• 'เขมร' ได้ทียกคำพูด “อังคณา-สุณัย” แถลงการณ์ชี้ "ซาวด์ผี" กัน จอมพลัง ละเมิดสิทธิฯ รุนแรง นักสิทธิมนุษยชนไทยยอมรับเอง
    https://www.thai-tai.tv/news/21904/
    .
    #ไทยไท #สิทธิมนุษยชน #CHRC #กันจอมพลัง #ซาวด์ผี #อนุสัญญาCAT #สุณัยผาสุข

    'เขมร' ได้ทียกคำพูด “อังคณา-สุณัย” แถลงการณ์ชี้ "ซาวด์ผี" กัน จอมพลัง ละเมิดสิทธิฯ รุนแรง นักสิทธิมนุษยชนไทยยอมรับเอง https://www.thai-tai.tv/news/21904/ . #ไทยไท #สิทธิมนุษยชน #CHRC #กันจอมพลัง #ซาวด์ผี #อนุสัญญาCAT #สุณัยผาสุข
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! อ.ปานเทพพบนายกหนู อ่านแถลงการณ์ต่อหน้าแบบนี้!! (14/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #อาจารย์ปานเทพ
    #อนุทิน
    #นายกหนู
    #ยกเลิกMOU43
    #รักษาสิทธิ์ประเทศไทย
    #MOU43
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวtiktok
    #newsupdate
    ด่วน! อ.ปานเทพพบนายกหนู อ่านแถลงการณ์ต่อหน้าแบบนี้!! (14/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #อาจารย์ปานเทพ #อนุทิน #นายกหนู #ยกเลิกMOU43 #รักษาสิทธิ์ประเทศไทย #MOU43 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าววันนี้ #ข่าวtiktok #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยึดกิจการ Nexperia — ปกป้องเทคโนโลยีชิปจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์”

    เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2025 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ดำเนินการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการเข้าควบคุมกิจการของ Nexperia บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีฐานอยู่ในประเทศ แต่เป็นบริษัทลูกของ Wingtech Technology จากจีน โดยอ้างอำนาจตามกฎหมาย Goods Availability Act เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าจำเป็น เช่น ชิปอิเล็กทรอนิกส์ ขาดแคลนในกรณีฉุกเฉิน

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยระดับชาติ

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ระบุว่ามี “สัญญาณล่าสุดและเฉียบพลัน” เกี่ยวกับปัญหาการกำกับดูแลภายใน Nexperia ที่อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของเทคโนโลยีสำคัญในยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งพึ่งพาชิปจาก Nexperia อย่างมาก

    หลังคำสั่งรัฐมนตรี Wingtech ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ว่าผู้บริหารระดับสูงของ Nexperia ถูกสั่งพักงาน และบริษัทจะอยู่ภายใต้การบริหารภายนอกชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี พร้อมระงับการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินและบุคลากร

    แม้ Nexperia จะยืนยันว่าบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจ แต่โพสต์ที่ถูกลบของ Wingtech ใน WeChat ระบุว่าการยึดกิจการครั้งนี้เป็น “การแทรกแซงเกินขอบเขตโดยอคติทางภูมิรัฐศาสตร์” ซึ่งสะท้อนความไม่พอใจของจีนอย่างชัดเจน

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมาย Goods Availability Act ควบคุม Nexperia
    เพื่อป้องกันการขาดแคลนชิปในกรณีฉุกเฉิน

    Nexperia เป็นบริษัทลูกของ Wingtech Technology จากจีน
    มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์

    มีสัญญาณปัญหาการกำกับดูแลภายใน Nexperia
    อาจกระทบต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของยุโรป

    Wingtech รายงานว่าผู้บริหาร Nexperia ถูกสั่งพักงาน
    บริษัทอยู่ภายใต้การบริหารภายนอกชั่วคราว 1 ปี

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ระบุว่าเป็น “การดำเนินการที่พิเศษมาก”
    สะท้อนความสำคัญของเทคโนโลยีชิปต่อเศรษฐกิจ

    Wingtech แสดงความไม่พอใจผ่านโพสต์ใน WeChat
    มองว่าเป็นการแทรกแซงด้วยอคติทางภูมิรัฐศาสตร์

    Nexperia ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายทุกประเทศ
    ยังไม่มีแถลงการณ์เพิ่มเติมจากบริษัท

    https://www.cnbc.com/2025/10/13/dutch-government-takes-control-of-chinese-owned-chipmaker-nexperia.html
    🇳🇱 “รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยึดกิจการ Nexperia — ปกป้องเทคโนโลยีชิปจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์” เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2025 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ดำเนินการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการเข้าควบคุมกิจการของ Nexperia บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีฐานอยู่ในประเทศ แต่เป็นบริษัทลูกของ Wingtech Technology จากจีน โดยอ้างอำนาจตามกฎหมาย Goods Availability Act เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าจำเป็น เช่น ชิปอิเล็กทรอนิกส์ ขาดแคลนในกรณีฉุกเฉิน การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยระดับชาติ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ระบุว่ามี “สัญญาณล่าสุดและเฉียบพลัน” เกี่ยวกับปัญหาการกำกับดูแลภายใน Nexperia ที่อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของเทคโนโลยีสำคัญในยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งพึ่งพาชิปจาก Nexperia อย่างมาก หลังคำสั่งรัฐมนตรี Wingtech ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ว่าผู้บริหารระดับสูงของ Nexperia ถูกสั่งพักงาน และบริษัทจะอยู่ภายใต้การบริหารภายนอกชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี พร้อมระงับการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินและบุคลากร แม้ Nexperia จะยืนยันว่าบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจ แต่โพสต์ที่ถูกลบของ Wingtech ใน WeChat ระบุว่าการยึดกิจการครั้งนี้เป็น “การแทรกแซงเกินขอบเขตโดยอคติทางภูมิรัฐศาสตร์” ซึ่งสะท้อนความไม่พอใจของจีนอย่างชัดเจน ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมาย Goods Availability Act ควบคุม Nexperia ➡️ เพื่อป้องกันการขาดแคลนชิปในกรณีฉุกเฉิน ✅ Nexperia เป็นบริษัทลูกของ Wingtech Technology จากจีน ➡️ มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ✅ มีสัญญาณปัญหาการกำกับดูแลภายใน Nexperia ➡️ อาจกระทบต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของยุโรป ✅ Wingtech รายงานว่าผู้บริหาร Nexperia ถูกสั่งพักงาน ➡️ บริษัทอยู่ภายใต้การบริหารภายนอกชั่วคราว 1 ปี ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ระบุว่าเป็น “การดำเนินการที่พิเศษมาก” ➡️ สะท้อนความสำคัญของเทคโนโลยีชิปต่อเศรษฐกิจ ✅ Wingtech แสดงความไม่พอใจผ่านโพสต์ใน WeChat ➡️ มองว่าเป็นการแทรกแซงด้วยอคติทางภูมิรัฐศาสตร์ ✅ Nexperia ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายทุกประเทศ ➡️ ยังไม่มีแถลงการณ์เพิ่มเติมจากบริษัท https://www.cnbc.com/2025/10/13/dutch-government-takes-control-of-chinese-owned-chipmaker-nexperia.html
    WWW.CNBC.COM
    Dutch government takes control of Chinese-owned chipmaker Nexperia in 'highly exceptional' move
    The Dutch government has invoked the Goods Availability Act to take control of Nexperia, a Chinese-owned semiconductor maker based in the Netherlands.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Scattered LAPSUS$ Hunters อ้างขโมยข้อมูล 1 พันล้านเรคคอร์ดจาก Salesforce — เปิดฉากเรียกค่าไถ่ระดับโลก”

    กลุ่มแฮ็กเกอร์พันธมิตรใหม่ในชื่อ “Scattered LAPSUS$ Hunters” หรือ SLSH ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ชื่อดังอย่าง LAPSUS$, Scattered Spider (Muddled Libra) และ ShinyHunters (Bling Libra) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการเจาะระบบของลูกค้า Salesforce กว่า 39 รายทั่วโลก และขโมยข้อมูลลูกค้ารวมกว่า 1 พันล้านเรคคอร์ด

    จากรายงานของ Unit 42 (Palo Alto Networks) กลุ่มนี้ไม่ได้ใช้วิธี ransomware แบบเดิมที่เข้ารหัสไฟล์ แต่ใช้โมเดล “Extortion-as-a-Service” (EaaS) ที่เน้นการขโมยข้อมูลและข่มขู่เรียกค่าไถ่โดยไม่ทิ้งร่องรอยของมัลแวร์ ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจจับและหลีกเลี่ยงการถูกบล็อกโดยระบบรักษาความปลอดภัย

    กลุ่ม SLSH ยังเปิดเผยรายชื่อเหยื่อและตั้งเส้นตายให้จ่ายค่าไถ่ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2025 พร้อมขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลหากไม่ปฏิบัติตาม พวกเขายังเปิดรับสมัครแฮ็กเกอร์เพิ่มเติมผ่าน Telegram เพื่อช่วยส่งจดหมายข่มขู่ไปยังผู้บริหารขององค์กรเป้าหมาย

    Salesforce ออกแถลงการณ์ปฏิเสธการเจรจาและยืนยันว่าจะไม่จ่ายค่าไถ่ใด ๆ ขณะที่ FBI ได้เข้ายึดโดเมนของ BreachForums ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มใช้เผยแพร่ข้อมูลที่ขโมยมา

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    กลุ่ม Scattered LAPSUS$ Hunters (SLSH) อ้างขโมยข้อมูลจากลูกค้า Salesforce
    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมกว่า 1 พันล้านเรคคอร์ดจาก 39 องค์กร
    ใช้โมเดล EaaS (Extortion-as-a-Service) แทน ransomware
    ไม่ใช้มัลแวร์เข้ารหัส แต่เน้นข่มขู่ด้วยข้อมูลที่ขโมยมา
    ตั้งเส้นตายเรียกค่าไถ่ภายใน 10 ตุลาคม 2025
    รับสมัครแฮ็กเกอร์ผ่าน Telegram เพื่อช่วยส่งจดหมายข่มขู่
    Salesforce ปฏิเสธการเจรจาและไม่จ่ายค่าไถ่
    FBI ยึดโดเมนของ BreachForums ที่ใช้เผยแพร่ข้อมูล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    LAPSUS$ เคยโจมตี Microsoft, NVIDIA และ Uber ในอดีต
    Scattered Spider มีความเชี่ยวชาญด้าน social engineering
    ShinyHunters เคยขายข้อมูลผู้ใช้จากหลายแพลตฟอร์มใหญ่
    EaaS กำลังเป็นแนวโน้มใหม่ในโลกไซเบอร์ เพราะหลีกเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย
    การยึดโดเมนของ BreachForums เป็นความพยายามของ FBI ในการตัดช่องทางเผยแพร่

    https://securityonline.info/hacker-alliance-demands-ransom-scattered-lapsus-hunters-claim-1-billion-records-stolen-from-salesforce/
    🕵️‍♂️ “Scattered LAPSUS$ Hunters อ้างขโมยข้อมูล 1 พันล้านเรคคอร์ดจาก Salesforce — เปิดฉากเรียกค่าไถ่ระดับโลก” กลุ่มแฮ็กเกอร์พันธมิตรใหม่ในชื่อ “Scattered LAPSUS$ Hunters” หรือ SLSH ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ชื่อดังอย่าง LAPSUS$, Scattered Spider (Muddled Libra) และ ShinyHunters (Bling Libra) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการเจาะระบบของลูกค้า Salesforce กว่า 39 รายทั่วโลก และขโมยข้อมูลลูกค้ารวมกว่า 1 พันล้านเรคคอร์ด จากรายงานของ Unit 42 (Palo Alto Networks) กลุ่มนี้ไม่ได้ใช้วิธี ransomware แบบเดิมที่เข้ารหัสไฟล์ แต่ใช้โมเดล “Extortion-as-a-Service” (EaaS) ที่เน้นการขโมยข้อมูลและข่มขู่เรียกค่าไถ่โดยไม่ทิ้งร่องรอยของมัลแวร์ ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจจับและหลีกเลี่ยงการถูกบล็อกโดยระบบรักษาความปลอดภัย กลุ่ม SLSH ยังเปิดเผยรายชื่อเหยื่อและตั้งเส้นตายให้จ่ายค่าไถ่ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2025 พร้อมขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลหากไม่ปฏิบัติตาม พวกเขายังเปิดรับสมัครแฮ็กเกอร์เพิ่มเติมผ่าน Telegram เพื่อช่วยส่งจดหมายข่มขู่ไปยังผู้บริหารขององค์กรเป้าหมาย Salesforce ออกแถลงการณ์ปฏิเสธการเจรจาและยืนยันว่าจะไม่จ่ายค่าไถ่ใด ๆ ขณะที่ FBI ได้เข้ายึดโดเมนของ BreachForums ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มใช้เผยแพร่ข้อมูลที่ขโมยมา ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ กลุ่ม Scattered LAPSUS$ Hunters (SLSH) อ้างขโมยข้อมูลจากลูกค้า Salesforce ➡️ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมกว่า 1 พันล้านเรคคอร์ดจาก 39 องค์กร ➡️ ใช้โมเดล EaaS (Extortion-as-a-Service) แทน ransomware ➡️ ไม่ใช้มัลแวร์เข้ารหัส แต่เน้นข่มขู่ด้วยข้อมูลที่ขโมยมา ➡️ ตั้งเส้นตายเรียกค่าไถ่ภายใน 10 ตุลาคม 2025 ➡️ รับสมัครแฮ็กเกอร์ผ่าน Telegram เพื่อช่วยส่งจดหมายข่มขู่ ➡️ Salesforce ปฏิเสธการเจรจาและไม่จ่ายค่าไถ่ ➡️ FBI ยึดโดเมนของ BreachForums ที่ใช้เผยแพร่ข้อมูล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ LAPSUS$ เคยโจมตี Microsoft, NVIDIA และ Uber ในอดีต ➡️ Scattered Spider มีความเชี่ยวชาญด้าน social engineering ➡️ ShinyHunters เคยขายข้อมูลผู้ใช้จากหลายแพลตฟอร์มใหญ่ ➡️ EaaS กำลังเป็นแนวโน้มใหม่ในโลกไซเบอร์ เพราะหลีกเลี่ยงการตรวจจับได้ง่าย ➡️ การยึดโดเมนของ BreachForums เป็นความพยายามของ FBI ในการตัดช่องทางเผยแพร่ https://securityonline.info/hacker-alliance-demands-ransom-scattered-lapsus-hunters-claim-1-billion-records-stolen-from-salesforce/
    SECURITYONLINE.INFO
    Hacker Alliance Demands Ransom: Scattered LAPSUS$ Hunters Claim 1 Billion Records Stolen from Salesforce
    A consortium of LAPSUS$/ShinyHunters hackers launched an EaaS campaign, claiming 1 billion records stolen from 39 Salesforce customers, and demanded a ransom before an October 10 deadline.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สิงคโปร์ตกเป็นเป้า! สหรัฐสอบสวนบริษัทต้องสงสัยส่งต่อชิป AI มูลค่า $2 พันล้านให้จีน — NVIDIA ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง”

    รายงานข่าวจาก Tom’s Hardware ระบุว่า หน่วยงานของสหรัฐฯ กำลังสอบสวนบริษัทในสิงคโปร์ที่ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการช่วยให้จีนสามารถเข้าถึงชิปประมวลผล AI ของ NVIDIA มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจละเมิดข้อจำกัดด้านการส่งออกที่สหรัฐฯ กำหนดไว้เพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน

    แม้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่รายงานชี้ว่าบริษัทดังกล่าวอาจทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” หรือ “บริษัทบังหน้า” ที่ช่วยอำพรางการส่งออกชิปไปยังจีน โดยเฉพาะชิป AI ระดับสูงอย่าง NVIDIA A100 และ H100 ซึ่งถูกควบคุมอย่างเข้มงวดภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ

    NVIDIA ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกกล่าวหา และยืนยันว่าบริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการส่งออกอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าสืบสวนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    สหรัฐฯ สอบสวนบริษัทในสิงคโปร์ที่อาจช่วยจีนเข้าถึงชิป AI ของ NVIDIA
    มูลค่าชิปที่เกี่ยวข้องสูงถึง $2 พันล้าน
    ชิปที่ถูกกล่าวถึงคือ NVIDIA A100 และ H100 ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออก
    บริษัทดังกล่าวอาจทำหน้าที่เป็นตัวกลางหรือบริษัทบังหน้า
    NVIDIA ปฏิเสธความเกี่ยวข้องและยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายส่งออก
    การสอบสวนยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและยังไม่มีการตั้งข้อหา

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    A100 และ H100 เป็นชิป AI ระดับสูงที่ใช้ในงานฝึกโมเดลขนาดใหญ่ เช่น LLM และระบบ AI เชิงพาณิชย์
    สหรัฐฯ มีนโยบายควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน เพื่อจำกัดการพัฒนา AI ทางการทหาร
    สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ทำให้มีความเสี่ยงในการถูกใช้เป็นจุดผ่านของสินค้าควบคุม
    การใช้บริษัทตัวกลางเป็นเทคนิคที่พบได้บ่อยในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร
    NVIDIA มีรายได้จำนวนมากจากตลาดเอเชีย โดยเฉพาะจีน ซึ่งเคยเป็นลูกค้ารายใหญ่ของชิป AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/singapore-company-alleged-to-have-helped-china-get-usd2-billion-worth-of-nvidia-ai-processors-report-claims-nvidia-denies-that-the-accused-has-any-china-ties-but-a-u-s-investigation-is-underway
    🌐 “สิงคโปร์ตกเป็นเป้า! สหรัฐสอบสวนบริษัทต้องสงสัยส่งต่อชิป AI มูลค่า $2 พันล้านให้จีน — NVIDIA ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง” รายงานข่าวจาก Tom’s Hardware ระบุว่า หน่วยงานของสหรัฐฯ กำลังสอบสวนบริษัทในสิงคโปร์ที่ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการช่วยให้จีนสามารถเข้าถึงชิปประมวลผล AI ของ NVIDIA มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจละเมิดข้อจำกัดด้านการส่งออกที่สหรัฐฯ กำหนดไว้เพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน แม้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่รายงานชี้ว่าบริษัทดังกล่าวอาจทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” หรือ “บริษัทบังหน้า” ที่ช่วยอำพรางการส่งออกชิปไปยังจีน โดยเฉพาะชิป AI ระดับสูงอย่าง NVIDIA A100 และ H100 ซึ่งถูกควบคุมอย่างเข้มงวดภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ NVIDIA ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกกล่าวหา และยืนยันว่าบริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการส่งออกอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าสืบสวนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ สหรัฐฯ สอบสวนบริษัทในสิงคโปร์ที่อาจช่วยจีนเข้าถึงชิป AI ของ NVIDIA ➡️ มูลค่าชิปที่เกี่ยวข้องสูงถึง $2 พันล้าน ➡️ ชิปที่ถูกกล่าวถึงคือ NVIDIA A100 และ H100 ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออก ➡️ บริษัทดังกล่าวอาจทำหน้าที่เป็นตัวกลางหรือบริษัทบังหน้า ➡️ NVIDIA ปฏิเสธความเกี่ยวข้องและยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายส่งออก ➡️ การสอบสวนยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและยังไม่มีการตั้งข้อหา ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ A100 และ H100 เป็นชิป AI ระดับสูงที่ใช้ในงานฝึกโมเดลขนาดใหญ่ เช่น LLM และระบบ AI เชิงพาณิชย์ ➡️ สหรัฐฯ มีนโยบายควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน เพื่อจำกัดการพัฒนา AI ทางการทหาร ➡️ สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ทำให้มีความเสี่ยงในการถูกใช้เป็นจุดผ่านของสินค้าควบคุม ➡️ การใช้บริษัทตัวกลางเป็นเทคนิคที่พบได้บ่อยในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ➡️ NVIDIA มีรายได้จำนวนมากจากตลาดเอเชีย โดยเฉพาะจีน ซึ่งเคยเป็นลูกค้ารายใหญ่ของชิป AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/singapore-company-alleged-to-have-helped-china-get-usd2-billion-worth-of-nvidia-ai-processors-report-claims-nvidia-denies-that-the-accused-has-any-china-ties-but-a-u-s-investigation-is-underway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Sora พุ่งแรง! แอปสร้างวิดีโอด้วย AI จาก OpenAI ทะลุ 1 ล้านดาวน์โหลดใน 5 วัน แม้ยังจำกัดการเข้าถึง”

    OpenAI เปิดตัวแอป Sora ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่ให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพนิ่งด้วยโมเดล AI Sora 2 โดยสามารถเพิ่มเสียง ดนตรี และบทสนทนาอัตโนมัติตามบริบทของคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป พร้อมฟีเจอร์ Cameo ที่ให้ผู้ใช้ใส่อวาตาร์เสมือนจริงของตนเองลงในวิดีโอได้อย่างสมจริง

    แม้จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะในอเมริกาเหนือ และต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น แต่ Sora ก็สามารถทำยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึง 5 วัน หรือเฉลี่ย 200,000 ครั้งต่อวัน ซึ่งถือว่าเร็วกว่า ChatGPT ในช่วงเปิดตัวเสียอีก

    แอปมีหน้าฟีดแบบ TikTok ที่แสดงวิดีโอที่สร้างด้วย AI ตามความสนใจของผู้ใช้ และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการสร้างคอนเทนต์แบบใหม่ อย่างไรก็ตาม Sora ก็เผชิญกับข้อถกเถียงเรื่องลิขสิทธิ์ เมื่อมีผู้ใช้สร้างตัวละครจากซีรีส์ดัง เช่น SpongeBob, Rick and Morty และ South Park โดยเปลี่ยนเนื้อเรื่องเดิม ซึ่งทำให้สมาคมภาพยนตร์สหรัฐฯ (MPA) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ OpenAI “ดำเนินการอย่างเด็ดขาด” เพื่อควบคุมการละเมิดนี้

    OpenAI เตรียมเพิ่มระบบควบคุมให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถจัดการการสร้างตัวละครและเนื้อหาได้ละเอียดขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิดในอนาคต

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    แอป Sora จาก OpenAI ใช้โมเดล Sora 2 สำหรับสร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพนิ่ง
    ฟีเจอร์ Cameo ให้ผู้ใช้ใส่อวาตาร์เสมือนจริงลงในวิดีโอ
    แอปเพิ่มเสียง ดนตรี และบทสนทนาอัตโนมัติตามคำสั่ง
    มีหน้าฟีดแบบ TikTok ที่แสดงวิดีโอ AI ตามความสนใจของผู้ใช้
    Sora ทำยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งใน 5 วัน เฉลี่ย 200,000 ครั้งต่อวัน
    เปิดใช้งานเฉพาะในอเมริกาเหนือ และต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น
    เร็วกว่า ChatGPT ในช่วงเปิดตัว แม้จำกัดการเข้าถึง
    ผู้ใช้สามารถสร้างตัวละครใหม่ในซีรีส์ดังได้ผ่านแอป
    MPA เรียกร้องให้ OpenAI ควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์
    OpenAI เตรียมเพิ่มระบบควบคุมให้เจ้าของลิขสิทธิ์จัดการเนื้อหาได้ละเอียดขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Sora 2 เป็นโมเดล text-to-video ที่ใช้ deep learning ในการสร้างภาพเคลื่อนไหว
    การสร้างวิดีโอจากภาพนิ่งช่วยให้ผู้ใช้มีวิธีเล่าเรื่องแบบใหม่
    Cameo avatars ใช้เทคโนโลยี generative face synthesis เพื่อความสมจริง
    การเพิ่มเสียงและบทสนทนาอัตโนมัติช่วยลดเวลาในการตัดต่อวิดีโอ
    การจำกัดการเข้าถึงแบบ invite-only เป็นกลยุทธ์ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย

    https://wccftech.com/openais-sora-video-app-now-averaging-200k-downloads-per-day-despite-invite-only-access/
    📱 “Sora พุ่งแรง! แอปสร้างวิดีโอด้วย AI จาก OpenAI ทะลุ 1 ล้านดาวน์โหลดใน 5 วัน แม้ยังจำกัดการเข้าถึง” OpenAI เปิดตัวแอป Sora ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่ให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพนิ่งด้วยโมเดล AI Sora 2 โดยสามารถเพิ่มเสียง ดนตรี และบทสนทนาอัตโนมัติตามบริบทของคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป พร้อมฟีเจอร์ Cameo ที่ให้ผู้ใช้ใส่อวาตาร์เสมือนจริงของตนเองลงในวิดีโอได้อย่างสมจริง แม้จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะในอเมริกาเหนือ และต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น แต่ Sora ก็สามารถทำยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึง 5 วัน หรือเฉลี่ย 200,000 ครั้งต่อวัน ซึ่งถือว่าเร็วกว่า ChatGPT ในช่วงเปิดตัวเสียอีก แอปมีหน้าฟีดแบบ TikTok ที่แสดงวิดีโอที่สร้างด้วย AI ตามความสนใจของผู้ใช้ และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการสร้างคอนเทนต์แบบใหม่ อย่างไรก็ตาม Sora ก็เผชิญกับข้อถกเถียงเรื่องลิขสิทธิ์ เมื่อมีผู้ใช้สร้างตัวละครจากซีรีส์ดัง เช่น SpongeBob, Rick and Morty และ South Park โดยเปลี่ยนเนื้อเรื่องเดิม ซึ่งทำให้สมาคมภาพยนตร์สหรัฐฯ (MPA) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ OpenAI “ดำเนินการอย่างเด็ดขาด” เพื่อควบคุมการละเมิดนี้ OpenAI เตรียมเพิ่มระบบควบคุมให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถจัดการการสร้างตัวละครและเนื้อหาได้ละเอียดขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิดในอนาคต ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ แอป Sora จาก OpenAI ใช้โมเดล Sora 2 สำหรับสร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพนิ่ง ➡️ ฟีเจอร์ Cameo ให้ผู้ใช้ใส่อวาตาร์เสมือนจริงลงในวิดีโอ ➡️ แอปเพิ่มเสียง ดนตรี และบทสนทนาอัตโนมัติตามคำสั่ง ➡️ มีหน้าฟีดแบบ TikTok ที่แสดงวิดีโอ AI ตามความสนใจของผู้ใช้ ➡️ Sora ทำยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งใน 5 วัน เฉลี่ย 200,000 ครั้งต่อวัน ➡️ เปิดใช้งานเฉพาะในอเมริกาเหนือ และต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น ➡️ เร็วกว่า ChatGPT ในช่วงเปิดตัว แม้จำกัดการเข้าถึง ➡️ ผู้ใช้สามารถสร้างตัวละครใหม่ในซีรีส์ดังได้ผ่านแอป ➡️ MPA เรียกร้องให้ OpenAI ควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์ ➡️ OpenAI เตรียมเพิ่มระบบควบคุมให้เจ้าของลิขสิทธิ์จัดการเนื้อหาได้ละเอียดขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Sora 2 เป็นโมเดล text-to-video ที่ใช้ deep learning ในการสร้างภาพเคลื่อนไหว ➡️ การสร้างวิดีโอจากภาพนิ่งช่วยให้ผู้ใช้มีวิธีเล่าเรื่องแบบใหม่ ➡️ Cameo avatars ใช้เทคโนโลยี generative face synthesis เพื่อความสมจริง ➡️ การเพิ่มเสียงและบทสนทนาอัตโนมัติช่วยลดเวลาในการตัดต่อวิดีโอ ➡️ การจำกัดการเข้าถึงแบบ invite-only เป็นกลยุทธ์ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย https://wccftech.com/openais-sora-video-app-now-averaging-200k-downloads-per-day-despite-invite-only-access/
    WCCFTECH.COM
    OpenAI's Sora Video App Now Averaging 200K Downloads Per Day, Despite Invite-Only Access
    OpenAI seems to have hit a home run with Sora, its new app for AI-generated videos, judging by the app's accelerating download trend.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • “iPhone 17 Pro Max เจอปัญหาเสียงรบกวนขณะชาร์จผ่าน USB-C — เสียงซ่าเบา ๆ แม้ปิดเสียง อาจเป็นบั๊กซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์?”

    หลังจากเปิดตัว iPhone 17 Pro Max ได้ไม่นาน ผู้ใช้จำนวนหนึ่งเริ่มรายงานปัญหาเสียงรบกวนจากลำโพงขณะชาร์จผ่านสาย USB-C โดยเสียงที่ได้ยินคล้ายคลื่นวิทยุหรือเสียงซ่าจากวิทยุเก่า ซึ่งเกิดขึ้นแม้จะตั้งค่าเสียงไว้ที่ระดับศูนย์ และไม่มีการเล่นเสียงใด ๆ

    เสียงรบกวนนี้มักเกิดจากลำโพงด้านล่างซ้ายของเครื่อง โดยจะได้ยินชัดเจนเมื่อเอาหูแนบใกล้ลำโพงขณะชาร์จผ่านสาย และจะหายไปทันทีเมื่อถอดสายชาร์จหรือใช้การชาร์จแบบไร้สายผ่าน MagSafe ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดเสียงน้อยกว่า

    ผู้ใช้บางรายพบว่าเสียงจะดังขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม หรือเมื่อมีการเลื่อนหน้าจอขณะชาร์จ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ UI และการจัดการพลังงานในระดับฮาร์ดแวร์

    แม้จะมีการเปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่หลายคนยังพบปัญหาเดิม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเป็นปัญหาในระดับการออกแบบหรือซอฟต์แวร์ของ iOS 26 โดย Genius Bar ของ Apple ยังไม่พบความผิดปกติในฮาร์ดแวร์ และแนะนำให้ส่งเสียงที่บันทึกไว้พร้อมภาพประกอบเพื่อให้ทีมวิศวกรตรวจสอบ

    Apple ยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปัญหานี้ และยังไม่มีการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไข แม้บางคนจะลองใช้ iOS 26.1 beta แล้วพบว่าเสียงยังคงอยู่

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ผู้ใช้ iPhone 17 Pro Max รายงานเสียงซ่าจากลำโพงขณะชาร์จผ่านสาย USB-C
    เสียงเกิดแม้ตั้งค่าเสียงเป็น 0 และไม่มีการเล่นเสียง
    ลำโพงด้านล่างซ้ายเป็นจุดที่เสียงรบกวนเกิดบ่อยที่สุด
    เสียงจะหายไปเมื่อถอดสายหรือใช้ MagSafe แทน
    ปัญหาเกิดมากขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็มหรือมีการเลื่อนหน้าจอ
    การเปลี่ยนเครื่องใหม่ไม่ช่วยแก้ปัญหา
    Genius Bar ไม่พบความผิดปกติในฮาร์ดแวร์
    Apple ยังไม่ออกแถลงการณ์หรือปล่อยอัปเดตแก้ไข

    https://securityonline.info/iphone-17-pro-max-users-report-distorted-audio-and-static-noise-during-usb-c-charging/
    📱 “iPhone 17 Pro Max เจอปัญหาเสียงรบกวนขณะชาร์จผ่าน USB-C — เสียงซ่าเบา ๆ แม้ปิดเสียง อาจเป็นบั๊กซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์?” หลังจากเปิดตัว iPhone 17 Pro Max ได้ไม่นาน ผู้ใช้จำนวนหนึ่งเริ่มรายงานปัญหาเสียงรบกวนจากลำโพงขณะชาร์จผ่านสาย USB-C โดยเสียงที่ได้ยินคล้ายคลื่นวิทยุหรือเสียงซ่าจากวิทยุเก่า ซึ่งเกิดขึ้นแม้จะตั้งค่าเสียงไว้ที่ระดับศูนย์ และไม่มีการเล่นเสียงใด ๆ เสียงรบกวนนี้มักเกิดจากลำโพงด้านล่างซ้ายของเครื่อง โดยจะได้ยินชัดเจนเมื่อเอาหูแนบใกล้ลำโพงขณะชาร์จผ่านสาย และจะหายไปทันทีเมื่อถอดสายชาร์จหรือใช้การชาร์จแบบไร้สายผ่าน MagSafe ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดเสียงน้อยกว่า ผู้ใช้บางรายพบว่าเสียงจะดังขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม หรือเมื่อมีการเลื่อนหน้าจอขณะชาร์จ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ UI และการจัดการพลังงานในระดับฮาร์ดแวร์ แม้จะมีการเปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่หลายคนยังพบปัญหาเดิม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเป็นปัญหาในระดับการออกแบบหรือซอฟต์แวร์ของ iOS 26 โดย Genius Bar ของ Apple ยังไม่พบความผิดปกติในฮาร์ดแวร์ และแนะนำให้ส่งเสียงที่บันทึกไว้พร้อมภาพประกอบเพื่อให้ทีมวิศวกรตรวจสอบ Apple ยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปัญหานี้ และยังไม่มีการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไข แม้บางคนจะลองใช้ iOS 26.1 beta แล้วพบว่าเสียงยังคงอยู่ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ผู้ใช้ iPhone 17 Pro Max รายงานเสียงซ่าจากลำโพงขณะชาร์จผ่านสาย USB-C ➡️ เสียงเกิดแม้ตั้งค่าเสียงเป็น 0 และไม่มีการเล่นเสียง ➡️ ลำโพงด้านล่างซ้ายเป็นจุดที่เสียงรบกวนเกิดบ่อยที่สุด ➡️ เสียงจะหายไปเมื่อถอดสายหรือใช้ MagSafe แทน ➡️ ปัญหาเกิดมากขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็มหรือมีการเลื่อนหน้าจอ ➡️ การเปลี่ยนเครื่องใหม่ไม่ช่วยแก้ปัญหา ➡️ Genius Bar ไม่พบความผิดปกติในฮาร์ดแวร์ ➡️ Apple ยังไม่ออกแถลงการณ์หรือปล่อยอัปเดตแก้ไข https://securityonline.info/iphone-17-pro-max-users-report-distorted-audio-and-static-noise-during-usb-c-charging/
    SECURITYONLINE.INFO
    iPhone 17 Pro Max Users Report Distorted Audio and Static Noise During USB-C Charging
    Users are reporting faint static, distortion, and volume issues on the iPhone 17 Pro Max speakers. The static noise is most noticeable when the device is connected to a USB-C charger.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จับสองวัยรุ่นอังกฤษ โจมตีแรนซัมแวร์ใส่ศูนย์เด็ก Kido — ข้อมูลเด็ก 8,000 คนถูกขโมยและขู่เรียกค่าไถ่”

    ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) ได้จับกุมวัยรุ่นชายอายุ 17 ปีสองคนในเมือง Bishop’s Stortford, Hertfordshire เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2025 จากข้อหาการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบและการแบล็กเมล์ หลังจากเกิดเหตุโจมตีแรนซัมแวร์ต่อเครือข่ายศูนย์เด็ก Kido ซึ่งมีสาขาทั่วลอนดอน

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า “Radiant” ได้อ้างความรับผิดชอบในการโจมตี โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเด็กกว่า 8,000 คนและครอบครัวผ่านซอฟต์แวร์ Famly ที่ศูนย์เด็กใช้ในการจัดการข้อมูล แม้ Famly จะยืนยันว่าโครงสร้างพื้นฐานของตนไม่ถูกเจาะ แต่การเข้าถึงผ่านบัญชีผู้ใช้ก็เพียงพอให้ Radiant ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อ ที่อยู่ รูปถ่าย ข้อมูลติดต่อของผู้ปกครอง และบันทึกทางการแพทย์ที่เป็นความลับ

    Radiant ได้เรียกร้องค่าไถ่ประมาณ £600,000 เป็น Bitcoin และใช้วิธีการกดดันที่รุนแรง เช่น โทรหาผู้ปกครองโดยตรง และโพสต์ภาพเด็กบางคนลงใน dark web เพื่อบีบให้ศูนย์เด็กจ่ายเงิน อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้กลับได้รับเสียงประณามอย่างหนัก แม้แต่จากแฮกเกอร์ด้วยกัน จนสุดท้าย Radiant ได้เบลอภาพและประกาศลบข้อมูลทั้งหมดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม

    ตำรวจ Met ยืนยันว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง โดย Will Lyne หัวหน้าฝ่ายอาชญากรรมไซเบอร์กล่าวว่า “นี่เป็นก้าวสำคัญในการนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” ขณะที่ศูนย์เด็ก Kido ก็ออกแถลงการณ์ขอบคุณการดำเนินการของตำรวจ

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของภาคการศึกษา โดยเฉพาะศูนย์เด็กและโรงเรียนที่มักมีงบประมาณด้าน IT จำกัด ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของแรนซัมแวร์บ่อยครั้ง รายงานจาก Sophos และ AtlastVPN เคยระบุว่า 80% ของผู้ให้บริการการศึกษาระดับต้นเคยถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ภายในหนึ่งปี

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ตำรวจ Met จับกุมวัยรุ่นชายสองคนจากข้อหาใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบและแบล็กเมล์
    เหตุโจมตีเกิดขึ้นกับศูนย์เด็ก Kido ซึ่งมีข้อมูลเด็กกว่า 8,000 คนถูกขโมย
    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ ที่อยู่ รูปถ่าย และบันทึกทางการแพทย์
    กลุ่มแฮกเกอร์ Radiant เรียกร้องค่าไถ่ £600,000 เป็น Bitcoin
    Radiant โทรหาผู้ปกครองและโพสต์ภาพเด็กใน dark web เพื่อกดดัน
    หลังถูกประณาม กลุ่ม Radiant เบลอภาพและประกาศลบข้อมูล
    ตำรวจ Met ยืนยันดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง
    ศูนย์เด็ก Kido ขอบคุณการดำเนินการของตำรวจ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Famly เป็นซอฟต์แวร์จัดการศูนย์เด็กที่ใช้กันแพร่หลายในยุโรป
    ข้อมูลเด็กเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ เพราะมีประวัติเครดิตสะอาดและยากต่อการตรวจพบ
    การโจมตีแรนซัมแวร์ในภาคการศึกษามักเกิดจาก phishing และการตั้งค่าความปลอดภัยต่ำ
    กลุ่มแฮกเกอร์วัยรุ่น เช่น Lapsus$ และ Scattered Spider เคยโจมตีองค์กรใหญ่หลายแห่ง
    การโจมตีข้อมูลเด็กถือเป็น “จุดต่ำสุดใหม่” ของอาชญากรรมไซเบอร์

    https://hackread.com/uk-police-arrest-teens-kido-nursery-ransomware-attack/
    🚨 “จับสองวัยรุ่นอังกฤษ โจมตีแรนซัมแวร์ใส่ศูนย์เด็ก Kido — ข้อมูลเด็ก 8,000 คนถูกขโมยและขู่เรียกค่าไถ่” ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) ได้จับกุมวัยรุ่นชายอายุ 17 ปีสองคนในเมือง Bishop’s Stortford, Hertfordshire เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2025 จากข้อหาการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบและการแบล็กเมล์ หลังจากเกิดเหตุโจมตีแรนซัมแวร์ต่อเครือข่ายศูนย์เด็ก Kido ซึ่งมีสาขาทั่วลอนดอน กลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า “Radiant” ได้อ้างความรับผิดชอบในการโจมตี โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเด็กกว่า 8,000 คนและครอบครัวผ่านซอฟต์แวร์ Famly ที่ศูนย์เด็กใช้ในการจัดการข้อมูล แม้ Famly จะยืนยันว่าโครงสร้างพื้นฐานของตนไม่ถูกเจาะ แต่การเข้าถึงผ่านบัญชีผู้ใช้ก็เพียงพอให้ Radiant ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อ ที่อยู่ รูปถ่าย ข้อมูลติดต่อของผู้ปกครอง และบันทึกทางการแพทย์ที่เป็นความลับ Radiant ได้เรียกร้องค่าไถ่ประมาณ £600,000 เป็น Bitcoin และใช้วิธีการกดดันที่รุนแรง เช่น โทรหาผู้ปกครองโดยตรง และโพสต์ภาพเด็กบางคนลงใน dark web เพื่อบีบให้ศูนย์เด็กจ่ายเงิน อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้กลับได้รับเสียงประณามอย่างหนัก แม้แต่จากแฮกเกอร์ด้วยกัน จนสุดท้าย Radiant ได้เบลอภาพและประกาศลบข้อมูลทั้งหมดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ตำรวจ Met ยืนยันว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง โดย Will Lyne หัวหน้าฝ่ายอาชญากรรมไซเบอร์กล่าวว่า “นี่เป็นก้าวสำคัญในการนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” ขณะที่ศูนย์เด็ก Kido ก็ออกแถลงการณ์ขอบคุณการดำเนินการของตำรวจ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของภาคการศึกษา โดยเฉพาะศูนย์เด็กและโรงเรียนที่มักมีงบประมาณด้าน IT จำกัด ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของแรนซัมแวร์บ่อยครั้ง รายงานจาก Sophos และ AtlastVPN เคยระบุว่า 80% ของผู้ให้บริการการศึกษาระดับต้นเคยถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ภายในหนึ่งปี ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ตำรวจ Met จับกุมวัยรุ่นชายสองคนจากข้อหาใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบและแบล็กเมล์ ➡️ เหตุโจมตีเกิดขึ้นกับศูนย์เด็ก Kido ซึ่งมีข้อมูลเด็กกว่า 8,000 คนถูกขโมย ➡️ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ ที่อยู่ รูปถ่าย และบันทึกทางการแพทย์ ➡️ กลุ่มแฮกเกอร์ Radiant เรียกร้องค่าไถ่ £600,000 เป็น Bitcoin ➡️ Radiant โทรหาผู้ปกครองและโพสต์ภาพเด็กใน dark web เพื่อกดดัน ➡️ หลังถูกประณาม กลุ่ม Radiant เบลอภาพและประกาศลบข้อมูล ➡️ ตำรวจ Met ยืนยันดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง ➡️ ศูนย์เด็ก Kido ขอบคุณการดำเนินการของตำรวจ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Famly เป็นซอฟต์แวร์จัดการศูนย์เด็กที่ใช้กันแพร่หลายในยุโรป ➡️ ข้อมูลเด็กเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ เพราะมีประวัติเครดิตสะอาดและยากต่อการตรวจพบ ➡️ การโจมตีแรนซัมแวร์ในภาคการศึกษามักเกิดจาก phishing และการตั้งค่าความปลอดภัยต่ำ ➡️ กลุ่มแฮกเกอร์วัยรุ่น เช่น Lapsus$ และ Scattered Spider เคยโจมตีองค์กรใหญ่หลายแห่ง ➡️ การโจมตีข้อมูลเด็กถือเป็น “จุดต่ำสุดใหม่” ของอาชญากรรมไซเบอร์ https://hackread.com/uk-police-arrest-teens-kido-nursery-ransomware-attack/
    HACKREAD.COM
    UK Police Arrest Two Teens Over Kido Nursery Ransomware Attack
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • วุฒิสภากัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามคนไทยนำภาพฮุนเซนไปเป็นเป้ายิงปืนงานวัด และกระทำไม่เหมาะสมในลักษณะต่างๆ โวยดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำลายความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยับยั้งการกระทำเหล่านั้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000096222

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วุฒิสภากัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามคนไทยนำภาพฮุนเซนไปเป็นเป้ายิงปืนงานวัด และกระทำไม่เหมาะสมในลักษณะต่างๆ โวยดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำลายความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยับยั้งการกระทำเหล่านั้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000096222 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Crunchyroll ปรับลดคุณภาพซับไตเติล — จากงานศิลป์สู่ข้อความขาวเรียบที่แฟน ๆ ผิดหวัง”

    ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 ผู้ใช้ Crunchyroll หลายคนเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในคุณภาพของซับไตเติล โดยเฉพาะในแอนิเมะใหม่ ๆ ที่ออกฉายช่วงนี้ ซับที่เคยมีการจัดวางอย่างประณีต แปลข้อความบนหน้าจออย่างกลมกลืน และแสดงบทสนทนาแบบแยกตำแหน่งผู้พูด กลับถูกแทนที่ด้วยข้อความขาวเรียบที่วางทับกันอย่างไม่เป็นระเบียบ

    เดิมที Crunchyroll ใช้ฟอร์แมต .ASS ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้แปลสามารถจัดวางซับได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น การแปลป้ายบนฉากให้กลมกลืนกับภาพ หรือการแสดงข้อความแชตในโทรศัพท์ให้ดูเหมือนจริง แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาใช้ .SRT ซึ่งจำกัดการจัดวางและรูปแบบ ทำให้ซับกลายเป็นเพียงข้อความธรรมดา

    แฟน ๆ บางคนถึงกับต้องใช้ Google Lens สแกนข้อความบนหน้าจอเพื่อแปลเอง เพราะซับไม่แสดงเนื้อหานั้นอีกต่อไป โดยเฉพาะในแอนิเมะแนว isekai ที่มี UI เกมและหน้าจอสถิติต่าง ๆ ซึ่งเคยแปลได้ครบถ้วน ตอนนี้กลับกลายเป็นข้อความทับกันที่อ่านแทบไม่ออก

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า Crunchyroll อาจเริ่มใช้ระบบแปลอัตโนมัติหรือ AI เช่น ChatGPT ในการสร้างซับ โดยมีหลักฐานจากซับภาษาเยอรมันที่หลุดข้อความ “ChatGPT said…” ในแอนิเมะเรื่องหนึ่ง และซับภาษาอังกฤษที่มีข้อความ placeholder อย่าง “Translated by: Translator’s name” ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการใช้ระบบอัตโนมัติโดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์

    แม้ Crunchyroll จะยังไม่ออกแถลงการณ์ชัดเจน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังอย่างมาก เพราะซับไตเติลเคยเป็นจุดแข็งที่ทำให้แพลตฟอร์มนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Crunchyroll ปรับลดคุณภาพซับไตเติลในฤดูใบไม้ร่วง 2025
    เปลี่ยนจากฟอร์แมต .ASS เป็น .SRT ที่มีข้อจำกัดด้านการจัดวาง
    ซับกลายเป็นข้อความขาวเรียบที่วางทับกัน ไม่แยกตำแหน่งผู้พูด
    ข้อความบนหน้าจอ เช่น ป้ายหรือแชต ไม่ถูกแปลหรือจัดวางอย่างเหมาะสม
    แฟน ๆ ต้องใช้ Google Lens เพื่อแปลข้อความบนหน้าจอเอง
    แอนิเมะแนว isekai ได้รับผลกระทบหนักจากการเปลี่ยนแปลงนี้
    พบหลักฐานว่าซับบางตอนมีข้อความ “ChatGPT said…” และ placeholder
    ซับภาษาอังกฤษบางตอนมีข้อความ “Translated by: Translator’s name”
    มีการตั้งข้อสังเกตว่า Crunchyroll อาจใช้ AI ในการสร้างซับ
    แฟน ๆ แสดงความผิดหวังและตั้งคำถามถึงคุณภาพที่ลดลง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ฟอร์แมต .ASS รองรับการจัดวางซับแบบซับซ้อน เช่น การแสดงหลายบรรทัดพร้อมกัน
    .SRT เป็นฟอร์แมตพื้นฐานที่ใช้ในแพลตฟอร์มทั่วไป เช่น YouTube
    การใช้ AI แปลซับอาจช่วยลดต้นทุน แต่เสี่ยงต่อความผิดพลาดและความไม่แม่นยำ
    Crunchyroll เคยถูกวิจารณ์เรื่องซับผิดพลาดใน Re:Zero ซีซัน 3 เมื่อปี 2024
    การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อคุณภาพซับในไฟล์ที่ถูก rip ไปยังแพลตฟอร์มอื่น

    https://animebythenumbers.substack.com/p/worse-crunchyroll-subtitles
    📉 “Crunchyroll ปรับลดคุณภาพซับไตเติล — จากงานศิลป์สู่ข้อความขาวเรียบที่แฟน ๆ ผิดหวัง” ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 ผู้ใช้ Crunchyroll หลายคนเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในคุณภาพของซับไตเติล โดยเฉพาะในแอนิเมะใหม่ ๆ ที่ออกฉายช่วงนี้ ซับที่เคยมีการจัดวางอย่างประณีต แปลข้อความบนหน้าจออย่างกลมกลืน และแสดงบทสนทนาแบบแยกตำแหน่งผู้พูด กลับถูกแทนที่ด้วยข้อความขาวเรียบที่วางทับกันอย่างไม่เป็นระเบียบ เดิมที Crunchyroll ใช้ฟอร์แมต .ASS ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้แปลสามารถจัดวางซับได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น การแปลป้ายบนฉากให้กลมกลืนกับภาพ หรือการแสดงข้อความแชตในโทรศัพท์ให้ดูเหมือนจริง แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาใช้ .SRT ซึ่งจำกัดการจัดวางและรูปแบบ ทำให้ซับกลายเป็นเพียงข้อความธรรมดา แฟน ๆ บางคนถึงกับต้องใช้ Google Lens สแกนข้อความบนหน้าจอเพื่อแปลเอง เพราะซับไม่แสดงเนื้อหานั้นอีกต่อไป โดยเฉพาะในแอนิเมะแนว isekai ที่มี UI เกมและหน้าจอสถิติต่าง ๆ ซึ่งเคยแปลได้ครบถ้วน ตอนนี้กลับกลายเป็นข้อความทับกันที่อ่านแทบไม่ออก มีการตั้งข้อสังเกตว่า Crunchyroll อาจเริ่มใช้ระบบแปลอัตโนมัติหรือ AI เช่น ChatGPT ในการสร้างซับ โดยมีหลักฐานจากซับภาษาเยอรมันที่หลุดข้อความ “ChatGPT said…” ในแอนิเมะเรื่องหนึ่ง และซับภาษาอังกฤษที่มีข้อความ placeholder อย่าง “Translated by: Translator’s name” ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการใช้ระบบอัตโนมัติโดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ แม้ Crunchyroll จะยังไม่ออกแถลงการณ์ชัดเจน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังอย่างมาก เพราะซับไตเติลเคยเป็นจุดแข็งที่ทำให้แพลตฟอร์มนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Crunchyroll ปรับลดคุณภาพซับไตเติลในฤดูใบไม้ร่วง 2025 ➡️ เปลี่ยนจากฟอร์แมต .ASS เป็น .SRT ที่มีข้อจำกัดด้านการจัดวาง ➡️ ซับกลายเป็นข้อความขาวเรียบที่วางทับกัน ไม่แยกตำแหน่งผู้พูด ➡️ ข้อความบนหน้าจอ เช่น ป้ายหรือแชต ไม่ถูกแปลหรือจัดวางอย่างเหมาะสม ➡️ แฟน ๆ ต้องใช้ Google Lens เพื่อแปลข้อความบนหน้าจอเอง ➡️ แอนิเมะแนว isekai ได้รับผลกระทบหนักจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ➡️ พบหลักฐานว่าซับบางตอนมีข้อความ “ChatGPT said…” และ placeholder ➡️ ซับภาษาอังกฤษบางตอนมีข้อความ “Translated by: Translator’s name” ➡️ มีการตั้งข้อสังเกตว่า Crunchyroll อาจใช้ AI ในการสร้างซับ ➡️ แฟน ๆ แสดงความผิดหวังและตั้งคำถามถึงคุณภาพที่ลดลง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ฟอร์แมต .ASS รองรับการจัดวางซับแบบซับซ้อน เช่น การแสดงหลายบรรทัดพร้อมกัน ➡️ .SRT เป็นฟอร์แมตพื้นฐานที่ใช้ในแพลตฟอร์มทั่วไป เช่น YouTube ➡️ การใช้ AI แปลซับอาจช่วยลดต้นทุน แต่เสี่ยงต่อความผิดพลาดและความไม่แม่นยำ ➡️ Crunchyroll เคยถูกวิจารณ์เรื่องซับผิดพลาดใน Re:Zero ซีซัน 3 เมื่อปี 2024 ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อคุณภาพซับในไฟล์ที่ถูก rip ไปยังแพลตฟอร์มอื่น https://animebythenumbers.substack.com/p/worse-crunchyroll-subtitles
    ANIMEBYTHENUMBERS.SUBSTACK.COM
    Why did Crunchyroll’s subtitles just get worse?
    A small change to operations may undermine a key differentiator for the anime streamer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์' แถลงโต้กลับ ถูก 'ทอม ไรท์' โจมตีเป็นเหยื่อการเมืองสกปรก วอนสื่อกรองข่าวก่อนนำเสนอ เตรียมดำเนินคดีปกป้องครอบครัว
    https://www.thai-tai.tv/news/21739/
    .
    #เบนจามินเมาเออร์เบอร์เกอร์ #ทอมไรท์ #สแกมเมอร์ #ฟอกเงิน #แถลงการณ์โต้กลับ #เหยื่อการเมือง #ฟ้องหมิ่นประมาท #ความมั่นคง
    'เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์' แถลงโต้กลับ ถูก 'ทอม ไรท์' โจมตีเป็นเหยื่อการเมืองสกปรก วอนสื่อกรองข่าวก่อนนำเสนอ เตรียมดำเนินคดีปกป้องครอบครัว https://www.thai-tai.tv/news/21739/ . #เบนจามินเมาเออร์เบอร์เกอร์ #ทอมไรท์ #สแกมเมอร์ #ฟอกเงิน #แถลงการณ์โต้กลับ #เหยื่อการเมือง #ฟ้องหมิ่นประมาท #ความมั่นคง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Chat Control ใกล้เข้าสู่การลงมติ — EU เตรียมสแกนแชตแม้เข้ารหัส ประเทศสมาชิกเริ่มแตกแถว”

    ข้อเสนอร่างกฎหมาย “Child Sexual Abuse Regulation” หรือที่ถูกเรียกกันในวงกว้างว่า “Chat Control” กำลังเข้าใกล้การลงมติครั้งสำคัญในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 โดยมีเป้าหมายให้บริการส่งข้อความทุกประเภทในยุโรปต้องสแกนเนื้อหาของผู้ใช้เพื่อค้นหาเนื้อหาล่วงละเมิดเด็ก แม้ข้อความเหล่านั้นจะถูกเข้ารหัสแบบ end-to-end ก็ตาม

    แม้จะมีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากนักวิชาการ นักพัฒนาเทคโนโลยี และนักสิทธิมนุษยชน แต่ข้อเสนอนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิก EU จำนวนมาก โดยเฉพาะเดนมาร์กซึ่งเป็นผู้ผลักดันหลักในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานสภา EU

    ล่าสุด ประเทศที่เคยสนับสนุนเริ่มเปลี่ยนจุดยืน เช่น เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี และสวีเดน ที่เปลี่ยนจาก “สนับสนุน” มาเป็น “ไม่แน่ใจ” หรือ “คัดค้าน” ซึ่งทำให้ผลการลงมติยังไม่แน่นอน และอาจส่งผลให้ร่างกฎหมายไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนเจรจาสุดท้ายในรัฐสภาได้

    ข้อกังวลหลักคือการบังคับให้บริการอย่าง WhatsApp, Signal, ProtonMail และ VPN ต้องสแกนข้อความผู้ใช้ ซึ่งนักวิจัยกว่า 500 คนระบุว่าเป็นการทำลายความเป็นส่วนตัว และเปิดช่องให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ได้ง่ายขึ้น

    แม้ข้อเสนอจะระบุว่า “จะปกป้องความปลอดภัยไซเบอร์และการเข้ารหัสอย่างครอบคลุม” แต่ในทางเทคนิคแล้ว การสแกนข้อความที่เข้ารหัสไม่สามารถทำได้โดยไม่ลดระดับความปลอดภัยของระบบทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป นักข่าว นักกฎหมาย และแม้แต่เด็กที่กฎหมายตั้งใจจะปกป้อง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    EU เตรียมลงมติร่างกฎหมาย Chat Control ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025
    ร่างกฎหมายบังคับให้บริการส่งข้อความต้องสแกนเนื้อหาผู้ใช้ แม้จะเข้ารหัสแบบ end-to-end
    เดนมาร์กเป็นผู้ผลักดันหลักของร่างกฎหมายในช่วงดำรงตำแหน่งประธาน EU
    ประเทศที่เปลี่ยนจุดยืนล่าสุด ได้แก่ เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี สวีเดน และลัตเวีย
    ข้อเสนอระบุว่าบัญชีรัฐบาลและทหารจะได้รับการยกเว้นจากการสแกน
    นักวิจัยกว่า 500 คนออกแถลงการณ์คัดค้านร่างกฎหมายนี้
    หากผ่าน ร่างกฎหมายจะเข้าสู่ขั้นตอนเจรจาในรัฐสภา EU เพื่อพิจารณาเป็นกฎหมาย
    บริการที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ WhatsApp, Signal, ProtonMail และ VPN ต่าง ๆ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Chat Control ถูกเสนอครั้งแรกในปี 2022 โดยอดีตกรรมาธิการ EU Ylva Johansson
    การสแกนข้อความแบบ client-side คือการติดตั้งระบบตรวจสอบในอุปกรณ์ผู้ใช้โดยตรง
    การลดระดับการเข้ารหัสอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกโจมตีจากแฮกเกอร์หรือรัฐคู่แข่ง
    UN และศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเคยเตือนว่าการลดการเข้ารหัสเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
    ระบบตรวจสอบอัตโนมัติมีอัตราความผิดพลาดสูง อาจทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกกล่าวหา

    https://www.techradar.com/computing/cyber-security/chat-control-the-list-of-countries-opposing-the-law-grows-but-support-remains-strong
    🔐 “Chat Control ใกล้เข้าสู่การลงมติ — EU เตรียมสแกนแชตแม้เข้ารหัส ประเทศสมาชิกเริ่มแตกแถว” ข้อเสนอร่างกฎหมาย “Child Sexual Abuse Regulation” หรือที่ถูกเรียกกันในวงกว้างว่า “Chat Control” กำลังเข้าใกล้การลงมติครั้งสำคัญในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 โดยมีเป้าหมายให้บริการส่งข้อความทุกประเภทในยุโรปต้องสแกนเนื้อหาของผู้ใช้เพื่อค้นหาเนื้อหาล่วงละเมิดเด็ก แม้ข้อความเหล่านั้นจะถูกเข้ารหัสแบบ end-to-end ก็ตาม แม้จะมีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากนักวิชาการ นักพัฒนาเทคโนโลยี และนักสิทธิมนุษยชน แต่ข้อเสนอนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิก EU จำนวนมาก โดยเฉพาะเดนมาร์กซึ่งเป็นผู้ผลักดันหลักในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานสภา EU ล่าสุด ประเทศที่เคยสนับสนุนเริ่มเปลี่ยนจุดยืน เช่น เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี และสวีเดน ที่เปลี่ยนจาก “สนับสนุน” มาเป็น “ไม่แน่ใจ” หรือ “คัดค้าน” ซึ่งทำให้ผลการลงมติยังไม่แน่นอน และอาจส่งผลให้ร่างกฎหมายไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนเจรจาสุดท้ายในรัฐสภาได้ ข้อกังวลหลักคือการบังคับให้บริการอย่าง WhatsApp, Signal, ProtonMail และ VPN ต้องสแกนข้อความผู้ใช้ ซึ่งนักวิจัยกว่า 500 คนระบุว่าเป็นการทำลายความเป็นส่วนตัว และเปิดช่องให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ได้ง่ายขึ้น แม้ข้อเสนอจะระบุว่า “จะปกป้องความปลอดภัยไซเบอร์และการเข้ารหัสอย่างครอบคลุม” แต่ในทางเทคนิคแล้ว การสแกนข้อความที่เข้ารหัสไม่สามารถทำได้โดยไม่ลดระดับความปลอดภัยของระบบทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป นักข่าว นักกฎหมาย และแม้แต่เด็กที่กฎหมายตั้งใจจะปกป้อง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ EU เตรียมลงมติร่างกฎหมาย Chat Control ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ➡️ ร่างกฎหมายบังคับให้บริการส่งข้อความต้องสแกนเนื้อหาผู้ใช้ แม้จะเข้ารหัสแบบ end-to-end ➡️ เดนมาร์กเป็นผู้ผลักดันหลักของร่างกฎหมายในช่วงดำรงตำแหน่งประธาน EU ➡️ ประเทศที่เปลี่ยนจุดยืนล่าสุด ได้แก่ เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี สวีเดน และลัตเวีย ➡️ ข้อเสนอระบุว่าบัญชีรัฐบาลและทหารจะได้รับการยกเว้นจากการสแกน ➡️ นักวิจัยกว่า 500 คนออกแถลงการณ์คัดค้านร่างกฎหมายนี้ ➡️ หากผ่าน ร่างกฎหมายจะเข้าสู่ขั้นตอนเจรจาในรัฐสภา EU เพื่อพิจารณาเป็นกฎหมาย ➡️ บริการที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ WhatsApp, Signal, ProtonMail และ VPN ต่าง ๆ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Chat Control ถูกเสนอครั้งแรกในปี 2022 โดยอดีตกรรมาธิการ EU Ylva Johansson ➡️ การสแกนข้อความแบบ client-side คือการติดตั้งระบบตรวจสอบในอุปกรณ์ผู้ใช้โดยตรง ➡️ การลดระดับการเข้ารหัสอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกโจมตีจากแฮกเกอร์หรือรัฐคู่แข่ง ➡️ UN และศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเคยเตือนว่าการลดการเข้ารหัสเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน ➡️ ระบบตรวจสอบอัตโนมัติมีอัตราความผิดพลาดสูง อาจทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกกล่าวหา https://www.techradar.com/computing/cyber-security/chat-control-the-list-of-countries-opposing-the-law-grows-but-support-remains-strong
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chat Control: The list of countries opposing the law grows, but support remains strong
    Germany, Belgium, Italy, Latvia, and Sweden shift their positions ahead of the October 14 meeting
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Arm เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีแพ้ Qualcomm — ศึกสิทธิบัตร CPU ที่สะท้อนแรงสั่นสะเทือนในวงการเซมิคอนดักเตอร์”

    หลังจากศาลแขวงสหรัฐฯ ในรัฐเดลาแวร์มีคำตัดสินขั้นสุดท้ายเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 ให้ Qualcomm ชนะคดีสิทธิบัตรที่ Arm เป็นฝ่ายฟ้องร้อง ล่าสุด Arm ประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ทันที โดยยังคงยืนยันว่า Qualcomm และบริษัทลูก Nuvia ละเมิดข้อตกลงการใช้งานเทคโนโลยี CPU ที่ได้จาก Arm

    คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ Arm กล่าวหาว่า Nuvia ซึ่งถูก Qualcomm เข้าซื้อกิจการในปี 2021 ได้ใช้เทคโนโลยี CPU ที่ได้รับอนุญาตจาก Arm ไปพัฒนาในแบบที่ละเมิดข้อตกลงเดิม โดยเฉพาะการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ Qualcomm โดยไม่ได้รับอนุญาตใหม่จาก Arm

    ในเดือนธันวาคม 2024 คณะลูกขุนตัดสินว่า Qualcomm ไม่ได้ละเมิดข้อตกลง และเทคโนโลยีที่ใช้ใน CPU ของ Nuvia ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องภายใต้ข้อตกลงของ Qualcomm เอง โดยคำตัดสินนี้ครอบคลุม 2 ใน 3 ข้อกล่าวหา ส่วนข้อที่ 3 คณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้ ทำให้เกิด mistrial

    Arm พยายามขอให้ศาลยกเลิกคำตัดสินเดิมหรือเปิดการพิจารณาคดีใหม่ แต่ผู้พิพากษา Maryellen Noreika ปฏิเสธทั้งสองคำขอ ทำให้ Qualcomm ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ในคดีนี้

    Qualcomm ออกแถลงการณ์ว่า “สิทธิในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเราได้รับการยืนยัน” และหวังว่า Arm จะกลับมาใช้แนวทางที่ยุติธรรมในการทำธุรกิจกับพันธมิตรในระบบนิเวศของ Arm

    แม้คดีนี้จะจบลงแล้วในชั้นศาลแรก แต่ Qualcomm ยังมีคดีแยกที่ฟ้องกลับ Arm ในข้อหาขัดขวางความสัมพันธ์กับลูกค้าและพยายามผลักดันผลิตภัณฑ์ของตนเหนือพันธมิตร ซึ่งคดีนี้จะเข้าสู่การพิจารณาในเดือนมีนาคม 2026

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Arm แพ้คดีสิทธิบัตร CPU ต่อ Qualcomm และเตรียมยื่นอุทธรณ์ทันที
    คดีเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี CPU ของ Nuvia ที่ Qualcomm เข้าซื้อกิจการ
    คณะลูกขุนตัดสินว่า Qualcomm ไม่ละเมิดข้อตกลงกับ Arm ใน 2 ข้อกล่าวหา
    ข้อกล่าวหาที่ 3 เกิด mistrial เพราะคณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้
    ผู้พิพากษาปฏิเสธคำขอของ Arm ในการยกเลิกคำตัดสินหรือเปิดคดีใหม่
    Qualcomm ยืนยันว่าการใช้เทคโนโลยีของ Nuviaอยู่ภายใต้ข้อตกลงที่ถูกต้อง
    Qualcomm ยังมีคดีฟ้องกลับ Arm ในข้อหาขัดขวางความสัมพันธ์กับลูกค้า
    คดีฟ้องกลับจะเข้าสู่การพิจารณาในเดือนมีนาคม 2026

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Nuvia เป็นบริษัทที่พัฒนา CPU ประสิทธิภาพสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์พกพา
    Qualcomm เข้าซื้อ Nuvia ในปี 2021 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้าน CPU สำหรับ Snapdragon
    Arm เป็นผู้ให้สิทธิ์ใช้งานสถาปัตยกรรม CPU แก่บริษัทต่าง ๆ เช่น Apple, MediaTek, Samsung
    คดีนี้สะท้อนความซับซ้อนของการอนุญาตใช้งานเทคโนโลยีในยุคที่การควบรวมกิจการเกิดขึ้นบ่อย
    การตัดสินของศาลอาจส่งผลต่อแนวทางการออกใบอนุญาตของ Arm ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/01/arm-plans-to-appeal-final-ruling-in-qualcomm-dispute
    ⚖️ “Arm เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีแพ้ Qualcomm — ศึกสิทธิบัตร CPU ที่สะท้อนแรงสั่นสะเทือนในวงการเซมิคอนดักเตอร์” หลังจากศาลแขวงสหรัฐฯ ในรัฐเดลาแวร์มีคำตัดสินขั้นสุดท้ายเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 ให้ Qualcomm ชนะคดีสิทธิบัตรที่ Arm เป็นฝ่ายฟ้องร้อง ล่าสุด Arm ประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ทันที โดยยังคงยืนยันว่า Qualcomm และบริษัทลูก Nuvia ละเมิดข้อตกลงการใช้งานเทคโนโลยี CPU ที่ได้จาก Arm คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ Arm กล่าวหาว่า Nuvia ซึ่งถูก Qualcomm เข้าซื้อกิจการในปี 2021 ได้ใช้เทคโนโลยี CPU ที่ได้รับอนุญาตจาก Arm ไปพัฒนาในแบบที่ละเมิดข้อตกลงเดิม โดยเฉพาะการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ Qualcomm โดยไม่ได้รับอนุญาตใหม่จาก Arm ในเดือนธันวาคม 2024 คณะลูกขุนตัดสินว่า Qualcomm ไม่ได้ละเมิดข้อตกลง และเทคโนโลยีที่ใช้ใน CPU ของ Nuvia ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องภายใต้ข้อตกลงของ Qualcomm เอง โดยคำตัดสินนี้ครอบคลุม 2 ใน 3 ข้อกล่าวหา ส่วนข้อที่ 3 คณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้ ทำให้เกิด mistrial Arm พยายามขอให้ศาลยกเลิกคำตัดสินเดิมหรือเปิดการพิจารณาคดีใหม่ แต่ผู้พิพากษา Maryellen Noreika ปฏิเสธทั้งสองคำขอ ทำให้ Qualcomm ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ในคดีนี้ Qualcomm ออกแถลงการณ์ว่า “สิทธิในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเราได้รับการยืนยัน” และหวังว่า Arm จะกลับมาใช้แนวทางที่ยุติธรรมในการทำธุรกิจกับพันธมิตรในระบบนิเวศของ Arm แม้คดีนี้จะจบลงแล้วในชั้นศาลแรก แต่ Qualcomm ยังมีคดีแยกที่ฟ้องกลับ Arm ในข้อหาขัดขวางความสัมพันธ์กับลูกค้าและพยายามผลักดันผลิตภัณฑ์ของตนเหนือพันธมิตร ซึ่งคดีนี้จะเข้าสู่การพิจารณาในเดือนมีนาคม 2026 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Arm แพ้คดีสิทธิบัตร CPU ต่อ Qualcomm และเตรียมยื่นอุทธรณ์ทันที ➡️ คดีเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี CPU ของ Nuvia ที่ Qualcomm เข้าซื้อกิจการ ➡️ คณะลูกขุนตัดสินว่า Qualcomm ไม่ละเมิดข้อตกลงกับ Arm ใน 2 ข้อกล่าวหา ➡️ ข้อกล่าวหาที่ 3 เกิด mistrial เพราะคณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้ ➡️ ผู้พิพากษาปฏิเสธคำขอของ Arm ในการยกเลิกคำตัดสินหรือเปิดคดีใหม่ ➡️ Qualcomm ยืนยันว่าการใช้เทคโนโลยีของ Nuviaอยู่ภายใต้ข้อตกลงที่ถูกต้อง ➡️ Qualcomm ยังมีคดีฟ้องกลับ Arm ในข้อหาขัดขวางความสัมพันธ์กับลูกค้า ➡️ คดีฟ้องกลับจะเข้าสู่การพิจารณาในเดือนมีนาคม 2026 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Nuvia เป็นบริษัทที่พัฒนา CPU ประสิทธิภาพสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์พกพา ➡️ Qualcomm เข้าซื้อ Nuvia ในปี 2021 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้าน CPU สำหรับ Snapdragon ➡️ Arm เป็นผู้ให้สิทธิ์ใช้งานสถาปัตยกรรม CPU แก่บริษัทต่าง ๆ เช่น Apple, MediaTek, Samsung ➡️ คดีนี้สะท้อนความซับซ้อนของการอนุญาตใช้งานเทคโนโลยีในยุคที่การควบรวมกิจการเกิดขึ้นบ่อย ➡️ การตัดสินของศาลอาจส่งผลต่อแนวทางการออกใบอนุญาตของ Arm ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/01/arm-plans-to-appeal-final-ruling-in-qualcomm-dispute
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Arm plans to appeal final ruling in Qualcomm dispute
    SAN FRANCISCO (Reuters) -Arm Holdings said on Tuesday it planned to appeal a judge's ruling in a licensing dispute against Qualcomm that left the chipmaker's jury victory intact.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
    ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 2”
    Istanbul ฤดูร้อน ปี ค.ศ. 1914 เมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมาน เหมือนอยู่ไกลไปครึ่งโลกห่างวัง ฤดูร้อนใน Ischi ที่ Emperor Franz Joseph ที่ 1 ลงนามในแถลงการณ์ “To My People” เมื่อวันที่ 28 ก.ค 1914 แจ้งให้ชาวออสเตรียรู้ว่า ออสเตรียได้ประกาศสงครามกับ Serbia อย่างเป็นทางการแล้ว !
    เป็นเวลาหลายศตวรรษมาแล้ว ที่อาณาจักรออตโตมานควบคุมทางใต้และตะวันออกของเมดิเตอเรเนียน ตั้งแต่เมือง Alexandretta ถึง Arish และจาก Maghreb ไปถึง Suez ส่วน Algeria และ Tunesia ตกอยู่ในการดูแลของฝรั่งเศส ในขณะที่อังกฤษงาบ อียิปต์ไปเรียบร้อยแล้ว
    ในปี ค.ศ. 1911 อิตาลีได้ยึดหัวหาดอยู่ที่ลิเบีย ก่อนที่จะเกิดสงครามโลก อาณาจักรออตโตมานถูกรุมทึ้งจนเหลือเพียงตุรกี (เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) ตะวันออกกลางและอิรัค (เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) และดินแดนยาวเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่แถบคาบสมุทรอารเบียยาวไปถึงเยเมน
    ตรงบริเวณนี้แหละ ตรงที่เป็นภาคใต้ของตุรกีปัจจุบัน ที่เป็นศูนย์กลางของสงครามในตะวันออกกลางในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ดินแดนส่วนนี้ได้พยุงตัวด้วยความยากลำบาก เป็นเวลากว่า 400 ปี ที่จะให้อยู่รอดพ้นจากการเหลือแต่ชื่อ แต่แล้วพอถึงต้นศตวรรษที่ 20 ดินแดนส่วนนี้ก็ยิ่งอาการสาหัส กลายเป็นแดนวิกฤติ อย่างที่เรารู้อยู่ในปัจจุบัน บริเวณที่เมืองต่าง ๆ ในแถบนั้นต้องประสบกับความทุกข์ทรมานยาวหลายชั่วคน เช่น Basra, Bagdad, Aleppo, Damascus, Beirut, Gaza และ Suez ฯลฯ เมืองที่เราเห็นชื่อตามสื่อและ breaking news ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนแทบจะเลิกสนใจเพราะนึกว่าเอาเทปของเก่ามาเล่นซ้ำ
    โชคดีที่พวกชักใยหรือตัวละครเอกที่แสดงอยู่ในฉากสงครามโลกครั้งที่ 1 ขณะนั้นยังไม่รู้ว่า ที่สนามหลังบ้านของอาณาจักรออตโตมาน มีแหล่งพลังงานน้ำมันใหญ่ที่สุด ซ่อนตัวอยู่ ถ้าไอ้พวกนั้นได้รู้ การต่อสู้ที่ตะวันออกกลางช่วงนั้นคงจะยิ่งดุเดือดและทารุณโหดร้าย ป่าเถื่อนกว่าที่ได้เกิดขึ้นอีกมากมาย ในขณะนั้น คู่สงครามต่างแสดงบทที่ดูเหมือนจะต้องการเพียงแค่ กำจัดอีกฝ่ายหนึ่งให้หมดไปจากทางเดินของตน ไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งมีอิทธิพล มีอำนาจมากกว่า ยิ่งใหญ่กว่า ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องการให้อีกฝ่ายทำสำเร็จ และพยายามทุกอย่างที่จะขัดขวางกันและกันเท่านั้น
    อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าข้างซ้าย สบโอกาสที่จะสลายอาณาจักรออตโตมาน ของนักไต่ลวดชาวตุรกี และยึดเอามาเป็นของตน เพื่อขยายอิทธิพลของตนไปทางตะวันออกกลางมากขึ้น ขณะนั้นอังกฤษมีอิทธิพลเหนืออียิปต์ อยู่แล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 และเหนืออินเดีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1857 ยังเหลืออาณาจักรออตโตมาน ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่าง 2 อาณานิคมสำคัญ นี่ถ้าได้อาณาจักรออตโตมานอีกรายการ อาการฟันห่างระหว่างอียิปต์กับอินเดียก็จะแคบเข้ามา อังกฤษจะนั่งรอให้โอกาสวิ่งผ่านไป โดยไม่ฉวยได้อย่างไร ความคิดที่จะใช้สงครามโลกเป็นเครื่องมือถอนราก ถอนโคน อาณาจักรของนักไต่ลวด พร้อมกับการสกัดและทำลายเยอรมันที่คิดทาบรัศมีด้วยการสร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ไปพร้อมกันจึงเกิดขึ้น
    อาณาจักรออตโตมาน ตัดสินใจว่าจะวางตัวเป็นกลาง ก็เป็นคนป่วยนี่ ไม่แข็งแรงพอที่จะไปต่อสู้กับใครได้ อยู่เฉย ๆ น่าจะดีและเหมาะกับสภาพของออตโตมานตอนนั้นมากกว่า สุลต่านผู้ครองจักรวรรดิออตโตมาน เป็นเสมือนหุ่นไม่มีอำนาจจริง หลังจากสุลต่าน Abdulhamid II ซึ่งเป็นสุลต่านที่มีอำนาจคนสุด ท้าย ถูกโค่นลงเมื่อปี 1908 แล้ว สุลต่านคนต่อ ๆ มา ก็หมกตัวอยู่แต่ในฮาเร็ม ให้รัฐบาลทหาร ซึ่งนำโดย Three Pasha เป็นผู้บริหารแทน ปาชาไม่ใช่พวกเคร่งศาสนาและออกจะเป็นพวกนิยมตะวันตกด้วยซ้ำ
    เป็นทหารจะไปรู้เรื่องการค้ามากมายอะไร (ผมหมายถึงปาชานะครับ อย่าเข้าใจผิดว่าเขียนถึงทหารอื่น ซึ่งเก่งทั้งการทหาร การค้า การปกครอง และอื่น ๆ อีกมากมาย) แล้วอาณาจักรออตโตมานก็ถึงเวลากระเป๋าแห้ง และฉีกขาดต่อมา เป็นหนี้ฝรั่งตะวันตกบานตะเกียง ชนิดไม่มีทางจะใช้คืน นอกจากเบี้ยวเขา หรือเป็นทาสเขาไปเท่านั้น แล้วไงล่ะ ขอไปร่วมอยู่ฝั่งเดียวกับเขา เขาก็ถีบทิ้ง นักไต่ลวดจึงถลาลงพื้น หัวฟาดอย่างเดียวไม่พอ กระเป๋าฉีกขาดอีกด้วย ทั้งเจ็บ ทั้งจนขนาดนี้ จะมีทางเลือกอะไร จึงจำใจไปเข้ากับอีกฝ่ายหนึ่ง
    ตุลาคม ค.ศ. 1914 ตุรกี (หรืออาณาจักรออตโตมานขณะนั้น) จึงประกาศตัวอยู่ฝ่ายเยอรมันกับพวก ที่น่าจะกระเป๋าตุงเพราะทำซ่า ว่าจะสร้างทางรถไฟข้ามทวีป เบอร์ลิน แบกแดด ท้าทายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย แต่ก่อนประกาศตัวอยู่กับฝ่ายเยอรมันเป็นทางการ คนป่วยตุรกีแอบทำสัญญาลับกับ คุณหมอเยอรมัน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม หลังจากนั้นไม่นาน เรือรบสัญชาติเยอรมัน 2 ลำ SMS Goeben และ SMS Breslau ก็วิ่งมาเงียบ ๆ จากฝั่งตะวันตกของเมดิเตอริเรเนียน ถึงกรุงคอนสแตนติโนเบิล เมื่อเทียบท่าเรียบร้อย ก็ทำพิธีส่งมอบให้ออตโตมาน ซึ่งขณะนั้นบอกว่ายังเป็นกลางอยู่ ออตโตมานตั้งชื่อเรือเสียใหม่ว่า Yavuz และ Midilli ให้มีกลิ่นแกะตุรกีติดเรือ แทนกลิ่นไส้กรอกกับผักดองเปรี้ยวของเยอรมัน พลประจำเรือชาวเยอรมันยังไม่ได้หายตัวไปไหน แค่เปลี่ยนชุดและใส่หมวกตุรกีแทนเท่านั้น เป็นคนป่วยที่ดูเหมือน ยังมีเหลี่ยมติดตัวอยู่ไม่น้อย
    หลังจากนั่นเรือรบ 2 ลำ เดินทางต่อไปถึง Golden Horn และต่อไปที่เมือง Dardanelles ปฏิบัติการยั่วยวนก็เกิดขึ้นทันที ออตโตมานและเยอรมัน ได้ปิดทางเชื่อมระหว่างรัสเซียออกจากพวก คือ ฝรั่งเศส และอังกฤษ หลังจากนั้น เครื่องบินรบติดธงออตโตมาน ก็บินขึ้นจากเรือรบ Goeben ถล่มท่าเรือรัสเซียที่ทะเลดำ การยั่วยวนได้ผล ต้นเดือนพฤศจิกายน รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส ก็ประกาศสงครามกับจักรวรรดิออตโตมาน
    อังกฤษพยายามที่จะทลายการปิดกั้นเส้นทางที่ Dardanelles และยึดเมืองคอนสแตนติโนเบิล ยกโขยงกองทัพเรือมาพร้อมกับของฝรั่งเศสมาทางแหลม Gallipoli การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งทางเรือและทางบก ผลสุดท้ายคนป่วย ออตโตมานที่มีหมอดียาดี ยี่ห้อเยอรมัน ลุกขึ้นกวาดกองทัพอังกฤษแตกกลับ ลงทะเล ผลของคนป่วยได้ยาดี ทำให้ท่านหลอด Winston Churchill แม่ทัพเรือ ยื่นใบลาออกเพราะแพ้คนป่วย จะแก้ตัวยังไงดี ลาออกง่ายกว่า ผลการประเมินคนป่วยผิดคาดนี้ ทำให้เกิดบาดแผลมากมาย ทหารของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ลูกกระเป๋งของอังกฤษตายเป็นเบือ จนเดี๋ยวนี้ทั้ง 2 ชาติ ก็ไม่มีวันลืมสงครามคนป่วย
    ความพ่ายแพ้ที่ Gallipoli ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรโดยเฉพาะอังกฤษ เปลี่ยนยุทธศาสตร์การรบใหม่ หลังจากแผนการตีกล่องดวงใจ ของออตโตมานล้มเหลว อังกฤษเปลี่ยนแผนเป็น ไล่เซิ้งเมืองรอบนอกให้ยับเยินแทน เป้าหมายมุ่งไปที่เมืองที่มีชาวอาหรับอ่อนแอดูแลอยู่
    กลยุทธที่อังกฤษถนัดใช้และพกติดตัวไว้เสมอ คือไม้เสี้ยม ไม่ต้องลงทุนมาก ใช้ความคิดชั่ว ๆ กับปากก็พอ อังกฤษตั้งใจจะใช้ชาวอาหรับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน เป็นเครื่องมือในการช่วยทลายออตโตมานเอง ในที่สุดก็หาเครื่องมือนี้เจอที่เมือง Hejaz ที่บริเวณตะวันตกของคาบสมุทรอารเบีย
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 ส.ค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ” ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 2” Istanbul ฤดูร้อน ปี ค.ศ. 1914 เมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมาน เหมือนอยู่ไกลไปครึ่งโลกห่างวัง ฤดูร้อนใน Ischi ที่ Emperor Franz Joseph ที่ 1 ลงนามในแถลงการณ์ “To My People” เมื่อวันที่ 28 ก.ค 1914 แจ้งให้ชาวออสเตรียรู้ว่า ออสเตรียได้ประกาศสงครามกับ Serbia อย่างเป็นทางการแล้ว ! เป็นเวลาหลายศตวรรษมาแล้ว ที่อาณาจักรออตโตมานควบคุมทางใต้และตะวันออกของเมดิเตอเรเนียน ตั้งแต่เมือง Alexandretta ถึง Arish และจาก Maghreb ไปถึง Suez ส่วน Algeria และ Tunesia ตกอยู่ในการดูแลของฝรั่งเศส ในขณะที่อังกฤษงาบ อียิปต์ไปเรียบร้อยแล้ว ในปี ค.ศ. 1911 อิตาลีได้ยึดหัวหาดอยู่ที่ลิเบีย ก่อนที่จะเกิดสงครามโลก อาณาจักรออตโตมานถูกรุมทึ้งจนเหลือเพียงตุรกี (เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) ตะวันออกกลางและอิรัค (เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) และดินแดนยาวเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่แถบคาบสมุทรอารเบียยาวไปถึงเยเมน ตรงบริเวณนี้แหละ ตรงที่เป็นภาคใต้ของตุรกีปัจจุบัน ที่เป็นศูนย์กลางของสงครามในตะวันออกกลางในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ดินแดนส่วนนี้ได้พยุงตัวด้วยความยากลำบาก เป็นเวลากว่า 400 ปี ที่จะให้อยู่รอดพ้นจากการเหลือแต่ชื่อ แต่แล้วพอถึงต้นศตวรรษที่ 20 ดินแดนส่วนนี้ก็ยิ่งอาการสาหัส กลายเป็นแดนวิกฤติ อย่างที่เรารู้อยู่ในปัจจุบัน บริเวณที่เมืองต่าง ๆ ในแถบนั้นต้องประสบกับความทุกข์ทรมานยาวหลายชั่วคน เช่น Basra, Bagdad, Aleppo, Damascus, Beirut, Gaza และ Suez ฯลฯ เมืองที่เราเห็นชื่อตามสื่อและ breaking news ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนแทบจะเลิกสนใจเพราะนึกว่าเอาเทปของเก่ามาเล่นซ้ำ โชคดีที่พวกชักใยหรือตัวละครเอกที่แสดงอยู่ในฉากสงครามโลกครั้งที่ 1 ขณะนั้นยังไม่รู้ว่า ที่สนามหลังบ้านของอาณาจักรออตโตมาน มีแหล่งพลังงานน้ำมันใหญ่ที่สุด ซ่อนตัวอยู่ ถ้าไอ้พวกนั้นได้รู้ การต่อสู้ที่ตะวันออกกลางช่วงนั้นคงจะยิ่งดุเดือดและทารุณโหดร้าย ป่าเถื่อนกว่าที่ได้เกิดขึ้นอีกมากมาย ในขณะนั้น คู่สงครามต่างแสดงบทที่ดูเหมือนจะต้องการเพียงแค่ กำจัดอีกฝ่ายหนึ่งให้หมดไปจากทางเดินของตน ไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งมีอิทธิพล มีอำนาจมากกว่า ยิ่งใหญ่กว่า ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องการให้อีกฝ่ายทำสำเร็จ และพยายามทุกอย่างที่จะขัดขวางกันและกันเท่านั้น อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าข้างซ้าย สบโอกาสที่จะสลายอาณาจักรออตโตมาน ของนักไต่ลวดชาวตุรกี และยึดเอามาเป็นของตน เพื่อขยายอิทธิพลของตนไปทางตะวันออกกลางมากขึ้น ขณะนั้นอังกฤษมีอิทธิพลเหนืออียิปต์ อยู่แล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 และเหนืออินเดีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1857 ยังเหลืออาณาจักรออตโตมาน ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่าง 2 อาณานิคมสำคัญ นี่ถ้าได้อาณาจักรออตโตมานอีกรายการ อาการฟันห่างระหว่างอียิปต์กับอินเดียก็จะแคบเข้ามา อังกฤษจะนั่งรอให้โอกาสวิ่งผ่านไป โดยไม่ฉวยได้อย่างไร ความคิดที่จะใช้สงครามโลกเป็นเครื่องมือถอนราก ถอนโคน อาณาจักรของนักไต่ลวด พร้อมกับการสกัดและทำลายเยอรมันที่คิดทาบรัศมีด้วยการสร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ไปพร้อมกันจึงเกิดขึ้น อาณาจักรออตโตมาน ตัดสินใจว่าจะวางตัวเป็นกลาง ก็เป็นคนป่วยนี่ ไม่แข็งแรงพอที่จะไปต่อสู้กับใครได้ อยู่เฉย ๆ น่าจะดีและเหมาะกับสภาพของออตโตมานตอนนั้นมากกว่า สุลต่านผู้ครองจักรวรรดิออตโตมาน เป็นเสมือนหุ่นไม่มีอำนาจจริง หลังจากสุลต่าน Abdulhamid II ซึ่งเป็นสุลต่านที่มีอำนาจคนสุด ท้าย ถูกโค่นลงเมื่อปี 1908 แล้ว สุลต่านคนต่อ ๆ มา ก็หมกตัวอยู่แต่ในฮาเร็ม ให้รัฐบาลทหาร ซึ่งนำโดย Three Pasha เป็นผู้บริหารแทน ปาชาไม่ใช่พวกเคร่งศาสนาและออกจะเป็นพวกนิยมตะวันตกด้วยซ้ำ เป็นทหารจะไปรู้เรื่องการค้ามากมายอะไร (ผมหมายถึงปาชานะครับ อย่าเข้าใจผิดว่าเขียนถึงทหารอื่น ซึ่งเก่งทั้งการทหาร การค้า การปกครอง และอื่น ๆ อีกมากมาย) แล้วอาณาจักรออตโตมานก็ถึงเวลากระเป๋าแห้ง และฉีกขาดต่อมา เป็นหนี้ฝรั่งตะวันตกบานตะเกียง ชนิดไม่มีทางจะใช้คืน นอกจากเบี้ยวเขา หรือเป็นทาสเขาไปเท่านั้น แล้วไงล่ะ ขอไปร่วมอยู่ฝั่งเดียวกับเขา เขาก็ถีบทิ้ง นักไต่ลวดจึงถลาลงพื้น หัวฟาดอย่างเดียวไม่พอ กระเป๋าฉีกขาดอีกด้วย ทั้งเจ็บ ทั้งจนขนาดนี้ จะมีทางเลือกอะไร จึงจำใจไปเข้ากับอีกฝ่ายหนึ่ง ตุลาคม ค.ศ. 1914 ตุรกี (หรืออาณาจักรออตโตมานขณะนั้น) จึงประกาศตัวอยู่ฝ่ายเยอรมันกับพวก ที่น่าจะกระเป๋าตุงเพราะทำซ่า ว่าจะสร้างทางรถไฟข้ามทวีป เบอร์ลิน แบกแดด ท้าทายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย แต่ก่อนประกาศตัวอยู่กับฝ่ายเยอรมันเป็นทางการ คนป่วยตุรกีแอบทำสัญญาลับกับ คุณหมอเยอรมัน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม หลังจากนั้นไม่นาน เรือรบสัญชาติเยอรมัน 2 ลำ SMS Goeben และ SMS Breslau ก็วิ่งมาเงียบ ๆ จากฝั่งตะวันตกของเมดิเตอริเรเนียน ถึงกรุงคอนสแตนติโนเบิล เมื่อเทียบท่าเรียบร้อย ก็ทำพิธีส่งมอบให้ออตโตมาน ซึ่งขณะนั้นบอกว่ายังเป็นกลางอยู่ ออตโตมานตั้งชื่อเรือเสียใหม่ว่า Yavuz และ Midilli ให้มีกลิ่นแกะตุรกีติดเรือ แทนกลิ่นไส้กรอกกับผักดองเปรี้ยวของเยอรมัน พลประจำเรือชาวเยอรมันยังไม่ได้หายตัวไปไหน แค่เปลี่ยนชุดและใส่หมวกตุรกีแทนเท่านั้น เป็นคนป่วยที่ดูเหมือน ยังมีเหลี่ยมติดตัวอยู่ไม่น้อย หลังจากนั่นเรือรบ 2 ลำ เดินทางต่อไปถึง Golden Horn และต่อไปที่เมือง Dardanelles ปฏิบัติการยั่วยวนก็เกิดขึ้นทันที ออตโตมานและเยอรมัน ได้ปิดทางเชื่อมระหว่างรัสเซียออกจากพวก คือ ฝรั่งเศส และอังกฤษ หลังจากนั้น เครื่องบินรบติดธงออตโตมาน ก็บินขึ้นจากเรือรบ Goeben ถล่มท่าเรือรัสเซียที่ทะเลดำ การยั่วยวนได้ผล ต้นเดือนพฤศจิกายน รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส ก็ประกาศสงครามกับจักรวรรดิออตโตมาน อังกฤษพยายามที่จะทลายการปิดกั้นเส้นทางที่ Dardanelles และยึดเมืองคอนสแตนติโนเบิล ยกโขยงกองทัพเรือมาพร้อมกับของฝรั่งเศสมาทางแหลม Gallipoli การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งทางเรือและทางบก ผลสุดท้ายคนป่วย ออตโตมานที่มีหมอดียาดี ยี่ห้อเยอรมัน ลุกขึ้นกวาดกองทัพอังกฤษแตกกลับ ลงทะเล ผลของคนป่วยได้ยาดี ทำให้ท่านหลอด Winston Churchill แม่ทัพเรือ ยื่นใบลาออกเพราะแพ้คนป่วย จะแก้ตัวยังไงดี ลาออกง่ายกว่า ผลการประเมินคนป่วยผิดคาดนี้ ทำให้เกิดบาดแผลมากมาย ทหารของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ลูกกระเป๋งของอังกฤษตายเป็นเบือ จนเดี๋ยวนี้ทั้ง 2 ชาติ ก็ไม่มีวันลืมสงครามคนป่วย ความพ่ายแพ้ที่ Gallipoli ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรโดยเฉพาะอังกฤษ เปลี่ยนยุทธศาสตร์การรบใหม่ หลังจากแผนการตีกล่องดวงใจ ของออตโตมานล้มเหลว อังกฤษเปลี่ยนแผนเป็น ไล่เซิ้งเมืองรอบนอกให้ยับเยินแทน เป้าหมายมุ่งไปที่เมืองที่มีชาวอาหรับอ่อนแอดูแลอยู่ กลยุทธที่อังกฤษถนัดใช้และพกติดตัวไว้เสมอ คือไม้เสี้ยม ไม่ต้องลงทุนมาก ใช้ความคิดชั่ว ๆ กับปากก็พอ อังกฤษตั้งใจจะใช้ชาวอาหรับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน เป็นเครื่องมือในการช่วยทลายออตโตมานเอง ในที่สุดก็หาเครื่องมือนี้เจอที่เมือง Hejaz ที่บริเวณตะวันตกของคาบสมุทรอารเบีย สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 ส.ค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Grok AI ของ Elon Musk ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ — ใช้งานได้ทุกหน่วยงานในราคาแค่ 42 เซนต์ พร้อมทีมวิศวกรช่วยติดตั้ง”

    ในความเคลื่อนไหวที่พลิกเกมวงการ AI ภาครัฐของสหรัฐฯ รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท xAI ของ Elon Musk เพื่อใช้งาน Grok AI ในหน่วยงานรัฐบาลกลางทุกแห่ง โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 42 เซนต์ต่อหน่วยงานต่อระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งถือเป็นสัญญา AI ที่ยาวที่สุดภายใต้โครงการ OneGov ของ GSA (General Services Administration)

    Grok เวอร์ชันที่ใช้ในภาครัฐมีชื่อว่า “Grok for Government” โดยใช้โมเดล Grok 4 และ Grok 4 Fast ซึ่งเน้นการให้เหตุผลเชิงลึกและประสิทธิภาพสูง พร้อมมีทีมวิศวกรจาก xAI คอยช่วยเหลือในการติดตั้งและฝึกอบรมการใช้งานให้กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ

    แม้ Elon Musk จะเคยมีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงกลางปี 2025 แต่การลงนามข้อตกลงนี้อาจเป็นสัญญาณของการคืนดี โดยทั้งสองถูกพบเห็นร่วมงานกันในที่สาธารณะ และ Musk เริ่มกล่าวชื่นชมผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้งในแถลงการณ์ของบริษัท

    Grok เข้าร่วมกับบริษัท AI รายใหญ่อื่น ๆ ที่ได้รับเลือกให้ใช้งานในภาครัฐ เช่น Meta, OpenAI, Google และ Anthropic โดยแต่ละรายเสนอราคาที่ต่ำมาก เช่น Meta เสนอใช้งานฟรี ส่วน OpenAI และ Anthropic เสนอในราคา $1 ต่อปี

    อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่พ้นเสียงวิจารณ์ โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักการเมืองบางฝ่ายแสดงความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ Grok ในอดีต เช่น การโพสต์เนื้อหาต่อต้านชาวยิวและการเรียกตัวเองว่า “MechaHitler” บนแพลตฟอร์ม X ซึ่ง xAI ได้ออกมาขอโทษและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงระบบความปลอดภัยและการกรองเนื้อหาให้ดีขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    รัฐบาลสหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงใช้งาน Grok AI จาก xAI ในราคา 42 เซนต์ต่อหน่วยงาน
    ข้อตกลงมีระยะเวลา 18 เดือน สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2027
    ใช้โมเดล Grok 4 และ Grok 4 Fast ที่เน้นการให้เหตุผลและประสิทธิภาพสูง
    xAI ให้ทีมวิศวกรช่วยติดตั้งและฝึกอบรมการใช้งานในหน่วยงาน
    Grok for Government เป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งสำหรับภาครัฐ
    เข้าร่วมกับบริษัท AI อื่น ๆ เช่น Meta, OpenAI, Google และ Anthropic ภายใต้โครงการ OneGov
    Meta เสนอใช้งานฟรี ส่วน OpenAI และ Anthropic เสนอในราคา $1 ต่อปี
    GSA ยืนยันว่า Grok ผ่านการทดสอบความปลอดภัยและไม่มีอคติเชิงระบบ
    มีการจัดตั้งทีม AI Safety ภายใน GSA เพื่อประเมินและตรวจสอบโมเดลอย่างต่อเนื่อง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ราคาที่ 42 เซนต์เป็นการอ้างอิงถึงนิยาย “Hitchhiker’s Guide to the Galaxy” ที่ระบุว่า 42 คือคำตอบของจักรวาล Grok 4 Fast เป็นโมเดล reasoning ที่มีต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูง
    xAI ยังได้รับสัญญาเพิ่มเติมจากกระทรวงกลาโหมมูลค่าสูงถึง $200 ล้าน
    การใช้งาน Grok ในภาครัฐครอบคลุมทั้งงานด้านความมั่นคง วิทยาศาสตร์ และสาธารณสุข
    GSA มีแผนขยายการใช้งาน AI ให้ครอบคลุมทุกหน่วยงานภายใต้แนวคิด “OneGov”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musks-grok-ai-to-be-used-by-us-government-at-a-price-of-42-cents-per-agency-trump-admin-joining-meta-openai-in-recent-trend-of-ai-govt-contracts
    🧠 “Grok AI ของ Elon Musk ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ — ใช้งานได้ทุกหน่วยงานในราคาแค่ 42 เซนต์ พร้อมทีมวิศวกรช่วยติดตั้ง” ในความเคลื่อนไหวที่พลิกเกมวงการ AI ภาครัฐของสหรัฐฯ รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท xAI ของ Elon Musk เพื่อใช้งาน Grok AI ในหน่วยงานรัฐบาลกลางทุกแห่ง โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 42 เซนต์ต่อหน่วยงานต่อระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งถือเป็นสัญญา AI ที่ยาวที่สุดภายใต้โครงการ OneGov ของ GSA (General Services Administration) Grok เวอร์ชันที่ใช้ในภาครัฐมีชื่อว่า “Grok for Government” โดยใช้โมเดล Grok 4 และ Grok 4 Fast ซึ่งเน้นการให้เหตุผลเชิงลึกและประสิทธิภาพสูง พร้อมมีทีมวิศวกรจาก xAI คอยช่วยเหลือในการติดตั้งและฝึกอบรมการใช้งานให้กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ แม้ Elon Musk จะเคยมีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงกลางปี 2025 แต่การลงนามข้อตกลงนี้อาจเป็นสัญญาณของการคืนดี โดยทั้งสองถูกพบเห็นร่วมงานกันในที่สาธารณะ และ Musk เริ่มกล่าวชื่นชมผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้งในแถลงการณ์ของบริษัท Grok เข้าร่วมกับบริษัท AI รายใหญ่อื่น ๆ ที่ได้รับเลือกให้ใช้งานในภาครัฐ เช่น Meta, OpenAI, Google และ Anthropic โดยแต่ละรายเสนอราคาที่ต่ำมาก เช่น Meta เสนอใช้งานฟรี ส่วน OpenAI และ Anthropic เสนอในราคา $1 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่พ้นเสียงวิจารณ์ โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักการเมืองบางฝ่ายแสดงความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ Grok ในอดีต เช่น การโพสต์เนื้อหาต่อต้านชาวยิวและการเรียกตัวเองว่า “MechaHitler” บนแพลตฟอร์ม X ซึ่ง xAI ได้ออกมาขอโทษและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงระบบความปลอดภัยและการกรองเนื้อหาให้ดีขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงใช้งาน Grok AI จาก xAI ในราคา 42 เซนต์ต่อหน่วยงาน ➡️ ข้อตกลงมีระยะเวลา 18 เดือน สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2027 ➡️ ใช้โมเดล Grok 4 และ Grok 4 Fast ที่เน้นการให้เหตุผลและประสิทธิภาพสูง ➡️ xAI ให้ทีมวิศวกรช่วยติดตั้งและฝึกอบรมการใช้งานในหน่วยงาน ➡️ Grok for Government เป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งสำหรับภาครัฐ ➡️ เข้าร่วมกับบริษัท AI อื่น ๆ เช่น Meta, OpenAI, Google และ Anthropic ภายใต้โครงการ OneGov ➡️ Meta เสนอใช้งานฟรี ส่วน OpenAI และ Anthropic เสนอในราคา $1 ต่อปี ➡️ GSA ยืนยันว่า Grok ผ่านการทดสอบความปลอดภัยและไม่มีอคติเชิงระบบ ➡️ มีการจัดตั้งทีม AI Safety ภายใน GSA เพื่อประเมินและตรวจสอบโมเดลอย่างต่อเนื่อง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ราคาที่ 42 เซนต์เป็นการอ้างอิงถึงนิยาย “Hitchhiker’s Guide to the Galaxy” ที่ระบุว่า 42 คือคำตอบของจักรวาล ➡️ Grok 4 Fast เป็นโมเดล reasoning ที่มีต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูง ➡️ xAI ยังได้รับสัญญาเพิ่มเติมจากกระทรวงกลาโหมมูลค่าสูงถึง $200 ล้าน ➡️ การใช้งาน Grok ในภาครัฐครอบคลุมทั้งงานด้านความมั่นคง วิทยาศาสตร์ และสาธารณสุข ➡️ GSA มีแผนขยายการใช้งาน AI ให้ครอบคลุมทุกหน่วยงานภายใต้แนวคิด “OneGov” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musks-grok-ai-to-be-used-by-us-government-at-a-price-of-42-cents-per-agency-trump-admin-joining-meta-openai-in-recent-trend-of-ai-govt-contracts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OpenSSF เตือนหนัก: โครงสร้างพื้นฐานโอเพ่นซอร์สไม่ใช่ของฟรี — ถึงเวลาที่องค์กรต้องจ่ายคืนให้ระบบที่พวกเขาพึ่งพา”

    Open Source Security Foundation (OpenSSF) พร้อมด้วยมูลนิธิซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สชั้นนำ เช่น Eclipse, Python, Rust, OpenJS และ Sonatype ได้ออกแถลงการณ์ร่วมในเดือนกันยายน 2025 เพื่อประกาศจุดยืนว่า “โอเพ่นซอร์สไม่ใช่บริการฟรี” และเตือนว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนซอฟต์แวร์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะไม่ยั่งยืน

    องค์กรเหล่านี้ต้องรับภาระการดาวน์โหลดแพ็กเกจระดับ “หลายล้านล้านครั้งต่อเดือน” โดยไม่มีรายได้ที่สอดคล้องกับการใช้งานจริง ส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการบริจาค, เงินทุนจากผู้สนับสนุนไม่กี่ราย และแรงงานอาสาสมัคร ซึ่งไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากระบบ CI/CD, container builds และ AI agents ที่สแกน repository แบบอัตโนมัติ

    OpenSSF ชี้ว่าโครงสร้างพื้นฐานโอเพ่นซอร์สไม่ใช่แค่ package registry แต่ยังรวมถึงระบบ build, test, deploy, CDN, cloud storage และระบบความปลอดภัยที่ต้องทำงานตลอดเวลา — ทั้งหมดนี้มีต้นทุนที่องค์กรผู้ใช้งานจำนวนมากไม่ได้แบกรับ

    เพื่อแก้ปัญหา OpenSSF เสนอแนวทางใหม่ เช่น การสร้างโมเดล “tiered access” ที่ให้บริการฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่คิดค่าบริการสำหรับองค์กรขนาดใหญ่, การจับมือกับภาคธุรกิจเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานตามสัดส่วนการใช้งาน, และการเพิ่มบริการเสริมเชิงพาณิชย์ เช่น analytics หรือ SLA ที่มีความน่าเชื่อถือสูง

    แม้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ OpenSSF เตือนว่า หากไม่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ระบบที่เป็นรากฐานของซอฟต์แวร์ทั่วโลกอาจล่มสลายได้ในอนาคตอันใกล้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    OpenSSF และมูลนิธิซอฟต์แวร์หลายแห่งออกแถลงการณ์ร่วมเตือนเรื่องความยั่งยืนของโอเพ่นซอร์ส
    โครงสร้างพื้นฐานรองรับการดาวน์โหลดหลายล้านล้านครั้งต่อเดือน แต่ยังพึ่งพาการบริจาค
    ระบบที่เกี่ยวข้องรวมถึง build, test, deploy, CDN, cloud และระบบความปลอดภัย
    ปริมาณการใช้งานจากระบบอัตโนมัติ เช่น CI/CD และ AI agents เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    OpenSSF เสนอโมเดล tiered access และความร่วมมือเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้
    มีการเสนอให้เพิ่มบริการเสริม เช่น analytics และ SLA สำหรับองค์กร
    แถลงการณ์ร่วมลงนามโดย Eclipse, Python, Rust, OpenJS, Sonatype และอื่น ๆ
    สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบโอเพ่นซอร์ส

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GitHub เคยเสนอให้รัฐบาลมองโอเพ่นซอร์สเป็น “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” และสนับสนุนงบประมาณ
    EU เสนอ Sovereign Tech Fund มูลค่า €350 ล้านเพื่อสนับสนุนโอเพ่นซอร์ส
    โครงการ Asahi Linux เคยประสบปัญหาบุคลากรลาออกเพราะความเหนื่อยล้าและขาดทุนสนับสนุน
    Bruce Perens เสนอ “Post-Open Zero Cost License” เพื่อบังคับให้บริษัทที่ใช้โอเพ่นซอร์สต้องจ่าย
    โครงสร้างพื้นฐานโอเพ่นซอร์สมีบทบาทสำคัญในระบบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ทั่วโลก

    https://securityonline.info/openssf-warns-open-source-software-is-not-a-free-service/
    🌍 “OpenSSF เตือนหนัก: โครงสร้างพื้นฐานโอเพ่นซอร์สไม่ใช่ของฟรี — ถึงเวลาที่องค์กรต้องจ่ายคืนให้ระบบที่พวกเขาพึ่งพา” Open Source Security Foundation (OpenSSF) พร้อมด้วยมูลนิธิซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สชั้นนำ เช่น Eclipse, Python, Rust, OpenJS และ Sonatype ได้ออกแถลงการณ์ร่วมในเดือนกันยายน 2025 เพื่อประกาศจุดยืนว่า “โอเพ่นซอร์สไม่ใช่บริการฟรี” และเตือนว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนซอฟต์แวร์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะไม่ยั่งยืน องค์กรเหล่านี้ต้องรับภาระการดาวน์โหลดแพ็กเกจระดับ “หลายล้านล้านครั้งต่อเดือน” โดยไม่มีรายได้ที่สอดคล้องกับการใช้งานจริง ส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการบริจาค, เงินทุนจากผู้สนับสนุนไม่กี่ราย และแรงงานอาสาสมัคร ซึ่งไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากระบบ CI/CD, container builds และ AI agents ที่สแกน repository แบบอัตโนมัติ OpenSSF ชี้ว่าโครงสร้างพื้นฐานโอเพ่นซอร์สไม่ใช่แค่ package registry แต่ยังรวมถึงระบบ build, test, deploy, CDN, cloud storage และระบบความปลอดภัยที่ต้องทำงานตลอดเวลา — ทั้งหมดนี้มีต้นทุนที่องค์กรผู้ใช้งานจำนวนมากไม่ได้แบกรับ เพื่อแก้ปัญหา OpenSSF เสนอแนวทางใหม่ เช่น การสร้างโมเดล “tiered access” ที่ให้บริการฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่คิดค่าบริการสำหรับองค์กรขนาดใหญ่, การจับมือกับภาคธุรกิจเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานตามสัดส่วนการใช้งาน, และการเพิ่มบริการเสริมเชิงพาณิชย์ เช่น analytics หรือ SLA ที่มีความน่าเชื่อถือสูง แม้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ OpenSSF เตือนว่า หากไม่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ระบบที่เป็นรากฐานของซอฟต์แวร์ทั่วโลกอาจล่มสลายได้ในอนาคตอันใกล้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ OpenSSF และมูลนิธิซอฟต์แวร์หลายแห่งออกแถลงการณ์ร่วมเตือนเรื่องความยั่งยืนของโอเพ่นซอร์ส ➡️ โครงสร้างพื้นฐานรองรับการดาวน์โหลดหลายล้านล้านครั้งต่อเดือน แต่ยังพึ่งพาการบริจาค ➡️ ระบบที่เกี่ยวข้องรวมถึง build, test, deploy, CDN, cloud และระบบความปลอดภัย ➡️ ปริมาณการใช้งานจากระบบอัตโนมัติ เช่น CI/CD และ AI agents เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ OpenSSF เสนอโมเดล tiered access และความร่วมมือเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ ➡️ มีการเสนอให้เพิ่มบริการเสริม เช่น analytics และ SLA สำหรับองค์กร ➡️ แถลงการณ์ร่วมลงนามโดย Eclipse, Python, Rust, OpenJS, Sonatype และอื่น ๆ ➡️ สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบโอเพ่นซอร์ส ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GitHub เคยเสนอให้รัฐบาลมองโอเพ่นซอร์สเป็น “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” และสนับสนุนงบประมาณ ➡️ EU เสนอ Sovereign Tech Fund มูลค่า €350 ล้านเพื่อสนับสนุนโอเพ่นซอร์ส ➡️ โครงการ Asahi Linux เคยประสบปัญหาบุคลากรลาออกเพราะความเหนื่อยล้าและขาดทุนสนับสนุน ➡️ Bruce Perens เสนอ “Post-Open Zero Cost License” เพื่อบังคับให้บริษัทที่ใช้โอเพ่นซอร์สต้องจ่าย ➡️ โครงสร้างพื้นฐานโอเพ่นซอร์สมีบทบาทสำคัญในระบบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ทั่วโลก https://securityonline.info/openssf-warns-open-source-software-is-not-a-free-service/
    SECURITYONLINE.INFO
    OpenSSF Warns: Open Source Software Is Not a Free Service
    OpenSSF and other foundations warn that they can no longer be the unpaid gatekeepers of the software supply chain and that enterprises must contribute financially.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ฮุน เซน' แชร์แถลงการณ์โต้เดือด! ยัน 'เปรยจัน' ไม่ได้บุกรุก-เป็นดินแดนกัมพูชา ซ้ำยุส่งชาวบ้านสู้ทหารไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/21599/
    .
    #ไทยไท #ฮุนเซน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #เปรยจัน
    'ฮุน เซน' แชร์แถลงการณ์โต้เดือด! ยัน 'เปรยจัน' ไม่ได้บุกรุก-เป็นดินแดนกัมพูชา ซ้ำยุส่งชาวบ้านสู้ทหารไทย https://www.thai-tai.tv/news/21599/ . #ไทยไท #ฮุนเซน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #เปรยจัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Oracle เปลี่ยนผู้นำครั้งใหญ่ — ตั้ง 2 Co-CEO คนใหม่แทน Safra Catz พร้อมเดินหน้าสู่ยุค AI เต็มตัว”

    หลังจากดำรงตำแหน่ง CEO มานานกว่า 10 ปี Safra Catz ประกาศลงจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของ Oracle โดยจะย้ายไปดำรงตำแหน่ง Executive Vice Chair ในคณะกรรมการบริษัทแทน พร้อมเปิดทางให้กับผู้นำรุ่นใหม่สองคนคือ Clay Magouyrk และ Mike Sicilia ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น Co-CEO อย่างเป็นทางการ

    Clay Magouyrk เคยเป็นประธานฝ่าย Oracle Cloud Infrastructure (OCI) และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Gen2 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ระดับกิกะวัตต์ ส่วน Mike Sicilia เคยเป็นประธานฝ่าย Oracle Industries และเป็นผู้นำการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI สำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การแพทย์ การเงิน การสื่อสาร และค้าปลีก

    Larry Ellison ผู้ก่อตั้งและ CTO ของ Oracle กล่าวว่าทั้งสองคนเป็นผู้นำที่พิสูจน์แล้ว และการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Oracle กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในธุรกิจคลาวด์และ AI ที่มีดีลระดับหลายแสนล้านดอลลาร์กับลูกค้ารายใหญ่ เช่น OpenAI

    Safra Catz กล่าวในแถลงการณ์ว่า “นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งต่อบทบาทให้กับผู้นำรุ่นใหม่” โดยเธอจะยังคงทำงานร่วมกับ Larry Ellison ในการกำหนดทิศทางของบริษัทต่อไป

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังรวมถึงการแต่งตั้ง Mark Hura เป็นประธานฝ่าย Global Field Operations และ Doug Kehring เป็น Chief Financial Officer คนใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตในยุค AI

    https://www.techradar.com/pro/oracle-appoints-not-one-but-two-co-ceos-as-safra-catz-leaves-top-job
    👥 “Oracle เปลี่ยนผู้นำครั้งใหญ่ — ตั้ง 2 Co-CEO คนใหม่แทน Safra Catz พร้อมเดินหน้าสู่ยุค AI เต็มตัว” หลังจากดำรงตำแหน่ง CEO มานานกว่า 10 ปี Safra Catz ประกาศลงจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของ Oracle โดยจะย้ายไปดำรงตำแหน่ง Executive Vice Chair ในคณะกรรมการบริษัทแทน พร้อมเปิดทางให้กับผู้นำรุ่นใหม่สองคนคือ Clay Magouyrk และ Mike Sicilia ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น Co-CEO อย่างเป็นทางการ Clay Magouyrk เคยเป็นประธานฝ่าย Oracle Cloud Infrastructure (OCI) และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Gen2 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ระดับกิกะวัตต์ ส่วน Mike Sicilia เคยเป็นประธานฝ่าย Oracle Industries และเป็นผู้นำการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI สำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การแพทย์ การเงิน การสื่อสาร และค้าปลีก Larry Ellison ผู้ก่อตั้งและ CTO ของ Oracle กล่าวว่าทั้งสองคนเป็นผู้นำที่พิสูจน์แล้ว และการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Oracle กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในธุรกิจคลาวด์และ AI ที่มีดีลระดับหลายแสนล้านดอลลาร์กับลูกค้ารายใหญ่ เช่น OpenAI Safra Catz กล่าวในแถลงการณ์ว่า “นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งต่อบทบาทให้กับผู้นำรุ่นใหม่” โดยเธอจะยังคงทำงานร่วมกับ Larry Ellison ในการกำหนดทิศทางของบริษัทต่อไป การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังรวมถึงการแต่งตั้ง Mark Hura เป็นประธานฝ่าย Global Field Operations และ Doug Kehring เป็น Chief Financial Officer คนใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตในยุค AI https://www.techradar.com/pro/oracle-appoints-not-one-but-two-co-ceos-as-safra-catz-leaves-top-job
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ออกแถลงการณ์ตอบโต้อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ที่ประกาศยอมรับสถานะปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระอย่างเป็นทางการ:

    ในแถลงการณ์ระบุว่า อิสราเอลปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อการรับรองรัฐปาเลสไตน์จากประเทศตะวันตก โดยกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว "ไม่ได้ส่งเสริมสันติภาพและยิ่งทำให้ภูมิภาคสั่นคลอนมากขึ้น"
    กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ออกแถลงการณ์ตอบโต้อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ที่ประกาศยอมรับสถานะปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระอย่างเป็นทางการ: ในแถลงการณ์ระบุว่า อิสราเอลปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อการรับรองรัฐปาเลสไตน์จากประเทศตะวันตก โดยกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว "ไม่ได้ส่งเสริมสันติภาพและยิ่งทำให้ภูมิภาคสั่นคลอนมากขึ้น"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย "แอนโทนี แอลบานีส" ประกาศรับรอง “ปาเลสไตน์” เป็นรัฐอิสระอย่างเป็นทางการ

    แคนาดา และ สหราชอาณาจักร กำลังรับรอง "ปาเลสไตน์" ด้วยเช่นกัน
    แถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย "แอนโทนี แอลบานีส" ประกาศรับรอง “ปาเลสไตน์” เป็นรัฐอิสระอย่างเป็นทางการ แคนาดา และ สหราชอาณาจักร กำลังรับรอง "ปาเลสไตน์" ด้วยเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาชิกรัฐสภา (สส.) และ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ(สว.) แถลงการณ์ถึงแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยข่มขู่ว่าจะมี “มาตรการลงโทษ” หากประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์

    แถลงการณ์นี้ออกมาเมื่อวันที่ 20 กันยายน

    วันนี้วันที่ 21 กันยายน ทั้งออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ประกาศรับรอง "ปาเลสไตน์" เป็นรัฐอิสระเรียบร้อยไปแล้ว บ่งบอกว่าทั้งสามประเทศนี้ไม่ได้เกรงกลัวคำขู่ของสหรัฐแต่อย่างใด

    ขณะที่ฝรั่งเศส มีรายงานว่าจะประกาศรับรองปาเลสไตน์ ในวันพรุ่งนี้ คือวันจันทร์ที่ 22 กันยายน

    คำประกาศรับรองของ ออสเตรเลีย แคนาดา และอังกฤษ เกิดขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนอังกฤษเพียงหนึ่งวันเท่านั้น!
    สมาชิกรัฐสภา (สส.) และ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ(สว.) แถลงการณ์ถึงแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยข่มขู่ว่าจะมี “มาตรการลงโทษ” หากประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ 👉แถลงการณ์นี้ออกมาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 👉วันนี้วันที่ 21 กันยายน ทั้งออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ประกาศรับรอง "ปาเลสไตน์" เป็นรัฐอิสระเรียบร้อยไปแล้ว บ่งบอกว่าทั้งสามประเทศนี้ไม่ได้เกรงกลัวคำขู่ของสหรัฐแต่อย่างใด 👉ขณะที่ฝรั่งเศส มีรายงานว่าจะประกาศรับรองปาเลสไตน์ ในวันพรุ่งนี้ คือวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 👉คำประกาศรับรองของ ออสเตรเลีย แคนาดา และอังกฤษ เกิดขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนอังกฤษเพียงหนึ่งวันเท่านั้น!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์ด่วน ผู้บัญชาการเหล่าทัพทำให้คนไทยทั้งชาติ “มีความหวัง” (21/9/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
    #กองทัพไทย
    #SaveThailand
    แถลงการณ์ด่วน ผู้บัญชาการเหล่าทัพทำให้คนไทยทั้งชาติ “มีความหวัง” (21/9/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ผู้บัญชาการเหล่าทัพ #กองทัพไทย #SaveThailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • จังหวัดสระแก้วตอบโต้ข้อเสนอกัมพูชา ออกแถลงการณ์สั่งผู้รุกล้ำอพยพพ้นแนวชายแดน ก่อนประชุม GBC วันที่ 10 ต.ค.นี้ ลั่นจะไม่เจรจาระดับจังหวัดอีก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090131

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    จังหวัดสระแก้วตอบโต้ข้อเสนอกัมพูชา ออกแถลงการณ์สั่งผู้รุกล้ำอพยพพ้นแนวชายแดน ก่อนประชุม GBC วันที่ 10 ต.ค.นี้ ลั่นจะไม่เจรจาระดับจังหวัดอีก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090131 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 535 มุมมอง 0 รีวิว
  • 18-09-68/03​ : หมี CNN / สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย? ปากเจรจา แต่ลับหลังสั่งเชือด มันไม่ใช่เพิ่งจะทำ แต่ทำมาแล้วนับศตวรรษ อี QATAR มรึงเคยโง่ยังไง ก็เหมือนเดิมเป๊ะเด๊ะ ถามว่า ยังจะเหลือควายกี่ตัวที่ยังเชื่ออเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ชะตากรรมขี้ข้า สุดท้ายก็แค่ที่รองตรีนเหี้ย หมดประโยชน์ก็เชือด ไม่ทำตามใบสั่งก็เชือด และนี่คือตัวอย่างว่าขนาดกาตาร์ ก็ยังจะโดนอียิว เหี้ยมะกันล่อได้ แม้เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์มาหลายทศวรรษ ทำให้ขี้ข้าเหี้ยตาสว่างขึ้นเยอะ ผู้มีปัญญา ย่อมใฝ่หาผู้มีปัญญาเช่นกัน ส่วนคนโง่ก็จะจมปลักอยู่กับคนโง่ไม่สิ้นสุด ฮามาสได้ที สบช่องชี้เป้า "อเมริกาอยู่เบื้องหลังช่วยอียิวโจมตีกาตาร์" ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพตทริออตไม่ทำงาน สั่งยิงระยะไกลไม่ได้ เพราะถูกเหี้ยมะกันควบคุมรหัสผ่านอยู่ หากไม่อนุมัติก็ใช้งานไม่ได้ แล้วมรึงจะซื้ออาวุธมาทำพ่อง? ซื้อแล้วไม่ได้ใช้ ใช้ได้เฉพาะกับศัตรูของเหี้ยเท่านั้น แปลว่ามรึงบรมโง่ดักดานของจริง? ทำไมอียิวต้องโจมตีกาตาร์ แต่เสือกเล่น 2 หน้า แอบให้ความช่วยเหลือกองกำลังต่อต้านยิวไงล่ะ ทั้งช่วยอีไก่งวง ทั้งช่วยฮามาสแบบลับๆ แล้วทำไม มรึงไม่เปิดตัวไปเลยล่ะ ให้ขั้วใหม่เข้ามาคุ้มครอง ดีกว่าเล่น 2 หน้า ไปไม่สุด สุดท้ายโดนเททั้ง 2 ฝั่ง ความโง่ที่มรึงคู่ควร ยุคนี้แล้ว จะเลือกข้างไหน ต้องเอามันให้ชัดเจนไปเลย เพราะมรึงถึงแตกหักแน่ ใครมันจะพริ้วเหมือนศรีธนญชัยกันล่ะ? เกมส์โลกเปิดหน้าแล้ว 3 ปี สมรภูมิรบ ขั้วเก่าแพ้ขั้วใหม่ราบคาบ ทุกเวทีโลก ทั้งฝ่ายการเมือง กำลังพล แสนยานุภาพ และผลลัพธ์ของการรบ แพ้แบบหมดรูป หมดเปลือก โลกอาหรับมีมติกู้ปาเลสไตน์ เมื่อคิดจะสู้กับยิว ใยต้องเล่น 2 หน้าต่อไปอีก เพราะสำหรับตะวันออกกลางแล้ว ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และคำพูด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรักษาคำมั่นสัญญา ซาอุ อิหร่าน ไก่งวง ฟาโรห์ แค่ 4 ชาตินี้ เหี้ยยิวก็ตายโหงแล้ว มรึงเปิดหน้าแลกเมื่อไหร่ คือวันแตกอเมริกา แตกอังกฤษ มันจะมาพร้อมกันหมดทีเดียว เพราะนี่คือสคริปต์ที่อีเยรูซาเล็ม ลอนดอน วอชิงตัน มันคุยกันไว้นานแล้ว ก่อนจาก ก่อนไป มันต้องทิ้งทวนให้โลกจดจำไงล่ะ?

    Hamas: US complicit in Doha attack on truce negotiators กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา

    กลุ่มฮามาสประณามการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐกับอิสราเอลในการโจมตีทางอากาศต่อกาตาร์และความพยายามลอบสังหารต่อผู้นำกบฏปาเลสไตน์ที่ระบุว่า พวกเขาพยายามเลิกเจรจาในการหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพในกาซา

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาฟอว์ซี บาร์ฮอมโฆษกกลุ่มฮามาสกล่าวผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า คำเชื้อเชิญที่จะฆ่าทีมการประนีประนอมของกลุ่มฮามาสในโดฮาพร้อมภัยที่เกิดขึ้นเพื่อโจมตีความเป็นผู้นำของการปฏิบัติการในต่างประเทศแสดงให้เห็นถึง “ความไร้ความสามารถที่จะบรรลุจุดประสงค์” หลังจาก 23 เดือนของสงครามในกาซา

    เขาระบุว่า ความพยายามลอบสังหารเกิดขึ้นขณะที่ผู้แทนมีส่วนร่วมในการเจรจาข้อเสนอหยุดยิง

    บาร์ฮอมระบุว่า การระเบิดมีเป้าหมายเป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าของผู้แทนการเจรจา คาลิล อัล-เฮย์ยาที่ทำร้ายภรรยาฮัมแมม อัล เฮย์ยาและหลาน เขาระบุว่า “อาชญากรรม” ดังกล่าวเป็นการโจมตีต่อกระบวนการเจรจาทั้งหมด

    โฆษกของกลุ่มฮามาสระบุว่า การโจมตีอิสราเอลแสดงให้เห็นถึงการโจมตีอำนาจอธิปไตยของกาต้าร์และความมั่นคงแต่ “การประกาศสงครามต่อประเทศอาหรับและอิสลาม” รวมถึงก่อให้เกิดภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันตกทั้งหมด

    บาร์ฮอมตัดสินว่าสหรัฐ “สมรู้ร่วมคิด” ในการโจมตีของอิสราเอล

    ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ยอมรับในการตัดสินใจของอิสราเอลที่จะใช้การปฏิบัติการทางทหาร เขาระบุว่า เขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าและเมื่อเขาทราบ เขาเรียกร้องให้ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตคอฟฟ์เพื่อเตือนกาตาร์ทันที แต่การโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว

    กลุ่มฮามาสระบุว่า สมาชิก 5 คนเสียชีวิตในการโจมตีรวมถึงลูกชายของ คาลิล อัล-เฮย์ยา

    ซูฮาอิล อัล-ฮินดีสมาชิกกลุ่มฮามาสบอกกับสถานีโทรทัศน์ Al Jazeera ว่า ผู้นำระดับสูงของกลุ่มรอดจากเหตุโจมตี

    งานศพของเหยื่อที่จัดโดยกาตาร์

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา งานศพของเหยื่อจากเหตุโจมตีของอิสราเอลจัดขึ้นที่เมืองโดฮา ร่างของเหยื่อทั้ง 6 คนจากเหตุโจมตีถูกนำไปที่มัสยิดในเมืองโดฮาซึ่งมีศพ 5 รายที่คลุมด้วยธงปาเลสไตน์และอีกรายคลุมด้วยธงกาตาร์

    อีเมียร์ ชีค ทามิม บิน ฮามัด อัล ทานีเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย งานจัดขึ้นที่มัสยิดและนำไปฝังที่สุสาน

    https://www.presstv.ir/Detail/2025/09/11/754831/US-complicit-in-Doha-attack-on-negotiators,-it-was-assault-on-truce-talks--Hamas

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    18-09-68/03​ : หมี CNN / สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย? ปากเจรจา แต่ลับหลังสั่งเชือด มันไม่ใช่เพิ่งจะทำ แต่ทำมาแล้วนับศตวรรษ อี QATAR มรึงเคยโง่ยังไง ก็เหมือนเดิมเป๊ะเด๊ะ ถามว่า ยังจะเหลือควายกี่ตัวที่ยังเชื่ออเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ชะตากรรมขี้ข้า สุดท้ายก็แค่ที่รองตรีนเหี้ย หมดประโยชน์ก็เชือด ไม่ทำตามใบสั่งก็เชือด และนี่คือตัวอย่างว่าขนาดกาตาร์ ก็ยังจะโดนอียิว เหี้ยมะกันล่อได้ แม้เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์มาหลายทศวรรษ ทำให้ขี้ข้าเหี้ยตาสว่างขึ้นเยอะ ผู้มีปัญญา ย่อมใฝ่หาผู้มีปัญญาเช่นกัน ส่วนคนโง่ก็จะจมปลักอยู่กับคนโง่ไม่สิ้นสุด ฮามาสได้ที สบช่องชี้เป้า "อเมริกาอยู่เบื้องหลังช่วยอียิวโจมตีกาตาร์" ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพตทริออตไม่ทำงาน สั่งยิงระยะไกลไม่ได้ เพราะถูกเหี้ยมะกันควบคุมรหัสผ่านอยู่ หากไม่อนุมัติก็ใช้งานไม่ได้ แล้วมรึงจะซื้ออาวุธมาทำพ่อง? ซื้อแล้วไม่ได้ใช้ ใช้ได้เฉพาะกับศัตรูของเหี้ยเท่านั้น แปลว่ามรึงบรมโง่ดักดานของจริง? ทำไมอียิวต้องโจมตีกาตาร์ แต่เสือกเล่น 2 หน้า แอบให้ความช่วยเหลือกองกำลังต่อต้านยิวไงล่ะ ทั้งช่วยอีไก่งวง ทั้งช่วยฮามาสแบบลับๆ แล้วทำไม มรึงไม่เปิดตัวไปเลยล่ะ ให้ขั้วใหม่เข้ามาคุ้มครอง ดีกว่าเล่น 2 หน้า ไปไม่สุด สุดท้ายโดนเททั้ง 2 ฝั่ง ความโง่ที่มรึงคู่ควร ยุคนี้แล้ว จะเลือกข้างไหน ต้องเอามันให้ชัดเจนไปเลย เพราะมรึงถึงแตกหักแน่ ใครมันจะพริ้วเหมือนศรีธนญชัยกันล่ะ? เกมส์โลกเปิดหน้าแล้ว 3 ปี สมรภูมิรบ ขั้วเก่าแพ้ขั้วใหม่ราบคาบ ทุกเวทีโลก ทั้งฝ่ายการเมือง กำลังพล แสนยานุภาพ และผลลัพธ์ของการรบ แพ้แบบหมดรูป หมดเปลือก โลกอาหรับมีมติกู้ปาเลสไตน์ เมื่อคิดจะสู้กับยิว ใยต้องเล่น 2 หน้าต่อไปอีก เพราะสำหรับตะวันออกกลางแล้ว ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และคำพูด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรักษาคำมั่นสัญญา ซาอุ อิหร่าน ไก่งวง ฟาโรห์ แค่ 4 ชาตินี้ เหี้ยยิวก็ตายโหงแล้ว มรึงเปิดหน้าแลกเมื่อไหร่ คือวันแตกอเมริกา แตกอังกฤษ มันจะมาพร้อมกันหมดทีเดียว เพราะนี่คือสคริปต์ที่อีเยรูซาเล็ม ลอนดอน วอชิงตัน มันคุยกันไว้นานแล้ว ก่อนจาก ก่อนไป มันต้องทิ้งทวนให้โลกจดจำไงล่ะ? Hamas: US complicit in Doha attack on truce negotiators กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา กลุ่มฮามาสประณามการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐกับอิสราเอลในการโจมตีทางอากาศต่อกาตาร์และความพยายามลอบสังหารต่อผู้นำกบฏปาเลสไตน์ที่ระบุว่า พวกเขาพยายามเลิกเจรจาในการหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพในกาซา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาฟอว์ซี บาร์ฮอมโฆษกกลุ่มฮามาสกล่าวผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า คำเชื้อเชิญที่จะฆ่าทีมการประนีประนอมของกลุ่มฮามาสในโดฮาพร้อมภัยที่เกิดขึ้นเพื่อโจมตีความเป็นผู้นำของการปฏิบัติการในต่างประเทศแสดงให้เห็นถึง “ความไร้ความสามารถที่จะบรรลุจุดประสงค์” หลังจาก 23 เดือนของสงครามในกาซา เขาระบุว่า ความพยายามลอบสังหารเกิดขึ้นขณะที่ผู้แทนมีส่วนร่วมในการเจรจาข้อเสนอหยุดยิง บาร์ฮอมระบุว่า การระเบิดมีเป้าหมายเป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าของผู้แทนการเจรจา คาลิล อัล-เฮย์ยาที่ทำร้ายภรรยาฮัมแมม อัล เฮย์ยาและหลาน เขาระบุว่า “อาชญากรรม” ดังกล่าวเป็นการโจมตีต่อกระบวนการเจรจาทั้งหมด โฆษกของกลุ่มฮามาสระบุว่า การโจมตีอิสราเอลแสดงให้เห็นถึงการโจมตีอำนาจอธิปไตยของกาต้าร์และความมั่นคงแต่ “การประกาศสงครามต่อประเทศอาหรับและอิสลาม” รวมถึงก่อให้เกิดภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันตกทั้งหมด บาร์ฮอมตัดสินว่าสหรัฐ “สมรู้ร่วมคิด” ในการโจมตีของอิสราเอล ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ยอมรับในการตัดสินใจของอิสราเอลที่จะใช้การปฏิบัติการทางทหาร เขาระบุว่า เขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าและเมื่อเขาทราบ เขาเรียกร้องให้ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตคอฟฟ์เพื่อเตือนกาตาร์ทันที แต่การโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว กลุ่มฮามาสระบุว่า สมาชิก 5 คนเสียชีวิตในการโจมตีรวมถึงลูกชายของ คาลิล อัล-เฮย์ยา ซูฮาอิล อัล-ฮินดีสมาชิกกลุ่มฮามาสบอกกับสถานีโทรทัศน์ Al Jazeera ว่า ผู้นำระดับสูงของกลุ่มรอดจากเหตุโจมตี งานศพของเหยื่อที่จัดโดยกาตาร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา งานศพของเหยื่อจากเหตุโจมตีของอิสราเอลจัดขึ้นที่เมืองโดฮา ร่างของเหยื่อทั้ง 6 คนจากเหตุโจมตีถูกนำไปที่มัสยิดในเมืองโดฮาซึ่งมีศพ 5 รายที่คลุมด้วยธงปาเลสไตน์และอีกรายคลุมด้วยธงกาตาร์ อีเมียร์ ชีค ทามิม บิน ฮามัด อัล ทานีเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย งานจัดขึ้นที่มัสยิดและนำไปฝังที่สุสาน https://www.presstv.ir/Detail/2025/09/11/754831/US-complicit-in-Doha-attack-on-negotiators,-it-was-assault-on-truce-talks--Hamas ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.PRESSTV.IR
    Hamas: US complicit in Doha attack on truce negotiators
    Hamas has held the United States accountable for aiding and abetting the Zionist regime’s attempt to assassinate members of the resistance movement’s negotiating delegation in the Qatari capital Doha.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำหนังสือถึง อันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน ให้ไทยและกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และไม่ให้ฝ่ายไทยทำอะไรกับชาวกัมพูชา หลังเกิดการปะทะที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว วานนี้ (17 ก.ย.) ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ทำได้แค่ออกแถลงการณ์ตามฟอร์ม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000089298

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำหนังสือถึง อันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน ให้ไทยและกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และไม่ให้ฝ่ายไทยทำอะไรกับชาวกัมพูชา หลังเกิดการปะทะที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว วานนี้ (17 ก.ย.) ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ทำได้แค่ออกแถลงการณ์ตามฟอร์ม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000089298 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts