• วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก

    ความมีอยู่ว่า...
    หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป”
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย

    ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว)

    Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้

    ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น

    เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก

    บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html
    https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html
    https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx
    https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468
    http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้



    วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก ความมีอยู่ว่า... หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป” - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว) Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้ ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468 http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้ 
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจทางหลวงรุดสอบ "ลุง-ป้า" เหยื่อ BMW หัวร้อนแล้ว เร่งรวบรวมหลักฐานประสาน สภ.ลำลูกกา เอาผิดอาญา ยืนยันทำคดีตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษทางกฎหมาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036284

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจทางหลวงรุดสอบ "ลุง-ป้า" เหยื่อ BMW หัวร้อนแล้ว เร่งรวบรวมหลักฐานประสาน สภ.ลำลูกกา เอาผิดอาญา ยืนยันทำคดีตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษทางกฎหมาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036284 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร
    รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร // เกจิอาจารย์สายเหนียวเมืองชุมพร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง มหาอุต เสนียดจัญไร อุดมด้วยโภคทรัพย์ ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูน เมตตามหานิยม เสริมดวง >>

    ** หลวงพ่อบ่าววัดเชิงกระ เป็นเกจิอีกองค์หนึ่งของจังหวัดชุมพร ขึ้นชื่อว่าเหนียวอีกท่าน และท่านยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย อีกท่าน ท่านเก่งทั้งด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี และเป็นหมอแผนโบราณ เกจิร่วมสมัยกับท่าน ได้ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ หลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู หลวงพ่อเวศ วัดประเดิม หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงพ่อหีต วัดเชิงคีรี เป็นต้น >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร // เกจิอาจารย์สายเหนียวเมืองชุมพร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง มหาอุต เสนียดจัญไร อุดมด้วยโภคทรัพย์ ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูน เมตตามหานิยม เสริมดวง >> ** หลวงพ่อบ่าววัดเชิงกระ เป็นเกจิอีกองค์หนึ่งของจังหวัดชุมพร ขึ้นชื่อว่าเหนียวอีกท่าน และท่านยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย อีกท่าน ท่านเก่งทั้งด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี และเป็นหมอแผนโบราณ เกจิร่วมสมัยกับท่าน ได้ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ หลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู หลวงพ่อเวศ วัดประเดิม หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงพ่อหีต วัดเชิงคีรี เป็นต้น >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2024 บอท (Bots) คิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง โดยรายงานจาก Imperva ระบุว่า บอทที่เป็นอันตราย (Bad Bots) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวและค้าปลีก

    ✅ บอทคิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2024
    - รายงานจาก Imperva ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง
    - การเพิ่มขึ้นของบอทส่วนหนึ่งมาจาก AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)

    ✅ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือการท่องเที่ยวและค้าปลีก
    - บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 41% ของปริมาณการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
    - ในอุตสาหกรรมค้าปลีก บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 59% ของปริมาณการใช้งาน

    ✅ ByteSpider Bot เป็นตัวการสำคัญของการโจมตีที่ใช้ AI
    - ByteSpider Bot คิดเป็น 54% ของการโจมตีที่ใช้ AI
    - บอทอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ AppleBot (26%), ClaudeBot (13%) และ ChatGPT User Bot (6%)

    ✅ บอทที่เป็นอันตรายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    - ในปี 2023 บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 32% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต
    - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

    ✅ บอทที่มีประโยชน์ยังคงมีบทบาทสำคัญ
    - บอทที่ใช้ในการ จัดทำดัชนีเว็บไซต์, ตรวจสอบประสิทธิภาพ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และรวบรวมข้อมูล ยังคงมีความจำเป็น

    https://www.techradar.com/pro/security/bots-now-account-for-over-half-of-all-internet-traffic
    ในปี 2024 บอท (Bots) คิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง โดยรายงานจาก Imperva ระบุว่า บอทที่เป็นอันตราย (Bad Bots) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวและค้าปลีก ✅ บอทคิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2024 - รายงานจาก Imperva ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง - การเพิ่มขึ้นของบอทส่วนหนึ่งมาจาก AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ✅ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือการท่องเที่ยวและค้าปลีก - บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 41% ของปริมาณการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว - ในอุตสาหกรรมค้าปลีก บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 59% ของปริมาณการใช้งาน ✅ ByteSpider Bot เป็นตัวการสำคัญของการโจมตีที่ใช้ AI - ByteSpider Bot คิดเป็น 54% ของการโจมตีที่ใช้ AI - บอทอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ AppleBot (26%), ClaudeBot (13%) และ ChatGPT User Bot (6%) ✅ บอทที่เป็นอันตรายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง - ในปี 2023 บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 32% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ✅ บอทที่มีประโยชน์ยังคงมีบทบาทสำคัญ - บอทที่ใช้ในการ จัดทำดัชนีเว็บไซต์, ตรวจสอบประสิทธิภาพ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และรวบรวมข้อมูล ยังคงมีความจำเป็น https://www.techradar.com/pro/security/bots-now-account-for-over-half-of-all-internet-traffic
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • Zoom ได้แก้ไขปัญหาขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายพันคนทั่วโลก โดยเหตุการณ์นี้ทำให้บริการต่างๆ เช่น เว็บไซต์, วิดีโอคอล และแอปพลิเคชัน ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว

    ✅ Zoom ประสบปัญหาขัดข้องทั่วโลก และได้รับการแก้ไขแล้ว
    - ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์, วิดีโอคอล และแอปพลิเคชัน
    - Downdetector รายงานว่ามีผู้ใช้ 67,280 ราย แจ้งปัญหาในช่วงเวลาสูงสุด

    ✅ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ รายงานปัญหาการเข้าถึง Zoom
    - ปัญหานี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก
    - Zoom ได้แจ้งผ่าน แพลตฟอร์ม X ว่าบริการได้รับการกู้คืนแล้ว

    ✅ Downdetector ใช้ข้อมูลจากผู้ใช้เพื่อวิเคราะห์ปัญหาขัดข้อง
    - ระบบรวบรวมข้อมูลจาก รายงานของผู้ใช้และแหล่งข้อมูลอื่นๆ
    - ช่วยให้สามารถติดตามปัญหาขัดข้องของบริการออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์

    ✅ Zoom เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอคอลที่ได้รับความนิยมสูง
    - มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและการศึกษา
    - การขัดข้องของระบบอาจส่งผลกระทบต่อการประชุมและการเรียนออนไลน์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/zoom-down-for-thousands-of-users-downdetector-shows
    Zoom ได้แก้ไขปัญหาขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายพันคนทั่วโลก โดยเหตุการณ์นี้ทำให้บริการต่างๆ เช่น เว็บไซต์, วิดีโอคอล และแอปพลิเคชัน ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว ✅ Zoom ประสบปัญหาขัดข้องทั่วโลก และได้รับการแก้ไขแล้ว - ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์, วิดีโอคอล และแอปพลิเคชัน - Downdetector รายงานว่ามีผู้ใช้ 67,280 ราย แจ้งปัญหาในช่วงเวลาสูงสุด ✅ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ รายงานปัญหาการเข้าถึง Zoom - ปัญหานี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก - Zoom ได้แจ้งผ่าน แพลตฟอร์ม X ว่าบริการได้รับการกู้คืนแล้ว ✅ Downdetector ใช้ข้อมูลจากผู้ใช้เพื่อวิเคราะห์ปัญหาขัดข้อง - ระบบรวบรวมข้อมูลจาก รายงานของผู้ใช้และแหล่งข้อมูลอื่นๆ - ช่วยให้สามารถติดตามปัญหาขัดข้องของบริการออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ ✅ Zoom เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอคอลที่ได้รับความนิยมสูง - มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและการศึกษา - การขัดข้องของระบบอาจส่งผลกระทบต่อการประชุมและการเรียนออนไลน์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/zoom-down-for-thousands-of-users-downdetector-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Zoom restored after outage affects thousands of users globally
    (Reuters) - Video-conferencing platform Zoom Communications said on Wednesday it had resolved a global outage that disrupted its services, including its website, video calls and application, affecting thousands of users worldwide.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🙏✨พระปิดตา #หลวงพ่อฉิ่ง วัดบางพระ ปี2506 ลงรักปิดทอง รุ่นนี้ถือเป็นพระผงที่มีการรวบรวมมวลสารไว้มากมาย อาทิ ผงกรุเก่าของวัดบางพระ ผงใบลานจารอักขระขอมเก่าแก่ ผงอิทธิเจ ผงวัดอ่างศิลา ผงพระสมเด็จที่แตกหักชำรุดของวัดบางขุนพรหม ผงพระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ แม้ไม่ทันหลวงพ่อฉิ่ง แต่ก็มีพระเกจิชื่อดังในยุคนั้นมาร่วมอย่างคับคั่ง
    #พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ #หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า #เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลาเข้าร่วมปลุกเสก.
    🙏✨พระปิดตา #หลวงพ่อฉิ่ง วัดบางพระ ปี2506 ลงรักปิดทอง รุ่นนี้ถือเป็นพระผงที่มีการรวบรวมมวลสารไว้มากมาย อาทิ ผงกรุเก่าของวัดบางพระ ผงใบลานจารอักขระขอมเก่าแก่ ผงอิทธิเจ ผงวัดอ่างศิลา ผงพระสมเด็จที่แตกหักชำรุดของวัดบางขุนพรหม ผงพระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ แม้ไม่ทันหลวงพ่อฉิ่ง แต่ก็มีพระเกจิชื่อดังในยุคนั้นมาร่วมอย่างคับคั่ง #พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ #หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า #เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลาเข้าร่วมปลุกเสก.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวบ “กชพร” โบรกเกอร์คดี "หมอบุญ" หลังหลบหนีจากไทยตั้งแต่ ก.ย. 67
    https://www.thai-tai.tv/news/18184/
    รวบ “กชพร” โบรกเกอร์คดี "หมอบุญ" หลังหลบหนีจากไทยตั้งแต่ ก.ย. 67 https://www.thai-tai.tv/news/18184/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547
    เนื้อว่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี นิรันตราย คุ้มครองให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขันจากอันตรายที่เกิดขึ้น เสริมบารมี หนุนดวง เสริมความมั่งคั่ง มั่งมี อุดมสมบูรณ์ >>

    ** ในวาระครบรอบ ๔๕ ปี วัดเมืองยะลา ในปี ๒๕๔๗ ที่สร้างวัดมา พ่อท่านฉิ้น อายุ ๗๙ พรรษา ๕๘ เจ้าคณะจังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพศีลวิสุทธิ์ เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ่อท่านฉิ้น ได้รวบรวมผงเก่าปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ได้มอบไว้ให้ นำมาผสมลงในวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเข้มขลังยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ ณ วัดช้างให้ โดยคณาจารย์สายใต้ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่วัดเมืองยะลา โดยพระคณาจารย์สายใต้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ พ่อท่านฉิ้นได้ปลุกเสกเดี่ยวต่อ และได้นำไปให้หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นพิเศษ วันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 เนื้อว่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี นิรันตราย คุ้มครองให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขันจากอันตรายที่เกิดขึ้น เสริมบารมี หนุนดวง เสริมความมั่งคั่ง มั่งมี อุดมสมบูรณ์ >> ** ในวาระครบรอบ ๔๕ ปี วัดเมืองยะลา ในปี ๒๕๔๗ ที่สร้างวัดมา พ่อท่านฉิ้น อายุ ๗๙ พรรษา ๕๘ เจ้าคณะจังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพศีลวิสุทธิ์ เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ่อท่านฉิ้น ได้รวบรวมผงเก่าปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ได้มอบไว้ให้ นำมาผสมลงในวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเข้มขลังยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ ณ วัดช้างให้ โดยคณาจารย์สายใต้ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่วัดเมืองยะลา โดยพระคณาจารย์สายใต้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ พ่อท่านฉิ้นได้ปลุกเสกเดี่ยวต่อ และได้นำไปให้หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นพิเศษ วันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยที่มาอัพเรื่องให้อ่านช้า (อีกแล้ว) เพราะ Storyฯ หมดเวลาไปกับการเตรียมทริปเที่ยวหน้าหนาวค่ะ วันนี้ยังคงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> มาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องเกี่ยวกับชื่อของนางเอกเฉินเซ่าซาง ที่ในละครมีกล่าวถึงหลายครั้งว่าแปลว่า ‘สายพิณ’ และถึงขนาดองค์ฮองเฮายังตรัสชมว่าเป็นชื่อที่ดี

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้รู้สึกงงกันบ้างไหมว่า มีชื่อเป็นสายพิณมันดียังไงคะ?

    แน่นอนว่าเรากำลังคุยกันถึงพิณโบราณของจีนหรือที่เรียกว่า ‘กู่ฉิน’ (古琴) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดมาก่อนยุคสมัยชุนชิวและการดีดพิณถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาชีวิต โดยมีการกล่าวถึงปรัชญาเหล่านี้ในบันทึกเกี่ยวกับพิธีการโบราณสมัยราชวงศ์โจว วันนี้ Storyฯ จะกล่าวถึงชื่อเรียกและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับสายพิณ

    แรกเริ่มเลยกู่ฉินมีเพียงสายพิณห้าเส้น เรียกกันว่า ‘กงซางเจวี๋ยจื่ออวี่’ ซึ่งชื่อเรียกเหล่านี้มาจากดวงดาว สรุปได้ดังนี้
    1. กง (宫) : เป็นเส้นที่ใหญ่สุด เสียงทุ้มหนักแน่น เป็นสัญลักษณ์แห่งราชัน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการปกครองและความเป็นเจ้าคนนายคน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุดินหรือ ‘ดาวดิน’ (คือชื่อเรียกภาษาจีนของดาวเสาร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘โด’ นั่นเอง
    2. ซาง (商) : เป็นสัญลักษณ์ของข้าราชสำนักหรือรัฐบุรุษ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการบริหารงาน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุทองหรือ ‘ดาวทอง’ (ดาวศุกร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘เร’
    3. เจวี๋ย (角) : เป็นสัญลักษณ์ของประชาชน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเติบโตจากผืนดิน และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไม้หรือ ‘ดาวไม้’ (ดาวพฤหัส) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘มี’
    4. จื่อ (徵) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเจริญงอกงาม และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไฟหรือ ‘ดาวไฟ’ (ดาวอังคาร) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ฟา’
    5. อวี่ (羽) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการหล่อหลอมกลมเกลียวและเป็นตัวแทนแห่งธาตุน้ำหรือ ‘ดาวน้ำ’ (ดาวพุธ) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ซอล’

    ต่อมากู่ฉินจึงถูกเพิ่มสายพิณขึ้นมาอีกสองเส้น จนครบคีย์ ‘ลา’ และ ‘ที’

    โดยเส้นที่หกเรียกว่า ‘เซ่ากง’ (少宫) เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบุ๋น’ (文星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘เหวิน’ เป็นหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่หกนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวเหวินหวาง ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว (ปี 1152-1050 ก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงโอรสที่วายชนม์ไป สายพิณเซ่ากงนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความอ่อนโยนเข้าสยบความแข็งแกร่ง

    และเส้นที่เจ็ดเรียกว่า เซ่าซาง (少商)เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบู๊’ (武星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘อู่’ เป็นอีกหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่เช่นกัน) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่เจ็ดนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวอู่หวางแห่งราชวงศ์โจว เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ สายพิณเซ่าซางนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความแข็งแกร่งเข้าสยบความอ่อนแอ

    ดังนั้น ชื่อของนางเอกที่คนเขาชมว่าความหมายดีนั้น ก็คือแปลว่าเป็นคนเข้มแข็งเป็นผู้ชนะค่ะ และเพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <ดาราจักรรักลำนำใจ> คงพอจำได้ว่านางเอกมีพี่ชายฝาแฝดนามว่า เซ่ากง ที่มีบุคลิกเป็นคนนุ่มนิ่มอยู่หนึ่งคน ทีนี้คงพอเข้าใจถึงความหมายแฝงอันบ่งบอกบุคลิกของสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้อันมาจากชื่อเซ่ากงและเซ่าซางแล้วนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g40713266/love-like-the-galaxy-ending/
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/21940180
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    บทความเรื่อง “คัมภีร์พิณ ดนตรีแห่งลมปราณและจิตวิญญาณ” โดย ดร.อัญชลี กิ๊บบินส์
    https://www.jianshu.com/p/11cc57a753ad
    https://baike.baidu.com/item/宫商角徵羽/85388
    https://baike.baidu.com/item/少商/10047831
    https://www.sohu.com/a/566244575_120498438

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #สายพิณจีน #เซ่าซาง #เซ่ากง #กู่ฉิน
    ขออภัยที่มาอัพเรื่องให้อ่านช้า (อีกแล้ว) เพราะ Storyฯ หมดเวลาไปกับการเตรียมทริปเที่ยวหน้าหนาวค่ะ วันนี้ยังคงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> มาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องเกี่ยวกับชื่อของนางเอกเฉินเซ่าซาง ที่ในละครมีกล่าวถึงหลายครั้งว่าแปลว่า ‘สายพิณ’ และถึงขนาดองค์ฮองเฮายังตรัสชมว่าเป็นชื่อที่ดี เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้รู้สึกงงกันบ้างไหมว่า มีชื่อเป็นสายพิณมันดียังไงคะ? แน่นอนว่าเรากำลังคุยกันถึงพิณโบราณของจีนหรือที่เรียกว่า ‘กู่ฉิน’ (古琴) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดมาก่อนยุคสมัยชุนชิวและการดีดพิณถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาชีวิต โดยมีการกล่าวถึงปรัชญาเหล่านี้ในบันทึกเกี่ยวกับพิธีการโบราณสมัยราชวงศ์โจว วันนี้ Storyฯ จะกล่าวถึงชื่อเรียกและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับสายพิณ แรกเริ่มเลยกู่ฉินมีเพียงสายพิณห้าเส้น เรียกกันว่า ‘กงซางเจวี๋ยจื่ออวี่’ ซึ่งชื่อเรียกเหล่านี้มาจากดวงดาว สรุปได้ดังนี้ 1. กง (宫) : เป็นเส้นที่ใหญ่สุด เสียงทุ้มหนักแน่น เป็นสัญลักษณ์แห่งราชัน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการปกครองและความเป็นเจ้าคนนายคน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุดินหรือ ‘ดาวดิน’ (คือชื่อเรียกภาษาจีนของดาวเสาร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘โด’ นั่นเอง 2. ซาง (商) : เป็นสัญลักษณ์ของข้าราชสำนักหรือรัฐบุรุษ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการบริหารงาน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุทองหรือ ‘ดาวทอง’ (ดาวศุกร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘เร’ 3. เจวี๋ย (角) : เป็นสัญลักษณ์ของประชาชน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเติบโตจากผืนดิน และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไม้หรือ ‘ดาวไม้’ (ดาวพฤหัส) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘มี’ 4. จื่อ (徵) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเจริญงอกงาม และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไฟหรือ ‘ดาวไฟ’ (ดาวอังคาร) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ฟา’ 5. อวี่ (羽) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการหล่อหลอมกลมเกลียวและเป็นตัวแทนแห่งธาตุน้ำหรือ ‘ดาวน้ำ’ (ดาวพุธ) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ซอล’ ต่อมากู่ฉินจึงถูกเพิ่มสายพิณขึ้นมาอีกสองเส้น จนครบคีย์ ‘ลา’ และ ‘ที’ โดยเส้นที่หกเรียกว่า ‘เซ่ากง’ (少宫) เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบุ๋น’ (文星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘เหวิน’ เป็นหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่หกนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวเหวินหวาง ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว (ปี 1152-1050 ก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงโอรสที่วายชนม์ไป สายพิณเซ่ากงนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความอ่อนโยนเข้าสยบความแข็งแกร่ง และเส้นที่เจ็ดเรียกว่า เซ่าซาง (少商)เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบู๊’ (武星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘อู่’ เป็นอีกหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่เช่นกัน) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่เจ็ดนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวอู่หวางแห่งราชวงศ์โจว เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ สายพิณเซ่าซางนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความแข็งแกร่งเข้าสยบความอ่อนแอ ดังนั้น ชื่อของนางเอกที่คนเขาชมว่าความหมายดีนั้น ก็คือแปลว่าเป็นคนเข้มแข็งเป็นผู้ชนะค่ะ และเพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <ดาราจักรรักลำนำใจ> คงพอจำได้ว่านางเอกมีพี่ชายฝาแฝดนามว่า เซ่ากง ที่มีบุคลิกเป็นคนนุ่มนิ่มอยู่หนึ่งคน ทีนี้คงพอเข้าใจถึงความหมายแฝงอันบ่งบอกบุคลิกของสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้อันมาจากชื่อเซ่ากงและเซ่าซางแล้วนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g40713266/love-like-the-galaxy-ending/ https://zhuanlan.zhihu.com/p/21940180 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: บทความเรื่อง “คัมภีร์พิณ ดนตรีแห่งลมปราณและจิตวิญญาณ” โดย ดร.อัญชลี กิ๊บบินส์ https://www.jianshu.com/p/11cc57a753ad https://baike.baidu.com/item/宫商角徵羽/85388 https://baike.baidu.com/item/少商/10047831 https://www.sohu.com/a/566244575_120498438 #ดาราจักรรักลำนำใจ #สายพิณจีน #เซ่าซาง #เซ่ากง #กู่ฉิน
    WWW.HARPERSBAZAAR.COM
    《星漢燦爛》第一部結局趙露思、吳磊定親!「疑商夫婦」高甜名場景回顧,凌不疑化身男友力頂級教科書
    《星漢燦爛》趙露思、吳磊的感情線看得太不過癮,期待《月升滄海》開始大撒糖!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 เมษายน 2568-รายงานข่าวมติชนระบุว่า ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนีก่อนที่ ตท.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งต่อมาได้มีประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เรียบร้อยแล้ว กระทั่งต่อมาชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ได้หลบหนีไปยังนครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้ประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security) เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจนครกว่างโจวได้รายงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 68 ว่าสามารถควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร ได้แล้ว และควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร กลับมายังประเทศไทยในวันที่ 7 เมษายน 68 โดยสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 22.00 น. ก่อนที่จะส่งฟ้องศาลอาญาเมื่อวันที่ 9 เมษายนนั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เมษายน กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งสื่อมวลชน เชิญร่วมทำข่าวการจับกุม น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ อายุ 39 ปี โบรกเกอร์คนสุดท้าย ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ พรุ่งนี้ (16 เมษายน) โดยมีรายละเอียดดังนี้วันพรุ่งนี้ (วันพุธที่ 16 เมษายน 2568) เวลา 08.30 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม แถลงข่าวจับกุม/ได้ตัวโบรกเกอร์ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้หลบหนีไปต่างประเทศรายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.กชพร เป็นโบรกเกอร์คนสุดท้ายในคดีหมอบุญที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานข่าว น.ส.กชพร ได้เข้ามาในประเทศไทย จึงถูกตำรวจจับกุมได้ทั้งนี้จึงยังเหลือแค่หมอบุญ ที่ ตร.ยังคงติดตามตัว... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5140873#m9ijbu4nnpukcv9im9
    15 เมษายน 2568-รายงานข่าวมติชนระบุว่า ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนีก่อนที่ ตท.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งต่อมาได้มีประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เรียบร้อยแล้ว กระทั่งต่อมาชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ได้หลบหนีไปยังนครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้ประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security) เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจนครกว่างโจวได้รายงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 68 ว่าสามารถควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร ได้แล้ว และควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร กลับมายังประเทศไทยในวันที่ 7 เมษายน 68 โดยสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 22.00 น. ก่อนที่จะส่งฟ้องศาลอาญาเมื่อวันที่ 9 เมษายนนั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เมษายน กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งสื่อมวลชน เชิญร่วมทำข่าวการจับกุม น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ อายุ 39 ปี โบรกเกอร์คนสุดท้าย ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ พรุ่งนี้ (16 เมษายน) โดยมีรายละเอียดดังนี้วันพรุ่งนี้ (วันพุธที่ 16 เมษายน 2568) เวลา 08.30 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม แถลงข่าวจับกุม/ได้ตัวโบรกเกอร์ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้หลบหนีไปต่างประเทศรายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.กชพร เป็นโบรกเกอร์คนสุดท้ายในคดีหมอบุญที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานข่าว น.ส.กชพร ได้เข้ามาในประเทศไทย จึงถูกตำรวจจับกุมได้ทั้งนี้จึงยังเหลือแค่หมอบุญ ที่ ตร.ยังคงติดตามตัว... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5140873#m9ijbu4nnpukcv9im9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลจีนมีแผนเปิดการประมูลจระเข้ 100 ตัน เพื่อรวบรวมเงิน 4 ล้านหยวน โดยวางเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อจะต้องมารับของด้วยตัวเอง

    การประกาศประมูลสินค้าสุดแปลกนี้ดึงดูดความสนใจประชาชนเนื่องจากตัวสินค้าที่มีขนาดมหึมา และความท้าทายในการขนส่ง กลายเป็นการประมูลของแปลกที่สร้างความขบขำในโลกออนไลน์แดนมังกร

    เมื่อไม่นานมา ศาลประชาชนประจำเขตหนันซัน นครเซินเจิ้น ประกาศประมูลฝูงจระเข้ทางออนไลน์ การประมูลเปิดราคาที่ 4 ล้านหยวน หรือ กว่า 18.3 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/china/detail/9680000035716

    #MGROnline #ประมูล #จระเข้
    ศาลจีนมีแผนเปิดการประมูลจระเข้ 100 ตัน เพื่อรวบรวมเงิน 4 ล้านหยวน โดยวางเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อจะต้องมารับของด้วยตัวเอง • การประกาศประมูลสินค้าสุดแปลกนี้ดึงดูดความสนใจประชาชนเนื่องจากตัวสินค้าที่มีขนาดมหึมา และความท้าทายในการขนส่ง กลายเป็นการประมูลของแปลกที่สร้างความขบขำในโลกออนไลน์แดนมังกร • เมื่อไม่นานมา ศาลประชาชนประจำเขตหนันซัน นครเซินเจิ้น ประกาศประมูลฝูงจระเข้ทางออนไลน์ การประมูลเปิดราคาที่ 4 ล้านหยวน หรือ กว่า 18.3 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/china/detail/9680000035716 • #MGROnline #ประมูล #จระเข้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.ปปป.เผยเร่งประสานอัยการต่างประเทศ ขอตัว"นพรัตน์" อดีต ผอ.พศ. มาดำเนินคดีเงินทอนวัด 17 คดี - ขอสหรัฐฯ ช่วยจับลูก-เมีย มารับโทษคดีฟอกเงินด้วย

    วันนี้ ( 14 เม.ย.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าประสานขอส่งตัว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่เพิ่งถูก US Marshall จับได้ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยว่า ในส่วนคดีของนายนพรัตน์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ตำรวจ ปปป. 17 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อดำเนินการประสานไปยังสหรัฐอเมริกา ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นล็อตที่สอง ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับคดีของ ป.ป.ช. ซึ่งคาดเอกสารดังกล่าวนั้นจะสามารถรวบรวมสรุปยื่นต่ออัยการต่างประเทศได้ภายในวันที่ 21 เม.ย. ที่จะถึงนี้

    พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของ นางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 51 ปี และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ทุน อายุ 29 ปี ภรรยาและลูกของ นายนพรัตน์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยเช่นกันในคดีสมคบฟอกเงินนั้น ทาง บก.ปปป. เองก็จะรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อประสานกับทางการสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทยด้วยเช่นกัน

    #MGROnline #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ #คดีเงินทอนวัด
    ผบก.ปปป.เผยเร่งประสานอัยการต่างประเทศ ขอตัว"นพรัตน์" อดีต ผอ.พศ. มาดำเนินคดีเงินทอนวัด 17 คดี - ขอสหรัฐฯ ช่วยจับลูก-เมีย มารับโทษคดีฟอกเงินด้วย • วันนี้ ( 14 เม.ย.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าประสานขอส่งตัว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่เพิ่งถูก US Marshall จับได้ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยว่า ในส่วนคดีของนายนพรัตน์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ตำรวจ ปปป. 17 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อดำเนินการประสานไปยังสหรัฐอเมริกา ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นล็อตที่สอง ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับคดีของ ป.ป.ช. ซึ่งคาดเอกสารดังกล่าวนั้นจะสามารถรวบรวมสรุปยื่นต่ออัยการต่างประเทศได้ภายในวันที่ 21 เม.ย. ที่จะถึงนี้ • พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของ นางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 51 ปี และ น.ส.ณัฏฐาภรณ์ ทุน อายุ 29 ปี ภรรยาและลูกของ นายนพรัตน์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยเช่นกันในคดีสมคบฟอกเงินนั้น ทาง บก.ปปป. เองก็จะรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ยื่นต่ออัยการต่างประเทศเพื่อประสานกับทางการสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทยด้วยเช่นกัน • #MGROnline #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ #คดีเงินทอนวัด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) 2025 แก้ไขข้อจำกัดการต่อสู้่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบเดิมๆ และเพิ่มแนวทางให้ผู้ให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหาย หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ทำตามมาตรฐานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว
    ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ของกฎหมายนี้คือการก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นศูนย์กลางรับแจ้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีอำนาจในการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบต่างๆ เช่น
    ระงับบัญชีเงินฝาก รวบรวมจำนวนบัญชีเงินฝากที่บุคคลถือไว้ (ไม่รวมจำนวนเงิน), ขอข้อมูลบัญชีต้องสงสัย
    เปิดเผยข้อมูลบัญชีไปยังหน่วยงานเอกชนหรือรัฐที่เกี่ยวข้อง แก้ไขข้อจำกัดที่เดิมธนาคารแห่งประเทศไทยไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝั่งผู้ให้บริการคริปโต
    แจ้งข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ หรือชื่อ SMS ให้กสทช. สั่งบล็อค
    รวบรวมรายชื่อบุคคลหรือหมายเลขบัญชีคริปโต และสั่งให้ระงับการให้บริการได้
    ศปอท. จะใช้คนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ก.ล.ต., กสทช., และหน่วยงานอื่นที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
    ประเด็นหนึ่งที่กฎหมายนี้ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างนอกจากการตั้ง ศปอท. ก็คือการให้ธนาคารและค่ายโทรศัพท์มือถือร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายเหมือนมาตรการของสิงคโปร์ แต่พ.ร.ก. ฉบับนี้เขียนในมาตรา 8/10 ให้ครอบคลุมขึ้น ด้วยการรวมทั้งสถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม, ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์, และผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ยกเว้นว่าจะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฎิบัติตามมาตรฐานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไว้ครบแล้ว
    กฎหมายมีผลแล้ววันนี้ แต่ประกาศหลักเกณฑ์จำนวนมากยังต้องรอการประกาศต่อไป
    ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา
    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) 2025 แก้ไขข้อจำกัดการต่อสู้่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบเดิมๆ และเพิ่มแนวทางให้ผู้ให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหาย หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ทำตามมาตรฐานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ของกฎหมายนี้คือการก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นศูนย์กลางรับแจ้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีอำนาจในการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบต่างๆ เช่น ระงับบัญชีเงินฝาก รวบรวมจำนวนบัญชีเงินฝากที่บุคคลถือไว้ (ไม่รวมจำนวนเงิน), ขอข้อมูลบัญชีต้องสงสัย เปิดเผยข้อมูลบัญชีไปยังหน่วยงานเอกชนหรือรัฐที่เกี่ยวข้อง แก้ไขข้อจำกัดที่เดิมธนาคารแห่งประเทศไทยไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝั่งผู้ให้บริการคริปโต แจ้งข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ หรือชื่อ SMS ให้กสทช. สั่งบล็อค รวบรวมรายชื่อบุคคลหรือหมายเลขบัญชีคริปโต และสั่งให้ระงับการให้บริการได้ ศปอท. จะใช้คนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ก.ล.ต., กสทช., และหน่วยงานอื่นที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ประเด็นหนึ่งที่กฎหมายนี้ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างนอกจากการตั้ง ศปอท. ก็คือการให้ธนาคารและค่ายโทรศัพท์มือถือร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายเหมือนมาตรการของสิงคโปร์ แต่พ.ร.ก. ฉบับนี้เขียนในมาตรา 8/10 ให้ครอบคลุมขึ้น ด้วยการรวมทั้งสถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม, ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์, และผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ยกเว้นว่าจะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฎิบัติตามมาตรฐานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไว้ครบแล้ว กฎหมายมีผลแล้ววันนี้ แต่ประกาศหลักเกณฑ์จำนวนมากยังต้องรอการประกาศต่อไป ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุกรวบตัวกลางโรงพยาบาลเท็กซัส อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ‘นพรัตน’ คดีทุจริตเงินทอนวัด เร่งขอตัวส่งกลับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยระหว่างหลบหนี 8 ปี อยู่อย่างสุขสบายกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่ำรวยผิดปกติกว่า 500 ล้านบาท จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีทุจริตโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัด (คดีเงินทอนวัด)นอกจากนี้คณะกรรมการ ปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายนพรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ กับพวก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 94.2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายนพรัตน์หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ก่อนปี 2560 จนถึงปัจจุบัน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5138225#m9fdgqh9rgvhmu5ljbo
    บุกรวบตัวกลางโรงพยาบาลเท็กซัส อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ‘นพรัตน’ คดีทุจริตเงินทอนวัด เร่งขอตัวส่งกลับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยระหว่างหลบหนี 8 ปี อยู่อย่างสุขสบายกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่ำรวยผิดปกติกว่า 500 ล้านบาท จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีทุจริตโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัด (คดีเงินทอนวัด)นอกจากนี้คณะกรรมการ ปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายนพรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ กับพวก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 94.2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายนพรัตน์หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ก่อนปี 2560 จนถึงปัจจุบัน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5138225#m9fdgqh9rgvhmu5ljbo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ Storyฯ กลับไปดูซีรีส์เก่าๆ ค่ะ มาลงเอยที่ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> และสะดุดกับเนื้อเรื่องตอนที่กล่าวถึงว่า พระรองพยายามจีบนางเอกด้วยการล่าสัตว์เอาสัตว์ป่ามาให้ ทำเอาพระเอกหึงจนร่ายยาวออกมาเป็นบทกวี แต่นางเอกฟังไม่เข้าใจ วันนี้มาคุยเรื่องบทกวีนี้กันค่ะ

    ความมีอยู่ว่า
    ... “กวางสิ้นใจในป่าทึบ หญ้าคาขาวห่อหุ้มตัวมันไว้ หญิงสาวความรักผลิบาน ชายหนุ่มไล่ตามพูดหยอกเย้า ป่ามีต้นอ่อนถือกำเนิด พณาร้างมีกวางหนึ่งสิ้นใจ ห่อคาขาวนี้คิดมอบให้ผู้ใด มอบให้หญิงงามดุจยอดหยก อย่าได้รีบร้อนถอดนักซิ อย่าแตะต้องผ้าคาดเอวข้า อย่าทำสุนัขเห่าหอนมา ชาตินี้ข้าติดตามท่านแน่แล้ว” ... กล่าวคือบุรุษในกลอนนี้นำผ้าขาวห่อสัตว์ที่ล่ามาได้หลอกล่อหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายผู้นั้น ...
    - ถอดบทสนทนาจาก <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> (ตามซับไทย)

    กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ (野有死麕 แปลได้ตามซับไทยของละครว่า ‘กวางสิ้นใจในป่าทึบ’) (หมายเหตุ ‘จวิน’ เป็นกวางขนาดเล็กไม่มีเขา ไม่แน่ใจว่าใช่กระจงหรือไม่)

    บทกวีนี้มีทั้งหมดสามท่อน ท่อนละสี่วรรค เป็นหนึ่งในบทกวีที่ถูกรวบรวมไว้ใน ‘ซือจิง’ (诗经 แปลตรงตัวว่าคัมภีร์บทกวี) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นบทกวีจีนที่เก่าแก่ที่สุด โดยรวบรวมไว้ถึง 311 บท เป็นบทกวีตั้งแต่สมัยโจวตะวันตกตอนปลายจนถึงยุคชุนชิว (ประมาณปี1066 - 479 ก่อนคริสตกาล) จัดอยู่ในหมวด ‘กั๋วเฟิง’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงพื้นบ้าน

    ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ เป็นบทกวีที่สะท้อนถึงการเกี้ยวพาราสีของชายหญิง โดยเฉพาะท่อนหลังดูจะบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะถึงเนื้อถึงตัว เป็นเนื้อหาที่ดูจะสะท้อนถึงอิสระของสตรีในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในกลอนจีนโบราณ

    แต่จริงๆ แล้วมันสะท้อนถึงสถานะสตรีในยุคสมัยนั้นได้ดี

    เราอาจคุ้นเคยว่าคติสอนหญิงของจีนโบราณคือบุรุษเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วก่อนยุคสมัยชุนชิวสถานะทางสังคมของสตรีนั้นสูงไม่เบา ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี 1600-1050 ก่อนคริสตกาล) จนถึงราชวงศ์ฮั่น ปรากฏสตรีมีอำนาจทางการทหาร มีที่ได้รับการอวยยศเป็นโหวหลายสิบคน และสตรีสามารถถือครองทรัพย์สินได้ ในยุคสมัยนั้นสตรีมีอิสระด้านการครองเรือนและการออกมาปรากฏกายในสาธารณะ สามารถเลือกคู่ครองเองได้ ขอหย่าได้ หย่าร้างแล้วก็สามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่ถูกมองอย่างหยามเหยียด และมีตัวอย่างฮองเฮาหลายคนในประวัติศาสตร์ที่เคยมีสามีอื่นมาก่อน

    ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแยกบทบาทให้บุรุษเน้นเรื่องนอกบ้าน สตรีเน้นเรื่องในบ้าน จนกลายเป็นแนวคิดเรื่องบุรุษเป็นใหญ่ที่แพร่หลายในสมัยฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 25 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ในช่วงเวลานั้นมีนักประพันธ์และนักวิชาการหลายคนมีผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โด่งดังมากและเป็นมรดกตกทอดไปอีกหลายพันปีคือวรรณกรรมเรื่อง ‘เตือนหญิง’ (女诫 หรือ ‘หนี่ว์เจี้ย’) ซึ่งเป็นผลงานของนักวิชาการสตรีนาม ‘ปันเจา’ ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่สตรีต้องเล่าเรียนไปอีกหลายยุคหลายสมัย

    บทกวี ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ ในบริบทของละครเป็นการเปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพยายามจีบหญิง แต่พอเข้าใจถึงยุคสมัยที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ Storyฯ อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า วัฒนธรรมจีนโบราณแต่บรรพกาลก็คล้ายๆ วัฒนธรรมโบราณอื่นๆ ที่สตรีเคยเป็นใหญ่และมีบทบาททางสังคมไม่น้อยไปกว่าชาย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.qulishi.com/article/202101/478420.html
    https://view.inews.qq.com/a/20200704A03V3J00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/召南·野有死麕/19680551
    https://shijing.5000yan.com/guofeng-zhaonan/yeyousijun.html
    https://baike.baidu.com/item/女诫/3423545
    https://new.qq.com/rain/a/20200617A0R16W00
    https://www.sohu.com/a/249005081_100234890

    #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ซือจิง #คัมภีร์บทกวี #หนี่ว์เจี้ย #วรรณกรรมจีนเตือนหญิง #กวางสิ้นใจในป่าทึบ
    ช่วงนี้ Storyฯ กลับไปดูซีรีส์เก่าๆ ค่ะ มาลงเอยที่ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> และสะดุดกับเนื้อเรื่องตอนที่กล่าวถึงว่า พระรองพยายามจีบนางเอกด้วยการล่าสัตว์เอาสัตว์ป่ามาให้ ทำเอาพระเอกหึงจนร่ายยาวออกมาเป็นบทกวี แต่นางเอกฟังไม่เข้าใจ วันนี้มาคุยเรื่องบทกวีนี้กันค่ะ ความมีอยู่ว่า ... “กวางสิ้นใจในป่าทึบ หญ้าคาขาวห่อหุ้มตัวมันไว้ หญิงสาวความรักผลิบาน ชายหนุ่มไล่ตามพูดหยอกเย้า ป่ามีต้นอ่อนถือกำเนิด พณาร้างมีกวางหนึ่งสิ้นใจ ห่อคาขาวนี้คิดมอบให้ผู้ใด มอบให้หญิงงามดุจยอดหยก อย่าได้รีบร้อนถอดนักซิ อย่าแตะต้องผ้าคาดเอวข้า อย่าทำสุนัขเห่าหอนมา ชาตินี้ข้าติดตามท่านแน่แล้ว” ... กล่าวคือบุรุษในกลอนนี้นำผ้าขาวห่อสัตว์ที่ล่ามาได้หลอกล่อหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายผู้นั้น ... - ถอดบทสนทนาจาก <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> (ตามซับไทย) กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ (野有死麕 แปลได้ตามซับไทยของละครว่า ‘กวางสิ้นใจในป่าทึบ’) (หมายเหตุ ‘จวิน’ เป็นกวางขนาดเล็กไม่มีเขา ไม่แน่ใจว่าใช่กระจงหรือไม่) บทกวีนี้มีทั้งหมดสามท่อน ท่อนละสี่วรรค เป็นหนึ่งในบทกวีที่ถูกรวบรวมไว้ใน ‘ซือจิง’ (诗经 แปลตรงตัวว่าคัมภีร์บทกวี) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นบทกวีจีนที่เก่าแก่ที่สุด โดยรวบรวมไว้ถึง 311 บท เป็นบทกวีตั้งแต่สมัยโจวตะวันตกตอนปลายจนถึงยุคชุนชิว (ประมาณปี1066 - 479 ก่อนคริสตกาล) จัดอยู่ในหมวด ‘กั๋วเฟิง’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงพื้นบ้าน ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ เป็นบทกวีที่สะท้อนถึงการเกี้ยวพาราสีของชายหญิง โดยเฉพาะท่อนหลังดูจะบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะถึงเนื้อถึงตัว เป็นเนื้อหาที่ดูจะสะท้อนถึงอิสระของสตรีในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในกลอนจีนโบราณ แต่จริงๆ แล้วมันสะท้อนถึงสถานะสตรีในยุคสมัยนั้นได้ดี เราอาจคุ้นเคยว่าคติสอนหญิงของจีนโบราณคือบุรุษเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วก่อนยุคสมัยชุนชิวสถานะทางสังคมของสตรีนั้นสูงไม่เบา ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี 1600-1050 ก่อนคริสตกาล) จนถึงราชวงศ์ฮั่น ปรากฏสตรีมีอำนาจทางการทหาร มีที่ได้รับการอวยยศเป็นโหวหลายสิบคน และสตรีสามารถถือครองทรัพย์สินได้ ในยุคสมัยนั้นสตรีมีอิสระด้านการครองเรือนและการออกมาปรากฏกายในสาธารณะ สามารถเลือกคู่ครองเองได้ ขอหย่าได้ หย่าร้างแล้วก็สามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่ถูกมองอย่างหยามเหยียด และมีตัวอย่างฮองเฮาหลายคนในประวัติศาสตร์ที่เคยมีสามีอื่นมาก่อน ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแยกบทบาทให้บุรุษเน้นเรื่องนอกบ้าน สตรีเน้นเรื่องในบ้าน จนกลายเป็นแนวคิดเรื่องบุรุษเป็นใหญ่ที่แพร่หลายในสมัยฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 25 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ในช่วงเวลานั้นมีนักประพันธ์และนักวิชาการหลายคนมีผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โด่งดังมากและเป็นมรดกตกทอดไปอีกหลายพันปีคือวรรณกรรมเรื่อง ‘เตือนหญิง’ (女诫 หรือ ‘หนี่ว์เจี้ย’) ซึ่งเป็นผลงานของนักวิชาการสตรีนาม ‘ปันเจา’ ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่สตรีต้องเล่าเรียนไปอีกหลายยุคหลายสมัย บทกวี ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ ในบริบทของละครเป็นการเปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพยายามจีบหญิง แต่พอเข้าใจถึงยุคสมัยที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ Storyฯ อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า วัฒนธรรมจีนโบราณแต่บรรพกาลก็คล้ายๆ วัฒนธรรมโบราณอื่นๆ ที่สตรีเคยเป็นใหญ่และมีบทบาททางสังคมไม่น้อยไปกว่าชาย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.qulishi.com/article/202101/478420.html https://view.inews.qq.com/a/20200704A03V3J00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/召南·野有死麕/19680551 https://shijing.5000yan.com/guofeng-zhaonan/yeyousijun.html https://baike.baidu.com/item/女诫/3423545 https://new.qq.com/rain/a/20200617A0R16W00 https://www.sohu.com/a/249005081_100234890 #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ซือจิง #คัมภีร์บทกวี #หนี่ว์เจี้ย #วรรณกรรมจีนเตือนหญิง #กวางสิ้นใจในป่าทึบ
    《我就是这般女子》在哪儿可以看?一周更新几集?-趣历史网
    关晓彤和侯明昊主演的《我就是这般女子》追剧日历出炉,自1月18日正式开播到2月15日大结局,见证班婳
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • “หลักกู”กสทช.พ่นพิษ รอคำสั่งประธานเถื่อน.เรากลับมาถึงปัญหาอันใหญ่หลวงใน กสทช. ซึ่งผู้ชมจะเห็นได้ว่า ภายใต้การนำของนายแพทย์สรณ ประธานเถื่อน กสทช. และนายไตรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ที่ล้มเหลวและเน่าเฟะ แทบทุกองคาพยพ จนไม่เพียงกระทบต่อการดำเนินงานภายในสำนักงาน กสทช. แต่ยังได้ส่งผลมาถึงประเทศชาติในภาพรวมด้วย.ไม่กี่วันที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลได้แชร์และวิจารณ์โพสต์จากเฟซบุ๊ก พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ในวันเสาร์ที่แล้ว(5เม.ย.) ได้โพสต์ข้อความอย่างนี้ครับ"วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. นับเป็นประสบการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้อยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในขณะที่นั่งทำงานอยู่ที่สำนักงาน กสทช. ชั้น 10 จึงได้ให้ทีมงานรีบลงบันไดมาข้างสนามเพื่อความปลอดภัย ซึ่งก็ดีใจมากที่ทีมงานและพนักงานสำนักงาน กสทช. ทุกคนปลอดภัย แม้ว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เพราะมีหนังสือฯสั่งการ หากกรรมการ กสทช. จะให้สำนักงานฯ ดำเนินการใดๆต้องให้ประธานฯ มอบหมายก่อน".ปรากฏว่ามีชาวเน็ตจำนวนมากโพสต์ข้อความวิจารณ์กรรมการ กสทช. รายดังกล่าว ว่า "หากท่านประธานอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถสั่งการได้ ยกเว้นถ้าท่านอยู่ในลิฟต์เหมือนประชาชนมากมายในวันศุกร์ หรือเกิดเหตุการณ์ด้านสุขภาพ กสทช. มีแนวทางการดำเนินการอย่างไรหรือครับท่าน" อีกคำถามหนึ่งที่ชาวเน็ตถามว่า "แบบนี้ถ้าประธานไม่อยู่ หรือยังสั่งการอะไรไม่ได้ในช่วงเวลาเกิดเหตุเร่งด่วนขนาดนี้ ก็ให้พวกผมรอความตายกันหรือครับ".ถ้าเราไปค้นดูจริงๆ ก็มีจริงๆ หนังสือคำสั่งบ้าๆ ที่เป็นบันทึกข้อความลงนามโดยหมอสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ทำถึงเลขาธิการ กสทช. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เนื้อหาหลักๆ ก็คือว่า ห้ามทำอะไรทั้งสิ้นถ้าไม่ได้รับการอนุมัติหรือสั่งการมาจากประธาน กสทช. แล้วยังมีบันทึกข้อความของหมอสรณ กับนายไตรรัตน์ อีกหลายฉบับ ที่ออกมาย้ำเรื่องนี้ รวมทั้งคำสั่งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ กสทช. คนอื่นๆ อีกด้วย.จะเห็นได้ชัดเลยว่า ที่ กสทช. มีความขัดแย้ง แล้วการงานไม่ได้เดินหน้าไปไหน เพราะมีประธานเถื่อน ก็คือนายแพทย์สรณ ผูกขาด เอาอำนาจมารวบไว้ที่ตัวคนเดียว คือทุกอย่างต้องอยู่ที่กู ถ้ากูไม่สั่ง ห้ามขยับเด็ดขาด.จากกรณีแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ล่าสุด ที่สร้างความฉิบหายและความวุ่นวายให้กับคนทั้งประเทศ ก่อนที่พวกคุณ ไม่ว่าจะเป็นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย, กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ที่คุยกันเรื่องทำ Cell Broadcast แจ้งเตือนภัยพิบัติต่างๆ พวกคุณใช้เวลาดำเนินการมา 4 ปีเต็มๆ แล้วพวกคุณใช้เงินไปพันกว่าล้านบาทแล้ว ยังไม่เสร็จ.ล่าสุด หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นจริงๆ ถ้าพวกคุณคิดจะขยันกันขึ้นมาแบบผิดปกติ แย่งกันทำ แย่งกันพรีเซนต์ว่าระบบเสร็จแล้ว ระบบพร้อมแล้ว กำลังจัดซื้อโน่นจัดซื้อนี่เพิ่มเติม เพราะเชื่อแน่ได้ว่าแต่ละหน่วยงานก็หวังได้ค่าหัวคิว ได้เงินส่วนต่างจากการจัดซื้อจัดจ้างทำระบบต่างๆ ขึ้นมา.คราวต่อไป ผมจะมาเปิดโปงเรื่องอื่นๆ ต่ออีก รับรองว่าถ้าประชาชนได้รับรู้ ทราบเรื่องราวแล้ว มั่นใจว่าเก้าอี้ทำงานของพวกคุณต้องสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหวที่สำนักงาน กสทช. ซอยสายลม เพียงที่เดียว อย่างแน่นอนที่สุด
    “หลักกู”กสทช.พ่นพิษ รอคำสั่งประธานเถื่อน.เรากลับมาถึงปัญหาอันใหญ่หลวงใน กสทช. ซึ่งผู้ชมจะเห็นได้ว่า ภายใต้การนำของนายแพทย์สรณ ประธานเถื่อน กสทช. และนายไตรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ที่ล้มเหลวและเน่าเฟะ แทบทุกองคาพยพ จนไม่เพียงกระทบต่อการดำเนินงานภายในสำนักงาน กสทช. แต่ยังได้ส่งผลมาถึงประเทศชาติในภาพรวมด้วย.ไม่กี่วันที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลได้แชร์และวิจารณ์โพสต์จากเฟซบุ๊ก พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ในวันเสาร์ที่แล้ว(5เม.ย.) ได้โพสต์ข้อความอย่างนี้ครับ"วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. นับเป็นประสบการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้อยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในขณะที่นั่งทำงานอยู่ที่สำนักงาน กสทช. ชั้น 10 จึงได้ให้ทีมงานรีบลงบันไดมาข้างสนามเพื่อความปลอดภัย ซึ่งก็ดีใจมากที่ทีมงานและพนักงานสำนักงาน กสทช. ทุกคนปลอดภัย แม้ว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เพราะมีหนังสือฯสั่งการ หากกรรมการ กสทช. จะให้สำนักงานฯ ดำเนินการใดๆต้องให้ประธานฯ มอบหมายก่อน".ปรากฏว่ามีชาวเน็ตจำนวนมากโพสต์ข้อความวิจารณ์กรรมการ กสทช. รายดังกล่าว ว่า "หากท่านประธานอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถสั่งการได้ ยกเว้นถ้าท่านอยู่ในลิฟต์เหมือนประชาชนมากมายในวันศุกร์ หรือเกิดเหตุการณ์ด้านสุขภาพ กสทช. มีแนวทางการดำเนินการอย่างไรหรือครับท่าน" อีกคำถามหนึ่งที่ชาวเน็ตถามว่า "แบบนี้ถ้าประธานไม่อยู่ หรือยังสั่งการอะไรไม่ได้ในช่วงเวลาเกิดเหตุเร่งด่วนขนาดนี้ ก็ให้พวกผมรอความตายกันหรือครับ".ถ้าเราไปค้นดูจริงๆ ก็มีจริงๆ หนังสือคำสั่งบ้าๆ ที่เป็นบันทึกข้อความลงนามโดยหมอสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ทำถึงเลขาธิการ กสทช. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เนื้อหาหลักๆ ก็คือว่า ห้ามทำอะไรทั้งสิ้นถ้าไม่ได้รับการอนุมัติหรือสั่งการมาจากประธาน กสทช. แล้วยังมีบันทึกข้อความของหมอสรณ กับนายไตรรัตน์ อีกหลายฉบับ ที่ออกมาย้ำเรื่องนี้ รวมทั้งคำสั่งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ กสทช. คนอื่นๆ อีกด้วย.จะเห็นได้ชัดเลยว่า ที่ กสทช. มีความขัดแย้ง แล้วการงานไม่ได้เดินหน้าไปไหน เพราะมีประธานเถื่อน ก็คือนายแพทย์สรณ ผูกขาด เอาอำนาจมารวบไว้ที่ตัวคนเดียว คือทุกอย่างต้องอยู่ที่กู ถ้ากูไม่สั่ง ห้ามขยับเด็ดขาด.จากกรณีแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ล่าสุด ที่สร้างความฉิบหายและความวุ่นวายให้กับคนทั้งประเทศ ก่อนที่พวกคุณ ไม่ว่าจะเป็นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย, กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ที่คุยกันเรื่องทำ Cell Broadcast แจ้งเตือนภัยพิบัติต่างๆ พวกคุณใช้เวลาดำเนินการมา 4 ปีเต็มๆ แล้วพวกคุณใช้เงินไปพันกว่าล้านบาทแล้ว ยังไม่เสร็จ.ล่าสุด หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นจริงๆ ถ้าพวกคุณคิดจะขยันกันขึ้นมาแบบผิดปกติ แย่งกันทำ แย่งกันพรีเซนต์ว่าระบบเสร็จแล้ว ระบบพร้อมแล้ว กำลังจัดซื้อโน่นจัดซื้อนี่เพิ่มเติม เพราะเชื่อแน่ได้ว่าแต่ละหน่วยงานก็หวังได้ค่าหัวคิว ได้เงินส่วนต่างจากการจัดซื้อจัดจ้างทำระบบต่างๆ ขึ้นมา.คราวต่อไป ผมจะมาเปิดโปงเรื่องอื่นๆ ต่ออีก รับรองว่าถ้าประชาชนได้รับรู้ ทราบเรื่องราวแล้ว มั่นใจว่าเก้าอี้ทำงานของพวกคุณต้องสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหวที่สำนักงาน กสทช. ซอยสายลม เพียงที่เดียว อย่างแน่นอนที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”ก.อุตสาหกรรม-สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ“ เข้าค้น "ซิน เคอ หยวน" เก็บหลักฐานการนำเข้า-ส่งออก ครอบครอง "เหล็ก-ฝุ่นแดง" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ

    วันนี้ (12 เม.ย.) แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพนำตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อเก็บพยานเอกสารเป็นหลัก เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง จะดูย้อนหลังตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กได้เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568

    แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วน กรมสรรพากร ภาค 3 ร้องทุกข์ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558 - มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยกสำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034997

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง. #ซินเคอหยวน
    ”ก.อุตสาหกรรม-สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ“ เข้าค้น "ซิน เคอ หยวน" เก็บหลักฐานการนำเข้า-ส่งออก ครอบครอง "เหล็ก-ฝุ่นแดง" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ • วันนี้ (12 เม.ย.) แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพนำตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อเก็บพยานเอกสารเป็นหลัก เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง จะดูย้อนหลังตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กได้เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568 • แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วน กรมสรรพากร ภาค 3 ร้องทุกข์ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558 - มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยกสำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034997 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง. #ซินเคอหยวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** บทกวีทับทิมจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>**

    สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้คุยถึงเรื่องสีแดงในเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คงจะจำได้ว่าพ่อของนางเอกทิ้งสูตรเกี่ยวกับการผสมสีแดงของตระกูลไว้ในบทกวีที่เกี่ยวกับทับทิม Storyฯ เห็นว่ามีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนี้ที่เพื่อนเพจคงไม่รู้ เลยมาแบ่งปันให้ฟัง... เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของหลี่ไป๋

    บทกวีดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หย่งหลินหนี่ว์ตงชวงไห่สือหลิ่ว’ (咏邻女东窗海石榴 แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมสตรีข้างบ้านผ่านหน้าต่างและต้นทับทิม) เป็นผลงานของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งราชวงศ์ถัง ถูกประพันธ์ขึ้นสมัยที่เขาพำนักอยู่ในเขตซานตง ใจความบรรยายถึงความงามของสตรีข้างบ้านที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาเรียกในบทกวีว่า ‘สตรีจากแดนหลู่’ ความงามของนางถูกเสริมด้วยความงามของต้นทับทิมที่มีดอกสีแดงจัดตัดกับใบเขียว เขาถึงกับรำพันว่าจะยอมเป็นกิ่งทับทิมที่ทอดเกยอาภรณ์ของนางเพื่อขอเพียงให้ได้ใกล้ชิดอนงค์นาง แต่จนใจได้แต่ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง

    แน่นอนว่ามันเป็นกลอนบอกรัก และสตรีดังกล่าวเป็นหนึ่งในภรรรยาของหลี่ไป๋

    เพื่อนเพจหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชีวประวัติของหลี่ไป๋และคงไม่ทราบว่าหลี่ไป๋มีภรรยาสี่คน จริงๆ แล้วเขาแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสองครั้ง ส่วนภรรยาอีกสองคนไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินด้วยกันเฉยๆ

    เขาแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุยี่สิบเจ็ดปีกับภรรยาคนแรกคือสตรีสกุลสวี่ผู้เป็นหลานของอดีตอัครเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ถังเกาจง ถูกรับเข้าจวนสกุลสวี่เป็นเขยแต่งเข้าหรือที่เรียกว่า ‘จุ้ยซวี่’ มีลูกด้วยกันสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกทั้งสองได้ใช้แซ่หลี่ตามหลี่ไป๋ผู้เป็นบิดา (อนึ่ง ปกติจุ้ยซวี่แต่งเข้าเรือนของสตรี เมื่อมีลูกก็จะใช้แซ่ของผู้เป็นมารดาไม่ใช่บิดา Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว แปะลิ้งค์ไว้ให้อ่านใหม่ที่ท้ายเรื่อง) ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนางสกุลสวี่นี้ หลี่ไป๋มีชีวิตค่อนข้างสบายเพราะฝ่ายหญิงมีฐานะดีและเขามีอิสระที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามใจหมาย ว่ากันว่าเขารักภรรยาคนนี้มากแต่นางป่วยตายหลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานสิบเอ็ดปี

    เมื่อสิ้นภรรยาคนแรก หลี่ไป๋ก็พาลูกจากจวนสกุลสวี่ออกเดินทาง มาหยุดพำนักที่บริเวณพื้นที่แถบซานตง หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาก็อยู่กินกับนางสกุลหลิว ว่ากันว่าเป็นเพราะต้องการหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเพื่อว่าตนเองจะได้มีอิสระในการเดินทาง ส่วนนางสกุลหลิวเองก็คาดหวังว่าหลี่ไป๋จะมีอนาคตขุนนางสวยงาม แต่ หลี่ไป๋ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที สุดท้ายนางทนไม่ได้กับความเป็นกวีขี้เมาของหลี่ไป๋ ทั้งสองจึงแยกทางกันอย่างไม่แฮปปี้

    ต่อมาอีกประมาณหกปี หลี่ไป๋ยังคงอยู่ในละแวกพื้นที่ซานตงหรือที่เรียกว่าพื้นที่หลู่นี้ และได้อยู่กินกับภรรยาคนที่สาม ซึ่งก็คือ ‘สตรีจากแดนหลู่’ ในบทกวีข้างต้นนั่นเอง เขาซื้อที่ดินทำกินให้นางดูแลทรัพย์สินอย่างไว้ใจ นางเองก็ขยันขันแข็งทำมาหากิน ส่วนตัวเขายังคงออกเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ไม่มีการบันทึกถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรกับลูกชายคนนี้ และไม่มีหลักฐานปรากฏด้วยซ้ำว่าสตรีนางนี้มีชื่อสกุลใด บ้างว่านางเป็นแม่หม้ายบ้างว่านางได้หมั้นหมายแล้วแต่คู่หมายหายไปหลายปีกลายเป็นหม้ายขันหมาก แต่ที่แน่ๆ คือนางอยู่ข้างบ้าน มองกันไปมองกันมาก็เกิดปิ๊งกันเลยอยู่กินกัน เล่าขานกันต่อมาเพียงว่าอยู่ด้วยกันเพียงห้าปีนางก็ตายจากไป

    หลี่ไป๋แต่งงานครั้งที่สองกับภรรยาคนสุดท้ายคือสตรีสกุลจง เป็นหลานปู่ของจงฉู่เค่อ อดีตอัครเสนาบดีอีกท่านหนึ่งและเขาแต่งเข้าเรือนฝ่ายหญิงอีกครั้ง อยู่ด้วยกันสิบปีอย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ไม่มีบุตร แต่สุดท้ายหลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับคดีการเมืองและนางเสียชีวิตลง ส่วนเขาถูกเนรเทศและแม้ว่าในบั้นปลายชีวิตจะได้รับอิสรภาพแต่ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความในอดีตเกี่ยวกับเจ้าบ่าวจุ้ยซวี่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/134357391983589

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.gdzjdaily.com.cn/p/2903387.html
    https://www.photophoto.cn/pic/11693708.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/baijiahao_7753758
    https://gushici.china.com/srgushi/10.html
    https://www.163.com/dy/article/G328S2640543SC39.html
    https://baike.baidu.com/item/咏邻女东窗海石榴/9436296
    https://www.sohu.com/a/341251009_100053536

    #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #กวีเอก #หลี่ไป๋ #เซียนกวี #ราชวงศ์ถัง #สาระจีน
    ** บทกวีทับทิมจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>** สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้คุยถึงเรื่องสีแดงในเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คงจะจำได้ว่าพ่อของนางเอกทิ้งสูตรเกี่ยวกับการผสมสีแดงของตระกูลไว้ในบทกวีที่เกี่ยวกับทับทิม Storyฯ เห็นว่ามีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนี้ที่เพื่อนเพจคงไม่รู้ เลยมาแบ่งปันให้ฟัง... เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของหลี่ไป๋ บทกวีดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หย่งหลินหนี่ว์ตงชวงไห่สือหลิ่ว’ (咏邻女东窗海石榴 แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมสตรีข้างบ้านผ่านหน้าต่างและต้นทับทิม) เป็นผลงานของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งราชวงศ์ถัง ถูกประพันธ์ขึ้นสมัยที่เขาพำนักอยู่ในเขตซานตง ใจความบรรยายถึงความงามของสตรีข้างบ้านที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาเรียกในบทกวีว่า ‘สตรีจากแดนหลู่’ ความงามของนางถูกเสริมด้วยความงามของต้นทับทิมที่มีดอกสีแดงจัดตัดกับใบเขียว เขาถึงกับรำพันว่าจะยอมเป็นกิ่งทับทิมที่ทอดเกยอาภรณ์ของนางเพื่อขอเพียงให้ได้ใกล้ชิดอนงค์นาง แต่จนใจได้แต่ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง แน่นอนว่ามันเป็นกลอนบอกรัก และสตรีดังกล่าวเป็นหนึ่งในภรรรยาของหลี่ไป๋ เพื่อนเพจหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชีวประวัติของหลี่ไป๋และคงไม่ทราบว่าหลี่ไป๋มีภรรยาสี่คน จริงๆ แล้วเขาแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสองครั้ง ส่วนภรรยาอีกสองคนไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินด้วยกันเฉยๆ เขาแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุยี่สิบเจ็ดปีกับภรรยาคนแรกคือสตรีสกุลสวี่ผู้เป็นหลานของอดีตอัครเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ถังเกาจง ถูกรับเข้าจวนสกุลสวี่เป็นเขยแต่งเข้าหรือที่เรียกว่า ‘จุ้ยซวี่’ มีลูกด้วยกันสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกทั้งสองได้ใช้แซ่หลี่ตามหลี่ไป๋ผู้เป็นบิดา (อนึ่ง ปกติจุ้ยซวี่แต่งเข้าเรือนของสตรี เมื่อมีลูกก็จะใช้แซ่ของผู้เป็นมารดาไม่ใช่บิดา Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว แปะลิ้งค์ไว้ให้อ่านใหม่ที่ท้ายเรื่อง) ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนางสกุลสวี่นี้ หลี่ไป๋มีชีวิตค่อนข้างสบายเพราะฝ่ายหญิงมีฐานะดีและเขามีอิสระที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามใจหมาย ว่ากันว่าเขารักภรรยาคนนี้มากแต่นางป่วยตายหลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานสิบเอ็ดปี เมื่อสิ้นภรรยาคนแรก หลี่ไป๋ก็พาลูกจากจวนสกุลสวี่ออกเดินทาง มาหยุดพำนักที่บริเวณพื้นที่แถบซานตง หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาก็อยู่กินกับนางสกุลหลิว ว่ากันว่าเป็นเพราะต้องการหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเพื่อว่าตนเองจะได้มีอิสระในการเดินทาง ส่วนนางสกุลหลิวเองก็คาดหวังว่าหลี่ไป๋จะมีอนาคตขุนนางสวยงาม แต่ หลี่ไป๋ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที สุดท้ายนางทนไม่ได้กับความเป็นกวีขี้เมาของหลี่ไป๋ ทั้งสองจึงแยกทางกันอย่างไม่แฮปปี้ ต่อมาอีกประมาณหกปี หลี่ไป๋ยังคงอยู่ในละแวกพื้นที่ซานตงหรือที่เรียกว่าพื้นที่หลู่นี้ และได้อยู่กินกับภรรยาคนที่สาม ซึ่งก็คือ ‘สตรีจากแดนหลู่’ ในบทกวีข้างต้นนั่นเอง เขาซื้อที่ดินทำกินให้นางดูแลทรัพย์สินอย่างไว้ใจ นางเองก็ขยันขันแข็งทำมาหากิน ส่วนตัวเขายังคงออกเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ไม่มีการบันทึกถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรกับลูกชายคนนี้ และไม่มีหลักฐานปรากฏด้วยซ้ำว่าสตรีนางนี้มีชื่อสกุลใด บ้างว่านางเป็นแม่หม้ายบ้างว่านางได้หมั้นหมายแล้วแต่คู่หมายหายไปหลายปีกลายเป็นหม้ายขันหมาก แต่ที่แน่ๆ คือนางอยู่ข้างบ้าน มองกันไปมองกันมาก็เกิดปิ๊งกันเลยอยู่กินกัน เล่าขานกันต่อมาเพียงว่าอยู่ด้วยกันเพียงห้าปีนางก็ตายจากไป หลี่ไป๋แต่งงานครั้งที่สองกับภรรยาคนสุดท้ายคือสตรีสกุลจง เป็นหลานปู่ของจงฉู่เค่อ อดีตอัครเสนาบดีอีกท่านหนึ่งและเขาแต่งเข้าเรือนฝ่ายหญิงอีกครั้ง อยู่ด้วยกันสิบปีอย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ไม่มีบุตร แต่สุดท้ายหลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับคดีการเมืองและนางเสียชีวิตลง ส่วนเขาถูกเนรเทศและแม้ว่าในบั้นปลายชีวิตจะได้รับอิสรภาพแต่ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความในอดีตเกี่ยวกับเจ้าบ่าวจุ้ยซวี่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/134357391983589 Credit รูปภาพจาก: https://www.gdzjdaily.com.cn/p/2903387.html https://www.photophoto.cn/pic/11693708.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/baijiahao_7753758 https://gushici.china.com/srgushi/10.html https://www.163.com/dy/article/G328S2640543SC39.html https://baike.baidu.com/item/咏邻女东窗海石榴/9436296 https://www.sohu.com/a/341251009_100053536 #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #กวีเอก #หลี่ไป๋ #เซียนกวี #ราชวงศ์ถัง #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดีเอสไอ-กรมโรงงานอุตสาหกรรม" ร่วมสืบสวน "บ.ซินเคอ หยวน สตีล" รวบรวมหลักฐานพิจารณามาตรฐานผลิตภัณฑ์ฯ พร้อมรับเป็นคดีพิเศษ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034783

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ดีเอสไอ-กรมโรงงานอุตสาหกรรม" ร่วมสืบสวน "บ.ซินเคอ หยวน สตีล" รวบรวมหลักฐานพิจารณามาตรฐานผลิตภัณฑ์ฯ พร้อมรับเป็นคดีพิเศษ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034783 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    5 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบโจรย่องเบาขโมยของขณะคนงานหลับ นำเงินเสพยา-ปั่นสล็อต
    https://www.thai-tai.tv/news/18139/
    รวบโจรย่องเบาขโมยของขณะคนงานหลับ นำเงินเสพยา-ปั่นสล็อต https://www.thai-tai.tv/news/18139/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • IPVanish ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ VPN ได้รับการยืนยันจากการตรวจสอบอิสระว่าไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว โดยการตรวจสอบนี้ดำเนินการโดยบริษัท Schellman Compliance เพื่อยืนยันความโปร่งใสในการจัดการข้อมูล

    ✅ การตรวจสอบอิสระ:
    - Schellman Compliance ได้ตรวจสอบการตั้งค่าของเซิร์ฟเวอร์และระบบ IT ของ IPVanish ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
    - ผลการตรวจสอบยืนยันว่าไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ VPN

    ✅ การเปิดตัว Trust Center:
    - IPVanish เปิดตัว Trust Center ซึ่งรวบรวมผลการตรวจสอบ รายงานความโปร่งใสรายไตรมาส และนโยบายต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว
    - รายงานความโปร่งใสแสดงข้อมูลเกี่ยวกับคำขอจากรัฐบาลและความพยายามในการโจมตีที่เป็นอันตราย

    ✅ ความสำคัญของการตรวจสอบ VPN:
    - การตรวจสอบ VPN ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่าข้อมูลส่วนตัวจะไม่ถูกเก็บหรือเชื่อมโยงกับกิจกรรมออนไลน์

    ✅ การเก็บข้อมูลพื้นฐาน:
    - แม้ VPN จะไม่มีการเก็บข้อมูลการใช้งาน แต่ยังคงเก็บข้อมูลพื้นฐาน เช่น อีเมลและจำนวนผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-audit-confirms-ipvanish-never-logs-your-data
    IPVanish ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ VPN ได้รับการยืนยันจากการตรวจสอบอิสระว่าไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว โดยการตรวจสอบนี้ดำเนินการโดยบริษัท Schellman Compliance เพื่อยืนยันความโปร่งใสในการจัดการข้อมูล ✅ การตรวจสอบอิสระ: - Schellman Compliance ได้ตรวจสอบการตั้งค่าของเซิร์ฟเวอร์และระบบ IT ของ IPVanish ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 - ผลการตรวจสอบยืนยันว่าไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ VPN ✅ การเปิดตัว Trust Center: - IPVanish เปิดตัว Trust Center ซึ่งรวบรวมผลการตรวจสอบ รายงานความโปร่งใสรายไตรมาส และนโยบายต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว - รายงานความโปร่งใสแสดงข้อมูลเกี่ยวกับคำขอจากรัฐบาลและความพยายามในการโจมตีที่เป็นอันตราย ✅ ความสำคัญของการตรวจสอบ VPN: - การตรวจสอบ VPN ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่าข้อมูลส่วนตัวจะไม่ถูกเก็บหรือเชื่อมโยงกับกิจกรรมออนไลน์ ✅ การเก็บข้อมูลพื้นฐาน: - แม้ VPN จะไม่มีการเก็บข้อมูลการใช้งาน แต่ยังคงเก็บข้อมูลพื้นฐาน เช่น อีเมลและจำนวนผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-audit-confirms-ipvanish-never-logs-your-data
    WWW.TECHRADAR.COM
    Independent audit confirms IPVanish never logs your data
    This is the second time the VPN providers put its no-log infrastructure under test
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ ย้อนไปอ่านนิยายเก่าๆ และกลับมาอ่านนิยายต้นฉบับที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> อดไม่ได้ที่จะพูดถึงสาระที่อัดแน่นในนิยายเรื่องนี้อย่างมากมาย โดยเฉพาะบทกวีโบราณ

    วันนี้เราจะคุยถึงฉากที่นางเอก (ภาคปัจจุบัน) ปรับเสียงของสายพิณของพิณโบราณ (กู่ฉิน) ให้เด็กข้างบ้าน พระเอกได้ยินฝีมือบรรเลงแล้วก็รู้สึกชื่นชมในฝีมือของนางเอก ในนิยายบรรยายไว้ดังนี้
    ... โจวเซิงเฉินกล่าว “เมื่อครู่ที่เธอบรรเลงพิณ ทำให้ผมนึกถึงกลอนบทหนึ่ง... แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน”
    สืออี๋หัวเราะแล้วเอ่ย “คุณชายใหญ่คะ วลีนั้นมีไว้ชมพิณคงโหวนะนั่น”
    - จาก <ทุกชาติภพกระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องบทกวี นอกจากจะเกริ่นแค่สั้นๆ ว่า บทกวีนี้มีชื่อว่า ‘หลี่ผิงคงโหวอิ่ง’ (李凭箜篌引 แปลได้ประมาณว่า หลี่ผิงบรรเลงพิณนำพา) มีทั้งหมด 14 วรรค บรรยายถึงความงดงามของทิวทัศน์และเสียงพิณของนักดนตรีเลื่องชื่อในยุคเดียวกันคือหลี่ผิง โดยวลีที่โด่งดังก็คือ “แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน” ที่กล่าวถึงข้างบน มีความหมายว่าเสียงพิณนั้นไพเราะจนสามารถละลายความหนาวของสารถฤดู และได้ยินไปถึงชั้นในของเมืองกระทั่งไปถึงจนแดนสวรรค์

    บทกวีนี้เป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อของหลี่เฮ่อ (李贺 ค.ศ. 790-816) จะเรียกว่าหลี่เฮ่อเป็นอัจฉริยะก็ว่าได้ เพราะเขาเริ่มแต่งโคลงกลอนตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อ ‘หลี่ไป๋’ กวีเอกผู้โด่งดังจากยุคถัง แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า หลี่เฮ่อผู้นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสี่ยอดนักกวีแห่งสมัยถังเช่นเดียวกับหลี่ไป๋? สี่ยอดกวีที่ว่านี้คือ: เซียนกวีหลี่ไป๋ ราชันกวีตู้ฝู่ พระเจ้ากวีหวางเหว่ย และภูติกวีหลี่เฮ่อ

    แต่วันนี้ที่ Storyฯ ตั้งใจมาคุยถึงเกร็ดที่แฝงอยู่ในวลีนี้ คือ 1) ทำไมประตูสิบสองบาน? และ 2) เส้นไหมยี่สิบสามเส้นคืออะไร?

    ประเด็นแรกคือเรื่อง ‘สิบสองประตู’ จริงๆ แล้วมันเป็นการกล่าวถึงเมืองฉางอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยถัง มีประตูเมืองสิบสองประตู (ดูภาพประกอบ2 ซ้าย ที่ Storyฯ วงสีแดงไว้ ไม่นับประตูพระราชวัง) คือทิศละสามประตู แต่ละประตูสร้างเป็นอาคารชั้นในและนอกรวมสามชั้น

    Storyฯ ค้นพบว่าแนวคิดการมีประตูเมืองสิบสองประตูนี้มีมาแต่โบราณ ปรากฏการบันทึกไว้ในบันทึกพิธีการสมัยราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’ ในบรรพที่ว่าด้วยการค้าและงานวิศวกรรมหรือที่เรียกว่า ‘เข่ากงจี้’ (考工记) โดยบันทึกดังกล่าวมีการบรรยายถึงลักษณะที่ถูกต้องของเมืองหลวงไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนและทิศทาง โดยเน้นเลขเก้าเป็นเลขมงคล เช่น แต่ละด้านของเมืองให้หันตรงทิศและมีความยาวเก้าหลี่ มีประตูเมืองสามประตูในแต่ละทิศ แต่ละประตูมีถนนสามสายตรงเข้าสู่บริเวณพระราชวังตรงใจกลางเมือง นับได้เป็นเหนือ-ใต้เก้าเส้น และตะวันออก-ตะวันตกอีกเก้าเส้น อาคารต่างๆ ให้เริ่มจากด้านในเป็นพระราชวังแล้วค่อยขยายออกมาเป็นวง (ดูภาพประกอบ2 ขวา)

    หลักการสิบสองประตูนี้ถูกใช้กับนครฉางอัน แต่รายละเอียดแปรเปลี่ยนไปตามแนวทางการวางผังเมืองที่พัฒนาไปให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรและลักษณะการใช้งาน และหลักการนี้ไม่ปรากฏในเมืองหลวงยุคต่อๆ มา แม้ว่าจะยังคงหลักการให้มีประตูเมืองครบสี่ทิศ

    อาทิตย์หน้าเรามาต่อกันด้วยเรื่องของ ‘เส้นไหมยี่สิบสามเส้น’ กันค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://zh.wikipedia.org/wiki/一生一世_%282021年电视剧%29
    https://www.sohu.com/a/155060661_701638
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.gushimi.org/shangxi/7477.html
    https://baike.baidu.com/item/李凭箜篌引/2880645
    https://baike.baidu.com/item/周礼·考工记·匠人/18164579
    http://www.kaogu.cn/uploads/soft/2017/20171027xulongguo.pdf

    #กระดูกงดงาม #หลี่เฮ่อ #นครโบราณฉางอัน #ประตูเมืองฉางอัน #กวีเอกยุคถัง
    Storyฯ ย้อนไปอ่านนิยายเก่าๆ และกลับมาอ่านนิยายต้นฉบับที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> อดไม่ได้ที่จะพูดถึงสาระที่อัดแน่นในนิยายเรื่องนี้อย่างมากมาย โดยเฉพาะบทกวีโบราณ วันนี้เราจะคุยถึงฉากที่นางเอก (ภาคปัจจุบัน) ปรับเสียงของสายพิณของพิณโบราณ (กู่ฉิน) ให้เด็กข้างบ้าน พระเอกได้ยินฝีมือบรรเลงแล้วก็รู้สึกชื่นชมในฝีมือของนางเอก ในนิยายบรรยายไว้ดังนี้ ... โจวเซิงเฉินกล่าว “เมื่อครู่ที่เธอบรรเลงพิณ ทำให้ผมนึกถึงกลอนบทหนึ่ง... แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน” สืออี๋หัวเราะแล้วเอ่ย “คุณชายใหญ่คะ วลีนั้นมีไว้ชมพิณคงโหวนะนั่น” - จาก <ทุกชาติภพกระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องบทกวี นอกจากจะเกริ่นแค่สั้นๆ ว่า บทกวีนี้มีชื่อว่า ‘หลี่ผิงคงโหวอิ่ง’ (李凭箜篌引 แปลได้ประมาณว่า หลี่ผิงบรรเลงพิณนำพา) มีทั้งหมด 14 วรรค บรรยายถึงความงดงามของทิวทัศน์และเสียงพิณของนักดนตรีเลื่องชื่อในยุคเดียวกันคือหลี่ผิง โดยวลีที่โด่งดังก็คือ “แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน” ที่กล่าวถึงข้างบน มีความหมายว่าเสียงพิณนั้นไพเราะจนสามารถละลายความหนาวของสารถฤดู และได้ยินไปถึงชั้นในของเมืองกระทั่งไปถึงจนแดนสวรรค์ บทกวีนี้เป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อของหลี่เฮ่อ (李贺 ค.ศ. 790-816) จะเรียกว่าหลี่เฮ่อเป็นอัจฉริยะก็ว่าได้ เพราะเขาเริ่มแต่งโคลงกลอนตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อ ‘หลี่ไป๋’ กวีเอกผู้โด่งดังจากยุคถัง แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า หลี่เฮ่อผู้นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสี่ยอดนักกวีแห่งสมัยถังเช่นเดียวกับหลี่ไป๋? สี่ยอดกวีที่ว่านี้คือ: เซียนกวีหลี่ไป๋ ราชันกวีตู้ฝู่ พระเจ้ากวีหวางเหว่ย และภูติกวีหลี่เฮ่อ แต่วันนี้ที่ Storyฯ ตั้งใจมาคุยถึงเกร็ดที่แฝงอยู่ในวลีนี้ คือ 1) ทำไมประตูสิบสองบาน? และ 2) เส้นไหมยี่สิบสามเส้นคืออะไร? ประเด็นแรกคือเรื่อง ‘สิบสองประตู’ จริงๆ แล้วมันเป็นการกล่าวถึงเมืองฉางอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยถัง มีประตูเมืองสิบสองประตู (ดูภาพประกอบ2 ซ้าย ที่ Storyฯ วงสีแดงไว้ ไม่นับประตูพระราชวัง) คือทิศละสามประตู แต่ละประตูสร้างเป็นอาคารชั้นในและนอกรวมสามชั้น Storyฯ ค้นพบว่าแนวคิดการมีประตูเมืองสิบสองประตูนี้มีมาแต่โบราณ ปรากฏการบันทึกไว้ในบันทึกพิธีการสมัยราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’ ในบรรพที่ว่าด้วยการค้าและงานวิศวกรรมหรือที่เรียกว่า ‘เข่ากงจี้’ (考工记) โดยบันทึกดังกล่าวมีการบรรยายถึงลักษณะที่ถูกต้องของเมืองหลวงไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนและทิศทาง โดยเน้นเลขเก้าเป็นเลขมงคล เช่น แต่ละด้านของเมืองให้หันตรงทิศและมีความยาวเก้าหลี่ มีประตูเมืองสามประตูในแต่ละทิศ แต่ละประตูมีถนนสามสายตรงเข้าสู่บริเวณพระราชวังตรงใจกลางเมือง นับได้เป็นเหนือ-ใต้เก้าเส้น และตะวันออก-ตะวันตกอีกเก้าเส้น อาคารต่างๆ ให้เริ่มจากด้านในเป็นพระราชวังแล้วค่อยขยายออกมาเป็นวง (ดูภาพประกอบ2 ขวา) หลักการสิบสองประตูนี้ถูกใช้กับนครฉางอัน แต่รายละเอียดแปรเปลี่ยนไปตามแนวทางการวางผังเมืองที่พัฒนาไปให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรและลักษณะการใช้งาน และหลักการนี้ไม่ปรากฏในเมืองหลวงยุคต่อๆ มา แม้ว่าจะยังคงหลักการให้มีประตูเมืองครบสี่ทิศ อาทิตย์หน้าเรามาต่อกันด้วยเรื่องของ ‘เส้นไหมยี่สิบสามเส้น’ กันค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zh.wikipedia.org/wiki/一生一世_%282021年电视剧%29 https://www.sohu.com/a/155060661_701638 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.gushimi.org/shangxi/7477.html https://baike.baidu.com/item/李凭箜篌引/2880645 https://baike.baidu.com/item/周礼·考工记·匠人/18164579 http://www.kaogu.cn/uploads/soft/2017/20171027xulongguo.pdf #กระดูกงดงาม #หลี่เฮ่อ #นครโบราณฉางอัน #ประตูเมืองฉางอัน #กวีเอกยุคถัง
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอง ผบก.ป.เผยสอบเหยื่อไฮโซกำมะลอไปแล้ว 5 ปากเตรียมเรียกสอบอีกหลายปาก ขอเวลารวบรวมหลักฐานเพื่อให้สำนวนคดีรัดกุม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034377

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รอง ผบก.ป.เผยสอบเหยื่อไฮโซกำมะลอไปแล้ว 5 ปากเตรียมเรียกสอบอีกหลายปาก ขอเวลารวบรวมหลักฐานเพื่อให้สำนวนคดีรัดกุม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034377 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 749 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน

    🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์:
    - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร
    - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต

    ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร:
    - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง
    - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store

    https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน 🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์: - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร: - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงไอคอนสำหรับแอปพลิเคชัน Office อีกครั้ง หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2018 โดยครั้งนี้บริษัทได้ส่งแบบสำรวจไปยังผู้ใช้งานเพื่อรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับดีไซน์ใหม่ พร้อมมอบบัตรของขวัญมูลค่า $10 ให้กับผู้เข้าร่วม

    ✅ ดีไซน์ใหม่ที่เน้นความสดใสและล้ำสมัย:
    - ไอคอนใหม่มีการใช้สีที่สดใสขึ้น พร้อมเพิ่มมิติและความลึกให้ดูมีชีวิตชีวา
    - การออกแบบนี้สอดคล้องกับแนวทางใหม่ของ Microsoft ที่หันมาใช้ดีไซน์แบบ skeuomorphic และ 3D-like หลังจากเน้นดีไซน์แบบแบนราบมานานกว่า 10 ปี

    ✅ การสำรวจความคิดเห็น:
    - Microsoft ได้ส่งอีเมลสำรวจไปยังผู้ใช้งาน โดยระบุว่าไอคอนที่นำเสนอในแบบสำรวจอาจไม่ใช่เวอร์ชันสุดท้าย
    - บริษัทตั้งเป้าที่จะปรับดีไซน์ให้สอดคล้องกับแอป Outlook ใหม่ ซึ่งแม้จะได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับ Microsoft 365

    ✅ ความเชื่อมโยงกับการออกแบบอื่น ๆ:
    - ไอคอนใหม่ยังสอดคล้องกับการปรับปรุงภาพประกอบที่ Microsoft เปิดตัวในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเน้นความล้ำสมัยและการเชื่อมโยงกับผู้ใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-once-again-redesigning-office-icons-and-it-wants-to-know-what-you-think/
    Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงไอคอนสำหรับแอปพลิเคชัน Office อีกครั้ง หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2018 โดยครั้งนี้บริษัทได้ส่งแบบสำรวจไปยังผู้ใช้งานเพื่อรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับดีไซน์ใหม่ พร้อมมอบบัตรของขวัญมูลค่า $10 ให้กับผู้เข้าร่วม ✅ ดีไซน์ใหม่ที่เน้นความสดใสและล้ำสมัย: - ไอคอนใหม่มีการใช้สีที่สดใสขึ้น พร้อมเพิ่มมิติและความลึกให้ดูมีชีวิตชีวา - การออกแบบนี้สอดคล้องกับแนวทางใหม่ของ Microsoft ที่หันมาใช้ดีไซน์แบบ skeuomorphic และ 3D-like หลังจากเน้นดีไซน์แบบแบนราบมานานกว่า 10 ปี ✅ การสำรวจความคิดเห็น: - Microsoft ได้ส่งอีเมลสำรวจไปยังผู้ใช้งาน โดยระบุว่าไอคอนที่นำเสนอในแบบสำรวจอาจไม่ใช่เวอร์ชันสุดท้าย - บริษัทตั้งเป้าที่จะปรับดีไซน์ให้สอดคล้องกับแอป Outlook ใหม่ ซึ่งแม้จะได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับ Microsoft 365 ✅ ความเชื่อมโยงกับการออกแบบอื่น ๆ: - ไอคอนใหม่ยังสอดคล้องกับการปรับปรุงภาพประกอบที่ Microsoft เปิดตัวในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเน้นความล้ำสมัยและการเชื่อมโยงกับผู้ใช้งาน https://www.neowin.net/news/microsoft-is-once-again-redesigning-office-icons-and-it-wants-to-know-what-you-think/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is once again redesigning Office icons, and it wants to know what you think
    Microsoft is cooking a fresh set of icons for its Office apps, but it wants to know your opinion on them first.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts