• 🌕 กล้องโทรทรรศน์ที่ไกลที่สุด: NASA เตรียมสร้างหอดูดาวบนดวงจันทร์
    NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) ซึ่งเป็น กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ตั้งอยู่บนด้านไกลของดวงจันทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น

    LCRT จะใช้ โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต ที่ถูกแขวนไว้ภายใน ปล่องภูเขาไฟบนดวงจันทร์ โดยอาศัย หุ่นยนต์ขั้นสูง ในการติดตั้งและควบคุมระบบ

    ด้านไกลของดวงจันทร์เป็น สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เนื่องจาก ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก เช่น คลื่นวิทยุจากดาวเทียมและมลภาวะทางแสง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) บนด้านไกลของดวงจันทร์
    - กล้องโทรทรรศน์นี้จะใช้โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต แขวนไว้ในปล่องภูเขาไฟ
    - ด้านไกลของดวงจันทร์เป็นสถานที่ที่ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก
    - โครงการนี้มีงบประมาณกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ และอาจเริ่มใช้งานในช่วงปี 2030
    - LCRT จะช่วยให้สามารถศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องแข่งขันกับงบประมาณของ NASA ที่จำกัด
    - แม้จะมีแผนการติดตั้ง แต่ยังต้องผ่านการทดสอบต้นแบบที่ Owens Valley Radio Observatory ในแคลิฟอร์เนีย
    - ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะสามารถรองรับการติดตั้งบนดวงจันทร์ได้หรือไม่
    - การศึกษายุคมืดของจักรวาลต้องใช้เทคนิคใหม่ในการตรวจจับคลื่นวิทยุที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 33 ฟุต

    หากโครงการนี้สำเร็จ LCRT จะเป็นหนึ่งในกล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจช่วยให้ นักดาราศาสตร์สามารถไขปริศนาเกี่ยวกับสสารมืด, พลังงานมืด และการเกิดขึ้นของจักรวาล

    https://www.techspot.com/news/108147-far-side-moon-may-soon-host-world-most.html
    🌕 กล้องโทรทรรศน์ที่ไกลที่สุด: NASA เตรียมสร้างหอดูดาวบนดวงจันทร์ NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) ซึ่งเป็น กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ตั้งอยู่บนด้านไกลของดวงจันทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น LCRT จะใช้ โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต ที่ถูกแขวนไว้ภายใน ปล่องภูเขาไฟบนดวงจันทร์ โดยอาศัย หุ่นยนต์ขั้นสูง ในการติดตั้งและควบคุมระบบ ด้านไกลของดวงจันทร์เป็น สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เนื่องจาก ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก เช่น คลื่นวิทยุจากดาวเทียมและมลภาวะทางแสง ✅ ข้อมูลจากข่าว - NASA กำลังพัฒนา Lunar Crater Radio Telescope (LCRT) บนด้านไกลของดวงจันทร์ - กล้องโทรทรรศน์นี้จะใช้โครงสร้างตาข่ายขนาด 1,150 ฟุต แขวนไว้ในปล่องภูเขาไฟ - ด้านไกลของดวงจันทร์เป็นสถานที่ที่ปราศจากสัญญาณรบกวนจากโลก - โครงการนี้มีงบประมาณกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ และอาจเริ่มใช้งานในช่วงปี 2030 - LCRT จะช่วยให้สามารถศึกษายุคมืดของจักรวาล ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ดาวฤกษ์ดวงแรกจะถือกำเนิดขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องแข่งขันกับงบประมาณของ NASA ที่จำกัด - แม้จะมีแผนการติดตั้ง แต่ยังต้องผ่านการทดสอบต้นแบบที่ Owens Valley Radio Observatory ในแคลิฟอร์เนีย - ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะสามารถรองรับการติดตั้งบนดวงจันทร์ได้หรือไม่ - การศึกษายุคมืดของจักรวาลต้องใช้เทคนิคใหม่ในการตรวจจับคลื่นวิทยุที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 33 ฟุต หากโครงการนี้สำเร็จ LCRT จะเป็นหนึ่งในกล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจช่วยให้ นักดาราศาสตร์สามารถไขปริศนาเกี่ยวกับสสารมืด, พลังงานมืด และการเกิดขึ้นของจักรวาล https://www.techspot.com/news/108147-far-side-moon-may-soon-host-world-most.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The far side of the Moon may soon host the world's most sensitive telescope, shielded from earthly interference
    NASA is advancing plans to construct a radio telescope on the Moon's far side – a location uniquely shielded from the ever-increasing interference caused by Earth's expanding...
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • "แรมโบ้" ทวงคืน รทสช. จี้ "พีระพันธุ์" ลาออก ชี้บริหารงานล้มเหลว พรรคแตกแยก สส.ไร้ความอบอุ่น ไม่ชี้แจงปมถือหุ้น-ผลประโยชน์ทับซ้อน แถมหนีประชุมสภาไปจีน ย้ำไม่ได้ขายพรรคให้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051574

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes


    "แรมโบ้" ทวงคืน รทสช. จี้ "พีระพันธุ์" ลาออก ชี้บริหารงานล้มเหลว พรรคแตกแยก สส.ไร้ความอบอุ่น ไม่ชี้แจงปมถือหุ้น-ผลประโยชน์ทับซ้อน แถมหนีประชุมสภาไปจีน ย้ำไม่ได้ขายพรรคให้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051574 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Wow
    3
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • 🤖 กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้
    นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln ได้พัฒนา กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญใน เทคโนโลยีหุ่นยนต์อ่อน (soft robotics)

    เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ระบบการรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต เช่น พืชและสัตว์ โดยใช้ สถาปัตยกรรมหลายชั้น ที่สามารถ ตรวจจับความเสียหาย, ระบุตำแหน่ง และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ

    โครงสร้างของกล้ามเนื้อเทียมประกอบด้วย สามชั้นหลัก ได้แก่
    1) ชั้นตรวจจับความเสียหาย – ใช้ ไมโครดรอปเล็ตของโลหะเหลวฝังในซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ
    2) ชั้นซ่อมแซมตัวเอง – ทำจาก เทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ ที่สามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน
    3) ชั้นกระตุ้นการเคลื่อนไหว – ควบคุมการหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อผ่านแรงดันน้ำ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln พัฒนากล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับและซ่อมแซมตัวเองได้
    - ใช้สถาปัตยกรรมสามชั้นที่เลียนแบบระบบรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต
    - ชั้นตรวจจับความเสียหายใช้โลหะเหลวฝังในซิลิโคนเพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้า
    - ชั้นซ่อมแซมตัวเองสามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน
    - เทคโนโลยีนี้อาจนำไปใช้ในหุ่นยนต์เกษตร, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประเมินความทนทานในระยะยาว
    - การใช้โลหะเหลวอาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงเมื่อใด
    - การซ่อมแซมตัวเองอาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงหรือซ้ำซ้อน

    เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ หุ่นยนต์อ่อนมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะใน สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/damage-sensing-and-self-healing-artificial-muscles-heralded-as-huge-step-forward-in-robotics
    🤖 กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln ได้พัฒนา กล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับความเสียหายและซ่อมแซมตัวเองได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญใน เทคโนโลยีหุ่นยนต์อ่อน (soft robotics) เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ระบบการรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต เช่น พืชและสัตว์ โดยใช้ สถาปัตยกรรมหลายชั้น ที่สามารถ ตรวจจับความเสียหาย, ระบุตำแหน่ง และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ โครงสร้างของกล้ามเนื้อเทียมประกอบด้วย สามชั้นหลัก ได้แก่ 1) ชั้นตรวจจับความเสียหาย – ใช้ ไมโครดรอปเล็ตของโลหะเหลวฝังในซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ 2) ชั้นซ่อมแซมตัวเอง – ทำจาก เทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ ที่สามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน 3) ชั้นกระตุ้นการเคลื่อนไหว – ควบคุมการหดตัวและขยายตัวของกล้ามเนื้อผ่านแรงดันน้ำ ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก University of Nebraska–Lincoln พัฒนากล้ามเนื้อเทียมที่สามารถตรวจจับและซ่อมแซมตัวเองได้ - ใช้สถาปัตยกรรมสามชั้นที่เลียนแบบระบบรักษาตัวเองของสิ่งมีชีวิต - ชั้นตรวจจับความเสียหายใช้โลหะเหลวฝังในซิลิโคนเพื่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้า - ชั้นซ่อมแซมตัวเองสามารถละลายและปิดรอยแตกเมื่อได้รับความร้อน - เทคโนโลยีนี้อาจนำไปใช้ในหุ่นยนต์เกษตร, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประเมินความทนทานในระยะยาว - การใช้โลหะเหลวอาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงเมื่อใด - การซ่อมแซมตัวเองอาจมีข้อจำกัดในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงหรือซ้ำซ้อน เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ หุ่นยนต์อ่อนมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะใน สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/damage-sensing-and-self-healing-artificial-muscles-heralded-as-huge-step-forward-in-robotics
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้

    ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน:
    1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)**
    - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน"
    - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี

    2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)**
    - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์
    - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง

    3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)**
    - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ
    - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง

    4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)**
    - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล
    - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย)

    ### ความท้าทายสำคัญ:
    - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ
    - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน
    - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน
    - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน

    ### กรณีศึกษาประเทศไทย:
    - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ
    - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ
    - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง

    ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ:
    1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law)
    2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI
    3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ
    4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน

    ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้ ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน: 1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)** - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน" - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี 2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)** - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง 3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)** - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง 4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)** - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย) ### ความท้าทายสำคัญ: - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน ### กรณีศึกษาประเทศไทย: - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ: 1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law) 2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI 3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ 4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • หวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีของนักแสดงผู้ล่วงลับ ต้าเอส ได้จัดพิธีแต่งงานกับ หม่า เสี่ยวเหม่ย หรือ แมนดี้ ที่ร้านอาหารสไตล์ลานจีนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยงานแต่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเข้าร่วม ส่วน ลูกสาวและลูกชายที่หวังมีร่วมกับ ต้าเอสไม่ได้ปรากฏตัวในงาน

    คู่บ่าวสาวเปิดตัวในชุดแต่งงานแบบจีนดั้งเดิม โดยแมนดี้สวมกี่เพ้าสีแดงพร้อมเครื่องประดับทองเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ มงกุฎ สร้อยคอ และช่อดอกไม้ ไม่ได้สวมชุดกำไลทองลายมังกร–หงส์ตามธรรมเนียม ส่วนหวัง เสี่ยวเฟยสวมชุดสูทปักลายมังกรทองสุดหรู หลังจากทักทายแขกเสร็จ ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสไตล์ตะวันตก

    โดยแมนดี้เลือกใส่ชุดแต่งงานคอเว้าลึกที่อวดหุ่นได้อย่างสวยงาม ในช่วงแลกเปลี่ยนคำสาบาน หวัง เสี่ยวเฟยถึงกับตะโกน “ผมตกลง!” สองครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้แขกในงาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050265

    #MGROnline #หวังเสี่ยวเฟย #หม่าเสี่ยวเหม่ย
    หวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีของนักแสดงผู้ล่วงลับ ต้าเอส ได้จัดพิธีแต่งงานกับ หม่า เสี่ยวเหม่ย หรือ แมนดี้ ที่ร้านอาหารสไตล์ลานจีนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยงานแต่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเข้าร่วม ส่วน ลูกสาวและลูกชายที่หวังมีร่วมกับ ต้าเอสไม่ได้ปรากฏตัวในงาน • คู่บ่าวสาวเปิดตัวในชุดแต่งงานแบบจีนดั้งเดิม โดยแมนดี้สวมกี่เพ้าสีแดงพร้อมเครื่องประดับทองเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ มงกุฎ สร้อยคอ และช่อดอกไม้ ไม่ได้สวมชุดกำไลทองลายมังกร–หงส์ตามธรรมเนียม ส่วนหวัง เสี่ยวเฟยสวมชุดสูทปักลายมังกรทองสุดหรู หลังจากทักทายแขกเสร็จ ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสไตล์ตะวันตก • โดยแมนดี้เลือกใส่ชุดแต่งงานคอเว้าลึกที่อวดหุ่นได้อย่างสวยงาม ในช่วงแลกเปลี่ยนคำสาบาน หวัง เสี่ยวเฟยถึงกับตะโกน “ผมตกลง!” สองครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้แขกในงาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050265 • #MGROnline #หวังเสี่ยวเฟย #หม่าเสี่ยวเหม่ย
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • 🧠 เทคโนโลยี e-tattoo: นวัตกรรมติดตามความเหนื่อยล้าทางจิตใจ
    นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสติน ได้พัฒนา e-tattoo ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบสติ๊กเกอร์ที่สามารถติดบนหน้าผากเพื่อตรวจสอบ ความเหนื่อยล้าทางจิตใจแบบเรียลไทม์ โดยอุปกรณ์นี้อาจช่วย นักบิน, คนขับรถ, ผู้ควบคุมหุ่นยนต์ และผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง

    e-tattoo ใช้ EEG และ EOG เพื่อตรวจจับคลื่นสมองและการเคลื่อนไหวของดวงตา ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์ ภาระทางจิตใจ ของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ

    นักวิจัยพบว่า เมื่อภาระทางจิตใจเพิ่มขึ้น คลื่นสมองประเภท theta และ delta จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ คลื่น alpha และ beta จะเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความเหนื่อยล้า

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - e-tattoo เป็นเซ็นเซอร์แบบสติ๊กเกอร์ที่ติดบนหน้าผากเพื่อตรวจสอบความเหนื่อยล้าทางจิตใจ
    - ใช้ EEG และ EOG เพื่อตรวจจับคลื่นสมองและการเคลื่อนไหวของดวงตา
    - สามารถช่วยนักบิน, คนขับรถ และผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง
    - คลื่น theta และ delta เพิ่มขึ้นเมื่อภาระทางจิตใจสูงขึ้น
    - คลื่น alpha และ beta เพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความเหนื่อยล้า

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม
    - ต้องหาวิธีให้เซ็นเซอร์สามารถถอดรหัสสัญญาณและแจ้งเตือนผ่านแอปได้โดยตรง
    - อุปกรณ์นี้อาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวมาก
    - ต้องรอดูว่าผู้ใช้จะยอมรับการติดเซ็นเซอร์บนใบหน้าหรือไม่

    e-tattoo อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา เทคโนโลยีติดตามสุขภาพทางจิตใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง อย่างไรก็ตาม ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์นี้สามารถใช้งานได้จริงในสถานการณ์ต่าง ๆ

    https://www.techspot.com/news/108124-stick-e-tattoo-tracks-mental-fatigue-real-time.html
    🧠 เทคโนโลยี e-tattoo: นวัตกรรมติดตามความเหนื่อยล้าทางจิตใจ นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสติน ได้พัฒนา e-tattoo ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบสติ๊กเกอร์ที่สามารถติดบนหน้าผากเพื่อตรวจสอบ ความเหนื่อยล้าทางจิตใจแบบเรียลไทม์ โดยอุปกรณ์นี้อาจช่วย นักบิน, คนขับรถ, ผู้ควบคุมหุ่นยนต์ และผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง e-tattoo ใช้ EEG และ EOG เพื่อตรวจจับคลื่นสมองและการเคลื่อนไหวของดวงตา ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์ ภาระทางจิตใจ ของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ นักวิจัยพบว่า เมื่อภาระทางจิตใจเพิ่มขึ้น คลื่นสมองประเภท theta และ delta จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ คลื่น alpha และ beta จะเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความเหนื่อยล้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - e-tattoo เป็นเซ็นเซอร์แบบสติ๊กเกอร์ที่ติดบนหน้าผากเพื่อตรวจสอบความเหนื่อยล้าทางจิตใจ - ใช้ EEG และ EOG เพื่อตรวจจับคลื่นสมองและการเคลื่อนไหวของดวงตา - สามารถช่วยนักบิน, คนขับรถ และผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง - คลื่น theta และ delta เพิ่มขึ้นเมื่อภาระทางจิตใจสูงขึ้น - คลื่น alpha และ beta เพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความเหนื่อยล้า ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม - ต้องหาวิธีให้เซ็นเซอร์สามารถถอดรหัสสัญญาณและแจ้งเตือนผ่านแอปได้โดยตรง - อุปกรณ์นี้อาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวมาก - ต้องรอดูว่าผู้ใช้จะยอมรับการติดเซ็นเซอร์บนใบหน้าหรือไม่ e-tattoo อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา เทคโนโลยีติดตามสุขภาพทางจิตใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง อย่างไรก็ตาม ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์นี้สามารถใช้งานได้จริงในสถานการณ์ต่าง ๆ https://www.techspot.com/news/108124-stick-e-tattoo-tracks-mental-fatigue-real-time.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    This stick-on e-tattoo tracks mental fatigue in real time
    Dr Nanshu Lu, an author of the research from the University of Texas at Austin, writes that the e-tattoo could be valuable for professions that require high...
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • 💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin
    บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025

    Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน

    นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin
    - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025
    - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก
    - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz
    - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด
    - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ
    - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล

    การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Meliuz launches share offering for bitcoin purchase
    SAO PAULO (Reuters) - Brazilian fintech Meliuz said it has filed for a primary offering of shares with the aim of raising funds for the acquisition of bitcoin, with pricing scheduled for June 12.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • กลับสู่ที่ตั้งเดิม หลังภาษีทรัมป์ยังเดินหน้าต่อ? (30/05/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ภาษีทรัมป์
    กลับสู่ที่ตั้งเดิม หลังภาษีทรัมป์ยังเดินหน้าต่อ? (30/05/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ภาษีทรัมป์
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 479 Views 25 0 Reviews
  • SCB แจงข้อมูลผู้ถือหุ้น 30/05/68 #คุยคุ้ยหุ้น #ผู้ถือหุ้น #SCB #ตลาดหลักทรัพย์ #ตลาดหุ้น
    SCB แจงข้อมูลผู้ถือหุ้น 30/05/68 #คุยคุ้ยหุ้น #ผู้ถือหุ้น #SCB #ตลาดหลักทรัพย์ #ตลาดหุ้น
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 451 Views 27 0 Reviews
  • 🚨 สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้บริษัทผู้ผลิต Electronic Design Automation (EDA) software เช่น Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens EDA หยุดขายเทคโนโลยีให้กับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น

    EDA software เป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบและจำลองชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของเทคโนโลยี AI และการประมวลผลขั้นสูง การจำกัดการเข้าถึงซอฟต์แวร์นี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของจีนในการพัฒนา ชิปยุคใหม่

    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้กับจีน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องจากการควบคุมการส่งออกชิป AI ตั้งแต่ปี 2022

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - สหรัฐฯ สั่งให้ Synopsys, Cadence และ Siemens EDA หยุดขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน
    - EDA software มีความสำคัญต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
    - ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้จีน
    - จีนคิดเป็น 16% ของรายได้ Synopsys และ 12% ของรายได้ Cadence
    - หุ้นของ Synopsys และ Cadence ร่วงลงกว่า 9% หลังข่าวนี้เผยแพร่

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การจำกัดการส่งออกอาจกระตุ้นให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง
    - บริษัทสหรัฐฯ อาจสูญเสียรายได้จากตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    - การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเปราะบาง แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงหยุดการขึ้นภาษีใหม่เป็นเวลา 90 วัน
    - บริษัทจีน เช่น Empyrean Technology และ Primarius กำลังได้รับแรงหนุนจากมาตรการนี้

    🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    มาตรการของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้จีนเร่งพัฒนา EDA software ของตนเอง และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว

    https://www.techspot.com/news/108102-trump-blocks-china-key-semiconductor-design-software.html
    🚨 สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้บริษัทผู้ผลิต Electronic Design Automation (EDA) software เช่น Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens EDA หยุดขายเทคโนโลยีให้กับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น EDA software เป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบและจำลองชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของเทคโนโลยี AI และการประมวลผลขั้นสูง การจำกัดการเข้าถึงซอฟต์แวร์นี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของจีนในการพัฒนา ชิปยุคใหม่ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้กับจีน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องจากการควบคุมการส่งออกชิป AI ตั้งแต่ปี 2022 ✅ ข้อมูลจากข่าว - สหรัฐฯ สั่งให้ Synopsys, Cadence และ Siemens EDA หยุดขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน - EDA software มีความสำคัญต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูง - ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้จีน - จีนคิดเป็น 16% ของรายได้ Synopsys และ 12% ของรายได้ Cadence - หุ้นของ Synopsys และ Cadence ร่วงลงกว่า 9% หลังข่าวนี้เผยแพร่ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การจำกัดการส่งออกอาจกระตุ้นให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง - บริษัทสหรัฐฯ อาจสูญเสียรายได้จากตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก - การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเปราะบาง แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงหยุดการขึ้นภาษีใหม่เป็นเวลา 90 วัน - บริษัทจีน เช่น Empyrean Technology และ Primarius กำลังได้รับแรงหนุนจากมาตรการนี้ 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ มาตรการของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้จีนเร่งพัฒนา EDA software ของตนเอง และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว https://www.techspot.com/news/108102-trump-blocks-china-key-semiconductor-design-software.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump blocks China from key semiconductor design software
    These companies collectively control about 80 percent of China's EDA market, making them a critical part of the global semiconductor supply chain. EDA software, though a relatively...
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • Marvell Technology คาดการณ์ว่ารายได้ไตรมาสที่สองจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิป AI แบบกำหนดเองที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล

    Marvell เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาด AI โดยเฉพาะในกลุ่ม hyperscalers ที่ต้องการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับงานประมวลผล AI นอกจากนี้ บริษัทกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดศูนย์ข้อมูลระดับประเทศและตลาดเกิดใหม่

    นักวิเคราะห์จาก CFRA Research ระบุว่า ธุรกิจชิปแบบกำหนดเองจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Marvell คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญ สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.98 พันล้านเหรียญ
    - รายได้จากกลุ่มศูนย์ข้อมูลคิดเป็น 76% ของรายได้ทั้งหมด โดยอยู่ที่ 1.44 พันล้านเหรียญ ในไตรมาสแรก
    - ธุรกิจเครือข่ายสำหรับองค์กรและผู้ให้บริการโทรคมนาคมเริ่มฟื้นตัว หลังจากช่วงปรับลดสินค้าคงคลัง
    - Marvell เลื่อนการประชุมนักลงทุนออกไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ตลาดผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ โดยรายได้ลดลง 29% เนื่องจากความต้องการเกมที่ลดลงตามฤดูกาล
    - กลุ่มอุตสาหกรรมก็เผชิญกับความท้าทาย โดยรายได้ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
    - หุ้นของ Marvell ลดลงประมาณ 2% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มรายได้ที่ดีขึ้น
    - ต้องจับตาดูการประชุมเกี่ยวกับชิปแบบกำหนดเองในวันที่ 17 มิถุนายน ซึ่งอาจเปิดเผยโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด

    Marvell กำลังใช้ประโยชน์จากกระแส AI เพื่อขยายธุรกิจชิปแบบกำหนดเอง แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาดผู้บริโภคและอุตสาหกรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/chipmaker-marvell-forecasts-second-quarter-revenue-above-estimates
    Marvell Technology คาดการณ์ว่ารายได้ไตรมาสที่สองจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิป AI แบบกำหนดเองที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล Marvell เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาด AI โดยเฉพาะในกลุ่ม hyperscalers ที่ต้องการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับงานประมวลผล AI นอกจากนี้ บริษัทกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดศูนย์ข้อมูลระดับประเทศและตลาดเกิดใหม่ นักวิเคราะห์จาก CFRA Research ระบุว่า ธุรกิจชิปแบบกำหนดเองจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - Marvell คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญ สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.98 พันล้านเหรียญ - รายได้จากกลุ่มศูนย์ข้อมูลคิดเป็น 76% ของรายได้ทั้งหมด โดยอยู่ที่ 1.44 พันล้านเหรียญ ในไตรมาสแรก - ธุรกิจเครือข่ายสำหรับองค์กรและผู้ให้บริการโทรคมนาคมเริ่มฟื้นตัว หลังจากช่วงปรับลดสินค้าคงคลัง - Marvell เลื่อนการประชุมนักลงทุนออกไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ตลาดผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ โดยรายได้ลดลง 29% เนื่องจากความต้องการเกมที่ลดลงตามฤดูกาล - กลุ่มอุตสาหกรรมก็เผชิญกับความท้าทาย โดยรายได้ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า - หุ้นของ Marvell ลดลงประมาณ 2% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มรายได้ที่ดีขึ้น - ต้องจับตาดูการประชุมเกี่ยวกับชิปแบบกำหนดเองในวันที่ 17 มิถุนายน ซึ่งอาจเปิดเผยโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด Marvell กำลังใช้ประโยชน์จากกระแส AI เพื่อขยายธุรกิจชิปแบบกำหนดเอง แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาดผู้บริโภคและอุตสาหกรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/chipmaker-marvell-forecasts-second-quarter-revenue-above-estimates
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Marvell forecasts second-quarter revenue above estimates on strong demand for custom AI chips
    (Reuters) -Marvell Technology forecast second-quarter revenue above Wall Street estimates on Thursday, betting on strong demand for its custom chips powering artificial intelligence workloads in data centers.
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst เพื่อขยายแพลตฟอร์ม AI ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Grammarly เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการช่วยตรวจสอบและปรับปรุงการเขียน โดยมีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนา AI agent ที่สามารถช่วยจัดการเอกสารและการสื่อสารในองค์กร

    General Catalyst ใช้ Customer Value Fund (CVF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดย Grammarly เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากกองทุนนี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst
    - เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา AI และขยายแพลตฟอร์ม
    - Grammarly มีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 700 ล้านเหรียญ
    - General Catalyst ไม่ได้รับหุ้นของ Grammarly แต่จะได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากเงินลงทุน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Grammarly กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือช่วยเขียนไปเป็นแพลตฟอร์ม AI เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้
    - การลงทุนใน AI มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทใหญ่ เช่น Google และ Microsoft
    - General Catalyst ใช้โมเดลการลงทุนที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของ Grammarly ในระยะยาว
    - Grammarly มีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/exclusive-grammarly-secures-1-billion-from-general-catalyst-to-build-ai-productivity-platform
    Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst เพื่อขยายแพลตฟอร์ม AI ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น Grammarly เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการช่วยตรวจสอบและปรับปรุงการเขียน โดยมีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนา AI agent ที่สามารถช่วยจัดการเอกสารและการสื่อสารในองค์กร General Catalyst ใช้ Customer Value Fund (CVF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดย Grammarly เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากกองทุนนี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst - เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา AI และขยายแพลตฟอร์ม - Grammarly มีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 700 ล้านเหรียญ - General Catalyst ไม่ได้รับหุ้นของ Grammarly แต่จะได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากเงินลงทุน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Grammarly กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือช่วยเขียนไปเป็นแพลตฟอร์ม AI เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ - การลงทุนใน AI มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทใหญ่ เช่น Google และ Microsoft - General Catalyst ใช้โมเดลการลงทุนที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของ Grammarly ในระยะยาว - Grammarly มีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/exclusive-grammarly-secures-1-billion-from-general-catalyst-to-build-ai-productivity-platform
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grammarly secures $1 billion from General Catalyst to build AI productivity platform
    (This story has been corrected to fix when Grammarly was founded, in paragraph 5, and to clarify the General Catalyst fund relationship, in paragraph 11)
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • วันนี้ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในประเด็นการก่อสร้างอคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ณ ห้องประชุม ท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

    นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เป็นประตูสู่ภาคอีสาน” เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม และการศึกษาของภาคอีสาน มีการเจริญ เติบโตสูงรองจากกรุงเทพมหานคร สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ หน่วยบริการให้เป็น Excellence Center ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้อง กับการขยายตัวของจังหวัดนครราชสีมาในทุกมิติ ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นโรงพยาบาลศูนย์ เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6.7 ล้านคน เป็นโรงพยาบาลที่พึ่ง ของคนอีสาน และยังเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ นายแพทย์ธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด

    ด้านโรคมะเร็ง ต้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้านทารกแรกเกิด และด้านการรับบริจาคและเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และศูนย์ ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด, ศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก, ศูนย์ผ่าตัดสมอง, ศูนย์ผ่าตัดตา, ศูนย์กระดูกและข้อ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 แสนตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 3,550,156,700 บาท ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 563,500,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำของ การเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดแออัด ลดการส่งต่อผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปยัง โรงเรียนแพทย์อื่นๆ เพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิต ยังเป็นการพัฒนาให้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาให้เป็นสถาบันวิจัยทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สําหรับแพทย์ และ บุคลากรสหวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและได้ประโยชน์โดยตรงอย่างสูงสุด
    วันนี้ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในประเด็นการก่อสร้างอคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ณ ห้องประชุม ท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เป็นประตูสู่ภาคอีสาน” เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม และการศึกษาของภาคอีสาน มีการเจริญ เติบโตสูงรองจากกรุงเทพมหานคร สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ หน่วยบริการให้เป็น Excellence Center ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้อง กับการขยายตัวของจังหวัดนครราชสีมาในทุกมิติ ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นโรงพยาบาลศูนย์ เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6.7 ล้านคน เป็นโรงพยาบาลที่พึ่ง ของคนอีสาน และยังเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ นายแพทย์ธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้านโรคมะเร็ง ต้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้านทารกแรกเกิด และด้านการรับบริจาคและเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และศูนย์ ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด, ศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก, ศูนย์ผ่าตัดสมอง, ศูนย์ผ่าตัดตา, ศูนย์กระดูกและข้อ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 แสนตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 3,550,156,700 บาท ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 563,500,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำของ การเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดแออัด ลดการส่งต่อผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปยัง โรงเรียนแพทย์อื่นๆ เพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิต ยังเป็นการพัฒนาให้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาให้เป็นสถาบันวิจัยทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สําหรับแพทย์ และ บุคลากรสหวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและได้ประโยชน์โดยตรงอย่างสูงสุด
    0 Comments 0 Shares 330 Views 0 Reviews
  • บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท

    การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี

    แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง
    ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5%

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000050149

    #MGROnline #บีวายดี #ยานยนต์จีน
    บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท • การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี • แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5% • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000050149 • #MGROnline #บีวายดี #ยานยนต์จีน
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • ระวัง OVERREACT ศาลสหรัฐสั่งยกเลิกภาษีทรัมป์ 29/05/68 #คุยคุ้ยหุ้น #ภาษีทรัมป์ #OVERREACT #ตลาดหุ้น #เศรษฐกิจ
    ระวัง OVERREACT ศาลสหรัฐสั่งยกเลิกภาษีทรัมป์ 29/05/68 #คุยคุ้ยหุ้น #ภาษีทรัมป์ #OVERREACT #ตลาดหุ้น #เศรษฐกิจ
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 500 Views 21 0 Reviews
  • Gulf ขาย KBank ทำราคาร่วง (29/05/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น #gulf #kbank
    Gulf ขาย KBank ทำราคาร่วง (29/05/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น #gulf #kbank
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 474 Views 17 0 Reviews
  • บริษัท AMD ได้เข้าซื้อ Enosemi ซึ่งเป็นผู้พัฒนา photonic integrated circuits เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics สำหรับระบบ AI โดยเทคโนโลยีนี้ใช้แสงเลเซอร์ส่งข้อมูลผ่านสายไฟเบอร์ออปติกระหว่างชิป ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าการใช้สายทองแดงแบบเดิม

    เทคโนโลยี co-packaged optics กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนใน Silicon Valley เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ AI และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ AMD ยังเคยเข้าซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อขยายธุรกิจด้านชิป AI และแข่งขันกับ Nvidia

    📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AMD เข้าซื้อ Enosemi เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การส่งข้อมูลเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง
    - AMD ไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงินของดีลนี้
    - ก่อนหน้านี้ AMD ซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อเสริมธุรกิจชิป AI

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - เทคโนโลยี co-packaged optics ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจต้องใช้เวลาพัฒนาให้พร้อมใช้งานในวงกว้าง
    - การแข่งขันในตลาดชิป AI รุนแรงมาก โดย Nvidia ครองตลาดหลักอยู่
    - นักลงทุนควรติดตามผลกระทบของดีลนี้ต่อราคาหุ้นของ AMD และแนวโน้มตลาด AI

    การเข้าซื้อ Enosemi เป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบ AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงดุเดือด และต้องจับตาดูว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ Nvidia ได้มากน้อยเพียงใด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/amd-buys-enosemi-to-boost-co-packaged-optics-offerings
    บริษัท AMD ได้เข้าซื้อ Enosemi ซึ่งเป็นผู้พัฒนา photonic integrated circuits เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics สำหรับระบบ AI โดยเทคโนโลยีนี้ใช้แสงเลเซอร์ส่งข้อมูลผ่านสายไฟเบอร์ออปติกระหว่างชิป ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าการใช้สายทองแดงแบบเดิม เทคโนโลยี co-packaged optics กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนใน Silicon Valley เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ AI และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ AMD ยังเคยเข้าซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อขยายธุรกิจด้านชิป AI และแข่งขันกับ Nvidia 📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD เข้าซื้อ Enosemi เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การส่งข้อมูลเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง - AMD ไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงินของดีลนี้ - ก่อนหน้านี้ AMD ซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อเสริมธุรกิจชิป AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - เทคโนโลยี co-packaged optics ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจต้องใช้เวลาพัฒนาให้พร้อมใช้งานในวงกว้าง - การแข่งขันในตลาดชิป AI รุนแรงมาก โดย Nvidia ครองตลาดหลักอยู่ - นักลงทุนควรติดตามผลกระทบของดีลนี้ต่อราคาหุ้นของ AMD และแนวโน้มตลาด AI การเข้าซื้อ Enosemi เป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบ AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงดุเดือด และต้องจับตาดูว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ Nvidia ได้มากน้อยเพียงใด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/amd-buys-enosemi-to-boost-co-packaged-optics-offerings
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม

    GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง

    การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่

    🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ
    - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ
    - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET
    - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม
    - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด
    - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก
    - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว
    - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin

    GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่ 🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    WWW.THESTAR.COM.MY
    GameStop buys bitcoin worth $513 million in crypto push
    (Reuters) -GameStop has purchased bitcoin worth about $513 million, the company said on Wednesday as the ailing video game retailer looks to capitalize on the growing adoption of cryptocurrencies globally.
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • #เสาสัญญาณเเห่งความร่ำรวย
    #พิธีกรรมจิต เเละความศรัทธาในเงินสด

    การสร้างความร่ำรวยแท้จริงนั้น "ง่าย"

    อย่างที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน
    แต่ความง่ายนี้มีเงื่อนไขสำคัญ

    มันต้องกลายเป็น “กิจวัตร”
    ต้องทำซ้ำ ต้องย้ำต้องวน
    ต้องชัด และต้องศรัทธา

    #กุญแจสำคัญที่สุด คือ
    การล้างกระดานเก่าในจิต
    แล้วแทนที่ด้วยภาพใหม่
    ของความมั่งคั่ง

    จากนั้น #เปิดคลื่นวิทยุของจิต

    ให้รับ-ส่งแค่ช่องสัญญาณเดียว

    ช่องที่ชื่อว่า

    "ฉันมีเงิน ฉันร่ำรวย ฉันสำเร็จ"

    ซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งวันทั้งคืน

    อย่าปล่อยให้จิตเปิดรับทุกคลื่น
    เหมือนการฟังวิทยุหลายสถานี
    มีทั้งเพลง ข่าว โฆษณา
    ซึ่งมีสาระก็จริง แต่ไม่เข้มข้น
    และไม่ต่อเนื่องพอจะสร้างอะไรได้เลย

    เพราะมันเพียง
    สะกิดใจไม่กี่วินาที
    แล้วหายวับไป

    หากคุณอยากรวย ต้อง #ถักจิต
    เหมือน การทอผ้า ต้องนั่งทำซ้ำๆ ทุกวัน
    เหมือนการสร้างผืนผ้าขนาดใหญ่
    ที่ใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี

    หากเปรียบความร่ำรวยเป็นผืนผ้า

    คุณต้องยอมใช้ชีวิต
    ปักเข็มเส้นเดิมทุกวัน
    ไม่มีทางลัด

    #จิตที่แน่วแน่เท่านั้นที่รวยได้

    คุณต้องมีความหมกมุ่นระดับสูงสุด
    หมกมุ่นแบบนักธุรกิจ
    ที่คิดแค่เรื่องเงิน คิดหาเงิน เก็บเงิน
    ขยายเงิน ตั้งบริษัท สร้างอาณาจักร
    แล้วส่งต่อความมั่งคั่งให้รุ่นลูกหลาน

    เพราะจิตของคนรวยจะมีคลื่นเดียว

    “ฉันรวยและฉันกำลังรวย”

    แต่ในยุคนี้ อินเทอร์เน็ต
    ทำให้จิตคนยุคใหม่อ่อนแอ

    คลื่นสัญญาณถูกรบกวน
    จากข้อมูลสารพัดรูปแบบ
    ทำให้จิตสร้างอะไรไม่ได้เลย
    เพราะมันไม่แน่วแน่พอ
    ไม่มีคลื่นหลักของตัวเอง

    #ฟอร์มจิตให้กลายเป็นพลังสร้าง

    จะเปลี่ยนจิตให้สร้างสิ่งใดเป็นรูปธรรม
    ต้องใช้กลไกแบบเดียวกับ
    การดูละครซีรีส์ที่เราหลงใหล

    อ่านนิยายที่เรารู้สึกว่า “เราเองคือตัวเอก”
    มันต้องอิน ต้องย้ำ ต้องหมกมุ่น
    แล้วเราจะเริ่ม “กลายเป็นสิ่งนั้นจริงๆ”

    คนที่ไม่สำเร็จ เพราะจิตไม่ชัดเจน
    ไม่อิน ไม่เชื่อ ไม่ซ้ำ ใช้ชีวิตแบบดูผ่าน
    ฟังผ่าน แล้วก็หมดวันไปอย่างไร้พลัง

    เริ่มต้นความร่ำรวยจาก "พิธีกรรมเงินสด"

    หากคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า
    “ฉันจะรวย” ให้ตั้งพิธีกรรมของคุณขึ้นมา
    ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

    1.หา #เครื่องยึดเหนี่ยว
    สัญลักษณ์ที่สั่นสะเทือนหัวใจ
    เช่น ทองคำแท่ง เงินสด ที่ดิน
    มาวางบนโต๊ะพิธีของคุณ
    เพื่อย้ำเตือนว่า นี่คือ
    เป้าหมายเดียวของชีวิตช่วงนี้

    2.#ถอนเงินสดออกจากออนไลน์
    อย่าปล่อยให้เงินอยู่แค่ในระบบดิจิทัล
    จิตจะไม่เห็นว่าตัวเองได้รับเงินเลย
    เพราะมันจำแค่ตอนโอนออก

    3.#ให้เงินสดอยู่ตรงหน้าคุณ 24 ชั่วโมง
    วางบนโต๊ะพิธี วางไว้ข้างหัวนอน
    วางตรงกระจกห้องน้ำ
    ถ้าคุณเห็นเงินทุกวัน
    จิตจะเริ่มซึมซับคลื่นความร่ำรวย

    4.#เมื่อเงินสดเริ่มมีแล้ว
    #ให้ขยับไปสู่ทองคำ
    ไม่ใช่เพื่อขาย แต่เพื่อ “ดูดเงินเพิ่ม”
    ทอง คือ แม่เหล็กเงิน
    ถ้าคุณศรัทธา
    มันจะกลายเป็นสนามแม่เหล็ก
    ดึงดูดความมั่งคั่ง

    5.#คิดวนซ้ำสร้างเงิน เก็บเงิน ซื้อทอง
    เพื่อดูดเงิน ทำจนจิตของคุณ
    เปลี่ยนสนามพลังจากขาดแคลนเป็นมั่งคั่ง

    คุณ คือ #เสาสัญญาณแห่งความร่ำรวย

    เมื่อจิตคุณเปลี่ยน
    พลังงทานทั้งเมืองจะเปลี่ยน
    พลังงานประเทศจะเปลี่ยน
    เพราะเศรษฐกิจรอบตัวคุณ
    จะต้องสนับสนุนให้คุณได้เงิน

    เพราะคุณ คือ #ผู้ถือคลื่นแห่งเงินสด

    ลูกค้าจะเข้ามา หุ้นส่วนจะมาหา
    งานจะไหลมา เพราะคุณ
    กำลังทำพิธีกรรมเงินซ้ำๆ อย่างมีพลัง
    จิตคุณชัดและไม่สั่นไหว

    อย่าอิจฉาใคร
    เพราะทุกคนที่รวยขึ้นรอบตัวคุณ
    คือ เครื่องสะท้อนว่า
    คุณกำลังอยู่ในสนามถูกต้องแล้ว

    บทส่งท้าย: #บูชาเงินสดอย่างมีศรัทธา

    จงดำเนินชีวิตใหม่ให้เหมือน

    #นักบวชแห่งเงินสด

    ผู้ที่เชื่อมั่น ศรัทธา และยึดมั่น
    ในเส้นทางแห่งความมั่งคั่งทุกลมหายใจ

    #ตัดสิ่งไร้สาระทิ้งไป

    ปกป้องพลังจิตอย่างเข้มแข็ง
    ทำทุกอย่างให้ใจมีความสุข
    เพื่อให้กลายเป็นการสร้างเงินที่ยั่งยืน

    เพราะสุดท้ายแล้ว
    “ความสุขและความร่ำรวย”
    คือ สิ่งเดียวกัน คุณไม่มีวันรวยได้จริง
    หากไม่รักหนทางที่กำลังเดิน

    จงหมกมุ่น จงตั้งใจ จงลงมือ จงทำซ้ำ
    แล้วคุณจะไม่เพียงแค่ร่ำรวย
    แต่จะกลายเป็นต้นน้ำแห่งความมั่งคั่ง
    ให้กับผู้คนทั้งแผ่นดิน
    #เสาสัญญาณเเห่งความร่ำรวย #พิธีกรรมจิต เเละความศรัทธาในเงินสด การสร้างความร่ำรวยแท้จริงนั้น "ง่าย" อย่างที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน แต่ความง่ายนี้มีเงื่อนไขสำคัญ มันต้องกลายเป็น “กิจวัตร” ต้องทำซ้ำ ต้องย้ำต้องวน ต้องชัด และต้องศรัทธา #กุญแจสำคัญที่สุด คือ การล้างกระดานเก่าในจิต แล้วแทนที่ด้วยภาพใหม่ ของความมั่งคั่ง จากนั้น #เปิดคลื่นวิทยุของจิต ให้รับ-ส่งแค่ช่องสัญญาณเดียว ช่องที่ชื่อว่า "ฉันมีเงิน ฉันร่ำรวย ฉันสำเร็จ" ซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งวันทั้งคืน อย่าปล่อยให้จิตเปิดรับทุกคลื่น เหมือนการฟังวิทยุหลายสถานี มีทั้งเพลง ข่าว โฆษณา ซึ่งมีสาระก็จริง แต่ไม่เข้มข้น และไม่ต่อเนื่องพอจะสร้างอะไรได้เลย เพราะมันเพียง สะกิดใจไม่กี่วินาที แล้วหายวับไป หากคุณอยากรวย ต้อง #ถักจิต เหมือน การทอผ้า ต้องนั่งทำซ้ำๆ ทุกวัน เหมือนการสร้างผืนผ้าขนาดใหญ่ ที่ใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี หากเปรียบความร่ำรวยเป็นผืนผ้า คุณต้องยอมใช้ชีวิต ปักเข็มเส้นเดิมทุกวัน ไม่มีทางลัด #จิตที่แน่วแน่เท่านั้นที่รวยได้ คุณต้องมีความหมกมุ่นระดับสูงสุด หมกมุ่นแบบนักธุรกิจ ที่คิดแค่เรื่องเงิน คิดหาเงิน เก็บเงิน ขยายเงิน ตั้งบริษัท สร้างอาณาจักร แล้วส่งต่อความมั่งคั่งให้รุ่นลูกหลาน เพราะจิตของคนรวยจะมีคลื่นเดียว “ฉันรวยและฉันกำลังรวย” แต่ในยุคนี้ อินเทอร์เน็ต ทำให้จิตคนยุคใหม่อ่อนแอ คลื่นสัญญาณถูกรบกวน จากข้อมูลสารพัดรูปแบบ ทำให้จิตสร้างอะไรไม่ได้เลย เพราะมันไม่แน่วแน่พอ ไม่มีคลื่นหลักของตัวเอง #ฟอร์มจิตให้กลายเป็นพลังสร้าง จะเปลี่ยนจิตให้สร้างสิ่งใดเป็นรูปธรรม ต้องใช้กลไกแบบเดียวกับ การดูละครซีรีส์ที่เราหลงใหล อ่านนิยายที่เรารู้สึกว่า “เราเองคือตัวเอก” มันต้องอิน ต้องย้ำ ต้องหมกมุ่น แล้วเราจะเริ่ม “กลายเป็นสิ่งนั้นจริงๆ” คนที่ไม่สำเร็จ เพราะจิตไม่ชัดเจน ไม่อิน ไม่เชื่อ ไม่ซ้ำ ใช้ชีวิตแบบดูผ่าน ฟังผ่าน แล้วก็หมดวันไปอย่างไร้พลัง เริ่มต้นความร่ำรวยจาก "พิธีกรรมเงินสด" หากคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า “ฉันจะรวย” ให้ตั้งพิธีกรรมของคุณขึ้นมา ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 1.หา #เครื่องยึดเหนี่ยว สัญลักษณ์ที่สั่นสะเทือนหัวใจ เช่น ทองคำแท่ง เงินสด ที่ดิน มาวางบนโต๊ะพิธีของคุณ เพื่อย้ำเตือนว่า นี่คือ เป้าหมายเดียวของชีวิตช่วงนี้ 2.#ถอนเงินสดออกจากออนไลน์ อย่าปล่อยให้เงินอยู่แค่ในระบบดิจิทัล จิตจะไม่เห็นว่าตัวเองได้รับเงินเลย เพราะมันจำแค่ตอนโอนออก 3.#ให้เงินสดอยู่ตรงหน้าคุณ 24 ชั่วโมง วางบนโต๊ะพิธี วางไว้ข้างหัวนอน วางตรงกระจกห้องน้ำ ถ้าคุณเห็นเงินทุกวัน จิตจะเริ่มซึมซับคลื่นความร่ำรวย 4.#เมื่อเงินสดเริ่มมีแล้ว #ให้ขยับไปสู่ทองคำ ไม่ใช่เพื่อขาย แต่เพื่อ “ดูดเงินเพิ่ม” ทอง คือ แม่เหล็กเงิน ถ้าคุณศรัทธา มันจะกลายเป็นสนามแม่เหล็ก ดึงดูดความมั่งคั่ง 5.#คิดวนซ้ำสร้างเงิน เก็บเงิน ซื้อทอง เพื่อดูดเงิน ทำจนจิตของคุณ เปลี่ยนสนามพลังจากขาดแคลนเป็นมั่งคั่ง คุณ คือ #เสาสัญญาณแห่งความร่ำรวย เมื่อจิตคุณเปลี่ยน พลังงทานทั้งเมืองจะเปลี่ยน พลังงานประเทศจะเปลี่ยน เพราะเศรษฐกิจรอบตัวคุณ จะต้องสนับสนุนให้คุณได้เงิน เพราะคุณ คือ #ผู้ถือคลื่นแห่งเงินสด ลูกค้าจะเข้ามา หุ้นส่วนจะมาหา งานจะไหลมา เพราะคุณ กำลังทำพิธีกรรมเงินซ้ำๆ อย่างมีพลัง จิตคุณชัดและไม่สั่นไหว อย่าอิจฉาใคร เพราะทุกคนที่รวยขึ้นรอบตัวคุณ คือ เครื่องสะท้อนว่า คุณกำลังอยู่ในสนามถูกต้องแล้ว บทส่งท้าย: #บูชาเงินสดอย่างมีศรัทธา จงดำเนินชีวิตใหม่ให้เหมือน #นักบวชแห่งเงินสด ผู้ที่เชื่อมั่น ศรัทธา และยึดมั่น ในเส้นทางแห่งความมั่งคั่งทุกลมหายใจ #ตัดสิ่งไร้สาระทิ้งไป ปกป้องพลังจิตอย่างเข้มแข็ง ทำทุกอย่างให้ใจมีความสุข เพื่อให้กลายเป็นการสร้างเงินที่ยั่งยืน เพราะสุดท้ายแล้ว “ความสุขและความร่ำรวย” คือ สิ่งเดียวกัน คุณไม่มีวันรวยได้จริง หากไม่รักหนทางที่กำลังเดิน จงหมกมุ่น จงตั้งใจ จงลงมือ จงทำซ้ำ แล้วคุณจะไม่เพียงแค่ร่ำรวย แต่จะกลายเป็นต้นน้ำแห่งความมั่งคั่ง ให้กับผู้คนทั้งแผ่นดิน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • Hygon และ Sugon รวมตัวเป็นยักษ์ใหญ่ด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีน

    จีน กำลังสร้างอาณาจักรซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการควบรวม Hygon Information Technology ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิป และ Sugon ซึ่งเป็นผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยการควบรวมนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจากตะวันตก

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการควบรวม Hygon และ Sugon
    ✅ Hygon เป็นบริษัทที่เคยใช้สถาปัตยกรรม Zen ของ AMD แต่ปัจจุบันพัฒนาไมโครอาร์คิเทคเจอร์ของตนเอง
    - ล่าสุด เปิดตัวชิป C86-5G ที่มี 128 คอร์ และรองรับ DDR5-5600

    ✅ Sugon เป็นผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Chinese Academy of Sciences
    - ช่วยให้ จีนติดอันดับ 3 ของโลกในด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    ✅ การควบรวมนี้เป็นการแลกเปลี่ยนหุ้น โดยหุ้นของทั้งสองบริษัทจะถูกนำออกจากตลาดเป็นเวลา 10 วัน
    - หลังจากนั้น บริษัทใหม่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้

    ✅ ทั้ง Hygon และ Sugon อยู่ในรายชื่อ Entity List ของสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถเข้าถึงชิปจาก AMD, Intel และ Nvidia ได้โดยตรง
    - การควบรวมนี้ อาจช่วยให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองได้เร็วขึ้น

    ✅ นักวิเคราะห์คาดว่าการควบรวมนี้จะช่วยให้จีนสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และ Big Data ได้แข็งแกร่งขึ้น
    - เป็น ส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจีนในการลดการพึ่งพาตะวันตก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/chinas-hygon-and-sugon-merge-to-form-a-vertically-integrated-supercomputing-giant-as-they-fend-off-us-sanctions
    Hygon และ Sugon รวมตัวเป็นยักษ์ใหญ่ด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีน จีน กำลังสร้างอาณาจักรซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการควบรวม Hygon Information Technology ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิป และ Sugon ซึ่งเป็นผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยการควบรวมนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจากตะวันตก 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการควบรวม Hygon และ Sugon ✅ Hygon เป็นบริษัทที่เคยใช้สถาปัตยกรรม Zen ของ AMD แต่ปัจจุบันพัฒนาไมโครอาร์คิเทคเจอร์ของตนเอง - ล่าสุด เปิดตัวชิป C86-5G ที่มี 128 คอร์ และรองรับ DDR5-5600 ✅ Sugon เป็นผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Chinese Academy of Sciences - ช่วยให้ จีนติดอันดับ 3 ของโลกในด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ✅ การควบรวมนี้เป็นการแลกเปลี่ยนหุ้น โดยหุ้นของทั้งสองบริษัทจะถูกนำออกจากตลาดเป็นเวลา 10 วัน - หลังจากนั้น บริษัทใหม่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ✅ ทั้ง Hygon และ Sugon อยู่ในรายชื่อ Entity List ของสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถเข้าถึงชิปจาก AMD, Intel และ Nvidia ได้โดยตรง - การควบรวมนี้ อาจช่วยให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองได้เร็วขึ้น ✅ นักวิเคราะห์คาดว่าการควบรวมนี้จะช่วยให้จีนสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และ Big Data ได้แข็งแกร่งขึ้น - เป็น ส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจีนในการลดการพึ่งพาตะวันตก https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/chinas-hygon-and-sugon-merge-to-form-a-vertically-integrated-supercomputing-giant-as-they-fend-off-us-sanctions
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • จีนจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมสำหรับหุ่นยนต์เป็นครั้งแรกของโลก

    จีน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมสำหรับหุ่นยนต์ครั้งแรกของโลก โดยมีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จาก Unitree Robotics ลงแข่งในรายการ China Media Group World Robot Competition – Mecha Fighting Series ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง หางโจว มณฑลเจ้อเจียง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้
    ✅ การแข่งขันจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2025 และออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีน
    - เป็น การนำศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMMA) มาสู่โลกของหุ่นยนต์

    ✅ หุ่นยนต์ที่ใช้แข่งขันคือ Unitree G1 ซึ่งมีน้ำหนัก 35 กิโลกรัมและสูง 132 เซนติเมตร
    - มี ขนาดใกล้เคียงกับมนุษย์ตัวเล็ก

    ✅ การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ การแสดงทักษะ และการต่อสู้จริง 3 ยก ยกละ 2 นาที
    - หุ่นยนต์ สามารถทำคะแนนได้โดยการชก (1 คะแนน) และเตะ (3 คะแนน)

    ✅ หากหุ่นยนต์ล้ม จะถูกหัก 5 คะแนน และหากไม่สามารถลุกขึ้นได้ภายใน 8 วินาที จะถูกหัก 10 คะแนนทันที
    - ทำให้ การรักษาสมดุลเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน

    ✅ Unitree ใช้ AI เพื่อฝึกหุ่นยนต์ โดยเก็บข้อมูลจากนักมวยอาชีพและให้หุ่นยนต์เรียนรู้ผ่านโลกเสมือนจริง
    - เป็น การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์มากขึ้น

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการแข่งขันนี้เป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในจีน
    - บางคนเชื่อว่า Unitree อาจแซงหน้า Boston Dynamics ในด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ต่อสู้

    https://www.techspot.com/news/108079-china-hosts-world-first-mechanical-mixed-martial-arts.html
    จีนจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมสำหรับหุ่นยนต์เป็นครั้งแรกของโลก จีน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมสำหรับหุ่นยนต์ครั้งแรกของโลก โดยมีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จาก Unitree Robotics ลงแข่งในรายการ China Media Group World Robot Competition – Mecha Fighting Series ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง หางโจว มณฑลเจ้อเจียง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้ ✅ การแข่งขันจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2025 และออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีน - เป็น การนำศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMMA) มาสู่โลกของหุ่นยนต์ ✅ หุ่นยนต์ที่ใช้แข่งขันคือ Unitree G1 ซึ่งมีน้ำหนัก 35 กิโลกรัมและสูง 132 เซนติเมตร - มี ขนาดใกล้เคียงกับมนุษย์ตัวเล็ก ✅ การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ การแสดงทักษะ และการต่อสู้จริง 3 ยก ยกละ 2 นาที - หุ่นยนต์ สามารถทำคะแนนได้โดยการชก (1 คะแนน) และเตะ (3 คะแนน) ✅ หากหุ่นยนต์ล้ม จะถูกหัก 5 คะแนน และหากไม่สามารถลุกขึ้นได้ภายใน 8 วินาที จะถูกหัก 10 คะแนนทันที - ทำให้ การรักษาสมดุลเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน ✅ Unitree ใช้ AI เพื่อฝึกหุ่นยนต์ โดยเก็บข้อมูลจากนักมวยอาชีพและให้หุ่นยนต์เรียนรู้ผ่านโลกเสมือนจริง - เป็น การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์มากขึ้น ✅ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการแข่งขันนี้เป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในจีน - บางคนเชื่อว่า Unitree อาจแซงหน้า Boston Dynamics ในด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ต่อสู้ https://www.techspot.com/news/108079-china-hosts-world-first-mechanical-mixed-martial-arts.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China hosts world's first mechanical mixed martial arts tournament
    It was an event reminiscent of the old Robot Wars show in the late 90s but slightly less violent. Four Unitree G1 robots, each roughly the size...
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • ตลาดหุ้นเซมิคอนดักเตอร์จับตาผลประกอบการ Nvidia ท่ามกลางความกังวลเรื่องความผันผวน

    นักลงทุนในตลาดหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ กำลังจับตาผลประกอบการของ Nvidia ที่จะประกาศในวันพุธนี้ โดยพบว่ามีการซื้อขายสัญญาออปชันแบบป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากใน VanEck Semiconductor ETF (SMH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีสินทรัพย์กว่า 22 พันล้านดอลลาร์

    🔍 แนวโน้มตลาดเซมิคอนดักเตอร์และผลกระทบจาก Nvidia
    ✅ นักลงทุนซื้อสัญญาออปชันแบบ Put มากกว่าสัญญา Call ถึง 2.4 เท่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมา
    - แสดงให้เห็นว่า ตลาดกำลังเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นหลังจาก Nvidia รายงานผลประกอบการ

    ✅ นักลงทุนบางรายซื้อสัญญา Put จำนวน 50,000 ฉบับเพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาหุ้น SMH ลดลงต่ำกว่า 220 ดอลลาร์
    - แสดงให้เห็นว่า มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยรวม

    ✅ Nvidia มีสัดส่วนประมาณ 20% ของสินทรัพย์ใน SMH แต่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมมากกว่าตัวเลขนี้
    - เนื่องจาก เป็นผู้นำในตลาดชิป AI ซึ่งมีผลต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรมโดยรวม

    ✅ นักลงทุนบางรายขายออปชันของ Nvidia เพื่อใช้ประโยชน์จากความคาดหวังเรื่องความผันผวนที่สูง
    - แสดงให้เห็นว่า บางส่วนของตลาดเชื่อว่าผลประกอบการของ Nvidia อาจไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อราคาหุ้น

    ✅ หุ้น Nvidia เป็นหนึ่งในสองหุ้นที่นักลงทุนขายสุทธิในช่วงนี้ แม้ว่าจะได้รับความสนใจสูง
    - แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนบางส่วนกำลังลดความเสี่ยงก่อนการประกาศผลประกอบการ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/semiconductor-etf-options-show-caution-ahead-of-nvidia-results
    ตลาดหุ้นเซมิคอนดักเตอร์จับตาผลประกอบการ Nvidia ท่ามกลางความกังวลเรื่องความผันผวน นักลงทุนในตลาดหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ กำลังจับตาผลประกอบการของ Nvidia ที่จะประกาศในวันพุธนี้ โดยพบว่ามีการซื้อขายสัญญาออปชันแบบป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากใน VanEck Semiconductor ETF (SMH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีสินทรัพย์กว่า 22 พันล้านดอลลาร์ 🔍 แนวโน้มตลาดเซมิคอนดักเตอร์และผลกระทบจาก Nvidia ✅ นักลงทุนซื้อสัญญาออปชันแบบ Put มากกว่าสัญญา Call ถึง 2.4 เท่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมา - แสดงให้เห็นว่า ตลาดกำลังเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นหลังจาก Nvidia รายงานผลประกอบการ ✅ นักลงทุนบางรายซื้อสัญญา Put จำนวน 50,000 ฉบับเพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาหุ้น SMH ลดลงต่ำกว่า 220 ดอลลาร์ - แสดงให้เห็นว่า มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยรวม ✅ Nvidia มีสัดส่วนประมาณ 20% ของสินทรัพย์ใน SMH แต่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมมากกว่าตัวเลขนี้ - เนื่องจาก เป็นผู้นำในตลาดชิป AI ซึ่งมีผลต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรมโดยรวม ✅ นักลงทุนบางรายขายออปชันของ Nvidia เพื่อใช้ประโยชน์จากความคาดหวังเรื่องความผันผวนที่สูง - แสดงให้เห็นว่า บางส่วนของตลาดเชื่อว่าผลประกอบการของ Nvidia อาจไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อราคาหุ้น ✅ หุ้น Nvidia เป็นหนึ่งในสองหุ้นที่นักลงทุนขายสุทธิในช่วงนี้ แม้ว่าจะได้รับความสนใจสูง - แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนบางส่วนกำลังลดความเสี่ยงก่อนการประกาศผลประกอบการ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/semiconductor-etf-options-show-caution-ahead-of-nvidia-results
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Semiconductor ETF options show caution ahead of Nvidia results
    NEW YORK (Reuters) -Traders in the options markets are bracing for industry-wide volatility when AI-chipmaker Nvidia reports results on Wednesday, with defensive options contracts on a major semiconductor ETF drawing heavy trading.
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล

    หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ

    การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189

    #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล • หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ • การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189 • #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • MSCI ปรับพอร์ต ถอดหุ้นไทย? (27/05/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #MSCI #หุ้น #หุ้นไทย
    MSCI ปรับพอร์ต ถอดหุ้นไทย? (27/05/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #MSCI #หุ้น #หุ้นไทย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 343 Views 12 0 Reviews
  • เพิ่มทุน-จ่ายหนี้หุ้นกู้ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย EA 27/05/68 #คุยคุ้ยหุ้น #จ่ายหนี้หุ้นกู้ #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    เพิ่มทุน-จ่ายหนี้หุ้นกู้ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย EA 27/05/68 #คุยคุ้ยหุ้น #จ่ายหนี้หุ้นกู้ #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 328 Views 40 0 Reviews
More Results