• ภาพขบวนรถของทหารสหรัฐฯ กำลังออกจากฐานทัพโคนิโก ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับแหล่งก๊าซโคนิโก (Koniko gas field) ในจังหวัดเดียร์เอซซอร์ (Deir ez-Zor) ของซีเรีย


    สหรัฐประกาศถอนทหาร 600 นายออกจากซีเรีย โดยเหลือทหารทิ้งไว้ประมาณ 1,400 นาย และปิดฐานทัพขนาดเล็ก 3 แห่ง จากทั้งหมด 8 แห่ง
    ภาพขบวนรถของทหารสหรัฐฯ กำลังออกจากฐานทัพโคนิโก ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับแหล่งก๊าซโคนิโก (Koniko gas field) ในจังหวัดเดียร์เอซซอร์ (Deir ez-Zor) ของซีเรีย สหรัฐประกาศถอนทหาร 600 นายออกจากซีเรีย โดยเหลือทหารทิ้งไว้ประมาณ 1,400 นาย และปิดฐานทัพขนาดเล็ก 3 แห่ง จากทั้งหมด 8 แห่ง
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • ด่วนขยายเวลารับสมัครถึงวันที่ 18 เม.ย. 68ก่อนเที่ยงวัน
    ESAN ESPORT OPEN 2025 รายละเอียด⬇️⬇️⬇️

    🔥 ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT🔥
    ด่วนขยายเวลารับสมัคร ถึงวันที่ 18 เมย. ก่อนเที่ยงวัน
    ด้วยสโมสรกีฬาอีสปอร์ต นครราชสีมา (KORAT ESPORT) ร่วมกับ เดอะมอลล์โคราช ได้จัดงาน "ESAN ESPORT OPEN 2025" ในวันที่ 19 - 20 เมษายน 2568 ณ MCC HALL เดอะมอลล์โคราช และพบกับการประกวด COSPLAY แข่งขัน CARD GAME และกิจกรรมอีกมากมายภายในงาน
    ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT ประกอบไปด้วย
    การแข่งขันเกม ROV เกมมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้คนนับล้านทั่วโลก
    การแข่งขันเกม TEKKEN 8
    การแข่งขันเกม STREET FIGHTER 6
    การแข่งขันเกม E-FOOTBALL
    การประกวดคอสเพลย์
    การแข่งขันการ์ดเกมส์
    ++ รางวัลรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท ++
    พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันที่เล่นเกมมือถือ สร้างชื่อเสียงในฐานะนักนักกีฬาที่ดีที่สุดของจังหวัด และมีโอกาสชิงเงินรางวัลมากมาย
    สมัครฟรี 256 ทีม เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 18 เมษายน 2568
    แข่งขันระหว่างวันที่ 19 – 20 เมษายน 2568 ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช
    สมัครได้ที่นี่ : https://koratesport.com
    แล้วพบกันชาวอีสปอร์ต
    ติดตามรายละเอียดและข้อมูลของการแข่งขัน ESAN ESPORT OPEN 2025 ได้ที่นี่ : https://koratesport.com
    ด่วนขยายเวลารับสมัครถึงวันที่ 18 เม.ย. 68ก่อนเที่ยงวัน ESAN ESPORT OPEN 2025 รายละเอียด⬇️⬇️⬇️ 🔥 ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT🔥 ด่วนขยายเวลารับสมัคร ถึงวันที่ 18 เมย. ก่อนเที่ยงวัน ด้วยสโมสรกีฬาอีสปอร์ต นครราชสีมา (KORAT ESPORT) ร่วมกับ เดอะมอลล์โคราช ได้จัดงาน "ESAN ESPORT OPEN 2025" ในวันที่ 19 - 20 เมษายน 2568 ณ MCC HALL เดอะมอลล์โคราช และพบกับการประกวด COSPLAY แข่งขัน CARD GAME และกิจกรรมอีกมากมายภายในงาน ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT ประกอบไปด้วย การแข่งขันเกม ROV เกมมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้คนนับล้านทั่วโลก การแข่งขันเกม TEKKEN 8 การแข่งขันเกม STREET FIGHTER 6 การแข่งขันเกม E-FOOTBALL การประกวดคอสเพลย์ การแข่งขันการ์ดเกมส์ ++ รางวัลรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท ++ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันที่เล่นเกมมือถือ สร้างชื่อเสียงในฐานะนักนักกีฬาที่ดีที่สุดของจังหวัด และมีโอกาสชิงเงินรางวัลมากมาย สมัครฟรี 256 ทีม เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 18 เมษายน 2568 แข่งขันระหว่างวันที่ 19 – 20 เมษายน 2568 ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช สมัครได้ที่นี่ : https://koratesport.com แล้วพบกันชาวอีสปอร์ต ติดตามรายละเอียดและข้อมูลของการแข่งขัน ESAN ESPORT OPEN 2025 ได้ที่นี่ : https://koratesport.com
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี
    .
    วันนี้ (วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ จำนวน 6 ราย พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย และมอบจักรยาน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน พร้อมกระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวชลบุรีในครั้งนี้ทั้งสิ้น 184,072 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายนัธทวัฒน์ ธนโชติชัยพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี
    .
    นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี . วันนี้ (วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ จำนวน 6 ราย พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย และมอบจักรยาน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน พร้อมกระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวชลบุรีในครั้งนี้ทั้งสิ้น 184,072 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายนัธทวัฒน์ ธนโชติชัยพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี . นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • รูปหล่อพ่อท่านทวี วัดบ้านไร่ จ.ปัตตานี
    รูปหล่อพ่อท่านทวี อุดกริ่ง วัดบ้านไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์-พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้....หนึ่งพุทธาคม..คงกระพันกันภัย!!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.

    ** หลายพิธีได้มีพระเกจิอาจารย์มาร่วมพิธีมากมาย พระผู้ใหญ่ในสาย“พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” จังหวัดปัตตานี หนึ่งในพระผู้เข้าร่วมพิธีรูปหนึ่ง เมื่อท่านได้เห็นพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว ท่านจึงได้ถามเจ้าภาพว่า

    “ทำไมไม่นิมนต์ ท่านวีวัดบ้านไร่มาด้วยล่ะ ท่านวีท่านสมาธิดีนะ” ​

    เล่ากันว่าด้วยคำยกย่องที่พระเกจิอาจารย์สายพระอาจารย์ทิมรูปนั้น มีต่อท่านวี..หรือพ่อท่านทวีอีกนามคือ พระครูพัฒนกิจประยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์..พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..นี่เอง ทำให้หลังจากนั้นท่านเจ้าภาพต้องเร่งรีบไปนิมนต์พ่อท่านทวีมาร่วมในพิธีปลุกเสกเสียทุกครั้งเลยทีเดียว.... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อพ่อท่านทวี วัดบ้านไร่ จ.ปัตตานี รูปหล่อพ่อท่านทวี อุดกริ่ง วัดบ้านไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์-พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้....หนึ่งพุทธาคม..คงกระพันกันภัย!!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. ** หลายพิธีได้มีพระเกจิอาจารย์มาร่วมพิธีมากมาย พระผู้ใหญ่ในสาย“พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” จังหวัดปัตตานี หนึ่งในพระผู้เข้าร่วมพิธีรูปหนึ่ง เมื่อท่านได้เห็นพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว ท่านจึงได้ถามเจ้าภาพว่า “ทำไมไม่นิมนต์ ท่านวีวัดบ้านไร่มาด้วยล่ะ ท่านวีท่านสมาธิดีนะ” ​ เล่ากันว่าด้วยคำยกย่องที่พระเกจิอาจารย์สายพระอาจารย์ทิมรูปนั้น มีต่อท่านวี..หรือพ่อท่านทวีอีกนามคือ พระครูพัฒนกิจประยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์..พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..นี่เอง ทำให้หลังจากนั้นท่านเจ้าภาพต้องเร่งรีบไปนิมนต์พ่อท่านทวีมาร่วมในพิธีปลุกเสกเสียทุกครั้งเลยทีเดียว.... >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
    เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม เนื้อทองแดง ( ตอกโค๊ต ) วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา //พระดี พิธีใหญ๋ ที่ระลึกสมทบทุนสร้างโบสถ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดเมตตามหานิยม กันผี-กันคุณไสยต่างๆ เมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมหน้าที่การงาน พลิกหนุนเสริมดวงชะตาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแก่ผู้ครองครองบูชา >>

    ** หลวงพ่อเฉลิม เกจิดังกรุงเก่า เกจิอาวุโส พระนครศรีอยุธยา พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เหรียญเจริญพร เอาไว้ขอพรให้สมหวัง รูปแบบสวยงาม เจตนาการสร้างก็ดี..... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม เนื้อทองแดง ( ตอกโค๊ต ) วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา //พระดี พิธีใหญ๋ ที่ระลึกสมทบทุนสร้างโบสถ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดเมตตามหานิยม กันผี-กันคุณไสยต่างๆ เมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมหน้าที่การงาน พลิกหนุนเสริมดวงชะตาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแก่ผู้ครองครองบูชา >> ** หลวงพ่อเฉลิม เกจิดังกรุงเก่า เกจิอาวุโส พระนครศรีอยุธยา พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เหรียญเจริญพร เอาไว้ขอพรให้สมหวัง รูปแบบสวยงาม เจตนาการสร้างก็ดี..... >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • เพจ อบจ.ลำพูน โพสต์คลิปเป็นภาพ
    ขณะที่ประชาชนจังหวัดลำพูน ซึ่งมีทั้ง
    #เด็ก #ผู้ใหญ่ และ#ผู้สูงอายุ กำลังทำการ
    #แสดงและเป็นผู้ชมท่ามกลางพายุฤดูร้อน
    ให้เหล่าคณะ #พรรคก้าวเด้า อบจ. ลำพูน
    #นั่งดูอยู่ในที่ร่ม👏🏻⛈️
    เพจ อบจ.ลำพูน โพสต์คลิปเป็นภาพ ขณะที่ประชาชนจังหวัดลำพูน ซึ่งมีทั้ง #เด็ก #ผู้ใหญ่ และ#ผู้สูงอายุ กำลังทำการ #แสดงและเป็นผู้ชมท่ามกลางพายุฤดูร้อน ให้เหล่าคณะ #พรรคก้าวเด้า อบจ. ลำพูน #นั่งดูอยู่ในที่ร่ม👏🏻⛈️
    0 Comments 0 Shares 93 Views 2 0 Reviews

  • Airstrikes สงคราม ทองคำ และคนลุ่มน้ำโขง (ตอนที่ 4)
    *****************
    เสียงเครื่องบินกระหึ่มสัญชาติรัสเซีย และจีน ทั้งรุ่น MiG-29 -Yak-130 - K-8, F-7 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-35 Mi-17 เทคออฟขึ้นน่านฟ้าเมียนมา สร้างความหวาดวิตกกับพลเรือนในพื้นที่เสี่ยง ความถี่มิได้เป็นปกป้องอธิปไตยเหนือน่านฟ้า บางครั้งก็ถลำรุกน่านฟ้าของไทย และถูกต้อนกลับ
    เสียงอากาศยานของเมียนมาทำให้ประชาชน พลเรือนระส่ำระสาย บาดเจ็บล้มตายกัน ในพื้นที่พลเรือนและกลุ่มต่อต้าน ปี 2023-24 กระทรวงกลาโหมใช้งบประมาณเพื่อภารกิจ Aistrike กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ อาวุธ ส่วนใหญ่มาจากรัสเซียและจีน
    กองทัพเผด็จการเมียนมาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศประมาณ 30 ครั้งในรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยงนี และรัฐกะฉิ่นในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยทิ้งระเบิดเกือบ 100 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย ตามข้อมูลที่ Shan Herald Agency for News (SHAN) ได้รับ
    ระหว่างปลายปีที่ผ่าน ถึงวันที่ 30 มกราคม 2025 การโจมตีทางอากาศเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือนเป็นหลัก สร้างความเสียหายและการสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเขตเมืองนองคิโอ รัฐฉาน ซึ่งระเบิดตกใส่ร้านน้ำชา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย
    มีการประเมินว่านับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว โดยบันทึกการโจมตีทางอากาศทั้งหมด 1,767 ครั้ง ซึ่งน่าตกใจว่าร้อยละ 47 ของการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือน ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ขัดแย้งรุนแรงขึ้น
    พื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายคือพื้นที่ที่มีผลประโยชน์เหมืองแร่ และแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะใน รัฐฉาน (Shan State), รัฐกะเหรี่ยงนี-คะยา (Karenni/Kayah State), รัฐกะฉิ่น (Kachin State), รัฐระแหง (Rakhine State) และพื้นที่อื่นๆ เช่น ภูมิภาคสกาย (Sagaing Region) เป็นต้น
    *****************
    USGS (United States Geological Survey) ได้ ประมาณการไว้ว่า ยังคงเหลือทองคำอยู่ใต้ดินที่ยังไม่ได้ผลิตออกมาอีกประมาณ 50,000 ตัน คาดกันว่าปริมาณทองคำที่ขุดขึ้นมา และมีการใช้ประโยชน์กันแล้วกว่า 190,000 ตัน และโดยเฉลี่ยในปัจจุบันมีการผลิตออกจากเหมืองประมาณปีละ 2,500 ถึง 3,000 ตัน มีการทำเหมืองทองคำทั่วโลกอยู่ใน 82 ประเทศ
    สแกนใต้ดินแอฟริกาใต้ มีทรัพยากรแร่ทองคำมากที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก จนถึงปัจจุบันราว 31,000 ตัน รองลงมา คือ รัสเซีย ประมาณ 7,000 ตัน และ จีนเป็นอันดับ 3 ที่ผลิตประมาณ 6,328 ตัน ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย แคนาดา และ เปรู
    ทว่าในปี 2564 จีนขึ้นแป้นครองแชมป์ประเทศที่ผลิตทองคำจากเหมืองทองคำในประเทศมากที่สุด คิดเป็น 11% ของการผลิต ทั่วโลก ซึ่งจากฐานข้อมูล Global Data’s mines and projects ที่ได้ติดตามการพัฒนาและปฏิบัติการของเหมืองแร่ และโครงการทั่วโลก โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 4,000 บริษัท ได้สรุป 5 อันดับ เหมืองทองคำในจีนที่ผลิตทองคำได้มากที่สุดในปี 2563 ดังนี้
    1.Shaxi Copper Mine เป็นเหมืองใต้ดินในมณฑลอานฮุย (Anhui) ของกลุ่มบริษัท Togling Nonferrous Metal Group ซึ่งผลิตทองคำได้ประมาณ 730,000 ounces of gold ในปี 2563
    2.Jiaojia Gold Mine ของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง (Shandong) ผลิตทองคำได้ประมาณ 230,000 ounces of gold ในปี 2563 และกำลังจะปิดตัวลงในปี 2566
    3.Dayingezhuang Gold Mine เป็นเหมืองทองคำในมณฑลซานตงเช่นกัน อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Zhaojin Mining Industry และผลิตทองคำประมาณ 228,000 ounces of gold ในปี 2563
    4.Sanshandao Gold Mine เป็นเหมืองใต้ดินของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง ผลิตทองคำได้ ประมาณ 218,000 ounces of gold ในปี 2563 และจะผลิตตามแผนงานไปจนถึงปี 2571
    5.Zaozigou Gold Mine เป็นเหมืองทองคำของบริษัท Zhaojin Mining Industy ในมณฑลกานซู (Gansu) ผลิตทองคำได้ ประมาณ 207,000 ounces of gold

    *****************
    รายงานจาก มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ และ สหภาพนักศึกษาไทใหญ่ เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำขยายวงกว้างทำให้เกิดดินโคลนถล่มท่วมชุมชนทางตะวันออกท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ระบุว่าบริษัทเหมืองแร่ได้เข้ามาในพื้นที่เมื่อปี 2550 ที่บริเวณต้นน้ำแม่น้ำคำ ตอนใต้ของบ้านนาโฮหลงในตำบลเมืองเลน ในปัจจุบันเหมืองทองคำแบบเปิดได้ขยายตัวไปกว่า 10 กิโลเมตรตลอดทั่วเทือกเขาดอยค้า ตามริมฝั่งน้ำด้านตะวันตกของแม่น้ำโขง การปล่อยน้ำจาจากการทำเหมืองแร่ทองแร่ทองคำที่ขาดการควบคุม รวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากากอำบน้ำที่เจือด้วยสารไชยาไนด์ทำให้ลำน้ำน้ำอุดตัน และมักทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงที่ริมฝั่งน้ำในช่วงฤดูฝน
    การขยายตัวของเหมืองทองคำในเมืองเลน ยังทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และในปัจจุบัน มีบริษัท 12 แห่งที่เชื่อมโยงกับนายทหารพม่าระดับสูงได้รับประทานบัตรอายุ 11 ปี เพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ
    ในบรรดาประทานบัตร มีการให้ประทานบัตร 13 ฉบับแก่ (8 บริษัท) เมื่อกลางปี 2563 และอีก 7 ฉบับให้แก่ (5 บริษัท) ในปี 2564 ภายหลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ประทานบัตรแต่ละฉบับครอบคลุมพื้นที่ 50 ไร่บริษัทส่วนใหญ่ที่ได้รับประทานบัตรจด ทะเบียนในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ยกเว้นเพียงเมย์ฟลาวเวอร์ไมนิ่ง เอนเตอร์ไพรส์(Maylower Mining Enterprises) ที่จัดตั้งขึ้นโดยนายจ่อวิน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกองทัพพม่า และตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง
    การขุดทองที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นโดยขาดการควบคุมและก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น
    *****************
    EarthRights.org รายงานว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021 การขุดทองในรัฐกะฉิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองทัพกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ เช่น กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) การขุดทองนี้ส่วนใหญ่เป็นการขุดแบบไม่มีการควบคุม (unregulated) และใช้สารเคมี เช่น ปรอทและไซยาไนด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลพิษในแม่น้ำและแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำอิรวดี (Irrawaddy River) และแม่น้ำชินดวิน (Chindwin River) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีในการสกัดทองทำให้ดินและน้ำปนเปื้อน ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและสุขภาพของประชาชน นอกจากนั้นคือการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อขุดทองทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ดินถล่ม
    ผลกระทบต่อชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ในเมืองตานาย (Tanai) และเมืองชิปวี (Chipwi) เผชิญกับการสูญเสียที่ดินทำกินและแหล่งน้ำสะอาดการขุดทองดึงดูดแรงงานจากพื้นที่อื่น ทำให้เกิดความตึงเครียดในชุมชนและเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเด็กและเยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าสู่อุตสาหกรรมการขุดทอง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    และพื้นที่นี้ เหมืองทองในเมืองตานายถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพเมียนมาในเดือนมกราคม 2025 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย การโจมตีนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของกองทัพในการขัดขวางแหล่งรายได้ของ KIA
    *****************
    ดร.สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการในพื้นที่เชียงราย พื้นที่ประสบภัยพิบัติทางแม่น้ำ จากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำเหมืองทองคำ และแร่ธาตุเผยแพรข้อเสนอในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนในน้ำกกและสายซึ่งเป็นปัญหามลพิษข้ามพรมแดนแล้ว เป็นสถานการณ์ความซับซ้อนของปัญหามลพิษข้ามแดนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากรัฐส่วนกลางที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้คล้ายกับปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน
    พร้อมกับอ้างอิงงานศึกษาว่าบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำระหว่างประเทศดังเช่นแม่น้ำโขง Ding (2019) ที่วิพากษ์แนวคิด traditional state-centric governance เกี่ยวกับปัญหาสารโลหะหนักที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง อันประกอบด้วย ไทย ลาว เวียนดนาม และกัมพูชา การแก้ไขภายใต้อาเซียนและ MRC (Mekong River Commission มีข้อจำกัดในแง่ที่ 1) รายงานมิได้ครอบคลุมรายละเอียดของปัญหามลพิษ 2) รายงานมิได้สนับสนุนการสื่อสารกันระหว่างองคกรที่แตกต่างกัน เช่น สถาบันการวิจัย 3) ขาดกลไกเชิงกฎหมายระดับภูมิภาคและการบังคับใช้กฎหมายในควบคุมมลพิษในน้ำข้ามพรมแดน 4) รายงานไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน
    สรุปคือกลกลไกระหว่างประเทศแบบที่ สทนช.เสนอให้ MRC ทำ น่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดนในบริบทอาเซียนได้ เมื่อพิจารณาความซับซ้อนของปัญหาในต้นน้ำกกและสาย จำเป็นต้องแกะปมตั้งแต่ บริษัทจีน กองกำลังติดอาวุธ ชาติพันธ์ และประเทศจีน ชุมชนในตลอดลำน้ำกกและสาย สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ ปละภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย
    เสียงคำรามของเครื่องบินพร้อมลูกระเบิดภารกิจ Airstrikes ก่อสงครามแย่งชิงขุมทรัพย์ทองคำสีเลือด และคนลุ่มน้ำโขงกำลังเผชิญภัยวิกฤติจากสารพิษ ที่เจือปนในแม่น้ำ รวมถึงการสลายความเป็นมนุษย์ในดินแดนขุมเมืองแห่งลุ่มแม่น้ำแห่งชีวิตสายนี้
    *****************
    อ้างอิง :
    • สำนักข่าว Shan Herald Agency for News, Burma News International, Human Rights Watch, The Irrawaddy Radio Free Asia Al Jazeera, Amnesty International, Justice For Myanmar, และ Wikipedia
    • World Gold Council https://www.gold.org/
    • EarthRights International
    Airstrikes สงคราม ทองคำ และคนลุ่มน้ำโขง (ตอนที่ 4) ***************** เสียงเครื่องบินกระหึ่มสัญชาติรัสเซีย และจีน ทั้งรุ่น MiG-29 -Yak-130 - K-8, F-7 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-35 Mi-17 เทคออฟขึ้นน่านฟ้าเมียนมา สร้างความหวาดวิตกกับพลเรือนในพื้นที่เสี่ยง ความถี่มิได้เป็นปกป้องอธิปไตยเหนือน่านฟ้า บางครั้งก็ถลำรุกน่านฟ้าของไทย และถูกต้อนกลับ เสียงอากาศยานของเมียนมาทำให้ประชาชน พลเรือนระส่ำระสาย บาดเจ็บล้มตายกัน ในพื้นที่พลเรือนและกลุ่มต่อต้าน ปี 2023-24 กระทรวงกลาโหมใช้งบประมาณเพื่อภารกิจ Aistrike กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ อาวุธ ส่วนใหญ่มาจากรัสเซียและจีน กองทัพเผด็จการเมียนมาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศประมาณ 30 ครั้งในรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยงนี และรัฐกะฉิ่นในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยทิ้งระเบิดเกือบ 100 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย ตามข้อมูลที่ Shan Herald Agency for News (SHAN) ได้รับ ระหว่างปลายปีที่ผ่าน ถึงวันที่ 30 มกราคม 2025 การโจมตีทางอากาศเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือนเป็นหลัก สร้างความเสียหายและการสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเขตเมืองนองคิโอ รัฐฉาน ซึ่งระเบิดตกใส่ร้านน้ำชา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย มีการประเมินว่านับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว โดยบันทึกการโจมตีทางอากาศทั้งหมด 1,767 ครั้ง ซึ่งน่าตกใจว่าร้อยละ 47 ของการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือน ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ขัดแย้งรุนแรงขึ้น พื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายคือพื้นที่ที่มีผลประโยชน์เหมืองแร่ และแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะใน รัฐฉาน (Shan State), รัฐกะเหรี่ยงนี-คะยา (Karenni/Kayah State), รัฐกะฉิ่น (Kachin State), รัฐระแหง (Rakhine State) และพื้นที่อื่นๆ เช่น ภูมิภาคสกาย (Sagaing Region) เป็นต้น ***************** USGS (United States Geological Survey) ได้ ประมาณการไว้ว่า ยังคงเหลือทองคำอยู่ใต้ดินที่ยังไม่ได้ผลิตออกมาอีกประมาณ 50,000 ตัน คาดกันว่าปริมาณทองคำที่ขุดขึ้นมา และมีการใช้ประโยชน์กันแล้วกว่า 190,000 ตัน และโดยเฉลี่ยในปัจจุบันมีการผลิตออกจากเหมืองประมาณปีละ 2,500 ถึง 3,000 ตัน มีการทำเหมืองทองคำทั่วโลกอยู่ใน 82 ประเทศ สแกนใต้ดินแอฟริกาใต้ มีทรัพยากรแร่ทองคำมากที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก จนถึงปัจจุบันราว 31,000 ตัน รองลงมา คือ รัสเซีย ประมาณ 7,000 ตัน และ จีนเป็นอันดับ 3 ที่ผลิตประมาณ 6,328 ตัน ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย แคนาดา และ เปรู ทว่าในปี 2564 จีนขึ้นแป้นครองแชมป์ประเทศที่ผลิตทองคำจากเหมืองทองคำในประเทศมากที่สุด คิดเป็น 11% ของการผลิต ทั่วโลก ซึ่งจากฐานข้อมูล Global Data’s mines and projects ที่ได้ติดตามการพัฒนาและปฏิบัติการของเหมืองแร่ และโครงการทั่วโลก โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 4,000 บริษัท ได้สรุป 5 อันดับ เหมืองทองคำในจีนที่ผลิตทองคำได้มากที่สุดในปี 2563 ดังนี้ 1.Shaxi Copper Mine เป็นเหมืองใต้ดินในมณฑลอานฮุย (Anhui) ของกลุ่มบริษัท Togling Nonferrous Metal Group ซึ่งผลิตทองคำได้ประมาณ 730,000 ounces of gold ในปี 2563 2.Jiaojia Gold Mine ของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง (Shandong) ผลิตทองคำได้ประมาณ 230,000 ounces of gold ในปี 2563 และกำลังจะปิดตัวลงในปี 2566 3.Dayingezhuang Gold Mine เป็นเหมืองทองคำในมณฑลซานตงเช่นกัน อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Zhaojin Mining Industry และผลิตทองคำประมาณ 228,000 ounces of gold ในปี 2563 4.Sanshandao Gold Mine เป็นเหมืองใต้ดินของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง ผลิตทองคำได้ ประมาณ 218,000 ounces of gold ในปี 2563 และจะผลิตตามแผนงานไปจนถึงปี 2571 5.Zaozigou Gold Mine เป็นเหมืองทองคำของบริษัท Zhaojin Mining Industy ในมณฑลกานซู (Gansu) ผลิตทองคำได้ ประมาณ 207,000 ounces of gold ***************** รายงานจาก มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ และ สหภาพนักศึกษาไทใหญ่ เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำขยายวงกว้างทำให้เกิดดินโคลนถล่มท่วมชุมชนทางตะวันออกท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ระบุว่าบริษัทเหมืองแร่ได้เข้ามาในพื้นที่เมื่อปี 2550 ที่บริเวณต้นน้ำแม่น้ำคำ ตอนใต้ของบ้านนาโฮหลงในตำบลเมืองเลน ในปัจจุบันเหมืองทองคำแบบเปิดได้ขยายตัวไปกว่า 10 กิโลเมตรตลอดทั่วเทือกเขาดอยค้า ตามริมฝั่งน้ำด้านตะวันตกของแม่น้ำโขง การปล่อยน้ำจาจากการทำเหมืองแร่ทองแร่ทองคำที่ขาดการควบคุม รวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากากอำบน้ำที่เจือด้วยสารไชยาไนด์ทำให้ลำน้ำน้ำอุดตัน และมักทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงที่ริมฝั่งน้ำในช่วงฤดูฝน การขยายตัวของเหมืองทองคำในเมืองเลน ยังทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และในปัจจุบัน มีบริษัท 12 แห่งที่เชื่อมโยงกับนายทหารพม่าระดับสูงได้รับประทานบัตรอายุ 11 ปี เพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ ในบรรดาประทานบัตร มีการให้ประทานบัตร 13 ฉบับแก่ (8 บริษัท) เมื่อกลางปี 2563 และอีก 7 ฉบับให้แก่ (5 บริษัท) ในปี 2564 ภายหลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ประทานบัตรแต่ละฉบับครอบคลุมพื้นที่ 50 ไร่บริษัทส่วนใหญ่ที่ได้รับประทานบัตรจด ทะเบียนในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ยกเว้นเพียงเมย์ฟลาวเวอร์ไมนิ่ง เอนเตอร์ไพรส์(Maylower Mining Enterprises) ที่จัดตั้งขึ้นโดยนายจ่อวิน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกองทัพพม่า และตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง การขุดทองที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นโดยขาดการควบคุมและก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น ***************** EarthRights.org รายงานว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021 การขุดทองในรัฐกะฉิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองทัพกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ เช่น กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) การขุดทองนี้ส่วนใหญ่เป็นการขุดแบบไม่มีการควบคุม (unregulated) และใช้สารเคมี เช่น ปรอทและไซยาไนด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลพิษในแม่น้ำและแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำอิรวดี (Irrawaddy River) และแม่น้ำชินดวิน (Chindwin River) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีในการสกัดทองทำให้ดินและน้ำปนเปื้อน ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและสุขภาพของประชาชน นอกจากนั้นคือการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อขุดทองทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ดินถล่ม ผลกระทบต่อชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ในเมืองตานาย (Tanai) และเมืองชิปวี (Chipwi) เผชิญกับการสูญเสียที่ดินทำกินและแหล่งน้ำสะอาดการขุดทองดึงดูดแรงงานจากพื้นที่อื่น ทำให้เกิดความตึงเครียดในชุมชนและเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเด็กและเยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าสู่อุตสาหกรรมการขุดทอง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยและการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพื้นที่นี้ เหมืองทองในเมืองตานายถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพเมียนมาในเดือนมกราคม 2025 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย การโจมตีนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของกองทัพในการขัดขวางแหล่งรายได้ของ KIA ***************** ดร.สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการในพื้นที่เชียงราย พื้นที่ประสบภัยพิบัติทางแม่น้ำ จากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำเหมืองทองคำ และแร่ธาตุเผยแพรข้อเสนอในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนในน้ำกกและสายซึ่งเป็นปัญหามลพิษข้ามพรมแดนแล้ว เป็นสถานการณ์ความซับซ้อนของปัญหามลพิษข้ามแดนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากรัฐส่วนกลางที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้คล้ายกับปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน พร้อมกับอ้างอิงงานศึกษาว่าบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำระหว่างประเทศดังเช่นแม่น้ำโขง Ding (2019) ที่วิพากษ์แนวคิด traditional state-centric governance เกี่ยวกับปัญหาสารโลหะหนักที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง อันประกอบด้วย ไทย ลาว เวียนดนาม และกัมพูชา การแก้ไขภายใต้อาเซียนและ MRC (Mekong River Commission มีข้อจำกัดในแง่ที่ 1) รายงานมิได้ครอบคลุมรายละเอียดของปัญหามลพิษ 2) รายงานมิได้สนับสนุนการสื่อสารกันระหว่างองคกรที่แตกต่างกัน เช่น สถาบันการวิจัย 3) ขาดกลไกเชิงกฎหมายระดับภูมิภาคและการบังคับใช้กฎหมายในควบคุมมลพิษในน้ำข้ามพรมแดน 4) รายงานไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน สรุปคือกลกลไกระหว่างประเทศแบบที่ สทนช.เสนอให้ MRC ทำ น่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดนในบริบทอาเซียนได้ เมื่อพิจารณาความซับซ้อนของปัญหาในต้นน้ำกกและสาย จำเป็นต้องแกะปมตั้งแต่ บริษัทจีน กองกำลังติดอาวุธ ชาติพันธ์ และประเทศจีน ชุมชนในตลอดลำน้ำกกและสาย สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ ปละภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย เสียงคำรามของเครื่องบินพร้อมลูกระเบิดภารกิจ Airstrikes ก่อสงครามแย่งชิงขุมทรัพย์ทองคำสีเลือด และคนลุ่มน้ำโขงกำลังเผชิญภัยวิกฤติจากสารพิษ ที่เจือปนในแม่น้ำ รวมถึงการสลายความเป็นมนุษย์ในดินแดนขุมเมืองแห่งลุ่มแม่น้ำแห่งชีวิตสายนี้ ***************** อ้างอิง : • สำนักข่าว Shan Herald Agency for News, Burma News International, Human Rights Watch, The Irrawaddy Radio Free Asia Al Jazeera, Amnesty International, Justice For Myanmar, และ Wikipedia • World Gold Council https://www.gold.org/ • EarthRights International
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • 258 ปี สิ้น “ขุนหลวงขี้เรื้อน” จุดจบราชวงศ์บ้านพลูหลวง 👑 ราชบัลลังก์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา และชะตากรรมที่โลกไม่ลืม

    เส้นทางชีวิตของพระเจ้าเอกทัศ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา กับบทสรุปแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า “ขุนหลวงขี้เรื้อน” 📜

    ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึก การสิ้นสุดของราชวงศ์บ้านพลูหลวง ผ่านพระเจ้าเอกทัศ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “ขุนหลวงขี้เรื้อน” กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา กับเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง โรคร้าย และโศกนาฏกรรมแห่งชาติ 🇹🇭📖

    🕰️ ประวัติศาสตร์ไม่เคยหลับใหล 🕰️ 258 ปี ผ่านไป นับแต่วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2310 เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก ครั้งที่สอง ชาติไทยได้สูญเสียสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ นั่นคือเอกราชแห่งแผ่นดิน และราชวงศ์ที่ปกครองสืบเนื่อง มายาวนานกว่า 400 ปี

    หนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในห้วงเวลานี้คือ “พระเจ้าเอกทัศ” หรือที่ราษฎรทั่วไปเรียกว่า “ขุนหลวงขี้เรื้อน” ชื่อที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด เย้ยหยัน และประวัติศาสตร์ที่แสนซับซ้อน ของกษัตริย์องค์สุดท้าย แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ผู้สิ้นราชย์ ในห้วงยามแห่งความล่มสลายของชาติ 💔

    👑กษัตริย์ที่ราชบัลลังก์ไม่เคยพร้อมให้ครอง "พระเจ้าเอกทัศ" หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ทรงมีพระนามหลากหลาย ทั้ง "พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์" และ "ขุนหลวงขี้เรื้อน" ซึ่งเป็นคำเรียกขานโดยราษฎร เนื่องจากพระองค์มีอาการประชวร ด้วยโรคผิวหนัง ที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นโรคเรื้อน หรือกลากเกลื้อนเรื้อรัง 🩺

    จุดเริ่มต้นของการขึ้นครองราชย์ หลังการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ รัชทายาทที่เหมาะสมตามสายพระโลหิตคือ “เจ้าฟ้าอุทุมพร” แต่ด้วยแรงปรารถนาจะขึ้นครองราชย์อย่างแรงกล้า เจ้าฟ้าเอกทัศซึ่งเป็นเชษฐา ได้เสด็จกลับจากการผนวช และปรี่ขึ้นประทับบนพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ ดั่งการตีตราจองราชบัลลังก์ ไว้ด้วยพระองค์เอง 🤴

    เจ้าฟ้าอุทุมพรจึงสละราชสมบัติให้ หลังครองราชย์เพียง 10 วัน แล้วเสด็จออกผนวชเป็น “ขุนหลวงหาวัด” หวังหลีกเร้นจากวังวนอำนาจ 👣

    สาเหตุการสิ้นพระชนม์ของขุนหลวงขี้เรื้อน ☠️

    หลักฐานไทย บันทึกของฝ่ายไทยกล่าวว่า พระองค์หนีภัยสงครามไปหลบซ่อนที่บ้านจิก ใกล้วัดสังฆาวาส และสิ้นพระชนม์เพราะอดพระกระยาหารนานเกิน 10 วัน

    พงศาวดารพม่า 🐘 กล่าวว่าพระองค์ถูกยิงเสียชีวิต ขณะหลบหนีระหว่างกรุงแตก บริเวณประตูท้ายวัง

    คำให้การของฝรั่ง "แอนโทนี โกยาตัน" บันทึกว่า พระเจ้าเอกทัศถูกปลงพระชนม์โดยชาวสยาม หรืออาจทรงวางยาพิษพระองค์เอง 🧪

    พระศพและพิธีพระเพลิง นายทองสุกนำพระบรมศพ ไปฝังที่โคกพระเมรุ หน้าพระวิหารพระมงคลบพิตร ก่อนจะถูกอัญเชิญถวายพระเพลิง ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

    😇 ขุนหลวงหาวัด กับขุนหลวงขี้เรื้อน 😈

    "พระเจ้าอุทุมพร" กษัตริย์ผู้สละบัลลังก์เพื่อความสงบ พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาท แต่เลือกสละราชสมบัติ เพื่อความสงบภายใน พระองค์จึงกลายเป็น "ขุนหลวงหาวัด" ผู้ปลีกวิเวกที่พระตำหนักคำหยาด จังหวัดอ่างทอง 🏯

    "พระเจ้าเอกทัศ" กษัตริย์ผู้ไม่ยอมเสียราชบัลลังก์ ตรงกันข้าม พระเจ้าเอกทัศมีความกระหายอำนาจ แม้จะมีข้อจำกัดจากพระวรกาย ทรงใช้บัลลังก์เป็นตราจองอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียต่อบ้านเมือง

    "ขุนหลวงขี้เรื้อน" เป็นโรคเรื้อนจริงหรือแค่คำเล่าลือ? 🧬

    หลักฐานจากตะวันตก ฝรั่งเศส "สังฆราชปีแยร์ บรีโกต์" ระบุว่า พระองค์มีอาการของโรคเรื้อน และไม่ทรงปรากฏพระวรกายต่อผู้ใด ส่วนดัตช์รายงานของ "นิโกลาส บัง" ใช้คำว่า "ลาซารัส" อันเป็นคำเปรียบเทียบถึงโรคเรื้อน

    แต่...โรคเรื้อนห้ามบวช! พระวินัยระบุว่า ผู้ที่เป็นโรคเรื้อนห้ามบวช ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่ว่า พระเจ้าเอกทัศเคยออกผนวช จึงอาจหมายถึงโรคผิวหนังอื่น ที่คล้ายคลึงกัน เช่น กลากเกลื้อน หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง 😕

    ความขัดแย้งในแผ่นดิน การแตกความสามัคคีในยุคปลายอยุธยา ⚔️ ขุนนางฉ้อฉล ข่มเหงประชาชน พระเจ้าเอกทัศไม่แสดงพระองค์แก่ประชาชน ฝ่ายในมีอำนาจครอบงำการเมือง ราษฎรถูกรีดไถ จนหมดศรัทธา

    ถึงแม้จะมีหลักฐาน ที่กล่าวถึงคุณงามความดีของพระองค์ ในคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม แต่ภาพรวมกลับเป็นลบ ต่อสายตาประวัติศาสตร์

    📖 คำให้การจากผู้ถูกกวาดต้อน มุมมองที่แตกต่าง ใน "คำให้การของชาวกรุงเก่า" พระเจ้าเอกทัศกลับถูกยกย่องว่า

    “...ทรงพระกรุณากับอาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง แผ่เมตตาไปทั่วสารพัดสัตว์ทั้งปวง”

    คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม ยังเสริมว่า พระองค์มีศีลธรรม ทศพิธราชธรรม และทำนุบำรุงบ้านเมือง พัฒนามาตราฐานตวงวัด และยกเลิกภาษี 3 ปี 🎯

    🏚️ จุดจบราชวงศ์บ้านพลูหลวง และบทเรียนจากความล่มสลาย พระเจ้าเอกทัศถูกมองว่า เป็นต้นเหตุการเสียกรุง ทั้งจากราษฎรไทยในสมัยธนบุรี ไปจนถึงกษัตริย์ยุคต่อมา เช่น รัชกาลที่ 5 ที่ทรงกลัวจะถูกกล่าวขานในแบบเดียวกัน

    ประวัติศาสตร์จึงไม่ใช่แค่การจดจำบุคคล แต่เป็นกระจกสะท้อนสังคม วัฒนธรรม และการเมืองในยุคที่ความมั่นคง พังทลายด้วยความทะยานอยากของอำนาจ ⚖️

    🕯️ กษัตริย์ผู้ถูกลืม หรือถูกจำในมุมผิด? “ขุนหลวงขี้เรื้อน” อาจเป็นเพียงนามที่ประชาชนผู้สิ้นศรัทธา ใช้เรียกผู้มีอำนาจที่ไร้ความสามารถ แต่ในอีกแง่หนึ่ง พระเจ้าเอกทัศอาจเป็นเพียงเหยื่อของช่วงเวลา แรงกดดัน และความไม่พร้อมของแผ่นดิน

    เรื่องราวของพระองค์ จึงไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของความพ่ายแพ้ แต่คือบทเรียนของการเมืองไทย ที่วนเวียนไม่รู้จบ 🌪️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 171927 เม.ย. 2568

    📢 #ขุนหลวงขี้เรื้อน #กรุงศรีอยุธยา #ประวัติศาสตร์ไทย #พระเจ้าเอกทัศ #ราชวงศ์บ้านพลูหลวง #ขุนหลวงหาวัด #คำให้การชาวกรุงเก่า #กษัตริย์ไทย #โบราณสถาน #พระตำหนักคำหยาด
    258 ปี สิ้น “ขุนหลวงขี้เรื้อน” จุดจบราชวงศ์บ้านพลูหลวง 👑 ราชบัลลังก์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา และชะตากรรมที่โลกไม่ลืม เส้นทางชีวิตของพระเจ้าเอกทัศ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา กับบทสรุปแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า “ขุนหลวงขี้เรื้อน” 📜 ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึก การสิ้นสุดของราชวงศ์บ้านพลูหลวง ผ่านพระเจ้าเอกทัศ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “ขุนหลวงขี้เรื้อน” กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา กับเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง โรคร้าย และโศกนาฏกรรมแห่งชาติ 🇹🇭📖 🕰️ ประวัติศาสตร์ไม่เคยหลับใหล 🕰️ 258 ปี ผ่านไป นับแต่วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2310 เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก ครั้งที่สอง ชาติไทยได้สูญเสียสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ นั่นคือเอกราชแห่งแผ่นดิน และราชวงศ์ที่ปกครองสืบเนื่อง มายาวนานกว่า 400 ปี หนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในห้วงเวลานี้คือ “พระเจ้าเอกทัศ” หรือที่ราษฎรทั่วไปเรียกว่า “ขุนหลวงขี้เรื้อน” ชื่อที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด เย้ยหยัน และประวัติศาสตร์ที่แสนซับซ้อน ของกษัตริย์องค์สุดท้าย แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ผู้สิ้นราชย์ ในห้วงยามแห่งความล่มสลายของชาติ 💔 👑กษัตริย์ที่ราชบัลลังก์ไม่เคยพร้อมให้ครอง "พระเจ้าเอกทัศ" หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ทรงมีพระนามหลากหลาย ทั้ง "พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์" และ "ขุนหลวงขี้เรื้อน" ซึ่งเป็นคำเรียกขานโดยราษฎร เนื่องจากพระองค์มีอาการประชวร ด้วยโรคผิวหนัง ที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นโรคเรื้อน หรือกลากเกลื้อนเรื้อรัง 🩺 จุดเริ่มต้นของการขึ้นครองราชย์ หลังการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ รัชทายาทที่เหมาะสมตามสายพระโลหิตคือ “เจ้าฟ้าอุทุมพร” แต่ด้วยแรงปรารถนาจะขึ้นครองราชย์อย่างแรงกล้า เจ้าฟ้าเอกทัศซึ่งเป็นเชษฐา ได้เสด็จกลับจากการผนวช และปรี่ขึ้นประทับบนพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ ดั่งการตีตราจองราชบัลลังก์ ไว้ด้วยพระองค์เอง 🤴 เจ้าฟ้าอุทุมพรจึงสละราชสมบัติให้ หลังครองราชย์เพียง 10 วัน แล้วเสด็จออกผนวชเป็น “ขุนหลวงหาวัด” หวังหลีกเร้นจากวังวนอำนาจ 👣 สาเหตุการสิ้นพระชนม์ของขุนหลวงขี้เรื้อน ☠️ หลักฐานไทย บันทึกของฝ่ายไทยกล่าวว่า พระองค์หนีภัยสงครามไปหลบซ่อนที่บ้านจิก ใกล้วัดสังฆาวาส และสิ้นพระชนม์เพราะอดพระกระยาหารนานเกิน 10 วัน พงศาวดารพม่า 🐘 กล่าวว่าพระองค์ถูกยิงเสียชีวิต ขณะหลบหนีระหว่างกรุงแตก บริเวณประตูท้ายวัง คำให้การของฝรั่ง "แอนโทนี โกยาตัน" บันทึกว่า พระเจ้าเอกทัศถูกปลงพระชนม์โดยชาวสยาม หรืออาจทรงวางยาพิษพระองค์เอง 🧪 พระศพและพิธีพระเพลิง นายทองสุกนำพระบรมศพ ไปฝังที่โคกพระเมรุ หน้าพระวิหารพระมงคลบพิตร ก่อนจะถูกอัญเชิญถวายพระเพลิง ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี 😇 ขุนหลวงหาวัด กับขุนหลวงขี้เรื้อน 😈 "พระเจ้าอุทุมพร" กษัตริย์ผู้สละบัลลังก์เพื่อความสงบ พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาท แต่เลือกสละราชสมบัติ เพื่อความสงบภายใน พระองค์จึงกลายเป็น "ขุนหลวงหาวัด" ผู้ปลีกวิเวกที่พระตำหนักคำหยาด จังหวัดอ่างทอง 🏯 "พระเจ้าเอกทัศ" กษัตริย์ผู้ไม่ยอมเสียราชบัลลังก์ ตรงกันข้าม พระเจ้าเอกทัศมีความกระหายอำนาจ แม้จะมีข้อจำกัดจากพระวรกาย ทรงใช้บัลลังก์เป็นตราจองอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียต่อบ้านเมือง "ขุนหลวงขี้เรื้อน" เป็นโรคเรื้อนจริงหรือแค่คำเล่าลือ? 🧬 หลักฐานจากตะวันตก ฝรั่งเศส "สังฆราชปีแยร์ บรีโกต์" ระบุว่า พระองค์มีอาการของโรคเรื้อน และไม่ทรงปรากฏพระวรกายต่อผู้ใด ส่วนดัตช์รายงานของ "นิโกลาส บัง" ใช้คำว่า "ลาซารัส" อันเป็นคำเปรียบเทียบถึงโรคเรื้อน แต่...โรคเรื้อนห้ามบวช! พระวินัยระบุว่า ผู้ที่เป็นโรคเรื้อนห้ามบวช ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่ว่า พระเจ้าเอกทัศเคยออกผนวช จึงอาจหมายถึงโรคผิวหนังอื่น ที่คล้ายคลึงกัน เช่น กลากเกลื้อน หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง 😕 ความขัดแย้งในแผ่นดิน การแตกความสามัคคีในยุคปลายอยุธยา ⚔️ ขุนนางฉ้อฉล ข่มเหงประชาชน พระเจ้าเอกทัศไม่แสดงพระองค์แก่ประชาชน ฝ่ายในมีอำนาจครอบงำการเมือง ราษฎรถูกรีดไถ จนหมดศรัทธา ถึงแม้จะมีหลักฐาน ที่กล่าวถึงคุณงามความดีของพระองค์ ในคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม แต่ภาพรวมกลับเป็นลบ ต่อสายตาประวัติศาสตร์ 📖 คำให้การจากผู้ถูกกวาดต้อน มุมมองที่แตกต่าง ใน "คำให้การของชาวกรุงเก่า" พระเจ้าเอกทัศกลับถูกยกย่องว่า “...ทรงพระกรุณากับอาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง แผ่เมตตาไปทั่วสารพัดสัตว์ทั้งปวง” คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม ยังเสริมว่า พระองค์มีศีลธรรม ทศพิธราชธรรม และทำนุบำรุงบ้านเมือง พัฒนามาตราฐานตวงวัด และยกเลิกภาษี 3 ปี 🎯 🏚️ จุดจบราชวงศ์บ้านพลูหลวง และบทเรียนจากความล่มสลาย พระเจ้าเอกทัศถูกมองว่า เป็นต้นเหตุการเสียกรุง ทั้งจากราษฎรไทยในสมัยธนบุรี ไปจนถึงกษัตริย์ยุคต่อมา เช่น รัชกาลที่ 5 ที่ทรงกลัวจะถูกกล่าวขานในแบบเดียวกัน ประวัติศาสตร์จึงไม่ใช่แค่การจดจำบุคคล แต่เป็นกระจกสะท้อนสังคม วัฒนธรรม และการเมืองในยุคที่ความมั่นคง พังทลายด้วยความทะยานอยากของอำนาจ ⚖️ 🕯️ กษัตริย์ผู้ถูกลืม หรือถูกจำในมุมผิด? “ขุนหลวงขี้เรื้อน” อาจเป็นเพียงนามที่ประชาชนผู้สิ้นศรัทธา ใช้เรียกผู้มีอำนาจที่ไร้ความสามารถ แต่ในอีกแง่หนึ่ง พระเจ้าเอกทัศอาจเป็นเพียงเหยื่อของช่วงเวลา แรงกดดัน และความไม่พร้อมของแผ่นดิน เรื่องราวของพระองค์ จึงไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของความพ่ายแพ้ แต่คือบทเรียนของการเมืองไทย ที่วนเวียนไม่รู้จบ 🌪️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 171927 เม.ย. 2568 📢 #ขุนหลวงขี้เรื้อน #กรุงศรีอยุธยา #ประวัติศาสตร์ไทย #พระเจ้าเอกทัศ #ราชวงศ์บ้านพลูหลวง #ขุนหลวงหาวัด #คำให้การชาวกรุงเก่า #กษัตริย์ไทย #โบราณสถาน #พระตำหนักคำหยาด
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร
    รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร // เกจิอาจารย์สายเหนียวเมืองชุมพร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง มหาอุต เสนียดจัญไร อุดมด้วยโภคทรัพย์ ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูน เมตตามหานิยม เสริมดวง >>

    ** หลวงพ่อบ่าววัดเชิงกระ เป็นเกจิอีกองค์หนึ่งของจังหวัดชุมพร ขึ้นชื่อว่าเหนียวอีกท่าน และท่านยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย อีกท่าน ท่านเก่งทั้งด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี และเป็นหมอแผนโบราณ เกจิร่วมสมัยกับท่าน ได้ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ หลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู หลวงพ่อเวศ วัดประเดิม หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงพ่อหีต วัดเชิงคีรี เป็นต้น >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร รูปถ่ายหลวงพ่อบ่าว วัดเชิงกระ จ.ชุมพร // เกจิอาจารย์สายเหนียวเมืองชุมพร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง มหาอุต เสนียดจัญไร อุดมด้วยโภคทรัพย์ ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูน เมตตามหานิยม เสริมดวง >> ** หลวงพ่อบ่าววัดเชิงกระ เป็นเกจิอีกองค์หนึ่งของจังหวัดชุมพร ขึ้นชื่อว่าเหนียวอีกท่าน และท่านยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย อีกท่าน ท่านเก่งทั้งด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี และเป็นหมอแผนโบราณ เกจิร่วมสมัยกับท่าน ได้ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ หลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู หลวงพ่อเวศ วัดประเดิม หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงพ่อหีต วัดเชิงคีรี เป็นต้น >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นถิ่นกำเนิด วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ปี2520
    เหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นถิ่นกำเนิด ๒๔๓๒ (ด้านหน้าตอกโค๊ต คมชัด) วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ปี2520 // พระดีพิธีใหญ่ ด้านหลังครุฑแบกตราพระราชลัญจักร หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิตให้อย่างดีแล้วโดยเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมเหรียญ รุ่นเราสู้ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเป็นเลิศในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์ จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากภยันตรายต่างๆ >>

    ** เหรียญจัดสร้างประมาณปี 2520 ทันหลวงปู่แหวนปลุกเสก เป็นเหรียญชุดพิเศษของท่าน เป็นรุ่นที่มีประสบการณ์สูงมาก เพราะได้ปลุกเสกเข้าพิธีใหญ่หลายครั้ง จัดสร้างโดยคณะสงฆ์ อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อเป็นอนุสรณ์ จากชื่อรุ่นว่าถิ่นกำเนิดเพราะหลวงปู่ถือกำเนิดขี้นที่จังหวัดเลยในปี พ.ศ.2432 นั่นเอง เหรียญรุ่นนี้นอกจากหลวงปู่อธิษฐานจิตให้อย่างดีแล้วโดยเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมเหรียญรุ่นเราสู้อันโด่งดังใน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2520 แล้ว ผู้สร้างยังได้นำเหรียญรุ่นนี้ให้หลวงปู่คำแสน คุณลังกโร ผู้สร้างวัวธนูอันโด่งดังไปทั่วประเทศและครูบาอาจารย์ในยุคนั้นปลุกเสกให้อีกครั้ง >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นถิ่นกำเนิด วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ปี2520 เหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นถิ่นกำเนิด ๒๔๓๒ (ด้านหน้าตอกโค๊ต คมชัด) วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ปี2520 // พระดีพิธีใหญ่ ด้านหลังครุฑแบกตราพระราชลัญจักร หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิตให้อย่างดีแล้วโดยเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมเหรียญ รุ่นเราสู้ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเป็นเลิศในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์ จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากภยันตรายต่างๆ >> ** เหรียญจัดสร้างประมาณปี 2520 ทันหลวงปู่แหวนปลุกเสก เป็นเหรียญชุดพิเศษของท่าน เป็นรุ่นที่มีประสบการณ์สูงมาก เพราะได้ปลุกเสกเข้าพิธีใหญ่หลายครั้ง จัดสร้างโดยคณะสงฆ์ อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อเป็นอนุสรณ์ จากชื่อรุ่นว่าถิ่นกำเนิดเพราะหลวงปู่ถือกำเนิดขี้นที่จังหวัดเลยในปี พ.ศ.2432 นั่นเอง เหรียญรุ่นนี้นอกจากหลวงปู่อธิษฐานจิตให้อย่างดีแล้วโดยเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมเหรียญรุ่นเราสู้อันโด่งดังใน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2520 แล้ว ผู้สร้างยังได้นำเหรียญรุ่นนี้ให้หลวงปู่คำแสน คุณลังกโร ผู้สร้างวัวธนูอันโด่งดังไปทั่วประเทศและครูบาอาจารย์ในยุคนั้นปลุกเสกให้อีกครั้ง >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี
    เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด เนื้อตะกั่ว แจกกรรมการ สร้าง200ชุด (ตอกโค๊ด หมายเลข ๑๒๒ ) พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ฉลองอายุครบ 8 รอบ 96 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เสน่ห์แด่คนทั้งหลาย เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ คนในพื้นที่หวงมาก ส่วนใหญ่จะไปอยู่ต่างประเทศ มาเลย์ กับ สิงคโปร์ >>

    ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี เหรียญเสมาหน้าเลื่อนหลวงพ่อทวด เนื้อตะกั่ว แจกกรรมการ สร้าง200ชุด (ตอกโค๊ด หมายเลข ๑๒๒ ) พ่อแก่เจ้าแสง รุ่นแรก วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ฉลองอายุครบ 8 รอบ 96 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เสน่ห์แด่คนทั้งหลาย เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ คนในพื้นที่หวงมาก ส่วนใหญ่จะไปอยู่ต่างประเทศ มาเลย์ กับ สิงคโปร์ >> ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • ชาวเน็ตแห่ขุดโพรไฟล์ หนุ่มขับบีเอ็มฯ ชนลุงป้าเจ็บสาหัส เป็นลูก ชายนายก “เบี้ยว” นายกเทศบาลตำบลธัญบุรี ปทุมธานี เผยภาพทักษิณชินวัตร พร้อมนายกฯอุ๊งอิ๊ง เป็นประธานงานบวช

    เปิดประวัติ สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือที่รู้จักในชื่อเล่น "พีช" หนุ่ม บีเอ็มฯ ขับรถไล่บี้ รถกระบะบนมอเตอร์เวย์ 9 เป็นบุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ "นายกเบี้ยว" นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี “ครอบครัว หลีนวรัตน์” มีบทบาทสำคัญการเมืองท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี

    สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ "พีช" วัย 28 ปี บุตรชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลลำลูกกา เขตเลือกตั้งที่ 2 หมายเลข 1 ในการเลือกตั้งเทศบาลตำบลลำลูกกา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000036184

    #MGROnline #บีเอ็มขาว #BMWขาว
    ชาวเน็ตแห่ขุดโพรไฟล์ หนุ่มขับบีเอ็มฯ ชนลุงป้าเจ็บสาหัส เป็นลูก ชายนายก “เบี้ยว” นายกเทศบาลตำบลธัญบุรี ปทุมธานี เผยภาพทักษิณชินวัตร พร้อมนายกฯอุ๊งอิ๊ง เป็นประธานงานบวช • เปิดประวัติ สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือที่รู้จักในชื่อเล่น "พีช" หนุ่ม บีเอ็มฯ ขับรถไล่บี้ รถกระบะบนมอเตอร์เวย์ 9 เป็นบุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ "นายกเบี้ยว" นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี “ครอบครัว หลีนวรัตน์” มีบทบาทสำคัญการเมืองท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี • สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ "พีช" วัย 28 ปี บุตรชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลลำลูกกา เขตเลือกตั้งที่ 2 หมายเลข 1 ในการเลือกตั้งเทศบาลตำบลลำลูกกา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000036184 • #MGROnline #บีเอ็มขาว #BMWขาว
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบการก่อสร้างมณฑปที่ประดิษฐานพระเจ้าองค์แสน วัดโพธิ์ชัย ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
    https://youtu.be/HD-fURtPAgI
    ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบการก่อสร้างมณฑปที่ประดิษฐานพระเจ้าองค์แสน วัดโพธิ์ชัย ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย https://youtu.be/HD-fURtPAgI
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • อินโดนีเซียออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคาร (15 เม.ย.) รายงานข่าวที่ปรากฎอยู่ในสิ่งตีพิมพ์ของ เจนส์ ซึ่งระบุว่ารัสเซียได้ขอตั้งฐานเครื่องบินทหารของตนที่ปาปัว จังหวัดที่อยู่สุดทิศตะวันออกของแดนอิเหนา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036080

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อินโดนีเซียออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคาร (15 เม.ย.) รายงานข่าวที่ปรากฎอยู่ในสิ่งตีพิมพ์ของ เจนส์ ซึ่งระบุว่ารัสเซียได้ขอตั้งฐานเครื่องบินทหารของตนที่ปาปัว จังหวัดที่อยู่สุดทิศตะวันออกของแดนอิเหนา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036080 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 Comments 0 Shares 952 Views 0 Reviews
  • วันที่ 16 เมษายน 2568
    นายนรเศรษฐ รุ่งจรูญ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง พร้อมด้วยข้าราชการและพนักงานเทศบาลตำบลหลักเมือง ร่วมพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานฯ และพิธีปลงผม เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร ให้ ร้อยตำรวจเอก คณิน รุ่งเรือง เพื่ออุปสมบทในพระพุทธศาสนา ณ วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    วันที่ 16 เมษายน 2568 นายนรเศรษฐ รุ่งจรูญ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง พร้อมด้วยข้าราชการและพนักงานเทศบาลตำบลหลักเมือง ร่วมพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานฯ และพิธีปลงผม เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร ให้ ร้อยตำรวจเอก คณิน รุ่งเรือง เพื่ออุปสมบทในพระพุทธศาสนา ณ วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • 82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥

    📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️

    📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓

    คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨

    👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน

    แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤

    📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗

    ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓

    การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด…

    🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา...

    15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน

    🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้

    🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร

    หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯

    ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ”

    ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ”

    แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌

    🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔

    ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา

    ✍️ เขียนพินัยกรรม

    🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย

    🛐 ฟังธรรมเทศนา

    เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น

    🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย

    หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568

    📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥 📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️ 📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓 คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨 👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤 📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗ ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓ การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด… 🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา... 15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน 🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้ 🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯 ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ” ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ” แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌ 🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔 ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา ✍️ เขียนพินัยกรรม 🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย 🛐 ฟังธรรมเทศนา เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น 🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568 📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลังเต่าหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539
    เหรียญหลังเต่าหลวงพ่อทวด เนื้อกะไหล่ทอง วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ เฉียบ!!! ขลัง!! พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน ปลุกเสก //พระสถาพสวยมาก สวยแชมป ์โลก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดีพิธิใหญ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8.พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา>> ร่วมปลุกเสก..เหรียญหายากครับ ประวัติการสร้างชัดเจน เหรียญมีประสบการณ์มาก สถาพสวยย น่าใช้มากครับ >>

    ** พระสถาพสวยมาก สวยแชมป ์โลก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลังเต่าหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539 เหรียญหลังเต่าหลวงพ่อทวด เนื้อกะไหล่ทอง วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ เฉียบ!!! ขลัง!! พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน ปลุกเสก //พระสถาพสวยมาก สวยแชมป ์โลก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดีพิธิใหญ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8.พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา>> ร่วมปลุกเสก..เหรียญหายากครับ ประวัติการสร้างชัดเจน เหรียญมีประสบการณ์มาก สถาพสวยย น่าใช้มากครับ >> ** พระสถาพสวยมาก สวยแชมป ์โลก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547
    เนื้อว่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี นิรันตราย คุ้มครองให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขันจากอันตรายที่เกิดขึ้น เสริมบารมี หนุนดวง เสริมความมั่งคั่ง มั่งมี อุดมสมบูรณ์ >>

    ** ในวาระครบรอบ ๔๕ ปี วัดเมืองยะลา ในปี ๒๕๔๗ ที่สร้างวัดมา พ่อท่านฉิ้น อายุ ๗๙ พรรษา ๕๘ เจ้าคณะจังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพศีลวิสุทธิ์ เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ่อท่านฉิ้น ได้รวบรวมผงเก่าปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ได้มอบไว้ให้ นำมาผสมลงในวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเข้มขลังยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ ณ วัดช้างให้ โดยคณาจารย์สายใต้ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่วัดเมืองยะลา โดยพระคณาจารย์สายใต้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ พ่อท่านฉิ้นได้ปลุกเสกเดี่ยวต่อ และได้นำไปให้หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นพิเศษ วันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 เนื้อว่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี นิรันตราย คุ้มครองให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขันจากอันตรายที่เกิดขึ้น เสริมบารมี หนุนดวง เสริมความมั่งคั่ง มั่งมี อุดมสมบูรณ์ >> ** ในวาระครบรอบ ๔๕ ปี วัดเมืองยะลา ในปี ๒๕๔๗ ที่สร้างวัดมา พ่อท่านฉิ้น อายุ ๗๙ พรรษา ๕๘ เจ้าคณะจังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพศีลวิสุทธิ์ เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ่อท่านฉิ้น ได้รวบรวมผงเก่าปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ได้มอบไว้ให้ นำมาผสมลงในวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเข้มขลังยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ ณ วัดช้างให้ โดยคณาจารย์สายใต้ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่วัดเมืองยะลา โดยพระคณาจารย์สายใต้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ พ่อท่านฉิ้นได้ปลุกเสกเดี่ยวต่อ และได้นำไปให้หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นพิเศษ วันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในดีเอสไอ พบว่า วิศวกร รายนี้มีชื่อว่า นายพิมล เจริญยิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2482 ปัจจุบันอายุประมาณ 86 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายพิมล เจริญยิ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเซ็นชื่อออกแบบก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า" นายพิมลกล่าวทิ้งท้าย https://www.isranews.org/article/isranews/137278-invesbuuu.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR5qo6Z1xEJKIlQDMPzBvhCaet1TNeiQBQPUq9i7eyTRIWTX8yfMcGC74mZMVg_aem_7v2l-bG-EkBzQ1ythAALXQ#xgl270v9n291i1ri0op7msw94v3gt9sdi
    สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในดีเอสไอ พบว่า วิศวกร รายนี้มีชื่อว่า นายพิมล เจริญยิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2482 ปัจจุบันอายุประมาณ 86 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายพิมล เจริญยิ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเซ็นชื่อออกแบบก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า" นายพิมลกล่าวทิ้งท้าย https://www.isranews.org/article/isranews/137278-invesbuuu.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR5qo6Z1xEJKIlQDMPzBvhCaet1TNeiQBQPUq9i7eyTRIWTX8yfMcGC74mZMVg_aem_7v2l-bG-EkBzQ1ythAALXQ#xgl270v9n291i1ri0op7msw94v3gt9sdi
    WWW.ISRANEWS.ORG
    เปิดตัว 'วิศวกร' อายุ 85 ปี ผู้เซ็นชื่อออกแบบสร้างตึกสตง.- เจ้าตัวแจงไม่รู้เรื่องด้วย?
    นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า ...เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 Comments 0 Shares 388 Views 0 Reviews
  • พ่อเมืองน่านเปิดงาน “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ยกระดับสู่เวทีโลก

    วันที่ 15 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานประเพณีสงกรานต์ “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรม ผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
    งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของจังหวัดน่านและกระทรวงวัฒนธรรม ผ่านกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ผลักดันให้น่านเป็นหนึ่งใน 12 จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวสงกรานต์ สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น สืบสานวิถีไทย พร้อมต่อยอดเทศกาลสงกรานต์ไทยสู่ระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Festival Hub of Asia” เพื่อสร้างสังคมแห่งความผูกพัน และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุมชน และสังคม
    พระวชิราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ได้เมตตาเอื้อเฟื้อสถานที่จัด

    @@@@@@@@

    กัลยา สองเมืองแก่น น่าน
    พ่อเมืองน่านเปิดงาน “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ยกระดับสู่เวทีโลก วันที่ 15 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานประเพณีสงกรานต์ “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรม ผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของจังหวัดน่านและกระทรวงวัฒนธรรม ผ่านกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ผลักดันให้น่านเป็นหนึ่งใน 12 จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวสงกรานต์ สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น สืบสานวิถีไทย พร้อมต่อยอดเทศกาลสงกรานต์ไทยสู่ระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Festival Hub of Asia” เพื่อสร้างสังคมแห่งความผูกพัน และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุมชน และสังคม พระวชิราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ได้เมตตาเอื้อเฟื้อสถานที่จัด @@@@@@@@ กัลยา สองเมืองแก่น น่าน
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่า รัสเซียได้เจรจาอย่างเป็นทางการกับจาการ์ตาในการขออนุญาตให้เครื่องบินของกองกำลังอวกาศรัสเซีย (VKS) ประจำการที่ฐานทัพปาปัวในจังหวัดทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซีย

    จากรายงานของสื่อ คาดว่ารัสเซียอาจต้องการให้เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95 ไปประจำการที่ฐานทัพอากาศ Manuhua ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสนามบิน Frans Kaisiepo บนเกาะ Biak ของอินโดนีเซีย ในภูมิภาคปาปัว

    ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศที่กองทัพอากาศอินโดนีเซียไม่ได้ใช้งานแล้ว และปล่อยทิ้งร้างไว้

    ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียถึงกับแสดงอาการร้อนรน และส่งคำถามไปยังรัฐบาลอินโดนีเซียถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งจากรายงานของสื่อออสเตรเลีย รัฐบาลจาการ์ตาได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้วเช่นกัน


    มีรายงานว่า รัสเซียได้เจรจาอย่างเป็นทางการกับจาการ์ตาในการขออนุญาตให้เครื่องบินของกองกำลังอวกาศรัสเซีย (VKS) ประจำการที่ฐานทัพปาปัวในจังหวัดทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซีย จากรายงานของสื่อ คาดว่ารัสเซียอาจต้องการให้เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95 ไปประจำการที่ฐานทัพอากาศ Manuhua ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสนามบิน Frans Kaisiepo บนเกาะ Biak ของอินโดนีเซีย ในภูมิภาคปาปัว ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศที่กองทัพอากาศอินโดนีเซียไม่ได้ใช้งานแล้ว และปล่อยทิ้งร้างไว้ ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียถึงกับแสดงอาการร้อนรน และส่งคำถามไปยังรัฐบาลอินโดนีเซียถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งจากรายงานของสื่อออสเตรเลีย รัฐบาลจาการ์ตาได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้วเช่นกัน
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • หน้ากากพรานบุญ เนื้อไม้แกะ พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี
    หน้ากากพรานบุญ เนื้อไม้แกะ หลังจารยันต์ ตอกโค้ด "ส" ( ไม้ตะเคียนแช่น้ำมันมหาเสน่ห์กาจับหลัก ) พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ สุดยอดเมตตามหาเสน่ห์ พบเจอน้อย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ จะเด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ ขอโชคลาภ ใครบูชา นะจังงัง หลงไหล บนเอาเถิดจะประสบตวามสำเร็จ เสน่ห์เมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.

    ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี

    พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน>>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หน้ากากพรานบุญ เนื้อไม้แกะ พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี หน้ากากพรานบุญ เนื้อไม้แกะ หลังจารยันต์ ตอกโค้ด "ส" ( ไม้ตะเคียนแช่น้ำมันมหาเสน่ห์กาจับหลัก ) พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ สุดยอดเมตตามหาเสน่ห์ พบเจอน้อย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ จะเด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ ขอโชคลาภ ใครบูชา นะจังงัง หลงไหล บนเอาเถิดจะประสบตวามสำเร็จ เสน่ห์เมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน>> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • 🙏✨พระปิดตาพิมพ์ตะเกียงโบราณ #หลวงพ่อบุญ วัดทุ่งเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พระพิมพ์นี้มีพุทธลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา ขณะที่พุทธคุณด้วยวิชาอาคมที่สั่งสมมานานของหลวงพ่อบุญ เชื่อกันว่า ตะเกียงนั้นให้แสงส่องสว่างฉันใด พระพิมพ์นี้ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกันคือนำพาให้ชีวิตให้พบความสว่างไสวไปตลอดกาล.
    🙏✨พระปิดตาพิมพ์ตะเกียงโบราณ #หลวงพ่อบุญ วัดทุ่งเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พระพิมพ์นี้มีพุทธลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา ขณะที่พุทธคุณด้วยวิชาอาคมที่สั่งสมมานานของหลวงพ่อบุญ เชื่อกันว่า ตะเกียงนั้นให้แสงส่องสว่างฉันใด พระพิมพ์นี้ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกันคือนำพาให้ชีวิตให้พบความสว่างไสวไปตลอดกาล.
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 0 Reviews
  • ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 เผย แผ่นดินไหว “กระบี่” ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เร่งตรวจสอบอาคารหน่วยบริการสาธารณสุข เบื้องต้น รพ.เหนือคลอง และร พ.สต.ในพื้นที่ ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วน รพ.กระบี่ อาคารเก่า 20 ปีที่เป็นห้องซีทีสแกนมีรอยร้าว แต่ไม่กระทบกับการให้บริการ ขณะที่อาคารผู้ป่วยใน โยธาธิการจังหวัดตรวจสอบแล้วไม่ได้รับผลกระทบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035535

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 เผย แผ่นดินไหว “กระบี่” ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เร่งตรวจสอบอาคารหน่วยบริการสาธารณสุข เบื้องต้น รพ.เหนือคลอง และร พ.สต.ในพื้นที่ ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วน รพ.กระบี่ อาคารเก่า 20 ปีที่เป็นห้องซีทีสแกนมีรอยร้าว แต่ไม่กระทบกับการให้บริการ ขณะที่อาคารผู้ป่วยใน โยธาธิการจังหวัดตรวจสอบแล้วไม่ได้รับผลกระทบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035535 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 762 Views 0 Reviews
More Results