• ผบช.ก.ส่งตัวแทนแจ้งความดำเนินคดีแก๊งอบรมอาสาตำรวจชาวจีน แอบอ้างใช้ตราสัญลักษณ์ “CIB” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001103

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบช.ก.ส่งตัวแทนแจ้งความดำเนินคดีแก๊งอบรมอาสาตำรวจชาวจีน แอบอ้างใช้ตราสัญลักษณ์ “CIB” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001103 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจสอบสวนกลางเผยถูกแอบอ้างตราสัญลักษณ์ CIB เปิดอบรมหลักสูตรตำรวจอาสาให้ชาวจีนเรียกเก็บเงิน 3.8 หมื่นบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000460

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจสอบสวนกลางเผยถูกแอบอ้างตราสัญลักษณ์ CIB เปิดอบรมหลักสูตรตำรวจอาสาให้ชาวจีนเรียกเก็บเงิน 3.8 หมื่นบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000460 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1591 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจสอบสวนกลางเผยถูกแอบอ้างตราสัญลักษณ์ CIB เปิดอบรมหลักสูตรตำรวจอาสาให้ชาวจีนเรียกเก็บเงิน 3.8 หมื่นบาท

    วันนี้ ( 2 ม.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท.พร้อมทีมประชาสัมพันธ์ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ชี้แจงกรณีมีผู้แอบอ้างตราสัญลักษณ์ CIB ของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการอบรมหลักสูตรตำรวจอาสาของชาวจีน

    พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่าสืบเนื่องจากประเด็นที่เป็นข่าวในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการอบรมอาสาตำรวจคนจีนที่เรียกเก็บค่าอบรม 38,000 บาท ระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นการอบรม 3 วัน เมื่อผ่านการอบรมจะมีใบรับรอง ซึ่งมีอายุ 2 ปี พร้อมได้รับ หมวก, เสื้อยืด, เสื้อกั๊กตำรวจ, เสื้อสะท้อนแสง, ใบรับรอง, และบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนของตารางกิจกรรมปรากฏ “ตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” พร้อมกับ ชื่อ “CIB” นั้น ขอชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอบรมอาสาตำรวจในกรณีดังกล่าว แต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้จัดการอบรม มิได้มีการขอใช้ตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มายังหน่วยงานผู้รับผิดชอบแต่อย่างใด

    พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่าตำรวจสอบสวนกลาง ขอแจ้งเตือนว่าหากประชาชนพบเห็นประกาศเชิญชวนในลักษณะต่าง ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งหากมีการนำตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาใช้ประกอบในการโพสต์เชิญชวน สามารถสอบถาม หรือแจ้งเบาะแสมายังเพจเฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากความเข้าใจผิด และการนำข่าวที่ไม่ถูกต้องไปเผยแพร่ต่อ

    #MGROnline #สัญลักษณ์CIB #CIB #ตำรวจสอบสวนกลาง
    ตำรวจสอบสวนกลางเผยถูกแอบอ้างตราสัญลักษณ์ CIB เปิดอบรมหลักสูตรตำรวจอาสาให้ชาวจีนเรียกเก็บเงิน 3.8 หมื่นบาท • วันนี้ ( 2 ม.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท.พร้อมทีมประชาสัมพันธ์ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ชี้แจงกรณีมีผู้แอบอ้างตราสัญลักษณ์ CIB ของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการอบรมหลักสูตรตำรวจอาสาของชาวจีน • พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่าสืบเนื่องจากประเด็นที่เป็นข่าวในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการอบรมอาสาตำรวจคนจีนที่เรียกเก็บค่าอบรม 38,000 บาท ระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นการอบรม 3 วัน เมื่อผ่านการอบรมจะมีใบรับรอง ซึ่งมีอายุ 2 ปี พร้อมได้รับ หมวก, เสื้อยืด, เสื้อกั๊กตำรวจ, เสื้อสะท้อนแสง, ใบรับรอง, และบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนของตารางกิจกรรมปรากฏ “ตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” พร้อมกับ ชื่อ “CIB” นั้น ขอชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอบรมอาสาตำรวจในกรณีดังกล่าว แต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้จัดการอบรม มิได้มีการขอใช้ตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มายังหน่วยงานผู้รับผิดชอบแต่อย่างใด • พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่าตำรวจสอบสวนกลาง ขอแจ้งเตือนว่าหากประชาชนพบเห็นประกาศเชิญชวนในลักษณะต่าง ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งหากมีการนำตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาใช้ประกอบในการโพสต์เชิญชวน สามารถสอบถาม หรือแจ้งเบาะแสมายังเพจเฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากความเข้าใจผิด และการนำข่าวที่ไม่ถูกต้องไปเผยแพร่ต่อ • #MGROnline #สัญลักษณ์CIB #CIB #ตำรวจสอบสวนกลาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • หูย มีคนแอบเห็นพี่คิงส์ตอนพา ผสห ไปกับโอมเมื่อวานที่ CIB ด้วยอะ พี่คิงส์นี่เขิลเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    หูย มีคนแอบเห็นพี่คิงส์ตอนพา ผสห ไปกับโอมเมื่อวานที่ CIB ด้วยอะ พี่คิงส์นี่เขิลเลย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนชื่อแม่มะได้ข่มขู่วผสห ไม่ให้ไปร่วมที่ CIB และมีหนอนเล็กน้อยที่ถอนตัว พี่คิงส์กับโอมพร้อมเดินหน้าต่อ ส่วนหนอนเดี๋ยวเจอGU
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    มีคนชื่อแม่มะได้ข่มขู่วผสห ไม่ให้ไปร่วมที่ CIB และมีหนอนเล็กน้อยที่ถอนตัว พี่คิงส์กับโอมพร้อมเดินหน้าต่อ ส่วนหนอนเดี๋ยวเจอGU #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มี 2 ข่าวดัง เช้า อ.ปานเทพทวงคำตอบนายกMOU44 บ่าย โอมยื่นสำนวน CIB พี่น้องแฝด2มิจฉ๋าซีพฉ๊อโGงปชช พ่วงอีกคนฟอก รอชม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    วันนี้มี 2 ข่าวดัง เช้า อ.ปานเทพทวงคำตอบนายกMOU44 บ่าย โอมยื่นสำนวน CIB พี่น้องแฝด2มิจฉ๋าซีพฉ๊อโGงปชช พ่วงอีกคนฟอก รอชม #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝากถึงผสห ที่ตกสำรวจทุกคน ใครอยากได้เงินนคืนจากพี่น้องแฝด 2 ผ.ตุ๋นไป รีบรวมกลุ่มพบโอมพรุ่งนี้24ธค67ที่ CIB ตกขบวนคืออดนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ฝากถึงผสห ที่ตกสำรวจทุกคน ใครอยากได้เงินนคืนจากพี่น้องแฝด 2 ผ.ตุ๋นไป รีบรวมกลุ่มพบโอมพรุ่งนี้24ธค67ที่ CIB ตกขบวนคืออดนะ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักตํารวจสอบสวนกลางหรือCIB เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการทําคดีการทําธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนก่อนหน้านี้
    รวมทั้งเข้ามาทําคดีอาชญากรรมสําคัญมากมาย
    โดยเฉพาะล่าสุดเพิ่งเข้าทลายกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงเหยื่อไปอยู่ในขบวนการค้.ามนุ..ษย์เพื่อขายบริก..ารทางเ.พ..ศ
    ในโลกออนไลน์จึงเริ่มมีกระแสอยากเห็นภาพบรรยากาศห้องขังของตํารวจ CIB
    ปรากฏว่ากองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางโซเชียลมีเดียพร้อมระบุว่ารีวิวห้องขัง cib ตามคําเรียกร้อง
    ตํารวจสอบสวนกลาง cibมืออาชีพเป็นการเคียงข้างประชาชน
    เนื้อหาในคลิประบุว่า ห้องพักฟรีที่ใครก็ไม่อยากมามีทั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม
    ไม่ต้องเหงามีเราอยู่เป็นเพื่อน
    ที่พักรองรับได้ทั้งชายและหญิงพร้อมรับทุกคดี
    พื้นที่กว้างและไม่อ้างว้างอย่างแน่นอน
    บริการห้องน้ําสบายแบบ openair คิดถึงก็มาเยี่ยมกันได้ เช้าเที่ยง เย็น
    อาหาร3 มื้อ รับรองไม่มีอดและนี่คือการรีวิวห้องขังของ cibทางที่ดีอย่ามาดีกว่า
    โดยหากมีผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีต่างๆ
    ทางพนักงานสอบสวนจะมีอํานาจหน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องหาเป็นเวลาไม่เกิน2 วัน หรือ 48ชั่วโมง
    เพื่อทําการสอบสวนผู้ต้องหาให้เสร็จสิ้น
    หากพนักงานสอบสวนไม่ให้ผู้ต้องหาประกันตัวก็อาจจะนําตัวผู้ต้องหาส่งสารเพื่อฝากขังต่อไป
    และหากผู้ต้องหาถูกฝากขังที่ซีไอบีจะมีอาหารฟรีถึง 3 มื้อและสิ่งอื่นๆ
    ที่ผู้ต้องหาพึงจะต้องได้รับ ตอนนี้เราก็มาลุ้นกันว่าบอสนั้นในวงการจะได้เข้ารับบริการที่นี่คนต่อไป
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดํา
    ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักตํารวจสอบสวนกลางหรือCIB เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการทําคดีการทําธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนก่อนหน้านี้ รวมทั้งเข้ามาทําคดีอาชญากรรมสําคัญมากมาย โดยเฉพาะล่าสุดเพิ่งเข้าทลายกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงเหยื่อไปอยู่ในขบวนการค้.ามนุ..ษย์เพื่อขายบริก..ารทางเ.พ..ศ ในโลกออนไลน์จึงเริ่มมีกระแสอยากเห็นภาพบรรยากาศห้องขังของตํารวจ CIB ปรากฏว่ากองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางโซเชียลมีเดียพร้อมระบุว่ารีวิวห้องขัง cib ตามคําเรียกร้อง ตํารวจสอบสวนกลาง cibมืออาชีพเป็นการเคียงข้างประชาชน เนื้อหาในคลิประบุว่า ห้องพักฟรีที่ใครก็ไม่อยากมามีทั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ไม่ต้องเหงามีเราอยู่เป็นเพื่อน ที่พักรองรับได้ทั้งชายและหญิงพร้อมรับทุกคดี พื้นที่กว้างและไม่อ้างว้างอย่างแน่นอน บริการห้องน้ําสบายแบบ openair คิดถึงก็มาเยี่ยมกันได้ เช้าเที่ยง เย็น อาหาร3 มื้อ รับรองไม่มีอดและนี่คือการรีวิวห้องขังของ cibทางที่ดีอย่ามาดีกว่า โดยหากมีผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีต่างๆ ทางพนักงานสอบสวนจะมีอํานาจหน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องหาเป็นเวลาไม่เกิน2 วัน หรือ 48ชั่วโมง เพื่อทําการสอบสวนผู้ต้องหาให้เสร็จสิ้น หากพนักงานสอบสวนไม่ให้ผู้ต้องหาประกันตัวก็อาจจะนําตัวผู้ต้องหาส่งสารเพื่อฝากขังต่อไป และหากผู้ต้องหาถูกฝากขังที่ซีไอบีจะมีอาหารฟรีถึง 3 มื้อและสิ่งอื่นๆ ที่ผู้ต้องหาพึงจะต้องได้รับ ตอนนี้เราก็มาลุ้นกันว่าบอสนั้นในวงการจะได้เข้ารับบริการที่นี่คนต่อไป ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดํา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง

    เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน

    กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567

    ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน

    มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย

    สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน

    #Newskit
    CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567 ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 609 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายเดชา เจ้าของฉายา ปากม๋าเป็นปกติธุระ
    ทนายเดชา ปกติก็โดนทัวร์ลงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว จากจุดยืนเลือกข้างทนายตั้ม แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับเลวร้ายกว่าเดิม ทัวร์ลงเพจทนายคลายทุกข์จนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อวันพ่อ 5 ธันวาคม เพราะดันไปหาเรื่องเอง ไปโพสต์ล่อแหลมถึงพ่อ จนคนจํานวนมากไม่พอใจมองว่ามีเจตนาไม่ดีดูยังไงก็เหมือนแซะสถาบัน โดนกระหน่ําด่า จนทนายเดชาต้องลบโพสต์เจ้าปัญหาทิ้ง
    แล้วก็ไลฟ์สดด่าคนที่มาทัวร์ลงด้วยถ้อยคําหยาบคาย อย่างจัญไร ไอ้ควาย ทั้งสาปแช่งให้ตกนรกออกอาการสติแตกออกปากหยาบคายเช่นนี้ ตรงตามที่บิ๊กเต่า พลตํารวจตรีจรุญเกียรติ ปานแก้ว ตอบกลับทนายบางคน โดยนิยามให้เป็นอินฟลูปากหมา แค่คํานี้คําเดียวบิ๊กเต่า ก็สอบผ่านฉลุย เป็นอินฟลูตํารวจตามนโยบาย ผบ ตร ทันที
    ปฏิกิริยาตอบกลับแบบไม่เกรงใจบอกให้รู้ว่า ในสายตาบิ๊กเต่าคนอย่างทนายเดชาไม่มีราคาเอาเสียเลย คํานิยามจากบิ๊กเต่านับว่าเข้ากันเป๊ะกับสถานการณ์ล่าสุดของทนายเดชาที่ดันมาโพสต์แซะพ่อ จนสียศูนย์ ด่ากราดคนอย่างหยาบคาย
    การที่ทนายเดชาแกว่งปากใส่บิ๊กเต่าก่อน โดยเตือนให้ระวังติดคุกเพราะการแถลงข่าวบ่อยถือเป็นคําพูดที่ไม่เข้าท่าเพราะสื่อจะรู้อยู่แล้วตํารวจบิ๊กๆ ในสอบสวนกลางล้วนแต่ให้สัมภาษณ์อย่างระมัดระวังสุดขีดไม่เคยหลุดข้อมูลเชิงลึกให้เสียรูปคดี นักข่าวล่อหลอกถามเท่าไหร่ก็รู้ทันหมดไม่ว่าจะบิ๊กก้องพลตํารวจโท จิรภพ ภูริเดช บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม และก็ตัวบิ๊กเต่าเองล้วนแต่รู้วิธีการให้ข่าวว่าแค่ไหนคือพอดี
    คนละแนวกับทนายเดชาต่อให้รู้น้อยก็พูดเหมือนรู้มาก อย่างพูดว่าทนายตั้มจะใช้ทีมทนายของบิ๊กโจ๊กก็ถูกทางทีมทนายของบิ๊กโจ๊กปฏิเสธหน้าแหก เคยบอกว่าตํารวจสอบสวนกลางไม่ออกหมายจับเจ๊พัฒน์คดีตบทรัพย์ เจ๊พัฒน์จะได้ลอยกระทง แต่สุดท้ายตํารวจก็ออกหมายจับเจ๊พัฒน์ในวันลอยกระทง ช่างกล้าพูดว่าสื่อไม่สามารถเจาะข่าวทางลึกของตํารวจได้ทั้งที่สื่อสามารถขุดคุ้ยข้อมูลลึกของทนายตั้มแบบรายวันนําเสนอกันเป็นเดือนแล้ว
    ขณะที่ตํารวจ CIB กําลังเป็นขาขึ้นเป็นขวัญใจประชาชน คนที่กระแสตกสวนทางตํารวจก็มีแต่ทนายเดชานี่แหละยอดไลค์ทุกวันนี้ไม่ได้สัมพันธ์กับผู้ติดตามเป็นล้านๆคนเลยไหนยังเป็นทนายคนแรกที่ประชาชนไม่เกรงใจคอมเม้นแจก ค กันเป็นร้อยๆ กลายเป็นเจ้าพ่อควายไปเรียบร้อยแล้ว สะท้อนเครดิตความน่าเชื่อถือของทนายเดชาเองว่ากําลังดําดิ่งเจ้าตัวควรจะรู้ตัวได้แล้วไม่ใช่แค่เป็นแชมป์คอควายเท่านั้น
    ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาทนายความแห่งประเทศไทยระบุว่าทนายเดชามีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความจํานวนมาก ครองแชมป์การถูกร้องเรียนทิ้งห่างคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่นถือเป็นทนายเหนือทนายของจริง ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทนายเดชา เจ้าของฉายา ปากม๋าเป็นปกติธุระ ทนายเดชา ปกติก็โดนทัวร์ลงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว จากจุดยืนเลือกข้างทนายตั้ม แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับเลวร้ายกว่าเดิม ทัวร์ลงเพจทนายคลายทุกข์จนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อวันพ่อ 5 ธันวาคม เพราะดันไปหาเรื่องเอง ไปโพสต์ล่อแหลมถึงพ่อ จนคนจํานวนมากไม่พอใจมองว่ามีเจตนาไม่ดีดูยังไงก็เหมือนแซะสถาบัน โดนกระหน่ําด่า จนทนายเดชาต้องลบโพสต์เจ้าปัญหาทิ้ง แล้วก็ไลฟ์สดด่าคนที่มาทัวร์ลงด้วยถ้อยคําหยาบคาย อย่างจัญไร ไอ้ควาย ทั้งสาปแช่งให้ตกนรกออกอาการสติแตกออกปากหยาบคายเช่นนี้ ตรงตามที่บิ๊กเต่า พลตํารวจตรีจรุญเกียรติ ปานแก้ว ตอบกลับทนายบางคน โดยนิยามให้เป็นอินฟลูปากหมา แค่คํานี้คําเดียวบิ๊กเต่า ก็สอบผ่านฉลุย เป็นอินฟลูตํารวจตามนโยบาย ผบ ตร ทันที ปฏิกิริยาตอบกลับแบบไม่เกรงใจบอกให้รู้ว่า ในสายตาบิ๊กเต่าคนอย่างทนายเดชาไม่มีราคาเอาเสียเลย คํานิยามจากบิ๊กเต่านับว่าเข้ากันเป๊ะกับสถานการณ์ล่าสุดของทนายเดชาที่ดันมาโพสต์แซะพ่อ จนสียศูนย์ ด่ากราดคนอย่างหยาบคาย การที่ทนายเดชาแกว่งปากใส่บิ๊กเต่าก่อน โดยเตือนให้ระวังติดคุกเพราะการแถลงข่าวบ่อยถือเป็นคําพูดที่ไม่เข้าท่าเพราะสื่อจะรู้อยู่แล้วตํารวจบิ๊กๆ ในสอบสวนกลางล้วนแต่ให้สัมภาษณ์อย่างระมัดระวังสุดขีดไม่เคยหลุดข้อมูลเชิงลึกให้เสียรูปคดี นักข่าวล่อหลอกถามเท่าไหร่ก็รู้ทันหมดไม่ว่าจะบิ๊กก้องพลตํารวจโท จิรภพ ภูริเดช บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม และก็ตัวบิ๊กเต่าเองล้วนแต่รู้วิธีการให้ข่าวว่าแค่ไหนคือพอดี คนละแนวกับทนายเดชาต่อให้รู้น้อยก็พูดเหมือนรู้มาก อย่างพูดว่าทนายตั้มจะใช้ทีมทนายของบิ๊กโจ๊กก็ถูกทางทีมทนายของบิ๊กโจ๊กปฏิเสธหน้าแหก เคยบอกว่าตํารวจสอบสวนกลางไม่ออกหมายจับเจ๊พัฒน์คดีตบทรัพย์ เจ๊พัฒน์จะได้ลอยกระทง แต่สุดท้ายตํารวจก็ออกหมายจับเจ๊พัฒน์ในวันลอยกระทง ช่างกล้าพูดว่าสื่อไม่สามารถเจาะข่าวทางลึกของตํารวจได้ทั้งที่สื่อสามารถขุดคุ้ยข้อมูลลึกของทนายตั้มแบบรายวันนําเสนอกันเป็นเดือนแล้ว ขณะที่ตํารวจ CIB กําลังเป็นขาขึ้นเป็นขวัญใจประชาชน คนที่กระแสตกสวนทางตํารวจก็มีแต่ทนายเดชานี่แหละยอดไลค์ทุกวันนี้ไม่ได้สัมพันธ์กับผู้ติดตามเป็นล้านๆคนเลยไหนยังเป็นทนายคนแรกที่ประชาชนไม่เกรงใจคอมเม้นแจก ค กันเป็นร้อยๆ กลายเป็นเจ้าพ่อควายไปเรียบร้อยแล้ว สะท้อนเครดิตความน่าเชื่อถือของทนายเดชาเองว่ากําลังดําดิ่งเจ้าตัวควรจะรู้ตัวได้แล้วไม่ใช่แค่เป็นแชมป์คอควายเท่านั้น ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาทนายความแห่งประเทศไทยระบุว่าทนายเดชามีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความจํานวนมาก ครองแชมป์การถูกร้องเรียนทิ้งห่างคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่นถือเป็นทนายเหนือทนายของจริง ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีวิวห้องขัง CIB
    รีวิวห้องขัง CIB
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • สุดพีค ! CIB รีวิว "ห้องพักฟรี" ที่ใครก็ไม่อยากมา?!? 07/12/67 #ห้องพักฟรี #CIB #ห้องขัง CIB
    สุดพีค ! CIB รีวิว "ห้องพักฟรี" ที่ใครก็ไม่อยากมา?!? 07/12/67 #ห้องพักฟรี #CIB #ห้องขัง CIB
    Like
    Haha
    Yay
    11
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1060 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • 🤦 เมื่อพูดถึงสันติภาพ, ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักรพยายามเสริมสร้างตำแหน่งของตัวแทนเคียฟในสนามรบ

    อันเป็นผลมาจากนโยบายกระหายเลือดที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกนี้, ชาวอูเครนที่ถูกเกณฑ์ทหารโดยบังคับอีกหลายพันคนน่าจะรีบไปสู่จุดจบ
    .
    🤦 While speaking of peace, in practice the UK authorities strive to strengthen the position of their Kiev proxies on the battlefield.

    As a result of this bloodthirsty Western-backed policy, thousands more forcibly conscripted Ukrainians will likely be hastened to their demise.

    http://t.me/RusEmbUK/1904
    .
    10:02 PM · Dec 4, 2024 · 5,587 Views
    https://x.com/RussianEmbassy/status/1864324408724111494
    🤦 เมื่อพูดถึงสันติภาพ, ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักรพยายามเสริมสร้างตำแหน่งของตัวแทนเคียฟในสนามรบ อันเป็นผลมาจากนโยบายกระหายเลือดที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกนี้, ชาวอูเครนที่ถูกเกณฑ์ทหารโดยบังคับอีกหลายพันคนน่าจะรีบไปสู่จุดจบ . 🤦 While speaking of peace, in practice the UK authorities strive to strengthen the position of their Kiev proxies on the battlefield. As a result of this bloodthirsty Western-backed policy, thousands more forcibly conscripted Ukrainians will likely be hastened to their demise. http://t.me/RusEmbUK/1904 . 10:02 PM · Dec 4, 2024 · 5,587 Views https://x.com/RussianEmbassy/status/1864324408724111494
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29/11/67

    ทำก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทานเองปลอดภัย
    https://youtu.be/EQxRA0qnmPk?si=8T2zIGAX3FcIbuWz
    29/11/67 ทำก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทานเองปลอดภัย https://youtu.be/EQxRA0qnmPk?si=8T2zIGAX3FcIbuWz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "CIB ขยี้มังกรเทา" รวบสาวไทยร่วมสามีชาวจีนเช่าบ้านเชียงใหม่ ลักลอบตั้งซิมบ็อกซ์ 642 เครื่อง ยึดซิมการ์ดโทรศัพท์ เกือบ 6 แสนชิ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114212

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "CIB ขยี้มังกรเทา" รวบสาวไทยร่วมสามีชาวจีนเช่าบ้านเชียงใหม่ ลักลอบตั้งซิมบ็อกซ์ 642 เครื่อง ยึดซิมการ์ดโทรศัพท์ เกือบ 6 แสนชิ้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114212 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    20
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1389 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIB แถลงคุมตัว นุ-สารินี แจ้ง3ข้อหา มีทนายเกี่ยวข้อง (12/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #คดี39ล้าน #ร่วมกันฟอกเงิน #โอนเงินทิพย์ #คริปโตทิพย์
    CIB แถลงคุมตัว นุ-สารินี แจ้ง3ข้อหา มีทนายเกี่ยวข้อง (12/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #คดี39ล้าน #ร่วมกันฟอกเงิน #โอนเงินทิพย์ #คริปโตทิพย์
    Like
    18
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1519 มุมมอง 321 0 รีวิว
  • TikTok@cibpolice #ตำรวจสอบสวนกลาง #CIB #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    TikTok@cibpolice #ตำรวจสอบสวนกลาง #CIB #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 135 0 รีวิว
  • TikTok@cibpolice #ตำรวจสอบสวนกลาง #CIB #cibtiktok #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    TikTok@cibpolice #ตำรวจสอบสวนกลาง #CIB #cibtiktok #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 76 0 รีวิว
  • TikTok@cibpolice #CIB #ตำรวจสอบสวนกลาง #จิตอาสา #เกาะลิบง #แบ่งปัน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@cibpolice #CIB #ตำรวจสอบสวนกลาง #จิตอาสา #เกาะลิบง #แบ่งปัน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 551 มุมมอง 115 0 รีวิว
  • “โยกเงินคริปโต” คนพูดเท็จต้องรับผิดชอบ 22/10/67 #เงินคริปโต #CIB #ดิไอคอน #The Icon #บอสพอล
    “โยกเงินคริปโต” คนพูดเท็จต้องรับผิดชอบ 22/10/67 #เงินคริปโต #CIB #ดิไอคอน #The Icon #บอสพอล
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1434 มุมมอง 370 0 รีวิว
  • เพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)” โพสต์เปิดภาพที่พักสำหรับขบวนการแชร์ลูกโซ่ ชาวเน็ตแซวน่ากลัวกว่า “ธี่หยด” ภาพยนตร์ดัง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100211

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)” โพสต์เปิดภาพที่พักสำหรับขบวนการแชร์ลูกโซ่ ชาวเน็ตแซวน่ากลัวกว่า “ธี่หยด” ภาพยนตร์ดัง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100211 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2635 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤣นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กำลังกลายเป็น โทนี่ เฟาซี แห่งตะวันออกกลางอย่างรวดเร็ว🤣

    นอกจากอาวุธแล้ว, อิสราเอลยังพึ่งพาภาพลักษณ์ของการอยู่ยงคงกระพันเพื่อความอยู่รอด

    เหตุการณ์ในฉนวนกาซา, เลบานอน และอิหร่านกำลังทำลายภาพลักษณ์นี้

    🤣เพราะทุกสิ่งที่ได้ทำไปเพื่อ "การป้องกัน" ของอิสราเอล ขัดแย้งกับความเป็นจริง, ตรรกะ, อิสราเอลเองพร้อมกับตะวันออกกลางที่เหลือ และสหรัฐอเมริกากำลังจะกลายเป็นความเสียหายทางอ้อมในสงครามระดับภูมิภาคที่ไม่ควรเกิดขึ้น🤣

    Douglas Macgregor
    .
    PM Netanyahu is rapidly becoming the Tony Fauci of the Middle East.

    More than weapons, Israel relies on an aura of invincibility for its survival.

    Events in Gaza, Lebanon and Iran are shattering this image.

    Because everything that has been done in Israel’s “defense” conflicts with reality, logic, Israel itself along with the rest of the Middle East and the United States are on the path to become collateral damage in a regional war that should not happen.
    .
    3:45 AM · Oct 17, 2024 · 52.5K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1846653628779503730
    🤣นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กำลังกลายเป็น โทนี่ เฟาซี แห่งตะวันออกกลางอย่างรวดเร็ว🤣 นอกจากอาวุธแล้ว, อิสราเอลยังพึ่งพาภาพลักษณ์ของการอยู่ยงคงกระพันเพื่อความอยู่รอด เหตุการณ์ในฉนวนกาซา, เลบานอน และอิหร่านกำลังทำลายภาพลักษณ์นี้ 🤣เพราะทุกสิ่งที่ได้ทำไปเพื่อ "การป้องกัน" ของอิสราเอล ขัดแย้งกับความเป็นจริง, ตรรกะ, อิสราเอลเองพร้อมกับตะวันออกกลางที่เหลือ และสหรัฐอเมริกากำลังจะกลายเป็นความเสียหายทางอ้อมในสงครามระดับภูมิภาคที่ไม่ควรเกิดขึ้น🤣 Douglas Macgregor . PM Netanyahu is rapidly becoming the Tony Fauci of the Middle East. More than weapons, Israel relies on an aura of invincibility for its survival. Events in Gaza, Lebanon and Iran are shattering this image. Because everything that has been done in Israel’s “defense” conflicts with reality, logic, Israel itself along with the rest of the Middle East and the United States are on the path to become collateral damage in a regional war that should not happen. . 3:45 AM · Oct 17, 2024 · 52.5K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1846653628779503730
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
    1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว
    2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว
    3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)ถูกจับกุมแล้ว
    4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว
    5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว
    6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว
    7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว
    8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว
    9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) ถูกจับกุมแล้ว
    10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) ถูกจับกุมแล้ว
    11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) ถูกจับกุมแล้ว
    12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว
    13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) ถูกจับกุมแล้ว
    14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว
    15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว
    16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) ถูกจับกุมแล้ว
    17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว
    18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว

    #Thaitimes
    รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย 1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว 2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว 3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)ถูกจับกุมแล้ว 4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว 5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว 6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว 7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว 8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว 9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) ถูกจับกุมแล้ว 10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) ถูกจับกุมแล้ว 11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) ถูกจับกุมแล้ว 12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว 13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) ถูกจับกุมแล้ว 14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว 15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว 16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) ถูกจับกุมแล้ว 17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว 18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว #Thaitimes
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
    .
    1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว
    2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว
    3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)
    4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว
    5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว
    6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว
    7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว
    8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว
    9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง)
    10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่)
    .
    11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่)
    12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว
    13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป)
    14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว
    15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว
    16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์)
    17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว
    18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กำลังตำรวจชุดหนึ่งบุกเข้าแจ้งหมายจับกุมนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ขณะเข้าชี้แจงที่สำนักงาน สคบ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลอาญาให้บอสพอลฟัง ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บอสพอลเดินทางมาที่ สคบ. ตามที่ สคบ. ได้ทำหนังสือเรียกไปก่อนหน้านี้ แม้ สคบ.จะแจ้งว่า เลยกำหนดเวลาที่จะสามารถชี้แจงได้แล้ว โดยเมื่อออกจากลิฟต์ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะกรูเข้าไปสอบถาม แต่บอสพอลไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มเมื่อถามถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจังหวะที่ชุลมุน การ์ดของบอสพอลพยายามกันผู้สื่อข่าว เหยียบขาตั้งกล้องของช่างภาพ ได้รับความเสียหาย และเกิดการกระทบกระทั่ง บางช่วงการ์ดของบอสพอล ได้ตะโกนว่า "อย่าทำร้ายครับ เจ็บครับ" ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนกลับว่า "ไม่มีใครทำร้ายครับ"
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า ณ เวลา 17.00 น. บอสแซม และบอสมีน นักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน
    .
    คลิกอ่าน >> https://www.sondhitalk.com/detail/9670000099858
    .
    Sondhi X
    WWW.SONDHITALK.COM
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
    .
    1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว
    2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว
    3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)
    4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว
    5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว
    6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว
    7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว
    8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว
    9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง)
    10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่)
    .
    11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่)
    12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว
    13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป)
    14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว
    15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว
    16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์)
    17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว
    18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กำลังตำรวจชุดหนึ่งบุกเข้าแจ้งหมายจับกุมนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ขณะเข้าชี้แจงที่สำนักงาน สคบ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลอาญาให้บอสพอลฟัง ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บอสพอลเดินทางมาที่ สคบ. ตามที่ สคบ. ได้ทำหนังสือเรียกไปก่อนหน้านี้ แม้ สคบ.จะแจ้งว่า เลยกำหนดเวลาที่จะสามารถชี้แจงได้แล้ว โดยเมื่อออกจากลิฟต์ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะกรูเข้าไปสอบถาม แต่บอสพอลไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มเมื่อถามถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจังหวะที่ชุลมุน การ์ดของบอสพอลพยายามกันผู้สื่อข่าว เหยียบขาตั้งกล้องของช่างภาพ ได้รับความเสียหาย และเกิดการกระทบกระทั่ง บางช่วงการ์ดของบอสพอล ได้ตะโกนว่า "อย่าทำร้ายครับ เจ็บครับ" ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนกลับว่า "ไม่มีใครทำร้ายครับ"
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า ณ เวลา 17.00 น. บอสแซม และบอสมีน นักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน
    .
    คลิกอ่าน >> https://www.sondhitalk.com/detail/9670000099858
    .
    Sondhi X
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ . วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย . 1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว 2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว 3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์) 4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว 5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว 6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว 7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว 8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว 9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) 10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) . 11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) 12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว 13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) 14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว 15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว 16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) 17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว 18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กำลังตำรวจชุดหนึ่งบุกเข้าแจ้งหมายจับกุมนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ขณะเข้าชี้แจงที่สำนักงาน สคบ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลอาญาให้บอสพอลฟัง ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) . ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บอสพอลเดินทางมาที่ สคบ. ตามที่ สคบ. ได้ทำหนังสือเรียกไปก่อนหน้านี้ แม้ สคบ.จะแจ้งว่า เลยกำหนดเวลาที่จะสามารถชี้แจงได้แล้ว โดยเมื่อออกจากลิฟต์ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะกรูเข้าไปสอบถาม แต่บอสพอลไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มเมื่อถามถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจังหวะที่ชุลมุน การ์ดของบอสพอลพยายามกันผู้สื่อข่าว เหยียบขาตั้งกล้องของช่างภาพ ได้รับความเสียหาย และเกิดการกระทบกระทั่ง บางช่วงการ์ดของบอสพอล ได้ตะโกนว่า "อย่าทำร้ายครับ เจ็บครับ" ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนกลับว่า "ไม่มีใครทำร้ายครับ" . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า ณ เวลา 17.00 น. บอสแซม และบอสมีน นักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน . คลิกอ่าน >> https://www.sondhitalk.com/detail/9670000099858 . Sondhi X
    WWW.SONDHITALK.COM
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอ
    Like
    15
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1570 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts