• ปักกิ่งเน้นย้ำจุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรม ในเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ตามรายงานของโกลบอลไทมส์ สื่อของรัฐบาลจีนในวันจันทร์(28ก.ค.) อ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร

    เมื่อถูกถามเกี่ยวกับจุดยืนของจีน หลังกัมพูชาและไทยยังคงสู้รบกันอยู่ แม้เมื่อเร็วๆนี้ทั้ง 2 ฝ่ายแสดงถึงความตั้งใจหยุดยิงและยุติความขัดแย้ง ภายใต้ความพยายามเป็นคนกลางของนานาชาติ

    ในเรื่องนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกในวันอาทิตย์(27ก.ค.) ว่ากัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่อาจย้ายหนีกันได้ และต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน การยึดมั่นต่อความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงบริหารจัดการความเห็นต่างอย่างเหมาะสม จะช่วยรับใช้ผลประโยชน์พื้นฐานในระยะยาวของทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

    โฆษกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวต่อว่า จีนรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาและไทย อันมีต้นตอจากความขัดแย้ง และขอแสดงความเสียใจด้วยความจริงใจ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000071067

    #Thaitimes #MGROnline #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ปักกิ่งเน้นย้ำจุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรม ในเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ตามรายงานของโกลบอลไทมส์ สื่อของรัฐบาลจีนในวันจันทร์(28ก.ค.) อ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร • เมื่อถูกถามเกี่ยวกับจุดยืนของจีน หลังกัมพูชาและไทยยังคงสู้รบกันอยู่ แม้เมื่อเร็วๆนี้ทั้ง 2 ฝ่ายแสดงถึงความตั้งใจหยุดยิงและยุติความขัดแย้ง ภายใต้ความพยายามเป็นคนกลางของนานาชาติ • ในเรื่องนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกในวันอาทิตย์(27ก.ค.) ว่ากัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่อาจย้ายหนีกันได้ และต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน การยึดมั่นต่อความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงบริหารจัดการความเห็นต่างอย่างเหมาะสม จะช่วยรับใช้ผลประโยชน์พื้นฐานในระยะยาวของทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค • โฆษกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวต่อว่า จีนรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาและไทย อันมีต้นตอจากความขัดแย้ง และขอแสดงความเสียใจด้วยความจริงใจ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000071067 • #Thaitimes #MGROnline #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนยันไม่หนุนเขมรโจมตีไทย! เผย "ยุทโธปกรณ์จีนในกัมพูชา" มาจากความร่วมมือในอดีต
    https://www.thai-tai.tv/news/20555/
    .
    #ความสัมพันธ์ไทยจีน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทโธปกรณ์จีน #ข่าวปลอม #สถานทูตไทยปักกิ่ง #OfficeofDefenceandArmy #MilitaryCooperation #กองทัพไทย #กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน #พันเอกศิวัตม์รัตนอนันต์
    จีนยันไม่หนุนเขมรโจมตีไทย! เผย "ยุทโธปกรณ์จีนในกัมพูชา" มาจากความร่วมมือในอดีต https://www.thai-tai.tv/news/20555/ . #ความสัมพันธ์ไทยจีน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทโธปกรณ์จีน #ข่าวปลอม #สถานทูตไทยปักกิ่ง #OfficeofDefenceandArmy #MilitaryCooperation #กองทัพไทย #กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน #พันเอกศิวัตม์รัตนอนันต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่น่าจะเดินหน้าข้อเสนอรีดภาษี 100% สินค้านำเข้าจากรัสเซียและคู่ค้าของมอสโก สืบเนื่องจากความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์สอ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000067139

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่น่าจะเดินหน้าข้อเสนอรีดภาษี 100% สินค้านำเข้าจากรัสเซียและคู่ค้าของมอสโก สืบเนื่องจากความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์สอ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000067139 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1044 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สอพลอขั้นสุด"

    มาร์ก รุตเต้ (Mark Rutte) เลขาธิการนาโต (NATO) ย้ำเตือนไปถึงบราซิล อินเดีย และจีน หากยังคงทำธุรกิจร่วมกับรัสเซีย จะถูกสหรัฐใช้มาตรการรีดภาษีในอัตราสูงถึง 100%

    “ผมอยากบอกถึงทั้ง 3 ประเทศ ปักกิ่ง นิวเดลี หรือเป็นประธานาธิบดีของบราซิล คุณควรต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นพวกคุณจะได้รับผลกระทบที่หนักมาก”

    “โทรหา วลาดิมีร์ ปูติน ซะ! และบอกเขาให้จริงจังกับการเจรจาสันติภาพ ไม่เช่นนั้นพวกคุณจะโดนภาษีเหล่านี้เล่นงานอย่างหนักหน่วง”

    รุตเต้ กล่าวย้ำอีกครั้งเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ทรัมป์ประกาศจัดส่งอาวุธล็อตใหม่ให้ยูเครน พร้อมขู่จะเก็บภาษีนำเข้า 100% กับประเทศใดก็ตามที่ยังซื้อสินค้าจากรัสเซีย หากรัสเซียไม่ยอมลงนามในข้อตกลงยุติสงครามภายใน 50 วัน
    "สอพลอขั้นสุด" มาร์ก รุตเต้ (Mark Rutte) เลขาธิการนาโต (NATO) ย้ำเตือนไปถึงบราซิล อินเดีย และจีน หากยังคงทำธุรกิจร่วมกับรัสเซีย จะถูกสหรัฐใช้มาตรการรีดภาษีในอัตราสูงถึง 100% “ผมอยากบอกถึงทั้ง 3 ประเทศ ปักกิ่ง นิวเดลี หรือเป็นประธานาธิบดีของบราซิล คุณควรต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นพวกคุณจะได้รับผลกระทบที่หนักมาก” “โทรหา วลาดิมีร์ ปูติน ซะ! และบอกเขาให้จริงจังกับการเจรจาสันติภาพ ไม่เช่นนั้นพวกคุณจะโดนภาษีเหล่านี้เล่นงานอย่างหนักหน่วง” รุตเต้ กล่าวย้ำอีกครั้งเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ทรัมป์ประกาศจัดส่งอาวุธล็อตใหม่ให้ยูเครน พร้อมขู่จะเก็บภาษีนำเข้า 100% กับประเทศใดก็ตามที่ยังซื้อสินค้าจากรัสเซีย หากรัสเซียไม่ยอมลงนามในข้อตกลงยุติสงครามภายใน 50 วัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณแม่ชอบดูหนังปักกิ่ง
    คุณแม่ชอบดูหนังปักกิ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia กลับมาขาย H20 ให้จีน – สหรัฐฯ ไฟเขียวส่งออกชิป AI อีกครั้ง

    หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯสั่งห้ามการส่งออกชิป AI รุ่น H100 และ H200 ไปยังจีนในปี 2023 Nvidia ได้เปิดตัวรุ่น H20 ซึ่งเป็นเวอร์ชันลดสเปกเพื่อให้ผ่านข้อจำกัด แต่ก็ยังถูกแบนในเดือนเมษายน 2024 ภายใต้กฎ AI diffusion rule และมาตรการเสริมจากฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดี Trump

    ล่าสุด Nvidia ยืนยันว่าได้รับคำมั่นจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะอนุมัติใบอนุญาตส่งออกสำหรับ H20 และหวังว่าจะเริ่มส่งมอบได้เร็ว ๆ นี้

    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้เดินทางระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งเพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ โดยเน้นว่า AI จะสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจและสังคมทั่วโลก และการจำกัดเทคโนโลยีจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบต่อคู่แข่งอย่าง Huawei

    แม้จะยังไม่ใช่การยกเลิกการแบนทั้งหมด แต่การอนุมัติใบอนุญาตส่งออก H20 ถือเป็นสัญญาณบวก และอาจเป็นผลจากข้อตกลงการค้าล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เช่น การกลับมาส่งออกแร่หายากจากจีน และการยกเลิกข้อจำกัดด้าน EDA (Electronic Design Automation)

    เพื่อเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอน Nvidia ยังเปิดตัว RTX Pro GPU ที่ออกแบบให้เหมาะกับงาน AI ในโรงงานอัจฉริยะ และเตรียมรุ่น HGX H20 แบบลดสเปกเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-to-resume-h20-sales-in-china-says-u-s-government-has-promised-to-grant-licenses-deliveries-to-start-soon
    Nvidia กลับมาขาย H20 ให้จีน – สหรัฐฯ ไฟเขียวส่งออกชิป AI อีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯสั่งห้ามการส่งออกชิป AI รุ่น H100 และ H200 ไปยังจีนในปี 2023 Nvidia ได้เปิดตัวรุ่น H20 ซึ่งเป็นเวอร์ชันลดสเปกเพื่อให้ผ่านข้อจำกัด แต่ก็ยังถูกแบนในเดือนเมษายน 2024 ภายใต้กฎ AI diffusion rule และมาตรการเสริมจากฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดี Trump ล่าสุด Nvidia ยืนยันว่าได้รับคำมั่นจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะอนุมัติใบอนุญาตส่งออกสำหรับ H20 และหวังว่าจะเริ่มส่งมอบได้เร็ว ๆ นี้ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้เดินทางระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งเพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ โดยเน้นว่า AI จะสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจและสังคมทั่วโลก และการจำกัดเทคโนโลยีจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบต่อคู่แข่งอย่าง Huawei แม้จะยังไม่ใช่การยกเลิกการแบนทั้งหมด แต่การอนุมัติใบอนุญาตส่งออก H20 ถือเป็นสัญญาณบวก และอาจเป็นผลจากข้อตกลงการค้าล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เช่น การกลับมาส่งออกแร่หายากจากจีน และการยกเลิกข้อจำกัดด้าน EDA (Electronic Design Automation) เพื่อเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอน Nvidia ยังเปิดตัว RTX Pro GPU ที่ออกแบบให้เหมาะกับงาน AI ในโรงงานอัจฉริยะ และเตรียมรุ่น HGX H20 แบบลดสเปกเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-to-resume-h20-sales-in-china-says-u-s-government-has-promised-to-grant-licenses-deliveries-to-start-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง

    สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้

    YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน

    DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ  
    • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process  
    • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ

    กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:  
    • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak  
    • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม  
    • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง

    บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:  
    • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด  
    • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ

    เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual  
    • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้ YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน ✅ DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ   • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process   • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ ✅ กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:   • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak   • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม   • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง ✅ บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:   • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด   • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ ✅ เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual   • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจคิดว่า Starlink ของ Elon Musk คือสุดยอดแล้วในเรื่องอินเทอร์เน็ตดาวเทียม แต่ทีมวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและมหาวิทยาลัยการสื่อสารปักกิ่งเพิ่งโชว์ว่า เขาสามารถส่งข้อมูลที่ความเร็ว 1Gbps จากดาวเทียมที่โคจรอยู่ไกลกว่ากันถึง 67 เท่า ได้สำเร็จ แถมใช้เลเซอร์แค่ “2 วัตต์” ซึ่งเบามาก — เปรียบเทียบได้กับหลอดไฟกลางคืนเลยทีเดียว

    เคล็ดลับอยู่ที่การผสมสองเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน:
    - Adaptive Optics (AO): ช่วยแก้ปัญาแสงเลเซอร์โดนรบกวนจากชั้นบรรยากาศ
    - Mode Diversity Reception (MDR): เลือกสัญญาณจากช่องที่ดีที่สุด (จาก 8 ช่อง) ในเวลาเรียลไทม์

    ผลที่ได้ไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่ยังมี “ความนิ่ง” ที่ดีกว่าระบบเดิม 20% และมีอัตราการส่งข้อมูลผิด (error rate) ต่ำมาก

    ทีมวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการส่งข้อมูล 1Gbps จากดาวเทียม geostationary ที่สูง 22,807 ไมล์  
    • เปรียบเทียบกับ Starlink ที่โคจรแค่ ~341 ไมล์  
    • เป็นระยะทางไกลกว่าเกือบ 70 เท่า

    ใช้เลเซอร์กำลังเพียง 2 วัตต์ ในการส่งข้อมูลลงมายังโลก  
    ให้ความเร็วใกล้เคียง fiber optics  
    • คิดเป็นพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับเดียวกัน

    ใช้เทคนิค AO + MDR เพื่อแก้ปัญหาแสงโดนรบกวนในชั้นบรรยากาศ  
    • AO ช่วยปรับรูปร่างแสงเลเซอร์ให้คม  
    • MDR เลือก 3 ใน 8 ช่องที่ดีที่สุด เพื่อลด error rate

    อัตราความสำเร็จของสัญญาณเพิ่มจาก 72% → 91.1%  
    • ทำให้สัญญาณนิ่ง ใช้จริงได้ทั้งดูวิดีโอ, ส่งไฟล์, และใช้งานในสภาพแวดล้อมรุนแรง

    ระบบนี้ทดลองที่หอดูดาว Lijiang ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่มี AO แบบกระจกจิ๋วนับร้อย

    ดาวเทียมนี้ยังเหมาะกับการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล, ภารกิจในอวกาศ, หรือแม้กระทั่งสื่อสารกับสถานีอวกาศ (ISS)

    https://www.techradar.com/computing/wi-fi-broadband/forget-starlink-this-chinese-satellite-internet-tech-is-capable-of-1gbps-speeds-that-are-five-times-faster
    หลายคนอาจคิดว่า Starlink ของ Elon Musk คือสุดยอดแล้วในเรื่องอินเทอร์เน็ตดาวเทียม แต่ทีมวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและมหาวิทยาลัยการสื่อสารปักกิ่งเพิ่งโชว์ว่า เขาสามารถส่งข้อมูลที่ความเร็ว 1Gbps จากดาวเทียมที่โคจรอยู่ไกลกว่ากันถึง 67 เท่า ได้สำเร็จ แถมใช้เลเซอร์แค่ “2 วัตต์” ซึ่งเบามาก — เปรียบเทียบได้กับหลอดไฟกลางคืนเลยทีเดียว เคล็ดลับอยู่ที่การผสมสองเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน: - Adaptive Optics (AO): ช่วยแก้ปัญาแสงเลเซอร์โดนรบกวนจากชั้นบรรยากาศ - Mode Diversity Reception (MDR): เลือกสัญญาณจากช่องที่ดีที่สุด (จาก 8 ช่อง) ในเวลาเรียลไทม์ ผลที่ได้ไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่ยังมี “ความนิ่ง” ที่ดีกว่าระบบเดิม 20% และมีอัตราการส่งข้อมูลผิด (error rate) ต่ำมาก ✅ ทีมวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการส่งข้อมูล 1Gbps จากดาวเทียม geostationary ที่สูง 22,807 ไมล์   • เปรียบเทียบกับ Starlink ที่โคจรแค่ ~341 ไมล์   • เป็นระยะทางไกลกว่าเกือบ 70 เท่า ✅ ใช้เลเซอร์กำลังเพียง 2 วัตต์ ในการส่งข้อมูลลงมายังโลก   ให้ความเร็วใกล้เคียง fiber optics   • คิดเป็นพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับเดียวกัน ✅ ใช้เทคนิค AO + MDR เพื่อแก้ปัญหาแสงโดนรบกวนในชั้นบรรยากาศ   • AO ช่วยปรับรูปร่างแสงเลเซอร์ให้คม   • MDR เลือก 3 ใน 8 ช่องที่ดีที่สุด เพื่อลด error rate ✅ อัตราความสำเร็จของสัญญาณเพิ่มจาก 72% → 91.1%   • ทำให้สัญญาณนิ่ง ใช้จริงได้ทั้งดูวิดีโอ, ส่งไฟล์, และใช้งานในสภาพแวดล้อมรุนแรง ✅ ระบบนี้ทดลองที่หอดูดาว Lijiang ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่มี AO แบบกระจกจิ๋วนับร้อย ✅ ดาวเทียมนี้ยังเหมาะกับการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล, ภารกิจในอวกาศ, หรือแม้กระทั่งสื่อสารกับสถานีอวกาศ (ISS) https://www.techradar.com/computing/wi-fi-broadband/forget-starlink-this-chinese-satellite-internet-tech-is-capable-of-1gbps-speeds-that-are-five-times-faster
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนชี้ปฏิบัติการโจมตีฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่านทำให้สหรัฐฯ หมดความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก และปักกิ่งมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจจะลุกลามบานปลายจน "ควบคุมไม่อยู่"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058759

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    จีนชี้ปฏิบัติการโจมตีฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่านทำให้สหรัฐฯ หมดความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก และปักกิ่งมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจจะลุกลามบานปลายจน "ควบคุมไม่อยู่" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058759 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1064 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากสหรัฐฯ ออกข้อจำกัดไม่ให้ Nvidia ขายการ์ด AI ระดับสูง (เช่น H100, H200, B200) ให้กับจีนโดยตรง บริษัทจีนหลายแห่งก็พยายาม “หาทางอ้อม” เพื่อใช้งาน GPU เหล่านี้ต่อ

    ล่าสุด มีรายงานว่า ชาวจีน 4 คนบินจากปักกิ่งมามาเลเซีย พร้อมนำฮาร์ดดิสก์ที่บรรจุข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ ทั้งวิดีโอ ภาพ และ spreadsheet เพื่อ “ฝึก AI” บนเซิร์ฟเวอร์ที่เช่าผ่าน data center ในมาเลเซีย ที่มี GPU ของ Nvidia ติดตั้งอยู่ราว 2,400 ตัว

    แม้จะฟังดูไม่ใช่คลัสเตอร์ขนาดใหญ่เท่า supercomputer แต่ก็เพียงพอสำหรับ training model ได้สบาย ๆ—ที่สำคัญคือ “เป็นวิธีที่ช่วยให้บริษัทจีนยังคงเข้าถึงเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ ห้ามขาย” ได้โดยไม่ซื้อโดยตรง

    ประเด็นนี้ทำให้กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) ต้องออกมายืนยันว่ากำลังสอบสวนร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อดูว่าเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่

    กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) กำลังสอบสวนกรณีบริษัทจีนใช้ GPU Nvidia ผ่าน data center ในมาเลเซีย  
    • เป็นการเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อ train AI โดยไม่ได้ครอบครองฮาร์ดแวร์โดยตรง  
    • ยังไม่พบการละเมิดกฎหมายในประเทศ ณ เวลานี้

    มีรายงานว่าชาวจีน 4 คนขน HDD หลายสิบเทราไบต์เข้าเครื่องที่เช่าไว้ในมาเลเซีย  
    • ฝึกโมเดล AI บนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia GPU ~2,400 ตัว  
    • GPU เหล่านี้น่าจะเป็น H100 หรือรุ่นที่สหรัฐห้ามส่งออกไปยังจีน

    มาเลเซียไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ  
    • ทำให้บริษัทในประเทศสามารถนำเข้า GPU ได้อย่างถูกกฎหมาย  
    • แต่ถ้ามีการ “นำ GPU ไปให้จีนใช้ทางอ้อม” ก็อาจละเมิดกฎของสหรัฐฯ

    หน่วยงานด้านการค้าในสหรัฐฯ เคยร้องขอให้มาเลเซียตรวจสอบทุก shipment ที่อาจเกี่ยวข้องกับ GPU ขั้นสูง  
    • หลังพบว่าในปี 2025 การนำเข้าเซิร์ฟเวอร์ AI จากไต้หวันไปยังมาเลเซีย “พุ่งขึ้นถึง 3,400%”

    บริษัทจีนที่ใช้บริการเช่าระยะไกลแบบนี้ อาจเลี่ยงข้อห้ามสหรัฐฯ ได้ชั่วคราวโดยไม่ซื้อตรง  
    • เรียกว่าใช้ “compute-as-a-service” แบบหลบเลี่ยง

    ยังไม่แน่ชัดว่ากรณีนี้จะเข้าข่าย “ละเมิดมาตรการของสหรัฐฯ” หรือไม่ เพราะไม่ได้ส่งมอบฮาร์ดแวร์ไปจีนโดยตรง  
    • หากสหรัฐมองว่า “การให้คนจีนเข้าถึง compute” ถือว่าเข้าข่าย ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อมาเลเซียในอนาคต

    มาเลเซียอาจถูกจับตาจากรัฐบาลสหรัฐฯ หากพบว่าเป็นจุดผ่านของการ “ลักลอบใช้ GPU ที่ควบคุมอยู่”  
    • ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในเทคโนโลยี AI

    ผู้ให้บริการ data center ในภูมิภาคอาเซียนอาจต้องเผชิญแรงกดดันเช่นเดียวกัน  
    • หากไม่มีระบบ “ตรวจสอบแหล่งข้อมูลลูกค้า” อาจกลายเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ใช้หลบมาตรการ

    กรณีนี้สะท้อนว่าแม้มาตรการควบคุม GPU จะรุนแรง แต่จีนยังคงหาวิธีเข้าถึงทรัพยากร AI ได้อยู่ดี  
    • เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลอบขน GPU ผ่าน “กุ้ง” และ “ซิลิโคนหน้าท้องปลอม”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/malaysia-investigates-chinese-use-of-nvidia-powered-servers-in-the-country-trade-minister-verifying-reports-of-possible-regulation-breach-following-reports-of-smuggled-hard-drives-and-server-rentals
    หลังจากสหรัฐฯ ออกข้อจำกัดไม่ให้ Nvidia ขายการ์ด AI ระดับสูง (เช่น H100, H200, B200) ให้กับจีนโดยตรง บริษัทจีนหลายแห่งก็พยายาม “หาทางอ้อม” เพื่อใช้งาน GPU เหล่านี้ต่อ ล่าสุด มีรายงานว่า ชาวจีน 4 คนบินจากปักกิ่งมามาเลเซีย พร้อมนำฮาร์ดดิสก์ที่บรรจุข้อมูลหลายสิบเทราไบต์ ทั้งวิดีโอ ภาพ และ spreadsheet เพื่อ “ฝึก AI” บนเซิร์ฟเวอร์ที่เช่าผ่าน data center ในมาเลเซีย ที่มี GPU ของ Nvidia ติดตั้งอยู่ราว 2,400 ตัว แม้จะฟังดูไม่ใช่คลัสเตอร์ขนาดใหญ่เท่า supercomputer แต่ก็เพียงพอสำหรับ training model ได้สบาย ๆ—ที่สำคัญคือ “เป็นวิธีที่ช่วยให้บริษัทจีนยังคงเข้าถึงเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ ห้ามขาย” ได้โดยไม่ซื้อโดยตรง ประเด็นนี้ทำให้กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) ต้องออกมายืนยันว่ากำลังสอบสวนร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อดูว่าเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่ ✅ กระทรวงการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย (MITI) กำลังสอบสวนกรณีบริษัทจีนใช้ GPU Nvidia ผ่าน data center ในมาเลเซีย   • เป็นการเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อ train AI โดยไม่ได้ครอบครองฮาร์ดแวร์โดยตรง   • ยังไม่พบการละเมิดกฎหมายในประเทศ ณ เวลานี้ ✅ มีรายงานว่าชาวจีน 4 คนขน HDD หลายสิบเทราไบต์เข้าเครื่องที่เช่าไว้ในมาเลเซีย   • ฝึกโมเดล AI บนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia GPU ~2,400 ตัว   • GPU เหล่านี้น่าจะเป็น H100 หรือรุ่นที่สหรัฐห้ามส่งออกไปยังจีน ✅ มาเลเซียไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ   • ทำให้บริษัทในประเทศสามารถนำเข้า GPU ได้อย่างถูกกฎหมาย   • แต่ถ้ามีการ “นำ GPU ไปให้จีนใช้ทางอ้อม” ก็อาจละเมิดกฎของสหรัฐฯ ✅ หน่วยงานด้านการค้าในสหรัฐฯ เคยร้องขอให้มาเลเซียตรวจสอบทุก shipment ที่อาจเกี่ยวข้องกับ GPU ขั้นสูง   • หลังพบว่าในปี 2025 การนำเข้าเซิร์ฟเวอร์ AI จากไต้หวันไปยังมาเลเซีย “พุ่งขึ้นถึง 3,400%” ✅ บริษัทจีนที่ใช้บริการเช่าระยะไกลแบบนี้ อาจเลี่ยงข้อห้ามสหรัฐฯ ได้ชั่วคราวโดยไม่ซื้อตรง   • เรียกว่าใช้ “compute-as-a-service” แบบหลบเลี่ยง ‼️ ยังไม่แน่ชัดว่ากรณีนี้จะเข้าข่าย “ละเมิดมาตรการของสหรัฐฯ” หรือไม่ เพราะไม่ได้ส่งมอบฮาร์ดแวร์ไปจีนโดยตรง   • หากสหรัฐมองว่า “การให้คนจีนเข้าถึง compute” ถือว่าเข้าข่าย ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อมาเลเซียในอนาคต ‼️ มาเลเซียอาจถูกจับตาจากรัฐบาลสหรัฐฯ หากพบว่าเป็นจุดผ่านของการ “ลักลอบใช้ GPU ที่ควบคุมอยู่”   • ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในเทคโนโลยี AI ‼️ ผู้ให้บริการ data center ในภูมิภาคอาเซียนอาจต้องเผชิญแรงกดดันเช่นเดียวกัน   • หากไม่มีระบบ “ตรวจสอบแหล่งข้อมูลลูกค้า” อาจกลายเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ใช้หลบมาตรการ ‼️ กรณีนี้สะท้อนว่าแม้มาตรการควบคุม GPU จะรุนแรง แต่จีนยังคงหาวิธีเข้าถึงทรัพยากร AI ได้อยู่ดี   • เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลอบขน GPU ผ่าน “กุ้ง” และ “ซิลิโคนหน้าท้องปลอม” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/malaysia-investigates-chinese-use-of-nvidia-powered-servers-in-the-country-trade-minister-verifying-reports-of-possible-regulation-breach-following-reports-of-smuggled-hard-drives-and-server-rentals
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินขนส่งสินค้าของจีนลงจอดที่อิหร่านเมื่อเวลา 11:27 น. GMT ส่งสัญญาณมากกว่าแค่เรื่องโลจิสติกส์

    ปักกิ่งสนับสนุนอิหร่านอย่างเปิดเผยมาตลอดในทุกด้าน

    เพราะอิหร่านไม่ใช่แค่พันธมิตรเท่านั้นสำหรับจีน แต่ยังเป็นหุ้นส่วนสำคัญในวาระ BRICS และเป็นเสาหลักทางยุทธศาสตร์ในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI - โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน) อีกด้วย

    ยามเมื่ออิหร่านต้องการเพื่อน นี่คือข้อความทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กล้าหาญ ของจีน
    เครื่องบินขนส่งสินค้าของจีนลงจอดที่อิหร่านเมื่อเวลา 11:27 น. GMT ส่งสัญญาณมากกว่าแค่เรื่องโลจิสติกส์ ปักกิ่งสนับสนุนอิหร่านอย่างเปิดเผยมาตลอดในทุกด้าน เพราะอิหร่านไม่ใช่แค่พันธมิตรเท่านั้นสำหรับจีน แต่ยังเป็นหุ้นส่วนสำคัญในวาระ BRICS และเป็นเสาหลักทางยุทธศาสตร์ในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI - โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน) อีกด้วย ยามเมื่ออิหร่านต้องการเพื่อน นี่คือข้อความทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กล้าหาญ ของจีน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนเห็นพ้องกันในกรอบการทำงาน สำหรับนำพาข้อตกลงการค้าระหว่าง 2 ชาติกลับสู่เส้นทาง และคลีคลายประเด็นปักกิ่งจำกัดการส่งออกแร่แรเอิร์ธและแม่เหล็ก จากการเปิดเผยของ โฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของอเมริกา ในช่วงท้ายของการเจรจาอันเข้มข้นในลอนดอน ที่ใช้เวลากว่า 2 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000054601

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนเห็นพ้องกันในกรอบการทำงาน สำหรับนำพาข้อตกลงการค้าระหว่าง 2 ชาติกลับสู่เส้นทาง และคลีคลายประเด็นปักกิ่งจำกัดการส่งออกแร่แรเอิร์ธและแม่เหล็ก จากการเปิดเผยของ โฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของอเมริกา ในช่วงท้ายของการเจรจาอันเข้มข้นในลอนดอน ที่ใช้เวลากว่า 2 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000054601 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1058 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมเจรจาอเมริกา-จีนหารือต่อเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ลุ้นผ่าทางตันเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธของปักกิ่ง ขณะที่ทำเนียบขาวแย้มอาจตอบแทนด้วยการยกเลิกการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์บางรายการ ด้านทรัมป์เผยการเจรจาวันแรกเป็นไปด้วยดี แต่ยอมรับการคุยกับจีน “ไม่ง่าย”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000054578

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ทีมเจรจาอเมริกา-จีนหารือต่อเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ลุ้นผ่าทางตันเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธของปักกิ่ง ขณะที่ทำเนียบขาวแย้มอาจตอบแทนด้วยการยกเลิกการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์บางรายการ ด้านทรัมป์เผยการเจรจาวันแรกเป็นไปด้วยดี แต่ยอมรับการคุยกับจีน “ไม่ง่าย” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000054578 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1066 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีลูคาเชนโก แห่งเบลารุส เดินทางเยือนปักกิ่งระหว่างวันที่ 2 ถึง 4 มิถุนายนเพื่อพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน

    เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เซอร์เกย์ ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งรัสเซีย เดินทางเยือนเกาหลีเหนือ ในนามของปูติน และจะพบกับคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดด้วยเช่นกัน
    ประธานาธิบดีลูคาเชนโก แห่งเบลารุส เดินทางเยือนปักกิ่งระหว่างวันที่ 2 ถึง 4 มิถุนายนเพื่อพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน 👉เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เซอร์เกย์ ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งรัสเซีย เดินทางเยือนเกาหลีเหนือ ในนามของปูติน และจะพบกับคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดด้วยเช่นกัน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปักกิ่งโต้ข้อกล่าวหาทรัมป์ ชี้อเมริกาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงสงบศึกการค้าที่เจนีวา ด้วยการเดินเกมทำลายผลประโยชน์จีน ทั้งประกาศแนวทางควบคุมการส่งออกชิปเอไอ ห้ามขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน และยังเตรียมเพิกถอนวีซ่านักศึกษาจีน อย่างไรก็ตาม ด้านขุนคลังสหรัฐฯ มั่นใจความขัดแย้งจะคลี่คลายหลังทรัมป์กับ สี จึ้นผิงได้คุยกัน ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051819

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ปักกิ่งโต้ข้อกล่าวหาทรัมป์ ชี้อเมริกาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงสงบศึกการค้าที่เจนีวา ด้วยการเดินเกมทำลายผลประโยชน์จีน ทั้งประกาศแนวทางควบคุมการส่งออกชิปเอไอ ห้ามขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน และยังเตรียมเพิกถอนวีซ่านักศึกษาจีน อย่างไรก็ตาม ด้านขุนคลังสหรัฐฯ มั่นใจความขัดแย้งจะคลี่คลายหลังทรัมป์กับ สี จึ้นผิงได้คุยกัน ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051819 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Yay
    Wow
    11
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1190 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.)

    กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ”

    ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น

    ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023

    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000051111

    #MGROnline #ญี่ปุ่น
    รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.) • กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ” • ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น • ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023 • โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000051111 • #MGROnline #ญี่ปุ่น
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • หวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีของนักแสดงผู้ล่วงลับ ต้าเอส ได้จัดพิธีแต่งงานกับ หม่า เสี่ยวเหม่ย หรือ แมนดี้ ที่ร้านอาหารสไตล์ลานจีนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยงานแต่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเข้าร่วม ส่วน ลูกสาวและลูกชายที่หวังมีร่วมกับ ต้าเอสไม่ได้ปรากฏตัวในงาน

    คู่บ่าวสาวเปิดตัวในชุดแต่งงานแบบจีนดั้งเดิม โดยแมนดี้สวมกี่เพ้าสีแดงพร้อมเครื่องประดับทองเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ มงกุฎ สร้อยคอ และช่อดอกไม้ ไม่ได้สวมชุดกำไลทองลายมังกร–หงส์ตามธรรมเนียม ส่วนหวัง เสี่ยวเฟยสวมชุดสูทปักลายมังกรทองสุดหรู หลังจากทักทายแขกเสร็จ ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสไตล์ตะวันตก

    โดยแมนดี้เลือกใส่ชุดแต่งงานคอเว้าลึกที่อวดหุ่นได้อย่างสวยงาม ในช่วงแลกเปลี่ยนคำสาบาน หวัง เสี่ยวเฟยถึงกับตะโกน “ผมตกลง!” สองครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้แขกในงาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050265

    #MGROnline #หวังเสี่ยวเฟย #หม่าเสี่ยวเหม่ย
    หวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีของนักแสดงผู้ล่วงลับ ต้าเอส ได้จัดพิธีแต่งงานกับ หม่า เสี่ยวเหม่ย หรือ แมนดี้ ที่ร้านอาหารสไตล์ลานจีนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยงานแต่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเข้าร่วม ส่วน ลูกสาวและลูกชายที่หวังมีร่วมกับ ต้าเอสไม่ได้ปรากฏตัวในงาน • คู่บ่าวสาวเปิดตัวในชุดแต่งงานแบบจีนดั้งเดิม โดยแมนดี้สวมกี่เพ้าสีแดงพร้อมเครื่องประดับทองเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ มงกุฎ สร้อยคอ และช่อดอกไม้ ไม่ได้สวมชุดกำไลทองลายมังกร–หงส์ตามธรรมเนียม ส่วนหวัง เสี่ยวเฟยสวมชุดสูทปักลายมังกรทองสุดหรู หลังจากทักทายแขกเสร็จ ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสไตล์ตะวันตก • โดยแมนดี้เลือกใส่ชุดแต่งงานคอเว้าลึกที่อวดหุ่นได้อย่างสวยงาม ในช่วงแลกเปลี่ยนคำสาบาน หวัง เสี่ยวเฟยถึงกับตะโกน “ผมตกลง!” สองครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้แขกในงาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050265 • #MGROnline #หวังเสี่ยวเฟย #หม่าเสี่ยวเหม่ย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ประเทศอื่นเขาเจอหิมะตก Storyฯ เลยอยากชวนคุยเกี่ยวกับหนึ่งในวิธีที่ทำให้อุ่นในสมัยโบราณ ซึ่งก็คือวางเตาถ่านไว้ในห้องใกล้ตัว แต่เกิดความเอ๊ะเกี่ยวกับถ่านที่มีชื่อว่า ‘ถ่านหงหลัว’ (红箩炭)

    ความมีอยู่ว่า
    ฮ่องเต้ตรัสด้วยสุรเสียงเอื่อย ราวกับว่ากำลังรับสั่งถึงเรื่องที่ไม่สำคัญ “อันใด? เราจำได้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อเริ่มหนาวก็ได้สั่งเจ้าไว้แล้วว่า ในวังนี้มีแต่เพียงไห่ฉางจ้ายและหว่านตาอิ้งไม่สามารถใช้ถ่านหงหลัวได้ ยังกังวลว่าถ่านดำจะมีควันรบกวนพวกนาง...ของไห่ฉางจ้ายให้เจ้าเจียดจากตำหนักเจ้าให้นาง...”
    - จากเรื่อง <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ผู้แต่ง หลิวเลี่ยนจื่อ
    (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    บทความข้างต้นเป็นเรื่องราวในสมัยขององค์เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง กล่าวถึงเรื่องที่พระสนมไห่หลันถูกกล่าวหาว่าขโมยถ่านหงหลัว และจากบทความจะเห็นว่าพระสนมระดับล่างอย่างฉางจ้ายและตาอิ้งจะไม่มีสิทธิ์ใช้ถ่านชนิดนี้

    ถ่านหงหลัวคืออะไร Storyฯ หาชื่อแปลเป็นไทยไม่มี ขออธิบายลักษณะของมันว่าเป็นถ่านที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง โดยไม้เนื้อแข็งดังกล่าวต้องเป็นไม้จากแถบดินแดนตอนเหนือ (มณฑลเหอเป่ย) ไม่ไกลจากนครปักกิ่ง เช่นจัวโจว ทงโจว จี้โจว ฯลฯ ไม้เหล่านี้จะถูกตัดเป็นท่อนสม่ำเสมอ เผาจนกลายเป็นถ่าน บรรจุไว้ในตะกร้าเคลือบด้วยดินแดง (เป็นที่มาของชื่อว่า ‘หงหลัว’ ซึ่งแปลตรงตัวว่าเคลือบด้วยสีแดง) ก่อนจะลำเลียงส่งไปเมืองหลวง ในนครปักกิ่งมีถนนสายหนึ่งเรียกว่า ‘ถนนต้าหงหลัวฉ่าง’ (大红罗厂街) มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์หมิง เป็นเส้นทางที่ใช้ลำเลียงถ่านนี้เข้าวัง (ดูรูปแรกขวาล่าง)

    คุณสมบัติเด่นของถ่านหงหลัวก็คือ เผาได้นาน ไม่มีควัน เถ้าไม่กระจายและไม่แตก และในตอนเผายังมีกลิ่นหอมจาง

    ถ่าน เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการกำกับดูแลมาหลายยุคสมัยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ในวังยังมีกองกรมรับผิดชอบการเก็บและจัดสรรถ่าน ถ่านหงหลัวเป็นถ่านที่ผลิตได้ในปริมาณที่น้อยและด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของมัน จึงมีการจำกัดการใช้งาน จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยขององค์เฉียนหลงฮ่องเต้นั้น ทุกตำหนักในวังจะได้รับการจัดสรรถ่านในปริมาณที่ต่างกันไปตามยศศักดิ์และฤดูกาล รายละเอียด Storyฯ รวบรวมเป็นตารางให้ดูในรูปที่สองสำหรับวังหลัง จะเห็นว่า ฉางจ้าย และ ตาอิ้ง ซึ่งเป็นสนมระดับล่างสุดจะไม่สามารถใช้ถ่านหงหลัวได้เลย

    ใครได้ติดตามนิยาย/ละครเรื่องนี้คงจะเห็นภาพชัดขึ้นแล้วนะคะว่า ทำไมแค่เรื่องถ่าน ในวังหลังยังเอามาเป็นเหตุการต่อสู้ทางอำนาจกันได้

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.uni-hankyu.com.tw/huaxu/153491887715333.html
    http://www.manyanu.com/new/085fdf5f6b084823bf3569b010c4d570
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.manyanu.com/new/085fdf5f6b084823bf3569b010c4d570
    https://www.xuehua.us/a/5eb6fd5186ec4d0bd8cbf5f9
    https://www.gushiciku.cn/dl/0f0zv/zh-hk

    #หรูอี้ #ไห่หลัน #ถ่านหงหลัว #ราชวงศ์ชิง #จีนโบราณ #สู้ความหนาว #ถ่านจีน #ถ่านในวัง #ถ่าน
    ตอนนี้ประเทศอื่นเขาเจอหิมะตก Storyฯ เลยอยากชวนคุยเกี่ยวกับหนึ่งในวิธีที่ทำให้อุ่นในสมัยโบราณ ซึ่งก็คือวางเตาถ่านไว้ในห้องใกล้ตัว แต่เกิดความเอ๊ะเกี่ยวกับถ่านที่มีชื่อว่า ‘ถ่านหงหลัว’ (红箩炭) ความมีอยู่ว่า ฮ่องเต้ตรัสด้วยสุรเสียงเอื่อย ราวกับว่ากำลังรับสั่งถึงเรื่องที่ไม่สำคัญ “อันใด? เราจำได้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อเริ่มหนาวก็ได้สั่งเจ้าไว้แล้วว่า ในวังนี้มีแต่เพียงไห่ฉางจ้ายและหว่านตาอิ้งไม่สามารถใช้ถ่านหงหลัวได้ ยังกังวลว่าถ่านดำจะมีควันรบกวนพวกนาง...ของไห่ฉางจ้ายให้เจ้าเจียดจากตำหนักเจ้าให้นาง...” - จากเรื่อง <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ผู้แต่ง หลิวเลี่ยนจื่อ (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) บทความข้างต้นเป็นเรื่องราวในสมัยขององค์เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง กล่าวถึงเรื่องที่พระสนมไห่หลันถูกกล่าวหาว่าขโมยถ่านหงหลัว และจากบทความจะเห็นว่าพระสนมระดับล่างอย่างฉางจ้ายและตาอิ้งจะไม่มีสิทธิ์ใช้ถ่านชนิดนี้ ถ่านหงหลัวคืออะไร Storyฯ หาชื่อแปลเป็นไทยไม่มี ขออธิบายลักษณะของมันว่าเป็นถ่านที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง โดยไม้เนื้อแข็งดังกล่าวต้องเป็นไม้จากแถบดินแดนตอนเหนือ (มณฑลเหอเป่ย) ไม่ไกลจากนครปักกิ่ง เช่นจัวโจว ทงโจว จี้โจว ฯลฯ ไม้เหล่านี้จะถูกตัดเป็นท่อนสม่ำเสมอ เผาจนกลายเป็นถ่าน บรรจุไว้ในตะกร้าเคลือบด้วยดินแดง (เป็นที่มาของชื่อว่า ‘หงหลัว’ ซึ่งแปลตรงตัวว่าเคลือบด้วยสีแดง) ก่อนจะลำเลียงส่งไปเมืองหลวง ในนครปักกิ่งมีถนนสายหนึ่งเรียกว่า ‘ถนนต้าหงหลัวฉ่าง’ (大红罗厂街) มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์หมิง เป็นเส้นทางที่ใช้ลำเลียงถ่านนี้เข้าวัง (ดูรูปแรกขวาล่าง) คุณสมบัติเด่นของถ่านหงหลัวก็คือ เผาได้นาน ไม่มีควัน เถ้าไม่กระจายและไม่แตก และในตอนเผายังมีกลิ่นหอมจาง ถ่าน เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการกำกับดูแลมาหลายยุคสมัยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ในวังยังมีกองกรมรับผิดชอบการเก็บและจัดสรรถ่าน ถ่านหงหลัวเป็นถ่านที่ผลิตได้ในปริมาณที่น้อยและด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของมัน จึงมีการจำกัดการใช้งาน จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยขององค์เฉียนหลงฮ่องเต้นั้น ทุกตำหนักในวังจะได้รับการจัดสรรถ่านในปริมาณที่ต่างกันไปตามยศศักดิ์และฤดูกาล รายละเอียด Storyฯ รวบรวมเป็นตารางให้ดูในรูปที่สองสำหรับวังหลัง จะเห็นว่า ฉางจ้าย และ ตาอิ้ง ซึ่งเป็นสนมระดับล่างสุดจะไม่สามารถใช้ถ่านหงหลัวได้เลย ใครได้ติดตามนิยาย/ละครเรื่องนี้คงจะเห็นภาพชัดขึ้นแล้วนะคะว่า ทำไมแค่เรื่องถ่าน ในวังหลังยังเอามาเป็นเหตุการต่อสู้ทางอำนาจกันได้ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.uni-hankyu.com.tw/huaxu/153491887715333.html http://www.manyanu.com/new/085fdf5f6b084823bf3569b010c4d570 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.manyanu.com/new/085fdf5f6b084823bf3569b010c4d570 https://www.xuehua.us/a/5eb6fd5186ec4d0bd8cbf5f9 https://www.gushiciku.cn/dl/0f0zv/zh-hk #หรูอี้ #ไห่หลัน #ถ่านหงหลัว #ราชวงศ์ชิง #จีนโบราณ #สู้ความหนาว #ถ่านจีน #ถ่านในวัง #ถ่าน
    係?如懿傳海蘭是好人還是壞人?海蘭和如懿是什麼關係?由周迅、霍建華領銜主演的古裝清宮劇《如懿傳》正在騰訊視頻熱播中,雖然目前該劇收視並不理想,但依然還是值得追的,畢竟都是實力派演員出演,如懿傳劇情中出現了很多的人物,雖然是後宮嬪妃都是爭寵,但是也有著關係非常好的人,那么海蘭是好人還是壞人?海蘭和如懿是什麼關係?下面就來看看吧。如懿傳海蘭是好人還是壞人?海蘭和
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล

    หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ

    การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189

    #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล • หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ • การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189 • #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 905 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine)

    ยกตัวอย่างยาในศาสตร์แพทย์แผนจีน
    สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์
    ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง
    ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน เป็นต้น

    ศาสตร์แพทย์แผนจีน

    ตัวอย่างยา
    กลุ่ม1 เรียก ยาเขียนรุ่นธรรมดา
    สรรพคุณ ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ หัด อีสุกอีใส กินป้องกันโรค เช้า8เย็น8

    กลุ่มที่2 เรียกยาเขียวรุ่นพิเศษ
    สรรพคุณรักษาโรคหวัดโควิดทุกสายพันธุ์ ซองส้มเช้า/เที่ยว/เย็น//ครั้งละซองชงน้ำเดือด//ชนิดแคปซูลครั้งละ8แคป3มื้อ

    กลุ่มที่3 เรียกยาชะลอวัย
    สรรพคุณรักษาอาการลองโควิด และโรคผู้สูงวัย กำจัดเนื้องอก (กลุ่มยานี้เป้าหมายคือรักษาผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดไม่สบายและผู้ป่วยหลังจากเป็นโควิด) กินเช้าซอง/เย็นซอง

    สมุนไพรฉั่งฉิก ชนิดผง/แคปซูล สรรพคุณของฉั่งฉิก นอกจากละลายก้อนเลือดแล้ว ยังทำหน้าที่ห้ามเลือดในตัวกรณีเส้นเลือดแตก

    ยาวาสคูล่าร์ สรรพคุณ ละลายก้อนเลือด และละลายไขมันผนังหลอดเลือด
    ในยา วาสคูล่าร์ มียา3กลุ่ม
    กลุ่มที่ 1 ออกฤทธิ์ขจัด ละลายก้อนไขมันที่ผิวหลอดเลือดด้านใน
    กลุ่มที่2อออกฤทธิ์ละลายก้อนเลือดในเส้นเลือด
    กลุ่มที่3 ออกฤทธิ์ ห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกนอกหลอดเลือดและประสานบาดแผลหลอดเลือด ดูดกลับเลือดที่ไหลออกนอกเส้นเลือดนำกลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนอีกครั้ง
    ข้อที่ 3 นี้ เป็นลักษณะเด่นของยาสมุนไพรจีนที่นำเลือดกลับเข้าระบบใช้หมุนเวียนได้ต่อไป สังเกตุจากอุบัติเหตุที่กระทบของแข็งจนฟกช้ำดำเขียว อันเกิดจากเส้นเลือดฝอยแตก เลือดไหลออกมาขังตามเนื้อเยื่อขนมีสีเขียวออกดำแบบเส้นเลือดดำนั่นเอง เมื่อยาสมุนไพรจีนเข้าไปนำเลือดกลับมาใช้ใหม่อาการฟกช้ำจะหายไปในที่สุด

    ใครที่ควรทานยา "vascular"
    1. ผู้ที่เคยฉีดวัคซีน covid
    2. ผู้ที่ป่วยด้วยหลอดเลือดสมอง
    3. ผู้ที่เป็นความดันสูง
    4. ผู้ที่มึนงง เวียนศีรษะบ่อย ปวดไมเกรน
    5. ผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป
    6. ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุ เป็นรอยเขียวจ้ำ ฟกช้ำ หมายถึงว่า ย่อมมีเศษตระกรันและตะกอนจากเลือดไปเกาะ ในหลอดเลือด
    7. คนที่เป็นเส้นเลือดขอด
    8. คนที่มีอาชีพยืนนาน แม่ค้า ช่างทำผม

    โดยรวมๆ น่าจะควรต้องล้างทุกคนดีที่สุด เราเช็คร่างกายตั้งแต่ตอนนี้ เป็นการไม่ประมาท อย่ารอให้เส้นเลือดมันแตก มันอุดตันก่อน แล้วจึงค่อยคิดจะทำ มันไม่คุ้ม

    ยาจีนหลักๆๆมีอะไรบ้างคะหมอลงรูปและชื่ออีกทีนะคะและไห้ทุกคนเซฟใว้ทุกคนนะคะแล้วทะยอยชื้อเก็บใว้ค่ะ
    1.ยาระบบย่อยอาหาร
    1.1 เซียงซาหย่างเว่ยหวาน ช่วยย่อย แก้ ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เรอเหม็นเปรี้ยว
    1.2 หวงเหลียนซู่ แก้ท้องเดินเป็นบิด ปวดถ่วง ท้องเสีย
    1.3 หวงเหลียนซั่งชิงเพี่ยน แก้ท้องผูก เจ็บคอ เหงือบวม ร้อนใน แผลในปาก เจ็บลิ้น
    1.4 หนิวหวงเจี่ยตู๋เพี่ยน แก้ท้องผูก เจ็บคอ ตาแดง เน้นรักษาตับ
    1.5 เป่าเหอหวาน รักษา เสมหะขับออกง่าย ลดคอเลสเตอรอลไขมันเลว ช่วยย่อยเนื้อ น้ำมัน เน้นส่งเสริมประสิทธิภาพการย่อยอาหาร

    2.กลุ่มยารักษาโรคหวัดภูมิแพ้
    2.1 ยาหยินเชี่ยวเจี๋ยตู๋เพี่ยน เป็นยารักษาโรคหวัดฤดูร้อน อาการเด่นมีไข้สูง เจ็บคอ หิวน้ำ หน้าแดง ไอแห้งๆ
    2.2 ยา ฮั่วเซียงเจิ้งชี่หวาน รักษาหวัดฤดูฝน อาการเด่น.เบื่ออาหาร ศรีษะหนักๆ ไอมีเสมหะเยอะ อาคล้ายกับหวัดโควิด19 ก็รักษาได้ครับ
    2.3 ยา หมาหวงทัง รักษาหวัดฤดูหนาว อาการ ไข้ต่ำ กลัวหนาว น้ำมูกใสไหลตลอด ไอเสมหะมากไม่เหนียว จมูกไม่ได้กลิ่น ไม่มีเหงื่อ ปวดเมื่อยตามตัว หรืออาการหืดหอบก็ใช้สูตรนี้ได้
    2.4 ยาแก้ภูมิแพ้ตราปลาคู่ รักษาอาการ เป็นหวัดทั้งปี ถูกละอองฝน/ตากแดด/กระทบลมหนาว
    ถ้าเป็นยาตำรับคือ จิงฝางไป้ตู๋ทัง/ตำรับนี้ร้านเจ๊ดามีบันทึกอยู่/หรือจะกินสูตรยา ชิงเฟ่ยไผตู๋ทัง
    หมายเหตุ ยาภูมิแพ้คือ ตำรับจิงฝางไป่ตู๋ทัง

    3. ยารักษาระบบไต และ กระเพาะปัสสาวะ
    3.1 จินกุ้ยเซิ่นชี่หวาน เป็นยาบำรุงไตหยาง อาการ กลัวหนาว เป็นเบาหวานปัสสาวะกลางคืนบ่อย หมดแรง กระดูกพรุน ปวดกระดูก อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือ มีอาการหลั่งเร็ว ถ้าเป็นผู้หญิงจะไม่มีอารมณ์เพศ ช่องคลอดแห้ง อาจจะมีตกขาวร่วมด้วย
    3.2 จือไป๋ตี้หวงหวาน/จือไป๋ปาเว่ยหวาน คือยาบำรุงไตอิน รักษาอาการ เบาหวาน ขี้ร้อนในง่าย นอนไม่หลับ อาการวัยทอง ท้องผูก
    3.3จี้จีตี้หวงหวาน คือยารักษาตับ ไต อาการตามัวกลางคืนขับรถไม่ได้ สายตาไม่ดี/สั่นและยาว/ ตาแห้ง
    ลักษณะไตป่วยต้องมีอาการปวดเอว เป็นหลักสำคัญ

    สำหรับการรักษาเกี่ยวกับสายตาควรใช้ยากลุ่ม 4.นี้ทุกตัวครับ
    4.กลุ่มอาการโรคนอนหลับยาก ตื่นง่ายหลับยาก สาเหตุจากจิตใจ เลือดน้อย ความเคยชิน จิตอารมณ์เคร่งเครียด เรื่องเงินไม่พอใช้จ่าย
    4.1 ยา กุยผีหวาน คือยาบำรุงเลือด ช่วยนอนหลับ
    4.2 ยาเซียวเหยาหวาน คือยาคลายเครียด ทำให้จิตคลาย เผลอหลับไม่รู้ตัว ยาตัวนี้สามารถลดอาการปวดตึงคอ บ่า ไหล่ ได้สบาย
    4.3 ยาเทียนหวังปู่ซินตัง คือยาบำรุงอินหัวใจ รักษาอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น นอนไม่หลับ ร้อนฝ่าเท้า
    4.4 ยา หลงต่านเซี่ยกันหวาน เป็นยารักษา อาการร้อนชื้น ที่ตับไต หรือแพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่า การอักเสบแบบ inflammation ทำให้ตื่นกลางดึกตอนห้าทุ่มเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตื่นแล้วหลับยาก หรือ อาการต่อมลูกหมากอักเสบ

    5. กลุ่มอาการเสมหะ ไอจากเสมหะ หรือ มีอาการลูกกระเดือกโตเศษอาหารตกค้าง
    5.1 ยา ชิงชี่ฮั่วถันหวาน รักษา ไอมีเสมหะมาก เอาออกยาก
    5.2 หวินหนันไป๋เย่า ใช้เป็นยาห้ามเลือดจากอุบัติเหตุ กระเพาะอาหารทะลุ ตับแตก ม้ามแตก ไตรั่ว กระเพาะปัสสาวะเลือดไหลออกมากับน้ำปัสสาวะ หรือ เลือดออกทางรูทวารหนัก ริดสีดวงทวาร และมีการยืนยันจากสมาชิกว่าใช้รักษามะเร็งมดลูก มะเร็งตับ ต่ออายุได้เป็นสิบๆปี จนแพทย์เจ้าของไข้ตายไปก่อนคนไข้ครับ
    5.3ยาวาสคูล่าร์ตราปลาคู่/ยาเหน่าซินทง ใช้รักษาอาการเส้นเลือดอุดตันที่สมอง หัวใจ ยากลุ่มที่5นี้ จัดเป็นยาฉุกเฉิน ต้องมีติดตัวตลอดครับ สำหรับคนที่ได้รับวัคซีนพิษมา

    6.กลุ่มยาบำรุงกำลัง
    6.1หยิ่นเซียมเจง คือยาสกัดรากโสมจีน สรรพคุณบำรุงพลัง แก้อ่อนเพลีย หายใจรวยริน หัวใจอ่อนล้า ไม่มีแรงลืมตาอ้าปาก
    6.2.โสมเอี่ยเซียม/โสมอเมริกา บำรุงกำลังแต่ไม่ร้อนในมีเหมาะสำหรับคนไทยที่อยู่เมืองไทย
    6.3.เซินหลิงไป๋จู๋เคอรี่ตราปลาคู่ เป็นยาเพิ่มกำลังคนไข้นอนติดเตียง เบื่ออาหาร และไม่อยากดื่มน้ำ ใช้เครื่องใส่ท่อออกซิเจน...
    ยากลุ่มที่7นี้ควรมีไว้ที่บ้านที่มีวัยชราภาพ70ขึ้นไป
    6.4ยาบำรุงกำลัง กรณี มดลูกหย่อน หรือ ไส้เลื่อน ให้กินยา ปู่จงอี้ชี่หวานนะคร้บ และควรเล่นกำลังภายในชี่กงด้วยครับมีจะได้ไม่กลับมาเป็นอีก บางคนไอฉี่เล็ดแบบนี้คือพลังถดถอย ต้องกินยาปู่จงฯ

    7..ยากลุ่มครึ่งนอกครึ่งใน
    เป็นอาการพิเศษที่หมอฝรั่ง งง
    กล่าวคือ จับไข้เป็นเวลาคล้ายไข้จับสั่น แต่ไม่รุนแรงเท่ามาลาเรีย สบัดร้อนสบัดหนาว ห่มผ้าก็ร้อน ถีบผ้าออกก็หนาว
    แพทย์แผนปัจจุบันจะใช้ยาควินินรักษา ก็ได้ผล แต่ผลข้างเคียงมหาศาล
    แพทย์บางคนจ่ายยาสเตียรอยด์เลย คราวนี้ร่างกายแย่แน่นอน
    นี่คือโรคหมอทำ
    ยาที่ใช้คือ เสี่ยวไฉหูทังหวาน กินครั้งเดียวหายเป็นปลิดทิ้ง
    อาการนี้มักเกิดกับคนแข็งแรง ส่วนคนอ่อนแอ แพ้ศัตรูง่าย พอรับเชื้อก็ล้มหมอนนอนเสื่อเลย

    อ้อ สำหรับคนนอนกรน ให้กินยาหยิ่นเซียมเจง หรือ เซินหลิงตราปลาคู่ก็ได้ครับ

    ฉั่งฉิก กับ วาสคูล่าร์ (2+2)×2/วัน กินตลอดไปก็การันตีว่า โรคอัมพาต/โรคหัวใจ/โรคอัลไซเมอร์ จะไม่มาหาแน่นอน

    คุณหมอค่ะกรดไหลย้อนทานยาตัวไหนคะ
    กรดไหลย้อน พยายามกินหนิวหวง หรือ หวงเหลียนก่อนนอนทุกคืนประมาณ3-5วัน อาการจะหายไปครับ อย่าให้ท้องผูก
    อย่านอนดึก กินอาหารมื้อเย็นก่อน18:00น. พุงจะไม่ยื่น มีเอว

    แนะนำโดยแพทย์จีน ไกร บารมีเสริมส่ง (วินิจฉัยฟรี)
    https://t.me/Covidtreatment_th/148
    https://t.me/Covidtreatment_th/374
    ท่านแนะนำให้ไปหาซื้อตามร้านขายยาจีนหรือโรงงานยาตราปลาคู่โดยตรงที่โทร. 0935245444 หรือตามร้านขายยาทั่วไป หรือ3ภาพสุดท้าย

    หาซื้อได้ที่โรงงาน034-391085
    หรือ0935245444 เป็นเบอร์ไลน์ด้วยครับ

    ไลน์​ ยาเขียวตราปลาคู่
    https://lin.ee/65cYrq8
    https://lin.ee/bHUugo0

    ตัวอย่างโปร.เมื่อวันที่ 25 / 03 - 10 / 04 / 68

    วาสคิวล่าร์ (10x10’s)
    กล่องละ 500

    ยาระบาย (10x10’s)
    กล่องละ 200

    ยาเขียว ( ชนิดผง )
    ชนิด 60 ซอง กล่องละ 800

    ยาเขียว ( ชนิดเม็ด )
    ชนิด 60 ซอง กล่องละ 800
    ชนิดขวด 80’s โหลละ 800

    ยาเขียว (สูตรเข้มข้น) แคปซูล
    ชนิดขวด (6 กระปุก) แพคละ 750
    ชนิดแผง (10x10’s) แพคละ 400

    สูตรพิเศษ
    (รักษาอาการโควิด)
    ชนิดผง (10 ซอง) แพคละ 500
    แคปซูล (10x10’s) แพคละ 400

    ยาชะลอวัย
    ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500
    แคปซูล (10x10’s) แพคละ 400

    ฉั่งฉิก
    ชนิดผง 300 กรัม 900
    ชนิดผง 500 กรัม 1300
    แคปซูล (10x10’s) แพคละ 500

    ยาภูมิแพ้
    ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500
    แคปซูล (6 กระปุก) แพคละ 750

    ยาต่อมลูกหมาก
    ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500
    แคปซูล (6 กระปุก) แพคละ 750

    ยาบำรุงผิว
    ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500

    หลงต่าน ขวดใหญ่ 360 เม็ด
    250

    หนิวหวง กล่องละ
    250

    AMK 1 g
    กล่องละ 130
    ( 3 กล่อง ) 380

    ยอดสั่งซื้อ 2,500 บาทขึ้นไป
    ส่งสินค้าภายในประเทศ ฟรี !!

    หมอเคยเน้นย้ำว่าโรงงานยาจีนที่วางใจได้มีเพียง
    1.เป่ยจิงถงหยินถัง
    北京同仁堂
    สัญญาลักษณ์ตามภาพนะครับ
    2.ฝอจือ หลันโจว
    https://www.google.com/imgres?imgurl=http%3A%2F%2Fimg.familydoctor.com.cn%2Fcms%2F20170320%2F201703200448063284.jpg&imgrefurl=https%3A%2F%2Fm.familydoctor.com.cn%2F201703%2F1771052.html&tbnid=XdVmkWCk3VyHvM&vet=1&docid=KlrmfVeK0-lJRM&w=499&h=431&itg=1&hl=th-TH&source=sh%2Fx%2Fim
    ยาสำเร็จรูปนี้ที่เมืองไทยคุ้นเคยกันมานานมากกว่า60ปีแล้วไม่มีปัญหา
    สมัยไปเรียนที่เซี่ยเหมิน อาจารย์หมอจีนตกใจว่าทำไมนักเรียนไทยรู้จักใช้ยาสำเร็จรูปของบริษัทยาที่มาตราฐานระดับประเทศ(ไม่ใช่ระดับมณฑล)
    สัญญาลักษณ์แปลว่า พุทธะเมตตา
    3.จางจ้งจิ่ง เหอหนาน
    ยาบริษัทนี้เริ่มมีขายบ้างในเมืองไทยส่วนใหญ่หมอจีนนำเข้ามาขายเองเมื่อสิบกว่าปี/คนที่นำเข้ามาแจกคนไข้แรกๆคือหมอไกรเองครับ ซื้อยาจากเมืองจีนกลับมาไทยเป็นจำนวนเงินแสนกว่าบาท สุดท้ายแจกฟรี สงสารคนไข้ ขายเก็บเงินไม่ได้ และในที่สุด สรุปว่าทำธุรกิจยารักษาโรคไม่ได้5555 ขาดทุนหมดตั้งแต่ล็อตแรก หมอจึงให้การรักษาฟรี ส่วนยากรุณาไปหาซื้อเอาเองแถวเยาวราช
    เพราะความสงสารคนป่วย
    4.บริษัทยาจิ่วจือถัง
    อยู่ที่เมืองหลันโจวเช่นกันกับโรงงานฝอจือ
    มีเพียง4บริษัทนี้เท่านั้นที่วางใจได้
    บริษัทยาจิ่วจือถังก่อตั้งมาเกือบ400ปีแล้วครับ
    ถ้าดูประวัติโรงงานยาเมืองจีนที่โด่งดังก็จะมีบริษัทยาเป่ยจิงถงหยินถัง ก่อตั้งด้วยพระราชทรัพย์ของกษัตริย์คังซีฮ่องเต้ เพราะหมอหลวงรักษาอาการป่วยของฮ่องเต้ไม่หาย แต่มาได้ยาของร้านถงหยินถังในกรุงปักกิ่งเสวยยาแล้วหาย จึงพระราชทานทรัพย์ให้ตั้งร้านใหญ่ในเมืองหลวง
    ใครได้ดูหนังทีวี องค์ชาย4 คังซีฮ่องเต้ คงจำกันได้ในราชวงศ์ชิง ยุคกรุงศรีอยุธยาโดยประมาณนะครับ
    จบ ความรู้เรื่องโรงงานผลิตยาในประเทศจีนที่วางใจได้ครับ
    หวังว่าคงไม่มีสมาชิกถูกหลอกให้กินยาผสมสารเคมีสังเคราะห์นะครับ

    แนะนำโดยแพทย์จีน ไกร บารมีเสริมส่ง (วินิจฉัยฟรี)
    https://t.me/Covidtreatment_th/148
    https://t.me/Covidtreatment_th/374
    ท่านแนะนำให้ไปหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ร้านเซี้ยงเฮงฮั่วกี่ เจ๊ดา02-2261418 หรือโรงงานยาตราปลาคู่โดยตรงที่โทร. 034-391085
    หรือ0935245444 เป็นเบอร์ไลน์ด้วยครับ
    ไลน์​ ยาเขียวตราปลาคู่ https://lin.ee/65cYrq8

    สนใจศาสตร์แพทย์แผนจีนสามารถติดตามไปที่กลุ่มของคุณหมอไกร
    กลุ่มไลน์ “แพทย์แผนจีน”
    https://line.me/ti/g/nvK48dxh8k

    กลุ่มไลน์ “แพทย์จีนป.1”
    https://line.me/ti/g/fpBefF5mEj

    #แพทย์แผนจีน #ยาจีน #ยาเขียว #วาสคิวล่าร์ #ยาระบาย

    เวชหนุ่ม
    ✅ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) ยกตัวอย่างยาในศาสตร์แพทย์แผนจีน สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์ ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน เป็นต้น ศาสตร์แพทย์แผนจีน ตัวอย่างยา กลุ่ม1 เรียก ยาเขียนรุ่นธรรมดา สรรพคุณ ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ หัด อีสุกอีใส กินป้องกันโรค เช้า8เย็น8 กลุ่มที่2 เรียกยาเขียวรุ่นพิเศษ สรรพคุณรักษาโรคหวัดโควิดทุกสายพันธุ์ ซองส้มเช้า/เที่ยว/เย็น//ครั้งละซองชงน้ำเดือด//ชนิดแคปซูลครั้งละ8แคป3มื้อ กลุ่มที่3 เรียกยาชะลอวัย สรรพคุณรักษาอาการลองโควิด และโรคผู้สูงวัย กำจัดเนื้องอก (กลุ่มยานี้เป้าหมายคือรักษาผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดไม่สบายและผู้ป่วยหลังจากเป็นโควิด) กินเช้าซอง/เย็นซอง สมุนไพรฉั่งฉิก ชนิดผง/แคปซูล สรรพคุณของฉั่งฉิก นอกจากละลายก้อนเลือดแล้ว ยังทำหน้าที่ห้ามเลือดในตัวกรณีเส้นเลือดแตก ยาวาสคูล่าร์ สรรพคุณ ละลายก้อนเลือด และละลายไขมันผนังหลอดเลือด ในยา วาสคูล่าร์ มียา3กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ออกฤทธิ์ขจัด ละลายก้อนไขมันที่ผิวหลอดเลือดด้านใน กลุ่มที่2อออกฤทธิ์ละลายก้อนเลือดในเส้นเลือด กลุ่มที่3 ออกฤทธิ์ ห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกนอกหลอดเลือดและประสานบาดแผลหลอดเลือด ดูดกลับเลือดที่ไหลออกนอกเส้นเลือดนำกลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนอีกครั้ง ข้อที่ 3 นี้ เป็นลักษณะเด่นของยาสมุนไพรจีนที่นำเลือดกลับเข้าระบบใช้หมุนเวียนได้ต่อไป สังเกตุจากอุบัติเหตุที่กระทบของแข็งจนฟกช้ำดำเขียว อันเกิดจากเส้นเลือดฝอยแตก เลือดไหลออกมาขังตามเนื้อเยื่อขนมีสีเขียวออกดำแบบเส้นเลือดดำนั่นเอง เมื่อยาสมุนไพรจีนเข้าไปนำเลือดกลับมาใช้ใหม่อาการฟกช้ำจะหายไปในที่สุด ใครที่ควรทานยา "vascular" 1. ผู้ที่เคยฉีดวัคซีน covid 2. ผู้ที่ป่วยด้วยหลอดเลือดสมอง 3. ผู้ที่เป็นความดันสูง 4. ผู้ที่มึนงง เวียนศีรษะบ่อย ปวดไมเกรน 5. ผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป 6. ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุ เป็นรอยเขียวจ้ำ ฟกช้ำ หมายถึงว่า ย่อมมีเศษตระกรันและตะกอนจากเลือดไปเกาะ ในหลอดเลือด 7. คนที่เป็นเส้นเลือดขอด 8. คนที่มีอาชีพยืนนาน แม่ค้า ช่างทำผม โดยรวมๆ น่าจะควรต้องล้างทุกคนดีที่สุด เราเช็คร่างกายตั้งแต่ตอนนี้ เป็นการไม่ประมาท อย่ารอให้เส้นเลือดมันแตก มันอุดตันก่อน แล้วจึงค่อยคิดจะทำ มันไม่คุ้ม ยาจีนหลักๆๆมีอะไรบ้างคะหมอลงรูปและชื่ออีกทีนะคะและไห้ทุกคนเซฟใว้ทุกคนนะคะแล้วทะยอยชื้อเก็บใว้ค่ะ 1.ยาระบบย่อยอาหาร 1.1 เซียงซาหย่างเว่ยหวาน ช่วยย่อย แก้ ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เรอเหม็นเปรี้ยว 1.2 หวงเหลียนซู่ แก้ท้องเดินเป็นบิด ปวดถ่วง ท้องเสีย 1.3 หวงเหลียนซั่งชิงเพี่ยน แก้ท้องผูก เจ็บคอ เหงือบวม ร้อนใน แผลในปาก เจ็บลิ้น 1.4 หนิวหวงเจี่ยตู๋เพี่ยน แก้ท้องผูก เจ็บคอ ตาแดง เน้นรักษาตับ 1.5 เป่าเหอหวาน รักษา เสมหะขับออกง่าย ลดคอเลสเตอรอลไขมันเลว ช่วยย่อยเนื้อ น้ำมัน เน้นส่งเสริมประสิทธิภาพการย่อยอาหาร 2.กลุ่มยารักษาโรคหวัดภูมิแพ้ 2.1 ยาหยินเชี่ยวเจี๋ยตู๋เพี่ยน เป็นยารักษาโรคหวัดฤดูร้อน อาการเด่นมีไข้สูง เจ็บคอ หิวน้ำ หน้าแดง ไอแห้งๆ 2.2 ยา ฮั่วเซียงเจิ้งชี่หวาน รักษาหวัดฤดูฝน อาการเด่น.เบื่ออาหาร ศรีษะหนักๆ ไอมีเสมหะเยอะ อาคล้ายกับหวัดโควิด19 ก็รักษาได้ครับ 2.3 ยา หมาหวงทัง รักษาหวัดฤดูหนาว อาการ ไข้ต่ำ กลัวหนาว น้ำมูกใสไหลตลอด ไอเสมหะมากไม่เหนียว จมูกไม่ได้กลิ่น ไม่มีเหงื่อ ปวดเมื่อยตามตัว หรืออาการหืดหอบก็ใช้สูตรนี้ได้ 2.4 ยาแก้ภูมิแพ้ตราปลาคู่ รักษาอาการ เป็นหวัดทั้งปี ถูกละอองฝน/ตากแดด/กระทบลมหนาว ถ้าเป็นยาตำรับคือ จิงฝางไป้ตู๋ทัง/ตำรับนี้ร้านเจ๊ดามีบันทึกอยู่/หรือจะกินสูตรยา ชิงเฟ่ยไผตู๋ทัง หมายเหตุ ยาภูมิแพ้คือ ตำรับจิงฝางไป่ตู๋ทัง 3. ยารักษาระบบไต และ กระเพาะปัสสาวะ 3.1 จินกุ้ยเซิ่นชี่หวาน เป็นยาบำรุงไตหยาง อาการ กลัวหนาว เป็นเบาหวานปัสสาวะกลางคืนบ่อย หมดแรง กระดูกพรุน ปวดกระดูก อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือ มีอาการหลั่งเร็ว ถ้าเป็นผู้หญิงจะไม่มีอารมณ์เพศ ช่องคลอดแห้ง อาจจะมีตกขาวร่วมด้วย 3.2 จือไป๋ตี้หวงหวาน/จือไป๋ปาเว่ยหวาน คือยาบำรุงไตอิน รักษาอาการ เบาหวาน ขี้ร้อนในง่าย นอนไม่หลับ อาการวัยทอง ท้องผูก 3.3จี้จีตี้หวงหวาน คือยารักษาตับ ไต อาการตามัวกลางคืนขับรถไม่ได้ สายตาไม่ดี/สั่นและยาว/ ตาแห้ง ลักษณะไตป่วยต้องมีอาการปวดเอว เป็นหลักสำคัญ สำหรับการรักษาเกี่ยวกับสายตาควรใช้ยากลุ่ม 4.นี้ทุกตัวครับ 4.กลุ่มอาการโรคนอนหลับยาก ตื่นง่ายหลับยาก สาเหตุจากจิตใจ เลือดน้อย ความเคยชิน จิตอารมณ์เคร่งเครียด เรื่องเงินไม่พอใช้จ่าย 4.1 ยา กุยผีหวาน คือยาบำรุงเลือด ช่วยนอนหลับ 4.2 ยาเซียวเหยาหวาน คือยาคลายเครียด ทำให้จิตคลาย เผลอหลับไม่รู้ตัว ยาตัวนี้สามารถลดอาการปวดตึงคอ บ่า ไหล่ ได้สบาย 4.3 ยาเทียนหวังปู่ซินตัง คือยาบำรุงอินหัวใจ รักษาอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น นอนไม่หลับ ร้อนฝ่าเท้า 4.4 ยา หลงต่านเซี่ยกันหวาน เป็นยารักษา อาการร้อนชื้น ที่ตับไต หรือแพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่า การอักเสบแบบ inflammation ทำให้ตื่นกลางดึกตอนห้าทุ่มเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตื่นแล้วหลับยาก หรือ อาการต่อมลูกหมากอักเสบ 5. กลุ่มอาการเสมหะ ไอจากเสมหะ หรือ มีอาการลูกกระเดือกโตเศษอาหารตกค้าง 5.1 ยา ชิงชี่ฮั่วถันหวาน รักษา ไอมีเสมหะมาก เอาออกยาก 5.2 หวินหนันไป๋เย่า ใช้เป็นยาห้ามเลือดจากอุบัติเหตุ กระเพาะอาหารทะลุ ตับแตก ม้ามแตก ไตรั่ว กระเพาะปัสสาวะเลือดไหลออกมากับน้ำปัสสาวะ หรือ เลือดออกทางรูทวารหนัก ริดสีดวงทวาร และมีการยืนยันจากสมาชิกว่าใช้รักษามะเร็งมดลูก มะเร็งตับ ต่ออายุได้เป็นสิบๆปี จนแพทย์เจ้าของไข้ตายไปก่อนคนไข้ครับ 5.3ยาวาสคูล่าร์ตราปลาคู่/ยาเหน่าซินทง ใช้รักษาอาการเส้นเลือดอุดตันที่สมอง หัวใจ ยากลุ่มที่5นี้ จัดเป็นยาฉุกเฉิน ต้องมีติดตัวตลอดครับ สำหรับคนที่ได้รับวัคซีนพิษมา 6.กลุ่มยาบำรุงกำลัง 6.1หยิ่นเซียมเจง คือยาสกัดรากโสมจีน สรรพคุณบำรุงพลัง แก้อ่อนเพลีย หายใจรวยริน หัวใจอ่อนล้า ไม่มีแรงลืมตาอ้าปาก 6.2.โสมเอี่ยเซียม/โสมอเมริกา บำรุงกำลังแต่ไม่ร้อนในมีเหมาะสำหรับคนไทยที่อยู่เมืองไทย 6.3.เซินหลิงไป๋จู๋เคอรี่ตราปลาคู่ เป็นยาเพิ่มกำลังคนไข้นอนติดเตียง เบื่ออาหาร และไม่อยากดื่มน้ำ ใช้เครื่องใส่ท่อออกซิเจน... ยากลุ่มที่7นี้ควรมีไว้ที่บ้านที่มีวัยชราภาพ70ขึ้นไป 6.4ยาบำรุงกำลัง กรณี มดลูกหย่อน หรือ ไส้เลื่อน ให้กินยา ปู่จงอี้ชี่หวานนะคร้บ และควรเล่นกำลังภายในชี่กงด้วยครับมีจะได้ไม่กลับมาเป็นอีก บางคนไอฉี่เล็ดแบบนี้คือพลังถดถอย ต้องกินยาปู่จงฯ 7..ยากลุ่มครึ่งนอกครึ่งใน เป็นอาการพิเศษที่หมอฝรั่ง งง กล่าวคือ จับไข้เป็นเวลาคล้ายไข้จับสั่น แต่ไม่รุนแรงเท่ามาลาเรีย สบัดร้อนสบัดหนาว ห่มผ้าก็ร้อน ถีบผ้าออกก็หนาว แพทย์แผนปัจจุบันจะใช้ยาควินินรักษา ก็ได้ผล แต่ผลข้างเคียงมหาศาล แพทย์บางคนจ่ายยาสเตียรอยด์เลย คราวนี้ร่างกายแย่แน่นอน นี่คือโรคหมอทำ ยาที่ใช้คือ เสี่ยวไฉหูทังหวาน กินครั้งเดียวหายเป็นปลิดทิ้ง อาการนี้มักเกิดกับคนแข็งแรง ส่วนคนอ่อนแอ แพ้ศัตรูง่าย พอรับเชื้อก็ล้มหมอนนอนเสื่อเลย อ้อ สำหรับคนนอนกรน ให้กินยาหยิ่นเซียมเจง หรือ เซินหลิงตราปลาคู่ก็ได้ครับ ฉั่งฉิก กับ วาสคูล่าร์ (2+2)×2/วัน กินตลอดไปก็การันตีว่า โรคอัมพาต/โรคหัวใจ/โรคอัลไซเมอร์ จะไม่มาหาแน่นอน คุณหมอค่ะกรดไหลย้อนทานยาตัวไหนคะ กรดไหลย้อน พยายามกินหนิวหวง หรือ หวงเหลียนก่อนนอนทุกคืนประมาณ3-5วัน อาการจะหายไปครับ อย่าให้ท้องผูก อย่านอนดึก กินอาหารมื้อเย็นก่อน18:00น. พุงจะไม่ยื่น มีเอว แนะนำโดยแพทย์จีน ไกร บารมีเสริมส่ง (วินิจฉัยฟรี) https://t.me/Covidtreatment_th/148 https://t.me/Covidtreatment_th/374 ท่านแนะนำให้ไปหาซื้อตามร้านขายยาจีนหรือโรงงานยาตราปลาคู่โดยตรงที่โทร. 0935245444 หรือตามร้านขายยาทั่วไป หรือ3ภาพสุดท้าย หาซื้อได้ที่โรงงาน034-391085 หรือ0935245444 เป็นเบอร์ไลน์ด้วยครับ ไลน์​ ยาเขียวตราปลาคู่ https://lin.ee/65cYrq8 https://lin.ee/bHUugo0 ตัวอย่างโปร.เมื่อวันที่ 25 / 03 - 10 / 04 / 68 วาสคิวล่าร์ (10x10’s) กล่องละ 500 ยาระบาย (10x10’s) กล่องละ 200 ยาเขียว ( ชนิดผง ) ชนิด 60 ซอง กล่องละ 800 ยาเขียว ( ชนิดเม็ด ) ชนิด 60 ซอง กล่องละ 800 ชนิดขวด 80’s โหลละ 800 ยาเขียว (สูตรเข้มข้น) แคปซูล ชนิดขวด (6 กระปุก) แพคละ 750 ชนิดแผง (10x10’s) แพคละ 400 สูตรพิเศษ (รักษาอาการโควิด) ชนิดผง (10 ซอง) แพคละ 500 แคปซูล (10x10’s) แพคละ 400 ยาชะลอวัย ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500 แคปซูล (10x10’s) แพคละ 400 ฉั่งฉิก ชนิดผง 300 กรัม 900 ชนิดผง 500 กรัม 1300 แคปซูล (10x10’s) แพคละ 500 ยาภูมิแพ้ ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500 แคปซูล (6 กระปุก) แพคละ 750 ยาต่อมลูกหมาก ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500 แคปซูล (6 กระปุก) แพคละ 750 ยาบำรุงผิว ชนิดผง (12 ซอง) แพคละ 500 หลงต่าน ขวดใหญ่ 360 เม็ด 250 หนิวหวง กล่องละ 250 AMK 1 g กล่องละ 130 ( 3 กล่อง ) 380 ยอดสั่งซื้อ 2,500 บาทขึ้นไป ส่งสินค้าภายในประเทศ ฟรี !! หมอเคยเน้นย้ำว่าโรงงานยาจีนที่วางใจได้มีเพียง 1.เป่ยจิงถงหยินถัง 北京同仁堂 สัญญาลักษณ์ตามภาพนะครับ 2.ฝอจือ หลันโจว https://www.google.com/imgres?imgurl=http%3A%2F%2Fimg.familydoctor.com.cn%2Fcms%2F20170320%2F201703200448063284.jpg&imgrefurl=https%3A%2F%2Fm.familydoctor.com.cn%2F201703%2F1771052.html&tbnid=XdVmkWCk3VyHvM&vet=1&docid=KlrmfVeK0-lJRM&w=499&h=431&itg=1&hl=th-TH&source=sh%2Fx%2Fim ยาสำเร็จรูปนี้ที่เมืองไทยคุ้นเคยกันมานานมากกว่า60ปีแล้วไม่มีปัญหา สมัยไปเรียนที่เซี่ยเหมิน อาจารย์หมอจีนตกใจว่าทำไมนักเรียนไทยรู้จักใช้ยาสำเร็จรูปของบริษัทยาที่มาตราฐานระดับประเทศ(ไม่ใช่ระดับมณฑล) สัญญาลักษณ์แปลว่า พุทธะเมตตา 3.จางจ้งจิ่ง เหอหนาน ยาบริษัทนี้เริ่มมีขายบ้างในเมืองไทยส่วนใหญ่หมอจีนนำเข้ามาขายเองเมื่อสิบกว่าปี/คนที่นำเข้ามาแจกคนไข้แรกๆคือหมอไกรเองครับ ซื้อยาจากเมืองจีนกลับมาไทยเป็นจำนวนเงินแสนกว่าบาท สุดท้ายแจกฟรี สงสารคนไข้ ขายเก็บเงินไม่ได้ และในที่สุด สรุปว่าทำธุรกิจยารักษาโรคไม่ได้5555 ขาดทุนหมดตั้งแต่ล็อตแรก หมอจึงให้การรักษาฟรี ส่วนยากรุณาไปหาซื้อเอาเองแถวเยาวราช เพราะความสงสารคนป่วย 4.บริษัทยาจิ่วจือถัง อยู่ที่เมืองหลันโจวเช่นกันกับโรงงานฝอจือ มีเพียง4บริษัทนี้เท่านั้นที่วางใจได้ บริษัทยาจิ่วจือถังก่อตั้งมาเกือบ400ปีแล้วครับ ถ้าดูประวัติโรงงานยาเมืองจีนที่โด่งดังก็จะมีบริษัทยาเป่ยจิงถงหยินถัง ก่อตั้งด้วยพระราชทรัพย์ของกษัตริย์คังซีฮ่องเต้ เพราะหมอหลวงรักษาอาการป่วยของฮ่องเต้ไม่หาย แต่มาได้ยาของร้านถงหยินถังในกรุงปักกิ่งเสวยยาแล้วหาย จึงพระราชทานทรัพย์ให้ตั้งร้านใหญ่ในเมืองหลวง ใครได้ดูหนังทีวี องค์ชาย4 คังซีฮ่องเต้ คงจำกันได้ในราชวงศ์ชิง ยุคกรุงศรีอยุธยาโดยประมาณนะครับ จบ ความรู้เรื่องโรงงานผลิตยาในประเทศจีนที่วางใจได้ครับ หวังว่าคงไม่มีสมาชิกถูกหลอกให้กินยาผสมสารเคมีสังเคราะห์นะครับ แนะนำโดยแพทย์จีน ไกร บารมีเสริมส่ง (วินิจฉัยฟรี) https://t.me/Covidtreatment_th/148 https://t.me/Covidtreatment_th/374 ท่านแนะนำให้ไปหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ร้านเซี้ยงเฮงฮั่วกี่ เจ๊ดา02-2261418 หรือโรงงานยาตราปลาคู่โดยตรงที่โทร. 034-391085 หรือ0935245444 เป็นเบอร์ไลน์ด้วยครับ ไลน์​ ยาเขียวตราปลาคู่ https://lin.ee/65cYrq8 สนใจศาสตร์แพทย์แผนจีนสามารถติดตามไปที่กลุ่มของคุณหมอไกร กลุ่มไลน์ “แพทย์แผนจีน” https://line.me/ti/g/nvK48dxh8k กลุ่มไลน์ “แพทย์จีนป.1” https://line.me/ti/g/fpBefF5mEj #แพทย์แผนจีน #ยาจีน #ยาเขียว #วาสคิวล่าร์ #ยาระบาย เวชหนุ่ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1035 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความขัดแย้งเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน กระตุ้นให้มีการประเมินใหม่ เกี่ยวกับแสนยานุภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีน ขณะที่ความสำเร็จของอาวุธจีนในสงครามระหว่างปากีสถานกับอินเดีย กำลังท้าทายความเหนือกว่าที่มีมาอย่างช้านานของตะวันตก ในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และโหมกระพือความกังวลแก่ดินแดนต่างๆ ที่มีปัญหากับปักกิ่ง โดยเฉพาะไต้หวัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000045222

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ความขัดแย้งเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน กระตุ้นให้มีการประเมินใหม่ เกี่ยวกับแสนยานุภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีน ขณะที่ความสำเร็จของอาวุธจีนในสงครามระหว่างปากีสถานกับอินเดีย กำลังท้าทายความเหนือกว่าที่มีมาอย่างช้านานของตะวันตก ในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และโหมกระพือความกังวลแก่ดินแดนต่างๆ ที่มีปัญหากับปักกิ่ง โดยเฉพาะไต้หวัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000045222 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1334 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ของทนง ขันทองที่เผยแพร่ทางเพจ Thanong Fanclub “ความผิดพลาดของอินเดีย

    ความผิดพลาดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย? การทำให้จีนกลายเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง เพื่อแสดงความภักดีต่อวอชิงตัน ผลลัพธ์: ขีปนาวุธ PL-15 และเครื่องบิน J-10C อยู่ในมือของปากีสถานแล้ว โดยน่าจะขายในราคามิตรภาพ

    ตั้งแต่ปี 2014 รัฐบาล BJP ภายใต้การนำของโมดี ผูกพันอินเดียไว้กับยุทธศาสตร์สกัดกั้นจีนที่นำโดยสหรัฐฯ ทั้งการสนับสนุนกลุ่ม QUAD การแสดงท่าทีแข็งกร้าวที่หุบเขากัลวาน การแบนแอปจีน—ทุกอย่างล้วนเป็นการส่งสัญญาณว่าอินเดียอยู่ฝ่ายตะวันตก

    แต่เมื่ออินเดียประกาศให้จีนเป็นศัตรูอย่างเปิดเผย ก็ทำให้สูญเสียอำนาจต่อรองทางการทูตไปโดยสิ้นเชิง ปักกิ่งจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะชะลอการสนับสนุนกองทัพอากาศของปากีสถานอีกต่อไป

    จีนจึงเปิดประตูให้ทันที ปากีสถานได้รับเครื่องบิน J-10C ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ที่มีเรดาร์และอาวุธล้ำสมัย ได้รับอย่างรวดเร็ว ราคาประหยัด และน่าจะมาพร้อมเงื่อนไขสนับสนุนที่เอื้ออำนวย

    จุดเปลี่ยนสำคัญจริงๆ คือ ขีปนาวุธ PL-15 มันไม่ใช่ขีปนาวุธธรรมดา แต่เป็นขีปนาวุธ “ยิงไกลเกินระยะมองเห็น” (BVR) ที่สามารถยิงเครื่องบินข้าศึกจากระยะไกลกว่า 200 กิโลเมตร — ก่อนที่เป้าหมายจะเห็นผู้โจมตีเสียอีก

    การรบแบบ BVR เป็นมาตรฐานใหม่ของสงครามอากาศสมัยใหม่ การดวลกลางอากาศแบบประชิดตัวแทบจะหายไป ใครเห็นก่อน ยิงก่อน ชนะก่อน ด้วยเรดาร์ AESA ของ J-10C และขีปนาวุธ PL-15 ปากีสถานได้เปรียบในการยิงก่อน

    Rafale ของอินเดียเคยถูกยกให้เป็นอัญมณีแห่งกองทัพ แต่ไม่มีอาวุธเทียบเท่ากับ PL-15 และถูกส่งมอบช้า จำนวนจำกัด และราคาสูงลิ่ว

    อินเดียก็ไม่ซื้อ F-16 เช่นกัน ราคาของ Lockheed แพงกว่า Dassault เสียอีก การเปลี่ยนชื่อเป็น “F-21” ไม่ได้หลอกใครได้ ไม่มีการถ่ายโอนเทคโนโลยีที่จริงจังใด ๆ

    ในขณะเดียวกัน จีนขายคำตอบสำเร็จรูปให้กับปากีสถาน เพื่อรับมือทั้ง Rafale และ F-16 โดย J-10C ไม่จำเป็นต้องดีกว่าทั้งสอง แค่ต้องติดตั้ง PL-15 และยิงได้ไกลกว่าก็พอแล้ว

    จีนไม่ได้เป็นฝ่ายยั่วยุ อินเดียต่างหากที่ประกาศให้จีนเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง และผลตอบกลับก็คือ จีนยกระดับกองทัพอากาศปากีสถาน ด้วยเทคโนโลยี BVR ที่ล้ำหน้า เงียบ ๆ มีประสิทธิภาพ และมีชั้นเชิง

    บทเรียนมันรุนแรง การเข้าข้างสหรัฐฯ ไม่ได้ทำให้อินเดียปลอดภัยขึ้น แต่ทำให้จีนไม่แยแสความกังวลของอินเดีย และปากีสถานกลายเป็นแนวหน้าใหม่ของยุทธศาสตร์ถ่วงดุลภูมิภาคของจีน
    11/5/2025
    https://x.com/wmhuo168/status/1921085939687801114
    บทวิเคราะห์ของทนง ขันทองที่เผยแพร่ทางเพจ Thanong Fanclub “ความผิดพลาดของอินเดีย ความผิดพลาดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย? การทำให้จีนกลายเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง เพื่อแสดงความภักดีต่อวอชิงตัน ผลลัพธ์: ขีปนาวุธ PL-15 และเครื่องบิน J-10C อยู่ในมือของปากีสถานแล้ว โดยน่าจะขายในราคามิตรภาพ ตั้งแต่ปี 2014 รัฐบาล BJP ภายใต้การนำของโมดี ผูกพันอินเดียไว้กับยุทธศาสตร์สกัดกั้นจีนที่นำโดยสหรัฐฯ ทั้งการสนับสนุนกลุ่ม QUAD การแสดงท่าทีแข็งกร้าวที่หุบเขากัลวาน การแบนแอปจีน—ทุกอย่างล้วนเป็นการส่งสัญญาณว่าอินเดียอยู่ฝ่ายตะวันตก แต่เมื่ออินเดียประกาศให้จีนเป็นศัตรูอย่างเปิดเผย ก็ทำให้สูญเสียอำนาจต่อรองทางการทูตไปโดยสิ้นเชิง ปักกิ่งจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะชะลอการสนับสนุนกองทัพอากาศของปากีสถานอีกต่อไป จีนจึงเปิดประตูให้ทันที ปากีสถานได้รับเครื่องบิน J-10C ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ที่มีเรดาร์และอาวุธล้ำสมัย ได้รับอย่างรวดเร็ว ราคาประหยัด และน่าจะมาพร้อมเงื่อนไขสนับสนุนที่เอื้ออำนวย จุดเปลี่ยนสำคัญจริงๆ คือ ขีปนาวุธ PL-15 มันไม่ใช่ขีปนาวุธธรรมดา แต่เป็นขีปนาวุธ “ยิงไกลเกินระยะมองเห็น” (BVR) ที่สามารถยิงเครื่องบินข้าศึกจากระยะไกลกว่า 200 กิโลเมตร — ก่อนที่เป้าหมายจะเห็นผู้โจมตีเสียอีก การรบแบบ BVR เป็นมาตรฐานใหม่ของสงครามอากาศสมัยใหม่ การดวลกลางอากาศแบบประชิดตัวแทบจะหายไป ใครเห็นก่อน ยิงก่อน ชนะก่อน ด้วยเรดาร์ AESA ของ J-10C และขีปนาวุธ PL-15 ปากีสถานได้เปรียบในการยิงก่อน Rafale ของอินเดียเคยถูกยกให้เป็นอัญมณีแห่งกองทัพ แต่ไม่มีอาวุธเทียบเท่ากับ PL-15 และถูกส่งมอบช้า จำนวนจำกัด และราคาสูงลิ่ว อินเดียก็ไม่ซื้อ F-16 เช่นกัน ราคาของ Lockheed แพงกว่า Dassault เสียอีก การเปลี่ยนชื่อเป็น “F-21” ไม่ได้หลอกใครได้ ไม่มีการถ่ายโอนเทคโนโลยีที่จริงจังใด ๆ ในขณะเดียวกัน จีนขายคำตอบสำเร็จรูปให้กับปากีสถาน เพื่อรับมือทั้ง Rafale และ F-16 โดย J-10C ไม่จำเป็นต้องดีกว่าทั้งสอง แค่ต้องติดตั้ง PL-15 และยิงได้ไกลกว่าก็พอแล้ว จีนไม่ได้เป็นฝ่ายยั่วยุ อินเดียต่างหากที่ประกาศให้จีนเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง และผลตอบกลับก็คือ จีนยกระดับกองทัพอากาศปากีสถาน ด้วยเทคโนโลยี BVR ที่ล้ำหน้า เงียบ ๆ มีประสิทธิภาพ และมีชั้นเชิง บทเรียนมันรุนแรง การเข้าข้างสหรัฐฯ ไม่ได้ทำให้อินเดียปลอดภัยขึ้น แต่ทำให้จีนไม่แยแสความกังวลของอินเดีย และปากีสถานกลายเป็นแนวหน้าใหม่ของยุทธศาสตร์ถ่วงดุลภูมิภาคของจีน 11/5/2025 https://x.com/wmhuo168/status/1921085939687801114
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนและบราซิลประกาศ ลงนามในข้อตกลงการค้าหลายฉบับในกรุงปักกิ่ง กระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น และประกาศกร้าวจะปกป้องการค้าเสรีและพหุภาคี ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไร้ความแน่นอน อันเนื่องมาจากมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044814

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จีนและบราซิลประกาศ ลงนามในข้อตกลงการค้าหลายฉบับในกรุงปักกิ่ง กระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น และประกาศกร้าวจะปกป้องการค้าเสรีและพหุภาคี ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไร้ความแน่นอน อันเนื่องมาจากมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044814 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1389 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044806

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044806 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1516 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts