• พระผู้ใหญ่ใฝ่ราคะ เย่อกามในผ้าเหลือง

    ยุคเสื่อมพระพุทธศาสนาไทย จากเจ้าคุณแย้ม วัดไร่ขิง นครปฐม ติดพันสาวเว็บพนัน สู่ปรากฎการณ์ที่พิธีกรข่าว วารินทร์ สัจจเดว ตั้งขึ้นว่า "วันอาสาราคะลาสึกบูชา" พระสงฆ์ที่ครองสมณศักดิ์ระดับสูงหลายคณะภาค ร่วมใช้สีกาคนเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย พร้อมใจกันลาสิกขาโดยละม่อม หลังตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์จากสีกา พบภาพสัมพันธ์ต้องห้ามกว่า 8 หมื่นไฟล์ การันตีด้วยผลงานเจ้าอาวาสวัดดังทั่วไทย ไล่ตั้งแต่วัดตรีทศเทพ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ วัดพระพุทธฉาย สระบุรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา หนังสือพิมพ์หัวสีไทยรัฐถึงกับใช้คำว่า "เย่อกามในผ้าเหลือง"

    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดยหลวงตาเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เช็กหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างสีกากอล์ฟ วัย 35 ปี สาวคนสนิทอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร วัย 54 ปี ลาสิกขาสายฟ้าแลบที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. แล้วพบว่าสีกากอล์ฟมีเซ็กซ์กับพระชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูป ตรวจค้นบ้านพบจีวรนับสิบผืน เมื่อยึดมือถือ 5 เครื่องไปตรวจสอบเป็นต้องผงะ พบคลิปพระผู้ใหญ่เย่อกามกว่า 8 หมื่นภาพ ชุดสืบสวนต้องดูกันตาแฉะ เพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดี

    ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง แต่เมื่อเป็นปลาตัวใหญ่เลยเหม็นนานกว่า สังคมไทยในฐานะเมืองพุทธถึงกับเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา บางคนถึงกับเลิกเข้าวัด เลิกบริจาคเงินให้กับวัด หันไปบริจาคให้โรงพยาบาลและโรงเรียนแทน ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งคำถามถึงการที่สาธุชนถวายเงินให้กับพระโดยตรง รวมทั้งการจัดงานประจำปีและงานบุญต่างๆ ที่ทำรายได้จากการประมูลร้านค้า และเงินบริจาคที่เป็นเงินสดจำนวนมหาศาล กลายเป็นการสร้างความมั่งคั่งแก่พระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ต่อยอดสู่การเป็นพุทธพาณิชย์เต็มตัว ลืมเลือนแม้แต่บทสวดมนต์ "อะระหะโต ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส"

    พระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ เตือนใจว่า แม้พระชั้นผู้ใหญ่รู้ธรรมะสูงก็ยังพลั้งเผลอได้ จึงไม่ควรประมาทในชีวิต ความสุขชั่วคราวจากการทุจริต การทำชั่วบางอย่างนำไปสู่ความล่มจม เป็นบทเรียนสอนให้ไม่ประมาท มีสติ เกิดปัญญา จะไม่นับถือพระก็ได้แต่อย่าทิ้งพระรัตนตรัย การบูชาที่แท้จริงคือการปฏิบัติบูชา อย่าเพียงแค่บูชาดอกไม้ธูปเทียน ส่วนพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ระบุว่า ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ปัจจัยมาจาก 3 ส. คือ สติ สตางค์ และสล็อต พร้อมขอชาวพุทธอย่าทิ้งศาสนาไว้ข้างหลัง อนาคตสังคมอาจวิกฤต

    #Newskit
    พระผู้ใหญ่ใฝ่ราคะ เย่อกามในผ้าเหลือง ยุคเสื่อมพระพุทธศาสนาไทย จากเจ้าคุณแย้ม วัดไร่ขิง นครปฐม ติดพันสาวเว็บพนัน สู่ปรากฎการณ์ที่พิธีกรข่าว วารินทร์ สัจจเดว ตั้งขึ้นว่า "วันอาสาราคะลาสึกบูชา" พระสงฆ์ที่ครองสมณศักดิ์ระดับสูงหลายคณะภาค ร่วมใช้สีกาคนเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย พร้อมใจกันลาสิกขาโดยละม่อม หลังตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์จากสีกา พบภาพสัมพันธ์ต้องห้ามกว่า 8 หมื่นไฟล์ การันตีด้วยผลงานเจ้าอาวาสวัดดังทั่วไทย ไล่ตั้งแต่วัดตรีทศเทพ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ วัดพระพุทธฉาย สระบุรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา หนังสือพิมพ์หัวสีไทยรัฐถึงกับใช้คำว่า "เย่อกามในผ้าเหลือง" ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดยหลวงตาเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เช็กหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างสีกากอล์ฟ วัย 35 ปี สาวคนสนิทอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร วัย 54 ปี ลาสิกขาสายฟ้าแลบที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. แล้วพบว่าสีกากอล์ฟมีเซ็กซ์กับพระชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูป ตรวจค้นบ้านพบจีวรนับสิบผืน เมื่อยึดมือถือ 5 เครื่องไปตรวจสอบเป็นต้องผงะ พบคลิปพระผู้ใหญ่เย่อกามกว่า 8 หมื่นภาพ ชุดสืบสวนต้องดูกันตาแฉะ เพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดี ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง แต่เมื่อเป็นปลาตัวใหญ่เลยเหม็นนานกว่า สังคมไทยในฐานะเมืองพุทธถึงกับเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา บางคนถึงกับเลิกเข้าวัด เลิกบริจาคเงินให้กับวัด หันไปบริจาคให้โรงพยาบาลและโรงเรียนแทน ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งคำถามถึงการที่สาธุชนถวายเงินให้กับพระโดยตรง รวมทั้งการจัดงานประจำปีและงานบุญต่างๆ ที่ทำรายได้จากการประมูลร้านค้า และเงินบริจาคที่เป็นเงินสดจำนวนมหาศาล กลายเป็นการสร้างความมั่งคั่งแก่พระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ต่อยอดสู่การเป็นพุทธพาณิชย์เต็มตัว ลืมเลือนแม้แต่บทสวดมนต์ "อะระหะโต ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส" พระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ เตือนใจว่า แม้พระชั้นผู้ใหญ่รู้ธรรมะสูงก็ยังพลั้งเผลอได้ จึงไม่ควรประมาทในชีวิต ความสุขชั่วคราวจากการทุจริต การทำชั่วบางอย่างนำไปสู่ความล่มจม เป็นบทเรียนสอนให้ไม่ประมาท มีสติ เกิดปัญญา จะไม่นับถือพระก็ได้แต่อย่าทิ้งพระรัตนตรัย การบูชาที่แท้จริงคือการปฏิบัติบูชา อย่าเพียงแค่บูชาดอกไม้ธูปเทียน ส่วนพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ระบุว่า ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ปัจจัยมาจาก 3 ส. คือ สติ สตางค์ และสล็อต พร้อมขอชาวพุทธอย่าทิ้งศาสนาไว้ข้างหลัง อนาคตสังคมอาจวิกฤต #Newskit
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • สิ่งดียวที่ผมเชื่อ คือ การลงมือทำด้วยตัวของตัวเอง เคยอวดภูมิ สุดท้าย ภูมิอ่อนจนไม่สามารถแสดงอะไรออกได้แล้ว แต่ก็ต้องทำต่อไป ทำต่อเนื่อง และทำมาตลอด ถึงจะเห็นผล ยิ่งทำมานานๆยิ่งดี
    ส่วนเรื่องที่แชทจากใครบางคน นานหลายปีแล้ว แชทบอกให้ส่งต่อคนอื่นๆ แบบลูกโซ่ บอกแล้ว ผมไม่ทำและไม่อยากทำ เพราะสร้างความรำคาญให้ผู้อื่นไม่พอ เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วย สุดท้ายผมก็ไม่เชื่อแชทลูกโซ่แบบว่า ความเชื่อ บลาๆๆ
    สิ่งเดียวที่ผมศรัทธา คือ การลงมือทำต้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาเบียดเบียนใครให้เดือดร้อนเพราะตนเอง
    ความเชื่อตามอ้างโบราณกาล ความเชื่อตามมโนไร้ซึ่งเหตุผล สุดท้ายทำให้ผมต้องสละจากความเชื่อที่เป็นความเห็นผิดเกือบทั้งหมด ใช้ชีวิตตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็พอแล้ว ได้กลับมากินเนื้อวัวหลังจากที่จมอยู่กับความเห็นผิดมานาน จากนั้นก็จะกินเนื้อกวาง เนื้อเก้ง เนื้อแกะ เนื้อแพะ ต่อ
    พิภพมัจจุราช ตอน ลัทธิกรรม ทำให้รู้เลยว่า การแก้กรรมด้วยวิธีการนอกรีตหรือขัดแย้งกับหลักคำสอน ซึ่งเบื้องหลังขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ล้วนๆ มีการค้าขายสัตว์โดยทุจริต และการหากินกับสายมูนั้น ไม่ใช่ทางของผมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะการหากินกับสายมู หากินกับความเชื่อ ผิดหลักคำสอนประพุทธเจ้ามาตลอด ผมเลยเลือกอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความเป็นจริง และอยู่กับอริยสัจ ๔
    ตัวละครหลักในเรื่องลัทธิกรรมที่ต้องลงนรกจากขุมลึกที่สุดไปจนถึงขุมที่ตื้นที่สุด ภูมิหลังคือ กระทำอนันตริยกรรม โดยการ สังหารมารดาตนเองโดยขาดสติ และต่อมา สร้างปัจจัยหากินกับวัดโดยทุจริต ฮุบเงินบริจาควัด ใส่ร้ายเจ้าอาวาส และได้เงินที่ทุจริตมาสร้างภาพให้คนเองเป็นคนดี หลอกให้เชื่อเรื่องแก้กรรมตามวิถีนอกรีต สายมู และหากินเบื้องหลังโดยทุจริต แต่ที่แท้หาผลประโยชน์จากความเห็นผิดผู้อื่นและความงมงายผู้อื่น นำมาซึ่งกรรมหนักสะสมหนักขึ้นๆจนเกิดวิบากกรรมขึ้นมา ไม่ว่าจะ 3 ปีผ่านไป 7 ปีผ่านไป หรือ 14 ปีผ่านไป (7 ปีผ่านไป อันนี้เมคเนื้อเรื่องตามชื่อช่อง 7 เพราะในขณะนั้นฉายช่อง 7 ก่อนซีซั่นต่อไป เปิดกล้อยฉายออกช่อง 3 ส่วนช่อง 3 อันนี้ผมไม่รู้)
    ทำธุรกิจสายมู หากินกับผู้หลงงมงาย ผู้โง่เขลา ผู้มีความเห็นผิด ผมไม่อยากจะทำด้วยซ้ำ ภูมิหลังไม่รู้ก่อคดีร้ายแรงอะไรมาก่อน และในตัวเขามีสันดานเลวทรามอะไรบ้าง ผมขอทำธุรกิจสายโลกาภิวัฒน์ เทคโนโลยีและเทคนิคต่างๆดีกว่ามาทำธุรกิจความเชื่อ
    จบคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปวช. แต่ยังต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบนโลกอินเทอร์เน็ต ฟรีแลนซ์ รับงานผ่านอินเทอร์เน็ต อีกเยอะแยะ อันนั้นผมมาถูกทางแล้ว ที่ผ่านมาผิดทางเพราะ เป็นลูกจ้าง หรือ อ่านหนังสือสอบบรรจุอย่างเดียว ผมต้องคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเงินถึงเข้ามาหาเรามากๆ
    สิ่งดียวที่ผมเชื่อ คือ การลงมือทำด้วยตัวของตัวเอง เคยอวดภูมิ สุดท้าย ภูมิอ่อนจนไม่สามารถแสดงอะไรออกได้แล้ว แต่ก็ต้องทำต่อไป ทำต่อเนื่อง และทำมาตลอด ถึงจะเห็นผล ยิ่งทำมานานๆยิ่งดี ส่วนเรื่องที่แชทจากใครบางคน นานหลายปีแล้ว แชทบอกให้ส่งต่อคนอื่นๆ แบบลูกโซ่ บอกแล้ว ผมไม่ทำและไม่อยากทำ เพราะสร้างความรำคาญให้ผู้อื่นไม่พอ เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วย สุดท้ายผมก็ไม่เชื่อแชทลูกโซ่แบบว่า ความเชื่อ บลาๆๆ สิ่งเดียวที่ผมศรัทธา คือ การลงมือทำต้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาเบียดเบียนใครให้เดือดร้อนเพราะตนเอง ความเชื่อตามอ้างโบราณกาล ความเชื่อตามมโนไร้ซึ่งเหตุผล สุดท้ายทำให้ผมต้องสละจากความเชื่อที่เป็นความเห็นผิดเกือบทั้งหมด ใช้ชีวิตตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็พอแล้ว ได้กลับมากินเนื้อวัวหลังจากที่จมอยู่กับความเห็นผิดมานาน จากนั้นก็จะกินเนื้อกวาง เนื้อเก้ง เนื้อแกะ เนื้อแพะ ต่อ พิภพมัจจุราช ตอน ลัทธิกรรม ทำให้รู้เลยว่า การแก้กรรมด้วยวิธีการนอกรีตหรือขัดแย้งกับหลักคำสอน ซึ่งเบื้องหลังขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ล้วนๆ มีการค้าขายสัตว์โดยทุจริต และการหากินกับสายมูนั้น ไม่ใช่ทางของผมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะการหากินกับสายมู หากินกับความเชื่อ ผิดหลักคำสอนประพุทธเจ้ามาตลอด ผมเลยเลือกอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความเป็นจริง และอยู่กับอริยสัจ ๔ ตัวละครหลักในเรื่องลัทธิกรรมที่ต้องลงนรกจากขุมลึกที่สุดไปจนถึงขุมที่ตื้นที่สุด ภูมิหลังคือ กระทำอนันตริยกรรม โดยการ สังหารมารดาตนเองโดยขาดสติ และต่อมา สร้างปัจจัยหากินกับวัดโดยทุจริต ฮุบเงินบริจาควัด ใส่ร้ายเจ้าอาวาส และได้เงินที่ทุจริตมาสร้างภาพให้คนเองเป็นคนดี หลอกให้เชื่อเรื่องแก้กรรมตามวิถีนอกรีต สายมู และหากินเบื้องหลังโดยทุจริต แต่ที่แท้หาผลประโยชน์จากความเห็นผิดผู้อื่นและความงมงายผู้อื่น นำมาซึ่งกรรมหนักสะสมหนักขึ้นๆจนเกิดวิบากกรรมขึ้นมา ไม่ว่าจะ 3 ปีผ่านไป 7 ปีผ่านไป หรือ 14 ปีผ่านไป (7 ปีผ่านไป อันนี้เมคเนื้อเรื่องตามชื่อช่อง 7 เพราะในขณะนั้นฉายช่อง 7 ก่อนซีซั่นต่อไป เปิดกล้อยฉายออกช่อง 3 ส่วนช่อง 3 อันนี้ผมไม่รู้) ทำธุรกิจสายมู หากินกับผู้หลงงมงาย ผู้โง่เขลา ผู้มีความเห็นผิด ผมไม่อยากจะทำด้วยซ้ำ ภูมิหลังไม่รู้ก่อคดีร้ายแรงอะไรมาก่อน และในตัวเขามีสันดานเลวทรามอะไรบ้าง ผมขอทำธุรกิจสายโลกาภิวัฒน์ เทคโนโลยีและเทคนิคต่างๆดีกว่ามาทำธุรกิจความเชื่อ จบคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปวช. แต่ยังต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบนโลกอินเทอร์เน็ต ฟรีแลนซ์ รับงานผ่านอินเทอร์เน็ต อีกเยอะแยะ อันนั้นผมมาถูกทางแล้ว ที่ผ่านมาผิดทางเพราะ เป็นลูกจ้าง หรือ อ่านหนังสือสอบบรรจุอย่างเดียว ผมต้องคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเงินถึงเข้ามาหาเรามากๆ
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้.
    ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย,
    ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ
    ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย.

    https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้. ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย, ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย. https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • “อังเคิลกุ้ง”เดินทางร่วมกิจกรรมโรงเรียนเก่า ลั่นหลังเกษียณไม่เล่นการเมือง ส่วนเงินบริจาค 20 กว่าล้านบาทจากกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นกองทัพมีความคิดว่าจะนำไปพัฒนยุทโธปกรณ์ตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มสมรรถภาพให้เพื่อนทหารมีความปลอดภัยมากที่สุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061614

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “อังเคิลกุ้ง”เดินทางร่วมกิจกรรมโรงเรียนเก่า ลั่นหลังเกษียณไม่เล่นการเมือง ส่วนเงินบริจาค 20 กว่าล้านบาทจากกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นกองทัพมีความคิดว่าจะนำไปพัฒนยุทโธปกรณ์ตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มสมรรถภาพให้เพื่อนทหารมีความปลอดภัยมากที่สุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061614 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Love
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 468 Views 0 Reviews
  • สู้แล้วรวยบ้านพ่อง!
    ไม่รวยก็สู้ได้ถ้ามีใจ
    กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน
    ยกเงิน 26 ล้านให้กองทัพ
    ไม่ใช่แดง-ส้ม ปล้นเงินบริจาค
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สู้แล้วรวยบ้านพ่อง! ไม่รวยก็สู้ได้ถ้ามีใจ กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ยกเงิน 26 ล้านให้กองทัพ ไม่ใช่แดง-ส้ม ปล้นเงินบริจาค #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • 'ปานเทพ' ชวนจับตา ‘สนธิ‘ ปราศรัย ลั่นรอดูจบคืนนี้แล้วรัฐบาลมีสำนึกหรือไม่ ชี้ยอดเงินบริจาค 24 ล้าน สะท้อนการชุมนุมไม่มีนายทุน จะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ให้รอฟัง 'จตุพร-ทนายนกเขา' กล่าวปิด

    วันนี้ (28 มิ.ย. 68) ที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ปละประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินในวันนี้ ว่า มีประชาชน เดินทางมาตั้งแต่ช่วง 12:00 น. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา วันนี้ก็เดินทางกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า ถือว่ามาก่อนกำหนดเวลาที่คิดเอาไว้เยอะมาก ส่วนหนึ่งทยอยมาจากต่างจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดรายงานว่าอยู่ระหว่างการเดินทาง บางส่วนจะมาให้ทันก่อนการเคารพธงชาติร่วมกันในเวลา 18:00 น. เชื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า มีประชาชนให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ ด้วยความหลากหลายของผู้คนมากสีเสื้อ

    ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงในกรุงเทพมหานครอย่างเดียวแล้ว เหล่าทราบว่าหลายจังหวัดมีการจัดกิจกรรมบริเวณหน้าศาลาการจังหวัดด้วย ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ วันนี้ไม่มีอะไรกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการขึ้นปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ขอให้รอติดตามว่า นายสนธิจะส่งสารอย่างไร เพราะนายสนธิไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยมานานมากแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060960

    #Thaitimes #MGROnline #ปานเทพ #สนธิ #ม็อบ28มิถุนา #รวมพลังแผ่นดิน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #แพทองธารชินวัตร
    'ปานเทพ' ชวนจับตา ‘สนธิ‘ ปราศรัย ลั่นรอดูจบคืนนี้แล้วรัฐบาลมีสำนึกหรือไม่ ชี้ยอดเงินบริจาค 24 ล้าน สะท้อนการชุมนุมไม่มีนายทุน จะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ให้รอฟัง 'จตุพร-ทนายนกเขา' กล่าวปิด • วันนี้ (28 มิ.ย. 68) ที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ปละประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินในวันนี้ ว่า มีประชาชน เดินทางมาตั้งแต่ช่วง 12:00 น. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา วันนี้ก็เดินทางกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า ถือว่ามาก่อนกำหนดเวลาที่คิดเอาไว้เยอะมาก ส่วนหนึ่งทยอยมาจากต่างจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดรายงานว่าอยู่ระหว่างการเดินทาง บางส่วนจะมาให้ทันก่อนการเคารพธงชาติร่วมกันในเวลา 18:00 น. เชื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า มีประชาชนให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ ด้วยความหลากหลายของผู้คนมากสีเสื้อ • ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงในกรุงเทพมหานครอย่างเดียวแล้ว เหล่าทราบว่าหลายจังหวัดมีการจัดกิจกรรมบริเวณหน้าศาลาการจังหวัดด้วย ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ วันนี้ไม่มีอะไรกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการขึ้นปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ขอให้รอติดตามว่า นายสนธิจะส่งสารอย่างไร เพราะนายสนธิไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยมานานมากแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060960 • #Thaitimes #MGROnline #ปานเทพ #สนธิ #ม็อบ28มิถุนา #รวมพลังแผ่นดิน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #แพทองธารชินวัตร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • 'ปานเทพ' ชวนจับตา ‘สนธิ‘ ปราศรัย ลั่นรอดูจบคืนนี้แล้วรัฐบาลมีสำนึกหรือไม่ ชี้ยอดเงินบริจาค 24 ล้าน สะท้อนการชุมนุมไม่มีนายทุน จะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ให้รอฟัง 'จตุพร-ทนายนกเขา' กล่าวปิด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060962

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    'ปานเทพ' ชวนจับตา ‘สนธิ‘ ปราศรัย ลั่นรอดูจบคืนนี้แล้วรัฐบาลมีสำนึกหรือไม่ ชี้ยอดเงินบริจาค 24 ล้าน สะท้อนการชุมนุมไม่มีนายทุน จะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ให้รอฟัง 'จตุพร-ทนายนกเขา' กล่าวปิด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060962 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Love
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 613 Views 0 Reviews
  • “หลวงปู่ศิลา” พระเกจิดังภาคอีสาน มอบเงินบริจาคให้ “มทภ.2” สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ในการดูแลประเทศชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/19154/
    “หลวงปู่ศิลา” พระเกจิดังภาคอีสาน มอบเงินบริจาคให้ “มทภ.2” สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ในการดูแลประเทศชาติ https://www.thai-tai.tv/news/19154/
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • ตกลงเรามีทางให้เลือกมากกว่านี้ไหม ระหว่างไอ้พรรคล้มล้าง ที่โอ่ว่า "ยิ่งยุบยิ่งโต" โตอีท่าไหนไร้เงินบริจาค ส่วนอีกพรรคก็แอบอ้างหาผลประโยชน์ ยังกล้าเย้ยไม่ละอายปากว่า "ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ยิ่งยุบยิ่งโต
    #ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่
    #อนุทิน
    #ยิ่งยุบยิ่งดับ
    ตกลงเรามีทางให้เลือกมากกว่านี้ไหม ระหว่างไอ้พรรคล้มล้าง ที่โอ่ว่า "ยิ่งยุบยิ่งโต" โตอีท่าไหนไร้เงินบริจาค ส่วนอีกพรรคก็แอบอ้างหาผลประโยชน์ ยังกล้าเย้ยไม่ละอายปากว่า "ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่" #คิงส์โพธิ์แดง #ยิ่งยุบยิ่งโต #ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่ #อนุทิน #ยิ่งยุบยิ่งดับ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • ที่พุทธคยา ช่วง หกโมงเย็น ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568ขณะที่ต่อแถวเพื่อเข้าไปไหว้พระพุทธเมตตา ภายในองค์พระเจดีย์วันนั้นแถวยาวมาก ประมาณร้อยกว่าเมตรตั้งแต่องค์พระเจดีย์ถึงเสาอโศก( ตีนบันไดที่ลงมาจากประตูเข้า) แถวหักศอกไปทาง สระมุจลินทร์จำลองเนื่องจากแถวยาวมาก คิดว่าคงนานกว่าจะได้เข้าถึงพระพุทธเมตตา ในใจไม่ต้องการให้ใครแซงคิว จึงคิดว่าถ้าใครแซงคิวต่อหน้าจะถามว่า What country are you from? Bad manner!และทันใดนั้นหนุ่มอินเดียคนหนึ่งนอกแถว ก็ทักมาเป็นภาษาไทย "คนไทยใช่ไหม ผมทำงานที่ประเทศไทย 5ปี ที่ รพ.จุฬา พระพุทธเมตตาจะปิดแล้ว อยากเข้าไป ตามผมมา" เขาชวนผมงงๆ แต่ก็ออกจากแถวเดินตามเขาไป แม้ตอนแรกจะลังเลนิดหน่อยเมื่อเดินตามเขาไปถึงประตูทางเข้า ยามผู้หญิง โยกเอียงคอ อนุญาตให้เดินเข้าไปได้ ทางช่องทางเดินออกผมส่ายหัว No No!แล้วคนที่พาผมมาก็ขอเงินบริจาคค่าสนับสนุนการศึกษา เขาบอก บริจาคจริง ไม่โกหก แต่ผมไม่เชื่อ ให้เขาไป250 รูปี เขาบอกต้อง 500 รูปี ผมไม่ให้ เพิ่ม บอกให้ได้แค่นี้ แล้วผมก็กลับมาต่อแถวเหมือนเดิมไงล่ะ! ถูกพระทดสอบ แค่เพียงคิดในใจนะนี่
    ที่พุทธคยา ช่วง หกโมงเย็น ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568ขณะที่ต่อแถวเพื่อเข้าไปไหว้พระพุทธเมตตา ภายในองค์พระเจดีย์วันนั้นแถวยาวมาก ประมาณร้อยกว่าเมตรตั้งแต่องค์พระเจดีย์ถึงเสาอโศก( ตีนบันไดที่ลงมาจากประตูเข้า) แถวหักศอกไปทาง สระมุจลินทร์จำลองเนื่องจากแถวยาวมาก คิดว่าคงนานกว่าจะได้เข้าถึงพระพุทธเมตตา ในใจไม่ต้องการให้ใครแซงคิว จึงคิดว่าถ้าใครแซงคิวต่อหน้าจะถามว่า What country are you from? Bad manner!และทันใดนั้นหนุ่มอินเดียคนหนึ่งนอกแถว ก็ทักมาเป็นภาษาไทย "คนไทยใช่ไหม ผมทำงานที่ประเทศไทย 5ปี ที่ รพ.จุฬา พระพุทธเมตตาจะปิดแล้ว อยากเข้าไป ตามผมมา" เขาชวนผมงงๆ แต่ก็ออกจากแถวเดินตามเขาไป แม้ตอนแรกจะลังเลนิดหน่อยเมื่อเดินตามเขาไปถึงประตูทางเข้า ยามผู้หญิง โยกเอียงคอ อนุญาตให้เดินเข้าไปได้ ทางช่องทางเดินออกผมส่ายหัว No No!แล้วคนที่พาผมมาก็ขอเงินบริจาคค่าสนับสนุนการศึกษา เขาบอก บริจาคจริง ไม่โกหก แต่ผมไม่เชื่อ ให้เขาไป250 รูปี เขาบอกต้อง 500 รูปี ผมไม่ให้ เพิ่ม บอกให้ได้แค่นี้ แล้วผมก็กลับมาต่อแถวเหมือนเดิมไงล่ะ! ถูกพระทดสอบ แค่เพียงคิดในใจนะนี่
    0 Comments 0 Shares 455 Views 0 Reviews
  • โรงพยาบาลวัดไร่ขิง เจ้าคุณแย้มไม่ใยดี

    การตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังจับกุมนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (เจ้าคุณแย้ม) อายุ 69 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ข้อหายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาทเล่นพนันออนไลน์ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การตรวจสอบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิง 53 บัญชี พบว่ามี 2 บัญชีที่เปิดเพื่อรับเงินจาคตู้บริจาคในนามของมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แต่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลว่า ทางวัดไม่ได้สนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาลมานานกว่า 3 ปี และจากการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร ทั้ง 2 บัญชี พบว่ามีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงแค่ล้านกว่าบาท

    ในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เคยได้รับเงินสนับสนุนด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม ผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ แต่ในช่วงปี 2564-2565 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี ซึ่งบัญชีมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ มีเจ้าคุณแย้มเป็นประธานมูลนิธิและผู้มีอำนาจเบิกถอน ทำให้ พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชนอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม

    แม้โรงพยาบาลจะขออนุญาตจากคณะกรรมการวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้ และส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด แต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิเดิม และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

    สำหรับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ก่อตั้งเมื่อปี 2532 โดยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปัญฺโญ) ขณะเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนักพัฒนา มรณภาพเมื่อปี 2551 โดยจัดสร้างโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ด้วยเงินบริจาคกว่า 95.77 ล้านบาท สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านจักษุวิทยา เพื่อก้าวสู่สถาบันจักษุวิทยาแห่งชาติในอนาคต การให้บริการเป็น 2 ลักษณะคือ สถาบันจักษุวิทยา และโรงพยาบาลทั่วไประดับตติยภูมิ เน้นโรคที่เกี่ยวข้องกับเด็กและผู้สูงอายุ

    สำหรับผู้สนใจบริจาคให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ดูรายละเอียดเลขที่บัญชีเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.metta.go.th/Donate/DonateCenter หรือ มูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ โทรศัพท์ 09-1808-8899

    #Newskit
    โรงพยาบาลวัดไร่ขิง เจ้าคุณแย้มไม่ใยดี การตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังจับกุมนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (เจ้าคุณแย้ม) อายุ 69 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ข้อหายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาทเล่นพนันออนไลน์ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การตรวจสอบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิง 53 บัญชี พบว่ามี 2 บัญชีที่เปิดเพื่อรับเงินจาคตู้บริจาคในนามของมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แต่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลว่า ทางวัดไม่ได้สนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาลมานานกว่า 3 ปี และจากการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร ทั้ง 2 บัญชี พบว่ามีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงแค่ล้านกว่าบาท ในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เคยได้รับเงินสนับสนุนด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม ผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ แต่ในช่วงปี 2564-2565 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี ซึ่งบัญชีมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ มีเจ้าคุณแย้มเป็นประธานมูลนิธิและผู้มีอำนาจเบิกถอน ทำให้ พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชนอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม แม้โรงพยาบาลจะขออนุญาตจากคณะกรรมการวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้ และส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด แต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิเดิม และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน สำหรับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ก่อตั้งเมื่อปี 2532 โดยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปัญฺโญ) ขณะเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนักพัฒนา มรณภาพเมื่อปี 2551 โดยจัดสร้างโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ด้วยเงินบริจาคกว่า 95.77 ล้านบาท สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านจักษุวิทยา เพื่อก้าวสู่สถาบันจักษุวิทยาแห่งชาติในอนาคต การให้บริการเป็น 2 ลักษณะคือ สถาบันจักษุวิทยา และโรงพยาบาลทั่วไประดับตติยภูมิ เน้นโรคที่เกี่ยวข้องกับเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับผู้สนใจบริจาคให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ดูรายละเอียดเลขที่บัญชีเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.metta.go.th/Donate/DonateCenter หรือ มูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ โทรศัพท์ 09-1808-8899 #Newskit
    0 Comments 0 Shares 511 Views 0 Reviews
  • กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวใน <ตำนานหมิงหลัน> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีหลายฉากที่ดำเนินเรื่องผ่านการนั่งเรียนหนังสือของสามสาวตระกูลเสิ้ง ซึ่งพวกนางเข้าเรียนพร้อมพี่ชายในโรงเรียนส่วนบุคคลของครอบครัวสกุลเสิ้ง หรือที่เรียกว่า ‘เจียสู’ (家塾/Family School)

    เจียสูคืออะไร?

    เจียสูมีมาตั้งแต่สมัยชุนชิว (กว่าเจ็ดร้อยปีก่อนคริสตกาล) จวบจนสมัยราชวงศ์ชิงก็ยังมีอยู่ เป็นการจัดห้องเรียนขึ้นที่บ้าน เชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน โดยปกติแล้วอาจารย์จะพำนักอยู่ในเรือนตระกูลนั้นเลย มีค่าจ้าง ที่พักและอาหารครบทุกมื้อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นเฉพาะตระกูลที่มีฐานะ (ปกติเป็นตระกูลขุนนาง) จึงจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำอย่างนี้ได้

    ในละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นี้ มีฉีเหิงและกู้ถิงเยี่ยซึ่งเป็นบุรุษนอกสกุลมาร่วมเรียนด้วย ในนิยายบอกว่าฉีเหิงมาร่วมเรียนเพราะเป็นศิษย์ของอาจารย์คนนี้อยู่แล้ว ในขณะที่กู้ถิงเยี่ยเป็นญาติของตระกูลเสิ้งจึงมาร่วมเรียนได้ และที่ยอมมาเรียนที่เจียสูของตระกูลเสิ้งที่เป็นขุนนางยศต่ำกว่าครอบครัวของพวกเขาก็เพราะอาจารย์ท่านนี้ดังมาก ปกติไม่รับสอนตามเจียสู แต่ที่มาสอนให้ตระกูลเสิ้งก็เพื่อทดแทนบุญคุณ

    แต่ Storyฯ เกิดความ ‘เอ๊ะ’ ว่าทำไมพวกเขาทำได้ในเมื่อสตรีตระกูลสูงศักดิ์สมัยโบราณต้องเก็บตัวเงียบอยู่ในเรือนห้ามพบปะผู้ชายนอกสกุล?

    ในบทประพันธ์ <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนคลาสสิคมีการอธิบายโดยตัวละครเอกไว้ว่า คนในเครือวงศ์ตระกูลที่ไม่มีกำลังทรัพย์จ้างอาจารย์ส่วนตัวก็มาเรียนที่เจียสูได้ หรือหากใครมีญาติที่เป็นนักเรียนอยู่แล้วก็มาเรียนด้วยกันที่เจียสูนี้ได้ ซึ่งการเรียนในเจียสูเป็นการเรียนรวมคละวัยคละเพศชายหญิง

    เนื่องจากลูกหลานฝ่ายชายมีเป้าหมายคือลงสนามสอบราชบัณฑิตด้วย ดังนั้นหลักสูตรที่สอนจะเข้มข้นมาก แล้วเขาเรียนอะไร? หลักสูตรทั่วไปคือ ‘ซื่อซู อู่จิง’ (四书五经 / Four Books and Five Classics / สี่หนังสือห้าคัมภีร์) ซึ่ง ‘สี่หนังสือ’ นี้คือหนังสือว่าด้วยปรัชญาต่างๆ ของขงจื้อ ส่วน ‘ห้าคัมภีร์’ นั้นหมายถึง
    - ซือจิง (บทกวีและบทร้อยกรอง)
    - ซูจิง (บทความและประวัติศาสตร์)
    - อี้จิง (โหราศาสตร์)
    - ชุนชิว (บันทึกเหตุการณ์สำคัญและพงศาวดาร)
    - หลี่จี้ (พิธีกรรมและประเพณี)

    เจียสูเป็นหนึ่งในรูปแบบของการเรียนเอกชน นอกจากเจียสูนี้ เอกชนยังมีการลงขันเปิดเป็นโรงเรียนกันในหมู่บ้าน (เรียกว่า ชุนสู/村塾) หรืออาจมีเจ้าภาพที่ได้รับเงินบริจาคจัดตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น (เรียกว่า อี้สู/义塾) หรืออาจเป็นตัวอาจารย์เองเปิดสอนหนังสือโดยเรียกเก็บค่าเล่าเรียนจากนักเรียน

    สตรีจีนโบราณไม่มีโอกาสได้เรียนในสำนักศึกษาหลวง และส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาของสตรี โคลงกลอนและการดนตรี หากไม่ได้เรียนตามโรงเรียนเอกชนที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเรียนกันที่บ้านตามมีตามเกิดหรือไม่ได้เรียน นอกจากนี้ ยังมีที่ศึกษาเองในระหว่างที่ออกบวชเป็นชี หรืออีกสุดขั้วหนึ่งคือการเรียนในหอนางโลมสำหรับนางโลมที่ต้องมีวิชาความรู้ติดตัวเพื่อทำมาหากิน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://kknews.cc/zh-my/entertainment/4k6q6zg.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.fxjyb.com/xiandai/276.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/77983438
    https://m.lunwendata.com/show.php?id=34312
    https://kknews.cc/history/pvkjmzj.html
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e3ce1325253f66e731416fc1
    http://old-book.ru.ac.th/e-book/e/EF206(49)/EF206(49)-5.pdf
    #หมิงหลัน #การเรียนเอกชนจีนโบราณ #การเรียนสตรีจีนโบราณ #สี่หนังสือห้าคัมภีร์ #เจียสู
    กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวใน <ตำนานหมิงหลัน> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีหลายฉากที่ดำเนินเรื่องผ่านการนั่งเรียนหนังสือของสามสาวตระกูลเสิ้ง ซึ่งพวกนางเข้าเรียนพร้อมพี่ชายในโรงเรียนส่วนบุคคลของครอบครัวสกุลเสิ้ง หรือที่เรียกว่า ‘เจียสู’ (家塾/Family School) เจียสูคืออะไร? เจียสูมีมาตั้งแต่สมัยชุนชิว (กว่าเจ็ดร้อยปีก่อนคริสตกาล) จวบจนสมัยราชวงศ์ชิงก็ยังมีอยู่ เป็นการจัดห้องเรียนขึ้นที่บ้าน เชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน โดยปกติแล้วอาจารย์จะพำนักอยู่ในเรือนตระกูลนั้นเลย มีค่าจ้าง ที่พักและอาหารครบทุกมื้อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นเฉพาะตระกูลที่มีฐานะ (ปกติเป็นตระกูลขุนนาง) จึงจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำอย่างนี้ได้ ในละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นี้ มีฉีเหิงและกู้ถิงเยี่ยซึ่งเป็นบุรุษนอกสกุลมาร่วมเรียนด้วย ในนิยายบอกว่าฉีเหิงมาร่วมเรียนเพราะเป็นศิษย์ของอาจารย์คนนี้อยู่แล้ว ในขณะที่กู้ถิงเยี่ยเป็นญาติของตระกูลเสิ้งจึงมาร่วมเรียนได้ และที่ยอมมาเรียนที่เจียสูของตระกูลเสิ้งที่เป็นขุนนางยศต่ำกว่าครอบครัวของพวกเขาก็เพราะอาจารย์ท่านนี้ดังมาก ปกติไม่รับสอนตามเจียสู แต่ที่มาสอนให้ตระกูลเสิ้งก็เพื่อทดแทนบุญคุณ แต่ Storyฯ เกิดความ ‘เอ๊ะ’ ว่าทำไมพวกเขาทำได้ในเมื่อสตรีตระกูลสูงศักดิ์สมัยโบราณต้องเก็บตัวเงียบอยู่ในเรือนห้ามพบปะผู้ชายนอกสกุล? ในบทประพันธ์ <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนคลาสสิคมีการอธิบายโดยตัวละครเอกไว้ว่า คนในเครือวงศ์ตระกูลที่ไม่มีกำลังทรัพย์จ้างอาจารย์ส่วนตัวก็มาเรียนที่เจียสูได้ หรือหากใครมีญาติที่เป็นนักเรียนอยู่แล้วก็มาเรียนด้วยกันที่เจียสูนี้ได้ ซึ่งการเรียนในเจียสูเป็นการเรียนรวมคละวัยคละเพศชายหญิง เนื่องจากลูกหลานฝ่ายชายมีเป้าหมายคือลงสนามสอบราชบัณฑิตด้วย ดังนั้นหลักสูตรที่สอนจะเข้มข้นมาก แล้วเขาเรียนอะไร? หลักสูตรทั่วไปคือ ‘ซื่อซู อู่จิง’ (四书五经 / Four Books and Five Classics / สี่หนังสือห้าคัมภีร์) ซึ่ง ‘สี่หนังสือ’ นี้คือหนังสือว่าด้วยปรัชญาต่างๆ ของขงจื้อ ส่วน ‘ห้าคัมภีร์’ นั้นหมายถึง - ซือจิง (บทกวีและบทร้อยกรอง) - ซูจิง (บทความและประวัติศาสตร์) - อี้จิง (โหราศาสตร์) - ชุนชิว (บันทึกเหตุการณ์สำคัญและพงศาวดาร) - หลี่จี้ (พิธีกรรมและประเพณี) เจียสูเป็นหนึ่งในรูปแบบของการเรียนเอกชน นอกจากเจียสูนี้ เอกชนยังมีการลงขันเปิดเป็นโรงเรียนกันในหมู่บ้าน (เรียกว่า ชุนสู/村塾) หรืออาจมีเจ้าภาพที่ได้รับเงินบริจาคจัดตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น (เรียกว่า อี้สู/义塾) หรืออาจเป็นตัวอาจารย์เองเปิดสอนหนังสือโดยเรียกเก็บค่าเล่าเรียนจากนักเรียน สตรีจีนโบราณไม่มีโอกาสได้เรียนในสำนักศึกษาหลวง และส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาของสตรี โคลงกลอนและการดนตรี หากไม่ได้เรียนตามโรงเรียนเอกชนที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเรียนกันที่บ้านตามมีตามเกิดหรือไม่ได้เรียน นอกจากนี้ ยังมีที่ศึกษาเองในระหว่างที่ออกบวชเป็นชี หรืออีกสุดขั้วหนึ่งคือการเรียนในหอนางโลมสำหรับนางโลมที่ต้องมีวิชาความรู้ติดตัวเพื่อทำมาหากิน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://kknews.cc/zh-my/entertainment/4k6q6zg.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.fxjyb.com/xiandai/276.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/77983438 https://m.lunwendata.com/show.php?id=34312 https://kknews.cc/history/pvkjmzj.html https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e3ce1325253f66e731416fc1 http://old-book.ru.ac.th/e-book/e/EF206(49)/EF206(49)-5.pdf #หมิงหลัน #การเรียนเอกชนจีนโบราณ #การเรียนสตรีจีนโบราณ #สี่หนังสือห้าคัมภีร์ #เจียสู
    1 Comments 0 Shares 719 Views 0 Reviews
  • ไร้ยางอาย ทนายอานนท์ ไถเงินบริจาค อ้างช่วยลูกเพื่อน ที่แท้ถลุงเงินแดกช่วงสงกรานต์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ทนายอานนท์
    ไร้ยางอาย ทนายอานนท์ ไถเงินบริจาค อ้างช่วยลูกเพื่อน ที่แท้ถลุงเงินแดกช่วงสงกรานต์ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #ทนายอานนท์
    0 Comments 0 Shares 337 Views 0 0 Reviews
  • Signal แอปส่งข้อความที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end กำลังเป็นที่สนใจหลังจากมีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้แอปนี้ในการวางแผนสงคราม ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลข่าวกรองหลายครั้ง การใช้งาน Signal โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของแอปและเหตุผลที่เจ้าหน้าที่เลือกใช้แอปนี้แทนระบบที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล

    Signal เป็นแอปส่งข้อความที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end
    - ข้อความจะถูกเข้ารหัสบนอุปกรณ์ของผู้ส่งและถอดรหัสบนอุปกรณ์ของผู้รับ
    - ป้องกันการถูกดักจับและอ่านโดยบุคคลที่สาม รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและ Signal เอง

    Signal เป็นเจ้าของโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ
    - Signal Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยได้รับเงินบริจาค 50 ล้านดอลลาร์จาก Brian Acton ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp
    - องค์กรนี้มีโครงสร้างเพื่อป้องกันการขายข้อมูลผู้ใช้

    Signal มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
    - ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่เป็น open source ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบและระบุข้อบกพร่องได้
    - Signal เก็บข้อมูลผู้ใช้น้อยที่สุดเพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่เกิดการละเมิดความปลอดภัย

    Signal มีฟีเจอร์ข้อความที่หายไป
    - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ข้อความหายไปหลังจากเวลาที่กำหนด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/how-secure-is-signal-anyway
    Signal แอปส่งข้อความที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end กำลังเป็นที่สนใจหลังจากมีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้แอปนี้ในการวางแผนสงคราม ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลข่าวกรองหลายครั้ง การใช้งาน Signal โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของแอปและเหตุผลที่เจ้าหน้าที่เลือกใช้แอปนี้แทนระบบที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ✅ Signal เป็นแอปส่งข้อความที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end - ข้อความจะถูกเข้ารหัสบนอุปกรณ์ของผู้ส่งและถอดรหัสบนอุปกรณ์ของผู้รับ - ป้องกันการถูกดักจับและอ่านโดยบุคคลที่สาม รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและ Signal เอง ✅ Signal เป็นเจ้าของโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ - Signal Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยได้รับเงินบริจาค 50 ล้านดอลลาร์จาก Brian Acton ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp - องค์กรนี้มีโครงสร้างเพื่อป้องกันการขายข้อมูลผู้ใช้ ✅ Signal มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด - ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่เป็น open source ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบและระบุข้อบกพร่องได้ - Signal เก็บข้อมูลผู้ใช้น้อยที่สุดเพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่เกิดการละเมิดความปลอดภัย ✅ Signal มีฟีเจอร์ข้อความที่หายไป - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ข้อความหายไปหลังจากเวลาที่กำหนด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/how-secure-is-signal-anyway
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How secure is Signal, anyway?
    The app, which was introduced in 2014 and has hundreds of millions of users, is widely viewed as the safest messaging tool because of its encryption technology.
    0 Comments 0 Shares 336 Views 0 Reviews
  • แถลงปิดโครงการแจกยาฟ้าทะลายโจร แต่ยังคงความเป็น“สนธิ ฟ้าทะลายโจร”อยู่
    .
    ผมพูดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" ว่าขออนุญาตทุกท่านที่บริจาคช่วยเรื่องฟ้าทะลายโจร นำเงินที่เหลือจากที่ท่านผู้ชมบริจาคมาเพื่อซื้อฟ้าทะลายโจรเพื่อแจกพี่น้องในช่วงโรคระบาด ตอนนี้ยังมีเงินเหลืออยู่ ก็เลยจะขอนำเงินนี้มาใช้ในบัญชีของ "มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน" โดยอาจารย์ปานเทพ เป็นประธาน เราสามารถเอาเงินก้อนนี้เอาไปใช้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เช่น ใช้จ่ายเพื่อดำรงความยุติธรรม จ้างทนายบ้าง ส่งคนไปค้นคว้าวิจัยในเรื่องต่างๆ บ้าง แล้วเราจะมีเว็บไซต์หรือเพจของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินโดยเฉพาะ เราจะเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมมาลง แล้วจะคอยติดตามความเคลื่อนไหว ติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น
    .
    วันนี้ผมขอแถลงตัวเลขทั้งหมดเพื่อปิดโครงการฟ้าทะลายโจร ดังนี้ (อันนี้เป็นหลักฐานนะครับ) โครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยเหลือประชาชน ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ถึง วันที่ 25 มีนาคม 2568 ประมาณสี่ปี ทั้งหมดรวมแล้ว เงินบริจาค 82,928,274.51 บาท เราใช้อะไรบ้าง ? เราใช้ค่าใช้จ่ายในการซื้อฟ้าทะลายโจรทั้งหมด 54,329,300 เม็ด เป็นจำนวนเงิน 69,616,569 บาท ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 12,522,904.01 บาท เช่น เราซื้อเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน 20 เครื่อง 4 ล้านบาท สมัยนั้นจะมีคนหายใจไม่ออก ต้องใช้เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน ซึ่งหายากมากตอนนั้น เรากว้านซื้อมาได้แค่ 20 เครื่อง เรามี Rapid Antigen Test เครื่องตรวจสอบว่าติดโควิดหรือไม่ 14,000 ชิ้น 4,410,000 บาท แล้วเรายังซื้อขิงผงอีก 575,000 ซอง เป็นเงิน 1,725,000 บาท นอกจากนี้แล้ว ยังมีชุด PPE สำหรับคนที่อยู่แนวหน้าในการทำงานกับคนติดโรคอีก 300 ชุด 160,500 บาท ค่าจัดส่งทั้งหมด 857,387 บาท รวมค่าใช้จ่ายแล้ว 82,139,473.01 บาท เงินคงเหลือปัจจุบัน 788,801.50 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้จะโอนไปที่คณะกรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อเอาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนในเรื่องการดำรงความยุติธรรม อย่างที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว
    .
    ท่านผู้ชมครับ เงินบริจาคของท่านผู้ชมทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาที่นี่ ท่านผู้ชมสบายใจได้ เรามีรายละเอียด และเรามั่นใจ นี่ไม่ได้คุยนะครับ เราน่าจะเป็นเจ้าเดียวที่ตีแผ่ค่าใช้จ่ายของเราอย่างละเอียดเลย ไม่เชื่อท่านผู้ชมไปดูสิ เงินบริจาคไปหน่วยงานอื่นๆ หรือองค์กรอื่นๆ นั้น ไม่เคยมีใครออกมาแสดงรายละเอียดแบบนี้ ท่านผู้ชม ความจริงมีหนึ่งเดียว ความซื่อสัตย์มีหนึ่งเดียว อยู่ที่นี่ครับ

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แถลงปิดโครงการแจกยาฟ้าทะลายโจร แต่ยังคงความเป็น“สนธิ ฟ้าทะลายโจร”อยู่ . ผมพูดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" ว่าขออนุญาตทุกท่านที่บริจาคช่วยเรื่องฟ้าทะลายโจร นำเงินที่เหลือจากที่ท่านผู้ชมบริจาคมาเพื่อซื้อฟ้าทะลายโจรเพื่อแจกพี่น้องในช่วงโรคระบาด ตอนนี้ยังมีเงินเหลืออยู่ ก็เลยจะขอนำเงินนี้มาใช้ในบัญชีของ "มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน" โดยอาจารย์ปานเทพ เป็นประธาน เราสามารถเอาเงินก้อนนี้เอาไปใช้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เช่น ใช้จ่ายเพื่อดำรงความยุติธรรม จ้างทนายบ้าง ส่งคนไปค้นคว้าวิจัยในเรื่องต่างๆ บ้าง แล้วเราจะมีเว็บไซต์หรือเพจของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินโดยเฉพาะ เราจะเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมมาลง แล้วจะคอยติดตามความเคลื่อนไหว ติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น . วันนี้ผมขอแถลงตัวเลขทั้งหมดเพื่อปิดโครงการฟ้าทะลายโจร ดังนี้ (อันนี้เป็นหลักฐานนะครับ) โครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยเหลือประชาชน ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ถึง วันที่ 25 มีนาคม 2568 ประมาณสี่ปี ทั้งหมดรวมแล้ว เงินบริจาค 82,928,274.51 บาท เราใช้อะไรบ้าง ? เราใช้ค่าใช้จ่ายในการซื้อฟ้าทะลายโจรทั้งหมด 54,329,300 เม็ด เป็นจำนวนเงิน 69,616,569 บาท ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 12,522,904.01 บาท เช่น เราซื้อเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน 20 เครื่อง 4 ล้านบาท สมัยนั้นจะมีคนหายใจไม่ออก ต้องใช้เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน ซึ่งหายากมากตอนนั้น เรากว้านซื้อมาได้แค่ 20 เครื่อง เรามี Rapid Antigen Test เครื่องตรวจสอบว่าติดโควิดหรือไม่ 14,000 ชิ้น 4,410,000 บาท แล้วเรายังซื้อขิงผงอีก 575,000 ซอง เป็นเงิน 1,725,000 บาท นอกจากนี้แล้ว ยังมีชุด PPE สำหรับคนที่อยู่แนวหน้าในการทำงานกับคนติดโรคอีก 300 ชุด 160,500 บาท ค่าจัดส่งทั้งหมด 857,387 บาท รวมค่าใช้จ่ายแล้ว 82,139,473.01 บาท เงินคงเหลือปัจจุบัน 788,801.50 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้จะโอนไปที่คณะกรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อเอาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนในเรื่องการดำรงความยุติธรรม อย่างที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว . ท่านผู้ชมครับ เงินบริจาคของท่านผู้ชมทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาที่นี่ ท่านผู้ชมสบายใจได้ เรามีรายละเอียด และเรามั่นใจ นี่ไม่ได้คุยนะครับ เราน่าจะเป็นเจ้าเดียวที่ตีแผ่ค่าใช้จ่ายของเราอย่างละเอียดเลย ไม่เชื่อท่านผู้ชมไปดูสิ เงินบริจาคไปหน่วยงานอื่นๆ หรือองค์กรอื่นๆ นั้น ไม่เคยมีใครออกมาแสดงรายละเอียดแบบนี้ ท่านผู้ชม ความจริงมีหนึ่งเดียว ความซื่อสัตย์มีหนึ่งเดียว อยู่ที่นี่ครับ #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    27
    1 Comments 0 Shares 1904 Views 2 Reviews
  • ประธานมูลนิธิข้าวขวัญเผยสูญที่ดิน 6 ไร่ที่จะใช้สร้างโรงพยาบาลทางเลือก ถูกยึดกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ถาม "แอ๊ด คาราบาว" เงินบริจาคนักธุรกิจ 5 ล้านบาทหายไปไหน ติดต่อไปก็ไม่ได้ แนะเจ้าของเงินและผู้แนะนำช่วยทวงถาม รวมทั้งผู้บริจาคเงินนับหมื่นราย

    วันนี้ (23 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เพื่อใช้ทางการแพทย์ โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผมและตัวแทนผู้บริจาคฯ​ ได้ไปทำพิธี​อำลา​ที่ดิน​ 6​ ไร่ ที่ดินผืนนี้​ (มี​รั้ว​ ระบบน้ำ​ อาคารสำนักงาน)​ ใช้เงินบริจาค 5​ ล้านบาท​ แต่ถูกยึดครองไปโดยใช้กระบวนการกฎหมาย​ และ​ผู้มีอิทธิพล​ในท้องถิ่น​ จนกลายเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล ผมทำได้เพียง​แจ้งความจริงให้ผู้บริจาค​ ผู้ป่วย​ และผู้รอคอยโรงพยาบาลฯ​ ได้รับทราบ และขอโทษ​ที่มีส่วน​ทำให้ผู้บริจาคคาดหวัง และเชื่อมั่นว่า​เงินบริจาคจะใช้เป็นประโยชน์ แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งยักย้ายเอาสิ่งที่เกิดจากเงินบริจาค​ไปเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล จึงต้องยอมรับถึงความไม่รู้เท่าทัน​ ความไว้วางใจนำคนกลุ่มนี้มาร่วมงานด้วย​ตั้งแต่แรก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000027594

    #MGROnline #ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ #โรงพยาบาลทางเลือก

    ประธานมูลนิธิข้าวขวัญเผยสูญที่ดิน 6 ไร่ที่จะใช้สร้างโรงพยาบาลทางเลือก ถูกยึดกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ถาม "แอ๊ด คาราบาว" เงินบริจาคนักธุรกิจ 5 ล้านบาทหายไปไหน ติดต่อไปก็ไม่ได้ แนะเจ้าของเงินและผู้แนะนำช่วยทวงถาม รวมทั้งผู้บริจาคเงินนับหมื่นราย • วันนี้ (23 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เพื่อใช้ทางการแพทย์ โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผมและตัวแทนผู้บริจาคฯ​ ได้ไปทำพิธี​อำลา​ที่ดิน​ 6​ ไร่ ที่ดินผืนนี้​ (มี​รั้ว​ ระบบน้ำ​ อาคารสำนักงาน)​ ใช้เงินบริจาค 5​ ล้านบาท​ แต่ถูกยึดครองไปโดยใช้กระบวนการกฎหมาย​ และ​ผู้มีอิทธิพล​ในท้องถิ่น​ จนกลายเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล ผมทำได้เพียง​แจ้งความจริงให้ผู้บริจาค​ ผู้ป่วย​ และผู้รอคอยโรงพยาบาลฯ​ ได้รับทราบ และขอโทษ​ที่มีส่วน​ทำให้ผู้บริจาคคาดหวัง และเชื่อมั่นว่า​เงินบริจาคจะใช้เป็นประโยชน์ แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งยักย้ายเอาสิ่งที่เกิดจากเงินบริจาค​ไปเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล จึงต้องยอมรับถึงความไม่รู้เท่าทัน​ ความไว้วางใจนำคนกลุ่มนี้มาร่วมงานด้วย​ตั้งแต่แรก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000027594 • #MGROnline #ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ #โรงพยาบาลทางเลือก
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 735 Views 0 Reviews
  • ชาวอุยกูร์ที่ได้กลับบ้าน ยืนยันแล้วว่าไม่เคยเขียนจดหมายที่ไอ้อุยวีร์ กัณกูร์ เอามาอ้าง กัณวีร์ สืบสันดานเฟคนิวส์ เฟคดาต้า ตามพรรคประชาชั่วร์ ถนัดสรรหามาโจมตี เพื่อได้เงินบริจาคไว้แดกหมูกะทะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #หมูกระทะใกล้ฉัน
    ชาวอุยกูร์ที่ได้กลับบ้าน ยืนยันแล้วว่าไม่เคยเขียนจดหมายที่ไอ้อุยวีร์ กัณกูร์ เอามาอ้าง กัณวีร์ สืบสันดานเฟคนิวส์ เฟคดาต้า ตามพรรคประชาชั่วร์ ถนัดสรรหามาโจมตี เพื่อได้เงินบริจาคไว้แดกหมูกะทะ #คิงส์โพธิ์แดง #หมูกระทะใกล้ฉัน
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 594 Views 0 Reviews
  • อาจารย์ #เดชา ศิริภัทร เล่าเรื่องราว เกี่ยวกับ #เงินบริจาค สร้าง #โรงพยาบาล #ที่ดิน #ด่านช้าง ที่ #แอ๊ด #คาราบาว นักร้องนักดนตรี #เพื่อชีวิต สร้างปัญหาไว้
    https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl
    https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl
    อาจารย์ #เดชา ศิริภัทร เล่าเรื่องราว เกี่ยวกับ #เงินบริจาค สร้าง #โรงพยาบาล #ที่ดิน #ด่านช้าง ที่ #แอ๊ด #คาราบาว นักร้องนักดนตรี #เพื่อชีวิต สร้างปัญหาไว้ https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl
    0 Comments 0 Shares 636 Views 0 Reviews
  • เอกชัย หงส์กังวาน อดีตสามกีบอิสระ จากเคยเฟื่องฟูด้วยเงินบริจาค มาวันนี้ตกอับถึงขั้นเอาพัดลมเก่ามาประมูลขาย แต่เสือกโลภเปิดราคาไว้ 1 พัน ทั้งๆ ที่พัดลมใหม่แค่ 1,200 บาท สุดท้ายไร้คนสนใจ สภาพไร้คนเหลียวแลแม้แต่พวกเดียวกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    เอกชัย หงส์กังวาน อดีตสามกีบอิสระ จากเคยเฟื่องฟูด้วยเงินบริจาค มาวันนี้ตกอับถึงขั้นเอาพัดลมเก่ามาประมูลขาย แต่เสือกโลภเปิดราคาไว้ 1 พัน ทั้งๆ ที่พัดลมใหม่แค่ 1,200 บาท สุดท้ายไร้คนสนใจ สภาพไร้คนเหลียวแลแม้แต่พวกเดียวกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    2
    1 Comments 0 Shares 417 Views 0 Reviews
  • ท่ามกลางเสียงประณามไทย ทั้งจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนีและสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) ในกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ จากการตรวจสอบข่าวเก่าๆพบว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้เคยปฏิเสธคำร้องจากรัฐบาลไทย ที่ขอให้ช่วยเหลือชาวอุยกูร์ 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยมานานกว่า 10 ปี โดยสาเหตุที่ไม่สู้เต็มใจ ก็คือกลัวจีนโกรธ จนตัดลดความช่วยเหลือและเงินบริจาค
    .
    เว็บไซต์ข่าว The New Humanitarian รายงานพาดหัวข่าว UN declined offers to assist Uyghur asylum seekers detained in Thailand ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2022 อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ระบุว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ ปฏิเสธรัฐบาลไทย ไม่ยอมเข้าช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์จากจีน 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี
    .
    รายงานข่าวระบุว่าในบรรดาผู้ขอลี้ภัยเหล่านั้น มีอยู่ 5 คน ที่ต้องโทษจำคุก ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามหลบหนีในปี 2020 ส่วนที่เหลือ 43 คน ถูกควบคุมตัวโดยปราศจากการตั้งข้อหาใดๆในสถานกักตัวคนต่างด้าว ซอนสวนพลู ในกรุงเทพฯ พวกเขาถูกห้ามติดต่อกัยครอบครัว ทนายความ หรือกระทั่งผู้ต้องขังคนอื่นๆ
    .
    เป็นเวลานานหลายปีที่ทาง UNHCR ยืนกรานว่ารัฐบาลไทยขัดขวางหน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยและอำนวยความสะดวกพวกเขาในการย้ายไปตั้งรกรากในประเทศที่ 3
    .
    อย่างไรก็ตามรายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายใน ย้อนกลับไปในปี 2020 เผยว่ารัฐบาลของไทยได้เริ่มส่งคำร้องอย่างไม่เป็นทางการถึง UNHCR ตั้งแต่เกือบ 5 ปีก่อนหน้านั้น ให้แสดงบทบาทอย่างกระตือรือร้นในการคลี่คลายการคุมตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้อย่างไม่มีกำหนด แต่พวกทางเจ้าหน้าที่ UNHCR คัดค้านที่จะทำเช่นนั้น
    .
    The New Humanitarian ระบุว่า UNHCR มอบความช่วยเหลือปกป้องชีวิตแก่ผู้แสวงหาลี้ภัยทั่วโลก แต่รายงานในปี 2023 ที่เผยแพร่โดยครงการสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์(UHRP - Uyghur Human Rights Project) ระบุว่าอิทธิพลที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆของจีนเหนือประเทศเจ้าบ้านบางชาติ "บ่อนทำลายความพยายามทางการเมืองหรือด้านมนุษยธรรมใดๆที่จะรับรองและมอบการปกป้องอย่างเหมาะสมกับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" และเอกสารภายในบ่งชี้ว่าอิทธิพลของจีนยังแผ่ลามมาถึงหน่วงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ด้วย
    .
    "เอกสารแสดงให้เห็นว่า UNHCR ล้มเหวในการยึดถืออานัติในการปกป้องพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" The New Humanitarian รายงานในตอนนั้น อ้างคำสัมภาษณ์ของ จอห์น ควินลีย์ ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Fortify Rights หลังจากได้เห็นเอกสาร "พวกผู้นำของ UNHCR ดูเหมือนจะไม่ทำงานเชิงรุก ในความพยายามหาทางออกสำหรับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูรณ์ ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในการถูกควบคุมตัวมานานหลายปี"
    .
    บาบาร์ บาลอช โฆษกของ UNHCR บอกกับ The New Humanitarian เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ว่าหน่วยงานแห่งนี้เดินหน้าหยิบยกประเด็นนี้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไทย "แต่ไม่อยู่ในขั้น ที่เราได้รับอนุญาตให้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ หรือประสานงานกับผู้รับผิดชอบคดี ในจุดประสงค์อำนวยความสะดวกหนทางคลี่คลายปัญหา หาไม่แล้ว มันจะสะท้อนความเข้าใจผิดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
    .
    เขาปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของ UNHCR ต่อคดีนี้ โดยอ้างว่ามันเป็นความลับ
    .
    รายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ฉบับหนึ่งระบุว่า "รัฐบาลไทยเพิ่มความพยายามมากขึ้น ขอให้ทาง UNHCR หาทางออกในประเด็นนี้" และมีความเป็นไปได้ที่ไทยอาจเปิดทางให้ UNHCR เข้าถึงผู้ต้องขังชาวอุยกูร์เหล่านั้น
    .
    อย่างไรก็ตามสำนักงานของ UNHCR ประจำประเทศไทย กลับมองข้อเสนอของ ไทย ด้วยความสงสัย "สำนักงานประจำประเทศไทย มองเรื่องนี้ว่า ไทย อาจใช้ UNHCR เป็นโล่เบี่ยงเบนความโกรธเคืองของจีน" เอกสารฉบับหนึ่งระบุ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ของ UNHCR ประจำในประเทศไทย จึงตัดสินใจในช่วงปลายปี 2020 ไม่แนะนำให้ตอบสนองเชิงรุกใดๆ
    .
    เอกสารฉบับหนึ่งเตือนถึง "ความเสี่ยงของผลกระทบในทาทางลบใดๆต่อปฏิบัติการของ UNHCR ในจีน และผลกระทบในแง่ของเงินทุนและการสนับสนุนที่มีต่อ UNHCR ในนั้นรวมถึงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับล่าง 10 ตำแหน่ง และโครงการต่างๆคิดเป็นมูลค่า 7.7 ล้านดอลลาร์
    .
    "หนึ่งในแง่มุมสุดช็อคของเอกสารนี้ก็คือ ดูเหมือน ไทย เป็นฝ่ายกดดันให้ UNHCR เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น แต่ทาง UNHCR หยุดชะงัก เพราะว่าพวกเขากลัวจีนจะโกรธ และลดความร่วมมือหรือลดเงินบริจาคที่มอบให้หน่วยงานแห่งนี้" ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ บอกกับ The New Humanitarian ในตอนนั้น หลังจากได้เห็นเอกสาร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020219
    ..................
    Sondhi X

    ท่ามกลางเสียงประณามไทย ทั้งจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนีและสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) ในกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ จากการตรวจสอบข่าวเก่าๆพบว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้เคยปฏิเสธคำร้องจากรัฐบาลไทย ที่ขอให้ช่วยเหลือชาวอุยกูร์ 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยมานานกว่า 10 ปี โดยสาเหตุที่ไม่สู้เต็มใจ ก็คือกลัวจีนโกรธ จนตัดลดความช่วยเหลือและเงินบริจาค . เว็บไซต์ข่าว The New Humanitarian รายงานพาดหัวข่าว UN declined offers to assist Uyghur asylum seekers detained in Thailand ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2022 อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ระบุว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ ปฏิเสธรัฐบาลไทย ไม่ยอมเข้าช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์จากจีน 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี . รายงานข่าวระบุว่าในบรรดาผู้ขอลี้ภัยเหล่านั้น มีอยู่ 5 คน ที่ต้องโทษจำคุก ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามหลบหนีในปี 2020 ส่วนที่เหลือ 43 คน ถูกควบคุมตัวโดยปราศจากการตั้งข้อหาใดๆในสถานกักตัวคนต่างด้าว ซอนสวนพลู ในกรุงเทพฯ พวกเขาถูกห้ามติดต่อกัยครอบครัว ทนายความ หรือกระทั่งผู้ต้องขังคนอื่นๆ . เป็นเวลานานหลายปีที่ทาง UNHCR ยืนกรานว่ารัฐบาลไทยขัดขวางหน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยและอำนวยความสะดวกพวกเขาในการย้ายไปตั้งรกรากในประเทศที่ 3 . อย่างไรก็ตามรายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายใน ย้อนกลับไปในปี 2020 เผยว่ารัฐบาลของไทยได้เริ่มส่งคำร้องอย่างไม่เป็นทางการถึง UNHCR ตั้งแต่เกือบ 5 ปีก่อนหน้านั้น ให้แสดงบทบาทอย่างกระตือรือร้นในการคลี่คลายการคุมตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้อย่างไม่มีกำหนด แต่พวกทางเจ้าหน้าที่ UNHCR คัดค้านที่จะทำเช่นนั้น . The New Humanitarian ระบุว่า UNHCR มอบความช่วยเหลือปกป้องชีวิตแก่ผู้แสวงหาลี้ภัยทั่วโลก แต่รายงานในปี 2023 ที่เผยแพร่โดยครงการสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์(UHRP - Uyghur Human Rights Project) ระบุว่าอิทธิพลที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆของจีนเหนือประเทศเจ้าบ้านบางชาติ "บ่อนทำลายความพยายามทางการเมืองหรือด้านมนุษยธรรมใดๆที่จะรับรองและมอบการปกป้องอย่างเหมาะสมกับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" และเอกสารภายในบ่งชี้ว่าอิทธิพลของจีนยังแผ่ลามมาถึงหน่วงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ด้วย . "เอกสารแสดงให้เห็นว่า UNHCR ล้มเหวในการยึดถืออานัติในการปกป้องพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" The New Humanitarian รายงานในตอนนั้น อ้างคำสัมภาษณ์ของ จอห์น ควินลีย์ ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Fortify Rights หลังจากได้เห็นเอกสาร "พวกผู้นำของ UNHCR ดูเหมือนจะไม่ทำงานเชิงรุก ในความพยายามหาทางออกสำหรับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูรณ์ ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในการถูกควบคุมตัวมานานหลายปี" . บาบาร์ บาลอช โฆษกของ UNHCR บอกกับ The New Humanitarian เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ว่าหน่วยงานแห่งนี้เดินหน้าหยิบยกประเด็นนี้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไทย "แต่ไม่อยู่ในขั้น ที่เราได้รับอนุญาตให้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ หรือประสานงานกับผู้รับผิดชอบคดี ในจุดประสงค์อำนวยความสะดวกหนทางคลี่คลายปัญหา หาไม่แล้ว มันจะสะท้อนความเข้าใจผิดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น" . เขาปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของ UNHCR ต่อคดีนี้ โดยอ้างว่ามันเป็นความลับ . รายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ฉบับหนึ่งระบุว่า "รัฐบาลไทยเพิ่มความพยายามมากขึ้น ขอให้ทาง UNHCR หาทางออกในประเด็นนี้" และมีความเป็นไปได้ที่ไทยอาจเปิดทางให้ UNHCR เข้าถึงผู้ต้องขังชาวอุยกูร์เหล่านั้น . อย่างไรก็ตามสำนักงานของ UNHCR ประจำประเทศไทย กลับมองข้อเสนอของ ไทย ด้วยความสงสัย "สำนักงานประจำประเทศไทย มองเรื่องนี้ว่า ไทย อาจใช้ UNHCR เป็นโล่เบี่ยงเบนความโกรธเคืองของจีน" เอกสารฉบับหนึ่งระบุ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ของ UNHCR ประจำในประเทศไทย จึงตัดสินใจในช่วงปลายปี 2020 ไม่แนะนำให้ตอบสนองเชิงรุกใดๆ . เอกสารฉบับหนึ่งเตือนถึง "ความเสี่ยงของผลกระทบในทาทางลบใดๆต่อปฏิบัติการของ UNHCR ในจีน และผลกระทบในแง่ของเงินทุนและการสนับสนุนที่มีต่อ UNHCR ในนั้นรวมถึงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับล่าง 10 ตำแหน่ง และโครงการต่างๆคิดเป็นมูลค่า 7.7 ล้านดอลลาร์ . "หนึ่งในแง่มุมสุดช็อคของเอกสารนี้ก็คือ ดูเหมือน ไทย เป็นฝ่ายกดดันให้ UNHCR เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น แต่ทาง UNHCR หยุดชะงัก เพราะว่าพวกเขากลัวจีนจะโกรธ และลดความร่วมมือหรือลดเงินบริจาคที่มอบให้หน่วยงานแห่งนี้" ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ บอกกับ The New Humanitarian ในตอนนั้น หลังจากได้เห็นเอกสาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020219 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    25
    0 Comments 1 Shares 1912 Views 0 Reviews
  • ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย

    เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง

    ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์

    ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน

    ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว

    ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง

    #Newskit
    ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์ ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 825 Views 0 Reviews
  • #ข่าวรอบดึก (29 มกรา) รัฐบาลญี่ปุ่นโต้กลับยูเอ็น หลังวิจารณ์เรื่องกฎการสืบราชบัลลังก์ญี่ปุ่นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

    นาน ๆ ทีจะเห็นรัฐบาลญี่ปุ่นเกรี้ยวกราดในระดับนานาชาตินะคะ
    สาเหตุ

    - ตุลาปีที่แล้วคณะกรรมการสหประชาชาติซึ่งมุ่งเป้าขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (CEDAW) ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฎมณเฑียรบาลที่กำหนดให้การสืบราชสมบัติเป็นของฝ่ายชาย

    รัฐบาลญี่ปุ่นโต้กลับอย่างร้อนแรง

    “คุณสมบัติในการขึ้นครองราชย์ไม่ได้รวมอยู่ในสิทธิมนุษย์ชนขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการจำกัดคุณสมบัติการสืบราชสมบัติให้เฉพาะฝ่ายชาย จึงไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รูปแบบการสืบราชสมบัติเป็นเรื่องพื้นฐานของประเทศ จึงไม่เหมาะสมที่ CEDAW จะหยิบยกเรื่องกฎมณเฑียรบาลขึ้นมา”

    - นอกจากนี้ยังเรียกร้องต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ซึ่งดูแลกิจกรรมของ CEDAW

    “ไม่ให้นำเงินที่ญี่ปุ่นบริจาคไปใช้ในกิจกรรมของ CEDAW และยกเลิกกำหนดการเยือนญี่ปุ่นของคณะกรรมการในปีนี้
    ◾️ตามข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น: รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงินให้ OHCHR ประมาณปีละ 20-30 ล้านเยน
    ◾️เท่าที่ตรวจสอบตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา เงินส่วนนี้ไม่เคยถูกนำไปใช้ในกิจกรรมของคณะกรรมการ CEDAW มาก่อน
    ◾️การที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเจตนารมณ์ “ไม่ให้” นำเงินบริจาคไปใช้ในกิจกรรมเฉพาะด้านของสหประชาชาตินั้น ถือเป็นเรื่องผิดวิสัยปรกติของญี่ปุ่น (ปรกติบริจาคอย่างเดียว ไม่รีเควสอะไรเป็นพิเศษ)
    เดือดของแท้เลยค่ะ


    เครดิตเนื้อหา #กิ๊ฟจังนั่งเล่า
    https://web.facebook.com/share/p/14htHYR6ei/
    .
    รายละเอียดข่าวต้นทาง
    https://www3.nhk.or.jp/.../20250129/k10014707141000.html
    #ข่าวรอบดึก (29 มกรา) รัฐบาลญี่ปุ่น🇯🇵โต้กลับยูเอ็น หลังวิจารณ์เรื่องกฎการสืบราชบัลลังก์ญี่ปุ่นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ✒️นาน ๆ ทีจะเห็นรัฐบาลญี่ปุ่นเกรี้ยวกราดในระดับนานาชาตินะคะ 😅 📌สาเหตุ - ตุลาปีที่แล้วคณะกรรมการสหประชาชาติซึ่งมุ่งเป้าขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (CEDAW) ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฎมณเฑียรบาลที่กำหนดให้การสืบราชสมบัติเป็นของฝ่ายชาย 📌 รัฐบาลญี่ปุ่น🇯🇵โต้กลับอย่างร้อนแรง 🗣️ “คุณสมบัติในการขึ้นครองราชย์ไม่ได้รวมอยู่ในสิทธิมนุษย์ชนขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการจำกัดคุณสมบัติการสืบราชสมบัติให้เฉพาะฝ่ายชาย จึงไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รูปแบบการสืบราชสมบัติเป็นเรื่องพื้นฐานของประเทศ จึงไม่เหมาะสมที่ CEDAW จะหยิบยกเรื่องกฎมณเฑียรบาลขึ้นมา” - นอกจากนี้ยังเรียกร้องต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ซึ่งดูแลกิจกรรมของ CEDAW 🗣️ “ไม่ให้นำเงินที่ญี่ปุ่นบริจาคไปใช้ในกิจกรรมของ CEDAW และยกเลิกกำหนดการเยือนญี่ปุ่นของคณะกรรมการในปีนี้ ◾️ตามข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น: รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงินให้ OHCHR ประมาณปีละ 20-30 ล้านเยน ◾️เท่าที่ตรวจสอบตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา เงินส่วนนี้ไม่เคยถูกนำไปใช้ในกิจกรรมของคณะกรรมการ CEDAW มาก่อน ◾️การที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเจตนารมณ์ “ไม่ให้” นำเงินบริจาคไปใช้ในกิจกรรมเฉพาะด้านของสหประชาชาตินั้น ถือเป็นเรื่องผิดวิสัยปรกติของญี่ปุ่น (✒️ปรกติบริจาคอย่างเดียว ไม่รีเควสอะไรเป็นพิเศษ) ✒️เดือดของแท้เลยค่ะ 😤💢 เครดิตเนื้อหา #กิ๊ฟจังนั่งเล่า https://web.facebook.com/share/p/14htHYR6ei/ . รายละเอียดข่าวต้นทาง https://www3.nhk.or.jp/.../20250129/k10014707141000.html
    0 Comments 0 Shares 601 Views 0 Reviews
  • ยังจำได้ไหม อีป้าช้างลาก ช้างYes หาแดรกจากเงินบริจาคให้ช้าง แล้วทิ้งข้างให้แช่น้ำป่าท่วม แพ้คดีที่มันฟ้องยึดคทนที่ดินจากพี่น้องตัวเอง ขนาดคนในครอบครัวตัวเอง พ่อพี่น้องยังฟ้องรังแก มึงก็ใช้ช้างแค่หากิน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ยังจำได้ไหม อีป้าช้างลาก ช้างYes หาแดรกจากเงินบริจาคให้ช้าง แล้วทิ้งข้างให้แช่น้ำป่าท่วม แพ้คดีที่มันฟ้องยึดคทนที่ดินจากพี่น้องตัวเอง ขนาดคนในครอบครัวตัวเอง พ่อพี่น้องยังฟ้องรังแก มึงก็ใช้ช้างแค่หากิน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 417 Views 0 Reviews
  • ก็ขนาดสส.ยังขอเงินบริจาค พันธุ์อาจ ผู้สมัครนายก อบจ เชียงใหม่ เลยขานรับนโยบาย แบมือขอเงินประชาชน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นพักไว้ก่อน ขอกระจายเงินบริจาคสู่นักการเมืองท้องถิ่นก่อน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ก็ขนาดสส.ยังขอเงินบริจาค พันธุ์อาจ ผู้สมัครนายก อบจ เชียงใหม่ เลยขานรับนโยบาย แบมือขอเงินประชาชน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นพักไว้ก่อน ขอกระจายเงินบริจาคสู่นักการเมืองท้องถิ่นก่อน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 425 Views 0 Reviews
  • ถึงเวลา "ทรัมป์ 2.0" ตัวป่วนอเมริกาและโลก
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่20 มกราคม ผมได้นั่งฟังสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ ยาวประมาณ 30 นาที เขาบอกว่า“ยุคทองของอเมริกา”กำลังจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่โผงผาง นิสัยใจคอคล้ายๆผม สุนทรพจน์สนุก มีสีสัน แล้วผมก็ต้องยอมรับว่า นายคนนี้เป็นตัวป่วนโลกจริงๆ สื่ออเมริการ้ายกาจมากนับเลยว่านายทรัมป์พูดได้ 2,885 คำ หรือยาวเป็นสองเท่า มากกว่าสมัยแรกที่พูดพูด 1,433 คำ
    .
    พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีมหาเศรษฐีเข้าร่วมมากมายเลย หลายคนก็เข้ามาซบ เอาอกเอาใจนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊ก นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ซันดาร์ พิชัย คนอินเดีย ซีอีอีของ Google นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple คนเหล่านี้เคยต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างออกหน้าออกตา จนนายทรัมป์ ประกาศว่าจะเช็กบิลกับคนพวกนี้หลังจากเลือกตั้งชนะ พวกนี้ก็เลยกระโดดเข้ามาร่วมวงก่อน มาแสดงความยินดี เพราะจะต้องยอมสยบกับนายทรัมป์ มิหนำซ้ำ ยังบริจาคเงินก้อนโตให้กับนายทรัมป์ แลกกับความอยู่รอดทางธุรกิจ
    .
    พิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ8,500ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ในการระดมทุนในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Meta, Google, Amzaon, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐฯ เมื่ออ่านเกมให้เป็น เงินบริจาคก็เหมือนเป็นค่าต๋ง ค่าคุ้มครอง ถ้าพูดในลักษณะเป็นมาเฟีย เป็นเครื่องบรรณาการซึ่งก็คือเงินสินบนนั่นเอง ใครบอกว่าอเมริกาไม่รับสินบน รับครับ แต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือ โฉมหน้าที่แท้จริงของการเมืองภายใต้ทุนนิยมของชาวอเมริกันอย่างแท้จริง
    .
    นายทรัมป์ประกาศจะสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นายทรัมป์กับนโยบายกลับไม่ยอมรับความหลากหลาย ปฏิเสธความร่วมมือ คิดเฉพาะผลประโยชน์ของตัว และทิ้งคุณค่าที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นายทรัมป์ กลับหวนกลับไปใช้ จมปลักกับอุตสาหกรรมดั้งเดิมและใช้มาตรการปิดล้อม กีดกันคู่แข่ง ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเอง
    .
    ที่ย้อนแย้งที่สุด คือประชาชนอเมริกันเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาเลือกคนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นผู้นำประเทศ นี่คือภาวะกบเลือกนาย ที่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับกรรมมากที่สุดก็คือชาวอเมริกันทั้งหลาย
    .
    ทรัมป์พูดบอกว่า เราจะสร้างสังคมที่ไม่แคร์เชื้อชาติ จะเน้นที่คุณสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะมีนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะยอมรับบุคคลเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง ยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
    .
    วันที่ 20 มกราคมในวันรับตำแหน่ง ทรัมป์บ้าเลือดมาก ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารของไบเดน 78 ฉบับ เซ็นยกเลิกๆ เหมือนกับตบหน้านายไบเดน ว่านาทีแรกที่กูเข้ามาเป็นประธานาธิบดี สิ่งที่มึงทำมา กูจะเซ็นออกให้หมด เพราะว่ามันไร้สาระ นั่นคือการตอบโต้ทางการเมือง ในจำนวนนี้รวมถึงคำสั่งสิบกว่าฉบับที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเกย์และคนข้ามเพศ ปิดทางไม่ให้นำงบประมาณของรัฐไปใช้โปรโมตอุดมการณ์ทางการเพศ
    .
    นี่ไงล่ะอเมริกาประเทศที่อวดอ้างตัวเองว่าเป็นประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ เป็นประเทศในฝัน ดินแดนในอุดมคติของเหล่าพรรคประชาชนและพวกสามกีบ NGO ฝรั่งทั้งหลาย รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโปรโมตเหลือเกินเรื่อง LGBTQ+ จัด Pride Month สมรสเท่าเทียม ผมก็ฝากไปถึงพรรคประชาชนด้วย คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพวกคุณที่เทิดทูนอเมริกาเป็นพ่อ น่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่สถานทูตอเมริกานะ บอกว่านโยบายทรัมป์ เป็นการริดลอนสิทธิพลเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ล้าหลัง พวกคุณกล้าไหม ตอบผมหน่อยซิ ถ้าไม่กล้ามันก็เป็นข้อเท็จจริงว่าคุณเป็นแค่ทาสรับใช้นักการเมืองและทุนนิยมของตะวันตก
    .
    ผมจะฟันธงว่า อีกไม่นานอเมริกาจะเกิดความวุ่นวาย และกระจายมาทางประเทศต่างๆ แน่นอน บรรดาสามนิ้วที่เทิดทูนอเมริกาว่าเป็นพ่อ จะเอาอย่างไรต่อไป คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผลผลิตจากอเมริกาที่ชอบไปผลักดันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ใส่เสื้อสีรุ้ง เอาใจแฟนคลับ จะเอาอย่างไรต่อไป ตอบผมหน่อยซิ
    ถึงเวลา "ทรัมป์ 2.0" ตัวป่วนอเมริกาและโลก . เมื่อวันจันทร์ที่20 มกราคม ผมได้นั่งฟังสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ ยาวประมาณ 30 นาที เขาบอกว่า“ยุคทองของอเมริกา”กำลังจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่โผงผาง นิสัยใจคอคล้ายๆผม สุนทรพจน์สนุก มีสีสัน แล้วผมก็ต้องยอมรับว่า นายคนนี้เป็นตัวป่วนโลกจริงๆ สื่ออเมริการ้ายกาจมากนับเลยว่านายทรัมป์พูดได้ 2,885 คำ หรือยาวเป็นสองเท่า มากกว่าสมัยแรกที่พูดพูด 1,433 คำ . พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีมหาเศรษฐีเข้าร่วมมากมายเลย หลายคนก็เข้ามาซบ เอาอกเอาใจนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊ก นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ซันดาร์ พิชัย คนอินเดีย ซีอีอีของ Google นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple คนเหล่านี้เคยต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างออกหน้าออกตา จนนายทรัมป์ ประกาศว่าจะเช็กบิลกับคนพวกนี้หลังจากเลือกตั้งชนะ พวกนี้ก็เลยกระโดดเข้ามาร่วมวงก่อน มาแสดงความยินดี เพราะจะต้องยอมสยบกับนายทรัมป์ มิหนำซ้ำ ยังบริจาคเงินก้อนโตให้กับนายทรัมป์ แลกกับความอยู่รอดทางธุรกิจ . พิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ8,500ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ในการระดมทุนในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Meta, Google, Amzaon, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐฯ เมื่ออ่านเกมให้เป็น เงินบริจาคก็เหมือนเป็นค่าต๋ง ค่าคุ้มครอง ถ้าพูดในลักษณะเป็นมาเฟีย เป็นเครื่องบรรณาการซึ่งก็คือเงินสินบนนั่นเอง ใครบอกว่าอเมริกาไม่รับสินบน รับครับ แต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือ โฉมหน้าที่แท้จริงของการเมืองภายใต้ทุนนิยมของชาวอเมริกันอย่างแท้จริง . นายทรัมป์ประกาศจะสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นายทรัมป์กับนโยบายกลับไม่ยอมรับความหลากหลาย ปฏิเสธความร่วมมือ คิดเฉพาะผลประโยชน์ของตัว และทิ้งคุณค่าที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นายทรัมป์ กลับหวนกลับไปใช้ จมปลักกับอุตสาหกรรมดั้งเดิมและใช้มาตรการปิดล้อม กีดกันคู่แข่ง ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเอง . ที่ย้อนแย้งที่สุด คือประชาชนอเมริกันเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาเลือกคนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นผู้นำประเทศ นี่คือภาวะกบเลือกนาย ที่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับกรรมมากที่สุดก็คือชาวอเมริกันทั้งหลาย . ทรัมป์พูดบอกว่า เราจะสร้างสังคมที่ไม่แคร์เชื้อชาติ จะเน้นที่คุณสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะมีนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะยอมรับบุคคลเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง ยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ . วันที่ 20 มกราคมในวันรับตำแหน่ง ทรัมป์บ้าเลือดมาก ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารของไบเดน 78 ฉบับ เซ็นยกเลิกๆ เหมือนกับตบหน้านายไบเดน ว่านาทีแรกที่กูเข้ามาเป็นประธานาธิบดี สิ่งที่มึงทำมา กูจะเซ็นออกให้หมด เพราะว่ามันไร้สาระ นั่นคือการตอบโต้ทางการเมือง ในจำนวนนี้รวมถึงคำสั่งสิบกว่าฉบับที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเกย์และคนข้ามเพศ ปิดทางไม่ให้นำงบประมาณของรัฐไปใช้โปรโมตอุดมการณ์ทางการเพศ . นี่ไงล่ะอเมริกาประเทศที่อวดอ้างตัวเองว่าเป็นประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ เป็นประเทศในฝัน ดินแดนในอุดมคติของเหล่าพรรคประชาชนและพวกสามกีบ NGO ฝรั่งทั้งหลาย รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโปรโมตเหลือเกินเรื่อง LGBTQ+ จัด Pride Month สมรสเท่าเทียม ผมก็ฝากไปถึงพรรคประชาชนด้วย คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพวกคุณที่เทิดทูนอเมริกาเป็นพ่อ น่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่สถานทูตอเมริกานะ บอกว่านโยบายทรัมป์ เป็นการริดลอนสิทธิพลเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ล้าหลัง พวกคุณกล้าไหม ตอบผมหน่อยซิ ถ้าไม่กล้ามันก็เป็นข้อเท็จจริงว่าคุณเป็นแค่ทาสรับใช้นักการเมืองและทุนนิยมของตะวันตก . ผมจะฟันธงว่า อีกไม่นานอเมริกาจะเกิดความวุ่นวาย และกระจายมาทางประเทศต่างๆ แน่นอน บรรดาสามนิ้วที่เทิดทูนอเมริกาว่าเป็นพ่อ จะเอาอย่างไรต่อไป คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผลผลิตจากอเมริกาที่ชอบไปผลักดันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ใส่เสื้อสีรุ้ง เอาใจแฟนคลับ จะเอาอย่างไรต่อไป ตอบผมหน่อยซิ
    Like
    Love
    Haha
    30
    2 Comments 0 Shares 2299 Views 0 Reviews
More Results