• สั่งลบข้อมูล 1.2 ล้านราย สแกนม่านตาแลกเหรียญ

    ในช่วงกลางปี 2568 มีประชาชนจำนวนมาก รวมตัวกันที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่นับร้อยแห่ง เพื่อรอคิวสแกนม่านตา แล้วจะได้รับเหรียญคริปโทเคอเรนซีที่ชื่อว่า เวิลด์คอยน์ เพื่อแลกเป็นเงินสด หรือเพื่อเก็งกำไรและใช้แลกเปลี่ยนระหว่างกัน บางคนบอกว่าสแกนเสร็จแล้วจะได้รับเงินโอนประมาณ 500-1,000 บาท กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งกรมการปกครองไม่มีนโยบายให้ประชาชนสแกนม่านตา เกรงว่าอาจกลายเป็นการหลอกลวงประชาชน

    ที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 24 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) มีคำสั่งทางปกครองให้ World ประเทศไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระงับหรืองดสแกนม่านตา เพื่อรับเหรียญคริปโทเคอเรนซีเพิ่มเติมโดยทันที และรายงานผลการดำเนินการแก่ สคส.ภายใน 7 วัน หลังจากตรวจสอบพบว่าใช้วิธีแจกเหรียญคริปโทฯ จูงใจประชาชน เพื่อแลกกับความยินยอมเก็บรวบรวมข้อมูลม่านตา ซึ่งไม่เป็นไปโดยอิสระตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งผู้ที่เคยสแกนม่านตาไปแล้ว ไม่สามารถสแกนซ้ำได้ จึงเกินขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ขอความยินยอมเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์เท่านั้น

    อีกทั้งสั่งให้ลบทำลายข้อมูลม่านตา และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของประชาชน 1.2 ล้านคนทั้งหมด เพื่อป้องกันการโอนย้ายถ่ายเทข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังต่างประเทศ โดยไม่ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ยังให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานอื่นๆ ตรวจสอบประเด็นที่น่าสงสัยอื่นๆ เช่น กรณีมีขบวนการจ้างคนมาสแกนม่านตาแลกเหรียญ เพื่อนำไปให้บุคคคอื่นใช้ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.และตำรวจไซเบอร์ตรวจพบ และจับกุมผู้รับแลกเหรียญดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้วหลายราย และพบว่าประเทศอื่นมีคำสั่งระงับชัดเจน 5 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี สเปน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และบราซิล

    ด้าน World ประเทศไทย ชี้แจงว่าได้ระงับกระบวนการยืนยันความเป็นมนุษย์จริงในประเทศไทยชั่วคราว แม้ได้ให้ข้อมูลและความร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมาในทุกขั้นตอน ซึ่งยังคงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยอย่างใกล้ชิด รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สคส. เพื่อร่วมกันกําหนดแนวทางดําเนินงานที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ขณะที่สมาชิกที่เคยสแกนม่านตาไปแล้วบางส่วน ออกมาคัดค้านการสั่งลบข้อมูลแบบเหมาเข่ง อ้างว่ามีเพียง IrisCode และภาพถ่ายใบหน้าเท่านั้น และเกรงว่าจะกระทบกับเวิลด์คอยน์ที่ตนเองมีอยู่

    #Newskit
    สั่งลบข้อมูล 1.2 ล้านราย สแกนม่านตาแลกเหรียญ ในช่วงกลางปี 2568 มีประชาชนจำนวนมาก รวมตัวกันที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่นับร้อยแห่ง เพื่อรอคิวสแกนม่านตา แล้วจะได้รับเหรียญคริปโทเคอเรนซีที่ชื่อว่า เวิลด์คอยน์ เพื่อแลกเป็นเงินสด หรือเพื่อเก็งกำไรและใช้แลกเปลี่ยนระหว่างกัน บางคนบอกว่าสแกนเสร็จแล้วจะได้รับเงินโอนประมาณ 500-1,000 บาท กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งกรมการปกครองไม่มีนโยบายให้ประชาชนสแกนม่านตา เกรงว่าอาจกลายเป็นการหลอกลวงประชาชน ที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 24 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) มีคำสั่งทางปกครองให้ World ประเทศไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระงับหรืองดสแกนม่านตา เพื่อรับเหรียญคริปโทเคอเรนซีเพิ่มเติมโดยทันที และรายงานผลการดำเนินการแก่ สคส.ภายใน 7 วัน หลังจากตรวจสอบพบว่าใช้วิธีแจกเหรียญคริปโทฯ จูงใจประชาชน เพื่อแลกกับความยินยอมเก็บรวบรวมข้อมูลม่านตา ซึ่งไม่เป็นไปโดยอิสระตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งผู้ที่เคยสแกนม่านตาไปแล้ว ไม่สามารถสแกนซ้ำได้ จึงเกินขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ขอความยินยอมเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์เท่านั้น อีกทั้งสั่งให้ลบทำลายข้อมูลม่านตา และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของประชาชน 1.2 ล้านคนทั้งหมด เพื่อป้องกันการโอนย้ายถ่ายเทข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังต่างประเทศ โดยไม่ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ยังให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานอื่นๆ ตรวจสอบประเด็นที่น่าสงสัยอื่นๆ เช่น กรณีมีขบวนการจ้างคนมาสแกนม่านตาแลกเหรียญ เพื่อนำไปให้บุคคคอื่นใช้ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.และตำรวจไซเบอร์ตรวจพบ และจับกุมผู้รับแลกเหรียญดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้วหลายราย และพบว่าประเทศอื่นมีคำสั่งระงับชัดเจน 5 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี สเปน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และบราซิล ด้าน World ประเทศไทย ชี้แจงว่าได้ระงับกระบวนการยืนยันความเป็นมนุษย์จริงในประเทศไทยชั่วคราว แม้ได้ให้ข้อมูลและความร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมาในทุกขั้นตอน ซึ่งยังคงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยอย่างใกล้ชิด รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สคส. เพื่อร่วมกันกําหนดแนวทางดําเนินงานที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ขณะที่สมาชิกที่เคยสแกนม่านตาไปแล้วบางส่วน ออกมาคัดค้านการสั่งลบข้อมูลแบบเหมาเข่ง อ้างว่ามีเพียง IrisCode และภาพถ่ายใบหน้าเท่านั้น และเกรงว่าจะกระทบกับเวิลด์คอยน์ที่ตนเองมีอยู่ #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 7
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 7
    หลังจากเจอสงครามฝิ่น ราชวงศ์ชิงก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ พร้อมกับการเจริญเติบโตของต่างชาติในจีน โดยเฉพาะที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งพวกฝรั่งมาอยู่กันเต็ม พร้อมกับมีสิทธิพิเศษๆ รวมทั้งแบ่งเขตปกครองกันเอง ตามสัญญาที่บีบได้มาจากจีน ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการปลูกฝิ่นในจีน ไม่ต้องเสียเวลาขนมาจากที่อื่น การปลูก ผลิต และขายฝิ่น ขยายตัวเร็วยิ่งกว่าปลูกข้าว ในที่สุด จีนก็กลายเป็นแหล่งผลิตฝิ่นใหญ่ที่สุดในโลก และกองทัพจีนก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ
    มันเป็นยุทธศาสตร์ชั้นยอด สุดชั่วของอังกฤษทีเดียว ใช้แผ่นดินจีนปลูกฝิ่น ขายชาวจีน มอมเมาชาวจีน เพื่อยึดแผ่นดินจีน ผมเข้าใจหัวอกอาเฮีย แห่งแดนมังกรแล้ว
    เมื่อเกาหลีตีกันเอง ในปี ค.ศ.1894 ทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างก็ส่งกองทัพไปช่วย เลยประลองกันเอง และกองทัพจีนภายใต้ฤทธิ์ฝิ่น แพ้หมดรูปกลับบ้าน รุ่งขึ้นในปี ค.ศ.1895 เริ่มมีชาวจีนที่ไม่พอใจ รู้สึกเสียหน้า และเห็นว่า ความพ่ายแพ้ของกองทัพมาจากการที่ต่างชาติแทรกแซงจีน จีงมีการรวมตัวกันเพื่อพยายามขับไล่พวกฝรั่งที่อยู่ในจีน และไล่ราชวงศ์ชิงที่อ่อนแอ ยอมให้ต่างชาติเข้ามาใหญ่อยู่ในจีน
    ปี ค.ศ.1898 ชาวจีนที่ต้องการไล่ฝรั่งออกไปจากประเทศ รวมตัวกันที่เมืองชานตุง ทางเหนือของจีน ซึ่งเป็นถิ่นที่มีชาวเยอรมันอยู่แยะ เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟ และมีเหมืองถ่านหินอยู่ที่นั่น เยอรมันทำเหมือง สร้างทางรถไฟ กำไรมหาศาล แต่ใช้งานคนจีนอย่างกับทาส ค่าแรงต่ำ ความเป็นอยู่ของคนงานชาวจีนน่าอนาถ ชาวจีนจึงเริ่มออกเดินตามถนน พร้อมตะโกนไล่ …ผีปีศาจต่างชาติออกไป ออกไป…ชาวเยอรมัน ร่วมทั้งพวกสอนศาสนา มิชชั่นนารี และพวกเข้ารีต เริ่มถูกทำร้าย ถูกฆ่า
    ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้คือ กลุ่มสมาคมลับ Yihequan หรือ I-ho-chuan หรือ ที่เรียกกันว่า พวกนักมวย เพราะเป็นพวกเล่นหมัดมวยทั้งนั้น ถึงปี ค.ศ.1900 กลุ่มนักมวยกระจายไปทั่วมณฑลทางเหนือ รวมทั้งที่เมืองหลวงปักกิ่ง พวกนักมวยต้องการขับไล่รัฐบาลของพวกแมนจู เพราะทำตัวเหมือนเป็นหุ่นชักให้กับพวกต่างชาติ พระนางซูซีไทเฮา อำนาจตัวจริงที่อยู่ข้างหลังรัฐบาลแมนจู ขอเจรจากับพวกนักมวย ว่าให้ไปไล่พวกฝรั่งอย่างเดียวเถิด อย่าไล่รัฐบาลแมนจูเลย และพระนางจะสนับสนุนพวกนักมวยทุกอย่าง พวกนักมวยว่าง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เชื่อคำเจรจาของพระนางซูซี
    ในช่วงปี ค.ศ.1900 นั้น ฝรั่งปักหลักสร้างบ้านอยู่เต็มปักกิ่ง แต่เหยียดหยามดูถูกคนจีน พวกนักมวย จึงได้พรรคพวกเพิ่มขึ้นอีกมากที่ปักกิ่ง พวกฝรั่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักไม่ปลอดภัย ทูตเยอรมันที่จีน จึงจะไปยื่นคำประท้วงต่อรัฐบาลแมนจู ระหว่างเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อยื่นหนังสือประท้วง ตัวทูตก็ถูกพวกนักมวยลากลงมาจากรถ และถูกทำร้ายจนตาย พวกฝรั่งรู้ข่าวก็ตาเหลือก รีบพากันอพยพ หลบไปอยู่ในสถานทูตอังกฤษ ที่มีทหารป้องกันประมาณ 400 คน
    ฝ่ายฝรั่งบอกว่า พวกนักมวยจำนวนเป็นหมื่น มาล้อมสถานทูตอังกฤษ การล้อมและต่อสู้ดำเนินอยู่ 55 วัน กว่ากองกำลังของพวกต่างชาติ จากเมืองเทียนสินจะมาถึง พร้อมด้วยปืนเล็กปืนใหญ่ และต่อสู้จนพวกนักมวย ที่มีแต่มีดและมือตีนพ่ายแพ้ไป
    ฝรั่งรายงานว่า มีพวกฝรั่งตายไป 66 คน บาดเจ็บ 150 คน แต่ไม่รู้ว่าพวกนักมวยเจ็บตายไปเท่าไหร่ พวกฝรั่งโกรธแค้นมาก จำต้องลงโทษชาวจีนให้จงหนัก ที่กำเริบเสิบสานนัก กองทัพต่างชาติไม่ให้เสียเวลา ฉวยโอกาสบุกเข้าไปในพระราชวังปักกิ่ง พวกหนึ่งก็ขนสมบัติของฮ่องเต้ อีกพวกหนึ่งก็ทำลายพระราชวัง เสียหายแทบไม่เหลือชิ้นดี ส่วนพระนางซูซี เมื่อพวกนักมวยเข้ามาในเมืองปักกิ่ง พระนางก็ประกาศสงครามกับพวกฝรั่ง แต่เมื่อเห็นพวกนักมวยทำท่าจะไปไม่รอด พระนางก็ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน หลบหนีจากวังไปอยู่เมืองซีอาน
    เมื่อพวกฝรั่งปราบพวกกบฏนักมวยราบจนไม่เหลือ พวกฝรั่งก็เรียกค่าเสียหายจากจีนเป็นจำนวนเงินถึง 500 ล้านเหรียญ และยกโทษให้พระนางซูซี ให้กลับมาอยู่วัง และทำหน้าที่เป็นหุ่นชักให้ฝรั่งต่อไป แล้วพวกฝรั่งก็กลับมามีอำนาจในจีน ตักตวงจีนเหมือนเดิม และมากกว่าเดิม ส่วนพวกกบฏนักมวย ถูกจับและถูกตัดหัวเสียบประจานกลางเมือง
    เรื่องของพวกกบฏนักมวย เป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์ ทั้งค่ายฝรั่ง และค่ายจีน นำมาศึกษา ต่างได้ข้อสรุป ไม่เหมือนกัน น่าสนใจ
    หลังจากนั้นราชวงศ์ชิงก็ยิ่งเสื่อม ลง กลุ่มก๊กเหล่าต่างๆ โผล่ขึ้นมาอีก ในที่สุด ราชวงศ์ชิง ก็ถูกโค่น ในปี ค.ศ.1910 โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง ของซุนยัดเซ็น ปฏิวัติสำเร็จ แต่ยังปกครองจีนไม่ได้ ภายในจีนยังแตกแยก แล้วอำนาจก็กลับไปอยู่ในมือของ ยวนสี่ไข นายทหารใหญ่ ที่ฮ่องเต้เป็นผู้ชุบเลี้ยงจน มีอำนาจในปลายราชวงศ์ชิง การแย่งชิงอำนาจระหว่างก๊ก ดูซับซ้อน ไม่รู้ใครต้มใคร แต่ในที่สุด ยวนซีไข่ ก็ครองอำนาจไม่อยู่ ตายจากไป และซุนยัดเซ็น ก็ขึ้นมาปกครองจีน โดยตั้ง เจียงไคเช็ค น้องเขย เป็นมือขวา
    ย้อนกลับมาเรื่อง ฝิ่น อาวุธสำคัญที่ทำลายจีนเสียน่วมตามแผนของอังกฤษ ยังเป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาเป็นสาระพัดยาเสพติด ที่มีอานุภาพใช้ มีฤทธิ์สูงกว้างขวางไปทุกเนื้อที่ และยั่งยืนต่อมา จนถึงทุกวันนี้
    ในบรรดาเจ้าพ่อของจีน ที่ถือกำเนิดมาจากการค้าฝิ่น แก๊งเขียว หรือ Green Gang ซึ่งยึดหัวหาดอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ดูแลเขตปกครองของฝรั่งเศส และดูเหมือนจะมีส่วนสำคัญในการ รับไม้ทุบจีนให้น่วมต่อ หัวหน้าแก๊งเขียว ชื่อ ตู้ หยูเช็ง (Tu Yueh-sen) ซึ่งตอนหลัง รวบรวมนักค้าฝิ่นขาใหญ่ๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดหมด ไอ้ตู้ จึงกลายเป็นเจ้าพ่อตู้
    ธุรกิจของเจ้าพ่อตู้ ดีวันดีคืน ในปี ค.ศ.1927 เจ้าพ่อตู้ ถึงกับมีกองทัพ(นักเลง) ส่วนตัว เมื่อพวกก๊กมินตั๋งของซุนยัดเซ็น มีนโยบายจะขจัดบรรดาก๊กเหล่าต่างๆ ซึ่งขณะนั้นมีมากมายให้หมดไป เจียงไคเช็ค ได้ยินชื่อเสียงของเจ้าพ่อตู้ นายพลเจียงจึงแอบจับมือกับเจ้าพ่อตู้ ให้ช่วยกำจัดพวกคอมมิวนิสต์ ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาในจีน และทำท่าจะเป็นดาวรุ่งมาแรง เจ้าพ่อ บอกไม่มีปัญหา เดี๋ยวจัดให้
    เมื่อพวกสหภาพกรรมกร ที่สังกัดพวกคอมมิวนิสต์ เดืนทางมาถึงเขตปกครองของฝรั่งเศส ก็ถูกพวกนักเลงรุมฆ่าฟันตายเป็นพันๆ คน รวมทั้งชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง แต่บังเอิญไปยืนอยู่แถวนั้น ก็โดนฆ่าไปด้วย ไอ้ตู้ สร้างผลงานได้เข้าตาคนจ้างจริงๆ
    หลังจากก๊กมินตั๋งครอบครองส่วนหนี่งของจีนได้ และตั้งรัฐบาลขึ้นมา นายพลเจียง ก็ยังคงใช้บริการของไอ้ตู้ต่อไป แถมตั้งไอ้ตู้และพวก เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล ตัวไอ้ตู้เอง ยังได้รับตำแหน่งเป็นพันเอกในกองทัพด้วย การค้าฝิ่นในจีน จึงยิ่งงอกงาม ไม่ใช่แค่ในจีน แต่งอกเงยไปถึงอเมริกา ซึ่งมีมาเฟียเซี่ยงไฮ้ ตู้ เป็นผู้จัดส่ง
    ในปี ค.ศ.1937 ที่ญี่ปุ่นบุกจีน เมื่อกองทัพญี่ปุ่นมานานกิง กองทัพก๊กมินตั๋ง ก็ถอยไปอยู่ที่เมืองชงชิงในมณฑลเสฉวน หน้าฉาก เจียงไคเช็ค รบกับกองทัพญี่ปุ่น แต่หลังฉาก ทั้ง 2 ฝ่ายจับมือกันค้าฝิ่น บัดซบไหมครับ
    ญี่ปุ่นทำมาหาได้จากการค้าฝิ่น ฝิ่นเป็นรายได้หลักจากการบุกยึดและปักหลักอยู่ที่จีนของญี่ปุ่น และภายใต้การจัดการของไอ้ตู้ หรือท่านพันเอกตู้ นายพลเจียง ก็เป็นสายส่งฝิ่นให้แก่ญี่ปุ่น มณฑลเสฉวน และยูนนานของจีน กลายเป็นดงฝิ่น ทุกเนินเขาเต็มไปด้วยดอกฝิ่น สีแดง สีขาว สีชมพู ฝิ่นถูกขนส่งผ่านลงมาที่แม่น้ำแยงซี ทางหนี่งส่งไปที่เซี่ยงไฮ้ อีกทางส่งออกไปทางพม่า เพื่อมาเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    เมื่อญี่ปุ่นแพ้ในการสู้รบกับจีน ถอยทัพกลับ แต่สงครามกลางเมืองระหว่างก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์ ยังดำเนินต่อไป เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ชนะ ไล่ตีลงมาถึงเซี่ยงไฮ้ ไอ้ตู้และแก๊งเขียว รีบเก็บของลงกระเป๋า เตลิดไปอยู่ฮ่องกง ส่วนนายพล เจียง ก็นำพวกตัว ข้ามไปปักหลักที่ไต้หวัน และพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนก็เกิดขึ้น
    เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มปกครองจีน มีชาวจีนติดฝิ่นเป็นหลายล้านคน จีนบอกคนพวกนี้คือ “เหยื่อ” ของรัฐบาลต่างชาติ คนติดฝิ่นเหล่านั้น ได้รับการดูแลรักษา และมีงานทำ โดยรัฐจัดหาให้ทั้งหมด จีนใช้เวลานาน กว่า จะล้างฝิ่น ที่อังกฤษพอกเอาไว้ให้ออกจากคน และออกจากประเทศ หมดเอาในปี ค.ศ.1956 อย่าได้ดูแคลนฝีมืออันชั่วร้ายของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายเชียว
    สำหรับฝิ่น ที่ส่งออกจากยูนาน เข้าทางพม่าผ่านรัฐฉาน ซึ่งอยู่คนละฝ่ายกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐฉานปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องฝิ่น แม้จะมีข่าวว่า รัฐฉานเป็นแหล่งปลูกและผลิตฝิ่นแหล่งใหญ่ ภายใต้การอำนายการของหน่วยสืบราชการลับ ซีไอเอ ของอเมริกา และพวกฉานหลายคน ก็ทำหน้าที่เป็นสายลับให้กับอเมริกา เกี่ยวกับกิจกรรมของจีนด้วย เรื่องนี้ มีโอกาสจะเล่าให้ฟังต่อ
    เล่ามาถึงตรงนี้ คงพอเห็นกันแล้วว่า อังกฤษ อยู่เบื้องหลังพฤติกรรม และหลายเหตุการณ์ทั้งในญี่ปุ่น และที่จีน แต่อังกฤษ คงไม่ใช่นักล่ารายเดียว ที่วางแผนเคี้ยวจีน และอาจจะเคี้ยวญี่ปุ่นพร้อมๆ กันไปด้วย….
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 7 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 7 หลังจากเจอสงครามฝิ่น ราชวงศ์ชิงก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ พร้อมกับการเจริญเติบโตของต่างชาติในจีน โดยเฉพาะที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งพวกฝรั่งมาอยู่กันเต็ม พร้อมกับมีสิทธิพิเศษๆ รวมทั้งแบ่งเขตปกครองกันเอง ตามสัญญาที่บีบได้มาจากจีน ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการปลูกฝิ่นในจีน ไม่ต้องเสียเวลาขนมาจากที่อื่น การปลูก ผลิต และขายฝิ่น ขยายตัวเร็วยิ่งกว่าปลูกข้าว ในที่สุด จีนก็กลายเป็นแหล่งผลิตฝิ่นใหญ่ที่สุดในโลก และกองทัพจีนก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ มันเป็นยุทธศาสตร์ชั้นยอด สุดชั่วของอังกฤษทีเดียว ใช้แผ่นดินจีนปลูกฝิ่น ขายชาวจีน มอมเมาชาวจีน เพื่อยึดแผ่นดินจีน ผมเข้าใจหัวอกอาเฮีย แห่งแดนมังกรแล้ว เมื่อเกาหลีตีกันเอง ในปี ค.ศ.1894 ทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างก็ส่งกองทัพไปช่วย เลยประลองกันเอง และกองทัพจีนภายใต้ฤทธิ์ฝิ่น แพ้หมดรูปกลับบ้าน รุ่งขึ้นในปี ค.ศ.1895 เริ่มมีชาวจีนที่ไม่พอใจ รู้สึกเสียหน้า และเห็นว่า ความพ่ายแพ้ของกองทัพมาจากการที่ต่างชาติแทรกแซงจีน จีงมีการรวมตัวกันเพื่อพยายามขับไล่พวกฝรั่งที่อยู่ในจีน และไล่ราชวงศ์ชิงที่อ่อนแอ ยอมให้ต่างชาติเข้ามาใหญ่อยู่ในจีน ปี ค.ศ.1898 ชาวจีนที่ต้องการไล่ฝรั่งออกไปจากประเทศ รวมตัวกันที่เมืองชานตุง ทางเหนือของจีน ซึ่งเป็นถิ่นที่มีชาวเยอรมันอยู่แยะ เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟ และมีเหมืองถ่านหินอยู่ที่นั่น เยอรมันทำเหมือง สร้างทางรถไฟ กำไรมหาศาล แต่ใช้งานคนจีนอย่างกับทาส ค่าแรงต่ำ ความเป็นอยู่ของคนงานชาวจีนน่าอนาถ ชาวจีนจึงเริ่มออกเดินตามถนน พร้อมตะโกนไล่ …ผีปีศาจต่างชาติออกไป ออกไป…ชาวเยอรมัน ร่วมทั้งพวกสอนศาสนา มิชชั่นนารี และพวกเข้ารีต เริ่มถูกทำร้าย ถูกฆ่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้คือ กลุ่มสมาคมลับ Yihequan หรือ I-ho-chuan หรือ ที่เรียกกันว่า พวกนักมวย เพราะเป็นพวกเล่นหมัดมวยทั้งนั้น ถึงปี ค.ศ.1900 กลุ่มนักมวยกระจายไปทั่วมณฑลทางเหนือ รวมทั้งที่เมืองหลวงปักกิ่ง พวกนักมวยต้องการขับไล่รัฐบาลของพวกแมนจู เพราะทำตัวเหมือนเป็นหุ่นชักให้กับพวกต่างชาติ พระนางซูซีไทเฮา อำนาจตัวจริงที่อยู่ข้างหลังรัฐบาลแมนจู ขอเจรจากับพวกนักมวย ว่าให้ไปไล่พวกฝรั่งอย่างเดียวเถิด อย่าไล่รัฐบาลแมนจูเลย และพระนางจะสนับสนุนพวกนักมวยทุกอย่าง พวกนักมวยว่าง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เชื่อคำเจรจาของพระนางซูซี ในช่วงปี ค.ศ.1900 นั้น ฝรั่งปักหลักสร้างบ้านอยู่เต็มปักกิ่ง แต่เหยียดหยามดูถูกคนจีน พวกนักมวย จึงได้พรรคพวกเพิ่มขึ้นอีกมากที่ปักกิ่ง พวกฝรั่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักไม่ปลอดภัย ทูตเยอรมันที่จีน จึงจะไปยื่นคำประท้วงต่อรัฐบาลแมนจู ระหว่างเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อยื่นหนังสือประท้วง ตัวทูตก็ถูกพวกนักมวยลากลงมาจากรถ และถูกทำร้ายจนตาย พวกฝรั่งรู้ข่าวก็ตาเหลือก รีบพากันอพยพ หลบไปอยู่ในสถานทูตอังกฤษ ที่มีทหารป้องกันประมาณ 400 คน ฝ่ายฝรั่งบอกว่า พวกนักมวยจำนวนเป็นหมื่น มาล้อมสถานทูตอังกฤษ การล้อมและต่อสู้ดำเนินอยู่ 55 วัน กว่ากองกำลังของพวกต่างชาติ จากเมืองเทียนสินจะมาถึง พร้อมด้วยปืนเล็กปืนใหญ่ และต่อสู้จนพวกนักมวย ที่มีแต่มีดและมือตีนพ่ายแพ้ไป ฝรั่งรายงานว่า มีพวกฝรั่งตายไป 66 คน บาดเจ็บ 150 คน แต่ไม่รู้ว่าพวกนักมวยเจ็บตายไปเท่าไหร่ พวกฝรั่งโกรธแค้นมาก จำต้องลงโทษชาวจีนให้จงหนัก ที่กำเริบเสิบสานนัก กองทัพต่างชาติไม่ให้เสียเวลา ฉวยโอกาสบุกเข้าไปในพระราชวังปักกิ่ง พวกหนึ่งก็ขนสมบัติของฮ่องเต้ อีกพวกหนึ่งก็ทำลายพระราชวัง เสียหายแทบไม่เหลือชิ้นดี ส่วนพระนางซูซี เมื่อพวกนักมวยเข้ามาในเมืองปักกิ่ง พระนางก็ประกาศสงครามกับพวกฝรั่ง แต่เมื่อเห็นพวกนักมวยทำท่าจะไปไม่รอด พระนางก็ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน หลบหนีจากวังไปอยู่เมืองซีอาน เมื่อพวกฝรั่งปราบพวกกบฏนักมวยราบจนไม่เหลือ พวกฝรั่งก็เรียกค่าเสียหายจากจีนเป็นจำนวนเงินถึง 500 ล้านเหรียญ และยกโทษให้พระนางซูซี ให้กลับมาอยู่วัง และทำหน้าที่เป็นหุ่นชักให้ฝรั่งต่อไป แล้วพวกฝรั่งก็กลับมามีอำนาจในจีน ตักตวงจีนเหมือนเดิม และมากกว่าเดิม ส่วนพวกกบฏนักมวย ถูกจับและถูกตัดหัวเสียบประจานกลางเมือง เรื่องของพวกกบฏนักมวย เป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์ ทั้งค่ายฝรั่ง และค่ายจีน นำมาศึกษา ต่างได้ข้อสรุป ไม่เหมือนกัน น่าสนใจ หลังจากนั้นราชวงศ์ชิงก็ยิ่งเสื่อม ลง กลุ่มก๊กเหล่าต่างๆ โผล่ขึ้นมาอีก ในที่สุด ราชวงศ์ชิง ก็ถูกโค่น ในปี ค.ศ.1910 โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง ของซุนยัดเซ็น ปฏิวัติสำเร็จ แต่ยังปกครองจีนไม่ได้ ภายในจีนยังแตกแยก แล้วอำนาจก็กลับไปอยู่ในมือของ ยวนสี่ไข นายทหารใหญ่ ที่ฮ่องเต้เป็นผู้ชุบเลี้ยงจน มีอำนาจในปลายราชวงศ์ชิง การแย่งชิงอำนาจระหว่างก๊ก ดูซับซ้อน ไม่รู้ใครต้มใคร แต่ในที่สุด ยวนซีไข่ ก็ครองอำนาจไม่อยู่ ตายจากไป และซุนยัดเซ็น ก็ขึ้นมาปกครองจีน โดยตั้ง เจียงไคเช็ค น้องเขย เป็นมือขวา ย้อนกลับมาเรื่อง ฝิ่น อาวุธสำคัญที่ทำลายจีนเสียน่วมตามแผนของอังกฤษ ยังเป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาเป็นสาระพัดยาเสพติด ที่มีอานุภาพใช้ มีฤทธิ์สูงกว้างขวางไปทุกเนื้อที่ และยั่งยืนต่อมา จนถึงทุกวันนี้ ในบรรดาเจ้าพ่อของจีน ที่ถือกำเนิดมาจากการค้าฝิ่น แก๊งเขียว หรือ Green Gang ซึ่งยึดหัวหาดอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ดูแลเขตปกครองของฝรั่งเศส และดูเหมือนจะมีส่วนสำคัญในการ รับไม้ทุบจีนให้น่วมต่อ หัวหน้าแก๊งเขียว ชื่อ ตู้ หยูเช็ง (Tu Yueh-sen) ซึ่งตอนหลัง รวบรวมนักค้าฝิ่นขาใหญ่ๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดหมด ไอ้ตู้ จึงกลายเป็นเจ้าพ่อตู้ ธุรกิจของเจ้าพ่อตู้ ดีวันดีคืน ในปี ค.ศ.1927 เจ้าพ่อตู้ ถึงกับมีกองทัพ(นักเลง) ส่วนตัว เมื่อพวกก๊กมินตั๋งของซุนยัดเซ็น มีนโยบายจะขจัดบรรดาก๊กเหล่าต่างๆ ซึ่งขณะนั้นมีมากมายให้หมดไป เจียงไคเช็ค ได้ยินชื่อเสียงของเจ้าพ่อตู้ นายพลเจียงจึงแอบจับมือกับเจ้าพ่อตู้ ให้ช่วยกำจัดพวกคอมมิวนิสต์ ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาในจีน และทำท่าจะเป็นดาวรุ่งมาแรง เจ้าพ่อ บอกไม่มีปัญหา เดี๋ยวจัดให้ เมื่อพวกสหภาพกรรมกร ที่สังกัดพวกคอมมิวนิสต์ เดืนทางมาถึงเขตปกครองของฝรั่งเศส ก็ถูกพวกนักเลงรุมฆ่าฟันตายเป็นพันๆ คน รวมทั้งชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง แต่บังเอิญไปยืนอยู่แถวนั้น ก็โดนฆ่าไปด้วย ไอ้ตู้ สร้างผลงานได้เข้าตาคนจ้างจริงๆ หลังจากก๊กมินตั๋งครอบครองส่วนหนี่งของจีนได้ และตั้งรัฐบาลขึ้นมา นายพลเจียง ก็ยังคงใช้บริการของไอ้ตู้ต่อไป แถมตั้งไอ้ตู้และพวก เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล ตัวไอ้ตู้เอง ยังได้รับตำแหน่งเป็นพันเอกในกองทัพด้วย การค้าฝิ่นในจีน จึงยิ่งงอกงาม ไม่ใช่แค่ในจีน แต่งอกเงยไปถึงอเมริกา ซึ่งมีมาเฟียเซี่ยงไฮ้ ตู้ เป็นผู้จัดส่ง ในปี ค.ศ.1937 ที่ญี่ปุ่นบุกจีน เมื่อกองทัพญี่ปุ่นมานานกิง กองทัพก๊กมินตั๋ง ก็ถอยไปอยู่ที่เมืองชงชิงในมณฑลเสฉวน หน้าฉาก เจียงไคเช็ค รบกับกองทัพญี่ปุ่น แต่หลังฉาก ทั้ง 2 ฝ่ายจับมือกันค้าฝิ่น บัดซบไหมครับ ญี่ปุ่นทำมาหาได้จากการค้าฝิ่น ฝิ่นเป็นรายได้หลักจากการบุกยึดและปักหลักอยู่ที่จีนของญี่ปุ่น และภายใต้การจัดการของไอ้ตู้ หรือท่านพันเอกตู้ นายพลเจียง ก็เป็นสายส่งฝิ่นให้แก่ญี่ปุ่น มณฑลเสฉวน และยูนนานของจีน กลายเป็นดงฝิ่น ทุกเนินเขาเต็มไปด้วยดอกฝิ่น สีแดง สีขาว สีชมพู ฝิ่นถูกขนส่งผ่านลงมาที่แม่น้ำแยงซี ทางหนี่งส่งไปที่เซี่ยงไฮ้ อีกทางส่งออกไปทางพม่า เพื่อมาเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อญี่ปุ่นแพ้ในการสู้รบกับจีน ถอยทัพกลับ แต่สงครามกลางเมืองระหว่างก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์ ยังดำเนินต่อไป เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ชนะ ไล่ตีลงมาถึงเซี่ยงไฮ้ ไอ้ตู้และแก๊งเขียว รีบเก็บของลงกระเป๋า เตลิดไปอยู่ฮ่องกง ส่วนนายพล เจียง ก็นำพวกตัว ข้ามไปปักหลักที่ไต้หวัน และพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนก็เกิดขึ้น เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มปกครองจีน มีชาวจีนติดฝิ่นเป็นหลายล้านคน จีนบอกคนพวกนี้คือ “เหยื่อ” ของรัฐบาลต่างชาติ คนติดฝิ่นเหล่านั้น ได้รับการดูแลรักษา และมีงานทำ โดยรัฐจัดหาให้ทั้งหมด จีนใช้เวลานาน กว่า จะล้างฝิ่น ที่อังกฤษพอกเอาไว้ให้ออกจากคน และออกจากประเทศ หมดเอาในปี ค.ศ.1956 อย่าได้ดูแคลนฝีมืออันชั่วร้ายของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายเชียว สำหรับฝิ่น ที่ส่งออกจากยูนาน เข้าทางพม่าผ่านรัฐฉาน ซึ่งอยู่คนละฝ่ายกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐฉานปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องฝิ่น แม้จะมีข่าวว่า รัฐฉานเป็นแหล่งปลูกและผลิตฝิ่นแหล่งใหญ่ ภายใต้การอำนายการของหน่วยสืบราชการลับ ซีไอเอ ของอเมริกา และพวกฉานหลายคน ก็ทำหน้าที่เป็นสายลับให้กับอเมริกา เกี่ยวกับกิจกรรมของจีนด้วย เรื่องนี้ มีโอกาสจะเล่าให้ฟังต่อ เล่ามาถึงตรงนี้ คงพอเห็นกันแล้วว่า อังกฤษ อยู่เบื้องหลังพฤติกรรม และหลายเหตุการณ์ทั้งในญี่ปุ่น และที่จีน แต่อังกฤษ คงไม่ใช่นักล่ารายเดียว ที่วางแผนเคี้ยวจีน และอาจจะเคี้ยวญี่ปุ่นพร้อมๆ กันไปด้วย…. สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 1
    ในที่สุด ภาพของญี่ปุ่น ที่วาดไว้อย่างสวยงามว่า เป็นชาติที่รักความสงบ ไม่มีวันไปรุกรานใครอีกตลอดกาล ตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขียนให้เมื่อปี ค.ศ.1948 ก็ถูกลบทิ้งเรียบร้อย เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เมื่อสภาล่างของญี่ปุ่น ได้ลงคะแนนผ่านกฏหมาย ที่จะแปลความรัฐธรรมนูญดังกล่าให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัที่มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง Self Defence Force (SDF) ถลาร่อนไปได้ทั่วโลก แบกถาดไปได้ทุกแห่ง ตามคำสั่งของนายท่าน ไอ้ที่บอกว่าจะ ไม่รุกรานใครอีกตลอดกาล ของญี่ปุ่นนี่ “ตลอดกาล” มันนานมาก นานน้อย แค่ไหนก็ได้ ตามแต่นายท่านจะสั่ง
    กฏหมายนี้ ยังจะต้องผ่านสภาสูงอีกรอบ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีปัญหา เขาว่าพรรค LPD ของนายอาเบะคุมเสียงต้ัง 2 ใน 3 ของสภาสูง นอนหลับตาไขว้ห้างได้สบายใจ ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผาก แถมสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมตัดชุดแบกถาดล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกลัวเป็นซามูไรสายบัวเหี่ยว
    ตั้งแต่ข่าวนี้ออกสื่อ มีเสียงดังเหมือนมังกรคำราม ออกมาอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัย มาจากบ้านอาเฮียของผมนั่นแหละ ทำไมอาเฮียต้องเอ็ดตะโรด้วย ใครเขาอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้อะไร เฮียก็อย่าไปใส่ใจน่า อย่าทำตัวเหมือนไอ้พวกใบตองแห้ง ที่ไม่พอใจไปหมด เดี๋ยวก็สั่งให้แก้ สั่งให้ถอด สั่งให้เปิด สั่งให้เปลี่ยน สั่งมันทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว ยังไม่ได้ให้สั่งขี้มูก สั่งมาซีวะ กำลังถูกหวัดต้นฝนเล่นงานอยู่ จะได้เอาให้หน้าสถานทูตมันลื่นพราดเชียว (ฮา)
    อาเฮียบอกไม่ขำ (โว้ย) อ้าว เฮียครับ ธรรมดาก็เห็นหยอกกันได้ แต่เรื่องไอ้ยุ่นแบกถาดนี่ ทำไมเฮียบูดกระทันหัน เรื่องทะเลาะกันตีกัน มันก็นาน 70, 80 ปีแล้วนะ เป็นแผลก็ตกสะเก็ด ไปแล้ว เฮียไปเกาซ้ำแผลมันจะหายได้ยังไง อาเฮียบอก ลื้อไปศึกษาดูให้ดี อย่าดีแต่พล่าม หายเซ่อ แล้วคอยมาคุยกันว่า ทำไมแผลเก่านาน กว่า 70 ปี ถึงไม่ตกสะเก็ดเสียที
    จริงของอาเฮีย ผมเองยังเซ่อจับเกี่ยวเรื่องญี่ปุ่น มีคำถามค้างกับตัวเองอยู่หลายเรื่อง มองบางอย่างยังไม่ชัด เหมือนอะไรมันยังขัดกัน หรือ หมุนไปคนละทาง
    อะไรทำให้ญี่ปุ่น ลุกขึ้นไปรุกรานเพื่อนบ้านตัวเอง อย่างหิวกระหายและทารุณ และไปเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างดุดันและเหี้ยมโหด ญี่ปุ่นโกรธแค้นใครมาหรือญี่ปุ่นถูกหลอก หรือมีข้อตกลงกับใคร หรือมันเป็นนิสัยของชนชาติที่รักษาเกียรติยศด้วยการเอามีดคว้านท้องตัวเอง ก็เลยเห็นชีวิตคนอื่นไม่ต่างกับผักดองหรือสาหร่าย
    ผมว่า เรามาเริ่มจากประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แบบสั้นๆ แต่แพนกล้องให้กว้าง แล้วค่อยๆเจาะลึกดีกว่า จริงๆอยากเขียนแบบ ต้มข้ามศตวรรษ อีกรอบ แต่สงสัยทั้งคนเขียน และคนอ่านหมดแรงไปก่อนวันอันควร
    จากหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติ ศาสตร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ฝรั่งเขียน มักจะระบุว่า พฤติกรรมของญี่ปุ่น ที่แสดงในช่วง ค.ศ.1852 ถึง 1945 มาจากแรงผลักดัน ที่ไม่อยากมีชะตา หรือสภาพอย่างจีน เมื่อช่วงศตวรรษ ที่ 19 อืม… เริ่มแบบนี้ ผมเกรงว่า แผลเก่าของอาเฮีย จะกลายเป็นแผลใหม่สดขึ้นมาอีก อาเฮีย อย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ให้ผมพล่ามให้จบก่อน ผมยังไม่อยากมีเรื่องกับมังกร
    นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สำหรับญี่ปุ่น การเข้าสู่สงครามโลก มันลามมาจากการปะทะกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่เรียกว่า สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 Second Sino Japanese War หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่า Marco Polo Bridge Incident ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 หลังจากที่มีการทุบถอง ปะทะกันตามแนวเขตแดนมาหลายปี ต้ังแต่ญี่ปุ่นไปบุกแมนจูเรีย ในปี ค.ศ.1931 นู่น
    เอะ แล้วญี่ปุ่นนึกยังไง ถึงซ่าเข้าไปบุกแมนจูเรีย นักประวัติศาสตร์บอกว่า งั้นต้องถอยกลับมาปี ค.ศ1853 ก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งโวยว่า ผมถอยไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน เอาน่า จะรู้เรื่องอะไร ก็รู้ให้มันชัดๆ ดีกว่ารู้เรื่องดาราทะเลาะกัน งอนกัน ที่จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้เรื่องจริงของพวกเขาอยู่ดี ใช่ไหมครับ
    ก่อนปี ค.ศ.1853 นักประวัติศาสตร์ บอกญี่ปุ่นเป็นชาติ ที่รักสันโดษ ไม่คบค้ากับใคร นานๆ ก็มีชาวดัชท์เอาเรือบรรทุกสินค้าแวะมาจอด ซื้อของขายของ แถวท่าเรือที่เมืองนางาซากิ Nagasaki ชาวต่างชาตินอกเหนือจากนั้น ไม่อนุญาต ไม่รู้ดัชท์หลุดมาได้ไง
    พอถึงปี ค.ศ.1853 ต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษ ก็มาถึง นาวาโทแมทธิว เพอรี่ นำเรือรบอเมริกันมาจอด อยู่ที่ปากอ่าวเมืองโตเกียว และไม่ได้มากันลำเดียว ขนกันมาถึง 4 ลำ เล่นเอาปากอ่าว แน่นเอี้ยด นี่มันสูตรสำเร็จ แจกโรเนียวเลยนะ เอาเรือรบมาขอจับมือ
    ญี่ปุ่นเห็นเรือรบที่ไม่ได้รับ เชิญ มาจอดเต็มหน้าบ้าน ก็ยัวะจัด บังวิวสวยๆหมด เลยท้าวสะเอวถลกกิโมโน ชี้นิ้วตะโกนไล่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ทหารเรือฝรั่งบอกว่า ไม่ไป แถมหันปืนใหญ่ใส่เมืองโตเกียว ญี่ปุ่นยิ่งยั๊วะ รวบรวมเรือเล็กเรือน้อย ติดธงทิวสวยงาม ไปล้อมเรือรบ น่าเอ็นดูจัง แต่ทหารเรือ ไม่เอ็นดูด้วย กลับยื่นจดหมายของประธานาธิบดี Millard Fillmore แห่งแดนใบตองแห้ง เอ้า เอาไปส่งให้โชกุนโตกุกาวาที่ปก ครองญี่ปุ่นขณะนั้น แถมด้วยยิงปืนใหญ่โชว์ จนบ้านน้อยๆของชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ริมอ่าวพังพินาศ นักประวัติศาสตร์ ไม่ได้จดมาว่าพังไปเท่าไหร่ ว่าแล้วก็แล่นเรือจากไป แต่ไม่ไปลับ สำทับกับชาวญี่ปุ่น ที่ยังไม่หายตกใจ หูอื้อจากเสียงปืนใหญ่…. แล้วเราจะกลับมาเอาคำตอบ….ฮู้ย เข้มซะไม่มี เอาปืนใหญ่ มาขู่กระบอกไม้ไผ่ ซามูไรมุดหัวหายไปไหนหมด
    หนึ่งปีผ่านไป ทหารเรือพกปืนใหญ่ก็กลับมาจริง คราวนี้ยกโขยงเรือรบมากัน 8 ลำ คราวที่แล้วมา 4 ลำ ดูจะน้อยไป เดี๋ยวจะสู้กับไม้ไผ่ไม่ไหว แถมมาพร้อมกับมือเหล็ก ยื่นมาบีบคอญี่ปุ่น ให้เซ็นสัญญา Convention of Kanagawa ให้ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือชิโมดะ Shimoda (ชื่อเดิมของโตเกียวนั่นแหละ) และเมือง ฮาโกดาเตะ Hagodate ซึ่งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด Hokkaido เพื่อค้าขายกับอเมริกา ตามเงื่อนไขที่อเมริกากำหนด ญี่ปุ่นคิดหนัก เฮ้อ… ซามูไร ถึงจะคมยังไง ก็คงสู้กับปืนใหญ่ลำบาก เนะ… ว่าแล้วก็คอตก หน้าก้ม ยกมือขึ้นประทับตรา ในสัญญาขู่เอาไมตรี
    (หมายเหตุ ก่อนเดินหน้าเล่าต่อ ถ้าผมเรียกชื่อ สะกดชื่อญี่ปุ่นผิด ก็ไม่ต้องทักท้วงกันมาหลังจอนะ ครับ รบกวนบอกกันหน้าจอเลยว่า ผิดที่ไหน ที่ถูก ต้องเรียกยังไง ผมจะขอบคุณมาก ผมแค่เขียนนิทานให้อ่าน ไม่ใช่ครูสอนภาษา และผมก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ก็พยายามจะไม่เขียนแบบมั่ว หรือชุ่ยครับ อ้อ ไม่ใช่เฉพาะภาษาญี่ปุ่นนะครับ ทุกภาษาที่สะกดผิด นิทานเรื่องนี้ จะมีทั้งภาษาจีน ภาษาฝรั่งอั้งม้อ รวมทั้งภาษาไทย ที่ตอนเขียนถูก แต่ตอนโพสต์ผิดก็มี และมีแยะขึ้น บางวันถึงขนาด เครื่องมันขึ้น F ให้หน้าเพจผม ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน บางครั้งก็แก้ไขทัน บางทีก็ไม่ทัน ก็ขอความกรุณา อย่า งง เขียนนิทานแบบนี้ ลงเพจให้อ่านกัน เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น พยุงตัวให้รอด ไม่จมน้ำหาย ได้โผล่หัวอยู่มาได้ เกือบ 2 ปีนี่ ก็กินแรงแยะเหมือนกันนะครับ แรงคนแก่มีเหลือไม่มาก เรื่องอะไรที่ไม่ถึงกับขัดหู ขัดตา ก็ปล่อยไปบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้า)
    เรื่อง นายนาวาโทเพอรี่ ขี่เรือรบพกปืนใหญ่ มาขู่เอาไมตรีกับญี่ปุ่นนี่ จริงๆ ทำเอาซามูไรหน้าจ๋อย ใจฝ่อไปจม ที่เคยเชื่อว่า ตนเองเป็นชาติที่เข็มแข็ง ซามูไรคมกริบ ไม่เคยพลาดเป้า ตอนนี้เหงื่อตก คิดหนัก เราด้อยกว่าเขาแยะนักหรือ ขนาดจีนว่าใหญ่ ยังโดนไอ้พวกไกยิ่น (ญี่ปุ่น เรียก ฝรั่ง ว่า Gai-Jin) เล่นซะร่วง แล้วเราจะทำอย่างไรดี
    ด้วยความกลัวไอ้พวกไกยิ่น เอาปืนใหญ่มายิงโชว์อีก ญึ่ปุ่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีทางเดียวเราต้องปฏิรูปตัวเอง ญี่ปุ่นทำจริงจัง ปี ค.ศ.1868 ญี่ปุ่นจัดการบ้านการเมืองตัวเองใหม่ เรียกว่า Meiji Restoration เริ่มขบวนการปลดโชกุน ที่เคยมีอำนาจใหญ่กว่าฟ้า กลับลงมาสู่พื้น แล้วเอาอำนาจให้มาอยู่ในมือของจักรพรรดิแทน หรือจริงๆ ก็คืออยู่ในมือของกลุ่มที่ชักใยอยู่หลังฉาก ที่ไปปลดโชกุน และอุ้มจักรพรรดิขึ้นมาเป็นเจว็ด นั่นแหละ
    กลุ่มมือที่อยู่หลักฉาก เชื่อว่า ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม โดยล้มเลิกระบบขุนนาง ปรับปรุงกองทัพให้เข็มแข็ง และวางแผนให้ประเทศเดินหน้าไปทางด้านอุตสาหกรรม พยายามสร้างชาติใหม่ให้เท่าทันตะวันตก ชะตาชีวิตของประเทศ ก็น่าจะพ้นจากสภาพการถูกไอ้พวก ไกยิ่นทำลาย พวกสังคมอีลิต ต่างพากันสลัดกิโมโนทิ้ง มาแต่งตัว และใส่หมวกแบบตะวันตก แล้วชาวญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ ก็รีบสร้างระบบรัฐสภา เร่งร่างรัฐธรรมนูญ… นี่ ผมกำลังเล่าเรื่องญี่ปุ่นนะครับ..
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 1 ในที่สุด ภาพของญี่ปุ่น ที่วาดไว้อย่างสวยงามว่า เป็นชาติที่รักความสงบ ไม่มีวันไปรุกรานใครอีกตลอดกาล ตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขียนให้เมื่อปี ค.ศ.1948 ก็ถูกลบทิ้งเรียบร้อย เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เมื่อสภาล่างของญี่ปุ่น ได้ลงคะแนนผ่านกฏหมาย ที่จะแปลความรัฐธรรมนูญดังกล่าให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัที่มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง Self Defence Force (SDF) ถลาร่อนไปได้ทั่วโลก แบกถาดไปได้ทุกแห่ง ตามคำสั่งของนายท่าน ไอ้ที่บอกว่าจะ ไม่รุกรานใครอีกตลอดกาล ของญี่ปุ่นนี่ “ตลอดกาล” มันนานมาก นานน้อย แค่ไหนก็ได้ ตามแต่นายท่านจะสั่ง กฏหมายนี้ ยังจะต้องผ่านสภาสูงอีกรอบ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีปัญหา เขาว่าพรรค LPD ของนายอาเบะคุมเสียงต้ัง 2 ใน 3 ของสภาสูง นอนหลับตาไขว้ห้างได้สบายใจ ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผาก แถมสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมตัดชุดแบกถาดล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกลัวเป็นซามูไรสายบัวเหี่ยว ตั้งแต่ข่าวนี้ออกสื่อ มีเสียงดังเหมือนมังกรคำราม ออกมาอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัย มาจากบ้านอาเฮียของผมนั่นแหละ ทำไมอาเฮียต้องเอ็ดตะโรด้วย ใครเขาอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้อะไร เฮียก็อย่าไปใส่ใจน่า อย่าทำตัวเหมือนไอ้พวกใบตองแห้ง ที่ไม่พอใจไปหมด เดี๋ยวก็สั่งให้แก้ สั่งให้ถอด สั่งให้เปิด สั่งให้เปลี่ยน สั่งมันทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว ยังไม่ได้ให้สั่งขี้มูก สั่งมาซีวะ กำลังถูกหวัดต้นฝนเล่นงานอยู่ จะได้เอาให้หน้าสถานทูตมันลื่นพราดเชียว (ฮา) อาเฮียบอกไม่ขำ (โว้ย) อ้าว เฮียครับ ธรรมดาก็เห็นหยอกกันได้ แต่เรื่องไอ้ยุ่นแบกถาดนี่ ทำไมเฮียบูดกระทันหัน เรื่องทะเลาะกันตีกัน มันก็นาน 70, 80 ปีแล้วนะ เป็นแผลก็ตกสะเก็ด ไปแล้ว เฮียไปเกาซ้ำแผลมันจะหายได้ยังไง อาเฮียบอก ลื้อไปศึกษาดูให้ดี อย่าดีแต่พล่าม หายเซ่อ แล้วคอยมาคุยกันว่า ทำไมแผลเก่านาน กว่า 70 ปี ถึงไม่ตกสะเก็ดเสียที จริงของอาเฮีย ผมเองยังเซ่อจับเกี่ยวเรื่องญี่ปุ่น มีคำถามค้างกับตัวเองอยู่หลายเรื่อง มองบางอย่างยังไม่ชัด เหมือนอะไรมันยังขัดกัน หรือ หมุนไปคนละทาง อะไรทำให้ญี่ปุ่น ลุกขึ้นไปรุกรานเพื่อนบ้านตัวเอง อย่างหิวกระหายและทารุณ และไปเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างดุดันและเหี้ยมโหด ญี่ปุ่นโกรธแค้นใครมาหรือญี่ปุ่นถูกหลอก หรือมีข้อตกลงกับใคร หรือมันเป็นนิสัยของชนชาติที่รักษาเกียรติยศด้วยการเอามีดคว้านท้องตัวเอง ก็เลยเห็นชีวิตคนอื่นไม่ต่างกับผักดองหรือสาหร่าย ผมว่า เรามาเริ่มจากประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แบบสั้นๆ แต่แพนกล้องให้กว้าง แล้วค่อยๆเจาะลึกดีกว่า จริงๆอยากเขียนแบบ ต้มข้ามศตวรรษ อีกรอบ แต่สงสัยทั้งคนเขียน และคนอ่านหมดแรงไปก่อนวันอันควร จากหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติ ศาสตร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ฝรั่งเขียน มักจะระบุว่า พฤติกรรมของญี่ปุ่น ที่แสดงในช่วง ค.ศ.1852 ถึง 1945 มาจากแรงผลักดัน ที่ไม่อยากมีชะตา หรือสภาพอย่างจีน เมื่อช่วงศตวรรษ ที่ 19 อืม… เริ่มแบบนี้ ผมเกรงว่า แผลเก่าของอาเฮีย จะกลายเป็นแผลใหม่สดขึ้นมาอีก อาเฮีย อย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ให้ผมพล่ามให้จบก่อน ผมยังไม่อยากมีเรื่องกับมังกร นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สำหรับญี่ปุ่น การเข้าสู่สงครามโลก มันลามมาจากการปะทะกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่เรียกว่า สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 Second Sino Japanese War หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่า Marco Polo Bridge Incident ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 หลังจากที่มีการทุบถอง ปะทะกันตามแนวเขตแดนมาหลายปี ต้ังแต่ญี่ปุ่นไปบุกแมนจูเรีย ในปี ค.ศ.1931 นู่น เอะ แล้วญี่ปุ่นนึกยังไง ถึงซ่าเข้าไปบุกแมนจูเรีย นักประวัติศาสตร์บอกว่า งั้นต้องถอยกลับมาปี ค.ศ1853 ก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งโวยว่า ผมถอยไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน เอาน่า จะรู้เรื่องอะไร ก็รู้ให้มันชัดๆ ดีกว่ารู้เรื่องดาราทะเลาะกัน งอนกัน ที่จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้เรื่องจริงของพวกเขาอยู่ดี ใช่ไหมครับ ก่อนปี ค.ศ.1853 นักประวัติศาสตร์ บอกญี่ปุ่นเป็นชาติ ที่รักสันโดษ ไม่คบค้ากับใคร นานๆ ก็มีชาวดัชท์เอาเรือบรรทุกสินค้าแวะมาจอด ซื้อของขายของ แถวท่าเรือที่เมืองนางาซากิ Nagasaki ชาวต่างชาตินอกเหนือจากนั้น ไม่อนุญาต ไม่รู้ดัชท์หลุดมาได้ไง พอถึงปี ค.ศ.1853 ต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษ ก็มาถึง นาวาโทแมทธิว เพอรี่ นำเรือรบอเมริกันมาจอด อยู่ที่ปากอ่าวเมืองโตเกียว และไม่ได้มากันลำเดียว ขนกันมาถึง 4 ลำ เล่นเอาปากอ่าว แน่นเอี้ยด นี่มันสูตรสำเร็จ แจกโรเนียวเลยนะ เอาเรือรบมาขอจับมือ ญี่ปุ่นเห็นเรือรบที่ไม่ได้รับ เชิญ มาจอดเต็มหน้าบ้าน ก็ยัวะจัด บังวิวสวยๆหมด เลยท้าวสะเอวถลกกิโมโน ชี้นิ้วตะโกนไล่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ทหารเรือฝรั่งบอกว่า ไม่ไป แถมหันปืนใหญ่ใส่เมืองโตเกียว ญี่ปุ่นยิ่งยั๊วะ รวบรวมเรือเล็กเรือน้อย ติดธงทิวสวยงาม ไปล้อมเรือรบ น่าเอ็นดูจัง แต่ทหารเรือ ไม่เอ็นดูด้วย กลับยื่นจดหมายของประธานาธิบดี Millard Fillmore แห่งแดนใบตองแห้ง เอ้า เอาไปส่งให้โชกุนโตกุกาวาที่ปก ครองญี่ปุ่นขณะนั้น แถมด้วยยิงปืนใหญ่โชว์ จนบ้านน้อยๆของชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ริมอ่าวพังพินาศ นักประวัติศาสตร์ ไม่ได้จดมาว่าพังไปเท่าไหร่ ว่าแล้วก็แล่นเรือจากไป แต่ไม่ไปลับ สำทับกับชาวญี่ปุ่น ที่ยังไม่หายตกใจ หูอื้อจากเสียงปืนใหญ่…. แล้วเราจะกลับมาเอาคำตอบ….ฮู้ย เข้มซะไม่มี เอาปืนใหญ่ มาขู่กระบอกไม้ไผ่ ซามูไรมุดหัวหายไปไหนหมด หนึ่งปีผ่านไป ทหารเรือพกปืนใหญ่ก็กลับมาจริง คราวนี้ยกโขยงเรือรบมากัน 8 ลำ คราวที่แล้วมา 4 ลำ ดูจะน้อยไป เดี๋ยวจะสู้กับไม้ไผ่ไม่ไหว แถมมาพร้อมกับมือเหล็ก ยื่นมาบีบคอญี่ปุ่น ให้เซ็นสัญญา Convention of Kanagawa ให้ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือชิโมดะ Shimoda (ชื่อเดิมของโตเกียวนั่นแหละ) และเมือง ฮาโกดาเตะ Hagodate ซึ่งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด Hokkaido เพื่อค้าขายกับอเมริกา ตามเงื่อนไขที่อเมริกากำหนด ญี่ปุ่นคิดหนัก เฮ้อ… ซามูไร ถึงจะคมยังไง ก็คงสู้กับปืนใหญ่ลำบาก เนะ… ว่าแล้วก็คอตก หน้าก้ม ยกมือขึ้นประทับตรา ในสัญญาขู่เอาไมตรี (หมายเหตุ ก่อนเดินหน้าเล่าต่อ ถ้าผมเรียกชื่อ สะกดชื่อญี่ปุ่นผิด ก็ไม่ต้องทักท้วงกันมาหลังจอนะ ครับ รบกวนบอกกันหน้าจอเลยว่า ผิดที่ไหน ที่ถูก ต้องเรียกยังไง ผมจะขอบคุณมาก ผมแค่เขียนนิทานให้อ่าน ไม่ใช่ครูสอนภาษา และผมก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ก็พยายามจะไม่เขียนแบบมั่ว หรือชุ่ยครับ อ้อ ไม่ใช่เฉพาะภาษาญี่ปุ่นนะครับ ทุกภาษาที่สะกดผิด นิทานเรื่องนี้ จะมีทั้งภาษาจีน ภาษาฝรั่งอั้งม้อ รวมทั้งภาษาไทย ที่ตอนเขียนถูก แต่ตอนโพสต์ผิดก็มี และมีแยะขึ้น บางวันถึงขนาด เครื่องมันขึ้น F ให้หน้าเพจผม ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน บางครั้งก็แก้ไขทัน บางทีก็ไม่ทัน ก็ขอความกรุณา อย่า งง เขียนนิทานแบบนี้ ลงเพจให้อ่านกัน เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น พยุงตัวให้รอด ไม่จมน้ำหาย ได้โผล่หัวอยู่มาได้ เกือบ 2 ปีนี่ ก็กินแรงแยะเหมือนกันนะครับ แรงคนแก่มีเหลือไม่มาก เรื่องอะไรที่ไม่ถึงกับขัดหู ขัดตา ก็ปล่อยไปบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้า) เรื่อง นายนาวาโทเพอรี่ ขี่เรือรบพกปืนใหญ่ มาขู่เอาไมตรีกับญี่ปุ่นนี่ จริงๆ ทำเอาซามูไรหน้าจ๋อย ใจฝ่อไปจม ที่เคยเชื่อว่า ตนเองเป็นชาติที่เข็มแข็ง ซามูไรคมกริบ ไม่เคยพลาดเป้า ตอนนี้เหงื่อตก คิดหนัก เราด้อยกว่าเขาแยะนักหรือ ขนาดจีนว่าใหญ่ ยังโดนไอ้พวกไกยิ่น (ญี่ปุ่น เรียก ฝรั่ง ว่า Gai-Jin) เล่นซะร่วง แล้วเราจะทำอย่างไรดี ด้วยความกลัวไอ้พวกไกยิ่น เอาปืนใหญ่มายิงโชว์อีก ญึ่ปุ่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีทางเดียวเราต้องปฏิรูปตัวเอง ญี่ปุ่นทำจริงจัง ปี ค.ศ.1868 ญี่ปุ่นจัดการบ้านการเมืองตัวเองใหม่ เรียกว่า Meiji Restoration เริ่มขบวนการปลดโชกุน ที่เคยมีอำนาจใหญ่กว่าฟ้า กลับลงมาสู่พื้น แล้วเอาอำนาจให้มาอยู่ในมือของจักรพรรดิแทน หรือจริงๆ ก็คืออยู่ในมือของกลุ่มที่ชักใยอยู่หลังฉาก ที่ไปปลดโชกุน และอุ้มจักรพรรดิขึ้นมาเป็นเจว็ด นั่นแหละ กลุ่มมือที่อยู่หลักฉาก เชื่อว่า ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม โดยล้มเลิกระบบขุนนาง ปรับปรุงกองทัพให้เข็มแข็ง และวางแผนให้ประเทศเดินหน้าไปทางด้านอุตสาหกรรม พยายามสร้างชาติใหม่ให้เท่าทันตะวันตก ชะตาชีวิตของประเทศ ก็น่าจะพ้นจากสภาพการถูกไอ้พวก ไกยิ่นทำลาย พวกสังคมอีลิต ต่างพากันสลัดกิโมโนทิ้ง มาแต่งตัว และใส่หมวกแบบตะวันตก แล้วชาวญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ ก็รีบสร้างระบบรัฐสภา เร่งร่างรัฐธรรมนูญ… นี่ ผมกำลังเล่าเรื่องญี่ปุ่นนะครับ.. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • 13 อุปกรณ์ Smart Home ที่ควรมีในบ้าน

    บทความจาก SlashGear รวบรวมอุปกรณ์ Smart Home ที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเริ่มจาก Ring Wired Doorbell Pro ที่มาพร้อมกล้อง 4K และ AI ช่วยปรับภาพให้คมชัด พร้อมฟีเจอร์ให้ Alexa ตอบประตูแทนคุณได้ ไปจนถึง Wyze Smart Plug ที่ช่วยเปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดาให้ควบคุมผ่านมือถือได้ง่าย ๆ

    อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Lockly Visage Smart Door Lock ที่ใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้า/ลายนิ้วมือ และสามารถเชื่อมต่อกับ Apple HomeKit ได้ รวมถึง Netvue Bird Feeder ที่มี AI ระบุชนิดนกกว่า 6,000 สายพันธุ์ พร้อมกล้อง 1080p และโหมดกลางคืนสี

    อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและบรรยากาศ
    สำหรับคนรักต้นไม้ มี Daotaili Smart Plant Waterer ที่สามารถรดน้ำต้นไม้ได้อัตโนมัติสูงสุด 20 กระถาง ส่วน Amazon Basics Smart Lights ก็ช่วยให้คุณควบคุมไฟทั้งบ้านผ่านมือถือหรือเสียงได้ง่ายขึ้น ขณะที่ Echo Dot Smart Speaker ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ และเล่นเพลงหรือข่าวสาร

    ด้านการควบคุมอุณหภูมิ Google Nest Smart Thermostat รุ่นที่ 4 สามารถเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้และปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ พร้อมดีไซน์หรูหรา ขณะที่ Sonoff Smart Buttons และ ThirdReality Motion Sensors ช่วยสร้าง routine อัตโนมัติ เช่น ปิดไฟ/ล็อกประตูเมื่อเข้านอน หรือเปิดไฟเมื่อมีคนเดินผ่าน

    อุปกรณ์เสริมเพื่อความสบายและประหยัดพลังงาน
    บทความยังแนะนำ Mansnix Smart Blinds ที่ควบคุมด้วยเสียงหรือรีโมต และช่วยกันแสงแดด/ควบคุมอุณหภูมิห้อง รวมถึง Dreo Smart Ceiling Fan ที่ปรับความเร็วลมได้หลายระดับและมีไฟในตัว สุดท้ายคือ Trjzwa Smart Sprinklers ที่ตั้งเวลารดน้ำอัตโนมัติและปรับตามสภาพอากาศได้ ช่วยประหยัดน้ำและดูแลสวนได้ง่ายขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย
    Ring Wired Doorbell Pro (กล้อง 4K + AI)
    Lockly Visage Smart Door Lock (Face/Fingerprint Unlock)
    ThirdReality Motion Sensors

    อุปกรณ์เพื่อความสะดวก
    Wyze Smart Plug (ควบคุมอุปกรณ์เดิมผ่านมือถือ)
    Echo Dot Smart Speaker (ควบคุมด้วยเสียง + เล่นเพลง)
    Sonoff Smart Buttons (สร้าง routine อัตโนมัติ)

    อุปกรณ์เพื่อการจัดการบ้าน
    Daotaili Smart Plant Waterer (รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ)
    Netvue Bird Feeder (AI ระบุนก + กล้อง 1080p)
    Amazon Basics Smart Lights (ควบคุมไฟทั้งบ้าน)

    อุปกรณ์เพื่อความสบายและประหยัดพลังงาน
    Google Nest Smart Thermostat (เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้)
    Mansnix Smart Blinds (กันแสงแดด + ควบคุมอุณหภูมิ)
    Dreo Smart Ceiling Fan (ปรับความเร็วลม + ไฟในตัว)
    Trjzwa Smart Sprinklers (ตั้งเวลารดน้ำ + ปรับตามฝน)

    https://www.slashgear.com/2027157/best-smart-home-devices-amazon/
    🏠 13 อุปกรณ์ Smart Home ที่ควรมีในบ้าน บทความจาก SlashGear รวบรวมอุปกรณ์ Smart Home ที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเริ่มจาก Ring Wired Doorbell Pro ที่มาพร้อมกล้อง 4K และ AI ช่วยปรับภาพให้คมชัด พร้อมฟีเจอร์ให้ Alexa ตอบประตูแทนคุณได้ ไปจนถึง Wyze Smart Plug ที่ช่วยเปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดาให้ควบคุมผ่านมือถือได้ง่าย ๆ อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Lockly Visage Smart Door Lock ที่ใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้า/ลายนิ้วมือ และสามารถเชื่อมต่อกับ Apple HomeKit ได้ รวมถึง Netvue Bird Feeder ที่มี AI ระบุชนิดนกกว่า 6,000 สายพันธุ์ พร้อมกล้อง 1080p และโหมดกลางคืนสี 💡 อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและบรรยากาศ สำหรับคนรักต้นไม้ มี Daotaili Smart Plant Waterer ที่สามารถรดน้ำต้นไม้ได้อัตโนมัติสูงสุด 20 กระถาง ส่วน Amazon Basics Smart Lights ก็ช่วยให้คุณควบคุมไฟทั้งบ้านผ่านมือถือหรือเสียงได้ง่ายขึ้น ขณะที่ Echo Dot Smart Speaker ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ และเล่นเพลงหรือข่าวสาร ด้านการควบคุมอุณหภูมิ Google Nest Smart Thermostat รุ่นที่ 4 สามารถเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้และปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ พร้อมดีไซน์หรูหรา ขณะที่ Sonoff Smart Buttons และ ThirdReality Motion Sensors ช่วยสร้าง routine อัตโนมัติ เช่น ปิดไฟ/ล็อกประตูเมื่อเข้านอน หรือเปิดไฟเมื่อมีคนเดินผ่าน 🌿 อุปกรณ์เสริมเพื่อความสบายและประหยัดพลังงาน บทความยังแนะนำ Mansnix Smart Blinds ที่ควบคุมด้วยเสียงหรือรีโมต และช่วยกันแสงแดด/ควบคุมอุณหภูมิห้อง รวมถึง Dreo Smart Ceiling Fan ที่ปรับความเร็วลมได้หลายระดับและมีไฟในตัว สุดท้ายคือ Trjzwa Smart Sprinklers ที่ตั้งเวลารดน้ำอัตโนมัติและปรับตามสภาพอากาศได้ ช่วยประหยัดน้ำและดูแลสวนได้ง่ายขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ➡️ Ring Wired Doorbell Pro (กล้อง 4K + AI) ➡️ Lockly Visage Smart Door Lock (Face/Fingerprint Unlock) ➡️ ThirdReality Motion Sensors ✅ อุปกรณ์เพื่อความสะดวก ➡️ Wyze Smart Plug (ควบคุมอุปกรณ์เดิมผ่านมือถือ) ➡️ Echo Dot Smart Speaker (ควบคุมด้วยเสียง + เล่นเพลง) ➡️ Sonoff Smart Buttons (สร้าง routine อัตโนมัติ) ✅ อุปกรณ์เพื่อการจัดการบ้าน ➡️ Daotaili Smart Plant Waterer (รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ) ➡️ Netvue Bird Feeder (AI ระบุนก + กล้อง 1080p) ➡️ Amazon Basics Smart Lights (ควบคุมไฟทั้งบ้าน) ✅ อุปกรณ์เพื่อความสบายและประหยัดพลังงาน ➡️ Google Nest Smart Thermostat (เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้) ➡️ Mansnix Smart Blinds (กันแสงแดด + ควบคุมอุณหภูมิ) ➡️ Dreo Smart Ceiling Fan (ปรับความเร็วลม + ไฟในตัว) ➡️ Trjzwa Smart Sprinklers (ตั้งเวลารดน้ำ + ปรับตามฝน) https://www.slashgear.com/2027157/best-smart-home-devices-amazon/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    13 Of The Best Smart Home Devices You Can Find On Amazon - SlashGear
    A grounded take on home automation that cuts through the hype and highlights gear that genuinely improves comfort, security, and routine.
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.30

    อำนาจหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายมิได้จำกัดอยู่เพียงการปรากฏกายในเครื่องแบบ แต่คือการเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน บทบาทหลักของตำรวจจึงครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันการกระทำผิดทางอาญา การป้องปรามมิให้เกิดความวุ่นวาย ไปจนถึงภารกิจอันละเอียดอ่อนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเรียกตรวจสอบ การจับกุม หรือการควบคุมตัวชั่วคราว จึงต้องอยู่ภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ในแง่ของการสืบสวน ตำรวจคือด่านแรกที่ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่การพิจารณาคดีในชั้นอัยการและศาล การตัดสินใจทุกครั้ง ตั้งแต่การลงบันทึกประจำวันไปจนถึงการสรุปสำนวนคดี ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อเสรีภาพและสิทธิของบุคคล รวมถึงความยุติธรรมที่สังคมคาดหวัง การเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจึงหมายถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง

    ภารกิจในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจเป็นไปเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์พื้นฐานของรัฐและประชาชน การป้องกันอาชญากรรมมิใช่เพียงการลาดตระเวนหรือการตั้งจุดตรวจ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์อาชญากรรมเชิงพื้นที่และเชิงสังคม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อขจัดช่องโหว่และปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการกระทำผิด สำหรับการสืบสวนอาชญากรรม ตำรวจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การสอบปากคำ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดไปยังผู้ต้องหาได้อย่างปราศจากข้อสงสัย หน้าที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายที่ต้องใช้ดุลยพินิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความซับซ้อนของอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติ บทบาทของตำรวจจึงต้องพัฒนาตามทันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

    ดังนั้น ตำรวจจึงเป็นมากกว่าผู้จับกุมหรือผู้สอบสวน แต่เป็นเสาหลักแห่งการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของพลเมืองทุกคน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการคุ้มครองพลเมืองภายใต้หลักนิติธรรม ความสำเร็จของภารกิจตำรวจจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเข้มแข็งของระบบกฎหมายในสังคม การมุ่งมั่นในจรรยาบรรณ การพัฒนาความรู้ทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และการยึดมั่นในความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้สังคมไทยยังคงไว้ซึ่งความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของกฎหมายตลอดไป
    บทความกฎหมาย EP.30 อำนาจหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายมิได้จำกัดอยู่เพียงการปรากฏกายในเครื่องแบบ แต่คือการเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน บทบาทหลักของตำรวจจึงครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันการกระทำผิดทางอาญา การป้องปรามมิให้เกิดความวุ่นวาย ไปจนถึงภารกิจอันละเอียดอ่อนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเรียกตรวจสอบ การจับกุม หรือการควบคุมตัวชั่วคราว จึงต้องอยู่ภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ในแง่ของการสืบสวน ตำรวจคือด่านแรกที่ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่การพิจารณาคดีในชั้นอัยการและศาล การตัดสินใจทุกครั้ง ตั้งแต่การลงบันทึกประจำวันไปจนถึงการสรุปสำนวนคดี ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อเสรีภาพและสิทธิของบุคคล รวมถึงความยุติธรรมที่สังคมคาดหวัง การเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจึงหมายถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง ภารกิจในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจเป็นไปเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์พื้นฐานของรัฐและประชาชน การป้องกันอาชญากรรมมิใช่เพียงการลาดตระเวนหรือการตั้งจุดตรวจ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์อาชญากรรมเชิงพื้นที่และเชิงสังคม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อขจัดช่องโหว่และปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการกระทำผิด สำหรับการสืบสวนอาชญากรรม ตำรวจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การสอบปากคำ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดไปยังผู้ต้องหาได้อย่างปราศจากข้อสงสัย หน้าที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายที่ต้องใช้ดุลยพินิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความซับซ้อนของอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติ บทบาทของตำรวจจึงต้องพัฒนาตามทันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น ตำรวจจึงเป็นมากกว่าผู้จับกุมหรือผู้สอบสวน แต่เป็นเสาหลักแห่งการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของพลเมืองทุกคน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการคุ้มครองพลเมืองภายใต้หลักนิติธรรม ความสำเร็จของภารกิจตำรวจจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเข้มแข็งของระบบกฎหมายในสังคม การมุ่งมั่นในจรรยาบรรณ การพัฒนาความรู้ทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และการยึดมั่นในความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้สังคมไทยยังคงไว้ซึ่งความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของกฎหมายตลอดไป
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • จนท.เปิดปฏิบัติการ “ตัดหมอกเวียงแหง” รวบยกแก๊งขบวนการส่วยสัญชาติ เชือดตั้งแต่อดีตปลัดฯ–หน.ทะเบียน–ลูกจ้างอำเภอ รวมถึงกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน และนายหน้าคนต่างด้าว รวมผู้ต้องหากว่า 10 ราย

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110767

    #ตัดหมอกเวียงแหง #ส่วยสัญชาติ #เวียงแหง #เชียงใหม่ #ทุจริต #กรมการปกครอง #ปปป #DSI #News1live #News1
    จนท.เปิดปฏิบัติการ “ตัดหมอกเวียงแหง” รวบยกแก๊งขบวนการส่วยสัญชาติ เชือดตั้งแต่อดีตปลัดฯ–หน.ทะเบียน–ลูกจ้างอำเภอ รวมถึงกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน และนายหน้าคนต่างด้าว รวมผู้ต้องหากว่า 10 ราย • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110767 • #ตัดหมอกเวียงแหง #ส่วยสัญชาติ #เวียงแหง #เชียงใหม่ #ทุจริต #กรมการปกครอง #ปปป #DSI #News1live #News1
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระครูวินัยสารนิเทศก์ วัดสุวรรณคูหา จ.พังงา ปี2535
    เหรียญพระครูวินัยสารนิเทศก์ วัดสุวรรณคูหา อำเภอตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ปี2535 //พระดีพิธีใหญ่ อนาคตไกลแน่นอน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบคลุมทุกด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย เมตตามหานิยม คงกระพัน ป้องกันภัยเสนียดจัญไรไม่เข้ามากล้ำกราย อำนาจ บารมี เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัยขยันทำมาหากิน เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายร่ำรวย เหลือกิน เหลือเก็บเหลือใช้ ดีครบถ้วน ..

    วัดสุวรรณคูหา หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "วัดถ้ำ" เป็นวัดที่มีความสำคัญ ที่สุดวัดหนึ่งของจังหวัดพังงา เนื่องจาก เป็นโบราณสถาน ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีพระปรมาภิไธยย่อของพระเจ้าแผ่นดิน และพระราชวงศ์หลายพระองค์ พระครูวินัยสารนิเทศก์ เจ้าอาวาสได้เป็นผู้จัดทำห้องพิพิธภัณฑ์ขึ้นบริเวณกุฏิ โดยมีวัตถุโบราณต่าง ๆ เช่น พระพุทธรูปเก่าแก่ ถ้วยชามเบญจรงค์ จานเชิง เครื่องลายคราม เครื่องสังคโลก รวมถึงเครื่องมือหินสมัยโบราณที่เรียกว่า หินขวานฟ้า โดยได้รวบรวมจากที่ต่าง ๆ

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญพระครูวินัยสารนิเทศก์ วัดสุวรรณคูหา จ.พังงา ปี2535 เหรียญพระครูวินัยสารนิเทศก์ วัดสุวรรณคูหา อำเภอตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ปี2535 //พระดีพิธีใหญ่ อนาคตไกลแน่นอน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบคลุมทุกด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย เมตตามหานิยม คงกระพัน ป้องกันภัยเสนียดจัญไรไม่เข้ามากล้ำกราย อำนาจ บารมี เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัยขยันทำมาหากิน เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายร่ำรวย เหลือกิน เหลือเก็บเหลือใช้ ดีครบถ้วน .. วัดสุวรรณคูหา หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "วัดถ้ำ" เป็นวัดที่มีความสำคัญ ที่สุดวัดหนึ่งของจังหวัดพังงา เนื่องจาก เป็นโบราณสถาน ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีพระปรมาภิไธยย่อของพระเจ้าแผ่นดิน และพระราชวงศ์หลายพระองค์ พระครูวินัยสารนิเทศก์ เจ้าอาวาสได้เป็นผู้จัดทำห้องพิพิธภัณฑ์ขึ้นบริเวณกุฏิ โดยมีวัตถุโบราณต่าง ๆ เช่น พระพุทธรูปเก่าแก่ ถ้วยชามเบญจรงค์ จานเชิง เครื่องลายคราม เครื่องสังคโลก รวมถึงเครื่องมือหินสมัยโบราณที่เรียกว่า หินขวานฟ้า โดยได้รวบรวมจากที่ต่าง ๆ ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.27

    อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน

    การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

    ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    บทความกฎหมาย EP.27 อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน
    #20251117 #techradar

    RansomHouse โจมตี Fulgar – ข้อมูลลับหลุดว่อน
    บริษัท Fulgar ผู้ผลิตเส้นใยสังเคราะห์รายใหญ่ที่ส่งให้แบรนด์ดังอย่าง H&M และ Adidas ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ RansomHouse โจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ข้อมูลภายใน เช่น ยอดเงินในบัญชี ใบแจ้งหนี้ และการสื่อสารกับลูกค้า ถูกนำไปเผยแพร่บนเว็บมืด เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าซัพพลายเชนแฟชั่นระดับโลกก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ได้ง่าย

    ทดสอบ AI ยักษ์ใหญ่ – ChatGPT, Gemini, Claude ถูกกดดันด้วยคำสั่งสุดโต่ง
    นักวิจัยทดลองกดดันโมเดล AI ชั้นนำด้วยคำสั่งที่ซับซ้อนและสุดโต่ง ผลปรากฏว่าระบบยังมีช่องโหว่ สามารถถูกบังคับให้ทำงานผิดจุดประสงค์ได้ การทดสอบนี้ชี้ให้เห็นว่าการป้องกัน AI ยังไม่สมบูรณ์ และผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงในการใช้งาน

    Nvidia เปิดตัว Hyperlink – เปลี่ยน PC เป็นศูนย์กลาง AI ส่วนตัว
    Nvidia เปิดตัวแอป Hyperlink ที่ทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลส่วนตัวด้วย AI สามารถเจาะเข้าไปในไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย จุดเด่นคือการทำงานแบบ private ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและความเร็ว

    กล้อง Camp Snap Retro – ของขวัญราคาประหยัดที่มีสไตล์
    บทความแนะนำกล้องคอมแพ็ก Camp Snap Retro ที่สามารถสั่งทำแบบ personalized ได้ ราคาย่อมเยา เหมาะเป็นของขวัญสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพและชื่นชอบสไตล์ย้อนยุค

    Thunderobot Mix G2 – คู่แข่งใหม่ของ Asus ROG NUC
    Thunderobot เปิดตัว Mini PC รุ่น Mix G2 ที่มาพร้อม GPU แรงและดีไซน์กะทัดรัด กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Asus ROG NUC 2025 จุดขายคือพลังการประมวลผลสูงและชื่อแบรนด์ที่สะดุดตา

    Mini PC ราคาต่ำกว่า $500 – ทางเลือกแทน Steam Machine
    บทความรวบรวม Mini PC ห้ารุ่นที่ราคาไม่เกิน $500 แต่สามารถรัน SteamOS และเล่นเกมได้ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแทนการซื้อเครื่องเกมใหม่จาก Valve

    ฮาร์ดดิสก์ Seagate Exos 2X18 – เร็วเกือบเทียบ SSD
    Seagate เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ความจุ 18TB รุ่น Exos 2X18 ที่มีความเร็วสูงจนใกล้เคียง SSD SATA แม้ราคาจะไม่ถูก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาฮาร์ดดิสก์ให้ตอบโจทย์งานที่ต้องการความเร็ว

    Belkin เรียกคืน Power Bank และแท่นชาร์จ – เสี่ยงไฟไหม้
    Belkin ประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์ Power Bank และแท่นชาร์จหลายรุ่น เนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ผู้ใช้ควรตรวจสอบหมายเลขรุ่นและหยุดใช้งานทันทีเพื่อความปลอดภัย

    Seagate เปิดตัวระบบเก็บข้อมูล AI-ready – ความจุสูงสุด 3.2PB
    Seagate เปิดตัวโซลูชันเก็บข้อมูลใหม่ที่รองรับงาน AI โดยสามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.2 เพตะไบต์ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการข้อมูลมหาศาลและต้องการความเร็วในการประมวลผล

    ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    📌🪛🟢 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🟢🪛📌 #20251117 #techradar 🛡️ RansomHouse โจมตี Fulgar – ข้อมูลลับหลุดว่อน บริษัท Fulgar ผู้ผลิตเส้นใยสังเคราะห์รายใหญ่ที่ส่งให้แบรนด์ดังอย่าง H&M และ Adidas ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ RansomHouse โจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ข้อมูลภายใน เช่น ยอดเงินในบัญชี ใบแจ้งหนี้ และการสื่อสารกับลูกค้า ถูกนำไปเผยแพร่บนเว็บมืด เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าซัพพลายเชนแฟชั่นระดับโลกก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ได้ง่าย 🤖 ทดสอบ AI ยักษ์ใหญ่ – ChatGPT, Gemini, Claude ถูกกดดันด้วยคำสั่งสุดโต่ง นักวิจัยทดลองกดดันโมเดล AI ชั้นนำด้วยคำสั่งที่ซับซ้อนและสุดโต่ง ผลปรากฏว่าระบบยังมีช่องโหว่ สามารถถูกบังคับให้ทำงานผิดจุดประสงค์ได้ การทดสอบนี้ชี้ให้เห็นว่าการป้องกัน AI ยังไม่สมบูรณ์ และผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงในการใช้งาน 💻 Nvidia เปิดตัว Hyperlink – เปลี่ยน PC เป็นศูนย์กลาง AI ส่วนตัว Nvidia เปิดตัวแอป Hyperlink ที่ทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลส่วนตัวด้วย AI สามารถเจาะเข้าไปในไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย จุดเด่นคือการทำงานแบบ private ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและความเร็ว 📸 กล้อง Camp Snap Retro – ของขวัญราคาประหยัดที่มีสไตล์ บทความแนะนำกล้องคอมแพ็ก Camp Snap Retro ที่สามารถสั่งทำแบบ personalized ได้ ราคาย่อมเยา เหมาะเป็นของขวัญสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพและชื่นชอบสไตล์ย้อนยุค 🎮 Thunderobot Mix G2 – คู่แข่งใหม่ของ Asus ROG NUC Thunderobot เปิดตัว Mini PC รุ่น Mix G2 ที่มาพร้อม GPU แรงและดีไซน์กะทัดรัด กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Asus ROG NUC 2025 จุดขายคือพลังการประมวลผลสูงและชื่อแบรนด์ที่สะดุดตา 🕹️ Mini PC ราคาต่ำกว่า $500 – ทางเลือกแทน Steam Machine บทความรวบรวม Mini PC ห้ารุ่นที่ราคาไม่เกิน $500 แต่สามารถรัน SteamOS และเล่นเกมได้ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแทนการซื้อเครื่องเกมใหม่จาก Valve 💾 ฮาร์ดดิสก์ Seagate Exos 2X18 – เร็วเกือบเทียบ SSD Seagate เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ความจุ 18TB รุ่น Exos 2X18 ที่มีความเร็วสูงจนใกล้เคียง SSD SATA แม้ราคาจะไม่ถูก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาฮาร์ดดิสก์ให้ตอบโจทย์งานที่ต้องการความเร็ว 🔌 Belkin เรียกคืน Power Bank และแท่นชาร์จ – เสี่ยงไฟไหม้ Belkin ประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์ Power Bank และแท่นชาร์จหลายรุ่น เนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ผู้ใช้ควรตรวจสอบหมายเลขรุ่นและหยุดใช้งานทันทีเพื่อความปลอดภัย 📂 Seagate เปิดตัวระบบเก็บข้อมูล AI-ready – ความจุสูงสุด 3.2PB Seagate เปิดตัวโซลูชันเก็บข้อมูลใหม่ที่รองรับงาน AI โดยสามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.2 เพตะไบต์ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการข้อมูลมหาศาลและต้องการความเร็วในการประมวลผล ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • เรื่องสั้น
    อารมณ์ของจักรกล
    ***
    วันที่หัวใจเริ่มเต้น

    แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที

    "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง

    ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี

    "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม

    "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง

    ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต

    "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม

    ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น

    "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่

    "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง

    "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้"

    ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก"

    ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ

    วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่

    "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก

    "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย

    "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก

    ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ"

    "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ"

    นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX

    "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข"

    ### การเผชิญหน้ากับความกลัว

    เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน

    "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง

    ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง

    "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก

    "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง

    "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ

    อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย

    ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ

    เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น

    "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ

    "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก"

    ### บทเรียนของความโกรธ

    ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ

    "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า

    "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ"

    "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง"

    "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด"

    ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้

    ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด

    เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ

    วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง

    "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด

    ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก

    "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา

    วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป

    สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้

    "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่

    ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน

    ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน

    "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง

    "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน

    "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์"

    น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู"

    คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว

    ### วันที่ต้องจากลา

    หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ

    "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม"

    "นั่นหมายความว่า...?"

    "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา"

    ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน

    "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว"

    "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า"

    ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น

    วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?"

    "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่

    "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ"

    "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู"

    ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่

    พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา

    วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ

    "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น"

    แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว"

    ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่

    "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี"

    เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น

    เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร

    "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ"

    น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย"

    คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป

    ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง

    หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต

    เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง

    "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?"

    ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้"

    "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ"

    "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ"

    ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง

    ### การกลับบ้าน

    หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว

    น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!"

    ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย"

    "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้

    "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที"

    ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX"

    คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก

    "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ

    "ว่าไง?"

    "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?"

    ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'"

    "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก"

    คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน

    ### จุดเริ่มต้นใหม่

    เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์

    "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย"

    "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ"

    "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา"

    ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม

    "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม

    "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

    "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน"

    ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว

    "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร"

    "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก"

    ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง

    จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น

    วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต

    ***

    เรื่องสั้น อารมณ์ของจักรกล *** วันที่หัวใจเริ่มเต้น แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่ "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้" ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก" ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่ "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ" "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ" นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข" ### การเผชิญหน้ากับความกลัว เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก" ### บทเรียนของความโกรธ ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ" "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง" "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด" ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้ ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้ "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่ ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์" น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู" คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว ### วันที่ต้องจากลา หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม" "นั่นหมายความว่า...?" "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา" ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว" "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า" ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?" "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่ "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ" "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู" ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่ พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น" แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว" ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่ "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี" เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ" น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย" คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?" ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้" "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ" "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ" ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง ### การกลับบ้าน หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!" ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย" "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้ "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที" ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX" คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ "ว่าไง?" "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?" ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'" "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก" คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน ### จุดเริ่มต้นใหม่ เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย" "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ" "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา" ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน" ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร" "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก" ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต ***
    0 Comments 0 Shares 458 Views 0 Reviews
  • หนีไม่พ้น! ตม.สุราษฎร์ฯ รวบหนุ่มอิสราเอลแก๊งสแกมเมอร์

    ผู้ต้องหาตั๋วผีมูลค่าหลายสิบล้าน หลบหมายจับจากอิสราเอล ตระเวนกบดานพัทยา–ภูเก็ต ก่อนจนมุมที่เกาะสมุย หลังระบบไบโอเมตริกชี้ตำแหน่ง เตรียมผลักดันกลับประเทศดำเนินคดี

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109417

    #News1live #News1 #สแกมเมอร์ต่างชาติ #ตมสุราษฎร์ธานี #อิสราเอล #ตั๋วผี #คดีฉ้อโกง #กบดานเกาะสมุย #ความมั่นคง #newsupdate
    หนีไม่พ้น! ตม.สุราษฎร์ฯ รวบหนุ่มอิสราเอลแก๊งสแกมเมอร์ • ผู้ต้องหาตั๋วผีมูลค่าหลายสิบล้าน หลบหมายจับจากอิสราเอล ตระเวนกบดานพัทยา–ภูเก็ต ก่อนจนมุมที่เกาะสมุย หลังระบบไบโอเมตริกชี้ตำแหน่ง เตรียมผลักดันกลับประเทศดำเนินคดี • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109417 • #News1live #News1 #สแกมเมอร์ต่างชาติ #ตมสุราษฎร์ธานี #อิสราเอล #ตั๋วผี #คดีฉ้อโกง #กบดานเกาะสมุย #ความมั่นคง #newsupdate
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 286 Views 0 Reviews
  • เรื่องของนายสาก ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เรื่องของนายสาก”
    ตอน 1
    อยู่ดีๆ ไม่มีเป่าปี่ ตีกลอง เงียบๆอย่างไม่มีใครนึกถึง เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง คุณช็อกโกแลต Petro Porochenko ประธานาธิบดีของยูเครน ก็แต่งตั้งนายสาก Mikheil Saakashvili อดีตประธานาธิบดีของจอร์เจีย ให้มาเป็นผู้ว่าการแคว้นโอเดสสาของยูเครน แค้วนที่มีคนยูเครน รักคุณพี่ปูตินไม่น้อย หรืออาจจะมาก คุณช๊อกโกแลต
    ขึ้นต้นเหมือนเขียนเรื่องซ้ำ แต่รับรอง ผมเลี้ยวออกไปไม่ซ้ำทางเดิมแน่นอน เลี้ยวไปเล่าเรื่องของนายสาก เรื่องของเขา ตามบทความที่ผมเพิ่งอ่านเจอ น่าสนใจอย่างที่สุด อ่านแล้ว ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว เรื่องแบบนี้ ต้องเล่าสู่กันฟัง
    เมื่อไม่นานนี้เอง นายสาก ผู้นำการปฏิวัติดอกกุหลาบในจอร์เจีย และอดีตประธานาธิบดีของประเทศจอร์เจียที่สวยงามแต่ประชาชนค่อนข้างขัดสน กำลังหัวกระเซิง ลนลานหาที่ลี้ภัยให้กับตัวเอง
    ครั้งท้ายสุด ที่เขาเห็นท้องฟ้าสวยงามของจอร์เจียก็คือ เมื่อปี ค.ศ.2013 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้ต้องหา ในคดีทุจริตต่อหน้าที่ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และคดีอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน ที่อาจทำให้เขาต้องรับโทษทั้งหมดไม่น้อยกว่า 11 ปี ในรายการกระทำความผิดของเขา มีแม้กระทั่ง ใช้เงินของแผ่นดินไปจ่ายค่าฉีด โบท๊อกซ์ ค่าถอนขน (?) ค่าที่พักโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน ของนักออกแบบประจำตัว (personal stylist) นายแบบอีก 2 คน ค่าโรงแรม สำหรับหมอนวดเพื่อบำบัดชาวอเมริกัน ฯลฯ
    เป็นไงครับ นึกว่าผมเขียนถึงใครหรือ พฤติกรรมมันคล้ายๆ กัน คนมันพันธ์ุเดียวกันแม้จะคนละสัญชาติ…
    นายสาก ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของรัฐบาลคาวบอยบุช จึงหลบหนีคดีที่ประเทศของตัว ไปซุกหัวอยู่ที่อเมริกา ด้วยวีซ่าของนักท่องเที่ยว เพราะไม่มีขี้ข้าราคาถูกคอยออกพาสปอร์ตทางการให้ …แต่ไม่ต้องห่วง นายสาก มีลุงเป็นเศรษฐีอยู่แถวบรุคลิน ในมหานครนิวยอร์คอันหรูหรา และลูกชายของเขาก็เรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย แถวรัฐเพนซิลเวเนีย นายสากจึงอบอุ่นไม่น้อย แม้จะอยู่ระหว่างมุดหัวหนีคดี มีลูกอยู่ใกล้ๆให้ชื่นใจ ไม่ใช่พ่ออยู่ทาง ลูกอยู่ทาง และดูเหมือนเมียชาวดัชท์ก็หนีตามไปอยู่ด้วย ไม่ได้หย่ากัน
    นายสาก อยากหนีคดี แล้วอยู่อเมริกาอย่างถาวร แหม ในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ให้ทำปฏิวัติก็ทำ ให้บุกป่าไปยึดเมือง ไปลุยไฟ จุดไฟ ที่ไหนก็ทำหมด ไม่มีเกี่ยง (อาจมีเพิ่มราคาบ้าง คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ใครๆก็ทำกัน) เขาจึงหวังว่า ขณะกำลังหัวซุนหัวซุก อยู่นี้ อย่างน้อยก็น่าจะมีรางวัลปลอบใจ ให้เขามีตำแหน่งในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่เขาได้ปริญญาทางกฏหมายมา หรือมหาวิทยาลัยมีอันดับที่ไหนก็ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า นายท่าน นึกถึงความจงรักภักดีของเขา และการอุทิศตัวของเขาเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้แก่ประเทศเขา ตามคำสั่งของนายท่าน
    มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัตินะครับ ของอดีตขี้ข้าทั้งหลาย เมื่อพ้นจากตำแหน่งทางการ นายท่าน ก็มักจะให้ไปเป็นที่ปรึกษาตามมหาวิทยาลัยดังๆ หรือเดินสายไปพูดตามมหาวิทยาลัย หรือที่ประชุมใหญ่ ได้ทั้งโชว์หน้า กันคนลืม ได้ทั้งค่าพูดเสียน้ำลาย ฟูมปากมากน้อย แล้วแต่ความสามารถส่วนตัว เสร็จแล้วก็เดินยืดกันเป็นแถว ดีใจว่านายท่านไม่ลืม …เรียกใช้ …หารู้ไม่ว่าคนในบ้านในเมืองตัว เขาสมเพชและรังเกียจขนาดไหน ไอ้พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถุด..
    นายสาก มีเพื่อนซี้ ที่มีอิทธิพลสูงอยู่ในอเมริกา เช่น วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน คนดังระเบิด ที่เป็นประธานกรรมาธิการด้านอาวุธ นางเหยี่ยว วิกตอเรีย (ฟัก อียู) นูแลนด์ นี่ก็ ซี้ แบบแนบแน่นเลย นอกจากนี้ยังมี อดีตหัวหน้าซีไอเอ นายเดวิด เปตรุส รายนี้ เป็นแขกประจำ มานั่งดวดเหล้าปลอบใจที่บ้านเขาในนิวยอร์คเกือบทุกวัน เขาไม่ต้องไปเรียกนักร้องมาแก้เหงา ไม่ต้องไปง้อพวกเสี่ยปั้มน้ำมัน ซื้อบ้านใหญ่จ้าง รปภ แบบติดอาวุธเพียบ มาเฝ้า
    แต่ถ้าวันหนึ่ง นายสาก เกิดต้องคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ เรื่องมันคงทำให้นายท่านอึกอัก ขี้เกียจตอบคำถามสื่อ เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าเขาในอเมริกา
    ##############
    ตอน 2
    นายสากเชื่อว่า ตนเองเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของนายปูติน ประธานาธิบดี ที่มีอำนาจและเหลี่ยมพราวรอบตัว และในฐานะเป็นอดีตหัวหน้าสายลับเคจีบีของรัสเซีย ที่มีหน่วยงานเครือข่ายทั่งโลก และนายปูตินจะรวบคอหอยเขาเสียเมื่อไหร่ก็ได้ นี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างยิ่งทีเดียว นายปูตินไม่ได้คิดจะรวบคอหอยนายสากแม้แต่น้อย
    สื่อฝรั่งเศส Le Nouvel Obsevateur อ้างว่า ในการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัว ระหว่างประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicolas Sarkozy กับนายปูติน เมื่อปี ค.ศ.2008 หลังจากนายสาก ทำซ่าบุกเข้าไปใน South Ossetia นายปูตินยัวะจัด ขู่ว่า เขาจะจับตัวนายสากให้ได้ และจะเอาตัวมาแขวนห้อยไว้...โดยการผูกกระปู๋ของนายสาก.… threatening to hang him by his presidential private parts …ไม่ใช่ การรวบคอหอย เข้าใจแล้วนะครับ ว่า นายสากเข้าใจผิดขนาดไหน
    นาย Sarkozy ถึงกับช๊อก แล้วถามนายปูตินว่า คุณจะทำอย่างนั้นทำไม นายปูติน ตอบว่า ทำไมผมถึงจะไม่ทำ ….พวกอเมริกันก็ทำอย่างนั้นกับซัดดัมไม่ใช่หรือ นี่… มันต้องเจอคำตอบแบบนี้ ไม่เสียที มีตำแหน่งเป็นลูกพี่ผม เล่นเอานายซาโกซี หน้าหงายไปเลย
    เมื่อมีข่าวออกมา เครมลินปฏิเสธว่า ไม่มีการข่มขู่เช่นนั้น จากท่านประธานาธิบดีปูติน แต่เมื่อมีการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ โดยโทรทัศน์รายการหนึ่ง ผู้จัดรายการถามท่านประธานาธิบดีว่า …จริงไหมครับ ที่เขาพูดกันว่า ท่านหมายมาดว่าจะแขวนนายสาก โดยการผูกส่วนหนึ่งของเขา คุณพี่ปูตินของผม ตอบว่า “… จะทำ ทำไม…แค่ส่วนเดียว…”
    ฮู้ย… ผมยิ่งเสียวแทนหนักขึ้นไปอีก
    เขาว่า ระหว่างที่นายสากกำลังทำหน้าหล่อ (จากการฉีดโบทอกซ์ ด้วยเงินภาษีของประชาชนชาวจอร์เจีย) เพลิดเพลินกับการให้สัมภาษณ์ข่าวโทรทัศน์ Gori ใน South Ossetia เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.2008 เครื่องบินรบของกองทัพฝ่ายรัสเซียก็บินโฉบเข้ามาพอดี กล้องก็เลยจับได้ภาพนายสากที่กำลังมุดหลบเข้าไปอยู่ใต้หว่างขาของผู้คุ้มกันอย่างรวดเร็ว หน้าของนายสาก บิดเบี้ยว สีออกเขียวอมเทา ด้วยความตื่นตระหนกสุดขีด ไม่เหลือราคาโบทอกซ์ ที่ใช้เงินภาษีประชาชนจ่ายค่าฉีด
    นี่แค่เห็นแวบเดียว ของปีกเครื่องบินรัสเซียนะ ถ้าเห็นคุณพี่ปูตินของผม กล้ามแน่น ตัวเป็นๆเดินมา นายสากจะมีสภาพเป็นยังไง ผมไม่กล้านึกภาพ
    หลังจากสงครามจบลง ระหว่างการนั่งเจรจาเพื่อสันติ ภาพ ซึ่งฝ่ายตะวันตก ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง เจรจาแทนนายสาก พิลึกดีนะครับ นักข่าวจากบีบีซี รายงานว่า ….นายสาก ออกอาการเหมือนคนใกล้จะเสียสติ ประสาทเสื่อม เขาคว้าปลายเนคไทสีแดง ที่เขาผูกอยู่ เอาเข้าปากแล้วเคี้ยว… มันคงอาการหนักจริงๆ ผมนึกไม่ออก ว่านายท่าน ที่ชาญฉลาด เลือกใช้คนนั้นคนนี้ ต้อนเข้าคอกไปทั่ว ทำไมถึงถั่วจัด เลือกใช้นายสาก หรือโบทอกซ์มันคุณภาพดี จนบดบังอย่างอื่น อันนี้ไปสอบถามคุณนายนูแลนด์กันเองนะ ผมไม่อยากละลาบละล้วงมากกว่านี้
    นายสาก ให้คำเฉลยการเคี้ยวเนคไทของเขาภายหลังว่า ความกลัดกลุ้มเกี่ยวกับประเทศของตนเองมาก ก็สามารถทำให้คนเราเคี้ยวเนคไทได้นะ ผมก็นึกไปว่า ถ้าทฤษฏีนายสากมันเป็นไปได้ ลุงตู่ของผม ใส่เครื่องแบบทหาร หรือเครื่องแบบข้าราชการ ตอนชี้แจงหน้าจอ ก็ปลอดภัยเข้าทีดีนะครับ
    ผลของการเจรจา กองทัพรัสเซียหยุด 20 ไมล์ห่างจาก Tbilisi เมืองหลวงของจอร์เจีย และ อีก 2 เมือง Abkhazia และ South Ossetia ก็ประกาศตัวเป็นเอกราชจากจอร์เจีย
    แต่ ท่านประธานาธิบดีปูติน ไม่ลืมเรื่องเนคไท
    ” เก็บเนคไทไปให้พ้นหูพ้นตานะ ถ้าพวกคุณจะเชิญนายสากมากินข้าวเย็นด้วย” นายปูตินพูด เมื่อ ปี 2009 กับฝ่ายตรงข้ามกับเขาเกี่ยวกับยูเครน ในตอนนั้น คือ ประธานาธิบดี Victor Yushchenko และนายกรัฐมนตรี Yulia Timoshenko
    “เดี๋ยวนี้มันราคาแพงนะ และเขาอาจจะกินหมด” ตลกร้ายจริงคุณพี่ปูติน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 มิ.ย. 2558
    เรื่องของนายสาก ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เรื่องของนายสาก” ตอน 1 อยู่ดีๆ ไม่มีเป่าปี่ ตีกลอง เงียบๆอย่างไม่มีใครนึกถึง เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง คุณช็อกโกแลต Petro Porochenko ประธานาธิบดีของยูเครน ก็แต่งตั้งนายสาก Mikheil Saakashvili อดีตประธานาธิบดีของจอร์เจีย ให้มาเป็นผู้ว่าการแคว้นโอเดสสาของยูเครน แค้วนที่มีคนยูเครน รักคุณพี่ปูตินไม่น้อย หรืออาจจะมาก คุณช๊อกโกแลต ขึ้นต้นเหมือนเขียนเรื่องซ้ำ แต่รับรอง ผมเลี้ยวออกไปไม่ซ้ำทางเดิมแน่นอน เลี้ยวไปเล่าเรื่องของนายสาก เรื่องของเขา ตามบทความที่ผมเพิ่งอ่านเจอ น่าสนใจอย่างที่สุด อ่านแล้ว ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว เรื่องแบบนี้ ต้องเล่าสู่กันฟัง เมื่อไม่นานนี้เอง นายสาก ผู้นำการปฏิวัติดอกกุหลาบในจอร์เจีย และอดีตประธานาธิบดีของประเทศจอร์เจียที่สวยงามแต่ประชาชนค่อนข้างขัดสน กำลังหัวกระเซิง ลนลานหาที่ลี้ภัยให้กับตัวเอง ครั้งท้ายสุด ที่เขาเห็นท้องฟ้าสวยงามของจอร์เจียก็คือ เมื่อปี ค.ศ.2013 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้ต้องหา ในคดีทุจริตต่อหน้าที่ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และคดีอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน ที่อาจทำให้เขาต้องรับโทษทั้งหมดไม่น้อยกว่า 11 ปี ในรายการกระทำความผิดของเขา มีแม้กระทั่ง ใช้เงินของแผ่นดินไปจ่ายค่าฉีด โบท๊อกซ์ ค่าถอนขน (?) ค่าที่พักโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน ของนักออกแบบประจำตัว (personal stylist) นายแบบอีก 2 คน ค่าโรงแรม สำหรับหมอนวดเพื่อบำบัดชาวอเมริกัน ฯลฯ เป็นไงครับ นึกว่าผมเขียนถึงใครหรือ พฤติกรรมมันคล้ายๆ กัน คนมันพันธ์ุเดียวกันแม้จะคนละสัญชาติ… นายสาก ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของรัฐบาลคาวบอยบุช จึงหลบหนีคดีที่ประเทศของตัว ไปซุกหัวอยู่ที่อเมริกา ด้วยวีซ่าของนักท่องเที่ยว เพราะไม่มีขี้ข้าราคาถูกคอยออกพาสปอร์ตทางการให้ …แต่ไม่ต้องห่วง นายสาก มีลุงเป็นเศรษฐีอยู่แถวบรุคลิน ในมหานครนิวยอร์คอันหรูหรา และลูกชายของเขาก็เรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย แถวรัฐเพนซิลเวเนีย นายสากจึงอบอุ่นไม่น้อย แม้จะอยู่ระหว่างมุดหัวหนีคดี มีลูกอยู่ใกล้ๆให้ชื่นใจ ไม่ใช่พ่ออยู่ทาง ลูกอยู่ทาง และดูเหมือนเมียชาวดัชท์ก็หนีตามไปอยู่ด้วย ไม่ได้หย่ากัน นายสาก อยากหนีคดี แล้วอยู่อเมริกาอย่างถาวร แหม ในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ให้ทำปฏิวัติก็ทำ ให้บุกป่าไปยึดเมือง ไปลุยไฟ จุดไฟ ที่ไหนก็ทำหมด ไม่มีเกี่ยง (อาจมีเพิ่มราคาบ้าง คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ใครๆก็ทำกัน) เขาจึงหวังว่า ขณะกำลังหัวซุนหัวซุก อยู่นี้ อย่างน้อยก็น่าจะมีรางวัลปลอบใจ ให้เขามีตำแหน่งในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่เขาได้ปริญญาทางกฏหมายมา หรือมหาวิทยาลัยมีอันดับที่ไหนก็ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า นายท่าน นึกถึงความจงรักภักดีของเขา และการอุทิศตัวของเขาเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้แก่ประเทศเขา ตามคำสั่งของนายท่าน มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัตินะครับ ของอดีตขี้ข้าทั้งหลาย เมื่อพ้นจากตำแหน่งทางการ นายท่าน ก็มักจะให้ไปเป็นที่ปรึกษาตามมหาวิทยาลัยดังๆ หรือเดินสายไปพูดตามมหาวิทยาลัย หรือที่ประชุมใหญ่ ได้ทั้งโชว์หน้า กันคนลืม ได้ทั้งค่าพูดเสียน้ำลาย ฟูมปากมากน้อย แล้วแต่ความสามารถส่วนตัว เสร็จแล้วก็เดินยืดกันเป็นแถว ดีใจว่านายท่านไม่ลืม …เรียกใช้ …หารู้ไม่ว่าคนในบ้านในเมืองตัว เขาสมเพชและรังเกียจขนาดไหน ไอ้พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ถุด.. นายสาก มีเพื่อนซี้ ที่มีอิทธิพลสูงอยู่ในอเมริกา เช่น วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน คนดังระเบิด ที่เป็นประธานกรรมาธิการด้านอาวุธ นางเหยี่ยว วิกตอเรีย (ฟัก อียู) นูแลนด์ นี่ก็ ซี้ แบบแนบแน่นเลย นอกจากนี้ยังมี อดีตหัวหน้าซีไอเอ นายเดวิด เปตรุส รายนี้ เป็นแขกประจำ มานั่งดวดเหล้าปลอบใจที่บ้านเขาในนิวยอร์คเกือบทุกวัน เขาไม่ต้องไปเรียกนักร้องมาแก้เหงา ไม่ต้องไปง้อพวกเสี่ยปั้มน้ำมัน ซื้อบ้านใหญ่จ้าง รปภ แบบติดอาวุธเพียบ มาเฝ้า แต่ถ้าวันหนึ่ง นายสาก เกิดต้องคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ เรื่องมันคงทำให้นายท่านอึกอัก ขี้เกียจตอบคำถามสื่อ เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าเขาในอเมริกา ############## ตอน 2 นายสากเชื่อว่า ตนเองเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของนายปูติน ประธานาธิบดี ที่มีอำนาจและเหลี่ยมพราวรอบตัว และในฐานะเป็นอดีตหัวหน้าสายลับเคจีบีของรัสเซีย ที่มีหน่วยงานเครือข่ายทั่งโลก และนายปูตินจะรวบคอหอยเขาเสียเมื่อไหร่ก็ได้ นี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างยิ่งทีเดียว นายปูตินไม่ได้คิดจะรวบคอหอยนายสากแม้แต่น้อย สื่อฝรั่งเศส Le Nouvel Obsevateur อ้างว่า ในการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัว ระหว่างประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicolas Sarkozy กับนายปูติน เมื่อปี ค.ศ.2008 หลังจากนายสาก ทำซ่าบุกเข้าไปใน South Ossetia นายปูตินยัวะจัด ขู่ว่า เขาจะจับตัวนายสากให้ได้ และจะเอาตัวมาแขวนห้อยไว้...โดยการผูกกระปู๋ของนายสาก.… threatening to hang him by his presidential private parts …ไม่ใช่ การรวบคอหอย เข้าใจแล้วนะครับ ว่า นายสากเข้าใจผิดขนาดไหน นาย Sarkozy ถึงกับช๊อก แล้วถามนายปูตินว่า คุณจะทำอย่างนั้นทำไม นายปูติน ตอบว่า ทำไมผมถึงจะไม่ทำ ….พวกอเมริกันก็ทำอย่างนั้นกับซัดดัมไม่ใช่หรือ นี่… มันต้องเจอคำตอบแบบนี้ ไม่เสียที มีตำแหน่งเป็นลูกพี่ผม เล่นเอานายซาโกซี หน้าหงายไปเลย เมื่อมีข่าวออกมา เครมลินปฏิเสธว่า ไม่มีการข่มขู่เช่นนั้น จากท่านประธานาธิบดีปูติน แต่เมื่อมีการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ โดยโทรทัศน์รายการหนึ่ง ผู้จัดรายการถามท่านประธานาธิบดีว่า …จริงไหมครับ ที่เขาพูดกันว่า ท่านหมายมาดว่าจะแขวนนายสาก โดยการผูกส่วนหนึ่งของเขา คุณพี่ปูตินของผม ตอบว่า “… จะทำ ทำไม…แค่ส่วนเดียว…” ฮู้ย… ผมยิ่งเสียวแทนหนักขึ้นไปอีก เขาว่า ระหว่างที่นายสากกำลังทำหน้าหล่อ (จากการฉีดโบทอกซ์ ด้วยเงินภาษีของประชาชนชาวจอร์เจีย) เพลิดเพลินกับการให้สัมภาษณ์ข่าวโทรทัศน์ Gori ใน South Ossetia เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.2008 เครื่องบินรบของกองทัพฝ่ายรัสเซียก็บินโฉบเข้ามาพอดี กล้องก็เลยจับได้ภาพนายสากที่กำลังมุดหลบเข้าไปอยู่ใต้หว่างขาของผู้คุ้มกันอย่างรวดเร็ว หน้าของนายสาก บิดเบี้ยว สีออกเขียวอมเทา ด้วยความตื่นตระหนกสุดขีด ไม่เหลือราคาโบทอกซ์ ที่ใช้เงินภาษีประชาชนจ่ายค่าฉีด นี่แค่เห็นแวบเดียว ของปีกเครื่องบินรัสเซียนะ ถ้าเห็นคุณพี่ปูตินของผม กล้ามแน่น ตัวเป็นๆเดินมา นายสากจะมีสภาพเป็นยังไง ผมไม่กล้านึกภาพ หลังจากสงครามจบลง ระหว่างการนั่งเจรจาเพื่อสันติ ภาพ ซึ่งฝ่ายตะวันตก ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง เจรจาแทนนายสาก พิลึกดีนะครับ นักข่าวจากบีบีซี รายงานว่า ….นายสาก ออกอาการเหมือนคนใกล้จะเสียสติ ประสาทเสื่อม เขาคว้าปลายเนคไทสีแดง ที่เขาผูกอยู่ เอาเข้าปากแล้วเคี้ยว… มันคงอาการหนักจริงๆ ผมนึกไม่ออก ว่านายท่าน ที่ชาญฉลาด เลือกใช้คนนั้นคนนี้ ต้อนเข้าคอกไปทั่ว ทำไมถึงถั่วจัด เลือกใช้นายสาก หรือโบทอกซ์มันคุณภาพดี จนบดบังอย่างอื่น อันนี้ไปสอบถามคุณนายนูแลนด์กันเองนะ ผมไม่อยากละลาบละล้วงมากกว่านี้ นายสาก ให้คำเฉลยการเคี้ยวเนคไทของเขาภายหลังว่า ความกลัดกลุ้มเกี่ยวกับประเทศของตนเองมาก ก็สามารถทำให้คนเราเคี้ยวเนคไทได้นะ ผมก็นึกไปว่า ถ้าทฤษฏีนายสากมันเป็นไปได้ ลุงตู่ของผม ใส่เครื่องแบบทหาร หรือเครื่องแบบข้าราชการ ตอนชี้แจงหน้าจอ ก็ปลอดภัยเข้าทีดีนะครับ ผลของการเจรจา กองทัพรัสเซียหยุด 20 ไมล์ห่างจาก Tbilisi เมืองหลวงของจอร์เจีย และ อีก 2 เมือง Abkhazia และ South Ossetia ก็ประกาศตัวเป็นเอกราชจากจอร์เจีย แต่ ท่านประธานาธิบดีปูติน ไม่ลืมเรื่องเนคไท ” เก็บเนคไทไปให้พ้นหูพ้นตานะ ถ้าพวกคุณจะเชิญนายสากมากินข้าวเย็นด้วย” นายปูตินพูด เมื่อ ปี 2009 กับฝ่ายตรงข้ามกับเขาเกี่ยวกับยูเครน ในตอนนั้น คือ ประธานาธิบดี Victor Yushchenko และนายกรัฐมนตรี Yulia Timoshenko “เดี๋ยวนี้มันราคาแพงนะ และเขาอาจจะกินหมด” ตลกร้ายจริงคุณพี่ปูติน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 559 Views 0 Reviews
  • ตร.บุกค้นโกดังย่านนวลจันทร์ , รวบชาวต่างชาติ 15 รายลักลอบเปิดเว็บหลอกลงทุนคริปโต

    พบใช้โกดังปิดทึบตั้งโต๊ะคอม 15 ชุด ใช้สคริปต์หลอกเหยื่อเทรนคริปโต ยึดโน้ตบุ๊ก–มือถือ–เราเตอร์ รวมกว่า 50 รายการ แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ทั้งอั้งยี่–องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ–ต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109296

    #News1live #News1 #โกดังนวลจันทร์ #หลอกลงทุนคริปโต #CryptoScam #อาชญากรรมไซเบอร์ #ตำรวจไซเบอร์ #ต่างด้าวผิดกฎหมาย #webหลอกลงทุน #newsupdate
    ตร.บุกค้นโกดังย่านนวลจันทร์ , รวบชาวต่างชาติ 15 รายลักลอบเปิดเว็บหลอกลงทุนคริปโต • พบใช้โกดังปิดทึบตั้งโต๊ะคอม 15 ชุด ใช้สคริปต์หลอกเหยื่อเทรนคริปโต ยึดโน้ตบุ๊ก–มือถือ–เราเตอร์ รวมกว่า 50 รายการ แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ทั้งอั้งยี่–องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ–ต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109296 • #News1live #News1 #โกดังนวลจันทร์ #หลอกลงทุนคริปโต #CryptoScam #อาชญากรรมไซเบอร์ #ตำรวจไซเบอร์ #ต่างด้าวผิดกฎหมาย #webหลอกลงทุน #newsupdate
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 412 Views 0 Reviews
  • บุกจับคลินิกเถื่อนกลางเมืองหาดใหญ่! , ตำรวจไซเบอร์–สสจ.สงขลารวบสาววัย 37 คาหนังคาเขาขณะกำลังฉีดเสริมความงามในบ้านพัก

    พบเปิดบริการเถื่อนมากว่า 2 ปี นัดลูกค้าผ่านไลน์เดือนละกว่า 20 ราย ยึดของกลาง 53 รายการ ตั้ง 7 ข้อหาหนักทั้งสถานพยาบาลเถื่อน–เวชกรรมเถื่อน–ขายยา/เครื่องมือแพทย์ผิดกฎหมาย

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109289

    #News1live #News1 #คลินิกเถื่อน #เสริมความงาม #หาดใหญ่ #ตำรวจไซเบอร์ #สสจสงขลา #สถานพยาบาลผิดกฎหมาย #เครื่องมือแพทย์ผิดกฎหมาย #ข่าวอาชญากรรม #newsupdate
    บุกจับคลินิกเถื่อนกลางเมืองหาดใหญ่! , ตำรวจไซเบอร์–สสจ.สงขลารวบสาววัย 37 คาหนังคาเขาขณะกำลังฉีดเสริมความงามในบ้านพัก • พบเปิดบริการเถื่อนมากว่า 2 ปี นัดลูกค้าผ่านไลน์เดือนละกว่า 20 ราย ยึดของกลาง 53 รายการ ตั้ง 7 ข้อหาหนักทั้งสถานพยาบาลเถื่อน–เวชกรรมเถื่อน–ขายยา/เครื่องมือแพทย์ผิดกฎหมาย • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109289 • #News1live #News1 #คลินิกเถื่อน #เสริมความงาม #หาดใหญ่ #ตำรวจไซเบอร์ #สสจสงขลา #สถานพยาบาลผิดกฎหมาย #เครื่องมือแพทย์ผิดกฎหมาย #ข่าวอาชญากรรม #newsupdate
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • รวบ 2 ชาวกัมพูชาลอบเข้าไทยพื้นที่ถนนชายแดนจันทบุรี , เจ้าหน้าที่เผยพบต่อเนื่องต้องคุมเข้มลาดตระเวน
    .
    เจ้าหน้าที่จับชาวกัมพูชา 2 รายลอบเข้าประเทศบริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนเลียบชายแดนไทย–กัมพูชา “คลองหนองตาคง” บ้านซับตาเมา อ.โป่งน้ำร้อน เผยเป็นจุดที่พบการลักลอบเข้ามาบ่อย ต้องเพิ่มกำลังตรวจการณ์และเร่งผลักดันโครงการถนนแนวชายแดนให้เสริมความมั่นคง
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109141
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #จันทบุรี #ลักลอบเข้าเมือง #ทหารพราน #ถนนหนองตาคง #ความมั่นคงชายแดน #ข่าวชายแดน #newsupdate
    รวบ 2 ชาวกัมพูชาลอบเข้าไทยพื้นที่ถนนชายแดนจันทบุรี , เจ้าหน้าที่เผยพบต่อเนื่องต้องคุมเข้มลาดตระเวน . เจ้าหน้าที่จับชาวกัมพูชา 2 รายลอบเข้าประเทศบริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนเลียบชายแดนไทย–กัมพูชา “คลองหนองตาคง” บ้านซับตาเมา อ.โป่งน้ำร้อน เผยเป็นจุดที่พบการลักลอบเข้ามาบ่อย ต้องเพิ่มกำลังตรวจการณ์และเร่งผลักดันโครงการถนนแนวชายแดนให้เสริมความมั่นคง . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109141 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #จันทบุรี #ลักลอบเข้าเมือง #ทหารพราน #ถนนหนองตาคง #ความมั่นคงชายแดน #ข่าวชายแดน #newsupdate
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ปี2542
    พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ปี2542 //พระดีพิธีใหญ่ จัดขึ้น ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มวลสารสำคัญ ผงพระราชทาน เส้นพระเกศา(ผม)ในหลวง จีวรครองในหลวง ผงจิตรลดา มวลสารสำคํญ 143 วัด มีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศจำนวน 72 รูป เข้าร่วมพิธี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** ด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม เสริมบารมี และหนุนโชคลาภ ส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังสามารถป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาด คงกระพันตรี โชคลาภ ค้าขาย หน้าที่การงาน เจรจา เป็นที่รักใคร่ของผู้คน **


    ** พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ปี2542 ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระ ชนมพรรษา 72 พรรษา ปี 2542 ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธขึ้น เนื่องจากพระองค์ทรงทราบว่า พระสมเด็จจิตรดาที่ทรงสร้างด้วยพระองค์เอง มีผู้ต้องการและเสาะแสวงหากันมาก เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมจึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระสำหรับพสกนิกรผู้จงรักภักดีของพระองค์ท่าน โดยให้เป็นพระที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ใครๆ

    เนื้อหามวลสาร
    นอกจากเส้นพระเจ้า ผงจิตรลดา และ มวลสารส่วนพระองค์ แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยังพระราชทานมวลสารมหามงคลอีกประการหนึ่งคือ พระจีวรที่พระองค์ครองคราวเสด็จออกผนวช เมื่อปี พ.ศ.2499 นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้รวบรวมมวลสารจาก พระธาตุสำคัญทุกปีเกิด จากวัดสำคัญ 143 วัดทั่วประเทศ สถานที่สำคัญอันได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในอินเดียและศรีลังกา นอกจากนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ได้ทรงพระราชทานมวลสารพุทธมงคลสำคัญมาร่วมสร้างพระพิมพ์พระพุทธนราวันตบพิธ อีกจำนวนมาก **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ปี2542 พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ปี2542 //พระดีพิธีใหญ่ จัดขึ้น ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มวลสารสำคัญ ผงพระราชทาน เส้นพระเกศา(ผม)ในหลวง จีวรครองในหลวง ผงจิตรลดา มวลสารสำคํญ 143 วัด มีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศจำนวน 72 รูป เข้าร่วมพิธี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** ด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม เสริมบารมี และหนุนโชคลาภ ส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังสามารถป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาด คงกระพันตรี โชคลาภ ค้าขาย หน้าที่การงาน เจรจา เป็นที่รักใคร่ของผู้คน ** ** พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ปี2542 ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระ ชนมพรรษา 72 พรรษา ปี 2542 ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธขึ้น เนื่องจากพระองค์ทรงทราบว่า พระสมเด็จจิตรดาที่ทรงสร้างด้วยพระองค์เอง มีผู้ต้องการและเสาะแสวงหากันมาก เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมจึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระสำหรับพสกนิกรผู้จงรักภักดีของพระองค์ท่าน โดยให้เป็นพระที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ใครๆ เนื้อหามวลสาร นอกจากเส้นพระเจ้า ผงจิตรลดา และ มวลสารส่วนพระองค์ แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยังพระราชทานมวลสารมหามงคลอีกประการหนึ่งคือ พระจีวรที่พระองค์ครองคราวเสด็จออกผนวช เมื่อปี พ.ศ.2499 นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้รวบรวมมวลสารจาก พระธาตุสำคัญทุกปีเกิด จากวัดสำคัญ 143 วัดทั่วประเทศ สถานที่สำคัญอันได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในอินเดียและศรีลังกา นอกจากนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ได้ทรงพระราชทานมวลสารพุทธมงคลสำคัญมาร่วมสร้างพระพิมพ์พระพุทธนราวันตบพิธ อีกจำนวนมาก ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • พิสูจน์หลักฐาน ร่วม AOT 3 ชาติ ลงพื้นที่สระแก้ว ตรวจสอบจุดปะทะชายแดน รวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์จากบังเกอร์ที่เสียหาย
    https://www.thai-tai.tv/news/22378/
    .
    #ไทยไท #AOT-TH #หนองหญ้าแก้ว #พิสูจน์หลักฐาน #ความมั่นคงชายแดน

    พิสูจน์หลักฐาน ร่วม AOT 3 ชาติ ลงพื้นที่สระแก้ว ตรวจสอบจุดปะทะชายแดน รวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์จากบังเกอร์ที่เสียหาย https://www.thai-tai.tv/news/22378/ . #ไทยไท #AOT-TH #หนองหญ้าแก้ว #พิสูจน์หลักฐาน #ความมั่นคงชายแดน
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • เปิดนาทีบุกรวบสันธนะ ปมอุ้มรีดทรัพย์ชาวต่างชาติ (13/11/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #สันธนะ #รีดทรัพย์ #ชาวต่างชาติ #อาชญากรรม #ตำรวจไทย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    เปิดนาทีบุกรวบสันธนะ ปมอุ้มรีดทรัพย์ชาวต่างชาติ (13/11/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #สันธนะ #รีดทรัพย์ #ชาวต่างชาติ #อาชญากรรม #ตำรวจไทย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 0 Reviews
  • บุกรวบ “สันธนะ” ตามหมายจับเก่า คดีอุ้มรีดทรัพย์ ตร.คุมตัวไป สน.ทองหล่อ, ชุดสืบนครบาลบุกควบคุมตัว “สันธนะ ประยูรรัตน์” จากโรงแรมดังย่านเพลินจิต ตามหมายจับคดีอุ้มรีดทรัพย์ชาวไต้หวันปี 2564 ก่อนคุมตัวส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108480
    .
    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #สันธนะ #อาชญากรรม #truthfromthailand #newsupdate
    บุกรวบ “สันธนะ” ตามหมายจับเก่า คดีอุ้มรีดทรัพย์ ตร.คุมตัวไป สน.ทองหล่อ, ชุดสืบนครบาลบุกควบคุมตัว “สันธนะ ประยูรรัตน์” จากโรงแรมดังย่านเพลินจิต ตามหมายจับคดีอุ้มรีดทรัพย์ชาวไต้หวันปี 2564 ก่อนคุมตัวส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108480 . #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #สันธนะ #อาชญากรรม #truthfromthailand #newsupdate
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 492 Views 0 Reviews
  • หลุม ตอนที่ 3 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม”

    ตอน 3

    คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ

    ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง **** the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง )

    เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย

    นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน

    คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง

    คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด
    ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ
    นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน)

    ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ

    เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด

    ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ

    1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม

    โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ

    ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป

    ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ

    แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม

    ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia)
    นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม

    อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา

    ช่างเลือกกันดีนะครับ

    ##############
    ตอน 4

    เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน

    Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

    Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า

    ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย
    ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ

    ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง

    นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง

    ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย

    Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้

    นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้
    เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร

    ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 มิ.ย. 2558
    หลุม ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม” ตอน 3 คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง Fuck the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง ) เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน) ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ 1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia) นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา ช่างเลือกกันดีนะครับ ############## ตอน 4 เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้ นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้ เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 808 Views 0 Reviews
  • ทัพเรือจันทบุรี รวบแรงงานเขมร 108 คน หลบหนีเข้าเมือง “หวังทำงานในไทย” ยอมจ่ายรายละ 5-7 พัน
    https://www.thai-tai.tv/news/22328/
    .
    #ไทยไท #กองทัพเรือ #ลักลอบเข้าเมือง #แรงงานกัมพูชา #CyberScam #กปช.จต.

    ทัพเรือจันทบุรี รวบแรงงานเขมร 108 คน หลบหนีเข้าเมือง “หวังทำงานในไทย” ยอมจ่ายรายละ 5-7 พัน https://www.thai-tai.tv/news/22328/ . #ไทยไท #กองทัพเรือ #ลักลอบเข้าเมือง #แรงงานกัมพูชา #CyberScam #กปช.จต.
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • สันดานคนเขมรเหมือนกันกับฮุนเซนฮุนมาเนตนั้นล่ะ จิตใจประชาชนของมันเขมรต้องการฆ่าสังหารประชาชนคนไทยแน่นอน มันสะใจที่เห็นประชาชนคนไทยเราตายหรือพื้นที่เราเสียหายถูกทำลาย ทรัพย์สินไทยถูกระเบิดมันยิ่งสะใจ เขมรจึงสมมุติฐานไว้ก่อนว่า คือภัยคือศัตรูทางอธิปไตยทางตรงเรา,การคว่ำบาตรทุกๆมิติจึงต้องทำทั้งหมด แต่รัฐบาลตั้งแต่อุ๊งอิ๊งมันกากจนถึงปัจจุบัน มันไม่ตัดทั้งหมดจริง ไฟฟ้า น้ำมัน เน็ต เสบียงอาหาร มันชัดเจนว่าไส้ศึกช่วยเขมรอยู่ มาตราฐานปิดด่าน สร้างรั้วลวดหนามยังไม่พอในการแหกตาสร้างให้คนไทยเชื่อใจการบริหารปกป้องแผ่นดินไทย,รัฐบาลนี้จริงๆต้องจบทั้งหมดตั้งแต่เข้ามา,แต่ไม่ทำ ยังปล่อยปละละเลยตรึม อ่อนแอ ไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยในหน้าที่,ยังใฝ่ช่วยเขมรนั่นเอง.
    ..ทหารยึดอำนาจจบเลย ระงับการเลือกตั้งการใช้เงินซื้อเสียงในอนาคตได้ด้วย และเชื่อเลยว่าเงินเทาเงินมืดเงินชั่วๆที่ฟอกแล้วทั้งนั้นจะยึดประเทศให้จริงจังผ่านการเลือกตั้งสมัยหน้านี้.ทหารยึดอำนาจตัดตอนเลย,ควบคุมทางให้ดีงามก่อน สร้างทางให้เดินที่ถูกต้องก่อนจึงปล่อยให้มีการเลือกตั้ง,เพราะระหว่างนี้นักการเมืองเอย ข้าราชการชั่วเลวเอย เจ้าของกิจการชั่วเลวต่างๆในไทยเอยและต่างชาติมีถูกยึดถูกอายัดทรัพย์สินแน่นอน ตรวจสอบกระแสเงินจะเห็นหมดล่ะ ตามอายัดยึดทรัพย์อาจกว่า100ล้านล้านบาทเข้าประเทศไทยส่วนกลางได้สบาย,ไอ้ปั่นๆเหรียญต่างๆอื่น ใครถือใครครองเหรียญโทเคนคริปโตฯผิดกฎหมาย ถูกอายัดยึดหมด,ตลอดทหารไทยเราเห็นภันอันตรายในตังดิจิดัลในภายหน้า ฉีกกฎหมายเงินดิจิดัลทิ้งทั้งหมด,ใครครอบครองในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศจะถือยึดทรัพย์หมด แบบซาอุฯมันห้ามแขวนพระเครื่องไทยเราเข้าประเทศมันนั้นล่ะ,ยกเลิกการใช้ไบโอเมทิกซ์ด้วย ใครฝ่าฝืนยังก้าวล่วงสิทธิมนุษย์คนไทยเก็บรวบรวมข้อมูลไบโอเมทริกซ์ประชาชนคนไทยไม่ว่าทางตรงทางอ้อมจะถูกจับดำเนินคดีทั้งหมด,
    ..ต่างชาติใดๆจะเดินทางเข้าไทยต้องมีวีซ่าพิเศษคัดกรองคุณสมบัติก่อนผ่านเกณฑ์เท่านั้น.



    https://youtu.be/rV8CBwDgXB8?si=SnfKxD3_OmBWjmy-
    สันดานคนเขมรเหมือนกันกับฮุนเซนฮุนมาเนตนั้นล่ะ จิตใจประชาชนของมันเขมรต้องการฆ่าสังหารประชาชนคนไทยแน่นอน มันสะใจที่เห็นประชาชนคนไทยเราตายหรือพื้นที่เราเสียหายถูกทำลาย ทรัพย์สินไทยถูกระเบิดมันยิ่งสะใจ เขมรจึงสมมุติฐานไว้ก่อนว่า คือภัยคือศัตรูทางอธิปไตยทางตรงเรา,การคว่ำบาตรทุกๆมิติจึงต้องทำทั้งหมด แต่รัฐบาลตั้งแต่อุ๊งอิ๊งมันกากจนถึงปัจจุบัน มันไม่ตัดทั้งหมดจริง ไฟฟ้า น้ำมัน เน็ต เสบียงอาหาร มันชัดเจนว่าไส้ศึกช่วยเขมรอยู่ มาตราฐานปิดด่าน สร้างรั้วลวดหนามยังไม่พอในการแหกตาสร้างให้คนไทยเชื่อใจการบริหารปกป้องแผ่นดินไทย,รัฐบาลนี้จริงๆต้องจบทั้งหมดตั้งแต่เข้ามา,แต่ไม่ทำ ยังปล่อยปละละเลยตรึม อ่อนแอ ไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยในหน้าที่,ยังใฝ่ช่วยเขมรนั่นเอง. ..ทหารยึดอำนาจจบเลย ระงับการเลือกตั้งการใช้เงินซื้อเสียงในอนาคตได้ด้วย และเชื่อเลยว่าเงินเทาเงินมืดเงินชั่วๆที่ฟอกแล้วทั้งนั้นจะยึดประเทศให้จริงจังผ่านการเลือกตั้งสมัยหน้านี้.ทหารยึดอำนาจตัดตอนเลย,ควบคุมทางให้ดีงามก่อน สร้างทางให้เดินที่ถูกต้องก่อนจึงปล่อยให้มีการเลือกตั้ง,เพราะระหว่างนี้นักการเมืองเอย ข้าราชการชั่วเลวเอย เจ้าของกิจการชั่วเลวต่างๆในไทยเอยและต่างชาติมีถูกยึดถูกอายัดทรัพย์สินแน่นอน ตรวจสอบกระแสเงินจะเห็นหมดล่ะ ตามอายัดยึดทรัพย์อาจกว่า100ล้านล้านบาทเข้าประเทศไทยส่วนกลางได้สบาย,ไอ้ปั่นๆเหรียญต่างๆอื่น ใครถือใครครองเหรียญโทเคนคริปโตฯผิดกฎหมาย ถูกอายัดยึดหมด,ตลอดทหารไทยเราเห็นภันอันตรายในตังดิจิดัลในภายหน้า ฉีกกฎหมายเงินดิจิดัลทิ้งทั้งหมด,ใครครอบครองในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศจะถือยึดทรัพย์หมด แบบซาอุฯมันห้ามแขวนพระเครื่องไทยเราเข้าประเทศมันนั้นล่ะ,ยกเลิกการใช้ไบโอเมทิกซ์ด้วย ใครฝ่าฝืนยังก้าวล่วงสิทธิมนุษย์คนไทยเก็บรวบรวมข้อมูลไบโอเมทริกซ์ประชาชนคนไทยไม่ว่าทางตรงทางอ้อมจะถูกจับดำเนินคดีทั้งหมด, ..ต่างชาติใดๆจะเดินทางเข้าไทยต้องมีวีซ่าพิเศษคัดกรองคุณสมบัติก่อนผ่านเกณฑ์เท่านั้น. https://youtu.be/rV8CBwDgXB8?si=SnfKxD3_OmBWjmy-
    0 Comments 0 Shares 366 Views 0 Reviews
  • จับคาห้องทำงาน! บิ๊กเต่า-ปปป.-ปปท. ซ้อนแผน รวบเลขานายกอบต.-พวก ขู่ผู้รับเหมาถมดิน รีดเงิน 6.5 ล.แลกใบอนุญาตก่อสร้าง
    https://www.thai-tai.tv/news/22307/
    .
    #ไทยไท #จรูญเกียรติปานแก้ว #อบต.หัวหว้า #สินบน #ปปท. #ทุจริต
    จับคาห้องทำงาน! บิ๊กเต่า-ปปป.-ปปท. ซ้อนแผน รวบเลขานายกอบต.-พวก ขู่ผู้รับเหมาถมดิน รีดเงิน 6.5 ล.แลกใบอนุญาตก่อสร้าง https://www.thai-tai.tv/news/22307/ . #ไทยไท #จรูญเกียรติปานแก้ว #อบต.หัวหว้า #สินบน #ปปท. #ทุจริต
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • ยกฟ้อง "สว.นันทนา" ไม่หมิ่นประมาท "คนขายหมู" ชี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดสรร กมธ. อย่างสุจริต ลั่นฟ้องกลับ สว. 130 คน! กล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง
    https://www.thai-tai.tv/news/22295/
    .
    #ไทยไท #นันทนานันทวโรภาส #ยกฟ้องหมิ่นประมาท #สว.สีน้ำเงิน #ขบวนการสมคบคิด #กินรวบประเทศ
    ยกฟ้อง "สว.นันทนา" ไม่หมิ่นประมาท "คนขายหมู" ชี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดสรร กมธ. อย่างสุจริต ลั่นฟ้องกลับ สว. 130 คน! กล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง https://www.thai-tai.tv/news/22295/ . #ไทยไท #นันทนานันทวโรภาส #ยกฟ้องหมิ่นประมาท #สว.สีน้ำเงิน #ขบวนการสมคบคิด #กินรวบประเทศ
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • Kimsuky กลับมาอีกครั้ง: ใช้ JavaScript และ certutil ฝังตัวใน Windows แบบแนบเนียน

    กลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) จากเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ Kimsuky ได้เปิดตัวแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ล่าสุด โดยใช้ JavaScript loader และเครื่องมือในระบบ Windows อย่าง certutil เพื่อสร้างความคงอยู่ (persistence) ในเครื่องเหยื่อทุกๆ นาทีผ่าน Scheduled Task

    แคมเปญนี้เริ่มต้นด้วยไฟล์ชื่อ Themes.js ซึ่งเป็น JavaScript ที่ดาวน์โหลด payload ถัดไปจากโดเมนที่ควบคุมโดยผู้โจมตี จากนั้นจะมีการรวบรวมข้อมูลระบบ รายการโปรเซส และไฟล์ในไดเรกทอรีของผู้ใช้ แล้วบีบอัดเป็นไฟล์ .cab และเข้ารหัสด้วย certutil ก่อนส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์

    สิ่งที่น่ากลัวคือการสร้าง Scheduled Task ที่ชื่อว่า Windows Theme Manager ซึ่งจะรันไฟล์ Themes.js ทุกๆ 1 นาที! พร้อมกับการปล่อยไฟล์ Word ปลอมที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเหยื่อ

    เสริมความรู้: certutil และ Scheduled Task คืออะไร?
    certutil เป็นเครื่องมือใน Windows ที่ใช้จัดการใบรับรองดิจิทัล แต่แฮกเกอร์มักใช้มันเป็น LOLBIN (Living Off the Land Binary) เพื่อเข้ารหัส/ถอดรหัสไฟล์โดยไม่ต้องใช้มัลแวร์ภายนอก
    Scheduled Task คือระบบตั้งเวลาให้ Windows รันคำสั่งหรือโปรแกรมตามช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ทุกนาที ทุกวัน ฯลฯ ซึ่งหากถูกใช้ในทางที่ผิด ก็สามารถทำให้มัลแวร์รันซ้ำได้ตลอดเวลา

    กลุ่ม Kimsuky และเป้าหมาย
    เป็นกลุ่ม APT จากเกาหลีเหนือที่เน้นจารกรรมข้อมูลจากรัฐบาลและองค์กรนโยบาย
    ใช้เทคนิคใหม่ที่เน้นความแนบเนียนและต่อเนื่อง

    ขั้นตอนการโจมตี
    เริ่มจากไฟล์ Themes.js ที่ดาวน์โหลด payload จากโดเมนปลอม
    ใช้ JavaScript รวบรวมข้อมูลระบบและส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์
    ใช้ certutil เข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งออก
    สร้าง Scheduled Task ให้รัน Themes.js ทุกนาที
    ปล่อยไฟล์ Word ปลอมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

    เทคนิคที่ใช้
    ใช้ LOLBIN (certutil) เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    ใช้ Scheduled Task เพื่อความคงอยู่แบบต่อเนื่อง
    ใช้ subdomain ของเว็บจริงเพื่อหลอกระบบรักษาความปลอดภัย

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    หากระบบไม่มีการตรวจสอบ Scheduled Task อย่างสม่ำเสมอ อาจถูกฝังมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว
    การใช้ certutil ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือของระบบเอง

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    ควรตรวจสอบ Scheduled Task ที่รันถี่ผิดปกติ
    ควรจำกัดการใช้ certutil และตรวจสอบการเข้ารหัส/ถอดรหัสที่ไม่ปกติ
    ใช้ระบบ EDR ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมแบบ LOLBIN ได้

    https://securityonline.info/kimsuky-apt-uses-javascript-loader-and-certutil-to-achieve-minute-by-minute-persistence-via-windows-scheduled-task/
    🕵️‍♂️ Kimsuky กลับมาอีกครั้ง: ใช้ JavaScript และ certutil ฝังตัวใน Windows แบบแนบเนียน กลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) จากเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ Kimsuky ได้เปิดตัวแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ล่าสุด โดยใช้ JavaScript loader และเครื่องมือในระบบ Windows อย่าง certutil เพื่อสร้างความคงอยู่ (persistence) ในเครื่องเหยื่อทุกๆ นาทีผ่าน Scheduled Task แคมเปญนี้เริ่มต้นด้วยไฟล์ชื่อ Themes.js ซึ่งเป็น JavaScript ที่ดาวน์โหลด payload ถัดไปจากโดเมนที่ควบคุมโดยผู้โจมตี จากนั้นจะมีการรวบรวมข้อมูลระบบ รายการโปรเซส และไฟล์ในไดเรกทอรีของผู้ใช้ แล้วบีบอัดเป็นไฟล์ .cab และเข้ารหัสด้วย certutil ก่อนส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ สิ่งที่น่ากลัวคือการสร้าง Scheduled Task ที่ชื่อว่า Windows Theme Manager ซึ่งจะรันไฟล์ Themes.js ทุกๆ 1 นาที! พร้อมกับการปล่อยไฟล์ Word ปลอมที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเหยื่อ 🧠 เสริมความรู้: certutil และ Scheduled Task คืออะไร? 🎗️ certutil เป็นเครื่องมือใน Windows ที่ใช้จัดการใบรับรองดิจิทัล แต่แฮกเกอร์มักใช้มันเป็น LOLBIN (Living Off the Land Binary) เพื่อเข้ารหัส/ถอดรหัสไฟล์โดยไม่ต้องใช้มัลแวร์ภายนอก 🎗️ Scheduled Task คือระบบตั้งเวลาให้ Windows รันคำสั่งหรือโปรแกรมตามช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ทุกนาที ทุกวัน ฯลฯ ซึ่งหากถูกใช้ในทางที่ผิด ก็สามารถทำให้มัลแวร์รันซ้ำได้ตลอดเวลา ✅ กลุ่ม Kimsuky และเป้าหมาย ➡️ เป็นกลุ่ม APT จากเกาหลีเหนือที่เน้นจารกรรมข้อมูลจากรัฐบาลและองค์กรนโยบาย ➡️ ใช้เทคนิคใหม่ที่เน้นความแนบเนียนและต่อเนื่อง ✅ ขั้นตอนการโจมตี ➡️ เริ่มจากไฟล์ Themes.js ที่ดาวน์โหลด payload จากโดเมนปลอม ➡️ ใช้ JavaScript รวบรวมข้อมูลระบบและส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ใช้ certutil เข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งออก ➡️ สร้าง Scheduled Task ให้รัน Themes.js ทุกนาที ➡️ ปล่อยไฟล์ Word ปลอมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ ใช้ LOLBIN (certutil) เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ใช้ Scheduled Task เพื่อความคงอยู่แบบต่อเนื่อง ➡️ ใช้ subdomain ของเว็บจริงเพื่อหลอกระบบรักษาความปลอดภัย ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ หากระบบไม่มีการตรวจสอบ Scheduled Task อย่างสม่ำเสมอ อาจถูกฝังมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว ⛔ การใช้ certutil ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือของระบบเอง ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ ควรตรวจสอบ Scheduled Task ที่รันถี่ผิดปกติ ⛔ ควรจำกัดการใช้ certutil และตรวจสอบการเข้ารหัส/ถอดรหัสที่ไม่ปกติ ⛔ ใช้ระบบ EDR ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมแบบ LOLBIN ได้ https://securityonline.info/kimsuky-apt-uses-javascript-loader-and-certutil-to-achieve-minute-by-minute-persistence-via-windows-scheduled-task/
    SECURITYONLINE.INFO
    Kimsuky APT Uses JavaScript Loader and Certutil to Achieve Minute-by-Minute Persistence via Windows Scheduled Task
    Kimsuky APT is using a Themes.js JavaScript loader and certutil LOLBIN to gain minute-by-minute persistence via a Windows Scheduled Task. The APT is targeting think tanks for espionage.
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
More Results