• ข่าวใหญ่ในวงการข่าวกรอง: อดีต CTO CIA ร่วมทีม Brinker เพื่อสู้ภัยข่าวลวงด้วย AI

    Bob Flores อดีต Chief Technology Officer ของ CIA ได้เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับ Brinker บริษัทเทคโนโลยีข่าวกรองเชิงเนื้อเรื่อง (narrative intelligence) ที่มุ่งมั่นต่อสู้กับการบิดเบือนข้อมูลและแคมเปญอิทธิพลระดับโลกด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง

    Brinker ก่อตั้งโดย Benny Schnaider, Daniel Ravner และ Oded Breiner โดยมีเป้าหมายชัดเจน: ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และสกัดกั้นเนื้อหาที่เป็นภัยในโลกออนไลน์แบบเรียลไทม์ ไม่ใช่แค่ตรวจจับ แต่ต้อง “ตอบโต้” ได้ทันที

    Bob Flores กล่าวไว้ว่า “การรับมือกับข่าวลวงแบบเดิมๆ ไม่ทันต่อความเร็วและขนาดของแคมเปญอิทธิพลในปัจจุบัน” และเขาเชื่อว่า Brinker จะเปลี่ยนเกมนี้ได้ด้วยระบบที่วิเคราะห์และตอบโต้ได้ทันที

    Brinker ใช้ LLM (Large Language Model) ที่พัฒนาเอง ซึ่งสามารถติดตามวิวัฒนาการของเนื้อหาอันเป็นภัยได้ข้ามแพลตฟอร์ม ภาษา และภูมิศาสตร์ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลที่เครื่องมือเดิมต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเห็นภาพ

    Flores ซึ่งมีประสบการณ์ด้านความมั่นคงและเทคโนโลยีระดับสูง ยังเป็นผู้ก่อตั้ง Applicology Inc. บริษัทที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และการเข้าร่วมของเขาใน Brinker ถือเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญ หลังจากที่ Avi Kastan อดีต CEO ของ Sixgill ก็เพิ่งเข้าร่วมทีมที่ปรึกษาเช่นกัน

    Bob Flores เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษา Brinker
    อดีต CTO ของ CIA ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและเทคโนโลยี
    ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง Applicology Inc.

    Brinker คือบริษัทเทคโนโลยีข่าวกรองเชิงเนื้อเรื่อง
    ใช้ AI วิเคราะห์และตอบโต้ข่าวลวงแบบเรียลไทม์
    มี LLM ที่สามารถติดตามวิวัฒนาการของเนื้อหาอันเป็นภัย

    เป้าหมายของ Brinker คือการเปลี่ยนจาก “ตรวจจับ” เป็น “ตอบโต้”
    ระบบสามารถดำเนินการได้ทันที เช่น ลบเนื้อหา, เผยแพร่เนื้อหาตอบโต้, ดำเนินการทางกฎหมายเบื้องต้น

    ทีมที่ปรึกษา Brinker แข็งแกร่งขึ้น
    รวมผู้เชี่ยวชาญจาก CIA และ Sixgill
    เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามระดับโลก

    ความท้าทายของการต่อสู้กับข่าวลวง
    ข่าวลวงแพร่กระจายเร็วและข้ามแพลตฟอร์ม
    การตอบโต้แบบเดิมไม่ทันต่อสถานการณ์

    ความเสี่ยงหากไม่มีระบบตอบโต้แบบเรียลไทม์
    องค์กรอาจตกเป็นเป้าหมายของแคมเปญอิทธิพล
    ข้อมูลผิดอาจส่งผลต่อความมั่นคงระดับชาติและองค์กร

    นี่คือการเคลื่อนไหวที่สะท้อนว่า “สงครามข้อมูล” ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และการมีผู้เชี่ยวชาญระดับ Bob Flores เข้ามาเสริมทัพ Brinker คือการประกาศชัดว่า AI จะเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้กับภัยเงียบในโลกดิจิทัล.

    https://securityonline.info/bob-flores-former-cto-of-the-cia-joins-brinker/
    🧠 ข่าวใหญ่ในวงการข่าวกรอง: อดีต CTO CIA ร่วมทีม Brinker เพื่อสู้ภัยข่าวลวงด้วย AI Bob Flores อดีต Chief Technology Officer ของ CIA ได้เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับ Brinker บริษัทเทคโนโลยีข่าวกรองเชิงเนื้อเรื่อง (narrative intelligence) ที่มุ่งมั่นต่อสู้กับการบิดเบือนข้อมูลและแคมเปญอิทธิพลระดับโลกด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง Brinker ก่อตั้งโดย Benny Schnaider, Daniel Ravner และ Oded Breiner โดยมีเป้าหมายชัดเจน: ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และสกัดกั้นเนื้อหาที่เป็นภัยในโลกออนไลน์แบบเรียลไทม์ ไม่ใช่แค่ตรวจจับ แต่ต้อง “ตอบโต้” ได้ทันที Bob Flores กล่าวไว้ว่า “การรับมือกับข่าวลวงแบบเดิมๆ ไม่ทันต่อความเร็วและขนาดของแคมเปญอิทธิพลในปัจจุบัน” และเขาเชื่อว่า Brinker จะเปลี่ยนเกมนี้ได้ด้วยระบบที่วิเคราะห์และตอบโต้ได้ทันที Brinker ใช้ LLM (Large Language Model) ที่พัฒนาเอง ซึ่งสามารถติดตามวิวัฒนาการของเนื้อหาอันเป็นภัยได้ข้ามแพลตฟอร์ม ภาษา และภูมิศาสตร์ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลที่เครื่องมือเดิมต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเห็นภาพ Flores ซึ่งมีประสบการณ์ด้านความมั่นคงและเทคโนโลยีระดับสูง ยังเป็นผู้ก่อตั้ง Applicology Inc. บริษัทที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และการเข้าร่วมของเขาใน Brinker ถือเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญ หลังจากที่ Avi Kastan อดีต CEO ของ Sixgill ก็เพิ่งเข้าร่วมทีมที่ปรึกษาเช่นกัน ✅ Bob Flores เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษา Brinker ➡️ อดีต CTO ของ CIA ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและเทคโนโลยี ➡️ ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง Applicology Inc. ✅ Brinker คือบริษัทเทคโนโลยีข่าวกรองเชิงเนื้อเรื่อง ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์และตอบโต้ข่าวลวงแบบเรียลไทม์ ➡️ มี LLM ที่สามารถติดตามวิวัฒนาการของเนื้อหาอันเป็นภัย ✅ เป้าหมายของ Brinker คือการเปลี่ยนจาก “ตรวจจับ” เป็น “ตอบโต้” ➡️ ระบบสามารถดำเนินการได้ทันที เช่น ลบเนื้อหา, เผยแพร่เนื้อหาตอบโต้, ดำเนินการทางกฎหมายเบื้องต้น ✅ ทีมที่ปรึกษา Brinker แข็งแกร่งขึ้น ➡️ รวมผู้เชี่ยวชาญจาก CIA และ Sixgill ➡️ เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามระดับโลก ‼️ ความท้าทายของการต่อสู้กับข่าวลวง ⛔ ข่าวลวงแพร่กระจายเร็วและข้ามแพลตฟอร์ม ⛔ การตอบโต้แบบเดิมไม่ทันต่อสถานการณ์ ‼️ ความเสี่ยงหากไม่มีระบบตอบโต้แบบเรียลไทม์ ⛔ องค์กรอาจตกเป็นเป้าหมายของแคมเปญอิทธิพล ⛔ ข้อมูลผิดอาจส่งผลต่อความมั่นคงระดับชาติและองค์กร นี่คือการเคลื่อนไหวที่สะท้อนว่า “สงครามข้อมูล” ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และการมีผู้เชี่ยวชาญระดับ Bob Flores เข้ามาเสริมทัพ Brinker คือการประกาศชัดว่า AI จะเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้กับภัยเงียบในโลกดิจิทัล. https://securityonline.info/bob-flores-former-cto-of-the-cia-joins-brinker/
    SECURITYONLINE.INFO
    Bob Flores, Former CTO of the CIA, Joins Brinker
    Delaware, United States, 4th November 2025, CyberNewsWire
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • เทคนิค “โกหกเรื่องสัญญาณ” เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้มือถือ — จริงหรือหลอกกันแน่?

    บทความจาก Nick vs Networking เผยเทคนิคที่ผู้ให้บริการมือถือบางรายใช้เพื่อ “เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้” โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน นั่นคือการ “โกหกเรื่องความแรงของสัญญาณ” ด้วยการปรับเกณฑ์การแสดงแถบสัญญาณ (signal bars) ให้ดูดีขึ้นกว่าความเป็นจริง

    ตัวอย่างเช่น:
    เดิมทีอุปกรณ์จะแสดง 1 ขีดเมื่อสัญญาณอยู่ที่ -110 dBm
    แต่หากผู้ให้บริการปรับ threshold ให้แสดง 3 ขีดที่ระดับเดียวกัน ผู้ใช้จะ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น ทั้งที่คุณภาพจริงไม่ได้เปลี่ยน

    แม้จะฟังดูเหมือนกลเม็ดทางการตลาด แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่ง — ผู้ใช้มีแนวโน้มร้องเรียนลดลง และรู้สึกพึงพอใจมากขึ้น แม้คุณภาพการโทรหรือความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเท่าเดิมก็ตาม

    สาระสำคัญจากบทความ
    ผู้ให้บริการบางรายปรับเกณฑ์แสดงแถบสัญญาณให้ดูแรงขึ้น
    เปลี่ยนจากแสดง 1 ขีดที่ -110 dBm เป็น 3 ขีด
    ทำให้ผู้ใช้ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น

    เทคนิคนี้ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงข่าย
    ไม่ต้องติดตั้งเสาสัญญาณเพิ่ม
    ลดต้นทุนแต่เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

    ผู้ใช้ร้องเรียนลดลงแม้คุณภาพจริงไม่เปลี่ยน
    ความรู้สึกมีผลต่อประสบการณ์ใช้งาน
    แสดงให้เห็นว่า perception สำคัญพอ ๆ กับ performance

    การ “โกหก” เรื่องสัญญาณอาจสร้างความเข้าใจผิด
    ผู้ใช้อาจเข้าใจผิดว่าปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ ไม่ใช่เครือข่าย
    อาจทำให้การวิเคราะห์ปัญหาจริงยากขึ้น

    อาจขัดกับหลักจริยธรรมและความโปร่งใส
    ผู้ให้บริการควรให้ข้อมูลที่สะท้อนความจริง
    การบิดเบือนข้อมูลอาจกระทบความเชื่อมั่นในระยะยาว

    https://nickvsnetworking.com/simple-trick-to-increase-coverage-lying-to-users-about-signal-strength/
    📶 เทคนิค “โกหกเรื่องสัญญาณ” เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้มือถือ — จริงหรือหลอกกันแน่? บทความจาก Nick vs Networking เผยเทคนิคที่ผู้ให้บริการมือถือบางรายใช้เพื่อ “เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้” โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน นั่นคือการ “โกหกเรื่องความแรงของสัญญาณ” ด้วยการปรับเกณฑ์การแสดงแถบสัญญาณ (signal bars) ให้ดูดีขึ้นกว่าความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น: 💠 เดิมทีอุปกรณ์จะแสดง 1 ขีดเมื่อสัญญาณอยู่ที่ -110 dBm 💠 แต่หากผู้ให้บริการปรับ threshold ให้แสดง 3 ขีดที่ระดับเดียวกัน ผู้ใช้จะ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น ทั้งที่คุณภาพจริงไม่ได้เปลี่ยน แม้จะฟังดูเหมือนกลเม็ดทางการตลาด แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่ง — ผู้ใช้มีแนวโน้มร้องเรียนลดลง และรู้สึกพึงพอใจมากขึ้น แม้คุณภาพการโทรหรือความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเท่าเดิมก็ตาม ✅ สาระสำคัญจากบทความ ✅ ผู้ให้บริการบางรายปรับเกณฑ์แสดงแถบสัญญาณให้ดูแรงขึ้น ➡️ เปลี่ยนจากแสดง 1 ขีดที่ -110 dBm เป็น 3 ขีด ➡️ ทำให้ผู้ใช้ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น ✅ เทคนิคนี้ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงข่าย ➡️ ไม่ต้องติดตั้งเสาสัญญาณเพิ่ม ➡️ ลดต้นทุนแต่เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ✅ ผู้ใช้ร้องเรียนลดลงแม้คุณภาพจริงไม่เปลี่ยน ➡️ ความรู้สึกมีผลต่อประสบการณ์ใช้งาน ➡️ แสดงให้เห็นว่า perception สำคัญพอ ๆ กับ performance ‼️ การ “โกหก” เรื่องสัญญาณอาจสร้างความเข้าใจผิด ⛔ ผู้ใช้อาจเข้าใจผิดว่าปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ ไม่ใช่เครือข่าย ⛔ อาจทำให้การวิเคราะห์ปัญหาจริงยากขึ้น ‼️ อาจขัดกับหลักจริยธรรมและความโปร่งใส ⛔ ผู้ให้บริการควรให้ข้อมูลที่สะท้อนความจริง ⛔ การบิดเบือนข้อมูลอาจกระทบความเชื่อมั่นในระยะยาว https://nickvsnetworking.com/simple-trick-to-increase-coverage-lying-to-users-about-signal-strength/
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • “Nexperia โต้กลับอดีต CEO จีน — ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินและการแยกตัวในจีน” — เมื่อสงครามเทคโนโลยีระหว่างยุโรป-จีนลุกลามถึงระดับผู้บริหาร

    บริษัทผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ Nexperia ออกแถลงการณ์ตอบโต้ Zhang Xuezheng อดีต CEO ฝั่งจีนที่เพิ่งถูกปลด โดยระบุว่าข้อกล่าวหาที่ว่า “บริษัทไม่จ่ายเงินเดือนให้พนักงานในจีน” และ “หน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานอย่างอิสระ” เป็นข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการของ Nexperia เพื่อป้องกันการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญไปยังจีน โดยมีแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่กังวลว่า Zhang ใช้ทรัพยากรของ Nexperia สนับสนุนบริษัทผลิตชิปส่วนตัวของตนเอง

    หลังจากนั้น จีนได้สั่งห้ามโรงงานของ Nexperia ในจีนส่งออกสินค้า และ Zhang ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน WeChat อ้างว่าหน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งการจัดการจากเนเธอร์แลนด์

    Nexperia ยืนยันว่าโรงงานทุกแห่งยังดำเนินงานตามปกติ และข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนนั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยระบุว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างความสับสน

    รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ Vincent Karremans ซึ่งมีอำนาจอนุมัติการตัดสินใจของบริษัทในช่วงที่รัฐบาลเข้าควบคุม กำลังเตรียมพบกับเจ้าหน้าที่จีนและคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อหาทางออก

    เขาให้สัมภาษณ์ว่า “หากไม่ดำเนินการใด ๆ ยุโรปจะต้องพึ่งพาต่างชาติ 100% ในด้านความรู้และกำลังการผลิตชิป” ซึ่งสะท้อนความกังวลด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี

    Nexperia ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากอดีต CEO Zhang Xuezheng
    ระบุว่าเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนและการแยกตัวในจีนเป็นข้อมูลเท็จ

    Zhang ถูกปลดหลังถูกกล่าวหาว่าใช้ทรัพยากรบริษัทสนับสนุนกิจการส่วนตัว
    เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการ

    จีนสั่งห้ามโรงงาน Nexperia ส่งออกสินค้า
    เป็นการตอบโต้การควบคุมจากฝั่งยุโรป

    ข้อกล่าวหาถูกเผยแพร่ผ่าน WeChat ของ Nexperia China
    อ้างว่าหน่วยงานจีนสามารถดำเนินงานได้เอง

    รัฐมนตรี Vincent Karremans เตรียมหารือกับจีนและ EU
    เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง

    Nexperia เป็นผู้ผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ และยานยนต์
    แม้ไม่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/embattled-dutch-chipmaker-nexperia-blasts-ousted-ceo-over-false-accusations-claims-of-unpaid-salaries-and-independent-operation-in-china-are-falsehoods-say-company
    🇳🇱 “Nexperia โต้กลับอดีต CEO จีน — ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินและการแยกตัวในจีน” — เมื่อสงครามเทคโนโลยีระหว่างยุโรป-จีนลุกลามถึงระดับผู้บริหาร บริษัทผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ Nexperia ออกแถลงการณ์ตอบโต้ Zhang Xuezheng อดีต CEO ฝั่งจีนที่เพิ่งถูกปลด โดยระบุว่าข้อกล่าวหาที่ว่า “บริษัทไม่จ่ายเงินเดือนให้พนักงานในจีน” และ “หน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานอย่างอิสระ” เป็นข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการของ Nexperia เพื่อป้องกันการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญไปยังจีน โดยมีแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่กังวลว่า Zhang ใช้ทรัพยากรของ Nexperia สนับสนุนบริษัทผลิตชิปส่วนตัวของตนเอง หลังจากนั้น จีนได้สั่งห้ามโรงงานของ Nexperia ในจีนส่งออกสินค้า และ Zhang ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน WeChat อ้างว่าหน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งการจัดการจากเนเธอร์แลนด์ Nexperia ยืนยันว่าโรงงานทุกแห่งยังดำเนินงานตามปกติ และข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนนั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยระบุว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างความสับสน รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ Vincent Karremans ซึ่งมีอำนาจอนุมัติการตัดสินใจของบริษัทในช่วงที่รัฐบาลเข้าควบคุม กำลังเตรียมพบกับเจ้าหน้าที่จีนและคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อหาทางออก เขาให้สัมภาษณ์ว่า “หากไม่ดำเนินการใด ๆ ยุโรปจะต้องพึ่งพาต่างชาติ 100% ในด้านความรู้และกำลังการผลิตชิป” ซึ่งสะท้อนความกังวลด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี ✅ Nexperia ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากอดีต CEO Zhang Xuezheng ➡️ ระบุว่าเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนและการแยกตัวในจีนเป็นข้อมูลเท็จ ✅ Zhang ถูกปลดหลังถูกกล่าวหาว่าใช้ทรัพยากรบริษัทสนับสนุนกิจการส่วนตัว ➡️ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการ ✅ จีนสั่งห้ามโรงงาน Nexperia ส่งออกสินค้า ➡️ เป็นการตอบโต้การควบคุมจากฝั่งยุโรป ✅ ข้อกล่าวหาถูกเผยแพร่ผ่าน WeChat ของ Nexperia China ➡️ อ้างว่าหน่วยงานจีนสามารถดำเนินงานได้เอง ✅ รัฐมนตรี Vincent Karremans เตรียมหารือกับจีนและ EU ➡️ เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง ✅ Nexperia เป็นผู้ผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ และยานยนต์ ➡️ แม้ไม่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/embattled-dutch-chipmaker-nexperia-blasts-ousted-ceo-over-false-accusations-claims-of-unpaid-salaries-and-independent-operation-in-china-are-falsehoods-say-company
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • “ไทย” โต้เดือด!กลางเวที UNHCR กัมพูชาบิดเบือนข้อมูลเท็จ ลั่นให้ที่พักพิงเพราะมนุษยธรรม หนีภัยสงคราม พอสงบไม่ยอมกลับแถมบุกรุกเพิ่ม ทำให้ประเด็นระหว่างประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/21856/
    .
    #ไทยไท #ไทยกัมพูชา #UNHCR #เจนีวา #รุกล้ำอธิปไตย #ที่พักพิงชั่วคราว #สระแก้ว #เชลยศึก
    “ไทย” โต้เดือด!กลางเวที UNHCR กัมพูชาบิดเบือนข้อมูลเท็จ ลั่นให้ที่พักพิงเพราะมนุษยธรรม หนีภัยสงคราม พอสงบไม่ยอมกลับแถมบุกรุกเพิ่ม ทำให้ประเด็นระหว่างประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/21856/ . #ไทยไท #ไทยกัมพูชา #UNHCR #เจนีวา #รุกล้ำอธิปไตย #ที่พักพิงชั่วคราว #สระแก้ว #เชลยศึก
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • “สงครามใต้ดินในวงการบูตแคมป์: เมื่อ Reddit กลายเป็นอาวุธทำลายชื่อเสียง Codesmith ด้วยมือของคู่แข่ง”

    เรื่องราวสุดดาร์กของ Codesmith บูตแคมป์สายซอฟต์แวร์ที่เคยรุ่งเรืองด้วยรายได้กว่า $23.5 ล้าน กลับถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องผ่าน Reddit โดยผู้ก่อเหตุคือ Michael Novati — ผู้ร่วมก่อตั้ง Formation ซึ่งเป็นบูตแคมป์คู่แข่ง และยังเป็นผู้ดูแลหลักของ subreddit r/codingbootcamp

    Michael ใช้ตำแหน่ง moderator เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนข้อมูล ลบโพสต์เชิงบวกของ Codesmith และปล่อยคอมเมนต์เชิงลบทุกวันตลอด 487 วัน รวมกว่า 425 โพสต์ โดยใช้เทคนิคการเปรียบเทียบกับลัทธิ NXIVM, กล่าวหาว่ามีการโกงข้อมูล CIRR, และแม้กระทั่งตามรอยลูกของพนักงานบน LinkedIn เพื่อกล่าวหาว่ามีการเล่นเส้น

    ผลกระทบไม่ใช่แค่ชื่อเสียง แต่รวมถึงรายได้ที่ลดลงกว่า 40% จากการโจมตีบน Reddit และอีก 40% จากภาวะตลาด ทำให้ Codesmithต้องปลดพนักงานหลายรอบ เหลือเพียง 15 คน และผู้ก่อตั้งต้องลาออกเพราะความเครียด

    แม้จะมีการตรวจสอบจากหลายฝ่าย รวมถึงผู้ร่วมก่อตั้งบูตแคมป์อื่น ๆ ที่ยืนยันว่า Codesmith เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ดีที่สุดในวงการ แต่การควบคุม narrative บน Reddit ทำให้ผู้สนใจเรียนรู้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นกลางได้

    การโจมตีนี้ยังลามไปถึง Google และ LLM อย่าง ChatGPT ซึ่งดึงข้อมูลจาก Reddit ทำให้คำค้นหา “Codesmith ดีไหม” กลายเป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาและความสงสัย


    ธุรกิจของ “coding bootcamp” คือการให้บริการฝึกอบรมเข้มข้นด้านการเขียนโปรแกรมและทักษะเทคโนโลยี เพื่อเตรียมผู้เรียนเข้าสู่สายงานไอที โดยเฉพาะตำแหน่งอย่าง software engineer, full-stack developer, data analyst ฯลฯ ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน

    โมเดลธุรกิจของ bootcamp
    หลักสูตรแบบเร่งรัด (Intensive Program) Bootcamp มักจัดหลักสูตร 8–16 สัปดาห์ ที่เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น สร้างโปรเจกต์, pair programming, mock interview
    คัดเลือกผู้เรียนอย่างเข้มงวด หลายแห่ง เช่น Codesmith หรือ AppAcademy จะคัดเลือกผู้เรียนที่มีพื้นฐานหรือความมุ่งมั่นสูง เพื่อให้ผลลัพธ์หลังเรียนดีขึ้น
    รายได้หลักมาจากค่าเรียน ค่าเรียนมักอยู่ระหว่าง $10,000–$20,000 ต่อคน โดยบางแห่งมีระบบ “Income Share Agreement” (ISA) ที่ให้เรียนฟรีก่อน แล้วจ่ายเมื่อได้งาน
    บริการเสริมหลังเรียน เช่น การช่วยเขียน resume, mock interview, career coaching ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสได้งานและสร้างชื่อเสียงให้ bootcamp
    ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี บาง bootcamp มีดีลกับบริษัทเพื่อส่งนักเรียนไปฝึกงานหรือสมัครงานโดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและผลลัพธ์

    จุดที่สร้างกำไร
    ค่าเรียนต่อหัวสูง เมื่อ bootcamp มีชื่อเสียงและผลลัพธ์ดี ก็สามารถตั้งราคาสูงได้ เช่น Codesmith เคยมีรายได้ $23.5M จากนักเรียนไม่กี่พันคน
    ต้นทุนคงที่ต่ำ แม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านครูและระบบ แต่เมื่อหลักสูตรถูกออกแบบแล้ว สามารถใช้ซ้ำได้หลายรุ่นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มมาก
    การขยายแบบออนไลน์ หลาย bootcamp เปลี่ยนจาก onsite เป็น remote ทำให้ลดค่าเช่าสถานที่ และขยายตลาดได้ทั่วโลก
    การใช้ alumni เป็น brand ambassador ผู้เรียนที่ได้งานดีจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้ bootcamp โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาโดยตรง


    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Reddit เป็นแหล่งข้อมูลหลักของ LLM และปรากฏในผลการค้นหาของ Google
    CIRR เป็นองค์กรกลางที่เก็บข้อมูลผลลัพธ์ของบูตแคมป์อย่างเป็นกลาง
    การควบคุม subreddit ทำให้สามารถลบโพสต์, ปักหมุด, และแบนผู้ใช้ได้ตามใจ
    Formation เคยระดมทุน $4M จาก Andreessen Horowitz
    ผู้ร่วมก่อตั้งบูตแคมป์อื่น เช่น Tech Elevator และ AppAcademy ยืนยันว่า Codesmith มีคุณภาพสูง

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การควบคุม subreddit โดยคู่แข่งสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อธุรกิจ
    ผู้ใช้ทั่วไปไม่รู้ว่า moderator มีผลประโยชน์ทับซ้อน
    LLM และ Google ดึงข้อมูลจาก Reddit โดยไม่ตรวจสอบความเป็นกลาง
    การโจมตีแบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับธุรกิจใดก็ได้ที่มี subreddit อุตสาหกรรม
    ไม่มีระบบตรวจสอบหรือถ่วงดุลอำนาจของ moderator บน Reddit

    https://larslofgren.com/codesmith-reddit-reputation-attack/
    🔥 “สงครามใต้ดินในวงการบูตแคมป์: เมื่อ Reddit กลายเป็นอาวุธทำลายชื่อเสียง Codesmith ด้วยมือของคู่แข่ง” เรื่องราวสุดดาร์กของ Codesmith บูตแคมป์สายซอฟต์แวร์ที่เคยรุ่งเรืองด้วยรายได้กว่า $23.5 ล้าน กลับถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องผ่าน Reddit โดยผู้ก่อเหตุคือ Michael Novati — ผู้ร่วมก่อตั้ง Formation ซึ่งเป็นบูตแคมป์คู่แข่ง และยังเป็นผู้ดูแลหลักของ subreddit r/codingbootcamp Michael ใช้ตำแหน่ง moderator เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนข้อมูล ลบโพสต์เชิงบวกของ Codesmith และปล่อยคอมเมนต์เชิงลบทุกวันตลอด 487 วัน รวมกว่า 425 โพสต์ โดยใช้เทคนิคการเปรียบเทียบกับลัทธิ NXIVM, กล่าวหาว่ามีการโกงข้อมูล CIRR, และแม้กระทั่งตามรอยลูกของพนักงานบน LinkedIn เพื่อกล่าวหาว่ามีการเล่นเส้น ผลกระทบไม่ใช่แค่ชื่อเสียง แต่รวมถึงรายได้ที่ลดลงกว่า 40% จากการโจมตีบน Reddit และอีก 40% จากภาวะตลาด ทำให้ Codesmithต้องปลดพนักงานหลายรอบ เหลือเพียง 15 คน และผู้ก่อตั้งต้องลาออกเพราะความเครียด แม้จะมีการตรวจสอบจากหลายฝ่าย รวมถึงผู้ร่วมก่อตั้งบูตแคมป์อื่น ๆ ที่ยืนยันว่า Codesmith เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ดีที่สุดในวงการ แต่การควบคุม narrative บน Reddit ทำให้ผู้สนใจเรียนรู้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นกลางได้ การโจมตีนี้ยังลามไปถึง Google และ LLM อย่าง ChatGPT ซึ่งดึงข้อมูลจาก Reddit ทำให้คำค้นหา “Codesmith ดีไหม” กลายเป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาและความสงสัย 🔖🔖 ธุรกิจของ “coding bootcamp” คือการให้บริการฝึกอบรมเข้มข้นด้านการเขียนโปรแกรมและทักษะเทคโนโลยี เพื่อเตรียมผู้เรียนเข้าสู่สายงานไอที โดยเฉพาะตำแหน่งอย่าง software engineer, full-stack developer, data analyst ฯลฯ ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ✅ โมเดลธุรกิจของ bootcamp ➡️ หลักสูตรแบบเร่งรัด (Intensive Program) Bootcamp มักจัดหลักสูตร 8–16 สัปดาห์ ที่เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น สร้างโปรเจกต์, pair programming, mock interview ➡️ คัดเลือกผู้เรียนอย่างเข้มงวด หลายแห่ง เช่น Codesmith หรือ AppAcademy จะคัดเลือกผู้เรียนที่มีพื้นฐานหรือความมุ่งมั่นสูง เพื่อให้ผลลัพธ์หลังเรียนดีขึ้น ➡️ รายได้หลักมาจากค่าเรียน ค่าเรียนมักอยู่ระหว่าง $10,000–$20,000 ต่อคน โดยบางแห่งมีระบบ “Income Share Agreement” (ISA) ที่ให้เรียนฟรีก่อน แล้วจ่ายเมื่อได้งาน ➡️ บริการเสริมหลังเรียน เช่น การช่วยเขียน resume, mock interview, career coaching ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสได้งานและสร้างชื่อเสียงให้ bootcamp ➡️ ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี บาง bootcamp มีดีลกับบริษัทเพื่อส่งนักเรียนไปฝึกงานหรือสมัครงานโดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและผลลัพธ์ ✅ จุดที่สร้างกำไร ➡️ ค่าเรียนต่อหัวสูง เมื่อ bootcamp มีชื่อเสียงและผลลัพธ์ดี ก็สามารถตั้งราคาสูงได้ เช่น Codesmith เคยมีรายได้ $23.5M จากนักเรียนไม่กี่พันคน ➡️ ต้นทุนคงที่ต่ำ แม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านครูและระบบ แต่เมื่อหลักสูตรถูกออกแบบแล้ว สามารถใช้ซ้ำได้หลายรุ่นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มมาก ➡️ การขยายแบบออนไลน์ หลาย bootcamp เปลี่ยนจาก onsite เป็น remote ทำให้ลดค่าเช่าสถานที่ และขยายตลาดได้ทั่วโลก ➡️ การใช้ alumni เป็น brand ambassador ผู้เรียนที่ได้งานดีจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้ bootcamp โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาโดยตรง 🔖🔖🔖 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Reddit เป็นแหล่งข้อมูลหลักของ LLM และปรากฏในผลการค้นหาของ Google ➡️ CIRR เป็นองค์กรกลางที่เก็บข้อมูลผลลัพธ์ของบูตแคมป์อย่างเป็นกลาง ➡️ การควบคุม subreddit ทำให้สามารถลบโพสต์, ปักหมุด, และแบนผู้ใช้ได้ตามใจ ➡️ Formation เคยระดมทุน $4M จาก Andreessen Horowitz ➡️ ผู้ร่วมก่อตั้งบูตแคมป์อื่น เช่น Tech Elevator และ AppAcademy ยืนยันว่า Codesmith มีคุณภาพสูง ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การควบคุม subreddit โดยคู่แข่งสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อธุรกิจ ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปไม่รู้ว่า moderator มีผลประโยชน์ทับซ้อน ⛔ LLM และ Google ดึงข้อมูลจาก Reddit โดยไม่ตรวจสอบความเป็นกลาง ⛔ การโจมตีแบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับธุรกิจใดก็ได้ที่มี subreddit อุตสาหกรรม ⛔ ไม่มีระบบตรวจสอบหรือถ่วงดุลอำนาจของ moderator บน Reddit https://larslofgren.com/codesmith-reddit-reputation-attack/
    LARSLOFGREN.COM
    The Story of Codesmith: How a Competitor Crippled a $23.5M Bootcamp By Becoming a Reddit Moderator
    Let’s say you decide to start a coding bootcamp. Your background is in pedagogy and you love teaching. Your parents were teachers. You find a co-founder, raise a bit of money, and pour your soul into your company. The first couple of years, students love your program. Positive feedback, extraordinary student outcomes, employees love the mission. You are quite literally […]
    0 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews
  • กองทัพภาคที่ 1 แจง กกล.บูรพาเข้าเก็บกู้ทุ่นระเบิด บ.หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว 10 ต.ค.เพื่อเตรียมพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทยให้เอื้อต่อการปกป้องอธิปไตย แจ้งให้กัมพูชาทราบป้องกันบิดเบือนข้อมูล ย้ำพร้อมเข้าดำเนินการอย่างเด็ดขาดในห้วงเวลาที่ได้เปรียบ ยึดผลสำเร็จทางยุทธวิธีและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000096716

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กองทัพภาคที่ 1 แจง กกล.บูรพาเข้าเก็บกู้ทุ่นระเบิด บ.หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว 10 ต.ค.เพื่อเตรียมพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทยให้เอื้อต่อการปกป้องอธิปไตย แจ้งให้กัมพูชาทราบป้องกันบิดเบือนข้อมูล ย้ำพร้อมเข้าดำเนินการอย่างเด็ดขาดในห้วงเวลาที่ได้เปรียบ ยึดผลสำเร็จทางยุทธวิธีและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000096716 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 457 Views 0 Reviews
  • กองทัพบกเผย กัมพูชาบิดเบือนข้อมูล สร้างภาพถูกกระทำ หลังไทยเตรียมใช้กฎหมายผลักดันรุกล้ำชายแดนสระแก้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/21830/
    .
    #ไทยไท #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #รุกล้ำอธิปไตย #กฎอัยการศึก #สระแก้ว #วินธัยสุวารี

    กองทัพบกเผย กัมพูชาบิดเบือนข้อมูล สร้างภาพถูกกระทำ หลังไทยเตรียมใช้กฎหมายผลักดันรุกล้ำชายแดนสระแก้ว https://www.thai-tai.tv/news/21830/ . #ไทยไท #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #รุกล้ำอธิปไตย #กฎอัยการศึก #สระแก้ว #วินธัยสุวารี
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • เมื่อพลังงานลมถูกโจมตีด้วย “เงินน้ำมัน” และกลยุทธ์ทางกฎหมาย

    ในขณะที่โลกกำลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Brown กลับพบว่าเบื้องหลังการต่อต้านโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในสหรัฐฯ มีเครือข่ายที่ซับซ้อนซึ่งได้รับทุนจากอุตสาหกรรมน้ำมันและกลุ่มการเมืองฝ่ายขวา

    รายงาน “Legal Entanglements” จาก Climate & Development Lab (CDL) เปิดเผยว่า กลุ่มต่อต้านพลังงานลมใช้กลยุทธ์ทางกฎหมายและการบิดเบือนข้อมูลเพื่อชะลอหรือยกเลิกโครงการพลังงานลม โดยอ้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การคุกคามวาฬสายพันธุ์ North Atlantic Right Whale ทั้งที่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าอุตสาหกรรมน้ำมันเป็นตัวการหลักที่ทำลายระบบนิเวศทางทะเล

    หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นคือการฟ้องร้องโครงการ Cape Wind โดยกลุ่ม Alliance to Protect Nantucket Sound ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีน้ำมัน William Koch จนทำให้โครงการต้องยุติ แม้จะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม

    เมื่อ CDL เปิดเผยความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มต่อต้านกับบริษัทน้ำมันและสำนักงานกฎหมาย เช่น Marzulla Law บริษัทเหล่านี้กลับตอบโต้ด้วยการข่มขู่ให้มหาวิทยาลัย Brown ถอนรายงาน และขู่ว่าจะยื่นเรื่องให้หน่วยงานรัฐตัดงบประมาณของมหาวิทยาลัย

    สิ่งที่น่ากังวลคือ การโจมตีทางกฎหมายเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้โครงการพลังงานสะอาดล่าช้า แต่ยังเป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของพลังงานลม

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    CDL แห่งมหาวิทยาลัย Brown เผยรายงาน “Legal Entanglements” เปิดโปงเครือข่ายต่อต้านพลังงานลม
    กลุ่มต่อต้านได้รับทุนจากอุตสาหกรรมน้ำมันและกลุ่มการเมืองฝ่ายขวา
    ใช้กลยุทธ์ทางกฎหมายและการบิดเบือนข้อมูลเพื่อชะลอหรือยกเลิกโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง
    อ้างการคุกคามวาฬ North Atlantic Right Whale ทั้งที่สาเหตุหลักมาจากการขนส่งน้ำมันและภาวะโลกร้อน
    Marzulla Law ส่งจดหมายข่มขู่ให้มหาวิทยาลัย Brown ถอนรายงาน และขู่ว่าจะยื่นเรื่องให้ DOE ตัดงบประมาณ
    กลุ่ม Green Oceans ที่ Marzulla Law เป็นตัวแทน เคยฟ้องโครงการ Revolution Wind จนต้องหยุดชั่วคราว
    CDL ยืนยันว่าไม่ได้รับทุนจาก DOE และจะไม่ยอมเซ็นเซอร์งานวิจัย
    Brown University ยืนยันหลักการเสรีภาพทางวิชาการ แม้จะถูกกดดันจากภายนอก
    รายงานชี้ว่าการฟ้องร้องแม้ไม่สำเร็จ ก็สามารถทำให้โครงการล่าช้าและเพิ่มต้นทุน
    การบิดเบือนข้อมูลทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของพลังงานลม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Offshore wind มีศักยภาพสูงในแถบ North Atlantic และสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง
    ประเทศอย่างเดนมาร์ก เยอรมนี และเวียดนามประสบความสำเร็จในการใช้พลังงานลมนอกชายฝั่ง
    การใช้พลังงานลมช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และลดการปล่อยคาร์บอน
    การฟ้องร้องโครงการพลังงานสะอาดเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วโลกเพื่อรักษาผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมเก่า
    การคุกคามนักวิจัยและมหาวิทยาลัยเป็นรูปแบบใหม่ของการโจมตีเสรีภาพทางวิชาการ

    https://electrek.co/2025/08/25/scientist-exposes-anti-wind-groups-as-oil-funded-now-they-want-to-silence-him/
    🌬️ เมื่อพลังงานลมถูกโจมตีด้วย “เงินน้ำมัน” และกลยุทธ์ทางกฎหมาย ในขณะที่โลกกำลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Brown กลับพบว่าเบื้องหลังการต่อต้านโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในสหรัฐฯ มีเครือข่ายที่ซับซ้อนซึ่งได้รับทุนจากอุตสาหกรรมน้ำมันและกลุ่มการเมืองฝ่ายขวา รายงาน “Legal Entanglements” จาก Climate & Development Lab (CDL) เปิดเผยว่า กลุ่มต่อต้านพลังงานลมใช้กลยุทธ์ทางกฎหมายและการบิดเบือนข้อมูลเพื่อชะลอหรือยกเลิกโครงการพลังงานลม โดยอ้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การคุกคามวาฬสายพันธุ์ North Atlantic Right Whale ทั้งที่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าอุตสาหกรรมน้ำมันเป็นตัวการหลักที่ทำลายระบบนิเวศทางทะเล หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นคือการฟ้องร้องโครงการ Cape Wind โดยกลุ่ม Alliance to Protect Nantucket Sound ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีน้ำมัน William Koch จนทำให้โครงการต้องยุติ แม้จะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม เมื่อ CDL เปิดเผยความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มต่อต้านกับบริษัทน้ำมันและสำนักงานกฎหมาย เช่น Marzulla Law บริษัทเหล่านี้กลับตอบโต้ด้วยการข่มขู่ให้มหาวิทยาลัย Brown ถอนรายงาน และขู่ว่าจะยื่นเรื่องให้หน่วยงานรัฐตัดงบประมาณของมหาวิทยาลัย สิ่งที่น่ากังวลคือ การโจมตีทางกฎหมายเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้โครงการพลังงานสะอาดล่าช้า แต่ยังเป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของพลังงานลม 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ CDL แห่งมหาวิทยาลัย Brown เผยรายงาน “Legal Entanglements” เปิดโปงเครือข่ายต่อต้านพลังงานลม ➡️ กลุ่มต่อต้านได้รับทุนจากอุตสาหกรรมน้ำมันและกลุ่มการเมืองฝ่ายขวา ➡️ ใช้กลยุทธ์ทางกฎหมายและการบิดเบือนข้อมูลเพื่อชะลอหรือยกเลิกโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง ➡️ อ้างการคุกคามวาฬ North Atlantic Right Whale ทั้งที่สาเหตุหลักมาจากการขนส่งน้ำมันและภาวะโลกร้อน ➡️ Marzulla Law ส่งจดหมายข่มขู่ให้มหาวิทยาลัย Brown ถอนรายงาน และขู่ว่าจะยื่นเรื่องให้ DOE ตัดงบประมาณ ➡️ กลุ่ม Green Oceans ที่ Marzulla Law เป็นตัวแทน เคยฟ้องโครงการ Revolution Wind จนต้องหยุดชั่วคราว ➡️ CDL ยืนยันว่าไม่ได้รับทุนจาก DOE และจะไม่ยอมเซ็นเซอร์งานวิจัย ➡️ Brown University ยืนยันหลักการเสรีภาพทางวิชาการ แม้จะถูกกดดันจากภายนอก ➡️ รายงานชี้ว่าการฟ้องร้องแม้ไม่สำเร็จ ก็สามารถทำให้โครงการล่าช้าและเพิ่มต้นทุน ➡️ การบิดเบือนข้อมูลทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของพลังงานลม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Offshore wind มีศักยภาพสูงในแถบ North Atlantic และสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ➡️ ประเทศอย่างเดนมาร์ก เยอรมนี และเวียดนามประสบความสำเร็จในการใช้พลังงานลมนอกชายฝั่ง ➡️ การใช้พลังงานลมช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และลดการปล่อยคาร์บอน ➡️ การฟ้องร้องโครงการพลังงานสะอาดเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วโลกเพื่อรักษาผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมเก่า ➡️ การคุกคามนักวิจัยและมหาวิทยาลัยเป็นรูปแบบใหม่ของการโจมตีเสรีภาพทางวิชาการ https://electrek.co/2025/08/25/scientist-exposes-anti-wind-groups-as-oil-funded-now-they-want-to-silence-him/
    ELECTREK.CO
    Scientist exposes anti-wind groups as oil-funded. Now they want to silence him.
    A report shows how fossil-funded legal groups file bogus lawsuits and spread disinfo about wind - then those lawyers threatened the authors.
    0 Comments 0 Shares 466 Views 0 Reviews
  • เมื่อ DNS กลายเป็นเครื่องมือบิดเบือนความจริง – การบล็อกเว็บในเยอรมนีที่ไม่โปร่งใส

    ในปี 2024 เด็กสาววัย 17 ปีชื่อ Lina ได้เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมรายชื่อโดเมนที่ถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาชิกของ CUII – กลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อจัดการกับเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์

    ก่อนหน้านั้น เมื่อผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก DNS จะตอบกลับด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเว็บไซต์นั้นถูกบล็อกด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์

    แต่หลังจาก Lina เปิดเผยข้อมูล ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Telekom, Vodafone, 1&1 และ Telefónica (O2) เปลี่ยนวิธีตอบกลับ DNS เป็น NXDOMAIN ซึ่งหมายความว่า “ไม่มีเว็บไซต์นี้อยู่จริง” แทนที่จะบอกว่า “ถูกบล็อก” ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ว่าเว็บไซต์ถูกบล็อกหรือแค่พิมพ์ผิด

    Telekom อ้างว่าเป็นการเปลี่ยนชั่วคราวเพื่อเตรียมหน้า landing page ส่วน 1&1 ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการเปิดเผยของ Lina ขณะที่ O2 เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส

    ในปี 2025 CUII ประกาศว่าจะเริ่มให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเว็บไซต์ทุกกรณี เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความชอบธรรมทางกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    CUII เป็นกลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์
    ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนีเคยตอบ DNS ด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info
    หลังการเปิดเผยของ Lina ผู้ให้บริการเปลี่ยนเป็น NXDOMAIN เพื่อปกปิดการบล็อก
    Lina เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมโดเมนที่ถูกบล็อกโดย CUII
    Telekom, Vodafone, และ 1&1 เปลี่ยนวิธีตอบ DNS ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการเปิดเผย
    Telefónica (O2) เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส
    CUII ประกาศในปี 2025 ว่าจะให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกทุกกรณี
    เว็บไซต์ที่ถูกบล็อกส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์, เพลง, เกม, และหนังสือ
    Sci-Hub ถูกบล็อก แม้จะมีเนื้อหาวิชาการแบบ open access รวมอยู่ด้วย
    การบล็อกเว็บไซต์ทำผ่าน DNS ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NXDOMAIN เป็นการตอบกลับ DNS ที่หมายถึง “ไม่มีโดเมนนี้อยู่จริง”
    การใช้ NXDOMAIN แทนการแจ้งว่า “ถูกบล็อก” ทำให้เกิดความไม่โปร่งใส
    DNS เป็นระบบพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต การบิดเบือนข้อมูลในระดับนี้ส่งผลต่อความเชื่อถือ
    การบล็อกผ่าน DNS ต่างจากการบล็อกผ่าน IP หรือ URL ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า
    การให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเป็นแนวทางที่เพิ่มความชอบธรรม แต่ยังขาดการเปิดเผยต่อสาธารณะ

    https://lina.sh/blog/telefonica-sabotages-me
    🎙️ เมื่อ DNS กลายเป็นเครื่องมือบิดเบือนความจริง – การบล็อกเว็บในเยอรมนีที่ไม่โปร่งใส ในปี 2024 เด็กสาววัย 17 ปีชื่อ Lina ได้เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมรายชื่อโดเมนที่ถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาชิกของ CUII – กลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อจัดการกับเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านั้น เมื่อผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก DNS จะตอบกลับด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเว็บไซต์นั้นถูกบล็อกด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์ แต่หลังจาก Lina เปิดเผยข้อมูล ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Telekom, Vodafone, 1&1 และ Telefónica (O2) เปลี่ยนวิธีตอบกลับ DNS เป็น NXDOMAIN ซึ่งหมายความว่า “ไม่มีเว็บไซต์นี้อยู่จริง” แทนที่จะบอกว่า “ถูกบล็อก” ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ว่าเว็บไซต์ถูกบล็อกหรือแค่พิมพ์ผิด Telekom อ้างว่าเป็นการเปลี่ยนชั่วคราวเพื่อเตรียมหน้า landing page ส่วน 1&1 ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการเปิดเผยของ Lina ขณะที่ O2 เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส ในปี 2025 CUII ประกาศว่าจะเริ่มให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเว็บไซต์ทุกกรณี เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความชอบธรรมทางกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ CUII เป็นกลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ➡️ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนีเคยตอบ DNS ด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info ➡️ หลังการเปิดเผยของ Lina ผู้ให้บริการเปลี่ยนเป็น NXDOMAIN เพื่อปกปิดการบล็อก ➡️ Lina เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมโดเมนที่ถูกบล็อกโดย CUII ➡️ Telekom, Vodafone, และ 1&1 เปลี่ยนวิธีตอบ DNS ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการเปิดเผย ➡️ Telefónica (O2) เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส ➡️ CUII ประกาศในปี 2025 ว่าจะให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกทุกกรณี ➡️ เว็บไซต์ที่ถูกบล็อกส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์, เพลง, เกม, และหนังสือ ➡️ Sci-Hub ถูกบล็อก แม้จะมีเนื้อหาวิชาการแบบ open access รวมอยู่ด้วย ➡️ การบล็อกเว็บไซต์ทำผ่าน DNS ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NXDOMAIN เป็นการตอบกลับ DNS ที่หมายถึง “ไม่มีโดเมนนี้อยู่จริง” ➡️ การใช้ NXDOMAIN แทนการแจ้งว่า “ถูกบล็อก” ทำให้เกิดความไม่โปร่งใส ➡️ DNS เป็นระบบพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต การบิดเบือนข้อมูลในระดับนี้ส่งผลต่อความเชื่อถือ ➡️ การบล็อกผ่าน DNS ต่างจากการบล็อกผ่าน IP หรือ URL ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า ➡️ การให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเป็นแนวทางที่เพิ่มความชอบธรรม แต่ยังขาดการเปิดเผยต่อสาธารณะ https://lina.sh/blog/telefonica-sabotages-me
    LINA.SH
    A German ISP tampered with their DNS - specifically to sabotage my website
    One of Germany's biggest ISPs changed how their DNS works, right after I exposed an organization that they’re part of.
    0 Comments 0 Shares 343 Views 0 Reviews
  • “ศรีสุวรรณ” ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด 2 สส.พรรคประชาชน! ชี้ใช้ถ้อยคำดูหมิ่นศาสนา-บิดเบือนข้อมูล...ส่อผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง
    https://www.thai-tai.tv/news/20988/
    .
    #ศรีสุวรรณจรรยา #ปปช #พรรคประชาชน #นิตยภัต #จริยธรรมนักการเมือง #ไทยไท
    “ศรีสุวรรณ” ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด 2 สส.พรรคประชาชน! ชี้ใช้ถ้อยคำดูหมิ่นศาสนา-บิดเบือนข้อมูล...ส่อผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง https://www.thai-tai.tv/news/20988/ . #ศรีสุวรรณจรรยา #ปปช #พรรคประชาชน #นิตยภัต #จริยธรรมนักการเมือง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 381 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: เมื่อการกู้เงินด้วยเหรียญดิจิทัลต้องเผชิญภัยไซเบอร์

    ในยุคที่คริปโตไม่ใช่แค่การลงทุน แต่กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ “Crypto-backed lending” จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถกู้เงินโดยไม่ต้องขายเหรียญออกไป

    แต่ในความสะดวกนั้น ก็มีเงามืดของภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกล็อกไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็ยิ่งพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเจาะระบบให้ได้

    ภัยที่พบได้บ่อยคือการเจาะ smart contract ที่มีช่องโหว่ เช่นกรณี Inverse Finance ที่ถูกแฮกผ่านการบิดเบือนข้อมูลจาก oracle จนสูญเงินกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือกรณี Atomic Wallet ที่สูญเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์เพราะการจัดการ private key ที่หละหลวม

    นอกจากนี้ยังมีการปลอมเว็บกู้เงินบน Telegram และ Discord เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase หรือ key รวมถึงมัลแวร์ที่แอบเปลี่ยน address ใน clipboard เพื่อขโมยเหรียญแบบเนียน ๆ

    บทเรียนจากอดีต เช่นการล่มของ Celsius Network และการถูกเจาะซ้ำของ Cream Finance แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่โค้ดที่ต้องแข็งแรง แต่กระบวนการภายในและการตรวจสอบความเสี่ยงก็ต้องเข้มงวดด้วย

    แนวทางป้องกันที่ดีคือการใช้ multi-signature wallet เช่น Gnosis Safe, การตรวจสอบ smart contract ด้วย formal verification, การตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ real-time และการให้ผู้ใช้ใช้ hardware wallet ร่วมกับ 2FA เป็นมาตรฐาน

    Crypto-backed lending เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024
    มีสินทรัพย์กว่า $80B ถูกล็อกใน DeFi lending pools

    ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoin โดยใช้ BTC หรือ ETH เป็นหลักประกัน
    ไม่ต้องขายเหรียญเพื่อแลกเป็นเงินสด

    ช่องโหว่ใน smart contract เป็นจุดเสี่ยงหลัก
    เช่นกรณี Inverse Finance สูญเงิน $15M จาก oracle manipulation

    การจัดการ private key ที่ไม่ปลอดภัยนำไปสู่การสูญเงินมหาศาล
    Atomic Wallet สูญเงิน $35M จาก vendor ที่เก็บ key ไม่ดี

    การปลอมเว็บกู้เงินและมัลแวร์ clipboard เป็นภัยที่พุ่งเป้าผู้ใช้ทั่วไป
    พบมากใน Telegram, Discord และ browser extensions

    Celsius Network และ Cream Finance เคยถูกแฮกจากการควบคุมภายในที่อ่อนแอ
    เช่นการไม่อัปเดตระบบและการละเลย audit findings

    แนวทางป้องกันที่แนะนำคือ multi-sig wallet, formal verification และ anomaly detection
    Gnosis Safe เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน DeFi

    ตลาด crypto lending มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
    คาดว่าจะกลายเป็นเครื่องมือการเงินหลักในอนาคต

    Blockchain ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง
    แต่ก็ยังต้องพึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง

    End-to-end encryption และ biometric login เป็นแนวทางเสริมความปลอดภัย
    ช่วยลดความเสี่ยงจาก phishing และ social engineering

    การใช้ระบบ real-time monitoring และ kill switch ช่วยหยุดการโจมตีทันที
    ลดความเสียหายจากการเจาะระบบแบบ flash attack

    https://hackread.com/navigating-cybersecurity-risks-crypto-backed-lending/
    🛡️💸 เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: เมื่อการกู้เงินด้วยเหรียญดิจิทัลต้องเผชิญภัยไซเบอร์ ในยุคที่คริปโตไม่ใช่แค่การลงทุน แต่กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ “Crypto-backed lending” จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถกู้เงินโดยไม่ต้องขายเหรียญออกไป แต่ในความสะดวกนั้น ก็มีเงามืดของภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกล็อกไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็ยิ่งพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเจาะระบบให้ได้ ภัยที่พบได้บ่อยคือการเจาะ smart contract ที่มีช่องโหว่ เช่นกรณี Inverse Finance ที่ถูกแฮกผ่านการบิดเบือนข้อมูลจาก oracle จนสูญเงินกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือกรณี Atomic Wallet ที่สูญเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์เพราะการจัดการ private key ที่หละหลวม นอกจากนี้ยังมีการปลอมเว็บกู้เงินบน Telegram และ Discord เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase หรือ key รวมถึงมัลแวร์ที่แอบเปลี่ยน address ใน clipboard เพื่อขโมยเหรียญแบบเนียน ๆ บทเรียนจากอดีต เช่นการล่มของ Celsius Network และการถูกเจาะซ้ำของ Cream Finance แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่โค้ดที่ต้องแข็งแรง แต่กระบวนการภายในและการตรวจสอบความเสี่ยงก็ต้องเข้มงวดด้วย แนวทางป้องกันที่ดีคือการใช้ multi-signature wallet เช่น Gnosis Safe, การตรวจสอบ smart contract ด้วย formal verification, การตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ real-time และการให้ผู้ใช้ใช้ hardware wallet ร่วมกับ 2FA เป็นมาตรฐาน ✅ Crypto-backed lending เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024 ➡️ มีสินทรัพย์กว่า $80B ถูกล็อกใน DeFi lending pools ✅ ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoin โดยใช้ BTC หรือ ETH เป็นหลักประกัน ➡️ ไม่ต้องขายเหรียญเพื่อแลกเป็นเงินสด ✅ ช่องโหว่ใน smart contract เป็นจุดเสี่ยงหลัก ➡️ เช่นกรณี Inverse Finance สูญเงิน $15M จาก oracle manipulation ✅ การจัดการ private key ที่ไม่ปลอดภัยนำไปสู่การสูญเงินมหาศาล ➡️ Atomic Wallet สูญเงิน $35M จาก vendor ที่เก็บ key ไม่ดี ✅ การปลอมเว็บกู้เงินและมัลแวร์ clipboard เป็นภัยที่พุ่งเป้าผู้ใช้ทั่วไป ➡️ พบมากใน Telegram, Discord และ browser extensions ✅ Celsius Network และ Cream Finance เคยถูกแฮกจากการควบคุมภายในที่อ่อนแอ ➡️ เช่นการไม่อัปเดตระบบและการละเลย audit findings ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำคือ multi-sig wallet, formal verification และ anomaly detection ➡️ Gnosis Safe เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน DeFi ✅ ตลาด crypto lending มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ➡️ คาดว่าจะกลายเป็นเครื่องมือการเงินหลักในอนาคต ✅ Blockchain ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง ➡️ แต่ก็ยังต้องพึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง ✅ End-to-end encryption และ biometric login เป็นแนวทางเสริมความปลอดภัย ➡️ ช่วยลดความเสี่ยงจาก phishing และ social engineering ✅ การใช้ระบบ real-time monitoring และ kill switch ช่วยหยุดการโจมตีทันที ➡️ ลดความเสียหายจากการเจาะระบบแบบ flash attack https://hackread.com/navigating-cybersecurity-risks-crypto-backed-lending/
    HACKREAD.COM
    Navigating Cybersecurity Risks in Crypto-Backed Lending
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 601 Views 0 Reviews
  • ไทยแจงนานาชาติพร้อมหลักฐาน ยันกัมพูชายั่วยุก่อน ละเมิดหยุดยิง บิดเบือนข้อมูล ไทยใช้กำลังตอบโต้จำเป็น-ได้สัดส่วนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำโจมตีเป้าหมายทหารเท่านั้น เรียกร้องเจรจาสันติวิธี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073121

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ไทยแจงนานาชาติพร้อมหลักฐาน ยันกัมพูชายั่วยุก่อน ละเมิดหยุดยิง บิดเบือนข้อมูล ไทยใช้กำลังตอบโต้จำเป็น-ได้สัดส่วนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำโจมตีเป้าหมายทหารเท่านั้น เรียกร้องเจรจาสันติวิธี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073121 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 624 Views 0 Reviews
  • ไทยตอบโต้กัมพูชา แจงนานาชาติพร้อมหลักฐาน ยันกัมพูชายั่วยุก่อน-ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-บิดเบือนข้อมูล ไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำใช้กำลังตอบโต้แบบจำเป็นและได้สัดส่วน พร้อมเรียกร้องเจรจาสันติวิธี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000073110

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ไทยตอบโต้กัมพูชา แจงนานาชาติพร้อมหลักฐาน ยันกัมพูชายั่วยุก่อน-ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-บิดเบือนข้อมูล ไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำใช้กำลังตอบโต้แบบจำเป็นและได้สัดส่วน พร้อมเรียกร้องเจรจาสันติวิธี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000073110 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 1030 Views 0 Reviews
  • ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072825

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072825 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 720 Views 0 Reviews
  • ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072870

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072870 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    1 Comments 0 Shares 1144 Views 0 Reviews
  • เปิดหลักฐานชุดใหญ่! โฆษกรัฐบาลยันไทยใช้สิทธิป้องกันตนเอง กัมพูชาป่วนชายแดน พุ่งเป้า โจมตี"พลเรือน" - บิดเบือนข้อมูล
    https://www.thai-tai.tv/news/20685/
    .
    #ไทยไท #ThailandFactMission #TruthfromThailand #สถานการณ์ไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความขัดแย้งชายแดน #กฎหมายระหว่างประเทศ #ข่าวปลอม
    เปิดหลักฐานชุดใหญ่! โฆษกรัฐบาลยันไทยใช้สิทธิป้องกันตนเอง กัมพูชาป่วนชายแดน พุ่งเป้า โจมตี"พลเรือน" - บิดเบือนข้อมูล https://www.thai-tai.tv/news/20685/ . #ไทยไท #ThailandFactMission #TruthfromThailand #สถานการณ์ไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความขัดแย้งชายแดน #กฎหมายระหว่างประเทศ #ข่าวปลอม
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • กัมพูชา "หน้าด้าน" โวยไทยในเวทีโลก! ทูตไทยสวนกลับทันควัน แฉ "ละเมิดหยุดยิง" ซ้ำ "รุกรานอธิปไตยไทย"
    https://www.thai-tai.tv/news/20662/
    .
    #ทูตไทย #สหประชาชาติ #กัมพูชา #ละเมิดหยุดยิง #บิดเบือนข้อมูล #อธิปไตยไทย #เวทีโลก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    กัมพูชา "หน้าด้าน" โวยไทยในเวทีโลก! ทูตไทยสวนกลับทันควัน แฉ "ละเมิดหยุดยิง" ซ้ำ "รุกรานอธิปไตยไทย" https://www.thai-tai.tv/news/20662/ . #ทูตไทย #สหประชาชาติ #กัมพูชา #ละเมิดหยุดยิง #บิดเบือนข้อมูล #อธิปไตยไทย #เวทีโลก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • "วันนี้กัมพูชาโกหกอะไร?" โฆษกรัฐบาลไทยเหน็บ! หลังเขมรอ้าง "ระเบิด 1 ตัน" ของไทยตกใส่หมู่บ้าน...แต่สภาพ "ขึ้นสนิม-เก่าคร่ำครึ"
    https://www.thai-tai.tv/news/20660/
    .
    #ระเบิดMK84 #กัมพูชาโกหก #กองทัพอากาศไทย #โฆษกรัฐบาล #สงครามเวียดนาม #บิดเบือนข้อมูล #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    "วันนี้กัมพูชาโกหกอะไร?" โฆษกรัฐบาลไทยเหน็บ! หลังเขมรอ้าง "ระเบิด 1 ตัน" ของไทยตกใส่หมู่บ้าน...แต่สภาพ "ขึ้นสนิม-เก่าคร่ำครึ" https://www.thai-tai.tv/news/20660/ . #ระเบิดMK84 #กัมพูชาโกหก #กองทัพอากาศไทย #โฆษกรัฐบาล #สงครามเวียดนาม #บิดเบือนข้อมูล #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • กัมพูชาอ้างไทยทิ้งระเบิด MK-84! กองทัพอากาศไทยโต้เดือด ยันเป็นระเบิดเก่าสมัยสงครามเวียดนาม ไม่ใช่ของไทยแน่นอน โฆษกรัฐบาลไทยแฉยับ "กัมพูชาโกหกอะไร" พร้อมตั้งคำถามถึงเจตนาบิดเบือนข้อมูล!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072343

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กัมพูชาอ้างไทยทิ้งระเบิด MK-84! กองทัพอากาศไทยโต้เดือด ยันเป็นระเบิดเก่าสมัยสงครามเวียดนาม ไม่ใช่ของไทยแน่นอน โฆษกรัฐบาลไทยแฉยับ "กัมพูชาโกหกอะไร" พร้อมตั้งคำถามถึงเจตนาบิดเบือนข้อมูล! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072343 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    1 Comments 0 Shares 504 Views 0 Reviews
  • พล.ต.วันชนะ แฉ "เขมร" ปลุกปั่นข่าว "อาวุธชีวภาพ" แถมสอนวิธี "ป้องกันแก๊สพิษ" ด้วย "กระเทียมถูจมูก"
    https://www.thai-tai.tv/news/20639/
    .
    #พลตวันชนะสวัสดี #ซีรี่ย์หลวงโลก #อาวุธชีวภาพ #แก๊สพิษ #กัมพูชา #กองทัพไทย #อนุสัญญาสากล #บิดเบือนข้อมูล #ความมั่นคงชายแดน #ไทยไท
    พล.ต.วันชนะ แฉ "เขมร" ปลุกปั่นข่าว "อาวุธชีวภาพ" แถมสอนวิธี "ป้องกันแก๊สพิษ" ด้วย "กระเทียมถูจมูก" https://www.thai-tai.tv/news/20639/ . #พลตวันชนะสวัสดี #ซีรี่ย์หลวงโลก #อาวุธชีวภาพ #แก๊สพิษ #กัมพูชา #กองทัพไทย #อนุสัญญาสากล #บิดเบือนข้อมูล #ความมั่นคงชายแดน #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 411 Views 0 Reviews
  • เบิ้ดคําสิเว่า!!! โฆษกเขมร "ปฏิเสธ" ข่าวละเมิดหยุดยิง ลั่น "รักสันติ"
    https://www.thai-tai.tv/news/20618/
    .
    #เพ็ญโบนา #โฆษกรัฐบาลกัมพูชา #ปฏิเสธข่าวละเมิดหยุดยิง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวเท็จ #รักสันติ #การบิดเบือนข้อมูล #ไทยไท
    เบิ้ดคําสิเว่า!!! โฆษกเขมร "ปฏิเสธ" ข่าวละเมิดหยุดยิง ลั่น "รักสันติ" https://www.thai-tai.tv/news/20618/ . #เพ็ญโบนา #โฆษกรัฐบาลกัมพูชา #ปฏิเสธข่าวละเมิดหยุดยิง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวเท็จ #รักสันติ #การบิดเบือนข้อมูล #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 444 Views 0 Reviews
  • "หน้าไม่อาย!" โฆษกเขมรแถลง "กองทัพหยุดยิง" ทบ. ไทยแฉ "เขมรยิงไม่หยุด"!
    https://www.thai-tai.tv/news/20603/
    .
    #มาลีโสเจียตา #โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา #หยุดยิง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวเท็จ #บิดเบือนข้อมูล #ความน่าเชื่อถือ #ไทยไท
    "หน้าไม่อาย!" โฆษกเขมรแถลง "กองทัพหยุดยิง" ทบ. ไทยแฉ "เขมรยิงไม่หยุด"! https://www.thai-tai.tv/news/20603/ . #มาลีโสเจียตา #โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา #หยุดยิง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวเท็จ #บิดเบือนข้อมูล #ความน่าเชื่อถือ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 405 Views 0 Reviews
  • กองทัพไทยสวนกลับ! "โฆษกเขมร" เพ้อเจ้อ ไร้หลักฐาน กล่าวหาไทยถล่มปราสาท...จี้ถาม "ใครกันแน่บิดเบือน?"
    https://www.thai-tai.tv/news/20592/
    .
    #กองทัพไทย #กัมพูชา #ข่าวเท็จ #บิดเบือนข้อมูล #โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา #ปราสาทพระวิหาร #อาชญากรรมสงคราม #หลักฐาน #ไทยไท
    กองทัพไทยสวนกลับ! "โฆษกเขมร" เพ้อเจ้อ ไร้หลักฐาน กล่าวหาไทยถล่มปราสาท...จี้ถาม "ใครกันแน่บิดเบือน?" https://www.thai-tai.tv/news/20592/ . #กองทัพไทย #กัมพูชา #ข่าวเท็จ #บิดเบือนข้อมูล #โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา #ปราสาทพระวิหาร #อาชญากรรมสงคราม #หลักฐาน #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 Reviews
  • กองทัพบกโต้เดือด! กัมพูชาบิดเบือนข่าวปมระเบิดช่องบก ยัน PMN-2 ไม่ใช่ของไทย จี้หยุดสร้างความเสียหาย
    https://www.thai-tai.tv/news/20412/
    .
    #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทุ่นระเบิด #บิดเบือนข้อมูล #PMN2 #อนุสัญญาออตตาวา #อธิปไตยไทย #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    กองทัพบกโต้เดือด! กัมพูชาบิดเบือนข่าวปมระเบิดช่องบก ยัน PMN-2 ไม่ใช่ของไทย จี้หยุดสร้างความเสียหาย https://www.thai-tai.tv/news/20412/ . #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทุ่นระเบิด #บิดเบือนข้อมูล #PMN2 #อนุสัญญาออตตาวา #อธิปไตยไทย #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 383 Views 0 Reviews
  • 'รัศม์' ยัน 'อิ๊งค์' ยังเด็ก ไม่เกี่ยวคืนวัตถุโบราณ สาปคนอคติกรรมตามสนอง!
    https://www.thai-tai.tv/news/20049/
    .
    #คืนวัตถุโบราณ #ไทยกัมพูชา #กระทรวงการต่างประเทศ #รัศม์ชาลีจันทร์ #แพทองธาร #ซอฟต์พาวเวอร์ #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #ข่าวปลอม #บิดเบือนข้อมูล #วัฒนธรรม
    'รัศม์' ยัน 'อิ๊งค์' ยังเด็ก ไม่เกี่ยวคืนวัตถุโบราณ สาปคนอคติกรรมตามสนอง! https://www.thai-tai.tv/news/20049/ . #คืนวัตถุโบราณ #ไทยกัมพูชา #กระทรวงการต่างประเทศ #รัศม์ชาลีจันทร์ #แพทองธาร #ซอฟต์พาวเวอร์ #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #ข่าวปลอม #บิดเบือนข้อมูล #วัฒนธรรม
    0 Comments 0 Shares 494 Views 0 Reviews
More Results