• เรื่องเล่าจากคลังภาพที่มีชีวิต: เมื่อ Google Photos เปลี่ยนภาพนิ่งให้กลายเป็นวิดีโอด้วย AI

    Google Photos เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างที่ใช้ AI เพื่อให้ผู้ใช้ “เล่นกับภาพ” ได้มากขึ้น:

    1️⃣. Photo-to-Video Generator
    ผู้ใช้สามารถเลือกภาพจากแกลเลอรี แล้วใส่ prompt ง่าย ๆ เช่น “Subtle movements” หรือ “I’m feeling lucky” เพื่อให้ AI สร้างวิดีโอสั้นความยาว 6 วินาที — คล้ายกับฟีเจอร์ใน Gemini หรือ TikTok AI Alive แต่ควบคุมได้น้อยกว่า

    2️⃣. Remix
    ฟีเจอร์นี้ใช้ style transfer เพื่อเปลี่ยนภาพให้เป็นรูปแบบศิลปะ เช่น:
    - ภาพสัตว์เลี้ยงกลายเป็นอนิเมะ
    - ภาพคนกลายเป็นการ์ตูนหรือ 3D animation

    จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ ทั้งบน Android และ iOS ภายในไม่กี่สัปดาห์

    3️⃣. Create Tab
    Google เพิ่มแท็บใหม่ชื่อ “Create” เป็นศูนย์รวมฟีเจอร์สร้างสรรค์ทั้งหมด เช่น:
    - Collage
    - Highlight video
    - Photo-to-video
    - Remix

    จะเริ่มปรากฏในแอปช่วงเดือนสิงหาคม

    เพื่อความโปร่งใส Google ใช้ SynthID watermark แบบมองไม่เห็นในเนื้อหาที่สร้างด้วย AI และเพิ่มลายน้ำที่มองเห็นในวิดีโอที่สร้างขึ้น — เหมือนกับที่ใช้ในฟีเจอร์ ReImagine

    https://www.neowin.net/news/google-photos-app-updated-with-ai-that-turns-your-pictures-into-short-videos/
    🎙️ เรื่องเล่าจากคลังภาพที่มีชีวิต: เมื่อ Google Photos เปลี่ยนภาพนิ่งให้กลายเป็นวิดีโอด้วย AI Google Photos เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างที่ใช้ AI เพื่อให้ผู้ใช้ “เล่นกับภาพ” ได้มากขึ้น: 1️⃣. Photo-to-Video Generator ผู้ใช้สามารถเลือกภาพจากแกลเลอรี แล้วใส่ prompt ง่าย ๆ เช่น “Subtle movements” หรือ “I’m feeling lucky” เพื่อให้ AI สร้างวิดีโอสั้นความยาว 6 วินาที — คล้ายกับฟีเจอร์ใน Gemini หรือ TikTok AI Alive แต่ควบคุมได้น้อยกว่า 2️⃣. Remix ฟีเจอร์นี้ใช้ style transfer เพื่อเปลี่ยนภาพให้เป็นรูปแบบศิลปะ เช่น: - ภาพสัตว์เลี้ยงกลายเป็นอนิเมะ - ภาพคนกลายเป็นการ์ตูนหรือ 3D animation จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ ทั้งบน Android และ iOS ภายในไม่กี่สัปดาห์ 3️⃣. Create Tab Google เพิ่มแท็บใหม่ชื่อ “Create” เป็นศูนย์รวมฟีเจอร์สร้างสรรค์ทั้งหมด เช่น: - Collage - Highlight video - Photo-to-video - Remix จะเริ่มปรากฏในแอปช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อความโปร่งใส Google ใช้ SynthID watermark แบบมองไม่เห็นในเนื้อหาที่สร้างด้วย AI และเพิ่มลายน้ำที่มองเห็นในวิดีโอที่สร้างขึ้น — เหมือนกับที่ใช้ในฟีเจอร์ ReImagine https://www.neowin.net/news/google-photos-app-updated-with-ai-that-turns-your-pictures-into-short-videos/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Photos app updated with AI that turns your pictures into short videos
    Google has updated Photos with new AI features, including one that can transform images in your gallery into videos.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะเป็นฟองสบู่ AI หรือเปล่านะ

    เรื่องเล่าจาก AI ที่ไม่ขอข้อมูลเรา: เมื่อ Proton สร้าง Lumo เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

    Lumo เป็นแชตบอทคล้าย ChatGPT หรือ Copilot แต่เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว:
    - ไม่เก็บ log การสนทนา
    - แชตถูกเข้ารหัสและเก็บไว้เฉพาะในอุปกรณ์ของผู้ใช้
    - ไม่แชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม, โฆษณา หรือรัฐบาล
    - ไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการเทรนโมเดล AI

    แม้จะไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง voice mode หรือ image generation แต่ Lumo รองรับ:
    - การวิเคราะห์ไฟล์ที่อัปโหลด
    - การเข้าถึงเอกสารใน Proton Drive
    - การค้นหาข้อมูลผ่าน search engine ที่เน้นความเป็นส่วนตัว (เปิดใช้งานได้ตามต้องการ)

    Lumo มีให้ใช้งานใน 3 ระดับ:

    1️⃣ Guest mode — ไม่ต้องสมัคร Proton แต่จำกัดจำนวนคำถามต่อสัปดาห์
    2️⃣ Free Proton account — ถามได้มากขึ้น, เข้าถึงประวัติแชต, อัปโหลดไฟล์ได้
    3️⃣ Lumo Plus — $12.99/เดือน หรือ $119.88/ปี พร้อมฟีเจอร์เต็ม เช่น unlimited chats, extended history, และอัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่

    Andy Yen ซีอีโอของ Proton กล่าวว่า:
    “AI ไม่ควรกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมที่ทรงพลังที่สุดในโลก — เราสร้าง Lumo เพื่อให้ผู้ใช้มาก่อนผลกำไร”

    Proton เปิดตัวผู้ช่วย AI ชื่อ Lumo ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
    ไม่เก็บ log, เข้ารหัสแชต, และไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการเทรนโมเดล

    Lumo รองรับการวิเคราะห์ไฟล์และเข้าถึง Proton Drive
    ช่วยให้ใช้งานกับเอกสารส่วนตัวได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล

    รองรับการค้นหาข้อมูลผ่าน search engine ที่เน้นความเป็นส่วนตัว
    เปิดใช้งานได้ตามต้องการเพื่อควบคุมความเสี่ยง

    มีให้ใช้งานใน 3 ระดับ: Guest, Free Account, และ Lumo Plus
    Lumo Plus ราคา $12.99/เดือน หรือ $119.88/ปี พร้อมฟีเจอร์เต็ม

    Andy Yen ซีอีโอของ Proton ย้ำว่า Lumo คือทางเลือกที่ไม่เอาข้อมูลผู้ใช้ไปแลกกับ AI
    เป็นการตอบโต้แนวทางของ Big Tech ที่ใช้ AI เพื่อเก็บข้อมูล

    Lumo ใช้โมเดล LLM แบบโอเพ่นซอร์ส
    เพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้

    Lumo ยังไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น voice mode หรือ image generation
    อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถแบบมัลติมีเดีย

    Guest mode มีข้อจำกัดด้านจำนวนคำถามและฟีเจอร์
    ผู้ใช้ต้องสมัคร Proton เพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

    แม้จะไม่เก็บ log แต่การวิเคราะห์ไฟล์ยังต้องอาศัยความเชื่อมั่นในระบบ
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่าไฟล์ที่อัปโหลดไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น

    การใช้ search engine ภายนอกแม้จะเน้นความเป็นส่วนตัว ก็ยังมีความเสี่ยงหากเปิดใช้งานโดยไม่ระวัง
    ควรเลือก search engine ที่มีนโยบายชัดเจน เช่น DuckDuckGo หรือ Startpage

    การใช้โมเดลโอเพ่นซอร์สอาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำเมื่อเทียบกับโมเดลเชิงพาณิชย์
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบคำตอบก่อนนำไปใช้งานจริง โดยเฉพาะในบริบทสำคัญ

    https://www.neowin.net/news/proton-launches-lumo-privacy-focused-ai-assistant-with-encrypted-chats/
    จะเป็นฟองสบู่ AI หรือเปล่านะ 🎙️ เรื่องเล่าจาก AI ที่ไม่ขอข้อมูลเรา: เมื่อ Proton สร้าง Lumo เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว Lumo เป็นแชตบอทคล้าย ChatGPT หรือ Copilot แต่เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: - ไม่เก็บ log การสนทนา - แชตถูกเข้ารหัสและเก็บไว้เฉพาะในอุปกรณ์ของผู้ใช้ - ไม่แชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม, โฆษณา หรือรัฐบาล - ไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการเทรนโมเดล AI แม้จะไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง voice mode หรือ image generation แต่ Lumo รองรับ: - การวิเคราะห์ไฟล์ที่อัปโหลด - การเข้าถึงเอกสารใน Proton Drive - การค้นหาข้อมูลผ่าน search engine ที่เน้นความเป็นส่วนตัว (เปิดใช้งานได้ตามต้องการ) Lumo มีให้ใช้งานใน 3 ระดับ: 1️⃣ Guest mode — ไม่ต้องสมัคร Proton แต่จำกัดจำนวนคำถามต่อสัปดาห์ 2️⃣ Free Proton account — ถามได้มากขึ้น, เข้าถึงประวัติแชต, อัปโหลดไฟล์ได้ 3️⃣ Lumo Plus — $12.99/เดือน หรือ $119.88/ปี พร้อมฟีเจอร์เต็ม เช่น unlimited chats, extended history, และอัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ Andy Yen ซีอีโอของ Proton กล่าวว่า: 🔖 “AI ไม่ควรกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมที่ทรงพลังที่สุดในโลก — เราสร้าง Lumo เพื่อให้ผู้ใช้มาก่อนผลกำไร” ✅ Proton เปิดตัวผู้ช่วย AI ชื่อ Lumo ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ➡️ ไม่เก็บ log, เข้ารหัสแชต, และไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการเทรนโมเดล ✅ Lumo รองรับการวิเคราะห์ไฟล์และเข้าถึง Proton Drive ➡️ ช่วยให้ใช้งานกับเอกสารส่วนตัวได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล ✅ รองรับการค้นหาข้อมูลผ่าน search engine ที่เน้นความเป็นส่วนตัว ➡️ เปิดใช้งานได้ตามต้องการเพื่อควบคุมความเสี่ยง ✅ มีให้ใช้งานใน 3 ระดับ: Guest, Free Account, และ Lumo Plus ➡️ Lumo Plus ราคา $12.99/เดือน หรือ $119.88/ปี พร้อมฟีเจอร์เต็ม ✅ Andy Yen ซีอีโอของ Proton ย้ำว่า Lumo คือทางเลือกที่ไม่เอาข้อมูลผู้ใช้ไปแลกกับ AI ➡️ เป็นการตอบโต้แนวทางของ Big Tech ที่ใช้ AI เพื่อเก็บข้อมูล ✅ Lumo ใช้โมเดล LLM แบบโอเพ่นซอร์ส ➡️ เพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ‼️ Lumo ยังไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น voice mode หรือ image generation ⛔ อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถแบบมัลติมีเดีย ‼️ Guest mode มีข้อจำกัดด้านจำนวนคำถามและฟีเจอร์ ⛔ ผู้ใช้ต้องสมัคร Proton เพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ‼️ แม้จะไม่เก็บ log แต่การวิเคราะห์ไฟล์ยังต้องอาศัยความเชื่อมั่นในระบบ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่าไฟล์ที่อัปโหลดไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น ‼️ การใช้ search engine ภายนอกแม้จะเน้นความเป็นส่วนตัว ก็ยังมีความเสี่ยงหากเปิดใช้งานโดยไม่ระวัง ⛔ ควรเลือก search engine ที่มีนโยบายชัดเจน เช่น DuckDuckGo หรือ Startpage ‼️ การใช้โมเดลโอเพ่นซอร์สอาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำเมื่อเทียบกับโมเดลเชิงพาณิชย์ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบคำตอบก่อนนำไปใช้งานจริง โดยเฉพาะในบริบทสำคัญ https://www.neowin.net/news/proton-launches-lumo-privacy-focused-ai-assistant-with-encrypted-chats/
    WWW.NEOWIN.NET
    Proton launches Lumo, privacy-focused AI assistant with encrypted chats
    In the sea of AI assistants and chatbots, Proton's new Lumo stands out by offering users privacy and confidentiality.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องโค้ด: เมื่อ AI เขียนโค้ดได้ “เป็นระบบ” มากกว่าที่เคย

    Qwen3-Coder คือการต่อยอดจากโมเดล Qwen รุ่นก่อนที่เน้นด้านภาษาและตรรกะ — แต่คราวนี้ Alibaba ได้พัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานจริงด้าน software engineering โดยเฉพาะในระดับ enterprise เช่น:

    - การจัดการหลายไฟล์หรือหลาย repository พร้อมกัน
    - การเขียนโค้ดใหม่จากคำสั่งระดับสูง
    - การแก้บั๊ก, ทำ test case, และ refactoring โดยไม่ต้องกำกับใกล้ชิด

    จุดเด่นของโมเดลนี้คือความสามารถแบบ “agentic” — หมายถึง AI ไม่ได้รอคำสั่งทีละบรรทัด แต่สามารถเข้าใจเป้าหมายระดับภาพรวม แล้ววางแผนเพื่อสร้างหรือจัดการโค้ดได้อย่างเป็นระบบ

    แนวคิดนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการ AI tool สำหรับนักพัฒนา เช่น:
    - Devin AI ที่มองว่าเป็น “AI programmer คนแรกของโลก” โดยสร้าง project ใหม่แบบ end-to-end
    - SWE-Agent ของ Princeton ที่จัดการหลายขั้นตอนแบบมนุษย์
    - Meta และ Google ก็มีการวิจัยด้าน multi-file agent coding ด้วยเช่นกัน

    Alibaba เปิดตัวโมเดลนี้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส เพื่อผลักดันให้เกิดระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาในจีน และลดการพึ่งพาโมเดลจากฝั่งตะวันตก

    Alibaba เปิดตัวโมเดล Qwen3-Coder สำหรับการเขียนโค้ดด้วย AI
    เป็นรุ่นที่บริษัทระบุว่า “ก้าวหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา”

    โมเดลนี้เน้นความสามารถด้าน agentic AI coding
    สามารถจัดการเวิร์กโฟลว์และสร้างโค้ดใหม่จากระดับเป้าหมายภาพรวม

    ใช้สำหรับงานที่ซับซ้อน เช่น multi-file, refactoring, และ test generation
    ไม่จำกัดเฉพาะการตอบคำถามโค้ดแบบทั่วไป

    เปิดตัวในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส พร้อม statement อย่างเป็นทางการ
    เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาเข้าถึงและพัฒนาต่อยอดได้

    โมเดลนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มในวงการ AI ที่เน้น agent-style coding
    เช่น Devin, SWE-Agent, และโมเดลจาก Meta/Google

    Alibaba ใช้ Qwen3-Coder เพื่อผลักดันระบบนิเวศ AI สำหรับนักพัฒนาในจีน
    เป็นการลดการพึ่งพาโมเดลจากบริษัทตะวันตก เช่น OpenAI หรือ Anthropic

    ความสามารถของ agentic coding ยังอยู่ในระยะทดลองและไม่เสถียรในหลายบริบท
    หากใช้ในระบบ production ต้องมีการทดสอบอย่างรอบคอบ

    การใช้ AI ในการจัดการหลายไฟล์หรือ refactoring อาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดยากตรวจสอบ
    ควรมีระบบ review และ rollback ที่ดีเพื่อความปลอดภัย

    โมเดลโอเพ่นซอร์สอาจถูกนำไปใช้ในบริบทที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสร้างมัลแวร์
    ต้องมีการควบคุมหรือแนะนำการใช้งานที่รับผิดชอบ

    ความสามารถทางภาษาและตรรกะของโมเดลอาจไม่รองรับภาษาเขียนโปรแกรมทุกภาษาเท่ากัน
    อาจต้องเทรนเพิ่มเติมสำหรับภาษาเฉพาะ เช่น Rust หรือ Erlang

    การใช้โมเดลจากจีนอาจมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใสหรือความเป็นส่วนตัว
    โดยเฉพาะในองค์กรนอกจีนที่ต้องปฏิบัติตาม GDPR หรือมาตรฐานตะวันตก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/23/alibaba-launches-open-source-ai-coding-model-touted-as-its-most-advanced-to-date
    🎙️ เรื่องเล่าจากห้องโค้ด: เมื่อ AI เขียนโค้ดได้ “เป็นระบบ” มากกว่าที่เคย Qwen3-Coder คือการต่อยอดจากโมเดล Qwen รุ่นก่อนที่เน้นด้านภาษาและตรรกะ — แต่คราวนี้ Alibaba ได้พัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานจริงด้าน software engineering โดยเฉพาะในระดับ enterprise เช่น: - การจัดการหลายไฟล์หรือหลาย repository พร้อมกัน - การเขียนโค้ดใหม่จากคำสั่งระดับสูง - การแก้บั๊ก, ทำ test case, และ refactoring โดยไม่ต้องกำกับใกล้ชิด จุดเด่นของโมเดลนี้คือความสามารถแบบ “agentic” — หมายถึง AI ไม่ได้รอคำสั่งทีละบรรทัด แต่สามารถเข้าใจเป้าหมายระดับภาพรวม แล้ววางแผนเพื่อสร้างหรือจัดการโค้ดได้อย่างเป็นระบบ แนวคิดนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการ AI tool สำหรับนักพัฒนา เช่น: - Devin AI ที่มองว่าเป็น “AI programmer คนแรกของโลก” โดยสร้าง project ใหม่แบบ end-to-end - SWE-Agent ของ Princeton ที่จัดการหลายขั้นตอนแบบมนุษย์ - Meta และ Google ก็มีการวิจัยด้าน multi-file agent coding ด้วยเช่นกัน Alibaba เปิดตัวโมเดลนี้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส เพื่อผลักดันให้เกิดระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาในจีน และลดการพึ่งพาโมเดลจากฝั่งตะวันตก ✅ Alibaba เปิดตัวโมเดล Qwen3-Coder สำหรับการเขียนโค้ดด้วย AI ➡️ เป็นรุ่นที่บริษัทระบุว่า “ก้าวหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ✅ โมเดลนี้เน้นความสามารถด้าน agentic AI coding ➡️ สามารถจัดการเวิร์กโฟลว์และสร้างโค้ดใหม่จากระดับเป้าหมายภาพรวม ✅ ใช้สำหรับงานที่ซับซ้อน เช่น multi-file, refactoring, และ test generation ➡️ ไม่จำกัดเฉพาะการตอบคำถามโค้ดแบบทั่วไป ✅ เปิดตัวในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส พร้อม statement อย่างเป็นทางการ ➡️ เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาเข้าถึงและพัฒนาต่อยอดได้ ✅ โมเดลนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มในวงการ AI ที่เน้น agent-style coding ➡️ เช่น Devin, SWE-Agent, และโมเดลจาก Meta/Google ✅ Alibaba ใช้ Qwen3-Coder เพื่อผลักดันระบบนิเวศ AI สำหรับนักพัฒนาในจีน ➡️ เป็นการลดการพึ่งพาโมเดลจากบริษัทตะวันตก เช่น OpenAI หรือ Anthropic ‼️ ความสามารถของ agentic coding ยังอยู่ในระยะทดลองและไม่เสถียรในหลายบริบท ⛔ หากใช้ในระบบ production ต้องมีการทดสอบอย่างรอบคอบ ‼️ การใช้ AI ในการจัดการหลายไฟล์หรือ refactoring อาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดยากตรวจสอบ ⛔ ควรมีระบบ review และ rollback ที่ดีเพื่อความปลอดภัย ‼️ โมเดลโอเพ่นซอร์สอาจถูกนำไปใช้ในบริบทที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสร้างมัลแวร์ ⛔ ต้องมีการควบคุมหรือแนะนำการใช้งานที่รับผิดชอบ ‼️ ความสามารถทางภาษาและตรรกะของโมเดลอาจไม่รองรับภาษาเขียนโปรแกรมทุกภาษาเท่ากัน ⛔ อาจต้องเทรนเพิ่มเติมสำหรับภาษาเฉพาะ เช่น Rust หรือ Erlang ‼️ การใช้โมเดลจากจีนอาจมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใสหรือความเป็นส่วนตัว ⛔ โดยเฉพาะในองค์กรนอกจีนที่ต้องปฏิบัติตาม GDPR หรือมาตรฐานตะวันตก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/23/alibaba-launches-open-source-ai-coding-model-touted-as-its-most-advanced-to-date
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba launches open-source AI coding model, touted as its most advanced to date
    BEIJING (Reuters) -Alibaba has launched an open-source artificial intelligence coding model, called Qwen3-Coder, it said in a statement on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตง.มาแปลกบี้ EXIM BANK สอบจ่ายเงินแม่บ้าน-คนขับรถ

    องค์กรที่ถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใส หลังโครงการอาคารสำนักงานถล่ม คนงานเสียชีวิตเกือบ 100 ศพ เฉกเช่นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคดีตึก สตง.ถล่มไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเกิดเรื่องวุ่นวายกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) เมื่อ สตง. สั่งให้เอ็กซิมแบงก์แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด แก่พนักงาน 22 คน (ไม่รวมกรรมการผู้จัดการใหญ่) กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือรายเดือนให้กับบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขาสำนักงานใหญ่ สาขาทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม 9 แห่ง และพนักงานธุรการที่เกี่ยวข้อง

    สืบเนื่องมาจากในอดีต ธนาคารฯ มีการจ้างพนักงานภายนอก หรือเอาต์ซอร์ส (Outsource) บางกลุ่ม เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานเดินเอกสารภายในสำนักงาน พนักงานรับ-ส่งเอกสาร และพนักงานขับรถ ผ่านทางบริษัทภายนอก แต่ทางธนาคารฯ ในยุคนั้นมีความเห็นใจว่า พนักงานกลุ่มนี้ได้เงินค่าตอบแทนน้อย หากจะจ่ายผ่านบริษัทฯ จะไม่ถึงมือพนักงาน ทำให้ในสมัยที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ ได้มีการอนุมัติให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่พนักงานกลุ่มนี้โดยตรงมาตั้งแต่ปี 2537 เดือนละประมาณ 800 ถึง 1,500 บาท โดยทางธนาคารฯ จะออกคำสั่งให้ผู้จัดการธนาคารแต่ละสาขาดำเนินการจ่ายเงินก้อนนี้มาทุกปี และมีการทำเช่นนี้เป็นธรรมเนียมเรื่อยมา

    ผ่านมาเกือบ 30 ปี เมื่อปี 2567 สตง. ตรวจสอบบัญชีเอ็กซิมแบงก์ ก่อนระบุว่าการจ่ายเงินบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ในปีงบประมาณ 2565 ไม่เป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และสั่งการให้ธนาคารฯ เอาผิดทางวินัยกลุ่มพนักงาน 22 คน ทั้งที่ทั้งหมดทำตามบันทึกภายในที่อนุมัติโดยกรรมการผู้จัดการในอดีต และทำกันมานาน แม้ว่าเอ็กซิมแบงก์จะทำหนังสือชี้แจง แต่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. สตง. สั่งการให้ธนาคารฯ ต้องเอาผิดพนักงานกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด ภายใน 30 วัน อ้างว่าทำให้รัฐเสียหาย 2.87 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นจะเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ลงโทษทางปกครอง ทำให้ธนาคารฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้พนักงานกลุ่มดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นเวลากระชั้นชิด ขณะนี้พนักงานทั้งหมดได้ทำหนังสือขอขยายเวลาชี้แจง รวมถึงขอความเป็นธรรมแล้ว

    #Newskit
    สตง.มาแปลกบี้ EXIM BANK สอบจ่ายเงินแม่บ้าน-คนขับรถ องค์กรที่ถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใส หลังโครงการอาคารสำนักงานถล่ม คนงานเสียชีวิตเกือบ 100 ศพ เฉกเช่นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคดีตึก สตง.ถล่มไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเกิดเรื่องวุ่นวายกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) เมื่อ สตง. สั่งให้เอ็กซิมแบงก์แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด แก่พนักงาน 22 คน (ไม่รวมกรรมการผู้จัดการใหญ่) กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือรายเดือนให้กับบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขาสำนักงานใหญ่ สาขาทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม 9 แห่ง และพนักงานธุรการที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องมาจากในอดีต ธนาคารฯ มีการจ้างพนักงานภายนอก หรือเอาต์ซอร์ส (Outsource) บางกลุ่ม เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานเดินเอกสารภายในสำนักงาน พนักงานรับ-ส่งเอกสาร และพนักงานขับรถ ผ่านทางบริษัทภายนอก แต่ทางธนาคารฯ ในยุคนั้นมีความเห็นใจว่า พนักงานกลุ่มนี้ได้เงินค่าตอบแทนน้อย หากจะจ่ายผ่านบริษัทฯ จะไม่ถึงมือพนักงาน ทำให้ในสมัยที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ ได้มีการอนุมัติให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่พนักงานกลุ่มนี้โดยตรงมาตั้งแต่ปี 2537 เดือนละประมาณ 800 ถึง 1,500 บาท โดยทางธนาคารฯ จะออกคำสั่งให้ผู้จัดการธนาคารแต่ละสาขาดำเนินการจ่ายเงินก้อนนี้มาทุกปี และมีการทำเช่นนี้เป็นธรรมเนียมเรื่อยมา ผ่านมาเกือบ 30 ปี เมื่อปี 2567 สตง. ตรวจสอบบัญชีเอ็กซิมแบงก์ ก่อนระบุว่าการจ่ายเงินบุคคลที่มิใช่พนักงานของเอ็กซิมแบงก์ ในปีงบประมาณ 2565 ไม่เป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และสั่งการให้ธนาคารฯ เอาผิดทางวินัยกลุ่มพนักงาน 22 คน ทั้งที่ทั้งหมดทำตามบันทึกภายในที่อนุมัติโดยกรรมการผู้จัดการในอดีต และทำกันมานาน แม้ว่าเอ็กซิมแบงก์จะทำหนังสือชี้แจง แต่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. สตง. สั่งการให้ธนาคารฯ ต้องเอาผิดพนักงานกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด ภายใน 30 วัน อ้างว่าทำให้รัฐเสียหาย 2.87 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นจะเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ลงโทษทางปกครอง ทำให้ธนาคารฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้พนักงานกลุ่มดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นเวลากระชั้นชิด ขณะนี้พนักงานทั้งหมดได้ทำหนังสือขอขยายเวลาชี้แจง รวมถึงขอความเป็นธรรมแล้ว #Newskit
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.ดิเรกฤทธิ์' สงสัยหนัก! 'คุกทิพย์' ยิ่งชัดเจน หลังราชทัณฑ์ไร้กล้องวงจรปิดยืนยันการคุมขัง
    https://www.thai-tai.tv/news/20402/
    .
    #คุกทิพย์ #ราชทัณฑ์ #ดิเรกฤทธิ์เจนครองธรรม #กล้องวงจรปิด #ความโปร่งใส #กระบวนการยุติธรรม #สังคมจับตา
    'ดร.ดิเรกฤทธิ์' สงสัยหนัก! 'คุกทิพย์' ยิ่งชัดเจน หลังราชทัณฑ์ไร้กล้องวงจรปิดยืนยันการคุมขัง https://www.thai-tai.tv/news/20402/ . #คุกทิพย์ #ราชทัณฑ์ #ดิเรกฤทธิ์เจนครองธรรม #กล้องวงจรปิด #ความโปร่งใส #กระบวนการยุติธรรม #สังคมจับตา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยึดมั่นในความโปร่งใส!!! เขมร ไม่ยอมรับ! ยันไม่ได้วางทุ่นระเบิดใหม่ โวยกล่าวหาไร้มูลความจริง
    https://www.thai-tai.tv/news/20394/
    .
    #กัมพูชา #ทุ่นระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา #CMAC #สามเหลี่ยมมรกต #ข่าวชายแดน #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    ยึดมั่นในความโปร่งใส!!! เขมร ไม่ยอมรับ! ยันไม่ได้วางทุ่นระเบิดใหม่ โวยกล่าวหาไร้มูลความจริง https://www.thai-tai.tv/news/20394/ . #กัมพูชา #ทุ่นระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา #CMAC #สามเหลี่ยมมรกต #ข่าวชายแดน #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ณัฐพงษ์” ชี้ หากจัดการเงินทำบุญผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้หมด จะสามารถแก้ปัญหาวงการสงฆ์ได้ในระยะยาว เผย “พรรคประชาชน” กำลังร่างพระราชบัญญัติสงฆ์ เพื่อให้ความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

    เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีวงการสงฆ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า ในทุกวงการไม่ว่าจะเป็นพระ การเมือง สิ่งที่ทุกคนอยากเห็นคือทุกคนครองตนให้ถูกต้องตามจริยธรรม วินัย หรือขอปฏิบัติ ส่วนองค์กรสงฆ์ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เป็นประเด็นที่ตนค่อนข้างห่วงใยเพราะอาจนำมาสู่ความขาดศรัทธาของประชาชนต่อสถาบันหลักของชาติคือศาสนา ในส่วนของพรรคประชาชนได้ทำงานมาก่อนหน้านี้มาแล้วคือการยกร่างพระราชบัญญัติสงฆ์ เพื่อให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น พร้อมกำกับดูแลให้อยู่ในวินัยที่ควรจะเป็นเพื่อให้ประชาชนมีความศรัทธาและเชื่อมั่นในศาสนาได้ต่อไป ส่วนจะมีการยื่นเมื่อไหร่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการยกร่างหากมีความชัดเจนว่าจะยื่นร่างเมื่อไหร่จะรีบแจ้งให้ทราบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067253

    #MGROnline #พรรคประชาชน
    “ณัฐพงษ์” ชี้ หากจัดการเงินทำบุญผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้หมด จะสามารถแก้ปัญหาวงการสงฆ์ได้ในระยะยาว เผย “พรรคประชาชน” กำลังร่างพระราชบัญญัติสงฆ์ เพื่อให้ความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น • เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีวงการสงฆ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า ในทุกวงการไม่ว่าจะเป็นพระ การเมือง สิ่งที่ทุกคนอยากเห็นคือทุกคนครองตนให้ถูกต้องตามจริยธรรม วินัย หรือขอปฏิบัติ ส่วนองค์กรสงฆ์ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เป็นประเด็นที่ตนค่อนข้างห่วงใยเพราะอาจนำมาสู่ความขาดศรัทธาของประชาชนต่อสถาบันหลักของชาติคือศาสนา ในส่วนของพรรคประชาชนได้ทำงานมาก่อนหน้านี้มาแล้วคือการยกร่างพระราชบัญญัติสงฆ์ เพื่อให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น พร้อมกำกับดูแลให้อยู่ในวินัยที่ควรจะเป็นเพื่อให้ประชาชนมีความศรัทธาและเชื่อมั่นในศาสนาได้ต่อไป ส่วนจะมีการยื่นเมื่อไหร่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการยกร่างหากมีความชัดเจนว่าจะยื่นร่างเมื่อไหร่จะรีบแจ้งให้ทราบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067253 • #MGROnline #พรรคประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดตรีทศเทพพบเงินเบิกจ่ายปกติ! แต่ระงับบัญชีเก่า-เปิดใหม่เน้นโปร่งใส "ธงทอง" เตรียมลุยสอบเงินวัดชูจิตฯ ปม "สีกากอล์ฟ"
    https://www.thai-tai.tv/news/20304/
    .
    #วัดตรีทศเทพ #วัดชูจิตธรรมาราม #ธงทองจันทรางศุ #สีกากอล์ฟ #ตรวจสอบบัญชี #ความโปร่งใส #ข่าวศาสนา #การจัดการทรัพย์สินวัด
    วัดตรีทศเทพพบเงินเบิกจ่ายปกติ! แต่ระงับบัญชีเก่า-เปิดใหม่เน้นโปร่งใส "ธงทอง" เตรียมลุยสอบเงินวัดชูจิตฯ ปม "สีกากอล์ฟ" https://www.thai-tai.tv/news/20304/ . #วัดตรีทศเทพ #วัดชูจิตธรรมาราม #ธงทองจันทรางศุ #สีกากอล์ฟ #ตรวจสอบบัญชี #ความโปร่งใส #ข่าวศาสนา #การจัดการทรัพย์สินวัด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ผอ.สำนักพุทธฯ” เข้มระเบียบใหม่ เล็งดัน E-Donation เต็มรูปแบบ สกัดทุจริต แย้ม ร่างกฎหมายอวดอุตริ-สักยันต์-รดน้ำมนต์มีโทษ
    https://www.thai-tai.tv/news/20286/
    .
    #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ #พศ #มหาเถรสมาคม #เงินวัด #E_Donation #ความโปร่งใส #พระพุทธศาสนา #กฎหมายสงฆ์ #ข่าวศาสนา
    “ผอ.สำนักพุทธฯ” เข้มระเบียบใหม่ เล็งดัน E-Donation เต็มรูปแบบ สกัดทุจริต แย้ม ร่างกฎหมายอวดอุตริ-สักยันต์-รดน้ำมนต์มีโทษ https://www.thai-tai.tv/news/20286/ . #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ #พศ #มหาเถรสมาคม #เงินวัด #E_Donation #ความโปร่งใส #พระพุทธศาสนา #กฎหมายสงฆ์ #ข่าวศาสนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ม็อบไล่นายกฯ อันวาร์ พรรคพาสลั่นอย่างต่ำ 5 หมื่น

    มรสุมการเมืองของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนในปี 2025 ไม่ต่างจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ก่อนหน้านี้การชุมนุม 28 มิ.ย. เรียกร้องให้ลาออก กรณีคลิปเสียงขายชาติกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา สร้างแรงสั่นสะเทือนการเมืองไทย คราวนี้นายอันวาร์ต้องเจอกับการชุมนุมประท้วงตั้งแต่ม็อบ Turun Anwar (อันวาร์ลาออกเถอะ) การประท้วงของชาวบ้านต่อกฎหมายฟื้นฟูเมือง (URA) ล่าสุดกลุ่มทนายความและนักกฎหมาย ชุมนุมที่พระราชวังแห่งความยุติธรรม ปุตราจายา เรียกร้องความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการ และความโปร่งใสในการแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดของประเทศ

    เป็นห้วงเวลาก่อนการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 26 ก.ค. ที่จตุรัสเมอร์เดกา กรุงกัวลาลัมเปอร์ เรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออกด้วยข้อหาบริหารประเทศล้มเหลว ทั้งการปฎิรูปการเมือง การปิดกั้นเสรีภาพ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ล่าสุดขยายกรอบภาษีการขายและบริการ (SST) ทำให้ต้องซื้อสินค้าและบริการที่แพงขึ้น

    นายทาคิยุดดิน ฮัสซัน เลขาธิการพรรคอิสลามมาเลเซีย (PAS) แถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ว่าจะมีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 50,000 คน ขณะนี้กำลังระดมมวลชนครอบคลุมทุกระดับ รวมถึงเขตเลือกตั้งรัฐสภาและสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ (DUN) ทั่วประเทศ รถบัสอย่างน้อยหนึ่งคันจะถูกส่งไปยังเขตเลือกตั้งของแต่ละรัฐ แต่บางเขตจองไว้แล้วนับสิบคัน ยืนยันว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ พรรคพาสและกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติ (Perikatan Nasional หรือ PN) จะไม่ยอมจำนนต่อความพยายามปิดกั้นเสียงประชาชน

    นายอัฟนัน ฮามิมี ไทบ์ อาซามุดเดน หัวหน้ากลุ่มเยาวชนพรรคพาส ยืนยันว่าข้อเรียกร้องที่ให้นายอันวาร์ลาออก เพราะต้องการปกป้องมาเลเซีย ส่วนแถลงการณ์ของรัฐบาลที่อ้างว่าการชุมนุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายเสถียรภาพของประเทศ เป็นการข่มขู่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความกลัวเสียงประชาชน คนที่พูดว่าการชุมนุมครั้งนี้ต้องการสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติแท้จริงแล้วเป็นคนลงมือทำเอง เราเป็นฝ่ายค้านที่เป็นผู้ใหญ่ใช้ช่องทางประชาธิปไตย ไม่เหมือนฝ่ายค้านในอดีตที่ใช้ความรุนแรงบนท้องถนน

    สำหรับพรรคพาส ถือเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่และเป็นพรรคอิสลามในมาเลเซีย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2494 มีฝ่ายยุวชนพรรค และเครือข่ายโรงเรียนสอนศาสนาทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ห่างไกล มีความคิดแบบอนุรักษนิยม มีฐานเสียงในรัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย และชนะเลือกตั้งยาวนานในรัฐกลันตัน จุดยืนของพรรคคือผลักดันรัฐอิสลาม (Islamic State)

    #Newskit
    ม็อบไล่นายกฯ อันวาร์ พรรคพาสลั่นอย่างต่ำ 5 หมื่น มรสุมการเมืองของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนในปี 2025 ไม่ต่างจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ก่อนหน้านี้การชุมนุม 28 มิ.ย. เรียกร้องให้ลาออก กรณีคลิปเสียงขายชาติกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา สร้างแรงสั่นสะเทือนการเมืองไทย คราวนี้นายอันวาร์ต้องเจอกับการชุมนุมประท้วงตั้งแต่ม็อบ Turun Anwar (อันวาร์ลาออกเถอะ) การประท้วงของชาวบ้านต่อกฎหมายฟื้นฟูเมือง (URA) ล่าสุดกลุ่มทนายความและนักกฎหมาย ชุมนุมที่พระราชวังแห่งความยุติธรรม ปุตราจายา เรียกร้องความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการ และความโปร่งใสในการแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดของประเทศ เป็นห้วงเวลาก่อนการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 26 ก.ค. ที่จตุรัสเมอร์เดกา กรุงกัวลาลัมเปอร์ เรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออกด้วยข้อหาบริหารประเทศล้มเหลว ทั้งการปฎิรูปการเมือง การปิดกั้นเสรีภาพ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ล่าสุดขยายกรอบภาษีการขายและบริการ (SST) ทำให้ต้องซื้อสินค้าและบริการที่แพงขึ้น นายทาคิยุดดิน ฮัสซัน เลขาธิการพรรคอิสลามมาเลเซีย (PAS) แถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ว่าจะมีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 50,000 คน ขณะนี้กำลังระดมมวลชนครอบคลุมทุกระดับ รวมถึงเขตเลือกตั้งรัฐสภาและสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ (DUN) ทั่วประเทศ รถบัสอย่างน้อยหนึ่งคันจะถูกส่งไปยังเขตเลือกตั้งของแต่ละรัฐ แต่บางเขตจองไว้แล้วนับสิบคัน ยืนยันว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ พรรคพาสและกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติ (Perikatan Nasional หรือ PN) จะไม่ยอมจำนนต่อความพยายามปิดกั้นเสียงประชาชน นายอัฟนัน ฮามิมี ไทบ์ อาซามุดเดน หัวหน้ากลุ่มเยาวชนพรรคพาส ยืนยันว่าข้อเรียกร้องที่ให้นายอันวาร์ลาออก เพราะต้องการปกป้องมาเลเซีย ส่วนแถลงการณ์ของรัฐบาลที่อ้างว่าการชุมนุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายเสถียรภาพของประเทศ เป็นการข่มขู่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความกลัวเสียงประชาชน คนที่พูดว่าการชุมนุมครั้งนี้ต้องการสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติแท้จริงแล้วเป็นคนลงมือทำเอง เราเป็นฝ่ายค้านที่เป็นผู้ใหญ่ใช้ช่องทางประชาธิปไตย ไม่เหมือนฝ่ายค้านในอดีตที่ใช้ความรุนแรงบนท้องถนน สำหรับพรรคพาส ถือเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่และเป็นพรรคอิสลามในมาเลเซีย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2494 มีฝ่ายยุวชนพรรค และเครือข่ายโรงเรียนสอนศาสนาทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ห่างไกล มีความคิดแบบอนุรักษนิยม มีฐานเสียงในรัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย และชนะเลือกตั้งยาวนานในรัฐกลันตัน จุดยืนของพรรคคือผลักดันรัฐอิสลาม (Islamic State) #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI: พลังขับเคลื่อนความก้าวหน้า... หรือเร่งโลกให้ร้อนขึ้น?

    บทนำ: ยุค AI กับผลกระทบที่มองไม่เห็น
    ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลก จากการค้นหาข้อมูล รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ความก้าวหน้านี้มาพร้อมต้นทุนที่ซ่อนอยู่: การใช้พลังงานมหาศาลและความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้สำรวจสาเหตุที่ AI ใช้พลังงานมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

    AI กับความต้องการพลังงานมหาศาล

    ทำไม AI ถึงใช้พลังงานมาก?
    AI โดยเฉพาะโมเดลกำเนิด เช่น GPT-4 ต้องการพลังการประมวลผลสูง ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) และหน่วยประมวลผลเทนเซอร์ (TPUs) ซึ่งกินไฟมากและสร้างความร้อนที่ต้องระบายด้วยระบบทำความเย็นซับซ้อน การฝึกโมเดล เช่น GPT-3 ใช้ไฟฟ้า ~1,300 MWh และ GPT-4 ใช้ ~1,750 MWh ส่วนการอนุมาน (เช่น การสอบถาม ChatGPT) ใช้พลังงานรวมมากกว่าการฝึกเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก

    ตัวอย่างการใช้พลังงาน
    - ชั้นวาง AI ใช้ไฟมากกว่าครัวเรือนสหรัฐฯ 39 เท่า
    - การฝึก GPT-3 เทียบเท่าการใช้ไฟของบ้าน 120-130 หลังต่อปี
    - การสอบถาม ChatGPT ครั้งหนึ่งใช้พลังงานมากกว่าการค้นหา Google 10-15 เท่า และปล่อย CO2 มากกว่า 340 เท่า
    - ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2022 ใช้ไฟ 460 TWh และคาดว่าในปี 2026 จะเพิ่มเป็น ~1,050 TWh เทียบเท่าการใช้ไฟของเยอรมนี

    ความร้อนจาก AI: ตัวเร่งโลกร้อน

    จากไฟฟ้าสู่ความร้อน
    พลังงานไฟฟ้าที่ AI ใช้เกือบทั้งหมดแปลงเป็นความร้อน โดย 1 วัตต์ผลิตความร้อน 3.412 BTU/ชั่วโมง GPUs สมัยใหม่ใช้ไฟเกิน 1,000 วัตต์ต่อตัว สร้างความร้อนที่ต้องระบาย

    รอยเท้าคาร์บอนและน้ำ
    การฝึกโมเดล AI ปล่อย CO2 ได้ถึง 284 ตัน เทียบเท่ารถยนต์สหรัฐฯ 5 คันต่อปี การระบายความร้อนศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าถึง 40% และน้ำราว 2 ลิตรต่อ kWh โดย ChatGPT-4o ใช้น้ำเทียบเท่าความต้องการน้ำดื่มของ 1.2 ล้านคนต่อปี คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI อาจใช้ไฟมากกว่าฝรั่งเศสทั้งประเทศ

    ความท้าทายด้านความร้อน
    ความร้อนสูงเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง อายุฮาร์ดแวร์สั้นลง และระบบไม่เสถียร การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อความร้อนจาก AI สมัยใหม่ และระบบทำความเย็นใช้พลังงานสูง ตัวอย่างการใช้พลังงาน GPU ในอนาคต:
    - ปี 2025 (Blackwell Ultra): 1,400W, ใช้การระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip
    - ปี 2027 (Rubin Ultra): 3,600W, ใช้ Direct-to-Chip
    - ปี 2029 (Feynman Ultra): 6,000W, ใช้ Immersion Cooling
    - ปี 2032: 15,360W, ใช้ Embedded Cooling

    นวัตกรรมเพื่อ AI ที่ยั่งยืน

    การระบายความร้อนที่ชาญฉลาด
    - การระบายความร้อนด้วยของLikely ResponseHed: มีประสิทธิภาพสูงกว่าอากาศ 3000 เท่า ใช้ในระบบ Direct-to-Chip และ Immersion Cooling
    - ระบบ HVAC ขั้นสูง: ใช้การระบายความร้อนแบบระเหยและท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานและน้ำ
    - ตัวชี้วัด TUE: วัดประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมของศูนย์ข้อมูล

    การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน
    - การตัดแต่งโมเดล/ควอนไทซ์: ลดขนาดโมเดลและพลังงานที่ใช้
    - การกลั่นความรู้: ถ่ายทอดความรู้สู่โมเดลขนาดเล็ก
    - ชิปประหยัดพลังงาน: เช่น TPUs และ NPUs
    - AI จัดการพลังงาน: ใช้ AI วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
    - Edge Computing: ลดการส่งข้อมูลไปยังคลาวด์

    พลังงานหมุนเวียน
    ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รวมถึงนวัตกรรมอย่างการระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลและพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Dispatchable

    ความรับผิดชอบร่วมกัน

    ความโปร่งใสของบริษัท AI
    บริษัทควรเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและรอยเท้าคาร์บอน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ

    นโยบายและกฎระเบียบ
    รัฐบาลทั่วโลกผลักดันนโยบาย Green AI เช่น กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป เพื่อความยั่งยืน

    บทบาทของนักพัฒนาและผู้ใช้
    - นักพัฒนา: เลือกโมเดลและฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงาน ใช้เครื่องมือติดตามคาร์บอน
    - ผู้ใช้: ตระหนักถึงการใช้พลังงานของ AI และสนับสนุนบริษัทที่ยั่งยืน

    บทสรุป: วิสัยทัศน์ Green AI
    AI มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงโลก แต่ต้องจัดการกับการใช้พลังงานและความร้อนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อน การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความโปร่งใสและนโยบายที่เหมาะสม เราสามารถสร้างอนาคต AI ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนา AI หรือรักษาสภาพภูมิอากาศ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🌍 AI: พลังขับเคลื่อนความก้าวหน้า... หรือเร่งโลกให้ร้อนขึ้น? 📝 บทนำ: ยุค AI กับผลกระทบที่มองไม่เห็น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลก จากการค้นหาข้อมูล รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ความก้าวหน้านี้มาพร้อมต้นทุนที่ซ่อนอยู่: การใช้พลังงานมหาศาลและความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้สำรวจสาเหตุที่ AI ใช้พลังงานมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ⚡ AI กับความต้องการพลังงานมหาศาล ❓ ทำไม AI ถึงใช้พลังงานมาก? AI โดยเฉพาะโมเดลกำเนิด เช่น GPT-4 ต้องการพลังการประมวลผลสูง ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) และหน่วยประมวลผลเทนเซอร์ (TPUs) ซึ่งกินไฟมากและสร้างความร้อนที่ต้องระบายด้วยระบบทำความเย็นซับซ้อน การฝึกโมเดล เช่น GPT-3 ใช้ไฟฟ้า ~1,300 MWh และ GPT-4 ใช้ ~1,750 MWh ส่วนการอนุมาน (เช่น การสอบถาม ChatGPT) ใช้พลังงานรวมมากกว่าการฝึกเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก 📊 ตัวอย่างการใช้พลังงาน - ชั้นวาง AI ใช้ไฟมากกว่าครัวเรือนสหรัฐฯ 39 เท่า - การฝึก GPT-3 เทียบเท่าการใช้ไฟของบ้าน 120-130 หลังต่อปี - การสอบถาม ChatGPT ครั้งหนึ่งใช้พลังงานมากกว่าการค้นหา Google 10-15 เท่า และปล่อย CO2 มากกว่า 340 เท่า - ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2022 ใช้ไฟ 460 TWh และคาดว่าในปี 2026 จะเพิ่มเป็น ~1,050 TWh เทียบเท่าการใช้ไฟของเยอรมนี 🔥 ความร้อนจาก AI: ตัวเร่งโลกร้อน 🌡️ จากไฟฟ้าสู่ความร้อน พลังงานไฟฟ้าที่ AI ใช้เกือบทั้งหมดแปลงเป็นความร้อน โดย 1 วัตต์ผลิตความร้อน 3.412 BTU/ชั่วโมง GPUs สมัยใหม่ใช้ไฟเกิน 1,000 วัตต์ต่อตัว สร้างความร้อนที่ต้องระบาย 🌱 รอยเท้าคาร์บอนและน้ำ การฝึกโมเดล AI ปล่อย CO2 ได้ถึง 284 ตัน เทียบเท่ารถยนต์สหรัฐฯ 5 คันต่อปี การระบายความร้อนศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าถึง 40% และน้ำราว 2 ลิตรต่อ kWh โดย ChatGPT-4o ใช้น้ำเทียบเท่าความต้องการน้ำดื่มของ 1.2 ล้านคนต่อปี คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI อาจใช้ไฟมากกว่าฝรั่งเศสทั้งประเทศ 🛠️ ความท้าทายด้านความร้อน ความร้อนสูงเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง อายุฮาร์ดแวร์สั้นลง และระบบไม่เสถียร การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อความร้อนจาก AI สมัยใหม่ และระบบทำความเย็นใช้พลังงานสูง ตัวอย่างการใช้พลังงาน GPU ในอนาคต: - ปี 2025 (Blackwell Ultra): 1,400W, ใช้การระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip - ปี 2027 (Rubin Ultra): 3,600W, ใช้ Direct-to-Chip - ปี 2029 (Feynman Ultra): 6,000W, ใช้ Immersion Cooling - ปี 2032: 15,360W, ใช้ Embedded Cooling 🌱 นวัตกรรมเพื่อ AI ที่ยั่งยืน 💧 การระบายความร้อนที่ชาญฉลาด - การระบายความร้อนด้วยของLikely ResponseHed: มีประสิทธิภาพสูงกว่าอากาศ 3000 เท่า ใช้ในระบบ Direct-to-Chip และ Immersion Cooling - ระบบ HVAC ขั้นสูง: ใช้การระบายความร้อนแบบระเหยและท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานและน้ำ - ตัวชี้วัด TUE: วัดประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมของศูนย์ข้อมูล 🖥️ การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน - การตัดแต่งโมเดล/ควอนไทซ์: ลดขนาดโมเดลและพลังงานที่ใช้ - การกลั่นความรู้: ถ่ายทอดความรู้สู่โมเดลขนาดเล็ก - ชิปประหยัดพลังงาน: เช่น TPUs และ NPUs - AI จัดการพลังงาน: ใช้ AI วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ - Edge Computing: ลดการส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ☀️ พลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รวมถึงนวัตกรรมอย่างการระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลและพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Dispatchable 🤝 ความรับผิดชอบร่วมกัน 📊 ความโปร่งใสของบริษัท AI บริษัทควรเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและรอยเท้าคาร์บอน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ 📜 นโยบายและกฎระเบียบ รัฐบาลทั่วโลกผลักดันนโยบาย Green AI เช่น กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป เพื่อความยั่งยืน 🧑‍💻 บทบาทของนักพัฒนาและผู้ใช้ - นักพัฒนา: เลือกโมเดลและฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงาน ใช้เครื่องมือติดตามคาร์บอน - ผู้ใช้: ตระหนักถึงการใช้พลังงานของ AI และสนับสนุนบริษัทที่ยั่งยืน 🌟 บทสรุป: วิสัยทัศน์ Green AI AI มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงโลก แต่ต้องจัดการกับการใช้พลังงานและความร้อนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อน การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความโปร่งใสและนโยบายที่เหมาะสม เราสามารถสร้างอนาคต AI ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนา AI หรือรักษาสภาพภูมิอากาศ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุริยะใส" ถามหามาตรฐานจาก "พรรคส้ม" ย้อนเคยต่อต้าน "การเมืองใต้โต๊ะ" แต่ดอดไปเจรจากันลับหลัง
    https://www.thai-tai.tv/news/20073/
    .
    #พรรคประชาชน #มาตรฐานการเมือง #สุริยะใสกตะศิลา #การเมืองไทย #ความโปร่งใส #นักการเมือง #วิจารณ์การเมือง #จริยธรรม #พรรคการเมืองใหม่ #ประชาธิปไตย
    "สุริยะใส" ถามหามาตรฐานจาก "พรรคส้ม" ย้อนเคยต่อต้าน "การเมืองใต้โต๊ะ" แต่ดอดไปเจรจากันลับหลัง https://www.thai-tai.tv/news/20073/ . #พรรคประชาชน #มาตรฐานการเมือง #สุริยะใสกตะศิลา #การเมืองไทย #ความโปร่งใส #นักการเมือง #วิจารณ์การเมือง #จริยธรรม #พรรคการเมืองใหม่ #ประชาธิปไตย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่ามีกฎหมายที่จะกำหนด “ทุกด้าน” ของการใช้ AI — ตั้งแต่ข้อมูลที่ใช้ฝึกโมเดล ไปจนถึงความโปร่งใสในคำแนะนำของแชตบอต → EU ทำจริงแล้วครับ กฎหมายนี้ชื่อว่า Artificial Intelligence Act หรือ AI Act ซึ่งใช้หลักการ "risk-based" คือ  
    • ความเสี่ยงยิ่งสูง → ต้องควบคุมยิ่งมาก  
    • เช่น AI ที่เกี่ยวกับกฎหมาย, การแพทย์, หรืออาวุธ → ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้น  
    • ส่วน AI แบบ General-purpose อย่าง LLM อย่างผม หรือ ChatGPT → จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม 2025  
    • ตามด้วย AI ระดับ high-risk ในสิงหาคม 2026

    เมื่อเร็ว ๆ นี้มีกลุ่มบริษัทใหญ่ในยุโรปกว่า 40 แห่ง ออกมาเรียกร้องให้ EU “หยุดพักก่อน 2 ปี” เพื่อรอให้มีการจัดทำแนวทางปฏิบัติ (Code of Practice) และลดภาระให้กับผู้พัฒนาระบบ AI

    แต่ล่าสุด โฆษกของคณะกรรมาธิการออกมาแถลงชัดว่า:

    “จะไม่มีการหยุดเวลา ไม่มีช่วงผ่อนผัน และไม่มีการชะลอกฎหมายเด็ดขาด” “AI Act คือกฎหมายที่มีเส้นตายที่ระบุไว้ชัดในตัวบท — เราต้องเดินตามนั้น”

    บริษัทในยุโรปที่ยังไม่เตรียมตัว อาจถูกลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามภายในกำหนด  
    • โดยเฉพาะผู้พัฒนา LLM, startup ด้าน AI และระบบฝังตัวในผลิตภัณฑ์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/artificial-intelligence-rules-to-go-ahead-no-pause-eu-commission-says
    ลองนึกภาพว่ามีกฎหมายที่จะกำหนด “ทุกด้าน” ของการใช้ AI — ตั้งแต่ข้อมูลที่ใช้ฝึกโมเดล ไปจนถึงความโปร่งใสในคำแนะนำของแชตบอต → EU ทำจริงแล้วครับ กฎหมายนี้ชื่อว่า Artificial Intelligence Act หรือ AI Act ซึ่งใช้หลักการ "risk-based" คือ   • ความเสี่ยงยิ่งสูง → ต้องควบคุมยิ่งมาก   • เช่น AI ที่เกี่ยวกับกฎหมาย, การแพทย์, หรืออาวุธ → ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้น   • ส่วน AI แบบ General-purpose อย่าง LLM อย่างผม หรือ ChatGPT → จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม 2025   • ตามด้วย AI ระดับ high-risk ในสิงหาคม 2026 เมื่อเร็ว ๆ นี้มีกลุ่มบริษัทใหญ่ในยุโรปกว่า 40 แห่ง ออกมาเรียกร้องให้ EU “หยุดพักก่อน 2 ปี” เพื่อรอให้มีการจัดทำแนวทางปฏิบัติ (Code of Practice) และลดภาระให้กับผู้พัฒนาระบบ AI แต่ล่าสุด โฆษกของคณะกรรมาธิการออกมาแถลงชัดว่า: “จะไม่มีการหยุดเวลา ไม่มีช่วงผ่อนผัน และไม่มีการชะลอกฎหมายเด็ดขาด” “AI Act คือกฎหมายที่มีเส้นตายที่ระบุไว้ชัดในตัวบท — เราต้องเดินตามนั้น” ‼️ บริษัทในยุโรปที่ยังไม่เตรียมตัว อาจถูกลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามภายในกำหนด   • โดยเฉพาะผู้พัฒนา LLM, startup ด้าน AI และระบบฝังตัวในผลิตภัณฑ์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/artificial-intelligence-rules-to-go-ahead-no-pause-eu-commission-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Artificial intelligence rules to go ahead, no pause, EU Commission says
    BRUSSELS (Reuters) -The European Union's landmark rules on artificial intelligence will be implemented according to the timeline agreed by legislators and EU countries, the European Commission said on Friday, dismissing suggestions and pressure from some companies and several EU countries for a temporary pause.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ออกกฎหมาย AI แบบครอบคลุมทั้งระบบ โดยเรียกว่า AI Act ซึ่งเน้นความปลอดภัย–ความโปร่งใส–และสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก

    ฟังดูดีใช่ไหมครับ?

    แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายแห่งกลับบอกว่า... “มันดีเกินไปจนทำให้นวัตกรรมไปไม่ถึงไหน” → เพราะกฎที่ซับซ้อน อาจทำให้สตาร์ทอัพ–องค์กรขนาดกลาง ไปจนถึง “European Champion” อย่าง Airbus หรือ ASML ไม่สามารถพัฒนา–ใช้งาน–ทดสอบ AI ได้ทันคู่แข่งในจีนและสหรัฐฯ → พวกเขาเลยเสนอให้ “หยุดพัก 2 ปี” สำหรับข้อบังคับที่เกี่ยวกับ AI แบบ “General-purpose” (เช่น ChatGPT, Gemini, Le Chat) และ AI แบบ “High-risk” (เช่น AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ความมั่นคง)

    โดยเฉพาะกฎของ EU ที่ให้ AI ที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือสิทธิผู้ใช้ ต้องผ่านมาตรฐานหลายขั้นมาก (risk-based approach) → ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดของ “code of practice” สำหรับ General-purpose AI ด้วยซ้ำ → แถมประธานาธิบดี Donald Trump และรองประธาน JD Vance ของสหรัฐฯ ยังเคยวิจารณ์ AI Act ว่า “เข้มจนเป็นภัยต่อการแข่งขัน”

    46 บริษัทใหญ่ของยุโรปยื่นจดหมายขอให้ EU ชะลอกฎหมาย AI Act ออกไป 2 ปี  
    • รวมถึง Airbus (ฝรั่งเศส), ASML (เนเธอร์แลนด์), Lufthansa และ Mercedes-Benz (เยอรมนี), Mistral (AI จากฝรั่งเศส)

    เสนอให้เลื่อนข้อกำหนด 2 กลุ่มหลักออกไปก่อน:  
    • General-purpose AI models (เช่น GPT, Gemini, Le Chat): เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2025  
    • High-risk AI systems: เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2026

    ให้เหตุผลว่ากฎเหล่านี้ “ทำลายความสามารถในการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรม”  
    • ทั้งในด้านความเร็ว, งบวิจัย, การทดสอบ, และการสเกลโมเดลไปใช้จริง

    AI Act ใช้หลัก “ความเสี่ยงสูง–ความรับผิดสูง” (risk-based approach)  
    • ถ้าใช้ AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ระบบคะแนนสังคม → ต้องผ่านเกณฑ์เข้มมาก  
    • General-purpose AI ยังไม่มี code of practice อย่างเป็นทางการ

    คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่แนวปฏิบัติ (code of practice) สำหรับ GPAI ภายในกรกฎาคม 2025 นี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/european-companies-urge-eu-to-delay-ai-rules
    ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ออกกฎหมาย AI แบบครอบคลุมทั้งระบบ โดยเรียกว่า AI Act ซึ่งเน้นความปลอดภัย–ความโปร่งใส–และสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายแห่งกลับบอกว่า... “มันดีเกินไปจนทำให้นวัตกรรมไปไม่ถึงไหน” → เพราะกฎที่ซับซ้อน อาจทำให้สตาร์ทอัพ–องค์กรขนาดกลาง ไปจนถึง “European Champion” อย่าง Airbus หรือ ASML ไม่สามารถพัฒนา–ใช้งาน–ทดสอบ AI ได้ทันคู่แข่งในจีนและสหรัฐฯ → พวกเขาเลยเสนอให้ “หยุดพัก 2 ปี” สำหรับข้อบังคับที่เกี่ยวกับ AI แบบ “General-purpose” (เช่น ChatGPT, Gemini, Le Chat) และ AI แบบ “High-risk” (เช่น AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ความมั่นคง) โดยเฉพาะกฎของ EU ที่ให้ AI ที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือสิทธิผู้ใช้ ต้องผ่านมาตรฐานหลายขั้นมาก (risk-based approach) → ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดของ “code of practice” สำหรับ General-purpose AI ด้วยซ้ำ → แถมประธานาธิบดี Donald Trump และรองประธาน JD Vance ของสหรัฐฯ ยังเคยวิจารณ์ AI Act ว่า “เข้มจนเป็นภัยต่อการแข่งขัน” ✅ 46 บริษัทใหญ่ของยุโรปยื่นจดหมายขอให้ EU ชะลอกฎหมาย AI Act ออกไป 2 ปี   • รวมถึง Airbus (ฝรั่งเศส), ASML (เนเธอร์แลนด์), Lufthansa และ Mercedes-Benz (เยอรมนี), Mistral (AI จากฝรั่งเศส) ✅ เสนอให้เลื่อนข้อกำหนด 2 กลุ่มหลักออกไปก่อน:   • General-purpose AI models (เช่น GPT, Gemini, Le Chat): เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2025   • High-risk AI systems: เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2026 ✅ ให้เหตุผลว่ากฎเหล่านี้ “ทำลายความสามารถในการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรม”   • ทั้งในด้านความเร็ว, งบวิจัย, การทดสอบ, และการสเกลโมเดลไปใช้จริง ✅ AI Act ใช้หลัก “ความเสี่ยงสูง–ความรับผิดสูง” (risk-based approach)   • ถ้าใช้ AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ระบบคะแนนสังคม → ต้องผ่านเกณฑ์เข้มมาก   • General-purpose AI ยังไม่มี code of practice อย่างเป็นทางการ ✅ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่แนวปฏิบัติ (code of practice) สำหรับ GPAI ภายในกรกฎาคม 2025 นี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/european-companies-urge-eu-to-delay-ai-rules
    WWW.THESTAR.COM.MY
    European companies urge EU to delay AI rules
    Dozens of Europe's biggest companies urged the EU to hit the pause button on its landmark AI rules on July 3, warning that going too fast could harm the bloc's ability to lead in the global AI race.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไหมครับว่า PowerShell 2.0 คือเวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่คู่ Windows มาตั้งแต่ยุค Windows 7? แต่มันก็เก่ามากแล้วและ ไม่ปลอดภัยสำหรับยุคใหม่ → Microsoft เลยถอดออกจาก Build ล่าสุดของ Windows 11 → นี่คือสัญญาณชัดว่า ผู้ใช้และองค์กรควรเปลี่ยนไปใช้ PowerShell 5.x หรือ PowerShell Core/7 ขึ้นไป แทนโดยด่วน

    ใน Build 27891 ยังมีการปรับปรุง Store เวอร์ชันใหม่ (22406) ที่ให้คุณ กดติดตั้งแอปจากหน้าแรกได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียด → เป็นแนวทางที่ชัดว่า Microsoft กำลังเน้นลด friction ใน user journey

    ส่วนอีกหลายจุดที่ได้รับการแก้บั๊ก เช่น:
    - การรีเซ็ตเครื่องไม่ได้ในเวอร์ชันก่อน
    - Taskbar ไม่แสดงความโปร่งใส (acrylic)
    - Task Manager อ่านภาษากลุ่มอักขระ non-A–Z ไม่ถูกต้อง
    - ปัญหาเสียง system sound หายหมด แม้เสียงอื่นจะยังปกติ
    - ตัวอย่างคำผิดที่มี: space แสดงเป็นเลข 2 ในภาษาไทย, จุดในภาษาฮีบรูแสดงเป็นเลข 3 (!)

    PowerShell 2.0 ถูกถอดออกจาก Windows 11 Build 27891 แล้ว (Canary Channel)  
    • Microsoft เคยประกาศ deprecate ไปตั้งแต่ Windows 10 v1709  
    • เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า PowerShell 5.1 และ PowerShell 7  
    • เสี่ยงช่องโหว่ – ไม่รองรับคำสั่งใหม่ – ไม่ปลอดภัย

    Microsoft Store เวอร์ชัน 22406 เพิ่มฟีเจอร์ “ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าแรก”  
    • ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูหน้ารายละเอียดก่อน  
    • ใช้ได้กับ Canary และ Dev Channel

    มีการแก้ไขบั๊กทั่วไปในหลายจุด:  
    • Reset This PC  
    • การแสดงผล taskbar  
    • ตัวอักษรภาษาต่าง ๆ (ไทย, ฮีบรู, เวียดนาม ฯลฯ)  
    • Animation ต่าง ๆ  
    • Task Manager (เช่น ค่า CPU utility กับ System Idle Process)

    แก้ปัญหาเสียงหาย ทั้งเสียง system เช่น notification, click slider ฯลฯ

    แก้ปัญหา Settings crash เมื่อตั้งค่าบลูทูธ / ไมโครโฟน ในบางภาษา

    แก้การแสดงผลผิดใน Print Preview, Media Player, LDAP queries และฟอนต์ในเมนูของแอปบางตัว

    https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-powershell-20-from-windows-11-in-build-27891/
    รู้ไหมครับว่า PowerShell 2.0 คือเวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่คู่ Windows มาตั้งแต่ยุค Windows 7? แต่มันก็เก่ามากแล้วและ ไม่ปลอดภัยสำหรับยุคใหม่ → Microsoft เลยถอดออกจาก Build ล่าสุดของ Windows 11 → นี่คือสัญญาณชัดว่า ผู้ใช้และองค์กรควรเปลี่ยนไปใช้ PowerShell 5.x หรือ PowerShell Core/7 ขึ้นไป แทนโดยด่วน ใน Build 27891 ยังมีการปรับปรุง Store เวอร์ชันใหม่ (22406) ที่ให้คุณ กดติดตั้งแอปจากหน้าแรกได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียด → เป็นแนวทางที่ชัดว่า Microsoft กำลังเน้นลด friction ใน user journey ส่วนอีกหลายจุดที่ได้รับการแก้บั๊ก เช่น: - การรีเซ็ตเครื่องไม่ได้ในเวอร์ชันก่อน - Taskbar ไม่แสดงความโปร่งใส (acrylic) - Task Manager อ่านภาษากลุ่มอักขระ non-A–Z ไม่ถูกต้อง - ปัญหาเสียง system sound หายหมด แม้เสียงอื่นจะยังปกติ - ตัวอย่างคำผิดที่มี: space แสดงเป็นเลข 2 ในภาษาไทย, จุดในภาษาฮีบรูแสดงเป็นเลข 3 (!) ✅ PowerShell 2.0 ถูกถอดออกจาก Windows 11 Build 27891 แล้ว (Canary Channel)   • Microsoft เคยประกาศ deprecate ไปตั้งแต่ Windows 10 v1709   • เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า PowerShell 5.1 และ PowerShell 7   • เสี่ยงช่องโหว่ – ไม่รองรับคำสั่งใหม่ – ไม่ปลอดภัย ✅ Microsoft Store เวอร์ชัน 22406 เพิ่มฟีเจอร์ “ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าแรก”   • ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูหน้ารายละเอียดก่อน   • ใช้ได้กับ Canary และ Dev Channel ✅ มีการแก้ไขบั๊กทั่วไปในหลายจุด:   • Reset This PC   • การแสดงผล taskbar   • ตัวอักษรภาษาต่าง ๆ (ไทย, ฮีบรู, เวียดนาม ฯลฯ)   • Animation ต่าง ๆ   • Task Manager (เช่น ค่า CPU utility กับ System Idle Process) ✅ แก้ปัญหาเสียงหาย ทั้งเสียง system เช่น notification, click slider ฯลฯ ✅ แก้ปัญหา Settings crash เมื่อตั้งค่าบลูทูธ / ไมโครโฟน ในบางภาษา ✅ แก้การแสดงผลผิดใน Print Preview, Media Player, LDAP queries และฟอนต์ในเมนูของแอปบางตัว https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-powershell-20-from-windows-11-in-build-27891/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft removes PowerShell 2.0 from Windows 11 in build 27891
    Microsoft has released a new Windows 11 build with some fixes, a new feature for the Microsoft Store, and PowerShell changes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ชาญชัย” ร่วมฟังไต่สวนคดีพักโทษ “ทักษิณ” ย้ำปมใบเสร็จ–เวชทะเบียนต้องชัด ชี้ศาลมีอำนาจเต็มเรียกเอกสาร
    https://www.thai-tai.tv/news/20015/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #ชาญชัยอิสระเสนารักษ์ #ศาลฎีกา #โรงพยาบาลตำรวจ #โรงพยาบาลราชทัณฑ์ #คดีป่วยทิพย์ #เวชระเบียน #อดีตนายกฯ #การเมืองไทย #ความโปร่งใส
    “ชาญชัย” ร่วมฟังไต่สวนคดีพักโทษ “ทักษิณ” ย้ำปมใบเสร็จ–เวชทะเบียนต้องชัด ชี้ศาลมีอำนาจเต็มเรียกเอกสาร https://www.thai-tai.tv/news/20015/ . #ทักษิณชินวัตร #ชาญชัยอิสระเสนารักษ์ #ศาลฎีกา #โรงพยาบาลตำรวจ #โรงพยาบาลราชทัณฑ์ #คดีป่วยทิพย์ #เวชระเบียน #อดีตนายกฯ #การเมืองไทย #ความโปร่งใส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้องวงจรปิด (CCTV) เคยเป็นแค่เรื่องรักษาความปลอดภัย แต่วันนี้มันกลายเป็นเรื่องของ "ความมั่นคงระดับชาติ"

    แคนาดาเพิ่งสั่งให้ Hikvision — บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่เป็น ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของโลก — หยุดดำเนินงานในประเทศ โดยระบุว่า “เป็นภัยต่อความมั่นคงของแคนาดา” (แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพราะอะไร)

    หลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุอาจมาจากความสัมพันธ์ของ Hikvision กับรัฐจีน ซึ่งมีข่าวว่า กล้องแบรนด์นี้ถูกใช้ในระบบตรวจจับ–ติดตามชาวอุยกูร์ในซินเจียง มาก่อน — และประเทศอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ก็เคยแบนมาแล้วเช่นกัน

    ที่น่าสนใจคือ Canada ไม่ใช่แค่ห้ามซื้อใหม่ แต่ จะทยอยเลิกใช้กล้อง Hikvision ที่ติดตั้งอยู่แล้วในสถานที่ราชการ — และขอให้ประชาชน "ใช้วิจารณญาณ" ถ้าจะซื้ออุปกรณ์จากแบรนด์นี้ด้วย

    Hikvision เองก็ออกมาโต้ว่า "ไม่เป็นธรรม ขาดความโปร่งใส และดูเหมือนโดนเล่นงานเพราะเป็นบริษัทจากจีน" — ซึ่งก็สะท้อนว่าเทคโนโลยีบางอย่างกำลังถูกแปะป้าย “น่าเชื่อถือ/ไม่น่าเชื่อถือ” ด้วยเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าเทคนิคจริง ๆ แล้วครับ

    แคนาดาสั่งให้ Hikvision หยุดดำเนินกิจการในประเทศทันที  
    • อ้างเหตุผลด้าน “ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ”
    • อิงตามกฎหมาย Investment Canada Act

    Hikvision คือผู้ผลิต CCTV รายใหญ่ที่สุดของโลก  
    • เข้ามาทำตลาดในแคนาดาตั้งแต่ปี 2014  
    • ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับโครงการรัฐจีน

    แคนาดาจะทยอยเลิกใช้ Hikvision ในอาคารราชการและภาครัฐ
    • พร้อมขอให้ประชาชน “พิจารณาอย่างรอบคอบ” หากจะใช้อุปกรณ์จากแบรนด์นี้

    ประเทศอื่น ๆ เคยแบน Hikvision มาแล้ว เช่น:  
    • สหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย  
    • โดยเฉพาะจากข้อกล่าวหาว่าอุปกรณ์ถูกใช้สอดแนมชาวอุยกูร์ในจีน (ซึ่งจีนปฏิเสธ)

    Hikvision แถลงการณ์ว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และขาดหลักฐานชัดเจน”

    https://www.techradar.com/pro/is-the-worlds-largest-cctv-surveillance-camera-vendor-going-to-be-the-next-huawei-canada-gov-bans-hikvision-amidst-security-fears
    กล้องวงจรปิด (CCTV) เคยเป็นแค่เรื่องรักษาความปลอดภัย แต่วันนี้มันกลายเป็นเรื่องของ "ความมั่นคงระดับชาติ" แคนาดาเพิ่งสั่งให้ Hikvision — บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่เป็น ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของโลก — หยุดดำเนินงานในประเทศ โดยระบุว่า “เป็นภัยต่อความมั่นคงของแคนาดา” (แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพราะอะไร) หลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุอาจมาจากความสัมพันธ์ของ Hikvision กับรัฐจีน ซึ่งมีข่าวว่า กล้องแบรนด์นี้ถูกใช้ในระบบตรวจจับ–ติดตามชาวอุยกูร์ในซินเจียง มาก่อน — และประเทศอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ก็เคยแบนมาแล้วเช่นกัน ที่น่าสนใจคือ Canada ไม่ใช่แค่ห้ามซื้อใหม่ แต่ จะทยอยเลิกใช้กล้อง Hikvision ที่ติดตั้งอยู่แล้วในสถานที่ราชการ — และขอให้ประชาชน "ใช้วิจารณญาณ" ถ้าจะซื้ออุปกรณ์จากแบรนด์นี้ด้วย Hikvision เองก็ออกมาโต้ว่า "ไม่เป็นธรรม ขาดความโปร่งใส และดูเหมือนโดนเล่นงานเพราะเป็นบริษัทจากจีน" — ซึ่งก็สะท้อนว่าเทคโนโลยีบางอย่างกำลังถูกแปะป้าย “น่าเชื่อถือ/ไม่น่าเชื่อถือ” ด้วยเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าเทคนิคจริง ๆ แล้วครับ ✅ แคนาดาสั่งให้ Hikvision หยุดดำเนินกิจการในประเทศทันที   • อ้างเหตุผลด้าน “ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ” • อิงตามกฎหมาย Investment Canada Act ✅ Hikvision คือผู้ผลิต CCTV รายใหญ่ที่สุดของโลก   • เข้ามาทำตลาดในแคนาดาตั้งแต่ปี 2014   • ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับโครงการรัฐจีน ✅ แคนาดาจะทยอยเลิกใช้ Hikvision ในอาคารราชการและภาครัฐ • พร้อมขอให้ประชาชน “พิจารณาอย่างรอบคอบ” หากจะใช้อุปกรณ์จากแบรนด์นี้ ✅ ประเทศอื่น ๆ เคยแบน Hikvision มาแล้ว เช่น:   • สหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย   • โดยเฉพาะจากข้อกล่าวหาว่าอุปกรณ์ถูกใช้สอดแนมชาวอุยกูร์ในจีน (ซึ่งจีนปฏิเสธ) ✅ Hikvision แถลงการณ์ว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และขาดหลักฐานชัดเจน” https://www.techradar.com/pro/is-the-worlds-largest-cctv-surveillance-camera-vendor-going-to-be-the-next-huawei-canada-gov-bans-hikvision-amidst-security-fears
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเดิมหุ่นยนต์ Amazon แค่ย้ายชั้นวางของ วันนี้มันเหมือน “รถยนต์ในเมืองที่มีระบบจัดการจราจร AI” เลยครับ

    Amazon ประกาศว่าเพิ่งติดตั้ง “หุ่นยนต์ตัวที่ 1 ล้าน” ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น และกำลังจะมีหุ่นยนต์มากกว่าพนักงานมนุษย์ในคลังสินค้าอีกด้วย! ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า Amazon มีพนักงานกว่า 1.56 ล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายคลังสินค้า — ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่ milestone ธรรมดา

    เบื้องหลังทั้งหมดคือ AI ชื่อ DeepFleet ที่ทำหน้าที่เหมือน “ระบบจัดการจราจรในเมืองที่รถทุกคันคือหุ่นยนต์” → มันสามารถลดระยะทาง + เวลาที่หุ่นยนต์ต้องเดินทางได้ 10% → ซึ่งเมื่อเอาไปคูณกับภารกิจระดับล้านคำสั่งต่อวัน ผลกระทบคือระดับพันล้านดอลลาร์ได้เลยครับ

    Amazon มีหุ่นยนต์หลายประเภท เช่น:
    - Hercules: ยกของหนักได้ 1,250 ปอนด์
    - Pegasus: ใช้สายพานจัดการพัสดุเล็ก
    - Proteus: หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติแบบ fully autonomous ที่เดินผ่านพนักงานได้

    บริษัทกำลังทดสอบการให้หุ่นยนต์รับคำสั่งเสียงจากพนักงาน และ “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์แบบมีแขน–ขา–หัว” ก็อยู่ในสายงานวิจัยแล้ว!

    Amazon ยืนยันว่าหุ่นยนต์ไม่ใช่ตัวแย่งงาน แต่ช่วยเปลี่ยนแรงงานเป็นงานที่ใช้ทักษะมากขึ้น — ปัจจุบันมีพนักงาน 700,000 คนที่ถูกอัปสกิลไปทำงานร่วมกับเทคโนโลยี หรืองานที่จ่ายสูงกว่าเดิม

    Amazon เพิ่งติดตั้งหุ่นยนต์ตัวที่ 1,000,000 ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น  
    • เป็นหมุดหมายสำคัญของการใช้ automation ในคลังสินค้า  
    • หุ่นยนต์เริ่มมีจำนวนใกล้เคียงหรือมากกว่าคนในคลังแล้ว

    AI ชื่อ DeepFleet ช่วยจัดเส้นทางและเวลาเดินของหุ่นยนต์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น 10%  
    • เทียบได้กับระบบจัดการจราจรในเมืองสำหรับหุ่นยนต์  
    • ช่วยลดเวลาจัดของและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าลงได้มาก

    Amazon มีหุ่นยนต์หลายรุ่นที่ทำงานต่างกัน:  
    • Hercules (ยกของหนัก)  
    • Pegasus (คัดแยกพัสดุ)  
    • Proteus (เคลื่อนที่อิสระได้ในคลัง)

    Amazon ฝึกอบรมพนักงานกว่า 700,000 คนให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี  
    • เช่น ฝึกซ่อมหุ่นยนต์, ตรวจระบบ, เขียนคำสั่ง  
    • สร้างงานใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้นกว่าเดิม

    บริษัทอยู่ระหว่างทดสอบหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถเดิน–ยกของ–ตอบโต้พนักงานได้

    การเติบโตของหุ่นยนต์แบบก้าวกระโดด อาจทำให้แรงงานที่ไม่ได้ reskill หลุดออกจากระบบงานในอนาคต  
    • โดยเฉพาะพนักงานที่ทำงานซ้ำ ๆ แต่ไม่ปรับตัว

    AI ที่ควบคุมหุ่นยนต์ เช่น DeepFleet ยังไม่มีรายงานด้านการ audit ความโปร่งใสหรือ bias  
    • ความผิดพลาดอาจกระทบระบบโลจิสติกส์ทั้งสายงาน

    การจัดการจราจรของหุ่นยนต์ในพื้นที่เดียวกับมนุษย์ ต้องการความปลอดภัยสูงมาก  
    • ถ้า AI คำนวณพลาด หุ่นยนต์ชนคนหรือข้าวของมีผลทันที

    แพลตฟอร์มอย่าง Amazon ที่ควบคุมทั้งแรงงานมนุษย์และหุ่นยนต์ใน ecosystem เดียว อาจเกิด “อำนาจต่อรองไม่สมดุล”  
    • โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มีนโยบายด้าน AI Labor & Automation

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/amazon-just-deployed-its-one-millionth-robot-in-its-warehouses-and-theyll-soon-outnumber-humans-generative-ai-to-help-cut-robot-fleet-travel-time-by-10-percent
    จากเดิมหุ่นยนต์ Amazon แค่ย้ายชั้นวางของ วันนี้มันเหมือน “รถยนต์ในเมืองที่มีระบบจัดการจราจร AI” เลยครับ Amazon ประกาศว่าเพิ่งติดตั้ง “หุ่นยนต์ตัวที่ 1 ล้าน” ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น และกำลังจะมีหุ่นยนต์มากกว่าพนักงานมนุษย์ในคลังสินค้าอีกด้วย! ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า Amazon มีพนักงานกว่า 1.56 ล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายคลังสินค้า — ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่ milestone ธรรมดา เบื้องหลังทั้งหมดคือ AI ชื่อ DeepFleet ที่ทำหน้าที่เหมือน “ระบบจัดการจราจรในเมืองที่รถทุกคันคือหุ่นยนต์” → มันสามารถลดระยะทาง + เวลาที่หุ่นยนต์ต้องเดินทางได้ 10% → ซึ่งเมื่อเอาไปคูณกับภารกิจระดับล้านคำสั่งต่อวัน ผลกระทบคือระดับพันล้านดอลลาร์ได้เลยครับ Amazon มีหุ่นยนต์หลายประเภท เช่น: - Hercules: ยกของหนักได้ 1,250 ปอนด์ - Pegasus: ใช้สายพานจัดการพัสดุเล็ก - Proteus: หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติแบบ fully autonomous ที่เดินผ่านพนักงานได้ บริษัทกำลังทดสอบการให้หุ่นยนต์รับคำสั่งเสียงจากพนักงาน และ “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์แบบมีแขน–ขา–หัว” ก็อยู่ในสายงานวิจัยแล้ว! Amazon ยืนยันว่าหุ่นยนต์ไม่ใช่ตัวแย่งงาน แต่ช่วยเปลี่ยนแรงงานเป็นงานที่ใช้ทักษะมากขึ้น — ปัจจุบันมีพนักงาน 700,000 คนที่ถูกอัปสกิลไปทำงานร่วมกับเทคโนโลยี หรืองานที่จ่ายสูงกว่าเดิม ✅ Amazon เพิ่งติดตั้งหุ่นยนต์ตัวที่ 1,000,000 ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น   • เป็นหมุดหมายสำคัญของการใช้ automation ในคลังสินค้า   • หุ่นยนต์เริ่มมีจำนวนใกล้เคียงหรือมากกว่าคนในคลังแล้ว ✅ AI ชื่อ DeepFleet ช่วยจัดเส้นทางและเวลาเดินของหุ่นยนต์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น 10%   • เทียบได้กับระบบจัดการจราจรในเมืองสำหรับหุ่นยนต์   • ช่วยลดเวลาจัดของและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าลงได้มาก ✅ Amazon มีหุ่นยนต์หลายรุ่นที่ทำงานต่างกัน:   • Hercules (ยกของหนัก)   • Pegasus (คัดแยกพัสดุ)   • Proteus (เคลื่อนที่อิสระได้ในคลัง) ✅ Amazon ฝึกอบรมพนักงานกว่า 700,000 คนให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี   • เช่น ฝึกซ่อมหุ่นยนต์, ตรวจระบบ, เขียนคำสั่ง   • สร้างงานใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้นกว่าเดิม ✅ บริษัทอยู่ระหว่างทดสอบหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถเดิน–ยกของ–ตอบโต้พนักงานได้ ‼️ การเติบโตของหุ่นยนต์แบบก้าวกระโดด อาจทำให้แรงงานที่ไม่ได้ reskill หลุดออกจากระบบงานในอนาคต   • โดยเฉพาะพนักงานที่ทำงานซ้ำ ๆ แต่ไม่ปรับตัว ‼️ AI ที่ควบคุมหุ่นยนต์ เช่น DeepFleet ยังไม่มีรายงานด้านการ audit ความโปร่งใสหรือ bias   • ความผิดพลาดอาจกระทบระบบโลจิสติกส์ทั้งสายงาน ‼️ การจัดการจราจรของหุ่นยนต์ในพื้นที่เดียวกับมนุษย์ ต้องการความปลอดภัยสูงมาก   • ถ้า AI คำนวณพลาด หุ่นยนต์ชนคนหรือข้าวของมีผลทันที ‼️ แพลตฟอร์มอย่าง Amazon ที่ควบคุมทั้งแรงงานมนุษย์และหุ่นยนต์ใน ecosystem เดียว อาจเกิด “อำนาจต่อรองไม่สมดุล”   • โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มีนโยบายด้าน AI Labor & Automation https://www.tomshardware.com/tech-industry/amazon-just-deployed-its-one-millionth-robot-in-its-warehouses-and-theyll-soon-outnumber-humans-generative-ai-to-help-cut-robot-fleet-travel-time-by-10-percent
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 778 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้จะถูกสหรัฐสั่งห้ามซื้อชิป AI รุ่นใหม่จากค่ายใหญ่ (เช่น NVIDIA H100/H20) แต่จีนไม่ยอมแพ้ครับ — บริษัท GPU ระดับแถวหน้าอย่าง Biren Technology, Moore Threads, MetaX, และ Zhaoxin ต่างเดินหน้าขึ้นตลาดหุ้นในประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตลาด STAR Market ของเซี่ยงไฮ้หรือฮ่องกง เพื่อหาทุนไปพัฒนาเทคโนโลยี AI, GPU สำหรับเกม, หรือระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    ขณะเดียวกัน บริษัทอย่าง Innosilicon, Illuvatar CoreX, และ DenglinAI เลือก “อยู่แบบเงียบ ๆ” ยังไม่รีบเปิดตัวสู่สาธารณะ เพราะต้องการความยืดหยุ่นจากการไม่ต้องรายงานงบการเงินหรือถูกจับตามองจากภายนอก

    เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลังจากถูกกดดันจากสหรัฐ จีนเลือกที่จะ “ต่อสู้ด้วยการสร้าง ecosystem ของตัวเอง” ที่ใช้ได้แม้ไม่มีเทคโนโลยีตะวันตก ทั้งยังเสริมบทบาทของตลาดหุ้นจีนให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตในอุตสาหกรรม AI แบบพึ่งพาตัวเองมากขึ้น

    บริษัท GPU จีนจำนวนมากกำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้นท้องถิ่นท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ  
    • เช่น Biren, Moore Threads, MetaX, Zhaoxin  
    • เพื่อต้องการระดมทุนสำหรับ R&D, ปรับขนาดการผลิต และขยายทีมงาน

    Biren Technology เดินเรื่อง IPO มาตั้งแต่หลายปีก่อน  
    • ยังไม่ประกาศว่าจะเข้าตลาดไหน (Shanghai STAR Market หรือฮ่องกง)

    Moore Threads จัดโครงสร้างใหม่เป็นบริษัทจำกัด-หุ้น เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์จีน  
    • เน้นธุรกิจ GPU สำหรับเกมและบางส่วนของงาน AI

    MetaX ผ่านกระบวนการ “tutoring” เพื่อเตรียม IPO แล้ว  
    • ระดมทุนไปแล้วกว่า 8 รอบ มูลค่าประเมินราว ¥10,000 ล้าน (≈ $1.38 พันล้าน)

    Zhaoxin ซึ่งพัฒนา CPU สถาปัตยกรรม x86 แบบมี GPU ฝังในตัว  
    • กำลังยื่นจดทะเบียนเข้าตลาด STAR Market ภายในกลางปี 2025

    เหตุผลหลักของการ IPO คือ:  • ต้องการเงินลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA, AMD  
    • ต้องการสร้างความโปร่งใส-เชื่อมั่น และกลายเป็นผู้เล่น “ระดับชาติ” ที่ซัพพอร์ตนโยบายจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/blacklisted-chinese-gpu-makers-line-up-to-file-for-ipos-as-us-sanctions-and-trade-war-take-toll-on-ai-hardware-market
    แม้จะถูกสหรัฐสั่งห้ามซื้อชิป AI รุ่นใหม่จากค่ายใหญ่ (เช่น NVIDIA H100/H20) แต่จีนไม่ยอมแพ้ครับ — บริษัท GPU ระดับแถวหน้าอย่าง Biren Technology, Moore Threads, MetaX, และ Zhaoxin ต่างเดินหน้าขึ้นตลาดหุ้นในประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตลาด STAR Market ของเซี่ยงไฮ้หรือฮ่องกง เพื่อหาทุนไปพัฒนาเทคโนโลยี AI, GPU สำหรับเกม, หรือระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกัน บริษัทอย่าง Innosilicon, Illuvatar CoreX, และ DenglinAI เลือก “อยู่แบบเงียบ ๆ” ยังไม่รีบเปิดตัวสู่สาธารณะ เพราะต้องการความยืดหยุ่นจากการไม่ต้องรายงานงบการเงินหรือถูกจับตามองจากภายนอก เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลังจากถูกกดดันจากสหรัฐ จีนเลือกที่จะ “ต่อสู้ด้วยการสร้าง ecosystem ของตัวเอง” ที่ใช้ได้แม้ไม่มีเทคโนโลยีตะวันตก ทั้งยังเสริมบทบาทของตลาดหุ้นจีนให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตในอุตสาหกรรม AI แบบพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ✅ บริษัท GPU จีนจำนวนมากกำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้นท้องถิ่นท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ   • เช่น Biren, Moore Threads, MetaX, Zhaoxin   • เพื่อต้องการระดมทุนสำหรับ R&D, ปรับขนาดการผลิต และขยายทีมงาน ✅ Biren Technology เดินเรื่อง IPO มาตั้งแต่หลายปีก่อน   • ยังไม่ประกาศว่าจะเข้าตลาดไหน (Shanghai STAR Market หรือฮ่องกง) ✅ Moore Threads จัดโครงสร้างใหม่เป็นบริษัทจำกัด-หุ้น เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์จีน   • เน้นธุรกิจ GPU สำหรับเกมและบางส่วนของงาน AI ✅ MetaX ผ่านกระบวนการ “tutoring” เพื่อเตรียม IPO แล้ว   • ระดมทุนไปแล้วกว่า 8 รอบ มูลค่าประเมินราว ¥10,000 ล้าน (≈ $1.38 พันล้าน) ✅ Zhaoxin ซึ่งพัฒนา CPU สถาปัตยกรรม x86 แบบมี GPU ฝังในตัว   • กำลังยื่นจดทะเบียนเข้าตลาด STAR Market ภายในกลางปี 2025 ✅ เหตุผลหลักของการ IPO คือ:  • ต้องการเงินลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA, AMD   • ต้องการสร้างความโปร่งใส-เชื่อมั่น และกลายเป็นผู้เล่น “ระดับชาติ” ที่ซัพพอร์ตนโยบายจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/blacklisted-chinese-gpu-makers-line-up-to-file-for-ipos-as-us-sanctions-and-trade-war-take-toll-on-ai-hardware-market
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อไหมว่าหลายคนถึงขั้นยอมเสียเงินซื้อตัวช่วยบล็อกโซเชียลไม่ให้เสียเวลา — แต่บางทีก็แอบปิดมันเอง แล้วเปิด Facebook อยู่ดี นักพัฒนา Pankaj Tanwar เลยบอกว่า “งั้นทำให้มันน่าอายจนเลิกเถอะ!”

    เขาสร้างส่วนเสริมชื่อ Scream to Unlock ซึ่งถ้าคุณพยายามเข้าเว็บอย่าง Facebook, Instagram หรือ X (Twitter เดิม) มันจะขึ้นจอว่า “ถูกบล็อก” พร้อมให้คุณเปิดไมค์แล้ว ตะโกนคำว่า I'm a loser

    เสียงยิ่งดัง = ยิ่งได้เวลาปลดล็อกนาน ถ้าเสียงเบา = ได้แค่ไม่กี่วินาที หรือโดนระบบแซวกลับ

    ระบบจะคอมเมนต์เสียงคุณ เช่น:
    - “You sound like a mouse!” (เสียงเบาจนได้เวลา 23 วิเท่านั้น!)
    - “Not bad, but you can do better!”
    - “AMAZING! That was an epic scream!”

    จุดประสงค์คือสร้าง “แรงเสียดทานแบบอาย ๆ” ให้คุณไม่อยากเปิดโซเชียลพร่ำเพรื่อ — ถ้าคุณกล้าก็ลองเลย...แต่ อย่าทำในออฟฟิศเด็ดขาด เดี๋ยวเพื่อนร่วมงานจะคิดว่าเสียสติ

    Chrome Extension ชื่อ Scream to Unlock จะบล็อกเว็บโซเชียล จนกว่าคุณจะตะโกน ‘I’m a loser’ ผ่านไมโครโฟน  
    • รองรับการกำหนดเว็บที่ต้องการบล็อกเอง เช่น Facebook, X, Instagram  
    • หลังตะโกน จะได้เวลาปลดล็อก (ขึ้นกับความดัง) เพื่อใช้งานเว็บนั้น

    มีระบบให้คะแนนเสียงตะโกน พร้อมคอมเมนต์แบบขำ ๆ  
    • เสียงเบา: “You sound like a mouse!”  
    • เสียงดังมาก: ได้รับการชมแบบมหากาพย์

    ตัวส่วนเสริมอ้างว่าไม่เก็บข้อมูลเสียง และประมวลผลในเครื่องเท่านั้น  
    • แสดงความโปร่งใสใน Chrome Web Store

    เป็นโอเพนซอร์ส สร้างโดย Pankaj Tanwar และโปรโมตผ่าน Hacker News

    https://www.neowin.net/news/chrome-extension-blocks-social-media-until-you-scream-im-a-loser/
    เชื่อไหมว่าหลายคนถึงขั้นยอมเสียเงินซื้อตัวช่วยบล็อกโซเชียลไม่ให้เสียเวลา — แต่บางทีก็แอบปิดมันเอง แล้วเปิด Facebook อยู่ดี 🙈 นักพัฒนา Pankaj Tanwar เลยบอกว่า “งั้นทำให้มันน่าอายจนเลิกเถอะ!” เขาสร้างส่วนเสริมชื่อ Scream to Unlock ซึ่งถ้าคุณพยายามเข้าเว็บอย่าง Facebook, Instagram หรือ X (Twitter เดิม) มันจะขึ้นจอว่า “ถูกบล็อก” พร้อมให้คุณเปิดไมค์แล้ว ตะโกนคำว่า I'm a loser เสียงยิ่งดัง = ยิ่งได้เวลาปลดล็อกนาน ถ้าเสียงเบา = ได้แค่ไม่กี่วินาที หรือโดนระบบแซวกลับ ระบบจะคอมเมนต์เสียงคุณ เช่น: - “You sound like a mouse!” (เสียงเบาจนได้เวลา 23 วิเท่านั้น!) - “Not bad, but you can do better!” - “AMAZING! That was an epic scream!” จุดประสงค์คือสร้าง “แรงเสียดทานแบบอาย ๆ” ให้คุณไม่อยากเปิดโซเชียลพร่ำเพรื่อ — ถ้าคุณกล้าก็ลองเลย...แต่ อย่าทำในออฟฟิศเด็ดขาด เดี๋ยวเพื่อนร่วมงานจะคิดว่าเสียสติ 😅 ✅ Chrome Extension ชื่อ Scream to Unlock จะบล็อกเว็บโซเชียล จนกว่าคุณจะตะโกน ‘I’m a loser’ ผ่านไมโครโฟน   • รองรับการกำหนดเว็บที่ต้องการบล็อกเอง เช่น Facebook, X, Instagram   • หลังตะโกน จะได้เวลาปลดล็อก (ขึ้นกับความดัง) เพื่อใช้งานเว็บนั้น ✅ มีระบบให้คะแนนเสียงตะโกน พร้อมคอมเมนต์แบบขำ ๆ   • เสียงเบา: “You sound like a mouse!”   • เสียงดังมาก: ได้รับการชมแบบมหากาพย์ ✅ ตัวส่วนเสริมอ้างว่าไม่เก็บข้อมูลเสียง และประมวลผลในเครื่องเท่านั้น   • แสดงความโปร่งใสใน Chrome Web Store ✅ เป็นโอเพนซอร์ส สร้างโดย Pankaj Tanwar และโปรโมตผ่าน Hacker News https://www.neowin.net/news/chrome-extension-blocks-social-media-until-you-scream-im-a-loser/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chrome extension blocks social media until you scream "I'm a loser"
    A developer has released a free Chrome extension that helps people with social media addiction by blocking access to popular sites until they shout "I'm a loser."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามการใช้งาน WhatsApp บนอุปกรณ์ทางการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ

    เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด

    คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน

    นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ

    “เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์

    สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime



    สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามการใช้งาน WhatsApp บนอุปกรณ์ทางการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ “เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครที่เคยใช้ Copilot ใน Excel มาก่อน น่าจะเคยรู้สึกว่า—แม้จะพิมพ์ถามว่า “ข้อมูลนี้บอกอะไร” แต่ Copilot จะทำงานแค่ตามเซลล์ที่คุณคลิกไว้ ถ้าเผลอคลิกผิดก็คือไปคนละทิศเลย

    ล่าสุด Microsoft ปรับให้ “Copilot ฉลาดระดับเข้าใจคุณมากขึ้น” ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Smart Context Awareness คือไม่ต้องคลิกเซลล์หรือไฮไลต์ตารางก่อนถาม เช่น คุณสามารถพิมพ์ว่า “Sort the table in the top-right” หรือ “Show insights about the data I was just analyzing” — แล้ว Copilot จะเข้าใจโดยอิงจากทั้งตำแหน่งข้อมูล + ประวัติแชตที่เพิ่งคุยกัน

    แถม Copilot ยังไฮไลต์ให้ดูเลยว่า “ฉันใช้ข้อมูลส่วนไหนในการวิเคราะห์อยู่” เพื่อความโปร่งใสและช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ว่าคำตอบนั้นมาจากตรงไหน

    ทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานแล้วทั้งบน Excel Web และ Excel เวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows / Mac) ที่อัปเดตล่าสุด

    Copilot in Excel เพิ่ม Smart Context Awareness เข้าใจคำถามแบบรู้บริบท  
    • ไม่จำเป็นต้องเลือกเซลล์ก่อนถามคำถาม  
    • ใช้ทั้งสัญญาณตำแหน่งเซลล์ + ประวัติการสนทนา เพื่อเดาความต้องการของผู้ใช้

    รองรับคำถามแบบภาษาธรรมชาติ เช่น “จัดเรียงตารางด้านขวาบน” หรือ “แสดงข้อมูลที่วิเคราะห์เมื่อกี้”  
    • ทำให้ไม่ต้องใช้สูตรหรือคำสั่งซับซ้อน  
    • ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน Excel ขั้นสูง

    Copilot แสดง Highlight ข้อมูลที่ใช้ในการตอบกลับ  
    • ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลต้นทางที่ Copilot ใช้  
    • เพิ่มความเชื่อมั่นและสามารถปรับข้อมูลให้ตรงเป้าหมายได้

    ฟีเจอร์ Smart Context ใช้งานได้แล้วบน Excel Web และเวอร์ชันเดสก์ท็อป  
    • Windows: Version 2505 (Build 18623.20058)  
    • Mac: Version 16.95 (Build 2506.3090)

    Visual Highlighting ใช้งานได้ใน Build ล่าสุดเพิ่มเติม  
    • Windows: Version 2505 (Build 18705.20000)  
    • Mac: Version 16.96 (Build 2506.4070)

    Smart Context ยังพึ่งพาการเดาความตั้งใจของผู้ใช้ อาจมีพลาดได้ถ้าข้อมูลคลุมเครือ  
    • เช่น ถ้ามีตารางหลายชุดบนหน้าเดียวกัน คำสั่ง “จัดเรียงตารางขวาบน” อาจเดาผิดได้  
    • ควรตรวจสอบ Highlight ให้แน่ใจก่อนใช้คำสั่งที่มีผลกระทบต่อข้อมูล

    Copilot ยังไม่รองรับการเข้าใจภาพรวมหลายชีตหรือหลาย workbook ได้เต็มที่  
    • Smart Context ใช้ข้อมูลในชีตเดียวเป็นหลัก  
    • หากมีการเชื่อมโยงหลายแหล่ง คำตอบอาจไม่แม่นยำเท่าการระบุชัด ๆ

    ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะ Excel ที่อัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเท่านั้น  
    • ผู้ใช้ที่ยังใช้ Excel เวอร์ชันเก่าอาจไม่เห็นความสามารถนี้  
    • อาจต้องอัปเดต Microsoft 365 ทั้งระบบเพื่อเข้าถึง

    ความสามารถของ Copilot ยังคงขึ้นกับความซับซ้อนของข้อมูลและโครงสร้างเอกสาร  
    • ข้อมูลที่ไม่มี header, มีรูปแบบผสม หรือมีสูตรซ้อนซับ อาจทำให้ Copilot สับสน

    https://www.neowin.net/news/copilot-in-excel-just-got-a-major-upgrade/
    ใครที่เคยใช้ Copilot ใน Excel มาก่อน น่าจะเคยรู้สึกว่า—แม้จะพิมพ์ถามว่า “ข้อมูลนี้บอกอะไร” แต่ Copilot จะทำงานแค่ตามเซลล์ที่คุณคลิกไว้ ถ้าเผลอคลิกผิดก็คือไปคนละทิศเลย ล่าสุด Microsoft ปรับให้ “Copilot ฉลาดระดับเข้าใจคุณมากขึ้น” ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Smart Context Awareness คือไม่ต้องคลิกเซลล์หรือไฮไลต์ตารางก่อนถาม เช่น คุณสามารถพิมพ์ว่า “Sort the table in the top-right” หรือ “Show insights about the data I was just analyzing” — แล้ว Copilot จะเข้าใจโดยอิงจากทั้งตำแหน่งข้อมูล + ประวัติแชตที่เพิ่งคุยกัน แถม Copilot ยังไฮไลต์ให้ดูเลยว่า “ฉันใช้ข้อมูลส่วนไหนในการวิเคราะห์อยู่” เพื่อความโปร่งใสและช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ว่าคำตอบนั้นมาจากตรงไหน ทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานแล้วทั้งบน Excel Web และ Excel เวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows / Mac) ที่อัปเดตล่าสุด ✅ Copilot in Excel เพิ่ม Smart Context Awareness เข้าใจคำถามแบบรู้บริบท   • ไม่จำเป็นต้องเลือกเซลล์ก่อนถามคำถาม   • ใช้ทั้งสัญญาณตำแหน่งเซลล์ + ประวัติการสนทนา เพื่อเดาความต้องการของผู้ใช้ ✅ รองรับคำถามแบบภาษาธรรมชาติ เช่น “จัดเรียงตารางด้านขวาบน” หรือ “แสดงข้อมูลที่วิเคราะห์เมื่อกี้”   • ทำให้ไม่ต้องใช้สูตรหรือคำสั่งซับซ้อน   • ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน Excel ขั้นสูง ✅ Copilot แสดง Highlight ข้อมูลที่ใช้ในการตอบกลับ   • ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลต้นทางที่ Copilot ใช้   • เพิ่มความเชื่อมั่นและสามารถปรับข้อมูลให้ตรงเป้าหมายได้ ✅ ฟีเจอร์ Smart Context ใช้งานได้แล้วบน Excel Web และเวอร์ชันเดสก์ท็อป   • Windows: Version 2505 (Build 18623.20058)   • Mac: Version 16.95 (Build 2506.3090) ✅ Visual Highlighting ใช้งานได้ใน Build ล่าสุดเพิ่มเติม   • Windows: Version 2505 (Build 18705.20000)   • Mac: Version 16.96 (Build 2506.4070) ‼️ Smart Context ยังพึ่งพาการเดาความตั้งใจของผู้ใช้ อาจมีพลาดได้ถ้าข้อมูลคลุมเครือ   • เช่น ถ้ามีตารางหลายชุดบนหน้าเดียวกัน คำสั่ง “จัดเรียงตารางขวาบน” อาจเดาผิดได้   • ควรตรวจสอบ Highlight ให้แน่ใจก่อนใช้คำสั่งที่มีผลกระทบต่อข้อมูล ‼️ Copilot ยังไม่รองรับการเข้าใจภาพรวมหลายชีตหรือหลาย workbook ได้เต็มที่   • Smart Context ใช้ข้อมูลในชีตเดียวเป็นหลัก   • หากมีการเชื่อมโยงหลายแหล่ง คำตอบอาจไม่แม่นยำเท่าการระบุชัด ๆ ‼️ ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะ Excel ที่อัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเท่านั้น   • ผู้ใช้ที่ยังใช้ Excel เวอร์ชันเก่าอาจไม่เห็นความสามารถนี้   • อาจต้องอัปเดต Microsoft 365 ทั้งระบบเพื่อเข้าถึง ‼️ ความสามารถของ Copilot ยังคงขึ้นกับความซับซ้อนของข้อมูลและโครงสร้างเอกสาร   • ข้อมูลที่ไม่มี header, มีรูปแบบผสม หรือมีสูตรซ้อนซับ อาจทำให้ Copilot สับสน https://www.neowin.net/news/copilot-in-excel-just-got-a-major-upgrade/
    WWW.NEOWIN.NET
    Copilot in Excel just got a major upgrade
    Microsoft has made Copilot in Excel a whole lot better by giving it smarter context awareness and a visual highlight that makes it easier to trust the AI's responses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anubis Ransomware: ภัยคุกคามใหม่ที่ทำให้การกู้คืนข้อมูลเป็นไปไม่ได้
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยค้นพบ Anubis ซึ่งเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่แบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความสามารถในการ เข้ารหัสและทำลายข้อมูล โดยมัลแวร์นี้สามารถลบไฟล์อย่างถาวรหลังจากเข้ารหัส ทำให้เหยื่อไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้ แม้จะจ่ายค่าไถ่.

    รายละเอียดการโจมตี
    Anubis สามารถเข้ารหัสข้อมูลบนระบบ Windows และมีโหมด "wipe mode" ที่สามารถลบไฟล์อย่างถาวร.
    มัลแวร์นี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2024 โดย Trend Micro ซึ่งพบว่ามีความคล้ายคลึงกับมัลแวร์ Sphinx.
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลัง Anubis กำลังขยายเครือข่าย โดยเสนอส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 80% ให้กับผู้ร่วมขบวนการ.
    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่ง ที่ปลอมแปลงเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    Anubis สามารถทำให้ข้อมูลสูญหายอย่างถาวร แม้เหยื่อจะยอมจ่ายค่าไถ่.
    มัลแวร์สามารถลบ Shadow Copies ทำให้การกู้คืนข้อมูลจากระบบ Windows เป็นไปไม่ได้.
    องค์กรที่ตกเป็นเหยื่ออาจต้องเผชิญกับความเสียหายทางธุรกิจ เนื่องจากข้อมูลสำคัญถูกทำลาย.

    แนวทางป้องกัน
    หลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์แนบจากอีเมลที่น่าสงสัย และตรวจสอบแหล่งที่มาของอีเมลก่อนคลิก.
    สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ระบบสำรองข้อมูลที่แยกออกจากเครือข่ายหลัก.
    ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยที่สามารถตรวจจับ Ransomware เช่น Microsoft Defender for Endpoint.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์
    Microsoft เสนอเครื่องมือรักษาความปลอดภัยฟรีให้กับยุโรป เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์.
    ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกที่บังคับให้เปิดเผยการจ่ายค่าไถ่ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการรับมือกับ Ransomware.
    มัลแวร์ที่สามารถทำลายข้อมูลอาจถูกใช้เพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายค่าไถ่เร็วขึ้น โดยไม่ให้โอกาสในการเจรจา.

    https://www.techspot.com/news/108332-anubis-ransomware-can-encrypt-destroy-data-making-file.html
    Anubis Ransomware: ภัยคุกคามใหม่ที่ทำให้การกู้คืนข้อมูลเป็นไปไม่ได้ นักวิจัยด้านความปลอดภัยค้นพบ Anubis ซึ่งเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่แบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความสามารถในการ เข้ารหัสและทำลายข้อมูล โดยมัลแวร์นี้สามารถลบไฟล์อย่างถาวรหลังจากเข้ารหัส ทำให้เหยื่อไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้ แม้จะจ่ายค่าไถ่. รายละเอียดการโจมตี ✅ Anubis สามารถเข้ารหัสข้อมูลบนระบบ Windows และมีโหมด "wipe mode" ที่สามารถลบไฟล์อย่างถาวร. ✅ มัลแวร์นี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2024 โดย Trend Micro ซึ่งพบว่ามีความคล้ายคลึงกับมัลแวร์ Sphinx. ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลัง Anubis กำลังขยายเครือข่าย โดยเสนอส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 80% ให้กับผู้ร่วมขบวนการ. ✅ มัลแวร์แพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่ง ที่ปลอมแปลงเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ Anubis สามารถทำให้ข้อมูลสูญหายอย่างถาวร แม้เหยื่อจะยอมจ่ายค่าไถ่. ‼️ มัลแวร์สามารถลบ Shadow Copies ทำให้การกู้คืนข้อมูลจากระบบ Windows เป็นไปไม่ได้. ‼️ องค์กรที่ตกเป็นเหยื่ออาจต้องเผชิญกับความเสียหายทางธุรกิจ เนื่องจากข้อมูลสำคัญถูกทำลาย. แนวทางป้องกัน ✅ หลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์แนบจากอีเมลที่น่าสงสัย และตรวจสอบแหล่งที่มาของอีเมลก่อนคลิก. ✅ สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ระบบสำรองข้อมูลที่แยกออกจากเครือข่ายหลัก. ✅ ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยที่สามารถตรวจจับ Ransomware เช่น Microsoft Defender for Endpoint. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์ ✅ Microsoft เสนอเครื่องมือรักษาความปลอดภัยฟรีให้กับยุโรป เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์. ✅ ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกที่บังคับให้เปิดเผยการจ่ายค่าไถ่ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการรับมือกับ Ransomware. ‼️ มัลแวร์ที่สามารถทำลายข้อมูลอาจถูกใช้เพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายค่าไถ่เร็วขึ้น โดยไม่ให้โอกาสในการเจรจา. https://www.techspot.com/news/108332-anubis-ransomware-can-encrypt-destroy-data-making-file.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Anubis ransomware can encrypt and destroy data, making file recovery impossible
    Security researchers have discovered a new Ransomware-as-a-Service campaign with highly destructive potential. Anubis has only been around for a few months and fortunately, hasn't claimed many victims...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้
    นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.

    รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่
    ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน.
    เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข.
    พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน.
    เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย.
    การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ.
    การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม.

    แนวทางการนำไปใช้
    ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร.
    นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง.
    ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG
    IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029.
    การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG.
    การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง.

    https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้ นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ. รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่ ✅ ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน. ✅ เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข. ✅ พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน. ✅ เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย. ‼️ การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ. ‼️ การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม. แนวทางการนำไปใช้ ✅ ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร. ✅ นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง. ✅ ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG ✅ IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029. ✅ การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG. ‼️ การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง. https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Quantum upgrade makes random number generation fully traceable
    Physicists at the National Institute of Standards and Technology in Boulder, Colorado, have upgraded their previously developed quantum-based method for true random number generation. Thanks to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts