• 🖥️ LibreOffice สนับสนุนแคมเปญช่วยผู้ใช้ย้ายจาก Windows 10 ไปใช้ Linux
    Microsoft เตรียมยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องตัดสินใจว่าจะ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือมองหาทางเลือกอื่น ซึ่งแคมเปญ End of 10 กำลังช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น

    LibreOffice เข้าร่วมสนับสนุนแคมเปญนี้ โดยเน้นให้ผู้ใช้ พิจารณาเปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice ซึ่งเป็น ชุดโปรแกรมสำนักงานแบบโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025
    - End of 10 เป็นแคมเปญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น
    - LibreOffice สนับสนุนแคมเปญนี้ และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice
    - Linux มีความโปร่งใสและให้เสรีภาพแก่ผู้ใช้มากกว่า Windows
    - Microsoft กำลังผลักดันให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบคลาวด์และโมเดลสมัครสมาชิก

    🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10
    ผู้ใช้ที่ ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ อาจต้อง พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น Linux และ LibreOffice

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Windows 10 ที่ไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - LibreOffice ยังมีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับไฟล์ของ Microsoft Office ในบางกรณี
    - Linux อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Windows
    - ต้องติดตามว่า Microsoft จะมีข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ Windows 10 หรือไม่

    🚀 อนาคตของ Linux และ LibreOffice
    LibreOffice กำลังผลักดันให้ผู้ใช้พิจารณาทางเลือกที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งอาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบของตนเองได้มากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108293-libreoffice-backs-campaign-help-users-move-windows-10.html
    🖥️ LibreOffice สนับสนุนแคมเปญช่วยผู้ใช้ย้ายจาก Windows 10 ไปใช้ Linux Microsoft เตรียมยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องตัดสินใจว่าจะ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือมองหาทางเลือกอื่น ซึ่งแคมเปญ End of 10 กำลังช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น LibreOffice เข้าร่วมสนับสนุนแคมเปญนี้ โดยเน้นให้ผู้ใช้ พิจารณาเปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice ซึ่งเป็น ชุดโปรแกรมสำนักงานแบบโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 - End of 10 เป็นแคมเปญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น - LibreOffice สนับสนุนแคมเปญนี้ และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice - Linux มีความโปร่งใสและให้เสรีภาพแก่ผู้ใช้มากกว่า Windows - Microsoft กำลังผลักดันให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบคลาวด์และโมเดลสมัครสมาชิก 🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10 ผู้ใช้ที่ ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ อาจต้อง พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น Linux และ LibreOffice ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Windows 10 ที่ไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - LibreOffice ยังมีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับไฟล์ของ Microsoft Office ในบางกรณี - Linux อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Windows - ต้องติดตามว่า Microsoft จะมีข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ Windows 10 หรือไม่ 🚀 อนาคตของ Linux และ LibreOffice LibreOffice กำลังผลักดันให้ผู้ใช้พิจารณาทางเลือกที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งอาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบของตนเองได้มากขึ้น https://www.techspot.com/news/108293-libreoffice-backs-campaign-help-users-move-windows-10.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    LibreOffice backs campaign to help users move from Windows 10 to Linux – and ditch Office, too
    Microsoft plans to end support for Windows 10 security updates on October 14, 2025, even though the operating system remains the most widely used desktop platform. This...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏛️ FDA เปิดตัว Elsa: AI ที่ถูกมองว่าเร่งเปิดตัวเกินไป
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) ได้เปิดตัว Elsa ซึ่งเป็น แพลตฟอร์ม AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พนักงานภายใน FDA บางส่วนมองว่าการเปิดตัวนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป และระบบยังไม่พร้อมใช้งานจริง

    Elsa ถูกสร้างขึ้นบน Amazon GovCloud และสามารถ วิเคราะห์ข้อมูลภายใน, สร้างสรุป, ร่างอีเมล และช่วยตรวจสอบเอกสาร โดย FDA ระบุว่า Elsa สามารถเปรียบเทียบโปรโตคอลการทดลองทางคลินิกและตรวจจับความผิดปกติในรายงานการตรวจสอบ

    ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ FDA ได้ใช้ Elsa หลายพันครั้ง และ ผู้บริหารของ FDA ยกย่องว่าโครงการนี้เสร็จเร็วกว่ากำหนดและใช้งบประมาณต่ำกว่าที่คาดไว้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - FDA เปิดตัว Elsa ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI สำหรับช่วยงานภายในองค์กร
    - Elsa ถูกสร้างขึ้นบน Amazon GovCloud และช่วยวิเคราะห์ข้อมูล, ร่างเอกสาร และตรวจสอบรายงาน
    - สามารถเปรียบเทียบโปรโตคอลการทดลองทางคลินิกและตรวจจับความผิดปกติในรายงานการตรวจสอบ
    - FDA ระบุว่า Elsa ถูกใช้งานหลายพันครั้งตั้งแต่เดือนมกราคม
    - ผู้บริหาร FDA ยกย่องว่าโครงการนี้เสร็จเร็วกว่ากำหนดและใช้งบประมาณต่ำกว่าที่คาดไว้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - พนักงานภายใน FDA บางส่วนมองว่า Elsa ยังมีข้อบกพร่องและไม่สามารถทำงานพื้นฐานได้ เช่น คัดลอกและวางข้อความ หรือเปิดลิงก์
    - การเปิดตัว Elsa เกิดขึ้นเร็วเกินไป และทีมงานภายในไม่ได้รับข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับการประกาศสู่สาธารณะ
    - บางคนมองว่าการเปิดตัว Elsa เป็นเพียงกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์มากกว่าการเปิดตัวที่พร้อมใช้งานจริง
    - FDA ระบุว่า Elsa จะได้รับการปรับปรุงผ่านความคิดเห็นของผู้ใช้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการพัฒนาในอนาคต
    - Elsa ถูกจำกัดให้ใช้เฉพาะภายใน FDA และไม่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลของบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

    แม้ว่า Elsa จะเป็นก้าวสำคัญในการนำ AI มาใช้ในหน่วยงานรัฐบาล แต่การเปิดตัวที่เร่งรีบอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและประสิทธิภาพของระบบ อย่างไรก็ตาม หาก FDA สามารถปรับปรุง Elsa ให้มีความสามารถมากขึ้น อาจช่วยให้หน่วยงานสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108205-fda-claims-victory-elsa-rollout-but-insiders-ai.html
    🏛️ FDA เปิดตัว Elsa: AI ที่ถูกมองว่าเร่งเปิดตัวเกินไป สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) ได้เปิดตัว Elsa ซึ่งเป็น แพลตฟอร์ม AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พนักงานภายใน FDA บางส่วนมองว่าการเปิดตัวนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป และระบบยังไม่พร้อมใช้งานจริง Elsa ถูกสร้างขึ้นบน Amazon GovCloud และสามารถ วิเคราะห์ข้อมูลภายใน, สร้างสรุป, ร่างอีเมล และช่วยตรวจสอบเอกสาร โดย FDA ระบุว่า Elsa สามารถเปรียบเทียบโปรโตคอลการทดลองทางคลินิกและตรวจจับความผิดปกติในรายงานการตรวจสอบ ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ FDA ได้ใช้ Elsa หลายพันครั้ง และ ผู้บริหารของ FDA ยกย่องว่าโครงการนี้เสร็จเร็วกว่ากำหนดและใช้งบประมาณต่ำกว่าที่คาดไว้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - FDA เปิดตัว Elsa ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI สำหรับช่วยงานภายในองค์กร - Elsa ถูกสร้างขึ้นบน Amazon GovCloud และช่วยวิเคราะห์ข้อมูล, ร่างเอกสาร และตรวจสอบรายงาน - สามารถเปรียบเทียบโปรโตคอลการทดลองทางคลินิกและตรวจจับความผิดปกติในรายงานการตรวจสอบ - FDA ระบุว่า Elsa ถูกใช้งานหลายพันครั้งตั้งแต่เดือนมกราคม - ผู้บริหาร FDA ยกย่องว่าโครงการนี้เสร็จเร็วกว่ากำหนดและใช้งบประมาณต่ำกว่าที่คาดไว้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - พนักงานภายใน FDA บางส่วนมองว่า Elsa ยังมีข้อบกพร่องและไม่สามารถทำงานพื้นฐานได้ เช่น คัดลอกและวางข้อความ หรือเปิดลิงก์ - การเปิดตัว Elsa เกิดขึ้นเร็วเกินไป และทีมงานภายในไม่ได้รับข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับการประกาศสู่สาธารณะ - บางคนมองว่าการเปิดตัว Elsa เป็นเพียงกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์มากกว่าการเปิดตัวที่พร้อมใช้งานจริง - FDA ระบุว่า Elsa จะได้รับการปรับปรุงผ่านความคิดเห็นของผู้ใช้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการพัฒนาในอนาคต - Elsa ถูกจำกัดให้ใช้เฉพาะภายใน FDA และไม่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลของบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล แม้ว่า Elsa จะเป็นก้าวสำคัญในการนำ AI มาใช้ในหน่วยงานรัฐบาล แต่การเปิดตัวที่เร่งรีบอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและประสิทธิภาพของระบบ อย่างไรก็ตาม หาก FDA สามารถปรับปรุง Elsa ให้มีความสามารถมากขึ้น อาจช่วยให้หน่วยงานสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต https://www.techspot.com/news/108205-fda-claims-victory-elsa-rollout-but-insiders-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FDA claims victory with "Elsa" AI tool launch, but insiders call it half-baked
    The Food and Drug Administration has officially launched "Elsa," a generative artificial intelligence platform designed to help staff across the agency work more efficiently. However, internal critics...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชา ออกคำเตือนรุนแรงถึงไทยเกี่ยวกับข้อพิพาทเขตแดนที่ดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประณามการใช้แผนที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยืนยันอย่างต่อเนื่อง ที่ตีตราว่าเป็นแผนที่โจร 2551 ที่เขาอ้างว่าฝ่ายไทยใช้แผนที่ดังกล่าวเพื่อบุกรุกดินแดนกัมพูชา สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชารายงาน

    ฮุนเซนแสดงความเห็นรุนแรงดังกล่าวในบ่ายวันนี้ (2) ระหว่างการประชุมร่วมสองสภา

    ประธานสภาสูงกล่าวว่ากัมพูชายังคงเปิดกว้างสำหรับการหารือเกี่ยวกับแผนที่ที่มีมาตรส่วนต่างๆ เช่น 1/100,000 1/50,000 หรือ 1/25,000 แต่ยืนกรานว่าแผนที่ใดๆ ก็ตามที่นำมาใช้จะต้องมีแหล่งที่มาที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เขาย้ำว่าแผนที่ที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม 2447-2450 เป็นพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการกำหนดเขตแดนและพัฒนาแผนที่

    “คุณไม่สามารถใช้แผนที่มาตรส่วน 1/50,000 ของคุณเพื่อละเมิดอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาได้ กัมพูชาไม่ใช่เด็กไร้ทางสู้ที่จะถูกกลั่นแกล้งหรือถูกหลอกให้ยอมสละดินแดน แผนที่โจรปี 2551 ที่เคยใช้รุกรานเรา ต้องไม่ถูกนำมาใช้อีก เราขอชี้แจงให้ชัดเจน” ฮุนเซนกล่าวย้ำ

    เขาอธิบายต่อว่ากัมพูชาจะรักษาความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับแผนที่ รวมถึงการแจ้งให้สาธารณชนทราบ และอาจจำเป็นที่จะต้องติดต่อประธานาธิบดีฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคปรับขนาด เขายังอ้างถึงความร่วมมือในอดีตกับเวียดนามและลาว ที่กัมพูชาได้เปลี่ยนจากแผนที่ Bonne 1/100,000 ดั้งเดิม เป็นแผนที่ UTM 1/50,000 ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ

    ในการประชุมสภาครั้งนี้ ฮุนเซนยังเรียกร้องให้ประชาชนกัมพูชาเฝ้าระวังและติดตามความคืบหน้าตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ให้อยู่ในความสงบและให้การสนับสนุนและกำลังใจกองกำลังทหารที่ประจำการอยู่แนวหน้า

    #MGROnline #ฮุนเซน #แผนที่
    ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชา ออกคำเตือนรุนแรงถึงไทยเกี่ยวกับข้อพิพาทเขตแดนที่ดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประณามการใช้แผนที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยืนยันอย่างต่อเนื่อง ที่ตีตราว่าเป็นแผนที่โจร 2551 ที่เขาอ้างว่าฝ่ายไทยใช้แผนที่ดังกล่าวเพื่อบุกรุกดินแดนกัมพูชา สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชารายงาน • ฮุนเซนแสดงความเห็นรุนแรงดังกล่าวในบ่ายวันนี้ (2) ระหว่างการประชุมร่วมสองสภา • ประธานสภาสูงกล่าวว่ากัมพูชายังคงเปิดกว้างสำหรับการหารือเกี่ยวกับแผนที่ที่มีมาตรส่วนต่างๆ เช่น 1/100,000 1/50,000 หรือ 1/25,000 แต่ยืนกรานว่าแผนที่ใดๆ ก็ตามที่นำมาใช้จะต้องมีแหล่งที่มาที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เขาย้ำว่าแผนที่ที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม 2447-2450 เป็นพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการกำหนดเขตแดนและพัฒนาแผนที่ “คุณไม่สามารถใช้แผนที่มาตรส่วน 1/50,000 ของคุณเพื่อละเมิดอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาได้ กัมพูชาไม่ใช่เด็กไร้ทางสู้ที่จะถูกกลั่นแกล้งหรือถูกหลอกให้ยอมสละดินแดน แผนที่โจรปี 2551 ที่เคยใช้รุกรานเรา ต้องไม่ถูกนำมาใช้อีก เราขอชี้แจงให้ชัดเจน” ฮุนเซนกล่าวย้ำ • เขาอธิบายต่อว่ากัมพูชาจะรักษาความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับแผนที่ รวมถึงการแจ้งให้สาธารณชนทราบ และอาจจำเป็นที่จะต้องติดต่อประธานาธิบดีฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคปรับขนาด เขายังอ้างถึงความร่วมมือในอดีตกับเวียดนามและลาว ที่กัมพูชาได้เปลี่ยนจากแผนที่ Bonne 1/100,000 ดั้งเดิม เป็นแผนที่ UTM 1/50,000 ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ • ในการประชุมสภาครั้งนี้ ฮุนเซนยังเรียกร้องให้ประชาชนกัมพูชาเฝ้าระวังและติดตามความคืบหน้าตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ให้อยู่ในความสงบและให้การสนับสนุนและกำลังใจกองกำลังทหารที่ประจำการอยู่แนวหน้า • #MGROnline #ฮุนเซน #แผนที่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎮 Microsoft Agility SDK DirectX: การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Ray Tracing
    Microsoft ได้เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Shader Execution Reordering (SER) และ Opacity Micromaps (OMM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing บนฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA

    Agility SDK DirectX มี สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่ 1.717-preview และ 1.616-retail โดยแต่ละเวอร์ชันมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่ใช้ Ray Tracing ได้อย่างมีนัยสำคัญ

    Shader Execution Reordering (SER) ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพื่อให้การประมวลผลมีความต่อเนื่องมากขึ้น ลดความแตกต่างของการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า

    Opacity Micromaps (OMM) ช่วยให้ ฮาร์ดแวร์สามารถจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใสได้ดีขึ้น ลดการเรียกใช้ AnyHit shader และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า

    นอกจากนี้ยังมี Direct3D Video Encoding Updates ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น HEVC Reference List extension และ การเข้ารหัสแบบสองรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ที่รองรับ SER และ OMM
    - SER ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า
    - OMM ช่วยให้ฮาร์ดแวร์จัดการวัตถุโปร่งใสได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า
    - Direct3D Video Encoding Updates เพิ่มฟีเจอร์ HEVC Reference List extension และการเข้ารหัสแบบสองรอบ
    - NVIDIA เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับ OMM บน RTX GPUs

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - SER และ OMM ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ซึ่งอาจไม่สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD และ Intel จะเพิ่มการรองรับ OMM หรือไม่
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกมที่ใช้ Ray Tracing ต้องปรับปรุงโค้ดเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่
    - ต้องรอดูว่าการอัปเดตนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมในระยะยาวอย่างไร

    Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ช่วยให้ Ray Tracing มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจทำให้ เกมที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถรันได้เร็วขึ้นบนฮาร์ดแวร์ที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้พัฒนาเกมจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้มากน้อยเพียงใด

    https://wccftech.com/microsoft-agility-sdk-directx-shader-execution-reordering-opacity-micromaps-support-huge-ray-tracing-improvements-on-nvidia/
    🎮 Microsoft Agility SDK DirectX: การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Ray Tracing Microsoft ได้เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Shader Execution Reordering (SER) และ Opacity Micromaps (OMM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing บนฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA Agility SDK DirectX มี สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่ 1.717-preview และ 1.616-retail โดยแต่ละเวอร์ชันมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่ใช้ Ray Tracing ได้อย่างมีนัยสำคัญ Shader Execution Reordering (SER) ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพื่อให้การประมวลผลมีความต่อเนื่องมากขึ้น ลดความแตกต่างของการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า Opacity Micromaps (OMM) ช่วยให้ ฮาร์ดแวร์สามารถจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใสได้ดีขึ้น ลดการเรียกใช้ AnyHit shader และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า นอกจากนี้ยังมี Direct3D Video Encoding Updates ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น HEVC Reference List extension และ การเข้ารหัสแบบสองรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ที่รองรับ SER และ OMM - SER ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า - OMM ช่วยให้ฮาร์ดแวร์จัดการวัตถุโปร่งใสได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า - Direct3D Video Encoding Updates เพิ่มฟีเจอร์ HEVC Reference List extension และการเข้ารหัสแบบสองรอบ - NVIDIA เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับ OMM บน RTX GPUs ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - SER และ OMM ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ซึ่งอาจไม่สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD และ Intel จะเพิ่มการรองรับ OMM หรือไม่ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกมที่ใช้ Ray Tracing ต้องปรับปรุงโค้ดเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่ - ต้องรอดูว่าการอัปเดตนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมในระยะยาวอย่างไร Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ช่วยให้ Ray Tracing มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจทำให้ เกมที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถรันได้เร็วขึ้นบนฮาร์ดแวร์ที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้พัฒนาเกมจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้มากน้อยเพียงใด https://wccftech.com/microsoft-agility-sdk-directx-shader-execution-reordering-opacity-micromaps-support-huge-ray-tracing-improvements-on-nvidia/
    WCCFTECH.COM
    Microsoft Agility SDK DirectX Now Adds Shader Execution Reordering & Opacity Micromaps Support, Huge Ray Tracing Improvements On NVIDIA Hardware
    Microsoft has released its latest Agility SDK, DirectX, which brings major ray tracing improvements with SER & OMM support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 AI กับปัญหางานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
    การเข้าถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ง่ายขึ้นส่งผลให้ งานวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์ลดลง และนำไปสู่ "กระแสงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน" ซึ่งเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่ผิวเผินและข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม

    นักวิจัยจาก University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่า การใช้ AI ในงานวิจัยมักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ โดยเน้นเพียง ปัจจัยเดียว แทนที่จะใช้แนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (cherry-picking) และการเปลี่ยนแปลงคำถามวิจัยหลังจากเห็นผลลัพธ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AI ทำให้การวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดลดลง
    - University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่าการใช้ AI มักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ
    - มีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ
    - บางงานวิจัยใช้ข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม (cherry-picking)
    - นักวิจัยแนะนำให้มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการทบทวนโดยเพื่อนร่วมงาน (peer review) อย่างเข้มงวด

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในงานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและการตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
    - การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงการแพทย์และสุขภาพ
    - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการใช้ AI ในงานวิจัยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้

    🚀 ผลกระทบต่อวงการวิจัย
    การใช้ AI ในงานวิจัยอาจช่วยให้ การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่การเผยแพร่งานวิจัยที่ไม่มีคุณภาพ นักวิจัยและสถาบันวิชาการต้อง พัฒนาแนวทางการใช้ AI ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/01/ai-being-used-to-churn-out-deluge-of-dodgy-scientific-research
    🧠 AI กับปัญหางานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน การเข้าถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ง่ายขึ้นส่งผลให้ งานวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์ลดลง และนำไปสู่ "กระแสงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน" ซึ่งเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่ผิวเผินและข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม นักวิจัยจาก University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่า การใช้ AI ในงานวิจัยมักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ โดยเน้นเพียง ปัจจัยเดียว แทนที่จะใช้แนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (cherry-picking) และการเปลี่ยนแปลงคำถามวิจัยหลังจากเห็นผลลัพธ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AI ทำให้การวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดลดลง - University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่าการใช้ AI มักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ - มีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ - บางงานวิจัยใช้ข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม (cherry-picking) - นักวิจัยแนะนำให้มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการทบทวนโดยเพื่อนร่วมงาน (peer review) อย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในงานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและการตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน - การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงการแพทย์และสุขภาพ - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการใช้ AI ในงานวิจัยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ 🚀 ผลกระทบต่อวงการวิจัย การใช้ AI ในงานวิจัยอาจช่วยให้ การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่การเผยแพร่งานวิจัยที่ไม่มีคุณภาพ นักวิจัยและสถาบันวิชาการต้อง พัฒนาแนวทางการใช้ AI ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/01/ai-being-used-to-churn-out-deluge-of-dodgy-scientific-research
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI being used to churn out deluge of dodgy scientific research
    Easy access to artificial intelligence (AI) has made medical and health research less scientifically rigorous and has facilitated a "flood" of shoddy journal papers full of superficial analyses based on "cherry-picked" data, a new study reports.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้

    ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน:
    1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)**
    - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน"
    - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี

    2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)**
    - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์
    - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง

    3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)**
    - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ
    - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง

    4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)**
    - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล
    - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย)

    ### ความท้าทายสำคัญ:
    - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ
    - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน
    - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน
    - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน

    ### กรณีศึกษาประเทศไทย:
    - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ
    - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ
    - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง

    ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ:
    1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law)
    2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI
    3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ
    4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน

    ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้ ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน: 1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)** - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน" - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี 2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)** - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง 3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)** - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง 4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)** - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย) ### ความท้าทายสำคัญ: - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน ### กรณีศึกษาประเทศไทย: - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ: 1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law) 2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI 3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ 4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต

    แม้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จะมีแผนจัดการวิกฤตอยู่แล้ว แต่การนำทีมผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินต้องอาศัยมากกว่าขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยบทความนี้นำเสนอ 7 กฎสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    🔍 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต
    ✅ ความยืดหยุ่นต้องมาพร้อมกับความสงบ ไม่ใช่ความเงียบ
    - ผู้นำต้อง แจ้งข้อมูลให้ทีมและลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมา
    - การปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจ

    ✅ แนวคิดเชิงรุกช่วยให้ทีมเรียนรู้ร่วมกัน
    - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยลดความสับสนและสร้างความมั่นใจ
    - การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง

    ✅ การสื่อสารที่เปิดเผยทำให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา
    - การตอบสนองแบบปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ
    - การแจ้งปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กร

    ✅ ความโปร่งใสและการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาสร้างความไว้วางใจ
    - การซ่อนปัญหา ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
    - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยให้ทีมสามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น

    ✅ ทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดันต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง
    - หากผู้นำไม่มีความมั่นคง ทีมจะเกิดความสับสนและตัดสินใจผิดพลาด
    - ความไว้วางใจในผู้นำ เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการวิกฤต

    ✅ องค์กรที่เตรียมพร้อมสามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดีขึ้น
    - การกำหนดบทบาทล่วงหน้า ช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
    - การฝึกซ้อมเป็นประจำ ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ

    ✅ การตัดสินใจต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ใช่แค่ความเร่งด่วน
    - การตอบสนองโดยไม่มีข้อมูล อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง
    - การใช้ข้อมูลข่าวกรองช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.csoonline.com/article/3992768/the-7-unwritten-rules-of-leading-through-crisis.html
    7 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต แม้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จะมีแผนจัดการวิกฤตอยู่แล้ว แต่การนำทีมผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินต้องอาศัยมากกว่าขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยบทความนี้นำเสนอ 7 กฎสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔍 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต ✅ ความยืดหยุ่นต้องมาพร้อมกับความสงบ ไม่ใช่ความเงียบ - ผู้นำต้อง แจ้งข้อมูลให้ทีมและลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมา - การปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจ ✅ แนวคิดเชิงรุกช่วยให้ทีมเรียนรู้ร่วมกัน - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยลดความสับสนและสร้างความมั่นใจ - การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง ✅ การสื่อสารที่เปิดเผยทำให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา - การตอบสนองแบบปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ - การแจ้งปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กร ✅ ความโปร่งใสและการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาสร้างความไว้วางใจ - การซ่อนปัญหา ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยให้ทีมสามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น ✅ ทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดันต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง - หากผู้นำไม่มีความมั่นคง ทีมจะเกิดความสับสนและตัดสินใจผิดพลาด - ความไว้วางใจในผู้นำ เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการวิกฤต ✅ องค์กรที่เตรียมพร้อมสามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดีขึ้น - การกำหนดบทบาทล่วงหน้า ช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว - การฝึกซ้อมเป็นประจำ ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ ✅ การตัดสินใจต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ใช่แค่ความเร่งด่วน - การตอบสนองโดยไม่มีข้อมูล อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง - การใช้ข้อมูลข่าวกรองช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.csoonline.com/article/3992768/the-7-unwritten-rules-of-leading-through-crisis.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The 7 unwritten rules of leading through crisis
    Your crisis management playbook may look fail-proof on paper, but leadership and culture offer intangibles that can make or break execution when emergency strikes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของแว่นตา

    นักวิจัยจาก University of Science and Technology of China ได้พัฒนา คอนแทคเลนส์ที่สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้ โดยใช้ นาโนอนุภาคที่เปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้ ผู้ใช้สามารถมองเห็นทั้งแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน
    ✅ คอนแทคเลนส์สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก
    - แตกต่างจาก แว่นตามองกลางคืนทั่วไปที่ต้องใช้แบตเตอรี่

    ✅ เลนส์มีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น หมอกหรือฝุ่น

    ✅ นาโนอนุภาคสามารถเปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีที่มองเห็นได้
    - ทำให้ สามารถตรวจจับวัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

    ✅ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยและการช่วยเหลือฉุกเฉิน
    - เช่น การค้นหาผู้สูญหายในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีควัน

    ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยผู้ที่มีภาวะตาบอดสีให้สามารถรับรู้สีได้ดีขึ้น
    - โดย เปลี่ยนแสงที่มองไม่เห็นให้เป็นสีที่สามารถรับรู้ได้

    https://www.techspot.com/news/108030-night-vision-contact-lenses-offer-glimpse-future-eyewear.html
    คอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของแว่นตา นักวิจัยจาก University of Science and Technology of China ได้พัฒนา คอนแทคเลนส์ที่สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้ โดยใช้ นาโนอนุภาคที่เปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้ ผู้ใช้สามารถมองเห็นทั้งแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน ✅ คอนแทคเลนส์สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก - แตกต่างจาก แว่นตามองกลางคืนทั่วไปที่ต้องใช้แบตเตอรี่ ✅ เลนส์มีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น หมอกหรือฝุ่น ✅ นาโนอนุภาคสามารถเปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีที่มองเห็นได้ - ทำให้ สามารถตรวจจับวัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ✅ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยและการช่วยเหลือฉุกเฉิน - เช่น การค้นหาผู้สูญหายในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีควัน ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยผู้ที่มีภาวะตาบอดสีให้สามารถรับรู้สีได้ดีขึ้น - โดย เปลี่ยนแสงที่มองไม่เห็นให้เป็นสีที่สามารถรับรู้ได้ https://www.techspot.com/news/108030-night-vision-contact-lenses-offer-glimpse-future-eyewear.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Night vision contact lenses offer a glimpse into the future of eyewear
    Contact lenses and eyeglasses could one day enable people to see beyond the natural visible light spectrum. Eyewear equipped with this special technology holds promise for enhancing...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิวออร์ลีนส์ใช้ AI ตรวจจับใบหน้าโดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะ

    เมืองนิวออร์ลีนส์ ใช้ระบบตรวจจับใบหน้าด้วย AI โดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะหรือการกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับ สิทธิความเป็นส่วนตัวและการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ AI ตรวจจับใบหน้าในนิวออร์ลีนส์
    ✅ ระบบใช้กล้อง AI กว่า 200 ตัวเพื่อตรวจจับใบหน้าแบบเรียลไทม์
    - เมื่อพบใบหน้าที่ตรงกับฐานข้อมูล ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังตำรวจทันที

    ✅ ระบบนี้ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ Project NOLA ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ
    - ทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและการกำกับดูแล

    ✅ ฐานข้อมูลมีใบหน้ากว่า 30,000 รายจากบันทึกของตำรวจ
    - ระบบสามารถ ติดตามบุคคลย้อนหลังได้ถึง 30 วัน

    ✅ ตำรวจสามารถใช้ข้อมูลจากระบบนี้เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว
    - มีรายงานว่า ระบบช่วยให้ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างน้อย 34 ราย

    ✅ เทคโนโลยีสามารถตรวจจับใบหน้าจากระยะไกลถึง 700 ฟุต
    - ใช้ การจดจำใบหน้า, เสื้อผ้า และลักษณะทางกายภาพ

    https://www.techspot.com/news/107990-city-divided-facial-recognition-technology-shadows-new-orleans.html
    นิวออร์ลีนส์ใช้ AI ตรวจจับใบหน้าโดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะ เมืองนิวออร์ลีนส์ ใช้ระบบตรวจจับใบหน้าด้วย AI โดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะหรือการกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับ สิทธิความเป็นส่วนตัวและการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ AI ตรวจจับใบหน้าในนิวออร์ลีนส์ ✅ ระบบใช้กล้อง AI กว่า 200 ตัวเพื่อตรวจจับใบหน้าแบบเรียลไทม์ - เมื่อพบใบหน้าที่ตรงกับฐานข้อมูล ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังตำรวจทันที ✅ ระบบนี้ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ Project NOLA ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ - ทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและการกำกับดูแล ✅ ฐานข้อมูลมีใบหน้ากว่า 30,000 รายจากบันทึกของตำรวจ - ระบบสามารถ ติดตามบุคคลย้อนหลังได้ถึง 30 วัน ✅ ตำรวจสามารถใช้ข้อมูลจากระบบนี้เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว - มีรายงานว่า ระบบช่วยให้ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างน้อย 34 ราย ✅ เทคโนโลยีสามารถตรวจจับใบหน้าจากระยะไกลถึง 700 ฟุต - ใช้ การจดจำใบหน้า, เสื้อผ้า และลักษณะทางกายภาพ https://www.techspot.com/news/107990-city-divided-facial-recognition-technology-shadows-new-orleans.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Orleans used AI surveillance without public knowledge or full oversight
    For two years, New Orleans quietly served as a testing ground for one of the most ambitious – and controversial – uses of facial recognition in American...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปประเด็นเด่นจากงาน Google I/O 2025: AI ครองโลก เทคโนโลยีสุดล้ำนำอนาคต

    เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา งาน Google I/O 2025 จัดขึ้นที่ Shoreline Amphitheatre รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมี ซันดาร์ พิชัย CEO ของ Google ขึ้นเวที keynote เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำที่เน้นหนักไปที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีแห่งอนาคต นี่คือประเด็นสำคัญที่ทุกคนต้องรู้!

    ✅ Gemini 2.5 และ AI Mode ใน Google Search
    - Google เปิดตัว Gemini 2.5 โมเดล AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมประสิทธิภาพสูงขึ้น ความปลอดภัยที่ดีกว่า และความโปร่งใสในการใช้งาน ไฮไลต์เด็ดคือ AI Mode ใน Google Search ที่เปลี่ยนการค้นหาให้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว สามารถตอบคำถามเชิงลึก รองรับการสนทนาต่อเนื่อง และมี Deep Search สำหรับงานวิจัยที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เริ่มใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกา

    ✅ Veo 3 และ Flow: การสร้างและตัดต่อวิดีโอด้วย AI
    Google นำเสนอ Veo 3 เครื่องมือสร้างวิดีโอที่สามารถเพิ่มบทสนทนาและเอฟเฟกต์เสียงได้อัตโนมัติ รวมถึง Flow เครื่องมือตัดต่อวิดีโอด้วย AI ที่ช่วยให้การปรับแต่งวิดีโอง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการงานคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น

    ✅ Android XR และแว่นตาอัจฉริยะ
    Google ทุ่มสุดตัวกับ Android XR แพลตฟอร์มสำหรับอุปกรณ์ความจริงผสม (Mixed Reality) พร้อมเผยความคืบหน้าแว่นตาอัจฉริยะที่คาดว่าจะแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด งานนี้แสดงให้เห็นว่า Google พร้อมบุกตลาด XR อย่างจริงจัง

    ✅ Gemini Ultra และการสมัครสมาชิก
    เปิดตัว Gemini Ultra แผนการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียม (ราคา $249.99/เดือน เฉพาะสหรัฐฯ) มอบการเข้าถึง AI ระดับสูงสุด รวมถึง Veo 3, Flow และ Gemini 2.5 Pro Deep Think Mode สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก รวมถึงขยายขีดจำกัดการใช้งานเครื่องมืออย่าง NotebookLM และ Whisk (เครื่องมือรีมิกซ์ภาพ)

    ✅ Project Astra และ Jules: ผู้ช่วยและนักพัฒนา AI
    Project Astra ได้รับการอัปเดตให้ฉลาดขึ้น กลายเป็นผู้ช่วย AI สากลที่ผสานรวมกับบริการต่าง ๆ ของ Google ได้อย่างลงตัว ส่วน Jules คือ AI ตัวใหม่สำหรับนักพัฒนา ช่วยเขียนโค้ดแบบไม่ต้องรอ (asynchronous) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์

    ✅ Google Meet กับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์
    Google Meet เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาเสียงแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประชุมข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google ในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก

    ✅ Project Starline ก้าวสู่ความเป็นจริง
    Google ประกาศขยายความร่วมมือและวาง roadmap สำหรับ Project Starline ระบบสื่อสารแบบโฮโลแกรมที่ให้ประสบการณ์เหมือนเจอตัวจริง คาดว่าจะเริ่มใช้งานในวงกว้างเร็ว ๆ นี้
    วิเคราะห์ทิศทาง

    ℹ️ งาน Google I/O 2025 แสดงให้เห็นว่า Google เดินหน้าเต็มสูบกับ AI โดยเฉพาะ Gemini ที่แทรกซึมในทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การค้นหาไปจนถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน ขณะที่ Android XR และ Project Starline บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ด้านฮาร์ดแวร์ที่พร้อมท้าชนคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การที่ Google Assistant อาจถูกลดบทบาทเพื่อให้ Gemini ขึ้นมาแทน กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา

    งานนี้ไม่เพียงโชว์ศักยภาพด้านเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนว่า Google พร้อมเป็นผู้นำในยุค AI และความจริงผสม ใครที่สนใจนวัตกรรมเหล่านี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ io.google
    สรุปประเด็นเด่นจากงาน Google I/O 2025: AI ครองโลก เทคโนโลยีสุดล้ำนำอนาคต เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา งาน Google I/O 2025 จัดขึ้นที่ Shoreline Amphitheatre รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมี ซันดาร์ พิชัย CEO ของ Google ขึ้นเวที keynote เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำที่เน้นหนักไปที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีแห่งอนาคต นี่คือประเด็นสำคัญที่ทุกคนต้องรู้! ✅ Gemini 2.5 และ AI Mode ใน Google Search - Google เปิดตัว Gemini 2.5 โมเดล AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมประสิทธิภาพสูงขึ้น ความปลอดภัยที่ดีกว่า และความโปร่งใสในการใช้งาน ไฮไลต์เด็ดคือ AI Mode ใน Google Search ที่เปลี่ยนการค้นหาให้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว สามารถตอบคำถามเชิงลึก รองรับการสนทนาต่อเนื่อง และมี Deep Search สำหรับงานวิจัยที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เริ่มใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกา ✅ Veo 3 และ Flow: การสร้างและตัดต่อวิดีโอด้วย AI Google นำเสนอ Veo 3 เครื่องมือสร้างวิดีโอที่สามารถเพิ่มบทสนทนาและเอฟเฟกต์เสียงได้อัตโนมัติ รวมถึง Flow เครื่องมือตัดต่อวิดีโอด้วย AI ที่ช่วยให้การปรับแต่งวิดีโอง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการงานคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น ✅ Android XR และแว่นตาอัจฉริยะ Google ทุ่มสุดตัวกับ Android XR แพลตฟอร์มสำหรับอุปกรณ์ความจริงผสม (Mixed Reality) พร้อมเผยความคืบหน้าแว่นตาอัจฉริยะที่คาดว่าจะแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด งานนี้แสดงให้เห็นว่า Google พร้อมบุกตลาด XR อย่างจริงจัง ✅ Gemini Ultra และการสมัครสมาชิก เปิดตัว Gemini Ultra แผนการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียม (ราคา $249.99/เดือน เฉพาะสหรัฐฯ) มอบการเข้าถึง AI ระดับสูงสุด รวมถึง Veo 3, Flow และ Gemini 2.5 Pro Deep Think Mode สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก รวมถึงขยายขีดจำกัดการใช้งานเครื่องมืออย่าง NotebookLM และ Whisk (เครื่องมือรีมิกซ์ภาพ) ✅ Project Astra และ Jules: ผู้ช่วยและนักพัฒนา AI Project Astra ได้รับการอัปเดตให้ฉลาดขึ้น กลายเป็นผู้ช่วย AI สากลที่ผสานรวมกับบริการต่าง ๆ ของ Google ได้อย่างลงตัว ส่วน Jules คือ AI ตัวใหม่สำหรับนักพัฒนา ช่วยเขียนโค้ดแบบไม่ต้องรอ (asynchronous) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ ✅ Google Meet กับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ Google Meet เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาเสียงแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประชุมข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google ในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก ✅ Project Starline ก้าวสู่ความเป็นจริง Google ประกาศขยายความร่วมมือและวาง roadmap สำหรับ Project Starline ระบบสื่อสารแบบโฮโลแกรมที่ให้ประสบการณ์เหมือนเจอตัวจริง คาดว่าจะเริ่มใช้งานในวงกว้างเร็ว ๆ นี้ วิเคราะห์ทิศทาง ℹ️ งาน Google I/O 2025 แสดงให้เห็นว่า Google เดินหน้าเต็มสูบกับ AI โดยเฉพาะ Gemini ที่แทรกซึมในทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การค้นหาไปจนถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน ขณะที่ Android XR และ Project Starline บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ด้านฮาร์ดแวร์ที่พร้อมท้าชนคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การที่ Google Assistant อาจถูกลดบทบาทเพื่อให้ Gemini ขึ้นมาแทน กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา งานนี้ไม่เพียงโชว์ศักยภาพด้านเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนว่า Google พร้อมเป็นผู้นำในยุค AI และความจริงผสม ใครที่สนใจนวัตกรรมเหล่านี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ io.google
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับข้อตกลง AI ระหว่าง Apple และ Alibaba ในจีน

    รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของ Apple กับ Alibaba ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำ ฟีเจอร์ AI มาสู่ iPhone ในจีน โดยเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันมองว่า ข้อตกลงนี้อาจช่วยให้บริษัทจีนพัฒนา AI ได้ดีขึ้น และเพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อตกลง AI ของ Apple ในจีน
    ✅ Apple ต้องหาพันธมิตรในจีนเพื่อให้ iPhone มีฟีเจอร์ AI
    - เนื่องจาก OpenAI ไม่สามารถดำเนินการในจีนได้

    ✅ Alibaba เป็นหนึ่งในบริษัทที่ Apple เจรจาด้วย
    - นอกจากนี้ ยังมี Baidu, Tencent และ DeepSeek ที่ Apple เคยพิจารณา

    ✅ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กังวลว่าข้อตกลงนี้อาจช่วยให้จีนพัฒนา AI ได้เร็วขึ้น
    - รวมถึง เพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์

    ✅ Apple พบกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและคณะกรรมการสภาเพื่อชี้แจงข้อตกลง
    - แต่ ยังขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลง

    ✅ หาก Apple ไม่สามารถทำข้อตกลงได้ อาจสูญเสียลูกค้าในจีนให้กับ Xiaomi และ Huawei
    - เนื่องจาก แบรนด์เหล่านี้มีฟีเจอร์ AI ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

    https://www.neowin.net/news/the-us-lawmakers-raise-concerns-about-apple-alibaba-ai-venture-in-china/
    สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับข้อตกลง AI ระหว่าง Apple และ Alibaba ในจีน รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของ Apple กับ Alibaba ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำ ฟีเจอร์ AI มาสู่ iPhone ในจีน โดยเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันมองว่า ข้อตกลงนี้อาจช่วยให้บริษัทจีนพัฒนา AI ได้ดีขึ้น และเพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อตกลง AI ของ Apple ในจีน ✅ Apple ต้องหาพันธมิตรในจีนเพื่อให้ iPhone มีฟีเจอร์ AI - เนื่องจาก OpenAI ไม่สามารถดำเนินการในจีนได้ ✅ Alibaba เป็นหนึ่งในบริษัทที่ Apple เจรจาด้วย - นอกจากนี้ ยังมี Baidu, Tencent และ DeepSeek ที่ Apple เคยพิจารณา ✅ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กังวลว่าข้อตกลงนี้อาจช่วยให้จีนพัฒนา AI ได้เร็วขึ้น - รวมถึง เพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์ ✅ Apple พบกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและคณะกรรมการสภาเพื่อชี้แจงข้อตกลง - แต่ ยังขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลง ✅ หาก Apple ไม่สามารถทำข้อตกลงได้ อาจสูญเสียลูกค้าในจีนให้กับ Xiaomi และ Huawei - เนื่องจาก แบรนด์เหล่านี้มีฟีเจอร์ AI ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว https://www.neowin.net/news/the-us-lawmakers-raise-concerns-about-apple-alibaba-ai-venture-in-china/
    WWW.NEOWIN.NET
    The US lawmakers raise concerns about Apple-Alibaba AI venture in China
    Apple's partnership with Alibaba to bring AI features to iPhones in China raises alarms in Washington over security concerns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สรุปสาระสำคัญของศาสตราจารย์เจฟฟรี่ แซคส์ จากการสืบสวนรวบรวม 4.5 ปี และได้ความจริงที่ต้องเปิดเผยจากพระราชบัญญัติความโปร่งใสของข้อมูล • ไวรัสโควิดสร้างโดยมนุษย์ • หลักฐานต่างๆให้เห็นว่าโรคระบาดเกิดจากการหลุดรั่ว 99% • ไวรัสสร้างจาก นักวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยnorth Carolina • ทุนจากกระทรวงกลาโหม DARPA ต้นตอคือ เฟาซี • โครงการ DEFUSE ต้องการสร้างไวรัสที่ร้ายแรงที่สุดและไปพ่นใส่ค้างคาวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อให้ติดเชื้อเสมือนกลายเป็นวัคซีนจะได้ทำให้ค้างคาวไม่เกิดติดเชื้อนี้ต่อ!!! • ทดสอบในสหรัฐเองพบว่าไวรัสที่สร้างขึ้น ติดค้างคาวในสหรัฐได้ แต่จุดประสงค์คือการนำไปใช้ในค้างคาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • ส่งไวรัสนี้ ไปที่สถาบันวิจัยไวรัสอู๋ฮั่นทางเมล์!!!!! • เพื่อให้ไปทดสอบกับค้างคาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • พบว่าค้างคาวเอเชีย"ไม่ติดเชื้อนี้" • แต่ในที่สุดไวรัสหลุดออกและระบาดไปทั่วโลก คนตายตามบันทึกอย่างน้อย 8,000,000 คนแต่อาจถึง 20,000,000 คน • ไวรัสสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ปราดเปรื่อง • เมื่อเกิดเรื่อง มีการปกปิดทันที จากเฟาซี และ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่มีส่วนได้ส่วนเสียการได้รับทุน และออกบทความในวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำว่าเกิดจากธรรมชาติ และป้ายสีข้อมูลอื่นว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด และ พ่วงด้วยกันเซ็นเซอร์ข้อมูล • โศกนาฏกรรมนี้สอนให้รู้ว่า ยังไม่มีระบบควบคุมการกระทำของนักวิทยาศาสตร์ และเป็นไปได้อย่างไรที่หน่วยงาน องค์กรวิทยาศาสตร์ชั้นนำมีความคิดเช่นนี้ปล่อยให้เกิดการกระทำ ให้ทุนมหาศาลและไม่คิดถึงความเสี่ยงอันตรายที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนความเลวร้าย จากนักวิทยาศาสตร์ปราดเปรื่องวิปริต สร้างไวรัสโควิดhttps://youtu.be/afK0mGXDF4o
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สรุปสาระสำคัญของศาสตราจารย์เจฟฟรี่ แซคส์ จากการสืบสวนรวบรวม 4.5 ปี และได้ความจริงที่ต้องเปิดเผยจากพระราชบัญญัติความโปร่งใสของข้อมูล • ไวรัสโควิดสร้างโดยมนุษย์ • หลักฐานต่างๆให้เห็นว่าโรคระบาดเกิดจากการหลุดรั่ว 99% • ไวรัสสร้างจาก นักวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยnorth Carolina • ทุนจากกระทรวงกลาโหม DARPA ต้นตอคือ เฟาซี • โครงการ DEFUSE ต้องการสร้างไวรัสที่ร้ายแรงที่สุดและไปพ่นใส่ค้างคาวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อให้ติดเชื้อเสมือนกลายเป็นวัคซีนจะได้ทำให้ค้างคาวไม่เกิดติดเชื้อนี้ต่อ!!! • ทดสอบในสหรัฐเองพบว่าไวรัสที่สร้างขึ้น ติดค้างคาวในสหรัฐได้ แต่จุดประสงค์คือการนำไปใช้ในค้างคาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • ส่งไวรัสนี้ ไปที่สถาบันวิจัยไวรัสอู๋ฮั่นทางเมล์!!!!! • เพื่อให้ไปทดสอบกับค้างคาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • พบว่าค้างคาวเอเชีย"ไม่ติดเชื้อนี้" • แต่ในที่สุดไวรัสหลุดออกและระบาดไปทั่วโลก คนตายตามบันทึกอย่างน้อย 8,000,000 คนแต่อาจถึง 20,000,000 คน • ไวรัสสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ปราดเปรื่อง • เมื่อเกิดเรื่อง มีการปกปิดทันที จากเฟาซี และ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่มีส่วนได้ส่วนเสียการได้รับทุน และออกบทความในวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำว่าเกิดจากธรรมชาติ และป้ายสีข้อมูลอื่นว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด และ พ่วงด้วยกันเซ็นเซอร์ข้อมูล • โศกนาฏกรรมนี้สอนให้รู้ว่า ยังไม่มีระบบควบคุมการกระทำของนักวิทยาศาสตร์ และเป็นไปได้อย่างไรที่หน่วยงาน องค์กรวิทยาศาสตร์ชั้นนำมีความคิดเช่นนี้ปล่อยให้เกิดการกระทำ ให้ทุนมหาศาลและไม่คิดถึงความเสี่ยงอันตรายที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนความเลวร้าย จากนักวิทยาศาสตร์ปราดเปรื่องวิปริต สร้างไวรัสโควิดhttps://youtu.be/afK0mGXDF4o
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสร้างกรอบ GRC สำหรับ AI: แนวทางสู่การใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

    องค์กรที่นำ AI มาใช้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยไซเบอร์, ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล, อคติในการตัดสินใจ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดังนั้น การสร้างกรอบ Governance, Risk, and Compliance (GRC) ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ AI จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

    🔍 แนวทางสำคัญในการสร้างกรอบ GRC สำหรับ AI
    ✅ องค์กรต้องมีนโยบาย GRC ที่ชัดเจนสำหรับ AI
    - ปัจจุบัน มีเพียง 24% ขององค์กรที่บังคับใช้นโยบาย GRC สำหรับ AI อย่างเต็มรูปแบบ

    ✅ ต้องมีการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI
    - เช่น การรั่วไหลของข้อมูล, การเปิดเผยข้อมูลสำคัญต่อโมเดล AI สาธารณะ และปัญหาผลลัพธ์ที่ผิดพลาด

    ✅ กรอบ GRC สำหรับ AI ต้องครอบคลุมความเสี่ยงที่กรอบเดิมอาจไม่รองรับ
    - เช่น อคติของอัลกอริธึม, ความโปร่งใสของโมเดล และความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของ AI

    ✅ องค์กรต้องมีโครงสร้างการกำกับดูแลที่ชัดเจน
    - กำหนด บทบาทและความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายในการจัดการ AI

    ✅ ต้องมีการกำหนดโปรไฟล์ความเสี่ยงของ AI
    - วิเคราะห์ ระดับความเสี่ยงที่องค์กรสามารถยอมรับได้ และผลกระทบของข้อมูลที่อาจรั่วไหล

    ✅ ควรรวมหลักจริยธรรมในการใช้ AI เข้าไปในกรอบ GRC
    - เช่น ความเป็นธรรม, ความโปร่งใส, ความรับผิดชอบ และการกำกับดูแลโดยมนุษย์

    ✅ ต้องมีการบริหารจัดการโมเดล AI อย่างเป็นระบบ
    - ครอบคลุม ตั้งแต่การพัฒนา, การติดตั้ง, การตรวจสอบ และการเลิกใช้งาน

    ✅ นโยบาย AI ต้องชัดเจนและสามารถบังคับใช้ได้จริง
    - ควรมี กลไกการบังคับใช้ที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้

    ✅ ต้องมีการปรับปรุงกรอบ GRC อย่างต่อเนื่อง
    - ใช้ ข้อมูลจากผู้ใช้และการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบเพื่อปรับปรุงนโยบาย

    https://www.cio.com/article/3984527
    การสร้างกรอบ GRC สำหรับ AI: แนวทางสู่การใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ องค์กรที่นำ AI มาใช้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยไซเบอร์, ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล, อคติในการตัดสินใจ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดังนั้น การสร้างกรอบ Governance, Risk, and Compliance (GRC) ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ AI จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย 🔍 แนวทางสำคัญในการสร้างกรอบ GRC สำหรับ AI ✅ องค์กรต้องมีนโยบาย GRC ที่ชัดเจนสำหรับ AI - ปัจจุบัน มีเพียง 24% ขององค์กรที่บังคับใช้นโยบาย GRC สำหรับ AI อย่างเต็มรูปแบบ ✅ ต้องมีการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI - เช่น การรั่วไหลของข้อมูล, การเปิดเผยข้อมูลสำคัญต่อโมเดล AI สาธารณะ และปัญหาผลลัพธ์ที่ผิดพลาด ✅ กรอบ GRC สำหรับ AI ต้องครอบคลุมความเสี่ยงที่กรอบเดิมอาจไม่รองรับ - เช่น อคติของอัลกอริธึม, ความโปร่งใสของโมเดล และความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของ AI ✅ องค์กรต้องมีโครงสร้างการกำกับดูแลที่ชัดเจน - กำหนด บทบาทและความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายในการจัดการ AI ✅ ต้องมีการกำหนดโปรไฟล์ความเสี่ยงของ AI - วิเคราะห์ ระดับความเสี่ยงที่องค์กรสามารถยอมรับได้ และผลกระทบของข้อมูลที่อาจรั่วไหล ✅ ควรรวมหลักจริยธรรมในการใช้ AI เข้าไปในกรอบ GRC - เช่น ความเป็นธรรม, ความโปร่งใส, ความรับผิดชอบ และการกำกับดูแลโดยมนุษย์ ✅ ต้องมีการบริหารจัดการโมเดล AI อย่างเป็นระบบ - ครอบคลุม ตั้งแต่การพัฒนา, การติดตั้ง, การตรวจสอบ และการเลิกใช้งาน ✅ นโยบาย AI ต้องชัดเจนและสามารถบังคับใช้ได้จริง - ควรมี กลไกการบังคับใช้ที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ ✅ ต้องมีการปรับปรุงกรอบ GRC อย่างต่อเนื่อง - ใช้ ข้อมูลจากผู้ใช้และการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบเพื่อปรับปรุงนโยบาย https://www.cio.com/article/3984527
    WWW.CIO.COM
    How to establish an effective AI GRC framework
    To get the most from artificial intelligence without falling prey to the risks, your company must implement a governance, risk, and compliance (GRC) framework specific to AI. Here’s how to develop a corporate policy that works.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมลิงค์โพสต์สำคัญๆในเพจ อาการหลังรับวัคซีนต่างๆ 2/2
    ✍️ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้านระเบียบโลกใหม่
    https://www.facebook.com/share/p/19GdFmcY73/
    ✍️เราเชื่อองค์การอนามัยโลกได้เพียงใด?
    https://www.facebook.com/share/p/165qc2RJSg/
    ✍️กฎหมายเสรีภาพทางการแพทย์และร่างกฎหมายแบน mRNA วัคซีน ในสหรัฐ
    https://www.facebook.com/share/p/16BCfkXpi1/
    ✍️มินนิโซต้ากลายเป็นรัฐที่ 11 เพื่อดูความพยายามทางกฎหมายในการห้ามวัคซีนตามเทคโนโลยียีน mRNA
    https://www.facebook.com/share/p/1E8FPsMDZP/
    ✍️สโลวาเกียเล็งระงับซื้อวัคซีนโควิดmRNA หลังมีรายงานชี้เปลี่ยนพันธุกรรมคน
    https://mgronline.com/around/detail/9680000038266
    พบว่าวัคซีน mRNA บรรจุดีเอ็นเอในระดับสูงมากๆ เช่นเดียวกับสารต่างๆ ที่บริษัทผู้ผลิตไม่เปิดเผย
    https://news1live.com/detail/9680000038282
    ✍️นพ.ธีระวัฒน์ ยกงานวิจัย ชี้ชัดวัคซีนโควิด ทำเส้นเลือดอุดตัน การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแปรตามการฉีดวัคซีน
    https://youtu.be/JFwdcP39MnM?si=7QPRmcaWOANYMJ87
    ✍️อีเมล์ หมอยงตอบหมออรรถพล ในกรณีที่ มีผู้ป่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด เข้ารับการรักษาในรพ.จุฬาลงกรณ์ ลองอ่านดูครับว่า หมอยง แสดงความเห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย ผู้ป่วยบ้างไหม
    https://www.facebook.com/share/p/18qB9oj8MR/
    ข้อมูลจากฐานข้อมูล องค์การอนามัยโลก
    พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดมาก
    https://www.facebook.com/share/p/198894qDBY/
    ✍️หมออรรถพลแนะจัดเวทีวิชาการคุยเรื่อง วัคซีนมรณา mRNA กันดีกว่า อย่ามัวดราม่า บูลลี่กันอยู่เลย
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7496066093576949009?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1728
    ✍️รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา วันที่ 22 เมษายน 2568
    https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein
    ✍️อย่าเป็นฆาตรกรในเสื้อกราวด์ โดย พอ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1753
    7402685923101970?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    ✍️โรคออทิสติกระบาดหนัก ข้อมูลใหม่จาก CDC ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ และ HHS (เทียบเท่ากระทรวงสาธารณสุข )
    https://www.facebook.com/share/p/15woR3q1gj/
    https://www.facebook.com/share/p/1DRAfoMddx/
    ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คุ้มความเสี่ยงผลข้างเคียงไหม
    https://www.facebook.com/share/p/1Ud8cBuqFn/
    https://www.facebook.com/share/p/1JvXpQ5vPU/
    พิจารณาประสิทธิภาพ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.facebook.com/share/p/14tUYkZRR6A/
    https://www.facebook.com/share/p/19wichtfbz/
    https://www.facebook.com/share/p/1ALB4dygQj/
    ✍️อึ้ง ! วัคซีนเด็กก่อโรคสารพัดโรค ชัดเจน
    https://thefreethoughtproject.com/new-study/jaw-dropping-study-finds-vaccinated-children-have-170-higher-risk-of-autism?fbclid=IwY2xjawJ77XFleHRuA2FlbQIxMQABHttPwuUaZejWIkDBB0qZd62h_8fHmdZP2aw4j8Dc4V5S8poBlI_AiFK4D3TQ_aem_NCw_KluKYAubgqcdFY1vPA
    ✍️งานวิจัยหลากหลายชิ้น คอนเฟิร์มว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จะป่วยและเป็นโรคได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ฉีดเลยหลายเท่า
    https://www.facebook.com/share/p/16LRcRdzGv/
    เรียนเชิญหมอที่เชียร์ให้เด็กฉีดวัคซีนมาดีเบทเพื่อให้ความจริงปรากฎ
    https://fb.watch/xcMgzvWmRj/?
    ✍️ข้อมูลจากสื่อหลักมิได้จริงเสมอไป
    https://www.facebook.com/share/p/1XsfU32uuq/
    ✍️สถิติล่าสุด ถึงสิ้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมา มกราคมถึงมีนาคม 2568 ปีปัจจุบัน คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด เทียบรายปีตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา !!!
    147,020 ราย !! จำนวนมากเป็นเด็ก เป็นคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยมีโรคอะไรมาก่อน เยอะแยะที่ แข็งแรงดี แล้ว ก็ตายไปเฉยๆ หรือ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
    https://www.facebook.com/share/1DYEUZ2Cto/
    https://www.facebook.com/share/p/15c51aDnCj/
    https://www.facebook.com/share/p/1HPJMiXKiS/
    ✍️เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้า
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/?
    ✍️วัคซีนไข้หวัดหมู 1976 ทำให้เกิดตายและพิการ ระงับ ชดเชย และรับผิดชอบ
    https://www.facebook.com/share/p/1HsCNDKyGk/
    ✍️สมองเสื่อม จิตอารมณ์แปรปรวนเพิ่มขึ้น โดย หมอดื้อ
    https://www.facebook.com/share/p/16fc4KX7x7/
    ✍️การเปิดโปงจากศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs เรื่องการโกหกของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ และรู้เห็นกับการสร้างไวรัสโควิดจนพยายามปกปิดกลบเกลื่อน
    https://youtu.be/vtfIIG8iYIk?si=VfbvJBU_TQVEqsGp
    ✍️ทำเนียบขาวประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเว็บไซต์ทางการแฉ ต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิดว่า มาจากฝีมือมนุษย์ เป็นเชื้อที่สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ
    https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/
    ✍️ 1 เม.ย. 2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ เริ่มจัดรายการ Health Nexus
    ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน
    https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1
    ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ?
    https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP
    ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ
    https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz
    ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ?
    https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ
    ตอนที่ 5 ไข้หวัดนก ตระหนักแต่อย่าตระหนก
    https://www.youtube.com/watch?v=tXNL1WAu4jY
    ✍️"คัดค้าน" การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔
    https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/
    https://www.facebook.com/share/p/18tUEdihhK/
    https://www.facebook.com/share/p/1BSihJZD6h/
    https://at.thaipithaksith.com/who
    จดหมายขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?usp=drivesdk
    จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    ✍️ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดำเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสำคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 7 วันทำการ
    https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977
    https://www.facebook.com/share/p/19KchygjUc/
    ✍️แบบฟอร์มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
    https://www.thaipithaksith.com/report-vaccine-injury?

    วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นจริงหรือ?

    ✍️ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
    https://www.facebook.com/share/p/12MUpcXzhix/
    ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดแล้วติดมากขึ้น
    https://www.facebook.com/share/p/1EtbSXvysA/
    ✍️การศึกษาในสหรัฐเองพบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กลับติดมากขึ้น
    https://www.facebook.com/share/p/1Ev49KVPiF/
    ✍️การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี
    https://www.facebook.com/share/p/1BrRr6xNzE/
    ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งยารักษา มีประสิทธิภาพจำกัด
    https://www.facebook.com/share/p/1FRm4fuzTA/
    ✍️ข้อสงสัยวัคซีนไข้หวัดใหญ่และยาต้าน
    https://www.facebook.com/share/p/1AVAQJRB3W/
    ✍️เด็กควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไม่
    https://www.rookon.com/?p=914
    ✍️การทดลองของ บริษัทยา พบว่ายาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ baloxavir อาจช่วยลดการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ในครัวเรือนได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องอาการ
    https://www.facebook.com/share/p/15gVerMQdu/
    ✍️วัคซีน ไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น ข้อควรระวัง ไวรัส วัคซีน ปลดปล่อยออกไปได้ สู่คนอื่นโดยเฉพาะ คนเปราะบาง
    https://www.facebook.com/share/p/15vdADs7EX/
    ✍️โคลอสตรุ้ม หัวน้ำนม นมแม่ ประโยชน์มหาศาลเช่น ป้องกันไข้หวัดใหญ่
    https://www.facebook.com/share/p/14dkhKZpMT/
    ✍️กระบวนการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่นำมาใช้ ไม่ใช่ใช้เพราะเป็นเพียงแต่ความเชื่อ
    https://www.facebook.com/share/p/16FphP1NoG/
    ✍️การบูลลี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำกันโดยเฉพาะผู้ที่บอกคนอื่นว่าตนเป็นแพทย์
    https://www.facebook.com/share/p/1HqVz45t6n/
    https://www.facebook.com/share/p/16CJH6XQqL/
    https://www.facebook.com/share/p/1EXZXyfD7C/
    ✍️หมอดื้อยกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ตอบข้อกล่าวหา
    https://www.facebook.com/share/p/1BrtYfLuA3/
    ✍️หนังสือดีๆ 2 เล่มที่อยากแนะนำ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113110074647289/?

    ...
    ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ
    https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2857516
    รวมลิงค์โพสต์สำคัญๆในเพจ อาการหลังรับวัคซีนต่างๆ 2/2 ✍️ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้านระเบียบโลกใหม่ https://www.facebook.com/share/p/19GdFmcY73/ ✍️เราเชื่อองค์การอนามัยโลกได้เพียงใด? https://www.facebook.com/share/p/165qc2RJSg/ ✍️กฎหมายเสรีภาพทางการแพทย์และร่างกฎหมายแบน mRNA วัคซีน ในสหรัฐ https://www.facebook.com/share/p/16BCfkXpi1/ ✍️มินนิโซต้ากลายเป็นรัฐที่ 11 เพื่อดูความพยายามทางกฎหมายในการห้ามวัคซีนตามเทคโนโลยียีน mRNA https://www.facebook.com/share/p/1E8FPsMDZP/ ✍️สโลวาเกียเล็งระงับซื้อวัคซีนโควิดmRNA หลังมีรายงานชี้เปลี่ยนพันธุกรรมคน https://mgronline.com/around/detail/9680000038266 พบว่าวัคซีน mRNA บรรจุดีเอ็นเอในระดับสูงมากๆ เช่นเดียวกับสารต่างๆ ที่บริษัทผู้ผลิตไม่เปิดเผย https://news1live.com/detail/9680000038282 ✍️นพ.ธีระวัฒน์ ยกงานวิจัย ชี้ชัดวัคซีนโควิด ทำเส้นเลือดอุดตัน การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแปรตามการฉีดวัคซีน https://youtu.be/JFwdcP39MnM?si=7QPRmcaWOANYMJ87 ✍️อีเมล์ หมอยงตอบหมออรรถพล ในกรณีที่ มีผู้ป่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด เข้ารับการรักษาในรพ.จุฬาลงกรณ์ ลองอ่านดูครับว่า หมอยง แสดงความเห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย ผู้ป่วยบ้างไหม https://www.facebook.com/share/p/18qB9oj8MR/ ข้อมูลจากฐานข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดมาก https://www.facebook.com/share/p/198894qDBY/ ✍️หมออรรถพลแนะจัดเวทีวิชาการคุยเรื่อง วัคซีนมรณา mRNA กันดีกว่า อย่ามัวดราม่า บูลลี่กันอยู่เลย https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7496066093576949009?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 https://t.me/goodthaidoctorclip/1728 ✍️รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา วันที่ 22 เมษายน 2568 https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein ✍️อย่าเป็นฆาตรกรในเสื้อกราวด์ โดย พอ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://t.me/goodthaidoctorclip/1753 7402685923101970?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 ✍️โรคออทิสติกระบาดหนัก ข้อมูลใหม่จาก CDC ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ และ HHS (เทียบเท่ากระทรวงสาธารณสุข ) https://www.facebook.com/share/p/15woR3q1gj/ https://www.facebook.com/share/p/1DRAfoMddx/ ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คุ้มความเสี่ยงผลข้างเคียงไหม https://www.facebook.com/share/p/1Ud8cBuqFn/ https://www.facebook.com/share/p/1JvXpQ5vPU/ พิจารณาประสิทธิภาพ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.facebook.com/share/p/14tUYkZRR6A/ https://www.facebook.com/share/p/19wichtfbz/ https://www.facebook.com/share/p/1ALB4dygQj/ ✍️อึ้ง ! วัคซีนเด็กก่อโรคสารพัดโรค ชัดเจน https://thefreethoughtproject.com/new-study/jaw-dropping-study-finds-vaccinated-children-have-170-higher-risk-of-autism?fbclid=IwY2xjawJ77XFleHRuA2FlbQIxMQABHttPwuUaZejWIkDBB0qZd62h_8fHmdZP2aw4j8Dc4V5S8poBlI_AiFK4D3TQ_aem_NCw_KluKYAubgqcdFY1vPA ✍️งานวิจัยหลากหลายชิ้น คอนเฟิร์มว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จะป่วยและเป็นโรคได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ฉีดเลยหลายเท่า https://www.facebook.com/share/p/16LRcRdzGv/ เรียนเชิญหมอที่เชียร์ให้เด็กฉีดวัคซีนมาดีเบทเพื่อให้ความจริงปรากฎ https://fb.watch/xcMgzvWmRj/? ✍️ข้อมูลจากสื่อหลักมิได้จริงเสมอไป https://www.facebook.com/share/p/1XsfU32uuq/ ✍️สถิติล่าสุด ถึงสิ้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมา มกราคมถึงมีนาคม 2568 ปีปัจจุบัน คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด เทียบรายปีตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา !!! 147,020 ราย !! จำนวนมากเป็นเด็ก เป็นคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยมีโรคอะไรมาก่อน เยอะแยะที่ แข็งแรงดี แล้ว ก็ตายไปเฉยๆ หรือ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย https://www.facebook.com/share/1DYEUZ2Cto/ https://www.facebook.com/share/p/15c51aDnCj/ https://www.facebook.com/share/p/1HPJMiXKiS/ ✍️เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้า https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/? ✍️วัคซีนไข้หวัดหมู 1976 ทำให้เกิดตายและพิการ ระงับ ชดเชย และรับผิดชอบ https://www.facebook.com/share/p/1HsCNDKyGk/ ✍️สมองเสื่อม จิตอารมณ์แปรปรวนเพิ่มขึ้น โดย หมอดื้อ https://www.facebook.com/share/p/16fc4KX7x7/ ✍️การเปิดโปงจากศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs เรื่องการโกหกของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ และรู้เห็นกับการสร้างไวรัสโควิดจนพยายามปกปิดกลบเกลื่อน https://youtu.be/vtfIIG8iYIk?si=VfbvJBU_TQVEqsGp ✍️ทำเนียบขาวประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเว็บไซต์ทางการแฉ ต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิดว่า มาจากฝีมือมนุษย์ เป็นเชื้อที่สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/ ✍️ 1 เม.ย. 2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ เริ่มจัดรายการ Health Nexus ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1 ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ? https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ? https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ ตอนที่ 5 ไข้หวัดนก ตระหนักแต่อย่าตระหนก https://www.youtube.com/watch?v=tXNL1WAu4jY ✍️"คัดค้าน" การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔ https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/ https://www.facebook.com/share/p/18tUEdihhK/ https://www.facebook.com/share/p/1BSihJZD6h/ https://at.thaipithaksith.com/who จดหมายขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?usp=drivesdk จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna ✍️ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดำเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสำคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 7 วันทำการ https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977 https://www.facebook.com/share/p/19KchygjUc/ ✍️แบบฟอร์มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 https://www.thaipithaksith.com/report-vaccine-injury? วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นจริงหรือ? ✍️ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย https://www.facebook.com/share/p/12MUpcXzhix/ ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดแล้วติดมากขึ้น https://www.facebook.com/share/p/1EtbSXvysA/ ✍️การศึกษาในสหรัฐเองพบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กลับติดมากขึ้น https://www.facebook.com/share/p/1Ev49KVPiF/ ✍️การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี https://www.facebook.com/share/p/1BrRr6xNzE/ ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งยารักษา มีประสิทธิภาพจำกัด https://www.facebook.com/share/p/1FRm4fuzTA/ ✍️ข้อสงสัยวัคซีนไข้หวัดใหญ่และยาต้าน https://www.facebook.com/share/p/1AVAQJRB3W/ ✍️เด็กควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไม่ https://www.rookon.com/?p=914 ✍️การทดลองของ บริษัทยา พบว่ายาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ baloxavir อาจช่วยลดการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ในครัวเรือนได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องอาการ https://www.facebook.com/share/p/15gVerMQdu/ ✍️วัคซีน ไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น ข้อควรระวัง ไวรัส วัคซีน ปลดปล่อยออกไปได้ สู่คนอื่นโดยเฉพาะ คนเปราะบาง https://www.facebook.com/share/p/15vdADs7EX/ ✍️โคลอสตรุ้ม หัวน้ำนม นมแม่ ประโยชน์มหาศาลเช่น ป้องกันไข้หวัดใหญ่ https://www.facebook.com/share/p/14dkhKZpMT/ ✍️กระบวนการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่นำมาใช้ ไม่ใช่ใช้เพราะเป็นเพียงแต่ความเชื่อ https://www.facebook.com/share/p/16FphP1NoG/ ✍️การบูลลี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำกันโดยเฉพาะผู้ที่บอกคนอื่นว่าตนเป็นแพทย์ https://www.facebook.com/share/p/1HqVz45t6n/ https://www.facebook.com/share/p/16CJH6XQqL/ https://www.facebook.com/share/p/1EXZXyfD7C/ ✍️หมอดื้อยกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ตอบข้อกล่าวหา https://www.facebook.com/share/p/1BrtYfLuA3/ ✍️หนังสือดีๆ 2 เล่มที่อยากแนะนำ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113110074647289/? ... ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2857516
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 671 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหภาพยุโรปเปิดตัวฐานข้อมูลช่องโหว่สาธารณะ: ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์

    สหภาพยุโรป (EU) ได้เปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่บริหารโดย EU Agency for Cybersecurity (ENISA) ฐานข้อมูลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ช่วยให้องค์กรสามารถระบุและตอบสนองต่อช่องโหว่ได้รวดเร็วขึ้น

    ✅ EUVD เป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ที่สอดคล้องกับ NIS2 Directive และ Cyber Resilience Act
    - ช่วยให้ องค์กรในยุโรปสามารถจัดการช่องโหว่ด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ ENISA เป็นผู้ดูแลฐานข้อมูลนี้ และรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลแบบเปิดและ CSIRTs ระดับประเทศ
    - ทำให้ ข้อมูลมีความแม่นยำและสามารถนำไปใช้ได้จริง

    ✅ EUVD มีสามแดชบอร์ดหลัก: ช่องโหว่ที่สำคัญ, ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี และช่องโหว่ที่ได้รับการจัดการโดย EU
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถติดตามภัยคุกคามได้ง่ายขึ้น

    ✅ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2026 ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต้องรายงานช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี
    - เป็นมาตรการที่ ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดิจิทัล

    ✅ EUVD อาจกลายเป็นทางเลือกแทน CVE หากสหรัฐฯ ลดงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - ทำให้ ยุโรปมีความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยีมากขึ้น

    ‼️ EUVD อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาให้เทียบเท่ากับ CVE
    - ต้องติดตามว่า ฐานข้อมูลนี้จะได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมมากน้อยเพียงใด

    ‼️ การบังคับให้รายงานช่องโหว่อาจเพิ่มภาระให้กับผู้ผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์
    - อาจทำให้ บริษัทขนาดเล็กต้องปรับตัวเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด

    https://www.techspot.com/news/107921-european-union-public-vulnerability-database-enters-beta-phase.html
    สหภาพยุโรปเปิดตัวฐานข้อมูลช่องโหว่สาธารณะ: ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ สหภาพยุโรป (EU) ได้เปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่บริหารโดย EU Agency for Cybersecurity (ENISA) ฐานข้อมูลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ช่วยให้องค์กรสามารถระบุและตอบสนองต่อช่องโหว่ได้รวดเร็วขึ้น ✅ EUVD เป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ที่สอดคล้องกับ NIS2 Directive และ Cyber Resilience Act - ช่วยให้ องค์กรในยุโรปสามารถจัดการช่องโหว่ด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ENISA เป็นผู้ดูแลฐานข้อมูลนี้ และรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลแบบเปิดและ CSIRTs ระดับประเทศ - ทำให้ ข้อมูลมีความแม่นยำและสามารถนำไปใช้ได้จริง ✅ EUVD มีสามแดชบอร์ดหลัก: ช่องโหว่ที่สำคัญ, ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี และช่องโหว่ที่ได้รับการจัดการโดย EU - ช่วยให้ องค์กรสามารถติดตามภัยคุกคามได้ง่ายขึ้น ✅ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2026 ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต้องรายงานช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี - เป็นมาตรการที่ ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ✅ EUVD อาจกลายเป็นทางเลือกแทน CVE หากสหรัฐฯ ลดงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - ทำให้ ยุโรปมีความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ‼️ EUVD อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาให้เทียบเท่ากับ CVE - ต้องติดตามว่า ฐานข้อมูลนี้จะได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมมากน้อยเพียงใด ‼️ การบังคับให้รายงานช่องโหว่อาจเพิ่มภาระให้กับผู้ผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ - อาจทำให้ บริษัทขนาดเล็กต้องปรับตัวเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด https://www.techspot.com/news/107921-european-union-public-vulnerability-database-enters-beta-phase.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    European Union public vulnerability database enters beta phase
    The European Commission has launched a new vulnerability database managed by the EU Agency for Cybersecurity (ENISA). The beta version of the European Vulnerability Database (EUVD) is...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.ยธ.เปิดใจเคารพศาล รธน.หลังถูกสั่งห้ามคุม DSI มองเป็นบวกทุกฝ่าย สบายใจเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. ไม่กระทบสอบสวน แจง รมต.แทรกแซงไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมทำหนังสือแจง เมินโต้วุฒิฯจวกกเฬวราก คาด “ภูมิธรรม” คุมแทน ไร้กังวลปรับ ครม. ปัดน้ำเงินชนะแดง

    วันนี้ (14 พ.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเฉพาะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่ยื่นโดยประธานวุฒิสภาเรื่องการทำคดีพิเศษว่าด้วยการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือคดีฮั้ว สว. ว่า เราต้องเคารพในคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและขอสงวนไม่พูดในรายละเอียด โดยส่วนตัวมองว่าคำสั่งดังกล่าวส่งผลในทางบวก เพราะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจในเรื่องกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. รวมทั้งมองว่ายิ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านนิติธรรมและความโปร่งใส

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000045101

    #MGROnline #ทวีสอดส่อง #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
    รมว.ยธ.เปิดใจเคารพศาล รธน.หลังถูกสั่งห้ามคุม DSI มองเป็นบวกทุกฝ่าย สบายใจเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. ไม่กระทบสอบสวน แจง รมต.แทรกแซงไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมทำหนังสือแจง เมินโต้วุฒิฯจวกกเฬวราก คาด “ภูมิธรรม” คุมแทน ไร้กังวลปรับ ครม. ปัดน้ำเงินชนะแดง • วันนี้ (14 พ.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเฉพาะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่ยื่นโดยประธานวุฒิสภาเรื่องการทำคดีพิเศษว่าด้วยการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือคดีฮั้ว สว. ว่า เราต้องเคารพในคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและขอสงวนไม่พูดในรายละเอียด โดยส่วนตัวมองว่าคำสั่งดังกล่าวส่งผลในทางบวก เพราะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจในเรื่องกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. รวมทั้งมองว่ายิ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านนิติธรรมและความโปร่งใส • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000045101 • #MGROnline #ทวีสอดส่อง #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาตาร์เตรียมมอบ Boeing 747-8 สุดหรูให้รัฐบาลทรัมป์ ใช้เป็น Air Force One ลำใหม่.สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานตรงกันว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมรับมอบเครื่องบินเจ็ทสุดหรู Boeing 747-8 จากราชวงศ์กาตาร์ เพื่อนำไปดัดแปลงและใช้เป็น "Air Force One" ลำใหม่ โดยการส่งมอบครั้งนี้คาดว่าอยู่ในรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่การให้ของขวัญส่วนบุคคล.แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับ ABC News ว่า เครื่องบินลำนี้ได้รับฉายาว่า “พระราชวังลอยฟ้า” ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราเหนือระดับ โดยทรัมป์เคยขึ้นไปชมเครื่องลำดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา.เจ้าหน้าที่ของกาตาร์ระบุว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหมกาตาร์ และจะมอบให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อใช้งานทางการทหาร โดยเฉพาะสำหรับภารกิจของประธานาธิบดี.อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากหน่วยซีเคร็ทเซอร์วิสให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า การที่ต่างชาติมอบเครื่องบินให้ใช้งานในระดับผู้นำประเทศอาจเป็น “ฝันร้ายด้านความมั่นคง” เนื่องจากต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงระบบภายในทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกฝังอุปกรณ์จารกรรม.ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ลงนามสั่งซื้อ Boeing 747-8I จำนวน 2 ลำ ภายใต้โครงการ VC-25B เพื่อมาแทนที่ฝูงบิน VC-25A เดิมที่ใช้งานมานานกว่า 30 ปี โดยอยู่ภายใต้สัญญามูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจต่อโบอิ้งจากปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินใหม่.การรับมอบเครื่องบินจากกาตาร์ครั้งนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนทางการเมือง สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องถึงความโปร่งใสและความมั่นคงในระดับสูงสุดที่มา https://www.facebook.com/share/p/15h9it8GVW/?mibextid=wwXIfr
    กาตาร์เตรียมมอบ Boeing 747-8 สุดหรูให้รัฐบาลทรัมป์ ใช้เป็น Air Force One ลำใหม่.สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานตรงกันว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมรับมอบเครื่องบินเจ็ทสุดหรู Boeing 747-8 จากราชวงศ์กาตาร์ เพื่อนำไปดัดแปลงและใช้เป็น "Air Force One" ลำใหม่ โดยการส่งมอบครั้งนี้คาดว่าอยู่ในรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่การให้ของขวัญส่วนบุคคล.แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับ ABC News ว่า เครื่องบินลำนี้ได้รับฉายาว่า “พระราชวังลอยฟ้า” ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราเหนือระดับ โดยทรัมป์เคยขึ้นไปชมเครื่องลำดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา.เจ้าหน้าที่ของกาตาร์ระบุว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหมกาตาร์ และจะมอบให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อใช้งานทางการทหาร โดยเฉพาะสำหรับภารกิจของประธานาธิบดี.อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากหน่วยซีเคร็ทเซอร์วิสให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า การที่ต่างชาติมอบเครื่องบินให้ใช้งานในระดับผู้นำประเทศอาจเป็น “ฝันร้ายด้านความมั่นคง” เนื่องจากต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงระบบภายในทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกฝังอุปกรณ์จารกรรม.ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ลงนามสั่งซื้อ Boeing 747-8I จำนวน 2 ลำ ภายใต้โครงการ VC-25B เพื่อมาแทนที่ฝูงบิน VC-25A เดิมที่ใช้งานมานานกว่า 30 ปี โดยอยู่ภายใต้สัญญามูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจต่อโบอิ้งจากปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินใหม่.การรับมอบเครื่องบินจากกาตาร์ครั้งนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนทางการเมือง สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องถึงความโปร่งใสและความมั่นคงในระดับสูงสุดที่มา https://www.facebook.com/share/p/15h9it8GVW/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ

    ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก**
    1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)**
    - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่)
    - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ

    2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)**
    - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers)
    - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens)

    3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ**
    - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
    - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

    4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก**
    - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน

    ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น**
    - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน
    - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ
    - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ

    ### **ผลกระทบ**
    - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน
    - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ
    - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม

    ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก**
    - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน
    - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท
    - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI)

    ### **ความท้าทาย**
    - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ
    - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก** 1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)** - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่) - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ 2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)** - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers) - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens) 3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ** - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว 4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก** - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น** - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ ### **ผลกระทบ** - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก** - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI) ### **ความท้าทาย** - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 550 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DOD) เตรียมปฏิรูปกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ DOD กำลังดำเนินการ ปรับปรุงระบบจัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย เพื่อเพิ่ม ความปลอดภัยและความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน โดยมีแผนเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน

    Katherine Arrington หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของ DOD ระบุว่า SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น

    ✅ DOD เตรียมเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน
    - มุ่งเน้น การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ให้มีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น
    - เพิ่ม ความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

    ✅ SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน
    - รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น

    ✅ DOD ต้องการลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนและสิ้นเปลือง
    - คาดว่าจะช่วย ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น

    ✅ DOD ระบุว่า Open Source Software เป็นความท้าทายสำคัญ
    - เนื่องจาก ขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโค้ดและความปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/pentagon-looks-to-shake-up-outdated-software-procurement-declares-war-on-open-source
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DOD) เตรียมปฏิรูปกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ DOD กำลังดำเนินการ ปรับปรุงระบบจัดซื้อซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย เพื่อเพิ่ม ความปลอดภัยและความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน โดยมีแผนเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน Katherine Arrington หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของ DOD ระบุว่า SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น ✅ DOD เตรียมเปิดตัว Software Fast-Track (SWFT) Initiative ภายใน 90 วัน - มุ่งเน้น การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อซอฟต์แวร์ให้มีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น - เพิ่ม ความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ ✅ SWFT Framework จะกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการบริหารความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน - รวมถึง กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดขึ้น ✅ DOD ต้องการลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนและสิ้นเปลือง - คาดว่าจะช่วย ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น ✅ DOD ระบุว่า Open Source Software เป็นความท้าทายสำคัญ - เนื่องจาก ขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโค้ดและความปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/pentagon-looks-to-shake-up-outdated-software-procurement-declares-war-on-open-source
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังสร้าง ประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยร่างกฎหมาย ซึ่งถือเป็น ประเทศแรกในโลกที่ใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมาย

    รัฐบาล UAE มี กระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล ซึ่งจะใช้ AI ในการ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ตั้งแต่กฎหมายที่มีอยู่ ไปจนถึงคำพิพากษาและบริการสาธารณะต่าง ๆ

    ✅ UAE เป็นประเทศแรกที่นำ AI มาใช้ในกระบวนการร่างกฎหมาย
    - ใช้ AI เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูลจากกฎหมายที่มีอยู่ คำพิพากษา และบริการสาธารณะ
    - ช่วยให้ กระบวนการร่างกฎหมายมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ รัฐบาล UAE มีกระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ
    - อยู่ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล
    - เป็น หนึ่งในประเทศที่มีการลงทุนด้าน AI มากที่สุดในโลก

    ✅ AI จะช่วยให้การร่างกฎหมายมีความแม่นยำและสอดคล้องกับข้อมูลจริงมากขึ้น
    - ลด ข้อผิดพลาดในการร่างกฎหมาย
    - ช่วยให้ กฎหมายสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดีขึ้น

    ‼️ การใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมายอาจมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใส
    - ต้องมี มาตรการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า AI ไม่ถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

    ‼️ AI อาจไม่สามารถเข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์
    - กฎหมายต้อง คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมที่ AI อาจไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/ai-will-soon-help-draft-laws-in-this-middle-eastern-country
    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังสร้าง ประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยร่างกฎหมาย ซึ่งถือเป็น ประเทศแรกในโลกที่ใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมาย รัฐบาล UAE มี กระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล ซึ่งจะใช้ AI ในการ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ตั้งแต่กฎหมายที่มีอยู่ ไปจนถึงคำพิพากษาและบริการสาธารณะต่าง ๆ ✅ UAE เป็นประเทศแรกที่นำ AI มาใช้ในกระบวนการร่างกฎหมาย - ใช้ AI เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูลจากกฎหมายที่มีอยู่ คำพิพากษา และบริการสาธารณะ - ช่วยให้ กระบวนการร่างกฎหมายมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ รัฐบาล UAE มีกระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ - อยู่ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล - เป็น หนึ่งในประเทศที่มีการลงทุนด้าน AI มากที่สุดในโลก ✅ AI จะช่วยให้การร่างกฎหมายมีความแม่นยำและสอดคล้องกับข้อมูลจริงมากขึ้น - ลด ข้อผิดพลาดในการร่างกฎหมาย - ช่วยให้ กฎหมายสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดีขึ้น ‼️ การใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมายอาจมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใส - ต้องมี มาตรการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า AI ไม่ถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ‼️ AI อาจไม่สามารถเข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์ - กฎหมายต้อง คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมที่ AI อาจไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/ai-will-soon-help-draft-laws-in-this-middle-eastern-country
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI will soon help draft laws in this Middle Eastern country
    In a world first, the United Arab Emirates (UAE) has decided to integrate artificial intelligence into its legislative process. The idea is to modernise the process of drafting, revising and updating legislation, drawing on the advanced analytical capabilities of AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮึ่ม!บิ๊กต๋อง สั่งตำรวจห้ามมีเอี่ยวผลประโยชน์กับการเลือกตั้งภาคอีสานตอนล่าง 8 จังหวัด วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.09 น พล.ต.ท . วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 พร้อมคณะฯประชุมสั่งการตำรวจภายใต้สังกัดพื้นที่ตำรวจภูธรภาค3 อีสานตอนล่าง พร้อมกำชับ ให้ตำรวจรักษาความสงบ ในการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลและนายกเทศมนตรีในภาค3 อีสานล่าง โดยสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไปยุ่งเหยิงมีผลประโยชน์ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในครั้งนี้ พร้อมให้อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาค3 ทั้งหมดเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใสยุติธรรม ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี
    ฮึ่ม!บิ๊กต๋อง สั่งตำรวจห้ามมีเอี่ยวผลประโยชน์กับการเลือกตั้งภาคอีสานตอนล่าง 8 จังหวัด วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.09 น พล.ต.ท . วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 พร้อมคณะฯประชุมสั่งการตำรวจภายใต้สังกัดพื้นที่ตำรวจภูธรภาค3 อีสานตอนล่าง พร้อมกำชับ ให้ตำรวจรักษาความสงบ ในการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลและนายกเทศมนตรีในภาค3 อีสานล่าง โดยสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไปยุ่งเหยิงมีผลประโยชน์ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในครั้งนี้ พร้อมให้อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาค3 ทั้งหมดเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใสยุติธรรม ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงโครงการ Secure by Design ของ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ชั้นนำถึง 68 ราย แต่ปัจจุบันโครงการกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในทีมงานและการลดงบประมาณ

    Secure by Design เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งบริหารด้านความมั่นคงไซเบอร์ของประธานาธิบดีไบเดนในปี 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม การลาออกของผู้บริหารสำคัญในโครงการ เช่น Lauren Zabierek และ Bob Lord ทำให้เกิดคำถามว่าโครงการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร

    แม้ว่า CISA อาจลดบทบาทในโครงการนี้ แต่แนวคิด Secure by Design ยังคงได้รับการสนับสนุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะจากบริษัทที่ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้า

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - ลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนเข้าสู่ตลาด
    - ส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ

    ✅ การสนับสนุนจากภาคเอกชน
    - บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำ 68 รายลงนามสนับสนุนโครงการ
    - แนวคิด Secure by Design ยังคงมีบทบาทในภาคเอกชน

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
    - การปรับปรุงความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์
    - การใช้ OWASP Top 10 เป็นมาตรฐานช่วยเพิ่มความโปร่งใสในอุตสาหกรรม

    ✅ ความสำเร็จที่ผ่านมาของโครงการ
    - รายงานจาก Veracode แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของซอฟต์แวร์มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

    https://www.csoonline.com/article/3971375/secure-by-design-is-likely-dead-at-cisa-will-the-private-sector-make-good-on-its-pledge.html
    บทความนี้กล่าวถึงโครงการ Secure by Design ของ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ชั้นนำถึง 68 ราย แต่ปัจจุบันโครงการกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในทีมงานและการลดงบประมาณ Secure by Design เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งบริหารด้านความมั่นคงไซเบอร์ของประธานาธิบดีไบเดนในปี 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม การลาออกของผู้บริหารสำคัญในโครงการ เช่น Lauren Zabierek และ Bob Lord ทำให้เกิดคำถามว่าโครงการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร แม้ว่า CISA อาจลดบทบาทในโครงการนี้ แต่แนวคิด Secure by Design ยังคงได้รับการสนับสนุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะจากบริษัทที่ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ✅ เป้าหมายของโครงการ - ลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนเข้าสู่ตลาด - ส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ✅ การสนับสนุนจากภาคเอกชน - บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำ 68 รายลงนามสนับสนุนโครงการ - แนวคิด Secure by Design ยังคงมีบทบาทในภาคเอกชน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ - การปรับปรุงความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ - การใช้ OWASP Top 10 เป็นมาตรฐานช่วยเพิ่มความโปร่งใสในอุตสาหกรรม ✅ ความสำเร็จที่ผ่านมาของโครงการ - รายงานจาก Veracode แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของซอฟต์แวร์มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง https://www.csoonline.com/article/3971375/secure-by-design-is-likely-dead-at-cisa-will-the-private-sector-make-good-on-its-pledge.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Secure by Design is likely dead at CISA. Will the private sector make good on its pledge?
    CISA’s high-profile proselytizing of its Secure by Design program will likely end, but some experts think the idea still has momentum in the private sector, while others have become disillusioned altogether.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความทัศนะจากเพจเฟซบุ๊ก'อ้ายจง‘ ได้เขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า ทำไมการแต่งตั้ง "ที่ปรึกษาชาวจีน" โดยผู้ว่าฯ จึงเป็นเรื่องที่ (ทุกคนควร) จับตามอง?.ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการแต่งตั้งนักธุรกิจชาวจีนให้เป็น "ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี" กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง หลายคนตั้งคำถามว่า "โปร่งใสหรือไม่?" "จำเป็นแค่ไหน?" และ "ไม่มีคนไทยที่เหมาะสมกว่าหรือ?" .แม้คำสั่งแต่งตั้งจะระบุว่า เพื่อ "ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางในประเด็นที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการ" แต่ต้องยอมรับนะครับว่า ค่อนข้างจะคลุมเครือ เพราะไม่แน่ชัดถึง "ประเด็นอะไร?" "เหตุผลเพิ่มเติมคืออะไร" ดังนั้นกลับยิ่งสร้างคำถามมากกว่าคำตอบ โดยเฉพาะเมื่อที่ปรึกษาคนดังกล่าวเป็น "ชาวต่างชาติ" และ "ชาวจีน" ในบริบทที่มีความอ่อนไหวหลายมิติ.หากวิเคราะห์ตามเนื้อผ้าและบริบทที่เป็นไปได้ จังหวัดปราจีนบุรีตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ประเทศไทยต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ .โดยเฉพาะจีนที่มีบทบาทในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในภูมิภาคนี้ การแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนอาจสะท้อนถึงความพยายามของผู้ว่าฯ ในการเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนเพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจโดยตรง .ถ้ามองในมุมนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของกลยุทธ์ในการพัฒนาจังหวัด แต่ประเด็นที่หลายคนคาใจอยู่ที่ความไม่ชัดเจนของข้อมูล โดยเฉพาะถ้อยคำในคำสั่งที่ระบุว่า "ให้คำปรึกษาในประเด็นต่างๆ" โดยไม่ระบุชัดว่า "ประเด็นใด" ทำให้เกิดความคลุมเครือและสร้างข้อกังขาต่อสาธารณะ.อีกเรื่องที่สำคัญมาก คือข้อกฎหมายและข้อจำกัดในการจ้างชาวต่างชาติให้ทำงานในประเทศไทย ซึ่งตามกฎหมายแรงงานแล้ว ชาวต่างชาติต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ที่ถูกต้องและระบุขอบเขตงานชัดเจน โดยเฉพาะหากเกี่ยวข้องกับงานที่จัดอยู่ในกลุ่มอาชีพสงวน เช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การทำงานราชการ หรืออื่นๆ ที่มีผลต่อความมั่นคง หากการแต่งตั้งนี้ไม่ได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย อาจกลายเป็นช่องโหว่สำคัญที่นำไปสู่ความเสียหายในระดับระบบราชการ.ต้องย้ำด้วยว่า คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานหรือใช้ชีวิตในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็มีจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีนที่ลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ และมีบทบาทสำคัญในภาคเศรษฐกิจไทย แต่ในขณะเดียวกัน หากรัฐยังปล่อยให้บางกลุ่มที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายสามารถแทรกตัวหรือมีบทบาทในหน่วยงานราชการได้โดยไม่ตรวจสอบ ก็จะกลายเป็นภัยเงียบที่กระทบทั้งระบบ และยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของชาวต่างชาติกลุ่มที่ตั้งใจทำงานอย่างสุจริตด้วย.ที่ผ่านมาประเทศไทยมีประวัติของกรณีชาวจีนที่เข้ามาทำกิจกรรมแปลกๆ ที่ผิดกฎหมายหรือก้ำกึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวการจ้างตำรวจไทยนำขบวนรถหรู การอบรมอาสาตำรวจให้ชาวจีน หรือแม้กระทั่งการใช้วีซ่าผิดประเภทเพื่ออยู่อาศัยหรือทำธุรกิจ หากปล่อยให้กรณีเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่มีมาตรการควบคุมที่จริงจัง จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ว่า "มีเงิน ก็ทำอะไรก็ได้ในไทย" ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ.เพราะฉะนั้น ความโปร่งใสจึงไม่ใช่แค่คำสวยหรู แต่เป็นหลักประกันพื้นฐานของความไว้วางใจในระบบสาธารณะ .การแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวต่างชาติในระดับจังหวัดอาจเป็นสิ่งที่ทำได้ #แต่ต้องอธิบายให้สาธารณชนเข้าใจ ตรวจสอบได้ และเป็นตัวอย่างของกระบวนการที่ยึดหลักความโปร่งใสอย่างแท้จริง เพราะหากเราไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบได้ ทุกกลยุทธ์การดึงดูดนักลงทุน หรือการพัฒนาใดๆ ก็จะไร้ผลในระยะยาว.และในอีกแง่มุมหนึ่ง หากมีเหตุผลที่ต้องแต่งตั้งชาวต่างชาติหรือชาวจีนเป็นที่ปรึกษาจริง ๆ เพื่อช่วยวางกลยุทธ์ด้านการลงทุนหรือเศรษฐกิจ ก็ย่อมเป็นสิทธิ์ของผู้ว่าฯ ที่จะใช้ดุลยพินิจ .แต่จะยิ่งดีและเกิดประโยชน์มากขึ้น หากมี "ที่ปรึกษาชาวไทย" ทำงานควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล สื่อสารเชิงวัฒนธรรม และสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างภาคไทยกับต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทิ้งรากฐานของสังคมไทยเอง.สุดท้าย ความโปร่งใสต้องเกิดในทุกระดับของสังคมไทย ตั้งแต่บนลงล่าง ไม่ใช่แค่ในนโยบายส่วนกลาง แต่ต้องสะท้อนออกมาให้เห็นจริงในทุกการตัดสินใจของทุกจังหวัด ทุกตำแหน่ง และทุกคำสั่ง เพราะนั่นคือรากฐานของความเชื่อมั่นและความยั่งยืนด้วยความเคารพ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 รายงานข่าวจากเพจCH7HD News ถามหาความเหมาะสม! หลังเอกสารหลุดคำสั่งผู้ว่าฯปราจีนบุรี แต่งตั้ง "ชายชาวจีน" เป็นที่ปรึกษา ทำหน้าที่แนะแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญเป็นประโยชน์ต่อการบริการขับเคลื่อนงานของจังหวัด โดย เอกสารสำคัญที่เผยแพร่แพร่ในโซเชียลตั้งแต่ค่ำวานที่ผ่านมา(29 เม.ย.68) เป็นคำสั่ง 2 ฉบับ ลงนาม โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลงนามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 คือ คำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 1327/2568 ลงนามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 แต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี 5 คน เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาจังหวัด 5ปี (พ.ศ.2566-2570) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยยิ่งขึ้น โดยลำดับที่1-4 เป็นคนไทย ส่วน ลำดับที่ 5 เป็นคนจีน และ คำสั่งแจ้งบุคคลในลำดับที่ 5 เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมในประเด็นต่างๆ ที่เห็นว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร และการขับเคลื่อนงานของจังหวัดปราจีนบุรี หลังเป็นข่าว ปรากฏว่า ล่าสุดวันที่ 30 เมษายน เวลา 7.00 น. ผู้ว่าฯปราจีนบุรีได้ออกคำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง"ชาวจีน"เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯแล้ว หลังจากเพจเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า คำชี้แจงจากผู้ว่าปราจีนบุรี.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โฟนอินชี้แจงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แต่งตั้งชาวจีนเป็นที่ปรึกษาว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งทางหอการค้าจังหวัดเสนอมา ตรวจสอบแล้วไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัย เลยแต่งตั้งเพื่อให้เกียรติมาช่วยงานจังหวัด ไม่ได้สนิทเป็นการส่วนตัว .พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาคนจีนมาลงทุนในจังหวัดเยอะ รวมถึงชาวต่างชาติด้วย นำรายได้มาสู่ประเทศปีหนึ่งกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนหน้าที่ของผู้ได้รับการแต่งตั้งนั้นจะคอยจะคอยช่วยประสานงานในส่วนนักลงทุน หรือที่มาจากทางประเทศบ้านเขาในเรื่องการสื่อสาร มิติการค้าและมิติอื่นๆ ตามความประสงค์ของหอการค้าจังหวัด พร้อมขออภัย ในความไม่เหมาะสมและเป็นที่น่าเป็นห่วงจึงได้ยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    บทความทัศนะจากเพจเฟซบุ๊ก'อ้ายจง‘ ได้เขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า ทำไมการแต่งตั้ง "ที่ปรึกษาชาวจีน" โดยผู้ว่าฯ จึงเป็นเรื่องที่ (ทุกคนควร) จับตามอง?.ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการแต่งตั้งนักธุรกิจชาวจีนให้เป็น "ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี" กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง หลายคนตั้งคำถามว่า "โปร่งใสหรือไม่?" "จำเป็นแค่ไหน?" และ "ไม่มีคนไทยที่เหมาะสมกว่าหรือ?" .แม้คำสั่งแต่งตั้งจะระบุว่า เพื่อ "ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางในประเด็นที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการ" แต่ต้องยอมรับนะครับว่า ค่อนข้างจะคลุมเครือ เพราะไม่แน่ชัดถึง "ประเด็นอะไร?" "เหตุผลเพิ่มเติมคืออะไร" ดังนั้นกลับยิ่งสร้างคำถามมากกว่าคำตอบ โดยเฉพาะเมื่อที่ปรึกษาคนดังกล่าวเป็น "ชาวต่างชาติ" และ "ชาวจีน" ในบริบทที่มีความอ่อนไหวหลายมิติ.หากวิเคราะห์ตามเนื้อผ้าและบริบทที่เป็นไปได้ จังหวัดปราจีนบุรีตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ประเทศไทยต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ .โดยเฉพาะจีนที่มีบทบาทในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในภูมิภาคนี้ การแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนอาจสะท้อนถึงความพยายามของผู้ว่าฯ ในการเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนเพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจโดยตรง .ถ้ามองในมุมนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของกลยุทธ์ในการพัฒนาจังหวัด แต่ประเด็นที่หลายคนคาใจอยู่ที่ความไม่ชัดเจนของข้อมูล โดยเฉพาะถ้อยคำในคำสั่งที่ระบุว่า "ให้คำปรึกษาในประเด็นต่างๆ" โดยไม่ระบุชัดว่า "ประเด็นใด" ทำให้เกิดความคลุมเครือและสร้างข้อกังขาต่อสาธารณะ.อีกเรื่องที่สำคัญมาก คือข้อกฎหมายและข้อจำกัดในการจ้างชาวต่างชาติให้ทำงานในประเทศไทย ซึ่งตามกฎหมายแรงงานแล้ว ชาวต่างชาติต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ที่ถูกต้องและระบุขอบเขตงานชัดเจน โดยเฉพาะหากเกี่ยวข้องกับงานที่จัดอยู่ในกลุ่มอาชีพสงวน เช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การทำงานราชการ หรืออื่นๆ ที่มีผลต่อความมั่นคง หากการแต่งตั้งนี้ไม่ได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย อาจกลายเป็นช่องโหว่สำคัญที่นำไปสู่ความเสียหายในระดับระบบราชการ.ต้องย้ำด้วยว่า คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานหรือใช้ชีวิตในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็มีจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีนที่ลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ และมีบทบาทสำคัญในภาคเศรษฐกิจไทย แต่ในขณะเดียวกัน หากรัฐยังปล่อยให้บางกลุ่มที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายสามารถแทรกตัวหรือมีบทบาทในหน่วยงานราชการได้โดยไม่ตรวจสอบ ก็จะกลายเป็นภัยเงียบที่กระทบทั้งระบบ และยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของชาวต่างชาติกลุ่มที่ตั้งใจทำงานอย่างสุจริตด้วย.ที่ผ่านมาประเทศไทยมีประวัติของกรณีชาวจีนที่เข้ามาทำกิจกรรมแปลกๆ ที่ผิดกฎหมายหรือก้ำกึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวการจ้างตำรวจไทยนำขบวนรถหรู การอบรมอาสาตำรวจให้ชาวจีน หรือแม้กระทั่งการใช้วีซ่าผิดประเภทเพื่ออยู่อาศัยหรือทำธุรกิจ หากปล่อยให้กรณีเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่มีมาตรการควบคุมที่จริงจัง จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ว่า "มีเงิน ก็ทำอะไรก็ได้ในไทย" ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ.เพราะฉะนั้น ความโปร่งใสจึงไม่ใช่แค่คำสวยหรู แต่เป็นหลักประกันพื้นฐานของความไว้วางใจในระบบสาธารณะ .การแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวต่างชาติในระดับจังหวัดอาจเป็นสิ่งที่ทำได้ #แต่ต้องอธิบายให้สาธารณชนเข้าใจ ตรวจสอบได้ และเป็นตัวอย่างของกระบวนการที่ยึดหลักความโปร่งใสอย่างแท้จริง เพราะหากเราไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบได้ ทุกกลยุทธ์การดึงดูดนักลงทุน หรือการพัฒนาใดๆ ก็จะไร้ผลในระยะยาว.และในอีกแง่มุมหนึ่ง หากมีเหตุผลที่ต้องแต่งตั้งชาวต่างชาติหรือชาวจีนเป็นที่ปรึกษาจริง ๆ เพื่อช่วยวางกลยุทธ์ด้านการลงทุนหรือเศรษฐกิจ ก็ย่อมเป็นสิทธิ์ของผู้ว่าฯ ที่จะใช้ดุลยพินิจ .แต่จะยิ่งดีและเกิดประโยชน์มากขึ้น หากมี "ที่ปรึกษาชาวไทย" ทำงานควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล สื่อสารเชิงวัฒนธรรม และสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างภาคไทยกับต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทิ้งรากฐานของสังคมไทยเอง.สุดท้าย ความโปร่งใสต้องเกิดในทุกระดับของสังคมไทย ตั้งแต่บนลงล่าง ไม่ใช่แค่ในนโยบายส่วนกลาง แต่ต้องสะท้อนออกมาให้เห็นจริงในทุกการตัดสินใจของทุกจังหวัด ทุกตำแหน่ง และทุกคำสั่ง เพราะนั่นคือรากฐานของความเชื่อมั่นและความยั่งยืนด้วยความเคารพ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 รายงานข่าวจากเพจCH7HD News ถามหาความเหมาะสม! หลังเอกสารหลุดคำสั่งผู้ว่าฯปราจีนบุรี แต่งตั้ง "ชายชาวจีน" เป็นที่ปรึกษา ทำหน้าที่แนะแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญเป็นประโยชน์ต่อการบริการขับเคลื่อนงานของจังหวัด โดย เอกสารสำคัญที่เผยแพร่แพร่ในโซเชียลตั้งแต่ค่ำวานที่ผ่านมา(29 เม.ย.68) เป็นคำสั่ง 2 ฉบับ ลงนาม โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลงนามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 คือ คำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 1327/2568 ลงนามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 แต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี 5 คน เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาจังหวัด 5ปี (พ.ศ.2566-2570) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยยิ่งขึ้น โดยลำดับที่1-4 เป็นคนไทย ส่วน ลำดับที่ 5 เป็นคนจีน และ คำสั่งแจ้งบุคคลในลำดับที่ 5 เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมในประเด็นต่างๆ ที่เห็นว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร และการขับเคลื่อนงานของจังหวัดปราจีนบุรี หลังเป็นข่าว ปรากฏว่า ล่าสุดวันที่ 30 เมษายน เวลา 7.00 น. ผู้ว่าฯปราจีนบุรีได้ออกคำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง"ชาวจีน"เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯแล้ว หลังจากเพจเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า คำชี้แจงจากผู้ว่าปราจีนบุรี.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โฟนอินชี้แจงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แต่งตั้งชาวจีนเป็นที่ปรึกษาว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งทางหอการค้าจังหวัดเสนอมา ตรวจสอบแล้วไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัย เลยแต่งตั้งเพื่อให้เกียรติมาช่วยงานจังหวัด ไม่ได้สนิทเป็นการส่วนตัว .พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาคนจีนมาลงทุนในจังหวัดเยอะ รวมถึงชาวต่างชาติด้วย นำรายได้มาสู่ประเทศปีหนึ่งกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนหน้าที่ของผู้ได้รับการแต่งตั้งนั้นจะคอยจะคอยช่วยประสานงานในส่วนนักลงทุน หรือที่มาจากทางประเทศบ้านเขาในเรื่องการสื่อสาร มิติการค้าและมิติอื่นๆ ตามความประสงค์ของหอการค้าจังหวัด พร้อมขออภัย ในความไม่เหมาะสมและเป็นที่น่าเป็นห่วงจึงได้ยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 0 รีวิว
  • Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดัง เช่น Tinder, Hinge และ OkCupid ได้บรรลุข้อตกลงกับ Anson Funds ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท โดยข้อตกลงนี้รวมถึงการแต่งตั้ง Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock เป็นกรรมการบริษัท และการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี

    Anson Funds ซึ่งถือหุ้นประมาณ 0.6% ของ Match Group ได้ผลักดันให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่สามคนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริหารที่พวกเขามองว่า ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจัดสรรเงินทุนใหม่ การลดต้นทุน และการพิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia

    Match Group ประสบปัญหาหุ้นตกลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องการการเปลี่ยนแปลง

    ✅ การแต่งตั้งกรรมการใหม่
    - Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท
    - Alan Spoon ซึ่งเป็นกรรมการเดิมจะไม่เข้ารับการเลือกตั้งใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร
    - กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี
    - ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นและบริษัท

    ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ
    - อาจมีการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและการลดต้นทุน
    - พิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia

    ✅ สถานการณ์หุ้นของ Match Group
    - หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/match-settles-dispute-with-anson-funds-adds-new-director-to-board
    Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดัง เช่น Tinder, Hinge และ OkCupid ได้บรรลุข้อตกลงกับ Anson Funds ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท โดยข้อตกลงนี้รวมถึงการแต่งตั้ง Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock เป็นกรรมการบริษัท และการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี Anson Funds ซึ่งถือหุ้นประมาณ 0.6% ของ Match Group ได้ผลักดันให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่สามคนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริหารที่พวกเขามองว่า ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจัดสรรเงินทุนใหม่ การลดต้นทุน และการพิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia Match Group ประสบปัญหาหุ้นตกลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องการการเปลี่ยนแปลง ✅ การแต่งตั้งกรรมการใหม่ - Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท - Alan Spoon ซึ่งเป็นกรรมการเดิมจะไม่เข้ารับการเลือกตั้งใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร - กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี - ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นและบริษัท ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ - อาจมีการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและการลดต้นทุน - พิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia ✅ สถานการณ์หุ้นของ Match Group - หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/match-settles-dispute-with-anson-funds-adds-new-director-to-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Match settles dispute with Anson Funds, adds new director to board
    (Reuters) - Online dating company Match Group will add a consumer-technology executive to its board and lay the groundwork for all directors to stand for election annually, ending a dispute with shareholder Anson Funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts