• AMD เปิดตัว FSR 4 “Redstone”

    AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026

    นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้

    นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่

    อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone
    Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล
    Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น
    Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026

    การรองรับเกม
    กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025
    เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök

    ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ
    ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4)
    รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้
    ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026
    ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
    📰 AMD เปิดตัว FSR 4 “Redstone” AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026 นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้ นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone ➡️ Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล ➡️ Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น ➡️ Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026 ✅ การรองรับเกม ➡️ กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 ➡️ เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök ✅ ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ➡️ ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4) ➡️ รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้ ⛔ ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026 ⛔ ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD FSR 4 Redstone Review
    AMD's FSR Redstone is finally here—and it's more than just another FSR update. With ML-powered frame generation that can match (and sometimes beat) DLSS, smarter ray tracing cleanup, and excellent driver-level support, Redstone turns FSR into a competitive performance solution.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเติบโตของชิป Huawei Ascend 910C อาจเป็นเหตุผลที่สหรัฐฯ พลิกนโยบายส่งออก NVIDIA H200

    รายงานล่าสุดเผยว่า การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C AI Accelerator ซึ่งถือเป็นรุ่นต่อยอดจาก Ascend 910 ที่เปิดตัวในปี 2019 ได้สร้างแรงกดดันต่อสหรัฐฯ จนทำให้เกิดการทบทวนและกลับคำสั่งห้ามส่งออกชิป NVIDIA H200 ไปยังจีน การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI ที่ร้อนแรงระหว่างสองประเทศ และความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

    ความก้าวหน้าของ Huawei Ascend 910C
    Huawei ได้พัฒนาชิป Ascend 910C ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากกว่าเดิม โดยมุ่งเน้นการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลเชิงลึก (deep learning) ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถสร้างฮาร์ดแวร์ที่แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกได้ แม้จะเผชิญข้อจำกัดจากการคว่ำบาตร

    ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ
    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้จำกัดการส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงไปยังจีนเพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง แต่เมื่อ Huawei แสดงศักยภาพในการผลิตชิปที่ใกล้เคียงกับ NVIDIA การห้ามส่งออกกลับกลายเป็นการผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเร็วขึ้น การกลับคำสั่งครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดและอิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    มิติทางภูมิรัฐศาสตร์
    การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่ยังเกี่ยวพันกับความมั่นคงและอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับโลก การที่จีนสามารถพัฒนาชิป AI ได้เองถือเป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่สหรัฐฯ ต้องหาทางรักษาความได้เปรียบโดยไม่ผลักดันคู่แข่งให้แข็งแกร่งขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ

    การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C
    ชิป AI รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับงาน deep learning
    แสดงศักยภาพจีนในการแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก

    ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ
    การห้ามส่งออก H200 เดิมกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนพัฒนาเอง
    การกลับคำสั่งช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดของ NVIDIA

    มิติทางภูมิรัฐศาสตร์
    จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก
    สหรัฐฯ ต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาความได้เปรียบ

    คำเตือนและความเสี่ยง
    การแข่งขันด้าน AI อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการเมือง
    การพัฒนาเทคโนโลยีคู่ขนานอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกในห่วงโซ่อุปทานโลก

    https://www.techpowerup.com/343932/huawei-ascend-910c-accelerators-maturation-allegedly-spurred-nvidia-h200-export-reversal
    ⚡ การเติบโตของชิป Huawei Ascend 910C อาจเป็นเหตุผลที่สหรัฐฯ พลิกนโยบายส่งออก NVIDIA H200 รายงานล่าสุดเผยว่า การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C AI Accelerator ซึ่งถือเป็นรุ่นต่อยอดจาก Ascend 910 ที่เปิดตัวในปี 2019 ได้สร้างแรงกดดันต่อสหรัฐฯ จนทำให้เกิดการทบทวนและกลับคำสั่งห้ามส่งออกชิป NVIDIA H200 ไปยังจีน การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI ที่ร้อนแรงระหว่างสองประเทศ และความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ 🖥️ ความก้าวหน้าของ Huawei Ascend 910C Huawei ได้พัฒนาชิป Ascend 910C ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากกว่าเดิม โดยมุ่งเน้นการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลเชิงลึก (deep learning) ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถสร้างฮาร์ดแวร์ที่แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกได้ แม้จะเผชิญข้อจำกัดจากการคว่ำบาตร 🔬 ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้จำกัดการส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงไปยังจีนเพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง แต่เมื่อ Huawei แสดงศักยภาพในการผลิตชิปที่ใกล้เคียงกับ NVIDIA การห้ามส่งออกกลับกลายเป็นการผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเร็วขึ้น การกลับคำสั่งครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดและอิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🌍 มิติทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่ยังเกี่ยวพันกับความมั่นคงและอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับโลก การที่จีนสามารถพัฒนาชิป AI ได้เองถือเป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่สหรัฐฯ ต้องหาทางรักษาความได้เปรียบโดยไม่ผลักดันคู่แข่งให้แข็งแกร่งขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C ➡️ ชิป AI รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับงาน deep learning ➡️ แสดงศักยภาพจีนในการแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก ✅ ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ ➡️ การห้ามส่งออก H200 เดิมกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนพัฒนาเอง ➡️ การกลับคำสั่งช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดของ NVIDIA ✅ มิติทางภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก ➡️ สหรัฐฯ ต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาความได้เปรียบ ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ การแข่งขันด้าน AI อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการเมือง ⛔ การพัฒนาเทคโนโลยีคู่ขนานอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกในห่วงโซ่อุปทานโลก https://www.techpowerup.com/343932/huawei-ascend-910c-accelerators-maturation-allegedly-spurred-nvidia-h200-export-reversal
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Huawei Ascend 910C Accelerator's Maturation Allegedly Spurred NVIDIA H200 Export Reversal
    Earlier this week, the US government approved exports of NVIDIA H200 data center-grade accelerators to China. This reverses a previous decision, to prevent "full fat" H200 hardware reaching Chinese shores. Team Green engineers were reportedly working on a severely reduced "H20" alternative—whispers ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • หุ้นไทย เข้า Wave 5 11/12/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เทรดหุ้นไทย
    หุ้นไทย เข้า Wave 5 11/12/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เทรดหุ้นไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar

    UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย
    สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference

    Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service”
    Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network

    หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง
    เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for

    DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม
    DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains

    Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs

    Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
    Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report

    จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า?
    ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary

    Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com
    เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead

    นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3
    ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked

    Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้
    Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา
    https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu

    Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย
    ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation

    Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง
    ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect

    Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์
    Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app

    Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย
    Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่
    https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india

    AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล
    AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried

    SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S
    AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know

    ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง
    รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge

    Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7
    Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้
    https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7

    Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง
    Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media

    ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน
    หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้
    https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it

    อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16
    หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet

    Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut
    Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google
    https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature

    การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ
    จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า
    https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back

    CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ”
    https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself

    ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น
    มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด
    https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature

    HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่
    เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury

    TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่
    TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs

    Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย
    Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block

    Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา
    Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved

    ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD
    ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
    https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan

    ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี
    หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks

    Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection
    Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome

    Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4
    Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา
    https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals

    ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025
    การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน
    https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize

    Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ
    Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง
    https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand

    ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android
    นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do

    Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU
    งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar 🌊 UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference 🚨 Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service” Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network 🤖 หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for 🚁 DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains 📺 Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs 💼 Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report 🖥️ จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า? ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary 🚗 Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead ⌚ นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3 ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked 🖥️ Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้ Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu 🌐 Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation 📱 Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect 🎬 Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์ Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app 💰 Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india 🎮 AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried 🛡️ SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know 🌐 ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge 📱 Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7 Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7 📸 Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media 🖥️ ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it 🇬🇧 อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16 หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet 🎬 Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature 📱 การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back 📚 CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ” 🔗 https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself 💾 ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature ⚖️ HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่ เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury 🛡️ TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่ TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs 🚫 Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block 🔐 Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved 💻 ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan 🚨 ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks 🛡️ Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome 💾 Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4 Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals 📊 ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025 การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize 💾 Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand 📱 ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do 🔥 Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิทธิพล Delta กดดัน Set (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    อิทธิพล Delta กดดัน Set (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้นกู้ 6รุ่น Phuket ใช้สิทธิ์ (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ก.ล.ต. #ตลาดหุ้น #หุ้น
    ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้นกู้ 6รุ่น Phuket ใช้สิทธิ์ (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ก.ล.ต. #ตลาดหุ้น #หุ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • HWiNFO ยืนยันการเปิดตัว Intel Nova Lake H และ HX รวมถึง Arrow Lake Refresh

    HWiNFO เวอร์ชันใหม่ (8.35) ได้เพิ่มข้อมูลรองรับซีพียู Nova Lake H และ Nova Lake HX ลงในฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าชิปเหล่านี้กำลังถูกเตรียมสำหรับการเปิดตัวจริง แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่ HWiNFO มักเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่เผยข้อมูลล่วงหน้าของซีพียูรุ่นใหม่เสมอ

    รายละเอียดของ Nova Lake H และ HX
    Nova Lake H จะมาแทนที่ตระกูล Panther Lake H โดยมีการออกแบบแบบ hybrid สูงสุด 16 คอร์ (4 P-Core + 8 E-Core + 4 LP-E Core)

    Nova Lake HX จะเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่า รองรับสูงสุดถึง 28 คอร์ โดยเพิ่มจำนวน P-Core และ E-Core เป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่น H

    Nova Lake HX ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ซึ่งใหญ่กว่าซ็อกเก็ต BGA 2114 ของ Arrow Lake HX ประมาณ 20%

    Arrow Lake Refresh
    นอกจาก Nova Lake แล้ว HWiNFO ยังเพิ่มการรองรับ Arrow Lake Refresh ซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 9 290K Plus, Core Ultra 7 270K Plus และ Core Ultra 5 250K Plus โดยทั้งหมดจะมาพร้อมความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นและจำนวนคอร์ที่มากกว่าเดิม

    ความหมายต่อวงการซีพียู
    การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับซีพียูเหล่านี้สะท้อนว่า Intel กำลังเร่งพัฒนาตระกูลใหม่เพื่อแข่งขันกับ AMD โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อประดับสูง Nova Lake HX ที่มี 28 คอร์จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ และ Arrow Lake Refresh จะช่วยต่ออายุแพลตฟอร์มปัจจุบันให้แข็งแกร่งขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การยืนยันจาก HWiNFO
    เวอร์ชัน 8.35 เพิ่มการรองรับ Nova Lake H/HX และ Arrow Lake Refresh

    รายละเอียด Nova Lake H
    แทนที่ Panther Lake H
    สูงสุด 16 คอร์ (4P + 8E + 4LP-E)

    รายละเอียด Nova Lake HX
    สูงสุด 28 คอร์
    ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ใหญ่กว่า Arrow Lake HX

    Arrow Lake Refresh
    รุ่นใหม่ Core Ultra 9 290K Plus, 7 270K Plus, 5 250K Plus
    เพิ่มความเร็วและจำนวนคอร์

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel
    ข้อมูลจาก HWiNFO ไม่ได้การันตีวันเปิดตัวจริง
    ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องสเปกและราคา

    https://wccftech.com/hwinfo-confirms-nova-lake-h-and-hx-also-adds-support-for-arrow-lake-refresh/
    🖥️ HWiNFO ยืนยันการเปิดตัว Intel Nova Lake H และ HX รวมถึง Arrow Lake Refresh HWiNFO เวอร์ชันใหม่ (8.35) ได้เพิ่มข้อมูลรองรับซีพียู Nova Lake H และ Nova Lake HX ลงในฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าชิปเหล่านี้กำลังถูกเตรียมสำหรับการเปิดตัวจริง แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่ HWiNFO มักเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่เผยข้อมูลล่วงหน้าของซีพียูรุ่นใหม่เสมอ ⚡ รายละเอียดของ Nova Lake H และ HX 💠 Nova Lake H จะมาแทนที่ตระกูล Panther Lake H โดยมีการออกแบบแบบ hybrid สูงสุด 16 คอร์ (4 P-Core + 8 E-Core + 4 LP-E Core) 💠 Nova Lake HX จะเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่า รองรับสูงสุดถึง 28 คอร์ โดยเพิ่มจำนวน P-Core และ E-Core เป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่น H 💠 Nova Lake HX ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ซึ่งใหญ่กว่าซ็อกเก็ต BGA 2114 ของ Arrow Lake HX ประมาณ 20% 🔧 Arrow Lake Refresh นอกจาก Nova Lake แล้ว HWiNFO ยังเพิ่มการรองรับ Arrow Lake Refresh ซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 9 290K Plus, Core Ultra 7 270K Plus และ Core Ultra 5 250K Plus โดยทั้งหมดจะมาพร้อมความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นและจำนวนคอร์ที่มากกว่าเดิม 🔍 ความหมายต่อวงการซีพียู การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับซีพียูเหล่านี้สะท้อนว่า Intel กำลังเร่งพัฒนาตระกูลใหม่เพื่อแข่งขันกับ AMD โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อประดับสูง Nova Lake HX ที่มี 28 คอร์จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ และ Arrow Lake Refresh จะช่วยต่ออายุแพลตฟอร์มปัจจุบันให้แข็งแกร่งขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การยืนยันจาก HWiNFO ➡️ เวอร์ชัน 8.35 เพิ่มการรองรับ Nova Lake H/HX และ Arrow Lake Refresh ✅ รายละเอียด Nova Lake H ➡️ แทนที่ Panther Lake H ➡️ สูงสุด 16 คอร์ (4P + 8E + 4LP-E) ✅ รายละเอียด Nova Lake HX ➡️ สูงสุด 28 คอร์ ➡️ ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ใหญ่กว่า Arrow Lake HX ✅ Arrow Lake Refresh ➡️ รุ่นใหม่ Core Ultra 9 290K Plus, 7 270K Plus, 5 250K Plus ➡️ เพิ่มความเร็วและจำนวนคอร์ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel ⛔ ข้อมูลจาก HWiNFO ไม่ได้การันตีวันเปิดตัวจริง ⛔ ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องสเปกและราคา https://wccftech.com/hwinfo-confirms-nova-lake-h-and-hx-also-adds-support-for-arrow-lake-refresh/
    WCCFTECH.COM
    HWiNFO Confirms Nova Lake H And HX; Also Adds Support For Arrow Lake Refresh
    The upcoming HWiNFO software version will support the Arrow lake Refresh as well as confirms the Intel Nova Lake H and HX series.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM

    Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี

    จุดยืนของ Framework
    Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก

    สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ
    ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การโจมตีคู่แข่ง
    Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM
    Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB

    จุดยืนของ Framework
    จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น
    ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์

    สถานการณ์ตลาด DRAM
    ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา
    CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100%

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม
    แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา”

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
    ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส
    ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    💻 Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี 🛠️ จุดยืนของ Framework Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก ⚡ สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี 🔍 ความหมายต่อผู้บริโภค การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การโจมตีคู่แข่ง ➡️ Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM ➡️ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB ✅ จุดยืนของ Framework ➡️ จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น ➡️ ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์ ✅ สถานการณ์ตลาด DRAM ➡️ ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา ➡️ CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100% ✅ ความหมายต่อผู้บริโภค ➡️ Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม ➡️ แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา” ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ⛔ ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส ⛔ ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลจีน พิจารณาจำกัดการนำเข้าชิป Nvidia H200

    หน่วยงานกำกับดูแลของจีน เช่น National Development and Reform Commission (NDRC) และ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้จัดประชุมกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Alibaba, ByteDance และ Tencent เพื่อสอบถามความต้องการชิป H200 หลังสหรัฐอนุญาตให้ส่งออก โดยจีนกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อในปริมาณเท่าใด

    ความขัดแย้งระหว่างความต้องการและนโยบาย
    แม้ H200 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน แต่รัฐบาลยังคงกดดันให้บริษัทหันไปใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend การนำเข้า H200 จึงถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เสี่ยงต่อการลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีนเอง

    ผลกระทบต่อ Nvidia
    ก่อนหน้านี้ Nvidia สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% เมื่อไม่สามารถขาย H100 ได้ แต่หากจีนอนุญาตให้ซื้อ H200 ความต้องการคาดว่าจะสูงมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการจำกัด เช่น กำหนดโควตาการซื้อ หรือห้ามใช้ในอุตสาหกรรมที่ถือว่า “มีความอ่อนไหวเชิงกลยุทธ์” เช่น การเงินและพลังงาน

    ความหมายต่อการแข่งขัน AI
    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการหาจุดสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีต่างชาติและการสร้างความพึ่งพาตนเอง หากจีนจำกัดการนำเข้า H200 จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทหันไปลงทุนในชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเร่งการพัฒนา ecosystem AI ของจีนในระยะยาว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การประชุมฉุกเฉินของจีน
    NDRC และ MIIT เรียก Alibaba, ByteDance, Tencent เข้าหารือ
    ประเมินความต้องการชิป H200

    ความขัดแย้งด้านนโยบาย
    H200 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20
    รัฐบาลจีนกดดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend

    ผลกระทบต่อ Nvidia
    สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% หลังห้ามขาย H100
    หากอนุญาต H200 ความต้องการจะสูง แต่มีโควตาจำกัด

    ความหมายต่อการแข่งขัน AI
    จีนพยายามหาสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพึ่งพาตนเอง
    อาจเร่งการพัฒนาชิปและ ecosystem AI ภายในประเทศ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    อาจห้ามใช้ H200 ในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การเงินและพลังงาน
    การนำเข้า H200 มากเกินไปอาจลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีน
    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-weighs-import-limits-on-nvidias-h200-after-us-export-rules-relaxed
    🇨🇳 การประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลจีน พิจารณาจำกัดการนำเข้าชิป Nvidia H200 หน่วยงานกำกับดูแลของจีน เช่น National Development and Reform Commission (NDRC) และ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้จัดประชุมกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Alibaba, ByteDance และ Tencent เพื่อสอบถามความต้องการชิป H200 หลังสหรัฐอนุญาตให้ส่งออก โดยจีนกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อในปริมาณเท่าใด ⚡ ความขัดแย้งระหว่างความต้องการและนโยบาย แม้ H200 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน แต่รัฐบาลยังคงกดดันให้บริษัทหันไปใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend การนำเข้า H200 จึงถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เสี่ยงต่อการลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีนเอง 💹 ผลกระทบต่อ Nvidia ก่อนหน้านี้ Nvidia สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% เมื่อไม่สามารถขาย H100 ได้ แต่หากจีนอนุญาตให้ซื้อ H200 ความต้องการคาดว่าจะสูงมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการจำกัด เช่น กำหนดโควตาการซื้อ หรือห้ามใช้ในอุตสาหกรรมที่ถือว่า “มีความอ่อนไหวเชิงกลยุทธ์” เช่น การเงินและพลังงาน 🔍 ความหมายต่อการแข่งขัน AI การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการหาจุดสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีต่างชาติและการสร้างความพึ่งพาตนเอง หากจีนจำกัดการนำเข้า H200 จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทหันไปลงทุนในชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเร่งการพัฒนา ecosystem AI ของจีนในระยะยาว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การประชุมฉุกเฉินของจีน ➡️ NDRC และ MIIT เรียก Alibaba, ByteDance, Tencent เข้าหารือ ➡️ ประเมินความต้องการชิป H200 ✅ ความขัดแย้งด้านนโยบาย ➡️ H200 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ➡️ รัฐบาลจีนกดดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia ➡️ สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% หลังห้ามขาย H100 ➡️ หากอนุญาต H200 ความต้องการจะสูง แต่มีโควตาจำกัด ✅ ความหมายต่อการแข่งขัน AI ➡️ จีนพยายามหาสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพึ่งพาตนเอง ➡️ อาจเร่งการพัฒนาชิปและ ecosystem AI ภายในประเทศ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ อาจห้ามใช้ H200 ในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การเงินและพลังงาน ⛔ การนำเข้า H200 มากเกินไปอาจลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีน ⛔ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-weighs-import-limits-on-nvidias-h200-after-us-export-rules-relaxed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับลำของสหรัฐ อนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน

    ทำเนียบขาวอนุญาตให้ Nvidia ส่งออกชิป H200 ไปยังจีน แม้ก่อนหน้านี้มีข้อจำกัดเข้มงวด โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของ “American tech stack” และยังคงควบคุมไม่ให้จีนเข้าถึงสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง Blackwell

    ความท้าทายจาก Huawei
    Huawei เปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่ใช้ชิป Ascend 910C จำนวน 384 ตัว ซึ่งถูกวางตำแหน่งแข่งกับ Nvidia GB200 NVL72 แม้ยังมีข้อด้อยด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้จีนมีทางเลือกนอกเหนือจาก CUDA ของ Nvidia

    กลยุทธ์ของสหรัฐ
    รายงานเผยว่ามีการพิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่การห้ามส่งออกทั้งหมด ไปจนถึงการ “ท่วมตลาด” ด้วยชิป Nvidia เพื่อกดดัน Huawei สุดท้ายเลือกแนวทางกลาง ๆ คืออนุญาตให้ส่งออก H200 แต่ไม่ใช่ Blackwell เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงสถาปัตยกรรม

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในตลาด AI ที่กำลังร้อนแรง Nvidia ยังคงครองความได้เปรียบด้วย CUDA แต่ Huawei กำลังเร่งผลิตชิป 910C ให้ได้ถึง 600,000 ตัวในปีหน้า และอาจแตะระดับ “หลายล้านตัว” ภายในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการท้าทายอำนาจผูกขาดของ Nvidia

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การกลับลำของสหรัฐ
    อนุญาตส่งออก Nvidia H200 ไปจีน
    เก็บค่าธรรมเนียม 25%

    ความท้าทายจาก Huawei
    เปิดตัว CloudMatrix 384 ใช้ชิป Ascend 910C
    แข่งกับ Nvidia GB200 NVL72

    กลยุทธ์ของสหรัฐ
    พิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่ห้ามส่งออกจนถึงท่วมตลาด
    เลือกอนุญาต H200 แต่ห้าม Blackwell

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    Nvidia ยังคงครองตลาดด้วย CUDA
    Huawei ตั้งเป้าผลิตชิป 910C หลายล้านตัวในปี 2026

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    การแข่งขันอาจทำให้ตลาด AI แบ่งขั้วชัดเจน
    ความเสี่ยงด้านความมั่นคงหากจีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
    อาจกระทบต่อซัพพลายเชนและราคาชิปทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/white-house-u-turn-on-nvidia-h200-ai-accelerator-exports-down-to-huaweis-powerful-new-ascend-chips-report-claims-u-s-committed-to-dominance-of-the-american-tech-stack
    🇺🇸 การกลับลำของสหรัฐ อนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน ทำเนียบขาวอนุญาตให้ Nvidia ส่งออกชิป H200 ไปยังจีน แม้ก่อนหน้านี้มีข้อจำกัดเข้มงวด โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของ “American tech stack” และยังคงควบคุมไม่ให้จีนเข้าถึงสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง Blackwell 🇨🇳 ความท้าทายจาก Huawei Huawei เปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่ใช้ชิป Ascend 910C จำนวน 384 ตัว ซึ่งถูกวางตำแหน่งแข่งกับ Nvidia GB200 NVL72 แม้ยังมีข้อด้อยด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้จีนมีทางเลือกนอกเหนือจาก CUDA ของ Nvidia ⚡ กลยุทธ์ของสหรัฐ รายงานเผยว่ามีการพิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่การห้ามส่งออกทั้งหมด ไปจนถึงการ “ท่วมตลาด” ด้วยชิป Nvidia เพื่อกดดัน Huawei สุดท้ายเลือกแนวทางกลาง ๆ คืออนุญาตให้ส่งออก H200 แต่ไม่ใช่ Blackwell เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงสถาปัตยกรรม 🔍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในตลาด AI ที่กำลังร้อนแรง Nvidia ยังคงครองความได้เปรียบด้วย CUDA แต่ Huawei กำลังเร่งผลิตชิป 910C ให้ได้ถึง 600,000 ตัวในปีหน้า และอาจแตะระดับ “หลายล้านตัว” ภายในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการท้าทายอำนาจผูกขาดของ Nvidia 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การกลับลำของสหรัฐ ➡️ อนุญาตส่งออก Nvidia H200 ไปจีน ➡️ เก็บค่าธรรมเนียม 25% ✅ ความท้าทายจาก Huawei ➡️ เปิดตัว CloudMatrix 384 ใช้ชิป Ascend 910C ➡️ แข่งกับ Nvidia GB200 NVL72 ✅ กลยุทธ์ของสหรัฐ ➡️ พิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่ห้ามส่งออกจนถึงท่วมตลาด ➡️ เลือกอนุญาต H200 แต่ห้าม Blackwell ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI ➡️ Nvidia ยังคงครองตลาดด้วย CUDA ➡️ Huawei ตั้งเป้าผลิตชิป 910C หลายล้านตัวในปี 2026 ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ การแข่งขันอาจทำให้ตลาด AI แบ่งขั้วชัดเจน ⛔ ความเสี่ยงด้านความมั่นคงหากจีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ⛔ อาจกระทบต่อซัพพลายเชนและราคาชิปทั่วโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/white-house-u-turn-on-nvidia-h200-ai-accelerator-exports-down-to-huaweis-powerful-new-ascend-chips-report-claims-u-s-committed-to-dominance-of-the-american-tech-stack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้

    Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker

    ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา
    Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน

    แผนการขยายสู่ระดับโลก
    เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ

    ความหมายต่อวงการ 3D Printing
    การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Snapmaker ระดมทุน Series B
    ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์
    Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ

    นักลงทุนรายสำคัญ
    Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi)
    Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง

    ผลงานเด่นของ Snapmaker
    Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์
    U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์

    แผนการใช้เงินทุน
    วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    ดึงดูดบุคลากรระดับโลก
    สร้าง ecosystem ครบวงจร

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่
    ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่
    ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    💰 Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้ Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker 🛠️ ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน 🌍 แผนการขยายสู่ระดับโลก เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ 🔍 ความหมายต่อวงการ 3D Printing การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Snapmaker ระดมทุน Series B ➡️ ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ ➡️ Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ ✅ นักลงทุนรายสำคัญ ➡️ Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi) ➡️ Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง ✅ ผลงานเด่นของ Snapmaker ➡️ Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์ ➡️ U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ✅ แผนการใช้เงินทุน ➡️ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ➡️ ดึงดูดบุคลากรระดับโลก ➡️ สร้าง ecosystem ครบวงจร ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่ ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องเดโม Nvidia Dawn and Dusk PC ที่ใช้การ์ดจอ GeForce FX5950 Ultra ในตำนานกลับมาอีกครั้ง

    ในปี 2004 Nvidia เคยสร้างเครื่องเดโมพิเศษเพื่อโชว์ศักยภาพกราฟิกของการ์ด GeForce FX5950 Ultra โดยใช้ตัวละครแฟนตาซี “Dawn” และ “Dusk” ที่มีรายละเอียดผิวและเส้นผมสมจริงมากในยุคนั้น ล่าสุดเครื่องเดโมนี้ถูกนำกลับมาโชว์อีกครั้งโดยผู้ใช้ Reddit ทำให้แฟน ๆ สาย PC เกิดความรู้สึกคิดถึงยุคทองของกราฟิกเกม

    ศิลปะดิจิทัลที่ล้ำยุคในสมัยนั้น
    เดโม Dawn และ Dusk ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงความสามารถของ DirectX 9 API โดยเน้นการเรนเดอร์ผิวหนังและเส้นผมที่สมจริง ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีกราฟิกปี 2004 การ์ด FX5950 Ultra ที่ใช้ GPU NV38 พร้อมหน่วยความจำ DDR 256MB บัส 256-bit ถูกจัดว่าเป็นสุดยอดฮาร์ดแวร์สำหรับเกมเมอร์ในเวลานั้น

    การเก็บรักษาและการอัปเกรด
    เจ้าของเครื่องเดโมเล่าว่าเขาได้เครื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2005 และแม้จะเปลี่ยนการ์ดเป็น GeForce 7800GS ในภายหลัง แต่ก็ยังเก็บการ์ด FX5950 Ultra ไว้อย่างดี ตัวการ์ดมีเอกลักษณ์คือแผ่น I/O และโครงด้านบนทำจากทองเหลือง ซึ่งไม่เหมือนรุ่นที่วางขายทั่วไป ถือเป็นของสะสมที่หายากในปัจจุบัน

    ความหมายต่อวงการเกม
    การกลับมาของเครื่องเดโมนี้ไม่เพียงแต่ทำให้แฟน ๆ รู้สึกคิดถึง แต่ยังสะท้อนถึงยุคที่ Nvidia มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เพื่อเกมเมอร์โดยตรง เดโม Dawn และ Dusk ถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง และยังคงถูกพูดถึงในฐานะหนึ่งในเดโมกราฟิกที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกม PC

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เครื่องเดโม Dawn and Dusk PC
    เปิดตัวปี 2004 เพื่อโชว์ศักยภาพ GeForce FX5950 Ultra
    ใช้ตัวละครแฟนตาซี Dawn และ Dusk

    คุณสมบัติการ์ด GeForce FX5950 Ultra
    GPU NV38 พร้อมหน่วยความจำ DDR 256MB
    รองรับ DirectX 9 API

    การเก็บรักษาโดยผู้ใช้ Reddit
    ได้เครื่องมาตั้งแต่ปี 2005
    การ์ดมีแผ่น I/O และโครงทองเหลืองหายาก

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    เทคโนโลยีล้าสมัย ไม่รองรับเกมใหม่
    ใช้พลังงานและความร้อนสูงเมื่อเทียบกับการ์ดรุ่นใหม่
    เดโมเป็นเพียงงานโชว์ ไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริงในเกมยุคปัจจุบัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-dawn-and-dusk-demo-pc-resurfaces-alongside-its-original-brass-bracketed-fx5950-ultra-graphics-card-state-of-the-art-dream-machine-hails-from-the-days-when-nvidia-was-a-gaming-first-company
    ✨ เครื่องเดโม Nvidia Dawn and Dusk PC ที่ใช้การ์ดจอ GeForce FX5950 Ultra ในตำนานกลับมาอีกครั้ง ในปี 2004 Nvidia เคยสร้างเครื่องเดโมพิเศษเพื่อโชว์ศักยภาพกราฟิกของการ์ด GeForce FX5950 Ultra โดยใช้ตัวละครแฟนตาซี “Dawn” และ “Dusk” ที่มีรายละเอียดผิวและเส้นผมสมจริงมากในยุคนั้น ล่าสุดเครื่องเดโมนี้ถูกนำกลับมาโชว์อีกครั้งโดยผู้ใช้ Reddit ทำให้แฟน ๆ สาย PC เกิดความรู้สึกคิดถึงยุคทองของกราฟิกเกม 🧚 ศิลปะดิจิทัลที่ล้ำยุคในสมัยนั้น เดโม Dawn และ Dusk ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงความสามารถของ DirectX 9 API โดยเน้นการเรนเดอร์ผิวหนังและเส้นผมที่สมจริง ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีกราฟิกปี 2004 การ์ด FX5950 Ultra ที่ใช้ GPU NV38 พร้อมหน่วยความจำ DDR 256MB บัส 256-bit ถูกจัดว่าเป็นสุดยอดฮาร์ดแวร์สำหรับเกมเมอร์ในเวลานั้น 🔧 การเก็บรักษาและการอัปเกรด เจ้าของเครื่องเดโมเล่าว่าเขาได้เครื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2005 และแม้จะเปลี่ยนการ์ดเป็น GeForce 7800GS ในภายหลัง แต่ก็ยังเก็บการ์ด FX5950 Ultra ไว้อย่างดี ตัวการ์ดมีเอกลักษณ์คือแผ่น I/O และโครงด้านบนทำจากทองเหลือง ซึ่งไม่เหมือนรุ่นที่วางขายทั่วไป ถือเป็นของสะสมที่หายากในปัจจุบัน 📜 ความหมายต่อวงการเกม การกลับมาของเครื่องเดโมนี้ไม่เพียงแต่ทำให้แฟน ๆ รู้สึกคิดถึง แต่ยังสะท้อนถึงยุคที่ Nvidia มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เพื่อเกมเมอร์โดยตรง เดโม Dawn และ Dusk ถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง และยังคงถูกพูดถึงในฐานะหนึ่งในเดโมกราฟิกที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกม PC 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เครื่องเดโม Dawn and Dusk PC ➡️ เปิดตัวปี 2004 เพื่อโชว์ศักยภาพ GeForce FX5950 Ultra ➡️ ใช้ตัวละครแฟนตาซี Dawn และ Dusk ✅ คุณสมบัติการ์ด GeForce FX5950 Ultra ➡️ GPU NV38 พร้อมหน่วยความจำ DDR 256MB ➡️ รองรับ DirectX 9 API ✅ การเก็บรักษาโดยผู้ใช้ Reddit ➡️ ได้เครื่องมาตั้งแต่ปี 2005 ➡️ การ์ดมีแผ่น I/O และโครงทองเหลืองหายาก ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ เทคโนโลยีล้าสมัย ไม่รองรับเกมใหม่ ⛔ ใช้พลังงานและความร้อนสูงเมื่อเทียบกับการ์ดรุ่นใหม่ ⛔ เดโมเป็นเพียงงานโชว์ ไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริงในเกมยุคปัจจุบัน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-dawn-and-dusk-demo-pc-resurfaces-alongside-its-original-brass-bracketed-fx5950-ultra-graphics-card-state-of-the-art-dream-machine-hails-from-the-days-when-nvidia-was-a-gaming-first-company
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • YouTube TV เปิดตัวแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ เน้นเจาะตลาดกีฬา

