• ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm

    ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป

    ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม

    Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm

    ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners
    - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository
    - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier

    ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners
    - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น
    - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง

    ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm
    - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm
    - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา

    ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture
    - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
    - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86 ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings Windows on Arm runner support to GitHub Actions for all public repositories
    Developers can now finally integrate Windows on Arm runners into their CI workflows across all public GitHub repositories.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัว MUSA SDK ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท Moore Threads ของจีน เพื่อแข่งขันกับ NVIDIA CUDA ในตลาด AI และการประมวลผลแบบขนาน

    MUSA SDK เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ GPU ของ Moore Threads โดยมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น ไลบรารีสำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ (muBLAS, muFFT) และเครื่องมือสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Musify ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถพอร์ตโค้ดจาก CUDA ไปยัง MUSA ได้อย่างง่ายดาย

    เวอร์ชันล่าสุดของ MUSA SDK (4.0.1) รองรับโปรเซสเซอร์ Intel และ ARM รวมถึง CPU ในประเทศจีน เช่น Hygon, Kylin และ Loongson ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถใช้งานได้ในระบบที่หลากหลายมากขึ้น

    การเปิดตัว MUSA SDK นี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความตึงเครียดทางการค้าและการเมือง

    ✅ การเปิดตัว MUSA SDK
    - พัฒนาโดย Moore Threads เพื่อแข่งขันกับ NVIDIA CUDA
    - รองรับ GPU ของ Moore Threads และมีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น muBLAS, muFFT

    ✅ ฟีเจอร์เด่นของ MUSA SDK
    - Musify ช่วยพอร์ตโค้ดจาก CUDA ไปยัง MUSA ได้ง่าย
    - รองรับโปรเซสเซอร์ Intel, ARM และ CPU ในประเทศจีน

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา
    - ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
    - สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศจีน

    ℹ️ ข้อจำกัดของ MUSA SDK
    - ยังไม่สามารถแข่งขันกับ NVIDIA CUDA ในด้านประสิทธิภาพ
    - การใช้งานอาจจำกัดในกลุ่มนักพัฒนาที่ใช้ GPU ของ Moore Threads

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - การเปิดตัว MUSA SDK อาจเพิ่มการแข่งขันในตลาด AI
    - ความสำเร็จของ MUSA SDK อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในระดับโลก

    https://wccftech.com/china-first-in-house-alternative-to-nvidias-cuda-emerges-online/
    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัว MUSA SDK ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท Moore Threads ของจีน เพื่อแข่งขันกับ NVIDIA CUDA ในตลาด AI และการประมวลผลแบบขนาน MUSA SDK เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ GPU ของ Moore Threads โดยมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น ไลบรารีสำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ (muBLAS, muFFT) และเครื่องมือสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Musify ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถพอร์ตโค้ดจาก CUDA ไปยัง MUSA ได้อย่างง่ายดาย เวอร์ชันล่าสุดของ MUSA SDK (4.0.1) รองรับโปรเซสเซอร์ Intel และ ARM รวมถึง CPU ในประเทศจีน เช่น Hygon, Kylin และ Loongson ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถใช้งานได้ในระบบที่หลากหลายมากขึ้น การเปิดตัว MUSA SDK นี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความตึงเครียดทางการค้าและการเมือง ✅ การเปิดตัว MUSA SDK - พัฒนาโดย Moore Threads เพื่อแข่งขันกับ NVIDIA CUDA - รองรับ GPU ของ Moore Threads และมีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น muBLAS, muFFT ✅ ฟีเจอร์เด่นของ MUSA SDK - Musify ช่วยพอร์ตโค้ดจาก CUDA ไปยัง MUSA ได้ง่าย - รองรับโปรเซสเซอร์ Intel, ARM และ CPU ในประเทศจีน ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ - สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศจีน ℹ️ ข้อจำกัดของ MUSA SDK - ยังไม่สามารถแข่งขันกับ NVIDIA CUDA ในด้านประสิทธิภาพ - การใช้งานอาจจำกัดในกลุ่มนักพัฒนาที่ใช้ GPU ของ Moore Threads ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - การเปิดตัว MUSA SDK อาจเพิ่มการแข่งขันในตลาด AI - ความสำเร็จของ MUSA SDK อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในระดับโลก https://wccftech.com/china-first-in-house-alternative-to-nvidias-cuda-emerges-online/
    WCCFTECH.COM
    China's First "In-House" Alternative To NVIDIA's CUDA Emerges Online; The MUSA SDK From Moore Threads
    It appears that the Chinese firm Moore Threads wants its share of the AI market, as the firm has released a new upgrade to its MUSA SDK.
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าโทรศัพท์มือถือของคุณอาจถูกแฮก และวิธีการรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น

    โทรศัพท์มือถือเป็นแหล่งข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ซึ่งทำให้ตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ที่ต้องการขโมยข้อมูลหรือควบคุมอุปกรณ์ของคุณผ่านแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เว็บไซต์ฟิชชิง และภัยคุกคามอื่นๆ สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าโทรศัพท์ของคุณอาจถูกแฮก ได้แก่ แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ โทรศัพท์ทำงานช้าลง มีการเข้าสู่ระบบที่ไม่คุ้นเคย พื้นที่จัดเก็บข้อมูลลดลง และพบแอปพลิเคชันที่คุณไม่ได้ติดตั้ง

    วิธีการรับมือกับการแฮกโทรศัพท์ที่แนะนำในบทความนี้คือการใช้รหัส USSD ซึ่งเป็นรหัสที่สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนเส้นทางการโทรและปิดการเปลี่ยนเส้นทางได้ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำในการรีเซ็ตโทรศัพท์กลับสู่สภาพโรงงานเพื่อกำจัดมัลแวร์

    ✅ สัญญาณเตือนว่าโทรศัพท์อาจถูกแฮก
    - แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ
    - โทรศัพท์ทำงานช้าลงหรือแอปพลิเคชันค้าง
    - มีการเข้าสู่ระบบที่ไม่คุ้นเคย
    - พื้นที่จัดเก็บข้อมูลลดลงโดยไม่มีเหตุผล
    - พบแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ติดตั้ง

    ✅ วิธีการรับมือกับการแฮกโทรศัพท์
    - ใช้รหัส USSD เพื่อตรวจสอบและปิดการเปลี่ยนเส้นทางการโทร
    - รีเซ็ตโทรศัพท์กลับสู่สภาพโรงงานเพื่อกำจัดมัลแวร์

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการแฮกโทรศัพท์
    - การแฮกโทรศัพท์อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวตกอยู่ในความเสี่ยง
    - การเปลี่ยนเส้นทางการโทรอาจทำให้คุณสูญเสียการควบคุมอุปกรณ์

    ℹ️ คำแนะนำเพื่อป้องกันการแฮก
    - หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ
    - อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ

    https://www.zdnet.com/article/5-warning-signs-that-your-phones-been-hacked-and-how-to-fight-back/
    ข่าวนี้เล่าถึงสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าโทรศัพท์มือถือของคุณอาจถูกแฮก และวิธีการรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น โทรศัพท์มือถือเป็นแหล่งข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ซึ่งทำให้ตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ที่ต้องการขโมยข้อมูลหรือควบคุมอุปกรณ์ของคุณผ่านแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เว็บไซต์ฟิชชิง และภัยคุกคามอื่นๆ สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าโทรศัพท์ของคุณอาจถูกแฮก ได้แก่ แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ โทรศัพท์ทำงานช้าลง มีการเข้าสู่ระบบที่ไม่คุ้นเคย พื้นที่จัดเก็บข้อมูลลดลง และพบแอปพลิเคชันที่คุณไม่ได้ติดตั้ง วิธีการรับมือกับการแฮกโทรศัพท์ที่แนะนำในบทความนี้คือการใช้รหัส USSD ซึ่งเป็นรหัสที่สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนเส้นทางการโทรและปิดการเปลี่ยนเส้นทางได้ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำในการรีเซ็ตโทรศัพท์กลับสู่สภาพโรงงานเพื่อกำจัดมัลแวร์ ✅ สัญญาณเตือนว่าโทรศัพท์อาจถูกแฮก - แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ - โทรศัพท์ทำงานช้าลงหรือแอปพลิเคชันค้าง - มีการเข้าสู่ระบบที่ไม่คุ้นเคย - พื้นที่จัดเก็บข้อมูลลดลงโดยไม่มีเหตุผล - พบแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ติดตั้ง ✅ วิธีการรับมือกับการแฮกโทรศัพท์ - ใช้รหัส USSD เพื่อตรวจสอบและปิดการเปลี่ยนเส้นทางการโทร - รีเซ็ตโทรศัพท์กลับสู่สภาพโรงงานเพื่อกำจัดมัลแวร์ ℹ️ ความเสี่ยงจากการแฮกโทรศัพท์ - การแฮกโทรศัพท์อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวตกอยู่ในความเสี่ยง - การเปลี่ยนเส้นทางการโทรอาจทำให้คุณสูญเสียการควบคุมอุปกรณ์ ℹ️ คำแนะนำเพื่อป้องกันการแฮก - หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ - ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ - อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ https://www.zdnet.com/article/5-warning-signs-that-your-phones-been-hacked-and-how-to-fight-back/
    WWW.ZDNET.COM
    5 warning signs that your phone's been hacked - and how to fight back
    Here are the biggest warning signs that your phone may be compromised and the secret codes that can tell you all about it.
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

    Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้

    ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง

    ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel

    ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล

    ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก

    https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้ ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Windows Recall is finally nearing launch, Microsoft suggests
    Microsoft wrote in a post yesterday that a preview version of Recall is being rolled out to Insiders in the Release Preview Channel on Windows 11, version...
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศยกเลิกการสนับสนุน Windows UWP Map Control และ Windows Maps Platform APIs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถรวมแผนที่เข้ากับแอปพลิเคชัน Windows โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรวม Bing Maps for Enterprise เข้ากับ Azure Maps

    ✅ การยกเลิกการสนับสนุน:
    - Windows UWP Map Control และ Windows Maps Platform APIs ถูกยกเลิกการสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2025
    - เครื่องมือเหล่านี้จะยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตเพิ่มเติม

    ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Bing Maps for Enterprise:
    - Microsoft ได้ประกาศรวม Bing Maps for Enterprise เข้ากับ Azure Maps ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024
    - Azure Maps จะรวมฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของ Bing Maps และ Azure Maps เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา:
    - Microsoft แนะนำให้นักพัฒนาย้ายไปใช้ Azure Maps ภายในหนึ่งปีหลังจากการประกาศยกเลิก
    - มีทรัพยากรที่ช่วยในการเปลี่ยนผ่าน เช่น ตัวอย่างโค้ดและบล็อกของ Azure Maps

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน:
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่ยังคงใช้ Windows UWP Map Control

    https://www.neowin.net/news/microsoft-deprecates-windows-uwp-map-control-and-maps-platform-apis/
    Microsoft ได้ประกาศยกเลิกการสนับสนุน Windows UWP Map Control และ Windows Maps Platform APIs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถรวมแผนที่เข้ากับแอปพลิเคชัน Windows โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรวม Bing Maps for Enterprise เข้ากับ Azure Maps ✅ การยกเลิกการสนับสนุน: - Windows UWP Map Control และ Windows Maps Platform APIs ถูกยกเลิกการสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2025 - เครื่องมือเหล่านี้จะยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตเพิ่มเติม ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Bing Maps for Enterprise: - Microsoft ได้ประกาศรวม Bing Maps for Enterprise เข้ากับ Azure Maps ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 - Azure Maps จะรวมฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของ Bing Maps และ Azure Maps เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ✅ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา: - Microsoft แนะนำให้นักพัฒนาย้ายไปใช้ Azure Maps ภายในหนึ่งปีหลังจากการประกาศยกเลิก - มีทรัพยากรที่ช่วยในการเปลี่ยนผ่าน เช่น ตัวอย่างโค้ดและบล็อกของ Azure Maps ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน: - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่ยังคงใช้ Windows UWP Map Control https://www.neowin.net/news/microsoft-deprecates-windows-uwp-map-control-and-maps-platform-apis/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft deprecates Windows UWP Map control and Maps Platform APIs
    The list of deprecated features in Windows 10 and 11 has received a new entry about maps API in UWP applications.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดต KB5002700 ซึ่งส่งผลให้แอปพลิเคชันใน Office 2016 เช่น Word, Excel และ Outlook หยุดทำงาน โดยการแก้ไขนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต KB5002623 ที่ออกเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2025

    ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น:
    - การอัปเดต KB5002700 ทำให้ Word, Excel และ Outlook หยุดตอบสนองหลังการติดตั้ง
    - ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน Office 2016 ที่ใช้ Microsoft Installer (.msi)

    ✅ การแก้ไขปัญหา:
    - Microsoft ได้ออกอัปเดต KB5002623 เพื่อแก้ไขปัญหา โดยผู้ใช้งานต้องติดตั้งทั้ง KB5002700 และ KB5002623 เพื่อให้ Office 2016 กลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์
    - การแก้ไขนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของ AutoCorrect ใน Word ที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ปุ่ม Enter และ Backspace

    ✅ การสนับสนุนเพิ่มเติม:
    - Microsoft ได้เผยแพร่บทความสนับสนุนเพื่อช่วยผู้ใช้งานแก้ไขปัญหาและปรับปรุงการตั้งค่า AutoCorrect

    https://www.neowin.net/news/kb5002623-microsoft-fixes-office-outlook-word-excel-kb5002700-hangs-and-freezes/
    Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดต KB5002700 ซึ่งส่งผลให้แอปพลิเคชันใน Office 2016 เช่น Word, Excel และ Outlook หยุดทำงาน โดยการแก้ไขนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต KB5002623 ที่ออกเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2025 ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น: - การอัปเดต KB5002700 ทำให้ Word, Excel และ Outlook หยุดตอบสนองหลังการติดตั้ง - ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน Office 2016 ที่ใช้ Microsoft Installer (.msi) ✅ การแก้ไขปัญหา: - Microsoft ได้ออกอัปเดต KB5002623 เพื่อแก้ไขปัญหา โดยผู้ใช้งานต้องติดตั้งทั้ง KB5002700 และ KB5002623 เพื่อให้ Office 2016 กลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์ - การแก้ไขนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของ AutoCorrect ใน Word ที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ปุ่ม Enter และ Backspace ✅ การสนับสนุนเพิ่มเติม: - Microsoft ได้เผยแพร่บทความสนับสนุนเพื่อช่วยผู้ใช้งานแก้ไขปัญหาและปรับปรุงการตั้งค่า AutoCorrect https://www.neowin.net/news/kb5002623-microsoft-fixes-office-outlook-word-excel-kb5002700-hangs-and-freezes/
    WWW.NEOWIN.NET
    KB5002623: Microsoft fixes Office, Outlook, Word, Excel KB5002700 hangs and freezes
    Microsoft's busy week of bug fixing on Office and M365 continues as it resolves a major KB5002700 update bug where Office apps would hang or freeze.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง microSD Express และ microSD card ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่ความเร็ว ราคา และความเข้ากันได้ของอุปกรณ์

    ✅ ความเร็วและประสิทธิภาพ:
    - microSD Express ใช้ PCIe และ NVMe interfaces ทำให้มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 985MB/s
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลาในการบันทึกไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 8K และเพิ่มความเร็วในการเปิดไฟล์หรือแอปพลิเคชัน

    ✅ ความเข้ากันได้:
    - microSD Express ไม่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับ microSD card แบบเดิมได้อย่างเต็มที่
    - หากใช้งานในอุปกรณ์เก่า ความเร็วจะลดลงเหลือระดับ UHS-I

    ✅ การใช้งานและการนำไปใช้:
    - microSD Express เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การเล่นเกมและการสร้างสื่อ
    - Nintendo Switch 2 เป็นตัวอย่างของอุปกรณ์ที่รองรับ microSD Express

    ✅ ราคาและความพร้อมใช้งาน:
    - microSD Express มีราคาสูงกว่า microSD card แบบเดิม เช่น การ์ด 1TB microSD Express มีราคาประมาณ $200 ในขณะที่ microSD card แบบเดิมมีราคาต่ำกว่า $70

    https://www.techradar.com/pro/microsd-express-vs-microsd-card-what-is-the-difference
    บทความนี้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง microSD Express และ microSD card ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่ความเร็ว ราคา และความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ ✅ ความเร็วและประสิทธิภาพ: - microSD Express ใช้ PCIe และ NVMe interfaces ทำให้มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 985MB/s - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลาในการบันทึกไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 8K และเพิ่มความเร็วในการเปิดไฟล์หรือแอปพลิเคชัน ✅ ความเข้ากันได้: - microSD Express ไม่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับ microSD card แบบเดิมได้อย่างเต็มที่ - หากใช้งานในอุปกรณ์เก่า ความเร็วจะลดลงเหลือระดับ UHS-I ✅ การใช้งานและการนำไปใช้: - microSD Express เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การเล่นเกมและการสร้างสื่อ - Nintendo Switch 2 เป็นตัวอย่างของอุปกรณ์ที่รองรับ microSD Express ✅ ราคาและความพร้อมใช้งาน: - microSD Express มีราคาสูงกว่า microSD card แบบเดิม เช่น การ์ด 1TB microSD Express มีราคาประมาณ $200 ในขณะที่ microSD card แบบเดิมมีราคาต่ำกว่า $70 https://www.techradar.com/pro/microsd-express-vs-microsd-card-what-is-the-difference
    WWW.TECHRADAR.COM
    MicroSD Express vs microSD card: What's the difference?
    It comes down to speed, price, and compatibility
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • AI Site Builder ของ WordPress เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดในปัจจุบัน แต่เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างเว็บไซต์ในอนาคต

    ✅ การทำงานของ AI Site Builder:
    - ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นด้วยการอธิบายเว็บไซต์ที่ต้องการ เช่น เว็บไซต์ส่วนตัว ธุรกิจขนาดเล็ก หรือบล็อก
    - AI จะสร้างเว็บไซต์ต้นแบบที่มีเนื้อหา รูปภาพ การจัดวาง และสีสันที่เหมาะสมตามคำอธิบาย

    ✅ การปรับแต่งเพิ่มเติม:
    - หากผลลัพธ์แรกไม่ตรงใจ ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเว็บไซต์เพิ่มเติมผ่านการสนทนากับ AI
    - เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นสามารถเผยแพร่บน WordPress.com ได้ทันที

    ✅ การทดลองใช้งานฟรี:
    - ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี โดยมีข้อจำกัดที่ 30 คำสั่งก่อนที่จะต้องเลือกแผนการโฮสต์

    ✅ ความสามารถในอนาคต:
    - WordPress วางแผนที่จะเพิ่มฟังก์ชันที่ซับซ้อน เช่น การรองรับอีคอมเมิร์ซและการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม

    ✅ ความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น:
    - AI Site Builder ของ WordPress เน้นการสร้างเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน มากกว่าการใช้เทมเพลตแบบทั่วไป


    https://www.techspot.com/news/107495-wordpresscom-launches-ai-site-builder-fast-easy-creation.html
    AI Site Builder ของ WordPress เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดในปัจจุบัน แต่เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างเว็บไซต์ในอนาคต ✅ การทำงานของ AI Site Builder: - ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นด้วยการอธิบายเว็บไซต์ที่ต้องการ เช่น เว็บไซต์ส่วนตัว ธุรกิจขนาดเล็ก หรือบล็อก - AI จะสร้างเว็บไซต์ต้นแบบที่มีเนื้อหา รูปภาพ การจัดวาง และสีสันที่เหมาะสมตามคำอธิบาย ✅ การปรับแต่งเพิ่มเติม: - หากผลลัพธ์แรกไม่ตรงใจ ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเว็บไซต์เพิ่มเติมผ่านการสนทนากับ AI - เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นสามารถเผยแพร่บน WordPress.com ได้ทันที ✅ การทดลองใช้งานฟรี: - ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี โดยมีข้อจำกัดที่ 30 คำสั่งก่อนที่จะต้องเลือกแผนการโฮสต์ ✅ ความสามารถในอนาคต: - WordPress วางแผนที่จะเพิ่มฟังก์ชันที่ซับซ้อน เช่น การรองรับอีคอมเมิร์ซและการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม ✅ ความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น: - AI Site Builder ของ WordPress เน้นการสร้างเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน มากกว่าการใช้เทมเพลตแบบทั่วไป https://www.techspot.com/news/107495-wordpresscom-launches-ai-site-builder-fast-easy-creation.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    WordPress launches AI website builder for fast, easy creation
    The feature, dubbed the WordPress AI Site Builder, offers a chat interface similar to ChatGPT, except your prompts help design the website. You start by describing the...
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • Fortinet ได้ประกาศการเพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยองค์กรรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเครือข่ายและความปลอดภัย

    ✅ การเพิ่มฟีเจอร์ FortiAI:
    - FortiAI ถูกฝังใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยลดภาระงานของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยและเครือข่าย
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยปรับปรุงความเร็วและความแม่นยำในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม

    ✅ ความสามารถใหม่ของ FortiAI:
    - การจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยโดยใช้ข้อมูลความเสี่ยงและรูปแบบในอดีต
    - การค้นหาภัยคุกคามแบบปรับตัวโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์
    - การวิเคราะห์ต้นเหตุของการโจมตีเพื่อระบุแหล่งที่มา วิธีการ และผลกระทบ

    ✅ การป้องกันเชิงรุก:
    - FortiAI ใช้การวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและกลยุทธ์ของผู้โจมตีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน
    - รองรับการปรับปรุงการตั้งค่าเครือข่ายและนโยบายความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ

    ✅ การตรวจสอบแอปพลิเคชัน AI:
    - FortiAI-Protect สามารถตรวจจับการใช้งานแอปพลิเคชัน AI มากกว่า 6,500 URLs รวมถึงแอปพลิเคชัน GenAI
    - ช่วยให้ทีมความปลอดภัยตรวจสอบการใช้งาน AI และเส้นทางข้อมูลได้อย่างละเอียด

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความซับซ้อนในการใช้งาน:
    - องค์กรอาจต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    ⚠️ การจัดการข้อมูล AI:
    - การตรวจสอบและควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชัน AI อาจต้องการการวางแผนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล

    https://www.networkworld.com/article/3958421/fortinet-embeds-ai-capabilities-across-security-fabric-platform.html
    Fortinet ได้ประกาศการเพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยองค์กรรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเครือข่ายและความปลอดภัย ✅ การเพิ่มฟีเจอร์ FortiAI: - FortiAI ถูกฝังใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยลดภาระงานของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยและเครือข่าย - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยปรับปรุงความเร็วและความแม่นยำในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม ✅ ความสามารถใหม่ของ FortiAI: - การจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยโดยใช้ข้อมูลความเสี่ยงและรูปแบบในอดีต - การค้นหาภัยคุกคามแบบปรับตัวโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ - การวิเคราะห์ต้นเหตุของการโจมตีเพื่อระบุแหล่งที่มา วิธีการ และผลกระทบ ✅ การป้องกันเชิงรุก: - FortiAI ใช้การวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและกลยุทธ์ของผู้โจมตีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน - รองรับการปรับปรุงการตั้งค่าเครือข่ายและนโยบายความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ✅ การตรวจสอบแอปพลิเคชัน AI: - FortiAI-Protect สามารถตรวจจับการใช้งานแอปพลิเคชัน AI มากกว่า 6,500 URLs รวมถึงแอปพลิเคชัน GenAI - ช่วยให้ทีมความปลอดภัยตรวจสอบการใช้งาน AI และเส้นทางข้อมูลได้อย่างละเอียด == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความซับซ้อนในการใช้งาน: - องค์กรอาจต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ⚠️ การจัดการข้อมูล AI: - การตรวจสอบและควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชัน AI อาจต้องการการวางแผนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล https://www.networkworld.com/article/3958421/fortinet-embeds-ai-capabilities-across-security-fabric-platform.html
    WWW.NETWORKWORLD.COM
    Fortinet embeds AI capabilities across Security Fabric platform
    Fortinet added FortiAI support to its core Security Fabric platform to strengthen protection from threats and simplify network and security operations.
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศว่า Edge 134 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่สำคัญ โดยเร็วกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าถึง 9% ตามการทดสอบด้วย Speedometer 3.0 ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วและความตอบสนองของเบราว์เซอร์

    == ข้อมูลสำคัญในข่าว ==
    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
    - Edge 134 มีความเร็วเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับ Edge 133 ตามการทดสอบ Speedometer 3.0
    - การนำทางเร็วขึ้น 1.3%, การเริ่มต้นเร็วขึ้น 2%, และการตอบสนองของหน้าเว็บดีขึ้น 5-7%

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในโค้ด:
    - Microsoft ปรับปรุงโค้ดใน Edge และ Chromium engine เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Edge 134:
    - การลบตัวเลือก “Add account” สำหรับผู้ใช้ Entra ID
    - การปรับปรุงการเปิดลิงก์ใน Teams บน macOS
    - การแสดงตัวอย่างนโยบายใหม่เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ scareware

    ✅ การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ:
    - Edge settings มีการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดีขึ้น

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความแตกต่างในประสิทธิภาพ:
    - ผู้ใช้อาจไม่ได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกัน เนื่องจากประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และจำนวนแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งาน

    ⚠️ การใช้งานฟีเจอร์ใหม่:
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่าใหม่และนโยบายที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้แน่ใจว่าตรงกับความต้องการ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brags-about-significant-performance-improvements-in-edge-134/
    Microsoft ได้ประกาศว่า Edge 134 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่สำคัญ โดยเร็วกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าถึง 9% ตามการทดสอบด้วย Speedometer 3.0 ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วและความตอบสนองของเบราว์เซอร์ == ข้อมูลสำคัญในข่าว == ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ: - Edge 134 มีความเร็วเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับ Edge 133 ตามการทดสอบ Speedometer 3.0 - การนำทางเร็วขึ้น 1.3%, การเริ่มต้นเร็วขึ้น 2%, และการตอบสนองของหน้าเว็บดีขึ้น 5-7% ✅ การเปลี่ยนแปลงในโค้ด: - Microsoft ปรับปรุงโค้ดใน Edge และ Chromium engine เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Edge 134: - การลบตัวเลือก “Add account” สำหรับผู้ใช้ Entra ID - การปรับปรุงการเปิดลิงก์ใน Teams บน macOS - การแสดงตัวอย่างนโยบายใหม่เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ scareware ✅ การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ: - Edge settings มีการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดีขึ้น == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความแตกต่างในประสิทธิภาพ: - ผู้ใช้อาจไม่ได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกัน เนื่องจากประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และจำนวนแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งาน ⚠️ การใช้งานฟีเจอร์ใหม่: - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่าใหม่และนโยบายที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้แน่ใจว่าตรงกับความต้องการ https://www.neowin.net/news/microsoft-brags-about-significant-performance-improvements-in-edge-134/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brags about 'significant performance improvements' in Edge 134
    Microsoft is making several claims about its recent Edge 134 release, pointing to a range of performance improvements.
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

    ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์**
    - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ
    - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ

    2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล**
    - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง
    - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ

    3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน**
    - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ)
    - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data)

    4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน**
    - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน

    5. **ความยั่งยืน**
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว

    ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก:
    - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล
    - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน
    - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

    ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย
    - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม
    - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว

    ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้: 1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์** - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ 2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล** - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ 3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน** - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ) - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data) 4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน** - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน 5. **ความยั่งยืน** - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก: - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้: - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน

    🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์:
    - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร
    - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต

    ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร:
    - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง
    - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store

    https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน 🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์: - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร: - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • ในงาน Kyiv International Cyber Resilience Forum 2025 ที่จัดขึ้นในยูเครน มีการพูดถึงบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความยืดหยุ่นในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะในบริบทของสงครามไซเบอร์ที่ยูเครนต้องเผชิญจากการโจมตีของรัสเซีย

    ✅ ความร่วมมือระหว่างประเทศ:
    - ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนในสหรัฐฯ และยุโรป
    - การโจมตีของรัสเซียไม่ได้มาจากหน่วยงานรัฐอย่าง GRU, SVR และ FSB เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการโจมตี

    ✅ กลยุทธ์ของรัสเซีย:
    - รัสเซียมีความเชี่ยวชาญในด้าน Social Engineering โดยใช้ QR Code เพื่อหลอกลวงเป้าหมายให้ติดตั้งมัลแวร์ผ่านแอปพลิเคชัน Signal
    - Google Threat Intelligence Group ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับวิธีการโจมตีนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025

    ✅ ความยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง:
    - ยูเครนต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อพันธมิตรบางราย เช่น Signal หยุดให้ความร่วมมือ
    - การมีแผนสำรองและทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การใช้ระบบสื่อสารหรือภาพถ่ายดาวเทียมจากแหล่งอื่น เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่น

    บทเรียนที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้:
    💡 อย่าพึ่งพาแหล่งเดียว:
    - การมีแผนสำรองสำหรับกรณีที่บริการหรือพันธมิตรหยุดให้ความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ

    💡 การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด:
    - การวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การโจมตีไซเบอร์หรือภัยพิบัติ ช่วยให้องค์กรสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

    💡 การสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ:
    - การทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับโลกช่วยเพิ่มศักยภาพในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/3950749/some-lessons-learned-about-resilience-in-cybersecurity-from-a-visit-to-ukraine.html
    ในงาน Kyiv International Cyber Resilience Forum 2025 ที่จัดขึ้นในยูเครน มีการพูดถึงบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความยืดหยุ่นในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะในบริบทของสงครามไซเบอร์ที่ยูเครนต้องเผชิญจากการโจมตีของรัสเซีย ✅ ความร่วมมือระหว่างประเทศ: - ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนในสหรัฐฯ และยุโรป - การโจมตีของรัสเซียไม่ได้มาจากหน่วยงานรัฐอย่าง GRU, SVR และ FSB เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการโจมตี ✅ กลยุทธ์ของรัสเซีย: - รัสเซียมีความเชี่ยวชาญในด้าน Social Engineering โดยใช้ QR Code เพื่อหลอกลวงเป้าหมายให้ติดตั้งมัลแวร์ผ่านแอปพลิเคชัน Signal - Google Threat Intelligence Group ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับวิธีการโจมตีนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ✅ ความยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง: - ยูเครนต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อพันธมิตรบางราย เช่น Signal หยุดให้ความร่วมมือ - การมีแผนสำรองและทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การใช้ระบบสื่อสารหรือภาพถ่ายดาวเทียมจากแหล่งอื่น เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่น บทเรียนที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้: 💡 อย่าพึ่งพาแหล่งเดียว: - การมีแผนสำรองสำหรับกรณีที่บริการหรือพันธมิตรหยุดให้ความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ 💡 การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด: - การวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การโจมตีไซเบอร์หรือภัยพิบัติ ช่วยให้องค์กรสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว 💡 การสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ: - การทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับโลกช่วยเพิ่มศักยภาพในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/3950749/some-lessons-learned-about-resilience-in-cybersecurity-from-a-visit-to-ukraine.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Lessons learned about cyber resilience from a visit to Ukraine
    When systems fail, it’s important to have a plan to replace lost resources however and from wherever you can source them, as the embattled country has learned over more than a decade of conflict.
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ปล่อยอัปเดต KB5055523 สำหรับ Windows 11 ในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งนอกจากการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยแล้ว ยังมีการค้นพบ โฟลเดอร์ลึกลับชื่อ “inetpub” บนไดรฟ์ C โดยโฟลเดอร์นี้ไม่มีไฟล์หรือข้อมูลใด ๆ และสามารถลบออกได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ

    ✅ ความเชื่อมโยงกับ IIS:
    - โฟลเดอร์ inetpub มีความเกี่ยวข้องกับ Microsoft Internet Information Services (IIS) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโฮสต์เว็บไซต์และบริการที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1995
    - แม้ IIS จะยังคงอยู่ใน Windows รุ่นปัจจุบัน แต่ฟีเจอร์นี้ถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น และต้องติดตั้งด้วยตนเองผ่าน Turn Windows features on or off

    ✅ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรากฏตัวของโฟลเดอร์:
    - โฟลเดอร์ inetpub ไม่ควรปรากฏบนไดรฟ์ C โดยไม่มีการติดตั้ง IIS
    - Microsoft ยังไม่ได้ให้คำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งอาจเป็น บั๊ก ที่หลุดรอดเข้าสู่การอัปเดตสาธารณะ

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน:
    - การลบโฟลเดอร์ inetpub ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการหรือแอปพลิเคชันที่กำลังทำงาน
    - ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะลบหรือปล่อยไว้ได้ เนื่องจากโฟลเดอร์นี้ไม่ใช้พื้นที่ในไดรฟ์

    https://www.neowin.net/news/recent-windows-11-updates-create-a-mysterious-folder-on-drive-c/
    Microsoft ได้ปล่อยอัปเดต KB5055523 สำหรับ Windows 11 ในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งนอกจากการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยแล้ว ยังมีการค้นพบ โฟลเดอร์ลึกลับชื่อ “inetpub” บนไดรฟ์ C โดยโฟลเดอร์นี้ไม่มีไฟล์หรือข้อมูลใด ๆ และสามารถลบออกได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ ✅ ความเชื่อมโยงกับ IIS: - โฟลเดอร์ inetpub มีความเกี่ยวข้องกับ Microsoft Internet Information Services (IIS) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโฮสต์เว็บไซต์และบริการที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 - แม้ IIS จะยังคงอยู่ใน Windows รุ่นปัจจุบัน แต่ฟีเจอร์นี้ถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น และต้องติดตั้งด้วยตนเองผ่าน Turn Windows features on or off ✅ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรากฏตัวของโฟลเดอร์: - โฟลเดอร์ inetpub ไม่ควรปรากฏบนไดรฟ์ C โดยไม่มีการติดตั้ง IIS - Microsoft ยังไม่ได้ให้คำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งอาจเป็น บั๊ก ที่หลุดรอดเข้าสู่การอัปเดตสาธารณะ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน: - การลบโฟลเดอร์ inetpub ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการหรือแอปพลิเคชันที่กำลังทำงาน - ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะลบหรือปล่อยไว้ได้ เนื่องจากโฟลเดอร์นี้ไม่ใช้พื้นที่ในไดรฟ์ https://www.neowin.net/news/recent-windows-11-updates-create-a-mysterious-folder-on-drive-c/
    WWW.NEOWIN.NET
    Recent Windows 11 updates create a mysterious folder on drive C
    This month's cumulative updates for Windows 11 include not only your standard fixes and patches but also unexpected new folders on the system drive.
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงไอคอนสำหรับแอปพลิเคชัน Office อีกครั้ง หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2018 โดยครั้งนี้บริษัทได้ส่งแบบสำรวจไปยังผู้ใช้งานเพื่อรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับดีไซน์ใหม่ พร้อมมอบบัตรของขวัญมูลค่า $10 ให้กับผู้เข้าร่วม

    ✅ ดีไซน์ใหม่ที่เน้นความสดใสและล้ำสมัย:
    - ไอคอนใหม่มีการใช้สีที่สดใสขึ้น พร้อมเพิ่มมิติและความลึกให้ดูมีชีวิตชีวา
    - การออกแบบนี้สอดคล้องกับแนวทางใหม่ของ Microsoft ที่หันมาใช้ดีไซน์แบบ skeuomorphic และ 3D-like หลังจากเน้นดีไซน์แบบแบนราบมานานกว่า 10 ปี

    ✅ การสำรวจความคิดเห็น:
    - Microsoft ได้ส่งอีเมลสำรวจไปยังผู้ใช้งาน โดยระบุว่าไอคอนที่นำเสนอในแบบสำรวจอาจไม่ใช่เวอร์ชันสุดท้าย
    - บริษัทตั้งเป้าที่จะปรับดีไซน์ให้สอดคล้องกับแอป Outlook ใหม่ ซึ่งแม้จะได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับ Microsoft 365

    ✅ ความเชื่อมโยงกับการออกแบบอื่น ๆ:
    - ไอคอนใหม่ยังสอดคล้องกับการปรับปรุงภาพประกอบที่ Microsoft เปิดตัวในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเน้นความล้ำสมัยและการเชื่อมโยงกับผู้ใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-once-again-redesigning-office-icons-and-it-wants-to-know-what-you-think/
    Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงไอคอนสำหรับแอปพลิเคชัน Office อีกครั้ง หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2018 โดยครั้งนี้บริษัทได้ส่งแบบสำรวจไปยังผู้ใช้งานเพื่อรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับดีไซน์ใหม่ พร้อมมอบบัตรของขวัญมูลค่า $10 ให้กับผู้เข้าร่วม ✅ ดีไซน์ใหม่ที่เน้นความสดใสและล้ำสมัย: - ไอคอนใหม่มีการใช้สีที่สดใสขึ้น พร้อมเพิ่มมิติและความลึกให้ดูมีชีวิตชีวา - การออกแบบนี้สอดคล้องกับแนวทางใหม่ของ Microsoft ที่หันมาใช้ดีไซน์แบบ skeuomorphic และ 3D-like หลังจากเน้นดีไซน์แบบแบนราบมานานกว่า 10 ปี ✅ การสำรวจความคิดเห็น: - Microsoft ได้ส่งอีเมลสำรวจไปยังผู้ใช้งาน โดยระบุว่าไอคอนที่นำเสนอในแบบสำรวจอาจไม่ใช่เวอร์ชันสุดท้าย - บริษัทตั้งเป้าที่จะปรับดีไซน์ให้สอดคล้องกับแอป Outlook ใหม่ ซึ่งแม้จะได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับ Microsoft 365 ✅ ความเชื่อมโยงกับการออกแบบอื่น ๆ: - ไอคอนใหม่ยังสอดคล้องกับการปรับปรุงภาพประกอบที่ Microsoft เปิดตัวในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเน้นความล้ำสมัยและการเชื่อมโยงกับผู้ใช้งาน https://www.neowin.net/news/microsoft-is-once-again-redesigning-office-icons-and-it-wants-to-know-what-you-think/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is once again redesigning Office icons, and it wants to know what you think
    Microsoft is cooking a fresh set of icons for its Office apps, but it wants to know your opinion on them first.
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลตุรกีกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงาน Information and Communication Technologies Authority (BTK) ในการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ”

    ✅ สิทธิใหม่ของหน่วยงาน BTK:
    - BTK จะได้รับอำนาจในการบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความได้โดยตรง หากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงสาธารณะ สุขภาพ หรือผลประโยชน์ของรัฐ
    - สามารถลดแบนด์วิดท์ได้ถึง 90% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เว็บไซต์และแอปเป้าหมายแทบไม่สามารถใช้งานได้เลย

    ✅ ข้อกำหนดสำหรับบริษัท:
    - แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 1 ล้านคน ในตุรกี เช่น Instagram, YouTube, WhatsApp ต้องตั้งบริษัทในประเทศและปฏิบัติตามข้อบังคับที่เข้มงวด

    ✅ การควบคุม VPN:
    - ตุรกียังเพิ่มการบีบคั้นบริการ VPN ซึ่งผู้ใช้นิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

    ✅ ผลกระทบและความกังวล:
    - การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้อาจเพิ่มความเข้มงวดในระดับเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบจากการปิดกั้นโซเชียลมีเดียในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงทางการเมืองและเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวปี 2023
    - ผู้สื่อข่าวและกลุ่มสิทธิดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่าอำนาจที่เพิ่มขึ้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดปากการรายงานข่าวอิสระ และลดทอนเสรีภาพในการแสดงออกในโลกออนไลน์

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/turkey-wants-to-make-it-easier-for-authorities-to-block-social-media-and-messaging-apps
    รัฐบาลตุรกีกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงาน Information and Communication Technologies Authority (BTK) ในการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ” ✅ สิทธิใหม่ของหน่วยงาน BTK: - BTK จะได้รับอำนาจในการบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความได้โดยตรง หากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงสาธารณะ สุขภาพ หรือผลประโยชน์ของรัฐ - สามารถลดแบนด์วิดท์ได้ถึง 90% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เว็บไซต์และแอปเป้าหมายแทบไม่สามารถใช้งานได้เลย ✅ ข้อกำหนดสำหรับบริษัท: - แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 1 ล้านคน ในตุรกี เช่น Instagram, YouTube, WhatsApp ต้องตั้งบริษัทในประเทศและปฏิบัติตามข้อบังคับที่เข้มงวด ✅ การควบคุม VPN: - ตุรกียังเพิ่มการบีบคั้นบริการ VPN ซึ่งผู้ใช้นิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ✅ ผลกระทบและความกังวล: - การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้อาจเพิ่มความเข้มงวดในระดับเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบจากการปิดกั้นโซเชียลมีเดียในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงทางการเมืองและเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวปี 2023 - ผู้สื่อข่าวและกลุ่มสิทธิดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่าอำนาจที่เพิ่มขึ้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดปากการรายงานข่าวอิสระ และลดทอนเสรีภาพในการแสดงออกในโลกออนไลน์ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/turkey-wants-to-make-it-easier-for-authorities-to-block-social-media-and-messaging-apps
    WWW.TECHRADAR.COM
    Turkey wants to make it easier for authorities to block social media and messaging apps
    The draft amendment would also require establishing a company in the country
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • บทความจาก ZDNet โดย David Gewirtz แชร์เรื่องราวและความสำคัญของการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ไม่ควรมองข้าม แม้การอัปเดตจะดูเป็นงานที่น่าเบื่อและเสียเวลา แต่การละเลยอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ใหญ่หลวง ทั้งในแง่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

    ✅ ความปลอดภัยในโลกดิจิทัล:
    - ทุกวันนี้แทบทุกอุปกรณ์ ตั้งแต่สมาร์ททีวี หลอดไฟ ไปจนถึงสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและต้องการอัปเดตเพื่อป้องกันการถูกแฮ็กเกอร์โจมตี
    - การไม่อัปเดตอาจเปิดช่องให้มัลแวร์เข้าสู่ระบบ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลหรือการขโมยข้อมูลสำคัญ

    ✅ ป้องกันความเสี่ยงต่อทรัพย์สินและความเป็นส่วนตัว:
    - ตัวอย่างที่แชร์ในบทความ เช่น การโจมตี WordPress หรืออุปกรณ์ที่ล้าสมัย จนเกิดปัญหาใหญ่ทั้งในด้านความปลอดภัยและการทำงาน
    - แม้บางคนจะรอให้ซอฟต์แวร์ปล่อยแพตช์ที่เสถียรก่อน แต่การรอนานเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้น

    == บทเรียนจากประสบการณ์ตรง ==
    ✅ เว็บไซต์ที่ถูกแฮ็ก: ผู้เขียนเล่าว่าครั้งหนึ่งเว็บไซต์ของเขาถูกแฮ็กเกอร์วางมัลแวร์เพราะไม่ได้อัปเดตปลั๊กอิน ผลลัพธ์คือการสูญเสียเวลาและพลังงานมหาศาลเพื่อแก้ไข

    ✅ การทำงานที่ล่ม: ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง เขาไม่สามารถทำเว็บแคสต์สำคัญได้เพราะระบบปฏิบัติการไม่ได้รับการอัปเดต ทำให้โปรแกรมสำคัญอย่าง Chrome และ Gmail ไม่สามารถใช้งานได้ทันที

    == ผลกระทบหากเพิกเฉยต่อการอัปเดต ==
    ✅ เสี่ยงต่อมัลแวร์: การโจมตีไซเบอร์ เช่น การแทรกมัลแวร์หรือการใช้อุปกรณ์เป็นส่วนหนึ่งของ botnet

    ✅ ปัญหาความเข้ากันได้: แอปพลิเคชันและระบบที่ไม่รองรับอุปกรณ์ล้าสมัย

    ✅ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น: แฮ็กเกอร์อาจควบคุมอุปกรณ์ เช่น เครื่องพิมพ์ 3D หรือระบบควบคุมความร้อนในบ้าน

    https://www.zdnet.com/article/why-delaying-software-updates-could-cost-you-more-than-you-think/
    บทความจาก ZDNet โดย David Gewirtz แชร์เรื่องราวและความสำคัญของการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ไม่ควรมองข้าม แม้การอัปเดตจะดูเป็นงานที่น่าเบื่อและเสียเวลา แต่การละเลยอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ใหญ่หลวง ทั้งในแง่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ✅ ความปลอดภัยในโลกดิจิทัล: - ทุกวันนี้แทบทุกอุปกรณ์ ตั้งแต่สมาร์ททีวี หลอดไฟ ไปจนถึงสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและต้องการอัปเดตเพื่อป้องกันการถูกแฮ็กเกอร์โจมตี - การไม่อัปเดตอาจเปิดช่องให้มัลแวร์เข้าสู่ระบบ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลหรือการขโมยข้อมูลสำคัญ ✅ ป้องกันความเสี่ยงต่อทรัพย์สินและความเป็นส่วนตัว: - ตัวอย่างที่แชร์ในบทความ เช่น การโจมตี WordPress หรืออุปกรณ์ที่ล้าสมัย จนเกิดปัญหาใหญ่ทั้งในด้านความปลอดภัยและการทำงาน - แม้บางคนจะรอให้ซอฟต์แวร์ปล่อยแพตช์ที่เสถียรก่อน แต่การรอนานเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้น == บทเรียนจากประสบการณ์ตรง == ✅ เว็บไซต์ที่ถูกแฮ็ก: ผู้เขียนเล่าว่าครั้งหนึ่งเว็บไซต์ของเขาถูกแฮ็กเกอร์วางมัลแวร์เพราะไม่ได้อัปเดตปลั๊กอิน ผลลัพธ์คือการสูญเสียเวลาและพลังงานมหาศาลเพื่อแก้ไข ✅ การทำงานที่ล่ม: ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง เขาไม่สามารถทำเว็บแคสต์สำคัญได้เพราะระบบปฏิบัติการไม่ได้รับการอัปเดต ทำให้โปรแกรมสำคัญอย่าง Chrome และ Gmail ไม่สามารถใช้งานได้ทันที == ผลกระทบหากเพิกเฉยต่อการอัปเดต == ✅ เสี่ยงต่อมัลแวร์: การโจมตีไซเบอร์ เช่น การแทรกมัลแวร์หรือการใช้อุปกรณ์เป็นส่วนหนึ่งของ botnet ✅ ปัญหาความเข้ากันได้: แอปพลิเคชันและระบบที่ไม่รองรับอุปกรณ์ล้าสมัย ✅ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น: แฮ็กเกอร์อาจควบคุมอุปกรณ์ เช่น เครื่องพิมพ์ 3D หรือระบบควบคุมความร้อนในบ้าน https://www.zdnet.com/article/why-delaying-software-updates-could-cost-you-more-than-you-think/
    WWW.ZDNET.COM
    Why delaying software updates could cost you more than you think
    I learned the hard way that delaying software updates isn't worth the risk. Learn from my mistakes - before it's too late.
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • Amazon ได้เปิดตัว Nova Sonic ซึ่งเป็นโมเดล AI ด้านเสียงที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถสนทนาเสียงแบบเรียลไทม์ในลักษณะเหมือนมนุษย์ Amazon เคลมว่าโมเดลนี้มีประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ทั้งในด้าน ราคา และ ความเร็วในการตอบสนอง

    ✅ ระบบที่รวมทุกอย่างในโมเดลเดียว:
    - แตกต่างจากระบบเดิมที่ต้องใช้งานหลายโมเดล เช่น การแปลงเสียงเป็นข้อความ (Speech-to-Text), การประมวลผลภาษา (Large Language Models), และการแปลงข้อความกลับเป็นเสียง (Text-to-Speech) Nova Sonic รวบรวมความสามารถทั้งหมดไว้ในหนึ่งเดียว ช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความแม่นยำ

    ✅ ความเข้าใจในน้ำเสียงและสไตล์การพูด:
    - Nova Sonic สามารถวิเคราะห์และเข้าใจ น้ำเสียง, จังหวะการพูด, และ บริบททางเสียง ทำให้การสนทนามีลักษณะธรรมชาติมากขึ้น พร้อมทั้งรองรับการตอบสนองที่เหมาะสมและการจัดการกับการขัดจังหวะ (barge-ins) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ การรองรับสำเนียงภาษาอังกฤษหลากหลาย:
    - รองรับสำเนียงภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและแบบบริติช รวมถึงทั้งเสียงแบบผู้ชายและผู้หญิง

    https://www.neowin.net/news/amazon-announces-nova-sonic-audio-model-claiming-to-outperform-openai-and-google/
    Amazon ได้เปิดตัว Nova Sonic ซึ่งเป็นโมเดล AI ด้านเสียงที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถสนทนาเสียงแบบเรียลไทม์ในลักษณะเหมือนมนุษย์ Amazon เคลมว่าโมเดลนี้มีประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ทั้งในด้าน ราคา และ ความเร็วในการตอบสนอง ✅ ระบบที่รวมทุกอย่างในโมเดลเดียว: - แตกต่างจากระบบเดิมที่ต้องใช้งานหลายโมเดล เช่น การแปลงเสียงเป็นข้อความ (Speech-to-Text), การประมวลผลภาษา (Large Language Models), และการแปลงข้อความกลับเป็นเสียง (Text-to-Speech) Nova Sonic รวบรวมความสามารถทั้งหมดไว้ในหนึ่งเดียว ช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความแม่นยำ ✅ ความเข้าใจในน้ำเสียงและสไตล์การพูด: - Nova Sonic สามารถวิเคราะห์และเข้าใจ น้ำเสียง, จังหวะการพูด, และ บริบททางเสียง ทำให้การสนทนามีลักษณะธรรมชาติมากขึ้น พร้อมทั้งรองรับการตอบสนองที่เหมาะสมและการจัดการกับการขัดจังหวะ (barge-ins) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ การรองรับสำเนียงภาษาอังกฤษหลากหลาย: - รองรับสำเนียงภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและแบบบริติช รวมถึงทั้งเสียงแบบผู้ชายและผู้หญิง https://www.neowin.net/news/amazon-announces-nova-sonic-audio-model-claiming-to-outperform-openai-and-google/
    WWW.NEOWIN.NET
    Amazon announces Nova Sonic audio model, claiming to outperform OpenAI and Google
    Amazon has introduced Nova Sonic, a new speech-to-speech AI model designed for creating applications with natural, real-time voice interactions.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • ข่าวล่าสุดเผยว่าเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) กำลังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องปล่อยสัตว์อยู่ในรถยนต์ในสภาพอากาศร้อนหรือเย็นจัด เช่นเดียวกับกรณีของ Ashes สุนัขที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมบำบัดของแผนกดับเพลิงในเมือง Roseville, Minnesota รถ EV รุ่น Rivian ที่พวกเขาใช้งานนั้นมี ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบตั้งโปรแกรมได้

    ✅ ระบบควบคุมสภาพอากาศเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง
    - รถยนต์ EVs มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของสามารถตั้งค่าการควบคุมสภาพอากาศให้ทำงานอย่างต่อเนื่องแม้หลังจากที่เจ้าของออกจากรถ โดยการตั้งค่าทำได้ผ่านตัวรถเองหรือแอปพลิเคชัน

    ✅ การใช้เทคโนโลยีที่สร้างคุณค่า
    - นอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้ว รถ EV ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่ใช้สัตว์เลี้ยงในภารกิจ เช่น ทีมบำบัดที่ใช้ Ashes ในการสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่

    ✅ สร้างความตระหนักในสังคม
    - ข่าวนี้ช่วยเน้นย้ำถึงปัญหาในการปล่อยสัตว์เลี้ยงอยู่ในรถแบบเดิมที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/someev-drivers-are-doing-it-for-the-dogs
    ข่าวล่าสุดเผยว่าเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) กำลังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องปล่อยสัตว์อยู่ในรถยนต์ในสภาพอากาศร้อนหรือเย็นจัด เช่นเดียวกับกรณีของ Ashes สุนัขที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมบำบัดของแผนกดับเพลิงในเมือง Roseville, Minnesota รถ EV รุ่น Rivian ที่พวกเขาใช้งานนั้นมี ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบตั้งโปรแกรมได้ ✅ ระบบควบคุมสภาพอากาศเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง - รถยนต์ EVs มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของสามารถตั้งค่าการควบคุมสภาพอากาศให้ทำงานอย่างต่อเนื่องแม้หลังจากที่เจ้าของออกจากรถ โดยการตั้งค่าทำได้ผ่านตัวรถเองหรือแอปพลิเคชัน ✅ การใช้เทคโนโลยีที่สร้างคุณค่า - นอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้ว รถ EV ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่ใช้สัตว์เลี้ยงในภารกิจ เช่น ทีมบำบัดที่ใช้ Ashes ในการสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ✅ สร้างความตระหนักในสังคม - ข่าวนี้ช่วยเน้นย้ำถึงปัญหาในการปล่อยสัตว์เลี้ยงอยู่ในรถแบบเดิมที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/someev-drivers-are-doing-it-for-the-dogs
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Some EV drivers are doing it for the dogs
    The Roseville, Minnesota, fire department has lots of trucks, but its latest had to be electric. That's the one that carries Ashes, its therapy dog, to and from fires, funerals and any other place where public safety officers need a morale boost.
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • การปรับใช้ Cloud Computing ได้กลายมาเป็นแกนหลักสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยช่วยปรับปรุงการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูลและแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของระบบคลาวด์ยังคงเป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ

    == ความนิยมของ Cloud Computing และความซับซ้อนด้านความปลอดภัย ==
    ✅ การเติบโตของระบบคลาวด์:
    - การใช้ Infrastructure as a Service (IaaS) เติบโตขึ้นกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นรากฐานสำหรับการดำเนินธุรกิจยุคใหม่

    ✅ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด:
    - องค์กรต่าง ๆ ใช้ระบบคลาวด์แบบผสม (Hybrid Cloud) ซึ่งรวม Private Cloud และ Public Cloud เข้าด้วยกันเพื่อปรับสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการประหยัดต้นทุน
    - แต่การใช้ผู้ให้บริการหลายรายอาจเพิ่มความซับซ้อนและโอกาสในการเกิด Misconfiguration ทำให้ข้อมูลหลุดรั่วหรือถูกโจมตี

    == ความท้าทายด้านความปลอดภัยที่พบ ==
    ✅ ปัญหาในระบบที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง:
    - การตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์เป็นสาเหตุหลักของ Cloud Security Breaches รวมถึงการใช้รหัสผ่านที่ไม่รัดกุมและขาดการควบคุมการเข้าถึง

    ✅ การพัฒนาภัยคุกคามใหม่ ๆ:
    - การเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทำให้บริษัทต้องพิจารณาใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น Cloud Security Posture Management (CSPM) และ Cloud Access Security Brokers (CASBs) ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและตรวจจับจุดอ่อนในระบบ

    ✅ การพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย:
    - National Cyber Security Centre (NCSC) แนะนำให้ตรวจสอบระบบคลาวด์ด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น การป้องกันการดักฟังข้อมูลและการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ปลอดภัย

    https://www.zdnet.com/article/cloud-computing-security-where-it-is-where-its-going/
    การปรับใช้ Cloud Computing ได้กลายมาเป็นแกนหลักสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยช่วยปรับปรุงการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูลและแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของระบบคลาวด์ยังคงเป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ == ความนิยมของ Cloud Computing และความซับซ้อนด้านความปลอดภัย == ✅ การเติบโตของระบบคลาวด์: - การใช้ Infrastructure as a Service (IaaS) เติบโตขึ้นกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นรากฐานสำหรับการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ ✅ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด: - องค์กรต่าง ๆ ใช้ระบบคลาวด์แบบผสม (Hybrid Cloud) ซึ่งรวม Private Cloud และ Public Cloud เข้าด้วยกันเพื่อปรับสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการประหยัดต้นทุน - แต่การใช้ผู้ให้บริการหลายรายอาจเพิ่มความซับซ้อนและโอกาสในการเกิด Misconfiguration ทำให้ข้อมูลหลุดรั่วหรือถูกโจมตี == ความท้าทายด้านความปลอดภัยที่พบ == ✅ ปัญหาในระบบที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง: - การตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์เป็นสาเหตุหลักของ Cloud Security Breaches รวมถึงการใช้รหัสผ่านที่ไม่รัดกุมและขาดการควบคุมการเข้าถึง ✅ การพัฒนาภัยคุกคามใหม่ ๆ: - การเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทำให้บริษัทต้องพิจารณาใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น Cloud Security Posture Management (CSPM) และ Cloud Access Security Brokers (CASBs) ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและตรวจจับจุดอ่อนในระบบ ✅ การพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย: - National Cyber Security Centre (NCSC) แนะนำให้ตรวจสอบระบบคลาวด์ด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น การป้องกันการดักฟังข้อมูลและการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ปลอดภัย https://www.zdnet.com/article/cloud-computing-security-where-it-is-where-its-going/
    WWW.ZDNET.COM
    Cloud computing means big opportunities - and big threats
    Making sure that cloud services are secure is more complicated than you might think.
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • AMD วางแผนเปิดตัว Ryzen Z2 AI Extreme ซึ่งเป็นชิปพกพาที่เพิ่มพลัง AI เพื่อตอบโต้ Intel Lunar Lake โดยซีรีส์ Z2 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตลาดเกมพกพาโดยเฉพาะ และรุ่นเรือธงอย่าง Z2 Extreme มาพร้อมประสิทธิภาพอันทรงพลัง นี่อาจเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการครองตลาดเกมพกพาระดับสูง

    ✅ พัฒนาประสิทธิภาพ AI บนชิปพกพา
    - ชิป Z2 รุ่นพื้นฐานมี NPU (Neural Processing Unit) ถูกปิดใช้งานในบางรุ่น แต่ใน Z2 AI Extreme คาดว่า NPU จะถูกเปิดใช้งานเต็มที่
    - การเพิ่มขีดความสามารถนี้เป็นการตอบสนองต่อ Intel Lunar Lake ที่มี AI Performance สูง

    ✅ ชิปรุ่นต่าง ๆ ในซีรีส์ Ryzen Z2
    - ซีรีส์ Z2 จะมีชิปทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Z2 Extreme (Strix Point), Z2 Go (Rembrandt) และรุ่นอื่น ๆ ซึ่งมีการจัดอันดับตามระดับประสิทธิภาพ
    - Ryzen Z2 Extreme จะเป็นรุ่นเรือธง มาพร้อม 8 คอร์ 16 เธรด, Boost Clock สูงสุด 5.0 GHz, 24MB Cache และ RDNA 3.5 iGPU 16 คอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี Zen5

    ✅ การใช้งาน AI ในเกมพกพา
    - แม้ว่า AI Performance อาจยังไม่ใช่จุดสำคัญในอุปกรณ์เกมพกพา แต่การเพิ่มความสามารถด้าน AI จะช่วยให้ใช้งานแอปพลิเคชันหลากหลายได้ดียิ่งขึ้น

    ✅ อนาคตของ AMD กับตลาดเกมพกพา
    - ชิปในกลุ่ม Z2 นี้อาจช่วยให้ AMD ขยายตลาดในอุตสาหกรรมเกมพกพาที่มีการแข่งขันสูง
    - ผู้ผลิตอุปกรณ์จะมีตัวเลือกมากขึ้น เช่น ONEXFLY F1 Pro ซึ่งใช้งาน APU รุ่นใหม่จาก AMD

    https://wccftech.com/amd-plans-to-release-ryzen-z2-ai-extreme-soc-for-gaming-handhelds/
    AMD วางแผนเปิดตัว Ryzen Z2 AI Extreme ซึ่งเป็นชิปพกพาที่เพิ่มพลัง AI เพื่อตอบโต้ Intel Lunar Lake โดยซีรีส์ Z2 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตลาดเกมพกพาโดยเฉพาะ และรุ่นเรือธงอย่าง Z2 Extreme มาพร้อมประสิทธิภาพอันทรงพลัง นี่อาจเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการครองตลาดเกมพกพาระดับสูง ✅ พัฒนาประสิทธิภาพ AI บนชิปพกพา - ชิป Z2 รุ่นพื้นฐานมี NPU (Neural Processing Unit) ถูกปิดใช้งานในบางรุ่น แต่ใน Z2 AI Extreme คาดว่า NPU จะถูกเปิดใช้งานเต็มที่ - การเพิ่มขีดความสามารถนี้เป็นการตอบสนองต่อ Intel Lunar Lake ที่มี AI Performance สูง ✅ ชิปรุ่นต่าง ๆ ในซีรีส์ Ryzen Z2 - ซีรีส์ Z2 จะมีชิปทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Z2 Extreme (Strix Point), Z2 Go (Rembrandt) และรุ่นอื่น ๆ ซึ่งมีการจัดอันดับตามระดับประสิทธิภาพ - Ryzen Z2 Extreme จะเป็นรุ่นเรือธง มาพร้อม 8 คอร์ 16 เธรด, Boost Clock สูงสุด 5.0 GHz, 24MB Cache และ RDNA 3.5 iGPU 16 คอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี Zen5 ✅ การใช้งาน AI ในเกมพกพา - แม้ว่า AI Performance อาจยังไม่ใช่จุดสำคัญในอุปกรณ์เกมพกพา แต่การเพิ่มความสามารถด้าน AI จะช่วยให้ใช้งานแอปพลิเคชันหลากหลายได้ดียิ่งขึ้น ✅ อนาคตของ AMD กับตลาดเกมพกพา - ชิปในกลุ่ม Z2 นี้อาจช่วยให้ AMD ขยายตลาดในอุตสาหกรรมเกมพกพาที่มีการแข่งขันสูง - ผู้ผลิตอุปกรณ์จะมีตัวเลือกมากขึ้น เช่น ONEXFLY F1 Pro ซึ่งใช้งาน APU รุ่นใหม่จาก AMD https://wccftech.com/amd-plans-to-release-ryzen-z2-ai-extreme-soc-for-gaming-handhelds/
    WCCFTECH.COM
    AMD Plans To Release An "AI-Focused" Ryzen Z2 AI Extreme SoC For Gaming Handhelds, Competing With Intel's Lunar Lake
    AMD is now rumored to launch a new variant within the Ryzen Z2 handheld-focused APU lineup, and its core focus would likely be AI performance.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • Copilot Vision คือฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ช่วย AI ใน Windows ฉลาดขึ้น โดยเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่และแนะนำวิธีการทำงานได้ตรงจุด แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่การสาธิตที่แสดงการช่วยชี้จุดในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานใน Windows ของเราไปอย่างถาวร

    ✅ Copilot Vision ช่วยให้งานง่ายขึ้นโดยไม่ขัดจังหวะการทำงาน
    - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งาน Copilot Vision ผ่านไอคอนบนหน้าจอหรือปุ่มเฉพาะบนคีย์บอร์ด เพื่อให้ AI แสดงรายการแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน
    - ความสามารถนี้ช่วยให้ Copilot เข้าใจว่าผู้ใช้กำลังทำงานอะไร และสามารถตอบคำถามหรือแนะนำได้ตรงกับบริบท เช่น การออกแบบ 3D บน Blender หรือการปรับแต่งวิดีโอบน Clipchamp

    ✅ การแสดงคำแนะนำแบบโต้ตอบในอนาคต
    - Copilot Vision ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่ แสดงลูกศรแนะนำตำแหน่งในแอปพลิเคชัน เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านวิดีโอใน Clipchamp หรือการค้นหาเครื่องมือเฉพาะใน Photoshop
    - เทคโนโลยีใหม่นี้เปรียบเหมือน "Clippy ยุคใหม่" ที่ช่วยนำทางงานอย่างชาญฉลาด

    ✅ รองรับการใช้งานด้วยเสียงและข้อความ
    - ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เช่น "จะทำให้งานออกแบบนี้ดูคลาสสิกขึ้นได้อย่างไร" หรือ "ไอคอนเพิ่มหมายเหตุอยู่ที่ไหน" โดย AI จะปรับคำตอบตามแอปและโครงการที่เปิดอยู่

    ✅ อนาคตของ Copilot Vision:
    - แม้ว่าฟีเจอร์ปัจจุบันจะสามารถระบุและเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันได้แล้ว แต่ Microsoft กำลังพัฒนาให้ Copilot Vision ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซของแอปได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มการช่วยเหลือในรูปแบบภาพ
    - การอัปเดตที่ก้าวหน้ากว่านี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่จากการสาธิต คาดว่าไม่นานเกินรอ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-copilot-vision-and-it-could-change-how-you-use-windows-forever
    Copilot Vision คือฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ช่วย AI ใน Windows ฉลาดขึ้น โดยเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่และแนะนำวิธีการทำงานได้ตรงจุด แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่การสาธิตที่แสดงการช่วยชี้จุดในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานใน Windows ของเราไปอย่างถาวร ✅ Copilot Vision ช่วยให้งานง่ายขึ้นโดยไม่ขัดจังหวะการทำงาน - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งาน Copilot Vision ผ่านไอคอนบนหน้าจอหรือปุ่มเฉพาะบนคีย์บอร์ด เพื่อให้ AI แสดงรายการแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน - ความสามารถนี้ช่วยให้ Copilot เข้าใจว่าผู้ใช้กำลังทำงานอะไร และสามารถตอบคำถามหรือแนะนำได้ตรงกับบริบท เช่น การออกแบบ 3D บน Blender หรือการปรับแต่งวิดีโอบน Clipchamp ✅ การแสดงคำแนะนำแบบโต้ตอบในอนาคต - Copilot Vision ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่ แสดงลูกศรแนะนำตำแหน่งในแอปพลิเคชัน เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านวิดีโอใน Clipchamp หรือการค้นหาเครื่องมือเฉพาะใน Photoshop - เทคโนโลยีใหม่นี้เปรียบเหมือน "Clippy ยุคใหม่" ที่ช่วยนำทางงานอย่างชาญฉลาด ✅ รองรับการใช้งานด้วยเสียงและข้อความ - ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เช่น "จะทำให้งานออกแบบนี้ดูคลาสสิกขึ้นได้อย่างไร" หรือ "ไอคอนเพิ่มหมายเหตุอยู่ที่ไหน" โดย AI จะปรับคำตอบตามแอปและโครงการที่เปิดอยู่ ✅ อนาคตของ Copilot Vision: - แม้ว่าฟีเจอร์ปัจจุบันจะสามารถระบุและเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันได้แล้ว แต่ Microsoft กำลังพัฒนาให้ Copilot Vision ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซของแอปได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มการช่วยเหลือในรูปแบบภาพ - การอัปเดตที่ก้าวหน้ากว่านี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่จากการสาธิต คาดว่าไม่นานเกินรอ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-copilot-vision-and-it-could-change-how-you-use-windows-forever
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • แอปฯ ViaBus สยายปีกสู่ลาว ติดตามรถเมล์เวียงจันทน์ได้แล้ว

    ในงานสัปดาห์ดิจิทัลลาว 2025 (Laos Digital Week 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เม.ย.2568 ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ (VCSBE) ได้ร่วมกับ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเวียบัส (ViaBus) เปิดบริการแจ้งติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ แก่รถโดยสารในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อพัฒนาการบริการ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย สามารถติดตามรถเมล์ และจุดจอดรถเมล์ได้เหมือนที่ประเทศไทย

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับท่านแก้ววันพร วอนทีวงสี ผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่โรงแรมลาวพลาซ่า เพื่อพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus โดยมีนายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะในนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางกับภูมิภาคอาเซียนในมิติที่ทันสมัยและยั่งยืน

    สำหรับรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ มีเส้นทางให้บริการประมาณ 16 เส้นทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีขนส่งตลาดเช้า (Central Bus Station หรือ CBS) ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ดงโดก, สนามบินสากลวัดไต, สถานีรถสายเหนือ, สถานีรถสายใต้, ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) รวมทั้งสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (รถไฟลาว-จีน) และสถานีเวียงจันทน์ คำสะหวาด (รถไฟไทย-ลาว) เดิมมีเว็บไซต์ติดตามรถเมล์ https://lao.busnavi.asia อยู่แล้ว ความร่วมมือกับ ViaBus ที่มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.2 ล้านคนเดินทางในนครหลวงเวียงจันทน์สะดวกขึ้น รวมทั้งจูงใจชาวนครหลวงเวียงจันทน์กว่า 7 แสนคนหันมาใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว

    ก่อนหน้านี้ ViaBus ได้ทดลองติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ที่ประเทศมาเลเซียใน 3 เมือง ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกาะปีนัง และเมืองยะโฮร์บาห์รู นับเป็นประเทศที่สองที่ ViaBus ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเดินรถทุกรายนำข้อมูล GPS รถเมล์มาเชื่อมระบบได้ฟรี โดยไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามและใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย

    #Newskit
    แอปฯ ViaBus สยายปีกสู่ลาว ติดตามรถเมล์เวียงจันทน์ได้แล้ว ในงานสัปดาห์ดิจิทัลลาว 2025 (Laos Digital Week 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เม.ย.2568 ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ (VCSBE) ได้ร่วมกับ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเวียบัส (ViaBus) เปิดบริการแจ้งติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ แก่รถโดยสารในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อพัฒนาการบริการ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย สามารถติดตามรถเมล์ และจุดจอดรถเมล์ได้เหมือนที่ประเทศไทย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับท่านแก้ววันพร วอนทีวงสี ผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่โรงแรมลาวพลาซ่า เพื่อพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus โดยมีนายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะในนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางกับภูมิภาคอาเซียนในมิติที่ทันสมัยและยั่งยืน สำหรับรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ มีเส้นทางให้บริการประมาณ 16 เส้นทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีขนส่งตลาดเช้า (Central Bus Station หรือ CBS) ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ดงโดก, สนามบินสากลวัดไต, สถานีรถสายเหนือ, สถานีรถสายใต้, ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) รวมทั้งสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (รถไฟลาว-จีน) และสถานีเวียงจันทน์ คำสะหวาด (รถไฟไทย-ลาว) เดิมมีเว็บไซต์ติดตามรถเมล์ https://lao.busnavi.asia อยู่แล้ว ความร่วมมือกับ ViaBus ที่มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.2 ล้านคนเดินทางในนครหลวงเวียงจันทน์สะดวกขึ้น รวมทั้งจูงใจชาวนครหลวงเวียงจันทน์กว่า 7 แสนคนหันมาใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว ก่อนหน้านี้ ViaBus ได้ทดลองติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ที่ประเทศมาเลเซียใน 3 เมือง ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกาะปีนัง และเมืองยะโฮร์บาห์รู นับเป็นประเทศที่สองที่ ViaBus ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเดินรถทุกรายนำข้อมูล GPS รถเมล์มาเชื่อมระบบได้ฟรี โดยไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามและใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • ReactOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเข้ากันได้กับ Windows โดยไม่มีโค้ดของ Microsoft หลังจาก 26 ปีของการพัฒนา ล่าสุดได้เปิดตัว ReactOS 0.4.15 ซึ่งมีการปรับปรุงสำคัญ เช่น Plug and Play และเสียง อย่างไรก็ตาม ระบบยังคงอยู่ใน สถานะ Alpha และเป้าหมายปัจจุบันคือ Windows Server 2003 ในอนาคตอาจรองรับ UEFI, NTFS และระบบพลังงานที่ดีขึ้น

    ✅ ReactOS คืออะไร?
    - เป็น ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีโค้ดของ Microsoft
    - เป้าหมายคือ ให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ Windows ได้
    - ใช้โครงสร้าง Windows NT แต่พัฒนาขึ้นเอง

    ✅ เป้าหมายการเข้ากันได้—Windows Server 2003
    - ReactOS ปัจจุบันยังคง พยายามเข้ากันได้กับ Windows Server 2003
    - สามารถใช้งาน LibreOffice, Firefox และ Adobe Photoshop รุ่นเก่าได้
    - ใช้ส่วนประกอบจาก โครงการ Wine และสามารถ บูตระบบ Linux 64-bit ผ่าน Freeloader utility

    ✅ การอัปเดตครั้งใหญ่ในเวอร์ชัน 0.4.15
    - ปรับปรุงระบบ Plug and Play และเสียง
    - เพิ่มความสามารถในการจัดการหน่วยความจำและแก้ไขปัญหา Registry
    - ปรับปรุงเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Notepad, Paint และ RAPPS

    ✅ ReactOS ยังอยู่ในช่วง Alpha และอาจใช้เวลานานกว่าจะสมบูรณ์
    - แม้ว่าจะพัฒนามากว่า 26 ปี แต่ ReactOS ยังอยู่ในสถานะ Alpha
    - ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลอง ใช้งานผ่าน VirtualBox เพื่อดูพัฒนาการของระบบ

    ✅ ฟีเจอร์ที่วางแผนสำหรับอัปเดตถัดไป
    - รองรับ UEFI
    - ตัวติดตั้งแบบกราฟิกใหม่
    - ระบบไฟล์ NTFS และ Symmetric Multiprocessing (SMP)
    - การจัดการพลังงานและรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลายขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/free-microsoft-windows-rival-gets-first-major-update-in-four-years-but-is-it-already-too-little-too-late
    ReactOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเข้ากันได้กับ Windows โดยไม่มีโค้ดของ Microsoft หลังจาก 26 ปีของการพัฒนา ล่าสุดได้เปิดตัว ReactOS 0.4.15 ซึ่งมีการปรับปรุงสำคัญ เช่น Plug and Play และเสียง อย่างไรก็ตาม ระบบยังคงอยู่ใน สถานะ Alpha และเป้าหมายปัจจุบันคือ Windows Server 2003 ในอนาคตอาจรองรับ UEFI, NTFS และระบบพลังงานที่ดีขึ้น ✅ ReactOS คืออะไร? - เป็น ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีโค้ดของ Microsoft - เป้าหมายคือ ให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ Windows ได้ - ใช้โครงสร้าง Windows NT แต่พัฒนาขึ้นเอง ✅ เป้าหมายการเข้ากันได้—Windows Server 2003 - ReactOS ปัจจุบันยังคง พยายามเข้ากันได้กับ Windows Server 2003 - สามารถใช้งาน LibreOffice, Firefox และ Adobe Photoshop รุ่นเก่าได้ - ใช้ส่วนประกอบจาก โครงการ Wine และสามารถ บูตระบบ Linux 64-bit ผ่าน Freeloader utility ✅ การอัปเดตครั้งใหญ่ในเวอร์ชัน 0.4.15 - ปรับปรุงระบบ Plug and Play และเสียง - เพิ่มความสามารถในการจัดการหน่วยความจำและแก้ไขปัญหา Registry - ปรับปรุงเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Notepad, Paint และ RAPPS ✅ ReactOS ยังอยู่ในช่วง Alpha และอาจใช้เวลานานกว่าจะสมบูรณ์ - แม้ว่าจะพัฒนามากว่า 26 ปี แต่ ReactOS ยังอยู่ในสถานะ Alpha - ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลอง ใช้งานผ่าน VirtualBox เพื่อดูพัฒนาการของระบบ ✅ ฟีเจอร์ที่วางแผนสำหรับอัปเดตถัดไป - รองรับ UEFI - ตัวติดตั้งแบบกราฟิกใหม่ - ระบบไฟล์ NTFS และ Symmetric Multiprocessing (SMP) - การจัดการพลังงานและรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลายขึ้น https://www.techradar.com/pro/free-microsoft-windows-rival-gets-first-major-update-in-four-years-but-is-it-already-too-little-too-late
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
More Results