• "หมูเด้ง" ช่วยชาติ!!! ยอดขายสินค้าหมูเด้ง พุ่ง 2 แสนบาท "ไลลา" เสริมทัพอีก 1 แสน รวม 3 แสนบาท ส่งกำลังใจถึงพี่ๆ ทหารและผู้ประสบภัย
    https://www.thai-tai.tv/news/20588/
    .
    #หมูเด้งช่วยทหาร #ไลลาสนับสนุน #ช่วยเหลือชายแดน #ผู้ประสบภัย #น้ำใจคนไทย #บริจาคเพื่อสังคม #ไทยไท
    "หมูเด้ง" ช่วยชาติ!!! ยอดขายสินค้าหมูเด้ง พุ่ง 2 แสนบาท "ไลลา" เสริมทัพอีก 1 แสน รวม 3 แสนบาท ส่งกำลังใจถึงพี่ๆ ทหารและผู้ประสบภัย https://www.thai-tai.tv/news/20588/ . #หมูเด้งช่วยทหาร #ไลลาสนับสนุน #ช่วยเหลือชายแดน #ผู้ประสบภัย #น้ำใจคนไทย #บริจาคเพื่อสังคม #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • “สุชาติ” สั่งค้าภายในประสานห้างฯกระจายสินค้าเข้าพื้นที่ชายแดน - ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเด็ดขาด
    https://www.thai-tai.tv/news/20583/
    .
    #พาณิชย์ช่วยผู้ประสบภัย #สุชาติชมกลิ่น #ค้าภายใน #ชายแดนไทยกัมพูชา #สินค้าราคาถูก #ห้ามขึ้นราคา #กักตุนสินค้า #ศูนย์พักพิง #สินค้าจำเป็น #ไทยไท
    “สุชาติ” สั่งค้าภายในประสานห้างฯกระจายสินค้าเข้าพื้นที่ชายแดน - ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเด็ดขาด https://www.thai-tai.tv/news/20583/ . #พาณิชย์ช่วยผู้ประสบภัย #สุชาติชมกลิ่น #ค้าภายใน #ชายแดนไทยกัมพูชา #สินค้าราคาถูก #ห้ามขึ้นราคา #กักตุนสินค้า #ศูนย์พักพิง #สินค้าจำเป็น #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" ลุยอุบลฯ! ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยชายแดน ตรงวันเกิดครบ 76 ปี
    https://www.thai-tai.tv/news/20557/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #อุบลราชธานี #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่วยเหลือประชาชน #วันเกิดทักษิณ #พรรคเพื่อไทย #ศูนย์พักพิง #ความมั่นคง #ไทยไท
    "ทักษิณ" ลุยอุบลฯ! ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยชายแดน ตรงวันเกิดครบ 76 ปี https://www.thai-tai.tv/news/20557/ . #ทักษิณชินวัตร #อุบลราชธานี #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่วยเหลือประชาชน #วันเกิดทักษิณ #พรรคเพื่อไทย #ศูนย์พักพิง #ความมั่นคง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสาธารณภัย-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ลุยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยธรรมชาติภาคเหนือ อีสาน และกลาง แจกจ่ายน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท
    .
    วานนี้ (วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน น้ำปลา และปลากระป๋อง บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวม 600 ชุด พร้อมจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมี นางสาวชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอเลาขวัญ พร้อมด้วยคณะอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดศรีพนมเทียน (ห้วยรวก) ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
    .
    โดยระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยประชาชนหลังประเทศเกิดภัยธรรมชาติในหลากหลายพื้นที่ จึงมอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย คุณศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย และแผนกอาสาสมัคร จัดทีมพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลาง ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ราชบุรี และ กาญจนบุรี รวม 29 จังหวัด 20,200 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 11,110,000 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งสมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ออกหน่วยมให้บริการประชาชนฟรีในหลากหลายพื้นที่ ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมีประชาชนให้ความสนใจและเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสาธารณภัย-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ลุยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยธรรมชาติภาคเหนือ อีสาน และกลาง แจกจ่ายน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท . วานนี้ (วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน น้ำปลา และปลากระป๋อง บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวม 600 ชุด พร้อมจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมี นางสาวชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอเลาขวัญ พร้อมด้วยคณะอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดศรีพนมเทียน (ห้วยรวก) ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี . โดยระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยประชาชนหลังประเทศเกิดภัยธรรมชาติในหลากหลายพื้นที่ จึงมอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย คุณศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย และแผนกอาสาสมัคร จัดทีมพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลาง ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ราชบุรี และ กาญจนบุรี รวม 29 จังหวัด 20,200 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 11,110,000 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งสมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ออกหน่วยมให้บริการประชาชนฟรีในหลากหลายพื้นที่ ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมีประชาชนให้ความสนใจและเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 695 Views 0 Reviews
  • มีคนถามผม ว่าผมใช้คำว่า sleeper บ่อยครั้ง หมายถึงอะไร?
    .
    ในกรณีนี้ หมายถึง จารชนชนิดหนึ่ง ทั้งที่เป็นเป็นคนต่างชาติและคนในชาติที่ถูกปล่อยให้กบดานไว้ในพื้นที่เป้าหมาย หากไม่มีการเรียกใช้งานก็ประกอบอาชีพใช้ชีวิตไปตามปกติ จนกว่าจะมีงานให้ทำก็จะถูกปลุกขึ้นมาใช้งาน (เรียกว่าสลีปเปอร์ก็เพราะเหตุนี้) งานที่ให้ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบสายลับในหนังนะ บางทีอาจง่ายๆ เช่นแค่ไปฟังเขาคุยกันแล้วมารายงานว่าได้ยินอะไรมา... ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาวางระเบิด (ซึ่งแบบนี้ก็มี) มีหลายรายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นสลีปเปอร์ ดังนั้นพวกนี้จึงมีหลายระดับ อาจจะผูกกันไว้ด้วยการสร้างบุญคุณต่อกันไว้ ช่วยเหลือการเงินการงานต่างๆ จนถึงพวกที่ถูกคัดกรองเข้ามาทำงานแต่ละด้านที่มีความเหมาะสมกับคนคนนั้นตามความถนัดต่างกัน ซึ่งมีมิติความซับซ้อนกว่าที่คนทั่วไปจะคาดคิด เช่น อาจเป็นพ่อค้าที่ต้องเดินทางไปหลายที่เพื่อส่งสินค้า ดังนั้นการเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ จึงดูมีเหตุผล คนที่มีอาชีพในลักษณะคล้ายกันนี้จึงเหมาะในการไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้กว้างขวางกว่า ก็อย่างเช่น นักมานุษยวิทยา นักทำสารคดี นักพูด วิทยากร นักวิชาการสำรวจภาคสนาม นักสร้างภาพยนตร์ เอ็นจีโอ อาสาสมัคร มิชชันนารี... ฯ ในระดับปฏิบัติการ อาจแฝงตัวมาสร้างความสัมพันธ์ให้คนทั่วไปรู้สึกไว้วางใจ จารชนประเภทนี้เขานิยามว่าสร้างความไว้วางใจนานหลายปีเพื่อทรยศเพียงครั้งเดียว แล้วก็ถอนตัวออกไป พวกนี้มีเครือข่ายกระจายไปทั่ว ฝังรากลึกมานาน
    .
    เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด ตัวอย่างเช่นสมัยพระนารายณ์มหาราช อยุธยา มีจารชนฝังตัวอยู่เต็มไปหมด มาในคราบทูต มาในคราบบาดหลวงสอนศาสนา บันทึกการเดินทางที่เรารู้จักกันมากมายตัวอย่างเช่น จดหมายเหตุลาลูแบร์ ที่จริงเป็นข้อมูลข่าวกรอง intelligence แจกแจงรายละเอียดทุกด้านของอยุธยาตั้งแต่ชีวิตความเป็นอยู่ จุดเด่น จุดด้อย สภาพแวดล้อมภูมิประเทศ แหล่งอาหาร ทรัพยากรต่างๆ ชัยภูมิทางการรบ เช่น ป้อม ค่ายคู กำลังทหาร และศักยภาพทางการรบ พืชพันธ์สัตว์ต่างๆ.... ทั้งหมดรวบรวมเพื่อยื่นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่กษัตริย์ฝรั่งเศส แน่นอนว่าลาลูแบร์ที่เป็นราชทูตนี่ก็เป็นจารชนนั่นแหละ มาต่อหน้าเป็นทูต แต่กระทำลับหลังในการประสานกับกองทหารฝรั่งเศสเตรียมการจะโจมตีสยาม ในเวลานั้นมีบาดหลวงนิกายเยซูอิตอีกหลายคนที่เป็นจารชนประเภทสลีปเปอร์นี่แหละ แฝงตัวทำทีเป็นสอนศาสนาไป พอลาลูแบร์มาถึง สลีปเปอร์พวกนี้ก็ทำการประสานส่งต่อข้อมูลรายงานข่าวกรองให้พวกตนทราบ ดังที่ปรากฏจดหมายลับที่ซ่อนอยู่ในหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศสอันเป็นเหตุให้นักเขียนฝรั่งคนหนึ่งที่ไปพบเข้า เขียนหนังสือเรื่อง "รุกสยามในนามพระเจ้า" ที่ผมเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว
    .
    แต่โทษที อยากจะบอกว่า สยาม หาได้หมูไม่ ขณะที่นโยบายในการล้างสมองของพวกไอโอเยซูอิตกำลังพยายามหว่านล้อมชักจูงพระนารายณ์ให้ทรงเข้ารีต ท่านทรงตรัสตอบอย่างชาญฉลาดว่า โอ้พระเจ้าของท่านช่างวิเศษล้ำจริงๆ พวกท่านอย่าห่วงเลย หากพระเจ้าของท่านวิเศษอย่างที่ท่านกล่าว เชื่อว่ากฤษฎาภินิหารของท่านจะต้องบันดาลให้ฉันเปลี่ยนไปนับถือศาสนาของท่านแน่นอน... ป๊าด! เป็นคำตอบที่แสนจะอัจฉริยะ. ขณะเดียวกัน ฝั่ง counter strike พระเพทราชาและทีมอินเทลของท่านก็มีข้อมูลของจารชนพวกนี้ทุกอย่าง และทีมไอโอของพระเพทราชาท่านก็ไม่ใช่ไก่อ่อนในการที่จะต้านการครอบงำแทรกแซงของฝรั่งทั้งด้านงานจารกรรมและด้านยุทธศาสตร์ ผลก็คืองานของสลีปเปอร์และเจ้าหน้าที่สนามของฝรั่งเศสไม่ได้ผล จารชนสองหน้าอย่างกองสตองฟอลคอนจบด้วยความตาย แผนการโจมตีป้อมบางกอกล้มเหลว ม้วนเสื่อกลับไป นี่...จะเห็นว่างานจารกรรมและการใช้ไอโอไม่ได้เพิ่งจะมีในยุคนี้นะเธอ
    .
    ในงานลับลวงพรางพวกนี้ มีคนจำนวนหนึ่งถูกเลือกเป็นหัวโจก เขาเรียก recruiter เพราะมีหน้าที่คัดเลือกจัดหาสลีปเปอร์ มีการศึกษาข้อมูลบุคคลการล้วงลึก ลูกเต้าเหล่าใคร มีความคิด สติปัญญาระดับไหน มีแนวโน้มจะนิยมชาติที่วางแผนร้ายนี้มากกว่าชาติตัวเองไหม มีปม มีปัญหาส่วนตัวอย่างไร ทัศนคติ สภาพจิต ปูมหลัง คอนเน็คชั่น ศักยภาพในการทำหน้าที่ได้รับมอบหมาย ฯลฯ จะเฝ้าติดตามดูจนเห็นว่าน่าจะโอเค ก็จะชักชวนให้เข้าในเครือข่ายทีละนิด จากวงนอกๆ ก็จะขยับเข้าชั้นในมาเรื่อยๆ ตามการพิสูจน์ตัวเอง ในเมืองไทยมีมานานหลายสิบปีแล้ว มีกันอยู่หลายวง ผูกโยงกับหน่วยงานข้ามชาติในท้องถิ่นเล็กๆ ตั้งแต่มูลนิธินี่นั่น ไปจนถึงเอ็นจีโอ หน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย พวกหน่วยที่มีอักษรตัวย่อทั้งหลายแหล่ ไปจนถึงองค์กรที่ใหญ่ขึ้น จนถึงฟันดิ้งระดับโลก ตัวอย่างเช่น ฟุลไบร๊ท์ ร็อกกี้เฟลเลอร์...เป็นต้น
    .
    พวกนี้จะมีแหล่งนัดพบของเขาที่จะไปพบกันเป็นประจำ หัวหน้าจะเปิดเลี้ยงกินดื่มไม่อั้น มีการแชร์ข้อมูลแสดงผลงาน แนวคิด พรีเซนเตชั่น รุ่นพี่อาจเอารุ่นน้องหน้าใหม่มาเสนอตัวให้ recruiter พิจารณา ในบ้านเรามีอยู่หลายวงหลายสาย ไม่ใช่แค่สายผู้ดีสายลึงค์สายถั่ว... คนจมูกดีๆ จะรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง เพราะขณะที่พวกมันสร้างสลีปเปอร์ อีกฝ่ายเขาก็เอาสลีปเปอร์เขาไปฝังอยู่ในพวกมึงเช่นกัน 5555
    .
    พวกที่อยู่มานานฝังรากลึก แน่นอนว่าผลประโยชน์มันมากมันเฟื่องฟู ดังนั้น การที่อยู่สุขสบายมาช้านาน จู่ๆ ท่อน้ำโดนตัด มันก็ต้องดิ้น เคยได้อยู่เท่านั้นเท่านี้จนติดสันดาน จู่ๆ หายไป มันกลับไปจุดเดิมยาก พอเสียจริตก็เผยตัว ไอ้พวกลูกกะจ้อยรองลงไปก็ยิ่งเดือดร้อนกว่า....
    .
    5555 ตอนนี้ก็จะเห็นมันออกมาดิ้นกันเยอะหน่อย
    .
    อย่ามาเล่นบทตอแหลเลยแกร....
    พวกมึงมีจารชน มีสลีปเปอร์ มีเจ้าหน้าสนามระดับปฏิบัติการ
    ประเทศไทยก็มีจารชน มีสลีปเปอร์ มีเจ้าหน้าที่สนามระดับปฏิบัติการ
    บางทีที่พวกมึงคิดว่าตัวเองหลับอยู่ซ่อนอยู่เขาคงไม่รู้... ที่จริงเขารู้
    บางทีที่พวกมึงคิดว่าเขาหลับอยู่ เขาอาจตื่นมาตามดูพวกมึงทุกวันจนรู้ว่ามึงขี้กี่ครั้ง
    อย่าว่าแต่จู่ๆ มึงก็พากันออกมาดิ้นโชว์ตัวให้ชาวบ้านเขารู้กันเองเลย
    .
    ไอ้พวกขายชาติ!
    .
    ลืมบอกไปว่า ในบรรดา sleeper มีพวก unclassified อยู่มากทีเดียว
    พวกกระจอกพวกนี้ จะพยายามอย่างมากที่จะยกระดับขึ้นไป
    แต่แม้จะพยายามเท่าใด ปัญญาและคุณสมบัติก็ไม่เ
    มีคนถามผม ว่าผมใช้คำว่า sleeper บ่อยครั้ง หมายถึงอะไร? . ในกรณีนี้ หมายถึง จารชนชนิดหนึ่ง ทั้งที่เป็นเป็นคนต่างชาติและคนในชาติที่ถูกปล่อยให้กบดานไว้ในพื้นที่เป้าหมาย หากไม่มีการเรียกใช้งานก็ประกอบอาชีพใช้ชีวิตไปตามปกติ จนกว่าจะมีงานให้ทำก็จะถูกปลุกขึ้นมาใช้งาน (เรียกว่าสลีปเปอร์ก็เพราะเหตุนี้) งานที่ให้ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบสายลับในหนังนะ บางทีอาจง่ายๆ เช่นแค่ไปฟังเขาคุยกันแล้วมารายงานว่าได้ยินอะไรมา... ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาวางระเบิด (ซึ่งแบบนี้ก็มี) มีหลายรายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นสลีปเปอร์ ดังนั้นพวกนี้จึงมีหลายระดับ อาจจะผูกกันไว้ด้วยการสร้างบุญคุณต่อกันไว้ ช่วยเหลือการเงินการงานต่างๆ จนถึงพวกที่ถูกคัดกรองเข้ามาทำงานแต่ละด้านที่มีความเหมาะสมกับคนคนนั้นตามความถนัดต่างกัน ซึ่งมีมิติความซับซ้อนกว่าที่คนทั่วไปจะคาดคิด เช่น อาจเป็นพ่อค้าที่ต้องเดินทางไปหลายที่เพื่อส่งสินค้า ดังนั้นการเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ จึงดูมีเหตุผล คนที่มีอาชีพในลักษณะคล้ายกันนี้จึงเหมาะในการไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้กว้างขวางกว่า ก็อย่างเช่น นักมานุษยวิทยา นักทำสารคดี นักพูด วิทยากร นักวิชาการสำรวจภาคสนาม นักสร้างภาพยนตร์ เอ็นจีโอ อาสาสมัคร มิชชันนารี... ฯ ในระดับปฏิบัติการ อาจแฝงตัวมาสร้างความสัมพันธ์ให้คนทั่วไปรู้สึกไว้วางใจ จารชนประเภทนี้เขานิยามว่าสร้างความไว้วางใจนานหลายปีเพื่อทรยศเพียงครั้งเดียว แล้วก็ถอนตัวออกไป พวกนี้มีเครือข่ายกระจายไปทั่ว ฝังรากลึกมานาน . เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด ตัวอย่างเช่นสมัยพระนารายณ์มหาราช อยุธยา มีจารชนฝังตัวอยู่เต็มไปหมด มาในคราบทูต มาในคราบบาดหลวงสอนศาสนา บันทึกการเดินทางที่เรารู้จักกันมากมายตัวอย่างเช่น จดหมายเหตุลาลูแบร์ ที่จริงเป็นข้อมูลข่าวกรอง intelligence แจกแจงรายละเอียดทุกด้านของอยุธยาตั้งแต่ชีวิตความเป็นอยู่ จุดเด่น จุดด้อย สภาพแวดล้อมภูมิประเทศ แหล่งอาหาร ทรัพยากรต่างๆ ชัยภูมิทางการรบ เช่น ป้อม ค่ายคู กำลังทหาร และศักยภาพทางการรบ พืชพันธ์สัตว์ต่างๆ.... ทั้งหมดรวบรวมเพื่อยื่นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่กษัตริย์ฝรั่งเศส แน่นอนว่าลาลูแบร์ที่เป็นราชทูตนี่ก็เป็นจารชนนั่นแหละ มาต่อหน้าเป็นทูต แต่กระทำลับหลังในการประสานกับกองทหารฝรั่งเศสเตรียมการจะโจมตีสยาม ในเวลานั้นมีบาดหลวงนิกายเยซูอิตอีกหลายคนที่เป็นจารชนประเภทสลีปเปอร์นี่แหละ แฝงตัวทำทีเป็นสอนศาสนาไป พอลาลูแบร์มาถึง สลีปเปอร์พวกนี้ก็ทำการประสานส่งต่อข้อมูลรายงานข่าวกรองให้พวกตนทราบ ดังที่ปรากฏจดหมายลับที่ซ่อนอยู่ในหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศสอันเป็นเหตุให้นักเขียนฝรั่งคนหนึ่งที่ไปพบเข้า เขียนหนังสือเรื่อง "รุกสยามในนามพระเจ้า" ที่ผมเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว . แต่โทษที อยากจะบอกว่า สยาม หาได้หมูไม่ ขณะที่นโยบายในการล้างสมองของพวกไอโอเยซูอิตกำลังพยายามหว่านล้อมชักจูงพระนารายณ์ให้ทรงเข้ารีต ท่านทรงตรัสตอบอย่างชาญฉลาดว่า โอ้พระเจ้าของท่านช่างวิเศษล้ำจริงๆ พวกท่านอย่าห่วงเลย หากพระเจ้าของท่านวิเศษอย่างที่ท่านกล่าว เชื่อว่ากฤษฎาภินิหารของท่านจะต้องบันดาลให้ฉันเปลี่ยนไปนับถือศาสนาของท่านแน่นอน... ป๊าด! เป็นคำตอบที่แสนจะอัจฉริยะ. ขณะเดียวกัน ฝั่ง counter strike พระเพทราชาและทีมอินเทลของท่านก็มีข้อมูลของจารชนพวกนี้ทุกอย่าง และทีมไอโอของพระเพทราชาท่านก็ไม่ใช่ไก่อ่อนในการที่จะต้านการครอบงำแทรกแซงของฝรั่งทั้งด้านงานจารกรรมและด้านยุทธศาสตร์ ผลก็คืองานของสลีปเปอร์และเจ้าหน้าที่สนามของฝรั่งเศสไม่ได้ผล จารชนสองหน้าอย่างกองสตองฟอลคอนจบด้วยความตาย แผนการโจมตีป้อมบางกอกล้มเหลว ม้วนเสื่อกลับไป นี่...จะเห็นว่างานจารกรรมและการใช้ไอโอไม่ได้เพิ่งจะมีในยุคนี้นะเธอ . ในงานลับลวงพรางพวกนี้ มีคนจำนวนหนึ่งถูกเลือกเป็นหัวโจก เขาเรียก recruiter เพราะมีหน้าที่คัดเลือกจัดหาสลีปเปอร์ มีการศึกษาข้อมูลบุคคลการล้วงลึก ลูกเต้าเหล่าใคร มีความคิด สติปัญญาระดับไหน มีแนวโน้มจะนิยมชาติที่วางแผนร้ายนี้มากกว่าชาติตัวเองไหม มีปม มีปัญหาส่วนตัวอย่างไร ทัศนคติ สภาพจิต ปูมหลัง คอนเน็คชั่น ศักยภาพในการทำหน้าที่ได้รับมอบหมาย ฯลฯ จะเฝ้าติดตามดูจนเห็นว่าน่าจะโอเค ก็จะชักชวนให้เข้าในเครือข่ายทีละนิด จากวงนอกๆ ก็จะขยับเข้าชั้นในมาเรื่อยๆ ตามการพิสูจน์ตัวเอง ในเมืองไทยมีมานานหลายสิบปีแล้ว มีกันอยู่หลายวง ผูกโยงกับหน่วยงานข้ามชาติในท้องถิ่นเล็กๆ ตั้งแต่มูลนิธินี่นั่น ไปจนถึงเอ็นจีโอ หน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย พวกหน่วยที่มีอักษรตัวย่อทั้งหลายแหล่ ไปจนถึงองค์กรที่ใหญ่ขึ้น จนถึงฟันดิ้งระดับโลก ตัวอย่างเช่น ฟุลไบร๊ท์ ร็อกกี้เฟลเลอร์...เป็นต้น . พวกนี้จะมีแหล่งนัดพบของเขาที่จะไปพบกันเป็นประจำ หัวหน้าจะเปิดเลี้ยงกินดื่มไม่อั้น มีการแชร์ข้อมูลแสดงผลงาน แนวคิด พรีเซนเตชั่น รุ่นพี่อาจเอารุ่นน้องหน้าใหม่มาเสนอตัวให้ recruiter พิจารณา ในบ้านเรามีอยู่หลายวงหลายสาย ไม่ใช่แค่สายผู้ดีสายลึงค์สายถั่ว... คนจมูกดีๆ จะรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง เพราะขณะที่พวกมันสร้างสลีปเปอร์ อีกฝ่ายเขาก็เอาสลีปเปอร์เขาไปฝังอยู่ในพวกมึงเช่นกัน 5555 . พวกที่อยู่มานานฝังรากลึก แน่นอนว่าผลประโยชน์มันมากมันเฟื่องฟู ดังนั้น การที่อยู่สุขสบายมาช้านาน จู่ๆ ท่อน้ำโดนตัด มันก็ต้องดิ้น เคยได้อยู่เท่านั้นเท่านี้จนติดสันดาน จู่ๆ หายไป มันกลับไปจุดเดิมยาก พอเสียจริตก็เผยตัว ไอ้พวกลูกกะจ้อยรองลงไปก็ยิ่งเดือดร้อนกว่า.... . 5555 ตอนนี้ก็จะเห็นมันออกมาดิ้นกันเยอะหน่อย . อย่ามาเล่นบทตอแหลเลยแกร.... พวกมึงมีจารชน มีสลีปเปอร์ มีเจ้าหน้าสนามระดับปฏิบัติการ ประเทศไทยก็มีจารชน มีสลีปเปอร์ มีเจ้าหน้าที่สนามระดับปฏิบัติการ บางทีที่พวกมึงคิดว่าตัวเองหลับอยู่ซ่อนอยู่เขาคงไม่รู้... ที่จริงเขารู้ บางทีที่พวกมึงคิดว่าเขาหลับอยู่ เขาอาจตื่นมาตามดูพวกมึงทุกวันจนรู้ว่ามึงขี้กี่ครั้ง อย่าว่าแต่จู่ๆ มึงก็พากันออกมาดิ้นโชว์ตัวให้ชาวบ้านเขารู้กันเองเลย . ไอ้พวกขายชาติ! . ลืมบอกไปว่า ในบรรดา sleeper มีพวก unclassified อยู่มากทีเดียว พวกกระจอกพวกนี้ จะพยายามอย่างมากที่จะยกระดับขึ้นไป แต่แม้จะพยายามเท่าใด ปัญญาและคุณสมบัติก็ไม่เ
    0 Comments 0 Shares 653 Views 0 Reviews
  • พลิกพื้นดินตึก สตง.หาร่างที่เหลือก่อนปิดจ๊อบ : [NEWS UPDATE]
    นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เปิดพื้นที่แผ่นคอนกรีตซากอาคารถึงชั้นใต้ดินครบแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารทั้งหมด 40x40 เมตร ยังเหลือซากอาคารที่ล้มลงไปกองด้านข้างชิดกับอาคารจอดรถ สูง 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร ซึ่งต้องระวังเครื่องจักรหนักจะไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลง คาดใช้เวลาจบภารกิจ 2-3 วัน ส่วนร่างผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะที่ยังค้างอยู่ที่นิติเวชกว่า 200 ชิ้น ต้องรอผลพิสูจน์ DNA ว่าเป็นมนุษย์กี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งว่า 109 คนหรือไม่ โดยข้อมูลของพนักงานสอบสวนยังค้างอยู่ 13 ราย ในตัวอาคารไม่มีแล้ว ส่วนร่างที่แจ้งว่าพบ 87 ราย สามารถยืนยันและคืนร่างได้ 45 ราย แต่การออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ เท่ากับว่ามีส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องหาว่าข้อมูลที่ได้มาคลาดเคลื่อนตรงไหน เพราะหน้างานเราเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่ม เป็นการพลิกแผ่นดิน พลิกพื้นอาคารออกหมด เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่ามีหรือไม่มี


    เพิ่มกำลังดูแลชายแดนใต้

    ซัดสื่อตีปลาหน้าไซ

    ยื้อแจกเงินหมื่น

    วุฒิสภาศักดิ์สูงกว่าดีเอสไอ
    พลิกพื้นดินตึก สตง.หาร่างที่เหลือก่อนปิดจ๊อบ : [NEWS UPDATE] นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เปิดพื้นที่แผ่นคอนกรีตซากอาคารถึงชั้นใต้ดินครบแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารทั้งหมด 40x40 เมตร ยังเหลือซากอาคารที่ล้มลงไปกองด้านข้างชิดกับอาคารจอดรถ สูง 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร ซึ่งต้องระวังเครื่องจักรหนักจะไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลง คาดใช้เวลาจบภารกิจ 2-3 วัน ส่วนร่างผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะที่ยังค้างอยู่ที่นิติเวชกว่า 200 ชิ้น ต้องรอผลพิสูจน์ DNA ว่าเป็นมนุษย์กี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งว่า 109 คนหรือไม่ โดยข้อมูลของพนักงานสอบสวนยังค้างอยู่ 13 ราย ในตัวอาคารไม่มีแล้ว ส่วนร่างที่แจ้งว่าพบ 87 ราย สามารถยืนยันและคืนร่างได้ 45 ราย แต่การออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ เท่ากับว่ามีส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องหาว่าข้อมูลที่ได้มาคลาดเคลื่อนตรงไหน เพราะหน้างานเราเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่ม เป็นการพลิกแผ่นดิน พลิกพื้นอาคารออกหมด เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่ามีหรือไม่มี เพิ่มกำลังดูแลชายแดนใต้ ซัดสื่อตีปลาหน้าไซ ยื้อแจกเงินหมื่น วุฒิสภาศักดิ์สูงกว่าดีเอสไอ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 736 Views 30 0 Reviews
  • นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เปิดพื้นที่และแผ่นคอนกรีตรวมทั้งซากอาคารทั้งหมดถึงชั้นใต้ดินครบแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารทั้งหมด 40x40 เมตร ยังเหลือซากอาคารที่ล้มลงไปกองด้านข้างชิดกับอาคารจอดรถ สูง 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร แม้เนื้องานไม่มากแต่ต้องระมัดระวังเครื่องจักรหนักที่จะไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลง คาดใช้เวลา 2-3 วัน จะจบภารกิจ ส่วนการนําร่างผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะที่ยังค้างอยู่ที่นิติเวช กว่า 200 ชิ้น ต้องรอผลพิสูจน์ DNA ว่าเป็นร่างมนุษย์กี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งมาว่า 109 คนหรือไม่ โดยข้อมูลของพนักงานสอบสวนยังค้างอยู่ 13 ราย ในตัวอาคารไม่มีแล้ว ส่วนร่างที่แจ้งว่าพบ 87 ราย สามารถยืนยันและคืนร่างได้ 45 ราย แต่การออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ เท่ากับว่ามีส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องหาว่าข้อมูลที่ได้มาคลาดเคลื่อนตรงไหน เพราะหน้างานเราเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่ม
    นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เปิดพื้นที่และแผ่นคอนกรีตรวมทั้งซากอาคารทั้งหมดถึงชั้นใต้ดินครบแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารทั้งหมด 40x40 เมตร ยังเหลือซากอาคารที่ล้มลงไปกองด้านข้างชิดกับอาคารจอดรถ สูง 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร แม้เนื้องานไม่มากแต่ต้องระมัดระวังเครื่องจักรหนักที่จะไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลง คาดใช้เวลา 2-3 วัน จะจบภารกิจ ส่วนการนําร่างผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะที่ยังค้างอยู่ที่นิติเวช กว่า 200 ชิ้น ต้องรอผลพิสูจน์ DNA ว่าเป็นร่างมนุษย์กี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งมาว่า 109 คนหรือไม่ โดยข้อมูลของพนักงานสอบสวนยังค้างอยู่ 13 ราย ในตัวอาคารไม่มีแล้ว ส่วนร่างที่แจ้งว่าพบ 87 ราย สามารถยืนยันและคืนร่างได้ 45 ราย แต่การออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ เท่ากับว่ามีส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องหาว่าข้อมูลที่ได้มาคลาดเคลื่อนตรงไหน เพราะหน้างานเราเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่ม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 688 Views 16 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 41 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 17 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 186,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ธีระกิตติวัฒนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดเก่าพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
    .
    โดยวานนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอัคคีภัยบริเวณชุมชนใกล้สำนักงานเขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ รวมจำนวน 42 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว จำนวน 14 ชุด และรายบุคคล จำนวน 3 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท และ พุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้ง 3 องค์กรทั้งสิ้น 211,700 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    .
    รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 397,700 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท . วันนี้ (วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 41 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 17 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 186,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ธีระกิตติวัฒนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดเก่าพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา . โดยวานนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอัคคีภัยบริเวณชุมชนใกล้สำนักงานเขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ รวมจำนวน 42 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว จำนวน 14 ชุด และรายบุคคล จำนวน 3 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท และ พุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้ง 3 องค์กรทั้งสิ้น 211,700 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) . รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 397,700 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 625 Views 0 Reviews
  • สาวโคราชโชคดี ซื้อสลากกาชาด 4 ใบ รับรถราคาหลักล้านไปครอง เตรียมกราบสักการะย่าโมหลังได้โชค
    .
    วันที่ 28 เมษายน 2568 ที่บริเวณลานจอดรถศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานการมอบรางวัลสลากกาชาดประจำปี 2568 โดยทำการออกรางวัลเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ซึ่งก็ได้ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากหลายอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา สำหรับรางวัลสลากกาชาดนั้นก็มีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ 10 คัน และรถยนต์อีก 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 3.3 ล้านบาท ซึ่งรางวัลที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษก็คือรถยนต์ทั้ง 3 คัน โดยรางวัลที่ 1 นั้นเป็นรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนั้นได้แก่นางสาวสุนทรี ขวางกระโทก ชาวอำเภอด่านขุนทด ที่มาพร้อมกับญาติพี่น้องที่มารอขับ ฟอร์จูนเนอร์กลับบ้าน และที่สำคัญรางวัลทั้งหมดนั้นไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
    .
    นางสาวสุนทรีฯ บอกว่า "ตนรู้สึกดีใจที่ได้ถูกรางวัลสลากกาชาดในครั้งนี้ เพราะตนก็ไม่คิดว่าจะถูกรางวัลที่ซื้อสลากกาชาดก็เพราะต้องการที่จะร่วมทำบุญกับกาชาดเพราะตนซื้อเพียง 4 ใบเท่านั้น ทั้งนี้หลังถูกรางวัลก็เตรียมจะไปกราบสักการะย่าโมที่ให้โชคลาภ"
    .
    สำหรับสลากการชาดประจำปี 2568 นั้น ทางกาชาดจังหวัดนครราชสีมานั้นได้ทำออกมาทั้งหมด 99,999 ฉบับเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนและจะนำเงินรายได้นั้นสมทบทุนเอาไว้ทำกิจกรรมสาธารณกุศล ทั้งการมอบถุงยังชีพรวมไปถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆในพื้นที่.
    สาวโคราชโชคดี ซื้อสลากกาชาด 4 ใบ รับรถราคาหลักล้านไปครอง เตรียมกราบสักการะย่าโมหลังได้โชค . วันที่ 28 เมษายน 2568 ที่บริเวณลานจอดรถศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานการมอบรางวัลสลากกาชาดประจำปี 2568 โดยทำการออกรางวัลเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ซึ่งก็ได้ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากหลายอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา สำหรับรางวัลสลากกาชาดนั้นก็มีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ 10 คัน และรถยนต์อีก 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 3.3 ล้านบาท ซึ่งรางวัลที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษก็คือรถยนต์ทั้ง 3 คัน โดยรางวัลที่ 1 นั้นเป็นรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนั้นได้แก่นางสาวสุนทรี ขวางกระโทก ชาวอำเภอด่านขุนทด ที่มาพร้อมกับญาติพี่น้องที่มารอขับ ฟอร์จูนเนอร์กลับบ้าน และที่สำคัญรางวัลทั้งหมดนั้นไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว . นางสาวสุนทรีฯ บอกว่า "ตนรู้สึกดีใจที่ได้ถูกรางวัลสลากกาชาดในครั้งนี้ เพราะตนก็ไม่คิดว่าจะถูกรางวัลที่ซื้อสลากกาชาดก็เพราะต้องการที่จะร่วมทำบุญกับกาชาดเพราะตนซื้อเพียง 4 ใบเท่านั้น ทั้งนี้หลังถูกรางวัลก็เตรียมจะไปกราบสักการะย่าโมที่ให้โชคลาภ" . สำหรับสลากการชาดประจำปี 2568 นั้น ทางกาชาดจังหวัดนครราชสีมานั้นได้ทำออกมาทั้งหมด 99,999 ฉบับเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนและจะนำเงินรายได้นั้นสมทบทุนเอาไว้ทำกิจกรรมสาธารณกุศล ทั้งการมอบถุงยังชีพรวมไปถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆในพื้นที่.
    0 Comments 0 Shares 484 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลุยเดินสายซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ - เยียวยาผู้ประสบภัยอัคคีภัย ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และ มอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่อง
    .
    วันนี้ (วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ.2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ซอยโรงธูป อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมจำนวน 49 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค รวมจำนวน 17 ชุด รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งสิ้น 214,000 บาท โดยมี นายนรสิงห์ อรุณบรรเจิดกุล ปลัดเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองบ้านโป่ง พร้อมด้วย คณะมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี และ คณะอาสาสมัครเฉพาะกิจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ เทศบาลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หลังจากนั้น นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว จำนวน 7 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 140,000 บาท
    .
    รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทั้งสองเหตุเป็นเงินทั้งสิ้น 354,000 บาท (สามแสนห้าหมื่นสี่พันบาทถ้วน) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอแสดงความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้ง และขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกท่านมา ณ ที่นี้
    .
    เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดำเนินการเชิงรุกอย่างบูรณาการร่วมกันทั้งด้านงานบรรเทาสาธารณภัย และงานสังคมสงเคราะห์ ดังเช่น เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ได้จัดส่งทีมสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลที่ทำการอพยพและเปิดรับบริจาคสิ่งของ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บ ทั้งชาวไทยและเมียนมา รวมมูลค่าการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวจนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยปัจจุบันมูลนิธิฯ ยังคงติดตามและเข้ามอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้ประสบเหตุดังกล่าวต่อไป
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป ท่านสามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    กว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลุยเดินสายซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ - เยียวยาผู้ประสบภัยอัคคีภัย ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และ มอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่อง . วันนี้ (วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ.2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ซอยโรงธูป อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมจำนวน 49 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค รวมจำนวน 17 ชุด รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งสิ้น 214,000 บาท โดยมี นายนรสิงห์ อรุณบรรเจิดกุล ปลัดเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองบ้านโป่ง พร้อมด้วย คณะมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี และ คณะอาสาสมัครเฉพาะกิจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ เทศบาลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หลังจากนั้น นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว จำนวน 7 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 140,000 บาท . รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทั้งสองเหตุเป็นเงินทั้งสิ้น 354,000 บาท (สามแสนห้าหมื่นสี่พันบาทถ้วน) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอแสดงความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้ง และขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกท่านมา ณ ที่นี้ . เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดำเนินการเชิงรุกอย่างบูรณาการร่วมกันทั้งด้านงานบรรเทาสาธารณภัย และงานสังคมสงเคราะห์ ดังเช่น เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ได้จัดส่งทีมสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลที่ทำการอพยพและเปิดรับบริจาคสิ่งของ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บ ทั้งชาวไทยและเมียนมา รวมมูลค่าการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวจนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยปัจจุบันมูลนิธิฯ ยังคงติดตามและเข้ามอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้ประสบเหตุดังกล่าวต่อไป . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป ท่านสามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . กว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    0 Comments 0 Shares 739 Views 0 Reviews
  • ผอ.สำนักป้องกันฯ เผยล่าสุดนำร่างผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม ออกมาได้อีก 4 ราย เป้าหมายหลังจากนี้ลดความสูงซากตึกให้เหลือแค่ชั้นที่ 1 ภายในสิ้นเดือนนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037266

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผอ.สำนักป้องกันฯ เผยล่าสุดนำร่างผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม ออกมาได้อีก 4 ราย เป้าหมายหลังจากนี้ลดความสูงซากตึกให้เหลือแค่ชั้นที่ 1 ภายในสิ้นเดือนนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037266 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 468 Views 0 Reviews
  • ♣ อายจรนี่มันไหม จรนี่มาช่วยทุกวัน ตั้งแต่วันถล่มยันวันนี้ 20 กว่าวัน ช่วยทีมกู้ภัยค้นหาจนเจอร่างผู้ประสบภัย 2 ร่าง จรนี่ผู้มีราคากว่าผู้ว่าฯ-รองฯ
    #7ดอกจิก
    #จรนี่
    ♣ อายจรนี่มันไหม จรนี่มาช่วยทุกวัน ตั้งแต่วันถล่มยันวันนี้ 20 กว่าวัน ช่วยทีมกู้ภัยค้นหาจนเจอร่างผู้ประสบภัย 2 ร่าง จรนี่ผู้มีราคากว่าผู้ว่าฯ-รองฯ #7ดอกจิก #จรนี่
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 Comments 0 Shares 1459 Views 0 Reviews
  • รอง ผู้ว่าฯ กทม.เผยความคืบหน้าเหตุตึก สตง.พังถล่ม พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ราย เตรียมจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท 18 เม.ย.นี้

    วันนี้ (15 เม.ย.) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าปฏิบัติการรื้อซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม และการค้นหาผู้ประสบภัยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามลดความสูงของซากอาคารโดยการเข้ารื้อถอนเข้าจากทุกด้าน ทำให้เมื่อคืนนี้ สามารถนำร่างออกมาได้เพิ่มเติมรวมทั้งหมดตอนนี้พบร่างผู้เสียชีวิต 44 ราย และยังค้นหาผู้สูญหายตามรายชื่ออีก 50 ราย ซึ่งพบว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ร่างส่วนใหญ่อยู่บริเวณบันไดหนีไฟ ในโซน C เชื่อมต่อโซน B

    ทั้งนี้ยืนยันว่า ปฏิบัติการทั้งหมดยังคงเป็นไปตามแผน แต่มีอุปสรรคสำคัญคือ พบขดลวดเป็นจำนวนมากในซากอาคารจึงจำเป็นต้องใช้ รถตัดเหล็กเส้นแบบแก๊ส ซึ่งตอนนี้มีประจำอยู่หน้างานแล้ว 1 คันแต่วันนี้จะนำมาเพิ่มอีก 1 คันเพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะให้รถใหญ่เข้าไปรื้อถอนลดความสูงของซากอาคารให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันความสูงของซากอาคารเหลือ 19 เมตร โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเครนขนาดเล็กออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้รถเครนขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้สามารถเข้าหน้างานได้สะดวกมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ต้องใช้เครื่องจักรใหญ่ที่หน้างาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035674

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    รอง ผู้ว่าฯ กทม.เผยความคืบหน้าเหตุตึก สตง.พังถล่ม พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ราย เตรียมจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท 18 เม.ย.นี้ • วันนี้ (15 เม.ย.) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าปฏิบัติการรื้อซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม และการค้นหาผู้ประสบภัยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามลดความสูงของซากอาคารโดยการเข้ารื้อถอนเข้าจากทุกด้าน ทำให้เมื่อคืนนี้ สามารถนำร่างออกมาได้เพิ่มเติมรวมทั้งหมดตอนนี้พบร่างผู้เสียชีวิต 44 ราย และยังค้นหาผู้สูญหายตามรายชื่ออีก 50 ราย ซึ่งพบว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ร่างส่วนใหญ่อยู่บริเวณบันไดหนีไฟ ในโซน C เชื่อมต่อโซน B • ทั้งนี้ยืนยันว่า ปฏิบัติการทั้งหมดยังคงเป็นไปตามแผน แต่มีอุปสรรคสำคัญคือ พบขดลวดเป็นจำนวนมากในซากอาคารจึงจำเป็นต้องใช้ รถตัดเหล็กเส้นแบบแก๊ส ซึ่งตอนนี้มีประจำอยู่หน้างานแล้ว 1 คันแต่วันนี้จะนำมาเพิ่มอีก 1 คันเพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะให้รถใหญ่เข้าไปรื้อถอนลดความสูงของซากอาคารให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันความสูงของซากอาคารเหลือ 19 เมตร โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเครนขนาดเล็กออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้รถเครนขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้สามารถเข้าหน้างานได้สะดวกมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ต้องใช้เครื่องจักรใหญ่ที่หน้างาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035674 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 403 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าฯ กทม. “ชัชชาติ” ย้ำไม่มีอุปสรรค แม้กู้ภัยภาคเอกชนบางส่วนเริ่มถอนตัว ชี้ทีมรัฐยังเดินหน้าค้นหาผู้ประสบภัยเต็มกำลัง พบหลักฐานบ่งชี้มีแรงงานจำนวนมากติดค้างอยู่บริเวณชั้น 24-29 ของซากอาคาร สตง. เร่งใช้เครื่องจักรหนัก-โดรนค้นหาต่อเนื่อง หวังเจอผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมใน 1-2 วันนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035444

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    ผู้ว่าฯ กทม. “ชัชชาติ” ย้ำไม่มีอุปสรรค แม้กู้ภัยภาคเอกชนบางส่วนเริ่มถอนตัว ชี้ทีมรัฐยังเดินหน้าค้นหาผู้ประสบภัยเต็มกำลัง พบหลักฐานบ่งชี้มีแรงงานจำนวนมากติดค้างอยู่บริเวณชั้น 24-29 ของซากอาคาร สตง. เร่งใช้เครื่องจักรหนัก-โดรนค้นหาต่อเนื่อง หวังเจอผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมใน 1-2 วันนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035444 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 แมกนิจูดในเช้าวันอาทิตย์ (13) ใกล้กับเมืองเมกติลา เมืองเล็กๆ ในภาคกลางของพม่า ตามการรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ

    แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่พม่ากำลังให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่บริเวณภาคกลางของประเทศเมื่อวันที่ 28 มี.ค. โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดอยู่บริเวณระหว่างเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อเดือนก่อน และกรุงเนปีดอ เมืองหลวง ที่อาคารสำนักงานของรัฐบาลได้รับความเสียหายหลายแห่ง

    ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหม่ ที่เป็นหนึ่งในอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงที่สุดจากหลายร้อยครั้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยว่า นับจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งดังกล่าวแล้ว 3,649 คน ได้รับบาดเจ็บ 5,018 คน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035283

    #MGROnline #แผ่นดินไหว
    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 แมกนิจูดในเช้าวันอาทิตย์ (13) ใกล้กับเมืองเมกติลา เมืองเล็กๆ ในภาคกลางของพม่า ตามการรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ • แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่พม่ากำลังให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่บริเวณภาคกลางของประเทศเมื่อวันที่ 28 มี.ค. โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดอยู่บริเวณระหว่างเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อเดือนก่อน และกรุงเนปีดอ เมืองหลวง ที่อาคารสำนักงานของรัฐบาลได้รับความเสียหายหลายแห่ง • ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหม่ ที่เป็นหนึ่งในอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงที่สุดจากหลายร้อยครั้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยว่า นับจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งดังกล่าวแล้ว 3,649 คน ได้รับบาดเจ็บ 5,018 คน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035283 • #MGROnline #แผ่นดินไหว
    0 Comments 0 Shares 526 Views 0 Reviews
  • การแพร่กระจายข้อมูลเท็จหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลและการสนับสนุนองค์กรช่วยเหลือในพื้นที่ การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในช่วงวิกฤต

    การแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ:
    - หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เช่น วิดีโอที่สร้างจาก AI หรือภาพจากเหตุการณ์ในประเทศอื่น
    - ข้อมูลเท็จเหล่านี้ถูกใช้เพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา โดยผู้สร้างเนื้อหาได้รับเงินจากการแชร์และการดู

    ผลกระทบต่อการช่วยเหลือ:
    - การแพร่กระจายข้อมูลเท็จทำให้เกิดความตื่นตระหนกและขัดขวางการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
    - องค์กรช่วยเหลือและประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง

    การตอบสนองของแพลตฟอร์ม:
    - Meta และ TikTok ได้ดำเนินการลบโพสต์ที่มีข้อมูลเท็จและแนะนำแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
    - TikTok มีการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกว่า 50 ภาษาเพื่อจัดการกับข้อมูลเท็จ

    ความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูล:
    - การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในช่วงวิกฤตเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากข้อมูลที่ผิดพลาดอาจส่งผลต่อชีวิตและความปลอดภัย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/making-money-out-of-a-disaster-fake-news-in-myanmar-quake
    การแพร่กระจายข้อมูลเท็จหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลและการสนับสนุนองค์กรช่วยเหลือในพื้นที่ การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในช่วงวิกฤต ✅ การแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ: - หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เช่น วิดีโอที่สร้างจาก AI หรือภาพจากเหตุการณ์ในประเทศอื่น - ข้อมูลเท็จเหล่านี้ถูกใช้เพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา โดยผู้สร้างเนื้อหาได้รับเงินจากการแชร์และการดู ✅ ผลกระทบต่อการช่วยเหลือ: - การแพร่กระจายข้อมูลเท็จทำให้เกิดความตื่นตระหนกและขัดขวางการช่วยเหลือผู้ประสบภัย - องค์กรช่วยเหลือและประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ✅ การตอบสนองของแพลตฟอร์ม: - Meta และ TikTok ได้ดำเนินการลบโพสต์ที่มีข้อมูลเท็จและแนะนำแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ - TikTok มีการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกว่า 50 ภาษาเพื่อจัดการกับข้อมูลเท็จ ✅ ความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูล: - การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในช่วงวิกฤตเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากข้อมูลที่ผิดพลาดอาจส่งผลต่อชีวิตและความปลอดภัย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/making-money-out-of-a-disaster-fake-news-in-myanmar-quake
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Making money out of a disaster: fake news in Myanmar quake
    Creators and social platforms cash in as misinformation floods newsfeeds after Myanmar quake.
    0 Comments 0 Shares 345 Views 0 Reviews
  • แสงไฟแห่งความหวัง มือยกหินเร่งช่วยชีวิต : [NEWS UPDATE]
    นายภคพล เมธีภักดี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เผยนาทีเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ ใต้ซากตึก สตง. หลายวันที่ผ่านมาพยายามเจาะหาโพรง เพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัย วันนี้เข้าซ้ำจุดเดิม เมื่อเดินเข้าไปน้องฟี่ได้ยินเสียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่เวลาเปิดเครื่องจะมีเสียงดัง เป็นเครื่องแอนดรอยด์ น้องก็หยุดฟังคิดว่าไม่น่ามาจากกู้ภัยด้วยกัน มั่นใจว่ามาจากโพรงด้านล่างความกว้างประมาณ 50 ซม. น้องก็ชะโงกหน้าดู บอกว่าเห็นแสงไฟสีขาวด้านล่าง จึงเรียกมูลนิธิปอเต็กตึงและทีมยูซา ซึ่งมีกล้องงูสอดลงไปเห็นแสงไฟสีขาวคาดมาจากสมาร์ทโฟน จึงพูดว่าถ้าเป็นคนอยู่ข้างล่างให้เปิดปิดไฟมือถือ พอสิ้นเสียงให้ปิดไฟแสงไฟสีขาวก็ดับลง แล้วก็บอกอีกครั้งว่าเปิดไฟปิดไฟสลับไปมา แสงไฟก็ดับๆ ปิดๆ ตามคำสั่งของทีมกู้ภัย มั่นใจอาจมีความหวัง โดยทีมยูซาเอากล้องเรดาร์เข้าไปส่องในโพรง แสดงภาพลักษณะร่างกายมนุษย์ ห่างจากพื้นดินลงไป 1 เมตรคนแรก ส่วนคนที่สองลึกลงไป 3 เมตร ยังไม่ฟันธงเป็นสัญญาณชีพของคนรอดชีวิต เร่งเติมอากาศให้เขาได้หายใจ หวังให้เป็นคนรอดชีวิต
    แสงไฟแห่งความหวัง มือยกหินเร่งช่วยชีวิต : [NEWS UPDATE] นายภคพล เมธีภักดี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เผยนาทีเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ ใต้ซากตึก สตง. หลายวันที่ผ่านมาพยายามเจาะหาโพรง เพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัย วันนี้เข้าซ้ำจุดเดิม เมื่อเดินเข้าไปน้องฟี่ได้ยินเสียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่เวลาเปิดเครื่องจะมีเสียงดัง เป็นเครื่องแอนดรอยด์ น้องก็หยุดฟังคิดว่าไม่น่ามาจากกู้ภัยด้วยกัน มั่นใจว่ามาจากโพรงด้านล่างความกว้างประมาณ 50 ซม. น้องก็ชะโงกหน้าดู บอกว่าเห็นแสงไฟสีขาวด้านล่าง จึงเรียกมูลนิธิปอเต็กตึงและทีมยูซา ซึ่งมีกล้องงูสอดลงไปเห็นแสงไฟสีขาวคาดมาจากสมาร์ทโฟน จึงพูดว่าถ้าเป็นคนอยู่ข้างล่างให้เปิดปิดไฟมือถือ พอสิ้นเสียงให้ปิดไฟแสงไฟสีขาวก็ดับลง แล้วก็บอกอีกครั้งว่าเปิดไฟปิดไฟสลับไปมา แสงไฟก็ดับๆ ปิดๆ ตามคำสั่งของทีมกู้ภัย มั่นใจอาจมีความหวัง โดยทีมยูซาเอากล้องเรดาร์เข้าไปส่องในโพรง แสดงภาพลักษณะร่างกายมนุษย์ ห่างจากพื้นดินลงไป 1 เมตรคนแรก ส่วนคนที่สองลึกลงไป 3 เมตร ยังไม่ฟันธงเป็นสัญญาณชีพของคนรอดชีวิต เร่งเติมอากาศให้เขาได้หายใจ หวังให้เป็นคนรอดชีวิต
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 804 Views 25 0 Reviews
  • นาทีกู้ภัยเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ใต้ซากตึก : [THE MESSAGE]
    นายภคพล เมธีภักดี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เผยนาทีเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ ใต้ซากตึก สตง. หลายวันที่ผ่านมาพยายามเจาะหาโพรง เพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัย วันนี้เข้าซ้ำจุดเดิม เมื่อเดินเข้าไปน้องฟี่ได้ยินเสียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่เวลาเปิดเครื่องจะมีเสียงดัง เป็นเครื่องแอนดรอยด์ น้องก็หยุดฟังคิดว่าไม่น่ามาจากกู้ภัยด้วยกัน มั่นใจว่ามาจากโพรงด้านล่างความกว้างประมาณ 50 ซม. น้องก็ชะโงกหน้าดู บอกว่าเห็นแสงไฟสีขาวด้านล่าง จึงเรียกมูลนิธิปอเต็กตึงและทีมยูซา ซึ่งมีกล้องงูสอดลงไปเห็นแสงไฟสีขาวคาดมาจากสมาร์ทโฟน จึงพูดว่าถ้าเป็นคนอยู่ข้างล่างให้เปิดปิดไฟมือถือ พอสิ้นเสียงให้ปิดไฟแสงไฟสีขาวก็ดับลง แล้วก็บอกอีกครั้งว่าเปิดไฟปิดไฟสลับไปมา แสงไฟก็ดับๆ ปิดๆ ตามคำสั่งของทีมกู้ภัย มั่นใจอาจมีความหวัง โดยทีมยูซาเอากล้องเรดาร์เข้าไปส่องในโพรง แสดงภาพลักษณะร่างกายมนุษย์ ห่างจากพื้นดินลงไป 1 เมตรคนแรก ส่วนคนที่สองลึกลงไป 3 เมตร ยังไม่ฟันธงเป็นสัญญาณชีพของคนรอดชีวิต เร่งเติมอากาศให้เขาได้หายใจ หวังให้เป็นคนรอดชีวิต
    นาทีกู้ภัยเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ใต้ซากตึก : [THE MESSAGE] นายภคพล เมธีภักดี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เผยนาทีเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ ใต้ซากตึก สตง. หลายวันที่ผ่านมาพยายามเจาะหาโพรง เพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัย วันนี้เข้าซ้ำจุดเดิม เมื่อเดินเข้าไปน้องฟี่ได้ยินเสียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่เวลาเปิดเครื่องจะมีเสียงดัง เป็นเครื่องแอนดรอยด์ น้องก็หยุดฟังคิดว่าไม่น่ามาจากกู้ภัยด้วยกัน มั่นใจว่ามาจากโพรงด้านล่างความกว้างประมาณ 50 ซม. น้องก็ชะโงกหน้าดู บอกว่าเห็นแสงไฟสีขาวด้านล่าง จึงเรียกมูลนิธิปอเต็กตึงและทีมยูซา ซึ่งมีกล้องงูสอดลงไปเห็นแสงไฟสีขาวคาดมาจากสมาร์ทโฟน จึงพูดว่าถ้าเป็นคนอยู่ข้างล่างให้เปิดปิดไฟมือถือ พอสิ้นเสียงให้ปิดไฟแสงไฟสีขาวก็ดับลง แล้วก็บอกอีกครั้งว่าเปิดไฟปิดไฟสลับไปมา แสงไฟก็ดับๆ ปิดๆ ตามคำสั่งของทีมกู้ภัย มั่นใจอาจมีความหวัง โดยทีมยูซาเอากล้องเรดาร์เข้าไปส่องในโพรง แสดงภาพลักษณะร่างกายมนุษย์ ห่างจากพื้นดินลงไป 1 เมตรคนแรก ส่วนคนที่สองลึกลงไป 3 เมตร ยังไม่ฟันธงเป็นสัญญาณชีพของคนรอดชีวิต เร่งเติมอากาศให้เขาได้หายใจ หวังให้เป็นคนรอดชีวิต
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 719 Views 25 0 Reviews
  • ผ่านไป 13 วัน สตง.เพิ่งเปิดปาก

    นับเป็นการเปิดปากครั้งแรก สำหรับนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้อาคารสูง 30 ชั้น โครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ เขตจตุจักร กทม. ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก แต่กลับมีเพียงอีเมลภายใน ที่ทำให้สาธารณชนโกรธแค้น ผ่านพ้นไป 13 วัน เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เจ้าตัวได้เข้าร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์เพื่อผู้ประสบภัยและผู้สูญหาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ ไปงานศพทุกงาน ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมทำบุญให้กับผู้เสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บตนกับผู้บริหารก็ไปเยี่ยมทุกโรงพยาบาล ทุกคน

    ส่วนที่สังคมทัวร์ลง สตง.นั้น ยืนยันว่าเราทำงานตลอดเวลา ตอนนี้ชีวิตคนกับความสูญเสียเป็นเรื่องสำคัญ จะต้องดูแลก่อนว่าญาติพี่น้องที่ลำบากและชีวิตที่สูญเสียไปจะทำอย่างไร ทุกครั้งที่คนของเราไปร่วมงานศพญาติผู้เสียชีวิตก็บอกว่ามีเพียง สตง.ที่เข้าไปดูแลเขา ส่วนผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลพวกเขาก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ฉะนั้นสิ่งที่จะทำในวันนี้คือจะดูแล ซึ่งญาติได้ประสานใช้ล่ามที่ทำงานประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พาญาติไปติดต่อตรวจ DNA และติดต่อเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ทำมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผมก็อยู่ที่นี่ตั้งแต่วันแรก ว่างก็มา วันแรกที่มาก็กลับถึงบ้านเที่ยงคืน ส่วนการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

    ด้านนายสุทธิพงษ์ บุญนิธ รองผู้ว่าฯ สตง.ชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระฯ ระบุว่า มั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถนนสุดสายวิ่งมาที่ สตง.แมลงวันบินผ่านก็ด่าได้ ยืนยันว่าทุกอย่างยึดหลักกฎหมาย ส่วนกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ไม่พบช่องว่ามีการฮั้ว คำตอบที่ได้รับคือบริษัทดังกล่าวมีทุนและเทคโนโลยีจากจีน บริษัทก็อ้างว่าทำงานได้แม้จะได้งบประมาณตามที่เสนอราคาไว้ โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี แต่ขยาย 2 ครั้ง เนื่องจากโควิดและมีการปรับรูปแบบ

    เมื่อผ่านไป 4 ปี เพิ่งได้ 33% เพราะผู้รับก่อสร้างมีปัญหาเรื่องทุน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุจึงมีมติบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. อยู่ระหว่างเสนอเรื่องแต่มาเกิดเหตุเสียก่อน ยืนยันว่าไม่เคยรู้เรื่องบริษัทจีน เพราะอิตาเลียนไทยออกหน้าตลอด สตง.ยังดีอยู่เลยที่ได้บริษัทเบอร์ 1 ของประเทศ ถึงกระนั้น ยังคงจะต้องดำเนินการก่อสร้างอาคาร สตง. เช่นเดิม แต่จะไม่สร้างทับจุดที่ตึกถล่ม จะเลื่อนออกมาข้างหน้า ใช้งบประมาณไม่ถึง 2,000 ล้านบาท ใช้แอร์แบบธรรมดา เวลาเสียจะได้ไม่ต้องซ่อมยาก แต่ที่สำคัญต้องใส่เทคโนโลยีความทันสมัยในการทำงาน และคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณที่เหลือนำมาสร้าง

    #Newskit
    ผ่านไป 13 วัน สตง.เพิ่งเปิดปาก นับเป็นการเปิดปากครั้งแรก สำหรับนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้อาคารสูง 30 ชั้น โครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ เขตจตุจักร กทม. ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก แต่กลับมีเพียงอีเมลภายใน ที่ทำให้สาธารณชนโกรธแค้น ผ่านพ้นไป 13 วัน เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เจ้าตัวได้เข้าร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์เพื่อผู้ประสบภัยและผู้สูญหาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ ไปงานศพทุกงาน ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมทำบุญให้กับผู้เสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บตนกับผู้บริหารก็ไปเยี่ยมทุกโรงพยาบาล ทุกคน ส่วนที่สังคมทัวร์ลง สตง.นั้น ยืนยันว่าเราทำงานตลอดเวลา ตอนนี้ชีวิตคนกับความสูญเสียเป็นเรื่องสำคัญ จะต้องดูแลก่อนว่าญาติพี่น้องที่ลำบากและชีวิตที่สูญเสียไปจะทำอย่างไร ทุกครั้งที่คนของเราไปร่วมงานศพญาติผู้เสียชีวิตก็บอกว่ามีเพียง สตง.ที่เข้าไปดูแลเขา ส่วนผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลพวกเขาก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ฉะนั้นสิ่งที่จะทำในวันนี้คือจะดูแล ซึ่งญาติได้ประสานใช้ล่ามที่ทำงานประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พาญาติไปติดต่อตรวจ DNA และติดต่อเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ทำมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผมก็อยู่ที่นี่ตั้งแต่วันแรก ว่างก็มา วันแรกที่มาก็กลับถึงบ้านเที่ยงคืน ส่วนการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ด้านนายสุทธิพงษ์ บุญนิธ รองผู้ว่าฯ สตง.ชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระฯ ระบุว่า มั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถนนสุดสายวิ่งมาที่ สตง.แมลงวันบินผ่านก็ด่าได้ ยืนยันว่าทุกอย่างยึดหลักกฎหมาย ส่วนกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ไม่พบช่องว่ามีการฮั้ว คำตอบที่ได้รับคือบริษัทดังกล่าวมีทุนและเทคโนโลยีจากจีน บริษัทก็อ้างว่าทำงานได้แม้จะได้งบประมาณตามที่เสนอราคาไว้ โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี แต่ขยาย 2 ครั้ง เนื่องจากโควิดและมีการปรับรูปแบบ เมื่อผ่านไป 4 ปี เพิ่งได้ 33% เพราะผู้รับก่อสร้างมีปัญหาเรื่องทุน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุจึงมีมติบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. อยู่ระหว่างเสนอเรื่องแต่มาเกิดเหตุเสียก่อน ยืนยันว่าไม่เคยรู้เรื่องบริษัทจีน เพราะอิตาเลียนไทยออกหน้าตลอด สตง.ยังดีอยู่เลยที่ได้บริษัทเบอร์ 1 ของประเทศ ถึงกระนั้น ยังคงจะต้องดำเนินการก่อสร้างอาคาร สตง. เช่นเดิม แต่จะไม่สร้างทับจุดที่ตึกถล่ม จะเลื่อนออกมาข้างหน้า ใช้งบประมาณไม่ถึง 2,000 ล้านบาท ใช้แอร์แบบธรรมดา เวลาเสียจะได้ไม่ต้องซ่อมยาก แต่ที่สำคัญต้องใส่เทคโนโลยีความทันสมัยในการทำงาน และคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณที่เหลือนำมาสร้าง #Newskit
    Sad
    Like
    Wow
    5
    1 Comments 0 Shares 639 Views 0 Reviews
  • K9 ภารกิจ4ขา ค้นหาผู้ประสบภัย : คนเคาะข่าว 09-04-68

    ร่วมสนทนา
    ดร.อลงกต ชูแก้ว รองผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K-9 USAR และ ธนวรรณ ลีหัวสระ ผู้บังคับสุนัข K9 นารี
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #คนเคาะข่าว #news1
    #ตึกถล่ม #สุนัขK9 #K9USAR #K9USARThailand

    *บันทึกรายการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568*
    K9 ภารกิจ4ขา ค้นหาผู้ประสบภัย : คนเคาะข่าว 09-04-68 ร่วมสนทนา ดร.อลงกต ชูแก้ว รองผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K-9 USAR และ ธนวรรณ ลีหัวสระ ผู้บังคับสุนัข K9 นารี ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #คนเคาะข่าว #news1 #ตึกถล่ม #สุนัขK9 #K9USAR #K9USARThailand *บันทึกรายการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568*
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 552 Views 5 0 Reviews
  • ปมร้อนข่าวลึก : ผ่าน 10 วัน ตึก สตง.ถล่ม ไร้ผู้นำ กู้ภัยล้มเหลว ชัชชาติ-อนุทิน ประสานงา
    .
    เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้อาคารสำนักงาน สตง. พังถล่ม และเกิดปัญหาหลายด้าน ทั้งความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน ปัญหาจัดซื้อจัดจ้าง และการขาดการประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ระหว่าง กทม. และกระทรวงมหาดไทย ส่งผลให้การกู้ชีพล่าช้า ต้องพึ่งพาหน่วยกู้ภัยต่างชาติที่ภายหลังถอนตัวกลับ สุดท้ายยังไม่มีแผนฟื้นฟูหรือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างชัดเจน สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบบริหารจัดการวิกฤตในประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033304

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : ผ่าน 10 วัน ตึก สตง.ถล่ม ไร้ผู้นำ กู้ภัยล้มเหลว ชัชชาติ-อนุทิน ประสานงา . เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้อาคารสำนักงาน สตง. พังถล่ม และเกิดปัญหาหลายด้าน ทั้งความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน ปัญหาจัดซื้อจัดจ้าง และการขาดการประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ระหว่าง กทม. และกระทรวงมหาดไทย ส่งผลให้การกู้ชีพล่าช้า ต้องพึ่งพาหน่วยกู้ภัยต่างชาติที่ภายหลังถอนตัวกลับ สุดท้ายยังไม่มีแผนฟื้นฟูหรือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างชัดเจน สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบบริหารจัดการวิกฤตในประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033304 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 793 Views 0 Reviews
  • โกยยอดปูน 5 เมตร เน้นค้นหาโซน B4, C1 : [NEWS UPDATE]

    นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ใต้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้เอาแผ่นปูนและเศษปูนโซน E ซึ่งอยู่ยอดบน ลงมาได้ 5 เมตร เน้นค้นหาโซน B4 และ C1 เครื่องจักรหนักทํางานทุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ค้นหาผู้ประสบภัย พร้อมเคลื่อนย้ายออกและนำส่งเต็มกำลัง โดยยังไม่ทิ้งความหวังในการค้นหา ส่วนผู้ประสบภัยยอดคงที่ 103 ราย เสียชีวิต 17 ราย รอดชีวิต 9 ราย ติดค้าง 77 ราย สำหรับการตรวจสอบอาคารที่ได้รับแจ้งเหตุอาคารมีรอยร้าวจากประชาชนใน Traffy Fondue รวม 18,684 เคส แบ่งเป็น อาคารที่ปลอดภัย เคสสีเขียว 17,051 เคส สีเหลือง 387 เคส สีแดง 2 เคส และอยู่ระหว่างตรวจสอบ 1,579 เคส

    -รวบโบรกเกอร์แก๊งหมอบุญ

    -ส.อ.ท.รับมือภาษี 36%

    -เตือนพายุฤดูร้อน

    -เต่ากระวางไข่เกาะลังกาจิว
    โกยยอดปูน 5 เมตร เน้นค้นหาโซน B4, C1 : [NEWS UPDATE] นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ใต้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้เอาแผ่นปูนและเศษปูนโซน E ซึ่งอยู่ยอดบน ลงมาได้ 5 เมตร เน้นค้นหาโซน B4 และ C1 เครื่องจักรหนักทํางานทุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ค้นหาผู้ประสบภัย พร้อมเคลื่อนย้ายออกและนำส่งเต็มกำลัง โดยยังไม่ทิ้งความหวังในการค้นหา ส่วนผู้ประสบภัยยอดคงที่ 103 ราย เสียชีวิต 17 ราย รอดชีวิต 9 ราย ติดค้าง 77 ราย สำหรับการตรวจสอบอาคารที่ได้รับแจ้งเหตุอาคารมีรอยร้าวจากประชาชนใน Traffy Fondue รวม 18,684 เคส แบ่งเป็น อาคารที่ปลอดภัย เคสสีเขียว 17,051 เคส สีเหลือง 387 เคส สีแดง 2 เคส และอยู่ระหว่างตรวจสอบ 1,579 เคส -รวบโบรกเกอร์แก๊งหมอบุญ -ส.อ.ท.รับมือภาษี 36% -เตือนพายุฤดูร้อน -เต่ากระวางไข่เกาะลังกาจิว
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 740 Views 35 0 Reviews
  • ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน “รัฐบาล” เปิดขั้นตอนรับเงินเยียวยาครบวงจร ผู้ประสบภัย “แผ่นดินไหว”
    https://www.thai-tai.tv/news/18071/
    ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน “รัฐบาล” เปิดขั้นตอนรับเงินเยียวยาครบวงจร ผู้ประสบภัย “แผ่นดินไหว” https://www.thai-tai.tv/news/18071/
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • Sun. Apr. 6, 2025
    วันนี้คือวันจักรี
    ตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ค่ะ
    ...แต่อกอิแป้นจะแตกปุ้งแล้วจ้ะ
    ขอจดบันทึกระบายความอัดอั้นตันใจเรื่องการเมืองในวันจักรีหน่อยนะคะ

    Trump ขึ้นมาได้ 76 วัน
    คนเดินประท้วงกันทุก weekend
    ทำไมต้อง weekend เพราะทุกคนยังต้องไปทำงาน
    ที่สำคัญใครมีงานตอนนี้ ยิ่งต้องรักษาไว้ให้จงดี
    และการต่อต้านเพื่อปากท้องและความถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ในหลาย states และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงทุกที่ทั่วโลก

    ส่วนของเรา พรรคเพื่อไทย เจ้าพ่อแห่งพรรคการเมืองตระบัดสัตย์ ให้เศษถุย ทวีหนี้สิน ขึ้นมาสับขาหลอกประชาชนให้มาเป็นนายกโยนหินถามทาง ดูอาการประชาชน และดูอาการทหารก่อน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลา 11 เดือน 23 วัน

    และต่อด้วยนายกลูกแหง่ปากแจ๋ว ขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลาอีก 7 เดือน 19 วัน รวมทั้งสิ้น 1ปี 7เดือน 12วัน นำความเสื่อมทราม และความเสียหายให้ประเทศ และละทิ้งพลเมืองไทยขนาดไหน

    เรายังต้องทนสูดดมฝุ่น PM2.5 อยู่ดี จะหาที่พึ่งได้หน่อยก็คือนั่งรอฝนตก เรายังต้องทนกับต่างชาติถ่อยที่เข้ามาย่ำยีเมืองไทย ต่อยเตะดูหมิ่นคนไทย และ trash สถานท่องเที่ยวในไทย เรายังต้องทนกับทุนเทา ข้าราชการเทาๆ และคนในเครื่องแบบชั่วๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้แต่ผู้ที่โยนเศษเงินมาให้งับเท่านั้น เรายังต้องทนกับการนั่งฟังข่าวจากผู้สื่อข่าวชั้นหัวกะทิ เอาแต่นั่งวิเคราะห์...ตีแผ่ ...วิเคราะห์...ตีแผ่... วิเคราะห์...ตีแผ่ วนๆไป ไอ้เหล่าคนในเครื่องแบบที่เปิดประตูให้คนชั่วกลับเข้ามาล้างแค้นประเทศไทยก็ทำนิ่งเฉยซะงั้น ก็ถ้าให้เลือกเงินกับอำนาจ คนกำลังจะลงจากอำนาจ...ก็ต้องเลือกเงินสินะ

    ภัยธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่ม ทั้งไฟป่า ทั้งแผ่นดินไหว ก็พยายามมาช่วยเปิดโปงสันดานความคดโกง ความไม่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยใดๆของนักการเมือง...แต่ประชาชนคนไทยก็ยังเฉยว่ะ...เออ เฮ้ย เรางงนะ

    คือทหารชั่วรับอาหารหมาไปแบ่งกันแล้ว เขาก็นอนเงียบๆอยู่ในกรงกันไป พรรคฝ่ายค้านเด็กน้อย ข้อมูลแน่น...แล้วไง ตังก็ไม่มีให้โปรย หน้าก็ยังด้านและหนาน้อยอยู่ เอาความจริงมาแฉ แต่คนชั่วมือโปรแล้ว เขาไม่อายนิ แล้วให้ทุกฝ่ายร่วมกันลงคะเเนนเสียงดังฟังชัดว่า "ฉันไม่อายกันหรอกจ้า"
    อ้ะ...แล้วเอาไงต่อ

    เหลือก็แต่ประชาชนที่ต้องพึ่งพลังตัวเองอย่างเดียวแล้ว เพราะมันไม่มีใครให้พึ่งอีกต่อไปแล้ว ประชาชนใจอารีที่กลายเป็นคนหน้าโง่ ที่เลือกพวกตั่วเฮียเข้าไปนั่งห้องแอร์เย็นๆ รับเงินเดือนจากภาษีเราเป็นแสนๆ...คุณไม่เหลือใครให้พึ่งแล้วค่ะ

    ตอนนี้ยังไงก็ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ก่อน คนอื่นขึ้นมา แม่งชั่ว โลภ และเห็นแก่ตัวเท่ากันหมดนั่นแหละ แต่เล่ห์เหลี่ยมความฉลาดแกมโกงและเจ้าวางแผนสรรหาโครงการชั่วช้ามามอมเมาประชาชน ไม่มีใครทำได้ดีเท่าอีเหลี่ยม และตัวในทีมเก่าๆแก่ๆที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนขึ้น ก็ยังครองตำแหน่งเดิมๆไม่เปลี่ยนตัวเลยค่ะ ต้องล้มระบอบทักษิณให้จงได้ ไม่พูดเล่นแล้วนะ ชาวบ้านหนี้ท่วมหัว ตกงานย่ำแย่จริงจัง ทุนต่างชาติเข้ามาพร้อมแรงงานจากประเทศตัวเอง และแม้แต่วัสดุก่อสร้าง (คุณภาพต่ำ) มันยังเอามาจากประเทศตัวเองเลย ไม่มีอะไรถึงปากท้องคนไทยในแต่ละพื้นที่เลย มีแต่เศษเงินไว้อุดปากชาวบ้าน และอาหารหมาไว้ให้ตำรวจชั่วคุมชาวบ้านอีกที และช่วยเปิดทางทำชั่ว และปกป้องคุ้มครองมันด้วย ถุยชีวิตจริงจัง

    ชุมนุมแค่ไม่กี่วัน มันคงไม่มีอะไรจะเสียหายไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วมั้ยอ้ะ เอิ่ม...มันมี technology ที่เขาใช้กันมานานแล้วชื่อ WFH ค่ะ ช่วงประท้วง แล้วใครบ้างาน ก็ใช้ technology อันนั้นไปก่อนค่ะ นิ่งเงียบทนกันมาได้ตั้ง 1ปี 7เดือน 12วัน จนไฟลามทุ่ง ขรี้เต็มกุงเกงขนาดนี้ ประชาชนไม่ลุกฮือแล้วไปให้สุดทางตอนนี้ ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะทำตอนไหน...และครั้งนี้ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีแกนนำอะไรมาเ_ือกเลยนะคะ
    เอาแค่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ประชาชนที่อดมื้อกินมื้อ ประชาชนที่ถูกมอมเมา ประชาชนที่ถูกเบียดเบียนกดขี่ ประชาชนที่มันไปถ่ายรูปปลอบประโลมสร้างภาพหลังจากภัยพิบัติผ่านไปแล้วหลายวัน และประชาชนที่หลวมตัวหลงเชื่อนักการเมืองขายฝันให้ vote มันเข้าไปโกงกินชาติ...ควรพร้อมใจกันส่งเสียงดังๆให้มันได้ยินชัดๆว่า
    "กูเหลืออดแล้วโว๊ยยยย"
    แหม...ถ้ามี ___ ซัก 50 ลูกตอนนี้
    จะเล็งไปที่ไหนดีน้ออ

    เสียดาย ถ้าอยู่ New York ตอนนี้ เราคงเข็นตัวเองไปร่วมขบวนแน่ๆ
    หรือถ้าอยู่บางกอกเมืองฟ้า มีชุมนุมเบอร์นั้น เราก็คงไปมีส่วนร่วมแน่นอน
    เอาเป็นว่า ถ้าภูเก็ตบ้านนา มีประท้วงใหญ่ตรงไหนก็แจ้งด้วยนะคะ...พร้อมมากค่า
    #พฤษภาทมิฬAlumni
    Sun. Apr. 6, 2025 วันนี้คือวันจักรี ตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ค่ะ ...แต่อกอิแป้นจะแตกปุ้งแล้วจ้ะ ขอจดบันทึกระบายความอัดอั้นตันใจเรื่องการเมืองในวันจักรีหน่อยนะคะ Trump ขึ้นมาได้ 76 วัน คนเดินประท้วงกันทุก weekend ทำไมต้อง weekend เพราะทุกคนยังต้องไปทำงาน ที่สำคัญใครมีงานตอนนี้ ยิ่งต้องรักษาไว้ให้จงดี และการต่อต้านเพื่อปากท้องและความถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ในหลาย states และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงทุกที่ทั่วโลก 👍 ส่วนของเรา พรรคเพื่อไทย เจ้าพ่อแห่งพรรคการเมืองตระบัดสัตย์ ให้เศษถุย ทวีหนี้สิน ขึ้นมาสับขาหลอกประชาชนให้มาเป็นนายกโยนหินถามทาง ดูอาการประชาชน และดูอาการทหารก่อน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลา 11 เดือน 23 วัน 👍 และต่อด้วยนายกลูกแหง่ปากแจ๋ว ขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลาอีก 7 เดือน 19 วัน รวมทั้งสิ้น 1ปี 7เดือน 12วัน นำความเสื่อมทราม และความเสียหายให้ประเทศ และละทิ้งพลเมืองไทยขนาดไหน 🖕 เรายังต้องทนสูดดมฝุ่น PM2.5 อยู่ดี จะหาที่พึ่งได้หน่อยก็คือนั่งรอฝนตก เรายังต้องทนกับต่างชาติถ่อยที่เข้ามาย่ำยีเมืองไทย ต่อยเตะดูหมิ่นคนไทย และ trash สถานท่องเที่ยวในไทย เรายังต้องทนกับทุนเทา ข้าราชการเทาๆ และคนในเครื่องแบบชั่วๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้แต่ผู้ที่โยนเศษเงินมาให้งับเท่านั้น เรายังต้องทนกับการนั่งฟังข่าวจากผู้สื่อข่าวชั้นหัวกะทิ เอาแต่นั่งวิเคราะห์...ตีแผ่ ...วิเคราะห์...ตีแผ่... วิเคราะห์...ตีแผ่ วนๆไป ไอ้เหล่าคนในเครื่องแบบที่เปิดประตูให้คนชั่วกลับเข้ามาล้างแค้นประเทศไทยก็ทำนิ่งเฉยซะงั้น ก็ถ้าให้เลือกเงินกับอำนาจ คนกำลังจะลงจากอำนาจ...ก็ต้องเลือกเงินสินะ 🖕 ภัยธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่ม ทั้งไฟป่า ทั้งแผ่นดินไหว ก็พยายามมาช่วยเปิดโปงสันดานความคดโกง ความไม่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยใดๆของนักการเมือง...แต่ประชาชนคนไทยก็ยังเฉยว่ะ...เออ เฮ้ย เรางงนะ คือทหารชั่วรับอาหารหมาไปแบ่งกันแล้ว เขาก็นอนเงียบๆอยู่ในกรงกันไป พรรคฝ่ายค้านเด็กน้อย ข้อมูลแน่น...แล้วไง ตังก็ไม่มีให้โปรย หน้าก็ยังด้านและหนาน้อยอยู่ เอาความจริงมาแฉ แต่คนชั่วมือโปรแล้ว เขาไม่อายนิ แล้วให้ทุกฝ่ายร่วมกันลงคะเเนนเสียงดังฟังชัดว่า "ฉันไม่อายกันหรอกจ้า" อ้ะ...แล้วเอาไงต่อ เหลือก็แต่ประชาชนที่ต้องพึ่งพลังตัวเองอย่างเดียวแล้ว เพราะมันไม่มีใครให้พึ่งอีกต่อไปแล้ว ประชาชนใจอารีที่กลายเป็นคนหน้าโง่ ที่เลือกพวกตั่วเฮียเข้าไปนั่งห้องแอร์เย็นๆ รับเงินเดือนจากภาษีเราเป็นแสนๆ...คุณไม่เหลือใครให้พึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้ยังไงก็ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ก่อน คนอื่นขึ้นมา แม่งชั่ว โลภ และเห็นแก่ตัวเท่ากันหมดนั่นแหละ แต่เล่ห์เหลี่ยมความฉลาดแกมโกงและเจ้าวางแผนสรรหาโครงการชั่วช้ามามอมเมาประชาชน ไม่มีใครทำได้ดีเท่าอีเหลี่ยม และตัวในทีมเก่าๆแก่ๆที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนขึ้น ก็ยังครองตำแหน่งเดิมๆไม่เปลี่ยนตัวเลยค่ะ ต้องล้มระบอบทักษิณให้จงได้ ไม่พูดเล่นแล้วนะ ชาวบ้านหนี้ท่วมหัว ตกงานย่ำแย่จริงจัง ทุนต่างชาติเข้ามาพร้อมแรงงานจากประเทศตัวเอง และแม้แต่วัสดุก่อสร้าง (คุณภาพต่ำ) มันยังเอามาจากประเทศตัวเองเลย ไม่มีอะไรถึงปากท้องคนไทยในแต่ละพื้นที่เลย มีแต่เศษเงินไว้อุดปากชาวบ้าน และอาหารหมาไว้ให้ตำรวจชั่วคุมชาวบ้านอีกที และช่วยเปิดทางทำชั่ว และปกป้องคุ้มครองมันด้วย ถุยชีวิตจริงจัง 😢 ชุมนุมแค่ไม่กี่วัน มันคงไม่มีอะไรจะเสียหายไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วมั้ยอ้ะ เอิ่ม...มันมี technology ที่เขาใช้กันมานานแล้วชื่อ WFH ค่ะ ช่วงประท้วง แล้วใครบ้างาน ก็ใช้ technology อันนั้นไปก่อนค่ะ นิ่งเงียบทนกันมาได้ตั้ง 1ปี 7เดือน 12วัน จนไฟลามทุ่ง ขรี้เต็มกุงเกงขนาดนี้ ประชาชนไม่ลุกฮือแล้วไปให้สุดทางตอนนี้ ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะทำตอนไหน...และครั้งนี้ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีแกนนำอะไรมาเ_ือกเลยนะคะ เอาแค่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ประชาชนที่อดมื้อกินมื้อ ประชาชนที่ถูกมอมเมา ประชาชนที่ถูกเบียดเบียนกดขี่ ประชาชนที่มันไปถ่ายรูปปลอบประโลมสร้างภาพหลังจากภัยพิบัติผ่านไปแล้วหลายวัน และประชาชนที่หลวมตัวหลงเชื่อนักการเมืองขายฝันให้ vote มันเข้าไปโกงกินชาติ...ควรพร้อมใจกันส่งเสียงดังๆให้มันได้ยินชัดๆว่า "กูเหลืออดแล้วโว๊ยยยย" แหม...ถ้ามี ___ ซัก 50 ลูกตอนนี้ จะเล็งไปที่ไหนดีน้ออ เสียดาย ถ้าอยู่ New York ตอนนี้ เราคงเข็นตัวเองไปร่วมขบวนแน่ๆ หรือถ้าอยู่บางกอกเมืองฟ้า มีชุมนุมเบอร์นั้น เราก็คงไปมีส่วนร่วมแน่นอน เอาเป็นว่า ถ้าภูเก็ตบ้านนา มีประท้วงใหญ่ตรงไหนก็แจ้งด้วยนะคะ...พร้อมมากค่า #พฤษภาทมิฬAlumni
    0 Comments 0 Shares 898 Views 0 Reviews
More Results