• ตอน 12
    พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกำลังไปขุดเผือกขุดน้ำมันไง
    ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแกวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เบิ้มก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า
    พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์ อิสราเอล และซาอุหนุนคูเวต สารพัดละก็แถวนั้นมันบ่อน้ำมันทั้งนั้น
    จำง่ายๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร …เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มันงง แล้วในที่สุดก็เละ… เขาจะได้เข้าไปได้สะดวกโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว ก็สูตรธรรมดา จะไปขโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้อง กันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดำ นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้า ของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้น
    ทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทำ มันก็สูตรทำนองนี้ ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทำฉากให้ใหญ่โต ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน… ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดู ถามมันวันละ 3 ครั้งให้เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังไง มันจะแย่ไหมค้า
    เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์
    ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยังไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊ สิว ไฝ ฝ้า หูด แผล มีตรงไหนเห็นหมดแล้วไอ้การกำหนดองศา slot ของดาวเทียมนี้ มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่งดาวเทียม ที่แต่ละประเทศก็มีสิทธิจองกัน
    นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง
    ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต๊อะ
    แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้ำ ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด
    แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทำลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับ เวียต นามนะ ไทยแลนด์ ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้ เข้าใจไหมสมันน้อย
    แล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย
    อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทำหน้าฉลาดตอบให้หรอก
    แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ
    คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอำนาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่งไทยแลนด์แดนสวรรค์ ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจำลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ำ
    แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์หน้าแฉล้ม ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์ เหี่ยวรออยู่กับบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน technocrat แห่งซิบวีนัส ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
    คิดแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ๊ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊ง จริง คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ
    สมัยสงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทำสัญญาจริงๆ จังๆกับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจำ UN คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา (สมัยนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นนายกฯ)
    เสร็จการเจรจา รายงานฝ่ายอเมริกาบอก Mr. A นี่ เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ำดำเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2535 เขาว่า งานแรกที่คุณน้านัน มาจัดการก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม!) เป็นที่เรียบร้อย
    ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คุณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไรยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ สมใจนึกบางลำพู ทำท่าหงอยๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win! แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยมพราว นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปี ต่อมาขายให้สิงคโปร์ กำไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทำงานเป็นเสมียน เงินเดือนๆ ละ 20,000 ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผากรำพึง มันทำได้ไงวะ
    พูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก
    ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้ นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ
    ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้างดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ
    อ๋อ! ก็กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ (Exim Bank, Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ซิ คร้าบ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนอ่านนิทานฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่ พอจะปะติดปะต่อกันได้ อิ! อิ!
    มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ แล้วยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้อีก เอ! แล้วธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทำคลอดให้ ตอนจบก็ช่วยแต่งศพให้ ..เอ๊ะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง
    ก็คืองี้ ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ำประกันให้ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์ บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให้เสร็จ แล้วเพื่อไม่ให้ผิดสัญญาที่สัมปทานกำหนด เกณฑ์คนต่างด้าวถือหุ้นเอาไว้ ก็ต้องสร้างนอมินี (nominee) ไทยมาถือแทนต่างด้าว (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์ เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม
    บริษัทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ ลูกมิสเตอร์ พี แห่งน้ำดำจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่า ประธานธนาคารชื่อ คุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ
    แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมก็มีนอกันแน่ …คิดมากแล้วปวดหัวนิ
    เรื่องบ้านเมืองนี้ มันมีแยะ ตั้งกะพี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาในบ้านเราน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆ จะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว


    คนเล่านิทาน
    ตอน 12 พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกำลังไปขุดเผือกขุดน้ำมันไง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแกวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เบิ้มก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์ อิสราเอล และซาอุหนุนคูเวต สารพัดละก็แถวนั้นมันบ่อน้ำมันทั้งนั้น จำง่ายๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร …เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มันงง แล้วในที่สุดก็เละ… เขาจะได้เข้าไปได้สะดวกโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว ก็สูตรธรรมดา จะไปขโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้อง กันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดำ นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้า ของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้น ทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทำ มันก็สูตรทำนองนี้ ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทำฉากให้ใหญ่โต ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน… ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดู ถามมันวันละ 3 ครั้งให้เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังไง มันจะแย่ไหมค้า เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยังไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊ สิว ไฝ ฝ้า หูด แผล มีตรงไหนเห็นหมดแล้วไอ้การกำหนดองศา slot ของดาวเทียมนี้ มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่งดาวเทียม ที่แต่ละประเทศก็มีสิทธิจองกัน นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต๊อะ แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้ำ ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทำลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับ เวียต นามนะ ไทยแลนด์ ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้ เข้าใจไหมสมันน้อย แล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทำหน้าฉลาดตอบให้หรอก แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอำนาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่งไทยแลนด์แดนสวรรค์ ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจำลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ำ แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์หน้าแฉล้ม ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์ เหี่ยวรออยู่กับบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน technocrat แห่งซิบวีนัส ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี คิดแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ๊ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊ง จริง คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ สมัยสงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทำสัญญาจริงๆ จังๆกับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจำ UN คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา (สมัยนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นนายกฯ) เสร็จการเจรจา รายงานฝ่ายอเมริกาบอก Mr. A นี่ เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ำดำเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2535 เขาว่า งานแรกที่คุณน้านัน มาจัดการก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม!) เป็นที่เรียบร้อย ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คุณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไรยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ สมใจนึกบางลำพู ทำท่าหงอยๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win! แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยมพราว นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปี ต่อมาขายให้สิงคโปร์ กำไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทำงานเป็นเสมียน เงินเดือนๆ ละ 20,000 ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผากรำพึง มันทำได้ไงวะ พูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้ นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้างดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ อ๋อ! ก็กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ (Exim Bank, Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ซิ คร้าบ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนอ่านนิทานฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่ พอจะปะติดปะต่อกันได้ อิ! อิ! มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ แล้วยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้อีก เอ! แล้วธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทำคลอดให้ ตอนจบก็ช่วยแต่งศพให้ ..เอ๊ะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง ก็คืองี้ ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ำประกันให้ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์ บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให้เสร็จ แล้วเพื่อไม่ให้ผิดสัญญาที่สัมปทานกำหนด เกณฑ์คนต่างด้าวถือหุ้นเอาไว้ ก็ต้องสร้างนอมินี (nominee) ไทยมาถือแทนต่างด้าว (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์ เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม บริษัทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ ลูกมิสเตอร์ พี แห่งน้ำดำจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่า ประธานธนาคารชื่อ คุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมก็มีนอกันแน่ …คิดมากแล้วปวดหัวนิ เรื่องบ้านเมืองนี้ มันมีแยะ ตั้งกะพี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาในบ้านเราน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆ จะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชา "หน้าด้าน" โวยไทยในเวทีโลก! ทูตไทยสวนกลับทันควัน แฉ "ละเมิดหยุดยิง" ซ้ำ "รุกรานอธิปไตยไทย"
    https://www.thai-tai.tv/news/20662/
    .
    #ทูตไทย #สหประชาชาติ #กัมพูชา #ละเมิดหยุดยิง #บิดเบือนข้อมูล #อธิปไตยไทย #เวทีโลก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    กัมพูชา "หน้าด้าน" โวยไทยในเวทีโลก! ทูตไทยสวนกลับทันควัน แฉ "ละเมิดหยุดยิง" ซ้ำ "รุกรานอธิปไตยไทย" https://www.thai-tai.tv/news/20662/ . #ทูตไทย #สหประชาชาติ #กัมพูชา #ละเมิดหยุดยิง #บิดเบือนข้อมูล #อธิปไตยไทย #เวทีโลก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิธรรม ยัน 'ไทยคุมสถานการณ์ชายแดนได้' กองทัพเก็บหลักฐานกัมพูชาละเมิดหยุดยิงเตรียมชี้แจงทั่วโลก
    https://www.thai-tai.tv/news/20637/
    .
    #ไทยไทด้วย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ภูมิธรรมเวชยชัย #กองทัพไทย #ละเมิดหยุดยิง #อธิปไตยไทย #หลักฐานดิจิทัล #การทูตไทย #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #ไม่ไว้ใจกัมพูชา
    ภูมิธรรม ยัน 'ไทยคุมสถานการณ์ชายแดนได้' กองทัพเก็บหลักฐานกัมพูชาละเมิดหยุดยิงเตรียมชี้แจงทั่วโลก https://www.thai-tai.tv/news/20637/ . #ไทยไทด้วย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ภูมิธรรมเวชยชัย #กองทัพไทย #ละเมิดหยุดยิง #อธิปไตยไทย #หลักฐานดิจิทัล #การทูตไทย #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #ไม่ไว้ใจกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทูตไทยลั่น UNSC! ประณามกัมพูชา "รุกรานไร้การยั่วยุ" โจมตีพลเรือน ฝังกับระเบิด ไร้มนุษยธรรม บิดเบือนปมปราสาทพระวิหาร
    https://www.thai-tai.tv/news/20558/
    .
    #ทูตไทยUN #เชิดชายใช้ไววิทย์ #UNSC #ชายแดนไทยกัมพูชา #รุกรานไร้การยั่วยุ #อาชญากรรมสงคราม #ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม #อนุสัญญาออตตาวา #อนุสัญญาเจนีวา #ปราสาทพระวิหาร #ข่าวปลอม #การป้องกันตนเอง #ไทยไท
    ทูตไทยลั่น UNSC! ประณามกัมพูชา "รุกรานไร้การยั่วยุ" โจมตีพลเรือน ฝังกับระเบิด ไร้มนุษยธรรม บิดเบือนปมปราสาทพระวิหาร https://www.thai-tai.tv/news/20558/ . #ทูตไทยUN #เชิดชายใช้ไววิทย์ #UNSC #ชายแดนไทยกัมพูชา #รุกรานไร้การยั่วยุ #อาชญากรรมสงคราม #ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม #อนุสัญญาออตตาวา #อนุสัญญาเจนีวา #ปราสาทพระวิหาร #ข่าวปลอม #การป้องกันตนเอง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนยันไม่หนุนเขมรโจมตีไทย! เผย "ยุทโธปกรณ์จีนในกัมพูชา" มาจากความร่วมมือในอดีต
    https://www.thai-tai.tv/news/20555/
    .
    #ความสัมพันธ์ไทยจีน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทโธปกรณ์จีน #ข่าวปลอม #สถานทูตไทยปักกิ่ง #OfficeofDefenceandArmy #MilitaryCooperation #กองทัพไทย #กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน #พันเอกศิวัตม์รัตนอนันต์
    จีนยันไม่หนุนเขมรโจมตีไทย! เผย "ยุทโธปกรณ์จีนในกัมพูชา" มาจากความร่วมมือในอดีต https://www.thai-tai.tv/news/20555/ . #ความสัมพันธ์ไทยจีน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทโธปกรณ์จีน #ข่าวปลอม #สถานทูตไทยปักกิ่ง #OfficeofDefenceandArmy #MilitaryCooperation #กองทัพไทย #กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน #พันเอกศิวัตม์รัตนอนันต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทูตไทย ร่อนหนังสือแจง UN กัมพูชารุกราน! เริ่มจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดใหม่ ก่อนถูกเปิดฉากยิงโดยไม่เลือกเป้าหมายไม่เว้นร.ร.-รพ. ทำปชช.เจ็บตายอื้อ ประณามโจมตีต่อเนื่องแบบไม่เลือกไร้มนุษยธรรม ละเมิดอนุสัญญา ไทยป้องกันขจัดภัยคุกคามเฉพาะจากกองทัพกัมพูชา ย้ำยึดยุติข้อพิพาทโดยสันติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070226

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ทูตไทย ร่อนหนังสือแจง UN กัมพูชารุกราน! เริ่มจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดใหม่ ก่อนถูกเปิดฉากยิงโดยไม่เลือกเป้าหมายไม่เว้นร.ร.-รพ. ทำปชช.เจ็บตายอื้อ ประณามโจมตีต่อเนื่องแบบไม่เลือกไร้มนุษยธรรม ละเมิดอนุสัญญา ไทยป้องกันขจัดภัยคุกคามเฉพาะจากกองทัพกัมพูชา ย้ำยึดยุติข้อพิพาทโดยสันติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070226 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุน มาเนต” เรียกเขมรกลับประเทศ เตือนอย่าก่อเหตุรุนแรง หลังยิงถล่มไทย ทำผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตนับสิบราย
    https://www.thai-tai.tv/news/20510/
    .
    #ฮุนมาเนต #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #คนไทยในกัมพูชา #สถานทูตไทย #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #รักษาศีลธรรม #ศักดิ์ศรีชาติ #อพยพประชาชน
    “ฮุน มาเนต” เรียกเขมรกลับประเทศ เตือนอย่าก่อเหตุรุนแรง หลังยิงถล่มไทย ทำผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตนับสิบราย https://www.thai-tai.tv/news/20510/ . #ฮุนมาเนต #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #คนไทยในกัมพูชา #สถานทูตไทย #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #รักษาศีลธรรม #ศักดิ์ศรีชาติ #อพยพประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตไทยในพนมเปญเตือนคนไทยในกัมพูชา! สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด-ปะทะหลายจุด แนะรีบเดินทางกลับด่วน
    https://www.thai-tai.tv/news/20483/
    .
    #สถานทูตไทย #กัมพูชา #คนไทยในกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ปะทะชายแดน #ปราสาทตาเมือนธม #สุรินทร์ #คำเตือนคนไทย #เดินทางกลับประเทศ #ความปลอดภัย

    สถานทูตไทยในพนมเปญเตือนคนไทยในกัมพูชา! สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด-ปะทะหลายจุด แนะรีบเดินทางกลับด่วน https://www.thai-tai.tv/news/20483/ . #สถานทูตไทย #กัมพูชา #คนไทยในกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ปะทะชายแดน #ปราสาทตาเมือนธม #สุรินทร์ #คำเตือนคนไทย #เดินทางกลับประเทศ #ความปลอดภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งปิดด่านชายแดนตามที่กองทัพเสนอ นักท่องเที่ยวห้ามเข้าเด็ดขาด และลดระดับทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย ส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไป สั่งกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ พิสูจน์ทราบได้ก่อนเดินลาดตระเวนไม่เคยมี แต่ตอนนี้เป็นระเบิดที่เกิดใหม่ทั้งหมดในเวลาใกล้เคียงกัน เรายกระดับการตอบโต้เหมาะสมที่สุดแล้ว

    -ปิดด่าน-ปราสาท
    กองทัพสู้สงครามไอโอ
    -กัมพูชาต้องรับผิดชอบ
    -หวยเกษียณไม่ใช่การพนัน
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งปิดด่านชายแดนตามที่กองทัพเสนอ นักท่องเที่ยวห้ามเข้าเด็ดขาด และลดระดับทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย ส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไป สั่งกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ พิสูจน์ทราบได้ก่อนเดินลาดตระเวนไม่เคยมี แต่ตอนนี้เป็นระเบิดที่เกิดใหม่ทั้งหมดในเวลาใกล้เคียงกัน เรายกระดับการตอบโต้เหมาะสมที่สุดแล้ว -ปิดด่าน-ปราสาท กองทัพสู้สงครามไอโอ -กัมพูชาต้องรับผิดชอบ -หวยเกษียณไม่ใช่การพนัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ด่วน! เช้านี้ (24 ก.ค.) - รัฐบาลกัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงเหลือระดับต่ำสุด พร้อมขับไล่ทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย พร้อมเรียกทูตกัมพูชาในประเทศไทยกลับพนมเปญเช่นกัน เพื่อเป็นการตอบโต้ฝ่ายไทยที่ประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา และขับไล่ทูตกัมพูชาออกจากประเทศ
    ด่วน! เช้านี้ (24 ก.ค.) - รัฐบาลกัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงเหลือระดับต่ำสุด พร้อมขับไล่ทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย พร้อมเรียกทูตกัมพูชาในประเทศไทยกลับพนมเปญเช่นกัน เพื่อเป็นการตอบโต้ฝ่ายไทยที่ประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา และขับไล่ทูตกัมพูชาออกจากประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปมาตรการตอบโต้ของไทยที่ทำทันทีหลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวน พัน ร.14 (ลว.พัน ร.14) เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนาย ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

    1. ปิด 4 ด่าน 2 ปราสาท ตามที่กองทัพเสนอ
    ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องสายตะกู ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย

    2.ลดระดับทางการทูต
    รัฐบาลไทยประกาศเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากพนมเปญ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาเดินทางออกจากประเทศไทย ภายในเวลาที่กำหนด

    3.กองทัพประณามการกระทำของกัมพูชา
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรม ซึ่งละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและข้อตกลงระหว่างประเทศ อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา

    4.มีคำสั่งใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ทันที
    โดยกองทัพไทยเตรียมแผน ‘จักรพงษ์ภูวนาถ’ หลัง ‘กัมพูชา’ ลอบวาง ‘ทุ่นระเบิด’ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพล บาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นาย ขาขวาเจ็บสาหัส ขณะเดินลาดตระเวน⁣
    สรุปมาตรการตอบโต้ของไทยที่ทำทันทีหลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวน พัน ร.14 (ลว.พัน ร.14) เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนาย ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี 1. ปิด 4 ด่าน 2 ปราสาท ตามที่กองทัพเสนอ ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องสายตะกู ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย 2.ลดระดับทางการทูต รัฐบาลไทยประกาศเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากพนมเปญ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาเดินทางออกจากประเทศไทย ภายในเวลาที่กำหนด 3.กองทัพประณามการกระทำของกัมพูชา กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรม ซึ่งละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและข้อตกลงระหว่างประเทศ อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา 4.มีคำสั่งใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ทันที โดยกองทัพไทยเตรียมแผน ‘จักรพงษ์ภูวนาถ’ หลัง ‘กัมพูชา’ ลอบวาง ‘ทุ่นระเบิด’ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพล บาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นาย ขาขวาเจ็บสาหัส ขณะเดินลาดตระเวน⁣
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมดเวลาเกรงใจกัมพูชา

    ผ่านไปเพียงแค่สัปดาห์เดียว ทหารไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เหยียบกับระเบิด เสียเลือดเสียเนื้อ สูญเสียอวัยวะอีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 ก.ค. กำลังพลของกองทัพบกจาก ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 (พัน.ร.14) ประสบกับทุ่นระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแนวพื้นที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 5 นาย หนึ่งในนั้นคือ จ.ส.อ.พิชิตชัย บุญโคราช ขาขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิด

    พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งออกมาตราการตอบโต้ทันที คือ ปิดปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อีกทั้งยังปิดด่านพรมแดน 4 ด่าน คือ ด่านช่องจอม ด่านช่องสายตะกู ด่านช่องอานม้า และด่านช่องสะงำ พร้อมกันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้กำลังกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกำลังส่วนต่างๆ เตรียมพร้อมปฏิบัติตามแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” เมื่อสั่งต่อไป และเตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์

    สำหรับแผนจักรพงษ์ภูวนาถ เป็นแผนที่กองทัพไทยนำมาใช้เมื่อปี 2554 ในเหตุการณ์ปะทะบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ทำให้ฝ่ายทหารกัมพูชาต้องถอยร่น สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับฝ่ายตรงข้าม เกิดความสงบในพื้นที่ชายแดนนานกว่า 10 ปี

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค. กำลังพลจากหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 6021 (ร้อย ร.6021) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าซ้ายขาด ปัจจุบันเข้ารับการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อย ได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และเลื่อนยศเป็นสิบเอก พร้อมเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม

    ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พิจารณาลดระดับทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไป และจะพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์เพิ่มเติม พร้อมสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วงไปแล้ว

    ที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพไทยถูกวิจารณ์จากสังคมว่า ไม่เอาจริงเอาจังต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มัวแต่ท่องคาถาสันติวิธี เสมือนเกรงใจกัมพูชา จนถูกสังคมด่าว่านักรบห้องแอร์ ขณะที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร กำลังถูกสังคมตราหน้าว่าขายชาติ จากคลิปเสียงของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อีกทั้งเก้าอี้ รมว.กลาโหมยังว่าง จึงเกิดคำถามว่าจะต้องให้ทหารไทยขาขาดไปอีกกี่นายถึงจะเอาจริง?

    #Newskit
    หมดเวลาเกรงใจกัมพูชา ผ่านไปเพียงแค่สัปดาห์เดียว ทหารไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เหยียบกับระเบิด เสียเลือดเสียเนื้อ สูญเสียอวัยวะอีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 ก.ค. กำลังพลของกองทัพบกจาก ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 (พัน.ร.14) ประสบกับทุ่นระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแนวพื้นที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 5 นาย หนึ่งในนั้นคือ จ.ส.อ.พิชิตชัย บุญโคราช ขาขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งออกมาตราการตอบโต้ทันที คือ ปิดปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อีกทั้งยังปิดด่านพรมแดน 4 ด่าน คือ ด่านช่องจอม ด่านช่องสายตะกู ด่านช่องอานม้า และด่านช่องสะงำ พร้อมกันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้กำลังกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกำลังส่วนต่างๆ เตรียมพร้อมปฏิบัติตามแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” เมื่อสั่งต่อไป และเตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ สำหรับแผนจักรพงษ์ภูวนาถ เป็นแผนที่กองทัพไทยนำมาใช้เมื่อปี 2554 ในเหตุการณ์ปะทะบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ทำให้ฝ่ายทหารกัมพูชาต้องถอยร่น สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับฝ่ายตรงข้าม เกิดความสงบในพื้นที่ชายแดนนานกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค. กำลังพลจากหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 6021 (ร้อย ร.6021) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าซ้ายขาด ปัจจุบันเข้ารับการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อย ได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และเลื่อนยศเป็นสิบเอก พร้อมเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พิจารณาลดระดับทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไป และจะพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์เพิ่มเติม พร้อมสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วงไปแล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพไทยถูกวิจารณ์จากสังคมว่า ไม่เอาจริงเอาจังต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มัวแต่ท่องคาถาสันติวิธี เสมือนเกรงใจกัมพูชา จนถูกสังคมด่าว่านักรบห้องแอร์ ขณะที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร กำลังถูกสังคมตราหน้าว่าขายชาติ จากคลิปเสียงของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อีกทั้งเก้าอี้ รมว.กลาโหมยังว่าง จึงเกิดคำถามว่าจะต้องให้ทหารไทยขาขาดไปอีกกี่นายถึงจะเอาจริง? #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลไทยประกาศลดระดับความสัมพันธ์
    เรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ ส่งทูตกัมพูชากลับทันที หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดซ้ำ
    รัฐบาลไทยประกาศลดระดับความสัมพันธ์ เรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ ส่งทูตกัมพูชากลับทันที หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดซ้ำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • รักษาการนายกฯ เรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับ พร้อมลดระดับความสัมพันธ์ ตอบโต้ทันทีด้วยการ ส่งทูตกัมพูชากลับประเทศ หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนายวันนี้ ยันเป็นการตอบโต้ที่เหมาะสม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069452

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รักษาการนายกฯ เรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับ พร้อมลดระดับความสัมพันธ์ ตอบโต้ทันทีด้วยการ ส่งทูตกัมพูชากลับประเทศ หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนายวันนี้ ยันเป็นการตอบโต้ที่เหมาะสม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069452 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! รัฐบาลเรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ-ลดระดับความสัมพันธ์ พร้อมส่งทูตกัมพูชากลับทันที หลังเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด
    https://www.thai-tai.tv/news/20473/
    .
    #ภูมิธรรมเวชยชัย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทหารเหยียบระเบิด #ปิดด่านชายแดน #ลดระดับทางการทูต #อุบลราชธานี #ช่องอานม้า #จสตพิชิตชัยบุญโคราช #ความมั่นคงชายแดน #หนังสือประท้วง
    ด่วน! รัฐบาลเรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ-ลดระดับความสัมพันธ์ พร้อมส่งทูตกัมพูชากลับทันที หลังเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด https://www.thai-tai.tv/news/20473/ . #ภูมิธรรมเวชยชัย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทหารเหยียบระเบิด #ปิดด่านชายแดน #ลดระดับทางการทูต #อุบลราชธานี #ช่องอานม้า #จสตพิชิตชัยบุญโคราช #ความมั่นคงชายแดน #หนังสือประท้วง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • TOR 2003 และการประชุม JBC ที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา มีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้:


    ---

    ช่วงการลงนาม TOR 2003

    18 มิถุนายน 2546 (พ.ศ. 2003)

    นายกรัฐมนตรี: พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ:
    นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย

    ผู้ร่วมลงนามฝ่ายไทย:
    นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล – เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา (ในขณะนั้น)



    ---

    ช่วง JBC ระยอง (พ.ย. 2551) – รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

    นายกรัฐมนตรี: นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

    รมว.ต่างประเทศ: นายสมพงษ์ สระกวี

    เป็นการประชุมที่ยืนยันดำเนินการตาม TOR 2003



    ---

    JBC ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2552–2554)

    นายกรัฐมนตรี: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

    รมว.ต่างประเทศ: นายกษิต ภิรมย์

    ประธาน JBC ฝ่ายไทย:
    นายธานี ทองภักดี (ในบางช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ)

    JTSC ครั้งที่ 4 (14 ก.ค. 2567)
    นายกรัฐมนตรี: นายเศษฐา ทวีสิน
    จุดเริ่มต้นการผลักดันและนำ JTSC JWG TOR2003 กลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง

    ---

    JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) – ล่าสุด
    นายกรัฐมนตรี: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
    รมว.ต่างประเทศ: ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ (อาจเปลี่ยนมือระหว่างปี)

    ประธาน JBC ฝ่ายไทย:
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย – ที่ปรึกษาด้านเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ


    สรุป:
    ช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ฟื้นฟูการดำเนินการ JTSC อย่างเป็นทางการ”
    โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือการยอมรับผลการสำรวจ 45 จุด และเปิดทางให้จัดทำ TI
    ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในรัฐบาลถัดมา (แพทองธาร)


    --พฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง การดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจน และใช้เครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อยืนยันสิทธิในดินแดนโดย:


    ---

    วิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านมา

    1. ใช้ TOR 2003 เป็นฐานเจรจา โดยไม่เปลี่ยนกรอบการตีความ


    2. พยายามบรรจุแนวเขตตามแผนที่ 1:200,000 ลงในกระบวนการทางเทคนิค เช่น TI / Orthophoto


    3. ยืนยันพิกัดรายหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไทย “ลงนามรับรองร่วม”


    4. เก็บหลักฐานการยอมรับจากฝ่ายไทย เพื่อนำไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ




    ---

    สิ่งที่ “กัมพูชาอาจทำต่อไป”:

    ลำดับ กลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เป้าหมาย

    1 เร่งผลักดันให้ไทยลงนาม TI อย่างเป็นทางการ ล็อกแนวเขตให้สอดคล้องกับแผนที่ 1:200,000
    2 จัดเก็บข้อมูลพิกัดที่ไทยร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใช้ยืนยันต่อ ICJ หรือในเวที UN
    3 ขอให้ไทยร่วมแผนปักเสาเขตร่วมในพื้นที่พิพาท สร้าง “แนวเส้นที่เกิดจากการรับรองร่วม”
    4 ไม่หารือในพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนฯ ผ่าน JBC เพื่อบังคับไทยเข้าสู่ ICJ ในภายหลัง
    5 ขอความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอาเซียน / UNESCO ใช้ soft power หนุนสถานะทางประวัติศาสตร์และสิทธิในดินแดน



    ---

    ความเสี่ยง:

    หากไทย “ลงนามรับรอง TI / พิกัด” โดยไม่เปิดเผยให้รัฐสภา-ประชาชนตรวจสอบ
    → จะถูกตีความว่า “ยอมรับเขตแดนร่วมแล้ว”

    หากไทยเงียบและไม่แสดงจุดยืน → กัมพูชาจะใช้ “หลักฐานความนิ่งเฉย” โจมตีในเวทีสากล

    เมื่อแนวเขตปรากฏในเอกสารระหว่างประเทศ → ไทยจะฟ้องกลับภายหลัง ยากมาก


    TOR 2003 และการประชุม JBC ที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา มีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้: --- 📌 ช่วงการลงนาม TOR 2003 📅 18 มิถุนายน 2546 (พ.ศ. 2003) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร 🕴️ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ: นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย 📌 ผู้ร่วมลงนามฝ่ายไทย: นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล – เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา (ในขณะนั้น) --- 📌 ช่วง JBC ระยอง (พ.ย. 2551) – รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: นายสมพงษ์ สระกวี 🧾 เป็นการประชุมที่ยืนยันดำเนินการตาม TOR 2003 --- 📌 JBC ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2552–2554) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: นายกษิต ภิรมย์ 🎙️ ประธาน JBC ฝ่ายไทย: นายธานี ทองภักดี (ในบางช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ) 📌 JTSC ครั้งที่ 4 (14 ก.ค. 2567) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายเศษฐา ทวีสิน จุดเริ่มต้นการผลักดันและนำ JTSC JWG TOR2003 กลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง --- 📌 JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) – ล่าสุด 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ (อาจเปลี่ยนมือระหว่างปี) 🎙️ ประธาน JBC ฝ่ายไทย: นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย – ที่ปรึกษาด้านเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ 📍 สรุป: ช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ฟื้นฟูการดำเนินการ JTSC อย่างเป็นทางการ” โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือการยอมรับผลการสำรวจ 45 จุด และเปิดทางให้จัดทำ TI ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในรัฐบาลถัดมา (แพทองธาร) --พฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง การดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจน และใช้เครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อยืนยันสิทธิในดินแดนโดย: --- ✅ วิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านมา 1. ใช้ TOR 2003 เป็นฐานเจรจา โดยไม่เปลี่ยนกรอบการตีความ 2. พยายามบรรจุแนวเขตตามแผนที่ 1:200,000 ลงในกระบวนการทางเทคนิค เช่น TI / Orthophoto 3. ยืนยันพิกัดรายหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไทย “ลงนามรับรองร่วม” 4. เก็บหลักฐานการยอมรับจากฝ่ายไทย เพื่อนำไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ --- 📌 สิ่งที่ “กัมพูชาอาจทำต่อไป”: ลำดับ กลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เป้าหมาย 1 เร่งผลักดันให้ไทยลงนาม TI อย่างเป็นทางการ ล็อกแนวเขตให้สอดคล้องกับแผนที่ 1:200,000 2 จัดเก็บข้อมูลพิกัดที่ไทยร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใช้ยืนยันต่อ ICJ หรือในเวที UN 3 ขอให้ไทยร่วมแผนปักเสาเขตร่วมในพื้นที่พิพาท สร้าง “แนวเส้นที่เกิดจากการรับรองร่วม” 4 ไม่หารือในพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนฯ ผ่าน JBC เพื่อบังคับไทยเข้าสู่ ICJ ในภายหลัง 5 ขอความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอาเซียน / UNESCO ใช้ soft power หนุนสถานะทางประวัติศาสตร์และสิทธิในดินแดน --- 🚨 ความเสี่ยง: หากไทย “ลงนามรับรอง TI / พิกัด” โดยไม่เปิดเผยให้รัฐสภา-ประชาชนตรวจสอบ → จะถูกตีความว่า “ยอมรับเขตแดนร่วมแล้ว” หากไทยเงียบและไม่แสดงจุดยืน → กัมพูชาจะใช้ “หลักฐานความนิ่งเฉย” โจมตีในเวทีสากล เมื่อแนวเขตปรากฏในเอกสารระหว่างประเทศ → ไทยจะฟ้องกลับภายหลัง ยากมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผว.ชงหยุดช่วยเขมร นายกย้ำต้องรักษาสัมพันธ์ : [NEWS UPDATE]
    นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอนายกรัฐมนตรี ยกเลิกงานฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา ระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นด้านมนุษยธรรม ทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนพื้นฐานผลประโยชน์สูงสุดของชาติ กำชับทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรอบการทูตที่เหมาะสม


    ดูแลสวัสดิการทหารแนวหน้า

    ขยายผลเจ้าของรังแก๊งคอล

    จำกัดคนผ่านด่านคลองลึก

    แน่นแฟ้นเหมือนเมล็ดทับทิม
    ผว.ชงหยุดช่วยเขมร นายกย้ำต้องรักษาสัมพันธ์ : [NEWS UPDATE] นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอนายกรัฐมนตรี ยกเลิกงานฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา ระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นด้านมนุษยธรรม ทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนพื้นฐานผลประโยชน์สูงสุดของชาติ กำชับทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรอบการทูตที่เหมาะสม ดูแลสวัสดิการทหารแนวหน้า ขยายผลเจ้าของรังแก๊งคอล จำกัดคนผ่านด่านคลองลึก แน่นแฟ้นเหมือนเมล็ดทับทิม
    Like
    Love
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 814 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • คนไทยที่เดินทางไป “กัมพูชา” ขณะนี้ (มิถุนายน 2025) สามารถอยู่ได้สูงสุด7 วัน ต่อการเข้าประเทศ 1 ครั้ง มาตรการนี้บังคับใช้หลังจากที่ไทยลดระยะเวลาพำนักของคนกัมพูชาในไทยเหลือ 7 วันเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะใช้จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาหาทางออกได้


    สรุปรายละเอียดสำคัญ

    * เดิมคนไทยอยู่ได้นานสุด 14 วัน (passport holders) และ 15 วัน
    * ขณะนี้ลดเหลือ 7 วัน สำหรับคนไทยเที่ยวกัมพูชาครั้งละ 1 สัญชาติผ่านทางบกหรืออากาศ ﹣
    * ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการ

    ---

    คำแนะนำเพิ่มเติม
    * หากต้องการอยู่ต่อ อาจพิจารณายื่นขอขยายเวลา Tourist Visa (30 วัน ต่อ entry) ผ่าน e‑Visa หรือ ขอ On‑Arrival Visa แต่ต้องคำนึงถึงมาตรการทางการเมืองและความไม่แน่นอนปัจจุบัน
    * ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ผ่านแหล่งข้อมูลทางการทูตไทย-กัมพูชา เนื่องจากยังไม่มีข่าวยุติมาตรการแน่นอน

    #ข่าวท่องเที่ยว #อัปเดตกัมพูชา #พำนัก7วัน #กัมพูชา #เขมร #เที่ยวเขมร #ไทยกัมพูชา #อัปเดตวีซ่า #ข่าวเดินทาง #เที่ยวต่างประเทศ2025 #สายเที่ยวต้องรู้ #CambodiaUpdate #TravelNews


    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    คนไทยที่เดินทางไป “กัมพูชา” ขณะนี้ (มิถุนายน 2025) สามารถอยู่ได้สูงสุด7 วัน ต่อการเข้าประเทศ 1 ครั้ง 🇰🇭🛂 มาตรการนี้บังคับใช้หลังจากที่ไทยลดระยะเวลาพำนักของคนกัมพูชาในไทยเหลือ 7 วันเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะใช้จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาหาทางออกได้ ✅ สรุปรายละเอียดสำคัญ * เดิมคนไทยอยู่ได้นานสุด 14 วัน (passport holders) และ 15 วัน * ขณะนี้ลดเหลือ 7 วัน สำหรับคนไทยเที่ยวกัมพูชาครั้งละ 1 สัญชาติผ่านทางบกหรืออากาศ ﹣ ✈️ * ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการ --- 📝คำแนะนำเพิ่มเติม * หากต้องการอยู่ต่อ อาจพิจารณายื่นขอขยายเวลา Tourist Visa (30 วัน ต่อ entry) ผ่าน e‑Visa หรือ ขอ On‑Arrival Visa แต่ต้องคำนึงถึงมาตรการทางการเมืองและความไม่แน่นอนปัจจุบัน * ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ผ่านแหล่งข้อมูลทางการทูตไทย-กัมพูชา เนื่องจากยังไม่มีข่าวยุติมาตรการแน่นอน #ข่าวท่องเที่ยว #อัปเดตกัมพูชา #พำนัก7วัน #กัมพูชา #เขมร #เที่ยวเขมร #ไทยกัมพูชา #อัปเดตวีซ่า #ข่าวเดินทาง #เที่ยวต่างประเทศ2025 #สายเที่ยวต้องรู้ #CambodiaUpdate #TravelNews LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ##
    ..
    ..
    จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้...
    .
    ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก...
    .
    ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
    .
    เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!!
    .
    MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน)
    .
    เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว
    ....
    ....
    ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า...
    .
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย
    .
    คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ
    .
    ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย
    .
    และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง)
    .
    แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว
    .
    ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย
    .
    และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!!
    .
    คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!!
    .
    ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!!
    .
    ดังนั้น...
    .
    ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...???
    ...
    ...
    เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...???
    .
    https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ## .. .. จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้... . ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก... . ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา . เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!! . MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน) . เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว .... .... ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า... . นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย . คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ . ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย . และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง) . แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว . ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย . และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!! . คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!! . ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!! . ดังนั้น... . ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...??? ... ... เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...??? . https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล!

    เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ในอิสราเอลมีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้นจากการที่อิหร่านตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องคนไทยในอิสราเอล ดังนี้

    • ตั้งแต่เมื่อคืน อิสราเอลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อเตรียมรับมือกับการตอบโต้ของอิหร่าน และกองทัพอิสราเอลได้ออกข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 03.00 น. ถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. ห้ามชุมนุมรวมตัว ห้ามทำ กิจกรรมทางการศึกษาและทำงาน ยกเว้นกิจกรรมที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากนี้ อิสราเอลได้ประกาศ ปิดน่านฟ้าจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

    • ขอให้พี่น้องคนไทยพยายามอยู่ใกล้ห้องนิรภัย เมื่อได้ยินเสียงไซเรน งดถ่ายภาพหรือวีดิโอรีบเข้า ห้องนิรภัยทันที และขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านความปลอดภัยของทางการ ท้องถิ่นในพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำดื่มอาหารแห้ง แบตเตอรี่สำรอง (พาวเวอร์แบงก์) ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาล และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ

    • หากไม่มีกิจธุระหรือเหตุจำเป็น ขอให้พิจารณาเดินทางออกอิสราเอลในโอกาสแรกที่มีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการ โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
    สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล! เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ในอิสราเอลมีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้นจากการที่อิหร่านตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องคนไทยในอิสราเอล ดังนี้ • ตั้งแต่เมื่อคืน อิสราเอลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อเตรียมรับมือกับการตอบโต้ของอิหร่าน และกองทัพอิสราเอลได้ออกข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 03.00 น. ถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. ห้ามชุมนุมรวมตัว ห้ามทำ กิจกรรมทางการศึกษาและทำงาน ยกเว้นกิจกรรมที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากนี้ อิสราเอลได้ประกาศ ปิดน่านฟ้าจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง • ขอให้พี่น้องคนไทยพยายามอยู่ใกล้ห้องนิรภัย เมื่อได้ยินเสียงไซเรน งดถ่ายภาพหรือวีดิโอรีบเข้า ห้องนิรภัยทันที และขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านความปลอดภัยของทางการ ท้องถิ่นในพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำดื่มอาหารแห้ง แบตเตอรี่สำรอง (พาวเวอร์แบงก์) ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาล และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ • หากไม่มีกิจธุระหรือเหตุจำเป็น ขอให้พิจารณาเดินทางออกอิสราเอลในโอกาสแรกที่มีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการ โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา อาจนำไปสู่สงครามใหญ่ที่เลี่ยงไม่ได้ คนเคาะข่าว 10-06-68
    ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    #คนเคาะข่าว #ข้อพิพาทไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความขัดแย้งระหว่างประเทศ #สงครามชายแดน #Geopolitics #ทนงขันทอง #ข่าวต่างประเทศ #ความมั่นคง #การทูตไทยกัมพูชา #thaitimes #วิเคราะห์สถานการณ์ #อาเซียน #ภูมิรัฐศาสตร์ #ความมั่นคงชายแดน
    ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา อาจนำไปสู่สงครามใหญ่ที่เลี่ยงไม่ได้ คนเคาะข่าว 10-06-68 ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ #คนเคาะข่าว #ข้อพิพาทไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความขัดแย้งระหว่างประเทศ #สงครามชายแดน #Geopolitics #ทนงขันทอง #ข่าวต่างประเทศ #ความมั่นคง #การทูตไทยกัมพูชา #thaitimes #วิเคราะห์สถานการณ์ #อาเซียน #ภูมิรัฐศาสตร์ #ความมั่นคงชายแดน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • “วีระ” แฉ “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” ประธาน JBC ฝ่ายไทย อดีตทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เคยบีบบังคับให้ตนยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนเขมร แถมด่าว่าเป็นตัวปัญหาทำให้กลับมาฉลองปีใหม่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ จี้เปลี่ยนตัวด่วน หวั่นทำประเทศไทยเสียหาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000054440

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “วีระ” แฉ “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” ประธาน JBC ฝ่ายไทย อดีตทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เคยบีบบังคับให้ตนยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนเขมร แถมด่าว่าเป็นตัวปัญหาทำให้กลับมาฉลองปีใหม่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ จี้เปลี่ยนตัวด่วน หวั่นทำประเทศไทยเสียหาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000054440 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 1 รีวิว
  • ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทหารใช้กฎอัยการศึก : [THE MESSAGE]
    มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยนักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน
    ยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ถึง น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเป็นรูปธรรม ถึงเวลาต้องปกป้องอธิปไตยไทย จะลงถนนก็ไม่ขัดข้อง ฝากถึง นายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายทักษิณ ชินวัตร ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย ประธาน JBC ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้ง เป็นอดีตทูตไทยประจำกัมพูชา แสดงว่าไม่จริงใจเจรจา กัมพูชายังไม่ถอยจริง เรายื่นข้อเสนอว่าถ้ายังแก้ไขไม่ได้จะให้ทหารประกาศกฎอัยการศึกเพื่อจัดการกับกัมพูชา อย่าประมาทประชาชน เราไม่รับอำนาจศาลโลก เราไม่ได้คลั่งชาติจะไปรบกับใคร แต่คนไทยและทหารไทยไม่กลัวทหารกัมพูชา เราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทหารใช้กฎอัยการศึก : [THE MESSAGE] มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยนักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ถึง น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเป็นรูปธรรม ถึงเวลาต้องปกป้องอธิปไตยไทย จะลงถนนก็ไม่ขัดข้อง ฝากถึง นายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายทักษิณ ชินวัตร ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย ประธาน JBC ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้ง เป็นอดีตทูตไทยประจำกัมพูชา แสดงว่าไม่จริงใจเจรจา กัมพูชายังไม่ถอยจริง เรายื่นข้อเสนอว่าถ้ายังแก้ไขไม่ได้จะให้ทหารประกาศกฎอัยการศึกเพื่อจัดการกับกัมพูชา อย่าประมาทประชาชน เราไม่รับอำนาจศาลโลก เราไม่ได้คลั่งชาติจะไปรบกับใคร แต่คนไทยและทหารไทยไม่กลัวทหารกัมพูชา เราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    Like
    Love
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 34 0 รีวิว
  • แอปฯ ViaBus สยายปีกสู่ลาว ติดตามรถเมล์เวียงจันทน์ได้แล้ว

    ในงานสัปดาห์ดิจิทัลลาว 2025 (Laos Digital Week 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เม.ย.2568 ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ (VCSBE) ได้ร่วมกับ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเวียบัส (ViaBus) เปิดบริการแจ้งติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ แก่รถโดยสารในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อพัฒนาการบริการ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย สามารถติดตามรถเมล์ และจุดจอดรถเมล์ได้เหมือนที่ประเทศไทย

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับท่านแก้ววันพร วอนทีวงสี ผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่โรงแรมลาวพลาซ่า เพื่อพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus โดยมีนายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะในนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางกับภูมิภาคอาเซียนในมิติที่ทันสมัยและยั่งยืน

    สำหรับรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ มีเส้นทางให้บริการประมาณ 16 เส้นทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีขนส่งตลาดเช้า (Central Bus Station หรือ CBS) ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ดงโดก, สนามบินสากลวัดไต, สถานีรถสายเหนือ, สถานีรถสายใต้, ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) รวมทั้งสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (รถไฟลาว-จีน) และสถานีเวียงจันทน์ คำสะหวาด (รถไฟไทย-ลาว) เดิมมีเว็บไซต์ติดตามรถเมล์ https://lao.busnavi.asia อยู่แล้ว ความร่วมมือกับ ViaBus ที่มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.2 ล้านคนเดินทางในนครหลวงเวียงจันทน์สะดวกขึ้น รวมทั้งจูงใจชาวนครหลวงเวียงจันทน์กว่า 7 แสนคนหันมาใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว

    ก่อนหน้านี้ ViaBus ได้ทดลองติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ที่ประเทศมาเลเซียใน 3 เมือง ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกาะปีนัง และเมืองยะโฮร์บาห์รู นับเป็นประเทศที่สองที่ ViaBus ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเดินรถทุกรายนำข้อมูล GPS รถเมล์มาเชื่อมระบบได้ฟรี โดยไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามและใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย

    #Newskit
    แอปฯ ViaBus สยายปีกสู่ลาว ติดตามรถเมล์เวียงจันทน์ได้แล้ว ในงานสัปดาห์ดิจิทัลลาว 2025 (Laos Digital Week 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เม.ย.2568 ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ (VCSBE) ได้ร่วมกับ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเวียบัส (ViaBus) เปิดบริการแจ้งติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ แก่รถโดยสารในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อพัฒนาการบริการ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย สามารถติดตามรถเมล์ และจุดจอดรถเมล์ได้เหมือนที่ประเทศไทย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับท่านแก้ววันพร วอนทีวงสี ผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่โรงแรมลาวพลาซ่า เพื่อพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus โดยมีนายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะในนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางกับภูมิภาคอาเซียนในมิติที่ทันสมัยและยั่งยืน สำหรับรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ มีเส้นทางให้บริการประมาณ 16 เส้นทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีขนส่งตลาดเช้า (Central Bus Station หรือ CBS) ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ดงโดก, สนามบินสากลวัดไต, สถานีรถสายเหนือ, สถานีรถสายใต้, ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) รวมทั้งสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (รถไฟลาว-จีน) และสถานีเวียงจันทน์ คำสะหวาด (รถไฟไทย-ลาว) เดิมมีเว็บไซต์ติดตามรถเมล์ https://lao.busnavi.asia อยู่แล้ว ความร่วมมือกับ ViaBus ที่มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.2 ล้านคนเดินทางในนครหลวงเวียงจันทน์สะดวกขึ้น รวมทั้งจูงใจชาวนครหลวงเวียงจันทน์กว่า 7 แสนคนหันมาใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว ก่อนหน้านี้ ViaBus ได้ทดลองติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ที่ประเทศมาเลเซียใน 3 เมือง ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกาะปีนัง และเมืองยะโฮร์บาห์รู นับเป็นประเทศที่สองที่ ViaBus ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเดินรถทุกรายนำข้อมูล GPS รถเมล์มาเชื่อมระบบได้ฟรี โดยไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามและใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1009 มุมมอง 0 รีวิว
  • PETA โดน Community Note จากโพสต์กลุ่มนักเคลื่อนไหวประท้วงไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวหน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

    "ตามข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่าไม่มีลิงสักตัวที่ใช้เก็บมะพร้าวในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ลิงเหล่านี้ในการเก็บมะพร้าวเพราะไม่มีประสิทธิภาพ วิดีโอที่ PETA นำเสนอนั้นมีเพียงลิงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ไม่ใช่ลิงนับพันตัว"

    https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    PETA โดน Community Note จากโพสต์กลุ่มนักเคลื่อนไหวประท้วงไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวหน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ "ตามข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่าไม่มีลิงสักตัวที่ใช้เก็บมะพร้าวในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ลิงเหล่านี้ในการเก็บมะพร้าวเพราะไม่มีประสิทธิภาพ วิดีโอที่ PETA นำเสนอนั้นมีเพียงลิงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ไม่ใช่ลิงนับพันตัว" https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts