• ผบ.ตร. ยันตำรวจพร้อมเต็มที่ สนธิกำลังทหารรักษาอธิปไตยชายแดนสระแก้ว เน้นเจรจา หากไม่สำเร็จใช้กฎหมายนำ
    https://www.thai-tai.tv/news/21883/
    .
    #ไทยไท #ผบตร #กิตติ์รัฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หนองจาน #กฎอัยการศึก #รักษาอธิปไตย

    ผบ.ตร. ยันตำรวจพร้อมเต็มที่ สนธิกำลังทหารรักษาอธิปไตยชายแดนสระแก้ว เน้นเจรจา หากไม่สำเร็จใช้กฎหมายนำ https://www.thai-tai.tv/news/21883/ . #ไทยไท #ผบตร #กิตติ์รัฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หนองจาน #กฎอัยการศึก #รักษาอธิปไตย
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • อาลัย 3 ตำรวจกล้า "กองบินตำรวจ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของตำรวจกล้าทั้ง 3 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ตก ในพื้นที่ จว.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยานร่วมภารกิจที่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จว.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลครอบครัวตำรวจกล้า ดูแลด้านสิทธิประโยชน์ สวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่.1.พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พล.ต.ต.2.ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย อายุ 34 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.อ.3.ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ช่างอากาศยาน (สบ1) รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.9 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.ท..พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียกำลังพลครั้งนี้ สั่งการดูแลเยียวยา และเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
    อาลัย 3 ตำรวจกล้า "กองบินตำรวจ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของตำรวจกล้าทั้ง 3 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ตก ในพื้นที่ จว.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยานร่วมภารกิจที่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จว.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลครอบครัวตำรวจกล้า ดูแลด้านสิทธิประโยชน์ สวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่.1.พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พล.ต.ต.2.ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย อายุ 34 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.อ.3.ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ช่างอากาศยาน (สบ1) รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.9 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.ท..พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียกำลังพลครั้งนี้ สั่งการดูแลเยียวยา และเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 515 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.รับทราบกรณีแพทยสภามีมติลงโทษหมอ ปมช่วย "ทักษิณ" รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบข้อเท็จจริง หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ รอเอกสารยืนยัน

    วันนี้ (9 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษ ว่ากล่าวตักเตือน และพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ราย โดยมีรายงานว่า 2 ใน 3 ของแพทย์ที่ถูกลงโทษเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่ได้สั่งการให้กองวินัย เตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วหากมีการแจ้งเรื่องมาอย่างเป็นทางการ โดยตามขั้นตอนปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีการแจ้งเรื่องเข้ามายังฝ่ายวินัย จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ให้ทางกองวินัยรับทราบและเตรียมพร้อมในการเสนอความเห็นแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000043480

    #MGROnline #ทักษิณ
    ผบ.ตร.รับทราบกรณีแพทยสภามีมติลงโทษหมอ ปมช่วย "ทักษิณ" รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบข้อเท็จจริง หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ รอเอกสารยืนยัน • วันนี้ (9 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษ ว่ากล่าวตักเตือน และพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ราย โดยมีรายงานว่า 2 ใน 3 ของแพทย์ที่ถูกลงโทษเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่ได้สั่งการให้กองวินัย เตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วหากมีการแจ้งเรื่องมาอย่างเป็นทางการ โดยตามขั้นตอนปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีการแจ้งเรื่องเข้ามายังฝ่ายวินัย จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ให้ทางกองวินัยรับทราบและเตรียมพร้อมในการเสนอความเห็นแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000043480 • #MGROnline #ทักษิณ
    0 Comments 0 Shares 466 Views 0 Reviews
  • พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยกรณีแพทยสภามีมติลงโทษว่ากล่าวตักเตือนและพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ราย ซึ่งมีรายงานว่า 2 ใน 3 เป็นแพทย์รพ.ตำรวจ ได้สั่งให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นแพทย์ตำรวจที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องหยุดปฏิบัติงานด้านรักษาพยาบาลทันที และอาจระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพ ส่วนด้านวินัยตำรวจต้องพิจารณาว่ามีความผิดข้อใดบ้าง ส่วนการดำเนินคดีอาญาต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษจึงจะดำเนินการได้ ยืนยัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่นิ่งเฉย

    -ตระกูลนี้ต้องรับกรรม
    -แปะหมายเรียกคดีฮั้ว สว.
    -ลุยชั้นใต้ดินหาผู้สูญหาย
    -วอนเปิดใจอย่าตั้งธง
    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยกรณีแพทยสภามีมติลงโทษว่ากล่าวตักเตือนและพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ราย ซึ่งมีรายงานว่า 2 ใน 3 เป็นแพทย์รพ.ตำรวจ ได้สั่งให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นแพทย์ตำรวจที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องหยุดปฏิบัติงานด้านรักษาพยาบาลทันที และอาจระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพ ส่วนด้านวินัยตำรวจต้องพิจารณาว่ามีความผิดข้อใดบ้าง ส่วนการดำเนินคดีอาญาต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษจึงจะดำเนินการได้ ยืนยัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่นิ่งเฉย -ตระกูลนี้ต้องรับกรรม -แปะหมายเรียกคดีฮั้ว สว. -ลุยชั้นใต้ดินหาผู้สูญหาย -วอนเปิดใจอย่าตั้งธง
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 948 Views 40 0 Reviews
  • บินเล็กตกทะเลหัวหิน ตำรวจพลีชีพ 5 นาย เร่งยื้อชีวิตนักบิน "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" เครื่องใหม่ลำแรกของรุ่น เพิ่งประจำการ ตร. แค่ 4 ปี

    ความสูญเสียกลางภารกิจที่ไม่มีวันลืม วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 ช่วงเช้า 08.15 น. ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุการณ์สลดใจ เครื่องบินเล็ก DHC-6 Twin Otter หมายเลข 36964 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเล ขณะกำลังทำภารกิจทดสอบการบิน

    โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นาย เหลือเพียง ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส และยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในโรงพยาบาลหัวหิน

    ลำดับเหตุการณ์ เครื่องตกกลางภารกิจทดสอบการบิน เหตุเกิดเช้าวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 08.15 น. ที่ชายหาดเบบิ้แกรนด์ ใกล้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บนเครื่องมีทั้งหมด 6 นาย ได้แก่...

    พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
    พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
    ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
    จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต

    ส่วน ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน รอดชีวิต บาดเจ็บสาหัส

    การช่วยเหลือเกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องตก โดยมีการปฏิบัติการกู้ชีพ จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ อย่างทันท่วงที

    สภาพเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ซ่อมบำรุง-ทดสอบ-แต่ตกสู่โศกนาฏกรรม การซ่อมบำรุงก่อนบิน

    เครื่องบินลำนี้ เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงเพียง 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ
    มีการทดสอบภาคพื้นดินอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ

    ภารกิจในวันเกิดเหตุ ทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมฝึกกระโดดร่ม ตรวจสอบสภาพอากาศ และสภาวะแวดล้อม ช่วงเวลาขึ้นบินประมาณ 1 นาที เครื่องเกิดเสียการทรงตัว ก่อนตกลงทะเล

    สภาพอากาศในวันนั้น มีลมอ่อนถึงปานกลาง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือไม่

    ข้อมูลเครื่องบิน DHC-6-400 Twin Otter หมายเลข 36964 ผู้ผลิตคืออ Viking Air Ltd. เข้าประจำการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 หมายเลขเครื่อง MSN 964 ทะเบียนเดิมในแคนาดาคือ C-FMVQ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องบินลำนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน โดยสายการบิน หรือหน่วยงานอื่นใด ถือเป็นเครื่องบินใหม่ ที่ยังไม่เคยประจำการที่ไหนมาก่อน

    ลักษณะการใช้งาน เครื่องลำเลียงทางยุทธวิธี เช่น ฝึกกระโดดร่ม ลาดตระเวนชายแดน ส่งกลับสายการแพทย์

    สเปกทางเทคนิค ความยาว 15.77 เมตร ช่วงปีก 19.81 เมตร ความสูง 5.94 เมตร น้ำหนักเปล่า 3,380 กก. น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) 5,670 กก. ความเร็วเดินทาง 338 กม./ชม. พิสัยการบิน1,427 กม. เพดานบิน 25,000 ฟุต ระบบขับเคลื่อน 2 × Pratt & Whitney PT6A-34 (750 SHP/ข้าง)

    ด้วยคุณสมบัติการขึ้น-ลงระยะสั้น (STOL) ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ เหมาะสมกับภารกิจ ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างมาก

    จุดเด่น ข้อจำกัดของ DHC-6-400 Twin Otter

    จุดเด่น
    ขึ้นลงได้ในพื้นที่สั้น ดิน หญ้า หิมะ หรือน้ำ
    ทนทานสูง ซ่อมบำรุงง่าย
    ระบบ Glass Cockpit ทันสมัย
    รองรับภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่พลเรือนไปจนถึงทหาร

    ข้อจำกัด
    ไม่มีระบบความดันภายในห้องโดยสาร
    เสียงเครื่องยนต์ดังมาก
    ระบบตรวจจับสภาพอากาศพื้นฐาน อาจไม่เพียงพอในสภาพอากาศเลวร้าย
    ไม่มีระบบ Fly-by-wire หรือ Auto-throttle ช่วยนักบิน
    โครงสร้างหลักพัฒนาจากแบบดั้งเดิม (1960s)

    แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ในแง่ความแข็งแกร่ง DHC-6-400 ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินลำเลียง ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด

    การช่วยเหลือ ภารกิจหลังอุบัติเหตุ หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ดำเนินการค้นหาและกู้ชีพทันที ร.ต.อ.จตุรงค์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวหิน และยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ

    การสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเน้นการเก็บข้อมูลจากกล่องดำ (Black Box) พยานแวดล้อม ข้อมูลสภาพเครื่องบิน และสภาพอากาศวันเกิดเหตุ

    โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ บทเรียนเพื่ออนาคต เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่าย หันมาใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัย ในการบินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น

    ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกนาย และขอให้ "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252128 เม.ย. 2568

    #อุบัติเหตุเครื่องบิน #หัวหิน #ตำรวจไทย #เครื่องบินตก #DHC6TwinOtter #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #รำลึกผู้เสียชีวิต #ภารกิจตำรวจ #ข่าวด่วน #ข่าวประจวบคีรีขันธ์
    บินเล็กตกทะเลหัวหิน ตำรวจพลีชีพ 5 นาย เร่งยื้อชีวิตนักบิน "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" เครื่องใหม่ลำแรกของรุ่น เพิ่งประจำการ ตร. แค่ 4 ปี 🚨✈️ ความสูญเสียกลางภารกิจที่ไม่มีวันลืม วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 ช่วงเช้า 08.15 น. 🌅 ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุการณ์สลดใจ เครื่องบินเล็ก DHC-6 Twin Otter หมายเลข 36964 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเล ขณะกำลังทำภารกิจทดสอบการบิน 🌊 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นาย 😢 เหลือเพียง ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส และยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในโรงพยาบาลหัวหิน ลำดับเหตุการณ์ เครื่องตกกลางภารกิจทดสอบการบิน 🚁 เหตุเกิดเช้าวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 08.15 น. ที่ชายหาดเบบิ้แกรนด์ ใกล้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บนเครื่องมีทั้งหมด 6 นาย ได้แก่... พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต ส่วน ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน รอดชีวิต บาดเจ็บสาหัส 🆘 การช่วยเหลือเกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องตก โดยมีการปฏิบัติการกู้ชีพ จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ อย่างทันท่วงที สภาพเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ซ่อมบำรุง-ทดสอบ-แต่ตกสู่โศกนาฏกรรม ⚙️ การซ่อมบำรุงก่อนบิน 🔧 เครื่องบินลำนี้ เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงเพียง 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ 🔍 มีการทดสอบภาคพื้นดินอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ภารกิจในวันเกิดเหตุ ทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมฝึกกระโดดร่ม ตรวจสอบสภาพอากาศ และสภาวะแวดล้อม ช่วงเวลาขึ้นบินประมาณ 1 นาที เครื่องเกิดเสียการทรงตัว ก่อนตกลงทะเล ⛅ สภาพอากาศในวันนั้น มีลมอ่อนถึงปานกลาง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือไม่ ข้อมูลเครื่องบิน DHC-6-400 Twin Otter หมายเลข 36964 📚✈️ ผู้ผลิตคืออ Viking Air Ltd. 🇨🇦 เข้าประจำการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 หมายเลขเครื่อง MSN 964 ทะเบียนเดิมในแคนาดาคือ C-FMVQ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องบินลำนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน โดยสายการบิน หรือหน่วยงานอื่นใด ถือเป็นเครื่องบินใหม่ ที่ยังไม่เคยประจำการที่ไหนมาก่อน ลักษณะการใช้งาน เครื่องลำเลียงทางยุทธวิธี เช่น ฝึกกระโดดร่ม ลาดตระเวนชายแดน ส่งกลับสายการแพทย์ 🚑 สเปกทางเทคนิค ความยาว 15.77 เมตร ช่วงปีก 19.81 เมตร ความสูง 5.94 เมตร น้ำหนักเปล่า 3,380 กก. น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) 5,670 กก. ความเร็วเดินทาง 338 กม./ชม. พิสัยการบิน1,427 กม. เพดานบิน 25,000 ฟุต ระบบขับเคลื่อน 2 × Pratt & Whitney PT6A-34 (750 SHP/ข้าง) 🛬 ด้วยคุณสมบัติการขึ้น-ลงระยะสั้น (STOL) ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ เหมาะสมกับภารกิจ ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างมาก จุดเด่น ข้อจำกัดของ DHC-6-400 Twin Otter 🔥 จุดเด่น 👍 ✅ ขึ้นลงได้ในพื้นที่สั้น ดิน หญ้า หิมะ หรือน้ำ ✅ ทนทานสูง ซ่อมบำรุงง่าย ✅ ระบบ Glass Cockpit ทันสมัย ✅ รองรับภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่พลเรือนไปจนถึงทหาร ข้อจำกัด 👎 ⚠️ ไม่มีระบบความดันภายในห้องโดยสาร ⚠️ เสียงเครื่องยนต์ดังมาก ⚠️ ระบบตรวจจับสภาพอากาศพื้นฐาน อาจไม่เพียงพอในสภาพอากาศเลวร้าย ⚠️ ไม่มีระบบ Fly-by-wire หรือ Auto-throttle ช่วยนักบิน ⚠️ โครงสร้างหลักพัฒนาจากแบบดั้งเดิม (1960s) ✨ แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ในแง่ความแข็งแกร่ง DHC-6-400 ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินลำเลียง ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด การช่วยเหลือ ภารกิจหลังอุบัติเหตุ 🚑🤝 หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ดำเนินการค้นหาและกู้ชีพทันที ร.ต.อ.จตุรงค์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวหิน และยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ 🎖️ 👩‍⚕️ การสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเน้นการเก็บข้อมูลจากกล่องดำ (Black Box) พยานแวดล้อม ข้อมูลสภาพเครื่องบิน และสภาพอากาศวันเกิดเหตุ โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ บทเรียนเพื่ออนาคต 🕊️ เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศอย่างแท้จริง 🇹🇭 ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่าย หันมาใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัย ในการบินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกนาย และขอให้ "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ❤️‍🩹 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252128 เม.ย. 2568 🌟 #อุบัติเหตุเครื่องบิน #หัวหิน #ตำรวจไทย #เครื่องบินตก #DHC6TwinOtter #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #รำลึกผู้เสียชีวิต #ภารกิจตำรวจ #ข่าวด่วน #ข่าวประจวบคีรีขันธ์
    0 Comments 0 Shares 896 Views 0 Reviews
  • พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตำรวจตกทะเล ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน เคารพร่างผู้ใต้บังคับบัญชา 5 ราย กำชับดูแลครอบครัวผู้สูญเสียจัดพิธีสมเกียรติ เผย นักบินระดับครูการบิน สดุดีผู้เสียชีวิต ลักษณะการเกิดเหตุเครื่องบินเอียงขวา หากตกฝั่งขวาจะเป็นบ้านเรือนประชาชน แต่เครื่องบินบังคับให้เอียงซ้าย มั่นใจว่านักบินพยายามนำเครื่องลงทะเล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่รุนแรง จึงทำให้เกิดการสูญเสีย เตรียมตั้งทีมสอบสวนหาสาเหตุ

    -สเปกเครื่องบินเอนกประสงค์
    -คุมโลหะหนักกระดาษอาหาร
    -ยังค้นหาแม้อากาศร้อนจัด
    -ลงทุน 7 พันล้าน ไม่คุ้มค่า
    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตำรวจตกทะเล ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน เคารพร่างผู้ใต้บังคับบัญชา 5 ราย กำชับดูแลครอบครัวผู้สูญเสียจัดพิธีสมเกียรติ เผย นักบินระดับครูการบิน สดุดีผู้เสียชีวิต ลักษณะการเกิดเหตุเครื่องบินเอียงขวา หากตกฝั่งขวาจะเป็นบ้านเรือนประชาชน แต่เครื่องบินบังคับให้เอียงซ้าย มั่นใจว่านักบินพยายามนำเครื่องลงทะเล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่รุนแรง จึงทำให้เกิดการสูญเสีย เตรียมตั้งทีมสอบสวนหาสาเหตุ -สเปกเครื่องบินเอนกประสงค์ -คุมโลหะหนักกระดาษอาหาร -ยังค้นหาแม้อากาศร้อนจัด -ลงทุน 7 พันล้าน ไม่คุ้มค่า
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 887 Views 47 0 Reviews
  • ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยครับ

    เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม
    อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย
    วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน
    6 นาย คือ
    1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
    2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
    3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
    4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
    5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด
    ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้

    *********************************************
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
    ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยครับ เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน 6 นาย คือ 1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต 2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต 3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา 4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต 5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต 6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ********************************************* สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
    0 Comments 0 Shares 540 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมหนุ่มเลือดร้อน ซิ่งบีเอ็มป้ายแดงเบียดกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้จิตสำนึก” ไม่มีวุฒิภาวะ สั่งเอาผิดทุกข้อหา ย้ำชัดแม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังก็ไม่มีละเว้น

    วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์รถเก๋ง BMW ป้ายแดง ขับปาดหน้ากับรถกระบะ เป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลักพุ่งชนขอบทางบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงทางออกรังสิต-นครนายก ส่งผลให้คนขับกระบะเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ขณะที่ผู้โดยสารหญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW มีรายงานว่าเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) และมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง

    ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนเองได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลฯ แล้ว และเห็นว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถ BMW เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000036231

    #MGROnline #ลูกชายนายกเบี้ยว #รถBMW #ประเด็นร้อน #นายกเบี้ยว #ชนกระบะ #ลูกนักการเมือง #การเมือง #เฮียขับรถ #BMW #กระบะ
    ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมหนุ่มเลือดร้อน ซิ่งบีเอ็มป้ายแดงเบียดกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้จิตสำนึก” ไม่มีวุฒิภาวะ สั่งเอาผิดทุกข้อหา ย้ำชัดแม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังก็ไม่มีละเว้น • วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์รถเก๋ง BMW ป้ายแดง ขับปาดหน้ากับรถกระบะ เป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลักพุ่งชนขอบทางบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงทางออกรังสิต-นครนายก ส่งผลให้คนขับกระบะเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ขณะที่ผู้โดยสารหญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW มีรายงานว่าเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) และมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง • ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนเองได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลฯ แล้ว และเห็นว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถ BMW เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000036231 • #MGROnline #ลูกชายนายกเบี้ยว #รถBMW #ประเด็นร้อน #นายกเบี้ยว #ชนกระบะ #ลูกนักการเมือง #การเมือง #เฮียขับรถ #BMW #กระบะ
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 841 Views 0 Reviews
  • พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ส่งตัวแทน ยื่นอุทธรณ์โทษไล่ออกต่อ ก.พ.ค.ตร. ขอความเป็นธรรม คดีพัวพันเว็บพนัน หลังครบเดดไลน์วันนี้ ขณะที่ 4 ลูกน้องชิงยื่นอุทธรณ์ไปแล้วก่อนหน้า

    วันนี้ (11 เม.ย.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกคณะกรรมการกลั่นกรองโทษพิจารณาว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงจากกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ

    ต่อมา วันที่ 11มี.ค.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 โดยเจ้าตัวในฐานะผู้ถูกลงโทษ มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง ซึ่งครบกำหนดในวันนี้ (11 เม.ย.)

    ส่วนลูกน้องคนสนิท 4 นาย มีรายงานว่าได้ยื่นอุทรณ์คำร้อง ต่อ ก.พ.ค.ตร.ไปก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ,ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034843

    #MGROnline #คดีพัวพันเว็บพนัน #สุรเชชษฐ์
    พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ส่งตัวแทน ยื่นอุทธรณ์โทษไล่ออกต่อ ก.พ.ค.ตร. ขอความเป็นธรรม คดีพัวพันเว็บพนัน หลังครบเดดไลน์วันนี้ ขณะที่ 4 ลูกน้องชิงยื่นอุทธรณ์ไปแล้วก่อนหน้า • วันนี้ (11 เม.ย.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกคณะกรรมการกลั่นกรองโทษพิจารณาว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงจากกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ • ต่อมา วันที่ 11มี.ค.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 โดยเจ้าตัวในฐานะผู้ถูกลงโทษ มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง ซึ่งครบกำหนดในวันนี้ (11 เม.ย.) • ส่วนลูกน้องคนสนิท 4 นาย มีรายงานว่าได้ยื่นอุทรณ์คำร้อง ต่อ ก.พ.ค.ตร.ไปก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ,ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034843 • #MGROnline #คดีพัวพันเว็บพนัน #สุรเชชษฐ์
    0 Comments 1 Shares 798 Views 0 Reviews
  • เส้นทางชีวิต พ.ต.อ. พกโพยสะเทือนยุติธรรม

    วีดีโอคลิปที่ตำรวจยศพันตำรวจเอก (พ.ต.อ.) นายหนึ่ง ถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่าพกเอกสารเข้ามาในห้องสอบ ในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เป็นที่วิจารณ์อย่างมาก ทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยทันที หากเป็นความผิดฐานทุจริตการสอบจริงให้ถือเป็นวินัยร้ายแรง รวมทั้งให้พิจารณาสั่งให้พักหรือออกจากราชการไว้ก่อนด้วย

    พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พ.ต.อ. รายนี้เป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 แต่มีคำสั่งไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบที่มาที่ไปของการไปช่วยราชการ ว่าเป็นการขาดจากต้นสังกัดหรือไม่ มีหน้าที่อะไร เป็นเวลาราชการหรือไม่ มีการลาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ย้ำว่าจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

    ขณะที่ พ.ต.อ. กล่าวกับสื่อว่า อยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสาร พร้อมยินดีชี้แจง แต่ไม่ขอก้าวล่วงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าสามารถให้คำตอบได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อยากสื่อสารให้เกิดความเข้าใจผิดหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่วนสำนักงานศาลปกครองชี้แจงว่า เอกสารที่พบเป็นการคัดลอกตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่แนวคำวินิจฉัยของศาล หรือธงคำตอบ อีกทั้งข้อสอบออกในวันที่มีการสอบ ผู้ออกข้อสอบไม่สามารถออกจากห้องสอบได้ และถูกตัดการสื่อสารทั้งหมด จนกว่าหมดเวลาเข้าห้องสอบ เพราะฉะนั้นข้อสอบไม่สามารถเล็ดลอดออกไปสู่บุคคลภายนอกได้

    สำหรับ พ.ต.อ. คนดังกล่าวอายุ 57 ปี ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 44 การศึกษาสูงสุดปริญญาเอก มีผลงานทางวิชาการสมัยเป็นนักศึกษาสาขาอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เคยถูกย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อปี 2562 และรองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 เมื่อปี 2566 ก่อนย้ายมาสังกัดปัจจุบัน แต่กลับไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ทำหน้าที่ด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2565 โดยไม่ไปที่ทำงานต้นสังกัด อ้างว่าไปช่วยราชการหน่วยอื่น

    แหล่งข่าวจากแวดวงตำรวจเปิดเผยผ่าน Newskit ตั้งข้อสังเกตว่า แรงจูงใจที่ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 แทนที่จะอยู่ต้นสังกัด หนึ่งในนั้นอาจเป็นเรื่องวันทวีคูณ ที่หากใครเคยไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะได้สิทธิ์นั้น

    #Newskit
    เส้นทางชีวิต พ.ต.อ. พกโพยสะเทือนยุติธรรม วีดีโอคลิปที่ตำรวจยศพันตำรวจเอก (พ.ต.อ.) นายหนึ่ง ถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่าพกเอกสารเข้ามาในห้องสอบ ในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เป็นที่วิจารณ์อย่างมาก ทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยทันที หากเป็นความผิดฐานทุจริตการสอบจริงให้ถือเป็นวินัยร้ายแรง รวมทั้งให้พิจารณาสั่งให้พักหรือออกจากราชการไว้ก่อนด้วย พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พ.ต.อ. รายนี้เป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 แต่มีคำสั่งไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบที่มาที่ไปของการไปช่วยราชการ ว่าเป็นการขาดจากต้นสังกัดหรือไม่ มีหน้าที่อะไร เป็นเวลาราชการหรือไม่ มีการลาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ย้ำว่าจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ขณะที่ พ.ต.อ. กล่าวกับสื่อว่า อยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสาร พร้อมยินดีชี้แจง แต่ไม่ขอก้าวล่วงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าสามารถให้คำตอบได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อยากสื่อสารให้เกิดความเข้าใจผิดหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่วนสำนักงานศาลปกครองชี้แจงว่า เอกสารที่พบเป็นการคัดลอกตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่แนวคำวินิจฉัยของศาล หรือธงคำตอบ อีกทั้งข้อสอบออกในวันที่มีการสอบ ผู้ออกข้อสอบไม่สามารถออกจากห้องสอบได้ และถูกตัดการสื่อสารทั้งหมด จนกว่าหมดเวลาเข้าห้องสอบ เพราะฉะนั้นข้อสอบไม่สามารถเล็ดลอดออกไปสู่บุคคลภายนอกได้ สำหรับ พ.ต.อ. คนดังกล่าวอายุ 57 ปี ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 44 การศึกษาสูงสุดปริญญาเอก มีผลงานทางวิชาการสมัยเป็นนักศึกษาสาขาอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เคยถูกย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อปี 2562 และรองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 เมื่อปี 2566 ก่อนย้ายมาสังกัดปัจจุบัน แต่กลับไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ทำหน้าที่ด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2565 โดยไม่ไปที่ทำงานต้นสังกัด อ้างว่าไปช่วยราชการหน่วยอื่น แหล่งข่าวจากแวดวงตำรวจเปิดเผยผ่าน Newskit ตั้งข้อสังเกตว่า แรงจูงใจที่ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 แทนที่จะอยู่ต้นสังกัด หนึ่งในนั้นอาจเป็นเรื่องวันทวีคูณ ที่หากใครเคยไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะได้สิทธิ์นั้น #Newskit
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 1164 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.สั่งดำเนินการเด็ดขาด "รอง ผบก.อก.ภ.8" พกโพยเข้าห้องสอบตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ให้ต้นสังกัดตั้งสอบวินัยร้ายแรง ฐานเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

    วันนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง กรณีสื่อสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์คลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ พ.ต.อ. ถูกเจ้าหน้าที่คุมสอบ จับได้ว่า นำโพยเข้าไปห้องสอบ ตุลาการศาลปกครองชั้นต้นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบเรื่องแล้ว ได้สั่งการให้ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า เป็นข้าราชการตำรวจ ยศ พ.ต.อ.จริง ตำแหน่ง รอง ผบก.อก.ภ.8 แต่มีคำสั่ง ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4

    โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ตุลาการศาลปกครองที่ทำหน้าที่ประจำหน่วยสอบได้ตรวจพบการทุจริตการสอบ นำโพยเข้าไปลอกในสนามสอบ จึงประสานมายังตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (ภ.จว.ปทุมธานี)

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025378

    #MGROnline #ศาลปกครองชั้นต้น
    ผบ.ตร.สั่งดำเนินการเด็ดขาด "รอง ผบก.อก.ภ.8" พกโพยเข้าห้องสอบตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ให้ต้นสังกัดตั้งสอบวินัยร้ายแรง ฐานเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง • วันนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง กรณีสื่อสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์คลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ พ.ต.อ. ถูกเจ้าหน้าที่คุมสอบ จับได้ว่า นำโพยเข้าไปห้องสอบ ตุลาการศาลปกครองชั้นต้นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบเรื่องแล้ว ได้สั่งการให้ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า เป็นข้าราชการตำรวจ ยศ พ.ต.อ.จริง ตำแหน่ง รอง ผบก.อก.ภ.8 แต่มีคำสั่ง ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 • โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ตุลาการศาลปกครองที่ทำหน้าที่ประจำหน่วยสอบได้ตรวจพบการทุจริตการสอบ นำโพยเข้าไปลอกในสนามสอบ จึงประสานมายังตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (ภ.จว.ปทุมธานี) • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025378 • #MGROnline #ศาลปกครองชั้นต้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 972 Views 0 Reviews
  • รวบแก๊งคอลเซนเตอร์เขมร ตร.ไซเบอร์รับคนไทยกลับแยกคนผิด ตั้งข้อหาหนัก
    .
    เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวออกมาจากทางกัมพูชาว่าจะมีการทยอยส่งตัวคนไทยที่เข้าไปทำงานกับแก๊งคอลเซนเตอร์กลับประเทศไทย ในเรื่องนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในกลไกที่ต้องดำเนินการตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ / ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) โดยพบว่ามีผู้ที่เข้าข่าย กระทำความผิดในข้อหาการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและข้อหาอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แบ่งเป็น คนไทยกว่า 100 ราย ต่างชาติ 2 รายที่เรียกกันว่าบอสชาวจีน
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่าสำหรับการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการดำเนินการตามรายละเอียดดังนี้ 1.จากการซักถามปากคำและคัดแยกกลุ่มตามสถานที่ที่บุคคลเหล่านี้ไปทำงานใน ประเทศกัมพูชา สามารถจัดกลุ่มได้ จำนวน 8 กลุ่ม
    .
    ได้แก่ (1) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 2 จำนวน 23 คน มีพฤติการณ์หลอกให้ลงทุนในหุ้น
    (2) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 15 จำนวน 14 คน มีพฤติการณ์เป็นโรแมนซ์สแกม หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (3) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 18 จำนวน 18 คน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ M98
    .
    (4) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ B9 จำนวน 4 คน มีพฤติการณ์หลอกลวงด้วยการโทร หรือ call center โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน
    (5) ตึกภูมิตาสวน อาคาร 1 ชั้น ออฟฟิศ 6 จำนวน 27 คน (เป็นบุคคลตามหมายจับ 1 คน) มีพฤติการณ์หลอกลวงโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (การไฟฟ้า/กรมบัญชีกลาง)
    .
    (6) ตึกภูมิตาสวน อาคาร 1 ชั้น ห้อง 9 จำนวน 6 คน (7) ยังระบุสถานที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งอยู่ในบริเวณตึกภูมิตาสวน จำนวน 12 คน (เป็นบุคคลตามหมายจับ 6 คน) คงเหลือเป็นบุคคลที่เข้าสู่กระบวนการ NRM จำนวน 6 คน ( อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการชักชวนเล่นการพนันไฮโลออนไลน์
    .
    ในจำนวนทั้งหมด 112 คน ที่ได้ดำเนินการซักถาม ก่อนกระบวนการคัดกรองตามกระบวนการคัดกรองผู้เสียหายตามคดีค้ามนุษย์ NRM พบว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน ซึ่งผลการคัดกรองทั้งหมดจำนวน 112 คน ปรากฏว่า ไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์แต่อย่างใด
    .
    จากการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานพบว่าคนไทยตามข้อ 1. ที่ทำงานในตึกภูมิตาสวนรวมจำนวน 100 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ซ่องโจร,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และพบว่ามีหัวหน้า และคนติดตามซึ่งเป็นชาวจีน จำนวน 2 คนร่วมกระทำผิดด้วย ส่วนคนไทยที่ทำงาน อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน รวม 19 คน ยังไม่พบหลักฐานในการกระทำผิด
    .
    ข่าวแจ้งว่า วันที่ 3 มี.ค.2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนของ บช.สอท. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับบุคคลตามข้อ 2. ต่อศาลอาญา รวมจำนวน 102 คน ในข้อหาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ซ่องโจร,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าว ทั้งหมดรวม 102 คน แยกเป็นคนไทย จำนวน 100 คน และชาวจีน 2 คน
    .
    เวลาประมาณ 16.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. และ ภ.จว.สระแก้ว ได้นำหมายจับดังกล่าวมาแสดง และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นคนไทย รวม 93 คน (ที่เหลืออีก 7 คน ได้มีการจับกุมตามหมายจับคดีอื่นไปก่อนแล้ว) และได้ทำบันทึกจับกุม รวมทั้งดำเนินการแจ้งการควบคุมตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ
    .
    และเวลาประมาณ 23.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้นำผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งหมด 93 คน ออกจากสโมสรค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ไปยัง บช.สอท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
    .
    ส่วนคนไทยที่ทำงาน อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน ซึ่งยังไม่พบหลักฐานในการกระทำผิด และไม่ได้ถูกออกหมายจับ ได้ส่งกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว
    .
    สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ได้รับตัวไป เพื่อคุ้มครอง และส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป
    .
    จากนั้น วันที่ 3 มี.ค.2568 เวลาประมาณ 23.40 น. ได้ปิดศูนย์คัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ NRM ณ สโมสรค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ทั่วไปปกติ
    ..............
    Sondhi X
    รวบแก๊งคอลเซนเตอร์เขมร ตร.ไซเบอร์รับคนไทยกลับแยกคนผิด ตั้งข้อหาหนัก . เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวออกมาจากทางกัมพูชาว่าจะมีการทยอยส่งตัวคนไทยที่เข้าไปทำงานกับแก๊งคอลเซนเตอร์กลับประเทศไทย ในเรื่องนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในกลไกที่ต้องดำเนินการตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ / ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) โดยพบว่ามีผู้ที่เข้าข่าย กระทำความผิดในข้อหาการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและข้อหาอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แบ่งเป็น คนไทยกว่า 100 ราย ต่างชาติ 2 รายที่เรียกกันว่าบอสชาวจีน . ทั้งนี้ มีรายงานว่าสำหรับการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการดำเนินการตามรายละเอียดดังนี้ 1.จากการซักถามปากคำและคัดแยกกลุ่มตามสถานที่ที่บุคคลเหล่านี้ไปทำงานใน ประเทศกัมพูชา สามารถจัดกลุ่มได้ จำนวน 8 กลุ่ม . ได้แก่ (1) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 2 จำนวน 23 คน มีพฤติการณ์หลอกให้ลงทุนในหุ้น (2) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 15 จำนวน 14 คน มีพฤติการณ์เป็นโรแมนซ์สแกม หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (3) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 18 จำนวน 18 คน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ M98 . (4) ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ B9 จำนวน 4 คน มีพฤติการณ์หลอกลวงด้วยการโทร หรือ call center โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน (5) ตึกภูมิตาสวน อาคาร 1 ชั้น ออฟฟิศ 6 จำนวน 27 คน (เป็นบุคคลตามหมายจับ 1 คน) มีพฤติการณ์หลอกลวงโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (การไฟฟ้า/กรมบัญชีกลาง) . (6) ตึกภูมิตาสวน อาคาร 1 ชั้น ห้อง 9 จำนวน 6 คน (7) ยังระบุสถานที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งอยู่ในบริเวณตึกภูมิตาสวน จำนวน 12 คน (เป็นบุคคลตามหมายจับ 6 คน) คงเหลือเป็นบุคคลที่เข้าสู่กระบวนการ NRM จำนวน 6 คน (😎 อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการชักชวนเล่นการพนันไฮโลออนไลน์ . ในจำนวนทั้งหมด 112 คน ที่ได้ดำเนินการซักถาม ก่อนกระบวนการคัดกรองตามกระบวนการคัดกรองผู้เสียหายตามคดีค้ามนุษย์ NRM พบว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน ซึ่งผลการคัดกรองทั้งหมดจำนวน 112 คน ปรากฏว่า ไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์แต่อย่างใด . จากการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานพบว่าคนไทยตามข้อ 1. ที่ทำงานในตึกภูมิตาสวนรวมจำนวน 100 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ซ่องโจร,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และพบว่ามีหัวหน้า และคนติดตามซึ่งเป็นชาวจีน จำนวน 2 คนร่วมกระทำผิดด้วย ส่วนคนไทยที่ทำงาน อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน รวม 19 คน ยังไม่พบหลักฐานในการกระทำผิด . ข่าวแจ้งว่า วันที่ 3 มี.ค.2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนของ บช.สอท. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับบุคคลตามข้อ 2. ต่อศาลอาญา รวมจำนวน 102 คน ในข้อหาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ซ่องโจร,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าว ทั้งหมดรวม 102 คน แยกเป็นคนไทย จำนวน 100 คน และชาวจีน 2 คน . เวลาประมาณ 16.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. และ ภ.จว.สระแก้ว ได้นำหมายจับดังกล่าวมาแสดง และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นคนไทย รวม 93 คน (ที่เหลืออีก 7 คน ได้มีการจับกุมตามหมายจับคดีอื่นไปก่อนแล้ว) และได้ทำบันทึกจับกุม รวมทั้งดำเนินการแจ้งการควบคุมตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ . และเวลาประมาณ 23.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้นำผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งหมด 93 คน ออกจากสโมสรค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ไปยัง บช.สอท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป . ส่วนคนไทยที่ทำงาน อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน ซึ่งยังไม่พบหลักฐานในการกระทำผิด และไม่ได้ถูกออกหมายจับ ได้ส่งกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว . สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ได้รับตัวไป เพื่อคุ้มครอง และส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป . จากนั้น วันที่ 3 มี.ค.2568 เวลาประมาณ 23.40 น. ได้ปิดศูนย์คัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ NRM ณ สโมสรค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ทั่วไปปกติ .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    8
    1 Comments 0 Shares 2940 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.ยังไม่ได้รับผลสอบวินัย "บิ๊กโจ๊ก" จากกองวินัย ย้ำต้องพิจารณารอบคอบ ส่วนกรณีมีผู้ร้องให้สอบในฐานะพยานเพิ่ม เป็นหน้าที่กองวินัยจะพิจารณา

    วันนี้ (27 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับผลสอบวินัยร้ายแรง จากกองวินัย กรณีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. แต่อย่างใด ย้ำว่าทุกอย่าง ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ส่งสำนวนให้กับทางกองวินัยแล้ว ก็เป็นเรื่องของกองวินัย ที่จะต้องพิจารณาตรวจสอบกระบวนการต่างๆ ของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ว่าทำถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยต้องดูทั้งเรื่องการสอบสวนพยานต่างๆ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นหน้าที่ของกองวินัยที่จะต้องดำเนินการก่อนเสนอมาที่ตนเอง ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน

    ส่วนกรณีมีบุคคลอ้างว่ามีข้อมูล พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูกกลั่นแกล้งนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง มีการเสนอเรื่องมาที่กองวินัยแล้วนั่นหมายถึงกระบวนการสอบสวน ได้เสร็จสิ้นแล้ว การจะสอบเพิ่มหรือไม่สอบเพิ่ม ก็เป็นเรื่องของกองวินัย ที่จะต้องพิจารณา ว่าเป็นประเด็นที่มีความจำเป็น จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กองวินัยจะเป็นผู้พิจารณายังมาไม่ถึงตนเอง

    #MGROnline #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ผลสอบวินัยร้ายแรง
    ผบ.ตร.ยังไม่ได้รับผลสอบวินัย "บิ๊กโจ๊ก" จากกองวินัย ย้ำต้องพิจารณารอบคอบ ส่วนกรณีมีผู้ร้องให้สอบในฐานะพยานเพิ่ม เป็นหน้าที่กองวินัยจะพิจารณา • วันนี้ (27 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับผลสอบวินัยร้ายแรง จากกองวินัย กรณีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. แต่อย่างใด ย้ำว่าทุกอย่าง ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ส่งสำนวนให้กับทางกองวินัยแล้ว ก็เป็นเรื่องของกองวินัย ที่จะต้องพิจารณาตรวจสอบกระบวนการต่างๆ ของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ว่าทำถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยต้องดูทั้งเรื่องการสอบสวนพยานต่างๆ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นหน้าที่ของกองวินัยที่จะต้องดำเนินการก่อนเสนอมาที่ตนเอง ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน • ส่วนกรณีมีบุคคลอ้างว่ามีข้อมูล พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูกกลั่นแกล้งนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง มีการเสนอเรื่องมาที่กองวินัยแล้วนั่นหมายถึงกระบวนการสอบสวน ได้เสร็จสิ้นแล้ว การจะสอบเพิ่มหรือไม่สอบเพิ่ม ก็เป็นเรื่องของกองวินัย ที่จะต้องพิจารณา ว่าเป็นประเด็นที่มีความจำเป็น จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กองวินัยจะเป็นผู้พิจารณายังมาไม่ถึงตนเอง • #MGROnline #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ผลสอบวินัยร้ายแรง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 602 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.เผยส่งตัว 40 ชาวอุยกูร์ถึงจีนแล้ว หลังทางการจีนการันตีความปลอดภัย ทุกอย่างยึดหลักสิทธิมนุษยชน ย้ำขั้นตอนขนย้ายเป็นไปตามยุทธวิธีเพื่อความปลอดภัย ไม่มีบังคับ พร้อมวางมาตรการรับมือไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์อดีต

    วันนี้ (27 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปประเทศจีน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมีหนังสือเป็นทางการจากรัฐบาลจีนมารัฐบาลไทย โดยยืนยันว่าชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่ส่งกลับมีทั้งหมด 40 คน ส่วนอีก 8 คน เป็นชาวจีนที่ทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งชาวอุยกูร์ ทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และมีการควบคุมตัวอยู่ในความดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาโดยตลอด

    "ทางการจีนได้ทำหนังสือแสดงความจริงใจและเจตจำนงค์ว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัย โดยมีคณะกรรมการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปกำกับดูแล ซึ่งขณะนี้ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คน ได้เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว ซึ่งทั้งหมดได้รับการตรวจสุขภาพและเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางการจีนรับปากทั้งเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่ และให้ญาติมารอรับที่มณฑลซินเจียง โดยหลังจากนี้ก็จะมีวงรอบในการตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ทั้งหมดเพื่อความมั่นใจ"ผบ.ตร.กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000019514

    #MGROnline #ชาวอุยกูร์ #จีน
    ผบ.ตร.เผยส่งตัว 40 ชาวอุยกูร์ถึงจีนแล้ว หลังทางการจีนการันตีความปลอดภัย ทุกอย่างยึดหลักสิทธิมนุษยชน ย้ำขั้นตอนขนย้ายเป็นไปตามยุทธวิธีเพื่อความปลอดภัย ไม่มีบังคับ พร้อมวางมาตรการรับมือไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์อดีต • วันนี้ (27 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปประเทศจีน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมีหนังสือเป็นทางการจากรัฐบาลจีนมารัฐบาลไทย โดยยืนยันว่าชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่ส่งกลับมีทั้งหมด 40 คน ส่วนอีก 8 คน เป็นชาวจีนที่ทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งชาวอุยกูร์ ทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และมีการควบคุมตัวอยู่ในความดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาโดยตลอด • "ทางการจีนได้ทำหนังสือแสดงความจริงใจและเจตจำนงค์ว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัย โดยมีคณะกรรมการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปกำกับดูแล ซึ่งขณะนี้ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คน ได้เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว ซึ่งทั้งหมดได้รับการตรวจสุขภาพและเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางการจีนรับปากทั้งเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่ และให้ญาติมารอรับที่มณฑลซินเจียง โดยหลังจากนี้ก็จะมีวงรอบในการตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ทั้งหมดเพื่อความมั่นใจ"ผบ.ตร.กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000019514 • #MGROnline #ชาวอุยกูร์ #จีน
    0 Comments 0 Shares 629 Views 0 Reviews
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเยาวชนและพื้นที่ใกล้โรงเรียน ต้องจริงจัง ใช้มาตรการกฎหมายอย่างเข้มงวด ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้เป็นหลัก โดยได้พูดคุยถึงมาตรการคุมเข้มและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ขอให้ทุกฝ่ายเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียนสถานศึกษา ต้องไม่มีการขายให้เยาวชน จัดการกับผู้นำเข้า ซีลทุกจุด และจับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง โดยให้ไทม์ไลน์ 30 วัน กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกรมศุลกากร ในการปราบปรามอย่างเด็ดขาด

    -ตรวจมาต้องตรวจกลับ
    -แก้รัฐธรรมนูญยังไม่จบ
    -ยังไม่เคาะใครได้เงินก่อน
    -คนไทยว่างงาน 3.6 แสนคน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเยาวชนและพื้นที่ใกล้โรงเรียน ต้องจริงจัง ใช้มาตรการกฎหมายอย่างเข้มงวด ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้เป็นหลัก โดยได้พูดคุยถึงมาตรการคุมเข้มและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ขอให้ทุกฝ่ายเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียนสถานศึกษา ต้องไม่มีการขายให้เยาวชน จัดการกับผู้นำเข้า ซีลทุกจุด และจับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง โดยให้ไทม์ไลน์ 30 วัน กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกรมศุลกากร ในการปราบปรามอย่างเด็ดขาด -ตรวจมาต้องตรวจกลับ -แก้รัฐธรรมนูญยังไม่จบ -ยังไม่เคาะใครได้เงินก่อน -คนไทยว่างงาน 3.6 แสนคน
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1729 Views 52 0 Reviews
  • ปัดเทคดีฮั้วเลือก สว.ไม่หนักใจโยงการเมือง : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ชี้แจงกรณีไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) พิจารณาคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ขออย่าใช้คำว่าเท ผบ.ตร. เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง มีการมอบหมายให้ผู้แทนเข้าประชุมตั้งแต่ปี 2562 แล้ว เป็นเรื่องปกติที่คณะกรรมการจะติดภารกิจไม่เข้าประชุม ยืนยัน ไม่มีการล็อบบี้ ไม่กดดัน ส่วนมีความหนักใจหรือไม่เพราะมีการเชื่อมโยงว่าเป็นประเด็นการเมืองนั้น ไม่ทราบประเด็นนี้ เพราะไม่ได้เข้าประชุม ทำให้ไม่ทราบเรื่องกำหนดวาระ

    -ไม่มีอำนาจเรียก กกต.

    -สว.ต้องปกป้องตัวเอง

    -ไม่ได้ปูทางปรับ ครม.

    -ลดดอกเบี้ยหนุนเงินเฟ้อ
    ปัดเทคดีฮั้วเลือก สว.ไม่หนักใจโยงการเมือง : [NEWS UPDATE] พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ชี้แจงกรณีไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) พิจารณาคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ขออย่าใช้คำว่าเท ผบ.ตร. เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง มีการมอบหมายให้ผู้แทนเข้าประชุมตั้งแต่ปี 2562 แล้ว เป็นเรื่องปกติที่คณะกรรมการจะติดภารกิจไม่เข้าประชุม ยืนยัน ไม่มีการล็อบบี้ ไม่กดดัน ส่วนมีความหนักใจหรือไม่เพราะมีการเชื่อมโยงว่าเป็นประเด็นการเมืองนั้น ไม่ทราบประเด็นนี้ เพราะไม่ได้เข้าประชุม ทำให้ไม่ทราบเรื่องกำหนดวาระ -ไม่มีอำนาจเรียก กกต. -สว.ต้องปกป้องตัวเอง -ไม่ได้ปูทางปรับ ครม. -ลดดอกเบี้ยหนุนเงินเฟ้อ
    Like
    Haha
    12
    0 Comments 0 Shares 1270 Views 55 0 Reviews
  • ภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งย้ายฟ้าผ่า พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินต๊ะสืบ รักษาราชการแทน ผบก.กองตรวจราชการ 6 มาช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปมถูกกล่าวหาเอี่ยว "เมียวดีคอมเพล็กซ์" แหล่งฟอกเงินผิดกฎหมายชายแดนไทย-เมียนมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000013890

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งย้ายฟ้าผ่า พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินต๊ะสืบ รักษาราชการแทน ผบก.กองตรวจราชการ 6 มาช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปมถูกกล่าวหาเอี่ยว "เมียวดีคอมเพล็กซ์" แหล่งฟอกเงินผิดกฎหมายชายแดนไทย-เมียนมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000013890 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Love
    14
    2 Comments 0 Shares 1086 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.เซ็นย้ายขาด "ผู้การตาก" ช่วยราชการศปก.ตร. พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปมต่างชาติถูกแก๊งคอลฯ หลอกข้ามแดน ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ
    .
    วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 64/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานกรณีที่ปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนต่างๆ เผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมาที่ประเทศไทยแล้วหายตัวไปบริเวณชายแดประเทศเมียนมา อีกทั้งมีการลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติในเขตพื้นที่อ.แม่สอด และอ.แม่ระมาด จ.ตาก
    .
    กรณีดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ของสภ.แม่สอด สภ.แม่ระมาด และสภ.พบพระ จ.ตาก ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ซึ่งตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการของ 3 สถานีตำรวจดังกล่าว ช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 โดยขาดจากการปฏิบัฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมแล้ว
    .
    ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล เพื่อให้ให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารณาพฤติการณ์ และหลักฐานในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด
    .
    เนื่องจากเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจได้ประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
    .
    ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และมีให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 และมาตรา 105 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจ ไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566
    .
    จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
    .
    ทั้งนี้ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีการไปช่วยราชการสิ้นสุดลง ตามข้อ 11 ของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2566 และให้ พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูรภาค 6 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก อีกหน้าที่หนึ่ง
    .
    ขณะเดียวกันพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ลงนามคำสั่ง ตร.ที่ 62/2568เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใจความว่า ด้วยเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2568ได้ปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนต่างๆ เผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมาประเทศไทย แล้วหายตัวไปบริเวณชายแดนเมียนมา และมีการลักลอบข้ามชายแดน ทางช่องทางธรรมชาติในเขตอ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และอ.พบพระ จ.ตาก กรณีดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    .
    โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ 3 สถานีตำรวจ ในความรับผิดชอบของพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ประกอบกับ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจ 3 ราย พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก พ.ต.อ.ฐมณ์พงศ์ เพ็ชร์พิรุณ ผกก.สภ.แม่ระมาด จ.ตาก และพ.ต.อ.ฉัตรชัย คำยิ่ง ผกก.สภ.พบพระ จ.ตาก ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจฎรรภาค 6 โดยขาดจากการปฏิบัฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม
    .
    ดังนั้น เพื่อให้ได้รายละเอียดขัดเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารมารณ์และหลักฐานในเบื้องต้น ว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 63 และมาตรา 105
    .
    จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
    .
    1. พล.ต.ท.มนเทียร พันธ์อิ่ม จเรตำรวจ เป็นประธานกรรมการ
    .
    2. พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองจเรตำรวจ สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ
    .
    3. พ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ รองผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 7 รักษาราชการแทนผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ
    .
    4. พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย รองผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 1 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ
    .
    5. พ.ต.อ.กฤษฎีชวินทร์ วีระจิตต์ ผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและเลขานุการ
    .
    6. พ.ต.ท.ศิริพล บุญหนุน รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
    .
    ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการรับทราบคำสั่ง แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
    .
    อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีมีมูลว่าข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาในเบื้องตันแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่ตรวจสอบนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013855
    .........
    Sondhi X
    ผบ.ตร.เซ็นย้ายขาด "ผู้การตาก" ช่วยราชการศปก.ตร. พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปมต่างชาติถูกแก๊งคอลฯ หลอกข้ามแดน ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ . วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 64/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานกรณีที่ปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนต่างๆ เผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมาที่ประเทศไทยแล้วหายตัวไปบริเวณชายแดประเทศเมียนมา อีกทั้งมีการลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติในเขตพื้นที่อ.แม่สอด และอ.แม่ระมาด จ.ตาก . กรณีดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ของสภ.แม่สอด สภ.แม่ระมาด และสภ.พบพระ จ.ตาก ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ซึ่งตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการของ 3 สถานีตำรวจดังกล่าว ช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 โดยขาดจากการปฏิบัฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมแล้ว . ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล เพื่อให้ให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารณาพฤติการณ์ และหลักฐานในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด . เนื่องจากเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจได้ประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ . ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และมีให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 และมาตรา 105 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจ ไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 . จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย . ทั้งนี้ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีการไปช่วยราชการสิ้นสุดลง ตามข้อ 11 ของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2566 และให้ พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูรภาค 6 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก อีกหน้าที่หนึ่ง . ขณะเดียวกันพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ลงนามคำสั่ง ตร.ที่ 62/2568เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใจความว่า ด้วยเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2568ได้ปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนต่างๆ เผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมาประเทศไทย แล้วหายตัวไปบริเวณชายแดนเมียนมา และมีการลักลอบข้ามชายแดน ทางช่องทางธรรมชาติในเขตอ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และอ.พบพระ จ.ตาก กรณีดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ . โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ 3 สถานีตำรวจ ในความรับผิดชอบของพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ประกอบกับ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจ 3 ราย พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก พ.ต.อ.ฐมณ์พงศ์ เพ็ชร์พิรุณ ผกก.สภ.แม่ระมาด จ.ตาก และพ.ต.อ.ฉัตรชัย คำยิ่ง ผกก.สภ.พบพระ จ.ตาก ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจฎรรภาค 6 โดยขาดจากการปฏิบัฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม . ดังนั้น เพื่อให้ได้รายละเอียดขัดเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารมารณ์และหลักฐานในเบื้องต้น ว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 63 และมาตรา 105 . จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ . 1. พล.ต.ท.มนเทียร พันธ์อิ่ม จเรตำรวจ เป็นประธานกรรมการ . 2. พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองจเรตำรวจ สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ . 3. พ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ รองผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 7 รักษาราชการแทนผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ . 4. พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย รองผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 1 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ . 5. พ.ต.อ.กฤษฎีชวินทร์ วีระจิตต์ ผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและเลขานุการ . 6. พ.ต.ท.ศิริพล บุญหนุน รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 2 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ . ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการรับทราบคำสั่ง แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป . อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีมีมูลว่าข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาในเบื้องตันแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่ตรวจสอบนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013855 ......... Sondhi X
    Like
    14
    0 Comments 0 Shares 2430 Views 2 Reviews
  • ผบ.ตร. เซ็นย้ายขาด "ต๊ะ แม่สอด" ช่วยราชการศปก.ตร. พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงปมถูกกล่าวหาเอี่ยว "เมียวดีคอมเพล็กซ์" แหล่งฟอกเงิน ธุรกิจผิดกฎหมายชายแดน
    .
    วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 63/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใจความว่า ด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานกรณีที่ปรากฏข้อมูลประเด็นทางสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีข้าราชการตำรวจยศ พลตำรวจตรี มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจเมียวดีคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นสถานบันเทิงและบ่อนกาสิโน รวมทั้งเป็นแหล่งฟอกเงินและธุรกิจผิดกฎหมายขนาดใหญ่ ริมชายแดนประเทศไทยและประเทศเมียนมา
    .
    ซึ่งภายหลังได้มีการเปิดเผยชื่อคือ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 5 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารณาพฤติการณ์และหลักฐานในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด
    .
    เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจได้ประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
    .
    ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และมีให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติตํตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566
    .
    จึงให้ พล.ต.ต. เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 5 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
    .
    ทั้งนี้ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีการไปช่วยราชการสิ้นสุดลงตามข้อ 11 และข้อ 13 (2) ของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วย
    การสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566
    .
    อนึ่ง บรรดาคำสั่งหรือการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ยกเลิกในส่วนที่ขัดหรือแย้งและใช้คำสั่งนี้แทน
    .
    ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9680000013813
    ......
    Sondhi X
    ผบ.ตร. เซ็นย้ายขาด "ต๊ะ แม่สอด" ช่วยราชการศปก.ตร. พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงปมถูกกล่าวหาเอี่ยว "เมียวดีคอมเพล็กซ์" แหล่งฟอกเงิน ธุรกิจผิดกฎหมายชายแดน . วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 63/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใจความว่า ด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานกรณีที่ปรากฏข้อมูลประเด็นทางสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีข้าราชการตำรวจยศ พลตำรวจตรี มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจเมียวดีคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นสถานบันเทิงและบ่อนกาสิโน รวมทั้งเป็นแหล่งฟอกเงินและธุรกิจผิดกฎหมายขนาดใหญ่ ริมชายแดนประเทศไทยและประเทศเมียนมา . ซึ่งภายหลังได้มีการเปิดเผยชื่อคือ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 5 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารณาพฤติการณ์และหลักฐานในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด . เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจได้ประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ . ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และมีให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติตํตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 . จึงให้ พล.ต.ต. เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ ผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 5 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย . ทั้งนี้ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีการไปช่วยราชการสิ้นสุดลงตามข้อ 11 และข้อ 13 (2) ของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วย การสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 . อนึ่ง บรรดาคำสั่งหรือการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ยกเลิกในส่วนที่ขัดหรือแย้งและใช้คำสั่งนี้แทน . ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง . คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9680000013813 ...... Sondhi X
    SONDHITALK.COM
    ผบ.ตร.เซ็นเด้ง "ผู้การต๊ะ" ตั้งกก.สอบปมเอี่ยว "เมียวดีคอมเพล็กซ์"
    ผบ.ตร. สั่งเด้ง นายพล ต.เต่า ถูกกล่าวหา โยงกับเมียวดีคอมเพล็กซ์11 ก.พ. 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 63/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใจความระบุว่
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 438 Views 0 Reviews
  • Newsstory : 7มาตรการปราบแก๊งคอลฯ โดยสตช.เตือน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ อย่าไว้ใจนักการเมือง
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #บิ๊กโจ๊ก #บิ๊กโจ๊กสนธิ
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    Newsstory : 7มาตรการปราบแก๊งคอลฯ โดยสตช.เตือน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ อย่าไว้ใจนักการเมือง #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #บิ๊กโจ๊ก #บิ๊กโจ๊กสนธิ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 782 Views 7 0 Reviews
  • 'บิ๊กต่าย' ประกาศกฎเหล็ก โยกย้ายรอง ผบก.ต้องเป๊ะ
    .
    การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ ลงมาถึงผู้บังคับการ วาระประจำปี 2567 เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆได้ไม่ทันไร เร็วๆนี้การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.คาดว่าน่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงเช่นกัน มิเช่นนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คงไม่มีบันทึกข้อความลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ถึงผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง กำชับและเตรียมความพร้อมการแต่งตั้งตั้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567
    .
    ทั้งนี้ บันทึกดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 10 มกราคม 2568 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งตั้งราชการตำรวจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 อย่างเคร่งครัด โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และมีความโปร่งใสในทุกกระบวนการ ดังนี้

    .
    1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาใน บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบช. สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 มาตรา 79 และมาตรา 81
    .
    การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ความถนัด ทักษะ ความสมัครใจทางราชการ และมุ่งหมายให้ผู้นั้นได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้ สำหรับการพิจารณาความรู้ความสามารถ ให้คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจประกอบด้วย ตามมาตรา 60(3) มาตรา 76 และมาตรา 82
    .

    2. การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตร. สามารถใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการกรณี ผบช. ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กำหนด หรือไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมได้ โดยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ตามข้อ 9 แห่งระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร.พ.ศ.2566 และจะมีการพิจารณาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ทั้งนี้ หากมีข้าราชการตำรวจร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจแต่งตั้งของ ผบช. ที่ไม่เป็นธรรม และ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยว่า ผบช. ผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาลงโทษผู้นั้นโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีกแล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ และหาก ก.ตร. มีมติว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะถือว่า ผบช. ผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และผบ.ตร. จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
    .............
    Sondhi X
    'บิ๊กต่าย' ประกาศกฎเหล็ก โยกย้ายรอง ผบก.ต้องเป๊ะ . การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ ลงมาถึงผู้บังคับการ วาระประจำปี 2567 เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆได้ไม่ทันไร เร็วๆนี้การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.คาดว่าน่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงเช่นกัน มิเช่นนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คงไม่มีบันทึกข้อความลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ถึงผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง กำชับและเตรียมความพร้อมการแต่งตั้งตั้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 . ทั้งนี้ บันทึกดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 10 มกราคม 2568 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งตั้งราชการตำรวจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 อย่างเคร่งครัด โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และมีความโปร่งใสในทุกกระบวนการ ดังนี้ . 1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาใน บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบช. สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 มาตรา 79 และมาตรา 81 . การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ความถนัด ทักษะ ความสมัครใจทางราชการ และมุ่งหมายให้ผู้นั้นได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้ สำหรับการพิจารณาความรู้ความสามารถ ให้คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจประกอบด้วย ตามมาตรา 60(3) มาตรา 76 และมาตรา 82 . 2. การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตร. สามารถใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการกรณี ผบช. ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กำหนด หรือไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมได้ โดยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ตามข้อ 9 แห่งระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร.พ.ศ.2566 และจะมีการพิจารณาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง . ทั้งนี้ หากมีข้าราชการตำรวจร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจแต่งตั้งของ ผบช. ที่ไม่เป็นธรรม และ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยว่า ผบช. ผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาลงโทษผู้นั้นโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีกแล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ และหาก ก.ตร. มีมติว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะถือว่า ผบช. ผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และผบ.ตร. จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    13
    0 Comments 0 Shares 1634 Views 0 Reviews
  • พ่อ-ลูกครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบ

    เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) บ้านบ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครู รร.ตชด.บ้านตืองอฯ บุตรชาย ที่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 3 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของครู ตชด. ทั้ง 2 นายด้วย

    พ.ต.ท.สุวิทย์ ครูใหญ่ และลูกชาย ด.ต.โดม ครูวิชาเกษตรโรงเรียนเดียวกัน ถูกคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกใต้ถนนดักถล่มแล้วยิงซ้ำ เสียชีวิต 2 ราย พร้อมขโมยปืนไป 2 กระบอก เหตุเกิดบนถนนศรีสาคร-ลูโบ๊ะยือริง ช่วงบ้านไอร์กือแด หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 สร้างความสะเทือนใจให้แก่วงการตำรวจ และแวดวงการศึกษา เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิทย์เป็นครูที่ทุ่มเทเสียสละสอนนักเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยมานานกว่า 30 ปี และถือเป็นครูต้นแบบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ทั้งหมด 12 แห่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    นางสุปรีดา ช่วยเทวฤทธิ์ ภรรยา พ.ต.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า “พี่แกไปดีแล้ว และสมความตั้งใจในหน้าที่การงาน แกไปไม่คิดขอย้ายจากที่นี่ ทั้งมีโอกาส แกบอกแกรักคนที่นี่ แต่สุดท้าย มีไม่กี่คนที่เกลียดแก แกไปดีแล้ว” สอดคล้องกับ จ.ส.ต.หญิง ฮานีบะห์ สานิ ครูโรงเรียน ตชด.บ้านตืองอฯ ตามรายงานข่าวของศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา กล่าวว่า ทั้งโรงเรียนมีครูผู้ชายอยู่ 2 คน คือครูใหญ่สุวิทย์และครูโดม ที่เหลือเป็นครูผู้หญิง 11 คน ต้องดูแลเด็กนักเรียน 120 ชีวิต เรานั่งเรือด้วยกัน แต่คนขับเรือไม่อยู่แล้ว แล้วใครจะขับต่อ แล้วจะไปต่ออย่างไร วันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเจออะไร อุปสรรคอะไร แล้วจะไปต่อถึงฝั่งได้อย่างไร

    เฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มหนึ่ง กล่าวอ้างพระนามแห่งอัลเลาะห์ ระบุว่าทั้งสองคนเป็นพลรบสยามไทย นอกจากเป็นครูแล้วยังมีสถานะพลรบด้วย แม้จะเสียดายผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้และทำลายได้ ขณะที่ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติออกหมายจับนายอับดุลเลาะห์ สาเมาะ อายุ 30 ปี และนายอับดุลเลาะ บูละ อายุ 40 ปี มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี รวม 14 หมายจับ มาจากหลักฐานดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ

    #Newskit
    พ่อ-ลูกครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) บ้านบ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครู รร.ตชด.บ้านตืองอฯ บุตรชาย ที่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 3 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของครู ตชด. ทั้ง 2 นายด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ ครูใหญ่ และลูกชาย ด.ต.โดม ครูวิชาเกษตรโรงเรียนเดียวกัน ถูกคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกใต้ถนนดักถล่มแล้วยิงซ้ำ เสียชีวิต 2 ราย พร้อมขโมยปืนไป 2 กระบอก เหตุเกิดบนถนนศรีสาคร-ลูโบ๊ะยือริง ช่วงบ้านไอร์กือแด หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 สร้างความสะเทือนใจให้แก่วงการตำรวจ และแวดวงการศึกษา เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิทย์เป็นครูที่ทุ่มเทเสียสละสอนนักเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยมานานกว่า 30 ปี และถือเป็นครูต้นแบบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ทั้งหมด 12 แห่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นางสุปรีดา ช่วยเทวฤทธิ์ ภรรยา พ.ต.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า “พี่แกไปดีแล้ว และสมความตั้งใจในหน้าที่การงาน แกไปไม่คิดขอย้ายจากที่นี่ ทั้งมีโอกาส แกบอกแกรักคนที่นี่ แต่สุดท้าย มีไม่กี่คนที่เกลียดแก แกไปดีแล้ว” สอดคล้องกับ จ.ส.ต.หญิง ฮานีบะห์ สานิ ครูโรงเรียน ตชด.บ้านตืองอฯ ตามรายงานข่าวของศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา กล่าวว่า ทั้งโรงเรียนมีครูผู้ชายอยู่ 2 คน คือครูใหญ่สุวิทย์และครูโดม ที่เหลือเป็นครูผู้หญิง 11 คน ต้องดูแลเด็กนักเรียน 120 ชีวิต เรานั่งเรือด้วยกัน แต่คนขับเรือไม่อยู่แล้ว แล้วใครจะขับต่อ แล้วจะไปต่ออย่างไร วันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเจออะไร อุปสรรคอะไร แล้วจะไปต่อถึงฝั่งได้อย่างไร เฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มหนึ่ง กล่าวอ้างพระนามแห่งอัลเลาะห์ ระบุว่าทั้งสองคนเป็นพลรบสยามไทย นอกจากเป็นครูแล้วยังมีสถานะพลรบด้วย แม้จะเสียดายผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้และทำลายได้ ขณะที่ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติออกหมายจับนายอับดุลเลาะห์ สาเมาะ อายุ 30 ปี และนายอับดุลเลาะ บูละ อายุ 40 ปี มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี รวม 14 หมายจับ มาจากหลักฐานดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ #Newskit
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 1247 Views 0 Reviews
  • จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน

    วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว

    ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ

    ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป

    #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน • วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว • ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ • ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป • #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    0 Comments 0 Shares 1234 Views 0 Reviews
  • โฆษก ตร. แถลงยังไม่พบตัว "ซิงซิง" ดาราหนุมจีน อยู่ระหว่างเร่งค้นหาอย่างเต็มที่ มีหลักฐานเข้าไทยลำพัง พร้อมกระเป๋าเป้ 1 ใบ ไม่พบข้อมูลถูกขู่เข็ญ หรือ ทำร้าย

    วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. แถลงความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ ซิงซิง นักแสดงชาวจีน ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก และขาดการติดต่อกับครอบครัว ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่พบตัว ซิงซิง แต่อย่างใด เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ทำการสืบสวนเพื่อหารายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับวิธีการเดินทางของนักแสดงรายดังกล่าว ล่าสุดพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่จ.ตาก เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง

    พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจมีการสืบสวนเรื่องเส้นทางการเดินทาง แต่ยังไม่ปรากฏว่านักแสดงรายนี้ถูกบังคับขู่เข็ญ ถูกทำร้ายให้เดินทาง หรือ ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแต่ว่าการสืบสวนโดยละเอียดต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ สิ่งที่เร่งด่วนขณะนี้คือต้องเร่งหาตัวให้พบ เชื่อว่าทางครอบครัวผู้ที่หายตัวไปไม่สบายใจ แต่ยืนยันว่าตำรวจจะพยายามค้นหาให้โดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าซิงซิงเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยช่องทางธรรมชาติหรือช่องทางตามปกติ เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าเดินทางออกจากสุวรรณภูมิไม่มีการแวะพัก มุ่งตรงไปจ.ตาก ทันที

    พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ตำรวจมีพยานบุคคลเพียงหนึ่งคน คือ คนที่ขับรถพา ซิงซิง ไปจ.ตาก ส่วนกรณีที่แฟนสาวเดินทางมาให้ข้อมูลตำรวจพยายามเร่งรวบรวมจากในหลายภาคส่วนเช่นเดียวกัน และจากข้อมูลที่ปรากฎคือ ซิงซิง เข้าประเทศไทยเพียงลำพัง มีกระเป๋าเป้ 1 ใบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศแล้ว

    เมื่อถามว่านักแสดงชายรายนี้มีประวัติเดินทางเข้าประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและสอบสวนของตำรวจ

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    โฆษก ตร. แถลงยังไม่พบตัว "ซิงซิง" ดาราหนุมจีน อยู่ระหว่างเร่งค้นหาอย่างเต็มที่ มีหลักฐานเข้าไทยลำพัง พร้อมกระเป๋าเป้ 1 ใบ ไม่พบข้อมูลถูกขู่เข็ญ หรือ ทำร้าย • วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. แถลงความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ ซิงซิง นักแสดงชาวจีน ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก และขาดการติดต่อกับครอบครัว ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่พบตัว ซิงซิง แต่อย่างใด เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ทำการสืบสวนเพื่อหารายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับวิธีการเดินทางของนักแสดงรายดังกล่าว ล่าสุดพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่จ.ตาก เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง • พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจมีการสืบสวนเรื่องเส้นทางการเดินทาง แต่ยังไม่ปรากฏว่านักแสดงรายนี้ถูกบังคับขู่เข็ญ ถูกทำร้ายให้เดินทาง หรือ ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแต่ว่าการสืบสวนโดยละเอียดต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ สิ่งที่เร่งด่วนขณะนี้คือต้องเร่งหาตัวให้พบ เชื่อว่าทางครอบครัวผู้ที่หายตัวไปไม่สบายใจ แต่ยืนยันว่าตำรวจจะพยายามค้นหาให้โดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าซิงซิงเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยช่องทางธรรมชาติหรือช่องทางตามปกติ เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าเดินทางออกจากสุวรรณภูมิไม่มีการแวะพัก มุ่งตรงไปจ.ตาก ทันที • พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ตำรวจมีพยานบุคคลเพียงหนึ่งคน คือ คนที่ขับรถพา ซิงซิง ไปจ.ตาก ส่วนกรณีที่แฟนสาวเดินทางมาให้ข้อมูลตำรวจพยายามเร่งรวบรวมจากในหลายภาคส่วนเช่นเดียวกัน และจากข้อมูลที่ปรากฎคือ ซิงซิง เข้าประเทศไทยเพียงลำพัง มีกระเป๋าเป้ 1 ใบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศแล้ว • เมื่อถามว่านักแสดงชายรายนี้มีประวัติเดินทางเข้าประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและสอบสวนของตำรวจ • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 Comments 0 Shares 783 Views 0 Reviews
  • ”อัจฉริยะ“ ยื่นร้อง ผบ.ตร.ตรวจสอบการถอนอายัดทรัพย์สินเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์กว่า 700 ล้านบาท โดยมีผบก.สังกัดบช.ไซเบอร์ ลงนามเซ็นคำสั่ง เชื่อมีการใช้อำนาจช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา

    วันนี้ (6 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพๆงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้ตรวจสอบกรณีการถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาเครือข่ายเ็บพนันออนไลน์ โดยเมื่อปี 2565 ครั้งนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เป็นรอง ผบ.ตร.ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งได้อายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รวมกว่า 700 ล้านบาท แต่ต่อมามีการดำเนินคดีกับหัวหน้าแก๊งที่เป็นชาวจีนในข้อหาปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนเพียงข้อหาเดียว แต่ไม่ดำเนินคดีหัวหน้าแก๊งและเครือข่ายที่เปิดเว็บพนันออนไลน์ อีกทั้งเครือข่ายนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการฟอกเงิน รวมไปถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา แต่ทำไมตำรวจถึงยังถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001400

    #MGROnline #อัจฉริยะ #ถอนอายัดทรัพย์สิน #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
    ”อัจฉริยะ“ ยื่นร้อง ผบ.ตร.ตรวจสอบการถอนอายัดทรัพย์สินเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์กว่า 700 ล้านบาท โดยมีผบก.สังกัดบช.ไซเบอร์ ลงนามเซ็นคำสั่ง เชื่อมีการใช้อำนาจช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา • วันนี้ (6 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพๆงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้ตรวจสอบกรณีการถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาเครือข่ายเ็บพนันออนไลน์ โดยเมื่อปี 2565 ครั้งนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เป็นรอง ผบ.ตร.ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งได้อายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้รวมกว่า 700 ล้านบาท แต่ต่อมามีการดำเนินคดีกับหัวหน้าแก๊งที่เป็นชาวจีนในข้อหาปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนเพียงข้อหาเดียว แต่ไม่ดำเนินคดีหัวหน้าแก๊งและเครือข่ายที่เปิดเว็บพนันออนไลน์ อีกทั้งเครือข่ายนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการฟอกเงิน รวมไปถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา แต่ทำไมตำรวจถึงยังถอนอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001400 • #MGROnline #อัจฉริยะ #ถอนอายัดทรัพย์สิน #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1075 Views 0 Reviews
More Results