• เสียดายสมุนไพรฟ้าทลายโจรจริงๆให้ใครหลายคนกินเป็นยารักษาโรคได้เยอะ,ตลอดของดีๆมากมาย จากบริจาคของในสถาพดีๆปกติ นานวันอาจสภาพแย่แบบนี้,คนที่บริจาคมาเชื่อว่าจะเอาแต่ของปกติสภาพดีมาร่วมบริจาคแน่นอน.
    ..วัดทั่วประเทศ อาจวัดดังๆคนบริจาคให้ทานมากๆ,แต่การบริหารจัดการแย่ ไม่สามารถนำสิ่งที่ญาติโยมมาบริจาคใช้ทำประโยชน์มันได้สูงสุด,และของส่วนใหญ่ที่ญาติโยมบริจาคให้วัดนั้นๆตามความเชื่อจะใช้ภายในวัดนั้นๆได้แต่ไม่สามารถจาคะต่อออกนอกวัดได้จะผิดเจตนาผู้ตั้งใจบริจาค,นอกจากผู้บริจาคระบุกว้างๆว่า สามารถบริจาคส่งต่อช่วยเหลือแก่สาธารณะอื่นๆได้หากเหลือเกินพอที่ทางวัดรับบริจาคไว้,วินัยของสงฆ์ก็ไม่ขาดไม่ผิดต่อเจตนาญาติโยมที่ตั้งจิตอธิฐานด้วย,บุคคลที่รับสิ่งบริจาคที่เหลือมากมายนี้ก็ไม่บาป ไม่ผิดเจตนาคนบริจาคต้นทาง,สายวิญญาณถ้าเจ้าของผู้บริจาคให้ทานไม่อนุญาตทางวัดจะไม่สามารถเอาออกนอกพื้นที่วัดไปผิดเจตนาของผู้บริจาคได้ เช่น สิ่งนี้ใช้ในวัดได้เท่านั้น ชาวบ้านถือวิสาสะเอาของวัดไปซวยคือเปรตถามหาเลยก็ว่า,ผู้บริจาค บริจาคให้เป็นของวัดแล้ว100% เจตนาแก่วัด,ไม่มีเจตนาใครอื่นหรือไปสาธารณะใช้อิสระนอกวัดในบ้านเรือนชาวบ้าน,วัดที่ถือวินัยเคร่งครัดจะไปสามารถดำเนินเกินวิสัยศรัทธาญาติโยม บาปจะถามหานั้นเอง ขนาดเอาจานชามวัดไป ผีวัดยังตามถึงที่ประมาณนั้น.,หรือทำมาค้าขายไม่ขึ้นหากสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ในวัดนั้นๆคุ้มครอง.,โลกคู่ขนานแดนวิญญาณมีกติกาของเขา,ของวัดคือของวัด ,ญาติโยมเอาของวัดไปต้องขออนุญาต,แม้สะดวกมือหยิบจับเอาไป,และสิ่งของที่ญาติโยมบริจาคให้ใช้แค่วัดๆนี้ยิ่งโหดแน่นอน,ส่วนกรณีภายในวัดนั้นๆทุจริตโกงกิน จะใครจะพระจะญาติโยมก็กรรมเต็มของปัจเจกบุคคลนั้นๆ.



    https://youtube.com/watch?v=02xat5knPaI&si=nqZcqJw2GNPThVk5
    เสียดายสมุนไพรฟ้าทลายโจรจริงๆให้ใครหลายคนกินเป็นยารักษาโรคได้เยอะ,ตลอดของดีๆมากมาย จากบริจาคของในสถาพดีๆปกติ นานวันอาจสภาพแย่แบบนี้,คนที่บริจาคมาเชื่อว่าจะเอาแต่ของปกติสภาพดีมาร่วมบริจาคแน่นอน. ..วัดทั่วประเทศ อาจวัดดังๆคนบริจาคให้ทานมากๆ,แต่การบริหารจัดการแย่ ไม่สามารถนำสิ่งที่ญาติโยมมาบริจาคใช้ทำประโยชน์มันได้สูงสุด,และของส่วนใหญ่ที่ญาติโยมบริจาคให้วัดนั้นๆตามความเชื่อจะใช้ภายในวัดนั้นๆได้แต่ไม่สามารถจาคะต่อออกนอกวัดได้จะผิดเจตนาผู้ตั้งใจบริจาค,นอกจากผู้บริจาคระบุกว้างๆว่า สามารถบริจาคส่งต่อช่วยเหลือแก่สาธารณะอื่นๆได้หากเหลือเกินพอที่ทางวัดรับบริจาคไว้,วินัยของสงฆ์ก็ไม่ขาดไม่ผิดต่อเจตนาญาติโยมที่ตั้งจิตอธิฐานด้วย,บุคคลที่รับสิ่งบริจาคที่เหลือมากมายนี้ก็ไม่บาป ไม่ผิดเจตนาคนบริจาคต้นทาง,สายวิญญาณถ้าเจ้าของผู้บริจาคให้ทานไม่อนุญาตทางวัดจะไม่สามารถเอาออกนอกพื้นที่วัดไปผิดเจตนาของผู้บริจาคได้ เช่น สิ่งนี้ใช้ในวัดได้เท่านั้น ชาวบ้านถือวิสาสะเอาของวัดไปซวยคือเปรตถามหาเลยก็ว่า,ผู้บริจาค บริจาคให้เป็นของวัดแล้ว100% เจตนาแก่วัด,ไม่มีเจตนาใครอื่นหรือไปสาธารณะใช้อิสระนอกวัดในบ้านเรือนชาวบ้าน,วัดที่ถือวินัยเคร่งครัดจะไปสามารถดำเนินเกินวิสัยศรัทธาญาติโยม บาปจะถามหานั้นเอง ขนาดเอาจานชามวัดไป ผีวัดยังตามถึงที่ประมาณนั้น.,หรือทำมาค้าขายไม่ขึ้นหากสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ในวัดนั้นๆคุ้มครอง.,โลกคู่ขนานแดนวิญญาณมีกติกาของเขา,ของวัดคือของวัด ,ญาติโยมเอาของวัดไปต้องขออนุญาต,แม้สะดวกมือหยิบจับเอาไป,และสิ่งของที่ญาติโยมบริจาคให้ใช้แค่วัดๆนี้ยิ่งโหดแน่นอน,ส่วนกรณีภายในวัดนั้นๆทุจริตโกงกิน จะใครจะพระจะญาติโยมก็กรรมเต็มของปัจเจกบุคคลนั้นๆ. https://youtube.com/watch?v=02xat5knPaI&si=nqZcqJw2GNPThVk5
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ภาพเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่วันนี้ เวลาประมาณ 5:04 น. ที่โรงงานแบตเตอรี่ซานหยวน เอนเนอร์จี เทคโนโลยี (San Yuan Energy Technology) ในเขตเสี่ยวกัง (Xiaogang District) เมืองเกาสง (Kaohsiung) ของไต้หวัน

    โรงงานแห่งนี้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "โรงงานซูเปอร์แบตเตอรี่" ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอากาศยาน

    ทางการไต้หวันออกประกาศคำแนะนำให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ หรือให้อยู่ในบ้านโดยปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งปริมาณไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารระคายเคืองที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และดวงตา

    มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย แบ่งเป็นคนงานของโรงงาน 12 ราย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 ราย

    สาเหตุของการระเบิดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีการคาดเดาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น X ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นการก่อวินาศกรรม แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้

    โรงงานแห่งนี้ซึ่งดำเนินการโดย San Yuan Energy Technology (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Molicel ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Taiwan Cement Corporation) เป็นผู้ผลิตรายสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    ภาพเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่วันนี้ เวลาประมาณ 5:04 น. ที่โรงงานแบตเตอรี่ซานหยวน เอนเนอร์จี เทคโนโลยี (San Yuan Energy Technology) ในเขตเสี่ยวกัง (Xiaogang District) เมืองเกาสง (Kaohsiung) ของไต้หวัน โรงงานแห่งนี้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "โรงงานซูเปอร์แบตเตอรี่" ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอากาศยาน ทางการไต้หวันออกประกาศคำแนะนำให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ หรือให้อยู่ในบ้านโดยปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งปริมาณไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารระคายเคืองที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และดวงตา มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย แบ่งเป็นคนงานของโรงงาน 12 ราย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 ราย สาเหตุของการระเบิดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีการคาดเดาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น X ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นการก่อวินาศกรรม แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้ โรงงานแห่งนี้ซึ่งดำเนินการโดย San Yuan Energy Technology (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Molicel ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Taiwan Cement Corporation) เป็นผู้ผลิตรายสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • วันนี้คุยต่อเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรตามคำขอจากเพื่อนเพจ
    ความมีอยู่ว่า
    ...แขนของถงอวี่ถูกจินเซี่ยขวางไว้ สีหน้าจึงเครียดขึ้น “ข้าบอกกล่าวต่อเจ้า มันผู้นี้เป็นคนที่องครักษ์เสื้อแพรต้องการ ผู้ใดตั้งใจขัดขวางเหนี่ยวรั้ง นับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เจ้ามีอำนาจขัดขวาง?”...
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เวลาดูละครเรามักจะเห็นภาพขององครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจสูง อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? วันนี้เราคุยเรื่องหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักองค์รักษ์เสื้อแพรโดยคร่าว มันเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณปีค.ศ. 1368 เป็นการรวมสองหน่วยงานเข้าด้วยกันคือ ‘ชิงจวินตูเว่ยฝู่’ (亲军都尉府) คือหน่วยราชองครักษ์และ ‘อี๋หลวนซือ’ (仪鸾司) ที่รับผิดชอบงานขบวนราชพิธี ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิ่นอีเว่ย’ หรือองครักษ์เสื้อแพรที่เรารู้จักกันดี

    สองชื่อนี้บ่งบอกถึงสองหน้าที่หลักเมื่อตอนก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งก็คือเป็นราชองรักษ์ และยามที่ฮ่องเต้เสด็จไปยังที่ต่างๆ (ดูจากรูป ในชุดมัจฉาบินสีแดง) พวกเขาเป็นทั้งผู้ดูแลพิธีการและความถูกต้องของขบวนเสด็จและเป็นผู้ตามเสด็จ

    เพราะได้รับความไว้วางพระทัยและเพราะฮ่องเต้ในเกือบทุกรัชสมัยมีความระแวงสูง ต่อมาจึงมีการขยายขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรให้รวมถึงสอดแนมและสืบสวนขุนนาง ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ไม่ผ่านกรมกระทรวงใด มีคุกหลวงใต้อาณัติ จึงเป็นที่มาของหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เราเห็นในนิยายหลายเรื่อง

    แต่จริงๆ แล้วองครักษ์เสื้อแพรไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ในละคร

    จากข้อมูลในบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์รัชสมัยองค์ว่านลี่ (万历野获编) การจับกุมคนต้องมีหมายจับที่ออกตามพระราชโองการของฮ่องเต้เท่านั้น การเสนอให้ออกหมายจับต้องผ่านการลงนามเห็นชอบโดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง และหมายจับต้องระบุชื่อคนที่จะจับอย่างชัดเจน หนึ่งหมายจับต่อหนึ่งคน และหากต้องนำจับนอกพื้นที่ยังต้องมีการประทับตราจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้การลงทัณฑ์นักโทษก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อน เพียงแต่มีอิสระในวิธีและรูปแบบการสอบสวน (เป็นที่ล่ำลือว่าคุกหลวงในอาณัติขององครักษ์เสื้อแพรมีวิธีการที่โหดร้ายที่สุด)

    หน่วยงานนี้มีฐานประจำการอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น หากมีคดีที่ต้องติดตามนอกเมืองหลวงต้องมีคำสั่งปฏิบัติงานนอกพื้นที่ มีการขออนุมัติและเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าชัดเจน แต่โดยปกติจะว่าจ้างคนหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ไม่ต้องทำเองทั้งหมด

    ดังนั้น สำหรับหน่วยงานที่มีคนหลายหมื่น (ในบางยุคสมัยมีเจ้าหน้าที่รวมเกือบหกหมื่นคน) โดยปกติจึงมีคนมากกว่างานหลักที่กล่าวมาข้างต้น เลยต้องมีงานอย่างอื่นทำนอกเหนือจากสามหน้าที่หลักที่กล่าวมาแล้ว ทั้งหน้าที่ประจำและงานสัพเพเหระตามแต่ฮ่องเต้จะมีพระบัญชา เท่าที่อ่านเจอมีดังนี้
     หาข่าวสารในช่วงสงคราม: อันนี้เป็นการเฉพาะกิจ เคยถูกใช้เป็นหน่วยสอดแนมให้กองทัพ
     เฝ้าประตูวัง: รับผิดชอบดูแลเฉพาะประตูหลักของวังหลวงหรือที่เรียกว่า ‘อู่เหมิน’ (คือประตูที่ใช้โดยฮ่องเต้เท่านั้น หรือเฉพาะคนที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในโอกาสพิเศษ) ถือว่าเป็นหน่วยราชองครักษ์ที่มี ‘หน้าตา’ กว่าราชองครักษ์กองอื่น
     ดูแลความสะอาด: อันนี้แปลก แต่เนื่องจากมีระดับชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เป็นขุนนางติดยศเป็นจำนวนมากและไม่มีหน้าที่ลาดตระเวน จึงถูกใช้ดูแลความสะอาดของเมืองหลวง เช่นกวาดถนนและคูน้ำต่างๆ ฯลฯ
     เลี้ยงช้าง: อันนี้ยิ่งแปลก แต่ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในขบวนราชพิธี ตัวอย่างจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง มีพูดถึงขบวนเสด็จราชพิธีบวงสรวงว่าที่มีเสือและช้างเดินนำ การดูแลทำความสะอาดและเลี้ยงช้างเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร

    ขออภัยหากข้อมูลข้างต้นลดทอนภาพลักษณ์อันหน้าเกรงขามของเหล่าองครักษ์เสื้อแพร

    และด้วยหน้าที่ที่หลากหลายขององครักษ์เสื้อแพร Storyฯ เลยอยากจะเตือนความทรงจำของเพื่อนเพจถึงบทความที่ Storyฯ เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่องครักษ์เสื้อแพรทุกคนที่ใส่ชุดมัจฉาบินและติดดาบซิ่วชุนได้ เนื่องจากทั้งสองสิ่งเป็นของพระราชทานสำหรับขุนนางติดยศเท่านั้น

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://k.sina.cn/article_1229799315_494d3f9300100l3br.html

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.52shijing.com/zgls/123948.html
    http://www.360doc.com/content/17/1108/21/18848094_702172237.shtml
    https://ppfocus.com/sg/0/hi2ce1da4.html
    http://www.manyanu.com/new/c67503edffe34e4eb5fa46ac96bc834e

    #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #จิ่นอีเว่ย #ราชวงศ์หมิง #ประวัติศาสตร์จีน
    วันนี้คุยต่อเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรตามคำขอจากเพื่อนเพจ ความมีอยู่ว่า ...แขนของถงอวี่ถูกจินเซี่ยขวางไว้ สีหน้าจึงเครียดขึ้น “ข้าบอกกล่าวต่อเจ้า มันผู้นี้เป็นคนที่องครักษ์เสื้อแพรต้องการ ผู้ใดตั้งใจขัดขวางเหนี่ยวรั้ง นับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เจ้ามีอำนาจขัดขวาง?”... - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เวลาดูละครเรามักจะเห็นภาพขององครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจสูง อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? วันนี้เราคุยเรื่องหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักองค์รักษ์เสื้อแพรโดยคร่าว มันเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณปีค.ศ. 1368 เป็นการรวมสองหน่วยงานเข้าด้วยกันคือ ‘ชิงจวินตูเว่ยฝู่’ (亲军都尉府) คือหน่วยราชองครักษ์และ ‘อี๋หลวนซือ’ (仪鸾司) ที่รับผิดชอบงานขบวนราชพิธี ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิ่นอีเว่ย’ หรือองครักษ์เสื้อแพรที่เรารู้จักกันดี สองชื่อนี้บ่งบอกถึงสองหน้าที่หลักเมื่อตอนก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งก็คือเป็นราชองรักษ์ และยามที่ฮ่องเต้เสด็จไปยังที่ต่างๆ (ดูจากรูป ในชุดมัจฉาบินสีแดง) พวกเขาเป็นทั้งผู้ดูแลพิธีการและความถูกต้องของขบวนเสด็จและเป็นผู้ตามเสด็จ เพราะได้รับความไว้วางพระทัยและเพราะฮ่องเต้ในเกือบทุกรัชสมัยมีความระแวงสูง ต่อมาจึงมีการขยายขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรให้รวมถึงสอดแนมและสืบสวนขุนนาง ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ไม่ผ่านกรมกระทรวงใด มีคุกหลวงใต้อาณัติ จึงเป็นที่มาของหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เราเห็นในนิยายหลายเรื่อง แต่จริงๆ แล้วองครักษ์เสื้อแพรไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ในละคร จากข้อมูลในบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์รัชสมัยองค์ว่านลี่ (万历野获编) การจับกุมคนต้องมีหมายจับที่ออกตามพระราชโองการของฮ่องเต้เท่านั้น การเสนอให้ออกหมายจับต้องผ่านการลงนามเห็นชอบโดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง และหมายจับต้องระบุชื่อคนที่จะจับอย่างชัดเจน หนึ่งหมายจับต่อหนึ่งคน และหากต้องนำจับนอกพื้นที่ยังต้องมีการประทับตราจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้การลงทัณฑ์นักโทษก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อน เพียงแต่มีอิสระในวิธีและรูปแบบการสอบสวน (เป็นที่ล่ำลือว่าคุกหลวงในอาณัติขององครักษ์เสื้อแพรมีวิธีการที่โหดร้ายที่สุด) หน่วยงานนี้มีฐานประจำการอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น หากมีคดีที่ต้องติดตามนอกเมืองหลวงต้องมีคำสั่งปฏิบัติงานนอกพื้นที่ มีการขออนุมัติและเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าชัดเจน แต่โดยปกติจะว่าจ้างคนหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ไม่ต้องทำเองทั้งหมด ดังนั้น สำหรับหน่วยงานที่มีคนหลายหมื่น (ในบางยุคสมัยมีเจ้าหน้าที่รวมเกือบหกหมื่นคน) โดยปกติจึงมีคนมากกว่างานหลักที่กล่าวมาข้างต้น เลยต้องมีงานอย่างอื่นทำนอกเหนือจากสามหน้าที่หลักที่กล่าวมาแล้ว ทั้งหน้าที่ประจำและงานสัพเพเหระตามแต่ฮ่องเต้จะมีพระบัญชา เท่าที่อ่านเจอมีดังนี้  หาข่าวสารในช่วงสงคราม: อันนี้เป็นการเฉพาะกิจ เคยถูกใช้เป็นหน่วยสอดแนมให้กองทัพ  เฝ้าประตูวัง: รับผิดชอบดูแลเฉพาะประตูหลักของวังหลวงหรือที่เรียกว่า ‘อู่เหมิน’ (คือประตูที่ใช้โดยฮ่องเต้เท่านั้น หรือเฉพาะคนที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในโอกาสพิเศษ) ถือว่าเป็นหน่วยราชองครักษ์ที่มี ‘หน้าตา’ กว่าราชองครักษ์กองอื่น  ดูแลความสะอาด: อันนี้แปลก แต่เนื่องจากมีระดับชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เป็นขุนนางติดยศเป็นจำนวนมากและไม่มีหน้าที่ลาดตระเวน จึงถูกใช้ดูแลความสะอาดของเมืองหลวง เช่นกวาดถนนและคูน้ำต่างๆ ฯลฯ  เลี้ยงช้าง: อันนี้ยิ่งแปลก แต่ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในขบวนราชพิธี ตัวอย่างจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง มีพูดถึงขบวนเสด็จราชพิธีบวงสรวงว่าที่มีเสือและช้างเดินนำ การดูแลทำความสะอาดและเลี้ยงช้างเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร ขออภัยหากข้อมูลข้างต้นลดทอนภาพลักษณ์อันหน้าเกรงขามของเหล่าองครักษ์เสื้อแพร และด้วยหน้าที่ที่หลากหลายขององครักษ์เสื้อแพร Storyฯ เลยอยากจะเตือนความทรงจำของเพื่อนเพจถึงบทความที่ Storyฯ เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่องครักษ์เสื้อแพรทุกคนที่ใส่ชุดมัจฉาบินและติดดาบซิ่วชุนได้ เนื่องจากทั้งสองสิ่งเป็นของพระราชทานสำหรับขุนนางติดยศเท่านั้น (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://k.sina.cn/article_1229799315_494d3f9300100l3br.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.52shijing.com/zgls/123948.html http://www.360doc.com/content/17/1108/21/18848094_702172237.shtml https://ppfocus.com/sg/0/hi2ce1da4.html http://www.manyanu.com/new/c67503edffe34e4eb5fa46ac96bc834e #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #จิ่นอีเว่ย #ราชวงศ์หมิง #ประวัติศาสตร์จีน
    同样是锦衣卫造型,朱亚文“厂里厂气”,任嘉伦却赞苏断腿
    近期的古装剧一部接着一部,不知大家注意了没有,有两部戏都是以明朝为背景的。这两部戏就是汤唯、朱亚文主演的《大明风华》以及谭松韵、任嘉伦主演的《锦衣之下》。而且剧
    1 Comments 0 Shares 579 Views 0 Reviews
  • ..ว่าด้วยเรื่องเขมรในเวลานี้ ไม่หยุดหย่อนจริงๆ,เปลี่ยนรัฐบาลได้แล้ว รัฐบาลชุดนี้ไม่ผ่านการเลือกตั้งมาด้วย สอบตกแพ้เลือกตั้งอีก,ทั้งขาดความสามารถทั้งคณะทั้งชุดรัฐบาลชุดครม.ทั้งหมด,สรุปเปลี่ยนรัฐบาลโดยทันทีอาจยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงไปเลย.
    ..จริงๆเมื่อเขมรมามุกนี้ ไทยสวนกลับเรียกคืนทั้งหมดเมื่อฝรั่งเศสแพ้สงครามจบสงครามในอดีตแล้ว,อะไรๆที่ฝรั่งเศลแย่งชิงไปจากไทยทั้งหมดซึ่งพยานหลักฐานเรามีบันทึกไว้หมดแล้ว,นำกลับมาทัังหมด,ลงโทษคนเขมรขับไล่ไปอยู่ชาติฝรั่งเศลทั้งหมดทันที,เราไม่ให้คนเนรคุณสันดานทรยศลืมบุญคุณอยู่ในเขตปกครองราชอาณาจักรไทยร่วมกัน,เช่นนั้นเขมรจะถูกสาปจากกษัตริย์ที่รุ่งโรจน์ยุคอดีตได้อย่างไร,เผ่าพันธุ์คนทรยศเนรคุณ วิธีการของจีนจัดการกับเขมรจึงถูกต้องจริงๆ,แล้วมากล่าวใส่ร้ายว่าไทยคือฝ่ายอเมริกาอีก เขมรคือฝ่ายจีนก็ว่า,เพราะแท้จริงไทยเป็นกลางมาก,ไม่ยอมเข้าพวกกับใครด้วย,ไทอิสระปกครองตนเองและเป็นอธิปไตยเหนือความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจโลกด้วย,จีนเอง อเมริกาเองต่างเข้าใจชัดเจนในจุดยืนไทยกษัตริย์ไทยเราด้วยซึ่งขี้หมาขี้เล็บแบบชุดรัฐบาลนี้จะเข้าใจได้บวกไร้น้ำยาฝีมือปัญญาความสามารถจะเทียบอะไรได้.เหมือนผีในโลงผุปาหี่เล่นละครผีโชว์ชาติผีบ้าที่โง่เขลาหากไม่รู้เท่าทันผีบ้าพวกนี้ปาหี่หลอกลวงได้,ชาตินั้นๆคงโง่มหาศาลก็ว่า,ด้วยบทละครคนทรยศฝั่งไทยกับคนเนรคุณฝั่งเขมรเล่นตีบทแหกตาใส่กัน.
    ..เราไม่ต้องการคนเขมรที่ไร้คุณภาพมาดูแลใต้การปกครองของไทย พื้นที่ที่ฝรั่งเศสเคยยึดครองหากเขมรจะอ้างกันจริงๆไทยเราจะเอาคืนทั้งหมดที่ฝรั่งเศสเอาไปในอดีตก็ได้ในพื้นที่นั้นๆแต่ไม่เอาคนเขมรไว้ในพื้นที่จะไล่ออกขับออกนอกพื้นที่ทั้งหมดทันทีในอนาคตแล้วให้เป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์แทน ใครก็ห้ามเข้าพื้นที่นอกจากคนไทย เป็นที่ดินสาธารณะของคนไทยทั้งประเทศก็ว่า,มิให้คนเขมรอยู่อาศัยทุกๆกรณีที่ยึดคืนมาจากฝรั่งเศสที่แย่งชิงไปในสมัย ร4-ร.5เรา.
    ..ทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐบาลผีบ้าไร้น้ำยาขาดวุฒิภาวะและแพ้เลือกตั้งเถอะ,ขาดคุณสมบัติตัังรัฐบาลแต่ต้น นายกฯไม่ซื่อสัตย์ชุดแรกคือเครื่องพิสูจน์ว่าปัจจุบันซื่อสัตย์จริงมั้ยต่ออธิปไตยของประเทศชาติไทยเรา,ดูๆมวยแล้วมันสงบนิ่งให้เขมรเอาชนะเพื่อยึดประเทศไทยอย่างง่ายๆชัดๆหรือเปิดประตูให้ข้าศึกและพร้อมใจยอมแพ้หมอบกราบแก่ทหารเขมรนั้นล่ะ.,หมายล้มล้างสถาบันเหยียบหน้าสถาบันด้วยไปในตัวผ่านรัฐบาลชุดนี้,หรือทำลายเกียรติอดีตพระมหากษัตริย์เราทั้งทางตรงและทางอ้อม,ดูรัฐบาลอภิสิทธิ์สิเสียเขาพระวิหารไปอย่างจงใจนะเมื่อความจริงกูรูแฉออกมา มันสมคบคิดอยากได้ผลประโยชน์จากทรัพยากรชาติไทยเช่นบ่อน้ำมันนี้ล่ะไม่มีอะไร ยังไปนั่งทำทีว่าด้วยเรื่องคาสิโนอีกปาหี่แหกตาสร้างหรูดูดีปลอมๆหมด,ไม่มีคำว่าซื่อสัตย์อะไร,แหล่งบันเทิงในนามอะไรจะรวมหรือไม่รวมคาสิโนก็ถอนและยกเลิกทิ้งทั้งหมด,จะมีคาสิโนหรือไม่ก็ตามด้วยมาทั้งชุดเขียนคุมๆมาก็ต้องไปทัังชุดทิ้งทั้งชุดเช่นกัน,นี้คือคนไม่ซื่อสัตย์ไปนั่งในเรเวลการปกครองการมีอำนาจและใช้อำนาจเลอะเทอะปัญญาอ่อนมากมายก็ว่าจริงๆ,ชาติไทยจึงโกลาหลไม่หยุดไม่หย่อน,คนเลวเยอะเกินไป,เสียศูนย์นั้นเอง.

    https://youtube.com/watch?v=huoIAFCgo-I&si=huO0wJi4OazBi0Qs
    ..ว่าด้วยเรื่องเขมรในเวลานี้ ไม่หยุดหย่อนจริงๆ,เปลี่ยนรัฐบาลได้แล้ว รัฐบาลชุดนี้ไม่ผ่านการเลือกตั้งมาด้วย สอบตกแพ้เลือกตั้งอีก,ทั้งขาดความสามารถทั้งคณะทั้งชุดรัฐบาลชุดครม.ทั้งหมด,สรุปเปลี่ยนรัฐบาลโดยทันทีอาจยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงไปเลย. ..จริงๆเมื่อเขมรมามุกนี้ ไทยสวนกลับเรียกคืนทั้งหมดเมื่อฝรั่งเศสแพ้สงครามจบสงครามในอดีตแล้ว,อะไรๆที่ฝรั่งเศลแย่งชิงไปจากไทยทั้งหมดซึ่งพยานหลักฐานเรามีบันทึกไว้หมดแล้ว,นำกลับมาทัังหมด,ลงโทษคนเขมรขับไล่ไปอยู่ชาติฝรั่งเศลทั้งหมดทันที,เราไม่ให้คนเนรคุณสันดานทรยศลืมบุญคุณอยู่ในเขตปกครองราชอาณาจักรไทยร่วมกัน,เช่นนั้นเขมรจะถูกสาปจากกษัตริย์ที่รุ่งโรจน์ยุคอดีตได้อย่างไร,เผ่าพันธุ์คนทรยศเนรคุณ วิธีการของจีนจัดการกับเขมรจึงถูกต้องจริงๆ,แล้วมากล่าวใส่ร้ายว่าไทยคือฝ่ายอเมริกาอีก เขมรคือฝ่ายจีนก็ว่า,เพราะแท้จริงไทยเป็นกลางมาก,ไม่ยอมเข้าพวกกับใครด้วย,ไทอิสระปกครองตนเองและเป็นอธิปไตยเหนือความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจโลกด้วย,จีนเอง อเมริกาเองต่างเข้าใจชัดเจนในจุดยืนไทยกษัตริย์ไทยเราด้วยซึ่งขี้หมาขี้เล็บแบบชุดรัฐบาลนี้จะเข้าใจได้บวกไร้น้ำยาฝีมือปัญญาความสามารถจะเทียบอะไรได้.เหมือนผีในโลงผุปาหี่เล่นละครผีโชว์ชาติผีบ้าที่โง่เขลาหากไม่รู้เท่าทันผีบ้าพวกนี้ปาหี่หลอกลวงได้,ชาตินั้นๆคงโง่มหาศาลก็ว่า,ด้วยบทละครคนทรยศฝั่งไทยกับคนเนรคุณฝั่งเขมรเล่นตีบทแหกตาใส่กัน. ..เราไม่ต้องการคนเขมรที่ไร้คุณภาพมาดูแลใต้การปกครองของไทย พื้นที่ที่ฝรั่งเศสเคยยึดครองหากเขมรจะอ้างกันจริงๆไทยเราจะเอาคืนทั้งหมดที่ฝรั่งเศสเอาไปในอดีตก็ได้ในพื้นที่นั้นๆแต่ไม่เอาคนเขมรไว้ในพื้นที่จะไล่ออกขับออกนอกพื้นที่ทั้งหมดทันทีในอนาคตแล้วให้เป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์แทน ใครก็ห้ามเข้าพื้นที่นอกจากคนไทย เป็นที่ดินสาธารณะของคนไทยทั้งประเทศก็ว่า,มิให้คนเขมรอยู่อาศัยทุกๆกรณีที่ยึดคืนมาจากฝรั่งเศสที่แย่งชิงไปในสมัย ร4-ร.5เรา. ..ทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐบาลผีบ้าไร้น้ำยาขาดวุฒิภาวะและแพ้เลือกตั้งเถอะ,ขาดคุณสมบัติตัังรัฐบาลแต่ต้น นายกฯไม่ซื่อสัตย์ชุดแรกคือเครื่องพิสูจน์ว่าปัจจุบันซื่อสัตย์จริงมั้ยต่ออธิปไตยของประเทศชาติไทยเรา,ดูๆมวยแล้วมันสงบนิ่งให้เขมรเอาชนะเพื่อยึดประเทศไทยอย่างง่ายๆชัดๆหรือเปิดประตูให้ข้าศึกและพร้อมใจยอมแพ้หมอบกราบแก่ทหารเขมรนั้นล่ะ.,หมายล้มล้างสถาบันเหยียบหน้าสถาบันด้วยไปในตัวผ่านรัฐบาลชุดนี้,หรือทำลายเกียรติอดีตพระมหากษัตริย์เราทั้งทางตรงและทางอ้อม,ดูรัฐบาลอภิสิทธิ์สิเสียเขาพระวิหารไปอย่างจงใจนะเมื่อความจริงกูรูแฉออกมา มันสมคบคิดอยากได้ผลประโยชน์จากทรัพยากรชาติไทยเช่นบ่อน้ำมันนี้ล่ะไม่มีอะไร ยังไปนั่งทำทีว่าด้วยเรื่องคาสิโนอีกปาหี่แหกตาสร้างหรูดูดีปลอมๆหมด,ไม่มีคำว่าซื่อสัตย์อะไร,แหล่งบันเทิงในนามอะไรจะรวมหรือไม่รวมคาสิโนก็ถอนและยกเลิกทิ้งทั้งหมด,จะมีคาสิโนหรือไม่ก็ตามด้วยมาทั้งชุดเขียนคุมๆมาก็ต้องไปทัังชุดทิ้งทั้งชุดเช่นกัน,นี้คือคนไม่ซื่อสัตย์ไปนั่งในเรเวลการปกครองการมีอำนาจและใช้อำนาจเลอะเทอะปัญญาอ่อนมากมายก็ว่าจริงๆ,ชาติไทยจึงโกลาหลไม่หยุดไม่หย่อน,คนเลวเยอะเกินไป,เสียศูนย์นั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=huoIAFCgo-I&si=huO0wJi4OazBi0Qs
    0 Comments 0 Shares 466 Views 0 Reviews
  • กองทัพอากาศยูเครนยอมรับว่าสูญเสียเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ไปอีกหนึ่งลำเมื่อคืนนี้ ขณะขึ้นบินสกัดการโจมตีของโดรน Geran ของรัสเซีย

    ช่วงเวลากลางคืนต่อเนื่องจนถึงเช้า โดรน Geran-2 ของรัสเซียประมาณ 150 ลำ ทำการโจมตีกองกำลังติดอาวุธยูเครนและโรงงานอุตสาหกรรมการทหารในยูเครน เป้าหมายการโจมตีกระจายไปในภูมิภาคเคียฟ เชอร์นิฮิฟ เชอร์คาซี ซูมี และนิโคลาเยฟ


    กองทัพอากาศยูเครนส่งเครื่องบินรบ F-16 เพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากโดรน แต่ในระหว่างทำการบินอยู่นั้น นักบินรายงานถึง "สถานการณ์ผิดปกติ" เกิดขึ้นบนเครื่องบิน และเร่งบินออกนอกพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย - กองทัพอากาศยูเครนรายงาน


    ครั้งล่าสุดที่มีรายงานการสูญเสียเครื่องบิน F-16 เพิ่งเหิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางกองทัพอากาศยูเครนรายงานในครั้งนั้นว่า เครื่องบินรบ F-16 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจรบได้ถูกทำลายทำให้ นักบิน "พาเวล อิวานอฟ" เสียชีวิต
    กองทัพอากาศยูเครนยอมรับว่าสูญเสียเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ไปอีกหนึ่งลำเมื่อคืนนี้ ขณะขึ้นบินสกัดการโจมตีของโดรน Geran ของรัสเซีย ช่วงเวลากลางคืนต่อเนื่องจนถึงเช้า โดรน Geran-2 ของรัสเซียประมาณ 150 ลำ ทำการโจมตีกองกำลังติดอาวุธยูเครนและโรงงานอุตสาหกรรมการทหารในยูเครน เป้าหมายการโจมตีกระจายไปในภูมิภาคเคียฟ เชอร์นิฮิฟ เชอร์คาซี ซูมี และนิโคลาเยฟ กองทัพอากาศยูเครนส่งเครื่องบินรบ F-16 เพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากโดรน แต่ในระหว่างทำการบินอยู่นั้น นักบินรายงานถึง "สถานการณ์ผิดปกติ" เกิดขึ้นบนเครื่องบิน และเร่งบินออกนอกพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย - กองทัพอากาศยูเครนรายงาน ครั้งล่าสุดที่มีรายงานการสูญเสียเครื่องบิน F-16 เพิ่งเหิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางกองทัพอากาศยูเครนรายงานในครั้งนั้นว่า เครื่องบินรบ F-16 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจรบได้ถูกทำลายทำให้ นักบิน "พาเวล อิวานอฟ" เสียชีวิต
    0 Comments 1 Shares 323 Views 0 Reviews
  • **ดินแดนเนรเทศจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ สองสัปดาห์ที่แล้วเราคุยเรื่องการไถ่โทษเนรเทศ วันนี้เลยมาคุยกันต่อเกี่ยวกับเกร็ดความรู้จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ว่าด้วยดินแดนเนรเทศ

    จิ่วฉงจื่อฯ เป็นเรื่องราวในราชวงศ์สมมุติแต่เสื้อผ้าและสภาพสังคมอิงตามสมัยหมิง และในเรื่องนี้ บุรุษในครอบครัวสกุลเจี่ยงของติ้งกั๋วกงเจี่ยงเหมยซุน (ลุงของพระเอก) ถูกเนรเทศไปยังพื้นที่ที่มีชื่อว่า ‘เถียหลิ่งเว่ย’ ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนเนรเทศยอดนิยมทางเหนือในสมัยนั้น

    แรกเริ่มเลยในสมัยบรรพกาล หากมีการเนรเทศจะนิยมส่งไปพื้นที่โยวโจว (แถบปักกิ่งปัจจุบัน) ต่อมามีการใช้พื้นที่อื่น ซึ่งโดยหลักการคือต้องเป็นพื้นที่ทุรกันดารและด้อยพัฒนา ไม่ว่าจะด้วยสภาพดินฟ้าอากาศหรือภูมิประเทศ ในสมัยฮั่นนิยมใช้พื้นที่แถบภูเขาทางตะวันตกในมณฑลเสฉวน เนื่องจากหนาวเย็น ไกลจากเส้นทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจ อีกทั้งภูมิประเทศเป็นเขาสูงทำให้ง่ายต่อการกักบริเวณนักโทษ ต่อมาเมื่อมีการขยายดินแดนและพัฒนาเศรษฐกิจลงใต้ ก็ยิ่งส่งนักโทษเนรเทศลงใต้ไปไกลยิ่งขึ้นโดยมีพื้นที่ยอดฮิตคือแถบหลิ่งหนานและไห่หนาน (กวางเจา กวางซี ฯลฯ) และไกลลงไปถึงเวียดนาม ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ห่างไกลความเจริญและมีพายุฝนและสภาพอากาศร้อนชื้น ง่ายต่อการล้มป่วย นับว่าทุรกันดารไม่แพ้กัน จวบจนยุคถังและซ่งก็ยังนิยมใช้พื้นที่ติดชายแดนทางตอนใต้นี้ (ดูรูปประกอบขวาบน)

    ส่วนพื้นที่ทางเหนือที่นิยมใช้เป็นดินแดนเนรเทศนั้น คือพื้นที่ทหารทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวมากและชีวิตความเป็นอยู่ลำเค็ญ อีกทั้งการเดินทางไปมาก็ยากลำบาก มักถูกเรียกรวมว่า ‘ขู่หานจือตี้’ (แปลตรงตัวว่าพื้นที่หนาวมากและยากลำบาก) (ดูรูปประกอบขวาล่าง) แต่การใช้พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดินแดนเนรเทศไม่สามารถทำได้ทุกยุคสมัย เนื่องจากดินแดนดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบครองของอาณาจักรภาคกลางเสมอไป จวบจนสมัยหยวนเป็นต้นมาจึงกลายเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยม โดยมีหลักการว่า คนจากพื้นที่ทางใต้จะถูกเนรเทศไปยังแดนเหนือ และคนจากพื้นที่ทางเหนือจะถูกเนรเทศลงใต้

    ในสมัยหมิง พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเป็นดินแดนเนรเทศยอดนิยม โดยพื้นที่เถียหลิ่งเว่ยที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ นี้เป็นที่นิยมในช่วงยุคกลางของสมัยหมิง ต่อมาในสมัยชิงจึงเปลี่ยนไปเป็นหนิงกู๋ถ่าและเฮยหลงเจียง

    นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือที่ไม่ได้มีลงไว้ในรูปประกอบ ซึ่งก็คือบริเวณซีอวี้หรือซินเกียงปัจจุบัน ซึ่งเป็นดินแดนเนรเทศในสมัยฮั่น แต่ต่อมาเนื่องจากการครอบครองพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จึงไม่ได้มีการส่งนักโทษเนรเทศไปยังพื้นที่นี้อีกต่อไปจวบจนสมัยชิงจึงกลับมาเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยมอีกครั้ง

    เพื่อนเพจอาจติดภาพลักษณ์จากในซีรีส์ว่านักโทษเนรเทศจะถูกตีตรวนและมีการกักบริเวณ ทั้งนี้ ในหลายกรณีนักโทษเนรเทศเหล่านี้จะถูกใช้เป็นแรงงานในค่ายทหารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพทางชายแดน นักโทษจึงทำหน้าที่หลากหลาย เช่นเผาฟืนทำถ่าน ทำการเกษตร ฯลฯ เหมือนอย่างการถูกเนรเทศไปยังเถียหลิ่งเว่ยซึ่งเป็นพื้นที่ทหารอย่างในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ เป็นต้น

    แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นักโทษเนรเทศทุกคนที่ต้องอยู่ภายในค่ายกักกัน การเนรเทศยังมีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งคือเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น นักโทษอาจถูกลงทะเบียนเป็นทาสรับใช้ทำงานให้ผู้มีอันจะกินในพื้นที่นั้นๆ (ซึ่งก็อาจเป็นแรงงานหนักและถูกกักบริเวณโดยผู้เป็นนายได้) หรืออาจเพียงถูกปล่อยทิ้งให้ใช้ชีวิตในดินแดนเนรเทศตามบุญตามกรรม ซึ่งหากเป็นอย่างหลังก็คือต้องขึ้นทะเบียนราษฎร์ในพื้นที่นั้นๆ เดินทางออกนอกพื้นที่ไม่ได้ แต่สามารถทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ในบางรัชสมัยยังอนุญาตให้สมาชิกครอบครัวฝ่ายหญิงเดินทางย้ายรกรากไปอยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวฝ่ายชายได้ด้วย อย่าลืมว่านักโทษเนรเทศจำนวนมากเป็นนักโทษทางการเมืองเช่นอดีตขุนนางที่มีการศึกษา พวกเขาจึงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมไปยังพื้นที่ทุรกันดารเหล่านี้

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g63130394/blossom-highlights/
    https://news.qq.com/rain/a/20250305A08SXM00
    https://news.qq.com/rain/a/20230809A078JQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.xinghuozhiku.com/76834.html
    https://m.fx361.com/news/2018/0201/16397999.html
    http://www.fs7000.com/news/?12143.html
    https://news.qq.com/rain/a/20240427A081KW00
    https://www.163.com/dy/article/HDA24IDA0552XK8U.html

    #จิ่วฉงจื่อ #ดินแดนเนรเทศ #เถียหลิ่งเว่ย #โทษเนรเทศ #สาระจีน
    **ดินแดนเนรเทศจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ สองสัปดาห์ที่แล้วเราคุยเรื่องการไถ่โทษเนรเทศ วันนี้เลยมาคุยกันต่อเกี่ยวกับเกร็ดความรู้จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ว่าด้วยดินแดนเนรเทศ จิ่วฉงจื่อฯ เป็นเรื่องราวในราชวงศ์สมมุติแต่เสื้อผ้าและสภาพสังคมอิงตามสมัยหมิง และในเรื่องนี้ บุรุษในครอบครัวสกุลเจี่ยงของติ้งกั๋วกงเจี่ยงเหมยซุน (ลุงของพระเอก) ถูกเนรเทศไปยังพื้นที่ที่มีชื่อว่า ‘เถียหลิ่งเว่ย’ ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนเนรเทศยอดนิยมทางเหนือในสมัยนั้น แรกเริ่มเลยในสมัยบรรพกาล หากมีการเนรเทศจะนิยมส่งไปพื้นที่โยวโจว (แถบปักกิ่งปัจจุบัน) ต่อมามีการใช้พื้นที่อื่น ซึ่งโดยหลักการคือต้องเป็นพื้นที่ทุรกันดารและด้อยพัฒนา ไม่ว่าจะด้วยสภาพดินฟ้าอากาศหรือภูมิประเทศ ในสมัยฮั่นนิยมใช้พื้นที่แถบภูเขาทางตะวันตกในมณฑลเสฉวน เนื่องจากหนาวเย็น ไกลจากเส้นทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจ อีกทั้งภูมิประเทศเป็นเขาสูงทำให้ง่ายต่อการกักบริเวณนักโทษ ต่อมาเมื่อมีการขยายดินแดนและพัฒนาเศรษฐกิจลงใต้ ก็ยิ่งส่งนักโทษเนรเทศลงใต้ไปไกลยิ่งขึ้นโดยมีพื้นที่ยอดฮิตคือแถบหลิ่งหนานและไห่หนาน (กวางเจา กวางซี ฯลฯ) และไกลลงไปถึงเวียดนาม ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ห่างไกลความเจริญและมีพายุฝนและสภาพอากาศร้อนชื้น ง่ายต่อการล้มป่วย นับว่าทุรกันดารไม่แพ้กัน จวบจนยุคถังและซ่งก็ยังนิยมใช้พื้นที่ติดชายแดนทางตอนใต้นี้ (ดูรูปประกอบขวาบน) ส่วนพื้นที่ทางเหนือที่นิยมใช้เป็นดินแดนเนรเทศนั้น คือพื้นที่ทหารทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวมากและชีวิตความเป็นอยู่ลำเค็ญ อีกทั้งการเดินทางไปมาก็ยากลำบาก มักถูกเรียกรวมว่า ‘ขู่หานจือตี้’ (แปลตรงตัวว่าพื้นที่หนาวมากและยากลำบาก) (ดูรูปประกอบขวาล่าง) แต่การใช้พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดินแดนเนรเทศไม่สามารถทำได้ทุกยุคสมัย เนื่องจากดินแดนดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบครองของอาณาจักรภาคกลางเสมอไป จวบจนสมัยหยวนเป็นต้นมาจึงกลายเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยม โดยมีหลักการว่า คนจากพื้นที่ทางใต้จะถูกเนรเทศไปยังแดนเหนือ และคนจากพื้นที่ทางเหนือจะถูกเนรเทศลงใต้ ในสมัยหมิง พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเป็นดินแดนเนรเทศยอดนิยม โดยพื้นที่เถียหลิ่งเว่ยที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ นี้เป็นที่นิยมในช่วงยุคกลางของสมัยหมิง ต่อมาในสมัยชิงจึงเปลี่ยนไปเป็นหนิงกู๋ถ่าและเฮยหลงเจียง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือที่ไม่ได้มีลงไว้ในรูปประกอบ ซึ่งก็คือบริเวณซีอวี้หรือซินเกียงปัจจุบัน ซึ่งเป็นดินแดนเนรเทศในสมัยฮั่น แต่ต่อมาเนื่องจากการครอบครองพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จึงไม่ได้มีการส่งนักโทษเนรเทศไปยังพื้นที่นี้อีกต่อไปจวบจนสมัยชิงจึงกลับมาเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยมอีกครั้ง เพื่อนเพจอาจติดภาพลักษณ์จากในซีรีส์ว่านักโทษเนรเทศจะถูกตีตรวนและมีการกักบริเวณ ทั้งนี้ ในหลายกรณีนักโทษเนรเทศเหล่านี้จะถูกใช้เป็นแรงงานในค่ายทหารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพทางชายแดน นักโทษจึงทำหน้าที่หลากหลาย เช่นเผาฟืนทำถ่าน ทำการเกษตร ฯลฯ เหมือนอย่างการถูกเนรเทศไปยังเถียหลิ่งเว่ยซึ่งเป็นพื้นที่ทหารอย่างในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ เป็นต้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นักโทษเนรเทศทุกคนที่ต้องอยู่ภายในค่ายกักกัน การเนรเทศยังมีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งคือเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น นักโทษอาจถูกลงทะเบียนเป็นทาสรับใช้ทำงานให้ผู้มีอันจะกินในพื้นที่นั้นๆ (ซึ่งก็อาจเป็นแรงงานหนักและถูกกักบริเวณโดยผู้เป็นนายได้) หรืออาจเพียงถูกปล่อยทิ้งให้ใช้ชีวิตในดินแดนเนรเทศตามบุญตามกรรม ซึ่งหากเป็นอย่างหลังก็คือต้องขึ้นทะเบียนราษฎร์ในพื้นที่นั้นๆ เดินทางออกนอกพื้นที่ไม่ได้ แต่สามารถทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ในบางรัชสมัยยังอนุญาตให้สมาชิกครอบครัวฝ่ายหญิงเดินทางย้ายรกรากไปอยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวฝ่ายชายได้ด้วย อย่าลืมว่านักโทษเนรเทศจำนวนมากเป็นนักโทษทางการเมืองเช่นอดีตขุนนางที่มีการศึกษา พวกเขาจึงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมไปยังพื้นที่ทุรกันดารเหล่านี้ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g63130394/blossom-highlights/ https://news.qq.com/rain/a/20250305A08SXM00 https://news.qq.com/rain/a/20230809A078JQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.xinghuozhiku.com/76834.html https://m.fx361.com/news/2018/0201/16397999.html http://www.fs7000.com/news/?12143.html https://news.qq.com/rain/a/20240427A081KW00 https://www.163.com/dy/article/HDA24IDA0552XK8U.html #จิ่วฉงจื่อ #ดินแดนเนรเทศ #เถียหลิ่งเว่ย #โทษเนรเทศ #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 758 Views 0 Reviews
  • กองทัพอากาศชี้แจงกรณีเครื่องบินลำเลียง บ.ล.8 ประสบอุบัติเหตุ ณ สนามบินสมุย------------------------------ พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.30 น. เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) สังกัดฝูงบิน 601 กองบิน 6 ปฏิบัติภารกิจฝึกบินในเส้นทาง ดอนเมือง - ตรัง - สมุย - ดอนเมือง ได้จอดที่สนามบินสมุย ระหว่างดำเนินการติดเครื่องยนต์ตามขั้นตอนปกติภาคพื้นดิน นักบินตรวจพบข้อขัดข้องของระบบห้ามล้อและไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ ทำให้เครื่องบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าออกนอกพื้นที่จอด และเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างลานจอดจำนวน 1 ต้น แล้วหยุดที่บริเวณพุ่มไม้หน้าลานจอด นักบินได้ดำเนินการตามมาตรการฉุกเฉินโดยสั่งอพยพผู้โดยสารทั้งหมดผ่านทางด้านท้ายของเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้ปฏิบัติงานบนเครื่อง 8 นาย และผู้โดยสาร 54 คน รวม 62 คน ทุกคนปลอดภัยและไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ความเสียหายเบื้องต้นที่ตรวจพบ ได้แก่ ส่วนชายหน้าปีกซ้ายเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า และด้านหน้าของเครื่องบินชนกับป้ายแสดงจุดจอด และพุ่มไม้บริเวณสนามบิน กองทัพอากาศให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยในการบิน ความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนโดยรอบ และขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนหรือโครงสร้างสนามบิน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานนิรภัยทหารอากาศ (สนภ.ทอ.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อค้นหาสาเหตุและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต------------------------------สำนักงานโฆษกกองทัพอากาศ2 พฤษภาคม 2568
    กองทัพอากาศชี้แจงกรณีเครื่องบินลำเลียง บ.ล.8 ประสบอุบัติเหตุ ณ สนามบินสมุย------------------------------ พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.30 น. เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) สังกัดฝูงบิน 601 กองบิน 6 ปฏิบัติภารกิจฝึกบินในเส้นทาง ดอนเมือง - ตรัง - สมุย - ดอนเมือง ได้จอดที่สนามบินสมุย ระหว่างดำเนินการติดเครื่องยนต์ตามขั้นตอนปกติภาคพื้นดิน นักบินตรวจพบข้อขัดข้องของระบบห้ามล้อและไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ ทำให้เครื่องบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าออกนอกพื้นที่จอด และเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างลานจอดจำนวน 1 ต้น แล้วหยุดที่บริเวณพุ่มไม้หน้าลานจอด นักบินได้ดำเนินการตามมาตรการฉุกเฉินโดยสั่งอพยพผู้โดยสารทั้งหมดผ่านทางด้านท้ายของเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้ปฏิบัติงานบนเครื่อง 8 นาย และผู้โดยสาร 54 คน รวม 62 คน ทุกคนปลอดภัยและไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ความเสียหายเบื้องต้นที่ตรวจพบ ได้แก่ ส่วนชายหน้าปีกซ้ายเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า และด้านหน้าของเครื่องบินชนกับป้ายแสดงจุดจอด และพุ่มไม้บริเวณสนามบิน กองทัพอากาศให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยในการบิน ความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนโดยรอบ และขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนหรือโครงสร้างสนามบิน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานนิรภัยทหารอากาศ (สนภ.ทอ.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อค้นหาสาเหตุและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต------------------------------สำนักงานโฆษกกองทัพอากาศ2 พฤษภาคม 2568
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • "เราแสดงออกอย่างชัดเจนถึงแผนการของเรา ฮามาสจะต้องถูกปลดอาวุธ ผู้นำฮามาสจะได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาโดยไม่มีวันได้กลับมาอีก อิสราเอลจะรับประกันความปลอดภัยเหนือฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการเข้าควบคุมแทนที่ฮามาส และแผนอพยพของทรัมป์จะต้องถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง(คือการอพยพชาวกาซาออกไปจากดินแดนทั้งหมด) นี่คือแผนของเรา เราไม่เคยปิดบังมัน"

    นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรี:

    นอจกากนี้ เนรทันยาฮูยังกล่าวอีกว่า
    “แรงกดดันทางการทหารควบคู่ไปกับการเจรจาเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ได้ตัวประกันกลับมา นี่ไม่ใช่แค่คำพูดเลื่อนลอยอย่างไร้สาระ”


    “เช้านี้ ผมอยากพูดถึง 3H: อันดับแรกคือฮามาส จากนั้นคือฮิซบอลเลาะห์ และสุดท้ายคือฮูตี”

    เกี่ยวกับฮามาสในฉนวนกาซา:

    “แรงกดดันทางการทหารมันใช้ได้ผล เพราะมันทำลายศักยภาพทางการทหารและการปกครองของฮามาสไปพร้อมกัน และยังสร้างเงื่อนไขสำหรับการปล่อยตัวตัวประกันของเรา นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่”

    “นอกจากนี้ ที่ประชุมด้านความมั่นคงมีมติเพิ่มแรงกดดันทางทหารให้หนักหน่วงกว่าเดิมขุ้นไปอีกเพื่อทำลายฮามาสให้มากขึ้น และเพิ่มเงื่อนไขสำหรับการปล่อยตัวตัวประกันของเราให้มากที่สุด”

    “ผมขอโต้แย้งถึงคำหลอกลวง 3 ข้อที่มุ่งเป้าใส่ร้ายมาที่เรามาอย่างต่อเนื่องซึ่งมันยังคงดำเนินอยู่:”

    1. “เราไม่คิดจริงจังเรื่องการเจรจา?” “มันไม่จริเลยง เราแค่กำลังเจรจาภายใต้การโจมตีและกดดันทางทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การเจรจาได้ผล ตอนนี้เรากำลังเริ่มเห็นความแตกแยกในฮามาสและกาซา” (หมายถึงชาวกาซาส่วนหนึ่งกำลังประท้วงให้ฮามาสออกนอกพื้นที่ ซึ่งในความเป็นจริง ชาวกาซาประท้วงไม่เอาสงคราม ต้องการขับไล่ทั้งฮามาสและอิสราเอล)


    2. “เราไม่จริงใจในการเจรจาขั้นต่อไป?”
    “นี่ไม่ใช่เรื่องจริงเช่นกัน เรายินดีเจรจา และเราแสดงออกอย่างชัดเจนถึงแผนการของเรา ฮามาสจะต้องถูกปลดอาวุธ ผู้นำฮามาสจะได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาโดยไม่มีวันได้กลับมาอีก อิสราเอลจะรับประกันความปลอดภัยเหนือฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการเข้าควบคุมแทนที่ฮามาส และแผนอพยพของทรัมป์จะต้องถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง(คือการอพยพชาวกาซาออกไปจากดินแดนทั้งหมด) นี่คือแผนของเรา เราไม่เคยปิดบังมัน”


    3. “เราไม่สนใจตัวประกัน?”
    “ไม่จริงเช่นกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราเพิ่งไปพบปะพูดคุยกันอย่างลึกซึ้งกับครอบครัวสี่ครอบครัวของตัวประกัน เราไปรับรู้ความเจ็บปวดของพวกเขา ซึ่งมันยิ่งใหญ่มาก การอ้างว่าเราไม่สนใจนั้นสะท้อนให้เห็นการโฆษณาชวนเชื่อของฮามาสที่ตั้งใจแบ่งแยกเราและบิดเบือนความเป็นจริง”

    “เราให้คำมั่นที่จะนำตัวประกันกลับบ้านและกำลังดำเนินการอย่างจริงจัง จนถึงขณะนี้ มีเพียงแรงกดดันทางการทหารและการทูตเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คำขวัญลมๆ แล้งๆ จากผู้เชี่ยวชาญที่ประกาศตนเป็นผู้เชี่ยวชาญ”
    .

    เกี่ยวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์:
    “ในเลบานอน คำสั่งจากผม รัฐมนตรีกลาโหม และคณะรัฐมนตรี และกองทัพอิสราเอล คือการบังคับใช้กฎของเราอย่างเข้มงวดและไม่มีการประนีประนอม เราไม่ยอมให้มีการ “แทรกแซง” ใดๆ และไม่มีการผ่อนปรน”

    “เราบอกไปถึงเลบานอน จะต้องคอยดูแลรับผิดชอบในดินแดนของพวกเขา และต้องแน่ใจว่าจะไม่มีการปล่อยให้ใครโจมตีอิสราเอล”


    เกี่ยวกับกลุ่มฮูตี:

    “ผมซาบซึ้งอย่างยิ่งต่อการกระทำของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา พวกเขากำลังจัดการกับกลุ่มฮูตีด้วยกำลังที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่า เรายังดำเนินการเพื่อปกป้องตัวเองด้วย ดังที่เห็นเมื่อเร็วๆ นี้”

    “เราให้ความสำคัญกับพันธมิตรของเราเสมอ เรามีพันธมิตรกับมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสนับสนุนเราอย่างแข็งแกร่ง ทั้งที่นี่และในเวทีอื่นๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข ”
    "เราแสดงออกอย่างชัดเจนถึงแผนการของเรา ฮามาสจะต้องถูกปลดอาวุธ ผู้นำฮามาสจะได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาโดยไม่มีวันได้กลับมาอีก อิสราเอลจะรับประกันความปลอดภัยเหนือฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการเข้าควบคุมแทนที่ฮามาส และแผนอพยพของทรัมป์จะต้องถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง(คือการอพยพชาวกาซาออกไปจากดินแดนทั้งหมด) นี่คือแผนของเรา เราไม่เคยปิดบังมัน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรี: นอจกากนี้ เนรทันยาฮูยังกล่าวอีกว่า “แรงกดดันทางการทหารควบคู่ไปกับการเจรจาเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ได้ตัวประกันกลับมา นี่ไม่ใช่แค่คำพูดเลื่อนลอยอย่างไร้สาระ” “เช้านี้ ผมอยากพูดถึง 3H: อันดับแรกคือฮามาส จากนั้นคือฮิซบอลเลาะห์ และสุดท้ายคือฮูตี” 👉เกี่ยวกับฮามาสในฉนวนกาซา: “แรงกดดันทางการทหารมันใช้ได้ผล เพราะมันทำลายศักยภาพทางการทหารและการปกครองของฮามาสไปพร้อมกัน และยังสร้างเงื่อนไขสำหรับการปล่อยตัวตัวประกันของเรา นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่” “นอกจากนี้ ที่ประชุมด้านความมั่นคงมีมติเพิ่มแรงกดดันทางทหารให้หนักหน่วงกว่าเดิมขุ้นไปอีกเพื่อทำลายฮามาสให้มากขึ้น และเพิ่มเงื่อนไขสำหรับการปล่อยตัวตัวประกันของเราให้มากที่สุด” “ผมขอโต้แย้งถึงคำหลอกลวง 3 ข้อที่มุ่งเป้าใส่ร้ายมาที่เรามาอย่างต่อเนื่องซึ่งมันยังคงดำเนินอยู่:” 1. “เราไม่คิดจริงจังเรื่องการเจรจา?” “มันไม่จริเลยง เราแค่กำลังเจรจาภายใต้การโจมตีและกดดันทางทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การเจรจาได้ผล ตอนนี้เรากำลังเริ่มเห็นความแตกแยกในฮามาสและกาซา” (หมายถึงชาวกาซาส่วนหนึ่งกำลังประท้วงให้ฮามาสออกนอกพื้นที่ ซึ่งในความเป็นจริง ชาวกาซาประท้วงไม่เอาสงคราม ต้องการขับไล่ทั้งฮามาสและอิสราเอล) 2. “เราไม่จริงใจในการเจรจาขั้นต่อไป?” “นี่ไม่ใช่เรื่องจริงเช่นกัน เรายินดีเจรจา และเราแสดงออกอย่างชัดเจนถึงแผนการของเรา ฮามาสจะต้องถูกปลดอาวุธ ผู้นำฮามาสจะได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาโดยไม่มีวันได้กลับมาอีก อิสราเอลจะรับประกันความปลอดภัยเหนือฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการเข้าควบคุมแทนที่ฮามาส และแผนอพยพของทรัมป์จะต้องถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง(คือการอพยพชาวกาซาออกไปจากดินแดนทั้งหมด) นี่คือแผนของเรา เราไม่เคยปิดบังมัน” 3. “เราไม่สนใจตัวประกัน?” “ไม่จริงเช่นกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราเพิ่งไปพบปะพูดคุยกันอย่างลึกซึ้งกับครอบครัวสี่ครอบครัวของตัวประกัน เราไปรับรู้ความเจ็บปวดของพวกเขา ซึ่งมันยิ่งใหญ่มาก การอ้างว่าเราไม่สนใจนั้นสะท้อนให้เห็นการโฆษณาชวนเชื่อของฮามาสที่ตั้งใจแบ่งแยกเราและบิดเบือนความเป็นจริง” “เราให้คำมั่นที่จะนำตัวประกันกลับบ้านและกำลังดำเนินการอย่างจริงจัง จนถึงขณะนี้ มีเพียงแรงกดดันทางการทหารและการทูตเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คำขวัญลมๆ แล้งๆ จากผู้เชี่ยวชาญที่ประกาศตนเป็นผู้เชี่ยวชาญ” . 👉เกี่ยวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์: “ในเลบานอน คำสั่งจากผม รัฐมนตรีกลาโหม และคณะรัฐมนตรี และกองทัพอิสราเอล คือการบังคับใช้กฎของเราอย่างเข้มงวดและไม่มีการประนีประนอม เราไม่ยอมให้มีการ “แทรกแซง” ใดๆ และไม่มีการผ่อนปรน” “เราบอกไปถึงเลบานอน จะต้องคอยดูแลรับผิดชอบในดินแดนของพวกเขา และต้องแน่ใจว่าจะไม่มีการปล่อยให้ใครโจมตีอิสราเอล” 👉เกี่ยวกับกลุ่มฮูตี: “ผมซาบซึ้งอย่างยิ่งต่อการกระทำของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา พวกเขากำลังจัดการกับกลุ่มฮูตีด้วยกำลังที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่า เรายังดำเนินการเพื่อปกป้องตัวเองด้วย ดังที่เห็นเมื่อเร็วๆ นี้” “เราให้ความสำคัญกับพันธมิตรของเราเสมอ เรามีพันธมิตรกับมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสนับสนุนเราอย่างแข็งแกร่ง ทั้งที่นี่และในเวทีอื่นๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข ”
    0 Comments 0 Shares 820 Views 0 Reviews
  • สหรัฐ รัสเซียและยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา

    ข้อตกลงดังกล่าว จะรวมถึงการรับรองความปลอดภัยเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ในทะเลดำ และเป้าหมายโครงสร้างพื้ฐานด้านพลังงานของแต่ละฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย โรงกลั่นน้ำมัน, ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ และสถานีนิวเคลียร์ต่าง ๆ อยู่ในเป้าหมายที่รัสเซียและยูเครนตกลงหยุดการโจมตีชั่วคราว ซึ่งในบัญชีรายชื่อสถานที่ห้ามโจมตีนั้น รวมถึงโรงเก็บเชื้อเพลิง, สถานสูบน้ำมัน, โรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานการผลิตและส่งไฟฟ้า เช่นโรงไฟฟ้า, สถานีย่อย, เครื่องแปลงไฟฟ้า, เครื่องจ่ายไฟฟ้าและเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลง อีกฝ่ายหนึ่งก็จะไม่ต้องปฏิบัติตามเช่นกัน

    ขณะที่ รุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนประกาศกร้าวว่า เคียฟจะตั้งเงื่อนไข หากรัสเซียมีการเคลื่อนไหวของเรือรบออกนอกพื้นที่ทะเลดำฝั่งตะวันออกเมื่อไหร่จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทันที!!
    สหรัฐ รัสเซียและยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงดังกล่าว จะรวมถึงการรับรองความปลอดภัยเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ในทะเลดำ และเป้าหมายโครงสร้างพื้ฐานด้านพลังงานของแต่ละฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย โรงกลั่นน้ำมัน, ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ และสถานีนิวเคลียร์ต่าง ๆ อยู่ในเป้าหมายที่รัสเซียและยูเครนตกลงหยุดการโจมตีชั่วคราว ซึ่งในบัญชีรายชื่อสถานที่ห้ามโจมตีนั้น รวมถึงโรงเก็บเชื้อเพลิง, สถานสูบน้ำมัน, โรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานการผลิตและส่งไฟฟ้า เช่นโรงไฟฟ้า, สถานีย่อย, เครื่องแปลงไฟฟ้า, เครื่องจ่ายไฟฟ้าและเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลง อีกฝ่ายหนึ่งก็จะไม่ต้องปฏิบัติตามเช่นกัน ขณะที่ รุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนประกาศกร้าวว่า เคียฟจะตั้งเงื่อนไข หากรัสเซียมีการเคลื่อนไหวของเรือรบออกนอกพื้นที่ทะเลดำฝั่งตะวันออกเมื่อไหร่จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทันที!!
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 481 Views 0 Reviews
  • เลย - คนภูกระดึงบ่นอุบ เศรษฐกิจแย่เงียบจนยินเสียงใบไม้ตก ขึ้นป้ายพรึ่บทั้งเมืองต้องการกระเช้าขึ้นภู ย้ำกลุ่มคนคัดค้านมีแต่คนนอกพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวที่แข็งแรงอ้างแต่เรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่หารู้ไม่ว่าคนท้องถิ่นขาดรายได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้พื้นที่อำเภอภูกระดึง กระแสเรียกร้องให้มีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง โดยตามบ้านเรือน ร้านค้าหลายหลังได้ขึ้นป้ายเล็กป้ายใหญ่ด้วยข้อความสนับสนุนให้รัฐบาลสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่มากขึ้น เศรษฐกิจการค้าขายจะได้คึกคัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000019013

    #MGROnline #เลย #ภูกระดึง
    เลย - คนภูกระดึงบ่นอุบ เศรษฐกิจแย่เงียบจนยินเสียงใบไม้ตก ขึ้นป้ายพรึ่บทั้งเมืองต้องการกระเช้าขึ้นภู ย้ำกลุ่มคนคัดค้านมีแต่คนนอกพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวที่แข็งแรงอ้างแต่เรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่หารู้ไม่ว่าคนท้องถิ่นขาดรายได้ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้พื้นที่อำเภอภูกระดึง กระแสเรียกร้องให้มีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง โดยตามบ้านเรือน ร้านค้าหลายหลังได้ขึ้นป้ายเล็กป้ายใหญ่ด้วยข้อความสนับสนุนให้รัฐบาลสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่มากขึ้น เศรษฐกิจการค้าขายจะได้คึกคัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000019013 • #MGROnline #เลย #ภูกระดึง
    0 Comments 0 Shares 386 Views 0 Reviews
  • ท่องเที่ยวTikTok@offthemap_official #นอกพื้นที่ #ไทย #ท่องเที่ยว #ว่างว่างก็แวะมา
    ท่องเที่ยวTikTok@offthemap_official #นอกพื้นที่ #ไทย #ท่องเที่ยว #ว่างว่างก็แวะมา
    0 Comments 0 Shares 448 Views 0 1 Reviews
  • หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา (CISA) ได้แจ้งเตือนนักพัฒนาและผู้ผลิตซอฟต์แวร์ว่าช่องโหว่ buffer overflow จะต้องถูกกำจัดออกจากซอฟต์แวร์โดยเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ (secure by design) และยกตัวอย่างช่องโหว่จริง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการ Windows, ลินุกซ์, และผลิตภัณฑ์ VPN

    ช่องโหว่ buffer overflow เกิดขึ้นเมื่อมีการเข้าถึงหรือเขียนข้อมูลออกนอกพื้นที่หน่วยความจำที่กำหนดไว้ ซึ่งสามารถนำไปสู่การกระทำที่เป็นอันตราย เช่น การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ การหยุดทำงานของระบบ หรือการรันโค้ดที่เป็นอันตรายจากระยะไกล

    CISA ยังได้เน้นถึงการใช้ภาษาโปรแกรมที่ปลอดภัยต่อหน่วยความจำ เช่น Rust หรือ Go และการตั้งค่าคอมไพเลอร์เพื่อตรวจจับข้อบกพร่อง buffer overflow ก่อนการใช้งานจริง นอกจากนี้ยังมีการทดสอบผลิตภัณฑ์เป็นประจำเพื่อป้องกันช่องโหว่เหล่านี้

    การพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้าม เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบและข้อมูล

    https://www.techspot.com/news/106770-us-cyber-defense-agency-urges-developers-eliminate-buffer.html
    หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา (CISA) ได้แจ้งเตือนนักพัฒนาและผู้ผลิตซอฟต์แวร์ว่าช่องโหว่ buffer overflow จะต้องถูกกำจัดออกจากซอฟต์แวร์โดยเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ (secure by design) และยกตัวอย่างช่องโหว่จริง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการ Windows, ลินุกซ์, และผลิตภัณฑ์ VPN ช่องโหว่ buffer overflow เกิดขึ้นเมื่อมีการเข้าถึงหรือเขียนข้อมูลออกนอกพื้นที่หน่วยความจำที่กำหนดไว้ ซึ่งสามารถนำไปสู่การกระทำที่เป็นอันตราย เช่น การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ การหยุดทำงานของระบบ หรือการรันโค้ดที่เป็นอันตรายจากระยะไกล CISA ยังได้เน้นถึงการใช้ภาษาโปรแกรมที่ปลอดภัยต่อหน่วยความจำ เช่น Rust หรือ Go และการตั้งค่าคอมไพเลอร์เพื่อตรวจจับข้อบกพร่อง buffer overflow ก่อนการใช้งานจริง นอกจากนี้ยังมีการทดสอบผลิตภัณฑ์เป็นประจำเพื่อป้องกันช่องโหว่เหล่านี้ การพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้าม เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบและข้อมูล https://www.techspot.com/news/106770-us-cyber-defense-agency-urges-developers-eliminate-buffer.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US cyber defense agency urges developers to eliminate buffer overflow vulnerabilities
    CISA has issued a new alert about buffer overflow vulnerabilities, urging the software industry to adopt proper programming practices to eliminate an entire class of dangerous security...
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • สถานการณ์ในเลบานอนตอนใต้กำลังวุ่นวายขั้นสูงสุด เนื่องจากในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะครบกำหนดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ พลเมืองเลบานอนที่ถูกบังคับให้ออกนอกพื้นที่ทางตอนใต้ทะยอยเดินทางกลับเข้าที่อยู่ของตนเองเพิ่มมากขึ้น

    ในขณะที่อิสราเอลประกาศยืนยันขยายเวลาถอนกำลังกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ชาวเลบานอนไม่สนใจ ยังคงเดินหน้ากลับสู่ถิ่นฐานของตนเอง ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับกองกำลังของอิสราเอล โดยมีกองทัพเลบานอนสังเกตการณ์เพื่อคอยให้การสนับสนุนพลเมืองของพวกเขา

    ล่าสุด กองกำลังอิสราเอลเริ่มทะยอยถอนกำลังออกจากพื้นที่เลบานอนตอนใต้อย่างไม่เต็มใจ เพราะไม่สามารถทนต่อแรงกดดันของประชาชนเลบานอนได้!

    ทางด้านเฮซบอลเลาะห์ถึงกับออกแถลงการณ์สดุดีในความความกล้าหาญของประชาชนชาวเลบานอนเลยทีเดียว

    "ช่างแตกต่างจากซีเรียโดยสิ้นเชิง!"
    สถานการณ์ในเลบานอนตอนใต้กำลังวุ่นวายขั้นสูงสุด เนื่องจากในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะครบกำหนดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ พลเมืองเลบานอนที่ถูกบังคับให้ออกนอกพื้นที่ทางตอนใต้ทะยอยเดินทางกลับเข้าที่อยู่ของตนเองเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อิสราเอลประกาศยืนยันขยายเวลาถอนกำลังกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ชาวเลบานอนไม่สนใจ ยังคงเดินหน้ากลับสู่ถิ่นฐานของตนเอง ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับกองกำลังของอิสราเอล โดยมีกองทัพเลบานอนสังเกตการณ์เพื่อคอยให้การสนับสนุนพลเมืองของพวกเขา ล่าสุด กองกำลังอิสราเอลเริ่มทะยอยถอนกำลังออกจากพื้นที่เลบานอนตอนใต้อย่างไม่เต็มใจ เพราะไม่สามารถทนต่อแรงกดดันของประชาชนเลบานอนได้! ทางด้านเฮซบอลเลาะห์ถึงกับออกแถลงการณ์สดุดีในความความกล้าหาญของประชาชนชาวเลบานอนเลยทีเดียว "ช่างแตกต่างจากซีเรียโดยสิ้นเชิง!"
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 449 Views 20 0 Reviews
  • 19/1/68

    บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ

    ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร?

    การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง

    และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน

    เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม

    หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้

    จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์

    แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ...

    ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม"

    ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก

    รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ

    พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง

    แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ

    มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน

    ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน

    แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้

    ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์

    ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง

    ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม"

    เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย

    ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ
    .
    ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    19/1/68 บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร? การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้ จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์ แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ... ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม" ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้ ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์ ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม" เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ . ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    0 Comments 0 Shares 1121 Views 0 Reviews
  • ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่โรงไฟฟ้า Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    "เพลิงลุกไหม้ในส่วนที่เป็นสถานที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก"

    มีคำสั่งให้ประชาชรอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เนื่องจากสารพิษอันตรายถูกปล่อยสู่บรรยากาศ

    นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 1 บางส่วนยังถูกปิดอีกด้วย
    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่โรงไฟฟ้า Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา "เพลิงลุกไหม้ในส่วนที่เป็นสถานที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก" มีคำสั่งให้ประชาชรอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เนื่องจากสารพิษอันตรายถูกปล่อยสู่บรรยากาศ นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 1 บางส่วนยังถูกปิดอีกด้วย
    Like
    5
    0 Comments 1 Shares 532 Views 25 0 Reviews
  • 2/
    ตัวเลขการปล้นสะดมเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางไฟป่าในแอลเอ

    ประชาชนในพื้นที่กล่าวกั้บสื่อท้องถิ่นว่า พบเห็นคนกว่า 100 คนที่ขี่สกู๊ตเตอร์เข้ามาและพยายามเข้าไปในบ้านทุกหลังบนถนนนี้ เพื่อขโมยทรัพย์สิน

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมโจรที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้กว่า 24 คน หลังจากพวกเขาตระเวนขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนของเหยื่อไฟป่าแอลเอในช่วงที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่ตามคำสั่งของทางการ
    2/ ตัวเลขการปล้นสะดมเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางไฟป่าในแอลเอ ประชาชนในพื้นที่กล่าวกั้บสื่อท้องถิ่นว่า พบเห็นคนกว่า 100 คนที่ขี่สกู๊ตเตอร์เข้ามาและพยายามเข้าไปในบ้านทุกหลังบนถนนนี้ เพื่อขโมยทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมโจรที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้กว่า 24 คน หลังจากพวกเขาตระเวนขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนของเหยื่อไฟป่าแอลเอในช่วงที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่ตามคำสั่งของทางการ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 592 Views 32 0 Reviews
  • 1/
    ตัวเลขการปล้นสะดมเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางไฟป่าในแอลเอ

    ประชาชนในพื้นที่กล่าวกั้บสื่อท้องถิ่นว่า พบเห็นคนกว่า 100 คนที่ขี่สกู๊ตเตอร์เข้ามาและพยายามเข้าไปในบ้านทุกหลังบนถนนนี้ เพื่อขโมยทรัพย์สิน

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมโจรที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้กว่า 24 คน หลังจากพวกเขาตระเวนขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนของเหยื่อไฟป่าแอลเอในช่วงที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่ตามคำสั่งของทางการ
    1/ ตัวเลขการปล้นสะดมเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางไฟป่าในแอลเอ ประชาชนในพื้นที่กล่าวกั้บสื่อท้องถิ่นว่า พบเห็นคนกว่า 100 คนที่ขี่สกู๊ตเตอร์เข้ามาและพยายามเข้าไปในบ้านทุกหลังบนถนนนี้ เพื่อขโมยทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมโจรที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้กว่า 24 คน หลังจากพวกเขาตระเวนขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนของเหยื่อไฟป่าแอลเอในช่วงที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่ตามคำสั่งของทางการ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 578 Views 36 0 Reviews
  • กระทิงป่าตาบอด อุทยานฯ ทับลาน เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติสู่หมู่บ้านใน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังค้นหาหวั่นทำร้ายชาวบ้านแต่ไม่พบ ล่าสุดพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย หัวหน้าอุทยานฯสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเฝ้าระวัง

    จากกรณีที่​มีการพบ กระทิงป่าอุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาซึ่งได้เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติในพื้นที่ ม.9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เข้าสู่ชุมชนจนเกรงว่าจะทำร้ายชาวบ้านนั้น

    ล่าสุดในวันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ถึงความคืบหน้าการติดตามตัวกระทิงป่าตัวดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบในช่วงเวลาเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังหาตัวไม่พบ และคาดว่าน่าจะเดินเข้าไปในเขตป่าลึกแล้ว

    แต่เมื่อเวลา 16.40 น.เจ้าหน้าที่กลับได้รับแจ้งจาก น.ส.สนิท ประดิษฐ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 141 ม.9 ต.แก่งดินสอ ว่า กระทิงป่า ได้วิ่งชนบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001893

    #MGROnline #กระทิงป่าตาบอด #อุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน
    กระทิงป่าตาบอด อุทยานฯ ทับลาน เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติสู่หมู่บ้านใน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังค้นหาหวั่นทำร้ายชาวบ้านแต่ไม่พบ ล่าสุดพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย หัวหน้าอุทยานฯสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเฝ้าระวัง • จากกรณีที่​มีการพบ กระทิงป่าอุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาซึ่งได้เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติในพื้นที่ ม.9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เข้าสู่ชุมชนจนเกรงว่าจะทำร้ายชาวบ้านนั้น • ล่าสุดในวันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ถึงความคืบหน้าการติดตามตัวกระทิงป่าตัวดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบในช่วงเวลาเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังหาตัวไม่พบ และคาดว่าน่าจะเดินเข้าไปในเขตป่าลึกแล้ว • แต่เมื่อเวลา 16.40 น.เจ้าหน้าที่กลับได้รับแจ้งจาก น.ส.สนิท ประดิษฐ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 141 ม.9 ต.แก่งดินสอ ว่า กระทิงป่า ได้วิ่งชนบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001893 • #MGROnline #กระทิงป่าตาบอด #อุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน
    0 Comments 0 Shares 657 Views 0 Reviews
  • วันนี้ ณ.ปั้มน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ เจ้าของประกาศขายบ้าน แต่ทิ้งน้องไว้ นอกพื้นที่บ้าน เพราะรั้วบ้านทำซะถี่ยิบเลย น้องจะวิ่งมาขอข้าวกินที่ปั้ม แล้วก็กลับไปนอนที่หน้าบ้านหรือป่าบริเวณนั้น ทุกวัน ผมเลยตั้งชื่อว่า "เจ้ามิตรภาพ"
    วันนี้ ณ.ปั้มน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ เจ้าของประกาศขายบ้าน แต่ทิ้งน้องไว้ นอกพื้นที่บ้าน เพราะรั้วบ้านทำซะถี่ยิบเลย น้องจะวิ่งมาขอข้าวกินที่ปั้ม แล้วก็กลับไปนอนที่หน้าบ้านหรือป่าบริเวณนั้น ทุกวัน ผมเลยตั้งชื่อว่า "เจ้ามิตรภาพ"
    0 Comments 0 Shares 507 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลซึ่งสนธิสัญญาออตตาวาห้ามไว้จะถูกโอนไปยังยูเครน

    แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับด้านมนุษยธรรมจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้อนุมัติการจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลให้กับยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการช่วยป้องกันยูเครนจากรัสเซีย

    สนธิสัญญาห้ามการใช้ทุ่นระเบิดส่วนบุคคลที่ได้รับการลงนามโดยประเทศต่างๆ มากกว่า 160 ประเทศ เนื่องจากลักษณะการทำลายที่ไม่เลือกบุคคล และยังมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนในระยะยาวหลังสงครามสิ้นสุดลง "ภายใต้การบริหารของโอบามา สหรัฐฯ ได้หยุดใช้ทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลไปแล้ว" แต่ครั้งนี้ทางการยูเครนได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ทุ่นระเบิดเหล่านี้เฉพาะในแนวหน้า ซึ่งเป็นเขตนอกพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงเตือนว่าทุ่นระเบิดยังมีความเสี่ยงร้ายแรงได้

    รัฐบาลของไบเดนอยู่ภายใต้แรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อการโจมตีที่ไม่ลดละของรัสเซีย ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า การตัดสินใจของของไบเดน สร้างความตื่นตระหนกให้กับองค์กรสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด อาจทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตรายได้ตลอดเวลา

    แมรี่ วาเรแฮม รองผู้อำนวยการฝ่ายวิกฤต ความขัดแย้งและอาวุธของ "ฮิวแมนไรท์วอทช์" กล่าวแสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่า อาวุธที่ยังไม่ระเบิดส่งผลกระทบในระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องมีปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดที่ยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูง เธอยืนยันว่ามีอันตรายร้ายแรงต่อพลเรือนอย่างแน่นอน

    เพื่อให้แน่ใจว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดครั้งใหญ่จะได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรก หลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลของไบเดนจึงให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินทุนสำหรับการกำจัดทุ่นระเบิดในยูเครน

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลซึ่งสนธิสัญญาออตตาวาห้ามไว้จะถูกโอนไปยังยูเครน แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับด้านมนุษยธรรมจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้อนุมัติการจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลให้กับยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการช่วยป้องกันยูเครนจากรัสเซีย สนธิสัญญาห้ามการใช้ทุ่นระเบิดส่วนบุคคลที่ได้รับการลงนามโดยประเทศต่างๆ มากกว่า 160 ประเทศ เนื่องจากลักษณะการทำลายที่ไม่เลือกบุคคล และยังมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนในระยะยาวหลังสงครามสิ้นสุดลง "ภายใต้การบริหารของโอบามา สหรัฐฯ ได้หยุดใช้ทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลไปแล้ว" แต่ครั้งนี้ทางการยูเครนได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ทุ่นระเบิดเหล่านี้เฉพาะในแนวหน้า ซึ่งเป็นเขตนอกพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงเตือนว่าทุ่นระเบิดยังมีความเสี่ยงร้ายแรงได้ รัฐบาลของไบเดนอยู่ภายใต้แรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อการโจมตีที่ไม่ลดละของรัสเซีย ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า การตัดสินใจของของไบเดน สร้างความตื่นตระหนกให้กับองค์กรสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด อาจทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตรายได้ตลอดเวลา แมรี่ วาเรแฮม รองผู้อำนวยการฝ่ายวิกฤต ความขัดแย้งและอาวุธของ "ฮิวแมนไรท์วอทช์" กล่าวแสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่า อาวุธที่ยังไม่ระเบิดส่งผลกระทบในระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องมีปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดที่ยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูง เธอยืนยันว่ามีอันตรายร้ายแรงต่อพลเรือนอย่างแน่นอน เพื่อให้แน่ใจว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดครั้งใหญ่จะได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรก หลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลของไบเดนจึงให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินทุนสำหรับการกำจัดทุ่นระเบิดในยูเครน
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • #2
    โดรนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของนาฮาริยา จนได้รับความเสียหายและมีสารแอมโมเนียรั่วไหล ต้องอพยพคนงานออกนอกพื้นที่
    #2 โดรนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของนาฮาริยา จนได้รับความเสียหายและมีสารแอมโมเนียรั่วไหล ต้องอพยพคนงานออกนอกพื้นที่
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 171 Views 44 0 Reviews
  • #1
    โดรนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของนาฮาริยา จนได้รับความเสียหายและมีสารแอมโมเนียรั่วไหล ต้องอพยพคนงานออกนอกพื้นที่
    #1 โดรนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของนาฮาริยา จนได้รับความเสียหายและมีสารแอมโมเนียรั่วไหล ต้องอพยพคนงานออกนอกพื้นที่
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • เกิดเหตุถังบอยเลอร์ในโรงงานหลอมตะกั่วของกลุ่มทุนจีนใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เกิดการระเบิด ทำแรงงาน​เมียนมาร์​เสียชีวิต 2 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสารเคมี 12 ราย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลและอพยพแรงงานที่เหลืออกนอกพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000103253

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    เกิดเหตุถังบอยเลอร์ในโรงงานหลอมตะกั่วของกลุ่มทุนจีนใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เกิดการระเบิด ทำแรงงาน​เมียนมาร์​เสียชีวิต 2 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสารเคมี 12 ราย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลและอพยพแรงงานที่เหลืออกนอกพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000103253 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    15
    0 Comments 0 Shares 3449 Views 0 Reviews
  • #รายได้ที่คนกลุ่มหนึ่งได้#รายจ่ายที่คนส่วนรวมและประเทศต้องเสีย#จะมีผู้นำและ สส. คิดเพื่อส่วนรวมไหม
    คลิปอธิบายเรื่องน้ำเหนือมาจากไหนนี้ให้ความรู้ เรื่องเขาหัวโล้น เรื่องลักลอบขนแรงงานเถื่อน เรื่องสร้างรายได้ให้แรงงานต่างด้าวทำประท้วง "พวกคุณได้ แต่ต้นทุนที่ส่วนรวมต้องจ่ายนั้นเกินกำลังของแต่ละคน" ความเสียหายของคนในพื้นที่ และแรงกายแรงใจแรงเงินจากนอกพื้นที่ รวมถึงจากของประเทศ และรวมถึงรายได้เข้าประเทศ ข้อมูลต้นทุนที่ต้องจ่ายเหล่านี้ มันไม่ถึงคนบนดอย จิตสำนึกเค้าอาจคิดไม่ถึง ดังนั้นหน้าที่รัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐ ควรมีมาตรการทางออกให้พวกเค้า และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ การแก้ปัญหาไม่ใช่ เอาป่าไปแจก นะ

    https://www.youtube.com/live/_RpKnViN0eI?si=XLcmrz09mwv02T84
    #รายได้ที่คนกลุ่มหนึ่งได้#รายจ่ายที่คนส่วนรวมและประเทศต้องเสีย#จะมีผู้นำและ สส. คิดเพื่อส่วนรวมไหม คลิปอธิบายเรื่องน้ำเหนือมาจากไหนนี้ให้ความรู้ เรื่องเขาหัวโล้น เรื่องลักลอบขนแรงงานเถื่อน เรื่องสร้างรายได้ให้แรงงานต่างด้าวทำประท้วง "พวกคุณได้ แต่ต้นทุนที่ส่วนรวมต้องจ่ายนั้นเกินกำลังของแต่ละคน" ความเสียหายของคนในพื้นที่ และแรงกายแรงใจแรงเงินจากนอกพื้นที่ รวมถึงจากของประเทศ และรวมถึงรายได้เข้าประเทศ ข้อมูลต้นทุนที่ต้องจ่ายเหล่านี้ มันไม่ถึงคนบนดอย จิตสำนึกเค้าอาจคิดไม่ถึง ดังนั้นหน้าที่รัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐ ควรมีมาตรการทางออกให้พวกเค้า และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ การแก้ปัญหาไม่ใช่ เอาป่าไปแจก นะ https://www.youtube.com/live/_RpKnViN0eI?si=XLcmrz09mwv02T84
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 415 Views 0 Reviews
  • เกษียณไม่สวย มท.1 สั่งสอบผู้ว่าฯเชียงราย พบระดับรองทิ้งพื้นที่ด้วย
    .
    กรณีเกียร์ว่างของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย น่าจะทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทย สุดจะทนจริงๆ ถึงกับต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอย่างเร่งด่วน ทั้งๆที่นายพุฒิพงศ์ กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน อยู่แล้ว
    .
    นายอนุทิน เปิดเผยถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินการดังกล่าวว่า ที่ผ่านมามีพฤติกรรมเดิมๆ คือ การออกนอกพื้นที่โดยไม่มีความจำเป็นเร่ง ทั้งๆที่ตอนนี้ชาวเชียงราย เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ถือว่าสาหัสมากๆ เช่นนี้เท่ากับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทิ้งงานแล้วให้นายกรัฐมนตรีมาทำแทนใช่หรือไม่ และถ้าหากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เข้ามาช่วยในพื้นที่ ก็จะไม่สามารถจัดการปัญหาแบบเร่งด่วนได้เลย
    .
    “การจะมาอ้างว่าจะเกษียณอายุราชการคงไม่ได้ เพราะคนมหาดไทยลมหายใจคือประชาชน และตรงนี้เป็นปัญหาเดิมๆ พฤติกรรมเดิมๆ ผมจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ถึงความจำเป็นเร่งด่วน เพราะถือเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก ที่ไม่ปฏิบัติงาน ในฐานะเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่โดยตรง และทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย จึงถือเป็นการกระทำที่อัปยศ อดสู ของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่จะต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนอย่างสุดความสามารถ” นายอนุทินกล่าว
    .
    นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า เวลารัฐมนตรีลงพื้นที่ต้องมีข้าราชการมารอต้อนรับนั้น อยากบอกว่า เวลานายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีลงมา ให้ความช่วยเหลือ เร่งด่วน ผู้ว่าฯ ควรจะต้องมา เพราะเป็นการมาทำงานร่วมกัน ซึ่งกรณีจังหวัดเชียงราย มีเพียงรองผู้ว่าฯ 4 คนปรากฏว่า มาเพียงคนเดียวคือ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ส่วนรองผู้ว่าฯ อีก 1 คน ก็จะเกษียณอายุราชการ ขณะที่รองผู้ว่าฯ อีก 2 คน ไปรายงานตัวเรียน หลักสูตร วปอ. ซึ่งมันไม่ใช่เวลาที่จะไปด้วยซ้ำ ประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้แล้วนายกรัฐมนตรีก็ลงมา มันไม่ใช่เวลา แม้จะต้องสละสิทธิ์ เรียน วปอ. ก็ต้องสละสิทธิ์ด้วยซ้ำไป ในขณะที่ ตัวผู้ว่าฯ เชียงราย มาร่วมพิธีเกษียณใน กทม.แล้วปล่อยให้ประชาชนอยู่กันด้วยความยากลำบาก ทิ้งให้ท่านนายกรัฐมนตรี อยู่ในพื้นที่ ถือว่าไม่ถูกต้อง
    .
    “ผมขอกราบขอโทษพี่น้องชาวเชียงราย ขอให้มั่นใจว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป การทำงานในกระทรวงมหาดไทย จะเป็นไปในทิศทางที่เป็นปึกแผ่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผมได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ให้คำนึงถึงเรื่องภัยจากน้ำท่วม เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด” นายอนุทินกล่าว
    ............
    Sondhi X
    เกษียณไม่สวย มท.1 สั่งสอบผู้ว่าฯเชียงราย พบระดับรองทิ้งพื้นที่ด้วย . กรณีเกียร์ว่างของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย น่าจะทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทย สุดจะทนจริงๆ ถึงกับต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอย่างเร่งด่วน ทั้งๆที่นายพุฒิพงศ์ กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน อยู่แล้ว . นายอนุทิน เปิดเผยถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินการดังกล่าวว่า ที่ผ่านมามีพฤติกรรมเดิมๆ คือ การออกนอกพื้นที่โดยไม่มีความจำเป็นเร่ง ทั้งๆที่ตอนนี้ชาวเชียงราย เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ถือว่าสาหัสมากๆ เช่นนี้เท่ากับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทิ้งงานแล้วให้นายกรัฐมนตรีมาทำแทนใช่หรือไม่ และถ้าหากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เข้ามาช่วยในพื้นที่ ก็จะไม่สามารถจัดการปัญหาแบบเร่งด่วนได้เลย . “การจะมาอ้างว่าจะเกษียณอายุราชการคงไม่ได้ เพราะคนมหาดไทยลมหายใจคือประชาชน และตรงนี้เป็นปัญหาเดิมๆ พฤติกรรมเดิมๆ ผมจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ถึงความจำเป็นเร่งด่วน เพราะถือเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก ที่ไม่ปฏิบัติงาน ในฐานะเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่โดยตรง และทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย จึงถือเป็นการกระทำที่อัปยศ อดสู ของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่จะต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนอย่างสุดความสามารถ” นายอนุทินกล่าว . นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า เวลารัฐมนตรีลงพื้นที่ต้องมีข้าราชการมารอต้อนรับนั้น อยากบอกว่า เวลานายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีลงมา ให้ความช่วยเหลือ เร่งด่วน ผู้ว่าฯ ควรจะต้องมา เพราะเป็นการมาทำงานร่วมกัน ซึ่งกรณีจังหวัดเชียงราย มีเพียงรองผู้ว่าฯ 4 คนปรากฏว่า มาเพียงคนเดียวคือ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ส่วนรองผู้ว่าฯ อีก 1 คน ก็จะเกษียณอายุราชการ ขณะที่รองผู้ว่าฯ อีก 2 คน ไปรายงานตัวเรียน หลักสูตร วปอ. ซึ่งมันไม่ใช่เวลาที่จะไปด้วยซ้ำ ประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้แล้วนายกรัฐมนตรีก็ลงมา มันไม่ใช่เวลา แม้จะต้องสละสิทธิ์ เรียน วปอ. ก็ต้องสละสิทธิ์ด้วยซ้ำไป ในขณะที่ ตัวผู้ว่าฯ เชียงราย มาร่วมพิธีเกษียณใน กทม.แล้วปล่อยให้ประชาชนอยู่กันด้วยความยากลำบาก ทิ้งให้ท่านนายกรัฐมนตรี อยู่ในพื้นที่ ถือว่าไม่ถูกต้อง . “ผมขอกราบขอโทษพี่น้องชาวเชียงราย ขอให้มั่นใจว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป การทำงานในกระทรวงมหาดไทย จะเป็นไปในทิศทางที่เป็นปึกแผ่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผมได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ให้คำนึงถึงเรื่องภัยจากน้ำท่วม เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด” นายอนุทินกล่าว ............ Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    12
    0 Comments 0 Shares 1428 Views 0 Reviews
More Results