• นายกฯคุณหนูปรี๊ดแตก โพสต์ไอจีโต้เดือด ดราม่าน้ำท่วมใต้
    .
    เริ่มเก็บทรงไม่อยู่แล้ว สำหรับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากโดนวิจารณ์หนักกรณีน้ำท่วมใต้ตอนล่างแต่นายกฯยังคงเดินสายตรวจราชการพื้นที่ภาคเหนือ แม้นายกฯจะยืนยันว่าได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและยืนยันว่าไม่ทอดทิ้งคนใต้ เพราะมีสามีเป็นคนใต้ แต่ปรากฎว่านายกฯได้โพสต์ช้อความผ่านสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว ผ่านบัญชีผู้ใช้ @ingshin21 ข้อความว่า “Your negativity is a reflection of your own reality ความคิดเชิงลบของคุณสะท้อนถึงตัวตนคุณเอง” และโพสต์อีกข้อความว่า “Insecure people put others down to raise themselves up คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น”
    .
    เห็นแบบนี้ต้องรอดูว่าการโพสต์ระบายอารมณ์ออกมาแบบนี้ จะมีแรงเสียดทานทางการเมืองออกมาหรือไม่อย่างไร
    .
    ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมอบนโยบายการประชาสัมพันธ์
    .
    นายกฯ กล่าวเน้นย้ำเรื่องการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งกรณีน้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคใต้ นำเสนอให้ประชาชนทราบว่านโยบายเรื่องใดที่รัฐบาลได้ทำจนเป็นผลสำเร็จโดยใช้ “แม่สายโมเดล” เป็นการเข้าไปฟื้นฟู ในระยะแรก ระยะกลาง และระยะยาว เช่น จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วเกือบ 20,000 ล้านบาท เพื่อวางระบบป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
    .
    ส่วนภาคใต้ที่เข้าสู่ระยะที่ 2 หลังจากที่มีการฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วมแล้วจะใช้โมเดลไม่น้อยกว่าที่ภาคเหนือ เพื่อให้เกิดการสมดุลในการแก้ไขปัญหา และมีแนวคิดในการปรับปรุง คณะกรรมการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ที่จะต้องรับผิดชอบไม่เพียงเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว ยังมีภัยหนาว แล้ง ฝน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะใด รัฐบาลจะต้องใช้กลไกนี้ดำเนินการได้ฉับพลันทันที ซึ่งต้องมีการสั่งการชัดเจน โดยมีโมเดลแม่สายที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบ ซึ่งแม่สายได้คืนพื้นที่อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสองเดือน
    .
    นายจิรายุ เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าว นายกฯกำชับให้นำเสนอผลงานรัฐบาลตามข้อเท็จจริง และลงรายละเอียดผลงานทุกกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามการทำงานของรัฐบาลได้ทุกกระทรวง เพราะรัฐบาลที่เข้มแข็งจะต้องมาจากผลการทำงานที่มาจากทุกกระทรวง นายกรัฐมนตรีก็มีบทบาทในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
    .............
    Sondhi X
    นายกฯคุณหนูปรี๊ดแตก โพสต์ไอจีโต้เดือด ดราม่าน้ำท่วมใต้ . เริ่มเก็บทรงไม่อยู่แล้ว สำหรับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากโดนวิจารณ์หนักกรณีน้ำท่วมใต้ตอนล่างแต่นายกฯยังคงเดินสายตรวจราชการพื้นที่ภาคเหนือ แม้นายกฯจะยืนยันว่าได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและยืนยันว่าไม่ทอดทิ้งคนใต้ เพราะมีสามีเป็นคนใต้ แต่ปรากฎว่านายกฯได้โพสต์ช้อความผ่านสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว ผ่านบัญชีผู้ใช้ @ingshin21 ข้อความว่า “Your negativity is a reflection of your own reality ความคิดเชิงลบของคุณสะท้อนถึงตัวตนคุณเอง” และโพสต์อีกข้อความว่า “Insecure people put others down to raise themselves up คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น” . เห็นแบบนี้ต้องรอดูว่าการโพสต์ระบายอารมณ์ออกมาแบบนี้ จะมีแรงเสียดทานทางการเมืองออกมาหรือไม่อย่างไร . ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมอบนโยบายการประชาสัมพันธ์ . นายกฯ กล่าวเน้นย้ำเรื่องการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งกรณีน้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคใต้ นำเสนอให้ประชาชนทราบว่านโยบายเรื่องใดที่รัฐบาลได้ทำจนเป็นผลสำเร็จโดยใช้ “แม่สายโมเดล” เป็นการเข้าไปฟื้นฟู ในระยะแรก ระยะกลาง และระยะยาว เช่น จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วเกือบ 20,000 ล้านบาท เพื่อวางระบบป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก . ส่วนภาคใต้ที่เข้าสู่ระยะที่ 2 หลังจากที่มีการฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วมแล้วจะใช้โมเดลไม่น้อยกว่าที่ภาคเหนือ เพื่อให้เกิดการสมดุลในการแก้ไขปัญหา และมีแนวคิดในการปรับปรุง คณะกรรมการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ที่จะต้องรับผิดชอบไม่เพียงเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว ยังมีภัยหนาว แล้ง ฝน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะใด รัฐบาลจะต้องใช้กลไกนี้ดำเนินการได้ฉับพลันทันที ซึ่งต้องมีการสั่งการชัดเจน โดยมีโมเดลแม่สายที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบ ซึ่งแม่สายได้คืนพื้นที่อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสองเดือน . นายจิรายุ เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าว นายกฯกำชับให้นำเสนอผลงานรัฐบาลตามข้อเท็จจริง และลงรายละเอียดผลงานทุกกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามการทำงานของรัฐบาลได้ทุกกระทรวง เพราะรัฐบาลที่เข้มแข็งจะต้องมาจากผลการทำงานที่มาจากทุกกระทรวง นายกรัฐมนตรีก็มีบทบาทในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Yay
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 716 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ยะลา - ยะลาวิกฤตหนักดินสไลด์ถนนเส้น 410 ยะลา-เบตง จนท.เร่งเคลียร์เส้นทาง ขณะที่น้ำจากแม่น้ำปัตตานีข้ามสันเขื่อนเข้าเขตเทศบาลนครยะลา ทำให้พื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

    วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนทำให้เกิดดินสไลด์ทับถนนสาย 410 ยะลา-เบตง เขตบ้านกระป๋องบ้านตาพะเยา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.แม่หวาด ร่วมกับหมวดการทาง ชุดคุ้มครองครูตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้

    ขณะที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปในพื้นที่ชุมชนบ้านร่ม หมู่ที่ 1 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ใกล้กับ ต.ท่าสาป ซึ่งติดกับแม่น้ำปัตตานี พบมีสภาพน้ำไหลหลากข้ามแนวสันเขื่อนชุมชนบ้านร่ม เขตเทศบาลนครยะลา มวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีได้ล้นพนังกั้นน้ำเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ทำให้น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ของ ชุมชน 5 แยกสะเตง ชุมชนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ก่อนเข้าไปภายในตัวเมืองยะลา

    ซึ่งมวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องคาดว่าเป็นปริมาณน้ำฝนตกสะสมจากพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง เนื่องจากมีรายงานว่า ทั้ง 2 อำเภอมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี โดยทางน้ำได้ไหลผ่าน อ.เมืองยะลา สู่เขื่อนชลประทานปัตตานี แต่ด้วยระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานีอยู่แล้ว จึงทำให้มวลน้ำมารวมกันจนระดับน้ำท่วมสูงขึ้นจนล้นพนังกันน้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000114947

    #MGROnline #สถานการณ์น้ำท่วม #จังหวัดยะลา
    #ยะลา - ยะลาวิกฤตหนักดินสไลด์ถนนเส้น 410 ยะลา-เบตง จนท.เร่งเคลียร์เส้นทาง ขณะที่น้ำจากแม่น้ำปัตตานีข้ามสันเขื่อนเข้าเขตเทศบาลนครยะลา ทำให้พื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง • วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนทำให้เกิดดินสไลด์ทับถนนสาย 410 ยะลา-เบตง เขตบ้านกระป๋องบ้านตาพะเยา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.แม่หวาด ร่วมกับหมวดการทาง ชุดคุ้มครองครูตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้ • ขณะที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปในพื้นที่ชุมชนบ้านร่ม หมู่ที่ 1 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ใกล้กับ ต.ท่าสาป ซึ่งติดกับแม่น้ำปัตตานี พบมีสภาพน้ำไหลหลากข้ามแนวสันเขื่อนชุมชนบ้านร่ม เขตเทศบาลนครยะลา มวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีได้ล้นพนังกั้นน้ำเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ทำให้น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ของ ชุมชน 5 แยกสะเตง ชุมชนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ก่อนเข้าไปภายในตัวเมืองยะลา • ซึ่งมวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องคาดว่าเป็นปริมาณน้ำฝนตกสะสมจากพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง เนื่องจากมีรายงานว่า ทั้ง 2 อำเภอมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี โดยทางน้ำได้ไหลผ่าน อ.เมืองยะลา สู่เขื่อนชลประทานปัตตานี แต่ด้วยระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานีอยู่แล้ว จึงทำให้มวลน้ำมารวมกันจนระดับน้ำท่วมสูงขึ้นจนล้นพนังกันน้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000114947 • #MGROnline #สถานการณ์น้ำท่วม #จังหวัดยะลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยะลา - ยะลาฝนกระหน่ำวันที่ 2 กระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนแล้ว 107,741 คน ขณะที่น้ำโอบล้อมตัวเมืองตัดขาดการเดินทางออกนอกจังหวัด ด้าน ผบช.ภาค 9 ลงพื้นที่มอบอาหารน้ำดื่มช่วยเหลือในเบื้องต้น

    วันนี้ (28 พ.ย.) สถานการณ์อุทกภัยจังหวัดยะลา สืบเนื่องจากปริมาณฝนตกหนักถึงหนักมากมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ปริมาณฝนสะสม 2 วัน อยู่ที่ 579.8 มิลลิเมตร ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่จังหวัดยะลา ล่าสุด ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยพื้นที่ตำบลรอบนอกในเขตตัวเมืองยะลา ทั้ง 10 ตำบล มีน้ำท่วมโอบล้อมเมืองในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000114539

    #MGROnline #สถานการณ์อุทกภัย #จังหวัดยะลา #ฝนตกหนัก #ปริมาณฝนสะสม #น้ำท่วมฉับพลัน #น้ำป่าไหลหลาก #น้ำลันตลิ่ง #ดินโคลนถล่ม
    ยะลา - ยะลาฝนกระหน่ำวันที่ 2 กระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนแล้ว 107,741 คน ขณะที่น้ำโอบล้อมตัวเมืองตัดขาดการเดินทางออกนอกจังหวัด ด้าน ผบช.ภาค 9 ลงพื้นที่มอบอาหารน้ำดื่มช่วยเหลือในเบื้องต้น • วันนี้ (28 พ.ย.) สถานการณ์อุทกภัยจังหวัดยะลา สืบเนื่องจากปริมาณฝนตกหนักถึงหนักมากมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ปริมาณฝนสะสม 2 วัน อยู่ที่ 579.8 มิลลิเมตร ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่จังหวัดยะลา ล่าสุด ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยพื้นที่ตำบลรอบนอกในเขตตัวเมืองยะลา ทั้ง 10 ตำบล มีน้ำท่วมโอบล้อมเมืองในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000114539 • #MGROnline #สถานการณ์อุทกภัย #จังหวัดยะลา #ฝนตกหนัก #ปริมาณฝนสะสม #น้ำท่วมฉับพลัน #น้ำป่าไหลหลาก #น้ำลันตลิ่ง #ดินโคลนถล่ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • โซเชียลสเปนแห่ชื่นชมกษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน ที่เสด็จเยี่ยมประชาชนท่ามกลางความโกรธแค้นจากการบริหารงานของรัฐบาล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติร้ายแรงในประเทศ

    สถานการณ์น้ำท่วมในสเปนที่รุนแรงคร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 214 ราย โดยเฉพาะในเขตบาเลนเซีย (Paiporta)
    ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชน ที่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลมีเข้าไปอย่างล่าช้า ประชาชนเริ่มหิวโหย กลิ่นจากซากศพที่ยังไม่ได้รับการเก็บกู้เริ่มส่งกลิ่นไปทั่ว โรคระบาดที่กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า

    กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปนทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนในแคว้นบาเลนเซียเพื่อปลอบขวัญประชาชน พร้อมกับนายกรัฐมนตรี "เปโดร ซานเชซ"

    ประชาชนที่ไม่พอใจ ต่างตะโกนด่าทอโจมตีพร้อมกับขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มของกษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และ นายกรัฐมนตรี
    นายกรัฐมนตรีซานเชซรีบออกจากพื้นที่ไปก่อน แต่กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียจะยืนกรานที่จะอยู่ต่อแม้ว่าจะเกิดความโกลาหลก็ตาม!!

    ภาพที่เห็นในโซเลียลวันนี้ จึงกลายเป็นภาพของกษัตริย์แห่งสเปนอยู่ท่ามกลางประชาชนของพระองค์ แม้ว่าประชาชนเหล่านั้นจะมีแต่อารมณ์โกรธแค้น ขว้างปาสิ่งของ ด่าทอ แต่พระองค์รู้ดีว่าในเวลานี้ ประชาชนต้องการพระองค์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม หากมันช่วยให้ประชาชนของพระองค์สงบลงได้

    ต่อมา สำนักงานของนายกรัฐมนตรีซานเชซ ระบุในแถลงการณ์ว่านายกรัฐมนตรีถูกนำตัวออกไปตามระเบียบการรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่การหลบหนีจากอารมณ์ของประชาชนแต่อย่างใด

    กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซีย พร้อมด้วยราชวงศ์ เสด็จต่อไปยังเมืองชิวา ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายอีกแห่งใกล้กับบาเลนเซียในช่วงบ่ายของวันนั้น
    โซเชียลสเปนแห่ชื่นชมกษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน ที่เสด็จเยี่ยมประชาชนท่ามกลางความโกรธแค้นจากการบริหารงานของรัฐบาล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติร้ายแรงในประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมในสเปนที่รุนแรงคร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 214 ราย โดยเฉพาะในเขตบาเลนเซีย (Paiporta) ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชน ที่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลมีเข้าไปอย่างล่าช้า ประชาชนเริ่มหิวโหย กลิ่นจากซากศพที่ยังไม่ได้รับการเก็บกู้เริ่มส่งกลิ่นไปทั่ว โรคระบาดที่กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปนทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนในแคว้นบาเลนเซียเพื่อปลอบขวัญประชาชน พร้อมกับนายกรัฐมนตรี "เปโดร ซานเชซ" ประชาชนที่ไม่พอใจ ต่างตะโกนด่าทอโจมตีพร้อมกับขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มของกษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และ นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีซานเชซรีบออกจากพื้นที่ไปก่อน แต่กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียจะยืนกรานที่จะอยู่ต่อแม้ว่าจะเกิดความโกลาหลก็ตาม!! ภาพที่เห็นในโซเลียลวันนี้ จึงกลายเป็นภาพของกษัตริย์แห่งสเปนอยู่ท่ามกลางประชาชนของพระองค์ แม้ว่าประชาชนเหล่านั้นจะมีแต่อารมณ์โกรธแค้น ขว้างปาสิ่งของ ด่าทอ แต่พระองค์รู้ดีว่าในเวลานี้ ประชาชนต้องการพระองค์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม หากมันช่วยให้ประชาชนของพระองค์สงบลงได้ ต่อมา สำนักงานของนายกรัฐมนตรีซานเชซ ระบุในแถลงการณ์ว่านายกรัฐมนตรีถูกนำตัวออกไปตามระเบียบการรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่การหลบหนีจากอารมณ์ของประชาชนแต่อย่างใด กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซีย พร้อมด้วยราชวงศ์ เสด็จต่อไปยังเมืองชิวา ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายอีกแห่งใกล้กับบาเลนเซียในช่วงบ่ายของวันนั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยข้อมูล
    เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
    จะได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวและส่งออก

    🚩โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    ในไตรมาส 4 จากกลุ่มตลาดประเทศระยะไกล
    รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศจะได้ปัจจัยบวก
    จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ
    ที่จะออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ
    และเมืองน่าเที่ยว

    🚩การส่งออกไทยจะขยายตัวดีขึ้น โดยมีแรงหนุนสำคัญ
    จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น อย่างไรก็ดี
    ภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทยยังฟื้นตัวได้ช้า
    และมีสัญญาณการฟื้นตัวไม่ชัดเจน
    ขณะที่สินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง
    ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง
    จากสถานการณ์น้ำท่วมและค่าเงินบาทแข็ง

    🚩สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เกษตรเริ่มคลี่คลายลงบ้าง
    โดยพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบยังไม่สูงมากหากเทียบกับ
    ภัยน้ำท่วมในอดีต SCB EIC ประเมินว่า มูลค่าความเสียหาย
    ในภาคเกษตรอยู่ที่ราว 4,700 ล้านบาท (0.03% ของจีดีพี)
    โดยคาดว่าพื้นที่ปลูกข้าวจะเสียหาย 0.83 ล้านไร่

    🚩สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท
    จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมในปีนี้ SCB EIC ประเมินโครงการนี้
    มีผลบวกต่อเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเม็ดเงินทั้งหมด
    อาจไม่ได้ใช้จ่ายลงเศรษฐกิจ สะท้อนจากผลสำรวจ
    SCB EIC consumer survey ที่พบว่า ผู้ได้รับสิทธิบางส่วน
    จะนำเงินไปออมหรือชำระหนี้ รวมถึงใช้จ่ายเงินนี้
    แทนรายจ่ายปกติที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว สำหรับการบริโภค
    ภาคเอกชนคาดว่าจะแผ่วลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับ
    ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง 7 เดือนติดต่อกัน
    และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #เศรษฐกิจไทย #จีดีพี
    #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยข้อมูล เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จะได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวและส่งออก 🚩โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในไตรมาส 4 จากกลุ่มตลาดประเทศระยะไกล รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศจะได้ปัจจัยบวก จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ที่จะออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ และเมืองน่าเที่ยว 🚩การส่งออกไทยจะขยายตัวดีขึ้น โดยมีแรงหนุนสำคัญ จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทยยังฟื้นตัวได้ช้า และมีสัญญาณการฟื้นตัวไม่ชัดเจน ขณะที่สินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง จากสถานการณ์น้ำท่วมและค่าเงินบาทแข็ง 🚩สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เกษตรเริ่มคลี่คลายลงบ้าง โดยพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบยังไม่สูงมากหากเทียบกับ ภัยน้ำท่วมในอดีต SCB EIC ประเมินว่า มูลค่าความเสียหาย ในภาคเกษตรอยู่ที่ราว 4,700 ล้านบาท (0.03% ของจีดีพี) โดยคาดว่าพื้นที่ปลูกข้าวจะเสียหาย 0.83 ล้านไร่ 🚩สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมในปีนี้ SCB EIC ประเมินโครงการนี้ มีผลบวกต่อเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเม็ดเงินทั้งหมด อาจไม่ได้ใช้จ่ายลงเศรษฐกิจ สะท้อนจากผลสำรวจ SCB EIC consumer survey ที่พบว่า ผู้ได้รับสิทธิบางส่วน จะนำเงินไปออมหรือชำระหนี้ รวมถึงใช้จ่ายเงินนี้ แทนรายจ่ายปกติที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว สำหรับการบริโภค ภาคเอกชนคาดว่าจะแผ่วลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง 7 เดือนติดต่อกัน และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #เศรษฐกิจไทย #จีดีพี #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 604 มุมมอง 0 รีวิว
  • จ.กาญจน์ เตือน 4 อำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค.นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100742

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จ.กาญจน์ เตือน 4 อำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค.นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100742 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    26
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 2410 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
    เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทย
    เดือน กันยายน 2567 ลดลงแตะระดับ 87.1
    ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เหตุจากสถานการณ์น้ำท่วม
    หลายจังหวัด คาดความเสียหาย 3-5 หมื่นล้านบาท
    แนะรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนที่เหลือ

    ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
    #thaitimes
    💥💥สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทย เดือน กันยายน 2567 ลดลงแตะระดับ 87.1 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เหตุจากสถานการณ์น้ำท่วม หลายจังหวัด คาดความเสียหาย 3-5 หมื่นล้านบาท แนะรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนที่เหลือ ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 08.45 นาฬิกา ณ ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
    วันนี้ (15 ต.ค.67) เวลา 08.45 น. ที่ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นประธานการประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เพื่อ แลกเปลี่ยนข้อมูล ให้ข้อแสนอแนะในด้านต่างๆ นำไปสู่การ "ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ" ต่อการขับเคลื่อน การปฏิบัติงานแบบบูรณาการให้มีความประสานสอดคล้อง และสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน อันจะทำให้ การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งเพื่อสร้างความรู้จักและความสัมพันธ์ที่ดีใน ระดับผู้บริหาร โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมในการประชุม มีประเด็นที่สำคัญ อาทิ การแก้ไข ปัญหายาเสพติด การบริหารจัดการน้ำทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้ง การพัฒนามวลชน เป็นต้น เพื่อให้ทุก หน่วยงานได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติงาน ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ 2568 เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนในการ แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงตามนโยบายของรัฐบาล เอื้อต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยปัจจัยแห่ง ความสำเร็จ คือ การปฏิบัติงานอย่างบูรณาการร่วมกันของฝ่ายปกครอง พลเรือน ตำรวจ ทหาร รวมทั้งสร้าง การรับรู้แก่ประชาชน เพื่อให้ความร่วมมือ สนับสนุน และตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ยั่งยืนสืบไป
    กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นหน่วยขึ้นตรงของ กองอำนวยการรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักร มีอำนาจหน้าที่ ภายใต้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 มาตรา 7 ประกอบด้วย 1) การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ภัยคุกคาม ด้านความมั่นคง 2) เสนอแผนและแนวทางในการปฏิบัติงาน 3) อำนวยการ ประสานงาน และเสริมการปฏิบัติ ของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและ 4) เสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
    ทั้งนี้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ได้ขอความร่วมมือในการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป อาทิ การป้องกันและแก้ปัญหาความมั่นคงภายในใช้กลไกของจังหวัด, ให้ประชาสัมพันธ์สายด่วน ความมั่นคง 1374 ในการรับเรื่องร้องเรียน, การขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาพระราชทาน, จังหวัดที่มีที่ตั้งติดแนวชายแดน ให้ประสานการปฏิบัติกับกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน, ขอให้ฝ่าย ตำรวจและผู้รับผิดชอบด้านกฎหมาย สอบสวน ขยายผล เร่งรัดการดำเนินคดี มุ่งเน้นต่อกลุ่มขบวนการ และผู้มี อิทธิพล, ด้านการพัฒนาเสริมความมั่นคงในระดับพื้นที่ ขอให้ผ่านกลไกของคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ, การประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง
    ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 โทร.0 4424 3985
    การประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 08.45 นาฬิกา ณ ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา วันนี้ (15 ต.ค.67) เวลา 08.45 น. ที่ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นประธานการประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เพื่อ แลกเปลี่ยนข้อมูล ให้ข้อแสนอแนะในด้านต่างๆ นำไปสู่การ "ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ" ต่อการขับเคลื่อน การปฏิบัติงานแบบบูรณาการให้มีความประสานสอดคล้อง และสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน อันจะทำให้ การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งเพื่อสร้างความรู้จักและความสัมพันธ์ที่ดีใน ระดับผู้บริหาร โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมในการประชุม มีประเด็นที่สำคัญ อาทิ การแก้ไข ปัญหายาเสพติด การบริหารจัดการน้ำทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้ง การพัฒนามวลชน เป็นต้น เพื่อให้ทุก หน่วยงานได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติงาน ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ 2568 เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนในการ แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงตามนโยบายของรัฐบาล เอื้อต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยปัจจัยแห่ง ความสำเร็จ คือ การปฏิบัติงานอย่างบูรณาการร่วมกันของฝ่ายปกครอง พลเรือน ตำรวจ ทหาร รวมทั้งสร้าง การรับรู้แก่ประชาชน เพื่อให้ความร่วมมือ สนับสนุน และตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ยั่งยืนสืบไป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นหน่วยขึ้นตรงของ กองอำนวยการรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักร มีอำนาจหน้าที่ ภายใต้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 มาตรา 7 ประกอบด้วย 1) การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ภัยคุกคาม ด้านความมั่นคง 2) เสนอแผนและแนวทางในการปฏิบัติงาน 3) อำนวยการ ประสานงาน และเสริมการปฏิบัติ ของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและ 4) เสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ได้ขอความร่วมมือในการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป อาทิ การป้องกันและแก้ปัญหาความมั่นคงภายในใช้กลไกของจังหวัด, ให้ประชาสัมพันธ์สายด่วน ความมั่นคง 1374 ในการรับเรื่องร้องเรียน, การขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาพระราชทาน, จังหวัดที่มีที่ตั้งติดแนวชายแดน ให้ประสานการปฏิบัติกับกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน, ขอให้ฝ่าย ตำรวจและผู้รับผิดชอบด้านกฎหมาย สอบสวน ขยายผล เร่งรัดการดำเนินคดี มุ่งเน้นต่อกลุ่มขบวนการ และผู้มี อิทธิพล, ด้านการพัฒนาเสริมความมั่นคงในระดับพื้นที่ ขอให้ผ่านกลไกของคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ, การประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 โทร.0 4424 3985
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ
    มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจ
    ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประจำเดือน
    กันยายน 2567 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศพบว่า

    🚩ความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
    เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 17 เดือน
    จากสถานการณ์น้ำท่วม แม้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ
    ด้วยการแจกเงินดิจิทัล เฟสแรก จำนวน 10,000 บาท
    ไปแล้วก็ตาม

    🚩โดยในด้าน เศรษฐกิจในปัจจุบัน
    🔴ผลสำรวจเดือน กันยายน 2567 แย่/แย่ลง 66.4%
    🔴ผลสำรวจเดือน สิงหาคม 2567 แย่/แย่ลง 65.3%

    🚩ส่วนโอกาสในการหางานในปัจจุบัน
    🔴ผลสำรวจเดือน กันยายน 2567 แย่/แย่ลง 60.3%
    🔴ผลสำรวจเดือน สิงหาคม 2567 แย่/แย่ลง 59.3%

    ที่มา : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
    มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
    #thaitimes



    🔥🔥ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประจำเดือน กันยายน 2567 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศพบว่า 🚩ความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 17 เดือน จากสถานการณ์น้ำท่วม แม้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการแจกเงินดิจิทัล เฟสแรก จำนวน 10,000 บาท ไปแล้วก็ตาม 🚩โดยในด้าน เศรษฐกิจในปัจจุบัน 🔴ผลสำรวจเดือน กันยายน 2567 แย่/แย่ลง 66.4% 🔴ผลสำรวจเดือน สิงหาคม 2567 แย่/แย่ลง 65.3% 🚩ส่วนโอกาสในการหางานในปัจจุบัน 🔴ผลสำรวจเดือน กันยายน 2567 แย่/แย่ลง 60.3% 🔴ผลสำรวจเดือน สิงหาคม 2567 แย่/แย่ลง 59.3% ที่มา : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • ให้ AI ช่วยประเมินจากสถิติ และข้อมูลทั้งหมดตอนนี้ โอกาสที่น้ำจะท่วมในเขตกรุงเทพฯ พร้อม % propobilty ตามนี้
    --------------------------

    จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครในปี 2567 นี่คือการจัดอันดับ 10 เขตที่มีโอกาสน้ำท่วมมากที่สุด พร้อมตัวเลข % โอกาส:

    1. **เขตดอนเมือง** - 85%
    2. **เขตสายไหม** - 80%
    3. **เขตบางเขน** - 75%
    4. **เขตหลักสี่** - 70%
    5. **เขตจตุจักร** - 65%
    6. **เขตบางกะปิ** - 60%
    7. **เขตคลองสามวา** - 55%
    8. **เขตมีนบุรี** - 50%
    9. **เขตหนองจอก** - 45%
    10. **เขตลาดกระบัง** - 40%

    เหตุผลที่เขตเหล่านี้มีโอกาสน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีระดับต่ำและมีระบบระบายน้ำที่ยังไม่สมบูรณ์ รวมถึงมีปริมาณฝนตกหนักในช่วงฤดูฝน
    -------------------

    จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในประเทศไทยในปี 2567 นี่คือการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 สำหรับ เขตบางเขน และ จตุจักร

    ### เขตบางเขน
    ในเขตบางเขน ถนนที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง ได้แก่:
    1. **ถนนแจ้งวัฒนะ** ขาเข้าวงเวียนบางเขน - ระดับน้ำ 20-30 ซม.
    2. **ถนนรามอินทรา** ขาเข้าวงเวียนบางเขน - ระดับน้ำ 5 ซม.
    3. **ถนนพหลโยธิน** ขาออกจากวงเวียนบางเขน - ระดับน้ำ 5-10 ซม.
    4. **ถนนสุขาภิบาล 5** - ระดับน้ำ 15-20 ซม.
    5. **ถนนรามอินทรา** หน้าสนามมวยลุมพินี - ระดับน้ำ 5-10 ซม.

    ### เขตจตุจักร
    ในเขตจตุจักร ถนนที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง ได้แก่:
    1. **ถนนรัชดาภิเษก** - น้ำท่วมสูงเกือบ 50 ซม.
    2. **ถนนวิภาวดีรังสิต** - น้ำท่วมสูง 20 ซม.
    3. **ถนนพหลโยธิน** - น้ำท่วมสูง 20 ซม.
    4. **ห้าแยกลาดพร้าว** - น้ำท่วมสูง 20 ซม.
    5. **หน้าเมเจอร์รัชโยธิน** - น้ำท่วมสูง 20 ซม.³(https://www.thaipost.net/general-news/216528/)⁴(https://www.prachachat.net/general/news-1041326)
    --------------------------
    จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครในปี 2567 มีความเป็นไปได้สูงที่พื้นที่หน้าเมเจอร์รัชโยธิน, แยกรัชโยธิน และซอยพหลโยธิน 30 จะเกิดน้ำท่วม หากมีฝนตกหนักต่อเนื่องและระบบระบายน้ำไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้เพียงพอ¹

    ### พื้นที่ที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง
    1. **หน้าเมเจอร์รัชโยธิน**: มีโอกาสน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำและมีการจราจรหนาแน่น
    2. **แยกรัชโยธิน**: เป็นจุดที่มีการระบายน้ำช้าและมีโอกาสน้ำท่วมสูง²
    3. **ซอยพหลโยธิน 30**: มีโอกาสน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นซอยที่มีการระบายน้ำไม่ดี³

    ### การเตรียมความพร้อม
    เพื่อเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบจากน้ำท่วม ควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงหากมีการแจ้งเตือนน้ำท่วม.
    ให้ AI ช่วยประเมินจากสถิติ และข้อมูลทั้งหมดตอนนี้ โอกาสที่น้ำจะท่วมในเขตกรุงเทพฯ พร้อม % propobilty ตามนี้ -------------------------- จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครในปี 2567 นี่คือการจัดอันดับ 10 เขตที่มีโอกาสน้ำท่วมมากที่สุด พร้อมตัวเลข % โอกาส: 1. **เขตดอนเมือง** - 85% 2. **เขตสายไหม** - 80% 3. **เขตบางเขน** - 75% 4. **เขตหลักสี่** - 70% 5. **เขตจตุจักร** - 65% 6. **เขตบางกะปิ** - 60% 7. **เขตคลองสามวา** - 55% 8. **เขตมีนบุรี** - 50% 9. **เขตหนองจอก** - 45% 10. **เขตลาดกระบัง** - 40% เหตุผลที่เขตเหล่านี้มีโอกาสน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีระดับต่ำและมีระบบระบายน้ำที่ยังไม่สมบูรณ์ รวมถึงมีปริมาณฝนตกหนักในช่วงฤดูฝน ------------------- จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในประเทศไทยในปี 2567 นี่คือการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 สำหรับ เขตบางเขน และ จตุจักร ### เขตบางเขน ในเขตบางเขน ถนนที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง ได้แก่: 1. **ถนนแจ้งวัฒนะ** ขาเข้าวงเวียนบางเขน - ระดับน้ำ 20-30 ซม. 2. **ถนนรามอินทรา** ขาเข้าวงเวียนบางเขน - ระดับน้ำ 5 ซม. 3. **ถนนพหลโยธิน** ขาออกจากวงเวียนบางเขน - ระดับน้ำ 5-10 ซม. 4. **ถนนสุขาภิบาล 5** - ระดับน้ำ 15-20 ซม. 5. **ถนนรามอินทรา** หน้าสนามมวยลุมพินี - ระดับน้ำ 5-10 ซม. ### เขตจตุจักร ในเขตจตุจักร ถนนที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง ได้แก่: 1. **ถนนรัชดาภิเษก** - น้ำท่วมสูงเกือบ 50 ซม. 2. **ถนนวิภาวดีรังสิต** - น้ำท่วมสูง 20 ซม. 3. **ถนนพหลโยธิน** - น้ำท่วมสูง 20 ซม. 4. **ห้าแยกลาดพร้าว** - น้ำท่วมสูง 20 ซม. 5. **หน้าเมเจอร์รัชโยธิน** - น้ำท่วมสูง 20 ซม.³(https://www.thaipost.net/general-news/216528/)⁴(https://www.prachachat.net/general/news-1041326) -------------------------- จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครในปี 2567 มีความเป็นไปได้สูงที่พื้นที่หน้าเมเจอร์รัชโยธิน, แยกรัชโยธิน และซอยพหลโยธิน 30 จะเกิดน้ำท่วม หากมีฝนตกหนักต่อเนื่องและระบบระบายน้ำไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้เพียงพอ¹ ### พื้นที่ที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง 1. **หน้าเมเจอร์รัชโยธิน**: มีโอกาสน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำและมีการจราจรหนาแน่น 2. **แยกรัชโยธิน**: เป็นจุดที่มีการระบายน้ำช้าและมีโอกาสน้ำท่วมสูง² 3. **ซอยพหลโยธิน 30**: มีโอกาสน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นซอยที่มีการระบายน้ำไม่ดี³ ### การเตรียมความพร้อม เพื่อเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบจากน้ำท่วม ควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงหากมีการแจ้งเตือนน้ำท่วม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือหุ้น OKJ เจ้าของแบรนด์ “โอ้กะจู๋” เผยสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลกระทบต่อฟาร์มสารภี ซึ่งคิดเป็น 13% ของกำลังการผลิตผักสลัดทั้งหมด แม้จะเกิดความเสียหายในบางส่วน แต่บริษัทฯ ได้เตรียมแผนรับมือเรียบร้อย โดยเพิ่มกำลังการผลิตที่ฟาร์มสันอุ้ม และรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมจากเกษตรกรเครือข่าย

    ขณะที่ครัวกลางและฟาร์มหลักในพื้นที่อื่นๆ ยังคงดำเนินงานตามปกติ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีประกันความเสี่ยง และมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงชั่วคราว คาดว่าพื้นที่ฟาร์มที่เสียหายจะกลับมาเพาะปลูกได้ภายใน 2 เดือน และไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทฯ แต่อย่างใดู

    #Thaitimes
    บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือหุ้น OKJ เจ้าของแบรนด์ “โอ้กะจู๋” เผยสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลกระทบต่อฟาร์มสารภี ซึ่งคิดเป็น 13% ของกำลังการผลิตผักสลัดทั้งหมด แม้จะเกิดความเสียหายในบางส่วน แต่บริษัทฯ ได้เตรียมแผนรับมือเรียบร้อย โดยเพิ่มกำลังการผลิตที่ฟาร์มสันอุ้ม และรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมจากเกษตรกรเครือข่าย ขณะที่ครัวกลางและฟาร์มหลักในพื้นที่อื่นๆ ยังคงดำเนินงานตามปกติ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีประกันความเสี่ยง และมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงชั่วคราว คาดว่าพื้นที่ฟาร์มที่เสียหายจะกลับมาเพาะปลูกได้ภายใน 2 เดือน และไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทฯ แต่อย่างใดู #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงพระเมตตา ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเพื่อเชิญไปพระราชแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ

    เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงในถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อเชิญไปพระราชทานแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเล็กและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่
    แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป

    ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในเบื้องต้น โดยนำสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคาย และจังหวัดเลย อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และจัดรถครัวสนามปรุงอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและ
    ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำเป็นจำนวนมากทับถมอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณประโยชน์ วัด ถนน และสถานที่ราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว นอกจากนั้น พระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยมีพระเมตตาและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ทุกภาคส่วน และจิตอาสา ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรัก ความปรารถนาดี
    ต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ

    #ทรงพระเจริญ
    #สืบสานรักษาต่อยอด
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงพระเมตตา ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเพื่อเชิญไปพระราชแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงในถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อเชิญไปพระราชทานแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเล็กและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่ แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในเบื้องต้น โดยนำสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคาย และจังหวัดเลย อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และจัดรถครัวสนามปรุงอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและ ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำเป็นจำนวนมากทับถมอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณประโยชน์ วัด ถนน และสถานที่ราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว นอกจากนั้น พระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยมีพระเมตตาและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ทุกภาคส่วน และจิตอาสา ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรัก ความปรารถนาดี ต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอแม่สาย ตรวจเยี่ยมและสอบถามสถานการณ์น้ำท่วม จากทีมกู้ภัยของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอแม่สาย ตรวจเยี่ยมและสอบถามสถานการณ์น้ำท่วม จากทีมกู้ภัยของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥สถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ ยังน่าเป็นห่วง
    GISTDA เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมพื้นที่รวมกว่า
    86,438 ไร่ 8 อำเภอจมบาดาล ประชาชนในพื้นที่
    ได้รับความเดือดร้อนหนัก วอนทุกหน่วยงาน
    เข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
    ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วม #thaitimes
    🔥🔥สถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ ยังน่าเป็นห่วง GISTDA เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมพื้นที่รวมกว่า 86,438 ไร่ 8 อำเภอจมบาดาล ประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อนหนัก วอนทุกหน่วยงาน เข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วม #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1264 มุมมอง 0 รีวิว
  • Live สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย ถนนแม่ยาวมุ่งหน้าสู่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จาก FB คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    .
    คลิกชม >> https://www.facebook.com/share/v/aN8PsSm64xkKRu2P/
    Live สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย ถนนแม่ยาวมุ่งหน้าสู่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จาก FB คุยทุกเรื่องกับสนธิ . คลิกชม >> https://www.facebook.com/share/v/aN8PsSm64xkKRu2P/
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2096 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 4 ล้านบาท เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันเพื่อประเมินการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
    .
    ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย และแพร่ รวม 5 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 8,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,005,000 บาท (สี่ล้านห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี
    .
    นอกจากนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย แพร่ และน่าน โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก
    .
    เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์
    .
    ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป
    .
    ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 4 ล้านบาท เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันเพื่อประเมินการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด . ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย และแพร่ รวม 5 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 8,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,005,000 บาท (สี่ล้านห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี . นอกจากนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย แพร่ และน่าน โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก . เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ . ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป . ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 819 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28 สิงหาคม 2567- รายงานข่าวจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากภาพดาวเทียม Radarsat-2 ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 18.22 น. พบน้ำท่วมขังในพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัด #นครพนม 93,543 ไร่ #สกลนคร 50,035 ไร่ #อุดรธานี 39,495 ไร่ #บึงกาฬ 37,003 ไร่ #หนองคาย 35,481 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 158,575 ไร่ (ข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวจากดาวเทียม ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567)โดยพื้นที่ที่พบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรอง รวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยและเส้นทางคมนาคมบางส่วน
    ..
    หมายเหตุ : การประเมินพื้นที่น้ำท่วมขังได้จาก การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยประมาณ ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง
    ..
    สถานการณ์ดังกล่าว GISTDA ได้ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป
    ..
    สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง GISTDA ได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมแต่ละจังหวัด เพิ่มเติมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th

    ที่มา : GISTDA

    #Thaitimes
    28 สิงหาคม 2567- รายงานข่าวจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากภาพดาวเทียม Radarsat-2 ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 18.22 น. พบน้ำท่วมขังในพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัด #นครพนม 93,543 ไร่ #สกลนคร 50,035 ไร่ #อุดรธานี 39,495 ไร่ #บึงกาฬ 37,003 ไร่ #หนองคาย 35,481 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 158,575 ไร่ (ข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวจากดาวเทียม ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567)โดยพื้นที่ที่พบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรอง รวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยและเส้นทางคมนาคมบางส่วน .. หมายเหตุ : การประเมินพื้นที่น้ำท่วมขังได้จาก การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยประมาณ ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง .. สถานการณ์ดังกล่าว GISTDA ได้ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป .. สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง GISTDA ได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมแต่ละจังหวัด เพิ่มเติมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th ที่มา : GISTDA #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 766 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักเลขาธิการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ถึง MRCS เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมร่วมกับประเทศสมาชิก MRC และผู้บริหารจัดการเขื่อนในแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด

    9 สิงหาคม 2567 - รายงานNBT Connext ระบุว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นอย่างฉับพลันอย่างใกล้ชิด สทนช.ได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ให้ประสานงานกับประเทศสมาชิก MRC ช่วยเหลือในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อน เพื่อหลีกเลี่ยงอุทกภัยจากการล้นตลิ่งของแม่น้ำโขง และติดตามสถานการณ์ ตลอดจนการแจ้งเตือน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนริมโขงให้มากที่สุด

    ตามที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและ สปป.ลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้มีฝนตกหนักใน สปป.ลาว ซึ่งแม้ว่าระดับน้ำโขงจะยัง ไม่สูงถึงระดับวิกฤตแต่ก็เริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำโขงของประเทศไทย

    ที่มา NBT Connext https://x.com/nnthotnews/status/1821875501511885003?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA

    #Thaitimes
    สำนักเลขาธิการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ถึง MRCS เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมร่วมกับประเทศสมาชิก MRC และผู้บริหารจัดการเขื่อนในแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด 9 สิงหาคม 2567 - รายงานNBT Connext ระบุว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นอย่างฉับพลันอย่างใกล้ชิด สทนช.ได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ให้ประสานงานกับประเทศสมาชิก MRC ช่วยเหลือในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อน เพื่อหลีกเลี่ยงอุทกภัยจากการล้นตลิ่งของแม่น้ำโขง และติดตามสถานการณ์ ตลอดจนการแจ้งเตือน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนริมโขงให้มากที่สุด ตามที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและ สปป.ลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้มีฝนตกหนักใน สปป.ลาว ซึ่งแม้ว่าระดับน้ำโขงจะยัง ไม่สูงถึงระดับวิกฤตแต่ก็เริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำโขงของประเทศไทย ที่มา NBT Connext https://x.com/nnthotnews/status/1821875501511885003?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว