากกองทหารมากกว่า 50,000 นายที่ส่วนหนึ่งเป็นทหารเกาหลีเหนือ เวลานี้ทหารยูเครนหลายหมื่นคนยังกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อม ทั้งนี้เมื่อดูจากแผนที่ของสมรภูมิซึ่งมาจากพวกแหล่งข่าวโอเพ่นซอร์ส รายงานข่าวของเอพีระบุ
    .
    ขณะที่รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์คืนไปได้อย่างน้อย 800 ตารางกิโลเมตร และระยะไม่กี่วันมานี้ได้เปิดฉากโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกันเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาวุธ ตลอดจนเส้นทางที่ยูเครนอาจใช้ในการล่าถอย
    .
    สำหรับเหตุการณ์การโจมตีระทึกใจล่าสุด เอพีรายงานโดยอ้าง ยูริ โปโดลยากา บล็อกเกอร์สที่เกิดในยูเครนแต่เป็นฝ่ายสนับสนุนเครมลิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อคืนวันเสาร์ (8 มี.ค.) ระบุว่า กองทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ได้เดินกันเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตรภายในสายท่อส่งก๊าซ ซึ่งมอสโกเคยใช้ส่งก๊าซธรรมชาติไปให้แก่ยุโรปจนกระทั่งมีอันยุติลงเมื่อไม่นานมานี้ ทหารรัสเซียเหล่านี้บางส่วนอยู่ภายในท่อส่งก๊าซซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 เมตรนี้เป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะโผล่ออกมาโจมตีหน่วยทหารยูเครนจากทางด้านหลัง ในบริเวณใกล้ๆ เมืองซุดซา
    .
    เอพีอ้างบล็อกเกอร์สงครามอีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ทู เมเจอร์ส ระบุว่า ขณะนี้มีการสู้รบดุเดือดเพื่อแย่งชิงซุดซา และกองกำลังรัสเซียสามารถบุกเข้าเมืองผ่านทางท่อส่งก๊าซ นอกจากนั้น ช่องรายการของเทเลแกรมหลายช่องมีการเผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษรัสเซียซึ่งสวมหน้ากากป้องกันก๊าซ เคลื่อนที่ไปตามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นด้านในของท่อขนาดใหญ่
    .
    ทางด้านกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพยูเครนแถลงยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ แต่ระบุว่า พวกกลุ่มก่อวินาศกรรมและรุกโจมตีของรัสเซียใช้ท่อส่งก๊าซเป็นเส้นทางเดินทางเพื่อเข้ายึดพื้นที่ด้านนอกของซุดซา ทว่า ยูเครนตรวจพบทันเวลาและโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่จนสามารถปิดกั้นและทำลายทหารเหล่านั้น และย้ำว่า รัสเซียสูญเสียหนักมากในซุดซา
    .
    เอพีรายงานว่า ยังมีบล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียคนที่ 3 ที่กล่าวว่า ตัวเขาเป็นทหารและใช้รหัส “13” ในการสื่อสารทางวิทยุ เล่าเรื่องว่า กองกำลังฝ่ายเข้าโจมตีขาดการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง จึงโจมตีไม่สำเร็จ โดยบล็อกเกอร์ผู้นี้อ้างว่า ฝ่ายเข้าโจมตี 2 ถึง 3 กลุ่มที่อยู่ด้านหลัง ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ เครื่องกระสุน การสื่อสาร อุปกรณ์ชาร์จไฟ เพาเวอร์แบงก์ อีกทั้งไม่อาจติดต่อกับกองกำลังหลัก ตลอดจนไม่สามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้ ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง
    .
    อย่างไรก็ดี เอพีเตือนว่า ตนเองไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้
    .
    ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานเรื่องรัสเซียเคลื่อนพลผ่านท่อส่งก๊าซเข้าโจมตีซุดซาเช่นกัน อ้างพวกบล็อกเกอร์ฝ่ายรัสเซียระบุว่า การโจมตีคราวนี้ประสบความสำเร็จ กองทหารนี้บรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ที่ซุดซา
    .
    สำหรับทางการรัสเซียเองนั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีโดยมุดสายท่อส่งก๊าซนี้ แต่ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทหารรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของซุดซาได้ โดยหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 12 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านั้นเข้ายึดหมู่บ้านคืนได้ 3 แห่งใกล้เมืองซุดซาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ฝ่ายยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างเหล่านี้
    .
    วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศว่า สามารถยึดโนเวนกี ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งในแคว้นซูมีของยูเครนที่อยู่ห่างจากคูร์สก์เพียง 1 กิโลเมตร และทำให้เข้าใกล้เส้นทางขนส่งกำลังบำรุงหลักของยูเครนมากขึ้น ทั้งนี้รัสเซียเคยยึดครองหลายส่วนของแคว้นซูมีได้ในตอนเริ่มต้นการรุกรานเมื่อปี 2022 แต่หลังจากต้องถอยกลับไปแล้วก็ไม่เคยยึดพื้นที่ใดๆ ในแคว้นนี้ได้อีกเลยจนกระทั่งมาถึงตอนนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023254
    ..............
    Sondhi X
    ทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียมุดสายท่อส่งก๊าซเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร แล้วโผล่ออกมาตีตลบหลังกองทหารยูเครนที่บุกเข้าไปยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์ของแดนหมีขาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มอสโกอ้างด้วยว่าสามารถยึดพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมในการรุกขับไล่ชิงดินแดนคืนและโอบล้อมข้าศึกที่แคว้นประชิดชายแดนยูเครนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าครองหมู่บ้านในแคว้นซูมีของยูเครนได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2022 อีกด้วย . กองทหารยูเครนบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ทหารต่างชาติโจมตีเข้าสู่แดนหมีขาวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และภายในไม่กี่วันก็สามารถยึดดินแดนได้ถึง 1,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงซุดซาที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ใกล้ชายแดน รวมทั้งจับเชลยศึกรัสเซียได้หลายร้อยคน . เคียฟหมายมั่นใช้ความสำเร็จคราวนี้เป็นหมากต่อรองหากมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมุ่งสร้างแรงบีบคั้นให้รัสเซียถอนทหารออกจากแนวรบในยูเครนตะวันออก กลับมาป้องกันดินแดนของตัวเอง . ทว่า หลายเดือนนับจากนั้น ทหารยูเครนในคูร์สก์ตกอยู่ในสภาพทั้งเหนื่อยล้าและบาดเจ็บล้มตาย จากการถูกโจมตีอย่างไม่ลดละจากกองทหารมากกว่า 50,000 นายที่ส่วนหนึ่งเป็นทหารเกาหลีเหนือ เวลานี้ทหารยูเครนหลายหมื่นคนยังกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อม ทั้งนี้เมื่อดูจากแผนที่ของสมรภูมิซึ่งมาจากพวกแหล่งข่าวโอเพ่นซอร์ส รายงานข่าวของเอพีระบุ . ขณะที่รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์คืนไปได้อย่างน้อย 800 ตารางกิโลเมตร และระยะไม่กี่วันมานี้ได้เปิดฉากโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกันเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาวุธ ตลอดจนเส้นทางที่ยูเครนอาจใช้ในการล่าถอย . สำหรับเหตุการณ์การโจมตีระทึกใจล่าสุด เอพีรายงานโดยอ้าง ยูริ โปโดลยากา บล็อกเกอร์สที่เกิดในยูเครนแต่เป็นฝ่ายสนับสนุนเครมลิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อคืนวันเสาร์ (8 มี.ค.) ระบุว่า กองทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ได้เดินกันเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตรภายในสายท่อส่งก๊าซ ซึ่งมอสโกเคยใช้ส่งก๊าซธรรมชาติไปให้แก่ยุโรปจนกระทั่งมีอันยุติลงเมื่อไม่นานมานี้ ทหารรัสเซียเหล่านี้บางส่วนอยู่ภายในท่อส่งก๊าซซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 เมตรนี้เป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะโผล่ออกมาโจมตีหน่วยทหารยูเครนจากทางด้านหลัง ในบริเวณใกล้ๆ เมืองซุดซา . เอพีอ้างบล็อกเกอร์สงครามอีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ทู เมเจอร์ส ระบุว่า ขณะนี้มีการสู้รบดุเดือดเพื่อแย่งชิงซุดซา และกองกำลังรัสเซียสามารถบุกเข้าเมืองผ่านทางท่อส่งก๊าซ นอกจากนั้น ช่องรายการของเทเลแกรมหลายช่องมีการเผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษรัสเซียซึ่งสวมหน้ากากป้องกันก๊าซ เคลื่อนที่ไปตามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นด้านในของท่อขนาดใหญ่ . ทางด้านกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพยูเครนแถลงยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ แต่ระบุว่า พวกกลุ่มก่อวินาศกรรมและรุกโจมตีของรัสเซียใช้ท่อส่งก๊าซเป็นเส้นทางเดินทางเพื่อเข้ายึดพื้นที่ด้านนอกของซุดซา ทว่า ยูเครนตรวจพบทันเวลาและโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่จนสามารถปิดกั้นและทำลายทหารเหล่านั้น และย้ำว่า รัสเซียสูญเสียหนักมากในซุดซา . เอพีรายงานว่า ยังมีบล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียคนที่ 3 ที่กล่าวว่า ตัวเขาเป็นทหารและใช้รหัส “13” ในการสื่อสารทางวิทยุ เล่าเรื่องว่า กองกำลังฝ่ายเข้าโจมตีขาดการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง จึงโจมตีไม่สำเร็จ โดยบล็อกเกอร์ผู้นี้อ้างว่า ฝ่ายเข้าโจมตี 2 ถึง 3 กลุ่มที่อยู่ด้านหลัง ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ เครื่องกระสุน การสื่อสาร อุปกรณ์ชาร์จไฟ เพาเวอร์แบงก์ อีกทั้งไม่อาจติดต่อกับกองกำลังหลัก ตลอดจนไม่สามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้ ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง . อย่างไรก็ดี เอพีเตือนว่า ตนเองไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้ . ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานเรื่องรัสเซียเคลื่อนพลผ่านท่อส่งก๊าซเข้าโจมตีซุดซาเช่นกัน อ้างพวกบล็อกเกอร์ฝ่ายรัสเซียระบุว่า การโจมตีคราวนี้ประสบความสำเร็จ กองทหารนี้บรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ที่ซุดซา . สำหรับทางการรัสเซียเองนั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีโดยมุดสายท่อส่งก๊าซนี้ แต่ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทหารรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของซุดซาได้ โดยหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 12 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านั้นเข้ายึดหมู่บ้านคืนได้ 3 แห่งใกล้เมืองซุดซาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ฝ่ายยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างเหล่านี้ . วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศว่า สามารถยึดโนเวนกี ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งในแคว้นซูมีของยูเครนที่อยู่ห่างจากคูร์สก์เพียง 1 กิโลเมตร และทำให้เข้าใกล้เส้นทางขนส่งกำลังบำรุงหลักของยูเครนมากขึ้น ทั้งนี้รัสเซียเคยยึดครองหลายส่วนของแคว้นซูมีได้ในตอนเริ่มต้นการรุกรานเมื่อปี 2022 แต่หลังจากต้องถอยกลับไปแล้วก็ไม่เคยยึดพื้นที่ใดๆ ในแคว้นนี้ได้อีกเลยจนกระทั่งมาถึงตอนนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023254 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    11
    0 Comments 0 Shares 1112 Views 0 Reviews
  • ขณะที่เซเลนสกีกำลังเตรียมเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย "เซอร์ฮีย์ เลชเชนโก" (Serhiy Leshchenko) ที่ปรึกษาของเซเลนสกีและเยอร์มัค กล่าวกับสื่อว่า เซเลนสกีเตรียมแผนหยุดยิงชั่วคราวเพื่อไปคุยกับทรัมป์ "ยูเครนจะไม่ตกลงหยุดยิงภาคพื้นดิน เพราะนั่นจะทำให้ปูตินมีโอกาสฟื้นกำลังพลและกลับมาสู้รบอีกครั้งในภายหลัง"

    “ทรัมป์ถามเราว่า เรามีแผนหยุดยิงหรือยัง เราตอบว่าเรามี เราเสนอให้หยุดยิงทางอากาศ หยุดโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีทางทะเลอีกด้วย โดยเราให้คำมั่นว่าจะไม่โจมตีตามที่กล่าวมา
    นอกจากนี้ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน แต่การหยุดยิงจะไม่ใช่ทางภาคพื้นดิน ซึ่งปูตินอาจใช้ช่วงเวลานั้นในการรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ คัดเลือกทหารราบจากเกาหลีเหนือ และเริ่มต้นสงครามอีกครั้ง” เลชเชนโกกล่าวทางโทรทัศน์ของยูเครน

    เลชเชนโก ยังกล่าวอีกว่าความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครนไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ดังนั้นเซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับแผนของทรัมป์ในการสร้างสันติภาพ เซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับการหยุดยิงภาคพื้นดิน

    เขาอ้างว่า 70% ของความสูญเสียในสนามรบของยูเครนมาจากโดรน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อเสนอของเคียฟน่าจะดึงดูดใจรัสเซียได้

    ข้อเสนอของเลชเชนโกยังจะบั่นทอนความได้เปรียบของรัสเซียในการโจมตีระยะไกลอีกด้วย เนื่องจากมอสโกมีขีปนาวุธและโดรนที่สามารถโจมตียูเครนได้ลึกกว่า

    จากคำกล่าวของเลชเชนโก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างในการปฏิเสธการหยุดยิงเต็มรูปแบบ ปูตินไม่มีทางเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ ขณะนี้กองทัพยูเครนกำลังสูญเสียเลือดและล่าถอย กองทัพรัสเซียไม่จำเป็นต้องหยุดชะงักเพื่อฟื้นกำลัง
    การอ้างว่าความช่วยเหลือทางทหารของอเมริกาไม่จำเป็นนั้นเป็นการหลอกลวงอย่างชัดเจน และทรัมป์จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
    ขณะที่เซเลนสกีกำลังเตรียมเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย "เซอร์ฮีย์ เลชเชนโก" (Serhiy Leshchenko) ที่ปรึกษาของเซเลนสกีและเยอร์มัค กล่าวกับสื่อว่า เซเลนสกีเตรียมแผนหยุดยิงชั่วคราวเพื่อไปคุยกับทรัมป์ "ยูเครนจะไม่ตกลงหยุดยิงภาคพื้นดิน เพราะนั่นจะทำให้ปูตินมีโอกาสฟื้นกำลังพลและกลับมาสู้รบอีกครั้งในภายหลัง" “ทรัมป์ถามเราว่า เรามีแผนหยุดยิงหรือยัง เราตอบว่าเรามี เราเสนอให้หยุดยิงทางอากาศ หยุดโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีทางทะเลอีกด้วย โดยเราให้คำมั่นว่าจะไม่โจมตีตามที่กล่าวมา นอกจากนี้ เรายังเสนอให้หยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน แต่การหยุดยิงจะไม่ใช่ทางภาคพื้นดิน ซึ่งปูตินอาจใช้ช่วงเวลานั้นในการรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ คัดเลือกทหารราบจากเกาหลีเหนือ และเริ่มต้นสงครามอีกครั้ง” เลชเชนโกกล่าวทางโทรทัศน์ของยูเครน เลชเชนโก ยังกล่าวอีกว่าความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครนไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ดังนั้นเซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับแผนของทรัมป์ในการสร้างสันติภาพ เซเลนสกีจะไม่เห็นด้วยกับการหยุดยิงภาคพื้นดิน เขาอ้างว่า 70% ของความสูญเสียในสนามรบของยูเครนมาจากโดรน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อเสนอของเคียฟน่าจะดึงดูดใจรัสเซียได้ ข้อเสนอของเลชเชนโกยังจะบั่นทอนความได้เปรียบของรัสเซียในการโจมตีระยะไกลอีกด้วย เนื่องจากมอสโกมีขีปนาวุธและโดรนที่สามารถโจมตียูเครนได้ลึกกว่า จากคำกล่าวของเลชเชนโก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างในการปฏิเสธการหยุดยิงเต็มรูปแบบ ปูตินไม่มีทางเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ ขณะนี้กองทัพยูเครนกำลังสูญเสียเลือดและล่าถอย กองทัพรัสเซียไม่จำเป็นต้องหยุดชะงักเพื่อฟื้นกำลัง การอ้างว่าความช่วยเหลือทางทหารของอเมริกาไม่จำเป็นนั้นเป็นการหลอกลวงอย่างชัดเจน และทรัมป์จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 265 Views 15 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ หากดำเนินงานธุรกิจที่ดิน ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ จะประสบพบอุปสรรคปัญหาพึงระวัง อีกทั้ง มีโอกาสพัวพันกับการรับของโจร ของผิดกฏหมาย จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นคดีความติดตัว ควรควบคุม ให้รัดกุม จะมีเรื่องขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง ให้ไม่ลงรอย บริวารและลูกน้องจะทรยศหักหลัง ส่วนสาวใหญ่จะถูก ชายหนุ่มหลอกทำร้ายให้เสียหายเดือดร้อน เด็กวัยรุ่นจะอยู่บ้านไม่ติด เพราะแม่ลูกมักจะมีแนวคิดคนละทิศทาง ให้ไม่เข้าใจกัน รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่าหมดกำลังใจ สุขภาพร่างกายจะอ่อนแอ ควรดูแลเอาใจใส่ระบบช่องท้อง ระบบ ทางเดินอาหาร ระบบประสาท ตลอดจนตับ คอ มือ และเท้า รวมทั้งระมัดระวังป้องกันภัยอุบัติเหตุ อันเกิดจากการขับขี่เดินทาง เพื่อป้องปรามความสูญเสียก่อนที่จะเกิดขึ้น

    เสริมมงคล : โมบายโลหะ 4/9 เส้น+น้ำเต้าโลหะ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ หากดำเนินงานธุรกิจที่ดิน ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ จะประสบพบอุปสรรคปัญหาพึงระวัง อีกทั้ง มีโอกาสพัวพันกับการรับของโจร ของผิดกฏหมาย จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นคดีความติดตัว ควรควบคุม ให้รัดกุม จะมีเรื่องขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง ให้ไม่ลงรอย บริวารและลูกน้องจะทรยศหักหลัง ส่วนสาวใหญ่จะถูก ชายหนุ่มหลอกทำร้ายให้เสียหายเดือดร้อน เด็กวัยรุ่นจะอยู่บ้านไม่ติด เพราะแม่ลูกมักจะมีแนวคิดคนละทิศทาง ให้ไม่เข้าใจกัน รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่าหมดกำลังใจ สุขภาพร่างกายจะอ่อนแอ ควรดูแลเอาใจใส่ระบบช่องท้อง ระบบ ทางเดินอาหาร ระบบประสาท ตลอดจนตับ คอ มือ และเท้า รวมทั้งระมัดระวังป้องกันภัยอุบัติเหตุ อันเกิดจากการขับขี่เดินทาง เพื่อป้องปรามความสูญเสียก่อนที่จะเกิดขึ้น เสริมมงคล : โมบายโลหะ 4/9 เส้น+น้ำเต้าโลหะ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • สถานการณ์ในซีเรียยังคงวุ่นวายอย่างหนัก ล่าสุดกองกำลัง SDF (Syrian Democratic Forces) เปิดฉากต่อต้านกองกำลังของรัฐบาลซีเรียในเขตอัลอัชราฟียะห์ของเมืองอาเลปโป ทางตอนเหนือของซีเรีย

    กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรียต้องสูญเสียอย่างหนัก ซึ่งต่างกับเหตุการณ์ในลาตาเกีย เมืองชายฝั่งตะวันตกของซีเรีย รัฐบาลซีเรียยังมีความได้เปรียบอยู่บ้าง แต่ในทิศทางอาเลปโป ซึ่งเป็นนักรบ SDF นั้นผ่านการรบมาอย่างโชกโชนและปฏิบัติการจากตำแหน่งที่มีป้อมปราการ ทำให้การเผชิญหน้ามีความเข้มข้นมากขึ้น
    สถานการณ์ในซีเรียยังคงวุ่นวายอย่างหนัก ล่าสุดกองกำลัง SDF (Syrian Democratic Forces) เปิดฉากต่อต้านกองกำลังของรัฐบาลซีเรียในเขตอัลอัชราฟียะห์ของเมืองอาเลปโป ทางตอนเหนือของซีเรีย กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรียต้องสูญเสียอย่างหนัก ซึ่งต่างกับเหตุการณ์ในลาตาเกีย เมืองชายฝั่งตะวันตกของซีเรีย รัฐบาลซีเรียยังมีความได้เปรียบอยู่บ้าง แต่ในทิศทางอาเลปโป ซึ่งเป็นนักรบ SDF นั้นผ่านการรบมาอย่างโชกโชนและปฏิบัติการจากตำแหน่งที่มีป้อมปราการ ทำให้การเผชิญหน้ามีความเข้มข้นมากขึ้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน

    การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน
    - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ
    - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้
    - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype

    ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย
    - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft

    Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19

    การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The last days of Skype: Time to switch to Teams – or say goodbye
    As the sun slowly sets Skype, some two decades after it started a revolution in online communication, owner Microsoft is pointing the way to its remaining loyal users: Teams.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • 📌 วิธีจัดการกับ "ความรู้สึก" ตามหลักพุทธศาสตร์

    (บทความโดย ดังตฤณ)


    ---

    🔍 1️⃣ ปัญหาที่ยากที่สุดในชีวิต: "จัดการกับความรู้สึก"

    😣 แม้จะเป็นคนที่ใช้เหตุผลเก่ง

    เข้าใจทุกอย่างทางทฤษฎี

    แต่หากควบคุมความรู้สึกไม่ได้ ก็ยังทุกข์อยู่ดี


    💡 ดังนั้น ทางออกคือการเข้าใจและรู้ทัน "ความรู้สึก" ของตัวเองให้ได้


    ---

    🧘‍♂️ 2️⃣ แนวทาง "เจริญสติ" เพื่อจัดการความรู้สึก

    ☸ พุทธศาสนาดั้งเดิมสอนให้โฟกัสที่ "ภายใน"
    ✅ เน้นให้เห็น ความจริงของกายและใจ
    ✅ เมื่อเข้าใจว่ากาย-ใจไม่ใช่ตัวตน ความทุกข์ก็ลดลง
    ✅ ฝึก รู้ความรู้สึกในปัจจุบันให้ได้ ไม่ใช่คิดไปข้างหน้า หรือจมอยู่กับอดีต

    🌀 ตัวอย่างการฝึกผ่านลมหายใจ

    หายใจเข้า → รู้ว่าอึดอัดหรือสบาย

    หายใจออก → รู้ว่าเป็นสุขหรือเป็นทุกข์


    🎯 เมื่อสามารถ "รู้" ได้ตามจริง
    ✅ จะเข้าใจว่า สุขและทุกข์ไม่เที่ยง
    ✅ จะไม่ "จม" ไปกับความสุขหรือความทุกข์
    ✅ จะ รู้จริง ไม่ใช่แค่จำหลักการพุทธ


    ---

    🔄 3️⃣ เมื่อเข้าใจจริง: คุณจะ "ไม่รู้สึกว่าสูญเสียอะไรเลย"

    💡 เพราะทุกอย่างที่มีอยู่ ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ

    ทุกข์ที่รู้สึกว่าหนัก

    ความรู้สึกสูญเสีย

    ความกลัว หรือความยึดติด
    🎯 ล้วนเป็นของชั่วคราวที่มาผ่านไป


    💭 เมื่อเห็นแจ้งด้วยใจจริงๆ
    ✅ จะรู้สึกว่า "ไม่มีอะไรจริงเลย"
    ✅ จิตใจจะ เบาขึ้น ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
    ✅ ไม่ต้องดิ้นรน "รักษา" หรือ "ไขว่คว้า" สิ่งที่ไม่จีรัง


    ---

    🎯 4️⃣ สรุป: วิธีจัดการความรู้สึกให้ใจ "ปล่อยวาง" ได้

    ✅ 1. ฝึกสังเกตความรู้สึกของตัวเอง
    🚫 ไม่ตัดสินว่าดีหรือร้าย แค่รู้ทัน

    ✅ 2. ใช้ลมหายใจเป็นจุดสังเกต
    🌬️ หายใจเข้า = อึดอัด หรือสบาย
    🌬️ หายใจออก = สุข หรือทุกข์

    ✅ 3. เข้าใจว่าสุขและทุกข์ "ไม่เที่ยง"
    🔄 วันนี้ทุกข์ พรุ่งนี้อาจสุข
    🔄 วันนี้สุข อีกไม่นานอาจกลับทุกข์

    ✅ 4. เมื่อเข้าใจแล้ว จะ "ไม่รู้สึกว่าสูญเสียอะไรเลย"
    🔓 เพราะ ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ

    💡 สุดท้าย คนที่ "รู้สึกจริงๆ" ว่าไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง
    ✅ จะ ปล่อยวางได้ตั้งแต่วันนี้
    ✅ จนกระทั่งถึง วันสุดท้ายของชีวิต!

    📌 วิธีจัดการกับ "ความรู้สึก" ตามหลักพุทธศาสตร์ (บทความโดย ดังตฤณ) --- 🔍 1️⃣ ปัญหาที่ยากที่สุดในชีวิต: "จัดการกับความรู้สึก" 😣 แม้จะเป็นคนที่ใช้เหตุผลเก่ง เข้าใจทุกอย่างทางทฤษฎี แต่หากควบคุมความรู้สึกไม่ได้ ก็ยังทุกข์อยู่ดี 💡 ดังนั้น ทางออกคือการเข้าใจและรู้ทัน "ความรู้สึก" ของตัวเองให้ได้ --- 🧘‍♂️ 2️⃣ แนวทาง "เจริญสติ" เพื่อจัดการความรู้สึก ☸ พุทธศาสนาดั้งเดิมสอนให้โฟกัสที่ "ภายใน" ✅ เน้นให้เห็น ความจริงของกายและใจ ✅ เมื่อเข้าใจว่ากาย-ใจไม่ใช่ตัวตน ความทุกข์ก็ลดลง ✅ ฝึก รู้ความรู้สึกในปัจจุบันให้ได้ ไม่ใช่คิดไปข้างหน้า หรือจมอยู่กับอดีต 🌀 ตัวอย่างการฝึกผ่านลมหายใจ หายใจเข้า → รู้ว่าอึดอัดหรือสบาย หายใจออก → รู้ว่าเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ 🎯 เมื่อสามารถ "รู้" ได้ตามจริง ✅ จะเข้าใจว่า สุขและทุกข์ไม่เที่ยง ✅ จะไม่ "จม" ไปกับความสุขหรือความทุกข์ ✅ จะ รู้จริง ไม่ใช่แค่จำหลักการพุทธ --- 🔄 3️⃣ เมื่อเข้าใจจริง: คุณจะ "ไม่รู้สึกว่าสูญเสียอะไรเลย" 💡 เพราะทุกอย่างที่มีอยู่ ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ ทุกข์ที่รู้สึกว่าหนัก ความรู้สึกสูญเสีย ความกลัว หรือความยึดติด 🎯 ล้วนเป็นของชั่วคราวที่มาผ่านไป 💭 เมื่อเห็นแจ้งด้วยใจจริงๆ ✅ จะรู้สึกว่า "ไม่มีอะไรจริงเลย" ✅ จิตใจจะ เบาขึ้น ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น ✅ ไม่ต้องดิ้นรน "รักษา" หรือ "ไขว่คว้า" สิ่งที่ไม่จีรัง --- 🎯 4️⃣ สรุป: วิธีจัดการความรู้สึกให้ใจ "ปล่อยวาง" ได้ ✅ 1. ฝึกสังเกตความรู้สึกของตัวเอง 🚫 ไม่ตัดสินว่าดีหรือร้าย แค่รู้ทัน ✅ 2. ใช้ลมหายใจเป็นจุดสังเกต 🌬️ หายใจเข้า = อึดอัด หรือสบาย 🌬️ หายใจออก = สุข หรือทุกข์ ✅ 3. เข้าใจว่าสุขและทุกข์ "ไม่เที่ยง" 🔄 วันนี้ทุกข์ พรุ่งนี้อาจสุข 🔄 วันนี้สุข อีกไม่นานอาจกลับทุกข์ ✅ 4. เมื่อเข้าใจแล้ว จะ "ไม่รู้สึกว่าสูญเสียอะไรเลย" 🔓 เพราะ ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ 💡 สุดท้าย คนที่ "รู้สึกจริงๆ" ว่าไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ✅ จะ ปล่อยวางได้ตั้งแต่วันนี้ ✅ จนกระทั่งถึง วันสุดท้ายของชีวิต!
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • วันนี้อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวานอยู่นะ แต่ก็พยายามควบคุมความคิดลบๆที่วนเวียนอยู่ในหัวจนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ไปเยอะมาก จนผมต้องยอมรับความจริงในแบบของลูกผู้ชาย เป็นลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วจริงๆ แต่คนรอบข้างได้ยินแล้วคนรอบข้างคงรู้สึกเคืองขุ่นกับผมอยู่ แต่ผมไม่คิดขุ่นเคืองเพราะตัวผมก็ฝืดเคืองต้องขอญาติใจดีอีกคน ได้ทั้งเงินได้ทั้งกำลังใจ บางทีสมองชอบคิดลบมันคิดไว พอจะคิดบวก คิดจะตั้งสมาธิกับสิ่งที่ควรทำมันคิดช้า ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและไมน์เซ็ตใหม่ นึกว่าจะริบหรี่ลงแล้วนะ สอบท้องถิ่น ในที่สุดก็ได้วุฒิการศึกษาและได้วิธีคัดทะเบียนบ้านออกสำเนาสักที เห้อ ผ่านพ้นช่วงนี้ไปสักที
    วันนี้อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวานอยู่นะ แต่ก็พยายามควบคุมความคิดลบๆที่วนเวียนอยู่ในหัวจนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ไปเยอะมาก จนผมต้องยอมรับความจริงในแบบของลูกผู้ชาย เป็นลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วจริงๆ แต่คนรอบข้างได้ยินแล้วคนรอบข้างคงรู้สึกเคืองขุ่นกับผมอยู่ แต่ผมไม่คิดขุ่นเคืองเพราะตัวผมก็ฝืดเคืองต้องขอญาติใจดีอีกคน ได้ทั้งเงินได้ทั้งกำลังใจ บางทีสมองชอบคิดลบมันคิดไว พอจะคิดบวก คิดจะตั้งสมาธิกับสิ่งที่ควรทำมันคิดช้า ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและไมน์เซ็ตใหม่ นึกว่าจะริบหรี่ลงแล้วนะ สอบท้องถิ่น ในที่สุดก็ได้วุฒิการศึกษาและได้วิธีคัดทะเบียนบ้านออกสำเนาสักที เห้อ ผ่านพ้นช่วงนี้ไปสักที
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า ขีปนาวุธ Iskander โจมตีตำแหน่งหลบซ่อนของ จรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS ในทิศทาง Novonikolayevka (ห่างไปทางตะวันออก 26 กม. จาก Nikolayev)

    จากการโจมตีดังกล่าว ฝ่ายยูเครนได้รับความสูญเสียดังต่อไปนี้: รถขนถ่าย HIMARS พร้อมกระสุน และทหารยูเครน จำนวน 10 นาย
    กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า ขีปนาวุธ Iskander โจมตีตำแหน่งหลบซ่อนของ จรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS ในทิศทาง Novonikolayevka (ห่างไปทางตะวันออก 26 กม. จาก Nikolayev) จากการโจมตีดังกล่าว ฝ่ายยูเครนได้รับความสูญเสียดังต่อไปนี้: รถขนถ่าย HIMARS พร้อมกระสุน และทหารยูเครน จำนวน 10 นาย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 277 Views 18 0 Reviews
  • 33 ปี โศกนาฏกรรมตายหมู่! ทัวร์แสวงบุญเกาะสีชัง เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร เสียชีวิต 119 ศพ รอดแค่ 15 คน

    ⏳ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดสลด หนึ่งในอุบัติเหตุทางน้ำ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในไทย

    🔴 เมื่อเส้นทางบุญกลายเป็นเส้นทางมรณะ วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2535 กลายเป็นวันที่ชาวไทยไม่มีวันลืม 💔 วันนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปยังเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าร่วมพิธีนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นทุกปีโ ดยเฉพาะช่วงตรุษจีน แต่การเดินทางกลับของกรุ๊ปทัวร์แสวงบุญ กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย 😢

    ⛴️ เรือโดยสาร "นาวาประทีป 111" ที่บรรทุกนักแสวงบุญกว่า 134 คน ต้องจบเส้นทางลงกลางทะเล เมื่อถูก เรือบรรทุกน้ำมัน "บีพีพี 9" พุ่งชนอย่างจัง ทำให้เรือแตกเป็นสองท่อน และจมลงสู้ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว

    เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 119 ศพ รอดชีวิตเพียง 15 คน เท่านั้น!

    📍 จุดเกิดเหตุบริเวณกลางอ่าวไทย ห่างจากฝั่งศรีราชา 7 กิโลเมตร ⚠️

    ⏳ ไทม์ไลน์ของโศกนาฏกรรม
    ✅ 04.00 น. "นาวาประทีป 111" ออกเดินทางจากเกาะสีชัง มุ่งหน้าสู่ฝั่งศรีราชา
    ✅ 04.15 น. "บีพีพี 9" เรือบรรทุกน้ำมันกำลังแล่นมา ใกล้เส้นทางเรือโดยสาร
    ✅ 04.20 น. บีพีพี 9 เปิดหวูดเตือน 🚨 แต่ "นาวาประทีป 111" ยังคงเร่งเครื่อง
    ✅ 04.22 น. การชนเกิดขึ้น! เรือนาวาประทีป 111 ถูกชนตรงกลางลำจน ขาดออกเป็นสองท่อน
    ✅ 04.23 น. เรือจมลงภายใน ไม่กี่นาที

    💔 ผู้โดยสารส่วนใหญ่ติดอยู่ในห้องโดยสารชั้นล่าง และไม่สามารถหนีออกมาได้ เพราะหน้าต่างกระจกปิดแน่น

    🛑 สาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรม
    🚢 ข้อผิดพลาดของคนขับเรือ วันนั้นกัปตันเรือตัวจริงไม่มาทำงาน 😡 นายช่างเครื่องเป็นคนขับแทน แต่ไม่มีทักษะเพียงพอ ตัดสินใจเร่งเครื่องผ่านหน้าเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้พุ่งชนเต็มแรง

    ⛑️ มาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำ เรือไม่มีเสื้อชูชีพเพียงพอ ❌ ไม่มีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
    ผู้โดยสารส่วนใหญ่นอนหลับ และไม่รู้ตัวทันทีที่เกิดเหตุ

    💤 3ขับเรือโดยประมาท + อาจเกิดหลับใน คนขับเรือเกิดอาการหลับใน หรือขาดประสบการณ์
    ไม่มีการใช้สัญญาณเตือนที่เหมาะสม ระหว่างสองเรือ

    🚨 ความผิดพลาดในการสื่อสาร แม้เรือบรรทุกน้ำมันจะเปิดหวูดเตือน แต่เรือโดยสารกลับไม่ตอบสนองทัน อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนผู้โดยสาร ให้เตรียมพร้อมหนี

    🆘 ผู้โดยสารที่รอดชีวิต ถูกช่วยขึ้นจากทะเล โดยเรือชาวประมงและกองทัพเรือ 🛳️ ทีมกู้ภัยต้องใช้เวลาหลายวัน กว่าจะกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดขึ้นมาได้ 💔 สร้างความเศร้าโศกให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ

    🚢 มาตรการความปลอดภัย ที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์
    🏛️ หลังเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยออกมาตรการ ควบคุมเรือโดยสารเข้มงวดขึ้น
    ✅ ต้องมีเสื้อชูชีพ เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร
    ✅ กัปตันเรือต้องมีใบอนุญาตขับเรือ ที่ได้รับการรับรอง
    ✅ เพิ่มกฎควบคุมการใช้สัญญาณเตือน ระหว่างเรือขนาดใหญ่
    ✅ เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย ของเรือโดยสารก่อนออกเดินทาง

    📌 บทเรียนจากโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม
    🔹 "ความประมาท" อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
    🔹 การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลต่อชีวิตของผู้โดยสาร
    🔹 เสื้อชูชีพ = ชีวิต ผู้โดยสารทุกคน ควรได้รับอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่เพียงพอ
    🔹 คนขับเรือต้องมีทักษะ และความรับผิดชอบสูง ห้ามให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับแทนเด็ดขาด

    📍 แม้เวลาจะผ่านไป ความสูญเสียยังคงอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาแล้วกว่า 33 ปี แต่ยังคงเป็น เครื่องเตือนใจ ให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญ ของความปลอดภัยทางน้ำ ⛴️

    🏝️ "เกาะสีชัง" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม แต่ทุกคนที่เดินทาง ควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเสมอ เพราะความประมาทเพียงเสี้ยววินาที อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 081450 มี.ค. 2568

    📢 #โศกนาฏกรรมเรือโดยสาร #เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร #119ศพเรือล่ม #ความปลอดภัยทางน้ำ #33ปีแห่งความสูญเสีย #เกาะสีชัง #เรืออับปาง #อุบัติเหตุทางน้ำ #อย่าประมาท #ความปลอดภัยต้องมาก่อน
    33 ปี โศกนาฏกรรมตายหมู่! ทัวร์แสวงบุญเกาะสีชัง เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร เสียชีวิต 119 ศพ รอดแค่ 15 คน ⏳ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดสลด หนึ่งในอุบัติเหตุทางน้ำ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในไทย 🔴 เมื่อเส้นทางบุญกลายเป็นเส้นทางมรณะ วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2535 กลายเป็นวันที่ชาวไทยไม่มีวันลืม 💔 วันนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปยังเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าร่วมพิธีนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นทุกปีโ ดยเฉพาะช่วงตรุษจีน แต่การเดินทางกลับของกรุ๊ปทัวร์แสวงบุญ กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย 😢 ⛴️ เรือโดยสาร "นาวาประทีป 111" ที่บรรทุกนักแสวงบุญกว่า 134 คน ต้องจบเส้นทางลงกลางทะเล เมื่อถูก เรือบรรทุกน้ำมัน "บีพีพี 9" พุ่งชนอย่างจัง ทำให้เรือแตกเป็นสองท่อน และจมลงสู้ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 119 ศพ รอดชีวิตเพียง 15 คน เท่านั้น! 📍 จุดเกิดเหตุบริเวณกลางอ่าวไทย ห่างจากฝั่งศรีราชา 7 กิโลเมตร ⚠️ ⏳ ไทม์ไลน์ของโศกนาฏกรรม ✅ 04.00 น. "นาวาประทีป 111" ออกเดินทางจากเกาะสีชัง มุ่งหน้าสู่ฝั่งศรีราชา ✅ 04.15 น. "บีพีพี 9" เรือบรรทุกน้ำมันกำลังแล่นมา ใกล้เส้นทางเรือโดยสาร ✅ 04.20 น. บีพีพี 9 เปิดหวูดเตือน 🚨 แต่ "นาวาประทีป 111" ยังคงเร่งเครื่อง ✅ 04.22 น. การชนเกิดขึ้น! เรือนาวาประทีป 111 ถูกชนตรงกลางลำจน ขาดออกเป็นสองท่อน ✅ 04.23 น. เรือจมลงภายใน ไม่กี่นาที 💔 ผู้โดยสารส่วนใหญ่ติดอยู่ในห้องโดยสารชั้นล่าง และไม่สามารถหนีออกมาได้ เพราะหน้าต่างกระจกปิดแน่น 🛑 สาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรม 🚢 ข้อผิดพลาดของคนขับเรือ วันนั้นกัปตันเรือตัวจริงไม่มาทำงาน 😡 นายช่างเครื่องเป็นคนขับแทน แต่ไม่มีทักษะเพียงพอ ตัดสินใจเร่งเครื่องผ่านหน้าเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้พุ่งชนเต็มแรง ⛑️ มาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำ เรือไม่มีเสื้อชูชีพเพียงพอ ❌ ไม่มีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้โดยสารส่วนใหญ่นอนหลับ และไม่รู้ตัวทันทีที่เกิดเหตุ 💤 3ขับเรือโดยประมาท + อาจเกิดหลับใน คนขับเรือเกิดอาการหลับใน หรือขาดประสบการณ์ ไม่มีการใช้สัญญาณเตือนที่เหมาะสม ระหว่างสองเรือ 🚨 ความผิดพลาดในการสื่อสาร แม้เรือบรรทุกน้ำมันจะเปิดหวูดเตือน แต่เรือโดยสารกลับไม่ตอบสนองทัน อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนผู้โดยสาร ให้เตรียมพร้อมหนี 🆘 ผู้โดยสารที่รอดชีวิต ถูกช่วยขึ้นจากทะเล โดยเรือชาวประมงและกองทัพเรือ 🛳️ ทีมกู้ภัยต้องใช้เวลาหลายวัน กว่าจะกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดขึ้นมาได้ 💔 สร้างความเศร้าโศกให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ 🚢 มาตรการความปลอดภัย ที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ 🏛️ หลังเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยออกมาตรการ ควบคุมเรือโดยสารเข้มงวดขึ้น ✅ ต้องมีเสื้อชูชีพ เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร ✅ กัปตันเรือต้องมีใบอนุญาตขับเรือ ที่ได้รับการรับรอง ✅ เพิ่มกฎควบคุมการใช้สัญญาณเตือน ระหว่างเรือขนาดใหญ่ ✅ เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย ของเรือโดยสารก่อนออกเดินทาง 📌 บทเรียนจากโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม 🔹 "ความประมาท" อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 🔹 การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลต่อชีวิตของผู้โดยสาร 🔹 เสื้อชูชีพ = ชีวิต ผู้โดยสารทุกคน ควรได้รับอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่เพียงพอ 🔹 คนขับเรือต้องมีทักษะ และความรับผิดชอบสูง ห้ามให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับแทนเด็ดขาด 📍 แม้เวลาจะผ่านไป ความสูญเสียยังคงอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาแล้วกว่า 33 ปี แต่ยังคงเป็น เครื่องเตือนใจ ให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญ ของความปลอดภัยทางน้ำ ⛴️ 🏝️ "เกาะสีชัง" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม แต่ทุกคนที่เดินทาง ควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเสมอ เพราะความประมาทเพียงเสี้ยววินาที อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 081450 มี.ค. 2568 📢 #โศกนาฏกรรมเรือโดยสาร #เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร #119ศพเรือล่ม #ความปลอดภัยทางน้ำ #33ปีแห่งความสูญเสีย #เกาะสีชัง #เรืออับปาง #อุบัติเหตุทางน้ำ #อย่าประมาท #ความปลอดภัยต้องมาก่อน
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • กองทัพยูเครนอาจจำเป็นต้องถอนกำลังออกจากเขตเคิร์สก์ (Kursk) ดินแดนรัสเซีย ภายใน 2 สัปดาห์

    การโจมตีเคิร์สก์ เกิดประโยชน์แค่เพียงการโฆษณาชวนเชื่อให้กับผู้สนับสนุนชาวตะวันตกเท่านั้น แต่ต้องแลกมาด้วยต้นทุนมหาศาล เนื่องจากการสูญเสียกำลังพลและอาวุธสมัยใหม่อย่างมากมายของยูเครน ในขณะที่กองกำลังรัสเซียกลับรุกคืบไปในทิศทางอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม

    ยูเครนมีทางเลือกว่าจะเพิ่มกำลังเข้าไปอีกเพื่อความพยายามยืนหยัดครั้งสุดท้าย หรือจะเลือกถอนกำลังกลับออกไป
    กองทัพยูเครนอาจจำเป็นต้องถอนกำลังออกจากเขตเคิร์สก์ (Kursk) ดินแดนรัสเซีย ภายใน 2 สัปดาห์ การโจมตีเคิร์สก์ เกิดประโยชน์แค่เพียงการโฆษณาชวนเชื่อให้กับผู้สนับสนุนชาวตะวันตกเท่านั้น แต่ต้องแลกมาด้วยต้นทุนมหาศาล เนื่องจากการสูญเสียกำลังพลและอาวุธสมัยใหม่อย่างมากมายของยูเครน ในขณะที่กองกำลังรัสเซียกลับรุกคืบไปในทิศทางอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม ยูเครนมีทางเลือกว่าจะเพิ่มกำลังเข้าไปอีกเพื่อความพยายามยืนหยัดครั้งสุดท้าย หรือจะเลือกถอนกำลังกลับออกไป
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • 5 ปี สิ้นผู้พิพากษา "คณากร" เสียงสะท้อนการแทรกแซงศาล คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน

    📌 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม 5 ปี "คณากร เพียรชนะ" ผู้พิพากษาที่มุ่งมั่นเรียกร้องความยุติธรรม แต่กลับจบชีวิต ด้วยปลายกระบอกปืนของตนเอง

    🔍 คดีที่สะเทือนศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมไทย เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2563 นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาลจังหวัดยะลา ได้ลั่นไกปืนปลิดชีพตนเอง ที่บ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในวัยเพียง 50 ปี การตัดสินใจครั้งสุดท้ายของผู้พิพากษาคณากรไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมของชีวิต แต่ยังเป็นเสียงสะท้อนถึงปัญหา การแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมไทย ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

    ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาคณากร เคยพยายามยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดีที่ 4 ศาลจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562 หลังจากอ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 5 ในคดีความมั่นคง และเปิดเผยว่าถูก "แทรกแซงให้เปลี่ยนคำพิพากษา" โดยฝ่ายบริหารศาล

    🛑 "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน"

    วลีนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรมของตุลาการ ซึ่งยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยมา 5 ปี

    ⚖️ จากห้องพิจารณาคดี สู่การสูญเสีย
    📅 4 ตุลาคม 2562 ผู้พิพากษาคณากร ยิงตัวเองครั้งแรกในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดยะลา
    📌 ผู้พิพากษาคณากร พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 3428/2561 ซึ่งจำเลย 5 คน ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ
    📌 พยานหลักฐานอ่อน ไม่มีน้ำหนักพอจะลงโทษ จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด
    📌 แต่ก่อนจะอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาคณากรได้รับคำสั่งลับ ให้แก้ไขคำพิพากษา ตัดสินลงโทษจำเลย 3 คนให้ประหารชีวิต และอีก 2 คนให้จำคุกตลอดชีวิต
    📌 ผู้พิพากษาคณากรปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง และเผยแพร่คำแถลงการณ์ 25 หน้า ผ่านโซเชียลมีเดีย
    📌 หลังอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาคณากรยิงตัวเองบริเวณหัวใจ ต่อหน้าผู้เข้าฟังในห้องพิจารณาคดี แต่โชคดีรอดชีวิต

    🗣 "หากยอมแก้คำพิพากษา ก็เท่ากับว่า ผมไม่ได้เป็นผู้พิพากษาอีกต่อไป" คณากร เพียรชนะ จากคำแถลงการณ์ก่อนยิงตัวเอง

    📅 7 มีนาคม 2563 ผู้พิพากษาคณากรปลิดชีพตนเองที่บ้านพัก
    📌 ผู้พิพากษาคณากรถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ และอยู่ระหว่างการสอบสวนวินัยร้ายแรง
    📌 เช้าวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563 เวลา 08.00 น. ผู้พิพากษาคณากรเขียนจดหมายลา 2 หน้า และตัดสินใจ ยิงตัวเองเป็นครั้งที่สอง
    📌 ภรรยากลับบ้านมาประสบเหตุ จึงเเจ้งรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ด เเต่เมื่อพบว่าอาการหนัก จึงทำการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแมคคอร์มิค กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
    📌 งานศพจัดขึ้นที่สุสานสันกู่เหล็ก เชียงใหม่ ท่ามกลางผู้พิพากษา และประชาชนร่วมไว้อาลัย

    😔 เหตุการณ์นี้ได้ตอกย้ำ ถึงความสิ้นหวังของผู้พิพากษา ในระบบศาลไทย

    🔍 การแทรกแซงตุลาการ ปัญหาที่ผู้พิพากษาคณากรต่อสู้ หนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญ คือ
    📌 การตรวจร่างคำพิพากษา ก่อนอ่านให้คู่ความฟัง
    📌 การแทรกแซงคำพิพากษา โดยอธิบดีผู้พิพากษาภาค
    📌 ความไม่เป็นธรรมทางการเงิน แก่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น

    📢 "ศาลต้องเป็นอิสระจากอำนาจทางการเมือง และอำนาจบริหารภายในองค์กร" นี่คือสิ่งที่ผู้พิพากษาคณากร พยายามต่อสู้มาตลอดชีวิต

    📌 กรณีคดี 3428/2561 ที่ศาลจังหวัดยะลา ในคำแถลงการณ์ ผู้พิพากษาคณากรอ้างว่า อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ได้สั่งให้เปลี่ยนคำพิพากษา โดยระบุว่า "หากยืนยันจะยกฟ้อง ก็ให้ขังจำเลยระหว่างอุทธรณ์"

    📌 พยานหลักฐานทั้งหมดเกิดขึ้น ระหว่างที่จำเลยถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรม

    5 ปีผ่านไป คำถามยังคงอยู่ กระบวนการยุติธรรมของไทย มีอิสระจริงหรือไม่?

    📜 คำแถลงการณ์สุดท้ายของผู้พิพากษาคณากร ก่อนตัดสินใจจบชีวิต ได้เขียนจดหมายลาฉบับสุดท้าย ซึ่งมีใจความว่า

    📝 "ผมทำเพื่อความยุติธรรม ไม่เสียใจที่ได้กระทำ"
    📝 "ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า ผู้พิพากษาที่ดี ต้องมีอิสระในการตัดสิน"
    📝 "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน"

    📊 เสียงสะท้อนจากสังคมและผลกระทบ
    📌 การประท้วงทั่วประเทศ
    📌 การเรียกร้องให้ปฏิรูประบบศาล
    📌 การตื่นตัวของประชาชน เรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

    ⏳ 5 ปีต่อมา ระบบศาลไทยเปลี่ยนไปหรือยัง?
    📌 การตรวจร่างคำพิพากษายังคงมีอยู่
    📌 ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นยังคงเผชิญแรงกดดัน ในการพิจารณาคดี
    📌 กระบวนการยุติธรรมของไทย ยังคงถูกตั้งคำถาม

    😔 5 ปีผ่านไป ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข

    📌 ชื่อของผู้พิพากษาคณากร ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ ของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
    📌 เรื่องราวของผู้พิพากษาคณากร สะท้อนถึงปัญหาในกระบวนการยุติธรรมไทย ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
    📌 "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" จะยังคงเป็นวลีที่สังคมต้องจดจำ

    📢 "5 ปีผ่านไป อย่าให้เสียงของผู้พิพากษาคณากรถูกลืม"

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 070830 มี.ค. 2568

    #️⃣ #คณากรเพียรชนะ #คืนความยุติธรรมให้ประชาชน #ผู้พิพากษา #ปฏิรูประบบศาล #แทรกแซงตุลาการ #ความยุติธรรม #ศาลไทย #สิทธิมนุษยชน #ThailandJustice #FreeJudiciary
    5 ปี สิ้นผู้พิพากษา "คณากร" เสียงสะท้อนการแทรกแซงศาล คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน 📌 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม 5 ปี "คณากร เพียรชนะ" ผู้พิพากษาที่มุ่งมั่นเรียกร้องความยุติธรรม แต่กลับจบชีวิต ด้วยปลายกระบอกปืนของตนเอง 🔍 คดีที่สะเทือนศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมไทย เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2563 นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาลจังหวัดยะลา ได้ลั่นไกปืนปลิดชีพตนเอง ที่บ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในวัยเพียง 50 ปี การตัดสินใจครั้งสุดท้ายของผู้พิพากษาคณากรไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมของชีวิต แต่ยังเป็นเสียงสะท้อนถึงปัญหา การแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมไทย ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาคณากร เคยพยายามยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดีที่ 4 ศาลจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562 หลังจากอ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 5 ในคดีความมั่นคง และเปิดเผยว่าถูก "แทรกแซงให้เปลี่ยนคำพิพากษา" โดยฝ่ายบริหารศาล 🛑 "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" วลีนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรมของตุลาการ ซึ่งยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยมา 5 ปี ⚖️ จากห้องพิจารณาคดี สู่การสูญเสีย 📅 4 ตุลาคม 2562 ผู้พิพากษาคณากร ยิงตัวเองครั้งแรกในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดยะลา 📌 ผู้พิพากษาคณากร พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 3428/2561 ซึ่งจำเลย 5 คน ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ 📌 พยานหลักฐานอ่อน ไม่มีน้ำหนักพอจะลงโทษ จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด 📌 แต่ก่อนจะอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาคณากรได้รับคำสั่งลับ ให้แก้ไขคำพิพากษา ตัดสินลงโทษจำเลย 3 คนให้ประหารชีวิต และอีก 2 คนให้จำคุกตลอดชีวิต 📌 ผู้พิพากษาคณากรปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง และเผยแพร่คำแถลงการณ์ 25 หน้า ผ่านโซเชียลมีเดีย 📌 หลังอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาคณากรยิงตัวเองบริเวณหัวใจ ต่อหน้าผู้เข้าฟังในห้องพิจารณาคดี แต่โชคดีรอดชีวิต 🗣 "หากยอมแก้คำพิพากษา ก็เท่ากับว่า ผมไม่ได้เป็นผู้พิพากษาอีกต่อไป" คณากร เพียรชนะ จากคำแถลงการณ์ก่อนยิงตัวเอง 📅 7 มีนาคม 2563 ผู้พิพากษาคณากรปลิดชีพตนเองที่บ้านพัก 📌 ผู้พิพากษาคณากรถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ และอยู่ระหว่างการสอบสวนวินัยร้ายแรง 📌 เช้าวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563 เวลา 08.00 น. ผู้พิพากษาคณากรเขียนจดหมายลา 2 หน้า และตัดสินใจ ยิงตัวเองเป็นครั้งที่สอง 📌 ภรรยากลับบ้านมาประสบเหตุ จึงเเจ้งรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ด เเต่เมื่อพบว่าอาการหนัก จึงทำการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแมคคอร์มิค กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา 📌 งานศพจัดขึ้นที่สุสานสันกู่เหล็ก เชียงใหม่ ท่ามกลางผู้พิพากษา และประชาชนร่วมไว้อาลัย 😔 เหตุการณ์นี้ได้ตอกย้ำ ถึงความสิ้นหวังของผู้พิพากษา ในระบบศาลไทย 🔍 การแทรกแซงตุลาการ ปัญหาที่ผู้พิพากษาคณากรต่อสู้ หนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญ คือ 📌 การตรวจร่างคำพิพากษา ก่อนอ่านให้คู่ความฟัง 📌 การแทรกแซงคำพิพากษา โดยอธิบดีผู้พิพากษาภาค 📌 ความไม่เป็นธรรมทางการเงิน แก่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น 📢 "ศาลต้องเป็นอิสระจากอำนาจทางการเมือง และอำนาจบริหารภายในองค์กร" นี่คือสิ่งที่ผู้พิพากษาคณากร พยายามต่อสู้มาตลอดชีวิต 📌 กรณีคดี 3428/2561 ที่ศาลจังหวัดยะลา ในคำแถลงการณ์ ผู้พิพากษาคณากรอ้างว่า อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ได้สั่งให้เปลี่ยนคำพิพากษา โดยระบุว่า "หากยืนยันจะยกฟ้อง ก็ให้ขังจำเลยระหว่างอุทธรณ์" 📌 พยานหลักฐานทั้งหมดเกิดขึ้น ระหว่างที่จำเลยถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรม 5 ปีผ่านไป คำถามยังคงอยู่ กระบวนการยุติธรรมของไทย มีอิสระจริงหรือไม่? 📜 คำแถลงการณ์สุดท้ายของผู้พิพากษาคณากร ก่อนตัดสินใจจบชีวิต ได้เขียนจดหมายลาฉบับสุดท้าย ซึ่งมีใจความว่า 📝 "ผมทำเพื่อความยุติธรรม ไม่เสียใจที่ได้กระทำ" 📝 "ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า ผู้พิพากษาที่ดี ต้องมีอิสระในการตัดสิน" 📝 "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" 📊 เสียงสะท้อนจากสังคมและผลกระทบ 📌 การประท้วงทั่วประเทศ 📌 การเรียกร้องให้ปฏิรูประบบศาล 📌 การตื่นตัวของประชาชน เรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ⏳ 5 ปีต่อมา ระบบศาลไทยเปลี่ยนไปหรือยัง? 📌 การตรวจร่างคำพิพากษายังคงมีอยู่ 📌 ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นยังคงเผชิญแรงกดดัน ในการพิจารณาคดี 📌 กระบวนการยุติธรรมของไทย ยังคงถูกตั้งคำถาม 😔 5 ปีผ่านไป ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข 📌 ชื่อของผู้พิพากษาคณากร ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ ของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม 📌 เรื่องราวของผู้พิพากษาคณากร สะท้อนถึงปัญหาในกระบวนการยุติธรรมไทย ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข 📌 "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" จะยังคงเป็นวลีที่สังคมต้องจดจำ 📢 "5 ปีผ่านไป อย่าให้เสียงของผู้พิพากษาคณากรถูกลืม" ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 070830 มี.ค. 2568 #️⃣ #คณากรเพียรชนะ #คืนความยุติธรรมให้ประชาชน #ผู้พิพากษา #ปฏิรูประบบศาล #แทรกแซงตุลาการ #ความยุติธรรม #ศาลไทย #สิทธิมนุษยชน #ThailandJustice #FreeJudiciary
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • 4/
    รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

    มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ
    ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย


    ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    4/ รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 347 Views 16 0 Reviews
  • 3/
    รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

    มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ
    ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย


    ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    3/ รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 332 Views 16 0 Reviews
  • 2/
    รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

    มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ
    ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย


    ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    2/ รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 308 Views 15 0 Reviews
  • 1/
    รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

    มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ
    ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย


    ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    1/ รัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบคลัสเตอร์ โจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในภูมิภาคครีววีรีห์ (Kryvyi Rih) ของยูเครน ส่งผลให้ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย มีรายงานว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักของทหารรับจ้างและที่ปรึกษาชาวต่างชาติ ข้อมูลล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บรวมกว่า 30 ราย ทางด้านเซเลนสกี ตีหน้าเศร้าเล่าว่าบุคคลที่สูญเสียในครั้งนี้ล้วนเป็น "อาสาสมัครจากองค์กรด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้แก่ พลเมืองของยูเครน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร"
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ก็รีแลกซ์ให้อิ่มก่อนค่อยลุยทำในสิ่งที่ตัวเองพยายามจะทำ แต่ดูยูทูบเบอร์สายตลกทำรายการ ไม่ลองไม่รู้ ดินเกษตรบ้านแพ้วของป๋าเด่นที่ล่วงลับไป ผมรู้สึกมีความสุข ฮีลใจไปเยอะเลย ผ่อนคล้าย แต่คนในครอบครัวจ้องจะพูดจาดูถูก แทงใจดำ หยามน้ำหน้ามากเท่าไหร่ ผมคงจะไม่อ่อนไหวตามคำพูดเหล่านั้น ที่ผ่านมาผมฟังคำเหล่านี้และนอยด์ ดิ่ง เครียด คิดมาก หงุดหงิดมามากพอละ แต่เสพบันเทิงที่เคยเสพอย่างหนักอย่างตลก เล่นเกมส์ ก็อิ่มสุขแล้ว ผมเองก็เคยมูจนเสียทุกอย่างที่เคยเคียงข้างเรา ไม่ว่าจะเพื่อน สังคมส่วนน้อยบางสังคม หรือแม้กระทั่วโอกาส แต่ผมไม่ขยับสร้างงานสร้างโอกาส กลับกลายเป็นว่าผมต้องสูญเสียโอกาสไป 2 ครั้งแล้วก็ตาม เซฟโซนคืออยู่คนเดียว ย้ายอยู่คนละที่ บางทีอยากย้ายไปอยู่พัทยา ไม่ก็พัทลุง เพราะชอบอาหารพัทลุงมากครับ
    วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ก็รีแลกซ์ให้อิ่มก่อนค่อยลุยทำในสิ่งที่ตัวเองพยายามจะทำ แต่ดูยูทูบเบอร์สายตลกทำรายการ ไม่ลองไม่รู้ ดินเกษตรบ้านแพ้วของป๋าเด่นที่ล่วงลับไป ผมรู้สึกมีความสุข ฮีลใจไปเยอะเลย ผ่อนคล้าย แต่คนในครอบครัวจ้องจะพูดจาดูถูก แทงใจดำ หยามน้ำหน้ามากเท่าไหร่ ผมคงจะไม่อ่อนไหวตามคำพูดเหล่านั้น ที่ผ่านมาผมฟังคำเหล่านี้และนอยด์ ดิ่ง เครียด คิดมาก หงุดหงิดมามากพอละ แต่เสพบันเทิงที่เคยเสพอย่างหนักอย่างตลก เล่นเกมส์ ก็อิ่มสุขแล้ว ผมเองก็เคยมูจนเสียทุกอย่างที่เคยเคียงข้างเรา ไม่ว่าจะเพื่อน สังคมส่วนน้อยบางสังคม หรือแม้กระทั่วโอกาส แต่ผมไม่ขยับสร้างงานสร้างโอกาส กลับกลายเป็นว่าผมต้องสูญเสียโอกาสไป 2 ครั้งแล้วก็ตาม เซฟโซนคืออยู่คนเดียว ย้ายอยู่คนละที่ บางทีอยากย้ายไปอยู่พัทยา ไม่ก็พัทลุง เพราะชอบอาหารพัทลุงมากครับ
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
More Results