    YouTube TV ประกาศว่าจะเปิดตัว แพ็กเกจสมัครสมาชิกตามประเภท (genre-based plans) ในสหรัฐฯ ต้นปี 2026 โดยมีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว และครอบครัว เพื่อให้ผู้ใช้เลือกตามความสนใจ จุดเด่นคือแพ็กเกจกีฬา ที่รวมช่องดังอย่าง ESPN, FS1 และ NBC Sports Network พร้อมตัวเลือกเสริมอย่าง NFL Sunday Ticket และ RedZone

    กลยุทธ์เจาะตลาดกีฬา
    YouTube TV มองว่ากีฬาเป็นสมรภูมิสำคัญในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Netflix และ Disney การเพิ่มแพ็กเกจเฉพาะด้านกีฬา พร้อมฟีเจอร์ multiview (ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกัน) และ unlimited DVR จะช่วยดึงดูดแฟนกีฬาและผู้ลงโฆษณาให้มากขึ้น Nielsen รายงานว่า YouTube TV ตอนนี้ครองสัดส่วนการรับชมทีวีในสหรัฐฯ มากที่สุด แซงหน้า Netflix และบริษัทสื่อดั้งเดิม

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    ผู้ใช้จะมีอิสระมากขึ้นในการเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการ เช่น เลือกเฉพาะกีฬา หรือเน้นข่าวและครอบครัว โดยไม่ต้องจ่ายเต็มราคาเหมือนแพ็กเกจหลักเดิม แม้ยังไม่มีการเปิดเผยราคา แต่การปรับโครงสร้างนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้บริการสตรีมมิง “ยืดหยุ่นและเฉพาะกลุ่ม” มากขึ้น

    ความหมายต่ออนาคตสตรีมมิง
    การเปิดตัว genre-based plans ของ YouTube TV อาจเป็นต้นแบบให้แพลตฟอร์มอื่นปรับตาม เพราะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และสร้างรายได้จากโฆษณาได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรงและผู้ใช้ต้องการความคุ้มค่าในการเลือกคอนเทนต์

    สรุปสาระสำคัญ
    YouTube TV เตรียมเปิดแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ต้นปี 2026
    มีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว ครอบครัว

    แพ็กเกจกีฬาเป็นจุดขายหลัก
    รวม ESPN, FS1, NBC Sports และเสริม NFL Sunday Ticket

    ฟีเจอร์ multiview และ unlimited DVR ยังคงอยู่
    ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกันและบันทึกไม่จำกัด

    Nielsen ระบุ YouTube TV ครองสัดส่วนการรับชมทีวีสูงสุดในสหรัฐฯ
    แซงหน้า Netflix และ Disney

    ราคายังไม่เปิดเผย อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเข้าถึง
    หากแพ็กเกจแพงเกินไป ผู้ใช้บางกลุ่มอาจไม่เลือก

    การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรง อาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับหลายแพ็กเกจ
    เสี่ยงต่อการกระจายฐานผู้ชมและความภักดีต่อแบรนด์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/11/youtube-tv-to-roll-out-genre-based-plans-deepens-sports-streaming-bet
    📺 YouTube TV เปิดตัวแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ เน้นเจาะตลาดกีฬา YouTube TV ประกาศว่าจะเปิดตัว แพ็กเกจสมัครสมาชิกตามประเภท (genre-based plans) ในสหรัฐฯ ต้นปี 2026 โดยมีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว และครอบครัว เพื่อให้ผู้ใช้เลือกตามความสนใจ จุดเด่นคือแพ็กเกจกีฬา ที่รวมช่องดังอย่าง ESPN, FS1 และ NBC Sports Network พร้อมตัวเลือกเสริมอย่าง NFL Sunday Ticket และ RedZone ⚡ กลยุทธ์เจาะตลาดกีฬา YouTube TV มองว่ากีฬาเป็นสมรภูมิสำคัญในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Netflix และ Disney การเพิ่มแพ็กเกจเฉพาะด้านกีฬา พร้อมฟีเจอร์ multiview (ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกัน) และ unlimited DVR จะช่วยดึงดูดแฟนกีฬาและผู้ลงโฆษณาให้มากขึ้น Nielsen รายงานว่า YouTube TV ตอนนี้ครองสัดส่วนการรับชมทีวีในสหรัฐฯ มากที่สุด แซงหน้า Netflix และบริษัทสื่อดั้งเดิม 🎮 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด ผู้ใช้จะมีอิสระมากขึ้นในการเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการ เช่น เลือกเฉพาะกีฬา หรือเน้นข่าวและครอบครัว โดยไม่ต้องจ่ายเต็มราคาเหมือนแพ็กเกจหลักเดิม แม้ยังไม่มีการเปิดเผยราคา แต่การปรับโครงสร้างนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้บริการสตรีมมิง “ยืดหยุ่นและเฉพาะกลุ่ม” มากขึ้น 🌐 ความหมายต่ออนาคตสตรีมมิง การเปิดตัว genre-based plans ของ YouTube TV อาจเป็นต้นแบบให้แพลตฟอร์มอื่นปรับตาม เพราะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และสร้างรายได้จากโฆษณาได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรงและผู้ใช้ต้องการความคุ้มค่าในการเลือกคอนเทนต์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ YouTube TV เตรียมเปิดแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ต้นปี 2026 ➡️ มีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว ครอบครัว ✅ แพ็กเกจกีฬาเป็นจุดขายหลัก ➡️ รวม ESPN, FS1, NBC Sports และเสริม NFL Sunday Ticket ✅ ฟีเจอร์ multiview และ unlimited DVR ยังคงอยู่ ➡️ ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกันและบันทึกไม่จำกัด ✅ Nielsen ระบุ YouTube TV ครองสัดส่วนการรับชมทีวีสูงสุดในสหรัฐฯ ➡️ แซงหน้า Netflix และ Disney ‼️ ราคายังไม่เปิดเผย อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเข้าถึง ⛔ หากแพ็กเกจแพงเกินไป ผู้ใช้บางกลุ่มอาจไม่เลือก ‼️ การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรง อาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับหลายแพ็กเกจ ⛔ เสี่ยงต่อการกระจายฐานผู้ชมและความภักดีต่อแบรนด์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/11/youtube-tv-to-roll-out-genre-based-plans-deepens-sports-streaming-bet
    WWW.THESTAR.COM.MY
    YouTube TV to roll out genre-based plans, deepens sports streaming bet
    (Corrects to remove reference to number of subscribers in paragraph 5)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI

    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดป้ายกำกับว่าเป็น AI-generated หากโฆษณาถูกสร้างหรือแก้ไขด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังพบการใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมในการโปรโมตสินค้า เช่น ยาลดน้ำหนัก เครื่องสำอาง และแม้แต่เว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย

    เหตุผลและมาตรการที่เข้มงวด
    เจ้าหน้าที่ระบุว่าการโฆษณาลักษณะนี้กำลัง “ทำลายความเป็นระเบียบของตลาด” และสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยากว่าเนื้อหานั้นจริงหรือปลอม รัฐบาลจึงเตรียมแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ พร้อมเพิ่มโทษปรับและบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 5 เท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น

    ปัญหาที่พบในอดีต
    กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ตรวจพบโฆษณาผิดกฎหมายกว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และอีกเกือบ 69,000 ชิ้นในปี 2025 (จนถึงเดือนกันยายน) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าการโฆษณาที่ใช้ AI กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม

    ความหมายต่ออนาคตของ AI และสังคม
    มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการหลอกลวง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ AI อย่างโปร่งใส เกาหลีใต้ยังวางแผนใช้ AI เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลเท็จและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด

    สรุปสาระสำคัญ
    เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2026
    เพื่อป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใส

    รัฐบาลเตรียมแก้กฎหมายโทรคมนาคมและเพิ่มโทษปรับ
    ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 เท่าของความเสียหาย

    พบโฆษณาผิดกฎหมายจำนวนมากในช่วงปี 2024–2025
    กว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และ 68,950 ชิ้นในปี 2025

    รัฐบาลจะใช้ AI ตรวจสอบและลบโฆษณาผิดกฎหมาย
    ตั้งเป้าลบภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันผลกระทบ

    โฆษณา AI ที่ใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยาก

    หากไม่มีมาตรการกำกับดูแล อาจเกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ
    ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและสุขภาพประชาชน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/south-korea-to-require-advertisers-to-label-ai-generated-ads
    📰 เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดป้ายกำกับว่าเป็น AI-generated หากโฆษณาถูกสร้างหรือแก้ไขด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังพบการใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมในการโปรโมตสินค้า เช่น ยาลดน้ำหนัก เครื่องสำอาง และแม้แต่เว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย ⚖️ เหตุผลและมาตรการที่เข้มงวด เจ้าหน้าที่ระบุว่าการโฆษณาลักษณะนี้กำลัง “ทำลายความเป็นระเบียบของตลาด” และสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยากว่าเนื้อหานั้นจริงหรือปลอม รัฐบาลจึงเตรียมแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ พร้อมเพิ่มโทษปรับและบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 5 เท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น 📉 ปัญหาที่พบในอดีต กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ตรวจพบโฆษณาผิดกฎหมายกว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และอีกเกือบ 69,000 ชิ้นในปี 2025 (จนถึงเดือนกันยายน) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าการโฆษณาที่ใช้ AI กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม 🌐 ความหมายต่ออนาคตของ AI และสังคม มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการหลอกลวง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ AI อย่างโปร่งใส เกาหลีใต้ยังวางแผนใช้ AI เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลเท็จและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2026 ➡️ เพื่อป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใส ✅ รัฐบาลเตรียมแก้กฎหมายโทรคมนาคมและเพิ่มโทษปรับ ➡️ ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 เท่าของความเสียหาย ✅ พบโฆษณาผิดกฎหมายจำนวนมากในช่วงปี 2024–2025 ➡️ กว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และ 68,950 ชิ้นในปี 2025 ✅ รัฐบาลจะใช้ AI ตรวจสอบและลบโฆษณาผิดกฎหมาย ➡️ ตั้งเป้าลบภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันผลกระทบ ‼️ โฆษณา AI ที่ใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยาก ‼️ หากไม่มีมาตรการกำกับดูแล อาจเกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ ⛔ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและสุขภาพประชาชน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/south-korea-to-require-advertisers-to-label-ai-generated-ads
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea to require advertisers to label AI-generated ads
    South Korea will require advertisers to label their ads made with artificial intelligence technologies from next year as it seeks to curb a surge of deceptive promotions featuring fabricated experts or deep-faked celebrities endorsing food or pharmaceutical products on social media.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • “5 แกดเจ็ตสุดร้อนแรงที่โลกจับตามองในปี 2026”

    บทความนี้พูดถึง 5 แกดเจ็ตที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ได้แก่ Steam Machine, Steam Frame VR Headset, iPhone Fold, AYN Odin 3, และ Retroid Pocket 6 ซึ่งแต่ละตัวมีจุดเด่นและความคาดหวังสูงจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักเล่นเกม

    Steam Machine และ Steam Controller
    Valve เตรียมเปิดตัว Steam Machine รุ่นใหม่ ในไตรมาสแรกปี 2026 ตัวเครื่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก (ถูกเรียกเล่น ๆ ว่า GabeCube) ใช้ระบบ SteamOS แทน Windows รองรับการเล่นเกม AAA ที่ 4K 60fps (ผ่าน FSR Upscaling) มีรุ่น 512GB และ 2TB จุดเด่นคือขนาดเล็ก ใช้งานได้ทั้งเป็นคอนโซลในห้องนั่งเล่นหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องราคา (คาด $600–$800) และประสิทธิภาพจริงเมื่อเทียบกับคอนโซล.

    Steam Frame VR Headset
    Valve ยังเปิดตัว Steam Frame ซึ่งเป็น VR Headset รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยี 6GHz Wireless Adapter ที่ให้ประสบการณ์ไร้สายแต่ใกล้เคียงการเชื่อมต่อแบบสาย และมี Foveated Streaming ที่เรนเดอร์ภาพเฉพาะจุดที่สายตามอง ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพภาพรวม ใช้ชิป ARM64 Snapdragon SoC พร้อม FEX Translation Layer ที่อาจเปิดประตูให้ PC Gaming บนสถาปัตยกรรม ARM64 เช่น Android และ macOS.

    iPhone Fold
    Apple ถูกคาดว่าจะเปิดตัว iPhone Fold ในเดือนกันยายน 2026 โดยมีดีไซน์แบบ Book-Fold ขนาด 7.8 นิ้ว (หรือรุ่น Max 8.3 นิ้ว) พร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้วและกล้องหลัก 48MP จุดเด่นคือความบางเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และการใช้ Liquid-Metal Hinge ที่อาจทำให้ iPhone Fold เป็นรุ่นแรกที่ “ไร้รอยพับ” ราคาคาดว่าจะเกิน $2,000.

    AYN Odin 3
    ตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา Android กำลังเติบโต และ AYN Odin 3 ที่จะเปิดตัวมกราคม 2026 เป็นที่จับตามองมากที่สุด ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (3nm), จอ OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh และมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม รองรับการเล่นเกม Emulator ตั้งแต่ N64 ถึง PS3 และยังสามารถเล่นเกม PC AAA อย่าง The Witcher 3 ได้ที่ 40fps ผ่าน GameHub ราคาเริ่มต้น $329.

    Retroid Pocket 6
    สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า Retroid Pocket 6 เปิดตัวพร้อมกันในมกราคม 2026 ใช้ Snapdragon 8 Gen 2, RAM สูงสุด 12GB, จอ AMOLED 5.5 นิ้ว 1080p และแบต 6,000 mAh ราคาถูกกว่า Odin 3 มาก ($229–$279) แม้ประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ยังสามารถเล่นเกม AAA รุ่นเก่าได้ดี เช่น Skyrim 75fps และ Tomb Raider 60fps.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Steam Machine (Q1 2026)
    SteamOS, ขนาดเล็ก, รองรับ 4K 60fps (FSR Upscaling)
    ราคา $600–$800, ยังมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ

    Steam Frame VR Headset
    6GHz Wireless Adapter, Foveated Streaming
    ใช้ ARM64 Snapdragon SoC + FEX Translation

    iPhone Fold (Sep 2026)
    Book-Fold 7.8 นิ้ว, รุ่น Max 8.3 นิ้ว
    Liquid-Metal Hinge, บางเพียง 4.5 มม., ราคา > $2,000

    AYN Odin 3 (Jan 2026)
    Snapdragon 8 Elite, OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh
    ราคาเริ่มต้น $329, รองรับ Emulator และ PC Gaming

    Retroid Pocket 6 (Jan 2026)
    Snapdragon 8 Gen 2, RAM 8–12GB, AMOLED 1080p
    ราคา $229–$279, เหมาะกับเกม AAA รุ่นเก่าและ Emulator

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Steam Machine อาจไม่ถึง 60fps จริงในเกม AAA
    iPhone Fold ราคาสูงเกิน $2,000 และอาจเข้าถึงยาก
    Odin 3 ยังมีปัญหา Driver Support บางเกมไม่รันได้ดี

    https://www.slashgear.com/2047164/gadgets-2026-most-anticipated-expected-to-release/
    🎮 “5 แกดเจ็ตสุดร้อนแรงที่โลกจับตามองในปี 2026” บทความนี้พูดถึง 5 แกดเจ็ตที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ได้แก่ Steam Machine, Steam Frame VR Headset, iPhone Fold, AYN Odin 3, และ Retroid Pocket 6 ซึ่งแต่ละตัวมีจุดเด่นและความคาดหวังสูงจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักเล่นเกม 🖥️ Steam Machine และ Steam Controller Valve เตรียมเปิดตัว Steam Machine รุ่นใหม่ ในไตรมาสแรกปี 2026 ตัวเครื่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก (ถูกเรียกเล่น ๆ ว่า GabeCube) ใช้ระบบ SteamOS แทน Windows รองรับการเล่นเกม AAA ที่ 4K 60fps (ผ่าน FSR Upscaling) มีรุ่น 512GB และ 2TB จุดเด่นคือขนาดเล็ก ใช้งานได้ทั้งเป็นคอนโซลในห้องนั่งเล่นหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องราคา (คาด $600–$800) และประสิทธิภาพจริงเมื่อเทียบกับคอนโซล. 🕶️ Steam Frame VR Headset Valve ยังเปิดตัว Steam Frame ซึ่งเป็น VR Headset รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยี 6GHz Wireless Adapter ที่ให้ประสบการณ์ไร้สายแต่ใกล้เคียงการเชื่อมต่อแบบสาย และมี Foveated Streaming ที่เรนเดอร์ภาพเฉพาะจุดที่สายตามอง ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพภาพรวม ใช้ชิป ARM64 Snapdragon SoC พร้อม FEX Translation Layer ที่อาจเปิดประตูให้ PC Gaming บนสถาปัตยกรรม ARM64 เช่น Android และ macOS. 📱 iPhone Fold Apple ถูกคาดว่าจะเปิดตัว iPhone Fold ในเดือนกันยายน 2026 โดยมีดีไซน์แบบ Book-Fold ขนาด 7.8 นิ้ว (หรือรุ่น Max 8.3 นิ้ว) พร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้วและกล้องหลัก 48MP จุดเด่นคือความบางเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และการใช้ Liquid-Metal Hinge ที่อาจทำให้ iPhone Fold เป็นรุ่นแรกที่ “ไร้รอยพับ” ราคาคาดว่าจะเกิน $2,000. 🎮 AYN Odin 3 ตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา Android กำลังเติบโต และ AYN Odin 3 ที่จะเปิดตัวมกราคม 2026 เป็นที่จับตามองมากที่สุด ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (3nm), จอ OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh และมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม รองรับการเล่นเกม Emulator ตั้งแต่ N64 ถึง PS3 และยังสามารถเล่นเกม PC AAA อย่าง The Witcher 3 ได้ที่ 40fps ผ่าน GameHub ราคาเริ่มต้น $329. 🎮 Retroid Pocket 6 สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า Retroid Pocket 6 เปิดตัวพร้อมกันในมกราคม 2026 ใช้ Snapdragon 8 Gen 2, RAM สูงสุด 12GB, จอ AMOLED 5.5 นิ้ว 1080p และแบต 6,000 mAh ราคาถูกกว่า Odin 3 มาก ($229–$279) แม้ประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ยังสามารถเล่นเกม AAA รุ่นเก่าได้ดี เช่น Skyrim 75fps และ Tomb Raider 60fps. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Steam Machine (Q1 2026) ➡️ SteamOS, ขนาดเล็ก, รองรับ 4K 60fps (FSR Upscaling) ➡️ ราคา $600–$800, ยังมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ ✅ Steam Frame VR Headset ➡️ 6GHz Wireless Adapter, Foveated Streaming ➡️ ใช้ ARM64 Snapdragon SoC + FEX Translation ✅ iPhone Fold (Sep 2026) ➡️ Book-Fold 7.8 นิ้ว, รุ่น Max 8.3 นิ้ว ➡️ Liquid-Metal Hinge, บางเพียง 4.5 มม., ราคา > $2,000 ✅ AYN Odin 3 (Jan 2026) ➡️ Snapdragon 8 Elite, OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh ➡️ ราคาเริ่มต้น $329, รองรับ Emulator และ PC Gaming ✅ Retroid Pocket 6 (Jan 2026) ➡️ Snapdragon 8 Gen 2, RAM 8–12GB, AMOLED 1080p ➡️ ราคา $229–$279, เหมาะกับเกม AAA รุ่นเก่าและ Emulator ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Steam Machine อาจไม่ถึง 60fps จริงในเกม AAA ⛔ iPhone Fold ราคาสูงเกิน $2,000 และอาจเข้าถึงยาก ⛔ Odin 3 ยังมีปัญหา Driver Support บางเกมไม่รันได้ดี https://www.slashgear.com/2047164/gadgets-2026-most-anticipated-expected-to-release/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Of The Most Anticipated Gadgets Expected To Release In 2026 - SlashGear
    Tech in 2026 might not be as dull as it looks. From Valve’s hardware push to Apple’s foldable iPhone, these upcoming releases actually feel worth tracking.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Canonical จับมือ AMD นำ ROCm มาสู่ Ubuntu อย่างเป็นทางการ”

    ความร่วมมือครั้งสำคัญ
    Canonical ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำ ROCm (Radeon Open Compute) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการเร่งความเร็วด้วย GPU มาเป็นส่วนหนึ่งของ Ubuntu โดยจะเริ่มต้นใน Ubuntu 26.04 LTS และจะมีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น การรวม ROCm เข้ากับระบบปฏิบัติการโดยตรงจะช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก.

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    การที่ ROCm ถูกบรรจุใน Ubuntu ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ด้วยคำสั่งง่าย ๆ เช่น sudo apt install rocm หรือถูกดึงมาเป็น dependency โดยอัตโนมัติเมื่อใช้โปรเจกต์ที่ต้องการ GPU acceleration เช่น Ollama เวอร์ชัน AMD สิ่งนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตั้งค่าและทำให้การพัฒนา AI, HPC และงานด้าน Machine Learning บน Ubuntu มีความสะดวกและเสถียรมากขึ้น.

    ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา
    Canonical ตั้งทีมวิศวกรเฉพาะเพื่อดูแลแพ็กเกจ ROCm ทั้งการจัดทำ, การบำรุงรักษาระยะยาว และการส่ง upstream ไปยัง Debian เพื่อให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สได้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ROCm LTS จะได้รับการสนับสนุนด้าน Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดตปกติของ Ubuntu และหากใช้ Ubuntu Pro จะได้รับการสนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี.

    ความหมายต่อระบบนิเวศ
    การรวม ROCm เข้ากับ Ubuntu ไม่เพียงช่วยผู้ใช้ทั่วไป แต่ยังเป็นการเปิดทางให้ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing สามารถใช้ GPU ของ AMD ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันในตลาด AI ที่ก่อนหน้านี้ NVIDIA ครองความได้เปรียบด้านซอฟต์แวร์.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ความร่วมมือ Canonical + AMD
    ROCm จะถูกบรรจุใน Ubuntu ตั้งแต่เวอร์ชัน 26.04 LTS
    มีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    ติดตั้งง่ายด้วย sudo apt install rocm
    ใช้งานสะดวกสำหรับ AI, HPC และ Machine Learning

    ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา
    Canonical ตั้งทีมเฉพาะดูแลแพ็กเกจ ROCm
    Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดต
    Ubuntu Pro สนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี

    ความหมายต่อระบบนิเวศ AI
    รองรับ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing
    เพิ่มการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดต ROCm อาจพลาด Security Patch สำคัญ
    การใช้ฮาร์ดแวร์ AMD รุ่นเก่าอาจไม่รองรับ ROCm เต็มรูปแบบ
    การพัฒนา AI ที่พึ่งพา ROCm ต้องตรวจสอบ Compatibility กับแพ็กเกจอื่น ๆ

    https://itsfoss.com/news/ubuntu-rocm-support/
    🖥️ “Canonical จับมือ AMD นำ ROCm มาสู่ Ubuntu อย่างเป็นทางการ” 🔧 ความร่วมมือครั้งสำคัญ Canonical ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำ ROCm (Radeon Open Compute) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการเร่งความเร็วด้วย GPU มาเป็นส่วนหนึ่งของ Ubuntu โดยจะเริ่มต้นใน Ubuntu 26.04 LTS และจะมีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น การรวม ROCm เข้ากับระบบปฏิบัติการโดยตรงจะช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก. 🚀 ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา การที่ ROCm ถูกบรรจุใน Ubuntu ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ด้วยคำสั่งง่าย ๆ เช่น sudo apt install rocm หรือถูกดึงมาเป็น dependency โดยอัตโนมัติเมื่อใช้โปรเจกต์ที่ต้องการ GPU acceleration เช่น Ollama เวอร์ชัน AMD สิ่งนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตั้งค่าและทำให้การพัฒนา AI, HPC และงานด้าน Machine Learning บน Ubuntu มีความสะดวกและเสถียรมากขึ้น. 🔒 ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา Canonical ตั้งทีมวิศวกรเฉพาะเพื่อดูแลแพ็กเกจ ROCm ทั้งการจัดทำ, การบำรุงรักษาระยะยาว และการส่ง upstream ไปยัง Debian เพื่อให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สได้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ROCm LTS จะได้รับการสนับสนุนด้าน Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดตปกติของ Ubuntu และหากใช้ Ubuntu Pro จะได้รับการสนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี. 🌍 ความหมายต่อระบบนิเวศ การรวม ROCm เข้ากับ Ubuntu ไม่เพียงช่วยผู้ใช้ทั่วไป แต่ยังเป็นการเปิดทางให้ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing สามารถใช้ GPU ของ AMD ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันในตลาด AI ที่ก่อนหน้านี้ NVIDIA ครองความได้เปรียบด้านซอฟต์แวร์. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ความร่วมมือ Canonical + AMD ➡️ ROCm จะถูกบรรจุใน Ubuntu ตั้งแต่เวอร์ชัน 26.04 LTS ➡️ มีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา ➡️ ติดตั้งง่ายด้วย sudo apt install rocm ➡️ ใช้งานสะดวกสำหรับ AI, HPC และ Machine Learning ✅ ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา ➡️ Canonical ตั้งทีมเฉพาะดูแลแพ็กเกจ ROCm ➡️ Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดต ➡️ Ubuntu Pro สนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี ✅ ความหมายต่อระบบนิเวศ AI ➡️ รองรับ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing ➡️ เพิ่มการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดต ROCm อาจพลาด Security Patch สำคัญ ⛔ การใช้ฮาร์ดแวร์ AMD รุ่นเก่าอาจไม่รองรับ ROCm เต็มรูปแบบ ⛔ การพัฒนา AI ที่พึ่งพา ROCm ต้องตรวจสอบ Compatibility กับแพ็กเกจอื่น ๆ https://itsfoss.com/news/ubuntu-rocm-support/
    ITSFOSS.COM
    Ubuntu Will Soon Make AMD GPUs Much Easier to Use for AI Workloads
    Canonical teams up with AMD to package ROCm directly in Ubuntu.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • TISA ฟื้นเสน่ห์หุ้นไทย? (10/12/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    TISA ฟื้นเสน่ห์หุ้นไทย? (10/12/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar

    ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม
    นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น
    นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์
    โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that

    รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก
    Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review

    7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส
    TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person

    โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น
    ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming

    Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag
    ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon

    Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด
    นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered

      IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด
    IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet

    Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก
    สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever

      Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป
    Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines

      รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro
    กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals

    สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ
    เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup

    LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน
    LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified

    โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo
    มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it

    การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns

    ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia

    Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง
    Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01

     รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง
    ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline

     Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป
    Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not

     โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding”
    คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control

     AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D
    มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up

     สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI
    รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai

      IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM
    กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent

      สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar 🧠 ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success 🕵️ เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🖥️ บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that 🎧 รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review 🎄 7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person 📰 โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming 📱 Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon 🧹 Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered 💡  IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet 🎮 Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever 🌐  Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines 🚗  รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals 🖥️ สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup 🔒 LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified 🎮 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it ⚠️ การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns 🚫 ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia 💍 Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline 🎵 Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not 💻 โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding” คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control ⚡ AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up 🌐 สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai 💼  IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent 🇨🇳  สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Exynos 2600 เปิดตัวเฉพาะในเกาหลีใต้"

    Samsung เตรียมเปิดตัว Exynos 2600 ในเดือนมกราคม 2026 โดยจะใช้เฉพาะในรุ่น Galaxy S26 non-Ultra ในตลาดเกาหลีใต้ . การตัดสินใจนี้เกิดจากปัญหา yield ที่ยังไม่เสถียร และข้อตกลงกับ Qualcomm ที่ครองส่วนแบ่งชิป Snapdragon ใน Galaxy S26 ถึง 75%

    เทคโนโลยีและประสิทธิภาพ
    Exynos 2600 ผลิตด้วยกระบวนการ 2nm GAA (Gate-All-Around) ของ Samsung ซึ่งให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าด้านพลังงานดีกว่ารุ่น 3nm เดิม . ฟีเจอร์เด่นคือ Heat Pass Block (HPB) ที่ช่วยจัดการความร้อน . ผลทดสอบ Geekbench 6 ล่าสุดเผยว่า Exynos 2600 ทำคะแนน 3,455 (single-core) และ 11,621 (multi-core) โดยมีคอร์สูงสุดที่ความเร็ว 3.8 GHz

    ปัญหาและข้อจำกัด
    แม้ประสิทธิภาพจะดีขึ้น แต่ Samsung ยังต้องเผชิญกับ ปัญหาภาพลักษณ์ของ Exynos ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและประสิทธิภาพด้อยกว่า Snapdragon นอกจากนี้ ข้อตกลงกับ Qualcomm ทำให้ Samsung ต้องจำกัดการใช้ Exynos 2600 เฉพาะตลาดในประเทศ เพื่อไม่กระทบยอดขายระดับโลกของ Galaxy S26

    มุมมองตลาด
    การเปิดตัว Exynos 2600 เฉพาะในเกาหลีใต้สะท้อนถึงกลยุทธ์ระมัดระวังของ Samsung ที่ต้องการทดสอบตลาดก่อน หากผลตอบรับดี อาจขยายการใช้งานไปยังรุ่นอื่นหรือภูมิภาคอื่นในอนาคต . อย่างไรก็ตาม Qualcomm ยังคงครองตลาดโลกด้วย Snapdragon ทำให้ Exynos ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเพื่อกลับมาแข่งขัน .

    สรุปสาระสำคัญ
    Exynos 2600 เปิดตัวในเกาหลีใต้เท่านั้น
    ใช้ใน Galaxy S26 non-Ultra รุ่นท้องถิ่น

    เทคโนโลยีใหม่ 2nm GAA
    ประสิทธิภาพสูงขึ้น, ฟีเจอร์ Heat Pass Block, คะแนน Geekbench 3,455/11,621

    ข้อตกลงกับ Qualcomm
    Snapdragon ครอง 75% ของ Galaxy S26 ทำให้ Exynos ถูกจำกัดตลาด

    คำเตือนด้านภาพลักษณ์
    Exynos เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและด้อยกว่า Snapdragon

    คำเตือนด้านการผลิต
    Yield ยังไม่เสถียร อาจกระทบต่อการผลิตจำนวนมาก

    https://wccftech.com/samsungs-exynos-2600-chip-to-debut-only-in-its-home-market/
    📱 "Exynos 2600 เปิดตัวเฉพาะในเกาหลีใต้" Samsung เตรียมเปิดตัว Exynos 2600 ในเดือนมกราคม 2026 โดยจะใช้เฉพาะในรุ่น Galaxy S26 non-Ultra ในตลาดเกาหลีใต้ . การตัดสินใจนี้เกิดจากปัญหา yield ที่ยังไม่เสถียร และข้อตกลงกับ Qualcomm ที่ครองส่วนแบ่งชิป Snapdragon ใน Galaxy S26 ถึง 75% ⚡ เทคโนโลยีและประสิทธิภาพ Exynos 2600 ผลิตด้วยกระบวนการ 2nm GAA (Gate-All-Around) ของ Samsung ซึ่งให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าด้านพลังงานดีกว่ารุ่น 3nm เดิม . ฟีเจอร์เด่นคือ Heat Pass Block (HPB) ที่ช่วยจัดการความร้อน . ผลทดสอบ Geekbench 6 ล่าสุดเผยว่า Exynos 2600 ทำคะแนน 3,455 (single-core) และ 11,621 (multi-core) โดยมีคอร์สูงสุดที่ความเร็ว 3.8 GHz 🔧 ปัญหาและข้อจำกัด แม้ประสิทธิภาพจะดีขึ้น แต่ Samsung ยังต้องเผชิญกับ ปัญหาภาพลักษณ์ของ Exynos ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและประสิทธิภาพด้อยกว่า Snapdragon นอกจากนี้ ข้อตกลงกับ Qualcomm ทำให้ Samsung ต้องจำกัดการใช้ Exynos 2600 เฉพาะตลาดในประเทศ เพื่อไม่กระทบยอดขายระดับโลกของ Galaxy S26 🌍 มุมมองตลาด การเปิดตัว Exynos 2600 เฉพาะในเกาหลีใต้สะท้อนถึงกลยุทธ์ระมัดระวังของ Samsung ที่ต้องการทดสอบตลาดก่อน หากผลตอบรับดี อาจขยายการใช้งานไปยังรุ่นอื่นหรือภูมิภาคอื่นในอนาคต . อย่างไรก็ตาม Qualcomm ยังคงครองตลาดโลกด้วย Snapdragon ทำให้ Exynos ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเพื่อกลับมาแข่งขัน . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Exynos 2600 เปิดตัวในเกาหลีใต้เท่านั้น ➡️ ใช้ใน Galaxy S26 non-Ultra รุ่นท้องถิ่น ✅ เทคโนโลยีใหม่ 2nm GAA ➡️ ประสิทธิภาพสูงขึ้น, ฟีเจอร์ Heat Pass Block, คะแนน Geekbench 3,455/11,621 ✅ ข้อตกลงกับ Qualcomm ➡️ Snapdragon ครอง 75% ของ Galaxy S26 ทำให้ Exynos ถูกจำกัดตลาด ‼️ คำเตือนด้านภาพลักษณ์ ⛔ Exynos เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและด้อยกว่า Snapdragon ‼️ คำเตือนด้านการผลิต ⛔ Yield ยังไม่เสถียร อาจกระทบต่อการผลิตจำนวนมาก https://wccftech.com/samsungs-exynos-2600-chip-to-debut-only-in-its-home-market/
    WCCFTECH.COM
    Exynos 2600: Samsung's New Chip Is Korea-Only
    Samsung's Exynos 2600 deployment is now being limited to South Korea, owing to lingering yield issues and existing contracts with Qualcomm.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • "AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded Zen 5 CPUs"

    AMD เปิดตัวซีรีส์ EPYC 2005 Embedded ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 โดยมีจำนวนคอร์สูงสุด 16 คอร์ และค่า TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 45–75W . จุดเด่นคือการออกแบบแบบ BGA (Ball Grid Array) ขนาด 40×40 มม. ซึ่งเล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความหนาแน่นสูงและการจัดการพลังงานที่ดี .

    ประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อ
    ชิป EPYC 2005 มาพร้อม L3 cache 64MB, ความเร็วบูสต์สูงขึ้นถึง 28% และความเร็วฐานสูงขึ้น 35% เมื่อเทียบกับ Xeon 6503P-B แต่ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว . รองรับ PCIe Gen5 28 lanes และ DDR5 memory เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และรองรับการอัปเกรดในอนาคต .

    การใช้งานในระบบ Embedded
    AMD ระบุว่า CPU รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบที่ต้องทำงานต่อเนื่อง เช่น networking switches, routers, cold cloud storage, aerospace และ robotics . จุดขายคือความทนทาน, ความปลอดภัย, และการรองรับการทำงานระยะยาวในสภาพแวดล้อมที่จำกัดพลังงาน .

    มุมมองตลาด
    การเปิดตัว EPYC 2005 แสดงให้เห็นว่า AMD กำลังรุกตลาด embedded infrastructure อย่างจริงจัง เพื่อแข่งขันกับ Intel Xeon Embedded series . ด้วยการผสมผสานระหว่าง ประสิทธิภาพสูง, ขนาดเล็ก, และการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ EPYC 2005 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการลดต้นทุนระบบและเพิ่มความหนาแน่นของการประมวลผล .

    สรุปสาระสำคัญ
    AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded CPUs
    ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5, สูงสุด 16 คอร์, TDP 45–75W

    การออกแบบ BGA ขนาดเล็ก
    40×40 มม. เล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า

    ประสิทธิภาพสูงกว่า Xeon
    ความเร็วบูสต์ +28%, ความเร็วฐาน +35%, ใช้พลังงานครึ่งเดียว

    รองรับการเชื่อมต่อใหม่
    PCIe Gen5 28 lanes, DDR5 memory

    การใช้งานในระบบ Embedded
    เหมาะกับ networking, storage, aerospace, robotics

    คำเตือนด้านการแข่งขัน
    ตลาด embedded มีคู่แข่งอย่าง Intel Xeon ที่ครองส่วนแบ่งอยู่แล้ว

    คำเตือนด้านการนำไปใช้งาน
    ต้องการการออกแบบระบบที่รองรับ BGA และการจัดการความร้อนที่ดี

    https://wccftech.com/amd-launches-epyc-2005-zen-5-cpus-up-to-16-cores-45-75w-tdp-higher-clocks/
    🖥️ "AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded Zen 5 CPUs" AMD เปิดตัวซีรีส์ EPYC 2005 Embedded ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 โดยมีจำนวนคอร์สูงสุด 16 คอร์ และค่า TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 45–75W . จุดเด่นคือการออกแบบแบบ BGA (Ball Grid Array) ขนาด 40×40 มม. ซึ่งเล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความหนาแน่นสูงและการจัดการพลังงานที่ดี . ⚡ ประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อ ชิป EPYC 2005 มาพร้อม L3 cache 64MB, ความเร็วบูสต์สูงขึ้นถึง 28% และความเร็วฐานสูงขึ้น 35% เมื่อเทียบกับ Xeon 6503P-B แต่ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว . รองรับ PCIe Gen5 28 lanes และ DDR5 memory เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และรองรับการอัปเกรดในอนาคต . 🔧 การใช้งานในระบบ Embedded AMD ระบุว่า CPU รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบที่ต้องทำงานต่อเนื่อง เช่น networking switches, routers, cold cloud storage, aerospace และ robotics . จุดขายคือความทนทาน, ความปลอดภัย, และการรองรับการทำงานระยะยาวในสภาพแวดล้อมที่จำกัดพลังงาน . 🌍 มุมมองตลาด การเปิดตัว EPYC 2005 แสดงให้เห็นว่า AMD กำลังรุกตลาด embedded infrastructure อย่างจริงจัง เพื่อแข่งขันกับ Intel Xeon Embedded series . ด้วยการผสมผสานระหว่าง ประสิทธิภาพสูง, ขนาดเล็ก, และการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ EPYC 2005 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการลดต้นทุนระบบและเพิ่มความหนาแน่นของการประมวลผล . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded CPUs ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5, สูงสุด 16 คอร์, TDP 45–75W ✅ การออกแบบ BGA ขนาดเล็ก ➡️ 40×40 มม. เล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า ✅ ประสิทธิภาพสูงกว่า Xeon ➡️ ความเร็วบูสต์ +28%, ความเร็วฐาน +35%, ใช้พลังงานครึ่งเดียว ✅ รองรับการเชื่อมต่อใหม่ ➡️ PCIe Gen5 28 lanes, DDR5 memory ✅ การใช้งานในระบบ Embedded ➡️ เหมาะกับ networking, storage, aerospace, robotics ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขัน ⛔ ตลาด embedded มีคู่แข่งอย่าง Intel Xeon ที่ครองส่วนแบ่งอยู่แล้ว ‼️ คำเตือนด้านการนำไปใช้งาน ⛔ ต้องการการออกแบบระบบที่รองรับ BGA และการจัดการความร้อนที่ดี https://wccftech.com/amd-launches-epyc-2005-zen-5-cpus-up-to-16-cores-45-75w-tdp-higher-clocks/
    WCCFTECH.COM
    AMD Launches EPYC 2005 "Zen 5" CPUs: Up To 16 Cores, 45-75W TDPs, Higher Clock Speeds Vs Competing Intel Xeon Embedded Chips
    AMD has introduced its latest EPYC 2005 Embedded "Zen 5" CPU lineup, featuring up to 16 cores and 45-75W TDP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัวในราคาเริ่มต้น $85"

    Biwin ผู้ผลิต SSD และหน่วยความจำจากจีน เปิดตัว CL100 Mini SSD ที่มีขนาดเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. เล็กเท่ากับเหรียญหรือการ์ด microSD แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุดถึง 3700 MB/s และเขียนสูงสุด 3400 MB/s . ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 599 หยวน (~$85) สำหรับรุ่น 512GB และมีรุ่น 1TB และ 2TB ให้เลือก .

    เทคโนโลยีและคุณสมบัติเด่น
    CL100 ใช้ PCIe 4×2 interface และ NVMe 1.4 protocol พร้อมเทคโนโลยี LGA packaging ที่รวมคอนโทรลเลอร์และแฟลชเข้าด้วยกันในขนาดเล็กมาก . นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dynamic SLC cache, Wear leveling, TRIM, Garbage collection และ Intelligent thermal throttling เพื่อรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน .

    ความทนทานและการใช้งาน
    SSD รุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่น และทนการตกจากความสูง 3 เมตร . Biwin ยังเปิดตัว RD510 USB4 reader ที่สามารถแปลง CL100 ให้เป็น NVMe external drive สำหรับโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และกล้อง . ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงในอุปกรณ์พกพา .

    มุมมองตลาด
    การเปิดตัว CL100 สะท้อนถึงแนวโน้มการพัฒนา SSD ขนาดเล็กแต่แรง เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI และการประมวลผลหนักในอุปกรณ์พกพา . แม้ราคาจะสูงกว่า microSD card แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าหลายเท่าทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความทนทาน .

    สรุปสาระสำคัญ
    Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัว
    ขนาดเล็กเท่าเหรียญ ความเร็วอ่าน 3700 MB/s เขียน 3400 MB/s

    ราคาและรุ่นที่จำหน่าย
    512GB ราคา ~$85, 1TB ~$156, 2TB ~$311

    เทคโนโลยีภายใน
    PCIe 4×2, NVMe 1.4, LGA packaging, SLC cache, TRIM, thermal throttling

    ความทนทานสูง
    IP68 กันน้ำกันฝุ่น, ทนตก 3 เมตร

    การใช้งานหลากหลาย
    ใช้กับ RD510 USB4 reader เพื่อเป็น external NVMe drive

    คำเตือนด้านราคา
    แม้เริ่มต้น $85 แต่แพงกว่าหน่วยความจำแบบ microSD หลายเท่า

    คำเตือนด้านการรองรับ
    ต้องใช้ RD510 reader หรืออุปกรณ์ที่รองรับ PCIe/NVMe เท่านั้น

    https://wccftech.com/biwins-cl100-mini-ssd-the-coin-sized-ssd-that-starts-retailing-for-85/
    💾 "Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัวในราคาเริ่มต้น $85" Biwin ผู้ผลิต SSD และหน่วยความจำจากจีน เปิดตัว CL100 Mini SSD ที่มีขนาดเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. เล็กเท่ากับเหรียญหรือการ์ด microSD แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุดถึง 3700 MB/s และเขียนสูงสุด 3400 MB/s . ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 599 หยวน (~$85) สำหรับรุ่น 512GB และมีรุ่น 1TB และ 2TB ให้เลือก . ⚡ เทคโนโลยีและคุณสมบัติเด่น CL100 ใช้ PCIe 4×2 interface และ NVMe 1.4 protocol พร้อมเทคโนโลยี LGA packaging ที่รวมคอนโทรลเลอร์และแฟลชเข้าด้วยกันในขนาดเล็กมาก . นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dynamic SLC cache, Wear leveling, TRIM, Garbage collection และ Intelligent thermal throttling เพื่อรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน . 🛡️ ความทนทานและการใช้งาน SSD รุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่น และทนการตกจากความสูง 3 เมตร . Biwin ยังเปิดตัว RD510 USB4 reader ที่สามารถแปลง CL100 ให้เป็น NVMe external drive สำหรับโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และกล้อง . ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงในอุปกรณ์พกพา . 🌍 มุมมองตลาด การเปิดตัว CL100 สะท้อนถึงแนวโน้มการพัฒนา SSD ขนาดเล็กแต่แรง เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI และการประมวลผลหนักในอุปกรณ์พกพา . แม้ราคาจะสูงกว่า microSD card แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าหลายเท่าทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความทนทาน . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัว ➡️ ขนาดเล็กเท่าเหรียญ ความเร็วอ่าน 3700 MB/s เขียน 3400 MB/s ✅ ราคาและรุ่นที่จำหน่าย ➡️ 512GB ราคา ~$85, 1TB ~$156, 2TB ~$311 ✅ เทคโนโลยีภายใน ➡️ PCIe 4×2, NVMe 1.4, LGA packaging, SLC cache, TRIM, thermal throttling ✅ ความทนทานสูง ➡️ IP68 กันน้ำกันฝุ่น, ทนตก 3 เมตร ✅ การใช้งานหลากหลาย ➡️ ใช้กับ RD510 USB4 reader เพื่อเป็น external NVMe drive ‼️ คำเตือนด้านราคา ⛔ แม้เริ่มต้น $85 แต่แพงกว่าหน่วยความจำแบบ microSD หลายเท่า ‼️ คำเตือนด้านการรองรับ ⛔ ต้องใช้ RD510 reader หรืออุปกรณ์ที่รองรับ PCIe/NVMe เท่านั้น https://wccftech.com/biwins-cl100-mini-ssd-the-coin-sized-ssd-that-starts-retailing-for-85/
    WCCFTECH.COM
    Coin-Sized SSD: Biwin's CL100 Mini SSD Starts At Just $85 For Extreme Portability
    Biwin has just unveiled the CL100 Mini SSD, a coin-sized Solid-State Drive that punches well above its weight.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel Core Ultra X9 388H โผล่ผลทดสอบ Geekbench"

    ชิป Intel Core Ultra X9 388H จากสถาปัตยกรรม Panther Lake ถูกพบในฐานข้อมูล Geekbench โดยทำคะแนน 3,057 คะแนนใน single-core และ 17,687 คะแนนใน multi-core . ผลลัพธ์นี้ทำให้มันเหนือกว่า Arrow Lake-H Core Ultra 9 285H และใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 275HX ที่มีจำนวนคอร์มากกว่า .

    เทียบกับ AMD Ryzen AI Max+ 395
    เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Ryzen AI Max+ 395 ที่ทำได้ 2,792 คะแนนใน single-core และ 17,669 คะแนนใน multi-core พบว่า X9 388H เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core . จุดเด่นคือการบูสต์ความเร็วได้ถึง 5.1 GHz แม้จะมีค่า TDP เพียง 45W ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งที่ 55W .

    สเปกและการออกแบบ
    Core Ultra X9 388H มาพร้อมการออกแบบ 16 คอร์ (4P + 8E + 4 LP-E) โดยไม่มี Hyper-Threading และใช้ GPU แบบ Xe3 iGPU 12 คอร์ . นี่ถือเป็นรุ่นสูงสุดที่รั่วไหลออกมาจาก Panther Lake ในตอนนี้ และถูกมองว่าเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและอุปกรณ์พกพา .

    มุมมองตลาดและความท้าทาย
    แม้ผลทดสอบจะน่าประทับใจ แต่ตลาดยังคงกังวลเรื่อง ราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูง ซึ่งอาจทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้ Panther Lake มีราคาสูงตามไปด้วย . Intel คาดว่าจะเปิดตัว Panther Lake อย่างเป็นทางการในปี 2026 และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ AMD Strix Halo และ Ryzen AI Max series .

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลทดสอบ Geekbench รั่วไหล
    Core Ultra X9 388H ทำได้ 3,057 (SC) และ 17,687 (MC)

    เหนือกว่า AMD Ryzen AI Max+ 395
    เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core

    สเปกที่โดดเด่น
    16 คอร์ (4P+8E+4LP-E), บูสต์ 5.1 GHz, Xe3 iGPU 12 คอร์

    TDP ต่ำกว่า
    45W เทียบกับ Ryzen AI Max+ 395 ที่ 55W

    คำเตือนด้านราคาโน้ตบุ๊ก
    ราคาหน่วยความจำ DDR5 ที่พุ่งสูงอาจทำให้เครื่องแพงขึ้น

    คำเตือนด้านความเสถียรของผลทดสอบ
    Geekbench เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้น ต้องรอผล benchmark เพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-core-ultra-x9-388h-is-up-to-8-7-percent-faster-for-1t-perf-than-ryzen-ai-max-395-panther-lake-gains-significant-ground-on-strix-halo-in-early-geekbench-leak
    🖥️ "Intel Core Ultra X9 388H โผล่ผลทดสอบ Geekbench" ชิป Intel Core Ultra X9 388H จากสถาปัตยกรรม Panther Lake ถูกพบในฐานข้อมูล Geekbench โดยทำคะแนน 3,057 คะแนนใน single-core และ 17,687 คะแนนใน multi-core . ผลลัพธ์นี้ทำให้มันเหนือกว่า Arrow Lake-H Core Ultra 9 285H และใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 275HX ที่มีจำนวนคอร์มากกว่า . ⚡ เทียบกับ AMD Ryzen AI Max+ 395 เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Ryzen AI Max+ 395 ที่ทำได้ 2,792 คะแนนใน single-core และ 17,669 คะแนนใน multi-core พบว่า X9 388H เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core . จุดเด่นคือการบูสต์ความเร็วได้ถึง 5.1 GHz แม้จะมีค่า TDP เพียง 45W ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งที่ 55W . 🔧 สเปกและการออกแบบ Core Ultra X9 388H มาพร้อมการออกแบบ 16 คอร์ (4P + 8E + 4 LP-E) โดยไม่มี Hyper-Threading และใช้ GPU แบบ Xe3 iGPU 12 คอร์ . นี่ถือเป็นรุ่นสูงสุดที่รั่วไหลออกมาจาก Panther Lake ในตอนนี้ และถูกมองว่าเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและอุปกรณ์พกพา . 🌍 มุมมองตลาดและความท้าทาย แม้ผลทดสอบจะน่าประทับใจ แต่ตลาดยังคงกังวลเรื่อง ราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูง ซึ่งอาจทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้ Panther Lake มีราคาสูงตามไปด้วย . Intel คาดว่าจะเปิดตัว Panther Lake อย่างเป็นทางการในปี 2026 และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ AMD Strix Halo และ Ryzen AI Max series . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลทดสอบ Geekbench รั่วไหล ➡️ Core Ultra X9 388H ทำได้ 3,057 (SC) และ 17,687 (MC) ✅ เหนือกว่า AMD Ryzen AI Max+ 395 ➡️ เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core ✅ สเปกที่โดดเด่น ➡️ 16 คอร์ (4P+8E+4LP-E), บูสต์ 5.1 GHz, Xe3 iGPU 12 คอร์ ✅ TDP ต่ำกว่า ➡️ 45W เทียบกับ Ryzen AI Max+ 395 ที่ 55W ‼️ คำเตือนด้านราคาโน้ตบุ๊ก ⛔ ราคาหน่วยความจำ DDR5 ที่พุ่งสูงอาจทำให้เครื่องแพงขึ้น ‼️ คำเตือนด้านความเสถียรของผลทดสอบ ⛔ Geekbench เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้น ต้องรอผล benchmark เพิ่มเติมเพื่อยืนยัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-core-ultra-x9-388h-is-up-to-8-7-percent-faster-for-1t-perf-than-ryzen-ai-max-395-panther-lake-gains-significant-ground-on-strix-halo-in-early-geekbench-leak
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle"

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 .

    การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์
    AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ .

    หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ
    ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ .

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก .

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง
    คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029

    AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI
    โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

    ASIC และ Custom Silicon
    Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์

    HBM และการบรรจุขั้นสูง
    HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
    CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026

    คำเตือนด้านคอขวดการผลิต
    หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI

    คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด
    หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    🌐 "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle" ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 . ⚡ การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ . 🧠 หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ . 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง ➡️ คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 ✅ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI ➡️ โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ✅ ASIC และ Custom Silicon ➡️ Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ ✅ HBM และการบรรจุขั้นสูง ➡️ HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ➡️ CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026 ‼️ คำเตือนด้านคอขวดการผลิต ⛔ หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด ⛔ หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก"

    Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030.

    การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์"
    Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน .

    ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM)
    ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน.

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน.

    สรุปสาระสำคัญ
    Intel จับมือ Tata Group
    ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย

    การลงทุนครั้งใหญ่
    โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์

    พัฒนา AI PC
    ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030

    สนับสนุน India Semiconductor Mission
    โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก

    คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน
    หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน

    คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน
    โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    🤝 "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก" Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030. 🏭 การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์" Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน . ⚡ ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM) ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน. 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Intel จับมือ Tata Group ➡️ ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ ➡️ โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์ ✅ พัฒนา AI PC ➡️ ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030 ✅ สนับสนุน India Semiconductor Mission ➡️ โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก ‼️ คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน ⛔ หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน ⛔ โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts