• เมื่อกรรมกำหนด ให้ได้มาเกิดในยุคเดียวกัน
    แต่พฤติกรรม นิสัย ความเข้าใจไม่เหมือนกัน เนื่องจาก
    การสั่งสมกรรม มาแต่อดีตชาติที่ต่างกัน เป็นเครื่องจำแนกพฤติกรรม หรือพูดง่ายๆว่าสันดานไม่เหมือนกัน
    จึงไม่มีใครผิดใครถูก
    เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง
    เราจึงควรมองดูชีวิตแต่ละชีวิตที่กำลังโลดแล่นไปตามบทกรรมของแต่ละคน ให้เหมือนกับการดูหนังดูละคร
    แล้วย้อนกลับมาดูตัวเอง
    ก็จะรู้ซึ้งถึงบทกรรม ที่สร้างชีวิตและกำหนดเส้นทางกรรม
    มาให้เราได้เผชิญชีวิต
    มองให้เข้าใจ ชีวิตก็จะทุกข์น้อยลง
    เมื่อกรรมกำหนด ให้ได้มาเกิดในยุคเดียวกัน แต่พฤติกรรม นิสัย ความเข้าใจไม่เหมือนกัน เนื่องจาก การสั่งสมกรรม มาแต่อดีตชาติที่ต่างกัน เป็นเครื่องจำแนกพฤติกรรม หรือพูดง่ายๆว่าสันดานไม่เหมือนกัน จึงไม่มีใครผิดใครถูก เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง เราจึงควรมองดูชีวิตแต่ละชีวิตที่กำลังโลดแล่นไปตามบทกรรมของแต่ละคน ให้เหมือนกับการดูหนังดูละคร แล้วย้อนกลับมาดูตัวเอง ก็จะรู้ซึ้งถึงบทกรรม ที่สร้างชีวิตและกำหนดเส้นทางกรรม มาให้เราได้เผชิญชีวิต มองให้เข้าใจ ชีวิตก็จะทุกข์น้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • สเปน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี "เปโดร ซานเชซ" ประกาศยกเลิกสัญญาด้านกลาโหมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 3.76 หมื่นล้านบาท) ที่ทำกับบริษัทต่างๆของอิสราเอล เพื่อตอบโต้ฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตใกล้แตะเจ็ดหมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง และยังมีผู้สูญหายอีกประมาณสามแสนราย
    .
    นับเป็นมาตรการที่เข้มข้นที่สุดจากความเคลื่อนไหวของสเปนที่มีต่ออิสราเอล
    .
    สัญญาที่รัฐบาลสเปนยกเลิก เกี่ยวข้องกับระบบยิงจรวด SILAM ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Elbit PULS ของอิสราเอล และสัญญาสำหรับขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike L.R. ซึ่งเดิมจะผลิตโดยกลุ่มบริษัทสเปนภายใต้ใบอนุญาตจากอิสราเอล
    .
    ขณะที่อิสราเอลเริ่มเดินหน้าปฏิบัติการยึดเมือง "กาซา ซิตี้" เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อครอบครองเป็นของตนเอง โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส และกดดันฮามาสให้ปล่อยตัวประกัน ซึ่งอิสราเอลคาดว่ายังมีอยู่อีกประมาณ 40 ราย แต่คาดว่ายังมีชีวิตเพียง 20 รายเท่านั้น

    ด้านคณะกรรมการสอบสวนอิสระแห่งสหประชาชาติ ยอมรับที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า การโจมตีของอิสราเอลเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ตามอนุสัญญาปี 1948

    นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น และสโลวีเนีย ต่างประกาศระงับหรือจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลเช่นกัน
    สเปน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี "เปโดร ซานเชซ" ประกาศยกเลิกสัญญาด้านกลาโหมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 3.76 หมื่นล้านบาท) ที่ทำกับบริษัทต่างๆของอิสราเอล เพื่อตอบโต้ฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตใกล้แตะเจ็ดหมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง และยังมีผู้สูญหายอีกประมาณสามแสนราย . นับเป็นมาตรการที่เข้มข้นที่สุดจากความเคลื่อนไหวของสเปนที่มีต่ออิสราเอล . สัญญาที่รัฐบาลสเปนยกเลิก เกี่ยวข้องกับระบบยิงจรวด SILAM ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Elbit PULS ของอิสราเอล และสัญญาสำหรับขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike L.R. ซึ่งเดิมจะผลิตโดยกลุ่มบริษัทสเปนภายใต้ใบอนุญาตจากอิสราเอล . 👉ขณะที่อิสราเอลเริ่มเดินหน้าปฏิบัติการยึดเมือง "กาซา ซิตี้" เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อครอบครองเป็นของตนเอง โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส และกดดันฮามาสให้ปล่อยตัวประกัน ซึ่งอิสราเอลคาดว่ายังมีอยู่อีกประมาณ 40 ราย แต่คาดว่ายังมีชีวิตเพียง 20 รายเท่านั้น 👉ด้านคณะกรรมการสอบสวนอิสระแห่งสหประชาชาติ ยอมรับที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า การโจมตีของอิสราเอลเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ตามอนุสัญญาปี 1948 👉นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น และสโลวีเนีย ต่างประกาศระงับหรือจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Apple กับความ ‘ไม่ว้าว’ ที่เพิ่มขึ้น — เมื่อดีไซน์สวยกลบการใช้งาน และ iPhone Air กลายเป็นคำถามมากกว่าคำตอบ”

    Riccardo Mori นักเขียนสายเทคโนโลยีที่ติดตาม Apple มานาน ได้เขียนบทความวิจารณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า “Awe Dropping” แต่สำหรับเขาแล้ว มันคือ “ความว้าวที่ลดลงเรื่อย ๆ” โดยเฉพาะเมื่อ Apple เปิดตัว iPhone 17, iPhone Air, Apple Watch Series 11 และ AirPods Pro 3 พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 26 ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ชื่อ Liquid Glass

    Mori ตั้งคำถามถึงความจริงใจของ Apple ที่เปิดงานด้วยคำพูดของ Steve Jobs ว่า “Design is how it works” ทั้งที่ดีไซน์ Liquid Glass เน้นความสวยงามมากกว่าการใช้งานจริง และ iPhone Air ก็เป็นตัวอย่างของการออกแบบที่เน้นความบางจนเสียฟังก์ชัน เช่น ความร้อนสูง, แบตเตอรี่เล็ก, ไม่มีช่องใส่ซิม และต้องพึ่งพาแบตเสริม MagSafe ที่ทำให้ดีไซน์บางหมดความหมาย

    เขายังวิจารณ์ Apple Watch ว่าเต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่มากเกินไป และการนำเสนอเรื่อง “ช่วยชีวิตผู้ใช้” กลายเป็นการตลาดที่ซ้ำซาก ส่วน AirPods ก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่าย

    สำหรับ iPhone 17 Pro แม้จะมีฟีเจอร์กล้องระดับโปรและดีไซน์ใหม่ แต่ราคาก็สูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ iPhone Air ก็ถูกมองว่าเป็น “การทดลอง” ที่อาจไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนกับ iPhone mini ที่เคยถูกยกเลิกไป

    สุดท้าย Mori สรุปว่า Apple กำลังสูญเสียจุดเด่นที่เคยมี คือการผสานฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์อย่างลงตัว เพราะแม้ฮาร์ดแวร์จะดีขึ้นทุกปี แต่ iOS 26 กลับเต็มไปด้วยปัญหาด้าน UI และการออกแบบที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    Apple เปิดตัว iPhone 17, iPhone Air, Apple Watch Series 11 และ AirPods Pro 3
    iPhone Air เป็นรุ่นที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่มีข้อจำกัดหลายด้าน
    Apple ใช้คำพูดของ Steve Jobs เปิดงาน แต่ดีไซน์ปัจจุบันขัดแย้งกับแนวคิดนั้น
    iOS 26 มาพร้อม Liquid Glass UI ที่เน้นความสวยงามมากกว่าการใช้งาน

    การวิจารณ์ผลิตภัณฑ์
    Apple Watch มีฟีเจอร์มากเกินไป และการนำเสนอเรื่อง “ช่วยชีวิต” กลายเป็นการตลาด
    AirPods ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะเปลี่ยนแบตไม่ได้
    iPhone 17 Pro มีฟีเจอร์กล้องระดับโปร แต่ราคาสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    iPhone Air ถูกมองว่าเป็นการทดลองที่อาจไม่ประสบความสำเร็จ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    iPhone Air มีความบางเพียง 5.5 มม. และใช้ชิป A19 Pro พร้อมหน้าจอ 120Hz
    ไม่มีช่องใส่ซิมการ์ด และไม่มี mmWave 5G — ใช้ eSIM เท่านั้น
    Apple เปิดตัวแบตเสริม MagSafe สำหรับ iPhone Air โดยเฉพาะ
    iPhone 17 Pro ใช้กล้อง 48MP ทุกตัว และมีระบบระบายความร้อนแบบใหม่

    https://morrick.me/archives/10137
    📱 “Apple กับความ ‘ไม่ว้าว’ ที่เพิ่มขึ้น — เมื่อดีไซน์สวยกลบการใช้งาน และ iPhone Air กลายเป็นคำถามมากกว่าคำตอบ” Riccardo Mori นักเขียนสายเทคโนโลยีที่ติดตาม Apple มานาน ได้เขียนบทความวิจารณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า “Awe Dropping” แต่สำหรับเขาแล้ว มันคือ “ความว้าวที่ลดลงเรื่อย ๆ” โดยเฉพาะเมื่อ Apple เปิดตัว iPhone 17, iPhone Air, Apple Watch Series 11 และ AirPods Pro 3 พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 26 ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ชื่อ Liquid Glass Mori ตั้งคำถามถึงความจริงใจของ Apple ที่เปิดงานด้วยคำพูดของ Steve Jobs ว่า “Design is how it works” ทั้งที่ดีไซน์ Liquid Glass เน้นความสวยงามมากกว่าการใช้งานจริง และ iPhone Air ก็เป็นตัวอย่างของการออกแบบที่เน้นความบางจนเสียฟังก์ชัน เช่น ความร้อนสูง, แบตเตอรี่เล็ก, ไม่มีช่องใส่ซิม และต้องพึ่งพาแบตเสริม MagSafe ที่ทำให้ดีไซน์บางหมดความหมาย เขายังวิจารณ์ Apple Watch ว่าเต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่มากเกินไป และการนำเสนอเรื่อง “ช่วยชีวิตผู้ใช้” กลายเป็นการตลาดที่ซ้ำซาก ส่วน AirPods ก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่าย สำหรับ iPhone 17 Pro แม้จะมีฟีเจอร์กล้องระดับโปรและดีไซน์ใหม่ แต่ราคาก็สูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ iPhone Air ก็ถูกมองว่าเป็น “การทดลอง” ที่อาจไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนกับ iPhone mini ที่เคยถูกยกเลิกไป สุดท้าย Mori สรุปว่า Apple กำลังสูญเสียจุดเด่นที่เคยมี คือการผสานฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์อย่างลงตัว เพราะแม้ฮาร์ดแวร์จะดีขึ้นทุกปี แต่ iOS 26 กลับเต็มไปด้วยปัญหาด้าน UI และการออกแบบที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ Apple เปิดตัว iPhone 17, iPhone Air, Apple Watch Series 11 และ AirPods Pro 3 ➡️ iPhone Air เป็นรุ่นที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่มีข้อจำกัดหลายด้าน ➡️ Apple ใช้คำพูดของ Steve Jobs เปิดงาน แต่ดีไซน์ปัจจุบันขัดแย้งกับแนวคิดนั้น ➡️ iOS 26 มาพร้อม Liquid Glass UI ที่เน้นความสวยงามมากกว่าการใช้งาน ✅ การวิจารณ์ผลิตภัณฑ์ ➡️ Apple Watch มีฟีเจอร์มากเกินไป และการนำเสนอเรื่อง “ช่วยชีวิต” กลายเป็นการตลาด ➡️ AirPods ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะเปลี่ยนแบตไม่ได้ ➡️ iPhone 17 Pro มีฟีเจอร์กล้องระดับโปร แต่ราคาสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ iPhone Air ถูกมองว่าเป็นการทดลองที่อาจไม่ประสบความสำเร็จ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ iPhone Air มีความบางเพียง 5.5 มม. และใช้ชิป A19 Pro พร้อมหน้าจอ 120Hz ➡️ ไม่มีช่องใส่ซิมการ์ด และไม่มี mmWave 5G — ใช้ eSIM เท่านั้น ➡️ Apple เปิดตัวแบตเสริม MagSafe สำหรับ iPhone Air โดยเฉพาะ ➡️ iPhone 17 Pro ใช้กล้อง 48MP ทุกตัว และมีระบบระบายความร้อนแบบใหม่ https://morrick.me/archives/10137
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## BBC Empire Service สำหรับ the British Empire จะถูกใจสิ่งนี้มั้ยนะ...??? ##
    ..
    ..
    เมื่อ 2 ดาราฮอลีวูด ที่กล่าวถึงความสวยงาม ของ ประเทศไทย กลางงานประกาศรางวัล Emmy Awards
    .
    วอลตัน กอกกินส์ ได้กล่าวขึ้นมาว่า "เราเพิ่งใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยนาน 8 เดือน เพื่อถ่ายทำ The White Lotus ซีซัน 3
    .
    และ ปาร์กเกอร์ โพซีย์ ก็กล่าวเสริมทันทีด้วยรอยยิ้มว่า "ที่นั่นสวยงามมาก และ อาหารก็ยอดเยี่ยมจริงๆ"
    .
    ซึ่งการสปีชสั้นๆ บนเวทีระดับโลกนี้เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมในฮอลล์...
    ....
    ....
    ดูจะสวนทางกับ ภาพยนตร์ของ BBC ที่ มองประเทศไทยในทางร้ายมากๆ
    ## BBC Empire Service สำหรับ the British Empire จะถูกใจสิ่งนี้มั้ยนะ...??? ## .. .. เมื่อ 2 ดาราฮอลีวูด ที่กล่าวถึงความสวยงาม ของ ประเทศไทย กลางงานประกาศรางวัล Emmy Awards . วอลตัน กอกกินส์ ได้กล่าวขึ้นมาว่า "เราเพิ่งใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยนาน 8 เดือน เพื่อถ่ายทำ The White Lotus ซีซัน 3 . และ ปาร์กเกอร์ โพซีย์ ก็กล่าวเสริมทันทีด้วยรอยยิ้มว่า "ที่นั่นสวยงามมาก และ อาหารก็ยอดเยี่ยมจริงๆ" . ซึ่งการสปีชสั้นๆ บนเวทีระดับโลกนี้เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมในฮอลล์... .... .... ดูจะสวนทางกับ ภาพยนตร์ของ BBC ที่ มองประเทศไทยในทางร้ายมากๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อดีตเสนาธิการทหารกองทัพอิสราเอล พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี(Herzi Halevi) ยอมรับมีพลเมืองปาเลสไตน์เสียชีวิตหรือบาดเจ็บถึง 10% ของประชากรที่อาศัยในเขตฉนวนกาซานับตั้งแต่เริ่มสงครามตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค ปี 2023 หรือเมื่อเกือบ 2 ปีก่อนหน้ารับเทลอาวีฟก่อสงครามที่ก้าวร้าวกับปาเลสไตน์ คลิปเสียงฮาลาวีรั่วเปิดเผยตัวเองไม่เคยโดนสั่งห้ามใดๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000088819

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อดีตเสนาธิการทหารกองทัพอิสราเอล พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี(Herzi Halevi) ยอมรับมีพลเมืองปาเลสไตน์เสียชีวิตหรือบาดเจ็บถึง 10% ของประชากรที่อาศัยในเขตฉนวนกาซานับตั้งแต่เริ่มสงครามตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค ปี 2023 หรือเมื่อเกือบ 2 ปีก่อนหน้ารับเทลอาวีฟก่อสงครามที่ก้าวร้าวกับปาเลสไตน์ คลิปเสียงฮาลาวีรั่วเปิดเผยตัวเองไม่เคยโดนสั่งห้ามใดๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000088819 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดบทเรียนอายัดบัญชี เราจะรับมืออย่างไร?

