• ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมหนุ่มเลือดร้อน ซิ่งบีเอ็มป้ายแดงเบียดกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้จิตสำนึก” ไม่มีวุฒิภาวะ สั่งเอาผิดทุกข้อหา ย้ำชัดแม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังก็ไม่มีละเว้น

    วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์รถเก๋ง BMW ป้ายแดง ขับปาดหน้ากับรถกระบะ เป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลักพุ่งชนขอบทางบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงทางออกรังสิต-นครนายก ส่งผลให้คนขับกระบะเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ขณะที่ผู้โดยสารหญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW มีรายงานว่าเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) และมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง

    ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนเองได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลฯ แล้ว และเห็นว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถ BMW เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000036231

    #MGROnline #ลูกชายนายกเบี้ยว #รถBMW #ประเด็นร้อน #นายกเบี้ยว #ชนกระบะ #ลูกนักการเมือง #การเมือง #เฮียขับรถ #BMW #กระบะ
    ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมหนุ่มเลือดร้อน ซิ่งบีเอ็มป้ายแดงเบียดกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้จิตสำนึก” ไม่มีวุฒิภาวะ สั่งเอาผิดทุกข้อหา ย้ำชัดแม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังก็ไม่มีละเว้น • วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์รถเก๋ง BMW ป้ายแดง ขับปาดหน้ากับรถกระบะ เป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลักพุ่งชนขอบทางบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงทางออกรังสิต-นครนายก ส่งผลให้คนขับกระบะเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ขณะที่ผู้โดยสารหญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW มีรายงานว่าเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) และมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง • ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนเองได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลฯ แล้ว และเห็นว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถ BMW เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000036231 • #MGROnline #ลูกชายนายกเบี้ยว #รถBMW #ประเด็นร้อน #นายกเบี้ยว #ชนกระบะ #ลูกนักการเมือง #การเมือง #เฮียขับรถ #BMW #กระบะ
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 173 Views 0 Reviews
  • เป็นประเด็นร้อนๆ ในตอนนี้สำหรับนักร้อง นักแสดง "โตโน่ ภาคิน" หลังโดนหลายคนออกมาวิจารณ์และแฉสารพัดถึงเรื่องราวด้านลบนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวมีข่าวไปมีสัมพันธ์กับหญิงอื่นระหว่างที่คบหากับแฟนสาวนักแสดง "ณิชา ณัฏฐณิชา" ทั้งที่ฝ่ายหญิงเองก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่

    ย้อนกลับไปในอดีต "โตโน่" เองเคยตกเป็นข่าวดังเรื่องความรักมาหลายครั้งแต่ที่ฮือฮาสุดก็คือการที่เจ้าตัวตัดสินใจหมั้นกับนักแสดงหญิงผู้ล่วงลับ "แตงโม นิดา" ในปี 2556

    2 ปีของการใช้ชีวิตคู่ทั้งสองต่างก็ต้องเผชิญกับมรสุมข่าวต่างๆ นานา โดยเฉพาะกระแสแอนตี้จากแฟนคลับ สุดท้ายก็เลิกกันโดยตอนนั้นหลายคนเข้าใจว่าสาเหตุหลักๆ มาจากการที่แตงโมเองที่ "ไม่ซื่อสัตย์"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035936

    #MGROnline #ณิชา #โตโน่ #โตโน่แตงโม
    เป็นประเด็นร้อนๆ ในตอนนี้สำหรับนักร้อง นักแสดง "โตโน่ ภาคิน" หลังโดนหลายคนออกมาวิจารณ์และแฉสารพัดถึงเรื่องราวด้านลบนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวมีข่าวไปมีสัมพันธ์กับหญิงอื่นระหว่างที่คบหากับแฟนสาวนักแสดง "ณิชา ณัฏฐณิชา" ทั้งที่ฝ่ายหญิงเองก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่ • ย้อนกลับไปในอดีต "โตโน่" เองเคยตกเป็นข่าวดังเรื่องความรักมาหลายครั้งแต่ที่ฮือฮาสุดก็คือการที่เจ้าตัวตัดสินใจหมั้นกับนักแสดงหญิงผู้ล่วงลับ "แตงโม นิดา" ในปี 2556 • 2 ปีของการใช้ชีวิตคู่ทั้งสองต่างก็ต้องเผชิญกับมรสุมข่าวต่างๆ นานา โดยเฉพาะกระแสแอนตี้จากแฟนคลับ สุดท้ายก็เลิกกันโดยตอนนั้นหลายคนเข้าใจว่าสาเหตุหลักๆ มาจากการที่แตงโมเองที่ "ไม่ซื่อสัตย์" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035936 • #MGROnline #ณิชา #โตโน่ #โตโน่แตงโม
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 16-4-68
    .
    รายการเช้าวันนี้ กลับมาในวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ หลังทานข้าวเช้าคุณสนธิจะมาเล่าถึงหลาย ๆ เรื่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเน้นหนักไปในเรื่องของ การทุจริตในการจัดจ้างก่อสร้าง ตึก สตง. รวมไปถึงประเด็นร้อนแรงต่อเนื่องในสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ ที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจาก "สงครามภาษีตอบโต้-สงครามการค้า" ระหว่างสหรัฐฯ และจีน คุณสนธิจะมีความเห็นอย่างไรในเรื่องเหล่านี้ โปรดติดตามโดยพลัน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=m48RVoO4-Ts
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามการค้า #สงครามภาษี
    สนธิเล่าเรื่อง 16-4-68 . รายการเช้าวันนี้ กลับมาในวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ หลังทานข้าวเช้าคุณสนธิจะมาเล่าถึงหลาย ๆ เรื่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเน้นหนักไปในเรื่องของ การทุจริตในการจัดจ้างก่อสร้าง ตึก สตง. รวมไปถึงประเด็นร้อนแรงต่อเนื่องในสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ ที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจาก "สงครามภาษีตอบโต้-สงครามการค้า" ระหว่างสหรัฐฯ และจีน คุณสนธิจะมีความเห็นอย่างไรในเรื่องเหล่านี้ โปรดติดตามโดยพลัน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=m48RVoO4-Ts . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามการค้า #สงครามภาษี
    Love
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 230 Views 0 Reviews
  • Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนที่ 1
    .
    ฉากทัศน์ปัจจุบันในลุ่มแม่น้ำโขง ไม่ต่างมากนักกับหนังเรื่อง Blood Diamond ที่สร้างจากเรื่องจริงที่ที่แอฟริกา ว่าด้วยการด้านมืดของทำเหมืองเพชร ฉายในปีค.ศ. 2006 ดารานำคือ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แสดงคู่กับ โซโลมอน แวนดี้ ชาวประมงผู้ถูกจับตัวไปเป็นแรงงานในเหมืองเพชรของกลุ่มกบฏ
    .
    Blood Diamond ในเรื่องถือเป็นขุมทรัพย์ของกลุ่มกบฏ กระบวนการคือการกดขี่แรงงาน สังหารชาวบ้าน ที่ต่อต้าน ล้างสมองใช้แรงงานเด็กถืออาวุธเคี่ยวเข่น ฟอกเงินจากขายเพชรไปซื้ออาวุธ เสริมสร้างกองทัพ การค้าอาวุธและของเถื่อน เรียกว่าเถื่อนครบวงจร
    .
    หลังจากน้ำท่วมแม่สายอย่างสาหัส ด้วยมวลขุ่นชี้โคลนมหาศาลโถมทับพื้นที่ลุ่มน้ำแม่สาย ท่าขี้เหล็ก ทางมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation ; SHRF) ได้เปิดผลการศึกษา ว่าด้วย “การขยายตัวของเหมืองแร่ในรัฐฉาน เมียนมา กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในเมียนมาและไทย”
    .
    เสียงสะท้อนจากเรื่องนี้ดังมาจากฝั่งเมียนมาร์ถือเป็นครั้งแรกห้วงเดือนพฤศจิกายน 2567 นอกจากโคลนคือการได้รับของแถมคือ สารหนู นิเกิลและสังกะสีปนเปื้อนในระดับสูง โดยระดับปนเปื้อนของสังกะสีในแม่น้ำสายสูงงกว่าระดับปลอดภัยถึง 18 เท่า
    .
    ประเด็นชี้เป้าไปที่ 4 พื้นที่หลักภายใต้การคือ การขยายตัวของเหมืองทองคำด้านตะวันออกของเมืองสาด รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ริมฝั่งแม่น้ำกก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำรวก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ตามริมฝั่งน้ำเลน รัฐฉาน
    .
    Deep State ที่ตัวแสดงหลักคือกองทัพสหรัฐว้า United Wa State Army ทำขอตกลงกับรัฐบาลเมียนมาคือ เขตปกครองพิเศษที่ 2 มีพื้นที่อิทธิพลในเขตเปกครองตนเองว้า ภาคเหนือติดชายแดนจีน และทางภาคใต้-ตะวันออกของรัฐฉาน ติดกับประเทศไทย และการพันลึกกับจีน
    .
    ปมปัญหามลพิษทางน้ำข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ประเด็นร้อนล่าสุดที่ผลกระทบได้ขยายวงแผ่ไปตามกระแสน้ำที่มีมลพิษจากการทำเหมืองทองคำเป็นต้นเหตุหลักในพื้นที่รัฐฉาน ที่ไหลลงแม่น้ำลัดเลาะลงอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านจังหวัดเชียงราย ลงแม่น้ำโขง
    .
    เรื่องนี้มีความน่าสนใจเชิงทรัพยากรเหมืองแร่ที่มีทุนจีนเข้ามาโอบล้อมภาคเหนือของไทยสูบแร่ ที่คิดว่าไม่ใช่เฉพาะทองคำ แต่จะกินไปถึงถ่านหิน และแมงกานีส เป็นอุตสาหกรรมที่มีความลึกลับซับซ้อนเป็นทองคำสีเลือดที่สร้างผลกระทบชีวิตคนลุ่มแม่น้ำโขง สุขภาพตายผ่อนส่ง ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่ยังไม่รวมเรื่องฝุ่นควันข้ามแดนจากการบายพาสสินค้าไปตลาดจีน คาสิโน บ่อนที่ประชิดชายแดนไทย ทั้งพม่าและคิงส์โรมัน
    .
    ทั้งหมดล้วนพัวพันเป็นเนื้อเดียวที่ส่งสัญญาณอนาคตประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ลุ่มนํ้าสาละวิน กก สาย และอิง ไม่รวมแม่น้ำสาขา น้ำแม่ฝาง น้ำแม่ลาว และน้ำแม่สรวย กำลังเผชิญวิกฤติที่ลุกลามเป็นกินพื้นที่ภาคเหนือ
    .
    ต้องยอมรับว่าการ Reaction ของรัฐไทยช้า และไม่มีพลังที่จะชน Deep State ประเทศเพื่อนบ้าน ภาพปรากฎเป็นการตั้งรับเกือบ 100% และไม่ทันการณ์
    .
    ความอ่อนแอเชิงพื้นที่ที่ได้ถูกกัดกร่อน ทำให้พลังการแสดงออกของพื้นที่เชียงรายอ่อนแรง ทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน มิได้ส่งเสียงส่งพลังให้เกิดการมีปฏิกิริยาเชิงรุกกับรัฐบาลไทยเพื่อปกป้องผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของภาคเหนือ
    .
    หากประมวลมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของไทย นอกจากการเกาะติดของสื่อ ก็จะมีข้อเรียกร้องทางให้เปิดโต๊ะเจรจาจีน-เมียนมา-ว้า ประสานพี่ใหญ่จีนด้วยที่มีบริษัทจีนส่วนใหญ่เข้าไปสัมปทาน ทั้งรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ร่วมกันหาทางออกทั้งการยุติการทำเหมืองทอง หรือการควบคุมการปล่อยสารพิษลงแม่น้ำ
    .
    จังหวัดเชียงรายต้องทำฉากทัศน์ (Scenarios) หลายระดับ 1.ในช่วง 5 ปี หน้าดินที่เสื่อมสลายไป จะทำอย่างไรในเรื่องตะกอน น้ำท่วม และสารพิษในแม่น้ำ 2.ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากเหมืองทองขยายตัวมากกว่านี้ ขยายเหมือนไร่ข้าวโพดในเมียนมา จะมีการบริหารจัดการอย่างไร 3.ประเด็นการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA)
    .
    ก่อนหน้านี้กลางเดือนมีนาคมมีการรวมตัวของชุมชน 700 คน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวกันเพื่อรณรงค์ปกป้องแม่น้ำกก ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำบนต้นน้ำกกที่ห่างจากชายแดนไทยไป 30 กิโลเมตรทางทิศใต้ของเมืองสาด ที่ดำเนินขุดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา การขุดทองในวงกว้างเกิดขึ้นริมแม่น้ำกกในเมืองยอน ตอนใต้ของอำเภอเมืองสาด
    .
    ในแถลงการณ์ระบุว่ามีบริษัทจีนหลัก 4 แห่ง ที่ดำเนินการขุดเหมือง มีซับคอนแทรกอีก 20 ราย มีพนักงานมากกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน บริษัทเหล่านี้ทำเหมืองบนเนินเขาและริมฝั่งแม่น้ำกก รวมถึงการใช้เรือขุดทองและสกัดบนแม่น้ำกกโดยตรง ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจการบริโภคในครัวเรือน และทำให้ปลาแทบสูญพันธุ์
    .
    ล่าสุดมีการขยับของ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกหนังสือไปยังหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong Committee Secretariat: MRCS) เสนอจัดตั้ง “กลไกความร่วมมือทวิภาคี” สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยมี MRCS ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งต้องติดตามต่อไป
    .
    หลังจากการเปิดฉากเรื่อง Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนต่อไปคือการเจาะลึกการขยายอุตสาหกรรมเหมืองทองคำในลุ่มแม่น้ำโขงในเงื้อมมือทุนจีน การเล่นแร่แปรธาตุสู่อาวุธ บ่อน และสงคราม ไปจนทางถึง Supply Chain การเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเหมืองในลุ่มแม่น้ำโขง ผลประโยชน์ขนาดไหน ความสูญเสียของคนลุ่มแม่น้ำโขงในอนาคตภายใต้ความเสี่ยงของมลพิษข้ามแดนจะวิกฤติอย่างไร มีทางออกอย่างไรโปรดติดตาม

    อ้างอิง :
    • มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ https://shanhumanrights.org/
    • วิกฤตสารหนู ‘แม่น้ำกก’ จี้รัฐถก 3 ชาติ ป้องเศรษฐกิจเชียงรายพัง https://www.prachachat.net/local-economy/news-1792140
    • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1 https://www.facebook.com/share/p/1D8ZwWYsN1/
    • ไทยกับว้าแดง https://www.facebook.com/share/p/15KvYRaDH1/
    • Toxic Waters, Dysfunctional States The Destruction of the Kok and Sai Rivers
    By Paskorn Jumlongrach https://transbordernews.in.th/home/?p=42108
    Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนที่ 1 . ฉากทัศน์ปัจจุบันในลุ่มแม่น้ำโขง ไม่ต่างมากนักกับหนังเรื่อง Blood Diamond ที่สร้างจากเรื่องจริงที่ที่แอฟริกา ว่าด้วยการด้านมืดของทำเหมืองเพชร ฉายในปีค.ศ. 2006 ดารานำคือ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แสดงคู่กับ โซโลมอน แวนดี้ ชาวประมงผู้ถูกจับตัวไปเป็นแรงงานในเหมืองเพชรของกลุ่มกบฏ . Blood Diamond ในเรื่องถือเป็นขุมทรัพย์ของกลุ่มกบฏ กระบวนการคือการกดขี่แรงงาน สังหารชาวบ้าน ที่ต่อต้าน ล้างสมองใช้แรงงานเด็กถืออาวุธเคี่ยวเข่น ฟอกเงินจากขายเพชรไปซื้ออาวุธ เสริมสร้างกองทัพ การค้าอาวุธและของเถื่อน เรียกว่าเถื่อนครบวงจร . หลังจากน้ำท่วมแม่สายอย่างสาหัส ด้วยมวลขุ่นชี้โคลนมหาศาลโถมทับพื้นที่ลุ่มน้ำแม่สาย ท่าขี้เหล็ก ทางมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation ; SHRF) ได้เปิดผลการศึกษา ว่าด้วย “การขยายตัวของเหมืองแร่ในรัฐฉาน เมียนมา กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในเมียนมาและไทย” . เสียงสะท้อนจากเรื่องนี้ดังมาจากฝั่งเมียนมาร์ถือเป็นครั้งแรกห้วงเดือนพฤศจิกายน 2567 นอกจากโคลนคือการได้รับของแถมคือ สารหนู นิเกิลและสังกะสีปนเปื้อนในระดับสูง โดยระดับปนเปื้อนของสังกะสีในแม่น้ำสายสูงงกว่าระดับปลอดภัยถึง 18 เท่า . ประเด็นชี้เป้าไปที่ 4 พื้นที่หลักภายใต้การคือ การขยายตัวของเหมืองทองคำด้านตะวันออกของเมืองสาด รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ริมฝั่งแม่น้ำกก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำรวก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ตามริมฝั่งน้ำเลน รัฐฉาน . Deep State ที่ตัวแสดงหลักคือกองทัพสหรัฐว้า United Wa State Army ทำขอตกลงกับรัฐบาลเมียนมาคือ เขตปกครองพิเศษที่ 2 มีพื้นที่อิทธิพลในเขตเปกครองตนเองว้า ภาคเหนือติดชายแดนจีน และทางภาคใต้-ตะวันออกของรัฐฉาน ติดกับประเทศไทย และการพันลึกกับจีน . ปมปัญหามลพิษทางน้ำข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ประเด็นร้อนล่าสุดที่ผลกระทบได้ขยายวงแผ่ไปตามกระแสน้ำที่มีมลพิษจากการทำเหมืองทองคำเป็นต้นเหตุหลักในพื้นที่รัฐฉาน ที่ไหลลงแม่น้ำลัดเลาะลงอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านจังหวัดเชียงราย ลงแม่น้ำโขง . เรื่องนี้มีความน่าสนใจเชิงทรัพยากรเหมืองแร่ที่มีทุนจีนเข้ามาโอบล้อมภาคเหนือของไทยสูบแร่ ที่คิดว่าไม่ใช่เฉพาะทองคำ แต่จะกินไปถึงถ่านหิน และแมงกานีส เป็นอุตสาหกรรมที่มีความลึกลับซับซ้อนเป็นทองคำสีเลือดที่สร้างผลกระทบชีวิตคนลุ่มแม่น้ำโขง สุขภาพตายผ่อนส่ง ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่ยังไม่รวมเรื่องฝุ่นควันข้ามแดนจากการบายพาสสินค้าไปตลาดจีน คาสิโน บ่อนที่ประชิดชายแดนไทย ทั้งพม่าและคิงส์โรมัน . ทั้งหมดล้วนพัวพันเป็นเนื้อเดียวที่ส่งสัญญาณอนาคตประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ลุ่มนํ้าสาละวิน กก สาย และอิง ไม่รวมแม่น้ำสาขา น้ำแม่ฝาง น้ำแม่ลาว และน้ำแม่สรวย กำลังเผชิญวิกฤติที่ลุกลามเป็นกินพื้นที่ภาคเหนือ . ต้องยอมรับว่าการ Reaction ของรัฐไทยช้า และไม่มีพลังที่จะชน Deep State ประเทศเพื่อนบ้าน ภาพปรากฎเป็นการตั้งรับเกือบ 100% และไม่ทันการณ์ . ความอ่อนแอเชิงพื้นที่ที่ได้ถูกกัดกร่อน ทำให้พลังการแสดงออกของพื้นที่เชียงรายอ่อนแรง ทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน มิได้ส่งเสียงส่งพลังให้เกิดการมีปฏิกิริยาเชิงรุกกับรัฐบาลไทยเพื่อปกป้องผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของภาคเหนือ . หากประมวลมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของไทย นอกจากการเกาะติดของสื่อ ก็จะมีข้อเรียกร้องทางให้เปิดโต๊ะเจรจาจีน-เมียนมา-ว้า ประสานพี่ใหญ่จีนด้วยที่มีบริษัทจีนส่วนใหญ่เข้าไปสัมปทาน ทั้งรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ร่วมกันหาทางออกทั้งการยุติการทำเหมืองทอง หรือการควบคุมการปล่อยสารพิษลงแม่น้ำ . จังหวัดเชียงรายต้องทำฉากทัศน์ (Scenarios) หลายระดับ 1.ในช่วง 5 ปี หน้าดินที่เสื่อมสลายไป จะทำอย่างไรในเรื่องตะกอน น้ำท่วม และสารพิษในแม่น้ำ 2.ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากเหมืองทองขยายตัวมากกว่านี้ ขยายเหมือนไร่ข้าวโพดในเมียนมา จะมีการบริหารจัดการอย่างไร 3.ประเด็นการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) . ก่อนหน้านี้กลางเดือนมีนาคมมีการรวมตัวของชุมชน 700 คน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวกันเพื่อรณรงค์ปกป้องแม่น้ำกก ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำบนต้นน้ำกกที่ห่างจากชายแดนไทยไป 30 กิโลเมตรทางทิศใต้ของเมืองสาด ที่ดำเนินขุดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา การขุดทองในวงกว้างเกิดขึ้นริมแม่น้ำกกในเมืองยอน ตอนใต้ของอำเภอเมืองสาด . ในแถลงการณ์ระบุว่ามีบริษัทจีนหลัก 4 แห่ง ที่ดำเนินการขุดเหมือง มีซับคอนแทรกอีก 20 ราย มีพนักงานมากกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน บริษัทเหล่านี้ทำเหมืองบนเนินเขาและริมฝั่งแม่น้ำกก รวมถึงการใช้เรือขุดทองและสกัดบนแม่น้ำกกโดยตรง ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจการบริโภคในครัวเรือน และทำให้ปลาแทบสูญพันธุ์ . ล่าสุดมีการขยับของ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกหนังสือไปยังหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong Committee Secretariat: MRCS) เสนอจัดตั้ง “กลไกความร่วมมือทวิภาคี” สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยมี MRCS ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งต้องติดตามต่อไป . หลังจากการเปิดฉากเรื่อง Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนต่อไปคือการเจาะลึกการขยายอุตสาหกรรมเหมืองทองคำในลุ่มแม่น้ำโขงในเงื้อมมือทุนจีน การเล่นแร่แปรธาตุสู่อาวุธ บ่อน และสงคราม ไปจนทางถึง Supply Chain การเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเหมืองในลุ่มแม่น้ำโขง ผลประโยชน์ขนาดไหน ความสูญเสียของคนลุ่มแม่น้ำโขงในอนาคตภายใต้ความเสี่ยงของมลพิษข้ามแดนจะวิกฤติอย่างไร มีทางออกอย่างไรโปรดติดตาม อ้างอิง : • มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ https://shanhumanrights.org/ • วิกฤตสารหนู ‘แม่น้ำกก’ จี้รัฐถก 3 ชาติ ป้องเศรษฐกิจเชียงรายพัง https://www.prachachat.net/local-economy/news-1792140 • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1 https://www.facebook.com/share/p/1D8ZwWYsN1/ • ไทยกับว้าแดง https://www.facebook.com/share/p/15KvYRaDH1/ • Toxic Waters, Dysfunctional States The Destruction of the Kok and Sai Rivers By Paskorn Jumlongrach https://transbordernews.in.th/home/?p=42108
    0 Comments 0 Shares 370 Views 0 Reviews
  • Edward Coristine สมาชิกวัย 19 ปีของทีม DOGE ที่นำโดย Elon Musk ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ในอดีต กรณีนี้นำมาสู่ข้อถกเถียงว่าบุคคลที่มีประวัติเช่นนี้ควรได้รับบทบาทในทีมงานสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเมืองและความมั่นคง

    ความเกี่ยวข้องกับ EGodly:
    - บริษัท DiamondCDN ของ Coristine ให้บริการป้องกัน DDoS และระบบ caching ให้แก่ EGodly ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การแฮกอีเมลของเจ้าหน้าที่รัฐในละตินอเมริกา การขโมยคริปโตเคอเรนซี และการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ FBI ผ่าน Telegram.

    การวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกของ DOGE:
    - Coristine ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมทีมงานที่มีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากเขาเคยถูกปลดจากงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับให้คู่แข่ง.

    ภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองโลก:
    - Coristine ยังมีความเกี่ยวพันกับอดีตสายลับโซเวียต โดยปู่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยถูกจับกุมในฐานะสายลับสองหน้า.

    ผลกระทบในวงกว้าง:
    - กรณีนี้จุดประกายข้อถกเถียงเรื่องการคัดกรองบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีอดีตที่ขัดแย้งกับหลักการด้านความปลอดภัยไซเบอร์.

    https://www.techspot.com/news/107297-report-19-year-old-doge-team-member-big.html
    Edward Coristine สมาชิกวัย 19 ปีของทีม DOGE ที่นำโดย Elon Musk ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ในอดีต กรณีนี้นำมาสู่ข้อถกเถียงว่าบุคคลที่มีประวัติเช่นนี้ควรได้รับบทบาทในทีมงานสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเมืองและความมั่นคง ความเกี่ยวข้องกับ EGodly: - บริษัท DiamondCDN ของ Coristine ให้บริการป้องกัน DDoS และระบบ caching ให้แก่ EGodly ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การแฮกอีเมลของเจ้าหน้าที่รัฐในละตินอเมริกา การขโมยคริปโตเคอเรนซี และการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ FBI ผ่าน Telegram. การวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกของ DOGE: - Coristine ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมทีมงานที่มีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากเขาเคยถูกปลดจากงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับให้คู่แข่ง. ภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองโลก: - Coristine ยังมีความเกี่ยวพันกับอดีตสายลับโซเวียต โดยปู่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยถูกจับกุมในฐานะสายลับสองหน้า. ผลกระทบในวงกว้าง: - กรณีนี้จุดประกายข้อถกเถียงเรื่องการคัดกรองบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีอดีตที่ขัดแย้งกับหลักการด้านความปลอดภัยไซเบอร์. https://www.techspot.com/news/107297-report-19-year-old-doge-team-member-big.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Report: 19-year-old DOGE team member "Big Balls" provided network support to cybercrime gang
    According to records reviewed by Reuters, Coristine ran a company called DiamondCDN that provided network services from around 2022, while he was still in high school. Among...
    0 Comments 0 Shares 374 Views 0 Reviews
  • ‘ไม่ใช่ผม’! : [Biz Talk]
    ประเด็นร้อน ‘ดิว  อริสรา’ ลามถึงคณะรัฐมนตรี อักษรย่อ ‘พ’ 1 ใน นั้น ‘พิชัย ชุณหวชิร’ รองนายกฯและรมว.คลัง ลั่น ไม่ใช่รัฐมนตรี ‘พ’ ที่ถูกโยงรับซื้อสร้อยเพชร 26 ล้านบาท ย้ำไม่รู้จัก ไม่เคยเกี่ยวข้องกลุ่มคนที่เป็นข่าว
    ‘ไม่ใช่ผม’! : [Biz Talk] ประเด็นร้อน ‘ดิว  อริสรา’ ลามถึงคณะรัฐมนตรี อักษรย่อ ‘พ’ 1 ใน นั้น ‘พิชัย ชุณหวชิร’ รองนายกฯและรมว.คลัง ลั่น ไม่ใช่รัฐมนตรี ‘พ’ ที่ถูกโยงรับซื้อสร้อยเพชร 26 ล้านบาท ย้ำไม่รู้จัก ไม่เคยเกี่ยวข้องกลุ่มคนที่เป็นข่าว
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 1130 Views 49 0 Reviews
  • ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 20 มี.ค. 68 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ดำเนินรายการได้เผยว่ามีคนส่งคำฟ้องหมายศาล ที่เนื้อหาระบุว่า โจทก์คือคนจีนรายหนึ่ง มอบหมายให้ชายคนไทยคนหนึ่งเป็นโจทก์ในการฟ้อง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงชื่อดัง ที่ตอนนี้กำลังมีประเด็นร้อน ถูก “เมย์ วาสนา อินทะแสง” นักธุรกิจชื่อดังฟ้อง หลังยืมทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านไปแก้ไขปัญหาชีวิต แต่ไม่ส่งคืนตามดีล ไม่ยอมบอกว่าตอนนี้ทรัพย์สินไปตกอยู่ที่ใด

    โดยคนจีนฟ้องดิวฐานผิดสัญญา ละเมิดขับไล่ ไม่จ่ายค่าเช่ากรรมสิทธิ์ห้องชุด เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห้องมีเนื้อที่ 832.82 ตารางเมตร โดยดิวได้เช่าเดือนละ 1.5 ล้านบาท และต้องชำระเงินในวันที่ 1 ไม่เกินวันที่ 5 ของทุกๆ เดือน ที่ผ่านมาดิวมีการค้างชำระ และถูกคนจีนฟ้องร้องตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ซึ่งจำนวนเงินที่ดิวค้างจ่ายคือ 9,860,471.23 บาท

    #MGROnline #ดิวอริสรา #โหนกระแส
    ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 20 มี.ค. 68 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ดำเนินรายการได้เผยว่ามีคนส่งคำฟ้องหมายศาล ที่เนื้อหาระบุว่า โจทก์คือคนจีนรายหนึ่ง มอบหมายให้ชายคนไทยคนหนึ่งเป็นโจทก์ในการฟ้อง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงชื่อดัง ที่ตอนนี้กำลังมีประเด็นร้อน ถูก “เมย์ วาสนา อินทะแสง” นักธุรกิจชื่อดังฟ้อง หลังยืมทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านไปแก้ไขปัญหาชีวิต แต่ไม่ส่งคืนตามดีล ไม่ยอมบอกว่าตอนนี้ทรัพย์สินไปตกอยู่ที่ใด • โดยคนจีนฟ้องดิวฐานผิดสัญญา ละเมิดขับไล่ ไม่จ่ายค่าเช่ากรรมสิทธิ์ห้องชุด เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห้องมีเนื้อที่ 832.82 ตารางเมตร โดยดิวได้เช่าเดือนละ 1.5 ล้านบาท และต้องชำระเงินในวันที่ 1 ไม่เกินวันที่ 5 ของทุกๆ เดือน ที่ผ่านมาดิวมีการค้างชำระ และถูกคนจีนฟ้องร้องตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ซึ่งจำนวนเงินที่ดิวค้างจ่ายคือ 9,860,471.23 บาท • #MGROnline #ดิวอริสรา #โหนกระแส
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗

    เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด!

    🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨

    🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล!

    ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱

    🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨

    3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ?
    - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์
    - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์
    - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์

    รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸

    การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน

    🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง...

    นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨

    🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก
    - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม
    - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี
    - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์
    - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู

    ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ!

    ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡

    🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

    ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️

    4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊
    1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี
    2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี
    3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี
    4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี

    ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"!

    🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้!

    คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย

    คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท

    ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้

    นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน

    จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง

    บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้

    มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568

    🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗 เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด! 🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨 🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล! ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱 🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨 3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ? - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์ - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸 การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน 🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง... นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨 🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์ - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ! ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡 🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️ 4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊 1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี 2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี 3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี 4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"! 🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้! คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้ นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้ มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568 🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    0 Comments 0 Shares 988 Views 0 Reviews
  • หลังกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการบันเทิงเมื่อป้าของ “คิมแซรน” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับออกมาเปิดเผยว่าหลานสาวกับ “คิมซูฮยอน” เคยคบหาดูใจกันจริง ตั้งแต่ที่นักแสดงสาวยังเป็นเพียงผู้เยาว์ ล่าสุดมีการเปิดเผยแถลงการณ์ที่เขียนโดย “คิมแซรน” ที่ตั้งใจจะโพสต์หลังปล่อยภาพคู่ก่อนตัดสินใจไม่แฉ

    มีการเปิดเผยข้อความแชทของ คิมแซรน ที่คุยกับญาติว่าเจ้าตัวตั้งใจจะเปิดเผยความสัมพันธ์ที่เคยมีกับ คิมซูฮยอน หลังจากที่ คิมแซรน โพสต์ภาพคู่ของเธอกับพระเอกหนุ่มลงในอินสตาแกรมเพื่อเรียกร้องความสนใจ หลังโดนจดหมายทวงหนี้จากต้นสังกัด Gold Medalist และพยายามติดต่อหา คิมซูฮยอน แล้วแต่ติดต่อไม่ได้ ทำเอานักแสดงสาวผู้ล่วงลับเหลืออด เกือบโพสต์แถลงการณ์แฉความสัมพันธ์ในอดีต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000023751

    #MGROnline #คิมซูฮยอน #คิมแซรน
    หลังกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการบันเทิงเมื่อป้าของ “คิมแซรน” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับออกมาเปิดเผยว่าหลานสาวกับ “คิมซูฮยอน” เคยคบหาดูใจกันจริง ตั้งแต่ที่นักแสดงสาวยังเป็นเพียงผู้เยาว์ ล่าสุดมีการเปิดเผยแถลงการณ์ที่เขียนโดย “คิมแซรน” ที่ตั้งใจจะโพสต์หลังปล่อยภาพคู่ก่อนตัดสินใจไม่แฉ • มีการเปิดเผยข้อความแชทของ คิมแซรน ที่คุยกับญาติว่าเจ้าตัวตั้งใจจะเปิดเผยความสัมพันธ์ที่เคยมีกับ คิมซูฮยอน หลังจากที่ คิมแซรน โพสต์ภาพคู่ของเธอกับพระเอกหนุ่มลงในอินสตาแกรมเพื่อเรียกร้องความสนใจ หลังโดนจดหมายทวงหนี้จากต้นสังกัด Gold Medalist และพยายามติดต่อหา คิมซูฮยอน แล้วแต่ติดต่อไม่ได้ ทำเอานักแสดงสาวผู้ล่วงลับเหลืออด เกือบโพสต์แถลงการณ์แฉความสัมพันธ์ในอดีต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000023751 • #MGROnline #คิมซูฮยอน #คิมแซรน
    0 Comments 0 Shares 467 Views 0 Reviews
  • ประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับ “ลำไย ไหทองคำ” สุพรรณษา เวชกามา จบลงวันนี้ หลังจากที่รายการโหนกระแส โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” มาเผชิญหน้ากับ “โม” อดีตแฟนสาวของ “บอส เอวหวาน” แดนเซอร์ที่มีข่าวพัวพันกับลำไย โดยในรายการ โม ได้ยกพานพวงมาลัยกราบขอขมานายห้าง พร้อมเผยประโยคที่ทำให้นายห้างถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000022199

    #MGROnline #ลำไยไหทองคำ
    ประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับ “ลำไย ไหทองคำ” สุพรรณษา เวชกามา จบลงวันนี้ หลังจากที่รายการโหนกระแส โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” มาเผชิญหน้ากับ “โม” อดีตแฟนสาวของ “บอส เอวหวาน” แดนเซอร์ที่มีข่าวพัวพันกับลำไย โดยในรายการ โม ได้ยกพานพวงมาลัยกราบขอขมานายห้าง พร้อมเผยประโยคที่ทำให้นายห้างถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000022199 • #MGROnline #ลำไยไหทองคำ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 Reviews
  • 'มัสก์' จวกระบบสื่อสหรัฐฯ! ชี้ 5 ผู้ทรงอิทธิพล มหาเศรษฐีครองอำนาจสื่อกระแสหลักสหรัฐฯ ผูกขาดอำนาจกรองข่าวสารเบ็ดเสร็จ


    https://www.imctnews.com/news_details-news-6525.html

    อีลอน มัสก์ จุดประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์การกระจุกตัวของอำนาจสื่อในสหรัฐอเมริกา ระบุมีผู้ทรงอิทธิพลเพียง 5 คนที่ควบคุมและกรองข้อมูลข่าวสารทั้งหมด

    นำโดย ไบรอัน แอล โรเบิร์ตส์ ประธานและซีอีโอของ Comcast Corporation ที่ครอบครองเครือข่าย NBC, MSNBC, CNBC, Universal Pictures และ Peacock

    ด้านตระกูล Disney มีคริสติน แมคคาร์ธี และบ็อบ ไอเกอร์ ควบคุม ABC, ESPN, Disney+, Hulu รวมถึงค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Disney, Pixar, Marvel และ Lucasfilm

    ขณะที่ชารี เรดสโตน แห่ง Paramount Global กุมบังเหียน CBS, MTV, Nickelodeon และ Paramount Pictures
    ส่วนตระกูลเมอร์ด็อกครอบครอง Fox Corporation และ News Corporation รวมถึง Wall Street Journal

    ตระกูลเฮิร์สต์เจ้าของ Hearst Communications ที่ควบคุมหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำมากมาย อีกทั้งยังถือหุ้นใน A&E Networks และ ESPN ร่วมกับ Disney

    สะท้อนการผูกขาดอำนาจสื่อที่ส่งผลต่อการควบคุมข้อมูลข่าวสารและการรับรู้ของประชาชนชาวอเมริกันในชีวิตประจำวัน
    'มัสก์' จวกระบบสื่อสหรัฐฯ! ชี้ 5 ผู้ทรงอิทธิพล มหาเศรษฐีครองอำนาจสื่อกระแสหลักสหรัฐฯ ผูกขาดอำนาจกรองข่าวสารเบ็ดเสร็จ https://www.imctnews.com/news_details-news-6525.html อีลอน มัสก์ จุดประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์การกระจุกตัวของอำนาจสื่อในสหรัฐอเมริกา ระบุมีผู้ทรงอิทธิพลเพียง 5 คนที่ควบคุมและกรองข้อมูลข่าวสารทั้งหมด นำโดย ไบรอัน แอล โรเบิร์ตส์ ประธานและซีอีโอของ Comcast Corporation ที่ครอบครองเครือข่าย NBC, MSNBC, CNBC, Universal Pictures และ Peacock ด้านตระกูล Disney มีคริสติน แมคคาร์ธี และบ็อบ ไอเกอร์ ควบคุม ABC, ESPN, Disney+, Hulu รวมถึงค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Disney, Pixar, Marvel และ Lucasfilm ขณะที่ชารี เรดสโตน แห่ง Paramount Global กุมบังเหียน CBS, MTV, Nickelodeon และ Paramount Pictures ส่วนตระกูลเมอร์ด็อกครอบครอง Fox Corporation และ News Corporation รวมถึง Wall Street Journal ตระกูลเฮิร์สต์เจ้าของ Hearst Communications ที่ควบคุมหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำมากมาย อีกทั้งยังถือหุ้นใน A&E Networks และ ESPN ร่วมกับ Disney สะท้อนการผูกขาดอำนาจสื่อที่ส่งผลต่อการควบคุมข้อมูลข่าวสารและการรับรู้ของประชาชนชาวอเมริกันในชีวิตประจำวัน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 599 Views 0 Reviews
  • 'บิ๊กต่าย' ประกาศกฎเหล็ก โยกย้ายรอง ผบก.ต้องเป๊ะ
    .
    การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ ลงมาถึงผู้บังคับการ วาระประจำปี 2567 เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆได้ไม่ทันไร เร็วๆนี้การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.คาดว่าน่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงเช่นกัน มิเช่นนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คงไม่มีบันทึกข้อความลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ถึงผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง กำชับและเตรียมความพร้อมการแต่งตั้งตั้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567
    .
    ทั้งนี้ บันทึกดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 10 มกราคม 2568 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งตั้งราชการตำรวจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 อย่างเคร่งครัด โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และมีความโปร่งใสในทุกกระบวนการ ดังนี้

    .
    1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาใน บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบช. สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 มาตรา 79 และมาตรา 81
    .
    การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ความถนัด ทักษะ ความสมัครใจทางราชการ และมุ่งหมายให้ผู้นั้นได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้ สำหรับการพิจารณาความรู้ความสามารถ ให้คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจประกอบด้วย ตามมาตรา 60(3) มาตรา 76 และมาตรา 82
    .

    2. การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตร. สามารถใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการกรณี ผบช. ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กำหนด หรือไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมได้ โดยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ตามข้อ 9 แห่งระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร.พ.ศ.2566 และจะมีการพิจารณาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ทั้งนี้ หากมีข้าราชการตำรวจร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจแต่งตั้งของ ผบช. ที่ไม่เป็นธรรม และ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยว่า ผบช. ผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาลงโทษผู้นั้นโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีกแล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ และหาก ก.ตร. มีมติว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะถือว่า ผบช. ผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และผบ.ตร. จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
    .............
    Sondhi X
    'บิ๊กต่าย' ประกาศกฎเหล็ก โยกย้ายรอง ผบก.ต้องเป๊ะ . การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ ลงมาถึงผู้บังคับการ วาระประจำปี 2567 เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆได้ไม่ทันไร เร็วๆนี้การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.คาดว่าน่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงเช่นกัน มิเช่นนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คงไม่มีบันทึกข้อความลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ถึงผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง กำชับและเตรียมความพร้อมการแต่งตั้งตั้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 . ทั้งนี้ บันทึกดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 10 มกราคม 2568 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งตั้งราชการตำรวจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 อย่างเคร่งครัด โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และมีความโปร่งใสในทุกกระบวนการ ดังนี้ . 1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาใน บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบช. สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 มาตรา 79 และมาตรา 81 . การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ความถนัด ทักษะ ความสมัครใจทางราชการ และมุ่งหมายให้ผู้นั้นได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้ สำหรับการพิจารณาความรู้ความสามารถ ให้คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจประกอบด้วย ตามมาตรา 60(3) มาตรา 76 และมาตรา 82 . 2. การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตร. สามารถใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการกรณี ผบช. ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กำหนด หรือไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมได้ โดยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ตามข้อ 9 แห่งระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร.พ.ศ.2566 และจะมีการพิจารณาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง . ทั้งนี้ หากมีข้าราชการตำรวจร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจแต่งตั้งของ ผบช. ที่ไม่เป็นธรรม และ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยว่า ผบช. ผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาลงโทษผู้นั้นโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีกแล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ และหาก ก.ตร. มีมติว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะถือว่า ผบช. ผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และผบ.ตร. จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    13
    0 Comments 0 Shares 1435 Views 0 Reviews
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.88 : Affirmative Action

    วันนี้อยากจะเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Affirmative Action ของมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของเราครับ

    ในสมัยก่อนนู้น คือ ยุคก่อนปี 1950 นั้น มาเลเซีย (ตอนนั้นเรียก “มลายา”) เป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ครับ อังกฤษเขาเห็นว่าที่มลายานี้ยังขาดแคลลนแรงงานอยู่มาก ก็เลยเปิดรับชาวจีนให้อพยพเข้ามาเป็นแรงงานอยู่ที่มลายา

    ชาวจีนที่อพยพมามลายานั้น ส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้ง เหตุที่อพยพมาก็เพราะหนีความอดอยากและยากจนของประเทศจีนในเวลานั้นครับ

    คนจีนเหล่านี้ เบื้องแรกก็มาเป็นแรงงานทำโน่นทำนี่ แต่อยู่ๆไปก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษและเริ่มทำธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้เริ่มดีขึ้นด้วยความขยันตามประสาคนจีน

    นี่คือจุดเริ่มต้นของคนจีนในคาบสมุทรมลายา คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 10% ของประชากรทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู

    คนอินเดียก็มีมาอยู่ที่มลายาเหมือนกัน แต่น้อยกว่าคนจีน

    ทีนี้พอถึงปี 1957 อังกฤษคืนเอกราชให้มลายา อำนาจการปกครองรัฐบาลนั้นเป็นของชาวมลายูเกือบ 100%

    ในเวลานั้น ธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในมือของชาวจีน และสำคัญคือ 99% ของนักศึกษาที่เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนั้น ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งสิ้น

    นักศึกษาชาวมลายูมีแค่ 1%

    ในคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกว่า STEM นั้น ก็เป็นแบบเดียวกันคือ มีแต่นักศึกษาชาวจีน อันทำให้ชาวจีนมีความรู้สูงกว่าและเจริญงอกงามกว่าชาวมลายูทั้งๆที่ประชากรชาวจีนนั้นมีไม่ถึง 20%

    ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่คนมลายูมีต่อคนจีน
    .
    .
    .
    ในปี 1960 รัฐบาลมาเลเซียซึ่งเป็นคนมลายูทั้งหมด จึงดำริโครงการที่ชื่อว่า Affirmative Action เพื่อช่วยชาวมลายู คือ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเพิ่มจำนวนคนมลายูให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้

    นำไปสู่การตั้งโควต้านักศึกษา ว่าจะต้องมีคนมลายูเท่านี้และจำกัดจำนวนคนจีนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ

    และที่ช้อคสุดคือ รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาษาที่สอนในมหาลัย จากเดิมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นภาษามลายูทั้งหมด

    คือ กีดกันคนจีนกันเต็มที่

    ทำให้นักศึกษาจีนที่เก่งๆหัวดีจำนวนมากถอดใจกับการเข้ามหาวิทยาลัย และย้ายไปเรียนที่อเมริกาและยุโรปแทน คนจีนที่มีความรู้สูงจำนวนมากย้ายออกจากมาเลเซีย

    การกีดกันเชื้อชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไปตั้งประเทศเอง และภายหลังสิงคโปร์นั้นเจริญงอกงามกว่ามาเลเซียมาก

    (ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐบาลมลายูขับไล่นายลี กวน ยูและสิงคโปร์ออกไปครับ)

    แต่กระนั้นความกดดันของรัฐบาลมลายูนี้ก็ก่อให้เกิดผลดีอยู่บ้างคือ ชาวจีนรวมตัวกันสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นในมาเลเซียหลายแห่ง สอนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเคย เพื่อสอนให้กับชาวจีนและอินเดียที่ได้รับผลกระทบ

    และได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเวลาต่อมา
    .
    .
    .
    เมื่อกาลเวลาผ่านไป 60 ปี Affirmative Action นี้ก็ยังคงอยู่ในมาเลเซียในรูปแบบของโควต้าเชื้อชาติ

    ผลของ Affirmative Action นี้ ทำให้คนมลายูมีอัตราการเรียนมหาวิทยาลัยสูงขึ้นจริง มีรายได้สูงขึ้นจริง

    แต่ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม

    คือ ธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนขนาดใหญ่ในมาเลเซียยังคงอยู่ในมือของคนจีน

    ส่วนคนมลายูนั้นส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในภาครัฐ ที่โดดเด่นขึ้นมาในภาคเอกชนก็มีครับ เช่น แอร์ เอเซีย ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจมลายู 2 คนครับ

    ในประชากรมาเลเซีย 100 คน มีชาวมลายูราวๆ 70% ชาวจีน 20% ที่เหลือเป็นอินเดีย 8% ครับ

    เมื่อสำรวจรายได้ของคนมาเลเซียในปี 2022 ก็ได้พบว่า หากชาวจีนมีรายได้ 100 บาท ชาวมลายูจะมีรายได้ 70 บาท และชาวอินเดีย 87 บาท

    ชาวมลายูยังคงรายได้ต่ำที่สุดอยู่เช่นเคย แม้จะกีดกันชาวจีนแล้วก็ตาม
    .
    .
    .
    ที่ผมยกเรื่องโครงการ Affirmative Action ขึ้นมานี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันทั่วโลกมากว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) ครับ

    คือ เลือกช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ

    จริงๆแล้วมาเลเซียลอกไอเดียนี้มาจากอเมริกาในปี 1960 ที่ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี้ นำมาใช้เพื่อให้โอกาสคนดำและเชื้อชาติอื่นได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบ้าง

    เพราะหากเอานักเรียนมาสอบแข่งขันกันจริงๆแล้ว ในเวลานั้นนักเรียนผิวขาวชนะขาดลอย เช่นเดียวกับที่นักเรียนจีนในมาเลเซียที่เก่งกว่าเด็กมลายู

    อเมริกาใช้โครงการนี้อยู่หลายรัฐบาล มีการใช้โควต้าเชื้อชาติด้วย จนกระทั่งศาลสูงของอเมริกาสั่งยกเลิกระบบนี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัย

    และปัจจุบันอเมริกาก็เอานโยบายคล้ายๆกันนี้กลับเข้ามาใช้อีกในรูปแบบของ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ ให้เอาเชื้อชาติเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐบาล

    คือ ในหนึ่งองค์กรจะต้องมีคนจากทุกเชื้อชาติให้ได้มากที่สุด

    เรื่อง DEI นี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารและมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจลับหญิงอ้วนที่เงอะๆงั่นๆทำอะไรไม่ถูกยืนอยู่ข้างๆทรัมป์

    ชาวเน็ทอเมริกันจึงจัดทัวร์ไปลงว่า “DEI ทำให้เราไม่ได้จ้างคนจากฝีมือและความสามารถ”
    .
    .
    .
    ผมนั่งดูๆเรื่องนี้แล้ว ก็บังเกิดความเห็นใจทั้ง 2 ฝั่ง

    คือ ผมเห็นใจคนบางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ว่า ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้ว โอกาสที่จะโงหัวขึ้นมามีชีวิตที่ดีบ้างนั้นก็แทบจะไม่มีเลย

    ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนหัวดีและคนเก่งกว่าว่า เขาตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่กลายเป็นต้องมาแพ้ให้กับระบบโควต้าที่ช่วยคนที่ห่วยกว่าตัวเอง

    หนทางที่ดีที่สุดของเรื่องลักษณะนี้ ผมเห็นด้วย 100% กับท่านผู้พิพากษาศาลสูงของอเมริกาชื่อ “ซานดร้า เดย์ โอคอนเนอร์”

    ท่านกล่าวว่า “Race-conscious admissions policies must be limited in time. The court expects that 25 years from now, the use of racial preferences will no longer be necessary"

    "นโยบายการเลือกรับคนโดยดูจากเชื้อชาตินั้นควรกำหนดกรอบเวลาไว้ ศาลหวังว่าในอีก 25 ปีจากนี้ไปนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเชื้อชาติมาร่วมพิจารณาอีกต่อไป“

    ท่านบันทึกไว้ในปี 2003 ครับ

    เพราะผมเห็นด้วยกับที่มีคนเคยพูดว่า “กลุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือใช้ทางลัดมาตลอดชีวิตนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องออกไปต่อสู้อย่างแฟร์ๆแล้ว คนพวกนี้ก็จะบอกว่า ”ฉันไม่ได้รับความยุติธรรม“

    …ไม่ช่วยเลยก็น่าสงสาร ช่วยมากไปก็อ่อนแอ…

    ภาพประกอบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยโพสท์ไปด้วย 😉


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.88 : Affirmative Action วันนี้อยากจะเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Affirmative Action ของมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของเราครับ ในสมัยก่อนนู้น คือ ยุคก่อนปี 1950 นั้น มาเลเซีย (ตอนนั้นเรียก “มลายา”) เป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ครับ อังกฤษเขาเห็นว่าที่มลายานี้ยังขาดแคลลนแรงงานอยู่มาก ก็เลยเปิดรับชาวจีนให้อพยพเข้ามาเป็นแรงงานอยู่ที่มลายา ชาวจีนที่อพยพมามลายานั้น ส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้ง เหตุที่อพยพมาก็เพราะหนีความอดอยากและยากจนของประเทศจีนในเวลานั้นครับ คนจีนเหล่านี้ เบื้องแรกก็มาเป็นแรงงานทำโน่นทำนี่ แต่อยู่ๆไปก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษและเริ่มทำธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้เริ่มดีขึ้นด้วยความขยันตามประสาคนจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของคนจีนในคาบสมุทรมลายา คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 10% ของประชากรทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู คนอินเดียก็มีมาอยู่ที่มลายาเหมือนกัน แต่น้อยกว่าคนจีน ทีนี้พอถึงปี 1957 อังกฤษคืนเอกราชให้มลายา อำนาจการปกครองรัฐบาลนั้นเป็นของชาวมลายูเกือบ 100% ในเวลานั้น ธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในมือของชาวจีน และสำคัญคือ 99% ของนักศึกษาที่เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนั้น ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งสิ้น นักศึกษาชาวมลายูมีแค่ 1% ในคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกว่า STEM นั้น ก็เป็นแบบเดียวกันคือ มีแต่นักศึกษาชาวจีน อันทำให้ชาวจีนมีความรู้สูงกว่าและเจริญงอกงามกว่าชาวมลายูทั้งๆที่ประชากรชาวจีนนั้นมีไม่ถึง 20% ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่คนมลายูมีต่อคนจีน . . . ในปี 1960 รัฐบาลมาเลเซียซึ่งเป็นคนมลายูทั้งหมด จึงดำริโครงการที่ชื่อว่า Affirmative Action เพื่อช่วยชาวมลายู คือ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเพิ่มจำนวนคนมลายูให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ นำไปสู่การตั้งโควต้านักศึกษา ว่าจะต้องมีคนมลายูเท่านี้และจำกัดจำนวนคนจีนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ และที่ช้อคสุดคือ รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาษาที่สอนในมหาลัย จากเดิมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นภาษามลายูทั้งหมด คือ กีดกันคนจีนกันเต็มที่ ทำให้นักศึกษาจีนที่เก่งๆหัวดีจำนวนมากถอดใจกับการเข้ามหาวิทยาลัย และย้ายไปเรียนที่อเมริกาและยุโรปแทน คนจีนที่มีความรู้สูงจำนวนมากย้ายออกจากมาเลเซีย การกีดกันเชื้อชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไปตั้งประเทศเอง และภายหลังสิงคโปร์นั้นเจริญงอกงามกว่ามาเลเซียมาก (ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐบาลมลายูขับไล่นายลี กวน ยูและสิงคโปร์ออกไปครับ) แต่กระนั้นความกดดันของรัฐบาลมลายูนี้ก็ก่อให้เกิดผลดีอยู่บ้างคือ ชาวจีนรวมตัวกันสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นในมาเลเซียหลายแห่ง สอนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเคย เพื่อสอนให้กับชาวจีนและอินเดียที่ได้รับผลกระทบ และได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเวลาต่อมา . . . เมื่อกาลเวลาผ่านไป 60 ปี Affirmative Action นี้ก็ยังคงอยู่ในมาเลเซียในรูปแบบของโควต้าเชื้อชาติ ผลของ Affirmative Action นี้ ทำให้คนมลายูมีอัตราการเรียนมหาวิทยาลัยสูงขึ้นจริง มีรายได้สูงขึ้นจริง แต่ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม คือ ธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนขนาดใหญ่ในมาเลเซียยังคงอยู่ในมือของคนจีน ส่วนคนมลายูนั้นส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในภาครัฐ ที่โดดเด่นขึ้นมาในภาคเอกชนก็มีครับ เช่น แอร์ เอเซีย ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจมลายู 2 คนครับ ในประชากรมาเลเซีย 100 คน มีชาวมลายูราวๆ 70% ชาวจีน 20% ที่เหลือเป็นอินเดีย 8% ครับ เมื่อสำรวจรายได้ของคนมาเลเซียในปี 2022 ก็ได้พบว่า หากชาวจีนมีรายได้ 100 บาท ชาวมลายูจะมีรายได้ 70 บาท และชาวอินเดีย 87 บาท ชาวมลายูยังคงรายได้ต่ำที่สุดอยู่เช่นเคย แม้จะกีดกันชาวจีนแล้วก็ตาม . . . ที่ผมยกเรื่องโครงการ Affirmative Action ขึ้นมานี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันทั่วโลกมากว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) ครับ คือ เลือกช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ จริงๆแล้วมาเลเซียลอกไอเดียนี้มาจากอเมริกาในปี 1960 ที่ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี้ นำมาใช้เพื่อให้โอกาสคนดำและเชื้อชาติอื่นได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบ้าง เพราะหากเอานักเรียนมาสอบแข่งขันกันจริงๆแล้ว ในเวลานั้นนักเรียนผิวขาวชนะขาดลอย เช่นเดียวกับที่นักเรียนจีนในมาเลเซียที่เก่งกว่าเด็กมลายู อเมริกาใช้โครงการนี้อยู่หลายรัฐบาล มีการใช้โควต้าเชื้อชาติด้วย จนกระทั่งศาลสูงของอเมริกาสั่งยกเลิกระบบนี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัย และปัจจุบันอเมริกาก็เอานโยบายคล้ายๆกันนี้กลับเข้ามาใช้อีกในรูปแบบของ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ ให้เอาเชื้อชาติเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐบาล คือ ในหนึ่งองค์กรจะต้องมีคนจากทุกเชื้อชาติให้ได้มากที่สุด เรื่อง DEI นี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารและมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจลับหญิงอ้วนที่เงอะๆงั่นๆทำอะไรไม่ถูกยืนอยู่ข้างๆทรัมป์ ชาวเน็ทอเมริกันจึงจัดทัวร์ไปลงว่า “DEI ทำให้เราไม่ได้จ้างคนจากฝีมือและความสามารถ” . . . ผมนั่งดูๆเรื่องนี้แล้ว ก็บังเกิดความเห็นใจทั้ง 2 ฝั่ง คือ ผมเห็นใจคนบางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ว่า ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้ว โอกาสที่จะโงหัวขึ้นมามีชีวิตที่ดีบ้างนั้นก็แทบจะไม่มีเลย ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนหัวดีและคนเก่งกว่าว่า เขาตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่กลายเป็นต้องมาแพ้ให้กับระบบโควต้าที่ช่วยคนที่ห่วยกว่าตัวเอง หนทางที่ดีที่สุดของเรื่องลักษณะนี้ ผมเห็นด้วย 100% กับท่านผู้พิพากษาศาลสูงของอเมริกาชื่อ “ซานดร้า เดย์ โอคอนเนอร์” ท่านกล่าวว่า “Race-conscious admissions policies must be limited in time. The court expects that 25 years from now, the use of racial preferences will no longer be necessary" "นโยบายการเลือกรับคนโดยดูจากเชื้อชาตินั้นควรกำหนดกรอบเวลาไว้ ศาลหวังว่าในอีก 25 ปีจากนี้ไปนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเชื้อชาติมาร่วมพิจารณาอีกต่อไป“ ท่านบันทึกไว้ในปี 2003 ครับ เพราะผมเห็นด้วยกับที่มีคนเคยพูดว่า “กลุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือใช้ทางลัดมาตลอดชีวิตนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องออกไปต่อสู้อย่างแฟร์ๆแล้ว คนพวกนี้ก็จะบอกว่า ”ฉันไม่ได้รับความยุติธรรม“ …ไม่ช่วยเลยก็น่าสงสาร ช่วยมากไปก็อ่อนแอ… ภาพประกอบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยโพสท์ไปด้วย 😉 นัทแนะ
    0 Comments 0 Shares 800 Views 0 Reviews
  • เหมือนไหม? กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อไม่นานมานี้ หลังชาวจีนออกมาโจมตีทางออกของสถานีรถไฟใต้ดินฮวาตี้วาน ในกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรีโนเวท ว่าเหมือนกับ "โรงศพดั้งเดิมขนาดยักษ์"

    เดิมทีสถานีรถไฟใต้ดินแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในสถานีที่เก่าแก่ที่สุดในกว่างโจว มีกำหนดการเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงกลางเดือนม.ค. หลังจากทำการรีโนเวท โดยมีบริษัท Guangzhou Wanxi Enterprise Management เป็นผู้รับผิดชอบ และบริษัท Shanghai GM Landscape Design รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบ

    อย่างไรก็ดี หลังมีการเผยแพร่ภาพทางออกของสถานีดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ก็ถูกชาวเน็ตร้องเรียนและวิจารณ์อย่างหนัก เช่น "นี่เป็นประตูสู่ยมโลกหรือเปล่า?" "นี่เป็นผลงานของทีมงานมืออาชีพจริงๆ หรือ?" และ "ออกแบบมาแบบนี้ ช่างสิ้นเปลืองงบจริงๆ"

    ต่อมาบริษัท Guangzhou Metro Group ได้ออกมาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าแรงบันดาลใจและคอนเซ็ปต์ของการออกแบบมีที่มาจาก "กลีบดอกงิ้ว" ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำนครกว่างโจว ไม่ใช่โลงศพอย่างที่ทุกคนคิด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000003397

    #MGROnline #สถานีรถไฟใต้ดินฮวาตี้วาน #กว่างโจว #กลีบดอกงิ้ว #โลงศพ
    เหมือนไหม? กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อไม่นานมานี้ หลังชาวจีนออกมาโจมตีทางออกของสถานีรถไฟใต้ดินฮวาตี้วาน ในกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรีโนเวท ว่าเหมือนกับ "โรงศพดั้งเดิมขนาดยักษ์" • เดิมทีสถานีรถไฟใต้ดินแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในสถานีที่เก่าแก่ที่สุดในกว่างโจว มีกำหนดการเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงกลางเดือนม.ค. หลังจากทำการรีโนเวท โดยมีบริษัท Guangzhou Wanxi Enterprise Management เป็นผู้รับผิดชอบ และบริษัท Shanghai GM Landscape Design รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบ • อย่างไรก็ดี หลังมีการเผยแพร่ภาพทางออกของสถานีดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ก็ถูกชาวเน็ตร้องเรียนและวิจารณ์อย่างหนัก เช่น "นี่เป็นประตูสู่ยมโลกหรือเปล่า?" "นี่เป็นผลงานของทีมงานมืออาชีพจริงๆ หรือ?" และ "ออกแบบมาแบบนี้ ช่างสิ้นเปลืองงบจริงๆ" • ต่อมาบริษัท Guangzhou Metro Group ได้ออกมาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าแรงบันดาลใจและคอนเซ็ปต์ของการออกแบบมีที่มาจาก "กลีบดอกงิ้ว" ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำนครกว่างโจว ไม่ใช่โลงศพอย่างที่ทุกคนคิด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000003397 • #MGROnline #สถานีรถไฟใต้ดินฮวาตี้วาน #กว่างโจว #กลีบดอกงิ้ว #โลงศพ
    0 Comments 0 Shares 569 Views 0 Reviews
  • Meta ล้มนโยบาย DEI

    Meta ประกาศยกเลิกโครงการความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกัน (DEI) โดย Janelle Gale รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลระบุในบันทึกถึงพนักงานทั่วโลกว่า สภาพแวดล้อมทางกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับ DEI ในสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแปลง และคำว่า DEI กลายเป็นประเด็นร้อนเพราะบางคนมองว่าเป็นการให้สิทธิพิเศษแก่บางกลุ่มเหนือกลุ่มอื่น

    Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ Joe Rogan วันเดียวกับที่พบ Trump ที่ Mar-a-Lago ว่าเขาทำงานเรื่องนี้มานาน โดยเผยว่าเขาเริ่มต้นด้วยจุดยืน "สนับสนุนเสรีภาพในการพูดและการแสดงออกอย่างเต็มที่" แต่ชัยชนะของ Trump ในปี 2016 และแรงกดดันจากรัฐบาล Biden ให้ควบคุมข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 ทำให้มุมมองเขาเปลี่ยนไป เขากล่าวว่าทีม Meta ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาล Biden "ตะโกนและสบถใส่" เพื่อให้ลบเนื้อหา จนทำลายความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์ม

    https://www.facebook.com/share/p/18apuR7hnU/
    Meta ล้มนโยบาย DEI Meta ประกาศยกเลิกโครงการความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกัน (DEI) โดย Janelle Gale รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลระบุในบันทึกถึงพนักงานทั่วโลกว่า สภาพแวดล้อมทางกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับ DEI ในสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแปลง และคำว่า DEI กลายเป็นประเด็นร้อนเพราะบางคนมองว่าเป็นการให้สิทธิพิเศษแก่บางกลุ่มเหนือกลุ่มอื่น Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ Joe Rogan วันเดียวกับที่พบ Trump ที่ Mar-a-Lago ว่าเขาทำงานเรื่องนี้มานาน โดยเผยว่าเขาเริ่มต้นด้วยจุดยืน "สนับสนุนเสรีภาพในการพูดและการแสดงออกอย่างเต็มที่" แต่ชัยชนะของ Trump ในปี 2016 และแรงกดดันจากรัฐบาล Biden ให้ควบคุมข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 ทำให้มุมมองเขาเปลี่ยนไป เขากล่าวว่าทีม Meta ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาล Biden "ตะโกนและสบถใส่" เพื่อให้ลบเนื้อหา จนทำลายความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์ม https://www.facebook.com/share/p/18apuR7hnU/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002467

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002467 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 1617 Views 0 Reviews
  • ”คุณไม่ได้ไร้หัวใจ คุณคือคำจำกัดความของทุกสิ่งที่ผิดพลาดของคนรุ่นนี้ คุณถอดปลั๊กด้านจริยธรรม ความเคารพ และมนุษยธรรม ไปเรียบร้อยแล้ว”

    “บรอนวิน ออโรร่า” ติ๊กต็อกเกอร์และดาวโอนลีแฟนส์วัย 22 ปี กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล หลังจากโพสต์วิดีโอยืนเต้นข้างเตียงแฟนหนุ่มวัย 85 ปี ที่ล้อมรอบด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งอย่างมีความสุข ซึ่งออโรร่าได้เขียนแคปชั่นว่า “ฉันมีชื่ออยู่ในพินัยกรรมแล้ว ฉันควรถอดปลั๊กดีไหม?”
    ”คุณไม่ได้ไร้หัวใจ คุณคือคำจำกัดความของทุกสิ่งที่ผิดพลาดของคนรุ่นนี้ คุณถอดปลั๊กด้านจริยธรรม ความเคารพ และมนุษยธรรม ไปเรียบร้อยแล้ว” “บรอนวิน ออโรร่า” ติ๊กต็อกเกอร์และดาวโอนลีแฟนส์วัย 22 ปี กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล หลังจากโพสต์วิดีโอยืนเต้นข้างเตียงแฟนหนุ่มวัย 85 ปี ที่ล้อมรอบด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งอย่างมีความสุข ซึ่งออโรร่าได้เขียนแคปชั่นว่า “ฉันมีชื่ออยู่ในพินัยกรรมแล้ว ฉันควรถอดปลั๊กดีไหม?”
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • เสือกทุกเรื่อง พาน้องปูกลับบ้าน หลานอิ๊งค์ยังไม่รู้เรื่อง
    .
    กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อนิตยสาร Nikkei Asia ระหว่างลงพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานีที่ระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้กลับประเทศไทยช่วงสงกรานต์ปีหน้า เนื่องจากไม่มีเห็นว่จะมีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม การออกมาพูดเช่นนี้ทำให้สปอตไลท์จับไปที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งในฐานะผู้บริหารประเทศและญาติสนิทคนสำคัญ
    .
    นายกฯแพทองธาร เลือกที่จะปฏิเสธตอบข้อสงสัยโดยอ้างว่า "อย่างที่บอกท่านทักษิณกลับมาแล้วเชิญสัมภาษณ์ท่านทักษิณได้เลย ไม่ได้มีการประสานรัฐบาลมาเลย ถ้ามีคือโทรหาหลานค่ะ"
    .
    ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงความคิดเห็นว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานมา แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เพราะคนที่จะเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ต้องเริ่มต้นที่กระบวนการศาลก่อน คือมีหมายขังที่ออกโดยศาล เมื่อรับหมายแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็ปฏิบัติตาม และตามกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบันมีการยกระดับมากขึ้น หากเป็นผู้หญิงก็ต้องอยู่ในทัณฑสถานกลาง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
    .
    "สมัยที่นายทักษิณกลับมา ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่สำหรับการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์ และไม่ได้เป็นโมเดลอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย" รมว.ยุติธรรม กล่าวย้ำ
    .
    สำหรับนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีโครงการรับจำนำข้าว
    .............
    Sondhi X
    เสือกทุกเรื่อง พาน้องปูกลับบ้าน หลานอิ๊งค์ยังไม่รู้เรื่อง . กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อนิตยสาร Nikkei Asia ระหว่างลงพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานีที่ระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้กลับประเทศไทยช่วงสงกรานต์ปีหน้า เนื่องจากไม่มีเห็นว่จะมีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม การออกมาพูดเช่นนี้ทำให้สปอตไลท์จับไปที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งในฐานะผู้บริหารประเทศและญาติสนิทคนสำคัญ . นายกฯแพทองธาร เลือกที่จะปฏิเสธตอบข้อสงสัยโดยอ้างว่า "อย่างที่บอกท่านทักษิณกลับมาแล้วเชิญสัมภาษณ์ท่านทักษิณได้เลย ไม่ได้มีการประสานรัฐบาลมาเลย ถ้ามีคือโทรหาหลานค่ะ" . ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงความคิดเห็นว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานมา แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เพราะคนที่จะเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ต้องเริ่มต้นที่กระบวนการศาลก่อน คือมีหมายขังที่ออกโดยศาล เมื่อรับหมายแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็ปฏิบัติตาม และตามกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบันมีการยกระดับมากขึ้น หากเป็นผู้หญิงก็ต้องอยู่ในทัณฑสถานกลาง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย . "สมัยที่นายทักษิณกลับมา ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่สำหรับการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์ และไม่ได้เป็นโมเดลอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย" รมว.ยุติธรรม กล่าวย้ำ . สำหรับนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีโครงการรับจำนำข้าว ............. Sondhi X
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 1629 Views 0 Reviews
  • ตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯอิ๊งค์” เสี่ยงหลุด ซ้ำรอยเศรษฐา.“ธีระชัย” ฟันธง “กิตติรัตน์” ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถนั่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” เหตุ “ที่ปรึกษาของนายก” ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะงานที่ทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา และเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักนายกฯ เตือน นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯทั้งที่มีปัญหา เป็นเรื่องมิบังควร โป๊ะแตก ! “เสี่ยนิด” พูดเอง “โต้ง” ขาดคุณสมบัติ ด้าน “รศ.ดร.เจษฎ์” แจง หากมีผู้ร้อง “อุ๊งอิ๊งค์” อาจหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหมือนกรณีที่ “เศรษฐา” แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ลือสะพัด “เรืองไกร” เตรียมร้องเอาผิดคนเสนอชื่อ.หนึ่งในประเด็นร้อนขณะนี้ก็คือเรื่องการแต่งตั้ง “ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการตัดสินใจเลือก “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตัวเต็งจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการส่งคนจากฝั่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญยังมีการทักท้วงว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนายเขาเคยเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” นายเศรษฐา ทวีสิน โดยเพิ่งพ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 1 ปี.แต่ทางด้าน นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานที่ทำหน้าที่คัดเลือกประธานบอร์ดและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ตำแหน่งของกิตติรัตน์คือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” ถือเป็นตำแหน่งส่วนตัว ซึ่งมิได้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.ขณะนี้สถานการณ์จึงยังอึมครึม คือเป็นการแต่งตั้งโดยไม่มีการประกาศรายชื่อ และจะเสนอรายชื่อดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ ในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป.ส่วนว่า นายกิตติรัตน์ จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ ? และหากขาดคุณสมบัติจะมีผลอย่างไรตามมา ? คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000109902.#กิตติรัตน์ณระนอง #นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ #แบงก์ชาติ
    ตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯอิ๊งค์” เสี่ยงหลุด ซ้ำรอยเศรษฐา.“ธีระชัย” ฟันธง “กิตติรัตน์” ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถนั่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” เหตุ “ที่ปรึกษาของนายก” ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะงานที่ทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา และเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักนายกฯ เตือน นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯทั้งที่มีปัญหา เป็นเรื่องมิบังควร โป๊ะแตก ! “เสี่ยนิด” พูดเอง “โต้ง” ขาดคุณสมบัติ ด้าน “รศ.ดร.เจษฎ์” แจง หากมีผู้ร้อง “อุ๊งอิ๊งค์” อาจหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหมือนกรณีที่ “เศรษฐา” แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ลือสะพัด “เรืองไกร” เตรียมร้องเอาผิดคนเสนอชื่อ.หนึ่งในประเด็นร้อนขณะนี้ก็คือเรื่องการแต่งตั้ง “ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการตัดสินใจเลือก “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตัวเต็งจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการส่งคนจากฝั่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญยังมีการทักท้วงว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนายเขาเคยเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” นายเศรษฐา ทวีสิน โดยเพิ่งพ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 1 ปี.แต่ทางด้าน นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานที่ทำหน้าที่คัดเลือกประธานบอร์ดและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ตำแหน่งของกิตติรัตน์คือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” ถือเป็นตำแหน่งส่วนตัว ซึ่งมิได้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.ขณะนี้สถานการณ์จึงยังอึมครึม คือเป็นการแต่งตั้งโดยไม่มีการประกาศรายชื่อ และจะเสนอรายชื่อดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ ในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป.ส่วนว่า นายกิตติรัตน์ จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ ? และหากขาดคุณสมบัติจะมีผลอย่างไรตามมา ? คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000109902.#กิตติรัตน์ณระนอง #นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ #แบงก์ชาติ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1428 Views 0 Reviews
  • เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ทำให้เหล่าคนรักสัตว์ออกมาเคลื่อนไหวถึงความไม่เหมาะสม กรณีที่มีฉาก “น้องแมวดำ” ถูกวางยาตาย ในละครเรื่อง “แม่หยัว” จนกระทั่งเกิดกระแสการแบนละครออกมา

    งานนี้ทำเอาประเด็นดังกล่าวลุกลามไปถึงนางเอกสาว "ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่" ที่ชาวเน็ตแห่เข้าไปถามทำนองว่า ทำไมถึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องนี้เลย แม้ "ใหม่" จะออกมาแสดงความคิดเห็นแล้วว่า ถ้าคนที่ตามใหม่ จะรู้อยู่แล้วว่าใหม่เลี้ยงสัตว์มาทั้งชีวิต ใหม่ไม่มีทางเห็นด้วยกับการทรมานสัตว์แน่นอน

    แต่เรื่องดังกล่าวก็ดูเหมือนยังไม่จบ ล่าสุด "ใหม่ ดาวิกา” ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านทางโลกออนไลน์ เตรียมฟ้องคนด่าแรงปมร้อนฉากวางยาสลบแมว ลั่นจำนำเงินที่ได้มาช่วยเหลือสัตว์

    "ทุกคนใหม่ปรึกษาค่ะ ใหม่กำลังคิดว่าใหม่ควรฟ้องคนที่ด่าใหม่เกินเหตุดีมั้ยคะแล้วใหม่จะเอาเงินทั้งหมดมาช่วยเหลือสัตว์...ใหม่ไม่เคยฟ้องมาก่อนส่วนตัวไม่อยากแต่ครั้งนี้คนรอบตัวขอให้ใหม่พิจารณาเรื่องนี้ค่ะ ทุกคนว่าไงดี??"

    “ฝากพี่ๆน้องๆใจดีส่งให้หน่อยนะคะแคปโพสที่คิดว่าแรงแล้ว DM มาที่ IG davikahchannel ขอบคุณค่ะ”

    พี่รู้ว่าแฟนคลับพี่อึดอัดมากๆและหลายครั้งพี่ขอโทษนะที่พี่ไม่เคยลงมืออย่างจริงจัง เพราะพี่คิดเสมอว่าการนิ่งเงียบจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด พี่ไม่ได้มีทนายที่ช่วยเหลือ ตอนนี้กำลังหาอยู่ค่ะ ยังไงจะมาอัพเดทนะคะ หาเงินช่วยสัตว์กันนะคะ”

    #MGROnline #น้องแมวดำ #วางยา #แม่หยัว
    เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ทำให้เหล่าคนรักสัตว์ออกมาเคลื่อนไหวถึงความไม่เหมาะสม กรณีที่มีฉาก “น้องแมวดำ” ถูกวางยาตาย ในละครเรื่อง “แม่หยัว” จนกระทั่งเกิดกระแสการแบนละครออกมา • งานนี้ทำเอาประเด็นดังกล่าวลุกลามไปถึงนางเอกสาว "ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่" ที่ชาวเน็ตแห่เข้าไปถามทำนองว่า ทำไมถึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องนี้เลย แม้ "ใหม่" จะออกมาแสดงความคิดเห็นแล้วว่า ถ้าคนที่ตามใหม่ จะรู้อยู่แล้วว่าใหม่เลี้ยงสัตว์มาทั้งชีวิต ใหม่ไม่มีทางเห็นด้วยกับการทรมานสัตว์แน่นอน • แต่เรื่องดังกล่าวก็ดูเหมือนยังไม่จบ ล่าสุด "ใหม่ ดาวิกา” ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านทางโลกออนไลน์ เตรียมฟ้องคนด่าแรงปมร้อนฉากวางยาสลบแมว ลั่นจำนำเงินที่ได้มาช่วยเหลือสัตว์ • "ทุกคนใหม่ปรึกษาค่ะ ใหม่กำลังคิดว่าใหม่ควรฟ้องคนที่ด่าใหม่เกินเหตุดีมั้ยคะแล้วใหม่จะเอาเงินทั้งหมดมาช่วยเหลือสัตว์...ใหม่ไม่เคยฟ้องมาก่อนส่วนตัวไม่อยากแต่ครั้งนี้คนรอบตัวขอให้ใหม่พิจารณาเรื่องนี้ค่ะ ทุกคนว่าไงดี??" • “ฝากพี่ๆน้องๆใจดีส่งให้หน่อยนะคะแคปโพสที่คิดว่าแรงแล้ว DM มาที่ IG davikahchannel ขอบคุณค่ะ” • พี่รู้ว่าแฟนคลับพี่อึดอัดมากๆและหลายครั้งพี่ขอโทษนะที่พี่ไม่เคยลงมืออย่างจริงจัง เพราะพี่คิดเสมอว่าการนิ่งเงียบจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด พี่ไม่ได้มีทนายที่ช่วยเหลือ ตอนนี้กำลังหาอยู่ค่ะ ยังไงจะมาอัพเดทนะคะ หาเงินช่วยสัตว์กันนะคะ” • #MGROnline #น้องแมวดำ #วางยา #แม่หยัว
    0 Comments 0 Shares 561 Views 0 Reviews
  • ตีประเด็นร้อน เอาความจริงมาเล่า
    กับสนธิ ลิ้มทองกุล นงวดี ถนิมมาลย์ และ อุษณีย์ เอกอุษณีย์
    ใน NewsHour 13 พ.ย.67 | เวลา 18.30 น.
    ปูเสื่อ รอได้เลย ห้ามพลาด!!
    ตีประเด็นร้อน เอาความจริงมาเล่า กับสนธิ ลิ้มทองกุล นงวดี ถนิมมาลย์ และ อุษณีย์ เอกอุษณีย์ ใน NewsHour 13 พ.ย.67 | เวลา 18.30 น. ปูเสื่อ รอได้เลย ห้ามพลาด!!
    Like
    Love
    Yay
    Wow
    69
    6 Comments 1 Shares 6186 Views 2 Reviews
  • 04-11-67/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP20 ตอน NEW BORN AFGHANISTAN 2024 "พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน เปลี่ยนชะตากรรม" ปลดแอกเหี้ยแค่ 3 ปีเศษ อัฟกานิสถานไปไกลมว๊าก หลังจีนเข้าไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมต่อโลจิสติค จนวันนี้ ตาลีบัน ไม่ต้องรบกับใครอีกแล้ว ร่วมเผ่าพันธุ์ย่อย จับมาค้าขายเชื่อมโลกแม่งซะเลย เจริญจนผิดหูผิดตา แค่ทิ้งเหี้ย ชีวิตเปลี่ยนทันที ความปลอดภัยสูงขึ้นมาก เพราะไม่รู้จะก่อการร้ายไปเพื่อใคร? เหี้ยถูกไล่เก็บจนเกือบหมดแล้ว ใครที่มีปัญหา จีนเป็นตัวเชื่อมกลางเข้าไปไกล่เกลี่ยจนได้คำตอบง่ายดายว่า "แบ่งกันกิน" รัฐบาลตาลีบัน แข็งแกร่งกว่าเดิมเยอะ ทั้งในฝ่ายการเมือง เวทีโลก เศรษฐกิจ การค้า มันชัวร์อยู่แล้ว เพราะ "อัฟกานิสถาน คือ 1 ในเส้นทางสายไหมของจีนนั่นเอง" เค้าวางตัวมาเป็นชาติแล้ว หลังเหี้ยมะกันออกไปจนหมดเกลี้ยง ก็ฟื้นฟู แล้วปรับโครงสร้างใหม่หมด เชื่อมทุกอย่างเข้าเป็นระบบเดียวกับสากล สูตรเดียวกับที่จีนใช้ในแอฟริกานั่นแหละ รถไฟเข้าถึง ความเจริญก็เข้าตาม น้ำ ไฟ เน็ต ตามมาทันที หมดยุคกินกรวด หิน ดิน ทรายแล้ว อัฟกานิสถานยุคใหม่ เดินหน้าไม่หยุด เพราะไม่มีเหี้ยมาคอยสกัดแล้ว ทุกอย่างรัฐบาลอำนาจเดี่ยว เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สั่งปุ๊บ ทำปั๊บ มันถึงได้เร็วฟ้าผ่าเยี่ยงนี้ โมเดลนี้ ทำให้หลายชาติในโลกถึงได้ปลดแอกเหี้ยกันหมด อยู่กับเหี้ยมีแต่ฉิบหาย อยู่กับจีน รัสเซีย รวยไม่รู้ตัว? ที่สำคัญ ไม่ต้องไปปล้นเค้าแดร๊กเหมือนที่ผ่านมา? เมื่ออัฟกานิสถานแข็งแรง ชาติเพื่อนบ้านก็ตามสิจ๊ะ เส้นทางสายไหมใครไม่อยากได้ รถไฟมา ไฟ น้ำ ตาม การค้าเข้าถึง สินค้าจากทั่วโลกแห่เข้ามาถึงตัว ใครไม่อยากจะได้ จีนจ้องอัฟกานิสถานมานานแล้ว เพราะคือด่านหน้าเข้าตะวันออกกลาง แอฟริกา ตามสูตรเชื่อมโลกไงล่ะ ล่าสุด อีเหี้ยมะกันโชว์โง่ขน B-52 มาใกล้อิหร่าน ควายกว่านี้มีอีกมั้ย? อิหร่านมีอะไร? มรึงรู้จัก S-400 มั้ย ไอ้สัส? จะรอดมั้ยล่ะ? ขู่เค้าแต่ตัวเองไม่มีปัญญาสกัดขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคอิหร่านได้เลย แม้แต่ลูกเดียว เอาของเก่ามาอวด นี่มันปี 2024 แล้วน่ะ ดีออก? อีวอชิงตันไม่ตายคาตรีน คงไม่หายเสี้ยน รอมันฆ่ากันเองก่อน แล้วกูค่อยเข้าไปกระทืบซ้ำ อยากแตกแผ่นดินกันมากชิมิ? ล่าสุด สเปนเพิ่งจะตื่นรู้ รวมกันเราอยู่ แยกกันอยู่ ตายโหง! ระดมพล ทุกหน่วยงาน เพื่อนบ้านข้างเมือง ช่วยฟื้นบาเลนเซีย ยุโรปง่อยแดร๊ก พายุฝนกระหน่ำ น้ำท่วม ต้อนรับก่อนหิมะจะถล่มตามมา ไม่ต้องทำมาหาแดร๊กแล้วมรึงเอ๋ย? ภัยธรรมชาติมาก่อนมินิคุ๊กกี้รสชาเขียว ปูตินบอก กูไม่ต้องเหนื่อยเลย? อี NATO ยังเสี้ยนจะก่อสงครามต่อมุย? จะแดร๊กยังไม่มี? รับใช้อียิวมานานนับศตวรรษ กูว่ามรึงประกาศเป็นเมืองขึ้นเยรูซาเล็มไปเลยดีมุย? ควายยุโรปมันโง่ของจริง EGO อยู่เหนือเหตุผลและปากท้อง แม้แต่ชีวิตมรึงเองก็ยังแพ้ EGO ตัวมรึงเอง? เผ่าพันธุ์สวรรค์เหรอจ๊ะ ดีออก? พากันไปเยอะห่าแบบนี้ อียิวชอบ กูจะได้บ้านใหม่เร็วขึ้น! ข้ามวิกแป๊บ! หย่ายนักเหรอ ไอ้สัส! อีเหลี่ยมหน้าซีด เกมส์ชงเปิดหน้า อัยการ ปปช. ปปง. ศาล ตบเท้าเรียงคิว หลังธีรยุทธแจงหลักฐานชัด ฟ้องทุกเม็ด เก็บทุกดอก มาหมดทุกคดีเหี้ย อีเหลี่ยมถูกเรียกตัวแก้ต่าง ยื้อเวลา บิดไปมาไม่เลิก ธงเค้ามีไว้นานแล้ว แค่มาทำให้มันจบลงไปซะ จ่ายเฮอะ แล้วไสหัวไปซะ ทั้งวงศ์ตระกูล อีลูกสาวโดนแน่ 3 ดอก 3 เด้ง สุดท้ายเผ่นคือทางรอด ทรัพย์สินไม่ห่วง เรียกคืนได้หมด แค่ฟ้าเปลี่ยนสี และโลกเปลี่ยนมือ ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรทันที เพราะแสง เงิน 10000 อย่าคิดว่ารอด? รอสะเด็ดน้ำ เอาให้สุดซอย เรียงคิวตายคาสภา ยกพรรค ยกครม. ทันที 500 ตัว จะเหลือกี่ตัวกันหนอ? สว.สายเจ้าคึกคักพิเศษ เตรียมชี้เป้า โดนกันอีกเยอะ? อย่าหงุดหงิด เพราะสิ่งที่ทำ เพื่อไม่ให้มีใครตายเพิ่ม? วังไม่ใช่มรึง ฆ่าแกงมันง่าย แล้วมันจะต่างอะไรกับที่อีเหลี่ยมมันทำในตากใบล่ะ? แผนใหม่คือเล่นตัวบทกฎหมายที่โทษหนักกว่า เพื่อบีบให้เผ่นออกนอกทั้งโคตรขายชาติ วิญญานตากใบ ไม่มีวันสงบสุข หากเรื่องไม่เดินไปจนสุดทาง ตากใบยังมีประเด็นร้อนอีกเยอะ รอขุดเพิ่ม เรียงลำดับคิวอยู่ อย่าแซงคิว เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตัวจริง เค้ารู้อยู่ว่าทำอะไร? ให้เค้าทำหน้าที่ต่อไป มรึงรู้มั้ยว่า อะไรน่ากลัวกว่าความตาย? "การรอคอยความตายไงล่ะ" นี่คือโมเม้นต์ที่อีเหลี่ยมเหี้ยชาติชั่วและวงศ์ตระกูลมันกำลังลิ้มรสอยู่ มรึงคิดจริงๆ เหรอว่า คลังไทย สมบัติชาติ จะให้ไอ้อี ใครมาดูแลก็ได้ หากไม่มีความเห็นชอบจากวัง! ที่ผ่านมา ไทยรอดมาได้เพราะคลังเนี่ยแหละ ตั้งแต่ยุคร.3 เป็นต้นมา เรารู้ตัวว่า โลกกำลังจะล่าอาณานิคม สยามประเทศคือเหยื่อ 1 ในนั้นด้วย ที่ผ่านมาวังดูแลคลังหลวงมาโดยตลอด แม้แต่ปัจจุบัน คลังไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติฝ่ายการเมือง ผู้ว่าเป็นอิสระ แล้วไอ้อีขายชาติ มรึงเป็นใครจะเข้ามายึด? คำสั่งอีวอชิงตันเช่นเคย เพราะถังแตก อเมริกาหมดตูด ต้องไปปล้นเอาจากคลังชาวบ้าน หมายังรู้? ฝันเปียกอีกตามเคย ไม่ได้แดร๊กดอกน่ะ ไอ้ควาย! พ่อกูยังอยู่! อย่าฝันกลางวัน มาดูคืนหมาหอนในอเมริกากันน่ะ : อีทรัมปป์ โดนทุกทิศ สกัดดาวรุ่ง อียิวคลั่ง ขี้ข้ากูใครก็ได้ แต่ไม่เอาอีทรัมปป์ เพราะมันหักดิบเกิน คิดการใหญ่ จนกูควบคุมไม่ได้เต็มที่ โกงมาเต็มตรีน ปั่นยังไง คนก็ไม่เอาสงคราม คิดว่าอเมริกันควายไม่รู้รึไง? อีลามา WWIII มาแน่ สู้กับรัสเซีย จีน โสมแดง อิหร่าน คืออเมริกาตายโหงชัวร์ กระดูกคนละเบอร์ แต่หากฆ่ากันเอง ยังมีโอกาสรอด อเมริกันควายถึงได้เลือก CIVIL WAR ดีกว่า ฆ่ากันเองมันส์กว่าเยอะ สู้กับขั้วใหม่ คือตาย ไม่มีปราณี และตายห่ายกเมืองด้วยสิ? เหี้ย CIA และเหี้ยอีตาเพน เตรียมร่วมมือสกัดอีทรัมปป์จนออกนอกหน้า กูบอกเลยว่า หากอีทรัมปป์เข้ามาได้ พวกมรึงเสร็จแน่ โดนชำระแค้นไม่มีเหลือ? หั่นงบจนเหลือแต่แดร๊กกระดูกชัวร์ เพราะอีทรัมปป์ไม่เน้นรบ เน้นการค้า หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง กับสร้างอาณาจักร TRUMP LAND พวกสายสุดโต่ง HARDCORE ชอบ คลั่งอเมริกันพันธุ์แท้ ลูกผสม ผู้อพยพ ต่างด้าว เตรียมตัวถูกไล่ที่ได้เลย? ต้องผิวขาวพันธุ์แท้เท่านั้น นอกนั้น ส่วนเกิน! อเมริกาหมดสภาพ บรรดาเศรษฐี ขาใหญ่ ไฮโซ กลุ่ม ELITE ขนเงินออกนอกหมด แยกย้ายถิ่นฐาน อเมริกามันบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว โรงงานปิด แรงงานล้น ไร้บ้าน สวัสดิการหดหาย ใครมันจะอยากอยู่ต่อ ที่อื่นสบายกว่านี้ ไม่ต้องจ่ายภาษีแพงเพื่ออุ้มคนจน กับเอาไปก่อสงครามสนองตัณหาให้อียิว คนรวยไม่ได้โง่ดอกน่ะ? อเมริกาไม่แตกก็เหมือนแตก เพราะไม่มีรายได้ มีแต่จ่าย พิมพ์แบงค์เพื่อจ่ายหนี้ มรึงจะอยู่ต่อได้อีกนานแค่ไหนกันล่ะ? โลกเค้ารู้หมดแล้ว

    ปล.WWIII ไม่มา หากนุ๊กไม่มี แผนขั้วใหม่เริ่ด เชิด หยิ่ง บีบเศรษฐกิจ การค้า เวทีโลก แสนยานุภาพ ทำให้เหี้ยต้องแตกกำลัง สะเปะสะปะ ช่วยไม่สุด กลัวหลังบ้านพรุน อียิวว่าแน่ ยังเละเป็นโจ๊ก อเมริกาตายเพราะตัวมันเอง เลือกตั้งแค่หน้าฉาก อเมริกาไม่มีทางรอดจากการล่มสลาย เพราะหนี้มรึงเยอะเกินความสามารถจ่ายได้จริง แตกอเมริกาก็ใช่ว่าจะรอด โลกไม่ยอม ฉีกชิ้นเนื้อแบ่งขายตามสูตร โลกไม่ค้าขายกับมรึง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรแดร๊กล่ะ อียุโรปก็ย้ายขั้วไปเยอะแล้ว ฝั่งตะวันออกไปหมดเกลี้ยง แม้แต่อีแอบมานาน ยังต้องถอย BRICS เปลี่ยนโลกได้จริง เมื่อ 5 ปีก่อน ไม่มีใครคิดว่าดอลล่าร์จะล่มสลาย วันนี้ เป็นที่ประจักษ์ ตลาดโลกไม่รับดอลล่าร์ซื้อน้ำมัน ทองคำ แก็ส แร่หายากอีกต่อไป เพราะเจ้ามือเปลี่ยนไงล่ะ? เกมส์ตะวันออกกลางจะไม่ลามไปมากกว่านี้ ปล่อยโลกอาหรับลงแขกอียิวก็เหลือแหล่ มันถึงพยายามดึงรัสเซีย จีน เข้ามาในเกมส์นี้ แต่ทำไม่ได้ เพราะเค้าอ่านมรึงขาดกระจุย? บีบให้เหี้ยลงมือเอง ตรายางมัดตราสังข์รอไว้พร้อม UN WC หนีอียิวหมดแล้ว อาหรับ แอฟริกายึดสภาสหประชาชาติ มรึงยังจะเหลือเสียงที่ไหนมาหนุนได้อีก? ยกยังไงขั้วใหม่ก็ชนะขาด อีอูฐ วัวสันหลังหวะ ที่ไปไม่สุด เพราะยังมีการค้ากับเหี้ย แต่ก็ไม่อยากให้อี UAE แซงหน้า เพราะมันย้ายข้างชัดเจนก่อนแล้ว MBS ต้องชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะกรณีเยเมน แค่เปิดทางให้เยเมนเข้าพื้นที่ ประสาน 3 ฮอ ทุกอย่างจบเร็วทันที อียิวใช้น่านฟ้าอิรัก โจมตีอิหร่าน แต่แห้วแดร๊ก เพราะเค้ารู้ทัน ถามจริงเหอะ มรึงจะเที่ยวไปโวยวายหาพ่องทำไม อ้างโสมแดงช่วยรัสเซีย อ้างจีนช่วยรัสเซีย เค้าทำสัญญาทวิภาคีทั้งการค้า และการทหารกัน เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมระหว่างประเทศ มรึงไปเสือกเหี้ยอะไร? แล้วอีชาติหมานาโต้ 40 ชาติ ที่ไปช่วยยูเครนรบรัสเซีย มรึงแหกกฎหมายสากลไปแล้วเท่าไหร่ หมายังอาย? ตุ๊ด แต๋วแตกนี่หว่า? โลกเห็นเต็มตา ใครของจริง ใครของปลอม? กระจอกเสือกไม่เจียมกะลาหัว รัสเซีย ดาหน้าปูพรมอียูเครนจนไส้แตกทะลักแล้ว อีโปลชิงกราบตรีนสีจิ้นผิงให้ช่วย คำเดียวสั้นๆ หากอยากรอด แค่เปิดทางปูพรมแดงให้กองทัพ Z เดินฉลุยผ่านก็พอ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน ต้องบูชายันต์เท่านั้น ไม่ต้องถามอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง นกรู้ทั้งคู่ ใครจะโง่สิ้นชาติ สูญพันธุ์ เพื่ออียิวกันล่ะ? อีมาครงจบไม่สวยแน่ ถูกกาหัวหมาไว้นานแล้ว แม้ช่วงหลังจะพยายามทำผลงานชะเลียขั้วใหม่ก็ตามที เหี้ยอย่างมรึงต้อง "คาตรีน" เท่านั้น ทหารฝรั่งเศสตายห่าในยูเครนไปกี่พันแล้วล่ะ รัสเซียรู้หมด! ด้านอาเซียนยิ่งชัด ไปกันหมดทั้งกะปิ BRICS จ๋า ใครหมาล่ะ? อีลอดช่อง อีปินส์ นั่งมองตาปริบๆ ไม่รอดดอก อาเซียนไปเกือบหมด ยกเว้นขี้ข้าเหี้ยไงล่ะ? อีกไม่นานมรึงอาจจะช็อค เมื่อขี้ข้ายิวกลายร่าง เอาตัวรอด! จำไว้ว่า ในชาติอาเซียน นอกจากอีขะแมร์ที่ไว้ใจไม่ได้แล้ว อีเพื่อนบ้านตัวอิจฉาอย่างอีเสือเหลือง ยังมีอีลอดช่อง ที่อันตรายที่สุด อีตัวขโมย อีลอบกัด ไทยเราไม่เคยไว้ใจมันเลย เพราะมันล่อไทยตีเนียนหลายครั้งแล้ว งวดนี้ ฟ้าเปลี่ยนสี ถึงเวลาล่ออีนี่กลับบ้าง เกาะเล็กเท่าเหมี๊ยวดิ้นตาย จะยึดเมื่อไหร่ก็ได้ ไทยเป็นฮับอาเซียน อีลอดช่องตายห่าก่อนใครเพื่อน เพราะโลจิสติค ไม่ต้องผ่านมรึงอีกต่อไป แล้วมรึงจะเหลืออะไรอีก? อย่ามาซ่าส์กับศรีธนญชัยน่ะมรึง กูพริ้ว!

    หมี CNN(ไม่มีอะไรในโลกที่ไม่เปลี่ยนแปลง มันคือสัจธรรม อย่าคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่ได้ เหี้ยแค่ไหนก็กลับใจได้ หากแสงทำงาน กูเห็นมาเยอะแล้ว มรึงดูขี้ข้าอีแดงหลายตัวสิ แต่ก่อนหัวหมู่ทะลวงฟัน สู้กับเหลืองแทบตาย มาวันนี้ หันปากกระบอกปืนใส่นายใหญ่ซะงั้น อิทธิพลของแสง ใครไม่เรียนรู้ จะไม่มีวันเข้าใจ เหี้ยยังไง ก็กลัวตาย เอาตัวรอด คือสันดานขี้ข้า เอาชาติรอด คือนักสู้อโยธยา เลือดบางระจันมันเลือกอยู่กับคนที่ใช่เท่านั้น แผ่นดินคัดสรรผู้สมควรอยู่ต่อไว้นานแล้ว)
    04 พฤศจิกายน 67
    10.53 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    04-11-67/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP20 ตอน NEW BORN AFGHANISTAN 2024 "พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน เปลี่ยนชะตากรรม" ปลดแอกเหี้ยแค่ 3 ปีเศษ อัฟกานิสถานไปไกลมว๊าก หลังจีนเข้าไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมต่อโลจิสติค จนวันนี้ ตาลีบัน ไม่ต้องรบกับใครอีกแล้ว ร่วมเผ่าพันธุ์ย่อย จับมาค้าขายเชื่อมโลกแม่งซะเลย เจริญจนผิดหูผิดตา แค่ทิ้งเหี้ย ชีวิตเปลี่ยนทันที ความปลอดภัยสูงขึ้นมาก เพราะไม่รู้จะก่อการร้ายไปเพื่อใคร? เหี้ยถูกไล่เก็บจนเกือบหมดแล้ว ใครที่มีปัญหา จีนเป็นตัวเชื่อมกลางเข้าไปไกล่เกลี่ยจนได้คำตอบง่ายดายว่า "แบ่งกันกิน" รัฐบาลตาลีบัน แข็งแกร่งกว่าเดิมเยอะ ทั้งในฝ่ายการเมือง เวทีโลก เศรษฐกิจ การค้า มันชัวร์อยู่แล้ว เพราะ "อัฟกานิสถาน คือ 1 ในเส้นทางสายไหมของจีนนั่นเอง" เค้าวางตัวมาเป็นชาติแล้ว หลังเหี้ยมะกันออกไปจนหมดเกลี้ยง ก็ฟื้นฟู แล้วปรับโครงสร้างใหม่หมด เชื่อมทุกอย่างเข้าเป็นระบบเดียวกับสากล สูตรเดียวกับที่จีนใช้ในแอฟริกานั่นแหละ รถไฟเข้าถึง ความเจริญก็เข้าตาม น้ำ ไฟ เน็ต ตามมาทันที หมดยุคกินกรวด หิน ดิน ทรายแล้ว อัฟกานิสถานยุคใหม่ เดินหน้าไม่หยุด เพราะไม่มีเหี้ยมาคอยสกัดแล้ว ทุกอย่างรัฐบาลอำนาจเดี่ยว เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สั่งปุ๊บ ทำปั๊บ มันถึงได้เร็วฟ้าผ่าเยี่ยงนี้ โมเดลนี้ ทำให้หลายชาติในโลกถึงได้ปลดแอกเหี้ยกันหมด อยู่กับเหี้ยมีแต่ฉิบหาย อยู่กับจีน รัสเซีย รวยไม่รู้ตัว? ที่สำคัญ ไม่ต้องไปปล้นเค้าแดร๊กเหมือนที่ผ่านมา? เมื่ออัฟกานิสถานแข็งแรง ชาติเพื่อนบ้านก็ตามสิจ๊ะ เส้นทางสายไหมใครไม่อยากได้ รถไฟมา ไฟ น้ำ ตาม การค้าเข้าถึง สินค้าจากทั่วโลกแห่เข้ามาถึงตัว ใครไม่อยากจะได้ จีนจ้องอัฟกานิสถานมานานแล้ว เพราะคือด่านหน้าเข้าตะวันออกกลาง แอฟริกา ตามสูตรเชื่อมโลกไงล่ะ ล่าสุด อีเหี้ยมะกันโชว์โง่ขน B-52 มาใกล้อิหร่าน ควายกว่านี้มีอีกมั้ย? อิหร่านมีอะไร? มรึงรู้จัก S-400 มั้ย ไอ้สัส? จะรอดมั้ยล่ะ? ขู่เค้าแต่ตัวเองไม่มีปัญญาสกัดขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคอิหร่านได้เลย แม้แต่ลูกเดียว เอาของเก่ามาอวด นี่มันปี 2024 แล้วน่ะ ดีออก? อีวอชิงตันไม่ตายคาตรีน คงไม่หายเสี้ยน รอมันฆ่ากันเองก่อน แล้วกูค่อยเข้าไปกระทืบซ้ำ อยากแตกแผ่นดินกันมากชิมิ? ล่าสุด สเปนเพิ่งจะตื่นรู้ รวมกันเราอยู่ แยกกันอยู่ ตายโหง! ระดมพล ทุกหน่วยงาน เพื่อนบ้านข้างเมือง ช่วยฟื้นบาเลนเซีย ยุโรปง่อยแดร๊ก พายุฝนกระหน่ำ น้ำท่วม ต้อนรับก่อนหิมะจะถล่มตามมา ไม่ต้องทำมาหาแดร๊กแล้วมรึงเอ๋ย? ภัยธรรมชาติมาก่อนมินิคุ๊กกี้รสชาเขียว ปูตินบอก กูไม่ต้องเหนื่อยเลย? อี NATO ยังเสี้ยนจะก่อสงครามต่อมุย? จะแดร๊กยังไม่มี? รับใช้อียิวมานานนับศตวรรษ กูว่ามรึงประกาศเป็นเมืองขึ้นเยรูซาเล็มไปเลยดีมุย? ควายยุโรปมันโง่ของจริง EGO อยู่เหนือเหตุผลและปากท้อง แม้แต่ชีวิตมรึงเองก็ยังแพ้ EGO ตัวมรึงเอง? เผ่าพันธุ์สวรรค์เหรอจ๊ะ ดีออก? พากันไปเยอะห่าแบบนี้ อียิวชอบ กูจะได้บ้านใหม่เร็วขึ้น! ข้ามวิกแป๊บ! หย่ายนักเหรอ ไอ้สัส! อีเหลี่ยมหน้าซีด เกมส์ชงเปิดหน้า อัยการ ปปช. ปปง. ศาล ตบเท้าเรียงคิว หลังธีรยุทธแจงหลักฐานชัด ฟ้องทุกเม็ด เก็บทุกดอก มาหมดทุกคดีเหี้ย อีเหลี่ยมถูกเรียกตัวแก้ต่าง ยื้อเวลา บิดไปมาไม่เลิก ธงเค้ามีไว้นานแล้ว แค่มาทำให้มันจบลงไปซะ จ่ายเฮอะ แล้วไสหัวไปซะ ทั้งวงศ์ตระกูล อีลูกสาวโดนแน่ 3 ดอก 3 เด้ง สุดท้ายเผ่นคือทางรอด ทรัพย์สินไม่ห่วง เรียกคืนได้หมด แค่ฟ้าเปลี่ยนสี และโลกเปลี่ยนมือ ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรทันที เพราะแสง เงิน 10000 อย่าคิดว่ารอด? รอสะเด็ดน้ำ เอาให้สุดซอย เรียงคิวตายคาสภา ยกพรรค ยกครม. ทันที 500 ตัว จะเหลือกี่ตัวกันหนอ? สว.สายเจ้าคึกคักพิเศษ เตรียมชี้เป้า โดนกันอีกเยอะ? อย่าหงุดหงิด เพราะสิ่งที่ทำ เพื่อไม่ให้มีใครตายเพิ่ม? วังไม่ใช่มรึง ฆ่าแกงมันง่าย แล้วมันจะต่างอะไรกับที่อีเหลี่ยมมันทำในตากใบล่ะ? แผนใหม่คือเล่นตัวบทกฎหมายที่โทษหนักกว่า เพื่อบีบให้เผ่นออกนอกทั้งโคตรขายชาติ วิญญานตากใบ ไม่มีวันสงบสุข หากเรื่องไม่เดินไปจนสุดทาง ตากใบยังมีประเด็นร้อนอีกเยอะ รอขุดเพิ่ม เรียงลำดับคิวอยู่ อย่าแซงคิว เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตัวจริง เค้ารู้อยู่ว่าทำอะไร? ให้เค้าทำหน้าที่ต่อไป มรึงรู้มั้ยว่า อะไรน่ากลัวกว่าความตาย? "การรอคอยความตายไงล่ะ" นี่คือโมเม้นต์ที่อีเหลี่ยมเหี้ยชาติชั่วและวงศ์ตระกูลมันกำลังลิ้มรสอยู่ มรึงคิดจริงๆ เหรอว่า คลังไทย สมบัติชาติ จะให้ไอ้อี ใครมาดูแลก็ได้ หากไม่มีความเห็นชอบจากวัง! ที่ผ่านมา ไทยรอดมาได้เพราะคลังเนี่ยแหละ ตั้งแต่ยุคร.3 เป็นต้นมา เรารู้ตัวว่า โลกกำลังจะล่าอาณานิคม สยามประเทศคือเหยื่อ 1 ในนั้นด้วย ที่ผ่านมาวังดูแลคลังหลวงมาโดยตลอด แม้แต่ปัจจุบัน คลังไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติฝ่ายการเมือง ผู้ว่าเป็นอิสระ แล้วไอ้อีขายชาติ มรึงเป็นใครจะเข้ามายึด? คำสั่งอีวอชิงตันเช่นเคย เพราะถังแตก อเมริกาหมดตูด ต้องไปปล้นเอาจากคลังชาวบ้าน หมายังรู้? ฝันเปียกอีกตามเคย ไม่ได้แดร๊กดอกน่ะ ไอ้ควาย! พ่อกูยังอยู่! อย่าฝันกลางวัน มาดูคืนหมาหอนในอเมริกากันน่ะ : อีทรัมปป์ โดนทุกทิศ สกัดดาวรุ่ง อียิวคลั่ง ขี้ข้ากูใครก็ได้ แต่ไม่เอาอีทรัมปป์ เพราะมันหักดิบเกิน คิดการใหญ่ จนกูควบคุมไม่ได้เต็มที่ โกงมาเต็มตรีน ปั่นยังไง คนก็ไม่เอาสงคราม คิดว่าอเมริกันควายไม่รู้รึไง? อีลามา WWIII มาแน่ สู้กับรัสเซีย จีน โสมแดง อิหร่าน คืออเมริกาตายโหงชัวร์ กระดูกคนละเบอร์ แต่หากฆ่ากันเอง ยังมีโอกาสรอด อเมริกันควายถึงได้เลือก CIVIL WAR ดีกว่า ฆ่ากันเองมันส์กว่าเยอะ สู้กับขั้วใหม่ คือตาย ไม่มีปราณี และตายห่ายกเมืองด้วยสิ? เหี้ย CIA และเหี้ยอีตาเพน เตรียมร่วมมือสกัดอีทรัมปป์จนออกนอกหน้า กูบอกเลยว่า หากอีทรัมปป์เข้ามาได้ พวกมรึงเสร็จแน่ โดนชำระแค้นไม่มีเหลือ? หั่นงบจนเหลือแต่แดร๊กกระดูกชัวร์ เพราะอีทรัมปป์ไม่เน้นรบ เน้นการค้า หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง กับสร้างอาณาจักร TRUMP LAND พวกสายสุดโต่ง HARDCORE ชอบ คลั่งอเมริกันพันธุ์แท้ ลูกผสม ผู้อพยพ ต่างด้าว เตรียมตัวถูกไล่ที่ได้เลย? ต้องผิวขาวพันธุ์แท้เท่านั้น นอกนั้น ส่วนเกิน! อเมริกาหมดสภาพ บรรดาเศรษฐี ขาใหญ่ ไฮโซ กลุ่ม ELITE ขนเงินออกนอกหมด แยกย้ายถิ่นฐาน อเมริกามันบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว โรงงานปิด แรงงานล้น ไร้บ้าน สวัสดิการหดหาย ใครมันจะอยากอยู่ต่อ ที่อื่นสบายกว่านี้ ไม่ต้องจ่ายภาษีแพงเพื่ออุ้มคนจน กับเอาไปก่อสงครามสนองตัณหาให้อียิว คนรวยไม่ได้โง่ดอกน่ะ? อเมริกาไม่แตกก็เหมือนแตก เพราะไม่มีรายได้ มีแต่จ่าย พิมพ์แบงค์เพื่อจ่ายหนี้ มรึงจะอยู่ต่อได้อีกนานแค่ไหนกันล่ะ? โลกเค้ารู้หมดแล้ว ปล.WWIII ไม่มา หากนุ๊กไม่มี แผนขั้วใหม่เริ่ด เชิด หยิ่ง บีบเศรษฐกิจ การค้า เวทีโลก แสนยานุภาพ ทำให้เหี้ยต้องแตกกำลัง สะเปะสะปะ ช่วยไม่สุด กลัวหลังบ้านพรุน อียิวว่าแน่ ยังเละเป็นโจ๊ก อเมริกาตายเพราะตัวมันเอง เลือกตั้งแค่หน้าฉาก อเมริกาไม่มีทางรอดจากการล่มสลาย เพราะหนี้มรึงเยอะเกินความสามารถจ่ายได้จริง แตกอเมริกาก็ใช่ว่าจะรอด โลกไม่ยอม ฉีกชิ้นเนื้อแบ่งขายตามสูตร โลกไม่ค้าขายกับมรึง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรแดร๊กล่ะ อียุโรปก็ย้ายขั้วไปเยอะแล้ว ฝั่งตะวันออกไปหมดเกลี้ยง แม้แต่อีแอบมานาน ยังต้องถอย BRICS เปลี่ยนโลกได้จริง เมื่อ 5 ปีก่อน ไม่มีใครคิดว่าดอลล่าร์จะล่มสลาย วันนี้ เป็นที่ประจักษ์ ตลาดโลกไม่รับดอลล่าร์ซื้อน้ำมัน ทองคำ แก็ส แร่หายากอีกต่อไป เพราะเจ้ามือเปลี่ยนไงล่ะ? เกมส์ตะวันออกกลางจะไม่ลามไปมากกว่านี้ ปล่อยโลกอาหรับลงแขกอียิวก็เหลือแหล่ มันถึงพยายามดึงรัสเซีย จีน เข้ามาในเกมส์นี้ แต่ทำไม่ได้ เพราะเค้าอ่านมรึงขาดกระจุย? บีบให้เหี้ยลงมือเอง ตรายางมัดตราสังข์รอไว้พร้อม UN WC หนีอียิวหมดแล้ว อาหรับ แอฟริกายึดสภาสหประชาชาติ มรึงยังจะเหลือเสียงที่ไหนมาหนุนได้อีก? ยกยังไงขั้วใหม่ก็ชนะขาด อีอูฐ วัวสันหลังหวะ ที่ไปไม่สุด เพราะยังมีการค้ากับเหี้ย แต่ก็ไม่อยากให้อี UAE แซงหน้า เพราะมันย้ายข้างชัดเจนก่อนแล้ว MBS ต้องชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะกรณีเยเมน แค่เปิดทางให้เยเมนเข้าพื้นที่ ประสาน 3 ฮอ ทุกอย่างจบเร็วทันที อียิวใช้น่านฟ้าอิรัก โจมตีอิหร่าน แต่แห้วแดร๊ก เพราะเค้ารู้ทัน ถามจริงเหอะ มรึงจะเที่ยวไปโวยวายหาพ่องทำไม อ้างโสมแดงช่วยรัสเซีย อ้างจีนช่วยรัสเซีย เค้าทำสัญญาทวิภาคีทั้งการค้า และการทหารกัน เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมระหว่างประเทศ มรึงไปเสือกเหี้ยอะไร? แล้วอีชาติหมานาโต้ 40 ชาติ ที่ไปช่วยยูเครนรบรัสเซีย มรึงแหกกฎหมายสากลไปแล้วเท่าไหร่ หมายังอาย? ตุ๊ด แต๋วแตกนี่หว่า? โลกเห็นเต็มตา ใครของจริง ใครของปลอม? กระจอกเสือกไม่เจียมกะลาหัว รัสเซีย ดาหน้าปูพรมอียูเครนจนไส้แตกทะลักแล้ว อีโปลชิงกราบตรีนสีจิ้นผิงให้ช่วย คำเดียวสั้นๆ หากอยากรอด แค่เปิดทางปูพรมแดงให้กองทัพ Z เดินฉลุยผ่านก็พอ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน ต้องบูชายันต์เท่านั้น ไม่ต้องถามอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง นกรู้ทั้งคู่ ใครจะโง่สิ้นชาติ สูญพันธุ์ เพื่ออียิวกันล่ะ? อีมาครงจบไม่สวยแน่ ถูกกาหัวหมาไว้นานแล้ว แม้ช่วงหลังจะพยายามทำผลงานชะเลียขั้วใหม่ก็ตามที เหี้ยอย่างมรึงต้อง "คาตรีน" เท่านั้น ทหารฝรั่งเศสตายห่าในยูเครนไปกี่พันแล้วล่ะ รัสเซียรู้หมด! ด้านอาเซียนยิ่งชัด ไปกันหมดทั้งกะปิ BRICS จ๋า ใครหมาล่ะ? อีลอดช่อง อีปินส์ นั่งมองตาปริบๆ ไม่รอดดอก อาเซียนไปเกือบหมด ยกเว้นขี้ข้าเหี้ยไงล่ะ? อีกไม่นานมรึงอาจจะช็อค เมื่อขี้ข้ายิวกลายร่าง เอาตัวรอด! จำไว้ว่า ในชาติอาเซียน นอกจากอีขะแมร์ที่ไว้ใจไม่ได้แล้ว อีเพื่อนบ้านตัวอิจฉาอย่างอีเสือเหลือง ยังมีอีลอดช่อง ที่อันตรายที่สุด อีตัวขโมย อีลอบกัด ไทยเราไม่เคยไว้ใจมันเลย เพราะมันล่อไทยตีเนียนหลายครั้งแล้ว งวดนี้ ฟ้าเปลี่ยนสี ถึงเวลาล่ออีนี่กลับบ้าง เกาะเล็กเท่าเหมี๊ยวดิ้นตาย จะยึดเมื่อไหร่ก็ได้ ไทยเป็นฮับอาเซียน อีลอดช่องตายห่าก่อนใครเพื่อน เพราะโลจิสติค ไม่ต้องผ่านมรึงอีกต่อไป แล้วมรึงจะเหลืออะไรอีก? อย่ามาซ่าส์กับศรีธนญชัยน่ะมรึง กูพริ้ว! หมี CNN(ไม่มีอะไรในโลกที่ไม่เปลี่ยนแปลง มันคือสัจธรรม อย่าคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่ได้ เหี้ยแค่ไหนก็กลับใจได้ หากแสงทำงาน กูเห็นมาเยอะแล้ว มรึงดูขี้ข้าอีแดงหลายตัวสิ แต่ก่อนหัวหมู่ทะลวงฟัน สู้กับเหลืองแทบตาย มาวันนี้ หันปากกระบอกปืนใส่นายใหญ่ซะงั้น อิทธิพลของแสง ใครไม่เรียนรู้ จะไม่มีวันเข้าใจ เหี้ยยังไง ก็กลัวตาย เอาตัวรอด คือสันดานขี้ข้า เอาชาติรอด คือนักสู้อโยธยา เลือดบางระจันมันเลือกอยู่กับคนที่ใช่เท่านั้น แผ่นดินคัดสรรผู้สมควรอยู่ต่อไว้นานแล้ว) 04 พฤศจิกายน 67 10.53 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 1668 Views 0 Reviews
  • 31 ตุลาคม 2567-SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep266 (live) ประเด็นร้อน“เงินเสน่หาพ่นพิษ ทนายตั้มรับศึกรอบด้าน สนธิลั่นสุดซอย อนาคตทนายตั้มจะเป็นอย่างไร?”เรื่องนี้ผมเดินสุดซอย “ษิทรา” รอได้เลย!!

    https://www.youtube.com/live/DBoBXojXVAk?si=dGDRgxnkzNXiz4NH

    #Thaitimes
    31 ตุลาคม 2567-SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep266 (live) ประเด็นร้อน“เงินเสน่หาพ่นพิษ ทนายตั้มรับศึกรอบด้าน สนธิลั่นสุดซอย อนาคตทนายตั้มจะเป็นอย่างไร?”เรื่องนี้ผมเดินสุดซอย “ษิทรา” รอได้เลย!! https://www.youtube.com/live/DBoBXojXVAk?si=dGDRgxnkzNXiz4NH #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    16
    1 Comments 0 Shares 1441 Views 3 Reviews
  • ไบแนนซ์ ออกโรงชี้แจงผ่านหนังสือด่วน หลังเกิดประเด็นร้อนจากการโอนเหรียญ USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ของหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งเชื่อมโยงกับ The iCON GROUP เข้ามายัง Binance Hot Wallet หลังเกิดกระแสสังคมสงสัยที่มาของเงินถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่

    ไบแนนซ์ระบุว่า "เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนของไบแนนซ์ ได้ดำเนินการติดต่อประสานงานโดยตรงกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทยเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งได้รับการชี้แจงว่าในขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไบแนนซ์ดำเนินงานโดยให้ความสำคัญในการต่อสู้กับการฉ้อโกงและต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ ผ่านการประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย" ฝ่ายสืบสวนของไบแนนซ์ ระบุ

    อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าหลังจากนี้จะมีการอายัดบัญชีและเหรียญ USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาทใน Binance Hot Wallet ซึ่งเกี่ยวข้องกับ The iCON GROUP เพื่อตรวจสอบตามกระบวนการทางกฏหมายหรือไม่ แม้ว่าทางไปแนนซ์จะยืนยันว่า "ประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย" แต่เนื่องจากขอบเขตการบังคับใช้กฏหมายของไทยอาจมีข้อจำกัดเฉพาะในราชอาณาจักร ทำให้การอายัดทรัพย์นอกราชอาณาจักรของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไทย ไม่สามารถทำได้โดยตรง เนื่องจากอำนาจของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไทยจำกัดอยู่ภายในราชอาณาจักร

    อย่างไรก็ตาม หากมีการสืบสวนพบว่าทรัพย์สินที่ต้องสงสัยอยู่ในต่างประเทศ หน่วยงานไทยสามารถขอความร่วมมือจากประเทศที่เกี่ยวข้อง ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรือความร่วมมือด้านกฎหมายในระดับนานาชาติ (MLAT) เพื่อให้อายัดหรือยึดทรัพย์สินที่อยู่นอกอาณาเขตของไทย

    ทั้งนี้การขอความร่วมมือเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและกฎหมายของประเทศที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ และจะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายของทั้งสองประเทศ อีกทั้ง ไบแนนซ์เอง ก็อยู่นอกเหนือการบังคับใช้กฏหมายของไทย ณ ปัจจุบัน Binance (ไบแนนซ์) ยังไม่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Exchange) ในประเทศไทยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำให้ในกรณีที่ยังไม่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการการดำเนินงานของไบแนน์ในประเทศไทย หรือเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทย จึงอาจถูกจำกัดทางกฏหมาย หรือ ล่าช้าเพิกเฉยได้

    อย่างไรก็ดี ทางสำนักงาน ก.ล.ต. แนะนำผู้ลงทุนในไทยควรใช้แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อความปลอดภัยทางกฎหมาย

    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000101004

    #Thaitimes
    ไบแนนซ์ ออกโรงชี้แจงผ่านหนังสือด่วน หลังเกิดประเด็นร้อนจากการโอนเหรียญ USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ของหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งเชื่อมโยงกับ The iCON GROUP เข้ามายัง Binance Hot Wallet หลังเกิดกระแสสังคมสงสัยที่มาของเงินถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ไบแนนซ์ระบุว่า "เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนของไบแนนซ์ ได้ดำเนินการติดต่อประสานงานโดยตรงกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทยเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งได้รับการชี้แจงว่าในขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไบแนนซ์ดำเนินงานโดยให้ความสำคัญในการต่อสู้กับการฉ้อโกงและต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ ผ่านการประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย" ฝ่ายสืบสวนของไบแนนซ์ ระบุ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าหลังจากนี้จะมีการอายัดบัญชีและเหรียญ USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาทใน Binance Hot Wallet ซึ่งเกี่ยวข้องกับ The iCON GROUP เพื่อตรวจสอบตามกระบวนการทางกฏหมายหรือไม่ แม้ว่าทางไปแนนซ์จะยืนยันว่า "ประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย" แต่เนื่องจากขอบเขตการบังคับใช้กฏหมายของไทยอาจมีข้อจำกัดเฉพาะในราชอาณาจักร ทำให้การอายัดทรัพย์นอกราชอาณาจักรของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไทย ไม่สามารถทำได้โดยตรง เนื่องจากอำนาจของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไทยจำกัดอยู่ภายในราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม หากมีการสืบสวนพบว่าทรัพย์สินที่ต้องสงสัยอยู่ในต่างประเทศ หน่วยงานไทยสามารถขอความร่วมมือจากประเทศที่เกี่ยวข้อง ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรือความร่วมมือด้านกฎหมายในระดับนานาชาติ (MLAT) เพื่อให้อายัดหรือยึดทรัพย์สินที่อยู่นอกอาณาเขตของไทย ทั้งนี้การขอความร่วมมือเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและกฎหมายของประเทศที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ และจะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายของทั้งสองประเทศ อีกทั้ง ไบแนนซ์เอง ก็อยู่นอกเหนือการบังคับใช้กฏหมายของไทย ณ ปัจจุบัน Binance (ไบแนนซ์) ยังไม่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Exchange) ในประเทศไทยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำให้ในกรณีที่ยังไม่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการการดำเนินงานของไบแนน์ในประเทศไทย หรือเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทย จึงอาจถูกจำกัดทางกฏหมาย หรือ ล่าช้าเพิกเฉยได้ อย่างไรก็ดี ทางสำนักงาน ก.ล.ต. แนะนำผู้ลงทุนในไทยควรใช้แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อความปลอดภัยทางกฎหมาย https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000101004 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    "ไบแนนซ์" แจงประเด็นร้อน "The iCON GROUP" หลัง USDT กว่า 8,223 ล้านโอนเข้า Binance Hot Wallet
    ไบแนนซ์ ออกโรงชี้แจงผ่านหนังสือด่วน หลังเกิดประเด็นร้อนจากการโอนเหรียญ USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ของหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งเชื่อมโยงกับ The iCON GROUP เข้ามายัง Binance Hot Wallet
    Like
    2
    1 Comments 0 Shares 686 Views 0 Reviews
  • บทวิจารณ์วิเคราะห์น่าสนใจจากเพจเฟซบุ๊ก“ลุงชูเต่า นั่งรถบางคัน”เกี่ยวกับประเด็นร้อน เรื่องการที่ The Icon ใช้สกุลเงินดิจิตอล เช่น USDT ไปให้พวกเทวดานั้น หลายคนที่ไม่ได้เล่นใน Defi ระดับลึกมากอาจไม่เข้าใจทั้งหมดว่ามันจะตามยากถึงยากที่สุด บางทีอาจอยู่ในระดับที่ตามไม่ได้มาจากสาเหตุใดกันบ้าง ไหนว่าโปร่งใส ตรวจสอบได้

    เริ่มแรกเอาแบบระดับใน Exchange ก่อน

    1.คำว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มันคือ การบอกว่า มีการโอนเงินนี้จริงนะ สำเร็จเรียบร้อย จากกระเป๋าต้นทางไปกระเป๋าปลายทาง แต่มันไม่ได้บอกว่ากระเป๋านี้คือใคร ???

    2.การ KYC ของ Exchange พอจะช่วยได้ระบุได้ว่า wallet ที่ถ้าเค้าโอนมาเข้า Exchange แต่ถ้าผมเป็นพวกรับเงินเทา เงินมืด ผมก็คงไม่เลือกเสี่ยงโอนมาในที่ๆระบุตัวตนผมได้หรอก

    3.การโอนไขว้ไปมาระหว่าง Exchange ระดับเบอร์ต้นๆกับปลายๆ ก็ทำให้ยากต่อการขอข้อมูลระบุตัวตน โอนเข้าไปโอนออกมาอีก wallet ฟอก wallet ผ่าน Exchange นี้ไม่นับเข้าเป็น USDT ออกมาเป็น USDC , เข้าเป็น USDT เชน ETH ออกมาเป็น USDT เชน OP

    4.บัญชีที่เปิดใช้ใน Exchange ก็ไม่รู้ว่าเป็นแค่บัญชีม้าระดับไหน เผลอๆเป็นคนตายแล้วอีกต่างหาก

    ถัดมาถ้าเป็นระดับ Defi ละ
    1.เลือกใช้ Bridge อาจแปลงจาก USDT เชน OP ไปเป็น Sui คือแปลงแบบ swap ซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญหนึ่งไปเป็นอีกเหรียญหนึ่ง

    2.ใช้พวกเชน Privacy อันนี้จะเป็นเชนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ถูกออกแบบมาให้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ข้อมูลธุรกรรมและผู้ใช้งานจะไม่ถูกเปิดเผยให้บุคคลภายนอกเห็น การติดตามก็เป็นไปไม่ได้เลย ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นจึงไม่รู้ลึกมาก แต่คิดว่าไม่ได้รับความนิยมเท่าไร เนื่องจากสุดท้ายมันก็ต้องโอนไปขายบน Exchange อยู่ดี แล้วมันก็พอมองออกว่าใครใช้น่าจะไม่เทาก็มืดอยู่

    3.ข้อนี้จะน่ากลัวสุด อยู่ในระดับสิ้นหวังกันไปเลย คือ ใช้ ทอร์นาโด หมุนปั่น
    หลักการมันคือ การที่เค้าเอา USDT ไปแปลงเป็น ETH ก่อน ถัดจากนั้นเค้าก็จะเอาไปฝากในแพทฟอร์มปั่น โดยมันจะมีการให้ฝากเป็นจำนวนคงที่ เช่น 1 ETH , 10 ETH , 100 ETH ถ้าเรามีอยู่ 549 ETH ก็ค่อยๆซอยไม้ฝากเข้าไป ซึ่งสมมติพอฝากเข้าไป 100 ETH แล้ว เราก็จะได้เลขรหัสเหมือนตั๋วสัญญาแลกเงิน เพื่อนำมาขึ้นเงิน 99 ETH (1 ETH ค่า Fees) อาจฝากวันนี้แต่อีก 3 ปีข้างหน้าค่อยมาเอาก็ได้ ใครที่พอมองภาพออกจะเห็นได้ว่าแล้วถ้ามีคนมาใช้งานแพทฟอร์มนี้เป็นร้อยๆคนต่อวันละ จะเกิดอะไรขึ้น มันก็คือการฟอกจนไม่รู้ว่าเงิน USDT ที่มีปัญหาจากคดีนี้ไปอยู่ที่ wallet ไหนแล้ว มันคือการตัดเส้นทาง wallet แรกเริ่มเดิมทีออกจากการติดตามไปเลย เช่น เราอาจตามคดี The Icon นี้ แต่เห็น wallet อีกเจ้าเพิ่งถอน 99 ETH จากระบบไป เค้าเอาไปขายบน Exchange แต่จริงๆแล้วอาจเป็นเงินค้ายาของประเทศอื่นซักที่ ไปติดตามก็ดันไม่ใช่คดีเราอีก สารพัดจะปัญหาในการสืบสวน ถัดมาสิ่งที่เป็นปัญหายังไม่จบ ใช่ว่าคนที่ฝาก ETH เข้าไปจะมีแต่พวกเงินมืด มันก็คือคนธรรมดาอย่างพวกเรานี้ละฝากเข้าไปช่วยระบบอีก เพราะมันได้ค่า Fees ที่เกิดขึ้นจากการปั่นในแต่ละครั้งด้วย จับคนพวกนี้ไปก็เหมือนคนธรรมดา จริงๆน่าจะจับข้อหาช่วยฟอกเงินแต่มันคนประเทศไหนอีกละ ผมว่านะถ้าเค้าเอาไปปั่น ยอมได้เลย เสียเวลาตาม ขนาดเป็นคดีระดับโลก มีคนทั้งโลกช่วยตามโอกาสตามได้อาจไม่ 0% แต่ต่ำ 1%

    สรุปก็คือ ถ้าพวกเทวดหรือแก๊ง call ใช้เงินดิจิตอลในการหลบ ความเป็นไปได้ที่จะติดตามเงินต่อจากนี้มันยากมากๆ ถ้าจะทำการแก้มันต้องเป็นวาระระดับโลก แล้วผมก็คิดว่าพวกนั้นน่าจะมีความรู้หรือเส้นทางการหลบ สูงกว่าที่ผมรู้ไปอีก

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/iDUmRiSSPwHgEret/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    บทวิจารณ์วิเคราะห์น่าสนใจจากเพจเฟซบุ๊ก“ลุงชูเต่า นั่งรถบางคัน”เกี่ยวกับประเด็นร้อน เรื่องการที่ The Icon ใช้สกุลเงินดิจิตอล เช่น USDT ไปให้พวกเทวดานั้น หลายคนที่ไม่ได้เล่นใน Defi ระดับลึกมากอาจไม่เข้าใจทั้งหมดว่ามันจะตามยากถึงยากที่สุด บางทีอาจอยู่ในระดับที่ตามไม่ได้มาจากสาเหตุใดกันบ้าง ไหนว่าโปร่งใส ตรวจสอบได้ เริ่มแรกเอาแบบระดับใน Exchange ก่อน 1.คำว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มันคือ การบอกว่า มีการโอนเงินนี้จริงนะ สำเร็จเรียบร้อย จากกระเป๋าต้นทางไปกระเป๋าปลายทาง แต่มันไม่ได้บอกว่ากระเป๋านี้คือใคร ??? 2.การ KYC ของ Exchange พอจะช่วยได้ระบุได้ว่า wallet ที่ถ้าเค้าโอนมาเข้า Exchange แต่ถ้าผมเป็นพวกรับเงินเทา เงินมืด ผมก็คงไม่เลือกเสี่ยงโอนมาในที่ๆระบุตัวตนผมได้หรอก 3.การโอนไขว้ไปมาระหว่าง Exchange ระดับเบอร์ต้นๆกับปลายๆ ก็ทำให้ยากต่อการขอข้อมูลระบุตัวตน โอนเข้าไปโอนออกมาอีก wallet ฟอก wallet ผ่าน Exchange นี้ไม่นับเข้าเป็น USDT ออกมาเป็น USDC , เข้าเป็น USDT เชน ETH ออกมาเป็น USDT เชน OP 4.บัญชีที่เปิดใช้ใน Exchange ก็ไม่รู้ว่าเป็นแค่บัญชีม้าระดับไหน เผลอๆเป็นคนตายแล้วอีกต่างหาก ถัดมาถ้าเป็นระดับ Defi ละ 1.เลือกใช้ Bridge อาจแปลงจาก USDT เชน OP ไปเป็น Sui คือแปลงแบบ swap ซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญหนึ่งไปเป็นอีกเหรียญหนึ่ง 2.ใช้พวกเชน Privacy อันนี้จะเป็นเชนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ถูกออกแบบมาให้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ข้อมูลธุรกรรมและผู้ใช้งานจะไม่ถูกเปิดเผยให้บุคคลภายนอกเห็น การติดตามก็เป็นไปไม่ได้เลย ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นจึงไม่รู้ลึกมาก แต่คิดว่าไม่ได้รับความนิยมเท่าไร เนื่องจากสุดท้ายมันก็ต้องโอนไปขายบน Exchange อยู่ดี แล้วมันก็พอมองออกว่าใครใช้น่าจะไม่เทาก็มืดอยู่ 3.ข้อนี้จะน่ากลัวสุด อยู่ในระดับสิ้นหวังกันไปเลย คือ ใช้ ทอร์นาโด หมุนปั่น หลักการมันคือ การที่เค้าเอา USDT ไปแปลงเป็น ETH ก่อน ถัดจากนั้นเค้าก็จะเอาไปฝากในแพทฟอร์มปั่น โดยมันจะมีการให้ฝากเป็นจำนวนคงที่ เช่น 1 ETH , 10 ETH , 100 ETH ถ้าเรามีอยู่ 549 ETH ก็ค่อยๆซอยไม้ฝากเข้าไป ซึ่งสมมติพอฝากเข้าไป 100 ETH แล้ว เราก็จะได้เลขรหัสเหมือนตั๋วสัญญาแลกเงิน เพื่อนำมาขึ้นเงิน 99 ETH (1 ETH ค่า Fees) อาจฝากวันนี้แต่อีก 3 ปีข้างหน้าค่อยมาเอาก็ได้ ใครที่พอมองภาพออกจะเห็นได้ว่าแล้วถ้ามีคนมาใช้งานแพทฟอร์มนี้เป็นร้อยๆคนต่อวันละ จะเกิดอะไรขึ้น มันก็คือการฟอกจนไม่รู้ว่าเงิน USDT ที่มีปัญหาจากคดีนี้ไปอยู่ที่ wallet ไหนแล้ว มันคือการตัดเส้นทาง wallet แรกเริ่มเดิมทีออกจากการติดตามไปเลย เช่น เราอาจตามคดี The Icon นี้ แต่เห็น wallet อีกเจ้าเพิ่งถอน 99 ETH จากระบบไป เค้าเอาไปขายบน Exchange แต่จริงๆแล้วอาจเป็นเงินค้ายาของประเทศอื่นซักที่ ไปติดตามก็ดันไม่ใช่คดีเราอีก สารพัดจะปัญหาในการสืบสวน ถัดมาสิ่งที่เป็นปัญหายังไม่จบ ใช่ว่าคนที่ฝาก ETH เข้าไปจะมีแต่พวกเงินมืด มันก็คือคนธรรมดาอย่างพวกเรานี้ละฝากเข้าไปช่วยระบบอีก เพราะมันได้ค่า Fees ที่เกิดขึ้นจากการปั่นในแต่ละครั้งด้วย จับคนพวกนี้ไปก็เหมือนคนธรรมดา จริงๆน่าจะจับข้อหาช่วยฟอกเงินแต่มันคนประเทศไหนอีกละ ผมว่านะถ้าเค้าเอาไปปั่น ยอมได้เลย เสียเวลาตาม ขนาดเป็นคดีระดับโลก มีคนทั้งโลกช่วยตามโอกาสตามได้อาจไม่ 0% แต่ต่ำ 1% สรุปก็คือ ถ้าพวกเทวดหรือแก๊ง call ใช้เงินดิจิตอลในการหลบ ความเป็นไปได้ที่จะติดตามเงินต่อจากนี้มันยากมากๆ ถ้าจะทำการแก้มันต้องเป็นวาระระดับโลก แล้วผมก็คิดว่าพวกนั้นน่าจะมีความรู้หรือเส้นทางการหลบ สูงกว่าที่ผมรู้ไปอีก ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/iDUmRiSSPwHgEret/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    2 Comments 0 Shares 795 Views 0 Reviews
More Results