• #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ ที่สวมหมวกอีกใบเป็นเลขาฯ ครม.เขมร ประกาศจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ค.ในกรุงพนมเปญ แสดงพลังต่อต้านการรุกรานของไทย ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า อ้างไทยคือศัตรูผู้บุกรุก ชายแดนไม่สงบลงง่ายๆ เขมรต้องสามัคคีกันปกป้องอธิปไตย

    วันนี้(12 ก.ค.) เฟซบุ๊กของ Kampuchea Thmey Daily ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแถลงข่าวของนายกุช เวงสรุน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา และตัวแทนของทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงรุกรานดินแดนกัมพูชา ดังนั้นประชาชนกัมพูชาจึงต้องปลูกฝังความรักชาติ ปกป้องชาติและดินแดนของเราด้วย

    นายกุช กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่การแข่งขันฟุตบอลก็คือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติอยู่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะไม่จบลงง่ายๆ ศัตรูของเรายังคงตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเราต่อไป หากเราไม่พร้อม นั่นหมายความว่า เรายังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังไม่มีสันติภาพที่แท้จริงร่วมกันบริเวณชายแดนทั้งสองฝั่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000065595

    #Thaitimes #MGROnline #ฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ #กัมพูชา #กรุงพนมเปญ #ม็อบใหญ่
    ตัวแทนทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ ที่สวมหมวกอีกใบเป็นเลขาฯ ครม.เขมร ประกาศจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ค.ในกรุงพนมเปญ แสดงพลังต่อต้านการรุกรานของไทย ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า อ้างไทยคือศัตรูผู้บุกรุก ชายแดนไม่สงบลงง่ายๆ เขมรต้องสามัคคีกันปกป้องอธิปไตย • วันนี้(12 ก.ค.) เฟซบุ๊กของ Kampuchea Thmey Daily ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแถลงข่าวของนายกุช เวงสรุน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา และตัวแทนของทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงรุกรานดินแดนกัมพูชา ดังนั้นประชาชนกัมพูชาจึงต้องปลูกฝังความรักชาติ ปกป้องชาติและดินแดนของเราด้วย • นายกุช กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่การแข่งขันฟุตบอลก็คือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติอยู่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะไม่จบลงง่ายๆ ศัตรูของเรายังคงตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเราต่อไป หากเราไม่พร้อม นั่นหมายความว่า เรายังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังไม่มีสันติภาพที่แท้จริงร่วมกันบริเวณชายแดนทั้งสองฝั่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000065595 • #Thaitimes #MGROnline #ฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ #กัมพูชา #กรุงพนมเปญ #ม็อบใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดิว อริสรา” คัมแบ็กไลฟ์ขายของรอบ 2 ยอดขายทะลุล้าน! เผยไม่รับงานไลฟ์เจ้าอื่น แม้ค่าจ้างล้านบาท เหตุยังไม่พร้อม-ช่องติ๊กต๊อกสำคัญ ยันไม่หยิ่ง รับทุกอย่างที่ทำ พร้อมใช้หนี้ ลั่นไม่กลับไทยไม่ใช่หนี แต่มีสิทธิ์ตั้งหลัก น้ำตาปริ่ม “กุ๊บกิ๊บ” เข้ามาเมนต์ให้กำลังใจ

    หลังจากที่เลื่อนไลฟ์วันที่ 3 ก.ค. ออกไป เหตุสัญญาณเน็ตข้ามประเทศมีปัญหา ล่าสุด “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ได้กลับมาไลฟ์ขายอาหารเสริมอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งรอบนี้ยอดขายทะลุทะลวงล้านแตก ทำแม่ดิวยิ้มแก้มแตก พร้อมอัปเดตชีวิต และสาเหตุ ทำไมถึงปฏิเสธงานไลฟ์ของเจ้าอื่นๆ ที่ติดต่อเข้ามา แม้จ้างถึง 1 ล้าน

    -ดิวจะรับงานไลฟ์อย่างเต็มที่ เพื่อใช้หนี้นั่นแหละ แต่อยากให้เข้าใจว่าการใช้หนี้ไม่ใช่แค่การรับงานไลฟ์อย่างเดียวเพื่อใช้หนี้นะ เวลาเดียวกันดิวก็หาทางอื่น ดิ้นรนทางอื่นด้วยเหมือนกัน แต่นี่เป็นอีกหนึ่งทางที่ดิวพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้เงินมา จะได้เคลียร์เขาไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000065507

    #Thaitimes #MGROnline #ดิวอริสรา
    “ดิว อริสรา” คัมแบ็กไลฟ์ขายของรอบ 2 ยอดขายทะลุล้าน! เผยไม่รับงานไลฟ์เจ้าอื่น แม้ค่าจ้างล้านบาท เหตุยังไม่พร้อม-ช่องติ๊กต๊อกสำคัญ ยันไม่หยิ่ง รับทุกอย่างที่ทำ พร้อมใช้หนี้ ลั่นไม่กลับไทยไม่ใช่หนี แต่มีสิทธิ์ตั้งหลัก น้ำตาปริ่ม “กุ๊บกิ๊บ” เข้ามาเมนต์ให้กำลังใจ • หลังจากที่เลื่อนไลฟ์วันที่ 3 ก.ค. ออกไป เหตุสัญญาณเน็ตข้ามประเทศมีปัญหา ล่าสุด “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ได้กลับมาไลฟ์ขายอาหารเสริมอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งรอบนี้ยอดขายทะลุทะลวงล้านแตก ทำแม่ดิวยิ้มแก้มแตก พร้อมอัปเดตชีวิต และสาเหตุ ทำไมถึงปฏิเสธงานไลฟ์ของเจ้าอื่นๆ ที่ติดต่อเข้ามา แม้จ้างถึง 1 ล้าน • -ดิวจะรับงานไลฟ์อย่างเต็มที่ เพื่อใช้หนี้นั่นแหละ แต่อยากให้เข้าใจว่าการใช้หนี้ไม่ใช่แค่การรับงานไลฟ์อย่างเดียวเพื่อใช้หนี้นะ เวลาเดียวกันดิวก็หาทางอื่น ดิ้นรนทางอื่นด้วยเหมือนกัน แต่นี่เป็นอีกหนึ่งทางที่ดิวพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้เงินมา จะได้เคลียร์เขาไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000065507 • #Thaitimes #MGROnline #ดิวอริสรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭕️โอเคมากๆเลยค่า อยากไปอีกๆ ⭕️

    #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ฮ่องกง #วัดหวังต้าเซียน จากคุณอาทิตยานะคะ เมื่อวันที่ 2-4 ก.ค. 68 ที่ผ่านมานะคะ
    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⭕️โอเคมากๆเลยค่า อยากไปอีกๆ ⭕️ 💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ฮ่องกง #วัดหวังต้าเซียน จากคุณอาทิตยานะคะ💜 เมื่อวันที่ 2-4 ก.ค. 68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดือด! "คนโคราชไม่เอานายกฯ ขายชาติ" ปะทะ "กลุ่มหนุน" กลางเมืองโคราช ต้อนรับ "แพทองธาร" เปิดงานแห่เทียนพรรษา
    https://www.thai-tai.tv/news/20216/
    .
    #แพทองธารชินวัตร #นครราชสีมา #โคราช #แห่เทียนพรรษา #การเมืองไทย #ชุมนุมขับไล่ #ให้กำลังใจนายก #ความตึงเครียดทางการเมือง #นายกขายชาติ #คลิปเสียงหลุด
    เดือด! "คนโคราชไม่เอานายกฯ ขายชาติ" ปะทะ "กลุ่มหนุน" กลางเมืองโคราช ต้อนรับ "แพทองธาร" เปิดงานแห่เทียนพรรษา https://www.thai-tai.tv/news/20216/ . #แพทองธารชินวัตร #นครราชสีมา #โคราช #แห่เทียนพรรษา #การเมืองไทย #ชุมนุมขับไล่ #ให้กำลังใจนายก #ความตึงเครียดทางการเมือง #นายกขายชาติ #คลิปเสียงหลุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ยอมรับ “สายเกินไป” ที่จะไล่ทัน AI – จากผู้นำกลายเป็นผู้ตาม

    Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ของ Intel กล่าวในวงประชุมพนักงานทั่วโลกว่า “เมื่อ 20–30 ปีก่อน เราคือผู้นำ แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไป เราไม่ติดอันดับ 10 บริษัทเซมิคอนดักเตอร์อีกแล้ว” คำพูดนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทที่เคยครองตลาด CPU อย่างเบ็ดเสร็จ

    Intel พยายามปรับตัวหลายด้าน เช่น:
    - สร้างสถาปัตยกรรม hybrid แบบ big.LITTLE เหมือน ARM แต่ไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก AMD ได้
    - เปิดตัว GPU ที่ล่าช้าและไม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้
    - Outsource การผลิตชิปบางส่วนไปยัง TSMC ตั้งแต่ปี 2023 โดยล่าสุดในปี 2025 มีถึง 30% ของการผลิตที่ทำโดย TSMC

    แม้จะลงทุนมหาศาลใน R&D แต่ Intel ก็ยังขาดความเร็วและความเฉียบคมในการแข่งขัน โดยเฉพาะในตลาด AI ที่ Nvidia ครองอยู่เกือบเบ็ดเสร็จ

    Intel จึงวางแผนเปลี่ยนกลยุทธ์:
    - หันไปเน้น edge AI และ agentic AI (AI ที่ทำงานอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม)
    - ลดขนาดองค์กรและปลดพนักงานหลายพันคนทั่วโลกเพื่อลดต้นทุน
    - อาจแยกธุรกิจ foundry ออกเป็นบริษัทลูก และเปลี่ยน Intel เป็นบริษัท fabless แบบ AMD และ Apple

    Tan ยอมรับว่า “การฝึกโมเดล AI สำหรับ training ใน data center เรามาช้าเกินไป” แต่ยังมีความหวังใน edge AI และการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ “ถ่อมตัวและฟังตลาดมากขึ้น”

    ข้อมูลจากข่าว
    - CEO Intel ยอมรับว่าไม่ติดอันดับ 10 บริษัทเซมิคอนดักเตอร์อีกต่อไป
    - Intel พยายามปรับตัวด้วย hybrid architecture และ GPU แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
    - มีการ outsource การผลิตชิปไปยัง TSMC มากขึ้น โดยเฉพาะใน Meteor Lake และ Lunar Lake
    - Intel ขาดความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI โดยเฉพาะด้าน training
    - บริษัทปลดพนักงานหลายพันคนทั่วโลกเพื่อลดต้นทุน
    - วางแผนเน้น edge AI และ agentic AI เป็นกลยุทธ์ใหม่
    - อาจแยกธุรกิจ foundry ออกเป็นบริษัทลูก และเปลี่ยนเป็น fabless company

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การยอมรับว่า “สายเกินไป” ในตลาด AI อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและพันธมิตร
    - การปลดพนักงานจำนวนมากอาจกระทบต่อขวัญกำลังใจและนวัตกรรมภายในองค์กร
    - การพึ่งพา TSMC ในการผลิตชิปอาจทำให้ Intel เสียความได้เปรียบด้าน vertical integration
    - การเปลี่ยนเป็นบริษัท fabless ต้องใช้เวลาและอาจมีความเสี่ยงด้าน supply chain
    - Edge AI ยังเป็นตลาดที่ไม่แน่นอน และต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายใหม่ที่คล่องตัวกว่า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-ceo-says-its-too-late-for-them-to-catch-up-with-ai-competition-claims-intel-has-fallen-out-of-the-top-10-semiconductor-companies-as-the-firm-lays-off-thousands-across-the-world
    Intel ยอมรับ “สายเกินไป” ที่จะไล่ทัน AI – จากผู้นำกลายเป็นผู้ตาม Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ของ Intel กล่าวในวงประชุมพนักงานทั่วโลกว่า “เมื่อ 20–30 ปีก่อน เราคือผู้นำ แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไป เราไม่ติดอันดับ 10 บริษัทเซมิคอนดักเตอร์อีกแล้ว” คำพูดนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทที่เคยครองตลาด CPU อย่างเบ็ดเสร็จ Intel พยายามปรับตัวหลายด้าน เช่น: - สร้างสถาปัตยกรรม hybrid แบบ big.LITTLE เหมือน ARM แต่ไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก AMD ได้ - เปิดตัว GPU ที่ล่าช้าและไม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ - Outsource การผลิตชิปบางส่วนไปยัง TSMC ตั้งแต่ปี 2023 โดยล่าสุดในปี 2025 มีถึง 30% ของการผลิตที่ทำโดย TSMC แม้จะลงทุนมหาศาลใน R&D แต่ Intel ก็ยังขาดความเร็วและความเฉียบคมในการแข่งขัน โดยเฉพาะในตลาด AI ที่ Nvidia ครองอยู่เกือบเบ็ดเสร็จ Intel จึงวางแผนเปลี่ยนกลยุทธ์: - หันไปเน้น edge AI และ agentic AI (AI ที่ทำงานอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม) - ลดขนาดองค์กรและปลดพนักงานหลายพันคนทั่วโลกเพื่อลดต้นทุน - อาจแยกธุรกิจ foundry ออกเป็นบริษัทลูก และเปลี่ยน Intel เป็นบริษัท fabless แบบ AMD และ Apple Tan ยอมรับว่า “การฝึกโมเดล AI สำหรับ training ใน data center เรามาช้าเกินไป” แต่ยังมีความหวังใน edge AI และการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ “ถ่อมตัวและฟังตลาดมากขึ้น” ✅ ข้อมูลจากข่าว - CEO Intel ยอมรับว่าไม่ติดอันดับ 10 บริษัทเซมิคอนดักเตอร์อีกต่อไป - Intel พยายามปรับตัวด้วย hybrid architecture และ GPU แต่ไม่ประสบความสำเร็จ - มีการ outsource การผลิตชิปไปยัง TSMC มากขึ้น โดยเฉพาะใน Meteor Lake และ Lunar Lake - Intel ขาดความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI โดยเฉพาะด้าน training - บริษัทปลดพนักงานหลายพันคนทั่วโลกเพื่อลดต้นทุน - วางแผนเน้น edge AI และ agentic AI เป็นกลยุทธ์ใหม่ - อาจแยกธุรกิจ foundry ออกเป็นบริษัทลูก และเปลี่ยนเป็น fabless company ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การยอมรับว่า “สายเกินไป” ในตลาด AI อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและพันธมิตร - การปลดพนักงานจำนวนมากอาจกระทบต่อขวัญกำลังใจและนวัตกรรมภายในองค์กร - การพึ่งพา TSMC ในการผลิตชิปอาจทำให้ Intel เสียความได้เปรียบด้าน vertical integration - การเปลี่ยนเป็นบริษัท fabless ต้องใช้เวลาและอาจมีความเสี่ยงด้าน supply chain - Edge AI ยังเป็นตลาดที่ไม่แน่นอน และต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายใหม่ที่คล่องตัวกว่า https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-ceo-says-its-too-late-for-them-to-catch-up-with-ai-competition-claims-intel-has-fallen-out-of-the-top-10-semiconductor-companies-as-the-firm-lays-off-thousands-across-the-world
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เสี่ยนิด" ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ลุกขึ้นสู้หลังเจอศึกนอกศึกใน เชื่อนายกฯ มีกำลังใจเต็มเปี่ยม สวน “อนุทิน” กาสิโนยังไม่เกิดนักท่องเที่ยวจีนจะห่วงอะไร ชี้คดี ”นายกฯ อิ๊งค์" ปล่อยตามกระบวนการ ลั่นยังมีก๊อกสาม “ชัยเกษม”

    วันนี้ (10ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเสถียรภาพทางการเมืองในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยยังจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือไม่ว่า ตนมองว่าหลายคนพูดไปแล้วเรื่องนี้ แน่นอนว่าการเมืองเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นใจต่อนักลงทุนและความมั่นใจต่อประชาชนทั่วไป ก็ต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ เรื่องที่ต้องขณะนี้ยังมีเรื่องอีกสองสามเรื่องที่จะต้องเดินไปข้างหน้า อย่างเช่นคดีต่างๆที่จะทำให้คน wait and see

    เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกฯ และ รมว.วัฒนธรรมที่เจอทั้งศึกนอกและศึกในอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและบอกให้ลุกขึ้นสู้ ท่านเองก็กำลังใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แล้วตนเชื่อว่าท่านก็สู้อยู่แล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000065033

    #Thaitimes #MGROnline #เสี่ยนิด #แพทองธาร #เศรษฐาทวีสิน
    "เสี่ยนิด" ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ลุกขึ้นสู้หลังเจอศึกนอกศึกใน เชื่อนายกฯ มีกำลังใจเต็มเปี่ยม สวน “อนุทิน” กาสิโนยังไม่เกิดนักท่องเที่ยวจีนจะห่วงอะไร ชี้คดี ”นายกฯ อิ๊งค์" ปล่อยตามกระบวนการ ลั่นยังมีก๊อกสาม “ชัยเกษม” • วันนี้ (10ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเสถียรภาพทางการเมืองในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยยังจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือไม่ว่า ตนมองว่าหลายคนพูดไปแล้วเรื่องนี้ แน่นอนว่าการเมืองเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นใจต่อนักลงทุนและความมั่นใจต่อประชาชนทั่วไป ก็ต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ เรื่องที่ต้องขณะนี้ยังมีเรื่องอีกสองสามเรื่องที่จะต้องเดินไปข้างหน้า อย่างเช่นคดีต่างๆที่จะทำให้คน wait and see • เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกฯ และ รมว.วัฒนธรรมที่เจอทั้งศึกนอกและศึกในอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและบอกให้ลุกขึ้นสู้ ท่านเองก็กำลังใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แล้วตนเชื่อว่าท่านก็สู้อยู่แล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000065033 • #Thaitimes #MGROnline #เสี่ยนิด #แพทองธาร #เศรษฐาทวีสิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรุ่งนี้วันอาสาฬหบูชา - วันพระ

    ลุงพุฒิ(ท่านพยายมราช)

    ท่านบอกว่าให้ทุกคนทำตามนี้ว่า ถึงเวลาที่จะนอน

    ถ้ามีกำลังใจสูงนะ กำลังเข้มข้นก็ไม่ต้องใช้น้ำมนต์ นึกถึงภาพยันต์นั้นอยู่ตรงกระหม่อม แล้วว่าอิติปิโส ๗ จบ (อิติปิโส ๓ ห้อง คือ อิติปิโสฯ, สวากขาโตฯ, สุปฏิปันโนฯ นับรวม ๑ จบ ต้องว่า ๗ จบ) แล้วก็ นะ มะ พะ ทะ ๑๕ จบ ว่าอย่างอื่นเสียก่อนนะ บูชาพระเสียก่อน แล้วก็สวด อิติปิโส ๗ จบ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยะสงฆ์ แล้วก็ว่า นะมะพะธะ ๑๕ จบ

    อย่างนี้ท่านว่าจะคลายกฏของกรรมไปมาก ค่อยๆ คลายกฏของกรรมนะ กฏของกรรมนี้ความจริงทำลายไม่ได้ แต่อำนาจกฏของกรรมจะค่อยๆ คลายตัว ถ้าทำทุกวันต่อไปจักเหลือนิดเดียว อย่างโทษปาณาติบาต ต้องป่วยไข้ไม่สบาย หรือทุพพลภาพทางกายจะคลายตัวเหลือเล็กน้อย

    ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมนต์แล้วว่า อิติปิโส ๗ จบ แล้วก็สวด นะมะพะธะ เอาน้ำมนต์มาพรมที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวันกฏของกรรมจะคลายตัวอันนี้ดีมากกฏของกรรมเราหาทางแก้ไม่ได้อยู่แล้วนะ ท่านบอกจะคลายเรื่อยๆ ไป จนกระทั่งสิ้นกำลัง แต่ไม่สิ้นเลยเหลือนิดหน่อยดีมาก อย่างคนถูกหวยยาก จะถูกหวยง่าย"

    เมื่อจะทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญทำน้ำมนต์ใส่ก้นขัน แล้วเอาใส่น้ำ หลังจากนั้นชุมนุมเทวดา ตั้งใจอาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย มีพระคุณหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้,พระคุณหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค, พระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เป็นที่สุด มีพระคุณหลวงปู่พระสารีบุตรเป็นประธานได้โปรดเมตตาสงเคราะห์ หลังจากนั้นให้ลืมตาดูยันต์หลังเหรียญทำน้ำมนต์ให้จำได้ จำภาพน้ำในขันด้วย ตั้ง นะโมฯ ๓ จบ เสกด้วย อิติปิโส ๗ จบ,นะมะพะธะ ๑๕ จบ เป็นเสร็จพิธี น้ำมนต์นี้รักษาอะไรได้บ้างไม่ขออธิบายสุดแต่จะอาราธนา จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในคุณพระรัตนตรัยเท่านั้น
    คัดรวมเสียงธรรม ธรรมะโดนใจ

    เทศน์ธรรมมาสน์ :วันสงกรานต์ วันมาฆะบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา
    💦 พรุ่งนี้วันอาสาฬหบูชา - วันพระ 💦 💦🌿🌾ลุงพุฒิ(ท่านพยายมราช) 🌾🌿💦 🌿ท่านบอกว่าให้ทุกคนทำตามนี้ว่า ถึงเวลาที่จะนอน 🌿ถ้ามีกำลังใจสูงนะ กำลังเข้มข้นก็ไม่ต้องใช้น้ำมนต์ นึกถึงภาพยันต์นั้นอยู่ตรงกระหม่อม แล้วว่าอิติปิโส ๗ จบ (อิติปิโส ๓ ห้อง คือ อิติปิโสฯ, สวากขาโตฯ, สุปฏิปันโนฯ นับรวม ๑ จบ ต้องว่า ๗ จบ) แล้วก็ นะ มะ พะ ทะ ๑๕ จบ ว่าอย่างอื่นเสียก่อนนะ บูชาพระเสียก่อน แล้วก็สวด อิติปิโส ๗ จบ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยะสงฆ์ แล้วก็ว่า นะมะพะธะ ๑๕ จบ 🌿อย่างนี้ท่านว่าจะคลายกฏของกรรมไปมาก ค่อยๆ คลายกฏของกรรมนะ กฏของกรรมนี้ความจริงทำลายไม่ได้ แต่อำนาจกฏของกรรมจะค่อยๆ คลายตัว ถ้าทำทุกวันต่อไปจักเหลือนิดเดียว อย่างโทษปาณาติบาต ต้องป่วยไข้ไม่สบาย หรือทุพพลภาพทางกายจะคลายตัวเหลือเล็กน้อย 🌿ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมนต์แล้วว่า อิติปิโส ๗ จบ แล้วก็สวด นะมะพะธะ เอาน้ำมนต์มาพรมที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวันกฏของกรรมจะคลายตัวอันนี้ดีมากกฏของกรรมเราหาทางแก้ไม่ได้อยู่แล้วนะ ท่านบอกจะคลายเรื่อยๆ ไป จนกระทั่งสิ้นกำลัง แต่ไม่สิ้นเลยเหลือนิดหน่อยดีมาก อย่างคนถูกหวยยาก จะถูกหวยง่าย" 🌿เมื่อจะทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญทำน้ำมนต์ใส่ก้นขัน แล้วเอาใส่น้ำ หลังจากนั้นชุมนุมเทวดา ตั้งใจอาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย มีพระคุณหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้,พระคุณหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค, พระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เป็นที่สุด มีพระคุณหลวงปู่พระสารีบุตรเป็นประธานได้โปรดเมตตาสงเคราะห์ หลังจากนั้นให้ลืมตาดูยันต์หลังเหรียญทำน้ำมนต์ให้จำได้ จำภาพน้ำในขันด้วย ตั้ง นะโมฯ ๓ จบ เสกด้วย อิติปิโส ๗ จบ,นะมะพะธะ ๑๕ จบ เป็นเสร็จพิธี น้ำมนต์นี้รักษาอะไรได้บ้างไม่ขออธิบายสุดแต่จะอาราธนา จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในคุณพระรัตนตรัยเท่านั้น คัดรวมเสียงธรรม ธรรมะโดนใจ เทศน์ธรรมมาสน์ :วันสงกรานต์ วันมาฆะบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.พรรคประชาชน ขึ้นให้กำลังใจผู้ชี้แจง "ปูน ธนพัฒน์-เบญจา" ในฐานะผู้ต้องคดี ม.112 บอกประชาธิปไตยไทยจะไม่เบ่งบาน ถ้ายังดำเนินคดีคนเห็นต่าง
    https://www.thai-tai.tv/news/20157/
    .
    #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #ร่างพรบนิรโทษกรรม #ภาคประชาชน #ผู้เห็นต่าง #ความยุติธรรม #ประชาธิปไตย #การเมืองไทย #สันติสุข #สภาผู้แทนราษฎร #เยาวชน #เบนจาอะปัญ #ธนพัฒน์กาเพ็ง
    สส.พรรคประชาชน ขึ้นให้กำลังใจผู้ชี้แจง "ปูน ธนพัฒน์-เบญจา" ในฐานะผู้ต้องคดี ม.112 บอกประชาธิปไตยไทยจะไม่เบ่งบาน ถ้ายังดำเนินคดีคนเห็นต่าง https://www.thai-tai.tv/news/20157/ . #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #ร่างพรบนิรโทษกรรม #ภาคประชาชน #ผู้เห็นต่าง #ความยุติธรรม #ประชาธิปไตย #การเมืองไทย #สันติสุข #สภาผู้แทนราษฎร #เยาวชน #เบนจาอะปัญ #ธนพัฒน์กาเพ็ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ สุขภาพร่างกายมีเกณฑ์จะเจ็บป่วยที่ตา หัวใจ ความดันโลหิต ระบบเลือด ร้อนใน พร้อมทั้งควรระวังภัย จากการถูกน้ำมัน น้ำร้อน หรือไฟลวก จะเจ็บปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง เกิดแผลพุพองจนเป็นหนอง มีเกณฑ์จะเกิดเหตุเรื่องร้ายที่ไม่คาดคิด ภัยจากเพลิงไหม้ ภัยจากระเบิด เกิดโศกนาฏกรรมจากกิจกรรม งานเลี้ยงงานเฉลิมฉลอง ควรตรวจตราเครื่องใช้ไม้สอย อุปกรณ์ไฟฟ้าให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นปลอดภัย อีกทั้งจะโชคร้ายเพราะเพศหญิงนำพาปัญหาให้เดือดร้อน จะมีปัญหากับคนในเครื่องแบบให้ติดตามสืบ หรือถูกผู้มีอิทธิพลคุกคามระราน พาลจิตใจให้ไม่สงบเกิดการเก็บกด ส่งผลให้อารมณ์รุนแรง วู่วาม จนกำลังใจหดถดถอย ทำให้สมองตื้อตีบตัน เป็นเหตุให้ตัดสินใจผิดพลาดจนเสียชื่อ เสียเสียง เสียเครดิต

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนนี้ สุขภาพร่างกายมีเกณฑ์จะเจ็บป่วยที่ตา หัวใจ ความดันโลหิต ระบบเลือด ร้อนใน พร้อมทั้งควรระวังภัย จากการถูกน้ำมัน น้ำร้อน หรือไฟลวก จะเจ็บปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง เกิดแผลพุพองจนเป็นหนอง มีเกณฑ์จะเกิดเหตุเรื่องร้ายที่ไม่คาดคิด ภัยจากเพลิงไหม้ ภัยจากระเบิด เกิดโศกนาฏกรรมจากกิจกรรม งานเลี้ยงงานเฉลิมฉลอง ควรตรวจตราเครื่องใช้ไม้สอย อุปกรณ์ไฟฟ้าให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นปลอดภัย อีกทั้งจะโชคร้ายเพราะเพศหญิงนำพาปัญหาให้เดือดร้อน จะมีปัญหากับคนในเครื่องแบบให้ติดตามสืบ หรือถูกผู้มีอิทธิพลคุกคามระราน พาลจิตใจให้ไม่สงบเกิดการเก็บกด ส่งผลให้อารมณ์รุนแรง วู่วาม จนกำลังใจหดถดถอย ทำให้สมองตื้อตีบตัน เป็นเหตุให้ตัดสินใจผิดพลาดจนเสียชื่อ เสียเสียง เสียเครดิต ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อดิศร' ร่ายกลอนป้อง "แพทองธาร" โยงม็อบเรียกปฏิวัติ ศาลรธน.รับลูก สั่งอิ๊งค์หยุดปฏิบัติหน้าที่
    https://www.thai-tai.tv/news/19984/
    .
    #อดิศรเพียงเกษ #พรรคเพื่อไทย #แพทองธารชินวัตร #ศาลรัฐธรรมนูญ #ยุติธรรม #การเมืองไทย #รัฐประหาร #ประชาธิปไตย #สวสีน้ำเงิน #ให้กำลังใจนายก
    'อดิศร' ร่ายกลอนป้อง "แพทองธาร" โยงม็อบเรียกปฏิวัติ ศาลรธน.รับลูก สั่งอิ๊งค์หยุดปฏิบัติหน้าที่ https://www.thai-tai.tv/news/19984/ . #อดิศรเพียงเกษ #พรรคเพื่อไทย #แพทองธารชินวัตร #ศาลรัฐธรรมนูญ #ยุติธรรม #การเมืองไทย #รัฐประหาร #ประชาธิปไตย #สวสีน้ำเงิน #ให้กำลังใจนายก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กูรูไพศาล" ให้กำลังใจ "แพทองธาร" เตือนผู้นำต้องใช้ปราชญ์ อย่าผูกขาดอำนาจไว้ในคนใกล้ตัว
    https://www.thai-tai.tv/news/19934/
    .
    #แพทองธาร #นายกฯคนที่สอง #หยุดปฏิบัติหน้าที่ #ไพศาลพืชมงคล #การเมืองคือสงคราม #ผู้นำกับการใช้คน #ศาลรัฐธรรมนูญ #การเมืองไทย #บทเรียนผู้นำ
    "กูรูไพศาล" ให้กำลังใจ "แพทองธาร" เตือนผู้นำต้องใช้ปราชญ์ อย่าผูกขาดอำนาจไว้ในคนใกล้ตัว https://www.thai-tai.tv/news/19934/ . #แพทองธาร #นายกฯคนที่สอง #หยุดปฏิบัติหน้าที่ #ไพศาลพืชมงคล #การเมืองคือสงคราม #ผู้นำกับการใช้คน #ศาลรัฐธรรมนูญ #การเมืองไทย #บทเรียนผู้นำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารไทยเราสุดยอดจริงๆ ร่วมกันส่งกำลังใจถึงทหารไทยเรา,คำสั่งนั้นถูกแล้ว,เพราะเอาเข้าจริงๆทหารเขมรสู้เราไม่ได้หรอก,เขมรคือเผ่าพันธุ์ทรยศเป็นสันดานอยู่แล้ว ,จริงๆไม่ควรมีสัมพันธุ์เชิงทหารด้วยเลยหรือปลกเปลี่ยนฝึกทางทหารกับพวกมันหรือให้มันมาเล่าเรียนในไทย,จะไปเรียนที่ไหนก็ชั่งหัวมัน,
    ..เราสามารถอ้างภัยความมั่นคงภัยคุกคามรุกรานได้ สั่งปิดด่านปิดพรมแดนถาวรทันทีดีที่สุด ยุติให้ใครหน้าไหนเข้าออกแผ่นดินไทยที่ติดพรมแดนเขมรตลอดแนวเลย,รถบรรทุกใดๆห้่มเดินทางข้ามประเทศทั้งหมด,ในด้านยุทธการตัดตอนเราไม่เด็ดขาด นายพลเรากากมากมีอำนาจเต็มด้านกฎอัยการศึกแล้ว,คนเขมรติดพรมแดนจะเป็นตายประการใดมิใช่หน้าที่แล้ว,นี้คือภัยคุกคามอธิปไตยเราต้องตอบโต้,ประเทศใดสนใจคนเขมรข้ามดินแดนมาไทยแล้วไม่พอใจให้ประเทศต่างชาตินั้นมารับคนเขมรนั้นให้การช่วยเหลือทางตรงได้เลย,ประเทศเขมรของตนเองก็มีเสือกข้ามมาฝั่งไทยเพื่ออะไรในสภาพสถานการณ์ภัยคุกคามรุกรานไทยแบบนี้,นายพลทางทหารเราคิดอ่านไม่ขาด,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่เด็ดขาดแก่ศัตรูที่เป็นภัยของประเทศสมยอมเปิดช่องเปิดโอกาสให้ฝ่ายเราเสียยุทธศึกได้ เสียขบวนมาตราการรับมือโดยองค์รวม,ทหารเขมรอาจได้กินได้อยู่ได้เสบียงจนมีแรงมาทำท่าทีแข็งกร้าวใส่เราได้,และต้องถอนกำลังออกไปทันทีในพื้นทีประเทศไทยเรามิใช่พื้นที่ทับซ้อนด้วย,เรา..รัฐบาลใหม่ต้องประกาศชัดเจน,หรือคนรักษาการนายกฯก็ตามต้องประกาศชัดเจน,หากไม่ทำ ทหารยึดอำนาจเลย,หรือประชาชนเรา..รวมพลังแผ่นดินไทยขึ้นเป็นนายกฯรักษาการเลย.แล้วสั่งการมีคำสั่งชัดเจนเป็นทางการว่าเขมรต้องถอยและถอนกำลังพลตนออกจากพื้นที่ประเทศไทยทันที,หากไม่ทำใน24ชม.จะใช้มาตราคว่ำบาตรทุกๆรูปแบทัังหมดต่อประเทศเขมร.,นี้ทหารต่อประสานกับภาคประชาชนแบบนี้ด้วย,เพื่อจัดการปัญหานี้อย่างเด็ดขาด,เราไม่เด็ดขาดจริงๆในหลายๆเรื่อง เมื่อสถานะนายกฯปัจจุบันสิ้นสภาพแล้ว,บริบทเต็มที่มีกฎอัยการศึกเต็มมือตลอดพรมแดนต้องเด็ดขาดกว่านี้,นายพลเรามีมากเกินไปมั้ย,อย่ามีนายพลทหารที่ขายชาติไม่ซื่อสัตย์เพิ่มอีกเลย.,ทหารต้องกำจัดนายพลนั้นภายในทหารด้วยกันเองด้วย.

    https://youtu.be/YUFNgxShXCk?si=9vm5bvefToARMg9d
    ทหารไทยเราสุดยอดจริงๆ ร่วมกันส่งกำลังใจถึงทหารไทยเรา,คำสั่งนั้นถูกแล้ว,เพราะเอาเข้าจริงๆทหารเขมรสู้เราไม่ได้หรอก,เขมรคือเผ่าพันธุ์ทรยศเป็นสันดานอยู่แล้ว ,จริงๆไม่ควรมีสัมพันธุ์เชิงทหารด้วยเลยหรือปลกเปลี่ยนฝึกทางทหารกับพวกมันหรือให้มันมาเล่าเรียนในไทย,จะไปเรียนที่ไหนก็ชั่งหัวมัน, ..เราสามารถอ้างภัยความมั่นคงภัยคุกคามรุกรานได้ สั่งปิดด่านปิดพรมแดนถาวรทันทีดีที่สุด ยุติให้ใครหน้าไหนเข้าออกแผ่นดินไทยที่ติดพรมแดนเขมรตลอดแนวเลย,รถบรรทุกใดๆห้่มเดินทางข้ามประเทศทั้งหมด,ในด้านยุทธการตัดตอนเราไม่เด็ดขาด นายพลเรากากมากมีอำนาจเต็มด้านกฎอัยการศึกแล้ว,คนเขมรติดพรมแดนจะเป็นตายประการใดมิใช่หน้าที่แล้ว,นี้คือภัยคุกคามอธิปไตยเราต้องตอบโต้,ประเทศใดสนใจคนเขมรข้ามดินแดนมาไทยแล้วไม่พอใจให้ประเทศต่างชาตินั้นมารับคนเขมรนั้นให้การช่วยเหลือทางตรงได้เลย,ประเทศเขมรของตนเองก็มีเสือกข้ามมาฝั่งไทยเพื่ออะไรในสภาพสถานการณ์ภัยคุกคามรุกรานไทยแบบนี้,นายพลทางทหารเราคิดอ่านไม่ขาด,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่เด็ดขาดแก่ศัตรูที่เป็นภัยของประเทศสมยอมเปิดช่องเปิดโอกาสให้ฝ่ายเราเสียยุทธศึกได้ เสียขบวนมาตราการรับมือโดยองค์รวม,ทหารเขมรอาจได้กินได้อยู่ได้เสบียงจนมีแรงมาทำท่าทีแข็งกร้าวใส่เราได้,และต้องถอนกำลังออกไปทันทีในพื้นทีประเทศไทยเรามิใช่พื้นที่ทับซ้อนด้วย,เรา..รัฐบาลใหม่ต้องประกาศชัดเจน,หรือคนรักษาการนายกฯก็ตามต้องประกาศชัดเจน,หากไม่ทำ ทหารยึดอำนาจเลย,หรือประชาชนเรา..รวมพลังแผ่นดินไทยขึ้นเป็นนายกฯรักษาการเลย.แล้วสั่งการมีคำสั่งชัดเจนเป็นทางการว่าเขมรต้องถอยและถอนกำลังพลตนออกจากพื้นที่ประเทศไทยทันที,หากไม่ทำใน24ชม.จะใช้มาตราคว่ำบาตรทุกๆรูปแบทัังหมดต่อประเทศเขมร.,นี้ทหารต่อประสานกับภาคประชาชนแบบนี้ด้วย,เพื่อจัดการปัญหานี้อย่างเด็ดขาด,เราไม่เด็ดขาดจริงๆในหลายๆเรื่อง เมื่อสถานะนายกฯปัจจุบันสิ้นสภาพแล้ว,บริบทเต็มที่มีกฎอัยการศึกเต็มมือตลอดพรมแดนต้องเด็ดขาดกว่านี้,นายพลเรามีมากเกินไปมั้ย,อย่ามีนายพลทหารที่ขายชาติไม่ซื่อสัตย์เพิ่มอีกเลย.,ทหารต้องกำจัดนายพลนั้นภายในทหารด้วยกันเองด้วย. https://youtu.be/YUFNgxShXCk?si=9vm5bvefToARMg9d
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความตกต่ำของกระทรวงการต่างประเทศ

    กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ คนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผลงานโดดเด่น นอกจากไปเป็นพยานให้ทักษิณ ผู้ต้องหาคดี 112 ขออนุญาตศาลออกนอกประเทศ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่สองพ่อลูก ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ปลุกกระแสชาตินิยม นำปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และช่องบก ร้องต่อศาลโลก ขอให้ตกเป็นของกัมพูชา นอกจากจะแถลงข่าวรายวันก็ไม่มีอะไรโดดเด่น

    การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเจบีซีฝ่ายไทย เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย นอกจากจะเป็นคู่กรณีนายวีระ สมความคิด เคยบีบบังคับให้ยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชาและด่าว่าเป็นตัวปัญหาแล้ว ในการประชุมเจบีซีมีไลน์หลุดออกมาว่า นายประศาสน์ พยายามโน้มน้าวให้ไทยยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่ทำให้ไทยเสียดินแดน ทำให้เจ้าตัวถึงกับโกรธและไม่คุยด้วย หนำซ้ำ กัมพูชายังสรุปผลการประชุมว่าตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ทำให้คนไทยโกรธแค้นเพราะเสียเปรียบ ร้อนถึงกระทรวงต้องออกแถลงการณ์ตอนดึก ยืนยันว่าไม่ได้หารือ พร้อมแสดงความผิดหวังที่กัมพูชาเดินหน้านำพื้นที่ 4 จุดขึ้นสู่ศาลโลก

    สนธิ ลิ้มทองกุล ตั้งคำถามว่า ตั้งแต่ MOU 2543 ถึง MOU 2544 รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวการที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน มีการระบุว่าต้องใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่ใช่ 1 ต่อ 50,000 เคยถามตัวเองหรือไม่ว่าทำไมกัมพูชาเจรจากับเวียดนามใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ทำไมไทยถึงยอมใช้มาตรา 1 ต่อ 200,000 ส่วนนายประศาสน์ นับตั้งแต่ไปประชุมเจบีซี 3 สัปดาห์แล้วกลับมา ไม่เคยบอกคนไทยว่าไปพูดอะไรบ้าง และไม่บอกว่าไปลงนามข้อตกลงอะไรไว้ เปรียบเป็นไส้ศึกของกัมพูชา

    ที่น่าสนใจ คือ บทความหัวข้อ Thai diplomacy is now in need of a reset เขียนโดย กวี จงกิจถาวร ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุในตอนหนึ่งว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำผิดพลาดทางการทูตร้ายแรงจากคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน แม้กระทรวงการต่างประเทศพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้สถานการณ์ทางการทูตที่เหลืออยู่ แต่ขวัญกำลังใจตกต่ำเป็นประวัติการณ์ นักการทูตและเจ้าหน้าที่รู้สึกว่าถูกละเลยและเพิกเฉย นับตั้งแต่แพทองธารเข้ารับตำแหน่ง การตัดสินใจเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศก็ดำเนินการโดยทักษิณ และกลุ่มคนใกล้ชิด

    "นับตั้งแต่ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงฯ ก็ไร้ทิศทาง ไม่มีผู้นำที่เข้มแข็งมาควบคุม และไม่มีผู้ใดมีอำนาจที่จะควบคุมความเสียหายหรือวางแผนกลยุทธ์"

    #Newskit
    ความตกต่ำของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ คนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผลงานโดดเด่น นอกจากไปเป็นพยานให้ทักษิณ ผู้ต้องหาคดี 112 ขออนุญาตศาลออกนอกประเทศ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่สองพ่อลูก ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ปลุกกระแสชาตินิยม นำปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และช่องบก ร้องต่อศาลโลก ขอให้ตกเป็นของกัมพูชา นอกจากจะแถลงข่าวรายวันก็ไม่มีอะไรโดดเด่น การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเจบีซีฝ่ายไทย เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย นอกจากจะเป็นคู่กรณีนายวีระ สมความคิด เคยบีบบังคับให้ยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชาและด่าว่าเป็นตัวปัญหาแล้ว ในการประชุมเจบีซีมีไลน์หลุดออกมาว่า นายประศาสน์ พยายามโน้มน้าวให้ไทยยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่ทำให้ไทยเสียดินแดน ทำให้เจ้าตัวถึงกับโกรธและไม่คุยด้วย หนำซ้ำ กัมพูชายังสรุปผลการประชุมว่าตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ทำให้คนไทยโกรธแค้นเพราะเสียเปรียบ ร้อนถึงกระทรวงต้องออกแถลงการณ์ตอนดึก ยืนยันว่าไม่ได้หารือ พร้อมแสดงความผิดหวังที่กัมพูชาเดินหน้านำพื้นที่ 4 จุดขึ้นสู่ศาลโลก สนธิ ลิ้มทองกุล ตั้งคำถามว่า ตั้งแต่ MOU 2543 ถึง MOU 2544 รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวการที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน มีการระบุว่าต้องใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่ใช่ 1 ต่อ 50,000 เคยถามตัวเองหรือไม่ว่าทำไมกัมพูชาเจรจากับเวียดนามใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ทำไมไทยถึงยอมใช้มาตรา 1 ต่อ 200,000 ส่วนนายประศาสน์ นับตั้งแต่ไปประชุมเจบีซี 3 สัปดาห์แล้วกลับมา ไม่เคยบอกคนไทยว่าไปพูดอะไรบ้าง และไม่บอกว่าไปลงนามข้อตกลงอะไรไว้ เปรียบเป็นไส้ศึกของกัมพูชา ที่น่าสนใจ คือ บทความหัวข้อ Thai diplomacy is now in need of a reset เขียนโดย กวี จงกิจถาวร ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุในตอนหนึ่งว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำผิดพลาดทางการทูตร้ายแรงจากคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน แม้กระทรวงการต่างประเทศพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้สถานการณ์ทางการทูตที่เหลืออยู่ แต่ขวัญกำลังใจตกต่ำเป็นประวัติการณ์ นักการทูตและเจ้าหน้าที่รู้สึกว่าถูกละเลยและเพิกเฉย นับตั้งแต่แพทองธารเข้ารับตำแหน่ง การตัดสินใจเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศก็ดำเนินการโดยทักษิณ และกลุ่มคนใกล้ชิด "นับตั้งแต่ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงฯ ก็ไร้ทิศทาง ไม่มีผู้นำที่เข้มแข็งมาควบคุม และไม่มีผู้ใดมีอำนาจที่จะควบคุมความเสียหายหรือวางแผนกลยุทธ์" #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ รับ กังวลศาลพิจารณาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ บอกไม่อยากให้งานรบ.สะดุด ปัดนั่งควบ วธ.ไม่เกี่ยวคดี แต่อยากดันซอฟท์เพาเวอร์ รับฟังโพลทุกสำนัก ชี้ โพลดีเป็นกำลังใจ ส่วนผลลบต้องนำมาพัฒนาตัวเอง มองม็อบมีสิทธิ์แสดงออก ยันเดินหน้าทำงานหลายเรื่องรอไม่ได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061530

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นายกฯ รับ กังวลศาลพิจารณาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ บอกไม่อยากให้งานรบ.สะดุด ปัดนั่งควบ วธ.ไม่เกี่ยวคดี แต่อยากดันซอฟท์เพาเวอร์ รับฟังโพลทุกสำนัก ชี้ โพลดีเป็นกำลังใจ ส่วนผลลบต้องนำมาพัฒนาตัวเอง มองม็อบมีสิทธิ์แสดงออก ยันเดินหน้าทำงานหลายเรื่องรอไม่ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061530 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    4
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดฉากการแข่งขันการประกวดวงดนตรีสากล “THE MALL KORAT YOUNG MUSIC CONTEST 2025” ระเบิดความมันส์กระหึ่มฮอลล์ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 86,000 บาท พร้อม "KIDS MARKET คิดส์อยากขาย" 28-29 มิ.ย.68 ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จับมือพันธมิตร ธนาคารออมสิน และ AIS จัดเวทีประกวดดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน “The Mall Korat Young Music Contest 2025” 28-29 มิ.ย.2568 ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กับการประกวดวงดนตรีสากล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 86,000 บาท พร้อมกรรมการทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี ดร.สุรพล นามเสนา ครูเชี่ยวชาญด้านดนตรี ประธานศูนย์ประสานงานสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาจังหวัดนครราชสีมา, ต่อ-Bassist and Producer วงปลานิลเต็มบ้าน (คุณสัญญ์ชัย หิรัญย์บูรณะ) และ ศิลปิน นักแต่งเพลง นักร้องนำ “เป้-วงเคลิ้ม” (คุณพัศวุฒิ ศิริอำพันธกุล) ภายในงานมีคอดนตรีร่วมชม เชียร์ และให้กำลังใจน้อง ๆ ตลอดการแข่งขันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

    เดอะมอลล์โคราช ขอแสดงความยินดีกับวง NewRoof สังกัด Newwall Academy จากนนทบุรี คว้าแชมป์ระดับประถมศึกษา วง Pindola จาก รร.ร่มเกล้าบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ระดับระดับมัธยมศึกษา
    “The Mall Korat Young Music Contest 2025”
    เป็นมากกว่าเวทีประกวดดนตรีแต่คือโอกาสที่ขยายสู่คนมีฝันทั่วประเทศ เพราะได้เปิดพื้นที่ต่อยอดความฝันสู่การประกวด เป็นสะพานสู่โอกาสทางด้านดนตรีในอนาคตให้กับน้อง ๆ ที่มีใจรักดนตรี เป็นการขยายโอกาสให้กับผู้มีใจรักในเสียงเพลงจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งเวทีแห่งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันประกวดดนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ ที่พาโอกาสมาหาคนรุ่นใหม่ที่มีความฝันในการเป็นศิลปินมืออาชีพ กับการได้เปิดมุมมมองและรับประสบการณ์ที่บนโลกออนไลน์ทดแทนไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะทางดนตรีให้กับเยาวชนไทย
    โดยเปิดรับสมัครวงดนตรีสากล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา จากทั่วประเทศมาประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยวันที่ 28 มิ.ย.2568 เป็นรอบการประกวดฯ ระดับประถมศึกษา จำนวน 40 วงดนตรี และ วันที่ 29 มิ.ย.2568 เป็นรอบการประกวดฯ ระดับมัธยมมศึกษา จำนวน 40 วงดนตรี ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ จนถึงวันปิดรับสมัคร มีวงดนตรีทั้ง 2 ระดับการศึกษาเข้าร่วมประกวดกว่า 80 วงจากทั่วประเทศ
    นอกจากเวทีการแข่งขันแล้ว ภายในงานตลอด 2 วัน ยังมีกิจกรรม "KIDS MARKET คิดส์อยากขาย" ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเด็กระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ ผ่านการขายสินค้าด้วยตนเอง เสริมสร้างความกล้าแสดงออก และพัฒนาทักษะทางสังคมในบรรยากาศที่เป็นมิตรและสนุกสนานกิจกรรม KIDS MARKET คิดส์อยากขาย กับบูธฝึกประสบการณ์อาชีพต่างๆ อาทิ DR.PIE : ชุดจำลองหมอฟัน , MONDAY BAKERY : ร้านทำคัพเค้กสุดคิ้วท์, ชพน. : ชุดช่างเด็ก อุปกรณ์ครบครัน, SENDAI : ร้านซูชิ แสนอร่อย, YJ CREATING : DJ ON STAGE, MAJOR CENIPLEX : ร้านป๊อปคอร์น ของน้องๆหนูๆ จัดกิจกรรมตลอดทั้งวัน พร้อมรับของรางวัลมากมาย แจกรวมกว่า 1,000 รางวัล ที่ MCARD JUNIOR CLUB “FUN SPACE” โซน KIDS MARKET ที่ VARIETY HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช งานนนี้มีน้องๆหนูๆ ให้ความสนใจมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าตัวจิ๋วกันอย่างสนุกสนาน
    ***********************

    สำหรับผลการประกวดวงดนตรีสากล ระดับประถมศึกษา "The Mall Korat Young Music Contest 2025"
    1.รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วง NewRoof สังกัด Newwall Academy จ.นนทบุรี เงินรางวัลจำนวน 15,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    2.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ วง Thunder band โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    3.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ วง Little Rock โรงเรียนจินดาพร จ.กรุงเทพมหานคร เงินรางวัลจำนวน 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    4.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ วง กฤษณาเเบนด์ โรงเรียนอนุบาลหันคา (วัดท่ากฤษณา-สุชัยประชาสรรค์) จ.ชัยนาท เงินรางวัลจำนวน 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    5.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 4 ได้แก่ วง The Sky Band โรงเรียนเมธาพัฒน์ จ.นครราชสีมา เงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ

    สำหรับผลการประกวดวงดนตรีสากล ระดับมัธยมศึกษา "The Mall Korat Young Music Contest 2025"
    1.รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วง Pindola จากรร.ร่มเกล้าบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เงินรางวัลจำนวน 15,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    2.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ วง Baby Monkey จาก รร.เทศบาลวัดสระทอง จ.ร้อยเอ็ด เงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    3.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ วง Broadband ขัติยะวงษา จาก รร.ขัติยะวงษา จ.ร้อยเอ็ด เงินรางวัลจำนวน 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    4.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ วงอนัตตา จาก รร.ราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา เงินรางวัลจำนวน 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    5.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 4 ได้แก่ วงอุดรพิทยานุกูล จาก รร.อุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี เงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    ปิดฉากการแข่งขันการประกวดวงดนตรีสากล “THE MALL KORAT YOUNG MUSIC CONTEST 2025” ระเบิดความมันส์กระหึ่มฮอลล์ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 86,000 บาท พร้อม "KIDS MARKET คิดส์อยากขาย" 28-29 มิ.ย.68 ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จับมือพันธมิตร ธนาคารออมสิน และ AIS จัดเวทีประกวดดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน “The Mall Korat Young Music Contest 2025” 28-29 มิ.ย.2568 ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กับการประกวดวงดนตรีสากล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 86,000 บาท พร้อมกรรมการทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี ดร.สุรพล นามเสนา ครูเชี่ยวชาญด้านดนตรี ประธานศูนย์ประสานงานสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาจังหวัดนครราชสีมา, ต่อ-Bassist and Producer วงปลานิลเต็มบ้าน (คุณสัญญ์ชัย หิรัญย์บูรณะ) และ ศิลปิน นักแต่งเพลง นักร้องนำ “เป้-วงเคลิ้ม” (คุณพัศวุฒิ ศิริอำพันธกุล) ภายในงานมีคอดนตรีร่วมชม เชียร์ และให้กำลังใจน้อง ๆ ตลอดการแข่งขันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เดอะมอลล์โคราช ขอแสดงความยินดีกับวง NewRoof สังกัด Newwall Academy จากนนทบุรี คว้าแชมป์ระดับประถมศึกษา วง Pindola จาก รร.ร่มเกล้าบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ระดับระดับมัธยมศึกษา “The Mall Korat Young Music Contest 2025” เป็นมากกว่าเวทีประกวดดนตรีแต่คือโอกาสที่ขยายสู่คนมีฝันทั่วประเทศ เพราะได้เปิดพื้นที่ต่อยอดความฝันสู่การประกวด เป็นสะพานสู่โอกาสทางด้านดนตรีในอนาคตให้กับน้อง ๆ ที่มีใจรักดนตรี เป็นการขยายโอกาสให้กับผู้มีใจรักในเสียงเพลงจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งเวทีแห่งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันประกวดดนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ ที่พาโอกาสมาหาคนรุ่นใหม่ที่มีความฝันในการเป็นศิลปินมืออาชีพ กับการได้เปิดมุมมมองและรับประสบการณ์ที่บนโลกออนไลน์ทดแทนไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะทางดนตรีให้กับเยาวชนไทย โดยเปิดรับสมัครวงดนตรีสากล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา จากทั่วประเทศมาประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยวันที่ 28 มิ.ย.2568 เป็นรอบการประกวดฯ ระดับประถมศึกษา จำนวน 40 วงดนตรี และ วันที่ 29 มิ.ย.2568 เป็นรอบการประกวดฯ ระดับมัธยมมศึกษา จำนวน 40 วงดนตรี ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ จนถึงวันปิดรับสมัคร มีวงดนตรีทั้ง 2 ระดับการศึกษาเข้าร่วมประกวดกว่า 80 วงจากทั่วประเทศ นอกจากเวทีการแข่งขันแล้ว ภายในงานตลอด 2 วัน ยังมีกิจกรรม "KIDS MARKET คิดส์อยากขาย" ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเด็กระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ ผ่านการขายสินค้าด้วยตนเอง เสริมสร้างความกล้าแสดงออก และพัฒนาทักษะทางสังคมในบรรยากาศที่เป็นมิตรและสนุกสนานกิจกรรม KIDS MARKET คิดส์อยากขาย กับบูธฝึกประสบการณ์อาชีพต่างๆ อาทิ DR.PIE : ชุดจำลองหมอฟัน , MONDAY BAKERY : ร้านทำคัพเค้กสุดคิ้วท์, ชพน. : ชุดช่างเด็ก อุปกรณ์ครบครัน, SENDAI : ร้านซูชิ แสนอร่อย, YJ CREATING : DJ ON STAGE, MAJOR CENIPLEX : ร้านป๊อปคอร์น ของน้องๆหนูๆ จัดกิจกรรมตลอดทั้งวัน พร้อมรับของรางวัลมากมาย แจกรวมกว่า 1,000 รางวัล ที่ MCARD JUNIOR CLUB “FUN SPACE” โซน KIDS MARKET ที่ VARIETY HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช งานนนี้มีน้องๆหนูๆ ให้ความสนใจมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าตัวจิ๋วกันอย่างสนุกสนาน *********************** สำหรับผลการประกวดวงดนตรีสากล ระดับประถมศึกษา "The Mall Korat Young Music Contest 2025" 1.รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วง NewRoof สังกัด Newwall Academy จ.นนทบุรี เงินรางวัลจำนวน 15,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 2.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ วง Thunder band โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 3.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ วง Little Rock โรงเรียนจินดาพร จ.กรุงเทพมหานคร เงินรางวัลจำนวน 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 4.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ วง กฤษณาเเบนด์ โรงเรียนอนุบาลหันคา (วัดท่ากฤษณา-สุชัยประชาสรรค์) จ.ชัยนาท เงินรางวัลจำนวน 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 5.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 4 ได้แก่ วง The Sky Band โรงเรียนเมธาพัฒน์ จ.นครราชสีมา เงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ สำหรับผลการประกวดวงดนตรีสากล ระดับมัธยมศึกษา "The Mall Korat Young Music Contest 2025" 1.รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วง Pindola จากรร.ร่มเกล้าบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เงินรางวัลจำนวน 15,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 2.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ วง Baby Monkey จาก รร.เทศบาลวัดสระทอง จ.ร้อยเอ็ด เงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 3.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ วง Broadband ขัติยะวงษา จาก รร.ขัติยะวงษา จ.ร้อยเอ็ด เงินรางวัลจำนวน 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 4.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ วงอนัตตา จาก รร.ราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา เงินรางวัลจำนวน 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ 5.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 4 ได้แก่ วงอุดรพิทยานุกูล จาก รร.อุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี เงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนคนไทยเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อขับไล่ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง เซ่นคลิปเสียงสนทนากับ “นายฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา รวมทั้งเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลทันที ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนตกลงมาแต่ประชาชนก็ไม่หวั่น

    ด้านอินสตาแกรม “ม้า อรนภา กฤษฎี” โพสต์ภาพบรรยากาศคนมาร่วมชุมนุม เขียนแคปชั่นให้กำลังใจ ระบุว่า “พี่น้องสู้ๆ นะ อย่าถอย ถึงฝนจะตกเดี๋ยวมันก็หยุดแล้ว รักทุกคน” พร้อมใส่เพลงปลุกใจ รักเธอประเทศไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000060965

    #Thaitimes #MGROnline #ม้าอรนภา #ม็อบ28มิถุนา #รวมพลังแผ่นดิน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #แพทองธารชินวัตร
    ประชาชนคนไทยเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อขับไล่ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง เซ่นคลิปเสียงสนทนากับ “นายฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา รวมทั้งเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลทันที ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนตกลงมาแต่ประชาชนก็ไม่หวั่น • ด้านอินสตาแกรม “ม้า อรนภา กฤษฎี” โพสต์ภาพบรรยากาศคนมาร่วมชุมนุม เขียนแคปชั่นให้กำลังใจ ระบุว่า “พี่น้องสู้ๆ นะ อย่าถอย ถึงฝนจะตกเดี๋ยวมันก็หยุดแล้ว รักทุกคน” พร้อมใส่เพลงปลุกใจ รักเธอประเทศไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000060965 • #Thaitimes #MGROnline #ม้าอรนภา #ม็อบ28มิถุนา #รวมพลังแผ่นดิน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #แพทองธารชินวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ทหารสูงสุด เผย ผบ.เหล่าทัพตั้งสติคิดรอบคอบ ปกป้องอธิปไตย หลัง ‘ฮุน เซน’ ปั่นกระแสรายวัน ชี้แผนเผชิญเหตุชายแดนฯ ยังอยู่ระดับกองทัพภาคที่ 2 ย้ำจุดยืนกองทัพ ยึด รธน.ปกป้องอธิปไตย ปฏิเสธตอบให้กำลังใจนายกฯ หรือไม่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060730

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ทหารสูงสุด เผย ผบ.เหล่าทัพตั้งสติคิดรอบคอบ ปกป้องอธิปไตย หลัง ‘ฮุน เซน’ ปั่นกระแสรายวัน ชี้แผนเผชิญเหตุชายแดนฯ ยังอยู่ระดับกองทัพภาคที่ 2 ย้ำจุดยืนกองทัพ ยึด รธน.ปกป้องอธิปไตย ปฏิเสธตอบให้กำลังใจนายกฯ หรือไม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060730 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 741 มุมมอง 0 รีวิว
  • Uncle จำลอง ส่งกำลังใจให้มวลชน 27/06/68 #ลุงจำลอง #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #ชุมนุม 28 มิถุนายน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    Uncle จำลอง ส่งกำลังใจให้มวลชน 27/06/68 #ลุงจำลอง #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #ชุมนุม 28 มิถุนายน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    Love
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 54 1 รีวิว
  • สงครามข่าวสาร ฮุน เซนขยี้ไทย

    นับตั้งแต่ที่ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โยนคลิปเสียงใส่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จากประเทศไทย ทำให้คนไทยทั้งประเทศเดือดดาล ประนามด้วยข้อกล่าวหา "ขายชาติ" แม้เจ้าตัวจะมั่นหน้ามั่นใจ ท่องคาถา "ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร" พยายามลงพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้กำลังใจทหารไทย ก็มีทั้งคนรักคนชัง ชูป้าย "นายกขายชาติ" "นายกเนรคุณ" และ "นายกไทยใจเขมร" สอดรับกับการชุมนุมรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

    ขณะที่สงครามข่าวสารผ่านเฟซบุ๊ก ทั้ง ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังประสบความสำเร็จในการตีนายกฯ แพทองธาร ทำรัฐนาวาแตกฉานซ่านเซ็น บ้างหนีตาย บ้างโดดเกาะราวกับเห็บหมัด เพราะเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง ฮุน เซน ยังขยี้ด้วยการแฉหลักฐานความสัมพันธ์กับ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาแพทองธาร เปิดห้องนอนอดีตสองผู้นำ "ห้องทักษิณ" และ "ห้องยิ่งลักษณ์" ตอกย้ำความสัมพันธ์แนบแน่นในอดีต

    ต่อมาคาดการณ์ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีในไทยอีก 3 เดือน แต่จากสถานการณ์แล้ว อาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพและเป็นผู้นำประเทศไทยมาเกือบสิบปีไม่เคยมีปัญหากับกัมพูชาเลย

    สอดรับกับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต กล่าวว่า กำลังรอบุคคลในไทยที่มีอำนาจแท้จริง มีจุดยืนที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เกี่ยวกับชายแดนไทย-กัมพูชา หลังนายกฯ แพทองธารประกาศปิดพรมแดนกับกัมพูชาเต็มรูปแบบ อ้างว่าเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ แต่ไม่ชัดเจนและไม่สอดคล้องกัน สังเกตว่าบางครั้งด่านพรมแดนถูกปิดสนิท แต่จะเปิดอีกครั้งในบางพื้นที่เท่านั้น ยืนยันว่ากัมพูชาไม่ได้เล่นเกมลับแบบนั้น หากลงมือทำก็จะรับผิดชอบ ซึ่งรัฐบาลได้แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว หากประเทศไทยปิดพรมแดน กัมพูชาจะปิดอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าไทยจะเปิดพรมแดนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

    ล่าสุด ฮุน เซน ประกาศว่า ทักษิณทรยศต่อเขา จะเปิดเผยการกระทำทรยศต่อกัมพูชา รวมถึงละเมิดพระมหากษัตริย์ไทย ในตอนหนึ่งระบุว่า อยากให้คนอื่นทรยศผมก่อนดีกว่า ผมไม่ทรยศคนอื่นก่อน ตอนนี้ผมถูกทรยศ ผมรู้สึกว่าผมต้องเปิดเผยสิ่งที่ครอบครัวทักษิณทำเพื่อทรยศต่อประเทศชาติ นี่คือคำเตือน ควรสอนลูกๆ และพวกเขาควรเข้าใจพ่อและคนอื่น ตนไม่เคยคิดว่าครอบครัวที่เคยช่วยจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีและก่อให้เกิดปัญหาเช่นนี้ ถ้าทักษิณทำตัวเย่อหยิ่ง จะเปิดเผยทุกอย่างที่เคยบอก รวมทั้งการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ไทยด้วย อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นคนที่ขัดใจได้ ตนไม่ได้เป็นหนี้ประเทศไทย

    #Newskit
    สงครามข่าวสาร ฮุน เซนขยี้ไทย นับตั้งแต่ที่ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โยนคลิปเสียงใส่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จากประเทศไทย ทำให้คนไทยทั้งประเทศเดือดดาล ประนามด้วยข้อกล่าวหา "ขายชาติ" แม้เจ้าตัวจะมั่นหน้ามั่นใจ ท่องคาถา "ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร" พยายามลงพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้กำลังใจทหารไทย ก็มีทั้งคนรักคนชัง ชูป้าย "นายกขายชาติ" "นายกเนรคุณ" และ "นายกไทยใจเขมร" สอดรับกับการชุมนุมรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่สงครามข่าวสารผ่านเฟซบุ๊ก ทั้ง ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังประสบความสำเร็จในการตีนายกฯ แพทองธาร ทำรัฐนาวาแตกฉานซ่านเซ็น บ้างหนีตาย บ้างโดดเกาะราวกับเห็บหมัด เพราะเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง ฮุน เซน ยังขยี้ด้วยการแฉหลักฐานความสัมพันธ์กับ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาแพทองธาร เปิดห้องนอนอดีตสองผู้นำ "ห้องทักษิณ" และ "ห้องยิ่งลักษณ์" ตอกย้ำความสัมพันธ์แนบแน่นในอดีต ต่อมาคาดการณ์ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีในไทยอีก 3 เดือน แต่จากสถานการณ์แล้ว อาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพและเป็นผู้นำประเทศไทยมาเกือบสิบปีไม่เคยมีปัญหากับกัมพูชาเลย สอดรับกับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต กล่าวว่า กำลังรอบุคคลในไทยที่มีอำนาจแท้จริง มีจุดยืนที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เกี่ยวกับชายแดนไทย-กัมพูชา หลังนายกฯ แพทองธารประกาศปิดพรมแดนกับกัมพูชาเต็มรูปแบบ อ้างว่าเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ แต่ไม่ชัดเจนและไม่สอดคล้องกัน สังเกตว่าบางครั้งด่านพรมแดนถูกปิดสนิท แต่จะเปิดอีกครั้งในบางพื้นที่เท่านั้น ยืนยันว่ากัมพูชาไม่ได้เล่นเกมลับแบบนั้น หากลงมือทำก็จะรับผิดชอบ ซึ่งรัฐบาลได้แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว หากประเทศไทยปิดพรมแดน กัมพูชาจะปิดอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าไทยจะเปิดพรมแดนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ล่าสุด ฮุน เซน ประกาศว่า ทักษิณทรยศต่อเขา จะเปิดเผยการกระทำทรยศต่อกัมพูชา รวมถึงละเมิดพระมหากษัตริย์ไทย ในตอนหนึ่งระบุว่า อยากให้คนอื่นทรยศผมก่อนดีกว่า ผมไม่ทรยศคนอื่นก่อน ตอนนี้ผมถูกทรยศ ผมรู้สึกว่าผมต้องเปิดเผยสิ่งที่ครอบครัวทักษิณทำเพื่อทรยศต่อประเทศชาติ นี่คือคำเตือน ควรสอนลูกๆ และพวกเขาควรเข้าใจพ่อและคนอื่น ตนไม่เคยคิดว่าครอบครัวที่เคยช่วยจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีและก่อให้เกิดปัญหาเช่นนี้ ถ้าทักษิณทำตัวเย่อหยิ่ง จะเปิดเผยทุกอย่างที่เคยบอก รวมทั้งการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ไทยด้วย อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นคนที่ขัดใจได้ ตนไม่ได้เป็นหนี้ประเทศไทย #Newskit
    Haha
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้ว่าฯพิจิตร ไม่ทน! เตรียมนำม็อบเข้ากรุง ให้กำลังใจทหารชายแดน
    https://www.thai-tai.tv/news/19790/
    อดีตผู้ว่าฯพิจิตร ไม่ทน! เตรียมนำม็อบเข้ากรุง ให้กำลังใจทหารชายแดน https://www.thai-tai.tv/news/19790/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีวิวกรุ๊ปส่วนตัว 22 ท่าน
    #เวียงจันทน์#คุนหมิง 5 วัน 4 คืน
    เดินทาง 30 พ.ค. – 4 มิ.ย. 68

    ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บินลัดฟ้าจากลาวสู่จีน
    เริ่มต้นที่เวียงจันทน์ ชมประตูชัย-พระธาตุหลวง
    ต่อด้วยรถไฟความเร็วสูงสู่คุนหมิง
    ⛰ เที่ยวธรรมชาติที่สวยตะลึง ทั้งหุบเขา น้ำตก และสวนสวยเมืองจีน
    อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองทั้งลาว-จีน
    เก็บภาพประทับใจเต็มกล้อง

    ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้เราดูแล

    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่ได้เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง
    ทุกความทรงจำเป็นกำลังใจอันมีค่าสำหรับพวกเราค่ะ
    หวังว่าจะได้ดูแลทริปหน้าของทุกท่านอีกนะคะ

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🎉 รีวิวกรุ๊ปส่วนตัว 22 ท่าน 🎉 #เวียงจันทน์ – #คุนหมิง 5 วัน 4 คืน 📅 เดินทาง 30 พ.ค. – 4 มิ.ย. 68 🌟 ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บินลัดฟ้าจากลาวสู่จีน 📍 เริ่มต้นที่เวียงจันทน์ ชมประตูชัย-พระธาตุหลวง 🚄 ต่อด้วยรถไฟความเร็วสูงสู่คุนหมิง ⛰ เที่ยวธรรมชาติที่สวยตะลึง ทั้งหุบเขา น้ำตก และสวนสวยเมืองจีน 🍱 อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองทั้งลาว-จีน 📸 เก็บภาพประทับใจเต็มกล้อง 🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้เราดูแล ❤️ ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่ได้เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง 📸 ทุกความทรงจำเป็นกำลังใจอันมีค่าสำหรับพวกเราค่ะ 😘 หวังว่าจะได้ดูแลทริปหน้าของทุกท่านอีกนะคะ 💖✈️ LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ประเทศไทย เป็นของ #ประชาชน ไม่ใช่ ของ #คนใดคนหนึ่ง #พรรคการเมือง #นักการเมือง #ทุน #กลุ่มทุน เรา #คนไทย มาร่วมกัน แสดง #พลัง #ทำหน้าที่ #พลเมือง #ปกป้อง #บ้านเมือง #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #สามัคคีคือพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย #28มิถุนามาแน่ ส่ง #กำลังใจให้ #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ทหารไทยชายแดน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ ไล่ #นายก #รัฐบาล #ขายชาติ #ชายแดนไทยกัมพูชา
    https://youtube.com/shorts/CfY-c-Rcogg
    #ประเทศไทย เป็นของ #ประชาชน ไม่ใช่ ของ #คนใดคนหนึ่ง #พรรคการเมือง #นักการเมือง #ทุน #กลุ่มทุน เรา #คนไทย มาร่วมกัน แสดง #พลัง #ทำหน้าที่ #พลเมือง #ปกป้อง #บ้านเมือง #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #สามัคคีคือพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย #28มิถุนามาแน่ ส่ง #กำลังใจให้ #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ทหารไทยชายแดน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ ไล่ #นายก #รัฐบาล #ขายชาติ #ชายแดนไทยกัมพูชา https://youtube.com/shorts/CfY-c-Rcogg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำลังใจ
    Cr.Wiwan Boonya
    กำลังใจ Cr.Wiwan Boonya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่มีประเด็นดราม่าก็หายหน้าหายตาจากโซเชียลไปเลย สำหรับ "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเคลื่อนไหวไอจีอีกครั้ง โดยระบุว่า เตรียมไลฟ์ผ่านติ๊กตอกพรุ่งนี้ (25 มิ.ย. 2568)

    โดย "ดิว อริสรา" ได้โพสต์ข้อความลงใน IG สอตรี่ เผยว่า "เจอกันวันพุธนี้ครั้งแรกของดิว TikTok Live เวลา 20:00น. พร้อมกัน reminder I am allowed to rest. I deserve to be loved. It will always work out for me. Ilove my body & everything it does for me. I love my creativity.I am enough. Doing things I love is an act of self care.I am grateful for every opportunity in my life.ขอบคณสำหรับทกโอกาสขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ขอบคุณสำหรับความรัก และ ขอโทษจากใจอีกครั้งสำหรับทุกอย่าง"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000059530

    #Thaitimes #MGROnline #ดิวอริสรา
    หลังจากที่มีประเด็นดราม่าก็หายหน้าหายตาจากโซเชียลไปเลย สำหรับ "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเคลื่อนไหวไอจีอีกครั้ง โดยระบุว่า เตรียมไลฟ์ผ่านติ๊กตอกพรุ่งนี้ (25 มิ.ย. 2568) • โดย "ดิว อริสรา" ได้โพสต์ข้อความลงใน IG สอตรี่ เผยว่า "เจอกันวันพุธนี้ครั้งแรกของดิว TikTok Live เวลา 20:00น. พร้อมกัน reminder I am allowed to rest. I deserve to be loved. It will always work out for me. Ilove my body & everything it does for me. I love my creativity.I am enough. Doing things I love is an act of self care.I am grateful for every opportunity in my life.ขอบคณสำหรับทกโอกาสขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ขอบคุณสำหรับความรัก และ ขอโทษจากใจอีกครั้งสำหรับทุกอย่าง" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000059530 • #Thaitimes #MGROnline #ดิวอริสรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts