• 🧵การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก เป็นคำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ท่ามกลางอันตรายของสงครามโลก – นักวิเคราะห์

    การโจมตีฐานทัพของยูเครนโดยใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิกรุ่นใหม่เป็น “คำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ฅ,” โรบินสัน ฟารินาซโซ, อดีตเจ้าหน้าที่บราซิล, กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️เขาย้ำว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้ข้าม “เส้นแดง” ด้วยการอนุญาตให้ระบอบเคียฟโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธพิสัยไกลของอเมริกา “มอสโกตระหนักดีว่าการโจมตีประเภทนี้ซึ่งยากในทางเทคนิคนั้น สามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนาโต้เท่านั้น, ในกรณีนี้คือสหรัฐฯ,” เขากล่าว
    .
    นักวิเคราะห์คนอื่นๆเห็นด้วย:
    .
    🔸วอชิงตันกำลัง “กระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของความขัดแย้งไปอย่างสิ้นเชิง,” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหาร ริคาร์โด คาบรัล เน้นย้ำ

    🔸การที่สหรัฐฯอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลเป็น “การรุกทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อทดสอบความอดทนของมอสโกว, นักวิเคราะห์ชาวเวเนซุเอลา วลาดิมีร์ อาเดรียนซา กล่าว, และเสริมว่าขั้นตอนอันตรายของความขัดแย้งมีต้นตอมาจาก “ความกระหายอย่างแรงกล้าของกองทัพ, การเงิน และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ”
    .
    🔸มอสโกมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องตัวเองจาก “การกระทำอันชั่วร้ายและเป็นอาชญากรรม” ของนาโต้, อุมแบร์โต โมราเลส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งปวยบลา ประเทศเม็กซิโก กล่าว

    🔸ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึง "พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและไม่รับผิดชอบของชาติตะวันตก ซึ่งคุกคามการทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง," นักรัฐศาสตร์ชาวเลบานอน ฮัสซัน ฮมาเดห์ เน้นย้ำ, และเสริมว่า "โลกต้องลุกขึ้นต่อต้านคนชั่วร้ายเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายโลก และการตอบสนองต้องเหมาะสมกับการกระทำของพวกเขา"
    .
    🔸การที่วอชิงตันอนุมัติให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯนั้น มีจุดประสงค์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อง “ดำเนินการท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์,” ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเวเนซุเอลา วิลเมอร์ เดปาบลอส กล่าว

    🔸เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการถ่ายโอนอำนาจ, ไบเดนกำลังพยายามทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปในการแก้ไขวิกฤตยูเครน, นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอิหร่าน Emad Abshenas เชื่อเช่นนั้น

    🔸คำสั่งของปูตินในการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ถือเป็น "คำเตือนสำหรับประเทศสมาชิก NATO ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามโลกที่เพิ่มมากขึ้น," ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน Sima Pingbang อธิบาย และกล่าวต่อไปว่าระบอบการปกครองเคียฟได้กลายมาเป็น "อุปสรรคต่อสันติภาพ" และ "Biden และ Zelensky ไม่สามารถยอมรับชัยชนะของมอสโกได้"
    .
    🧵RUSSIA’S USE OF ORESHNIK MISSILE IS A GRAVE WARNING TO NATO AMID DANGER OF A WORLD WAR – analysts

    Russia’s strike on a Ukrainian defense facility using its new Oreshnik hypersonic medium-range ballistic missile is a “a serious warning to NATO,” Robinson Farinazzo, a retired Brazilian officer, told Sputnik.

    🗨️He underscored that US President Joe Biden crossed "a red line" by authorizing the Kiev regime to strike Russia with long-range American weapons. "Moscow is perfectly aware that this type of attack, technically difficult, can only be carried out with the support of NATO, in this case the US," he said.
    .
    OTHER ANALYSTS AGREE:
    .
    🔸Washington is “provoking an escalation that completely changes the nature of the conflict,” military history expert Ricardo Cabral emphasized.

    🔸The US allowing Kiev to use long-range weapons is "a continued psychological offensive" to test Moscow's tolerance, Venezuelan analyst Vladimir Adrianza noted, adding that the dangerous stage of the conflict stems from the “voracious appetite of the US military, financial and technological complex.”
    .
    🔸Moscow has every right to defend itself against NATO's “sinister and criminal actions," noted Humberto Morales, professor at the Autonomous University of Puebla, Mexico.

    🔸President Vladimir Putin has clearly conveyed the message that current events on the international arena demonstrate the “suicidal and irresponsible behavior by the West which threatens total destruction,” Lebanese political scientist Hassan Hmadeh underscored, adding, "The world must stand up to these evil people who are determined to destroy the planet, and the response must be commensurate with their actions."
    .
    🔸Washington's approval for Kiev to use US-made missiles is intended to force Donald Trump’s future administration to “operate in geopolitical chaos,” Venezuelan international relations expert Wilmer Depablos said.

    🔸With less than two months to go before the transfer of power, Biden is trying to make it as difficult as possible for the next president to resolve the Ukraine crisis, Iranian political scientist Emad Abshenas believes.

    🔸Putin's order to use the Oreshnik missile is “a warning to NATO countries amid the growing threat of a world war,” Chinese pundit Sima Pingbang explained, going on to say that the Kiev regime has become “an obstacle to peace” and that “Biden and Zelensky are unable to accept Moscow's victory."
    .
    8:59 PM · Nov 22, 2024 · 9,427 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859959796624982449
    🧵การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก เป็นคำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ท่ามกลางอันตรายของสงครามโลก – นักวิเคราะห์ การโจมตีฐานทัพของยูเครนโดยใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิกรุ่นใหม่เป็น “คำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ฅ,” โรบินสัน ฟารินาซโซ, อดีตเจ้าหน้าที่บราซิล, กล่าวกับสปุตนิก 🗨️เขาย้ำว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้ข้าม “เส้นแดง” ด้วยการอนุญาตให้ระบอบเคียฟโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธพิสัยไกลของอเมริกา “มอสโกตระหนักดีว่าการโจมตีประเภทนี้ซึ่งยากในทางเทคนิคนั้น สามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนาโต้เท่านั้น, ในกรณีนี้คือสหรัฐฯ,” เขากล่าว . นักวิเคราะห์คนอื่นๆเห็นด้วย: . 🔸วอชิงตันกำลัง “กระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของความขัดแย้งไปอย่างสิ้นเชิง,” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหาร ริคาร์โด คาบรัล เน้นย้ำ 🔸การที่สหรัฐฯอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลเป็น “การรุกทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อทดสอบความอดทนของมอสโกว, นักวิเคราะห์ชาวเวเนซุเอลา วลาดิมีร์ อาเดรียนซา กล่าว, และเสริมว่าขั้นตอนอันตรายของความขัดแย้งมีต้นตอมาจาก “ความกระหายอย่างแรงกล้าของกองทัพ, การเงิน และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ” . 🔸มอสโกมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องตัวเองจาก “การกระทำอันชั่วร้ายและเป็นอาชญากรรม” ของนาโต้, อุมแบร์โต โมราเลส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งปวยบลา ประเทศเม็กซิโก กล่าว 🔸ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึง "พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและไม่รับผิดชอบของชาติตะวันตก ซึ่งคุกคามการทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง," นักรัฐศาสตร์ชาวเลบานอน ฮัสซัน ฮมาเดห์ เน้นย้ำ, และเสริมว่า "โลกต้องลุกขึ้นต่อต้านคนชั่วร้ายเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายโลก และการตอบสนองต้องเหมาะสมกับการกระทำของพวกเขา" . 🔸การที่วอชิงตันอนุมัติให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯนั้น มีจุดประสงค์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อง “ดำเนินการท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์,” ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเวเนซุเอลา วิลเมอร์ เดปาบลอส กล่าว 🔸เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการถ่ายโอนอำนาจ, ไบเดนกำลังพยายามทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปในการแก้ไขวิกฤตยูเครน, นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอิหร่าน Emad Abshenas เชื่อเช่นนั้น 🔸คำสั่งของปูตินในการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ถือเป็น "คำเตือนสำหรับประเทศสมาชิก NATO ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามโลกที่เพิ่มมากขึ้น," ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน Sima Pingbang อธิบาย และกล่าวต่อไปว่าระบอบการปกครองเคียฟได้กลายมาเป็น "อุปสรรคต่อสันติภาพ" และ "Biden และ Zelensky ไม่สามารถยอมรับชัยชนะของมอสโกได้" . 🧵RUSSIA’S USE OF ORESHNIK MISSILE IS A GRAVE WARNING TO NATO AMID DANGER OF A WORLD WAR – analysts Russia’s strike on a Ukrainian defense facility using its new Oreshnik hypersonic medium-range ballistic missile is a “a serious warning to NATO,” Robinson Farinazzo, a retired Brazilian officer, told Sputnik. 🗨️He underscored that US President Joe Biden crossed "a red line" by authorizing the Kiev regime to strike Russia with long-range American weapons. "Moscow is perfectly aware that this type of attack, technically difficult, can only be carried out with the support of NATO, in this case the US," he said. . OTHER ANALYSTS AGREE: . 🔸Washington is “provoking an escalation that completely changes the nature of the conflict,” military history expert Ricardo Cabral emphasized. 🔸The US allowing Kiev to use long-range weapons is "a continued psychological offensive" to test Moscow's tolerance, Venezuelan analyst Vladimir Adrianza noted, adding that the dangerous stage of the conflict stems from the “voracious appetite of the US military, financial and technological complex.” . 🔸Moscow has every right to defend itself against NATO's “sinister and criminal actions," noted Humberto Morales, professor at the Autonomous University of Puebla, Mexico. 🔸President Vladimir Putin has clearly conveyed the message that current events on the international arena demonstrate the “suicidal and irresponsible behavior by the West which threatens total destruction,” Lebanese political scientist Hassan Hmadeh underscored, adding, "The world must stand up to these evil people who are determined to destroy the planet, and the response must be commensurate with their actions." . 🔸Washington's approval for Kiev to use US-made missiles is intended to force Donald Trump’s future administration to “operate in geopolitical chaos,” Venezuelan international relations expert Wilmer Depablos said. 🔸With less than two months to go before the transfer of power, Biden is trying to make it as difficult as possible for the next president to resolve the Ukraine crisis, Iranian political scientist Emad Abshenas believes. 🔸Putin's order to use the Oreshnik missile is “a warning to NATO countries amid the growing threat of a world war,” Chinese pundit Sima Pingbang explained, going on to say that the Kiev regime has become “an obstacle to peace” and that “Biden and Zelensky are unable to accept Moscow's victory." . 8:59 PM · Nov 22, 2024 · 9,427 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859959796624982449
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๐๒๔, ประธานาธิบดีปูตินได้ระบุเงื่อนไขของรัสเซียสำหรับสันติภาพในยูเครนอย่างชัดเจน โดยมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:

    ๑. ยูเครนต้องยกเลิกการยื่นเป็นสมาชิกนาโตและถอนกำลังออกจากภูมิภาคโดเนตสค์, ลูฮันสค์, เคอร์ซอน, และซาโปโรซีทั้งหมด เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการเริ่มการเจรจาสันติภาพ

    ๒. ยูเครนต้องยอมรับสถานะเป็นกลาง, ไม่-ฝักใฝ่ฝ่ายใด, และไม่มี-อาวุธนิวเคลียร์, ตลอดจนต้องผ่านกระบวนการปลดอาวุธและการกำจัดนาซี

    ๓. สิทธิ, เสรีภาพ, และผลประโยชน์ของพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน ต้องได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่

    ๔. ไครเมีย, เซวาสโทโพล, สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ และลูฮันสค์, และภูมิภาคเคอร์ซอนและซาโปโรซี ต้องได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย

    ๕. เมื่อมีการจัดทำข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้ายอย่างเป็นทางการในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลผูกพัน, การคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตกทั้งหมดจะต้องยกเลิก

    ๖. รัสเซียกำลังหาทางยุติความขัดแย้งอย่างถาวร, ไม่ใช่การยุติความขัดแย้งแบบแช่แข็ง

    ๗. เงื่อนไขของรัสเซียจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ขณะที่สถานการณ์ของยูเครนในสนามรบยังคงแย่ลงเรื่อยๆ
    .
    On June 14, 2024, President Putin explicitly outlined Russia’s terms for peace in Ukraine. The key points are as follows:

    1. Ukraine must rescind its NATO membership bid and withdraw its forces from the entirety of the Donetsk, Lugansk, Kherson, and Zaporozhye regions as a precondition for initiating peace talks.

    2. Ukraine must adopt a neutral, non-aligned, and non-nuclear status, as well as undergo demilitarization and denazification.

    3. The rights, freedoms, and interests of Russian-speaking citizens in Ukraine must be fully safeguarded.

    4. Crimea, Sevastopol, the Donetsk and Lugansk People’s Republics, and the Kherson and Zaporozhye regions must be recognized as part of the Russian Federation.

    5. Upon formalization of a final peace agreement in binding international treaties, all Western sanctions against Russia must be lifted.

    6. Russia is seeking a permanent resolution, not a frozen conflict.

    7. Russia’s terms will evolve over time as Ukraine’s situation on the battlefield continues to deteriorate.

    🔗 Full transcript: http://en.kremlin.ru/events/president/news/74285
    .
    Last edited 10:59 AM · Nov 21, 2024 · 27.1K Views
    https://x.com/PutinDirect/status/1859446518509642210
    เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๐๒๔, ประธานาธิบดีปูตินได้ระบุเงื่อนไขของรัสเซียสำหรับสันติภาพในยูเครนอย่างชัดเจน โดยมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้: ๑. ยูเครนต้องยกเลิกการยื่นเป็นสมาชิกนาโตและถอนกำลังออกจากภูมิภาคโดเนตสค์, ลูฮันสค์, เคอร์ซอน, และซาโปโรซีทั้งหมด เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการเริ่มการเจรจาสันติภาพ ๒. ยูเครนต้องยอมรับสถานะเป็นกลาง, ไม่-ฝักใฝ่ฝ่ายใด, และไม่มี-อาวุธนิวเคลียร์, ตลอดจนต้องผ่านกระบวนการปลดอาวุธและการกำจัดนาซี ๓. สิทธิ, เสรีภาพ, และผลประโยชน์ของพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน ต้องได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ ๔. ไครเมีย, เซวาสโทโพล, สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ และลูฮันสค์, และภูมิภาคเคอร์ซอนและซาโปโรซี ต้องได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ๕. เมื่อมีการจัดทำข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้ายอย่างเป็นทางการในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลผูกพัน, การคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตกทั้งหมดจะต้องยกเลิก ๖. รัสเซียกำลังหาทางยุติความขัดแย้งอย่างถาวร, ไม่ใช่การยุติความขัดแย้งแบบแช่แข็ง ๗. เงื่อนไขของรัสเซียจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ขณะที่สถานการณ์ของยูเครนในสนามรบยังคงแย่ลงเรื่อยๆ . On June 14, 2024, President Putin explicitly outlined Russia’s terms for peace in Ukraine. The key points are as follows: 1. Ukraine must rescind its NATO membership bid and withdraw its forces from the entirety of the Donetsk, Lugansk, Kherson, and Zaporozhye regions as a precondition for initiating peace talks. 2. Ukraine must adopt a neutral, non-aligned, and non-nuclear status, as well as undergo demilitarization and denazification. 3. The rights, freedoms, and interests of Russian-speaking citizens in Ukraine must be fully safeguarded. 4. Crimea, Sevastopol, the Donetsk and Lugansk People’s Republics, and the Kherson and Zaporozhye regions must be recognized as part of the Russian Federation. 5. Upon formalization of a final peace agreement in binding international treaties, all Western sanctions against Russia must be lifted. 6. Russia is seeking a permanent resolution, not a frozen conflict. 7. Russia’s terms will evolve over time as Ukraine’s situation on the battlefield continues to deteriorate. 🔗 Full transcript: http://en.kremlin.ru/events/president/news/74285 . Last edited 10:59 AM · Nov 21, 2024 · 27.1K Views https://x.com/PutinDirect/status/1859446518509642210
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 897 Views 9 0 Reviews
  • ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี
    .
    การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก
    .
    "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร
    .
    "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป
    .
    "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว
    .
    ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก
    .
    ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย
    .
    "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857
    ..............
    Sondhi X
    ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี . การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก . "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร . "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป . "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว . ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก . ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย . "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 680 Views 0 Reviews
  • ปูตินได้เคยประกาศไว้ว่า เขาเปิดรับข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน หากทรัมป์เป็นผู้นำการเจรจาสันติภาพ

    ชัดขึ้นตามลำดับ

    Douglas Macgregor
    .
    BREAKING: Putin has purportedly stated he is open to a ceasefire deal in Ukraine if the Peace Talks are led by Trump.

    Developing.
    .
    4:55 AM · Nov 21, 2024 · 139.7K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1859355021906935822
    ปูตินได้เคยประกาศไว้ว่า เขาเปิดรับข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน หากทรัมป์เป็นผู้นำการเจรจาสันติภาพ ชัดขึ้นตามลำดับ Douglas Macgregor . BREAKING: Putin has purportedly stated he is open to a ceasefire deal in Ukraine if the Peace Talks are led by Trump. Developing. . 4:55 AM · Nov 21, 2024 · 139.7K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1859355021906935822
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • ฮังการีเตรียมติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศใกล้ชายแดนยูเครน - รัฐมนตรีกลาโหม

    ฮังการีเตรียมติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบควบคุมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ, ซึ่งติดกับยูเครน, คริสตอฟ ซาลาย-โบบรอฟนิคสกี รัฐมนตรีกลาโหมฮังการี กล่าว

    "ในการเตรียมความพร้อมสำหรับทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้น, ผมได้สั่งให้ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบควบคุมที่ซื้อมาใหม่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ... ด้วยความช่วยเหลือของระบบเหล่านี้, เราสามารถปรับปรุงความแม่นยำในการตรวจจับในเขตควบคุมน่านฟ้าและลดเวลาในการตอบสนองได้," ซาลาย-โบบรอฟนิคสกี กล่าวในข้อความวิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธ

    มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ยูเครนได้รับอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้เพื่อโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย และการเปลี่ยนแปลงในหลักคำสอนด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย, เขากล่าว, พร้อมเสริมว่าบูดาเปสต์ "ยังคงเชื่อว่าสันติภาพจะบรรลุได้ด้วยการทูต ไม่ใช่ด้วยกำลังทหาร"

    เมื่อวันพุธ, นายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออร์บัน ของฮังการี ได้เรียกประชุมสภากลาโหมของประเทศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักคำสอนด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียเมื่อไม่นานนี้ หลังจากที่รัฐตะวันตกบางแห่งอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลเพื่อโจมตีในดินแดนของรัสเซีย
    .
    HUNGARY TO DEPLOY AIR DEFENSE SYSTEMS NEAR BORDER WITH UKRAINE - DEFENSE MINISTER

    Hungary will deploy air defense and control systems in the country's northeast, which borders Ukraine, Hungarian Defense Minister Kristof Szalay-Bobrovniczky said.

    "In preparations for everything that might happen, I have ordered to install in the northeastern parts of the country newly purchased air defense and control systems... With the help of these systems, we can improve detection accuracy in the airspace control zone and reduce the time of response," Szalay-Bobrovniczky said in a video message posted on social media on Wednesday.

    The measure was taken after Ukraine received permission to use West-provided missiles for strikes deep into Russian territory and changes in Russian nuclear doctrine, he said, adding that Budapest "continues to believe that peace will be achieved through diplomacy and not through military force."

    On Wednesday, Hungarian Prime Minister Viktor Orban convened the country's defense council over the recent update of Russia's nuclear doctrine after some Western states authorized Ukraine to use long-range missiles for strikes into Russian territory.
    .
    7:01 AM · Nov 21, 2024 · 735 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859386655339078102
    ฮังการีเตรียมติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศใกล้ชายแดนยูเครน - รัฐมนตรีกลาโหม ฮังการีเตรียมติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบควบคุมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ, ซึ่งติดกับยูเครน, คริสตอฟ ซาลาย-โบบรอฟนิคสกี รัฐมนตรีกลาโหมฮังการี กล่าว "ในการเตรียมความพร้อมสำหรับทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้น, ผมได้สั่งให้ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบควบคุมที่ซื้อมาใหม่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ... ด้วยความช่วยเหลือของระบบเหล่านี้, เราสามารถปรับปรุงความแม่นยำในการตรวจจับในเขตควบคุมน่านฟ้าและลดเวลาในการตอบสนองได้," ซาลาย-โบบรอฟนิคสกี กล่าวในข้อความวิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธ มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ยูเครนได้รับอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้เพื่อโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย และการเปลี่ยนแปลงในหลักคำสอนด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย, เขากล่าว, พร้อมเสริมว่าบูดาเปสต์ "ยังคงเชื่อว่าสันติภาพจะบรรลุได้ด้วยการทูต ไม่ใช่ด้วยกำลังทหาร" เมื่อวันพุธ, นายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออร์บัน ของฮังการี ได้เรียกประชุมสภากลาโหมของประเทศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักคำสอนด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียเมื่อไม่นานนี้ หลังจากที่รัฐตะวันตกบางแห่งอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลเพื่อโจมตีในดินแดนของรัสเซีย . HUNGARY TO DEPLOY AIR DEFENSE SYSTEMS NEAR BORDER WITH UKRAINE - DEFENSE MINISTER Hungary will deploy air defense and control systems in the country's northeast, which borders Ukraine, Hungarian Defense Minister Kristof Szalay-Bobrovniczky said. "In preparations for everything that might happen, I have ordered to install in the northeastern parts of the country newly purchased air defense and control systems... With the help of these systems, we can improve detection accuracy in the airspace control zone and reduce the time of response," Szalay-Bobrovniczky said in a video message posted on social media on Wednesday. The measure was taken after Ukraine received permission to use West-provided missiles for strikes deep into Russian territory and changes in Russian nuclear doctrine, he said, adding that Budapest "continues to believe that peace will be achieved through diplomacy and not through military force." On Wednesday, Hungarian Prime Minister Viktor Orban convened the country's defense council over the recent update of Russia's nuclear doctrine after some Western states authorized Ukraine to use long-range missiles for strikes into Russian territory. . 7:01 AM · Nov 21, 2024 · 735 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859386655339078102
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
  • "อี้ แทนคุณ" แฉหมอเจ้าของ รพ.ชื่อดัง หลอกคนมีอันจะกินลงทุนทิพย์ อ้างทำ Wellness Center ครบวงจร อึ้งความเสียหายพุ่ง 8-9 พันล้าน เตือนถ้าเชื่อใน "บุญ" เอาเงินมาคืนผู้เสียหายเถอะ ชี้ เงินที่เอาไปเป็นเงินบาปทั้งนั้น ไม่ใช้ชาตินี้ก็ต้องใช้ชาติหน้า แย้มข้อมูลเยอะมาก ขอเวลานิด เหตุอาจกระเทือนความเชื่อมั่นครั้งใหญ่

    วันนี้(20 พ.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนกว่า 30 ราย กรณีนายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง หลอกให้ลงทุนมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้าน โดยมีพฤติการณ์หลอกลงทุนทำ Wellness โดยระดมทุนจากประเทศหนึ่งจากตะวันออกกลางมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านบาท มีการระบุว่าจะยกระดับ Wellness ของไทย และอ้างว่าต้องมีเงินค้ำสัญญาก่อน ซึ่งผู้เสียหายเป็นหมอ เป็นผู้มีอันจะกิน เฉลี่ยแล้ว 50 ล้านบาทขึ้นไปในแต่ละราย ตนคิดว่ากรณีนี้ใหญ่มาก เท่าที่ทราบมีการระดมทุนไปถึง 8,000-9,000 ล้านบาทแล้ว

    "ท่านมีโมเดล มีแผนชัดเจนว่าท่านจะทำอย่างไร ทำตึกอย่างไร ทำครบวงจรอย่างไร แต่ว่าอันนี้ก็ไม่อยากจะไปกล่าวหาท่าน หากท่านไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจ ลักษณะแบบนี้ ร่องรอยไม่ชอบมาพากลแบบนี้ ก็เชื่อได้ว่าท่านอาจจะตั้งใจที่จะปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลด้วยหรือไม่ตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบดู แต่ว่าอย่างไรก็ดีที่มีข่าวว่าท่านออกไปต่างประเทศแล้ว ผมก็ติดตามอยู่จากผู้เสียหายจำนวนมาก ก็เป็นไปได้ เพราะติดต่ออะไรไม่ได้แล้ว" นายแทนคุณ กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000111525

    #MGROnline #อี้แทนคุณ #WellnessCenter
    "อี้ แทนคุณ" แฉหมอเจ้าของ รพ.ชื่อดัง หลอกคนมีอันจะกินลงทุนทิพย์ อ้างทำ Wellness Center ครบวงจร อึ้งความเสียหายพุ่ง 8-9 พันล้าน เตือนถ้าเชื่อใน "บุญ" เอาเงินมาคืนผู้เสียหายเถอะ ชี้ เงินที่เอาไปเป็นเงินบาปทั้งนั้น ไม่ใช้ชาตินี้ก็ต้องใช้ชาติหน้า แย้มข้อมูลเยอะมาก ขอเวลานิด เหตุอาจกระเทือนความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ • วันนี้(20 พ.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนกว่า 30 ราย กรณีนายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง หลอกให้ลงทุนมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้าน โดยมีพฤติการณ์หลอกลงทุนทำ Wellness โดยระดมทุนจากประเทศหนึ่งจากตะวันออกกลางมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านบาท มีการระบุว่าจะยกระดับ Wellness ของไทย และอ้างว่าต้องมีเงินค้ำสัญญาก่อน ซึ่งผู้เสียหายเป็นหมอ เป็นผู้มีอันจะกิน เฉลี่ยแล้ว 50 ล้านบาทขึ้นไปในแต่ละราย ตนคิดว่ากรณีนี้ใหญ่มาก เท่าที่ทราบมีการระดมทุนไปถึง 8,000-9,000 ล้านบาทแล้ว • "ท่านมีโมเดล มีแผนชัดเจนว่าท่านจะทำอย่างไร ทำตึกอย่างไร ทำครบวงจรอย่างไร แต่ว่าอันนี้ก็ไม่อยากจะไปกล่าวหาท่าน หากท่านไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจ ลักษณะแบบนี้ ร่องรอยไม่ชอบมาพากลแบบนี้ ก็เชื่อได้ว่าท่านอาจจะตั้งใจที่จะปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลด้วยหรือไม่ตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบดู แต่ว่าอย่างไรก็ดีที่มีข่าวว่าท่านออกไปต่างประเทศแล้ว ผมก็ติดตามอยู่จากผู้เสียหายจำนวนมาก ก็เป็นไปได้ เพราะติดต่ออะไรไม่ได้แล้ว" นายแทนคุณ กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000111525 • #MGROnline #อี้แทนคุณ #WellnessCenter
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • เที่ยว #จอร์เจีย ต้อนรับ #ปีใหม่ 6วัน 4คืน🎉🔥
    ตะลุยหุบเขาคอเคซัส ดินแดนสองทวีป 😍

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 ถนนคนเดินชาเดอนี่
    📍 อ่างเก็บน้ำชินวาลี
    📍 ป้อมอนานูรี
    📍 อนุสาวรีย์มิตรภาพ รัสเซีย - จอร์เจีย
    📍 นั่งรถ 4WD ชมโบสถ์เกอร์เกตี้
    📍 เมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค
    📍 พิพิธภัณฑ์สตาลิน
    📍 สวนบอร์โจมี
    📍 มหาวิหารจวารี
    📍 อุทยานประวัติศาสตร์จอร์เจีย
    📍 ถนนคนเดิน Rustaveli Avenue
    📍 โบสถ์ทรินิตี้
    📍 สะพานแห่งสันติภาพ
    📍 นั่งกระเช้าชมป้อมนาริกาลา
    📍 อนุสาวรีย์พระแม่จอร์เจีย
    📍 โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี
    📍 East Point Mall

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จอร์เจีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จอร์เจีย ต้อนรับ #ปีใหม่ 6วัน 4คืน🎉🔥 ตะลุยหุบเขาคอเคซัส ดินแดนสองทวีป 😍 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ถนนคนเดินชาเดอนี่ 📍 อ่างเก็บน้ำชินวาลี 📍 ป้อมอนานูรี 📍 อนุสาวรีย์มิตรภาพ รัสเซีย - จอร์เจีย 📍 นั่งรถ 4WD ชมโบสถ์เกอร์เกตี้ 📍 เมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค 📍 พิพิธภัณฑ์สตาลิน 📍 สวนบอร์โจมี 📍 มหาวิหารจวารี 📍 อุทยานประวัติศาสตร์จอร์เจีย 📍 ถนนคนเดิน Rustaveli Avenue 📍 โบสถ์ทรินิตี้ 📍 สะพานแห่งสันติภาพ 📍 นั่งกระเช้าชมป้อมนาริกาลา 📍 อนุสาวรีย์พระแม่จอร์เจีย 📍 โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี 📍 East Point Mall รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จอร์เจีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 688 Views 48 1 Reviews
  • อิสราเอลโจมตีทางอากาศย่านที่พักอาศัยที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงเบรุต ใกล้ๆ พวกอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตสำคัญๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน
    .
    สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกถล่มย่านโซแกก อัล-แบลต ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำเลบานอน อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอน
    .
    กองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนระบุว่า นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน
    .
    ปัจจุบัน หลายบริเวณทางตอนกลางของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงย่านโซแกก อัล-แบลต กลายเป็นที่หลบภัยของชาวเลบานอนราว 1 ล้านคนที่หลบหนีออกมาจากทางภาคใต้ของเลบานอน ตลอดจนชานเมืองด้านใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างกองทหารอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์
    .
    สำหรับเป้าหมายการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ของรัฐยิวยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่อิสราเอลโจมตีตอนกลางของเบรุตหลังจากหยุดมากว่าเดือน โดยในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) มีการโจมตีย่านราส เอล-นาบา ทำให้โมฮัมเหม็ด อาฟิก โฆษกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมเหยื่ออื่นๆ อีก 6 คน ที่รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่ง และวันเดียวกันนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากการโจมตีในย่านการค้ามาร์ เอเลียส
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลหลายสิบลูกเมื่อวันจันทร์ ทำให้ที่เมืองเชฟาราม ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บอีก 10 คน นอกจากนั้น ย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ก็ถูกโจมตีเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บ 5 คน
    .
    ภายหลังการโจมตีกลางกรุงเบรุตเมื่อวันจันทร์ไม่นาน นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ให้ทุกประเทศและผู้มีอำนาจตัดสินใจยุติการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายมากมายและเกิดความเสียหายรุนแรง รวมทั้งปฏิบัติตามมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น
    .
    มติดังกล่าวกำหนดให้กองกำลังทุกฝ่ายถอนออกจากชายแดนทางใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล ยกเว้นกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นและกองทัพเลบานอน และขณะนี้อเมริกานำเอามตินี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหยุดยิง 60 วันที่กำลังเร่งผลักดันเพื่อยุติการยิงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยืดเยื้อมา 13 เดือน
    .
    รายงานคาดว่า นาบีฮ์ เบอร์รี ผู้ไกล่เกลี่ยของฮิซบอลเลาะห์ จะพบกับอามอส ฮอชสตีน ผู้แทนของอเมริกาที่เดินทางถึงกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันอังคาร (19)
    .
    มอสตาฟา เบย์รัม รัฐมนตรีแรงงานเลบานอนที่ได้พบเบอร์รีเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า เลบานอนมองแง่ดีกับข้อเสนอล่าสุดของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิสราเอลยืนกรานว่า ต้องมีการรับประกันว่า ตนจะสามารถดำเนินปฏิบัติการทางทหารกับฮิซบอลเลาะห์ต่อไปหากจำเป็น ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า เลบานอนจะยอมรับ
    .
    เดวิด เมนเซอร์ โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ ระหว่างที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ จัดการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังแถลงต่อรัฐสภาว่า แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลจะยังคงโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไปเมื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก
    .
    อนึ่ง นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอน พร้อมประกาศกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
    .
    ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,510 คนนับจากที่ฮิซบอลเลาะห์ปะทะกับอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทว่า ส่วนใหญ่เสียชีวิตนับจากปลายเดือนกันยายน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111449
    ..............
    อิสราเอลโจมตีทางอากาศย่านที่พักอาศัยที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงเบรุต ใกล้ๆ พวกอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตสำคัญๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน . สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกถล่มย่านโซแกก อัล-แบลต ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำเลบานอน อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอน . กองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนระบุว่า นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน . ปัจจุบัน หลายบริเวณทางตอนกลางของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงย่านโซแกก อัล-แบลต กลายเป็นที่หลบภัยของชาวเลบานอนราว 1 ล้านคนที่หลบหนีออกมาจากทางภาคใต้ของเลบานอน ตลอดจนชานเมืองด้านใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างกองทหารอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ . สำหรับเป้าหมายการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ของรัฐยิวยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า . เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่อิสราเอลโจมตีตอนกลางของเบรุตหลังจากหยุดมากว่าเดือน โดยในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) มีการโจมตีย่านราส เอล-นาบา ทำให้โมฮัมเหม็ด อาฟิก โฆษกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมเหยื่ออื่นๆ อีก 6 คน ที่รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่ง และวันเดียวกันนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากการโจมตีในย่านการค้ามาร์ เอเลียส . ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลหลายสิบลูกเมื่อวันจันทร์ ทำให้ที่เมืองเชฟาราม ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บอีก 10 คน นอกจากนั้น ย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ก็ถูกโจมตีเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บ 5 คน . ภายหลังการโจมตีกลางกรุงเบรุตเมื่อวันจันทร์ไม่นาน นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ให้ทุกประเทศและผู้มีอำนาจตัดสินใจยุติการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายมากมายและเกิดความเสียหายรุนแรง รวมทั้งปฏิบัติตามมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น . มติดังกล่าวกำหนดให้กองกำลังทุกฝ่ายถอนออกจากชายแดนทางใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล ยกเว้นกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นและกองทัพเลบานอน และขณะนี้อเมริกานำเอามตินี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหยุดยิง 60 วันที่กำลังเร่งผลักดันเพื่อยุติการยิงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยืดเยื้อมา 13 เดือน . รายงานคาดว่า นาบีฮ์ เบอร์รี ผู้ไกล่เกลี่ยของฮิซบอลเลาะห์ จะพบกับอามอส ฮอชสตีน ผู้แทนของอเมริกาที่เดินทางถึงกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันอังคาร (19) . มอสตาฟา เบย์รัม รัฐมนตรีแรงงานเลบานอนที่ได้พบเบอร์รีเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า เลบานอนมองแง่ดีกับข้อเสนอล่าสุดของอเมริกา . อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิสราเอลยืนกรานว่า ต้องมีการรับประกันว่า ตนจะสามารถดำเนินปฏิบัติการทางทหารกับฮิซบอลเลาะห์ต่อไปหากจำเป็น ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า เลบานอนจะยอมรับ . เดวิด เมนเซอร์ โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ ระหว่างที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ จัดการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังแถลงต่อรัฐสภาว่า แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลจะยังคงโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไปเมื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก . อนึ่ง นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอน พร้อมประกาศกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน . ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,510 คนนับจากที่ฮิซบอลเลาะห์ปะทะกับอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทว่า ส่วนใหญ่เสียชีวิตนับจากปลายเดือนกันยายน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111449 ..............
    Like
    Love
    6
    0 Comments 0 Shares 716 Views 0 Reviews
  • ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน
    .
    ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก
    .
    เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย
    .
    เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว
    .
    ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416
    ..............
    Sondhi X
    ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน . ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก . เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์ . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน . ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย . ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย . เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว . ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 703 Views 0 Reviews
  • องค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA แถลงว่า ขบวนคอนวอยรถบรรทุกบรรเทาทุกข์ขนอาหารจำนวน 109 คันของ UN โดนปล้นสะดมอย่างป่าเถื่อน โดยกลุ่มกองกำลังปิดหน้า คนขับรถบรรทุกโดนปืนจ่อทางใต้ของกาซา ขณะที่กาตาร์ประกาศ สำนักงานฮามาสในโดฮาปิดแค่ชั่วคราวส่วนตัวแทนเจรจาฮามาสถูกสั่งออกนอกประเทศ
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(19 พ.ย)ว่า ขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์ร่วม 109 คันขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติถูกปล้นสะดมวันเสาร์(16) ด้วยความป่าเถื่อน
    .
    และพบว่ารถบรรทุก 97 คันจากทั้งหมดสูญหายและคนขับถูกใช้ปืนจ่อสั่งให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมาหลังข้ามจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลเข้าสู่ทางใต้ของเขตฉวนกาซา
    .
    อ้างอิงการรายงานจากรอยเตอร์ ลุยส์ เวตริดจ์ ( Louise Wateridge )เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงของ UNRWA เปิดเผยว่า ขบวนคอนวอบขนอาหารบรรเทาทุกข์ถูกสั่งโดยอิสราเอลให้ออกเดินทางในช่วงเวลาการแจ้งอย่างกระชั้นชิดเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจากจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม
    .
    การปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์สหประชาชาติล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    .
    เวตริดจ์กล่าวยืนยันว่า รถบรรทุก 98 คันจากทั้งหมด 109 คันถูกบุกค้นและมีเจ้าหน้าที่ขนส่งให้สหประชาชาติบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุที่เกิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อระบุไปถึงคนร้ายที่บุกโจมตีคอนวอยขนส่งอาหาร UN เข้ากาซา
    .
    บีบีซีรายงานว่า ฟิลิปป์ ลาซซารินี ( Philippe Lazzarini )ผู้อำนวยการใหญ่ UNRWA ไม่ได้กล่าวไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นกัน แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่ไร้การควบคุมอย่างเป็นระบบในเขตฉนวนกาซานี้ทำให้เป็นการยากที่ทางหน่วยจะออกปฎิบัติการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ระหว่างสงครามได้
    .
    และหากปราศจากการเข้าแทรกแซงทันที เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารร้ายแรงจะเลวร้ายลงสำหรับชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนที่พึ่งพาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอ้างอิงจาก UNRWA
    .
    กระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกาซาที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊งไปไม่ต่ำกว่า 20 คนในการขโมยรถบรรทุกเพื่อการบรรเทาทุกข์ในปฎิบัติการในความร่วมมือกับคณะกรรมการชนเผ่า
    .
    ทั้งนี้สัปดาห์ที่แล้ว องค์กร NGO จำนวน 29 แห่งเปิดเผยในรายงานว่า การปล้นสะดมขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์นั้นเป็นผลที่ตามมาจากการที่อิสราเอลตั้งเป้าโจมตีกองกำลังตำรวจที่ยังเหลืออยู่ในกาซา
    .
    ขณะเดียวกันกาตาร์ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ยเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส เอเอฟพีรายงานว่า โดฮาแถลงวันอังคาร(19)กล่าวว่า การปิดสำนักงานฮามาสนี้เป็นการปิดแค่ชั่วคราว
    .
    มาเจด อัล-อันซารี (Majed Al-Ansari) โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บรรดาผู้นำของฮามาสที่อยู่ในทีมเจรจาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในกรุงโดฮา”
    .
    และเสริมต่อว่า “การตัดสินใจ..ในการปิดสำนักงาน(ฮามาส)อย่างถาวรจะเป็นสิ่งที่พวกคุณจะได้ยินโดยตรงจากพวกเรา”
    .
    อย่างไรก็ตาม แกนนำระดับสูงของฮามาสได้ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีวันจันทร์(18)ว่า “ไม่มีใครขอให้พวกเราเดินทางออกไป”
    .
    พร้อมกันนั้นยังได้โต้รายงานที่อ้างว่าบรรดาสมาชิกได้โยกย้ายไปอยู่ในตุรกีแทน โดยกล่าวว่า “บรรดาผู้นำจากระดับที่แตกต่างในหน่วยการเมืองของฮามาสต่างเดินทางเข้าตุรกีเป็นระยะๆ”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111413
    ..............
    Sondhi X
    องค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA แถลงว่า ขบวนคอนวอยรถบรรทุกบรรเทาทุกข์ขนอาหารจำนวน 109 คันของ UN โดนปล้นสะดมอย่างป่าเถื่อน โดยกลุ่มกองกำลังปิดหน้า คนขับรถบรรทุกโดนปืนจ่อทางใต้ของกาซา ขณะที่กาตาร์ประกาศ สำนักงานฮามาสในโดฮาปิดแค่ชั่วคราวส่วนตัวแทนเจรจาฮามาสถูกสั่งออกนอกประเทศ . บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(19 พ.ย)ว่า ขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์ร่วม 109 คันขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติถูกปล้นสะดมวันเสาร์(16) ด้วยความป่าเถื่อน . และพบว่ารถบรรทุก 97 คันจากทั้งหมดสูญหายและคนขับถูกใช้ปืนจ่อสั่งให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมาหลังข้ามจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลเข้าสู่ทางใต้ของเขตฉวนกาซา . อ้างอิงการรายงานจากรอยเตอร์ ลุยส์ เวตริดจ์ ( Louise Wateridge )เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงของ UNRWA เปิดเผยว่า ขบวนคอนวอบขนอาหารบรรเทาทุกข์ถูกสั่งโดยอิสราเอลให้ออกเดินทางในช่วงเวลาการแจ้งอย่างกระชั้นชิดเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจากจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม . การปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์สหประชาชาติล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา . เวตริดจ์กล่าวยืนยันว่า รถบรรทุก 98 คันจากทั้งหมด 109 คันถูกบุกค้นและมีเจ้าหน้าที่ขนส่งให้สหประชาชาติบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุที่เกิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อระบุไปถึงคนร้ายที่บุกโจมตีคอนวอยขนส่งอาหาร UN เข้ากาซา . บีบีซีรายงานว่า ฟิลิปป์ ลาซซารินี ( Philippe Lazzarini )ผู้อำนวยการใหญ่ UNRWA ไม่ได้กล่าวไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นกัน แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่ไร้การควบคุมอย่างเป็นระบบในเขตฉนวนกาซานี้ทำให้เป็นการยากที่ทางหน่วยจะออกปฎิบัติการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ระหว่างสงครามได้ . และหากปราศจากการเข้าแทรกแซงทันที เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารร้ายแรงจะเลวร้ายลงสำหรับชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนที่พึ่งพาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอ้างอิงจาก UNRWA . กระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกาซาที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊งไปไม่ต่ำกว่า 20 คนในการขโมยรถบรรทุกเพื่อการบรรเทาทุกข์ในปฎิบัติการในความร่วมมือกับคณะกรรมการชนเผ่า . ทั้งนี้สัปดาห์ที่แล้ว องค์กร NGO จำนวน 29 แห่งเปิดเผยในรายงานว่า การปล้นสะดมขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์นั้นเป็นผลที่ตามมาจากการที่อิสราเอลตั้งเป้าโจมตีกองกำลังตำรวจที่ยังเหลืออยู่ในกาซา . ขณะเดียวกันกาตาร์ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ยเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส เอเอฟพีรายงานว่า โดฮาแถลงวันอังคาร(19)กล่าวว่า การปิดสำนักงานฮามาสนี้เป็นการปิดแค่ชั่วคราว . มาเจด อัล-อันซารี (Majed Al-Ansari) โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บรรดาผู้นำของฮามาสที่อยู่ในทีมเจรจาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในกรุงโดฮา” . และเสริมต่อว่า “การตัดสินใจ..ในการปิดสำนักงาน(ฮามาส)อย่างถาวรจะเป็นสิ่งที่พวกคุณจะได้ยินโดยตรงจากพวกเรา” . อย่างไรก็ตาม แกนนำระดับสูงของฮามาสได้ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีวันจันทร์(18)ว่า “ไม่มีใครขอให้พวกเราเดินทางออกไป” . พร้อมกันนั้นยังได้โต้รายงานที่อ้างว่าบรรดาสมาชิกได้โยกย้ายไปอยู่ในตุรกีแทน โดยกล่าวว่า “บรรดาผู้นำจากระดับที่แตกต่างในหน่วยการเมืองของฮามาสต่างเดินทางเข้าตุรกีเป็นระยะๆ” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111413 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 671 Views 0 Reviews
  • บุญ คือ ที่พึ่งของสัตว์โลก กล่าวคือ มนุษย์หรือสัตว์โลกทั้งหลายจะอยู่ดีมีสุขก็ด้วยบุญกุศล จะทุกข์ยากเดือดร้อนก็ด้วยบาปอกุศลที่ตนได้เคยกระทำไว้ บุญอันบุคคลได้บำเพ็ญและสั่งสมไว้ดีแล้ว ย่อมให้ผลเป็นความสำเร็จ เป็นความเจริญรุ่งเรืองและสันติสุขในชีวิต กิจที่ทำในการทำบุญนั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นโดยถูกทำนองคลอง
    บุญ คือ ที่พึ่งของสัตว์โลก กล่าวคือ มนุษย์หรือสัตว์โลกทั้งหลายจะอยู่ดีมีสุขก็ด้วยบุญกุศล จะทุกข์ยากเดือดร้อนก็ด้วยบาปอกุศลที่ตนได้เคยกระทำไว้ บุญอันบุคคลได้บำเพ็ญและสั่งสมไว้ดีแล้ว ย่อมให้ผลเป็นความสำเร็จ เป็นความเจริญรุ่งเรืองและสันติสุขในชีวิต กิจที่ทำในการทำบุญนั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นโดยถูกทำนองคลอง
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • 🇷🇺🇺🇸 รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย: ทรัมป์ "กล่าวว่าเขาเป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ ไม่ใช่ประธานาธิบดีแห่งสงคราม"

    "นักการเมืองที่ประกาศว่าชอบสันติภาพมากกว่าสงครามสมควรได้รับการสนับสนุน"
    .
    🇷🇺🇺🇸 Russia's Foreign Minister: Trump "said he's the president of peace not the president of war."

    "Politicians who declare they prefer peace over war deserve support."
    .
    2:54 AM · Nov 20, 2024 · 132.3K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1858961968331452594
    🇷🇺🇺🇸 รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย: ทรัมป์ "กล่าวว่าเขาเป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ ไม่ใช่ประธานาธิบดีแห่งสงคราม" "นักการเมืองที่ประกาศว่าชอบสันติภาพมากกว่าสงครามสมควรได้รับการสนับสนุน" . 🇷🇺🇺🇸 Russia's Foreign Minister: Trump "said he's the president of peace not the president of war." "Politicians who declare they prefer peace over war deserve support." . 2:54 AM · Nov 20, 2024 · 132.3K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1858961968331452594
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะจัดโผนายพลสีกากี ชง ก.ตร.เคาะพรุ่งนี้ คาด "สันติ" ผงาดนครบาล "ภาณุมาศ" นั่ง ผบช.สตม. "สุรพล" เพื่อน ผบ.ตร. โยกนั่ง ผบช.ภ.2

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000111393

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะจัดโผนายพลสีกากี ชง ก.ตร.เคาะพรุ่งนี้ คาด "สันติ" ผงาดนครบาล "ภาณุมาศ" นั่ง ผบช.สตม. "สุรพล" เพื่อน ผบ.ตร. โยกนั่ง ผบช.ภ.2 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000111393 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1043 Views 1 Reviews
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์
    .
    "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!"
    .
    ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    .
    รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน
    .
    มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์ . "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!" . ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ . รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน . มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    1 Comments 0 Shares 580 Views 0 Reviews
  • คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน
    .
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
    .
    นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน
    .
    ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง
    .
    ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
    .
    สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง
    .
    ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร
    .
    ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้
    .
    แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน
    .
    อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป
    .
    อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล
    .
    ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS
    .
    ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน . การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า . นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน . ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง . ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ . สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง . ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด . ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร . ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้ . แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง . นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน . โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน . อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป . อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล . ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS . ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    5
    0 Comments 0 Shares 749 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คน และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน เกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยูเครนมีแผนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลลงมือโจมตีเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่เผยแพร่รายละเอียดใดๆ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของปฏิบัติการ
    .
    ความเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 เดือน ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งเสียงเรียกร้องมานานหลายเดือน ให้อนุญาตกองทัพเคียฟใช้อาวุธสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ห่างไกลจากชายแดน
    .
    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตอบโต้กรณีที่รัสเซียประจำการทหารเกาหลีเหนือในภาคพื้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังของตนเอง การประจำการที่ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและเคียฟ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าขีปนาวุธจะ "พูดแทนตัวมันเอง" หลังมีรายงานข่าวว่าวอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีดินแดนลึกของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ "วันนี้ สื่อมวลชนมากมายระบุว่าเราได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม แต่การโจมตีไม่ใช่คำพูด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องแถลง ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวมันเอง"
    .
    รัสเซียเคยเตือนว่าพวกเขาจะมองการผ่อนปรนข้อจำกัดยูเครนในการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ เป็นการขยายวงสงครามครั้งใหญ่
    .
    แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีดินแดนลึกครั้งแรกของยูเครน จะดำเนินการด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด 306 กิโลเมตร
    .
    ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่าการอนุญาตให้โจมตีพิสัยไกลจะเปลี่ยนแปลงวิถีสงครามในภาพรวมหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้อาจช่วยให้ยูเครนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ เคียฟ อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเจรจา หากว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียเกิดขึ้นจริง
    .
    อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ จะกลับลำการตัดสินใจของไบเดนหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานต่อขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน และประกาศจบสงครามอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากคำอธิบายใดๆ
    .
    โฆษกของทรัมป์ ยังไม่ตอบคำถามหลังสื่อมวลชนติดต่อสอบถามความคิดเห็น แต่ ริชาร์ด เกรเนลล์ หนึ่งในที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าว โดยบอกว่า "มันเป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่ง"
    .
    นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในวันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของไบเดน พูดซ้ำๆ ว่าพวกเขาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ในการรับประกันว่ายูเครนสามารถสู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย จากสถานะที่เข้มแข็ง
    .
    สหรัฐฯ เชื่อว่าทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 นาย ถูกส่งเข้าไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย และส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายไปยังแคว้นคูร์กส์ และเริ่มต้นเข้าพัวพันในปฏิบัติการสู้รบแล้ว
    .
    รัสเซีย กำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้มีความสูญเสียอย่างหนัก และยูเครนเผยว่าพวกเขาได้ปะทะกับทหารเกาหลีเหนือบางส่วนที่ประจำการในแคว้นคูร์สก์
    .
    ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพล กองกำลังยูเครนสูญเสียดินแดนบางส่วนที่พวกเขายึดครองได้ในเดือนสิงหาคม ในปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์ ที่เซเลนสกี เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหมากเบี้ยในการต่อรอง
    .
    "การปลดข้อจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจง จะเปิดทางให้ยูเครนหยุดสู้รบ ในสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย เหลือถูกมัดมือไพล่หลังเพียงหนึ่งข้าง" อเล็ก พลิตาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์กรวิจัย "สภาแอตแลนติก" กล่าว "อย่างไรด็ตามมันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะชี้ว่าการตัดสินใจนี้มาช้าเกินไป เพียงแค่ ATACMS, HIMARS, ยานรบหุ้มเกราะแบรดลีย์, รถถังเอบรามส์ และเครื่องบินเอฟ-19 พวกเขาต้องการมันเร็วกว่านี้มาก"
    .
    แม้มีเสียงเรียกร้องของเซเลนสกี แต่ที่ผ่านมาทำเนียบขาวลังเลที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ลุกลามบานปลาย
    .
    พันธมิตรอื่นๆ ของเคียฟ ได้ป้อนอาวุธให้เช่นกัน แต่ก็จำกัดวิธีการและกรอบเวลาในการใช้โจมตีภายในรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลว่าการโจมตีลักษณะดังกล่าวอาจกระตุ้นการแก้แค้นของมอสโก ที่ลากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ก็โหมกระพือความขัดแย้งนิวเคลียร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110696
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คน และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน เกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย . แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยูเครนมีแผนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลลงมือโจมตีเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่เผยแพร่รายละเอียดใดๆ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของปฏิบัติการ . ความเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 เดือน ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งเสียงเรียกร้องมานานหลายเดือน ให้อนุญาตกองทัพเคียฟใช้อาวุธสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ห่างไกลจากชายแดน . การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตอบโต้กรณีที่รัสเซียประจำการทหารเกาหลีเหนือในภาคพื้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังของตนเอง การประจำการที่ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและเคียฟ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าขีปนาวุธจะ "พูดแทนตัวมันเอง" หลังมีรายงานข่าวว่าวอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีดินแดนลึกของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ "วันนี้ สื่อมวลชนมากมายระบุว่าเราได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม แต่การโจมตีไม่ใช่คำพูด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องแถลง ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวมันเอง" . รัสเซียเคยเตือนว่าพวกเขาจะมองการผ่อนปรนข้อจำกัดยูเครนในการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ เป็นการขยายวงสงครามครั้งใหญ่ . แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีดินแดนลึกครั้งแรกของยูเครน จะดำเนินการด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด 306 กิโลเมตร . ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่าการอนุญาตให้โจมตีพิสัยไกลจะเปลี่ยนแปลงวิถีสงครามในภาพรวมหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้อาจช่วยให้ยูเครนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ เคียฟ อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเจรจา หากว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียเกิดขึ้นจริง . อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ จะกลับลำการตัดสินใจของไบเดนหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานต่อขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน และประกาศจบสงครามอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากคำอธิบายใดๆ . โฆษกของทรัมป์ ยังไม่ตอบคำถามหลังสื่อมวลชนติดต่อสอบถามความคิดเห็น แต่ ริชาร์ด เกรเนลล์ หนึ่งในที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าว โดยบอกว่า "มันเป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่ง" . นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในวันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของไบเดน พูดซ้ำๆ ว่าพวกเขาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ในการรับประกันว่ายูเครนสามารถสู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย จากสถานะที่เข้มแข็ง . สหรัฐฯ เชื่อว่าทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 นาย ถูกส่งเข้าไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย และส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายไปยังแคว้นคูร์กส์ และเริ่มต้นเข้าพัวพันในปฏิบัติการสู้รบแล้ว . รัสเซีย กำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้มีความสูญเสียอย่างหนัก และยูเครนเผยว่าพวกเขาได้ปะทะกับทหารเกาหลีเหนือบางส่วนที่ประจำการในแคว้นคูร์สก์ . ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพล กองกำลังยูเครนสูญเสียดินแดนบางส่วนที่พวกเขายึดครองได้ในเดือนสิงหาคม ในปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์ ที่เซเลนสกี เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหมากเบี้ยในการต่อรอง . "การปลดข้อจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจง จะเปิดทางให้ยูเครนหยุดสู้รบ ในสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย เหลือถูกมัดมือไพล่หลังเพียงหนึ่งข้าง" อเล็ก พลิตาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์กรวิจัย "สภาแอตแลนติก" กล่าว "อย่างไรด็ตามมันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะชี้ว่าการตัดสินใจนี้มาช้าเกินไป เพียงแค่ ATACMS, HIMARS, ยานรบหุ้มเกราะแบรดลีย์, รถถังเอบรามส์ และเครื่องบินเอฟ-19 พวกเขาต้องการมันเร็วกว่านี้มาก" . แม้มีเสียงเรียกร้องของเซเลนสกี แต่ที่ผ่านมาทำเนียบขาวลังเลที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ลุกลามบานปลาย . พันธมิตรอื่นๆ ของเคียฟ ได้ป้อนอาวุธให้เช่นกัน แต่ก็จำกัดวิธีการและกรอบเวลาในการใช้โจมตีภายในรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลว่าการโจมตีลักษณะดังกล่าวอาจกระตุ้นการแก้แค้นของมอสโก ที่ลากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ก็โหมกระพือความขัดแย้งนิวเคลียร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110696 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 681 Views 0 Reviews
  • Between The Line สี จิ้นผิงถึงโดนัลด์ ทรัมป์.สารที่สี จิ้นผิง ส่งให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความสำคัญอยู่ 4 ข้อความ ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครมานั่งวิเคราะห์เรื่องนี้ ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่นั่งวิเคราะห์สารของสี จิ้นผิงที่มีนัยลึกซึ้งมาก และ สี จิ้นผิง พูดถึงสายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าควรมีลักษณะ 3 อย่าง เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และ ยั่งยืน นัยของคำพูดนี้คือการเตือนสตินายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรจะมีความสม่ำเสมอในนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะอารมณ์ของผู้นำ พรรคการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์ .สี จิ้นผิง กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนว่าจีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียจากการเผชิญหน้า.ถ้าหากนายทรัมป์ ใช้นโยบาย 'Make America Great Again' คือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิม ด้วยการโดดเดี่ยวและทอดทิ้งชาติพันธมิตร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนหาเพื่อนเพิ่มได้มากขึ้น และจีนก็จะเป็นผู้นำในด้านที่นายทรัมป์ ทอดทิ้ง เช่น พลังงานใหม่ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือระดับพหุภาคี รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา อาจจะรวมถึงยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย เสียด้วยซ้ำ.ข้อสุดท้ายคือการเตรียมทางหนีทีไล่ แม้ว่าจีนคาดหวังจะเจรจานายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่จีนก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษี ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนจะทำอย่างไร ? ถ้าเป็นภาษาแถวบ้านผม วัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือ แค่ยักไหล่แล้วก็เดินหน้าต่อ เพราะจีนเตรียมการย้ายการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว จีนไม่ได้แค่เตรียมจะทำ แต่ได้ทำแล้ว บริษัทต่างๆ ของประเทศจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมานานกว่า 8 ปี ไม่มีใครล้มหายตายจาก แต่กลับมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งสามารถตัดขาดการใช้เทคโนโลยีต่างชาติได้ เหมือนกับที่หัวเว่ยประกาศ.จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคนายทรัมป์สมัยแรก มาถึงนายโจ ไบเดน เมื่ออเมริกาจุดประเด็นเรื่องสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จีนก็เริ่มสร้างตลาดอันใหม่เพื่อมุ่งไปยังตลาดกลุ่มประเทศโลกใต้ที่สามารถทดแทน ชดเชยรายได้จากการส่งออกไปอเมริกาเป็นจำนวนมหาศาล.สรุป ถึงแม้ว่าที่ผ่านๆ มา นายทรัมป์ จะแสดงท่าทีต่อต้านจีนอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้ว นายทรัมป์ กลับมีความเคารพอยู่มาก เคยบอกว่า สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ชาญฉลาด มีความสามารถในการปกครองประชาชน 1,400 ล้านคน .แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งตระหนักว่า ในภาษาจีนยังมีภาษิตอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ เซี่ยนหลี่โฮ่วปิง มีความหมายว่า ใช้ความสุภาพก่อน หากไม่ได้ผลค่อยใช้ไม้แข็งหรือใช้กำลัง.นี่คือบทวิเคราะห์ของผม สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กำลังจะดำเนินต่อไปในอนาคต
    Between The Line สี จิ้นผิงถึงโดนัลด์ ทรัมป์.สารที่สี จิ้นผิง ส่งให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความสำคัญอยู่ 4 ข้อความ ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครมานั่งวิเคราะห์เรื่องนี้ ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่นั่งวิเคราะห์สารของสี จิ้นผิงที่มีนัยลึกซึ้งมาก และ สี จิ้นผิง พูดถึงสายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าควรมีลักษณะ 3 อย่าง เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และ ยั่งยืน นัยของคำพูดนี้คือการเตือนสตินายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรจะมีความสม่ำเสมอในนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะอารมณ์ของผู้นำ พรรคการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์ .สี จิ้นผิง กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนว่าจีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียจากการเผชิญหน้า.ถ้าหากนายทรัมป์ ใช้นโยบาย 'Make America Great Again' คือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิม ด้วยการโดดเดี่ยวและทอดทิ้งชาติพันธมิตร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนหาเพื่อนเพิ่มได้มากขึ้น และจีนก็จะเป็นผู้นำในด้านที่นายทรัมป์ ทอดทิ้ง เช่น พลังงานใหม่ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือระดับพหุภาคี รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา อาจจะรวมถึงยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย เสียด้วยซ้ำ.ข้อสุดท้ายคือการเตรียมทางหนีทีไล่ แม้ว่าจีนคาดหวังจะเจรจานายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่จีนก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษี ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนจะทำอย่างไร ? ถ้าเป็นภาษาแถวบ้านผม วัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือ แค่ยักไหล่แล้วก็เดินหน้าต่อ เพราะจีนเตรียมการย้ายการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว จีนไม่ได้แค่เตรียมจะทำ แต่ได้ทำแล้ว บริษัทต่างๆ ของประเทศจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมานานกว่า 8 ปี ไม่มีใครล้มหายตายจาก แต่กลับมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งสามารถตัดขาดการใช้เทคโนโลยีต่างชาติได้ เหมือนกับที่หัวเว่ยประกาศ.จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคนายทรัมป์สมัยแรก มาถึงนายโจ ไบเดน เมื่ออเมริกาจุดประเด็นเรื่องสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จีนก็เริ่มสร้างตลาดอันใหม่เพื่อมุ่งไปยังตลาดกลุ่มประเทศโลกใต้ที่สามารถทดแทน ชดเชยรายได้จากการส่งออกไปอเมริกาเป็นจำนวนมหาศาล.สรุป ถึงแม้ว่าที่ผ่านๆ มา นายทรัมป์ จะแสดงท่าทีต่อต้านจีนอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้ว นายทรัมป์ กลับมีความเคารพอยู่มาก เคยบอกว่า สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ชาญฉลาด มีความสามารถในการปกครองประชาชน 1,400 ล้านคน .แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งตระหนักว่า ในภาษาจีนยังมีภาษิตอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ เซี่ยนหลี่โฮ่วปิง มีความหมายว่า ใช้ความสุภาพก่อน หากไม่ได้ผลค่อยใช้ไม้แข็งหรือใช้กำลัง.นี่คือบทวิเคราะห์ของผม สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กำลังจะดำเนินต่อไปในอนาคต
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • ตามรายงานของเครมลิน ปธน.ปูตินสนทนาทางโทรศัพท์กับชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ซึ่งทางเยอรมันเป็นฝ่ายติดต่อมาก่อน

    เครมลินรายงานว่าระหว่างการสนทนา ผู้นำทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างละเอียด และตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน

    ปูตินเน้นย้ำคำเดิมว่าวิกฤตในปัจจุบันเป็นผลโดยตรงจากนโยบายที่ก้าวร้าวของนาโต้ที่ดำเนินมาหลายปี และรัสเซียไม่เคยปฏิเสธการเจรจาสันติภาพโดยยังคงเปิดกว้างในการกลับมาเจรจากันเสมอ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่เป็นไปได้

    ปูตินยังกล่าวอีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและเยอรมนีเสื่อมโทรมลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากแนวทางที่ไม่เป็นมิตรของทางการเยอรมนีเอง

    อย่างไรก็ตาม "ชอลซ์และปูติน" ตกลงที่จะคงความสัมพันธ์กันต่อไป

    นอกจากนี้ ทางการเยอรมนีจะแจ้งให้พันธมิตรและหุ้นส่วนทราบเกี่ยวกับการสนทนาครั้งนี้อีกด้วย
    ตามรายงานของเครมลิน ปธน.ปูตินสนทนาทางโทรศัพท์กับชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ซึ่งทางเยอรมันเป็นฝ่ายติดต่อมาก่อน เครมลินรายงานว่าระหว่างการสนทนา ผู้นำทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างละเอียด และตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ปูตินเน้นย้ำคำเดิมว่าวิกฤตในปัจจุบันเป็นผลโดยตรงจากนโยบายที่ก้าวร้าวของนาโต้ที่ดำเนินมาหลายปี และรัสเซียไม่เคยปฏิเสธการเจรจาสันติภาพโดยยังคงเปิดกว้างในการกลับมาเจรจากันเสมอ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่เป็นไปได้ ปูตินยังกล่าวอีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและเยอรมนีเสื่อมโทรมลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากแนวทางที่ไม่เป็นมิตรของทางการเยอรมนีเอง อย่างไรก็ตาม "ชอลซ์และปูติน" ตกลงที่จะคงความสัมพันธ์กันต่อไป นอกจากนี้ ทางการเยอรมนีจะแจ้งให้พันธมิตรและหุ้นส่วนทราบเกี่ยวกับการสนทนาครั้งนี้อีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • "ภูมิธรรม" เผยตั้ง JTC ฝ่ายไทยใกล้เสร็จแล้ว อาจดึงกฤษฎีกาเข้าร่วม ย้ำต้องระมัดระวังหว่นกระทบดินแดนหากขึ้นศาลในอนาคต เพราะเคยมีบทเรียนเรื่องเขาพระวิหาร ยอมรับเจรจาผลประโยชน์ใต้ทะเลไม่ง่าย แต่ต้องใช้กรอบ MOU44 ให้เกิดการตกลงโดยสันติวิธี ไม่เช่นนั้นจะกิดสงครามเอาอาวุธมากระทำต่อกัน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000110010

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ภูมิธรรม" เผยตั้ง JTC ฝ่ายไทยใกล้เสร็จแล้ว อาจดึงกฤษฎีกาเข้าร่วม ย้ำต้องระมัดระวังหว่นกระทบดินแดนหากขึ้นศาลในอนาคต เพราะเคยมีบทเรียนเรื่องเขาพระวิหาร ยอมรับเจรจาผลประโยชน์ใต้ทะเลไม่ง่าย แต่ต้องใช้กรอบ MOU44 ให้เกิดการตกลงโดยสันติวิธี ไม่เช่นนั้นจะกิดสงครามเอาอาวุธมากระทำต่อกัน อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000110010 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    Love
    Haha
    Wow
    21
    10 Comments 0 Shares 1612 Views 0 Reviews
  • บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ
    .
    ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง"
    .
    ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
    .
    ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม
    .
    ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้
    .
    "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้"
    .
    ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค
    .
    ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ"
    .
    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
    .
    รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน
    .
    มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ . ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง" . ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง . ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม . ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้ . "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้" . ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค . ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ" . ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต . รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน . มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 999 Views 0 Reviews
  • สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
    .
    อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น
    .
    เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ"
    .
    จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ
    .
    "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว
    .
    ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน"
    .
    รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์
    .
    ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว
    .
    เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078
    ..............
    Sondhi X
    สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ . อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น . เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ" . จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ . "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว . ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน" . รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ . ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว . เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    18
    1 Comments 0 Shares 1036 Views 0 Reviews
  • ผู้นำชาติอาหรับและมุสลิมประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในกาซา พร้อมเรียกร้องยิวถอนออกจากดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมดและสถาปนารัฐปาเลสไตน์ ทว่า รัฐมนตรีอิสราเอลดาหน้าคัดค้าน ถึงขั้นประกาศว่า จะดำเนินการเพื่อเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ปีหน้า
    .
    ในการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) บรรดาผู้นำของกลุ่มสันนิบาตอาหรับซึ่งมีสมาชิก 22 ชาติ และขององค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่มีสมาชิก 57 ชาติ ได้แสดงจุดยืนที่เป็นหนึ่งเดียวกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลและฮามาสทำสงครามในกาซามากว่าหนึ่งปี รวมทั้งลุกลามออกไปยังเลบานอน ตลอดจนอีกหลายชาติในภูมิภาค
    .
    ซัมมิตนี้ยังจัดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นผู้สนับสนุนหลักทางทหารของอิสราเอล
    .
    แถลงการณ์ปิดประชุมที่ออกมาในวันจันทร์ (11) ระบุว่า สันติภาพที่เป็นธรรมและครอบคลุมในตะวันออกกลางเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากอิสราเอลไม่ยุติการยึดครองดินแดนทั้งหมดที่เป็นของปาเลสไตน์ตามเขตแดน ณ วันที่ 4 มิ.ย.1967 ทั้งนี้ ดินแดนดังกล่าวหมายถึงเขตเวสต์แบงก์ เยรูซาเลมตะวันออก ฉนวนกาซา และที่ราบสูงโกลัน
    .
    ในแถลงการณ์ยังอ้างอิงมติของสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้อิสราเอลถอนออกจากดินแดนเหล่านั้น ตลอดจนแผนริเริ่มสันติภาพอาหรับปี 2002 ที่ประเทศอาหรับเสนอสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอล แลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลทำข้อตกลงสองรัฐ ซึ่งก็คือการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ขึ้นมาตามเขตแดนในปี 1967
    .
    นอกจากนั้น แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้นานาชาติประกาศแผนการพร้อมขั้นตอนและกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการสนับสนุนให้รัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้นจริง
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางด้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว คัดค้านการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ โดยกิเดียน ซาร์ ผู้เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐยิวคนใหม่ วิจารณ์ว่า แนวทางดังกล่าวไม่สามารถทำได้จริง
    .
    เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล ซึ่งสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ถึงขั้นประกาศว่า จะผลักดันให้อิสราเอลเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ในปีหน้า
    .
    สำหรับซัมมิตในริยาดคราวนี้ ยังได้แถลงประณามอาชญากรรมน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงของกองทัพอิสราเอลซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    .
    ขณะที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดี เรียกร้องให้โลกหยุดการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์และเลบานอน พร้อมประณามปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซาเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” รวมทั้งยังเรียกร้องให้อิสราเอลยับยั้งการโจมตีอิหร่าน ท่าทีเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างริยาดกับเตหะรานซึ่งมีการปรับปรุงกระเตื้องขึ้นมาก
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิคาติ ของเลบานอน เตือนว่า เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤตความอยู่รอด และโจมตีประเทศที่แทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน ซึ่งมีนัยหมายถึงอิหร่าน
    .
    ขณะที่รองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา อาเรฟของอิหร่าน กล่าวว่า โลกกำลังรอให้ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ยุติการประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนทันที
    .
    นอกจากนั้น แถลงการณ์ของที่ประชุมในริยาดยังเรียกร้องให้แบนการส่งออกและการจัดส่งอาวุธให้อิสราเอล
    .
    อย่างไรก็ดี มีรายงานจากเว็บไซต์ข่าวแอกซิออสของอเมริกาว่า รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ได้เดินทางไปพบทรัมป์ที่รีสอร์ตในฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ ก่อนที่เดอร์เมอร์จะไปพบแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันเดียวกัน
    .
    แอกซิออสรายงานเพิ่มเติมว่า เดอร์เมอร์นำข้อความจากเนทันยาฮูไปถ่ายทอดให้ทรัมป์ฟัง รวมทั้งสรุปแผนการสำหรับกาซา เลบานอน และอิหร่านในช่วง 2 เดือนข้างหน้าก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง
    .
    อนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ทรัมป์เปิดเผยกับนิวยอร์กโพสต์ว่า จะเสนอชื่อ ส.ส.เอลิส สเตฟานิก ประธานของที่ประชุมพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้มีจุดยืนปกป้องอิสราเอลและต่อต้านอิหร่านอย่างแข็งขัน เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นคนใหม่ของเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109074
    ..............
    Sondhi X
    ผู้นำชาติอาหรับและมุสลิมประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในกาซา พร้อมเรียกร้องยิวถอนออกจากดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมดและสถาปนารัฐปาเลสไตน์ ทว่า รัฐมนตรีอิสราเอลดาหน้าคัดค้าน ถึงขั้นประกาศว่า จะดำเนินการเพื่อเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ปีหน้า . ในการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) บรรดาผู้นำของกลุ่มสันนิบาตอาหรับซึ่งมีสมาชิก 22 ชาติ และขององค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่มีสมาชิก 57 ชาติ ได้แสดงจุดยืนที่เป็นหนึ่งเดียวกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลและฮามาสทำสงครามในกาซามากว่าหนึ่งปี รวมทั้งลุกลามออกไปยังเลบานอน ตลอดจนอีกหลายชาติในภูมิภาค . ซัมมิตนี้ยังจัดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นผู้สนับสนุนหลักทางทหารของอิสราเอล . แถลงการณ์ปิดประชุมที่ออกมาในวันจันทร์ (11) ระบุว่า สันติภาพที่เป็นธรรมและครอบคลุมในตะวันออกกลางเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากอิสราเอลไม่ยุติการยึดครองดินแดนทั้งหมดที่เป็นของปาเลสไตน์ตามเขตแดน ณ วันที่ 4 มิ.ย.1967 ทั้งนี้ ดินแดนดังกล่าวหมายถึงเขตเวสต์แบงก์ เยรูซาเลมตะวันออก ฉนวนกาซา และที่ราบสูงโกลัน . ในแถลงการณ์ยังอ้างอิงมติของสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้อิสราเอลถอนออกจากดินแดนเหล่านั้น ตลอดจนแผนริเริ่มสันติภาพอาหรับปี 2002 ที่ประเทศอาหรับเสนอสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอล แลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลทำข้อตกลงสองรัฐ ซึ่งก็คือการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ขึ้นมาตามเขตแดนในปี 1967 . นอกจากนั้น แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้นานาชาติประกาศแผนการพร้อมขั้นตอนและกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการสนับสนุนให้รัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้นจริง . อย่างไรก็ตาม ทางด้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว คัดค้านการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ โดยกิเดียน ซาร์ ผู้เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐยิวคนใหม่ วิจารณ์ว่า แนวทางดังกล่าวไม่สามารถทำได้จริง . เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล ซึ่งสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ถึงขั้นประกาศว่า จะผลักดันให้อิสราเอลเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ในปีหน้า . สำหรับซัมมิตในริยาดคราวนี้ ยังได้แถลงประณามอาชญากรรมน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงของกองทัพอิสราเอลซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ . ขณะที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดี เรียกร้องให้โลกหยุดการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์และเลบานอน พร้อมประณามปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซาเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” รวมทั้งยังเรียกร้องให้อิสราเอลยับยั้งการโจมตีอิหร่าน ท่าทีเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างริยาดกับเตหะรานซึ่งมีการปรับปรุงกระเตื้องขึ้นมาก . ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิคาติ ของเลบานอน เตือนว่า เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤตความอยู่รอด และโจมตีประเทศที่แทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน ซึ่งมีนัยหมายถึงอิหร่าน . ขณะที่รองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา อาเรฟของอิหร่าน กล่าวว่า โลกกำลังรอให้ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ยุติการประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนทันที . นอกจากนั้น แถลงการณ์ของที่ประชุมในริยาดยังเรียกร้องให้แบนการส่งออกและการจัดส่งอาวุธให้อิสราเอล . อย่างไรก็ดี มีรายงานจากเว็บไซต์ข่าวแอกซิออสของอเมริกาว่า รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ได้เดินทางไปพบทรัมป์ที่รีสอร์ตในฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ ก่อนที่เดอร์เมอร์จะไปพบแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันเดียวกัน . แอกซิออสรายงานเพิ่มเติมว่า เดอร์เมอร์นำข้อความจากเนทันยาฮูไปถ่ายทอดให้ทรัมป์ฟัง รวมทั้งสรุปแผนการสำหรับกาซา เลบานอน และอิหร่านในช่วง 2 เดือนข้างหน้าก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง . อนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ทรัมป์เปิดเผยกับนิวยอร์กโพสต์ว่า จะเสนอชื่อ ส.ส.เอลิส สเตฟานิก ประธานของที่ประชุมพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้มีจุดยืนปกป้องอิสราเอลและต่อต้านอิหร่านอย่างแข็งขัน เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นคนใหม่ของเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109074 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    14
    0 Comments 0 Shares 1026 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR)
    .
    เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม
    .
    ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน
    .
    ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง
    .
    ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย
    .
    ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR) . เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022 . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม . ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน . ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง . ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย . ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 Comments 0 Shares 891 Views 0 Reviews
  • อิหร่านระบุว่า "โลกกำลังเฝ้ารอ" รัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเข้ารับตำแหน่ง เข้ามาหยุดสงครามของอิสราเอลกับพวกนักรบฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ตามที่เคยลั่นวาจาไว้ พร้อมกับประณามปฏิบัติการลอบสังหารต่างๆ โดยฝีมือของรัฐยิว ว่าเป็น "การก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ"
    .
    "รัฐบาลอเมริกาคือผู้สนับสนุนหลักของการกระทำต่างๆ ของรัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล)" โมฮัมหมัด เรซา อาเรฟ รองประธานาธิบดีคนที่ 1 บอกกับที่ประชุมซัมมิตร่วมระหว่างสันนิบาตอาหรับกับองค์การความร่วมมืออิสลาม ในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
    .
    "โลกกำลังเฝ้ารอคำสัญญาของรัฐบาลใหม่ของประเทศแห่งนี้ สำหรับหยุดการทำสงครามกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนในทันที" รองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของอิหร่านกล่าว
    .
    นับตั้งแต่พวกฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งโหมกระพือสงครามทั้งในกาซาและเลบานอน อิสราเอลได้สังหารสมาชิกระดับสูงของฝ่ายต่อต้านไปหลายคน ในนั้นรวมถึง ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส และฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์
    .
    นอกจากนี้ ยังเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสคนก่อนหน้า ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน
    .
    "ปฏิบัติการสังหารเป้าหมายไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการไม่เคารพกฎหมายและเป็นการก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ เปลี่ยนองค์กรด้านความมั่นคง เป็นเครื่องมือในการส่งหารผู้นำและพลเมืองของประเทศต่างๆ" อาเรฟกล่าว
    .
    ในขณะที่ ทรัมป์ เคยให้สัญญาเกี่ยวกับสันติภาพในตะวันออกกลาง ในระหว่างหาเสียงนั้น เขายังเคยพูดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่งควรกดดันให้ อิสราเอลปิดฉากในการทำสงครามกับฮามาสในกาซา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108688
    ..............
    Sondhi X
    อิหร่านระบุว่า "โลกกำลังเฝ้ารอ" รัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเข้ารับตำแหน่ง เข้ามาหยุดสงครามของอิสราเอลกับพวกนักรบฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ตามที่เคยลั่นวาจาไว้ พร้อมกับประณามปฏิบัติการลอบสังหารต่างๆ โดยฝีมือของรัฐยิว ว่าเป็น "การก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ" . "รัฐบาลอเมริกาคือผู้สนับสนุนหลักของการกระทำต่างๆ ของรัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล)" โมฮัมหมัด เรซา อาเรฟ รองประธานาธิบดีคนที่ 1 บอกกับที่ประชุมซัมมิตร่วมระหว่างสันนิบาตอาหรับกับองค์การความร่วมมืออิสลาม ในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย . "โลกกำลังเฝ้ารอคำสัญญาของรัฐบาลใหม่ของประเทศแห่งนี้ สำหรับหยุดการทำสงครามกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนในทันที" รองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของอิหร่านกล่าว . นับตั้งแต่พวกฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งโหมกระพือสงครามทั้งในกาซาและเลบานอน อิสราเอลได้สังหารสมาชิกระดับสูงของฝ่ายต่อต้านไปหลายคน ในนั้นรวมถึง ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส และฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ . นอกจากนี้ ยังเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสคนก่อนหน้า ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน . "ปฏิบัติการสังหารเป้าหมายไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการไม่เคารพกฎหมายและเป็นการก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ เปลี่ยนองค์กรด้านความมั่นคง เป็นเครื่องมือในการส่งหารผู้นำและพลเมืองของประเทศต่างๆ" อาเรฟกล่าว . ในขณะที่ ทรัมป์ เคยให้สัญญาเกี่ยวกับสันติภาพในตะวันออกกลาง ในระหว่างหาเสียงนั้น เขายังเคยพูดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่งควรกดดันให้ อิสราเอลปิดฉากในการทำสงครามกับฮามาสในกาซา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108688 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 810 Views 0 Reviews
  • รัสเซียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่ว่า มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันแล้วระหว่างปูติน กับ ทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม ทั้งนี้แดนหมีขาวบอกว่านี่เป็นข่าวเท็จ ปูตินไม่มีแผนคุยกับทรัมป์ อีกทั้งบอกด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ แสดงว่า ฝ่ายตะวันตกพร้อมแล้วสำหรับการพูดจากัน
    .
    หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวงในหลายคนว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จากรีสอร์ตส่วนตัวของเขาที่มาร์-อะลา-โก รัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสฯ (7) หรือหนึ่งวันหลังสื่อใหญ่ทุกสำนักประกาศว่า ทรัมป์ชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ในศึกชิงทำเนียบขาวที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (5)
    .
    วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ทรัมป์เรียกร้องปูตินอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเตือนว่า อเมริกากองทหารขนาดใหญ่ประจำการอยู่ในยุโรป รวมทั้งยังแสดงความสนใจหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    นอกจากวอชิงตันโพสต์แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับปูตินจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ทว่า ในวันจันทร์ (11) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาแถลงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการกุเรื่องขึ้น และยืนยันว่า ปูตินไม่มีแผนการเฉพาะเจาะจงในการพูดคุยกับทรัมป์ในขณะนี้
    .
    ขณะที่ สตีเฟน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ระบุในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ
    .
    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรื่องการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน จึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้
    .
    อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (10) ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี โดยที่โฆษกของชอลซ์แถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะทำงานด้วยกันเพื่อหาทางนำสันติภาพกลับคืนสู่ยุโรป
    .
    เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ไม่มีการตระเตรียมใดๆ สำหรับที่ปูตินจะพูดจาหารือกับชอลซ์ และเขาเห็นว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าจุดยืนของยุโรปในเรื่องยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
    .
    “เรามองเห็นความหงุดหงิดว้าวุ่นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความหวาดกลัวต่างๆ ในหมู่ชาวยุโรปเกี่ยวกับการเลือกตั้งมิสเตอร์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เปสคอฟ บอก พร้อมกับย้ำว่า ปูตินได้พูดอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้วว่าเปิดกว้างสำหรับการพูดจากันทุกอย่าง ทว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ได้มีการตระเตรียมใดๆ รัสเซียยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ
    .
    เขากล่าวว่า จนถึงตอนนี้ “พวกผู้นำยุโรปยังคงกำลังพยายามที่จะบรรลุถึงการทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” แต่มอสโกจะ “ดำเนินปฏิบัติการพิเศษของเราต่อไปจนกว่าจะบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งหมดของเรา”
    .
    ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์มีแนวโน้มส่งผลต่อการสู้รบขัดแย้งในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้หาเสียงโดยยืนกรานมาตลอดว่า การสู้รบจะต้องยุติลงโดยเร็ว รวมทั้งแสดงความเคลือบแคลงกับการที่อเมริกาให้การสนับสนุนเคียฟมูลค่าเป็นหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์
    .
    ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้หารือกับทรัมป์เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.) โดยมีอีลอน มัสก์ ร่วมหารือด้วย มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันผู้นี้ เคยพูดระบุว่าเคียฟต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องจะต้องเสียดินแดนให้รัสเซีย
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีบีเอสนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ยืนยันว่า จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งที่สุดทั้งในสนามรบและการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่เหลืออยู่อีก 6,000 ล้านดอลลาร์
    .
    ซัลลิแวนเสริมว่า ไบเดนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ดำเนินการให้รัฐสภาและคณะบริหารชุดต่อไปตระหนักว่า อเมริกาไม่อาจทิ้งยูเครนได้ เนื่องจากจะทำให้ยุโรปไร้เสถียรภาพมากขึ้น
    .
    ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็วก่อนที่ตนเองจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไร
    .
    ทรัมป์และพันธมิตรต่างคัดค้านการที่อเมริกาให้เงินช่วยเหลือยูเครน และเปรยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินให้บริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่ฉ้อฉลและสนับสนุนสงคราม รวมทั้งพวกสายเหยี่ยวด้านนโยบายการต่างประเทศ
    .
    นอกจากนั้น ยังคาดกันว่า การทำข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว ย่อมหมายถึงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทางด้านใต้และตะวันออกของประเทศ
    .
    ไบรอัน แลนซา ที่ปรึกษาสำคัญคนหนึ่งของทรัมป์ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันเสาร์ (9 ) โดยยกตัวอย่างว่า ยูเครนต้องเลิกคิดว่าจะได้ไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อปี 2014 คืน
    .
    ทว่า เคียฟยืนกรานว่า จะไม่ยอมยกดินแดนหรือยอมตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ปูตินได้ใจและยั่วยุก้าวร้าวขึ้น ขณะที่รู้กันว่า พันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสรู้สึกกังวลกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์
    .
    ช่วงหลายเดือนมานี้ทั้งมอสโกและเคียฟต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุด โดยยูเครนได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย และกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วขึ้นในยูเครน
    .
    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีกันด้วยโดรนหนักที่สุด โดยเซเลนสกีเผยว่า รัสเซียส่งโดรน 145 ลำโจมตียูเครนเมื่อคืนวันเสาร์ และมอสโกระบุว่า สอยโดรนยูเครน 34 ลำที่มุ่งโจมตีมอสโกในวันอาทิตย์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108683
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่ว่า มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันแล้วระหว่างปูติน กับ ทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม ทั้งนี้แดนหมีขาวบอกว่านี่เป็นข่าวเท็จ ปูตินไม่มีแผนคุยกับทรัมป์ อีกทั้งบอกด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ แสดงว่า ฝ่ายตะวันตกพร้อมแล้วสำหรับการพูดจากัน . หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวงในหลายคนว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จากรีสอร์ตส่วนตัวของเขาที่มาร์-อะลา-โก รัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสฯ (7) หรือหนึ่งวันหลังสื่อใหญ่ทุกสำนักประกาศว่า ทรัมป์ชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ในศึกชิงทำเนียบขาวที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (5) . วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ทรัมป์เรียกร้องปูตินอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเตือนว่า อเมริกากองทหารขนาดใหญ่ประจำการอยู่ในยุโรป รวมทั้งยังแสดงความสนใจหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้ . นอกจากวอชิงตันโพสต์แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับปูตินจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา . ทว่า ในวันจันทร์ (11) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาแถลงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการกุเรื่องขึ้น และยืนยันว่า ปูตินไม่มีแผนการเฉพาะเจาะจงในการพูดคุยกับทรัมป์ในขณะนี้ . ขณะที่ สตีเฟน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ระบุในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ . ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรื่องการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน จึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้ . อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (10) ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี โดยที่โฆษกของชอลซ์แถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะทำงานด้วยกันเพื่อหาทางนำสันติภาพกลับคืนสู่ยุโรป . เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ไม่มีการตระเตรียมใดๆ สำหรับที่ปูตินจะพูดจาหารือกับชอลซ์ และเขาเห็นว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าจุดยืนของยุโรปในเรื่องยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว . “เรามองเห็นความหงุดหงิดว้าวุ่นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความหวาดกลัวต่างๆ ในหมู่ชาวยุโรปเกี่ยวกับการเลือกตั้งมิสเตอร์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เปสคอฟ บอก พร้อมกับย้ำว่า ปูตินได้พูดอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้วว่าเปิดกว้างสำหรับการพูดจากันทุกอย่าง ทว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ได้มีการตระเตรียมใดๆ รัสเซียยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ . เขากล่าวว่า จนถึงตอนนี้ “พวกผู้นำยุโรปยังคงกำลังพยายามที่จะบรรลุถึงการทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” แต่มอสโกจะ “ดำเนินปฏิบัติการพิเศษของเราต่อไปจนกว่าจะบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งหมดของเรา” . ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์มีแนวโน้มส่งผลต่อการสู้รบขัดแย้งในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้หาเสียงโดยยืนกรานมาตลอดว่า การสู้รบจะต้องยุติลงโดยเร็ว รวมทั้งแสดงความเคลือบแคลงกับการที่อเมริกาให้การสนับสนุนเคียฟมูลค่าเป็นหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ . ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้หารือกับทรัมป์เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.) โดยมีอีลอน มัสก์ ร่วมหารือด้วย มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันผู้นี้ เคยพูดระบุว่าเคียฟต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องจะต้องเสียดินแดนให้รัสเซีย . ในอีกด้านหนึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีบีเอสนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ยืนยันว่า จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งที่สุดทั้งในสนามรบและการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่เหลืออยู่อีก 6,000 ล้านดอลลาร์ . ซัลลิแวนเสริมว่า ไบเดนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ดำเนินการให้รัฐสภาและคณะบริหารชุดต่อไปตระหนักว่า อเมริกาไม่อาจทิ้งยูเครนได้ เนื่องจากจะทำให้ยุโรปไร้เสถียรภาพมากขึ้น . ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็วก่อนที่ตนเองจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไร . ทรัมป์และพันธมิตรต่างคัดค้านการที่อเมริกาให้เงินช่วยเหลือยูเครน และเปรยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินให้บริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่ฉ้อฉลและสนับสนุนสงคราม รวมทั้งพวกสายเหยี่ยวด้านนโยบายการต่างประเทศ . นอกจากนั้น ยังคาดกันว่า การทำข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว ย่อมหมายถึงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทางด้านใต้และตะวันออกของประเทศ . ไบรอัน แลนซา ที่ปรึกษาสำคัญคนหนึ่งของทรัมป์ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันเสาร์ (9 ) โดยยกตัวอย่างว่า ยูเครนต้องเลิกคิดว่าจะได้ไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อปี 2014 คืน . ทว่า เคียฟยืนกรานว่า จะไม่ยอมยกดินแดนหรือยอมตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ปูตินได้ใจและยั่วยุก้าวร้าวขึ้น ขณะที่รู้กันว่า พันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสรู้สึกกังวลกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์ . ช่วงหลายเดือนมานี้ทั้งมอสโกและเคียฟต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุด โดยยูเครนได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย และกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วขึ้นในยูเครน . สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีกันด้วยโดรนหนักที่สุด โดยเซเลนสกีเผยว่า รัสเซียส่งโดรน 145 ลำโจมตียูเครนเมื่อคืนวันเสาร์ และมอสโกระบุว่า สอยโดรนยูเครน 34 ลำที่มุ่งโจมตีมอสโกในวันอาทิตย์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108683 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 963 Views 0 Reviews
More Results