• อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ขัดขวางทุกวิถีทาง เพื่อหยุดทีมนักเคลื่อนไหวที่นำโดย เกรต้า ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวสาวชาวสวีเดนพาเรือ "แมดลีน" (Madeleine) ที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซา ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจของกองกำลังอิสราเอลในการปิดล้อมกาซา

    “ผมมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดไปยังกองกำลังอิสราเอลให้ดำเนินการทุกอย่าง เพื่อไม่ให้กองเรือ ‘แมดลีน’ เดินทางมาถึงกาซา ผมขอพูดอย่างชัดเจนถึงเกรตาผู้ต่อต้านชาวยิวและเพื่อนๆ ของเธอว่า คุณต้องถอยกลับ เพราะคุณจะไม่มีวันไปถึงกาซาอย่างแน่นอน

    อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่ละเมิดกฎการการปิดล้อมในกาซา ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือฮามาสองค์กรก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมที่จับตัวประกันของเรา และก่ออาชญากรรมสงคราม” แคทซ์ กล่าวอย่างไม่อายใคร!
    อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ขัดขวางทุกวิถีทาง เพื่อหยุดทีมนักเคลื่อนไหวที่นำโดย เกรต้า ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวสาวชาวสวีเดนพาเรือ "แมดลีน" (Madeleine) ที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซา ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจของกองกำลังอิสราเอลในการปิดล้อมกาซา “ผมมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดไปยังกองกำลังอิสราเอลให้ดำเนินการทุกอย่าง เพื่อไม่ให้กองเรือ ‘แมดลีน’ เดินทางมาถึงกาซา ผมขอพูดอย่างชัดเจนถึงเกรตาผู้ต่อต้านชาวยิวและเพื่อนๆ ของเธอว่า คุณต้องถอยกลับ เพราะคุณจะไม่มีวันไปถึงกาซาอย่างแน่นอน อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่ละเมิดกฎการการปิดล้อมในกาซา ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือฮามาสองค์กรก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมที่จับตัวประกันของเรา และก่ออาชญากรรมสงคราม” แคทซ์ กล่าวอย่างไม่อายใคร!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลับเถิดปวงประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย
    Mobile phone wallpapers
    ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    หลับเถิดปวงประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย Mobile phone wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว

    ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น

    ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000053663

    #MGROnline
    ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว • ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น • ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000053663 • #MGROnline
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • พูดถึงองครักษ์เสื้อแพรไปมากพอสมควร วันนี้เราเลยมาคุยกันถึงอีกหน่วยงานหนึ่งที่ปรากฎให้เห็นในละครจีนโบราณหลายเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ (六扇门)

    ความมีอยู่ว่า
    ...จินเซี่ยคอตกหมุนกายกลับมา ชำเลืองมองหยางเฉิงว่าน “หัวหน้า ท่านยอมมันเกินไปแล้ว ท่านว่ามันเป็นคนของใคร? คดีของลิ่วซ่านเหมินไม่เหลียวแล แต่กลับส่งมอบคนออกไป ใครบ้างไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามประจบองครักษ์เสื้อแพร?”... “โอรสสวรรค์ปราบปรามลงทัณฑ์คนผิด มีซานฝ่าซึก็เพียงพอแล้ว ยังต้องตั้งองครักษ์เสื้อแพรมาทำให้วุ่นวายเป็นอุปสรรค แล้วยังจะมีซานฝ่าซึไว้ทำอันใด มีเหมือนไม่มี!”
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ลิ่วซ่านเหมินฟังดูเป็นหน่วยมือปราบ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วลิ่วซ่านเหมินไม่ใช่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง (!?)

    ชื่อเรียกที่ถูกต้องเป็นทางการของมันคือ ‘ซานฝ่าซึ’ (三法司) ที่เกริ่นถึงในบทความข้างต้น เป็นการเรียกรวมของสามหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เริ่มปรากฎในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตั้งตำแหน่งสำคัญมากขึ้นสามตำแหน่งเรียกรวมว่า ‘ซานกง’ หรือสามพระยา คือเฉิงเซี่ยง (อำมาตย์ผู้ช่วย บริหารงานราชการทั่วไป) ไท่เว่ย (มหาเสนาบดี ดูแลฝ่ายทหาร) และอวี้สื่อต้าฟู (ตุลาการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบ)
    ต่อมาในแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และชื่อเรียกของหน่วยงานต่างๆ แต่ยังคงหลักการเดิมว่ามีสามหน่วยงานหลักที่ร่วมผดุงกฎหมาย เรียกรวมว่า ‘ซันฝ่าซึ’

    ในสมัยราชวงศ์หมิง สามหน่วยงานนี้คือ สิงปู้ (刑部 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน) ต้าหลี่ซึ (大理寺 ไว้พิพากษา) ตูฉาย่วน (都察院 ไว้กำกับตรวจสอบ) หากมีคดีใหญ่จะไต่สวนและพิพากษาร่วมกัน

    แล้วทำไมจึงเรียกว่า ลิ่วซ่านเหมิน’?

    แฟนละครจีนโบราณคงคุ้นเคยว่าเวลาเกิดเรื่องอะไร ชาวบ้านจะวิ่งไปฟ้องร้องที่สถานที่หนึ่ง ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ สถานที่นี้เรียกว่า ‘หยาเหมิน’ (衙门) ไม่แน่ใจว่าในนิยาย/ละครแปลไทยว่าอย่างไร แต่มันก็คือที่ว่าการท้องถิ่น ว่าการโดยข้าราชการสูงสุดผู้ดูแลพื้นที่ ไม่ระบุตายตัวว่าต้องสังกัดหน่วยงานใด

    ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ ก็คือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของหยาเหมิน แปลชื่อตรงตัวว่า ‘ประตูหกบาน’ ที่มาก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ หยาเหมินจะมีรูปทรงอาคารเดียวกัน คือมีช่องประตูเพียงสามช่อง หันหน้าทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก หนึ่งทิศหนึ่งช่อง ประตูหลักที่ใช้เข้าออกทั่วไปจะหันหน้าทิศใต้ ช่องประตูที่ว่านี้ก่อตั้งขึ้นเป็นอาคารประตูใหญ่มีหลังคา (ดูรูปขวาล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ไม่ได้ ต้องเป็นที่ทำการของหลวงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ แต่ละช่องประตูจะมีสองบาน รวมเป็นประตูหกบาน

    ดังนั้น จริงๆ แล้ว คนของลิ่วซ่านเหมินจะหมายรวมถึงทุกคนที่ทำงานในหยาเหมิน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านสอบสวน ดูแลคุก เสมียนกฎหมาย ฯลฯ และมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมว่าซานฝ่าซึนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.twoeggz.com/news/8249892.html
    https://www.wenshigu.com/shbt/lishiju/221015.html
    https://www.52lishi.com/article/40895.html
    https://k.sina.cn/article_1346138855_503c72e700100tjeb.html
    https://m.52lishi.com/article/64869.html

    #จินเซี่ย #ลิ่วซ่านเหมิน #มือปราบจีนโบราณ #ราชวงศ์หมิง #หยาเหมิน #ซันฝ่าซึ #ซานฝ่าซึ
    พูดถึงองครักษ์เสื้อแพรไปมากพอสมควร วันนี้เราเลยมาคุยกันถึงอีกหน่วยงานหนึ่งที่ปรากฎให้เห็นในละครจีนโบราณหลายเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ (六扇门) ความมีอยู่ว่า ...จินเซี่ยคอตกหมุนกายกลับมา ชำเลืองมองหยางเฉิงว่าน “หัวหน้า ท่านยอมมันเกินไปแล้ว ท่านว่ามันเป็นคนของใคร? คดีของลิ่วซ่านเหมินไม่เหลียวแล แต่กลับส่งมอบคนออกไป ใครบ้างไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามประจบองครักษ์เสื้อแพร?”... “โอรสสวรรค์ปราบปรามลงทัณฑ์คนผิด มีซานฝ่าซึก็เพียงพอแล้ว ยังต้องตั้งองครักษ์เสื้อแพรมาทำให้วุ่นวายเป็นอุปสรรค แล้วยังจะมีซานฝ่าซึไว้ทำอันใด มีเหมือนไม่มี!” - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ลิ่วซ่านเหมินฟังดูเป็นหน่วยมือปราบ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วลิ่วซ่านเหมินไม่ใช่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง (!?) ชื่อเรียกที่ถูกต้องเป็นทางการของมันคือ ‘ซานฝ่าซึ’ (三法司) ที่เกริ่นถึงในบทความข้างต้น เป็นการเรียกรวมของสามหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เริ่มปรากฎในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตั้งตำแหน่งสำคัญมากขึ้นสามตำแหน่งเรียกรวมว่า ‘ซานกง’ หรือสามพระยา คือเฉิงเซี่ยง (อำมาตย์ผู้ช่วย บริหารงานราชการทั่วไป) ไท่เว่ย (มหาเสนาบดี ดูแลฝ่ายทหาร) และอวี้สื่อต้าฟู (ตุลาการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบ) ต่อมาในแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และชื่อเรียกของหน่วยงานต่างๆ แต่ยังคงหลักการเดิมว่ามีสามหน่วยงานหลักที่ร่วมผดุงกฎหมาย เรียกรวมว่า ‘ซันฝ่าซึ’ ในสมัยราชวงศ์หมิง สามหน่วยงานนี้คือ สิงปู้ (刑部 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน) ต้าหลี่ซึ (大理寺 ไว้พิพากษา) ตูฉาย่วน (都察院 ไว้กำกับตรวจสอบ) หากมีคดีใหญ่จะไต่สวนและพิพากษาร่วมกัน แล้วทำไมจึงเรียกว่า ลิ่วซ่านเหมิน’? แฟนละครจีนโบราณคงคุ้นเคยว่าเวลาเกิดเรื่องอะไร ชาวบ้านจะวิ่งไปฟ้องร้องที่สถานที่หนึ่ง ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ สถานที่นี้เรียกว่า ‘หยาเหมิน’ (衙门) ไม่แน่ใจว่าในนิยาย/ละครแปลไทยว่าอย่างไร แต่มันก็คือที่ว่าการท้องถิ่น ว่าการโดยข้าราชการสูงสุดผู้ดูแลพื้นที่ ไม่ระบุตายตัวว่าต้องสังกัดหน่วยงานใด ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ ก็คือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของหยาเหมิน แปลชื่อตรงตัวว่า ‘ประตูหกบาน’ ที่มาก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ หยาเหมินจะมีรูปทรงอาคารเดียวกัน คือมีช่องประตูเพียงสามช่อง หันหน้าทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก หนึ่งทิศหนึ่งช่อง ประตูหลักที่ใช้เข้าออกทั่วไปจะหันหน้าทิศใต้ ช่องประตูที่ว่านี้ก่อตั้งขึ้นเป็นอาคารประตูใหญ่มีหลังคา (ดูรูปขวาล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ไม่ได้ ต้องเป็นที่ทำการของหลวงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ แต่ละช่องประตูจะมีสองบาน รวมเป็นประตูหกบาน ดังนั้น จริงๆ แล้ว คนของลิ่วซ่านเหมินจะหมายรวมถึงทุกคนที่ทำงานในหยาเหมิน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านสอบสวน ดูแลคุก เสมียนกฎหมาย ฯลฯ และมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมว่าซานฝ่าซึนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.twoeggz.com/news/8249892.html https://www.wenshigu.com/shbt/lishiju/221015.html https://www.52lishi.com/article/40895.html https://k.sina.cn/article_1346138855_503c72e700100tjeb.html https://m.52lishi.com/article/64869.html #จินเซี่ย #ลิ่วซ่านเหมิน #มือปราบจีนโบราณ #ราชวงศ์หมิง #หยาเหมิน #ซันฝ่าซึ #ซานฝ่าซึ
    PPnix - Watch TV Shows Online, Watch Movies Online
    Watch PPnix movies & TV shows online or stream right to your smart TV, game console, PC, Mac, mobile, tablet and more.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Facebook cover
    ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    Facebook cover ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนเรื่องบ้าง,
    ..กรณีข่าวไม่กี่เดือนมานีั ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกขนาดไหน,
    ..สื่อหลักไทยเราบวกทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสุดท้ายก็เลวชั่วปกติ,ไม่ยอมบอกความจริงแก่คนไทยทั้งประเทศ สร้างข่่าวนั้นนี้โน้นบิดเบือนกลบกระแสข่าวลักษณะนี้ไปตลอดหรืออะไรๆที่เป็นโรคเกิดขึ้น มาแปลกๆใหม่ๆวูบๆตาย มะเร็ง เอดส์ และอื่นใด ก็ไม่บอกค่าจริงว่ามาจากวัคซีนยุคโควิดนั้นล่ะที่เริ่มออกฤทธิ์ออกเดชแล้วและจะทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแก่คนไทยที่ไปทราบความจริง,ทำการรักษาพิษขับออกไม่ทันเท่าที่จะขับออกหรือทำให้มีสถานะร่างกายใกล้ค่าใกล้เคียงความปกติที่สุด,พื้นๆในวัคซีนmRNAนี้ มีแน่นอนเชื้อมะเร็งเชื้อเอดส์เชื้อหวัดนกกลายพันธุ์ด้วยตนเองตลอดเวลารวมเป็นหนึ่งเดียวภายในเซลล์หลอกโปรตีนหนามนี้,เป็นแตกออกในร่างกายหลังรับวัคซีนไปก็เริ่มทำงานจนออกฤทธิ์เห็นผลในปัจจุบัน ทำลายภูมิคุ้มกันตนเองคนไทยคนนั้นลงเรื่อยๆ ทั้งสามารถแผ่เชื้อเป็นพาหะติดต่อคนปกติได้อีกด้วยใน1,291โรคเอาแต่ใครคนไทยจะเจอแบบไหน รับอะไรเข้าไปในร่างกายจะติดเชื้อนั้นๆง่ายสบาย กำแพงต้านข้าศึกถูกทำลายโรคและเชื้อโรคต่างๆจากภายนอกร่างกายย่อมก่อเกิดสร้างสาระพัดอาการโรคได้ง่ายนั้นเอง ตุยง่ายๆแค่แพ้จากมดกัด ต่อแตนตอดก็มี,พะาเอดส์ที่มีในวัคซีนทุกๆขวดที่ฉีดให้คนไทยไป โดยเฉพาะเด็กๆเยาวชนคนนักเรียนนักศึกษาเราแล้วก็โยนความผิดว่าไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยล่ะ,ไม่สืบหาความจริง ทั้งที่กูรูมากมายแบบอาจารย์แพทย์ต่างๆที่ตื่นรู้แล้วได้รวมตัวกันบุกถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทางตรงมีเอกสารหลักฐานะยานหรือศาลตัดสินให้เยียวยาแล้วก็มี,กลับยังหลอกลวงคนไทยให้หลงทางสร้างความไม่รู้จริงอยู่ตลอดเวลาจนถึงปัจจุบัน,จึงสมควรเปลี่ยนรัฐบาลจริงๆยึดอำนาจโดยทหารพระราชาเราด้วย,ค่าจริงความจริงมีหนึ่งเดียวจะได้ประกาศบอกคนไทยอย่างเป็นทางการเสียทีแล้วร่วมสามัคคีกันเยียวยารักษาด้วยแพทย์สมุนไพรไทยและคู่ขนานรักษาแพทย์ล้ำยุคสมัยใหม่คลื่นความถี่ดีๆรักษาโรคหรือกึ่งหุ่นยนต์เพื่อรักษาชีวิตก็ว่าไว้,และหากเตียงความถี่รักษามีจริงของต่างดาวเช่นเตียงmedbedก็ว่ารักษาทุกๆโรคแบบสไตล์ล้ำต่างดาวส่วนเสี่ยวหนึ่งก็คงดี,ไม่ถึงขนาดดึงจิตวิญญาณใส่ตัวโคลนใหม่ที่โหลดความทรงจำเดิมของร่างเก่าสู่ร่างใหม่ก็ได้หรือเหลือแค่ชิ้นส่วนdnaคนนั้นแล้วสร้างใหม่งอกใหม่ทั้งตัวแบบไอ้เชลดราก้อนบอลก็ว่า,แต่กูรูหลายท่านเชื่อว่าเตียงmedbedนี้มีจริงโดยต่างดาวใต้โลกกลวงนี้ล่ะสร้างมีของจริงๆก็ว่าและกำลังนำขึ้นมาผิวโลกให้คนยุคสมัยใหม่ที่รอดใช้,รอดจากการคัดคนของพวกมันก็ว่าอีกล่ะ,หรือหลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวก็ไม่รู้อีก.สรุปเอดส์มาจากวัคซีนและเริ่มออกฤทธิ์ของจริงให้เห็นแล้ว,เราหลายคนเป็นคนผีบ้าที่ถูกดูถูกสาระพัดในช่วงเวลานั้น,เตือนสาระพัดวิธีด้วยความหวังดีให้มีเพื่อนร่วมโลกร่วมมีอยู่หรือหลงเหลือบ้างบนโลกใบนี้ก็ว่า,มิใช่ข้าคือตำนานก็ว่า,แล้วผลสะท้อนกลับ555ไอ้นี้มันบ้าพะนะ.
    https://youtu.be/GEE3-XzcFEA?si=hISNcXLIb6iNu-oF
    เปลี่ยนเรื่องบ้าง, ..กรณีข่าวไม่กี่เดือนมานีั ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกขนาดไหน, ..สื่อหลักไทยเราบวกทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสุดท้ายก็เลวชั่วปกติ,ไม่ยอมบอกความจริงแก่คนไทยทั้งประเทศ สร้างข่่าวนั้นนี้โน้นบิดเบือนกลบกระแสข่าวลักษณะนี้ไปตลอดหรืออะไรๆที่เป็นโรคเกิดขึ้น มาแปลกๆใหม่ๆวูบๆตาย มะเร็ง เอดส์ และอื่นใด ก็ไม่บอกค่าจริงว่ามาจากวัคซีนยุคโควิดนั้นล่ะที่เริ่มออกฤทธิ์ออกเดชแล้วและจะทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแก่คนไทยที่ไปทราบความจริง,ทำการรักษาพิษขับออกไม่ทันเท่าที่จะขับออกหรือทำให้มีสถานะร่างกายใกล้ค่าใกล้เคียงความปกติที่สุด,พื้นๆในวัคซีนmRNAนี้ มีแน่นอนเชื้อมะเร็งเชื้อเอดส์เชื้อหวัดนกกลายพันธุ์ด้วยตนเองตลอดเวลารวมเป็นหนึ่งเดียวภายในเซลล์หลอกโปรตีนหนามนี้,เป็นแตกออกในร่างกายหลังรับวัคซีนไปก็เริ่มทำงานจนออกฤทธิ์เห็นผลในปัจจุบัน ทำลายภูมิคุ้มกันตนเองคนไทยคนนั้นลงเรื่อยๆ ทั้งสามารถแผ่เชื้อเป็นพาหะติดต่อคนปกติได้อีกด้วยใน1,291โรคเอาแต่ใครคนไทยจะเจอแบบไหน รับอะไรเข้าไปในร่างกายจะติดเชื้อนั้นๆง่ายสบาย กำแพงต้านข้าศึกถูกทำลายโรคและเชื้อโรคต่างๆจากภายนอกร่างกายย่อมก่อเกิดสร้างสาระพัดอาการโรคได้ง่ายนั้นเอง ตุยง่ายๆแค่แพ้จากมดกัด ต่อแตนตอดก็มี,พะาเอดส์ที่มีในวัคซีนทุกๆขวดที่ฉีดให้คนไทยไป โดยเฉพาะเด็กๆเยาวชนคนนักเรียนนักศึกษาเราแล้วก็โยนความผิดว่าไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยล่ะ,ไม่สืบหาความจริง ทั้งที่กูรูมากมายแบบอาจารย์แพทย์ต่างๆที่ตื่นรู้แล้วได้รวมตัวกันบุกถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทางตรงมีเอกสารหลักฐานะยานหรือศาลตัดสินให้เยียวยาแล้วก็มี,กลับยังหลอกลวงคนไทยให้หลงทางสร้างความไม่รู้จริงอยู่ตลอดเวลาจนถึงปัจจุบัน,จึงสมควรเปลี่ยนรัฐบาลจริงๆยึดอำนาจโดยทหารพระราชาเราด้วย,ค่าจริงความจริงมีหนึ่งเดียวจะได้ประกาศบอกคนไทยอย่างเป็นทางการเสียทีแล้วร่วมสามัคคีกันเยียวยารักษาด้วยแพทย์สมุนไพรไทยและคู่ขนานรักษาแพทย์ล้ำยุคสมัยใหม่คลื่นความถี่ดีๆรักษาโรคหรือกึ่งหุ่นยนต์เพื่อรักษาชีวิตก็ว่าไว้,และหากเตียงความถี่รักษามีจริงของต่างดาวเช่นเตียงmedbedก็ว่ารักษาทุกๆโรคแบบสไตล์ล้ำต่างดาวส่วนเสี่ยวหนึ่งก็คงดี,ไม่ถึงขนาดดึงจิตวิญญาณใส่ตัวโคลนใหม่ที่โหลดความทรงจำเดิมของร่างเก่าสู่ร่างใหม่ก็ได้หรือเหลือแค่ชิ้นส่วนdnaคนนั้นแล้วสร้างใหม่งอกใหม่ทั้งตัวแบบไอ้เชลดราก้อนบอลก็ว่า,แต่กูรูหลายท่านเชื่อว่าเตียงmedbedนี้มีจริงโดยต่างดาวใต้โลกกลวงนี้ล่ะสร้างมีของจริงๆก็ว่าและกำลังนำขึ้นมาผิวโลกให้คนยุคสมัยใหม่ที่รอดใช้,รอดจากการคัดคนของพวกมันก็ว่าอีกล่ะ,หรือหลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวก็ไม่รู้อีก.สรุปเอดส์มาจากวัคซีนและเริ่มออกฤทธิ์ของจริงให้เห็นแล้ว,เราหลายคนเป็นคนผีบ้าที่ถูกดูถูกสาระพัดในช่วงเวลานั้น,เตือนสาระพัดวิธีด้วยความหวังดีให้มีเพื่อนร่วมโลกร่วมมีอยู่หรือหลงเหลือบ้างบนโลกใบนี้ก็ว่า,มิใช่ข้าคือตำนานก็ว่า,แล้วผลสะท้อนกลับ555ไอ้นี้มันบ้าพะนะ. https://youtu.be/GEE3-XzcFEA?si=hISNcXLIb6iNu-oF
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้ล่ะ,อีกส่วนหนึ่ง ว่าทำไม ในยุคสมัยนี้เขมรจึงคือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยและภัยคุกคามการค้ามนุษย์ปล้นชิงคนไทยไปจากแผ่นดินไทยอาจผิดปกติโดยใช้ช่องโว่ของความเมตตากรุณาของสถานะเพื่อนบ้านติดกัน ค้าขายสัมพันธุ์กันอย่างสุจริต,แต่มัน..เขมรกลับไม่ใช่ ใช้เล่ห์กลอุบายมากมายหลอกลวงคนไทยที่บริสุทธิ์ไปกักขังในประเทศเขมรค่าแรงงานคนไทยแบบทารุนผิดมนุษย์ตลอดทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตคนไทยกันเลย,
    ..จึงถึงเวลาแบนเขมรแบนคนเขมรแบบทรัมป์ทำกันอย่างจริงจัง,ปิดด่านตลอดพรมแดนจนเขมรจะทำให้เราเชื่อใจได้ว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจริงเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ.,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ระเบิดสะพาน ระเบิดถนน ระเบิดทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเขมร ปิดน่านน้ำพวมแดนทะเลทั้งหมดห้าเขมรเดินเรือผ่าน,ห้ามคนไทยทุกๆคนเดินทางเข้าเขมรทุกๆกรณีไม่มีกำหนด,เขมรหากมาลักพาตัวคนไทยหรือทราบว่าคนไทยถูกเขมรลักพาตัวไป,ระเบิดจะลงสถานที่ราชการเขมรทันทีและต้องส่งตัวคนไทยที่บริสุทธิ์กลับประเทศไทยอย่างมีชีวิตสุขภาพดีแข็งแรง,เช่นนั้นชุมชนคนเขมรจะถูกระเบิดทันที.ด้วยคนเขมรราชการเขมรกระทำผิดต่อคนไทย ลักพาตัวและหลอกลวงหลอกล่อคนไทยที่สุจริตใจไปจากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาคนไทยเรานั้นๆ.,เขมรกระทำตนไร้มนุษยธรรมก่อนก็ว่า.,ตำรวจสากลหรือทหารสากลโลกสามารถเข้าล้อมทั้งเมืองเพื่อตรวจค้นทุกๆตึกในประเทศเขมรทันที,ตึกใดใครเป็นเจ้าของกระทำสิ่งชั่ว คนๆนั้นจะถูกไล่ล่าระดับสากลโลกจะไม่มีที่ซ่อนในแต่ละประเทศที่มันหลบหนีไปทั้งหมดจะถูกจับกุมทุกๆกรณี.,
    ..โลกเราจะมีประเทศชั่วๆนี้ประจำโลกทำไมและเป็นสถานที่ให้คนชั่วทั่วโลกออกมาสร้างความชั่วอันเลวร้ายบนแผ่นดินประเทศลักษณะนี้ได้อย่างไร,มนุษย์ชาวโลกทุกๆคนมีสถานะเป็นไท อิสระแห่งสัมมาขีวิตตนมิใช่ให้ชาติคนแบบประเทศเขมรคนเขมรหรือคนที่มาใช้ประเทศเขมรมาหลอกลวงคนทั่วโลกล่อลวงมาอยู่ประเทศนั่นๆแบบประเทศเขมรนี้เป็นต้น จะจีนเทาเอง แขกเทาเอง ฝรั่งเทาเอง หรือเถื่อนๆคนเถื่อนๆเลวๆชั่วๆเทาๆใดๆก็ตามมาทำลักษณะนี้ต้องถูกกำจัดทั้งหมด ถูกไล่ล่าจริงเด็ดหัวทั้งหมดมันคือการค้ามนุษย์ระดับโลกเพื่อทำลายความสุขสงบของชาวโลกคนอื่นๆที่ปกติสุขปกติในวิถีชีวิตใครมันเขา,แต่เสือกมีประเทศลักษณะนี้ เป็นฐานใหญ่ เป็นระดับฮับสถานที่อาคารตึกพร้อมกระทำชั่วแบบนี้,ชาตินั้นๆไม่สมควรมีอยู่ประดับโลก,คนประเทศนั้นๆต้องถูกแบน,ผู้นำประเทศนั้นๆต้องถูกลงโทษสากลระดับโลก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกสามารถเข้าจับกุมช่วยมนุษยชาติโลกประเทศต่างๆนั้นๆที่ถูกลักพาตัวเข้ามาหรือล่อลวงล่อหลอกๆลวงเข้ามา สามารถตัดสินความผิดและลงโทษระดับสากลได้ทันที,ยุคเราต้องล้ำสมัยระดับนี้จริงๆ,องค์กรโลกนี้ต้องเป็นกลางจริงๆด้วยมิใช่อีลิทdeep stateก่อตั้งขึ้นหรือฝ่ายมืดซาตานก่อตั้งขึ้นแบบUNแบบWHOหรือแบบWFEและอื่นๆอีกตรึม,จนโลกไร้ซึ่งความยุติธรรมในปัจจุบัน,ศาลโลกเองก็เหี้ยdeep stateควบคุมครอบงำหมด.
    ..ปิดด่านทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมร,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้า ตัดเน็ต แอปในไทยทั้งหมดให้ทหารสั่งปิดบัญชีและUSERที่เป็นคนเขมรทั้งหมด,บัญชีคนเขมรที่มีเงินฝากไว้ในไทยอายัดบัญชีคนเขมรทั้งหมด,แต่เฉพาะคนเขมรในไทยสามารถติดต่อขอเปิดตังได้เฉพาะตัวบุคคลและต้องออกจากประเทศไทยไปทุกๆกรณี,โดยมีเจ้านายคนไทยมาค้ำประกันด้วยว่ามิใช่เงินที่มาจากความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือภัยด้านความมั่นคงก่ออาชญากรรมในประเทศไทยหรือก่อการร้ายสนับสนุนเงินทุนก่อการร้ายในไทย,จึงอายัดบัญชีการโอนเงินไปเขมรทั้งหมดตลอดเงินที่เขมรโอนเข้ามาไทยด้วย,จะระงับพักบัญชีอายัดไว้ที่แบงค์ชาติทุกๆกรณีจะมาในรูปแบบตังคริปโตฯดิจิดัลด้วยก็ตามหรือทรัพย์สินตีมูลค่าเป็นเงินใดๆก็ตาม,ตลอดตังที่โอนจากประเทศไทยไปประเทศอื่นแต่อ้อมเข้าเขมร ซึ่งสามารถตรวจสอบติดตามเรียลไทม์อ้างอิงได้,แบงค์ชาติสามารถปิดบัญชีนั้นๆได้ทันทีพร้อมอายัดเงินทั้งหมดได้ด้วย.,
    ..ทุกๆธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับเขมรจะหยุดนิ่งห้ามเคลื่อนไหวออกจากประเทศไทยทั้งหมด,เข้าก็ไม่ได้ ออกไปเขมรยิ่งไม่ได้,ใครอ้อมไปเขมรจะบัญชีใดๆจะถูกอายัดทุกๆธุรกรรมทั้งหมดทันทีในกฎอัยการศึกทางทหารนี้,เขมรและคนเขมรคือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศชาติไทยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนและทุกๆกรณี.,
    ..เขมรถ้าตามคลิปนี้จากกูรูแฉออกมาก่อนหน้านี้เป็นอันมาก มีมากมายหลากหลายประเทศที่ตกเป็นเหงื่อและทารุณในประเทศเขมรที่ถูกหลอกลวงล่อลวงเข้าไป,ดังนั้นเขมรไม่ใช่แค่ภัยคุกคามประเทศไทยแต่คือภัยคุกคามของคนอาเชียนของคนเอเชียและของคนทั่วโลกเพราะมีมากมายจากคนทั่วโลกที่ถูกหลอกลวงไปประเทศเขมรโดยทั้งคนเขมรเองและคนชั่วเลวที่อาศัยอยู่เขมร,นั้นคือผู้ปกครองเขมรคือภัยคุกคามร้ายแรงของโลก ละเมิดชีวิตมนุษยชาติบนโลก ไม่เร่งรีบกำจัดคนชั่วในประเทศตนเองที่ปกครอง ปล่อยปะละเลยให้เป็นฮับชั่วก่อสาระพัดเดอะแก๊งประจำประเทศเขมรแล้วปั่นป่วนไปทั่วโลก อาทิแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไม่น้อยหน้าพม่าแต่อย่างใด,เคสเขมรจึงคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มกวาดล้างคนระดับผู้นำที่ปกครองประเทศนั้นๆไปทางชั่วเลวมิให้โลกและคนบนโลกสงบสุขร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสงบสุขนั้นเอง,ตกประเมินต้องคัดออก.

    https://youtu.be/Y1ZmMbCYwpc?si=3eCvJkaa8GVpKPG7
    ..นี้ล่ะ,อีกส่วนหนึ่ง ว่าทำไม ในยุคสมัยนี้เขมรจึงคือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยและภัยคุกคามการค้ามนุษย์ปล้นชิงคนไทยไปจากแผ่นดินไทยอาจผิดปกติโดยใช้ช่องโว่ของความเมตตากรุณาของสถานะเพื่อนบ้านติดกัน ค้าขายสัมพันธุ์กันอย่างสุจริต,แต่มัน..เขมรกลับไม่ใช่ ใช้เล่ห์กลอุบายมากมายหลอกลวงคนไทยที่บริสุทธิ์ไปกักขังในประเทศเขมรค่าแรงงานคนไทยแบบทารุนผิดมนุษย์ตลอดทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตคนไทยกันเลย, ..จึงถึงเวลาแบนเขมรแบนคนเขมรแบบทรัมป์ทำกันอย่างจริงจัง,ปิดด่านตลอดพรมแดนจนเขมรจะทำให้เราเชื่อใจได้ว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจริงเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ.,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ระเบิดสะพาน ระเบิดถนน ระเบิดทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเขมร ปิดน่านน้ำพวมแดนทะเลทั้งหมดห้าเขมรเดินเรือผ่าน,ห้ามคนไทยทุกๆคนเดินทางเข้าเขมรทุกๆกรณีไม่มีกำหนด,เขมรหากมาลักพาตัวคนไทยหรือทราบว่าคนไทยถูกเขมรลักพาตัวไป,ระเบิดจะลงสถานที่ราชการเขมรทันทีและต้องส่งตัวคนไทยที่บริสุทธิ์กลับประเทศไทยอย่างมีชีวิตสุขภาพดีแข็งแรง,เช่นนั้นชุมชนคนเขมรจะถูกระเบิดทันที.ด้วยคนเขมรราชการเขมรกระทำผิดต่อคนไทย ลักพาตัวและหลอกลวงหลอกล่อคนไทยที่สุจริตใจไปจากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาคนไทยเรานั้นๆ.,เขมรกระทำตนไร้มนุษยธรรมก่อนก็ว่า.,ตำรวจสากลหรือทหารสากลโลกสามารถเข้าล้อมทั้งเมืองเพื่อตรวจค้นทุกๆตึกในประเทศเขมรทันที,ตึกใดใครเป็นเจ้าของกระทำสิ่งชั่ว คนๆนั้นจะถูกไล่ล่าระดับสากลโลกจะไม่มีที่ซ่อนในแต่ละประเทศที่มันหลบหนีไปทั้งหมดจะถูกจับกุมทุกๆกรณี., ..โลกเราจะมีประเทศชั่วๆนี้ประจำโลกทำไมและเป็นสถานที่ให้คนชั่วทั่วโลกออกมาสร้างความชั่วอันเลวร้ายบนแผ่นดินประเทศลักษณะนี้ได้อย่างไร,มนุษย์ชาวโลกทุกๆคนมีสถานะเป็นไท อิสระแห่งสัมมาขีวิตตนมิใช่ให้ชาติคนแบบประเทศเขมรคนเขมรหรือคนที่มาใช้ประเทศเขมรมาหลอกลวงคนทั่วโลกล่อลวงมาอยู่ประเทศนั่นๆแบบประเทศเขมรนี้เป็นต้น จะจีนเทาเอง แขกเทาเอง ฝรั่งเทาเอง หรือเถื่อนๆคนเถื่อนๆเลวๆชั่วๆเทาๆใดๆก็ตามมาทำลักษณะนี้ต้องถูกกำจัดทั้งหมด ถูกไล่ล่าจริงเด็ดหัวทั้งหมดมันคือการค้ามนุษย์ระดับโลกเพื่อทำลายความสุขสงบของชาวโลกคนอื่นๆที่ปกติสุขปกติในวิถีชีวิตใครมันเขา,แต่เสือกมีประเทศลักษณะนี้ เป็นฐานใหญ่ เป็นระดับฮับสถานที่อาคารตึกพร้อมกระทำชั่วแบบนี้,ชาตินั้นๆไม่สมควรมีอยู่ประดับโลก,คนประเทศนั้นๆต้องถูกแบน,ผู้นำประเทศนั้นๆต้องถูกลงโทษสากลระดับโลก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกสามารถเข้าจับกุมช่วยมนุษยชาติโลกประเทศต่างๆนั้นๆที่ถูกลักพาตัวเข้ามาหรือล่อลวงล่อหลอกๆลวงเข้ามา สามารถตัดสินความผิดและลงโทษระดับสากลได้ทันที,ยุคเราต้องล้ำสมัยระดับนี้จริงๆ,องค์กรโลกนี้ต้องเป็นกลางจริงๆด้วยมิใช่อีลิทdeep stateก่อตั้งขึ้นหรือฝ่ายมืดซาตานก่อตั้งขึ้นแบบUNแบบWHOหรือแบบWFEและอื่นๆอีกตรึม,จนโลกไร้ซึ่งความยุติธรรมในปัจจุบัน,ศาลโลกเองก็เหี้ยdeep stateควบคุมครอบงำหมด. ..ปิดด่านทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมร,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้า ตัดเน็ต แอปในไทยทั้งหมดให้ทหารสั่งปิดบัญชีและUSERที่เป็นคนเขมรทั้งหมด,บัญชีคนเขมรที่มีเงินฝากไว้ในไทยอายัดบัญชีคนเขมรทั้งหมด,แต่เฉพาะคนเขมรในไทยสามารถติดต่อขอเปิดตังได้เฉพาะตัวบุคคลและต้องออกจากประเทศไทยไปทุกๆกรณี,โดยมีเจ้านายคนไทยมาค้ำประกันด้วยว่ามิใช่เงินที่มาจากความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือภัยด้านความมั่นคงก่ออาชญากรรมในประเทศไทยหรือก่อการร้ายสนับสนุนเงินทุนก่อการร้ายในไทย,จึงอายัดบัญชีการโอนเงินไปเขมรทั้งหมดตลอดเงินที่เขมรโอนเข้ามาไทยด้วย,จะระงับพักบัญชีอายัดไว้ที่แบงค์ชาติทุกๆกรณีจะมาในรูปแบบตังคริปโตฯดิจิดัลด้วยก็ตามหรือทรัพย์สินตีมูลค่าเป็นเงินใดๆก็ตาม,ตลอดตังที่โอนจากประเทศไทยไปประเทศอื่นแต่อ้อมเข้าเขมร ซึ่งสามารถตรวจสอบติดตามเรียลไทม์อ้างอิงได้,แบงค์ชาติสามารถปิดบัญชีนั้นๆได้ทันทีพร้อมอายัดเงินทั้งหมดได้ด้วย., ..ทุกๆธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับเขมรจะหยุดนิ่งห้ามเคลื่อนไหวออกจากประเทศไทยทั้งหมด,เข้าก็ไม่ได้ ออกไปเขมรยิ่งไม่ได้,ใครอ้อมไปเขมรจะบัญชีใดๆจะถูกอายัดทุกๆธุรกรรมทั้งหมดทันทีในกฎอัยการศึกทางทหารนี้,เขมรและคนเขมรคือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศชาติไทยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนและทุกๆกรณี., ..เขมรถ้าตามคลิปนี้จากกูรูแฉออกมาก่อนหน้านี้เป็นอันมาก มีมากมายหลากหลายประเทศที่ตกเป็นเหงื่อและทารุณในประเทศเขมรที่ถูกหลอกลวงล่อลวงเข้าไป,ดังนั้นเขมรไม่ใช่แค่ภัยคุกคามประเทศไทยแต่คือภัยคุกคามของคนอาเชียนของคนเอเชียและของคนทั่วโลกเพราะมีมากมายจากคนทั่วโลกที่ถูกหลอกลวงไปประเทศเขมรโดยทั้งคนเขมรเองและคนชั่วเลวที่อาศัยอยู่เขมร,นั้นคือผู้ปกครองเขมรคือภัยคุกคามร้ายแรงของโลก ละเมิดชีวิตมนุษยชาติบนโลก ไม่เร่งรีบกำจัดคนชั่วในประเทศตนเองที่ปกครอง ปล่อยปะละเลยให้เป็นฮับชั่วก่อสาระพัดเดอะแก๊งประจำประเทศเขมรแล้วปั่นป่วนไปทั่วโลก อาทิแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไม่น้อยหน้าพม่าแต่อย่างใด,เคสเขมรจึงคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มกวาดล้างคนระดับผู้นำที่ปกครองประเทศนั้นๆไปทางชั่วเลวมิให้โลกและคนบนโลกสงบสุขร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสงบสุขนั้นเอง,ตกประเมินต้องคัดออก. https://youtu.be/Y1ZmMbCYwpc?si=3eCvJkaa8GVpKPG7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mobile wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    Mobile wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม

    มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย
    แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ
    ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง
    กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า

    แต่เพื่อนแท้...
    ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ
    หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้
    เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา

    เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต
    ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง
    แต่เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘ส่งเสริม’
    ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง
    มีศีล มีปัญญา มีเมตตา
    และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม

    ---

    👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร?

    ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม”
    แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?”

    เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน
    เมื่อเราหลงผิด
    ไม่ปล่อยให้เราลงเหว
    แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง
    แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก

    แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน
    แต่ “บุญร่วมกัน”
    จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน
    ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

    ---

    🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น”

    เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ
    แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ
    เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน

    อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ
    ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน
    วันหนึ่ง…
    คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้
    และในภพต่อไป
    คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์

    ---

    🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้
    ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม
    คือการได้พบ “กัลยาณมิตร”

    กัลยาณมิตรทางธรรม
    ชี้ให้เห็นกฎของกรรม
    นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย

    ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือ “สติ”
    ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป

    ---

    เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ
    เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์
    และเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ

    จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง
    และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน
    ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา

    #เพื่อนแท้
    #กัลยาณมิตร
    #เส้นทางกรรม
    #ธรรมะเข้าใจชีวิต
    #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า แต่เพื่อนแท้... ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้ เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา เพื่อนบางคน คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง แต่เพื่อนบางคน คือผู้ ‘ส่งเสริม’ ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง มีศีล มีปัญญา มีเมตตา และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม --- 👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร? ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม” แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?” เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน เมื่อเราหลงผิด ไม่ปล่อยให้เราลงเหว แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน แต่ “บุญร่วมกัน” จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง --- 🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น” เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน วันหนึ่ง… คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้ และในภพต่อไป คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์ --- 🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม คือการได้พบ “กัลยาณมิตร” กัลยาณมิตรทางธรรม ชี้ให้เห็นกฎของกรรม นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง คือ “สติ” ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป --- เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์ และเพื่อนแท้ในตัวเอง คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา #เพื่อนแท้ #กัลยาณมิตร #เส้นทางกรรม #ธรรมะเข้าใจชีวิต #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม

    มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย
    แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ
    ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง
    กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า

    แต่เพื่อนแท้...
    ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ
    หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้
    เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา

    เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต
    ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง
    แต่เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘ส่งเสริม’
    ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง
    มีศีล มีปัญญา มีเมตตา
    และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม

    ---

    👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร?

    ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม”
    แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?”

    เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน
    เมื่อเราหลงผิด
    ไม่ปล่อยให้เราลงเหว
    แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง
    แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก

    แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน
    แต่ “บุญร่วมกัน”
    จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน
    ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

    ---

    🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น”

    เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ
    แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ
    เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน

    อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ
    ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน
    วันหนึ่ง…
    คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้
    และในภพต่อไป
    คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์

    ---

    🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้
    ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม
    คือการได้พบ “กัลยาณมิตร”

    กัลยาณมิตรทางธรรม
    ชี้ให้เห็นกฎของกรรม
    นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย

    ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือ “สติ”
    ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป

    ---

    เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ
    เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์
    และเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ

    จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง
    และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน
    ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา

    #เพื่อนแท้
    #กัลยาณมิตร
    #เส้นทางกรรม
    #ธรรมะเข้าใจชีวิต
    #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า แต่เพื่อนแท้... ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้ เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา เพื่อนบางคน คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง แต่เพื่อนบางคน คือผู้ ‘ส่งเสริม’ ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง มีศีล มีปัญญา มีเมตตา และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม --- 👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร? ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม” แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?” เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน เมื่อเราหลงผิด ไม่ปล่อยให้เราลงเหว แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน แต่ “บุญร่วมกัน” จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง --- 🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น” เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน วันหนึ่ง… คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้ และในภพต่อไป คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์ --- 🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม คือการได้พบ “กัลยาณมิตร” กัลยาณมิตรทางธรรม ชี้ให้เห็นกฎของกรรม นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง คือ “สติ” ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป --- เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์ และเพื่อนแท้ในตัวเอง คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา #เพื่อนแท้ #กัลยาณมิตร #เส้นทางกรรม #ธรรมะเข้าใจชีวิต #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • Facebook cover
    ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    Facebook cover ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับหนึ่งในสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้จีน
    ความมีอยู่ว่า
    ...หวางซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หม่อมฉันเกรงว่าปี้เซี่ยจะทรงใกล้ชิดกับพวกนาง จึงต้องกราบทูลรายงาน แต่กวนเจียมิทรงตรัสอันใด กลับทรงมีพระบัญชาให้หม่อมฉันนำพระราชดำรัสมาประกาศ ให้พระสนมทั้งสองออกจากวังโดยพลัน พระองค์ตรัสเสร็จพระอัสสุชลก็รินไหล”...
    - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อความง่ายในการเข้าใจ Storyฯ ขอไม่เน้นราชาศัพท์ในบทความข้างล่างนะคะ

    เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณเสียงภาษาจีนต้องเคยได้ยินสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้ที่แตกต่างกันไป เช่น ปี้เซี่ย หวงตี้ จินซ่าง เทียนจื่อ ฯลฯ ซึ่งคำเหล่านี้มักมีความหมายเกี่ยวโยงราชบัลลังก์ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือสวรรค์ ที่ฟังดูสูงเกินเอื้อมของปุถุชนคนธรรมดา

    แต่หากใครได้ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> จะได้ยินการเรียกขานฮ่องเต้ว่า ‘กวนเจีย’ ซึ่งเป็นคำเรียกที่แปลกในความรู้สึกของ Storyฯ เพราะแปลความหมายได้ประมาณว่า ‘สำนักราชการ’ (กวน = ขุนนาง เจีย = บ้านหรือกลุ่มองค์กร) Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลทำความเข้าใจ

    คำว่า ‘กวนเจีย’ มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220) เพียงแต่ในสมัยนั้น ไม่ได้เป็นการเรียกเจ้าผู้ปกครองประเทศ หากแต่เป็นการเรียกรวมหมายถึงเหล่าขุนนางและหน่วยงานข้าราชการ หรือเป็นการเรียกขานผู้ที่เป็นขุนนางอย่างยกย่อง

    ว่ากันว่ามีการใช้สรรพนามนี้ขานเรียกฮ่องเต้ตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 420-589) แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากฟังดูไม่สูงศักดิ์และอาจทำให้สับสนเพราะยังหมายถึงเหล่าข้าราชการได้อีกด้วย จวบจนเริ่มยุคสมัยราชวงศ์ซ่งจึงใช้คำว่า ‘กวนเจีย’ เรียกฮ่องเต้อย่างเป็นทางการ

    เพราะอะไร?

    ท่านที่พอจะทราบประวัติศาสตร์จีนจะทราบว่า เมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ถังก็เข้าสู่ยุคที่แตกเป็นห้าราชวงศ์สิบแคว้น จากนั้นจึงเกิดเป็นราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเหตุการณ์การก่อตั้งราชวงศ์ซ่งเกิดขึ้นในปีค.ศ. 960 เมื่อเจ้าผู้ปกครองราชวงศ์โฮ่วโจว (โจวยุคหลัง หนึ่งในห้าราชวงศ์) สวรรคตลง ทำให้เกิดความระส่ำระสายในสายทหารเพราะผู้สืบทอดราชบัลลังก์เป็นเด็ก อยู่มาวันหนึ่งผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายพร้อมใจกันเอาชุดเหลืองลายมังกรแบบเฉพาะของฮ่องเต้มาคลุมกายให้แก่จอมทัพเจ้าควงอิ้น เพื่อขอให้เขาขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรโฮ่วโจวแทน (ดูรูปขวาบนและล่าง และอ่านเรื่องราวเหตุการณ์นี้ได้เพิ่มเติมที่เพจศิลปวัฒนธรรมตามลิ้งค์ข้างล่าง)

    เจ้าควงอิ้นเมื่อขึ้นครองราชย์ก็สถานปนาราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์ซ่ง และตั้งใจคัดเฟ้นสรรพนามเรียกขานตนที่เหมาะสมขึ้นใหม่ เพราะเขาตระหนักว่าตนเองเป็นเชื้อสายตระกูลทหาร ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ จึงเกรงว่าหากใช้คำที่เกี่ยวข้องกับการสืบราชสันตติวงศ์ จะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าเขาขึ้นครองราชย์อย่างไม่ชอบธรรม

    จึงมาลงเอยที่คำว่า ‘กวนเจีย’ นี้ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากปรัชญาคำสอนการปกครองจากยุคสมัยชุนชิว และถูกยกมาจากวรรคที่ว่า ‘สามราชาดูแลทั่วหล้า ห้าจักรพรรดิมีใต้นภาเป็นครอบครัว’ (ซานหวงกวนเทียเซี่ย อู่ตี้เจียเทียนเซี่ย / 三皇官天下,五帝家天下) ซึ่งเป็นการเท้าความถึง ‘สามราชาห้าจักรพรรดิ’ ในตำนานปรำปราที่ปกครองดูแลประชาชนอย่าง ‘เข้าถึง’ และมีคุณธรรม โดยในบริบทนี้คำว่า ‘กวนเจีย’ ถูกเลือกมาใช้เพื่อให้สะท้อนความนัยว่า เป็นการปกครองโดยคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ทำโดยหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลและเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชน

    ดังนั้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง ประชาชนจะเรียกข้าราชการว่า ‘กวนเจีย’ ไม่ได้อีกต่อไป และมีการกำหนดให้คำนี้มีเพียงความหมายเดียวคือแปลว่าฮ่องเต้ (แต่จะใช้คำอื่นเช่น ปี้เซี่ย เรียกฮ่องเต้ก็ยังได้อยู่) ไม่ได้หมายรวมถึงเหล่าข้าราชการอีกต่อไป

    นอกจากคำที่พูดถึงมาข้างต้นแล้ว เพื่อนเพจยังเคยผ่านหูคำเรียกขานฮ่องเต้ว่าอย่างอื่นอีกไหมคะ? Storyฯ นึกได้อีกหลายคำเลย

    หมายเหตุ 1: ‘สามราชา’ บ้างว่าหมายถึงเทพเจ้าผู้สร้างและดูแลมนุษย์ในตำนานคือฟู่ซี หนี่ว์วา และเหยียนตี้ และบ้างว่าหมายถึงราชาแห่งแผ่นฟ้า ผืนดินและมนุษย์ชาติ ส่วน ‘ห้าจักรพรรดิ’ นั้นหมายถึงองค์หวงตี้ (จักรพรรดิเหลือง) และฮ่องเต้ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อมาอีกสี่พระองค์
    หมายเหตุ 2: ในเรื่อง <วังเดียวดาย> เป็นยุคสมัยของฮ่องเต้เหรินจง เป็นฮ่องเต้องค์ที่สี่แห่งราชวงศ์ซ่ง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/zh-my/history/2vgm4n9.html
    https://dramakaffe.wordpress.com/2020/05/16/serenade-of-peaceful-joy/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/133862973
    https://www.thehour.cn/news/363118.html
    https://www.gugong.net/zhongguo/songchao/18033.html
    https://kknews.cc/history/g48mr58.html

    #ราชวงศ์ซ่ง #ฮ่องเต้จีน #เจ้าควงอิ้น #ชิงผิงเยวี่ย #กวนเจีย #ประวัติศาสตร์จีน
    วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับหนึ่งในสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้จีน ความมีอยู่ว่า ...หวางซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หม่อมฉันเกรงว่าปี้เซี่ยจะทรงใกล้ชิดกับพวกนาง จึงต้องกราบทูลรายงาน แต่กวนเจียมิทรงตรัสอันใด กลับทรงมีพระบัญชาให้หม่อมฉันนำพระราชดำรัสมาประกาศ ให้พระสนมทั้งสองออกจากวังโดยพลัน พระองค์ตรัสเสร็จพระอัสสุชลก็รินไหล”... - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อความง่ายในการเข้าใจ Storyฯ ขอไม่เน้นราชาศัพท์ในบทความข้างล่างนะคะ เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณเสียงภาษาจีนต้องเคยได้ยินสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้ที่แตกต่างกันไป เช่น ปี้เซี่ย หวงตี้ จินซ่าง เทียนจื่อ ฯลฯ ซึ่งคำเหล่านี้มักมีความหมายเกี่ยวโยงราชบัลลังก์ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือสวรรค์ ที่ฟังดูสูงเกินเอื้อมของปุถุชนคนธรรมดา แต่หากใครได้ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> จะได้ยินการเรียกขานฮ่องเต้ว่า ‘กวนเจีย’ ซึ่งเป็นคำเรียกที่แปลกในความรู้สึกของ Storyฯ เพราะแปลความหมายได้ประมาณว่า ‘สำนักราชการ’ (กวน = ขุนนาง เจีย = บ้านหรือกลุ่มองค์กร) Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลทำความเข้าใจ คำว่า ‘กวนเจีย’ มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220) เพียงแต่ในสมัยนั้น ไม่ได้เป็นการเรียกเจ้าผู้ปกครองประเทศ หากแต่เป็นการเรียกรวมหมายถึงเหล่าขุนนางและหน่วยงานข้าราชการ หรือเป็นการเรียกขานผู้ที่เป็นขุนนางอย่างยกย่อง ว่ากันว่ามีการใช้สรรพนามนี้ขานเรียกฮ่องเต้ตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 420-589) แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากฟังดูไม่สูงศักดิ์และอาจทำให้สับสนเพราะยังหมายถึงเหล่าข้าราชการได้อีกด้วย จวบจนเริ่มยุคสมัยราชวงศ์ซ่งจึงใช้คำว่า ‘กวนเจีย’ เรียกฮ่องเต้อย่างเป็นทางการ เพราะอะไร? ท่านที่พอจะทราบประวัติศาสตร์จีนจะทราบว่า เมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ถังก็เข้าสู่ยุคที่แตกเป็นห้าราชวงศ์สิบแคว้น จากนั้นจึงเกิดเป็นราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเหตุการณ์การก่อตั้งราชวงศ์ซ่งเกิดขึ้นในปีค.ศ. 960 เมื่อเจ้าผู้ปกครองราชวงศ์โฮ่วโจว (โจวยุคหลัง หนึ่งในห้าราชวงศ์) สวรรคตลง ทำให้เกิดความระส่ำระสายในสายทหารเพราะผู้สืบทอดราชบัลลังก์เป็นเด็ก อยู่มาวันหนึ่งผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายพร้อมใจกันเอาชุดเหลืองลายมังกรแบบเฉพาะของฮ่องเต้มาคลุมกายให้แก่จอมทัพเจ้าควงอิ้น เพื่อขอให้เขาขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรโฮ่วโจวแทน (ดูรูปขวาบนและล่าง และอ่านเรื่องราวเหตุการณ์นี้ได้เพิ่มเติมที่เพจศิลปวัฒนธรรมตามลิ้งค์ข้างล่าง) เจ้าควงอิ้นเมื่อขึ้นครองราชย์ก็สถานปนาราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์ซ่ง และตั้งใจคัดเฟ้นสรรพนามเรียกขานตนที่เหมาะสมขึ้นใหม่ เพราะเขาตระหนักว่าตนเองเป็นเชื้อสายตระกูลทหาร ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ จึงเกรงว่าหากใช้คำที่เกี่ยวข้องกับการสืบราชสันตติวงศ์ จะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าเขาขึ้นครองราชย์อย่างไม่ชอบธรรม จึงมาลงเอยที่คำว่า ‘กวนเจีย’ นี้ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากปรัชญาคำสอนการปกครองจากยุคสมัยชุนชิว และถูกยกมาจากวรรคที่ว่า ‘สามราชาดูแลทั่วหล้า ห้าจักรพรรดิมีใต้นภาเป็นครอบครัว’ (ซานหวงกวนเทียเซี่ย อู่ตี้เจียเทียนเซี่ย / 三皇官天下,五帝家天下) ซึ่งเป็นการเท้าความถึง ‘สามราชาห้าจักรพรรดิ’ ในตำนานปรำปราที่ปกครองดูแลประชาชนอย่าง ‘เข้าถึง’ และมีคุณธรรม โดยในบริบทนี้คำว่า ‘กวนเจีย’ ถูกเลือกมาใช้เพื่อให้สะท้อนความนัยว่า เป็นการปกครองโดยคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ทำโดยหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลและเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชน ดังนั้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง ประชาชนจะเรียกข้าราชการว่า ‘กวนเจีย’ ไม่ได้อีกต่อไป และมีการกำหนดให้คำนี้มีเพียงความหมายเดียวคือแปลว่าฮ่องเต้ (แต่จะใช้คำอื่นเช่น ปี้เซี่ย เรียกฮ่องเต้ก็ยังได้อยู่) ไม่ได้หมายรวมถึงเหล่าข้าราชการอีกต่อไป นอกจากคำที่พูดถึงมาข้างต้นแล้ว เพื่อนเพจยังเคยผ่านหูคำเรียกขานฮ่องเต้ว่าอย่างอื่นอีกไหมคะ? Storyฯ นึกได้อีกหลายคำเลย หมายเหตุ 1: ‘สามราชา’ บ้างว่าหมายถึงเทพเจ้าผู้สร้างและดูแลมนุษย์ในตำนานคือฟู่ซี หนี่ว์วา และเหยียนตี้ และบ้างว่าหมายถึงราชาแห่งแผ่นฟ้า ผืนดินและมนุษย์ชาติ ส่วน ‘ห้าจักรพรรดิ’ นั้นหมายถึงองค์หวงตี้ (จักรพรรดิเหลือง) และฮ่องเต้ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อมาอีกสี่พระองค์ หมายเหตุ 2: ในเรื่อง <วังเดียวดาย> เป็นยุคสมัยของฮ่องเต้เหรินจง เป็นฮ่องเต้องค์ที่สี่แห่งราชวงศ์ซ่ง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/zh-my/history/2vgm4n9.html https://dramakaffe.wordpress.com/2020/05/16/serenade-of-peaceful-joy/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/133862973 https://www.thehour.cn/news/363118.html https://www.gugong.net/zhongguo/songchao/18033.html https://kknews.cc/history/g48mr58.html #ราชวงศ์ซ่ง #ฮ่องเต้จีน #เจ้าควงอิ้น #ชิงผิงเยวี่ย #กวนเจีย #ประวัติศาสตร์จีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดินแดนเราแท้ๆ แต่ไอ้ภูมิต่ำปัญญาตม ดันบอกว่าเป็นดินแดนพิพาทซะงั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ไร้สมองกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่ไม่ปกป้องอธิปไตยชาติยังเสือกปกป้องไอ้ค**เซ็งเพื่อนเหม็นของไอ้แม้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ภูมิธรรม
    #nobrainman
    #กัมพูชาล้ำ200เมตร
    ดินแดนเราแท้ๆ แต่ไอ้ภูมิต่ำปัญญาตม ดันบอกว่าเป็นดินแดนพิพาทซะงั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ไร้สมองกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่ไม่ปกป้องอธิปไตยชาติยังเสือกปกป้องไอ้ค**เซ็งเพื่อนเหม็นของไอ้แม้ว #คิงส์โพธิ์แดง #ภูมิธรรม #nobrainman #กัมพูชาล้ำ200เมตร
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ” พร้อม “ปานเทพ” เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล 10 มิ.ย.นี้ เรียกร้องปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นรูปธรรม กรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนประชุม JBC ชี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ

    วันนี้ (5 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า “เรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนที่เคารพ

    วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมกับ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล นักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติ จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติให้เป็นรูปธรรมกรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนการประชุม JBC เรื่องดังกล่าวนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ

    จึงเรียนมาเพื่อนัดหมายพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมในการลงนามในหนังสือฉบับนี้ โดยพบกันที่โรงอาหาร ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล) ถนนพิษณุโลก ในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. และจะยื่นหนังสือในเวลา 10.00 น. จึงขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมา ณ โอกาสนี้”

    #MGROnline #Thaitimes #สนธิ #ปานเทพ
    “สนธิ” พร้อม “ปานเทพ” เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล 10 มิ.ย.นี้ เรียกร้องปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นรูปธรรม กรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนประชุม JBC ชี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ • วันนี้ (5 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า “เรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนที่เคารพ • วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมกับ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล นักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติ จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติให้เป็นรูปธรรมกรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนการประชุม JBC เรื่องดังกล่าวนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ • จึงเรียนมาเพื่อนัดหมายพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมในการลงนามในหนังสือฉบับนี้ โดยพบกันที่โรงอาหาร ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล) ถนนพิษณุโลก ในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. และจะยื่นหนังสือในเวลา 10.00 น. จึงขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมา ณ โอกาสนี้” • #MGROnline #Thaitimes #สนธิ #ปานเทพ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณต้องเคยเห็นตราอาญาสิทธิ์ของทหารที่เป็นตัวเสือผ่าครึ่ง และดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะไม่สามารถควบคุมกองทัพได้เลยถ้าไม่มีมัน มันก็คือ ‘ตราพยัคฆ์’ หรือ ‘หู่ฝู’ นั่นเอง

    ความมีอยู่ว่า
    ...ครานั้นตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพอยู่ในมือของจอมทัพปัน ต่อมาจอมทัพปันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ชายแดน เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงก็วางเกราะลง ทำตัวเป็นกั๋วกงอยู่อย่างเรียบง่ายไร้กังวล ต่อมาเมื่อองค์หวินชิ่งขึ้นครองราชย์ ชายแดนสงบไร้ศึก ตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นอีกเลย...
    - จากเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ผู้แต่ง เยวี่ยเซี่ยเตี๋ยอิ่ง (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ตราหู่ฝูนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ และแฟนละคร/นิยายจีนโบราณต้องเคยผ่านตาเรื่องราวที่ว่าทหารเชื่อฟังหู่ฝูมากกว่าราชโองการจากฮ่องเต้ Storyฯ มีข้อข้องใจเกี่ยวกับหู่ฝูจึงไปทำการบ้านและมาเล่าสู่กันฟังในสามประเด็น: 1) ตราหู่ฝูมีอำนาจเคลื่อนย้ายกองทัพได้ทั้งหมดหรือไม่? 2) ทำไมฮ่องเต้ทำหู่ฝูซีกเดียวขึ้นใหม่ไม่ได้? 3) ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารมีหู่ฝูอย่างเดียวหรือ?

    ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจตราหู่ฝู ตราอาญาสิทธิ์ทางการทหารลักษณะนี้ปรากฏครั้งแรกในยุคสมัยชุนชิว (ปี 771-476 ก่อนคริสตกาล) แรกเริ่มทำจากไม้ไผ่ ต่อมาจึงทำจากสำริด ทองคำ และหยก

    หู่ฝูจะแบ่งเป็นสองซีก ซีกขวาเก็บไว้ที่ฮ่องเต้ ซีกซ้ายมอบไว้ให้แม่ทัพใหญ่ผู้กุมกำลังกองทัพ ยามจะออกคำสั่งเคลื่อนพล ฮ่องเต้จะมอบตราอาญาสิทธิ์ส่วนของพระองค์ให้กับผู้แทนพระองค์ที่เดินทางนำคำสั่งไปส่งให้แก่แม่ทัพใหญ่ เมื่อนำทั้งสองซีกมาประกบกันได้ถูกต้องสมบูรณ์จึงจะถือว่าคำสั่งนั้นมีผล ในบางยุคสมัยนอกจากตราอาญาสิทธิ์แล้วยังต้องมีพระราชโองการประกอบด้วยจึงจะถือว่าสมบูรณ์

    ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะในสมัยโบราณการสื่อสารยากลำบาก อีกทั้งไม่มีวิธีพิสูจน์ว่าเอกสารหรือราชโองการนั้นจริงหรือเท็จ ตราอาญาสิทธิ์นี้เป็นหลักฐานสูงสุด จึงเป็นที่มาว่าหากฮ่องเต้ไม่มีตราหู่ฝูก็สั่งเคลื่อนกำลังพลไม่ได้

    ทำไมมันจึงเป็นหลักฐานสูงสุด? ก็เพราะว่ามันปลอมแปลงไม่ได้ (หรือยากมาก) เนื่องจากมันมีรูปร่างและใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และตัวหู่ฝูจะมีการสลัก/เขียนรายละเอียดไว้เต็มตัว (ดูภาพประกอบ) อย่างเช่นตราตู้หู่ฝูมีถึง 40 อักษรด้วยกัน มีทั้งกรณีที่ต้องเอาสองซีกมาประกบกันจึงจะอ่านได้ครบ (อย่างเช่นในสมัยราชวงศ์ฮั่น) หรืออีกกรณีคือข้อความสองซีกเหมือนกันแต่ตรงกลางจะมีลายตราที่ถูกผ่าครึ่ง ต้องนำสองซีกมาประกบกันจึงจะเห็นรูปครบ (อย่างเช่นในสมัยฉิน) เพราะฉนั้นผู้ที่มีเพียงซีกเดียวจึงไม่สามารถทำอีกซีกขึ้นใหม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอีกซีกเขียนหรือวาดอะไรไว้บ้าง (ในบางสมัยแกนในยังมีรูให้ทำเหมือนตัวยื่นเข้าไปประกบด้วย...เพิ่มความยากอีกหนึ่งขั้น) ทั้งนี้ ข้อความที่สมบูรณ์จะระบุขอบเขตอำนาจชัดเจนว่าไว้ใช้สำหรับกองทัพใดและพื้นที่ใด

    ดังนั้น ไขข้อข้องใจไปสองเปลาะว่า ตราอาญาสิทธิ์ทำขึ้นใหม่เองเฉพาะซีกเดียวไม่ได้ และตราแต่ละตัวมีอำนาจควบคุมกองทัพจากพื้นที่เดียวตามที่กำหนดไว้เท่านั้น โยกย้ายกองกำลังอื่นไม่ได้

    ปัจจุบันมีการค้นพบของจริงจากยุคสมัยราชวงศ์ฉินได้ 3 ตัว คือซินกัวหู่ฝู หยางหลิงหู่ฝู และตู้หู่ฝู (รูปประกอบยกมาสองตัว) จะเห็นว่ารูปร่างลวดลายแตกต่างกัน และขนาดของจริงก็แตกต่างกันไปเล็กน้อย จากภาษาที่ใช้ นักโบราณคดีพบว่าทั้งสามตัวนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นพร้อมกันแม้จะมาจากยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้เหมือนกัน

    ตราหู่ฝูคือตราพยัคฆ์ แต่จริงๆ แล้วตราอาญาสิทธิ์ทางทหารเรียกว่า ‘จวินฝู’ และอาจทำเป็นรูปแบบใดก็ได้ ในสมัยราชวงศ์ถัง ตราอาญาสิทธิ์มีทั้งรูปปลา กระต่าย และเต่า และเมื่อถึงยุคสมัยราชวงศ์หยวนก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นใช้ป้ายอาญาสิทธิ์แทน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/403266963_427962
    https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68
    https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191
    https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68
    https://m.52lishi.com/article/45237.html

    #ตราอาญาสิทธิ์ทหาร #หู่ฝู #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ประวัติศาสตร์จีน #ราชวงศ์ฉิน
    เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณต้องเคยเห็นตราอาญาสิทธิ์ของทหารที่เป็นตัวเสือผ่าครึ่ง และดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะไม่สามารถควบคุมกองทัพได้เลยถ้าไม่มีมัน มันก็คือ ‘ตราพยัคฆ์’ หรือ ‘หู่ฝู’ นั่นเอง ความมีอยู่ว่า ...ครานั้นตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพอยู่ในมือของจอมทัพปัน ต่อมาจอมทัพปันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ชายแดน เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงก็วางเกราะลง ทำตัวเป็นกั๋วกงอยู่อย่างเรียบง่ายไร้กังวล ต่อมาเมื่อองค์หวินชิ่งขึ้นครองราชย์ ชายแดนสงบไร้ศึก ตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นอีกเลย... - จากเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ผู้แต่ง เยวี่ยเซี่ยเตี๋ยอิ่ง (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ตราหู่ฝูนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ และแฟนละคร/นิยายจีนโบราณต้องเคยผ่านตาเรื่องราวที่ว่าทหารเชื่อฟังหู่ฝูมากกว่าราชโองการจากฮ่องเต้ Storyฯ มีข้อข้องใจเกี่ยวกับหู่ฝูจึงไปทำการบ้านและมาเล่าสู่กันฟังในสามประเด็น: 1) ตราหู่ฝูมีอำนาจเคลื่อนย้ายกองทัพได้ทั้งหมดหรือไม่? 2) ทำไมฮ่องเต้ทำหู่ฝูซีกเดียวขึ้นใหม่ไม่ได้? 3) ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารมีหู่ฝูอย่างเดียวหรือ? ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจตราหู่ฝู ตราอาญาสิทธิ์ทางการทหารลักษณะนี้ปรากฏครั้งแรกในยุคสมัยชุนชิว (ปี 771-476 ก่อนคริสตกาล) แรกเริ่มทำจากไม้ไผ่ ต่อมาจึงทำจากสำริด ทองคำ และหยก หู่ฝูจะแบ่งเป็นสองซีก ซีกขวาเก็บไว้ที่ฮ่องเต้ ซีกซ้ายมอบไว้ให้แม่ทัพใหญ่ผู้กุมกำลังกองทัพ ยามจะออกคำสั่งเคลื่อนพล ฮ่องเต้จะมอบตราอาญาสิทธิ์ส่วนของพระองค์ให้กับผู้แทนพระองค์ที่เดินทางนำคำสั่งไปส่งให้แก่แม่ทัพใหญ่ เมื่อนำทั้งสองซีกมาประกบกันได้ถูกต้องสมบูรณ์จึงจะถือว่าคำสั่งนั้นมีผล ในบางยุคสมัยนอกจากตราอาญาสิทธิ์แล้วยังต้องมีพระราชโองการประกอบด้วยจึงจะถือว่าสมบูรณ์ ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะในสมัยโบราณการสื่อสารยากลำบาก อีกทั้งไม่มีวิธีพิสูจน์ว่าเอกสารหรือราชโองการนั้นจริงหรือเท็จ ตราอาญาสิทธิ์นี้เป็นหลักฐานสูงสุด จึงเป็นที่มาว่าหากฮ่องเต้ไม่มีตราหู่ฝูก็สั่งเคลื่อนกำลังพลไม่ได้ ทำไมมันจึงเป็นหลักฐานสูงสุด? ก็เพราะว่ามันปลอมแปลงไม่ได้ (หรือยากมาก) เนื่องจากมันมีรูปร่างและใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และตัวหู่ฝูจะมีการสลัก/เขียนรายละเอียดไว้เต็มตัว (ดูภาพประกอบ) อย่างเช่นตราตู้หู่ฝูมีถึง 40 อักษรด้วยกัน มีทั้งกรณีที่ต้องเอาสองซีกมาประกบกันจึงจะอ่านได้ครบ (อย่างเช่นในสมัยราชวงศ์ฮั่น) หรืออีกกรณีคือข้อความสองซีกเหมือนกันแต่ตรงกลางจะมีลายตราที่ถูกผ่าครึ่ง ต้องนำสองซีกมาประกบกันจึงจะเห็นรูปครบ (อย่างเช่นในสมัยฉิน) เพราะฉนั้นผู้ที่มีเพียงซีกเดียวจึงไม่สามารถทำอีกซีกขึ้นใหม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอีกซีกเขียนหรือวาดอะไรไว้บ้าง (ในบางสมัยแกนในยังมีรูให้ทำเหมือนตัวยื่นเข้าไปประกบด้วย...เพิ่มความยากอีกหนึ่งขั้น) ทั้งนี้ ข้อความที่สมบูรณ์จะระบุขอบเขตอำนาจชัดเจนว่าไว้ใช้สำหรับกองทัพใดและพื้นที่ใด ดังนั้น ไขข้อข้องใจไปสองเปลาะว่า ตราอาญาสิทธิ์ทำขึ้นใหม่เองเฉพาะซีกเดียวไม่ได้ และตราแต่ละตัวมีอำนาจควบคุมกองทัพจากพื้นที่เดียวตามที่กำหนดไว้เท่านั้น โยกย้ายกองกำลังอื่นไม่ได้ ปัจจุบันมีการค้นพบของจริงจากยุคสมัยราชวงศ์ฉินได้ 3 ตัว คือซินกัวหู่ฝู หยางหลิงหู่ฝู และตู้หู่ฝู (รูปประกอบยกมาสองตัว) จะเห็นว่ารูปร่างลวดลายแตกต่างกัน และขนาดของจริงก็แตกต่างกันไปเล็กน้อย จากภาษาที่ใช้ นักโบราณคดีพบว่าทั้งสามตัวนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นพร้อมกันแม้จะมาจากยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้เหมือนกัน ตราหู่ฝูคือตราพยัคฆ์ แต่จริงๆ แล้วตราอาญาสิทธิ์ทางทหารเรียกว่า ‘จวินฝู’ และอาจทำเป็นรูปแบบใดก็ได้ ในสมัยราชวงศ์ถัง ตราอาญาสิทธิ์มีทั้งรูปปลา กระต่าย และเต่า และเมื่อถึงยุคสมัยราชวงศ์หยวนก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นใช้ป้ายอาญาสิทธิ์แทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/403266963_427962 https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68 https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191 https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68 https://m.52lishi.com/article/45237.html #ตราอาญาสิทธิ์ทหาร #หู่ฝู #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ประวัติศาสตร์จีน #ราชวงศ์ฉิน
    WWW.SOHU.COM
    关晓彤新剧未播先被群嘲,《我就是这般女子》为何“差评预定”?_演技
    《凤囚凰》是其主演的第一部爱情题材偶像剧,但在这部剧中,她在大众的好演技形象直接滑铁卢,后来的《极光之恋》、《甜蜜暴击》更是一步步加深了观众对其演技的负面印象,她所主演的三部言情剧均是嘲讽居多,接二…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ยังมีหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่มนุษย์ใช้กันมาหลายศตวรรษ! มาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกัน:

    ### 1. **การสื่อสารแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)**
    - **การพูดคุยโดยตรง**: พบปะกันสดๆ ในระยะใกล้
    - **การประชุมกลุ่ม**: จัดวงสนทนาในสถานที่เดียวกัน
    - **ภาษาใบ้และสัญญาณมือ**: ใช้ร่างกายสื่อสาร (เช่น ภาษามือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน)

    ### 2. **ระบบไปรษณีย์ดั้งเดิม**
    - **จดหมาย**: เขียนสารลงกระดาษ ส่งผ่านตู้ไปรษณีย์
    - **โปสการ์ด**: ส่งข้อความสั้นๆ พร้อมภาพ
    - **บริการขนส่งเอกสาร**: เช่น นกพิราบสื่อสาร (ยังใช้ในบางพื้นที่!) หรือบริการส่งเอกสารเร่งด่วน

    ### 3. **ระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน**
    - **โทรศัพท์บ้าน**: ใช้สายทองแดงสื่อสาร
    - **โทรเลข**: ส่งข้อความสั้นด้วยรหัสมอร์ส (ยังใช้ในบางภาคส่วน)
    - **เพจเจอร์ (เครื่องเรียก)**: ส่งเลขโทรกลับหรือข้อความสั้น

    ### 4. **คลื่นวิทยุ**
    - **วิทยุสมัครเล่น (แฮมเรดิโอ)**: สำหรับผู้ได้รับอนุญาต
    - **วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)**: ใช้งานในระยะ 3-5 กม.
    - **วิทยุกระจายเสียง**: ส่งข่าวสารสู่มวลชน (FM/AM)
    - **วิทยุเรือ/เครื่องบิน**: สำหรับการเดินทาง

    ### 5. **วิธีการฉุกเฉิน**
    - **สัญญาณควัน/ไฟ**: ใช้ในพื้นที่ห่างไกล
    - **นกหวีดฉุกเฉิน**: ส่งสัญญาณ SOS (· · · — — — · · ·)
    - **กระจกสะท้อนแสง**: ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

    ### 6. **เครือข่ายชุมชน**
    - **ป้ายประกาศ**: ติดข้อความในสถานที่สาธารณะ
    - **หอกระจายข่าว**: ใช้ในหมู่บ้าน
    - **เครือข่ายมนุษย์**: ให้เพื่อน/เพื่อนบ้านส่งสารต่อๆ กัน

    ### 7. **สื่อบันทึกข้อมูล**
    - **แผ่นดิสก์/USB**: คัดลอกไฟล์ส่งต่อกันทางกายภาพ
    - **หนังสือ/เอกสาร**: ใช้ห้องสมุดหรือส่งต่อตำรา

    ### เทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต
    - **Mesh Network**: เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ peer-to-peer
    - **LoRaWAN**: ส่งข้อมูลระยะไกลด้วยพลังงานต่ำ
    - **บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียม** (เช่น ผ่านอุปกรณ์ InReach)

    > **ตัวอย่างในวิกฤต**: หลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ (2013) เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นกลายเป็นระบบสื่อสารหลักที่ช่วยชีวิตผู้คน!

    แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มนุษย์เรายังคงสร้างช่องทางสื่อสารได้เสมอ โดยเฉพาะการ **ออกแบบระบบสำรอง** เช่น วิทยุฉุกเฉิน หรือการฝึกใช้รหัสมอร์ส ก็เป็นทักษะที่มีค่าควรเรียนรู้ไว้สำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันครับ 🚨
    เมื่อไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ยังมีหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่มนุษย์ใช้กันมาหลายศตวรรษ! มาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกัน: ### 1. **การสื่อสารแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)** - **การพูดคุยโดยตรง**: พบปะกันสดๆ ในระยะใกล้ - **การประชุมกลุ่ม**: จัดวงสนทนาในสถานที่เดียวกัน - **ภาษาใบ้และสัญญาณมือ**: ใช้ร่างกายสื่อสาร (เช่น ภาษามือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน) ### 2. **ระบบไปรษณีย์ดั้งเดิม** - **จดหมาย**: เขียนสารลงกระดาษ ส่งผ่านตู้ไปรษณีย์ - **โปสการ์ด**: ส่งข้อความสั้นๆ พร้อมภาพ - **บริการขนส่งเอกสาร**: เช่น นกพิราบสื่อสาร (ยังใช้ในบางพื้นที่!) หรือบริการส่งเอกสารเร่งด่วน ### 3. **ระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน** - **โทรศัพท์บ้าน**: ใช้สายทองแดงสื่อสาร - **โทรเลข**: ส่งข้อความสั้นด้วยรหัสมอร์ส (ยังใช้ในบางภาคส่วน) - **เพจเจอร์ (เครื่องเรียก)**: ส่งเลขโทรกลับหรือข้อความสั้น ### 4. **คลื่นวิทยุ** - **วิทยุสมัครเล่น (แฮมเรดิโอ)**: สำหรับผู้ได้รับอนุญาต - **วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)**: ใช้งานในระยะ 3-5 กม. - **วิทยุกระจายเสียง**: ส่งข่าวสารสู่มวลชน (FM/AM) - **วิทยุเรือ/เครื่องบิน**: สำหรับการเดินทาง ### 5. **วิธีการฉุกเฉิน** - **สัญญาณควัน/ไฟ**: ใช้ในพื้นที่ห่างไกล - **นกหวีดฉุกเฉิน**: ส่งสัญญาณ SOS (· · · — — — · · ·) - **กระจกสะท้อนแสง**: ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ### 6. **เครือข่ายชุมชน** - **ป้ายประกาศ**: ติดข้อความในสถานที่สาธารณะ - **หอกระจายข่าว**: ใช้ในหมู่บ้าน - **เครือข่ายมนุษย์**: ให้เพื่อน/เพื่อนบ้านส่งสารต่อๆ กัน ### 7. **สื่อบันทึกข้อมูล** - **แผ่นดิสก์/USB**: คัดลอกไฟล์ส่งต่อกันทางกายภาพ - **หนังสือ/เอกสาร**: ใช้ห้องสมุดหรือส่งต่อตำรา ### เทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต - **Mesh Network**: เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ peer-to-peer - **LoRaWAN**: ส่งข้อมูลระยะไกลด้วยพลังงานต่ำ - **บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียม** (เช่น ผ่านอุปกรณ์ InReach) > **ตัวอย่างในวิกฤต**: หลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ (2013) เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นกลายเป็นระบบสื่อสารหลักที่ช่วยชีวิตผู้คน! แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มนุษย์เรายังคงสร้างช่องทางสื่อสารได้เสมอ โดยเฉพาะการ **ออกแบบระบบสำรอง** เช่น วิทยุฉุกเฉิน หรือการฝึกใช้รหัสมอร์ส ก็เป็นทักษะที่มีค่าควรเรียนรู้ไว้สำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันครับ 🚨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครปฐม – กลืนยาบ้าหวังรอด แต่ไม่รอดชีวิต” หนุ่ม 25 ปิดบังความจริง กลืนยาบ้า 49 เม็ด ก่อนช็อกดับคาห้องขัง ตร.-รพ.แจงชัด ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ปิดข้อมูลการรักษา

    วันนี้( 4 มิ.ย. ) จากกรณี นายธีรนัย ชุมปาน อายุ 25 ปี เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ข้อหาเสพและขับเสพยาบ้า โดยมีข้อมูลภายหลังว่าเจ้าตัวกลืนยาบ้า 49 เม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม

    ตำรวจแจงต่อผู้บังคับบัญชา ว่าหลังจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ได้ส่งตัวตรวจสารเสพติดที่ รพ.นครปฐม ซึ่งผู้ตายระบุเพียงว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แพทย์จึงเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับมาควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามปกติ

    ต่อมาเวลา 09.15 น. ก่อนนำตัวส่งศาล นายธีรนัยฯ หมดสติ เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งมูลนิธิฯ และส่งตัวไปรพ.อีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 15.44 น. ซึ่งมีเพื่อนผู้ต้องหายืนยันภายหลังว่า นายธีรนัยฯ กลืนยาบ้าเข้าไป 49 เม็ด

    รพ.นครปฐมชี้แจง โดย นพ.สุรชัย โชคครชิตชัย ผอ.รพ.นครปฐม ระบุว่า หลังจากมีสื่อบางแขนงได้มี นำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000052205

    #MGROnline #นครปฐม #กลืนยาบ้า
    นครปฐม – กลืนยาบ้าหวังรอด แต่ไม่รอดชีวิต” หนุ่ม 25 ปิดบังความจริง กลืนยาบ้า 49 เม็ด ก่อนช็อกดับคาห้องขัง ตร.-รพ.แจงชัด ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ปิดข้อมูลการรักษา • วันนี้( 4 มิ.ย. ) จากกรณี นายธีรนัย ชุมปาน อายุ 25 ปี เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ข้อหาเสพและขับเสพยาบ้า โดยมีข้อมูลภายหลังว่าเจ้าตัวกลืนยาบ้า 49 เม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม • ตำรวจแจงต่อผู้บังคับบัญชา ว่าหลังจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ได้ส่งตัวตรวจสารเสพติดที่ รพ.นครปฐม ซึ่งผู้ตายระบุเพียงว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แพทย์จึงเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับมาควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามปกติ • ต่อมาเวลา 09.15 น. ก่อนนำตัวส่งศาล นายธีรนัยฯ หมดสติ เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งมูลนิธิฯ และส่งตัวไปรพ.อีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 15.44 น. ซึ่งมีเพื่อนผู้ต้องหายืนยันภายหลังว่า นายธีรนัยฯ กลืนยาบ้าเข้าไป 49 เม็ด • รพ.นครปฐมชี้แจง โดย นพ.สุรชัย โชคครชิตชัย ผอ.รพ.นครปฐม ระบุว่า หลังจากมีสื่อบางแขนงได้มี นำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000052205 • #MGROnline #นครปฐม #กลืนยาบ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ขออย่าปล่อยเฟกนิวส์ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ รักษาอธิปไตย ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ต้องแบ่งฝ่าย แต่ยืนยันเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมหากเกิดเหตุปะทะ ยอมรับตระกูลชินวัตร สนิท "ฮุนเซน" จริง แต่ไม่เสียหาย ถ้าทะเลาะก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ยันไม่ยกบ้านให้เพื่อน

    วันนี้ (4 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052238

    #MGROnline #นายกรัฐมนตรี #ไทย #กัมพูชา
    นายกฯ ขออย่าปล่อยเฟกนิวส์ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ รักษาอธิปไตย ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ต้องแบ่งฝ่าย แต่ยืนยันเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมหากเกิดเหตุปะทะ ยอมรับตระกูลชินวัตร สนิท "ฮุนเซน" จริง แต่ไม่เสียหาย ถ้าทะเลาะก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ยันไม่ยกบ้านให้เพื่อน • วันนี้ (4 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052238 • #MGROnline #นายกรัฐมนตรี #ไทย #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ละครสมัยราชวงศ์ชิงที่ออกฉายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีหลายเรื่องที่ดูจะมีความเนี้ยบด้านเสื้อผ้าหน้าผม วันนี้เลยเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดู เพราะทุกเรื่องมีทั้งส่วนที่สมจริงและที่ไม่สมจริง แต่ความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ที่จะพูดถึงในวันนี้คือการทาปากของสาวๆ ในละครเหล่านี้ที่ดูจะเข้มข้นแตกต่างกันไป

    เพื่อนเพจหลายท่านอาจทราบอยู่แล้วว่า วัฒนธรรมจีนโบราณมีค่านิยมว่า ปากที่สวยต้องเล็ก ดังบทความข้างล่างว่า
    ...เว่ยอิงหลัวอยู่ในชุดแต่งงานสีแดงสด แป้งผัดเบาบางดุจสายลมมาลูบไล้ด้วยหิมะ แก้มแดงระเรื่อดุจท้องฟ้าถูกเกลี่ยด้วยแสงอัสดง ส่วนริมฝีปากนั้นเล่า แต้มแดงชาดเพียงจุดเดียว โดดเด่นไม่อาจมองข้าม หากบุรุษบ้านใดได้แต่งเจ้าสาวงดงามเยี่ยงนี้ คงดีใจจนบ้าคลั่ง...
    - จากเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ผู้แต่ง เซี่ยวเหลี่ยนเม้า
    (หมายเหตุ ชื่อเรื่องตามชื่อแปลอย่างเป็นทางการโดยช่อง 3 ของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    แฟชั่นทาปากแบบไม่เต็มริมฝีปากหรือที่เรียกว่า “เตี่ยนฉุน” (点唇 หรือริมฝีปากแต้มจุดเดียว) นั้น มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (เห็นได้จากภาพที่แปะมาให้ดู) พอถึงยุคสมัยราชวงศ์ถังนิยมวาดเป็นดอกไม้ ถูกเปรียบเปรยในบทกวีในสมัยนั้นด้วยวลีที่ว่า “อิงเถาเสียวโข่ว” (樱桃小口) หรือปากเล็กดุจเชอร์รี่

    มีบันทึกเกร็ดชีวิตประจำวันโบราณสมัยปลายหมิงถึงชิง “เสียนฉิงโอ่วจี้” (闲情偶记) โดยหลี่อวี๋ (ค.ศ. 1611-1680) บรรยายถึงวิธีการทาปากไว้ว่า “การแต้มปากนั้น ใช้เพียงแตะเป็นจุดเดียว คล้ายผลเชอร์รี่ หากยังวาดต่อทำได้อีกเพียงสองสามแต้ม สลับยาวสั้นกว้างแคบ ประกอบเป็นพวงดอกเชอร์รี่ มิใช่เป็นรูปก้อนกลม”

    แต่อย่างที่เห็นจากรูปประกอบ รูปทรงของการทาปากเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์ชิงมีสามแบบหลักด้วยกัน คือ 1) ทาริมฝีปากบน ส่วนริมฝีปากล่างแต้มเพียงเล็กน้อย หรือ 2) วาดเป็นรูปกลีบดอกเชอรี่ (ห้ากลีบ) หรือ 3) เป็นแบบในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> คือทาริมฝีปากล่างแต่ไม่ทาริมฝีปากบน เรียกว่า “เตี่ยนเจี้ยงฉุน” (点绛唇) แบบหลังนี้มีหลักฐานเห็นชัดในรูปภาพวาดต่างๆ เช่นที่นำมาแปะให้ดูคือภาพของซูเฟย หนึ่งในพระชายาของเฉียนหลงฮ่องเต้ (ภาพแรกขวาบน)

    เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนอาจเหมือน Storyฯ ที่เข้าใจตามละครสมัยราชวงศ์ชิงหลายเรื่องว่าสมัยนั้นเน้นการแต่งหน้าเข้มควบคู่ไปกับการแต่งองค์ทรงเครื่องที่หรูหรา โดยเฉพาะสาวในวัง แต่จริงๆ แล้วนิยามความงามสตรีในยุคสมัยนั้นคือ คิ้วโก่งบาง ไม่แต่งหน้าเข้ม และทาปากอ่อนๆ จึงนับว่าละครเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> เป็นเรื่องที่แต่งหน้าได้ค่อนข้างตรงกับประวัติศาสตร์จริงพอสมควร (เฉพาะเรื่องแต่งหน้านะคะ เรื่องอื่นมีคนเคยวิจารณ์เปรียบเทียบว่ามีผิดเพี้ยนบ้างเหมือนกัน)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.elle.com/tw/entertainment/drama/g35859439/china-drama-the-legend-of-zhenhuan/
    https://www.baobuzz.com/info/621726.html
    https://www.sohu.com/a/253010194_100213042
    https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html
    https://imod-fms.csu.edu.tw/sysdata/doc/7/716d03a5b1b4e483/pdf.pdf
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_9398854
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html
    https://kknews.cc/fashion/qy55rgb.html
    http://www.guoxue123.com/biji/qing2/xqoj/014.htm
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/29773775

    #ตำหนักเหยียนสี่ #เว่ยอิงหลัว #หรูอี้ #เจินหวน #ราชวงศ์ชิง #แต่งหน้าจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ
    ละครสมัยราชวงศ์ชิงที่ออกฉายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีหลายเรื่องที่ดูจะมีความเนี้ยบด้านเสื้อผ้าหน้าผม วันนี้เลยเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดู เพราะทุกเรื่องมีทั้งส่วนที่สมจริงและที่ไม่สมจริง แต่ความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ที่จะพูดถึงในวันนี้คือการทาปากของสาวๆ ในละครเหล่านี้ที่ดูจะเข้มข้นแตกต่างกันไป เพื่อนเพจหลายท่านอาจทราบอยู่แล้วว่า วัฒนธรรมจีนโบราณมีค่านิยมว่า ปากที่สวยต้องเล็ก ดังบทความข้างล่างว่า ...เว่ยอิงหลัวอยู่ในชุดแต่งงานสีแดงสด แป้งผัดเบาบางดุจสายลมมาลูบไล้ด้วยหิมะ แก้มแดงระเรื่อดุจท้องฟ้าถูกเกลี่ยด้วยแสงอัสดง ส่วนริมฝีปากนั้นเล่า แต้มแดงชาดเพียงจุดเดียว โดดเด่นไม่อาจมองข้าม หากบุรุษบ้านใดได้แต่งเจ้าสาวงดงามเยี่ยงนี้ คงดีใจจนบ้าคลั่ง... - จากเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ผู้แต่ง เซี่ยวเหลี่ยนเม้า (หมายเหตุ ชื่อเรื่องตามชื่อแปลอย่างเป็นทางการโดยช่อง 3 ของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) แฟชั่นทาปากแบบไม่เต็มริมฝีปากหรือที่เรียกว่า “เตี่ยนฉุน” (点唇 หรือริมฝีปากแต้มจุดเดียว) นั้น มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (เห็นได้จากภาพที่แปะมาให้ดู) พอถึงยุคสมัยราชวงศ์ถังนิยมวาดเป็นดอกไม้ ถูกเปรียบเปรยในบทกวีในสมัยนั้นด้วยวลีที่ว่า “อิงเถาเสียวโข่ว” (樱桃小口) หรือปากเล็กดุจเชอร์รี่ มีบันทึกเกร็ดชีวิตประจำวันโบราณสมัยปลายหมิงถึงชิง “เสียนฉิงโอ่วจี้” (闲情偶记) โดยหลี่อวี๋ (ค.ศ. 1611-1680) บรรยายถึงวิธีการทาปากไว้ว่า “การแต้มปากนั้น ใช้เพียงแตะเป็นจุดเดียว คล้ายผลเชอร์รี่ หากยังวาดต่อทำได้อีกเพียงสองสามแต้ม สลับยาวสั้นกว้างแคบ ประกอบเป็นพวงดอกเชอร์รี่ มิใช่เป็นรูปก้อนกลม” แต่อย่างที่เห็นจากรูปประกอบ รูปทรงของการทาปากเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์ชิงมีสามแบบหลักด้วยกัน คือ 1) ทาริมฝีปากบน ส่วนริมฝีปากล่างแต้มเพียงเล็กน้อย หรือ 2) วาดเป็นรูปกลีบดอกเชอรี่ (ห้ากลีบ) หรือ 3) เป็นแบบในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> คือทาริมฝีปากล่างแต่ไม่ทาริมฝีปากบน เรียกว่า “เตี่ยนเจี้ยงฉุน” (点绛唇) แบบหลังนี้มีหลักฐานเห็นชัดในรูปภาพวาดต่างๆ เช่นที่นำมาแปะให้ดูคือภาพของซูเฟย หนึ่งในพระชายาของเฉียนหลงฮ่องเต้ (ภาพแรกขวาบน) เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนอาจเหมือน Storyฯ ที่เข้าใจตามละครสมัยราชวงศ์ชิงหลายเรื่องว่าสมัยนั้นเน้นการแต่งหน้าเข้มควบคู่ไปกับการแต่งองค์ทรงเครื่องที่หรูหรา โดยเฉพาะสาวในวัง แต่จริงๆ แล้วนิยามความงามสตรีในยุคสมัยนั้นคือ คิ้วโก่งบาง ไม่แต่งหน้าเข้ม และทาปากอ่อนๆ จึงนับว่าละครเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> เป็นเรื่องที่แต่งหน้าได้ค่อนข้างตรงกับประวัติศาสตร์จริงพอสมควร (เฉพาะเรื่องแต่งหน้านะคะ เรื่องอื่นมีคนเคยวิจารณ์เปรียบเทียบว่ามีผิดเพี้ยนบ้างเหมือนกัน) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.elle.com/tw/entertainment/drama/g35859439/china-drama-the-legend-of-zhenhuan/ https://www.baobuzz.com/info/621726.html https://www.sohu.com/a/253010194_100213042 https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html https://imod-fms.csu.edu.tw/sysdata/doc/7/716d03a5b1b4e483/pdf.pdf https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_9398854 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html https://kknews.cc/fashion/qy55rgb.html http://www.guoxue123.com/biji/qing2/xqoj/014.htm https://zhuanlan.zhihu.com/p/29773775 #ตำหนักเหยียนสี่ #เว่ยอิงหลัว #หรูอี้ #เจินหวน #ราชวงศ์ชิง #แต่งหน้าจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ
    WWW.ELLE.COM
    《後宮甄嬛傳》前傳確定開拍!作者親揭《德妃傳》5大看點,比《如懿傳》更值得期待
    繼孫儷《甄嬛傳》、周迅《如懿傳》之後,同系列宮鬥劇又有一部衍生作品啦!
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • โชว์ภาวะผู้นำ!!!! 'นายกฯ' หนีนักข่าว ไม่ตอบปมร้อน 'เพื่อนซี้พ่อ' จะยึดดินแดนไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/19141/
    โชว์ภาวะผู้นำ!!!! 'นายกฯ' หนีนักข่าว ไม่ตอบปมร้อน 'เพื่อนซี้พ่อ' จะยึดดินแดนไทย https://www.thai-tai.tv/news/19141/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

    เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้

    อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893

    #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน • เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้ • อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893 • #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ท่านไม่รังเกียจเรา ..บุญกุศลที่เราทำไว้ในแต่ละชาติก็มีบุญเป็นเพื่อน ทุกข์ยากก็นึกถึงบุญ เกิดมาใช้กรรมให้เจ้ากรรมเขา แต่ไม่ละเลิกจะสร้างกรรมดีคือบุญกุศล
    มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ท่านไม่รังเกียจเรา ..บุญกุศลที่เราทำไว้ในแต่ละชาติก็มีบุญเป็นเพื่อน ทุกข์ยากก็นึกถึงบุญ เกิดมาใช้กรรมให้เจ้ากรรมเขา แต่ไม่ละเลิกจะสร้างกรรมดีคือบุญกุศล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 AI กำลังกลายเป็นอาวุธลับของพนักงาน
    ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตการทำงาน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร อย่างไรก็ตาม มีพนักงานจำนวนมากที่เลือกใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้บริหารทราบ

    จากการสำรวจของ Ivanti พบว่า หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ โดยมีเหตุผลหลักสองประการ:

    1) 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน
    2) 30% กังวลว่าการเปิดเผยการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน

    นอกจากนี้ 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้เครื่องมือ AI เช่น ChatGPT ในการทำงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว และในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ตัวเลขนี้สูงถึง 74%

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ
    - 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน
    - 30% กังวลว่าการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน
    - 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว
    - 74% ของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI อย่างลับ ๆ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    - องค์กรอาจสูญเสียการควบคุมข้อมูลสำคัญ หากพนักงานใช้ AI โดยไม่มีมาตรการป้องกัน
    - 52% ของพนักงานเชื่อว่าการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหมายถึงการทำงานมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน
    - องค์กรต้องพัฒนาแนวทางการใช้ AI ที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและจริยธรรม

    AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร องค์กรควร ส่งเสริมการใช้ AI อย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/03/ai-is-becoming-a-secret-weapon-for-workers
    🤖 AI กำลังกลายเป็นอาวุธลับของพนักงาน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตการทำงาน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร อย่างไรก็ตาม มีพนักงานจำนวนมากที่เลือกใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้บริหารทราบ จากการสำรวจของ Ivanti พบว่า หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ โดยมีเหตุผลหลักสองประการ: 1) 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน 2) 30% กังวลว่าการเปิดเผยการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน นอกจากนี้ 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้เครื่องมือ AI เช่น ChatGPT ในการทำงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว และในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ตัวเลขนี้สูงถึง 74% ✅ ข้อมูลจากข่าว - หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ - 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน - 30% กังวลว่าการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน - 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว - 74% ของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI อย่างลับ ๆ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล - องค์กรอาจสูญเสียการควบคุมข้อมูลสำคัญ หากพนักงานใช้ AI โดยไม่มีมาตรการป้องกัน - 52% ของพนักงานเชื่อว่าการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหมายถึงการทำงานมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน - องค์กรต้องพัฒนาแนวทางการใช้ AI ที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและจริยธรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร องค์กรควร ส่งเสริมการใช้ AI อย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/03/ai-is-becoming-a-secret-weapon-for-workers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI is becoming a secret weapon for workers
    Artificial intelligence is gradually becoming part of everyday working life, promising productivity gains and a transformation of working methods. Between enthusiasm and caution, companies are trying to harness this revolutionary technology and integrate it into their processes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ สำหรับพระเอกชื่อดัง “นนกุล ชานน สันตินธรกุล” เมื่อ “คุณแม่เพ็กแฮ สันตินธรกุล” จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งครอบครัวได้เผยรายละเอียดว่า ที่ผ่านมาคุณแม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มาตลอด และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กระทั่งวันเกิดเหตุ แม่มีอาการไอและมีเลือดออก คุณพ่อจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลแผนกฉุกเฉินทันที แต่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

    โดยเวลา 16.00 น. วันนี้ (2 มิ.ย.2568) มีพิธีรดน้ำศพที่ศาลา 23 (ศาลาดุรงพิทยา) วัดธาตุทอง พระอารามหลวง และสวดอภิธรรมเวลา 18.00 น. จากนั้นจะมีพิธีสวดอภิธรรมอีกครั้งวันที่ 4 มิ.ย. ถึงวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 19.00 น. และฌาปนกิจวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 17.00 น. ณ เมรุวัดธาตุทอง

    บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีครอบครัวและญาติสนิทเดินทางมาร่วมไว้อาลัยแน่นศาลา รวมถึงมีเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิงของนนกุล ส่งพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยคุณแม่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เจ้าตัวยังอยู่ในอาการเสียใจและยังทำใจไม่ได้ต่อการสูญเสียครั้งนี้ โดยมีแฟนสาว “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” และลูกสาวแอฟ “น้องปีใหม่” คอยเคียงข้างให้กำลังใจไม่ห่าง ซึ่งระหว่างพิธีรดน้ำศพนนกุลมีแววตาเศร้า ส่วนแอฟก็ได้ร้องไห้ออกมาด้วยความอาลัย เป็นความรู้สึกผูกพันที่มีต่อกันระหว่างแอฟและคุณแม่ของนนกุล

    นอกจากนี้ แอฟ และน้องปีใหม่ ยังทำหน้าที่ดูแลคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างดี โดยคอยเสิร์ฟน้ำดื่มให้กับแขกเหรื่อ รวมถึงสื่อมวลชนด้วย
    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000051750

    #MGROnline #นนกุล #แอฟทักษอร
    ต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ สำหรับพระเอกชื่อดัง “นนกุล ชานน สันตินธรกุล” เมื่อ “คุณแม่เพ็กแฮ สันตินธรกุล” จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งครอบครัวได้เผยรายละเอียดว่า ที่ผ่านมาคุณแม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มาตลอด และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กระทั่งวันเกิดเหตุ แม่มีอาการไอและมีเลือดออก คุณพ่อจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลแผนกฉุกเฉินทันที แต่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ • โดยเวลา 16.00 น. วันนี้ (2 มิ.ย.2568) มีพิธีรดน้ำศพที่ศาลา 23 (ศาลาดุรงพิทยา) วัดธาตุทอง พระอารามหลวง และสวดอภิธรรมเวลา 18.00 น. จากนั้นจะมีพิธีสวดอภิธรรมอีกครั้งวันที่ 4 มิ.ย. ถึงวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 19.00 น. และฌาปนกิจวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 17.00 น. ณ เมรุวัดธาตุทอง • บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีครอบครัวและญาติสนิทเดินทางมาร่วมไว้อาลัยแน่นศาลา รวมถึงมีเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิงของนนกุล ส่งพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยคุณแม่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เจ้าตัวยังอยู่ในอาการเสียใจและยังทำใจไม่ได้ต่อการสูญเสียครั้งนี้ โดยมีแฟนสาว “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” และลูกสาวแอฟ “น้องปีใหม่” คอยเคียงข้างให้กำลังใจไม่ห่าง ซึ่งระหว่างพิธีรดน้ำศพนนกุลมีแววตาเศร้า ส่วนแอฟก็ได้ร้องไห้ออกมาด้วยความอาลัย เป็นความรู้สึกผูกพันที่มีต่อกันระหว่างแอฟและคุณแม่ของนนกุล • นอกจากนี้ แอฟ และน้องปีใหม่ ยังทำหน้าที่ดูแลคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างดี โดยคอยเสิร์ฟน้ำดื่มให้กับแขกเหรื่อ รวมถึงสื่อมวลชนด้วย คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000051750 • #MGROnline #นนกุล #แอฟทักษอร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญแจกทานหน้าเลื่อน หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555
    เหรียญแจกทานหน้าเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อทองแดงรมดำ ( ตอกโค๊ตจม ๕๕ ) หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 //"เปิดของหายาก หนึ่งเดียวในเว็บ" !! พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกหลายวาระ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาดปลอดภัย มหาอุด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >>


    ** พระดี พิธีใหญ๋ พิธีมหาพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2555 ณ.อุโบสถวัดช้างให้

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง หลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ ๕ มหามงคล
    1.เพื่อน้อมรำลึกคุณูปการของอาจารย์ทิม
    2.จัดซื้อที่ดินขยายอาณาเขต วัดช้างให้
    3.บูรณปฏิสังขรณ์ซุ้มประตูรอบพระอุโบสถ วัดช้างให้
    4.สนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม แผนกบาลี ประจำจังหวัดปัตตานี
    5.ส่งเสริมศูนย์การศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดช้างให้
    6.งานสาธารณประโยชน์ของทางราชการ และประชาชนทั่วไป

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญแจกทานหน้าเลื่อน หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 เหรียญแจกทานหน้าเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อทองแดงรมดำ ( ตอกโค๊ตจม ๕๕ ) หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 //"เปิดของหายาก หนึ่งเดียวในเว็บ" !! พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกหลายวาระ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาดปลอดภัย มหาอุด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >> ** พระดี พิธีใหญ๋ พิธีมหาพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2555 ณ.อุโบสถวัดช้างให้ วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง หลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ ๕ มหามงคล 1.เพื่อน้อมรำลึกคุณูปการของอาจารย์ทิม 2.จัดซื้อที่ดินขยายอาณาเขต วัดช้างให้ 3.บูรณปฏิสังขรณ์ซุ้มประตูรอบพระอุโบสถ วัดช้างให้ 4.สนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม แผนกบาลี ประจำจังหวัดปัตตานี 5.ส่งเสริมศูนย์การศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดช้างให้ 6.งานสาธารณประโยชน์ของทางราชการ และประชาชนทั่วไป ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts