• ครม.อนุมัติงบประมาณก้อนโตทะลุหมื่นล้านบาท เดินหน้าเตรียมจัดเลือกตั้งและประชามติ พร้อมทุ่มงบอีกกว่า 5 พันล้านบาทให้กองทัพเสริมความมั่นคงจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123893

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ครม.อนุมัติงบประมาณก้อนโตทะลุหมื่นล้านบาท เดินหน้าเตรียมจัดเลือกตั้งและประชามติ พร้อมทุ่มงบอีกกว่า 5 พันล้านบาทให้กองทัพเสริมความมั่นคงจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123893 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ยึดพื้นที่ได้ ไม่ได้แปลว่าพื้นที่ปลอดภัย” — นี่คือความจริงของสนามรบยุคใหม่ที่ประชาชนควรเข้าใจ
    .
    กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภาพหลักฐานการตรวจพบกับระเบิดและทุ่นระเบิดจำนวนมากในพื้นที่ “เนิน 350” สะท้อนข้อเท็จจริงสำคัญของการปฏิบัติการทางทหารว่า แม้จะสามารถเข้าควบคุมและยึดพื้นที่เป้าหมายได้แล้ว แต่การรุกคืบต่อไปกลับไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน
    .
    ในทางทหาร ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “ความฝืดในสนามรบ” หมายถึงปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติการชะลอตัว แม้ฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบเชิงพื้นที่แล้วก็ตาม โดยกรณีของเนิน 350 ปัจจัยหลักคือสนามทุ่นระเบิดและกับระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกฝังและพรางไว้ทั้งใต้ดินและบนผิวพื้นที่
    .
    แม้พื้นที่จะอยู่ในการควบคุมของฝ่ายเราแล้ว แต่ยังไม่ถือว่าปลอดภัย กำลังพลไม่สามารถเคลื่อนย้าย เสริมกำลัง หรือใช้ยุทโธปกรณ์หนัก เช่น รถถัง ยานเกราะ รวมถึงการลำเลียงเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระ ทุกย่างก้าวต้องหยุดหรือชะลอ เพื่อรอการเข้าพื้นที่ของทหารช่างในการตรวจค้น กู้ และทำลายทุ่นระเบิดอย่างเป็นขั้นตอนและรอบคอบ
    .
    กับระเบิดคือภัยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีอานุภาพร้ายแรงถึงชีวิต เพียงก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียทันที ทำให้การรบต้องดำเนินไปด้วยความระมัดระวังสูงสุด แม้จะเป็นพื้นที่ที่ยึดครองได้แล้วก็ตาม
    .
    ผลที่ตามมาคือ
    – การรุกต้องชะลอลง ไม่สามารถเร่งปฏิบัติการได้
    – การใช้พื้นที่ยังจำกัด ไม่อาจเคลื่อนกำลังหรือยุทโธปกรณ์ได้เต็มที่
    – เพิ่มภาระด้านความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่
    ..
    ทั้งนี้ ความล่าช้าในสนามรบไม่ได้สะท้อนถึงความอ่อนแอของกองกำลัง หากแต่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์อย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาชีวิตกำลังพล ลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น และควบคุมสถานการณ์อย่างรอบคอบที่สุด
    .
    สนามรบที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด คือสนามรบที่แม้จะมีชัยเหนือข้าศึกแล้ว ก็ยังไม่อาจประมาทได้ ทุกตารางเมตรอาจแฝงอันตราย และทุกนาทีที่การปฏิบัติการช้าลง คือความพยายามรักษาชีวิตของทหารแนวหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ
    .
    นี่คือความจริงของ “ความฝืดในสนามรบ” ที่สังคมควรรับรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123773
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #เนิน350 #สนามรบ #ความมั่นคง #ข่าววิเคราะห์
    “ยึดพื้นที่ได้ ไม่ได้แปลว่าพื้นที่ปลอดภัย” — นี่คือความจริงของสนามรบยุคใหม่ที่ประชาชนควรเข้าใจ . กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภาพหลักฐานการตรวจพบกับระเบิดและทุ่นระเบิดจำนวนมากในพื้นที่ “เนิน 350” สะท้อนข้อเท็จจริงสำคัญของการปฏิบัติการทางทหารว่า แม้จะสามารถเข้าควบคุมและยึดพื้นที่เป้าหมายได้แล้ว แต่การรุกคืบต่อไปกลับไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน . ในทางทหาร ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “ความฝืดในสนามรบ” หมายถึงปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติการชะลอตัว แม้ฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบเชิงพื้นที่แล้วก็ตาม โดยกรณีของเนิน 350 ปัจจัยหลักคือสนามทุ่นระเบิดและกับระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกฝังและพรางไว้ทั้งใต้ดินและบนผิวพื้นที่ . แม้พื้นที่จะอยู่ในการควบคุมของฝ่ายเราแล้ว แต่ยังไม่ถือว่าปลอดภัย กำลังพลไม่สามารถเคลื่อนย้าย เสริมกำลัง หรือใช้ยุทโธปกรณ์หนัก เช่น รถถัง ยานเกราะ รวมถึงการลำเลียงเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระ ทุกย่างก้าวต้องหยุดหรือชะลอ เพื่อรอการเข้าพื้นที่ของทหารช่างในการตรวจค้น กู้ และทำลายทุ่นระเบิดอย่างเป็นขั้นตอนและรอบคอบ . กับระเบิดคือภัยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีอานุภาพร้ายแรงถึงชีวิต เพียงก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียทันที ทำให้การรบต้องดำเนินไปด้วยความระมัดระวังสูงสุด แม้จะเป็นพื้นที่ที่ยึดครองได้แล้วก็ตาม . ผลที่ตามมาคือ – การรุกต้องชะลอลง ไม่สามารถเร่งปฏิบัติการได้ – การใช้พื้นที่ยังจำกัด ไม่อาจเคลื่อนกำลังหรือยุทโธปกรณ์ได้เต็มที่ – เพิ่มภาระด้านความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ .. ทั้งนี้ ความล่าช้าในสนามรบไม่ได้สะท้อนถึงความอ่อนแอของกองกำลัง หากแต่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์อย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาชีวิตกำลังพล ลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น และควบคุมสถานการณ์อย่างรอบคอบที่สุด . สนามรบที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด คือสนามรบที่แม้จะมีชัยเหนือข้าศึกแล้ว ก็ยังไม่อาจประมาทได้ ทุกตารางเมตรอาจแฝงอันตราย และทุกนาทีที่การปฏิบัติการช้าลง คือความพยายามรักษาชีวิตของทหารแนวหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ . นี่คือความจริงของ “ความฝืดในสนามรบ” ที่สังคมควรรับรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123773 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #เนิน350 #สนามรบ #ความมั่นคง #ข่าววิเคราะห์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเรือเผยแพร่วิดีโอปฏิบัติการเครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศไทย ยิงถล่มเป้าหมาย ก่อนกำลังนาวิกโยธินเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่กาสิโนทมอดา และบ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ได้สำเร็จ
    .
    พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหาร มีการเสริมกำลัง พลซุ่มยิง จุดควบคุมพื้นที่ และส่วนปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศไทย
    .
    การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการกำลังร่วมระหว่างกองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองทัพอากาศ ภายใต้แผนที่รัดกุมและคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ
    .
    ผลการปฏิบัติการ ฝ่ายไทยสามารถยึดพื้นที่เป้าหมายได้โดยสมบูรณ์ ไม่มีการสูญเสียกำลังพลหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ และสามารถตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามได้จำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามขั้นตอน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122733
    .
    #News1live #News1 #กองทัพเรือ #นาวิกโยธิน #F16 #ตราด #สถานการณ์ชายแดน
    กองทัพเรือเผยแพร่วิดีโอปฏิบัติการเครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศไทย ยิงถล่มเป้าหมาย ก่อนกำลังนาวิกโยธินเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่กาสิโนทมอดา และบ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ได้สำเร็จ . พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหาร มีการเสริมกำลัง พลซุ่มยิง จุดควบคุมพื้นที่ และส่วนปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศไทย . การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการกำลังร่วมระหว่างกองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองทัพอากาศ ภายใต้แผนที่รัดกุมและคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ . ผลการปฏิบัติการ ฝ่ายไทยสามารถยึดพื้นที่เป้าหมายได้โดยสมบูรณ์ ไม่มีการสูญเสียกำลังพลหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ และสามารถตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามได้จำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามขั้นตอน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122733 . #News1live #News1 #กองทัพเรือ #นาวิกโยธิน #F16 #ตราด #สถานการณ์ชายแดน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพไทยส่งสัญญาณไปยังชนชั้นนำของกัมพูชา ยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่รัฐบาลไทยเสนอ เพื่อเปิดทางสู่การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ
    .
    พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยตั้งแต่เริ่มต้น มุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนหรือสถานศึกษา เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริง
    .
    โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า เป้าหมายบางแห่ง เช่น กาสิโนร้าง ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงจำเป็นต้องเข้าทำลายซ้ำ ขณะเดียวกันยังได้โจมตีสะพานโอจิก จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 เพื่อริดรอนขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายตรงข้าม
    .
    การโจมตีดังกล่าวใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง มุ่งตัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะทางทหาร โดยยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์ข้ามได้ และหากตรวจพบว่ากัมพูชายังพยายามใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังบำรุง กองทัพไทยจะดำเนินการโจมตีซ้ำทันที
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122728
    .
    #News1live #News1 #กองทัพไทย #สถานการณ์ชายแดน #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง
    กองทัพไทยส่งสัญญาณไปยังชนชั้นนำของกัมพูชา ยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่รัฐบาลไทยเสนอ เพื่อเปิดทางสู่การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ . พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยตั้งแต่เริ่มต้น มุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนหรือสถานศึกษา เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริง . โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า เป้าหมายบางแห่ง เช่น กาสิโนร้าง ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงจำเป็นต้องเข้าทำลายซ้ำ ขณะเดียวกันยังได้โจมตีสะพานโอจิก จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 เพื่อริดรอนขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายตรงข้าม . การโจมตีดังกล่าวใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง มุ่งตัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะทางทหาร โดยยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์ข้ามได้ และหากตรวจพบว่ากัมพูชายังพยายามใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังบำรุง กองทัพไทยจะดำเนินการโจมตีซ้ำทันที . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122728 . #News1live #News1 #กองทัพไทย #สถานการณ์ชายแดน #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อมะกันได้ทีจุดไฟ! เชื่อจีนใช้ความขัดแย้งไทย–กัมพูชาเป็นสนามทดสอบอาวุธ หลังทหารไทยยึดจรวดและขีปนาวุธสมัยใหม่สัญชาติจีนได้กลางสมรภูมิ
    .
    นิตยสาร The Week สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดโอกาสให้จีนประเมินประสิทธิภาพอาวุธของตนเอง ในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่กองทัพไทยใช้งานอยู่
    .
    รายงานระบุว่า กัมพูชาพึ่งพายุทโธปกรณ์จากจีนเป็นหลัก ทั้งระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ปืนใหญ่ และจรวดพิสัยไกล ซึ่งถูกนำมาใช้สกัดกั้นกองทัพไทยที่มีศักยภาพเหนือกว่า
    .
    ขณะเดียวกัน ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 พร้อมระเบิดนำวิถีของสหรัฐฯ โจมตีทำลายฐานยิงและคลังอาวุธของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกลายเป็นข้อมูลจริงในสนามรบให้จีนสามารถวิเคราะห์ขีดความสามารถของอาวุธตนเอง
    .
    The Week ยังชี้ว่า การที่ไทยสามารถยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR รุ่น 5 ของจีนได้ เป็นอีกหลักฐานที่ทำให้สมรภูมิไทย–กัมพูชาถูกจับตามองในฐานะ “สนามทดลองอาวุธโดยพฤตินัย”
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120797
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #จีน #อาวุธจีน #สนามรบเอเชีย #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    สื่อมะกันได้ทีจุดไฟ! เชื่อจีนใช้ความขัดแย้งไทย–กัมพูชาเป็นสนามทดสอบอาวุธ หลังทหารไทยยึดจรวดและขีปนาวุธสมัยใหม่สัญชาติจีนได้กลางสมรภูมิ . นิตยสาร The Week สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดโอกาสให้จีนประเมินประสิทธิภาพอาวุธของตนเอง ในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่กองทัพไทยใช้งานอยู่ . รายงานระบุว่า กัมพูชาพึ่งพายุทโธปกรณ์จากจีนเป็นหลัก ทั้งระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ปืนใหญ่ และจรวดพิสัยไกล ซึ่งถูกนำมาใช้สกัดกั้นกองทัพไทยที่มีศักยภาพเหนือกว่า . ขณะเดียวกัน ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 พร้อมระเบิดนำวิถีของสหรัฐฯ โจมตีทำลายฐานยิงและคลังอาวุธของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกลายเป็นข้อมูลจริงในสนามรบให้จีนสามารถวิเคราะห์ขีดความสามารถของอาวุธตนเอง . The Week ยังชี้ว่า การที่ไทยสามารถยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR รุ่น 5 ของจีนได้ เป็นอีกหลักฐานที่ทำให้สมรภูมิไทย–กัมพูชาถูกจับตามองในฐานะ “สนามทดลองอาวุธโดยพฤตินัย” . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120797 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #จีน #อาวุธจีน #สนามรบเอเชีย #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการซินดูร์ จีนใช้โอกาสทดสอบอาวุธกับขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่สร้างโดยรัสเซียและฝรั่งเศส คลังแสงของปากีสถานเต็มไปด้วยยุทโธปกรณ์ของปักกิ่ง และมันถูกใช้ทดสอบกับเครื่องบินรบราฟาลของอินเดียและระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 เช่นเดียวกับอื่นๆ ในความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เช่นกัน มันมอบโอกาสให้จีนวิเคราะห์ว่าจรวดและขีปนาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิตยสารเดอะวีค สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในนิวยอร์ก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120797

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ปฏิบัติการซินดูร์ จีนใช้โอกาสทดสอบอาวุธกับขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่สร้างโดยรัสเซียและฝรั่งเศส คลังแสงของปากีสถานเต็มไปด้วยยุทโธปกรณ์ของปักกิ่ง และมันถูกใช้ทดสอบกับเครื่องบินรบราฟาลของอินเดียและระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 เช่นเดียวกับอื่นๆ ในความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เช่นกัน มันมอบโอกาสให้จีนวิเคราะห์ว่าจรวดและขีปนาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิตยสารเดอะวีค สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในนิวยอร์ก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120797 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง
    .
    เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ
    .
    นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด
    .
    การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง . เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ . นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด . การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนกร วังบุญคงชนะ โต้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังระบุหากพิธาเป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนคงไม่วิกฤต ชี้นโยบายลดขนาดกองทัพ ตัดงบยุทโธปกรณ์ และคำพูด “ทหารมีไว้ทำไม” มาจากพรรคของพิธาเอง พร้อมย้ำหากได้เป็นนายกฯ จริง บ้านเมืองอาจลุกเป็นไฟ มั่นใจนายกฯ อนุทิน เด็ดขาด ปกป้องอธิปไตยประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120211
    .
    #News1live #News1 #การเมือง #ธนกร #ธนาธร #พิธา #กองทัพ #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา
    ธนกร วังบุญคงชนะ โต้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังระบุหากพิธาเป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนคงไม่วิกฤต ชี้นโยบายลดขนาดกองทัพ ตัดงบยุทโธปกรณ์ และคำพูด “ทหารมีไว้ทำไม” มาจากพรรคของพิธาเอง พร้อมย้ำหากได้เป็นนายกฯ จริง บ้านเมืองอาจลุกเป็นไฟ มั่นใจนายกฯ อนุทิน เด็ดขาด ปกป้องอธิปไตยประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120211 . #News1live #News1 #การเมือง #ธนกร #ธนาธร #พิธา #กองทัพ #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนไหวเพิ่มกำลังและยุทโธปกรณ์ต่อเนื่อง ใช้อาวุธปืนใหญ่และจรวด BM-21 ยิงถล่มพื้นที่พลเรือนไทยใน 4 จังหวัดอีสานใต้ รวม 55 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 13 หลัง ขณะฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังและตอบโต้ตามความจำเป็น พร้อมยืนยันปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยประชาชนอย่างถึงที่สุด
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119487
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทภ2 #BM21 #ปืนใหญ่ #อธิปไตยไทย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนไหวเพิ่มกำลังและยุทโธปกรณ์ต่อเนื่อง ใช้อาวุธปืนใหญ่และจรวด BM-21 ยิงถล่มพื้นที่พลเรือนไทยใน 4 จังหวัดอีสานใต้ รวม 55 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 13 หลัง ขณะฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังและตอบโต้ตามความจำเป็น พร้อมยืนยันปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยประชาชนอย่างถึงที่สุด . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119487 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทภ2 #BM21 #ปืนใหญ่ #อธิปไตยไทย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 10 ธ.ค.68 รายงานข่าวจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) เปิดเผยว่าได้ตรวจพบการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนใหญ่สนามที่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยไทย เพื่อเป็นการตัดการส่งกำลังบำรุงและการเสริมกำลังของกัมพูชา ทาง กปช.จต.จำเป็นต้องทำการทำลายสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ เพื่อตัดเส้นทางการบำรุง
    .
    โดยขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อพยพออกจากบริเวณสะพานภายใน 3 ชั่วโมง และต้องออกจากบริเวณสะพานเกินรัศมี 1.5 กิโลเมตร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118585

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 10 ธ.ค.68 รายงานข่าวจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) เปิดเผยว่าได้ตรวจพบการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนใหญ่สนามที่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยไทย เพื่อเป็นการตัดการส่งกำลังบำรุงและการเสริมกำลังของกัมพูชา ทาง กปช.จต.จำเป็นต้องทำการทำลายสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ เพื่อตัดเส้นทางการบำรุง . โดยขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อพยพออกจากบริเวณสะพานภายใน 3 ชั่วโมง และต้องออกจากบริเวณสะพานเกินรัศมี 1.5 กิโลเมตร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118585 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (8 ธ.ค.) กองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ชายแดนฝั่ง กกล.บูรพา พบฝ่ายกัมพูชาพร้อมรบสูงสุดตามแนวชายแดนสระแก้วเฝ้าตรวจพบกำลังพล–ยุทโธปกรณ์เข้าที่มั่น ตลอด 24 ชม. รวมถึงยานพาหนะฝ่าย กพช. เคลื่อนไหวตลอดทั้งกลางวัน–กลางคืน รวมทั้งจับตาความเคลื่อนไหว ฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด
    .
    ทั้งนี้ พลโท วรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ กกล.บูรพา เตรียมความพร้อมทุกมิติ พร้อมตอบโต้ขั้นสูงสุด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000117652

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วันนี้ (8 ธ.ค.) กองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ชายแดนฝั่ง กกล.บูรพา พบฝ่ายกัมพูชาพร้อมรบสูงสุดตามแนวชายแดนสระแก้วเฝ้าตรวจพบกำลังพล–ยุทโธปกรณ์เข้าที่มั่น ตลอด 24 ชม. รวมถึงยานพาหนะฝ่าย กพช. เคลื่อนไหวตลอดทั้งกลางวัน–กลางคืน รวมทั้งจับตาความเคลื่อนไหว ฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด . ทั้งนี้ พลโท วรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ กกล.บูรพา เตรียมความพร้อมทุกมิติ พร้อมตอบโต้ขั้นสูงสุด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000117652 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ.ขอทหาร–ประชาชน “งดเผยแพร่ภาพ–ข้อมูลปฏิบัติการทหาร”

    ย้ำมาตรการ OPSEC ห้ามโพสต์ภาพยุทโธปกรณ์ แผน–วิธีปฏิบัติ หรือข้อมูลที่มีพิกัด GPS ชี้แม้ข้อมูลไม่ลับ แต่เมื่อถูกรวมกันอาจถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปต่อยอด กระทบความปลอดภัยกำลังพลและความมั่นคงประเทศ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109373

    #News1live #News1 #กองทัพบก #OPSEC #ความมั่นคง #ข้อมูลทางทหาร #ความปลอดภัยกำลังพล #ไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง #newsupdate
    ทบ.ขอทหาร–ประชาชน “งดเผยแพร่ภาพ–ข้อมูลปฏิบัติการทหาร” • ย้ำมาตรการ OPSEC ห้ามโพสต์ภาพยุทโธปกรณ์ แผน–วิธีปฏิบัติ หรือข้อมูลที่มีพิกัด GPS ชี้แม้ข้อมูลไม่ลับ แต่เมื่อถูกรวมกันอาจถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปต่อยอด กระทบความปลอดภัยกำลังพลและความมั่นคงประเทศ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109373 • #News1live #News1 #กองทัพบก #OPSEC #ความมั่นคง #ข้อมูลทางทหาร #ความปลอดภัยกำลังพล #ไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง #newsupdate
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • สทป. ส่งมอบ "รถฐานยิงจรวด D11A" ระยะยิงไกล 450 กม. ให้ ทบ. เสริมศักยภาพป้องกันอธิปไตย
    https://www.thai-tai.tv/news/22350/
    .
    #ไทยไท #สทป. #ยุทโธปกรณ์ #จรวดนำวิถี #พึ่งพาตนเอง #DTI-1G

    สทป. ส่งมอบ "รถฐานยิงจรวด D11A" ระยะยิงไกล 450 กม. ให้ ทบ. เสริมศักยภาพป้องกันอธิปไตย https://www.thai-tai.tv/news/22350/ . #ไทยไท #สทป. #ยุทโธปกรณ์ #จรวดนำวิถี #พึ่งพาตนเอง #DTI-1G
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ บทแถม ตอน ฤทธิ์ยิว 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทแถม
    “ฤทธิ์ยิว”

    (5)

    นี่เล่ามา เป็นการเจริญเติบโตของอิทธิพลยิว ก่อนอเมริกาจะมีประธานาธิบดี ชื่อ Woodlow Wilson ที่ได้รับสมญาว่า “สุดยอดตัวสำรอง” รองจากประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt ที่ได้รับขนานนามว่า “เป็นสุดยอดขวัญใจ” ของอเมริกันยิว Wilson นั้น เป็นที่รู้กันว่าเขาใกล้ชิดกับพวกยิว และรัฐบาลของเขาอยู่ในมือพวกยิว Wilson รู้สึกจะเป็นประธานาธิบดีของอเมริกาคนแรก ที่ยิวให้การสนับสนุนเต็มที่ ดันเต็มหลัง ทั้งด้านการเงิน และการอื่น นับเป็นม้าแข่ง ที่พวกยิวบอกว่า นำถ้วยรางวัลมาให้พวกเขาอย่างคุ้มการลงทุน

    พวกยิวมีจำนวนไม่กี่หยิบมือ แต่ไม่กี่หยิบมือนี้ ได้หยิบชิ้นปลามัน สร้างฐานอำนาจในปี 1912 เรียบร้อย Herzl อายุสั้น เลยไม่ได้นั่งบัลลังก์ใด แต่ผู้ที่เดินตามเจตนารมย์ของเขาดูเหมือนจะดำเนินการไม่พลาดเป้าหมาย ที่ Herzl กำหนดไว้

    – Oscar Straus ยิวเยอรมัน เป็นยิวคนแรก ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในอเมริกา เขาได้ในสมัยประธานาธิบดี Roosevelt และต่อมาได้ไปเป็นทูต ประจำออตโตมาน ในสมัยของ Taft
    – Jacob Schiff หัวหน้าใหญ่ ของบริษัทการเงิน Kuhn, Loeb รายนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ
    – Louis Marshall ไซออนนิสต์ ผู้ก่อตั้ง AJC
    – พี่น้องตระกูล Warburg: Paul, Felix และ Max ตระกูลนี้ก็คงไม่ต้องบรรยาย
    – Henry Morgenthau, Sr. ทนายความ พ่อของ Henry ซึ่งต่อมามีอิทธิพลมากกว่าพ่อ
    – Louis Brandeis ทนายความ ไซออนนิสต์ชนิดเข้ม ซึ่งต่อมามีอิทธิพลสูงยิ่ง
    – Samuel Untermyer ทนายความเขี้ยวยาว
    – Bernard Baruch นักการเงินจาก วอลสตรีท สุดยอดนักชักใย
    – Stephen Wise นักบวชยิวออสเตรียนและ ไซออนนิสต์อย่างเข้มข้น
    – Richard Gottheil นักบวชยิวอังกฤษ และ ไซออนนิสต์

    นี่เป็นตาข่ายยิวตัวสำคัญ เฉพาะฝั่งอเมริกาเท่านั้น ยังมีทางฝั่งอังกฤษ และยุโรปที่ทำงานกันเป็นเครือข่ายอีกไม่น้อย

    พวกที่ใช้อำนาจอันร้ายกาจของก ระเป๋าเงิน รายใหญ่ที่สำแดงเดชช่วย Wilson คือ Henry Morgenthau, Jacob Schiff, Samuel Untermyer และหน้าใหม่แต่มาแรง คือ Bernard Baruch ส่วนบทบาทของ Warburg นั้นน่าสนใจ เขาน่าจะเป็นมันสมองให้ยิว ทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน และ Federal Reserve System ของอเมริกา เป็นผลงานของ Paul Warburg ล้วนๆ

    Morgenthau สนับสนุน ม้าชื่อ Wilson ตั้งแต่ Wilson ยังเป็นผู้ว่าการนิวเจอร์ซี เขาจ่ายเงินดูแล Wilson เป็นรายเดือน เป็นที่รู้กันว่า Morgenthau สนับสนุน Wilson แบบไม่มีอั้น และเมื่อ Wilson ได้เป็นประธานาธิบดี ในปี 1912 เขาก็ตอบแทน Morgenthau แบบไม่อั้นเช่นเดียวกัน Morgenthau ได้ไปเป็นทูตอเมริกา ประจำที่ออตโตมานตามคาด เพื่อดูแลปาเลสไตน์

    ส่วน Louise Brandis ได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้พิพากษาศาลสูง เป็นยิวคนแรกในวงการยุติธรรม เขาเป็นอยู่ 23 ปีและมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง แต่ที่มาของการได้ตำแหน่งของเขา ค่อนข้างพิเศษกว่าใคร

    มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อ Wilson ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี 1914 ไม่กี่วัน เขามียิวรุ่นใหญ่ ที่อยู่ในกลุ่มเจ้าของกระเป๋าที่ สนับสนุน Wilson มาขอพบ คือ Samuel Untermeyer ซึ่งเป็นทนาย ของสำนักงาน Guggemheim, Untermeyer & Marshall ที่ดูแลด้านกฏหมายให้แก่ Kuhn, Loeb & Co
    Untermeyer บอกกับ Wilson ว่า เขามีลูกความที่เป็นภรรยา ของอาจารย์ ที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princton ช่วงเดียวกับที่ Wilson สอน และลูกความของเขาขอให้แจ้งกับ Wilson ว่า เธอยินดีที่จะรับเงิน 40,000 เหรียญ แทนการฟ้องร้อง Wilson เรื่องการผิดสัญญา แล้ว Untermeyer ก็ควักจดหมายมัดใหญ่ ยื่นให้ Wilson มันเป็นจดหมายที่ Wilson เขียนถึงเมียของเพื่อนร่วมงาน Wilson จำลายมือตัวเองได้ แต่เขาบอกว่า เขาไม่มีเงิน 40,000 เหรียญที่จะจ่ายให้กับคนที่แบล๊กเมล์เขา Untermeyer บอกไม่เป็นไรหรอก ท่านประธานาธิบดี เรื่องเงินจำนวนนี้ ผมจะเป็นคนจัดการแทนท่านเอง แต่ผมขอให้ท่านรับปากว่า เมื่อมีตำแหน่งในศาลสูงว่างเมื่อ ไหร่ ขอให้แต่งตั้ง ไซออนนิสต์ ยิวเคร่ง ชื่อ Louise Dembitz Brandeis ก็แล้วกัน Wilson ก็รับปาก หลังจากนั้น ไม่ถึงปี วันที่ 5 มิถุนายน 1915 Louise Brandeis ก็ได้รับเลือกเป็นผู้พิพากษาศาลสูง

    แต่คนที่ได้ตำแหน่ง และมีบทบาทโดดเด่นที่สุด คือ Bernard Baruch ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 Baruch โผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ อยู่ดีๆ ก็หยิบชิ้นปลามัน ในปี คศ 1915 อังกฤษทำสงครามกับเยอรมันแล้ว แต่อเมริกายังเป็นกลาง Baruch เตือนให้อเมริกาเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสงคราม เขาหงุดหงิดว่า อเมริกาไม่เตรียมอะไรเลย เขาเชื่อว่าอเมริกาต้องถูกลากเข้าไปทำสงครามแน่นอน และจะมาเร็วกว่าที่คิด และคงเป็นเรื่องของนางฟ้าเศก Baruch ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า สภากลาโหม Council of National Defense ในต้นปี คศ 1916 เขาเข้าไปควบคุม หน่วยงานน่าสนใจคือ คณกรรมการสำหรับกิจการสงคราม War Industries Board (WIB) ซึ่งในเวลาสงคราม หน่วยงานนี้จะมีอำนาจล้นฟ้า และ Baruch คนเดียวโดดๆ เป็นคนคุม และกุมแน่นหน่วยงานนี้ตลอดช่วงเวลาสงคราม

    ในคำให้การของ Baruch ต่อวุฒิสมาชิก Albert Jefferies เขาสรุป บทบาทของเขาดังนี้:

    ” ผมเป็นคนดูแลตัดสินใจ ว่า จะให้ใคร หน่วยงานไหน ได้อะไร การตัดสินใจอยู่ที่ผม ท่านประธานาธิบดี มอบหมายให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ว่า กองทัพบก หรือ กองทัพเรือ ควรจะได้อะไร หรือ การรถไฟ ควรมีอะไร หรือ ฝ่ายสัมพันธมิตร หรือ ท่านนายพล Allenby ควรมีรถไฟหรือไม่ หรือควรเอาไปใช้ที่รัสเซีย หรือใช้ที่ฝรั่งเศส ใช่ ผมมีอำนาจมาก ผมอาจมีอำนาจมากกว่าที่ใครๆเคยมีในสงคราม มันน่าสงสัย แต่มันเป็นเรื่องจริง”
    ก็น่าสงสัยจริงอยู่หรอก ว่า คนหนุ่มชาวยิว ที่ไม่เคยได้ลงเลือกตั้งอะไรเลย ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองแม้แต่น้อย แต่ในยามวิกฤติ เขากลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในรัฐบาล รองมาจากประธานาธิบดี บทบาทของเขาตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ว่าใหญ่แล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่การซ้อมใหญ่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ Franklin D Roosevelt เป็นประธานาธิบดี Baruch ในฐานะ หัวหน้า สำนักงาน War Mobilization ดูเหมือนจะใหญ่มากกว่า และในฐานะที่เขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทของท่านหลอด Winston Churchill ของอังกฤษด้วย “Barney” ก็กลายเป็นชื่อ ที่ใครๆ ก็ต้องเรียกหา

    ####################
    “ฤทธิ์ยิว”

    (6)

    สงครามโลกครั้งที่ 1 ตีระฆังเริ่ม ในเดือนสิงหาคม 1914 เมื่อกองทัพเยอรมันเคลื่อนพลผ่านเข้าไปในเขตแดนของเบลเยี่ยม ที่ประกาศตัวเป็นกลาง โดยมีเป้าหมายปลายทางคือฝรั่งเศส หลังจากนั้นหลายประเทศก็ทยอยกันเข้าสู่สงคราม ถึงปลายปี 1914 ประมาณ 10 ประเทศ ก็อยู่ในสภาวะสงคราม แต่อเมริกา ยังใช้ยโนบายเป็นกลางอยู่ต่อไป อีกเกือบ 2 ปีครึ่ง สุนทรพจน์ของ Wilson เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม คศ 1914 หลังจากสงครามเริ่มหมาดๆ ประกาศชัดหูคนอเมริกัน ว่า”…เรามีหน้าที่ ที่จะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ที่มีความสงบ…” และเมื่อตอนหาเสียง ที่จะเป็นประธานาธิบดีสมัย 2 ในปี 1916 คำขวัญของ Wilson ที่บอกว่า เขาไม่พาเราเข้าสงคราม he kept us out of war ยังก้องหูคนอเมริกันอยู่

    แต่แล้วในวันที่ 2 เมษายน 1917 Wilson ก็เลี้ยวออกนอกเส้นทางกระทันหัน ประกาศสงครามกับเยอรมัน ชาวบ้านอเมริกันตามไม่ทันหัวทิ่มกันเป็นแถว โผคำอธิบาย ที่วงในรัฐบาลสั่งให้สื่อกระป๋องสีตรายิว ช่วยกันโหม คือ เนื่องมาจากการกระทำอันป่าเถื่อนของเยอรมัน ที่ใช้ตอร์ปิโดยิงเรือโดยสารและเรือบรรทุกสินค้าของอเมริกัน และเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้ว นอกจากทำสงครามกับไอ้พวกเถื่อนนั้น ทั้งข่าว ทั้งภาพ ดุเดือดถึงใจ
    อันที่จริงเมื่อเริ่มสงครามใหม่ๆ เยอรมันยิงตอร์ปิโดร์ใส่เรือบรรทุกสินค้าของฝ่ายสัมพันธมิตรจริง แต่เมื่อ Wilson ทำการประท้วงเมื่อเดือนสิงหาคม 1915 เยอรมันก็หยุดยิง เยอรมันหยุดยิงไปนานพอสมควร จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 1917 และตลอดเวลาที่เยอรมันหยุดยิง อเมริกาก็ค้าขายกับอังกฤษ ศัตรูของเยอรมัน อย่างสบายใจ ส่งสินค้าเพื่อสงครามให้อังกฤษ แถมช่วยอังกฤษ บล๊อกเส้นทางเดินเรือส่งสินค้าของเยอรมันอีกด้วย ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ในที่สุดเยอรมัน ก็กลับมายิงเรือทุกลำไม่ว่าของชาติไหน ที่ผ่านมาในเขต war zone

    แล้วตกลงสาเหตุ ของการประกาศเข้าสู่สงครามของอเมริกา จริงๆมันคืออะไรกันแน่

    วุฒิสมาชิก George Norris บอกว่า คนอเมริกัน ถูกทำให้เข้วจากประวัติศาสตร์ และจากความจริงที่มาจากการที่พวกนักการเงินวอลสตรีท ให้เงินกู้จำนวนมหึมากับพวกสัมพันธมิตร และแน่นอนพวกนี้กลัวหนี้สูญ ทั้งๆที่พวกเขาก็ทำกำไรได้มากมายจากการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ กลุ่มพวกนี้แหละ ที่ใช้ให้พวกสื่อกระป๋องสี ละเลงเสียจนคนอเมริกัน เปลี่ยนใจ อยากจะทำสงครามกันไปหมด ทุกสงครามมีแต่ความหายนะ…. เรา เข้าสู่สงครามเพราะคำสั่งของทอง และใครล่ะที่มีทอง …

    อำนาจ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ บางทีการสร้างภาพว่า มีอำนาจ ก็ทำให้กลายเป็นมีอำนาจจริงไปได้ ถ้ามีคนเชื่อ พวกยิวขณะนั้น ไม่มีกองทัพของตนเอง ไม่มีประเทศของตนเอง แถม มีเรื่องขัดแย้งเกิดอยู่ในหลายประเทศ และในหลายประเทศนั้น มีชาวยิว อยู่จำนวนน้อยมาก ไม่เกิน 1 หรือ 2 % ของจำนวนพลเมืองในประเทศนั้นๆ แต่คนจำนวนเท่าหยิบมือนี้ สามารถบงการนโยบายต่างประเทศได้ สามารถจุดชนวนสงครามได้ และสามารถชี้นำ หรือคัดท้ายผลของสงครามนั้นได้อีกด้วย ตัวอย่างที่เห็น คือ การที่อเมริกายกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ในปี 1911, การเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกา ในปี 1912 และอีกหลายเรื่องที่จะเล่าต่อไป

    แต่สิ่งสำคัญ ที่ทำให้คน “เชื่อ” ในภาพที่สร้างนั้น เป็นผลงานของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทใด พวกยิวซื้อ ครอบครอง และควบคุมไว้หมดสิ้น และใช้อย่างได้ผลเลิศ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 มิ.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ บทแถม ตอน ฤทธิ์ยิว 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทแถม “ฤทธิ์ยิว” (5) นี่เล่ามา เป็นการเจริญเติบโตของอิทธิพลยิว ก่อนอเมริกาจะมีประธานาธิบดี ชื่อ Woodlow Wilson ที่ได้รับสมญาว่า “สุดยอดตัวสำรอง” รองจากประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt ที่ได้รับขนานนามว่า “เป็นสุดยอดขวัญใจ” ของอเมริกันยิว Wilson นั้น เป็นที่รู้กันว่าเขาใกล้ชิดกับพวกยิว และรัฐบาลของเขาอยู่ในมือพวกยิว Wilson รู้สึกจะเป็นประธานาธิบดีของอเมริกาคนแรก ที่ยิวให้การสนับสนุนเต็มที่ ดันเต็มหลัง ทั้งด้านการเงิน และการอื่น นับเป็นม้าแข่ง ที่พวกยิวบอกว่า นำถ้วยรางวัลมาให้พวกเขาอย่างคุ้มการลงทุน พวกยิวมีจำนวนไม่กี่หยิบมือ แต่ไม่กี่หยิบมือนี้ ได้หยิบชิ้นปลามัน สร้างฐานอำนาจในปี 1912 เรียบร้อย Herzl อายุสั้น เลยไม่ได้นั่งบัลลังก์ใด แต่ผู้ที่เดินตามเจตนารมย์ของเขาดูเหมือนจะดำเนินการไม่พลาดเป้าหมาย ที่ Herzl กำหนดไว้ – Oscar Straus ยิวเยอรมัน เป็นยิวคนแรก ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในอเมริกา เขาได้ในสมัยประธานาธิบดี Roosevelt และต่อมาได้ไปเป็นทูต ประจำออตโตมาน ในสมัยของ Taft – Jacob Schiff หัวหน้าใหญ่ ของบริษัทการเงิน Kuhn, Loeb รายนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ – Louis Marshall ไซออนนิสต์ ผู้ก่อตั้ง AJC – พี่น้องตระกูล Warburg: Paul, Felix และ Max ตระกูลนี้ก็คงไม่ต้องบรรยาย – Henry Morgenthau, Sr. ทนายความ พ่อของ Henry ซึ่งต่อมามีอิทธิพลมากกว่าพ่อ – Louis Brandeis ทนายความ ไซออนนิสต์ชนิดเข้ม ซึ่งต่อมามีอิทธิพลสูงยิ่ง – Samuel Untermyer ทนายความเขี้ยวยาว – Bernard Baruch นักการเงินจาก วอลสตรีท สุดยอดนักชักใย – Stephen Wise นักบวชยิวออสเตรียนและ ไซออนนิสต์อย่างเข้มข้น – Richard Gottheil นักบวชยิวอังกฤษ และ ไซออนนิสต์ นี่เป็นตาข่ายยิวตัวสำคัญ เฉพาะฝั่งอเมริกาเท่านั้น ยังมีทางฝั่งอังกฤษ และยุโรปที่ทำงานกันเป็นเครือข่ายอีกไม่น้อย พวกที่ใช้อำนาจอันร้ายกาจของก ระเป๋าเงิน รายใหญ่ที่สำแดงเดชช่วย Wilson คือ Henry Morgenthau, Jacob Schiff, Samuel Untermyer และหน้าใหม่แต่มาแรง คือ Bernard Baruch ส่วนบทบาทของ Warburg นั้นน่าสนใจ เขาน่าจะเป็นมันสมองให้ยิว ทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน และ Federal Reserve System ของอเมริกา เป็นผลงานของ Paul Warburg ล้วนๆ Morgenthau สนับสนุน ม้าชื่อ Wilson ตั้งแต่ Wilson ยังเป็นผู้ว่าการนิวเจอร์ซี เขาจ่ายเงินดูแล Wilson เป็นรายเดือน เป็นที่รู้กันว่า Morgenthau สนับสนุน Wilson แบบไม่มีอั้น และเมื่อ Wilson ได้เป็นประธานาธิบดี ในปี 1912 เขาก็ตอบแทน Morgenthau แบบไม่อั้นเช่นเดียวกัน Morgenthau ได้ไปเป็นทูตอเมริกา ประจำที่ออตโตมานตามคาด เพื่อดูแลปาเลสไตน์ ส่วน Louise Brandis ได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้พิพากษาศาลสูง เป็นยิวคนแรกในวงการยุติธรรม เขาเป็นอยู่ 23 ปีและมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง แต่ที่มาของการได้ตำแหน่งของเขา ค่อนข้างพิเศษกว่าใคร มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อ Wilson ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี 1914 ไม่กี่วัน เขามียิวรุ่นใหญ่ ที่อยู่ในกลุ่มเจ้าของกระเป๋าที่ สนับสนุน Wilson มาขอพบ คือ Samuel Untermeyer ซึ่งเป็นทนาย ของสำนักงาน Guggemheim, Untermeyer & Marshall ที่ดูแลด้านกฏหมายให้แก่ Kuhn, Loeb & Co Untermeyer บอกกับ Wilson ว่า เขามีลูกความที่เป็นภรรยา ของอาจารย์ ที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princton ช่วงเดียวกับที่ Wilson สอน และลูกความของเขาขอให้แจ้งกับ Wilson ว่า เธอยินดีที่จะรับเงิน 40,000 เหรียญ แทนการฟ้องร้อง Wilson เรื่องการผิดสัญญา แล้ว Untermeyer ก็ควักจดหมายมัดใหญ่ ยื่นให้ Wilson มันเป็นจดหมายที่ Wilson เขียนถึงเมียของเพื่อนร่วมงาน Wilson จำลายมือตัวเองได้ แต่เขาบอกว่า เขาไม่มีเงิน 40,000 เหรียญที่จะจ่ายให้กับคนที่แบล๊กเมล์เขา Untermeyer บอกไม่เป็นไรหรอก ท่านประธานาธิบดี เรื่องเงินจำนวนนี้ ผมจะเป็นคนจัดการแทนท่านเอง แต่ผมขอให้ท่านรับปากว่า เมื่อมีตำแหน่งในศาลสูงว่างเมื่อ ไหร่ ขอให้แต่งตั้ง ไซออนนิสต์ ยิวเคร่ง ชื่อ Louise Dembitz Brandeis ก็แล้วกัน Wilson ก็รับปาก หลังจากนั้น ไม่ถึงปี วันที่ 5 มิถุนายน 1915 Louise Brandeis ก็ได้รับเลือกเป็นผู้พิพากษาศาลสูง แต่คนที่ได้ตำแหน่ง และมีบทบาทโดดเด่นที่สุด คือ Bernard Baruch ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 Baruch โผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ อยู่ดีๆ ก็หยิบชิ้นปลามัน ในปี คศ 1915 อังกฤษทำสงครามกับเยอรมันแล้ว แต่อเมริกายังเป็นกลาง Baruch เตือนให้อเมริกาเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสงคราม เขาหงุดหงิดว่า อเมริกาไม่เตรียมอะไรเลย เขาเชื่อว่าอเมริกาต้องถูกลากเข้าไปทำสงครามแน่นอน และจะมาเร็วกว่าที่คิด และคงเป็นเรื่องของนางฟ้าเศก Baruch ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า สภากลาโหม Council of National Defense ในต้นปี คศ 1916 เขาเข้าไปควบคุม หน่วยงานน่าสนใจคือ คณกรรมการสำหรับกิจการสงคราม War Industries Board (WIB) ซึ่งในเวลาสงคราม หน่วยงานนี้จะมีอำนาจล้นฟ้า และ Baruch คนเดียวโดดๆ เป็นคนคุม และกุมแน่นหน่วยงานนี้ตลอดช่วงเวลาสงคราม ในคำให้การของ Baruch ต่อวุฒิสมาชิก Albert Jefferies เขาสรุป บทบาทของเขาดังนี้: ” ผมเป็นคนดูแลตัดสินใจ ว่า จะให้ใคร หน่วยงานไหน ได้อะไร การตัดสินใจอยู่ที่ผม ท่านประธานาธิบดี มอบหมายให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ว่า กองทัพบก หรือ กองทัพเรือ ควรจะได้อะไร หรือ การรถไฟ ควรมีอะไร หรือ ฝ่ายสัมพันธมิตร หรือ ท่านนายพล Allenby ควรมีรถไฟหรือไม่ หรือควรเอาไปใช้ที่รัสเซีย หรือใช้ที่ฝรั่งเศส ใช่ ผมมีอำนาจมาก ผมอาจมีอำนาจมากกว่าที่ใครๆเคยมีในสงคราม มันน่าสงสัย แต่มันเป็นเรื่องจริง” ก็น่าสงสัยจริงอยู่หรอก ว่า คนหนุ่มชาวยิว ที่ไม่เคยได้ลงเลือกตั้งอะไรเลย ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองแม้แต่น้อย แต่ในยามวิกฤติ เขากลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในรัฐบาล รองมาจากประธานาธิบดี บทบาทของเขาตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ว่าใหญ่แล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่การซ้อมใหญ่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ Franklin D Roosevelt เป็นประธานาธิบดี Baruch ในฐานะ หัวหน้า สำนักงาน War Mobilization ดูเหมือนจะใหญ่มากกว่า และในฐานะที่เขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทของท่านหลอด Winston Churchill ของอังกฤษด้วย “Barney” ก็กลายเป็นชื่อ ที่ใครๆ ก็ต้องเรียกหา #################### “ฤทธิ์ยิว” (6) สงครามโลกครั้งที่ 1 ตีระฆังเริ่ม ในเดือนสิงหาคม 1914 เมื่อกองทัพเยอรมันเคลื่อนพลผ่านเข้าไปในเขตแดนของเบลเยี่ยม ที่ประกาศตัวเป็นกลาง โดยมีเป้าหมายปลายทางคือฝรั่งเศส หลังจากนั้นหลายประเทศก็ทยอยกันเข้าสู่สงคราม ถึงปลายปี 1914 ประมาณ 10 ประเทศ ก็อยู่ในสภาวะสงคราม แต่อเมริกา ยังใช้ยโนบายเป็นกลางอยู่ต่อไป อีกเกือบ 2 ปีครึ่ง สุนทรพจน์ของ Wilson เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม คศ 1914 หลังจากสงครามเริ่มหมาดๆ ประกาศชัดหูคนอเมริกัน ว่า”…เรามีหน้าที่ ที่จะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ที่มีความสงบ…” และเมื่อตอนหาเสียง ที่จะเป็นประธานาธิบดีสมัย 2 ในปี 1916 คำขวัญของ Wilson ที่บอกว่า เขาไม่พาเราเข้าสงคราม he kept us out of war ยังก้องหูคนอเมริกันอยู่ แต่แล้วในวันที่ 2 เมษายน 1917 Wilson ก็เลี้ยวออกนอกเส้นทางกระทันหัน ประกาศสงครามกับเยอรมัน ชาวบ้านอเมริกันตามไม่ทันหัวทิ่มกันเป็นแถว โผคำอธิบาย ที่วงในรัฐบาลสั่งให้สื่อกระป๋องสีตรายิว ช่วยกันโหม คือ เนื่องมาจากการกระทำอันป่าเถื่อนของเยอรมัน ที่ใช้ตอร์ปิโดยิงเรือโดยสารและเรือบรรทุกสินค้าของอเมริกัน และเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้ว นอกจากทำสงครามกับไอ้พวกเถื่อนนั้น ทั้งข่าว ทั้งภาพ ดุเดือดถึงใจ อันที่จริงเมื่อเริ่มสงครามใหม่ๆ เยอรมันยิงตอร์ปิโดร์ใส่เรือบรรทุกสินค้าของฝ่ายสัมพันธมิตรจริง แต่เมื่อ Wilson ทำการประท้วงเมื่อเดือนสิงหาคม 1915 เยอรมันก็หยุดยิง เยอรมันหยุดยิงไปนานพอสมควร จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 1917 และตลอดเวลาที่เยอรมันหยุดยิง อเมริกาก็ค้าขายกับอังกฤษ ศัตรูของเยอรมัน อย่างสบายใจ ส่งสินค้าเพื่อสงครามให้อังกฤษ แถมช่วยอังกฤษ บล๊อกเส้นทางเดินเรือส่งสินค้าของเยอรมันอีกด้วย ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ในที่สุดเยอรมัน ก็กลับมายิงเรือทุกลำไม่ว่าของชาติไหน ที่ผ่านมาในเขต war zone แล้วตกลงสาเหตุ ของการประกาศเข้าสู่สงครามของอเมริกา จริงๆมันคืออะไรกันแน่ วุฒิสมาชิก George Norris บอกว่า คนอเมริกัน ถูกทำให้เข้วจากประวัติศาสตร์ และจากความจริงที่มาจากการที่พวกนักการเงินวอลสตรีท ให้เงินกู้จำนวนมหึมากับพวกสัมพันธมิตร และแน่นอนพวกนี้กลัวหนี้สูญ ทั้งๆที่พวกเขาก็ทำกำไรได้มากมายจากการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ กลุ่มพวกนี้แหละ ที่ใช้ให้พวกสื่อกระป๋องสี ละเลงเสียจนคนอเมริกัน เปลี่ยนใจ อยากจะทำสงครามกันไปหมด ทุกสงครามมีแต่ความหายนะ…. เรา เข้าสู่สงครามเพราะคำสั่งของทอง และใครล่ะที่มีทอง … อำนาจ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ บางทีการสร้างภาพว่า มีอำนาจ ก็ทำให้กลายเป็นมีอำนาจจริงไปได้ ถ้ามีคนเชื่อ พวกยิวขณะนั้น ไม่มีกองทัพของตนเอง ไม่มีประเทศของตนเอง แถม มีเรื่องขัดแย้งเกิดอยู่ในหลายประเทศ และในหลายประเทศนั้น มีชาวยิว อยู่จำนวนน้อยมาก ไม่เกิน 1 หรือ 2 % ของจำนวนพลเมืองในประเทศนั้นๆ แต่คนจำนวนเท่าหยิบมือนี้ สามารถบงการนโยบายต่างประเทศได้ สามารถจุดชนวนสงครามได้ และสามารถชี้นำ หรือคัดท้ายผลของสงครามนั้นได้อีกด้วย ตัวอย่างที่เห็น คือ การที่อเมริกายกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ในปี 1911, การเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกา ในปี 1912 และอีกหลายเรื่องที่จะเล่าต่อไป แต่สิ่งสำคัญ ที่ทำให้คน “เชื่อ” ในภาพที่สร้างนั้น เป็นผลงานของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทใด พวกยิวซื้อ ครอบครอง และควบคุมไว้หมดสิ้น และใช้อย่างได้ผลเลิศ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 978 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 1

    ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว

    เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า

    อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน

    ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้
    นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม

    Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน

    เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม

    Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู

    เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น

    ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 2

    ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ
    Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 %

    เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก

    J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน

    มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน

    เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia

    ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ
    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง….

    แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที

    ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์”

    สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 3

    นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ
    บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม !

    Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย
    นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson

    ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…”

    4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก

    Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน

    กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น

    สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ
    จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 1 ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้ นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 2 ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 % เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง…. แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์” สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 3 นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ! Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…” 4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 933 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริงสิ่งของบริจาค จากทหารหน้าแนว : [NEWS UPDATE]
    พลตรีณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดความจริงจากทหารหน้าแนวกรณีสิ่งของบริจาค การของบประมาณต้องทำแผนล่วงหน้า 2 ปี ส่วนใหญ่เป็นงบด้านกำลังพล งบพัฒนา เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดเร็วมาก ยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นจึงไม่ได้ตั้งงบไว้ ส่วนงบกลางใช้เวลา 3-6 เดือน ผมอยู่หน้างานพี่น้องทุกสารทิศถามคำแรกคือ ทหารขาดอะไรบ้างอยากช่วย หน้าแนวส่วนใหญ่ต้องการของใช้ส่วนตัว หลายพื้นที่ถนนเข้าไม่ถึง น้ำ อาหารส่งยากลำบาก บางฐานต้องเดินลงจากเขามารับอาหาร 2-3 ชม. คนไทยรู้ก็อยากบริจาคเงินให้ตัดถนน เราไม่อยากรับเงินก็ขอรับเป็นสิ่งของ น้ำมันหรือวัสดุ หน้างานต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้กำลังพลสะดวก ปลอดภัย เป้าหมายคือบรรลุภารกิจก่อน เมื่อจบศึกเราทำบัญชีสิ่งของที่รับมาให้โปร่งใส พี่น้องคนไทยเป็นพลังหนุนเราทั้งชาติ เราต้องทำหน้าที่ให้สุดกำลังในฐานะตัวแทนคนทั้งชาติ



    ทหารกัมพูชาขวางเก็บระเบิด

    อาเซียนรุกปราบสแกมเมอร์

    เขมรชิงพบฮังการีตัดหน้าไทย

    แรงหนุนเอเชีย-แปซิฟิก
    ความจริงสิ่งของบริจาค จากทหารหน้าแนว : [NEWS UPDATE] พลตรีณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดความจริงจากทหารหน้าแนวกรณีสิ่งของบริจาค การของบประมาณต้องทำแผนล่วงหน้า 2 ปี ส่วนใหญ่เป็นงบด้านกำลังพล งบพัฒนา เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดเร็วมาก ยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นจึงไม่ได้ตั้งงบไว้ ส่วนงบกลางใช้เวลา 3-6 เดือน ผมอยู่หน้างานพี่น้องทุกสารทิศถามคำแรกคือ ทหารขาดอะไรบ้างอยากช่วย หน้าแนวส่วนใหญ่ต้องการของใช้ส่วนตัว หลายพื้นที่ถนนเข้าไม่ถึง น้ำ อาหารส่งยากลำบาก บางฐานต้องเดินลงจากเขามารับอาหาร 2-3 ชม. คนไทยรู้ก็อยากบริจาคเงินให้ตัดถนน เราไม่อยากรับเงินก็ขอรับเป็นสิ่งของ น้ำมันหรือวัสดุ หน้างานต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้กำลังพลสะดวก ปลอดภัย เป้าหมายคือบรรลุภารกิจก่อน เมื่อจบศึกเราทำบัญชีสิ่งของที่รับมาให้โปร่งใส พี่น้องคนไทยเป็นพลังหนุนเราทั้งชาติ เราต้องทำหน้าที่ให้สุดกำลังในฐานะตัวแทนคนทั้งชาติ ทหารกัมพูชาขวางเก็บระเบิด อาเซียนรุกปราบสแกมเมอร์ เขมรชิงพบฮังการีตัดหน้าไทย แรงหนุนเอเชีย-แปซิฟิก
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ปั่นหุ้น 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 5 “ปั่นหุ้น”

    ตอน 1

    William Boyce Thompson คงเป็นชื่อที่ยังไม่มีใครรู้จักในประวัติศาสตร์ ก่อนศตวรรษที่ 20 แต่ Thompson เป็นผู้ที่รับบทสำคัญยิ่ง เกี่ยวกับการปฏิวัติพวก Bolsheviks
    แน่นอน ที่สุดถ้า Thompson ไม่ไปอยู่ที่รัสเซียในปี 1917 ประวัติศาสตร์หลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนไปคนละเรื่อง และถ้าไม่มีเรื่องสนับสนุนทางการเงิน โดยเฉพาะเรื่องการเมือง และการโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้กับ Trotsky และ Lenin โดย Thompson และ Robins กับพรรคพวกในนิวยอร์คแล้ว พวก Bolsheviks อาจจะเหี่ยวแห้งเฉาตายไป และรัสเซียจะออกหัวหรือก้อยไม่รู้ได้ แต่การเมืองโลก อาจจะเป็นฉากอื่น ต่างจากที่เราเห็นกันอยู่นี้อย่างสิ้นเชิง

    ใครคือ William Boyce Thompson

    Thompson คือ นักปั้นหุ้น หรือ ปั่นหุ้นเหมืองแร่ มือดีอันดับหนึ่งในธุรกิจสาขานี้ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาเป็นคนดูแลหุ้นให้กับมหาเศรษฐีตระกูล Guggenheim เจ้าของเหมืองทองแดง ด้วยความสามารถระดับเซียน ในการระดมทุนในตลาดหุ้นประเภทความเสี่ยงสูง ทำให้ Thompson ร่ำรวยขึ้นมา และได้เป็นกรรมการในหลายบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจเหมืองแร่ต่างๆ โดยเฉพาะแร่ทองแดง ที่เป็นแร่สำคัญในการนำมาใช้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ นอกจากนี้ เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคาร Chase National Bank

    และ เป็น Albert H. Wiggin ประธาน Chase Bank ที่เป็นคนดันให้ Thompson เข้าไปมีส่วนในการจัดตั้งระบบธนาคารกลาง Federal Reserve System ของอเมริกา และในปี 1913 Thompson เป็นกรรมการที่ทำงานเต็มเวลา (full time) คนแรกของ Federal Reserve Bank of New York ธนาคารกลางที่สำคัญที่สุดในระบบFederal Reserve System
    เขาไม่ใช่กระจอกไม่มีชื่ออีกต่อไป!
    ปี 1917 William Boyce Thompson เปลี่ยนเป็นอินทรีย์และเริ่มสยายปีกไปทางด้านการเงินและการเมือง เขาแสดงให้เห็นถึงสายตายาวไกล และความคล่องตัวจัดของเขา ด้วยการสนับสนุน Karensky ในการปฎิวัติครั้งแรกของรัสเซีย ในต้นปี 1917 และเปลี่ยนเข็มทิศ หมุนกลับมาสนับสนุน Bolsheviks ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเส้นทางของ Bolsheviks น่าจะดีกว่า หรือว่า มันเป็นการวางแผนไว้เป็น 2 ขั้นตอน ตั้งแต่แรก

    ก่อนจะออกเดินทางกลับจากรัสเซียในต้นเดือนธันวาคม 1917 Thompson ส่งมอบภาระกิจกาชาดเพื่อรัสเซียให้ผู้ช่วยเขา Raymond Robins ให้เป็นคนดูแลต่อ

    Thompson ได้เตรียมการตั้งแต่ปลายปี 1917 ที่จะเดินทางออกจากPetrograd เพื่อปั่นหุ้นตัวสำคัญ “Bolsheviks Revolution” ไปเสนอขายกับรัฐบาลแถบยุโรป และอเมริกาเอง

    ก่อนเดินทาง เขาโทรเลขไปหา Thomas W. Lamont ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ Morgan และกำลังอยู่ที่ปารีส กับ Colonel E.M. House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ ของประธานาธิบดี Woodlow Wilson

    Lamont ได้บันทึกข้อความเกี่ยวกับโทรเลขของ Thompson ไว้ในชีวประวัติของเขา

    “ขณะ ที่คณะของ House กำลังจะเสร็จสิ้นการเจรจาตามภาระกิจของเขาที่ Paris ในเดือนธันวาคมปี 1917 ผมได้รับโทรเลขที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จากเพื่อนนักเรียนเก่า และเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกัน William Boyce Thompson ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ Petrograd กำลังดูแลเรื่องภาระกิจกาชาดอเมริกันอยู่ที่นั่น”

    Lamont รีบเดินทางไปลอนดอน เพื่อพบกับ Thompson ซึ่งเดินทางมาจาก Petrograd เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โดยผ่าน Norway และมาถึงลอนดอนในวันที่ 10 ธันวาคม Thompson และ Lamont กำลังต้องทำเรื่องที่สำคัญที่สุดในลอนดอน คือ กล่อมกลุ่มรัฐมนตรีกิจการสงคราม ของอังกฤษ British War Cabinet ซึ่งขณะนั้น ลงความเห็นกันไปแล้วว่า ไม่เอาพวก Bolsheviks ให้เปลี่ยนใจมาเชื่อว่า พวก Bolsheviksนั้น ได้ควบคุมรัสเซียสำเร็จแล้ว และเป็นพวกที่อังกฤษต้องเลิกต่อต้าน และเปลี่ยนมาให้การสนับสนุนแก่ Lenin และ Trotsky แทน จะเป็นการดีที่สุด
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 5 “ปั่นหุ้น”

    ตอน 2

    ใน ช่วงปลายปี 1917 ขณะที่ Lamont และ Thompson เดินทางมาถึงลอนดอน เพื่อพบนายกรัฐมนตรี Lloyd George ของอังกฤษ ชึ่งดูเหมือนกำลังอ่อนปวกเปียกอยู่ในมือของนักค้าอาวุธผู้ทรงอิทธิพล Sir Basil Zaharoff เป็นข่าวลือทั่วไปในยุโรปว่า ที่ Zaharroff กุม Lloyd George อยู่หมัด เพราะ Zaharoff เป็นคนหาสาวมาบำเรอให้ และ บังเอิญสาวที่ Lloyd Geroge ติดกับ ก็คือ เมียของ Zaharoff นั่นเอง อืม…เกมแบบนี้ เล่นกันมาตลอด แล้วก็มีคนติดกับตลอด

    Zaharoff ที่ผู้คนเรียกเขาว่า “the Merchant of Death” เป็นนักค้าอาวุธที่รอบจัด เขาค้าขายกับทุกคนที่อยากซื้ออาวุธ จะเป็นประเทศใด ฝ่ายไหน เขาก็ขายให้ทั้งนั้น และก็ร่ำรวยจากการทำธุรกิจเช่นนี้ และจากการที่ค้าขายแบบนี้ และน่าจะรวมทั้ง การส่งสินค้าที่ไม่ใช่อาวุธด้วย ทำให้ Zaharoff มีหูตาที่กว้างขวาง ทำให้ลูกค้าของเขาต่างอยากได้ข ่าววงใน ลับสุดยอดจาก Zaharoff ทั้งสิ้น มีหลายครั้ง ที่ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา Lloyd George นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และ Georges Clemenceau นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส ต้องไปล้อมวงประชุมกัน อยู่ที่บ้านของZaharoff ที่กรุงปารีส ถึงขนาดมีข่าวเล่ากันว่า ก่อนจะมีการเคลื่อนพลไปบุกที่ไหน ส่วนใหญ่ Zaharoff ก็จะถูกเชิญมาหารืออยู่เสมอ

    หน่วย ข่าวกรองของอังกฤษ บันทึกไว้ว่า “ภายหลัง มีการพบเอกสารที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเอง เอาความลับไปบอก Sir Basil Zaharoff ซึ่งนายกรัฐมนตรี Lloyd George ก็รู้เรื่องนี้ด้วย”
    นอกจากอ่อนอยู่ในมือของ Zaharoff แล้ว นายกรัฐมนตรี Lloyd George ยังมีคนดันหลังชื่อ Lord Milner อีกด้วย เป็น Lord Milner แห่งสมาคม Round Table ที่แม้ลึกลับ แต่อำนาจสูงเทียมฟ้า เป็นต้นกำเนิดของ think tank ถังความคิดคู่แฝดที่ทรงอิทธิพล Royal Institute of International Affairs (RIIA) ของอังกฤษ และ Council on Foreign Relations (CFR) ของอเมริกา คงพอจำกันได้

    นายก รัฐมนตรี Lloyd George ได้ทำรายงานต่อ War Cabinet ว่า ได้สนทนากับนาย Thompson มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากรัสเซีย และได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับรัสเซีย แตกต่างไปจากที่เราได้ยินกัน นาย Thompson เชื่อว่า พวกปฏิวัติ Bolsheviks ทำงานสำเร็จได้ผลดี และคงจะปกครองรัสเซียไปอีกนาน แต่พวกเราฝ่ายสัมพันธมิตร ไม่ได้แสดงความชื่นชม หรือเห็นพ้องกับฝ่ายปฏิวัติเลย และผู้นำการปฏิวัติ Trotsky และ Lenin ไม่ได้ถูกจ้างโดยฝ่ายเยอรมัน และ Lenin ค่อนข้างจะมีลักษณะไปในทางเป็นครูบาอาจารย์ที่น่าเคารพเสียด้วยซ้ำ

    นาย Thompson ยังแนะนำอีกว่า ฝ่ายสัมพันธมิตร ควรจะมีการออกความเห็น ให้การสนับสนุนแก่พวกปฏิวัติบ้าง และควรมีการแสดงความเห็นนี้ ที่ Petrograd เองด้วย ขณะเดียวกัน ก็ควรมีการพิจารณาเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ ของฝ่ายสัมพันธมิตรที่อยู่ที่ Petrograd ที่ไม่เหมาะสมเสียด้วย และฝ่ายสัมพันธมิตรควรจะเข้าใจว่า ขณะนี้รัสเซียไม่ได้มาร่วมอยู่ ในสงครามแล้ว ไม่ว่าจะโดยกองทัพ หรือประชาชน และพวกเราฝ่ายสัมพันธมิตร ควรจะเลือกให้ดีว่า เราต้องการรัสเซีย ที่เป็นเพื่อน หรือรัสเซีย ที่เป็นกลาง แบบไม่เป็นมิตร

    หลังจากรับทราบรายงานการสนทนาดังกล่าว ของนายกรัฐมนตรี Lloyd George พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว War Cabinet คณะรัฐมนตรีกิจการสงคราม ก็เห็นพ้องที่จะเดินตามคำแนะนำของ Thompson และสนับสนุนพวก Bolsheviks

    นาย William Boyce Thompson สมกับเป็นเซียนปั่นหุ้นความเสี่ยงสูงจริงๆ

    Lord Milner ซึ่งสั่งให้ นาย Bruce Lockhart อดีตกงสุลอังกฤษ ที่เคยทำงานอยู่ในรัสเซีย ยืนคอยฟังข่าวอยู่หน้าห้องประชุม เพื่อเตรียมพร้อม ที่จะรายงานและสรุปการประชุมส่งไปให้ พรรคพวกทางรัสเซียดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ กับพวกโซเวียตต่อไป
    ต้องถือว่าการเสนอขายหุ้น Bolsheviks ของ นายThompson ประสบความสำเร็จอย่างสูง สมกับการเป็นนักปั่นมือเซียน แมงเม่าระดับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และคณะรัฐมนตรีกิจการสงคราม อ้าปากหวอ ซื้อ “หุ้น Bolsheviks” กันหมดหน้าตัก

    หลัง จาก Thompson เดินทางกลับไปแล้ว คณะรัฐมนตรีกิจการสงครามของอังกฤษ ก็ได้รับรายงานจากอีกสายข่าว ซึ่งก็อ้างว่า น่าเชื่อถือมากกว่า รายงานนั้นได้บรรยายถึงสรรพคุณ Bolsheviks ตรงกันข้ามกับที่นาย Thompson มาออกหนังสือชี้ชวนไว้ แต่ดูเหมือนมันจะมาสายไป ลงทุนกันจนหมดหน้าตักไปแล้ว รายงานดังกล่าวจึงถูกวางไว้บนโต๊ะ ให้ฝุ่นจับไปแค่นั้นเอง

    รายงาน นั้น มาถึงโต๊ะรัฐมนตรีกิจการสงคราม ในเดือนเมษายน 1918 จาก General Jan Smuts ว่าเขาได้สนทนากับ General Nieffel หัวหน้ากิจการกองทัพฝรั่งเศส ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากรัสเซีย ได้ความว่า :

    “Trotsky…. เป็นคนเลวอย่างสมบูรณ์ แม้จะไม่ใช่พวกชอบเยอรมัน แต่เป็นคนขี้โอ่และหลงตัวเอง และการปฏิวัติของตน เขาไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าในทางได เขามีอำนาจโดยการมีอิทธิพลครอบงำ เหนือ Lockhart, Robins และตัวแทนของฝรั่งเศส…….”

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    01 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ปั่นหุ้น 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 5 “ปั่นหุ้น” ตอน 1 William Boyce Thompson คงเป็นชื่อที่ยังไม่มีใครรู้จักในประวัติศาสตร์ ก่อนศตวรรษที่ 20 แต่ Thompson เป็นผู้ที่รับบทสำคัญยิ่ง เกี่ยวกับการปฏิวัติพวก Bolsheviks แน่นอน ที่สุดถ้า Thompson ไม่ไปอยู่ที่รัสเซียในปี 1917 ประวัติศาสตร์หลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนไปคนละเรื่อง และถ้าไม่มีเรื่องสนับสนุนทางการเงิน โดยเฉพาะเรื่องการเมือง และการโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้กับ Trotsky และ Lenin โดย Thompson และ Robins กับพรรคพวกในนิวยอร์คแล้ว พวก Bolsheviks อาจจะเหี่ยวแห้งเฉาตายไป และรัสเซียจะออกหัวหรือก้อยไม่รู้ได้ แต่การเมืองโลก อาจจะเป็นฉากอื่น ต่างจากที่เราเห็นกันอยู่นี้อย่างสิ้นเชิง ใครคือ William Boyce Thompson Thompson คือ นักปั้นหุ้น หรือ ปั่นหุ้นเหมืองแร่ มือดีอันดับหนึ่งในธุรกิจสาขานี้ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาเป็นคนดูแลหุ้นให้กับมหาเศรษฐีตระกูล Guggenheim เจ้าของเหมืองทองแดง ด้วยความสามารถระดับเซียน ในการระดมทุนในตลาดหุ้นประเภทความเสี่ยงสูง ทำให้ Thompson ร่ำรวยขึ้นมา และได้เป็นกรรมการในหลายบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจเหมืองแร่ต่างๆ โดยเฉพาะแร่ทองแดง ที่เป็นแร่สำคัญในการนำมาใช้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ นอกจากนี้ เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคาร Chase National Bank และ เป็น Albert H. Wiggin ประธาน Chase Bank ที่เป็นคนดันให้ Thompson เข้าไปมีส่วนในการจัดตั้งระบบธนาคารกลาง Federal Reserve System ของอเมริกา และในปี 1913 Thompson เป็นกรรมการที่ทำงานเต็มเวลา (full time) คนแรกของ Federal Reserve Bank of New York ธนาคารกลางที่สำคัญที่สุดในระบบFederal Reserve System เขาไม่ใช่กระจอกไม่มีชื่ออีกต่อไป! ปี 1917 William Boyce Thompson เปลี่ยนเป็นอินทรีย์และเริ่มสยายปีกไปทางด้านการเงินและการเมือง เขาแสดงให้เห็นถึงสายตายาวไกล และความคล่องตัวจัดของเขา ด้วยการสนับสนุน Karensky ในการปฎิวัติครั้งแรกของรัสเซีย ในต้นปี 1917 และเปลี่ยนเข็มทิศ หมุนกลับมาสนับสนุน Bolsheviks ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเส้นทางของ Bolsheviks น่าจะดีกว่า หรือว่า มันเป็นการวางแผนไว้เป็น 2 ขั้นตอน ตั้งแต่แรก ก่อนจะออกเดินทางกลับจากรัสเซียในต้นเดือนธันวาคม 1917 Thompson ส่งมอบภาระกิจกาชาดเพื่อรัสเซียให้ผู้ช่วยเขา Raymond Robins ให้เป็นคนดูแลต่อ Thompson ได้เตรียมการตั้งแต่ปลายปี 1917 ที่จะเดินทางออกจากPetrograd เพื่อปั่นหุ้นตัวสำคัญ “Bolsheviks Revolution” ไปเสนอขายกับรัฐบาลแถบยุโรป และอเมริกาเอง ก่อนเดินทาง เขาโทรเลขไปหา Thomas W. Lamont ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ Morgan และกำลังอยู่ที่ปารีส กับ Colonel E.M. House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ ของประธานาธิบดี Woodlow Wilson Lamont ได้บันทึกข้อความเกี่ยวกับโทรเลขของ Thompson ไว้ในชีวประวัติของเขา “ขณะ ที่คณะของ House กำลังจะเสร็จสิ้นการเจรจาตามภาระกิจของเขาที่ Paris ในเดือนธันวาคมปี 1917 ผมได้รับโทรเลขที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จากเพื่อนนักเรียนเก่า และเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกัน William Boyce Thompson ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ Petrograd กำลังดูแลเรื่องภาระกิจกาชาดอเมริกันอยู่ที่นั่น” Lamont รีบเดินทางไปลอนดอน เพื่อพบกับ Thompson ซึ่งเดินทางมาจาก Petrograd เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โดยผ่าน Norway และมาถึงลอนดอนในวันที่ 10 ธันวาคม Thompson และ Lamont กำลังต้องทำเรื่องที่สำคัญที่สุดในลอนดอน คือ กล่อมกลุ่มรัฐมนตรีกิจการสงคราม ของอังกฤษ British War Cabinet ซึ่งขณะนั้น ลงความเห็นกันไปแล้วว่า ไม่เอาพวก Bolsheviks ให้เปลี่ยนใจมาเชื่อว่า พวก Bolsheviksนั้น ได้ควบคุมรัสเซียสำเร็จแล้ว และเป็นพวกที่อังกฤษต้องเลิกต่อต้าน และเปลี่ยนมาให้การสนับสนุนแก่ Lenin และ Trotsky แทน จะเป็นการดีที่สุด นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 5 “ปั่นหุ้น” ตอน 2 ใน ช่วงปลายปี 1917 ขณะที่ Lamont และ Thompson เดินทางมาถึงลอนดอน เพื่อพบนายกรัฐมนตรี Lloyd George ของอังกฤษ ชึ่งดูเหมือนกำลังอ่อนปวกเปียกอยู่ในมือของนักค้าอาวุธผู้ทรงอิทธิพล Sir Basil Zaharoff เป็นข่าวลือทั่วไปในยุโรปว่า ที่ Zaharroff กุม Lloyd George อยู่หมัด เพราะ Zaharoff เป็นคนหาสาวมาบำเรอให้ และ บังเอิญสาวที่ Lloyd Geroge ติดกับ ก็คือ เมียของ Zaharoff นั่นเอง อืม…เกมแบบนี้ เล่นกันมาตลอด แล้วก็มีคนติดกับตลอด Zaharoff ที่ผู้คนเรียกเขาว่า “the Merchant of Death” เป็นนักค้าอาวุธที่รอบจัด เขาค้าขายกับทุกคนที่อยากซื้ออาวุธ จะเป็นประเทศใด ฝ่ายไหน เขาก็ขายให้ทั้งนั้น และก็ร่ำรวยจากการทำธุรกิจเช่นนี้ และจากการที่ค้าขายแบบนี้ และน่าจะรวมทั้ง การส่งสินค้าที่ไม่ใช่อาวุธด้วย ทำให้ Zaharoff มีหูตาที่กว้างขวาง ทำให้ลูกค้าของเขาต่างอยากได้ข ่าววงใน ลับสุดยอดจาก Zaharoff ทั้งสิ้น มีหลายครั้ง ที่ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา Lloyd George นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และ Georges Clemenceau นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส ต้องไปล้อมวงประชุมกัน อยู่ที่บ้านของZaharoff ที่กรุงปารีส ถึงขนาดมีข่าวเล่ากันว่า ก่อนจะมีการเคลื่อนพลไปบุกที่ไหน ส่วนใหญ่ Zaharoff ก็จะถูกเชิญมาหารืออยู่เสมอ หน่วย ข่าวกรองของอังกฤษ บันทึกไว้ว่า “ภายหลัง มีการพบเอกสารที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเอง เอาความลับไปบอก Sir Basil Zaharoff ซึ่งนายกรัฐมนตรี Lloyd George ก็รู้เรื่องนี้ด้วย” นอกจากอ่อนอยู่ในมือของ Zaharoff แล้ว นายกรัฐมนตรี Lloyd George ยังมีคนดันหลังชื่อ Lord Milner อีกด้วย เป็น Lord Milner แห่งสมาคม Round Table ที่แม้ลึกลับ แต่อำนาจสูงเทียมฟ้า เป็นต้นกำเนิดของ think tank ถังความคิดคู่แฝดที่ทรงอิทธิพล Royal Institute of International Affairs (RIIA) ของอังกฤษ และ Council on Foreign Relations (CFR) ของอเมริกา คงพอจำกันได้ นายก รัฐมนตรี Lloyd George ได้ทำรายงานต่อ War Cabinet ว่า ได้สนทนากับนาย Thompson มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากรัสเซีย และได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับรัสเซีย แตกต่างไปจากที่เราได้ยินกัน นาย Thompson เชื่อว่า พวกปฏิวัติ Bolsheviks ทำงานสำเร็จได้ผลดี และคงจะปกครองรัสเซียไปอีกนาน แต่พวกเราฝ่ายสัมพันธมิตร ไม่ได้แสดงความชื่นชม หรือเห็นพ้องกับฝ่ายปฏิวัติเลย และผู้นำการปฏิวัติ Trotsky และ Lenin ไม่ได้ถูกจ้างโดยฝ่ายเยอรมัน และ Lenin ค่อนข้างจะมีลักษณะไปในทางเป็นครูบาอาจารย์ที่น่าเคารพเสียด้วยซ้ำ นาย Thompson ยังแนะนำอีกว่า ฝ่ายสัมพันธมิตร ควรจะมีการออกความเห็น ให้การสนับสนุนแก่พวกปฏิวัติบ้าง และควรมีการแสดงความเห็นนี้ ที่ Petrograd เองด้วย ขณะเดียวกัน ก็ควรมีการพิจารณาเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ ของฝ่ายสัมพันธมิตรที่อยู่ที่ Petrograd ที่ไม่เหมาะสมเสียด้วย และฝ่ายสัมพันธมิตรควรจะเข้าใจว่า ขณะนี้รัสเซียไม่ได้มาร่วมอยู่ ในสงครามแล้ว ไม่ว่าจะโดยกองทัพ หรือประชาชน และพวกเราฝ่ายสัมพันธมิตร ควรจะเลือกให้ดีว่า เราต้องการรัสเซีย ที่เป็นเพื่อน หรือรัสเซีย ที่เป็นกลาง แบบไม่เป็นมิตร หลังจากรับทราบรายงานการสนทนาดังกล่าว ของนายกรัฐมนตรี Lloyd George พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว War Cabinet คณะรัฐมนตรีกิจการสงคราม ก็เห็นพ้องที่จะเดินตามคำแนะนำของ Thompson และสนับสนุนพวก Bolsheviks นาย William Boyce Thompson สมกับเป็นเซียนปั่นหุ้นความเสี่ยงสูงจริงๆ Lord Milner ซึ่งสั่งให้ นาย Bruce Lockhart อดีตกงสุลอังกฤษ ที่เคยทำงานอยู่ในรัสเซีย ยืนคอยฟังข่าวอยู่หน้าห้องประชุม เพื่อเตรียมพร้อม ที่จะรายงานและสรุปการประชุมส่งไปให้ พรรคพวกทางรัสเซียดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ กับพวกโซเวียตต่อไป ต้องถือว่าการเสนอขายหุ้น Bolsheviks ของ นายThompson ประสบความสำเร็จอย่างสูง สมกับการเป็นนักปั่นมือเซียน แมงเม่าระดับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และคณะรัฐมนตรีกิจการสงคราม อ้าปากหวอ ซื้อ “หุ้น Bolsheviks” กันหมดหน้าตัก หลัง จาก Thompson เดินทางกลับไปแล้ว คณะรัฐมนตรีกิจการสงครามของอังกฤษ ก็ได้รับรายงานจากอีกสายข่าว ซึ่งก็อ้างว่า น่าเชื่อถือมากกว่า รายงานนั้นได้บรรยายถึงสรรพคุณ Bolsheviks ตรงกันข้ามกับที่นาย Thompson มาออกหนังสือชี้ชวนไว้ แต่ดูเหมือนมันจะมาสายไป ลงทุนกันจนหมดหน้าตักไปแล้ว รายงานดังกล่าวจึงถูกวางไว้บนโต๊ะ ให้ฝุ่นจับไปแค่นั้นเอง รายงาน นั้น มาถึงโต๊ะรัฐมนตรีกิจการสงคราม ในเดือนเมษายน 1918 จาก General Jan Smuts ว่าเขาได้สนทนากับ General Nieffel หัวหน้ากิจการกองทัพฝรั่งเศส ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากรัสเซีย ได้ความว่า : “Trotsky…. เป็นคนเลวอย่างสมบูรณ์ แม้จะไม่ใช่พวกชอบเยอรมัน แต่เป็นคนขี้โอ่และหลงตัวเอง และการปฏิวัติของตน เขาไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าในทางได เขามีอำนาจโดยการมีอิทธิพลครอบงำ เหนือ Lockhart, Robins และตัวแทนของฝรั่งเศส…….” สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 01 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1000 มุมมอง 0 รีวิว
  • รักชนก ซัด กัน จอมพลัง-กองทัพ "ปกปิดข้อมูล" หลังถูกปฏิเสธส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ กมธ.ตรวจสอบ
    https://www.thai-tai.tv/news/22131/
    .
    #ไทยไท #กมธทหาร #รักชนก #กันจอมพลัง #บริจาคยุทโธปกรณ์ #ความไม่โปร่งใส #ปฏิรูปกองทัพ
    รักชนก ซัด กัน จอมพลัง-กองทัพ "ปกปิดข้อมูล" หลังถูกปฏิเสธส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ กมธ.ตรวจสอบ https://www.thai-tai.tv/news/22131/ . #ไทยไท #กมธทหาร #รักชนก #กันจอมพลัง #บริจาคยุทโธปกรณ์ #ความไม่โปร่งใส #ปฏิรูปกองทัพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000103483

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #แร่แรร์เอิร์ธ #รัฐบาลอนุทิน #MOUไทยสหรัฐ #ทรัพยากรของชาติ #สิ่งแวดล้อมไทย

    MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000103483 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #แร่แรร์เอิร์ธ #รัฐบาลอนุทิน #MOUไทยสหรัฐ #ทรัพยากรของชาติ #สิ่งแวดล้อมไทย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 765 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ!
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103514

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    MOU แร่แรร์เอิร์ธ‘ไทย-สหรัฐฯ’ชวนให้คิด! คนใน กต.ชี้‘ทางการทูตเหมือนเราไม่ได้รับเกียรติ’ แม้ทางกฎหมายไม่มีผลยกเลิกได้แต่รัฐไทยลืมมองการเมืองระหว่างประเทศ ไทยเซ็นกับใคร จับตาสหรัฐฯใช้ไทยเป็นแหล่งรับของเน่า นำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากพม่า ส่งเข้าโรงแต่งแร่ในไทย จนได้‘หัวแร่’ส่งไปประเทศอื่นหรือสหรัฐฯ ด้าน ‘เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี’ แจง MOU ของไทยต่างกับสหรัฐฯทำกับชาติอื่นยกประโยชน์ชาติให้สหรัฐฯก่อน เสมือนการชักศึกเข้าบ้านเทียบกับการให้ตั้งฐานทัพน้อย ๆ เพราะแร่ใช้ผลิตยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคง แถมก่อมลพิษยิ่งกว่าเหมืองทองคำหลายเท่าส่วน‘นิติพล ผิวเหมาะ’ พรรคประชาชนถาม MOU ฉบับนี้ไทยได้อะไร แต่เสียสิทธิ์เป็นผู้เล่นหรือผู้เลือกรายใหม่เพราะผูกกับสหรัฐฯไปแล้วทั้งที่แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่สำคัญของโลก ควรศึกษารอบคอบ! . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000103514 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 911 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธาน กมธ.ทหาร วุฒิสภา จี้กองทัพตรวจสอบ ยุทโธปกรณ์กัมพูชา ถอนจริง หรือเป็นเพียง "ภาพข่าว"
    https://www.thai-tai.tv/news/22070/
    .
    #ไทยไท #ฮุนเซน #ถอนอาวุธหนัก #เชลยศึก #สวัสดิ์ทัศนา #ชายแดนไทยกัมพูชา

    ประธาน กมธ.ทหาร วุฒิสภา จี้กองทัพตรวจสอบ ยุทโธปกรณ์กัมพูชา ถอนจริง หรือเป็นเพียง "ภาพข่าว" https://www.thai-tai.tv/news/22070/ . #ไทยไท #ฮุนเซน #ถอนอาวุธหนัก #เชลยศึก #สวัสดิ์ทัศนา #ชายแดนไทยกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจความพร้อมรบทางทะเล ผบ.ทรภ.3 นำกำลังเรือและเฮลิคอปเตอร์ฝึกทบทวน เตรียมความพร้อมทั้งคนและยุทโธปกรณ์ ตามนโยบาย “ปีแห่งความพร้อมรบของกองทัพเรือ”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100271

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจความพร้อมรบทางทะเล ผบ.ทรภ.3 นำกำลังเรือและเฮลิคอปเตอร์ฝึกทบทวน เตรียมความพร้อมทั้งคนและยุทโธปกรณ์ ตามนโยบาย “ปีแห่งความพร้อมรบของกองทัพเรือ” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100271 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.กลาโหมสั่งเหล่าทัพระดมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ รับมืออุทกภัยทั่วประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/21806/
    .
    #ไทยไท #กระทรวงกลาโหม #บรรเทาสาธารณภัย #อุทกภัย #ทหารช่วยประชาชน #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #เรือผลักดันน้ำ
    รมว.กลาโหมสั่งเหล่าทัพระดมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ รับมืออุทกภัยทั่วประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/21806/ . #ไทยไท #กระทรวงกลาโหม #บรรเทาสาธารณภัย #อุทกภัย #ทหารช่วยประชาชน #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #เรือผลักดันน้ำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนยืนยันจุดยืนเป็นกลางในกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีกระแสข่าวว่าปักกิ่งส่งอาวุธให้กัมพูชา โดยเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยชี้แจงว่า จีนไม่เคยสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ใด ๆ ให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย พร้อมย้ำความสัมพันธ์ไทย–จีนแน่นแฟ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000096129

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    จีนยืนยันจุดยืนเป็นกลางในกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีกระแสข่าวว่าปักกิ่งส่งอาวุธให้กัมพูชา โดยเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยชี้แจงว่า จีนไม่เคยสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ใด ๆ ให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย พร้อมย้ำความสัมพันธ์ไทย–จีนแน่นแฟ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000096129 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.กลาโหม ยันข่าวจีนส่งอาวุธให้กัมพูชาเป็นเรื่องเก่า ก่อนเหตุสู้รบไทย-กัมพูชาปะทุ
    https://www.thai-tai.tv/news/21720/
    .
    #รมวกลาโหม #จีนกัมพูชา #ความขัดแย้งไทยกัมพูชา #อาวุธจีน #สันติวิธี #จัดซื้อยุทโธปกรณ์ #การเมือง #ไทยไท
    รมว.กลาโหม ยันข่าวจีนส่งอาวุธให้กัมพูชาเป็นเรื่องเก่า ก่อนเหตุสู้รบไทย-กัมพูชาปะทุ https://www.thai-tai.tv/news/21720/ . #รมวกลาโหม #จีนกัมพูชา #ความขัดแย้งไทยกัมพูชา #อาวุธจีน #สันติวิธี #จัดซื้อยุทโธปกรณ์ #การเมือง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts