• “Signal เปิดตัวฟีเจอร์ Secure Backups สำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส ปลอดภัยขั้นสุด!”

    ลองจินตนาการว่า...คุณใช้ Signal เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข้อความหวานๆ รูปครอบครัว หรือเอกสารลับทางธุรกิจ แล้ววันหนึ่งโทรศัพท์คุณพังหรือหาย—ทุกอย่างหายไปหมด ไม่มีทางกู้คืนได้เลย

    นั่นคือปัญหาที่ Signal เพิ่งแก้ไขด้วยฟีเจอร์ใหม่ “Secure Backups” ซึ่งเปิดให้ใช้ในเวอร์ชันเบต้าบน Android แล้ว และจะตามมาใน iOS และ Desktop เร็วๆ นี้

    ฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ “เลือกเปิดใช้งานเอง” (opt-in) เพื่อสำรองข้อมูลการสนทนาแบบเข้ารหัสปลายทาง (end-to-end encrypted) โดยไม่มีใคร—including Signal เอง—สามารถเข้าถึงได้ ยกเว้นคุณคนเดียวผ่าน “รหัสกู้คืน” ที่ยาวถึง 64 ตัวอักษร ซึ่งถ้าคุณทำหาย ก็ไม่มีใครช่วยคุณได้เลย

    ที่น่าสนใจคือ Signal ยังเปิดตัวระบบสมัครสมาชิกแบบเสียเงินครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแอป เพื่อให้คุณสามารถสำรองไฟล์มีเดียย้อนหลังเกิน 45 วันได้ โดยคิดค่าบริการเพียง $1.99 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับบริการอื่นที่มักแลกมาด้วยการขายข้อมูลผู้ใช้

    และทั้งหมดนี้ยังคงยึดมั่นในหลักการ “ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้” และ “ไม่ผูกบัญชีสำรองกับตัวตนของผู้ใช้” ซึ่งเป็นหัวใจของ Signal มาตลอด

    ฟีเจอร์ใหม่: Secure Backups
    เปิดให้ใช้ในเวอร์ชันเบต้าบน Android แล้ว
    จะขยายไปยัง iOS และ Desktop ในอนาคต
    เป็นฟีเจอร์แบบ opt-in ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานเอง
    สำรองข้อมูลแบบเข้ารหัสปลายทาง (end-to-end encryption)
    สำรองข้อความทั้งหมดและไฟล์มีเดียย้อนหลัง 45 วันได้ฟรี
    มีระบบสมัครสมาชิก $1.99/เดือน สำหรับการสำรองไฟล์มีเดียย้อนหลังเกิน 45 วัน
    ใช้เทคโนโลยี zero-knowledge ไม่ผูกกับบัญชีผู้ใช้หรือข้อมูลการชำระเงิน
    สำรองข้อมูลใหม่ทุกวันโดยอัตโนมัติ
    ข้อมูลที่ถูกตั้งให้ลบภายใน 24 ชั่วโมงจะไม่ถูกสำรองไว้

    ความปลอดภัยของระบบ
    ใช้รหัสกู้คืน 64 ตัวอักษรที่สร้างบนอุปกรณ์ของผู้ใช้
    Signal ไม่สามารถเข้าถึงหรือกู้คืนรหัสนี้ได้
    แนะนำให้เก็บรหัสไว้ในที่ปลอดภัย เช่น สมุดโน้ตหรือ password manager
    ไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลสำรองกับบัญชีผู้ใช้โดยตรง

    คำเตือนสำคัญ
    หากทำรหัสกู้คืนหาย จะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้อีกเลย
    ข้อมูลที่ถูกลบหรือตั้งให้หายไปภายใน 24 ชั่วโมงจะไม่อยู่ในสำรอง
    ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์เอง มิฉะนั้นจะไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ
    การสำรองข้อมูลมีข้อจำกัดในเวอร์ชันฟรี (45 วันของไฟล์มีเดีย)

    https://signal.org/blog/introducing-secure-backups/
    🔐 “Signal เปิดตัวฟีเจอร์ Secure Backups สำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส ปลอดภัยขั้นสุด!” ลองจินตนาการว่า...คุณใช้ Signal เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข้อความหวานๆ รูปครอบครัว หรือเอกสารลับทางธุรกิจ แล้ววันหนึ่งโทรศัพท์คุณพังหรือหาย—ทุกอย่างหายไปหมด ไม่มีทางกู้คืนได้เลย นั่นคือปัญหาที่ Signal เพิ่งแก้ไขด้วยฟีเจอร์ใหม่ “Secure Backups” ซึ่งเปิดให้ใช้ในเวอร์ชันเบต้าบน Android แล้ว และจะตามมาใน iOS และ Desktop เร็วๆ นี้ ฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ “เลือกเปิดใช้งานเอง” (opt-in) เพื่อสำรองข้อมูลการสนทนาแบบเข้ารหัสปลายทาง (end-to-end encrypted) โดยไม่มีใคร—including Signal เอง—สามารถเข้าถึงได้ ยกเว้นคุณคนเดียวผ่าน “รหัสกู้คืน” ที่ยาวถึง 64 ตัวอักษร ซึ่งถ้าคุณทำหาย ก็ไม่มีใครช่วยคุณได้เลย ที่น่าสนใจคือ Signal ยังเปิดตัวระบบสมัครสมาชิกแบบเสียเงินครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแอป เพื่อให้คุณสามารถสำรองไฟล์มีเดียย้อนหลังเกิน 45 วันได้ โดยคิดค่าบริการเพียง $1.99 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับบริการอื่นที่มักแลกมาด้วยการขายข้อมูลผู้ใช้ และทั้งหมดนี้ยังคงยึดมั่นในหลักการ “ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้” และ “ไม่ผูกบัญชีสำรองกับตัวตนของผู้ใช้” ซึ่งเป็นหัวใจของ Signal มาตลอด ✅ ฟีเจอร์ใหม่: Secure Backups ➡️ เปิดให้ใช้ในเวอร์ชันเบต้าบน Android แล้ว ➡️ จะขยายไปยัง iOS และ Desktop ในอนาคต ➡️ เป็นฟีเจอร์แบบ opt-in ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานเอง ➡️ สำรองข้อมูลแบบเข้ารหัสปลายทาง (end-to-end encryption) ➡️ สำรองข้อความทั้งหมดและไฟล์มีเดียย้อนหลัง 45 วันได้ฟรี ➡️ มีระบบสมัครสมาชิก $1.99/เดือน สำหรับการสำรองไฟล์มีเดียย้อนหลังเกิน 45 วัน ➡️ ใช้เทคโนโลยี zero-knowledge ไม่ผูกกับบัญชีผู้ใช้หรือข้อมูลการชำระเงิน ➡️ สำรองข้อมูลใหม่ทุกวันโดยอัตโนมัติ ➡️ ข้อมูลที่ถูกตั้งให้ลบภายใน 24 ชั่วโมงจะไม่ถูกสำรองไว้ ✅ ความปลอดภัยของระบบ ➡️ ใช้รหัสกู้คืน 64 ตัวอักษรที่สร้างบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ ➡️ Signal ไม่สามารถเข้าถึงหรือกู้คืนรหัสนี้ได้ ➡️ แนะนำให้เก็บรหัสไว้ในที่ปลอดภัย เช่น สมุดโน้ตหรือ password manager ➡️ ไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลสำรองกับบัญชีผู้ใช้โดยตรง ‼️ คำเตือนสำคัญ ⛔ หากทำรหัสกู้คืนหาย จะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้อีกเลย ⛔ ข้อมูลที่ถูกลบหรือตั้งให้หายไปภายใน 24 ชั่วโมงจะไม่อยู่ในสำรอง ⛔ ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์เอง มิฉะนั้นจะไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ ⛔ การสำรองข้อมูลมีข้อจำกัดในเวอร์ชันฟรี (45 วันของไฟล์มีเดีย) https://signal.org/blog/introducing-secure-backups/
    SIGNAL.ORG
    Introducing Signal Secure Backups
    In the past, if you broke or lost your phone, your Signal message history was gone. This has been a challenge for people whose most important conversations happen on Signal. Think family photos, sweet messages, important documents, or anything else you don’t want to lose forever. This explains wh...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก KB5063878: เมื่ออัปเดตเพื่อป้องกัน กลับกลายเป็นข้อกล่าวหาเรื่องทำลาย

    ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2025 ผู้ใช้ Windows หลายคนเริ่มรายงานว่า SSD ของตน “หายไป” หรือ “พัง” หลังจากติดตั้งอัปเดต KB5063878 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพตช์ความปลอดภัย Windows 11 24H2 โดยเฉพาะเมื่อมีการเขียนไฟล์ต่อเนื่องเกิน 50GB บนไดรฟ์ที่มีข้อมูลเกิน 60% ขึ้นไป

    บางรายงานชี้ว่า SSD ที่ไม่มี DRAM และใช้คอนโทรลเลอร์ Phison ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่เมื่อมีการทดสอบ SSD 21 รุ่น กลับพบว่าแบรนด์อื่นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม Microsoft และ Phison ต่างก็ออกมายืนยันว่าไม่สามารถ “ทำให้เกิดปัญหา” ได้ในการทดสอบกว่า 4,500 ชั่วโมง และ 2,200 รอบการเขียน

    แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอัปเดตเป็นสาเหตุ แต่เอกสารลับที่อ้างว่าเป็นรายชื่อคอนโทรลเลอร์ที่ได้รับผลกระทบก็ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้ Phison ต้องออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่น พร้อมขู่ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ปล่อยข้อมูลเท็จ

    Microsoft เองก็ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลจาก telemetry หรือการแจ้งจากลูกค้าโดยตรงที่ชี้ว่าอัปเดตนี้ทำให้ SSD พัง และแนะนำให้ผู้ใช้ที่พบปัญหาแจ้งกลับเพื่อสร้าง “paper trail” ที่จะช่วยให้ตรวจสอบได้ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-swats-down-reports-of-ssd-failures-in-windows-company-says-recent-update-didnt-cause-storage-failures
    🎙️ เรื่องเล่าจาก KB5063878: เมื่ออัปเดตเพื่อป้องกัน กลับกลายเป็นข้อกล่าวหาเรื่องทำลาย ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2025 ผู้ใช้ Windows หลายคนเริ่มรายงานว่า SSD ของตน “หายไป” หรือ “พัง” หลังจากติดตั้งอัปเดต KB5063878 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพตช์ความปลอดภัย Windows 11 24H2 โดยเฉพาะเมื่อมีการเขียนไฟล์ต่อเนื่องเกิน 50GB บนไดรฟ์ที่มีข้อมูลเกิน 60% ขึ้นไป บางรายงานชี้ว่า SSD ที่ไม่มี DRAM และใช้คอนโทรลเลอร์ Phison ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่เมื่อมีการทดสอบ SSD 21 รุ่น กลับพบว่าแบรนด์อื่นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม Microsoft และ Phison ต่างก็ออกมายืนยันว่าไม่สามารถ “ทำให้เกิดปัญหา” ได้ในการทดสอบกว่า 4,500 ชั่วโมง และ 2,200 รอบการเขียน แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอัปเดตเป็นสาเหตุ แต่เอกสารลับที่อ้างว่าเป็นรายชื่อคอนโทรลเลอร์ที่ได้รับผลกระทบก็ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้ Phison ต้องออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่น พร้อมขู่ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ปล่อยข้อมูลเท็จ Microsoft เองก็ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลจาก telemetry หรือการแจ้งจากลูกค้าโดยตรงที่ชี้ว่าอัปเดตนี้ทำให้ SSD พัง และแนะนำให้ผู้ใช้ที่พบปัญหาแจ้งกลับเพื่อสร้าง “paper trail” ที่จะช่วยให้ตรวจสอบได้ในอนาคต https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-swats-down-reports-of-ssd-failures-in-windows-company-says-recent-update-didnt-cause-storage-failures
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (2)
    เอกสารยาวเกือบ 200 หน้า ทำให้เห็นเค้าลางๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก เพราะอะไร แหม! ไอ้จิกโก๋ นี่มันไม่โง่นะ มันมองหลายมิติ ทั้งในด้านทรัพยากร ด้านการเมือง ด้านสังคม และด้านความมั่นคงของประเทศ เพราะฉะนั้นจะรู้จักว่าจิกโก๋คิดอย่างไร อย่าทำตัวเป็นพวกจอแบน หรือที่สมัยนี้ เขาเรียกว่าพวกโลกสวยน่ะ
    ในการดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เอกสารลับซุกลึกนี้ อเมริกาแบ่งประเทศเป้าหมาย 13 ประเทศ เป็น 3 กลุ่ม
    – กลุ่มที่ 1 คือ ประเทศที่ยากจน อัตราการเจริญเติบโตของพลเมืองสูง และไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ประเทศพวกนี้ก็จะเป็นภาระของอเมริกา ในฐานะพี่เบิ้มและประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี ที่จะต้องเลี้ยงดูและให้ความช่วยเหลือ
    – กลุ่มที่ 2 คือ ประเทศที่ยากจน อัตราการเจริญเติบโตของพลเมืองสูง แต่มีทรัพยากรธรรมชาติมีค่า อยู่ในประเทศดังกล่าว และเป็นทรัพยากรที่อเมริกาต้องการ โดยประเทศดังกล่าวจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ถ้าประเทศเหล่านี้มีประชากรเพิ่มขึ้นสูง ทรัพยากรของประเทศนั้น ก็อาจจะเหลือไม่เพียงพอกับความต้องการของอเมริกา
    – กลุ่มที่ 3 คือ ประเทศที่ยากจน อัตราการเจริญเติบโตของพลเมืองสูง แต่มีทรัพยากรมีค่าอยู่ในประเทศดังกล่าว และเป็นทรัพยากรที่มีการแข่งขันกันสูงในการครอบครองระหว่างประเทศ และหากประเทศใดได้ครอบครอง ก็จะมีความได้เปรียบ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของอเมริกา
    ที่น่าสนใจ ในเอกสารดังกล่าว ระบุไว้ตอนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากร ว่าปัญหาการเชื่อมโยงระหว่างจำนวนประชากร กับปริมาณของทรัพยากร ในต่างประเทศที่อเมริกาต้องการนั้น อันที่จริงไม่ได้อยู่ที่ความเพียงพอของทรัพยากรอย่างเดียว
    ปัญหาที่สำคัญกว่านั้น คือ การเข้าไปถึงทรัพยากรนั้นมากกว่า (จะเข้าไปขโมยของเขาอย่างไรน่ะ) โดยเฉพาะถ้าการเข้าไปถึง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเมืองของประเทศเจ้าของทรัพยากรนั้น ซึ่งจะสร้างความยุ่งยาก หรือสร้างเงื่อนไขเกี่ยวกับการสำรวจ การขุดเจาะ การใช้สอย การแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง อเมริกากับรัฐบาลของประเทศเจ้าของทรัพยากร
    นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าววิเคราะห์ด้วยว่า จำนวนประชากรของแต่ละประเทศ ก็เป็นเหตุปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม และการเมืองในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และฐานะทางเศรษฐกิจดี อัตราการเจริญเติบโตของประชากร จะอยู่ที่ต่ำกว่าร้อยละ 1 ต่อปี และประเทศเหล่านี้ จะมีปัญหาทางสังคมและการเมืองน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย ในขณะที่ประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา อัตราการเจริญเติบโตของประชากรจะอยู่ที่อัตราร้อยละ 2.7 ถึงร้อยละ 3 ต่อปี และประเทศเหล่านี้ จะมีปัญหาสังคมและทางการเมืองสูง
    ข้อเสนอตามเอกสารนี้ระบุว่า การแก้ปัญหาเบื้องต้น ที่น่าจะทำได้ง่ายและได้ผลที่สุด คือ การทำให้อัตราการเติบโตของประชากร ในประเทศเป้าหมาย เหลือศูนย์ และหากยังมีปัญหาทางสังคมและการเมือง ก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น โดยวิธีการอื่นต่อไป

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (2) เอกสารยาวเกือบ 200 หน้า ทำให้เห็นเค้าลางๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก เพราะอะไร แหม! ไอ้จิกโก๋ นี่มันไม่โง่นะ มันมองหลายมิติ ทั้งในด้านทรัพยากร ด้านการเมือง ด้านสังคม และด้านความมั่นคงของประเทศ เพราะฉะนั้นจะรู้จักว่าจิกโก๋คิดอย่างไร อย่าทำตัวเป็นพวกจอแบน หรือที่สมัยนี้ เขาเรียกว่าพวกโลกสวยน่ะ ในการดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เอกสารลับซุกลึกนี้ อเมริกาแบ่งประเทศเป้าหมาย 13 ประเทศ เป็น 3 กลุ่ม – กลุ่มที่ 1 คือ ประเทศที่ยากจน อัตราการเจริญเติบโตของพลเมืองสูง และไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ประเทศพวกนี้ก็จะเป็นภาระของอเมริกา ในฐานะพี่เบิ้มและประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี ที่จะต้องเลี้ยงดูและให้ความช่วยเหลือ – กลุ่มที่ 2 คือ ประเทศที่ยากจน อัตราการเจริญเติบโตของพลเมืองสูง แต่มีทรัพยากรธรรมชาติมีค่า อยู่ในประเทศดังกล่าว และเป็นทรัพยากรที่อเมริกาต้องการ โดยประเทศดังกล่าวจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ถ้าประเทศเหล่านี้มีประชากรเพิ่มขึ้นสูง ทรัพยากรของประเทศนั้น ก็อาจจะเหลือไม่เพียงพอกับความต้องการของอเมริกา – กลุ่มที่ 3 คือ ประเทศที่ยากจน อัตราการเจริญเติบโตของพลเมืองสูง แต่มีทรัพยากรมีค่าอยู่ในประเทศดังกล่าว และเป็นทรัพยากรที่มีการแข่งขันกันสูงในการครอบครองระหว่างประเทศ และหากประเทศใดได้ครอบครอง ก็จะมีความได้เปรียบ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของอเมริกา ที่น่าสนใจ ในเอกสารดังกล่าว ระบุไว้ตอนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากร ว่าปัญหาการเชื่อมโยงระหว่างจำนวนประชากร กับปริมาณของทรัพยากร ในต่างประเทศที่อเมริกาต้องการนั้น อันที่จริงไม่ได้อยู่ที่ความเพียงพอของทรัพยากรอย่างเดียว ปัญหาที่สำคัญกว่านั้น คือ การเข้าไปถึงทรัพยากรนั้นมากกว่า (จะเข้าไปขโมยของเขาอย่างไรน่ะ) โดยเฉพาะถ้าการเข้าไปถึง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเมืองของประเทศเจ้าของทรัพยากรนั้น ซึ่งจะสร้างความยุ่งยาก หรือสร้างเงื่อนไขเกี่ยวกับการสำรวจ การขุดเจาะ การใช้สอย การแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง อเมริกากับรัฐบาลของประเทศเจ้าของทรัพยากร นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าววิเคราะห์ด้วยว่า จำนวนประชากรของแต่ละประเทศ ก็เป็นเหตุปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม และการเมืองในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และฐานะทางเศรษฐกิจดี อัตราการเจริญเติบโตของประชากร จะอยู่ที่ต่ำกว่าร้อยละ 1 ต่อปี และประเทศเหล่านี้ จะมีปัญหาทางสังคมและการเมืองน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย ในขณะที่ประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา อัตราการเจริญเติบโตของประชากรจะอยู่ที่อัตราร้อยละ 2.7 ถึงร้อยละ 3 ต่อปี และประเทศเหล่านี้ จะมีปัญหาสังคมและทางการเมืองสูง ข้อเสนอตามเอกสารนี้ระบุว่า การแก้ปัญหาเบื้องต้น ที่น่าจะทำได้ง่ายและได้ผลที่สุด คือ การทำให้อัตราการเติบโตของประชากร ในประเทศเป้าหมาย เหลือศูนย์ และหากยังมีปัญหาทางสังคมและการเมือง ก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น โดยวิธีการอื่นต่อไป คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1)
    เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก
    หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ
    การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย
    – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
    – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่
    – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ
    เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา
    เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม
    เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร
    ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!)
    อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1) เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่ – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!) อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากชิปสู่ไวน์: เมื่ออดีตวิศวกร Intel ต้องเริ่มต้นใหม่ในไร่องุ่นฝรั่งเศส

    Varun Gupta เคยเป็นวิศวกรการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Intel มานานกว่า 10 ปี ก่อนจะย้ายไปทำงานกับ Microsoft ในปี 2020 แต่การย้ายงานครั้งนั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคดีใหญ่ เมื่อ Intel พบว่าเขานำเอกสารลับกว่า 4,000 ไฟล์ติดตัวไปด้วย

    เอกสารเหล่านั้นมีข้อมูลสำคัญ เช่น กลยุทธ์การตั้งราคาของ Intel และการวิเคราะห์คู่แข่ง ซึ่ง Gupta ใช้ในการเจรจาสัญญาซื้อชิปกับ Intel ในนามของ Microsoft

    หลังจากถูกจับได้ในปี 2021 เขายอมจ่ายเงินชดเชยให้ Intel เป็นจำนวน 40,000 ดอลลาร์ และในปี 2024 ถูกตั้งข้อหาทางอาญาในข้อหาครอบครองข้อมูลลับโดยมิชอบ

    แม้อัยการจะขอให้ศาลลงโทษจำคุก 8 เดือน แต่ผู้พิพากษา Amy Baggio เห็นว่าการสูญเสียชื่อเสียงและอาชีพในวงการเทคโนโลยีเป็นบทเรียนที่รุนแรงพอแล้ว จึงตัดสินให้ Gupta รับโทษคุมประพฤติ 8 เดือน และปรับเงิน 34,472 ดอลลาร์

    Gupta ตัดสินใจย้ายครอบครัวไปฝรั่งเศส และเริ่มเรียนด้านการจัดการไร่องุ่น เพื่อเข้าสู่วงการไวน์อย่างเต็มตัว—จากโลกของชิปสู่โลกขององุ่น

    https://wccftech.com/former-intel-engineer-sentenced-for-trade-secret-theft-will-now-work-in-french-winemaking-industry/
    🧠 จากชิปสู่ไวน์: เมื่ออดีตวิศวกร Intel ต้องเริ่มต้นใหม่ในไร่องุ่นฝรั่งเศส Varun Gupta เคยเป็นวิศวกรการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Intel มานานกว่า 10 ปี ก่อนจะย้ายไปทำงานกับ Microsoft ในปี 2020 แต่การย้ายงานครั้งนั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคดีใหญ่ เมื่อ Intel พบว่าเขานำเอกสารลับกว่า 4,000 ไฟล์ติดตัวไปด้วย เอกสารเหล่านั้นมีข้อมูลสำคัญ เช่น กลยุทธ์การตั้งราคาของ Intel และการวิเคราะห์คู่แข่ง ซึ่ง Gupta ใช้ในการเจรจาสัญญาซื้อชิปกับ Intel ในนามของ Microsoft หลังจากถูกจับได้ในปี 2021 เขายอมจ่ายเงินชดเชยให้ Intel เป็นจำนวน 40,000 ดอลลาร์ และในปี 2024 ถูกตั้งข้อหาทางอาญาในข้อหาครอบครองข้อมูลลับโดยมิชอบ แม้อัยการจะขอให้ศาลลงโทษจำคุก 8 เดือน แต่ผู้พิพากษา Amy Baggio เห็นว่าการสูญเสียชื่อเสียงและอาชีพในวงการเทคโนโลยีเป็นบทเรียนที่รุนแรงพอแล้ว จึงตัดสินให้ Gupta รับโทษคุมประพฤติ 8 เดือน และปรับเงิน 34,472 ดอลลาร์ Gupta ตัดสินใจย้ายครอบครัวไปฝรั่งเศส และเริ่มเรียนด้านการจัดการไร่องุ่น เพื่อเข้าสู่วงการไวน์อย่างเต็มตัว—จากโลกของชิปสู่โลกขององุ่น https://wccftech.com/former-intel-engineer-sentenced-for-trade-secret-theft-will-now-work-in-french-winemaking-industry/
    WCCFTECH.COM
    Former Intel Engineer Sentenced For Trade Secret Theft Will Now Work In French Winemaking Industry
    Varun Gupta, a former Intel employee, received two years' probation and a $34,472 fine for stealing trade secrets.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉเอกสารลับ! "Army Military Force" เปิดหลักฐานมัด 'กัมพูชา' ครอบครอง PMN-2 ชี้ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน
    https://www.thai-tai.tv/news/20442/
    .
    #ทุ่นระเบิด #PMN2 #กัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ArmyMilitaryForce #ข่าวความมั่นคง #ละเมิดอธิปไตย #IO #ฮุนเซน
    แฉเอกสารลับ! "Army Military Force" เปิดหลักฐานมัด 'กัมพูชา' ครอบครอง PMN-2 ชี้ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน https://www.thai-tai.tv/news/20442/ . #ทุ่นระเบิด #PMN2 #กัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ArmyMilitaryForce #ข่าวความมั่นคง #ละเมิดอธิปไตย #IO #ฮุนเซน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ฮุน เซน-ทักษิณ" ต้องตอบ! 'เทพไท' จี้ 3 คำถามร้อน ปมหมิ่นสถาบันฯ-เอกสารลับ-ชายชุดดำ
    https://www.thai-tai.tv/news/20418/
    .
    #เทพไท #ฮุนเซน #ทักษิณ #การเมืองไทย #ความขัดแย้ง #หมิ่นสถาบัน #เอกสารลับ #ชายชุดดำ #เสื้อแดง #กัมพูชา

    "ฮุน เซน-ทักษิณ" ต้องตอบ! 'เทพไท' จี้ 3 คำถามร้อน ปมหมิ่นสถาบันฯ-เอกสารลับ-ชายชุดดำ https://www.thai-tai.tv/news/20418/ . #เทพไท #ฮุนเซน #ทักษิณ #การเมืองไทย #ความขัดแย้ง #หมิ่นสถาบัน #เอกสารลับ #ชายชุดดำ #เสื้อแดง #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อภิสิทธิ์" ยัน! เอกสารลับรัฐบาลสมัยตนถึงมือ "ฮุน เซน" จริง
    https://www.thai-tai.tv/news/20389/
    .
    #อภิสิทธิ์ #ทักษิณ #ฮุนเซน #ความลับราชการ #การเมืองไทย #ถนนหมายเลข68 #เอกสารลับ #WATCHDOGCHANNEL

    "อภิสิทธิ์" ยัน! เอกสารลับรัฐบาลสมัยตนถึงมือ "ฮุน เซน" จริง https://www.thai-tai.tv/news/20389/ . #อภิสิทธิ์ #ทักษิณ #ฮุนเซน #ความลับราชการ #การเมืองไทย #ถนนหมายเลข68 #เอกสารลับ #WATCHDOGCHANNEL
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สมชาย" ท้า "ฮุนเซน" งัดหลักฐาน! เปิดคลิปลับ-เอกสารลับพิสูจน์ข้อกล่าวหา "ทักษิณ" ทรยศชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/20275/
    .
    #สมชายแสวงการ #ฮุนเซน #ทักษิณ #เปิดโปงความจริง #เอกสารลับ #คลิปหลุด #ความมั่นคงของชาติ #การเมืองไทย #ข่าวร้อน
    "สมชาย" ท้า "ฮุนเซน" งัดหลักฐาน! เปิดคลิปลับ-เอกสารลับพิสูจน์ข้อกล่าวหา "ทักษิณ" ทรยศชาติ https://www.thai-tai.tv/news/20275/ . #สมชายแสวงการ #ฮุนเซน #ทักษิณ #เปิดโปงความจริง #เอกสารลับ #คลิปหลุด #ความมั่นคงของชาติ #การเมืองไทย #ข่าวร้อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ฮุน เซน" แฉซ้ำ! "ทักษิณ" ส่งเอกสารลับรัฐบาล "อภิสิทธิ์" ให้ ลั่นเป็นความผิดฐานกบฏต่อชาติไทย จี้ "ทักษิณ" อย่าโยนความผิดและอย่าหยาบคาย!
    https://www.thai-tai.tv/news/20270/
    .
    #ฮุนเซน #ทักษิณ #อภิสิทธิ์ #ความลับชาติ #กบฏต่อชาติ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #กัมพูชา #อนุทิน #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย
    "ฮุน เซน" แฉซ้ำ! "ทักษิณ" ส่งเอกสารลับรัฐบาล "อภิสิทธิ์" ให้ ลั่นเป็นความผิดฐานกบฏต่อชาติไทย จี้ "ทักษิณ" อย่าโยนความผิดและอย่าหยาบคาย! https://www.thai-tai.tv/news/20270/ . #ฮุนเซน #ทักษิณ #อภิสิทธิ์ #ความลับชาติ #กบฏต่อชาติ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #กัมพูชา #อนุทิน #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ฮุน เซน" แฉซ้ำ! "ทักษิณ" ส่งเอกสารลับรัฐบาล "อภิสิทธิ์" ให้ ลั่นเป็นความผิดฐานกบฏต่อชาติไทย จี้ "ทักษิณ" อย่าโยนความผิดและอย่าหยาบคาย!
    https://www.thai-tai.tv/news/20270/
    .
    #ฮุนเซน #ทักษิณ #อภิสิทธิ์ #ความลับชาติ #กบฏต่อชาติ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #กัมพูชา #อนุทิน #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย
    "ฮุน เซน" แฉซ้ำ! "ทักษิณ" ส่งเอกสารลับรัฐบาล "อภิสิทธิ์" ให้ ลั่นเป็นความผิดฐานกบฏต่อชาติไทย จี้ "ทักษิณ" อย่าโยนความผิดและอย่าหยาบคาย! https://www.thai-tai.tv/news/20270/ . #ฮุนเซน #ทักษิณ #อภิสิทธิ์ #ความลับชาติ #กบฏต่อชาติ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #กัมพูชา #อนุทิน #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯพระตะบอง กัมพูชา ส่งเอกสารลับ 2 ฉบับ ถึง ผู้ว่าฯจันทบุรี
    https://www.thai-tai.tv/news/19617/
    ผู้ว่าฯพระตะบอง กัมพูชา ส่งเอกสารลับ 2 ฉบับ ถึง ผู้ว่าฯจันทบุรี https://www.thai-tai.tv/news/19617/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ถึงว่า ทองคำ ทำพฤติกรรมแปลกๆ...!!! ##
    ..
    ..
    ล่าสุด รัฐเถื่อน-ก่อการร้าย-นักฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อิสราเอล โจม ยิ่งถล่มเข้าไปในกรุง เตหะราน ของ อิหร่าน...
    .
    และ ลอบสังหาร ผู้บัญชาการกองทัพแห่งอิหร่าน...
    .
    มีข่าวว่า ลอบสังหารสำเร็จ และ อีกฝั่งก็บอกว่า ลอบสังหารไม่สำเร็จ
    ....
    ....
    - เอกสารลับที่ตั้งนิวเคลียร์ของ อิสราเอล รั่วไหล
    - เจรจาก็นิวเคลียร์กับ อิหร่าน ล้มเหลว
    - อเมริกา ก็ระบุจะไม่ร่วมโจมตี อิหร่าน
    .
    อิสราเอล หวาดระแวง อยู่ไม่เป็นสุข...
    .
    รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ คิดว่าเปิดก่อนได้เปรียบ...
    .
    เพราะประเมินแล้วว่า ยังไงๆ อเมริกา ก็ต้องช่วยคุ้มครอง อิสราเอล จาก ห่าขีปนาวุธ ของ อิหร่าน ได้...
    ..
    ..
    แต่ที่แน่ๆ น้ำมัน และ ทองคำ พุ่งนะครับ...
    ## ถึงว่า ทองคำ ทำพฤติกรรมแปลกๆ...!!! ## .. .. ล่าสุด รัฐเถื่อน-ก่อการร้าย-นักฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อิสราเอล โจม ยิ่งถล่มเข้าไปในกรุง เตหะราน ของ อิหร่าน... . และ ลอบสังหาร ผู้บัญชาการกองทัพแห่งอิหร่าน... . มีข่าวว่า ลอบสังหารสำเร็จ และ อีกฝั่งก็บอกว่า ลอบสังหารไม่สำเร็จ .... .... - เอกสารลับที่ตั้งนิวเคลียร์ของ อิสราเอล รั่วไหล - เจรจาก็นิวเคลียร์กับ อิหร่าน ล้มเหลว - อเมริกา ก็ระบุจะไม่ร่วมโจมตี อิหร่าน . อิสราเอล หวาดระแวง อยู่ไม่เป็นสุข... . รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ คิดว่าเปิดก่อนได้เปรียบ... . เพราะประเมินแล้วว่า ยังไงๆ อเมริกา ก็ต้องช่วยคุ้มครอง อิสราเอล จาก ห่าขีปนาวุธ ของ อิหร่าน ได้... .. .. แต่ที่แน่ๆ น้ำมัน และ ทองคำ พุ่งนะครับ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • YMTC ฟ้อง Micron รอบใหม่ กล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนแคมเปญข้อมูลเท็จ
    Yangtze Memory Technologies Company (YMTC) ได้ยื่นฟ้อง Micron เป็นครั้งที่สาม โดยกล่าวหาว่า Micron ให้ทุนสนับสนุนแคมเปญข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเทคโนโลยีจีน ผ่านบริษัทประชาสัมพันธ์ DCI Group

    YMTC อ้างว่า Micron ล้าหลังในด้านนวัตกรรมและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จึงใช้ วิธีการที่ผิดกฎหมายเพื่อแข่งขัน โดยสนับสนุนเว็บไซต์ China Tech Threat (CTT) ซึ่งกล่าวหา YMTC ว่า ชิป NAND ของบริษัทมีช่องโหว่ที่ส่งข้อมูลไปยังรัฐบาลจีน

    ข้อมูลจากข่าว
    - YMTC ฟ้อง Micron เป็นครั้งที่สาม กล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนแคมเปญข้อมูลเท็จ
    - Micron ถูกกล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนเว็บไซต์ China Tech Threat ผ่าน DCI Group
    - CTT อ้างว่า YMTC มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน
    - YMTC ระบุว่าชิป NAND ไม่มีความสามารถในการสื่อสารข้อมูลออกไปโดยตัวเอง
    - Micron และ Dell ถูกกล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนแคมเปญต่อต้านเทคโนโลยีจีน

    ความขัดแย้งระหว่าง YMTC และ Micron
    YMTC ถูก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในปี 2022 และตอบโต้ด้วยการ ผลักดันให้จีนแบนผลิตภัณฑ์ของ Micron ในหน่วยงานรัฐบาล

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Micron ถูกสั่งให้เปิดเผยเอกสารลับ 73 หน้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท
    - Micron พยายามยื่นคำร้องเพื่อปิดกั้นคำสั่งศาล โดยอ้างว่า YMTC อาจขโมยข้อมูล
    - คดีนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - ต้องติดตามว่า Micron จะสามารถป้องกันข้อกล่าวหานี้ได้หรือไม่

    อนาคตของคดีความ YMTC vs. Micron
    คดีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอาจ ส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลเทคโนโลยีระหว่างประเทศ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/ymtc-sues-micron-again-now-over-serious-defamation-claims-micron-funded-anti-chinese-tech-misinformation-campaigns-to-get-ahead-says-ymtc
    ⚖️ YMTC ฟ้อง Micron รอบใหม่ กล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนแคมเปญข้อมูลเท็จ Yangtze Memory Technologies Company (YMTC) ได้ยื่นฟ้อง Micron เป็นครั้งที่สาม โดยกล่าวหาว่า Micron ให้ทุนสนับสนุนแคมเปญข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเทคโนโลยีจีน ผ่านบริษัทประชาสัมพันธ์ DCI Group YMTC อ้างว่า Micron ล้าหลังในด้านนวัตกรรมและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จึงใช้ วิธีการที่ผิดกฎหมายเพื่อแข่งขัน โดยสนับสนุนเว็บไซต์ China Tech Threat (CTT) ซึ่งกล่าวหา YMTC ว่า ชิป NAND ของบริษัทมีช่องโหว่ที่ส่งข้อมูลไปยังรัฐบาลจีน ✅ ข้อมูลจากข่าว - YMTC ฟ้อง Micron เป็นครั้งที่สาม กล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนแคมเปญข้อมูลเท็จ - Micron ถูกกล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนเว็บไซต์ China Tech Threat ผ่าน DCI Group - CTT อ้างว่า YMTC มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน - YMTC ระบุว่าชิป NAND ไม่มีความสามารถในการสื่อสารข้อมูลออกไปโดยตัวเอง - Micron และ Dell ถูกกล่าวหาว่าให้ทุนสนับสนุนแคมเปญต่อต้านเทคโนโลยีจีน 🔥 ความขัดแย้งระหว่าง YMTC และ Micron YMTC ถูก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในปี 2022 และตอบโต้ด้วยการ ผลักดันให้จีนแบนผลิตภัณฑ์ของ Micron ในหน่วยงานรัฐบาล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Micron ถูกสั่งให้เปิดเผยเอกสารลับ 73 หน้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท - Micron พยายามยื่นคำร้องเพื่อปิดกั้นคำสั่งศาล โดยอ้างว่า YMTC อาจขโมยข้อมูล - คดีนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน - ต้องติดตามว่า Micron จะสามารถป้องกันข้อกล่าวหานี้ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของคดีความ YMTC vs. Micron คดีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอาจ ส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลเทคโนโลยีระหว่างประเทศ https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/ymtc-sues-micron-again-now-over-serious-defamation-claims-micron-funded-anti-chinese-tech-misinformation-campaigns-to-get-ahead-says-ymtc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตพนักงาน SK Hynix ถูกกล่าวหาว่าถ่ายโอนเทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูงให้ Huawei อดีตพนักงานของ SK Hynix ถูกกล่าวหาว่า ถ่ายโอนเทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูง ซึ่งใช้ใน 3D NAND, HBM และ CMOS image sensors ไปยัง HiSilicon ของ Huawei โดยไม่ได้รับอนุญาต

    แม้ว่า Huawei จะไม่ได้ร้องขอเทคโนโลยีเฉพาะเจาะจง แต่พนักงานรายนี้ นำข้อมูลลับจาก SK Hynix ไปใช้ในการสมัครงานกับบริษัทจีน และ ลบเครื่องหมายระบุบริษัทออกจากเอกสารเพื่อปกปิดแหล่งที่มา

    อดีตพนักงาน SK Hynix ถูกกล่าวหาว่าถ่ายโอนเทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูงให้ Huawei
    - รวมถึง เทคโนโลยี CMOS image sensors และ hybrid bonding chip packaging

    Huawei ไม่ได้ร้องขอเทคโนโลยีเฉพาะเจาะจง แต่รับข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจ้างงาน
    - พนักงานรายนี้ ใช้ข้อมูลลับในการสมัครงานกับบริษัทจีน

    SK Hynix ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลเป็นกระบวนการ wafer-to-wafer ทั่วไป
    - ไม่ใช่ เทคนิค hybrid bonding ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์

    พนักงานรายนี้ถ่ายภาพเอกสารลับกว่า 11,000 ภาพ และลบเครื่องหมายบริษัทออกเพื่อปกปิดแหล่งที่มา
    - ใช้เอกสารเหล่านี้ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการสมัครงาน

    กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการถ่ายโอนเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - โดยเฉพาะในช่วงที่ จีนพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-sk-hynix-employee-transferred-advanced-chip-packaging-technologies-to-huawei
    อดีตพนักงาน SK Hynix ถูกกล่าวหาว่าถ่ายโอนเทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูงให้ Huawei อดีตพนักงานของ SK Hynix ถูกกล่าวหาว่า ถ่ายโอนเทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูง ซึ่งใช้ใน 3D NAND, HBM และ CMOS image sensors ไปยัง HiSilicon ของ Huawei โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่า Huawei จะไม่ได้ร้องขอเทคโนโลยีเฉพาะเจาะจง แต่พนักงานรายนี้ นำข้อมูลลับจาก SK Hynix ไปใช้ในการสมัครงานกับบริษัทจีน และ ลบเครื่องหมายระบุบริษัทออกจากเอกสารเพื่อปกปิดแหล่งที่มา ✅ อดีตพนักงาน SK Hynix ถูกกล่าวหาว่าถ่ายโอนเทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูงให้ Huawei - รวมถึง เทคโนโลยี CMOS image sensors และ hybrid bonding chip packaging ✅ Huawei ไม่ได้ร้องขอเทคโนโลยีเฉพาะเจาะจง แต่รับข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจ้างงาน - พนักงานรายนี้ ใช้ข้อมูลลับในการสมัครงานกับบริษัทจีน ✅ SK Hynix ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลเป็นกระบวนการ wafer-to-wafer ทั่วไป - ไม่ใช่ เทคนิค hybrid bonding ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ✅ พนักงานรายนี้ถ่ายภาพเอกสารลับกว่า 11,000 ภาพ และลบเครื่องหมายบริษัทออกเพื่อปกปิดแหล่งที่มา - ใช้เอกสารเหล่านี้ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการสมัครงาน ✅ กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการถ่ายโอนเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - โดยเฉพาะในช่วงที่ จีนพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-sk-hynix-employee-transferred-advanced-chip-packaging-technologies-to-huawei
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ

    ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก**
    1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)**
    - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่)
    - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ

    2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)**
    - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers)
    - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens)

    3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ**
    - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
    - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

    4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก**
    - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน

    ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น**
    - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน
    - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ
    - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ

    ### **ผลกระทบ**
    - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน
    - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ
    - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม

    ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก**
    - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน
    - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท
    - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI)

    ### **ความท้าทาย**
    - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ
    - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก** 1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)** - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่) - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ 2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)** - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers) - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens) 3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ** - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว 4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก** - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น** - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ ### **ผลกระทบ** - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก** - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI) ### **ความท้าทาย** - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 795 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลายเป็นเรื่องเมื่อเอกสารลับ CIA ภายใต้โปรเจกต์ชื่อ 'Project Sun Streak' อ้างว่าสามารถรู้ถึงพิกัดที่ตั้งของหีบแห่งพันธสัญญา (Ark of the Covenant) ที่เชื่อกันว่าบรรจุแผ่นศิลาพระโอวาทที่ได้สลักบัญญัติ 10 ประการเอาไว้ซึ่งโมเสสได้รับมาจากพระเจ้าแต่สูญหายไปสมัยบาบิโลนปล้นสะดมเยรูซาเล็ม 586 BC
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028984
    กลายเป็นเรื่องเมื่อเอกสารลับ CIA ภายใต้โปรเจกต์ชื่อ 'Project Sun Streak' อ้างว่าสามารถรู้ถึงพิกัดที่ตั้งของหีบแห่งพันธสัญญา (Ark of the Covenant) ที่เชื่อกันว่าบรรจุแผ่นศิลาพระโอวาทที่ได้สลักบัญญัติ 10 ประการเอาไว้ซึ่งโมเสสได้รับมาจากพระเจ้าแต่สูญหายไปสมัยบาบิโลนปล้นสะดมเยรูซาเล็ม 586 BC . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028984
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1959 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA อยู่เบื้องหลังลอบสังหาร JFK อิสราเอล-อังกฤษ-ออสซี่ เกี่ยวโยง : คนเคาะข่าว 25-03-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #JFK #ลอบสังหารJFK #CIA #หน่วยข่าวกรอง #อิสราเอล #อังกฤษ #ออสเตรเลีย #ข่าวต่างประเทศ #ทฤษฎีสมคบคิด #Geopolitics #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #ThaiTimes #เบื้องหลังการเมือง #วิเคราะห์ข่าว #เอกสารลับ #การเมืองโลก
    CIA อยู่เบื้องหลังลอบสังหาร JFK อิสราเอล-อังกฤษ-ออสซี่ เกี่ยวโยง : คนเคาะข่าว 25-03-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #JFK #ลอบสังหารJFK #CIA #หน่วยข่าวกรอง #อิสราเอล #อังกฤษ #ออสเตรเลีย #ข่าวต่างประเทศ #ทฤษฎีสมคบคิด #Geopolitics #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #ThaiTimes #เบื้องหลังการเมือง #วิเคราะห์ข่าว #เอกสารลับ #การเมืองโลก
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1155 มุมมอง 16 1 รีวิว
  • เปิดเอกสารลับสหรัฐ! บลูไดมอนด์ คือเรื่องหลอกลวง ของฝ่ายล้มล้างสถาบันกษัตริย์
    https://www.thai-tai.tv/blog/17763/
    เปิดเอกสารลับสหรัฐ! บลูไดมอนด์ คือเรื่องหลอกลวง ของฝ่ายล้มล้างสถาบันกษัตริย์ https://www.thai-tai.tv/blog/17763/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดเอกสารลับคดีลอบสังหารJFK..มีอะไรในนั้น? : คนเคาะข่าว 20-03-68

    : อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ

    ดำเนินรายการโดย อุษณีย์ เอกอุษณีย์

    #คนเคาะข่าว #JFK #ลอบสังหารJFK #เอกสารลับ #CIA #การเมืองสหรัฐ #ข่าวต่างประเทศ #ทฤษฎีสมคบคิด #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #ไทยTimes #ความมั่นคง #Geopolitics #วิเคราะห์การเมือง
    เปิดเอกสารลับคดีลอบสังหารJFK..มีอะไรในนั้น? : คนเคาะข่าว 20-03-68 : อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย อุษณีย์ เอกอุษณีย์ #คนเคาะข่าว #JFK #ลอบสังหารJFK #เอกสารลับ #CIA #การเมืองสหรัฐ #ข่าวต่างประเทศ #ทฤษฎีสมคบคิด #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #ไทยTimes #ความมั่นคง #Geopolitics #วิเคราะห์การเมือง
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1090 มุมมอง 5 1 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (USAID) ซึ่งเป็นช่องทางหลักของวอชิงตันในการส่งมอบสนับสนุนโครงการต่างๆในต่างแดน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือ ทำลายเอกสารลับและไฟล์ข้อมูลปริมาณมาก

    อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000024104
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (USAID) ซึ่งเป็นช่องทางหลักของวอชิงตันในการส่งมอบสนับสนุนโครงการต่างๆในต่างแดน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือ ทำลายเอกสารลับและไฟล์ข้อมูลปริมาณมาก อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000024104
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2809 มุมมอง 1 รีวิว
  • ดีเอสไอพบหลักฐานเด็ด! ขบวนการ “ฮั้วเลือก ส.ว.” อั้งยี่-ซ่องโจร-ฟอกเงิน โพยลับทำที่อยุธยา-ปทุมธานี-นครนายก

    ดีเอสไอเปิดโปงขบวนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบหลักฐานโยงข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน จัดทำโพยลับที่อยุธยา ปทุมธานี นครนายก พร้อมแฉพฤติกรรมการกระทำที่ซับซ้อน มีหลักฐานชัดเจน!

    เปิดโปงขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. DSI ส่งเอกสารลับถึง กกต. กลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนวงการเมือง เมื่อมีเอกสารลับระดับ "ด่วนที่สุด" หลุดออกมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ส่งถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเอกสารดังกล่าว ระบุถึงผลการพิจารณาสืบสวน ตามคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกรณีฮั้วเลือก ส.ว.

    จากการสอบสวน DSI พบว่ามีมูลความผิดตามข้อกล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน โดยเป็นการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ อย่างไม่ชอบธรรม ซึ่งขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก

    สาระสำคัญของเอกสารลับ ดีเอสไอขอให้ กกต. พิจารณาว่า จะรับดำเนินคดีเองในส่วนใดบ้าง และให้ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 2568

    แต่จนถึงปัจจุบัน กกต. ยังไม่มีการตอบกลับ

    เผยขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. อั้งยี่ระดับชาติ วางแผนล่วงหน้า จากผลสอบสวน DSI มีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะเชื่อได้ว่า ขบวนการอั้งยี่นี้มีอยู่จริง และมีการฟอกเงิน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ โดยพบว่า มีการจัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เป็นจำนวน 2 ชุด แต่ละชุดประกอบไปด้วย 7 คน

    โพยฮั้วเลือก ส.ว. มีอะไรบ้าง?
    สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีรายชื่ออยู่ในโพย อีก 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการวางแผน เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติโดยมิชอบ

    ความผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
    - พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2563 มาตรา 977 (3)
    - ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่)
    - พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

    เป้าหมายของขบวนการนี้
    ขบวนการนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ การแทรกแซงการเลือก ส.ว. เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ส.ว. เริ่มต้น

    วิธีการดำเนินงาน ซับซ้อนแ ละเป็นองค์กรอาชญากรรม
    จากการสอบสวน DSI พบว่าขบวนการนี้ ดำเนินงานเป็นระบบ และมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน

    ลักษณะการดำเนินงานของขบวนการฮั้วเลือก ส.ว.
    มีโครงสร้างแบบองค์กรอาชญากรรม มีลำดับชั้น และการแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ
    ฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณคะแนน เพื่อกำหนดผลลัพธ์ของการลงคะแนน ให้เป็นไปตามแผน
    จัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เพื่อกำหนดรายชื่อ ผู้ที่จะได้รับเลือกตามแผน
    เตรียมบุคคลที่เรียกว่า "พลีชีพ" ทำหน้าที่ลงคะแนนให้ตรงตามโพย
    วางแผนซับซ้อนและอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
    เชื่อมโยงกับบุคคล ที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้ทั้งหมด

    สถานที่จัดทำโพยฮั้ว
    ดีเอสไอพบว่า ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. จัดทำโพยใน 3 จังหวัดหลัก ได้แก่
    - พระนครศรีอยุธยา
    - ปทุมธานี
    - นครนายก

    ค่าตอบแทน เงินหมุนเวียนในขบวนการฮั้วเลือก ส.ว.
    ดีเอสไอพบว่าขบวนการนี้ มีการ จ่ายค่าตอบแทน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับต่างๆ

    อัตราค่าตอบแทน:
    ระดับอำเภอ 5,000 บาท
    ระดับจังหวัด 10,000 บาท
    ระดับประเทศ 40,000 - 100,000 บาท

    โบนัสพิเศษ:
    100,000 บาท หากสามารถทำให้ผู้สมัคร ได้รับเลือกเกิน 120 คน
    มัดจำล่วงหน้า 20,000 บาท และจ่ายส่วนที่เหลือหลัง กกต. รับรองผล

    DSI พบหลักฐานเด็ด! ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว.
    หลักฐานสำคัญที่พบ
    ผลการเลือก ส.ว. ตรงกับโพยฮั้ว 100%
    สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีชื่ออยู่ในโพย
    2 คน อยู่ในลำดับสำรอง รวมทั้งหมด 140 คน ตรงตามโพย
    พบ การแจกเสื้อสีเหลือง และการจัดรถตู้ไปรวมตัวที่เมืองทองธานี

    DSI พร้อมเดินหน้าคดีพิเศษ
    คดีฮั้วเลือก ส.ว. ครั้งนี้ถือเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ซับซ้อน มีขบวนการวางแผนที่ชัดเจน และมีบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมาก

    ดีเอสไอได้ขอให้ กกต. ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 68 ว่าจะดำเนินการในส่วนใดบ้าง แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับคำตอบ

    ความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นอย่างไร? ใครอยู่เบื้องหลัง? และสุดท้ายจะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่? ติดตามต่อไป!

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252327 ก.พ. 2568

    #ฮั้วเลือกสว #DSI #อั้งยี่ #ซ่องโจร #ฟอกเงิน #เลือกตั้ง #การเมืองไทย #คดีพิเศษ #ข่าวด่วน #ข่าวใหญ่
    ดีเอสไอพบหลักฐานเด็ด! ขบวนการ “ฮั้วเลือก ส.ว.” 🚨 อั้งยี่-ซ่องโจร-ฟอกเงิน โพยลับทำที่อยุธยา-ปทุมธานี-นครนายก 📌 ดีเอสไอเปิดโปงขบวนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบหลักฐานโยงข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน จัดทำโพยลับที่อยุธยา ปทุมธานี นครนายก พร้อมแฉพฤติกรรมการกระทำที่ซับซ้อน มีหลักฐานชัดเจน! 🔎 เปิดโปงขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. DSI ส่งเอกสารลับถึง กกต. กลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนวงการเมือง เมื่อมีเอกสารลับระดับ "ด่วนที่สุด" หลุดออกมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ส่งถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเอกสารดังกล่าว ระบุถึงผลการพิจารณาสืบสวน ตามคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกรณีฮั้วเลือก ส.ว. จากการสอบสวน DSI พบว่ามีมูลความผิดตามข้อกล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน โดยเป็นการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ อย่างไม่ชอบธรรม ซึ่งขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก 📌 สาระสำคัญของเอกสารลับ ดีเอสไอขอให้ กกต. พิจารณาว่า จะรับดำเนินคดีเองในส่วนใดบ้าง และให้ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 2568 แต่จนถึงปัจจุบัน กกต. ยังไม่มีการตอบกลับ 🚨 เผยขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. อั้งยี่ระดับชาติ วางแผนล่วงหน้า จากผลสอบสวน DSI มีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะเชื่อได้ว่า ขบวนการอั้งยี่นี้มีอยู่จริง และมีการฟอกเงิน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ โดยพบว่า มีการจัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เป็นจำนวน 2 ชุด แต่ละชุดประกอบไปด้วย 7 คน 📌 โพยฮั้วเลือก ส.ว. มีอะไรบ้าง? สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีรายชื่ออยู่ในโพย อีก 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการวางแผน เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติโดยมิชอบ 📌 ความผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย - พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2563 มาตรา 977 (3) - ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) - พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 💰 เป้าหมายของขบวนการนี้ ขบวนการนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ การแทรกแซงการเลือก ส.ว. เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ส.ว. เริ่มต้น 🔥 วิธีการดำเนินงาน ซับซ้อนแ ละเป็นองค์กรอาชญากรรม จากการสอบสวน DSI พบว่าขบวนการนี้ ดำเนินงานเป็นระบบ และมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน 🕵️‍♂️ ลักษณะการดำเนินงานของขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. ✅ มีโครงสร้างแบบองค์กรอาชญากรรม มีลำดับชั้น และการแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ ✅ ฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณคะแนน เพื่อกำหนดผลลัพธ์ของการลงคะแนน ให้เป็นไปตามแผน ✅ จัดทำโพยฮั้วเลือก ส.ว. เพื่อกำหนดรายชื่อ ผู้ที่จะได้รับเลือกตามแผน ✅ เตรียมบุคคลที่เรียกว่า "พลีชีพ" ทำหน้าที่ลงคะแนนให้ตรงตามโพย ✅ วางแผนซับซ้อนและอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ✅ เชื่อมโยงกับบุคคล ที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้ทั้งหมด 📌 สถานที่จัดทำโพยฮั้ว ดีเอสไอพบว่า ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. จัดทำโพยใน 3 จังหวัดหลัก ได้แก่ - พระนครศรีอยุธยา - ปทุมธานี - นครนายก 💰 ค่าตอบแทน เงินหมุนเวียนในขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. ดีเอสไอพบว่าขบวนการนี้ มีการ จ่ายค่าตอบแทน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับต่างๆ 📌 อัตราค่าตอบแทน: 🏛️ ระดับอำเภอ 5,000 บาท 🏛️ ระดับจังหวัด 10,000 บาท 🏛️ ระดับประเทศ 40,000 - 100,000 บาท 📌 โบนัสพิเศษ: 💰 100,000 บาท หากสามารถทำให้ผู้สมัคร ได้รับเลือกเกิน 120 คน 💰 มัดจำล่วงหน้า 20,000 บาท และจ่ายส่วนที่เหลือหลัง กกต. รับรองผล 🔎 DSI พบหลักฐานเด็ด! ขบวนการฮั้วเลือก ส.ว. 📌 หลักฐานสำคัญที่พบ ✔️ ผลการเลือก ส.ว. ตรงกับโพยฮั้ว 100% ✔️ สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือก 138 คน มีชื่ออยู่ในโพย ✔️ 2 คน อยู่ในลำดับสำรอง รวมทั้งหมด 140 คน ตรงตามโพย ✔️ พบ การแจกเสื้อสีเหลือง และการจัดรถตู้ไปรวมตัวที่เมืองทองธานี 📢 DSI พร้อมเดินหน้าคดีพิเศษ 📌 คดีฮั้วเลือก ส.ว. ครั้งนี้ถือเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ซับซ้อน มีขบวนการวางแผนที่ชัดเจน และมีบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมาก 📌 ดีเอสไอได้ขอให้ กกต. ตอบกลับภายในวันที่ 10 ก.พ. 68 ว่าจะดำเนินการในส่วนใดบ้าง แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับคำตอบ ⚖️ ความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นอย่างไร? ใครอยู่เบื้องหลัง? และสุดท้ายจะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่? ติดตามต่อไป! 📌 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252327 ก.พ. 2568 #ฮั้วเลือกสว #DSI #อั้งยี่ #ซ่องโจร #ฟอกเงิน #เลือกตั้ง #การเมืองไทย #คดีพิเศษ #ข่าวด่วน #ข่าวใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1432 มุมมอง 0 รีวิว
  • FBI วันอังคาร(11 ก.พ) ประกาศค้นพบเอกสารลับการลอบสังหาร JFK อีก 2,400 ไฟล์ที่หายไป เชื่ออาจมีเงื่อนงำใหม่ซ่อน สุดระทึกผู้นำหน่วยเปิดเผยความลับ JFK ของทรัมป์เชื่อ “อาจมีมือปืน 2 คน” ไม่ใช่แค่ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ มือยิง ทฤษฎีสมคบคิดเชื่อมีมือปืนมากกว่า 1 คน มี CIA อยู่เบื้องหลัง และมาเฟียอิตาลีเป็นคนรับผิดชอบ

    สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันพุธ(12 ก.พ)ว่า FBI ออกมาเปิดเผยวานนี้(11)ว่า ได้ค้นพบเอกสารที่หายไปร่วม 2,400 ไฟล์เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ JFK ถูกลอบสังหารที่เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ในรถเปิดประทุนเมื่อปี 1963 โดย ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald )

    เกิดขึ้นหลัง FBI กำลังรวบรวมเพื่อเตรียมเอกสารเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหารทั้งหมดไปให้กับสำนักงานหอจดหมายเหตุสหรัฐฯ NARA เพื่อคลายชั้นความลับก่อนเผยแพร่ต่อสาธารณะตามคำสั่งของประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ที่ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 23 ม.คที่ผ่านมา เปิดเผยเอกสารลับ 3 คดีดัง JFK รวมน้องชาย JFK และ สาธุคุณมาร์ติน ลูเธอร์ คิง หรือ MLK สั่นสะเทือนอเมริกายุค 60

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000014242

    #MGROnline #FBI #การลอบสังหาร #JFK
    FBI วันอังคาร(11 ก.พ) ประกาศค้นพบเอกสารลับการลอบสังหาร JFK อีก 2,400 ไฟล์ที่หายไป เชื่ออาจมีเงื่อนงำใหม่ซ่อน สุดระทึกผู้นำหน่วยเปิดเผยความลับ JFK ของทรัมป์เชื่อ “อาจมีมือปืน 2 คน” ไม่ใช่แค่ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ มือยิง ทฤษฎีสมคบคิดเชื่อมีมือปืนมากกว่า 1 คน มี CIA อยู่เบื้องหลัง และมาเฟียอิตาลีเป็นคนรับผิดชอบ • สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันพุธ(12 ก.พ)ว่า FBI ออกมาเปิดเผยวานนี้(11)ว่า ได้ค้นพบเอกสารที่หายไปร่วม 2,400 ไฟล์เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ JFK ถูกลอบสังหารที่เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ในรถเปิดประทุนเมื่อปี 1963 โดย ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald ) • เกิดขึ้นหลัง FBI กำลังรวบรวมเพื่อเตรียมเอกสารเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหารทั้งหมดไปให้กับสำนักงานหอจดหมายเหตุสหรัฐฯ NARA เพื่อคลายชั้นความลับก่อนเผยแพร่ต่อสาธารณะตามคำสั่งของประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ที่ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 23 ม.คที่ผ่านมา เปิดเผยเอกสารลับ 3 คดีดัง JFK รวมน้องชาย JFK และ สาธุคุณมาร์ติน ลูเธอร์ คิง หรือ MLK สั่นสะเทือนอเมริกายุค 60 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000014242 • #MGROnline #FBI #การลอบสังหาร #JFK
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 878 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพหน้าปกนิตยสารไทม์สล่าสุดทำเอาจี๊ดเมื่อจับมหาเศรษฐีพันล้าน “อีลอน มัสก์” ขึ้นปกจัดให้นั่งหลังโต๊ะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทำเนียบขาวบริหารอเมริกา นักข่าวใช้ไมโครโฟนจี้ถาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงภาพปกใหม่ โดนตอบกลับ “ยังทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?”
    .
    CNNของสหรัฐฯ รายงานวันศุกร์ (7 ก.พ.) ว่า นักข่าวชื่อดังประจำนิตยสารไทม์ส ไซมอน ชัสเตอร์ (Simon Schuster) และไบรอัน เบนเนตต์ (Brian Bennett) แสดงความเห็นว่า “มาจนถึงเวลานี้ มัสก์์ (อีลอน มัสก์) ดูเหมือนไม่อยู่ภายใต้ใครยกเว้นประธานาธิบดีทรัมป์ผู้ที่ให้อำนาจกวาดล้างแก่คนที่ช่วยให้เขาชนะเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทำตามเป้าหมายของเขา”
    .
    โดยภาพปกฮือฮาและมีสีสันของนิตยสารไทม์สล่าสุดแสดงให้เห็นมหาเศรษฐีอเมริกันเจ้าของเทสลาและสเปซเอ็กซ์ “อีลอน มัสก์” ขึ้นปกจัดให้นั่งหลังโต๊ะทำงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในห้องทำงานรูปไข่ภายในทำเนียบขาวนั่งบริหารประเทศแทนทรัมป์
    .
    มือของมัสก์ถือแก้วกาแฟและเขานั่งระหว่างธงชาติสหรัฐฯ และธงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดฉากหลังสีแดงสด เป็นภาพปกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE ที่ตั้งใหม่โดยทรัมป์ให้มัสก์บริหาร และตามมาด้วยการสั่งปิด USAID และหมายตาเพื่อล้างบางไปที่หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อื่นอีก 14 แห่ง รวมกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
    .
    CNN รายงานว่าขณะที่ทรัมป์เองวันศุกร์ (7) สั่งปลดผู้บริหารสูงสุดสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ NARA แบบฟ้าผ่าจากเหตุผลเกี่ยวข้องกับคดีทรัมป์นำเอกสารลับทำเนียบขาว รวมจดหมายจากประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน มาเก็บไว้ที่คฤหาสน์ Mar-a-Lago ที่รัฐฟลอริดา
    .
    และในวันเดียวกัน (7) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งทางบริหารสั่งตัดเงินช่วยเหลือแอฟริกาใต้ อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (8)
    .
    โดยทรัมป์ให้เหตุผลว่า เป็นการกีดกันทางเชื้อชาติอย่างไม่ชอบธรรมต่อชาวแอฟริกาใต้ผิวขาวพร้อมเสนอให้คนเหล่านั้นสามารถเข้าไปลี้ภัยต่อในอเมริกา
    .
    เป็นการออกมาวิจารณ์ต่อกฎหมายที่ทรัมป์เห็นว่าไม่ชอบธรรมในการพริทอเรียเปิดโอกาสให้สามารถยึดที่ดินของแอฟริกันผิวขาวได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเยียวยาในบางกรณี
    .
    แอฟริกาใต้เป็นประเทศบ้านเกิดของอีลอน มัสก์ ก่อนที่เขาจะย้ายไปอเมริกาและเปลี่ยนสัญชาติในที่สุด พ่อของเขาคือ เออโรล มัสก์ (Errol Musk) ปัจจุบันอายุ 79 ปี และยังอาศัยอยู่ที่แอฟริกาใต้ แต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า พ่อของเขาอ้างว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา ได้ร้องขอให้ช่วยประสานโทรศัพท์ติดต่อหารือระหว่างรามาโฟซา และลูกชายอีลอน มัสก์เกิดขึ้นก่อนข่าวสหรัฐฯ จะตัดเงินช่วยเหลือแอฟริกาใต้อ้างเหตุกฎหมายที่ดินแอฟริกาใต้
    .
    โดยการทูตหลังบ้านแบบรีบด่วนหลังผู้นำสหรัฐฯ ได้โพสต์ทางออนไลน์โดยไม่แสดงหลักฐานว่า แอฟริกาใต้กำลังยึดที่ดินและ “บางชนชั้น” กำลังได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้าย
    .
    CNN รายงานต่อว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่นิตยสารไทม์สขึ้นปก อีลอน มัสก์ หลังเมื่อพฤศจิกายนล่าสุดมีการขึ้นปกรูปเจ้าของบริษัทเทสลาพร้อมคำว่า “ประชาชนมัสก์” (Citizen Musk) แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนที่ช่วยให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้สำเร็จ
    .
    อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถามทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ (7) ถึงปกนิตยสารไทม์สล่าสุดว่าเป็นเช่นใด
    .
    เขากลับตอบกลับมาว่า “นิตยสารไทม์สยังทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?” และเสริมต่อว่า “ผมไม่รู้เลยนะนี่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013144
    ..............
    Sondhi X
    ภาพหน้าปกนิตยสารไทม์สล่าสุดทำเอาจี๊ดเมื่อจับมหาเศรษฐีพันล้าน “อีลอน มัสก์” ขึ้นปกจัดให้นั่งหลังโต๊ะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทำเนียบขาวบริหารอเมริกา นักข่าวใช้ไมโครโฟนจี้ถาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงภาพปกใหม่ โดนตอบกลับ “ยังทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?” . CNNของสหรัฐฯ รายงานวันศุกร์ (7 ก.พ.) ว่า นักข่าวชื่อดังประจำนิตยสารไทม์ส ไซมอน ชัสเตอร์ (Simon Schuster) และไบรอัน เบนเนตต์ (Brian Bennett) แสดงความเห็นว่า “มาจนถึงเวลานี้ มัสก์์ (อีลอน มัสก์) ดูเหมือนไม่อยู่ภายใต้ใครยกเว้นประธานาธิบดีทรัมป์ผู้ที่ให้อำนาจกวาดล้างแก่คนที่ช่วยให้เขาชนะเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทำตามเป้าหมายของเขา” . โดยภาพปกฮือฮาและมีสีสันของนิตยสารไทม์สล่าสุดแสดงให้เห็นมหาเศรษฐีอเมริกันเจ้าของเทสลาและสเปซเอ็กซ์ “อีลอน มัสก์” ขึ้นปกจัดให้นั่งหลังโต๊ะทำงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในห้องทำงานรูปไข่ภายในทำเนียบขาวนั่งบริหารประเทศแทนทรัมป์ . มือของมัสก์ถือแก้วกาแฟและเขานั่งระหว่างธงชาติสหรัฐฯ และธงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดฉากหลังสีแดงสด เป็นภาพปกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE ที่ตั้งใหม่โดยทรัมป์ให้มัสก์บริหาร และตามมาด้วยการสั่งปิด USAID และหมายตาเพื่อล้างบางไปที่หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อื่นอีก 14 แห่ง รวมกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ . CNN รายงานว่าขณะที่ทรัมป์เองวันศุกร์ (7) สั่งปลดผู้บริหารสูงสุดสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ NARA แบบฟ้าผ่าจากเหตุผลเกี่ยวข้องกับคดีทรัมป์นำเอกสารลับทำเนียบขาว รวมจดหมายจากประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน มาเก็บไว้ที่คฤหาสน์ Mar-a-Lago ที่รัฐฟลอริดา . และในวันเดียวกัน (7) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งทางบริหารสั่งตัดเงินช่วยเหลือแอฟริกาใต้ อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (8) . โดยทรัมป์ให้เหตุผลว่า เป็นการกีดกันทางเชื้อชาติอย่างไม่ชอบธรรมต่อชาวแอฟริกาใต้ผิวขาวพร้อมเสนอให้คนเหล่านั้นสามารถเข้าไปลี้ภัยต่อในอเมริกา . เป็นการออกมาวิจารณ์ต่อกฎหมายที่ทรัมป์เห็นว่าไม่ชอบธรรมในการพริทอเรียเปิดโอกาสให้สามารถยึดที่ดินของแอฟริกันผิวขาวได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเยียวยาในบางกรณี . แอฟริกาใต้เป็นประเทศบ้านเกิดของอีลอน มัสก์ ก่อนที่เขาจะย้ายไปอเมริกาและเปลี่ยนสัญชาติในที่สุด พ่อของเขาคือ เออโรล มัสก์ (Errol Musk) ปัจจุบันอายุ 79 ปี และยังอาศัยอยู่ที่แอฟริกาใต้ แต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า พ่อของเขาอ้างว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา ได้ร้องขอให้ช่วยประสานโทรศัพท์ติดต่อหารือระหว่างรามาโฟซา และลูกชายอีลอน มัสก์เกิดขึ้นก่อนข่าวสหรัฐฯ จะตัดเงินช่วยเหลือแอฟริกาใต้อ้างเหตุกฎหมายที่ดินแอฟริกาใต้ . โดยการทูตหลังบ้านแบบรีบด่วนหลังผู้นำสหรัฐฯ ได้โพสต์ทางออนไลน์โดยไม่แสดงหลักฐานว่า แอฟริกาใต้กำลังยึดที่ดินและ “บางชนชั้น” กำลังได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้าย . CNN รายงานต่อว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่นิตยสารไทม์สขึ้นปก อีลอน มัสก์ หลังเมื่อพฤศจิกายนล่าสุดมีการขึ้นปกรูปเจ้าของบริษัทเทสลาพร้อมคำว่า “ประชาชนมัสก์” (Citizen Musk) แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนที่ช่วยให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้สำเร็จ . อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถามทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ (7) ถึงปกนิตยสารไทม์สล่าสุดว่าเป็นเช่นใด . เขากลับตอบกลับมาว่า “นิตยสารไทม์สยังทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?” และเสริมต่อว่า “ผมไม่รู้เลยนะนี่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013144 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2058 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ กล่าวโจมตีสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) เรียกหน่วยงานแห่งนี้ว่าเป็น "องค์กรก่อการร้าย" หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศของวอชิงตันเป็นเวลา 3 เดือน
    .
    หลังจากระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นรัฐบาลของทรัมป์ ได้ออกประกาศมอบข้อยกเว้นบางส่วนสำหรับเงินช่วยเหลือด้านอาการและมนุษยธรรมอื่นๆ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความช่วยเหลือบอกว่าคำสั่งดังกล่าวยังคงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอน และกลุ่มคนอ่อนแอที่สุดในโลกบางส่วนเริ่มสัมผัสได้ถึงผลกระทบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    ทรัมป์ มอบหมายให้ มัสก์ รับผิดชอบด้านการตัดลดคนงานรัฐบาลและปรับลดในสิ่งที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้เรียกว่าเป็นการใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์และไม่จำเป็น ภายใต้หน้ากากของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเวลานี้กำลังเล่นงาน USAID ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    .
    "USAID คือองค์กรอาชญากรรม" มัสก์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเอง ตอบกลับวิดีโอหนึ่งที่กล่าวอ้างว่า USAID เกี่ยวข้องกับ "งานเกเรของ CIA" และ "เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต"
    .
    ข้อความในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำในคำกล่าวหานี้ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาถามผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ 215 ล้านคน "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ใช้ภาษีเงินดอลลาร์ของคุณเป็นทุนวิจัยอาวุธชีวภาพ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 ที่เข่นฆ่าผู้คนหลายล้านคน"
    .
    มีรายงานว่า ทรัมป์ ต้องการดึง USAID ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระ เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พอสำนักข่าวเอเอฟพีติดต่อสอบถามในเรื่องนี้ ทางคณะทำงานของทรัมป์ ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
    .
    เอเอฟพียืนยันว่าเวลานี้เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการแล้ว หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศและองค์การพัฒนาทั่วโลก ทำให้ต้องมีการพักงาน เลิกจ้าง และปิดโครงการต่างๆ หลายพันโครงการ
    .
    USAID เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นในนามของสภาคองเกรส ทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณกว่า 42,800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเจตนาบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมและมอบความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ทั่วโลก
    .
    คริส เมอร์ฟีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทรัมป์ ว่าเทียบเท่ากับเป็นการทำลายล้างองค์กรแห่งนี้โดยสิ้นเชิง
    .
    ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของ USAID จำนวน 2 ราย ถูกบังคับให้ลางาน หลังจากพวกเขาห้ามเจ้าหน้าที่จากกระทรวง DOGE ของมัสก์ เข้าถึงเอกสารลับ ส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010780
    ..................
    Sondhi X
    มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ กล่าวโจมตีสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) เรียกหน่วยงานแห่งนี้ว่าเป็น "องค์กรก่อการร้าย" หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศของวอชิงตันเป็นเวลา 3 เดือน . หลังจากระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นรัฐบาลของทรัมป์ ได้ออกประกาศมอบข้อยกเว้นบางส่วนสำหรับเงินช่วยเหลือด้านอาการและมนุษยธรรมอื่นๆ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความช่วยเหลือบอกว่าคำสั่งดังกล่าวยังคงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอน และกลุ่มคนอ่อนแอที่สุดในโลกบางส่วนเริ่มสัมผัสได้ถึงผลกระทบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ทรัมป์ มอบหมายให้ มัสก์ รับผิดชอบด้านการตัดลดคนงานรัฐบาลและปรับลดในสิ่งที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้เรียกว่าเป็นการใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์และไม่จำเป็น ภายใต้หน้ากากของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเวลานี้กำลังเล่นงาน USAID ซ้ำแล้วซ้ำเล่า . "USAID คือองค์กรอาชญากรรม" มัสก์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเอง ตอบกลับวิดีโอหนึ่งที่กล่าวอ้างว่า USAID เกี่ยวข้องกับ "งานเกเรของ CIA" และ "เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต" . ข้อความในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำในคำกล่าวหานี้ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาถามผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ 215 ล้านคน "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ใช้ภาษีเงินดอลลาร์ของคุณเป็นทุนวิจัยอาวุธชีวภาพ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 ที่เข่นฆ่าผู้คนหลายล้านคน" . มีรายงานว่า ทรัมป์ ต้องการดึง USAID ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระ เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พอสำนักข่าวเอเอฟพีติดต่อสอบถามในเรื่องนี้ ทางคณะทำงานของทรัมป์ ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว . เอเอฟพียืนยันว่าเวลานี้เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการแล้ว หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศและองค์การพัฒนาทั่วโลก ทำให้ต้องมีการพักงาน เลิกจ้าง และปิดโครงการต่างๆ หลายพันโครงการ . USAID เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นในนามของสภาคองเกรส ทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณกว่า 42,800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเจตนาบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมและมอบความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ทั่วโลก . คริส เมอร์ฟีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทรัมป์ ว่าเทียบเท่ากับเป็นการทำลายล้างองค์กรแห่งนี้โดยสิ้นเชิง . ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของ USAID จำนวน 2 ราย ถูกบังคับให้ลางาน หลังจากพวกเขาห้ามเจ้าหน้าที่จากกระทรวง DOGE ของมัสก์ เข้าถึงเอกสารลับ ส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010780 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1937 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts