เมื่อ DNS กลายเป็นเครื่องมือบิดเบือนความจริง – การบล็อกเว็บในเยอรมนีที่ไม่โปร่งใส

ในปี 2024 เด็กสาววัย 17 ปีชื่อ Lina ได้เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมรายชื่อโดเมนที่ถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาชิกของ CUII – กลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อจัดการกับเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์

ก่อนหน้านั้น เมื่อผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก DNS จะตอบกลับด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเว็บไซต์นั้นถูกบล็อกด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์

แต่หลังจาก Lina เปิดเผยข้อมูล ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Telekom, Vodafone, 1&1 และ Telefónica (O2) เปลี่ยนวิธีตอบกลับ DNS เป็น NXDOMAIN ซึ่งหมายความว่า “ไม่มีเว็บไซต์นี้อยู่จริง” แทนที่จะบอกว่า “ถูกบล็อก” ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ว่าเว็บไซต์ถูกบล็อกหรือแค่พิมพ์ผิด

Telekom อ้างว่าเป็นการเปลี่ยนชั่วคราวเพื่อเตรียมหน้า landing page ส่วน 1&1 ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการเปิดเผยของ Lina ขณะที่ O2 เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส

ในปี 2025 CUII ประกาศว่าจะเริ่มให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเว็บไซต์ทุกกรณี เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความชอบธรรมทางกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ

สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
CUII เป็นกลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนีเคยตอบ DNS ด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info
หลังการเปิดเผยของ Lina ผู้ให้บริการเปลี่ยนเป็น NXDOMAIN เพื่อปกปิดการบล็อก
Lina เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมโดเมนที่ถูกบล็อกโดย CUII
Telekom, Vodafone, และ 1&1 เปลี่ยนวิธีตอบ DNS ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการเปิดเผย
Telefónica (O2) เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส
CUII ประกาศในปี 2025 ว่าจะให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกทุกกรณี
เว็บไซต์ที่ถูกบล็อกส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์, เพลง, เกม, และหนังสือ
Sci-Hub ถูกบล็อก แม้จะมีเนื้อหาวิชาการแบบ open access รวมอยู่ด้วย
การบล็อกเว็บไซต์ทำผ่าน DNS ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย

ข้อมูลเสริมจากภายนอก
NXDOMAIN เป็นการตอบกลับ DNS ที่หมายถึง “ไม่มีโดเมนนี้อยู่จริง”
การใช้ NXDOMAIN แทนการแจ้งว่า “ถูกบล็อก” ทำให้เกิดความไม่โปร่งใส
DNS เป็นระบบพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต การบิดเบือนข้อมูลในระดับนี้ส่งผลต่อความเชื่อถือ
การบล็อกผ่าน DNS ต่างจากการบล็อกผ่าน IP หรือ URL ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า
การให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเป็นแนวทางที่เพิ่มความชอบธรรม แต่ยังขาดการเปิดเผยต่อสาธารณะ

https://lina.sh/blog/telefonica-sabotages-me
🎙️ เมื่อ DNS กลายเป็นเครื่องมือบิดเบือนความจริง – การบล็อกเว็บในเยอรมนีที่ไม่โปร่งใส ในปี 2024 เด็กสาววัย 17 ปีชื่อ Lina ได้เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมรายชื่อโดเมนที่ถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาชิกของ CUII – กลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อจัดการกับเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านั้น เมื่อผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก DNS จะตอบกลับด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเว็บไซต์นั้นถูกบล็อกด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์ แต่หลังจาก Lina เปิดเผยข้อมูล ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Telekom, Vodafone, 1&1 และ Telefónica (O2) เปลี่ยนวิธีตอบกลับ DNS เป็น NXDOMAIN ซึ่งหมายความว่า “ไม่มีเว็บไซต์นี้อยู่จริง” แทนที่จะบอกว่า “ถูกบล็อก” ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ว่าเว็บไซต์ถูกบล็อกหรือแค่พิมพ์ผิด Telekom อ้างว่าเป็นการเปลี่ยนชั่วคราวเพื่อเตรียมหน้า landing page ส่วน 1&1 ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการเปิดเผยของ Lina ขณะที่ O2 เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส ในปี 2025 CUII ประกาศว่าจะเริ่มให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเว็บไซต์ทุกกรณี เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความชอบธรรมทางกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ CUII เป็นกลุ่มเอกชนที่รวม ISP และเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ➡️ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในเยอรมนีเคยตอบ DNS ด้วย CNAME ที่ชี้ไปยัง notice.cuii.info ➡️ หลังการเปิดเผยของ Lina ผู้ให้บริการเปลี่ยนเป็น NXDOMAIN เพื่อปกปิดการบล็อก ➡️ Lina เปิดเว็บไซต์ cuiiliste.de เพื่อรวบรวมโดเมนที่ถูกบล็อกโดย CUII ➡️ Telekom, Vodafone, และ 1&1 เปลี่ยนวิธีตอบ DNS ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการเปิดเผย ➡️ Telefónica (O2) เป็นรายเดียวที่ยังคงแสดงการบล็อกอย่างโปร่งใส ➡️ CUII ประกาศในปี 2025 ว่าจะให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกทุกกรณี ➡️ เว็บไซต์ที่ถูกบล็อกส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์, เพลง, เกม, และหนังสือ ➡️ Sci-Hub ถูกบล็อก แม้จะมีเนื้อหาวิชาการแบบ open access รวมอยู่ด้วย ➡️ การบล็อกเว็บไซต์ทำผ่าน DNS ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NXDOMAIN เป็นการตอบกลับ DNS ที่หมายถึง “ไม่มีโดเมนนี้อยู่จริง” ➡️ การใช้ NXDOMAIN แทนการแจ้งว่า “ถูกบล็อก” ทำให้เกิดความไม่โปร่งใส ➡️ DNS เป็นระบบพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต การบิดเบือนข้อมูลในระดับนี้ส่งผลต่อความเชื่อถือ ➡️ การบล็อกผ่าน DNS ต่างจากการบล็อกผ่าน IP หรือ URL ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า ➡️ การให้ศาลตรวจสอบคำขอบล็อกเป็นแนวทางที่เพิ่มความชอบธรรม แต่ยังขาดการเปิดเผยต่อสาธารณะ https://lina.sh/blog/telefonica-sabotages-me
LINA.SH
A German ISP tampered with their DNS - specifically to sabotage my website
One of Germany's biggest ISPs changed how their DNS works, right after I exposed an organization that they’re part of.
0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews