• ♣ ขนุนสามกีบ ตอนเรียนเลือกไปม็อบ ตอนชดใช้กรรมกลับอยากเรียน โง่เง่าซ้ำซ้อน ถูกหลอกใช้ให้ละเมิด 112 พอเข้าคุกก็ยังถูกทนายสามกีบหลอกแดกให้เสียเงินยื่นประกันนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อเอาไปอ้างว่าโดนรังแก แถมยังถูกหลอกให้อดอาหารประท้วงขอปล่อยตัว อีกไม่นานก็จะถูกเอาร่างไปแห่ร้องหาเสรีภาพเหมือนบุ้งแหละ
    #7ดอกจิก
    ♣ ขนุนสามกีบ ตอนเรียนเลือกไปม็อบ ตอนชดใช้กรรมกลับอยากเรียน โง่เง่าซ้ำซ้อน ถูกหลอกใช้ให้ละเมิด 112 พอเข้าคุกก็ยังถูกทนายสามกีบหลอกแดกให้เสียเงินยื่นประกันนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อเอาไปอ้างว่าโดนรังแก แถมยังถูกหลอกให้อดอาหารประท้วงขอปล่อยตัว อีกไม่นานก็จะถูกเอาร่างไปแห่ร้องหาเสรีภาพเหมือนบุ้งแหละ #7ดอกจิก
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง
    .
    ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้
    .
    แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย
    .
    ---------------
    ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก"
    ---------------
    .
    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป...
    .
    ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ
    .
    ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ
    .
    อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี)
    .
    เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย
    .
    เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้...
    .
    ------------------------
    กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง
    ------------------------
    .
    อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551
    .
    ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ
    .
    ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล
    .
    ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่
    .
    หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664
    .
    แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน
    .
    ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค
    .
    ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง
    .
    และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี
    .
    ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด
    ---------------------------------
    แหล่งข้อมูล
    - https://www.git.or.th/g20130410.html
    - http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3585&read=true&count=true
    - https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1591058431203175?
    - https://www.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2367376280183185/?type=3&theater
    - https://th.wikipedia.org/wiki/เพชรโฮป
    - https://www.facebook.com/726502237386172/posts/3507440415958993/
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง . ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้ . แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย . --------------- ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก" --------------- . อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป... . ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ . ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ . อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี) . เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย . เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้... . ------------------------ กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง ------------------------ . อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551 . ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ . ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล . ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่ . หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664 . แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน . ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค . ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง . และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี . ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด --------------------------------- แหล่งข้อมูล - https://www.git.or.th/g20130410.html - http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3585&read=true&count=true - https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1591058431203175? - https://www.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2367376280183185/?type=3&theater - https://th.wikipedia.org/wiki/เพชรโฮป - https://www.facebook.com/726502237386172/posts/3507440415958993/ ------------------------------- ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่ Website : http://www.thailandvision.co Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    0 Comments 0 Shares 387 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ประกาศจะทำลายกาซาให้ย่อยยับกว่านี้ และจะบังคับขับไล่ชาวปาเลสไตน์ให้อพยพที่พักพิงไปเรื่อยๆไม่จบสิ้น หากกลุ่มฮามาสไม่ปล่อยตัวประกัน และยังมีฮามาสหลงเหลืออยู่ในกาซา


    ชาวโลกส่วนใหญ่รู้ดีว่า การช่วยเหลือตัวประกันและข้ออ้างการมีอยู่ของฮามาสคือเพียงเพื่อทำลายกาซาให้ย่อยยับมากที่สุด เพื่อที่อิสราเอลจะได้เข้าครอบครอง
    รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ประกาศจะทำลายกาซาให้ย่อยยับกว่านี้ และจะบังคับขับไล่ชาวปาเลสไตน์ให้อพยพที่พักพิงไปเรื่อยๆไม่จบสิ้น หากกลุ่มฮามาสไม่ปล่อยตัวประกัน และยังมีฮามาสหลงเหลืออยู่ในกาซา ชาวโลกส่วนใหญ่รู้ดีว่า การช่วยเหลือตัวประกันและข้ออ้างการมีอยู่ของฮามาสคือเพียงเพื่อทำลายกาซาให้ย่อยยับมากที่สุด เพื่อที่อิสราเอลจะได้เข้าครอบครอง
    0 Comments 0 Shares 344 Views 18 0 Reviews
  • อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ส่งข้อความถึงฮามาสทำนองเดียวกับทรัมป์ : ปล่อยตัวตัวประกัน มิฉะนั้นประตูนรกจะเปิดออก!


    ฮามาสต้องตระหนักว่าถึงเวลานี้กฎของเกมได้เปลี่ยนไปแล้ว

    หากพวกเขาไม่ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที ประตูนรกจะเปิดออก

    อิสราเอลจะใช้กำลังทหารทั้งหมดทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก หากฮามาสปฏิเสธที่จะปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม

    ตามคำกล่าวของแคทซ์ อิสราเอลจะไม่หยุดทำลายทุกสิ่งในกาซาจนกว่าตัวประกันและชาวอิสราเอลทางตอนใต้จะปลอดภัย
    อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ส่งข้อความถึงฮามาสทำนองเดียวกับทรัมป์ : ปล่อยตัวตัวประกัน มิฉะนั้นประตูนรกจะเปิดออก! ฮามาสต้องตระหนักว่าถึงเวลานี้กฎของเกมได้เปลี่ยนไปแล้ว หากพวกเขาไม่ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที ประตูนรกจะเปิดออก อิสราเอลจะใช้กำลังทหารทั้งหมดทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก หากฮามาสปฏิเสธที่จะปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม ตามคำกล่าวของแคทซ์ อิสราเอลจะไม่หยุดทำลายทุกสิ่งในกาซาจนกว่าตัวประกันและชาวอิสราเอลทางตอนใต้จะปลอดภัย
    Like
    Angry
    3
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาหลังจากการโจมตีครั้งใหม่ของอิสราเอลทะลุ 200 คนแล้ว ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    "ทางด้านสหรัฐฯ เผยอิสราเอลมาปรึกษาสหรัฐฯ ก่อนการโจมตี"

    แดนนี แดนนอน (Danny Dannon) เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติโพสต์ข้อความบน X ว่า ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายของฮามาสในฉนวนกาซาจะดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุดจนกว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมดออกมา
    สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาหลังจากการโจมตีครั้งใหม่ของอิสราเอลทะลุ 200 คนแล้ว ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง "ทางด้านสหรัฐฯ เผยอิสราเอลมาปรึกษาสหรัฐฯ ก่อนการโจมตี" แดนนี แดนนอน (Danny Dannon) เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติโพสต์ข้อความบน X ว่า ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายของฮามาสในฉนวนกาซาจะดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุดจนกว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมดออกมา
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • วันนี้ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ศาลเกาหลีใต้ประกาศ “ยกเลิกหมายจับ” ในข้อหาก่อความไม่สงบโดยอ้างว่าสิ้นสุดระยะเวลาการคุมขัง จากกรณีที่ประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันที่สร้างความวุ่นวายให้กับเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา แม้ว่าท้ายที่สุดกฎอัยการศึกของยุนจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม
    วันนี้ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ศาลเกาหลีใต้ประกาศ “ยกเลิกหมายจับ” ในข้อหาก่อความไม่สงบโดยอ้างว่าสิ้นสุดระยะเวลาการคุมขัง จากกรณีที่ประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันที่สร้างความวุ่นวายให้กับเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา แม้ว่าท้ายที่สุดกฎอัยการศึกของยุนจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 340 Views 16 0 Reviews
  • พลจัตวา Ghiath Suleiman Dalla อดีตนายพลของกองพลที่ 4 แห่งกองทัพอาหรับซีเรีย (SAA) (กองทัพของรัฐบาลซีเรียเดิมก่อนถูกโค่นอำนาจ) ปัจจุบันกำลังเข้าร่วมต่อสู้อยู่ในลาตาเกียของซีเรีย

    นายพล Dalla เรียกร้องให้ถอนกำลัง HTS ซึ่งเป็นของรัฐบาลซีเรียชุดใหม่ ถอนตัวออกจากพื้นที่ชายฝั่งที่ชาวอลาวีส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย ซึ่งรวมถึงลาตาเกียและทาร์ตูส เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษ HTS ที่ถูกจับตัวไว้ อย่างปลอดภัย

    นายพล Dalla ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของอิหร่าน และเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเตหะรานในกองพลที่ 4 ของ Maher al-Assad โดยเขาเคยบังคับบัญชากองพล Ghiath ที่ 42 ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษ
    พลจัตวา Ghiath Suleiman Dalla อดีตนายพลของกองพลที่ 4 แห่งกองทัพอาหรับซีเรีย (SAA) (กองทัพของรัฐบาลซีเรียเดิมก่อนถูกโค่นอำนาจ) ปัจจุบันกำลังเข้าร่วมต่อสู้อยู่ในลาตาเกียของซีเรีย นายพล Dalla เรียกร้องให้ถอนกำลัง HTS ซึ่งเป็นของรัฐบาลซีเรียชุดใหม่ ถอนตัวออกจากพื้นที่ชายฝั่งที่ชาวอลาวีส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย ซึ่งรวมถึงลาตาเกียและทาร์ตูส เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษ HTS ที่ถูกจับตัวไว้ อย่างปลอดภัย นายพล Dalla ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของอิหร่าน และเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเตหะรานในกองพลที่ 4 ของ Maher al-Assad โดยเขาเคยบังคับบัญชากองพล Ghiath ที่ 42 ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษ
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ ยื่นคำขาดถึงกลุ่มฮามาส ให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที ทั้งที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิต โดยเขาสัญญาว่าจะส่ง "ทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับอิสราเอล เพื่อทำงานให้เสร็จสิ้น"

    ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวออกมายอมรับว่าสหรัฐมีการติดต่อฮามาสเพื่อขอเจรจาโดยตรงเกี่ยวกับตัวประกันที่เหลือ ซึ่งมีรายงานว่ายังมีตัวประกันที่มีสัญชาติอเมริกันอยู่ด้วย โดยอ้างเหตุผลว่า ทูตพิเศษของสหรัฐมีอำนาจตัดสินใจอย่างอิสราะในการคุยกับกลุ่มใดก็ได้

    ทั้งนี้สหรัฐมีนโยบายที่แข็งกร้าวมาอย่างยาวนานว่าจะไม่มีการเจรจาโดยตรงกับองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ ซึ่ง "ฮามาส" คือหนึ่งในกลุ่มก่อการร้าย ที่ถูกประกาศโดยรัฐบาลสหรัฐในปี 1997 และนี่ถือเป็นการละเมิดนโยบายของสหรัฐเป็นครั้งแรก

    “ทูตพิเศษมีอำนาจที่จะพูดคุยกับใครก็ได้...อิสราเอลได้รับการปรึกษาหารือ...การเจรจาและการพูดคุยกับผู้คนทั่วโลกเป็นความพยายามอย่างจริงใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชาวอเมริกัน” โฆษกทำเนียบขาว กล่าว
    ทรัมป์ ยื่นคำขาดถึงกลุ่มฮามาส ให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที ทั้งที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิต โดยเขาสัญญาว่าจะส่ง "ทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับอิสราเอล เพื่อทำงานให้เสร็จสิ้น" ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวออกมายอมรับว่าสหรัฐมีการติดต่อฮามาสเพื่อขอเจรจาโดยตรงเกี่ยวกับตัวประกันที่เหลือ ซึ่งมีรายงานว่ายังมีตัวประกันที่มีสัญชาติอเมริกันอยู่ด้วย โดยอ้างเหตุผลว่า ทูตพิเศษของสหรัฐมีอำนาจตัดสินใจอย่างอิสราะในการคุยกับกลุ่มใดก็ได้ ทั้งนี้สหรัฐมีนโยบายที่แข็งกร้าวมาอย่างยาวนานว่าจะไม่มีการเจรจาโดยตรงกับองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ ซึ่ง "ฮามาส" คือหนึ่งในกลุ่มก่อการร้าย ที่ถูกประกาศโดยรัฐบาลสหรัฐในปี 1997 และนี่ถือเป็นการละเมิดนโยบายของสหรัฐเป็นครั้งแรก “ทูตพิเศษมีอำนาจที่จะพูดคุยกับใครก็ได้...อิสราเอลได้รับการปรึกษาหารือ...การเจรจาและการพูดคุยกับผู้คนทั่วโลกเป็นความพยายามอย่างจริงใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชาวอเมริกัน” โฆษกทำเนียบขาว กล่าว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • "มีใครประณามหรือยัง!?!" "มีใครเห็นผู้นำยุโรปหรืออเมริกาคนใดพูดถึงเรื่องนี้ หรือสื่อตะวันตกนำเสนอข่าวนี้หรือยัง!?!"

    เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศปิดล้อมกาซาเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าฮามาสไม่ยอมรับการขยายเวลาหยุดยิงในเฟสที่หนึ่งออกไปอีก 50 วัน นอกจากนี้ยังกล่าวหาฮามาสว่าแอบกักตุนความช่วยเหลือไว้แค่สมาชิกพวกเขา โดยไม่แบ่งปันให้ประชาชน

    “อิสราเอลตัดสินใจยุติการอนุญาตส่งความช่วยเหลือและเสบียงเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด 42 วันที่ผ่านมา เราต้องทำเช่นนั้นเพราะฮามาสขโมยเสบียง โดยที่ชาวฉนวนกาซาไม่ได้รับเสบียงเหล่านั้น ฮามาสใช้เสบียงเหล่านี้เพื่อระดมทุนให้กับเครื่องจักรก่อการร้ายที่มุ่งเป้าไปที่อิสราเอลและพลเรือนของเราโดยตรง ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้”

    "อิสราเอลยอมรับแผนของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราวออกไปอีก 50 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เราจะหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขสำหรับการหยุดยิงถาวรที่จะยุติสงครามในฉนวนกาซาได้

    ตามแผนของวิทคอฟฟ์ (ตัวแทนของทรัมป์) ตัวประกันครึ่งหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวทันที และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวหากเราบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวร

    อิสราเอลยอมรับแผนนี้ แต่ฮามาสปฏิเสธ และยืนยันข้อตกลงเดิม เพื่อการหยุดยิงถาวรซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง"

    "เราจะมีปฏิบัติการเพิ่มเติม หากฮามาสยังคงจับตัวประกันของเราต่อไป และอิสราเอลทราบดีว่าอเมริกาและประธานาธิบดีทรัมป์จะสนับสนุนเราตลอด ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์!"

    ทางด้านรองประธานรัฐสภาอิสราเอลและสมาชิกชั้นนำของพรรคของเนทันยาฮู ออกมาเรียกร้องให้ทิ้งระเบิดลงไปที่คลังเสบียงในกาซาทันที หลังการประกาศของเนทันยาฮู

    "มีใครประณามหรือยัง!?!" "มีใครเห็นผู้นำยุโรปหรืออเมริกาคนใดพูดถึงเรื่องนี้ หรือสื่อตะวันตกนำเสนอข่าวนี้หรือยัง!?!" เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศปิดล้อมกาซาเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าฮามาสไม่ยอมรับการขยายเวลาหยุดยิงในเฟสที่หนึ่งออกไปอีก 50 วัน นอกจากนี้ยังกล่าวหาฮามาสว่าแอบกักตุนความช่วยเหลือไว้แค่สมาชิกพวกเขา โดยไม่แบ่งปันให้ประชาชน “อิสราเอลตัดสินใจยุติการอนุญาตส่งความช่วยเหลือและเสบียงเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด 42 วันที่ผ่านมา เราต้องทำเช่นนั้นเพราะฮามาสขโมยเสบียง โดยที่ชาวฉนวนกาซาไม่ได้รับเสบียงเหล่านั้น ฮามาสใช้เสบียงเหล่านี้เพื่อระดมทุนให้กับเครื่องจักรก่อการร้ายที่มุ่งเป้าไปที่อิสราเอลและพลเรือนของเราโดยตรง ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้” "อิสราเอลยอมรับแผนของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราวออกไปอีก 50 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เราจะหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขสำหรับการหยุดยิงถาวรที่จะยุติสงครามในฉนวนกาซาได้ ตามแผนของวิทคอฟฟ์ (ตัวแทนของทรัมป์) ตัวประกันครึ่งหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวทันที และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวหากเราบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวร อิสราเอลยอมรับแผนนี้ แต่ฮามาสปฏิเสธ และยืนยันข้อตกลงเดิม เพื่อการหยุดยิงถาวรซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง" "เราจะมีปฏิบัติการเพิ่มเติม หากฮามาสยังคงจับตัวประกันของเราต่อไป และอิสราเอลทราบดีว่าอเมริกาและประธานาธิบดีทรัมป์จะสนับสนุนเราตลอด ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์!" ทางด้านรองประธานรัฐสภาอิสราเอลและสมาชิกชั้นนำของพรรคของเนทันยาฮู ออกมาเรียกร้องให้ทิ้งระเบิดลงไปที่คลังเสบียงในกาซาทันที หลังการประกาศของเนทันยาฮู
    Sad
    1
    1 Comments 0 Shares 370 Views 0 Reviews
  • Nokia และ NASA ร่วมมือกันในการปฏิวัติการสำรวจดวงจันทร์ด้วยการเปิดตัวเครือข่ายมือถือ 4G ครั้งแรกบนดวงจันทร์

    ย้อนกลับไปในอดีต Nokia เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดมือถือ แต่จากการแข่งขันและความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค Nokia จึงได้เปลี่ยนตัวเองมาเน้นที่การเป็นผู้นำทางด้านการเชื่อมต่อทั่วโลก และในครั้งนี้บริษัทกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการเป็นบริษัทแรกที่นำเทคโนโลยี 4G ไปติดตั้งบนดวงจันทร์

    เครือข่าย 4G LTE ของ Nokia จะถูกนำไปใช้ในภารกิจ IM-2 ของ NASA ซึ่งเป็นภารกิจที่มุ่งเน้นการสร้างพื้นฐานสำหรับการสำรวจอวกาศในอนาคตและการติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์ การติดตั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับภารกิจของ NASA ในการสร้างความมั่นคงของมนุษย์บนดวงจันทร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Artemis

    เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการสื่อสารสำหรับภารกิจอวกาศในอนาคตและสร้างพื้นฐานสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างดาวเคราะห์ นอกจากนี้ยังช่วยให้ข้อมูลสามารถถูกส่งผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ยานลงจอด Athena ของ Intuitive Machines ซึ่งนำเครือข่ายของ Nokia ขึ้นไปได้ถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ และกำลังมุ่งหน้าไปยังขั้วใต้ของดวงจันทร์โดยมีกำหนดจะลงจอดในวันที่ 6 มีนาคม 2025 เมื่อยานลงจอดสำเร็จ Nokia จะทำการเปิดใช้งานระบบสื่อสารบนพื้นผิวดวงจันทร์เพื่อเริ่มต้นเครือข่าย 4G/LTE ซึ่งจะช่วยสร้างช่องทางการสื่อสารที่เสถียร

    เครือข่ายนี้ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างเครือข่ายการสื่อสารบนดวงจันทร์ โดยยาน Athena จะเชื่อมต่อกับยานหุ่นยนต์สองตัวคือ MAPP Rover และ Micro Nova Hopper Drone ซึ่งจะช่วยรักษาการเชื่อมต่อเครือข่ายให้เสถียร

    แนวทางของ Nokia ในการนำเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือมาใช้ในการสำรวจอวกาศเป็นสิ่งที่น่ายกย่องและจะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับบริษัท

    https://wccftech.com/nokia-and-nasa-are-revolutionizing-lunar-exploration-with-the-launch-of-the-first-mobile-network-on-the-moon/
    Nokia และ NASA ร่วมมือกันในการปฏิวัติการสำรวจดวงจันทร์ด้วยการเปิดตัวเครือข่ายมือถือ 4G ครั้งแรกบนดวงจันทร์ ย้อนกลับไปในอดีต Nokia เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดมือถือ แต่จากการแข่งขันและความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค Nokia จึงได้เปลี่ยนตัวเองมาเน้นที่การเป็นผู้นำทางด้านการเชื่อมต่อทั่วโลก และในครั้งนี้บริษัทกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการเป็นบริษัทแรกที่นำเทคโนโลยี 4G ไปติดตั้งบนดวงจันทร์ เครือข่าย 4G LTE ของ Nokia จะถูกนำไปใช้ในภารกิจ IM-2 ของ NASA ซึ่งเป็นภารกิจที่มุ่งเน้นการสร้างพื้นฐานสำหรับการสำรวจอวกาศในอนาคตและการติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์ การติดตั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับภารกิจของ NASA ในการสร้างความมั่นคงของมนุษย์บนดวงจันทร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Artemis เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการสื่อสารสำหรับภารกิจอวกาศในอนาคตและสร้างพื้นฐานสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างดาวเคราะห์ นอกจากนี้ยังช่วยให้ข้อมูลสามารถถูกส่งผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยานลงจอด Athena ของ Intuitive Machines ซึ่งนำเครือข่ายของ Nokia ขึ้นไปได้ถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ และกำลังมุ่งหน้าไปยังขั้วใต้ของดวงจันทร์โดยมีกำหนดจะลงจอดในวันที่ 6 มีนาคม 2025 เมื่อยานลงจอดสำเร็จ Nokia จะทำการเปิดใช้งานระบบสื่อสารบนพื้นผิวดวงจันทร์เพื่อเริ่มต้นเครือข่าย 4G/LTE ซึ่งจะช่วยสร้างช่องทางการสื่อสารที่เสถียร เครือข่ายนี้ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างเครือข่ายการสื่อสารบนดวงจันทร์ โดยยาน Athena จะเชื่อมต่อกับยานหุ่นยนต์สองตัวคือ MAPP Rover และ Micro Nova Hopper Drone ซึ่งจะช่วยรักษาการเชื่อมต่อเครือข่ายให้เสถียร แนวทางของ Nokia ในการนำเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือมาใช้ในการสำรวจอวกาศเป็นสิ่งที่น่ายกย่องและจะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับบริษัท https://wccftech.com/nokia-and-nasa-are-revolutionizing-lunar-exploration-with-the-launch-of-the-first-mobile-network-on-the-moon/
    WCCFTECH.COM
    Nokia And NASA Are Revolutionizing Lunar Exploration With The Launch Of The First Mobile Network On The Moon
    Nokia is deploying its 4G/LTE network on the moon and would be the first network to offer lunar communication system
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลอิสราเอลแถลง ออกคำสั่งปิดตายห้ามรถบรรเทาทุกข์ทั้งหมดส่งเข้าเขตฉนวนกาซา อ้างได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบีบฮามาสยอมตกลงดีลใหม่เพื่อขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไป
    .
    เอบีซีนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ว่า อิสราเอลได้สั่งการห้ามการส่งบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐญ ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1)
    .
    “นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเช้านี้ว่า สิ่งของทั้งหมดและปัจจัยส่งเข้าเขตฉนวนกาซาจะต้องหยุดลง” รายงานจากแถลงการณ์
    .
    พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่ออกมาจาก สตีฟ วิตค็อฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    และในแถลงการณ์ของสำนักงานเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ฝ่ายเทลอาวีฟจะไม่ให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปล่อยตัวประกัน พร้อมข่มขู่ต่อว่า หากฮามาสยังคงปฏิเสธไม่ร่วมเจรจาจะมีผลกระทบอื่นตามมา
    .
    อ้างอิงจากแอกซิออส (axios) ของสหรัฐฯ พบว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในมือฮามาสอีก 59 คนในกาซา ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเชื่อว่า 22 คนจากทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ส่วนอีก 37 คนนั้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
    .
    แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ว่า “การตัดสินใจของอิสราเอลในการปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ากาซาทั้งหมดนั้นมีการประสานกับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์”
    .
    ขณะที่ฮามาสได้ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ออกมาตอบโต้การปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อประชาชนปาเลสไตน์ที่อยู่ด้านในนั้นเป็น “แบล็กเมล์สกปรก” และเป็น “สงครามอาชญากรรม” และเป็นการละเมิดในสิ่งได้ตกลงไว้ก่อนหน้า
    .
    “หนทางเดียวในการที่จะปลดปล่อยตัวประกันคือการบังคับใช้ข้อตกลงและเริ่มต้นการเจรจาสำหรับข้อตกลงเฟส 2”อ้างอิงจากแถลงการณ์ของฮามาส เอบีซีนิวส์รายงาน
    .
    เอพีรายงานว่า เทลอาวีฟใช้วิธีปิดกั้นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อต้องการให้ฝ่ายฮามาสยอมรับข้อเสนอใหม่เพื่อขยายเวลาการหยุดยิงออกไป ขณะที่ตัวกลางเช่น อียิปต์ กล่าวหาเทลอาวีฟว่า ใช้การขาดอาหารเป็นอาวุธ”
    .
    นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.และสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1 ) มีรถบรรเทาทุกข์หลายร้อยคันผ่านเข้าเขตฉนวนกาซาเพื่อทำให้ภาวะการขาดอาหารที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกบรรเทาลง
    .
    แต่ทว่าประชาชนกาซาต่างกล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มเป็น 2 เท่าในทันทีที่ข่าวปิดด่านห้ามรถบรรเทาทุกข์เข้านั้นลามไปทั่ว
    .
    หนึ่งในประชาชนปาเลสไตน์คือ ซาอิด อัล-ดาอิรี (Sayed al-Dairi) อาศัยในกาซา ซิตี แสดงความเห็นว่า "ทุกคนพากันวิตก" และเสริมต่อว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตแม้แต่น้อย"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020419
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลอิสราเอลแถลง ออกคำสั่งปิดตายห้ามรถบรรเทาทุกข์ทั้งหมดส่งเข้าเขตฉนวนกาซา อ้างได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบีบฮามาสยอมตกลงดีลใหม่เพื่อขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไป . เอบีซีนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ว่า อิสราเอลได้สั่งการห้ามการส่งบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐญ ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1) . “นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเช้านี้ว่า สิ่งของทั้งหมดและปัจจัยส่งเข้าเขตฉนวนกาซาจะต้องหยุดลง” รายงานจากแถลงการณ์ . พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่ออกมาจาก สตีฟ วิตค็อฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . และในแถลงการณ์ของสำนักงานเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ฝ่ายเทลอาวีฟจะไม่ให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปล่อยตัวประกัน พร้อมข่มขู่ต่อว่า หากฮามาสยังคงปฏิเสธไม่ร่วมเจรจาจะมีผลกระทบอื่นตามมา . อ้างอิงจากแอกซิออส (axios) ของสหรัฐฯ พบว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในมือฮามาสอีก 59 คนในกาซา ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเชื่อว่า 22 คนจากทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ส่วนอีก 37 คนนั้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว . แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ว่า “การตัดสินใจของอิสราเอลในการปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ากาซาทั้งหมดนั้นมีการประสานกับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์” . ขณะที่ฮามาสได้ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ออกมาตอบโต้การปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อประชาชนปาเลสไตน์ที่อยู่ด้านในนั้นเป็น “แบล็กเมล์สกปรก” และเป็น “สงครามอาชญากรรม” และเป็นการละเมิดในสิ่งได้ตกลงไว้ก่อนหน้า . “หนทางเดียวในการที่จะปลดปล่อยตัวประกันคือการบังคับใช้ข้อตกลงและเริ่มต้นการเจรจาสำหรับข้อตกลงเฟส 2”อ้างอิงจากแถลงการณ์ของฮามาส เอบีซีนิวส์รายงาน . เอพีรายงานว่า เทลอาวีฟใช้วิธีปิดกั้นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อต้องการให้ฝ่ายฮามาสยอมรับข้อเสนอใหม่เพื่อขยายเวลาการหยุดยิงออกไป ขณะที่ตัวกลางเช่น อียิปต์ กล่าวหาเทลอาวีฟว่า ใช้การขาดอาหารเป็นอาวุธ” . นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.และสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1 ) มีรถบรรเทาทุกข์หลายร้อยคันผ่านเข้าเขตฉนวนกาซาเพื่อทำให้ภาวะการขาดอาหารที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกบรรเทาลง . แต่ทว่าประชาชนกาซาต่างกล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มเป็น 2 เท่าในทันทีที่ข่าวปิดด่านห้ามรถบรรเทาทุกข์เข้านั้นลามไปทั่ว . หนึ่งในประชาชนปาเลสไตน์คือ ซาอิด อัล-ดาอิรี (Sayed al-Dairi) อาศัยในกาซา ซิตี แสดงความเห็นว่า "ทุกคนพากันวิตก" และเสริมต่อว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตแม้แต่น้อย" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020419 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1209 Views 0 Reviews
  • ชาวยูเครนที่ใช้ชีวิตในนิวยอร์ก เรียกร้องให้มีการส่งอาวุธให้อยู่เครนมากขึ้นเพื่อทำสงครามต่อไป

    ในขณะที่ครอบครัวชาวยูเครนในภูมิภาคไมโคไลฟ (Mykolaiv) เรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวลูกๆและสามีของพวกเขาที่ถูกบังคับเข้าสู่แนวหน้า
    ชาวยูเครนที่ใช้ชีวิตในนิวยอร์ก เรียกร้องให้มีการส่งอาวุธให้อยู่เครนมากขึ้นเพื่อทำสงครามต่อไป ในขณะที่ครอบครัวชาวยูเครนในภูมิภาคไมโคไลฟ (Mykolaiv) เรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวลูกๆและสามีของพวกเขาที่ถูกบังคับเข้าสู่แนวหน้า
    0 Comments 0 Shares 271 Views 14 0 Reviews
  • นักแสดงชาวจีน "หวังซิง" กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากรอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศพม่า และกลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และล่าสุด เขายังได้รับข่าวดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจจีนจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่หลอกลวงเขา ความสำเร็จของแฟนสาว "เจียเจีย" ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเขา และการได้รับข้อเสนอเข้าร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดัง

    ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี หวังซิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หลังจากได้รับการติดต่อให้เดินทางไปประเทศไทย เพื่อถ่ายละคร แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกล่อลวงให้ข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ของพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหนาแน่น

    เมื่อหวังซิงขาดการติดต่อ แฟนสาวของเขา เจียเจีย ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือขอความช่วยเหลือ เธอโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนจีนให้ความสนใจ และกดดันให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ จนในที่สุด ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจปล่อยตัวเขาหลังถูกกักขังนาน 8 วัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020136

    #MGROnline #หวังซิง #นักแสดงชาวจีน
    นักแสดงชาวจีน "หวังซิง" กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากรอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศพม่า และกลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และล่าสุด เขายังได้รับข่าวดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจจีนจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่หลอกลวงเขา ความสำเร็จของแฟนสาว "เจียเจีย" ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเขา และการได้รับข้อเสนอเข้าร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดัง • ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี หวังซิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หลังจากได้รับการติดต่อให้เดินทางไปประเทศไทย เพื่อถ่ายละคร แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกล่อลวงให้ข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ของพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหนาแน่น • เมื่อหวังซิงขาดการติดต่อ แฟนสาวของเขา เจียเจีย ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือขอความช่วยเหลือ เธอโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนจีนให้ความสนใจ และกดดันให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ จนในที่สุด ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจปล่อยตัวเขาหลังถูกกักขังนาน 8 วัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020136 • #MGROnline #หวังซิง #นักแสดงชาวจีน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • 28 กุมภาพันธ์ 2568- รายงานข่าวจากเพจสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 รายที่ถูกส่งตัวกลับถึงบ้านแล้วในวันถัดมา

    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 ราย ได้ถูกส่งตัวกลับจากประเทศไทย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้กลับถึงบ้านและพบกับครอบครัวอีกครั้งหลังจากผ่านไปมากกว่า 10 ปี

    ทั้งรัฐบาลจีนและไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและการปกป้องสิทธิมนุษยชน จีนได้ชี้แจงให้ฝ่ายไทยทราบแล้วว่า การกระทำผิดของชาวจีนที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิดร้ายแรงอื่นใด ชาวจีนเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวและส่งตัวกลับบ้านหลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ถือเป็นการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลเหล่านี้อย่างดีที่สุด จีนยังจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้คนเหล่านี้สามารถกลับสู่สังคมและดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

    รัฐบาลไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ ในอนาคตจีนจะยังคงยินดีต้อนรับรัฐบาลไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเหล่านี้ในภายหลัง สำหรับชาวไทยที่ใส่ใจและติดตามสถานการณ์ในซินเจียงของจีน เรายินดีต้อนรับท่านเหล่านี้ให้เดินทางไปเยี่ยมชมซินเจียงเพื่อสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในซินเจียงและชีวิตที่มีความสุขของประชาชนด้วยตนเอง

    ภาพที่ 1-5: ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศอยู่กับครอบครัวที่บ้าน

    ภาพที่ 6-7 : บ้านพักของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/19u8bWoBnr/?mibextid=wwXIfr
    28 กุมภาพันธ์ 2568- รายงานข่าวจากเพจสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 รายที่ถูกส่งตัวกลับถึงบ้านแล้วในวันถัดมา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 ราย ได้ถูกส่งตัวกลับจากประเทศไทย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้กลับถึงบ้านและพบกับครอบครัวอีกครั้งหลังจากผ่านไปมากกว่า 10 ปี ทั้งรัฐบาลจีนและไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและการปกป้องสิทธิมนุษยชน จีนได้ชี้แจงให้ฝ่ายไทยทราบแล้วว่า การกระทำผิดของชาวจีนที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิดร้ายแรงอื่นใด ชาวจีนเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวและส่งตัวกลับบ้านหลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ถือเป็นการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลเหล่านี้อย่างดีที่สุด จีนยังจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้คนเหล่านี้สามารถกลับสู่สังคมและดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง รัฐบาลไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ ในอนาคตจีนจะยังคงยินดีต้อนรับรัฐบาลไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเหล่านี้ในภายหลัง สำหรับชาวไทยที่ใส่ใจและติดตามสถานการณ์ในซินเจียงของจีน เรายินดีต้อนรับท่านเหล่านี้ให้เดินทางไปเยี่ยมชมซินเจียงเพื่อสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในซินเจียงและชีวิตที่มีความสุขของประชาชนด้วยตนเอง ภาพที่ 1-5: ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ภาพที่ 6-7 : บ้านพักของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/19u8bWoBnr/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • 39 ปี ลอบสังหารนายกสวีเดน "อูลอฟ พัลเมอ" คดีปริศนาที่ใช้เวลาสืบสวนนาน 34 ปี

    🕵️‍♂️ เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่เป็นปริศนายาวนานที่สุดในโลก ย้อนไปเมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 สวีเดนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อ "อูลอฟ พัลเมอ" (Olof Palme) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนนานถึง 34 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดคดี โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่า "สตีก เอ็งสเตริม" (Stig Engström) เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543

    นี่คือหนึ่งในคดีฆาตกรรมทางการเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังคงเป็นที่ถกเถียง ในแวดวงกฎหมายและสื่อมวลชน มาจนถึงปัจจุบัน

    🔎 นายกรัฐมนตรีสวีเดน ผู้ทรงอิทธิพลและขั้วขัดแย้ง ✨ "สเวน อูลอฟ โยอาคิม พัลเมอ" (Sven Olof Joachim Palme) เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2470 เป็นนักการเมืองคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้นำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสวีเดน (Social Democrats - SAP)

    📌 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย
    - วาระแรก พ.ศ. 2512 - 2519
    - วาระที่สอง พ.ศ. 2525 - 2529

    นายกพัลเมอเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิแรงงาน สวัสดิการสังคม และต่อต้านสงคราม มีนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ขั้วมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพโซเวียต ทำให้ถูกมองว่า เป็นบุคคลที่ "แตกต่าง" ในเวทีการเมืองโลก

    🌍 นักการเมืองที่กล้าท้าทายอำนาจโลก นายกพัลเมอเป็นผู้นำชาวตะวันตกคนแรกที่
    ✅ เดินทางไปเยือนคิวบา และพบกับ "ฟิเดล คาสโตร" หลังการปฏิวัติคิวบา
    ✅ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจักรวรรดินิยม และการปกครองแบบเผด็จการ
    ✅ ต่อต้านระบอบแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้
    ✅ เปรียบเทียบการทิ้งระเบิดฮานอยของสหรัฐฯ กับ "อาชญากรรมสงคราม"

    📢 ความกล้าของนายกพัลเมอ ทำให้มีทั้งผู้สนับสนุนและศัตรูมากมาย และนั่นอาจเป็นสาเหตุ ที่นำไปสู่การลอบสังหารในท้ายที่สุด

    🔫 คืนสังหาร 28 กุมภาพันธ์ 2529 คืนวันศุกร์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สวีเดนตลอดกาล 🌃

    📍 เหตุเกิดที่ถนนสเวียแวเกน (Sveavägen) หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุด ของกรุงสต็อกโฮล์ม

    🚶‍♂️ ไม่มีการ์ดคุ้มกัน ในคืนนั้น นายกพัลเมอและภรรยา "ลิสเบต พัลเมอ" (Lisbeth Palme) ตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ "The Mozart Brothers" โดย ไม่ได้มีบอดี้การ์ดไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนายกพัลเมอ

    🕵️‍♂️ มือปืนลอบสังหาร เวลา 23.21 น. นายกพัลเมอและภรรยา เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มือปืนเดินปรี่เข้ามาจากด้านหลัง และจ่อยิงนายกพัลเมอเข้ากลางหลังหนึ่งนัด ด้วยปืนลูกโม่ .357 แม็กนัม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และจ่อยิงภรรยานายกพัลเมออีกหนึ่งนัด แล้วหลบหนีไป โดยไม่มีใครสามารถจับตัวได้

    💥 การลอบสังหารครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมผู้นำประเทศสวีเดนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2335 ใช้เวลาสืบสวนที่ยาวนาน 34 ปี 🏛️

    🔍 การสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สวีเดน มีพยานถูกสอบปากคำหลายพันคน บุคคลที่ถูกสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย มากกว่า 130 ราย คดีนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจ และกฎหมายของสวีเดน

    👤 ผู้ต้องสงสัยรายแรก "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน"
    ปี 2531 ตำรวจจับกุม "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" (Christer Pettersson) ชายติดยาในพื้นที่ และศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานฆาตกรรม

    ❌ แต่ภายหลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เนื่องจาก
    1️⃣ ไม่มีหลักฐานชัดเจน
    2️⃣ อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่เคยถูกพบ
    3️⃣ แรงจูงใจในการสังหารไม่ชัดเจน

    เพ็ตเตอช็อนเสียชีวิตในปี 2547 ทำให้การสืบสวน หวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

    🛑 ปิดคดีในปี 2563: ฆาตกรคือ "สกันเดียแมน"?
    🔎 ในเดือน มิถุนายน 2563 คณะอัยการสวีเดนประกาศว่า

    👉 สตีก เอ็งสเตริม (Stig Engström) หรือ "สกันเดียแมน" เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก

    👨‍💼 "สกันเดียแมน" เป็นนักออกแบบกราฟิก ทำงานที่บริษัท "สกันเดีย" (Skandia) ใกล้ที่เกิดเหตุ มีทักษะในการใช้ปืน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายกพัลเมออย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน และติดสุรา

    💀 แต่ปัญหาคือ เอ็งสเตริมเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ ไม่มีทางนำตัวมาพิจารณาคดีในชั้นศาลได้

    📢 "การสืบสวนจึงถูกปิด โดยไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ"

    🤔 คำถามที่ยังไร้คำตอบ
    ❓ แรงจูงใจของฆาตกรคืออะไร?
    ❓ เป็นแผนลอบสังหาร จากรัฐบาลเผด็จการหรือไม่?
    ❓ มีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?
    ❓ เหตุใดตำรวจถึงใช้เวลานานถึง 34 ปี ในการสรุปคดีนี้?

    แม้ว่าอัยการจะปิดคดีนี้ไปแล้ว แต่ข้อสงสัยมากมายยังคงอยู่ ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็น "ปริศนาแห่งสวีเดน" ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน

    🔥 คดีฆาตกรรมที่สะเทือนโลก
    📌 "อูลอฟ พัลเมอ" เป็นนายกฯ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน
    📌 ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ในปี 2529
    📌 คดีนี้สืบสวนนาน 34 ปี ก่อนสรุปว่า "สตีก เอ็งสเตริม" เป็นมือปืน
    📌 คดีถูกปิด แต่คำถามมากมาย ยังคงไม่มีคำตอบ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 282037 ก.พ. 2568

    #OlofPalme #ฆาตกรรมปริศนา #ลอบสังหาร #คดีดัง #สวีเดน #TrueCrime
    39 ปี ลอบสังหารนายกสวีเดน "อูลอฟ พัลเมอ" คดีปริศนาที่ใช้เวลาสืบสวนนาน 34 ปี 🕵️‍♂️ เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่เป็นปริศนายาวนานที่สุดในโลก ย้อนไปเมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 สวีเดนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อ "อูลอฟ พัลเมอ" (Olof Palme) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนนานถึง 34 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดคดี โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่า "สตีก เอ็งสเตริม" (Stig Engström) เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 นี่คือหนึ่งในคดีฆาตกรรมทางการเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังคงเป็นที่ถกเถียง ในแวดวงกฎหมายและสื่อมวลชน มาจนถึงปัจจุบัน 🔎 นายกรัฐมนตรีสวีเดน ผู้ทรงอิทธิพลและขั้วขัดแย้ง ✨ "สเวน อูลอฟ โยอาคิม พัลเมอ" (Sven Olof Joachim Palme) เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2470 เป็นนักการเมืองคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้นำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสวีเดน (Social Democrats - SAP) 📌 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย - วาระแรก พ.ศ. 2512 - 2519 - วาระที่สอง พ.ศ. 2525 - 2529 นายกพัลเมอเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิแรงงาน สวัสดิการสังคม และต่อต้านสงคราม มีนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ขั้วมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพโซเวียต ทำให้ถูกมองว่า เป็นบุคคลที่ "แตกต่าง" ในเวทีการเมืองโลก 🌍 นักการเมืองที่กล้าท้าทายอำนาจโลก นายกพัลเมอเป็นผู้นำชาวตะวันตกคนแรกที่ ✅ เดินทางไปเยือนคิวบา และพบกับ "ฟิเดล คาสโตร" หลังการปฏิวัติคิวบา ✅ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจักรวรรดินิยม และการปกครองแบบเผด็จการ ✅ ต่อต้านระบอบแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ ✅ เปรียบเทียบการทิ้งระเบิดฮานอยของสหรัฐฯ กับ "อาชญากรรมสงคราม" 📢 ความกล้าของนายกพัลเมอ ทำให้มีทั้งผู้สนับสนุนและศัตรูมากมาย และนั่นอาจเป็นสาเหตุ ที่นำไปสู่การลอบสังหารในท้ายที่สุด 🔫 คืนสังหาร 28 กุมภาพันธ์ 2529 คืนวันศุกร์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สวีเดนตลอดกาล 🌃 📍 เหตุเกิดที่ถนนสเวียแวเกน (Sveavägen) หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุด ของกรุงสต็อกโฮล์ม 🚶‍♂️ ไม่มีการ์ดคุ้มกัน ในคืนนั้น นายกพัลเมอและภรรยา "ลิสเบต พัลเมอ" (Lisbeth Palme) ตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ "The Mozart Brothers" โดย ไม่ได้มีบอดี้การ์ดไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนายกพัลเมอ 🕵️‍♂️ มือปืนลอบสังหาร เวลา 23.21 น. นายกพัลเมอและภรรยา เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มือปืนเดินปรี่เข้ามาจากด้านหลัง และจ่อยิงนายกพัลเมอเข้ากลางหลังหนึ่งนัด ด้วยปืนลูกโม่ .357 แม็กนัม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และจ่อยิงภรรยานายกพัลเมออีกหนึ่งนัด แล้วหลบหนีไป โดยไม่มีใครสามารถจับตัวได้ 💥 การลอบสังหารครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมผู้นำประเทศสวีเดนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2335 ใช้เวลาสืบสวนที่ยาวนาน 34 ปี 🏛️ 🔍 การสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สวีเดน มีพยานถูกสอบปากคำหลายพันคน บุคคลที่ถูกสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย มากกว่า 130 ราย คดีนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจ และกฎหมายของสวีเดน 👤 ผู้ต้องสงสัยรายแรก "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" ปี 2531 ตำรวจจับกุม "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" (Christer Pettersson) ชายติดยาในพื้นที่ และศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานฆาตกรรม ❌ แต่ภายหลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เนื่องจาก 1️⃣ ไม่มีหลักฐานชัดเจน 2️⃣ อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่เคยถูกพบ 3️⃣ แรงจูงใจในการสังหารไม่ชัดเจน เพ็ตเตอช็อนเสียชีวิตในปี 2547 ทำให้การสืบสวน หวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง 🛑 ปิดคดีในปี 2563: ฆาตกรคือ "สกันเดียแมน"? 🔎 ในเดือน มิถุนายน 2563 คณะอัยการสวีเดนประกาศว่า 👉 สตีก เอ็งสเตริม (Stig Engström) หรือ "สกันเดียแมน" เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก 👨‍💼 "สกันเดียแมน" เป็นนักออกแบบกราฟิก ทำงานที่บริษัท "สกันเดีย" (Skandia) ใกล้ที่เกิดเหตุ มีทักษะในการใช้ปืน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายกพัลเมออย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน และติดสุรา 💀 แต่ปัญหาคือ เอ็งสเตริมเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ ไม่มีทางนำตัวมาพิจารณาคดีในชั้นศาลได้ 📢 "การสืบสวนจึงถูกปิด โดยไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ" 🤔 คำถามที่ยังไร้คำตอบ ❓ แรงจูงใจของฆาตกรคืออะไร? ❓ เป็นแผนลอบสังหาร จากรัฐบาลเผด็จการหรือไม่? ❓ มีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า? ❓ เหตุใดตำรวจถึงใช้เวลานานถึง 34 ปี ในการสรุปคดีนี้? แม้ว่าอัยการจะปิดคดีนี้ไปแล้ว แต่ข้อสงสัยมากมายยังคงอยู่ ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็น "ปริศนาแห่งสวีเดน" ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน 🔥 คดีฆาตกรรมที่สะเทือนโลก 📌 "อูลอฟ พัลเมอ" เป็นนายกฯ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน 📌 ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ในปี 2529 📌 คดีนี้สืบสวนนาน 34 ปี ก่อนสรุปว่า "สตีก เอ็งสเตริม" เป็นมือปืน 📌 คดีถูกปิด แต่คำถามมากมาย ยังคงไม่มีคำตอบ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 282037 ก.พ. 2568 #OlofPalme #ฆาตกรรมปริศนา #ลอบสังหาร #คดีดัง #สวีเดน #TrueCrime
    0 Comments 0 Shares 545 Views 0 Reviews
  • ทางการออสเตรเลียได้สั่งปรับ Telegram เป็นเงิน 958,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 613,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.69 ล้านบาท) เนื่องจาก Telegram ล้มเหลวในการเปิดเผยข้อมูลว่าใช้วิธีใดในการจัดการกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานเฝ้าระวังออนไลน์ของออสเตรเลียขอให้ Telegram และแพลตฟอร์มอื่นๆ เปิดเผยวิธีการในการตรวจจับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แต่ Telegram ตอบกลับหลังจากนั้นถึงกว่า 5 เดือนในวันที่ 13 ตุลาคม 2024 ซึ่งเกินกำหนดเส้นตายที่กำหนดไว้ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2024 ทำให้การทำงานของคณะกรรมการถูกขัดขวาง

    ในแถลงการณ์ของ Julie Inman Grant ซึ่งเป็น eSafety Commissioner ของออสเตรเลีย กล่าวว่า การเปิดเผยวิธีการและที่มาของแพลตฟอร์มในการจัดการเนื้อหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อปกป้องชุมชนและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมนี้

    Telegram มีเวลา 28 วันในการจ่ายค่าปรับ หรืออาจขอเวลาเพิ่มเติมหรือพยายามยกเลิกค่าปรับนี้ หากไม่จ่าย คณะกรรมการสามารถขอให้ศาลรัฐบาลกลางสั่งปรับได้

    นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Telegram Pavel Durov ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ยังถูกจับกุมที่สนามบินในปารีสเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วและถูกตั้งข้อหาหลายคดีเกี่ยวกับการไม่สามารถควบคุมเนื้อหาที่เป็นอันตรายและก่อการร้ายบนแอป Telegram นอกจากนี้ อัยการฝรั่งเศสยังกล่าวหาว่า Telegram ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่ดูไบ ล้มเหลวในการดำเนินการกับภาพล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

    Durov ถูกปล่อยตัวด้วยเงินประกันจำนวน 5 ล้านยูโร (ประมาณ 23.13 ล้านบาท) และประกาศที่จะดำเนินการป้องกันเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/24/australia-fines-telegram-over-response-to-terror-abuse-content
    ทางการออสเตรเลียได้สั่งปรับ Telegram เป็นเงิน 958,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 613,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.69 ล้านบาท) เนื่องจาก Telegram ล้มเหลวในการเปิดเผยข้อมูลว่าใช้วิธีใดในการจัดการกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานเฝ้าระวังออนไลน์ของออสเตรเลียขอให้ Telegram และแพลตฟอร์มอื่นๆ เปิดเผยวิธีการในการตรวจจับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แต่ Telegram ตอบกลับหลังจากนั้นถึงกว่า 5 เดือนในวันที่ 13 ตุลาคม 2024 ซึ่งเกินกำหนดเส้นตายที่กำหนดไว้ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2024 ทำให้การทำงานของคณะกรรมการถูกขัดขวาง ในแถลงการณ์ของ Julie Inman Grant ซึ่งเป็น eSafety Commissioner ของออสเตรเลีย กล่าวว่า การเปิดเผยวิธีการและที่มาของแพลตฟอร์มในการจัดการเนื้อหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อปกป้องชุมชนและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมนี้ Telegram มีเวลา 28 วันในการจ่ายค่าปรับ หรืออาจขอเวลาเพิ่มเติมหรือพยายามยกเลิกค่าปรับนี้ หากไม่จ่าย คณะกรรมการสามารถขอให้ศาลรัฐบาลกลางสั่งปรับได้ นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Telegram Pavel Durov ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ยังถูกจับกุมที่สนามบินในปารีสเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วและถูกตั้งข้อหาหลายคดีเกี่ยวกับการไม่สามารถควบคุมเนื้อหาที่เป็นอันตรายและก่อการร้ายบนแอป Telegram นอกจากนี้ อัยการฝรั่งเศสยังกล่าวหาว่า Telegram ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่ดูไบ ล้มเหลวในการดำเนินการกับภาพล่วงละเมิดทางเพศเด็ก Durov ถูกปล่อยตัวด้วยเงินประกันจำนวน 5 ล้านยูโร (ประมาณ 23.13 ล้านบาท) และประกาศที่จะดำเนินการป้องกันเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/24/australia-fines-telegram-over-response-to-terror-abuse-content
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Australia fines Telegram over response to terror, abuse content
    Australia's online watchdog said on Feb 24 it has fined Telegram more than US$600,000 (RM2.65mil) for missing a deadline to reveal how it tackles "terrorist" and child sexual abuse content.
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • สระแก้ว- ชายแดนสระแก้วยังไม่มีความเคลื่อนไหว หลังทางการกัมพูชายังไม่ปล่อยตัว 227 แก๊งคอลเซนเตอร์ทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับดำเนินคดีในไทย ส่งผลบรรดาญาติของผู้ที่ถูกหลอกไปเป็นเหยื่อซึ่งเดินทางมารอตั้งแต่เช้าต้องพากันรอเก้อ คาด 5 คนไทยที่โดนหมายจับจะถูกส่งตัวมาล็อตแรก

    จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้เดินทางไปร่วมประชุมปรึกษาหารือกับตำรวจกัมพูชา เกี่ยวกับการปราบปรามและกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง หลังก่อนหน้านี้ตำรวจไทยได้รับการประสานจากเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนตึกสีฟ้า 4 ชั้นในเมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย และได้แอบส่งข้อความรวมทั้งคลิปวิดีโอขอความช่วยเหลือจนสามารถสืบทราบถึงแหล่งกบดานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชุดดังกล่าว

    จนนำไปสู่การบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชา และสามารถช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทั้งหมด 227 คน มีทั้งชาวไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และปากีสถาน ซึ่งเหยื่อทั้งหมดเจ้าหน้าที่กัมพูชา ได้นำตัวไปคัดกรองก่อนส่งต่อให้ประเทศไทยโดยใช้ช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก บนพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ในอีก 1-2 วันหลังภารกิจเสร็จสิ้นนั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000018261

    #MGROnline #กัมพูชา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    สระแก้ว- ชายแดนสระแก้วยังไม่มีความเคลื่อนไหว หลังทางการกัมพูชายังไม่ปล่อยตัว 227 แก๊งคอลเซนเตอร์ทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับดำเนินคดีในไทย ส่งผลบรรดาญาติของผู้ที่ถูกหลอกไปเป็นเหยื่อซึ่งเดินทางมารอตั้งแต่เช้าต้องพากันรอเก้อ คาด 5 คนไทยที่โดนหมายจับจะถูกส่งตัวมาล็อตแรก • จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้เดินทางไปร่วมประชุมปรึกษาหารือกับตำรวจกัมพูชา เกี่ยวกับการปราบปรามและกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง หลังก่อนหน้านี้ตำรวจไทยได้รับการประสานจากเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนตึกสีฟ้า 4 ชั้นในเมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย และได้แอบส่งข้อความรวมทั้งคลิปวิดีโอขอความช่วยเหลือจนสามารถสืบทราบถึงแหล่งกบดานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชุดดังกล่าว • จนนำไปสู่การบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชา และสามารถช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทั้งหมด 227 คน มีทั้งชาวไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และปากีสถาน ซึ่งเหยื่อทั้งหมดเจ้าหน้าที่กัมพูชา ได้นำตัวไปคัดกรองก่อนส่งต่อให้ประเทศไทยโดยใช้ช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก บนพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ในอีก 1-2 วันหลังภารกิจเสร็จสิ้นนั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000018261 • #MGROnline #กัมพูชา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • ทักษิณขออภัยกรณีตากใบ อ้างทำงานผิดพลาด

    นับเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบประมาณ 20 ปี สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายทักษิณพร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และคณะ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

    ช่วงหนึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคณะครูและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขออภัยต่อความผิดพลาดในเหตุการณ์ตากใบ แล้วต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย"

    สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก

    สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป แต่ต่อมาในปี 2567 มีครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องคดีด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส. กระทั่งคดีขาดอายุความ หลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกรณีตากใบ ระบุว่า พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากนายทักษิณ และทวงถามความยุติธรรม แม้คดีขาดอายุความไปแล้ว

    #Newskit
    ทักษิณขออภัยกรณีตากใบ อ้างทำงานผิดพลาด นับเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบประมาณ 20 ปี สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายทักษิณพร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และคณะ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ช่วงหนึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคณะครูและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขออภัยต่อความผิดพลาดในเหตุการณ์ตากใบ แล้วต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย" สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป แต่ต่อมาในปี 2567 มีครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องคดีด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส. กระทั่งคดีขาดอายุความ หลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกรณีตากใบ ระบุว่า พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากนายทักษิณ และทวงถามความยุติธรรม แม้คดีขาดอายุความไปแล้ว #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 558 Views 0 Reviews
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีคำสั่ง เลื่อนการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 600 คน ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากฮามาสเพิ่งปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 6 นาย เมื่อวันก่อน

    เนทันยาฮู ให้เหตุผลว่า จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ก่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสจะรับประกันการส่งมอบตัวประกันครั้งต่อไป และจะต้อง "ยกเลิก" พิธีการส่งมอบตัวประกันที่ฮามาสจัดขึ้นทุกสัปดาห์ ซึ่งเนทันยาฮูอ้างว่าเป็นพิธีที่ย่ำยีศักดิ์ศรีชาวอิสราเอล

    เมื่อวันก่อน มีภาพตัวประกันชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวจากฮามาส ก้าวขึ้นเวทีที่ฮามาสจัดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข นอกจากนี้ยังมีการจูบไปบนหน้าผากของสมาชิกกลุ่มฮามาสออกสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีคำสั่ง เลื่อนการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 600 คน ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากฮามาสเพิ่งปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 6 นาย เมื่อวันก่อน เนทันยาฮู ให้เหตุผลว่า จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ก่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสจะรับประกันการส่งมอบตัวประกันครั้งต่อไป และจะต้อง "ยกเลิก" พิธีการส่งมอบตัวประกันที่ฮามาสจัดขึ้นทุกสัปดาห์ ซึ่งเนทันยาฮูอ้างว่าเป็นพิธีที่ย่ำยีศักดิ์ศรีชาวอิสราเอล เมื่อวันก่อน มีภาพตัวประกันชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวจากฮามาส ก้าวขึ้นเวทีที่ฮามาสจัดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข นอกจากนี้ยังมีการจูบไปบนหน้าผากของสมาชิกกลุ่มฮามาสออกสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • ตัวประกันที่ฮามาสปล่อยตัวเพิ่มเติมวันนี้ "หน้าตายิ้มแย้มมีความสุข"
    แตกต่างจากชาวกาซาที่ฝ่ายอิสราเอลปล่อยตัวออกมา ทุกคนล้วนผ่านการทรมานมาอย่างแสนสาหัส
    ตัวประกันที่ฮามาสปล่อยตัวเพิ่มเติมวันนี้ "หน้าตายิ้มแย้มมีความสุข" แตกต่างจากชาวกาซาที่ฝ่ายอิสราเอลปล่อยตัวออกมา ทุกคนล้วนผ่านการทรมานมาอย่างแสนสาหัส
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 265 Views 13 0 Reviews
  • 86 ปี สิ้น “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา คณะสงฆ์ลำพูนขยาดบารมี ยัดอธิกรณ์ 8 ข้อ ความขัดแย้งที่บานปลาย

    📌 ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ไปสู่เรื่องราวของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา ผู้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเหนือ แม้กระทั่งเจ้าคณะสงฆ์ในยุคสมัยนั้น ยังต้องหวั่นเกรงในบารมี จนเกิดการตั้งอธิกรณ์ถึง 8 ข้อ นำไปสู่การควบคุมตัว และขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในหมู่คณะสงฆ์ล้านนา

    🔎 86 ปี แห่งการมรณภาพ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย
    หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 86 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 (เมื่อก่อนนับศักราชใหม่ ในวันสงกรานต์ ถ้าเทียบปัจจุบันจะเป็นต้นปี พ.ศ. 2482) นับเป็นปีที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวง เพราะเป็นวันมรณภาพของ "ครูบาเจ้าศรีวิชัย" พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และบูรณะพุทธศาสนสถาน ทั่วภาคเหนือของไทย

    ครูบาเจ้าศรีวิชัยละสังขาร ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ก่อนที่ศพจะถูกตั้งไว้ ที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน เป็นเวลาหลายปี กระทั่งวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489 มีการพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนจำนวนมหาศาลเข้าร่วมพิธี และเหตุการณ์ที่น่าตกใจคือ มีผู้แย่งชิงอัฐิของครูบาเจ้าศรีวิชัย ตั้งแต่เปลวไฟยังไม่มอดสนิท

    ✨ แม้แต่ดินตรงที่ถวายพระเพลิงศพ ยังถูกขุดเอาไปบูชา แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย

    👶 วัยเยาว์ ชาติกำเนิดของตนบุญ
    ครูบาเจ้าศรีวิชัย เกิดเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2421 ปีขาล ขณะที่เกิด มีพายุฟ้าร้องรุนแรง จึงถูกตั้งชื่อว่า อินตาเฟือน หรืออ้ายฟ้าร้อง บิดาชื่อ นายควาย มีเชื้อสายกะเหรี่ยงแดง มารดาชื่อ นางอุสา บ้างว่าเป็นชาวเชียงใหม่ บ้างว่าเป็นชาวเมืองลี้

    เมื่ออายุได้ 18 ปี มีความคิดว่าความยากจนของตน เกิดจากกรรมในอดีต จึงตัดสินใจออกบวช เพื่อสร้างบุญกุศล และตอบแทนบุญคุณบิดามารดา

    📌 ครูบาศรีวิชัยบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านปาง ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวัย 21 ปี ที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน ได้รับฉายาทางธรรมว่า "พระศรีวิชัย"

    🏯 บทบาทของครูบาเจ้าศรีวิชัย ในการพัฒนาพุทธศาสนาในล้านนา
    ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่ได้เป็นเพียงพระนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นพระนักพัฒนา สร้างและบูรณะวัดมากมาย รวมถึงเส้นทางคมนาคมสำคัญ เช่น

    ✔️ สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ
    ✔️ บูรณะวัดพระธาตุหริภุญชัย วัดจามเทวี วัดสวนดอก ฯลฯ
    ✔️ เป็นผู้นำพุทธศาสนิกชน ร่วมแรงร่วมใจ ในการก่อสร้างศาสนสถาน

    ✨ ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยสูงส่ง ถึงขนาดที่ว่า ชาวบ้านเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพียงเพื่อจะได้พบหน้า

    ⚖️ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ?
    การที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้รับความศรัทธามาก ทำให้คณะสงฆ์ล้านนาบางกลุ่ม โดยเฉพาะเจ้าคณะจัวงหวัดลำพูน เริ่มไม่พอใจ และหวาดกลัวอิทธิพล

    ในที่สุด เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ได้นำการตั้งอธิกรณ์ หรือข้อกล่าวหา ต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยถึง 8 ข้อ โดยกล่าวหาว่า

    ❌ ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ
    ❌ ซ่องสุมกำลังประชาชน เสมือนเป็นผู้นำลัทธิใหม่
    ❌ ขัดขืนอำนาจคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง
    ❌ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสงฆ์ ของสยามประเทศ
    ❌ จัดพิธีกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
    ❌ มีพฤติกรรมเสมือนเป็นผู้นำทางการเมือง

    📌 ผลจากข้อกล่าวหาเหล่านี้ ทำให้ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกควบคุมตัวส่งไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ

    ⚔️ ความขัดแย้งระหว่างครูบาเจ้าศรีวิชัย กับคณะสงฆ์ล้านนา
    1️⃣ คณะสงฆ์ล้านนาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
    ✔️ กลุ่มที่ยอมรับอำนาจของกรุงเทพฯ สนับสนุนการปกครองสงฆ์แบบรวมศูนย์
    ✔️ กลุ่มประนีประนอม ไม่ต่อต้าน แต่ก็ไม่ได้ร่วมมือเต็มที่
    ✔️ กลุ่มต่อต้านกรุงเทพฯ ต้องการคงจารีตล้านนาแบบดั้งเดิม

    📌 ครูบาศรีวิชัยถูกมองว่า เป็นผู้นำของกลุ่มที่สาม ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก

    - สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยไม่ได้ปรึกษาคณะสงฆ์ ฝ่ายปกครอง
    - พระสงฆ์กว่า 50 วัด ลาออกจากการขึ้นตรง กับคณะสงฆ์กรุงเทพฯ
    - คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองมองว่า เป็นการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจ

    ⚖️ สุดท้าย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกส่งตัวไปกรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาคดี และได้รับโทษ ก่อนถูกปล่อยตัวกลับล้านนา

    🙏 เจ้าตนบุญแห่งล้านนา กับแรงศรัทธาที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
    แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา และความขัดแย้งมากมาย แต่ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่เคยเสื่อมคลาย

    “ตนบุญ” หรือ “นักบุญ” มีความหมายเชิงยกย่องว่า เป็นนักบวชที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในดินแดนล้านนา เป็นคติความเชื่อที่ถูกนำมาใช้ตลอดในประวัติศาสตร์ล้านนา แนวคิดดังกล่าว จะถูกหยิบนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การใช้อ้างความชอบธรรม ของสถาบันกษัตริย์ล้านนา จนกระทั่งสามัญชน ที่ใช้คำว่า “ตนบุญ” เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านยามทุกข์เข็ญ เผชิญกับสภาพความสงบของบ้านเมือง

    หลังมรณภาพ ประชาชนยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระ วัดหลายแห่งยังคงยกย่อง และจัดงานรำลึกถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย ตำนาน “เจ้าตนบุญแห่งล้านนา” ยังคงถูกกล่าวขานถึงปัจจุบัน

    🛕 ปัจจุบัน รูปปั้นและอนุสรณ์สถาน ของครูบาเจ้าศรีวิชัย มีอยู่ทั่วภาคเหนือ เช่น บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และวัดบ้านปาง

    ✨ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 86 ปี แต่บารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงยิ่งใหญ่ และจะอยู่ในหัวใจ ของชาวล้านนาตลอดไป

    ✅ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นพระนักพัฒนา ที่มีบารมีสูงสุดองค์หนึ่งในล้านนา
    ✅ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ เนื่องจากความขัดแย้ง กับคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง
    ✅ แม้จะถูกควบคุมตัว แต่ประชาชนยังคงศรัทธา นอย่างเหนียวแน่น
    ✅ ปัจจุบัน ครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ของชาวล้านนา

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 211017 ก.พ. 2568

    🔖 #ครูบาศรีวิชัย #เจ้าตนบุญล้านนา #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัดบ้านปาง #ศรัทธาพระสงฆ์
    86 ปี สิ้น “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา คณะสงฆ์ลำพูนขยาดบารมี ยัดอธิกรณ์ 8 ข้อ ความขัดแย้งที่บานปลาย 📌 ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ไปสู่เรื่องราวของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา ผู้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเหนือ แม้กระทั่งเจ้าคณะสงฆ์ในยุคสมัยนั้น ยังต้องหวั่นเกรงในบารมี จนเกิดการตั้งอธิกรณ์ถึง 8 ข้อ นำไปสู่การควบคุมตัว และขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในหมู่คณะสงฆ์ล้านนา 🔎 86 ปี แห่งการมรณภาพ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 86 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 (เมื่อก่อนนับศักราชใหม่ ในวันสงกรานต์ ถ้าเทียบปัจจุบันจะเป็นต้นปี พ.ศ. 2482) นับเป็นปีที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวง เพราะเป็นวันมรณภาพของ "ครูบาเจ้าศรีวิชัย" พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และบูรณะพุทธศาสนสถาน ทั่วภาคเหนือของไทย ครูบาเจ้าศรีวิชัยละสังขาร ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ก่อนที่ศพจะถูกตั้งไว้ ที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน เป็นเวลาหลายปี กระทั่งวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489 มีการพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนจำนวนมหาศาลเข้าร่วมพิธี และเหตุการณ์ที่น่าตกใจคือ มีผู้แย่งชิงอัฐิของครูบาเจ้าศรีวิชัย ตั้งแต่เปลวไฟยังไม่มอดสนิท ✨ แม้แต่ดินตรงที่ถวายพระเพลิงศพ ยังถูกขุดเอาไปบูชา แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย 👶 วัยเยาว์ ชาติกำเนิดของตนบุญ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เกิดเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2421 ปีขาล ขณะที่เกิด มีพายุฟ้าร้องรุนแรง จึงถูกตั้งชื่อว่า อินตาเฟือน หรืออ้ายฟ้าร้อง บิดาชื่อ นายควาย มีเชื้อสายกะเหรี่ยงแดง มารดาชื่อ นางอุสา บ้างว่าเป็นชาวเชียงใหม่ บ้างว่าเป็นชาวเมืองลี้ เมื่ออายุได้ 18 ปี มีความคิดว่าความยากจนของตน เกิดจากกรรมในอดีต จึงตัดสินใจออกบวช เพื่อสร้างบุญกุศล และตอบแทนบุญคุณบิดามารดา 📌 ครูบาศรีวิชัยบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านปาง ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวัย 21 ปี ที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน ได้รับฉายาทางธรรมว่า "พระศรีวิชัย" 🏯 บทบาทของครูบาเจ้าศรีวิชัย ในการพัฒนาพุทธศาสนาในล้านนา ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่ได้เป็นเพียงพระนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นพระนักพัฒนา สร้างและบูรณะวัดมากมาย รวมถึงเส้นทางคมนาคมสำคัญ เช่น ✔️ สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ✔️ บูรณะวัดพระธาตุหริภุญชัย วัดจามเทวี วัดสวนดอก ฯลฯ ✔️ เป็นผู้นำพุทธศาสนิกชน ร่วมแรงร่วมใจ ในการก่อสร้างศาสนสถาน ✨ ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยสูงส่ง ถึงขนาดที่ว่า ชาวบ้านเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพียงเพื่อจะได้พบหน้า ⚖️ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ? การที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้รับความศรัทธามาก ทำให้คณะสงฆ์ล้านนาบางกลุ่ม โดยเฉพาะเจ้าคณะจัวงหวัดลำพูน เริ่มไม่พอใจ และหวาดกลัวอิทธิพล ในที่สุด เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ได้นำการตั้งอธิกรณ์ หรือข้อกล่าวหา ต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยถึง 8 ข้อ โดยกล่าวหาว่า ❌ ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ ❌ ซ่องสุมกำลังประชาชน เสมือนเป็นผู้นำลัทธิใหม่ ❌ ขัดขืนอำนาจคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง ❌ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสงฆ์ ของสยามประเทศ ❌ จัดพิธีกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ❌ มีพฤติกรรมเสมือนเป็นผู้นำทางการเมือง 📌 ผลจากข้อกล่าวหาเหล่านี้ ทำให้ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกควบคุมตัวส่งไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ ⚔️ ความขัดแย้งระหว่างครูบาเจ้าศรีวิชัย กับคณะสงฆ์ล้านนา 1️⃣ คณะสงฆ์ล้านนาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ✔️ กลุ่มที่ยอมรับอำนาจของกรุงเทพฯ สนับสนุนการปกครองสงฆ์แบบรวมศูนย์ ✔️ กลุ่มประนีประนอม ไม่ต่อต้าน แต่ก็ไม่ได้ร่วมมือเต็มที่ ✔️ กลุ่มต่อต้านกรุงเทพฯ ต้องการคงจารีตล้านนาแบบดั้งเดิม 📌 ครูบาศรีวิชัยถูกมองว่า เป็นผู้นำของกลุ่มที่สาม ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก - สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยไม่ได้ปรึกษาคณะสงฆ์ ฝ่ายปกครอง - พระสงฆ์กว่า 50 วัด ลาออกจากการขึ้นตรง กับคณะสงฆ์กรุงเทพฯ - คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองมองว่า เป็นการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจ ⚖️ สุดท้าย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกส่งตัวไปกรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาคดี และได้รับโทษ ก่อนถูกปล่อยตัวกลับล้านนา 🙏 เจ้าตนบุญแห่งล้านนา กับแรงศรัทธาที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา และความขัดแย้งมากมาย แต่ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่เคยเสื่อมคลาย “ตนบุญ” หรือ “นักบุญ” มีความหมายเชิงยกย่องว่า เป็นนักบวชที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในดินแดนล้านนา เป็นคติความเชื่อที่ถูกนำมาใช้ตลอดในประวัติศาสตร์ล้านนา แนวคิดดังกล่าว จะถูกหยิบนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การใช้อ้างความชอบธรรม ของสถาบันกษัตริย์ล้านนา จนกระทั่งสามัญชน ที่ใช้คำว่า “ตนบุญ” เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านยามทุกข์เข็ญ เผชิญกับสภาพความสงบของบ้านเมือง หลังมรณภาพ ประชาชนยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระ วัดหลายแห่งยังคงยกย่อง และจัดงานรำลึกถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย ตำนาน “เจ้าตนบุญแห่งล้านนา” ยังคงถูกกล่าวขานถึงปัจจุบัน 🛕 ปัจจุบัน รูปปั้นและอนุสรณ์สถาน ของครูบาเจ้าศรีวิชัย มีอยู่ทั่วภาคเหนือ เช่น บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และวัดบ้านปาง ✨ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 86 ปี แต่บารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงยิ่งใหญ่ และจะอยู่ในหัวใจ ของชาวล้านนาตลอดไป ✅ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นพระนักพัฒนา ที่มีบารมีสูงสุดองค์หนึ่งในล้านนา ✅ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ เนื่องจากความขัดแย้ง กับคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง ✅ แม้จะถูกควบคุมตัว แต่ประชาชนยังคงศรัทธา นอย่างเหนียวแน่น ✅ ปัจจุบัน ครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ของชาวล้านนา ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 211017 ก.พ. 2568 🔖 #ครูบาศรีวิชัย #เจ้าตนบุญล้านนา #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัดบ้านปาง #ศรัทธาพระสงฆ์
    0 Comments 0 Shares 836 Views 0 Reviews
  • หลังจากมีรายงานว่า “ยูอาอิน” นักแสดงชื่อดังถูกปล่อยตัวจากการถูกควบคุมตัวนาน 5 เดือน เจ้าตัวก็หวนคืนวงการบันเทิงทันทีโดยมีกำหนดปล่อยหนัง “The Match” ในเดือน มี.ค. นี้

    เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ทีมโปรดักชันเรื่อง The Match ได้ปล่อยทีเซอร์ภาพยนตร์ออกมาทันทีที่ทคาบข่าว ยูอาอิน ได้รับการปล่อยตัว

    โดยตัวอย่างหนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ อีบยองฮุน ที่แปลงร่างเป็น โชฮุนฮยอน ผู้เล่นโกะในตำนาน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอย่าง โกชางซอก, ฮยอนบองชิก, มุนจองฮี และ คิมคังฮุน อีกด้วย แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่ปรากฏในตัวอย่างหนัง แต่ ยูอาอิน ก็ได้เข้าร่วมใน The Match โดยแสดงร่วมกับ อีบยองฮุน

    The Match บอกเล่าเรื่องราวของตำนานโกะของเกาหลีใต้ โชฮุนฮยอน (รับบทโดย อีบยองฮุน) ที่ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ต่อลูกศิษย์ของเขา อีชางโฮ (รับบทโดย ยูอาอิน และ คิมคังฮุน) และพยายามที่จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งสูงสุดอีกครั้งด้วยจิตวิญญาณการแข่งขันโดยกำเนิดของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้กำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 26 มี.ค.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000016796

    #MGROnline #ยูอาอิน #YooAhIn #film #TheMatch
    หลังจากมีรายงานว่า “ยูอาอิน” นักแสดงชื่อดังถูกปล่อยตัวจากการถูกควบคุมตัวนาน 5 เดือน เจ้าตัวก็หวนคืนวงการบันเทิงทันทีโดยมีกำหนดปล่อยหนัง “The Match” ในเดือน มี.ค. นี้ • เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ทีมโปรดักชันเรื่อง The Match ได้ปล่อยทีเซอร์ภาพยนตร์ออกมาทันทีที่ทคาบข่าว ยูอาอิน ได้รับการปล่อยตัว • โดยตัวอย่างหนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ อีบยองฮุน ที่แปลงร่างเป็น โชฮุนฮยอน ผู้เล่นโกะในตำนาน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอย่าง โกชางซอก, ฮยอนบองชิก, มุนจองฮี และ คิมคังฮุน อีกด้วย แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่ปรากฏในตัวอย่างหนัง แต่ ยูอาอิน ก็ได้เข้าร่วมใน The Match โดยแสดงร่วมกับ อีบยองฮุน • The Match บอกเล่าเรื่องราวของตำนานโกะของเกาหลีใต้ โชฮุนฮยอน (รับบทโดย อีบยองฮุน) ที่ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ต่อลูกศิษย์ของเขา อีชางโฮ (รับบทโดย ยูอาอิน และ คิมคังฮุน) และพยายามที่จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งสูงสุดอีกครั้งด้วยจิตวิญญาณการแข่งขันโดยกำเนิดของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้กำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 26 มี.ค. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000016796 • #MGROnline #ยูอาอิน #YooAhIn #film #TheMatch
    0 Comments 0 Shares 396 Views 0 Reviews
  • #หมายกำหนดการ
    วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568
    : เริ่มปล่อยตัวนักวิ่งเวลา 05.30 น.
    ขอเชิญประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินร่วมงานวิ่ง “Run for wheels 2025” วิ่งเพื่อให้หมาได้วิ่ง
    ณ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    #runforwheels #runforwheels2025
    #หมายกำหนดการ วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 : เริ่มปล่อยตัวนักวิ่งเวลา 05.30 น. ขอเชิญประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินร่วมงานวิ่ง “Run for wheels 2025” วิ่งเพื่อให้หมาได้วิ่ง ณ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida #runforwheels #runforwheels2025
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิพากษ์วิจารณ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ที่กีดกันไม่ให้เคียฟเข้าร่วม ระบุความพยายามยุติสงครามต้อง "ยุติธรรม" และบรรดาประเทศยุโรป ในนั้นรวมถึงตุรกี ควรมีส่วนร่วมด้วย
    .
    ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากวอชิงตันและมอสโก เผยว่าพวกเขาจะเปิดเผยชื่อคณะทำงานสำหรับเจรจาเส้นทางสู่การยุติสงครามในยูเครน ระหว่างการเจรจาอย่างเป็นทางการระดับสูงครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน
    .
    ความเห็นอันเดือดดาลของผู้นำยูเครน มีขึ้นหลังจากเขาได้พบปะกับประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี
    .
    "ยูเครนและยุโรปในสามัญสำนักอย่างกว้างๆ และนี่รวมถึงสหภาพยุโรป ตุรกีและสหราชอาณาจักร ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนาและก่อรูปร่างมาตรการรับประกันความมั่นคงที่จำเป็นร่วมกับอเมริกา ในเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโลก" เซเลนสกีกล่าว
    .
    "ความพยายามเป็นคนกลางใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง ควรเป็นไปอย่างยุติธรรม" เขากล่าว ประณามเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ในริยาด ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (18 ก.พ.) และเน้นย้ำจุดยืนคัดค้าน "การพูดคุยใดๆ ที่ปราศจากยูเครน เกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามในยูเครน"
    .
    เซเลนสกีเผยว่าเขาไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเจรจาในริยาด และตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมเดินทางเยือนเมืองหลวงของซาดุอีอาระเบีย จากเดิมที่คาดหมายว่าจะมีขึ้นในวันพุธ (19 ก.พ.) ไปเป็นวันที่ 10 มีนาคม
    .
    การยกเครื่องนโยบายเกี่ยวกับรัสเซียของทรัมป์ โหมกระพือความกังวลว่าวอชิงตันกำลังเตรียมการบีบเคียฟให้ยอมเจรจาต่อรองบนเงื่อนไขของมอสโก
    .
    นอกเหนือจากการเจรจาในริยาดแล้ว ความกังวลนี้มีมากขึ้นไปอีก เมื่อ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พบปะหารือกันในประเด็นความมั่นคงยุโรปและยูเครน โดยไม่มีตัวแทนใดๆ จากเคียฟหรือบรัสเซลส์เข้าร่วมด้วย
    .
    ในส่วนของแอร์โดอัน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เซเลนสกี ระหว่างแถลงข่าว ได้เสนอให้ตุรกีเป็นเจ้าภาพการเจรจาใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง โดยย้อนให้นึกถึงครั้งที่ทั้ง 2 ฝ่าย พบปะกันในอิสตุนบูลในปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์หลังรัสเซียรุกรานยูเครน
    .
    "ตุรกีจะเป็นเจ้าภาพในอุดมคติสำหรับความเป็นไปได้ในการเจรจาใดๆ ระหว่างรัสเซีย ยูเครนและอเมริกา ในอนาคตอันใกล้นี้" เขากล่าว พร้อมบอกว่าการเจรจาในอิสตันบูล "เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญและเป็นแพลตฟอร์มที่ฝ่ายต่างๆ เฉียดใกล้ได้ข้อตกลงหนึ่งมากที่สุดแล้ว"
    .
    การเดินทางครั้งนี้ของเซเลนสกี ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาเดินทางเยือนตุรกี นับตั้งแต่รัสเซียรุกราน โดยคราวนี้เกิดขึ้นในขณะที่เขาพยายามค้ำยันสถานะของเคียฟ ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เอื้อมมือเข้าหามอสโก
    .
    ตุรกี ซึ่งเป็นชาติสมาชิกนาโต หาทางคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับ 2 ชาติเพื่อนบ้านคู่สงครามทะเลดำ โดยที่แอร์โดอัน วางสถานะของตนเองในฐานะคนกลางและผู้สร้างสันติระหว่าง 2 ฝ่าย
    .
    แม้อังการาจะมอบโดรนแก่ยูเครน แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เพิกเฉยปลีกตัวออกต่างจากมาตรการคว่ำบาตรที่นำโดยตะวันตก ที่กำหนดเล่นงานมอสโก
    .
    เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางตุรกีเล่นบทบาทสำคัญในการเป็นคนกลางแลกเปลี่ยนเชลยศึกหลายรายระหว่างรัสเซียกับยูเครน ข้อตกลงนี้พบเห็นนักโทษหลายร้อยคนถูกปล่อยตัวกลับมาตุภูมิ แม้ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016367
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิพากษ์วิจารณ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ที่กีดกันไม่ให้เคียฟเข้าร่วม ระบุความพยายามยุติสงครามต้อง "ยุติธรรม" และบรรดาประเทศยุโรป ในนั้นรวมถึงตุรกี ควรมีส่วนร่วมด้วย . ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากวอชิงตันและมอสโก เผยว่าพวกเขาจะเปิดเผยชื่อคณะทำงานสำหรับเจรจาเส้นทางสู่การยุติสงครามในยูเครน ระหว่างการเจรจาอย่างเป็นทางการระดับสูงครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน . ความเห็นอันเดือดดาลของผู้นำยูเครน มีขึ้นหลังจากเขาได้พบปะกับประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี . "ยูเครนและยุโรปในสามัญสำนักอย่างกว้างๆ และนี่รวมถึงสหภาพยุโรป ตุรกีและสหราชอาณาจักร ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนทนาและก่อรูปร่างมาตรการรับประกันความมั่นคงที่จำเป็นร่วมกับอเมริกา ในเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโลก" เซเลนสกีกล่าว . "ความพยายามเป็นคนกลางใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง ควรเป็นไปอย่างยุติธรรม" เขากล่าว ประณามเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ในริยาด ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (18 ก.พ.) และเน้นย้ำจุดยืนคัดค้าน "การพูดคุยใดๆ ที่ปราศจากยูเครน เกี่ยวกับแนวทางยุติสงครามในยูเครน" . เซเลนสกีเผยว่าเขาไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเจรจาในริยาด และตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมเดินทางเยือนเมืองหลวงของซาดุอีอาระเบีย จากเดิมที่คาดหมายว่าจะมีขึ้นในวันพุธ (19 ก.พ.) ไปเป็นวันที่ 10 มีนาคม . การยกเครื่องนโยบายเกี่ยวกับรัสเซียของทรัมป์ โหมกระพือความกังวลว่าวอชิงตันกำลังเตรียมการบีบเคียฟให้ยอมเจรจาต่อรองบนเงื่อนไขของมอสโก . นอกเหนือจากการเจรจาในริยาดแล้ว ความกังวลนี้มีมากขึ้นไปอีก เมื่อ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พบปะหารือกันในประเด็นความมั่นคงยุโรปและยูเครน โดยไม่มีตัวแทนใดๆ จากเคียฟหรือบรัสเซลส์เข้าร่วมด้วย . ในส่วนของแอร์โดอัน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เซเลนสกี ระหว่างแถลงข่าว ได้เสนอให้ตุรกีเป็นเจ้าภาพการเจรจาใดๆ ในการยุติความขัดแย้ง โดยย้อนให้นึกถึงครั้งที่ทั้ง 2 ฝ่าย พบปะกันในอิสตุนบูลในปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์หลังรัสเซียรุกรานยูเครน . "ตุรกีจะเป็นเจ้าภาพในอุดมคติสำหรับความเป็นไปได้ในการเจรจาใดๆ ระหว่างรัสเซีย ยูเครนและอเมริกา ในอนาคตอันใกล้นี้" เขากล่าว พร้อมบอกว่าการเจรจาในอิสตันบูล "เป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญและเป็นแพลตฟอร์มที่ฝ่ายต่างๆ เฉียดใกล้ได้ข้อตกลงหนึ่งมากที่สุดแล้ว" . การเดินทางครั้งนี้ของเซเลนสกี ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาเดินทางเยือนตุรกี นับตั้งแต่รัสเซียรุกราน โดยคราวนี้เกิดขึ้นในขณะที่เขาพยายามค้ำยันสถานะของเคียฟ ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เอื้อมมือเข้าหามอสโก . ตุรกี ซึ่งเป็นชาติสมาชิกนาโต หาทางคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับ 2 ชาติเพื่อนบ้านคู่สงครามทะเลดำ โดยที่แอร์โดอัน วางสถานะของตนเองในฐานะคนกลางและผู้สร้างสันติระหว่าง 2 ฝ่าย . แม้อังการาจะมอบโดรนแก่ยูเครน แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เพิกเฉยปลีกตัวออกต่างจากมาตรการคว่ำบาตรที่นำโดยตะวันตก ที่กำหนดเล่นงานมอสโก . เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางตุรกีเล่นบทบาทสำคัญในการเป็นคนกลางแลกเปลี่ยนเชลยศึกหลายรายระหว่างรัสเซียกับยูเครน ข้อตกลงนี้พบเห็นนักโทษหลายร้อยคนถูกปล่อยตัวกลับมาตุภูมิ แม้ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016367 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    10
    0 Comments 0 Shares 2308 Views 0 Reviews
  • 🔹 วิธีตัดสินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลของกรรมเก่าหรือกรรมใหม่?

    ในพุทธศาสนา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะเป็นสุขหรือทุกข์ ล้วนเป็นผลของกรรมทั้งสิ้น แต่จะแยกออกเป็นกรรมเก่า (อดีต) และกรรมใหม่ (ปัจจุบัน) ซึ่งสามารถจำแนกได้ตามเกณฑ์ดังนี้:


    ---

    1️⃣ กรรมเก่า (กรรมจากอดีตชาติหรือต้นทุนชีวิตที่เลือกไม่ได้)

    ✅ เกิดขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมได้
    ✅ เป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ตั้งแต่เกิด
    ✅ เป็นเงื่อนไขพื้นฐานของชีวิตเรา

    🔹 ตัวอย่างของกรรมเก่า

    เกิดมามีร่างกายเป็นมนุษย์ (ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่เทวดา)

    เกิดมาในครอบครัวฐานะดี หรือยากจน

    เกิดมาในประเทศหนึ่ง ไม่ใช่อีกประเทศหนึ่ง

    เกิดมามีลักษณะร่างกายแบบนี้ (สูง/ต่ำ ผิวพรรณดี/ไม่ดี)

    บางครั้งโชคดีแบบคาดไม่ถึง หรือโชคร้ายแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้


    👉 กรรมเก่าจะส่งผลเป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น

    ได้รับรางวัลใหญ่จากการสุ่มจับฉลาก โดยไม่ได้พยายามอะไร

    ถูกรถชนแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่ข้ามถนนถูกต้องแล้ว

    เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง หรือมีโรคประจำตัวที่ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมของตน



    ---

    2️⃣ กรรมใหม่ (การกระทำและเจตนาในปัจจุบัน)

    ✅ เกิดจากความพยายามและการเลือกของตัวเอง
    ✅ เป็นสิ่งที่ควบคุมได้
    ✅ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเจตนาในปัจจุบัน

    🔹 ตัวอย่างของกรรมใหม่

    ตัดสินใจอดทน ไม่ตอบโต้คนที่ด่าหรือทำร้ายเรา → ได้ผลคือ "ใจเบา" และไม่สร้างศัตรู

    ตัดสินใจทำงานหนัก และเก็บเงินอย่างมีวินัย → ได้ผลคือ "รวยขึ้น" จากความพยายามของตัวเอง

    เลือกคบคนดี หรือแวดล้อมตัวเองด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดี → ได้ผลคือ "จิตใจสงบ" และมีชีวิตดีขึ้น

    ตัดสินใจมีศีล ไม่ผิดศีลข้อ ๓ (กาเม) → ได้ผลคือ "โล่งใจ" และไม่ต้องรู้สึกผิด

    ฝึกสติ นั่งสมาธิ → ได้ผลคือ "จิตสงบ" และมีปัญญามากขึ้น


    👉 กรรมใหม่เป็นตัวแทรกแซงผลของกรรมเก่าได้ เช่น

    แม้เกิดมาในครอบครัวยากจน (กรรมเก่า) แต่หากขยันทำงาน เก็บเงิน สร้างโอกาสให้ตัวเอง (กรรมใหม่) ก็สามารถร่ำรวยได้

    แม้เกิดมามีร่างกายอ่อนแอ (กรรมเก่า) แต่ดูแลสุขภาพดี ออกกำลังกาย กินอาหารที่ดี (กรรมใหม่) ก็สามารถแข็งแรงขึ้นได้

    แม้เกิดมามีโอกาสน้อย (กรรมเก่า) แต่หมั่นเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง (กรรมใหม่) ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้



    ---

    🔹 วิธีตัดสินว่าเป็นกรรมเก่าหรือกรรมใหม่

    📌 ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นควบคุมไม่ได้ → เป็นผลของกรรมเก่า
    📌 ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการกระทำและเจตนา → เป็นผลของกรรมใหม่

    💡 แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ กรรมใหม่สามารถเปลี่ยนผลของกรรมเก่าได้
    💡 อย่าเชื่อว่า "ชีวิตถูกกำหนดแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้" → นี่คือมิจฉาทิฏฐิ
    💡 พุทธศาสนาสอนให้เราลงมือเปลี่ยนชีวิตด้วยกรรมใหม่ที่ดีในปัจจุบัน


    ---

    🔹 สรุป: ทางเลือกที่ชาญฉลาด

    ✅ อย่าโทษกรรมเก่าแล้วปล่อยตัวให้เป็นไปตามยถากรรม
    ✅ ตั้งใจสร้างกรรมใหม่ที่ดี เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง
    ✅ แม้กรรมเก่าจะเป็นตัวกำหนด "ต้นทุนชีวิต" แต่กรรมใหม่คือสิ่งที่เราใช้พลิกชีวิตได้

    📌 วันนี้คุณเลือกสร้างกรรมใหม่แบบไหน?
    ✨ กรรมดีที่พาตัวเองไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น หรือ
    🔥 กรรมชั่วที่ทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในปัญหาเดิมๆ

    ➡ ทุกอย่างอยู่ที่ "การตัดสินใจในปัจจุบัน" นี่แหละ!

    🔹 วิธีตัดสินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลของกรรมเก่าหรือกรรมใหม่? ในพุทธศาสนา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะเป็นสุขหรือทุกข์ ล้วนเป็นผลของกรรมทั้งสิ้น แต่จะแยกออกเป็นกรรมเก่า (อดีต) และกรรมใหม่ (ปัจจุบัน) ซึ่งสามารถจำแนกได้ตามเกณฑ์ดังนี้: --- 1️⃣ กรรมเก่า (กรรมจากอดีตชาติหรือต้นทุนชีวิตที่เลือกไม่ได้) ✅ เกิดขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมได้ ✅ เป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ตั้งแต่เกิด ✅ เป็นเงื่อนไขพื้นฐานของชีวิตเรา 🔹 ตัวอย่างของกรรมเก่า เกิดมามีร่างกายเป็นมนุษย์ (ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่เทวดา) เกิดมาในครอบครัวฐานะดี หรือยากจน เกิดมาในประเทศหนึ่ง ไม่ใช่อีกประเทศหนึ่ง เกิดมามีลักษณะร่างกายแบบนี้ (สูง/ต่ำ ผิวพรรณดี/ไม่ดี) บางครั้งโชคดีแบบคาดไม่ถึง หรือโชคร้ายแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ 👉 กรรมเก่าจะส่งผลเป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ได้รับรางวัลใหญ่จากการสุ่มจับฉลาก โดยไม่ได้พยายามอะไร ถูกรถชนแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่ข้ามถนนถูกต้องแล้ว เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง หรือมีโรคประจำตัวที่ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมของตน --- 2️⃣ กรรมใหม่ (การกระทำและเจตนาในปัจจุบัน) ✅ เกิดจากความพยายามและการเลือกของตัวเอง ✅ เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ ✅ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเจตนาในปัจจุบัน 🔹 ตัวอย่างของกรรมใหม่ ตัดสินใจอดทน ไม่ตอบโต้คนที่ด่าหรือทำร้ายเรา → ได้ผลคือ "ใจเบา" และไม่สร้างศัตรู ตัดสินใจทำงานหนัก และเก็บเงินอย่างมีวินัย → ได้ผลคือ "รวยขึ้น" จากความพยายามของตัวเอง เลือกคบคนดี หรือแวดล้อมตัวเองด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดี → ได้ผลคือ "จิตใจสงบ" และมีชีวิตดีขึ้น ตัดสินใจมีศีล ไม่ผิดศีลข้อ ๓ (กาเม) → ได้ผลคือ "โล่งใจ" และไม่ต้องรู้สึกผิด ฝึกสติ นั่งสมาธิ → ได้ผลคือ "จิตสงบ" และมีปัญญามากขึ้น 👉 กรรมใหม่เป็นตัวแทรกแซงผลของกรรมเก่าได้ เช่น แม้เกิดมาในครอบครัวยากจน (กรรมเก่า) แต่หากขยันทำงาน เก็บเงิน สร้างโอกาสให้ตัวเอง (กรรมใหม่) ก็สามารถร่ำรวยได้ แม้เกิดมามีร่างกายอ่อนแอ (กรรมเก่า) แต่ดูแลสุขภาพดี ออกกำลังกาย กินอาหารที่ดี (กรรมใหม่) ก็สามารถแข็งแรงขึ้นได้ แม้เกิดมามีโอกาสน้อย (กรรมเก่า) แต่หมั่นเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง (กรรมใหม่) ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ --- 🔹 วิธีตัดสินว่าเป็นกรรมเก่าหรือกรรมใหม่ 📌 ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นควบคุมไม่ได้ → เป็นผลของกรรมเก่า 📌 ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการกระทำและเจตนา → เป็นผลของกรรมใหม่ 💡 แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ กรรมใหม่สามารถเปลี่ยนผลของกรรมเก่าได้ 💡 อย่าเชื่อว่า "ชีวิตถูกกำหนดแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้" → นี่คือมิจฉาทิฏฐิ 💡 พุทธศาสนาสอนให้เราลงมือเปลี่ยนชีวิตด้วยกรรมใหม่ที่ดีในปัจจุบัน --- 🔹 สรุป: ทางเลือกที่ชาญฉลาด ✅ อย่าโทษกรรมเก่าแล้วปล่อยตัวให้เป็นไปตามยถากรรม ✅ ตั้งใจสร้างกรรมใหม่ที่ดี เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง ✅ แม้กรรมเก่าจะเป็นตัวกำหนด "ต้นทุนชีวิต" แต่กรรมใหม่คือสิ่งที่เราใช้พลิกชีวิตได้ 📌 วันนี้คุณเลือกสร้างกรรมใหม่แบบไหน? ✨ กรรมดีที่พาตัวเองไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น หรือ 🔥 กรรมชั่วที่ทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในปัญหาเดิมๆ ➡ ทุกอย่างอยู่ที่ "การตัดสินใจในปัจจุบัน" นี่แหละ!
    0 Comments 0 Shares 445 Views 0 Reviews
More Results