• เขมรมันมึนจริงๆและมึนของแท้แบบมึนโคตรๆนั้นล่ะ555,ผีบ้าแบบฮุนเซนที่ไม่ธรรมดาบวกมึนทวีคูนยกกำลังด้วย.
    ..ทหารไทยจัดการรัฐบาลนี้เถอะ,หรือบอกรัฐบาลนี้ถ้าไม่อยากถูกยึดอำนาจก็ทำตัวดีๆเป็นหุ่นเชิดทหารพระราชาอย่างว่าง่าย,ไปถอนตัวออกจากข้อตกลงอินโดแปซิฟิกทันที,ตัดตอนมิให้ไทยเป็นกลางได้ทางภาวะสงครามจีนกับอเมริกาจะฆ่าเจ้าหนี้ล้างหนี้นี้ จริงๆอดีตผู้นำเราล่ะทรยศขายชาติมานาน ตาไม่บอดก็เห็นชัดว่าอินโดแปซิฟิกนี้นำไทยสู่สมรภูมิรบได้,เอาระเบิดเอาขีปนาวุธมากมายมาลงประเทศกะทำลายสถาบันกษัตริย์ชาติทางอ้อมไปด้วยผ่านการเป็นผู้นำนายกฯยุครุ่นสมัยตนจากนั้นส่งต่อๆกันมาผ่านระบบนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลทั้งฝ่ายค้านตีสองหน้าเล่นคนละบทแต่เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายหนึ่งโหนเจ้าโหนกษัตริย์แสดงบทจงรักภักดี สมุนตนแสดงอีกฝ่ายชูสามนิ้วให้เด่นชัดเรียกเงินสนับสนุนจากdeep stateได้ง่ายสะดวกขึ้นในองค์กรฝ่ายมืดต่างๆทั่วโลกจนลุแก่ตนว่าชนะแล้วพากันแสดงสัญลักษณ์ฝ่ายมืดถ้วนหน้าโดยมาแนวสามเหลี่ยมปิระมิตนั้นเองแบบที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว,
    ..
    ..ทหารไทยประเทศไทยจะเป็นกลางได้นั้นต้องจัดการรัฐบาลชุดนี้อย่างเดียว อย่าให้ฝ่ายมืดดึงลากยาวเกมส์อีกเลย,ทหารพระราชาน่าจะตื่นรู้มากแล้ว ว่าในทุกๆวงการคือทหาร ตำรวจ ศาลทั้งหมด อีลิทdeep stateล้วนมีคนของพวกมันทั้งสิ้น,ยุทธปืนคอคือตัวอย่างชัด ยุทธ99ปีเช่าที่ก็ว่า,บัตรคนจนก็มาจากยุทธเลี้ยงไม่ให้ตายไม่ให้เจริญเติบโตแต่ให้มรึงรู้ว่ามีคุณต้องตอบแทนนะ,บัตรคนจนที่คนจนต่อยอดเข้าถึงเงินทุนฟรีๆไม่ได้จริง,อุดหนุนสนับสนุนอะไรต่อผู้มีบัตรคนจนจริงจังก็ไม่มี,จัดกลุ่มแบ่งหมวดหมู่ช่วยเหลือการเข้าถึงเงินทุนอาชีพเขาก็ไม่มี,วงเงินบัตรไม่มีการใช้ก็ไม่ประเมินแก้ไขให้เป็นค่าจริง,รวมยอดเป็นตัวเงินเลยให้สภาพคล่องเขาจริงก็ไม่ทำ ยังกั๊กมิให้เข้าบริหารจัดการวงเงินในบัตรอีก,แยกให้ต่างให้ลำบากใช้ อยู่ป่าอยู่ดงจะไปใช้ค่าโดยสารรถเมย์ผีบ้ามันเหรอก็ไม่เคยปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น รัฐบาลกากนี้มาอีกยิ่งแย่ใหญ่,เกิดสงครามเลยโน้น.

    ..คือทหารไทยเชื่องช้าจริงๆนั้นล่ะ คิดอ่านคือเต่า ปล่อยจนเกิดสงครามสู้รบกัน,ตัดตอนตั้งแต่แรกก็จบยึดอำนาจแต่แรกก็จบตั้งแต่มีข่าวคลิปเสียงก็ได้,อย่าให้ศาลมายุ่งเกี่ยวได้ เพราะลากยาวแน่นอนตัดตอนdeep stateไม่ทันเหลี่ยมมัน,ต่างประเทศdeep stateครอบงำทุกๆศาลในประเทศนั้นๆได้หมด ยิ่งล็อบบี้ถูกกฎหมายซึ่งมันล่ะเขียนตีตราให้มีการล็อบบี้ให้ถูกกฎหมายสะดวกคล่องต่อยุทธศาสตร์การทำชั่วเลวมันทั้งหมดนั้นเอง,พะสาไทยอีกประเทศเล็กๆ,งบประมาณแผ่นดินปีละ2-3ล้านล้านบาทเอง,เศษตังblackrockมาซื้อใครก็ได้ในประเทศไทย ปั้นใครก็ได้ในประเทศมาค่อยรับใช้เป็นทาสขี้ข้าหมาบ๋อยรับคำสั่งมัน ดูแค่แลนด์บริดจ์สิ บินไปนอกเพื่อถวายแลนด์บริดจ์ให้blackrockมาเป็นเจ้าของและพื้นที่รอบแลนด์บริดจ์บริหารจัดการทั้งหมด โดยให้ใช้มุกอเมริกามาตั้งฐานทัพที่พังงารอไว้เพื่อคุ้มครองเครือข่ายกิจการทั้งหมดตนในเขตบริหารจัดการพิเศษแลนด์บริดจ์ทั้งหมดนี้ด้วย ทหารอเมริกาคุ้มครองกิจการblackrockทุนdeep stateนี้ล่ะ,อ้างจีนบังหน้าด้วย ฆ่าเจ้าหนี้ได้ด้วยยิ่งกำไรอีกขั้น,พอดีส่งซิกให้จีนยิงขีปนาวุธมาตกใกล้ๆฐานทัพอเมริกาที่พังงาสักสิบลูก ล็อกพิกัดกันผิดพลาดด้วยแบบขุดคลองคอดกระด้วยขีปนาวุธในตัวนั้นล่ะ จบสงครามก็อ้างมาขุดเปิดงานให้เป็นทางการเลยขุดขยายเป็นคลองจริงจังตกแต่งเก็บงานก็ว่ากว้าง2กม. ลึกสัก40-50เมตรพอดีเรือใหญ่ยักษ์วิ่ง2เลนสวนกันไปมาได้สบาย blackrockยึดครองบริหารคลองนี้ตามสิทธิเดิมที่เปิดมาก่อนที่ได้สิทธิขาดจากบริหารพื้นที่แลนด์บริดจ์ทั่วภาคใต้แบบSECอีกผังเมืองยุคลุงนะจ๊ะก็เขียนเนื้องานรองรับรอแล้ว ,คือขายชาติรองรับรอแล้วส่งไม้ต่อยุคนายกฯไม่ซื่อสัตย์นั้นล่ะแต่เหี้ยใส่ถุงเท้าสีรุ้งแสบตาเกินไปจึงจบดับอนาถไปเร็วก็ว่า,คือหากมองในมุมdeep stateหลอดรอธไชล์ดหรือหลอดร็อกกี้เฟลเลอร์จะเห็นภาพชัดมากอีกด้าน,ตีคู่ขนานยิงปืนนัดเดียวแดกนกทั้งฝูงที่โคตรโง่ในสายตามันอีลิทพวกนี้,ปล้นบ่อน้ำมันทั้งประเทศในไทยก็deep stateพวกนี้ นำโดยอเมริกาหัวโจก ฝรั่งเศสตามมาโชว์เด่นชัดในอาเชียนไทยนี้,ฝรั่งอื่นๆแดกเงียบๆ,
    ..เอเชียเราจึงต้องปฏิวัติจริงๆจังๆ ขับไล่ฝรั่งตะวันตกออกจากเอเชียไปให้หมดตัวสร้างบริบทความแตกแยกโกลาหลวุ่นวายของจริงทั้งปล้นแย่งชิงทรัพยากรจากทุกๆชาติในเอเชียเรา,ทวีปแอฟริกามันยังไม่เว้น,และสงครามทั้งหมดคือdeep stateนี้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งสำเร็จในแผนagendaลดประชากรผ่านสงครามด้วยนอกจากวัคซีนโควิดที่ผ่านๆมาซึ่งตายช้าเกินไปไม่ทันใจพวกมัน,ฮุนเซนคือพวกdeep stateตัวพ่อชัดเจนคือช่วยdeep stateลดประชากรไทยและประชากรเขมรนั้นเอง ประชาชนเขมรนี้ล่ะมาเป็นทหารเขมร ตายกว่า10,000ศพภายใน5วัน มันสำเร็จเป้าหมายโคตรๆจึงเป็นที่พออกพอใจของdeep stateจากนั้นหามุกทำทีหยุดยิง อเมริกาตัวพ่อdeep stateจึงมาร่วมแสดงความยินดีจับมือว่าฮุนเซนเยี่ยมมากจากนายใหญ่deep stateอเมริกาฝากมายอกฮุนเซน ไม่ต้องกลัวจีนนะเดียวเข้าหลบภัยที่อินโดแปซิฟิกได้เลยอเมริกาคุ้มหัวฮุนเซนฮุนมาเนตเต็มที่โดยมีdeep stateอเมริกาทรัมป์ค้ำประกัน,
    ..ไงล่ะทหารไทยเรา ไปถอนตัวออกจากอินโดแปซิฟิกทันทีเน้อ,อเมริกาจะตายดับอนาถเองล่ะ,รัสเชียจะจัดการยุโรปบวกตอนเหนืออเมริกาจะถูกยิงแน่นอน,ถอนทัพจากอาเชียนไปหนุนยุโรปและแนวอเมริกาเหนือแน่ถ้าไม่รีบไป อเมริกาสิ้นประเทศแน่นอนเพราะทหารรบไปพอหากทิ้งไว้ที่อาเชียนหรือเอเชียใต้เรา,จังหวะนี้ถล่มเขมรให้ราบคาบเลยมีลาวมีเวียดนามเข้าเดอะทีมเลยเพื่อแบ่งพื้นที่เขมรจัดสรรใหม่ สร้างความสงบสุขให้อาเชียนและเอเชียเราเองใหม่ ถีบฝรั่งออกจากเอเชียเราทั้งหมดก็ได้,เม็ดเงินมหาศาลจะหมุนเวียนภายในเอเชียเรากว่า1,000ล้านล้านบาทต่อวันก็ได้สบาย,บาทคอยน์อาจคือสกุลเงินใหม่ประจำเอเชียตัวกลางแลกเปลี่ยนทันทีก็ได้เพราะทั้งเอเชียลงใจให้ประเทศไทยไง,ตลอดเป็นฮับศูนย์กลางค้าระดับโลกเชื่อมทวีปแอฟริกาที่ทรัพยากรโคตรมหาศาลอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุมากมายตีมูลค่านับไม่ถ้วนนั้นเองโดยเชื่อมตลาดการค้าโลกผ่านไทย แลนด์บริดจ์ไทย คลองคอดกระไทยระดับสากลโลก พื้นที่อิสระเสรีด้านการค้าโลกที่มีอารยะธรรมล้ำค่ายกจิตยกใจร่วมกันทั้งชาวเอเชียและชาวทวีปแอฟริกา,สาระพัดฮับจะตั้งอยู่ที่ประเทศไทยนั้นเอง,โดยมีเงื่อนไขว่า เขมรต้องสิ้นชาติ ไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผนที่โลกคืนสู่สามัญเดิมก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงแผ่นดินไทยไปหรือทะเลาะกับฝรั่งเศสโดยชื่อชาติเขมรยังไม่เกิดไม่มีชื่อเขมรชาติเขมรปรากฎใดๆในสมัยนั้นเลย.,อนาคตลาวกับเวียดนามเท่านั้นที่ติดประเทศไทยแทน.ลบเขมรออกจากบริบทโลกในยุคนี้นี้เอง.,เขมรมึนมึนนี้ต้องทำให้สมกับความมึนของมัน.

    https://youtube.com/watch?v=Or7T0Vr1Rtg&si=1JJAE-3t1qxZGd6J
    เขมรมันมึนจริงๆและมึนของแท้แบบมึนโคตรๆนั้นล่ะ555,ผีบ้าแบบฮุนเซนที่ไม่ธรรมดาบวกมึนทวีคูนยกกำลังด้วย. ..ทหารไทยจัดการรัฐบาลนี้เถอะ,หรือบอกรัฐบาลนี้ถ้าไม่อยากถูกยึดอำนาจก็ทำตัวดีๆเป็นหุ่นเชิดทหารพระราชาอย่างว่าง่าย,ไปถอนตัวออกจากข้อตกลงอินโดแปซิฟิกทันที,ตัดตอนมิให้ไทยเป็นกลางได้ทางภาวะสงครามจีนกับอเมริกาจะฆ่าเจ้าหนี้ล้างหนี้นี้ จริงๆอดีตผู้นำเราล่ะทรยศขายชาติมานาน ตาไม่บอดก็เห็นชัดว่าอินโดแปซิฟิกนี้นำไทยสู่สมรภูมิรบได้,เอาระเบิดเอาขีปนาวุธมากมายมาลงประเทศกะทำลายสถาบันกษัตริย์ชาติทางอ้อมไปด้วยผ่านการเป็นผู้นำนายกฯยุครุ่นสมัยตนจากนั้นส่งต่อๆกันมาผ่านระบบนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลทั้งฝ่ายค้านตีสองหน้าเล่นคนละบทแต่เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายหนึ่งโหนเจ้าโหนกษัตริย์แสดงบทจงรักภักดี สมุนตนแสดงอีกฝ่ายชูสามนิ้วให้เด่นชัดเรียกเงินสนับสนุนจากdeep stateได้ง่ายสะดวกขึ้นในองค์กรฝ่ายมืดต่างๆทั่วโลกจนลุแก่ตนว่าชนะแล้วพากันแสดงสัญลักษณ์ฝ่ายมืดถ้วนหน้าโดยมาแนวสามเหลี่ยมปิระมิตนั้นเองแบบที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว, .. ..ทหารไทยประเทศไทยจะเป็นกลางได้นั้นต้องจัดการรัฐบาลชุดนี้อย่างเดียว อย่าให้ฝ่ายมืดดึงลากยาวเกมส์อีกเลย,ทหารพระราชาน่าจะตื่นรู้มากแล้ว ว่าในทุกๆวงการคือทหาร ตำรวจ ศาลทั้งหมด อีลิทdeep stateล้วนมีคนของพวกมันทั้งสิ้น,ยุทธปืนคอคือตัวอย่างชัด ยุทธ99ปีเช่าที่ก็ว่า,บัตรคนจนก็มาจากยุทธเลี้ยงไม่ให้ตายไม่ให้เจริญเติบโตแต่ให้มรึงรู้ว่ามีคุณต้องตอบแทนนะ,บัตรคนจนที่คนจนต่อยอดเข้าถึงเงินทุนฟรีๆไม่ได้จริง,อุดหนุนสนับสนุนอะไรต่อผู้มีบัตรคนจนจริงจังก็ไม่มี,จัดกลุ่มแบ่งหมวดหมู่ช่วยเหลือการเข้าถึงเงินทุนอาชีพเขาก็ไม่มี,วงเงินบัตรไม่มีการใช้ก็ไม่ประเมินแก้ไขให้เป็นค่าจริง,รวมยอดเป็นตัวเงินเลยให้สภาพคล่องเขาจริงก็ไม่ทำ ยังกั๊กมิให้เข้าบริหารจัดการวงเงินในบัตรอีก,แยกให้ต่างให้ลำบากใช้ อยู่ป่าอยู่ดงจะไปใช้ค่าโดยสารรถเมย์ผีบ้ามันเหรอก็ไม่เคยปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น รัฐบาลกากนี้มาอีกยิ่งแย่ใหญ่,เกิดสงครามเลยโน้น. ..คือทหารไทยเชื่องช้าจริงๆนั้นล่ะ คิดอ่านคือเต่า ปล่อยจนเกิดสงครามสู้รบกัน,ตัดตอนตั้งแต่แรกก็จบยึดอำนาจแต่แรกก็จบตั้งแต่มีข่าวคลิปเสียงก็ได้,อย่าให้ศาลมายุ่งเกี่ยวได้ เพราะลากยาวแน่นอนตัดตอนdeep stateไม่ทันเหลี่ยมมัน,ต่างประเทศdeep stateครอบงำทุกๆศาลในประเทศนั้นๆได้หมด ยิ่งล็อบบี้ถูกกฎหมายซึ่งมันล่ะเขียนตีตราให้มีการล็อบบี้ให้ถูกกฎหมายสะดวกคล่องต่อยุทธศาสตร์การทำชั่วเลวมันทั้งหมดนั้นเอง,พะสาไทยอีกประเทศเล็กๆ,งบประมาณแผ่นดินปีละ2-3ล้านล้านบาทเอง,เศษตังblackrockมาซื้อใครก็ได้ในประเทศไทย ปั้นใครก็ได้ในประเทศมาค่อยรับใช้เป็นทาสขี้ข้าหมาบ๋อยรับคำสั่งมัน ดูแค่แลนด์บริดจ์สิ บินไปนอกเพื่อถวายแลนด์บริดจ์ให้blackrockมาเป็นเจ้าของและพื้นที่รอบแลนด์บริดจ์บริหารจัดการทั้งหมด โดยให้ใช้มุกอเมริกามาตั้งฐานทัพที่พังงารอไว้เพื่อคุ้มครองเครือข่ายกิจการทั้งหมดตนในเขตบริหารจัดการพิเศษแลนด์บริดจ์ทั้งหมดนี้ด้วย ทหารอเมริกาคุ้มครองกิจการblackrockทุนdeep stateนี้ล่ะ,อ้างจีนบังหน้าด้วย ฆ่าเจ้าหนี้ได้ด้วยยิ่งกำไรอีกขั้น,พอดีส่งซิกให้จีนยิงขีปนาวุธมาตกใกล้ๆฐานทัพอเมริกาที่พังงาสักสิบลูก ล็อกพิกัดกันผิดพลาดด้วยแบบขุดคลองคอดกระด้วยขีปนาวุธในตัวนั้นล่ะ จบสงครามก็อ้างมาขุดเปิดงานให้เป็นทางการเลยขุดขยายเป็นคลองจริงจังตกแต่งเก็บงานก็ว่ากว้าง2กม. ลึกสัก40-50เมตรพอดีเรือใหญ่ยักษ์วิ่ง2เลนสวนกันไปมาได้สบาย blackrockยึดครองบริหารคลองนี้ตามสิทธิเดิมที่เปิดมาก่อนที่ได้สิทธิขาดจากบริหารพื้นที่แลนด์บริดจ์ทั่วภาคใต้แบบSECอีกผังเมืองยุคลุงนะจ๊ะก็เขียนเนื้องานรองรับรอแล้ว ,คือขายชาติรองรับรอแล้วส่งไม้ต่อยุคนายกฯไม่ซื่อสัตย์นั้นล่ะแต่เหี้ยใส่ถุงเท้าสีรุ้งแสบตาเกินไปจึงจบดับอนาถไปเร็วก็ว่า,คือหากมองในมุมdeep stateหลอดรอธไชล์ดหรือหลอดร็อกกี้เฟลเลอร์จะเห็นภาพชัดมากอีกด้าน,ตีคู่ขนานยิงปืนนัดเดียวแดกนกทั้งฝูงที่โคตรโง่ในสายตามันอีลิทพวกนี้,ปล้นบ่อน้ำมันทั้งประเทศในไทยก็deep stateพวกนี้ นำโดยอเมริกาหัวโจก ฝรั่งเศสตามมาโชว์เด่นชัดในอาเชียนไทยนี้,ฝรั่งอื่นๆแดกเงียบๆ, ..เอเชียเราจึงต้องปฏิวัติจริงๆจังๆ ขับไล่ฝรั่งตะวันตกออกจากเอเชียไปให้หมดตัวสร้างบริบทความแตกแยกโกลาหลวุ่นวายของจริงทั้งปล้นแย่งชิงทรัพยากรจากทุกๆชาติในเอเชียเรา,ทวีปแอฟริกามันยังไม่เว้น,และสงครามทั้งหมดคือdeep stateนี้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งสำเร็จในแผนagendaลดประชากรผ่านสงครามด้วยนอกจากวัคซีนโควิดที่ผ่านๆมาซึ่งตายช้าเกินไปไม่ทันใจพวกมัน,ฮุนเซนคือพวกdeep stateตัวพ่อชัดเจนคือช่วยdeep stateลดประชากรไทยและประชากรเขมรนั้นเอง ประชาชนเขมรนี้ล่ะมาเป็นทหารเขมร ตายกว่า10,000ศพภายใน5วัน มันสำเร็จเป้าหมายโคตรๆจึงเป็นที่พออกพอใจของdeep stateจากนั้นหามุกทำทีหยุดยิง อเมริกาตัวพ่อdeep stateจึงมาร่วมแสดงความยินดีจับมือว่าฮุนเซนเยี่ยมมากจากนายใหญ่deep stateอเมริกาฝากมายอกฮุนเซน ไม่ต้องกลัวจีนนะเดียวเข้าหลบภัยที่อินโดแปซิฟิกได้เลยอเมริกาคุ้มหัวฮุนเซนฮุนมาเนตเต็มที่โดยมีdeep stateอเมริกาทรัมป์ค้ำประกัน, ..ไงล่ะทหารไทยเรา ไปถอนตัวออกจากอินโดแปซิฟิกทันทีเน้อ,อเมริกาจะตายดับอนาถเองล่ะ,รัสเชียจะจัดการยุโรปบวกตอนเหนืออเมริกาจะถูกยิงแน่นอน,ถอนทัพจากอาเชียนไปหนุนยุโรปและแนวอเมริกาเหนือแน่ถ้าไม่รีบไป อเมริกาสิ้นประเทศแน่นอนเพราะทหารรบไปพอหากทิ้งไว้ที่อาเชียนหรือเอเชียใต้เรา,จังหวะนี้ถล่มเขมรให้ราบคาบเลยมีลาวมีเวียดนามเข้าเดอะทีมเลยเพื่อแบ่งพื้นที่เขมรจัดสรรใหม่ สร้างความสงบสุขให้อาเชียนและเอเชียเราเองใหม่ ถีบฝรั่งออกจากเอเชียเราทั้งหมดก็ได้,เม็ดเงินมหาศาลจะหมุนเวียนภายในเอเชียเรากว่า1,000ล้านล้านบาทต่อวันก็ได้สบาย,บาทคอยน์อาจคือสกุลเงินใหม่ประจำเอเชียตัวกลางแลกเปลี่ยนทันทีก็ได้เพราะทั้งเอเชียลงใจให้ประเทศไทยไง,ตลอดเป็นฮับศูนย์กลางค้าระดับโลกเชื่อมทวีปแอฟริกาที่ทรัพยากรโคตรมหาศาลอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุมากมายตีมูลค่านับไม่ถ้วนนั้นเองโดยเชื่อมตลาดการค้าโลกผ่านไทย แลนด์บริดจ์ไทย คลองคอดกระไทยระดับสากลโลก พื้นที่อิสระเสรีด้านการค้าโลกที่มีอารยะธรรมล้ำค่ายกจิตยกใจร่วมกันทั้งชาวเอเชียและชาวทวีปแอฟริกา,สาระพัดฮับจะตั้งอยู่ที่ประเทศไทยนั้นเอง,โดยมีเงื่อนไขว่า เขมรต้องสิ้นชาติ ไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผนที่โลกคืนสู่สามัญเดิมก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงแผ่นดินไทยไปหรือทะเลาะกับฝรั่งเศสโดยชื่อชาติเขมรยังไม่เกิดไม่มีชื่อเขมรชาติเขมรปรากฎใดๆในสมัยนั้นเลย.,อนาคตลาวกับเวียดนามเท่านั้นที่ติดประเทศไทยแทน.ลบเขมรออกจากบริบทโลกในยุคนี้นี้เอง.,เขมรมึนมึนนี้ต้องทำให้สมกับความมึนของมัน. https://youtube.com/watch?v=Or7T0Vr1Rtg&si=1JJAE-3t1qxZGd6J
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารพราน 2301 ล้อมรั้วลวดหนาม คุมพื้นที่ตลาดช่องอานม้าไว้แล้ว ตามเส้นเขตอธิปไตยไทย หลังทหารเขมร บุกเข้ามาตัดลวดหนามออกเมื่อวาน พร้อมวางกำลังดูแลพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000074670

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทหารพราน 2301 ล้อมรั้วลวดหนาม คุมพื้นที่ตลาดช่องอานม้าไว้แล้ว ตามเส้นเขตอธิปไตยไทย หลังทหารเขมร บุกเข้ามาตัดลวดหนามออกเมื่อวาน พร้อมวางกำลังดูแลพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000074670 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารพรานไทยยึดพื้นที่ "ตลาดช่องอานม้า" คืน! ล้อมรั้วลวดหนามตามเดิม...หลังเขมรบุกรุกตัดทิ้ง
    https://www.thai-tai.tv/news/20795/
    .
    #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    ทหารพรานไทยยึดพื้นที่ "ตลาดช่องอานม้า" คืน! ล้อมรั้วลวดหนามตามเดิม...หลังเขมรบุกรุกตัดทิ้ง https://www.thai-tai.tv/news/20795/ . #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับจังหวะลงทุน ‘บิตคอยน์’ (06/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น #บิตคอยน์
    จับจังหวะลงทุน ‘บิตคอยน์’ (06/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น #บิตคอยน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทุนต่างชาติ หนุน หุ้นไทยทะยาน 06/08/68 #กะเทาะหุ้น #ทุนต่างชาติ #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น
    ทุนต่างชาติ หนุน หุ้นไทยทะยาน 06/08/68 #กะเทาะหุ้น #ทุนต่างชาติ #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อ AMD สะดุดเพราะการแบน GPU ส่งออกไปจีน

    AMD บริษัทออกแบบชิปชื่อดังจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแรงกระแทกครั้งใหญ่จากการแบนการส่งออก GPU ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะชิป AI รุ่น Instinct MI308 ที่ถูกห้ามขายในตลาดจีนอย่างกะทันหันในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ส่งผลให้ AMD ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายด้านสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถส่งมอบได้รวมกว่า $800 ล้าน

    แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นถึง 32% จากปีก่อนหน้า แต่มาร์จิ้นขั้นต้นกลับลดลงอย่างหนัก และทำให้ AMD ขาดทุนจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี GAAP เป็นจำนวน $134 ล้าน ซึ่งถือเป็นการพลิกจากกำไรในไตรมาสก่อนหน้า

    AMD พยายามชดเชยด้วยการรายงานตัวเลขแบบ non-GAAP ซึ่งตัดรายการพิเศษออก ทำให้ดูเหมือนยังมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ $897 ล้าน แต่ก็ยังลดลงถึง 50% จากไตรมาสก่อนหน้า

    CEO Lisa Su ยอมรับว่า รายได้จากธุรกิจ AI ลดลงเพราะการแบนนี้ และแม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณว่าอาจอนุญาตให้กลับมาขาย MI308 ได้อีกครั้ง แต่ AMD ยังไม่รวมรายได้จากจีนไว้ในประมาณการไตรมาสถัดไป เพราะใบอนุญาตยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

    ในด้านบวก AMD ยังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ MI400 ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Nvidia Blackwell B200 และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว โดยมีแผนเปิดตัวในปีหน้า พร้อมระบบ Helios ที่จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค เพื่อรองรับงาน AI ขั้นสูง

    จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ AMD โดยมีรายได้กว่า $6.2 พันล้าน
    คิดเป็น 24% ของยอดขายรวมในปี 2024

    การแบนส่งออกชิป AI เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
    ว่าชิปอาจถูกใช้ในงานทางทหารของจีน

    AMD กำลังพัฒนา MI400 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Blackwell B200
    และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว

    ระบบ Helios จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค
    คาดว่าจะเป็นระบบ AI ที่ทรงพลังที่สุดเมื่อเปิดตัวในปี 2026

    https://wccftech.com/amd-gutted-by-china-gpu-ban-posts-q2-operating-loss/
    📉🇨🇳 เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อ AMD สะดุดเพราะการแบน GPU ส่งออกไปจีน AMD บริษัทออกแบบชิปชื่อดังจากสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแรงกระแทกครั้งใหญ่จากการแบนการส่งออก GPU ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะชิป AI รุ่น Instinct MI308 ที่ถูกห้ามขายในตลาดจีนอย่างกะทันหันในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ส่งผลให้ AMD ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายด้านสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถส่งมอบได้รวมกว่า $800 ล้าน แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นถึง 32% จากปีก่อนหน้า แต่มาร์จิ้นขั้นต้นกลับลดลงอย่างหนัก และทำให้ AMD ขาดทุนจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี GAAP เป็นจำนวน $134 ล้าน ซึ่งถือเป็นการพลิกจากกำไรในไตรมาสก่อนหน้า AMD พยายามชดเชยด้วยการรายงานตัวเลขแบบ non-GAAP ซึ่งตัดรายการพิเศษออก ทำให้ดูเหมือนยังมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ $897 ล้าน แต่ก็ยังลดลงถึง 50% จากไตรมาสก่อนหน้า CEO Lisa Su ยอมรับว่า รายได้จากธุรกิจ AI ลดลงเพราะการแบนนี้ และแม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณว่าอาจอนุญาตให้กลับมาขาย MI308 ได้อีกครั้ง แต่ AMD ยังไม่รวมรายได้จากจีนไว้ในประมาณการไตรมาสถัดไป เพราะใบอนุญาตยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ในด้านบวก AMD ยังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ MI400 ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Nvidia Blackwell B200 และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว โดยมีแผนเปิดตัวในปีหน้า พร้อมระบบ Helios ที่จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค เพื่อรองรับงาน AI ขั้นสูง ✅ จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ AMD โดยมีรายได้กว่า $6.2 พันล้าน ➡️ คิดเป็น 24% ของยอดขายรวมในปี 2024 ✅ การแบนส่งออกชิป AI เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ➡️ ว่าชิปอาจถูกใช้ในงานทางทหารของจีน ✅ AMD กำลังพัฒนา MI400 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Blackwell B200 ➡️ และได้รับความสนใจจาก OpenAI แล้ว ✅ ระบบ Helios จะใช้ GPU ถึง 72 ตัวต่อแร็ค ➡️ คาดว่าจะเป็นระบบ AI ที่ทรงพลังที่สุดเมื่อเปิดตัวในปี 2026 https://wccftech.com/amd-gutted-by-china-gpu-ban-posts-q2-operating-loss/
    WCCFTECH.COM
    AMD Gutted By China GPU Ban - Posts Q2 Operating Loss
    AMD's Q2 earnings show $7.6B revenue and $0.48 EPS, with guidance of $8.4B to $9B amid a 59% rise in costs, causing a 4.2% share drop.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลก AI: Huawei เปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา GPU เพื่อท้าชน Nvidia

    ในโลกของการประมวลผล AI ที่ Nvidia ครองตลาดมานานด้วยแพลตฟอร์ม CUDA ที่ปิดซอร์สและผูกขาด Huawei กำลังเดินเกมใหม่เพื่อท้าทายอำนาจนั้น ด้วยการประกาศเปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา CANN (Compute Architecture for Neural Networks) สำหรับชิป Ascend AI GPU ของตนเอง

    CANN เป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน AI บนชิป Ascend ได้ง่ายขึ้น โดยมีอินเทอร์เฟซหลายระดับคล้ายกับ CUDA ของ Nvidia แต่ต่างกันตรงที่ Huawei เลือกเปิดซอร์ส เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาสามารถเข้าถึง ปรับแต่ง และขยายความสามารถได้อย่างอิสระ

    การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะหลังจากที่หน่วยงาน CAC ของจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia จากข้อกังวลด้านความปลอดภัย

    Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัย บริษัท AI ชั้นนำ และพันธมิตรธุรกิจในจีน เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend โดยหวังว่าจะเร่งการพัฒนาและเพิ่มการใช้งานในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ไม่ขึ้นกับสหรัฐฯ

    แม้ CANN จะยังไม่เทียบเท่า CUDA ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี แต่การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรม AI ในระยะยาว

    Huawei ประกาศเปิดซอร์สชุดเครื่องมือ CANN สำหรับชิป Ascend AI GPU
    เพื่อแข่งขันกับ CUDA ของ Nvidia ที่เป็นระบบปิด

    CANN เป็นสถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบ heterogeneous
    มีอินเทอร์เฟซหลายระดับสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI

    Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัยและบริษัท AI ชั้นนำในจีน
    เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend

    การเปิดซอร์ส CANN เกิดขึ้นหลังจากจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia
    จากข้อกังวลด้านความปลอดภัยและการติดตามข้อมูล

    Huawei หวังว่า CANN จะช่วยเร่งนวัตกรรมและเพิ่มการใช้งานในประเทศ
    โดยเฉพาะในกลุ่มนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการทางเลือกจาก CUDA

    CUDA เป็นแพลตฟอร์มที่ผูกขาดกับฮาร์ดแวร์ของ Nvidia
    นักพัฒนาต้องใช้ GPU ของ Nvidia เท่านั้น

    Huawei Ascend 910C เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Nvidia
    โดยเฉพาะในงาน inference และการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    การเปิดซอร์สช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือได้เอง
    เพิ่มความยืดหยุ่นและลดการพึ่งพาบริษัทเดียว

    รัฐบาลจีนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
    เพื่อสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-is-making-its-ascend-ai-gpu-software-toolkit-open-source-to-better-compete-against-cuda
    🧠💻 เรื่องเล่าจากโลก AI: Huawei เปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา GPU เพื่อท้าชน Nvidia ในโลกของการประมวลผล AI ที่ Nvidia ครองตลาดมานานด้วยแพลตฟอร์ม CUDA ที่ปิดซอร์สและผูกขาด Huawei กำลังเดินเกมใหม่เพื่อท้าทายอำนาจนั้น ด้วยการประกาศเปิดซอร์สเครื่องมือพัฒนา CANN (Compute Architecture for Neural Networks) สำหรับชิป Ascend AI GPU ของตนเอง CANN เป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน AI บนชิป Ascend ได้ง่ายขึ้น โดยมีอินเทอร์เฟซหลายระดับคล้ายกับ CUDA ของ Nvidia แต่ต่างกันตรงที่ Huawei เลือกเปิดซอร์ส เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาสามารถเข้าถึง ปรับแต่ง และขยายความสามารถได้อย่างอิสระ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะหลังจากที่หน่วยงาน CAC ของจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia จากข้อกังวลด้านความปลอดภัย Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัย บริษัท AI ชั้นนำ และพันธมิตรธุรกิจในจีน เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend โดยหวังว่าจะเร่งการพัฒนาและเพิ่มการใช้งานในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ไม่ขึ้นกับสหรัฐฯ แม้ CANN จะยังไม่เทียบเท่า CUDA ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี แต่การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรม AI ในระยะยาว ✅ Huawei ประกาศเปิดซอร์สชุดเครื่องมือ CANN สำหรับชิป Ascend AI GPU ➡️ เพื่อแข่งขันกับ CUDA ของ Nvidia ที่เป็นระบบปิด ✅ CANN เป็นสถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบ heterogeneous ➡️ มีอินเทอร์เฟซหลายระดับสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ✅ Huawei ได้หารือกับมหาวิทยาลัยและบริษัท AI ชั้นนำในจีน ➡️ เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดรอบชิป Ascend ✅ การเปิดซอร์ส CANN เกิดขึ้นหลังจากจีนเริ่มสอบสวนชิป H20 ของ Nvidia ➡️ จากข้อกังวลด้านความปลอดภัยและการติดตามข้อมูล ✅ Huawei หวังว่า CANN จะช่วยเร่งนวัตกรรมและเพิ่มการใช้งานในประเทศ ➡️ โดยเฉพาะในกลุ่มนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการทางเลือกจาก CUDA ✅ CUDA เป็นแพลตฟอร์มที่ผูกขาดกับฮาร์ดแวร์ของ Nvidia ➡️ นักพัฒนาต้องใช้ GPU ของ Nvidia เท่านั้น ✅ Huawei Ascend 910C เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Nvidia ➡️ โดยเฉพาะในงาน inference และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดซอร์สช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือได้เอง ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นและลดการพึ่งพาบริษัทเดียว ✅ รัฐบาลจีนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ ➡️ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-is-making-its-ascend-ai-gpu-software-toolkit-open-source-to-better-compete-against-cuda
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Huawei is making its Ascend AI GPU software toolkit open-source to better compete against CUDA
    Huawei is getting better at making AI GPUs. Now it wants to increase adoption of its technology on the software side
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อเทคโนโลยีระดับนาโนกลายเป็นเป้าหมายของการจารกรรม

    ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันดุเดือด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเผชิญกับคดีร้ายแรง เมื่อมีพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานรวม 6 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน และมีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์

    การสืบสวนเริ่มต้นจากระบบตรวจสอบภายในของ TSMC ที่พบพฤติกรรมเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับแก้ไขของไต้หวัน ซึ่งระบุชัดว่าการรั่วไหลของเทคโนโลยีระดับต่ำกว่า 14 นาโนเมตรถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

    เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลถูกส่งต่อไปยังใคร แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมหาศาล เพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทระดับโลกอย่าง Apple, Nvidia และ Qualcomm

    ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลก การขโมยข้อมูลลับไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติ และผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี พร้อมปรับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

    พนักงาน TSMC ถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลเทคโนโลยี 2nm
    รวมทั้งหมด 6 คน มีทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีต

    TSMC ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากระบบภายใน
    ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี

    คดีนี้อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของไต้หวัน
    เน้นปกป้องเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ”

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย
    รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้อง

    TSMC ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่และเสริมระบบตรวจสอบภายใน
    เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสถียรภาพองค์กร

    เทคโนโลยี 2nm เป็นขั้นสูงสุดของการผลิตชิปในปัจจุบัน
    มีประสิทธิภาพสูงและใช้ในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น iPhone 18

    ราคาการผลิตชิป 2nm สูงถึง $30,000 ต่อเวเฟอร์
    แพงกว่าชิป 3nm ถึง 66%

    TSMC มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Samsung ถึง 3 เท่า
    เป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก

    การแข่งขันด้าน AI และเซิร์ฟเวอร์ทำให้เทคโนโลยีชิปเป็นเป้าหมายสำคัญ
    โดยเฉพาะในยุคหลัง ChatGPT ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-former-tsmc-employees-arrested
    🔍💥 เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อเทคโนโลยีระดับนาโนกลายเป็นเป้าหมายของการจารกรรม ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันดุเดือด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเผชิญกับคดีร้ายแรง เมื่อมีพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานรวม 6 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน และมีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ การสืบสวนเริ่มต้นจากระบบตรวจสอบภายในของ TSMC ที่พบพฤติกรรมเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับแก้ไขของไต้หวัน ซึ่งระบุชัดว่าการรั่วไหลของเทคโนโลยีระดับต่ำกว่า 14 นาโนเมตรถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลถูกส่งต่อไปยังใคร แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมหาศาล เพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทระดับโลกอย่าง Apple, Nvidia และ Qualcomm ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลก การขโมยข้อมูลลับไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติ และผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี พร้อมปรับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ✅ พนักงาน TSMC ถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลเทคโนโลยี 2nm ➡️ รวมทั้งหมด 6 คน มีทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีต ✅ TSMC ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากระบบภายใน ➡️ ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ✅ คดีนี้อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของไต้หวัน ➡️ เน้นปกป้องเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ” ✅ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย ➡️ รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้อง ✅ TSMC ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่และเสริมระบบตรวจสอบภายใน ➡️ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสถียรภาพองค์กร ✅ เทคโนโลยี 2nm เป็นขั้นสูงสุดของการผลิตชิปในปัจจุบัน ➡️ มีประสิทธิภาพสูงและใช้ในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น iPhone 18 ✅ ราคาการผลิตชิป 2nm สูงถึง $30,000 ต่อเวเฟอร์ ➡️ แพงกว่าชิป 3nm ถึง 66% ✅ TSMC มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Samsung ถึง 3 เท่า ➡️ เป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก ✅ การแข่งขันด้าน AI และเซิร์ฟเวอร์ทำให้เทคโนโลยีชิปเป็นเป้าหมายสำคัญ ➡️ โดยเฉพาะในยุคหลัง ChatGPT ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-former-tsmc-employees-arrested
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: เมื่อการกู้เงินด้วยเหรียญดิจิทัลต้องเผชิญภัยไซเบอร์

    ในยุคที่คริปโตไม่ใช่แค่การลงทุน แต่กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ “Crypto-backed lending” จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถกู้เงินโดยไม่ต้องขายเหรียญออกไป

    แต่ในความสะดวกนั้น ก็มีเงามืดของภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกล็อกไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็ยิ่งพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเจาะระบบให้ได้

    ภัยที่พบได้บ่อยคือการเจาะ smart contract ที่มีช่องโหว่ เช่นกรณี Inverse Finance ที่ถูกแฮกผ่านการบิดเบือนข้อมูลจาก oracle จนสูญเงินกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือกรณี Atomic Wallet ที่สูญเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์เพราะการจัดการ private key ที่หละหลวม

    นอกจากนี้ยังมีการปลอมเว็บกู้เงินบน Telegram และ Discord เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase หรือ key รวมถึงมัลแวร์ที่แอบเปลี่ยน address ใน clipboard เพื่อขโมยเหรียญแบบเนียน ๆ

    บทเรียนจากอดีต เช่นการล่มของ Celsius Network และการถูกเจาะซ้ำของ Cream Finance แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่โค้ดที่ต้องแข็งแรง แต่กระบวนการภายในและการตรวจสอบความเสี่ยงก็ต้องเข้มงวดด้วย

    แนวทางป้องกันที่ดีคือการใช้ multi-signature wallet เช่น Gnosis Safe, การตรวจสอบ smart contract ด้วย formal verification, การตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ real-time และการให้ผู้ใช้ใช้ hardware wallet ร่วมกับ 2FA เป็นมาตรฐาน

    Crypto-backed lending เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024
    มีสินทรัพย์กว่า $80B ถูกล็อกใน DeFi lending pools

    ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoin โดยใช้ BTC หรือ ETH เป็นหลักประกัน
    ไม่ต้องขายเหรียญเพื่อแลกเป็นเงินสด

    ช่องโหว่ใน smart contract เป็นจุดเสี่ยงหลัก
    เช่นกรณี Inverse Finance สูญเงิน $15M จาก oracle manipulation

    การจัดการ private key ที่ไม่ปลอดภัยนำไปสู่การสูญเงินมหาศาล
    Atomic Wallet สูญเงิน $35M จาก vendor ที่เก็บ key ไม่ดี

    การปลอมเว็บกู้เงินและมัลแวร์ clipboard เป็นภัยที่พุ่งเป้าผู้ใช้ทั่วไป
    พบมากใน Telegram, Discord และ browser extensions

    Celsius Network และ Cream Finance เคยถูกแฮกจากการควบคุมภายในที่อ่อนแอ
    เช่นการไม่อัปเดตระบบและการละเลย audit findings

    แนวทางป้องกันที่แนะนำคือ multi-sig wallet, formal verification และ anomaly detection
    Gnosis Safe เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน DeFi

    ตลาด crypto lending มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
    คาดว่าจะกลายเป็นเครื่องมือการเงินหลักในอนาคต

    Blockchain ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง
    แต่ก็ยังต้องพึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง

    End-to-end encryption และ biometric login เป็นแนวทางเสริมความปลอดภัย
    ช่วยลดความเสี่ยงจาก phishing และ social engineering

    การใช้ระบบ real-time monitoring และ kill switch ช่วยหยุดการโจมตีทันที
    ลดความเสียหายจากการเจาะระบบแบบ flash attack

    https://hackread.com/navigating-cybersecurity-risks-crypto-backed-lending/
    🛡️💸 เรื่องเล่าจากโลกคริปโต: เมื่อการกู้เงินด้วยเหรียญดิจิทัลต้องเผชิญภัยไซเบอร์ ในยุคที่คริปโตไม่ใช่แค่การลงทุน แต่กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ “Crypto-backed lending” จึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างหันมาใช้กันมากขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถกู้เงินโดยไม่ต้องขายเหรียญออกไป แต่ในความสะดวกนั้น ก็มีเงามืดของภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อมีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกล็อกไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แฮกเกอร์ก็ยิ่งพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเจาะระบบให้ได้ ภัยที่พบได้บ่อยคือการเจาะ smart contract ที่มีช่องโหว่ เช่นกรณี Inverse Finance ที่ถูกแฮกผ่านการบิดเบือนข้อมูลจาก oracle จนสูญเงินกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือกรณี Atomic Wallet ที่สูญเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์เพราะการจัดการ private key ที่หละหลวม นอกจากนี้ยังมีการปลอมเว็บกู้เงินบน Telegram และ Discord เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase หรือ key รวมถึงมัลแวร์ที่แอบเปลี่ยน address ใน clipboard เพื่อขโมยเหรียญแบบเนียน ๆ บทเรียนจากอดีต เช่นการล่มของ Celsius Network และการถูกเจาะซ้ำของ Cream Finance แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่โค้ดที่ต้องแข็งแรง แต่กระบวนการภายในและการตรวจสอบความเสี่ยงก็ต้องเข้มงวดด้วย แนวทางป้องกันที่ดีคือการใช้ multi-signature wallet เช่น Gnosis Safe, การตรวจสอบ smart contract ด้วย formal verification, การตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ real-time และการให้ผู้ใช้ใช้ hardware wallet ร่วมกับ 2FA เป็นมาตรฐาน ✅ Crypto-backed lending เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024 ➡️ มีสินทรัพย์กว่า $80B ถูกล็อกใน DeFi lending pools ✅ ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoin โดยใช้ BTC หรือ ETH เป็นหลักประกัน ➡️ ไม่ต้องขายเหรียญเพื่อแลกเป็นเงินสด ✅ ช่องโหว่ใน smart contract เป็นจุดเสี่ยงหลัก ➡️ เช่นกรณี Inverse Finance สูญเงิน $15M จาก oracle manipulation ✅ การจัดการ private key ที่ไม่ปลอดภัยนำไปสู่การสูญเงินมหาศาล ➡️ Atomic Wallet สูญเงิน $35M จาก vendor ที่เก็บ key ไม่ดี ✅ การปลอมเว็บกู้เงินและมัลแวร์ clipboard เป็นภัยที่พุ่งเป้าผู้ใช้ทั่วไป ➡️ พบมากใน Telegram, Discord และ browser extensions ✅ Celsius Network และ Cream Finance เคยถูกแฮกจากการควบคุมภายในที่อ่อนแอ ➡️ เช่นการไม่อัปเดตระบบและการละเลย audit findings ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำคือ multi-sig wallet, formal verification และ anomaly detection ➡️ Gnosis Safe เป็นเครื่องมือยอดนิยมใน DeFi ✅ ตลาด crypto lending มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ➡️ คาดว่าจะกลายเป็นเครื่องมือการเงินหลักในอนาคต ✅ Blockchain ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง ➡️ แต่ก็ยังต้องพึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง ✅ End-to-end encryption และ biometric login เป็นแนวทางเสริมความปลอดภัย ➡️ ช่วยลดความเสี่ยงจาก phishing และ social engineering ✅ การใช้ระบบ real-time monitoring และ kill switch ช่วยหยุดการโจมตีทันที ➡️ ลดความเสียหายจากการเจาะระบบแบบ flash attack https://hackread.com/navigating-cybersecurity-risks-crypto-backed-lending/
    HACKREAD.COM
    Navigating Cybersecurity Risks in Crypto-Backed Lending
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารพรานไทยขับไล่ทหารกัมพูชาพ้น "ตลาดช่องอานม้า"...สั่งยุติรื้อลวดหนาม...พร้อมตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง
    https://www.thai-tai.tv/news/20778/
    .
    #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    ทหารพรานไทยขับไล่ทหารกัมพูชาพ้น "ตลาดช่องอานม้า"...สั่งยุติรื้อลวดหนาม...พร้อมตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง https://www.thai-tai.tv/news/20778/ . #ตลาดช่องอานม้า #ทหารพราน #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขาขึ้น ทุกกลุ่ม? (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    ขาขึ้น ทุกกลุ่ม? (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กลยุทธ์ลงทุน ช่วง SET รุ่ง (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    กลยุทธ์ลงทุน ช่วง SET รุ่ง (05/08/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • THAI ถูกคาดหวังการเติบโต 05/08/68 #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #การบินไทย #หุ้น THAI
    THAI ถูกคาดหวังการเติบโต 05/08/68 #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #การบินไทย #หุ้น THAI
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เก็งกำไร เน้นหุ้นใหญ่ มี story 05/08/68 #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #หุ้นใหญ่ #เก็งกำไร #เศรษฐกิจ
    เก็งกำไร เน้นหุ้นใหญ่ มี story 05/08/68 #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #หุ้นใหญ่ #เก็งกำไร #เศรษฐกิจ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: US CLOUD Act กับแรงสั่นสะเทือนอธิปไตยข้อมูลไทย

    ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า และ AI คือเครื่องมือแห่งอำนาจ ประเทศมหาอำนาจต่างเร่งสะสม “ข้อมูล” ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติสหรัฐที่ครองตลาด hyperscaler ทั่วโลก แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ กฎหมาย CLOUD Act ของสหรัฐฯ ที่ออกในปี 2018 ได้เปลี่ยนเกมนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

    กฎหมายนี้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่สหรัฐเรียกดูข้อมูลจากบริษัทอเมริกันได้ แม้ข้อมูลนั้นจะอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ เช่น ไทย หรือยุโรป โดยไม่ต้องผ่านรัฐบาลประเทศนั้นเลย และหากบริษัทไม่ยอมส่งข้อมูล ก็ต้องไปโต้แย้งในศาลสหรัฐเอง ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลไทยหรือ EU

    ผลกระทบจึงไม่ใช่แค่เรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” แต่ลามไปถึง “อธิปไตยไซเบอร์” ของประเทศ เช่น ข้อมูลความมั่นคงแห่งชาติ ข้อมูลทางการค้า หรือข้อมูลบุคคลจาก EU ที่อาจละเมิด GDPR ได้ทันทีหากถูกเรียกดูโดยสหรัฐ

    หลายประเทศจึงเริ่มตอบโต้ เช่น ฝรั่งเศสออกมาตรฐาน SecNumCloud ที่ห้ามผู้ให้บริการตกอยู่ภายใต้ CLOUD Act เยอรมนีผลักดัน GAIA-X คลาวด์แบบกระจายศูนย์ และออสเตรเลียแม้จะลงนามข้อตกลงกับสหรัฐ แต่ก็ออกกฎหมายบังคับให้เก็บข้อมูลสำคัญในประเทศและเข้ารหัสสองชั้น

    สำหรับไทย บทความแนะนำให้เริ่มจากการประเมินประเภทข้อมูล กำหนดตำแหน่งจัดเก็บ ต่อรองสัญญาให้โปร่งใส และวางระบบเข้ารหัสที่เราถือกุญแจเอง เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความคล่องตัวทางธุรกิจและอธิปไตยไซเบอร์

    CLOUD Act ละเมิดหลักการอธิปไตยข้อมูลของประเทศต่างๆ
    โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บโดยบริษัทสหรัฐ แม้ในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ

    องค์กรไทยอาจตกอยู่ในความเสี่ยงทางกฎหมายทั้งจากสหรัฐและ EU
    หากไม่วางแผนการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูลอย่างรอบคอบ

    การใช้คลาวด์ไม่ใช่แค่การส่งออกข้อมูล แต่คือการส่งออก “เขตอำนาจศาล”
    เส้นแบ่งแดนในโลกกายภาพไม่รับประกันความเป็นเจ้าของข้อมูล

    https://www.thansettakij.com/blogs/columnist/635062
    🌐🔐 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: US CLOUD Act กับแรงสั่นสะเทือนอธิปไตยข้อมูลไทย ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า และ AI คือเครื่องมือแห่งอำนาจ ประเทศมหาอำนาจต่างเร่งสะสม “ข้อมูล” ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติสหรัฐที่ครองตลาด hyperscaler ทั่วโลก แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ กฎหมาย CLOUD Act ของสหรัฐฯ ที่ออกในปี 2018 ได้เปลี่ยนเกมนี้ไปอย่างสิ้นเชิง กฎหมายนี้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่สหรัฐเรียกดูข้อมูลจากบริษัทอเมริกันได้ แม้ข้อมูลนั้นจะอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ เช่น ไทย หรือยุโรป โดยไม่ต้องผ่านรัฐบาลประเทศนั้นเลย และหากบริษัทไม่ยอมส่งข้อมูล ก็ต้องไปโต้แย้งในศาลสหรัฐเอง ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลไทยหรือ EU ผลกระทบจึงไม่ใช่แค่เรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” แต่ลามไปถึง “อธิปไตยไซเบอร์” ของประเทศ เช่น ข้อมูลความมั่นคงแห่งชาติ ข้อมูลทางการค้า หรือข้อมูลบุคคลจาก EU ที่อาจละเมิด GDPR ได้ทันทีหากถูกเรียกดูโดยสหรัฐ หลายประเทศจึงเริ่มตอบโต้ เช่น ฝรั่งเศสออกมาตรฐาน SecNumCloud ที่ห้ามผู้ให้บริการตกอยู่ภายใต้ CLOUD Act เยอรมนีผลักดัน GAIA-X คลาวด์แบบกระจายศูนย์ และออสเตรเลียแม้จะลงนามข้อตกลงกับสหรัฐ แต่ก็ออกกฎหมายบังคับให้เก็บข้อมูลสำคัญในประเทศและเข้ารหัสสองชั้น สำหรับไทย บทความแนะนำให้เริ่มจากการประเมินประเภทข้อมูล กำหนดตำแหน่งจัดเก็บ ต่อรองสัญญาให้โปร่งใส และวางระบบเข้ารหัสที่เราถือกุญแจเอง เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความคล่องตัวทางธุรกิจและอธิปไตยไซเบอร์ ‼️ CLOUD Act ละเมิดหลักการอธิปไตยข้อมูลของประเทศต่างๆ ⛔ โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บโดยบริษัทสหรัฐ แม้ในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ‼️ องค์กรไทยอาจตกอยู่ในความเสี่ยงทางกฎหมายทั้งจากสหรัฐและ EU ⛔ หากไม่วางแผนการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูลอย่างรอบคอบ ‼️ การใช้คลาวด์ไม่ใช่แค่การส่งออกข้อมูล แต่คือการส่งออก “เขตอำนาจศาล” ⛔ เส้นแบ่งแดนในโลกกายภาพไม่รับประกันความเป็นเจ้าของข้อมูล https://www.thansettakij.com/blogs/columnist/635062
    WWW.THANSETTAKIJ.COM
    “ข้อมูลอยู่ไหน ใครเข้าถึงได้บ้าง” ทำไม US CLOUD Act อาจเป็นแรงสั่นสะเทือนอธิปไตยไซเบอร์ไทย และเราควรรับมืออย่างไร
    โดย นรินทร์ฤทธิ์ เปรมอภิวัฒโนกุล (AFONcyber) อุปนายกสมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ (TISA) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซอเวอเร้นท์ จำกัด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนาม AI: AMD ลุกขึ้นท้าชน NVIDIA ด้วยกลยุทธ์ใหม่ที่ไม่ใช่แค่ชิปแรง

    ย้อนกลับไปในปี 2022 เมื่อ ChatGPT จุดกระแส AI ให้ลุกเป็นไฟ NVIDIA ก็กลายเป็นเจ้าตลาดทันที เพราะมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พร้อมใช้งาน ขณะที่ AMD ยังอยู่กับ CPU และ GPU แบบเดิม จนกระทั่งปี 2023 Lisa Su ซีอีโอของ AMD ประกาศเปลี่ยนทิศทางบริษัทเข้าสู่ตลาด AI อย่างเต็มตัว

    แต่การไล่ตามไม่ง่าย เพราะ NVIDIA ไม่ได้ขายแค่ชิป แต่ขาย “ระบบนิเวศ” ที่ผูกขาดด้วย CUDA และเครื่องมือพัฒนาแบบ proprietary ทำให้ Big Tech อย่าง Microsoft, Meta และ OpenAI ติดสัญญาและไม่กล้าเปลี่ยนฝั่งง่ายๆ

    AMD จึงต้องสร้างทุกอย่างใหม่ ตั้งแต่ชิป MI300X ที่มี VRAM 192GB มากกว่า H100 ของ NVIDIA ถึงเท่าตัว ไปจนถึงการเปิดตัว Helios rack-scale AI server ที่ใช้ EPYC Venice CPU และเตรียมเปิดตัว MI400 ที่ใช้ HBM4 พร้อมหน่วยความจำเพิ่มขึ้นอีก 50%

    แม้ MI300X จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า H100 ในงาน inferencing ขนาดเล็กและใหญ่ แต่ยังแพ้ใน batch ขนาดกลาง และราคาต่อชั่วโมงก็สูงกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณรวมแล้ว AMD กลับคุ้มค่ากว่าในหลายกรณี

    AMD ยังพยายามสร้างซอฟต์แวร์ ecosystem ของตัวเอง และเริ่มได้รับความสนใจจาก Big Tech ที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มทางเลือก เช่น Microsoft และ OpenAI ที่เริ่มใช้เทคโนโลยีของ AMD ในบางส่วน

    AMD เปลี่ยนทิศทางเข้าสู่ตลาด AI ตั้งแต่ปี 2023
    หลังจากกระแส ChatGPT ทำให้ AI กลายเป็นเทรนด์หลัก

    เปิดตัวชิป MI300X ที่มี VRAM 192GB และใช้สถาปัตยกรรม CDNA 3
    มีประสิทธิภาพสูงใน inferencing ขนาดเล็กและใหญ่

    เตรียมเปิดตัว MI400 ที่ใช้ HBM4 และมีหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 50%
    พร้อมเปิดตัว Helios rack-scale server สำหรับองค์กร

    AMD เริ่มได้รับความสนใจจาก Microsoft, Meta และ OpenAI
    ด้วยราคาที่ถูกกว่าและความพร้อมในการจัดส่ง

    MI300X มีราคาต่อชั่วโมงสูงกว่า H100 เล็กน้อย แต่คุ้มค่ากว่าในบางงาน
    โดยเฉพาะงานที่ใช้ batch ขนาดเล็กหรือใหญ่

    AMD คาดการณ์ตลาดชิป AI ปีนี้มีมูลค่า $45 พันล้าน
    ตั้งเป้ายอดขายชิป AI ที่ $2 พันล้านในปี 2024

    MI300X สามารถรันโมเดล Mixtral 7x8B ได้บน GPU เดียว
    ขณะที่ H100 ต้องใช้ tensor parallelism บนสอง GPU

    AMD พัฒนา ecosystem แบบเปิดเพื่อแข่งกับ CUDA ของ NVIDIA
    เน้นความยืดหยุ่นและลดการผูกขาด

    NVIDIA ยังครองตลาดด้วย ecosystem ที่ผูกขาดและครอบคลุม
    ทำให้ลูกค้ารายใหญ่ลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้ AMD

    AMD ยังขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและสื่อเทคโนโลยี
    ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการยอมรับในตลาด

    การแข่งขันไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพของชิป
    แต่ต้องสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

    https://wccftech.com/is-amd-the-next-major-threat-to-nvidias-long-standing-ai-dominance/
    🚀🧠 เรื่องเล่าจากสนาม AI: AMD ลุกขึ้นท้าชน NVIDIA ด้วยกลยุทธ์ใหม่ที่ไม่ใช่แค่ชิปแรง ย้อนกลับไปในปี 2022 เมื่อ ChatGPT จุดกระแส AI ให้ลุกเป็นไฟ NVIDIA ก็กลายเป็นเจ้าตลาดทันที เพราะมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พร้อมใช้งาน ขณะที่ AMD ยังอยู่กับ CPU และ GPU แบบเดิม จนกระทั่งปี 2023 Lisa Su ซีอีโอของ AMD ประกาศเปลี่ยนทิศทางบริษัทเข้าสู่ตลาด AI อย่างเต็มตัว แต่การไล่ตามไม่ง่าย เพราะ NVIDIA ไม่ได้ขายแค่ชิป แต่ขาย “ระบบนิเวศ” ที่ผูกขาดด้วย CUDA และเครื่องมือพัฒนาแบบ proprietary ทำให้ Big Tech อย่าง Microsoft, Meta และ OpenAI ติดสัญญาและไม่กล้าเปลี่ยนฝั่งง่ายๆ AMD จึงต้องสร้างทุกอย่างใหม่ ตั้งแต่ชิป MI300X ที่มี VRAM 192GB มากกว่า H100 ของ NVIDIA ถึงเท่าตัว ไปจนถึงการเปิดตัว Helios rack-scale AI server ที่ใช้ EPYC Venice CPU และเตรียมเปิดตัว MI400 ที่ใช้ HBM4 พร้อมหน่วยความจำเพิ่มขึ้นอีก 50% แม้ MI300X จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า H100 ในงาน inferencing ขนาดเล็กและใหญ่ แต่ยังแพ้ใน batch ขนาดกลาง และราคาต่อชั่วโมงก็สูงกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณรวมแล้ว AMD กลับคุ้มค่ากว่าในหลายกรณี AMD ยังพยายามสร้างซอฟต์แวร์ ecosystem ของตัวเอง และเริ่มได้รับความสนใจจาก Big Tech ที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มทางเลือก เช่น Microsoft และ OpenAI ที่เริ่มใช้เทคโนโลยีของ AMD ในบางส่วน ✅ AMD เปลี่ยนทิศทางเข้าสู่ตลาด AI ตั้งแต่ปี 2023 ➡️ หลังจากกระแส ChatGPT ทำให้ AI กลายเป็นเทรนด์หลัก ✅ เปิดตัวชิป MI300X ที่มี VRAM 192GB และใช้สถาปัตยกรรม CDNA 3 ➡️ มีประสิทธิภาพสูงใน inferencing ขนาดเล็กและใหญ่ ✅ เตรียมเปิดตัว MI400 ที่ใช้ HBM4 และมีหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 50% ➡️ พร้อมเปิดตัว Helios rack-scale server สำหรับองค์กร ✅ AMD เริ่มได้รับความสนใจจาก Microsoft, Meta และ OpenAI ➡️ ด้วยราคาที่ถูกกว่าและความพร้อมในการจัดส่ง ✅ MI300X มีราคาต่อชั่วโมงสูงกว่า H100 เล็กน้อย แต่คุ้มค่ากว่าในบางงาน ➡️ โดยเฉพาะงานที่ใช้ batch ขนาดเล็กหรือใหญ่ ✅ AMD คาดการณ์ตลาดชิป AI ปีนี้มีมูลค่า $45 พันล้าน ➡️ ตั้งเป้ายอดขายชิป AI ที่ $2 พันล้านในปี 2024 ✅ MI300X สามารถรันโมเดล Mixtral 7x8B ได้บน GPU เดียว ➡️ ขณะที่ H100 ต้องใช้ tensor parallelism บนสอง GPU ✅ AMD พัฒนา ecosystem แบบเปิดเพื่อแข่งกับ CUDA ของ NVIDIA ➡️ เน้นความยืดหยุ่นและลดการผูกขาด ‼️ NVIDIA ยังครองตลาดด้วย ecosystem ที่ผูกขาดและครอบคลุม ⛔ ทำให้ลูกค้ารายใหญ่ลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้ AMD ‼️ AMD ยังขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและสื่อเทคโนโลยี ⛔ ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการยอมรับในตลาด ‼️ การแข่งขันไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพของชิป ⛔ แต่ต้องสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ https://wccftech.com/is-amd-the-next-major-threat-to-nvidias-long-standing-ai-dominance/
    WCCFTECH.COM
    Is AMD the Next Major Threat to NVIDIA's Long-Standing AI Dominance? A Deep Dive into How the Firm's Recent Strategies Might Put It in a Much More Competitive Position
    Here's an analysis of how AMD's recent AI moves are shaping the company for a better future, rivaling NVIDIA more dominantly.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากวงการฮาร์ดแวร์: เมื่อจีนส่ง GPU 24GB VRAM ท้าชน NVIDIA และ AMD

    ในโลกที่ NVIDIA และ AMD ครองตลาดกราฟิกการ์ดมานาน จู่ๆ ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนชื่อว่า Lisuan Tech โผล่ขึ้นมาพร้อม GPU รุ่น 7G105 ที่มาพร้อม VRAM ขนาด 24GB และฟีเจอร์ที่ดูจริงจังเกินกว่าจะเป็นแค่ของเล่นสำหรับเกมเมอร์

    Lisuan Tech ไม่ได้เน้น ray tracing หรือ DirectX 12 Ultimate แบบที่ค่ายใหญ่ทำ แต่หันไปโฟกัสที่งาน compute และ virtualization สำหรับตลาด workstation และ enterprise โดยใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ของตัวเอง ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC

    GPU รุ่นนี้รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K AV1 และ HEVC ที่ 60fps และสามารถ encode ได้ทั้ง 4K และ 8K ขึ้นอยู่กับ codec มีพอร์ต DisplayPort 1.4 ถึง 4 ช่อง แต่ไม่มี HDMI เพราะต้องการลดต้นทุนด้านลิขสิทธิ์

    จุดเด่นที่ทำให้มันดูจริงจังคือการรองรับ SR-IOV ซึ่งสามารถแบ่ง GPU ออกเป็น 16 virtual containers ได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    แม้จะมีประสิทธิภาพในระดับ 24 TFLOPs (FP32) ซึ่งใกล้เคียง RTX 4060 แต่ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น ความเร็วสัญญาณนาฬิกา, ความถี่หน่วยความจำ และการใช้พลังงานที่ยังไม่เปิดเผย รวมถึงการขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในระยะยาว

    Lisuan Tech เปิดตัว GPU รุ่น 7G105 พร้อม VRAM ขนาด 24GB
    เน้นตลาด workstation และ enterprise มากกว่าการเล่นเกม

    ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC
    รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6 แต่ไม่รองรับ ray tracing

    รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K และ encode ได้ทั้ง 4K/8K
    ใช้ DisplayPort 1.4 จำนวน 4 ช่อง ไม่มี HDMI

    รองรับ SR-IOV แบ่ง GPU เป็น 16 virtual containers
    เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์และองค์กรขนาดใหญ่

    ประสิทธิภาพสูงสุด 24 TFLOPs (FP32) ใกล้เคียง RTX 4060
    มีผล benchmark จาก Geekbench และ 3DMark ที่น่าประทับใจ

    รุ่น 7G106 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปมี VRAM 12GB และ TDP 225W
    ใช้พลังงานผ่าน 8-pin PCIe connector และรองรับ 8K HDR

    รุ่น 7G105 สำหรับมืออาชีพมี ECC memory และระบบเข้ารหัสข้อมูล
    รองรับการแสดงผลหลายหน้าจอพร้อมกันในระบบเสมือน

    ผลการทดสอบ synthetic benchmark แสดงว่าแรงกว่า RTX 4060
    แต่ยังไม่ถึงระดับ RTX 5060 หรือ RX 9060 XT

    ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเรื่องความเร็วสัญญาณนาฬิกาและการใช้พลังงาน
    ทำให้ประสิทธิภาพจริงยังเป็นเพียงการคาดการณ์

    ขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในการใช้งานระยะยาว
    อาจมีปัญหาในการใช้งานกับซอฟต์แวร์มืออาชีพ

    ไม่มี HDMI อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ต้องใช้ DisplayPort เท่านั้น ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางกรณี

    https://www.techradar.com/pro/chinese-gpu-vendor-youve-never-heard-of-wants-to-challenge-nvidia-and-amd-in-the-pro-market-with-24gb-vram
    🎮🧠 เรื่องเล่าจากวงการฮาร์ดแวร์: เมื่อจีนส่ง GPU 24GB VRAM ท้าชน NVIDIA และ AMD ในโลกที่ NVIDIA และ AMD ครองตลาดกราฟิกการ์ดมานาน จู่ๆ ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนชื่อว่า Lisuan Tech โผล่ขึ้นมาพร้อม GPU รุ่น 7G105 ที่มาพร้อม VRAM ขนาด 24GB และฟีเจอร์ที่ดูจริงจังเกินกว่าจะเป็นแค่ของเล่นสำหรับเกมเมอร์ Lisuan Tech ไม่ได้เน้น ray tracing หรือ DirectX 12 Ultimate แบบที่ค่ายใหญ่ทำ แต่หันไปโฟกัสที่งาน compute และ virtualization สำหรับตลาด workstation และ enterprise โดยใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ของตัวเอง ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC GPU รุ่นนี้รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K AV1 และ HEVC ที่ 60fps และสามารถ encode ได้ทั้ง 4K และ 8K ขึ้นอยู่กับ codec มีพอร์ต DisplayPort 1.4 ถึง 4 ช่อง แต่ไม่มี HDMI เพราะต้องการลดต้นทุนด้านลิขสิทธิ์ จุดเด่นที่ทำให้มันดูจริงจังคือการรองรับ SR-IOV ซึ่งสามารถแบ่ง GPU ออกเป็น 16 virtual containers ได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความยืดหยุ่น แม้จะมีประสิทธิภาพในระดับ 24 TFLOPs (FP32) ซึ่งใกล้เคียง RTX 4060 แต่ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น ความเร็วสัญญาณนาฬิกา, ความถี่หน่วยความจำ และการใช้พลังงานที่ยังไม่เปิดเผย รวมถึงการขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในระยะยาว ✅ Lisuan Tech เปิดตัว GPU รุ่น 7G105 พร้อม VRAM ขนาด 24GB ➡️ เน้นตลาด workstation และ enterprise มากกว่าการเล่นเกม ✅ ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC ➡️ รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6 แต่ไม่รองรับ ray tracing ✅ รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K และ encode ได้ทั้ง 4K/8K ➡️ ใช้ DisplayPort 1.4 จำนวน 4 ช่อง ไม่มี HDMI ✅ รองรับ SR-IOV แบ่ง GPU เป็น 16 virtual containers ➡️ เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์และองค์กรขนาดใหญ่ ✅ ประสิทธิภาพสูงสุด 24 TFLOPs (FP32) ใกล้เคียง RTX 4060 ➡️ มีผล benchmark จาก Geekbench และ 3DMark ที่น่าประทับใจ ✅ รุ่น 7G106 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปมี VRAM 12GB และ TDP 225W ➡️ ใช้พลังงานผ่าน 8-pin PCIe connector และรองรับ 8K HDR ✅ รุ่น 7G105 สำหรับมืออาชีพมี ECC memory และระบบเข้ารหัสข้อมูล ➡️ รองรับการแสดงผลหลายหน้าจอพร้อมกันในระบบเสมือน ✅ ผลการทดสอบ synthetic benchmark แสดงว่าแรงกว่า RTX 4060 ➡️ แต่ยังไม่ถึงระดับ RTX 5060 หรือ RX 9060 XT ‼️ ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเรื่องความเร็วสัญญาณนาฬิกาและการใช้พลังงาน ⛔ ทำให้ประสิทธิภาพจริงยังเป็นเพียงการคาดการณ์ ‼️ ขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในการใช้งานระยะยาว ⛔ อาจมีปัญหาในการใช้งานกับซอฟต์แวร์มืออาชีพ ‼️ ไม่มี HDMI อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ต้องใช้ DisplayPort เท่านั้น ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางกรณี https://www.techradar.com/pro/chinese-gpu-vendor-youve-never-heard-of-wants-to-challenge-nvidia-and-amd-in-the-pro-market-with-24gb-vram
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อโมเดลถูกลง แต่กำไรหาย—AI subscription กำลังเจอแรงบีบจากความคาดหวังของผู้ใช้

    Ethan Ding นักเขียนและผู้ก่อตั้ง TextQL วิเคราะห์ว่า ธุรกิจ AI subscription ที่เคยหวังว่าจะทำกำไรจากการลดต้นทุนของโมเดลกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะแม้ต้นทุน inference จะลดลงจริง (เช่น GPT-3.5 ถูกลง 10 เท่า) แต่ผู้ใช้กลับไม่สนใจโมเดลเก่าเลย

    เมื่อโมเดลใหม่อย่าง GPT-4 หรือ Claude 3 Opus เปิดตัว แม้ราคาจะสูงถึง $60 ต่อเดือน ผู้ใช้ก็แห่ไปใช้ทันที ทิ้งโมเดลเก่าที่ราคาถูกกว่า 20–30 เท่าไว้เบื้องหลัง เพราะ “ไม่มีใครอยากใช้เวอร์ชันแย่เพื่อประหยัดเงินให้เจ้านาย”

    ผลคือบริษัทที่เคยวางแผนว่า “ปีแรกขาดทุน ปีสองกำไร 90% เพราะต้นทุนลดลง” กลับเจอความจริงที่ว่า “ต้นทุนลดลงเฉพาะโมเดลที่ไม่มีใครใช้” ส่วนโมเดลที่ผู้ใช้ต้องการยังคงแพงเหมือนเดิม เพราะมันคือ “ขอบเขตของเทคโนโลยี” ที่ไม่มีทางถูกลงเร็ว ๆ นี้

    ต้นทุนการประมวลผลของโมเดลเก่าลดลงจริง เช่น GPT-3.5 ถูกลง 10 เท่า
    Claude Code และ GPT-3.5 มีราคาต่อ token ต่ำมาก
    แต่ความต้องการใช้งานกลับลดลงอย่างรวดเร็ว

    ผู้ใช้แห่ไปใช้โมเดลใหม่ทันทีที่เปิดตัว แม้ราคาสูงกว่า 20–30 เท่า
    เช่น GPT-4 หรือ Claude 3 Opus ที่ราคา $60 ต่อเดือน
    โมเดลเก่ากลายเป็น “มือถือปุ่มกดในยุค iPhone”

    ธุรกิจ AI subscription ที่หวังจะทำกำไรจากต้นทุนที่ลดลงกำลังเจอแรงบีบ
    เช่น WindSurf ต้องขายกิจการ และ Claude Code ต้องลด tier $200 แบบไม่จำกัด
    โมเดลใหม่ยังคงมีต้นทุนสูงเพราะอยู่ที่ขอบเขตของเทคโนโลยี

    ผู้ใช้ต้องการ “โมเดลที่ดีที่สุด” ไม่ใช่ “โมเดลที่ถูกที่สุด”
    การใช้งาน AI เช่น coding หรือเขียนบทความ ต้องการคุณภาพสูงสุด
    ไม่มีใครเปิด Claude แล้วเลือกเวอร์ชันแย่เพื่อประหยัดเงิน

    การเปรียบเทียบต้นทุนโมเดลเก่าเหมือนพูดว่า “รถปี 1995 ถูกลง” ขณะที่คนอยากซื้อรถปี 2025
    ราคาถูกของโมเดลเก่าไม่เกี่ยวกับความต้องการในตลาด
    โมเดลใหม่ยังคงมีราคาสูงตามต้นทุนจริง

    https://ethanding.substack.com/p/ai-subscriptions-get-short-squeezed
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อโมเดลถูกลง แต่กำไรหาย—AI subscription กำลังเจอแรงบีบจากความคาดหวังของผู้ใช้ Ethan Ding นักเขียนและผู้ก่อตั้ง TextQL วิเคราะห์ว่า ธุรกิจ AI subscription ที่เคยหวังว่าจะทำกำไรจากการลดต้นทุนของโมเดลกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะแม้ต้นทุน inference จะลดลงจริง (เช่น GPT-3.5 ถูกลง 10 เท่า) แต่ผู้ใช้กลับไม่สนใจโมเดลเก่าเลย เมื่อโมเดลใหม่อย่าง GPT-4 หรือ Claude 3 Opus เปิดตัว แม้ราคาจะสูงถึง $60 ต่อเดือน ผู้ใช้ก็แห่ไปใช้ทันที ทิ้งโมเดลเก่าที่ราคาถูกกว่า 20–30 เท่าไว้เบื้องหลัง เพราะ “ไม่มีใครอยากใช้เวอร์ชันแย่เพื่อประหยัดเงินให้เจ้านาย” ผลคือบริษัทที่เคยวางแผนว่า “ปีแรกขาดทุน ปีสองกำไร 90% เพราะต้นทุนลดลง” กลับเจอความจริงที่ว่า “ต้นทุนลดลงเฉพาะโมเดลที่ไม่มีใครใช้” ส่วนโมเดลที่ผู้ใช้ต้องการยังคงแพงเหมือนเดิม เพราะมันคือ “ขอบเขตของเทคโนโลยี” ที่ไม่มีทางถูกลงเร็ว ๆ นี้ ✅ ต้นทุนการประมวลผลของโมเดลเก่าลดลงจริง เช่น GPT-3.5 ถูกลง 10 เท่า ➡️ Claude Code และ GPT-3.5 มีราคาต่อ token ต่ำมาก ➡️ แต่ความต้องการใช้งานกลับลดลงอย่างรวดเร็ว ✅ ผู้ใช้แห่ไปใช้โมเดลใหม่ทันทีที่เปิดตัว แม้ราคาสูงกว่า 20–30 เท่า ➡️ เช่น GPT-4 หรือ Claude 3 Opus ที่ราคา $60 ต่อเดือน ➡️ โมเดลเก่ากลายเป็น “มือถือปุ่มกดในยุค iPhone” ✅ ธุรกิจ AI subscription ที่หวังจะทำกำไรจากต้นทุนที่ลดลงกำลังเจอแรงบีบ ➡️ เช่น WindSurf ต้องขายกิจการ และ Claude Code ต้องลด tier $200 แบบไม่จำกัด ➡️ โมเดลใหม่ยังคงมีต้นทุนสูงเพราะอยู่ที่ขอบเขตของเทคโนโลยี ✅ ผู้ใช้ต้องการ “โมเดลที่ดีที่สุด” ไม่ใช่ “โมเดลที่ถูกที่สุด” ➡️ การใช้งาน AI เช่น coding หรือเขียนบทความ ต้องการคุณภาพสูงสุด ➡️ ไม่มีใครเปิด Claude แล้วเลือกเวอร์ชันแย่เพื่อประหยัดเงิน ✅ การเปรียบเทียบต้นทุนโมเดลเก่าเหมือนพูดว่า “รถปี 1995 ถูกลง” ขณะที่คนอยากซื้อรถปี 2025 ➡️ ราคาถูกของโมเดลเก่าไม่เกี่ยวกับความต้องการในตลาด ➡️ โมเดลใหม่ยังคงมีราคาสูงตามต้นทุนจริง https://ethanding.substack.com/p/ai-subscriptions-get-short-squeezed
    ETHANDING.SUBSTACK.COM
    tokens are getting more expensive
    "language models will get cheaper by 10x" will not save ai subscriptions from the short squeeze
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • การบินไทย สยายปีก นำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จจากการฟื้นฟูกิจการ เป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในฐานะสายการบินแห่งชาติ ย้ำการจัดหาเครื่องบินใหม่ อยู่ในแผนตั้งแต่ช่วงฟื้นฟู ไม่เกี่ยวดีลภาษีทรัมป์ ไร้แรงกดดันทางการเมือง!
    การบินไทย สยายปีก นำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จจากการฟื้นฟูกิจการ เป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในฐานะสายการบินแห่งชาติ ย้ำการจัดหาเครื่องบินใหม่ อยู่ในแผนตั้งแต่ช่วงฟื้นฟู ไม่เกี่ยวดีลภาษีทรัมป์ ไร้แรงกดดันทางการเมือง!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทบ.ยันรุกยึดพื้นที่ตลาดช่องอานม้า เฉพาะที่เคยเป็นเขตอธิปไตยไทยแต่เขมรรุกล้ำ ประท้วงแล้วไม่แก้ไขมานาน จึงส่งชุดเคลียร์ทุ่นระเบิดที่กัมพูชาอาจแอบวางไว้ แล้วนำกำลังไปวางคุมพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073871

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ.ยันรุกยึดพื้นที่ตลาดช่องอานม้า เฉพาะที่เคยเป็นเขตอธิปไตยไทยแต่เขมรรุกล้ำ ประท้วงแล้วไม่แก้ไขมานาน จึงส่งชุดเคลียร์ทุ่นระเบิดที่กัมพูชาอาจแอบวางไว้ แล้วนำกำลังไปวางคุมพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073871 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มทภ.2" โต้ "พล.ท.มาลี" ทหารไทยยึดช่องอานม้า ก่อนมีมติหยุดยิง ห้ามคนกัมพูชาเข้ามาอาศัยบ้าน-ตลาดที่สร้างไว้โดยละเมิด MOU 43

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073786

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "มทภ.2" โต้ "พล.ท.มาลี" ทหารไทยยึดช่องอานม้า ก่อนมีมติหยุดยิง ห้ามคนกัมพูชาเข้ามาอาศัยบ้าน-ตลาดที่สร้างไว้โดยละเมิด MOU 43 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073786 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่จับคู่ CPU-GPU แบบย้อนยุค—ประหยัดหรือพลาด?

    แบรนด์จีนชื่อ Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่สร้างความงุนงงให้กับวงการ:

    รุ่นแรกชื่อ “Inter Book” ใช้ชิปกราฟิก GeForce GTX 1060 ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2016 จับคู่กับซีพียู Intel N95 ระดับเริ่มต้นจากตระกูล Alder Lake-N ที่มีเพียง 4 คอร์

    รุ่นที่สองชื่อ “Rescue Series” ใช้ซีพียูระดับสูง Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ แต่กลับจับคู่กับ GPU MX550 ซึ่งเป็นชิปกราฟิกระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060 เสียอีก

    ทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่ “เกินจริง” เช่น บอกว่า N95 เป็น “Core i9-class” และหน้าจอ 1080p เป็น “4K-class” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค

    แม้จะดูแปลก แต่ก็มีเหตุผลเบื้องหลัง—อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุนหรือช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพที่ไม่สมดุลและประสบการณ์เล่นเกมที่ไม่น่าประทับใจ

    Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่ใช้ชิ้นส่วนเก่า
    Inter Book ใช้ GTX 1060 + Intel N95
    Rescue Series ใช้ Core i9-12900H + MX550

    GTX 1060 เป็น GPU จากปี 2016 ที่ยังพอเล่นเกมระดับกลางได้
    มี VRAM 6 GB GDDR5
    เล่นเกม 1080p ได้ในระดับกลาง

    Intel N95 เป็นซีพียูระดับเริ่มต้นที่มีเพียง 4 คอร์
    ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W
    ไม่เหมาะกับงานหนักหรือเกมที่ใช้ CPU สูง

    MX550 เป็น GPU ระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060
    มี 1024 shaders และ VRAM 4 GB
    เหมาะกับงานเบา เช่น ตัดต่อภาพหรือวิดีโอเบื้องต้น

    โน้ตบุ๊กทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่เกินจริง
    เรียก N95 ว่า “Core i9-class”
    หน้าจอ 1080p ถูกเรียกว่า “4K-class”

    อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุน
    ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
    อาจเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเกมหนัก

    https://wccftech.com/chinese-manufacturer-uses-gtx-1060-by-releasing-an-entry-level-laptop-with-intel-n95/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่จับคู่ CPU-GPU แบบย้อนยุค—ประหยัดหรือพลาด? แบรนด์จีนชื่อ Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่สร้างความงุนงงให้กับวงการ: ▶️ รุ่นแรกชื่อ “Inter Book” ใช้ชิปกราฟิก GeForce GTX 1060 ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2016 จับคู่กับซีพียู Intel N95 ระดับเริ่มต้นจากตระกูล Alder Lake-N ที่มีเพียง 4 คอร์ ▶️ รุ่นที่สองชื่อ “Rescue Series” ใช้ซีพียูระดับสูง Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ แต่กลับจับคู่กับ GPU MX550 ซึ่งเป็นชิปกราฟิกระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060 เสียอีก ทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่ “เกินจริง” เช่น บอกว่า N95 เป็น “Core i9-class” และหน้าจอ 1080p เป็น “4K-class” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค แม้จะดูแปลก แต่ก็มีเหตุผลเบื้องหลัง—อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุนหรือช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพที่ไม่สมดุลและประสบการณ์เล่นเกมที่ไม่น่าประทับใจ ✅ Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่ใช้ชิ้นส่วนเก่า ➡️ Inter Book ใช้ GTX 1060 + Intel N95 ➡️ Rescue Series ใช้ Core i9-12900H + MX550 ✅ GTX 1060 เป็น GPU จากปี 2016 ที่ยังพอเล่นเกมระดับกลางได้ ➡️ มี VRAM 6 GB GDDR5 ➡️ เล่นเกม 1080p ได้ในระดับกลาง ✅ Intel N95 เป็นซีพียูระดับเริ่มต้นที่มีเพียง 4 คอร์ ➡️ ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W ➡️ ไม่เหมาะกับงานหนักหรือเกมที่ใช้ CPU สูง ✅ MX550 เป็น GPU ระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060 ➡️ มี 1024 shaders และ VRAM 4 GB ➡️ เหมาะกับงานเบา เช่น ตัดต่อภาพหรือวิดีโอเบื้องต้น ✅ โน้ตบุ๊กทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่เกินจริง ➡️ เรียก N95 ว่า “Core i9-class” ➡️ หน้าจอ 1080p ถูกเรียกว่า “4K-class” ✅ อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุน ➡️ ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ➡️ อาจเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเกมหนัก https://wccftech.com/chinese-manufacturer-uses-gtx-1060-by-releasing-an-entry-level-laptop-with-intel-n95/
    WCCFTECH.COM
    Chinese Manufacturer Pairs GTX 1060 With Intel N95 Processor For Its Gaming Laptop; Uses Even A Weirder Combo Of Core i9 12900H+MX550 In Another Model
    Sakuramoto has been producing gaming laptops with weird CPU-GPU combos as seen recently. One of its offerings included GTX 1060 and N95.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อบทสนทนาส่วนตัวกับ ChatGPT กลายเป็นสาธารณะใน Google โดยไม่รู้ตัว

    ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน

    Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์

    แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี

    OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่

    ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search
    ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน
    มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company

    เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน
    เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์
    บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ

    OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา
    ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์
    กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google

    ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard
    แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที
    หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา

    กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด
    เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์
    ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป

    การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ
    โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา
    แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช

    การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย
    ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว
    แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น

    บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
    เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด
    ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ

    การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว
    ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ
    แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน

    https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อบทสนทนาส่วนตัวกับ ChatGPT กลายเป็นสาธารณะใน Google โดยไม่รู้ตัว ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์ แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่ ✅ ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search ➡️ ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน ➡️ มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company ✅ เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน ➡️ เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์ ➡️ บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ ✅ OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา ➡️ ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์ ➡️ กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google ✅ ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard ➡️ แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที ➡️ หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา ✅ กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด ➡️ เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ➡️ ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป ‼️ การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ ⛔ โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา ⛔ แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช ‼️ การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย ⛔ ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว ⛔ แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น ‼️ บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ⛔ เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด ⛔ ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ ‼️ การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว ⛔ ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ ⛔ แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Thousands of private ChatGPT conversations found via Google search after feature mishap
    OpenAI recently confirmed that it has deactivated an opt-in feature that shared chat histories on the open web. Although the functionality required users' explicit permission, its description...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Bolt กลับมาแล้ว—EV ราคาประหยัดที่อเมริกาต้องการ ในวันที่ตลาดกำลังชะลอตัว

    Chevrolet ประกาศรีดีไซน์ Bolt EV สำหรับปี 2027 โดยใช้พอร์ตชาร์จแบบ NACS (North American Charging Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับ Tesla ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์

    นอกจากดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้นและไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงบ่นของผู้ใช้เดิม Bolt รุ่นใหม่ยังใช้แบตเตอรี่แบบ LFP (ลิเธียม-เหล็ก-ฟอสเฟต) ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม

    ในขณะที่ Bolt กลับมาอย่างมั่นใจ Mercedes-Benz และ Porsche กลับต้องลดราคาหรือชะลอการส่งมอบ EV บางรุ่น เพราะยอดขายในอเมริกาชะลอตัว และผู้บริโภคยังมองว่า EV ส่วนใหญ่ “แพงเกินไป” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ย

    Chevrolet Bolt EV รุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2027 พร้อมพอร์ตชาร์จแบบ NACS
    เป็น EV รุ่นแรกของ Chevy ที่ใช้พอร์ต Tesla โดยตรง
    เข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้ทันที

    ใช้แบตเตอรี่ LFP ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนาน
    ช่วยให้ราคาขายต่ำกว่า $30,000 ได้
    ยังไม่มีตัวเลขระยะทางวิ่งที่แน่นอน

    ดีไซน์ใหม่มีไฟหน้า LED แบบบาง, ล้ออัลลอยใหม่ และไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงผู้ใช้เดิม
    ดูสปอร์ตและทันสมัยขึ้น
    ยังใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมแต่ปรับปรุงภายใน

    Mercedes-Benz ลดราคาหลายรุ่นในกลุ่ม EQ และชะลอการส่งมอบบางรุ่นเพื่อควบคุมสต็อก
    สะท้อนความต้องการ EV ที่ลดลงในอเมริกา
    Porsche ก็ลดเป้าหมายรายได้จากผลกระทบของภาษีการค้า

    ตลาด EV ในอเมริกายังต้องการรถราคาประหยัดเพื่อกระตุ้นการใช้งานในวงกว้าง
    Nissan Leaf และ Hyundai Kona Electric ยังเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้
    แต่หลายรุ่นยังมีราคาสูงกว่า $40,000

    NACS กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอเมริกา โดยผู้ผลิตหลายรายเริ่มเปลี่ยนมาใช้แทน CCS
    เช่น Ford, Hyundai, GM และ Rivian
    ช่วยให้เครือข่ายชาร์จมีความเป็นหนึ่งเดียว

    แบตเตอรี่ LFP มีข้อดีคือราคาถูกและปลอดภัย แต่มีพลังงานต่อหน่วยต่ำกว่า NMC
    เหมาะกับรถราคาประหยัดและใช้งานในเมือง
    ไม่เหมาะกับรถที่ต้องการระยะทางวิ่งไกลมาก

    ตลาด EV ในจีนมีรถราคาต่ำกว่า $10,000 ที่ขายดีมาก เช่น BYD Seagull
    สหรัฐฯ ยังไม่มีรถระดับนี้ในตลาด
    Bolt อาจเป็นตัวแทนของ EV ราคาประหยัดในอเมริกา

    Bolt รุ่นใหม่ยังไม่มีข้อมูลระยะทางวิ่งที่แน่นอนจากแบตเตอรี่ LFP
    อาจต่ำกว่าคู่แข่งที่ใช้แบตเตอรี่ NMC
    ต้องรอการทดสอบจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

    การใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมอาจจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในระยะยาว
    ไม่รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูง
    อาจไม่ทันกับคู่แข่งที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด

    การพึ่งพาพอร์ต NACS อาจทำให้ผู้ใช้ต้องปรับพฤติกรรมการชาร์จ หากเคยใช้ CCS มาก่อน
    ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือพฤติกรรมการใช้งาน
    อาจเกิดความสับสนในช่วงเปลี่ยนผ่าน

    ตลาด EV ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะหากสิทธิ์ลดหย่อนภาษีหมดอายุในเดือนกันยายน
    อาจทำให้ราคาสุทธิของ Bolt สูงขึ้น
    ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/americas-cheapest-ev-is-making-a-comeback-with-a-new-chevrolet-bolt-as-mercedes-cuts-its-electric-car-prices
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Bolt กลับมาแล้ว—EV ราคาประหยัดที่อเมริกาต้องการ ในวันที่ตลาดกำลังชะลอตัว Chevrolet ประกาศรีดีไซน์ Bolt EV สำหรับปี 2027 โดยใช้พอร์ตชาร์จแบบ NACS (North American Charging Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับ Tesla ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์ นอกจากดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้นและไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงบ่นของผู้ใช้เดิม Bolt รุ่นใหม่ยังใช้แบตเตอรี่แบบ LFP (ลิเธียม-เหล็ก-ฟอสเฟต) ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม ในขณะที่ Bolt กลับมาอย่างมั่นใจ Mercedes-Benz และ Porsche กลับต้องลดราคาหรือชะลอการส่งมอบ EV บางรุ่น เพราะยอดขายในอเมริกาชะลอตัว และผู้บริโภคยังมองว่า EV ส่วนใหญ่ “แพงเกินไป” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ย ✅ Chevrolet Bolt EV รุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2027 พร้อมพอร์ตชาร์จแบบ NACS ➡️ เป็น EV รุ่นแรกของ Chevy ที่ใช้พอร์ต Tesla โดยตรง ➡️ เข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้ทันที ✅ ใช้แบตเตอรี่ LFP ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนาน ➡️ ช่วยให้ราคาขายต่ำกว่า $30,000 ได้ ➡️ ยังไม่มีตัวเลขระยะทางวิ่งที่แน่นอน ✅ ดีไซน์ใหม่มีไฟหน้า LED แบบบาง, ล้ออัลลอยใหม่ และไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงผู้ใช้เดิม ➡️ ดูสปอร์ตและทันสมัยขึ้น ➡️ ยังใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมแต่ปรับปรุงภายใน ✅ Mercedes-Benz ลดราคาหลายรุ่นในกลุ่ม EQ และชะลอการส่งมอบบางรุ่นเพื่อควบคุมสต็อก ➡️ สะท้อนความต้องการ EV ที่ลดลงในอเมริกา ➡️ Porsche ก็ลดเป้าหมายรายได้จากผลกระทบของภาษีการค้า ✅ ตลาด EV ในอเมริกายังต้องการรถราคาประหยัดเพื่อกระตุ้นการใช้งานในวงกว้าง ➡️ Nissan Leaf และ Hyundai Kona Electric ยังเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ ➡️ แต่หลายรุ่นยังมีราคาสูงกว่า $40,000 ✅ NACS กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอเมริกา โดยผู้ผลิตหลายรายเริ่มเปลี่ยนมาใช้แทน CCS ➡️ เช่น Ford, Hyundai, GM และ Rivian ➡️ ช่วยให้เครือข่ายชาร์จมีความเป็นหนึ่งเดียว ✅ แบตเตอรี่ LFP มีข้อดีคือราคาถูกและปลอดภัย แต่มีพลังงานต่อหน่วยต่ำกว่า NMC ➡️ เหมาะกับรถราคาประหยัดและใช้งานในเมือง ➡️ ไม่เหมาะกับรถที่ต้องการระยะทางวิ่งไกลมาก ✅ ตลาด EV ในจีนมีรถราคาต่ำกว่า $10,000 ที่ขายดีมาก เช่น BYD Seagull ➡️ สหรัฐฯ ยังไม่มีรถระดับนี้ในตลาด ➡️ Bolt อาจเป็นตัวแทนของ EV ราคาประหยัดในอเมริกา ‼️ Bolt รุ่นใหม่ยังไม่มีข้อมูลระยะทางวิ่งที่แน่นอนจากแบตเตอรี่ LFP ⛔ อาจต่ำกว่าคู่แข่งที่ใช้แบตเตอรี่ NMC ⛔ ต้องรอการทดสอบจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ‼️ การใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมอาจจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในระยะยาว ⛔ ไม่รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูง ⛔ อาจไม่ทันกับคู่แข่งที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด ‼️ การพึ่งพาพอร์ต NACS อาจทำให้ผู้ใช้ต้องปรับพฤติกรรมการชาร์จ หากเคยใช้ CCS มาก่อน ⛔ ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือพฤติกรรมการใช้งาน ⛔ อาจเกิดความสับสนในช่วงเปลี่ยนผ่าน ‼️ ตลาด EV ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะหากสิทธิ์ลดหย่อนภาษีหมดอายุในเดือนกันยายน ⛔ อาจทำให้ราคาสุทธิของ Bolt สูงขึ้น ⛔ ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/americas-cheapest-ev-is-making-a-comeback-with-a-new-chevrolet-bolt-as-mercedes-cuts-its-electric-car-prices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: SK hynix แซง Samsung ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก—ชัยชนะจาก HBM ที่ขับเคลื่อน AI

    ในไตรมาส 2 ปี 2025 SK hynix สร้างประวัติศาสตร์ด้วยรายได้จากธุรกิจหน่วยความจำสูงถึง $9.66 พันล้าน แซงหน้า Samsung ที่ทำได้ $8.94 พันล้าน และครองส่วนแบ่งตลาด 36.2% เทียบกับ 33.5% ของคู่แข่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ SK hynix ขึ้นนำตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1983

    เบื้องหลังความสำเร็จคือการรุกเข้าสู่ตลาด High-Bandwidth Memory (HBM) อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ HBM3 และ HBM3E ที่กลายเป็นหัวใจของการประมวลผล AI บน GPU ของ Nvidia เช่น B300 และ L40S

    ในขณะที่ Samsung ยังครองตลาด NAND และ DRAM แบบดั้งเดิม แต่กลับล่าช้าในการส่งมอบ HBM3E ให้ลูกค้า ทำให้เสียโอกาสในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในยุค AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/sk-hynix-dethrones-samsung-to-become-worlds-top-selling-memory-maker-for-the-first-time-success-mostly-attributed-to-its-hbm3-dominance-for-nvidias-ai-gpus
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: SK hynix แซง Samsung ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก—ชัยชนะจาก HBM ที่ขับเคลื่อน AI ในไตรมาส 2 ปี 2025 SK hynix สร้างประวัติศาสตร์ด้วยรายได้จากธุรกิจหน่วยความจำสูงถึง $9.66 พันล้าน แซงหน้า Samsung ที่ทำได้ $8.94 พันล้าน และครองส่วนแบ่งตลาด 36.2% เทียบกับ 33.5% ของคู่แข่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ SK hynix ขึ้นนำตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1983 เบื้องหลังความสำเร็จคือการรุกเข้าสู่ตลาด High-Bandwidth Memory (HBM) อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ HBM3 และ HBM3E ที่กลายเป็นหัวใจของการประมวลผล AI บน GPU ของ Nvidia เช่น B300 และ L40S ในขณะที่ Samsung ยังครองตลาด NAND และ DRAM แบบดั้งเดิม แต่กลับล่าช้าในการส่งมอบ HBM3E ให้ลูกค้า ทำให้เสียโอกาสในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในยุค AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/sk-hynix-dethrones-samsung-to-become-worlds-top-selling-memory-maker-for-the-first-time-success-mostly-attributed-to-its-hbm3-dominance-for-nvidias-ai-gpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts