• เทียบฟอร์มหุ้น กลุ่ม BANK 07/08/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #หุ้นกลุ่ม BANK
    เทียบฟอร์มหุ้น กลุ่ม BANK 07/08/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #หุ้นกลุ่ม BANK
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 0 Reviews
  • SET แกร่ง แต่อย่าหวังสูง! 07/08/68 #กะเทาะหุ้น #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เศรษฐกิจ
    SET แกร่ง แต่อย่าหวังสูง! 07/08/68 #กะเทาะหุ้น #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เศรษฐกิจ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 0 Reviews
  • ภาษีทรัมป์ ยังไม่จบ!! : [Biz Talk]

    แค่ยกแรก! 7 ส.ค.68 สหรัฐ เริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 19% นักเศรษฐศาสตร์ เตือนอย่าเพิ่งวางใจ เพราะไม่มีอะไรแน่นอน ภายใต้นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ กับการจัดระเบียบใหม่ของโลกผ่านกำแพงภาษี แนะรัฐบาลไทย ระดมสมองปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หาตลาดค้าขายใหม่ในเอเชีย ลดพึ่งพาตลาดสหรัฐในระยะยาว
    ภาษีทรัมป์ ยังไม่จบ!! : [Biz Talk] แค่ยกแรก! 7 ส.ค.68 สหรัฐ เริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 19% นักเศรษฐศาสตร์ เตือนอย่าเพิ่งวางใจ เพราะไม่มีอะไรแน่นอน ภายใต้นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ กับการจัดระเบียบใหม่ของโลกผ่านกำแพงภาษี แนะรัฐบาลไทย ระดมสมองปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หาตลาดค้าขายใหม่ในเอเชีย ลดพึ่งพาตลาดสหรัฐในระยะยาว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 0 Reviews
  • กลุ่มไหนควรขาย กลุ่มไหนควรเก็บ (07/08/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น
    กลุ่มไหนควรขาย กลุ่มไหนควรเก็บ (07/08/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 0 Reviews
  • ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ย หนุน SET 1300 (07/08/68)#news1 #คุยคุ้ยหุ้น #กนง. #หุ้น #ตลาดหุ้น
    ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ย หนุน SET 1300 (07/08/68)#news1 #คุยคุ้ยหุ้น #กนง. #หุ้น #ตลาดหุ้น
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 0 Reviews
  • "สุชาติ" ลุยสวิตเซอร์แลนด์! นำทีมพาณิชย์หาตลาดใหม่...ใช้ประโยชน์ FTA ไทย-EFTA ดันสินค้าไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20799/
    .
    #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #สวิตเซอร์แลนด์ #FTAไทยEFTA #ThaiSELECT #การค้าระหว่างประเทศ #ไทยไท
    "สุชาติ" ลุยสวิตเซอร์แลนด์! นำทีมพาณิชย์หาตลาดใหม่...ใช้ประโยชน์ FTA ไทย-EFTA ดันสินค้าไทย https://www.thai-tai.tv/news/20799/ . #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #สวิตเซอร์แลนด์ #FTAไทยEFTA #ThaiSELECT #การค้าระหว่างประเทศ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลก GPU มืออาชีพ: RTX Pro 5000 Blackwell Mobile ที่แรงเทียบเท่า RTX 5090

    Nvidia เปิดตัว RTX Pro 5000 Blackwell Mobile GPU สำหรับโน้ตบุ๊กสายเวิร์กสเตชัน โดยใช้สถาปัตยกรรม Blackwell รุ่นล่าสุดที่เน้นงานระดับมืออาชีพ เช่น AI, การจำลอง, การออกแบบ 3D และการเรนเดอร์ขั้นสูง

    แม้จะเป็นรุ่นสำหรับโน้ตบุ๊ก แต่ประสิทธิภาพกลับใกล้เคียงกับ RTX 5090 Laptop GPU ซึ่งเป็นรุ่นเกมมิ่งระดับสูง โดย RTX Pro 5000 Mobile มี 10,496 CUDA cores, 328 Tensor cores และ 82 RT cores พร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24GB บนบัส 256-bit ให้แบนด์วิดธ์ 896 GB/s

    ผลการทดสอบ OpenCL พบว่า RTX Pro 5000 Mobile แรงกว่า RTX 5000 Ada Generation ถึง 14% และยังเหนือกว่า RTX 5090 เล็กน้อย แม้จะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและอินเทอร์เฟซหน่วยความจำที่แคบกว่า

    Dell ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่น Pro Max 18 Plus ที่ใช้ GPU ตัวนี้ร่วมกับ Core Ultra 9 285HX และ DDR5-6400 ขายที่ราคา $6,121.47 ซึ่งถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กระดับสูงสำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ

    RTX Pro 5000 Blackwell Mobile ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell
    มี 10,496 CUDA cores และ 24GB GDDR7 memory

    แบนด์วิดธ์หน่วยความจำอยู่ที่ 896 GB/s
    ใช้บัส 256-bit ซึ่งแคบกว่ารุ่นเดสก์ท็อป

    ผลทดสอบ OpenCL แรงกว่า RTX 5000 Ada Generation 14%
    และแรงกว่า RTX 5090 Laptop GPU ประมาณ 2%

    Dell Pro Max 18 Plus ใช้ GPU นี้ร่วมกับ Core Ultra 9 285HX
    ขายที่ราคา $6,121.47 สำหรับรุ่นสูงสุด

    GPU นี้รองรับฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ เช่น ECC และ Tensor cores
    เหมาะสำหรับงาน AI, simulation และการออกแบบขั้นสูง

    GPU นี้มี 328 Tensor cores และ 82 RT cores
    รองรับการเร่งความเร็วงาน machine learning และ ray tracing

    ใช้เทคโนโลยีการผลิต 5nm จาก TSMC
    มีทรานซิสเตอร์มากถึง 45,600 ล้านตัว

    รองรับ PCIe 5.0 และ DisplayPort 2.1b
    แม้จะไม่มีพอร์ตแสดงผลโดยตรง แต่ใช้ผ่านระบบโน้ตบุ๊ก

    มีประสิทธิภาพ FP32 สูงถึง 49.8 TFLOPs และ AI TOPS ที่ 1824
    เหมาะกับงานที่ต้องการการคำนวณหนักและแม่นยำ

    มีรุ่นย่อย RTX Pro 1000–5000 สำหรับตลาดต่างระดับ
    รุ่นต่ำสุดมีเพียง 1,792 CUDA cores และบัสแค่ 96-bit

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-5000-blackwell-laptop-gpu-beats-previous-gen-by-14-percent-in-opencl-benchmark-professional-mobile-chip-performs-like-a-laptop-rtx-5090
    🎮💼 เรื่องเล่าจากโลก GPU มืออาชีพ: RTX Pro 5000 Blackwell Mobile ที่แรงเทียบเท่า RTX 5090 Nvidia เปิดตัว RTX Pro 5000 Blackwell Mobile GPU สำหรับโน้ตบุ๊กสายเวิร์กสเตชัน โดยใช้สถาปัตยกรรม Blackwell รุ่นล่าสุดที่เน้นงานระดับมืออาชีพ เช่น AI, การจำลอง, การออกแบบ 3D และการเรนเดอร์ขั้นสูง แม้จะเป็นรุ่นสำหรับโน้ตบุ๊ก แต่ประสิทธิภาพกลับใกล้เคียงกับ RTX 5090 Laptop GPU ซึ่งเป็นรุ่นเกมมิ่งระดับสูง โดย RTX Pro 5000 Mobile มี 10,496 CUDA cores, 328 Tensor cores และ 82 RT cores พร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24GB บนบัส 256-bit ให้แบนด์วิดธ์ 896 GB/s ผลการทดสอบ OpenCL พบว่า RTX Pro 5000 Mobile แรงกว่า RTX 5000 Ada Generation ถึง 14% และยังเหนือกว่า RTX 5090 เล็กน้อย แม้จะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและอินเทอร์เฟซหน่วยความจำที่แคบกว่า Dell ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่น Pro Max 18 Plus ที่ใช้ GPU ตัวนี้ร่วมกับ Core Ultra 9 285HX และ DDR5-6400 ขายที่ราคา $6,121.47 ซึ่งถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กระดับสูงสำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ ✅ RTX Pro 5000 Blackwell Mobile ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ➡️ มี 10,496 CUDA cores และ 24GB GDDR7 memory ✅ แบนด์วิดธ์หน่วยความจำอยู่ที่ 896 GB/s ➡️ ใช้บัส 256-bit ซึ่งแคบกว่ารุ่นเดสก์ท็อป ✅ ผลทดสอบ OpenCL แรงกว่า RTX 5000 Ada Generation 14% ➡️ และแรงกว่า RTX 5090 Laptop GPU ประมาณ 2% ✅ Dell Pro Max 18 Plus ใช้ GPU นี้ร่วมกับ Core Ultra 9 285HX ➡️ ขายที่ราคา $6,121.47 สำหรับรุ่นสูงสุด ✅ GPU นี้รองรับฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ เช่น ECC และ Tensor cores ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI, simulation และการออกแบบขั้นสูง ✅ GPU นี้มี 328 Tensor cores และ 82 RT cores ➡️ รองรับการเร่งความเร็วงาน machine learning และ ray tracing ✅ ใช้เทคโนโลยีการผลิต 5nm จาก TSMC ➡️ มีทรานซิสเตอร์มากถึง 45,600 ล้านตัว ✅ รองรับ PCIe 5.0 และ DisplayPort 2.1b ➡️ แม้จะไม่มีพอร์ตแสดงผลโดยตรง แต่ใช้ผ่านระบบโน้ตบุ๊ก ✅ มีประสิทธิภาพ FP32 สูงถึง 49.8 TFLOPs และ AI TOPS ที่ 1824 ➡️ เหมาะกับงานที่ต้องการการคำนวณหนักและแม่นยำ ✅ มีรุ่นย่อย RTX Pro 1000–5000 สำหรับตลาดต่างระดับ ➡️ รุ่นต่ำสุดมีเพียง 1,792 CUDA cores และบัสแค่ 96-bit https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-5000-blackwell-laptop-gpu-beats-previous-gen-by-14-percent-in-opencl-benchmark-professional-mobile-chip-performs-like-a-laptop-rtx-5090
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากแดนมังกร: แผน “เมกะเมอร์เจอร์” ของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สะดุดกลางทาง

    จีนมีเป้าหมายใหญ่ในการรวมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิปให้กลายเป็น “แชมป์แห่งชาติ” ที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปได้ โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งในประเทศเอง

    แต่แผนการนี้กลับสะดุดอย่างหนัก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการประเมินมูลค่าที่ไม่ลงตัว ความขัดแย้งทางการเมือง และช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลจากคู่แข่งระดับโลก

    แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานรัฐอย่าง NDRC ที่พยายามรวมบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปให้เป็นหนึ่งเดียว แต่การเจรจากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างผู้ขายที่ไม่อยากขายต่ำกว่าราคาตลาด กับผู้ซื้อที่ไม่อยากจ่ายแพงเกินจริง

    ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากในจีนก็ล้มละลายหรือถอนตัวจากตลาด IPO ทำให้รัฐบาลต้องหันมาเน้นการควบรวมกิจการแทนการลงทุนกระจาย เพื่อรวมทรัพยากรและบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพสูง

    ถึงแม้ภาพรวมจะดูไม่สดใส แต่ก็ยังมีข่าวดีบ้าง เช่น Naura Technology เข้าซื้อหุ้นใน Kingsemi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี

    จีนพยายามรวมบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว
    เพื่อแข่งกับ Applied Materials, KLA และ Lam Research จากสหรัฐฯ

    หน่วยงาน NDRC เป็นผู้ผลักดันแผนการรวมกิจการ
    หวังลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความเข้ากันได้ของเครื่องมือ

    Naura Technology เข้าซื้อหุ้น 9.49% ใน Kingsemi มูลค่า $235 ล้าน
    เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี

    มีการประกาศควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว 26 รายการในปี 2025
    รวมถึงการควบรวมระหว่าง Sugon และ Hygon

    รัฐบาลจีนต้องการสร้าง “แชมป์แห่งชาติ” ที่มีขนาดใหญ่และแข่งขันระดับโลกได้
    เพื่อดึงดูดเงินทุนและรวมบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-semiconductor-megamerger-strategy-reportedly-stalling-new-report-says-high-level-merger-plans-to-strengthen-domestic-chip-industry-face-multiple-headwinds
    🇨🇳🔧 เรื่องเล่าจากแดนมังกร: แผน “เมกะเมอร์เจอร์” ของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สะดุดกลางทาง จีนมีเป้าหมายใหญ่ในการรวมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิปให้กลายเป็น “แชมป์แห่งชาติ” ที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปได้ โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งในประเทศเอง แต่แผนการนี้กลับสะดุดอย่างหนัก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการประเมินมูลค่าที่ไม่ลงตัว ความขัดแย้งทางการเมือง และช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลจากคู่แข่งระดับโลก แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานรัฐอย่าง NDRC ที่พยายามรวมบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปให้เป็นหนึ่งเดียว แต่การเจรจากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างผู้ขายที่ไม่อยากขายต่ำกว่าราคาตลาด กับผู้ซื้อที่ไม่อยากจ่ายแพงเกินจริง ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากในจีนก็ล้มละลายหรือถอนตัวจากตลาด IPO ทำให้รัฐบาลต้องหันมาเน้นการควบรวมกิจการแทนการลงทุนกระจาย เพื่อรวมทรัพยากรและบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพสูง ถึงแม้ภาพรวมจะดูไม่สดใส แต่ก็ยังมีข่าวดีบ้าง เช่น Naura Technology เข้าซื้อหุ้นใน Kingsemi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี ✅ จีนพยายามรวมบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว ➡️ เพื่อแข่งกับ Applied Materials, KLA และ Lam Research จากสหรัฐฯ ✅ หน่วยงาน NDRC เป็นผู้ผลักดันแผนการรวมกิจการ ➡️ หวังลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความเข้ากันได้ของเครื่องมือ ✅ Naura Technology เข้าซื้อหุ้น 9.49% ใน Kingsemi มูลค่า $235 ล้าน ➡️ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี ✅ มีการประกาศควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว 26 รายการในปี 2025 ➡️ รวมถึงการควบรวมระหว่าง Sugon และ Hygon ✅ รัฐบาลจีนต้องการสร้าง “แชมป์แห่งชาติ” ที่มีขนาดใหญ่และแข่งขันระดับโลกได้ ➡️ เพื่อดึงดูดเงินทุนและรวมบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-semiconductor-megamerger-strategy-reportedly-stalling-new-report-says-high-level-merger-plans-to-strengthen-domestic-chip-industry-face-multiple-headwinds
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • DDR4 ยังไม่ตาย! เรื่องเล่าจากโลกหน่วยความจำที่ยังไม่ยอมลาจาก

    แม้ว่า DDR5 จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในโลกของหน่วยความจำ แต่ DDR4 ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เพราะผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Samsung, SK hynix และ Micron ต่างประกาศว่าจะยังคงผลิต DDR4 ต่อไปจนถึงปี 2026 เพื่อรองรับลูกค้าในอุตสาหกรรมที่ยังต้องพึ่งพาหน่วยความจำรุ่นเก่า

    สาเหตุหลักคือความต้องการที่ยังคงสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรที่ยังใช้แพลตฟอร์มที่รองรับ DDR4 เช่น Intel Gen 13/14 และ AMD รุ่นก่อนหน้า อีกทั้งราคาของ DDR4 ก็พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตยังสามารถทำกำไรจากสายการผลิตที่ถูกหักค่าเสื่อมราคาไปแล้ว

    Micron ได้แจ้งลูกค้าล่วงหน้าว่าจะสิ้นสุดการส่ง DDR4 ภายในไตรมาสแรกของปี 2026 ขณะที่ Samsung และ SK hynix จะทยอยหยุดการผลิตในช่วงปลายปี 2025 ถึงกลางปี 2026 อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรายเล็กและกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะทางจะยังคงได้รับการสนับสนุนต่อไปอีกหลายปี

    Samsung จะผลิต DDR4 ต่อถึงปลายปี 2025
    ใช้เทคโนโลยี 1z node ที่ต้นทุนต่ำและยังทำกำไรได้

    SK hynix จะหยุดผลิต DDR4 ในช่วง Q2 ปี 2026
    อาจเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายสุดท้ายที่ยังผลิต DDR4

    Micron จะส่งมอบ DDR4 ชุดสุดท้ายในต้นปี 2026
    แจ้ง EOL (End-of-Life) ให้ลูกค้าในกลุ่ม PC, data center และมือถือ

    DDR4 ยังมีความต้องการสูงในตลาด PC และเซิร์ฟเวอร์
    ราคาสัญญา DDR4 พุ่งขึ้น 38–45% ใน Q3 ปี 2025

    DDR4 จะยังคงใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์, โทรคมนาคม และการทหาร
    Micron จะยังผลิต DDR4 บน 1α node สำหรับลูกค้าระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr4/ddr4-production-expected-to-continue-until-2026-samsung-sk-hynix-and-micron-will-continue-serving-industry-clients-for-longer
    🧠💾 DDR4 ยังไม่ตาย! เรื่องเล่าจากโลกหน่วยความจำที่ยังไม่ยอมลาจาก แม้ว่า DDR5 จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในโลกของหน่วยความจำ แต่ DDR4 ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เพราะผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Samsung, SK hynix และ Micron ต่างประกาศว่าจะยังคงผลิต DDR4 ต่อไปจนถึงปี 2026 เพื่อรองรับลูกค้าในอุตสาหกรรมที่ยังต้องพึ่งพาหน่วยความจำรุ่นเก่า สาเหตุหลักคือความต้องการที่ยังคงสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรที่ยังใช้แพลตฟอร์มที่รองรับ DDR4 เช่น Intel Gen 13/14 และ AMD รุ่นก่อนหน้า อีกทั้งราคาของ DDR4 ก็พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตยังสามารถทำกำไรจากสายการผลิตที่ถูกหักค่าเสื่อมราคาไปแล้ว Micron ได้แจ้งลูกค้าล่วงหน้าว่าจะสิ้นสุดการส่ง DDR4 ภายในไตรมาสแรกของปี 2026 ขณะที่ Samsung และ SK hynix จะทยอยหยุดการผลิตในช่วงปลายปี 2025 ถึงกลางปี 2026 อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรายเล็กและกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะทางจะยังคงได้รับการสนับสนุนต่อไปอีกหลายปี ✅ Samsung จะผลิต DDR4 ต่อถึงปลายปี 2025 ➡️ ใช้เทคโนโลยี 1z node ที่ต้นทุนต่ำและยังทำกำไรได้ ✅ SK hynix จะหยุดผลิต DDR4 ในช่วง Q2 ปี 2026 ➡️ อาจเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายสุดท้ายที่ยังผลิต DDR4 ✅ Micron จะส่งมอบ DDR4 ชุดสุดท้ายในต้นปี 2026 ➡️ แจ้ง EOL (End-of-Life) ให้ลูกค้าในกลุ่ม PC, data center และมือถือ ✅ DDR4 ยังมีความต้องการสูงในตลาด PC และเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ราคาสัญญา DDR4 พุ่งขึ้น 38–45% ใน Q3 ปี 2025 ✅ DDR4 จะยังคงใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์, โทรคมนาคม และการทหาร ➡️ Micron จะยังผลิต DDR4 บน 1α node สำหรับลูกค้าระยะยาว https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr4/ddr4-production-expected-to-continue-until-2026-samsung-sk-hynix-and-micron-will-continue-serving-industry-clients-for-longer
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกอินเตอร์เฟซ: PCIe 8.0 กับความเร็วระดับ 1TB/s ที่พร้อมป้อนข้อมูลให้ AI และดาต้าเซ็นเตอร์

    PCI-SIG กลุ่มพันธมิตรผู้กำหนดมาตรฐาน PCI Express ได้ประกาศสเปกของ PCIe 8.0 อย่างเป็นทางการ โดยยังคงรักษาธรรมเนียม “เพิ่มความเร็วเป็นสองเท่าทุกสามปี” ซึ่งในเวอร์ชันใหม่นี้จะมีอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 256 GT/s ต่อเลน และสามารถให้แบนด์วิดธ์แบบสองทิศทางได้ถึง 1TB/s บนการเชื่อมต่อแบบ x16

    แม้จะยังไม่ใช่สเปกที่พร้อมใช้งานในตลาดทั่วไป (คาดว่าจะปล่อยให้สมาชิกในปี 2028) แต่เป้าหมายของ PCIe 8.0 ชัดเจนมาก: รองรับงานที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง เช่น AI, machine learning, quantum computing, edge computing, และระบบในอุตสาหกรรมยานยนต์หรือการทหาร

    เทคโนโลยีที่ใช้ยังคงเป็น PAM4 พร้อม Flit Mode encoding และ forward error correction (FEC) เหมือนใน PCIe 6.0 และ 7.0 แต่การผลักดันความเร็วถึง 256 GT/s ต่อเลนบนสายทองแดงนั้นเป็นความท้าทายอย่างมาก ทำให้ PCI-SIG เริ่มพิจารณาการใช้ optical interconnects และ advanced packaging เช่น co-packaged optics หรือ chiplets

    PCIe 8.0 จะมีอัตราการส่งข้อมูล 256 GT/s ต่อเลน
    ให้แบนด์วิดธ์สูงสุด 1TB/s บนการเชื่อมต่อแบบ x16

    ใช้เทคโนโลยี PAM4, FEC และ Flit Mode encoding
    เหมือนกับ PCIe 6.0 และ 7.0

    ยังคงรองรับการใช้งานร่วมกับเวอร์ชันก่อนหน้า
    เพื่อความสะดวกในการอัปเกรดระบบ

    เป้าหมายหลักคือรองรับงาน AI, HPC, quantum computing และ edge computing
    รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์, ดาต้าเซ็นเตอร์ และการทหาร

    PCIe 8.0 คาดว่าจะปล่อยให้สมาชิก PCI-SIG ในปี 2028
    การใช้งานในตลาดทั่วไปอาจต้องรอถึงช่วงปี 2030

    PCIe 5.0 มีความเร็วสูงสุด 32 GT/s ต่อเลน
    PCIe 8.0 เร็วกว่า 8 เท่าในแง่ raw bit rate

    PAM4 ช่วยเพิ่ม bit rate โดยไม่ต้องเพิ่ม clock speed
    แต่ต้องใช้วงจรที่ซับซ้อนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด

    PCIe 7.0 เริ่มใช้ optical-aware retimers เพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์
    แนวโน้มนี้จะขยายไปยัง PCIe 8.0

    การใช้ chiplets และ co-packaged optics ช่วยลดระยะทางสัญญาณ
    เพิ่มความเสถียรในการส่งข้อมูลความเร็วสูง

    การส่งข้อมูล 256 GT/s บนสายทองแดงยังไม่มีมาตรฐานที่รองรับ
    อาจเกิดปัญหา signal loss และความไม่เสถียร

    การพัฒนา PCIe 8.0 ต้องใช้วัสดุและเทคนิคการผลิตที่แม่นยำสูง
    เพิ่มต้นทุนและความซับซ้อนในการออกแบบ

    ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ได้สัมผัส PCIe 8.0 จนถึงช่วงปี 2030
    เพราะเป้าหมายหลักคือระบบระดับองค์กรและดาต้าเซ็นเตอร์

    การใช้ PAM ระดับสูงกว่านี้ (เช่น PAM8) ยังไม่เหมาะสมในเชิงต้นทุน
    เพราะความแตกต่างของระดับสัญญาณเล็กลงและเสี่ยงต่อการเกิด error

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/pci-sig-announces-pcie-8-0-spec-with-twice-the-bandwidth-1tb-s-of-peak-bandwidth-256-gt-s-per-lane-and-a-possible-new-connector
    🚀🔌 เรื่องเล่าจากโลกอินเตอร์เฟซ: PCIe 8.0 กับความเร็วระดับ 1TB/s ที่พร้อมป้อนข้อมูลให้ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ PCI-SIG กลุ่มพันธมิตรผู้กำหนดมาตรฐาน PCI Express ได้ประกาศสเปกของ PCIe 8.0 อย่างเป็นทางการ โดยยังคงรักษาธรรมเนียม “เพิ่มความเร็วเป็นสองเท่าทุกสามปี” ซึ่งในเวอร์ชันใหม่นี้จะมีอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 256 GT/s ต่อเลน และสามารถให้แบนด์วิดธ์แบบสองทิศทางได้ถึง 1TB/s บนการเชื่อมต่อแบบ x16 แม้จะยังไม่ใช่สเปกที่พร้อมใช้งานในตลาดทั่วไป (คาดว่าจะปล่อยให้สมาชิกในปี 2028) แต่เป้าหมายของ PCIe 8.0 ชัดเจนมาก: รองรับงานที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง เช่น AI, machine learning, quantum computing, edge computing, และระบบในอุตสาหกรรมยานยนต์หรือการทหาร เทคโนโลยีที่ใช้ยังคงเป็น PAM4 พร้อม Flit Mode encoding และ forward error correction (FEC) เหมือนใน PCIe 6.0 และ 7.0 แต่การผลักดันความเร็วถึง 256 GT/s ต่อเลนบนสายทองแดงนั้นเป็นความท้าทายอย่างมาก ทำให้ PCI-SIG เริ่มพิจารณาการใช้ optical interconnects และ advanced packaging เช่น co-packaged optics หรือ chiplets ✅ PCIe 8.0 จะมีอัตราการส่งข้อมูล 256 GT/s ต่อเลน ➡️ ให้แบนด์วิดธ์สูงสุด 1TB/s บนการเชื่อมต่อแบบ x16 ✅ ใช้เทคโนโลยี PAM4, FEC และ Flit Mode encoding ➡️ เหมือนกับ PCIe 6.0 และ 7.0 ✅ ยังคงรองรับการใช้งานร่วมกับเวอร์ชันก่อนหน้า ➡️ เพื่อความสะดวกในการอัปเกรดระบบ ✅ เป้าหมายหลักคือรองรับงาน AI, HPC, quantum computing และ edge computing ➡️ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์, ดาต้าเซ็นเตอร์ และการทหาร ✅ PCIe 8.0 คาดว่าจะปล่อยให้สมาชิก PCI-SIG ในปี 2028 ➡️ การใช้งานในตลาดทั่วไปอาจต้องรอถึงช่วงปี 2030 ✅ PCIe 5.0 มีความเร็วสูงสุด 32 GT/s ต่อเลน ➡️ PCIe 8.0 เร็วกว่า 8 เท่าในแง่ raw bit rate ✅ PAM4 ช่วยเพิ่ม bit rate โดยไม่ต้องเพิ่ม clock speed ➡️ แต่ต้องใช้วงจรที่ซับซ้อนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด ✅ PCIe 7.0 เริ่มใช้ optical-aware retimers เพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์ ➡️ แนวโน้มนี้จะขยายไปยัง PCIe 8.0 ✅ การใช้ chiplets และ co-packaged optics ช่วยลดระยะทางสัญญาณ ➡️ เพิ่มความเสถียรในการส่งข้อมูลความเร็วสูง ‼️ การส่งข้อมูล 256 GT/s บนสายทองแดงยังไม่มีมาตรฐานที่รองรับ ⛔ อาจเกิดปัญหา signal loss และความไม่เสถียร ‼️ การพัฒนา PCIe 8.0 ต้องใช้วัสดุและเทคนิคการผลิตที่แม่นยำสูง ⛔ เพิ่มต้นทุนและความซับซ้อนในการออกแบบ ‼️ ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ได้สัมผัส PCIe 8.0 จนถึงช่วงปี 2030 ⛔ เพราะเป้าหมายหลักคือระบบระดับองค์กรและดาต้าเซ็นเตอร์ ‼️ การใช้ PAM ระดับสูงกว่านี้ (เช่น PAM8) ยังไม่เหมาะสมในเชิงต้นทุน ⛔ เพราะความแตกต่างของระดับสัญญาณเล็กลงและเสี่ยงต่อการเกิด error https://www.tomshardware.com/tech-industry/pci-sig-announces-pcie-8-0-spec-with-twice-the-bandwidth-1tb-s-of-peak-bandwidth-256-gt-s-per-lane-and-a-possible-new-connector
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • เปิดเมืองแปลกปอนตินัค แอร์เอเชียบินตรงจากเคแอล-กูชิง

    หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปนาน ในที่สุดสายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย (AK) เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ จากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) และท่าอากาศยานกูชิง (KCH) รัฐซาราวัก ไปยังปลายทางเมืองปอนตินัค (Pontinak หรือ PNK) เมืองหลวงของจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยมาเลเซียมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียมาเยือนมาเลเซีย 4.3 ล้านคนในปี 2568 สอดรับกับปีแห่งการท่องเที่ยวมาเลเซีย Visit Malaysia 2026 และรัฐซาราวักตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 5 ล้านคนภายในสิ้นปี

    ในทางกลับกัน ยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวหลัก มาเยือนอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 16 ล้านคน รวมทั้งส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ชาวจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกของอินโดนีเซีย ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจ การท่องเที่ยวพักผ่อน และบริการทางการแพทย์ในรัฐซาราวักและกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง ซึ่งเที่ยวบินปอนตินัค-กูชิง ใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาที เมื่อเทียบกับเดินทางด้วยรถบัสที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และเที่ยวบินปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ บินตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนเที่ยวบินที่กรุงจาการ์ตา

    เที่ยวบินปลายทางปอนตินัค เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่

    กัวลาลัมเปอร์-ปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ เฉพาะวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

    AK492 ออกจากกัวลาลัมเปอร์ 11.15 น. ถึงปอนตินัค 12.05 น.
    AK491 ออกจากปอนตินัค 12.30 น. ถึงกัวลาลัมเปอร์ 15.10 น.

    กูชิง-ปอนตินัค-กูชิง วันละ 2 เที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที

    AK1781 ออกจากกูชิง 09.05 น. ถึงปอนตินัค 08.55 น.
    AK1783 ออกจากกูชิง 19.20 น. ถึงปอนตินัค 19.05 น.
    AK1782 ออกจากปอนตินัค 09.20 น. ถึงกูชิง 11.05 น.
    AK1784 ออกจากปอนตินัค 19.30 น. ถึงกูชิง 21.15 น.

    (เวลามาเลเซียเร็วกว่าเวลาอินโดนีเซีย 1 ชั่วโมง)

    สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองปอนตินัค ได้แก่ มัสยิดมูจาฮีดีน (Mujahidin Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก, อนุสาวรีย์เส้นศูนย์สูตร (Equator Monument) เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร ที่แบ่งโลกออกเป็นซีกเหนือและซีกใต้พอดี นอกจากนี้ยังมีเทศกาลเมอเรียมการ์บิต (Meriam Karbit) ประเพณีดั้งเดิมของชาวมลายู จัดขึ้นในช่วงวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน หรือวันอีดิลฟิฏร์

    #Newskit
    เปิดเมืองแปลกปอนตินัค แอร์เอเชียบินตรงจากเคแอล-กูชิง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปนาน ในที่สุดสายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย (AK) เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ จากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) และท่าอากาศยานกูชิง (KCH) รัฐซาราวัก ไปยังปลายทางเมืองปอนตินัค (Pontinak หรือ PNK) เมืองหลวงของจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยมาเลเซียมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียมาเยือนมาเลเซีย 4.3 ล้านคนในปี 2568 สอดรับกับปีแห่งการท่องเที่ยวมาเลเซีย Visit Malaysia 2026 และรัฐซาราวักตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 5 ล้านคนภายในสิ้นปี ในทางกลับกัน ยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวหลัก มาเยือนอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 16 ล้านคน รวมทั้งส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ชาวจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกของอินโดนีเซีย ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจ การท่องเที่ยวพักผ่อน และบริการทางการแพทย์ในรัฐซาราวักและกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง ซึ่งเที่ยวบินปอนตินัค-กูชิง ใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาที เมื่อเทียบกับเดินทางด้วยรถบัสที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และเที่ยวบินปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ บินตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนเที่ยวบินที่กรุงจาการ์ตา เที่ยวบินปลายทางปอนตินัค เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์-ปอนตินัค-กัวลาลัมเปอร์ เฉพาะวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง AK492 ออกจากกัวลาลัมเปอร์ 11.15 น. ถึงปอนตินัค 12.05 น. AK491 ออกจากปอนตินัค 12.30 น. ถึงกัวลาลัมเปอร์ 15.10 น. กูชิง-ปอนตินัค-กูชิง วันละ 2 เที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที AK1781 ออกจากกูชิง 09.05 น. ถึงปอนตินัค 08.55 น. AK1783 ออกจากกูชิง 19.20 น. ถึงปอนตินัค 19.05 น. AK1782 ออกจากปอนตินัค 09.20 น. ถึงกูชิง 11.05 น. AK1784 ออกจากปอนตินัค 19.30 น. ถึงกูชิง 21.15 น. (เวลามาเลเซียเร็วกว่าเวลาอินโดนีเซีย 1 ชั่วโมง) สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในเมืองปอนตินัค ได้แก่ มัสยิดมูจาฮีดีน (Mujahidin Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก, อนุสาวรีย์เส้นศูนย์สูตร (Equator Monument) เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร ที่แบ่งโลกออกเป็นซีกเหนือและซีกใต้พอดี นอกจากนี้ยังมีเทศกาลเมอเรียมการ์บิต (Meriam Karbit) ประเพณีดั้งเดิมของชาวมลายู จัดขึ้นในช่วงวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน หรือวันอีดิลฟิฏร์ #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

    ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง

    ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น

    #Newskit
    จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น #Newskit
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • เขมรมันมึนจริงๆและมึนของแท้แบบมึนโคตรๆนั้นล่ะ555,ผีบ้าแบบฮุนเซนที่ไม่ธรรมดาบวกมึนทวีคูนยกกำลังด้วย.
    ..ทหารไทยจัดการรัฐบาลนี้เถอะ,หรือบอกรัฐบาลนี้ถ้าไม่อยากถูกยึดอำนาจก็ทำตัวดีๆเป็นหุ่นเชิดทหารพระราชาอย่างว่าง่าย,ไปถอนตัวออกจากข้อตกลงอินโดแปซิฟิกทันที,ตัดตอนมิให้ไทยเป็นกลางได้ทางภาวะสงครามจีนกับอเมริกาจะฆ่าเจ้าหนี้ล้างหนี้นี้ จริงๆอดีตผู้นำเราล่ะทรยศขายชาติมานาน ตาไม่บอดก็เห็นชัดว่าอินโดแปซิฟิกนี้นำไทยสู่สมรภูมิรบได้,เอาระเบิดเอาขีปนาวุธมากมายมาลงประเทศกะทำลายสถาบันกษัตริย์ชาติทางอ้อมไปด้วยผ่านการเป็นผู้นำนายกฯยุครุ่นสมัยตนจากนั้นส่งต่อๆกันมาผ่านระบบนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลทั้งฝ่ายค้านตีสองหน้าเล่นคนละบทแต่เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายหนึ่งโหนเจ้าโหนกษัตริย์แสดงบทจงรักภักดี สมุนตนแสดงอีกฝ่ายชูสามนิ้วให้เด่นชัดเรียกเงินสนับสนุนจากdeep stateได้ง่ายสะดวกขึ้นในองค์กรฝ่ายมืดต่างๆทั่วโลกจนลุแก่ตนว่าชนะแล้วพากันแสดงสัญลักษณ์ฝ่ายมืดถ้วนหน้าโดยมาแนวสามเหลี่ยมปิระมิตนั้นเองแบบที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว,
    ..
    ..ทหารไทยประเทศไทยจะเป็นกลางได้นั้นต้องจัดการรัฐบาลชุดนี้อย่างเดียว อย่าให้ฝ่ายมืดดึงลากยาวเกมส์อีกเลย,ทหารพระราชาน่าจะตื่นรู้มากแล้ว ว่าในทุกๆวงการคือทหาร ตำรวจ ศาลทั้งหมด อีลิทdeep stateล้วนมีคนของพวกมันทั้งสิ้น,ยุทธปืนคอคือตัวอย่างชัด ยุทธ99ปีเช่าที่ก็ว่า,บัตรคนจนก็มาจากยุทธเลี้ยงไม่ให้ตายไม่ให้เจริญเติบโตแต่ให้มรึงรู้ว่ามีคุณต้องตอบแทนนะ,บัตรคนจนที่คนจนต่อยอดเข้าถึงเงินทุนฟรีๆไม่ได้จริง,อุดหนุนสนับสนุนอะไรต่อผู้มีบัตรคนจนจริงจังก็ไม่มี,จัดกลุ่มแบ่งหมวดหมู่ช่วยเหลือการเข้าถึงเงินทุนอาชีพเขาก็ไม่มี,วงเงินบัตรไม่มีการใช้ก็ไม่ประเมินแก้ไขให้เป็นค่าจริง,รวมยอดเป็นตัวเงินเลยให้สภาพคล่องเขาจริงก็ไม่ทำ ยังกั๊กมิให้เข้าบริหารจัดการวงเงินในบัตรอีก,แยกให้ต่างให้ลำบากใช้ อยู่ป่าอยู่ดงจะไปใช้ค่าโดยสารรถเมย์ผีบ้ามันเหรอก็ไม่เคยปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น รัฐบาลกากนี้มาอีกยิ่งแย่ใหญ่,เกิดสงครามเลยโน้น.

    ..คือทหารไทยเชื่องช้าจริงๆนั้นล่ะ คิดอ่านคือเต่า ปล่อยจนเกิดสงครามสู้รบกัน,ตัดตอนตั้งแต่แรกก็จบยึดอำนาจแต่แรกก็จบตั้งแต่มีข่าวคลิปเสียงก็ได้,อย่าให้ศาลมายุ่งเกี่ยวได้ เพราะลากยาวแน่นอนตัดตอนdeep stateไม่ทันเหลี่ยมมัน,ต่างประเทศdeep stateครอบงำทุกๆศาลในประเทศนั้นๆได้หมด ยิ่งล็อบบี้ถูกกฎหมายซึ่งมันล่ะเขียนตีตราให้มีการล็อบบี้ให้ถูกกฎหมายสะดวกคล่องต่อยุทธศาสตร์การทำชั่วเลวมันทั้งหมดนั้นเอง,พะสาไทยอีกประเทศเล็กๆ,งบประมาณแผ่นดินปีละ2-3ล้านล้านบาทเอง,เศษตังblackrockมาซื้อใครก็ได้ในประเทศไทย ปั้นใครก็ได้ในประเทศมาค่อยรับใช้เป็นทาสขี้ข้าหมาบ๋อยรับคำสั่งมัน ดูแค่แลนด์บริดจ์สิ บินไปนอกเพื่อถวายแลนด์บริดจ์ให้blackrockมาเป็นเจ้าของและพื้นที่รอบแลนด์บริดจ์บริหารจัดการทั้งหมด โดยให้ใช้มุกอเมริกามาตั้งฐานทัพที่พังงารอไว้เพื่อคุ้มครองเครือข่ายกิจการทั้งหมดตนในเขตบริหารจัดการพิเศษแลนด์บริดจ์ทั้งหมดนี้ด้วย ทหารอเมริกาคุ้มครองกิจการblackrockทุนdeep stateนี้ล่ะ,อ้างจีนบังหน้าด้วย ฆ่าเจ้าหนี้ได้ด้วยยิ่งกำไรอีกขั้น,พอดีส่งซิกให้จีนยิงขีปนาวุธมาตกใกล้ๆฐานทัพอเมริกาที่พังงาสักสิบลูก ล็อกพิกัดกันผิดพลาดด้วยแบบขุดคลองคอดกระด้วยขีปนาวุธในตัวนั้นล่ะ จบสงครามก็อ้างมาขุดเปิดงานให้เป็นทางการเลยขุดขยายเป็นคลองจริงจังตกแต่งเก็บงานก็ว่ากว้าง2กม. ลึกสัก40-50เมตรพอดีเรือใหญ่ยักษ์วิ่ง2เลนสวนกันไปมาได้สบาย blackrockยึดครองบริหารคลองนี้ตามสิทธิเดิมที่เปิดมาก่อนที่ได้สิทธิขาดจากบริหารพื้นที่แลนด์บริดจ์ทั่วภาคใต้แบบSECอีกผังเมืองยุคลุงนะจ๊ะก็เขียนเนื้องานรองรับรอแล้ว ,คือขายชาติรองรับรอแล้วส่งไม้ต่อยุคนายกฯไม่ซื่อสัตย์นั้นล่ะแต่เหี้ยใส่ถุงเท้าสีรุ้งแสบตาเกินไปจึงจบดับอนาถไปเร็วก็ว่า,คือหากมองในมุมdeep stateหลอดรอธไชล์ดหรือหลอดร็อกกี้เฟลเลอร์จะเห็นภาพชัดมากอีกด้าน,ตีคู่ขนานยิงปืนนัดเดียวแดกนกทั้งฝูงที่โคตรโง่ในสายตามันอีลิทพวกนี้,ปล้นบ่อน้ำมันทั้งประเทศในไทยก็deep stateพวกนี้ นำโดยอเมริกาหัวโจก ฝรั่งเศสตามมาโชว์เด่นชัดในอาเชียนไทยนี้,ฝรั่งอื่นๆแดกเงียบๆ,
    ..เอเชียเราจึงต้องปฏิวัติจริงๆจังๆ ขับไล่ฝรั่งตะวันตกออกจากเอเชียไปให้หมดตัวสร้างบริบทความแตกแยกโกลาหลวุ่นวายของจริงทั้งปล้นแย่งชิงทรัพยากรจากทุกๆชาติในเอเชียเรา,ทวีปแอฟริกามันยังไม่เว้น,และสงครามทั้งหมดคือdeep stateนี้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งสำเร็จในแผนagendaลดประชากรผ่านสงครามด้วยนอกจากวัคซีนโควิดที่ผ่านๆมาซึ่งตายช้าเกินไปไม่ทันใจพวกมัน,ฮุนเซนคือพวกdeep stateตัวพ่อชัดเจนคือช่วยdeep stateลดประชากรไทยและประชากรเขมรนั้นเอง ประชาชนเขมรนี้ล่ะมาเป็นทหารเขมร ตายกว่า10,000ศพภายใน5วัน มันสำเร็จเป้าหมายโคตรๆจึงเป็นที่พออกพอใจของdeep stateจากนั้นหามุกทำทีหยุดยิง อเมริกาตัวพ่อdeep stateจึงมาร่วมแสดงความยินดีจับมือว่าฮุนเซนเยี่ยมมากจากนายใหญ่deep stateอเมริกาฝากมายอกฮุนเซน ไม่ต้องกลัวจีนนะเดียวเข้าหลบภัยที่อินโดแปซิฟิกได้เลยอเมริกาคุ้มหัวฮุนเซนฮุนมาเนตเต็มที่โดยมีdeep stateอเมริกาทรัมป์ค้ำประกัน,
    ..ไงล่ะทหารไทยเรา ไปถอนตัวออกจากอินโดแปซิฟิกทันทีเน้อ,อเมริกาจะตายดับอนาถเองล่ะ,รัสเชียจะจัดการยุโรปบวกตอนเหนืออเมริกาจะถูกยิงแน่นอน,ถอนทัพจากอาเชียนไปหนุนยุโรปและแนวอเมริกาเหนือแน่ถ้าไม่รีบไป อเมริกาสิ้นประเทศแน่นอนเพราะทหารรบไปพอหากทิ้งไว้ที่อาเชียนหรือเอเชียใต้เรา,จังหวะนี้ถล่มเขมรให้ราบคาบเลยมีลาวมีเวียดนามเข้าเดอะทีมเลยเพื่อแบ่งพื้นที่เขมรจัดสรรใหม่ สร้างความสงบสุขให้อาเชียนและเอเชียเราเองใหม่ ถีบฝรั่งออกจากเอเชียเราทั้งหมดก็ได้,เม็ดเงินมหาศาลจะหมุนเวียนภายในเอเชียเรากว่า1,000ล้านล้านบาทต่อวันก็ได้สบาย,บาทคอยน์อาจคือสกุลเงินใหม่ประจำเอเชียตัวกลางแลกเปลี่ยนทันทีก็ได้เพราะทั้งเอเชียลงใจให้ประเทศไทยไง,ตลอดเป็นฮับศูนย์กลางค้าระดับโลกเชื่อมทวีปแอฟริกาที่ทรัพยากรโคตรมหาศาลอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุมากมายตีมูลค่านับไม่ถ้วนนั้นเองโดยเชื่อมตลาดการค้าโลกผ่านไทย แลนด์บริดจ์ไทย คลองคอดกระไทยระดับสากลโลก พื้นที่อิสระเสรีด้านการค้าโลกที่มีอารยะธรรมล้ำค่ายกจิตยกใจร่วมกันทั้งชาวเอเชียและชาวทวีปแอฟริกา,สาระพัดฮับจะตั้งอยู่ที่ประเทศไทยนั้นเอง,โดยมีเงื่อนไขว่า เขมรต้องสิ้นชาติ ไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผนที่โลกคืนสู่สามัญเดิมก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงแผ่นดินไทยไปหรือทะเลาะกับฝรั่งเศสโดยชื่อชาติเขมรยังไม่เกิดไม่มีชื่อเขมรชาติเขมรปรากฎใดๆในสมัยนั้นเลย.,อนาคตลาวกับเวียดนามเท่านั้นที่ติดประเทศไทยแทน.ลบเขมรออกจากบริบทโลกในยุคนี้นี้เอง.,เขมรมึนมึนนี้ต้องทำให้สมกับความมึนของมัน.

    https://youtube.com/watch?v=Or7T0Vr1Rtg&si=1JJAE-3t1qxZGd6J
    เขมรมันมึนจริงๆและมึนของแท้แบบมึนโคตรๆนั้นล่ะ555,ผีบ้าแบบฮุนเซนที่ไม่ธรรมดาบวกมึนทวีคูนยกกำลังด้วย. ..ทหารไทยจัดการรัฐบาลนี้เถอะ,หรือบอกรัฐบาลนี้ถ้าไม่อยากถูกยึดอำนาจก็ทำตัวดีๆเป็นหุ่นเชิดทหารพระราชาอย่างว่าง่าย,ไปถอนตัวออกจากข้อตกลงอินโดแปซิฟิกทันที,ตัดตอนมิให้ไทยเป็นกลางได้ทางภาวะสงครามจีนกับอเมริกาจะฆ่าเจ้าหนี้ล้างหนี้นี้ จริงๆอดีตผู้นำเราล่ะทรยศขายชาติมานาน ตาไม่บอดก็เห็นชัดว่าอินโดแปซิฟิกนี้นำไทยสู่สมรภูมิรบได้,เอาระเบิดเอาขีปนาวุธมากมายมาลงประเทศกะทำลายสถาบันกษัตริย์ชาติทางอ้อมไปด้วยผ่านการเป็นผู้นำนายกฯยุครุ่นสมัยตนจากนั้นส่งต่อๆกันมาผ่านระบบนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลทั้งฝ่ายค้านตีสองหน้าเล่นคนละบทแต่เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายหนึ่งโหนเจ้าโหนกษัตริย์แสดงบทจงรักภักดี สมุนตนแสดงอีกฝ่ายชูสามนิ้วให้เด่นชัดเรียกเงินสนับสนุนจากdeep stateได้ง่ายสะดวกขึ้นในองค์กรฝ่ายมืดต่างๆทั่วโลกจนลุแก่ตนว่าชนะแล้วพากันแสดงสัญลักษณ์ฝ่ายมืดถ้วนหน้าโดยมาแนวสามเหลี่ยมปิระมิตนั้นเองแบบที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว, .. ..ทหารไทยประเทศไทยจะเป็นกลางได้นั้นต้องจัดการรัฐบาลชุดนี้อย่างเดียว อย่าให้ฝ่ายมืดดึงลากยาวเกมส์อีกเลย,ทหารพระราชาน่าจะตื่นรู้มากแล้ว ว่าในทุกๆวงการคือทหาร ตำรวจ ศาลทั้งหมด อีลิทdeep stateล้วนมีคนของพวกมันทั้งสิ้น,ยุทธปืนคอคือตัวอย่างชัด ยุทธ99ปีเช่าที่ก็ว่า,บัตรคนจนก็มาจากยุทธเลี้ยงไม่ให้ตายไม่ให้เจริญเติบโตแต่ให้มรึงรู้ว่ามีคุณต้องตอบแทนนะ,บัตรคนจนที่คนจนต่อยอดเข้าถึงเงินทุนฟรีๆไม่ได้จริง,อุดหนุนสนับสนุนอะไรต่อผู้มีบัตรคนจนจริงจังก็ไม่มี,จัดกลุ่มแบ่งหมวดหมู่ช่วยเหลือการเข้าถึงเงินทุนอาชีพเขาก็ไม่มี,วงเงินบัตรไม่มีการใช้ก็ไม่ประเมินแก้ไขให้เป็นค่าจริง,รวมยอดเป็นตัวเงินเลยให้สภาพคล่องเขาจริงก็ไม่ทำ ยังกั๊กมิให้เข้าบริหารจัดการวงเงินในบัตรอีก,แยกให้ต่างให้ลำบากใช้ อยู่ป่าอยู่ดงจะไปใช้ค่าโดยสารรถเมย์ผีบ้ามันเหรอก็ไม่เคยปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น รัฐบาลกากนี้มาอีกยิ่งแย่ใหญ่,เกิดสงครามเลยโน้น. ..คือทหารไทยเชื่องช้าจริงๆนั้นล่ะ คิดอ่านคือเต่า ปล่อยจนเกิดสงครามสู้รบกัน,ตัดตอนตั้งแต่แรกก็จบยึดอำนาจแต่แรกก็จบตั้งแต่มีข่าวคลิปเสียงก็ได้,อย่าให้ศาลมายุ่งเกี่ยวได้ เพราะลากยาวแน่นอนตัดตอนdeep stateไม่ทันเหลี่ยมมัน,ต่างประเทศdeep stateครอบงำทุกๆศาลในประเทศนั้นๆได้หมด ยิ่งล็อบบี้ถูกกฎหมายซึ่งมันล่ะเขียนตีตราให้มีการล็อบบี้ให้ถูกกฎหมายสะดวกคล่องต่อยุทธศาสตร์การทำชั่วเลวมันทั้งหมดนั้นเอง,พะสาไทยอีกประเทศเล็กๆ,งบประมาณแผ่นดินปีละ2-3ล้านล้านบาทเอง,เศษตังblackrockมาซื้อใครก็ได้ในประเทศไทย ปั้นใครก็ได้ในประเทศมาค่อยรับใช้เป็นทาสขี้ข้าหมาบ๋อยรับคำสั่งมัน ดูแค่แลนด์บริดจ์สิ บินไปนอกเพื่อถวายแลนด์บริดจ์ให้blackrockมาเป็นเจ้าของและพื้นที่รอบแลนด์บริดจ์บริหารจัดการทั้งหมด โดยให้ใช้มุกอเมริกามาตั้งฐานทัพที่พังงารอไว้เพื่อคุ้มครองเครือข่ายกิจการทั้งหมดตนในเขตบริหารจัดการพิเศษแลนด์บริดจ์ทั้งหมดนี้ด้วย ทหารอเมริกาคุ้มครองกิจการblackrockทุนdeep stateนี้ล่ะ,อ้างจีนบังหน้าด้วย ฆ่าเจ้าหนี้ได้ด้วยยิ่งกำไรอีกขั้น,พอดีส่งซิกให้จีนยิงขีปนาวุธมาตกใกล้ๆฐานทัพอเมริกาที่พังงาสักสิบลูก ล็อกพิกัดกันผิดพลาดด้วยแบบขุดคลองคอดกระด้วยขีปนาวุธในตัวนั้นล่ะ จบสงครามก็อ้างมาขุดเปิดงานให้เป็นทางการเลยขุดขยายเป็นคลองจริงจังตกแต่งเก็บงานก็ว่ากว้าง2กม. ลึกสัก40-50เมตรพอดีเรือใหญ่ยักษ์วิ่ง2เลนสวนกันไปมาได้สบาย blackrockยึดครองบริหารคลองนี้ตามสิทธิเดิมที่เปิดมาก่อนที่ได้สิทธิขาดจากบริหารพื้นที่แลนด์บริดจ์ทั่วภาคใต้แบบSECอีกผังเมืองยุคลุงนะจ๊ะก็เขียนเนื้องานรองรับรอแล้ว ,คือขายชาติรองรับรอแล้วส่งไม้ต่อยุคนายกฯไม่ซื่อสัตย์นั้นล่ะแต่เหี้ยใส่ถุงเท้าสีรุ้งแสบตาเกินไปจึงจบดับอนาถไปเร็วก็ว่า,คือหากมองในมุมdeep stateหลอดรอธไชล์ดหรือหลอดร็อกกี้เฟลเลอร์จะเห็นภาพชัดมากอีกด้าน,ตีคู่ขนานยิงปืนนัดเดียวแดกนกทั้งฝูงที่โคตรโง่ในสายตามันอีลิทพวกนี้,ปล้นบ่อน้ำมันทั้งประเทศในไทยก็deep stateพวกนี้ นำโดยอเมริกาหัวโจก ฝรั่งเศสตามมาโชว์เด่นชัดในอาเชียนไทยนี้,ฝรั่งอื่นๆแดกเงียบๆ, ..เอเชียเราจึงต้องปฏิวัติจริงๆจังๆ ขับไล่ฝรั่งตะวันตกออกจากเอเชียไปให้หมดตัวสร้างบริบทความแตกแยกโกลาหลวุ่นวายของจริงทั้งปล้นแย่งชิงทรัพยากรจากทุกๆชาติในเอเชียเรา,ทวีปแอฟริกามันยังไม่เว้น,และสงครามทั้งหมดคือdeep stateนี้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งสำเร็จในแผนagendaลดประชากรผ่านสงครามด้วยนอกจากวัคซีนโควิดที่ผ่านๆมาซึ่งตายช้าเกินไปไม่ทันใจพวกมัน,ฮุนเซนคือพวกdeep stateตัวพ่อชัดเจนคือช่วยdeep stateลดประชากรไทยและประชากรเขมรนั้นเอง ประชาชนเขมรนี้ล่ะมาเป็นทหารเขมร ตายกว่า10,000ศพภายใน5วัน มันสำเร็จเป้าหมายโคตรๆจึงเป็นที่พออกพอใจของdeep stateจากนั้นหามุกทำทีหยุดยิง อเมริกาตัวพ่อdeep stateจึงมาร่วมแสดงความยินดีจับมือว่าฮุนเซนเยี่ยมมากจากนายใหญ่deep stateอเมริกาฝากมายอกฮุนเซน ไม่ต้องกลัวจีนนะเดียวเข้าหลบภัยที่อินโดแปซิฟิกได้เลยอเมริกาคุ้มหัวฮุนเซนฮุนมาเนตเต็มที่โดยมีdeep stateอเมริกาทรัมป์ค้ำประกัน, ..ไงล่ะทหารไทยเรา ไปถอนตัวออกจากอินโดแปซิฟิกทันทีเน้อ,อเมริกาจะตายดับอนาถเองล่ะ,รัสเชียจะจัดการยุโรปบวกตอนเหนืออเมริกาจะถูกยิงแน่นอน,ถอนทัพจากอาเชียนไปหนุนยุโรปและแนวอเมริกาเหนือแน่ถ้าไม่รีบไป อเมริกาสิ้นประเทศแน่นอนเพราะทหารรบไปพอหากทิ้งไว้ที่อาเชียนหรือเอเชียใต้เรา,จังหวะนี้ถล่มเขมรให้ราบคาบเลยมีลาวมีเวียดนามเข้าเดอะทีมเลยเพื่อแบ่งพื้นที่เขมรจัดสรรใหม่ สร้างความสงบสุขให้อาเชียนและเอเชียเราเองใหม่ ถีบฝรั่งออกจากเอเชียเราทั้งหมดก็ได้,เม็ดเงินมหาศาลจะหมุนเวียนภายในเอเชียเรากว่า1,000ล้านล้านบาทต่อวันก็ได้สบาย,บาทคอยน์อาจคือสกุลเงินใหม่ประจำเอเชียตัวกลางแลกเปลี่ยนทันทีก็ได้เพราะทั้งเอเชียลงใจให้ประเทศไทยไง,ตลอดเป็นฮับศูนย์กลางค้าระดับโลกเชื่อมทวีปแอฟริกาที่ทรัพยากรโคตรมหาศาลอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุมากมายตีมูลค่านับไม่ถ้วนนั้นเองโดยเชื่อมตลาดการค้าโลกผ่านไทย แลนด์บริดจ์ไทย คลองคอดกระไทยระดับสากลโลก พื้นที่อิสระเสรีด้านการค้าโลกที่มีอารยะธรรมล้ำค่ายกจิตยกใจร่วมกันทั้งชาวเอเชียและชาวทวีปแอฟริกา,สาระพัดฮับจะตั้งอยู่ที่ประเทศไทยนั้นเอง,โดยมีเงื่อนไขว่า เขมรต้องสิ้นชาติ ไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผนที่โลกคืนสู่สามัญเดิมก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงแผ่นดินไทยไปหรือทะเลาะกับฝรั่งเศสโดยชื่อชาติเขมรยังไม่เกิดไม่มีชื่อเขมรชาติเขมรปรากฎใดๆในสมัยนั้นเลย.,อนาคตลาวกับเวียดนามเท่านั้นที่ติดประเทศไทยแทน.ลบเขมรออกจากบริบทโลกในยุคนี้นี้เอง.,เขมรมึนมึนนี้ต้องทำให้สมกับความมึนของมัน. https://youtube.com/watch?v=Or7T0Vr1Rtg&si=1JJAE-3t1qxZGd6J
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • ทหารพราน 2301 ล้อมรั้วลวดหนาม คุมพื้นที่ตลาดช่องอานม้าไว้แล้ว ตามเส้นเขตอธิปไตยไทย หลังทหารเขมร บุกเข้ามาตัดลวดหนามออกเมื่อวาน พร้อมวางกำลังดูแลพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000074670

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทหารพราน 2301 ล้อมรั้วลวดหนาม คุมพื้นที่ตลาดช่องอานม้าไว้แล้ว ตามเส้นเขตอธิปไตยไทย หลังทหารเขมร บุกเข้ามาตัดลวดหนามออกเมื่อวาน พร้อมวางกำลังดูแลพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000074670 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • ทหารพรานไทยยึดพื้นที่ "ตลาดช่องอานม้า" คืน! ล้อมรั้วลวดหนามตามเดิม...หลังเขมรบุกรุกตัดทิ้ง
    https://www.thai-tai.tv/news/20795/
    .
    #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    ทหารพรานไทยยึดพื้นที่ "ตลาดช่องอานม้า" คืน! ล้อมรั้วลวดหนามตามเดิม...หลังเขมรบุกรุกตัดทิ้ง https://www.thai-tai.tv/news/20795/ . #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • จับจังหวะลงทุน ‘บิตคอยน์’ (06/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น #บิตคอยน์
    จับจังหวะลงทุน ‘บิตคอยน์’ (06/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น #บิตคอยน์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 0 Reviews
  • ทุนต่างชาติ หนุน หุ้นไทยทะยาน 06/08/68 #กะเทาะหุ้น #ทุนต่างชาติ #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น
    ทุนต่างชาติ หนุน หุ้นไทยทะยาน 06/08/68 #กะเทาะหุ้น #ทุนต่างชาติ #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อ AMD สะดุดเพราะการแบน GPU ส่งออกไปจีน

    AMD บริษัทออกแบบชิปชื่อดังจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแรงกระแทกครั้งใหญ่จากการแบนการส่งออก GPU ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะชิป AI รุ่น Instinct MI308 ที่ถูกห้ามขายในตลาดจีนอย่างกะทันหันในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ส่งผลให้ AMD ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายด้านสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถส่งมอบได้รวมกว่า $800 ล้าน

    แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นถึง 32% จากปีก่อนหน้า แต่มาร์จิ้นขั้นต้นกลับลดลงอย่างหนัก และทำให้ AMD ขาดทุนจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี GAAP เป็นจำนวน $134 ล้าน ซึ่งถือเป็นการพลิกจากกำไรในไตรมาสก่อนหน้า

    AMD พยายามชดเชยด้วยการรายงานตัวเลขแบบ non-GAAP ซึ่งตัดรายการพิเศษออก ทำให้ดูเหมือนยังมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ $897 ล้าน แต่ก็ยังลดลงถึง 50% จากไตรมาสก่อนหน้า

    CEO Lisa Su ยอมรับว่า รายได้จากธุรกิจ AI ลดลงเพราะการแบนนี้ และแม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณว่าอาจอนุญาตให้กลับมาขาย MI308 ได้อีกครั้ง แต่ AMD ยังไม่รวมรายได้จากจีนไว้ในประมาณการไตรมาสถัดไป เพราะใบอนุญาตยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

    ในด้านบวก AMD ยังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ MI400 ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Nvidia Blackwell B200 และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว โดยมีแผนเปิดตัวในปีหน้า พร้อมระบบ Helios ที่จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค เพื่อรองรับงาน AI ขั้นสูง

    จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ AMD โดยมีรายได้กว่า $6.2 พันล้าน
    คิดเป็น 24% ของยอดขายรวมในปี 2024

    การแบนส่งออกชิป AI เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
    ว่าชิปอาจถูกใช้ในงานทางทหารของจีน

    AMD กำลังพัฒนา MI400 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Blackwell B200
    และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว

    ระบบ Helios จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค
    คาดว่าจะเป็นระบบ AI ที่ทรงพลังที่สุดเมื่อเปิดตัวในปี 2026

    https://wccftech.com/amd-gutted-by-china-gpu-ban-posts-q2-operating-loss/
    📉🇨🇳 เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อ AMD สะดุดเพราะการแบน GPU ส่งออกไปจีน AMD บริษัทออกแบบชิปชื่อดังจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแรงกระแทกครั้งใหญ่จากการแบนการส่งออก GPU ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะชิป AI รุ่น Instinct MI308 ที่ถูกห้ามขายในตลาดจีนอย่างกะทันหันในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ส่งผลให้ AMD ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายด้านสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถส่งมอบได้รวมกว่า $800 ล้าน แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นถึง 32% จากปีก่อนหน้า แต่มาร์จิ้นขั้นต้นกลับลดลงอย่างหนัก และทำให้ AMD ขาดทุนจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี GAAP เป็นจำนวน $134 ล้าน ซึ่งถือเป็นการพลิกจากกำไรในไตรมาสก่อนหน้า AMD พยายามชดเชยด้วยการรายงานตัวเลขแบบ non-GAAP ซึ่งตัดรายการพิเศษออก ทำให้ดูเหมือนยังมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ $897 ล้าน แต่ก็ยังลดลงถึง 50% จากไตรมาสก่อนหน้า CEO Lisa Su ยอมรับว่า รายได้จากธุรกิจ AI ลดลงเพราะการแบนนี้ และแม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณว่าอาจอนุญาตให้กลับมาขาย MI308 ได้อีกครั้ง แต่ AMD ยังไม่รวมรายได้จากจีนไว้ในประมาณการไตรมาสถัดไป เพราะใบอนุญาตยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ในด้านบวก AMD ยังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ MI400 ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Nvidia Blackwell B200 และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว โดยมีแผนเปิดตัวในปีหน้า พร้อมระบบ Helios ที่จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค เพื่อรองรับงาน AI ขั้นสูง ✅ จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ AMD โดยมีรายได้กว่า $6.2 พันล้าน ➡️ คิดเป็น 24% ของยอดขายรวมในปี 2024 ✅ การแบนส่งออกชิป AI เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ➡️ ว่าชิปอาจถูกใช้ในงานทางทหารของจีน ✅ AMD กำลังพัฒนา MI400 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Blackwell B200 ➡️ และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว ✅ ระบบ Helios จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค ➡️ คาดว่าจะเป็นระบบ AI ที่ทรงพลังที่สุดเมื่อเปิดตัวในปี 2026 https://wccftech.com/amd-gutted-by-china-gpu-ban-posts-q2-operating-loss/
    WCCFTECH.COM
    AMD Gutted By China GPU Ban - Posts Q2 Operating Loss
    AMD's Q2 earnings show $7.6B revenue and $0.48 EPS, with guidance of $8.4B to $9B amid a 59% rise in costs, causing a 4.2% share drop.
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลก AI: Huawei เปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา GPU เพื่อท้าชน Nvidia

    ในโลกของการประมวลผล AI ที่ Nvidia ครองตลาดมานานด้วยแพลตฟอร์ม CUDA ที่ปิดซอร์สและผูกขาด Huawei กำลังเดินเกมใหม่เพื่อท้าทายอำนาจนั้น ด้วยการประกาศเปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา CANN (Compute Architecture for Neural Networks) สำหรับชิป Ascend AI GPU ของตนเอง

    CANN เป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน AI บนชิป Ascend ได้ง่ายขึ้น โดยมีอินเทอร์เฟซหลายระดับคล้ายกับ CUDA ของ Nvidia แต่ต่างกันตรงที่ Huawei เลือกเปิดซอร์ส เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาสามารถเข้าถึง ปรับแต่ง และขยายความสามารถได้อย่างอิสระ

    การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะหลังจากที่หน่วยงาน CAC ของจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia จากข้อกังวลด้านความปลอดภัย

    Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัย บริษัท AI ชั้นนำ และพันธมิตรธุรกิจในจีน เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend โดยหวังว่าจะเร่งการพัฒนาและเพิ่มการใช้งานในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ไม่ขึ้นกับสหรัฐฯ

    แม้ CANN จะยังไม่เทียบเท่า CUDA ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี แต่การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรม AI ในระยะยาว

    Huawei ประกาศเปิดซอร์สชุดเครื่องมือ CANN สำหรับชิป Ascend AI GPU
    เพื่อแข่งขันกับ CUDA ของ Nvidia ที่เป็นระบบปิด

    CANN เป็นสถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบ heterogeneous
    มีอินเทอร์เฟซหลายระดับสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI

    Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัยและบริษัท AI ชั้นนำในจีน
    เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend

    การเปิดซอร์ส CANN เกิดขึ้นหลังจากจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia
    จากข้อกังวลด้านความปลอดภัยและการติดตามข้อมูล

    Huawei หวังว่า CANN จะช่วยเร่งนวัตกรรมและเพิ่มการใช้งานในประเทศ
    โดยเฉพาะในกลุ่มนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการทางเลือกจาก CUDA

    CUDA เป็นแพลตฟอร์มที่ผูกขาดกับฮาร์ดแวร์ของ Nvidia
    นักพัฒนาต้องใช้ GPU ของ Nvidia เท่านั้น

    Huawei Ascend 910C เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Nvidia
    โดยเฉพาะในงาน inference และการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    การเปิดซอร์สช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือได้เอง
    เพิ่มความยืดหยุ่นและลดการพึ่งพาบริษัทเดียว

    รัฐบาลจีนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
    เพื่อสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-is-making-its-ascend-ai-gpu-software-toolkit-open-source-to-better-compete-against-cuda
    🧠💻 เรื่องเล่าจากโลก AI: Huawei เปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา GPU เพื่อท้าชน Nvidia ในโลกของการประมวลผล AI ที่ Nvidia ครองตลาดมานานด้วยแพลตฟอร์ม CUDA ที่ปิดซอร์สและผูกขาด Huawei กำลังเดินเกมใหม่เพื่อท้าทายอำนาจนั้น ด้วยการประกาศเปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา CANN (Compute Architecture for Neural Networks) สำหรับชิป Ascend AI GPU ของตนเอง CANN เป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน AI บนชิป Ascend ได้ง่ายขึ้น โดยมีอินเทอร์เฟซหลายระดับคล้ายกับ CUDA ของ Nvidia แต่ต่างกันตรงที่ Huawei เลือกเปิดซอร์ส เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาสามารถเข้าถึง ปรับแต่ง และขยายความสามารถได้อย่างอิสระ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะหลังจากที่หน่วยงาน CAC ของจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia จากข้อกังวลด้านความปลอดภัย Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัย บริษัท AI ชั้นนำ และพันธมิตรธุรกิจในจีน เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend โดยหวังว่าจะเร่งการพัฒนาและเพิ่มการใช้งานในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ไม่ขึ้นกับสหรัฐฯ แม้ CANN จะยังไม่เทียบเท่า CUDA ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี แต่การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรม AI ในระยะยาว ✅ Huawei ประกาศเปิดซอร์สชุดเครื่องมือ CANN สำหรับชิป Ascend AI GPU ➡️ เพื่อแข่งขันกับ CUDA ของ Nvidia ที่เป็นระบบปิด ✅ CANN เป็นสถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบ heterogeneous ➡️ มีอินเทอร์เฟซหลายระดับสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ✅ Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัยและบริษัท AI ชั้นนำในจีน ➡️ เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend ✅ การเปิดซอร์ส CANN เกิดขึ้นหลังจากจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia ➡️ จากข้อกังวลด้านความปลอดภัยและการติดตามข้อมูล ✅ Huawei หวังว่า CANN จะช่วยเร่งนวัตกรรมและเพิ่มการใช้งานในประเทศ ➡️ โดยเฉพาะในกลุ่มนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการทางเลือกจาก CUDA ✅ CUDA เป็นแพลตฟอร์มที่ผูกขาดกับฮาร์ดแวร์ของ Nvidia ➡️ นักพัฒนาต้องใช้ GPU ของ Nvidia เท่านั้น ✅ Huawei Ascend 910C เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Nvidia ➡️ โดยเฉพาะในงาน inference และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดซอร์สช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือได้เอง ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นและลดการพึ่งพาบริษัทเดียว ✅ รัฐบาลจีนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ ➡️ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-is-making-its-ascend-ai-gpu-software-toolkit-open-source-to-better-compete-against-cuda
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Huawei is making its Ascend AI GPU software toolkit open-source to better compete against CUDA
    Huawei is getting better at making AI GPUs. Now it wants to increase adoption of its technology on the software side
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อเทคโนโลยีระดับนาโนกลายเป็นเป้าหมายของการจารกรรม

    ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันดุเดือด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเผชิญกับคดีร้ายแรง เมื่อมีพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานรวม 6 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน และมีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์

    การสืบสวนเริ่มต้นจากระบบตรวจสอบภายในของ TSMC ที่พบพฤติกรรมเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับแก้ไขของไต้หวัน ซึ่งระบุชัดว่าการรั่วไหลของเทคโนโลยีระดับต่ำกว่า 14 นาโนเมตรถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

    เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลถูกส่งต่อไปยังใคร แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมหาศาล เพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทระดับโลกอย่าง Apple, Nvidia และ Qualcomm

    ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลก การขโมยข้อมูลลับไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติ และผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี พร้อมปรับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

    พนักงาน TSMC ถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลเทคโนโลยี 2nm
    รวมทั้งหมด 6 คน มีทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีต

    TSMC ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากระบบภายใน
    ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี

    คดีนี้อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของไต้หวัน
    เน้นปกป้องเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ”

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย
    รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้อง

    TSMC ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่และเสริมระบบตรวจสอบภายใน
    เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสถียรภาพองค์กร

    เทคโนโลยี 2nm เป็นขั้นสูงสุดของการผลิตชิปในปัจจุบัน
    มีประสิทธิภาพสูงและใช้ในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น iPhone 18

    ราคาการผลิตชิป 2nm สูงถึง $30,000 ต่อเวเฟอร์
    แพงกว่าชิป 3nm ถึง 66%

    TSMC มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Samsung ถึง 3 เท่า
    เป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก

    การแข่งขันด้าน AI และเซิร์ฟเวอร์ทำให้เทคโนโลยีชิปเป็นเป้าหมายสำคัญ
    โดยเฉพาะในยุคหลัง ChatGPT ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-former-tsmc-employees-arrested
    🔍💥 เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อเทคโนโลยีระดับนาโนกลายเป็นเป้าหมายของการจารกรรม ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันดุเดือด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเผชิญกับคดีร้ายแรง เมื่อมีพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานรวม 6 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน และมีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ การสืบสวนเริ่มต้นจากระบบตรวจสอบภายในของ TSMC ที่พบพฤติกรรมเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับแก้ไขของไต้หวัน ซึ่งระบุชัดว่าการรั่วไหลของเทคโนโลยีระดับต่ำกว่า 14 นาโนเมตรถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลถูกส่งต่อไปยังใคร แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมหาศาล เพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทระดับโลกอย่าง Apple, Nvidia และ Qualcomm ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลก การขโมยข้อมูลลับไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติ และผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี พร้อมปรับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ✅ พนักงาน TSMC ถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลเทคโนโลยี 2nm ➡️ รวมทั้งหมด 6 คน มีทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีต ✅ TSMC ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากระบบภายใน ➡️ ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ✅ คดีนี้อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของไต้หวัน ➡️ เน้นปกป้องเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ” ✅ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย ➡️ รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้อง ✅ TSMC ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่และเสริมระบบตรวจสอบภายใน ➡️ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสถียรภาพองค์กร ✅ เทคโนโลยี 2nm เป็นขั้นสูงสุดของการผลิตชิปในปัจจุบัน ➡️ มีประสิทธิภาพสูงและใช้ในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น iPhone 18 ✅ ราคาการผลิตชิป 2nm สูงถึง $30,000 ต่อเวเฟอร์ ➡️ แพงกว่าชิป 3nm ถึง 66% ✅ TSMC มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Samsung ถึง 3 เท่า ➡️ เป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก ✅ การแข่งขันด้าน AI และเซิร์ฟเวอร์ทำให้เทคโนโลยีชิปเป็นเป้าหมายสำคัญ ➡️ โดยเฉพาะในยุคหลัง ChatGPT ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-former-tsmc-employees-arrested
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: เมื่อการกู้เงินด้วยเหรียญดิจิทัลต้องเผชิญภัยไซเบอร์

    ในยุคที่คริปโตไม่ใช่แค่การลงทุน แต่กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ “Crypto-backed lending” จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถกู้เงินโดยไม่ต้องขายเหรียญออกไป

    แต่ในความสะดวกนั้น ก็มีเงามืดของภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกล็อกไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็ยิ่งพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเจาะระบบให้ได้

    ภัยที่พบได้บ่อยคือการเจาะ smart contract ที่มีช่องโหว่ เช่นกรณี Inverse Finance ที่ถูกแฮกผ่านการบิดเบือนข้อมูลจาก oracle จนสูญเงินกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือกรณี Atomic Wallet ที่สูญเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์เพราะการจัดการ private key ที่หละหลวม

    นอกจากนี้ยังมีการปลอมเว็บกู้เงินบน Telegram และ Discord เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase หรือ key รวมถึงมัลแวร์ที่แอบเปลี่ยน address ใน clipboard เพื่อขโมยเหรียญแบบเนียน ๆ

    บทเรียนจากอดีต เช่นการล่มของ Celsius Network และการถูกเจาะซ้ำของ Cream Finance แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่โค้ดที่ต้องแข็งแรง แต่กระบวนการภายในและการตรวจสอบความเสี่ยงก็ต้องเข้มงวดด้วย

    แนวทางป้องกันที่ดีคือการใช้ multi-signature wallet เช่น Gnosis Safe, การตรวจสอบ smart contract ด้วย formal verification, การตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ real-time และการให้ผู้ใช้ใช้ hardware wallet ร่วมกับ 2FA เป็นมาตรฐาน

    Crypto-backed lending เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024
    มีสินทรัพย์กว่า $80B ถูกล็อกใน DeFi lending pools

    ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoin โดยใช้ BTC หรือ ETH เป็นหลักประกัน
    ไม่ต้องขายเหรียญเพื่อแลกเป็นเงินสด

    ช่องโหว่ใน smart contract เป็นจุดเสี่ยงหลัก
    เช่นกรณี Inverse Finance สูญเงิน $15M จาก oracle manipulation

    การจัดการ private key ที่ไม่ปลอดภัยนำไปสู่การสูญเงินมหาศาล
    Atomic Wallet สูญเงิน $35M จาก vendor ที่เก็บ key ไม่ดี

    การปลอมเว็บกู้เงินและมัลแวร์ clipboard เป็นภัยที่พุ่งเป้าผู้ใช้ทั่วไป
    พบมากใน Telegram, Discord และ browser extensions

    Celsius Network และ Cream Finance เคยถูกแฮกจากการควบคุมภายในที่อ่อนแอ
    เช่นการไม่อัปเดตระบบและการละเลย audit findings

    แนวทางป้องกันที่แนะนำคือ multi-sig wallet, formal verification และ anomaly detection
    Gnosis Safe เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน DeFi

    ตลาด crypto lending มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
    คาดว่าจะกลายเป็นเครื่องมือการเงินหลักในอนาคต

    Blockchain ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง
    แต่ก็ยังต้องพึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง

    End-to-end encryption และ biometric login เป็นแนวทางเสริมความปลอดภัย
    ช่วยลดความเสี่ยงจาก phishing และ social engineering

    การใช้ระบบ real-time monitoring และ kill switch ช่วยหยุดการโจมตีทันที
    ลดความเสียหายจากการเจาะระบบแบบ flash attack

    https://hackread.com/navigating-cybersecurity-risks-crypto-backed-lending/
    🛡️💸 เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: เมื่อการกู้เงินด้วยเหรียญดิจิทัลต้องเผชิญภัยไซเบอร์ ในยุคที่คริปโตไม่ใช่แค่การลงทุน แต่กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ “Crypto-backed lending” จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถกู้เงินโดยไม่ต้องขายเหรียญออกไป แต่ในความสะดวกนั้น ก็มีเงามืดของภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกล็อกไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็ยิ่งพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเจาะระบบให้ได้ ภัยที่พบได้บ่อยคือการเจาะ smart contract ที่มีช่องโหว่ เช่นกรณี Inverse Finance ที่ถูกแฮกผ่านการบิดเบือนข้อมูลจาก oracle จนสูญเงินกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือกรณี Atomic Wallet ที่สูญเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์เพราะการจัดการ private key ที่หละหลวม นอกจากนี้ยังมีการปลอมเว็บกู้เงินบน Telegram และ Discord เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase หรือ key รวมถึงมัลแวร์ที่แอบเปลี่ยน address ใน clipboard เพื่อขโมยเหรียญแบบเนียน ๆ บทเรียนจากอดีต เช่นการล่มของ Celsius Network และการถูกเจาะซ้ำของ Cream Finance แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่โค้ดที่ต้องแข็งแรง แต่กระบวนการภายในและการตรวจสอบความเสี่ยงก็ต้องเข้มงวดด้วย แนวทางป้องกันที่ดีคือการใช้ multi-signature wallet เช่น Gnosis Safe, การตรวจสอบ smart contract ด้วย formal verification, การตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ real-time และการให้ผู้ใช้ใช้ hardware wallet ร่วมกับ 2FA เป็นมาตรฐาน ✅ Crypto-backed lending เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024 ➡️ มีสินทรัพย์กว่า $80B ถูกล็อกใน DeFi lending pools ✅ ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoin โดยใช้ BTC หรือ ETH เป็นหลักประกัน ➡️ ไม่ต้องขายเหรียญเพื่อแลกเป็นเงินสด ✅ ช่องโหว่ใน smart contract เป็นจุดเสี่ยงหลัก ➡️ เช่นกรณี Inverse Finance สูญเงิน $15M จาก oracle manipulation ✅ การจัดการ private key ที่ไม่ปลอดภัยนำไปสู่การสูญเงินมหาศาล ➡️ Atomic Wallet สูญเงิน $35M จาก vendor ที่เก็บ key ไม่ดี ✅ การปลอมเว็บกู้เงินและมัลแวร์ clipboard เป็นภัยที่พุ่งเป้าผู้ใช้ทั่วไป ➡️ พบมากใน Telegram, Discord และ browser extensions ✅ Celsius Network และ Cream Finance เคยถูกแฮกจากการควบคุมภายในที่อ่อนแอ ➡️ เช่นการไม่อัปเดตระบบและการละเลย audit findings ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำคือ multi-sig wallet, formal verification และ anomaly detection ➡️ Gnosis Safe เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน DeFi ✅ ตลาด crypto lending มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ➡️ คาดว่าจะกลายเป็นเครื่องมือการเงินหลักในอนาคต ✅ Blockchain ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง ➡️ แต่ก็ยังต้องพึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง ✅ End-to-end encryption และ biometric login เป็นแนวทางเสริมความปลอดภัย ➡️ ช่วยลดความเสี่ยงจาก phishing และ social engineering ✅ การใช้ระบบ real-time monitoring และ kill switch ช่วยหยุดการโจมตีทันที ➡️ ลดความเสียหายจากการเจาะระบบแบบ flash attack https://hackread.com/navigating-cybersecurity-risks-crypto-backed-lending/
    HACKREAD.COM
    Navigating Cybersecurity Risks in Crypto-Backed Lending
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • ทหารพรานไทยขับไล่ทหารกัมพูชาพ้น "ตลาดช่องอานม้า"...สั่งยุติรื้อลวดหนาม...พร้อมตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง
    https://www.thai-tai.tv/news/20778/
    .
    #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    ทหารพรานไทยขับไล่ทหารกัมพูชาพ้น "ตลาดช่องอานม้า"...สั่งยุติรื้อลวดหนาม...พร้อมตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง https://www.thai-tai.tv/news/20778/ . #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • ขาขึ้น ทุกกลุ่ม? (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    ขาขึ้น ทุกกลุ่ม? (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 233 Views 0 0 Reviews
  • กลยุทธ์ลงทุน ช่วง SET รุ่ง (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    กลยุทธ์ลงทุน ช่วง SET รุ่ง (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 0 Reviews
  • THAI ถูกคาดหวังการเติบโต 05/08/68 #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #การบินไทย #หุ้น THAI
    THAI ถูกคาดหวังการเติบโต 05/08/68 #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #การบินไทย #หุ้น THAI
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 0 Reviews
More Results