    กรณีที่บรรดาผู้ประกอบอาชีพค้าขาย รวมถึงบุคคลธรรมดาจำนวนมาก เดือดร้อนจากมาตรการอายัดบัญชี กำลังทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในระบบธนาคาร ทำลายเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้ขอนำมาสรุปพอสังเขป ได้แก่

    1. บัญชีธนาคารและรหัสพร้อมเพย์เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ควรเผยแพร่ลงบนสื่อสังคมออนไลน์โดยไม่จำเป็น เพราะอาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด ควรบอกเลขที่บัญชีธนาคาร หรือรหัสพร้อมเพย์ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ เฉพาะครอบครัว ญาติ กลุ่มเพื่อน หรือบุคคลที่ไว้วางใจ เพื่อใช้สำหรับธุรกรรมระหว่างบุคคล เช่น หารเงินค่าอาหาร ฝากซื้อของแบบตัวต่อตัว ส่วนรหัสพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ควรใช้สำหรับรับเงินภาครัฐ เช่น เงินคืนภาษี

    ปัจจุบันมีบางธนาคารออก QR Code รับเงิน ที่เป็นรหัสพร้อมเพย์อี-วอลเล็ต เพื่อรับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร โดยไม่ต้องระบุเลขที่บัญชีโดยตรง เช่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย หรือ LHB YOU ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์

    2. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัญชีธนาคาร ตกไปอยู่ในมือของขบวนการผิดกฎหมาย เช่น การเล่นพนันออนไลน์ หรือหวยใต้ดิน

    3. กรณีที่ต้องรับเงินจากคนแปลกหน้า เช่น อาชีพค้าขาย ควรใช้แพลตฟอร์ม QR รับเงินสำหรับร้านค้าโดยเฉพาะ โดยไม่ปะปนกับบัญชีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น K SHOP, แม่มณี, ถุงเงินกรุงไทย ฯลฯ ซึ่งสมัครได้ฟรี จากนั้นโอนยอดเงินเข้าบัญชีธนาคารปกติตามที่ต้องการ ช่วยให้ธนาคารแยกแยะได้ว่า รับเงินมาจากการค้าขาย

    หากร้านค้าต้องการเข้าร่วมมาตรการภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง แนะนำให้สมัครแอปฯ ถุงเงิน ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

    ข้อควรระวัง กรณีรับเงินโอนจากระบบพร้อมเพย์ ไม่มีค่าธรรมเนียม ได้รับเงินเต็มจำนวน แต่หากรับเงินโอนจาก QR บัตรเครดิต หรือ WeChat Pay และ Alipay จะถูกหักค่าธรรมเนียม ทำให้ไม่ได้รับเงินเต็มจำนวน จึงควรศึกษาเงื่อนไขของธนาคารด้วย

    4. บัญชีธนาคารมีไว้ทำธุรกรรมเฉพาะตัวเท่านั้น ไม่ควรให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร ไม่ว่าจะสนิทกันขนาดไหนก็ตาม และระวังพฤติกรรมแปลกๆ โดยการขอยืมบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินโอนโดยใช้อุบายต่างๆ นานา เพราะสุดท้ายเมื่อรู้ความจริงว่าผู้ที่ขอยืมบัญชีธนาคารนำไปใช้หลอกลวงผู้อื่น บัญชีโดนอายัดทุกธนาคาร

    5. ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพพัฒนารูปแบบการหลอกลวงประชาชนตลอดเวลา และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ เวลามีข่าวว่าประชาชนถูกฉ้อโกงทางการเงิน ควรให้ความใส่ใจและบอกต่อกับคนรอบข้าง ครอบครัวและเพื่อนให้ช่วยระมัดระวัง เพราะวันหนึ่งอาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    #Newskit
    ถอดบทเรียนอายัดบัญชี เราจะรับมืออย่างไร? กรณีที่บรรดาผู้ประกอบอาชีพค้าขาย รวมถึงบุคคลธรรมดาจำนวนมาก เดือดร้อนจากมาตรการอายัดบัญชี กำลังทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในระบบธนาคาร ทำลายเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้ขอนำมาสรุปพอสังเขป ได้แก่ 1. บัญชีธนาคารและรหัสพร้อมเพย์เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ควรเผยแพร่ลงบนสื่อสังคมออนไลน์โดยไม่จำเป็น เพราะอาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด ควรบอกเลขที่บัญชีธนาคาร หรือรหัสพร้อมเพย์ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ เฉพาะครอบครัว ญาติ กลุ่มเพื่อน หรือบุคคลที่ไว้วางใจ เพื่อใช้สำหรับธุรกรรมระหว่างบุคคล เช่น หารเงินค่าอาหาร ฝากซื้อของแบบตัวต่อตัว ส่วนรหัสพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ควรใช้สำหรับรับเงินภาครัฐ เช่น เงินคืนภาษี ปัจจุบันมีบางธนาคารออก QR Code รับเงิน ที่เป็นรหัสพร้อมเพย์อี-วอลเล็ต เพื่อรับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร โดยไม่ต้องระบุเลขที่บัญชีโดยตรง เช่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย หรือ LHB YOU ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัญชีธนาคาร ตกไปอยู่ในมือของขบวนการผิดกฎหมาย เช่น การเล่นพนันออนไลน์ หรือหวยใต้ดิน 3. กรณีที่ต้องรับเงินจากคนแปลกหน้า เช่น อาชีพค้าขาย ควรใช้แพลตฟอร์ม QR รับเงินสำหรับร้านค้าโดยเฉพาะ โดยไม่ปะปนกับบัญชีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น K SHOP, แม่มณี, ถุงเงินกรุงไทย ฯลฯ ซึ่งสมัครได้ฟรี จากนั้นโอนยอดเงินเข้าบัญชีธนาคารปกติตามที่ต้องการ ช่วยให้ธนาคารแยกแยะได้ว่า รับเงินมาจากการค้าขาย หากร้านค้าต้องการเข้าร่วมมาตรการภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง แนะนำให้สมัครแอปฯ ถุงเงิน ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ข้อควรระวัง กรณีรับเงินโอนจากระบบพร้อมเพย์ ไม่มีค่าธรรมเนียม ได้รับเงินเต็มจำนวน แต่หากรับเงินโอนจาก QR บัตรเครดิต หรือ WeChat Pay และ Alipay จะถูกหักค่าธรรมเนียม ทำให้ไม่ได้รับเงินเต็มจำนวน จึงควรศึกษาเงื่อนไขของธนาคารด้วย 4. บัญชีธนาคารมีไว้ทำธุรกรรมเฉพาะตัวเท่านั้น ไม่ควรให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร ไม่ว่าจะสนิทกันขนาดไหนก็ตาม และระวังพฤติกรรมแปลกๆ โดยการขอยืมบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินโอนโดยใช้อุบายต่างๆ นานา เพราะสุดท้ายเมื่อรู้ความจริงว่าผู้ที่ขอยืมบัญชีธนาคารนำไปใช้หลอกลวงผู้อื่น บัญชีโดนอายัดทุกธนาคาร 5. ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพพัฒนารูปแบบการหลอกลวงประชาชนตลอดเวลา และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ เวลามีข่าวว่าประชาชนถูกฉ้อโกงทางการเงิน ควรให้ความใส่ใจและบอกต่อกับคนรอบข้าง ครอบครัวและเพื่อนให้ช่วยระมัดระวัง เพราะวันหนึ่งอาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 6
    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
    ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว
    แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้
    รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย
    นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น
    ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว
    ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย
    เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต !
    เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
    เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น
    นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย
    และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก
    มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน
    อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง
    ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร
    ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก
    คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 6 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 6 (ตอนจบ) ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้ รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต ! เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 5
    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 5
    เมื่อความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุ มสถานกงสุลที่ Benghazi ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2012 Sean Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าว ยังนั่งเล่นเกมส์ Eve Online อยู่หน้าจอ เขาอายุ 34 ปี มาจากกองทัพอากาศและอยู่กระทรวงการต่างประเทศมากว่า 10 ปีแล้ว เมียและลูก 2 คน อยู่ที่ประเทศ Netherlands เขาเป็นคนที่เล่นเกมส์ Eve นี้อย่างติดพันโดยใช้ชื่อว่า vile_rat เขาพิมพ์ถึงคู่เล่นเขา6 นาที ก่อน 2 ทุ่ม ว่า “สมมุติว่าเรารอดตายจากคืนนี้” มันดูเป็นตลกโหด แต่ Smith ผ่านสถานการณ์หนักกว่า Benghazi มาเยอะแล้ว เขาพิมพ์ข้อความเพิ่ม “เราเห็นตำรวจคนหนึ่งที่ดูแลบริเวณ กำลังถ่ายรูป”
เขาคงจะหมายความถึง ชาวลิเบียพวกที่เดินตรวจการณ์อยู่รอบบริเวณกงสุล แต่ยังมีการ์ดอีก 9 คน อยู่ในบริเวณกงสุล 5 คนเป็นคนอเมริกันติดอาวุธพร้อม และอีก 4 คน เป็นทหารชาวลิเบียจากหน่วย 17th of February Martyrs Brigade เป็นทหารพวกเดียวกับที่ดูแล Stevens เมื่อเขามาอยู่ที่ Benghazi ในตอนแรก
    สองชั่วโมงต่อมา เวลา 9.40 น. vile_rat พิมพ์ว่า “ฉิบหายแล้ว เสียงปืนยิง” แล้วเขาก็เลิกติดต่อไป
    จากรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเห็นจากจอที่ monitor ประตูหน้ากงสุลว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากติดอาวุธกำลังบุกเข้ามา เป็นคนกลุ่มใหญ่มากจนนับไม่ไหว เขากดปุ่มเตือนภัย คว้าไมค์แล้วตะโกนว่า “ถูกโจมตี ! ถูกโจมตี !”
    เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยอีก 4 คนอยู่ในเรือนใหญ่กับ Stevens และ Smith คนหนึ่งรีบพา Stevens และ Smith เข้าไปที่ส่วนหลังของตึกและปลดแผงเหล็กปิดตึกในส่วนที่เป็นห้องนิรภัย เจ้าหน้าที่อีก 3 คน กระโดดไปคว้าปืนออโตเมติกและเสื้อเกราะ เจ้าหน้าที่ที่อยู่กับ Stevens และ Smith พูดวิทยุบอกว่าพวกเขาปลอดภัยดีและอยู่ในห้องนิรภัย
    ซุ้มทหารด้านหน้าใกล้ประตูทางเข้าเริ่มถูกไฟเผา และผู้โจมตีได้กระจายตัวไปรอบ ๆ บริเวณ พวกเขาพังประตูหน้าเข้ามาได้ และพยายามทำลายล็อคแผ่นเหล็กเพื่อเข้ามายังส่วนใน แต่ทำลายไม่สำเร็จ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลซุ่มเงียบอยู่ใต้เงามืด เตรียมพร้อมที่จะยิงถ้ามีใครบุกรุกเข้ามาในห้องนิรภัย แต่ไม่มีใครบุกรุกเข้ามา พวกจู่โจมกลับเอาน้ำมันดีเซลจากซุ้มทหารมาเทราดพื้นและเครื่องเรือน แล้วจุดไฟ หลังจากนั้นทั้งเรือนก็มีแต่ไฟลุกโชน
    ควันไฟผสมน้ำมันผสมเครื่องเรือนที่เริ่มละลาย เริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณกงสุล ทำให้พวกที่ซ่อนตัวเองอยู่ข้างในเริ่มสำลักควัน Stevens, Smith และผู้คุ้มกันย้ายไปที่ห้องน้ำ พยายามไปที่หน้าต่างที่มีลูกกรงติดอยู่ ควันเริ่มเป็นหมอกสีดำ พวกเขานอนลงกับพื้นพยายามสูดอากาศที่ยังมีหลงเหลืออยู่ในตึก ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกมานอกห้องนิรภัย จึงคลานมาที่ห้องนอนซึ่งมีหน้าต่างที่สามารถเปิดจากในห้องได้
    เจ้าหน้าที่คุ้มกันเริ่มหายใจไม่ออก และมองเห็นไม่ชัดเจนจากควันไฟ เขาพยายามกระโดดออกไปที่ระเบียง โดยเอากระสอบทรายคลุมตัว ยังไม่ทันไรเขาก็เจอไฟไหม้ทั้งตัว และพวกจู่โจมก็โหมยิงใส่เขานับไม่ถ้วน พวกจู่โจมมีเป็นสิบๆคน ทั้ง Stevens และ Smith ไม่ได้ตามเจ้าหน้าที่คุ้มกันไปที่หน้าต่าง เจ้าหน้าที่จึงปืนย้อนกลับมาหาทั้งสองคนใหม่ เขาหาทั้งสองคนไม่เจอ เขากลับออกไปใหม่เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ เขาปีนเข้าปีนออกอยู่หลายรอบ ก็ยังหาทั้งสองคนไม่เจอ คอและปอดเขาแสบไปหมด เขาพยายามปีนบันไดขึ้นไปบนหลังคา และก็หมดสติไปหลังจากที่วิทยุเรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นให้มาช่วย
    เจ้าหน้าที่อเมริกันอีก 4 คน ฟังเสียงพูดทางวิทยุเกือบไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันพวกจู่โจมก็บุกเข้ามาในตึก B ตึกเล็กที่อยู่ในบริเวณ แต่ไม่สามารถฝ่าแท่งกั้นเข้ามายังด้านในของห้องได้ และก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาในศูนย์ปฏิบัติการกลางได้
    ที่ตึก B และศูนย์ปฏิบัติการกลางดูเหมือนจะไม่มีโทรศัพท์สายตรง แต่พวกเขามองเห็นควันดำลอยขึ้นมา พวกเขาคิดว่าจะต้องไปที่ห้องนิรภัยของตึกกลางให้ได้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามเปิดประตูตึกกลาง โดยการโยนระเบิดใส่พวกจู่โจมเพื่อเปิดทาง เขากลับเข้ามาที่ตึก B ใหม่ รวมตัวกับอีก 2 คน แล้วทั้ง 3 ก็ไปที่รถ SUV หุ้มเกราะค่อยๆขับมาที่ตึกกลาง 2 คนพยายามยิงตรึงพวกจู่โจม ขณะที่อีก 1 คนพยายามเข้าไปที่ตึกกลาง เขาควานหา Stevens และ Smith และเมื่อควันหนาขึ้นเขาก็คลานออกมา เขาทำอยู่อย่างนี้จนหมดสภาพ เจ้าหน้าที่อีกคนเข้าไปแทน และก็อีกคน คนหนึ่งเจอ Smith และลากออกมา ปรากฏว่า Smith เสียชีวิตแล้วจากควันไฟ แต่พวกเขาก็ยังหา Stevens ยังไม่เจอ
    หน่วยกำลังเสริมมาถึง (ในรายงานไม่ได้ระบุว่ามาถึงเวลาใด) เจ้าหน้าที่อเมริกัน 6 คน จากหน่วยประจำการที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 ไมล์ มาพร้อมด้วยทหารอีก 16 คนจากหน่วยที่ 17th February Martyrs Brigade พวกเขาเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่ 1 คน ในศูนย์ปฏิบัติการกลาง ซึ่งพยายามโทรศัพท์เรียกหน่วยเสริมจากทุกแห่งรวมทั้งจาก Tripoli หลังจากนั้นพวกเขารวมตัวกันที่ประตูหน้าและจัดการหาตัว Stevens ใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังไม่พบ พวกอเมริกันและทหารลิเบียที่เป็นฝ่ายเดียวกันพยายามจะรักษากงสุลไว้ แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดพวกเขาจำเป็นต้องทิ้งกงสุลและอพยพออกไป เจ้าหน้าที่อัดตัวรวมกันอยู่ในรถ SUV พร้อมด้วยร่างของ Smith
    พวกอเมริกันที่หลบหนีออกมาโดนทั้งไฟเผาและถูกยิง พวกเขาพยายามฝ่าดงกระสุนออกมาจากบริเวณกงสุล รถวิ่งไปตามถนนเพื่อไปยังหน่วยเสริมกำลังของอเมริกัน ระหว่างทางพวกเขายังโดนไล่ยิงและปาระเบิดใส่ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน่วยเสริมกำลังจนได้ พวกเขาเข้าประจำที่และยิงต่อสู้กับพวกจู่โจมต่อ เช้ามืดกองกำลังอเมริกันจาก Tripoli บินมาสมทบ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป พวกอเมริกันเจ็บและตายเพิ่มขึ้น (ในจำนวนผู้ตาย มีเจ้าหน้าที่ CIA อีก 2 คน ชื่อ Tyrone S. Woods และ Glen Doherty เจ้าหน้าที่ Woods คือ คนที่อยู่กับฑูต Stevens ในห้องนิรภัยตอนแรก) ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจหนีออกไปจากเมือง พวกเขาได้จัดขบวนรถ SUV วิ่งไปทางสนามบินโดยความช่วยเหลือของทหารลิเบียที่เป็นพวก ในที่สุดก็ขึ้นเครื่องบิน 2 ลำ ออกมาได้หมดตอนเช้ามืดของวันนั้น
    ในที่สุดไฟที่สถานกงสุลก็เริ่มมอด พวกจู่โจมหายไปหมด ชาวลิเบียซึ่งอาจจะเป็นพวกที่ตั้งใจเข้าไปขโมยของ หรือเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น พาตัวเข้าไปที่ห้องนิรภัยจนได้ และพวกเขาก็พบ Stevens พวกเขาลากร่าง Stevens ออกมา แบกไปขึ้นรถและนำไปส่งโรงพยาบาล
    แพทย์ฉุกเฉินพยายามช่วยกู้ชีวิต Stevens อยู่ประมาณ 45 นาที แต่ไม่สำเร็จ และไม่สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เขาเจอมือถือที่กระเป๋าของ Stevens จึงเรียกหมายเลขต่างๆ ซึ่งกลายเป็นการพูดโทรศัพท์ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก
    คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 5 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 5 เมื่อความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุ มสถานกงสุลที่ Benghazi ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2012 Sean Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าว ยังนั่งเล่นเกมส์ Eve Online อยู่หน้าจอ เขาอายุ 34 ปี มาจากกองทัพอากาศและอยู่กระทรวงการต่างประเทศมากว่า 10 ปีแล้ว เมียและลูก 2 คน อยู่ที่ประเทศ Netherlands เขาเป็นคนที่เล่นเกมส์ Eve นี้อย่างติดพันโดยใช้ชื่อว่า vile_rat เขาพิมพ์ถึงคู่เล่นเขา6 นาที ก่อน 2 ทุ่ม ว่า “สมมุติว่าเรารอดตายจากคืนนี้” มันดูเป็นตลกโหด แต่ Smith ผ่านสถานการณ์หนักกว่า Benghazi มาเยอะแล้ว เขาพิมพ์ข้อความเพิ่ม “เราเห็นตำรวจคนหนึ่งที่ดูแลบริเวณ กำลังถ่ายรูป”
เขาคงจะหมายความถึง ชาวลิเบียพวกที่เดินตรวจการณ์อยู่รอบบริเวณกงสุล แต่ยังมีการ์ดอีก 9 คน อยู่ในบริเวณกงสุล 5 คนเป็นคนอเมริกันติดอาวุธพร้อม และอีก 4 คน เป็นทหารชาวลิเบียจากหน่วย 17th of February Martyrs Brigade เป็นทหารพวกเดียวกับที่ดูแล Stevens เมื่อเขามาอยู่ที่ Benghazi ในตอนแรก สองชั่วโมงต่อมา เวลา 9.40 น. vile_rat พิมพ์ว่า “ฉิบหายแล้ว เสียงปืนยิง” แล้วเขาก็เลิกติดต่อไป จากรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเห็นจากจอที่ monitor ประตูหน้ากงสุลว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากติดอาวุธกำลังบุกเข้ามา เป็นคนกลุ่มใหญ่มากจนนับไม่ไหว เขากดปุ่มเตือนภัย คว้าไมค์แล้วตะโกนว่า “ถูกโจมตี ! ถูกโจมตี !” เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยอีก 4 คนอยู่ในเรือนใหญ่กับ Stevens และ Smith คนหนึ่งรีบพา Stevens และ Smith เข้าไปที่ส่วนหลังของตึกและปลดแผงเหล็กปิดตึกในส่วนที่เป็นห้องนิรภัย เจ้าหน้าที่อีก 3 คน กระโดดไปคว้าปืนออโตเมติกและเสื้อเกราะ เจ้าหน้าที่ที่อยู่กับ Stevens และ Smith พูดวิทยุบอกว่าพวกเขาปลอดภัยดีและอยู่ในห้องนิรภัย ซุ้มทหารด้านหน้าใกล้ประตูทางเข้าเริ่มถูกไฟเผา และผู้โจมตีได้กระจายตัวไปรอบ ๆ บริเวณ พวกเขาพังประตูหน้าเข้ามาได้ และพยายามทำลายล็อคแผ่นเหล็กเพื่อเข้ามายังส่วนใน แต่ทำลายไม่สำเร็จ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลซุ่มเงียบอยู่ใต้เงามืด เตรียมพร้อมที่จะยิงถ้ามีใครบุกรุกเข้ามาในห้องนิรภัย แต่ไม่มีใครบุกรุกเข้ามา พวกจู่โจมกลับเอาน้ำมันดีเซลจากซุ้มทหารมาเทราดพื้นและเครื่องเรือน แล้วจุดไฟ หลังจากนั้นทั้งเรือนก็มีแต่ไฟลุกโชน ควันไฟผสมน้ำมันผสมเครื่องเรือนที่เริ่มละลาย เริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณกงสุล ทำให้พวกที่ซ่อนตัวเองอยู่ข้างในเริ่มสำลักควัน Stevens, Smith และผู้คุ้มกันย้ายไปที่ห้องน้ำ พยายามไปที่หน้าต่างที่มีลูกกรงติดอยู่ ควันเริ่มเป็นหมอกสีดำ พวกเขานอนลงกับพื้นพยายามสูดอากาศที่ยังมีหลงเหลืออยู่ในตึก ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกมานอกห้องนิรภัย จึงคลานมาที่ห้องนอนซึ่งมีหน้าต่างที่สามารถเปิดจากในห้องได้ เจ้าหน้าที่คุ้มกันเริ่มหายใจไม่ออก และมองเห็นไม่ชัดเจนจากควันไฟ เขาพยายามกระโดดออกไปที่ระเบียง โดยเอากระสอบทรายคลุมตัว ยังไม่ทันไรเขาก็เจอไฟไหม้ทั้งตัว และพวกจู่โจมก็โหมยิงใส่เขานับไม่ถ้วน พวกจู่โจมมีเป็นสิบๆคน ทั้ง Stevens และ Smith ไม่ได้ตามเจ้าหน้าที่คุ้มกันไปที่หน้าต่าง เจ้าหน้าที่จึงปืนย้อนกลับมาหาทั้งสองคนใหม่ เขาหาทั้งสองคนไม่เจอ เขากลับออกไปใหม่เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ เขาปีนเข้าปีนออกอยู่หลายรอบ ก็ยังหาทั้งสองคนไม่เจอ คอและปอดเขาแสบไปหมด เขาพยายามปีนบันไดขึ้นไปบนหลังคา และก็หมดสติไปหลังจากที่วิทยุเรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นให้มาช่วย เจ้าหน้าที่อเมริกันอีก 4 คน ฟังเสียงพูดทางวิทยุเกือบไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันพวกจู่โจมก็บุกเข้ามาในตึก B ตึกเล็กที่อยู่ในบริเวณ แต่ไม่สามารถฝ่าแท่งกั้นเข้ามายังด้านในของห้องได้ และก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาในศูนย์ปฏิบัติการกลางได้ ที่ตึก B และศูนย์ปฏิบัติการกลางดูเหมือนจะไม่มีโทรศัพท์สายตรง แต่พวกเขามองเห็นควันดำลอยขึ้นมา พวกเขาคิดว่าจะต้องไปที่ห้องนิรภัยของตึกกลางให้ได้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามเปิดประตูตึกกลาง โดยการโยนระเบิดใส่พวกจู่โจมเพื่อเปิดทาง เขากลับเข้ามาที่ตึก B ใหม่ รวมตัวกับอีก 2 คน แล้วทั้ง 3 ก็ไปที่รถ SUV หุ้มเกราะค่อยๆขับมาที่ตึกกลาง 2 คนพยายามยิงตรึงพวกจู่โจม ขณะที่อีก 1 คนพยายามเข้าไปที่ตึกกลาง เขาควานหา Stevens และ Smith และเมื่อควันหนาขึ้นเขาก็คลานออกมา เขาทำอยู่อย่างนี้จนหมดสภาพ เจ้าหน้าที่อีกคนเข้าไปแทน และก็อีกคน คนหนึ่งเจอ Smith และลากออกมา ปรากฏว่า Smith เสียชีวิตแล้วจากควันไฟ แต่พวกเขาก็ยังหา Stevens ยังไม่เจอ หน่วยกำลังเสริมมาถึง (ในรายงานไม่ได้ระบุว่ามาถึงเวลาใด) เจ้าหน้าที่อเมริกัน 6 คน จากหน่วยประจำการที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 ไมล์ มาพร้อมด้วยทหารอีก 16 คนจากหน่วยที่ 17th February Martyrs Brigade พวกเขาเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่ 1 คน ในศูนย์ปฏิบัติการกลาง ซึ่งพยายามโทรศัพท์เรียกหน่วยเสริมจากทุกแห่งรวมทั้งจาก Tripoli หลังจากนั้นพวกเขารวมตัวกันที่ประตูหน้าและจัดการหาตัว Stevens ใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังไม่พบ พวกอเมริกันและทหารลิเบียที่เป็นฝ่ายเดียวกันพยายามจะรักษากงสุลไว้ แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดพวกเขาจำเป็นต้องทิ้งกงสุลและอพยพออกไป เจ้าหน้าที่อัดตัวรวมกันอยู่ในรถ SUV พร้อมด้วยร่างของ Smith พวกอเมริกันที่หลบหนีออกมาโดนทั้งไฟเผาและถูกยิง พวกเขาพยายามฝ่าดงกระสุนออกมาจากบริเวณกงสุล รถวิ่งไปตามถนนเพื่อไปยังหน่วยเสริมกำลังของอเมริกัน ระหว่างทางพวกเขายังโดนไล่ยิงและปาระเบิดใส่ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน่วยเสริมกำลังจนได้ พวกเขาเข้าประจำที่และยิงต่อสู้กับพวกจู่โจมต่อ เช้ามืดกองกำลังอเมริกันจาก Tripoli บินมาสมทบ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป พวกอเมริกันเจ็บและตายเพิ่มขึ้น (ในจำนวนผู้ตาย มีเจ้าหน้าที่ CIA อีก 2 คน ชื่อ Tyrone S. Woods และ Glen Doherty เจ้าหน้าที่ Woods คือ คนที่อยู่กับฑูต Stevens ในห้องนิรภัยตอนแรก) ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจหนีออกไปจากเมือง พวกเขาได้จัดขบวนรถ SUV วิ่งไปทางสนามบินโดยความช่วยเหลือของทหารลิเบียที่เป็นพวก ในที่สุดก็ขึ้นเครื่องบิน 2 ลำ ออกมาได้หมดตอนเช้ามืดของวันนั้น ในที่สุดไฟที่สถานกงสุลก็เริ่มมอด พวกจู่โจมหายไปหมด ชาวลิเบียซึ่งอาจจะเป็นพวกที่ตั้งใจเข้าไปขโมยของ หรือเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น พาตัวเข้าไปที่ห้องนิรภัยจนได้ และพวกเขาก็พบ Stevens พวกเขาลากร่าง Stevens ออกมา แบกไปขึ้นรถและนำไปส่งโรงพยาบาล แพทย์ฉุกเฉินพยายามช่วยกู้ชีวิต Stevens อยู่ประมาณ 45 นาที แต่ไม่สำเร็จ และไม่สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เขาเจอมือถือที่กระเป๋าของ Stevens จึงเรียกหมายเลขต่างๆ ซึ่งกลายเป็นการพูดโทรศัพท์ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 4

    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 4
    ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2011 Feltman ซึ่งเป็นทั้งนายและเพื่อน Stevens เดินทางมา Benghazi เพื่อมาฟังความคืบหน้า ในการนัดพบครั้งหลังสุดในวันที่ 20 สิงหาคม กับแกนนำระดับสูงของฝ่ายกบฎ ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายอเมริกันอยากรู้ให้แน่ใจว่าฝ่ายกบฏจะบุก Tripoli เมื่อไหร่
    เมื่อทั้ง 2 คนเดินเข้าไปที่โรงแรม El Fadeel Hotel ซึ่งรัฐมนตรีนั่งคอยอยู่ในห้องประชุม Stevens กระซิบบอก Feltman ว่า เรายังมีเวลา เราไปนั่งสังเกตการณ์สักพักกันดีกว่า Stevens ชอบไปซุ่มสังเกตการณ์ตามร้านกาแฟ หรือตลาด ในสำนักงานหรือห้องรับแขก เขาต้องการได้ข้อมูล บางที่เป็นข้อมูลทั่วไป บางที่เป็นข้อมูลเฉพาะ เขาบอกว่าเราจะไม่ได้ข้อมูลนั้นจากการถามตรงๆหรอก เราจะได้จากการฟังมากกว่าการถาม แล้วเขาจะใช้วิธีหยุดฟังเวลาคุย หยุดเพื่อสร้างโอกาส ให้อีกฝ่ายพูดเติม
    รัฐมนตรีที่พวกอเมริกันจะไปคุยด้วยนี้ เป็นรัฐมนตรีที่ Qaddafi ตัดสินประหารชีวิตหลังจาก ที่เจ้าตัวหนีมาแล้ว รัฐมนตรีทักทายกับอเมริกันอย่างเป็นมิตร ชาถูกนำมาเสริฟ การสนทนาเริ่มขึ้น รัฐมนตรีเล่าถึงการที่เตรียมบุก Tripoli ซึ่งขณะนั้นการรบกำลังรุกไปที่ Soug-al-Jumaa เมืองที่อยู่ติด ๆ กับ Barghazi ส่วนเมืองอื่นๆจะลุกฮือพร้อมนำอาวุธที่ลอบนำเข้าไปไว้ในเมืองแล้ว และถึงตอนนั้นชาวเมือง Tripoli ก็จะประกาศว่าพวกเขาได้ทำการปฏิวัติแล้ว และกองกำลังคณะปฏิวัติก็จะรุกคืบไปทางตะวันออกต่อไป
    รัฐมนตรีอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติการอย่างชัดเจน แต่ Felthman ยังสงสัยว่า ไอ้ทีพูดมาทั้งหมดจะเชื่อถือได้ขนาดไหน
    “แล้วทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” Stevens ถาม
    “จวนแล้วละ” รัฐมนตรีตอบ
    Stevens จิบชา แล้วถามต่อว่า เออ ! จวนแล้วของคุณนี่หมายความว่าอย่างไรนะ
    “ในไม่ช้านี้ละ”
    “เราได้ยินมาแยะแล้ว” Stevens พูดนุ่มๆ และเงียบ มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่ทำให้อึดอัด แต่ดูเป็นการพักคิดมากกว่า Stevens เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้ความเงียบกลายเป็นการเชื้อเชิญ
    รัฐมนตรีพูดต่อว่า “มันจะเริ่มคืนนี้แล้วละ”
    นี่เป็นข้อมูลที่น่าตื่นเต้น สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง จังหวะเวลา การออกแบบ การจับอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้ในเมืองหลวงของประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการมากว่า 40 ปี ! ทั้ง Stevens และ Felthman ต่างรีบส่งรหัสลับรายงานไปทางวอซิงตัน แต่มันก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ใครจะรู้ว่าจะเชื่อใครได้ขนาดไหนในระหว่างการทำสงคราม ?
    ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินหลังกำแพง Château Christophe ความมืดค่อยๆเข้ามาครอบคลุมเถาองุ่นต้นฝรั่งและเรือนรับรอง หลังจากมืดสนิท Felthman ได้ยินเสียงของปืนไรเฟิลดังก้อง เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องเหมือนการเฉลิมฉลอง
    การต่อสู้ที่ Tripoli ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับเสียงสวดที่กำลังเริ่มเช่นกัน และเมืองที่ตื่นขึ้นมาเมืองแรกคือ Souq al-Jamaa
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 4 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 4 ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2011 Feltman ซึ่งเป็นทั้งนายและเพื่อน Stevens เดินทางมา Benghazi เพื่อมาฟังความคืบหน้า ในการนัดพบครั้งหลังสุดในวันที่ 20 สิงหาคม กับแกนนำระดับสูงของฝ่ายกบฎ ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายอเมริกันอยากรู้ให้แน่ใจว่าฝ่ายกบฏจะบุก Tripoli เมื่อไหร่ เมื่อทั้ง 2 คนเดินเข้าไปที่โรงแรม El Fadeel Hotel ซึ่งรัฐมนตรีนั่งคอยอยู่ในห้องประชุม Stevens กระซิบบอก Feltman ว่า เรายังมีเวลา เราไปนั่งสังเกตการณ์สักพักกันดีกว่า Stevens ชอบไปซุ่มสังเกตการณ์ตามร้านกาแฟ หรือตลาด ในสำนักงานหรือห้องรับแขก เขาต้องการได้ข้อมูล บางที่เป็นข้อมูลทั่วไป บางที่เป็นข้อมูลเฉพาะ เขาบอกว่าเราจะไม่ได้ข้อมูลนั้นจากการถามตรงๆหรอก เราจะได้จากการฟังมากกว่าการถาม แล้วเขาจะใช้วิธีหยุดฟังเวลาคุย หยุดเพื่อสร้างโอกาส ให้อีกฝ่ายพูดเติม รัฐมนตรีที่พวกอเมริกันจะไปคุยด้วยนี้ เป็นรัฐมนตรีที่ Qaddafi ตัดสินประหารชีวิตหลังจาก ที่เจ้าตัวหนีมาแล้ว รัฐมนตรีทักทายกับอเมริกันอย่างเป็นมิตร ชาถูกนำมาเสริฟ การสนทนาเริ่มขึ้น รัฐมนตรีเล่าถึงการที่เตรียมบุก Tripoli ซึ่งขณะนั้นการรบกำลังรุกไปที่ Soug-al-Jumaa เมืองที่อยู่ติด ๆ กับ Barghazi ส่วนเมืองอื่นๆจะลุกฮือพร้อมนำอาวุธที่ลอบนำเข้าไปไว้ในเมืองแล้ว และถึงตอนนั้นชาวเมือง Tripoli ก็จะประกาศว่าพวกเขาได้ทำการปฏิวัติแล้ว และกองกำลังคณะปฏิวัติก็จะรุกคืบไปทางตะวันออกต่อไป รัฐมนตรีอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติการอย่างชัดเจน แต่ Felthman ยังสงสัยว่า ไอ้ทีพูดมาทั้งหมดจะเชื่อถือได้ขนาดไหน “แล้วทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” Stevens ถาม “จวนแล้วละ” รัฐมนตรีตอบ Stevens จิบชา แล้วถามต่อว่า เออ ! จวนแล้วของคุณนี่หมายความว่าอย่างไรนะ “ในไม่ช้านี้ละ” “เราได้ยินมาแยะแล้ว” Stevens พูดนุ่มๆ และเงียบ มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่ทำให้อึดอัด แต่ดูเป็นการพักคิดมากกว่า Stevens เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้ความเงียบกลายเป็นการเชื้อเชิญ รัฐมนตรีพูดต่อว่า “มันจะเริ่มคืนนี้แล้วละ” นี่เป็นข้อมูลที่น่าตื่นเต้น สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง จังหวะเวลา การออกแบบ การจับอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้ในเมืองหลวงของประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการมากว่า 40 ปี ! ทั้ง Stevens และ Felthman ต่างรีบส่งรหัสลับรายงานไปทางวอซิงตัน แต่มันก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ใครจะรู้ว่าจะเชื่อใครได้ขนาดไหนในระหว่างการทำสงคราม ? ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินหลังกำแพง Château Christophe ความมืดค่อยๆเข้ามาครอบคลุมเถาองุ่นต้นฝรั่งและเรือนรับรอง หลังจากมืดสนิท Felthman ได้ยินเสียงของปืนไรเฟิลดังก้อง เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องเหมือนการเฉลิมฉลอง การต่อสู้ที่ Tripoli ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับเสียงสวดที่กำลังเริ่มเช่นกัน และเมืองที่ตื่นขึ้นมาเมืองแรกคือ Souq al-Jamaa คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • สทร.สูงสุดคืนสู่สามัญ 'ทักษิณ' ชีวิตในเรือนจำ อาจได้เรียกสติกลับมา : ข่าวลึกปมลับ 16/09/68
    สทร.สูงสุดคืนสู่สามัญ 'ทักษิณ' ชีวิตในเรือนจำ อาจได้เรียกสติกลับมา : ข่าวลึกปมลับ 16/09/68
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI”

    ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น

    Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที

    Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง

    Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน

    Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok

    แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน
    Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต
    Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง
    Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI
    Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600

    ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม
    2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต
    80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น
    คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด
    ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2
    AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น
    การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ
    แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย
    การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
    แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์
    ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ
    การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    💬 “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI” ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ✅ ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน ➡️ Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต ➡️ Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง ➡️ Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI ➡️ Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600 ✅ ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม ➡️ 2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต ➡️ 80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น ➡️ คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด ➡️ ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2 ➡️ AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น ➡️ การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ ➡️ แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย ⛔ การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⛔ แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์ ⛔ ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    They had money problems. They turned to ChatGPT for solutions.
    More people are turning to generative A.I. chatbots for financial advice, whether it's for debt management, better saving strategies or stock picks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI ช่วยชาวไร่เล็กในมาลาวีฟื้นฟูหลังพายุ — เมื่อแชตบอตกลายเป็นผู้แนะนำการเพาะปลูกที่เปลี่ยนชีวิต”

    หลังจากพายุไซโคลน Freddy ถล่มพื้นที่ตอนใต้ของมาลาวีในปี 2023 ชาวไร่เล็กอย่าง Alex Maere สูญเสียไร่ข้าวโพดที่เคยผลิตได้ถึง 850 กิโลกรัมต่อฤดูกาล เหลือเพียง 8 กิโลกรัมจากดินที่ถูกน้ำพัดหายไป เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอด

    Maere เป็นหนึ่งในชาวไร่หลายพันคนที่เริ่มใช้แชตบอต AI ชื่อ “Ulangizi” ซึ่งพัฒนาโดยองค์กรไม่แสวงกำไร Opportunity International โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาลาวี แชตบอตนี้ทำงานผ่าน WhatsApp และรองรับทั้งภาษาอังกฤษและ Chichewa ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของประเทศ

    Ulangizi ไม่เพียงให้คำแนะนำทั่วไป แต่สามารถวิเคราะห์สภาพดินและเสนอพืชที่เหมาะสม เช่น แนะนำให้ Maere ปลูกมันฝรั่งร่วมกับข้าวโพดและมันสำปะหลัง ซึ่งทำให้เขาสามารถขายผลผลิตได้มากกว่า 800 ดอลลาร์ และนำเงินไปจ่ายค่าเรียนให้ลูก ๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล

    ในระดับประเทศ มาลาวีกำลังเผชิญกับวิกฤตอาหารจากภัยธรรมชาติและผลกระทบของเอลนีโญ ซึ่งส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยกว่า 80% ของประชากร 21 ล้านคนพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีอัตราความยากจนสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

    แม้ AI จะช่วยยกระดับการเกษตรในแอฟริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การวินิจฉัยโรคพืช การพยากรณ์ภัยแล้ง และการออกแบบปุ๋ย แต่ก็ยังมีอุปสรรค เช่น ความหลากหลายทางภาษา การรู้หนังสือที่ต่ำ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่ทั่วถึงในพื้นที่ชนบท

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Alex Maere สูญเสียไร่จากพายุไซโคลน Freddy และหันมาใช้แชตบอต AI เพื่อฟื้นฟู
    แชตบอต “Ulangizi” พัฒนาโดย Opportunity International และทำงานผ่าน WhatsApp
    รองรับภาษาอังกฤษและ Chichewa — ใช้ได้แม้ผู้ใช้ไม่รู้หนังสือ
    แนะนำให้ปลูกมันฝรั่งร่วมกับพืชเดิม — ทำรายได้กว่า $800

    ผลกระทบในระดับประเทศ
    รัฐบาลมาลาวีสนับสนุนโครงการนี้เพื่อรับมือกับวิกฤตอาหาร
    กว่า 80% ของประชากรพึ่งพาเกษตรกรรม — เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้ง
    มาลาวีมีอัตราความยากจนสูง และได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติหลายครั้ง
    โครงการนี้ช่วยให้ชาวไร่เล็กเข้าถึงข้อมูลการเกษตรที่เคยเป็นเรื่องไกลตัว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    แอฟริกามีฟาร์มขนาดเล็กกว่า 33–50 ล้านแห่ง ผลิตอาหารถึง 70–80% ของภูมิภาค
    การลงทุนในเทคโนโลยีเกษตรในแอฟริกาเพิ่มจาก $10 ล้าน ในปี 2014 เป็น $600 ล้าน ในปี 2022
    AI ช่วยวินิจฉัยโรคพืช ออกแบบปุ๋ย และค้นหาเครื่องมือเกษตรราคาถูก
    การใช้เสียงและภาพในแชตบอตช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่รู้หนังสือสามารถเข้าถึงข้อมูลได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/15/how-ai-is-helping-some-small-scale-farmers-weather-a-changing-climate
    🌾 “AI ช่วยชาวไร่เล็กในมาลาวีฟื้นฟูหลังพายุ — เมื่อแชตบอตกลายเป็นผู้แนะนำการเพาะปลูกที่เปลี่ยนชีวิต” หลังจากพายุไซโคลน Freddy ถล่มพื้นที่ตอนใต้ของมาลาวีในปี 2023 ชาวไร่เล็กอย่าง Alex Maere สูญเสียไร่ข้าวโพดที่เคยผลิตได้ถึง 850 กิโลกรัมต่อฤดูกาล เหลือเพียง 8 กิโลกรัมจากดินที่ถูกน้ำพัดหายไป เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอด Maere เป็นหนึ่งในชาวไร่หลายพันคนที่เริ่มใช้แชตบอต AI ชื่อ “Ulangizi” ซึ่งพัฒนาโดยองค์กรไม่แสวงกำไร Opportunity International โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาลาวี แชตบอตนี้ทำงานผ่าน WhatsApp และรองรับทั้งภาษาอังกฤษและ Chichewa ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของประเทศ Ulangizi ไม่เพียงให้คำแนะนำทั่วไป แต่สามารถวิเคราะห์สภาพดินและเสนอพืชที่เหมาะสม เช่น แนะนำให้ Maere ปลูกมันฝรั่งร่วมกับข้าวโพดและมันสำปะหลัง ซึ่งทำให้เขาสามารถขายผลผลิตได้มากกว่า 800 ดอลลาร์ และนำเงินไปจ่ายค่าเรียนให้ลูก ๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล ในระดับประเทศ มาลาวีกำลังเผชิญกับวิกฤตอาหารจากภัยธรรมชาติและผลกระทบของเอลนีโญ ซึ่งส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยกว่า 80% ของประชากร 21 ล้านคนพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีอัตราความยากจนสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แม้ AI จะช่วยยกระดับการเกษตรในแอฟริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การวินิจฉัยโรคพืช การพยากรณ์ภัยแล้ง และการออกแบบปุ๋ย แต่ก็ยังมีอุปสรรค เช่น ความหลากหลายทางภาษา การรู้หนังสือที่ต่ำ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่ทั่วถึงในพื้นที่ชนบท ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Alex Maere สูญเสียไร่จากพายุไซโคลน Freddy และหันมาใช้แชตบอต AI เพื่อฟื้นฟู ➡️ แชตบอต “Ulangizi” พัฒนาโดย Opportunity International และทำงานผ่าน WhatsApp ➡️ รองรับภาษาอังกฤษและ Chichewa — ใช้ได้แม้ผู้ใช้ไม่รู้หนังสือ ➡️ แนะนำให้ปลูกมันฝรั่งร่วมกับพืชเดิม — ทำรายได้กว่า $800 ✅ ผลกระทบในระดับประเทศ ➡️ รัฐบาลมาลาวีสนับสนุนโครงการนี้เพื่อรับมือกับวิกฤตอาหาร ➡️ กว่า 80% ของประชากรพึ่งพาเกษตรกรรม — เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้ง ➡️ มาลาวีมีอัตราความยากจนสูง และได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติหลายครั้ง ➡️ โครงการนี้ช่วยให้ชาวไร่เล็กเข้าถึงข้อมูลการเกษตรที่เคยเป็นเรื่องไกลตัว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ แอฟริกามีฟาร์มขนาดเล็กกว่า 33–50 ล้านแห่ง ผลิตอาหารถึง 70–80% ของภูมิภาค ➡️ การลงทุนในเทคโนโลยีเกษตรในแอฟริกาเพิ่มจาก $10 ล้าน ในปี 2014 เป็น $600 ล้าน ในปี 2022 ➡️ AI ช่วยวินิจฉัยโรคพืช ออกแบบปุ๋ย และค้นหาเครื่องมือเกษตรราคาถูก ➡️ การใช้เสียงและภาพในแชตบอตช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่รู้หนังสือสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/15/how-ai-is-helping-some-small-scale-farmers-weather-a-changing-climate
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI is helping some small-scale farmers weather a changing climate
    Alex Maere survived the destruction of Cyclone Freddy when it tore through southern Malawi in 2023. His farm didn't.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คิดช้าไม่ใช่ข้อเสีย — เมื่อการประมวลผลช้ากลายเป็นจุดแข็งของนักวิทยาศาสตร์สายลึก”

    บทความจาก Casual Physics Enjoyer ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “คนคิดช้า” หรือผู้ที่มี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยผู้เขียนซึ่งเป็นนักวิจัยสายฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนหัวไว ไม่เก่งตอบคำถามเร็ว ไม่คล่องแคล่วในบทสนทนา และมักรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงสนทนาในงานวิจัย

    แต่แทนที่จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้คิดเร็วขึ้น เขาเลือกที่จะ “โอบรับ” สไตล์การคิดของตัวเอง และพบว่ามันมีข้อดีที่ไม่คาดคิด เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การทำงานที่ต้องใช้ความอดทน และการเขียนที่ต้องใช้เวลาเรียบเรียงอย่างละเอียด ซึ่งเหมาะกับงานวิจัยระยะยาวและการพัฒนาไอเดียที่ซับซ้อน

    เขายกตัวอย่างจากชีวิตจริง เช่น การเล่นวอลเลย์บอลที่ต้องตัดสินใจเร็วซึ่งเขาทำได้ไม่ดี หรือการสอบสัมภาษณ์ที่ต้องตอบคำถามเร็ว ๆ ซึ่งเขาต้องฝึกหนักล่วงหน้าเพื่อให้ผ่านได้ แต่เมื่อกลับสู่สภาวะปกติ เขาก็กลับไปเป็นคนคิดช้าเหมือนเดิม

    สิ่งที่เปลี่ยนความคิดของเขาคือการสังเกตว่า คนคิดเร็วและคนคิดช้าในแวดวงเดียวกันมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน และคนคิดช้ามักมี “กลไกชดเชย” เช่น การวางแผนล่วงหน้า การเขียนเพื่อสื่อสารแทนการพูด และการใช้เวลาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งในงานวิจัยที่ต้องการความละเอียดและความอดทน

    เขายังอ้างถึง Katalin Karikó ผู้พัฒนา mRNA vaccine ว่าเป็นตัวอย่างของนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ความคิดแบบช้าและเป็นระบบในการทำงาน และพบว่าการคิดช้าอาจเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากกว่าความเร็ว

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    ผู้เขียนยอมรับว่าตนมี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย — ไม่ใช่คนหัวไว
    เคยรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในแวดวงที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงวิจัย
    เลือกโอบรับสไตล์การคิดของตัวเองแทนการฝืนเปลี่ยน
    พบว่าการคิดช้าเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความอดทน เช่น วิจัย ฟิสิกส์ทฤษฎี และการเขียน

    ตัวอย่างการชดเชยและข้อดีของการคิดช้า
    ใช้การเขียนแทนการพูดเพื่อสื่อสารความคิดอย่างมีโครงสร้าง
    ใช้เวลาไตร่ตรองไอเดียอย่างลึกซึ้ง — เหมาะกับงานวิจัยระยะยาว
    เลือกงานที่ไม่ต้องตัดสินใจเร็ว เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือทำงานเดี่ยว
    สังเกตว่าคนคิดช้าและคนคิดเร็วมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก Caltech พบว่ามนุษย์ประมวลผลข้อมูลได้เพียง 10 bits/วินาที — ช้ากว่าที่คิดมาก
    สมองมี “คอขวด” ทางการประมวลผล แม้รับข้อมูลจากตาและหูได้มหาศาล
    การคิดช้าอาจเป็นผลจากวิวัฒนาการที่เน้นความแม่นยำมากกว่าความเร็ว
    การทำงานแบบ deep work และการเขียนเชิงวิเคราะห์เหมาะกับคนคิดช้า

    https://chillphysicsenjoyer.substack.com/p/youre-a-slow-thinker-now-what
    🐢 “คิดช้าไม่ใช่ข้อเสีย — เมื่อการประมวลผลช้ากลายเป็นจุดแข็งของนักวิทยาศาสตร์สายลึก” บทความจาก Casual Physics Enjoyer ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “คนคิดช้า” หรือผู้ที่มี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยผู้เขียนซึ่งเป็นนักวิจัยสายฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนหัวไว ไม่เก่งตอบคำถามเร็ว ไม่คล่องแคล่วในบทสนทนา และมักรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงสนทนาในงานวิจัย แต่แทนที่จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้คิดเร็วขึ้น เขาเลือกที่จะ “โอบรับ” สไตล์การคิดของตัวเอง และพบว่ามันมีข้อดีที่ไม่คาดคิด เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การทำงานที่ต้องใช้ความอดทน และการเขียนที่ต้องใช้เวลาเรียบเรียงอย่างละเอียด ซึ่งเหมาะกับงานวิจัยระยะยาวและการพัฒนาไอเดียที่ซับซ้อน เขายกตัวอย่างจากชีวิตจริง เช่น การเล่นวอลเลย์บอลที่ต้องตัดสินใจเร็วซึ่งเขาทำได้ไม่ดี หรือการสอบสัมภาษณ์ที่ต้องตอบคำถามเร็ว ๆ ซึ่งเขาต้องฝึกหนักล่วงหน้าเพื่อให้ผ่านได้ แต่เมื่อกลับสู่สภาวะปกติ เขาก็กลับไปเป็นคนคิดช้าเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนความคิดของเขาคือการสังเกตว่า คนคิดเร็วและคนคิดช้าในแวดวงเดียวกันมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน และคนคิดช้ามักมี “กลไกชดเชย” เช่น การวางแผนล่วงหน้า การเขียนเพื่อสื่อสารแทนการพูด และการใช้เวลาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งในงานวิจัยที่ต้องการความละเอียดและความอดทน เขายังอ้างถึง Katalin Karikó ผู้พัฒนา mRNA vaccine ว่าเป็นตัวอย่างของนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ความคิดแบบช้าและเป็นระบบในการทำงาน และพบว่าการคิดช้าอาจเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากกว่าความเร็ว ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ ผู้เขียนยอมรับว่าตนมี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย — ไม่ใช่คนหัวไว ➡️ เคยรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในแวดวงที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงวิจัย ➡️ เลือกโอบรับสไตล์การคิดของตัวเองแทนการฝืนเปลี่ยน ➡️ พบว่าการคิดช้าเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความอดทน เช่น วิจัย ฟิสิกส์ทฤษฎี และการเขียน ✅ ตัวอย่างการชดเชยและข้อดีของการคิดช้า ➡️ ใช้การเขียนแทนการพูดเพื่อสื่อสารความคิดอย่างมีโครงสร้าง ➡️ ใช้เวลาไตร่ตรองไอเดียอย่างลึกซึ้ง — เหมาะกับงานวิจัยระยะยาว ➡️ เลือกงานที่ไม่ต้องตัดสินใจเร็ว เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือทำงานเดี่ยว ➡️ สังเกตว่าคนคิดช้าและคนคิดเร็วมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก Caltech พบว่ามนุษย์ประมวลผลข้อมูลได้เพียง 10 bits/วินาที — ช้ากว่าที่คิดมาก ➡️ สมองมี “คอขวด” ทางการประมวลผล แม้รับข้อมูลจากตาและหูได้มหาศาล ➡️ การคิดช้าอาจเป็นผลจากวิวัฒนาการที่เน้นความแม่นยำมากกว่าความเร็ว ➡️ การทำงานแบบ deep work และการเขียนเชิงวิเคราะห์เหมาะกับคนคิดช้า https://chillphysicsenjoyer.substack.com/p/youre-a-slow-thinker-now-what
    CHILLPHYSICSENJOYER.SUBSTACK.COM
    You're a Slow Thinker. Now what?
    Figuring out how to lean in to my thinking style
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทำไมเราถึง ‘วนลูป’ ความคิดลบ — เมื่อคำพูดธรรมดาอาจกระตุ้นคำถามใหญ่ในใจ และเปลี่ยนชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว”

    Gregory M. Walton นักจิตวิทยาจาก Stanford ได้เขียนบทความใน Behavioral Scientist เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่หลายคนเคยเจอแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร — การ “วนลูป” ความคิดลบที่เริ่มจากเหตุการณ์เล็ก ๆ แล้วขยายกลายเป็นความรู้สึกด้อยค่า ความไม่มั่นใจ และการกระทำที่ทำร้ายตัวเองโดยไม่ตั้งใจ

    เขายกตัวอย่างง่าย ๆ: ถ้าคุณเป็นพนักงานอาวุโสแล้วเข้าสายในการประชุม Zoom คำพูดประชดจากเพื่อนอาจฟังดูขำ ๆ แล้วก็ผ่านไป แต่ถ้าคุณเป็นพนักงานใหม่ คำพูดเดียวกันจากหัวหน้าอาจกระตุ้นคำถามในใจว่า “ฉันเหมาะกับที่นี่ไหม?” “เขาไม่ชอบฉันหรือเปล่า?” แล้วความคิดเหล่านั้นก็เริ่มหมุนวนไม่หยุด

    Walton เรียกกระบวนการนี้ว่า “สาม C” ของการวนลูป ได้แก่:

    1️⃣Core Questions — คำถามพื้นฐานในชีวิต เช่น ฉันมีคุณค่าไหม? ฉันเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า?

    2️⃣ Construal — การตีความโลกผ่านเลนส์ของคำถามนั้น เช่น ถ้าเรากังวลว่าไม่เป็นที่ยอมรับ เราอาจมองทุกการกระทำของคนอื่นว่าเป็นการปฏิเสธ

    3️⃣ Calcification — เมื่อความคิดลบฝังแน่นจากการกระทำของเราเอง เช่น เราตอบกลับข้อความด้วยความประชด แล้วคนที่ส่งมาก็เริ่มตีตัวออกห่าง

    Walton เสนอว่าเราสามารถ “หยุดลูป” ได้ ด้วยการเข้าใจว่าคำถามในใจเราคืออะไร และหาวิธีตอบมันอย่างมีสติ เช่น การใช้ “wise interventions” — การแทรกแซงทางจิตวิทยาเล็ก ๆ ที่มีผลระยะยาว เช่น จดหมายให้กำลังใจ, การสะท้อนความรู้สึก, หรือแม้แต่การเข้าใจว่า “ทุกคนก็เคยรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับ” ก็ช่วยให้เราหยุดลูปได้

    กระบวนการวนลูปทางจิตใจ
    เริ่มจากคำถามพื้นฐานในใจ เช่น “ฉันมีคุณค่าไหม?” “ฉันเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า?”
    เหตุการณ์เล็ก ๆ เช่นคำพูดประชด อาจกระตุ้นคำถามนั้นให้ลุกขึ้นมา
    เราตีความสิ่งรอบตัวผ่านเลนส์ของคำถามนั้น — เห็นหลักฐานยืนยันความคิดลบ
    เราเริ่มกระทำตามความคิดนั้น เช่น ตอบกลับประชด หรือแยกตัวออกจากคนอื่น

    แนวทางหยุดลูปและสร้างลูปบวก
    เข้าใจว่า “core question” ของเราคืออะไร และมันกำลังทำงานอยู่หรือไม่
    ใช้ “wise interventions” เช่น การสะท้อนความรู้สึก หรือการให้ข้อมูลที่เปลี่ยนมุมมอง
    ตัวอย่างเช่น จดหมายให้กำลังใจสามารถลดอัตราการกลับไปกระทำผิดของเยาวชน
    การสะท้อนเรื่อง “ความเป็นส่วนหนึ่ง” ในปีแรกของมหาวิทยาลัย ส่งผลต่อความสุขและความสำเร็จในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    “Confirmation bias” คือแนวโน้มที่เราจะมองหาหลักฐานที่ยืนยันความเชื่อเดิม
    “Tifbit” คือคำที่ Walton ใช้เรียก “tiny fact, big theory” — เหตุการณ์เล็กที่กระตุ้นความคิดใหญ่
    การเข้าใจว่าเราทุกคนมีคำถามในใจเหมือนกัน ช่วยให้เรามีเมตตาต่อตัวเองและผู้อื่น
    การสร้างลูปบวกเริ่มจากการให้คำตอบที่ดีต่อคำถามในใจ — ไม่ใช่การหลีกเลี่ยง

    https://behavioralscientist.org/why-we-spiral/
    🌀 “ทำไมเราถึง ‘วนลูป’ ความคิดลบ — เมื่อคำพูดธรรมดาอาจกระตุ้นคำถามใหญ่ในใจ และเปลี่ยนชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว” Gregory M. Walton นักจิตวิทยาจาก Stanford ได้เขียนบทความใน Behavioral Scientist เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่หลายคนเคยเจอแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร — การ “วนลูป” ความคิดลบที่เริ่มจากเหตุการณ์เล็ก ๆ แล้วขยายกลายเป็นความรู้สึกด้อยค่า ความไม่มั่นใจ และการกระทำที่ทำร้ายตัวเองโดยไม่ตั้งใจ เขายกตัวอย่างง่าย ๆ: ถ้าคุณเป็นพนักงานอาวุโสแล้วเข้าสายในการประชุม Zoom คำพูดประชดจากเพื่อนอาจฟังดูขำ ๆ แล้วก็ผ่านไป แต่ถ้าคุณเป็นพนักงานใหม่ คำพูดเดียวกันจากหัวหน้าอาจกระตุ้นคำถามในใจว่า “ฉันเหมาะกับที่นี่ไหม?” “เขาไม่ชอบฉันหรือเปล่า?” แล้วความคิดเหล่านั้นก็เริ่มหมุนวนไม่หยุด Walton เรียกกระบวนการนี้ว่า “สาม C” ของการวนลูป ได้แก่: 1️⃣Core Questions — คำถามพื้นฐานในชีวิต เช่น ฉันมีคุณค่าไหม? ฉันเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า? 2️⃣ Construal — การตีความโลกผ่านเลนส์ของคำถามนั้น เช่น ถ้าเรากังวลว่าไม่เป็นที่ยอมรับ เราอาจมองทุกการกระทำของคนอื่นว่าเป็นการปฏิเสธ 3️⃣ Calcification — เมื่อความคิดลบฝังแน่นจากการกระทำของเราเอง เช่น เราตอบกลับข้อความด้วยความประชด แล้วคนที่ส่งมาก็เริ่มตีตัวออกห่าง Walton เสนอว่าเราสามารถ “หยุดลูป” ได้ ด้วยการเข้าใจว่าคำถามในใจเราคืออะไร และหาวิธีตอบมันอย่างมีสติ เช่น การใช้ “wise interventions” — การแทรกแซงทางจิตวิทยาเล็ก ๆ ที่มีผลระยะยาว เช่น จดหมายให้กำลังใจ, การสะท้อนความรู้สึก, หรือแม้แต่การเข้าใจว่า “ทุกคนก็เคยรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับ” ก็ช่วยให้เราหยุดลูปได้ ✅ กระบวนการวนลูปทางจิตใจ ➡️ เริ่มจากคำถามพื้นฐานในใจ เช่น “ฉันมีคุณค่าไหม?” “ฉันเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า?” ➡️ เหตุการณ์เล็ก ๆ เช่นคำพูดประชด อาจกระตุ้นคำถามนั้นให้ลุกขึ้นมา ➡️ เราตีความสิ่งรอบตัวผ่านเลนส์ของคำถามนั้น — เห็นหลักฐานยืนยันความคิดลบ ➡️ เราเริ่มกระทำตามความคิดนั้น เช่น ตอบกลับประชด หรือแยกตัวออกจากคนอื่น ✅ แนวทางหยุดลูปและสร้างลูปบวก ➡️ เข้าใจว่า “core question” ของเราคืออะไร และมันกำลังทำงานอยู่หรือไม่ ➡️ ใช้ “wise interventions” เช่น การสะท้อนความรู้สึก หรือการให้ข้อมูลที่เปลี่ยนมุมมอง ➡️ ตัวอย่างเช่น จดหมายให้กำลังใจสามารถลดอัตราการกลับไปกระทำผิดของเยาวชน ➡️ การสะท้อนเรื่อง “ความเป็นส่วนหนึ่ง” ในปีแรกของมหาวิทยาลัย ส่งผลต่อความสุขและความสำเร็จในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ “Confirmation bias” คือแนวโน้มที่เราจะมองหาหลักฐานที่ยืนยันความเชื่อเดิม ➡️ “Tifbit” คือคำที่ Walton ใช้เรียก “tiny fact, big theory” — เหตุการณ์เล็กที่กระตุ้นความคิดใหญ่ ➡️ การเข้าใจว่าเราทุกคนมีคำถามในใจเหมือนกัน ช่วยให้เรามีเมตตาต่อตัวเองและผู้อื่น ➡️ การสร้างลูปบวกเริ่มจากการให้คำตอบที่ดีต่อคำถามในใจ — ไม่ใช่การหลีกเลี่ยง https://behavioralscientist.org/why-we-spiral/
    BEHAVIORALSCIENTIST.ORG
    Why We Spiral - by Gregory M. Walton - Behavioral Scientist
    Questions of who we are or what we’re worth can send us into a tailspin. But the very same processes that pull us down can propel us up, too.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำโลกอาหรับเสร็จสิ้นการประชุมฉุกเฉินที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์แล้ว ซึ่งการประชุมเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลโจมตีกลางกรุงโดฮา เพื่อหวังสังหารกลุ่มผู้นำฮามาส แต่พลาดท่าไม่สำเร็จ โดยในการโจมตีครั้งนี้นอกจากเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับล่างของฮามาสที่เสียชีวิต ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลของกาตาร์เสียชีวิตหนึ่งราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย

    ในการแถลงข่าวปิดการประชุมที่กรุงโดฮา ที่สมาชิกอาหรับทั้งหมดได้ย้ำจุดยืนแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับกาตาร์ หลังจากเกิดเหตุโจมตีดังกล่าว โดยแถลงว่า "ความมั่นคงของรัฐสมาชิกเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้" และเรียกร้องไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล เพื่อกดดันพวกเขา “พวกเราคาดหวังให้พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของเรา คือสหรัฐฯ ใช้อิทธิพลที่มีต่ออิสราเอลเพื่อหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ เราคาดหวังอย่างแท้จริงสหรัฐฯ มีอำนาจต่อรองและอิทธิพลต่ออิสราเอล และถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำอิทธิพลนั้นมาใช้”

    อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้นำประเทศอาหรับยังเรียกร้องให้มีการดำเนินมาตรการเพื่อ "เปิดใช้งานกลไกป้องกันร่วมของกลุ่ม" แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในขณะนี้
    ผู้นำโลกอาหรับเสร็จสิ้นการประชุมฉุกเฉินที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์แล้ว ซึ่งการประชุมเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลโจมตีกลางกรุงโดฮา เพื่อหวังสังหารกลุ่มผู้นำฮามาส แต่พลาดท่าไม่สำเร็จ โดยในการโจมตีครั้งนี้นอกจากเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับล่างของฮามาสที่เสียชีวิต ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลของกาตาร์เสียชีวิตหนึ่งราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย ในการแถลงข่าวปิดการประชุมที่กรุงโดฮา ที่สมาชิกอาหรับทั้งหมดได้ย้ำจุดยืนแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับกาตาร์ หลังจากเกิดเหตุโจมตีดังกล่าว โดยแถลงว่า "ความมั่นคงของรัฐสมาชิกเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้" และเรียกร้องไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล เพื่อกดดันพวกเขา “พวกเราคาดหวังให้พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของเรา คือสหรัฐฯ ใช้อิทธิพลที่มีต่ออิสราเอลเพื่อหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ เราคาดหวังอย่างแท้จริงสหรัฐฯ มีอำนาจต่อรองและอิทธิพลต่ออิสราเอล และถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำอิทธิพลนั้นมาใช้” อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้นำประเทศอาหรับยังเรียกร้องให้มีการดำเนินมาตรการเพื่อ "เปิดใช้งานกลไกป้องกันร่วมของกลุ่ม" แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในขณะนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.วีระต้องเล่นงานให้หนักแก้แค้นแทนคนไทยทั้งประเทศ ม.157และ ม.119ชัดเจนโทษสูงสุดคือประหารชีวิต สังเวยคนไทยที่บริสุทธิ์และทหารไทยเราที่ทั้งหมดต้องสูญเสียชีวิตมากมาย พิการและบาดเจ็บนับไม่ถ้วนเรื่อยมาจนถึงสงครามเขมรเปิดก่อนยิงระเบิดใส่คนไทยเราตายเกือบหมดครอบครัว มันต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมดที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินอธิปไตยไทยเพราะหวังแดกประโยชน์จากบ่อน้ำมันในอ่าวไทยที่ใช้1:200,000ของ mou43นี้เป็นมูลเหตุก่อการ,ถึงเวลา อ.วีระเดินเครื่องเต็มที่โดยใช้กรณี อ.วีระถูกจับที่บ้านหนองจานและมันในนามรัฐบาลมันเป็นถึงนายกฯบวกกต.บวก กลาโหม.ไม่เต็มที่ในการช่วยเหลือ อ.วีระเลย.กลับบอกให้ยอมรับผิดว่ารุกล้ำแผ่นดินเขมรยืนบนแผ่นดินเขมรจึงสมควรถูกเขมรจับเสียนั้น,นี้คือคดีระยำบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ตำนานมหากาฬของขบวนขายชาติขายบ้านขายเมืองขายแผ่นดินไทยอันใหญ่โตอีกยุคสมัยหนึ่งจากไส้ศึกภายในชาติไทยตนเองนี้เอง.,สมควรที่เสื้อแดงไล่เหยียบจนหนีตายในเวลานั้น.

    https://youtube.com/shorts/_PoY5DsF0ZA?si=moaJ5Qv-vzUf5YSu
    อ.วีระต้องเล่นงานให้หนักแก้แค้นแทนคนไทยทั้งประเทศ ม.157และ ม.119ชัดเจนโทษสูงสุดคือประหารชีวิต สังเวยคนไทยที่บริสุทธิ์และทหารไทยเราที่ทั้งหมดต้องสูญเสียชีวิตมากมาย พิการและบาดเจ็บนับไม่ถ้วนเรื่อยมาจนถึงสงครามเขมรเปิดก่อนยิงระเบิดใส่คนไทยเราตายเกือบหมดครอบครัว มันต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมดที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินอธิปไตยไทยเพราะหวังแดกประโยชน์จากบ่อน้ำมันในอ่าวไทยที่ใช้1:200,000ของ mou43นี้เป็นมูลเหตุก่อการ,ถึงเวลา อ.วีระเดินเครื่องเต็มที่โดยใช้กรณี อ.วีระถูกจับที่บ้านหนองจานและมันในนามรัฐบาลมันเป็นถึงนายกฯบวกกต.บวก กลาโหม.ไม่เต็มที่ในการช่วยเหลือ อ.วีระเลย.กลับบอกให้ยอมรับผิดว่ารุกล้ำแผ่นดินเขมรยืนบนแผ่นดินเขมรจึงสมควรถูกเขมรจับเสียนั้น,นี้คือคดีระยำบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ตำนานมหากาฬของขบวนขายชาติขายบ้านขายเมืองขายแผ่นดินไทยอันใหญ่โตอีกยุคสมัยหนึ่งจากไส้ศึกภายในชาติไทยตนเองนี้เอง.,สมควรที่เสื้อแดงไล่เหยียบจนหนีตายในเวลานั้น. https://youtube.com/shorts/_PoY5DsF0ZA?si=moaJ5Qv-vzUf5YSu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 2

    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 2
    Stevens มาเมือง Benghazi ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2011 เขามาทางเรือบรรทุกสินค้า ซึ่งแล่นมาจาก Malta เป็นเรือเปล่า โดยซ่อนตัวอยู่ในเรือนั้นกับ Nathan Tek เจ้าหน้าด้านความปลอดภัย ทีมงานของ USAID และลูกเรือโดยชาวกรีกและโรมาเนีย ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร เคยมีคนถามเขาว่ามาทางอื่นไม่ได้หรือไง Stevens บอกว่าเส้นทางนี้มันน่าตื่นเต้นดี เหมือนการผจญภัยในหนังโรแมนติก
    Stevens เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ “Mission” เขาเป็นนักการฑูตที่ใช้ชีวิตการฑูตอยู่แถบตะวันออกกลางและอาฟริกา มาประมาณ 20 ปี เขาเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย ท่าทางสบาย ๆ ยิ้มกว้าง เห็นฟันโตเต็มปาก มีชื่อเสียงว่าเป็นคนอดทนและใจเย็น และที่สำคัญเขารู้จักลิเบียอย่างดี เขาเคยเป็นผู้ช่วยฑูตอยู่ที่ Tripoli 2 ปี เมื่อประมาณปี 2007 ตอนนั้นอเมริกายังเป็นมิตรมีไมตรีกับ Qaddafi อยู่
    Stevens เติบโตมาที่ Northern California ย้ายมาเรื่อย จนในที่สุดอยู่ San Francisco เมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Berkley เขาเลือกเรียนวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก รวมทั้งวิชาตรรกวิทยา อิตาเลียน ฯลฯ เพื่อน ๆ บอกไอ้หมอนี้ มันเหมือนตู้หนังสือเดินได้ เขาตัดสินใจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ Berkley ว่าจะเป็นนักการฑูต เมื่อเรียนจบก็ไปสอบที่กระทรวงต่างประเทศ แต่ไม่ผ่าน เขาเลยสมัครเป็น Peace Corps และไปสอนภาษาอังกฤษอยู่แถวเมือ งบนภูเขาในโมรอคโค ซึ่งแถบจะไม่มีผู้คน มีแต่พรม และธรรมชาติที่แสนจะงดงาม ทำให้ Stevens หลงรักเมืองแถบอาหรับ เมื่อเขาจบเทอม 2 ปี ของการเป็น Peace Corps เขากลับมา California และเรียนกฎหมายต่อจบได้ปริญญา และทำงานในสำนักงานกฎหมายหรูหรามีชื่อเสียงอยู่ในกรุงวอชิงตัน
    แต่เขาไม่เคยลืมความฝันที่จะเป็นนัการฑูต เขาเลยกลับไปสอบกับกระทรวงต่างประเทศใหม่ คราวนี้สอบผ่าน ค.ศ. 1991 เขาเริ่มฝึกงานและไปประจำอยู่ Riyadh หลังจากนั้นก็ย้ายไปตามเมือง ต่าง ๆ ในแถบทะเลทราย ซึ่งพวกฑูตเรียกกันว่า “Sandbox” เขาเรียนภาษาอารบิคที่ Tunisia หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ Cairo, Damacus และ Jeusalem เมื่อย้ายกลับไปอยู่วอชิงตัน เขายังมีหน้าที่ดูแล Iran เขาวนเวียนอยู่แถว Sandbox นี้แหละ
    เขาไม่เคยได้รับตำแหน่งที่มาอยู่แถบ Asia หรือ Scandinavia เลย ระหว่างที่วนเวียนอยู่แถบนั้น เขามีแฟนเป็นชาวยุโรป ชื่อ Henritte ซึ่งเจอกับ Stevens ที่ Jerusarem ตั้งแต่ปี 2003 รักๆเลิกๆอยู่ 9 ปี เธอบอกว่าเมื่อถาม Stevens ว่า เธอชอบฉันตรงไหน Stevens ตอบว่าฉันชอบกลิ่นของเธอ กลิ่นที่ปนอยู่กับกาแฟและถั่ว กลิ่นยาเส้นผสมน้ำแอปเปิ้ล ชอบสีของคนอาหรับ ชอบความรู้สึกเวลาสัมผัสกับพรมและผ้าไหม ชอบเสียงเวลาพวกเขาสวดมนตร์ และชอบวิถีชีวิตที่วุ่นวายสับสนของพวกเขา ชอบทิวทัศน์ของบ้านเมือง ชอบเพลง ชอบภาษา ทั้งหมดนี้มันแสดงให้เห็นรากเหง้าของพวกเขา ที่ยาวนาน เมื่อดูพร้อมกับการเมืองที่วุ่นวายของพวกเขาแล้ว มันเป็นเรื่องยิ่งกว่าน่าสนใจและท้าทาย มันทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา สาวบอกตกลงเธอชอบฉัน หรือชอบเมืองอาหรับกันแน่
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 2 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 2 Stevens มาเมือง Benghazi ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2011 เขามาทางเรือบรรทุกสินค้า ซึ่งแล่นมาจาก Malta เป็นเรือเปล่า โดยซ่อนตัวอยู่ในเรือนั้นกับ Nathan Tek เจ้าหน้าด้านความปลอดภัย ทีมงานของ USAID และลูกเรือโดยชาวกรีกและโรมาเนีย ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร เคยมีคนถามเขาว่ามาทางอื่นไม่ได้หรือไง Stevens บอกว่าเส้นทางนี้มันน่าตื่นเต้นดี เหมือนการผจญภัยในหนังโรแมนติก Stevens เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ “Mission” เขาเป็นนักการฑูตที่ใช้ชีวิตการฑูตอยู่แถบตะวันออกกลางและอาฟริกา มาประมาณ 20 ปี เขาเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย ท่าทางสบาย ๆ ยิ้มกว้าง เห็นฟันโตเต็มปาก มีชื่อเสียงว่าเป็นคนอดทนและใจเย็น และที่สำคัญเขารู้จักลิเบียอย่างดี เขาเคยเป็นผู้ช่วยฑูตอยู่ที่ Tripoli 2 ปี เมื่อประมาณปี 2007 ตอนนั้นอเมริกายังเป็นมิตรมีไมตรีกับ Qaddafi อยู่ Stevens เติบโตมาที่ Northern California ย้ายมาเรื่อย จนในที่สุดอยู่ San Francisco เมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Berkley เขาเลือกเรียนวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก รวมทั้งวิชาตรรกวิทยา อิตาเลียน ฯลฯ เพื่อน ๆ บอกไอ้หมอนี้ มันเหมือนตู้หนังสือเดินได้ เขาตัดสินใจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ Berkley ว่าจะเป็นนักการฑูต เมื่อเรียนจบก็ไปสอบที่กระทรวงต่างประเทศ แต่ไม่ผ่าน เขาเลยสมัครเป็น Peace Corps และไปสอนภาษาอังกฤษอยู่แถวเมือ งบนภูเขาในโมรอคโค ซึ่งแถบจะไม่มีผู้คน มีแต่พรม และธรรมชาติที่แสนจะงดงาม ทำให้ Stevens หลงรักเมืองแถบอาหรับ เมื่อเขาจบเทอม 2 ปี ของการเป็น Peace Corps เขากลับมา California และเรียนกฎหมายต่อจบได้ปริญญา และทำงานในสำนักงานกฎหมายหรูหรามีชื่อเสียงอยู่ในกรุงวอชิงตัน แต่เขาไม่เคยลืมความฝันที่จะเป็นนัการฑูต เขาเลยกลับไปสอบกับกระทรวงต่างประเทศใหม่ คราวนี้สอบผ่าน ค.ศ. 1991 เขาเริ่มฝึกงานและไปประจำอยู่ Riyadh หลังจากนั้นก็ย้ายไปตามเมือง ต่าง ๆ ในแถบทะเลทราย ซึ่งพวกฑูตเรียกกันว่า “Sandbox” เขาเรียนภาษาอารบิคที่ Tunisia หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ Cairo, Damacus และ Jeusalem เมื่อย้ายกลับไปอยู่วอชิงตัน เขายังมีหน้าที่ดูแล Iran เขาวนเวียนอยู่แถว Sandbox นี้แหละ เขาไม่เคยได้รับตำแหน่งที่มาอยู่แถบ Asia หรือ Scandinavia เลย ระหว่างที่วนเวียนอยู่แถบนั้น เขามีแฟนเป็นชาวยุโรป ชื่อ Henritte ซึ่งเจอกับ Stevens ที่ Jerusarem ตั้งแต่ปี 2003 รักๆเลิกๆอยู่ 9 ปี เธอบอกว่าเมื่อถาม Stevens ว่า เธอชอบฉันตรงไหน Stevens ตอบว่าฉันชอบกลิ่นของเธอ กลิ่นที่ปนอยู่กับกาแฟและถั่ว กลิ่นยาเส้นผสมน้ำแอปเปิ้ล ชอบสีของคนอาหรับ ชอบความรู้สึกเวลาสัมผัสกับพรมและผ้าไหม ชอบเสียงเวลาพวกเขาสวดมนตร์ และชอบวิถีชีวิตที่วุ่นวายสับสนของพวกเขา ชอบทิวทัศน์ของบ้านเมือง ชอบเพลง ชอบภาษา ทั้งหมดนี้มันแสดงให้เห็นรากเหง้าของพวกเขา ที่ยาวนาน เมื่อดูพร้อมกับการเมืองที่วุ่นวายของพวกเขาแล้ว มันเป็นเรื่องยิ่งกว่าน่าสนใจและท้าทาย มันทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา สาวบอกตกลงเธอชอบฉัน หรือชอบเมืองอาหรับกันแน่ คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปี2542
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2542 // พระดีพิธีใหญ่ หายาก นาน ๆ จะเห็น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย เป็นที่ตรึงตาตรึงใจ แก่เพศตรงข้าม เปลี่ยนแปลงพลิกผันสรรพเรื่องราว ไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งชีวิต อาชีพการ งาน และสิ่งอวมงคลทั้งหลาย จากร้ายให้กลายกลับเป็นดีเสมอ >>

    ** หลวงปู่ทวดหลังเตารีด หลัง ยันต์นารายณ์แปลงรูป วิชานารายณ์แปลงรูป เป็นวิชาหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านอาจารย์นองเป็นอย่างมาก มีพุทธคุณสูงมาก เป็นเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย.... หลวงปู่ทวดเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวต่างประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เปี่ยมด้วยพุทธคุณ บารมีเข้ม ขลัง มีไว้ประจำตัวคุ้มครองป้องกันภัย เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง และครอบครัว.....

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปี2542 หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2542 // พระดีพิธีใหญ่ หายาก นาน ๆ จะเห็น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย เป็นที่ตรึงตาตรึงใจ แก่เพศตรงข้าม เปลี่ยนแปลงพลิกผันสรรพเรื่องราว ไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งชีวิต อาชีพการ งาน และสิ่งอวมงคลทั้งหลาย จากร้ายให้กลายกลับเป็นดีเสมอ >> ** หลวงปู่ทวดหลังเตารีด หลัง ยันต์นารายณ์แปลงรูป วิชานารายณ์แปลงรูป เป็นวิชาหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านอาจารย์นองเป็นอย่างมาก มีพุทธคุณสูงมาก เป็นเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย.... หลวงปู่ทวดเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวต่างประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เปี่ยมด้วยพุทธคุณ บารมีเข้ม ขลัง มีไว้ประจำตัวคุ้มครองป้องกันภัย เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง และครอบครัว..... ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ มารดา เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยน.ส.แพทองธาร เผย เป็นการเยี่ยมผ่านกระจก คุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว คุณพ่อจิตใจเข้มแข็งกว่าเราอีก คุณพ่อให้กำลังใจเรา ส่วนสิ่งที่คุณพ่ออยากฝากบอกคนข้างนอกที่คอยให้กำลังใจ คือ สุขภาพแข็งแรงดี มีเรื่องของความดันบ้าง มีความเครียดเพราะต้องเข้าไปอยู่ เป็นเรื่องปกติ ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เจอกันมา 17 ปี รอบนี้เจอผ่านกระจก ชีวิตครอบครัวเรามีหลายรสชาติ ได้เจอกันประมาณ 30 นาที ส่วนการอาจได้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น ก็คงมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ได้ ไม่ใช่เรื่องของภาษาอย่างเดียว แต่รวมถึงมุมมองต่างๆ คุณพ่ออาจชอบเป็นอาจารย์ ชอบอ่านหนังสือ
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ มารดา เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยน.ส.แพทองธาร เผย เป็นการเยี่ยมผ่านกระจก คุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว คุณพ่อจิตใจเข้มแข็งกว่าเราอีก คุณพ่อให้กำลังใจเรา ส่วนสิ่งที่คุณพ่ออยากฝากบอกคนข้างนอกที่คอยให้กำลังใจ คือ สุขภาพแข็งแรงดี มีเรื่องของความดันบ้าง มีความเครียดเพราะต้องเข้าไปอยู่ เป็นเรื่องปกติ ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เจอกันมา 17 ปี รอบนี้เจอผ่านกระจก ชีวิตครอบครัวเรามีหลายรสชาติ ได้เจอกันประมาณ 30 นาที ส่วนการอาจได้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น ก็คงมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ได้ ไม่ใช่เรื่องของภาษาอย่างเดียว แต่รวมถึงมุมมองต่างๆ คุณพ่ออาจชอบเป็นอาจารย์ ชอบอ่านหนังสือ
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • พล.ต.วัชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ถึงกรณีเปิดด่านไทย–กัมพูชา ชี้แม้ไทยไม่ได้เสียดินแดน แต่สิ่งที่สูญเสียจริง ๆ คือชีวิตทหารและประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมสดุดีวีรกรรมผู้กล้าที่ปกป้องแผ่นดินและอาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะครั้งนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088247

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พล.ต.วัชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ถึงกรณีเปิดด่านไทย–กัมพูชา ชี้แม้ไทยไม่ได้เสียดินแดน แต่สิ่งที่สูญเสียจริง ๆ คือชีวิตทหารและประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมสดุดีวีรกรรมผู้กล้าที่ปกป้องแผ่นดินและอาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะครั้งนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088247 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิ๊งเยี่ยมพ่อที่รจ. ทักษิณอาจจะได้สอนภาษาอังกฤษและอื่นๆในรจ. (15/9/68)

    #ทักษิณ
    #อิ๊งแพทองธาร
    #รจเรือนจำ
    #ชีวิตในคุก
    #News1short
    #ThaiTimes
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #scambodia
    #news1
    #shorts
    อิ๊งเยี่ยมพ่อที่รจ. ทักษิณอาจจะได้สอนภาษาอังกฤษและอื่นๆในรจ. (15/9/68) #ทักษิณ #อิ๊งแพทองธาร #รจเรือนจำ #ชีวิตในคุก #News1short #ThaiTimes #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #scambodia #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปราบยาเสพติดแน่นะทรัมป์!

    แผนที่แสดงให้เห็นเวเนซุเอลา ตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพมหาอำนาจบ้าสงคราม "สหรัฐอเมริกา" ที่ประกอบไปด้วยเรือรบติดขีปนาวุธพร้อมยิง รวมทั้งเครื่องบินรบ F-35 อีกนับสิบลำ
    .
    ขณะที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยกล่าวหาจีนว่าเป็นต้นตอและมีส่วนรู้เห็นในการจัดหาสารเคมีให้กับกลุ่มที่ผลิตยาเสพติด รวมทั้งปล่อยให้มีการส่งออกสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเฟนทานิล (fentanyl) ซึ่งเป็นยาเสพติดสังเคราะห์ที่ผลิตจากสารเคมีหลายชนิด

    เดิมทีหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้เป็นยาแก้ปวดทางการแพทย์ในช่วงปี 1960 แต่ปัจจุบันยาชนิดนี้กลายเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐฯ

    "แต่ทรัมป์ก็เลือกใช้วิธีการกำหนดมาตรการภาษีที่รุนแรงขึ้นกับจีนเท่านั้น"
    ปราบยาเสพติดแน่นะทรัมป์! แผนที่แสดงให้เห็นเวเนซุเอลา ตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพมหาอำนาจบ้าสงคราม "สหรัฐอเมริกา" ที่ประกอบไปด้วยเรือรบติดขีปนาวุธพร้อมยิง รวมทั้งเครื่องบินรบ F-35 อีกนับสิบลำ . 👉ขณะที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยกล่าวหาจีนว่าเป็นต้นตอและมีส่วนรู้เห็นในการจัดหาสารเคมีให้กับกลุ่มที่ผลิตยาเสพติด รวมทั้งปล่อยให้มีการส่งออกสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเฟนทานิล (fentanyl) ซึ่งเป็นยาเสพติดสังเคราะห์ที่ผลิตจากสารเคมีหลายชนิด 👉เดิมทีหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้เป็นยาแก้ปวดทางการแพทย์ในช่วงปี 1960 แต่ปัจจุบันยาชนิดนี้กลายเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐฯ 👉"แต่ทรัมป์ก็เลือกใช้วิธีการกำหนดมาตรการภาษีที่รุนแรงขึ้นกับจีนเท่านั้น"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความไวเป็นของปีศาจ บัญชีม้าชิงถอนเงิน : [NEWS UPDATE]
    นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เผยถึงแนวทางการระงับบัญชีม้า จะตรวจสอบเส้นเงิน เชื่อมโยงข้อมูลตำรวจว่าเงินในบัญชีมีลักษณะอะไร รูปแบบการเงินปกติหรือไม่ จำนวนวงเงินเหมาะสมกับการใช้ชีวิตปกติหรือไม่ มีหลายเคสที่มีส่วนกระทำความผิด ต้องแยกคนบริสุทธิ์แยกบัญชี แต่จะมีจำนวนหนึ่งไม่สามารถเพิกถอนการระงับธุรกรรมได้ เพราะกระทบกับผู้บริสุทธิ์ที่ถูกหลอกลวง แต่ถ้าหลายเคสหลุดออก เส้นทางการเงินวิ่งต่อไป คนบริสุทธิ์อื่นๆ จะได้รับการเพิกถอนการระงับธุรกรรมชั่วคราวด้วย หากคนบริสุทธิ์มายื่นคำร้อง และตรวจสอบแล้วเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอท.) มีอำนาจปลดระงับบัญชีได้ทันที วงเงินที่ถูกล็อกก็จะใช้ได้ ส่วนกรณีคนแห่ถอนเงิน จากการตรวจสอบพบว่ามีหลายเคสเป็นบัญชีม้า เพราะกลัวถูกระงับบัญชี


    ท้าทำรถไฟฟ้า 40 บาททั้งวัน

    "ทักษิณ"อยู่แดนผู้สูงอายุ

    เช็คบิลงบ 5 พันล้าน
    ความไวเป็นของปีศาจ บัญชีม้าชิงถอนเงิน : [NEWS UPDATE] นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เผยถึงแนวทางการระงับบัญชีม้า จะตรวจสอบเส้นเงิน เชื่อมโยงข้อมูลตำรวจว่าเงินในบัญชีมีลักษณะอะไร รูปแบบการเงินปกติหรือไม่ จำนวนวงเงินเหมาะสมกับการใช้ชีวิตปกติหรือไม่ มีหลายเคสที่มีส่วนกระทำความผิด ต้องแยกคนบริสุทธิ์แยกบัญชี แต่จะมีจำนวนหนึ่งไม่สามารถเพิกถอนการระงับธุรกรรมได้ เพราะกระทบกับผู้บริสุทธิ์ที่ถูกหลอกลวง แต่ถ้าหลายเคสหลุดออก เส้นทางการเงินวิ่งต่อไป คนบริสุทธิ์อื่นๆ จะได้รับการเพิกถอนการระงับธุรกรรมชั่วคราวด้วย หากคนบริสุทธิ์มายื่นคำร้อง และตรวจสอบแล้วเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอท.) มีอำนาจปลดระงับบัญชีได้ทันที วงเงินที่ถูกล็อกก็จะใช้ได้ ส่วนกรณีคนแห่ถอนเงิน จากการตรวจสอบพบว่ามีหลายเคสเป็นบัญชีม้า เพราะกลัวถูกระงับบัญชี ท้าทำรถไฟฟ้า 40 บาททั้งวัน "ทักษิณ"อยู่แดนผู้สูงอายุ เช็คบิลงบ 5 พันล้าน
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เวลาที่เสียไปทุกวินาที
    อย่าให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์
    ืทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตจิตวิญญาณ
    จงอยู่กับลมหายใจหรือคำภาวนาทุกวินาที
    เมื่อดึงสติกลับมาได้
    จะได้มากหรือน้อยก็ยังดี
    อย่าลืมว่า ทุกลมหายใจ
    ทุกคำภาวนา คือคุรุเทพาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่สถิตอยู่ในตัวเรา
    เวลาที่เสียไปทุกวินาที อย่าให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ืทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตจิตวิญญาณ จงอยู่กับลมหายใจหรือคำภาวนาทุกวินาที เมื่อดึงสติกลับมาได้ จะได้มากหรือน้อยก็ยังดี อย่าลืมว่า ทุกลมหายใจ ทุกคำภาวนา คือคุรุเทพาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่สถิตอยู่ในตัวเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แฮกเกอร์เจาะระบบเครื่องซักผ้าอัจฉริยะในแคมปัสอัมสเตอร์ดัม — ฟรีซักผ้าแค่ชั่วคราว ก่อนระบบพังยับและนักศึกษาต้องเดินไกล”

    กลางเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ Spinozacampus ในอัมสเตอร์ดัม เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อแฮกเกอร์นิรนามสามารถเจาะระบบเครื่องซักผ้าอัจฉริยะที่ใช้ระบบชำระเงินดิจิทัล ทำให้เครื่องซักผ้าทั้งหมดเปิดให้ใช้งานฟรีโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ส่งผลให้นักศึกษากว่า 1,250 คนได้ซักผ้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย — แต่ความสะดวกนี้อยู่ได้ไม่นาน

    บริษัท Duwo ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบเครื่องซักผ้าในแคมปัสตัดสินใจปิดการใช้งานเครื่องทั้งหมดในที่สุด โดยให้เหตุผลว่า “รายได้จากการซักผ้าเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาบริการให้มีราคาที่เข้าถึงได้” แม้จะดูเหมือนค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่เมื่อรวมจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดแล้วก็กลายเป็นภาระที่หนักสำหรับผู้ให้บริการ

    แม้จะมีเครื่องซักผ้าแบบอนาล็อก 10 เครื่องอยู่ใกล้ ๆ แต่หลายเครื่องมักเสียหรือใช้งานไม่ได้ โดยมีนักศึกษารายหนึ่งระบุว่า “มีเครื่องที่ใช้ได้จริงแค่เครื่องเดียวสำหรับนักศึกษาทั้งหมด” จนเกิดความกังวลเรื่องการระบาดของเหาเนื่องจากไม่สามารถซักผ้าได้อย่างสม่ำเสมอ

    Duwo จึงเริ่มทยอยเปลี่ยนกลับไปใช้เครื่องแบบอนาล็อก โดยคาดว่าจะได้รับเครื่องใหม่อีก 5 เครื่องในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกัน อาคารพักอาศัยอื่น ๆ ก็เริ่มหันหลังให้กับเครื่องซักผ้า IoT เช่นกัน

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Sijmen Ruwhof ให้ความเห็นว่า การหาตัวแฮกเกอร์นั้นใช้ทรัพยากรสูงและอาจไม่คุ้มค่าในการดำเนินคดี แม้จะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 6 ปีหากพบว่าเจตนาเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นนักศึกษาที่มีความสามารถด้านโปรแกรมมิ่งที่ “อดใจไม่ไหว” เมื่อเห็นเครื่องซักผ้าอัจฉริยะอยู่ตรงหน้า

    เหตุการณ์การแฮกระบบเครื่องซักผ้า
    เกิดขึ้นที่ Spinozacampus ในอัมสเตอร์ดัมช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2025
    แฮกเกอร์เจาะระบบชำระเงินดิจิทัล ทำให้เครื่องซักผ้าใช้งานฟรี
    Duwo ปิดระบบเครื่องซักผ้าอัจฉริยะทั้งหมดเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
    นักศึกษากว่า 1,250 คนได้รับผลกระทบจากการปิดระบบ

    ทางเลือกและการแก้ไข
    มีเครื่องซักผ้าอนาล็อก 10 เครื่องใกล้แคมปัส แต่มักเสียหรือใช้งานไม่ได้
    Duwo เตรียมติดตั้งเครื่องอนาล็อกเพิ่มอีก 5 เครื่องในเร็ว ๆ นี้
    อาคารพักอาศัยอื่น ๆ เริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้เครื่องแบบไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    นักศึกษาบางส่วนเดินไปใช้งานเครื่องซักผ้าในอาคารใกล้เคียงที่มีเครื่องมากกว่า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เครื่องซักผ้า IoT เป็นเป้าหมายใหม่ของการโจมตีไซเบอร์ในยุคที่ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อเน็ต
    การแฮกอุปกรณ์ IoT สามารถนำไปใช้โจมตีเว็บไซต์หรือระบบอื่นผ่าน botnet ได้
    การแฮกแบบ “zero-touch” ไม่ต้องเข้าถึงเครื่องโดยตรง — ใช้แค่โปรแกรมจากแล็ปท็อป
    การโจมตีอุปกรณ์อัจฉริยะในชีวิตประจำวันเริ่มมีผลกระทบจริงมากขึ้นในหลายประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-breaks-into-on-campus-smart-washing-machines-management-eventually-disables-devices-leaving-thousands-of-students-with-no-reliable-laundry-service
    🧺 “แฮกเกอร์เจาะระบบเครื่องซักผ้าอัจฉริยะในแคมปัสอัมสเตอร์ดัม — ฟรีซักผ้าแค่ชั่วคราว ก่อนระบบพังยับและนักศึกษาต้องเดินไกล” กลางเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ Spinozacampus ในอัมสเตอร์ดัม เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อแฮกเกอร์นิรนามสามารถเจาะระบบเครื่องซักผ้าอัจฉริยะที่ใช้ระบบชำระเงินดิจิทัล ทำให้เครื่องซักผ้าทั้งหมดเปิดให้ใช้งานฟรีโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ส่งผลให้นักศึกษากว่า 1,250 คนได้ซักผ้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย — แต่ความสะดวกนี้อยู่ได้ไม่นาน บริษัท Duwo ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบเครื่องซักผ้าในแคมปัสตัดสินใจปิดการใช้งานเครื่องทั้งหมดในที่สุด โดยให้เหตุผลว่า “รายได้จากการซักผ้าเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาบริการให้มีราคาที่เข้าถึงได้” แม้จะดูเหมือนค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่เมื่อรวมจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดแล้วก็กลายเป็นภาระที่หนักสำหรับผู้ให้บริการ แม้จะมีเครื่องซักผ้าแบบอนาล็อก 10 เครื่องอยู่ใกล้ ๆ แต่หลายเครื่องมักเสียหรือใช้งานไม่ได้ โดยมีนักศึกษารายหนึ่งระบุว่า “มีเครื่องที่ใช้ได้จริงแค่เครื่องเดียวสำหรับนักศึกษาทั้งหมด” จนเกิดความกังวลเรื่องการระบาดของเหาเนื่องจากไม่สามารถซักผ้าได้อย่างสม่ำเสมอ Duwo จึงเริ่มทยอยเปลี่ยนกลับไปใช้เครื่องแบบอนาล็อก โดยคาดว่าจะได้รับเครื่องใหม่อีก 5 เครื่องในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกัน อาคารพักอาศัยอื่น ๆ ก็เริ่มหันหลังให้กับเครื่องซักผ้า IoT เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Sijmen Ruwhof ให้ความเห็นว่า การหาตัวแฮกเกอร์นั้นใช้ทรัพยากรสูงและอาจไม่คุ้มค่าในการดำเนินคดี แม้จะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 6 ปีหากพบว่าเจตนาเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นนักศึกษาที่มีความสามารถด้านโปรแกรมมิ่งที่ “อดใจไม่ไหว” เมื่อเห็นเครื่องซักผ้าอัจฉริยะอยู่ตรงหน้า ✅ เหตุการณ์การแฮกระบบเครื่องซักผ้า ➡️ เกิดขึ้นที่ Spinozacampus ในอัมสเตอร์ดัมช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2025 ➡️ แฮกเกอร์เจาะระบบชำระเงินดิจิทัล ทำให้เครื่องซักผ้าใช้งานฟรี ➡️ Duwo ปิดระบบเครื่องซักผ้าอัจฉริยะทั้งหมดเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย ➡️ นักศึกษากว่า 1,250 คนได้รับผลกระทบจากการปิดระบบ ✅ ทางเลือกและการแก้ไข ➡️ มีเครื่องซักผ้าอนาล็อก 10 เครื่องใกล้แคมปัส แต่มักเสียหรือใช้งานไม่ได้ ➡️ Duwo เตรียมติดตั้งเครื่องอนาล็อกเพิ่มอีก 5 เครื่องในเร็ว ๆ นี้ ➡️ อาคารพักอาศัยอื่น ๆ เริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้เครื่องแบบไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ➡️ นักศึกษาบางส่วนเดินไปใช้งานเครื่องซักผ้าในอาคารใกล้เคียงที่มีเครื่องมากกว่า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เครื่องซักผ้า IoT เป็นเป้าหมายใหม่ของการโจมตีไซเบอร์ในยุคที่ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อเน็ต ➡️ การแฮกอุปกรณ์ IoT สามารถนำไปใช้โจมตีเว็บไซต์หรือระบบอื่นผ่าน botnet ได้ ➡️ การแฮกแบบ “zero-touch” ไม่ต้องเข้าถึงเครื่องโดยตรง — ใช้แค่โปรแกรมจากแล็ปท็อป ➡️ การโจมตีอุปกรณ์อัจฉริยะในชีวิตประจำวันเริ่มมีผลกระทบจริงมากขึ้นในหลายประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-breaks-into-on-campus-smart-washing-machines-management-eventually-disables-devices-leaving-thousands-of-students-with-no-reliable-laundry-service
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts